ขายครับ!!!!....ไม่ฟรี [MONEY MAN] ตอนที่ 37 #แยกกัน (26/10/2561)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ขายครับ!!!!....ไม่ฟรี [MONEY MAN] ตอนที่ 37 #แยกกัน (26/10/2561)  (อ่าน 27385 ครั้ง)

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
Special Part



Part

มิกซ์



#ช้อปมิกซ์









“มาแล้วพี่” ผมเดินเข้าไปหาพี่ช้อป มือข้างหนึ่งถือแก้วเหล้าส่งยิ้มมาให้ผม





วันนี้เรามีนัดกัน ผมจะมาเป็นโค้ชให้พี่แกครับ หลังจากที่อกหักจากพี่ชายผม





ไม่รู้ว่าไปพิศวาสคนอย่างม่อนมันได้ยังไง





“เตรียมตัวไว้นะพี่เดียวผมจัดให้แจ่มๆ” ผมเดินเข้าไปรับแก้วที่พี่ช้อปยื่นมาให้





“จัดมา” พี่ช้อปตอบแค่เพียงสั้นๆ ยกแก้วในมือมาชนกับแก้วของผม





















“เด็กใหม่มึงเหรอช้อป” ผู้ชายคนหนึ่งเดินมาตบไหล่พี่ช้อปก่อนนั่งลงข้างๆ





เด็กใหม่? เขาหมายถึงใครเหรอครับ โต๊ะนี้ก็ไม่มีใครนอกจากผมกับพี่ช้อป อย่าบอกนะครับว่าผมหมายถึงผม ตลกแล้วครับ อยากหัวเราะให้ฟันร่วง





ผมรอให้พี่ช้อปพูดแก้เรื่องผมให้เพื่อนแกเข้าใจ





‘เงียบ’ ผมนั่งรอให้พี่ช้อปพูด แต่ดูเหมือนพี่แกไม่สนใจอะไร นั่งนิ่ง ส่งยิ้มกวนๆ มาให้ผมแทน อะไรของพี่มันวะ





“เด็กใหม่อะไรพี่ ผมกับพี่ช้อปไม่ได้เป็นอะไรกัน” ผมไม่ปล่อยให้เขาเข้าใจผิดไปมากกว่านี้หรอกครับ เรื่องอะไรจะปล่อยให้เข้าใจผิดว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน ผมมาในฐานะโค้ชประจำตัว โค้ชมิกซ์ผู้ช่ำชองเรื่องความรัก













ได้โอกาศแล้วครับ สาวสวยโต๊ะตรงข้ามส่งสายตาเชื้อเชิญมาที่ผม เป็นจังหวะที่ดีที่ผมจะได้สอนวิธีการจีบหญิงให้พี่แกดูแล้วครับ





ผมลุกขึ้นยืนส่งสัญญาณให้พี่แกจับตาดูสิ่งที่ผมกำลังจะทำ เดี๋ยวมิกซ์สุดหล่อคนนี้จะทำให้ดูเป็นตัวอย่างเองนะพี่





แก้วใสในมือผมชนเข้ากับแก้วอีกใบ สาวสวยตรงหน้า เธอดูเย้ายวนผมมากเลยครับ มือข้างหนึ่งผมค่อยเลื่อนไปโอบเอวบางของเธอไว้ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ว่าอะไร ผมหันกลับไปสบตาพี่ช้อปอีกรอบ ไม่ลืมที่จะยักคิ้วให้พี่แกด้วย ก็บอกแล้วไงมิกซ์ซะอย่าง ไม่มีทางพลาดหรอก





คารมผมดูจะถูกใจสาวคนนี้มากๆ เธอดูตั้งใจฟังสิ่งที่ผมพูด ดูจากสายตายั่วยวนที่เธอส่งมาให้ผมตลอดเวลา





จนกระทั่งเหมือนมีกระแสไฟฟ้าช็อตที่เราทั้งสองคน ถึงช่วงเวลาที่ผมกับเธอสปาร์คกัน สายตาเราทั้งสองคนประสานกัน ผมโน้มตัวเข้าหาเธอ ริมฝีปากเราค่อยๆ เลื่อนเข้าหากัน









“ตุบ!!!” ไม่ใช่เสียงจูบของเราสองคนอย่างแน่นอนครับ แต่เป็นเสียงตัวผมเองที่ล้มลงไปนอนกองกับพื้น





ไม่รู้มีไอ้ผู้ชายตัวถึกจากไหนดึงผมออกมา แถมยังซัดหมัดเข้าที่หน้าผมอย่างจัง เจ็บฉิบหายเลยครับ





ดูเหมือนสาวสวยก็ตกใจที่เห็นหน้าผู้ชายคนนั้นเช่นกัน นี่มันอะไรกันครับ เรากำลังเข้าได้เข้าเข็มกันเลย





“ทำเชี่ยอะไรของมึง” ผมที่พอจะตั้งตัวได้ ลุกขึ้นตะคอกใส่หน้าคนที่มันต่อยผม





“กูมากกว่าที่ต้องถาม มึงเป็นเชี่ยอะไรมายุ่งกับแฟนกู” แฟนหรอ? ผมหันหน้าไปมองสาวคนนั้นทันที ไหนเธอบอกว่าเธอโสด แล้วไอ้ที่ยืนตรงหน้าแถมยังต่อยผมอีกมันเป็นใคร ผมว่าผมคงโดนคนสวยเล่นงานเข้าแล้วครับ





“โทษทีครับน้องมันเข้าใจผิด” ร่างหนึ่งเดินเข้ามากันตัวผมไว้ เพราะดูเหมือนไอ้ถึกมันจะพุ่งเข้ามาซัดผมอีกรอบ





























“เอ่อ...ม่อน กลับก่อนได้เลยนะ เดี๋ยวเราไปส่งมิกซ์เอง ไม่ต้องเป็นห่วง” พี่ช้อปคงโทรหาม่อนมันนะครับ เพราะผมโดนพี่แกลากตัวออกมาขึ้นรถเรียบร้อย









“เป็นไงครับโค้ช” พี่แกคงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดครับ เพราะผมเป็นคนบอกให้แกจับตาดูผมเอง เสียฟอร์มจริงๆ ครับ

อุตส่าห์จะโชว์พี่แกสักหน่อย แต่กลับเป็นพี่แกที่ช่วยผมออกมา ไม่งั้นผมคงโดนยำเละแน่ ผมคงสู้ไอ้บึกนั้นได้หรอกครับ แค่แขนมันก็ใหญ่กว่าขาผมอีก





“ไม่ต้องมาล้อผมเลยพี่ ใครมันจะไปรู้ละ ก็เธอบอกผมว่าโสด” ผมอยากจะบอกเธอจังครับ ว่ามาหลอกผมทำไม ทำแบบนี้กับมิกซ์ทำไม มิกซ์เสียใจ





“ทีหลังก็ดูตาม้าตาเรือมั่ง แล้วนี่เป็นไงบ้าง มาให้พี่ดูหน่อย” ผมยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปาก





“เอาไว้วันหลังเดี๋ยวผมทำให้พี่ดูใหม่รับรอง วะ....”





ผมนั่งนิ่ง ตัวแข็งทื่อ ริมฝีปากผม ไม่ใช่สิ ไม่ใช่แค่ริมฝีปากผม แต่เป็นริมฝีปากของผมกับพี่ช้อปกำลังแนบสนิทกัน ผมถูกจู่โจมจากพี่แกอย่างไม่ทันตั้งตัว





พี่ช้อปแกจูบผมทำไม แล้วทำไมใจผมเต้นแรงแบบนี้ อาการร้อนผ่าวที่หน้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ





ไม่รู้ว่าตอนนี้ผ่านไปนานเท่าไรแล้วที่ริมฝีปากของเราแนบกันแบบนี้





“เดี๋ยวพี่จะสอนให้เองว่าการจีบเขาทำยังไง” ประโยคที่ออกจากปากพี่แก หลังจากคลายปากตัวเองออกจากปากผม





พี่ช้อปต้องการอะไรกันแน่ แล้วทำไมถึงกลายเป็นพี่แกที่จะสอนผมแทน แล้วทำไมต้องมาสอนผมด้วย ผมไม่เข้าใจจริงๆ





แล้วไอ้หัวใจ ทำไมมึงต้องเต้นแรงขนาดนี้ด้วย









แจ้งข่าวนะครับ

หลายคนถามถึงคู่ #ช้อปมิกซ์ ผมจะแจ้งก่อนนะครับ ว่าในเรื่องนี้อาจจะมีพาร์ทของคู่นี้แทรกมาเล็กน้อยเท่านั้น เพราะคู่นี้จะไปโผล่ในนิยายอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผมกำลังเขียนพล็อตอยู่ เนื้อเรื่องจะไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ แต่ผมจะใช้คาแรกเตอร์ของมิกซ์กับช้อปไปใส่ในเรื่องใหม่แทน ถ้ามีความคืบหน้าเดี๋ยวผมจะมาแจ้งอีกที ฝากติดตามไว้ด้วยนะครับ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ดักตบเลยดีไหม? :hao4:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
พี่ช็อปจู่โจมแบบนี้เลยก็ได้เหรอคะ หืม? รอเรื่องคู่นี้จ้า

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 23



#เทิร์นรุก








หลังจากการปาร์ตี้อันหนักหน่วง ไม่ใช่สำหรับผมหรอกครับแต่เป็นไอ้คนข้างผมเนี่ย เมาจนแทบจะเดินไม่ไหว ต้องเป็นภาระให้ลากมันขึ้นมาบนห้อง นี่ยังดีนะครับที่มิกซ์มันกลับไปกับช้อปไม่งั้น ขาผมได้หลุดก่อนถึงห้องแน่ๆ





แต่ผมแอบสงสัยนะครับว่าภาคมันเมาจริงหรือแกล้ง ก็มือไม้มันอยู่ไม่ค่อยจะเป็นสุข เผลอทีไรจับนู้นบีบนี่ เป็นผมที่ต้องคอยแกะค่อยตีมือไม่ให้มันซน





กว่าจะถึงห้องมันทำเอาลมแทบจับ ผมทิ้งตัวมันให้ลงไปนอนที่เตียง ผมฉีกยิ้มมองสภาพของมันตอนนี้





ถึงเวลากูเอาคืนมึงแล้วภาค



ผมคิดแผนจะแกล้งมันตั้งแต่ร้านเหล้าแล้วครับ ถือเป็นการแก้แค้นที่มันห้ามผมไม่ให้ดื่มเหล้า มันจะได้รู้ว่าต่อไปอย่าคิดจะมาแหย่รังแตน ไม่ใช่สิอย่างผมต้องต่อหัวเสือ





ผมกระโดดตามมันลงไปที่เตียง ค่อยเลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อมันที่ละเม็ด ไม่ลืมที่จะเขี่ยวนทีหัวนมของมัน ตอนมือผมเลื่อนผ่าน





“อื้อ” เสียงมันครางในลำคอ มันคงจะรู้สึกเสียวครับ





ผมเลื่อนมือลงมาที่ท่อนล่างของมัน หลังจากที่ปลดกระดุมเม็ดสุดท้ายของมันเสร็จ มือทั้งสองข้างบรรจงปลดเข็มขัดมันออก กางเกงยินส์ของมันถูกดึงออกจากตัว ตอนนี้ร่างกายของมันเหลือเพียงเสื้อเซิ้ตบางๆที่ถูดปลดกระดุมเรียบร้อยแลัว กับกางเกงในที่ดูตุงมากกว่าปกติ





ผมใช้มือข้างหนึ่งเล่นกับหัวนมมัน มืออีกข้างไล่วนที่เป้าของมัน ดูน้องชายของมันจะพองตัวเต็มที่ คงอยากจะออกมาอวดตัวแล้ว





“อื้อ” เสียงครางมันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้น้องชายมันออกมาเจอโลกเต็มที่แล้ว แต่คงเจอโลกได้ไม่นาน เพราะมันถูกครอบลงอีกครั้งด้วยปากของผม







“คิดจะลักหลับคนเมาเหรอ” มันคงจะได้สติขึ้นมาหน่อยแล้วครับ จับหัวผมโยกขึ้นโยกลงเล่นกับน้องชายมัน





มันจับผมพลิกตัวลงด้านล่างโดยมีมันคร่อมอยู่





“ถ้าอยากก็บอกกูดีๆ ก็ได้” มันซุกหน้าเข้าที่ต้นคอผม ดูดไซร้ ไล่เลีย จนผมดิ้นไม่หยุด





แต่นี้ไม่ใช่แผนการที่ผมวางไว้ ผมไม่ควรปล่อยให้มันรุกผมไปมากกว่านี้ งานนี้ต้องเป็นผมที่เป็นคนคุมเกมทั้งหมด





ผมดันหน้ามันออก จับมันพลิกตัวกลับลงไปนอนข้างล่างอีกครั้ง มันดูแปลกใจที่เห็นผมรุกมันมากกว่าปกติ มันไม่ได้ปฏิเสธอะไร เพียงฉีกยิ้มส่งมาให้ผมเท่านั้น





ปล่อยมันยิ้มไปก่อนครับ





ผมซุกหน้าลงที่คอมันแทน ทั้งไซร้ทั้งดูดครับ เพิ่งเคยเห็นมันดิ้นพล่านขนาดนี้ครั้งแรก ผมกดปากลงกับปากมัน ส่งลิ้นอุ่นของตัวเองเข้าไปคว้านในปากมัน เกี่ยวลิ้นตัวเองเข้ากับลิ้นของมัน





“โอ๊ย” ผมแอบกัดปากมันไปทีหนึ่ง แก้แค้นที่มันทำกับผมตอนนั้น สีหน้ามันเริ่มเปลี่ยนครับ มันคงรู้สึกแล้วว่าวันนี้ผมรุกมันหนักเป็นพิเศษ





ไม่ต้องอึ้งหรอก เพราะยังมีเรื่องให้มึงอึ้งมากกว่านี้อีก





“แปลกจังทำไมวันนี้มึงรุกกูหนักจัง” ผมทำเป็นไม่สนใจมัน ไล่วนลิ้นที่หัวนมมันต่อไป





ดูมันจะเสียวมากครับ นี่เป็นโอกาสที่ผมจะได้เริ่มแผนต่อไป





“มึงรักกูมากแค่ไหนภาค” ผมโยนคำถามใส่หน้ามัน





“รักสิกูรักมึงมาก รักจนยอมให้มึงได้ทุกอย่าง” เข้าแผนผมครับ





“ยอมได้ทุกอย่างเลยเหรอ?” ผมฉีกยิ้มร้ายส่งไปให้มัน







“งั้นมึงคงยอมให้กู ‘รุก’ ได้สินะ” ผมก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูมัน ไม่ลืมจะขบติ่งหูของก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมา





มันดูตกใจมากครับ ถอยตัวร่นไปพิงกับหัวเตียง ขำหน้ามันตอนนี้มากครับ แต่ผมต้องเก็บอาการไว้ เดี๋ยวมันจะจับได้เสียก่อน





“มึงหมายถึง...” ผมพยักหน้ารับ มันดูกำลังครุ่นคิดอยู่ ดูท่าว่าจะกำลังคิดมากด้วย





“ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร กูจะได้รู้ว่ามึงไม่ได้รักกูจริง”





ผมก็ไม่คิดว่ามันจะยอมหรอกครับ แค่จะแหย่มันเล่นเท่านั้น









“ได้สิ” ผมที่กำลังหันหลังหนีมัน ต้องหันหน้ากลับมามองมันทันที เมื่อกี้มันว่ายังไงนะครับ มันบอกว่าได้หรอ เกินคาดผมมากครับ ผมนั่งคิดอยู่สักพักว่าจะเอายังไงต่อ แต่คงไม่ต้องคิดละครับ ก็มันเล่นนอนหันหลังซุกหน้าลงกับหมอนเรียบร้อย





ถึงขนาดนี้แล้วขอแกล้งมันอีกหน่อยละกัน





ผมขยับตัวไปหามัน ทิ้งตัวลงทาบกับตัวมัน ผมใช้ร่างกายส่วนหน้าถูกับแผ่นหลังของมัน





มือผมเลื่อนมาถูวนบริเวณบั้นท้ายของมัน ไม่ลืมที่จะฟาดมือลงบนก้นมันไปสองสามที่ เล่นเอามันสะดุ้งเฮือกเลยครับ





“กูคิดว่ามึงคงพร้อมแล้วนะ”









Part

ภาค






“งั้นมึงยอมให้กูรุกได้สินะ” ผมตั้งตัวกับคำพูดของมันไม่ทันครับ ถอยตัวออกมาพิงกับหัวเตียง





ขอตั้งหลักก่อนครับ ผมก็สงสัยครับว่าวันนี้ม่อนมันดูแปลกๆ ตั้งแต่ร้านเหล้าแล้ว ที่ผมห้ามไม่ให้มันดื่ม กับก่อนหน้านี้ที่มันดูรุกผมมากเป็นพิเศษ ต่างจากที่ผ่านมา ทั้งถอดเสื้อผ้าผม ไซร้ เล้าโลมผม คิดไม่ถึงเลยครับครับว่ามันอยากจะรุกผม แบบว่าเข้าข้างหลังผมแบบที่ผมทำกับมัน





เอาไงดีครับ ที่ผ่านมาผมเป็นคนทำมันตลอดแต่ตอนนี้มันขอทำกับผมบ้าง ถึงกับเครียดเลยครับ





“ได้สิ” ผมไม่ได้เผลอหลุดปากตอบมันไปหรอกครับ แต่ผมคิดว่าผมกับมัน เรารักกัน มันก็เป็นผู้ชายแต่ก็ยอมให้ผมมาตลอด แล้วทำไมผมถึงจะทำให้มันไม่ได้ ที่ผมทำก็แค่อยากให้มันรู้ว่าผมรักมันมาก





แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นไป ผมก็ยังแอบหวั่นๆอยู่ ผมไม่กล้ามองหน้ามันครับ คว่ำตัวเอาหน้าซุกกับหมอน





ตอนนี้เหมือนมีร่างอุ่นค่อยเลื่อนตัวขึ้นมาทาบบนตัวผม มันแนบตัวลงมาถูกับแผ่นหลังผม มือบีนเค้นอยู่ที่ก้น





“เพี๊ยะ” เสียงมือฟาดลงที่ก้น ทำเอาผมสะดุ้งเฮือก ไม่คิดว่าม่อนมันจะทำแบบนี้ เพราะผมก็ยังไม่เคยทำกับมัน ผมว่างานนี้มันเอาจริงแน่ๆ ครับ





“กูคิดว่ามึงพร้อมแล้วนะ” เสียงกระซิบดังที่ข้างหู พร้อมแรงจากมือของม่อนจับผมให้พลิกตัว เปลี่ยนเป็นนอนหงายแทน





ผมหลับตานอนเกร็งพร้อมรับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น





'กูพร้อมแล้ว'

'นิ่ง'

'เงียบ'

'มึงไม่ทำสักทีละ'







“ฮาๆ ๆ ๆ ๆ” เสียงหัวเราะดังลั่นห้องครับ ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาดู ไอ้ตัวดีของผมนั่งกุมท้องหัวเราะก๊ากอยู่ตรง อย่าบอกนะครับว่าผมโดนมันหลอก



นี่ผมเสียเหลี่ยมให้ม่อนมันเหรอเนี่ย ไอ้ภาคเอ้ย





“มานี่เลยมึง” ผมกระโจนเข้าไปล็อคตัวมันไว้ มันยังไม่หยุดหัวเราะครับ





ได้ อยากหัวเราะมากใช่ไหม ผมกดหน้าซุกลงกับหน้าท้องมัน ดิ้นสิครับ ใครมันจะทนไหวกับลีลาการไซร้ของผมได้ เป็นไงละมึงแกล้งกูดีนัก





“พะ...พอก่อน กูไม่ไหวแล้ว ฮาๆ ๆ”





“ถ้ากูหยุดมึงต้องยอมทำตามที่กูบอก” เอาคืนมันหน่อยครับ





“ฮาๆ ๆ มะ...ไม่ๆ ฮาๆ ๆ”





“ว่าไงนะ”





“กู ยะ...ยอมแล้ว ฮาๆ ๆ ปะ...ปล่อยได้แล้ว” ผมดึงหน้าออกแต่ยังไม่ยอมคลายอ้อมแขนออก ผมรู้ทันมันครับ เห็นมันอย่างนี้เหลี่ยมเยอะเหมือนกันนะครับ





“ปล่อยกูได้แล้ว” มันโว้ยผมใหญ่เลยครับ ดิ้นไม่หยุด แรงเยอะจริงเลยครับแฟนผม





“จะให้ทำอะไรก็รีบบอกมาสิ” ผมคิดไว้แล้วครับว่ามันต้องยอม มันคงเห็นว่าผมกอดมันแน่นไม่ยอมปล่อยสักที สุดท้ายมันก็ต้องยอมผม





“เดินไปเปิดลิ้นชัก” ผมชี้มือไปที่ลิ้นชักที่หัวเตียง









มันยืนนิ่งมองสิ่งที่อยู่ในลิ้นชัก หยิบสิ่งของที่ผมเตรียมไว้สำหรับมันโดยเฉพาะขึ้นมา





มันหันมองหน้าผมสลับกับของในมือ ขมวดคิ้วเป็นเชิงถามผม





ผมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับมัน ชี้นิ้วไปทางห้องน้ำ มันดูขัดขืนนิดหน่อยแต่ก็ยังเดินตรงไปที่ห้องน้ำ มันยังไม่ลืมส่งสายตาอาฆาตมาที่ผม





ใครบอกให้มึงเอาไม้มาแหย่เสือละ พอมันตื่นมึงจะมาโวยวายไม่ได้ ฮาๆ ๆ ๆ









ผมนั่งรอมันที่เตียงนานมาก นานจนน้องชายผมหด ถึงหดแต่ก็ยังดูยิ่งใหญ่เหมือนเดินนะครับ ฮาๆ ๆ ๆ

มันเข้าไปในห้องน้ำนานมาก กับของที่ผมให้ไปก็ไม่น่าจะนานขนาดนี้





“เสร็จยังวะม่อน กูรอนานแล้วนะ” ผมเดินไปเคาะประตูห้องน้ำ





“มึงไปเตรียมของแบบนี้มาตั้งแต่ตอนไหน” เสียงมันดูเกรี้ยวกราดมากครับ





“กูคิดว่ามันเหมาะกับมึงเลยซื้อมา มึงอย่ามาถ่วงเวลารีบออกมาได้แล้ว”





“เงียบไปไอ้สัส ไปรอที่เตียง เดี๋ยวกูออกไปเอง”







“แกร๊ก...” ผมหันหน้าไปตามเสียง ประตูห้องน้ำค่อยแง้มเปิดออก





เฮือก ผมนั่งตาค้าง ยกมือขึ้นถูบริเวณจมูก เช็คว่ามีเลือดไหลออกมาไหม น้องชายสุดรักของผมจากที่นอนหลับสบายอยู่ตรงหว่างขา กลับผมหงาดชูชันอีกครั้ง จนปวดเหมือนแทบจะระเบิดออกมา





ภาพที่เห็นข้างหน้าคือม่อนกำลังก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับกางเกงในตัวพิเศษที่ผมเตรียมไว้ให้มัน ทุกคนอาจจะสงสัยว่าพิเศษยังไง ก็เพราะมันเป็นกางในที่ปิดเพียงส่วนด้านหน้าไว้เท่านั้น ด้านหลังเปิดโล่ง มีเพียงสายยางยืดเส้นเล็กพาพาดไว้ทั้งสองข้างเท่านั้น เผยให้เห็นบั้นท้ายที่ถึงแม้จะไม่ได้งอนเท่ากับผู้หญิง แต่มันกลับดึงดูดสายตาผมได้มากกว่าผู้หญิงที่ผมผ่านมาเสียอีก





ผมกระโจนเข้าไปตระครุบมันทันที ทนไม่ไหวแล้วครับ อยากจะกินมันลงไปทั้งตัวเลย



“อย่าเพิ่งสิวะ” มันโวยวายทันที





“กูไม่ไหวแล้วม่อน มึงยั่วกูมากรู้ไหม” มันยั่วมาก ยั่วมากจริงๆ ครับ





ผมไม่รู้ว่าตัวเองเปลี่ยนรสนิยมตั้งแต่ตอนไหน จากหน้าอกบึ้มๆ เอวคอดๆ สะโพกเด้งๆ กับคนตรงหน้า ที่หน้าอกนูนเพียงเล็กน้อย เอวไม่ได้คอดแบบที่ผมชอบ แถมมีซิกแพคกับก้นแน่นแบบผู้ชายนั้นอีก สงสัยผมคงหลงเสน่ห์ม่อนมันเข้าเต็มเปาแล้วล่ะครับ





“อื้อ” ผมก้มตัวลงไปชิมยอดอกมัน เสียงครางมันช่วยเพิ่มอารมณ์ผมมาเลยครับ





จากหัวนมเลื่อนลิ้นลงมาวนตรงสะดือของมัน ดูเหมือนจุดนี้จะเป็นจุดอ่อนของมัน ผมแตะลิ้นลงทีไรร่างกายมันนี้สั่นสะท้านอย่างเห็นได้ชัดครับ





มันคงจะเสียวเต็มที่แล้วครับ เพราะน้องชายมันผะหงกหัวหงึกๆ ภายใต้กางเกงในสุดเซ็กซี่ตัวนั้น





“ภาค อื้อ” ผมก้มหัวลงแตะปลายลิ้นลงส่วนปลาย มือทั้งสองข้างของมันเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข ดูเหมือนมันจะมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นนะครับ ทั้งตอนแรกที่รุกผมหนักแบบนั้น ตอนนี้จิกหัวผม กดให้ขยับขึ้นลงเป็นจังหวะอีก





“เก่งขึ้นนะมึง” ผมละปากออก ก้มลงจูบกับมันแทน





“เก่งแบบนี้กับกูแค่คนเดียวนะ” ดูเหมือนหน้ามันจะแดงขึ้นมาทันที ผมชอบที่มันเก่งเรื่องแบบนี้ แต่หวังว่ามันคงจะไม่ไปเก่งกับใคร ไม่ใช่สิครับ ผมคงไม่มีทางปล่อยให้ใครได้เห็นมันแบบที่ผมเห็นตอนนี้แน่นอน





“มึงเป็นของกูคนเดียวนะ” ผมจับขาทั้งสองข้างของมันขึ้น ค่อยดันน้องชายผมเข้าไปอย่างช้าๆ





“อ้า ม่อน” มันยังคงรัดแน่นเหมือนเดิม ทำเอาผมปวดหนึบแทบจะทนไม่ไหว





“ภะ...ภาค ช้าหน่อย อื้อ ช้าหน่อย” เสียงมันครางร้องให้ผมลดจังหวะการขยับสะโพกลง





คงยากครับ เครื่องผมติดแล้วไม่มีอะไรมาหยุดมันได้แน่นอน





“ม่อนกอดคอกูไว้” มันทำหน้าสงสัย ผมจับมือทั้งสองข้างของมันคล้องเข้าที่คอ อุ้มให้มัน แล้วยืนขึ้นโดยที่น้องชายผมยังอยู่ภายในตัวมัน





“มึงจะทำไรภาค อื้อ” ผมไม่รอให้มันสงสัย กระแทกสะโพกสวนขึ้นไปทันที





ผมเพิ่มแรงขยับขึ้นเรื่อย ม่อนดูจะเสียวมาก กอดคอ จิกเล็บลงแผ่นหลังผม แสบนิดหน่อยแต่ได้อารมณ์มากครับ





“ม่อน กูไม่ไหวแล้ว”





“กูก็ไม่ไหวแล้ว” ผมวางตัวมันลงที่แตง เร่งจังหวะการกระแทกเพิ่มขึ้นอีก มือหนึ่งช่วยสาวน้องของม่อนมัน





“พร้อมกันนะ” ผมส่งสัญญาณให้มัน





“อะ...อ้า” ตัวผมกระตุกหลายครั้งพร้อมกับน้องชายผมที่อยู่ในตัวม่อน





ม่อนเองก็เช่นกัน ช่องทางมันตอดรัดผมแน่นทุกครั้งที่มันกระตุก น้ำสีขุ่นพุ่งเลอะข้างแก้มมัน





ผมก้มลงไปใช้ลิ้นเลียน้ำรักของมันเข้าปาก ก่อนส่งลิ้นเข้าปากมัน เป็นการจูบส่งท้ายกิจกรรมครั้งนี้







“มึงพูดจริงหรอที่ให้กูเอามึงอ่ะ” มันถามภายใต้อ้อมแขนของผม





ยังมีหน้ามาถามอีกนะมึง





ผมละอยากจะเขกหัวมันสักที





“กูนอนให้มึงขนาดนั้นมึงคิดว่าไงละ” ผมตอนแบบอายๆ เห็นแบบนี้ผมก็เขินเป็นนะครับ





“กูแค่จะล้อมึงเล่น ไม่คิดว่าจะให้จริง”





“กูไม่รู้หรอกว่ามึง พูดจริงหรือพูดเล่น แต่ถ้ามึงขอและกูก็คิดว่ามันเป็นความสุขของมึง กูเลยยอม”





มันยังขำส่งยิ้มกวนมาให้ผมอีก สงสัยจะชอบที่แกล้งผมได้





“และจำไว้ด้วยว่ากูยอมมึงได้ทุกเรื่อง เพราะกูรักมึง รักมากด้วย” ผมกดจมูกตัวเองเข้ากับจมูกของมัน มือกอดรัดตัวมันแน่น





“งั้นถ้ากูจะเอามึงจริงก็ได้สินะ”





“ยังไม่เข็ดสินะ” ผมพลิกตัวขึ้นคร่อมมันอีกครั้ง ไม่สนใจเสียงร้องห้ามมันอีกแล้วครับ อยากยั่วผมอีกทำไม





“ไม่เอา ไอ้เหี้ยภาคไม่เอาแล้ว” คงไม่ต้องอธิบายนะครับว่าเป็นยังไงต่อไป หึๆ ๆ













Part

ม่อน



“ม่อนตอนมึงจูบกับพี่ภาคมึงรู้สึกยังไง” ก็ไอ้น้องชายผมนั่งที่เหม่อ อยู่ดีก็ถามผมขึ้นมา มันเป็นอะไรของมัน ตั้งแต่วันนั้นที่มันไปเที่ยวมา





“มึงถามกูทำไม” สงสัยครับ เสือผู้หญิงอย่างมันถึงมีอาการแบบนี้ แล้วทำไมมันต้องถ้าเรื่องผมกับภาค





“มึงตอบกูมาก่อน” อ่าวไอ้นี่ มึงไปกินรังแตนที่ไหนมา กูพี่มึงนะ





“ก็ใจเต้นรั่วๆ รู้สึกว่าหน้ามันร้อนกว่าปกติ แล้วก็รู้สึกดี”





“แล้วมึงชอบพี่ภาคไหม”





“มึงนี่ยังไงแฟนกู กูก็ต้องชอบสิ” มันเป็นเหี้ยอะไรของมันครับวันนี้ ผมงงไปหมดแล้ว





“ไม่จริง ไอ้สัส อย่ามาหลอกกู” มันขว้างหมอนที่อยู่ในมือ แล้วเดินหนีออกจากห้อง

ทันที





ผมหันไปสบตากับนัทที่กำลังนั่งดูเหตุการณ์อยู่ และมันก็คงสงสัยไม่ต่างจากผม





มันไปโดนอะไรมากันแน่ครับ



ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
55555 ม่อนเอ้ยยย น้องกำลังเดินตามมาติดๆ ซะเเล้ว /// ว่าเเต่ถ้าม่อนเอาจริงคงฮานะ

ออฟไลน์ shoky_9

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เสร็จช้อปแล้วละสิ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เรียบร้อย ..

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ม่อนจะแกล้งภาคสุดท้ายโดนเอาคืนซะงั้น ส่วนมิกซ์คงกำลังสับสนอยู่สินะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 24



#กูอยู่ตรงนี้





เช้านี้ผมมาคณะพร้อมๆ กับภาค จะไม่ให้มาพร้อมมันได้ยังไงครับ ก็มันบังคับให้ผมเก็บเสื้อผ้ามาอยู่กับมัน แต่ผมไม่ได้ทำตามที่มันบอกหรอกครับ เก็บแค่เสื้อผ้าบางส่วนที่ต้องใช้มาเท่านั้น เผื่อว่าวันไหนมันหื่นหนักๆจะได้แอบหนีมันกลับมานอนที่หอ



แต่ทำไมวันนี้ดูแปลก สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่ผมกับภาค เขามองทำไม หรือเพราะว่าภาคมันกอดคอผม แต่คิดดูแล้วคงไม่ใช่เพราะปกติภาคมันก็ทำแบบนี้อยู่แล้ว และคนรอบข้างก็มักจะมองเสมอ แต่ครั้งนี้เหมือนต่างออกไป สายตาที่มองเหมือนจะจับผิดผม บางคนถึงกับเบะปากใส่ผม แล้วหันกลับไปซุบซิบกับกลุ่มเพื่อน



เกิดอะไรขึ้น ผมเริ่มจะกังวลขึ้นมาแล้วครับ ดูเหมือนว่าภาคมันก็รู้สึกเหมือนกัน มันกระชับกอดแน่นขึ้น เหมือนจะบอกผมว่าไม่ต้องไปสนใจ ผมคงทำเป็นไม่สนใจไม่ได้หรอกครับ จากสีหน้าและแววตาผมว่ามันต้องเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ



“ม่อน เกิดเรื่องใหญ่แล้ว” มีนวิ่งมาลากแขนผมทันทีที่เห็นหน้า ผมว่ามันต้องเป็นเรื่องใหญ่แบบที่ผมกังวล เพราะดูจากสีหน้าอาการของมีนด้วยแล้ว



เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ



“คณบดีเรียกตัวมึงด่วน” มีนเล่าทันที



“ทำไมละ” สงสัยจริงๆ ครับว่าทำไมอยู่ดีๆ คณบดีถึงเรียกผมไปพบด่วนแบบนี้



“มึงคงยังไม่เห็นนี่ใช่ไหน” มีนยกโทรศัพท์ตัวเองให้ผมดู



ใครที่ทำเรื่องแบบนี้ ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมคนถึงมองผมด้วยสายตาแบบนั้น





‘คู่ขาคนใหม่ของภาค หนุ่มหล่อดีกรีเดือนคณะ เคยเป็นบาร์โฮสต์ และที่พีคไปกว่านั้นคือนางขายตัวด้วย’

แคปชั่นพร้อมรูปผมที่กำลังถือขวดเหล้าบริการแขกอยู่ โชว์หลายเต็มหน้าเฟช





โทรศัพท์ในมือผมร่วงลงที่โต๊ะ มันเป็นเรื่องใหญ่และใหญ่มากๆ สำหรับผม การที่มีข่าวลือ ไม่ใช่สิมันเป็นจริงตามที่เขาบอกหลุดออกมาแบบนี้ หมายถึงชีวิตในมหาลัยผมต้องจบลงอย่างแน่นอน คงไม่มีมหาลัยไหนปล่อยให้นักศึกษาที่ขายตัวได้เรียนต่อหรอกครับ



ผมลุกขึ้นวิ่งออกมาจากโรงอาหาร ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทำไมมันต้องเกิดกับผมด้วย



ผมปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา ไม่รู้จะห้ามตัวเองยังไงไม่ให้ร้องไห้ มันหนักเกินกว่าที่ผมจะรับไหวครับ ถ้าผมถูกไล่ออกจริงหมายความว่าความหัวของพ่อแม่ อนาคตที่ผมวาดหวังไว้ว่าจะทำให้ท่านทั้งสองมีความสุข คงเลือนหายไป ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น ผมไม่อยากทำให้ท่านเสียใจ ผมควรทำยังไงดีครับ



ผมวิ่งออกมาโดยที่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ไม่ไหวแล้วครับ ผมเหนื่อยจนไม่มีแรงจะวิ่งอีกต่อไป ขาทั้งสองข้างสั่งให้หยุดวิ่ง ผมทิ้งตัวลงม้านั่งริมสระน้ำของมหาลัย



ทำไมชีวิตผมต้องเป็นแบบนี้ด้วย เพราะความจนคำเดียวที่ทำให้ผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ทำไมคนเราถึงได้เกิดมาแตกต่างกันแบบนี้ คนรวยก็รวยจนล้นฟ้า คนจนอย่างผมก็ได้กัดฟันทนเพียงหวังจะทำความฝันให้สำเร็จเพียงเท่านั้น



ผมลุกยืน สองเท้าก้าวมองไปข้างหน้า สระนี้จะลึกขนาดไหนเชี่ยวนะ ลึกพอจะฆ่าคนแบบผมได้ไหม



ภาพหน้าพ่อกับแม่ดีใจที่รู้ว่าผมสอบติด ภาพที่พ่อกับแม่ยืนยิ้มยกมือขึ้นลูบหัวผมในวันที่ผมเข้ามาเรียนที่นี่ครั้งแรก ผมทำมันพังลงทั้งหมดแล้ว ความหวังของพ่อแม่ผมทำมันพังหมดแล้ว



“หวังว่าเราจะไม่เจอเรื่องแบบนี้อีกนะ”



ผมหวังจริงๆ ว่าถ้าผมไม่หายใจ คงไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีกแล้ว







“ม่อน”

เสียงตะโกนดังมาจากด้านหลัง เสียงที่ผมคุ้นเคย



ภาคมันคงวิ่งตามหาผม สภาพเสื้อที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ อาการเหนื่อยหอบ หน้าที่ดูเป็นกังวลนั้น



ผมอยากอยู่กับมัน อยากเห็นหน้ามัน ไม่อยากทิ้งมันไปไหน แต่ตอนนี้มันหนักเกินที่ผมจะรับไหวแล้วจริง



“กูรักมึงนะภาค” เสียงที่แหบแห้งจนแทบจะไม่มีเสียง



ผมหันกลับไปมองที่สระน้ำอีกครั้ง สองเท้าก้าวเดินไปข้างหน้า





“กูผิดเอง กูขอโทษ” เสียงมันตะโกนมาอีกครั้ง เสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผม เสียงที่ผมรู้ว่ามันกำลังร้องไห้



“ถ้าวันนั้นกูไม่พูดแบบนั้นกับมึง ไม่เอาความเศร้าของตัวเองไปลงที่มึง ไม่เห็นแก่ตัว มึงก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้”



ไม่ใช่ความผิดของมันหรอกครับเป็นผมเอง ผมผิดเองทั้งหมด ที่พาตัวเองเข้าไป



มันเดินเข้ามากุมมือผมไว้



"มึงจะทำอะไร" ผมหันหน้าไปมองมัน



“ถ้ามึงคิดจะทำแบบนี้ กูก็จะทำกับมึงด้วย เพราะกูเป็นต้นเหตุ” ที่มันกำลังพูดอยู่หมายถึงว่ามันจะโดดลงไปพร้อมผมเหรอ 

ไม่มีทางผมไม่มีทางให้มันทำแบบนั้นแน่นอน

สติที่หายไปจากตัวผมก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะกลับมาอีกครั้ง



“ไม่ใช่ความผิดของมึงหรอก” ผมปล่อยโฮอีกครั้ง โถมตัวเข้ากอดมันเต็มแรง



“มึงอย่าทำแบบนี้อีก ถ้ามึงรักกูมึงอย่าทำแบบนี้อีก” มันกอดผมแน่นมือข้างหนึ่งลูบที่หัวผม



ผมกำลังคิดจะทำอะไร ผมทำแบบนี้ทำไม ผมทำให้มันต้องเป็นห่วงผมขนาดนี้ได้ยังไง แค่ความเห็นแก่ตัวของผมทำให้อีกคนต้องทุกข์ใจแบบนี้ ถ้าผมคิดกระโดดจริงภาคมันจะเป็นยังไง ทำไมผมไม่เคยคิดมาก่อน



“กูไม่ไหวแล้วจริงๆ มันหนักเกินไปแล้วจริง”



“ใครบอกให้มึงแบกมันไว้คนเดียว มึงลืมไปแล้วหรอว่ายังมีกู มิกซ์ มีเพื่อนมึงอีก แล้วพ่อแม่มึงหละ มึงคิดถึงท่านบ้างไหม” ผมคิดครับ แต่คิดเพียงว่าผมทำให้พวกท่านเสียใจ



“กูไม่อยากเห็นพวกท่านเสียใจ” ผมซุกหน้าเข้าที่อกมัน



“แล้วถ้ามึงทำแบบนี้ มึงไม่คิดหรอว่าท่านจะรู้สึกยังไง ท่านจะอยู่ได้ไหม ไม่มีพ่อแม่คนไหนเกลียดลูกตัวเองได้ลงคอหรอก” ผมพยายามคิดตามที่มันพูด มันพูดถูก ภาคมันพูดถูก ถ้าผมทำแบบนั้นพ่อแม่ผมจะเป็นยังไง แค่ตอนผมป่วยท่านก็ดูเป็นกังวลจนนอนไม่หลับ แล้วนี่ผมกำลังคิดอะไรอยู่



“อย่าแบกมันไว้คนเดียว มึงยังมีกู มีเพื่อน” มันถอยตัวออก เผยให้เห็นมีนกับเฟิร์นที่ยืนร้องไห้อยู่ด้านหลัง นัทกับอาร์มก็ดูกังวลไม่ต่างกัน



“กูขอโทษพวกมึงจริงๆ” พูดไปก็สะอื้นไป







ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าตึกคณบดี ขาทั้งสองข้างเริ่มสั่นขึ้นเรื่อยๆ ภาคมันเดินจับมือผมมาตลอดทาง มันบอกจะมาเป็นเพื่อน ผมก็ไม่อยากมาคนเดียวหรอกครับ อย่างน้อยมีมันที่ค่อยยืนเป็นกำลังใจให้ อะไรจะเกิดก็คงต้องปล่อยมันเกิดครับ



“ไม่เป็นไรหรอกเชื่อกู กูจะรอมึงอยู่ตรงนี้นะ” มันยกมือลูบหัว ยิ้มให้กำลังใจผม





ผมเอื้อมมือค่อยๆดันประตูให้เปิดออก ผมไม่รู้ว่าอากาศในห้องมันหนาวกว่าปกติหรือผมแค่รู้สึกไปเอง ถ้าถามว่าอารมณ์เหมือนตอนเข้าห้องปกครองตอนมัธยมไหม คงตอบไม่ได้ครับเพราะผมไม่เคยเข้าห้องปกครองเลยสักครั้ง มีแค่มิกซ์มันนั่นแหละครับที่เข้าไปบ่อยๆ



ผมเดินตรงไปที่โต๊ะที่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งมองเอกสารอยู่ คณะบดีผมเป็นผู้หญิงครับ ดูท่าทางท่านน่าจะเนี๊ยบอยู่พอสมควร ผมประหม่าขึ้นกว่าเดิมอีกครับ



“สวัสดีครับ ผมกรวิทย์ ครับ” เธอเงยหน้าขึ้นมอง ขยับแว่นให้เข้าที่ ผมยืนนิ่งมือประสานกันที่หัวเข็มขัด กลืนน้ำลายเอือกใหญ่



“มาแล้วเหรออาจารย์กำลังรอเธออยู่พอดี” น้ำเสียงที่ดูใจดีขัดกับใบหน้าของเธอ แต่ก็ยังไม่ทำให้ความประหม่าของผมลดลงเลย



“ผมอธิบายได้นะครับ”



“งั้นไหนบอกมาสิว่าเรื่องมันเป็นยังไง” เธอสบตาผม ทำเอาผมสะดุ้งเฮือก



“ผมยอมรับครับว่าเรื่องผมเคยทำงานเป็นโฮสต์ แต่เรื่องขายตัวนั้นผมไม่ทำจริงๆ นะครับ” ผมยอมโกหกตามที่มีนแนะนำ มันเป็นทางเดียวที่อาจจะทำให้ผมไม่ถูกไล่ออก ผมพยายามอ่านความคิดจากสีหน้าของท่านคณบดี แต่ก็ยังดูไม่ออกว่าเธอคิดอะไร



“แล้วเธอมีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปทำงานแบบนั้น” เสียงเธอดูจริงจังขึ้น แต่สีหน้ากลับดูอ่อนลง



“ผมจำเป็นจริงๆนะครับ ถ้าผมไม่ทำผมก็ไม่มีเงินเรียนต่อ ไม่มีเงินส่งให้ที่บ้าน แล้วผมก็มีน้องอีกคนที่กำลังเข้ามหาลัยด้วย” ผมอธิบายไปตามจริง



“แล้วพ่อแม่เธอหละ”



“พ่อแม่ผมก็ทำงานรับจ้างครับ แต่เงินมันไม่พอใช้จ่าย ผมเลยลองหางานทำดู แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ทำงานนั้นแล้วนะครับ”



“แล้วเธอจะเอายังไงต่อ ข่าวมันก็ออกมาอย่างนี้แล้ว”



“ผมไม่รู้ครับ แต่ท่านอย่าไล่ผมออกเลยนะครับ ผมไม่อยากให้พ่อแม่เสียใจ” น้ำตาผมเริ่มไหลขึ้นมาอีกครั้ง มือที่ยกขึ้นประนมสั่นซะจนแทบควบคุมไม่ได้



ตอนนี้ผมคิดแค่ว่าจะทำยังไงไม่ให้โดนไล่ออกเท่านั้น



“อาจารย์ก็ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไล่เธอออก” ผมเงินหน้าไปมองที่เธอทันที เธอบอกว่าจะไม่ไล่ผมออก ผมฟังไม่ผิดจริงใช่ไหมครับ



“อาจารย์รู้ว่าพื้นฐานคนเรามันไม่เท่ากัน อย่างเธอที่ต้องดิ้นรนหาเงินเรียนเอง อาจารย์แค่จะบอกว่ามันมีงานอื่นที่ให้ทำอีกเยอะเธอไม่ต้องไปทำงานแบบนั้นก็ได้ อีกอย่างอาจารย์ว่าผลการเรียนแบบเธอขอทุนเรียนได้สบายๆ เลยหละ ถ้าสนใจทุนเดี๋ยวอาจารย์ช่วยก็ได้นะ”



“ขอบคุณครับ ขอบคุณมากจริงๆ” ผมยกมือขึ้นไหว้อยู่อย่างนั้น น้ำตาที่ไหลก็ดูท่าจะไม่หยุดสักที ผมดีใจมากครับ ดีใจมากจริงๆ



“แต่ยังไงก็ตาม อาจารย์ก็ต้องทำทัณฑ์บนเธอไว้ก่อนนะ แล้วก็อย่าไปทำงานแบบนั้นอีก”



“ขอบคุณมากครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอีก ขอบคุณมากจริงๆ ครับ”



“ไม่เป็นไรๆ แต่อย่าลืมตั้งใจเรียนเข้าละ” เธอยิ้มให้ผมก่อนที่ผมจะเดินออกมาจากห้อง



ผมอยากจะตะโกนปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหมดที่มีออกมา





ผมผลักประตูออกมาก็เจอภาคยืนจ้องหน้าผมอยู่ เหมือนมันกำลังรอคำตอบจากผม



ผมโผเข้ากอดมันทันที น้ำตาที่ยังไม่แห้งดี ไหลลงอาบแก้มอีกครั้ง



“กูไม่โดนไล่ออกแล้วภาค กูไม่โดนไล่ออกแล้ว” ผมซุกหน้าสะอื้นตรงอกมัน



“กูบอกมึงแล้วไง ที่หลังก็ใจเย็นอย่าวู่วาม ถามไม่มีมึงแล้วกูจะอยู่ยังไง” มันรัดตัวผมแน่นขึ้น ก้มตัวลงมาจูบที่หน้าผากผม



ขอบคุณมึงจริงๆนะที่ช่วยฉุดกูขึ้นมากจากหลุม หลุมลึกและมืดมนที่กูสร้างขึ้นมาเอง ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้กูในวันที่กูท้อมากที่สุด



ต่อไปนี้จะทำอะไรสักอย่างผมต้องคิด ต้องย้ำกับตัวเองแล้วว่า อย่าปล่อยให้อะไรก็ตามมาปิดบังความหวังดี ความเป็นห่วงและความรักจากคนรอบตัวผม สิ่งแรกที่ผมต้องมองคือความรู้สึกของคนที่รักผมและคนที่ผมรัก





‘ถึงใครจะมองมึงว่ายังไง แต่อยากให้มึงรู้ไว้ว่ามึงเป็นคนสำคัญที่สุดของกู กูจะยืนอยู่ข้างๆมึงเสมอ’

ภาค ภาค ได้แท็กคุณในโพสต์



กูรู้และขอสัญญาว่าต่อจากนี้ไปกูจะคิดถึงความรู้สึกมึงให้มากที่สุด







Part 

ช้อป





"มืกซ์"

ผมบังเอิญขับรถผ่านหน้าร้านที่มิกซ์ทำงานอยู่พอดี ไม่ได้เจอน้องมันมาสองวันแล้วครับ ก็ตั้งแต่ตอนที่ผมจูบมันบนรถ ดูมันอึ้งๆกับสิ่งที่ผมทำ สงสัยยังไม่เคยโดนผู้ชายจูบ 



ผมยอมรับครับว่าตอนนี้สนใจในตัวมิกซ์เข้าแล้ว ดูเป็นเด็กที่มั่นใจในตัวเองสูง โดยเฉพาะเรื่องรักใคร่ๆ แถมยังเสนอตัวเป็นโค้ชให้ผมอีก อย่างผมเนี่ยนะต้องให้ใครมาสอน ถึงผมจะอกหักจากม่อนแต่ที่ผ่านมาเรื่องจีบใครผมไม่มีทางพลาด



ถึงเวลาแล้วครับที่ผมต้องคลายเขี้ยวและเล็บออกมาให้มันได้เห็นบ้าง แต่ใครจะคิดละครับว่าแค่จูบน้องมันจะนั่งนิ่งตาค้างขนาดนั้น แถมยังเงียบไม่ยอมพูดกับผมตลอดทาง



ดูเหมือนมิกซ์จะรีบมากๆ เพราะเห็นรีบสาวเท้าวิ่งออกจากร้านด้วยความเร็ว 

มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่าดูมิกซ์จะรีบร้อนและเป็นกังวลมาก



"ปี๊ดๆๆ" ผมขับรถไล่ตามหลังมา กดแตรเรียกให้มิกซ์หันมา

น้องมันคงจำได้ครับว่าเป็นรถผม มันรีบเปิดประตูกระโดดขึ้นรถผมทันที 



แปลกครับ  แปลกมาก วันนั้นยังดูโกรธผม แต่ตอนนี้กระโดดขึ้นรถผมแบบนี้หมายความว่าน้องมันหาโกรธผมแล้วใช่ไหมครับ



"พี่ช้อปๆ พาผมไปหาม่อนหน่อย" เสียงมิกซ์ดูสั่น เขย่าแขนผมให้รีบออกรถ 



ผมยังไม่เข้าใจว่ามิกซ์เป็นอะไร ทำได้เพียงยกมือจับหัวไหล่ทั้งสองข้าง พยายามให้มันใจเย็นลง



"ใจเย็นๆ ค่อยๆพูด มีอะไรบอกพี่มา"



"ม่อน ม่อนมันจะฆ่าตัวตาย" 



"ว่าไงนะ" ผมตกใจที่ได้ยินคำตอบจากมิกซ์ ม่อนจะฆ่าตัวตายหรอ แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้น



"ที่ไหนบอกพี่มา" ผมรีบขับตรงไปที่สระน้ำมหาลัยทันที



มิกซ์ดูกังวลมาก นั่งบีบมือตัวเองสายตามองข้างหน้าตลอดเวลา ผมก็คงไม่ต่างจากมิกซ์ครับตอนนี้ กดเท้าเหยียบจนสุด อยากรีบไปถึงให้เร็วที่สุดเป็นห่วงม่อนมากครับ



"ตึ๊ดๆๆๆ ตึ๊ดๆๆๆ"



"มิกซ์ๆๆ" มิกซ์ดูเหม่อมาก ใจลอยจนไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ตัวเองที่อยู่ในมือ



"โทรศัพท์" ผมพยักหน้าไปทางโทรศัพท์ที่อยู่ในมือมิกซ์





"พี่มีนม่อนเป็นไงบ้าง" ผมเลี้ยวรถจอดข้างทางทันที พยายามตั้งใจมิกซ์ที่กำลังคุยโทรศัพท์กับมีน



"จริงหรอพี่ ครับๆ ฝากพี่ดูแลม่อนด้วยนะครับ"



"ฮึกๆๆ ฮึกๆๆ" เสียงสะอื้นดังขึ้นทันทีที่มิกซ์วางสาย ผมเริ่มกังวลขึ้นกว่าเดิมครับ



"ม่อนเป็นยังไงบ้าง"



"ปลอดภัยแล้วครับ"



"ปลอดภัยแล้วเราร้องไห้ทำไม" ผมยกมือขึ้นลูบหัวมิกซ์ 



"ทำไมม่อนมันต้องทำแบบนี้ ฮือๆ" ผมสะดุ้งยกมือทั้งสองข้างขึ้น เพราะอยู่ดีมิกซ์ก็กระโจนเข้ามากอดผมเต็มแรง 



"ผมกับมันมีกันแค่สองคน ถ้ามันเป็นอะไรไปผมจะอยู่ยังไง ฮึกๆๆ" ผมรวบตัวมิกซ์เข้ามากอด

ถึงมิกซ์จะชอบกวนม่อน แต่ถึงตอนนี้ผมก็รู้ว่ามิกซ์คงรักม่อนมาก 



"พี่ว่าม่อนก็คงมีเหตุผลของเขาแหละที่ทำแบบนั้น ตอนนี้ม่อนก็ปลดภัยแล้ว" 



"ผมกลัวๆ ว่ามันจะทำแบบนั้นจริงๆ" มิกซ์ยังสะอื้นซุกหน้าที่อกผมอย่างนั้น 



"พี่เข้าใจ ม่อนก็ไม่เป็นไรแล้ว เลิกร้องไห้ได้แล้ว" ผมคลายกอด ดันตัวมิกซ์ออก ยกมือทั้งสองปาดน้ำตาบนหน้าออก



"หมดกัน ร้องซะหมดเท่เลย" ผมยกมือขยี้ผมมิกซ์ จากมิกซ์สุดเท่ สุดกวน ตอนนี้กลายเป็นเด็กขี้แย ร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่ตรงหน้าผม 



น่ารักดีครับ มิกซ์ในมุมแบบนี้ ถึงจะดูเป็นคนแข็งแรงแค่ไหน แต่เจอสถานการณ์แบบนี้น้องมันคงช็อคไปเหมือนกัน



"หยุดล้อผมได้แล้ว" น้องมันดุผมครับ อดขำไม่ได้ ยิ่งเห็นยิ่งอยากแกล้ง







"วันนั้นพี่จูบผมทำไม" มิกซ์นั่งเงียบมาตลอดทาง หลังจากที่น้องมันนั่งร้องไห้กอดผมตอนนั้น อยู่ดีก็โพล่งถามขึ้นมา

แต่มิกซ์ไม่ได้หันหน้ามาคุยกับผมนะครับ นั่งนิ่งมองตรงไปข้างหน้าเท่านั้น



"ถามแบบนี้อยากได้คำตอบแบบไหน"



"ผมเป็นผู้ชายนะพี่" น้องมันประท้วงผม



"แล้วไง"



"พี่จะกวนผมทำไม"



"ใครกวน"



"ก็พี่ไง ผมถามแล้วทำไมไม่ตะ..."



ผมหันไปดึงหน้ามิกซ์เข้ามาจูบ มิกซ์คงอยากได้คำตอบจากผมมากครับ



"นี่ไงคำตอบ"


ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ใครปล่อยข่าว? :hao4:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
สู้ๆ ทั้ง พี่ และ น้อง

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
ยังไงจ๊ะ จูยเป็นคำตอบได้ด้วย5555

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 25



#เสม็ดเสร็จตั้งแต่ยังไม่ถึง








“ไปเที่ยวเสม็ดกันนะ กูชวนเพื่อนมึงแล้วด้วย”

มันคงเห็นว่าผมเพิ่งผ่านเรื่องเครียดมา เลยอยากพาผมไปคลายเครียดมั้งครับ จากเรื่องวันนั้นก็ผ่านมาสองวันแล้ว ตอนนี้ผมโอเคขึ้นมาก ทั้งเพื่อนที่ค่อยให้กำลังใจ และภาคมันก็ไม่ยอมปล่อยให้ผมห่างมันเลย มันคงเป็นห่วงผมอยู่นะครับ





แต่พูดถึงเรื่องเที่ยวก็ดีเหมือนกันนะครับ ได้พักผ่อนก่อนสอบ ก็อีกสองอาทิตย์ก็สอบปลายภาคแล้ว อย่างน้อยก็พักสมองหน่อยกลับมาจะได้มีแรงมาสู้ต่อ





“ม่อนมึงเคยได้ยินคำนี้ไหม” มันยืนหน้าเข้ามาใกล้ผม สายตาเจ้าเล่ห์ ไม่ต้องเดาว่ามันจะพูดอะไร





“ไปเสม็ดเขาว่าเสร็จทุกราย”





“ไอ้สัส หยุดคิดเลยนะ” ผมทุบเข้าที่อกมันไปครั้งหนึ่ง ดูมันจะไม่สะทกสะท้านอะไรครับ





“นะ ขอนะ สองวันแล้วกูยังไม่ได้เอาออกเลย” สองวันที่ผ่านมามันไม่ได้ทำอะไรผมเลยครับ มันเอาแต่คอยดูแลผม





“ห้องน้ำมี มือมึงก็มี ก็ไปจัดการเองสิ” ผมชี้นิ้วไปทางห้องน้ำ





“แล้วกูจะมีแฟนไว้ทำไมวะ ถ้าต้องใช้มือ แล้วยิ่งแฟนกูน่า...ขนาดนี้ใครมันจะทนไหว” มันกระโจนใส่ผม กดแขนทั้งสองข้างผมลงที่เตียง





“น่าอะไรของมึง”





“ก็น่าอย่างนี้ไง” กับการที่มันไม่ได้ปลดปล่อยมาสองวัน ไม่ต้องบอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมนะครับ นี่ขนาดยังไม่ถึงเสม็ดเลยนะครับ







เสื้อผ้ารวมถึงสัมภาระที่จำเป็นถูกจัดลงกระเป๋าเป้ ดูเหมือนภาคมันก็กำลังจัดเตรียมของใช้มันเหมือนกัน ไม่รู้ว่ามันจะเอาอะไรไปเยอะแยะ กับแค่การไปเสม็ดสองวัน





“มึงเอาเชือกไปด้วยทำไมวะ” ผมมองไปที่เชือกเส้นสีแดงที่มันกำลังยัดลงกระเป๋า





“เอ่อ...ก็เอาไว้มัดของท้ายรถไง” แล้วไปครับ ผมยิ่งหวั่นๆ กับพฤติกรรมช่วงนี้ของมันอยู่









เราเดินลงจากคอนโดภาค ขับรถมุ่งหน้ามารับมิกซ์กับนัทที่หอ ส่วนสองสาวนั่งรอที่รถของอาร์มอยู่ที่หน้าหอเรียบร้อย





นานๆที่จะได้ไปเที่ยวทะเลครับ จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ไปทะเลก็ตอนประถมนู้นครับ แถมตอนลงเล่นน้ำทะเลยังเผลอไปเหยียบเศษแก้วจนเลือดอาบ แต่ก็ยังสนุกอยู่ดีครับ ตอนนั้นมิกซ์มันยังร้องไห้เพราะพ่อไม่ยอมพามันลงไปเขตน้ำลึกแบบผม นี่ถ้าผมไม่แกล้งบอกมันว่าเจอฉลามมันคงไม่หยุดร้องไห้ จนทุกวันนี้มันยังโกรธที่ผมหลอกมันอยู่เลยครับ ฮาๆ ๆ นึกแล้วยังขำไม่หาย





“ระวังฉลามนะมิกซ์” ผมหันไปแหย่มันที่นั่งอยู่ด้านหลัง





“ไอ้สัส กูไม่มีทางเชื่อมึงอีกแล้ว กูไม่ใช่เด็ก” มันโวยวายชี้หน้าคาดโทษผม





“คุยเรื่องอะไรกันกูไม่เห็นเข้าใจ” ภาคพูดแทรกขึ้นมา





“เรื่องมันมีอยู่ว่า...”





“มึงหุบปากเดี๋ยวนี้นะ” มันพุ่งตัวใช้มือปิดปากผมไว้ ผมนี้ขำน้ำตาเล็ดเลยครับ มิกซ์ผู้กลัวฉลาม





“ถ้ามึงไม่หยุดขำเดี๋ยวกูแฉมึงบ้างแล้วกัน” มืนชักมือกลับไป ผมหยุดเสียงหัวเราะ หันไปมองหน้ามิกซ์ที่กำลังยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์





“มึงห้ามพูดนะ” ผมชี้หน้าสั่งมัน





“งั้นมึงก็ห้ามพูดเรื่องของกู” ผมพยักหน้าเป็นการปิดดิลกับมัน เรื่องที่น่าอายแบบนั้นไม่อยากให้ใครรู้จริงๆครับ





“แต่จะว่าไปเรื่องกูก็ไม่น่าอายเท่าเรื่องมึง งั้นกูเปลี่ยนใจละ พี่ภาคอยากรู้ไหมว่าม่อนมันอกหักกับแฟนคนแรกเพราะเรื่องอะไร” ภาคหันหลังไปมองหน้ามิกซ์เล็กน้อย ก่อนหันกลับมาขมวดคิ้วใส่ผม





“เล่าเลยมิกซ์พี่อยากฟัง” เสียงนัทเอ่ยสมทบขึ้นมา





“มันโดนบอกเลิกเพราะไม่มีตังค์ซื้อเฟอร์บี้ให้สาว”





“ฮาๆ ๆ ๆ ๆ” เสียงขำก๊าก ดังขึ้นทั่วรถ

มึงจะขำอะไรกันนักหนา แต่แปลกที่ภาคมันดูไม่ขำอะไรขนาดนั้น เพียงแค่หันมายิ้มให้ผมเล็กน้อยเท่านั้น





“ผู้หญิงคนนั้นโง่จัง ทิ้งของดีแบบนี้ได้ยังไง” มันเอื้อมมือมาหยิกแก้มผมเบาๆ





“กูยอมมึงแล้วม่อน มึงทำยังไงให้พี่ภาคหลงขนาดนี้ ทำไรก็ดูน่ารักไปหมด เหม็นความรักโว๊ยยย”





ผมหันหน้าหนีภาคมัน เขินครับ ใครจะไปคิดว่ามันจะไม่ล้อเรื่องน่าอายของผม แถมยังพูดชมผมแบบนั้นออกไปอีก





ยังไม่พอยังยื่นมือมายีหัวผมเป็นการส่งท้ายอีก





“อ้วก”





มีแต่ไอ้สองตัวตรงเบาะหลังเท่านั้นแหละครับ ที่ทำท่าทางจะอ้วกล้อเลียนผมอยู่





“เอากระโถนไหมไอ้สัส” เบื่อพวกขี้อิจฉาครับ ฮาๆ ๆ ๆ













“ไม่ได้อยู่หอ”

“อยู่ข้างนอก”

“จะรู้ไปทำไม”

“เออๆ บอกก็ได้ กำลังไปเสม็ด”

“ห๊ะ!!! ไม่ ไม่ต้องตามมาเลย”

“เดี๋ยวๆ สิ อย่าเพิ่งวาง”

“เซ็งโว้ย”







ผมพยายามแอบฟังมิกซ์มันคุยโทรศัพท์อยู่ครับ มันกำลังคุยอยู่กับใคร ทำไมมันถึงทำหน้าเซ็งๆ ตั้งแต่หลังจากวันที่ไปดื่มเหล้ากัน อีกที่ก็วันที่เกิดเรื่องของผม





ผมว่ามันมีอะไรแปลกเกิดขึ้นกับน้องชายผมแล้วล่ะครับ คงต้องขอยืมสกิลเสือก เอ้ย!! สกิลโคนันของมีนมันมาใช้ดูหน่อย





“มึงคุยกับใคร” ผมจ้องหน้ามันทางกระจกมองหลังของรถ มันดูตกใจที่ผมถาม





“กูถามว่ามึงคุยกับใคร” ผมเน้นเสียงให้หนักเข้าไปอีก กดดันมันไว้ครับ จุดอ่อนของมิกซ์มันคือถ้ากดดันมันเยอะๆ เดี๋ยวมันก็หลุดปากออกมาเองครับ





“ไม่มี กูไม่ได้คุยกับใคร” ผมคงเชื่อมันหรอกครับ เสียงสูงซะขนาดนั้น





“สงสัยมึงคงอยากกลับไปอยู่บ้าน” ผมงัดไม่ตายขึ้นมาใช้ครับ มิกซ์มันยังไม่อยากกลับบ้านครับ มันบ่นว่าเบื่อ อยู่บ้านไม่มีอะไรทำ เลยอ้อนพ่อกับแม่มาอยู่กับผม





“เอ่อ กูคุยกับพะ...พี่ช้อป” คุยกับช้อป ผมหันไปมองหน้าภาคแบบงงๆ แต่ผมว่าผมคนเป็นเดียวที่ไม่เข้าใจ เพราะภาคมันก็นั่งอมยิ้มเหมือนรู้อะไรสักอย่าง





ตกลงว่าสองคนนี้สนิทกันขนาดไหนหรอครับ เห็นบอกว่าเจอกันบ่อยๆ ผมว่ามันชักจะแปลกๆ แล้วครับ





“กูจะถามมึงหลายครั้งแล้วมึงกับช้อปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไร”





“ก็กูเคยบอกแล้วไง ว่ากูไปเป็นโค้ชช่วยพี่แกหาแฟน มึงนี่ขี้เสือกจัง กูจะนอนแล้วห้ามกวน” มันเอียงตัวไปพิงกระจกรถ





“ครอก....ฟี” แกล้งหลับ แบบนี้ก็ได้หรอวะมิกซ์ ที่หลังกูจะได้เอาไปใช้บ้าง แต่ผมไม่ยอมง่ายหรอกครับ ยังไงก็ต้องล้วงความลับมันออกมาให้ได้





แล้วนี่ภาคมึงจะยิ้มอะไรนักหนา กูว่ากูต้องสงสัยมึงอีกคนแล้วล่ะ









หลังจากเรานั่งเรือข้ามฝั่งกันมา กว่าจะข้ามฝั่งมาได้เล่นเอาผมแทบอ้วกครับ เมาเรือแบบสุดๆ ดีที่ยังได้ยาดมมาช่วยชีวิตเอาไว้





เรานั่งรถกันจนมาถึงที่พักที่เราจองเอาไว้





ที่พักของเราเป็นแบบบ้านเดี่ยวครับ มีสี่ห้องนอน มีครัวและสระว่ายน้ำในตัวด้วย ออกจะหรูซะเลยด้วยซ้ำ ก็อย่างว่าครับภาคมันเป็นคนเลือกและคนจองเองทั้งหมด





เราเดินถือกระเป๋าเข้าไปเก็บในบ้าน จัดแจงห้องนอนกับเรียบร้อยครับ สองสาวมีนกับเฟิร์นนอนด้วยกัน นัทนอนกับอาร์ม มิกซ์ให้มันนอนคนเดียวไปครับ ส่วนผมก็ไม่ต้องบอกว่านอนกับใคร เพราะว่าภาคมันเป็นคนจัดแจงเรื่องนี้เอง ไม่อยากขัดมันครับ แต่เดี๋ยวถ้ามันเผลอผมจะแอบเข้าไปนอนกับมิกซ์มัน





“เดี๋ยวเราไปหาอะไรกินกัน ก่อนค่อยออกไปเดินเล่นนะ”

เราเดินเกาะกลุ่มกันมาที่ร้านอาหารทะเลแห่งหนึ่ง ดูเหมือนจะเป็นร้านเด็ดของที่นี่ เพราะนักท่องเที่ยวเต็มร้านไปหมดครับ อาหารก็ดูน่าอร่อย





อาหารทั้งหมดถูกนำมาวางที่โต๊ะ พวกผมไม่ได้สั่งอะไรหรอกครับ มีแค่สองสาวเท่านั้นที่นั่งจิ้มนิ้วเลือกเมนู

อาหารส่วนใหญ่ที่เราสั่งจะเป็นพวกอาหารทะเล ก็มาเที่ยวทะเลจะให้สั่งกะเพราหมูได้ยังไง แต่ผมก็ไม่ลืมสั่งกะเพราทะเลมาแทนนะครับ ฮาๆ ๆ ขาดไม่ได้จริงๆ 





“ม่อนแกะกุ้งให้หน่อย” ภาคมันลูบมือที่ต้นแขนผม อ้อนครับ มันอ้อนแบบเด็กๆ





“มึงก็มีมือ ก็แกะเองสิ” ผมทำเป็นไม่สนใจมัน แต่ดูเหมือนมันจะไม่ยอม แถมเอาคางมาเกยไหล่จ้องหน้าผม





“มึงก็แกะให้มันเถอะม่อน กูไม่อยากเห็นภาพปัญญาอ่อนของมัน กูละอยากให้บรรดาแฟนคลับมันมาเห็นจัง” เสียงนัทมันบ่น สงสัยจะรำคาญภาคมันเหมือนกัน ผมละอยากจะเขกหัวมันสักที





“อะ” ผมว่างกุ้งที่แกะเปลือกออกเรียบร้อยแล้วที่จานมัน





“ป้อนด้วยๆ” ได้คืบจะเอาศอกนะมึง





“อ้า อิ่มจังเลย” ภาคยกมือลูบปอยที่หน้าท้องตัวเอง มันนี่ทำตัวเป็นเด็กเข้าไปทุกทีแล้วครับ









เราเดินออกจากร้านอาหารตรงไปที่ชายหาด กะว่าจะเดินเลียบชายหาดกลับไปที่บ้านพัก





“มึงคุยกับใครอีกมิกซ์” ผมหันไปเอะมัน ตอนที่มันกำลังเดินเลี่ยงออกจากลุ่ม





“มึงจะไปยุ่งอะไรกับน้องมัน” ภาคจับตัวผมหันกลับ คว้าคอผมเข้าไปกอด ผมว่ามันต้องมีอะไรแน่ ทั้งมิกซ์ แล้วไอ้แฟนตัวดีของผม ผมว่ามันต้องรู้เรื่องอะไรมาแน่ๆ





“มีความสุขจัง ได้มาเที่ยวกับมึงแบบนี้” มันหันมายิ้มให้ผม





“มึงพูดแบบนี้กับแฟนทุกคนเลยไหม”





“เอ่อๆ ก็...แต่ตอนนี้มีมึงคนเดียวไง” ผมไม่ว่ามันหรอกครับเพราะตอนมันคบกับคนอื่นมันก็คงต้องรักเขามากเหมือนกัน





“ลองมีสองคนดูสิ” ผมหันกลับไปขู่มัน ก้มลงมองที่เป้ากางเกงมัน





มันสะดุ้งถอยหลัง ยกมือกุมเป้าตัวเองทันที





“ไม่มีหรอกครับ ม่อนน่ารักแบบนี้ ภาคจะไปรักคนอื่นทำไม” มันขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ ยื่นจมูกมาเขี่ยแก้มผม



“อ้วก”





“ไปฝากท้องไหมเดี๋ยวกูพาไป” ผมหันไปค้อนเพื่อนๆ ที่เดินตามหลังผมมา





เฮ้อ อยากจะเก็บบรรยากาศ ความรู้สึกแบบนี้ให้อยู่ตลอดไป ผมก็ไม่มั่นใจว่าจะรักษามันไว้ได้นานแค่ไหน แต่อะไรเกิดขึ้นปล่อยให้มันเป็นไป ขอแค่ตอนนี้ได้มีมันก็เพียงพอแล้ว











“มึงเลิกนั่งจู๋จี๋กันแล้วมาช่วยกูย่างอาหารดีกว่าไหม นั่งเฉยๆ มันคงไม่อิ่มขึ้นมาหรอก” เฟิร์นโวยขึ้นมา หลังถูกจับให้เป็นแม่ครัวคู่กับอาร์ม ส่วนมีนกับนัทรับหน้าที่เป็นบาร์เทนเดอร์กับจัดหากับแกล้ม ส่วนผมกับภาคนั่งชิลล์เพราะมือนี้ภาคมันเป็นเจ้ามือเองครับ เป็นอานิสงส์ของเหล่าบรรดาเพื่อนผม ชอบกันอยู่แล้วเรื่องของฟรีนี่





แล้วมิกซ์มันหายหัวไปไหน เมื่อกี้ยังเห็นนั่งหน้าบึ้งใส่โทรศัพท์อยู่เลย





นั่นไงครับพูดถึงมันก็มาเลยครับ แต่เอ๊ะ นั่นช้อปไม่ใช่หรอ แล้วช้อปมาได้ไง ผมหันมองหน้าสองคนนั้นสลับกัน





“มึงมาได้ไงช้อป” นัทมันก็ดูสงสัยไม่ต่างจากผม





“ก็มาดูแล...โอ๊ย” มันร้องเสียงหลงเลยครับ ก็อยู่ดีๆ มิกซ์มันก็กระทืบลงที่เท้าช้อปซะเต็มแรง





“โทษทีพี่ เมื่อกี้เจอแมลงสาบ” มันพูดแล้วเดินมาทิ้งตัวลงที่นั่งข้างๆ ผม





กูว่าแมลงสาบตัวนั้นคงตัวใหญ่มากเลยนะ มึงถึงได้เหยียบซะเต็มแรงขนาดนั้น





“ทำไมมึงไม่ชวนกูวะภาค” ช้อปหันไปบ่นภาค





แต่เดี๋ยวนะครับ สองคนนี้ไม่ถูกกันไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไมถึงคุยกับเหมือนว่าสนิทกันขนาดนี้ แถมคุยไปยิ้มไปกันอีก ไม่กัดกันเหมือนเมื่อก่อน ผมว่ามันต้องเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างแน่นอน





“ช้อปมาได้ไงอะ” ผมหันไปถามช้อป





“ก็มิกซ์โทรไปชวน”





“ใครชวน พูดเองเออเองทั้งนั้น” มิกซ์มันบ่นงึมงำในลำคอ แต่ผมก็ยังพอจับใจความมันได้





“แล้วนี่ช้อปสนิทกับมิกซ์มันหรอ”





“สนิทสิ สนิทมากด้วย” มิกซ์สะบัดตัวลุกออกจากที่นั่งเดินออกไปทันที พร้อมกับช้อปที่ลุกขึ้นเดินตามออกไป





ผมเองก็เตรียมลุกขึ้นกะว่าจะเดินออกไปตามมิกซ์มันเหมือนกัน แต่ไม่ทันได้ลุกขึ้นยืน ภาคมันก็คว้าแขนผมไว้ซะก่อน





“ปล่อยน้องมันไป น้องมันโตแล้ว” ผมไม่อยากจะทำตามภาคมันหรอกครับเพราะเป็นห่วงมัน แต่มาคิดดูอีกที มิกซ์มันก็โตแล้ว ผมคงจะตามเป็นห่วงมันตลอดไปไม่ได้เพราะสักวันมันก็ต้องมีชีวิตของมัน เอาเป็นว่าผมจะคอยดูมันห่างๆ อย่างห่วงๆแล้วกัน





“มึงรู้อะไรมาใช่ไหม” ผมนั่งลงหันกลับมาเค้นภาคมัน ผมมั่นใจแล้วว่ามันต้องรู้เรื่องนี้แน่นอน





“รู้อะไร ไม่มี” มันโกหกไม่เนียนเท่าไรครับ





“อย่าสนใจเลย มาสนใจเรื่องของเราดีกว่า” มันมุดหน้าเข้าที่ข้างแก้มผม ฟัดผมแบบไม่ให้ตั้งตัว มือรวบผมไปกอดแน่น





“กูว่าพวกมึงไปห้องกันดีกว่าไหม” เสียงบ่นดังมาจากใกล้ๆ





“มึงเงียบไปเลยอาร์ม กูกับเฟิร์นอยากดู กูอยากรู้ว่าของจริงเขาทำกันยังไง เคยเห็นแต่ในคลิป”





“ใช่ๆ ทำต่อเลย” ผมว่าสองคนนี้มันก้าวข้ามขีดจำกัดของคำว่าผู้หญิงไปเรียบร้อยแล้วครับ กับการนั่งนั่งเชียร์ให้ภาคมันลวนลามผม





“กูเพื่อนมึงนะ” ผมบ่นมันทั้งคู่





“ถ้าไม่อยากให้กูทำตรงนี้โชว์สาวสอง ก็ลุกขึ้นตามกูไปบนห้อง”

ผมหมดทางเลือกแล้วครับ ก็มันเล่นมัดมือชกขนาดนี้ เพราะผมมั่นใจว่าถ้าไม่ตามมันไปบนห้อง มันก็กล้าทำตรงนี้ต่อหน้าเพื่อนผมแน่ เพราะคงไม่มีอะไรมาขัดอารมณ์หื่นของมันได้อย่างแน่นอน













“มึงเลิกหื่นได้ไหมกูขอร้อง” ผมบ่นมันทันทีที่ถึงห้อง





มันดูไม่สนใจที่ผมพูด เดินไปเปิดกระเป๋าเป้ของมัน





ไม่รู้ว่ามันกำลังควานหาอะไรอยู่ ผมไม่สนใจทิ้งตัวลงนอนที่เตียง เฮ้อเพลียมากครับวันนี้













ผมเผลอหลับไปครับ ตื่นขึ้นมาก็รู้สึกจักจี้ที่ต้นคอ ผมค่อยๆ โฟกัสสายตามอง ก็เจอภาคที่กำลังซุกไซร้อยู่ที่ต้นคอ คิดว่าหลับจะรอดแล้วครับ









ผมผลักหัวมันออกไป มันคงรู้ว่าผมตื่นแล้ว ส่งยิ้มหื่นๆ มาให้ผม





แล้วทำไมมันหนาวแบบนี้ละครับ ผมพยายามดันตัวให้ลุกขึ้น





เสื้อผ้าผมที่ถูกถอดออกไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ แล้วนี่มันอะไรวะ





“ไอ้เชี่ยภาค มึงทำอะไรกับกู” ผมผลักมันออกจากตัวทันที





สิ่งที่ผมสงสัยตั้งแต่อยู่ที่คอนโดแล้ว





‘เชือกแดง’ เชือกเส้นนั้นที่มันบอกจะเอามาผูกของ ตอนนี้มันถูกนำมัดรอบตัวผมเรียบร้อย





มันเล่นเหี้ยอะไรของมัน หน้ามันตอนนี้ดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไร แถมยิ้มแบบหื่นๆ มาให้ผมอีก





“เฮ้ย มึงอย่าแกะสิวะ กว่ากูจะมัดได้” มันยังมีหน้ามาบ่นผมอีกครับ





ผมว่าพักหลังๆ นี่มันเริ่มจะมีของเล่นแปลกเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ถุงยางมั้งล่ะ กางเกงในที่ไม่ควรเรียกว่ากางเกงในตัวนั้น สุดท้ายก็ไอ้เชือกที่กำลังมัดตัวผมไว้ ผมหวังว่าต่อไปคงไม่เจอโซ่ แซ่หรือกุญแจมืออีกนะครับ





“แล้วมึงจะเอามามัดกูทำไมละ”





“ก็กูเห็นในคลิปมันดูเซ็กซี่เข้ากับมึงดี กูอุตส่าห์ไปเปิดคอสเรียนมาเพื่อมึงเลยนะ”

*คอร์สที่ว่าคือคอร์ส Bondage จากญี่ปุ่น ที่มาเปิดสาขาในไทย





ผมควรจะภูมิใจในความพยายามของมันดีไหมครับ ทำไมเรื่องแบบนี้มันถึงได้สนใจเป็นพิเศษขนาดนี้





“กูไม่ได้ขอ”





“ก็กูอยากลองนี่ เห็นไหมตอนนี่มึงก็เซ็กซี่มากด้วย” มันไม่พูดเปล่าคลานขึ้นมาคร่อมตัวผม มือข้างหนึ่งรูดน้องชายตัวเอง





“อื้อ” มันชุกหน้าลงที่คอผม ใช้ไรหนวดเกลี่ยที่ต้นคอ มันเสียวมาก





“ภาคหนวดมึง” แค่มันไซร้ผมแบบปกติผมก็ดิ้นใจจะขาดอยู่แล้ว นี่มีหนวดแข็งๆ ของมันเพิ่มเข้ามาอีก ทำเอาผมครางไม่หยุดเลยครับ





“ครางแบบนี้ชอบละสิ วันหลังกูจะได้ไม่โกนหนวด เอาไว้ไซร้มึงแบบนี้อีก” ผมทุบมือลงบนหลังมัน มันก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไร คงไม่มีสิ่งไหนมาหยุดอารมณ์หื่นของมันได้จริงๆ ครับ





“กูจะเข้าแล้วนะ” มันค่อยดันน้องชายมันเข้ามา ไม่ลืมที่จะก้มลงมาชิมยอดอกเพื่อกระตุ้นความเสียวของผม





“มึงรู้ไหมว่ามึงทำหน้าแบบนี้กูยิ่งหื่น” มันเร่งจังหวะสะโพกของมัน ผมนี้กอดคอมันแน่นจิกเล็บลงที่หลังของมัน ไม่ไหวแล้วครับ มันหนักหน่วงมากเกินไปแล้ว





“มึงอย่าเพิ่งเสร็จนะ” มันจับผมพลิกตัวในท่าคุกเข่าหันหลังให้มัน





“ภะ...ภาค เบาๆ อื้อ” มันกระแทกสวนเข้ามาทันที รวบมือข้างหนึ่งของผมพาดไว้ด้านหลัง





“กูไม่ไหวแล้วภาค อื้อ ไม่ไหวแล้ว”





“พร้อมกันนะ” มันเร่งจังหวะขึ้นอีก





“อ้า…” ไม่ไหวแล้วครับ เราสองคนปลดปล่อยความสุขออกมาพร้อมกับ ภาคทิ้งตัวลงทับตัวผม เสียงหอบที่ดังแข่งกันของผมกับมัน เหนื่อยจริงๆ ครับ





“หวังว่าครั้งต่อไปคงไม่ถึงขั้นโซ่แซ่หรือกุญแจมือนะ” ผมขยับตัวที่กำลังหนุนแขนมันอยู่ หันหน้าไปบ่นกับมัน





“ก็ไม่แน่ แต่ตอนนี้....ขออีกรอบนะ” พรุ่งนี้ผมคงไม่มีแรงไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ แน่เลยครับ ฮือๆ ๆ ๆ













Part

ช้อป







“จะหนีไปไหนรอพี่ด้วย” ผมวิ่งไปคว้าแขนมิกซ์ไว้ ดูเหมือนมิกซ์จะไม่ค่อยพอใจที่ผมมาที่นี่





“พี่เลิกยุ่งกับผมได้ไหม” มิกซ์สะบัดมือผมออก เดินหนีไปที่ริมหาด





“ทำไมพี่ต้องเลิกยุ่งด้วย”





“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ต้องมาทำแบบนี้กับผม”





“แบบไหนหรอ” ผมขมวดคิ้วมองหน้ามิกซ์





ผมว่าผมก็ทำให้มันชัดเจนไปแล้วนะครับว่าผมชอบน้องมัน แต่ดูมิกซ์จะยังสับสนกับสิ่งที่ผมบอกไป





“ผมถามพี่จริงๆ ว่าพี่ต้องการอะไรจากผม อยากแกล้งผม หรืออยากจะเอาคืนที่ผมปีนเกลียวเสนอตัวไปสอนพี่” รู้ตัวด้วยหรอว่าปีนเกลียว แต่คงช้าไปแล้วล่ะมิกซ์





“พี่ทำขนาดนี้แล้วยังไม่รู้อีกหรอ”





“พี่จะบอกว่าพี่จีบผม” ดูมิกซ์ก็รู้นิครับว่าผมจีบ

ผมยืนนิ่งจ้องหน้ารอว่ามิกซ์จะพูดอะไรต่อ





“พี่หยุดเถอะผมไม่ใช่เกย์”





“แล้วคิดวว่าพี่เป็นเกย์หรอ” มิกซ์คงเข้าใจว่าที่ผมจีบม่อนเพราะเป็นเกย์ แต่ผมยืนยันว่าผมไม่ได้เป็นเกย์ แค่รู้สึกว่าชอบคนๆ หนึ่งเท่านั้น





“พี่จีบม่อนมันไม่ติด แล้วคิดจะมาจีบผมงั้นหรอ” เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วครับ ตอนนี้ผมคิดกับม่อนแค่เพื่อนจริงๆ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นแล้ว และผมก็ไม่เคยคิดให้มิกซ์เข้ามาแทนใครด้วย ตั้งแต่มิกซ์เข้ามาผมก็มองม่อนเป็นแค่เพื่อน แต่กับมิกซ์ ยิ่งรู้จักยิ่งรู้สึกดีๆด้วย





ความรู้สึกที่อยากจะนั่งมองน้องมัน พูด ยิ้ม หัวเราะ หรือแม้กระทั่งตอนกวนตีนก็ตาม มันดูมีเสน่ห์ เสน่ห์ที่ถึงแม้จะแตกต่างจากม่อน แต่ก็ทำให้อยากมอง มองอยู่อย่างนั้น





“มันไม่เกี่ยวกับม่อน มันเกี่ยวกับว่าพี่ชอบเรา” ผมชี้นิ้วไปที่ตัวมิกซ์ แค่อยากทำให้น้องมันเข้าใจ





ผมไม่ว่ามิกซ์ที่ไม่เข้าใจหรอกครับ เพราะผมก็เคยเป็น ก่อนหน้านี้ที่อยู่ดีๆ ก็ไปตกหลุมรักผู้ชายเข้า ผู้ชายคนนั้นก็คือม่อนนั่นแหละครับ กว่าผมจะเข้าใจตัวเอง กว่าจะกล้าเข้าไปคุยเข้าไปจีบ ก็ทำใจอยู่นาน แต่ก็คุยกับตัวเองแล้วว่าอย่างน้อยก็ลองทำตามหัวใจตัวเองดูสักครั้ง ตอนนี้ผมก็ยังยืนยันว่าจะทำตามหัวใจอีกครั้งกับคนนี้ คนที่ชื่อว่ามิกซ์





“ผมว่าพี่เลิกยุ่งกับผมดีกว่านะ ผมขอร้อง”





“มิกซ์ไม่ชอบพี่ พี่ไม่ว่า แต่อย่าบอกว่าให้พี่เลิกยุ่งกับมิกซ์เพราะพี่จะไม่ทำ พี่ไม่ยอมปล่อยมิกซ์ไปแบบม่อนแน่”





“นี่พี่พูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม”





“พี่รู้ว่ามันยาก แต่พี่อยากให้มิกซ์ลองเปิดใจให้พี่ แค่นิดเดียว พี่ขอแค่นิดเดียวให้พี่ลองพิสูจน์ให้มิกซ์เห็น ถึงวันนั้นแล้วถ้ามิกซ์ไม่ชอบพี่ก็จะยอมถอยออกมาเอง”





ผมแค่อยากให้มิกซ์ลองเปิดใจให้ผมแค่นั้นเอง ส่วนเรื่องที่มิกซ์จะชอบผมหรือเปล่าคงไปบังคับน้องมันไม่ได้ครับ





“แต่ผมไม่ได้เป็นเกย์นะพี่” มิกซ์ยังยืนยันคำเดิม ดื้อจริงๆเลยครับ





“แล้วม่อนกับภาคเป็นเกย์ไหม แล้วทำไมสองคนนั้นถึงรักกันได้ ลองไปถามม่อนกับภาคดูนะ แล้วพี่จะรอคำตอบ” ผมหันหลังเดินห่างออกมาจากมิกซ์ ไม่อยากกดดันมิกซ์มากจนดูเหมือนว่ากำลังบังคับ เพราะผมคงไม่มีทางไปบังคับใครให้มาชอบหรอกครับ ถึงจะได้คบกันแต่คงไม่มีความสุขหรอกครับ





“เดี๋ยวพี่ช้อป” ผมหันกลับไปมองมิกซ์ที่กำลังก้มหน้ามองพื้นทราย ไม่ยอมสบตาผม 

ผมไม่รู้ว่ามิกซ์เรียกผมไว้ทำไม มิกซ์มีคำตอบให้ผมแล้วหรอ 





“ถ้าผมบอกว่าได้ละ ผมกับพี่จะเป็นยังไงต่อไป” ผมเดินกลับไปหามิกซ์ ยื่นมือเชยคางมิกซ์ขึ้นมามองหน้า ผมเริ่มมีความหวังขึ้นมาแล้วครับ





“พี่ก็ไม่รู้ว่าถึงวันนั้นมิกซ์กับพี่จะเป็นหรือไม่ได้เป็นอะไรกัน ขอแค่เพียงให้พี่ได้ลอง ลองว่าพี่จะสามารถเข้าไปอยู่ในหัวใจมิกซ์ได้ไหม”





“งั้นก็ตามใจพี่แล้วกัน แต่ผมไม่รับประกันนะว่าจะรับความรู้สึกจากพี่ได้รึเปล่า” ผมยิ้มให้มิกซ์ ยกมือขึ้นยีหัวเพราะความน่ารักของมิกซ์ตอนนี้ 





ผมดีใจที่มิกซ์ยอมเปิดใจให้กับผม ต่อจากนี้ไปคงเป็นหน้าที่ผม ที่จะต้องหาวิธีมาคว้าใจของมิกซ์มาครองให้ได้





“ขอบคุณนะครับมิกซ์”





Part

รวมเพื่อน



"ไหนมึงบอกไม่อยากดูไงนัท แล้วตามพวกกูมาทำไม"


"เออใช่"


"พวกมึงจะเงียบได้ยัง เดี๋ยวม่อนมันก็ได้ยินออกมาโวยวายอีก"



"พวกพี่ทำไรกัน"


"เอ่อ...ไม่มีไร เน๊าะ ไม่มีไร พวกเราไปนอนกันดีกว่า"




ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เปิดใจ เข้าใจ รับความรักจากใจ

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 26





#เสม็ดเสร็จตั้งแต่ยังไม่ถึง 2





ผมตื่นเช้ามาอยู่ภายใต้อ้อมแขนของภาค เสียงคลื่นซัดหาดกับแสงแดดยามเช้า ช่วยทุเลาอาการอ่อนเพลียของผมได้เป็นอย่าง ไม่ใช่อาการที่เกิดจากการเดินทางหรือการเมาเรือ แต่เป็นเพราะถูกแรงกระทำจากคนที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ



ผมค่อยๆ ดันดัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง มือสองข้างยกขยี่ที่เปลือกตา อากาศดีจังเลยครับ ถ้าผมตื่นเช้ากว่านี้คงได้ออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้นแน่ๆ แต่อย่างว่าครับผมจะเอาแรงที่ไหนตื่นไปดูพระอาทิตย์ เพราะแรงทั้งหมดที่มีถูกภาคมันริบไปหมดเรียบร้อย จากการร่วมรักบนเตียงอันเร่าร้อนเมื่อคืน



“ตื่นแล้วหรอ” มันรวบมือเข้าที่เอวผม กระชับกอดผมแน่น ผมอยากจะปลุกมันขึ้นมาด่าเรื่องอุปกรณ์เสียวของมันเมื่อคืน ยิ่งอยู่ด้วยกันนานเข้ายิ่งมีของเล่นแปลกเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ ผมสัญญากับตัวเองแล้วว่ากลับไปคอนโดมันคราวนี้ จะไปค้นดูทุกซอกทุกมุมว่ามันซ้อนอะไรไว้อีกรึเปล่า ผมกลัวว่าสักวันมันจะกลายเป็นโรคจิตไปซะก่อน



“มึงจะรีบไปไหน อยู่ให้กูกอดต่อก่อน” มันกระชับแขนแน่นขึ้น



“ไม่เอากูจะไปอาบน้ำ หิวข้าวแล้วด้วย”



“งั้นก็ได้” มันดีดตัวขึ้มมาฉกเข้าที่แก้มผมครั้งหนึ่ง ก่อนทิ้งตัวลงไปนอนขดใต้ผ้าห่มเหมือนเดิน นับวันมันยิ่งเหมือนเด็กเข้าไปทุกทีแล้วครับ

ผมเดินออกจากห้องน้ำโดยมีผ้าเช็ดตัวพันอยู่รอบเอว ออกมาก็เจอภาคมันนั่งเอาผ้าห่มคลุมหัวไว้ สายตาของมันจับจ้องมาที่ผม



“รีบไปอาบน้ำ แล้วลงไปหาอะไรกินกัน”



“กินนี่ไม่ได้หรอ” มันชี้นิ้วมาที่ผม มันนี่จริงๆ เลยครับ เมื่อคืนมันยังไม่พออีกหรอ ไปเอาเรียวเอาแรงมาจากที่ไหน วันหลังผมคงต้องซื้อยานอนหลับช้างมาผสมให้มันกินก่อนนอนซะแล้ว



“มึงหยุดเลย ให้กูได้พักบ้าง เสร็จแล้วก็รีบตามกูลงไปข้างล่าง” ผมรีบคว้าเสื้อผ้าจากกระเป๋าเป้ขึ้นมาใส่ กลัวว่าถ้าอยู่นานกว่านี้คงเสร็จมันอีกรอบแน่ๆ





“ตื่นไหวด้วยหรอมึง” เสียงทักจากนัทดังมาตั้งแต่ผมยังไม่ถึงโต๊ะอาหาร



“ไหวสิทำไมจะไม่ไหว” ผมตอบกลับมันไปทันที



แล้วพวกมันจะยิ้มอะไรกันขนาดนั้นครับ มองหน้าาผมแล้วกลับไปยิ้มให้กันเอง ผมก็อยากจะถามอยู่หรอกครับแต่ขอจัดการกับอาหารเช้าตรงซะหน้าก่อน



“มาแล้วหรอพ่อคาวบอยหนุ่ม กูเตรียมไข่ลวกไว้ให้มึงด้วย” ภาคเดินลงมาจากข้างบนด้วยสภาพที่หัวยังเปียกอยู่ มันคงรีบอาบน้ำแล้วตามผมลงมา



ผมสังเกตุว่าเพื่อนผมทำไมวันนี้พวกมันดูแปลกๆ แถมนัทมันยังเตรียมไข่ลวก ถือไปประเคนถึงมือภาคมันขนาดนั้น



“มึงก็เบาๆ กับม่อนมันหน่อย แล้วไอ้เชือกที่บอกว่าเรียนมาอย่าลืมสอนกูด้วยนะ”



“พวกมึง...” ผมถลึงตา ชี้หน้าพวกมันทุกคน ผมก็สงสัยแล้วว่าทำไมวันนี้พวกมันทำท่าแปลกๆ



ผมลุกขึ้นวิ่งไล่เตะไอ้นัท เมื่อคืนพวกมันคงแอบฟังผมกับภาคทำอะไรกัน



พวกมึงนี่ไว้ใจไม่ได้จริงๆ ไม่ช่วยเพื่อนแถมยังสนับสนุนภาคมันอีก



“แล้วมิกซ์ละ” ผมถามแล้วหันมองหน้าเพื่อนทุกคน ตั้งแต่มันออกไปกับช้อปเมื่อคืน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นหน้ามันเลยครับ ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง



“เห็นอยู่บนห้องมั้ง เมื่อคืนตอนมึงเอากับภาคมันยังมาแอบฟังกับพวกกูอยู่เลย” มึงก็ด้วยหรอมิกซ์ ไม่คิดจะเป็นห่วงพี่ชายมึงบ้างรึไง ไอ้น้องทรยศ



“นั้นไงพูดถึงก็มาเลย” มิกซ์ที่กำลังยกมือปิดปากหาว เดินตรงมาที่โต๊ะกินข้าวพร้อมกับช้อป ผมยังสงสัยว่าเรื่องเมื่อคืนระหว่าง มิซ์กับช้อปว่ามันเป็นมายังไงกันแน่



“เรียบร้อยดีไหมช้อป” แทนที่จะเป็นผมที่ถามว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น แต่กลับเป็นภาคที่เอ่ยถามช้อปแทน และคำตอบที่ได้จาก ช้อปก็มีเพียงการยักคิ้วกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปมาสองคนกับภาคมันเท่านั้น



ผมเดินเข้าไปลากมิกซ์ออกไปคุยที่ริมสระว่ายน้ำ กะว่าจะเค้นความจริงทั้งหมดจากมัน



มันเดิมตามผมมาอย่างง่ายดาย ไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืนใดๆ ท่าทางของมันที่ต่างจากเมื่อคืนยิ่งทำให้ผมอย่างรู้ความจริงเข้าไปอีก



มึงพร้อมแล้วนะ ผมส่งสายตาเป็นเชิงถาม ว่ามันพร้อมที่จะตอบคำถามของผม



“ทำไม่มึงชอบพี่ภาควะ มึงไม่ได้เป็นเกย์ไม่ใช่หรอ” ผมยืนอ้าปากเหว๋อ แทนที่ผมจะเป็นคนถาม มันกลับพูดขัดขึ้นมาก่อน แต่ดูแล้วมันไม่น่าจะเฉไฉเพื่อเปลี่ยนเรื่องไม่ยอมตอบคำถามผม



“มึงถามทำไม”



“มึงแค่ตอบกูก็พอ” กลายเป็นผมที่ต้องมายืนให้มันซักแทนครับ



“ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีกูก็รักมันไปแล้ว” มันขมวดคิ้วมองหน้าผม เหมือนยังไม่เข้าใจกับคำตอยที่ผมให้ไป



“ไม่มีเหตุผล ทั้งๆที่มึงไม่ใช่เกย์ แต่มึงก็ไปรักผู้ชายเนี่ยนะ”



“กูก็ไม่รู้จะอธิบายกับมึงว่ายังไง แต่สำหรับกูมองข้ามเรื่องเพศไปแล้ว กูรู้แค่ว่าอยู่กับมันแล้วมีความสุข กูไม่สนแล้วว่ากูกับมันจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน” มันดูอึ้งๆ กับคำตอบของผม



ผมรู้สึกอย่างทีบอกกับมิกซ์มันจริงๆ ครับ ผมรู้แค่ว่าผมรักภาคและรักมากด้วย ผมคงไม่ต้องไปสนใจเหตุผลอื่นอีกแล้ว



“ขอบคุณมึงที่ให้คำตอบกู กูคงต้องลองเปิดใจดูบ้างแล้วหละ เผื่อจะเจอความรักดีๆ แบบมึงกับพี่ภาค”



มันยิ้มให้ผมก่อนหันหลังเตรียมตัวเดินกลับเข้าไปในบ้าน



“กูตอบคำถามมึงแล้ว ถึงตากูถามมึงบ้าง มึงกับช้อปเป็นอะไรกัน” ผมไม่ปล่อยให้มันเดินหนีผมไปง่ายๆ หรอกครับ อย่างน้อยผมก็ต้องรู้คำตอบว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับมัน





“เรากำลังจีบมิกซ์อยู่” ช้อปที่เดินออกมาจากตัวบ้านยกมือขึ้นโอบไหล่มิกซ์ไว้



ผมมองหน้าสองคนสลับกัน ตั้งแต่ตอนไหนหรอครับที่ช้อปชอบมิกซ์ ผมรู้แค่ว่ามิกซ์มันบอกว่าเป็นโค้ชเรื่องความรักให้กับช้อปเท่านั้น



“หมายความว่าไง”



“ก็หมายความว่าเราชอบมิกซ์ไง” ผมไม่ได้จะโกรธช้อปหรอกครับ ที่ถามก็เพียงอยากแน่ใจเท่านั้น เพราะผมรู้ดีว่าช้อปเป็นคนดี แต่กับมิกซ์นี้สิครับ เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตาผม ไม่รู้ว่ามันแน่ใจกับเรื่องนี้แล้วหรือยัง



“แล้วมึงหละมิกซ์”



“ที่กูถามมึงเมื่อกี้ เพราะกูอยากแน่ใจว่ามันจะเป็นไปได้ไหมถ้ากูลองเปิดใจ”



ช้อปกระชับกอดมิกซ์แน่นขึ้น ผมดีใจที่เห็นช้อปดูเป็นห่วงมิกซ์ขนาดนี้ มันทำให้ผมรู้สึกเบาใจกับเรื่องมิกซ์ เพราะถ้าสองคนนี้จะลองเปิดใจให้กันจริงๆ ผมคงหมดห่วง เพราะช้อปคงดูแลมิกซ์แทนผมได้แน่ๆ



“กูก็ไม่ได้จะว่าอะไรมึง กูไม่ห่วงหรอกถ้ามึงจะคบกับช้อป แค่อยากให้มึงลองถามตัวเองให้แน่ใจซะก่อน ส่วนช้อปถ้าชอบมันจริงๆเราก็ไม่ว่า แค่จะบอกว่าถ้าจะจีบมิกซ์มัน คงต้องตื้อหนักหน่อยนะ” ผมเดินไปยีหัวมิกซ์ก่อนเดินกลับเข้ามาในบ้าน 



คิดแล้วก็ขำนะครับ เสือผู้หญิง ที่ทิ้งผู้หญิงมานับไม่ถ้วน วันนี้กลับโดนผู้ชายตามจีบ ผมว่างานนี้สนุกแน่ๆเลยครับ เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลยมึงมิกซ์



“มึงรู้เรื่องนี้ทำไมไม่ยอมบอกกู” ผมเดินกลับเข้ามาทำหน้าดุใส่ภาคมัน



ผมแน่ใจแล้วว่าภาคมันรู้เห็นเป็นใจเรื่องนี้แน่ๆ ต้องจัดการมันสักหน่อยครับ โทษฐานที่มีความลับกับผม



“ก็กูหวังดี” มันนั่งทำหน้าสำนึกผิดอยู่ครับ มันบอกว่าแค่อยากจะช่วยช้อปเฉยๆ นี้มันคิดจะเป็นพ่อสื่อให้น้องชายผมหรอครับ ดูความหวังดีของมัน



“เอาเป็นว่าวันนี้มึงมีความผิด เพราะงั้นกูจะทำโทษมึง โดยการห้ามมึงยุ่งกับตัวกูหนึ่งวัน” ผมชี้คำขาดกับมัน เพราะมั่นใจว่าคืนนี้มันคงไม่ปล่อยให้ผมได้นอนแบบสบายๆแน่ เพราะงั้นผมขอใช้โอกาศนี้ปกป้องร่างกายตัวเองซะหน่อย จากที่มันบอกว่าพาผมมาพักผ่อนก่อนสอบ ผมคงต้องกลับไปแบบร่างไร้วิญญาณแทนแน่ๆ



“ให้กูทำอะไรก็ได้แต่ไม่เอาแบบนี้”



“เพิ่มเป็นสองวัน อาทิตย์หนึ่ง” มันดึงคางที่กำลังเกยอยู่บนต้นขาผมออกไปทันที มันคงรู้แล้วครับว่าผมเอาจริง มันคงเป็นห่วงน้องชายมันมากที่จะไม่ได้ใช้งานในคืนนี้





ถึงดวงอาทิตย์จะฉายแสงโดยไม่มีอะไรมาบดบังในช่วงสาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้บริเวณหาดร้อนมากเกินไปเพราะได้ลมทะเล คอยพัดเข้ามาช่วยดับความร้อนได้บ้าง



หลังจากที่ทานข้าวเช้าเสร็จ เราก็ขับรถมาเล่นน้ำที่หาดทรายแก้วกัน เพราะที่นี่ไม่ไกลจากที่พักเรามากนักและน้ำที่่นี่่จะใสและดูน่าเล่นกว่าที่อื่น



ภาคมันยังดูงอนๆผมอยู่ แต่คราวนี้ผมไม่ยอมใจอ่อนง่ายหรอกครับ เดี๋ยวมันจะได้ใจไปกันใหญ่ ขอดัดนิสัยมันสักหน่อย เผื่อความคิดหื่นๆที่อยู่ในหัวมันตลอดเวลาจะลดลงบ้าง ภาระหนักจะได้ไม่ต้องตกมาที่ผมทุกวัน และที่สำคับช่วงนี้ก็เริ่มเข้าช่วงเตรียมสอบ ผมคงต้องคิดหาวิธีปกกันตัวจากมันเผื่อไว้ก่อน



“น้ำโคตรใสเลยวะ” ผมคว้าคอนัทกับอาร์มวิ่งลงทะเลไป ต่างกับสองสาวที่ใส่บิกินี่แสนสวยตัวจิ๋วนั้น กลับนอนหลบแดดในร่ม ไม่ยอมออกมาเล่นน้ำกับพวกผม ผมละเสียดายค่าชุดว่ายน้ำแทนพวกมันจริงๆ



อ่าวๆ ผมยังบ่นพวกมันไม่ทันจบ สาวเจ้าทั้งสองก็ลุกขึ้นยื่นถอดแวนกันแดดที่ใส่อยู่เดินออกมาจากร่มทันที

ผมเข้าใจแล้วครับว่าทำไมสองคนนี้มันถึงยอมลุกออกมาจากเก้าอี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้กลัวแดดจนต้องใส่แแว่นกันแม้นั่งอยู่ในร่มก็ตาม



ก็ตอนนี้มีหมุ่นหล่อชาวต่างชาติสองคน ดูแล้วน่าจะเป็นคนเกาหลี หุ่นนี่ล่ำตรงตามสเปกของเพื่อนผมทั้งสองคน



“Excuse me?” สำเนียงภาษาอังกฤษอันดัดจริตตามสไตล์ของพวกมัน ดังลอยมาตามลมมาเข้าที่หูผม จากที่ก่อนหน้านี้พวกมันถอดแว่นกันแดดออก แต่ตอนนี้ดูเหมือนพวกมันจะถอดหน้ากากมนุษย์ เผยให้เห็นสัตว์ร่างท่วมที่มีนอโผล่อยู่ตรงหน้าผากขึ้นมาแทน ผมสายหัวให้กับความแรดเกินหญิงของเพื่อนทั้งสองคนนี้จริง



“กูเล่นด้วย” มิกซ์มันไม่ได้มาแค่เสียงครับ แต่มันมาพร้อมแรงกระเซ็นของน้ำที่กระเด็นเข้าหน้าพวกผมทั้งสามคน มันเล่นกระโดดเข้ามากลางวงพวกผม



พวกผมว่ายน้ำ วิ่งแข่งกันบนชายหาดอย่างสนุกสนาน มีเพียงหนุ่มหล่อสองคนที่นั่งใส่แว่นดำทำเท่เป็นพระเอกเอวี เอ้ยเอ็มวีอยู่ ภาคมันดูจะงอนผมจริงจังครับ มันไม่ยอมพูดกับผมตั้งแต่ตอนออกจากบ้านพักแล้ว สงสารก็สงสารมันนะครับ แต่อยากดัดนิสัยมันจริงๆ



“หิวแล้วหวะไปหาไรกินกัน” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับอาร์ม ตอนนี้ทุกคนก็ดูจะหมดแรงกันแล้ว รวมถึงสองสาวที่นั่งเหี่ยวอยู่ที่ฝั่ง เพราะนกจากหนุ่มเกาหลีสองคนนั้น หลังจากที่รู้ว่าเขาสองคนเป็นแฟนกัน พวกผมนี่ฮากร๊ากกันเลยครับ สมน้ำหน้าอยากแรดกันดีนัก



เราเดินข้ามมาอีกฟากหนึ่งของถนนที่มีร้านอาหารตั้งเรียงรายอยู่ ภาคมันไม่ยอมเดินมาใกล้ผมเลยครับ กลับไปเดินคู่กับช้อปแทน



“มึงสองคนงอนไรกัน ปกติเห็นติดกันตลอด ไหนคราวนี้นั่งกันคนละมุมแบบนี้วะ” นัทเปิดประเด็นขึ้นมาทันทีหลังจากจัดแจงที่นั่งและสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อย



ภาคมันดูไม่สนใจที่นัทพูด นั่งกอดอกเบือนหน้าหนีผม โอ้ยยยย ผมละอยากจะบ้าตายกับมัน แค่ผมบอกไม่ให้ยุ่งกับร่างกายผมแค่วันเดียว ถึงกับงอนขนาดนี้เลยหรอครับ ถ้าผมไม่อยู่กับมันสักอาทิตย์ สงสัยมันคงจะลงแดงตายแน่ๆ ครับ

“เมื่อคืนกูยังเห็นครางกันซะเสียงดัง วันนี้กลับงอนกันซะและ แล้วเมื่อไรพวกกูจะได้อุ้มหลานวะ” เสียงหัวเราะดังขึ้นทั้งกลุ่ม ผมยกส้อมชี้หน้าขู่นัทมันไป ผมยังเห็นภาคมันแอบยิ้มด้วยนะครับ มาดูกันสิว่ามันจะงอนผมได้สักกี่น้ำ





หลังจากกินข้าวเที่ยงกันเสร็จเราก็ลงไปเล่นน้ำทะเลกันต่ออีกสักพัก กะว่าสักประมาณบ่ายสามโมงจะขึ้นไปล้างเนื้อล้างตัว ไปหาอะไรกินกันที่ตลาด ตกดึกจะได้ไปเที่ยวร้านเหล้าบนเกาะดู เขาว่าร้านเหล้าที่นี่บรรยากาศดีมากๆ



“มึงแดกเหล้าไม่กลัวภาคมันว่าหรอวะ” ผมยกแก้วเหล้าในมือขึ้นมาดื่ม จะไปสนใจมันทำไมครับ มันยังไม่สนใจผมเลย ไม่คุยไม่มองหน้าด้วยซ้ำ มันเล่นแบบนี้ก่อนเอง



“กูอยากแดก ทำไมต้องไปสนใจคนอื่นด้วย” ผมเสตาไปมองมันเล็กน้อย



ถือเป็นโอกาสดีของผมละกัน ที่จะได้ดื่มเหล้าโดยไม่ต้องมีใครมาขัดใจ วันนี้เอาให้เต็มที่ไปเลยครับ ถือว่าโสดสักวันจะเป็นไรไป



“ขอนั่งด้วยคนนะครับ” หนุ่มหล่อคนหนึ่งเข้ามาทักก่อนทิ้งตัวลงนั่งที่นั่งตรงข้ามผม ดูแล้วน่าจะเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกันครับ



“ครับ ได้ครับ” ผมบอกเขา สายตาเหลือบมองภาคมันเล็กน้อย



ไม่ต้องสงสัย มันถลึงตามองผมทันทีครับ



ไหนว่างอนกูอยู่ไม่ใช่หรอ ที่งี้ทำเป็นหวง



“มาเที่ยวกับเพื่อนหรอครับ”



“ใช่ครับ” อยากตอบว่ามากับแฟนนะครับ แต่ลืมไปว่าวันนี้ผมโสดอยู่หนึ่งวัน



ผมนั่งคุยกับเขา ทำเป็นเหมือนไม่สนใจภาคที่นั่งทำหน้ายักษ์จ้องผมอยู่  



ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่คุยสนุกครับ เขาแนะนำตัวเองว่าชื่อโอม และที่น่าตกใจเขาเรียนที่เดียวกันกับผมครับ แต่คนละคณะกัน อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ครับ



“เราขอเบอร์ม่อนหน่อยได้ไหม เผื่อกลับไปมหาลัยจะได้ติดต่อกันได้” ผมนั่งคุยกับเขาได้สักพัก เขาก็ยื่นโทรศัพท์ที่เพิ่งล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกงส่งมาให้ผม



“ตุบ!!! กลับ” ผมก็มั่วแต่คุยกับโอมจนลืมสนใจภาคมันไป มารู้ตัวอีกทีมันก็เดินมาคว้าโทรศัพท์ในมือผมขว้างลงที่พื้น แล้วหันกลับมารวบข้อมือผมไว้



“เชี่ย!! มึงเป็นใคร” โอมลุกขึ้นคว้าหมับเข้าที่คอเสื้อภาคทันที



“กูก็เป็นผัวคนที่มึงกำลังม่ออยู่ไง” ภาคยกมืออีกข้างสะบัดมือของโอมออกไป



“หึๆ ผัวหรอ แล้วทำไมเขาบอกกับกูว่ามากับเพื่อน” โอมยกยิ้มหัวเราะในลำคอ



คำพูดเมื่อกี้ของโอมดูเหมือนจะไปสะกิดต่อมโมโหของภาคมันอย่างจัง ภาคปล่อยมือผมลง ก้าวเท้าเข้าไปไกลโอม ซัดหมัดเข้าที่กลางหน้าโอมอย่างจัง จนโอมล้มกองกับพื้น



“มึงหยุดเดี๋ยวนี้นะภาค” ผมพุ่งตัวกางแขนยื่นขวางโอมไว้ เพราะดูเหมือนว่าภาคกำลังจะโถมตัวเข้าใส่โอมอีกครั้ง



ยังดีที่มิกซ์กับช้อปเข้ามาล็อคตัวมันไว้ได้ทัน เกือบไปแล้วครับ



ผมหันกลับไปดูโอมที่กำลังยืนเช็ดเลือดที่ไหลอยู่ตรงมุมปาก



“โอมเป็นไรไหม เราขอโทษแทนมันด้วยนะ” ผมเดินเข้าไปประคองโอมให้ลุกขึ้น ดูแล้วโอมจะเจ็บอยู่ไม่น้อย ดูจากแรงเหวี่ยงแขนของภาคมันแล้ว


ไม่รู้จะขอโทษโอมยังไงดีครับ ผมไม่น่าไปยั่วโมโหภาคมันจนโอมที่ไม่รู้อะไรด้วยต้องมาโดนลูกหลง



“นี่มึงเป็นห่วงมันหรอ เจอกับแค่ไม่กี่นาทีมึงห่วงมันขนาดนี้เลยเหรอ” ดูมันจะโกรธจนคุมตัวเองไม่อยู่แล้วครับ ผมรีบบอกขอโทษโอมอีกครั้ง ก่อนขอร้องให้โอมกลับไปที่โต๊ะตัวเอง



“อยากไปกับมันมากสินะ ไปเลย” มันตะคอกใส่หน้าผม ก่อนหันตัวกลับ ปัดแก้วกับขวดเหล้าที่อยู่บนโต๊ะทิ้ง ก่อนเดินออกไปจากร้าน ทิ้งไว้เพียงเศษแก้วกับเศษอาหารที่กระจัดกระจายเกลื่อนพื้น



“มึงไม่น่าไปยั่วโมโหมันเลยหวะม่อน” นัทเดินมาตบไหล่ผมเบาๆ ใช่ครับผมไม่น่าไปยั่วโมโหมันเลย จากเรื่องที่งอนกันเล็กน้อยตอนนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่และอาจจะเป็นหายนะสำหรับผมแล้วหละครับ 



ช้อปขับรถพาพวกเรากลับมาที่บ้านพัก หลังจากเคลียร์ปัญญาหาเรื่องข้าวของที่เสียหายเสร็จเรียบร้อย ผมเดินลงจากรถตรงดิ่งไปที่ห้องทันที ภายในห้องมืดสนิทผมคิดว่ามันคงยังไม่กลับมาที่ห้อง ผมเอื้อมมือคลำหาสวิตซ์ไฟ

เป็นอย่างที่ผมคิดครับ มันยังไม่กลับมาที่ห้อง ผมเดินลงมาที่ชั้นล่างของบ้าน ไม่ลืมที่จะถือโทรศัพท์ติดมือมาด้วย



“ตื้ด....ตื้ด” ผมรู้อยู่แก่ใจครับว่าว่าโทรไปยังไงมันก็คงไม่รับสาย แต่ยังไงผมก็อยากลองโทรหามันอยู่ดีครับ



ผมเดินวนรอบบ้าน โทรหามันเป็นสิบๆ สาย แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่ามันจะรับสายผมเลย



“มึงอยู่ไหนวะภาค” ผมพูดกับตัวเอง ในมือกำโทรศัพท์ไว้แน่น มันหายไปแบบนี้เริ่มเป็นมันขึ้นมาแล้วครับ



“ตื๊อ...ตื๊ด” ผมยกโทรศัพท์ขึ้มมาโทรอีกรอบ สองขาก้าวเดินตรงไปที่ริมชายหาด โดยหวังว่าจะเจอมัน





แสงไฟหน้ารถที่สาดส่องไปยังร่างของผู้ชายคนหนึ่ง ผมจำได้ทันทีครับว่าเป็นภาค มันกำลังนั่งกอดเข่าหันหน้ามองทะเลอยู่ริมชายหาด



“ภาค” ผมวิ่งเข้าไปหามันทันที แต่คงไม่ทัน เพราะหลังจากที่มันหันตามเสียงผมมา มันก็ลุกขึ้นยืนเดินหนีผมไปเลย



ผมวิ่งตามมันที่กำลังเดินขึ้นจากชายหาดมุ่งหน้ากลับไปยังบ้านพัก ‘มึงอย่าหนีกูสิ’ ผมคิดในใจกับตัวเอง เร่งจังหวะการสับขาให้เร็วขึ้น เพื่อจะได้ตามมันให้ทัน



“มึงฟังกูก่อนสิ” มันหยุดเดิน มือข้างหนึ่งกำที่ลูกบิดประตู เหมือนว่ากำลังรอฟังสิ่งที่ผมกำลังพูด



“กูแค่อยากแกล้งมึง กูไม่ได้คิดอะไรกับเขาจริงๆ นะ” ผมพยายามอธิบายเหตุผลให้มันฟัง แต่ดูเหมือนคงไม่ค่อยถูกใจมันเท่าไร มันหมุนลูกบิดตัวประตู เดินหนีผมเข้าไปในห้อง



ผมเดินตามมันเข้าไปในห้อง ก็เจอมันที่กำลังนอนขดตัวใต้ผ้าห่มหันหลังให้ผม มันไม่แม้จะเปิดไฟในห้องเลยสักดวง



เอาไงดีครับคราวนี้ ผมคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงให้มันหายโกรธผม



ผมทิ้งตัวตามมันลงไปที่เตียงนอน สอดแขนทั้งสองข้างเข้าไปโอบมันจากทางด้านหลัง คิดไม่ออกจริงๆครับ คงต้องกลับมาใช้วิธีเบสิกดูบ้างเผื่อจะได้ผล



“กูขอโทษนะภาค อย่าโกรธกูเลย” ผมซุกหน้าเข้าที่แผนหลังมัน พยายามทำเสียงอ้อนเผื่อว่ามันจะใจอ่อน ‘นิ่ง’ มันนอนนิ่งไม่ขยับตัวหรือตอบผมเลยครับ



“ภาค ภาคครับ ม่อนขอโทษนะ ม่อนผิดไปแล้ว” ผมเพิ่มเลเวลการอ้อนเข้าไปอีกครับ แต่มันก็ยังคงนอนนิ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับมา



“ตัวเอง เค้าขอโทษ ยกโทษให้เค้านะ เข้าสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก เค้าผิดไปแล้ว ดีกันน้าๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” เอาครับ เกิดมายังไม่เคยอ้อนใครถึงขั้นนี้ ผมทำถึงขนาดนี้หวังว่ามันคงใจอ่อนสักทีนะครับ



นั้นไงครับได้ผลจริงๆ ด้วย มันพลิกตัวหันหน้ากลับมาหาผมแล้ว



“มึงไปจำใครมาไอ้ลูกอ้อนแบบนี้ คิดว่ามันจะได้หรอ” มันหันกลับมาหาผมพร้อมกับเอ่ยขึ้นมาทันที 

ผมไม่ได้ไปจำใครมาหรอกครับมันออกมาเอง ก็สถานการณ์มันบีบบังคับแบบนี้ มันก็ออกมาเองทั้งหมด ก็อยากให้มันหายโกรธจริงๆ นิครับ



“มึงไม่ชอบหรอ ถ้ามึงยังไม่หายโกรธแล้วมึงหันกลับมาทำไม” ผมแกล้งทำเป็นงอนมันบ้างครับ เตรียมขยับตัวหนีมันบ้าง



“ใครบอกมึงว่ากูยังไม่หายโกรธ กูหายโกรธตั้งแต่มึงเรียกกูว่าภาคครับละ” มันดึงตัวผมเข้าไปกอดไว้แน่น ซุกหน้ามันเข้ากับหน้าผม จนจมูกของเราสองคนชนกัน



“มึงหายโกรธกูแล้วจริงๆ นะ กูดีใจโคตรๆ เลย” ผมดีใจจนอยากจะลุกขึ้นมากระโดดตีลังกาสักสองรอบ ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์เล่นลูกอ้อนเลเวลสูงสุดกับมัน



“แต่มีข้อแม้เพื่อเป็นการไถ่โทษ"



"ยังไง" มขมวดคิ้วมอหน้ามัน



"มึงต้องพูดหวานๆ แบบที่มึงอ้อนกูวันนี้หนึ่งทิตย์ แล้วมึงก็ต้องยอมทำทุกอย่างตามที่กูสั่ง โอเคไหม”



“โอเคครับคุณแฟน” ผมตบปากรับคำมันทันที แค่พูดหวานๆ กับทำตามที่มันสั่งก็ดูไม่ยากไปสำหรับผม



“งั้นคำสั่งแรก มึงต้องยอมให้กูเอาทั้งคืน”



“ดะ...เดี๋ยว ไม่เอาแบบนี้สิ อื้อ มะ...ไม่เอา อื้อๆ อ้า” คงไม่ต้องอธิบายนะครับว่าเกิดอะไรขึ้น ผมไม่น่าคิดน้อยเลยครับ ก็รู้ๆ อยู่ว่ามันเป็นคนยังไง ไม่น่าไปตกหลุมพลางมันเลยครับ เฮ้อ พรุ่งนี้คงไม่มีแรงกลับมหาลัยแน่เลยครับ







Part

#ช้อปมิกซ์





“พี่บอกไว้ก่อนนะ เป็นแฟนพี่อย่าประชดแบบที่ม่อนทำ ไม่งั้นอย่าหาว่าพี่ไม่เตือน”



“ผมไม่ทำหรอก แต่...เดี๋ยวนะ ผมไปเป็นแฟนพี่ตั้งแต่เมื่อไร”



“ฟอด!! ยังไม่ได้เป็นแต่พี่จองไว้ก่อนไง”



“ไอ้พี่ช้อป ไปตายซะ”



ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
เอาใจช่วยนะ จีบมิกซ์ติดเร็วๆ ... ว่าเเต่งอนละดีกันแบบคู่ของภาคเนี่ย ที่เพื่อนแซวว่าเมื่อไหร่จะมีหลาน นี่ก็น่าคิด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แกล้งภาคดีนัก กรรมตามสนองเลย555

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 27



#ใครหึง




“ภาคครับอ่านหนังสือได้แล้ว”



หลังกลับจากเที่ยวเสม็ด ผมก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับมันครับ เดี๋ยวมันงอนขึ้นมางานหนักก็ตกมาที่ผมอีก ยังไงผมก็โดนทั้งขึ้นทั้งล่องอยู่ดี ดังนั้นเอาใจมันเข้าไว้ครับ อย่างน้อยมันก็ทำตัวน่ารักเวลาที่ผมพูดเพราะๆ กับมัน



นี่ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์หนึ่ง สัญญาระหว่างผมกับมันก็เกือบครบกำหนดแล้ว ผมไม่ได้เครียดกับเรื่องสัญญาหรอกครับ แต่เครียดเรื่องที่ต้องมานั่งบังคับให้มันตื่นขึ้นมาออ่านหนังสือ เพราะเหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวก็จะสอบปลายภาคแล้ว ช่วงนี้ผมเลยต้องเข้มงวดกับการอ่านหนังสือของมันมากหน่อย และหวังว่าหนังสือจะช่วยลดอาการหื่นกระหายของมันลงได้บ้าง



“ขออีกห้านาทีนะ”



“ไม่ได้ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้”



“หางเสียงหายไปไหน” ดูครับขนาดพึ่งตื่นมันยังไม่วายจับผิดผมเลยครับ ยอมมันจริงๆ



“มาให้กูทำโทษเดี๋ยวนี้”



“ไม่…” มันดึงตัวผมให้ลงไปนอนทับบนตัวมัน สองแขนรัดตัวผมไว้แน่น กดจมูกลงที่กลางหัวผม ก็เป็นเรื่องปกติที่มันทำกับผมทุกวัน ถ้าวันไหนไม่ได้ทำมันก็ไม่ยอมลุกจากเตียงสักที เฮ้ย เหนื่อยใจจริงๆ



“ทำข้าวเช้าให้กินหน่อย” มันเดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวคลุมไว้ที่หัว มือหนึ่งจับชายผ้าลูบเช็ดผมตัวเอง



ทำกับข้าวหรอครับ ร้อยวันพันปีไม่เห็นมันอยากจะกินอาหารฝีมือผมสักครั้ง แล้วครั้งนี้อะไรไปดลใจมันหละครับ



ผมสายหน้าเดินตรงไปที่ครัว ก็ดีครับผมก็ไม่ได้ทำอาหารกินเองมานานแล้ว ตั้งแต่เข้ามาเรียนที่นี่ยังไม่มีเวลาทำทานเองเลยสักครั้ง ที่สำคัญหอผมห้ามทำอาหารด้วยนี่สิครับ ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการเจิมครัวให้ภาคมันหน่อย มันบอกตั้งแต่มันย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ มันก็ไม่เคยเข้ามาใช้ห้องครัวนี้สักครั้ง นอกจากเดินเข้ามาเสียบกาน้ำร้อนใส่มาม่ามันเท่านั้น เสียดายของจริงๆเลยครับ



“น่ากินจังเลย” ผมเดินถือจานข้าวพร้อมกับจานไข่เจียวมาวางให้มันที่โต๊ะ



“อร่อยที่สุดเลย” มันพูดทั้งที่ข้าวยังอยู่เต็มปาก ผมยืนสายหัวให้กับท่าทางของมัน กับอีแค่ไข่เจียวจานเดียวทำเป็นโอเวอร์ยังกับได้กินอาหารมิชลิน



“เออ กูลืมบอกว่ามีของมาส่ง วางอยู่ห้องนั่งเล่นนะ” มันหันมามองหน้าผม สายตามันดูเจ้าเล่ห์มากครับ ผมว่าของในกล่องนั้นมันต้องเป็นของเล่นแผลงๆ ของมันอีกแน่ๆ



ผมรีบพุ่งตัวไปที่ห้องนั่งเล่นทันที แต่ก็คงไม่ทันสกิลลมกรดของมัน ภาคคว้ากล่องที่วางอยู่บนโซฟา วิ่งเข้าไปในห้องนอนทันที ก่อนจะเข้าไปมันยังหันกลับมายิ้มหื่นๆ ให้ผมอีก ทำเอาผมเสียวสันหลัววาบเลยครับ



คราวนี้จะเป็นอะไรอีกครับ



“มึงสั่งอะไรมา” ผมยืนชี้หน้าทำเสียงแข็งใส่มันทันทีที่มันออกมาจากห้องนอน


“เดี๋ยวหลังสอบมึงก็รู้เองแหละ” มันเดินเข้ามากระซิบแถมยังพ่นลมอุ่นเข้าที่หูผม ก่อนเดินกลับไปนั่งตักข้าวไข่เจียวที่เหลืออยู่ในจานเข้าปาก

ทำยังไงดีครับ อุตส่าห์แอบไปลื้อของเดิมที่มันซื้อมาก่อนหน้านี้ไปซ่อนไว้แล้ว แต่มันก็ไม่วายซื้อของใหม่เข้ามาแทนอีก เหนื่อยกับความพยายามกับเรื่องอย่างว่าของมันจริงๆ แต่ก็ยังดีครับ ที่มันยังมีน้ำใจไม่เอามาใช้กับผมช่วงก่อนสอบแบบนี้ ผมยังไม่อยากเดินเป็นซอมบี้ไปสอบหรอกนะครับ





“พวกมึงหลังสอบเสร็จไปค่ายอาสากันไหม” ทุกคนเงยหน้าจากกองหนังสือของตัวเอง ขึ้นมามองหน้าผมพร้อมกัน



“อารมณ์ไหนของมึงเนี่ย ปกติกูไม่เห็นมึงจะทำกิจกรรมอะไรกับเขาสักอย่าง” อาร์มขยับแว่นเลิกคิ้ว มองหน้าผมอย่างสงสัย



ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากร่วมกิจกรรมของมหาลัยนะครับ ก็อย่างที่เคยบอก ผมมีเวลาว่างไปร่วมกิจกรรมเหมือนคนอื่นที่ไหนละครับ คราวนี้ผมเห็นประกาศจากชมรมอาสาว่าหลังสอบปลายภาคจะไปออกค่าย สร้างห้องสมุดให้เด็กๆทางภาคอิสาน ผมเห็นว่ามันน่าสนใจดีครับ ได้ช่วยเด็กๆ และยังได้เที่ยวอีก น่าสนุกดีออกครับ



“มึงอยากไปหรอ งั้นเดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน” ผมยิ้มกว้างให้ภาค อยากจะจับมันจุ๊บเหม่งไปสักที แต่กลัวว่าพวกเพื่อนขี้เสือกมันจะล้อผมเอา เพราะทุกวันนี้เรื่องเชือกแดงที่เสม็ดมันยังไม่หยุดล้อผมเลยครับ



“งั้นกูไปด้วย เพื่อนม่อนกูอุส่าต์ชวน เพื่อนรักอย่างกูจะปฏิเสธได้ยังไง” นัทยักคิ้วส่งยิ้มมาให้ผม



สรุปแล้วว่า เราจะยกกันไปค่ายกันทั้งกลุ่มนี้แหละครับ ก็อย่างที่เห็นกลุ่มผมถ้าขาดใครไปความสนุกคงลดลงมาก



“สอบเสร็จแล้วโว้ย” ดูมีนมันอยากจะโปรยชีทในกระเป๋ามันเต็มทน กว่าผมจะเคี้ยวเข็ง ติวข้อสอบให้พวกมันตั้งแต่เช้ายันดึกดื่นเกือบทุกคืน วันนี้ก็คงเป็นวันที่ทุกคนรวมถึงตัวผมเอง รู้สึกโล่งมากที่สุดตั้งแต่เรียนมา ผมหวังว่าวันนี้จะเป็นวันที่ทุกคงจบปีหนึ่งอย่างสมบูรณ์กันทุกคน เพราะดูจากสีหน้าอาการยิ้มแย้มของทุกคนแล้ว พวกมันน่าจะทำข้อสอบกันได้



ส่วนไอ้คนข้างๆ ผมตอนนี้ ถ้ามันไม่ผ่านแม้แต่วิชาเดียว งานนี้คงต้องมีเคลียร์กันยาว ผมอุตส่าห์ติวเข้มมันเป็นพิเศษ ปลุกมันให้ลุกขึ้นมาอ่านหนังสือทุกวันขนาดนี้ ถ้าไม่ผ่านผมยอมให้มันกดผมทั้งวันทั้งคืนเลยครับ



ผมก็กล้าพูดแค่ตอนนี้ละครับ ถ้ามันรู้ว่าผมคิดแบบนี้ ผมเชื่อว่าคนอย่างภาคมันสามารถยอมสอบตก เพียงเพื่อจะได้กดผมทั้งวันทั้งคืนแค่นั้นแน่ๆ





นักศึกษาจากหลายๆ คณะกว่าร้อยคนนั่งเรียงรายรอต่อแถวขึ้นรถ ผมเดินสะพายกระเป๋าเป้ยืนต่อแถวเพื่อเชคชื่อก่อน



ค่ายที่เราจะไปกันครั้งนี้เป็นการไปสร้างห้องสมุดให้กับน้องๆ จากภาพประกาศในเฟซบุ้คชมรมแล้ว โรงเรียนนี้น่าจะไกลจากความเจริญพอสมควร ดูจากสภาพถนนทางเข้าโรงเรียนที่เป็นทางลูกรังและยังเป็นหลุมเป็นบ่อีก นี่แหละครับเหตุผลที่ทำให้ผมอยากไปออกค่ายในครั้งนี้



“โอ๊ย!!!” นักศึกษาเดินขวักไขว่เตรียมขึ้นรถ เพื่อจับจองที่นั่งของตัวเอง สาวสวยคนหนึ่งดูแล้วน่าจะเรียนชั้นปีเดียวกันกับพวกผม เดินเซเข้ามาชนภาคมันจนล้มลงไปกับพื้น



“เจ็บตรงไหนรึเปล่าครับ” ทั้งๆ ที่ภาคมันถูกชน แต่ก็ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษสุดหล่อของมัน ภาคก้มลงไปช่วยพยุงสาวสวยคนนั้นให้ลุกขึ้น



“ไม่เป็นไรค่ะ โอ๊ย” เธอดูไม่เป็นอะไรมากครับ แต่พอตอนที่เธอจะก้าวขาเดินกลับส่งเสียงร้องเจ็บปวดขึ้นมาทันที



“ถ้าไม่ไหว เดี๋ยวผมช่วยพยุงนะครับ” ภาคยื่นกระเป๋าสะพายของตัวเองมาให้ผมถือ หันกลับไปโอบรอบไหล่ประคองเธอเดินขึ้นไปบนรถ



ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรภาคที่มีน้ำใจนะครับ แต่โอบกันขนาดนั้น ยิ่งสายตาเวลาที่เธอสบตากับภาคแล้วดูหวานหยดย้อยจนน้ำผึ้งยังอายเลยครับ



“ขอบคุณนะคะ” เธอยกมือขึ้นเกลี่ยผมตัวเองขึ้นทัดหู สายตาจับจ้องที่ภาคมันตลอดเวลา



“ครับ ไม่เป็นไร”



“เอ่อ...จะว่าอะไรไหมคะถ้าฟ้าจะชวนนั่งด้วยกัน พอดีฟ้ากับเพื่อนนั่งคนละคันกันค่ะ” ผมที่ยื่นอยู่ด้านหลังกำลังจะยื่นกระเป๋าเป้ให้ภาค แต่ไม่ทันสาวสวยที่คว้ามือภาคมันไว้ก่อน



“นัทมึงนั่งกับกูนะ” ผมโยนกระเป๋าเป้ในมือส่งให้กับภาค ดูท่าว่าทั้งมันและคุณฟ้านั้นคงอยากนั่งด้วยมาก



ปล่อยมันไปไม่ต้องสนใจมันหรอกครับ ถ้ามันอยากดูแลเขาก็ปล่อยมัน ก็เขามาคนเดียวคงเหงามากเลยละครับ



ภาคขมวดคิ้วมองหน้าผมเหมือนจะถามว่าผมเป็นอะไร



มันคงอยากนั่งกับเธอมาก ก็ปล่อยมันไป



ผมสะบัดตัวเดินหนีมานั่งเบาะด้านหน้าห่างจากมันพอสมควร ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศระหว่างมันกับเธอ ผมทิ้งตัวลงนั่งกอดกระเป๋าเป้ตัวเองไว้ สายตามองออกไปนอกกระจก นัทเดินตามผมมานั่งลงข้างผมแบบงงๆ



“เพิ่งเคยเห็นมึงหึงมันนะเนี่ย” ผมหันไปมองหน้านัทที่กำลังยิ้มปนขำผมอยู่



ใครบอกว่าผมหึง ผมไม่ได้หึง ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ นะครับ มันอยากทำอะไรก็ปล่อยมันไป ดีเสียอีกมันจะได้ไม่ต้องมานั่งคอยกวนผมอีก

ผมหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางกางขึ้นมาเปิดแอพเฟชบุ้ค ใช้นิ้วชี้ถูหน้าจอโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ ผมไม่ได้อยากจะดูหรืออ่านอะไรหรอกนะครับ แค่เผื่อว่ามันจะช่วยลดอารมณ์ฟุ้งซ่านของตัวเองไดัเท่านั้น



ความรู้สึกผมเองเหมือนจะขัดแย้งกับก่อนหน้านี้ ที่บอกว่าไม่ได้สนใจที่ภาคมันไปนั่งกับเธอ แต่ตอนนี้ในหัวผมมีแต่ภาพที่ภาคนั่งจู๋จี๋กับเธอลอยเข้ามาในหัวอยู่เรื่อยๆ



หยุดคิดได้แล้วม่อน ไหนมึงบอกว่าไม่สนใจ แล้วมึงจะมานั่งคิดมากแบบนี้ทำไม



ผมยกมือสองข้างขึ้นตบหน้าตัวเองเบาๆ เผื่อมันจะเรียกสติตัวเองกลับมาได้บ้าง



“แม่งเอ๊ย!!!” ผมทนไม่ไหวแล้วครับตอนนี้ ก็มือที่กำลังถูอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ มันดันมาหยุดที่รูปคู่ระหว่างภาคกับฟ้า



‘ขอบคุณนะที่นั่งเป็นเพื่อน’

ฟ้า ใส ได้อยู่กับ ภาค ภาค



มันจะเกินไปแล้วนะภาค ถ่ายรูปคู่กับเขายิ้มซะหน้าบานขนาดนั้น แถมแคปชั่นที่เธอแท็กมันมาอีก



‘ยังไงหรอๆ ฟ้าใส’

‘ว้ายยัยฟ้างานดีนะจ๊ะ’

‘สวยหล่อทั้งคู่’

‘ต้องเล่าแล้วยัยฟ้า’







‘เหมาะสมกันดีนะ’




ประโยคสุดท้ายไม่ใช่ของใครคับ มันเป็นของผมเองครับ เห็นข้อความของคนอื่นผมเองก็อยากมีส่วนร่วมบ้าง จะว่าไปดูแล้วสองคนนี้ก็เหมาะกันดีนะครับ คนหนึ่งสวยอีกคนก็หล่อ แค่ลงรูปคู่กันรูปเดียวก็มีคนเข้ามาเม้นเชียร์กันเพียบแล้ว



‘ไม่ใช่อย่างที่มึงคิดนะ’




มันตอบกลับคอมเม้นผมมาทันที คงไม่ทันแล้วหละผมคิดแบบนั้นไปแล้ว คิดมากและคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วด้วยครับ



ผมยัดโทรศัพท์กลับใส่กระเป๋าเกงเกง มีเสียงสั่นจากโทรศัพท์ของผมหลายครั้ง ผมทำเป็นไม่สนใจ ก้มลงกอดกระเป๋าเป้ของตัวอีกครั้ง ผมครับรู้ว่าภาคมันคงโทรมาแน่ๆ แต่ผมไม่อยากรับรู้อะไรแล้วครับ ปล่อยมันไปอยากทำอะไรก็เชิญ



มือข้างหนึ่งของนัทยกข้ามผมเกี่ยวหัวผมให้เอนเข้ากับไหล่ของมัน ‘โอบ?’ แปลกครับทำไม่นัทมันต้องโอบไหล่ผมขนาดนี้ด้วย ปกติถ้ามันปลอบก็ไม่เคยโอบผมแบบนี้ ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองหน้ามัน



“มึง” ผมพยายามดันเองออกจากไหล่ข้างนั้น คนที่ผมนั่งซบและที่กำลังโอบผมอยู่ไม่ใช่นัท แต่เป็นภาคที่ไม่รู้ว่ามันสลับที่นั่งกับนัทมันตั้งแต่ตอนไหน ผมคงมั่วแต่เหม่อจนไม่ได้สนใจข้างๆ



มันยกมืออีกข้างขึ้นมารวบผมไว้ มันคงเห็นว่าผมกำลังขัดขืนดิ้นหนีมันอยู่ จะไม่ให้ผมหนีมันได้ยังใครก็เมื่อกี้มันยังสวีทหวานคู่กับสาวสวยอยู่เลย แล้วนี่กลับมานั่งกอดผมไว้แน่นขนาดนี้ ใครมันจะมีอารมณ์มานั่งกอดกับมันละครับ



“หึงกูหรอ”



“ไม่”



“กูไม่ได้คิดอะไรกับเขา”



“แล้วกูต้องเชื่อหรอ นั่งคุยกันหวานซะขนาดนั้น” ผมสะบัดหน้าหนีมัน พยายามแกะมือปลาหมึกของมันออกจากตัว



“ไหนบอกว่าไม่หึง”



“กูก็ไม่ได้หึง”



“ปากแข็งจังนะมึง แบบนี้แหละที่เขาเรียกว่าหึง” มันเลื่อนมือหนาขึ้นมาดึงริมฝีปากผมไปมา



ใครบอกว่าผมปากแข็ง ไม่ใช่สักหน่อยครับ ก็ผมไม่ได้หึงมันจริงๆ แค่หมั่นไส้ที่เห็นมันคุยกระหนุงกระหนิงกับเธอเท่านั้น



ผมยังหันหน้าหนีไม่ยอมสบตากับมัน มันคลายมือจากตัวผมหันไปสนใจโทรสัพท์ในมือแทน แบบนี้ก็ได้หรอครับ มันจะง้อผมแค่นี้จริงๆ หรอครับ



มันยังคงสนใจมือถืออยู่ไม่หันมามองผมสักที สงสัยฟ้าเธอคงแท็กรูปคู่พร้อมแคปชั่นหวานๆ มาอีก มันคงไม่อยากสนใจผมอีกแล้วครับ มันคงเบื่อผมแล้วแน่ๆ



“เบื่อกูแล้วก็กลับไปนั่งกับเขาสิ” มันสะกิดที่ไหล่ของผมอยู่หลายครั้ง แต่ผมไม่ยอมหันไปหามันหรอกครับ อยากไปก็ไปมันจะมายุ่งกับผมอีกทำไม



“ถ้าไม่อยากหันมาก็เปิดโทรศัพท์ดูสิ”



ผมยกโทรศัพท์ขึ้มมาดูตามที่มันบอก เปิดแจ้งเตือนจากแอพเฟซบุ้คขึ้นมาดู



‘ขอลบแท็กรูปเมื่อกี้นะครับ พอดีแฟนผมขี้หึง’

ภาค ภาค ได้แท็กคุณในรูป



ภาพที่ผมกำลังนั่งกอดกระเป๋าเป้มองออกไปนอกหน้าต่าง กับแคปชั่นที่มันเขียนททำเอาหน้าผมร้อนผ่าวขึ้น ไม่กล้าหันไปมองหน้ามันเลยครับ ใครจะไปคิดว่ามันจะลบรูปที่ฟ้าแท็กมาออกแล้วลงรูปผมแทน ไม่รู้ว่าถ้าฟ้าเธอเห็นจะรู้สึกยังไง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ผมจะไปสนใจคนอื่น ผมควรเอาเวลามาคิดว่าจะหันกลับไปทำหน้ายังไงกับภาคมันดี



“กูไม่ได้คิดอะไรกับเขาจริงๆ หายโกรธกูนะ” ผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปสบตามัน ยอมรับว่าเขินมากเห็นที่มันกล้าทำแบบนั้น ไม่รู้จะมองหน้ามันยังไงจริงๆ ครับ ทำได้เพียงก้มหน้าซุกเข้าที่อกมันเท่านั้น



“กูชอบนะที่มึงหึงกูแบบนี้ รู้ไหมว่ามึงน่ารักขนาดไหนเวลาที่มึงทำหน้างอนกู” ประโยคนี้ยิ่งทำให้ผมซุกหน้าเข้ากับอกมันยิ่งกว่าเดิม ใครสั่งใครสอนให้มึงพูดแบบนี้วะภาค รู้ไหมว่ากู ‘เขิน’

















Part

#ช้อปมิกซ์





“มานั่งหง่อยแบบนี้คนเดียวทำไม”



“ก็ม่อนมันไม่ยอมให้ผมไปออกค่ายด้วย”



“แล้วเราจะไปได้ยังไง มันเป็นกิจกรรมของมหาลัย”



“ไม่รู้แหละ ก็มันแม่งทิ้งให้ผมอยู่คนเดียว อีกตั้งสามวันมันกว่าจะกลับ”



“งั้นเอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่พาเราเที่ยวเอง ถือว่าเป็น ‘เดทแรก’ ของเราละกัน”



“ไม่ดงไม่เดทอะไรทั้งนั้นโว้ย...”



ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
อ้าวว ๆๆๆ น้องมิกซ์อยู่คนเดียวเเบบนี้ ทางโคตรสะดวกละ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องมิกซ์เสร็จแน่555

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ออกเดท

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 28





#แสดงความเป็นเจ้าของ + หลุมพราง





“ถึงแล้วม่อน”

เสียงเรียกของภาคปลุกผมให้ตื่น ผมค่อยๆ ลืมตามองรอบๆ ตัว เสียงเท้ากระทบพื้นดังลอยมาเรื่อยๆ ผมหันหน้าไปมองภาคที่กำลังสะบัดแขนสะบัดขารวมถึงนวดที่ต้นคอตัวเอง มันคงจะปล่อยให้ผมนอนพิงไหล่มันมาตลอดทาง ดูท่าแล้วมันคงจะเมื่อยน่าดู แต่แปลกที่มันไม่ยอมปลุกผม



“ปวดคอแล้วทำไมไม่ปลุกกู” มันก้มลงมามองหน้าผม มือก็ฉุดกระชากกระเป๋าบนชั้นวางของอยู่ ผมไม่ได้คำตอบจากมัน มีเพียงรอยยิ้มที่มันส่งกลับมาให้ผมเท่านั้น



ผมหันกลับไปมองที่นั่งด้านหลัง นัทมันคงจะชอบใจที่ได้นั่งกับสาวสวย ยิ้มซะหน้าบานขนาด มันไม่ลืมที่จะยักคิ้วเป็นการอวดผมมาอีก ผมได้แต่ส่ายหน้าให้กับท่าทางของมันไปเท่านั้น



“ภาคช่วยเราถือหน่อยได้ไหม พอดีเราเอาของมาเยอะไปหน่อยนะ” ภาคที่กำลังรับกระเป๋าจากมือผมไปถือ หันหน้ามองผมสลับกับฟ้า เป็นผมที่พยักหน้าให้มันเพราะผมก็เป็นผู้ชายถือของตัวเองแค่นี้คงไม่เป็นไร ปล่อยให้มันช่วยเธอไปเถอะครับ



“เอากระเป๋ามึงมา” ผมแย่งกระเป๋าที่มันสะพายอยู่มาถือให้ ก็มันนั่งให้ผมพิงไหล่มาตลอดทางคงเมื่อยน่าดู ไหนจะต้องมาถือของตัวเองกับของฟ้าอีก เดี๋ยวได้เดี้ยงกันพอดีครับ



“ขอบคุณนะครับ” มันเลื่อนเข้ามากระซิบจนจมูกแทบจะชนกับแก้มผม เฮ้อ ผมได้แต่ถอนหายใจให้กับมันครับ ไม่อยากให้มันไปยุ่งกับเธอหรอกครับ แต่จะให้มันปฏิเสธเธอก็ดูน่าเกลียดเกินไป



ผมคุยกับภาคมันได้นิดเดียวเท่านั้นแหละครับ ก็ฟ้าชวนภาคดูนั้นดูนี้มาตลอดทาง ดูเธอจะไม่ได้สนใจอะไร ทั้งที่ผมเดินอยู่ข้างๆภาคมัน



ตอนนี้ก็เกือบบ่ายโมงแล้ว ตามกำหนดการ เราจะมากินข้าวเที่ยงที่ทางโรงเรียนร่วมกับชุมชนจัดไว้ให้ กว่าจะเข้ามาถึงก็ลำบากน่าดู ถนนที่ทั้งเป็นหลุมเป็นบ่ ฝุ่นแดงที่คลุ้งตลอดทางที่รถบัสของเราเคลื่อนผ่าน นี่ถ้าเรานั่งรถสองแถวเข้ามา รับรองได้ว่าหัวของเราคงเปลี่ยนเป็นสีแดงโดยไม่ต้องย้อมสีกันเลยละครับ



ผมถอยตัวออกมาจากภาค เดินมานั่งกับกลุ่มเพื่อนๆ ผม ก็ภาคมันโดนลากให้ไปนั่งกับกลุ่มสาวสวยเพื่อนของฟ้าไปเรียบร้อยแล้ว มันหันกลับมามองผมหลายครั้ง เหมือนอยากจะลุกมาหาผมแต่ก็โดนมือของสาวๆ รั้งไว้ตลอด จะให้ผมทำยังไงละครับ เดินเข้าไปแล้วบอกว่าขอแฟนผมหน่อยนะครับหรือแฟนผมไม่อยากนั่งกับคุณ ผมคงดูเป็นนางร้ายในละครเกินไป คงต้องปล่อยแบบนี้ไปก่อน เดี๋ยวภาคมันคงหาวิธีกลับมาหาผมได้เองแหละครับ



อาหารพื้นบ้านถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย อาหารมื้อนี้เราทานกันเป็นแบบบุฟเฟต์ใครอยากทานอะไรก็เลือกตักกันได้ตามใจชอบ ส่วนใหญ่ผมก็เลือกตักเป็นอาหารอีสานซะเป็นส่วนใหญ่ วันนี้ของดกะเพราสักวัน ก็มาถึงถิ่นเขาทั้งที่ก็ต้องลองอาหารประจำภาคเขาสักหน่อยครับ



พวกเรานั่งล้อมวงกินข้าวกันที่พื้นหอประชุมของโรงเรียน ภาคมันคงหลบกลุ่มสาวๆ นั้นออกมาได้แล้วครับ มันแทรกตัวลงนั่งข้างผม



“ยัยพวกนั้นนี่ยังไงตามติดภาคจังเลย นั้นไงพูดถึงก็มาเลย” ผมหันกลับไปมองตามทางที่มีนบอก สาวสวยสี่คนเดินตรงมาที่กลุ่มเรา โดยมีฟ้าเดินนำหน้ามา สายตาเธอมองที่ภาค พร้อมส่งยิ้มหวานๆไปให้มัน



“ขอพวกเรานั่งด้วยนะ” เสียงสาวสวยคนหนึ่งเอ่ยขอ ยังไม่ทันทีพวกเราจะตอบรับ พวกเธอก็ทิ้งตัวลงนั่งถัดจากภาคไป



แล้วนี่ยังไง ผมต้องขยับด้วยเหรอครับ ก็อยู่ดีๆฟ้าก็เดินมาแทรกตัวนั่งระหว่างผมกับภาค ผมถอยหายใจเฮือกดัง เดินถือจานข้าวไปนั่งข้าวข้างนัทมันแทน ผมเอาแต่ก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารที่อยู่ในจาน ไม่อยากมองภาพสองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม



ไม่รู้ว่าอาหารมื้อนี้อร่อยหรือไม่อร่อยหรอก เพราะในหัวมัวแต่คิดเรื่องภาคมันเท่านั้น



“เดี๋ยวกูเก็บจานให้” ภาคเดินเข้ามาหยิบจานข้าวในมือผมไปถือ อยากจะยิ้มให้มันอยู่หรอกนะครับ ติดที่มีฟ้าเดินตามหลังมันมาด้วย



“เออ...ภาคพอดีว่ารุ่นพี่บอกให้ไปช่วยขนน้ำลงจากรถหน่อยนะ”



“คือเรากำลังจะเอาจานไปเก็บอ่ะ” ผมได้แค่ยืนมองสองคนนั้นคุยกัน เหมือนฟ้าจะทำเป็นไม่เห็นว่ามีผมอยู่ตรงนั้นด้วย



“รุ่นพี่บอกว่าต้องรีบไปตอนนี้เลย เพราะทุกคนกำลังรอกินน้ำอยู่ งั้นฝากเพื่อนภาคไปเก็บให้ด้วยนะ”



ฟ้าหยิบจานข้าวในมือภาครวมถึงของเธอเองยัดใส่มือผม ผมยังงงๆ กับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่ อยากจะถามภาคมันนะครับ แต่คงไม่ทัน เพราะฟ้าเธอคว้ามือภาควิ่งออกไปนู้นแล้ว



หึๆ ม่อนนี้มึงต้องมาเก็บจานให้แฟนตัวเองกับผู้หญิงคนอื่นงั้นเหรอ ตลกสิ้นดี



ผมเดินเซ็งๆ เข้ามานั่งข้างนัท รอให้รุ่นพี่จัดแจงที่นอนให้เรียบร้อยก่อนแยกย้ายเอาสัมภาระเข้าไปเก็บ



“มึงไม่หวงภาคมันบ้างหรอวะ ปล่อยให้ยัยฟ้านั้นลากไปไหนมาไหนอยู่ได้” มีนดูจะอารมณ์เสียแทนผมครับ จะบอกว่าหวงก็หวงครับ แต่จะให้ผมทำยังไงได้ ห้ามให้เธอมายุ่งกับภาคงั้นหรอ เหตุผลเพราะผมหวง ผมเป็นแฟนกับภาค มันต้องตัวติดกับผมตลอดเวลาอย่างนี้เหรอครับ มันคงดูไม่ดีเท่าไรนัก เพราะเหตุผลของการมาค่ายครั้งนี้ก็เพราะอย่างช่วยน้องๆ ถ้าดึงภาคมันไว้กับผมตลอดเวลา คงช่วยงานชมรมได้ไม่เต็มที่แน่ ผมว่าผมเลิกคิดแล้วตั้งใจช่วยงานชมรมดีกว่า



“กูนอนตรงนี้แหละ” ผมเดินหอบกระเป๋าทั้งของตัวเองและของภาคมันไปไว้ตรงมุมห้อง ห้องที่เราจะใช้นอนตลอดสองคืนที่อยู่ที่นี่ ก็เป็นห้องเรียนของน้องๆ นั่นแหละครับ เพียงแต่โต๊ะเรียนทั้งหมดถูกเลื่อนไปซ้อนกันไว้ที่ด้านหนึ่งของห้อง ทำให้พื้นที่ตรงกลางห้องโล่ง พอที่จะเป็นที่นอนให้กับพวกเราได้ ไม่มีเตียงหรือที่นอนให้หรอกนะครับ มีเพียงเสื่อ หมอนกับผ้าห่มอย่างละชิ้นให้แต่ละคนเท่านั้น สำหรับผมแล้วไม่มีปัญหาครับ ห่วงแต่คุณชายภาค ไม่รู้ว่ามันจะนอนพื้นแบบนี้ได้รึเปล่า



พวกเราจัดแจงที่นอนเก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกมาจากห้อง เตรียมลงไปประชุมวางแผนการทำงานกันต่อ



“รอกูตรงนี้ก่อนนะ” ภาควิ่งเข้ามาคว้าแขนผมไว้ ดูท่าแล้วมันน่าจะเพิ่งทำงานหนักมา ดูจากท่าทางเหนื่อยหอบกับเหงื่อที่ไหลอยู่บนใบหน้ามัน งานคงหนักน่าดู



มันเดินตรงเข้าไปในห้อง เหมือนจะเข้าไปเอาอะไรสักอย่าง ผมกอดอกยืนรอมันที่ระเบียงทางเดินของอาคาร



“ม่อนช่วยกูด้วย” เสียงร้องดังออกมาจากในห้อง ผมพุ่งตัวเข้าไปหามันทันที



เกิดอะไรขึ้นกับมันเหรอครับ ทำไมถึงได้ร้องเสียงหลงขนาดนั้น ผมวิ่งเข้าไปในห้อง มองหามันด้วยความเป็นห่วง



ภาคมันอยู่ไหนครับ ผมมองหาภายในห้อง ตรงที่นอนก็ไม่เจอมันครับ



“ม่อนช่วยกูด้วย มันเข้ามาหากูแล้ว” ผมมองตามเสียงของมันไป ก็ต้องตกใจ เพราะภาคมันกำลังยืนตัวสั่นอยู่ตรงขอบหน้าต่าง



“มึงเป็นอะไรรึเปล่า” ผมวิ่งเข้าไปจับขามันไว้ กลัวว่ามันจะพลาดตกลงไปด้านนอก ถึงอาคารจะไม่ค่อยสูงเท่าไร แต่ก็น่าจะทำให้มันเจ็บตัวได้



“มันเข้ามาใกล้แล้ว” ผมกวาดตามองรอบๆ ห้อง ไม่เห็นมีอะไรสักอย่างเลยครับ มีมันกับผมในห้องแค่สองคนเท่านั้น แล้วภาคมันกลัวอะไร ถึงได้กระโดดขึ้นหน้าต่าง ยืนตัวสั่นแบบนี้



“มึงกลัวอะไรวะ กูไม่เห็นว่าจะมีอะไร” ก็อย่างที่บอกครับว่าผมไม่เห็นอะไรจริงๆ หรือว่าภาคมันทำงานเหนื่อยจนหลอนไปเอง ผมขมวดคิ้วมองหน้ามัน



“มึงไม่เห็นจริงๆ หรอ นั้นไงมันเดินเข้ามาแล้ว” ผมมองตามนิ้วของมันที่กำลังชี้ลงไปที่พื้น ผมหันหน้ามองสิ่งที่อยู่บนพื้นสลับกับหน้ามัน



“ฮาๆ ๆ” ผมขำก๊ากออกมาเลยครับ เพราะไอ้ตัวที่ภาคมันชี้ที่พื้นเมื่อกี้ คือไอ้แมลงสาบมีปีกตัวเล็กๆ ที่กำลังคลานเข้ามาใกล้มันเรื่อยๆ



“มึงกลัวแมลงสาบหรอ ฮาๆ ๆ” ผมถึงกับต้องยกมือขึ้นกุมที่ท้อง ใครจะไปคิดว่าคนตัวถึกอย่างภาค จะกลัวแมลงสาบตัวเล็กๆ แบบนี้ ฮาๆ ๆ ๆ ขำมาก ไม่ไหวละครับ



“มึงหยุดขำแล้วช่วยกูก่อน เร็วสิม่อนมึง เห็นไหมมันกำลังกางปีกแล้ว” มันเร่งให้ผมช่วยจัดการกับแมลงสาบตัวเล็กตรงหน้า



“ตุบ!!!” ผมถอดรองเท้าฟาดลงที่พื้นอย่างแรง กดน้ำหนักมือ บี้ตัวแมลงสาบกับพื้นห้อง



“ลงมาได้แล้ว” มันหันมามองหน้าผมแบบอึ้งๆ แค่แมลงสาบตัวเล็กผมไม่กลัวอยู่แล้วครับ ขนาดงูผมยังเคยจับคล้องมาแล้ว



มันค่อยๆปีนลงมาจากหน้าต่าง เดินเข้ามาหลบด้านหลังผม ดูแล้วมันคงกลัวจริงๆ ครับ ขนาดแมลงสาบตายแล้ว มันยังยืนตัวสั่นอยู่เลยครับ



ผมเดินไปหยิบไม้กวาดที่อยู่มุมห้องมากวาดซากแมลงสาบตัวนั้นออกไป เพราะดูแล้วภาคมันคงไม่ยอมปล่อยผมแน่ถ้าแมลงสาบตัวนี้ยังอยู่ในห้อง



“ปล่อยกูได้แล้ว” มันค่อยๆคลายออกมือจากเสื้อผม หน้าตามันดูโล่งมากเลย ผมละอดขำไม่ได้จริงๆ



“เลิกขำได้แล้ว” มันค้อนผม



“ก็กูไม่คิดว่ามึงกลัว กับอีแค่แมลงสาบตัวเล็กๆ”



“มึงก็ดูขามันสิ น่าเกลียดฉิบหาย แม่งเสือกมีปีกอีก” ดูมันจะจริงจังในการอธิบายสัณฐานของแมลงสาบเอามากๆ คงกลัวจนฝังใจไปแล้วมั้งครับ



“กูไม่ขำแล้วก็ได้ แล้วไปช่วยเขาทำงานเป็นไงบ้าง” ผมยกมือตัวเองขึ้นเช็ดเหงื่อที่กำลังไหลย้อยบนใบหน้า ดูแล้วน่าจะถูกใจภาคมันครับ ยืนยิ้มหน้าบาน มือหนาของมันยังเลื่อนมาจับที่เอวผมไว้



“ขอโทษนะ เราไม่รู้ว่า...” เสียงเรียกดังมาจากหน้าประตูห้อง ผมผละตัวออกมาจากภาคอย่างรวดเร็ว ผมไม่รู้ว่าฟ้าเธอมายืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไร ดูเธอคงมีธุระกับภาคมันอีกแน่ๆ



“อ๋อ ไม่เป็นไรๆ” เป็นภาคที่ตอบเธอไป



“คือว่าฟ้าจะให้ภาคช่วยยกของที่ห้องให้หน่อย” เธอส่งยิ้มหวานให้ภาค ทำเหมือนว่าไม่มีผมยืนอยู่ในห้องด้วยเหมือนเคย ผมอยากจะบอกเธอนะครับว่าค่ายนี้มีผู้ชายตั้งเยอะ ทำไมถึงต้องมาเรียกแฟนผมให้ไปช่วยทุกครั้ง ก็ได้แค่คิดครับ ผมตัดสินใจเดินออกมาจากห้อง โดยที่ไม่หันไปมองหน้าภาคมัน



“มึงว่างไหมนัท อาร์มละ” ผมเดินกลับเข้ามานั่งที่กลุ่ม ไล่ถามเพื่อนที่นั่งทำหน้างงอยู่



“ผู้ชายตั้งเยอะตั้งแยะทำไมต้องเรียกแฟนกูไปช่วยด้วยวะ” ผมไม่รู้ว่าสีหน้าตัวเองตอนนี้เป็นยังไง อารมณ์ตอนนี้แค่อยากจะเดินไปถามผู้ชายทั้งค่ายว่าไม่มีใครว่างสักคนเลยเหรอ แค่คนเดียวที่ไม่ใช่แฟนผมไม่มีเลยหรอ



“กูว่าองค์ลงแล้ววะ” นัทพูด สายตาก็ไล่มองและพยักหน้าให้เพื่อนทั้งกลุ่ม



สงสัยองค์ผมจะลงอย่างที่นัทมันว่า ตอนนี้เห็นอะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมด ก่อนหน้านี้อยากจะมาช่วยเขาทำประโยชน์ แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์แล้วครับ



นั้นไงครับ เดินกันออกมาจากห้องแล้ว ผมนั่งจ้องหน้าภาคมันอยู่อย่างนั้น อยากจะเดินเข้าไปถามมันว่าแค่ไปช่วยยกของทำไมต้องควงแขนกันขนาดนั้นด้วย ผมลุกขึ้นยืนสะบัดหน้าหนีมัน ไปช่วยรุ่นพี่ขนของดีกว่าครับ เผื่อความเหนื่อยจะได้ช่วยลดอารมณ์หงุดหงิดลงได้บ้าง



“ม่อน ม่อนใช่ไหม” ผมหรี่ตาโฟกัสผู้ชายที่ยืนตรงหน้า พยายามคิดว่าเหมือนเคยเจอเขาที่ไหนมาก่อน



อ้อ ผมจำได้แล้วครับ โอมไงครับ คนที่เจอกันที่เสม็ดและคนที่เกือบจะมีเรื่องกับภาค บังเอิญมากเลยครับที่มาเจอกันที่นี่อีก



“อ่าวโอม บังเอิญจังเลย”



“แล้วนี่เพื่อนๆ กับ...เอ่อ แฟนม่อนไม่ได้มาด้วยหรอ”



“เพื่อนอยู่ตรงนู้นอะ ส่วนแฟนอย่าเพิ่งพูดถึงมันตอนนี้ได้ไหม” ผมยังไม่หายหงุดหงิด ไม่อยากพูดถึงมันเลยครับ



“ไม่พูดก็ได้ แล้วม่อนหิวน้ำไหม” โอมยืนแก้วน้ำในมืออีกแก้วให้ ผมรับมาดื่มแบบเอื้อกเดียวหมดแก้วจนสำลัก ดีที่ได้โอมช่วยลูบหลังบรรเทาอาการลงได้บ้าง



“อ่าวโอม รู้จักกับม่อนด้วยหรอ” ฟ้าเดินเข้ามาทักโดยมีภาคเดินคู่กันมา



“ดูสนิทกันจังเลยนะ มีลูบหลังให้กันด้วย” ผมไม่รู้ว่าที่ฟ้าพูดกำลังหมายความว่ายังไง ถึงเธอจะดูแปลกใจที่เห็นผมอยู่กับโอม แต่ดูจากน้ำเสียงแล้ว คงไม่ใช่การแปลกใจแบบปกติแน่ๆ



“เราขอตัวก่อนนะ” ผมเดินหนีออกมาโดยไม่สนใจสายตาที่ภาคกำลังมองอยู่ มันคงสงสัยว่าผมกับโอมมาอยู่ด้วยกันได้ยังไง สีหน้ามันดูโมโหผมอยู่เหมือนกันครับ



“มึงอยู่กับมันได้ยังไง” ผมไม่รู้ว่ามันเดิมตามมาตั้งแต่เมื่อไร มันคว้าแขนผมไว้ให้หยุดเดิน



“แล้วไง กูอยู่กับโอมแล้วยังไง มึงยังอยู่กับฟ้าได้เลย”



“มันไม่เหมือนกัน กูแค่ไปช่วยฟ้าเขาก็แค่นั้น”



“กูก็แค่ช่วยเขาทำงานเหมือน” ก็ไม่ได้มีอะไรจริงนิครับ ผมก็แค่มาช่วยรุ่นพี่ทำงาน แล้วบังเอิญเจอโอมก็เท่านั้น ไม่เหมือนมัน ที่เดินไปไหนมาไหนคู่กับฟ้า จนคนอื่นคิดว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกันไปแล้ว



“มึงอย่ายอกย้อนกูได้ไหม” มันกำแขนผมแน่นกว่าเดิน จนผมรู้สึกเจ็บขึ้นมา



“ปล่อยกู กูเจ็บ”



“กูขอโทษ เป็นไรไหม” มันคลายข้อมือผมออก ยกขึ้นสำรวจร่องรอยจากแรงบีบของมัน



“อย่ามายุ่งกับกู” ผมสะบัดข้อมือวิ่งหนีมันออกมา



โต๊ะม้าหินอ่อนที่ถูกจัดวางไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ มันคงตามผมไม่ทันแล้วหละ ผมที้งตัวลงนั่งที่โต๊ะ อาการเหนื่อยหอบจากการวิ่งเมื่อกี้ ยังไม่อยากคุยกับมันตอนนี้ครับ ยิ่งคุยยิ่งทำให้ผมหงุดหงิด



ภาพที่ฟ้าเดินควงแขนมันออกมา ผมไม่อยากนึกถึงตอนนี้ เรื่องนี้ใครผิดเหรอครับ ผมเองรึเปล่าที่ไม่ยอมแสดงความเป็นเจ้าของมัน หรือมันที่ไม่ยอมปฏิเสธเธอสักครั้งที่เธอเดินเข้ามาขอความช่วยเหลือ



ผมพยายามนั่งสงบสติอารมณ์ของตัวเอง คิดย้อนถึงเหตุการณ์ที่ผ่าน คิดๆดูแล้วมันไม่ผิดครับเป็นผมเองที่ผิด เป็นผมที่เดินหนีมันทุกครั้งที่ฟ้าเธอเดินเข้า เป็นผมเองที่ไม่ยอมแสดงความเป็นเจ้าของมัน ผมผิดเองที่ปล่อยให้ตัวเองหึงจนไม่ฟังเหตุผลใคร



“มึงอยู่นี่เอง กูขอ...”



“กูขอโทษ” ผมพูดขัดมก่อนที่มันจะพูดจบ เป็นผมที่ต้องขอโทษไม่ใช่มันครับ



“มึงขอโทษกูทำไม กูต่างหากที่ต้องขอโทษมึง”



“กูผิดเองที่ไม่ยอมฟังมึง กูผิดเองที่เดินหนีทุกครั้งที่ฟ้าเข้ามา กูผิดเองที่ไม่แสดงความเป็นเจ้าของมึง กูผิดเองที่ขี้หึงมากเกินไป” ผมบอกความรู้สึกที่มีทั้งหมดออกไป ผมยอมรับแล้วว่าผมผิดเองทั้งหมด



“มึงไม่ผิดหรอกม่อน กูเองที่ผิดที่ไม่ยอมปฏิเสธฟ้า กูผิดเองที่ทำให้มึงเข้าใจผิด ทำให้มึงต้องมานั่งคิดมากเรื่องกู” มันเดินเข้ามารวบผมเข้าไปกอดไว้



“ต่อไปนี้กูจะปฏิเสธฟ้า กูจะไม่ให้มึงเข้าใจผิดเรื่องระหว่างกูกับเขาอีก แต่มึงต้องสัญญากับกูห้ามเดินหนีกูแบบนี้อีก มีอะไรให้คุยกับกูตรงๆ” ผมพยักหน้ารับ กอดรัดมันแน่นกว่าเดิม



สาเหตุที่ทำให้เราต้องทะเลาะกันไม่เข้าใจกัน มาจากสาเหตุเล็กๆ สาเหตุจากความไม่เข้าใจกัน ความหึงเพียงเล็กน้อยที่เกิดขึ้น ต่อจากนี้ผมคงต้องมีเหตุผลให้มากขึ้นและที่สำคัญผมต้องแสดงความเป็นเจ้าของมันบ้างแล้วแหละครับ



‘คนนี้แฟนผม ห้ามยุ่ง ห้ามเข้าใกล้ ผมหวง’



MON KUNG ได้เพิ่มรูปภาพใหม่กับ ภาค ภาค









Part

มิกซ์






“เสร็จยัง ไปกันได้แล้ว” ผมแต่งตัวเตรียมจะออกไปทำงานที่ร้าน เสียงเคาะประตูดังมาจากหน้าห้อง ผมขมวดคิ้วมองหน้าพี่ช้อปที่ยืนค้ำประตูอยู่



“ไปไหน”



“ก็วันนี้เรามีนัดเดทกันไง เดทแรกอะ” ผมดันประตูเตรียมปิดไม่ให้พี่ช้อปเข้ามา



“โอ๊ย!!!” เสียงร้องดังขึ้นมาทันทีที่ผมดันประตูปิด เอาแล้วไงครับผมดันปิดประตูหนีบมือพี่แกไปเต็มๆ พี่ช้อปดึงมือตัวเองกลับใช้มืออีกข้างกุมไว้ ดูท่าว่าพี่ช้อปจะเจ็บมากร้องจนตัวงอแบบนั้น ใครจะไปคิดละครับว่าพี่แกจะไม่ดึงมือออก มีที่ไหนวางมือให้ประตูหนีบ



ผมเดินเข้าไปจับมือข้างนั้นขึ้นมาดู เลือดออกด้วยครับ ผมรีบพาพี่ช้อปเข้ามาในห้องทันที ทำไงดีครับ ทำไงดี ผมเดินวนไปวนมาในห้อง จำได้ว่าม่อนมันเคยมีชุดปฐมพยาบาลเก็บไว้อยู่ ผมหยิบกล่องข้างเตียงม่อนออกมา ยกมาวางไว้ข้างๆ ตัวพี่ช้อป



“พี่เป็นหมอ คงทำแผลเองได้นะ” พี่ช้อปแค่ส่ายหัวให้ผม ก็มันทำไม่เป็นจริงนิครับ แผลใหญ่สุดที่เคยทำก็แค่มีดบาด ติดปลาสเตอร์ยาก็เสร็จ แล้วกับแผลประตูหนีบใครมันจะไปเคยทำละครับ ที่สำคัญพี่แกก็เป็นหมอด้วย คงทำแผลเองได้ละครับ



“ได้ไง ก็เราเป็นคนทำพี่เจ็บ เราก็ต้องดูแลพี่สิ” ผมส่ายหน้า ถ้าให้ผมทำจริงๆ แทนที่จะหายผมว่าคงได้เจ็บหนักกว่าเดิมแน่ๆ



“ผมทำไม่เป็น”



“งั้นมาช่วยพี่แทนละกัน” ผมหยิบแอลกอฮอล์ขึ้นมาตามที่พี่ช้อป ค่อยๆเทลงไปที่แผลบนมือ



“โอ๊ย...”



“เจ็บไหมพี่” ผมวางขวดแอลกอฮอล์ลง รีบจับมือพี่แกขึ้นมาดู แต่แปลกนะครับ ร้องเจ็บแต่หน้านี่ยิ้มซะบานเลย



“เป็นห่วงพี่หรอ” นอกจากยิ้มแล้วยังกวนได้อีกสงสัยหายเจ็บแล้วมั้งครับ



“ถ้ายังพูดอีก จะให้ทำเองละนะ” ผมเอ็ดพี่แกไปนิดหน่อย ดูพี่แกจะหง่อยขึ้นมาทันที



“ให้ทำอะไรต่อก็บอกมาสิ” ผมทำตามที่พี่ช้อปสั่งทุกขั้นตอน จนขั้นตอนสุดท้ายคือการพันผ้าหันแผลเพื่อด้ามมือไว้ ดีที่โดนไม่แรงมาก อีกสองสามวันคงเริ่มขยับมือได้แล้ว พี่แกบอกมาอย่างนี้ครับ



ผมเก็บอุปกรณ์ทำแผลเข้ากล่อง ถือไปวางที่เดิมเรียบร้อย เสร็จแล้วทำไมยังไม่ไป กลับไปสักทีสิวะไอ้พี่ช้อป



“ทำหน้าแบบนี้จะไล่พี่กลับจริงๆ หรอ” เก่งมากครับ นอกจากเป็นหมอรักษาคนแล้วก็เป็นหมอดูซะด้วย เดาเก่งซะขนาดนี้



“รู้แล้วไม่ไปซะทีละ”



“แล้วเรื่องเดทละ พี่อุตส่าห์เตรียมตัวมา” ดูพี่แกจะไม่ยอมง่ายๆ ครับ นั่งนิ่งทำหน้างอใส่ผม ไม่ยอมขยับตัวไปไหน



“ถ้าผมไม่ไปพี่คงจะไม่ยอมกลับใช่ไหม”



“อืม” ยอมกับความขี้ตื้อของพี่แกจริงๆ



“แล้วจะพาไปไหนละ” ดูพี่แกจะดีใจมากจนลืมตัว เผลอยกมือข้างที่เจ็บคว้าเข้าที่ไหล่ผม



 ร้องจ๊ากเลยสิครับ คว้าเข้าไหล่ผมเต็มแรงซะขนาดนั้น



“เอากุญแจมาจะขับรถให้” ผมยื่นมือรับกุญแจ เปิดประตูเข้าไปสตาร์ทเครื่องยนต์



เป็นเดทที่เบสิกมากครับ เริ่มด้วยการดูหนัง พี่ช้อปเดินนำผมเข้าไปที่ช่องซื้อตั๋ว



‘Avenger’ ครับเดทครั้งแรกด้วยการดูหนังสงคราม ช่างน่าจดจำและประทับใจเสียเหลือเกินครับ



“เดทแรกกับหนัง Avenger โรแมนติกมาก”



“พี่ไม่รู้ว่าคนที่พี่ชอบเขาชอบอะไร พี่เลยพาเขามาดูหนังที่พี่ชอบ เผื่อเวลาเป็นแฟนกันเขาจะได้จำได้” อุตส่าห์จะแซวพี่แก ทำไมกลับเป็นผมเองที่โดนสวนกลับจนเดินเข้าโรงหนังแทบไม่ถูกละครับ



หนังที่ถูกฉายไปเกือบครึ่งเรื่อง ป๊อปคอนรสคาราเมลก็ลดลงจนแทบจะติดก้นแล้ว นี่เดทจริงๆเหรอครับ ทำไมมันดูจืดชืด ไม่เหมือนกับรสชาติของป๊อปคอนเพิ่งที่กินไปเลย สงสัยที่จีบม่อนมันไม่ติดก็คงเพราะเป็นอย่างนี้ละมั้งครับ ผมได้แต่นั่งส่ายหัวกับคนที่ปากบอกว่าอยากเดทนักหนา แต่พอมาด้วยจริงกลับนั่งนิ่งไม่ยอมสนใจผมซะงั้น



หนังถูกฉายไปจนจบ แต่คนข้างผมยังไม่มีวี่แววที่จะลุกจากเก้าอี้ สายตาจับจ้องที่จอขนาดใหญ่ที่กำลังฉายเอนเครดิตของเรื่องอยู่



“เบื่อไหมที่ต้องมานั่งดูหนังกับพี่” จู่ๆพี่ช้อปกูพูดขึ้นมาดื้อๆ แถมคำถามที่ไม่น่าจะถามขึ้นดันถามขึ้นมาซะงั้น



“เดทพี่เนี่ยจืดชืดชะมัดเลย นั่งจ้องแต่จอไม่ยอมสนใจคู่เดทเลย”



“เวลาพี่ชอบอะไรมากๆ พี่ก็จะสนใจแต่สิ่งนั้น แล้วเมื่อไรที่มิกซ์จะยอมเป็นสิ่งที่พี่ชอบที่สุดละ พี่รอวันที่มิกซ์จะเป็นสิ่งที่พี่สนใจเพียงอย่างเดียวอยู่นะ” ผมไม่รู้ว่าสีหน้าตัวเองตอนที่ได้ยินพี่ช้อปพูดเป็นแบบไหน รู้แต่ว่ามันทำให้ผมรู้สึกดี หัวใจเหมือนค่อยพองโตขึ้นมา

ผมตกหลุมพรางพี่ช้อปเข้าเต็มๆ แล้วครับ ผมจะขึ้นจากหลุมนี้ยังไง ก็มันลึกมากขนาดนี้ แต่ทำไมผมกลับไม่กลัว แถมยังรู้สึกมีความสุขที่ได้ตกลงมาในหลุมนี้ หลุมที่พี่ช้อปเป็นคนขุดมันไว้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-08-2018 19:21:36 โดย TONYZZYUKI »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
กระโดลงหลุมเเล้วอ่ะอีแบบนี้มิกซ์เอ้ยย ... ม่อนเราเชียร์อยู่นะ เรื่องการประกาศคนนี้ของข้า มองได้ ห้ามเเตะ เข้าใจชะะะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด