30
นภาสดใสสีฟ้าคราม แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นสีชมพู ยิ่งท้องฟ้าของผมยิ่งชมพูกว่าอะไรทั้งหมด เทมปุระที่เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรชวนขวยเขินออกไป นั่งเอาหน้าซ่อนไปกับเบาะรถ ดวงหน้าจิ้มลิ้มไม่กล้าแม้แต่จะหันมาให้ผมเห็น แม้แต่ใบหู คุณท้องฟ้าก็เอาฝ่ามือปิดเอาไว้
ความรู้สึกเขินอายที่มาช้าๆของเขา น่ารักจนผมแทบจะหัวใจวายตาย เราเดินจูงมือกันไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วก็จูงกันมาขึ้นรถ ระหว่างที่เขากำลังพูดถึงคุณอัลปาก้า พอผมถามเขาว่า
'เมื่อกี้เทมขอหมูเป็นแฟนหรือครับ' เทมปุระก็เอียงคอสงสัย บอกว่ากำลังจีบเฉยๆ พอผมอธิบายไป ว่าแลกหัวใจกัน ก็เหมือนคำขอเป็นแฟน
เท่านั้นแหละครับ ใบหน้าขาวค่อยๆซับสีเลือด เหมือนผมจะได้ยินเสียงระเบิดจากอีกฝ่ายตูมตามไม่หยุด เด็กน้อยที่ร่าเริงเตรียมไปหาคุณแกะคุณแพะ ก็เป็นอันชะงัก กลายเป็นเด็กชายแสนขี้อายที่กอดเบาะเสียแน่น
"เทมครับ เดี๋ยวหายใจไม่ออกนะครับ มานั่งดีๆเร็ว" ผมพยายามแกะเขาออกมาจากเจ้าเบาะน่าอิจฉานั่น เทมส่ายหน้าไปมา ปฏิเสธการหลบออกจากที่หลบภัย เส้นระดับความอายของเจ้าตัวนี่เข้าใจยากมากเลยครับ จีบผมยังเขินในแบบที่แค่หลบตา แต่พอขอเป็นแฟนถึงขนาดซ่อนไปทั้งตัว เขาเอาอะไรตัดสินกันนะ
"เทม เทมอายหมูหย็อง หมูหย็องอย่าเพิ่งมองเทมนะครับ"
"อายอะไรหมูครับเทม"
"ก้อ ก็ ก็ ก็ เทม เทม เทมกำลังจีบจีบหมูหย็องอยู่"
"แล้วยังไงต่อครับ"
"ก็พอ-พอหมูหย็องถามว่า เทม เทมขอหมูหย็องเป็นแฟนเหรอ...." พูดถึงตอนนี้ แม้แต่หลังมือที่ปิดหน้าอยู่ก็ยังเป็นสีชมพูเข้มจัด
"หมูหย็องพูดแล้วเหมือน เหมือนหมูหย็องขอเทมเป็นแฟนเลย เทมก็เลยตึกตักๆๆๆไม่หยุด ก้อนหัวใจตุบๆๆๆเร็วมากๆ หมู-หมูหย็องขอเทมเป็นแฟนไม่ได้นะครับ เทมเป็นคนจีบ เทมต้องขอนะ"
แต่งงานกันนะครับเทม
ผมอยากถามเขามาก ทำไมต้องเกิดมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักขนาดนี้ด้วยครับ ไม่คิดจะเหลือคำว่าน่ารักให้ผมได้ใช้กับอะไรอีกเลยใช่ไหม ผมอยากจับเขามาปั้นเป็นก้อนแล้วก็อมเอาไว้ ไม่ให้ใครเห็นอีกเลยจัง
ที่เขาเขินอายก็เพราะเหมือนผมไปพูดขอเขาเป็นแฟนนี่เอง โธ่ เด็กน้อยของหมูครับ ผมครวญในลำคอ ให้ตายสิครับ เขากระชากความรู้สึกของผมให้ลงหลุมรักเดิมๆ ไม่รู้กี่ร้อยกี่แสนกี่ล้านครั้งแล้ว และทุกครั้งที่เขากระชากผมลงไป มันก็ถลำลึกมากยิ่งขึ้น ลึกยิ่งขึ้น ไกลยิ่งขึ้น ครั้งนี้ยังเอาหินมาปิดทางเข้าออกไว้อีก หมดกันครับ
เขาวงกตเทมปุระได้กักขังผมไว้ตลอดไปเสียแล้ว
ท่าทางตัวสั่นและดูทำอะไรไม่ถูกเหมือนลูกกระต่ายสีขาวตัวจ้อย ดูน่าอาทร เขาคงยังไม่ชินนักกับการถูกรักในเชิงแบบนี้ ผมส่งเชือกให้เทมจับ ให้เขาพยุงตัวขึ้นมาจากความรู้สึกรุนแรงที่เพิ่งเคยเจอ
"งั้นหมูขอเก็บคำพูดคืนนะครับ แล้วหมูจะรอเทมมาขอเป็นแฟน แบบนี้ดีไหมครับ?" ผมยิ้ม ยอมตามใจเขา ถ้าเขาอยากเป็นคนขอ ผมก็จะรอเขาครับ แม้ที่จริงอยากจะรวบหัวรวบหางเขาไวๆก็ตามที
เทมปุระค่อยๆเบือนใบหน้าออกจากที่หลบภัย ใบหน้าแดงฉานดูงดงามเสียหัวใจผมเต้นถี่รัว แพขนตาที่หลุบลงยอมช้อนขึ้นมองกัน เขาพยักหน้าช้าๆอย่างเขินอาย องค์ชายน้อยยื่นมือที่กำเอาไว้มาให้ผม
"ฝ-ฝากหมูหย็องไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยว เดี๋ยวเทมจีบหมูหย็องเสร็จแล้ว แล้ว แล้วจะมาขอคำพูดคืนนะ"
หัวใจผมคลานไปคุกเข่าแทบเท้าเขา ยอมทุกอย่างแล้วครับคนดี ต้องการอะไรก็บอกหมูมาได้ทุกอย่างเลยครับ ผมพยักหน้า ผมปวดแก้มไปหมด ยิ้มนาน ยิ้มค้างจนแทบจะลืมวิธีหุบยิ้ม พอเด็กน้อยเห็นผมรับฝากแล้ว เขาก็ดูโล่งอก เจ้าตัวถอนหายใจด้วยความสบายใจ
นี่ถ้าผมพูดโพล่งออกไปว่า 'เป็นแฟนกันนะครับเทม' นางฟ้าของผมต้องกระพือปีกบินหนีไปเพราะความเขินอายที่เกินจะรับไหวแน่ๆเลยครับ ท่าทางราวเครื่องแก้วล้ำค่าแสนบอบบาง ที่ไม่เคยผ่านมือผู้ใดและแสนไร้เดียงสา ทำให้ผมอยากทะนุถนอม แม้จะอยากเห็นท้องฟ้าเป็นสีชมพูให้นานกว่านี้ แต่จะเอาแต่ใจตอนนี้มากไม่ได้ครับ
ผู้กล้าตัวน้อยของผมยังแค่เป็นผู้กล้าฝึกหัด เป็นผู้กล้าที่เพิ่งเริ่มเดินเตาะแตะ และมังกรใจร้ายแบบผมก็ควรใจดีกับเขาเสียหน่อย
"ใกล้ถึงแล้ว เทมอยากทำอะไรก่อนดีครับ ที่นี่หมูดูรีวิวมา มีฟาร์มกระต่ายด้วยนะครับ"
"คุณกระต่าย! เทม เทม อยากไปเล่นกับคุณกระต่ายด้วยครับ!" เทมตอบเสียงดังฟังชัด คุณกระต่ายสีขาวของผมหูตั้งตรง หางกลมๆส่ายดุกดิกไปมาไม่หยุด เมื่อรู้ว่าใกล้ถึงสวนสนุกของเจ้าตัวแล้ว ผมยิ้ม ถามเขาต่อ
"คุณอัลปาก้าล่ะครับ?"
"เล่นกับคุณอัลปาก้าด้วยครับ!"
"คุณแกะล่ะครับ?"
"เล่นกับคุณแกะด้วยครับ!"
"หมูหย็องล่ะครับ?"
"เล่นกับคุณหมูหย็องด้วยครับ!"
หึหึหึ ผมหัวเราะในลำคอให้กับเครื่องตอบคำถามอัตโนมัติที่ยังคงตื่นเต้น ไม่รู้ว่าโดนหลอกล่ออะไรบ้าง ผมลูบแก้มนุ่มนิ่ม แก้มของเขาให้สัมผัสที่นุ่มนวลใจดีจริงๆเลยครับ เทมปุระให้ความร่วมมือด้วยการมอบแก้มของตัวเองวางแหมะไว้บนมือของผม เขายิ้มกว้างจนตาปิด แล้วถูไถไปมา
"นวดแก้ม นวดแก้ม นวดแก้ม" ผมขยำแก้มให้เขาเบาๆ ตามที่คุณเจ้าของเขาเรียกร้องราคา ค่าให้ยืมแก้มนุ่มมาจับเล่น เปลือกตาที่หลับสั่นไหว ดูสบายอกสบายใจกับบริการนวดแก้มของผม
"สบ๊าย สบาย ซักแก้มเทมเสร็จแล้ว เดี๋ยวเทมซักแก้มให้หมูหย็องด้วยนะครับ เทมจะเป็นคุณเครื่องซักผ้าให้นะ เดี๋ยวจะปั่นแก้มให้สะอาดๆๆๆเลยครับ"
เทมปุระเสนอตัวเอง แต่สักพักเขาก็ตาโต
"แต่แก้มหมูหย็องไม่ใช่ผ้านี่น่า งั้นเทมจะเป็นคุณเครื่องซักแก้มแทนนะครับ หมุนๆๆๆๆๆ"
ฝ่ามือใหญ่ยื่นมาทาบทับแก้มของผมบ้าง เขานวดหมุนวนไปมาเบาๆ ผมพอจะเข้าใจแล้วครับ มันสบายจนแอบเคลิ้มเลยทีเดียว โดยเฉพาะยิ่งมีสายตาหวานๆมองตรงมาเป็นบริการเสริม ยิ่งรู้สึกว่าเครื่องซักผ้ายี่ห้อนี้ดีจริงๆดีมากๆเลยครับ อยากซื้อเอาไปตั้งไว้ในห้องนอน แล้วให้เขาซักให้ทั้งคืนชะมัด
ผมกับเทมเล่นเป็นคุณเครื่องซักแก้มจนถึงจุดหมายเลยครับ รู้สึกว่าที่เขาบีบแก้มไปมาให้ ก็ช่วยผมคลายเมื่อยที่เอาแต่ยิ้มเป็นบ้าเป็นหลังทั้งวันได้ดีเหมือนกัน วันนี้รอยยิ้มผมคงจะฉีกกว้างไปถึงกลางคืน แต่ก็ไม่กลัวแล้วครับ มีคุณซักแก้มคอยนวดให้ทั้งคนนี่นะ
ร่างสูงพอลงจากรถ เห็นป้ายทางเข้าก็วิ่งให้วุ่นวาย คุณเครื่องซักผ้าตอนนี้กลายเป็นตะเกียงไปซะแล้วล่ะครับ เป็นตะเกียง แล้วก็เป็นโคมไฟที่ฉายแสงระยิบระยับสว่างโร่ ดวงตาเขาเหมือนส่องแสงกวาดมองทั่วไปหมด ความตื่นเต้นทะลุถึงขีดสุด ชี้มือชี้ไม้ชวนให้ผมดูไปทุกอย่าง
"หมูหย็องครับ หมูหย็องดูนี่สิ ดูนี่สิครับ ใบไม้ล่ะ!! ใบไม้สีเขียว!"
ใบไม้บ้านเราก็มีนะครับเทม...
ความตื่นเต้นเยอะแยะที่เด็กน้อยของผมไม่รู้ไปขนมาจากไหน ทำเอาเขาตื่นตาไปกับทุกสิ่ง ผมหัวเราะเอ็นดู คนที่กำลังก้มๆเงยๆกับต้นไม้ตรงทางเข้า เขาหยิบทุกอย่างมาให้ผมดู พอผมพยักหน้าให้ แล้วก็วิ่งไปหยิบอย่างอื่นมาให้ดูอีกเรื่อยๆ ท่าทางที่ภูมิใจนำเสนอทุกอย่างให้ผมดู ทำเอาฟาร์มสัตว์น่าเบื่อในความคิด เป็นน่าสนุกสุดๆไปเลยครับ
"คุณก้อนหิน!! หมูหย็องๆๆๆๆ ดูก้อนหินก้อนนี้สิครับ เหมือนคุกกี้เลยครับ! ก้อนนี้ก็เหมือนไดโนเสาร์ด้วย หมูหย็องว่านี่จะเป็นกระดูกแขนขาป๊อดซิวของคุณไดโนเสาร์ในสมัยก่อนๆๆๆหรือเปล่าครับ?"
ก้อนหินบ้านเราก็มีนะครับเทม... แล้วก้อนเล็กแค่นั้น น่าจะเป็นได้แค่ปลายเล็บ เศษกระดูกนะครับหมูว่า
ผมหัวเราะเด็กชายฟ้าประทาน ที่หยิบจับอะไรก็ดูตื่นเต้นไปเสียหมด
"ฟอสซิลครับเทม อืม อาจจะเป็นไปก็ได้นะครับ" ผมไม่มีทางขัดท่าทางที่โคตรน่ารักของเขาตอนนี้แน่ๆครับ
วันนี้ผมจะตามใจเขาให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ และนั่นก็เป็นกำไรของผมด้วย เมื่อเทมปุระตาวาว รีบเอาเสื้อตัวเองเช็ดเจ้าก้อนหินเปื้อนดินก้อนนั้นให้สะอาด แล้วเอามาใกล้หน้าตัวเอง ฉีกรอยยิ้มกว้างแสนสดใส
ท้องฟ้ากระจ่างดูจืดชืดไปเลยครับ เมื่อคนตรงหน้าผมแย้มรอยยิ้มออกมา
"ฟอสซิล! งั้นๆๆๆ หมูหย็องครับ หมูหย็องครับ ถ่ายรูปเทมกับคุณฟอสซิลให้หน่อยนะครับ เทมจะส่งให้คุณแม่ดู ให้คุณป๊ากับเต้กับน้ำดูด้วย เทมเป็นนักราคดีแล้ว เจอกระดูกไดโนเสาร์ด้วย!"
"นักโบราณคดีครับ ยิ้มนะครับ" ผมหยิบกล้องขึ้นมา ถ่ายรูปเด็กน้อยกับก้อนหินหน้าทางเข้าของเขา
"นักโบราณคดี! หรือจริงๆแล้วเป็นไข่ไดโนเสาร์กันนะ..." เทมปุระพึมพำ ดูยิ่งตื่นเต้นกว่าเดิม เขาหยิบก้อนหินก้อนเดิมขึ้นมาใกล้หูตัวเอง ท่าทางตั้งใจมาก ราวกับกำลังฟัง ค้นหาเสียงความเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตข้างในนั้น
"เทมครับ..." ผมกำลังจะบอกเขาว่ามันยังไม่ได้ล้าง อย่าจับนานนัก แต่ก็ต้องหยุดก่อน เมื่ออีกฝ่ายยกนิ้วชี้จรดริมฝีปาก
"หมูหย็อง
ชู่ๆๆๆๆ ก่อนนะครับ เทมกำลังฟังน้องทารกในไข่อยู่" ผมยิ้มให้ความคิดน่ารักของเขา
"งั้นเอาไปเก็บดีไหมครับ ไข่บอบบางมากนะครับเทม"
"จริงด้วย! จริงๆๆๆด้วย เทมไม่ควรจับน้องมาเล่นเลย ขอโทษนะครับ" เขาลูบก้อนหินเบาๆ สีหน้ารู้สึกผิดมาก ก่อนจะค่อยๆประคองก้อนหินไปไว้ข้างต้นไม้ จัดสถานที่ให้คุณไข่ไดโนเสาร์เป็นอย่างดี
"ฟักไวๆนะครับน้องไดโนเสาร์" ร่างสูงบอกเบาๆ
ก่อนเขาจะนิ่งไป ท่าทางเหมือนเทมจะเจอบางสิ่ง มือใหญ่เอื้อมไปจับอะไรบางอย่าง
ตัวสีดำๆดิ้นขยุกขยิก มีขาเยอะแยะแสนคุ้นตา
"หมูหย็องครับ!! คุณตะขาบล่ะ!!!!!!"
ตัวนั้นจับเล่นไม่ได้นะครับเทม!
"เทมครับตัวนั้นจับไม่ได้นะครับ ปล่อย ปล่อยเลยครับ!" ผมรีบบอกเขา ร่างสูงแม้จะงง แต่ก็ยอมปล่อยไป ผมรีบวิ่งเข้าไปหาอีกฝ่าย จับข้อมือเขาไว้ เมื่อดูทั่วว่าไม่ได้ถูกกัดก็โล่งอก มืออีกข้างรีบหยิบทิชชู่ฆ่าเชื้อมาเช็ดมือใหญ่
"ตะขาบจับเล่นไม่ได้นะครับเทม มันมีพิษ เป็นสัตว์อันตราย ถ้าโดนกัดขึ้นมาเทมจะเจ็บนะครับ รู้ไหม ห้ามจับเด็ดขาดเลยนะครับ" ผมบอกเขาด้วยความเป็นห่วง
"ไม่จับๆๆๆ ไม่จับ วันหลังเทมไม่จับแล้วครับ ไม่จับเด็ดขาดๆๆๆ ของเด็ดขาดเลยครับ เทมขอโทษนะครับ"
คงเพราะผมเผลอเสียงดังเพราะตกใจไปหน่อย เด็กน้อยของผมคงจะเสียขวัญ นึกว่าผมโกรธ ท่าทางร่าเริงดูสลดลง ผมเอาทิชชู่ไปทิ้งถังขยะ เดินมาจับมือเขาไว้
"ไม่ได้โกรธเทมนะครับ หมูแค่เป็นห่วง ไปข้างในกันนะครับ ไปเล่นกับคุณแกะคุณแพะแทนนะ"
"คุณอัลปาก้า!" ถือว่าผมประสบความสำเร็จในการกู้คืนความตื่นเต้นและรอยยิ้มของเขาครับ
"ครับ คุณอัลปาก้าด้วยนะ ไปซื้อตั๋วเข้าฟาร์มกันก่อนนะครับ"
ที่นี่เหมือนเป็นสวนสัตว์ขนาดย่อมๆเลยครับ มีสัตว์หลากหลายชนิดพอสมควร มีคาเฟ่ ร้านอาหาร และสถานที่สวยๆให้ถ่ายรูป เขาจัดสรรพื้นที่ได้ดี ทำให้เดินไปแล้วไม่น่าเบื่อ ผมมองแผนผังบนกระดาน คิดว่าจะเดินวนรอบ จะได้พาเด็กน้อยไปเจอสัตว์ทุกชนิดให้ครบ และจะได้สิ้นสุดที่อัลปาก้าพอดี
"ไปทางนี้กันนะครับ ไปหาคุณแกะกับคุณแพะก่อนนะ"
"ได้ครับ แต่ว่า แต่ว่าหมูหย็องครับ หมูหย็องครับ คือ คือว่าเทมซื้อสายไหมด้วยได้ไหมครับ" เทมปุระดึงรั้งชายเสื้อผมเอาไว้ ก่อนจะเหลือบสายตาไปมองกลุ่มเด็กๆ ที่เดินถือสายไหมอันใหญ่สีสันลูกกวาดเดินยั่วเด็กชายของผมไปมา เทมมองตามเสียจนลูกตาจะเขียนคำว่า 'สายไหม' เลยครับ
"ได้ครับ"
"ไอศกรีมด้วยได้ไหมครับ" มาแล้วครับ เทมปุระกับของหวานอย่างเดียวไม่เคยพอ
"ไอศกรีมด้วยก็ได้ครับ"
"วันนี้หมูหย็องใจดีจังเลยครับ ปกติก็ใจดี แต่วันนี้ใจดีแบบยิ่งใหญ่ ใหญ่โตมากๆๆเลย" เทมเบิกตากว้าง ยิ้มหวาน เข้ามาคลอเคลียประจบผมทันที ผมหัวเราะให้เจ้าหมาน้อยหางกระดิก ผมเห็นสายตาเขามองตามอมยิ้มไปอีก ก็รีบพูดหยุดเขาเอาไว้ก่อน เดี๋ยวจะไปเล่นกับสัตว์อยู่แล้ว เดี๋ยวจะไม่สะดวกเอาครับ ถ้าของกินเต็มมือ
"ทานสองอย่างนี้ให้หมดก่อนนะครับ"
"โอเคครับๆๆ งั้นๆๆ ไปซื้อสายไหมกันก่อนนะครับ เทมอยากได้สีฟ้าอันใหญ่ๆๆๆ"
ผมเดินไปถามครอบครัวหนึ่งว่าพวกเขาซื้อมาจากที่ไหน ดูพวกเขาค่อนข้างตกใจที่มีฝรั่งมาถามทาง จนลนลานกันไปหมด
"ขอโทษนะครับ ช่วยบอกได้ไหมครับว่าสายไหมซื้อที่ไหน"
" Hello Hi sorry sorry ไอไม่เก่งอิงลิชนะ เอิ่ม เอ่อ ไอบายฟอมไทยแลนด์ เอ่อ อาโน่ อาโน่ บายฟอมแดทๆๆอ่ะ แดททางนั้นครับ"
ผู้ชายที่คงจะเป็นคุณพ่อ ถูกเหล่าสมาชิกในครอบครัวผลักออกมาให้ตอบคำถามผม เขาพยายามอธิบายพลางชี้บอกทาง ผมยิ้ม ผมว่าผมก็ถามพวกเขาภาษาไทยนะครับ
"หมูหย็องพูดภาษาไทยได้ครับ" เทมยิ้มแล้วบอกคุณลุงคนนั้น พวกเขาดูสบายใจขึ้น เมื่อไม่ต้องฝืนหาคำต่างประเทศเพื่อพูดคุย
"อ้าว เหรอ โธ่ๆ พวกลุงก็ตกใจกันหมด ซื้อจากทางเลี้ยวก่อนถึงตรงรีดนมวัวน่ะพ่อหนุ่ม"
"ขอบคุณครับ" เทมยกมือไหว้ขอบคุณ คุณลุงดูท่าทางเก้อเขิน รีบหัวเราะแล้วโบกมือว่าไม่เป็นไร
"เออๆๆ ไอ้หนูนี่เข้าท่า มือไม้อ่อนดีเว้ย"
ผมเดินกันมาตามทางที่คุณลุงชี้บอกก็เจอครับ สายไหมมีหลากสีสันและหลากหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่เป็นก้อนกลมๆ แต่เป็นลายตัวการ์ตูนก็มี แถมมีเจ้าแมวหุ่นยนต์ลายโปรดของเทมปุระอีกด้วย
มีคุณลุงกำลังนั่งขายอยู่ครบ พอเห็นเงาลูกค้าเดินผ่าน ก็ตะโกนขายของโฆษณา พอเงยหน้ามาเจอผม เขาก็พูดเป็นภาษาอังกฤษบอกแทน
"เอาไรจ๊ะ เล็ก80กลาง150ใหญ่200 เอาแบบลาย300จ้า เอ่อ Small 80 Center 150 Big Big 200 Cartoon 300"
"ขนาดกลาง Medium ครับ" ผมช่วยแก้
"อ๋อๆ แทงยูหลายๆ เอ้า! พูดภาษาไทยนี่เฮ้ย"
คุณลุงดูตกใจ สวนทางกับความตื่นเต้นขีดสุด ของชายร่างสูงข้างกายผม
"มีพี่โดเรม่อนด้วย! ขอ ขอ ขอพี่โดเรม่อนครับ! หมูหย็องครับๆๆๆๆๆ เทมขอพี่ม่อนนะครับๆๆ พี่ม่อนๆๆๆๆๆ"
เด็กน้อยของผมกรี๊ดกร๊าดแทบจะเป็นลม เมื่อเห็นพี่โดเรม่อนของตัวเอง ชี้มือชี้ไม้ กระตุกเสื้อผมไม่หยุด ประหนึ่งแฟนคลับเจอศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ
"ขอลายโดเรม่อนครับ สามร้อยใช่ไหมครับ นี่ครับ" ผมยื่นเงินไปให้คุณลุงที่มองเทมปุระงงๆ คงจะไม่เคยเห็นเด็กผู้ชายที่ไหนตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อน
"ได้จ้า นี่เงินทอนเจ็ดร้อยจ้า"
พอคุณลุงยื่นมาให้ เทมรับมาไว้ในมือ เจ้าตัวยิ้มกว้างไม่ยอมหุบเลยครับ ออร่าความสุขแผ่กระจายไปทั่ว เริ่มฮัมเพลงในคอเป็นเพลงของการ์ตูนเรื่องโปรด
"อัง อัง อัง พี่ม่อน พี่ม่อน"
เหมือนเทมจะลืมทุกอย่างไปแล้วครับ เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับพี่ม่อนสายไหมของตัวเอง
"หมูหย็องๆๆๆ ถ่ายรูปกันครับๆๆๆ คุณแม่บอกต้องถ่ายไปให้ดูเยอะๆๆๆเลย" ผมถ่ายรูปให้เขา เทมดูยังไม่พอใจ รวบตัวผมเข้ามากอดถ่ายรูปคู่กับสายไหมพี่ม่อนด้วย ถ่ายอีกสี่ห้ารูป แฟนคลับโดราเอม่อนถึงจะพอใจครับ เขาเดินถือไปมา ไม่ยอมทานสักที จนผมต้องบอก
"เทมครับ ซื้อมาทานด้วยนะครับ" เหมือนผมเผลอพูดอะไรรุนแรงเข้า เทมปุระดูตกใจมาก
"เทม เทม เทมไม่กล้าทานพี่ม่อน..." จริงๆซื้อมาทิ้งผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกครับ แต่เดี๋ยวจะต้องไปเล่นกับคุณแกะของเขาแล้ว จะเอาไปวางไว้ที่ไหนกัน อันใหญ่ขนาดนี้ จะบอกให้เขาเอาไปทิ้งเจ้าตัวก็คงไม่ยอม
"แต่เดี๋ยวเราจะไปเล่นกับคุณแกะคุณแพะของเทมแล้วนะครับ"
"แต่ แต่ แต่ว่า พี่ม่อน..."
"ถ้าเทมไม่ทาน ถือไปแล้วคุณแพะคุณแกะแย่งทานล่ะครับ"
"จริงด้วย! งั้น งั้นก็...เทมขอโทษนะครับพี่ม่อน" เจ้าตัวหลับตาปี๋ รีบอ้าปากงับเจ้าสายไหมสีฟ้าทันที ใช้เวลาสักพักเลยครับกว่าจะหมด เมื่อคนทาน ทานไปจะร้องไห้ไปแบบนั้น...วันหลังไม่ให้เขาซื้อขนมที่เป็นลายโดเรม่อนแล้วครับ ทานไปเศร้าไปแบบนี้
ผมเหลือบไปเห็นซุ้มขายลูกโป่ง เห็นเจ้าลายการ์ตูนสีฟ้าที่คุ้นเคย ผมเดินไปซื้อมาเร็วๆ ก่อนจะจับข้อมือคนที่ฝืนใจทานไอดอลของตัวเองอยู่ด้วยสีหน้ากล้ำกลืน
"นี่ครับ พี่ม่อนเกิดใหม่เป็นลูกโป่งแล้ว ไม่ต้องเศร้านะครับ" ผมยิ้ม เอาลูกโป่งผูกข้อมือให้เขา และทุกอย่างก็ดีขึ้นทันตาเห็น องค์ชายน้อยกลับมาปกติสุข ผมพิทักษ์ความสุขของเขาไว้ได้อีกครั้ง
"พี่ม่อนๆๆๆ พี่ม่อนแบบลูกโป่ง พี่ม่อนเกิดใหม่แล้ว ขอบคุณนะครับหมูหย็อง"
...เพื่อรอยยิ้มนี้แล้ว หมูยินดีมากๆเลยครับ...
เทมที่อารมณ์ดี ก็ทำให้ผมอารมณ์ดีไปด้วย พอได้ลูกโป่ง เจ้าตัวก็ยิ้มหวาน และรอยยิ้มยิ่งหวานล้ำเมื่อได้ไอศกรีมไปอีกหนึ่งโคน เลี้ยงเทมไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผมเลยครับ เจ้าก้อนความสุขไม่ว่ายังไงก็เป็นก้อนแห่งความสุข แค่กดให้ถูกจุด ความสุขก็ทะลักออกมาอย่างง่ายดาย ยิ้มง่ายหัวเราะง่าย เป็นตัวตนที่อัดแน่นด้วยคำว่า Happy ได้มาอยู่ข้างๆแล้วมีความสุขมาก
แต่ไอ้เจ้าแกะเจ้าแพะพวกนี้มันยังไงครับ กล้าดียังไงมาเลียก้อนแห่งความสุขของผมกัน เทมยื่นอาหารให้พวกมันที ก็เลียมือเลียหน้าเทมที ให้ตายสิ น่าจับไปทำสเต๊กให้หมดฟาร์มมากครับ
...พรุ่งนี้เช้าผมจะกินสเต๊กแกะกับพายแพะเป็นมื้อเย็น...
เหมือนไอ้เจ้าสัตว์สี่ขาขนฟูรับรู้ถึงรังสีฆ่าฟันของผม พวกมันเดินกระจายตัวกันหนีห่างเด็กน้อยของผมที่เกาะรั้วยื่นมือป้อน
"อ้าว อ้าว คุณแกะ คุณแพะ อิ่มแล้วเหรอครับ ไม่ทานอีกเหรอ" เทมพยายามเรียกร้อง แต่เจ้าพวกนั้นก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้ ผมลูบผมนิ่มที่กำลังก้มตัวยื่นหญ้าให้พวกมัน
"สงสัยจะอิ่มแล้วล่ะครับเทม ไปโซนกระต่ายกันไหมครับ?"
"โอเค โอเคครับ"
แต่วังวนวัฏจักรสัตว์ไม่กล้าเข้าใกล้เทมก็ยังอยู่ครับ เมื่อมีผมมองพวกมันด้วยสายตาเย็นชาอยู่ไกลๆ เทมทำได้แค่วางหญ้าเอาไว้ แล้วถ่ายรูปแทน ผมปลอบเขา
"สงสัยจะเป็นกระต่ายตั้งท้องนะครับ เลยหวงตัว"
"อ๋อ แบบนี้นี่เอง น้องกระต่ายน่ารักมากๆๆๆเลยครับ เสียดายหมูหย็องไม่ชอบ อยากให้หมูหย็องจับน้องๆ น้องนุ่มๆ น้องนุ่มนิ่มๆๆๆ" เทมทำหน้าเสียดายมาก
แต่ผมไม่สนใจจะจับพวกมันหรอกครับ ผมเหลือบมองอะไรที่น่าจับมากกว่าเจ้าก้อนขนพวกนั้นเป็นร้อยๆเท่า
"ถ้านุ่มนิ่มๆล่ะก็ หมูจับแก้มเทมก็ได้ครับ" ผมยิ้ม
"จริงด้วย! งั้นจับแก้มเทมแทนก็ได้เนอะ" เทมปุระจับมือผมไปวางบนแก้มตัวเอง ยิ้มหวานตาหยีให้ผม
อืม...แพ้กลับมาซะงั้นครับ
พวกผมเดินเที่ยวเล่นกันทั่วฟาร์ม เทมปุระสนุกสนานร่าเริง จนมาถึงโซนรีดนมวัว จู่ๆเจ้าตัวก็เขินอายขึ้นมา
"ไม่ได้นะครับ ไม่ได้นะครับ ไปจับหน้าอกผู้หญิงแบบนั้น หมูหย็องปิดตาไว้ครับ อย่ามองนะ คุณวัวไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เขาโป๊อยู่"
เทมเอามือมาปิดตาของผม ส่ายหน้าแดงๆไปมาไม่หยุด แล้วรีบลากผมออกมาจากโชว์รีดนมวัวทันที
เอ่อ เจ้ากระต่าย เจ้าแพะที่เทมจับ ก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้านะครับ...
อารมณ์เขินอายหมุนวนกลับไปที่ตื่นเต้นสุดขีด เมื่อพวกเราเดินมาถึงคอกท้ายสุดของฟาร์ม ป้ายไม้ที่เขียนคำว่าอัลปาก้า เล่นเอาผมได้ยินเสียงกรีดร้องเบาๆขึ้นมาอีกระลอก เทมพุ่งตัวไปเกาะรั้ว ดวงตาสวยกวาดมองไปทั่ว
"คุณอัลปาก้า!!! คุณอัลปาก้า!!! คุณอัลปาก้า...?"
เทมร้องเรียกเสียงดังทีแรกก่อนจะค่อยๆอ่อยเบาลงตอนท้าย ผมเดินตามมาด้านหลัง มึนงงกับท่าทางช็อกค้างของเด็กชายตัวน้อย เทมปุระอ้าปากหวอ ดูไม่เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น ผมเลื่อนสายตาไปมองเจ้าอัลปาก้าที่เขาอยากมาดูแล้วก็พลันเข้าใจอาการของเขา
เจ้าอัลปาก้าคอยาวขนฟู...โดนตัดขนไปซะเกลี้ยงเลยครับ
เหลือแต่ตัวอะไรก็ไม่รู้ ที่ไม่ตรงปกโฆษณา
ตอนนี้เย็นมากแล้ว ฟาร์มใกล้ปิด คนจำนวนมากมายก็เริ่มทยอยกันกลับบ้าน ผมเลยเดินเข้าไปกอดเอวร่างสูงจากด้านหลัง เทมปุระตกตะลึงกับคุณอัลปาก้าไร้ขนของตัวเองจนนิ่งสนิท
"หมูหย็อง...คุณอัลปาก้าขนร่วงหมดเลยครับ คุณอัลปาก้าเป็นเหาเหรอครับ"
"อากาศร้อนน่ะครับ เขาคงช่วยตัดขนพวกมันให้ จะได้สบาย"
"อ๋อ เทมตกใจหมดเลยครับ แต่ๆๆๆว่า แบบขนไม่มีก็น่ารักแบบขนไม่มีดีนะครับ"
อะไรคือน่ารักแบบขนไม่มีครับ ผมหัวเราะออกมาเบาๆ เทมหมุนตัวมากอดผมตอบ
"ขอบคุณที่พาเทมมานะครับ เทมสนุกมากๆๆเลย หมูหย็องสนุกไหมครับ" ผมยิ้มตอบรับคำถามของเขา
"สนุกมากเลยครับ ไว้วันหลังหมูจะพาเทมไปดูอัลปาก้าแบบมีขนนะครับ หึหึหึ"
"จริงเหรอครับ งั้นรอบหน้าเราไปหาคุณอัลปาก้าขนฟูๆๆๆกันนะครับ"
ยามท้องฟ้าโพล้เพล้ สีสันช่างดูสวยงามราวจิตรกรฝีมือดีมาละเลงเอาไว้ ความสว่างกับความมืดบรรจบเป็นความสลัว บรรยากาศราวกับในเทพนิยาย ทุกอย่างถูกอาบไล้ไล่ระดับสีอย่างสวยงาม ผมกับเขากอดกันมองพระอาทิตย์ตกดินช้าๆ เราพูดคุยถึงเรื่องสัตว์ต่างๆ พูดถึงเรื่องสวนน้ำ พูดถึงสถานที่ในอนาคตที่จะไปด้วยกัน สัญญาใหม่ถูกร่างขึ้นอย่างเรียบง่าย เกิดขึ้นพร้อมกับดวงอาทิตย์ที่ลาลับขอบฟ้าไปช้าๆ