ขายครับ!!!!....ไม่ฟรี [MONEY MAN] ตอนที่ 37 #แยกกัน (26/10/2561)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ขายครับ!!!!....ไม่ฟรี [MONEY MAN] ตอนที่ 37 #แยกกัน (26/10/2561)  (อ่าน 27324 ครั้ง)

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
เหมือนชื่อตอนเลย
อะไรของมึงครับภาค
อะไรของเมิงงงงงงงงงงงงง
 :hao3:
กดบวกขอบคุณ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
สนุกดี ตามมาอ่าน

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ติดตามมมม

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
สนุกดีรออ่านค่ะ

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
วันนี้ว่างเลยมาลงไว้ให้ ผมเพิ่งหัดเขียนไม่ชอบหรืออยากให้ปรับปรุงตรงไหนบอกได้นะครับ เดี๋ยวผมจะเอาไปปรับปรุง





ตอนที่ 5





#เพื่อนใหม่





“มึงไปทำไรมาม่อน หน้าอย่างกับศพ” ไอ้อาร์มทักผมตั้งแต่ก้นยังไม่แตะเก้าอี้โรงอาหาร

ก็ไม่แปลกที่มันจะถามเพราะเมื่อคืนหลังจากที่ผมหนีหนีลงจากรถของไอ้...ไอ้ภาค ผมละไม่อยากพูดถึงมันเลย แต่ก็นะหลังจากที่ลงจากรถมันผมก็นอนไม่หลับทั้งคืน นอนคิดถึงภาพที่มันกำลังจูบผม 

“เออ เมื่อคืนกุทำงานดึกไปหน่อย” ไม่ได้จะโกหกมันหรอกครับ ก็เมื่อคืนผมทำงานดึกจริงๆแถมโดนลากออกไปกินข้าวข้างนอกแบบงงๆ อีก

“มึงก็อย่าหักโหมมาก มีไรให้พวกกูช่วยก็บอกได้” พวกมันก็ยังคอยเป็นห่วงผมเช่นเคย และดูเหมือนจะมากขึ้นหลังเกิดเหตุการณ์วันนั้น

“เออขอบใจพวกมึงมาก เดี๋ยวกูไปหาข้าวกินก่อน” ผมพูดแล้วเดินตรงไปยังร้านข้าวเจ้าประจำ



“กะเพราหมูจานนึ่งครับ/กะเพราหมูจานนึ่งครับ” ผมหันไปทางต้นเสียงที่สั่งเอ่ยสั่งอาหารพร้อมกัน ในประโยคเดียวกันกับผม

“นายก่อนเลย” เขาพยักพเยิดหน้าให้ผมสั่งอาหารก่อน ผมก้มหน้าเล็กน้อยเป็นคำขอบคุณ ก่อนเดินถือจานข้าวมานั่งลงที่โต๊ะ ตอนนี้หิวมากครับ มาถึงผมลงมือจัดการกับกะเพราหมูตรงหน้าอย่างรวดเร็ว



“มึงว่าเหมือนมีคนมองมาที่กลุ่มเราไหมวะ” เฟิร์นร้องขึ้น หันซ้ายหันขวามองหาว่าสายตาที่ว่ามาจากตรงไหน

“นั้นไงโต๊ะนั้นไง” มีนพยักพเยิดหน้าไปทางโต๊ะด้านหลังถัดไปไม่ไกลนัก ผมเงยหน้าหันหลังตามสายตาของไอ้มีน

ผมก้มหน้าเล็กน้อยให้ผู้ชายคนนั้น เพราะคนที่กำลังมองตอนนี้คือคนเดียวกับที่ร้านข้าวก่อนหน้านี้

“มึงรู้จักเขาด้วยหรอม่อน” เฟิร์นผู้ที่สัมผัสได้ว่าโต๊ะเราถูกมองถามขึ้น

“ไม่เชิง เพราะกูก็เพิ่งเจอเขาหน้าร้านข้าวเมื่อกี้เหมือนกัน”

“หึๆ กูว่างานนี้มีคนขายออกแล้ววะ” ขายออกอะไรของมึงมีน แล้วมึงมองหน้ากูทำไม ผมไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่ขมวดคิ้วมองหน้ามัน



เห้อ...ช่วงนี้ผมรู้สึกเหนื่อยมากๆครับ ไหนจะเรียนไหนจะงาน อีกสองอาทิตย์ก็ถึงวันสอบกลางภาคแล้ว ผมว่าผมคงต้องหยุดงานสักอาทิตย์แล้วแหละ ถึงจะเห็นผมทำงานดึกดื่นทุกวันแต่เรื่องการเรียนผมก็ไม่เคยทิ้งนะครับ เพราะเทอมที่ผ่านมาผมก็ทำเกรดได้ในระดับที่ดี จนเพื่อนในกลุ่มยังสงสัยว่าผมเอาเวลาที่ไหนไปอ่านหนังสือ

ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยอ่านหนังสือเท่าก่อนสอบเท่าไรครับ อาศัยตั้งใจเรียนทำความเข้าใจในห้องให้ได้ นอกเสียจากว่าไม่เข้าใจจริงๆ ผมถึงจะหาเวลามาอ่านหนังสือในห้องสมุด แต่สงสัยว่าเทอมนี้ผมคงต้องอ่านหนังสือก่อนสอบแล้วแหละครับ ก็ช่วงนี้ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไร หลังจากเรียนเสร็จ เย็นนี้ผมว่าจะหาโอกาสเข้าห้องสมุดหาหนังสืออ่านสักหน่อย



“มึงตอนเย็นกูจะเข้าไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดมีใครจะไปกับกูมั้ง” คำตอบที่ได้จากเหล่าผองเพื่อนคือไอ้มีนกับไอ้เฟิร์นต้องไปช้อปเครื่องสำอางเพราะมีโปรลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนไอ้สองคนที่เหลือไม่ต้องเดามันมีนัดกับเกม PUBG ของพวกมันอีกตามเคย ผมเคยลองเล่นกับพวกมันหลายครั้งแล้วก็สนุกดีนะครับ แต่ทำไมผมไม่ยักติดงอมแงมแบบพวกมัน แถมทิ้งท้ายก่อนที่จะแยกย้ายกันไปพวกมันก็ไม่ลืมฝากความหวังของการสอบที่จะถึงไว้กับผม จริงๆ เลยพวกมึงเนี่ย



ห้องสมุดวันนี้คนดูบางตาไม่ค่อยพลุกพล่าน น่าจะเป็นเพราะอีกตั้งสองอาทิตย์ถึงจะเข้าช่วงเทศกาลการสอบ เพราะหากถึงช่วงเวลานั้นที่นั่งทุกที่ในห้องสมุดจะถือว่าเป็นแรร์ไอเท็มขึ้นมาทันที



ผมเดินเลือกหนังสือสักพัก ก่อนหยิบหนังสือแคลคูลัสกับฟิสิกส์ติดมือมาอย่างละเล่ม

ผมทิ้งตัวลงนั่งกับโต๊ะที่ผมจองไว้ เปิดหนังสือขึ้นมาอ่าน ตอนนี้ผมเข้าสู่โหมดจริงจังเป็นที่เรียบร้อย ผมก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือพร้อมกับทำโจทย์แบบฝึกที่อยู่ในหนังสืออย่างตั้งใจ

“เอี๊ยด” เสียงเก้าอี้ด้านตรงข้ามผมดังขึ้น ผมละสายตาจากหนังสือที่วางอยู่ตรงหน้า มองคนมาใหม่ที่กำลังทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกับผม

“เออ...เราขอนั่งด้วยคนนะ” ดึงเก้าอี้เตรียมนั่งขนาดนั้นไม่ต้องขอแล้วก็ได้มั้ง แต่ทำไมถึงหน้าคุ้นๆจัง ผมพยายามนึกว่าเคยเจอคนตรงหน้าที่ไหนมาก่อนรึเปล่า

“จำเราไม่ได้หรอ ที่เจอกันหน้าร้านข้าวเมื่อตอนเช้าไง” ผมถึงกับร้องอ๋อขึ้นมาทันที 

แล้วเขามานั่งที่โต๊ะผมทำไมที่ว่างก็มีตั้งเยอะ ผมไม่ค่อยชอบให้ใครมายุ่งเวลาอ่านหนังสือเท่าไรนัก

“แล้ว....”

“เราเห็นนายนั่งคนเดียว เลยมานั่งเป็นเพื่อนไง” ผมยิ้มให้ก่อนก้มหน้าไปอ่านหนังสือต่อ เออนั่งเป็นเพื่อนก็เป็นเพื่อน

“เราชื่อช้อป เรียนแพทย์ปีหนึ่ง นายละ” อะไรของเขาวะ ไม่เห็นหรอว่าผมกำลังอ่านหนังสืออยู่

“เราม่อน วิศวะ ปีหนึ่งเหมือนกัน” ผมก้มลงไปอ่านหนังสือต่อ ไม่มีเสียงจากคนตรงหน้าอีก เขาคงจะรู้ว่าผมต้องการอ่านหนังสือ เพราะตอนนี้ผมก็เห็นว่าเขาก็ก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่เหมือนกัน



ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูตอนนี้ก็เกือบๆ จะหกโมง ผมเตรียมตัวเก็บของออกไปหาอะไรกินของเข้าหอ กะจะนอนสักงีบก่อนออกไปทำงาน ผมก้มลงเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมลุกขึ้น

“ม่อนจะกลับแล้วหรอ” ก็เห็นอยู่ว่ากำลังจะไปจะถามทำไมเนี่ย

“อืม” ผมตอบไปแค่นี้แหละครับไม่รู้จะพูดอะไรจริง ปกติถ้าไม่สนิทกันผมก็จะไม่ค่อยคุยด้วยอยู่แล้ว

“ม่อนจะไปไหนต่อไหมพอดีเราว่าจะไปกินข้าวหลังมอ แต่ไม่มีเพื่อนไปกินด้วยนะ”

“อืม...กินข้าวหรอ งั้นพอดีเลยเราก็ว่าจะไปกินข้าวร้านประจำหลังมอพอดี” เขาเพียงแค่ยิ้มแล้วรีบเก็บของยัดใส่กระเป๋า เดินนำออกมาจากห้องสมุดมาที่โรงจอดรถ



อะไรจะเป็นบุญตูดผมขนาดนี้ ครั้งที่แล้วก็ BMW ครั้งนี้ก็ BENZ นอกจากไอ้กระบะคันเก่าของพ่อผมแล้ว ชาตินี่คิดว่ายังไงผมก็ไม่มีโอกาสได้นั่งอย่างแน่นอน ถือว่าเป็นบุญของผมมาก

รถของเราเคลื่อนมาจอดหน้าร้านประจำ ผมเปิดประตูเดินเข้ามาในร้านโดยมี ‘เพื่อนใหม่’ ก็คงเป็นเพื่อนใหม่นั่นแหละ เดินตามหลังมาติดๆ ผมนั่งที่โต๊ะว่างใกล้ๆกับประตูร้าน พร้อมกับช้อปที่นั่งตรงข้ามหันหน้าเข้าหาผม

“พี่ครับสั่งอาหารครับ” ผมยืนบิลกระดาษออเดอร์อาหารของผมกับช้อป ซึ่งแน่นอนของผมเป็นกะเพราหมูของโปรดผม เช่นเดียวกับเมนูของช้อป



หลังจากพี่พนักงานรับออเดอร์เสร็จ ผมเริ่มรู้สึกถึงรังสีแปลกๆ อะไรสักอย่างที่กำลังเพ่งเล็งมาที่ผม ทำไมมันถึงคุ้นๆ จังเลยครับ

“เหี้ย” ผมสบท จนช้อปหันเงยหน้ามามอง ก็ไอ้ที่ผมหันไปสบตายมันเมื่อกี้คือไอ้คนที่จูบผมเมื่อคืน มันกำลังถลึงตามองผมเหมือนกับผมว่ากำลังทำอะไรผิด หรือว่ามันยังโกรธผมเรื่องที่ต่อยมันเมื่อคืนอยู่ ผมพยายามหลบสายตามัน

“ม่อนเป็นอะไรหรือเปล่า” ช้อปคงจะจับพิรุธผมได้จากท่าทางลุกลี้ลุกลนของผมตอนนี้

“เปล่าๆ พอดีเราหิวอ่ะ” ผมเลยถือโอกาสชวนช้อปคุยจะได้ลดอาการประหม่าจากสายตาที่กำลังจ้องผมอยู่ จนอาหารที่ผมสั่งก็มาวางที่ตรงหน้า ผมรีบตักข้าวเข้าปากอย่างรวดเร็ว รีบกินรีบเสร็จจะได้ออกจากร้าน รีบออกไปให้พ้นสายตาของมันสักที ตอนนี้แม่งโคตรอึดอัดเลยครับ

“แอ๊กๆ ๆ ๆ” ด้วยความรีบ ผมเลยกลืนข้าวลงคอแบบไม่ได้เคี้ยวทำเอาผมสำลักหน้าดำหน้าแดง

“อะ นี้น้ำ” ช้อปที่เห็นอาการของผมรีบเดินมานั่งข้างๆ ลูบหลังพร้อมยืนน้ำมาให้ผมดื่ม ผมยกน้ำขึ้นมาดื่ม แต่ตาผมทำไมมันต้องหันไปมองมันด้วย หน้าตาของมันตอนนี้อารมณ์เหมือนเมื่อคืนไม่มีผิด เอาแล้วไงผมควรทำยังไงดีครับ

“เฮ้ย...รีบกินไปไหน เห็นไหมติดคอเลยเนี่ย” ช้อปหันมาหลังเดินกลับไปนั่งที่เดิม

“อ่อ พอดีเราเป็นคนกินเร็วแบบนี้แหละ”

“แบบนี้ไม่ดีนะม่อน ไหนจะติดคอไหนอาหารจะไม่ย่อย ท้องอืดอีก” ช้อปบ่น ผมก็เข้าใจอยู่แหละครับ ก็คนเรียนหมอก็คงเป็นธรรมดา

ผมกลับมากินข้าวด้วยวิธีแบบปกติแล้ว พยายามไม่สนใจไอ้คนที่จ้องผมอยู่ ที่ตอนนี้มันกับกลุ่มเพื่อนของมันกำลังลุกจากโต๊ะ สงสัยกินเสร็จแล้ว ผมพยายามหันหน้าหนีไปอีกทางไม่ให้มันกับเพื่อนมันสนใจ พอดีว่าที่ที่ผมนั่งมันเป็นประตูทางออกร้าน เลยไม่อยากให้เพื่อนๆ ปากหมาของมันเห็น



“สงสัยมื้อนี้คงจ่ายหนักน่าดู” มันเดินผ่านผมไปพร้อมปล่อยวลีที่ผมเข้าใจว่ามันหมายความว่ายังไง ก่อนที่มันจะเดินออกไปโดยที่ไม่หันมามองผมด้วยซ้ำ

มึงจะไปก็ไปดีๆ ไม่ได้รึไง

ถึงยังไงตอนนี้มันก็ไปแล้ว ความอึดอัดก่อนหน้านี้ หายไปแล้ว แต่ยังมีอีกคน ช้อปที่นั่งตรงข้ามตอนนี้สรรหาเรื่องมาคุยเหมือนกับสนิทกันมานาน แต่ก็ดีแล้วครับไม่รู้สึกอึดอัดแถม ช้อปเป็นคนที่คุยด้วยแล้วสนุกเหมือนได้เพื่อนเพิ่มมาอีกคน

หลังจากทานอาหารเสร็จช้อปก็ขับรถมาส่งที่หน้าหอ พอดีกับที่ไอ้นัทกำลังเดินขึ้นหอ ในมันมือถือถุงพลาสติกข้างในมีกล่องโฟมสีขาว มันน่าจะออกไปหาของกินหลังจากนั่งติดหน้าคอมกับเกมสุดรักของมันนั่นแหละครับ พอดีกับที่ผมเดินออกมาจากรถหันหน้าไปขอบคุณเจ้าของรถที่อุตส่าห์มาส่ง แล้ววิ่งเข้าไปหาไอ้นัทที่ยืนรออยู่หน้าหอด้วยหน้าตาสงสัย

“ไหมมึงบอกไม่รู้จักกัน แล้วทำไมมาด้วยกันได้วะ” มันถามผมแต่ตายังมองเพื่อนใหม่ของผมที่ยืนยิ้มกำลังเปิดประตูรถ

“ก็เพิ่งรู้จัก เขามานั่งอ่านหนังสือด้วย” ผมบอกมันตามตรง แต่หน้ามันตอนนี้ยังไม่หายสงสัย

“แต่กูว่ามีอะไรมากกว่านั้น” มันหันหน้ามาจ้องตาผมเหมือนพยายามค้นหาอะไรอยู่

ผมไม่ได้สนใจท่าทีของมันมากนัก เบี่ยงตัวเดินหนีมันขึ้นบันไดทันที มันไม่พูดอะไรต่อวิ่งตามขึ้นบันไดกอดคอผมเดินขึ้นห้อง



หลังจากวันนั้นที่ห้องสมุดกับวันที่เจอไอ้ภาคมันที่ร้านข้าวหลังมอ ตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว หลายวันที่ผ่านมาหลังเลิกเรียนผมก็จะเดินเข้าไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด อ่านเสร็จก็กลับไปอาบน้ำที่หอเตรียมออกไปทำงานที่ผับ แต่เมื่อวานเป็นวันสุดท้ายที่ผมทำงานเพราะอีกหนึ่งอาทิตย์ก็จะสอบกลางภาคแล้ว ผมเลยขอลางานที่ร้านอาทิตย์หนึ่ง

แต่สิ่งที่ไม่ปกติหรืออาจปกติไปแล้วก็ได้ เพราะหลังจากวันนั้นกลุ่มผมก็มีช้อปเพื่อนใหม่ของผมที่ทุกวันต้องมากินข้าวพร้อมกับกลุ่มผมเกือบทุกเช้า รวมถึงตอนเที่ยงและตอนเย็นแล้วแต่ว่าช้อปว่างตอนไหน จนผมอดคิดไม่ได้ว่าที่คณะช้อปเรียนมันไม่หนักเหรอ ถึงได้ขับรถมากินข้าวที่โรงอาหารคณะผมได้ทุกวันแบบนี้ แต่ก็ช่างเถอะครับดูเหมือนว่าช้อปจะเข้ากับเพื่อนผมได้ดี คุยถูกคอกันเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อนเสียอีก

“ม่อนกูว่าช้อปแม่งชอบมึง” ไอ้มีนเปิดประเด็น มีเฟิร์นพยักหน้าเห็นด้วยอยู่ข้างๆ

“ชอบห่าอะไร ช้อปก็เป็นเพื่อนแบบพวกมึงนั่นแหละ” ผมหันไปค้อนมันทั้งคู่

ช้อปจะชอบผมได้ยังไงก็ช้อปเป็นผู้ชาย ผมก็ผู้ชายแล้วผมก็ชอบผู้หญิงด้วย ไม่มีทางคิดกับช้อปเป็นแบบอื่น และที่สำคัญผมก็ไม่เห็นว่าช้อปจะมีท่าทีกับผมแบบที่พวกมันบอกด้วย

“ช้อปชอบไอ้ม่อนหรอ” มีนยิงคำถามทันทีที่ช้อปเดินมานั่งที่โต๊ะ ก็เป็นปกติแบบนี้ที่ช้อปจะมานั่งกินข้าวพร้อมพวกผม

“มึงพูดอะไรของมึงมีน โทษทีนะช้อปมีนมันชอบพูดเล่น”

“อืม เราชอบม่อน” ปัง ผมสตั้นไปสามวิกับคำตอบที่ออกมาจากปากช้อปที่ตอบออกมาแบบหน้าตาเฉย ผมยังคงงงกับคำตอบเมื่อกี๊ของช้อปอยู่ แต่ดูเหมือนเพื่อนในกลุ่มผมทำไมมันดูไม่แปลกใจอะไรเลย มีเพียงแต่ไอ้นัทที่ยื่นมือมาตบบ่าผมเบาๆเท่านั้น

“เออ พวกมึงกูอิ่มแล้วไปรอที่ห้องนะ” อะไรยังไง ตั้งแต่ตอนไหนที่ช้อปบอกว่าชอบผม ทั้งที่ผ่านมาผมก็เห็นช้อปก็เหมือนเพื่อนปกติทั่วไป ผมก็เลยไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้ที่ได้ยินจากปากช้อป ทำผมสับสนไม่รู้จะทำหน้ายังไงตอนนี้ ทำได้เพียงขอตัวออกมาเลี่ยงเหตุการณ์ตรงหน้าเท่านั้น

“มึงจะรีบเข้าทำไมนักหนาวะห้องเนี่ย อีกตั้งสิบห้านาที” เสียงไอ้นัทบ่นหลังจากเดินเข้าห้องมาพร้อมกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม

ไอ้ห่ามึงจะให้กูเสนอหน้าอยู่ต่อหน้าผู้ชายที่มาบอกชอบกุเนี่ยนะมึงคิดอะไรอยู่

“เออ ก็จะสอบแล้วกูก็ต้องตั้งใจเป็นพิเศษไง”

“ไม่ใช่ว่าเพราะไอ้ช้อปบอกชอบมึงหรอกนะ” ผมหันหน้าไปค้อนมันอย่างเอาเรื่อง

“เออน่า กูไม่พูดแล้วก็ได้ แค่จะบอกว่าไอ้ช้อปมันชวนไปดูมันแข่งบาสเย็นนี้ พวกกูก็จะไปดูอยู่พอดี เพราะคณะเราแข่งกับคณะมัน”

“เออๆ ไปก็ไป” เย็นนี้ว่างพอดีครับไม่มีงานตอนดึกก็ไม่มีงานที่ผับ ออกไปคลายเครียดลองเข้ากิจกรรมกับมหาลัยดูสักครั้งก็คงไม่เลว



“รีบเก็บของสิวะไอ้ม่อนเดี๋ยวก็ไม่ทัน”

“เออเสร็จแล้วมึงจะรีบไปไหน” ไม่รู้ว่ามันจะรีบไปไหนตอนก่อนเข้าห้องเรียนกลับบ่นพอแบบนี้ละแม่งเสือกมาเร่งกูซะงั้นไอ้ห่านัท



สนามกีฬาอเนกประสงค์ของมหาลัยถูกจัดเตรียมเป็นสถานที่สำหรับแข่งขันบาสเกตบอลระหว่างคณะ ตามสแตนด์เชียร์เต็มไปด้วยนักศึกษาจากคณะต่างๆ โดยเฉพาะสาวๆ ที่เตรียมตัว มากรี๊ดหนุ่มหล่อจากทั้งสองคณะกันอย่างเต็มที่ พวกผมเดินหาที่นั่งซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นฝั่งวิศวะอย่างแน่นอน ถึงผมจะมาเพราะคำชวนของช้อป แต่ยังไงผมคงไม่มีทางทรยศต่อคณะอย่างแน่นอน

ถึงแม้จะนั่งอยู่อีกด้านหนึ่งของสนามในฝั่งของวิศวะ ช้อปก็ยังไม่วายเดินมาหาพวกผม แถมยังเดินมาวางผ้าเช็ดหน้ากับกระเป๋าที่ตักของผมอย่างงงๆ

ฝั่งตัวเองก็มีทำไมช้อปไม่ไปฝาก



“ม่อนมึงโอเคไหม”

“โอเคอะไรของมึง ของช้อปนี่หรอ” ผมยกของช้อปที่วางอยู่บนตักผมให้มันดู เพราะอยู่ดีๆ นัทมันก็หันมาถามผมว่าโอเคไหม ผมเลยคิดว่ามันพูดถึงเรื่องเมื่อเช้า

“ไม่ใช่ๆ แต่...” มันพยักพเยิดหน้าหันไปมองคนด้านล่างที่กำลังจ้องหน้าผมแบบเดียวกับที่มันเคยมองผมมาตลอด ผมไม่ได้สังเกตมาก่อนว่ามันก็เป็นนักกีฬาของคณะผม อย่างนี้ผมคงเชียร์ฝั่งแพทย์แบบเต็มที่ซะแล้ว

“กูเห็นมันจ้องมึงตั้งแต่ไอ้ช้อปเดินมาแล้ว”

“เออช่างมันเถอะอย่าไปสนใจมันเลย” ผมไม่สนใจหันไปมองบรรยากาศรอบๆ สนามที่ดูครึกครื้น ทำเอาผมตื่นเต้นเพราะไม่คิดว่ากิจกรรมของมหาลัยจะน่าสนุกขนาดนี้



“ปี๊ดดดดด” เสียงนกหวีดของกรรมการในสนามดังขึ้น ทันทีที่ช้อปล้มลงไปกองกับพื้น ก็ไอ้ภาคนี่สิครับ ไม่รู้มันไปโกรธอะไรช้อปวิ่งเข้าไปชนช้อปหลายครั้ง ชนทีแรงๆทั้งนั้น ผมล่ะกลัวจะมีมวยในสนาม เพราะดูเหมือนอารมณ์ช้อปตอนนี้ก็ดูกรุ่นๆ ขึ้นมาแล้วเหมือนกัน

“ปี๊ดดดด” นกหวีดดังขึ้นอีกครั้งไม่ใช่นกหวีดทำฟาว์ลของไอ้ภาค แต่เป็นนกหวีดหมดเวลาผลปรากฏว่าคณะผมแพ้ไป 46-49 ก็เพราะไอ้ตัวดีภาคมันเล่นไปทำฟาว์ลตอนก่อนจบเกมจนทำให้ทีมเราแพ้ ก็สมควรแล้วแหละครับ มันเล่นอย่างกับจะมาต่อยมวย



“ขอผ้าเช็ดหน้าหน่อย” ผมยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ช้อปที่ยืนเหงื่อซก แต่ยิ้มหน้าบานอยู่ตรงหน้า ก็คงเพราะทีมเพิ่งชนะมามั้งเลยดูดีใจขนาดนั้น

“ม่อนเราขอคุยด้วยหน่อย” ช้อปถามผมแต่หน้าหันไปทางเพื่อนผมที่ยืนพยักหน้าให้ช้อป อะไรวะถามผมแต่ให้เพื่อนตอบ ผมเดินตามแรงดึงเบาๆที่ข้อมือมาที่ห้องล็อกเกอร์สำหรับนักกีฬา ในห้องมีนักกีฬาอยู่ไม่กี่คนเพราะน่าจะยังอยู่ข้างนอกยังไม่เข้ามากัน ช้อปพาผมมายืนที่มุมเล็กๆ ข้างล็อกเกอร์ สายตาช้อปตอนนี้ดูจริงจังผิดปกติ

“ม่อน...เมื่อเช้าที่เราบอกว่าชอบม่อนเราพูดจริงนะ” พูดจริงงั้นหรอ ช้อปชอบผมจริงๆงั้นหรอ แล้วผมควรทำยังไงเหรอครับ

“เรารู้ว่าม่อนไม่ได้ชอบผู้ชาย เราก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย แค่เราเห็นม่อนแล้วอยากดูแลม่อน...” ช้อปหยุดพูดสักพัก ยกมือขึ้นมาจับแขนทั้งสองข้างของผม

“เราไม่ได้จะบอกให้ม่อนชอบเรา เราแค่จะบอกว่าขอให้เราได้ลองดูแลม่อนสักครั้งจะได้ไหม” ผมยังไม่ได้ตอบอะไรยืนนิ่งกับคำพูดของช้อปอยู่แบบนั้น



สมัยมัธยมผมเคยมีแฟนมาสามคน คนแรกคบตอนมอสาม สาเหตุที่เลิกกันเพราะผมไม่มีเงินซื้อเฟอร์บี้ให้เธอ คนที่สองตอนมอสี่เราเลิกกันก็เพราะผมไม่มีเงินซื้อโทรศัพท์บีบีที่ตอนนั้นฮิตมาก จนรู้ว่าเธอแอบไปคุยกับคนอื่น ก็คุยบีบีนั่นแหละครับ คนที่สามเลิกกันเพราะเธอแอบไปเห็นว่าผมทำงานเป็นพนักงานเซเว่น เธอบอกว่าเธออายเพื่อน หลังจากนั้นผมก็ไม่มีความคิดที่จะมีแฟนอีกเลย เพราะกลัวจะซ้ำรอยเพราะความจน ไม่มีเงินมากมายไปคอยดูแลตามใจใคร ผมเลยเลือกที่จะอยู่ตัวคนเดียวดีกว่า หลังเรียนจบผมมีการมีงานที่ดีทำค่อยคิดเรื่องนี้อีกที่ เพราะแน่นอนว่าครอบครัวผมยิ่งกับแม่แล้วที่คอยพูดกรอกหูมาตลอดว่าเรียนจบก็ให้หาเมียเลยแม่เพราะแม่อยากอุ้มหลาน

เฮ้ย...แต่ตอนนี้กลับมีผู้ชายมาบอกชอบผม ยิ่งทำให้ผมสับสนไปกันใหญ่ ว่าจะทำยังไงดี จะปฏิเสธ แล้วจะปฏิเสธยังไง จะให้โอกาสแล้วจะให้โอกาสยังไงทั้งที่ผมชอบผู้หญิงไม่ได้ชอบผู้ชาย

“เออ...เราไม่รู้ว่าเราจะชอบช้อปได้ไหม แต่ถ้าช้อปอยากทำแบบนั้นเราก็ไม่ว่าอะไร แต่เราไม่ยืนยันนะว่าจะหลังจากนั้นเราจะชอบช้อปแบบที่ช้อปชอบเราได้ไหม”

ไม่มีเสียงตอบจากช้อปมือเพียงร่างกายของผมที่ถูกดึงเข้าไปกอดๆ แบบที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นถึงจะรู้สึกแปลกที่ต้องมายืนกอดกับผู้ชายด้วยกัน



‘ภาค’



ผมไม่รู้ว่ามันยืนตรงนี้นานแค่ไหนแล้ว ไม่รู้ว่ามันได้ยินที่ผมกับช้อปคุยกันไหม รู้เพียงว่าสีหน้ามันตอนนี้เหมือนเสือที่กำลังจะเข้ามาตะครุบแล้วฉีกผมเป็นชิ้นๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-08-2018 21:15:54 โดย TONYZZYUKI »

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
อูยยยยย
อ่อนแอก็แพ้ไป คนใจกล้าเขาเดินหน้าจีบ
โอเคมั้ยจ้ะภาคจ๋า

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เรื่องใหญ่แล้ว

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ม่อน ทำไมเสน่ห์แรงขนาดนี้นะ
มีสงครามย่อมๆ เกิดขึ้นแล้ว
สงสัยคนกลางเละแน่ อิอิอิ
 :hao7: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
งานงอกแล้วม่อน
เสือภาคจะยอมมั้ยนั่น
 :mew3:
กดบวกรอคนดิ้นๆๆๆ

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ถ้ามัวแต่ท่ามากปากหนัก จะแห้วนะภาค ม่อนเสน่ห์เริ่มแรงแล้ว :katai2-1:

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ภาคช้าอ่ะไม่ทันกินเลย​ ช้อปรุกจีบชัดเจนกว่าก็งี้

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 6




#มึงทำแบบนี้ทำไม  ครึ่งแรก



ผมยืนนิ่งอยู่ในอ้อมแขนของช้อป โดยเบื้องหน้ามีอีกคนยืนจ้องเขม็นผมอยู่ ผมไม่รู้ว่าสายตาที่มันมองมาหมายความว่ายังไง แต่ผมควรถอยตัวออกจากอ้อมแขนของช้อปก่อนดีกว่า และควรออกจากตรงนี้โดยด่วนที่สุด

ผมผละตัวออกจากแขนของช้อปที่กำลังมองหน้าผมอยู่

“ออกปะ....” ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากช้อปให้ออกจากตรงนี้ มือที่ยื่นมาคว้าข้อมือของผม ไม่ใช่มือช้อป แต่เป็นมือของคนที่ยืนดูเหตุการณ์ก่อนหน้าของผมกับช้อปอยู่

“มึงจะทำอะไร” ช้อปคว้าคอเสื้อของภาคมันอย่างเอาเรื่อง น่าจะเพราะเหตุการณ์ในสนามก่อนหน้านี้ด้วย

ภาคมันเหมือนจะไม่ฟังที่ช้อปพูด ดึงแขนผมอย่างแรงเตรียมลากผมออกมา แต่ด้วยแรงดึงที่คอเสื้อของมันที่มีมือของช้อปจับอยู่ทำให้มันเดินออกไปไม่ได้

“ผลั๊วะ” มันปล่อยมือจากผม หันหน้ามาสวนหมัดเข้าที่กลางหน้าของช้อปเต็มๆ จนช้อปเซล้มลงไปกองกับพื้น มันไม่รอให้ช้อป ลุกขึ้นมา ลากข้อมือผมออกมาอย่างรวดเร็ว

มันล้วงหากุญแจรถก่อนยกขึ้นมากดปุ่มเปิดประตู มันผลักผมเข้าไปในรถปิดประตูแล้วเดินไปที่นั่งคนขับทันที รถของมันพุ่งตัวออกจากที่จอดรถด้วยความเร็วจนคนแถวนั้นหันมามอง รถมันเคลื่อนผ่านประตูหน้ามหาลัย มันไม่แม้จะหยุดตรงไฟแดงเลยด้วยซ้ำ ผมรู้สึกคุ้นเส้นทางที่มันกำลังพาผมไป ผมแน่ใจแล้วว่ามันจะพาผมไปที่คอนโดของมันแน่นอน

รถของมันจอดลงตรงที่จอดรถชั้นใต้ดินของคอนโด ทันทีที่รถจอดผมรีบเปิดประตูกระโดดลงจากรถแล้วรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่มันเห็นผมวิ่งลงจากรถมันก็วิ่งไล่ตามผมทันที

“ผลั๊ก...โอ๊ย” ไอ้ขาเวรทำไมมึงต้องมาพันกันตอนนี้ด้วย ผมล้มลงกองกับพื้นเพราะตอนที่วิ่งหนีขาผมมันดันไปเกี่ยวกันซะงั้น

“มึงหนีกูไม่พ้นหรอก” ผมยังไม่ทันทีจะลุกเพื่อวิ่งต่อ มันก็เดินเข้ามากระชากข้อมือแล้วลากผมให้เดินตามมันไป

มันเปิดประตูรถอีกครั้ง แต่แทนที่จะเป็นประตูด้านหน้า มันกลับเดินไปเปิดประตูด้านหลังแทน ก่อนที่ผมจะได้สงสัยว่ามันเปิดประตูหลังทำไม ตัวผมก็ถูกมันโยนเข้าไปนอนในตัวรถเรียบร้อย มันตามเข้ามาในรถก่อนปิดประตู

มือแข็งของมันรวบที่ข้อมือทั้งสองข้างของผมไว้ ผมพยายามดิ้นขัดขืนอย่างถึงที่สุดแต่ก็ยังไม่หลุดจากมันสักที ก่อนที่จะโดนมันจับพลิกตัว ดึงแขนทั้งสองข้างมารวบไว้ทางด้านหลังแทน ก่อนที่มันจะหยิบอะไรสักอย่าง ซึ่งตอนนี้ผมแน่ใจแล้วว่ามันคือเข็มขัดขึ้นมามัดแขนทั้งสองข้างของผมไว้

ผมเจ็บมากครับยิ่งดิ้นยิ่งเจ็บ ไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้มันจะทำอะไรกับผม รู้แค่ว่าตอนนี้กลัว กลัวมากเลยครับ

“เงินที่ได้จากกูไปคงไม่พอใช้ละสิท่า” มันพูดออกมาครั้งแรกหลังจากที่ง่วนอยู่กับการจัดการมัดผม มันคงคิดว่าผมไปขายตัวกับช้อปแบบที่ทำกับมัน แต่ทำไมมันต้องทำแบบนี้กับผมด้วย ทั้งๆที่เรื่องมันกับผมผ่านมาตั้งนานแล้ว หรือว่ามันต้องการเงินมันคืน

“มึงอยากได้เงินคืนหรอ มึงปล่อยกูก่อนแล้วกูจะเอาเงินมาให้” เรื่องที่ผมคิดได้ว่าสาเหตุที่มันทำกับผมแบบนี้ก็มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้นละครับ

“จะรีบไปขอเงินผัวใหม่มาให้กูหรอ” ผัวใหม่ที่ว่ามันหมายถึงช้อปเหรอครับ

“ผัวใหม่อะไร กูไม่มี” ผมปฏิเสธตามจริงไป

มันไม่พูดอะไรต่อ เลื่อนมือมาที่หัวเข็มขัดผมก่อนปลดเข็มขัด แล้วดึงกางเกงนักศึกษาพร้อมกับกางเกงในของผมลงไปที่ข้อเท้า ผมเข้าใจแล้วว่าตอนนี้มันคิดจะทำอะไรกับผม ผมพยายามดิ้น ดิ้นมากกว่าเดิมถึงแม้จะเจ็บมากแต่มันก็เป็นทางเดียวที่จะทำให้ผมหลุดออกมาได้ ถึงแม้จะยากมากก็ตาม

ผมไม่อยากโดนมันทำแบบเดิมเป็นครั้งที่สอง แค่ครั้งแรกที่ผมเป็นคนยอมเดินเข้าไปให้มันทำแบบนั้นผมก็ขยะแขยงทั้งตัวเองและมันมากพอแล้ว ครั้งนี้กลับกำลังโดนมันขืนใจยิ่งทำให้ผมอยากหนีออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

“ถุย”

เสียงมันถ่มน้ำลายลงบนช่องทางหลัง ก่อนขึ้นนั่งคร่อมบนตัวผม



‘อื้อ...’

ความรู้สึกเจ็บแปล๊บทางด้านหลังของผมตอนนี้ มันดันแก่นกลางของมันเข้ามาโดยที่ไม่มีการใช้นิ้วนำทางก่อน และผมก็รู้สึกว่ามันไม่แม้แต่ใส่ถุงยางก่อนด้วยซ้ำ

ร่างกายของผมดิ้นพล่านเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ผมร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด

“อ้า” มันร้องครางออกมาอย่างไม่สนใจเสียงร้องที่เจ็บปวดของผมสักนิด แถมยังขยับเอวเร็วและหนักหน่วงมาก

ผมกัดปากเก็บความรู้สึก ไม่ส่งเสียงอ้อนวอนอะไรออกมาอีกเพราะคิดว่าถึงยังไงมันคงไม่ยอมหยุดอยู่ดี มันยังคงทำร้ายด้านหลังผมอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

ผมนิ่งเงียบ เงียบอยู่นานมากไม่แม้จะส่งเสียงอะไรออกมา มีเพียงน้ำตาที่ไหลอาบสองข้างแก้มอย่างต่อเนื่อง



“มึงไปได้แล้ว”

มันส่งเสียงแผ่วเบาในลำคอก่อนเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดออกจากข้อมือผม ผมรู้ว่ามันยังไม่เสร็จแน่ๆ แต่ทำไมมันถึงยอมปล่อยผมไป ก่อนหน้านี้ยังทำกับผมแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแถมรุนแรงขนาดนั้น แต่คงไม่มีเวลาให้ผมคิดถึงเรื่องนั้นหรอกครับ ผมรีบดึงกางเกงขึ้นมาใส่แบบลวกๆ ก่อนหันไปเปิดประตูรถวิ่งออกมาลืมแม้กระทั่งความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นตอนนี้ เพียงแค่อยากจะหนีออกมาให้ไกลจากมันเท่านั้น



ผมวิ่งออกมาไม่แม้จะคิดหันกลับไปมอง พยายามก้าววิ่งด้วยกำลังทั้งหมดที่มี

"ผลั๊ก” ผมล้มลงไปกองกับพื้น ใจตอนนี้อย่างลุกขึ้นวิ่งให้เร็วที่สุด แต่ร่างกายกลับปฏิเสธ ผมพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้น มือทั้งสองข้างยืนไปเกาะกำแพงพยุงตัวเองเดินไปนั่งที่ป้ายรถเมล์ใกล้ๆ

‘มือถือ’ ผมนึกขึ้นได้ว่ามีโทรศัพท์ติดอยู่ที่กระเป๋ากางเกง เลื่อนหน้าจอหาเบอร์มือถือของไอ้นัททันที

“ม่อนมึงอยู่ที่ไหน มึงเป็นอะไรรึเปล่า มันทำอะไรมึงไหม” ยังไม่ทันทีผมจะพูดอะไรนัทก็ยิงคำถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง มันคงจะรู้เรื่องจากช้อปแล้วว่าผมโดนไอ้ภาคลากตัวออกมา

ผมพยายามมองรอบๆ เพื่อหาจุดสังเกตว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนก่อนบอกให้มันมารับโดยที่กำชับมันว่าอย่าให้ช้อปรู้ เพราะผมไม่อยากให้คนอื่นมารับรู้เรื่องน่าขยะแขยงแบบนี้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-08-2018 21:21:12 โดย TONYZZYUKI »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :mew6:
ภาคผีบ้ากามเข้าสิงเหรอ

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ทำแบบนี้ทำไมภาค
ทำแบบนี้ได้ไงงงงงงงง
อยากถาม
ปล่อยให้ช้อปเอาม่อนไปเถอะ
 :katai1:
กดบวกรอครบตอน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
นี่คือหึงใช่ไหม

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ภาค​ ทำแบบนี้ทำไมเนี่ย​ ครั้ง​หน้าถ้าเจอกันอีกจะทำยังไง

ออฟไลน์ Kuayyai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ชอบมาก นิยายแซ่บๆ แบบนี้
ขอให้แต่งจนจบนะ เป็นกำลังใจให้

ดำเนินเรื่องสนุกมาก อ่านแล้วบีบคั้นดี
มันลุ้นไปกับตัวละคร
ว่าม่อนจะเจออะไร ภาคจะทำอะไร

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ขืนใจม่อนแบบนี้เท่ากับสร้างแผลใจให้ม่อนเลยนะอย่างนี้ม่อนคงได้เกลียดภาคแน่

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
มาต่อให้แล้วนะครับ



ผมนั่งมองผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงป้ายรถเมล์ ทำไมผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ทำไมต้องเป็นผม ผมควรโทษใครดีโทษแม่ที่ป่วยจนผมต้องทำแบบนั้น โทษความจนที่ติดตัวผมมาตั้งแต่เกิดจนทำให้ผมไม่มีทางเลือกหรือโทษตัวเองที่เอาตัวเขาแลกเพราะแค่อยากได้เงิน

แต่เพราะอะไรทำไมมันถึงทำแบบนี้กับผม ถึงจะอยากได้คำตอบมากเท่าไรแต่ผมไม่มีทางที่จะไปเจอมันอีกครั้งแน่ แค่คิดก็รู้สึกขยะแขยงมันมากจนไม่อยากอยู่ร่วมโลกกับคนอย่างมันอีกต่อไป



“ม่อนมึงเป็นยังไงบ้าง” ไอ้นัทกระโดดลงจากรถไม่แม้จะดับเครื่องมอเตอร์ไซต์ของมันก่อนตรงมาที่ผมทันที ผมยกมือทั้งสองข้างสวมกอดมันปล่อยน้ำตาที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้ เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะหาว่าผมบ้าออกมาทั้งหมด

ไม่เหลืออะไรแล้วครับตอนนี้ผมปล่อยน้ำตาออกมาทั้งหมด กอดไอ้นัทตัวสั่น มีเพียงคำปลอบว่า ‘ว่าไม่เป็นไร’ จากปากของนัทอย่างไม่ขาดสาย มันปล่อยให้ผมนั่งกอดแบบนั้นอยู่นานโดยที่ไม่ว่าอะไรสักคำ

“ขอบคุณมึงมากนัทที่ปลอบกู อยู่เป็นเพื่อนกู ไม่ทิ้งกู” ผมพูดทั้งที่มือทั้งสองข้างยังกอดมันอยู่ มือข้างหนึ่งของมันลูบที่หลังของผมอย่างอ่อนโยน

“กูไม่ทิ้งมึงหรอกก็มึงเป็นเพื่อนกู” มันดันตัวผมออกยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปาดน้ำตาที่เลอะสองข้างแก้มของผมออกแล้วยิ้มให้กำลังใจ

“กลับหอกันเถอะพวกไอ้อาร์มมันเป็นห่วงมึงแย่แล้ว”



ผมนั่งซบหลังของไอ้นัทตลอดทางจนมันขับมาถึงหอ พวกที่เหลือยืนรอผมอยู่ที่หน้าหออย่างเป็นห่วงทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นยังไง สีหน้าพวกมันเปลี่ยนทันทีที่รถมอเตอร์ไซต์ของไอ้นัทจอดลง พวกมันวิ่งเข้ามาหาผมด้วยสีหน้าดีใจ เหมือนว่ากำลังรอผมกลับมา พวกมันไม่แม้แต่จะถามว่าเกิดอะไรขึ้น มีเพียงแค่ไอ้อาร์มเดินมายกมือข้างหนึ่งของผมไปกอดคอมันก่อนพยุงผมเดินขึ้นหอท่ามกลางเหล่าเพื่อนๆ ที่เดินตามมาไม่ห่าง



ผมนั่งปล่อยความคิดบนเตียงอยู่นาน ตรงหน้าฝั่งเตียงไอ้นัทก็แออัดไปด้วยเหล่าเพื่อนในกลุ่มของผมที่ไม่มีแม้คำถามหรือแม้แต่เสียงพูดคุยกัน จากที่ปกติแล้วถ้าพวกมันอยู่พร้อมหน้ากันแบบนี้ไม่มีทางเงียบอย่างแน่นอน



“มันข่มขืนกู” ผมพูดทำลายความเงียบสายตามองลอยออกไปด้านนอกหน้าต่าง

“กูจะไปฆ่ามัน” ไอ้นัทกับไอ้อาร์มลุกขึ้นเตรียมพุงตัวออกนอกห้องไป

“กูผิดเองแหละ กูไม่น่าคิดตื้นๆ แบบนั้น กูผิดเองแหละที่มองข้ามความเป็นเพื่อนของพวกมึง เพียงแค่คิดว่ามันเป็นปัญหาของกู ไม่อยากให้พวกมึงต้องมารับรู้ คิดว่าตัวเองสามารถจัดการปัญหาได้ด้วยตัวเอง ฮึก....ฮึกๆ ๆ”

ผมปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง ลองคิดดูแล้วว่าคนที่ผิดจริงๆ แล้วคือผม ผมที่ยอมให้ปัญหาอยู่เหนือตัวเอง ตอนนี้ผมคงทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา เผื่อว่ามันจะล้างเรื่องราวแย่ที่เกิดขึ้นกับผม

พวกนัทที่ก่อนหน้านี้นั่งเบียดกันลุกขึ้นมาแตะไหล่ สองสาวมีนกับเฟิร์นนั่งขนาบข้างกอดให้กำลังใจผม

“แล้วมึงจะเอายังไงต่อไปวะม่อน” อาร์มทักขึ้นหลังจากที่ผมสงบสติอารมณ์จากอาการร้องไห้อย่างหนักหน่วงเมื่อกี้

“ก็คงต้องรีบหาเงินมาคืนมันให้เร็วที่สุด” ผมคิดว่าถ้าผมหาเงินมาคืนมัน มันคงเลิกตามจองเวรผมสักทีแต่เรื่องที่จะหาเงินจากที่ไหนผมคงจะต้องคิดดูอีกที

“มึงไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเดี๋ยวพวกกูช่วยเอง” ผมเพียงพยักหน้ารับความช่วยเหลือจากเพื่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ปฏิเสธมันตลอดเพราะไม่อยากรบกวนพวกมัน แต่ตอนนี้ผมคิดแค่ว่าอยากจะหลุดพ้นจากไอ้สารเลวคนนั้นสักที



“อย่าๆ ...มึงปล่อยกูไปเถอะ อย่าทำอะไรกูเลย กูข้อร้อง ฮึกๆ ๆ ...” ผมสะดุ้งตื่นลุกจากเตียง ไฟถูกเปิดขึ้น มันน่าจะเปิดก่อนที่ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาเสียอีก ผมหันมองรอบห้องก่อนสายตาจะมาหยุดตรงที่เตียงของนัท ที่กำลังนั่งจ้องผมอย่างเป็นห่วง

“มึงยังไม่นอนหรอนัท” ผมถามมันที่กำลังนั่งจ้องหน้าผมอยู่

“กูได้ยินเสียงมึงร้องเลยลุกขึ้นมาดู มึงโอเคจริงๆ ใช่ไหม”

“กูโอเค” จะบอกว่าโอเคก็คงจะไม่ได้แค่อยากให้ไอ้นัทมันสบายใจเท่านั้น เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นจะให้ผมโอเคได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงคงเป็นไปไม่ได้



หลังจากที่ตื่นขึ้นมากลางดึกผมก็นอนไม่หลับทั้งคืน จะข่มตาหลับภาพที่มันกำลังทำร้ายผมก็ลอยเข้ามาทุกครั้ง ทำยังไง ผมควรทำยังไงถึงจะลืมมันได้สักที



“มึงไปเรียนไหวหรอม่อน” ไอ้นัทหันมาถามหลังเห็นว่าผมหยิบชุดนักศึกษาขึ้นมาใส่ สำหรับผมไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ทิ้งการเรียนเด็ดขาด กับความหวังของพ่อกับแม่ผมไม่มีทางทิ้งเพราะเรื่องแบบนี้เด็ดขาด



ผมซ้อนมอเตอร์ไซต์ของไอ้นัทจอดที่ข้างตึกคณะ ก่อนเดินเข้าไปหาข้าวเช้ากินที่โรงอาหาร เราเดินตรงมาที่โต๊ะที่เพื่อนอีกสามคนที่เหลือนั่งอยู่ วันนี้ช้อปไม่ได้มานั่งรอกินข้าวเช้าพร้อมพวกเรา แต่ก็ดีแล้วครับเพราะผมก็ไม่อยากตอบคำถามเรื่องเมื่อวาน

“อะนี้ของมึง ช้อปมันมีธุระเลยฝากไว้ให้” มีนยื่นถุงเซเว่นที่ข้างในมีนมรสกล้วยกับขนมปังให้กับผม

“เออมึงไม่ต้องห่วงกูไม่ได้บอกช้อปหรอก แค่บอกว่าเรื่องเข้าใจผิด” มีนชิงพูดเพราะรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังคิดอะไรอยู่

“แล้วมึงโอเคนะ”

“เออ กูโอเค” ไม่โอเคก็ต้องโอเคเพราะอีกไม่กี่วันก็สอบกลางภาคแล้วผมทิ้งไม่ได้จริงๆ

“ม่อนเรื่องเงินห้าหมื่นกูคุยกับป๊ากูให้แล้วนะมึงไม่ต้องห่วง” อาร์มหันมาบอกผม

“ส่วนเรื่องคืนเดี๋ยวกูกับไอ้นัทจะเอาไปคืนมันให้”

“ขอบคุณมึงมากๆ” ชอบคุณทั้งเรื่องเงินและขอบคุณมันที่จะเอาเงินไปคืนแทนผม มันคงรู้แหละว่าผมไม่อยากใกล้ไอ้นั่นมากขนาดไหน



‘ขวับ!’

ผมหยุดเดินตรงทางขึ้นอาคารเรียนก่อนหันไปสำรวจด้านหลัง ผมรู้สึกว่ามีคนแอบมองและแอบตามผมตั้งแต่อยู่โรงอาหาร

“มีไรวะม่อน” ไอ้นัทหันมาถาม

“ไม่มีไรๆ” ผมว่าผมคงระแวงจนไปเองก็ได้ แต่ผมว่าผมรู้สึกมีคนตามผมมาจริงๆ



ทั้งวันวันนี้ไม่ได้มีการเรียนการสอนอะไรมากนัก เพราะอาทิตย์หน้าก็สอบแล้วเลยมีเพียงการแนะแนวข้อสอบและเน้นย้ำบางหัวข้อเท่านั้น ดังนั้นตอนเย็นผมก็เลยคิดว่าจะไปหาหนังสืออ่านที่ห้องสมุดตามเคย แต่วันนี้แปลกเพราะมีเหล่าผ่องเพื่อนผมติดสอยห้อยตามมาด้วย มันคงไม่อยากให้ผมอยู่คนเดียว และอีกเหตุผลคือมันจะให้ผมเกร็งข้อสอบให้กับพวกมัน ก็ดีครับผมจะได้ไม่เหงาแถมได้ทบทวนไปด้วยในตัว

เราทั้งห้าคนเดินมาถึงหน้าห้องสมุด ก่อนจะพบว่าช้อปยืนรออยู่ก่อนแล้ว ช้อปเดินเข้ามาหาผมถามถึงเรื่องวันนั้นว่าเข้าใจอะไรผิดกันให้เขาจัดการให้ไหม ผมเพียงบอกปัดไปว่าไม่เป็นไรเคลียเสร็จเรียบร้อย ช้อปไม่ได้ถามอะไรต่อเพียงแต่เดินเข้ามาดึงกระเป๋าด้านหลังผมไปสะพายให้ 

“เฮ้ย...ไม่เป็นไรเราถือเองได้” ช้อปไม่พูดอะไรเพียงส่งยิ้มมาให้แล้วเดินนำหน้าเข้าไปในห้องสมุด

“นี่แนะยังไงกัน พวกกูคงไม่ต้องปลอบแล้วมั้ง” เสียงแซวจากเฟิร์นดังขึ้นตามด้วยเสียงไอ้พวกที่เหลือดังตามมาติดๆ ผมไม่ตอบอะไรเดินตามช้อปเข้าห้องสมุดอย่างรวดเร็ว



ผมนั่งอ่านหนังสือกับพวกเพื่อนๆ โดยมีช้อปนั่งอ่านอยู่ด้วยข้างๆ ผมสังเกตเห็นทั้งชีททั้งหนังสือกองอยู่ตรงหน้าช้อปเต็มไปหมด เรียนหมอนี่คงเรียนหนักมากเลยนะครับ เห็นช้อปตั้งใจอ่านหนังสือผมก็หันมาสนใจส่วนของตัวเองบ้าง

‘หนาว’ อากาศในห้องสมุดตอนนี้หนาวมาก หนาวจนผมต้องยกมือมากอดอกพลางลูบที่ต้นแขนของตัวเองทั้งสองข้าง

“หนาวหรอ” ผมหันไปมองหน้าช้อป ขณะที่ช้อปกำลังถอดเสื้อกันหนาวที่ใส่อยู่มาคลุมที่ไหลให้ผม

“อาร์มขามีนหนาวจังเลยค่ะ” มีนที่กำลังเอนตัวไปซบอาร์มเป็นการล้อเลียนผม



“ปึก”

ก่อนที่ผมจะได้หันหน้าไปค้อนเพื่อนตัวดีที่กำลังทำท่าล้อเลียนผมอยู่ เสียงบางอย่างกระทบที่โต๊ะเสียงดังจนทั้งโต๊ะผมหันไปมองเป็นตาเดียว ไม่ใช่แค่โต๊ะผมแต่เป็นนักศึกษาเกือบทั้งชั้นของห้องอ่านหนังสือที่หันไปมอง

ตาผมสะดุดกับแผ่นหลังที่กำลังเดินออกไปจากห้องสมุด



‘ไอ้ภาค’

แน่นอนผมจำได้แม่นว่าคือมันแน่ๆ ผมไม่รู้ว่ามันมาตั้งแต่ตอนไหนเพราะผมก็ไม่ได้สนใจและก็ไม่อยากสนใจมันด้วย ผมละสายตาหลังจากที่มันเปิดประตูเดินออกไป สายตาจากเพื่อนที่หันมามองว่าผมโอเคไหม ผมได้แค่พยักหน้ากลับไปเป็นคำตอบ

ผมว่าผมควรเลิกคิดเลิกสนใจเรื่องที่ผ่านมาได้แล้ว ควรหันมาสนใจคนรอบข้างที่เป็นห่วงผมดีกว่า

‘ช้อป’ ที่ตอนนี้ดูไม่สนใจกับเหตุการณ์ก่อนหน้า เพียงแต่ยิ้มยื่นมือมาจัดเสื้อกันหนาวที่คลุมอยู่ที่ไหล่ผมเท่านั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-08-2018 21:22:06 โดย TONYZZYUKI »

ออฟไลน์ nuum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
สนุก สนุก สนุก
        ครับ

รอตอนต่อไปครับ


        :110011: :z7:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
จะหมดเวรหมดกรรมไหมนะ

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ไม่ชัดเจนเองนะภาค แล้วมาทำงี้อะ โมโหๆๆๆๆ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
ภาคเป็นพระเอกหรอ งง 555555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด