ขายครับ!!!!....ไม่ฟรี [MONEY MAN] ตอนที่ 37 #แยกกัน (26/10/2561)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ขายครับ!!!!....ไม่ฟรี [MONEY MAN] ตอนที่ 37 #แยกกัน (26/10/2561)  (อ่าน 27349 ครั้ง)

ออฟไลน์ Blue

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
งอนจริง งอนจัง

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 13



#เข้าใจยากจังวะ





“เป็นห่าอะไรของมึงวะ กูเห็นเหม่อแบบนี้มาเป็นอาทิตย์”

“…” เฮ้อ…ไม่รู้จะตอบนัทมันว่ายังไง เพราะผมก็ไม่เข้าใจว่าทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมาจิตใจผมทำไมไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว ทำอะไรก็ดูจะเบลอๆ ไปหมด จนนัทมันอดบ่นไม่ได้

“แล้วนี่เป็นเชี่ยไรกับไอ้ภาคมันอีก กูไม่เห็นมันมาเกาะแกะมึงเหมือนเมื่อก่อน” ก็ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่เจอหน้ามันอีกเลย มันหายไปแบบไร้ร่องรอย

“…” ผมไม่ตอบมัน ได้แต่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ แบบไร้เรี่ยวแรง

‘แล้วทำไม่กูต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ มันไม่อยู่ก็ดีแล้วหนิ’

แค่เหมือนจะดีเท่านั้น ผมคิดว่าวันนั้นผมก็ไม่ได้ผิดอะไร มันเองที่ทำเกินเหตุ แต่ทำไมผมต้องมานั่งเหี่ยวแบบนี้ด้วย ไม่เข้าใจตัวเองเลย

“ไม่สบายรึเปล่า ดูไม่ค่อยสดใสเลยวันนี้”

ช้อปเดินเข้ามาวางหลังมือลงบนหน้าผากผม

“ตัวก็ไม่ร้อนหนิ”

“เราไม่ได้เป็นไรหรอกแค่เหนื่อยๆ เอง” ผมตอบไปเพื่อให้ช้อปสบายใจ

“เย็นนี้ว่างไหม เรามีเรื่องจะคุยด้วย”

“ได้สิ แล้วมีเรื่องอะไรหรอ คุยตอนนี้ก็ได้นะ”

“ไม่ได้ เอาไว้ตอนเย็นเจอกันนะ” ช้อปลุกขึ้นเดินออก โดยทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มมาให้



อาทิตย์ที่ผ่านมาช้อปเป็นคนอาสาไปส่งผมที่ร้าน ก่อนหน้านี้ช้อปก็เคยบอกว่าจะเป็นคนพาผมไปส่งที่ร้านเอง แต่ก็ไม่ทันไอ้ภาคที่เรียนตรงกับผมซะส่วนใหญ่ พอเลิกเรียนปุ๊ปมันก็ลากผมขึ้นรถมาส่งที่ร้าน ไม่รอให้ช้อปได้เจอผม เพราะหลายครั้งที่มันได้ยินว่าช้อปจะเป็นคนมาส่งผม มันก็ลากผมออกมาทุกที จนหลังๆ ก็เป็นมันที่มาส่งและมานั่งเฝ้าผมตลอด

‘แล้วมึงหายไปแบบนี้ทำไมวะ’



เย็นนี้ช้อปเดินมารับผมที่หน้าตึกเรียน แต่ทำไมดูเหมือนวันนี้ดูสดใสเป็นพิเศษ เดินยิ้มมาให้ผมตั้งแต่ยังไม่ลงจากบันไดอาคารเรียน

“วันนี้ทำไมดูอารมณ์ดีจัง” ผมถามช้อปที่เดิมมาดึงกระเป๋าสะพายหลังผมไปถือให้

“ก็...เดี๋ยวเราบอก ก่อนอื่นเราไปที่รถกันก่อนนะ”



“ช้อปไม่ขึ้นรถหรอ” ผมหันไปถามคนที่ยืนอมยิ้มไม่ยอมกดปลดล็อกประตูรถสักที

“เรามีเรื่องจะคุยกับม่อนอะ” ช้อปพูดไปยิ้มไปเหมือนวันนี้มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น

“มีไรหรอ”

“เออ...คือ ที่เราบอกว่าวันนี้มีเรื่องจะคุยกับม่อน คือว่าเรา” ผมยิ้มให้กับช้อปที่ดูอ้ำๆ อึ้งๆ เหมือนกำลังทำอะไรไม่ถูก หันกลับหลังไปเหมือนกำลังจะเปิดท้ายรถ



‘แกเมื่อกี้มีรถชนคนหน้าคณะเรา’

‘ใครหรอวะแก’

‘ภาคไงแก เดือนคณะเราปีนี้อะ’



‘ภาค? เดือนคณะปีนี้ คงไม่ใช่มันหรอกมั้ง’

ผมยังชั่งใจกับสิ่งที่ได้ยิน พยายามคิดว่าคงไม่ใช่มันหรอก ถึงจะบอกว่ากำลังชั่งใจอยู่ แต่สองเท้าของผมตอนนี้ก้าวแซงหน้าของผู้หญิงกลุ่มนั้นตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้



‘ไม่ใช่มึงใช่ไหม’

ผมหยุดฝีเท้าของตัวเอง ก้าวเดินไปตรงกลุ่มนักศึกษาที่กำลัง ยืนจับกลุ่มคุยกัน ผมไม่เห็นมันอยู่ตรงนั้น



‘มึงอยู่ไหนภาค’

ผมเดินตรงไปยังกลุ่มนักศึกษาทันที

“คะ...คนที่โดนรถชนเมื่อกี้คือใครครับ” ผมถามด้วยเสียงสั่นๆ ขอให้คำตอบที่ได้ไม่ใช่อย่างที่ผมคิด



‘ไม่ใช่’

ผมหวังจะได้ยินแบบนั้น



“ใช่”

ผมยืนนิ่งกับคำตอบที่ได้ยิน ร่างกายของผมตอนนี้สั่นจนผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ขาที่ตอนนี้เหมือนจะหมดแรงลงไปดื้อๆ

“ปึก”

ร่างกายของผมล้มเอียงไปกระทบกับบางสิ่ง ‘ช้อป’

“ช้อป...ช้อปหรอ” ผมมองหน้าคนตรงหน้า

“ใจเย็นๆ ม่อน เกิดอะไรขึ้น” ช้อปพยายามพูดจับไหล่ทั้งสองข้างผมไว้ เพื่อให้ผมใจเย็นลง

“ภาค...ภาคมันโดนรถชน ช้อปพาเราไปหามันทีได้ไหม” ผมเขย่าแขนของทั้งสองข้างของช้อป ผมไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ครับ รู้แค่ว่าตอนนี้อยากเจอมัน อยากรู้ว่ามันเป็นอะไรรึเปล่า



ช้อปขับรถพาผมมาที่โรงพยาบาลศูนย์ของมหาลัย ผมสังเกตว่าช้อปนั่งนิ่งตลอดทางไม่แม้แต่คุยกับผม มีแต่ผมเท่านั้นที่ตอนนี้นั่งกระวนกระวาย มองตามทางข้างหน้าว่าเมื่อไรจะถึงโรงพยาบาลสักที

ผมเปิดประตูวิ่งออกจากรถทันที วิ่งตรงไปที่เค้าเตอร์หน้าห้องฉุกเฉิน

“คนไข้ปลอดภัยแล้วนะคะอยู่ที่ห้อง 405”

ผมวิ่งตรงไปที่ห้องที่พยาบาลบอกทันที ผมเอื้อมมือค่อยๆเลื่อนประตูเข้าไป

ภายในห้องมีเพื่อนๆ ของมันยืนมุงดูมันอยู่ ผมเดินเข้าไปในห้อง เพื่อนของมันที่ยืนอยู่หันมามองหน้าผมพร้อมกัน พวกมันไม่พูดอะไรเพียงเบี่ยงตัวเองให้ผมเดินเข้าไปหาภาคที่เตียงเท่านั้น

ผมสำรวจร่างกายของมันที่นอนหลับอยู่บนเตียง บนหัวมีผ้าพันแผลพันอยู่รอบๆ ที่แขนข้างซ้ายมีเฝือกสีขาวดามอยู่

“หมอบอกว่ามันไม่เป็นไรแล้ว แค่หัวแตกกับแขนหักเท่านั้น” ผมหันไปพยักหน้าให้กับเพื่อนของมัน ผมกลับไปมองที่มัน ก่อนหน้านี้ผมไม่เจอมันเป็นอาทิตย์ ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นอยากเจอมันรึเปล่า แค่รู้สึกว่าตอนไม่มีมันค่อยกวนแล้วเหมือนตัวเองขาดอะไรไปสักอย่าง

ไม่รู้ว่าผมควรดีใจที่ได้เจอมันในสภาพแบบนี้หรือเปล่า แต่อย่างน้อยก็ได้รู้ว่ามันปลอดภัย ผมยอมรับว่าตอนนั้นผมเป็นห่วงมันมาก ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องเป็นห่วงมันขนาดนั้น

ผมเดินออกจากเตียง หลังจากยืนมองมันที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงสักพัก ช้อปที่ยืนอยู่หน้าประตูห้อง เดินตามผมออกมานอกห้องโดยไม่ได้พูดอะไร



“ม่อน ยังจำที่เราบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย” ช้อปพูดขึ้นหลังจากรถจอดสนิทที่หน้าหอพักของผม ใช่สิผมลืมไปเลยว่าช้อปมีเรื่องจะคุยกับผม ก็ตอนนั้นผมวิ่งออกมาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้คุยอะไรกับช้อปเลย

“อืม...ช้อปมีไรหรอ”

“จริงวันนี้เราจะขอม่อนเป็นแฟนนะ”

“ช้อปวะ...ว่าไงนะ” ผมกำลังอึ้งกับประโยคที่ช้อปพูดเมื่อกี้

“เราอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ แต่เราก็ยังอยากจะลอง”

“ช้อป...”

“ตอนที่ภาคมันหายหน้าไป เราดีใจมาก ดีใจที่รู้ว่าเหลือเราคนเดียวที่ชอบม่อน....” ช้อปยืดตัวตรงมือทั้งสองข้างกำพวงมาลัยรถไว้แน่น

ใบหน้าที่ยิ้มขณะพูด มันเป็นยิ้มที่เหมือนพยายามฝืนมันออกมาเท่านั้น

“ตอนนั้นเราคิดว่าจะถือโอกาสจะลองขอคบกับม่อนดู ถึงแม้เราจะรู้เหตุผลว่าทำไมม่อนถึงดูเหม่อไม่มีชีวิตชีวา ที่ผ่านมาเราพยายามทำเป็นว่าไม่รู้ไม่เห็น แต่ตอนที่ม่อนวิ่งออกมาหามัน ขอให้เราพาไปหามัน สายตาม่อนที่เป็นห่วงมันมาก เรามั่นใจแล้วว่าคนในใจม่อนคือภาค ไม่ใช่เรา”

“ช้อป” ผมยื่นมือไปจับมือช้อปไว้

ผมไม่รู้เลยว่าเรื่องที่ช้อปขอคุยด้วยเมื่อตอนเย็นคือเรื่องนี้ เพียงแค่รู้สึกว่าวันนี้ช้อปดูตื่นเต้นเป็นพิเศษเท่านั้น

ตลอดที่ผ่านมาผมก็รู้ว่าช้อปคิดอะไรกับผม ช้อปคอยดูแล ให้เกียรติผมเสมอ ผมพยายามเปิดใจรับช้อปเข้ามาหลายครั้ง แต่ความรู้สึกที่มีต่อช้อปก็มีแค่คำว่าเพื่อนเท่านั้น

ผมยอมรับว่าที่ผ่านมาผมปฏิเสธเสมอว่าไม่ได้คิดอะไรกับภาคมันทั้งนั้น ผมไม่ได้แม้จะเปิดใจรับมันเข้ามาสักครั้ง ผมไม่รู้ว่าปล่อยให้มันแทรกเข้ามาตอนไหน รู้เพียงว่าตอนนี้ในใจผมมีแค่มันเท่านั้น

“เราขอโทษ ที่รู้สึกกับช้อปเพียงแค่เพื่อนเท่านั้น เราพยายามแล้ว”

“ม่อนไม่ผิดหรอก เรื่องแบบนี้มันบังคับกันไม่ได้ เราเข้าใจ” ช้อปพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“เราไม่รู้ถ้าพูดแบบนี้จะเห็นแก่ตัวเกินไปไหม เราไม่รู้ว่าช้อปจะรู้สึกยังไงถ้าเราจะขอให้ช้อปเป็นเพื่อนเราแบบนี้ต่อไป เราไม่อยากเสียเพื่อนที่ดีแบบช้อปไป”

ถึงจะดูว่าผมเห็นแก่ตัว แต่ผมไม่อยากเสียเพื่อนอย่างช้อป ที่ถึงแม้จะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ช้อปก็เป็นเหมือนนัท อาร์ม มีน และเฟิร์น ที่เป็นเพื่อนที่ผมรักมากที่สุด

ผมควรทำยังไงดีครับทั้งเรื่องช้อป ที่ผมเพิ่งปฏิเสธความรู้สึกของเขาไป เรื่องของภาคที่ผมยังไม่รู้จะจัดการยังไงกับความรู้สึกของตัวเอง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันยิ่งทำให้ผมสับสน

ทำไม ‘ความรัก’ มันเข้าใจยากแบบนี้วะ





Part

ช้อป



แห้วครับ ขอเวลาทำใจ พร้อมเมื่อไรผมจะกลับมา




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-08-2018 08:32:12 โดย TONYZZYUKI »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ม่อนโคตรจะโลเล เลยอ่ะ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ม่อนใจอยู่ที่ภาคแล้วละ อย่าปฎิเสธตัวเองเลย
ภาค ดีแล้วที่ไม่เป็นอะไรมาก คงใจลอยไม่ระวัง
คนเขียน คำผิดหายไปแล้ว แต่ได้เว้นบรรทัดเยอะแถมมานะ อิอิอิ
 :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ครึ่งหลัง



Part

ภาค



“ม่อน...ม่อนๆ โอ้ยๆ”

ความปวดแล่นแปร๊ปเข้ามาที่หัว ทำไม่ปวดแบบนี้วะ

“มึงฟื้นแล้วหรอภาค” ผมลืมตาขึ้นพยายามปรับโฟกัสสายตา เพราะตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวผมเหมือนจะเบลอไปเสียหมด

“ม่อน...ม่อนละ” ผมดีดตัวขึ้นจากเตียงกวาดสายตามองรอบห้อง

ก่อนจะฟื้นผมรู้สึกว่าม่อนมาหาผม แล้วตอนนี้มันหายไปไหน

“มึงใจเย็นๆ นอนลงก่อน”

“กูอยู่ที่ไหนวะเนี่ย” ผมถามไอ้ป๋อที่ยืนอยู่ข้างเตียง ข้างๆ มีไอ้โอมกับทีมยืนอยู่

“มึงโดนรถชน ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล” โดนรถชน? ผมพยายามนั่งนึกเหตุการณ์ก่อนหน้า ใช่สิผมโดนรถชน

“แล้ว...ม่อนละ” เสียงผมเบาลง มองหน้าเพื่อนที่ยืนอยู่รอบๆ เตียง ใช่สิมันจะมาหาผมทำไม



ผ่านมาเกือบอาทิตย์ หลังจากวันนั้นวันที่ผมเลือกจะเดินออกมาจากม่อน ผมเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ผมทำไปมันคงไม่สามารถลบล้างความผิดที่ผมทำกับมันได้ มันมองไม่เห็นแม้กระทั่งความเป็นห่วงจากผม ผมไม่รู้ว่าจะทำแบบนี้ต่อไปทำไม เพราะคำตอบที่ได้ก็มีแค่มันเกลียดผม มันเกลียดผมแล้วจริงๆ

แต่ทำไมผมถึงทำใจลืมมันไม่ได้สักที ทุกวันผมมักจะนั่งเหม่อ ไม่เป็นตัวของตัวเอง จนวันนั้นที่ผมเดินเหม่อข้ามถนนจนถูกรถชนเข้า แต่ดูแล้วผมคงไม่เป็นอะไรมากเพราะมีแค่อาการปวดหัวจากหัวแตกกับแขนข้างซ้ายหักเท่านั้น

“มันกลับไปแล้ว” ป๋อมันตอบผมหลังจากที่ยืนนิ่งไป

“มึงว่าไงนะ ม่อนมันมาหากูหรอ ทำไมมึงไม่ปลุกกู” ผมไม่รู้ว่าดีใจแค่ไหนตอนที่ผมได้ยินว่าม่อนมาหา ผมแทบกระโดดลงจากเตียง แต่โดนพวกมันห้ามไว้ก่อน

“มันพูดอะไรกับพวกมึงบ้าง”

“มันไม่ได้พูดอะไร แค่มายืนมองมึงแค่นั้น” ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นอยากได้ยินคำไหนจากมัน แค่อยากรู้ว่ามันเป็นห่วงผมบ้างไหม มันแค่มายืนมองผมเท่านั้นหรอ ผมไม่สำคัญกับมันบ้างเลยหรอ แค่เป็นห่วงก็ไม่มีเลยหรอ

ผมเอนตัวลงนอนหันหลังให้กับพวกไอ้ป๋อ

“แต่ตอนมันเข้ามามันดูเป็นห่วงมึงมากนะ กูเห็นมันเดินตัวสั่นเข้ามาดูมึง”

“มันเป็นห่วงกูจริงๆ หรอ” ผมหันกลับไปมือรวบที่แขนไอ้ป๋อ เขย่าแขนถามมันเพื่อความแน่ใจ ป๋อเพียงพยักหน้ารับเท่านั้น

“มึงเอาจริงหรอวะ กับมันอ่ะ กูคิดว่ามึงแค่เล่นๆ แค่อยากจะทำให้ลืม...เอ่อ”

ผมเข้าใจว่าป๋อมันหมายถึงใคร ใครคนที่ทำให้ผมเจ็บๆ มาก เจ็บจนแทบจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ เขาคือผู้หญิงที่ผมรัก รักที่สุด ผมทำเพื่อเขาได้ทุกอย่าง เขาไม่ชอบควันบุหรี่ผมก็เลิกสูบ เขาไม่ชอบให้เที่ยวกลางคืนผมก็เลิก ผมยอมเขาทุกๆ อย่าง คิดว่าขาคือคนที่ใช่สำหรับผมแล้ว

แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่ผมวาดฝันไว้ เมื่อวันหนึ่งเขาเดินเข้ามาบอกว่าเขา’ หมดรัก’ ผมแล้ว ผมพยายามทำให้ดูเหมือนเป็นเรื่องตลก คิดว่าเขาคงอยากจะเซอร์ไพซ์ผมแน่ๆ ใช่ครับมันเซอร์ไพซ์มาก เขาพาผู้ชายคนใหม่มาเปิดตัวต่อหน้าผม สิ่งที่ผมฝันไว้ทั้งหมดพังลงในทันที ผมทำใจยอมรับไม่ได้ จนต้องกินเหล้าทุกวันเพียงเพื่อจะลืมเขาให้ได้เท่านั้น

จนวันหนึ่ง วันที่ผมเจอกับ “ม่อน” ผมยอมรับว่าครั้งแรกที่เจอมันผมไม่ได้รู้สึกชอบหรือรู้สึกดีอะไรกับมันเลย เพียงแค่อยากลองเพื่อความสนุกเท่านั้น

มันปฏิเสธผมครับ ผมก็ไม่ได้จริงจังอะไรอยู่แล้วแค่อยากจะเอาชนะความหยิ่งในศักดิ์ศรีของมันเท่านั้น

‘กูจะมาขายให้มึง’

ผมไม่รู้ว่าอะไรทำให้มันเปลี่ยนใจ ถึงกับยอมทิ้งศักดิ์ศรีของมัน ตอนที่ผมมีอะไรกับมัน ผมเพียงนึกสนุกเท่านั้น สนุกที่ได้เห็นว่ามีคนที่ยอมทำเพื่อเงินได้ถึงขนาดนั้น ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหนรู้แค่ว่า

“กูรักมันแล้ววะ”





Part

ม่อน



“มึงชอบไอ้ภาคมันหรอวะ”

“ที่กูทำตอนนี้มึงว่ากูควรเรียกว่าอะไร” ผมหันไปถามนัทกลับ ทั้งที่ยังไม่ได้ตอบคำถามมัน

“กูไม่คิดว่าจะเป็นมัน แล้วช้อปละ”

“มึงว่ากูเห็นแก่ตัวไหม ทั้งที่กูปฏิเสธความรู้สึกเขา แต่ก็ยังขอให้เขาอยู่” ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันเห็นแก่ตัว แต่ผมก็ไม่อยากเสียเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของผมไป

“มึงไม่ผิดหรอก เรื่องแบบนี้มันบังคับกันไม่ได้ กูเชื่อว่าช้อปมันเข้าใจมึง และกูก็มั่นใจว่ามันเข้มแข็งพอ แต่ตอนนี้เรื่องของมึงกับภาคจะเอายังไงต่อ”

ผมล้มตัวลงนอนปล่อยให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับมันไหลเข้ามาในหัว ผมกำลังคิดว่าจะเอายังไงต่อดีกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นดี



‘405’

ผมก้าวเท้ามาหยุดยืนตรงหน้าห้องพักฟื้นของมัน ผมไม่รู้ใจว่าจะเข้าไปหามันดีไหม อยากเข้าไปคุยกับมัน อยากมั่นใจกันความรู้สึกที่มี เพียงแต่ผมไม่มีความกล้าพอที่จะเดินเข้าไปหามัน

‘กึก’

สายตาผมสบเข้ากับมันอย่างจัง ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไง ทำได้เพียงก้าวเท้าเดินหลบออกจากตรงนั้น

“ม่อน”

เสียกเรียกของมันไล่ตามมาด้านหลัง ผมมองสองข้างทางก่อนเดินเข้าไปหลบมันตรงซอกบันได

“โอ้ย!!!” ผมแอบชะโงกหน้าไปมองมันอยู่ไกลๆ ตอนนี้ตัวของมันล้มลงไปกองกับพื้น

“ถ้ามึงไม่เป็นห่วงกูแล้วมึงทำแบบนี้ทำไม” มันก้มหน้าพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“กูพยายามถอยออกจากมึง ไม่คิดถึงมึง...กูพยายามแล้ว แต่กูทำไม่ได้ กูทำไม่ได้มึงเข้าใจไหม”

คำพูดของมันทำให้ผมรู้สึกหน่วงๆ ตรงหัวใจ กับความไม่มั่นใจของผมตอนนี้



‘ผมควรปล่อยมันไป’

หรือ

‘ทำตามหัวใจตัวเอง’



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-08-2018 08:34:17 โดย TONYZZYUKI »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 14



#เอาวะ







“ภาค…”





ผมก้าวเท้าออกมาจากซอกบันได เดินออกไปยืนตรงหน้าของมันที่กำลังนั่งก้มหน้าอยู่





“ม่อน มึง....”





หน้ามันดูแปลกใจที่เห็นหน้าผม มันพยายามใช้มือข้างหนึ่งดันตัวเองให้ลุกขึ้น





ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่มั่นใจว่าทำไม่ตัวเองถึงมายืนอยู่ตรงนี้







“มึงกลับมาทำไม” มันสบตาผม มองเหมือนต้องการจะรู้คำตอบ







“ถ้ามึงไม่ได้คิดอะไรกับกูมึงก็ไปซะ กูไม่อยาก...”

ร่างกายตอนนี้เหมือนผมไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไป ขาที่ก้าวเดินตรงไปหามันที่กำลังหันหลังกลับไป มือที่ยื่นออกไปรวบตัวมันไว้ ผมรู้แล้วว่าผมไม่สามารถทำสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจผมได้แล้ว







“มึงทำแบบนี้หมายความว่ายังไง” มันหยุดนิ่งไม่ขยับตัว เหมือนรอฟังคำตอบจากผมอยู่







“กู...กู” มันจับมือที่ผมกอดอยู่ออก หันกลับมามองหน้าผมแทน ผมไม่รู้ว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงขนาดไหน







มันสบตาผมรอฟังสิ่งที่ผมจะพูด แต่ก็ติดที่ปากผมมันยังติดๆ ขัดพูดไม่ออกสักที







“มึงคิดกับกูแบบไหน” คำที่ออกมาจากปากผม ผมแค่ต้องการความมั่นใจเพิ่มแค่เท่านั้น







“ถ้าสิ่งที่กูทำให้มึงเห็นมันยังไม่ชัดเจนพอกูคงต้อง...” มันคลายมือออกจากแขนของผม เตรียมหันหลังเดินออกไปอีกครั้ง









“กูคิดเหมือนมึง”

มันหยุดเดินหันกลับมาหาผมทันที





“มึงหมายความว่ายังไง”







“…”

มันสบตารอคำตอบ ทันทีที่ผมพยักหน้าเป็นคำตอบให้มัน ร่างกายผมก็ถูกรวบกอดด้วยแขนสองข้างของมัน เป็นกอดที่ทำให้รู้สึกดี ดีมากๆ ความหน่วงที่อยู่ในใจผมตอนนี้จางหายไปหมดแล้ว จากใจที่หดลีบอยู่กลายเป็นพองโตขึ้นมาทันที









ผมเลือกที่จะยอมทำตามหัวใจตัวเอง ผมไม่รู้ว่าถ้ามันหายไปจริงๆ ไม่ใช่แค่การหลบหน้าผมแบบที่ผ่านมา ผมจะเป็นอย่างไร แค่ที่ผ่านมามันก็ทำให้ผมเสียความเป็นตัวของตัวเอง ความรู้สึกเหมือนเหมือนรอบตัว ความสดใส ความสุขที่มีอยู่ แม้แค่เพียงเล็กน้อยก็ตามค่อยลดลงไป ถ้าหากผมปล่อยมันไปจริงๆ ผมไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนดึงความรู้สึกแบบเดินของผมกลับมาได้







มันคลายอ้อมกอดจากผมเปลี่ยนเป็นจับมือทั้งสองข้างผมเอาไว้แทน







“กูขอบคุณมึงมากที่ยอมเชื่อใจกู”







มือมันที่กุมมือผมอยู่ ค่อยเลื่อนขึ้นมาประคองหน้าผมไว้ ใบหน้าของมันที่กำลังก้มลงมาชิดกับใบหน้าของผม มันค่อยเลื่อนหน้าเข้ามาประกบริมฝีปากนุ่มเข้ากับผม มันไม่ใช่การจูบที่ดูดดื่มหรือรุนแรง เป็นการจูบที่นุ่มนวลอ่อนโยน แต่ก็ทำให้หัวใจเต้นรัวได้เป็นอย่างดี จนไม่อยากจะละออกจากมัน







“ว้าย!!! ขอโทษค่ะ”







เสียงพยาบาลสาวที่กำลังเดินผ่านมา จนผมต้องถอยตัวออกจากมัน มันเพียงหันไปยิ้มให้กับเขา ที่เดินผ่านหน้าไปอย่างอายๆ







“อึก”







ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยห้ามมันก็ก้มลงมาจูบผมอีกครั้ง ผมไม่ได้ห้ามหรือขัดขืนมันแต่อย่างไร เพราะยอมรับเลยว่าชอบความรู้สึกที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้มากเหมือนกัน













“ป้อนหน่อย นะๆ”







“แขนมึงหักแค่ข้างเดียว” ผมเสตาไปมองที่แขนข้างที่ยังดีของมัน แดกเองไม่ได้รึไงแค่แขนหักไม่ได้เป็นง่อย







“ก็อยากให้...แฟนป้อน”







“ใครแฟนมึง แล้วกูไปเป็นแฟนมึงตั้งแต่ตอนไหน”







“…”







“กูขอเวลาอีกหน่อย แค่เรื่องวันนี้กว่ากูจะกล้ามาหามึง กูก็เหนื่อยแล้ว” ต้องเอาใจมันสักหน่อยครับ แม่งอยู่ดีๆ ก็บิลล์อารมณ์เข้าโหมดดราม่าอีก สงสัยไบโพล่าแม่งกำเริบอีก นั้นไงยังไม่ทันขาดคำมันยิ้มอีกละ แถมยังอ้าปากอ้อนให้ผมป้อนข้าวมันอีก







“อร่อยที่ซู้ดดดดด”





“อร่อยห่าอะไรข้าวโรงพยาบาลแม่งจืดชิบหาย” ทุกคนคงรู้นะครับว่าอาหารคนไข้ของโรงพยาบาลขึ้นชื่อเรื่องความจืดชืดที่สุด ผมนี่แทบจะเรียกหาพริกน้ำปลากับข้าวกะเพราของผมทันที





“อร่อยเพราะมีคนป้อนให้ไง” นี่กูคิดถูกไหมเนี่ย ไม่คิดว่ามันจะปัญญาอ่อนได้ถึงขนาดนี้











“อยู่เป็นเพื่อนกูนะๆ ๆ ๆ ๆ”



หลังจากที่หมอเข้ามาดูอาการแล้วให้มันกลับมาพักฟื้นเองได้ ผมมาส่งมันที่คอนโด แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ส่งมันแล้วผมจะได้กลับออกมา มันนั่งอ้อนดึงแขนผมให้อยู่เป็นเพื่อนมัน พอผมทำเหมือนว่าจะลุกกลับมันก็ทำเป็นร้องโอดโอยปวดหัวบ้างละ เจ็บแขนบ้างละ ถ้าไม่ติดว่ามีผ้าพันแผลอยู่ผมจะเบิ้ดหัวมันสักป๊าบหนึ่ง









“ขอนอนกอดหน่อยนะ”

ผมยังไม่ทันบอกอนุญาตมันสักคำ มืออุ่นก็สอดเข้ามาที่แผ่นหลังของผม มันอบอุ่นมากครับเป็นกอดที่ทำให้ผมอบอุ่นมากจริงๆ





“มึงรู้ไหมตอนที่มึงบอกว่าคิดเหมือนกันกับกู กูคิดว่ากูหูฝาด มึงรู้ไหมตอนนั้นกูดีใจมาก ต่อจากนี้ไปกูจะดูแลมึงและจะไม่มีวันทำร้ายมึงอีก กูสัญญา”





มันซุกหน้าเข้าที่แผ่นหลังผม กอดผมแน่นเหมือนกลัวว่าผมจะหนีมันไปไหน







‘กูไม่หนีมึงไปไหนหรอก เพราะกูเลือกทำตาม หัวใจ กูแล้ว’











“มึงไปเรียนไหวจริงหรอ”

ผมถามมันที่กำลังยืนแต่งตัวอย่างเก้ๆ กังๆ อยู่หน้ากระจก





“ไหวสิ ก็มีคนคอยดูแลอยู่”





“ใคร ใครจะดูแลมึง เพื่อนมึงก็มี” ผมพูดแล้วเดินหนีออกมาที่ห้องนั่งเล่น จริงแค่อยากแกล้งมันเท่านั้นแหละ รำคาญแม่ง ทำเหมือนเป็นง่อยอย่างนั้นแหละ





“ตัวเองไม่เป็นห่วงเค้าจริงๆ หรอ”





“ตัวเองเชี่ยไร ถอยไป ขนลุกวะ” มันเดินมาเกยคางที่ไหล่ผม ตัวอย่างกับควายทำเป็นอ้อนเหมือนกับเด็กไปได้ ผมเดินหนีออกจากห้องโดยไม่รอมัน





“หายไปทั้งวันทั้งคืน นี่ยังไงวะมึง” นัทเดินเข้ามากระซิบที่ข้างหูผม





“ใกล้ไปแล้วมึง” ไม่ใช่ใครครับก็ไอ้เดี้ยงที่ยืนอยู่ข้าง ตอนนี้กำลังแยกเขี้ยวใส่นัทมันอยู่







“ไอ้สัส ได้เพื่อนกูไปอยู่ด้วยแค่คืนเดียว ทำมาเป็นเจ้าของ” มึงจะไปแหย่มันทำไมวะนัท ก็รู้อยู่ว่ามันยิ่งไม่เหมือนใคร





“กูหวงของกู” ผมเดินหนีพวกมันที่ยืนเถียงกันอยู่ เอือมมันทั้งสองคนมากครับตอนนี้ คนหนึ่งก็ชอบแหย่อีกคนรู้ว่าเขาแหย่ก็ยังไปเถียงกับเขาอีก เฮ้ออออ







“เจอกันที่ร้านนะมึง” วันนี้แก๊งผมมีนัดกันที่ร้านที่ผมทำงาน ไม่ใช่แค่แก๊งผมเท่านั้นนะครับ ก็ไอ้ตัวภาระที่ยืนยิ้มมองผมอยู่ จะทิ้งก็ไม่ได้แขนเดี้ยงไปข้างหนึ่ง มันคงไม่มีปัญญาขับรถกลับเอง หน้าที่สารถีเลยตกเป็นของผมโดยปริยาย เฮ้อ แล้วไอ้รถแพงนี่มันขับยากจัง จะว่ายากก็ไม่ยากหรอกครับแต่เกร็งนี่สิ ถ้าเกิดผมเผลอขับไปชนเข้า มีหวังได้หาเงินจ่ายค่าซ่อมรถมันไปทั้งชีวิตแน่





“เกร็งอะไรขนาดนั้นวะ กูเห็นมึงเกร็งตั้งแต่เช้า”





“เกร็งสิวะกูเคยขับรถแพงแบบนี้สักที่ไหน ขืนกูขับไปชนอะไรเข้ากุไม่ต้องทำงานชดใช้มึงตลอดชีวิตเลยรึไง” ผมหันไปบ่นกับมัน





“ชนก็ดีมึงจะได้เป็นหนี้กูตลอดชีวิตไง” มันไม่ได้พูดแค่นั้น โน้มตัวมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่





“มึงอย่าพึงทำแบบนี้ได้ไหม ขอเวลากูก่อน”





“เฮ้ย...กูขอโทษที่รุ่มร่าม” ดูมันหน้าเสียไปเลยครับ มันคงกลัวผมโกรธมัน





“กูไม่ได้ว่าอะไร แค่ขอเวลาอีกนิดนะ” ผมหันไปทำหน้าปลอบๆ มัน











“มึงไม่ไปนั่งกับพวกเพื่อนกูละ” ผมเดินมาบอกมันที่นั่งอยู่ตรงเค้าเตอร์ร้าน มองผมเดินไปเดินแล้วยิ้มอยู่คนเดียว





“แล้วนี่ยิ้มไรนักหนา”





“มองแฟนทำงานไง แฟนขยันแบบนี้หาได้ที่ไหนอีก โอ้ย...” ผมยกถาดที่ถืออยู่ ทำเหมือนว่าจะฟาดมัน แต่ไม่รู้มันทำอิท่าไหน คงลืมว่าตัวเองแขนหักยกแขนขึ้นบัง





“มึงเป็นไงบ้าง” ผมวางถาดที่ถืออยู่ลง เดินเข้าไปดูมันทันที





“เจ็บๆ มากๆ เลย เป่าให้หน่อยนะๆ ๆ ๆ ๆ” ก่อนหน้านี้ผมน่าจะเอาถาดฟาดมันจริงๆ ไปเลย ถ้ามันจะมาอ้อน กวนตีนแบบนี้





“เจ็บจริงๆ นะ” มันทำหน้าอ้อนแบบสุดเหนื่อยกับความปัญญาอ่อนขอมันจริงๆ





“ฟู…” แล้วทำไมผมต้องเล่นกับมันด้วยเนี่ย สงสัยคงว่าความปัญญาอ่อนมันคงเป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่งนะครับ





“น้อยๆ หน่อยพวกมึง ก่อนหน้านี้กูเห็นจะเป็นจะตายกัน วันนี้เสือกหวานไม่เกรงใจเพื่อนอย่างพวกกูเล๊ย” เสียงนัทที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้แซวมา ผมไม่มั่นใจว่าอาการหน้าร้อนหูร้อนนี่เรียกว่า เขิน ไหม แต่ถ้าใช่ผมก็คงต้องยอมรับว่าผมกำลังเขินและเขินมากๆ ด้วย













“เงินที่มึงได้จากกูไปวันนั้นมึงเอาไปทำอะไรบอกกูได้ไหมวะ” ผมที่กำลังตั้งใจกับการขับรถอยู่หันไปมองหน้าคนที่ตั้งคำถามมาที่ผม





“วันนั้นแม่กูต้องผ่าตัดด่วน กูไม่รู้จะทำยังไง กูถึงเลือกทำแบบนั้นไง”





“ตอนนั้นกูไม่รู้มาก่อน กูคิดแค่ว่ามึงเห็นแกเงินเท่านั้น กูขอโทษนะ” ผมหันไปพยักหน้าให้มัน จริงผมคงโทษมันไม่ได้หรอกครับ เพราะผมเลือกเองทั้งนั้น และก็ไม่ใช่เรื่องของมันที่จะมารับรู้เรื่องในชีวิตของผมด้วย เพราะตอนนั้นเราก็เป็นแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น





“แล้วที่มึงต้องทำงานหนัก...”





“ถ้ากูไม่ทำกูจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเทอม ค่ากิน ค่าอยู่ละ ไหนจะต้องส่งให้ทางบ้านกูอีก”





“ให้กูช่วยมึงไหม”





“มันเป็นหน้าที่ที่กูต้องทำอยู่แล้ว ชีวิตกูกับมึงมันแตกต่างกันมาก กูรู้ว่ามึงช่วยกูได้ แต่ถ้ากูคอยให้แต่มึงช่วยวันหนึ่งถ้ากูไม่มีมึงจะเป็นยังไง ตัวกูเองคงไม่เป็นไรแต่ครอบครัวกูหละ” ผมรู้ว่าแค่เศษเงินของครอบครัวมันก็มากกว่าเงินทั้งหมดที่ครอบครัวผมมี แต่ผมคงไม่ขอรับความหวังดีของมันไว้ ถึงตอนนี้จะลำบากหน่อยแต่เชื่อว่าอนาคตผมต้องทำให้ครอบครัวผมสบายได้แน่นอน





“กูเข้าใจมึง แต่ถ้ามีอะไร อย่าลืมว่ามีกูอยู่ตรงนี้อยู่ข้างๆ มึง”










วันนี้มาเร็วหน่อย เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อให้อีกนะครับ


ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เริ่มปรับความเข้าใจกันได้แล้ว :katai2-1:

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
โอ้ยยย  เลี่ยนอ่ะภาค

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
อื้อหืออ ฟ้าหลังฝนก็โหมดปัญญาอ่อนก็มา โอ้ยยย เปลี่ยนลุคดีเเท้

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ติดตามมมม

ออฟไลน์ jinutlove

  • ไม่คิดที่จะรัก
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mew1: :pig4:น่ารักจังอ้อนอีกๆภาคย์

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 15





#วุ่นวายยกกำลังสอง





Part

ช้อป






“โทษทีครับพี่”





“เดินดีๆ หน่อยสิน้อง” เดินอยู่ดีๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้เดินเข้ามาชน เจ็บสิครับชนเข้าเต็มอกผมเลย





“ขอโทษครับผมไม่ระวัง พอดีมาที่นี่ครั้งแรกครับ” เด็กคนนั้นยกมือไหว้ขอโทษ จริงน้องเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร ผมเองก็มั่งแต่เดินเหม่อเหมือนกัน แล้วทำไม่เด็กคนนี้หน้าตาคุ้นๆ จัง เหมือนเคยเห็นที่ไหน





“ไม่เป็นไรๆ ทีหลังก็เดินระวังๆ หน่อย” น้องมันพยักหน้าเดินก้มหน้าผ่านผมไป





“เออ...พี่ครับ ผมรบกวนหน่อยได้ไหมครับ” ผมกำลังจะก้าวเดินต่อเสียงเรียกจากด้านหลังดังขึ้น ก็เด็กคนเมื่อกี้นี่แหละครับนึกว่าจะไปแล้ว เดินกลับมาที่ผม





“มีไรรึเปล่า”





“พอดีผมจะไปหอxxxนะครับ” ผมชะงักไปสักพัก ก็หอxxxที่น้องมันถามคือหอพักม่อน เฮ้อ หลังจากวันนั้นผมก็ไม่ได้ไปเจอหน้าม่อนเลย ทำใจยังไม่ได้จริงๆ ทั้งๆ ที่คิดว่าตัวเองมีโอกาศแล้ว แต่ก็ไม่ใช่เลย ดูเหมือนว่าม่อนจะให้ผมได้แค่เพื่อนเท่านั้น ผมเข้าใจที่ม่อนขอไว้นะครับ ว่ายังอยากเป็นเพื่อนกับผมอยู่ ผมเองก็ไม่อยากเสีย ‘เพื่อน’ อย่างม่อน ผมไม่หนีไปไหนหรอกครับ เพียงขอทำใจสักระยะหนึ่งก่อนเท่านั้น





“พี่ พี่ครับ ฟังผมอยู่รึเปล่า” น้องมันคงเห็นผมเหม่อไปมั้งครับ เรียกซะเสียงดังเชียว





“เอ่อ...หอxxxใช่ไหม เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง” น้องแสดงสีหน้าดีใจ ส่งยิ้มมาให้ผม รอยยิ้มนี้ทำไมผมคุ้นมันจัง เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผมยิ้มตาม









“ม่อน”





เด็กคนนั้นวิ่งเข้าไปกอดม่อนที่ยืนทำหน้างงอยู่ใต้หอพัก





“ม่อน’ หรอ ผมรู้แล้วครับว่าทำไมถึงรู้สึกว่าทำไมถึงคุ้นกับเด็กคนนี้จัง ทั้งหน้าตารอยยิ้ม ไม่ต่าง ไม่ต่างเลยกับม่อน มีเพียงท่าทางทะเล้นเท่านั้นที่ดูเหมือนจะต่างกัน เพราะม่อนเป็นคนที่ดูมีความเป็นผมใหญ่สูง ผมได้ยินว่าม่อนมีน้องชาย ไม่คิดว่าพี่น้องจะคล้ายกันขนาดนี้







“ช้อป”







ดูเหมือนม่อนจะเห็นผมเข้าแล้ว





“รู้จักกันด้วยหรอ พี่เขาช่วยพากูมาส่ง” น้องมันหันไปอธิบายให้กับม่อนฟัง





ผมหันหลังก้าวเท้าเดินออกมา ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าจะทำยัง ไม่รู้จะแสดงสีหน้ายังไง ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอเขาเร็วขนาดนี้





“ช้อป เดี๋ยวก่อน” เสียงเรียงจากด้านหลัง ผมควรหันไปดีไหม





ไม่ทันแล้วครับตอนนี้ม่อนเดินแซงผมมายืนตรงหน้าเรียบร้อย





“เออ...ขอบคุณนะที่มาส่งน้องเรา”





“มะ...ไม่เป็นไร” ผมตอบไปแค่นั้นแล้วเบี่ยงตัวเดินออกมาทันที ยิ่งเจอยิ่งเจ็บครับ









“เรายังรอวันที่ช้อปพร้อม...พร้อมที่จะกลับมาเป็นเพื่อนของเรานะ” เสียงม่อนดังไล่หลังมา เรากลับไปแน่นอนม่อน เราขอเวลาหน่อยนะ ถึงวันนั้นเราคงคุยกับม่อนแบบ ‘เพื่อนได้จริงๆ’












Part

ม่อน








“ม่อน”

ภาพมิกซ์น้องชายคนเดียวของผมวิ่งเข้ามากอด ทำเอาผมแปลกใจ แต่ไม่แปลกใจเท่ากับคนที่มากับมิกซ์คือ ช้อป มิกซ์อธิบายว่าช้อปเป็นคนช่วยพามันมาที่นี่ ผมรู้ว่าช้อปจำได้ว่ามันคือหอที่ผมพักอยู่ แล้วทำไมช้อปถึงมาที่นี่ ผมแอบคิดเห็นแก่ตัวว่าช้อปคงเริ่มทำใจได้แล้ว แต่ดูเหมือนผมยังคิดผิดเพราะสายตาที่ช้อปมองผมมันดูเศร้า ทำให้รู้ว่าช้อปคงยังลดความรู้สึกและกลับมาเป็นเพื่อนของผมได้ในตอนนี้





“เรายังรอวันที่ช้อปพร้อม...พร้อมที่จะกลับมาเป็นเพื่อนของเรานะ” ผมบอกเขาได้แค่นี้ เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่ผมต้องการ ผมอยากเห็นเขากลับมาเป็นคนเดิม อยากให้เขาเจอคนที่ดีๆ เข้ามาแทนที่คนใจโลเลอย่างผม





“มีไรกันรึเปล่าม่อน” มิกซ์เดินเข้ามาหาผม ผมแค่ยิ้มส่ายหน้าตอบกลับมันไปเท่านั้น





“ถ้าไม่มีไร มากอดอีกที่คิดถึงพี่ชายจะตายอยู่แล้ว” มันไม่รอให้ผมตอบโผเข้ามากอดผมแน่นซะหายใจไม่ออก





ผมกับมิกซ์เราสนิทกันมากครับ อาจเป็นเพราะอายุเราห่างกันแค่ปีเดียว แถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกัน หน้ายังคล้ายกันอีก จะต่างกันก็แค่มันนิสัยขี้เล่นกับความเจ้าชู้ของมันนี่แหละครับ ผมที่โดนสาวๆ ที่ แต่มันกลับเป็นคนที่ทิ้งสาวๆ เป็นว่าเล่น เหนื่อยกับมันจริง กลัวว่าเดี๋ยววันหนึ่งจะโดนเหล่าสาวๆ ของมันรวมตัวรุมทึ้งมันเข้าสักวัน





“ม่อน” อื้อฮือเสียงเรียกจากยมทูตแบบนี้ผมไม่ได้ยินมานานแล้วครับ ไอ้ภาคมันกลับสู่โหมดโหดอีกแล้วครับ ไม่รู้ว่าอะไรไปสะกิดต่อมมัน ผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะครับ แล้วมันโกรธเรื่องอะไร







“ปล่อยมือมึงเดี๋ยวนี้” มันส่งเสียงขู่ ไม่ใช่ผมครับมันหันไปขู่ไอ้มิกซ์ที่กำลังยืนกอดผมแน่นอยู่





อย่าบอกนะว่ามึงคิดว่ากูกับมิกซ์เป็น...โอ๊ย คิดว่าหนีโหมดโหดของมันได้แล้ว แต่กลับต้องมาเจอโหมดหึงอีก น่ากลัวกว่าตอนมันโกรธอีกครับผมว่า







“มึงเป็นใครมาบอกให้กูปล่อย” นั้นไง ผมกำลังจะบอกภาคว่ามันเข้าใจผิด แต่ไม่ทันแล้วครับ มิกซ์มันยอมให้ใครมาสั่งมันได้ที่ไหน และที่สำคัญมันยังไม่รู้ด้วยว่าผมกับภาคเป็นอะไรกัน ยังไม่ได้บอกมันครับ ก็มันยังไม่ชัดเจนนี่ครับ แล้วขืนไปบอกมันว่าผมขอบผู้ชายอีก มันจะเกิดอะไรขึ้นละครับที่นี้







“กูเป็นแฟนม่อน” นั้นไงครับมันมาแล้วครับ มิกซ์มันหันหน้าขวับมามองผมทันที







“หมายความว่าไงม่อน” ผมหันไปทำหน้าเจื่อนส่งให้มิกซ์





“เออคือโทษที กูยังไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับมึง” ตัวลีบมากครับตอนนี้ ทั้งซ้ายทั้งขวา เงามืดปกคลุมไปทั่วหอผมเรียบร้อยแล้วครับ





“นี่มึงชอบผู้ชายหรอ”





“เปล่า แต่...เออ กูรู้สึกกับแค่คนนี้” ผมไม่รู้จะอธิบายกับมันยังไงดี เพราะที่ผ่านมามันก็เห็นผมคบกับผู้หญิงทั้งนั้น





“มึงชอบมันหรอ เอองั้นก็ดี” ก็ดีอะไรของมึงมิกซ์ มันยิ้มแบบเจ้าเล่ห์มาให้ผม มึงจะทำอะไรของมึง







“ก็แค่แฟน” มันหันไปส่งเสียงเย้ยไอ้ภาค มึงอย่าแหย่มันได้ไหม







“ถ้ากูบอกว่าไม่ได้เป็นแค่แฟนหละ แต่กูเป็น ‘ผัว’ ” ภาคมันยิ้มเหมือนว่าตอนนี้กำลังเป็นผู้ชนะ





“สัส มึงอย่าอยู่เลย” มิกซ์พุ่งตัวเข้าหาไอ้ภาคทันที หมัดข้างหนึ่งลอยเข้าที่หน้ามันเต็มๆ





ผมไม่รู้ว่าทั้งสองคนมันแลกหมัดกันไปคนละเท่าไรแล้ว ผมไม่มีเวลามายืนนับขนาดนั้น พุ่งตัวเข้าไปห้ามมันสองคนอย่างรวดเร็ว





“โอ้ย...” ตัวผมกระเด็นออกมา ไม่รู้ว่าโดนหมัดหรือศอกใครเข้า ล้นลงไปกองที่พื้น







“ม่อน” เสียงมันประสานกัน ต่างคนต่างรีบเข้ามาดูอาการผม







“มึงปล่อยเลยนะ พี่กู กูดูแลเองได้”







“พี่?” ภาคมันคงงงอยู่ครับ มึงไม่ยอมฟังกูเอง ไม่ต้องมาทำหน้าอึ้งแบบนั้น หึงไม่ดูหน้าดูหลัง แต่แม่งเจ็บฉิบหายไม่น่าเข้าไปห้ามพวกมันเลย











“มึงไม่ต้องห่วงกู ห่วงตัวเองก่อนเถอะ” มิกซ์เดินถือน้ำแข็งมายื่นให้ผม ไม่ดูสภาพตัวเองเลย และก็ไม่ต้องถึงไอ้ภาคครับ มันโดนน้องผมสั่งห้ามไม่ให้เข้ามาในห้อง ตอนนี้ยืนเฝ้าผมอยู่หน้าระเบียง ผมบอกให้มันกลับไปทำแผลก็ไม่ยอมครับ ดูท่ามันก็เจ็บหนักอยู่เหมือนกัน





“แล้วที่มันพูดหมายความว่าไง”





“มันเรื่องของกู มึงไม่ต้องรู้หรอก”





“มันไม่ได้บังคับมึงใช่ไหม” ผมเพิ่งรู้ว่ามิกซ์มันมีสัมผัสพิเศษรึเปล่า แน่นอนผมไม่มีทางเล่าเรื่องนั้นให้มันฟังแน่นอน นี่แค่ภาคมันบอกว่าเป็น เออ...ผัว นั่นแหละครับ ยังใส่กันเละขนาดนี้ ถ้ามันรู้คงมีใครได้ตายจริงๆ แน่













“เป็นไงละมึง หึงไม่ดูตาม้าตาเรือ” ผมยกผ้าที่หอนักแข็งประคบให้มันที่นั่งหง่อยอยู่หน้าห้อง





“ก็มึงไม่บอกก่อนว่านั้นน้องมึง” ผมกดน้ำแข็งที่ถืออยู่ จนมันร้อง ก็มึงฟังกูซะที่ไหนละ







“มันไม่สังเกตบ้างรึไง หน้ากูกับมันคล้ายกันซะขนาดนั้น”







“ใครมันจะไปสังเกต ก็มันแม่งกำลังกอดมึงอยู่” มันส่งเสียงโอดครวญ ผมอดขำหน้ามันตอนนี้ไม่ได้ หน้ามันที่กำลังเหวออยู่







“นี่มึงไปชอบคนแบบนี้ได้ไงวะ โง่ขนาดที่ไม่รู้ว่าเป็นน้องแฟนตัวเอง” มิกซ์มันเดินมากดตามองต่ำที่ไอ้ภาค แปลกครับที่ภาคมันไม่ตอบโต้อะไร สงสัยมันจะยอมรับครับว่ามันหึงจนไม่ฟังอะไรทั้งนั้น







“ลุก เข้าไปในห้องเดี๋ยวทำแผลให้” มันส่งสายตาอ้อนให้ผมช่วยดึงมันให้ลุกขึ้น มันยังมีหน้ามาอ้อนอีกเหนื่อยใจกับมันจริงครับ







ผมนั่งคุยกับมิกซ์ ที่จู่ๆก็โผล่มาที่มหาลัยผมแบบไม่บอกไม่กล่าว แถมยังมีเรื่องกับภาคมันอีก มันบอกว่ามันปิดเทอมเรียบร้อย ผมก็ลืมไปว่าโรงเรียนกับมหาลัยเปิดปิดไม่พร้อมกัน และที่สำคัญมันจบมอหกเรียบร้อยตอนนี้รอผลสอบออก มันสมัครเข้าเรียนที่มหาลัยเดียวกันกับผม และที่สำคัญคณะเดียวกันด้วย มันบอกว่าจะได้ให้ผมช่วยติวตอนสอบด้วย และที่มันมาหาผมตอนปิดเทอมก็เพราะว่ามันอยากมาหางาน จะได้หาเงินช่วยผมด้วย ถึงมันจะเจ้าชู้หรือเกเรไปบ้าง แต่อย่างน้อยมันก็มีความคิดที่อยากแบ่งเบาภาระของพ่อแม่และก็ผม แต่ความรู้สึกผมว่ามันต้องมีเรื่องวุ่นๆ เพิ่มขึ้นมาแน่นอน









“มึงเลิกคุยโทรศัพท์ได้แล้ว คุยไรกันนักหนา รำคาญ”





นั้นไงครับยังไม่ทันขาดคำ ปวดหัวแน่ไอ้ม่อนเอ๊ยยย








เขียนเสร็จก็รีบมาลงให้เลย หวังว่าจะชอบกันนะครับ
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:


ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
555555 ม่อนเอ้ยยย

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
สมน้ำหน้าอ่ะ หึงไม่ดูเลย 555

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
น้องมิกซ์คู่กะพี่ช็อปมั้ยลูก พี่เค้าว่างนะ55555 มีตัวป่วนมาขีดละเว้ยภาคเอ้ย

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 16






#กลับมา










“โอ้โหพี่แม่งโคตรเจ๋งเลยวะ”





มิกซ์มันดูตาลุกวาวครับ ที่เห็นภาคมันขับรถสุดหรูของมันมาจอดรับพวกผมที่หน้าหอ เดี๋ยวนะเมื่อวานกูยังเห็นมึงสองคนตีกันจะเป็นจะตาย วันนี้มีเรียกกันว่าพี่ด้วย แต่ไอ้เจ้าของรถมึงไม่ต้องทำมาดขนาดนั้นก็ได้ แล้วผมก็ถูกเนรเทศให้มานั่งเหงาๆ ที่เบาะหลัง เพราะดูมันสองคนจะคุยกันถูกคอ ก็ไอ้เรื่องรถรุ่นนั้นรุ่นนี้ของมันนั่นแหละครับ มีแต่ผมคนเดียวนี่แหละที่ฟังไม่รู้เรื่อง





เย็นวันนี้ผมก็มาทำงานที่ร้านตามปกติ แน่นอนว่ามีไอ้ภาคตามประกบมานั่งเฝ้าผม และน้องชายสุกกวนของผม ผมกะว่าจะพามันมาสมัครงานที่ร้าน เพราะโทรคุยกับพี่แมนเรียบร้อยแล้วว่าจะพาน้องมาสมัครงาน พี่แกก็ไม่ว่าอะไร แกดีใจเสียอีกเพราะผมส่งรูปไปให้แกดู แกก็รับเข้าทำงานทันที โชคดีของมันที่มีพี่หน้าตาดีแบบผม ฮาๆ ๆ ๆ







“โห หล่อกว่าในรูปอีก หล่อทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะเนี่ย ร้านพี่คงมีลูกค้าสาวเพิ่มแน่ๆ” พี่แมนเดินมาจับไหล่มิกซ์ ดูพี่แกจะพอมากทีเดียว เห็นแบบนี้ผมก็โล่งครับ





สรุปแล้วมิกซ์มันได้ทำงานเต็มเวลาครับ ตั้งแต่สี่โมงเช้าถึงสองทุ่มครับ ผมก็ถามมันนะครับว่าไหวไหม เพราะก็อดเป็นห่วงมันไม่ได้ มันไม่เคยได้ทำงานแบบนี้เพราะปกติก็ช่วยพ่อกับแม่บ้างเล็กน้อย แต่มันเองบอกว่าไหวผมก็โอเคแล้วครับ









“อ่าวพี่”

เสียงมิกซ์มันเรียกใครสักคนที่กำลังเดินเข้ามาในร้าน แต่เดี๋ยวนะมันเพิ่งมาที่นี่แล้วมันไปรู้จักใครที่ไหน









‘ช็อป’









มิกซ์เดินตรงเข้าไปหาช้อปที่เดินเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับเพื่อนๆ ช้อปชะงักเล็กน้อยที่เห็นผม ผมได้แต่ส่งยิ้มให้เขาเท่านั้น เฮ้อ เมื่อไรเราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิน





“จำผมได้ไหม” เสียงมิกซ์กำลังคุยกับช้อป





“เออจำได้ แล้ว...ทำงานที่นี่หรอ” ช้อปสำรวจยูนิฟอร์มร้านที่อยู่บนตัวมิกซ์





“พอดีพี่ผมพามาสมัครนะ” มันคุยไปยิ้มไปกับช้อป









“งั้นก็ตั้งใจทำงานล่ะ”











“ทำไมพี่เขาเวลาคุยกับกูแล้วต้องหันมองมึงบ่อยๆ เรื่องวันนั้นก็ด้วย” มันเดินกลับมาซักไซ้ผม นั้นไงจิตสัมผัสของมันทำงานอีกแล้วครับ





“มึงอย่าบอกนะว่า...รักสามเส้า” ผมว่ามันควรไปเป็นลูกศิษย์คุณ จาน ยานแล้ว ดีกว่ามาเรียนวิศวะแบบผมนะครับ มึงจะสัมผัสอะไรได้ทุกอย่างขนาดนั้น





“กูเหี้ยเองแหละ ไปให้ความหวังเขา” ไม่โทษใครนอกจากตัวเองครับ





“มึงนี่มันยังไงตอนเรียนมัธยมโดนสาวทิ้ง พอเรียนมหาลัยเสือกมาป๊อปกับผู้ชาย” เออกูก็อยากจะรู้เหมือนกันมิกซ์















“พี่ภาค ผมขอลองขับรถพี่หน่อยได้ไหม”





“ไม่ได้” เป็นผมเองครับที่ห้ามมันเอาไว้ก่อน ถึงจะรู้ว่ามิกซ์มันขับรถได้ แต่ผมไม่อยากเสี่ยงหรอกครับ กันเอาไว้ดีกว่า มิกซ์มันนี่ทำหน้าหงิกใส่ผมเรียบร้อยครับ





“มึงนี่นะม่อน น้องมันขอแค่นี้เอง วันหลังเดี๋ยวพี่พาไปซิ่งเอง” ตกลงมึงเป็นพี่มันใช่ไหม ตามใจกันขนาดนี้ ก็แล้วแต่มันสองคนครับ ดีกว่าเห็นพวกมันมานั่งเห่าใส่กันเหมือนเมื่อวาน





















“คืนนี้ไปนอนคอนโดกูนะม่อน”





“แล้วทำไมกูต้องไปนอนคอนโดมึงด้วยห้องกูก็มี” ผมบอกปฏิเสธมันไป เพราะเห็นสายตาเจ้าเล่ห์มันแล้ว ดูไม่น่าไว้ใจสักเท่าไร เอาเป็นว่าผมอยู่ห่างๆ มันไว้ดีกว่าครับ





“มึงไปนอนกับพี่ภาคนั่นแหละ เตียงมึงเล็กนิดเดียว กูจะได้นอนสบายๆ ขึ้นหน่อย” ผมส่งสายตาค้อนมันทั้งสองคนที่ยืนยิ้มกันอย่างทีลับลมคมใน นี่มึงสองคนแอบไปตงลงอะไรกันโดยที่กูไม่รู้ใช่ไหม แล้วมิกซ์มึงเป็นน้องกูจริงๆ ใช่ไหม ไม่เป็นห่วงพี่ชายอย่างกูบ้างหรอ มึงมองไม่เห็นเสือในตัวมันจริงๆ หรอวะ รู้อย่างนี้กูปล่อยให้ซัดกันเละดีกว่าไม่น่าเข้าไปห้าม ถ้ารู้ว่าพวกมึงจะรวมหัวกันแบบนี้





“เออไปกับกูเถอะน่า น้องมันจะได้นอนสบายๆ” ภาคมันเดินมาจูงแขนผมให้เดินไปขึ้นรถกับมัน





“มีความสุขอะไรขนาดนั้นวะ” ตลอดทางมันแหกปากร้องเพลงมาตลอดไม่รู้ว่าไปโดนตัวไหมมาถึงดีดได้ขนาดนี้





“ก็วันนี้ได้นอนกับมึงไง จะกด เอ้ย!!! จะกอดให้หายคิดถึงเลย” ผมแทบจะเปิดประตูรถกระโดดลงซะตอนนั้นเลย ดีที่มันยังหันมาห้ามผมไว้ทัน ผมไม่รู้ว่ามันพูดเล่นหรือพูดจริงอย่างน้อยก็ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า





“ปะ ขึ้นห้องกัน” มันเดินยิ้มมาจับมือผมเดินขึ้นห้องของมัน





“มึงจะอาบก่อนหรือจะให้กูอาบก่อน”





“มึงอาบก่อนเลย” เดี๋ยวกูดูทีวีรอ มันเดินถือผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป









สักพักหนึ่งผมก็ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิด แน่นอนมันอาบน้ำเสร็จแล้ว มันเดินออกมาโดยมีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว ตัวมันที่ตอนนี้เต็มไปด้วยหยดน้ำเกาะตามตัว กล้ามแขนรวมถึงซิกแพกที่สวยจนน่าอิจฉานั้น ก่อนหน้านี้ผมเคยเห็นแล้วล่ะครับ แต่ตอนนั้นผมก็ไม่มีเวลาได้สนใจมันเท่าไร เพราะคิดเพียงว่าแค่ตอนนั้นแค่ครั้งเดียว ไม่คิดว่าจะได้มานั่งมองมัน ในรูปแบบความสัมพันธ์ที่แตกต่างจากตอนนั้น





“มึงจะจ้องกูอีกนานไหม นี่ผ้าเช็ดตัว หรือว่ามึงจะเอาผืนนี้” มันทำท่าว่าจะดึงผ้าเช็ดตัวที่พันรอบเอวมันออก ผมไม่รอให้มันทำแบบนั้นหรอกครับ พุ่งตัวไปคว้าผ้าเช็ดตัวอีกผืนในมือของมัน วิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว





นี่ผมกลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร ทำไมผมถึงไปนั่งจ้องมันขนาดนั้น โอ๊ย น่าอายชะมัด













“มึงเป็นไรรึเปล่าม่อน”





ผมนั่งอยู่ในห้องน้ำอยู่นานไม่กล้าออกไป จนมันคงเห็นผิดสังเกตว่าทำไมผมถึงเข้าห้องน้ำนานขนาดนี้ มันเลยเดินมาเคาะประตูหลายครั้ง





“เออ ไม่มีไรกูกำลังจะออกไปแล้ว” ผมค่อยยื่นมือไปเปิดประตู มันที่ยืนขมวดคิ้วทำหน้าสงสัยอยู่ที่หน้าประตู





“เสร็จแล้วก็ถึงเวลาละ” มันลากแขนผมเดินเข้าไปในห้องนอน ถึงเวลาอะไรของมึงวะ ไหนมึงบอกว่าให้มานอนด้วยเฉยแล้วมึงพูดแบบนี้หมายความว่าไง





มันโอบผมให้หันหน้าเข้ากัน ผมรับรู้ถึงเสียงหายใจและลมหายใจอุ่นของมัน ผมไม่มั่นใจว่ามันกำลังจะทำอะไร ตอนนี้ผมได้แค่นอนหลับตาตัวสั่นในอ้อมแขนมัน ผมรู้สึกว่ามือข้างหนึ่งของมันค่อยๆ เลื่อนลงไปข้างล่างอย่างช้าๆ





‘ฟึบ’





ผ้าห่มที่อยู่ปลายเท้าตอนนี้คลุมร่างกายตั้งแต่ส่วนของหน้าอกลงมาเรียบร้อยแล้ว





‘นิ่ง’





นิ่งครับ มันไม่ได้ขยับตัวอะไรอีก ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองหน้ามัน ที่กำลังจ้องหน้าผมอยู่







“ตัวสั่นแบบนี้ มึงคิดว่ากูจะทำไรมึง กูไม่ทำไรหรอก ก็บอกว่าแค่นอนก็แค่นอนกอด” ผมมองหน้ามันแล้วถอนหายใจ เกือบไปแล้วไหมไอ้ม่อน





“ถอนหายใจแบบนี้หรือว่ามึงอยากจะ...” มันค่อยเลื่อนมือลงมาที่สะโพกของผม ทำเอาผมสะดุ้งเลยทีเดียว มันไม่ได้ทำอะไรต่อหรอกครับแค่หัวเราะและยิ้มให้ผมเท่านั้น









“กูจะรอวันที่มึงลืมเรื่องวันนั้น และเต็มใจให้กูเท่านั้น” มันก้มหน้ามาจูบที่หน้าผาก มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาขยี้ที่หัวผม









ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไง ได้แต่ซุกหน้าเข้ากับหน้าอกของมัน เฮ้อ ผมนี่ก็ชอบคิดไปไกล ดูมันกูจะแคร์ผมมาก มันคงไม่ทำอะไรผมหรอก ทำแบบนี้กับคนอื่นก็เป็นด้วยนะมึง ผมได้แต่ยิ้มแล้วซุกเข้ากับอกมันต่อ









“แต่ถ้ามึงยังทำตัวน่ารักแบบนี้ กูอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้นะ” ไอ้สัสกูเพิ่งชมมึงไปเมื่อกี้นี้เองนะ ผมเตรียมจะถอยหลังหนีมัน แต่ไม่เร็วเท่ากับที่มันดึงผมเข้าไปกอด







ผมว่าสิ่งที่ผมเห็นมันกับสิ่งที่คนอื่นเห็นมันคงไม่เหมือนกัน เพราะใครจะคิดละว่าคนอย่างมันที่วันแค่ยืนนิ่งทำหน้าหล่อ เก๊กให้สาวๆ ในมหาลัยกริ๊ดไปวันๆ และอาการหื่นที่ทุกคนเห็น โดยเฉพาะเวลาอยู่กับผมเนี่ย จะมีมุมขี้อ้อนเหมือนเด็กๆ แบบนี้ ถึงจะดูไม่ค่อยเข้ากับมันสักเท่าไร ผมรู้สึกว่าความรู้สึกชอบมันตอนนี้กลายเป็น ‘ความรัก’ ที่ดูเหมือนว่ามันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน













“ม่อนวันนี้ไปดูดนตรีด้วยกันนะ พวกมีนมันชวนไปดูไอ้อาร์ม” วันนี้เป็นวันกิจกรรมนักศึกษาครับ เหล่านักศึกษาจากคณะต่างๆ ก็จะมีการจัดบูธจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อหารายได้เข้าคณะ ส่วนคณะผมเหมือนจะเป็นประเพณีไปแล้วครับคือทุกปีจะมีวงดนตรีของนักศึกษาในคณะนั่นแหละ แต่จะแยกกันตามชั้นปี สับเปลี่ยนกันขึ้นแสดงเพื่อเรียกเงินบริจาคจากคนดู ส่วนพวกผมไม่ได้ทำอะไรครับ นอกจากไออาร์มที่เป็นมือกีตาร์ตัวแทนปีหนึ่งที่จะแสดง พวกเราเลยถือโอกาสไปเชียร์มันด้วย





“กูไปด้วยนะม่อนไม่อยากอยู่ห้องเบื่อๆ” เสียงมิกซ์มันขอไปด้วย ถึงมันไม่ขอผมก็ต้องพามันไปด้วยอยู่ดี อยากพามันไปเปิดหูเปิดตาด้วย จะได้คุ้นเวลามาเรียนที่นี่





“เอ่อ...แต่วันนี้กูอาจจะไปกับมึงไม่ได้นะ” ภาคมันดูแปลกครับวันนี้ ดูลนลานแปลก เมื่อเช้านี้หลังจากมาส่งผมก็หายไปเลย ไม่รู้ว่าไปไหนถามมันก็ไม่ยอมบอก





“เออๆ”





“โทษทีนะ” มันส่งสายตาเศร้ามาให้ผม สงสัยมันคงมีธุระสำคัญจริงๆ ละมั้งครับ ผมก็ไม่อยากจะเซ้าซี้มันสักเท่าไร มันก็มีชีวิตของมัน มันคงไม่มาตามติดผมตลอดหรอก















งานวันนี้คนเยอะมากครับวันนี้กว่าจะเบียดตัวเองเข้ามาตรงลานหน้าเวทีก็เล่นเอาเหนื่อยกันเลยทีเดียวครับ เดินเข้ามาพอดีกับไอ้อาร์มที่กำลังยืนเทสกีตาร์มันอยู่บนเวที มันคงจะเห็นพวกผมแล้วละครับก็โบกมือให้พวกผมซะขนาดนั้น





ดนตรีวันนี้วันนี้สนุกมากครับ ต่างคนคนต่างไม่รู้จักกันแต่ก็มาร่วมเต้นด้วยกันได้ ผมไม่เท่าไรครับ แต่สองสาวในกลุ่มนี้เต้นจนลืมคำว่ากุลสตรีไปเลย ว่าแต่มิกซ์มันหายไปไหนแล้ว ไม่ใช่ว่ามันหลงหรอกนะครับ แต่ก็ปล่อยมันไปเถอะครับ มันก็โตแล้วน่าจะดูแลตัวเองได้ แต่ถ้ามันหลงจริงมันก็น่าจะนำทางกลับหอได้





“ม่อน@#$%@^@$” ผมเดินถือโทรศัพท์ออกมาจากลานดนตรี ตั้งแต่เที่ยงที่มันบอกผมว่ามีธุระ จนถึงตอนนี้มันเพิ่งโทรมา สงสัยคนเยอะเลยหาผมไม่เจอ





“ออกมาเจอกูหน่อยได้ไหมกูรออยู่ที่ทางเข้างานนะ” เสียงพูดมันดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษ









ผมเดินเบียดเสียดกับเหล่านักศึกษาออกมาที่ทางเข้างาน กะว่าจะโทรหามันเพราะมองหามันไม่เจอ นั้นรถมันนี่หน่าผมจำรถมันได้ครับ ผมวางโทรศัพท์ลงกะจะเดินไปหามันแทน เปลืองเงินค่าโทรศัพท์ครับ











ผมยืนชะงักตัวแข็งทื่อเมื่อชะโงกหน้ามองลอดกระจกเข้าไป













‘นี่สินะเหตผลที่มึงหายไปทั้งวัน’













ภาพที่ผมเห็นตรงหน้าคือภาคมันกำลังจูบอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง

ออฟไลน์ jinutlove

  • ไม่คิดที่จะรัก
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1:อืออือ :mew6:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
อะไรอีกละเนี่ยยยยภาคคค

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เชี่ย!!!!!

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
มีอะไรแปลกๆ ..

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 17



#สถานะ





ร่างกายผมสั่งให้สองข้างก้าวเดินออกมาจากตรงนั้น ทั้งที่เหมือนว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดที่ผมมีมันหายไป นี่หรอธุระที่มันหายไปทั้งวัน นี่หรอที่เป็นเหตุผลที่มันเรียกผมออกมาเจอข้างนอก ที่ผ่านมันหลอกผมมาตลอดเลยหรอ







น้ำตาผมเอ่อไหล่ลงอาบสองแก้ม ทำไม ทำไมมันต้องทำแบบนี้กับ ทั้งๆ ที่มันขอให้เชื่อใจมัน จนตอนนี้เกือบทั้งหมดของหัวใจผมมีแต่มัน มันต้องการเห็นผมเจ็บ เห็นผมเป็นคนโง่ที่โดนมันหลอกปั่นหัวไปวันเท่านั้น







ผมคงเป็นคนไม่มีโชคเรื่องความรักเลยนะครับ ผมเจ็บเพราะความรักมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ดูไม่เหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา คงเป็นเพราะความโง่ของผมเอง โง่ที่จะเชื่อใจคนที่เคยทำร้ายผมมาตลอด





‘ภาค’





มันโทรหาผมหลายครั้ง ผมเพียงปล่อยมันดังจนหยุดไปเอง มันจะโทรมาหลอกอะไรผมอีก ผมคงไม่เชื่อมันอีกแล้ว ผมได้เห็นกับตาตัวเองขนานนั้นแล้ว ผมคงไม่ปล่อยให้ตัวเองโง่อีกรอบแน่









“ม่อนมึงเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”

ผมไม่ทันสังเกตว่ารถของมันจอดอยู่หน้าหอ มันวิ่งเข้ามารวบตัวกอดผมทันที





“มึงเป็นอะไร” มันกอดผมแน่น พร่ำถามผมอยู่ซ้ำๆ ผมยอมรับความสามารถมันมากเลยครับ สกิลการโกหกของมัน ตั้งแต่วันนั้นที่มันเข้ามาบอกว่าชอบผม จนตอนนี้มันก็ยังคงโกหกได้เนียน เนียนมากจนผมเกือบจะหลงเชื่อมันอีกครั้ง ถ้าภาพที่มันกำลังจูบกับผู้หญิงคนนั้นไม่ผุดขึ้นมาเตือนสติผมไว้ก่อน





ผมพยายามดันตัวเองออกจากมัน จนแขนทั้งสองข้างมันหลุดออก ผมใช้โอกาศนั้นเบี่ยงตัววิ่งหนีมันขึ้นหอพักทันที แน่นอนครับว่ามันตามผมขึ้นมาไม่ได้แน่นอนเพราะที่หอผมห้ามคนนอกเข้า นอกจากจะมีคนในหอพาขึ้นมาเท่านั้น





ผมพยายามที่จะไม่นึกถึงถึงมัน ซุกหน้าเข้ากับหมอน ผมไม่อยากให้ใครได้ยินเสียงร้องไห้ของผม ถ้าเขารู้ว่าผมร้องไห้เพราะเรื่องนี้คงสมน้ำหน้าผมที่ปล่อยให้ตัวเองโดนหลอกง่ายขนาดนี้





ผมพยายามไม่นึกถึงเรื่องที่ผ่านมาระหว่างผมกับมัน ถึงอย่างนั้นแล้วยิ่งผมบอกว่าไม่นึกถึงเท่าไรภาพของมันยิ่งลอยเข้ามาในหัว ภาพที่มันยิ้มให้ผม ภาพเวลาที่มันทำตัวเหมือนเด็กตอนกำลังอ้อนผม อ้อมกอดที่ผมคิดว่ามันอบอุ่นมากตอนนั้น มันทำให้ผมยิ่งรู้สึกหนาว หนาวจนตัวสั่นไปหมด









“ม่อนมึงเป็นไรรึเปล่า ภาคมันโทรตามให้กูมาดูมึง” เสียงนัทดังอยู่หน้าประตูห้อง ถึงตอนนี้ผมอยากจะบอกมันว่าอยากอยู่คนเดียวสักเท่าไร คงดูเห็นแก่ตัวไปเพราะนี้ก็เป็นห้องของมันเหมือนกัน



ผมเช็ดน้ำตาลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู ไม่ใช่แค่นัทครับที่อยู่หน้าห้อง ยังมีมิกซ์ รวมถึงแก๊งเพื่อนผมครบทุกคน





“ใครทำอะไรมึงม่อน” มิกซ์เดินเข้ามากอดผมทันที มันคงเห็นสีหน้ากับอาการตาบวมแดงจากการร้องไห้





ผมปล่อยน้ำตาให้ไหลลงอีกครั้ง ภาพที่มันจูบกับผู้หญิงยังลอยเข้ามาในหัวผมตลอด





“มึงใจเย็นๆ เล่าให้กูฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น”





“มันหลอกกู ที่ผ่านมามันหลอกกูมาตลอด” ผมพยายามข่มใจตัวเอง เล่าเรื่องที่ผมเห็นให้พวกมันฟังทั้งน้ำตา





“มันทำแบบนั้นกับมึงได้ไง กูจะไปจัดการมัน” มิกซ์ปล่อยมือจากผม ลุกเดินออกไปนอกห้อง มันคงลงไปหาภาคแน่ๆ ตอนนี้ผมหมดแรงที่จะห้ามมันจริงๆ ครับ









“มึงเข้าเข้าใจอะไรผิดกันรึเปล่า”

ทุกหันมองไปที่ไอ้อาร์มที่ยืนขมวดคิ้วเหมือนคิดอะไรอยู่





“วันนี้ที่มึงบอกว่ามันหายไปทั้งวันอะ มันอยู่กับกู มันมาขอให้กูเล่นกีตาร์ให้มึงอะ มันดูตื่นเต้นยังไงไม่รู้ร้องผิดร้องถูก กูนี้เจ็บนิ้วไปหมด เกือบขึ้นเวทีไม่ทัน กูคิดว่ามันจะเซอร์ไพร์มึง ไม่คิดว่ามัน...จะเซอร์ไพร์แบบนี้” อาร์มเล่าเรื่องวันนี้ให้ฟัง





“ม่อนมึงใจเย็นๆ แล้วลองฟังเหตุผลของมันดูก่อนไหม” เฟิร์นหันมาแนะนำ ผมควรจะทำตามที่เฟิร์นแนะนำให้ ใจหนึ่งผมไม่อยากกลับไปให้มันโกหกผมอีกแล้ว อีกใจหนึ่งกูอยากรู้จากปากมันว่าทำแบบนี้ทำไม





“จะเอายังไงก็รีบคิด ถ้าไม่รีบภาคได้ตายจริงแน่” มีนวิ่งหน้าตั้งเขามาหลังจากที่เดินตามมิกซ์ออกไป





ผมชะโงกหน้าออกออกไปมองที่ระเบียง ‘ภาค’ ตอนนี้มันกำลังนอนขดตัวอยู่ใต้เท้าของมิกซ์เรียบร้อย





ผมไม่รู้ว่าทำไม่ขาทั้งสองข้างผมขยับก้าวเร็วแบบนี้ ผมไม่ควรเป็นห่วงมันไม่ใช่หรอ แล้วทำไมผมถึงควบคุมตัวเองให้วิ่งไปหามันไม่ได้





“มิกซ์พอ พอได้แล้ว” ผมวิ่งเข้าไปลากตัวมันออกมา เกือบจะสู้แรงมันไม่ไหว ยังดีที่มีนัทกับอาร์มช่วยล็อกตัวมันไว้





“กูขอคุยกับมันแค่สองคนนะ” นัทกับอาร์มพยักหน้ารับ ก่อนลากตัวมิกซ์ออกไป





“มึงมีไรจะพูดไหม” ผมถามโดยที่ไม่มองหน้ามัน ขืนมองผมคงทนไม่ได้ที่เห็นมันเจ็บแบบนั้น นี่ผมยังเป็นห่วงมันอีกหรอ





“มึงกำลังเข้าใจกูผิด กูกับ...มิ้น เราเคยเป็นแฟนกัน ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนทิ้งกูไป จู่ๆ วันนี้เขาก็กลับมาขอคืนดีกับกู” มันลุกขึ้นยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่ไหลตรงมุมปากมัน





“มึงก็ยังรักเขาสินะถึงได้จูบกันขนาดนั้น”





“เขาจูบกู กูไม่ได้จูบเขาเลย กูยอมรับว่าตอนนั้นกูรักเขามาก แต่ตอนนี้กูมีแค่มึง มึงคนเดียวเท่านั้น” มันเดินเข้ามากุมมือผมไว้





“แล้วเรื่องที่กูหายไปวันนี้ กูก็เตรียมจะเซอร์ไพร์ขอมึงเป็นแฟน กูไม่คิดว่าเขาจะกลับมา ถึงเขากลับมากูก็ไม่มีวันกลับไปหาเขา”





“แล้วกูจะมั่นใจกับสิ่งที่มึงพูดได้แค่ไหน”





“กูยอมให้มิกซ์มันซ้อมกูเพราะแค่คิดว่ามึงจะเป็นห่วงกู ออกมาหากู ออกมาคุยกับกู กูยอมเจ็บถ้าจะทำให้มึงยอมฟังความจริงจากปากกู”





จะมีสักกี่คนที่ยอมทนมือทนเท้าให้คนอื่นซ้อมอยู่แบบนั้น ยิ่งกับภาคแล้ว มันไม่มีทางเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวแน่ นี่ผมทำให้มันต้องเจ็บตัวขนาดนี่เพราะแค่ความเข้าใจผิด ผมกลายเป็นคนขี้หึงแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร









ผมเดินเข้าไปลูบหน้าของมันด้วยมือทั้งสองข้าง





“ขอโทษ กูขอโทษ” ผมโถมเข้าไปกอดมัน น้ำตาผมกลับมาไหลอาบแก้มอีกครั้ง





“กูผิดเองที่ไม่เคลียตัวเอง จนมึงเข้าใจผิด”





“กูขอโทษๆ” ผมพร่ำบอกมันอยู่อย่างนั้น อย่างน้อยก็ทำให้มันรู้ว่าผมเป็นห่วงมันมาก





“มึงไม่ต้องขอโทษกูหรอก มึงหยิบมือถือขึ้นมาดูสิ”





ผมหยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง พร้อมกับแจ้งเตือนจากแอพเฟสบุ้ค





ภาค ภาค ได้แท็กคุณในวิดีโอ’





ผมกดเข้าไปดูการแจ้งเตือนตามที่มันบอก ภาพของมันนั่งคู่กับไอ้อาร์ม ที่กำลังถือกีตาร์อยู่ในมือ





เสียงอินโทรเพลงดังขึ้นหลังจากผมกดปุ่มสามเหลี่ยมตรงกลาง






แม้วันคืนจะเปลี่ยนเวียนหมุนไป

ยังคงคิดถึงเธออยู่

ไม่รู้เพราะเหตุใด

รักในวันวาน

ที่ผ่านเลยล่วงไป

แต่มองไปรอบกาย

ฉันอยากมีเธอ





อยากจะขอแก้ไขเรื่องราวของเรา

กับสิ่งที่ฉันพลาดพลั้ง

ที่ทำให้เธอต้องร้องไห้เสียใจ

จะได้ไหมเธอ





โปรดอย่าปล่อยมือฉัน

อย่าจากไปไหนเลย

แค่อยากให้เธอรู้

ฉันยังรักเธอเหมือนเคย

เสียงร้องของหัวใจ

ร่ำร้องหาแต่เธอ

อยากมีเธอเคียงข้างฉัน

เหมือนเดิม





แม้เนิ่นนานไม่เคยเปลี่ยน

หัวใจ

แค่ได้ขอมีเธออยู่

ไม่เคยขอสิ่งใด

นึกถึงวันวาน

ที่มีเธอข้างกาย

จะไม่ไปรักใคร

รอแค่เพียงเธอ





อยากจะขอแก้ไขเรื่องราวของเรา

กับสิ่งที่ฉันพลาดพลั้ง

ที่ทำให้เธอต้องร้องไห้เสียใจ

จะได้ไหมเธอ





โปรดอย่าปล่อยมือฉัน

อย่าจากไปไหนเลย

แค่อยากให้เธอรู้

ฉันยังรักเธอเหมือนเคย…

ขอให้เธออภัยทุกสิ่ง

อยากให้เธอได้เห็นใจ

เธอเป็นเหมือนคำตอบสุดท้ายที่มี

ขอเพียงเธอ





โปรดอย่าปล่อยมือฉัน

อย่าจากไปไหนเลย

แค่อยากให้เธอรู้

ฉันยังรักเธอเหมือนเคย

เสียงร้องของหัวใจ

ร่ำร้องหาแต่เธอ

อยากมีเธอเคียงข้างฉัน

เหมือนเดิม

ตลอดไป
[/i]



คำตอบสุดท้าย - Airborne
[/i]







‘กูรู้ว่าที่ผ่านมากูเคยทำผิดกับมึงไว้ กูรู้ว่ามันหนักเกินให้อภัย แต่ต่อจากนี้กูขอโอกาสให้กูดูแลมึงได้ไหม’









‘เป็นแฟนกูนะ’













“ตื๊ดๆ ๆ ๆ”



เสียงแจ้งเตือนจากมือถือดังขึ้นหลังจากวิดีโอจบลง







ภาค ภาค ได้ระบุว่าคุณสองคนคนคบกันอยู่’





ซ่อน                           เพิ่มบนไทม์ไลน์











ภาคยืนมองหน้ารอคำตอบจากผม





“ตึ๊ดๆ ๆ ๆ”







มันโผเข้ากอดผมทันทีที่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากมือถือ











ภาค ภาค กำลังคบอยู่กับ MON KUNG’

















Part

ช้อป














“ยังชอบม่อนมันอยู่หรอ”





ผมกำลังยืนมองดูม่อนที่กำลังโยกตัวตามจังหวะเพลง เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง ผมหันไปมองก็เจอกับน้องชายของม่อนยืนยิ้มอยู่





“ปะ...เปล่า” ผมบอกปฏิเสธไป น้องมันคงรู้แหละครับว่าผมโกหก ก็เสียงผมสั่นขนาดนั้น





“ไม่ชอบก็ไม่ชอบ” บทจะเชื่อก็เชื่อง่ายเลยอะไรของไอ้เด็กคนนี้





“เดี๋ยววันหลังผมสอนวิธีจีบให้พี่เอง รับรองไม่ผิดหวัง” มันยื่นหน้าเข้ามากระซิบที่ข้างหูผม





ไอ้เด็กคนนี้มันคงเห็นผมตอนนี้เหมือนแมว แต่มันคงยังไม่เคยเห็นผมตอนเป็นเสือแน่ๆ  หึๆ







ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ขอบคุณที่ไม่ยืดดราม่า คู่หลักก็เหมือนจะเริ่มปรับตัวปรับใจกันแล้ว ตอนนี้เห็นแววคู่รองจะ มิกซ์ช็อป หรือ ช็อปมิกซ์ กันนะ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ตามกันต่อไป ..

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด