ขายครับ!!!!....ไม่ฟรี [MONEY MAN] ตอนที่ 37 #แยกกัน (26/10/2561)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ขายครับ!!!!....ไม่ฟรี [MONEY MAN] ตอนที่ 37 #แยกกัน (26/10/2561)  (อ่าน 27372 ครั้ง)

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 18




#อื้อ...อ้า






“เดี๋ยวกูไปนอนเป็นเพื่อน”





“ฮะ...เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ” ตกใจอะไรของมึง สภาพแบบนี้ขืนมึงอยู่คนเดียวได้กลายเป็นศพคาคอนโดแน่





“โอเค งั้นกูนอนนี่”





“ไม่ๆ ๆ นอนกับกูนะ” มันเดินมากอดแขน ดึงผมไว้ เมื่อกี้ยังทำเป็นหูตึง ที่ขู่นิดขู่หน่อยทำหง่อยเลยนะมึง นี้กูคิดถูกไหม ที่ยอมเป็นแฟนมึงเนี่ย





“กูขับเอง” ผมยื่นมืออกไปรับกุญแจรถจากมัน ถ้าปล่อยให้มันขับจากที่มันเจ็บคนเดียว อาจจะกลายเป็นศพและไม่ใช่แค่ศพเดียวเท่านั้นนะครับ อาจมีศพผมเพิ่มขึ้นมาอีกคนเป็นแน่







มันนั่งมองหน้าผมแล้วยิ้มมาตลอดทาง รู้สึกแปลกๆครับ จากที่สถานะของเรายังไม่ชัดเจน





‘แฟน’ สถานะตอนนี้ของเรา ผมพยายามไม่คิดเรื่องสถานะบนเฟสบุ๊ค แต่ตอนนี้กลับมานั่งคิดว่าเราสองคนจะเป็นยังไงกับต่อไป ผมหันกลับไปสบตามองมัน สายตามันที่มองผมไม่ได้เปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่ามันจะมีความสุขมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ











“โอ๊ย...เบาหน่อยสิคร้าบ คุณแฟน”





“ทีตอนนี้มาร้องว่าเจ็บ”





“เจ็บ แต่ได้มึงมาเป็นแฟน กูถือว่าการลงทุนครั้งนี้คุ้มมาก” ผมกดน้ำหนักมือลงที่แผล ทำเอามันร้องโอดครวญถอยหน้าหนี แล้วนี่ผมเป็นกองทุนรวมตั้งแต่เมื่อไร มันถึงใช่คำว่าลงทุนกับผม มึงนี่นะน่าจะปล่อยให้มิกซ์มันอัดให้เละไปเลย





ผมเดินถือกะละมังพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเดินมาเช็ดตัวให้มัน เหมือนมันจะมีไข้ครับตอนนี้นอนขดตัวอยู่บนเตียง เมื่อกี้ยังกวนตีนผมอยู่เลย ตอนนี้นอนซมเป็นหมาเลย เฮ้อ





“ลุกขึ้นมาเช็ดตัวก่อนเดี๋ยวค่อยนอนต่อ” มันดันตัวลุกขึ้นมานั่งพิงหลังกับหัวเตียง ผมถอดเสื้อมันที่สภาพยับเยินไม่ต่างจากหน้าของมันตอนนี้





โอ้โห รอยช้ำเต็มตัวมันเลยครับ นี่มิกซ์มันกะเอาให้ถึงตายเลยครับ ผมก็เพิ่งเคยเห็นมันโกรธใครขนาดนี้เป็นครั้งแรก นี้ถ้าไม่ได้ไอ้นัทกับไอ้อาร์มช่วยกันล็อกตัวมันเอาไว้ คงหนักกว่านี้แน่ๆ





ผมค่อยเลื่อนผ้าเช็ดตัวไปตามซอก คอไล่ตามแผงอกแน่นของมัน





‘หมับ’ มันคว้าที่ข้อมือผมจับไว้





“มึงไม่อยากรู้เรื่องของกูกับมิ้นหรอ” ในใจลึกๆ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน แต่คิดว่าคงไม่ใช่ตอนนี้ จะให้ผมถ้าคนที่กำลังเจ็บแบบนี้ได้ยังไง ถึงผมจะอยากรู้สักเท่าไรผมก็คงไม่ทำหรอกครับ







“มึงไม่อยากรู้แต่กูจะเล่า”







มันเล่าว่ามันกับมิ้นเคยเป็นเพื่อนกัน มันก็แอบชอบมิ้นอยู่ข้างเดียว จนวันหนึ่งมันกับมิ้นก็คบกัน มันบอกว่ามันรักมิ้นมาก ยอมทำให้มิ้นได้ทุกอย่าง มันวาดฝันถึงอนาคตของมันกับมิ้นไว้แล้ว จนวันหนึ่งมิ้นก็บอกเลิกมัน ด้วยเหตุผลที่ว่าเขามีคนใหม่ และที่สำคัญมิ้นพาผู้ชายคนนั้นมาด้วย มันบอกว่าช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่มันรู้สึกเฟลกับชีวิตมากที่สุด มันไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร มันได้แต่กินเหล้ากับนั่งร้องไห้ไปวันๆ 







“กูต้องขอบคุณเขานะ ที่ทำให้กูได้เจอกับมึง และได้รักมึง”







มันดึงผ้าเช็ดตัวในมือผมออก รวบตัวผมเข้าไปกอด





ผมไม่ชอบเวลาที่ผมกับมันเข้าใจผิดกัน หลบหน้ากัน ทุกครั้งมันจะทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง ตามความรู้สึกหน่วงที่หัวใจ ต่างกับตอนที่เราสองคนอยู่ด้วยกัน ยิ้มให้กัน ถึงแม้จะกวนตีนกันบ้างบางเวลา แต่มันก็ทำให้ผมมีความสุขทุกครั้ง ความสุขที่รู้ว่ามีมันอยู่กับผม









‘กูก็รักมึงเหมือนกัน’













‘อะไรมันทิ่มหลังกูวะ’ ผมลืมตาขึ้นมาอย่างงั่วเงีย แขนไอ้ภาคก่ายตัวผมอยู่ แล้วไอ้ที่กำลังทิ่มหลังผมอยู่เนี่ย อย่าบอกนะว่ามันคือ ผมสะดุ้งตัวลุกขึ้นไปยืนที่มุมห้อง





“เป็นอะไรของมึง” ภาคมันลุกขึ้นขยี้ตามองมาที่ผม





“มึงนั่นแหละเป็นเชี่ยไร เจ็บขนาดนี้ยังมีอารมณ์มาจิ้มหลังกูอีก” มันยกยิ้ม กลั้วหัวเราะ





“ตอนเช้ามันก็โด่ทุกคนไม่ใช่หรอ” มันพูดไปหัวเราะไป





“หรือที่มึงแข็งเพราะมีอารมณ์กับกู” มันชี้มือมาที่เป้ากางเกงผม ฉิบหาย ผมก็ลืมไปปกติทุกเช้าน้องชายผมมันก็จะตั้งตรงเคารพธงชาติทุกวันเหมือนกัน





ผมกุมเป้าวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที ไอ้ม่อนเอ๊ย ว่าแต่เขามึงกูไม่ต่าง มึงก็ด้วยแข็งไม่รู้เวร่ำเวลา ผมก้มลงไปดุน้องชายผู้น่ารักของผม ที่ตอนนี้หดกลับเข้ามาอยู่ในขนาดที่ปกติเรียบร้อยแล้ว





“แกร๊กๆ ...” ผมปิดน้ำจากฝักบัวที่กำลังไหลลงมาตามร่างกายที่เปลือยเปล่า หันไปมองตามเสียงที่ได้ยิน









เสียงที่ได้ยินเมื่อกี้ดังมาจากตรงประตูห้องน้ำ ลูกบิดประตูที่เริ่มสั่น





‘กึก’ เสียงประตูห้องน้ำที่ค่อยแง้มเปิดออก ภาพที่ผมเห็นคือ ไอ้ภาคที่ยืนเปลือยเปล่าเช่นเดียวกับผม ส่งยิ้มกวนๆ มาให้





“มึงเข้ามาทำไม แล้วเข้ามาได้ไง”





“กูเป็นเจ้าของห้อง มึงลืมไปแล้วหรอ” มันยกพวงกุญแจเล็กๆที่อยู่ในมือให้ผมดู ผมพุ่งตัวไปที่ประตู เตรียมเบี่ยงตัวหลบหวังจะหนีมันออกมาจากห้องน้ำ





แต่ไม่ทันแล้วครับประตูห้องน้ำถูกปิดลงเรียบร้อย พร้อมกับสองมือที่รวบตัวผมไว้ เอาไงดีวะ จะหนียังไงดี





มันดันตัวผมเข้าไปใต้ฝักบัว เปิดน้ำให้ไหลอาบตัวเราทั้งคู่ หัวใจผมเต้นรัวมากเลยครับ มันเซ็กซี่มากเลยครับ เวลาที่ยืนให้น้ำค่อยไหลผ่านตัวมัน ยิ่งตอนที่มันยกมือขึ้นเสยผม ทำเอาผมมองตาค้างไปเลยครับ เดี๋ยวนะผมกลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร เมื่อกี้มึงยังหาทางหนีมันอยู่ สติ ตั้งสติหน่อยไอ้ม่อน









“ยืนมองกูคิดอะไรอยู่” มันจ้องหน้าผม แถมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของมันอีก





“กูว่าจะเข้ามาอาบน้ำด้วยเฉยๆ แต่ตอนนี้กูว่ากูอยากทำอย่างอื่นแล้ววะ” มันเดินเข้ามาประชิดตัวจนหลังผมดันติดกำแพงห้องน้ำ





“อื้อ...” มันก้มลงมาประกบจูบกับผม ลิ้นอุ่นค่อยๆ สอดเข้ามาฉกแลกน้ำลายจากปากผม หวานมากครับเป็นจูบที่หวานและเร่าร้อนมาก ผมยืนจูบกับมันแบนนี้อยู่นาน





“อย่า...” ผมสะดุ้งตัว เผลอตะโกนใส่หน้ามัน สีหน้ามันดูตกใจมาก มันละทุกส่วนของมันออกจากตัวผม ก้มหน้าไม่มองหน้าผม มันคงกำลังรู้สึกผิด









“มึงมีเจลกับถุงยางไหม”





มันเงยหน้ามามอง ใบหน้าของมันเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มทันที รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความหื่นกระหาย ผมคิดถูกไหมเนี่ยที่พูดออกไปแบบนั้น





ร่างของผมถูกอุ้มขึ้นด้วยมือหนาและมัดกล้าม มันพาผมกลับมาที่เตียง ค่อยๆ วางผมให้นอนลงกับเตียงอย่างช้าๆ มันยืนสำรวจร่างกายผมสักพัก ก่อนเดินไปที่โต๊ะบนหัวเตียง ล้วงมือเข้าไปควานหาอะไรสักอย่างอยู่





“เตรียมพร้อมจังนะมึง” มันถือซองถุงยางกับเจลหล่อลื่นยกโชว์ให้ผมดู





“กูก็เตรียมไว้เผื่อเฉยๆ ไม่คิดว่าจะได้ใช้เร็วขนาดนี้” มันวางของในมือลงบนเตียง ก้มตัวลงมาประกบจูบกับผม มือทั้งสองข้างของมันลูบไล้ไปตามหน้าท้อง หน้าอก และหยุดลงที่หัวนมทั้งสองข้างที่กำลังชูชันรับสัมผัสจากมือของมัน





มันละปากออกจากผม ค่อยๆเลื่อนปากไล่ลงมาตามซอกคอของผม ‘อื้อ’ ผมส่งเสียงครางในลำคอ ผมบอกความรู้สึกนี้ไม่ค่อยถูกครับ รู้แค่ว่าลมร้อนที่ออกมาจากจมูกและปากของมัน ทำให้ส่วนที่ถูกสัมผัสนั้นมันเสียวซ่านมาก









“อื้อ...ภาค” มันตวัดลิ้น ชิมยอดอกทั้งสองข้างของผมสลับกัน ผมไม่รู้ว่ามันชอบอะไรกับนมผมจังเลย นมแบนไม่ได้บึ้มเหมือนกับผู้หญิงที่หน้าผับวันนั้นด้วยซ้ำ แต่ว่าทำไม...อื้อๆ เสียวมากครับ









มันหยุดเล่นกับนมทั้งสองข้างของผม พลิกตัวผมให้ขึ้นมานั่งข้างบน เปลี่ยนให้มันนอนพิงหลังกับหัวเตียง ผมไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง มันไม่ทำต่อแล้วหรอ แต่ผมว่าคงไม่ใช่เพราะน้องชายของมันยังตั้งชันชี้หน้าผมอยู่







มันส่งสายตาเป็นสัญญาณมาให้ผม ผมเข้าใจแล้วว่ามันหมายถึงอะไร มันมองไปที่น้องชายของมันใช้มือข้างหนึ่งรูดขึ้นรูดลง





มันคงต้องการให้ผมใช้ปากเล่นกับน้องชายมันเป็นแน่ แต่ผมนี่สิทำเป็นซะที่ไหน ครั้งแรกก็แค่ตอนนั้น แถมยังไปโดนฟันตัวเองจนมันร้องจ๊ากขนาดนั้น เอาไงดีครับ





“ค่อยๆทำก็ได้” มึงก็พูดได้สิกูเป็นคนทำ มึงแค่นั่งเฉยๆ อย่าทำมาเป็นรู้ดี





ผมสูดหายใจเข้าปอดให้ลึกที่สุด ก้มหน้าลงไปครอบปากกับส่วนปลายของมัน





“ซี๊ด!!! ม่อนแบบนั้นแหละ” ดูมันจะเสียวมากครับ หลับตาพริ้ม แถมมือก็อยู่ไม่เป็นสุขจับที่หัวผมโยกขึ้นโยกลงอีก









“กูไม่ไหวแล้วม่อน” มันพลิกตัวให้ผมลงไปนอนอีกครั้ง มือหนึ่งของมันยื่นไปหยิบเจลหล่อลื่นขึ้นมา มันป้ายเจลลงบนช่องทางของผม ค่อยๆแทรกนิ้วเข้ามาในตัวผม





“อื้อ...” เสียงผมครางเมื่อนิ้วมันค่อยเคลื่อนเข้ามาในร่างกาย





“มึงไหวไหม” มันก้มลงมาจูบผมอีกครั้ง คงเพื่อลดอาการเจ็บตอนมันดันนิ้วเข้ามา





“อื้อ...” จากหนึ่งนิ้ว ตอนนี้มันเพิ่มเข้ามาเป็นสองนิ้วและสามนิ้ว แน่นมากเลยครับตอนนี้





มันยื่นมือไปหยิบซองถุงยางขึ้นมาฉีก ครอบลงไปบนน้องชายของมัน





“ถ้าไม่ไหวบอกกูเลยนะ”





มันโน้มตัวลงมาจูบที่หน้าผากผม ‘อื้อ’ แก่นกายมันค่อยเคลื่อนเข้าไป มันไม่เจ็บมากอย่างคราวที่แล้วครับ









“อ้า…” เสียงมันร้องครางออกมาหลังจากดันน้องมันเข้าไปจนสุด มันคับแน่นแบบบอกไม่ถูก 





“อ้า...ภาค อื้อ” ผมครางไม่เป็นภาษาเลยครับ มันค่อยๆ ขยับสะโพกจากจากช้า ค่อยเพิ่มความเร็ว ความคับแน่นก่อนหน้าเปลี่ยนเป็นความเสียว ‘อื้อ’ ยิ่งมันเห็นผมร้องมากเท่าไรมันยิ่งขยับสะโพกของมันเร็วขึ้นเท่านั้น





“ภะ...ภาค ช้าหน่อย อื้อๆ”





“ใครบอกให้มึงรัดกูแน่นแบบนี้” มันกดลงมาขบที่ติ่งหูของผม อย่าทำแบบนี้สะวะมัน สะ...เสียว นะโว้ย ผมอยากจะตะโกนบอกมันเหลือเกิน แต่ก็ทำได้เพียงร้องครางตามแรงกระแทกเท่านั้น









“มะ...ม่อนกูไม่ไหวแล้ว” อาการกระตุกบริเวณช่องทางของผม มันล้มตัวลงแนบกับตัวผม พร้อมกับเสียงหอบถี่บริเวณต้นคอ









มันขยับตัวออกจากผม เลื่อนตัวเองลงไปที่ท่อนล่างของผมที่ยังตั้งชันอยู่





“มึงจะทำไร ไม่ต้อง อะ...อ้า” มันก้มลงรูดน้องชายของผมด้วยปาก พร้อมกับส่งสายตามองมาที่ผม





“ภาค ภาค กูไม่ไหวแล้ว อื้อ อ้าาาา” น้ำขาวขุ่นพุ่งออกมาจากร่างกายผมจนเลอะเต็มขอบปากของมัน





“มึง…” ผมกำลังจะเอ่ยห้ามมัน แต่ไม่ทันละครับ มันแลบลิ้นเลียรีบฝีปากตัวเอง ตวัดเอาน้ำรักของผมเข้าปากไปอย่างไม่รังเกียจ





“ทำไม ก็ของแฟนกูทำไมจะกินไม่ได้” มันไม่ปล่อยให้ผมได้เขินอายกับสิ่งที่มันพูด โน้มตัวลงมาแลกจูบกับผมอย่างหนักหน่วง













ผมยอมรับว่าก่อนหน้านี้ผมกลัวทุกครั้ง เพราะภาพในตอนนั้นมักย้อนเข้ามาในหัวผมทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ความกลัวที่มีมันหายไปจนหมด มีเพียงความสุขเข้ามาแทนที่ ผมว่าการได้ใช้ความสุขร่วมกับคนที่เรารักมันสามารถลบความกลัวที่มีออกไปได้













Part

มิกซ์










“มิกซ์มึงจะเดินกลับไปกลับมาอีกนานไหม กูรู้ว่ามึงห่วงม่อน แต่ช่วยใจเย็นหน่อย”





“ผมไม่ได้เป็นห่วงม่อนมันพี่ ผมเป็นห่วงตัวเองมากกว่า เล่นไปกระทืบพี่มันจนเละแบบนั้น พี่ภาคคงจะไม่ฆ่าผมใช่ไหม”





ผมไม่ห่วงม่อนมันแล้วครับ เพราะเรื่องของมันแค่เข้าใจผิด แต่ผมนี่สิ ตายแน่ไอ้มิกซ์เอ้ย ยังหาเมียไปฝากแม่ไม่ได้เลย มึงจะมาตายแบบนี้ไม่ด้ายยยยยยยยย





ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
อ้าววว น้องห่วงตัวเองเเล้วซะงั้น ว่าเเต่จะคู่กะพี่ช็อปนี่จะยังไงจ๊าาา

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องมิกซ์ผู้อ่อนโยน อิอิ

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
โถ่มิกซ์ๆๆๆ

ออฟไลน์ jinutlove

  • ไม่คิดที่จะรัก
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เละแน่ ..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 19



#มาอีกคน





“ไม่นั่งหน้าแล้วหรอวันนี้” ผมหันหน้าไปหัวเราะไอ้มิกซ์ มันคงคิดว่ามันตัวเล็กมั้งครับ เดินมุดหน้าเข้าไปนั่งหลบที่เบาะด้านหลัง ก็เมื่อวานมันเล่นซัดเจ้าของรถซะหมดสภาพขนาดนั้น จะให้มันกล้าสู้หน้าภาคมันยังไง



“มึงยังกล้าขึ้นรถกูอีกหรอ” เสียงเจ้าของรถมันครับ มันกำลังวางมาดโหด ผมรู้ครับว่าจริงๆมันไม่ได้โกรธมิกซ์มันหรอก คงแค่อยากแกล้งเท่านั้น ผมอยากจะช่วยมิกซ์มันนะครับ แต่เห็นหน้ามันหง่อยแบบนี้ก็อยากแกล้งมันเหมือนกัน ฮาๆ ๆ ๆ





“ผมขะ...ขอโทษนะพี่ภาค ใครจะไปรู้หละ ก็ม่อนมันร้องขนาดนั้น” มันตอบเสียงสั่นๆ ครับ ผมนี่แอบหัวเราะในลำคอกลัวมันจับได้ ไงครับผมเป็นพี่ที่ดีไหม





“กูว่ามันต้องมีเอาคืนกันบ้าง”





“ยังไงพี่” ภาคมันกวักมือเรียกให้มิกซ์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ มิกซ์มันหลับตาปี๋เลยครับ สงสัยคงกลัวภาคมันจริงๆ แต่ว่ากูว่ามึงแสดงได้เหมือนจริงเกินไปละ





“ฮาๆ ๆ ๆ นี่มึงคิดว่ากูโกรธมึงจริงหรอ” มันยกแขนล็อกคอไอ้มิกซ์ที่กำลังทำหน้าเอ๋ออยู่ ผมก็พลอยหัวเราะกับท่าทางมันด้วย





“พี่ไม่โกรธ ไม่เอาคืนผมแล้วหรอ” มันทำหน้างงๆ





“โกรธสิ แต่กูเอาคืนเรียบร้อย” ผมกับไอ้มิกซ์หันมองหน้าสลับกันไปมา ผมก็งงเหมือนกันว่าไปเอาคืนมิกซ์มันตอน





“ก็เอาคืนจากพี่มึงไง เอา...ทั้งคืนเลยล่ะ” ไอ้สัส ผมชกเข้าที่แขนมันเต็ม นี่มึงเป็นคนวางแผนเรื่องทั้งหมดใช่ไหม 





“เบาๆ กับมันหน่อยนะพี่” มิกซ์ยื่นมือมาตบไหล่ผม เมื่อกี้ยังหดหัวอยู่ในกระดอง มันกลับมาเข้าขากันอีกแล้วครับ ผมเริ่มอยากจะเชียร์ให้มันซัดกันอีกสักครั้ง จะยืนมองแบบไม่เข้าไปห้ามพวกมันเลยครับ









“อะไรของมึง” มันลงจากรถเดินตรงมาแย่งกระเป๋าในมือผมไปถือ





“ถือให้แฟนไง” เมื่อไรผมจะรู้สึกชินกับคำนี้สักที ฟังทีไรรู้สึกว่าหน้ามันจะร้อนผ่าวขึ้นมาทุกที





ผมหันหลังเดินมุดหน้าหนีมันออกมา





‘หมับ’ มือข้างหนึ่งของมันประสานเข้ากับมือของผม ผมพยายามแกะมือของมันออก แต่มันยอมซะที่ไหนละครับ แถมยิ้มกวนๆ ส่งมาให้ผมอีก





ผมได้แค่เดินก้มหน้าพยายามหลบสายตาของนักศึกษา ที่หันมามองเวลาที่ผมกับมันเดินผ่าน ไม่ชอบเลยครับกับการที่ต้องมาเป็นจุดสนใจแบบนี้ แต่คงมีแต่ผมนี่แหละครับที่เอาแต่เดินหลบแบบอายๆ ก็ไอ้เจ้าของมืออีกข้างกลับเดินยิ้มตัวปลิวไม่สนใจสายตาคนรอบข้างเลย เฮ้อ









“สัส เดินจับมือกันมาขนาดนี้ ไม่เกรงใจคนอื่นก็เกรงใจเพื่อนอย่างพวกกูบ้าง” เสียงไอ้นัทร้องแซวตั้งแต่ยังเดินไม่ถึงโต๊ะเลยครับ ไอ้สัสแซวซะโต๊ะข้างๆหันมามอง แล้วพากันหันกลับไปซุบซิบกัน





“เกือบไปแล้วนะมึงไอ้ภาค อุตส่าห์จะเซอร์ไพร์เขา โดนเซอร์ไพร์กลับเป็นไงบ้าง” ไอ้อาร์มมันแซวภาคเรื่องเมื่อวาน





“แต่เมื่อวานที่มึงร้องเพลงอะโคตรเท่เลย แต่ติดตรงที่มึง....เป็นนักร้องเสียงเพี้ยน” ไอ้นัททำเสียงเลียนแบบพี่กันต์ ล้อไอ้ภาคมัน ผมหัวเราะกับประโยคที่มันแซว เพลงเมื่อวานที่ภาคมันร้องก็ไม่ได้เพี้ยนเท่าไหร่หรอกครับ ออกจะเพราะเสียอีก ผมนี้แอบโหลดคลิปเก็บไว้เรียบร้อย 





“กว่าจะได้คลิปนั้นกูร้องจนเสียงแหบไปหมด”





“เพราะดีออก”





“โห ไอ้สัสเป็นแฟนกันวันเดียวหลงจนหูเพี้ยนไปเลยหรอมึง” ผมเผลอหลุดปากชนไอ้ภาคไป มันนี้หันมายิ้มหน้าบานให้ผมเลยครับ ไม่น่าเลยไอ้ม่อน เขินก็เขิน อายก็อาย อยากจะมุดหนีลงใต้โต๊ะให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย





“เอ่อ อย่าหาว่าเราอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะภาค แล้วเรื่องมิ้นนี้ยังไง ก่อนหน้านี้ก็เห็นยังควงกับพี่โอ๊ตอยู่เลย แล้วทำไม...”





มีนดึงทุกคนให้เปลี่ยนโหมด ความเผือกของผู้หญิงนี่มันน่ากลัวจริงเลยนะครับ





“เราก็ไม่รู้หรอก อยู่ดีเขาก็กลับมาร้องไห้ บอกว่าอยากคืนดีกับเรา” ถึงมันจะเล่าให้ผมฟังไปแล้วเมื่อวานแต่ก็ยังอยากรู้ว่าเวลาที่มันพูดถึงเขามันจะมีท่าทียังไง





“เราไม่ได้คิดอะไรหรอก ตอนนั้นเรา...คิดถึงแต่ม่อน”





“โห่”





“กูไปซื้อน้ำก่อนนะ” ผมทนนั่งฟังเสียงของเพื่อนกับสายตาอันหวานเยิ้มที่ไอ้ภาคส่งมา เขินสัสๆ ครับ แต่ก็ชอบนะครับตอนที่มันบอกว่า ‘คิดถึง’ แต่ผม





“มึงซื้อน้ำปลามาแดกก็ได้นะ ตอนนี้กูว่ามึงแดกอะไรก็หวานไปหมด” เสียงไอ้นัทแซวไล่หลังมา



“เอาน้ำปลา เอ้ย ชาเขียวแก้วหนึ่งครับ” สติม่อน มีสติหน่อย









“ชอบเพลงที่กูร้องจริงดิ” มันถามผม มือก็ดึงเข็มขัดนิรภัยมาใส่ด้วย





“ใครบอกว่ากูชอบ ร้องเพี้ยนขนาดนั้น” ผมเชิดหน้าใส่มัน หลบหน้ามันดีกว่าครับเดี๋ยวมันจะจับได้ว่าผมกำลังเขินมันอยู่





“จริงดิ”





“อึก” หน้าของผมกับมันตอนนี้อยู่ห่างกันแค่ไม่กี่เซน จนได้เสียงลมหายใจของเราที่ดังแข่งกันตอนนี้ มันค่อยๆเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ





“ลืมแล้วหรอว่ามีผมอยู่บนรถด้วย”





‘เชี่ย’ ผมสะดุ้งดึงตัวกลับไปที่นั่งของตัวเอง ผมลืมไปเลยว่ามิกซ์มันนั่งอยู่ในรถ มันดันยื่นหน้าเข้ามาตอนที่ผมกับภาคกำลังจะจูบกัน





ภาคมันดูจะเสียอารมณ์เล็กน้อยที่โดนขัด สมน้ำหน้ามันครับอยากหื่นไม่ดูหน้าดูหลังเอง





“แต่จะทำอะไรก็ทำไปผมไม่มองหรอก” มิกซ์มันยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาปิดตาไว้ ผมอยากจะบอกมันจริงๆเลยครับว่าถ้ามึงจะถ่างนิ้วมองขนาดนั้นมึงไม่ต้องปิดก็ได้





“ฟอด” สิ้นคำไอ้มิกซ์ ภาคก็ยื่นหน้ามาขโมยหอมแก้มผมอย่างรวดเร็ว มีน้อง น้องก็ไม่รัก แถมยังส่งพี่ตัวเองให้เป็นเหยื่อเสืออีก ดีจริงๆ เลยนะมึงมิกซ์











“กะเพราหมูพิเศษไข่ดาวสองจานครับ” ภาคมันไม่รอให้ผมสั่งครับ มันรู้ว่าเมนูประจำผมคืออะไร





“มึงไม่คิดว่ากูอยากกินอย่างอื่นบ้างหรอ” ทำหน้ากวนๆ มันไปครับ ผมแค่อยากลองแกล้งมันดูบ้างเท่านั้น





“แล้วม่อนอยากกินอะไรครับ” โอ้โหดาเมจลูกอ้อนนี้ของมัน ปกติผมกับมันไม่ค่อยได้พูดเพราะกันอยู่แล้ว เจอแบบนี้ผมไปไม่ถูกเหมือนกันครับ





“เออ...กะเพราก็กะเพรา” ผมเบือนหน้าหนีมัน ไม่อยากมองหน้าอ้อนๆ ของมันตอนนี้ เดี๋ยวเผลอยิ้มขึ้นมาจะเสียฟอร์มเอา





“อ้าวพี่ มากินข้าวหรอ มานั่งด้วยกันสิ” มิกซ์ลุกขึ้นยืนเดินไปที่ประตูร้าน ผมหันมองตามหลังไอ้มิกซ์





‘ช้อป’





มิกซ์มันเดินไปคว้าแขนช้อปให้เดินตามมันมา ช้อปได้แต่ทำหน้าตกใจ แต่ก็เดินตามแรงฉุดของมิกซ์ ความรู้สึกประหม่าของผมตอนนี้ แม้กระทั่งมือไม้ก็ไม่รู้ว่าจะวางไว้ตรงไหนดี





ผมไม่รู้ว่าช้อปทำใจเรื่องของผมได้รึยัง และผมแน่ใจว่าช้อปเห็นสถานะของผมกับช้อปที่โชว์หลาอยู่หน้าเฟสบุ้คของเราทั้งคู่แน่ๆ มันจะยิ่งทำให้ช้อปเจ็บอีกหรือเปล่าที่ต้องมานั่งร่วมโต๊ะกับพวกผม





ผมละอยากโบกหัวไอ้มิกซ์มันสักทีสองที มันช่างไม่เข้าใจสถานการณ์บ้างเลย





เงียบครับ ผมนั่งนิ่ง เงียบไม่กล้าส่งเสียงคุยกับใคร มีเพียงมิกซ์ที่นั่งจอถามช้อปอยู่ ภาคมันคงเห็นอาการตอนนี้ของผม มันเพียงสอดมือเข้ามาจับมือผมไว้ใต้โต๊ะเท่านั้น





“ยินดีด้วยนะม่อน” ผมขมวดคิ้วมองหน้าช้อป เพราะอยู่ดีๆ ก็หันหน้ามาพูดกับผม สิ่งที่ช้อปพูดคงหมายถึงเรื่องที่ผมกับภาคคบกัน แต่ช้อปทำใจได้แล้วหรอ ช้อปทำใจได้แล้วจริงๆ ใช่ไหม ผมอยากจะเข้าข้างตัวเองแบบนั้นเพราะผมจะได้เพื่อนที่ดีแบบช้อปกลับมา





“กูขอบคุณมึงมากที่ค่อยดูแลม่อน กูรู้ว่ามึงก็รักม่อนไม่ต่างจากกู แต่ต่อจากนี้กูจะเป็นคนดูแลม่อนเอง คนอย่างมึงกูเชื่อว่ามีคนดีรอมึงอยู่อีกเยอะ” ไม่ใช่ผมที่พูด แต่เป็นภาคคนที่นั่งกุมมือผมอยู่ ผมอยากจะหันไปขอบคุณมัน เพราะมันพูดในสิ่งที่ผมอยากพูดแทนผมไปแล้ว





ผมมั่นใจว่าคนดีๆ อย่างช้อปต้องมีคนที่เหมาะสมและพร้อมเข้าใจช้อปอยู่อย่างแน่นอน





“มึงก็ดูแลม่อนดีๆ ถ้าทำม่อนเสียใจมึงเจอกูแน่” เป็นคำขู่ที่ทำให้ผมโล่งและยิ้มออก ถึงจะเป็นคำขู่ แต่ก็เป็นคำขู่ที่ออกมาพร้อมรอยยิ้มของช้อป





“ส่วนเรื่องของพี่ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวผมจะช่วยเป็นโค้ชให้เอง รับรองไม่มีทางแห้วอย่างแน่นอน”

มิกซ์มันยกมือขึ้นแตะไหล่ช้อปเบา เพื่อให้ความมั่นใจ แต่เดี๋ยวนะแล้วมึงเกี่ยวอะไรด้วยวะมิกซ์











“ยิ้มขนาดนี้คงสบายใจขึ้นแล้วนะ” มันยื่นมือมาลูบหัว ผมหันกลับไปยิ้มให้มัน มีความสุขมากเลยครับตอนนี้ได้ทั้งแฟน ได้ทั้งเพื่อนกลับมาด้วย





“มองอะไร” ผมมองค้อนมันไป ตอนนี้มันยืนจ้องผมไม่กะพริบตาเลยครับ





“ไหนละค่าตอบแทน”





“ตอบแทนอะไร”





“กูอุตส่าห์ช่วยพูดแทน มึงอย่ามาทำเป็นลืม” ผมทำเป็นเฉไฉเบือนหน้าหนีมัน





‘หนึ่ง สอง สาม’ ผมนับเลขในใจเตรียมพุ่งตัวหนีกระทิงเปลี่ยว ที่เหมือนตั้งท่าจะขวิดผม ‘ไป’ ผมสาวเท้าพุ่งตัวกะจะวิ่งหนีไปหลบมันที่ห้องนอน





“มึงคิดว่ากูจะไม่รู้ทันมึงหรอ” มันคว้าตัวผมเข้าไปกอด ผมละอยากเอานิ้วจิ้มตามันสักที มึงจะเจ้าเล่ห์อะไรขนาดนั้น





“มาให้กูฟัดซะดีๆ ฟอด” มันไล่กดจมูกซะทั่วหน้าผมเลย ซ้ำไปหมดแล้วครับหน้าผมตอนนี้





“ขอนะวันนี้” สิ้นเสียงมันก็โน้มตัวลงมาจูบปากผม เหมือนตอนนี้มันหิวมาก สอดลิ้นเข้ามาฉกลิ้นผม คว้านลิ้นของมันเองจนทั่วช่องปากผม



“ทำไรกัน”





ผมผลักตัวภาคออกทันที ก็จู่ๆ มีสาวสวยคนหนึ่งยืนจ้องผู้กับไอ้ภาค 



‘แบบนี้หมายความว่าไงวะภาค’

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
อะไรอีกกกกกกก

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
โอ้ยยยยยย ให้คบกันแบบราบรื่นไม่ได้เหรอจะมีประเด็นอะไรอี๊กกกก

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ใครอีกเนี่ย!!!!

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ใครอีกหว่า ..

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 20




#ต้องการเงินเท่าไร




“ทำไรกัน”



ผมผลักตัวภาคออกทันที จู่ๆ ก็มีสาวสวยกำลังยืนจ้องผมกับภาค ผมมองหน้าภาคพยายามจะถามว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ผมว่าคงไม่ใช่ผู้หญิงทั่วๆไปแน่ และคงสนิทกับมันมาก ถึงขนาดเข้ามาในห้องมันได้





ดูเหมือนว่าภาคมันจะไม่ได้ตกใจที่เห็นผู้หญิงคนนั้น กลับส่งยิ้มให้เธอเสียอีก หมายความว่ายังไงครับ แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใคร





“คนนี้หรอที่ที่บอกว่าคบกัน” เธอหันไปคุยกับภาค มันเพียงพยักหน้ารับเท่านั้น มึงไม่คิดจะพูดหรือทำอะไรเลยหรอวะ





“ต้องการเงินเท่าไร” เธอหันกลับมาพูดกับผม ‘เงิน’ หรอ เธอหมายความว่ายังไง





“เงินอะไร” ผมถามเธอเพราะไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร





“ก็ค่าจ้างให้เลิกกับภาคไง ต้องการเงินจากเขาไม่ใช่หรอ” เธอช่วยตอบสิ่งที่ผมข้องใจให้เรียบร้อย เธอคงคิดว่าที่ผมคบกับภาคเพราะเรื่องเงิน ผมดูเป็นคนอย่างนั้นหรอครับในสายตาคนอื่น ผมแปลกใจที่ภาคมันไม่ยอมทำอะไรเลย แม้กระทั่งขยับปากพูดมันยังไม่ทำเลย มันกลับปล่อยให้เธอยืนดูถูกผม





“ผมอาจจะดูเป็นคนเห็นแก่เงินในสายตาคุณ ผมแค่จะบอกให้รู้ไว้ว่าผมรักภาคมันจริงๆ" ผมบอกตามความรู้สึกผมไป




"ส่วนมึงถ้าไม่คิดจะปกป้องกู ก็อย่ามายุ่งกับกูอีก” ผมหันหลังเตรียมเดินไปเปิดประตูห้อง ไม่อยากยืนเฉยๆให้คนอื่นดูถูก และยิ่งต่อหน้าคนที่ผมรัก ที่มันไม่แม้แต่จะปกป้องผม กลับยืนมองผมถูกดูถูกเท่านั้น คงพอแค่นี้แหละครับสำหรับผมกับมัน พอกันที









“โอเค คนนี้พริมให้ผ่าน” เสียงเธอดังไล่หลังมา พร้อมกับแรงดูจากด้านหลัง แขนสองข้างรวบตัวผมไว้





“มึงจะไปไหน” มึงยังมีหน้ามาพูดกับกูอีกเหรอ





“มึงปล่อยกู ไม่ต้องมายุ่งกับกู”





“พริมมาขอโทษพี่ม่อนเดี๋ยวนี้ เรานี่ก็เล่นแรงเกินไป”





“พริมขอโทษนะคะพี่ม่อน” ผมหันกลับไปมองหน้าภาคสลับกับผู้หญิงคนนั้นที่กำลังยกมือไหว้ผมอยู่

















มันหมายความว่ายังไง แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่





“พอดีพริมเห็นสเตตัสของพี่ภาค เลยอยากทดสอบอะไรสักหน่อย พริมเป็นคนวางแผนทั้งหมดเอง พริมกลัวว่าจะเป็นเหมือนคนที่แล้วอีก ยิ่งพี่ม่อนเป็น...ผู้ชายด้วย พริมเลยไม่ค่อยมั่นใจ” จริงๆ แล้วผู้หญิงตรงหน้าเป็นน้องสาวแท้ๆ ของภาคมันครับ ตอนนั้นผมก็เอะใจอยู่เหมือนกันว่าทำไม่ภาคมันถึงไม่รู้สึกแปลกใจ





“พี่ก็บอกแล้วไงว่าม่อนไม่ได้เป็นแบบนั้น”





“แล้วใครจะไปรู้ละ ถ้าเป็นเหมือนกับผู้หญิงคนนั้นอีก พี่ไม่กินเหล้าจนเมาตายเลยเหรอ”





ดูเธอจะเป็นห่วงพี่ชายมาก ตอนนั้นภาคมันคงจะโดนหนักเอาการ ถึงขนาดน้องสาววางแผนเพื่อมาพิสูจน์ผมขนาดนี้





มองกูขนาดนี้ไม่กินกูลงไปเลยละ มันนั่งมองผมแล้วก็ยิ้มอยู่อย่างนั้น ไม่รู้จะยิ้มอะไรนักหนา ถ้าไม่ติดว่าอยู่ต่อหน้าน้องมันผมจะเขกหัวมันสักที









“เอ่อ...งั้นพริมกลับก่อนนะคะ เหมือนเมื่อกี้พริมจะมาขัดจังหวะ” พริมลุกขึ้นยืน ส่งยิ้มแบบเขินๆมาให้ผม





“พี่ไปส่ง” ผมอาสาทันทีเพราะขืนผมอยู่ในห้องนี้ต่อ ทุกคนคงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผม





มึงขยิบตาทำไม่วะภาค นั้นไงผมว่าแล้วครับ น้องพริมปฏิเสธผมทันที โดยให้เหตุผลว่ามีคนขับรถรออยู่ข้างล่างแล้ว ผมว่าไม่เกี่ยวกับเกี่ยวกับน้องพริมแล้วละครับ มันเกี่ยวกับไอ้คนหื่นตรงหน้าผม ที่วิญญาณกระทิงเปลี่ยวกลับเข้าร่างมันอีกครั้ง



ไม่อย่าเดินหนีพี่แบบนั้นน้องพริม ถึงจะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่กี่นาที ผมอยากจะลากเธอกลับมาทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้









“กึก” เสียงประตูปิดลงพร้อมกับเสียงเท้าของพริมค่อยเงียบลง













“งั้นเรามาต่อกันเลยดีกว่านะ”





“อื้อ” มันประกบปากกับผมอย่างรวดเร็ว อื้อ ทำไมมันหนักหน่วงกว่าครั้งที่ผ่านมา มันฉกเกี่ยวลิ้นผมเหมือนจะให้ติดกับลิ้นของมันออกมาด้วย





“โอ้ย” มันกัดที่ริมฝีปากผมทีหนึ่ง ก่อนถอนปากออก ผมได้แต่มองค้อนมันไปเท่านั้น





“ใครอยากให้มึงทำตัวน่ากินแบบนี้”





มันดันตัวผมให้ล้มลงนอนที่โซฟา มันคงไม่คิดจะทำอะไรผมตรงนี้จริงๆ ใช่ไหม มันโน้มตัวลงมาตามผม จมูกโด่งของมันเริ่มซุกไซร้บริเวณต้นคอ ผมถึงกับดิ้นพล่าน มือสองข้างประสานกันอยู่ที่ท้ายทอยของมัน





มันไม่ปล่อยให้มือของมันว่าง ค่อยบรรจงปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาผมออกที่ละเม็ด จนเผยให้เห็นเนินอกและหน้าท้องที่มีลอนกล้ามเล็กน้อย มันไล่เลียจากต้นคอผมลงมาที่หัวนมทั้งสองข้าง





“อื้อ...ภาค” เสียงครางที่ดังออกมาจากลำคอของผม เพียงลิ้นมันสัมผัสที่ยอดอกของผมเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้ร่างกายผมสั่นสะท้านมากเลยครับ





“โอ้ย...” มันกัดผมอีกแล้วครับ เปลี่ยนจากริมฝีปากเป็นที่หัวนมผมแทน จะบอกว่าเจ็บก็ใช่ แต่ทำไมผมรู้สึกดีกับที่มันทำแบบนี้กับผม สายตา ลมหายใจหื่นกระหายแบบนั้น มันช่างทำให้หัวใจผมเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ













“ว้าย....” ผมกับภาคหันหน้าไปทางต้นเสียงพร้อมๆ กัน น้องพริม เธอเปิดประตูเดินเข้ามาโดยที่ผมสองคนไม่รู้ตัว แก้มทั้งสองข้างของเธอตอนนี้แดงอย่างเห็นได้ชัด เป็นอาการเดียวกับผมตอนนี้ครับ



ทำไงดีครับต่อหน้าน้องสาวของมันด้วย





“พะ...พอดีพริมลืมมือถือค่ะ” เธอยกมือถือในมือขึ้นให้ดู แล้วก็วิ่งหันหลังออกจากห้องไปทันที





ผมหันมาสบตากับภาคอีกครั้ง มันเพียงส่ายหน้าเหมือนจะบอกว่าไม่เป็นอะไร









สงสัยจะไม่เป็นอะไรจริงๆ ครับ เพราะมือซนของมันเริ่มลูบไล้หน้าอก หน้าท้องจนมาหยุดที่หัวเข็มขัดผม มันทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มือทั้งสองข้างบรรจงปลดเข็มขัดผมออก จนตอนนี้ครึ่งล่างของผมเปลือยเปล่าเรียบร้อย 









มันกดหน้าซุกลงที่หน้าท้องของผม มือข้างหนึ่งเล่นกับน้องชายผม ที่ตอนนี้ชี้ตรงทิ่มหน้าอกมันอยู่





“อื้อ” มันแตะลิ้นที่ส่วนปลายของผม ก่อนไล้เลียส่วนปลายนั้นทั้งหมด มือทั้งสองข้างของผมจิกที่หัวของมัน เสียวครับ เสียวจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว









มันละความสนใจจากน้องชายผม กลับมาสนใจที่ปากผมแทน





“ม่อน” มันจับตัวผมให้ยืนขึ้น มันกลับล้มตัวลงไปนอนหงาย รูดน้องชายของมันให้ผงาดอย่างเต็มที่ มันชี้นิ้วไปที่ลิ้นชักใต้ทีวี





ภายในลิ้นชักเต็มไปด้วยถุงยางหลากหลายรถที่ถูกจัดเรียงไว้เป็นอย่างดี มันเอาเวลาไหนไปเตรียมของแบบนี้ ผมหันกลับไปมองมันที่ยิ้มแบบกวนๆ มาให้





“มึงชอบแบบไหนเลือกเลย แบบปุ่มก็มีนะ” พร้อมมากเลยครับ ยอมรับว่ามันเตรียมพร้อมมาก ผมควานหยิบมาซองถุงยางซองหนึ่ง แบบไม่ได้มองครับหยิบได้อันไหนก็เอาอันนั้น ก็ผมไม่ได้หื่นแบบมันนิครับ จะได้มาสนใจแม้กระทั่งชนิดของถุงยาง





ผมฉีกซองที่ถืออยู่ในมือ ภายในมีถุงยางสีชมพูอยู่ มันมาพร้อมกลิ่นสตอเบอร์รี่ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผมยื่นมือเตรียมที่จะครอบถุงยางให้น้องชายมัน มันจับมือห้ามผมไว้ก่อนที่จะชี้นิ้วมาที่ปากผม ไอ้สัสนี่ได้คืบจะเอาศอก ผมเตรียมจะเดินหนีมัน เหนื่อยใจกับมันจริงๆ มันลุกขึ้นมาคว้าแขนผมไว้ทำหน้าอ้อนแบบที่มันเคยทำ แล้วก็มักจะได้ผลเสมอ



ผมก้มลงไปครอบส่วนหัวของน้องชายมันที่มีถุงยางวางอยู่ ค่อยเลื่อนปากรูดถุงยางลงไปจนสุด เสียงมันซี๊ดปากครางออกมาเสียงดัง









“วันนี้ออนท๊อปนะ” ออนท๊อป? มันคงไม่ได้หมายความว่าให้ผมนั่งบนตัวมันหรอกมั้งครับ ผมพยายามคืดแบบนั้น แต่ดูจากสายตาของมันแล้วคงจะหมายความว่ามันจะให้ผมทำแบบนั้น คือการนั่งบนตัวมันนั่นเอง ผมยังไม่เคยออนท๊อปเลยสักครั้ง เพราะแค่ท่าเบสิกก็ทำผมดิ้นพล่านแล้ว





“เดี๋ยวกูช่วย”





มันคงเห็นว่าผมยืนนิ่งไม่ขยับตัว มันเลยลุกขึ้นมาช่วยอุ้มผมให้นั่งคร่อมบนตัวมัน





เอาวะเป็นไงเป็นกันอย่างน้อยก็ได้ทำให้มันมีความสุข





ผมขยับตัวให้ช่องทางด้านหลังตรงกับน้องชายมัน ค่อยๆทิ้งตัวลงนั่งบนตัวมัน





“อื้อ...” เสียงครางของผมกับมันประสานกัน ความเสียวซ่านเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แขนขาผมเหมือนจะหมดแรง เมื่อแก่นกายของมันเคลื่อนเข้ามาจนสุด จนมันรอวตัวผมเข้าไปกอด ร่างกายของเราทั้งคู่ประสานกับจนเหมือนเป็นร่างเดียวกัน









“ลองขยับดูนะม่อน” มันส่งเสียงกระซิบที่ข้างหูผม





“อื้อ...ม่อน...อ้า” มันร้องครางเสียงหลงเมื่อผมเริ่มขยับสะโพก





“ภาค...ยะ...อย่าเพิ่งสิ อื้อ” มันเลื่อนมือลงมาประคองที่บั้นท้ายผม ขยับตัวสวนขึ้นมารับจังหวะเด้งตัวของผม





มันซุกหน้าเข้ากับหน้าอก ลิ้นไล่วนทียอดอกผม ขบกัดมันอย่างหิวโหย





ถึงนี่จะเป็นครั้งแรกที่ผมออนท็อป มันอาจจะดูทุลักทุเลบ้างในบางจังหวะ แต่ผมไม่ปฏิเสธเลยว่ามันทำให้ความรู้สึกเสียวเพิ่มขึ้น อาจจะเป็นเพราะภาคมันค่อยช่วยและดูเหมือนว่ามันจะชำนาญเรื่องนี้เป็นอย่างมาก สงสัยคงผ่านเรื่องแบบนี้มาเยอะ





ผมไม่สนใจเรื่องที่ผ่านมาของมันหรอกครับ มันคงกลายเป็นเรื่องปกติของผู้ชายอย่างมัน ที่เรียนเสร็จแต่งตัวออกไปร้านเหล้า สุดท้ายก็หิ้วสาวขึ้นห้อง แต่ถ้ามันกล้านอกใจผมละก็ รับรองว่ามันได้เห็นฤทธิ์เดชที่แท้จริงของไอ้ม่อนคนนี้แน่







“พร้อมกันนะม่อน” มือข้างหนึ่งของมันเร่งจังหวะขยับขึ้นลงอยู่ที่น้องชายผม





“อ้า…” เสียงเราประสานกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นสัญญาณบอกว่าเราทั้งสองถึงจุดสุดยอดเรียบร้อยแล้ว





มันขยับตัวให้น้องชายมันหลุดจากตัวผม น้ำสีขาวขุ่นจากตัวผมเลอะไปทั่วหน้าอกและลำตัวของมัน





เราต่างคนต่างหายใจหอบ ผมมองตามันแบบเขินๆ ต่างกับมันที่ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ มันโน้มตัวมาจูบผมอีกครั้ง





ผมชอบความรู้สึกระหว่างผมกับมันตอนนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่เราได้แลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อกัน ผมไม่คาดหวังว่าอนาคตของเราจะสวยงามหรืออาจจะมืดมนขนาดไหน ขอเพียงมีมันอยู่ข้าง คอยเป็นกำลังใจให้กันและกัน แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับผม





“เรื่องน้องพริมไม่เป็นไรจริงใช่ไหม”





ผมนั่งกังวลอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น ไม่รู้ว่าน้องพริมจะคิดยังไง ผมไม่ได้กลัวเรื่องที่น้องรู้ว่าผมคบกับภาค แต่กลัวว่าน้องจะรังเกียจเรื่องที่น้องเข้ามาเจอผมกับภาคกำลังเมคเลิฟกันอยู่





แต่ภาคมันก็ดูไม่ได้เป็นกังวลอะไรกับเรื่องนี้ มันยังบอกอีกว่าว่างๆ จะพาไปกินข้าวกับน้องมันด้วย แล้วผมจะทำหน้ายังไงตอนเจอน้องพริมละครับ ผมก็อายเป็นเหมือนกัน แค่ตอนทำกับมันแค่สองคนผมยังอายมันเลย แต่นี่มีคนเข้ามาเห็นและก็ไม่ใช่ใครที่ไหน น้องสาวแท้ๆ ของแฟนผมอีก เฮ้ออออ ม่อนเครียด







วันนี้ผมขอภาคมันกลับมานอนหอตัวเองบ้าง มันก็ดูเหมือนจะไม่ยอมหรอกครับ มันบอกว่าอยากนอนกอดผม แต่ผมรู้ครับว่ามันคงไม่แค่นอนกอดผมแน่ๆ เพราะหลังจากที่ผมออนท็อปให้มัน มันก็ยังจัดผมต่ออีกสองรอบเต็มๆ ไม่รู้ว่ามันไปเอาแรงมาจากไหน ขืนผมอยู่ต่อได้สลบคาน้องมันแน่ๆ



“มึงไปไหนมามิกซ์”





เมื่อตอนเย็นมิกซ์มันโทรมาบอกว่าวันนี้จะกลับดึกเพราะมีธุระนิดหน่อย ผมกะว่าจะถามมันว่าธุระอะไรมันก็ตัดสายผมทิ้งทันที ผมอดสงสัยไม่ได้เพราะมันก็เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นานไม่น่าจะมีธุระอะไร วันๆ ก็เห็นมันตื่นนอนแล้วก็ออกไปทำงานเท่านั้น สักวันผมคงได้แอบตามไปดูมันครับ กลัวว่ามันจะไปทำอะไรไม่ดี ผมยิ่งไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วงด้วย





“กูก็บอกว่ากูไปทำธุระมา” มึงคิดว่ากูไม่เห็นพิรุธของมึงเหรอ มึงรู้จักพี่มึงน้อยไปมิกซ์ ผมยังไม่คาดคั้นมันตอนนี้หรอกครับปล่อยมันไปก่อน เอาไว้ให้จับได้คาหนังคาเขาก่อน











Part

ช้อป





“วันนี้ทำไมมาคนเดียวละครับ” เด็กผู้ชายหน้าตากวนเดินถือถาดอาหาร พร้อมกับมีผ้ากันเปื้อนที่เป็นยูนิฟอร์มของร้านเดินมาทักผม ไม่ใช่ใครหรอกครับก็น้องชายของคนที่ผมเคยแอบชอบ มิกซ์น้องชายม่อนนั่นแหละครับ



“แล้วต้องมากับใครด้วยหรอ” ผมหันไปตอบมัน ที่ยืนยิ้มเมื่อได้รับคำตอบจากผม



“เออ...ก็ใช่สินะ อย่างพี่คงหาคนมาเดทด้วยยากหน่อย” มันยกยิ้มเหมือนจะเย้ยผม ผมไม่ๆ ได้สนใจท่าที่น้องมันหรอกครับ ดูน้องมันจะมั่นใจในตัวเองสูง คราวที่แล้วก็บอกว่าจะสอนวิธีจีบให้กับผม ปล่อยน้องมันได้ใจไปก่อน



“ก็คงงั้นมั้ง”





“ผมก็บอกไปแล้วไงว่าให้ผมช่วยโค้ชให้รับรองไม่ผิดหวัง”





“งั้นก็ดีเลยคืนนี้ช่วยไปโค้ชให้พี่หน่อย” ผมเกี่ยวเหยื่อกับตะขอเบ็ด ปล่อยสายหย่อนลงไปในน้ำดูครับ





“ได้สิพี่ ได้เลย นัดมาเลย” นั้นไงครับ ปลาช่อนตัวโตติดกับผมเข้าแล้ว หึๆ งานนี้ได้เป็นโค้ชสมใจน้องมันแน่ครับ



ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
มิกซ์ไม่น่าจะรอด555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ขอบคุณที่ไม่ดราม่าใส่คู่หลักอีกให้เขาได้หวานกันบ้างสักนิดเถอะ ส่วนมิกซ์นั้นดูเสือยังไงให้เป็นกวาง โดนตะปบแน่

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
เอาล่ะสิ งานนี้ไม่รู้ใครจะเป็นเบ็ด ใครจะเป็นเหยื่อ

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 21





#ให้แล้วกูไม่คืนนะ





“สวัสดีค่ะพี่ม่อน” กระจกรถถูกลดลง เสียงใสดังออกมาจากข้างใน น้องพริมน้องสาวแสนสวยของภาคโผล่หน้าออกมาทักทาย





เธอส่งยิ้มมาให้ผม เหมือนกับว่าเรื่องเมื่อวานที่เธอเห็นมันไม่เคยเกิดขึ้น มีแต่ผมที่มุดหน้าไม่กล้าสบตามอง เขินก็เขิน อายก็อายครับ



ภาคเปิดประตูเดินลงมารับผม วันนี้เรามีนัดกัน เพราะมันบอกว่าน้องพริมอยากทำความรู้จักผมให้มากขึ้น





ตลอดทางน้องพริมชวนผมคุยอย่างไม่หยุดปาก คุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องผู้หญิงๆ หน่อย ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกครับ ได้แค่เออออตามเธอไปเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่ออะไรนะครับ เพราะพริมเป็นคนที่คุยสนุก และเรื่องที่พริมไม่ลืมที่จะหยิบยกมาคุย ก็เรื่องพี่ชายสุดหล่อกับความฮอทของมัน พริมบอกว่าเพื่อนๆพริมหลายๆคนปลื้มในความหล่อของภาคมัน บางคนถึงกับซื้อของมาติดสินบนพริมเพื่อที่จะได้รู้เรื่องเกี่ยวกับภาคมัน ยังไม่ลืมที่จะแฉความเจ้าชู้ของพี่ชายตัวเอง





ผมหันไปสบตาภาคตอนที่พริมกำลังแฉวีรกรรมของมัน มันพยายามเบี่ยงเบนประเด็น แต่ไม่ทันละครับ ควงสาววันเดียวสองคน พาสาวขึ้นคอนโดไม่ซ้ำหน้าอีก





ผมจ้องหน้ามันส่งยิ้มร้ายๆเป็นสัญญาณเตือนแบบกรายๆว่า ถ้ามีอีกมึงไม่รอดแน่ ดูมันจะกลัวผมจริงๆ ครับ หน้านี้งอเป็นปลาทูเลย









“ไหนบอกว่าอยากจะรู้จักพี่ม่อน ไหงกลับมาแฉพี่แบบนี้หละ” มันบ่นน้อยใจครับ ทำหน้าบูดเหมือนเด็กๆ มันคงคิดว่าทำแบบนี้จะได้ผลมั้งครับ ปัญญาอ่อนจริงๆ





“งั้นพริมถามได้ไหมคะว่าพี่รู้จักกันได้ไง” สิ้นประโยคผมกับภาคหันหน้ามามองกันทันที





จะตอบน้องพริมยังไงดีครับ จะให้บอกว่าผมไปขายตัวให้มันอย่างนี้เหรอ ผมนั่งนิ่ง คิดไม่ออกจริงว่าจะตอบยังไง จะให้โกหก ก็คงทำไม่ได้เพราะทั้งผมกับภาคต่างรู้แก่ใจดี และถ้าจะให้ภาคมันโกหกน้องสาวตัวเอง คงเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำสักเท่าไร





“พี่เคยขื่นใจม่อน” ผมหันหน้ามองตามเสียงนั้นทันที





ทำไมมันถึงพูดเรื่องนี้ละ ผมไม่เข้าใจมันว่าทำไมถึงต้องพูดเรื่องแบบนี้ต่อหน้าน้องสาวมันด้วย





พริมดูจะอึ้งไปสักพัก เปลี่ยนสีหน้าเป็นโหมดจริงจัง ใบหน้าพริมดูเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ความสดใสค่อยๆ เลื่อนหายไป ผมว่าสองพี่น้องนี่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือคิดจะเปลี่ยนอารมณ์ก็เปลี่ยนเอาดื้อๆ ทำเอาคนอย่างผมตามไม่ทัน แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ผมจะมาสนใจอาการไบโพล่าของสองพี่น้องนี้





จะเป็นยังไงต่อเหรอครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เดาความคิดของพริมตอนนี้ไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร





“พี่ภาคหมายความว่ายังไง พี่ภาคข่มขืนพี่ม่อนหรอ”



“น้อง...”

“พี่ภาคทำแบบนี้ทำไม พริมไม่เคยคิดว่าพี่จะไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย” ผมกำลังจะเอ่ยห้ามพริม แต่ไม่ทันแล้วครับ ดูเหมือนพริมจะโกรธภาคมันจริงๆ นี่ผมทำให้พี่น้องทะเลาะกันรึเปล่าครับ





“พี่รู้ว่าพี่ทำผิด ผิดมากด้วย ตอนนั้นพี่ไม่รู้จริงว่ากำลังชอบม่อน และพี่ก็ไม่รู้ว่าทำแบบนั้นทำไม รู้ตัวอีกที่ก็ทำร้ายม่อนไปแล้ว”





“ถึงพี่จะชอบยังไงพี่ก็ไม่ควรจะทำแบบนั้น” ผมเห็นด้วยกับประโยคนี้ของพริม มันทำให้ผมนึกย้อนถึงเรื่องวันนั้น 





“ที่ผ่านมาพี่ก็พยายามจะแก้ไขสิ่งที่พี่ทำผิดไป ถึงมันจะลบล้างสิ่งที่พี่ทำไม่ได้ แต่พี่ก็จะทำ เพราะพี่รู้แล้วว่าพี่รักม่อนจริงๆ”





“พี่ไม่โกรธภาคแล้วหละ ที่ผ่านมามันก็พิสูจน์ตัวเองให้พี่เห็นแล้ว และที่สำคัญพี่ก็รักภาคมันเหมือนกัน” ผมพูดแทรกขึ้นมา เพราะดูเหมือนพริมจะโกรธเรื่องนี้จริงๆ ถ้าผมไม่พูดอะไร พี่น้องคู่นี้คงทะเลาะกันแบบเอาเป็นเอาตายแน่





ผมเอื้อมมือไปกุมมือภาคไว้ มันคงกำลังคิดมากและคงรู้สึกผิดกับผมขึ้นมาอีก กูไม่ได้โกรธมึงแล้วจริงๆภาค





“พริมขอโทษพี่ม่อนด้วยนะคะ ส่วนพี่ภาค ถ้าทำให้พี่ม่อนเสียใจอีก พริมจะเป็นคนจัดการพี่เอง” พริมหันหน้ามาสำนึกผิดกับผม ที่ไม่ต่างจากสีหน้าหน้าของคนข้างผมตอนนี้









หลังจากผ่านสมรภูมิสายเลือด ตอนนี้เราทั้งสามคนก็มาถึงห้างดังกลางกรุงของเหล่าเด็กวัยรุ่น พริมเดินมาควงแขนผมทันที พริมคงยังโกรธภาคมันอยู่ เพราะดูเหมือนว่าพริมจะไม่ยอมให้ภาคมันเข้าใกล้ตัวผม เห็นแบบนี้แล้วก็อดสงสารภาคมันอยู่เหมือนกันครับ มันทำได้แค่ทำหน้าหง่อยเดินตามผมกับพริมเท่านั้น





มันพยายามส่งสายตาขอความช่วยเหลือมาที่ผม เฮ้อ พี่กับน้องงอนกัน แต่เป็นผมที่ต้องช่วยง้อ





ผมค่อยๆก้าวขาให้ช้าลง คอยให้มันเดินตามมาทัน ผมยื่นมือไปคว้ามือมันมาจับไว้ ดูมันจะดีใจมากๆ ยิ้มซะหน้าบานขนาดนั้น แต่น้องพริมก็ยังไม่วายส่งสายตาพิฆาตให้กับมัน เห็นแล้วผมก็อดขำไม่ได้จริงๆ





“พี่ม่อนอยากทานอะไรคะ” เราวางแผนกันไว้จะหาอะไรกินกันก่อนแล้วค่อยเดินซื้อของต่อ





ผมก็เหมือนเดิมครับ ถ้าถามผมว่าอยากกินอะไรก็คงไม่พ้นกะเพราเมนูประจำตัวผม





“มึงไม่ต้องบอกว่าผัดกะเพรา กูอุตส่าห์พามาห้าง หัดกินอย่างอื่นบ้าง” ภาคดูมันจะอ่านความคิดผมออก ผมทำได้แค่เพียงเม้มปากไม่พูดอะไร เพราะสิ่งที่อยากพูดโดนมันขัดไปเรียบร้อยแล้ว





ภาคมันสรุปแล้วว่าเราจะไปกินสเต๊กกัน ผมไม่ได้แย้งอะไรกับมัน เดินตามแรงจุงของมันไป โดยที่มีพริมเดินเกาะแขนผมตามมา





อาหารที่เราสั่งไปทยอยวางลงบนโต๊ะ ผมกับภาคสั่งสเต๊กเนื้อแบบ medium rare ไป ส่วนน้องพริม รายนี้เหมือนจะห่วงสวยมาก สั่งเพียงสลัดผักเท่านั้น ไม่แปลกใจเลยครับที่หุ่นพริมเป๊ะขนาดนี้









เรานั่งในร้านสเต๊กกันสักพัก น้องพริมก็ชวนออกไปเดินเล่น บอกว่าอยากช้อปปิ้งสักหน่อย ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ เพราะดูเหมือนภาคมันก็อยากตามใจน้องสาวมันเหมือนกัน คงเพราะอยากจะง้อเรื่องบนรถ





“ตัวนี้สวยไหมคะพี่ม่อน” พริมยกเดรสสั้นตัวหนึ่งทาบตัว หันมาถามผม ผมว่าคนสวยอย่างพริมใส่อะไรก็ดูสวยไปหมด คงไม่ต่างกับภาคมันแค่ใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น แค่เดินผ่าน สาวแท้สาวเทียมก็เหลียวหลังมองตาเป็นมันแล้วครับ





“น้องพริมใส่ตัวไหนก็สวยค่ะ” ผมตอบไปตามจริง ทำเอาพริมยิ้มหน้าบาน บิดตัวเขินไปมา ถ้าไม่ติดว่าผมคบกับพี่ชายเธออยู่ คงหลงเสน่ห์เผลอเข้าไปจีบเหมือนกัน





“แล้วพี่ภาคหายไปไหนคะ” ผมก็มัวแต่ช่วยพริมเลือกเสื้อผ้าจนลืมสังเกตว่าแฟนตัวเองหายไป นี่มันไม่คิดจะบอกผมสักคำเลย อยู่ๆ ก็หายตัวไป เฮ้อ





“พริมว่าเดี๋ยวพี่ภาคคงกลับมาเองแหละค่ะ พี่ม่อนมาช่วยพริมเลือกเสื้อผ้าต่อดีกว่า”





เราสองคนเดินออกจากร้านแรกเข้าไปร้านเสื้อผ้าแนวสตรีทที่อยู่ข้างๆ ร้านนี้เสื้อสวยดีคัรบมีแบบเรียบๆ ที่ผมชอบด้วย แต่ดูราคาแล้วผมคงซื้อไม่ไหวหรอกครับ แพงขนาดนั้น





“พี่ม่อนไม่อยากได้บ้างเหรอคะ”





“มันแพงพี่ซื้อไม่ไหวหรอก”





“อย่างนั้นพริมซื้อให้พี่ม่อนเองนะคะ ถือว่าเป็นของขวัญจากพริม”

ผมปฏิเสธพริมไปทันที ผมเข้าใจความหวังดีของพริมนะครับ แต่จะให้ไปรับของจากเธอผมคงไม่ทำ มันดูเหมือนว่าผมเห็นแก่ตัวเกินไป พริมดูจะเข้าใจความหมายที่ผมความหมายที่ผมบอก เธอส่งยิ้มมาให้ ก่อนแขวนเสื้อตัวนั้นกลับที่เดิมแล้วเดินเข้ามาควงแขนผม





พริมดูจะไม่ได้สนใจคนรอบข้างที่มองมา ผมเองก็พลอยสบายใจที่น้องพริมดูจะไม่รังเกียจผม แถมยังทำตัวสนิทกับผมเหมือนรู้จักกันมานานเสียอีก













“พริมๆ” เสียงเรียกจากด้านหลังเรียกให้เราทั้งสองหันกลับไปมอง





กลุ่มสาวสวยอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับพริม ยืนกวักมือร้องเรียกพริมอยู่





พริมดูจะดีใจที่ได้เห็นสาวๆ กลุ่มนั้น รีบคว้าแขนผมให้เดินไปที่สาวกลุ่มนั้นทันที





ดูเหมือนว่าสาวสวยกลุ่มนี้จะเป็นเพื่อนกับพริมเพราะดูจากการพูดและท่าทีที่ดูสนิทสนมกันมาก ช่วงเวลานี้ทำให้ผมอยากเฝดตัวออกมายืนรอข้างนอก เพราะดูจะไม่ค่อยเข้าใจกับบทสนทนาของพวกเธอสักเท่าไร





“เดี๋ยวนี้มีแฟนไม่บอกเพื่อนเลยนะ” สาวสวยในกลุ่มคนหนึ่งเปลี่ยนบทสนทนามาที่ผม





น้องพริมเพียงดึงตัวของผมเข้าไป กระชับกอดที่แขนผมแน่นขึ้น และดูเหมือนเธอจะไม่ปฏิเสธเรื่องทีเพื่อนเธอกำลังเข้าใจว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน





“เอ่อ..มะ” 





“ก็ว่าจะพาไปเปิดตัวแล้วแหละ แต่พวกแกมาเจอก่อน เป็นไงหล่อไหม” ผมกำลังจะพูดแก้แต่โดนพริมพูดขัดเสียก่อน พริมดูจะภูมิใจที่ได้ควงผมในฐานะแฟน แล้วการควงกับผมนี่มันน่าอวดด้วยหรอครับ ผมไม่เห็นจะมีอะไรโดดเด่นจากคนอื่น ก็แค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง แถมแต่งตัวบ้านๆ แบบนี้อีก ไม่เห็นจะน่าอวดตรงไหนเลยครับ





ผมก็คิดจะไม่ได้ขัดเรื่องที่พริมบอกว่าเราเป็นแฟนกันหรอกครับ และก็ดูไม่ได้ผิดอะไรด้วย ดูท่าว่าน้องพริมจะชอบเสียอีก ผมได้แต่ยืนยิ้มแห้งๆ ให้กับเพื่อนของพริมเท่านั้น





“ชื่ออะไรเหรอคะ”





“ไม่ต้องทำเสียงหวานขนาดนั้นก็ได้ปะ” ไม่ใช่เสียงผมครับ แต่เป็นเสียงของพริมที่เอ็ดเพื่อนตัวเองไป

ผมแอบขำกับท่าทีของสาวๆ กลุ่มนี้ ดูแล้วก็น่ารักดีครับ สดใสไปอีกแบบ





“พี่ชื่อม่อนครับ”





“ว้าย อยากเกรซลองล้วงกระเป๋าวิเศษพี่ม่อนดูจัง” ผมขมวดคิ้ว เธอหมายความว่ายังไง แล้วผมมีกระเป๋าวิเศษตั้งแต่เมื่อไร





“น้อยๆ หน่อยยายเกรซ ฉันยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน” เสียงหัวเราะดังขึ้นในกลุ่มพวกเรา









“ไหนเมื่อกี้ใครบอกจะล้วงกระเป๋าวิเศษแฟนพี่” ภาคมันเดินมาจากไหนไม่รู้ เข้ามารวบคอผมเข้าไปกอด





ดูสาวๆ จะตกใจที่เห็นภาคหรือตกใจที่รู้ว่าเราเป็นแฟนกัน มีเพียงพริมที่ยืนขำอยู่ข้างๆ





“เอ่อ...เมื่อกี้พี่ภาคพูดว่าอะไรคะ พี่ม่อนเป็นแฟนกับพริมไม่ใช่เหรอคะ” เธอดูจะยังงงๆอยู่ พูดไปมองหน้าผมสามคนสลับไปมา





“พี่ปล่อยให้อยู่กับม่อนแป๊บเดี๋ยว ไหงมาแย่งแฟนพี่ชายตัวเองได้ละ”





“พวกพี่เป็นแฟนกันจริงๆ เหรอคะ ยัยพริมแกกล้ามาหลอกพวกฉันได้ยังไง” ผมกับภาคได้แต่ยืนหัวเราะมองสาวๆ รุมทำโทษเพื่อนตัวเอง โทษฐานที่โกหก





“อย่างนั้นสาวสวยๆ แบบพวกเราก็อกหักกันนะสิคะ” พวกเธอแกล้งทำหน้าเศร้ามองที่ผมสองคน





“พี่ต้องขอโทษสาวๆ ทุกคนด้วย ใครมันจะอดใจไหวก็แฟนพี่น่ารักขนาดนี้” มันยื่นมือมาหยิกแก้มผมเบาๆ ผมนี้หันไปมองค้อนมันทันทีครับ มาหยิกแก้มผมทำอย่างกับผมเป็นสาวน้อยตัวเล็กๆ อย่างนั้นแหละ





สาวๆ ได้แต่ยื่นอมยิ้มมองหน้าเราสองคนแบบเขินๆ เท่านั้น





ไม่ใช่แค่น้องๆ ที่เขิน ผมก็เขินเหมือนกันครับ คิดได้ไงมาชมว่าผมน่ารัก เล่นชมต่อหน้าผู้หญิงอีก









“พี่ภาคไม่ต้องไปส่งพริมก็ได้ เดี๋ยวพริมกลับกับเพื่อนเองค่ะ” น้องพริมเดินแยกจากเราสองคนเดินไปอีกทาง





“รอกูด้วยสิ” มันวิ่งตามหลังมาคว้าแขนผมไว้ หลังจากที่แยกกันกับพริมผมก็เดินหนีมันทันที





“เป็นอะไรครับ” มันทำเสียงอ้อนๆ ผม





กูไม่คุยกับมึงหรอกอย่าหวังเลย









“ถ้ามึงไม่บอก งั้นกูก็ไม่ไปไหน” มันทิ้งตัวลงนั่งกอดอกกลางลานจอดรถ ดูความเอาแต่ใจของมัน





ผมทำเป็นไม่สนใจเดินตรงไปที่รถ





“ปี๊ดๆ ๆ ๆ” เสียงแตรดังไล่หลังผม อย่าบอกนะว่า ผมหันกลับวิ่งไปหามันทันที





“อยากตายหรอวะมานั่งขวางทางรถแบบนี้” ผมวิ่งไปคว้าแขนดึงมันให้ลุกขึ้นมา ผมทึ่งกับความเอาแต่ใจของมันจริงๆ





“มึงไม่บอกจริงหรอว่างอนกูเรื่องอะไร”





“มึงหยิกแก้มกู ชมว่ากูน่ารัก กูก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน มึงไม่คิดว่ากูจะอายน้องเขาบ้างเหรอ" ที่ผมงอนมันเพราะเรื่องนี้แหละครับ มันอาจจะดูเป็นเรื่องไร้สาระไปหน่อย แต่ผมก็เป็นผู้ชายเหมือนกันนี่ครับ





“ไม่ให้กูชมแฟนตัวเองจะให้กูไปชมใครละ ก็ได้ที่หลังกูไม่ชมมึงก็ได้” มันกอดอกเดินหนีไป นี่ตกลงว่าใครงอนใครกันแน่ ทำไมจู่ๆ เป็นผมที่รู้สึกว่าต้องง้อมัน เอากับมันสิครับ





มันยืนหันหลังให้ผม ไม่ยอมปลดล็อกประตูรถ ดูมันทำครับงอนเป็นตุ๊ดไปได้





“ตกลงกูใช่ไหมต้องเป็นคนง้อมึง” มันพยักหน้า แต่ไม่ยอมหันมามองหน้าผม





เฮ้อ นี่ผมต้องเป็นคนง้อมันจริงใช่ไหมเนี่ย





ผมเดินตรงไปหามัน สวมกอดมันจากทางด้านหลัง มันยังยื่นนิ่งไม่ขยับตัว





มันยังไม่หายงอนผมอีกเหรอ อุตส่าห์ง้อขนาดนี้แล้ว ผมเริ่มคิดมากแล้วครับ ปกติมันก็ไม่ได้งอนผมถึงขนาดที่ง้อแล้วยังไม่หายโกรธแบบนี้









มือของมันที่กำลังกอดอกอยู่ เลื่อนลงมาจับที่มือผม มันค่อยคลายมือของผมออก





“เก็บมันไว้ให้ดีนะ”





มันวางสิ่งของบางอย่างลงที่มือ ผมไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร





ผมดึงมือตัวเองกลับมาเพื่อจะดูว่ามันคืออะไร





“มึงไม่เก็บไว้เองหละ มันยากไม่ใช่หรอกว่ามึงจะได้มา” ผมก้มมองสิ่งที่วางอยู่ในมือ ‘เกียร์’ สิ่งที่นักศึกษาคณะวิศวะให้ความสำคัญกับมันมาก มันเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเป็นเด็กวิศวะอย่างเต็มตัว อย่างที่เคยบอกไว้ว่าผมไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมทั้งของทางมหาลัยหรือของคณะเองก็ตาม ผมยังแอบอิจฉาตอนที่เห็นนัทมันใส่ไว้ที่คอ 





แต่ตอนนี้ภาคมันกลับให้สิ่งที่สำคัญของมันมาให้ผม





“ใช่ กว่ากูจะได้มันมามันยากและมันสำคัญกับกูมาก กูถึงให้มึง คนที่สำคัญที่สุดของกูเก็บมันไว้” ที่มันหายไปตอนนั้นเพื่อไปหายสร้อยมาให้ผมนี่เอง สร้อยสีเงินที่ห้อยเกียร์ของมันอยู่





“ให้แล้วกูไม่คืนนะ” มันสวมสร้อยเข้าที่คอผม มือขึ้นมาประกบที่แก้มทั้งสองข้างของผม มันสบตากับผมพักหนึ่งก่อนก้มลงจูบที่หน้าผากผมเบาๆ





มึงก็สำคัญกับกูมากเหมือนกันภาค ‘เกียร์’ อันนี้ถึงมึงจะขอคืนกูก็ไม่มีวันจะคืนให้มึงหรอกนะ





เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญของคนที่กู ‘รัก’





ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หวานกรุบกริบ :hao5:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ให้ เกียร์ กันแล้ว

ออฟไลน์ TONYZZYUKI

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ตอนที่ 22



#ก็ลองดูสิ






“ฟอด”

แรงกดที่ไล่วนทั่วใบหน้า ปลุกให้ผมตื่น มันกวนผมตั้งแต่เช้าเลยครับ เฮ้อ ไม่รู้ว่ามันไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เมื่อคืนก็กว่าจะได้นอนก็ปาไปเกือบตีสอง ก็มันจัดหนักผมเหมือนอดอยากมาจากไหนไม่รู้ ทำเอาผมปวดเนื้อปวดตัวไปหมด นี้ขนาดคบกันได้ไม่นานยังโดนขนาดนี้ ถ้าเกิดอยู่ด้วยกันนานกว่านี้ผมไม่ตายก่อนเหรอครับ คิดแล้วก็สงสารตัวเอง





ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่ตื่นขึ้นมาเจอกับภาค เมื่อก่อนเกลียดมันจะเป็นจะตาย สุดท้ายกลับต้องมานอนนิ่งให้มันกอดมันฟัดอยู่แบบนี้





“พอได้แล้ว กูช้ำหมดแล้ว”





“ใครใช้ให้มึงน่ารักแบบนี้หละ” มันใช้มือบีบจมูกผมสายไปสายมา





“กูไม่ได้น่ารัก แต่มึงมันหื่น” ผมชกเข้าที่ท้องมันเบาๆ แต่ไอ้ตัวดีมันนี่โอเวอร์แอคติ้งมากเลยครับ ทำเป็นกุมท้องนอนตัวงอ





“ไปอาบน้ำ เดี๋ยวไปเรียนสาย”





“มึงน่ารักกับกูได้แค่คนเดียวเท่านั้นนะ ห้ามไปน่ารักให้ใครเห็น” จะต้องให้กูทำยังไงวะภาค เดินใส่แมสปิดปาก ใส่หมวก ใส่แว่นดำ หรือว่าต้องเอากล่องมาคลุมหัวเลยไหม มึงนี่นะ











“มีคนฝากมาให้มึงวะม่อน” ทันทีที่ผมเดินมาถึงโต๊ะที่เพื่อนนั่งอยู่ นัทมันก็ยื่นกล่องของขวัญสีดำให้ที ผมทิ้งตัวลงนั่งพร้อมๆ กับภาค รับกล่องในมือนัทมา





ผมหันไปขมวดคิ้วมองหน้าภาค มันสายหน้าเป็นสัญลักษณ์ว่ากล่องของขวัญนี้ไม่ใช่ของมัน





ตอนแรกผมคิดว่าคงเป็นของขวัญของภาคมัน ยิ่งมันเป็นคนชอบเล่นแปลกๆอยู่ด้วย มันอาจจะเซอร์ไพร์ผมได้ทุกเมื่อ แต่ดูจากสีหน้าของมันแล้ว ผมว่าคงไม่ใช่ของมันแน่นอนครับ แล้วมันเป็นของใคร ทำไมถึงส่งมาให้ผมด้วย





ผมค่อยแกะกระดาษชั้นนอกออก ภายในมีกล่องสี่เหลี่ยมสี่เลือดหมูซ่อนอยู่ ผมค่อยดึงสลักที่ปิดกล่องนั้นไว้ท่ามกลางสายตาเหล่าเพื่อนที่ดูลุ้นไม่ต่างจากผม





“เดี๋ยวกูแกะให้เอง” ภาคมันแย่งกล่องของขวัญนั้นไปจากมือผม





“ถ้ามีใครส่งมาจีบมึงกูจะได้เอาไปทิ้ง”





“จะเปิดก็รีบเปิด เราอยากรู้จะแย่แล้วภาค” สกิลความอยากรู้อยากเห็น หรืออาจใช้คำว่าเสือกกับมีนมันก็ได้ครับ มันเร่งเร้าให้ภาคเปิดกล่อง





“ว้าย...” เสียงมีนกับเฟิร์นกรี๊ดลั่นโรงอาหาร





ภาคมันพยายามดึงกล่องให้พ้นสายตาผม แต่คงไม่ทันครับ ผมเห็นเต็มสองตาครับว่าของที่อยู่ข้างในคืออะไร





“ใครมันส่งของแบบนี้มา” ภาคมันกลับมาหลังจากที่เดินเอากล่องนั้นไปทิ้งถังขยะ หน้ามันดูโกรธจัดมากเลยครับ





ไม่ใช่แค่มันที่โกรธครับผมก็เหมือนกันครับ ทั้งโกรธทั้งตกใจ ก็ไม่คิดว่าทุกวันนี้ยังมีการส่งซากหนูตายให้คนอื่นด้วย





ผมเคยเห็นแค่ในละครน้ำเน่าเท่านั้น ที่นางร้ายส่งของแบบนี้มาขู่นางเอก ไม่คิดว่าจะมาโดนกับตัวเอง





คงมีคนเกลียดผมมากจริงๆ แต่ผมพยายามนึกแล้วนึกอีกว่าผมเคยไปทำให้ใครไม่พอใจไหม แต่ก็นึกไม่ออก แล้วใครละที่เกลียดผมได้ขนาดนี้



“เอ่อ...เราก็ไม่ได้จะว่าอะไรนะ แต่เราคิดว่ามันน่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่ม่อนคบกับภาค” มีนให้ความเห็น ผมพยายามคิดว่ามันคงไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่พอมองดูคนรอบข้างแล้วมันทำให้อดคิดเรื่องนี้ไม่ได้





“ปัง” ทั้งโต๊ะสะดุ้งเฮือก ดูภาคมันจะโกรธมากๆ มันกำมือแน่นทุบลงที่โต๊ะอย่างแรง





เงามืดที่ผมไม่ได้เห็นมานานกลับมาปกคลุมอีกครั้ง ออร่าความโกรธที่กำลังปะทุตอนนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อนทั้งโต๊ะที่นั่งเงียบ ผมเองก็ไม่ต่างกัน





ผมปล่อยให้มันโกรธแบบนี้ไม่ดีแน่ๆ ครับ ผมไม่รู้ว่ามันจะทำอะไร ถึงผมจะพอเดาได้ว่ามันคิดจะทำอะไร แต่คนอย่างภาคมันทำได้มากกว่าที่ผมคิดแน่ๆ





ก่อนที่มันจะเลยเถิดจนหยุดมันไม่ได้ ผมเอื้อมมือไปกุมมือข้างที่ทุบลงบนโต๊ะเมื่อกี้ สัมผัสที่ผมส่งไปเพียงอยากให้มันใจเย็นลงเท่านั้น





มันก้มหน้าลงมามองที่ผม มันทำท่าทางตกใจ ดูเหมือนมันจะโกรธจนลืมตัว





“กูโอเค มึงไม่ต้องคิดมากหรอก” ผมพยายามทำตัวเหมือนว่าไม่เป็นอะไร ทั้งๆ ที่ในใจก็แอบคิดว่าคนที่ส่งกล่องของขวัญนั้นมาเพื่ออะไร แต่ตอนนี้ขอแค่ทำให้ภาคมันใจเย็นลงก่อนเท่านั้น











เย็นวันนี้ภาคขับรถมาส่งผมที่ร้าน แต่แปลกครับ ตั้งแต่ตอนเที่ยงนั้นแล้ว มันเงียบไม่ค่อยพูดกับผมเท่าไร มันนั่งนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว





“ภาค....ภาคๆ ๆ ๆ” ดูมันจะเหม่อมากครับ ผมเรียกมันตั้งหลายครั้ง มันก็ยังนั่งนิ่ง มองตรงไปที่ถนนเท่านั้น





“อืม มีอะไร” มันหันหน้ามายิ้มให้ผม เป็นยิ้มที่ต่างออกไปจากที่มันเคยยิ้มให้ก็ผม ผมรู้ว่ามันเป็นเพียงยิ้มที่ออกมาเพื่อปกปิดอารมณ์ของมันเท่านั้น





“ก็บอกว่าไม่ต้องคิดมากไง วันนี้พวกนัทมันชวนไปกินเหล้า มึงไปกับกูนะ จะได้ไปคลายเครียดด้วย” มันพยักหน้าและยังคงส่งยิ้มแบบเดิมมา





ผมว่าผมไม่เครียดเรื่องซากหนูตัวนั้นแล้ว แต่ตอนนี้เครียดที่เห็นภาคมันดูคิดมากกับเรื่องนั้นอยู่ ผมจะทำยังไงดีครับ ไม่อยากเห็นมันเป็นแบบนี้ ผมกลัวมันจะทำอะไรที่คาดไม่ถึง





มันเดินลงมาส่งผมที่หน้าร้าน วันนี้มันไม่อยู่เฝ้าผมครับ ส่งเสร็จก็เดินขึ้นรถขับออกไปเลย มันบอกว่ามันมีธุระนิดหน่อย เดี๋ยวกลับมารับตอนผมเลิกงาน





“มึงเหม่อไรม่อน” มิกซ์เดินมาสะกิดผม





ผมไม่ตอบแต่ทำหน้ากวนตีนใส่มันแทน





“แล้วทำไมวันนี้พี่ภาคไม่มานั่งเฝ้ามึงอีก กูเห็นทุกวันแทบจะสิงกันอยู่แล้ว” กูก็เครียดเรื่องนี้แหละมิกซ์





ผมยอมให้ภาคมันมาเฝ้า เฝ้าจนจะสิงตัวผมแบบที่ไอ้มิกซ์มันพูด ดีกว่าที่มันจะห่างผมไปในตอนนี้ ทำไมมึงต้องทำให้กูเครียดแบบนี้ด้วยวะเนี่ย









ผมกับมิกซ์ช่วยกันเก็บโต๊ะ ทำความสะอาดร้านรอภาคมารับ แปลกครับที่มันมารับผมกับมิกซ์ด้วยด้วยสีหน้าที่ดูปกติ ไม่เหมือนตอนที่มันมาส่งผม ดูเหมือนอารมณ์โกรธของมันหายไปแล้ว ผมดีใจที่เห็นมันกลับมาโดยที่ไม่เป็นอะไรและหวังว่าจะไม่มีใครเป็นอะไรด้วย ผมเป็นห่วงว่ามันจะทำอะไรโดยไม่คิด ถ้ามันเจ็บตัวเพราะเรื่องหนูตัวนั้นขึ้นมาผมคงโทษตัวเองแน่ๆ





“มึงแต่งตัวจะไปไหนเหรอมิกซ์” ผมละความสนใจจากภาค หันมาถามมิกซ์ที่กำลังเปลี่ยนชุด แต่งเนื้อแต่งตัวซะหล่อ





“กูก็จะไปเที่ยวไง”





“เที่ยว? ใครบอกว่ากูจะให้มึงไปด้วย อายุมึงยังไม่ถึง”





“ใครบอกกูจะไปกับมึง กูจะไปกับพี่ช้อป แล้วเรื่องอายุมึงลืมไปเหรอ มึงก็เพิ่ง 19 เองไม่ใช่เหรอ” ผมก็ลืมไปเลยครับว่าผมก็อายุยังไม่ถึงยี่สิบ แต่ผมก็ไม่ได้เที่ยวบ่อยอะไร นานๆ ครั้งเท่านั้น แอบเนียนเดินตามรุ่นพี่เข้าไป





แต่เมื่อกี้มันบอกว่ามันจะไปกับใครนะ ‘ช้อปเหรอ?’ แล้วสองคนนี้ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไร ถึงขั้นนัดกันไปเที่ยวได้แบบนี้





มิกซ์เดินตามผมมาที่รถ มุดตัวเข้าไปนั่งเบาะด้านหลังข้างๆ นัท ผมพยายามห้ามมันแล้วครับ แต่เถียงสู้มันไม่ได้ ก็มันอ้างว่าผมยังไปได้ แล้วทำไมมันจะไปไม่ได้ ยอมมันครับ เถียงยังไงผมก็แพ้อยู่ดี ผมไม่มั่นใจแล้วว่าผมกับมันใครเป็นพี่ใครเป็นน้องกันแน่









“เอ้าวันนี้ใครไม่เมาถือว่าหมานะ” นัทชูแก้วขึ้น พร้อมประกาศเกล้า





มันพูดถึงขนาดนี้ใครมันจะไปยอมได้ละครับ เมาไม่กลัว กลัวเป็นหมามากกว่าครับ ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่ไม่ยอมครับเพื่อนทุกคนต่างส่งเสียง ยกแก้วขึ้นชู เสียงแก้วกระทบกันเสียงดัง พร้อมแล้วลุยครับ





“ห้ามแดก” ไม่ได้มาแค่เสียงครับ แต่มีมือหนาคว้าแก้วเหล้าจากมือผมไป





มันไม่ได้แย่งไปเฉยๆ ยกแก้วเหล้าแก้วนั้นขึ้นกระดกจนหมดแก้ว คนที่แย่งแก้วเหล้าอันหอมหวานนั้นไปจากผมคือไอ้ภาคครับ มันยืนตาเขียวคุมผมอยู่ข้างๆ





ผมหันไปค้อนมันทันที มันกล้าดียังไง ถึงมาแย่งแก้วเหล้าของผมอย่างนี้





“สัส เอาเหล้ากูคืนมา” ผมพยายามแย่งแก้วคืนจากมัน





เอามาสิวะภาค





“อึกๆ ๆ” ทำไมผมต้องแย่งแก้วที่ไม่มีเหล้าเหลืออยู่สักหยดจากมัน ทั้งๆ ที่ยังมีแก้วของมันวางอยู่ มีเหล้าอยู่เต็มแก้วซะด้วย





ผมก้มลงมาหยิบแก้วเหล้านั้นกระดกเข้าปากทันที





“อ้า…” เหล้าอันร้อนแรงไหลตามลำคอ ค่อยๆ ซึมเข้ากระแสเลือดผมทีละน้อย





ผมยักคิ้วทำหน้ากวนตีนใส่มัน จะเล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับม่อน





“นัทขอเข้มๆ อีกแก้ว” ผมยื่นแก้วในมือส่งให้นัท ทีีกำลังทำหน้าที่เป็นบาร์เทนเดอร์ประจำกลุ่ม





อื้อฮือ เหล้าสีเข้มวางลงตรงหน้าผมอีกแก้ว





กลิ่นมะนาวกับความเค็มที่ติดอยู่ปลายลิ้นก่อนหน้ายังไม่ทันจาง ผมยกแก้วเหล้าแก้วที่สองขึ้นมาจิ้มนิ้วลงที่ก้อนน้ำแข็ง กวนมันให้เข้ากัน





ก่อนจะยกดื่ม ผมยังหันหน้าไปยิ้มเยาะภาคที่กำลังยืนกอดอกจ้องผมอยู่





“อยากแดก แดกไป แต่กูไม่ขอรับประกันความปลอดภัยของร่างกายมึงนะ” มือผมหยุดกึก สะดุ้งตัวเล็กน้อย เพราะมันไม่ได้แค่พูดเฉยๆ มือข้างหนึ่งที่ไม่รู้ว่ามันเลื้อยมาตั้งแต่เมื่อไร บีบเข้าที่ก้นผมอย่างจัง





หน้ามันดูจริงจังมากครับ ผมว่าผมไม่ควรเห็นแก่เหล้าที่อยู่ตรงหน้า ควรกลับมาห่วงความปลอดภัยของตัวเองดีกว่า











จากที่มันเป็นห่วงว่าผมจะเมา แต่ผมว่าตอนนี้มันมากกว่าที่น่าเป็นห่วง จากที่มันห้ามไม่ให้ผมดื่มเหล้า เหล่าเพื่อนผมโดยเฉพาะนัทที่นั่งเป็นบาร์เทนเดอร์มือฉมังอยู่ ดูพวกมันจะไม่ยอมปล่อยให้ผมหลุดมือ พยายามชงเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าส่งมาให้ผม เหล้าที่ส่งมาไม่ใช่ผมที่ดื่มหรอกครับ แต่เป็นภาคมันที่คอยแย่งเหล้าตรงหน้าไปดื่มแทนทุกครั้ง





ดูมันจะเมาจนได้ที่แล้วครับ สองมือมันเริ่มปีนป่ายบนตัวผม คางที่วางเกยอยู่บนไหลผม เป็นไงหละมัวแต่ห้ามกู ไม่ดูตัวเองบ้างเลย





“มึงเอามือออกไปเดี๋ยวนี้” มือปลาหมึกของมันเริ่มคืบคลานไปทั่วตัวโดยเฉพาะบริเวณสะโพก มันทั้งบีบทั้งเค้น ผมเริ่มสงสัยแล้วครับว่ามันเมาจริงหรือแกล้งเมากันแน่





แต่มันเมาแบบนี้ ผมว่าได้โอกาสที่จะเอาคืนมันบ้างแล้วหละครับ





“เตรียมตัวเตรียมใจไว้นะมึง” ผมก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของมัน











Part

ภาค



หลังจากที่ผมเปิดกล่องของขวัญที่ถูกส่งมาให้ม่อน ตอนแรกแรกผมคิดว่าคงมีผู้ชายส่งมาจีบมันแน่ๆ ผมเลยแย่งของขวัญจากมันมาเปิดเอง เผื่อว่าจะเป็นอย่างที่ผมคิดจะได้เอาไปโยนที่ถังขยะ





แต่มันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด ผมข้างในเป็นซากหนูถูกกรีดที่ลำคอ เลือดอาบท่วมตัว ผมรีบปิดกล่องนั้นแล้วเอามันไปทิ้งทันที กะว่าจะไม่ให้ม่อนมันเห็น แต่ก็คงไม่ทันครับ เหมือนว่าม่อนรวมถึงทุกคนบนโต๊ะเห็นกันหมดแล้ว





ผมโมโหมากครับ เผลอทุบโต๊ะอย่างแรงจนม่อนมันสะดุ้งตกใจ มันพยายามบอกผมว่าไม่เป็นไร แต่สำหรับผมแล้วผมไม่ปล่อยให้คนที่มันทำแบบนี้กับแฟนผม ลอยนวลไปง่ายๆ แน่









ผมขับรถไปส่งม่อนที่ร้านเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ผมบอกกับม่อนว่ามีธุระจะไปทำ ผมพยายามเก็บอารมณ์โกรธไว้ ไม่อยากให้มันคิดมาก แต่ก็คงปิดไว้ไม่ได้สักเท่าไรเพราะม่อนมันก็คงดูออกเหมือนกัน





“เรื่องที่กูให้ไปสืบเป็นไงบ้าง” เมื่อตอนเที่ยงผมแอบหลบม่อนมันออกมา โทรสั่งให้เพื่อนผมช่วยสืบให้ว่าใครเป็นคนส่งกล่องใบนั้นมา



“เอ่อ...มึงใจเย็นๆ นะ คือคนที่ส่งกล่องใบนั้นคือ...”

ผมตัดสายมันทิ้งทันที ขว้างโทรศัพท์ลงกับเบาะรถ





ผมกดเท้าเหยียบคันเร่งจนแทบมิด ไม่สนใจอะไรแล้วครับ รู้แค่ว่าต้องจัดการกับคนที่มันทำกับม่อนเท่านั้น





“ภาค”

ประตูห้องถูกเปิดออก พร้อมกับใบหน้าที่ดูตกใจของสาวสวย





“เราของคุยด้วยหน่อยสิ” ผมเดินเบียดตัวเข้าไปในห้อง ห้องที่ผมเคยคุ้นตา ‘มิ้น’ ใช่ครับมันคือห้องของแฟนเก่าผมเอง





“มาหาเราทำไมไม่บอกก่อน” เธอปิดประตูเดินตามหลังผมมา





มือเรียวสอดเข้าที่เอวผม ผมหันตัวกลับยืนจ้องหน้าเธออยู่อย่างนั้น





“ภาคคงเบื่อมันแล้วสินะ มิ้นก็เคยบอกแล้วไงว่าภาคแค่อยากลองแก้เบื่อเท่านั้น” มือข้างหนึ่งของเธอยกขึ้นมาคล้องที่คอผม มืออีกข้างไล่เกลี่ยที่หน้าอก ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงอุ้มเธอเข้าห้องแล้วไปจบกันที่เตียง





แต่มันไม่ใช่สำหรับครั้งนี้ ที่ผมรู้ว่าเธอเป็นคนส่งซากหนูตัวนั้นไปให้ม่อน





ผมรวบข้อมือของเธอที่กำไล่วนที่หน้าอกผม





“เลิกยุ่งกับม่อนซะ”





“ภาคพูดอะไร” เธอทำหน้าไขสือเหมือนไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้น





“ถ้ายังทำอีกอย่าหาว่าเราไม่เตือนนะ” ผมปล่อยมือเธอ เดินหันหลังกลับ





ผมยอมรับครับว่าโกรธมาก ยิ่งรู้ว่ามิ้นเป็นคนทำยิ่งทำให้ผมรู้สึกโกรธ ผมไม่คิดจะทำอะไรเธอหรอกครับ เพราะสาเหตุทั้งหมดมาจากผม แค่อยากจะมาเตือนเธอเท่านั้น





“คิดว่าพูดแค่นี้มิ้นจะยอมง่ายๆ เหรอ” เธอยืนกอดอกแสยะยิ้มเล็กน้อย ตั้งแต่ตอนคบกันนี้เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเธอยิ้มแบบนี้ ยิ้มแบบนางร้ายในละครหลังข่าว





ผมเดินกลับไปคว้าที่ข้อมือของเธอ ผมไม่รู้ว่าผมใช้แรงไปเท่าไร แต่เห็นจากสีหน้าเจ็บปวดของเธอตอนนี้ ผมคงเผลอใช้แรงมากเกินไป





ผมยอมรับครับว่าตอนนั้นควบคุมตัวเองไม่ได้ ยิ่งเธอบอกว่าไม่ยอมหยุดด้วยแล้ว ความอดทนทั้งหมดที่ผมมีก็เหมือนจะหมดลงเช่นเดียวกัน





“ก็ลองดูสิ ถ้าใครกล้าทำม่อนเจ็บ มันต้องเจ็บมากว่าม่อน สิบเท่า ร้อยเท่าหรือมันคนนั้นอาจจะไม่ได้ใช้ลมหายใจบนโลกนี้อีก"



ผมไม่ยอมปล่อยให้เธอทำอะไรม่อนอย่างแน่นอน แม้แต่คิดผมก็ไม่ยอมแน่ ผมไม่ยอมปล่อยให้ม่อนเจ็บเพราะผมอีกแล้ว






ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
หวานนนน

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
เอาไงต่อภาคคค

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ต้องโดนลงโทษ ..

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด