———————— เพื่อนผู้ปกครอง * พระเอกเป็นออทิสติก * —————— ตอนที่ 61 * 23/02/63
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ———————— เพื่อนผู้ปกครอง * พระเอกเป็นออทิสติก * —————— ตอนที่ 61 * 23/02/63  (อ่าน 37060 ครั้ง)

ออฟไลน์ _tosssalad

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เหมือนคนบ้าอ่ะ ยิ้มค้างทั้งตอนเลย รู้สึกอบอุ่นหัวใจ :mew1: :กอด1:

ออฟไลน์ ZOFIARIN

  • ▇ โซเฟียริน • อวยพระเอก ▇ Whәи ɴᴏᴛʜɪɴɢ is یuгe , eveяything is possißle ♡
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
    • Twitter










40










          คุณปลายักษ์แก้มยุ้ยของผมร้องไห้อย่างหนักหน่วงจนกลายพันธุ์เป็นคุณปลาทองตาบวมปูด


          ย้อนกลับไปเมื่อตอนเซอร์ไพรส์เค้กวันเกิด เด็กน้อยทั้งดีใจ ซาบซึ้ง ความรู้สึกมากมายถาโถมใส่เครื่องแก้วบางจนล้นทะลัก เทมไม่สามารถเงยหน้าจากไหล่ผมได้เลยครับ  กระทั่งจะเป่าเค้กวันเกิดตัวเองยังทำไม่ได้ ผมต้องเป่าให้แทน คำขอพรเขาก็บอกว่าไม่มีอะไรต้องการมากกว่าการมีผมอยู่ด้วยและทุกคนมีความสุข จึงมอบพรพิเศษในวันเกิดให้ผมทั้งหมด ซึ่งผมก็ไม่มีอะไรที่อยากได้นอกจากคนในอ้อมกอด และปีศาจก็ไม่อ้อนวอนขอต่อพระเจ้า เราเน้นลงมือทำเอง


          พอถึงเวลาตัดเค้กแจก เจ้าตัวก็ทานไปสงสัยไป ว่าทำไมเค้กแสนอร่อยถึงเค็มนัก จะไม่ให้เค็มได้ยังไงล่ะครับพี่เทม...ในเมื่อคุณชายน้อยร้องไห้ขี้มูกโป่ง ทานไปทั้งรอยยิ้มทั้งน้ำตา


          ใบหน้ายังชื้นเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำใส แต่พอคนดีของผมคิดขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ทริกออร์ทรีตคุณแม่กับคุณป๊าคุณม้า ก็วิ่งดุ๊กดิ๊กไปเล่นด้วย ตั้งใจหลอกเขา แต่กลับเจอผู้ใหญ่สามคนเซอร์ไพรส์จนเสียหลักกับของขวัญชิ้นโตอย่างจักรยานสีโปรดคันสวย ทำเอาเด็กชายฟ้าประทานเบ่งน้ำตาเม็ดโตร่วงเปาะแปะอีกหน ร่างสูงไหว้ขอบคุณทั้งสามคน ก่อนจะเดินตัวสั่นมาจับมือผมให้เดินไปหาคุณป้า เพื่อมอบของขวัญชิ้นสำคัญ สำหรับขอบคุณที่ให้กำเนิดและยอมลำบากเหน็ดเหนื่อยเลี้ยงดูเจ้าตัวมาตลอดสิบหกปี


          น้ำหอมของผมและรองเท้าของเขา ทำเอาผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้าร้องไห้ไม่ต่างจากลูกชาย  คำขอบคุณจากเด็กชายสู่มารดาฟังแทบไม่รู้เรื่องด้วยเสียงที่สั่นเครือ และสมกับเป็นต้นกำเนิด คำอวยพรจากมารดาถึงลูกชายก็อู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์ พูดคุยกันด้วยภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ เล่นเอาไทยมุงแอบลอบมองด้วยรอยยิ้ม


          เด็กน้อยของผมอ่อนไหวง่ายเป็นทุน พอเจอความดีใจถี่ๆติดต่อกันไม่หยุดหย่อน ก็สะอื้นฮึกฮักไร้วี่แววสงบ ถึงจะร้องไห้เพราะความสุขก็ทำเอาผมชักเป็นห่วงเขาหนัก พอสามทุ่ม จึงลงมืออุกอาจลักพาตัวเจ้าของวันเกิดขึ้นบ้านก่อนงานจบตอนสี่ทุ่ม ทิ้งปาร์ตี้ไว้ด้านหลัง ปล่อยให้คุณป๊าคุณม๊าตัวเหลืองรับหน้าที่ปิดงานแทน


          แม้ผมจะอยากให้เขาอาบน้ำเข้านอนเลย แต่องค์ชายน้อยก็อยากเปิดของขวัญก่อนเข้านิทราเหมือนทุกปี หลังงานเลี้ยง นมหนึ่งแก้วกาแฟหนึ่งแก้ว เทมปุระกับผม เราจะมานั่งหน้าโทรทัศน์แล้วแบ่งหน้าที่ ผมคัดเลือกของขวัญจากกองภูเขา คัดสรรชื่อคนที่ไว้ใจได้ ว่าคงไม่เล่นพิเรนทร์ให้ของขวัญแปลกประหลาด แล้วยื่นส่งให้คนตั้งหน้าตั้งตารอเปิดของขวัญแกะ


          กล่องสี่เหลี่ยม กล่องกลม  กล่องเล็ก กล่องใหญ่ หลายรูปทรงหลายขนาด วางทับซ้อนเป็นหอคอยสูงตระหง่าน       
   

          กระดาษห่อหลากลวดลายสีสันสวยงามถูกเทมบรรจงแกะอย่างตื่นเต้น นัยน์ตาสีน้ำตาลสั่นพราวระยิบระยับดุจดาวที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้าตลอดเวลาที่คลายผนึกเปลือกออก และกลายเป็นดวงจันทร์ลอยเด่นยามค่ำคืนเมื่อเจอของข้างใน  ยิ่งยามเจอของถูกใจมาก ก็แทบจะกระโดดตัวลอยตกจากโซฟา


          ช็อกโกแลตพรีเมี่ยม ของหวานราคาสูง กล่องสี เครื่องเขียน ดวงตาสีฟ้ากวาดมองก่อนผุดรอยยิ้มพอใจ เมื่อไม่มีตุ๊กตาขนปุยน่ากอดโผล่มาให้เห็น ทุกคนทำตามกฎของขวัญในการ์ดเชิญได้เป็นอย่างดี


          ของขวัญปีนี้ก็ไม่แตกต่างจากปีก่อนมากนัก


          เพราะผมจำกัดสิ่งของที่จะให้เด็กชายเพียงสองอย่าง นอกเหนือจากนั้นขอไม่รับครับ เพราะหลายครั้งเกิดกรณีซื้อของขวัญเป็นพวกโทรศัพท์ เสื้อผ้า ตุ๊กตา ของเล่นหรือสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ซึ่งผมไม่ค่อยพอใจนักถ้าจะให้เขาใช้ของที่คนอื่นซื้อ ไม่ใช่ผมซื้อให้


          ส่วนของที่ให้ได้ก็คือขนมและของที่ใช้แล้วหมดไป ของที่ผมจำกัดความไว้ว่าใช้แล้วหมดไปก็อย่างเช่น สมุดภาพระบายสี สีน้ำ สีเทียน หรือสีแบบต่างๆ ขนมนมเนย ของเล่นอย่างที่เป่าลูกโป่งพอเล่นหมดก็ทิ้งได้ ...ไม่คงอยู่นานๆให้รกหูรกตา แต่ของที่ใช้แล้วหมดไปบางอย่างก็ไม่ได้รับการอนุญาต เช่น น้ำหอม สบู่หรือยาสระผม เพราะเทมผิวแพ้ง่ายและผมไม่ชอบให้กลิ่นเขาถูกรบกวนหรือรังสรรค์โดยคนอื่น


          มีแค่คนสองคนที่ผมยอมลงให้ อย่างเช่นคุณป้าหรือคนในครอบครัว แต่ก็ต้องเล่นตามกฎ ไม่ล้ำมากเกินไปและไม่ใช่ของที่เขาใช้ตลอดเวลา         


          รอบตัวจักรวาลของผม ก็สมควรล่องลอยไปด้วยวัตถุของผมเท่านั้น


          ต่อให้เป็นเพียงข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันก็หึงหวง ไม่อยากให้ใครหน้าไหนยื้อแย่ง สัมผัสของเขาต้องมาจากสิ่งของที่ผมหาให้ไร้สิ่งใดเจือปน อันที่จริงผมไม่อยากให้เขารับของขวัญจากใครด้วยซ้ำไป จะของกินก็ไม่อยากให้เขาทานจากคนอื่น อยากให้เขาเติบโตอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของผมเพียงคนเดียว


          ถ้าผมผลิตอากาศ ผลิตออกซิเจนให้เขาใช้หายใจได้ ก็คงทำไปแล้ว


          เป็นที่น่าเสียดายจริงๆ ที่ทำไม่ได้



          ผมคัดเลือกของขวัญช่วยเจ้าตัว แบ่งแยกเป็นสองกองใหญ่ เลือกให้เทมเก็บไว้บางชิ้น ส่วนของขวัญชิ้นไหนทานไม่ทัน เป็นของที่มีแล้ว หรือไม่ผ่านการอนุมัติจากผม ก็จะถูกส่งต่อไปให้เด็กด้อยโอกาสตามสถานที่ต่างๆที่เขาต้องการแทน


          ภารกิจอีกอย่างของวัน คือของขวัญจากผมครับ ของขวัญที่ให้ คือการทำบุญ แม้ว่าเราสองคนจะไร้ศาสนา แต่เทมที่เคยเห็นในโทรทัศน์กับในคาบเรียน ก็รู้ถึงความอดยากของผู้คนในทวีปที่ความเจริญยังเข้าไม่ถึง เห็นเหล่าเพื่อนร่วมโลกที่กำลังเดือดร้อนเด็กน้อยก็เศร้าใจ อยากช่วยเหลือ แต่ครั้นผมจะให้เขาไปลำบากบุกป่าฝ่าดงด้วยตัวเองก็ทนไม่ได้ จึงเสนอเป็นของขวัญด้วยการบริจาคเงินเข้ามูลนิธิต่างๆแทน


            ไม่ว่าจะโรงพยาบาลที่ต้องการนำเงินไปซื้ออุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือ ศูนย์ช่วยเหลือผู้อพยพ ผู้ป่วยไร้ญาติ เด็กกำพร้า ผู้พิการไม่สมประกอบ สัตว์ต่างๆ การทดลองที่สามารถนำไปต่อยอดช่วยเหลือคนได้อีกมากในอนาคต เอาเป็นว่าแค่เป็นอะไรที่ช่วยเหลือคนอื่นได้ เราก็ไม่เกี่ยงครับ


          สามารถยื่นมือช่วยเหลือ สนับสนุนได้ง่ายๆแค่เพียงปลายนิ้ว


          ผมกับเขานั่งอยู่หน้าแมคบุ๊ค นั่งคัดเลือกสถานที่ที่ต้องการเงินบริจาคจากที่ต่างๆทั่วโลกมาสิบที่ ในไทยอีกสิบที่ ใช้วิธีเสิร์ชในอินเทอร์เนตและให้เลขาช่วยค้นหาอีกทาง มีบางที่ที่เทมบริจาคที่เดิมเป็นประจำทุกปี เพราะห่างไกลและไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่บางทีเราก็สุ่มหาที่ใหม่ๆไปเรื่อยๆเหมือนกันครับ พอได้มาครบ เขาก็กระตือรือร้นขอเป็นคนกดเลขบัญชีเอง ผมกรอกจำนวนเงินแล้วก็ให้เขากดขั้นตอนสุดท้าย เสียงตัดเงินดังติดต่อกันยี่สิบหน


         
          เป็นสองล้านที่คุ้มค่า เพราะเด็กน้อยยิ้มกว้างสบายอกสบายใจ



          แต่ของขวัญชิ้นนี้ผมก็ไม่อยากนับเป็นของขวัญของเขาเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ให้เด็กน้อยโดยตรง ของขวัญอีกชิ้นจึงนอนหลับใหลอยู่ในกล่อง รอเจ้าตัวไปเปิดดูอยู่บนเตียง


          แน่ล่ะครับ ผมรู้ใจเขาเสียขนาดนี้ ของขวัญชิ้นสุดท้ายจากผม ทำเอาเด็กน้อยยิ้มแก้มปริ เสียน้ำตาอีกระลอกใหญ่ เขาหลับปุ๋ยบนอกผมทั้งๆที่มือยังกำที่โกนหนวดลายหุ่นยนต์แมวสีฟ้าเอาไว้แน่น






          เช้ามาก็อย่างที่ผมเปรียบเปรย เทมปุระกลายเป็นคุณปลาทองตาแดงบวมฉึ่ง แอบถอนหายใจเล็กน้อย ฉลองทุกปีก็ร้องไห้หนักทุกปี ไม่รู้จะหามาตรการอะไรมาหยุดความสุขที่ชอบกลั่นตัวเป็นหยดน้ำของคนแก้มยุ้ยดีเลยครับ


          "น้องหมูหย็องครับ น้องหมูหย็องจะไปไหนเหรอครับ" คนตื่นเช้าจับชายเสื้อรั้ง เมื่อเห็นผมก้าวลงจากเตียง

          ปลดมือที่รั้งกันไว้มากอบกุม จับมือเขายกขึ้นมากดจูบ "น้องหมูจะไปเอาเจลเย็นมาประคบตาให้นะครับ พี่เทมนอนรอแป๊บเดียวนะ"

          เขาพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็พึมพำบอกเบาๆ "เร็วๆๆนะครับ พี่เทม พี่เทมรอน้องหมูหย็องนะครับ"

          ยิ้มขำคนขี้อ้อน ทำราวผมจะไปไหนไกล ทั้งๆที่แค่ลุกไปท้ายห้อง หยิบถุงเจลแช่แข็งที่ให้พ่อบ้านเตรียมไว้ให้ในตู้เย็นเล็ก เอาผ้าขนหนูห่อแล้วเดินกลับมาประคบตาคนบนเตียงภายในหนึ่งนาที วางมือลงบนหน้าผากวัดไข้ ตามคาด ตัวเขาร้อนรุมๆ คนร่าเริงเมื่อวานนอนหมดสภาพเพราะปวดหัว


          กดจูบขมับทั้งสองข้างเป็นการลงโทษ มองสำรวจอย่างกังวล ถามอย่างเป็นห่วง  "พี่เทมปวดหัวมากไหมครับ"


          ลูบรอยแดงใต้ตาแผ่วเบา เด็กน้อยอมยิ้ม ขยับเท้าใต้ผ้าห่มไปมาอย่างมีความสุข เวทมนตร์ของเมื่อคืนยังไม่คลายฤทธิ์ แม้จะหลับๆตื่นๆทั้งคืนเพราะอารมณ์ที่ถูกเหวี่ยงขึ้นสูง แต่ก็ยังดูสดใสไม่งอแง โดยรวมดูดีมาก ถ้าไม่นับร่างกายที่เหนื่อยล้าน่ะนะครับ


          เจ้าดอกทานตะวันบานเช้ามืดยิ้มแฉ่ง

          "ปวดๆๆหัวนิดหน่อยครับ แต่เทม พี่เทมปวดตามากกว่า แล้วก็ แล้วก็ๆๆ มีความสุขกว่ามากๆๆๆๆเลยครับ"

          มีความสุขมากๆก็ดีแล้วครับเจ้าตัวเล็ก ขยับสลับมือพาถุงน้ำแข็งไปประคบใต้ตาอีกข้าง ก่อนจะถามองค์ชายน้อยต่อ  "ไปโรงเรียนไหวไหมครับ พี่เทมตัวร้อนด้วย อยากนอนพักต่อหรือเปล่า"

          "อยากนอนต่อนิดๆๆๆหน่อยครับ พี่เทม พี่เทมขอไปนอนรอน้องหมูหย็องออกกำลังกายได้ไหมครับ"


          อยากให้เขานอนบนเตียงสบายๆมากกว่า...แต่ท่าทางของลูกลิงเตรียมกระโดดเกาะหลังแม่ก็ชัดเจน


          "งั้นถ้าน้องหมูออกกำลังกายเสร็จแล้วยังไม่หายตัวร้อน ยังไม่หายปวดหัว วันนี้พี่เทมหยุดเรียนนะครับ"

          "พี่เทมโอเค โอเคนะครับ น้องหมูหย็องโอเคๆๆนะครับ"


          จะให้ปฏิเสธยังไงกับเจ้าอัญมณีสีน้ำตาลที่อ้อนกันได้ล่ะครับ ผมยิ้ม พยักหน้า เทมร้องเย้ เตรียมขนหมอนและผ้าห่มลงไปนอนเฝ้า ก่อนมือสวยจะจับผ้านวมหนา คนน้องรีบเอื้อมมือไปแย่ง แม้ส่วนอื่นๆจะแนบสนิทเกือบหายดี แต่แผลสาหัสที่ฝ่ามือทะลุเขายังไม่หายครับ เมื่อวานต่อให้แปะแผ่นกันน้ำไปแล้ว แต่เด็กน้อยที่ใส่แรงเล่นเต็มที่จนแผ่นยางกั้นไม่อยู่ จนมีน้ำบางส่วนทะลุเข้าไป ทำให้วันนี้แผลดูชื้น แล้วเขาก็มีท่าทางเจ็บนิดหน่อย เดี๋ยวตอนเย็นต้องบอกคุณหมอตรวจให้ละเอียดอีกที


          "มาครับ น้องหมูถือผ้าห่มกับหมอนให้นะ"

          พอคนพี่ไม่มีอะไรให้ถือ เขาเลยจับมือผมเอาไว้แทน

          "ขอบคุณครับ งั้น งั้นพี่เทมจะช่วยถือมือน้องหมูหย็องนะครับ"

          "หึหึหึ ครับ ถือดีๆห้ามทำร่วงนะครับรู้ไหม"

          พี่เทมพยักหน้าหงึกๆ 

          "ไม่ร่วงครับไม่ร่วง พี่เทมจับไว้ดีมากๆๆเลย ไม่ปล่อยให้ร่วงแน่นอนครับ"

          ยืนยันคำพูดด้วยการประสานนิ้วทั้งห้าเข้ามาแนบชิด ก่อนยกขึ้นไว้ระหว่างอกตลอดทาง




           ในระหว่างที่พี่เทมนอนหลับต่ออีกหนึ่งชั่วโมง ผมก็ออกกำลังกายตามแบบแผนจนครบเซ็ต เดินไปปลุกคนตัวร้อนที่ตอนนี้อุณหภูมิกลับมาเป็นปกติ สอบถามอาการอีกครั้ง พอเด็กน้อยบอกหายแล้วเหลือแค่ปวดตา จึงพาขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียน


           พอลงมาที่ห้องทานข้าว ผลพวงจากการที่ขอให้ทุกคนมางานวันเกิดเทมให้พร้อมหน้า มื้อเช้าของวันนี้สมาชิกทั้งหมดจึงอยู่กันครบถ้วน แม้แต่คุณป้าก็อยู่ด้วยครับ พออยู่กันเก้าคน มื้อเช้าที่ควรเรียบง่ายก็ครื้นเครงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเรื่องเล่า


          "เพื่อนของเทมที่ชื่อรินอ่ะ โคตรดุเลย! เป็นเด็กอนุบาลแต่ดุมากกกกกกอไก่สิบล้านตัว หย็องแอบลัดคิวนิดเดียว โดนด่าเปิงซะสำนึกผิดแทบไม่ทัน"  หย็องตะโกนข้ามโต๊ะมาฟ้องคนข้างตัวผม


          เทมตาโต รีบแก้ตัวให้เพื่อนสาวต่างวัยทันที


          "ริน รินไม่ดุนะครับหย็องหย็อง รินแค่ไม่ค่อยยิ้มเฉยๆๆครับ"

          "ลัดคิวเด็กอนุบาลก็ว่าใจหยาบแล้ว ยังเอาผู้หญิงมานินทาลับหลังอีก ป๊านี่อึ้งไปเลยครับลูกหย็องหย็อง ปะป๊าภูมิใจในความสมชายของลูกเหลือเกิน"

          "โหหหห ป๊าาาา ก็หย็องวัยกำลังโต กลับมาจากเรียนพิเศษก็หิวจะตายอ่ะ แล้วเธอก็ตัวเล็กนิดเดียว หย็องมองไม่เห็น ไม่ได้ตั้งใจแซงคิวสักหน่อย แล้วทำไมต้องโดนดุด้วยเล่า"

          หย็องบ่นกระปอดกระแปด พี่สาวคนเดียวพูดแทรกน้องชายคนเล็กขึ้นมา

          "เพื่อนคนนั้นก็งานดีมากเลยนะ ตัวสูงๆ ชื่อวาๆอะไรสักอย่าง กับน้องไม้ที่กรุบกรอบเสมอต้นเสมอปลาย"

          "อย่านะไก่หย็อง ปล่อยเด็กให้มีอนาคตเถอะนะ ถือว่าจำปาขอ"

          เจ้ไก่ถลึงตาใส่พี่ชายคนโต  "ส่วนเฮียนี่ก็ไม่อยากมีอนาคตใช่ไหม เดี๋ยวจะโดน!"

          จำปาที่จีบปากจีบคอแซว พอโดนน้องสาวว้ากใส่ก็เบะปากหาพรรคพวก

          "เนี่ย! หม่อมแม่ดูสิคะ จำปาอุตส่าห์หวังดีต่ออนาคตของชาติ น้องก็มาดุจำปา กุซิกๆๆๆ จำปาเศร้าสร้อย จำปาปวดใจ จำปาจะเป็นร้อนในและริดสีดวง กุซิกๆๆๆ"


          แต่วันนี้คุณหญิงแม่ไม่เข้าข้างครับ นอกจากไม่เข้าข้างไม่พอ ยังเชิดหน้าลอกท่าถลึงตาของเจ้ไก่หย็องราวกับโขกออกมาจากแป้นพิมพ์เดียวกันใส่ลูกชายคนโปรด ส่วนเหตุผลก็คง...อืม...มือยังแอบเหลืองๆอยู่เลยครับ


          "ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าหม่อมแม่! เธอถูกฉันตัดออกจากกองมรดกแล้วจำปา ตั้งแต่เสียงครกตำขมิ้นดังขึ้น เธอก็ไม่ใช่ลูกของฉัน!"

          "ใช่ กองมรดกของป๊าก็ไม่ต้อนรับคนที่แค่แยกสีฟ้ากับสีเหลืองยังแยกไม่ได้หรอกนะ ไปเลย ไปเป็นคนสวน!"

          "กรี๊ดดดดดด จำปาบอกแล้วว่าจำปาไม่ได้ตั้งใจไงคะหม่อมแม่! แถมจำปาจะรู้ได้ไงว่าเจ้าตัวนั้นไม่ใช่โดเรม่อน แต่เป็นโปเกม่อน ก็เห็นนามสกุลม่อนๆเหมือนกัน กุซิกๆๆ จำปาเซย์ซอรี่จนปากจะฉีก วายมัมแอนด์แด๊ดใจไม่ปรุงรส ใจน้ำคลองแสนแสบเหลือเกิน"

          "อะไรของเฮียวะ ใจไม่ปรุงรส ใจน้ำคลองแสนแสบ หย็องไม่เห็นเคยได้ยิน"

          "ทำไมหย็องหย็องไม่เข้าใจเฮีย เฮียเจ็บปวดดดดดดดดด ไหนน้องรักของเฮียช่วยเฮียหน่อย เนื้อหย็องบอกไปสิ ว่าเฮียหมายถึงอะไร!"

          เฮียเนื้อหย็องทำเป็นหูทวนลม แต่พี่ชายผู้ชอบวอแวน้องๆก็สะกิดไม่หยุด จนเฮียเนื้อหย็องต้องยอมตอบให้

          "ใจจืดใจดำ"

          หย็องหย็องพอได้คำตอบก็กรอกตาสามร้อยหกสิบองศา

          "...เออ เอาที่เฮียสบายใจอ่ะ"



          พออาหารวางตรงหน้า เหมือนรีโมทถูกกดเพิ่มเสียงให้ดังและวุ่นวายมากยิ่งขึ้น
         


          "น้องเมย์ดื่มน้ำองุ่นนะคะ พี่ได้มาจากฟาร์มของลูกค้า รสชาติดีมากเลย" คุณแม่หันไปโบกมือให้พ่อบ้านพ่วงบอดี้การ์ดประจำตัวหยิบขวดไวน์ออกมาให้ แต่ลูกชายคนที่สองก็รีบแทรก

          "ทานน้ำเต้าหู้ดีต่อสุขภาพมากกว่านะครับ"  เฮียเนื้อหย็องเลื่อนแก้วไปให้ผู้หญิงที่นั่งฝั่งตรงข้าม และขออีกแก้วส่งให้คุณแม่ของตัวเอง

          "เอ๊ะ ตาเนื้อหย็อง อย่ามาขัดคุณหญิงแม่กับน้องเมย์นะคะ"

          "หม่าม้าไม่ควรข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้านะครับ คุณเขาคงไม่อยากดื่มไวน์ตั้งแต่เช้าหรอกผมว่า"

          "แม้หม่าม้าจะไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไร แต่หม่าม้าไม่พอใจค่ะ หึ! บอกน้ำองุ่นก็น้ำองุ่นสิคะ วงๆไวน์ๆอะไรกัน!"

          "น้ำองุ่นจริงๆเหรอครับ?" เฮียเนื้อหย็องมองจับผิด

          คุณแม่ขยับตัวอึดอัดไปมา ก่อนจะเชิดหน้า

          "ใช่สิคะ! น้ำองุ่นที่หมักบ่มมาแล้วห้าสิบปี!"

          ได้ยินเสียงเฮียเนื้อหย็องถอนหายใจ

          "เอามานี่สิครับ ผมจะดื่มให้เอง"


          เฮียเนื้อหย็องลุกขึ้นยืนแล้วโน้มตัวเอื้อมไปหยิบแก้วไวน์ แต่คุณแม่ก็ฝืนมือไว้ จนเป็นศึกแย่งแก้วกันเล็กๆ จนคุณป้าต้องรีบเอ่ยเสียงห้ามปราม


          "ไม่เป็นไรค่ะน้องเนื้อหย็อง ถ้าแค่จิบๆชิมเฉยๆคุณป้าก็ดื่มได้นะคะ ขอบคุณมากนะคะที่เป็นห่วง ขอบคุณพี่เอเลนที่นึกถึงกันด้วยนะคะ"


          อนาคตนักศึกษาแพทย์ตั้งท่าจะคัดค้านกับไวน์ตอนเช้าที่แสนทำลายสุขภาพ แต่คุณป้ายิ้มห้ามทัพ รับแก้วที่คุณแม่ส่งให้ด้วยใบหน้ายิ้มดีใจ เหมือนเด็กสาวที่ชวนเพื่อนเล่นตุ๊กตาบาร์บี้สำเร็จ คุณป้าถือแก้วแต่จู่ๆก็เหมือนหมดแรง ใบหน้าซีดขาว เผลอปล่อยแก้วใสลงสู่พื้น


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2018 01:39:18 โดย ZOFIARIN »

ออฟไลน์ ZOFIARIN

  • ▇ โซเฟียริน • อวยพระเอก ▇ Whәи ɴᴏᴛʜɪɴɢ is یuгe , eveяything is possißle ♡
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
    • Twitter

          เพล้ง




          "ว๊าย!"

          "คุณแม่ครับ!"

         "น้องเมย์!"

          "เมกุมิซัง!"




            แก้วที่ตก แตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เด็กน้อยของผมตกใจจนลุกขึ้นยืนพรวด คุณป้าลนลานลงไปนั่งเก็บเศษแก้วที่แตกกับพื้น เฮียเนื้อหย็องเดินข้ามโต๊ะเข้ามาช่วย


            "ค-ค-คุณ คุณ คุณแม่เป็น เป็นอะไรหรือเปล่าครับ!" เทมปุระรีบวิ่งเข้าไปหา

            "คุณแม่ไม่เป็นอะไรค่ะ แค่มือชาเฉยๆ สงสัยเมื่อคืนเข้านอนดึกไปหน่อย ไม่ต้องตกใจนะคะ แล้วก็ขอโทษด้วยนะคะ ทำแก้วแตกไม่พอยังทำน้ำองุ่นหกหมดเลย"

          สองมือขาวซีดเก็บชิ้นส่วนไว้ในมือ

          "เรื่องนั้นไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ น้องเมย์ไม่ต้องเก็บแล้วค่ะ ลุกนะคะ"

          "ใช่ครับ ลุกขึ้นเถอะครับ เดี๋ยวแก้วจะบาดมือเอา"

          "อ๊ะ.."


          ไม่ทันขาดคำเตือนของเฮียเนื้อหย็อง เลือดสีแดงสดก็ไหลออกมา เด็กชายของผมแทบจะเป็นลมเมื่อเห็นคุณแม่ของตัวเองเลือดไหล เขารีบรุดตัวไปจะจับมือมาดูแผล ผมที่เห็นแบบนั้นก็เผลอตบโต๊ะเสียงดังด้วยความตกใจ



          ปัง!



          "เทมครับ!! อย่าจับ!!!"

          "น้องเทมอย่าจับนะคะลูก!"




          เด็กน้อยสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินผมกับคุณป้าตวาดเสียงดัง เขารีบเก็บมือตัวเองซ่อนไว้ด้านหลัง ผมหายใจหอบเหมือนไปวิ่งรอบสนาม ใจหายวาบตอนเห็นเขาจะรับเศษแก้วเปื้อนเลือดมาไว้ในมือตัวเอง


          "เทม เทม เทมแค่จะช่วยคุณแม่..."

          "พ่อบ้าน!"


          ผมร้องสั่งคนงานเสียงดัง ก่อนจะรีบเข้าไปหาเด็กน้อยของตัวเอง จับมือเขาพลิกดูทุกส่วน เมื่อเห็นว่าไม่มีร่องรอยถูกบาด หรือหยดเลือดเปรอะเปื้อนก็โล่งใจ หยิบขวดสเปรย์แอลกอฮอล์อันเล็กที่เอาไว้ฉีดตอนเช็ดมือมาพ่นใส่มือเขา แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดทำความสะอาด


          "เทมจะไปจับเศษแก้วแบบนั้นไม่ได้นะครับ มันจะบาดมือเอา"

          "เทม เทมขอโทษครับ เทมแค่เป็นห่วงคุณแม่" เขาน้ำตาคลอเม้มปากแน่น ดูเสียขวัญเมื่อถูกดุ ผมเอื้อมมือลูบกลุ่มสายไหมละเอียดสีดำ เอ่ยเสียงนุ่มปลอบโยน


          "ชู่...หมูรู้ครับ ขอโทษนะครับคนดีที่เสียงดังใส่"

          รั้งคนร่างสูงเข้ามากอด ลูบหลังเขาเบาๆ มองคุณป้าที่ยกยิ้มหวานแซว

          "คุณแม่ก็ขอโทษน้องเทมเหมือนกันนะคะที่เสียงดังใส่ คิกคิก แล้วนี่ตกลงคุณแม่เจ็บหรือใครเจ็บคะเนี่ย ดูสิครับ น้องเทมก็ร้องไห้เก่งจริงเชียว คุณแม่ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ แค่เศษแก้วบาดนิดหน่อย ไม่ต้องร้องนะคะ"

          "ไม่เป็นไรจริงๆนะครับคุณแม่ คุณแม่เจ็บๆๆไหมครับ เทม เทมเป่าเพี้ยงให้นะครับ"


           เทมปุระเอียงตัวหันไปถาม ตั้งท่าจะวิ่งเข้าไปหามารดา แต่ผมรั้งตัวไว้ คุณป้ายกมือตั้งใจจะลูบแก้มนิ่มปลอบอย่างเคย เด็กชายในอ้อมกอดหน้าซีดเมื่อเห็นเลือดใกล้ๆ ผมหรี่ตามองเตือน คุณป้าชะงัก รู้ตัวว่าเผลอทำให้ลูกชายกลัว รีบเก็บมือกลับไปเช็ดให้สะอาด ยิ้มอ่อนโยน แล้วยื่นมือให้อีกครั้งแบบมีระยะห่าง


          "แค่น้องเทมเป่าให้คุณแม่ คุณแม่ก็หายแล้วครับ"


          เทมปุระเป่าลมเสียงดังฟู่ๆแรงๆให้ถึงมือ เพราะอยู่ห่างไกล


          "หายเพี้ยงๆๆๆๆนะครับคุณแม่"

          "หายแล้วครับผม ขอบคุณน้องเทมมากนะครับ" คุณป้ายิ้มกว้าง แต่คุณแม่ของผมกลับทำหน้าหงุดหงิด

          "หายได้ยังไงคะ เลือดยังหยดติ๋งๆอยู่เลย ไม่ได้นะคะ! ไมเคิลโทรเรียกคุณหมอมาหน่อยซิ!" นายหญิงของบ้านรีบแหว โบกมือบอกหัวหน้าพ่อบ้านที่คุมคนทำความสะอาดอยู่ทันที

          คุณพ่อบ้านโค้งตัว

          "กระผมโทรตามไว้ให้แล้วเรียบร้อยครับคุณเอเลน กำลังเดินทางมาครับ คาดว่าอีกสิบห้านาทีจะมาถึง"

          "พี่เอเลนคะ ไม่เห็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ แค่แก้วบาดเฉยๆเอง..."

          "ให้หมอตรวจหน่อยดีกว่าครับ ไม่รู้ว่าในไวน์มีเชื้อโรคอะไรหรือเปล่า" อนาคตคุณหมอจับมือคุณป้าเอาไว้ ผมสบตากับพี่ชายตัวเอง มองการกระทำของเขาเงียบๆไม่ได้เอ่ยทักอะไร

          "คุณป้าไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ" เจ้ไก่หย็องที่ลุกเข้ามาดูอย่างเป็นห่วงเอ่ยถามย้ำขึ้นอีกคน

          "หย็องเอากล่องปฐมพยาบาลมาให้ครับ" หย็องหย็องที่วิ่งไปกับคุณพ่อกลับมาพร้อมกล่องพยาบาล

          "ขอบคุณมากนะครับน้องหย็องหย็องแล้วก็คุณโจวิช อา..ทำให้ทุกคนวุ่นวายกันไปหมด ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ"

          "คุณป้าไม่ต้องคิดมากนะคะ ปกติเฮียปลาหย็องก็ป่วนทุกเช้าอยู่แล้ว เรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อยมากค่ะ"

          "ทำไมชมจำปาแบบนี้ล่ะคะ! จำปาเขินนะ!"


          คนกลัวเลือดที่พอเห็นหยาดสีแดงก็รีบกระโจนไปหลบอีกมุมอย่างเฮียปลาตะโกนข้ามฟาก


          "ไก่ไม่ได้ชม! นี่เฮียเอาสิวที่หลังฟังหรือยังไงถึงได้ยินเป็นคำชมเนี่ย ห๊า!"

          "ไก่อย่ามาใส่ร้ายจำปาเพราะอิจฉาความสวยจำปานะคะ! จำปาไม่มีสิวที่หลัง มีแต่ที่ก้นค่ะ!!"



          จากเหตุการณ์วุ่นๆก็กลายเป็นตลกคาเฟ่ของสองพี่น้อง


          พอคุณหมอมา ผมก็ให้เขาตรวจเทมปุระไปด้วยเลยอีกคนพอดีครับ


          ผมยังกังวลเพราะเผลอเสียงดังใส่เด็กน้อยอยู่ จึงเอ่ยขอโทษคนข้างกายอีกครั้ง


          "น้องหมูขอโทษจริงๆนะครับเมื่อกี้ พี่เทมตกใจมากหรือเปล่าครับ"

          "ตก ตก ตกใจเยอะแยะเลยครับ คุณแม่ คุณแม่กับน้องหมูหย็องพูดพร้อมกันแบบเสียงดังเปรี้ยงปร้างเลย เทมตกใจเยอะแยะๆๆเลยครับ"

          "ขอโทษนะครับ น้องหมูก็ตกใจที่เห็นพี่เทมจะไปจับเศษแก้วแบบนั้น มือพี่เทมยังไม่หายดีเลย ถ้าเป็นแผลขึ้นมาอีก จะระบายสีไม่ได้อีกนานเลยนะครับ...พี่เทม...พี่เทมโกรธน้องหมูหรือเปล่าครับ"


          เขายิ้มจนดวงตาหยีลงเป็นเส้นโค้งสวย


          "ไม่โกรธน้องหมูหย็อง ไม่โกรธคุณแม่ครับ ไม่โกรธๆๆๆเพราะน้องหมูหย็องกับคุณแม่เป็นห่วงพี่เทมเยอะแยะๆๆๆๆเลยครับ พี่เทมรู้ พี่เทมเลยไม่โกรธครับ ตกใจๆๆ แต่ว่า แต่ว่าถ้าน้องหมูหย็องเป่าเพี้ยงๆๆให้ก็หายนะครับ"


          เขาอ้าแขนกว้างโชว์ความเยอะแยะ บนใบหน้าใสไร้ความโกรธขึ้ง แขนที่อ้ากว้าง พอดีให้ผมขโมยอ้อมกอดเขา ผมเขย่งตัวเป่าเพี้ยงบนหน้าผากสวย แล้วซุกตัวเข้าหา เด็กน้อยดูมึนงงแต่ก็รัดอ้อมแขนกอดตอบลงมา โยกตัวผมเหมือนโอ๋กัน



          ใช่ครับ

          ...หมูเป็นห่วงเทมแบบเยอะแยะๆ เป็นห่วงมากมายมหาศาล ห่วงมากๆ ห่วงที่สุดเลยครับ...



          พวกเราเข้าเรียนสายไปหนึ่งคาบ เล่นเอาสองแฝดอยากรู้อยากเห็นไม่หยุดว่าทำไมถึงมาสาย แต่ความอยากรู้นั้นก็ถูกหยุดด้วยอะไรสีฟ้าๆที่เทมพกมาโรงเรียนด้วย


          น้ำที่เดินมายืมลิควิดผม เห็นสิ่งแปลกตาในกล่องดินสอองค์ชาย ก็หยิบจับขึ้นมาดูอย่างงุนงง


          เทมปุระโบกไม้โบกมือจ้าละหวั่น

          "น้ำ น้ำอย่าเจ็บแรง อย่าจับแรงๆๆ เดี๋ยวจะพังนะครับ"
     
          น้ำยื่นคืนให้เจ้าของที่แบมือรอรับอย่างเป็นห่วง

          "พกมีดโกนหนวดมาโรงเรียนทำไมวะเทม จะว่าเอามาเหลาดินสอก็ไม่ได้ป่ะวะ เอามาทำไมเนี่ย กูล่ะงง"
   
          เทมยิ้ม ชูมีดโกนให้น้ำดู

          "เทม เทมเห็นในหนังครับ ลุงคาวบอยบอกว่าลูกผู้ชายเท่ๆต้องมีหนวดแล้วต้องพกมีดโกนแล้วจะเท่ๆๆเป็นผู้ใหญ่ เทมก็เริ่มโตๆๆแล้ว อายุเยอะๆสิบหกวัยรุ่นแล้วครับ เลย เลยพกไว้ครับ เผื่อ เผื่อหนวดขึ้นยาวเฟื้อยๆเทมจะได้โกนฉึบๆๆเลย อันนี้ๆๆๆหมูหย็องให้เป็นของขวัญวันเกิดเทมด้วยครับ น้ำ น้ำดูสิๆๆ ตรงที่จับเป็นลายพี่ม่อนทานขนม แล้วก็มีที่เป็นลายพี่ม่อนหาวๆๆด้วยนะครับ น้องหมูหย็องให้เยอะแยะเลย"


          เด็กน้อยบอกด้วยความภูมิใจ ประโยคยาวๆที่นานๆทีจะพูด ถูกใช้ไปกับการโอ้อวดของขวัญที่ผมให้ จนผมอมยิ้ม หัวเราะหึๆในลำคอ มองคนค่อยๆเก็บมีดโกนลงกล่องดินสอช้าๆอย่างเอ็นดู


          "ไม่รู้จะขัดตรงไหนก่อนดี เอาเป็นตั้งแต่นั่นมันไม่ใช่หนัง นั่นมันโฆษณาที่โกนหนวดโว้ย! แล้วขนาดสิวยังไม่ขึ้น ขนหน้าแข้งก็ยังไม่มีสักเส้น ถามหาอะไรกับหนวดวะ"

          "แล้วนี่คือกำลังขิงใช่ไหมวะ ขิงว่าไอ้หมูซื้อให้ว่างั้นเถอะ"

          เต้ที่เดินตามคู่แฝดมานั่งลงตรงข้ามเท้าคางมอง ยิ้มแซววัยรุ่นอายุสิบหก

          "เทมไม่ได้กำลังทานขิงนะครับ เทม เทมกำลังพิมพ์ๆคำตอบการบ้านในไอแพดครับ"

          "ขิงที่แปลว่าอวดไง ไม่ใช่ขิงข่าตะไคร้"

          "อ๋อๆๆๆๆ เทมอวดๆๆ ใช่ครับๆๆ เทมอวดๆๆของน้องหมูหย็องให้"

          ไอ้เต้หัวเราะดังลั่นกับคำตอบแสนซื่อตรง "แหมๆๆ แล้วทีของขวัญที่กูให้ไม่เอามาอวดบ้างวะ Ruby Chocolate ช็อกโกแลตสีชมพูที่เขาเพิ่งคิดค้นกันสำเร็จเลยนะเว้ย นี่กูหามาให้ก่อนเขาเปิดงานแถลงโชว์สินค้าเลยนะ"
          "เทมยังไม่ได้ทานเลยครับ เมื่อวาน เมื่อวานเทมทานหวานๆๆเยอะไป หมูหย็อง น้องหมูหย็องเลยบอกให้เก็บไว้ทานวันอื่น เลยอวดๆๆของเต้ไม่ได้ แล้วก็ๆๆๆ อันนี้พิเศษๆๆๆเพราะว่า เพราะว่าน้องหมูหย็องให้เทม เป็นมีดโกนหนวดพิเศษ เทมเลยอวดๆๆๆ ดีใจเยอะแยะเลยครับ"

          "ไอ้ขี้อวดดดดดดดด" น้ำยื่นมือมายีผมคนยิ้มกว้างที่บอกตามตรงว่ากำลังอวดอย่างมันเขี้ยว


          เพียะ


          ผมตีมันแล้วมองตาดุ คนเตี้ยสุดของกลุ่มยิ้มแหย สะบัดมือไปมา ไอ้เต้หัวเราะแฝดคนละฝาของตัวเองจนโดนไอ้น้ำไล่เตะ พอไล่กันจนพอใจ พวกมันก็มานั่งที่เดิม เราสี่คนนั่งคุยกันเรื่อยๆระหว่างเรียนไปด้วย เรื่องฮิตช่วงนี้ก็คงจะไม่พ้นการทับถมกันครับ


          "เออ แล้วสีพวกมึงถึงไหนกันแล้ววะ สีกูกล้าสปอยบอกเลยว่าเทพมาก"

          "มึงกล้าถามนะไอ้เต้ ดูด้วยสีกูใครนำทัพ"

          "อยู่ที่ฝีมือทหารโว้ยยย อันไหนแพ้กูไม่รู้ล่ะ แต่บาสสีกูชนะแน่ๆ"

          "สีกูต่างหากโว้ยยยยยย ต่อให้สีส้มมีไอ้มะเหมี่ยว สีเขียวมีไอ้เหรียญ และสีดำมีมีไอ้โลก็ต้องพ่ายแพ้ให้สีฟ้าโว้ยยยยย!!!"


          ไอ้น้ำตะโกนลั่น ไม่ได้สำนึกเลยครับ ว่านี่คาบเรียนรวม เด็กหลายห้องนั่งกันอยู่ให้สลอนไปหมด เสียงแหกปากของมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการประกาศศึกในวงล้อมศัตรูนับร้อย เป็นวิธีฆ่าตัวตายสุดโง่เง่าจนผมต้องถอดหายใจเฮือก ไอ้เต้กลั้นขำจนจมูกบาน


          และก็ไม่แปลก ที่จะมีคนหงุดหงิดกับประโยคของมันจนนิ่งเฉยไม่ได้ โดยเฉพาะคนที่ถูกพาดพิง



          "มึงว่าใครจะแพ้นะไอ้เตี้ย"



          คาร์โล ประธานสีดำเดินยักคิ้วเข้ามาหาไอ้คนตัวเล็กของกลุ่ม ไอ้น้ำยักคิ้วกวนกลับ ดูจากเชียงใหม่ก็รู้ว่าคนโดนเรียกว่าไอ้เตี้ยก็หงุดหงิดขึ้นมาไม่แพ้กัน


          "กูบอกว่ามึงจะแพ้ไงล่ะไอ้ควายโล เอ้ย คาร์โล"


          ควายโลหรือคาร์โลถลาเข้ามา เงื้อมือสุดแขนจะต่อยใส่หน้าคนปากดี ผมรีบเข้าไปขวางเพื่อนตัวเองเอาไว้ มีเรื่องในคาบเรียนนี่เรื่องใหญ่แน่นอนครับ โดยเฉพาะตอนนี้อาจารย์เริ่มมองมาทางนี้แล้วด้วย


          "ตอนนี้เวลาเรียนครับ"


          ผมเอ่ยเตือนเสียงเรียบแต่กดดัน มองอีกฝ่ายด้วยสายตาอันตราย บ่งบอกชัด ว่าถ้ากล้าลงมือ จะไม่ใช่แค่ยืนมองดูเฉยๆอย่างที่แล้วมา คาร์โลฮึดฮัดแต่ก็ยอมกลับไปยืนดีๆ

          สองคนนี้เคยมีเรื่องกันสองสามครั้งแล้วครับ เพราะความเจ้าชู้ แถมสเปคเป้าหมายยังเหมือนกันอีก จีบสาวคนเดียวกันบ่อยจนทะเลาะต่อยตีกันนับครั้งไม่หวาดไม่ไหว



          "ปากดีนะมึงไอ้น้ำ ไอ้หมูทำไมไม่ล่ามโซ่เพื่อนมึงดีๆหน่อยวะ กัดคนเขาไปทั่ว"

          "บอกตัวมึงเองเถอะ อย่าดีแต่แดกหญ้าจนเพื่อนไม่คบ"

          "เพื่อนไม่คบก็ดีกว่าพวกหลบหลังคนอื่นล่ะเว้ย"

          "ไอ้หมู มึงหลบไป! กูจะต่อยแม่งให้เลือดกลบปากเลยสัส!"





          "นักเรียน! ห้ามทะเลาะกันนะคะ! แยกย้ายกลับไปนั่งที่ค่ะ!"



          อาจารย์วิ่งเข้ามาหลายคน จนไทยมุงแตกฮือ

          คาร์โลจิ๊ปากขัดใจเมื่อถูกขัดจังหวะ ชี้หน้าพวกผมสี่คนที่ถูกเหมารวม




          "มึงรอดูกีฬาสีเถอะ กูจะบี้สีฟ้ากับสีแดงให้จมดิน เอาให้วิ่งหนีหางจุกตูดไม่ทันเลยคอยดู!"



          คาร์โลไม่มีเพื่อนคบก็จริง แต่สีพันธมิตรของสีดำก็คือสีส้ม สีเขียว ซึ่งเป็นสามสีที่มีแววได้แตะเหรียญทองมากที่สุด ประกาศศึกกับคาร์โล ก็เหมือนประกาศศึกกับอีกสองสี และถ้าสามสีร่วมมือกัน...




          ...ให้ตายสิ...



          นี่พวกผมถูกหมายหัวจากสีที่เป็นตัวเก็งในการชนะถึงสามสีเลยใช่ไหมครับ ดีจริงๆเลยเชียว หาเรื่องหนึ่ง แต่ได้ถึงสาม






          ที่หนึ่งเหมือนหมอกควันเลือนลาง ใกล้จางหายไป






          ผมกับไอ้เต้หันขวับไปมองไอ้น้ำอย่างกินเลือดกินเนื้อ ไอ้เตี้ยยิ้มแห้ง ชูสองนิ้วจิ้มแก้มตัวเอง ขยิบตาทำท่าแอ๊บแบ๊ว



          "แฮะๆ สู้ๆนะตะเอง"





          "ไอ้เตี้ย!! / ไอ้เตี้ย!!"


          "กูไม่ได้เตี้ยโว้ยยยยยยยย กูแค่สูงน้อย!!"



         




 
end 40 .
twitter #เพื่อนผู้ปกครอง



                                                                                                                                            กีฬาาาาาาาาาสียยยยยยยยย์


โซเฟียริน
zofiarin lll moore















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2018 01:33:53 โดย ZOFIARIN »

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังน้องเทม

น้ำนี่ขยันหาเรื่องจริงๆ

บวก1 รัวๆ

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :m20:  :m20:  :m20: ไม่ได้เตี้ยแต่แค่สูงน้อย...  :m20:  :m20:  :m20: คิดได้ไงอะ... น่ารักกกกกกก  o18  :hao3:

ออฟไลน์ ZOFIARIN

  • ▇ โซเฟียริน • อวยพระเอก ▇ Whәи ɴᴏᴛʜɪɴɢ is یuгe , eveяything is possißle ♡
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
    • Twitter












41












               น้ำเกือบจะโดนผมกับเต้หิ้วปีกไปรุมกระทืบในห้องน้ำ เจ้าคนปากดีต้องขอบคุณเทมที่เป็นยันต์กันภัยชั้นดี คอยห้ามไม่ให้ผมลุแก่โทสะบริหารกำลังทดลองวิชามีดที่เพิ่งร่ำเรียนจบหลักสูตรกับเจ้าตัว


          แต่พอถึงช่วงบ่าย หลังพาเด็กน้อยไปส่งเรียนพิเศษเสร็จ ไอ้น้ำที่ไร้เกราะป้องกันก็โดนชกจนล้มกลิ้งไปหนึ่งตลบ


          จะให้นิ่งเงียบก็คงทำไม่ได้ครับ ทุกคนอุตส่าห์ช่วยกันวางแผน ลงแรงดำเนินการอย่างดีตลอด สู้ยอมโดนดูแคลน ปล่อยข่าวลือเล่นจิตวิทยาให้สีอื่นมองข้ามสีฟ้าไป จะได้ไม่ระแวดระวังสีที่ครึ่งๆกลางๆอย่างสีเรา แต่แผนผมก็พังทลายเพราะไอ้เพื่อนส่วนสูงเท่าหลักกิโลรนหาเท้า แทนที่เวลาที่อุตส่าห์ยึดมาจากการรวบงานฮาโลวีนเข้ากับงานวันลอยกระทง จะช่วยให้ผมอุดช่องโหว่ด้านศักยภาพนักกีฬาในทีมที่น้อยกว่าสามสีหลัก เป็นม้ามืดเข้าเส้นชัยแบบเนียนๆ กลับกลายเป็นเหมือนจับทุกคนมาคล้องคอด้วยป้าย 'เป็นเหยื่อ ช่วยรุมกินผมที'

          เป็นเจ้าม้ายูนิคอร์นสีรุ้งส่องแสงเรียกแขก


          จากเดิมงานกีฬาสีที่กระชั้นชิด ควรเริ่มไปตั้งแต่เมื่อสิบห้าวันก่อนเพื่อที่จะได้ไม่ชนงานฮาโลวีนหรือลอยกระทงครับ แต่ก็ดันมีงานแข่งกีฬาและงานแข่งวิชาการระดับประเทศซึ่งเป็นงานใหญ่ย้ายมาชนเป็นวันเดียวกัน เป็นงานใหญ่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เด็กนักเรียนโรงเรียนเราหลายคนจำเป็นต้องเข้าแข่ง มติสภาและจากการตั้งกระทู้สอบถามจึงลงเอยว่าสมควรรวบงานทั้งสองไปจัดหลังกีฬาสี ซึ่งทำให้กีฬาสีกลับมาจัดเดือนเดิมแต่เร็วขึ้นนิดหน่อย คือวันพฤหัสที่ 4 พฤศจิกายน ไล่ยาวไปถึงวันที่ 11 ระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์พอดีครับ ไม่นับวันสุดท้ายที่จะจัดเป็นงานเลี้ยง


          และใช่ครับ อีกสี่วันจะถึงสัปดาห์กีฬาสี แต่พวกผมต้องเปลี่ยนแผนการกันใหม่แบบฉุกละหุก


          กับปีก่อนๆ ผมสนใจงานนี้แค่ครึ่งๆกลางๆ เพราะใส่ใจการแข่งคนของตัวเองมากกว่า และกีฬาก็ไม่ใช่สายงานที่ผมจะยุ่งเกี่ยว เลยลงแรงแค่ติดหนึ่งในสามก็พอเพียง


          แต่ถ้าผมลงแข่งด้วย...ก็คนละเรื่องกัน



          ผมไม่ชอบการพ่ายแพ้ และผมก็ไม่ชอบการเล่นเป็นทีม เพราะผมมั่นใจในความสามารถตัวเองว่าสามารถไปถึงชัยชนะได้แน่นอน ไม่เหมือนกับการมีตัวถ่วงที่คอยยึดแข้งยึดขาที่ค่อนข้างจะยากในการมุ่งตรงไปถึงเส้นชัย แต่กีฬาสีก็ไม่ใช่อะไรที่จะเล่นด้วยตัวคนเดียวแล้วได้ที่หนึ่งมาครอบครอง


          กับคนจำนวนมากที่มีทั้งความสามารถและเย่อหยิ่งในตนเอง ก็จะยุ่งยากในหลายๆเรื่อง แถมมักจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้เสมอ สี่วันต่อจากนี้คงจะวุ่นวายและแย่งเวลาเราสองคนของผมกับเทมไปอีกมากทีเดียว


          ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนยกยิ้มมุมปาก แม้จะเบื่อหน่าย แต่ก็ไม่นึกหลีกหนี กลับกันความวุ่นวายก็เป็นสิ่งยืนยันว่าคิดถูกแล้วที่เลือกเรียนโรงเรียนนี้ เพื่อจะได้ฝึกความสามารถในการแก้ปัญหาและฝึกการควบคุมคนในสนามจริงให้ตัวเองไปด้วย


          ผมเรียกนักกีฬาทุกคนมาประชุมที่บ้านหลังซ้อมเสร็จตอนสองทุ่ม


          ตอนนี้หนึ่งทุ่มแล้วครับ อีกหนึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัด


          ภายในห้องนั่งเล่นส่วนตัวในห้อง ผมกำลังรอรถของที่บ้านไปรับเหล่าตัวหมากสีฟ้ามาพูดคุย ช่วงเวลาว่างอันน้อยนิดก็ทำงานของคุณยายไปพลางๆ แล้วก็ดูเด็กน้อยเล่นซนวิ่งวนไปวนมาคลายเครียด เทมปุระที่อารมณ์ดีเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าหลงใหลอย่างยิ่งยวด


          เสียงก้อนความสุขกลิ้งดังขลุกขลัก ขายาวก้าวไปหลบหลังโซฟาตรงนู่นทีตรงนี้ทีราวกับหลบระเบิดในสนามรบ ก่อนจะโผล่พ้นขึ้นมาครึ่งตัว ทำมือป้องปากเป็นลำโพง ตะโกนเสียงนุ่มนวลขู่คนร้ายที่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟาตรงกันข้าม


          "ยกมือขึ้นนะครับ! นี่คือ คือคุณตำรวจนายบำเรอเทมปุระ คุณฉลามถูกจับข้อหาขโมยปลากระป๋องแล้วนะครับ!" องค์ชายน้อยยกที่โกนหนวดขึ้นทำท่าชักปืนจี้คุณฉลาม ท่าทางของคุณตำรวจดูขึงขังขัดกับคำพูดที่ทำเอาอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตร่วมห้องสำลักกาแฟ

          ผมถอดแว่นวางบนโต๊ะ หันไปบอกคนกำลังเล่นเกมบทบาทสมมุติกับตุ๊กตาปลาทั้งสอง


          "นายอำเภอครับพี่เทม"


          ถ้าจะเป็นนายบำเรอ ก็ไม่ต้องไปบำเรอเจ้าตุ๊กตาพวกนั้นครับ มาบำเรอหมูนี่...



          "อ๋อๆๆๆ โอเคครับ คุณคนร้าย หยุดนะครับ ยกมือขึ้นนะครับ" คุณนายอำเภอที่ควบตุ๊กตาปลาโลมาแทนม้า และบนหัวสวมหมวกลูกเสือแทนหมวกคาวบอยวิ่งไปทั่วห้อง กลิ้งตัวขลุกๆ หลบกระสุนปืนหลอกๆ ยิงสวนด้วยเสียงน่าหวั่นเกรง


          "ปิ้วๆๆๆๆ อะเฮือกกกกกกกกก"


          ไม่ว่าจะเสียงเอฟเฟคไหนก็สามารถทำได้ เสียงคนร้ายถูกยิงคุณตำรวจก็เป็นคนจัดการส่งเสียงให้อย่างสมจริง พอคนร้ายโดนยิงก็วิ่งไปจับตุ๊กตาฉลามล้มลงนอน กลับมาซ่อนตัวที่เดิมเสร็จก็สวมบทเป็นคุณหมอต่อ ทูอินวันในหนึ่งเดียว


          แต่ก่อนจะเป็นคุณหมอก็ยังไม่ลืมเก็บปืนปลอมๆอย่างเจ้ามีดโกนสีฟ้าใส่กระเป๋า มีทำเสียงปลดลูกกระสุนกันปืนลั่นเสียด้วย ไหนจะเอ่ยบอกคุณม้าที่มีครีบให้อยู่รอนิ่งๆ จับตุ๊กตาโลมาวางพิงโต๊ะ แล้วถึงวิ่งเข้าไปช่วยปั๊มหัวใจ ลงมือให้ความช่วยเหลือตุ๊กตายัดนุ่นที่โดนลูกกระสุนเจาะจนนอนแน่นิ่งไม่ขยับ



          โดนยิงแล้วช่วยปั๊มหัวใจผมก็เข้าใจนะครับ แต่โดนยิงแล้วไปผายปอดทำไมล่ะครับนั่นน่ะ


          ...โดนยิงนะครับคุณหมอ ไม่ใช่จมน้ำ...




         "ฟื้นๆๆแล้วนะครับ นายตำรวจอำเภอเป่าเพี้ยงๆๆๆให้แล้ว แผลโดนยิงหายเกลี้ยงเลยครับ ตอนนี้จะจับไปเข้าคุกนะครับ"


          เป่าปากตุ๊กตาฉลามจนพอใจ ก็จับพลิกหันหลัง สองขายกขึ้นคร่อมแล้วจับสองครีบไขว้หลัง หยิบกุญแจมือราคาแพงเกินงบประมาณหลวงอย่างกำไลทองคำขาวของแบรนด์แนวหน้าระดับโลก ที่เด็กน้อยมาขอหยิบยืมไปเล่นติ๊ต่าง
 

          จับสวมใส่ตะขอดังกริ๊กลงครีบก็เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจ คุณตำรวจยิ้มกว้าง ลุกขึ้นยืนควบม้าขาหนีบโลมา แขนล็อคคอฉลามวิ่งตุบตับมาโชว์ผลงาน อุ้มคนร้ายมาให้ผมดู
       


          "หมูหย็องครับ น้องหมูหย็องครับน้องหมูหย็อง! เทม พี่เทมจับคนร้ายได้ด้วยครับน้องหมูหย็องดูสิครับ!"


 
          เอื้อมมือไปจับมือคุณนายอำเภอคนเก่ง ออกแรงดึงจนเขาเซ ล้มตัวลงทับผมที่เอนตัวลงรอรับบนโซฟา จับเจ้าก้อนนุ่มนิ่มกลิ่นหอมเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จมาฟัด กดจมูกหอมดอมดมไปทั่วด้วยความมันเขี้ยว พี่เทมหัวเราะเอิ๊กอ๊ากเพราะจั๊กจี้ หยุดการกระทำลงเพราะคนด้านบนหายใจไม่ทัน


          ไล้นิ้วกับกรอบหน้าสวย ประทับจูบทุกส่วนไม่ให้ส่วนไหนได้น้อยใจ เอ่ยชมเชยผู้พิทักษ์สันติราษฎ์คนเก่ง


          "คุณตำรวจนายอำเภอเก่งมากเลยครับ" เด็กน้อยตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเป็นอะไร เลยเป็นควบคู่กันครับ หึหึหึ


          พอได้รับคำชมก็เอียงอายยิ่งกว่าเดิม จนแก้มขาวนวลเป็นสีชมพูเข้ม ปากสวยเจื้อยแจ้วเล่าวีรกรรมจับผู้ร้ายอันยิ่งใหญ่ให้ผมฟัง


          "พี่เทมยิงปิ้วๆๆๆเข้าเป้าด้วยครับ แต่ว่าๆๆ แต่ว่าคุณฉลามไม่เป็นอะไรนะครับ เพราะคุณตำรวจนายอำเภอยิงขาเฉยๆครับ ไม่ได้ยิงหัวนะครับ หัวยังอยู่แบบไม่เป็นรูๆครับ"


          อา ปลาไม่มีขานะครับพี่เทม แล้วบอกยิงขาทำไมถึงไปปั๊มหัวใจล่ะครับหืม หัวเราะให้เจ้าหน้าที่แก้มยุ้ยที่ปฏิบัติงานได้มั่วจนน่าเอ็นดู หอมหัวเหม่งย้ำซ้ำๆ ทรงผมทรงนี้อันตรายจริงๆครับ ไม่รู้ทำไมเจ้าช่องหว่างขนาดหนึ่งนิ้วระหว่างผมหน้ากับคิ้วถึงได้ดึงดูดนัก



          จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ



          "เป็นคุณตำรวจที่เท่มากๆเลยครับ ...เดี๋ยวน้องหมูต้องลงไปข้างล่างแล้วนะครับ พี่เทมอยากเปลี่ยนใจลงไปด้วยกันไหมครับ หืม"


           เอ่ยถามอีกครั้งเผื่อเขาคิดเปลี่ยนใจ นึกทีไรก็อดยิ้มกว้างไม่ได้กับคุณตำรวจผู้เก็บความลับของทีม ตั้งแต่วันที่เขามาขออนุญาตมีความลับ ก็ยังคงเก็บไว้เป็นอย่างดีด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนสุดๆเวลาผมไปรับกลับบ้านครับ แล้วพอรู้ว่าผมจะพาเพื่อนนักกีฬามาประชุม เขาก็เอ่ยปากบอกเองว่าจะเล่นรออยู่ในห้อง เพราะผมจะได้เก็บความลับของนักกีฬาเอาไว้ได้


          คนบนตัวที่เอาหัวมาซุกคอผมเพื่อแอบหลบแก้มแดงๆของตัวเอง ผละออกมาจากลาดไหล่ขาวซีด แล้วส่ายหน้าไปมาดุ๊กดิ๊ก


          "พี่เทมลงไปไม่ได้นะครับน้องหมูหย็อง น้องหมูหย็องต้องจุ๊ๆๆๆเอาไว้นะครับ หญิง หญิงบอกว่าถ้าความลับรั่วแล้วจะไหลนะครับ"


          "หึหึหึ ยังบอกน้องหมูไม่ได้อีกเหรอครับ" เอ่ยกระเซ้าผู้พิทักษ์ความลับอีกหน


          พี่เทมดูคิดหนัก อ่านจากสายตาและปากที่ขมุบขมิบ ดูก็รู้ว่าอยากบอกผมเอาเสียมากๆ แต่เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก อาจจะเป็นคำสั่งของท่านประธานสีหรือคุณเลขานุการที่เอ่ยห้ามเอาไว้ นางฟ้าอมลมจนแก้มพอง พยายามห้ามไม่ให้ตัวเองเล่าความลับให้ผมฟังสุดความสามารถ พอเห็นผมยิ้มรอคอย เขาที่กำลังจะแพ้ก็หนีด้วยการมุดเข้ามาซุกไซ้ผมแทน


          "พี่เทมขอโทษนะครับ พี่เทม พี่เทมยังบอกน้องหมูหย็องไม่ได้นะครับ น้องหมูหย็องต้องอดทนฮึบๆๆไว้ก่อนนะครับ"



          องค์ชายน้อยลูบศรีษะปลอบ เงยออกมาเพียงดวงตาหนึ่งคู่ สบสายตาด้วยแววตาอ่อนโยนปนอ้อนวอน



            อา...หัวใจครับ กรุณาช่วยเต้นเบาๆด้วยครับ




          พอเห็นคนในอ้อมแขนยอมพยักหน้า เจ้าหมาน้อยก็อารมณ์ดีไล่งับไปตามคอและลาดไหล่ แรกเริ่มเป็นเพียงความนุ่มนวลหยอกเย้า ก่อนเริ่มลงมือเปลี่ยนอาชีพจากนายอำเภอและตำรวจเป็นคนสวนปลูกดอกไม้ มือใหญ่จับปลายติ่งหูผมบีบนวดเคล้าคลึงเล่น สัมผัสวนเวียนอยู่ช่วงบนแต่กลับเสียววูบในช่องท้องและส่วนล่าง ผีเสื้อโบยบินนับล้าน ขายืดเกร็งตัวกระตุกยามปากร้อนไล่ดูดดึงผิวเนื้อ ดอกไม้สีแดงก่ำเติบใหญ่ผลิบานบนตัวผม


          พี่เทมกดจูบดูดเลียไปทั่ว ผู้ไม่ปฎิเสธคือผมที่นอนนิ่งให้อีกฝ่ายทำตามใจชอบ ขยับเอียงซ้ายเอียงขวาช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะซอกคอหรือใบหูหรือริมฝีปากล่าง ทุกส่วนล้วนบรรณาการแด่ชายผู้เป็นที่รักอย่างเต็มใจ



          ขยุ้มกลุ่มไหมสีดำเบาๆเรียกเสียงครางสั่นพร่าได้มากโข เด็กชายฟ้าประทานเป็นนักเรียนที่ดีอย่างยิ่ง เมื่อได้รับการสอนก็พัฒนาได้ไวจนน่าตกใจ ดวงตาสีสวยสบมอง ความปรารถนาคุกรุ่น


          อา...อยากตามใจเขามากเหลือเกิน แต่เวลาก็แสนน้อยนิด เหลือบมองนาฬิกาเหลือเพียงอีกแค่ครึ่งชั่วโมง



        ...คงจะไม่ทัน และคงจะไม่พอ...



          และคนข้างบนก็รู้ จึงเริ่มผละตัวออก มองขนมหวานแสนอร่อยตาละห้อย ท่าทางน่าสงสารของคนตรงหน้าเล่นเอาผมรีบหาวิธีปลอบอกปลอบใจ ประคองแก้มนุ่มเอ่ยเสียงที่ยังแหบพร่าขอ


          "พี่เทมครับ เม้มปากสิครับ"


          ในดวงตาอัดแน่นไปด้วยแรงปะทุมีเครื่องหมายคำถาม แต่คนดีก็เชื่อฟังอมปากตัวเองไว้ทั้งหมดโดยพลัน หน้าตาเห่อแดงเต็มไปด้วยแรงอารมณ์เริ่มผ่อนคลายและถูกดึงความสนใจไปกับคำขอกะทันหัน


          "เม้มปาก เก็บปากเหรอครับ แบบอี้หอออับ"


          หัวเราะเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าตอบว่าใช่


          ใช้ร่างข้างบนที่กางแขนคร่อมกักผมเอาไว้เป็นหลักยึดแล้วดึงตัวเองขึ้นไปกดจูบ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่แถวริมฝีปากล่าง หรือริมฝีปากบนที่ชิมรส ผมกดจูบไปตรงๆ ไล่เลียตั้งแต่มุมปากจรดตรงกลางและอีกมุม หยดน้ำลายใสเคลือบไปทั่วจนย้อยลงบนหมอน ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปาก


          พี่เทมตกใจจนเผลอปล่อยกลีบเนื้อนุ่มร่วงผล็อย อ้าปากหวอ เล่นเอาคนเจ้าเล่ห์อย่างผมหัวเราะเสียงดัง เจ้าแมวน้อยตกใจขนพองฟู หูตั้งตรงหางเหยียดชี้ฟ้า


          "หมูหย็องจูบเทมด้วยครับ!" เขาฟ้องผมเสียงดัง

          "หึหึหึ น้องหมูไม่ได้จูบนะครับ ปากเรายังไม่โดนกันเลย" และผมก็แก้ตัวไม่ยอมรับผิด


          เด็กน้อยไร้เดียงสาดวงตาวิบวับฉีกยิ้มกว้างกับบทเรียนใหม่ บทเรียนนี้ว่าด้วยการจูบอย่างไรไม่ให้เรียกว่าจูบ เด็กนักเรียนตัวอย่างยกมือขอทดลองปฏิบัติตามทันที


          "งั้นเทมทำด้วยๆๆๆครับ พี่เทม พี่เทมขอทำด้วยนะครับ! น้องหมูหย็องเม้มปากนะครับ เม้มๆๆปากนะครับ"


          หัวเราะในลำคอ ก่อนจะค่อยๆเม้มปากตัวเอง เงยหน้าขึ้น สอดแขนรั้งคนข้างบนมาเล่นเม้มปากชนกัน พี่เทมบดเบียดและลองไล่ชิมรส แต่ดูท่าว่าจะไม่พอใจ เขาพยายามงัดแงะอยากลิ้มรสกลีบเนื้อนิ่มที่อยู่ด้านใน อืม...ดูท่ายิ่งเม้มยิ่งไปกระตุ้น มากกว่าจะช่วยให้กิจกรรมนี้จบลงนะครับ




          สุดท้ายผมก็ปล่อยริมฝีปากให้เขาดูดดึงไปจนถึงสามนาทีสุดท้ายของเวลานัด



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-11-2018 02:46:36 โดย ZOFIARIN »

ออฟไลน์ ZOFIARIN

  • ▇ โซเฟียริน • อวยพระเอก ▇ Whәи ɴᴏᴛʜɪɴɢ is یuгe , eveяything is possißle ♡
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
    • Twitter


          ลงมาประชุมด้วยริมฝีปากบวมเจ่อราวถูกผึ้งต่อย ถูกถามและได้รับเสียงโห่แซวไม่หยุดหย่อนจนต้องไล่ให้พวกนั้นเข้าห้องประชุมไปนั่งรอ


          ผมพาเทมในชุดนอนแสนน่ารักเข้ามานั่งในห้องแยกต่างหาก เทมขอลงมาส่งผมด้านล่างและนั่งรอเป็นเพื่อนระหว่างรอทีมสุดท้ายมาถึงครับ ตอนนี้เขากำลังนั่งคุยเล่นกับหญิงและน้ำ



          ไอ้น้ำที่มุมปากช้ำมองมาด้วยสายตาล้อเลียน น่าลุกไปตบกะโหลกให้หัวสั่นจริงๆเลยครับ...



          "ลงมาช้านี่ไม่ต้องถามเลยว่าทำไม หลักฐานโคตรชัดเจน"


          หรี่ตามองเพื่อนที่เอ่ยเย้า ก่อนจะถามเสียงไร้อารมณ์


          "แค่ช้ำคงไม่พอใช่ไหมครับ...อยากทำฟันใหม่ทำไมไม่บอกดีๆ"


          ไอ้น้ำทำท่าขนลุก รีบย้ายที่นั่งตัวเอง ไปนั่งที่ใหม่ที่ห่างจากระยะแขนผมยืดถึง


          "หยุดเลย! เมื่อตอนเย็นไอ้เต้ก็เพิ่งวิ่งมาถีบกูจนกลิ้งไปอีกรอบ ช้ำในไปหมดแล้ว เวรจริง...ก็กูเกลียดไอ้คาร์โลแม่งนี่หว่า จะให้ทำยังไงวะ"


          "แต่น้ำก็ควรใจเย็นแล้วเก็บไปจัดการทีหลังนะ ไปตะโกนแบบนั้น ตอนนี้ทุกคนเลยลำบากกันไปหมด" หญิงติเสียงเรียบ คนตัวเล็กสลดแต่ก็ยังฮึดฮัด


          "แต่เราไม่ได้ตั้งใจนะหญิง ตอนแรกเรายอมรับว่าผิดที่เผลอไปพูดเสียงดังเพราะลืมตัว เราขอโทษ แต่ตอนหลังมันก็ผิดพอกันอ่ะ ที่เข้ามาหาเรื่อง"

          "แล้วใครเป็นต้นเหตุ..." ผมจี้ถาม


          น้ำคอตก


          "ผมเองครับ...แต่ไอ้ควายโลแม่งก็ผิด!!"



          เทมมองเพื่อนร่างเล็กอย่างกังวลใจเมื่อเห็นน้ำหงุดหงิดไม่หยุด จนต้องแอบเตะขาคนบ่นให้หยุดพูด ตอนนั่งรถกลับบ้าน ผมโดนเด็กน้อยเบะปากทำหน้าจะร้องไห้ใส่ตั้งหลายนาทีเพราะเขาเป็นห่วงคิดว่าผมจะมีเรื่องกับคาร์โล ปลอบกันตั้งนานกว่าเขาจะยอมเก็บหยดน้ำตาเข้าที่เดิม พอเบาใจได้หน่อย ก็จะมาใจเสียเพราะห่วงเพื่อนอีกไม่ได้


          เทมยื่นถาดใส่ขนมไปตรงหน้าเพื่อนสนิท


          "ไม่โกรธๆๆ ไม่ตีกับบังกะโลนะครับน้ำ ตีกันไม่ดีนะครับ"


          เด็กชายตัวเล็กกับหญิงสาวที่นั่งเงียบถึงกับสำลักพรวดกับชื่อใหม่ของโจทก์



          แค่ก แค่ก แค่ก



          พอหายสำลักและตั้งสติได้ น้ำหัวเราะเสียงดังตบโต๊ะไปมาอย่างพอใจ


          "ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ชิบหาย กูโคตรจี้ ไอ้เทมมึงเอาไปร้อยแต้มเลย"

          "ฮ่าๆๆ เทม เทมจ๊ะ เขาชื่อคาร์โลนะ ไม่ใช่บังกะโล โอ้ย ตายแล้ว หายใจไม่ทันแล้ว"


          บรรยากาศเปลี่ยนไปจากเคร่งเครียดกลายเป็นเรื่องตลก เมื่อคนเรียกชื่อผิดไม่รู้ว่าตัวเองเรียกผิด ยังคงย้ำๆกับคำว่าบังกะโลจนน้ำกับหญิงต้องโบกมือห้าม เพราะหัวเราะจนแทบขาดอากาศหายใจ


          "คิกคิก แล้วเทมจะมาประชุมด้วยกันเหรอจ๊ะ" หญิงเปลี่ยนเรื่องเพราะหัวเราะไม่ไหวอีกต่อไป


          เด็กน้อยพอเห็นเพื่อนไม่เครียดกันแล้วก็ยิ้มกว้าง ส่ายหัวไปมา


          "เทม เทมแค่ลงมาส่งน้องหมูหย็องครับ ความลับต้องจุ๊ๆๆๆเอาไว้หญิงบอก"


          คุณพี่สาวทางความคิดพยักหน้าพออกพอใจให้น้องชาย


          "ดีมากจ้ะ อ้าว แล้วนั่นเทมพกมีดโกนลงมาทำไมล่ะจ๊ะนั่นน่ะ"



          หญิงสังเกตุเห็นอะไรบางอย่างสีฟ้าสะดุดตาที่โผล่พ้นกระเป๋าเสื้อของคนนั่งตรงกันข้าม เทมยิ้มแฉ่ง รีบหยิบออกมาโอ้อวดทันที


          "ที่โกนหนวด หมูหย็อง น้องหมูหย้องให้เทมเป็นของขวัญครับ เทมเห็นในโฆษณาเท่ๆๆๆ เทมอยากได้ แล้ว แล้ว น้องหมูหย็องก็ให้เป็นของขวัญวันเกิดเทมครับ หญิงดูสิๆๆๆ เป็นลายโดเรม่อนด้วยนะครับ"


          "มาอีกละ ไอ้ขี้อวดจอมขิง" น้ำกรอกตาใส่เพื่อนร่างสูงที่อวดอ้างสรรพคุณรอบที่ร้อยของวัน


          "ไหนหญิงดูซิ ของขวัญที่หมูให้จะชนะสมุดภาพระบายสีของหญิงหรือเปล่า...อ้าว ที่โกนหนวดธรรมดาเลยนี่น่า เทมไม่อยากได้แบบไฟฟ้าเหรอจ๊ะ เทมรู้ไหมมันมีแบบที่เป็นไฟฟ้าด้วยนะ โกนเองอัตโนมัติเลย"



          หญิงรับไปดูก่อนจะทำหน้าเหนือกว่าใส่ผม เมื่อเห็นว่าของขวัญที่ผมให้เขาไม่ใช่อะไรแปลกใหม่ คุณพี่สาวทางมโนความคิดคนนี้ บางครั้งก็เห็นผมเป็นศัตรูครับ...



          เด็กน้อยอมยิ้มส่ายแก้มนุ่มพึ่บพั่บ

          "เทม เทมอยากได้แบบคุณคาวบอยในโฆษณาครับ เขาบอกว่าแบบนี้เป็นลูกผู้ชายเท่ๆๆๆ"

          "โดนโฆษณาหลอกแล้วไหมล่ะเพื่อนกู..."

          "เดี๋ยวนะ...ตาโดเรม่อนนี่อย่าบอกนะว่าเพชรแท้ ไม่ใช่สิ มองดีๆแล้วนี่มันเพชรหมดเลยไม่ใช่เหรอ!...แล้วด้ามก็หนักๆดูไม่ใช่พลาสติกด้วย!?"


          หญิงหันมามองคาดคั้นคำตอบ ดูท่าจะสัมผัสได้ถึงความพ่ายแพ้ของตัวเอง


          ผมจะไปมอบของขวัญที่ซื้อได้ทั่วไปให้คนพิเศษอย่างเขาได้ยังไงกันครับ มีดโกนหนวดนั้นน่ะถูกผมสั่งทำเป็นพิเศษ ลวดลายถูกซื้อลิขสิทธิ์มาทำเฉพาะ ลายที่นูนขึ้นมาก็ไม่ใช่แค่แกะสลักแล้วติดกระจกโง่ๆ แต่เป็นเพชรสีฟ้าตามธรรมชาติแสนหายาก เพชรน้ำงามหลายสิบเม็ดที่ถูกเจียระไนอย่างพิถีพิถันก่อนค่อยๆถูกจับเรียงขึ้นลายตามสั่งบนด้ามจับทองคำขาวชุบสี ส่วนใบมีดแม้จะดูแหลมคมแต่ก็ไม่สามารถบาดเข้าผิวเนื้อได้ เป็นการจำลองความคมโดยช่างที่มีฝีมือ เขาสามารถหยิบจับได้ทุกท่วงท่าโดยไม่ก่อบาดแผลบนผิวเนียนสวย นอกจากงดงามแล้วก็ไม่ทำอันตรายให้เด็กน้อยของผมอีกด้วย



          ผมไม่ตอบอะไร แค่ยกยิ้มมุมปาก ยักคิ้วส่งให้หญิงสาวที่ดูโกรธขึ้นมาทันที



          "ฮึ้ย! ปีหน้าเดี๋ยวหญิงไปเหมาซื้อที่โกนหนวดไฟฟ้าสักสามโหลให้เทมเลย!!"



          ซื้อไปเทมก็ไม่ชอบเท่าที่ผมให้แน่นอน...



          เรื่องเอาใจเขา ไม่มีใครชนะผมได้หรอกครับ ความลับของการเลี้ยงเจ้าก้อนความสุขก็คือไม่ใช่แค่ของที่ดีที่สุดหรือของที่แพงที่สุดหรอกครับที่เด็กน้อยต้องการ แต่เป็นของที่เจ้าตัวชอบมากกว่า ถ้าผมไปซื้อที่โกนหนวดไฟฟ้าอย่างหญิงว่า แน่นอนครับ ไม่ว่าอะไรที่ผมให้ เทมก็รักและชอบ และคิดว่าสิ่งนั้นพิเศษ แต่เขาก็คงจะไม่ดีใจขนาดนี้


          เทมปุระต้องการอะไร ผมก็จะให้สิ่งที่เขาต้องการ



          ความชอบของเทมไม่ควรถูกความคิดหรือความต้องการส่วนตัวของผมหรือใครขัดขวาง ไม่มีการตัดสินแทน หากเขาบอกว่าอยากได้ที่โกนหนวดธรรมดา ผมก็จะให้ที่โกนหนวดธรรมดา ไม่ยัดเยียดความต้องการของตัวเองให้เขา ไม่เอาความคิดที่ว่าสิ่งนี้สิ่งนั้นเหมาะสมกว่าหรือดีกว่ายัดแล้วส่งให้ การรับฟังสิ่งที่เขาต้องการจริงๆและหยิบสิ่งนั้นมาเจียระไนแล้วค่อยส่งต่อให้เขาต่างหาก คือความลับที่ทำให้เด็กน้อยยิ้มแก้มปริมีความสุขขนาดนี้ และยังสามารถให้ในสิ่งที่ผมต้องการโดยเขายังมีความสุขและไม่เสียความเป็นตัวเองไปได้อีกด้วย




          เด็กชายตกใจเมื่อได้ยินว่าจะได้ที่โกนหนวดถึงสามโหล


          "แต่เทม เทมมีปากอันเดียวนะครับหญิง มีเยอะๆๆแล้วเทมก็ไม่รู้จะโกนยังไงหมดนะครับ"

          "ก่อนจะคิดมากเรื่องจะใช้ที่โกนยังไงให้หมด มึงควรมีขนก่อนอ่ะเพื่อนรัก"

          "เทมไม่ต้องมีหรอก แบบนี้ก็น่ารักอยู่แล้ว"

          "แต่ถ้าไม่มีหนวด ก็จะไม่เป็นวัยผู้ใหญ่นะครับหญิง ต้องมีหนวดแล้วจะลูกผู้ชาย เป็นผู้ใหญ่เท่ๆๆนะครับ"

          เด็กน้อยบอกอย่างงุนงง

          หญิงกับน้ำมองหน้ากันแล้วหันไปถามคนที่ได้รับความคิดว่ามีหนวดแล้วเท่ ว่าเอามาจากไหน

          "โฆษณาอะไรเหรอจ๊ะเทม"

          "ไอ้หมู มึงเอาโฆษณาที่ลูกชายมึงว่ามาดูดิ๊ ทำไมชอบนักวะ"



          ผมหยิบไอแพดมาเปิดตัวต้นเหตุให้ทั้งสองคนดู เทมเริ่มนั่งไม่ติดเมื่อเห็นไอดอลของตัวเองในจอเล็ก



          โฆษณาที่โกนหนวดเริ่มต้นด้วยหมู่บ้านกลางทะเลทรายที่ห่างไกล มีกลุ่มโจรบุกเข้ามาปล้นสะดม แล้วก็มีฮีโร่ขี่ม้าขาวมาช่วย ก็ไม่พ้นใครครับ คือลุงคาวบอยที่หนวดยาวลากพื้นจนสามารถเอามาถักเป็นเปียพันรอบคอได้ เนื้อหาโฆษณาก็ไม่มีอะไรมาก คาวบอยช่วยชาวบ้านได้และมีหญิงสาวตกหลุมรัก พอถึงวันแต่งงานกลับค้นพบความจริงว่าที่ยาวนั้นไม่ใช่หนวดบนริมฝีปาก แต่เป็นขนจมูกต่างหาก...

          หญิงสาวช็อกตาค้าง สะบัดรัก เลื่อนการแต่งงาน บอกว่าถ้าไม่โกนให้เกลี้ยงก็ไม่แต่งด้วย คาวบอยก็รีบเข้าร้านไปซื้อที่โกนหนวด แต่ยี่ห้อไหนก็ตัดไม่ขาด เพราะขนจมูกแข็งแรงมาก ไม่ว่าจะที่โกนหนวดไฟฟ้าหรือเครื่องตัดหญ้าหรือกระทั่งรถไถก็ตัดไม่ขาด จนมาเจอที่โกนหนวดในตำนานถึงโกนได้สำเร็จ แล้วเรื่องราวก็จบลงที่โกนขนจมูกได้ในที่สุด ก่อนกลับไปแต่งงานกับสาวที่รัก หันมาเก๊กท่าเท่บอกกับคนดูว่า พอโตเป็นผู้ใหญ่เหล่าลูกผู้ชายตัวจริงต้องพกมีดโกนหนวดติดตัว แล้วก็มีขนจมูกงอกยาวใหม่ออกมา แล้วตาลุงคาวบอยก็เอามีดโกนฉับ



          จบโฆษณา เทมปุระตบมือเสียงดัง



          ดูกี่รอบผมก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ทุกที...



          สองคนนิ่งค้าง อ้าปากเหวอ



          หญิงตีสีหน้าจริงจัง

          "หญิงว่าเทมต้องเลิกดูโฆษณาอันนี้นะจ๊ะ เพี้ยนมาก..."

          "จริง โคตรเห็นด้วยกับหญิง...ฉายช่องบ้านกูป่ะวะเนี่ย เดี๋ยวไปบอกหม่อมแม่ให้ถอดทิ้งเลย หลอนชิบหาย! ใครมันจะไปมีขนจมูกยาวแถมยังแข็งแกร่งขนาดนั้นวะ!?"



          พอทุกคนไม่เห็นด้วย เทมก็ชักลังเล



          "คุณลุงคาวบอยหนวดยาวๆๆไม่เท่ๆๆเหรอครับ หนวดยาวจนถักเปีย แล้วๆๆๆ แล้วเอามาพันรอบคอได้เลยนะครับ ไม่เท่ๆๆเหรอครับ อะไรก็ตัดไม่ขาดด้วย จนมาเจอที่โกนหนวดในตำนานเลยนะครับ! ที่โกนหนวดในตำนานเลยนะครับ...?"

          "นั่นมันไม่ใช่หนวด!...นั่นมันขนจมูกเฟ้ย! ไม่เท่เลยสักนิดโว้ยยยยยยยยยยยยยย ขนลุก!!"


          เด็กชายฟ้าประทานรีบหันไปขอความคิดเห็นอีกคน แต่หญิงก็ยิ้มแหย


          "หญิงว่าอาจจะไม่เข้ากับเทมนะจ๊ะ...คิดภาพเทมขนจมูกยาวเฟื้อยแล้วมันก็....ขอร้องล่ะเทม อย่านะจ๊ะ! ไม่ได้นะจ๊ะ!!"


          หญิงตบโต๊ะดังปัง ลุกขึ้นยืนส่ายหน้ารุนแรง


          เด็กน้อยหงอยลง แต่ก็ยังยึดมั่นสิ่งสุดท้าย


          "แต่ที่โกนหนวดพี่ม่อนเท่ๆๆนะครับ...?"

          "เออๆ เท่ แต่คาวบอยขนจมูกยาวเฟื้อยขนาดนั้นไม่ไหวนะ โอเคไหม"


          เทมหันมามองผม


          "ที่โกนหนวดเท่ครับ" แต่เจ้าคาวบอยขนจมูกยาวคนนั้นไม่เท่ครับ...


          ดอกทานตะวันยิ้มเบิกบาน เมื่อได้มติว่าที่โกนหนวดของตัวเองยังเท่อยู่


          "โอเค โอเคครับ"


          สามคนบนโต๊ะลอบถอนหายใจที่เพื่อนของตัวเองเลิกไปชอบไอดอลแปลกๆได้ 



          ...ไม่ได้ขัดขวางความชอบเขานะครับ แค่ออกความคิดเห็น อันไหนไม่ดีก็ต้องบอกกัน โดยเฉพาะแปลกๆแบบนี้...ไม่ไหวจะโอเคจริงๆ...



          คุยกันอีกสักพัก อเล็กเซย์ก็พาทีมสุดท้ายมาถึง พอสมาชิกมากันพร้อมหน้า ผมก็เตรียมเดินเข้าห้องประชุม



          "พี่เทมครับ จะขึ้นห้องเลยไหมครับ"


          เด็กน้อยพอเวลาใกล้สามทุ่มก็ตาปรือ ร่างสูงยืนโงนเงนมาส่งผมหน้าประตู


          "พี่เทม พี่เทมอยากรอน้องหมูหย็องครับ"


          จับมือที่จะยกขึ้นขยี้ตามากอบกุม


          "งั้นไปนอนรอน้องหมูที่โซฟานะครับ เสร็จแล้วเดี๋ยวน้องจะไปเรียกนะ"



          จูงมือคนตัวโตกว่าไปเอนตัวลงบนโซฟา ตบหมอนนุ่มให้เข้าที่ ขอผ้าห่มกับตุ๊กตาตัวโปรดขององค์ชายจากพ่อบ้าน คลี่ผ้าหนาอุ่นคลุมตัวเขา กดจูบลงบนหน้าผากใส



          พอขยับตัวเข้าที่เจ้าตัวเล็กของผมก็งัวเงียทันควันราวกดปิดสวิตช์ เขาเอ่ยเสียงอู้อี้ง่วงงุน




          "มุ มุ หมูหย็องครับ...น้องหมูหย็องอย่า...อย่าลืมมารับพี่เทมนะครับ"


          ยิ้มมองคนกลัวถูกลืม เกลี่ยขนตาหนาเรียงตัวเป็นแพสวยเล่น


          "ไม่ลืมครับ"


          "ประชุม สู้ๆ...สู้ๆนะครับ..." พี่เทมกำมือขึ้นส่งแรงใจให้


          แต่ท่าทางดูเหมือนจะยอมแพ้มากกว่าจะสู้นะครับ หึหึหึ


          "ขอบคุณครับ"


          "แล้ว แล้ว...แล้วเจอกันนะครับ"


          "หึหึหึ...ครับ แล้วเจอกันครับ"



          พอได้รับจูบอุ่นกล่อมนอนอีกครั้ง องค์ชายก็นิ่งเงียบไปทั้งๆที่มือยังยกค้าง ส่วนอีกค้างก็ไม่ยอมปล่อยออกจากมือผม จับมือเขาวางลงบนอก เอื้อมไปคว้าหยิบรีโมทจากใต้โต๊ะมากดหรี่ไฟในห้องให้สลัว ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้พอดี มองเขาเพลินจนท่านประธานสีต้องมาตามตัวถึงได้ปล่อยภาพตรงหน้าออกจากสายตา ปลดมือเชื่องช้าอ้อยอิ่งจากคนนอนสบาย ทว่าพอดึงมือออก พี่เทมก็ครางฮือเรียกร้องหา จนต้องป้อนจูบกันยกใหญ่


          กระซิบบอกแนบชิดใบหู



          "นิ่งซะนะคนดี เดี๋ยวหมูมารับนะครับ"



          คนดื้อนิ่งลงเหมือนฟังรู้เรื่อง ยามหลับยามตื่นเจ้าก้อนความสุขของผมก็เป็นเด็กดีเสมอ





          เฮ้อ รีบไปทำงานให้เสร็จแล้วมารับเขาดีกว่าครับ


          ...อยากนอนกอดพี่เทมจะแย่อยู่แล้ว...










end 41 .
twitter #เพื่อนผู้ปกครอง

เจอกันวันที่ 3 ธันวานะคะ UvU ♥

โซเฟียริน
zofiarin lll moore








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-11-2018 02:46:58 โดย ZOFIARIN »

ออฟไลน์ ZOFIARIN

  • ▇ โซเฟียริน • อวยพระเอก ▇ Whәи ɴᴏᴛʜɪɴɢ is یuгe , eveяything is possißle ♡
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
    • Twitter
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-12-2018 23:00:42 โดย ZOFIARIN »

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
พี่เทม... จินตนาการบรรเจิดมากกกกกกก
สมควรแล้วที่น้องหมูจะทุ่มสุดตัวเช่นนี้

อ่านแล้วฮาพี่เทมจริง ๆ o13

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
แหม. ไอดอลลูกเทมทำไมมันพิลึกยังงั่น 555

ปล.อีกสองอาทิตย์แหนะกว่าจะมา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ Mizunoe

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เง้อ คนเขียนที่น่ารักก็อย่าลืมมารับคนอ่านน้า  เราจะหลับรอบนเตียง
แต่จะฝันดีกว่าถ้าพี่เทมกับน้องหมูและทุกคนมาให้อ่านก่อนเข้านอนนนน

ออฟไลน์ ZOFIARIN

  • ▇ โซเฟียริน • อวยพระเอก ▇ Whәи ɴᴏᴛʜɪɴɢ is یuгe , eveяything is possißle ♡
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
    • Twitter







42










          ภายในห้องประชุมของคุณป๊าที่ถูกผมยึดมาเป็นฐานทัพลับเต็มไปด้วยถ้อยคำถกเถียง นอกจากความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ในห้องก็ลอยเอื่อยไปด้วยความกดดัน มวลเมฆหมอกลอยปกคลุมหนาแน่น โดยเฉพาะเหนือหัวตัวต้นเหตุอย่างไอ้น้ำที่นั่งตัวฟีบอยู่ซอกโต๊ะ คนปากเก่งหลบลี้หนีภัยไปยังมุมอับสายตา แต่พอโดนผมมองจี้อีกคนมันก็ต้องยอมเดินออกมาจากที่หลบภัย เผชิญหน้ากับสายตาหงุดหงิดนับครึ่งร้อยคู่



          เจ้าตัวต้นเรื่องยกมือไหว้รอบทิศ เสียงก่นด่าดังรอบห้อง บางคนโกรธมากหน่อยก็หยิบผ้ารองแก้วขยำแล้วโยนใส่คนหัวเราะเสียงแห้ง นับว่าทุกคนยังใจดีมากครับที่ไม่ลุกมารุมประชาทัณฑ์มัน อย่างที่ผมบอก กิจกรรมของโรงเรียนเป็นเวทีชั้นดีที่จะปูหนทางไปสู่อนาคต และอนาคตที่ดีและน่าจับตามองก็ต้องเป็นผู้ชนะ ไม่ใช่ผู้แพ้
 


          เสียงโห่ที่ดังต่อเนื่องจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ และผมก็ปล่อยให้เพื่อนสนิทโดนต่อไปโดยไม่ไยดี แม้ว่าลูกคุณหญิงจะส่งสายตาขอความช่วยเหลือมาทางผมไม่หยุดหย่อน ก็ไม่ทำให้เพื่อนอย่างผมถลาเข้าไปกางแขนปกป้องเหมือนเมื่อตอนเย็น ความโกรธของทุกคนควรได้รับการระบายออกครับ ก็เหมือนทุกคนร่วมด้วยช่วยกันก่อกองทราย ทั้งแดดจ้า คลื่นซัด ทั้งเศษเปลือกหอยบาดมือ แต่ทุกคนก็ตั้งใจและพยายามจนเกือบจะสำเร็จ แต่จู่ๆก็มีคนขี้โมโหเดินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้ามาเตะจนพังไปต่อหน้าต่อตา



           ถ้าไม่อยากจับคนพาลมาฟาดให้เลือดอาบสักที ก็ไปบวชเถอะครับ คุณบรรลุแล้วล่ะ



          หลังจากปล่อยให้มันโดนรุมด่าจนตาแดงเจียนร้องไห้  หรี่ตามองอีกสักพักใหญ่ จนต่อมความพอใจของผมหยุดสั่น ถึงได้ฤกษ์ยอมยื่นมือช่วยเจ้าเพื่อนปากดี ขยับตัวลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้อย่างเชื่องช้า คว้าหยิบไมค์ขึ้นมาไว้ในมือ ไม่ต้องตบไมค์หรือกรอกเสียงพูดเทสต์หนึ่งสองสาม เสียงสบถก็เงียบลงได้ด้วยเพียงดวงตาสีฟ้ากวาดมอง ความสนใจถูกดึงตรึงมาไว้ที่รองประธานของสี


          "ตอนนี้เราควรช่วยกันหาวิธีแก้ไขดีกว่าครับ ด่าคนกะโหลกหนาไปก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร แถมเปลืองน้ำลายซะเปล่าๆ ส่วนเรื่องความโกรธของทุกคน ความเหนื่อยของทุกคน ผมทราบดี...น้ำจะโดนลงโทษด้วยการอยู่เย็นแล้วให้ไปทำความสะอาดห้องน้ำจนกว่าจะจบมอสาม" ซึ่งก็อีกหลายเดือน... "นอกจากนั้น ช่วงพักกลางวันก็ต้องไปช่วยแม่ครัวทำงานและทานอาหารของโรงอาหารเท่านั้น" อาหารที่ขึ้นชื่อว่ารสชาติห่วยบรรลัย แกะอาหารเม็ดสุนัขกินยังได้รสชาติเสียมากกว่า...


          ดวงตาหลายสิบคู่เบิกกว้างฉายแววอึ้งปนทึ่ง ตามมาด้วยเสียงพูดคุยที่ดังขึ้น ด้วยคงนึกไม่ถึงว่าผมจะลงมือเชือดคอเพื่อนสนิทตัวเอง


          ดูจากท่าทางและมุมปากที่กระตุกยกขึ้นของทุกคน บทลงโทษเป็นที่น่าพอใจ สายตาเคลือบแคลงที่มองตรงมา กลายเป็นสายตาเชื่อมั่นเฉกเช่นเดิม


          ตั้งแต่ที่ยืนและเริ่มเอ่ยปาก ผมก็อ่านบรรยากาศได้ว่าทุกคนกังวล กลัวผมจะถือหางเพื่อนตัวเองจนปล่อยผ่าน และถึงผมจะทำแบบนั้นจริง คนคัดค้านก็คงมี แต่สุดท้ายก็จะเกรงใจผมจนยอมลงให้อยู่ดี


          ไอ้น้ำอ้าปากค้าง หลังจากทีแรกมีท่าทางตีปีกดีใจที่ในที่สุดผมก็ยอมหย่อนเชือกให้มันตะกายจับโผล่หน้าขึ้นมาหายใจ ตอนนี้คนคว้าเชือกที่ผมหย่อนให้หันมาถลึงตาใส่ ปากขมุบขมิบไม่หยุด


          "แม่ง..ช่วยหรือซ้ำเติมกูกันแน่วะ... ใช่ซี้ กูไม่ใช่ไอ้เทมนี่หว่า..."


          หันไปมองมันด้วยดวงตาไร้อารมณ์แสนเย็นเฉียบ ไอ้น้ำพอเห็นผมมองมันนิ่ง เจ้าตัวก็ยิ้มเผล่แล้วรีบมุดกลับเข้าซอกหลืบดั่งเดิม



          อยากจะเดินไปเตะอัดกลางลำตัวมันนัก



          นี่ผมก็ช่วยมันเยอะแล้วครับ ถ้าจู่ๆผมที่เป็นประธานนักเรียนและรองประธานสีดันปล่อยผ่านคนทำผิดโดยไม่มีแม้แต่บทเรียน ต่อไปใครจะเชื่อถือ แล้วยิ่งอารมณ์ทุกคนพุ่งขึ้นสูง ใครจะอยากมานั่งฟังเหตุผล มีแต่คนอยากเห็นคนทำผิดถูกลงโทษทั้งนั้น คำครหาของคนหมู่มากเป็นตัวบ่อนทำลายรากฐานที่มั่นคง ความโกรธของผู้คนก็เหมือนปิรันย่าผู้หิวโหย ไม่ใช่เรื่องที่จะยื่นมือลงไปให้ถูกฝูงปลากระหายเลือดฉีกทึ้ง จะช่วยก็ต้องเป็นไปอย่างแนบเนียน ยื่นมือไปช่วยโต้งๆนอกจากจะมีคนแย้งขึ้นมาแล้ว ก็ไม่เป็นผลดีต่อสถานะของผม เหนื่อยมาตั้งหลายปีจะมาพังเพราะไอ้เพื่อนปากวอนหาเท้าก็ไม่ใช่เรื่อง แถมดีไม่ดี ช่วยไปก็คงไม่พ้นโดนหมั่นไส้ หนักๆเข้าก็โดนแกล้งย้อนหลัง สู้ผมลงโทษมันแต่อยู่ในกฎยังดีกว่า อีกอย่างถ้าเป็นคนอื่นผมคงจดชื่อลงบัญชีหนังหมา งดเข้าร่วมกิจกรรมรื่นเริงทุกอย่างไปแล้ว



          พอทุกคนอารมณ์ดีขึ้นจากภาพไอ้น้ำคอตก การหารือก็เป็นไปอย่างราบรื่น



          ใช้เวลาพูดคุยหาวิธีการกันใหม่สามชั่วโมงก็ได้บทสรุป เงยหน้ามองนาฬิกาตอนนี้ห้าทุ่มครึ่งพอดี รถตู้สิบคัน รถเก๋งอีกหลายสิบ จอดรอรับส่งนักกีฬาสีฟ้าอยู่หน้าบ้าน ทุกคนทยอยขึ้นรถจนหมด ผมสบตากับพ่อบ้านคนคุ้นเคย ชายในชุดสูทเรียบกริบแม้เป็นยามค่ำคืนโค้งตัวรอรับคำสั่ง



          "พรุ่งนี้เช้าช่วยเตรียมของฝากไปให้ผู้ปกครองพวกเขาด้วยนะครับ" พาลูกเขามาอยู่ดึกๆ ถึงจะให้โทรไปขออนุญาตแล้วก็ดูไม่ดีครับ มีอะไรติดไม้ติดมือไปฝากหน่อยดีกว่า เพราะแผนการใหม่ทุกคนต้องมาฝึกนอกเวลาที่บ้านผมกันอีกหลายวัน



          "จะจัดการให้เรียบร้อยครับคุณดิมิทรี"


          ได้รับคำตอบรับผมก็พยักหน้าพอใจ เตรียมหันหลังเข้าบ้านแต่ก็ดันเจอเพื่อนตัวเองทำหน้าบึ้งอยู่ด้านหลังขวางทางเสียก่อน



          "มึงแม่งใจร้าย ช่วยกูน้อยชิบหาย" ไอ้น้ำบ่นกระปอดกระแปดระหว่างรอรถบ้านตัวเองมารับ


          "ช่วยน้อยแต่ก็ช่วย และก็ดีกว่าไม่ช่วยไม่ใช่หรือยังไงครับ"


          ไอ้น้ำกรอกตาไปมาเมื่อเถียงไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยเนื้อเรื่องหลักที่ต้องการจะบอกเสียงเบา


          "เออ ขอบคุณ"


          "วันหลังจะทำอะไร พูดอะไรก็คิดหน้าคิดหลังหน่อยครับ ไม่ใช่ว่าผมจะช่วยได้ทุกครั้ง"


          วันนี้แม้ผมจะทำให้เรื่องมันดูง่าย แต่ที่จริงมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็น อนาคตใครหลายคนผูกไว้กับงานกีฬาสีครั้งนี้ ไอ้น้ำไปก่อเรื่อง ก็เหมือนถือกรรไกรไปตัดเชือกที่คนอื่นพยายามผูก คงโดนหมายหัวไว้ไม่น้อย มีเรื่องครั้งก่อนยังดีที่ไอ้น้ำไม่ได้เจ็บตัวมาก แต่ไอ้คนตัวเล็กที่ตั้งแต่ขึ้นมัธยมก็โดนคุณหญิงแม่ยื่นคำขาด ว่าถ้าจะมีเรื่อง มีเรื่องได้คุณหญิงเธอไม่ว่า แต่อย่าให้ใหญ่จนควบคุมไม่อยู่และอย่าเจ็บตัวมากแค่นั้นพอครับ ถ้าเรื่องบานปลายจนมันเจ็บตัวหนัก มันจะถูกจับส่งเข้าโรงเรียนประจำทันที ซึ่งคนอย่างมันที่ชอบร่อนจีบสาวไปทั่ว แน่นอนว่าแทบจะขาดใจ


          และมันก็ดันไปขัดขานักกีฬาโรงเรียนหลายสิบคนที่ขึ้นชื่อในลัทธิกล้ามเนื้อและพละกำลังคือชีวิต ใช้กำลังแก้ปัญหา หาเรื่องไปแบบไม่มีสมอง ไม่เจ็บหนักนอนหยอดข้าวต้มสิแปลก

         

          น้ำเม้มปาก "กูรู้แล้วน่า"


          ผมมองมันตรงๆ


          "อย่าให้กูต้องเตือนบ่อยๆนะน้ำ เรื่องความปากพล่อยกับหาเรื่องไปทั่วของมึงน่ะ"


          ย้ำด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าพร้อมจะตัดหางมันปล่อยวัดถ้ายังหาเรื่องไปทั่วไม่เลิก นิสัยนี้ของมันคิดว่าจะเริ่มห่างหาย แต่ก็ยังมีมาให้ผมปวดหัวรำคาญอยู่เนืองๆ ฉายาไอ้น้ำหมากระเป๋ากัดคนไปทั่วนี่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยจริงๆครับ ในพวกเราสี่คน เทมนับว่าเป็นคนที่มีเรื่องน้อยที่สุด รองลงมาก็ไอ้เต้ และตามมาด้วยผม ส่วนคนที่มีเรื่องเยอะที่สุด วิวาทต่อยตีเยอะแยะไปหมดผิดกับรูปลักษณ์และสวนทางพละกำลังก็คือมัน ไปหาเรื่องแล้วก็แพ้ ลำบากไอ้เต้กับผมทุกที



          ไอ้น้ำชกไหล่ผมเบาๆเชิงขอบคุณ ผมก็ชกไหล่มันคืนหนักๆเชิงตักเตือน


          "เออ กูพยายามอยู่... โอ้ย! เชี่ยหมู ชกเบาๆสิวะ...มึงแม่งไม่อ่อนโยนเลย"


          ผมยักไหล่ ไม่ต่อคำหรือแก้ตัวในเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไอ้น้ำส่งเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจ


          "ถ้าพรุ่งนี้แขนกูเขียวนะ กูจะไปแกล้งแย่งขนมไอ้เทมตอนพักกลางวัน"


          "อยากตายก็ลองดูสิครับ"


          "มึงแม่ง! โว้ยยยยย กูจะกลับบ้านแล้ว!"


          "รถยังไม่มา ถ้าจะเดินกลับก็เชิญเลยครับ"


          "เออว่ะ...ไอ้ชิบหายทำไมยังไม่มาอีกวะ @^%$#@^%&@"


          หมากระเป๋าแยกเขี้ยวท่าทางขัดใจ เมื่อมองทางไหนมันก็แพ้ผมทุกทางจนได้แต่ฮึดฮัด ผมเลิกคิ้วมอง เมื่อเห็นมันไม่ได้พูดอะไรอีกนอกจากบ่นไปเรื่อย จึงหมุนตัวหันหลังเดินหนีจาก ปล่อยเพื่อนจอมโวยวายของตัวเองให้ยืนบ่นอยู่หน้าบ้านต่อไปคนเดียว



***




          พ้นจากหน้าที่ ก็รีบสาวเท้าเดินตรงเข้ามาในห้องนั่งเล่นกว้างโดยใช้แสงไฟสีส้มที่เคลือบไปตามสรรพนำทาง บนโซฟาเบดตัวใหญ่ปรากฏร่างของชายที่ผมอยากอ่อนโยนด้วยนอนเหยียดกายหลับสบายอยู่ ย่างเท้าเข้าไปใกล้ก่อนจะคุกเข่าลงโน้มตัวมองใบหน้าหลับสนิทแล้วยกยิ้มมุมปาก มือซ้ายยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นดู ตรวจกราฟคลื่นสมองและหัวใจของเด็กน้อยว่าไม่ได้ตื่นมากลางคันตอนผมไม่อยู่



          ข้อมูลบนหน้าจอเล็กทำผมสบายใจ กราฟคงที่ องค์ชายหลับสนิทไร้สิ่งใดมากล้ำกรายก่อกวน



          ตั้งใจมารับเขาขึ้นไปนอนด้วยกัน แต่ภาพตรงหน้าแสนชวนเคลิ้มฝันก็ทำเอาเผลอนั่งเท้าคางมองไร้เรี่ยวแรงปลุกทำลาย กอบกุมมือเขามาจุมพิต ระหว่างเสพย์ศิลปะที่รักยิ่งอย่างหลงใหล แพขนตายาวสวยแนบลงไปกับแก้มขาวอมชมพู แสงโทนอบอุ่นอาบผิวกายเนียนละเอียด แสงสว่างขับผิวให้เรืองรองในความมืด ราวกระเบื้องเคลือบชั้นดีที่มีลมหายใจ ราวศิลปะล้ำค่าในตู้โชว์ ภาพงดงามกลางดึกอันเงียบสงัดทำเอาหัวใจผมเต้นรุนแรง แม้แต่ยามไร้ลูกแก้วสีน้ำตาลคอยจดจ้อง เขาก็ยังมีมนตร์สะกดให้ลุ่มหลงไม่เสื่อมคลาย



          เวลาที่ได้มองเขาอย่างเนิ่นนานและเงียบสงบ ความรู้สึกมากมายเกินจะกักเก็บก็ล้นทะลักหลั่งไหล ความมืดปอกลอกจิตใจให้เปลือยเปล่า  ส่งผลให้ความรู้สึกสีสันสะดุดตายิ่งโดดเด่นแจ่มชัด ตอกย้ำความรู้สึกเสียจนอึดอัดไปหมด



          ...ผมรักเขา รักเขาจนแทบจะคลั่งใจตายอยู่แล้ว...


          แค่เทมคนเดียว แค่เทมเท่านั้นที่ผมอยากจะอ่อนโยนด้วย อยากจะใจดี อยากจะแข็งแกร่งเพื่อปกป้องและทนุถนอมไว้ให้ปลอดภัย อยากจะเป็นคนที่ดียิ่งๆขึ้นไปเพื่อเขา




          แต่ในบางครั้งบางคราวเงาในมุมมืดก็กรีดร้องขวนขวาย คอยแต่กู่ร้องอยากออกมา...ผมอยากเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ยึดเขาไว้ไม่แบ่งปันกับใครทั้งสิ้น อยากเป็นคนใจร้ายที่จับเขาขังไว้ในหอคอยและคอยชื่นชมแต่เพียงผู้เดียว


          ความรักช่างน่ากลัว


          ทำให้เราเป็นทั้งคนที่ดีที่สุดและร้ายกาจที่สุดไปพร้อมๆกัน


          ขออย่าให้มีใครมาแย่งเขาไปจากผม ไม่อย่างนั้นผมก็คิดภาพไม่ออกเลย ว่าตัวเองจะกลายเป็นปีศาจสารเลวได้ถึงขั้นไหน





          ผมหลับตา สะกดกลั้น กดจูบที่มือเขาแรงขึ้น เคลื่อนริมฝีปากอ้ากว้างรับนิ้วนางเรียวยาวเข้ามาไว้ ใช้ลิ้นไล้เลีย ก่อนใช้ฟันคมกัดเบาๆ สวมแหวนตีตราจองอันไร้ร่องรอยท่ามกลางสีนิลที่รายล้อม เทมปุระที่โดนกวนครางฮือ ท่ามกลางครึ่งหลับครึ่งตื่น ยังไม่ทันลืมตาดีก็เรียกร้องหาผมก่อนสิ่งอื่นใด




          "อือ....มุ มุครับ"


          "หมูอยู่นี่ครับ"



           อดไม่ได้ต้องขยับไปหอมแก้มนุ่ม เทมพลิกตัวมาทางผู้ร้ายจอมก่อกวน เปลือกตาสวยเผยลูกแก้วสีน้ำตาลหวาน เจ้าตัวกะพริบตาปริบๆไล่ความมึนเบลอ พอเห็นผมเต็มตาก็ยิ้มกว้างจนตาหยีโค้งสวย เทมตะกายแขนเข้ามาหา จนผมต้องรีบเป็นฝ่ายขึ้นไปนั่งบนโซฟาเบดด้วยกันแทน เพราะกลัวเด็กน้อยจะดิ้นดุกดิกจนตกเตียง



          "หมูหย็อง หมูหย็องมารับ มารับเทมแล้วเหรอครับ"


          พี่เทมมุดตัวออกจากผ้าห่มเสือกตัวเข้ามาใกล้ ท่าทางที่โหยหาเหมือนเจ้าลูกหมาน้อยที่ดีอกดีใจจนพยายามโยนตัวเองใส่เจ้าของ ผมช้อนหัวเขาขึ้นมานอนบนตัก พอได้ท่าแสนแนบชิด เจ้าตัวเล็กก็รีบวาดมือโอบรัดเอวแล้วถูไถหน้าไปกับท้องผมยกใหญ่


          "ครับ มารับแล้วครับ"


          ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มคนขี้อ้อนด้วยความนุ่มนวล เด็กน้อยกำนิ้วผมไว้แนบแก้มนิ่ม


          "พี่เทม พี่เทมหลับฟี้ๆๆรอน้องหมูหย็องครับ เป็นพี่เทมนิ่งๆเด็กดีรอหมูหย็อง รอน้องหมูหย็องมารับครับ ถึงจะคิดถึงๆๆๆแต่ก็ทนๆๆรอครับ"


          ผมปล่อยนิ้วให้เขาจับไว้แต่โดยดี แล้วใช้มืออีกข้างลูบหัวคนหนุนตัก


          "เก่งมากเลยครับคนดี"


          พอโดนชมแก้มกลมก็ขึ้นสีน่ามอง เจ้าตัวระบายยิ้มกว้าง ซุกตัวเข้ามาจนแทบจะหลอมละลายเป็นอีกส่วนของร่างกายผม น้ำเสียงที่เอ่ยเชื่องช้ายานคางกว่าปกติ เพราะเจ้าของง่วงงุน แต่ก็ไม่ยอมแพ้ พยายามพูดคุยสอบถามผมต่อ


          "แล้ว แล้วๆๆๆ น้องหมูหย็องครับน้องหมูหย็อง น้องหมูหย็องประชุมเสร็จแล้วเหรอครับ เหนื่อยไหมครับ สนุก สนุกไหมครับ"


          "เสร็จแล้วครับ น้องไม่เหนื่อยครับ ส่วนสนุก...ไม่ค่อยสนุกครับ"


          เด็กน้อยตาโต ผุดลุกขึ้นนั่งสบตามองด้วยความเป็นห่วง "ทำไม ทำไมเหรอครับ ทำไมไม่สนุกๆๆเหรอครับ"


          "ไม่มีพี่เทมอยู่ด้วย น้องหมูไม่สนุกหรอกครับ" เอ่ยบอกพร้อมสบตาคนตัวโตกว่า คนพี่กลั้นยิ้มจนหน้าตาตลก พออมยิ้มมากเข้าแก้มยุ้ยก็คล้ายจะพองลมจนจะแตกออก เจ้าก้อนความสุขพอทนสบตาผมไม่ไหวก็ลอยละลิ่วเสมากอดผมโยกตัวไปมา


          "โอ๋ โอ๋ โอ๋นะครับ พี่เทม พี่เทมโอ๋ๆๆนะครับ พี่เทมขอโทษนะครับ ที่ไม่ได้ไปกับน้องหมูหย็องด้วย แต่ความลับต้องชู่ๆๆๆ เดี๋ยวพี่เทมรู้ พี่เทมรู้จากหมูหย็องแล้ว แล้วน้องหมูหย็องก็จะโดนดุๆๆ เพราะทำความลับไหลจ๊อกๆๆนะครับ"


          "หึหึ ครับ พี่เทมคนเก่งเก็บความลับเก่งมากเลยครับ"

          "ขอบคุณครับ หมูหย็องก็เก่งมากๆๆๆๆ เก่งมากๆๆเลยครับ ประชุมดึกๆสุดยอดๆๆครับ"



          เทมปุระถามผมอีกหลายอย่าง หลากคำถามด้วยใบหน้าที่ง่วงงุน เปลือกตาหนึ่งข้างเขาปิดสนิท ลืมตาเพียงข้างเดียวระหว่างสนทนา พอผมทักพี่เทมคนดีก็รีบใช้สองนิ้วจับถ่างเอาไว้ แต่พอผมลูบเนื้อลูบตัวเขาเข้าหน่อย เจ้าตัวน้อยก็กลายเป็นสภาวะของเหลวพร้อมจะไหลหลับในอ้อมแขนผมเรื่อยไป แต่เด็กน้อยก็พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะฟังเรื่องราวของผม แต่ก็เผลออ่อนแรงปล่อยมือจนตาปิดทุกที หนักเข้าก็ยืมมือผมไปถ่างเอาไว้ช่วยอีกแรง ท่าทางน่าขันจนอดหัวเราะเสียงดังไม่ได้



          "พี่เทมตาหนักๆๆจังเลยครับน้องหมูหย็องครับ ยกๆๆไม่ขึ้นแล้วครับ" พี่เทมที่ตอนนี้กลายเป็นงูเลื้อยไปตามตัวผมบอกเสียงอ่อนอ่อย


          ผมลูบศีรษะคนหาวครั้งที่สิบ


          "ขึ้นไปนอนบนห้องกันนะครับ"


          ถ้าไม่ติดว่าแขนซ้ายเพิ่งบาดเจ็บเมื่อไม่นานมานี้ ผมจะไม่ลังเลเลยที่จะอุ้มเขาขึ้นห้องตั้งแต่เจ้าตัวยังหลับอยู่แต่แขนที่ไม่มั่นคงแบบนี้ จะให้อุ้มก็กลัวทำเด็กน้อยเจ็บตัว จนต้องปลุกกันให้เขาตื่นกลางคัน


          "ห้องไกล ไกลจังเลยครับ พี่เทมง่วงเยอะแยะเลยครับ น้องหมูหย็องง่วงไหมครับ"

          "ง่วงนิดหน่อยครับ"

          "ง่วงนิดๆๆหน่อยๆๆเองเหรอครับ งั้น งั้นพี่เทมแบ่งความง่วงเยอะแยะของพี่เทมให้นะครับ น้องหมูหย็องจะได้ง่วงเยอะแยะ เยอะแยะด้วยกัน"



          เทมปุระรอจังหวะหาวอีกครั้ง ก่อนจะรีบผละมือที่คล้องคอกอดผมเป็นหลักยึดออก ใช้มือตะครุบอากาศ ทำท่าปั้นๆลมหายใจง่วงงุนของตัวเองเป็นก้อนกลมๆแล้วเอามาแปะตรงหัวใจของผม ฝ่ามือร้อนลูบคลึงไปมา เหมือนอยากให้ความง่วงซึมลึกเข้าไปในผิวกาย ไม่ได้รู้เลยว่าไปจุดชนวนอันตรายของผมเข้าเต็มเปา



          "ง่วงๆๆง่วงๆๆนะครับ"



          อา...ท่าทางน่ารักพร้อมเสียงที่แหบเล็กน้อย นอกจากไม่ง่วงแล้วยังทำให้ตื่นเสียอีก



          ...ตื่นในหลายๆความหมายเลยล่ะครับ...



           ผมรวบมือเขาเอาไว้ก่อนอะไรๆจะเลยเถิด จูบมือสวยแล้วยกยิ้มหวานส่งให้คนตาปรอย



          "ขอบคุณครับ...น้องหมูง่วงแล้วล่ะครับพี่เทม ขึ้นห้องนอนกันนะครับ"



          พี่เทมพอได้ยินว่าทำสำเร็จก็ยิ้มหวานจ๋อยส่งกลับคืน พยักหน้าหงึกหงัก ลุกขึ้นยืน ส่งมือมาให้ผมจับจูง ทีแรกผมก็คิดไว้ว่าจะพาเด็กน้อยเข้านอนแล้วลุกไปทำงานต่อ แต่ประโยคในลิฟต์จากคนข้างกายก็ทำเอาเปลี่ยนใจ


          พี่เทมจิ้มแขนผมเบาๆ เอ่ยถามเสียงอ่อย


          "น้องหมูหย็องครับน้องหมูหย็อง วันนี้ วันนี้พี่เทมจะได้เจอน้องหมูหย็องในฝันไหมครับ"


          "หืม...ทำไมถามแบบนั้นล่ะครับ"


          ดวงตาสีน้ำตาลมีคำว่าเป็นห่วงมากมายอยู่ในนั้น


          "ก็ๆๆๆ ก็ช่วงนี้น้องหมูหย็องชอบลุกๆๆจากเตียงนี่ครับ พี่เทมเลยหาน้องหมูหย็องในฝันไม่เจอเลยครับ พี่เทม...พี่เทมห่วงๆๆๆเยอะแยะเลยนะครับ นอนน้อยๆๆจะไม่โตไวๆๆนะครับ ...พี่เทม พี่เทมอยากให้น้องหมูหย็องนอนเยอะๆๆแยะๆๆด้วยกันจังเลยครับ"



          ท้ายประโยคพี่เทมพูดเสียงเบา



          ผมตกใจนิดหน่อยที่เขารู้สึกตัวว่าผมลุกขึ้นมาทำงานต่อหลังจากส่งเขาเข้านอนเสร็จแล้ว คงเพราะไออุ่นข้างตัวหายไป ถึงได้กระวนกระวายแม้จะยังหลับสนิท คิ้วที่ขมวดกันยุ่งคงไม่พ้นเป็นห่วงผมเยอะแยะไปหมด...นี่ร่างสูงก็คงอดทนไม่เรียกร้องจนถึงที่สุด แต่พอห่วงจนทนไม่ไหวเลยต้องมางอแงแล้วสินะ


          ลูบแขนคนช่างเป็นห่วง ยืดตัวไปหอมแก้มทั้งสองข้าง ถามหาวิธีผ่อนโทษเอาใจ


          "น้องหมูขอโทษนะครับที่ทำให้เป็นห่วง อา...แล้วจะให้น้องหมูทำยังไงดีครับ พี่เทมถึงจะฝันถึง"


          เทมปุระมีท่าทางลังเล แต่พอผมลูบหลังมือ ยิ้มรอคอยอย่างใจเย็น เขาก็หลับตาปี๋บอก


          "น้องหมูหย็อง น้องหมูหย็องต้องไม่ลุกๆๆจากเตียง แล้วก็ แล้วก็ต้องกอดพี่เทมแน่นๆๆนะครับ แล้วพี่เทมจะได้ฝันถึงนะครับ"



          ถ้อยคำเอาแต่ใจที่ผสมอัดแน่นเต็มไปด้วยความเป็นห่วง มาพร้อมนัยน์ตาจริงจัง ความทรงพลังสองอย่างเล่นเอาผมอ่อนแรงกะทันหัน ขาที่เปลี้ยแทบพันกันจนเกือบหกล้มกลิ้งหน้าห้องนอนตัวเอง พี่เทมหมุนตัวมากอดผมไว้ โน้มตัวลงจนหน้าผากของเราสัมผัสกัน ระยะห่างของดวงตาสองสีอยู่ห่างเพียงแค่คืบ ผมสะดุดลมหายใจตัวเอง และแทบลืมวิธีหายใจเมื่อคนขี้ห่วงใช้นิ้วก้อยเกี่ยวนิ้วก้อยผมเอาไว้ ตีหน้าจริงจังบอกย้ำ




          "คืนนี้พี่เทมต้องเจอน้องหมูหย็องในความฝันนะครับ ห้าม ห้ามหนีไปไหนนะครับ"




          อา...



          เจอโหมดพี่เทมคนดุแบบนี้




          นอกจากทำตามแบบไร้เงื่อนไข

         


          แล้ว...ผมจะหนีเขาไปไหนได้ครับ...















 

 :hao7: :hao7: :hao7:

end 42 .
twitter #เพื่อนผู้ปกครอง



                                                                                                                                           
ไม่เจอกันหลายวันเลยค่ะ คิดถึงทุกคนจังเลย
กลับมาแล้วนะคะ
ตอนนี้ถือว่าอุ่นเครื่องก่อนเข้าเนื้อเรื่องหลักเนอะ ♥

เทมในช่วงตอนเป็นพี่เทมก็จะขี้ห่วงหน่อยค่ะ
เพราะเจ้าตัวถือว่าตัวเองเป็นพี่ เป็นวัยรุ่นแล้วต้องดูแลน้องๆที่เด็กกว่าสิบกว่าวัน 555

ปล.
คนได้รางวัลอย่าลืมมาแจ้งชื่อที่อยู่จัดส่งนะคะ

อยากส่งรางวัลให้จะแย่แล้วววว >v<
มาแจ้งก่อนวันที่ 10 น้าาาา ~

โซเฟียริน
zofiarin lll moore






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-12-2018 11:12:32 โดย ZOFIARIN »

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
+1 ก่อนเลยที่กลับมาแล้ว. คิดถึงเด็กๆและคนแต่งมาก

เมื่อไหร่มันจะมีฉากเรียกเลือดป้านะ ช่วงนี้ป้าไม่ค่อยได้กระตุ้นเลือดเลย. อิอิ  :hao7:

ออฟไลน์ Lautenyu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-3
แก้คำผิดด้วยจ้า #ฉายา ไม่ใช่ #ชายา นะจ๊ะ

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0

ออฟไลน์ ZOFIARIN

  • ▇ โซเฟียริน • อวยพระเอก ▇ Whәи ɴᴏᴛʜɪɴɢ is یuгe , eveяything is possißle ♡
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
    • Twitter








43










          สถานการณ์ตอนนี้วุ่นวายยุ่งเหยิงเหมือนสายหูฟังที่พันกันในกระเป๋า พรุ่งนี้จะถึงสัปดาห์แข่งกีฬาสีแล้วครับ วันก่อนเริ่มงานทำลายมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ประจำปี เป็นวันปล่อยว่างเพื่อให้นักเรียนตกแต่งขนตัวเองเหมือนนกยูงเตรียมรำแพนหาง เตรียมความพร้อมซ้อมจริงสำหรับการแข่งขัน นอกจากนักเรียนที่ตกแต่งตัว การตกแต่งโรงเรียนก็เต็มไปด้วยความสดใส ทุกส่วนสัดเต็มไปด้วยป้ายสีป้ายโฆษณาข่มขวัญสีอื่น ดูคึกคักน่าสนุก สวนทางความเป็นจริงอันเคร่งเครียดของเหล่านักเรียนที่ลอยตัวถึงขีดสุด


          ตอนนี้ไม่ว่าใครต่างก็วิ่งรอกกันให้วุ่น เสียงโหวกเหวกโวยวายดังครอบคลุมไปทั่วทั้งอาณาเขตโรงเรียนสิงหสารสารทวิทยา เหล่านักเรียนเดินเข้าออกโรงยิมกันจนเหมือนมดงานเดินหาอาหาร ผมที่กำลังถือวิทยุสื่อสารก็สับขาหัวหมุนไม่แพ้ใคร เหล่ากรรมการนักเรียนนอกจากทำหน้าที่สีตัวเองแล้วก็ต้องกลับมารับหน้าที่ตรวจตรางานโดยรอบเป็นครั้งสุดท้าย และหน้าที่สำคัญอีกอย่างคือเป็นไกด์แนะนำโรงเรียน คอยแนะนำ อธิบายกิจกรรมกับเหล่าแขกที่จะมารับชม โดยทีมของผมจะสลับกับคณะกรรมการของฝั่งมัธยมปลายครับ ส่วนฝั่งประถมน้องๆยังเด็กเกินไปจึงไม่มีบทบาทมากนัก


          หลังจากวิ่งตรวจงานบนตึกเสร็จ ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ที่โรงอาหารกลางวงล้อมของสภานักเรียนสามคนและกรรมการสีอีกสี่คน โดยมีไอแพดที่เปิดหน้าจอคุยกับคนอื่นๆ เคียงข้างกันก็มีวิทยุสื่อสารที่ดังขึ้นแทบจะตลอดเวลา


          "เฮ้ย หมู ไปดูหน้าเวทีมาหรือยัง พี่ว่าตอนเปิดงานจังหวะแสงไฟมันยังช้าไปสองช่วงนะ ไปจัดการให้หน่อยได้หรือเปล่า"


          พี่เนศที่ครองตำแหน่งประธานนักเรียนอีกคนเดินหน้าเหมือนซอมบี้แหวกวงล้อมเข้ามาหา เจ้าตัวตบไหล่ทักทาย แต่ผมว่าดูคล้ายหาที่ยึดมากกว่าครับ หน้าตาอ่อนล้าจนดูเหมือนกับว่าถ้าแค่จิ้มพี่เขาเบาๆก็พร้อมล้มลงพื้นแล้วหลับยาวไปอีกสามวัน เพื่อนพี่เขาที่เดินตามหลังก็ดูท่าทางไม่ต่างกันเท่าไหร่



          ดูคล้ายแก๊งผีดิบเดินหาหลุมตัวเองไม่เจอชอบกล



          หญิงที่กำลังเปิดรูปเสื้อของกองเชียร์ให้ผมดูถึงกับมุ่ยหน้า เมื่อมีคนแซงคิวแย่งตัวพูดคุย

          "พี่เนศอย่ามาแย่งตัวหมูตอนนี้นะคะ พวกเราต้องให้หมูช่วยไปคุยเรื่องขออนุมัติเพิ่มเงินก่อน สต็อกเสื้อผ้าไม่พอ ถ้าของมาไม่ครบพรุ่งนี้จะเอาอะไรให้ทุกคนใส่กันเล่า"


          พี่เนศโอดครวญเสียงดัง "เสื้อผ้าของสีไว้ก่อนไม่ได้เหรอคะน้องหญิง ของพี่นี่โดนอาจารย์จี้มาสองรอบแล้ว โดนอีกรอบนี่พี่โดนลั่นไกใส่หัวแน่ๆเลยค่ะ...ว่าแต่น้องเปียไม่อยู่ด้วยกันเหรอคะ"


          ท้ายประโยคพี่เนศทำหน้าประจบถามเสียงหวานกับเพื่อนสนิทของหญิงสาวที่ตัวเองแอบชอบ อืม...จริงๆก็ไม่เรียกว่าแอบครับ ตามจีบโต้งๆมาหลายปีแต่เลขาผมก็ไม่แลพี่เขาสักทีมากกว่า หญิงหรี่ตามองก่อนบอกเสียงเด็ดขาดเหมือนตอนดุน้องชายตัวเอง สองคนนี้เป็นญาติห่างๆกันครับ เลยสนิทกันมาก


          "ไม่ได้ค่ะ ต่อคิวเลยนะคะ! หญิงไม่ยอมให้ทุกคนแก้ผ้าขึ้นสแตนด์หรอกนะ ส่วนเปียตอนนี้คงหัวหมุนอยู่กับพวกไม้แล้วก็ธันวาในห้องกรรมการค่ะ"


          จริงๆในจอไอแพดเมื่อตะกี้เปียก็อยู่ครับ แต่สงสัยว่าพอได้ยินเสียงพี่เนศเข้าก็เลยหลบออกไป บนหน้าจอเลยเหลือแค่ธันวายิ้มอยู่คนเดียว


          พี่เนศทำหน้าเสียดายปนลำบากใจ แต่ก็ฮึดสู้ด้วยการโปรยยิ้มของเทพบุตรล่อหลอก เก๊กท่าเอ่ยเสียงขรึม "ขอแค่สิบนาทีนะครับทุกคน เดี๋ยวพี่ต้องไปดูฝั่งประถมต่ออีก ไม่ว่างไปจัดการเองจริงๆ ทีมพี่ก็โดนอาจารย์เรียกไปช่วยเกือบหมด" ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติ ใบหน้าหล่อๆและรอยยิ้มหวานๆก็คงได้ผลอยู่หรอกครับ แต่ตอนนี้ที่ใบหน้าหล่อเหลาไม่ต่างจากมัมมี่ตอนถอดผ้าพันออกเหลือแต่หน้าซูบๆและตาดำปี๋ ไม่ช่วยให้คนโดยรอบใจอ่อน


          หนึ่งในทีมของผมกรอกตาบอกเสียงเหนื่อยไม่แพ้กัน "โห พี่เนศ พวกผมก็โดนไม่ต่างกันหรอก ชมรมทำอาหารแม่งดันลืมคิดเมนูของคนแพ้แป้ง ทางโรงครัวเขาก็มาต้อนเอากับพวกผมยิกๆ ไหนจะแขกวีไอพีที่โคตรดื้อ ดึงดันจะเอาหมามาดูด้วยให้ได้อีก"


          พี่เท่เพื่อนพี่เนศตาโต รีบถามต่อ "ใช่เมียคุณทวิตเจ้าของค่ายมวยไหมวะ พี่เห็นในแชทกลุ่มอยู่ ไม่ใช่ว่าสองรอบก่อนแกบอกเข้าใจแล้วเหรอว่าห้ามเอาสัตว์เลี้ยงเข้ามาด้วยน่ะ"


          "ใช่พี่ แต่แกเข้าใจไปรอบหนึ่งว่าห้ามเอาแมวเอาหนูเข้ามา แกเลยเอาหมามาแทน นี่ถ้ารอบนี้ผมบอกว่าห้ามเอาหมามาแกจะเอาพญานาคมาเลยหรือเปล่าวะ โว้ยยย ปวดหัวกับเจ้แกหลายๆ"


          พี่เนศพอเห็นรุ่นน้องทึ้งหัวตัวเองก็หัวเราะร่วน ขำจนพอใจแล้วเอ่ยแนะนำแนวทางแก้ปัญหา


          "ให้อาจารย์ไปช่วยพูดไหม อันไหนเกินมือเราจริงๆก็ไปขอยืมมืออาจารย์เถอะ อันที่จริงพี่ก็อยากบุกไปช่วยพูดนะ แต่นี่พวกพี่ก็งานล้นมือโคตรๆ แค่เดินผ่านสนามตะกี้เห็นฝ่ายแปรอักษรตอนต้อนรับดันได้ไฟล์พิมพ์ผิด ไปเอาไฟล์ยังไม่แก้ขึ้นบอร์ด จากยินดีต้อนรับเป็นยินดีตายครับเฉยเลย พี่กินน้ำอยู่น้ำแทบพุ่งออกจากจมูก"


          "อันนั้นก็เกินไป...พี่รีบไปช่วยแก้เลยนะเฮ้ย ไม่งั้นแมวมองหนีไปจีบเด็กโรงเรียนอื่นกันพอดี ส่วนเรื่องให้อาจารย์ช่วยมันก็..." แจ้หันไปมองเพื่อนอีกคน


          "เฮ้อ ส่งไอ้นิวไปขอแล้วครับพี่ แต่จารย์บอก 'แค่นี้พวกเธอยังรับมือได้ ไม่เกินความสามารถจ้ะ ลองหาทางอื่นกันดูก่อนนะ' รับมือได้กับผีอะไร๊ อาจ๊านนนนนค้าบบบบ!"


          แล้วคนบอกก็ทึ้งหัวตามอีกคนไป...


          พวกผมคณะกรรมการนักเรียน ที่ชักจะไม่แน่ใจว่าจริงๆแล้วตัวเองเป็นกรรมการหรือกรรมกรกันแน่ มองหน้าสบตากัน ก่อนปล่อยเสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างพร้อมเพียง และก่อนที่โรงอาหารจะกลายเป็นศาลาปรับทุกข์คนเหนื่อยยาก ผมก็พูดขัดขึ้น



          "ถ้ารอหลังบ่ายสามได้ ผมพอจะเจียดเวลาไปดูได้ครับ"


          "บ่ายสามต้องไปซ้อมกับพี่อเล็กเซย์ไม่ใช่เหรอหมู"


          "เปลี่ยนไปเป็นช่วงหลังเที่ยงแทนแล้วครับ ช่วงบ่ายประธานสีทุกคนต้องไปประชุมเข้าพบอาจารย์"


          "บ่ายสามเลยเหรอ...ได้ งั้นพี่ฝากเรื่องเวทีไว้หน่อยแล้วกันนะ ช่วงซ้อมจริงรอบสุดท้ายสิบเอ็ดโมงพี่คงไม่ได้เข้าไปดูด้วย ต้องไปดูซ้อมการแสดงอันอื่นก่อน แล้วก็เห็นอริญบอกงบประมาณมันแปลกๆอันนั้นก็ฝากด้วย"


          "ได้ครับ"


          "แต๊งเว้ย"


          พอฝากงานเสร็จพวกพี่สามคนก็เดินออกไปอย่างว่องไว พวกผมที่เหลือก็หันมาทำงานกันต่ออย่างรีบเร่งเพื่อให้ทุกอย่างเรียบร้อยและเป็นไปตามกำหนดการเช่นเดียวกัน






***






           เมื่อกริ่งดังบอกถึงเวลาพักเที่ยง ผมที่รีบหนีออกมาจากเหล่าซากศพมีชีวิตก็เดินลงมาหาเด็กน้อยของตัวเอง เดินตาม GPS มาเรื่อยจนถึงสวนด้านหลัง เจออาจารย์ที่ยืนเฝ้าก็ยกมือไหว้สวัสดี ทุกอย่างก็เป็นปกติเหมือนที่ผ่านมาที่ผมพาเทมมาฝากไว้กับชั้นอนุบาล เพราะอาจารย์พิเศษของเทมนอกจากเวลาหลังเลิกเรียนก็จะประจำชั้นอยู่ในส่วนของเด็กอนุบาลครับ แต่ภาพที่เห็นก็ทำเอาคิ้วสีทองเหมือนสีผมขมวดฉับ



          ภาพตรงหน้าเป็นอะไรที่แปลกประหลาดมากๆ...



          ตรงสนามหญ้าสีเขียวขจีใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ มีผ้าปูรองสีชมพูลายหวานแหววปูอยู่ บนนั้นมีเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักสองคนกำลังถือตุ๊กตาเล่นสวมบทบาทท่าทางสดใส ใช่ครับ ถ้าแค่นั้นก็ไม่แปลกอะไร และเทมที่เล่นตุ๊กตากับเด็กอนุบาลน่ะก็ไม่แปลกหรอกครับ เพราะเพื่อนซี้ต่างเพศต่างวัยของเขาก็ชวนเล่นด้วยกันเป็นประจำ เป็นภาพที่กลมกลืนชวนอบอุ่นหัวใจเหมือนพี่ชายเล่นกับน้องสาว แต่แขกแปลกหน้าอีกคนต่างหากที่ทำเอาผมต้องชะลอฝีเท้า



          เทมที่ถือตุ๊กตาโดเรม่อนกับ...คาร์โลที่ถือตุ๊กตาบาร์บี้



          ภาพชายที่ตัวสูงกว่าเทมแถมถึกกว่ามาก หน้าตาที่เต็มไปด้วยรอยบากแผลกำลังพยายามพาตัวเองขยับนั่งบนเสื่อสีหวานผื่นเล็ก ดัดเสียงสองเล่นเป็นเจ้าหญิงด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ เป็นอะไรที่ทำเอาคนมองกระอักกระอ่วนและขนลุกได้ชะงัด...


          ที่ผมยังไม่ได้ก้าวเท้าเข้าไปก็เพราะมีรินอยู่ รินเป็นเด็กอนุบาลที่นิสัยโตกว่าวัยมากครับ เธอเป็นเด็กที่ค่อนข้างดุมากเลยทีเดียว ถ้ายังจำกันได้วันงานวันเกิดเทม น้องชายของผมก็โดนเด็กคนนี้ดุเรื่องไปแซงคิวเข้าแถว เพราะงั้นถ้าเธออยู่ด้วย ผมคิดว่าคาร์โลไม่น่าจะพูดอะไรหรือทำอะไรไม่ดีได้ ไม่งั้นรินได้แจ้นไปฟ้องอาจารย์แล้วครับ ถ้าเทียบนิสัยกันแล้ว รินดูจะเป็นพี่สาวของเทมได้ด้วยส่วนสูงที่ต่างกันถึงร้อยเซนได้เลยทีเดียว...


          และที่ผมยอมปล่อยให้นางฟ้าของผมเล่นด้วยโดยไม่ห่วงเขามาก ก็เพราะเด็กทั้งสองคนพูดจาดีแล้วก็เล่นกันแบบปลอดภัยมากครับ เจอหน้ากันก็คุยแต่เรื่องตุ๊กตาที่จะออกคอลเลกชั่นใหม่ แชร์ขนม อวดของเล่นกัน เทมก็ชอบเพราะได้เพื่อนคุยเรื่องเก็บสะสมตุ๊กตา



          "เทม เทมต้องเป็นเจ้าหญิงแบบโลสิ ก็ในเมื่อมี่มี่จะเล่นเป็นราชินีส่วนเราก็จะเป็นพระราชา เทมก็เป็นลูกๆของรินกับมี่มี่ไงคะ"

          "แต่ แต่ว่าพี่ม่อนเป็นผู้ชายนะครับ ต้องเป็นเจ้าชายไม่ใช่เหรอครับริน"

          "ก็จับตุ๊กตาใส่กระโปรงไปดิวะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว มึงก็เป็นตุ๊ดไม่ใช่หรือไง"

          "ตุ๊ดๆๆๆคืออะไรเหรอครับโล"

          "อย่ามาเรียกโลตีซี้กับกูได้มะ เรียกกูคาร์โลสิเว้ย ส่วนตุ๊ดก็คือผู้ชายที่อยากเป็นผู้หญิงไง กะเทยน่ะกะเทย ไม่รู้จักได้ยังไงกันวะ"

          "โลอย่าพูดคำหยาบเยอะได้ไหมคะ?"

          "ใช่ๆ พี่โลอย่าพูดไม่เพราะกับพี่เทมนะคะ มี่มี่ไม่ชอบเลย! คุณพ่อกับคุณแม่บอกคนพูดไม่เพราะคือคนหยาบคาย เป็นคนไม่ดี ไม่มีมารยาทค่ะ"

          "เออๆ โทษๆ"

          "แต่ แต่พี่ม่อนไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงนะครับ แล้วจะเป็นตุ๊ดๆๆ เทยๆๆ ได้ยังไงครับ เทมงงๆจังเลย"

          "กูหมายถึงมึงต่างหาก"

          "เทม เทมก็ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงนะครับ"

          "ใช่ พี่เทมเป็นผู้ชายต่างหาก พี่โลสายตาสั้นเหรอคะ อ๊ะ พี่โล! มี่มี่บอกแล้วไงคะว่าก็อตซิลลาต้องผูกโบว์แล้วก็ใส่กระโปรงลูกไม้ไม่ใช่กางเกง!"

          "โว้ยยยย อะไรนักหนา เออๆ กระโปรงตัวไหนหยิบมาดิ"



          ท่าทางที่ยอมลงให้เด็กหญิงตัวเล็กทำเอาผมแปลกใจอีกครั้ง กับคนที่มีข่าวลือติดตัวว่าทั้งดุและโหดโฉดจนไม่มีเพื่อนคบสักคน ดูเป็นอะไรที่สวนทางมากกับการยอมหยิบกระโปรงลูกไม้สวมให้ตุ๊กตาหญิงสาว และเมื่อเด็กน้อยของผมถามอะไรแม้จะทำหน้าเบื่อหน่ายแต่ก็ยอมตอบและอธิบายเป็นอย่างดี


          พี่ชายของมี่มี่กับรินงั้นหรือ?


          พี่ชาย...แต่จำได้ว่าตอนหาข้อมูลของเด็กทั้งสองคน มี่มี่เป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวธัศนากิจ ส่วนรินก็มีพี่น้อง แต่เป็นพี่น้องที่เป็นผู้หญิงทั้งหมดนี่น่า...ลูกสาวท่านทูตและลูกสาวของท่านรองนายกไม่มีพี่ชายแน่นอน


          และผมก็สัมผัสไม่ได้ถึงสัญญาณอันตราย ยืนนิ่งฟังก็มีแต่บทละครเล่นเป็นพ่อแม่ลูกของคนสี่คน


          ผมหรี่ตามองพลางครุ่นคิด


          หมอนี่มาทำอะไรกันแน่


          สืบเท้าเข้าไปในวงสนทนาของเหล่าราชินีและเจ้าหญิงเจ้าชาย ปรับสีหน้าเย็นเฉียบของตัวเองให้เป็นรอยยิ้ม เมื่อนางฟ้าตัวน้อยสังเกตเห็นผมแล้วยิ้มกว้างลุกขึ้นวิ่งมาหา


          "พี่เทมครับ"

          "ม-หมูหย็อง! นะ นะ น้อง น้อง น้องหมูหย็องครับ มาหาพี่เทมเหรอครับ!"

          "ใช่ครับ แล้วก็มารับไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน หิวหรือยังครับ"

          "หิวๆๆๆ เทมหิวแล้วครับ"

          "สวัสดีค่ะพี่หมู" มี่มี่ลุกขึ้นตามเทมก่อนจะยกมือไหว้ผมด้วยท่าทางอ่อนช้อย ต่างกับเพื่อนสนิทอีกคน รินแค่นั่งเฉยๆแล้วยกยิ้มเอ่ยทักทายง่ายๆตามประสาเด็กที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง

          "สวัสดีค่ะพี่ดิมิทรี มารับเทมแล้วเหรอคะ" 

          "ครับ แล้วนี่..." ส่งสายตาไปทางผู้ชายอีกคนที่นั่งเท้าค้างมองตรงมา

          "อ๋อ...นี่คาร์โลค่ะ เป็นบอดี้การ์ดที่คุณพ่อของรินจ้างมาดูแลในโรงเรียน"

          "เฮ้ย! คุณหนูไปบอกเขาทำไมวะ เอ้ย ครับ นี่มันภารกิจลับนะคุณ!"

          "บอกได้ไม่เป็นไรค่ะ เขาเป็นคนรักของเพื่อนริน เชื่อใจได้"




             อา...ใกล้ช่วงเลือกตั้งแล้วสินะ เลยต้องส่งคนมาคุ้มกันลูกของตัวเอง ผมไม่แปลกใจที่นักเรียนในโรงเรียนจะรับจ๊อบพิเศษหรือมีบอดี้การ์ดแฝงตัวอยู่ในโรงเรียน เพราะที่นี่ลูกท่านหลานเธอเยอะแยะไปหมด จนสามารถเดินสุ่มกระแทกไหล่แล้วเจอลูกผู้มีอิทธิพลดังๆได้อย่างง่ายดาย เท่าที่รู้มาภารโรงหลายคนก็ใช่ 


          แต่ต้องยอมรับว่าแปลกใจไม่น้อยที่คนตรงหน้าถึงกับได้รับการไว้วางใจจากท่านรองนายกให้ช่วยดูแลลูกสาวสุดที่รักด้วยอายุเพียงแค่สิบห้า ท่านรองคงจะไม่จ้างคนไม่มืออาชีพดูแลจุดอ่อนของตัวเองในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานหรอกครับ



          "มองอะไรไอ้พวกลูกคุณหนู เหอะ ทำไม กูจะรับจ้างหาเงินในโรงเรียนไม่ได้หรือไง"


          คาร์โลตวัดเสียงใส่เมื่อเห็นผมมองไปทางเขา ดูท่ายังโมโหผมอยู่มาก เฮ้อ...ผมไม่ใช่คนหาเรื่องเขาสักหน่อย



          "หมูหย็อง น้องหมูหย็องไม่ใช่ลูกคุณหนูนะครับคาร์โล น้องหมูหย็องเป็นลูกของคุณปะป๊ากับคุณหม่าม้าต่างหากครับ"

          "คริคริ พี่เทมล่ะก็ เล่นมุกอีกแล้ว"

          "เทม...ไม่ใช่ลูกคุณหนูที่เป็นหนูจี๊ดๆแบบนั่นค่ะ..."

          "กูล่ะปวดหัวกับมึงจริงๆ โอ้ยยยย ไม่ใช่ลูกหนูเป็นตัวๆเฟ้ย!"

          "อ้าว...ถ้าไม่ใช่ลูกหนูเป็นตัวๆๆๆแต่เป็นลูกตัวคนๆๆ ก็ ก็ไม่ใช่นะครับ"

          "นี่เราคุยเรื่องเดียวกันหรือเปล่าวะ..." คาร์โลมีท่าทางอ่อนลงกับเจ้าตัวน้อยของผม มี่มี่หัวเราะไม่หยุด ส่วนรินก็ถอนหายใจแล้วเปลี่ยนหัวข้อ

          "อืม เทมจะไปทานข้าวกับพี่ดิมิทรีแล้วใช่ไหม งั้นโลไปทานด้วยกันเลยสิ ไม่ต้องเฝ้าเราตอนนอนกลางวันหรอก"

          "ได้ไง เดี๋ยวพ่อคุณก็ไล่ผมออกพอดี"

          "ขัดคำสั่งเราก็โดนหักเงินเดือนเหมือนกันนะ"



          หนึ่งเด็กอนุบาลและหนึ่งเด็กมอสามยืนจ้องตากัน

          รินเชิดหน้ามองสบตาผู้ชายที่ตัวใหญ่กว่าสองเท่าอย่างไม่เกรงกลัวใบหน้ากินเลือดกินเนื้อนั่นเลยสักนิด สุดท้ายผู้พ่ายแพ้ก็คือศัตรูของไอ้น้ำครับ คาร์โลยอมพยักหน้า





          ทุกการกระทำอยู่ภายใต้ดวงตาสีฟ้าที่จ้องมองเก็บรายละเอียด

          ...ไพ่ที่เพิ่งได้รู้ จะเอาไปใช้ยังไงดีนะ... น่าสนุกแล้วสิ




          "เออๆ เดี๋ยวผมมารับคุณอีกทีตอนเย็นแล้วกัน"

          รินยิ้มอย่างพอใจ หันไปตอบรับบอดี้การ์ดของเธอกับบอกเพื่อนชายต่างวัย "ค่ะ แล้วเทมก็อย่าลืมไปที่ห้าง efg นะ เขาจะจัดงานกันตอนสิ้นเดือน มีของลิมิเต็ดมาขายด้วย ไว้ค่อยเจอกันที่งานนะคะ"


          พี่เทมพยักหน้าหงึกหงักแล้วรีบหันมาจับมือผมเขย่าๆ เหมือนเด็กน้อยกำลังจะร้องขออะไรสักอย่างกับพ่อแม่ นัยน์ตาสีน้ำตาลสวยระยิบระยับจับใจ


          "หมูหย็องครับ น้อง น้องหมูหย็องครับ! ริน รินบอกว่าที่ห้าง efg จะมีพี่ม่อน จะมีพี่ม่อนมาขายแบบลิมิเต็ดครับ พี่เทม พี่เทมอยากไปจังเลยครับ ไปหา ไปหาพี่ม่อนแล้วก็รับพี่ม่อนมาอยู่ด้วยกับพี่ม่อนที่บ้านนะครับ นะครับ นะๆๆๆครับ นะ?"


          ถ้าจะอ้อนกันขนาดนี้ ก็ไปที่รถกันตอนนี้เลยไหมครับ...ยกยิ้มเอ็นดูคนที่ตื่นเต้นจนพูดติดขัดไปหมด ลูบแก้มนุ่มที่ขึ้นสีระเรื่อง่ายดาย



          "ได้ครับ ไว้เดี๋ยวน้องหมูจะพาไปนะ"

          "เสียดายจัง สิ้นเดือนมี่มี่ไปอิตาลีกับคุณพ่อ ไม่งั้นจะไปเดินเล่นกับพี่เทมกับรินด้วย พี่เทมอย่าลืมไปถ่ายรูปกับโดเรม่อนนะคะ รอบนี้มีโดเรมี่มาด้วยนะ รินก็อย่าลืมซื้อชุดตุ๊กตาให้เราเด็ดขาดเลยนะ แล้วเดี๋ยวเราจะซื้อขนมมาฝากทั้งสองคน"


          พี่เทมพอได้ยินคำว่าขนมของฝากก็ตาเป็นประกายสวย ยกมือไหว้ขอบคุณเด็กอนุบาลล่วงหน้า


          "ขอบ ขอบคุณครับ ครับๆๆๆ เทม เทมจะถ่ายเยอะๆๆเลยครับ"

          "พี่เทมเนี่ยชอบไหว้มี่มี่อยู่เรื่อยเลย...พี่ชายที่ไหนเขาไหว้น้องสาวกันคะ โธ่เอ้ย"

          มี่มี่มุ่ยปาก เพื่อนตัวเล็กอีกคนอดไม่ได้จนเอ่ยแซว

          "เพราะมี่มี่หน้าแก่หรือเปล่าคะ"

          "โธ่ รินล่ะก็ อย่าแกล้งกันสิจ๊ะ!"



          ผมปล่อยเด็กสามคนพูดคุยกันอีกนิดหน่อยก็ให้เขาบอกลากัน จะได้พาเด็กน้อยไปทานข้าว ทีแรกก็ตั้งใจมารับคนเดียวนะครับ แต่ขากลับดันพ่วงส่วนเกินมาอีกคนซะได้ ระหว่างทางไปโรงอาหารพี่เทมก็ดูตื่นเต้นกับแขกไม่คุ้นหน้า



          "คาร์โล คาร์โลก็จะไปทานข้าวด้วยกันเหรอครับ"

          "เออ ก็เจ้านายกูสั่ง"



          ทั้งๆที่จะผิดคำพูดก็ได้ ยังไงรินก็ไม่รู้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ทำ...หมอนี่ซื่อตรงกว่าที่คิด ดูเป็นหมาเฝ้ายามที่มีคุณสมบัติใช้ได้เลยทีเดียว



          "ดีจังเลยครับ ดีจังจะได้ทานกันเยอะแยะๆ สนุกๆๆๆกับเต้กับน้ำ"

          "อะไรนะ!? ไอ้หมากระเป๋าก็มากินด้วยงั้นเรอะ"

          "หมากระเป๋าเหรอครับ? ที่โรงเรียน ที่โรงอาหารห้ามพาสุนัขเข้ามานะครับ ผิดกฎนะครับ ไม่มีๆๆน้องสุนัขนะครับ"

          "ไม่ใช่หมาสี่ขาแบบนั้น...แต่มันก็หมานี่หว่า เออๆ ช่างมันเถอะ กูหมายถึงเพื่อนมึงน่ะ ไอ้เตี้ยน้ำนั่นน่ะ"

          "อ๋อๆๆๆ น้ำ น้ำมาทานด้วยใช่ไหมครับน้องหมูหย็อง"

          "ใช่ครับ"

          "กูอยากจะบ้าตาย...แดกกันสองคนไม่ได้หรือยังไง เดี๋ยวกูนั่งห่างๆ"

          "นั่งห่างๆ นั่งห่างๆเทม เทมต้องคุยเสียงดัง คุยเสียงดังไม่ดีนะครับ เดี๋ยวอาจารย์ดุ"

          "ใครจะคุยกับมึง"

          เทมปุระยิ้มค้าง ใบหน้าน่ารักเจื่อนลงถามเสียงอ่อย "คาร์โล คาร์โลไม่อยากคุยกับเทมเหรอครับ..."



          ผมชักคิ้วกระตุก หันไปมองอีกคนด้วยสายตาอันตราย มีเรื่องกับน้ำผมก็ไม่สนใจหรอกนะครับ จะหยาบคายใส่ใครผมก็ไม่ว่า แต่อย่ามาทำคนของผมเสียใจ ผมไม่ยอม


          "ก็ไม่ใช่แบบนั้น โว้ย! มึงนี่แม่งรับมือยากชิบหาย"


          คาร์โลยีผมตัวเองแล้วก็ลามไปยีหัวเทมปุระด้วย จนผมเผลอฟาดมือใส่อย่างแรง


          "อย่าจับ" บอกเสียงเย็นด้วยความหงุดหงิด


          เด็กน้อยที่ทีแรกสะดุ้งโหยง แต่พอตั้งสติได้ก็รีบถลามาจับมือผม จับพลิกมองอย่างเป็นห่วง "หมูหย็องครับ! น้อง น้องหมูหย็องเจ็บไหมครับ!?"


          คาร์โลอ้าปากค้างกับปฏิกิริยาของเทมที่เป็นห่วงผิดคนจนลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังโกรธที่ถูกฟาด


          "...เดี๋ยวๆ มึงต้องถามกูสิไอ้หนู ไปถามไรคนฟาดวะเฮ้ย กูนี่คนถูกตี"

          "อุบ ฮ่าๆๆๆๆ ไม่ใช่แค่มึงหรอกเว้ยที่โดน! กับพวกกูก็เป็น ไอ้หมูลงมือทีไรไอ้ลูกชายคนดีกูก็ไปถามคนลงมือประทุษร้ายว่าเจ็บไหมตลอด"


          เต้ในชุดนักกีฬาโผล่ออกมาจากด้านหลัง และเนียนยิ่งกว่าด้วยการเดินไปคล้องคอคาร์โลราวกับเป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายสิบปี



          "โผล่มาจากไหนวะเนี่ย...อย่ามาตีสนิทกูนะเว้ย!"

          "อ้าว ไรวะ กูเห็นพวกมึงเดินมาด้วยกันนึกว่าคืนดีกันแล้วซะอีก"

          "คืนดีคว--"



          หมับ!




          "...อย่าพูดคำหยาบต่อหน้าเทม"



          อาศัยช่วงเวลาที่องค์ชายน้อยเอาแต่สนใจดูแลมือขวา ในชั่วเสี้ยววิก่อนคำต้องห้ามจะหลุดออกจากปาก มือซ้ายคว้ากระชากเนคไทของคนตัวใหญ่จนแน่น กระซิบบอกเสียงเบาที่พอแค่ให้ได้ยินกันสามคน แต่ชัดเจนด้วยสีหน้าเด็ดขาดที่ไม่มีใครกล้าปฎิเสธ  ไอ้เต้ยิ้มมุมปากถูกใจ ส่วนคาร์โลชะงัก ก่อนจะยอมพยักหน้าแต่โดยดี



          เขาดูจะผ่านงานอะไรมาพอควร คงจะรับรู้ได้ว่าอะไรเป็นอะไร...

          อะไรสู้ได้ อะไรสู้ไม่ได้



          พอเด็กน้อยเงยหน้าขึ้น ผมก็คลายมือออกจากเนคไทมาลูบแก้มคุณหมอจำเป็นที่เพิ่งตรวจมือผมเสร็จแทน นายแพทย์เทมปุระบอกด้วยน้ำเสียงโล่งใจ


          "มือหมูหย็อง มือน้องหมูหย็องไม่เป็นอะไรครับ พี่เทมตรวจๆๆให้แล้ว ไม่มีแผลนะครับ แต่ว่าน้องหมูหย็องเจ็บหรือเปล่าครับ"

          "ขอบคุณนะครับ มือน้องหมูไม่เจ็บครับ"

          "ดีจังเลยครับ งั้นๆๆๆถ้าเจ็บบอกพี่เทมนะครับ พี่เทมจะเป่าเพี้ยงๆให้นะครับ"

          "ฮ่าๆๆๆ อึ้งไปเลยอะดิมึง เดี๋ยวก็ชิน ป่ะ ไปโรงอาหาร กูหิวข้าวจะตายละ แล้วไอ้น้ำล่ะ"

          "น้ำทำงานช่วยอยู่ที่โรงอาหารครับ คิดว่าอีกประมาณครึ่งชั่วโมงถึงจะตามมา"

          "เค"



          พวกผมตรงมานั่งกันที่โต๊ะประจำ คาร์โลที่สุดท้ายก็มาร่วมโต๊ะด้วยแบบงงๆยังคงมีสีหน้าเหมือนคนเมากาวที่โดนจับในโทรทัศน์ เขานั่งฟังพวกผมสามคนนิ่งๆโดยไม่ได้พูดอะไร กระทั่งผมอธิบายความเป็นมาว่าทำไมถึงเจอกันยังนิ่ง มีแค่ตอนที่เทมเล่าบอกถึงตอนที่พวกเขาเล่นตุ๊กตากันคาร์โลถึงได้ถลึงตาใส่ไอ้เต้ที่หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังจนเกือบตกเก้าอี้


          ตอนนี้พ่อลูกในมโนความคิดกำลังคุยกันเรื่องคำศัพท์คำใหม่ที่เทมเพิ่งรู้จักครับ เป็นคำที่น่าปวดหัวพอสมควรเลยทีเดียว กับคำว่า 'Sexy' คิดว่าอาจารย์ก็คงปวดหัวไม่ต่างกัน เพราะคำอธิบายที่เด็กน้อยของผมจับใจความและเข้าใจมา ดูจะเป็นอะไรที่ไม่น่าจะใช่เซ็กซี่ล่ะนะครับ



          "เซะซี่ แบบนี้ๆๆครับ"

          "เซ็ก--เซ็กซี่ครับพี่เทม หึหึหึ" ช่วยเขาแก้คำผิดทั้งๆที่แทบจะสำลักข้าว

          "เซ็กซี่ยยยย์" ลากเสียงยาวพลางทำปากจู๋แก้มป่อง



          เทมปุระที่กำลังทำปากจู๋แล้วบอกว่าตัวเองเซ็กซี่ทำเอาไอ้เต้ที่หยุดหัวเราะแล้วขำลั่นอีกรอบ มันตบโต๊ะดังป๊าบๆอย่างถูกอกถูกใจ


          "ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้ลูกกกกกกกกกก หยุดดดด หยุดก่อนที่กูจะหัวเราะจนขาดใจตาย ชิบหาย อันนี้เซ็กเสื่อมชัดๆ หน้าตามึงยังกับปลาปักเป้าโดนต่อย ฮ่าๆๆๆๆ"


          พี่เทมที่อารมณ์ดียังคงทำปากจู๋แก้มพองลมหันไปให้เต้ดูที ผมดูที


          "เทม เทมเซะซี่ คุณกล้วยเซะซี่ แกงเขียวหวานก็เซ็กซี่"

          "...ต่อมไหนของกล้วยกับแกงเขียวหวานที่มึงมองแล้วว่าเซ็กซี่วะ"

          "น่าอร่อยๆๆๆ หม่ำๆๆๆไงครับ"

          "ก็ไม่ใช่น่าอร่อยในความหมายนั้นครับพี่เทม..."

          "ปวดหัวแทนอาจารย์ขึ้นมาเลยว่ะ"



          เทมที่เป็นพี่เทม เป็นเทมในเวอร์ชั่นที่น่ารักและน่าเอ็นดูมหาศาล และการกระทำพิเศษในช่วงที่เขาเป็นพี่เทมก็ทำเอาน้ำตาแทบจะไหลด้วยความปิติ เมื่อเขาสะกิดให้ผมดูจานข้าวเปล่า ไม่มีเศษผักสีเขียวๆเหลือให้ผมเห็น แม้แต่มะเขือเทศคู่ปรับตลอดกาลสักซีกก็ไม่มีหลงเหลือ


          "น้องหมูหย็องครับน้องหมูหย็อง ดูๆๆๆนะครับ ดูนะครับพี่เทมทานผักหมดเกลี้ยงเลยครับ พี่เทมเป็นพี่ชาย พี่เทมต้องทานผักๆๆๆให้ตัวอย่างดูน้อง"

          "เก่งมากเลยครับ แต่ต้องเป็นตัวอย่างให้น้องดูนะครับ"

          "เป็น เป็นตัวอย่างให้น้องดูครับ"


          เด็กน้อยบอกด้วยความภูมิใจ อา...รู้สึกชื้นๆตรงหัวตาเลยครับ พี่เทมของผมเก่งขึ้นทุกวัน วันนี้เขาถึงกับสั่งสลัดจานโตมาทานเอง ถึงจะทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลาที่เคี้ยวจนผมลุ้นแล้วลุ้นอีก ถือผ้าเช็ดหน้าเตรียมปลอบเขาเต็มที่ เผื่อเขาร้องไห้กลางคันระหว่างต่อสู้กับผักสลัดจานโต แต่ท้ายสุด สุดท้ายเขาก็ทานหมดครับ



          ความรู้สึกเวลามีลูก ผมว่าผมเข้าใจนะ...ความรู้สึกของผมตอนนี้น่าจะพอๆกับตอนพ่อแม่เห็นลูกตัวน้อยๆเรียนจบปริญญาเอกด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเลยล่ะครับ


          หยิบผ้าซับน้ำตาก่อนจะลูบผมนิ่มด้วยใบหน้าปลื้มใจไม่ต่างกัน



ออฟไลน์ ZOFIARIN

  • ▇ โซเฟียริน • อวยพระเอก ▇ Whәи ɴᴏᴛʜɪɴɢ is یuгe , eveяything is possißle ♡
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
    • Twitter


          "พวกมึงนี่...สติไม่ดีเหรอวะ..." คาร์โลถามหน้าตาจริงจัง

          ไอ้เต้กรอกตาตอบเสียงเรียบ "เหอะ มึงถามว่าพวกมันเคยมีสติด้วยเหรอน่าจะใช่กว่า แม่ง รำคาญญญญ กูล่ะอยากจะถีบเรือเป็ดหนีไปทำนาอยู่ดาวเนปจูน"



          ดูท่าโลกสีชมพูของผมกับเทมจะช่วยหลอมส่วนเกินสองชิ้นให้เป็นชิ้นเดียวกันนะครับ ไม่ทันที่จะได้ไล่ให้มันไปทำนาที่ต่างดาว เสียงแหกปากเป็นเอกลักษณ์ก็แววมาให้ได้ยิน


          "กูมาแล้วเพื่อนร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก~!---!?!หม่อมแม่ชุบแป้งทอด! ไอ้เชี่ยควายโล!?!"


          น้ำที่วิ่งเข้ามาทั้งๆที่ยังสวมผ้ากันเปื้อนชะงัก ก่อนแหกปากตะโกนลั่นจนผู้ใหญ่หลายคนเดินมาดู


          "ไม่มีอะไรครับ ไม่มีอะไร เพื่อนผมตกใจจิ้งจกคลอดลูกเฉยๆ.....มึงเสียงดังทำไมเนี่ยไอ้น้ำ! เบาๆดิวะ"


          ไอ้น้ำที่ช็อกไปแล้วเพิ่งคว้านหาสติตัวเองเจอ พอหาสติเจอมันก็ตั้งท่าจะแหกปากอีกรอบ ไอ้เต้รีบลุกจากเก้าอี้ไปลากเพื่อนตัวเองมานั่งข้างตัวใช้แขนรัดพร้อมฝ่ามือปิดปากแน่น ไอ้คนตัวเล็กสุดของกลุ่มดิ้นไปมาอย่างรุนแรง


          "อื้อ ไอ้อายโอ เอ้อ้อยกู อื้อ! --ไอ้อัสสสสสสสสสส"

          "ไอ้เชี่ยน้ำ! อย่ากัดมือกู!"

          "เต้ เต้ครับ น้ำ น้ำอย่างแกล้งกัน อย่าแกล้งกันนะครับ เป็นเพื่อนกันนะครับ"


          เด็กน้อยของผมร้อนรนเมื่อเห็นเพื่อนเล่นกันแรงเกินไปต่อหน้าต่อตา จนผู้ชมนอกสนามอย่างผมต้องช่วยด้วยการเอามือจุ่มน้ำแล้วสะบัดใส่พวกมันให้เย็นลง ไอ้น้ำหันขวับมองตาขวาง


          "เชี่ยหมู!"

          พอเห็นไอ้คนตัวเล็กเสียงดัง พี่เทมสะดุ้งโหยงแต่ก็รีบอ้าแขนบังผมเอาไว้ "น้ำครับ น้ำ อย่าว่าหมูหย็องนะครับ อย่าดุๆๆน้องหมูหย็องนะครับ"

          "กูไม่ได้ดุ กูด่าเลยโว้ยย เข้าตากูด้วยไอ้เวร หยิบทิชชู่มาให้กูหน่อย"



          คนที่อยู่ใกล้ทิชชู่มากที่สุดอย่างคาร์โลหยิบแล้วยื่นส่งให้ ไอ้คนแสบตารับไปอย่างไม่รู้ตัวก่อนจะทำหน้าตาเหวอ เมื่อเพิ่งรู้ตัวตอนเช็ดหน้าเช็ดตาเสร็จแล้วว่าใครเป็นคนช่วยส่งกระดาษให้ตัวเอง


          "มึงมาได้ยังไงเนี่ย! แล้ว แล้วใครพามึงมา มึงมาทำไม มึงจะมาหาเรื่องพวกกูเหรอ!? จะไฝว้เหรอสาดดดด หรือมึงมาดักรอลักพาตัวกูไปรุมกระทืบ บอกเลยกูไม่กลัวนะโว้ยยย"


          คาร์โลทำหน้าเหม็นเบื่อใส่คนที่ยืนชี้หน้า


          เต้กระตุกแขนแฝดตัวเองให้นั่งลง "ใจเย็นไอ้เตี้ยน้ำเพื่อนรัก"

          "กูไม่ได้เตี้ย! กูแค่--"

          "สูงน้อย" ไอ้เต้ช่วยต่อประโยคให้จนไอ้น้ำถลึงตาใส่

          "พวกมึงหักหลังกูไปเข้าพวกกับมันเหรอวะ ไม่ได้นะเว้ย! มันแย่งแฟนกู!"


          น้ำตบโต๊ะดังปัง ใส่อารมณ์เต็มที่


          "แฟนๆๆ แฟนที่ภาษาอังกฤษสะกดว่าเอฟเอเอ็นอ่านว่าแฟน แฟนที่แปลว่าพัดลมเหรอครับน้ำ คาร์โลเป็นขโมยเหรอครับ ต้องแจ้งคุณตำรวจแตะๆจับๆไหมครับ?"


          แล้วคนกำลังโกรธก็แทบจะล้มตึงกับคำถามใสซื่อของเพื่อนตัวสูง ดวงตาสีน้ำตาลที่ฉาบไปด้วยความสงสัยทำเอาน้ำต้องวางความโมโหลงแล้วหันหน้ามาตอบคำถาม ตอบไปก็กรอกตาหมุนวนเป็นเลขสิบสองไทยไปด้วยความหน่ายใจ


          "ไม่ใช่แฟนอันนั้น มึงอย่าแปลสิวะ คำตรงตัวเลย แฟนอ่ะแฟน คนชอบกันน่ะ"

          "อ๋อๆๆๆๆๆ"

          "เออ กูโกรธต่อนะ ไอ้ห่า ขัดจังหวะกูเหลือเกิน"



          ติ๊ง ♪



          เสียงข้อความโทรศัพท์ผมเข้าดังขัดจังหวะน้ำอีกรอบ สามคนหันมามองผม โดยเฉพาะคนที่เพิ่งมาที่จ้องจนตาแทบจะถลน


          "ขอโทษทีครับ พูดต่อได้เลย"

          "เออ มันแย่งแฟนกู! แย่งแฟนเพื่อนมึงเลยนะ พวกมึงต้องโกรธเป็นเพื่อนกูดิ"

          "กูก็โกรธมันช่วยมึงมาตั้งนานหลายปีแล้วไง มึงวิ่งมาฟ้องพวกกู พวกกูก็ไปช่วยตลอด ต่อยกันบ่อยจนกูแทบจะย้ายจากชมรมบาสไปเข้าชมรมมวยกับมันแล้วเนี่ย แถมหลังๆมานี้กูก็ไม่เห็นมึงกับมันจะยุ่งเกี่ยวกัน มีเรื่องรอบนี้มึงก็ไปหาเรื่องมันก่อนนะน้ำ"



          ไอ้เต้ที่คงเบื่อไอ้นิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นแง้วๆ เหมือนชิสุโดนแย่งน่องไก่ของไอ้น้ำพอกันกับผมเท้าคางมองเพื่อนสนิทตัวเองทำหน้าบึ้ง ถูกของไอ้เต้ครับ ไอ้น้ำที่ติดนิสัยลูกคนเล็กโดนตามใจจนเคยตัว พอมีเรื่องมันก็วิ่งมาฟ้องพวกผม ฟังแรกๆก็พอจะอินหรอกนะครับ หลังๆรู้สึกเรื่องที่ไอ้น้ำเอามาฟ้องนี่ชักจะแฟนตาซีใส่ไฟคู่แข่งจนพวกผมหน่าย เลยปล่อยมันแง้วๆไปแทน คู่แข่งที่ไอ้น้ำเรียกคนนี้ผมก็เห็นห่างกันมาตั้งเกือบปี เพิ่งจะรีเทิร์นมามีเรื่องกันก็เมื่อตอนไอ้น้ำไปปากเสียใส่นี่เอง


          และพวกผมก็รู้จักนิสัยมันดี รู้ว่ามันเอาแต่ใจ ติดเล่น บางครั้งก็ชอบปากหมาใส่คนอื่นก่อน เลยช่วยมันโกรธดะไม่ได้หรอกครับ ยกเว้นตอนจะมีเรื่องต่อยตีกันก็อีกเรื่องหนึ่ง อันนั้นก็ต้องช่วยเป็นธรรมดา แต่จะให้เจอหน้าก็ด่าๆ ทำตัวไร้สาระไร้สมองอย่างแค่มองหน้าแล้วหมั่นไส้ เจอหน้าแล้วเดินเข้าไปเตะเดินไปผลักไปหาเรื่องน่ะโคตรจะไม่มีอารยธรรม คนเราต้องมีเหตุและผลกันบ้าง



          "เป็นมึง มึงก็โกรธไอ้เต้!"

          "โกรธอ่ะโกรธ แต่ประเด็นคือผู้หญิงคนหลังๆเขาก็ไม่ได้คบกับมึงไงไอ้เพื่อนรัก มึงแค่ไปตามจีบแล้วไอ้คาร์โลก็ไปขวาง ถ้าเป็นสถานะแฟนจริงๆพวกกูก็ช่วยเหมือนเดิมแหละ โอเคไหม"

          "พวกมึงไม่รักกูแล้วเหรอวะ!"


          ทีนี้คนตัวเล็กก็ใจน้อยไปเลยครับ มันหันมาจ้องพวกผมทีละคน ตาเริ่มแดงปากเริ่มเบะ


          "น้ำครับน้ำ ไม่ร้องนะครับ เทมเป็นเพื่อนน้ำนะครับ คาร์โลอย่าแกล้งน้ำนะครับ น้ำไม่ร้องนะๆๆ"

          "ไอ้เหี้ย...อย่าร้องดิวะ"



          ระหว่างเพื่อนสองคนช่วยกันปลอบ ผมก็อ่านข้อความหรือ 'รายงาน' ที่ฝากเลขาหาให้เมื่อสักครู่จบพอดี ผมอยากได้ข้อมูลของคาร์โลครับ หมอนี่ดูหน่วยก้านใช้ได้ เด็กในวัยนี้หายากมากที่จะรับมือผมได้นานๆ จากที่เคยมีเรื่องด้วยไปครั้งสองครั้ง คาร์โลรับมือผมได้นานเกินห้านาที ทำให้ประทับใจในฝีมือไม่น้อย แต่ที่ผ่านมาผมไม่ได้สนใจ เพราะมันเรื่องของไอ้น้ำ และคนเก่งกว่าคาร์โลก็มีเกลื่อน ยิ่งอีกฝ่ายมีเรื่องก็ไม่เคยเอาไปฟ้องอาจารย์ ซัดกันเสร็จแล้วก็จบกันไป หลังๆผมเลยปล่อยไอ้เต้ไปช่วยน้ำคนเดียว แต่ตอนนี้พอมารู้ว่าเขารับจ้างเป็นบอดี้การ์ดมันก็ต่างออกไป



          บอดี้การ์ดผู้ใหญ่ที่มีอยู่ติดข้อจำกัดหลายอย่างทำให้ไม่สามารถเข้ามาเฝ้าตามติดตลอดเวลาได้ ผมเคยเสาะหาบอดี้การ์ดมืออาชีพที่อายุยังน้อยหลายสิบคน เฝ้าคัดเลือกยอดฝีมือเพื่อหามาปกป้องเทมปุระ แต่แล้วก็ต้องพับโครงการเข้ากรุ เพราะเด็กพวกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นมืออาชีพจนเกินไป ด้วยวัยด้วยอะไรหลายๆอย่าง ทำให้พวกนั้นถูกฝึกจนเหมือนหุ่นยนต์ ไร้อารมณ์ เย็นชา แข็งกระด้าง เด็กน้อยของผมที่สัมผัสไวต่ออารมณ์ด้านลบทำให้เขากลัวจนร้องไห้จ้า



          ภาพของเทมที่เล่นตุ๊กตาและพูดคุยกับคนแปลกหน้าได้เป็นอีกอย่างที่ผมแปลกใจมาก เทมเคยเจอคาร์โลมาหลายสิบครั้งแล้วก็จริง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาคุยกัน เทมดูไม่กลัวทั้งๆที่คาร์โลหน้าตาดุดันและตัวโตใหญ่



          ยิ่งพออ่านประวัติ




       ...ผมคิดว่าเขาเหมาะสม...




          สุนัขที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดี แข็งแกร่ง และที่สำคัญที่สุดคือสามารถติดตามไปได้ทุกหนทุกแห่งเพื่อปกป้องหัวใจแสนสำคัญ ในอนาคตข้างหน้าพื้นที่ข้างกายผมจะอันตรายยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ในโรงเรียนก็ไม่ใช่เรื่องที่จะปล่อยผ่าน...เรื่องที่ผ่านมายิ่งทำให้ผมระมัดระวังมากยิ่งขึ้น


          ไม่ใช่แค่ทางธุรกิจ แต่สันดานมนุษย์ปกติชนก็สามารถทำร้ายแก้วตาดวงใจของผมได้แล้ว


          ผมต้องการสุนัขเฝ้ายามที่ดุพอ คอยเฝ้าดูแลเขาตอนผมไม่อยู่ด้วย




          "สัญญาว่าจ้างเป็นบอดี้การ์ดเหลืออีกหกเดือน หลังจากนั้นสนใจมาเป็นบอดี้การ์ดให้เทมไหมครับ"
คาร์โลหันขวับมามองผม แววตาเบื่อหน่ายเปลี่ยนเป็นดุดัน อืม...น่ากลัวใช้ได้ทีเดียว ไอ้น้ำที่บ่นไม่หยุดถึงกับชะงักกับบรรยากาศที่เปลี่ยนไป


          "มึงรู้รายละเอียดสัญญาได้ยังไง!?"

          "ตอบคำถามผมก็พอครับ"

          ไอ้น้ำที่โดนขัดบ่อยจนดูท่าภูเขาไฟในน้ำจะเริ่มมอด หันไปถามแฝดคู่ซี้ของตัวเอง "บอดี้การ์ดอะไรวะ????"

          "ไอ้โลมันเป็นบอดี้การ์ดของริน รินที่เป็นลูกท่านรอง เด็กอนุบาลเพื่อนไอ้เทมน่ะ"

          "ห๊า!?! อายุเท่านี้อ่ะนะ!? บอดี้การ์ดเด็กสุดของกูยังอายุยี่สิบเลยนะเว้ย"

          "เออ เจ๋งดีเนอะ ทำไมมึงถึงมาทำงานนี้วะ"

          "บอดี้การ์ด บอดี้การ์ดแบบองครักษ์เหรอครับ หูวววววววว คาร์โลเท่ๆๆจังเลย ใส่แว่นตาดำแล้วก็ใช้กระเป๋ายิงปิ้วๆๆได้ด้วยใช่ไหมครับ แล้วก็ห้อยหัวจากบนเพดาน แล้วก็ๆๆไต่ไปตามท่อแอร์ใช่ไหมครับ"

          "ไอ้เทมนั่นมันสายลับแล้ว"

          "ทำไมกูฟังแล้วคิดถึงผีช่องแอร์วะ..."


          คาร์โลไม่ได้สนใจเสียงถามเจื้อยแจ้วของสามคน แต่ยังคงมองผมด้วยสายตาจริงจัง อืม...เขาจับไต๋ง่ายไปหน่อยนะครับ ถ้าเซ็นสัญญากันแล้วคงต้องให้เขาไปฝึกเพิ่ม


          "...ถ้ามึงบอกใคร กูจะกระทืบมึงให้ตายคาตีนเลย"

          "อย่าเห่าให้กลัวเลยครับ ฝีมือคุณสู้ผมไม่ได้หรอก ไม่ต้องคิดในใจว่าที่ผ่านมายังไม่ได้เอาจริง ...ถึงคุณเอาจริงก็แพ้ผมอยู่ดีในทุกๆด้าน แค่จุดยืนลูกจ้างกับเพื่อนเจ้านายก็คนละชั้นกันแล้ว"


          ยิ้มไม่แสดงอารมณ์ให้คนที่กัดฟันกรอดโต้เถียงไม่ได้


           สองแฝดที่ตอนนี้กลับมาเป็นปกติเริ่มกรี๊ดกร๊าดน่ารำคาญ



          "กรี๊ดดด! มึงงงง ไอ้หมูโหมดร้ายร้ายว่ะ"

          "องค์พ่อลงเว้ย พ่อมาว่ะพ่อมา"

          "คุณปะป๊ามาเหรอครับ!?"



          เพื่อนซี้หันมองหน้ากันแล้วถอนหายใจ เต้กวักมือหยอยๆ "เฮ้อ มาแดกน้ำแข็งไสกับกูมาเทม ปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาคุยกันไปเถอะนะลูกนะ"


          เด็กน้อยที่โดนล่อหลอกหลงกลอย่างง่ายดาย "น้ำแข็งไส! น้ำแข็งไสๆๆๆๆ อะ ไม่ใช่ๆๆๆ อะไรเหรอครับ น้องหมูหย็องคุยอะไรกันเหรอครับ พี่เทมก็โตๆๆๆเป็นวัยสะใหญ่แล้วนะครับ เทม เทมอายุสิบหกแล้วนะครับ คุยเรื่องผู้ใหญ่ๆได้เหมือนกันนะครับ" อา...รู้สึกดีจังเลยครับที่เขาเป็นห่วงผมมากกว่าขนม นึกอยากรั้งใบหน้าน่ารักนั่นเข้ามากดจูบ แต่คนก็มากมายเกินกว่าจะทำ จนได้แต่ลูบผมนิ่มมือแล้วหยิบช้อนให้เขาตักของหวานทานแทน


          "คุยเรื่องหนังกันเฉยๆครับ พี่เทมทานขนมนะครับ"



          พอเห็นองค์ชายติดลมกับของหวานตรงหน้าแล้วผมก็หันมาเจรจาต่อ



          "คุณอาจจะสงสัยว่าทำไมผมรู้ แต่ผมคงบอกถึงวิธีการไม่ได้ เอาเป็นว่าผมรู้ทุกอย่างก็แล้วกัน ...ใช่ครับ เรื่องพื้นเพกำเนิดและพี่น้องของคุณทั้งสิบคนด้วย"

          "หา!? พี่น้องสิบคน กูว่าบ้านไอ้หมูเยอะแล้วนะ นี่มึงมีเป็นสิบเลยเหรอ!?"

          ใบหน้าที่มีรอยบากซีดเผือด "อย่ายุ่งกับพวกเขา!!"




          จุดอ่อนจริงๆด้วย...

          ผมยิ้มกริ่ม


          "ไม่ยุ่งหรอกครับ ผมแค่มายื่นข้อเสนอซื้อต่อสัญญาก็เท่านั้น ...ค่าจ้างมากกว่าที่คุณได้สี่เท่าและเป็นสัญญาซื้อขาด คุณไม่จำเป็นต้องเร่ร่อนไปปลอมอายุสมัครเข้าบริษัทจัดหาผู้ดูแลที่ไหนอีก ความเป็นอยู่และโรคของน้องคุณจะได้รับการดูแลจนหายดี การศึกษาก็ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะออกทุนให้ถือว่าเป็นสวัสดิการ"


          สีหน้าอึ้งและทึ่งของอีกฝ่ายดูแปลกประหลาดจนนึกดีใจที่เทมยังก้มหน้าก้มตาทานของหวาน ไม่งั้นเดี๋ยวเด็กน้อยของผมเห็นแล้วจะเอาเก็บไปฝันร้ายก็เป็นได้



          "เหี้ย...มึง...มึง..."

          "อย่างแรกที่ต้องแก้ไขถ้ามาเป็นบอดี้การ์ดของเทมคือต้องลดคำหยาบนะครับ"

          "มึง...ไอ้หมู มึงเอาจริงดิ"



          คาร์โลอ้าปากพะงาบๆ แต่ผมไม่สนใจ เข็มสั้นบนนาฬิกาข้อมือบอกเวลาว่าหมดพักเที่ยง ผมต้องไปทำงานต่อ และเทมปุระก็ต้องไปแปรงฟันหลังอาหารแล้วเตรียมเข้าเรียนพิเศษ ผมจัดการหยิบผ้าเช็ดหน้าซับมุมปากที่เลอะของเด็กชายฟ้าประทาน ช่วยดึงมือเขาลุกขึ้น พูดต่อและเริ่มออกเดินโดยไม่สนใจคนนั่งอึ้งทั้งสาม


          "พี่เทมครับ เดี๋ยวน้องหมูจะไปส่งที่ห้องอาจารย์ แล้วสักบ่ายสามหญิงจะมารับไปซ้อมกีฬาสีนะครับ ส่วนคาร์โลรายละเอียดผมจะให้เลขาส่งให้คุณในอีเมลอีกที คุณคงฉลาดพอที่จะรู้ว่าราคาไหนถึงคุ้มค่าที่จะเสี่ยงชีวิตปกป้องนะ หวังว่าจะได้เห็นลายเซ็นคุณบนสัญญาเร็วที่สุด ...พี่เทมครับ! ไม่แวะร้านขนมแล้วนะครับ"





               เฮ้อ หรือจริงๆแล้วผมควรหาแม่ครัวทำขนมหวานเพิ่มมากกว่าบอดี้การ์ดกันนะ...









end 43 .
twitter #เพื่อนผู้ปกครอง

ถูมือ ฮี่ฮี่ย์
เปิดตัวตัวละครตบมุกอีกคน จะได้เป็นแก๊งสามช่า 555 #ผิด
เรื่องราวจะเริ่มเจ้มจ้นขึ้นต่างหากสิ!

ปล.
ขอโทษนะคะที่ลงช้า ช่วงนี้เก๊างานยุ่งมากจริงๆ
(ทำชดใช้เวรที่หยุดยาวไปค่ะ ฮือออ O<--<)
เดี๋ยวต้องไปทำงานที่หัวหิน แล้วเจอกันวันอังคารนะคะ

โซเฟียริน
zofiarin lll moore










CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mizunoe

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดถึงมากเลยยยยยยยยย
ยินดีมากๆที่ได้กลับมาหาเรื่องนี้ต่อค่ะ
ยอมโดนคาร์โลด่าว่าสติไม่ดีเลยถ้าจะได้เห็นความพี่เทมต่อไป 555555555

งานยุ่งกันน่าดู

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
ไม่เคยผิดหวังกับความใสซื่อของพี่เทม
เป็นทุกอย่าง ... คุณหมอเทม ที่ตรวจคนไข้แค่คนเดียว
เป็นพี่เทม "เซะซี่ ๆ ปากจุ๊ดจู๋"
เป็นเพื่อนมารยาทดีของน้อง ๆ อนุบาล
ที่สำคัญ ห่วงใยเพื่อนทุกคน 555+ 

รักอะ รักพี่เทมมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :กอด1:
 

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ ZOFIARIN

  • ▇ โซเฟียริน • อวยพระเอก ▇ Whәи ɴᴏᴛʜɪɴɢ is یuгe , eveяything is possißle ♡
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
    • Twitter








44









 

 

          ไม่ว่ายังไง ผมก็สงบใจเรื่องที่พี่เทมสามารถพูดกับคนที่ไม่เคยแม้แต่จะคุยกันสักครั้ง...ไม่ได้อยู่ดี สำหรับเทมแล้วการจะชวนใครสักคนสนทนาก่อนเป็นเรื่องยากมาก ถึงจะเป็นคนที่เคยเห็นหน้าบ่อยๆ ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ยิ่งคาร์โลเป็นผู้ชายรูปร่างใหญ่โต หน้าตาถมึงทึงดูดุโหด ชวนให้คิดไปถึงคนร้ายที่เคยลักพาตัวเมื่อหลายปีก่อน ยิ่งน่าฉงนและไม่น่าพอใจ ว่าทำไมเจ้าหมอนั่นถึงได้แหกกฎเด็กน้อยของผมได้


          สถานะคนพิเศษของเด็กชายฟ้าประทาน ผมอนุญาตให้มีได้แค่เพียงคนเดียว และสถานะนั้นก็ถูกครอบครองโดยผม ใครฉายแววเป็นศัตรูจะมาแก่งแย่ง...ก็ไม่ลังเลที่จะจัดการตั้งแต่เนิ่นๆก่อนจะยุ่งยาก


          แม้จะอยากรู้แทบขาดใจ แต่ผมก็ไม่กระโตกกระตาก ยังคงจับจูงมือเขาเดินด้วยจังหวะสม่ำเสมอ ยิ้มและพูดคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้กับเขาได้อย่างนุ่มนวล จนในที่สุดก็วกเข้าหัวข้อที่ผมต้องการ

 

          “ใช่ครับ พอจินมาโชว์นักกีฬาหลายคนก็เลยหยุดซ้อมแล้ววิ่งไปหยิบรองเท้าของตัวเองมาอวดกันแทน จนน้องหมูต้องมาจับแยกย้าย โหวกเหวกกันน่าดูเลย...แล้ว...วันนี้พี่เทมเล่นอะไรกับมี่มี่กับรินครับ?”



          “เล่นเจ้าหญิงเจ้าชายจ่ายตลาดครับ เทม เทม พี่เทมอยากให้น้องหมูหย็องมาเล่นด้วยกันมากเลยครับ แล้วพี่เทมจะเป็นองครักษ์ให้เจ้าชายน้องหมูหย็อง ตอนไปซื้อกับข้าวเองนะครับ อะ…แต่ว่าๆๆๆ บางทีก็ไม่ได้เล่นเจ้าหญิงเจ้าชาย แต่เล่นเป็นร้านอาหาร เป็นคุณกุ๊กๆๆนะครับ”



          “ฟังดูน่าสนุก ไว้วันหลังน้องหมูจะไปเล่นด้วยนะครับ แล้ว...คาร์โลมาเล่นด้วย พี่เทมไม่ตกใจเหรอครับ?”



          “คาร์โล…? อ๋อๆๆๆ คาร์โลๆๆๆๆ พี่เทม พี่เทมไม่ตกใจครับ แต่ว่า แต่ว่าก็กลัวๆๆๆ เยอะแยะอยู่นิดหน่อยครับ แต่รินบอกว่าคาร์โลไม่อันตราย มี่มี่ก็บอกว่าคาร์โลแค่หน้าดุ เพราะถ่ายไม่ออกหลายเดือนเฉยๆๆๆ พี่เทมก็เลย อ๋อๆๆๆ คงเพราะคาร์โลท้องผูก ตัวก็เลยบวมๆ ใหญ่ๆ ดูน่ากลัวๆ นี่เอง แล้วก็ แล้วก็พี่เทมกลัวคาร์โลไม่รู้ครับ ว่าไม่ดีๆๆ ทุกคนต้องถ่ายปุ๋งๆทุกวัน ตอนพี่เทมถ่ายปุ๋งๆๆไม่ออกสองวัน น้องหมูหย็องยังบอกว่าไม่ดี ต้องหาคุณพี่หมอ พี่เทมเลย เลย เลยอยากบอกให้คาร์โลไปหาคุณพี่หมอครับ เพราะไม่ดีๆๆต่อร่างกาย”




          คนถ่ายไม่ออกไม่ทำให้ตัวโตมีกล้ามหน้าโฉดนะครับพี่เทม…กล้ามบวมปุ๋งๆไม่ได้นะครับ...



          ไม่รู้จะทำหน้ายังไงดีกับจินตนาการแสนล้ำ เอาเป็นว่ายิ้มไว้ก่อนแล้วกันครับ

 

          ถอนหายใจอย่างโล่งอก โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

 

          เพราะมีตัวแปรเข้ามาเกี่ยวข้อง...เขาถึงได้กล้าพูดคุยด้วยสินะ อย่างที่รู้กันว่าพื้นฐานเด็กน้อยของผมเป็นคนขี้กลัว แต่เขาไม่ใช่คนขี้ขลาด เป็นคนอ่อนโยน ใจดี ช่างเป็นห่วงและช่างสังเกต พอถูกบอกอย่างนั้น เจ้าตัวก็คงจะปล่อยคนที่ท้องผูก ให้ท้องผูกต่อไปอีกหลายเดือนไม่ได้ จนต้องช่วยบอกให้ไปหาหมอ แล้วพอคุยไปคุยมาก็เริ่มชิน กอปรกับมีรินแล้วก็มี่มี่อยู่ด้วย เด็กน้อยคงหายเกรงไปได้พอสมควร


          “แบบนี้นี่เอง…”

          พี่เทมคงนึกว่าผมพูดเรื่องท้องผูก เขาหันมาบอกด้วยสีหน้าเป็นห่วง เริ่มสวมบทบาทนายแพทย์เอ่ยเตือนย้ำ

          “ใช่ครับ ไม่ดีๆๆ นะครับ ถ้าน้องหมูหย็องไม่ปุ๋งๆๆ ทุกวัน ก็ต้องรีบไปหาคุณพี่หมอนะครับ”

          ผมยิ้มรับ “ครับ พี่เทมก็ต้องทานผักทานผลไม้เยอะๆนะครับ จะได้ถ่ายทุกวัน”


          คุณหมอส่วนตัวของผมถึงกับชะงักค้าง ก่อนจะพยักหน้าอย่างเชื่องช้าจนคล้ายภาพสโลว์โมชั่น ดวงตาสีน้ำตาลสวยขยับหลุกหลิกหลบหนี ขมุบขมิบปากพูดเสียงเบา


          “พี่เทม พี่เทมก็ ก็ทานเยอะแยะๆๆแบบนิดหน่อยอยู่นะครับ”

          “หึหึหึ เยอะแยะกับนิดหน่อยอยู่ในประโยคเดียวกัน นี่ยังไงกันแน่ครับ”

          “แต่ว่าๆๆๆ ตอนเที่ยง ตอนมื้อกลางวัน พี่เทมก็ทานผักสลัดจานโตๆๆๆได้ด้วยนะครับ หม่ำๆๆคุณมะเขือเทศไม่เหลือเลยด้วย”

          “พี่เทมเก่งมากๆ เก่งที่สุดเลยครับ”


          พอถูกเอ่ยชมเด็กชายก็แก้มขึ้นสีระเรื่อ รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าอ่อนเยาว์ เขายิ้มเบิกบาน มือที่จับก็แกว่งไกวเร็วขึ้นอย่างเขินอาย


          “พี่เทม พี่เทมพยายาม อยากพยายามให้เยอะแยะๆๆ เหมือนน้องหมูหย็องที่พยายามเยอะๆๆๆ เลยครับ น้องหมูหย็องพยายามเยอะแยะๆๆๆ มากๆๆ เก่งมากๆ เก่งสุดยอด เก่งที่สุด จะเป็นพี่ของน้องหมูหย็องคนเก่ง ก็ต้องเป็นพี่เทมคนเก่ง พี่เทมคนเก่งจะได้เป็นพี่ของน้องหมูหย็องคนเก่งได้ไงครับ”


          หัวใจบีบรัดด้วยความดีใจ ความพยายามในความเงียบที่ไม่มีใครสนใจ หยาดเหงื่อที่ตกลงบนพื้นแผ่วเบาจนไร้ผู้ใดได้ยิน ทุกคนต่างล้วนมองแค่ผล แต่ไม่มีใครรู้ว่าทุกความสำเร็จ ผ่านการฝึกฝนและพยายามขนาดไหน ต่อให้เป็นอัจฉริยะแต่ถ้าขาดการฝึกฝนไป ก็เป็นเพียงหุ่นโง่ๆที่มีไอคิวสูงกว่าคนอื่น ทุกความพยายามที่ไม่มีใครเห็น มีเขาที่รับรู้ การถูกเขาเฝ้ามองและกล่าวชมอย่างจริงใจ ทำเอาผมตื้นตัน


          มือที่จับกันไว้ถูกกำแน่นขึ้นก่อนผ่อนออก รอยยิ้มที่กว้างขึ้นและมีความสุขขึ้นทุกครั้งที่ถูกสร้างด้วยน้ำมือของอีกฝ่ายผุดขึ้นบนใบหน้า แม้ผมจะมองไม่เห็นตัวเอง แต่ก็รู้ว่ามันต้องเป็นรอยยิ้มที่สว่างจ้าและอุ่นอวลไปด้วยม่านหมอกแห่งความสุข ส่วนหลักฐานก็ดูได้จากเจ้ากระจกแจ่มใสตรงหน้า ที่กำลังสะท้อนภาพด้วยการส่งยิ้มกว้างมาให้


          “ขอบคุณมากนะครับ...ขอบคุณที่พยายามเพื่อน้องหมูด้วย แต่พี่เทมไม่ต้องฝืนนะครับรู้ไหม แค่พี่เทมเป็นพี่เทมของน้องหมูก็พอแล้ว พี่เทมที่เป็นพี่เทมเก่งที่สุด แล้วก็น่ารักที่สุดเลยครับ”


          ครั้งนี้พี่เทมไม่พยักหน้าเห็นด้วย แต่กลับส่ายหน้าจนผมปลิว


          “ไม่ใช่นะครับ ไม่ใช่นะครับ น้องหมูหย็อง น้องหมูหย็องต่างหากที่ทั้งเท่ ทั้งหล่อ แล้วก็ๆๆๆ น่ารัก น่ารักที่สุด” เด็กชายของผมพูดด้วยเสียงหนักแน่นเหมือนผาหิน บ่งบอกว่าเจ้าตัวเชื่อมั่นอย่างนั้นสุดจิตสุดใจ และเหมือนอีกคนกลัวจะไม่รู้ว่าตรงไหนของผมน่ารักบ้าง เขาเลยก้าวเท้าให้ไวขึ้นแล้วเดินอ้อมมาดักหน้า ใช้อีกมือแตะไปตามส่วนต่างๆของผมอย่างแผ่วเบา แล้วเริ่มบอกว่าตรงไหนที่น่ารักบ้าง



          “ตาก็น่ารัก” ชมตาก็แตะลงที่หางตา


          “จมูกก็น่ารัก” ชมจมูกเขาก็แตะปลายจมูก


          “แก้มก็น่ารัก” ชมแก้มเขาก็แนบฝ่ามือลงมา


          “ปากก็น่ารัก” อ้าฝ่ามือกว้างอีกนิดให้นิ้วโป้งสัมผัสโดนริมฝีปาก และเริ่มเอ่ยชมส่วนอื่นๆอย่างไม่ให้น้อยใจกัน


          “หูก็น่ารัก  คอก็น่ารัก ไหล่ก็น่ารัก ข้อศอกก็น่ารัก ตอนพูดก็น่ารัก ตอนตั้งใจก็น่ารัก ตอนยิ้มก็น่ารัก ...น้องหมูหย็องน่ารักเยอะแยะๆๆๆไปหมดจนพี่เทมนับไม่หมดสักทีเลยครับ” บอกแล้วก็หัวเราะเสียงใส ยิ้มกว้างจนตาหวานโค้งเป็นสะพานสวย



          “น้องหมูหย็องคนเก่งของพี่เทมน่ารักที่สุดในโลกเลยครับ”



          ครั้งนี้กลายเป็นผมที่ชะงักค้างแทน สองขาที่ก้าวเดินอย่างมั่นคงหยุดนิ่งสนิท คำสาปให้กลายเป็นหินไม่ได้มีเพียงเมดูซ่าที่สามารถสาปได้เพียงสบตา แค่เพียงสัมผัสผิวเผินจากคนตัวสูงกว่า ก็ให้ผลไม่ต่างกัน พี่เทมที่คงสงสัยว่าทำไมผมถึงหยุดเดินหันมามอง ตั้งท่าเหมือนจะซักถาม แต่พอมองสำรวจใบหน้าขึ้นสีจัดของผมเขาก็เก็บคำถามไว้ แล้วทำหน้า ‘อ๋อ’  แทน ก่อนพยักหน้าหงึกหงักกับตัวเอง



          “ตอนเขิน...ก็น่ารักมากๆๆๆเลยครับ”



          อา...ให้ตายสิ


          อย่าจู่ๆก็มาจู่โจมกันแบบนี้สิครับ


          เสียงสบถระรัวในหัวสลับปนเปกับเสียงเตือนภัยดังลั่น คำสาปลุกลามไปถึงหัวใจ จนปวดแปลบด้วยความสุข ทว่าอีกฝ่ายคงยังไม่พอใจ เป็นพี่เทมคนใจร้ายที่ยังอยากให้ผมรักเขาจนบ้าคลั่งขึ้นไปอีก ถึงได้ลงมือกระทำการเขย่าความรู้สึกผมให้หลอมเหลวจนแทบระเหยระเหิดหายไปในอากาศ


          ฝ่ามืออุ่นร้อนถูกส่งมาช่วยทัดผมที่ยุ่งกว่าทุกวันเพราะวิ่งวุ่นขึ้นทัดหู พอเส้นผมไม่อยู่เกะกะก็เผยดวงหน้าขึ้นสีชัดเจน ใช้ลูกแก้วสีน้ำตาลสวยมองสำรวจอย่างถี่ถ้วน พอพอใจเขาก็ย้ายมือไปวางบนศีรษะแล้วเริ่มลูบเชื่องช้า พี่เทมอมยิ้มจนแก้มบุ๋ม “น้องหมูหย็องเขินๆๆๆ ใช่ไหมครับ งั้นพี่เทมจะรอน้องหมูหย็องเขินๆๆๆ ให้เสร็จก่อนนะครับ แล้วเราค่อยเดินกันต่อนะ”


          เด็กน้อยที่รู้แล้วว่าอาการหน้าแดงคือเขินอาย และไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด ยืนนิ่งรอ ไม่เอ่ยเร่งเร้า และผมก็ใช้เวลานั้นให้คุ้มค่า ด้วยการกัดปากตัวเองกันไว้ไม่ให้หัวใจทะลักออกมา


          การถูกเขาชมและทำให้ซึ้งในเวลาที่ไม่ห่าง พานพาทุกความรู้สึกให้ถูกกระชากขึ้นมาพร้อมๆกัน ความดีใจ เขินอาย ตราตรึง เหวี่ยงไปมาให้วุ่นวาย ยิ่งกว่าว่าวที่สายป่านถูกตัดขาด ความรู้สึกหลากหลายชนกันรุนแรงจนระเบิดตูมตามไม่หยุด ได้แต่เฝ้าถามตัวเองว่าแก้มร้อนขนาดนี้จะไม่เป็นอะไรจริงๆหรือ ผมจะไม่ตายใช่ไหม ให้ตายเถอะ เจ้าก้อนความสุขของผมช่างร้ายกาจขึ้นทุกวัน


          “แก้มน้องหมูหย็องยังไม่หายแดงเลยครับ งั้นพี่เทมจะช่วยเขินด้วยอีกคนนะครับ”


          พี่เทมผละมือออก แล้วใช้แก้มตัวเองมาดูดสีแดงบนแก้มของผม แก้มแนบแก้ม คิดว่าจะหายไหมล่ะครับ แน่นอนว่าไม่ และให้ผลตรงกันข้ามสุดๆ ไอร้อนที่มากเกินไปเกินจะรับไหว จนได้แต่ยื่นมือสั่นๆไปแตะหน้าเขาให้ออกห่าง พี่เทมเอียงคอสงสัยก่อนยิ้มกว้างดังเดิมเมื่อผมมุดตัวเข้าอ้อมแขนเขา ใกล้ชิดจนสัมผัสได้ถึงก้อนในอกอีกที่คนเต้นรุนแรงไม่แพ้กัน


          หัวใจที่เต้นตึกตักรุนแรง ได้หัวใจอีกคนมาช่วยแบ่งเบาสานจังหวะให้เชื่องช้าอ่อนละมุน


          ยามบ่ายเช่นนี้ เหล่าเด็กนักเรียนต่างเตรียมงานกันอยู่อีกฟากฝั่ง หัวหมุนวุ่นวายอยู่ ณ โรงยิม ทำให้บนทางเท้าหินอ่อนมุ่งไปสู่ห้องเรียนไร้ผู้คนสัญจรไปมา หากมองเรื่อยออกมาจากเส้นทางหินที่ลาดยาว ภายใต้หลังคาธรรมชาติอย่างต้นไม้ใหญ่มีเด็กชายสองคนใช้ร่มเงาแอบซ่อนประพฤติตัวเกเร โดยหัวโจกก็คือท่านประธานนักเรียนผู้น่าเกรงขาม


          เสียงมวลพฤกษาต้องลมช่วยกลบเสียงดูดดึงให้กลมกลืน


          ปากนี่ใช่ไหมที่เอาแต่พูดจาน่ารักอยู่ได้


          หลังจากหัวใจสงบเชื่องช้าไม่นาน ก็เริ่มเต้นแรงในจังหวะที่ต่างออกไป คลื่นยักษ์ของความสิเน่หาซัดใส่จนต้องจับจูงเขามาลงโทษ กลีบเนื้ออ่อนนุ่มบวมแดง เด็กชายไร้เดียงสาโต้ลิ้นกลับมา หลังหายตกใจในการกระทำโผงผาง ความไม่สมควรในสถานที่ยิ่งเป็นฟืนโยนใส่ไฟให้ลุกท่วม และทั้งๆที่เป็นเพียงลิ้มรสภายนอก ไม่ได้รุกล้ำภายในโพรงปากหวาน แต่ก็หวานล้ำราวน้ำผึ้ง เร้าใจจนสติแทบขาดสะบั้น



          แรงกอดรัดรอบเอวแน่นขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่เนิ่นนาน


          ความยับยั้งชั่งใจที่ขาดออก ถูกเรียกกลับคืนมาด้วยเสียงวิทยุสื่อสาร


          ผมค่อยๆคลายติ่งเนื้อฉ่ำวาวออกจากปากอย่างเสียดาย



          สองปากที่หยุดบดเบียด แต่ก็ยังทิ้งหลักฐานการกระทำก่อนหน้า ด้วยหยาดน้ำใสที่เชื่อมต่อกัน พี่เทมมองผมตาละห้อย ทั้งๆที่เพิ่งทานข้าวมาแต่ก็มีท่าทางหิวโหย ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ตัดสายน้ำเชื่อมที่ผูกผมกับเขาเอาไว้ ก่อนอมยิ้ม นางฟ้าตัวน้อยปากยู่ท่าทางขัดใจ น่าเอ็นดูจนต้องย้ายมือที่โอบรัดเอวไปรั้งคอให้ใบหน้านั้นเข้ามาใกล้  แล้วกดจูบหอมปลอบโยน


          บอกเขาด้วยเสียงแหบกว่าปกติ “ให้อาจารย์รอนานไม่ดีนะครับ”

          “น้องหมูหย็อง น้องหมูหย็องแกล้งพี่เทม” นางฟ้าน้อยตัดพ้อ เมื่อถูกปีศาจล่อหลอกก่อนจะหนีหาย

          ผมหัวเราะ “น้องหมูขอโทษครับ น้องหมูไม่ได้ตั้งใจ ก็พี่เทมทำตัวน่ารักก่อนทำไมล่ะครับ”



          เทมปุระตาโต ก่อนส่ายศีรษะปฏิเสธความผิด



          “ไม่ใช่นะครับ น้องหมูหย็องต่างหากที่น่ารักๆๆๆ”

          “พี่เทมต่างหากครับที่น่ารัก”

          “น้องหมูหย็องต่างหากครับ น่ารักเยอะแยะมากเลย”

          “ไม่ใช่น้องหมูเหรอครับ?”


          ยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่นางฟ้าตัวน้อย พอนางฟ้าเห็นเข้า ก็รู้ว่าท่าไม่ดีจากนิ้วสองนิ้วที่ถูกชูขึ้น เตรียมสยายปีกบินหนีทันที แต่ไม่ทันได้ออกวิ่ง ก็ถูกด้ามหอกแสนยานุภาพอย่างนิ้วชี้ จั๊กจี้เข้าที่ท้องอย่างจัง



          “ฮ่าๆๆๆๆๆ น-น-น้อง--- น้องหมูหย็องครับ ฮ่าๆๆๆ อย่าจี๋ๆๆๆ เอว เอว พี่เอม เอม เทม ฮ่าๆๆๆ”

          “ยอมเป็นคนน่ารักหรือยังครับ”

          “ฮ่าๆๆๆ ยอม ยอมแล้วครับ”


          นางฟ้ากลายเป็นลูกแมวตัวเหลวในอ้อมกอด เมื่อหัวเราะเหนื่อยจนหมดแรง ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงเพราะพยายามดิ้นหนีนิ้วพิฆาต


          เด็กน้อยยังหัวเราะต่ออีกนิดหน่อย “พี่เทมหมดแรง หมดแรงแบบเกลี้ยงๆๆๆเลยครับ”

          “หึหึหึ ห้ามดื้อกับน้องหมูนะครับ”

          “พี่เทมไม่ดื้อ ไม่ดื้อครับ”

          “แล้วรู้หรือยังครับ ว่าใครน่ารัก?”

          “น้องหมูหย็องน่ารักครับ!”




          เจ้าเด็กดื้อตาใสคนนี้นี่



          ไม่ทันจะได้ลงโทษเขาต่อ เสียงวิทยุสื่อสารก็ดังด้วยเสียงคุ้นเคย ไอ้น้ำเกรี้ยวกราดมาตามสาย



          [ วอสามเรียกวอไอ้หมู มึงอยู่วอไหนก็ตอบกูด้วยโว้ยยยยยยยยยยยยย ไอ้ห่า ไปส่งไอ้เทมหรือว่าแม่งไปช่วยนาซ่าสำรวจดวงอาทิตย์ ไปแล้วไปลับไม่คิดจะกลับมาทำงานเลยหรือไงวะ!? ]

          [ ไอ้หมู ไอ้ประธาน ไอ้ดิมิทรี กลับมาทำงานได้แล้วเว้ยยยย ]

          [ วอแปดตอบวอหนึ่ง เจอหมูหรือยัง เจอแล้วช่วยให้บอกมาดูซ้อมจริงของพิธีกรรอบสามด้วยนะ ]

          [ วอสิบเจ็ดตอบวอแปด เดี๋ยวๆๆๆ ประธานต้องมาช่วยพวกผมก่อนสิครับพี่ ]


          เสียงโหวกเหวกมากมายดังต่อเนื่องมาตลอด จนถึงตอนนี้คงจะทำเป็นปล่อยผ่านอีกต่อไปไม่ได้

ถอนหายใจเบื่อหน่าย กรอกเสียงตอบ “วอหนึ่งตอบ อีกสิบนาทีถึงโรงยิมครับ”


          เสียงก่นด่าดังมาจากเพื่อนสนิท แต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ เก็บเข้ากระเป๋าดังเดิม จับนางฟ้าตัวน้อยมาจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่ ก่อนจะจับจูงเข้าเส้นทางหลัก ไปห้องเรียนตามความตั้งใจเสียที หลังจากนอกลู่นอกทางมาเกือบครึ่งชั่วโมง















          กี่ครั้งก็ไม่ชิน...



          “วันนี้เดี๋ยวน้องหมูไปรับเร็วหน่อยนะครับ พี่เทมเลิกซ้อมตอนห้าโมงใช่ไหมครับ”

          “ใช่ครับ หญิงบอกตอนเข็มยาวชี้เลขห้า ให้กลับบ้านได้ครับ”

          “โอเคครับ ตั้งใจเรียนนะครับ”

          “น้องหมูหย็องก็ตั้งใจๆๆ นะครับ”


       เราสองคนมองตากัน มือยังประสานไม่ปล่อย แม้จะเอ่ยคำร่ำลาแล้วก็ตาม

          อยากพูดคุยด้วยอีกไม่รู้จบ อยากอยู่ด้วยตลอดเวลา



          แต่อาจารย์ที่ยืนรออยู่หน้าประตู ยิ้มแซวเงียบๆ พร้อมชี้มือมาที่เครื่องมือสื่อสารที่เอาแต่ร้องเรียกชื่อผมเสียงดัง เป็นเชิงบอกกลายๆ ว่าผมควรไปทำหน้าที่ได้แล้ว ถึงไม่อยากแยกตัวออกมา แต่ก็ต้องยกมือขึ้นบ๊ายบายเด็กชายตัวน้อย พี่เทมเม้มปากแน่น ก่อนจะยกมือโบกตอบด้วยใบหน้าหงอยเหงา



          ไม่ชินเลยจริงๆครับกับการต้องหันหลังเดินออกมา


          แค่ช่วงเสี้ยววิที่ต้องกะพริบตา เสี้ยววิที่ไม่เห็นหน้า ผมก็คิดถึงแล้ว ประสาอะไรกับตั้งหลายชั่วโมง



          ...ดูสิครับ หันหลังมาไม่ถึงหนึ่งนาทีก็คิดถึงจะแย่แล้ว เฮ้อ...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2018 15:55:29 โดย ZOFIARIN »

ออฟไลน์ ZOFIARIN

  • ▇ โซเฟียริน • อวยพระเอก ▇ Whәи ɴᴏᴛʜɪɴɢ is یuгe , eveяything is possißle ♡
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
    • Twitter





          “เล่ามาให้หมดเลยนะโว้ย!!!”


          หลบลี้หนีมันได้ครึ่งวัน เจ้ากรรมนายเวรที่มาในรูปแบบของเพื่อน ก็เกาะหลังตามติดมาโผล่อยู่หน้ารถ ลุงคนขับทำหน้าลำบากใจ แน่ล่ะครับ ผมไม่ชอบให้ใครมาใช้รถส่วนตัวของผมกับเทม แต่ไอ้น้ำคนหน้ามึนก็ไม่สนใจ พอลุงชื่นเห็นพวกผมสองคนเดินมา ก็เปิดประตูรอรับ แต่เจ้าของไม่ทันได้ก้าวขึ้น ก็มีคนวิ่งแทรกขึ้นไปนั่งก่อน ยังดีที่มันมุดไปนั่งเบาะหลัง ถ้านั่งทับรอยเทมนี่โดนผมต่อยหน้าแหกแน่ๆ


          ตั้งใจจะไล่ให้มันลง แต่เทมปุระก็ตื่นเต้นจนรีบทักขึ้นเสียก่อน


          “น้ำ น้ำ น้ำจะกลับบ้านกับเทมกับน้องหมูหย็องเหรอครับ”

          “เออ ขอกลับด้วยคนดิ”


          พี่เทมหันมามองอ้อนขอกับผม แล้วผมจะทำอะไรได้ครับ นอกจากยิ้มให้แล้วพยักหน้า


          “เย้ๆๆๆ แล้วเต้ เต้กลับด้วยไหมครับ เหมือนตอนไปทัดสะนาจึกจาเลยครับ นั่งด้วยกันๆๆๆ”

          “ไอ้เต้ไม่มาว่ะ ซ้อมบาสยาวๆไป”

          ผมหันหน้าออกจากวงสนทนากับอเล็กเซย์ ช่วยแก้คำผิด “ทัศนศึกษาครับพี่เทม”

          “ทัศนศึกษาครับ”

          พยักหน้าพอใจ ก่อนหันมาคุยธุระต่อ “งั้นผมจะให้รถมารับตอนสองทุ่มนะครับ มีทั้งหมดแปดคน อาจจะต้องแบ่งเป็นสองคัน”

          “ไม่ต้องลำบากหรอกหมู คันเดียวก็ยัดกันได้ มาเป็นขบวนรับส่งทุกวันก็เกรงใจแล้ว นี่ยังต้องมาแบ่งรอบรับอีก”

          “ไม่เป็นไรครับ สองทุ่มเจอกันครับ”

          “เอางั้นเหรอ...ได้ๆ ขอบใจมาก”


          กำชับอะไรอีกนิดหน่อยก็ปลีกตัวมาขึ้นรถ บนรถเห็นเทมกำลังปีนเบาะคุยกับน้ำอยู่ ก็ต้องจับเขานั่งลงดีๆก่อนจะรัดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย พี่เทมหันมาพูดขอบคุณ แล้วจัดการคาดให้ผมบ้าง พอรถออก เราคุยกันจนลืมคนด้านหลังเสียสนิท


          “เดี๋ยวๆ มีกูด้วยโปรดอย่าลืม ไอ้หมูมึงรีบอธิบายมาเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย!”


          หน้าตาจริงจังของไอ้คนตัวเล็กบอกชัด ว่าถ้าไม่ได้เค้นคำตอบทั้งหมด ก็จะตามติดเป็นปลิงไม่ยอมจากไปไหน


          “ไม่ลืมๆๆ น้ำนะครับ”

          “บอกไม่ลืม แต่การกระทำนี่สวนทางสุดโต่งมากเพื่อนกู แบบนี้มันต้องเอาความลับมึงมาขู่สักหน่อยแล้ว ถ้าลืมกูอีก จะเอาความลับมาบอกไอ้หมูดีไหมน้า”

          เทมปุระตาโต เอานิ้วชี้จรดปากตัวเอง ทำเสียงชู่ๆไม่หยุด มือไม้โบกกันเป็นพัลวัน ถ้าไม่ติดสายรัดรั้ง นี่มีคนโดนตบหัวทิ่มๆแน่ล่ะครับ เอ่ยถามเสียงเย็น "อยากโดนโยนลงจากรถหรือยังไงครับ"



          ได้ยินเสียงอีกฝ่ายกลืนน้ำลายดังอึก



          “ล้อเล่นเฉยๆ พ่อก็หยวนให้กูหน่อยเถ๊อะะะ เทม มึงใจเย็นก่อน กูล้อเล่น ไม่บอกไอ้หมูหรอกน่า”

          เทมถอนหายใจโล่งอก “น้ำๆๆบอกไม่ได้นะครับ บอกแล้วความลับจะรั่วๆๆไหลๆๆนะครับ น้ำบอกเทมเองนะครับ ว่าต้องจุ๊ๆๆๆเอาไว้”





          อ๋อ...ไอ้ปลิงตัวนี้เองสินะ ที่มาเป่าหูเด็กน้อยของผม ให้เรื่องมันใหญ่โตกับความลับกีฬาสีน่ะ มันน่าจับมาโรยเกลือแล้วเผาไฟไม่ให้เหลือแม้แต่ตอตะโกจริงๆ หรี่ตามองมันผ่านกระจก แล้วได้แต่นึกสงสัย




          ...บนรถมีไฟแช็คไหมนะ…




          “ครับผมครับๆ เดี๋ยวสิ...กูไม่ได้มาเล่นนี่หว่า! ไอ้หมู มึงอธิบายมาเลยทำไมต้องไอ้ห่าคาร์โลวะ”




          น้ำหันขวับมาเค้นคอผมต่อ หลังจากเผลอหันไปพูดคุยกับเทมเสียเพลิน อันที่จริงผมไม่ต้องอธิบายก็ได้ครับ แรงกดดันจากน้ำ ไม่ได้ระคายผมแม้แต่น้อยนิด แต่ที่ยุ่งยากก็เพราะน้ำก็ดันเป็นเพื่อนของเทมคนหนึ่ง เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เทมรู้จักและสนิทด้วย ถ้าเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ในอนาคตไม่ถูกกัน เจ้าตัวก็คงรู้สึกไม่ดี และขึ้นชื่ออะไรที่ไม่ดี ผมก็จะไม่ให้มาเข้าใกล้เทมปุระเด็ดขาด




          หยิบไอแพดมาเปิดเกมระบายสีให้พี่เทมเล่น เขารับไปด้วยท่าทางดีอกดีใจ ในระหว่างที่มือยังเจ็บ ผมไม่ให้เขาจับปากกาหรือดินสอสีเลยครับ การบ้าน การเรียนทุกอย่าง ถูกพิมพ์ด้วยการแตะๆจิ้มๆบนแท็บเล็ตเท่านั้น และยังจำกัดเวลาในการใช้ด้วย



          พอได้เกมแต่งแต้มสีพี่เทมก็เข้าสู่โลกส่วนตัว มองจนแน่ใจ ว่าเขาจดจ่อกับแท็บแล็ตแล้ว ก็หันมามองหน้าตอบคำถามเพื่อนตัวเอง




          “เขาเป็นบอดี้การ์ดมืออาชีพ”

          “แล้วยังไงวะ!? บ้านมึงขาดบอดี้การ์ดหรือไง ถ้าขาดเอาของบ้านกูไปก็ได้ จะเอาสองคนหรือสิบคนก็บอกมาเลย เดี๋ยวกูบอกหม่อมแม่หามาให้”

          “เก็บเอาไว้ให้ช่วยดูแลคุณหนูไม่มีสมองเถอะครับ บอดี้การ์ดผู้ใหญ่ผมจะเอามาเพิ่มให้รกบ้านทำไม ตามติดเข้าห้องเรียนได้ด้วยหรือเปล่า...ก็ไม่ ตอนนี้เรายังอยู่ในวัยเรียนนะครับน้ำ เวลามากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์คือการใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียน ในโรงเรียนที่อันตรายเยอะแยะไปหมด ถ้ามีเรื่องแล้วผมจะสบายใจได้ยังไง ในเมื่อทีมช่วยเหลือต้องใช้เวลาหลักนาทีในการเข้ามาหา ไม่ใช่สามารถยื่นมือเข้ามาช่วยได้ในทันที...รู้ใช่ไหมครับ ว่าพื้นที่ข้างตัวผมอันตราย และมันจะอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีน้อยลง”


          และเทมก็เป็นคนพิเศษ เขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เวลาเจออันตราย ร้องหาให้ใครช่วยยังยาก แม้ใจผมจะอยากตามติดเขาไปทุกหนทุกแห่ง ปกป้องเขาทุกเวลา แต่ก็เป็นไปไม่ได้ ในความเป็นจริงคือทุกคนมีหน้าที่ แม้จะเวลาแค่ชั่วโมงสองชั่วโมง ผมก็ต้องการคนที่ตามไปเฝ้าคนสำคัญผมได้ตลอดเวลาในช่วงที่ผมไม่อยู่



          น้ำเม้มปากแน่นอย่างดื้อดึง



          “มึงก็มีกูกับเต้ แล้วก็คนอื่นๆ ช่วยดูเทมแล้วไงวะ”

          “ใช่ครับ แต่ก็ไม่ใช่มืออาชีพ และทุกคนก็มีหน้าที่เป็นของตัวเอง จะให้ผมพาเทมไปฝากคนนู้นทีคนนี้ทีไม่ได้หรอกนะครับ นอกจากความเกรงใจแล้ว ที่สำคัญคือเทมไม่ใช่สิ่งของไร้ความรู้สึก การโดนโยนไปมาจะทำให้อารมณ์เขาไม่มั่นคง”


          น้ำหันไปมองเพื่อนสนิทอีกคนของตัวเอง แล้วมีท่าทางอ่อนลง แต่ก็ยังหันมาเถียงต่ออย่างไม่ยอมง่ายๆ


          “ก็แล้วทำไมต้องเป็นไอ้คาร์โลวะ กูไม่ถูกกับมันนะเว้ย มันแม่งชอบแย่งแฟนกูอ่ะ!”

          “บอดี้การ์ดมืออาชีพที่อายุน้อยไม่ได้หายาก แต่คนที่จะเข้ากับเทมได้หายากครับ ไม่นับฝีมือการต่อสู้ของเขาที่ผมให้เกือบผ่าน ไหนเขาจะยังเป็น ‘นักเรียนทุนเรียนดี’ อีก”




          ทุนเรียนดีของสิงหสารสารทวิทยา เป็นทุนที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของประเทศ ที่ไม่ว่าใครก็ขวนขวายอยากได้ แต่ความยากที่จะได้มานั้นอยู่ในระดับยากสุดๆ ไหนจะต้องประคองการเรียน และเข้าแข่งขันชิงเหรียญทองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อคงรายชื่อให้ยังอยู่

          ที่กฎยุ่งยากก็เพราะเป็นทุนให้เปล่าไม่ต้องคืน ที่ช่วยค่าใช้จ่ายทั้งหมดระหว่างเรียน ใช่ครับ ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆ ค่าทัศนศึกษา ค่าที่พัก ค่าอุปกรณ์การเรียน โน๊ตบุ๊ครุ่นล่าสุด โทรศัพท์รุ่นล่าสุด ค่าที่อยู่ เสื้อผ้า ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าเที่ยว ค่าพักผ่อน อยากจะเรียนพิเศษอะไรเพิ่มเติมก็สามารถมาขอได้ทันที กระทั่งช่วงปิดเทอมยังมาขอเบิกเงินไปตะลอนได้ ในงบที่เยอะพอจะไปโซนยุโรปได้หลายสิบวันเลยล่ะครับ


          มันไม่ใช่แค่ดี


          แต่ยังเป็นใบการันตีชั้นดี ว่าคุณคือหัวกะทิในหมู่เด็กหัวกะทิ ทุนมีโควต้าเป็นร้อย แต่เด็กนักเรียนที่คว้ามาครองได้มีแค่สิบเอ็ดคน สิบเอ็ดคนในหลายหมื่นที่สอบแย่งชิง...แน่นอนว่าไม่ใช่ธรรมดา


          การได้คนฉลาดมาอยู่รอบตัวเด็กน้อย ถือว่าเป็นเรื่องดีต่อการซึมซับความรู้

          ...ให้มีคนโง่เง่าอยู่รอบตัวเทมแค่คนบนเบาะหลัง คนเดียวก็เกินพอแล้วครับ...



          น้ำอ้าปากค้าง


          “ไอ้เหี้ย...มึงล้อกูเล่นปะวะเนี่ย หน้าแม่งไม่บ่งบอกว่าเป็นเด็กเรียนเลยสักนิด หน้าตาอย่างมัน บอกกูว่าเป็นหัวหน้าแก๊งยากูซ่า ยังเชื่อง่ายกว่าอีก”

          “แล้วเปียดูเป็นเด็กเรียนไหมล่ะครับ”


          เลขาในสภานักเรียนของผมก็เป็นหนึ่งในสิบเอ็ดคนของนักเรียนทุนผู้หายาก เธอสวย วางตัวดี ฉลาด รู้กาลเทศะ ไหวพริบฉับไว รับมือสถานการณ์ได้ดี อะไรควรไม่ควรก็ตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ รับผิดชอบ จัดการงานได้อย่างว่องไวและเรียบร้อย นอกจากคาร์โลที่ผมหาให้เทมแล้ว เปียก็เป็นอีกคนที่ผมหาไว้ให้ตัวเอง เธอเหมาะจะมาเป็นเลขาจริงๆของผมในอนาคต แต่แน่นอนครับว่าทั้งคู่ต้องไปเรียนเพิ่มเสียก่อน



          น้ำอ้ำอึ้ง ปฎิเสธความจริงไม่ได้ว่าเปียสวยมาก สวย เก่ง และดีขนาดที่พี่เนศประธานนักเรียนอีกคนตามจีบมาหลายปีก็ยังไม่ยอมแพ้นั่นแหละครับ


          “แม่ง...เด็กเรียนโรงเรียนเราผ่าเหล่าผ่ากอตำราเด็กเนิร์ดชิบหาย…แต่...แต่นิสัยมันก็ดูไม่โอเคเปล่าวะ ชอบมาขัดขวางคนอื่นแบบนี้อ่ะ คิดดูดิ มันจะไม่มาแย่งขนมไอ้เทมหรือแกล้งไอ้เทมเหรอวะ”




          มีแต่มึงนั่นแหละครับน้ำ ที่ชอบมาแกล้งเทม




          “ที่เขาไปขวางก็ทำตามหน้าที่ ผู้หญิงที่ไปจีบก็ล้วนแต่เป็นคุณหนูที่เขาต้องดูแลทั้งนั้น มองในมุมกลับใครกันแน่ที่ไปขัดขวางหน้าที่การงานเขาครับ ลองคิดดูให้ดีๆ”



          แต่คนดื้อก็ยังคงดื้อ ถึงหน้าตาจะยอมรับไปเยอะแล้ว แต่ปากก็ยังอ้า ตั้งท่าจะต่อปากต่อคำอีก ผมที่รำคาญเกมตอบคำถามนี้เต็มที ชั่งใจเล็กน้อยว่าควรเอาข้อมูลส่วนตัวของฝ่ายตรงข้ามมาบอกดีไหม เหลือบตามอง ก็เห็นเทมกำลังจะเล่นระบายสีเสร็จ เมื่อเด็กน้อยระบายเสร็จคงไม่แคล้วหันหน้ามาโชว์ให้ผมดู ผมไม่อยากให้เขารับรู้อะไรเท่าไหร่ จึงตัดสินใจเล่าให้น้ำฟัง เพื่อตัดจบเรื่องให้รวดเร็วที่สุด



          น้ำเป็นพวกแข็งนอกอ่อนใน เป็นพวกขี้สงสาร


          หยิบจุดอ่อนอีกฝ่ายกำไว้แน่น “แล้วรู้ไหมครับว่าทำไมเขาต้องมาทำงานเสี่ยงอันตรายขนาดนี้? ทั้งๆที่เป็นนักเรียนทุนก็สบายไปจนเรียนจบ" เว้นวรรคมองสีหน้าคนด้านหลังที่เริ่มไม่สู้ดี ยกยิ้มมุมปากแล้วตีหน้านิ่งขรึมเอ่ยต่อ

           "คาร์โลเป็นเด็กกำพร้าครับ และยังเป็นเด็กกำพร้าที่มีภาระมากมาย... เขามีพี่น้องที่ไม่เกี่ยวพันทางสายเลือดอีกสิบคน พี่น้องอีกสิบคนที่เป็นเด็กกำพร้าพิการ หรือไม่ก็ป่วยจนทางศูนย์รับเลี้ยงออกค่าใช้จ่ายให้ไม่ไหว ได้แต่ปล่อยให้รอความตายมาเยือน แต่เขาก็ช่วยรับมาเลี้ยงไว้เอง ออกค่าใช้จ่ายทุกอย่าง"



          หย่อนระเบิดลูกสุดท้าย



           "นอกจากนั้นยังส่งเงินให้บ้านเด็กกำพร้าที่ตัวเองโตขึ้นมาทุกๆปี เป็นแบบนี้แล้ว... ก็ยังคิดว่าเขานิสัยแย่อยู่หรือเปล่าครับ?”



          น้ำเงียบกริบและซีดเผือด


          จบเกมแล้วครับ



          ใช้เวลาสองสามนาที ไอ้คนตัวเล็กของกลุ่มก็เอ่ยเสียงอ่อย


          “ก็ ก็ถ้ามันมาขอโทษกู กูก็จะถือว่าทุกเรื่องไม่เคยเกิดขึ้นแล้วกัน…”

          “ใครกันแน่ครับที่ต้องขอโทษ ไปจีบลูกสาวเจ้านายเขาแบบนั้น แถมยังวิ่งมาฟ้องเพื่อนให้ไปหาเรื่องเขาอีก”


          ไอ้น้ำทำท่าขัดใจเหมือนถูกผมบีบบังคับ “เอออออออออออออ กูไปขอโทษก็พอแล้วใช่ไหมล่ะ โว้ยยย!! แม่งๆๆๆๆๆ ไอ้หมูแม่งงงงง &^%&^#*&*&”


          ฟังคนด้านหลังรถบ่น น่ารำคาญจนต้องหยิบหนังสือปาข้ามเบาะให้มันเงียบเสียงน่าหนวกหูลง จะได้ไม่กวนเทมที่ตั้งอกตั้งใจระบายสี



          ทำผิดแล้วไปขอโทษตรงๆ ยังไม่กล้า ใช้ไม่ได้เลยครับ สู้พี่เทมของผมไม่ได้เลยสักนิดเดียว










***







          นาฬิการ้องเตือนแจ้งบอกเวลาสามทุ่มครึ่ง รีบทิ้งทุกอย่างไว้ด้านหลัง สองเท้ารีบก้าวยาวๆไปหยิบผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อ ก่อนจะหมุนตัวออกไปจากสนาม ระหว่างทางเพื่อนนักกีฬาหลายคนก็โห่ร้องแซวไม่หยุด


          “อ้าว ไปไหนวะหมู?...อ๋อ...ถึงเวลาไปส่งเทมเข้านอนแล้วดิ”

          “ตรงเวลาจังเลยว่ะท่านประธานนักเรียน”

          “ฝากบอกเทมว่าฝันดีด้วยนะจ๊ะหมู”

          “อยากจะแหมมมมมมมมมมมมมให้ยาวไปถึงเชียงใหม่ ดูแลดี๊ดีเนอะ ไม่ขาดตกบกพร่องจริงๆคนนี้”



          และอีกมากมายที่ผมไม่ได้หันไปสนใจหยุดตอบ แค่เพียงพยักหน้ารับส่งๆ แล้วปลีกตัวออกมาขึ้นลิฟต์อีกตึก แตะนิ้วสแกน รอลิฟต์ลงมารับ ทุกอย่างความเร็วเท่าเดิมในทุกวัน แต่วันนี้ผมรู้สึกว่ามันช้าเป็นพิเศษ อาจจะเพราะใจกำลังร้อนรน ชักช้าไม่ได้แล้วครับ เดี๋ยวเด็กน้อยจะนอนดึกเกินไป วันนี้ตั้งใจให้เขานอนเร็วกว่าปกติ จะได้เพียงพอสำหรับการตื่นเช้าในวันพรุ่งนี้



          ส่วนอีกเหตุผลที่เร่งเร้า ผม...รุู้สึกสังหรณ์ใจไม่ค่อยดีด้วย...



          ถึงชั้นส่วนตัวประตูลิฟต์เปิดออก นึกขัดใจกับความกว้างของบ้านตัวเองก็วันนี้ เสียเวลาเดินออกจากโถงกว้างไปถึงหน้าประตูบานใหญ่อีกสองนาที กดรหัส วางนิ้วสแกนอีกครั้ง



          ประตูบานใหญ่เคลื่อนตัวอ้ากว้าง


          ภาพที่เผยให้เห็น เป็นอะไรที่ทำเอาความเหนื่อยจากการฝึกซ้อมหลายชั่วโมงหายไปหมดเกลี้ยง และแทนที่ด้วยความตกตะลึง ปากอ้าค้างหมดภาพลักษณ์ท่านประธานนักเรียนดิมิทรีผู้เงียบขรึม



          ส่งเรียกเรียกชื่อเขาออกไปอย่างตื่นตกใจ




          “พี่เทมครับ!?!”
















end 44 .
twitter #เพื่อนผู้ปกครอง


โซเฟียริน
zofiarin lll moore






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2018 16:01:20 โดย ZOFIARIN »

ออฟไลน์ LoveAlone

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด