" พิชิตภู " : Chapter 18 --- [ 17.04.2019 ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: " พิชิตภู " : Chapter 18 --- [ 17.04.2019 ]  (อ่าน 75613 ครั้ง)

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #180 เมื่อ28-08-2018 23:40:08 »

ยังไงจ๊ะพี่อิฐ!!!!

ออฟไลน์ mrsnikiforov

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #181 เมื่อ29-08-2018 07:31:50 »

ผีเห็นผี 55 พี่อิฐก็มาพูดให้ความหวังหนูพุก พี่ไม่รู้ว่าของหนูพุกนี่เป็นไปได้ยากแค่ไหน  :o12:

อ่านแล้วชักจะอยากรู้ว่าพี่อิฐมีใคร  :hao3: แต่ที่แน่ๆ พี่ชายพี่ภูนี่น่าจะมีซัมติงกับพี่เลี้ยงชัวร์  :hao7:

แอบเห็นด้วยกับเม้นก่อนหน้า อยากให้มีเรื่องแยก  :oo1: (ไรท์ร้องไห้แย้ว 55 )

ปอลอ อ่านแล้วอยากเก็บกระเป๋าไปไร่ชาเลยค่ะ อยากอิ่มวิว

ออฟไลน์ mrsnikiforov

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #182 เมื่อ29-08-2018 07:37:27 »

พี่ภูกับแฟน ไม่ราบรื่นจริง ๆ ด้วย ว่าแล้วเชียวมันต้องมีอะไร
แต่อ่านตอนนี้แล้วเห็นใจคุณแพรนะ ถ้าคุณแพรขอเลิกกับพี่ภู ก็ไม่แปลกใจเลย เฮ้อ

แต่ตอนนี้แอบสนใจ คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวพี่ชายพี่ภูกับคุณพี่เลี้ยงคนสำคัญมากเลย > <
อยากให้เป็นเรื่องแยกอีกเรื่องเลยด้วยซ้ำ ชอบเรื่องแบบมีเด็กน้อยน่ารัก
ว่าแต่พี่เลี้ยงนี่ ผู้ชายไหมนะ 555

+1  :hao6: สนับสนุนให้ไรท์งอกเรื่องนี้ค่า
ชอบเรื่องที่มีเด็กน้อยน่ารักเหมือนกัน แล้วในเรื่องหลานวินของพี่ภูก็น่ารักมาก  :hao5:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #183 เมื่อ29-08-2018 09:46:55 »

หนูพุก ฝ่าดงปืน เกือบจะกลายเป็นเรืองไล่ล่าล้างเผ่าพันธุ์ซะแล้ว อิอิอิ ขอแบบแหววๆ เหมือนเดิมนะ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #184 เมื่อ29-08-2018 10:38:32 »

อู๊ว มีหนีลูกปืนด้วย

หนูพุกสู้ๆ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #185 เมื่อ29-08-2018 12:32:56 »

พี่ภูในมุ่มที่ไม่น่ารัก
 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ Panizzz3838

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #186 เมื่อ30-08-2018 12:17:04 »

 :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #187 เมื่อ30-08-2018 16:53:27 »

สงสารคุณ​แพร​อยู่​เหมือนกัน​นะ​

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #188 เมื่อ30-08-2018 17:29:08 »

 :katai4: เป็นนิยายที่ต้องค่อย ๆ เลื่อนลงมาช้า ๆ กลัวจบตอน

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #189 เมื่อ30-08-2018 21:22:14 »

เราเอาพี่อิฐเป็นพระเอกได้ไหมคะ พิชิตดอยอะไรก็ว่าไป แง  :hao5: สตั๊นตรงพี่ภูมีแฟน หน้าชาและเหม่อมองฟ้า  :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
« ตอบ #189 เมื่อ: 30-08-2018 21:22:14 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ แพรพลอย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #190 เมื่อ31-08-2018 16:31:20 »

โดดลงเรือคุณอิฐได้มั้ยคะ.... -////-

ชอบคนหล่อมาพร้อมกระสุน 55555

แอบเสียดายคุณอิฐมีคนในใจไปแล้ว

ที่เหลือก็เอาใจช่วยหนูพุกไปก่อนแล้วกัน

ออฟไลน์ cookie8009

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #191 เมื่อ31-08-2018 22:05:01 »

ตอนนี้ ภู ผิดในฐานะคนรักมาก

จะเชื่อใจ ไว้ใจอะไรก็เหอะ
1) คือ ภูเองก็ละเลย ไม่ช่วยเหลือ ถึงแม้จะมีงานเข้า ก็ไม่ใช่ข้ออ้าง เพราะภูก็รับปากพี่ชายว่าจะช่วยดูด้วย  ... ถ้าเป็นในเวลางานก็ว่าไปอย่าง
2) คือ แพรไม่ได้มีเจตนาเลย ควรช่วยเหลือ และอย่าโทษกัน

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #192 เมื่อ01-09-2018 13:03:18 »

อ้าวพี่ภูดูเหมือนจะมีปัญหากับแฟนสาวนะคะ​ ยังไงๆ
จ๋งจ๋านหนูพุก​อ่ะ​ อย่าเศร้านานตัดใจหาคนใหม่เลยหนู

ออฟไลน์ tomnub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #193 เมื่อ01-09-2018 18:48:23 »

รอๆๆๆๆครับ

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #194 เมื่อ01-09-2018 20:21:35 »

ไม่อยากให้พี่ภูเลิกกับคุณแพรเลย ถ้าเลิกกันเพราะเหตุผลที่ให้น้องวินทร์กินลูกอมยิ่งไม่ใช่เลย แพรเองก็ผิดที่ไม่ได้ดูบอร์ดแต่ตัวพี่ภูเองก็เป็นอารับปากว่าจะดูแล แต่กลับไปทำงาน ถ้าจะผิดก็ผิดทั้งคู่ ง่ายๆคือควรเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น พิชิตอิฐ พิชิตปูน ค่ะ555555555555

ออฟไลน์ Miss Midnight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
" พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
«ตอบ #195 เมื่อ02-09-2018 05:59:19 »

Chapter 14





“ไหนของฝากจากเชียงใหม่ครับ”


เต้ยเหลือบตามองบนอย่างไม่รักษาอาการเมื่อสารถีจำเป็นอุตส่าห์ขับรถมารับถึงสนามบิน ดีว่ายังไม่มีใครมาเจอ ไม่อย่างนั้นจะได้โดนซักฟอกได้อีกว่าเหตุใดกันสถาปนิกหนุ่มจึงดูสนิทชิดเชื้อกับนายทุนผู้กว้างขวางนัก


“แคบหมูอยู่ในถุง กินให้มันจุกอกไปเลย”


“ขอบคุณครับ” ราชนิกูลหนุ่มยกยิ้มอย่างไม่แยแสความร้ายกาจที่ซ่อนอยู่ใต้ถ้อยคำ


 ซ้ำยังช่วยขนกระเป๋าเดินทางขึ้นท้ายรถอย่างไม่ถือตัว


“คุณกินอะไรมาหรือยัง” รถยนต์ยุโรปแล่นออกไปบนถนนโล่ง แสงแดดช่วงพระอาทิตย์คล้อยต่ำแยงตาจนคนขับต้องหยิบเอาแว่นกันเเดดขึ้นมาสวม


“ยังเลย” เต้ยส่ายหน้า แอบเหม็นคนที่แค่ขับรถก็ยังจะเก๊กท่าหล่ออยู่ได้


“งั้นไปเจ๊ง้อไหม เห็นบ่นว่าอยากกิน” เขาหันมาถาม เอาจริง ๆ เต้ยไม่คิดว่าคุณวีจะจำได้อยู่ด้วยซ้ำ เหตุเพราะเขาเปรยขึ้นตั้งแต่ก่อนไปเชียงใหม่แล้วด้วยซ้ำ


“อยากกินนะ แต่ผมเหนื่อยมาก อยากนอนอยู่ห้องมากกว่า”


...คนอะไร หน้าเหมือนกวางแต่นิสัยเหมือนแมว…


กวีได้แต่ลอบมองฝ่ายที่บอกความต้องการอย่างตรงไปตรงมา นี่คงเป็นข้อดีอีกข้อที่เขาถูกใจด้วยไม่ต้องมานั่งหยั่งญาณทิพย์เดาใจกันเสียให้ยาก


