ภาคิน ผมรีบขับรถออกมาอย่างรวดเร็ว ยิ่งเห็นไอ้ตั้นมันรักมันหวงกันมากแค่ไหนก็ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น แล้วผมจะทนยืนทำไมว่ะ ผมขับมาที่ผับที่มาประจำเป็นผับไฮโซ มีพรมแดงรอรับแถมยังมีแต่คนหน้าตาดีมาเที่ยว แต่ผมน่ะไม่ได้ไปหาใครในค่ำคืนนี้แน่ๆ
“หมับ “มีคนเดินตามหลังมาและจับแขนผม ไม่ต้องเดามากหรอกว่าเขาคนนั้นคือใคร
“แม้ทีอย่างนี้ไม่ชวน แรดคนเดียวได้ยังไงวะ” ไอ้ธีม ผมหันไปมองหน้ามัน
“แต่สุดท้ายกูก็กลับคนเดียวอยู่ดี” ผมหันหลังมามองหน้ามัน “พอมึงเจอหลุมที่มึงจะปักเสาหลักสั้นของมึง มึงก็ทิ้งกู “ผมพูด
“ถ้าของสั้นก็ไม่มีใครยาวแล้วมึง” ไอ้ธีมมันพูด
“และมันจะต่างอะไรถ้ากูจะมาคนเดียวว่ะ” ผมพูดก่อนจะสะบัดแขนให้มันหยุด แต่ก็แอบยิ้มเพราะว่าไอ้ธีมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยทิ้งผม แต่มันเสียอย่างเดียวเอาหญิงมานับไม่ถ้วนและมันก็หายหัวก่อนเพื่อน
“สวัสดีครับคุณภาคิน คุณธีม โต๊ะเดิมไหมครับ” พี่ชายไอ้ธีมมันเปิดผับหรูนี้ เมื่อก่อนไม่นานมานี้เอง นั้นคือก่อนที่เมย์จะมา ไอ้ตั้นมันยังมากับผมอยู่ แต่ว่าจะมีพี่ปริมมาด้วยทุกครั้ง ผมเข้ามาถึงเพลงก็กำลังขึ้นเลย เพลงที่ผมฟังประจำเจ็บทุกครั้งที่ได้ยิน “ความเงียบที่ดังที่สุด” ผมนั่งลงส่วนไอ้ธีมมันสั่งเหล้ามาลงที่โต๊ะที่ผมนั่งกัน ผับนี้ค่อนข้างหรูอยู่สูงสุดจนมองเห็นวิวทั่วกรุงเทพ
“เต็มที่ว่ะ “ไอ้ธีมบอกผม
“ผสมไหมครับ” พนักงานที่นำจอนนี่วอคเกอร์บลูเรเบลก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะผม
“ไม่ผสมครับ” ผมบอกไอ้ธีมหันมามองผม
“แรง!”
“ครับผม” ถ้าเขาเอาแบบไม่ผสมเขาจะเทน้ำเย็นไว้ให้ผมด้วย
“ของพี่ผสมครับ พี่ไม่รีบเหมือนไอ้เชี้ยนี้มัน เพราะว่าพี่ยังต้องส่องสาวๆ ครับผม” ไอ้ธีมพูด และโยกไปตามเพลงที่มาเบาๆ คลอๆ
“ไอ้คิน เพลงนี้เลยกูให้มึงว่ะ” ผมหันไปมองเพลงห่าอะไรของมันไม่เคยฟัง “จังหวะขึ้นก็ไม่รู้จักแล้ว”
“ไม่รู้จัก” ผมบอกพร้อมกับกระดกใส่ไปหมดแก้ว
“เห้ย! อย่ารีบดิว่ะ เดี๋ยวก็เหมาคอพับ กูอดได้เด็กกลับบ้าน” ไอ้ธีมพูดจะห้ามผม ผมก็สะบัดและหันไปรินเหล้าใส่แก้วเองไม่รอเด็กมาทำให้
https://youtu.be/x8CeZ0GEUa4 ถ้าเขาจะรัก(ยืนเฉยๆเขาก็รัก)
ถ้าเขาจะรักยืนเฉยเฉยเขาก็รัก
ถ้าเขาจะรักไม่ต้องทักเขาก็ทัก
เจ็บพอแล้วก็พักดีกว่า
อย่าไปเสียน้ำตาอีกเลย
ถ้าเขาจะรักยืนเฉยเฉยเขาก็รัก
ถ้าเขาจะรักไม่ต้องทักเขาก็ทัก
เหนื่อยพอแล้วก็พักดีกว่า
อย่าไปวิ่งตามคนที่เขา
ไม่เคยรักเรา
ผมหันไปมองคนที่ยืนร้องเพลงให้ผมฟัง ไอ้ธีม และมันก็ทำให้ผมต้องหันหน้าหนีไปมองทางอื่นแทน ไอ้เวรเอ๊ย! มันยิ่งทำให้ผมเจ็บไอ้สัสธีม แอบด่าแต่ก็หันมาเห็นมันเต้น น่ารักตายเลยไอ้บ้าเอ๊ย! ไอ้ธีมมันเป็นเพื่อนกับผมมาตั้งแต่ม.4 ก่อนเจอไอ้ตั้นที่เพิ่งจะย้ายมาทีหลัง
“พี่ธีม” มีเด็กมาทักมัน เป็นสาวสวยสามคน หน้าตาน่ารัก แน่ละไอ้ธีมดูหล่อแบบที่สาวๆ ชอบ มันหล่อแบบกะล่อน แต่สาวก็ยังชอบมองมันอยู่ดี
“น้องแวนด้า มากับเพื่อนเหรอครับ”
“ค่ะ ว่าแต่พี่เถอะมากับใครคะ” น้องคนสวยชี้มาทางผม
“เพื่อนพี่ครับ มันกำลังเฮิร์ธ”
“อกหักเหรอ” ผมหันมามองหน้าน้องแบบเต็มๆ ก่อนจะวางแก้วเหล้าลง “ปึก!”
“ตรงไปจร๊า!!” ไอ้ธีมรีบสะกิดน้องเขา
“พี่แกไม่ธรรมดา อย่าไปสะกิดพี่เขา พี่เขามีองค์ และถ้าองค์ลงนี้ ฝ่ามืออรหันต์สะบัดเลยนะหนูน่ะ” ผมพยักพเยิดว่าพาออกไปก่อนเลย ไอ้ธีมมันรีบลากน้องนางทั้งสามออกไปทันที ผมนั่งดื่มกระดกเพียวๆ ไม่รู้กี่แก้ว ผมก็มองมือถือ หน้าจอที่ตั้งค่าไว้กลุ่มเพื่อนๆ ที่ถ่ายรูปด้วยกัน ผมอยู่ตรงกลางกับไอ้ตั้น กอดคอกันในวันที่เรียนจบ ผมก็ยิ่งกระดกดื่ม
********
ผมกำลังอยู่ในรถลีมูซีนคันหรู วันนี้ผมไปงานเลี้ยงก็ผมเพิ่งจะจบปริญญาเอกมาหมาดๆ วันก่อน ภาคินเขามาหาผม เขามาถามว่าทำไมผมถึงได้แสดงตัวเองว่าผมมีอะไร ผมยอมรับว่าต้องการให้ตั้นรู้ แต่ว่ามันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเมย์เขาเลือกที่จะไม่กลับมาหาผม ผมยอมรับว่าผมชอบเด็กคนนี้มาก ตั้งแต่ผมได้เข้าเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยของเมย์ และผมก็พยายามช่วยเหลือเขามาตลอด เมย์เป็นเด็กน่ารัก เรียนเก่ง จนได้เกียรตินิยมอันดับที่สองแต่ เรื่องฉาวของผมกับเขาก็เกิดขึ้น และนั้นก็ทำให้ผมยอมลาออกเพื่อให้เมย์ได้เรียนจนจบ
แต่มันไม่หยุดแค่นั้น ผมก็ยังให้การช่วยเหลือเขาหลังจากเรียนจบ แต่นี้จู่ๆเขาก็หายไป ผมรู้ว่าเขาไปอยู่ทีไหน ตั้นคือคนที่ปริมคู่หมั้นที่ผมจำเป็นต้องหมั้นกับเธอ คั่วอยู่ ผมอยากรู้ว่าเขาเป็นคนยังไงผมเลยติดต่อให้เขามาดูแลระบบคอมพิวเตอร์ให้โรงแรมผมซะเลย แต่ว่ามันกลับทำให้ผม
Rrrrr สายเข้าในมือถือของผม ผมก็รีบกดรับสาย ทำไมผมถึงสนใจคนนี้ ที่ไม่เหมือนทุกคนที่ผมพบเจอและแตกต่างจากเมย์โดยสิ้นเชิง ทันทีที่ผมกดรับสาย เสียงดังของเพลงและผู้คนทำให้ผมต้องยกมือถือออกห่าง เดาได้ทันทีที่ว่าคนโทรหาผมอยู่ในผับที่ใดสักแห่ง
“ภาคิน” ผมกรอกเสียงเรียกชื่อไปในมือถือของผม
“เอามาอีกขวดดิว่ะ” เสียงพูดคุยแทรกเข้ามาหรือไม่เขาก็แค่กดผิดแต่ว่า ผมก็ยังรอฟัง
“พี่ภาคินครับ ผมว่าพี่พอเถอะพี่เมาแล้วแหละนี้ผมเห็นพี่อยู่คนเดียวด้วยเนี๊ยะ พี่ธีมไปไหนเนี๊ยะ”
“เรื่องของกู แม่งทิ้งกูไปหมด ไม่รู้แม่งจะสัญญาหาเหี้ยอะไรวะว่าจะอยู่ด้วยกัน ไอ้สัส!” เสียงด่าทอดังมาในมือถือผม ผมก็กดดูแต่ว่ามันไม่สามารถบอกได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
“ภาคิน ภาคิน” ผมเรียกคนปลายสายด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง ผมหันไปส่งสัญญาณให้เขาหาที่จอดให้ผมหน่อย
“สวัสดีครับ” เสียงเด็กผู้ชายรับสาย
“น้องครับ เจ้าของเครื่องละครับ เขาอยู่ที่ไหน พี่เป็นแฟนเขา พี่จะไปรับเขาเดี๋ยวนี้” จริงๆ แล้วไม่ใช่ถ้าไม่บอกอย่างนั้นน้องเขาคงไม่บอกผมว่าภาคินอยู่ที่ไหน
“อยู่ที่ผับXXXX ตรง ทองหล่อครับ”
“ได้ครับแค่นี้น่ะครับ เออ พี่รบกวนเฝ้าน้องเขาให้พี่ที นะ พี่มีค่าตอบแทน” ผมพูดสายก่อนจะหันมาบอกคนขับรถและว่าให้ขับไปที่ไหน ทันทีที่รถเก๋งคันหรูผมขับมาถึง ผมก็ก้าวเท้าลงจากรถ คนสนิทผมสองคนก็เดินลงมาจากรถอีกคัน
“ไปตามหาคุณภาคินให้ผมหน่อยครับ” ผมหันไปบอกเขาวสองคนก่อนจะเดินตามขึ้นไป สองคนนั้นจะไปหาข้อมูลให้ผมว่าภาคินอยู่ที่ไหน เพราะว่าที่นี่เป็นตึกสูงตระหง่านฟ้าขนาดนี้
“อยู่ชั้นบนครับคุณปฐวีย์และผับนี้เป็นผับของพี่ชายคุณธีมเพื่อนของคุณภาคินครับ” ผมพยักหน้าและเดินตามคนสนิทของผมขึ้นไปยังชั้นที่บอกว่าเป็นสถานบันเทิง ผมยอมรับว่าไม่เคยมาสถานที่แบบนี้เลย
“คุณปฐวีย์รอด้านนอกไหมครับผมสองคนไปตามหาคุณภาคินเองครับ”
“ฉันเข้าไปดีกว่า เขาคงไม่ยอมมากับนายสองคนง่ายๆ หรอก” ผมพูดและอมยิ้มเล็ก ๆ ก่อนจะเดินแทรกผู้คนเข้าไป จนถึงโต๊ะที่มีคนยืนดูแลเขาอยู่สองสามคน และคนของผมก็เข้าไป ผมยืนมองหนุ่มที่กำลังฟุบคาโต๊ะ และมองขวดเหล้าที่หมดเกลี้ยงอย่าบอกน่ะดื่มคนเดียวเลยนะ
“พี่เขาเล่นไปแบบเพียวๆ เลยครับ “ผมพยักหน้าและเขาไปสะกิดภาคิน
“ภาคินพี่พากลับบ้านนะครับ”
“ไม่กูจะกลับเอง อย่ามายุ่ง “ผมหันไปพยักหน้ากับคนสนิทว่าให้พาคุณภาคินออก
“เขามากับใครเหรอครับ” ผมถามคนที่ยืนดูแลอยู่
“มากับคุณธีมครับ แต่ดูท่าคงได้สาวไปแล้วนะครับ”
“ถ้าเขากลับมาก็บอกว่ามีคนพาคุณภาคินกลับแล้วนะครับ” ผมบอกและหันไปพยักหน้าให้คนสนิทของผมจ่ายค่าตอบแทนที่อยู่เฝ้าภาคินให้ผม คนสนิทผมก็พยุงร่างของภาคินแบบทุลักทุเล เพราะว่าเมาไม่ยอมให้พากลับ จนลงมาถึงชั้นล่างสุดและจะพาขึ้นรถกลับแต่
“กู จา ปาย รถ กู! กูมายปายรถคนอื่นนน” เขาไม่ยอมขึ้นรถของผม ไม่ยอมท่าเดียวเลยจนผมหันไปมองพนักงานที่ดูแล ดูแล้วเขาคงรู้จักกัน
“เอารถคุณภาคินมาผมจะขับไปเอง “ผมหันไปบอกคนที่ดูแลรถของผับ
“ผมเป็นประธานกรุ๊ปของเครือโรงแรมชื่อดัง ผมคงไม่เอารถและคนไปทำมิดีมิร้ายหรอกครับและผมก็รู้จักคุณภาคินดี “ผมพูด และคนที่ทำหน้าที่ดูแลก็หันไปพยักหน้ากับลูกน้องเขา ไม่นานรถคันหรูของภาคินก็ถูกนำออกมา ผมหันไปรับกุญแจจากคนดูแลรถของแขกที่มาใช้บริการ
“คุณปฐวีย์จะขับเองเลยเหรอครับ”
“ครับผมขับได้ รถรุ่นนี้ผมขับที่อังกฤษบ่อย “ผมหันไปบอกและร่างของภาคินก็ถูกนำเข้าไปในรถ ด้านข้างคนขับส่วนผมก็ทำหน้าที่คนขับให้หนุ่มเมรีขี้เมา ดูท่าจะดื่มไปหนักพอสมควร ระหว่างที่ผมกำลังสนใจกับถนน จู่ๆภาคินก็ลุกขึ้นมานั่งมองซ้ายมองขวา ผมก็ส่งยิ้มให้เขา
“อึก! “เสียงเหมือนกำลังขย้อนบางสิ่ง และทำท่าเหมือนจะ
“ภาคิน!” ผมเรียกชื่อเขาแต่ไม่ทันแล้ว “อ๊วก!!” มันพุงมาทางผมเต็มๆ
“เยี่ยม! “ผมแตะเศษอาหารที่ภาคินมอบให้ผม มันอยู่ที่เสื้อสูทราคาแพง ผมว่ากลิ่นแบบนี้ คนที่ทำหน้าที่ซักให้ผมคงต้องกลั่นใจกันหน่อยละ
“อ๊วก!!”
“ภาคิน” ผมหันไปเอามือลูบหลังเขา ตอนนี้ภาคินอาเจียนไปรอบๆที่นั่งตัวเอง ก่อนจะยกมือตอบผมว่าเขาโอเค โชคดีที่บ้านพักของผมไม่ไกลมากจากผับที่ผมไปรับตัวภาคินมา แม่บ้านทำความสะอาดคงจะงานหนักหน่อยล่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภาคิน หนังตาที่หนักอึ้ง ปวดหัวมาก ผมจำไม่ได้ภาพมันเบลอๆ ไปหมด ภาพสุดท้ายมีแต่แสงสี ก็ผมอยู่ในผับที่ผมไปประจำ และครั้งนี้ผมก็เมาเละไม่เป็นท่า แต่หลังจากนั้นล่ะ นั้นซิผมอยู่ไหน ผมค่อยพาร่างกายที่ย่ำแย่ของผมให้ลุกขึ้น ผมนั่งปรือตาอยู่บนที่นอน ห้องนอนที่ไม่คุ้นเคย ไม่ใช่บ้านผม ผมมีบ้านเป็นของตัวเองพ่อผมซื้อให้ ผมชอบความเป็นส่วนตัวสูงแต่ห้องนี้ไม่ใช่แน่นอนมันตกแต่งคนละสไตล์กันเลย ดูคลาสสิคมากกว่าแต่ดูแพง และยิ่งไม่ใข่ห้องไอ้ธีมแน่นอน
Rrrrr เสียงมือถือผมดังขึ้น ผมหันไปมองหาอยู่สักพัก จนเสียงเรียกเข้าเงียบไป และRrrrr ดังขึ้นมาอีกครั้งผมหันไปเจอพอดี มันเสียบอยู่บนกล่องนาฬิกา บอกเวลาว่าตอนนี้ เก้าโมงเช้าแล้ว ฉิบหายแล้วภาคิน เพราะว่าวันนี้บวงสรวงบริษัทพ่อผม ผมรีบกระโดดไปคว้ามือถือผมและกดรับสายทันที
“ไอ้ภาคิน!! “ไอ้ธีม
“ไอ้สัสธีม มึงหายหัวไปไหน”
“มึงนั่นแหละครับ กูบอกว่าไปหาของวางแป๊บหนึ่ง พอกูกลับมามึงหาย แต่เด็กที่นั่นบอกว่ามีคนมาพามึงไป ใครวะ”
“กูไม่รู้ว่ะ แต่ว่ากูอยู่ไหนวะ”
“อ้าว!! ถ้าอย่างนั้นแชร์โลเคชั่นมา” ไอ้ธีมบอกผม
“เออ “ไอ้ธีมมันบอกผม ผมก็เข้าไปกดแชร์โลเคชั่น จะว่าไปห้องนี้ก็ตกแต่งแบบดูหรู ดูแพง ยังกับโรมที่ราคาแพงๆ ในลาสเวกัสเลย ใครกันน่ะ เป็นคนพาผมมา
“ไอ้เชี้ย!!!” ไอ้ธีมมันตะโกนดังลอดมือถือผมออกมา
“เชี่ยอะไร กูอยู่ไหน” ผมถามไอ้คนปลายสาย
“อีเจ้เอามึงตายแน่งานนี้”
“อีเจ้ไหน”
“อีเจ้ปริมไงมึง มึงไปด่าอีเจ้มันและยังตบมันอีกด้วย แถมตอนนี้มึงยังจะ….”
“อย่าน้ำเยอะได้ไหมบอกูมาว่ากูอยู่ไหน”
“มึงอยู่บ้านพี่….”
“คุณปฐวีย์ค่ะโต๊ะอาหารพร้อมแล้วค่ะ ได้ค่ะ “ผมได้ยินชื่อนี้คุ้นๆมากและประตูห้องผมก็ถูกเปิดเข้ามา พร้อมกับ ผู้ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตหรูดูมีสไตล์ เนกไทที่ถูกผูกไว้อย่างเรียบร้อย เขาเดินเข้ามาในห้องนอนที่ผมนั่งอยู่บนเตียง ภาพเบลอๆ เมื่อคืนมันย้อนกลับมาผู้ชายคนนี้แหละที่เขาไปเรียกผมและบอกว่าจะพาผมกลับ
“ไม่ต้องบอกกูแล้ว ไอ้เชี้ย มึงช้าว่ะ “ผมพูดและกดวางสาย ผมมองพี่ปฐวีย์ แบบว่ามีคำถาม
“พอดีเมื่อคืนมีคนเมาโทรหาพี่นะครับ กินเยอะขนาดนี้ควรจะหาคนไปด้วยนะครับ”
“หรือถ้าอยากให้พี่ไปก็บอกพี่ดีดี ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อดอ่อนพี่แบบนี้ มันน่ารัก” ผมก็ต้อง “ห๊ะ!” ผมชี้ตัวเอง ผมนี่น่ะทำแบบนั้น
“พี่โทรบอกพ่อแม่ของภาคินแล้วน่ะว่า เราค้างบ้านพี่เมื่อคืนหนักไปหน่อยแต่ลูกชายเขาปลอดภัยดี” พี่ปฐวีย์
“พี่มาถือวิสาสะอะไรโทรไปที่บ้านผม”
“ในฐานะ ที่พี่มีวัยวุฒิมากกว่าไงครับ”
“เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว และพี่ว่าจะไปส่งเราที่บ้านที่ชลบุรีด้วย พี่ต้องไปทำธุระที่นั่นด้วย โรงแรมใหม่ของพี่กำลังจะสร้างที่นั่นด้วย” พี่ปฐวีย์พูด ผมก็เบ้ปากและมองบน แล้วไง
“รถของภาคิน พี่ก็ให้คนล้างทำความสะอาดให้หมดแล้วครับ “ผมหันไปมอง
“ล้างทำไม บ้านผมมีคนล้างอยู่แล้ว”
“หึ หึ” คนที่ได้ยินหัวเราะในลำคอ
“ไม่ล้างไม่ได้หรอกครับ ภาคิน เราอาเจียนใส่รถไว้ขนาดนั้น “พี่ปฐวีย์พูด ผมก็ต้องเอามือกุมขมับ รถหรูลูกรักของผมและหวงแหนมากแค่ไหน คือแบบว่าใครเมามากห้ามขึ้นรถผมแต่นี่ผมทำซะเอง
“ไม่ใช่แค่รถนะครับ “พี่ปฐวีย์ยังเดินมานั่งลงข้างๆ ผม
“อาเจียนใส่พี่อีกต่างหาก ครั้งแรกเลยนะ ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับพี่มาก่อนเลย เราคือคนแรก “พี่ปฐวีย์พูดแต่เขากับยิ้มที่มุมปาก ผมทำท่าจะลุกจากเตียง
“ผมต้องไปแล้วครับ ขอบคุณเรื่องเมื่อคืน” ผมพูด
“ชุดนอนก็ของพี่น่ะ “ผมก้มลงมอง
“ไม่ต้องห่วงหรอก ผมถอดคืนให้แน่นอน” ผมพูดและทำท่าจะหันหลังออกแต่ก็ต้องหันหลังกลับมาใหม่
“แต่…ใครเปลี่ยนชุดให้ผม” ผมถามพี่ปฐวีย์
“พี่ครับ” พี่เขาเปลี่ยนชุดให้ผม
“ดูซิ นี่ยังทำรอยกุหลาบไว้ที่รอบคอพี่ไปหมด ตอนแรกวันนี้ว่าจะสวมชุดลำลองเสื้อยืดสวมทับเสื้อสูทแต่มันปิดไม่มิดนะครับ มีหวังโดนแซว “พี่ปฐวีย์พูดแถมยังเปิดให้ผมดูด้วย เป็นรอยจูบแบบดูดดื่มเลยจะดีกว่า ผมหันไปหยิบเสื้อผ้าที่คนใช้ของพี่เขามาวางเอาไว้ให้แล้ว และวิ่งเข้าห้องน้ำไปเลย “เชี้ยเอ๊ย! ไอ้ธีมมึงตัวเดียวเลย”
ผมลงมานั่งที่ห้องอาหารหรูมีโต๊ะตัวยาวแต่มีคนนั่งที่ตรงหัวโต๊ะแค่คนเดียว อาหารบนโต๊ะมีมากมาย ส่วนใหญ่เป็นแนวอาหารฝรั่งซะมากกว่า ผมนั่งลงข้างๆ กับพี่ปฐวีย์ เขาแค่ปรายตามองผม
“พี่ว่าภาคินควรจะทานอะไรที่เบาๆ ท้องไว้หน่อยนะ พี่สั่งแม่บ้านทำข้าวต้มเอาไว้ให้” พี่ปฐวีย์พูด แม่บ้านก็ยกชามข้าวต้มมาให้ผม ข้าวต้มทรงเครื่อง
“รักเขามากมันก็ดีอยู่น่ะ แต่รักจนทำร้ายตัวเอง พี่ว่ามันไม่ใช่น่ะภาคิน” พี่ปฐวีย์พูด ผมก็ก้มหน้าก้มตาทานข้าวต้มไปเงียบๆ
“พี่เคยรักใครสักคนไหม แบบว่ารักมากแต่มันก็ยังไม่พอให้เขารักเราตอบนะพี่” จู่ๆ ผมก็ถามขึ้น
“พี่ก็รักใครสักคน ไม่ได้ถึงกับรักมากจนลืมมองตัวเอง แต่ก็รักและพร้อมจะมอบสิ่งดีดีให้เขา แม้เขาจะไม่ได้รักพี่ตอบ พี่ทำให้เขาขนาดที่ว่ายอมลงทุนเอาชีวิตพี่ไปเพื่อให้เขาได้สิ่งที่เขาต้องการ แต่”
“ถ้าเขาเจอคนที่เขารัก พี่ก็พร้อมจะให้เขาไปนะ”
“ครอบครองแค่กายจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าใจเขาให้คนอื่น” ผมหันมามองพี่ปฐวีย์
“คุณปฐวีย์ค่ะ คุณภาสกร ขอเรียนสายด้วยค่ะ” ผมหันไปมอง นันพ่อผมน่ะนั้น พี่ปฐวีย์หันมายิ้มมุมปากให้ผมก่อนจะหันไปรับสาย ผมก้มลงมองมือถือ ทำไมพ่อไม่โทรเข้ามือถือผม
“สวัสดีครับ ภาคินอยู่กับผมครับ น้องโอเคแล้วครับ ไม่เป็นไรครับ ไม่รบกวน ผมจะออกกันไปแล้วครับ น่าจะทันครับ ไม่นี้ครับ ไม่ดื้อนี้ครับ ครับผม ได้ครับ ผมจะดูแลแล้วกัน ไม่ต้องเกรงใจครับ สวัสดีครับ” พี่ภาคิน ผมแอบเบ้ปากและมองบ่น
“นินทาพี่เหรอครับ นี่พี่อุตส่าห์โกหกคุณพ่อน้องให้น่ะครับ ว่าเราไม่ดื้อกับพี่ แต่จริงๆ ดื้อมาก” พี่เขาพูด ผมก็พ่นลมหายใจออกมายาวๆ และก้มลงทานต่อจนเสร็จ และจะได้ไปหาพ่อแม่ผม ไปถึงนี้คงโดนบ่นหูชา พี่ชายอีกสี่คนก็คงไม่ได้ช่วยอะไรเหมือนเดิม พ่ออยากให้ผมถอนตัวจากเพื่อนๆ ผมและมาทำกิจการเต็มตัว ผมคิวว่าอาจจะถึงเวลาแล้วก็ได้
*****
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
ขอบคุณคุณ Nattie69 มาเป็นกำลังใจตลอดเลย
ตอนหน้า เจ้ปริมจะมาแล้วน่ะ มีเซอไพรส์ให้พี่ตั้นด้วย วันอาทิตย์ดึกๆหน่อยนะมาลงให้นะคะ