28
วันนี้เป็นวันศุกร์ เป็นวันสุดท้ายที่จะมีการเรียนครบชั่วโมง ก่อนที่สัปดาห์หน้า จะเริ่มเข้าสู่ช่วงกีฬาสีเต็มตัวของสิงหสารสารทวิทยาแล้วครับ เวลาหลังจากบ่ายหนึ่งเป็นต้นไปในระยะเวลาหนึ่งเดือน การเรียนจะถูกงด เพื่อเวลาจะถูกใช้ไปกับการซ้อมเตรียมตัวแข่งขัน
ส่วนตอนนี้ อาจารย์ที่ต้องมาสอน เกิดมีธุระกะทันหัน เลยให้พวกเราเรียนด้วยตัวเองกับสื่อการเรียนรู้ครับ แน่นอนว่าโทรทัศน์ที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ไม่มีนักเรียนคนไหนให้ความสนใจ อาจารย์ผู้ช่วยคนอื่นๆเล็งเห็นว่าใกล้ถึงงานกีฬาสี ก็ยอมปิดตาข้างหนึ่ง ปล่อยพวกผมตามใจชอบ
มันกลายเป็นคาบอิสระไปทันที
ผมนั่งใช้คาบว่างให้เป็นประโยชน์ ด้วยการตรวจแผนงานปีนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง ไม่อยากให้มีข้อบกพร่องตรงไหนโผล่ออกมาในวันจริงครับ กำหนดการคร่าวๆของอาทิตย์หน้าจะเริ่มเป็นการหาตัวนักกีฬา และกำหนดธีมเชียร์ของแต่ละสี หวังว่าเทอมนี้จะไม่มีใครขอธีมหนังโป๊เข้ามาอีก ไม่งั้นผมจะตัดงบประมาณให้เหี้ยนเลย คอยดู...
ปีนี้เป็นปีแรกที่ผมจะลงมาแข่งขันด้วยครับ ปกติจะใช้อำนาจของประธานนักเรียนลอยตัวหนีตลอด เป็นกรรมการตัดสินมาหลายปี เพราะไม่อยากเสียเหงื่อ และที่สำคัญเอาเวลาไปเฝ้าเทมฝึกซ้อมดีกว่า
แต่ครั้งนี้คงจะกลายเป็นเทมที่ต้องมานั่งเฝ้าผมแทนแล้วล่ะครับ เพราะผมจะเป็นนักกีฬาแทนเสียเอง คิดภาพเทมมานั่งเชียร์อยู่ข้างสนามแล้วก็รู้สึกถึงแรงฮึดขึ้นมาเลยทีเดียว
เทมปุระนั่งระบายสีเล่นอยู่ข้างๆผมครับ ผมเพิ่งสั่งสีแบบใหม่มาให้เขาเพิ่มหลากหลายแบรนด์ ดูเทมจะติดใจยี่ห้อหนึ่งของเยอรมันเป็นพิเศษ ช่วงนี้เจ้าตัวค่อนข้างชอบใช้สีน้ำน่าดู พอองค์ชายน้อยเข้าสู่โลกส่วนตัวแล้วก็จะไม่สนใจอะไรเลยครับ ผมเลยทำงานได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะได้ยินการเถียงกันด้วยถ้อยคำไม่สุภาพของไอ้สองหน่อที่ลากเก้าอี้มานั่งกับพวกผม
"สงสารเขานะครับ พวกนอกคอก" ไอ้น้ำที่อารมณ์ดีสุดๆมาสองวันแล้ว เพราะมันสมหวังกับการอยู่สีเดียวกันกับผมและเทม เจ้าคนตัวเล็กที่สุดของกลุ่ม ยังคงแซะเพื่อนสนิทของตัวเองไม่หยุด ไอ้เต้ที่ได้อยู่สีอื่นเพียงคนเดียวกรอกตาหมุนวนไปมาด้วยความเบื่อหน่าย ขอแค่มีเวลาว่าง ไม่ว่าจะแค่สิบนาทีหรือสองนาที ไอ้น้ำก็ขุดขึ้นมาพูดโอ้อวดตลอด
"มึงเอาเวลามาทับถมกู ไปหาไข่นกอีมูมาเซ่นไหว้เถอะ"
"กูเอามาแล้ว ไข่จิ้งจกที่ชื่อมูไง อีมูอ่ะ!"
"แบบนี้ก็ได้เหรอวะ..."
"ได้!"
ไอ้เต้ทำหน้าเอือมระอาใส่แฝดคนละฝาของตัวเอง
สุดท้ายผมก็เอาไอ้น้ำมาอยู่ช่วยดูแลเทมครับ เพราะเทมคงจะมาหาผมตลอดเวลาไม่ได้ ถ้าไม่ใช่นักกีฬา อย่างที่บอกว่าที่นี่ค่อนข้างจริงจังมากกับกิจกรรม การซ้อมทั้งของนักกีฬาและทีมเชียร์ จะไม่ให้คนนอกเข้าเลยเด็ดขาด เก็บเป็นความลับกันสุดๆ สแตนด์เชียร์ยิ่งแล้วใหญ่ จะรู้รูปร่างบางทีก็เจ็ดวันสุดท้ายเลยครับ
แต่ผมก็แอบเช็ครายชื่อสมาชิกสีทั้งหมดแล้วเรียบร้อย สบายใจขึ้นมาก เมื่อรู้ว่าปีนี้หญิงก็อยู่สีฟ้าด้วย ถ้ามีหญิงอยู่ด้วย ทุกอย่างน่าจะราบรื่น เด็กในสีก็ไม่มีพวกเกเรเป็นพิเศษ รุ่นพี่ในสีก็ถือว่าเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตา ความประพฤติไม่มีใครที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ
"หือ... เทม มึงใส่นาฬิกาด้วยเหรอวะ" ไอ้เต้สะกิดเรียกเทมขึ้นมาถาม เมื่อเห็นสิ่งแปลกปลอมบนร่างกายเพื่อนสนิทอีกคนของตัวเอง ปกติเด็กน้อยของผมจะไม่ชอบใส่เครื่องประดับครับ เพราะทำอะไรไม่สะดวกเจ้าตัวเขา แต่ตอนนี้บนข้อมือที่มักจะว่างเปล่า กลับมีนาฬิกาเรือนสวยสวมอยู่
เทมดูงุนงง ใบหน้าไร้เดียงสาหันไปมองนาฬิกาบนฝาผนังหน้าห้อง ก่อนที่ไอ้เต้จะส่ายหัวแล้วชี้ไปที่ข้อมือตัวเอง
"ครับ? นาฬิกา?...อ๋อ อันนี้หมูหย็องให้เทมใส่ไว้ครับ หมูหย็องบอกว่าถ้ามีอะไรให้กดตรงนี้ แล้วหมูหย็องจะมาหา" เทมชูมือขึ้น ทำท่าคล้ายจะแปลงร่างให้พวกผมดู
ทั้งๆที่ปกติไม่ชอบใส่ แต่พอเป็นของที่ผมให้ ก็ทะนุถนอมเป็นอย่างดี
"มันต้องขนาดนี้เลยใช่ไหมวะ โอ้โห กี่สิบล้าน ไหนพูด!"
"เวอร์ไปครับเต้ ไม่ถึงสิบล้านสักหน่อย" ใช่ครับ แค่ห้าล้านกว่าๆเท่านั้น อา...เขาไม่ได้ถามราคารวมทั้งหมดทุกเรือนที่ผมสั่งทำ แล้วก็ไม่นับเงินที่เสียไปเพราะลัดคิวทำใช่ไหมครับ เพราะผมเลือกไม่ได้ สีไหนเทมปุระก็น่าจะใส่สวยทั้งนั้น เลยสั่งมาเสียหลายเรือน หลายรุ่น หลายแบบ....
นาฬิกาเรือนสีฟ้าขาวที่เทมสวมอยู่ เป็นนาฬิกาที่ผมสั่งทำพิเศษ ถ้าเขากดเรียก นอกจากจะส่งสัญญาณเข้าโทรศัพท์ของผม และบอดี้การ์ดที่เตรียมพร้อมอยู่นอกโรงเรียนแล้ว มันก็วัดชีพจรของเขาตลอดเวลา ถ้ามีอัตราการเต้นของหัวใจ ความดัน ชีพจรที่ผิดปกติ มันก็พร้อมกรีดร้องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปที่โรงพยาบาลทันที
ไม่ทำหน้าที่เพียงบอกเวลา เหมาะแก่การให้คำจัดกัดความว่าเป็นอุปกรณ์ขอความช่วยเหลือ แบบเบ็ดเสร็จครอบคลุมเสียมากกว่า ราคาที่เสียไปรวมถึงสัญญาพิเศษกับตำรวจหลายสิบประเทศ ถ้าเกิดเหตุร้ายอะไรขึ้นในต่างแดน หน่วยพิเศษจะเข้ามาช่วยเหลือทันที
และต่อให้ไปในที่อโคจรแค่ไหน พื้นที่อับ หุบเหวกว้าง ใต้ทะเลลึก ระดับความดันน้ำที่ทนต่อการใช้งานได้ก็ลึกมากครับ ก็ไม่ต้องเป็นห่วง ต่อให้หลงไปไกลแค่ไหนมันก็จะยังคงทำงานได้ครับ โลหะพิเศษที่เบาแต่แข็งแกร่งมาก และเป็นชิปแบบเดียวกันกับในฟันของผม
เป็นอุปกรณ์พิเศษที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใช้ในกองทัพระดับสูง
"ไหนกูดูหน่อยๆ เฮ้ยยยยย คุณพ่อกูก็เก็บสะสมยี่ห้อนี้นะ ทำไมไม่เคยเห็นรุ่นนี้วะ"
นอกจากการใช้งานที่หลากหลาย ก็แพงเพราะยี่ห้อที่มารับทำให้ด้วยครับ เป็นแบรนด์เก่าแก่ที่ราคาค่อนข้างจะเอาเรื่อง รุ่นที่ถูกที่สุดก็แสนกว่าบาท แต่ก็คุ้มกับความงามประณีต ไม่มีบาทไหนที่เสียไปแล้วให้รู้สึกไม่คุ้มค่า ทุกสัดส่วนดูลงตัวและยิ่งดูดียิ่งขึ้นเมื่ออยู่บนข้อมือแกร่ง ผมมองอย่างพอใจ ก่อนจะหันไปตอบน้ำ พร้อมค่อยๆปัดมือมันออกจากข้อมือของเทมปุระ ...จะจับนานเกินไปแล้วครับ
"เป็นคอลเลกชั่นสั่งทำพิเศษน่ะครับ ไม่ได้วางขายทั่วไป"
"ขอถ่ายรูปไปให้คุณพ่อดูแป๊บ คุณพ่อกูต้องไปกรี๊ดกับหม่อมแม่แน่ๆอ่ะ" ไอ้น้ำตาเป็นประกาย ส่วนเจ้าของนาฬิกาตัวจริงกลับให้ความสนใจกับการระบายสีตรงหน้ามากกว่า
"หมูหย็องครับ หมูหย็อง ดูรูปนี้สิครับ เทมระบายได้ไม่ออกนอกเส้นเลยนะครับ" เทมชูภาพที่เขาระบายเสร็จล่าสุด ยิ้มกว้าง พร้อมทำสีหน้ารอคอยคำชมจากผม ผมเช็ดแก้มเขาที่เปรอะสีน้ำด้วยผ้าเช็ดหน้า ก่อนจะเอ่ยคำที่ทำให้เจ้าตัวพอใจ และยิ้มกว้างกว่าเดิม
"สวยมากครับ เทมเก่งมากเลย" เทมยืดอก ดูภูมิใจมากที่ผมชมเขา
"มึงทำอะไรแล้วมีไม่ดี ไม่เก่ง ในสายตาไอ้หมูด้วยเรอะ..." ไอ้น้ำเบะปากพึมพำ
"แล้วมีใครจะลงกีฬาสีบาสไหมวะ สีมึงเอาใครลงล่ะ"
"บอกได้ที่ไหนวะไอ้ห่า โดนแหกอกพอดี"
"ทีพวกมึงยังรู้เลยว่ากูลงแข่ง!"
"มึงบอกพวกกูเองไหมล่ะ อีกอย่างก็แลกกันไง มึงก็รู้ว่าไอ้หมูจะลงแข่งวิ่งวิบาก"
"ใช่ครับ ใช่ครับ หมูหย็อง หมูหย็องจะชนะด้วย เพราะหมูหย็องเก่งที่สุดเลย" ภูมิใจยิ่งกว่าการระบายสี เจ้าตัวฉีกยิ้มกว้างแสนมั่นใจในตัวผม
"ปกติกูต้องแซะนะ แต่สีเดียวกัน เพราะงั้นไม่แซะจ้า ชนะแน่นอน"
"มึงอย่ามาดูถูกสีแดงของกูนะ สีแดงคือสีของพระเอก สีของผู้ชนะโว้ยยยยยยย"
"ปีก่อนสีแดงได้รองโหล่ไม่ใช่เหรอวะ...."
"นั่นมันปีก่อนที่ไม่มีกูเป็นสมาชิกไง!"
ปีแรกของการร่วมกิจกรรมกีฬาสีของผม ผมไม่อยากอยู่สีที่ไม่เป็นที่หนึ่งครับ สีฟ้าปีนี้ภาษีด้านนักกีฬาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คิดว่าน่าจะต้องซ้อมเยอะมาก กลับกันสีแดงที่ไอ้เต้อยู่ ได้คนมากความสามารถทางกายภาพไปเยอะทีเดียว แต่ก็ดูเป็นตราชั่งที่เอนเอียง เพราะมีความสามารถแต่ดูไม่ค่อยมีสมอง...
สีที่ผมคิดว่าทุกอย่างดูสูสีและน่ากลัว น่าจะเป็นสีส้ม สีเขียว และสีดำครับ สามสีนี้ได้ค่าเฉลี่ยสมาชิกดีมาก ตัวหมากที่ได้ไปล้วนดูเก่งกาจ คนเดินหมากก็ดูเป็นพวกเชี่ยวชาญ ตัวหมากที่เก่งกาจและคนบังคับที่ฉลาด ต้องเป็นอะไรที่ไม่ใช่จะโค่นได้ง่ายๆ ทางสีอื่น เฉลี่ยแล้วตัวแกนนำไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ ตัวเดินเกมก็เป็นเบี้ยธรรมดา
แต่ผมก็จะไม่ประมาท ผมไม่ใช่คนครึ่งๆกลางๆ ที่สามและที่สองไม่ใช่เป้าหมายของผม
ต้องที่หนึ่งเท่านั้น
"หมูหย็องครับ หมูหย็องครับ พรุ่งนี้เราค้างคืนไหมครับ" เทมที่หยิบกระเป๋าเป้สีฟ้ามาสะพายและถือกระเป๋าของผมหันมาถาม ผมบอกเขาเมื่อคืนครับ ว่าพรุ่งนี้จะพาไปเที่ยว แต่ยังไม่ได้บอกรายละเอียด กะว่าจะให้เขาเซอร์ไพรส์ อาการย้ำคิดย้ำทำของเทมปุระ ทำให้เจ้าตัวตื่นเต้นสุดๆ วนเวียนคิดไปมา แทบจะถามผมทุกชั่วโมง
ท่าทางกระตือรือร้นที่ซักถามตลอดเวลาของเขา ไม่ได้น่ารำคาญเลยสักนิด แต่ดูน่ารักน่าชังที่สุดในสายตาของผม คำถามของเด็กน้อย ผมเต็มใจตอบเสมอ
แต่เทมจะถามหมูตอนนี้ไม่ได้นะครับ ตอนที่ไอ้สองแฝดกางเรดาห์จับผิดอยู่แบบนี้...
"อะไรวะ อะไรๆๆๆ ค้างอะไรรรรรรรรรรรรร เสือกด้วยคนนนน" ไอ้น้ำหูผี เด้งตัวพรวดเข้ามา
"เทม--"
"เทมครับ ต้องไปเรียนพิเศษแล้วนะครับ เดี๋ยวอาจารย์จะรอนานนะ" ผมรีบจูงมือเทม สับขาเร็วๆหนีออกมา
"จริงด้วย! วันนี้นะ วันนี้นะ เทมจะได้เรียนหางยาววววว ยาวมากๆ"
"หารยาวหรือเปล่าวะ...เดี๋ยว มึงจะเปลี่ยนเรื่องไม่ได้!" ไอ้เต้ที่วิ่งตามมาได้อย่างรวดเร็วสมเป็นนักกีฬาชะโงกตัวเข้ามาถาม ไอ้น้ำที่ตอนนี้ตะโกนมาแค่เสียง เพราะวิ่งตามมาไม่ทันชาวบ้านกำลังโหวกเหวกอยู่ด้านหลัง
"เต้สุดยอด รู้จักหารยาวด้วย ใช่ๆๆๆ เทมจะเรียนหารยาวครับ"
"ตามมาทำไมครับ ไปซ้อมสิครับ" ผมส่งสายตาเย็นเฉียบไล่ไอ้เต้ที่ยิ้มมุมปาก เหมือนจะบอกว่า
'รู้นะ ว่าจะทำอะไร' "หืมมมมม บอกกูสิ ว่าทีมบาสมึง เล็งไว้ว่าจะให้ใครลง ไม่งั้นกูจะส่งคนไปเฝ้าบ้านมึง ขี่รถตามติด เป็นขี้ติดตูดปลาทองเลย"
คิดว่าคำขู่ปัญญาอ่อนแบบนั้นผมจะกลัวหรือยังไง นั่งรถไม่ได้ แล้วยังไง
ไม่ได้มีเฮลิคอปเตอร์ไว้ตั้งโชว์นะครับ
"เครื่องบินยิ่งง่ายเลย มึงก็รู้ ข่าวในไทยใครครอบครอง" ผมเหลือบตามองไอ้เตี้ยที่เพิ่งวิ่งมาถึง นายตรัณ กิตติศักดิ์วัฒนาตระกูล ลูกชายคนเล็กของหม่อมราชวงศ์นามสกุลดัง อย่าง คุณหญิงสายพิณ กิตติศักดิ์วัฒนาตระกูล เจ้าของพื้นที่สื่อมากกว่าครึ่งในไทย
ขึ้นชื่อว่าสื่อ แน่นอน...หูตาไวยิ่งกว่าสับปะรด
"อยากจะลองดีหรือยังไงครับ
วัฒณวงคีรีย์กับ
กิตติศักดิ์วัฒนาตระกูลน่ะ ถึงได้มาขู่ชาโรนอฟเราแบบนี้" ผมกดยิ้มมุมปาก ส่งสายตาท้าทายให้ลูกชายคนโตของตระกูลธนาคารเก่าแก่ ไอ้เต้แกล้งยกมือสองข้างยอมแพ้
"ถึงวัฒณกับกิตติศักดิ์ร่วมมือกันก็คงเอาชาโรนอฟไม่ลงหรอกครับ แต่ถ้าแค่เซอร์กีย์...ก็ไม่แน่"
หึ... ผมล่ะเกลียดท่าทางแบบนี้ของมันจริงๆเลยครับ ทำเป็นพูดยอม แต่สายตาท้าทายขอลองดีกันชัดๆ ไอ้เต้กับไอ้น้ำมองกดดันผม
ผมคลายยิ้มไร้อารมณ์ออก เผยรอยยิ้มอันแท้จริง
"ลองไหมล่ะครับ หาพวกผมเจอ ผมจะบอกข้อมูลทั้งหมดในกีฬาสีให้"
"กูขอไอ้น้ำเป็นตัวช่วย มึงก็รู้ ธนาคารนอกจากรวย ก็ไม่ค่อยเก่งอะไร"
"ตามสบายเลยครับ"
"ทุกคนคุยอะไรกันเหรอครับ" เทมปุระดูงุนงงกับประกายสายฟ้าที่แล่นเปรี๊ยะใส่กันของพวกผมสามคน
"พรุ่งนี้หมูจะพามึงไปไหนวะเทม"
ผลัวะ
ผมตบหัวไอ้คนที่ถามเอาตรงๆ เทมปุระตาโต รีบจับมือผมมาพลิกดูว่าเจ็บตรงไหนหรือเปล่า
"ถ้าจะเล่นแบบนี้ ก็ไม่ต้องเล่นครับ"
"โอ้ย-- กูก็ลองเฉยๆ เผื่อฟลุ๊คอ่ะมึงแม่ง ไอ้เทมโว้ยยยยย กูนี่โดนตบ ไปดูห่าไรไอ้หมู"
"ก็เทมกลัวหมูหย็องเจ็บนี่ครับ..." ผมลูบหัวเด็กน้อยของผม เทมทำถูกต้องแล้วครับ ความเป็นห่วงของเทมปุระน่ะ มีให้แค่ผมก็พอแล้ว ผมยิ้มกริ่ม รู้สึกดีที่เทมโตมาได้ดีจริงๆ
ส่วนเรื่องของผมสามคน ไม่ต้องตกใจนะครับ นานๆครั้งพวกผมก็จะกัดกันเองแบบนี้บ้าง ในมิตรภาพก็มีความโหยหาการแข่งกันเหมือนกัน พวกผมสามคน ต่างก็เป็นคุณชายตระกูลใหญ่ที่เกิดมาพร้อมความน่าเบื่อหน่าย พอมาเจอคนที่สามารถเล่นแรงๆด้วยได้ มันก็จะอดลองดีงัดข้อกันเองไม่ได้
ยามศึกเราช่วยกันรบ ยามสงบเราก็รบกันเอง
ถือเสียว่าเป็นการลับใบมีดให้คมอยู่เสมอครับ
หลังจากสารท้ารบถูกร่างขึ้น พวกผมแยกกันตรงนั้น ผมพาเทมมาส่งที่ชั้นเรียนพิเศษ กำชับเขา
"ถ้าเต้กับน้ำถามมาถึงเรื่องพรุ่งนี้ ห้ามบอกเขานะครับรู้ไหม เป็นความลับของเราสองคนนะครับ"
"ความลับ ความลับเหรอ โอเค โอเคครับ เทมจะชู่ๆเลยนะ" เด็กน้อยเอานิ้วชี้จรดริมฝีปากตัวเอง หลับตาปี๋ทำเสียงชู่ๆอย่างน่าเอ็นดู ผมเกลี่ยผมหน้าม้าเขาออก เหมือนผมเขาจะยาวขึ้นมากแล้ว คงต้องหาเวลาพาไปตัดออกเสียหน่อย เทมเคลื่อนใบหน้าตามติดปลายนิ้ว ...ช่างออดอ้อนกันเหลือเกินนะครับเทมปุระ
"เดี๋ยวห้าโมงครึ่งหมูมารับเทมกลับบ้านนะครับ ตั้งใจเรียนนะครับเทม"
"หมูหย็อง หมูหย็องก็ตั้งใจทำงานนะครับ เทมรอหมูมารับนะครับ"
ไม่อยากไปทำงานเลยครับ อยากอยู่กับเขามากกว่า เฮ้อ
งานสภาหนักอย่างที่คิดเอาไว้ โดยเฉพาะเมื่อนางแม่มดกำลังโกรธผมไม่น้อยที่เอาเจ้าตัวไปแลกเปลี่ยน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากพยายามโอนงานมาให้ผมทำเร็วขึ้น เพราะมากกว่าสามในสี่ก็เป็นความผิดของเธอที่ไม่ยอมคัดค้านเรื่องยกงานให้ทีมสภาชั้นอื่น ผมเร่งมือทำทุกอย่างให้เสร็จอย่างรวดเร็ว เพื่อที่เสาร์อาทิตย์จะได้ใช้เวลาว่างกับเทมปุระได้อย่างสบายใจ ไม่มีอะไรรบกวน
ระหว่างที่ทำงานเคลียร์กองเอกสาร ผมก็คิดเปลี่ยนแผนการเที่ยวของพวกเราสองคนนิดหน่อย จะหนีเที่ยวแบบไม่ให้สองคนนั้นรู้ ก็คงจะยากอยู่เหมือนกันครับ ออกจากบ้านไปแค่ก้าวแรกก็ถูกติดตามแล้วแน่ๆ แต่มันอยู่ที่ว่าจะสะบัดให้พ้นยังไงต่างหาก
เดดไลน์คือหกโมงเย็น หลังหกโมงเย็นถ้าพวกมันยังหาผมกับเทมไม่เจอ ก็ถือว่าผมชนะ
คนชนะ สั่งอะไรก็ได้หนึ่งอย่าง ล่าสุดที่เล่นกันผมก็ชนะครับ ยังไม่ทันได้นึกคำขออะไร เกมที่สองก็เริ่มขึ้นเสียแบบนั้น แต้มที่เคยเล่นกันมา อยู่ที่ผมชนะห้าครั้ง ไอ้เต้สองครั้งและไอ้น้ำสองครั้ง
แน่นอนว่าคนชนะเกมครั้งนี้ก็ต้องเป็นผม มันจะต้องเป็นชัยชนะครั้งที่หกของผม
[ ได้ครับคุณหนู ผมจะจัดการ เตรียมการไว้ให้ ]
ผมกดวางโทรศัพท์ หลังจากสั่งการคนของตัวเองเพื่อเริ่มเกมในวันพรุ่งนี้ หลังจากวางสาย งานเอกสารเป็นสิ่งต่อไปที่ตั้งใจจะทำ แต่ก็ต้องชะงัก
"หมูหย็องครับ หมูหย็องครับ เทมแก้โจทย์ข้อนี้ไม่ได้ครับ" ผมที่นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ เดินเข้าไปหาเด็กชายตัวน้อยของตัวเอง ที่กำลังเรียกร้องขอความช่วยเหลืออยู่หน้าโซฟา ผมทรุดลงนั่งข้างๆเขา
"เทมตั้งสมการผิดนะครับ ต้องทำแบบนี้..." ผมอธิบายและเอาปากกาสีแดงมาวงให้เห็นชัดๆ เทมปุระพยักหน้าหงึกหงัก แต่ดูเหมือนมีอะไรรบกวนจิตใจ จนท่าทีดูลุกลี้ลุกลน ไม่ตั้งใจเท่าที่ควร
"เทมเป็นอะไรครับ" ผมจับลงที่บ่าของเขา เทมไม่ยอมสบตา
"เทมครับ ไม่สบายหรือเปล่า หน้าแดงจังเลย"
"คือ คือ คือว่า คือว่า...หมู หมูหย็องใส่แว่น..." เทมพูดเสียงเบา น้ำเสียงดูเขินอายจนพานเอาผมเขินตาม
"ช่วงนี้หมูอ่านหนังสือเยอะน่ะครับ เลยต้องใส่ป้องกันแสงจากจอคอม หมูใส่แล้วแปลกหรือครับ?"
เทมส่ายหน้ารุนแรงทันที จนผมนึกกลัวอีกฝ่ายจะปวดหัว ผมแตะแก้มเขาเบาๆให้หน้าที่ส่ายไปมานิ่งลง เทมยอมให้ดวงตาของเราสบกัน จมูกเขาขึ้นสีแดง แก้มก็ระเรื่อ ใบหูขาวก็เป็นสีชาด
"หมู หมูหย็องใส่แล้วน่ารักมากเลยครับ..." อา...ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลย ตัวผมที่สะท้อนในดวงตาของเขาดูแก้มแดงไม่แพ้กัน ผมแก้เก้อด้วยการถอดแว่นตาออก
"เทม...เทมลองใส่ดูไหมครับ"
"ใส่ได้เหรอ ใส่ได้เหรอ ลองครับ ขอลองนะ หมูหย็องใส่ให้เทมหน่อยนะครับ" เทมปุระหลับตาแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้
นี่มันใบหน้าที่เตรียมรับจูบไม่ใช่หรือครับ ให้ตาย...ผมอยากโยนแว่นตาทิ้ง จับหน้าเขาให้มั่น ใช้ริมฝีปากของตัวเองสวมเข้าไปในปากเขามากกว่าสวมแว่นให้เขาเสียอีก ผมมือสั่นและคลาดเคลื่อนเล็กน้อย เพราะสายตาเอาแต่จดจ้องอยู่ที่เดียว ใช้เวลาหลายวิกว่าจะสวมให้เขาสำเร็จ
อา...ผมพอเข้าใจเทมปุระแล้วครับ เทมที่สวมแว่น ดูเซ็กซี่อย่างร้ายกาจ กอปรกับรอยยิ้มซื่อใส แต่ทรงแว่นกลับขับให้รอยยิ้มอ่อนโยนนั้นดูแสนจริงจัง
ผมอยากให้เขาเป็นอาจารย์ส่วนตัวของผมจังเลย อยากให้เขาสวมสูท อยากผลักเขาให้ล้มลงกับโต๊ะ กระชากเนคไทออก แล้วขึ้นคร่อมชะมัด
ผมจ้องเทมแบบหิวกระหายอยู่นาน
เทมปุระเอียงคอมองผม เขายิ้มให้
Damn! ผมหิวเขาสุดๆไปเลยครับ
"หมูหย็องหิวข้าวเหรอครับ"
เทมถามเสียงซื่อ ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปาก น้ำเสียงแหบแห้งเล็กน้อย
"ครับ...
หมูหิวสุดๆไปเลยล่ะ" ผมไม่น่าไปสัญญาไว้เลย ให้ตายเถอะ อาหารอันโอชะอยู่ตรงหน้าแต่ทานไม่ได้นี่มันแย่จริงๆเลยครับ ผมเคลื่อนตัวไปนั่งบนตักเขา คล้องคอเทมปุระที่ยังสวมแว่นเอาไว้ โน้มตัวกอดเขา ใช้อ้อมแขนสองข้างของตัวเองกักขังนางฟ้าไม่ให้บินหนีไปไหน
เด็กน้อยของผมแม้จะไม่รู้เรื่องอะไร แต่ก็กอดผมตอบแน่น
"พรุ่งนี้คุณหมอจะมาตรวจนะครับ ตรวจเสร็จแล้ว เราสองคนไปเที่ยวด้วยกันนะ"
"คุณพี่หมอจะมาเหรอครับ มาไวจังเลย เทม-เทม เทมยังไม่ได้เตรียมตัวเลยครับ"
"แค่ตรวจว่าไข้เทมหายดีหรือยังเฉยๆครับ ไม่ใช่สอบวัดระดับนะครับ ไม่ต้องกังวลนะ"
"เทมหายแล้วนะครับหมูหย็อง หายดีแบบหายเกลี้ยงมากๆเลย ถ้า ถ้า ถ้าพรุ่งนี้พี่หมอไม่ให้ไปเที่ยวล่ะครับ"
ผมผละตัวเองออกมาสบตากับเขา ได้ก้มลงมองเทมปุระในมุมที่สูงกว่าแบบนี้ ผมชอบมากเลย ผมแนบฝ่ามือกับแก้มของคนที่กำลังกังวล ใช้ปลายจมูกกดแก้มพิสูจน์ความนุ่มทั้งสองข้างอย่างแนบชิด
"ไม่มีใครมาขัดขวางเราได้หรอกนะครับ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ" ผมจรดจุมพิตบนหน้าผากใสอีกครั้ง ถอดแว่นตาจากดวงหน้าแสนรักกลับคืน ก่อนจะค่อยๆยกตัวเองลงจากตักแกร่งของเขา โซ่ที่ล่ามผมไว้เส้นสุดท้ายกำลังจะขาดลง ถ้ายังช้าอีกแค่วินาทีเดียว
เทมยังดูเคลิบเคลิ้มกับสัมผัสของผมอยู่ เขาหันมากอดผมไว้ รัดรั้งยังไม่อยากให้ผมจากไป หัวทุยเอียงมาซบถูไถ
ผมถือว่าเขาเป็นคนเริ่มก่อน และการสนองก็ถือว่าเหนือข้อตกลง
"หมูหย็องครับ...เทม เทม เทมรู้สึกแปลกๆ" ผมยิ้ม รู้ว่าเขาเป็นอะไร
แน่ล่ะครับ ก็ผมเป็นคนปลุกมันขึ้นมาเองกับมือ
อา หรือจะเรียกว่ากับสะโพกดีนะ
ผมไม่รู้ว่าผมหมักบ่มเขาได้ที่หรือยัง กับใบหน้าที่แดงไปด้วยแรงอารมณ์
ผมว่าผมควรลองชิมดูหน่อยนะครับ ถ้าแค่ชิม คงจะไม่เป็นอะไร ผมดึงเทมขึ้นมานั่งบนโซฟา เอนตัวราบไปกับเบาะรองนุ่มนิ่ม ฉุดคอเสื้อเขาให้เอนตามลงมา ร่ายมนตร์สะกดอีกฝ่ายให้คล้อยตามอย่างเชื่องช้า ผมตรึงสายตาเขาไว้ ไม่ให้สนใจอะไรนอกจากผม
เสียงกระทบพื้นของเข็มขัดที่ถูกถอดทิ้งลงข้างๆอย่างไม่ไยดี
เป็นเหมือนเสียงระฆังเริ่มต้น
ส่วนร้อนผ่าวของเขาอยู่ในกำมือของผม ทั้งสองต่างน้ำตาคลอรอผมช่วยปลดปล่อย
ซอกคอกรุ่นไปด้วยเหงื่อร้อนฉ่าจากอุณหภูมิผิวที่แผดเผาของเขา ผมละลาย และระเหยเป็นไอจากการถูกเผาไหม้อยู่ในอ้อมแขนแกร่ง ผมขบเม้มไปตามลำคอและใบหูคนข้างบน ปลูกสีกุหลาบ ตีตราเป็นเจ้าของอย่างที่ไม่ได้ทำมาเนิ่นนาน เสียงครางพึงพอใจของเขายิ่งปลุกปั่นอารมณ์ให้เตลิด ดอกไม้บานทั่วแผงอกที่สะท้านขึ้นลงรุนแรง
ไม่นานคนข้างบนก็ตัวเกร็ง ก่อนจะอ่อนยวบลงในอ้อมแขน ที่กลายเป็นโซ่ล่ามกอดกักนางฟ้าเอาไว้ ความชื้นแฉะประพรมไปทั่วตัวคนข้างล่างอย่างผม เทมคู้ตัวหอบหายใจอยู่กับอกที่นอนทับ จมูกโด่งเคลื่อนมาฝังซอกคอผมแน่น การเลียนแบบของเด็กน้อยเริ่มต้นขึ้น เทมปุระดูดและเลียไปทั่วลำคอและลาดไหล่ ผมเอียงคอให้เด็กชายผู้แสนบริสุทธิ์ทำได้ตามใจชอบ ผมครางเสียงเครือในลำคอด้วยความพึงใจยิ่งยวด
ผมกางมือที่เปรอะเปื้อนหยาดน้ำรักเขาขึ้นมามอง เจ้าน้ำขาวขุ่นสะท้อนแสงแลดูคล้ายสีไข่มุก
ลิ้นสีแดงตวัดมันเข้าปาก ลิ้มรสชาติของคนรัก
ผมเสร็จสมทั้งๆที่ไม่ได้แตะต้องของตัวเอง
ผมกับเทมเผลอหลับไปบนโซฟา ทั้งๆที่เนื้อตัวเหนียวเหนอะหนะ ผมลืมตาตื่นมาในอ้อมแขนของเขา ตื่นขึ้นมาจากเสียงปลุก คุณแม่บ้านเดินขึ้นมาแจ้งเตือนถึงการมาของแขก ผมหาวออกมานิดหน่อย
"เทมครับ คุณหมอมาแล้วนะครับ"
"อือ...มุ หมูหย็องครับ" ผมยิ้มให้คนขี้เซา อัญมณีสีน้ำตาลยังคงซ่อนอยู่หลังเปลือกตา ท่าทางเหมือนอยากนอนต่อ ผมจูบหยุดมือที่กำลังจะขยี้ตาตัวเองของเทมปุระ เด็กน้อยที่แสนเชื่อฟังก็ยอมลดมือลงแต่โดยดี เป็นเด็กดีจังเลยครับเทมของหมู
"ลุกขึ้นไปอาบน้ำนะครับเทม ให้คุณหมอรอนานไม่ดีนะครับ"
"ครับ..." เทมค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ทั้งๆที่มีผมอยู่ในอ้อมแขน ดวงตาสีน้ำตาลสวยค่อยๆถูกเผยออก นางฟ้าน้อยก้มลงมามองผมนิ่ง ก่อนจะยิ้มกว้างให้
"อรุณสวัสดิ์ครับหมูหย็อง"
"อรุณสวัสดิ์ครับเทม"
เสื้อที่หลุดลุ่ยของพวกเราเปิดออก เผยไหล่หนึ่งคู่ที่มีร่องรอยจุดสีแดงช้ำแต่งแต้มไปทั่วบริเวณ ผมอมยิ้มมองรอยบนคอของร่างสูงด้วยความพอใจ มันสดสวยและงดงาม และยิ่งมองรอยตีตราบนร่างกายของตัวเองผ่านนัยน์ตาของเขา ความภูมิใจก็อัดแน่นอยู่ในอก รอยยิ้มของผมกว้างขึ้น
เทมปุระของผมเรียนรู้ และเติบโตขึ้นไปอีกขั้นแล้ว
end 28 .
twitter #เพื่อนผู้ปกครอง
ต้องให้พี่หมูเขาบ้างนะคะ หลังจากถูกขัดมาเกือบยี่สิบตอน
เทมวิ่งหนีไปรูกกก วิ่งหนีไปปป