บางรายเดาพลาดก็มีเรื่องให้หัวเสียกันได้อีก


“งั้นเดี๋ยวอาหารเสร็จแล้วผมคุณขึ้นมากินที่ห้องผมแล้วกัน จะได้ไม่ต้องเก็บล้าง” สารถีกิตติมศักดิ์สรุปความเอาเอง ปล่อยให้เต้ยทำหน้าเหม็นคนรวยอย่างไม่ปิดบังในขณะที่เขายังทำท่าเป็นทองไม่รู้ร้อน


นอกจากหม่อมหลวงกวีจะเป็นเจ้าของโครงการคอนโดที่เต้ยซื้อห้องไว้ ห้องเพนท์เฮาส์ด้านบนสำหรับลูกค้างบสูงก็ยังเป็นของเขาด้วยเช่นเดียวกัน เต้ยยังไม่ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมเยียนแม้สักครั้ง อนึ่งเพราะไม่อยากจะข้องเกี่ยวกับพวกชอบเล่นหูเล่นตา และอีกอย่างแผลหลังจากพักฟื้นของเขามันยังไม่หายดี


เต้ยกับเขาแยกกันตอนขึ้นลิฟต์ คนมีเชื้อมีสายบอกทิ้งไว้เพียงว่าจะขึ้นไปคอยที่ห้อง หากเต้ยเก็บของเรียบร้อยแล้วก็ให้ตามไป ชายหนุ่มแยกเอาของฝากไว้มุมหนึ่ง เลือกเอาของแคบหมู น้ำพริกหนุ่ม และไส้อั่วเจ้าดังขึ้นไปฝากด้วย


เบื้องหลังประตูไม้บานใหญ่โอ่อ่าซุกซ่อนสิ่งที่ทำให้เต้ยตกตะลึง ไม่ใช่ขนาดห้องที่กินพื้นที่ไปหนึ่งในสี่ของชั้น ไม่ใช่การตกแต่งวิจิตรสวยงามของมัณฑนากรชั้นแนวหน้า หากเป็นคุณกวีในผ้ากันเปื้อนสีเข้มที่เดินมาเปิดประตูให้ต่างหาก


“นี่ของฝากผมเหรอ ขอบคุณมากครับ” กวียิ้มกว้าง ไม่รู้ทำไมหูตาเขาถึงแพรวพราวจนเต้ยหมั่นไส้ได้ทุกทีไป


“คุณทำเองเลยเหรอ” เต้ยถือวิสาสะเดินเข้าไปในครัว บนเตาอินฟาเรดมีหม้อต้มเส้นสปาเกตตี้หนึ่งใบ ส่วนกระทะข้าง ๆ มีเบคอนทอดส่งกลิ่นหอมเตะจมูก


“ก็คุณเอาใจยาก อยากกินแบบเสิร์ฟร้อนแต่ก็ไม่อยากออกไปไหน” กวีเดินเข้ามาสมทบหลังจากเอาข้าวของไปวางบนชั้นเก็บแล้ว เขาบอกให้คนแก่วัยกว่านิดหน่อยที่หน้าชักจะเริ่มตึงให้ออกไปนั่งรอที่เคาน์เตอร์บาร์อีกฝั่ง


“ผมไม่เคยขอให้คุณมาเอาใจนะคุณวี” เต้ยว่า ที่ไปรับไปส่งอยู่ทุกวันนี้เขาก็ไม่เคยขอ มีแต่อีกฝ่ายที่เล่นลูกตื้อชวนให้อ่อนใจ กว่าจะรู้ตัวอีกทีคุณกวีก็ตีเนียนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งแล้ว


“ขี้โมโหอีกต่างหาก…” ชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่าหมุนตัวไปหยิบโค้กกระป๋องจากตู้เย็นออกมาเปิดให้เต้ย “แต่น่ารักดี”


“หึ… พูดคล่อง” เต้ยก็แค่แซะเขาไปส่ง ๆ อย่างนั้น ไม่นึกว่าคนที่หันหลังไปยกเส้นขึ้นจากเตาจะหันกลับมาเท้าเเขนลงบนเคาน์เตอร์แล้วพูดอย่างหนักแน่น


“ผมจีบทีละคน ไม่เคยคบซ้อน”


“เรื่องของคุณสิ หันไปได้แล้ว กระทะไหม้แล้วนั่นน่ะ” ตากลมเสหลบ เลี่ยงบทสนทนาไปอีกทาง


ไม่เกินสิบนาที จานใส่สปาเกตตี้คาโบนาร่าท็อปด้วยเบคอนกรอบก็ถูกวางลงเบื้องหน้า กวียื่นส้อมและช้อนสีเงินวาววับส่งให้ด้วย หม่อมหลวงหนุ่มปลดผ้ากันเปื้อนออกแล้วแขวนไว้มุมหนึ่ง


“ชอบไหม” คนถามนั่งลงบนเก้าอี้สูงเคียงข้างกันกับเต้ย เห็นอีกฝ่ายม้วนเส้นสปาเกตตี้เขาปากโดยไม่พูดจาก็อยากจะได้ยินฟีดเเบ็กบ้าง


“อร่อย… ไม่นึกว่าคุณจะทำกับข้าวได้” เต้ยยิ้ม อาการหงุดหงิดระคนขวยเขินที่ถูกกวนสงบลงโดยง่ายด้วยอาหารจานเดียว


“ยุโรปค่าครองชีพมันแพงนะคุณ ทำไม่เป็นก็อยู่ไม่รอดหรอก” เต้ยพยักหน้าไปเคี้ยวไป ทอดมองชายหนุ่มบุคลิกดีที่นั่งตัวตรง ตักอาหารคำเล็กอย่างพิจารณา


บทสนทนาระหว่างมื้ออาหารไม่หนีไปจากการถามไถ่เรื่องทริปท่องเที่ยว นับว่าหม่อมหลวงหนุ่มเข้าหาได้ถูกจุดทีเดียว ด้วยเมื่อถามปุ๊บคนชอบถ่ายรูปก็เปิดแกลลอรี่รูปในโทรศัพท์ขึ้นอวดปั๊บทีเดียว


“คุณเอาของหวานไหม ผมได้อันนี้มา” หลังจากจัดการมื้อเย็นเรียบร้อยแล้วกวีก็เปิดหากล่องอะไรอยู่บนชั้นบิลด์อินหลังเคาน์เตอร์


“เฮ้ย อันนี้อร่อยแบบสิบกระโหลก คุณไปหามาจากไหน” เต้ยมองกล่องไม้แบบเลื่อนเปิดเบื้องหน้า ด้านในมีซองบรรจุช็อกโกแลตรูปทรงสีเหลี่ยมผืนผ้าชิ้นขนาดราวนิ้วก้อยใส่ไว้สิบห้าชิ้น


มันเป็นช็อกโกแล็ตสอดไส้วิสกี้ที่เขาตามหามานาน เขาได้ชิมมันครั้งแรกหลังกลับจากการท่องเที่ยวที่ประเทศรัสเซีย ยังนึกอยู่เลยว่าน่าจะซื้อมาเยอะกว่ากล่องสองกล่อง ด้วยพอหมดแล้วอยากกินอีกในไทยก็ไม่มีขาย ครั้นจะซื้อจากต่างประเทศเข้ามาก็คงจะโดนค่าจนส่งอีกมหาศาล


“ซีอีโอที่รู้จักเขาไปเที่ยวรัสเซียเลยซื้อมาฝาก… กินชิ้นเดียวพอครับ ถ้าอยากกินอีกค่อยขึ้นมาห้องผม” กวีหยิบฝาไม้มาสวมกล่องแล้วยักคิ้วให้เต้ยอย่างเป็นต่อ


“ขี้งก” เต้ยยกยิ้มมุมปาก หากแกะซองพลาสติกออกแล้วส่งช็อกโกแลตก้อนนั้นเข้าปาก


“ตรงไหนกัน… ผมไม่ได้ห้ามคุณกินเลยสักคำ” นี่ไง… กวีทำตาวิบวับอีกแล้ว!


สถาปนิกหนุ่มหลบตา รวบเอาจานและช้อนถือไว้เดินเข้าไปล้างที่ซิงค์ขนาดใหญ่ ไหน ๆ คุณวีก็ทำให้กินทั้งทีแล้วจะไม่ล้างจานให้ก็เห็นจะเป็นมารยาทที่ไม่น่ารักเกินไปหน่อย


“ไม่ต้องล้างหรอกคุณ เดี๋ยวให้แม่บ้านเขามาทำ”


กวีขยับเข้ามาชิด แตะข้อมือของคนอาสาล้างจานเป็นเชิงห้าม หากดูเหมือนเขาจะกะระยะผิดไปสักหน่อย ด้วยเมื่อเต้ยหันมา ใบหน้าของต่างฝ่ายต่างอยู่ห่างกันแค่เพียงเสี้ยวลมหายใจกั้นเท่านั้นเอง


ช่องว่างนั้นดูจะแคบลงอีกเมื่อใบหน้าคมสันของหม่อมหลวงกวีขยับเข้าหา ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดอยู่บนผิวแก้มนวล ริมฝีปากหยักแตะลงแผ่วผิวเต้ยก็ขยับตัวออกราวกับแตะถูกถ่านเผาไฟ


“คือ… ผมยังไม่พร้อม” ปลายเท้าในรองเท้าสลิปเปอร์นิ่มขยับถอย กวีไม่ได้ตามเข้ามาปล้ำจูบหรือทำอะไรน่ากลัว เขาเพียงกระชับฝ่ามือที่จับข้อมือเต้ยไว้


“ผมจริงจังนะ”


“แต่ผมเพิ่งจะอกหักมา” เต้ยเลี่ยงจะสบดวงตาคมสะท้อนความนัยตรงกับถ้อยคำที่ปากพูดทุกประการ เขายังจำได้ดีทีเดียวว่าตอนนั้นมันเจ็บปวดมากขนาดไหน


หากเขาเริ่มต้นใหม่… จะมีอะไรมาการันตีว่ามันจะไม่จบแบบเดิมอีก


“คุณจะอกหักแล้วไม่ให้โอกาสคนอื่นไปตลอดชีวิตเลยหรือเปล่า” หากไม่ใช่น้ำเสียงหนักแน่นอย่างที่ได้ยิน เต้ยก็คิดว่าเขาคงกำลังตั้งใจประชดประชัน


“ผมไม่รู้...”


ทันใดที่เสียงแผ่วหวิวเล็ดลอดออกจากลำคอ กวีก็คลายมือออกจากมือที่ยึดไว้ ความอุ่นร้อนบริเวณนั้นจางหายไปและเเทนที่ด้วยความเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในไม่กี่วินาทีเท่านั้น





--------------------------------------------------------------





   หลังกลับลงมาจากเชียงใหม่ทุกคนในออฟฟิศก็ดูสดชื่นขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ใจ หนูพุกเองก็ได้ของฝากกลับมาเป็นกระบุงโกย ทั้งที่ซื้อเองและทั้งที่ปูนคะยั้นคะยอให้ของเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาติดมือมาด้วย


   เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ว่านั่นก็เป็นใบชาแห้งบรรจุกระป๋องทุกชาทุกสายพันธุ์ในไร่สองชุด มันมากเกินไปจนหนูพุกไม่รู้จะกินอย่างไรให้หมด จึงแบ่งเอาชุดหนึ่งให้ที่บ้านไว้ ส่วนอีกชุดเขาก็เลือกไว้ที่คอนโดส่วนหนึ่ง เอามาไว้เป็นส่วนกลางให้ที่ทำงานส่วนหนึ่ง


   “หนูพุก!”


   “ฮะ… ครับ” เลขาหนุ่มสะดุ้งสุดตัวเมื่อเต้ยโผล่หน้ามาใกล้ ซ้ำยังเรียกกันเสียงดังจนเขาใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม


   “เหม่ออะไรเนี่ย พี่เรียกมาสองสามหนแล้ว”


ตากลมมองหนูพุกอย่างสำรวจ ก่อนหน้านี้เต้ยเคยมาขอคุยกับเขาอย่างจริงจัง ขอโทษขอโพยกันแล้วและเขาเองไม่ได้ติดใจอะไร เมื่อไม่มีอะไรหมางใจกันแล้วหนูพุกถือว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่มองหน้ากันได้สนิทใจคนหนึ่ง


   “อ๋อ ไม่มีอะไรครับ พี่เต้ยอยากให้พุกดูอะไรให้ครับ” คำตอบของเต้ยผ่านเข้าหูหนูพุกแต่ไม่ได้หยั่งรากลึกอย่างทุกที เลขานุการคนเก่งก็ได้แต่ทำงานราวกับเปิดออโต้ไพล็อต


   พอร่างโปร่งที่ช่วงนี้ดูมีน้ำมีนวลขึ้นกว่าเก่าลับหายไปแล้วเจ้าของโต๊ะได้แต่ลอบถอนใจ ดวงตาเรียวจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์นิ่งเฉย ทอดมองแบบฟอร์มแสดงความประสงค์จะลาออกแล้วยังคิดไม่ตก สถานการณ์ตอนนี้มีแค่เพียงสองตัวเลือกเท่านั้น หากไม่ทำงานอยู่ที่นี่และอยู่เคียงข้างพี่ภูอยู่อย่างมีขอบเขตคงต้องออกจากที่นี่ไปแล้วเจอกันบ้างเป็นครั้งคราว


   สองมือเรียวประกบแก้มสองข้างแล้วตบเบา ๆ เพื่อเรียกสติ ข้อที่หนูพุกตระหนักดีและไม่ชอบตัวเองเท่าไหร่นักคือเขามันพวกชอบหนีปัญหา แต่อย่างไรเสียก็อย่าให้ความเสียใจนำทุกสิ่งทุกอย่างจนทำอะไรอย่างไม่รอบคอบ


   ...เลยวัยรุ่นมาจนอีกไม่กี่ปีจะเข้าเลขสามแล้วต้องใจเย็นกว่านี้สิหนูพุก...


      มุมขวาล่างของหน้าจอเตือนให้เห็นว่ามีอีเมลล์เข้าทำให้เขาจำต้องกดปิดแบบฟอร์มนั้นลง ไล่ความฟุ้งซ่านให้ออกไปไกล ๆ สมองหน่อยเพื่อให้หัวโล่งพร้อมทำงาน


   ...หากมันทำได้แค่พักเดียวเท่านั้นเอง...


   ตั้งแต่ทำงานมา ชายหนุ่มไม่เคยจ้องเข็มนาฬิกาและภาวนาให้เข็มสั้นเดินไปถึงเลขหกสักทีมาก่อน เขาคิดไปคิดมาอยู่หลายตลบทีเดียวว่าหรือแท้จริงแล้ว ความรู้สึกของเขาทั้งหมดนั่นคืออุปสรรค


   เมื่อเช้า หนูพุกเดินทางมาทำงานด้วยรถไฟฟ้าเหมือนเดิม


   เจอเพื่อนร่วมงานคนเดิม


   พี่เต้ยยังคงยิ้มให้เขาเหมือนเดิม


   และพี่ภูเองยังงานยุ่งทั้งวันเหมือนเดิม


   แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเขารู้สึกตะขิดตะขวงใจเสมอเมื่อต้องเขาไปพบพี่ภู


   คิดแล้วหนูพุกก็พ่นลมหายใจยาว หากถอนหายใจแล้วอายุสั้นอย่างที่ใครต่อใครว่ากัน อายุขัยของเขาคงเหลือแค่สามสิบห้าแหง ๆ


   “พี่ภูครับ เอ่อ… วันนี้ให้พุกสั่งข้าวเย็นไว้ไหม” หนูพุกเรียกเขาไว้ตอนที่ร่างสูงใหญ่เดินผ่านหน้าโต๊ะมา


   “กวนด้วยนะ กินอะไรก็ได้” เขายิ้มสะเทือนหัวใจให้แล้วก็เดินผ่านไปเข้าห้องน้ำอย่างปกติ ปล่อยให้หนูพุกอ้าปากพะงาบ ๆ เป็นคอมติดบั๊กอยู่ที่เดิม


   สุดท้ายแล้วชายหนุ่มเลื่อนหาโทรหาร้านอาหารตามสั่งจากในทัชโฟน พลางคิดว่า’อะไรก็ได้’ ที่ว่ามันควรเป็นอะไรดี ส่วนใหญ่พี่ภูมักจะกินข้าวราดแกงหรือผัดกะเพราง่าย ๆ แต่เมื่อกลางวันก็เพิ่งกินผัดพริกแกงไป ถ้าเย็นจะกินอะไรเผ็ด ๆ อีกคงไม่เวิร์คเท่าไหร่


“ครับ… สั่งข้าวครับ ผมเอาราดหน้าเส้นใหญ่หมู... ยังไงรบกวนส่งที่ออฟฟิศเดิมนะครับ ขอบคุณครับ” เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณตัดไป เลขาหนุ่มก้มลงมองนาฬิกาข้อมืออีกหนหนึ่ง


...หกโมงยี่สิบนาที...


   หากเป็นเวลาปกติ หนูพุกคงยังนั่งทวนความคืบหน้าโครงการสักอันและทำเอกสารย้อนหลังด้วยเพื่อหาเวลาอยู่ต่อ ทว่าวันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เขาปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ จัดการทำความสะอาดโต๊ะทำงานไม่ให้รก เอาแก้วชาของตัวเองไปล้าง และลงไปคอยเด็กส่งข้าวอย่างกิจวัตร


   ระยะทางจากร้านอาหารตามสั่งหน้าปากซอยเข้ามาที่สำนักงานไม่ได้ไกลมากมายอะไร รอเพียงสิบห้านาทีราดหน้าหมูใส่ถุงร้อนจี๋ก็มาส่งถึงมือ ไม่รู้ว่าเป็นคราวเคราะห์หรืออะไร เพราะที่มาพร้อมกับคนส่งอาหารไม่ได้มีแค่ราดหน้า หากพ่วงมาด้วยหญิงสาวผู้ไม่เคยปรากฎตัวที่ออฟฟิศมาก่อน


“สวัสดีค่ะหนูพุก”


“สวัสดีครับคุณแพร แวะมาหาพี่ภูเหรอครับ” เขาถามไปตามมารยาท ทั้งที่รู้ดีอยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร


...ยังไงเธอคงไม่แวะมาหาพี่เต้ยอยู่แล้ว...


“ใช่ค่ะ แต่ไม่ได้บอกเขาไว้ก่อน ไม่รู้ว่ายุ่งมากหรือเปล่า” อาจารย์สาวในชุดกางเกงขายาวสีเข้มและเสื้อเชิ้ตลายกราฟฟิคไล่สีโทนร้อนเข้ากันกับรองเท้าส้นสูงดูทันสมัยก้าวเดินขึ้นชั้นสองไปพร้อมกับหนูพุก


“ยังไงคุณแพรลองไปเซอร์ไพรส์นะครับ ห้องพี่ภูอยู่ขวามือด้านในสุดเลยครับ” เลขาหนุ่มได้แค่เพียงยิ้ม ทำตาหยีให้เป็นขีดเดียวเพื่อปกปิดแววตา แอบรักแฟนคนอื่นเขามันลำบากอย่างนี้เอง


เขาเดินเอาอาหารเย็นเข้าไปวางบนโต๊ะกลางในครัวแล้วจัดชามให้อีกชุดโดยไม่ได้แกะเตรียมให้อย่างทุกที เนื่องจากพี่ภูมีแขก หนูพุกมองเจ้าราดหน้าน้อยที่คงต้องเป็นหม้ายในถุงร้อนมัดโป่งอย่างเข้าอกเข้าใจระคนสงสาร


คงเป็นโชคดีที่ทั้งบริษัทมีแต่คนหัวสมัย การอยู่ทำงานต่อหลังเลิกงานจึงไม่มีผลกับคะแนนพิศวาสในใจเจ้านาย ดังนั้นคนที่ได้รับความไว้วางใจจึงเป็นคนที่มีระเบียบวินัยและงานเก๋ามากพอ เป็นเหตุผลให้สถาปนิกหลายคนมักจะเหยียบออฟฟิศช่วงแปดโมงสี่สิบ พอสักหกโมงสิบนาทีไม่เกินหกโมงครึ่งก็เก็บของพร้อมบินกันหมด


ตอนนี้เลยเวลามาตรฐานไปไกลแล้ว ทั้งสำนักงานจึงเหลือแค่เขากับพี่ภูเท่านั้น… อ้อ คุณแพรอีกคน


เพราะมารยาทส่วนหนึ่งและความเสียใจอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้หนูพุกไม่ได้อยากรับรู้เนื้อหาที่เจ้านายคุยกับคนรัก เขาจึงจัดการโกยข้าวของลงจากกระเป๋าอย่างเร่งรีบเนื่องจากเผลอสบเข้ากับดวงตาคมที่มองลอดหน้าต่างกระจกออกมา


ภูมองเลขาหนุ่มที่ก้มลงเก็บของ แค่กระพริบตาเขาก็เห็นว่าหนูพุกยกกระเป๋าขึ้นสะพายไหล่ออกไปแล้ว เขาหันกลับมามองคนเบื้องหน้า อดนึกชมไม่ได้ว่าแพรยังสวยเหมือนเดิม เหมือนครั้งแรกที่เจอกันเลยด้วยซ้ำ หากรอยยิ้มชืดจางเหล่านั้นต่างหากที่ต่างออกไป


“ไม่เห็นบอกว่าจะมาเลย เซอร์ไพรส์เหรอ”


เจ้าของเสียงทุ้มว่า มือขวายังไม่ปล่อยจากเมาส์ซ้ำยังคลิกเปิดไปที่ตารางส่วนตัวอีกอันที่ไม่เคยให้ใครเห็นด้วยกลัวว่าตัวเองจะหลงลืมวันสำคัญอะไรไปจนโดนโกรธอีกหรือเปล่า แต่พบว่าไม่มีรอยมาร์คว่ามีเหตุการณ์สำคัญประเภทวันครบรอบหรืออะไรกุ๊กกิ๊กอยู่ตรงนี้


“จริง ๆ แพรมีเรื่องอยากคุยด้วย แต่เวลาเราไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่”


หญิงสาวยักไหล่ คลี่ริมฝีปากสีพีชออกนิดหน่อย ตลอดมานี้เธอกับภูต่างก็ว่างไม่ค่อยตรงกันเนื่องจากแพรเป็นอาจารย์สังกัดในสาขาที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่นและสิ่งทอ ซึ่งจำนวนบุคลากรไม่ได้มีมาชากมายอะไรนัก


และคนที่จบปริญญาเอกด้านนี้มีน้อยยิ่งกว่าน้อย


ดังนั้นเธอจึงรับเป็นอาจารย์พิเศษให้กับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ในต่างจังหวัดด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตลอดวันธรรมดาเธอจึงแทบไม่มีโอกาสใช้ชีวิตร่วมกับภูอย่างจริงจัง มีแค่วันเสาร์อาทิตย์ที่ภูไปรับเธอที่มหาวิทยาลัยบ้าง หรือเวลาที่เธอกลับบ้านพ่อแม่บ้างเท่านั้นเอง


“แพรมานั่งคิดดูดี ๆ แล้วรู้สึกว่าเราไปด้วยกันไม่ได้จริง ๆ นะ” เธอเข้าประเด็น ตัดสินใจเฉียบขาดแล้วถึงพูด อีกฝ่ายเองก็ไม่ได้มีทีท่าอยากโต้เถียงหากฟังไปอย่างเงียบเชียบโดยไม่มีคำค้านใด


“ความต้องการของเราไม่ตรงกันตั้งแต่ต้นแล้วนะ  ภูยังอยากทำงาน แต่แพรอยากมีครอบครัว แพรอยากแต่งงาน อยากมีลูก”


อาจารย์สาวเผยความนัยอย่างไม่ปิดบัง เนื่องจากปีนี้เธอก็สามสิบสองย่างสามสิบสามแล้ว หากต้องรออีกสักสี่ห้าปีอย่างที่อีกฝ่ายบอก เธอคงเข้าเข้าสู่สภาวะ ‘มดลูกหมดอายุ’ อย่างที่เพื่อนแซวกันแน่ ๆ


“ที่บริษัทนี้มันยังไม่ลงตัว ถึงจะคืนทุนแล้ว แต่ภูก็ยังอยากคอยให้มันทำกำไรให้ได้ตามเป้าก่อน… ถ้าเราแต่งงานกันจริง ๆ ก็คงอีกสักปีสองปี”


คีรินทร์สูดหายใจเข้าพยายามร่นเวลาตามเงื่อนไขของคนรัก เรือนหอของเขาก็น่าจะเป็นบ้านหลังเดิมที่เคยซื้อไว้แล้วรีโนเวทใหม่ แต่ประเด็นหลักคือลูกต่างหาก


ภูรู้ว่าเขายังไม่พร้อมเลยที่จะมีทายาท


“ลองเป็นเมื่อหกเดือนที่แล้วแพรคงดีใจมาก แต่แพรตัดสินใจมาดีแล้ว… ถ้าภูลองคิดทบทวนดูดี ๆ จะเข้าใจได้ไม่ยากเลยว่าทำไม”


การคบหาใครสักคน ความจริงจังและการจะพากันไปถึงวันที่ใช้ชีวิตร่วมกันได้เป็นเรื่องสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับแพร ทว่ามันไม่ใช่ทั้งหมดเสียทีเดียว ในความสัมพันธ์ยังมีเรื่องเล็กเล็กน้อยที่สะสมจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ในวันหนึ่ง


เรื่องรสนิยมที่ไม่ค่อยลงรอยกันในเรื่องต่าง ๆ นี่เองเป็นปัญหาเล็กน้อยที่ทับถมกันเหมือนก้อนหิมะที่กลิ้งลงจากเนินเขา เพียงพริบตาเดียว มันก็กลายเป็นเรื่องมโหฬาร ภูเป็นคนเรียบๆ จนเรียบมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ วันหยุดอีกฝ่ายชอบอยู่บ้าน ดูแลต้นไม้ขนาดย่อมของตัวเองไปเรื่อย ในขณะที่เธอเป็นคนชอบออกไปตามห้างสรรพสินค้าแวะดูข้าวของใหม่ ๆ


คีรินทร์ไม่ได้ปฏิบัติตนเป็นฤๅษีเฝ้าอาศรมไปเสียทีเดียว หากการออกไปข้างนอกนั้นเป็นไปในเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติเสียส่วนมาก ภูพาเธอไปดูต้นไม้บ้าง พาไปเดินป่าถ่ายรูปบ้าง


วิถีชีวิตของภูไม่ใช่เรื่องเลวร้าย หากนั่นไม่ใช่สิ่งที่แพรโปรดปรานและคิดว่าจะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร้ปัญหาเท่านั้นเอง


   ตลอดมามีเรื่องวิถีชีวิตที่ทำให้กระทบกระทั่งกันเสมอ หากฟางเส้นสุดท้ายของเธอขาดลงที่เชียงใหม่ แพรวาแอบโกรธอยู่ไม่น้อยทีเดียวแต่ไม่อยากขัดกันให้มาก คบกันมาเกือบสามปี… คนรักกลับไม่เคยพาเธอเข้าบ้านเลยสักหน ถึงคราวพาไปกลับต้องยกโขยงกันไปทั้งบริษัท


   อันที่จริงแพรนึกขอบคุณพี่ชายของคีรินทร์ฝากน้องวินไว้ให้ช่วยดู มันเป็นเหตุการณ์จำลองชีวิตครอบครัวที่ทำให้แพรวาคิดตกโดยง่าย


   เธอรู้ดีเสมอว่าภูไม่ใช่คนเลวร้าย ออกจะมีคุณสมบัติที่ทำให้สาว ๆ เทใจให้ได้ไม่ยาก เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ ไม่เคยมีเรื่องเจ้าชู้ให้ขุ่นข้อง ติดแค่มีอวัยวะชิ้นที่สามเป็นงานเท่านั้นที่น่าขัดใจ


   ซึ่งเมื่อแพรขัดใจ ความขุ่นข้องเหล่านั้นก็จะกลายเป็นความงี่เง่าในสายตาภูได้ไม่ยากเลย ทั้งที่เวลาส่วนนั้นควรจะเป็นเวลาของเธอโดยชอบธรรม


   นี่เป็นปัญหาหลักที่ทำให้อาจารย์สาวอึดอัด แพรวาค้นพบแล้วว่าเธอต้องการให้พ่อของลูกเอาใจใส่ทั้งลูกและภรรยามากกว่าสายโทรศัพท์ที่เป็นมารวันหยุด


   เหตุการณ์นั้นชัดเจนว่าเขาคงทำตามที่เธอต้องการไม่ได้ ในขณะเดียวกันเธอก็ไม่สามารถหยุดคาดหวังกับเขาในเรื่องนี้ได้เช่นเดียวกัน


   ในความเป็นจริงแล้ว หากไม่นับเรื่องทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง อะไรที่แพรขอภูก็ทำให้เกือบทุกอย่าง แต่เรื่องอะไรที่เธอต้องมานั่งกล้ำกลืนฝืนทนเมื่อพบว่าอย่างไรปัญหานี้คงไม่มีทางออก นอกจากปลดปล่อยกันและกันให้ต่างฝ่ายได้พบกับคนที่จะหยิบยื่นทั้งความรักและมีข้อแลกเปลี่ยนที่ยอมรับได้


   สำหรับภู หากเจ้าตัวลองมองหาสิ่งอื่นที่นอกจากงาน แพรแน่ใจว่าเขาคงเจอคนที่เข้ากันได้ไม่ยากเย็นนัก ส่วนเธอเองก็ไม่ต่างกัน เธอคือด๊อกเตอร์แพรวาผู้เติบโตมาจากครอบครัวที่ให้เธอเป็นที่หนึ่ง เธออยู่ในสังคมเพื่อนที่มีมิตรไมตรีดีงามและพร้อมเกื้อหนุน รวมทั้งยังมีการศึกษาและหน้าที่การงานที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร ไม่มีเหตุผลใดเลยที่เธอกับเขาจะต้องทนอยู่กับความอึดอัดคับข้องที่บั่นทอนกันไปทุกวัน


   สักวันหนึ่ง...ทั้งภูและเธอคงจะพบทางของตัวเองที่เป็นไปอย่างมีความสุข


“ก็คือตกลงว่าจะเลิกกัน?”


สองมือใหญ่ลูบบนใบหน้าคมสัน เขาพิจารณาท่าทางเรียบเรื่อยปราศจากท่าทีใจร้อนที่เป็นชนวนให้ทะเลาะกันได้ทุกหน อาการนิ่งสงบนั้นยืนยันว่าเธอคิดมาจนถี่ถ้วนแล้วอย่างที่พูด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเรื่องผิดใจจนคิดจะเลิกรากัน หากไม่เคยมีครั้งใดเลยที่คนทั้งคู่จะไม่ปล่อยให้อารมณ์เข้าครอบครองพื้นที่ความคิด หากครั้งนี้ที่ยังพอจะครองสติคุยกันด้วยเหตุผลได้


“ก็กลับไปเป็นเพื่อนกัน ถ้าวันหนึ่งภูจะเจอใครที่เข้ากับภูได้ แพรก็ดีใจด้วยเท่านั้นเอง” ดวงตาคมมองเธอนิ่ง คีรินทร์บอกไม่ได้ว่าเขารู้สึกอย่างไร เพียงแต่รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่ล่มสลายลงอย่างเงียบเชียบเท่านั้น


ตลอดระยะเวลาที่คบกันมาช่วยบอกชายหนุ่มได้ว่าต่อให้เขาคุกเข่าลงอ้อนวอนอย่างไร ผลสุดท้ายแพรก็คงส่ายหน้าอยู่ดี


“อืม…  ขอโทษที่เป็นแฟนที่คุณภาพตกมาตรฐานมาตลอดเกือบสามปี” ชายหนุ่มได้แต่หัวเราะแห้งแล้งอย่างนึกละอายและสมเพชตัวเองในใจ


...แพรไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่ไม่สามารถอดทนกับเขาได้…


“อย่าไปคิดอย่างนั้น ถึงมันจะจริงอยู่บางส่วนก็เถอะ” อาจารย์สาวหัวเราะ “ภูมีวิธีแสดงความรักในแบบของภู แค่ภูต้องหาคนที่ยอมรับตัวตนของภูให้ได้เท่านั้นเอง”


“เราจะไม่มีทางเป็นเหมือนเดิมได้จริง ๆ เหรอ” คนถามมองหน้าคู่สนทนาอย่างจริงจัง เขาปล่อยให้คอมพิวเตอร์พักจอดำไปต่อหน้าเป็นครั้งแรก


“....” ใบหน้ารูปไข่ตกแต่งสวยงามส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มอย่างที่ภูคาดไว้ไม่ผิดทีเดียว


“กลับมาเป็นเพื่อนกัน… ถ้ามีอะไรโทรมาได้” เธอว่าพลางรวบกระเป๋าแล้วลุกขึ้น เป็นสัญญาณว่าหมดธุระของวันนี้แล้ว


“คีย์การ์ดเข้าบ้านขอไว้ก่อนนะ ไม่เกินสองสามวันถ้าเก็บของเสร็จเเล้วเเพรจะให้เมสเซ็นเจอร์มาคืนให้” ในขณะที่เธอลุก อดีตคนรักหมาด ๆ ลุกขึ้นเปิดประตูกระจกออกให้เธอเดินก่อนอย่างทุกที


“เดี๋ยวภูไปส่ง…” ชายหนุ่มร่างสูงกำยำเดินเคียงไปกับหญิงสาวร่างระหง ตลอดระยะทางจากห้องทำงานชั้นสองมีเพียงเสียงรองเท้าหนังและส้นเข็มตอกพื้นดังฝ่าความเงียบ


คีรินทร์เดินออกมาส่งเธอถึงรถ ระลึกไปด้วยว่านี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ทำอะไรแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าในอกว่างเปล่า บางครั้งอะไรที่ล่มสลายลงจนไม่เหลือซากอาจเป็นความรักหรืออัตตา


เขาตอบไม่ได้


...บางทีอาจจะเป็นการล่มสลายของทั้งสองสิ่ง...


“โชคดีนะ”


“ภูก็เหมือนกัน” มือเรียวตกแต่งด้วยสีนู๊ดตบไหล่เขาเบา ๆ เธอยิ้มให้อย่างบริสุทธิ์ใจไร้ข้อติดค้าง

ออฟไลน์ Miss Midnight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: " พิชิตภู " : Chapter 13 --- [ 28.08.2018 ]
«ตอบ #196 เมื่อ02-09-2018 06:00:33 »

คล้อยหลังรถยนต์สีขาวที่ออกตัวไป ชายหนุ่มก็เดินลากเท้ากลับขึ้นไปที่ห้องทำงาน เขาไม่ได้ขยับเม้าส์แล้วเริ่มต้นงานอย่างทุกครั้ง คีรินทร์เพียงแต่นั่งกอดอกแล้วมองไปเบื้องหน้าซึ่งไม่มีสิ่งใดนอกจากเฟอร์นิเจอร์ว่างเปล่า บางทีเขาอาจนั่งอยู่นานเกินไป นิ่งเกินไป จนไม่รู้ว่าด้านนอกมีเงาคนขยับเคลื่อนเข้ามาใกล้ประตูกระจกขึ้นเรื่อย ๆ


“พี่ภู…” 


“อ้าว นึกว่ากลับไปแล้ว” เจ้านายหนุ่มยิ้มแกน ๆ แต่หน้าของเลขาหนุ่มกลับมีวี่แววตกอกตกใจราวกับเห็นผี


“พุกลืมกระเป๋าสตางค์ครับ ไม่มีเงินขึ้นรถไฟฟ้า” คนรอบคอบเสมอยกเว้นเมื่อครู่หัวเราะแหะ ๆ คงเป็นเพราะเขาลนลานที่สบตากับคีรินทร์ผ่านกระจก อะไรใกล้ไม้ใกล้มือก็รวบลงกระเป๋าไปก่อน ตอนเปิดกระเป๋าดูแล้วพบว่าเขาเอาที่เจาะกระดาษสำนักงานกลับไปด้วยหนูพุกตกใจแทบแย่


เพราะวันนี้มีเรื่องให้คิดและพอจะมีลมเย็นโชยมาพอให้เดินไหว หนูพุกจึงไม่เลือกใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปลงที่สถานีรถไฟฟ้าอย่างทุกที … กว่าจะรู้ตัวว่าทิ้งกระเป๋าสตางค์ไว้ออฟฟิศก็ตอนควักหากระเป๋าเพื่อจะเอาบัตรขึ้นทาบเครื่องแสกนนั่นล่ะ


“อ้อ อย่างนั้นกลับดี ๆ นะ” ชายหนุ่มยิ้มให้ มันเป็นรอยยิ้มที่ดูฝืนใจทำที่สุดตั้งแต่เขารู้จักพี่ภูมาเลยด้วยซ้ำ


“ครับ” หนูพุกเดินจากมา หากจุดหมายปลายทางกลับเป็นทิศทางที่ตรงกันข้ามกับเจตนาเดิม เขานั่งลง เปิดคอมพิวเตอร์หาอะไรทำไปอย่างเงียบเชียบโดยที่แอบสังเกตคนในห้องกระจกไปด้วย


...พี่ภูตาแดงอย่างกับเส้นเลือดในตาจะระเบิด…


ไหนจะท่าทางไม่ปกตินั่นอีก หนูพุกรู้ว่ามันคงไร้สาระมากในสายตาคนอื่น หากเขาจะคอยอยู่ตรงนี้แทนที่จะเอาเวลาไปพักผ่อน อย่างไรเสีย ต่อให้มุ่งตรงกลับคอนโดเขาคงนอนไม่หลับเพราะไม่สบายใจอยู่ดี


เข็มนาฬิกาล่วงไปจนละครหลังข่าวใกล้จบ เด็ก ๆ หลายบ้านคงเข้านอนแล้ว และคุณแม่บ้านก็คงเตรียมเข้านอนเช่นเดียวกัน หากคนที่ทำให้หนูพุกเป็นกังวลยังคงนั่งอยู่ที่เดิม พี่ภูเพียงแต่นั่งเฉย ๆ ทอดสายตามองเก้าอี้เบื้องหน้าอยู่อย่างนั้นมาตั้งแต่หัวค่ำ


...คงมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นหลังจากที่คุณแพรมา...


พอนึกถึงหญิงสาว เขาพานนึกถึงเจ้าราดหน้าหมูผู้หน้าสงสารซึ่งน่าจะยังอยู่ในถุงที่เดิม หนูพุกลุกขึ้นไปสำรวจดูในครัวด้านล่าง ทุกอย่างอยู่ในสภาพเดิมเหมือนตอนที่เขาออกไปไม่ผิดเพี้ยน เลขาหนุ่มตัดสินใจแช่มันไว้ในตู้เย็น ไม่ได้กินวันนี้ ก็ขอให้เป็นมื้อเช้าของวันพรุ่งนี้


หนูพุกได้ยินเสียงกอกแกกดังลงมาจากหน้าบันไดแล้วขมวดคิ้วมุ่น โผล่หน้าออกไปจากห้องครัวเพื่อจะดูว่าพี่ภูทำอะไร ดีที่ชะตาเขายังไม่ถึงฆาต ท่อพีวีซีสีฟ้าสดจึงฟาดมาไม่ถึงตัวเพราะคนถือยั้งไว้ได้ทัน


“หนูพุก!” คีรินทร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเห็นคนเดินหลังไว ๆ ที่หางตาซ้ำยังได้ยินเสียงจานชามในครัวอีก จะว่ากลัวผีก็ไม่ใช่ ด้วยโจรสมัยนี้น่ากลัวยิ่งกว่าอะไรลึกลับเทือกนั้นเสียอีก


“พุกเองครับ อย่าบอกนะว่าคิดว่าโจรขึ้นออฟฟิศ” หนูพุกหัวเราะ ไม่ถือสาหาความที่เขาอุตส่าห์ไปรื้อเอาท่อที่ซื้อเตรียมไว้ว่าจะเปลี่ยนกับสปริงเกอร์รดน้ำต้นไม้ด้านนอกออกมา


“นี่มันจะห้าทุ่มอยู่แล้ว เรานั่นเเหละ ทำไมยังไม่กลับบ้านนอนอีก” เขาทำเสียงเข้มแต่ไม่ได้น่ากลัวเลย


“เจ้านายเกเรนี่ครับ งานก็ไม่ทำ แต่ไม่ยอมกลับบ้านนอน พุกเลยมาอยู่เป็นเพื่อน” เลขาหนุ่มกระเซ้า พลางเดินกลับขึ้นไปข้างบน


“อาทิตย์นี้คงนอนที่นี่แหละ” เขาว่า “แล้วเราน่ะจะกลับยังไง เดี๋ยวพี่ไปส่งไหม” หนูพุกโคลงศีรษะ แม้จะไม่รู้แน่ชัดแต่ก็พอเดาได้ว่าคงทะเลาะกับคุณแพร


“ไปนอนห้องพุกไหมครับ… เอ่อ คือ หมายถึงว่า ถ้าอยู่ที่ออฟฟิศไปก็พักผ่อนไม่สบาย กลับไปอาบน้ำอุ่นนอนพักน่าจะดีกว่า” คนพูดเสนอไปแก้ตัวไปจนลิ้นพันกัน กลัวว่าคนตรงหน้าจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นรัว


“เดี๋ยวก็หลอกให้พี่นอนบนเตียงแล้วเจ้าของห้องก็ไปนอนบนโซฟาแบบวันนั้นเหรอ พี่ก็เกรงใจเป็นนะ”


ชายหนุ่มยกยิ้ม ไม่รู้ว่าเพราะอะไรท่าทางตอนอธิบายทั้งที่ในความคิดสับสนยิ่งขับให้คนที่เหมือนจะจัดการทุกอย่างได้ดีดูมีสเน่ห์ขึ้นอย่างน่าประหลาด


“โซฟามันตัวเล็ก พี่ภูนอนไม่สบายหรอกครับ” เลขานุการคนเก่งให้เหตุผล แค่เขานอนศีรษะก็ชนพนักด้านหนึ่งและปลายเท้าติดกับพนักอีกด้านจนยืดเหยียดไม่ได้


“เรานอนไม่สบายเหมือนกันนั่นเเละ พี่รู้” คีรินทร์เอ่ย เขาจำได้ว่าตื่นมาก็เห็นหนูพุกนอนงอก่องอขิงอยู่บนเบาะนวม ซ้ำยังถีบผ้าห่มหนานุ่มตกไปอยู่ที่พื้นอีกต่างหาก มือใหญ่คว้าเอากุญแจรถกับกระเป๋าสตางค์ติดมือมาด้วย


“คือ… งั้นนอนด้วยกันนี่แหละครับ เตียงตั้งกว้าง”


พูดไปก็กระดากไปแต่ต้องทำเป็นใจกว้าง หนูพุกไม่อยากร่วมเตียงกับคนของคนอื่น แต่เขาก็ไม่อยากทิ้งพี่ภูเอาไว้ทั้งที่ดูอารมณ์ไม่มั่นคงนักเช่นเดียวกัน สงสัยคืนนี้ต้องรอพี่ภูหลับแล้วเขาถึงค่อยย่องออกมานอนข้างนอก


ส่วนภูเองยังไม่อยากกลับไปที่บ้าน ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้อยากอยู่ที่สำนักงาน ภาพที่แพรวาชี้แจงเหตุผลยังคงหมุนไปมาเหมือนมีใครมาเปิดเทปซ้ำแล้วซ้ำอีก


...การได้ออกไปอยู่ที่อื่นเพื่อหลบเลี่ยงความรู้สึกเลวร้ายอาจช่วยอะไรได้บ้าง…


“อืม… รบกวนด้วยนะ”





------------------------------------------------------------------------





หนูพุกไม่คิดเลยว่าไอ้ ‘เตียงตั้งกว้าง’ จะเป็นคำที่ไม่จริง ทีแรกป๊าเคยถามแล้วว่าเตียงจะเลือกเป็นหกฟุตดีไหม หากเขาปฏิเสธไปเพราะนอนคนเดียว ที่ขนาดห้าฟุตก็เหลือเฟือแล้ว แต่เมื่อมีคนตัวใหญ่มาแบ่งพื้นที่ด้านข้าง พื้นที่เหลือเฟือกลับถูกกลืนหายไปเหลือเพียงระยะอันตรายกับหัวใจเท่านั้นเอง


พอพี่ภูขยับตัวทีฟูกหนานุ่มก็สะเทือนมาถึงหนูพุกด้วย นอกจากนี้ยังมีกลิ่นครีมอาบน้ำที่คอยรบกวนให้เขาต้องนอนลืมตาโพลงทั้งที่ปิดไฟไปแล้วเกือบชั่วโมง


...ถ้านับแกะไปเพลิน ๆ เขาคงได้จำนวนแกะทุกตัวในนิวซีแลนด์แน่ ๆ…


หนูพุกลอบถอนหายใจ ทว่าแล้วกล้ามเนื้อทุกส่วนกลับต้องเกร็งสุดชีวิตในวินาทีต่อมา เมื่อร่างกายกำยำชันตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียงบุหนังนุ่ม ตาสีดำลอบมองฝ่าความมืด… สองไหล่กว้างห่อเข้าหากันจนแทบไม่เหลือความองอาจอย่างเคย


“พี่ภู…”


“โทษที ทำให้ตื่นใช่ไหม” คีรินทร์หันหน้ากลับมา ถึงทั้งห้องจะปิดไฟมืด ทว่าแสงเรืองรองจากอาคารสูงใกล้เคียงยังลอดเขามาให้เขามองเห็นดวงตาเรียวที่จ้องมองมาได้ชัดเจน


“ไม่หรอกครับ… มีอะไรหรือเปล่า เล่าให้พุกฟังได้นะ”


ตลอดมาภูไม่ใช่พวกไว้ใจคนง่าย หากอุปนิสัยของหนูพุกกลับทำให้เขาวางใจได้ไม่ยากเลย


น้ำเสียงอ่อนโยนนั้นทำให้ขุนเขากว้างใหญ่คล้ายจะสั่นสะเทือนด้วยกระแสความห่วงใยอย่างไม่ปิดบังที่ส่งมาถึง ยิ่งมือเรียวแตะลงบนท่อนแขนล่ำสัน ภูรู้สึกว่าทุกอย่างน่าจะง่ายขึ้นหากได้ปลดปล่อยออกไปบ้าง


เขาไม่รู้เลยว่าถ้อยคำเหล่านั้นจะทำให้คนฟังหายใจสะดุด


“พี่เลิกกับแพรแล้ว…”


หนูพุกแทบไม่เชื่อหูเลยว่าจะได้ยินคำนี้ เปลือกตาสีน้ำนมกระพริบปริบยามพยายามเชื่อมโยงเหตุการณ์ทั้งหมดในหัว เขายังไม่สามารถประเมินความรู้สึกของตัวเองได้ด้วยซ้ำ เหตุเพราะสมาธิของเลขาหนุ่มแตกกระเจิงเมื่อพบว่าพี่ภูคู้ตัวลง น้ำตาไหลออกมาอย่างสุดห้าม


คนแข็งแกร่งมาก ๆ เมื่อมาถึงจุดที่อ่อนแอจนถึงที่สุดก็ไม่ต่างอะไรกับแก้วเนื้อบาง หากแตะอย่างไม่ระวังก็แตกเสียหายได้ง่ายดาย


นี่อาจเป็นครั้งแรกในฐานะเลขาที่รับมือกับเจ้านายไม่ได้ ทุกอย่างดูติดขัดและเขาเองก็เก้กัง หนูพุกสูดหายใจลึก ทำใจกล้าแล้วยืดตัวยืนเข่าขึ้นโอบพี่ภูเอาไว้


คล้ายกับว่าเชือกล่องหนที่รัดพันหัวใจของเขาคลายออกไปเปลาะหนึ่ง เมื่อคนแก่วัยกว่าไม่ได้เอี้ยวตัวหนีหรือมีทีท่าต่อต้าน พี่ภูเพียงแต่นั่งนิ่งปล่อยให้น้ำร้อนผ่าวไหลซึมลงบนอกเสื้อยืดเนื้อนุ่มของหนูพุกโดยปราศจากคำอธิบายใด ๆ เพิ่มเติม


ฝ่ามือเรียวแตะลงบนแผ่นหลังกว้างอย่างปลอบประโลมอยู่นานทีเดียว เจ้าของร่างเพรียวบางเปลี่ยนมานั่งลงบนฟูกเมื่อน้ำหนักของร่างกำยำทิ้งลงมามากขึ้นเรื่อย ๆ จนหนูพุกตัวเซ


คีรินทร์หลับสนิททั้งที่แพขนตายังชุ่มน้ำ


นาฬิกาดิจิตอลบนหัวเตียงเรืองแสงบอกว่าล่วงเข้าวันใหม่ไปได้สามชั่วโมงกว่าแล้ว หนูพุกจัดท่าทางให้พี่ภูเอนตัวลงนอนหนุนตัก เหมือนตอนที่หนูพุกเสียใจเวลานอนตักหม่าม้าก็ดีขึ้นเช่นเดียวกัน


อาจเป็นเพราะความเป็นมนุษย์ที่ไหลเวียนอยูในตัวทุกคน เมื่อมีบุคคลซึ่งเป็นที่พึ่งให้อิงแอบ กายก็สบายและใจจะเบาลง มือเรียวลูบลงบนกลุ่มผมหยักศกอย่างเผลอไผล ชายหนุ่มก้มลงหาคนที่ผ่อนลมหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอแล้วกระซิบแผ่วเบา


“ไม่เป็นไรนะ… ยังไงพุกก็อยู่ตรงนี้”





-----------------------------------------------------

มาไม่ทันวันเสาร์อีกแล้ว 55555 แง้  :z3: :z3:
แต่ก็นั่นแหละค่ะ ฝากเจ้าพุกลูกแม่ด้วยฮะ ><
เจอกันอีกทีสัปดาห์หน้านะคะ ขอบคุณที่อดทนรอค่ะ :pig4: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: " พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
«ตอบ #197 เมื่อ02-09-2018 07:16:28 »

เลิกกันแล้วจ้า อิอิ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: " พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
«ตอบ #198 เมื่อ02-09-2018 08:20:45 »

คนเข้มแข็ง​ เวลาล้มนี่เจ็บหนัก

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: " พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
«ตอบ #199 เมื่อ02-09-2018 08:59:05 »

คงกันต่อไปแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น


เลิกกันก็ดีแล้ว


คนบ้างานแบบพี่ภู


ต้องมีคู่แบบเลขาฟ้าประทาน


อย่างหนูพุกนี่แหละ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: " พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
« ตอบ #199 เมื่อ: 02-09-2018 08:59:05 »





ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
Re: " พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
«ตอบ #200 เมื่อ02-09-2018 09:45:31 »

หนูพุกดูแลพี่ภูด้วยนะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: " พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
«ตอบ #201 เมื่อ02-09-2018 10:01:10 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

งุ้ย  เดาถูกด้วยว่าต้องเลิกกัน

แล้วหนูพุกน่าจะยังพอมีความหวัง  อิอิ

แต่...เรื่องของ "อิฐ" จะมีออกมาอีกไหม?  หรือเป็นแค่ตัวประกอบออกแค่ฉากที่แล้วเท่านั้น?

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: " พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
«ตอบ #202 เมื่อ02-09-2018 10:26:47 »

เสียใจกับพี่ภูด้วยนะ แต่ได้เวลาหนูพุกทำคะแนนแล้วจ้า

ออฟไลน์ Fallinlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: " พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
«ตอบ #203 เมื่อ02-09-2018 10:32:54 »

ว่าแล้วว่าพี่ภูกับคุณแพรต้องจบลงแบบนี้ ซึ่งเข้าใจคุณแพรมาก ๆ เลย
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป จนถึงใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน สุดท้ายก็คงจบลงแบบนี้อยู่ดี
ยังไงก็ไม่ได้จบลงเพราะเกลียดกัน กลับเป็นเพื่อนที่รักและหวังดีต่อกันก็ดีแล้ว
อย่างพี่ภูต้องได้คนที่รับตัวตนของพี่ภูได้จริง ๆ อย่างหนูพุกนี่แหละ บ้างานพอกัน 555
ตัดมาที่คู่พี่เต้ยคุณกวี คู่โปรดของเรา  :-[ คุณกวีนี่จีบจริงจัง รุกหนักมากกกก
ชอบความใส่ใจพี่เต้ยทุกสิ่งอย่าง แม้แต่คำที่แค่เปรย ๆ ขึ้นมา
ยิ่งจีบ ความเป็นตัวตนของพี่เต้ยก็ยิ่งถูกใจคุณกวี  อย่างนี้อยู่ด้วยกันยืดแน่นอน
เหลือแต่ว่า พี่เต้ยจะยอมเปิดใจให้รักครั้งใหม่ได้เมื่อไหร่นี่แหละ แต่เข้าใจพี่เต้ยนะ
คบกันมานานขนาดนั้น รักขนาดนั้น สุดท้ายโดนมาบอกว่าหมดรักแล้วโดยไม่รู้ตัว
ไม่แปลกที่พี่เต้ยจะกลัวความรักครั้งใหม่ แต่คุณกวีก็อย่าเพิ่งถอดใจยอมแพ้ซะล่ะ
พี่เต้ยกับพี่ภู ตอนนี้อยู่สถานะคนอกหักทั้งคู่ แล้วก็มีคนรอดามใจทั้งคู่เลยนะ สู้ ๆ น้า

เอาจริงเรื่องมีให้ลุ้นหลายคู่มาก แถมยังเป็นเรื่องแยกได้อีก อย่างพี่อิฐกับคนของเขา ซึ่งยังไม่รู้ว่าใคร
น้องปูนก็น่าจะพอมี ที่หนูพุกไปเห็นมาแวบ ๆ  แล้วยังคุณพี่ชายพี่ภูกับคุณพี่เลี้ยงอีก
ซึ่งน่าสนใจทุกคู่เลย รอติดตามนะคะ

ออฟไลน์ mrsnikiforov

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
Re: " พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
«ตอบ #204 เมื่อ02-09-2018 11:18:16 »

อย่างน้อยก็นับว่าเลิกกันด้วยดี ให้ไปหาคนที่เข้ากันได้ดีกว่า
ขอให้แพรได้เจอคนนั้นไวๆด้วย อายุก็ขนาดนี้ แอบเข้าใจแพรนะ

คุณกวีนี่เอาใจไปเลย คุณสมบัติเลิศเลอขนาดนี้ แถมปากหวานจริงใจ เต้ยจะต้านทานได้นานแค่ไหน
อีกอย่างเงินต่อเงิน รวยๆแบบคุณวีก็ไม่ต้องมีปัญหาเรื่องเงินๆทองๆแล้วอ่ะ   :katai3:
ใจอ่อนหน่อยพี่เต้ยย กินเด็กเป็นอมตะนะ  :hao6:

พี่ภู ไหนๆก็อกหักน้ำตานองแล้ว หันมองคนข้างๆบ้างนะ
เผื่อจะเจอคนที่รัก(และหลง) ห่วงใย เอาใจใส่พี่ภูแบบถวายหัว
เอาใจช่วยลูกชายแบบหนูพุก อย่ารอช้า นรกไม่กินกบาลแล้ว เดินหน้าจีบเลย
โอกาสแบบที่อิฐว่าไงหนูพุก จำได้มั้ยย รุกๆๆ  :hao7:

อ่านจบต้องไปหาสปาเกตตี้คาโบนาร่ากินละ  :z6:




ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: " พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
«ตอบ #205 เมื่อ02-09-2018 12:21:26 »

สงสารหนูพุกกก :z3:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: " พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
«ตอบ #206 เมื่อ02-09-2018 16:23:25 »

เราว่าหนูพุกเหมาะกับอิฐมากกว่านะ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: " พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
«ตอบ #207 เมื่อ02-09-2018 16:37:38 »

ทำไมไม่ดีใจเลยที่พี่ภุเลิกกับแพร แอบคิดว่าหนูพุกไม่เหมาะกับภู เอาจริงคิดว่าภูไม่เหมาะกับใครเลยจากนิสัยบ้างาน อยากเชียพ่อเลี้ยงมากกว่าแต้จากชิ่อเรื่องแล้วคงไม่มีลุ้นแน่

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: " พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
«ตอบ #208 เมื่อ02-09-2018 16:56:54 »

 :mew1: :mew1: :L2:

ออฟไลน์ wanirahot

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: " พิชิตภู " : Chapter 14 --- [ 02.09.2018 ]
«ตอบ #209 เมื่อ02-09-2018 17:56:42 »

สงสารหนู​พุกจัง​ อดทนนะลูก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด