#เพลงรักที่หายไป หนูด้วง+พี่โอบอุ้ม 20 ตอนจบ สารบัญหน้าแรก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เพลงรักที่หายไป หนูด้วง+พี่โอบอุ้ม 20 ตอนจบ สารบัญหน้าแรก  (อ่าน 89036 ครั้ง)

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


**********************************************


หมายเหตุจากผู้แต่ง

นิยายเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อคน สถานที่ เนื้อเรื่องถูกแต่งขึ้นทั้งหมดจากจินตนาการของผู้แต่ง อาจจะมีคำไม่สุภาพบ้างนิดหน่อยในการแทนตัวของตัวละครหรือคำเขียนที่ผิดเพี้ยนจากคำที่ถูกต้องไปบ้าง เพื่อแสดงอารมณ์ของตัวละครในบทสนทนา แต่จะพยายามให้น้อยที่สุดนะคะ และหากเนื้อเรื่องตอนใดของนิยายเรื่องนี้ไปคล้ายคลึงชื่อใคร สถานที่ใด เรื่องใดก็ตามต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วย แต่รับรองว่าเนื้อเรื่องทั้งหมดมาจากจินตนาการผู้แต่งล้วนๆค่ะ ขอให้สนุกกับนิยายเรื่องนี้นะคะ

---------------------


นิยายเรื่องอื่นๆของผู้แต่ง



ซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายรองเท้าแตะ

รักวุ่นดีปีโป้ช่วยลุ้น ภาค 1 และ 2

จนกว่ารักจะทักทาย (18+)

เคลียร์คิวหัวใจเอาไว้ให้ความรัก


ซีรีส์ชาวเกาะ
ปรุงรักให้ลงล็อก
ปลดล็อกให้ความรัก
เพลงรักที่หายไป


มนตราแห่งมายัน
ภาค วสันตวิษุวัต
ภาค ครีษมายัน


เรื่องสั้น
ผู้โชคดี



[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]


---------------------



Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2019 12:57:51 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
Re: #เพลงรักที่หายไป สารบัญ
«ตอบ #1 เมื่อ03-06-2018 07:30:33 »

สารบัญ เพลงรักที่หายไป

[เรื่องมหัศจรรย์] , [คืนที่ดาวเต็มฟ้า] , [เพ้อ] , [ทั้งรู้ก็รัก] , [อากาศดีๆ] , [สบตา] , [เพียงแต่วันนั้น] , [แค่คนอีกคน] , [Home]
[อยากจะมีเธอ] , [เพราะผูกพัน] , [ซักกะนิด] , [คนไม่มีสิทธิ์] , [กาลครั้งหนึ่ง] , [ยังยิ้มได้] , [ต่อให้ใครไม่รัก] , [Endless story] ,
[รักเดียวใจเดียว] , [ที่ว่าง] , [ห่วงหา] , [ทุกคนเคยร้องไห้] , [เรามีเรา] , [ตอนจบ]

โปรย

ชีวิตในรั้ว Soleil International University ที่มีทั้งชมรมสาววายจอมยุ่งที่รักเชียร์ให้ผู้ชายทั้งโลกมารักกัน ชมรมกล่องดนตรีสายซึนที่โลกส่วนตัวสูงเท่ายอดตึกใบหยก ชมรมขนนกที่ชอบล้วงแคะแกะเกาเรื่องชาวบ้าน ชมรมกีฬาที่สาวๆ หนุ่มๆ ต้องปาดน้ำลายยามสมาชิกชมรมมาออกกำลังกายกลางแจ้ง และอีกมากมายที่จะมาสร้างสีสันในเรื่อง #เพลงรักที่หายไป

รวมถึงเรื่องราวของหนูด้วงและเพื่อนพ้องชาวแกงค์ The zoo ในวัยมหา'ลัย ประกอบไปด้วย หนูด้วง สิงโต นกฮูก เม่นและน้องเกล รวมถึงศัตรูตัวร้ายอย่างส้มโอและองุ่นก็มารวมกันอยู่ที่นี่ ทุกคนอยู่ในวัยที่กำลังค้นหาตัวเองและค้นหาความหมายของคำว่า 'รัก'

..รักในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป...

รักครั้งแรกที่แสนบริสุทธิ์ รักที่เฝ้ารอ  รักแรกพบที่ทำให้เหมือนตกอยู่ในความฝัน รักเพราะใกล้ชิด รักเพราะเหงา รักเขาข้างเดียวตลอดมาโดยที่อีกฝ่ายรับรู้ และ ไม่รับรู้ รักที่สมหวัง รักที่ผิดหวัง แอบรักเพื่อน และรักเพราะคิดว่ามันคือรัก

เรื่องราวของนิยายเรื่องนี้จะถูกถ่ายทอดไปพร้อมกับบทเพลงเก่าๆ บางเพลงเราอาจจะไม่เคยได้ยิน บางเพลงอาจจะหายไปกับกาลเวลา แต่ทุกบทเพลงก็เหมือนความรัก มันมีหลายรูปแบบ บางครั้งมันทำให้เราร้องไห้ได้ง่ายๆ บางครั้งมันทำให้เรายิ้มได้ บางเพลงกว่าเราจะได้ค้นพบว่ามันเป็นเพลงที่เรารัก มันก็ใช้เวลานานเหลือเกิน 


**เรื่องนี้เป็นภาคแยกของหนูด้วง เด็กน้อยน่ารักในเรื่อง ปรุงรักให้ลงล็อก และ ปลดล็อกให้ความรัก ผู้แต่งเชิญชวนว่าให้อ่านสองเรื่องที่กล่าวมาก่อนตามลำดับ จะพาให้คุณอินกับเรื่องนี้มากขึ้น แต่ถึงท่านอยากอ่านเรื่องนี้ก่อนก็รู้เรื่องค่ะ

.
.
.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2019 03:49:57 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เพลงรักที่หายไป
เพลงที่ 1 เรื่องมหัศจรรย์
ศิลปิน Sofa


Soleil International University

‘อรุณสวัสดิ์นักศึกษาใหม่ทุกคน ขอต้อนรับเข้าสู่มหาวิทยาลัยนานาชาติโซเลย ทุกเช้าแบบนี้พบกับผมอีกเช่นเคย..ดีเจเวนส์’

‘ส่วนดิฉัน..ดีเจมาเมย ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับนักศึกษาทุกท่านที่ได้ก้าวเข้ามาสู่มหา’ลัยในฝันแห่งนี้ ขอแค่น้องมีความมุ่งมั่นที่จะค้นหาความฝันและทำมันให้เป็นความจริง ทุกอย่างไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ที่นี่ จริงไหมคะเวนส์’

‘จริงครับมาเมย ได้ข่าวว่าปีนี้มีน้องใหม่หน้าตาน่ารักทั้งนั้น ผมก็อดจะตื่นเต้นไม่ได้’

‘จริงค่ะ ปีนี้คงจะคึกคักขึ้นมากเพราะทางมหา’ลัยของเราเปิดให้มีคณะวิชาสาขาต่างๆ เพิ่มขึ้นหลายคณะ ชมรมในมหา’ลัยต่างๆ ก็เลยเพิ่มมากขึ้นไปด้วย พูดแล้วก็อยากรู้ว่าจะมีคนมาสมัครเข้าชมรมขนนกของพวกเรามากขนาดไหนนะคะเวนส์’

‘ชมรมเรานี่เน้นหน้าตานะ ดูจากพวกเราสองคนได้ ฮ่าๆ ผมล้อเล่นครับ แต่เป็นที่รู้กันดีว่าชมรมขนนกของเราเต็มไวมาก น้องๆ ปีหนึ่งอย่าช้าเด็ดขาด แล้วอย่าลืมติดตามรายการแสงใหม่แห่งโซเลยประจำปีนี้กันให้ดีนะครับ วีเจจ๋าจะพาไปรู้จักน้องใหม่ที่บอกเลยว่าไม่ธรรมดาแน่ๆ’

‘แล้วจะติดตามชมได้ยังไงบ้างคะคุณเวนส์’

‘รายการแสงใหม่แห่งโซเลยจะเปิดให้รับชมในตอนเที่ยงทางสื่อโทรทัศน์ของทางมหา’ลัยนะครับ’

‘แล้วก็อย่าลืมติดตามคอลัมน์สะกิดดาวในเว็บเพจของพวกเราด้วยนะคะ แต่ตอนนี้มาเมยขอเปิดเพลงต้อนรับน้องใหม่ทุกคนดีกว่าค่ะ มาเมยอยากบอกว่าการที่เราทุกคนได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะด้วยความใจตั้งใจหรือเรื่องบังเอิญก็ตาม มันคือ..เรื่องมหัศจรรย์ค่ะ’

..
.   

“เพลงเพราะดีจังเลย ขำอะไรหนูด้วง” นกฮูกฟังเพลงที่รุ่นพี่ดีเจจากชมรมขนนกเปิดผ่านทางวิทยุกระจายเสียงของมหา’ลัยเพื่อต้อนรับเด็กปีหนึ่งอยู่เพลินๆ ก็ต้องมาสะดุดกับเสียงหัวเราะคิกคักของเพื่อนสนิทที่เดินมาคู่กัน

“ขำชื่อพี่เขาอะ คนอะไรชื่อเวรกับหมามุ่ย”

“มาเมย ไม่ใช่หมามุ่ย แล้วพี่อีกคนก็ชื่อเวนส์ ไม่ใช่เวร” คนที่เข้ามาขัดความขำของหนูด้วงก็คือน้องเกลที่เดินนำอยู่ข้างหน้า

“เจ๋ง นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นเด็กปีหนึ่งเหมือนกันคงคิดว่าน้องเกลเป็นรุ่นพี่ปีสี่” คนที่เดินข้างน้องเกลเอ่ยแซว

“เม่น นายว่าเราหน้าแก่เหรอ”

“เฮ้ย ไม่ใช่นะ หมายถึงเหมือนคนอยู่ที่นี่มานาน รู้ลึก รู้จริง รู้ละเอียด” เม่นรีบอธิบายก่อนจะโดนเพื่อนสาวงอนใส่

“แล้วไป ไม่ได้รู้แค่นั้นนะ ยังรู้อีกว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกันด้วย”

“เจ๋ง!!” คราวนี้ทั้งเม่น หนูด้วงและนกฮูกอุทานขึ้นมาพร้อมกัน ต่างรู้สึกทึ่งในข้อมูลที่น้องเกลได้มา

น้องเกลทำหน้าภูมิใจในตัวเองอย่างที่สุด เธอเป็นหญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม The Zoo เป็นกลุ่มที่มีสมาชิกทั้งหมด 5 คนด้วยกันคือ หนูด้วง สิงโต นกฮูก เม่นและเธอ..’ไนติงเกล’ แต่ละคนล้วนมีชื่อเล่นเป็นสัตว์ด้วยกันทั้งนั้นจึงเป็นที่มาของชื่อกลุ่ม ทุกคนสนิทสนมกันมากเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่ชั้นประถม จนเข้ามหา’ลัยแล้วก็ยังเรียนอยู่ที่เดียวกันเพียงแต่ต่างคณะกันเท่านั้น

“สิงโตมันหายไปไหน” เม่นถามเพราะปกติแล้วถ้าหนูด้วงอยู่ตรงไหนสิงโตจะต้องอยู่ที่นั่นเสมอ

“ไปหาอาจารย์ เห็นว่าทางมหา’ลัยจะให้เข้าชมรมฟุตบอล” นกฮูกเป็นฝ่ายตอบ

“เจ๋ง รับรองได้เป็นตัวจริงแน่ คนอะไรเล่นกีฬาเก่งไปทุกอย่าง”

“แต่เล่นหมากเก็บแพ้เรา” หนูด้วงรีบแย้ง เพื่อนทุกคนได้แต่อมยิ้มเพราะรู้ดีกันว่าสิงโตแกล้งแพ้หนูด้วงต่างหาก

“แล้วจะเข้าชมรมอะไรกัน เราว่าจะเข้าชมรมขนนก อยากเป็นนักข่าว”

“เหมาะกับน้องเกลนะ” นกฮูกสนับสนุน

“ชมรมอะไรก็ได้ที่มีสาวๆ น่ารัก” เม่นพูดพลางมองไปรอบๆ ตัว รู้สึกว่าที่นี่มีแต่คนน่ารักเต็มไปหมด

“นกฮูกต้องเข้าชมรมทันตะแน่เลย ใช่ไหม” น้องเกลหันมาถาม

“ไม่ เราจะเข้าชมรมบาริสต้า” นกฮูกส่ายหน้าก่อนจะตอบแต่น้องเกลอ้าปากค้างกับชมรมที่นกฮูกเลือก

“โห มีด้วยเหรอ” หนูด้วงทำหน้าตื่นเต้นเพราะตัวเองยังไม่รู้เลยว่าที่นี่มันมีชมรมอะไรบ้าง

“มีสิ หนูด้วงได้อ่านหนังสือแนะนำมหา’ลัยบ้างรึยังเนี่ย” น้องเกลถามเพราะรู้ดีว่าเพื่อนคนนี้ไม่ค่อยสนใจอะไรนอกจากเสียงเพลงเท่านั้น

“ยังเลย มันมีชมรมดนตรีไหม” หนูด้วงถามเสียงอ่อย ทั้งที่โดนน้องเกลทำเสียงดุใส่มาตั้งแต่เด็กจนโตก็ไม่ชินสักที

“มันก็ต้องมีอยู่แล้ว แต่มันก็มีหลายชมรม ชมรมดนตรีคลาสสิก ชมรมดนตรีไทย ชมรมขับร้อง ชมรมละครเวที ชมรมแต่งเพลง แต่หนูด้วงต้องชอบอันนี้แน่เลย ชมรมกล่องดนตรี” น้องเกลร่ายยาวให้ฟังเพราะอ่านรายละเอียดมาแทนหนูด้วงหมดแล้ว

“กล่องดนตรีเหรอ มันต่างจากอันอื่นตรงไหนเหรอ” หนูด้วงเอียงคอถาม

“เฮ้อ ว่าแล้วเชียวว่าต้องถามแบบนี้ มันคือชมรมดนตรีอิสระ คล้ายๆ พวกโลกส่วนตัวสูง แต่เขามีกิจกรรมให้คนในชมรมสามารถทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยได้นะ แต่ทำงานในร้านของรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว มีไปเปิดหมวกหาเงินเข้าชมรมด้วยนะ”

“เอาๆๆ จะเข้าอันนี้” หนูด้วงตาเป็นประกายเมื่อได้ฟัง

..หมับ..

“ไม่ได้ น้าพญาสั่งมาว่าห้ามให้หนูด้วงไปไหนคนเดียว ยิ่งเป็นตอนกลางคืนยิ่งไม่ได้” คนที่วางมือบนหัวของหนูด้วงพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

“มาถึงก็ขัดเลย หนูด้วงโตแล้วนะ” นกฮูกเถียงแทน

“ยังไม่โต” สิงโตเถียงกลับ

“ชมรมบาริสต้าก็ให้ไปทำงานที่ร้านของรุ่นพี่ได้เหมือนกัน หนูด้วงไปกับเรา ไม่ได้ไปคนเดียว แปลว่าไปได้” นกฮูกกอดอกเมื่อรู้สึกได้เปรียบ

“ก็ได้ก็ได้ อย่าเถียงกัน เราไม่เข้าชมรมนั้นก็ได้” หนูด้วงถอนหายใจเพราะไม่อยากให้เพื่อนเถียงกัน ที่สำคัญไม่อยากให้คนที่บ้านเป็นห่วง

“เป็นเพื่อนหรือเป็นพ่อกันแน่” นกฮูกบ่นสิงโตจบก็เดินนำไป รู้สึกหงุดหงิดที่สิงโตชอบทำตัวเป็นเจ้าของหนูด้วงตั้งแต่ ป.1ยันปี 1

“อ๊ะ! ลืมเลยว่ามัมฝากให้เอาของไปให้น้าตวง เดี๋ยวเรามานะ” หนูด้วงวิ่งตัวปลิวออกไปโดยไม่ฟังคำทัดทานของสิงโตเลย

“รักษาระยะห่างบ้างดิวะเพื่อน” เม่นตบบ่าสิงโตก่อนจะเดินตามนกฮูกไป

สิงโตได้แต่ถอนหายใจ เขารู้ว่าตัวเองเป็นห่วงหนูด้วงเกินกว่าเหตุ แต่เขาจำเหตุการณ์ในอดีตได้เป็นอย่างดี แม้ตอนนั้นเขาจะเป็นแค่เด็กชั้นประถม แต่วันที่เขาปล่อยให้หนูด้วงละสายตาไปจนโดนคนอื่นกลั่นแกล้งมันทำให้เขานึกตำหนิตัวเองตลอดมา ที่ทำให้จำฝังใจมากที่สุดคือหนูด้วงหนีหายออกไปจากโรงเรียน เขาวิ่งตามหาทุกซอกทุกมุมของโรงเรียนจนเหมือนคนบ้า จากวันนั้นเป็นต้นมาเขาสัญญากับตัวเองว่าจะดูแลหนูด้วงให้ดีที่สุด

“น้องสิงโตอยู่นี่เอง!! พวกพี่ตามหาแทบตาย อ้าว..จะหนีไปไหน กลับมาก่อน พวกเรารีบไปล้อมน้องสิงโตเอาไว้ให้ได้ เร็ว!”

รุ่นพี่สองสามคนวิ่งเข้ามาหาสิงโตเพื่อที่จะขอร้องให้เขายอมสมัครเป็นเดือนของคณะ เขาได้ยินเสียงเรียกก็รีบเผ่นไปจากจุดที่ยืนอยู่ทันทีเพราะไม่อยากประกวดอะไรบ้าบอนั่น อยากจะตามหนูด้วงไปแต่ฝ่ายนั้นวิ่งเร็วอย่างกับลมกรด สุดท้ายก็ตัดสินใจหนีกลับไปที่ชมรมฟุตบอลก่อนเพราะไม่อยากโดนรุมด้วยคนที่ไม่คุ้นเคย


...


หนูด้วงยกมือไหว้ท้องฟ้าเมื่อวิ่งหนีออกมาจากกลุ่มได้ไกลพอสมควร กลัวบาปที่พูดปดเพื่อนไปจึงต้องไหว้เทวดาเพื่อขอโทษ มัมๆ ไม่ได้ฝากอะไรมาให้น้าตวงแต่หนูด้วงไม่อยากให้เพื่อนเถียงกันเรื่องของตัวเอง อีกอย่างหนึ่งคืออยากจะมาแอบดูชมรมกล่องดนตรีที่น้องเกลเล่าให้ฟังสักหน่อยว่าเป็นยังไง

“ก็แค่มาแอบดูเฉยๆ หนูไม่ได้สมัครหรอก ดูเฉยๆ จริงๆ” หนูด้วงพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินไปยังชมรมกล่องดนตรี

สิ่งปลูกสร้างกลางเก่ากลางใหม่ตรงหน้าสร้างมาจากไม้ทั้งหลัง แถมมันยังตั้งอยู่ด้านหลังสุดของมหา’ลัยแห่งนี้ กว่าจะเดินมาถึงก็เล่นเอาเหนื่อยอยู่เหมือนกันเพราะมันต้องเดินขึ้นเขามา

ไม่ผิดหรอกที่บอกว่า ‘ต้องเดินขึ้นเขามา’

มหาวิทยาลัยนานาชาติโซเลยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ตั้งอยู่บนเกาะแสงแดดซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เกาะนี้อยู่ไม่ไกลจากเกาะใบไม้ครามสักเท่าไหร่ ตัวมหาวิทยาลัยก่อสร้างอยู่บนเนินเขาและมีภูเขาโอบล้อมเอาไว้เป็นลักษณะครึ่งวงกลม คนที่ก่อตั้งมหา’ลัยแห่งนี้คือคนเดียวกับที่ก่อตั้งโรงเรียนอนุบาลพันแสงและโรงเรียนมัธยมใบไม้คราม นั่นก็คือ ‘น้าตวง’ หรือ ‘ตะวัน’ ของหนูด้วงนั้นเอง

หนูด้วงรู้มาว่าน้าตวงหันมาทุ่มเทให้กับธุรกิจการศึกษาเพราะใจรัก น้าตวงอยากจะเสนอรูปแบบการศึกษาแบบใหม่โดยไปดูตัวอย่างจากประเทศที่ประสบความสำเร็จทางด้านการศึกษาหลายๆ ประเทศแล้วนำมาใช้กับที่นี่ เน้นให้เด็กได้เรียนรู้ที่จะปฏิบัติได้ดีเท่ากับทฤษฎี เมื่อเด็กเลือกสายการเรียนที่จะใช้เป็นอาชีพในอนาคตก็มั่นใจได้ว่าทุกคนพร้อมจะลงมือทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อจบออกไป เมื่อชื่อเสียงของมหา’ลัยแห่งนี้เริ่มเป็นที่รู้จัก จึงมีทั้งเด็กไทยและเด็กต่างชาติมาสมัครเข้าเรียนกันมากมาย

ครอบครัวของหนูด้วงก็สนับสนุนให้มาเรียนต่อที่นี่แทนที่จะไปเรียนที่เมืองนอก นอกจากจะมีน้าตวงเป็นเจ้าของแล้วที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่มีความปลอดภัยสูง ถ้าให้พูดตรงๆ ก็คืออยู่ในสายตาของปู่ย่าตายายพ่อแม่ลุงป้าน้าอาและทุกคนในครอบครัวใหญ่ของหนูด้วง ซึ่งก็ต้องยอมทำตามมติของครอบครัวทั้งที่ใจอยากจะไปเรียนต่อที่อังกฤษ

...ก็ที่ประเทศอังกฤษ...ที่มีคนสำคัญของหนูด้วงอยู่ที่นั่น

“มีใครอยู่ไหมฮะ”

หนูด้วงเดินเข้าไปในบ้านไม้ยกพื้นขนาดกลางก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมชมรมนี้ถึงได้ชื่อว่ากล่องดนตรี นอกจากเครื่องดนตรีหลายชนิดที่วางเต็มพื้นที่แล้วก็ยังมีกล่องดนตรีหรือ music box วางเรียงอยู่ในตู้โชว์เต็มไปหมด หนูด้วงรีบพาตัวเองไปยืนส่องเจ้ากล่องดนตรีด้วยความตื่นตาตื่นใจเพราะมันคือของที่หนูด้วงสะสมอยู่เช่นกัน

“ว้าว..สวยๆ ทั้งนั้นเลย อยากรู้จังมีเพลงอะไรบ้าง ขอดูหน่อยนะครับ” หนูด้วงเอื้อมมือไปหยิบกล่องดนตรีจากในตู้โชว์ออกมาดู

“ขออนุญาตใครรึยัง”

“อ๊ะ!” หนูด้วงตกใจเสียงที่ดังมาจากข้างหลังเลยเกือบทำเจ้ากล่องดนตรีหลุดมือ ดีว่าเจ้าของเสียงที่ทำให้ตกใจช่วยยื่นมือมาประคองมันเอาไว้ “ขอโทษครับ หนูไม่ได้ตั้งใจ” หนูด้วงรีบบอกก่อนจะหันหน้าไปมองอีกฝ่าย

‘บนโลกนี้ มีคนเป็นล้านคน ทุกคนมีเป็นล้านใจ ฉันก็ไม่ใช่ใคร ก็แค่คนหนึ่ง’

ไม่รู้ทำไมหนูด้วงถึงได้พูดอะไรไม่ออกเมื่อสบตาคนที่สูงกว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าใช้เวลาไปกี่วินาที หรือกี่นาที เอ๊ะ..หรือเป็นชั่วโมงแล้ว รู้แต่ว่าร่างกายขยับไม่ได้ โชคดีที่ใจยังเต้นอยู่ ที่รู้เพราะมันเต้น..ตึกตัก..ตึกตัก...อยู่ในอก

“เด็กปีหนึ่งเหรอ ชื่ออะไร”

‘โลกเราดูช่างกว้างใหญ่ ท้องฟ้าดูช่างกว้างไกล เธอแปลกใจบ้างไหม’

“ฆ่าหมกป่าเลยดีไหม ถามไม่ตอบ”

‘มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ เกิดขึ้นจริงจริง หรือฝันไป ที่เรานั้นได้พบกันที่บนโลกนี้’

“ชื่อหนูด้วง พยัคฆ์ นฤวิทย์มณีรัตน์ภูมิเทพ คณะดุริยางคศิลป์ ชอบร้องเพลง มีน้องชายชื่อน้องด้าว ชอบ...ดะ ดะ เดี๋ยวก่อน จะฆ่าใครหมกป่าเหรอครับ ฆะ ฆะ ฆ่าหนูเหรอ หนูยังตายไม่ได้นะ หนูยังไม่ได้ทำพินัยกรรมเลย”

หนูด้วงกำลังจ้องมองดวงตาคมคู่นั้นอยู่เพลินๆ คำว่า ‘ฆ่า’ มันทำเอาหลุดจากภวังค์แทบไม่ทัน

"หึ...ตลกแบบนี้ไม่ฆ่าก็ได้”

“เฮ้ออออออ” หนูด้วงถอนหายใจเสียงดังด้วยความโล่งใจ

“ถ้าตายก็สงสารคนทำพวงหรีด นามสกุลยาวกว่าผ้าบังสุกุลอีกมั๊ง”

“ไม่ยาวเท่าผ้าบังสุกุลหรอก นามสกุลหนูเขียนแล้วแค่นี้แต่ผ้าบังสุกุลยาวเท่านี้ อย่าเถียงหนู หนูมีพ่อเป็นพระนะ” หนูด้วงกางนิ้วให้เท่าความยาวของนามสกุลตัวเองก่อนจะอ้าแขนออกให้ยาวเท่าผ้าบังสุกุลที่เคยเห็นมา

“หึหึ...แล้วมาทำอะไรที่นี่”

“มาส่อง เอ้ย มา...”

‘ไม่รู้จะพูดมันอย่างไร หมดทั้งหัวใจที่ฉันมี ฉันเชื่อว่าสิ่งนี้ คือ..เรื่องมหัศจรรย์ ที่เราได้พบกัน’

“มาสมัครเข้าชมรมนี้ครับ หนูจะต้องสมัครกับใคร” ทั้งที่ก่อนหน้านี้หนูด้วงว่าจะแค่เข้ามาดูเฉยๆ แต่เมื่อถูกคนแปลกหน้าถามมาก็ตอบกลับไปโดยไม่ลังเล

“เล่นเครื่องดนตรีอะไรเป็นบ้าง”

“ก็...กลองแต๊ก กลองยาว อืม...อ๋อ หนูเคยเป่าใบไม้เป็นเสียงเพลงได้ ให้หนูแสดงความสามารถให้ดูไหม แต่หนูเป่าได้เพลงเดียวนะ เพลงแฮปปี้เบิร์ทเดย์ เพลงอื่นเป่าแล้วไม่เวิร์คเลย”

“หึหึ...นี่เรียกว่าความสามารถพิเศษเหรอ”

“แล้ว...พี่เป่าใบไม้เป็นเพลงได้ไหม” หนูด้วงคิดว่าเขาน่าจะอายุมากกว่าเลยถือวิสาสะเรียกเขาว่าพี่ นึกในใจว่าพี่คนนี้เส้นลึกจัง หัวเราะทั้งทีก็ได้ยินเสียงแค่..หึ..นิดเดียวเอง

“......”

“ได้ไหม”

“...ไม่ได้...”

“นั่นไง มันใช่ว่าจะทำได้ทุกคนหรอกน้าาาา มันจึงเป็นความสามารถพิเศษของหนู”

“หึหึ...พิเศษก็พิเศษ ใบสมัครอยู่บนโต๊ะ กรอกทิ้งเอาไว้แล้วกัน เดี๋ยวประธานชมรมก็คงมา”

“พี่ไม่ใช่ประธานชมรมหรอกเหรอ”

“อืม”

“ก็ได้ก็ได้ หนูไปกรอกเอาไว้ก่อน แล้วต้องทิ้งนามบัตรเอาไว้ด้วยไหมฮะ”

“หึหึ...”

“หนูล้อเล่น” หนูด้วงหัวเราะคิกคักก่อนจะเดินไปหยิบใบสมัครมานั่งกรอก

เมื่อได้ยินเสียงกีต้าร์ดังลอยมาเบาๆ จากมุมห้องหนูด้วงก็เลยแอบชำเลืองดู เห็นพี่คนนั้นนั่งเกากีต้าร์อยู่ คุ้นว่าจะเป็นเพลงที่พี่ดีเจเวนกับพีดีเจหมามุ่ยกำลังเปิดต้อนรับน้องปีหนึ่งเปิดอยู่

‘เรื่องมหัศจรรย์’

หนูด้วงแอบลอบสังเกตหน้าตาของอีกฝ่าย เขาจัดว่าเป็นคนหน้าตาดีมากคนหนึ่ง ผมข้างหน้ายาวมาปรกตา ปลายผมด้านหลังก็ยาวละลำคอ หุ่นพี่เขาก็เท่ห์สุดๆ ที่สำคัญคือหนูด้วงอิจฉาความสูงของเขามากๆ

‘นิ้วมือที่เรียวยาวของเขาเวลาที่สัมผัสผ่านสายทองแดงเบาๆ มันดูนุ่มนวลชวนฝันจริงๆ’

หนูด้วงสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาจากกีต้าร์จนได้สบตากันอีกครั้ง เมื่อไม่รู้จะทำยังไงเลยส่งยิ้มไปให้แก้เก้อ พอฝ่ายนั้นยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ ตัวเองถึงได้นิ่งเป็นหุ่นยนต์อีกครั้ง

‘ฉันเชื่อว่าสิ่งนี้ คือ..เรื่องมหัศจรรย์ ที่เราได้พบกัน’



(มีต่อด้านล่างค่ะ)
V
V
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2018 06:10:32 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


“พี่นโมมานานรึยังครับ” เสียงคนที่ก้าวเข้ามาใหม่ทำให้หนูด้วงหลุดจากภวังค์อีกครั้ง

“เพิ่งมา กีต้าร์ตัวนี้ใช่ไหมที่จะให้พี่เอาไปซ่อม”

“ใช่ครับ แล้วก็กล่องดนตรีของพี่ขายได้ตั้งหลายอัน ผมไม่เห็นพี่มาเอาเงินไปสักที”

“กล่องดนตรีนั่นขายเหรอครับ” หนูด้วงได้ยินก็ดีใจจนเสียมารยาทพูดแทรกขึ้นมา

“เพื่อนพี่เหรอ” ทำนุถามรุ่นพี่ที่จบไปหลายปีอย่างงงๆ ไม่ทันเห็นว่านอกจากพี่นโมแล้วยังมีคนอื่นอยู่ในชมรมด้วย

“เขาบอกว่าเขาชื่อหนูด้วง พยัคฆ์ นฤวิทย์มณีรัตน์ภูมิเทพ อยู่คณะดุริยางคศิลป์ มีน้องชื่อด้าว ชอบร้องเพลง จะมาสมัครเข้าชมรมของนาย” นโมเป็นฝ่ายตอบแทนหนูด้วง

“โอ้โห ยาวมาก” ทำนุร้องออกมา

“นามสกุลใช่ไหม” นโมถามรุ่นน้องพลางขำ

“ไม่ใช่ หมายถึงพี่อะ พูดยาวมาก ปกติพี่พูดแทบจะนับคำได้”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” หนูด้วงหัวเราะออกมาเมื่อพี่ที่ชื่อ ‘นโม’ ถูกแซวแทนนามสกุลของตัวเอง

“หึ...ดูท่าจะเส้นตื้น เหมาะกับชมรมของนายดี” นโมยกยิ้มน้อยๆ

“ชมรมของผมก็เคยเป็นชมรมของพี่มาก่อน แปลว่าน้องเขาเหมาะกับพี่เหมือนกัน”

“หึหึ”

“ตกลง พี่รับน้องเข้าชมรม” ทำนุตัดสินใจแบบไม่ต้องคิดนาน

“เย้ ขอบคุณครับพี่ทำนุบำรุง” หนูด้วงรีบยกมือไหว้ประธานชมรม

“บำรุงชื่อพ่อพี่”

“อุ่ย” หนูด้วงยิ้มแห้งๆ ก่อนจะยกมือไหว้อีกรอบ

“แล้วนี่คือพี่นโม รุ่นพี่ของเราที่จบไปแล้ว ผู้ก่อตั้งชมรมนี้ แล้วก็เป็นเจ้าของร้านกล่องดนตรีที่ให้คนในชมรมเราไปร้องเพลง ได้เงินด้วยนะ ฝากเนื้อฝากตัวเอาไว้”

“สวัสดีครับพี่นโม หนูนึกว่าพี่จะเป็นเจ้าของร้านทำผมเสียอีก”

“ทำไม” ทำนุทำหน้างง

“ก็ นโม..ตัดสระ”

“หึ...หึหึหึ” นโมหลุดขำมากกว่าเดิม

“นั่นมัน นะโมตัสสะ!! ก๊ากกกกกก เออ ได้ๆ มุกนี้ได้ชอบ โอเค เดี๋ยวเย็นนี้จะมีการเปิดรับสมัครเด็กปีหนึ่งเข้าชมรม ถือว่าพี่รับน้องหนูด้วงมาเป็นคนในชมรมแล้ว เรามาช่วยพี่ในตอนเย็นก็แล้วกัน” ทำนุหัวเราะ

ทำนุไม่ได้ขำมุกแต่ขำท่าทางคนเล่นมุกต่างหาก ขนาดพี่นโมสายมึนยังหลุดขำได้แปลว่าไม่ธรรมดา แถมยังแทนตัวเองว่าหนูตลอดอย่างนั้นหนูอย่างนี้ เขาก็เพิ่งจะเคยได้ยินเด็กผู้ชายแทนตัวเองแบบนี้ คิดว่าถ้าในชมรมมีคนอย่างหนูด้วงมาวนเวียนอยู่ก็คงสดใสดี ปกติมีแต่พวกห่ามๆ โผงผาง ถ้าพวกนั้นได้มาเจอน้องหนูด้วงคนนี้ก็คงชอบใจไม่ต่างจากเขาเหมือนกัน

“แล้วไม่มีเรียนเหรอ” นโมถามคนที่ยังยืนยิ้มกว้างไม่หุบ

“เฮ้ย หนูลืมไปเลย เจอกันตอนเย็นฮะพี่ทำนุลูกพ่อบำรุง แล้วเจอกันอีกครั้งนะฮะพี่นโม” หนูด้วงหันมาโบกมือให้รุ่นพี่ทั้งสองคนก่อนจะโกยหน้าตั้งออกไปจากชมรมเพราะเลยเวลาเข้าเรียนคลาสแรกแล้ว

‘คือเรื่องมหัศจรรย์ ที่ฉันได้รักเธอ คือเรื่องมหัศจรรย์ที่สุด ที่ฉันเคยได้เจอ เธอ..คือเรื่องมหัศจรรย์’   

“พี่นโม พี่นโม!!”

“ว่า...” นโมถามทำนุเมื่อสายตาละจากแผ่นหลังที่ค่อยๆ ไกลออกไป

“พี่รู้จักเด็กคนนี้มาก่อนเหรอ”

“ทำไม”

“....เปล่าครับพี่....”

ทำนุลังเลใจแต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่ถามเพราะมันอาจจะแค่เรื่องบังเอิญก็ได้ แต่ถ้าเขาจำไม่ผิด..เขาเคยเห็นกล่องดนตรีชิ้นแรกที่พี่นโมทำขึ้นมาด้วยตัวเอง ใต้ฐานกล่องดนตรีสลักคำว่า ‘พดด้วง’ เอาไว้ มันคงเอามาโยงกันแทบไม่ได้หากทำนุไม่เห็นสายตาของพี่นโมเวลาที่มองที่เด็กคนนั้น

...มันอาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญ...





คอลัมน์สะกิดดาว

วันนี้เราจะมาแนะนำน้องใหม่สุดแสนจะเพอร์เฟคที่ทุกคนต้องจับตามอง ปีนี้ไม่ธรรมดาเพราะคนที่เราเลือกมาคุณสมบัติดีงามกว่าทุกๆ ปีและมีหลายคนด้วยกัน หน้าตาคงไม่ต้องพูดถึง ถ้าลองติดโผของสะกิดดาว เราเรียกพวกเขาว่าเป็นเทพบุตรหรือนางฟ้าได้เลยทีเดียว มาๆ อย่ารอช้า ทุกคนมาทำความรู้จักกับพวกเขาได้เลย

เบอร์ 1 นายรัตติ นรากันต์ ชื่อเล่น..นกฮูก คณะทันตแพทย์

สอบเข้ามาด้วยคะแนนที่เป็นอันดับหนึ่งของประเทศและทำลายสถิติของคณะ ตัวเล็กน่ารักน่าฟัน เอ้ย..น่าไปนอนให้ช่วยดูแลรักษาฟัน บอกได้คำเดียวว่าเก่งไม่พอ อนาคตต้องเป็นคุณหมอที่แซ่บจนต้องร้องซี๊ด สะกิดดาวคอนเฟิร์ม

เบอร์ 2 นายราชันย์ อุดมเทพสกุล ชื่อเล่น..สิงโต คณะบริหารธุรกิจ

หล่อ รวย มาดเข้ม เก่งกีฬาทุกประเภท หุ่นดีชนิดนายแบบคลีโอต้องร้องโอ้โหยอมแพ้ ต้องสะสมแต้มบุญมาตั้งแต่ชาติที่แล้วถึงจะได้ใกล้ชิดผู้ชายสมบูรณ์แบบคนนี้ จบแล้วอยากจ้างมาบริหารใจต้องใช้อะไรช่วยบอกหน่อยจ้า

เบอร์ 3นางสาวเกวลิน ศิรเกล้า ชื่อเล่น..ไนติงเกล คณะนิเทศศาสตร์
หน้าตาจิ้มลิ้มจนหนุ่มๆ อยากเอานิ้วไปจิ้มที่หัวใจ สาวมาดมั่นผู้มาพร้อมกับข้อมูลมากมายและมั่นหมายว่าจะเป็นเหยี่ยวข่าวสาวที่เริ่ดที่สุดในปฐพี ระวังเอาไว้ให้ดีเพราะน้องเกลคนนี้จะเข้าไปสืบในหัวใจคุณโดยไม่รู้ตัว

เบอร์ 4 นางสาวพิชชา วรรณเมชานนท์ ชื่อเล่น..น้ององุ่น คณะนิเทศศาสตร์
สาวหน้าหมวยและรวยมากกกกกก เสื้อผ้าหน้าผมเรียกได้ว่ายกแบรนด์เนมมาไว้บนตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า สวย เฉี่ยว เปรี้ยว ไม่มีใครเกิน แต่หนุ่มๆ ต้องพยายามหน่อยนะ แอบมีพรายกระซิบว่าเธอคือหวานใจของคุณเบอร์ 2 เขาค่ะ อุ๊ปส์...

เบอร์ 5 นายเมธัญ คุณวุฒิ ชื่อเล่น...เม่น คณะวิศวกรรมศาสตร์
ว้ายๆๆๆ ระวังโดนหนามเม่นทิ่มแทงนะคะทุกคน หล่อร้ายกาจ เจ้าชู้นิดๆ กระล่อนหน่อยๆ ยิ้มโปรยเสน่ห์จนสาวเคลิ้ม เจ้าของสโลแกน...ผมเจ๋ง... โฆษณาตัวเองแบบนี้เกินจริงรึเปล่าคะ อย่างนี้ดิฉันต้องขอไปลองค่ะแล้วจะมาบอก

เบอร์ 6 นางสาวมิกิ พงษ์จรัญ ชื่อเล่น...มิกิ สาวลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น คณะมนุษย์ศาสตร์
เจ้าแม่วิกตอเรียคนใหม่แห่งโซเลย ผิวขาวจั๊วะ เอวคอด สะโพกมน ขายาวสวย รวยเสน่ห์สุดๆ สัดส่วนเป๊ะมากค่ะ ต่อให้ดิฉันคายอวัยวะภายในร่างกายออกมาจนหมดก็คงไม่ได้หุ่นแบบน้องมิกิแน่ๆ เลย ได้ข่าวว่าหนุ่มๆ โซเลยเตรียมกดโหวตให้จนมือเป็นระวิงแล้วจ้า

เบอร์ 7 นายพยัคฆ์ นฤวิทย์มณีรัตน์ภูมิเทพ ชื่อเล่น...หนูด้วง คณะดุริยางคศิลป์
นามสกุลที่ว่ายาวยังไม่เท่าความน่ารักของเจ้าของนามสกุลเลยค่ะ ขนตาย๊าวยาวจนดิฉันอยากยืมมาทำพัด ที่แน่ๆ หนุ่มน้อยคนนี้ไม่ธรรมดา พูดได้ถึง 5 ภาษา แถมยังเป็นทายาทของตระกูลภูมิเทพ ตระกูลที่ร่ำรวยแบบใช้เงินจนถึงชาติหน้าก็ไม่หมด เท่านั้นยังไม่พอค่ะ คุณพ่อเป็นถึงนักวิจารณ์อาหารคอลัมน์ยอดนิยมที่คนรู้จักทั้งประเทศ มีคุณพ่อทูนหัวเป็นเชฟชื่อดังอีกต่างหาก ปู่ย่าตายยายพี่ป้าน้าอาก็ล้วนแต่มีฐานะที่ดีมากถึงมากที่สุดและหน้าตาทุกคนก็ดีมากถึงมากที่สุดด้วยเหมือนกันนะจ๊ะ ฉายาของหนุ่มน้อยที่สะกิดดาวแอบรู้มาคือ..หนูด้วงผู้วิเศษ..แต่จะวิเศษยังไงต้องคอยติดตามกันต่อไปค่ะ

เป็นยังไงบ้างคะ นี่แค่ประวัติคร่าวๆ ของเหล่าดาวดวงใหม่เท่านั้น อย่าลืมโหวตให้คะแนนดาวดวงใหม่กันด้วยนะคะ รักใครเชียร์ใครก็โหวตเลยค่ะ แล้วติดตามคอลัมน์สะกิดดาวเอาไว้ให้ดี เราจะมีอะไรมานำเสนอให้เด็ดมากกว่าทุกปี เราจะซอกแซกล้วงแคะแกะเกาทุกเรื่องของชาวโซเลย

‘เพราะความลับของคุณคืองานของเรา’

.....

“เจ๋ง พวกเราติดโผดาวดวงใหม่กันทั้งกลุ่มเลย” เม่นอ่านข้อความในคอลัมน์สะกิดดาวให้เพื่อนๆ ฟังในแคนทีนของมหา’ลัย

“มียัยองุ่นติดโผด้วย แหวะ” น้องเกลเบ้ปากใส่ศัตรูคู่อาฆาต

“พรายตัวไหนมันไปกระซิบมั่วๆ ว่าเป็นหวานใจเราวะ เดี๋ยวแม่งต้องให้แอดมินเพจลบข้อมูล ถ้าไม่ลบจบไม่สวยแน่” สิงโตคำรามด้วยความหงุดหงิด

‘องุ่น’ เคยเรียนที่โรงเรียนอนุบาลพันแสงเหมือนกับทุกคนในแกงค์ The zoo พี่ชายขององุ่นคือ ‘ส้มโอ’ มีนิสัยอันธพาลชอบทำตัวกร่างเพราะคิดว่าพ่อแม่ของตัวเองคอยให้ท้าย ครั้งหนึ่งองุ่นเคยมีเรื่องกับน้องเกลและหนูด้วง ฝ่ายนั้นไปฟ้องพี่ชายให้มาจัดการแทนเมื่อตัวเองสู้ไม่ได้ แต่แล้วพี่ชายขององุ่นก็โดนหนูด้วงเตะผ่าหมากเข้าให้จนลงไปกองกับพื้น พ่อแม่ของส้มโอจะมาเอาเรื่องหนูด้วง แต่พอฝ่ายนั้นรู้ว่าหนูด้วงคือหลานของนายพญาภูมิเทพก็ถอยร่นกลับไปแทบไม่ทัน

ที่พีคสุดคือพ่อกับแม่ของส้มโอและองุ่นย้ายลูกของตัวเองไปเรียนที่อื่นแบบกลางคัน ไม่มีใครรู้ว่าทำไมพ่อกับแม่ของทั้งคู่ถึงรีบย้ายทั้งที่ส้มโออยู่ชั้น ป.6 แล้ว ปกติส้มโอก็แกล้งคนที่อ่อนแอกว่าเสมอแต่ก็ไม่เคยเห็นว่ามีใครจะทำอะไรส้มโอได้ นักเรียนทุกคนในโรงเรียนพันแสงจึงรู้สึกดีใจที่คนอย่างส้มโอย้ายไปเสียได้ ยกเว้นเพื่อนๆ ในแกงค์ The zoo เท่านั้นที่รู้ว่าเพราะอะไร

“เออ ได้ข่าวว่าไอ้ส้มโอมันก็เรียนอยู่ที่นี่นะ” เม่นรีบบอก

“จริงดิ หนูด้วงต้องอยู่ใกล้ๆ เรา อย่าไปไหนคนเดียวรู้ไหม แล้วเมื่อเช้าหายไปไหนมา เห็นบอกว่าเข้าคลาสสาย ไปคุยกับครูตะวันมาใช่ไหม”” สิงโตได้ยินเรื่องส้มโอก็นึกเป็นห่วงหนูด้วง ขนาดตอนเด็กๆ ส้มโอยังร้ายกาจ โตมาคงไม่พ้นทำตัวกร่างอย่างเดิมหรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

“หนูด้วง...”

“หนูด้วง...”

“หนูด้วง!!”

“อะ...อะไร ตะโกนทำไม ตกใจ” หนูด้วงสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนๆ ตะโกนเรียกชื่อตัวเอง

“ก็เหม่ออยู่นั้นแหละ พวกเราเรียกตั้งนาน” น้องเกลบ่น

“คิดถึงน้องด้าวอยู่” หนูด้วงรีบแก้ตัว

“ทำไมไม่เอาน้องด้าวมาด้วยล่ะ” นกฮูกถาม

“เอามา อยู่นี่ไง” หนูด้วงก้มลงมองหาเป้ แต่ว่า... “เฮ้ย น้องด้าวหาย!! หายไปไหน”

“ไปลืมเอาไว้ที่ไหนอีกแล้ว โก๊ะประจำเลย” สิงโตยีผมหนูด้วงอย่างขำๆ การลืมนั่นนี่หรือทำอะไรเปิ่นๆ เป็นเรื่องปกติของหนูด้วงในสายตาของเพื่อนๆ ไปเสียแล้ว

“สงสัยลืมเอาไว้ที่ชมรมกล่องดนตรี” หนูด้วงนึกขึ้นมาได้ว่าวางเป้เอาไว้ตอนกรอกใบสมัคร

“ไปทำอะไรที่ชมรมนั้น” สิงโตถามเสียงเข้ม

“ไปสมัครมาใช่ไหม” นกฮูกถามเสียงใส

“อือ” หนูด้วงพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะลอบมองสิงโตด้วยสีหน้าเจื่อนๆ

“เฮ้อ ดื้อเป็นที่หนึ่ง อยากเข้าก็เข้า แต่ถ้าต้องไปทำงานด้วยต้องไปขอทุกคนที่บ้านเอาเองนะ” สิงโตรู้ว่าห้ามหนูด้วงไม่ได้ก็เลยตามใจ มือหนาลูบผมหนูด้วงอีกครั้งอย่างอ่อนใจ เขาคิดว่าอย่างมากก็คงได้แค่อยู่ในชมรม น้าพญาไม่มีวันอนุญาตให้หนูด้วงออกไปทำงานกลางคืนแน่ๆ สิงโตมั่นใจ

...
..
.

“กรี๊ดดดด ฉันบอกแล้วว่าเขากิ๊กกัน”

เสียงกรีดร้องเบาๆ ดังขึ้นในมุมหนึ่งไม่ไกลจากที่แกงค์ The zoo นั่งกันอยู่ หญิงสาวสี่ห้าคนกำลังแอบถ่ายรูปสิงโตกับหนูด้วงกันอย่างเมามัน พอเห็นสิงโตลูบศีรษะของหนูด้วงก็อดส่งเสียงดีใจออกมาไม่ได้

“นั่นสิ โอ้ย ใจบางไปหมดแล้ว สมกันมาก”

“สาววายอย่างเราได้เจอคู่ไอดอลแล้ว ถ่ายรูปสิแก เร็วๆ ตอนลูบหัวกันนี่แหละ แล้วติดแท็กว่า..สิงด้วง..นะแก ถ่ายดิ ถ่ายๆ”

“ปีนี้ชมรมโอนลี่วายเราต้องชนะชมรมเลิฟนอร์มอลแน่ๆ โอ้ย..ขอบคุณฟ้าที่ประทานน้องสิงโตกับน้องหนูด้วงมาให้โอนลี่วายแห่งโซเลยนะเจ้าคะ”

“เฮ้ยแก ถึงจะมีคู่จิ้นแล้วแต่เรื่องสั้นของเรายังไม่มีพล็อตเลยนะ เอาไงดี จะประกวดชนะพวกมันไหมเนี่ย”

“ต้องหามือที่สามที่ช่วยให้เนื้อเรื่องมันเข้มข้น”

“เอาใครดีวะ”

“เอากูไหม” เสียงแหบเอ่ยขึ้นท่ามกลางกลุ่มรุ่นพี่ปีสามที่เป็นสาววายเต็มขั้น

“โอ!!”

“เออ กูจะช่วยเป็นตัวร้ายในนิยายของพวกมึงให้ รับรองสนุกแน่”

ส้มโอส่งยิ้มร้ายไปที่หนุ่มน้อยหน้าตาน่ารัก ไม่ได้เจอกันนานแต่เขาไม่เคยลืมอีกฝ่ายเลย จากที่คิดว่าเกลียดฝังใจ ตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสจะมาทวงความแค้นคืน โดยเฉพาะไอ้สิงโตที่มันมาต่อยเขาจนฟันหน้าหักไปถึงสองซี่ พอรู้ว่าทั้งคู่มาเรียนที่นี่เขาก็ดีใจที่จะได้สะสางกันเสียที แต่มาวันนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว พอได้เห็นรอยยิ้มจากเด็กด้วงนั่นอีกครั้งก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมที่ผ่านมาตัวเองไม่เคยลืมคนๆ นี้ได้เลย

โปรดติดตามตอนต่อไป

มาแล้วค่ะ หนูด้วงมาแล้ววววว ฝากเนื้อฝากตัวปี้จ๋าทุดคนเหมือนเดิมที่เพิ่มเติมคือไม่ต้องใช้วุ้นแปลภาษาแล้ว คอยดูพัฒนาการของหนูด้วงไปเรื่อยๆ นะคะ ไหนๆ ก็เฝ้าดูมาตั้งแต่เดินเตาะแตะ มาช่วยลุ้นความรักของเด็กน้อยกัน

สำหรับท่านที่เพิ่งมาอ่านเรื่องนี้ เลิฟแนะนำว่าไปอ่าน ปรุงรักให้ลงล็อก ต่อด้วย ปลดล็อกให้ความรัก ก่อนนะคะ จะได้อินและฟินมากๆ อิอิ เชิญชวนค่ะ ขอบคุณพี่จ๋าทุกคนที่ยังไม่ทิ้งกันไปไหน แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ   


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2018 06:10:47 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ cross

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
ก็แย่ละ โอดอุ้น หรือ นโม กันละทีนี้

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
โอดอุ้น นโม สิงโตคล้องจองมากๆๆแต่ต้องพี่โอดอุ้นเท่านั้น

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
แล้วจะมีพี่โอบอุ่นไหม :hao4: :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
เปิดเรื่องมาหนูด้วงฮอตมาก ทั้ง สิงโต ส้มโอ มโน  แต่เราคิดถึงแต่พี่โอบอุ้มนะ

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
ตอนนี้จิ้นไม่ถูก แต่อยากให้ในแก๊งค์มีคู่ทุกคน 

หนูด้วงเสน่ห์แรงมาก แค่ตอนแรก ก็มีพี่นโม  ส้มโอ มาเพิ่มอีก รวมสิงโต และสุดท้ายพี่โอบอุ้ม


ว่าแต่พี่โอบอุ้มชื่อจริงว่าอะไร เราจำไม่ได้แล้ว 555

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
แล้วพี่โอบอุ้มละค๊าาาาา
หรือว่าจะดราม่าน้ำตาท่วม งื้อออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
หนูด้วงจะคู่ใครดี แต่ละคนดีงามไปหมด คู่ใครก็ได้ขอให้หนูด้วงมีความสุข รอติดตามนะคะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เครียดเลยค่ะ ไหนจะสิงโต ปี้โอดอุ้น พี่นโมอีกกก  :hao5:

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เพลงรักที่หายไป
เพลงที่ 2 คืนที่ดาวเต็มฟ้า
ศิลปิน ปราโมทย์ วิเลปะนะ

คลาสเรียนในวันแรกไม่มีอะไรมากนัก อาจารย์ให้นักศึกษาทุกคนแนะนำตัวเอง ให้เล่าถึงความฝันและเป้าหมายพร้อมกับโชว์สิ่งที่ตัวเองถนัด หนูด้วงได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่อยู่หลายคน แต่ละคนมีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีด้วยกันทั้งนั้น ส่วนหนูด้วงเลือกการขับร้องเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข ทางครอบครัวก็ไม่ได้ว่าอะไรที่เลือกเรียนทางนี้ มีเพียงคุณตาพยนต์เท่านั้นที่อยากให้หนูด้วงเรียนด้านบริหารจะได้นำไปสานต่อในธุรกิจของครอบครัว แต่เมื่อหนูด้วงยืนยันที่จะเรียนคณะนี้คุณตาก็เลยต้องตามใจ

การได้ก้าวเข้ามาเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยสนุกมากกว่าที่คิดเอาไว้ ถึงแม้เพื่อนๆ ที่รู้จักกันตั้งแต่ชั้นประถมและมัธยมจะตามมาเรียนที่นี่กันหลายคน แต่หนูด้วงก็ยังแอบกังวลเรื่องการต้องพบเจอกับผู้คนใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคย ที่ผ่านมาตัวเองอยู่กับเพื่อนกลุ่มเดิมๆ สังคมเดิมๆ เลยมีความกังวลเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง

‘หนูด้วงต้องหัดออกมาจากเซฟโซนบ้าง มาทำความรู้จักเพื่อนใหม่ๆ เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ แต่ต้องเรียนรู้ด้วยความระมัดระวังนะครับ’

เพราะคำสอนของพี่โอบอุ้มจึงทำให้หนูด้วงตัดสินใจสมัครเข้าชมรมกล่องดนตรีแทนที่จะเลือกตามเพื่อนสนิทเหมือนอย่างทุกครั้ง ทั้งที่ชมรมเกี่ยวกับดนตรีมีมากมาย แต่ที่นี่แหละที่หนูด้วงคิดว่าเหมาะกับตัวเองมากที่สุด

“ทำไมต้องเป็นชมรมนี้” คำถามจากนกฮูก

“พี่โอบอุ้มเคยไปร้องเพลงเปิดหมวกหาเงินช่วยผู้ประสบภัย เราอยากทำบ้าง น้องเกลบอกว่าชมรมนี้มีจัดกิจกรรมนี้ด้วย ถ้าเราได้ทำจะได้มีเรื่องไปเล่าให้พี่โอบฟัง”

“ว่าแล้วเชียว”

“ว่าแล้วเชียวอะไร”

“พี่โอบอุ้มไง เป็นคำตอบสุดท้ายของหนูด้วงเสมอ”

“เชื่อพี่โอบอุ้มไม่ดีเหรอ” หนูด้วงเอียงคอถามเพื่อนสนิทด้วยความสงสัย

“ไม่ใช่ไม่ดี แต่เราแค่สงสัย”

“สงสัยอะไร”

“หนูด้วงไม่ได้เจอพี่โอบอุ้มมาตั้งสิบกว่าปีแล้วนะ พี่เขาเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้างก็ไม่รู้ จำหน้าเขาได้รึเปล่าเหอะ เราว่าพี่เขาคงไม่กลับมาแล้วแหละ”

“พี่เขาเหมือนเดิมกับเรานะ เราก็เขียนอีเมล์หาพี่โอบอุ้มทุกวัน พี่โอบอุ้มก็ตอบเราทุกวัน ถึงไม่ได้เจอกันแต่เราก็รู้เรื่องกันและกันตลอด”

“มันไม่น่าแปลกเหรอ ในยุคสมัยที่การสื่อสารติดต่อกันง่ายมากแต่กลับคุยผ่านอีเมล์อย่างเดียว แอพในโทรศัพท์ก็มีที่คุยแบบเห็นหน้าได้แต่ทำไมพี่โอบอุ้มถึงไม่ยอมคุยแบบนั้น พี่เขากลัวอะไร เราว่าหนูด้วงตัดใจเถอะ อย่ารอพี่เขาอีกเลย”

“ตัดใจจากอะไร พี่น้องตัดกันไม่ได้หรอก เราเชื่อว่าพี่โอบจะต้องมีเหตุผลแต่เหตุผลนั้นคงบอกเราไม่ได้”

“แล้วทำไมไม่ไปหาพี่โอบที่อังกฤษล่ะ”

“ยุงพญาไม่ให้ไป”

“ทำไม”

“ไม่รู้ดิ”

“แล้วหนูด้วงไม่อยากรู้เหรอว่าทำไม ทำไมยุงพญาไม่ให้ไป ทำไมพี่โอบไม่ยอมให้เห็นหน้า ปกติเป็นเจ้าหนูขี้สงสัยมาตลอดนะ”

“ก็ได้ก็ได้ ยอมรับว่าสงสัย เคยถามยุง ยุงก็บอกว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะต้องไป แล้วเราไม่กล้าถามพี่โอบหรอกว่าทำไมไม่ยอมให้เราเห็นหน้า พี่โอบว่าไงเราก็ว่างั้น”

“ถามจริง หนูด้วงคิดกับพี่โอบแค่พี่ชายเหรอ”

หนูด้วงนิ่งไปอึดใจ นกฮูกไม่ได้ถามคำถามแบบนี้เป็นครั้งแรก เคยถูกเพื่อนสนิทคนนี้ถามมาหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยตอบกลับไปสักครั้ง แต่ครั้งนี้ตั้งใจว่าจะตอบ

“ไม่รู้ คิดแบบไหนได้อีก”

“เราก็ไม่รู้ ไม่เคยมีทั้งพี่แล้วก็ไม่เคยมีความรัก” นกฮูกส่ายหน้า

“ทำยังไงจะรู้ได้” หนูด้วงถามพลางถอนหายใจ

“ถ้าหนูด้วงเจอคนอื่นที่ทำให้รักได้ก็แปลว่าไม่ได้รักพี่โอบแบบแฟนล่ะมั๊ง”

“แด๊ดดี้บอกว่าแฟนคือคนที่ไม่ปล่อยมือจากกัน อยู่เคียงข้างกัน แต่เราไม่ได้จับมือแล้วก็ไม่ได้อยู่เคียงข้างพี่โอบ”

หนูด้วงพยายามคิดว่าตัวเองใช้คำว่า ‘แฟน’ กับพี่ชายที่อยู่ไกลกันได้หรือเปล่า มัมกับแด๊ดเล่าให้ฟังว่าตอนเด็กๆ หนูด้วงชอบขี่ตู่ว่าพี่โอบอุ้มเป็นแฟนของตัวเอง ใครถามก็จะตอบแบบนี้ทุกครั้ง หนูด้วงไม่เคยสนใจความหมายของมัน รู้แต่ว่าแด๊ดดี้เป็นแฟนกับมัม พี่พายเป็นแฟนกับพี่เมี่ยง ยุงพญาเป็นแฟนกับอาน้อง พี่ก้านก็เป็นแฟนกับน้าตวง ทุกคนเป็นผู้ชายที่มีแฟนเป็นผู้ชาย เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะได้ผู้ชายสักคนมาเคียงข้าง หนูด้วงก็อยากให้เป็นพี่โอบอุ้มเท่านั้น

นกฮูกฟังแล้วอธิบายถึงความรักในแบบที่เคยอ่านเจอมาจากหนังสือเล่มหนึ่งบ้าง

“แฟนคือคนที่เรารักเขาแล้วเขาก็รักเราต่างหาก คนที่ทำให้เราใจเต้นทุกครั้งที่ได้สบตา ถ้าได้กอดกันแล้วหน้าจะร้อนผ่าว แล้วก็ถ้า...”

“ถ้าอะไร”

“ถ้าได้นอนด้วยกันจะเหมือนบินได้”

“บินได้เลยเหรอ” หนูด้วงทำตาโต

“อือ ก็เขาว่ามาแบบนั้นนะ”

“นกฮูกว่าเรามีแฟนผู้ชายหรือมีแฟนผู้หญิงดีกว่า”

“ไม่สำคัญหรอก ขึ้นอยู่กับว่าใครทำให้เราหัวใจเต้นแรงมากกว่า”

“แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเรารักใครไปรึยัง”

“.......”

“.......”

“ลองถามพี่โอบแล้วกัน”

“ลองถามพี่โอบแล้วกัน”

ทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมกันหลังจากที่เอาแต่มองหน้ากันอยู่นานเพราะไม่รู้ตอบยังไง แล้วก็พากันหัวเราะเพราะสุดท้ายแล้วก็ไม่พ้นพี่โอบที่เป็นคำตอบสุดท้ายเหมือนเดิมอยู่ดี

“เราไปที่ชมรมก่อนนะ พี่ทำนุให้เราไปช่วยต้อนรับคนที่มาสมัครเข้าชมรม จะไปตามหาน้องด้าวด้วย” หนูด้วงดูเวลาก่อนจะลุกขึ้นเตรียมตัวไปที่ชมรมของตัวเองอีกครั้ง

“ไม่รอสิงโตเหรอ” นกฮูกถาม

“ต้องรอด้วยเหรอ”

“อ้าว ก็เห็นสิงโตบอกว่าจะไปกับหนูด้วงด้วย”

“ฝากนกฮูกรอแทนเราก็แล้วกัน ถ้าสิงโตไม่รู้จะไปไหนก็ฝากเอาไปด้วย เราไปนะ”

“เดี๋ยวสิหนูด้วง ของแบบนี้มันฝากกันได้ด้วยเหรอ หนูด้วง!!”

หนูด้วงหันมายิ้มให้นกฮูกก่อนจะโบกมือให้ ไม่ได้สนใจคำทักท้วงเพราะอยากจะไปเจอกับสมาชิกคนอื่นๆ ในชมรมเร็วๆ  ตั้งใจไปก่อนเวลาเพราะถ้ามีคนมาสมัครเยอะๆ จะได้ช่วยพี่ทำนุต้อนรับเพื่อนใหม่ ถึงแม้ตัวเองจะเป็นสมาชิกใหม่เหมือนกันแต่ก็ถือว่าได้รับมอบหมายจากรุ่นพี่แล้วก็ต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่

...

กว่าจะวิ่งขึ้นมาถึงชมรมกล่องดนตรีก็เล่นเอาหนูด้วงยืนหอบอยู่หน้าประตูพักใหญ่ เมื่อรู้สึกหายเหนื่อยแล้วก็เปิดประตูเข้าไปทักทายทุกคนด้วยน้ำเสียงที่สดใส “สวัสดีฮะทุกคนทุกคน หนูมาแล้ว”

...ภาพที่คิดไว้...

สมาชิกในชมรมต่างกำลังพูดคุยและชวนกันร้องเพลงด้วยความสนุกสนาน รุ่นพี่ต้อนรับรุ่นน้องด้วยความอบอุ่น มีความชุลมุนเล็กน้อยเนื่องจากคนมาสมัครเต็มไปหมด

...ภาพแห่งความจริง....

“มาแล้วเหรอน้องหนูด้วง” ทำนุเดินมาจากทางด้านหลังของชมรม เมื่อเห็นสมาชิกคนใหม่มาถึงเลยเอ่ยทักอย่างเป็นกันเอง

หนูด้วงมองหน้าทำนุก่อนจะมองไปยังที่ผู้ชายแปลกหน้าอีกสามคนที่นั่งก้มหน้าจดจ่ออยู่กับเครื่องดนตรีของตัวเอง แต่ละคนดูไม่สนใจว่ามีคนเปิดประตูเข้ามาด้วยซ้ำ ภายในชมรมก็เงียบจนแทบได้ยินเสียงแมงมุมชักใยอยู่ ที่ต้องเปรียบถึงแมงมุมเพราะตามมุมเพดานห้องมีใยแมงมุมกระจายอยู่เต็มไปหมด

“สวัสดีฮะพี่ทำนุ สวัสดีฮะทุกคนทุกคน” หนูด้วงเอ่ยทักทายอีกรอบเพราะพวกเขาอาจจะไม่ได้ยิน

“พวกมึง น้องมันทักอย่าเสียมารยาท น้องหนูด้วง...สามคนนี้เป็นสมาชิกในชมรมของเรา เป็นรุ่นพี่ปีสามกับปีสี่” ทำนุหันไปตำหนิเพื่อนก่อนจะหันมาพูดกับหนูด้วง

‘ตีด ติด ติ๊ววว’ เสียงรี๊ดกีต้าร์ไฟฟ้าจากชายหนุ่มผมยาวถึงกลางหลังดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ สักพักก็ได้ยินเสียงเบสและเสียงอิเล็กโทนจากพี่อีกสองคนดังขึ้นมาพร้อมกัน หนูด้วงได้แต่มองตาปริบๆ เพราะยังไม่มีใครพูดอะไรออกมา

“ไอ้ป้ายมันบอกว่าสวัสดีน่ะหนูด้วง แต่มันติสท์ มันเลยทักด้วยเสียงกีต้าร์” ทำนุส่ายหน้าอย่างระอาก่อนจะอธิบายให้หนูด้วงฟัง

“เด็ดเด็ด!!” หนูด้วงร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น เพิ่งรู้ว่าใช้เครื่องดนตรีทักทายกันได้ด้วย

“ส่วนไอ้แปะกับไอ้กาดมันเลยเอาบ้าง ทักทายด้วยเบสและอิเล็กโทน อย่าไปถือสานะ พวกมันกวนๆ แบบนี้แหละ” ทำนุรีบอธิบายให้น้องใหม่ของชมรมฟัง

หนูด้วงล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบใบไม้ขึ้นมาทาบที่ริมฝีปากเพื่อเป่าทักทายทุกคนกลับบ้าง

‘แป๊ด แปด แป้ดดดด’

รอยยิ้มสดใสค่อยๆ จางหายไปเมื่อสิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบงัน แต่เพียงเสี้ยวนาทีเสียงหัวเราะจากรุ่นพี่ทั้งสี่คนก็ดังขึ้นมาจนหนูด้วงตกใจ

“กูบอกพวกมึงแล้วว่าน้องมันฮา” ทำนุหัวเราะจนตัวงอ

“เฮ้อ ขำชิบหาย เออๆ กูชอบ” ป้ายปรบมือให้หนูด้วง

“ความสามารถพิเศษตามที่กรอกเอาไว้จริงๆ เป่าใบไม้เนี่ย ฮ่าๆ” แปะรู้สึกว่าชมรมกล่องดนตรีไม่มีเสียงหัวเราะแบบนี้มานานมากแล้วจริงๆ

“ยินดีต้อนรับนะน้องด้วง เป่าเก่งใช้ได้” กาดเดินเข้ามายื่นมือให้หนูด้วง

“เวลาเป่าทำปากจู๋แบบนี้นะฮะ” หนูด้วงนึกว่าพี่คนนี้อยากได้ใบไม้ไปลองเป่าจึงรีบส่งให้พร้อมกับห่อปากให้ดู

“คือ...พี่จะจับมือแสดงความยินดี” กาดมองใบไม้ในมือก่อนจะยิ้มแหยๆ แล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นมาอีกรอบ หนูด้วงเห็นพี่ทุกคนหัวเราะก็เลยหัวเราะตามบ้าง กว่าจะได้แนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการก็ต้องรอให้ทุกคนขำจบเสียก่อน

คนแรกที่แนะนำตัวคือพี่กาด ชื่อจริงว่าประกาศ อยู่ปี 3 อยู่คณะเดียวกับหนูด้วงและพี่ทำนุ พี่กาดเล่าว่าเขาเกิดในวันที่ตรงกับวันที่พระนเรศวรประกาศอิสรภาพพอดีพ่อแม่เลยตั้งชื่อนี้ให้ หนูด้วงแอบคิดในใจว่าโชคดีที่ไม่ได้เกิดตรงกับวันที่กรุงศรีถูกตีเมือง ไม่อย่างนั้นพี่กาดคงได้ชื่อกรุงแตกแน่ๆ

ส่วนพี่อีกสองคนเป็นคู่แฝดกัน ก็คือพี่ป้ายกับพี่แปะ ชื่อจริงของพี่แฝดคือชยกรกับธนกร เรียนอยู่ปีสี่ปีเดียวกับพี่ทำนุ ทั้งคู่อยู่คณะศิลปกรรม เป็นคู่แฝดที่หน้าตาเหมือนกันมาก แต่ก็มีวิธีจำง่ายๆ คือพี่ป้ายผมยาวพี่แปะผมสั้น พี่ป้ายชอบเก๊กมาดเข้ม ส่วนพี่แปะดูเป็นคนขี้เล่น

“หนูว่าพี่สามคนน่าจะอยู่คณะนิเทศฯ เอกโฆษณามากกว่า”

“ทำไม” ทั้งสามคนถามขึ้นพร้อมกัน

“ก็ถ้าพี่ไปยืนรวมกัน ก็เป็น...แปะป้ายประกาศ” หนูด้วงพูดแล้วก็ปิดปากขำอยู่คนเดียว เมื่อไม่เห็นว่ามีใครหัวเราะตามจึงหยุดหัวเราะแล้วส่งยิ้มแห้งๆ ไปแทน

“ฮ่าๆๆๆ” แล้วทำนุก็เป็นคนที่หัวเราะออกมาก่อน

“กูไม่เคยนึกถึงมุกนี้มาก่อนเลย” แปะมองหนูด้วงอย่างทึ่งๆ ก่อนจะขำตามทำนุไปอีกคน

“เด็กแสบ” กาดขำพลางตั้งฉายาให้หนูด้วงเสร็จสรรพ

“แล้วพี่นโมว่าไงเรื่องรับสมาชิกใหม่” ป้ายพยายามกลั้นขำเพราะไม่อยากให้เสียลุคศิลปินผมยาวสุดเซอร์

“เจอกันแล้ว พี่เขาไม่ได้ว่าอะไร” ทำนุบอกกับเพื่อน

“ดีเลย งั้นขอต้อนรับหนูด้วงเด็กแสบสู่ชมรมกล่องดนตรี” แปะปรบมือให้หนูด้วงอีกครั้ง

“ขอบคุณพี่ทุกคนทุกคนที่รับหนูเข้าชมรมครับ” หนูด้วงยกมือไหว้จนครบ

“นึกว่าปีนี้จะมีผู้หญิงมาสมัครเข้าชมรมกับเขาบ้าง กลายเป็นเจ้าเด็กนี่ไปได้ยังไงกัน” ป้ายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะก้มลงไปสนใจกีต้าร์ในมือของตัวเองต่อ

“หนูว่าเดี๋ยวก็มีมาสมัคร เรารีบจัดโต๊ะรอรับสมัครกันเถอะครับ” เมื่อครู่ตอนที่หนูด้วงเดินผ่านชมรมต่างๆ เห็นเด็กปีหนึ่งเริ่มทยอยกันไปสมัครตามความสนใจของตัวเอง ชมรมที่มีนักศึกษาไปต่อแถวยาวที่สุดคือชมรมละครของคณะนิเทศฯ แต่ชมรมอื่นๆ ก็มีคนสนใจไม่น้อยเหมือนกัน

“เราปิดรับสมัครแล้ว” ป้ายบอกสั้นๆ

“ห๊ะ...หนูมาช้าไปเหรอครับ” หนูด้วงก็ว่าตัวเองมาก่อนเวลานัดเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว

“ไม่ช้าหรอก แต่พวกมันบอกว่าปีนี้รับคนเดียวพอ” ทำนุอธิบายต่อ

“คนเดียวเองเหรอครับ” หนูด้วงเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

“อืม ไม่ชอบคนเยอะแยะ คนเยอะแล้วเรื่องมาก แค่นี้วงพวกเราก็ครบแล้ว” กาดอธิบายเพิ่มเมื่อเห็นน้องใหม่ทำหน้าสงสัย

“ก็ยังดีที่มีเพื่อนอีกคน ไหนละครับคนที่รับเข้ามาใหม่” หนูด้วงมองหาสมาชิกใหม่คนเดียวที่ว่า จนสายตาทั้งสี่คู่มองตรงมาที่ตัวเองอีกครั้ง

“ก็เราไง มากรอกใบสมัครไว้เองแท้ๆ” เจ้าของเสียงที่ให้ความกระจ่างแก่หนูด้วงพูดพลางเอาตุ๊กตาเอเลี่ยนมาวางบนศีรษะกลมๆ ของคนขี้สงสัย

“น้องด้าว อยู่นี่เอง ไปเที่ยวไหนมาบอกพี่หนูด้วงสิ” หนูด้วงคว้าน้องด้าวลงมาจากหัวก่อนจะกอดรัดด้วยความดีใจ แต่ก็นึกสงสัยว่าพี่นโมเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ได้ยินเสียงเลย

“สรุปว่ามันแสบหรือมันไม่เต็มวะ” แปะถามอย่างขำๆ เมื่อเห็นหนูด้วงพูดกับตุ๊กตาหน้าตาประหลาดเหมือนมันเป็นสิ่งมีชีวิต

“เด็กมันมีจินตนาการ เหมาะแล้วที่จะอยู่กับพวกเรา” ป้ายอมยิ้มเมื่อเห็นความสดใสของสมาชิกใหม่

“ก็หนูมาสมัครตอนสายๆ ตอนนี้มันเย็นแล้วหนูก็ไม่ใช่สมาชิกใหม่ไง”

“แบบนี้ก็ได้เหรอวะ” แปะหันไปถามคู่แฝดของตัวเอง ซึ่งอีกฝ่ายได้แต่ยกยิ้ม

“แล้วพี่นโมพาน้องด้าวไปไหนมา” หนูด้วงถามผู้ที่พาน้องด้าวกลับมาหาตัวเอง

“แถวนี้” นโมตอบสั้นๆ

“พี่นโม เมื่อไหร่ร้านพี่จะปรับปรุงเสร็จ พวกผมคันมือไปหมดแล้ว” กาดเป็นฝ่ายถามเพราะไม่ได้เล่นดนตรีมาเกือบเดือน

“อีกสองวันเปิด แต่วันนี้พวกมึงไปลองเครื่องดนตรีใหม่ที่กูสั่งมาก่อน”

“วู้! ได้เลยพี่”

“ร้านอยู่ไกลไหมครับ” หนูด้วงยืนฟังอยู่ก็รู้สึกสนใจ อยากขอตามไปด้วยแต่ก็กลัวจะเสียมารยาทเพราะเพิ่งจะรู้จักกัน

“อยู่ริมทะเล ร้านโคตรสวยอะ มีกล่องดนตรีเยอะกว่าที่นี่อีก” ทำนุพูดจบก็เห็นดวงตาของคนถามเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาทันที

“ยิ่งปรับปรุงใหม่นะ สวยแบบวินเทจสุดๆ บรรยากาศดี ดนตรีเพราะ” แปะบรรยายต่อ ดวงตาใสๆ ของหนูด้วงยิ่งเป็นประกายหนักกว่าเดิม

“ช่วงหัวค่ำเป็นช่วงน้ำทะเลเริ่มขึ้น จะได้ยินเสียงคลื่นเบาๆ ได้กลิ่นไอทะเลด้วย” กาดนึกอยากแกล้งเลยยั่วบ้าง ซึ่งหนูด้วงก็ยังไม่เอ่ยขอตามไป เอาแต่กัดริมฝีปากเอาไว้พร้อมกับดวงตาที่เปิดเผยว่าอยากจะขอไปด้วยจะแย่แล้ว

“สงสัยยั่วไม่ได้ผลว่ะพวกเรา จิตแข็งกว่าหน้าตา” ทำนุกระซิบกระซาบเพื่อนเมื่อเห็นว่าหนูด้วงยังคงไม่พูดอะไร ยังคงยืนทำตาเป็นประกายอยู่อย่างเดิม

“หมาล่าโคตรอร่อย”

“หนูขอไปด้วยนะ นะๆๆ ให้หนูไปด้วยนะ หนูจะไม่ทำตัวดื้อ หนูสัญญา” สิ้นคำของนโมหนูด้วงก็กระโดดเข้าไปเกาะแขนเจ้าของร้านแล้วอ้อนวอนสุดชีวิต

“ต้องเอาของกินมาล่อสินะ” กาดยืนขำ

“แม่ง พวกเราบรรยายแทบตาย พี่นโมมาสั้นๆ ปิดจ็อบเลย” ป้ายส่ายหน้าด้วยความเซ็งที่เท่ห์ได้ไม่เท่ารุ่นพี่ในตำนาน

“แต่วันนี้น้องปีหนึ่งต้องเข้าประชุมกับอาจารย์ประจำหอพักไม่ใช่เหรอ” ทำนุถามหนูด้วง

“จริงด้วย...หนูลืม อดเลย พวกพี่มาทำให้หนูอยากกินหมาล่า” หนูด้วงห่อไหล่พร้อมกับบ่นออกมา

“หรือจะโดด” แปะออกความเห็นเพราะว่าตัวเองเคยทำมาก่อน

“ไม่ได้ไม่ได้” หนูด้วงรีบส่ายหน้าเพราะถ้าโดดการประชุมน้าตวงจะต้องรู้แน่ๆ ถ้าน้าตวงรู้ยุงพญาก็จะรู้ ยุงพญารู้มัมก็จะรู้ มัมรู้แด๊ดดี้ก็จะรู้ แด๊ดดี้รู้คุณย่าพลอยก็จะรู้ คุณย่าพลอยรู้ปู่ช้วนก็จะรู้ แล้วถ้าปู่ช้วนรู้ตัวเองต้องโดนบ่นจนหูชาแน่ๆ ปู่ช้วนเป็นคนเดียวในครอบครัวที่ไม่ตามใจหนูด้วง

“งั้นเดี๋ยวพี่ถ่ายรูปหมาล่ามาฝากก็แล้วกัน” กาดยังคงแกล้งต่อ

“พี่อ่า...” หนูด้วงทำหน้าบูด

“หรือรอให้ประชุมเสร็จแล้วมารับ” แปะเสนอ

“ได้เหรอ” หนูด้วงตาเป็นประกายอีกครั้ง

“พรุ่งนี้ค่อยไป” นโมบอกสั้นๆ เป็นอันสิ้นสุดบทสนทนาในเรื่องนี้

“ก็ได้ก็ได้” หนูด้วงเสียงอ่อยเมื่อรู้ว่าต้องรอไปในวันพรุ่งนี้แทน รู้สึกว่าตัวเองหนีไม่พ้นคำว่า ‘รอ’ สักที

“มารับน้องใหม่กันดีกว่า” ทำนุเปลี่ยนเรื่อง ชักชวนให้เข้าพิธีรับน้องใหม่ของชมรมเพราะสงสารที่แกล้งจนน้องเล็กของชมรมหน้าหงอย

“คนล่าสุดที่ทำการรับน้องก็คือไอ้กาดเมื่อสองปีที่แล้วโน้น นึกว่าจะต้องเฉาตายเพราะนั่งมองกันเองซะแล้ว” แปะถอนหายใจ

แปะยอมรับว่าแปลกใจเหมือนกันที่ทุกคนยอมรับหนูด้วงเข้าชมรมง่ายๆ เป็นที่รู้กันว่าชมรมของตัวเองไม่ค่อยง้อใคร ไม่เคยของบจากทางมหา’ลัย เงินทุกบาทที่ใช้จ่ายในชมรมมาจากพี่นโมทั้งสิ้น การที่จะรับใครเข้ามาก็ต้องเห็นพ้องต้องกัน เลือกจากทัศนคติ ฝีมือ นิสัย เอาง่ายๆ คือต้องถูกชะตาสมาชิกทุกคน แต่ครั้งนี้ทำนุบอกว่าพี่นโมเป็นคนตัดสินใจ มันเล่าให้ฟังว่าพี่นโมไม่ได้พูดแต่มันมองตาพี่นโมก็รู้ว่าอยากรับเด็กคนนี้เข้าชมรมแน่ๆ มันเลยเป็นคนพูดแทน ตอนที่รู้..ทั้งเขา ป้ายและกาดก็ยังนึกเซ็งอยู่ว่าทำไมไม่รอถามความเห็นกันบ้าง แต่แล้วเขาก็ได้คำตอบและหายเซ็งเป็นปลิดทิ้งเมื่อได้เจอกับสมาชิกใหม่คนนี้ด้วยตัวเอง

“มีรับน้องด้วยเหรอฮะ หนูชอบ” หนูด้วงรู้สึกตื่นเต้น

“มี ต้องวิ่งขึ้นลงเขาสิบรอบ”

“ก็ได้ก็ได้”

“ต้องทำความสะอาดชมรมทุกวันติดต่อกันหนึ่งอาทิตย์”

“ก็ได้ก็ได้”

“ต้องไปยืนที่ลานดาว ลานใหญ่กลางมอ แล้วร้องเพลงสามเพลงติดๆ โดยห้ามดื่มน้ำ”

“ก็..ก็ได้ก็ได้”

“ต้องแก้ผ้าวิ่งลงไปในทะเลแล้วตะโกนว่า...ข้าคือสมาชิกชมรมกล่องดนตรี”

“หนูรู้แล้วว่าทำไมไม่มีคนมาสมัครชมรมนี้” หนูด้วงพยักหน้าหงึกๆ เพราะเพิ่งเข้าใจว่าทำไมคนในชมรมนี้ถึงน้อยเหลือเกิน

“ไงล่ะมึง โดนเด็กมันย้อนเข้าให้แล้ว ฮ่าๆๆๆ” ทำนุยืนหัวเราะแปะที่กำลังทำปากพะงาบพะงาบเพราะพูดไม่ออกอยู่

“ทำไม่ได้ใช่ไหมล่ะ” ป้ายแกล้งถามต่อ

“หนูทำก็ได้” หนูด้วงยอมตกลงเพราะอยากจะอยู่ชมรมนี้จริงๆ

“ดี! มันต้องเด็ดขาดแบบนี้ถึงจะเป็นเพื่อนกันได้” กาดเดินไปตบบ่าหนูด้วงพร้อมกับกลั้นขำที่แกล้งหนูด้วงได้

“แต่เพื่อนกันเขาไม่มองก้นกันหรอกฮะ หนูจะแก้ผ้าลงทะเลก็ได้ แต่พวกพี่ห้ามอยู่ดูด้วย” หนูด้วงพูดจบกาดก็กลั้นขำไม่อยู่

“โอ้ยพอแล้ว ไม่แกล้งแล้ว กลั้นขำจนเมื่อยปากไปหมด มันน่ารักนะเด็กคนนี้” กาดเอื้อมมือเตรียมจะไปกอดคอน้องเล็กคนใหม่ของชมรมแต่ก็ต้องวืดเพราะนโมดึงตัวหนูด้วงออกมาแล้วพาไปนั่งที่เก้าอี้ทรงสูงที่ตั้งอยู่ตรงมุมห้องแทน

“พวกมึงไปเตรียมตัวได้แล้ว ทำให้เสร็จๆ กูจะรีบกลับ เล่นอะไรเป็นเด็กๆ” นโมทำท่ารำคาญแบบไม่จริงจังเพราะรู้ดีว่ารุ่นน้องพวกนี้เอ็นดูหนูด้วงถึงได้แกล้งไม่เลิก

ป้ายคว้ากีต้าร์ของตัวเองไปยืนอยู่บนเวทีเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับเก้าอี้ที่หนูด้วงนั่งอยู่ แปะสะพายเบสตามไป ส่วนกาดมือคีย์บอร์ดก็ไปยืนประจำตำแหน่งของตัวเองเช่นกัน ทำนุเดินเข้าไปนั่งที่ตำแหน่งมือกลองแล้วเริ่มลองเทสเสียงเครื่องดนตรี

“ในฐานะที่น้องหนูด้วงเป็นเด็กน่ารัก เดี๋ยวพวกพี่จะร้องเพลงให้ฟังแทนการรับน้องโหดๆ แล้วกัน” ทำนุพูดกับหนูด้วง

“ไม่ต้องวิ่งสิบรอบแล้วเหรอฮะ”

“อืม”

“ไม่ต้องทำความสะอาดชมรมแล้วเหรอฮะ”

“อืม”

“ไม่ต้องไปร้องเพลงที่ลานดาวแล้วเหรอฮะ”

“อืม”

“ไม่ต้องแก้ผ้าลงทะเล...”

“เออ!!” รุ่นพี่ทั้งห้าคนตะโกนขึ้นพร้อมกัน

“ก็ได้ก็ได้ ไม่ถามแล้ว” หนูด้วงยิ้มแห้งๆ แล้วเอามือปิดปากน้องด้าวเอาไว้ ก่อนจะนั่งตัวตรงเพื่อตั้งใจฟังเพลงที่รุ่นพี่จะร้องให้ฟัง

‘ปล่อยให้ใจเข้าข้างตัวเองทุกที ว่าจะมีเธออยู่กับฉัน แม้วันนี้จะยังไม่มีวันนั้น ก็จะฝันจะเฝ้ารอ
เพราะคำว่ารัก จะมีให้เธอเท่านั้น ในใจฉันไม่มีที่ว่างให้ใคร อยากให้วันพรุ่งนี้ เธอรับรู้และเข้าใจ
ที่ว่ามีใคร ที่พร่ำเพ้อ’


เหมือนว่าภายในห้องนี้กลายเป็นจักรวาลที่มืดมิดทันทีที่เสียงนุ่มๆ ของพี่นโมถ่ายทอดมาถึง โดยเฉพาะดวงตาที่หนูด้วงกำลังมองจ้องอยู่มันเหมือนดวงดาวสองดวงที่กำลังส่องแสงท่ามกลางความมืดมิด หนูด้วงไม่อาจละสายตาไปทางอื่นได้เลย ทั้งเนื้อเพลง ท่วงทำนองและจังหวะดนตรีให้ความรู้สึกถึง ‘การคิดถึง’ ใครสักคน ได้ฟังแล้วอยากจะหลับตานึกถึงคนสำคัญ แต่หนูด้วงก็ไม่อาจจะทำได้เพราะสายตาตรงหน้าสะกดให้ต้องมองกลับไป 

‘คืนที่ดาวเต็มฟ้าฉันจินตนาการเป็นหน้าเธอ ละเมอไปไกล มองไม่เห็นเป็นดาว
จันทร์ที่ดูสดใสนั้นเป็นดั่งใจเธอหรือเปล่า หากมันเป็นจริง จะเก็บเอาจันทร์มาใส่ใจ’


..คนที่ทำให้เราใจเต้นทุกครั้งที่สบตา..นกฮูกบอกแบบนั้น

ตึกตัก..ตึกตัก...

‘แม้ไม่รู้ว่าเธอจะอยู่ไหน ขอฝากใจไปถึงหน่อย ใจดวงนี้อาจยังมีค่าน้อย แต่จะคอยเพียงรักเธอ’

ประโยคสุดท้ายนี้ทำให้หนูด้วงคิดไปถึงคนไกล คนสำคัญที่ยังสำคัญเสมอ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองยังสำคัญสำหรับเขาหรือเปล่า แด๊ดดี้เคยบอกว่าบางครั้งที่เราไม่ลืมใครบางคนเพราะเราใช้หัวใจจำ ถ้าเราคิดถึงเขาทุกวันทุกวัน เขาจะอยู่กับเราเสมอ แล้วถ้าเขาไม่ได้คิดถึงเราอย่างที่เราคิดถึงเขา เราจะหายไปจากใจของเขาในสักวันใช่ไหม ถ้าความคิดถึงมาจากฝ่ายนี้ฝ่ายเดียวจะช่วยทำให้คนทางโน้นไม่ลืมคนทางนี้ได้หรือเปล่า นี่เป็นเรื่องที่หนูด้วงยังคงสงสัยเสมอมา

(มีต่อด้านล่างค่ะ)
V
V

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-08-2018 22:50:05 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนค่ะ)

‘คืนที่ดาวเต็มฟ้าฉันจินตนาการถึงหน้าเธอ ละเมอไปไกล มองไม่เห็นเป็นดาว
จันทร์ที่ดูสดใสนั้นเป็นดั่งใจเธอหรือเปล่า หากมันเป็นจริง จะเก็บเอาจันทร์มาใส่ใจ’


ถ้าพระจันทร์เป็นเหมือนหัวใจพี่โอบอุ้มก็ยังดี...เพราหนูด้วงยังได้เห็นมัน

‘หากมันเป็นจริง จะเก็บเอาจันทร์มาใส่ใจ’

ตึกตัก...ตึกตัก...

เมื่อพี่นโมยกยิ้มน้อยๆ หนูด้วงต้องแอบทาบมือกับหน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง ไม่รู้ว่าที่ทำแบบนั้นเพราะอยากให้มันเต้นเบาลงหรือว่าอยากแน่ใจว่ามันเต้นแรงกว่าปกติ

“เพราะจนตะลึงเลยใช่ไหมล่ะหนูด้วง” กาดถามเมื่อเห็นหนูด้วงนั่งนิ่งตั้งแต่ต้นจนจบเพลง

“หนูด้วง...” แปะเรียกชื่อคนที่ยังนั่งนิ่งอยู่

“เด็ด...เด็ดเด็ด..เพราะสุดๆ” หนูด้วงรีบปรบมือให้ทุกคนในวงหลังจากที่พาตัวเองหลุดออกมาจากดวงตาคู่นั้นได้แล้ว

“อะนี่..ของขวัญรับน้องจากพี่ทุกคน” ทำนุเดินออกมาหยิบถุงสีน้ำตาลเล็กๆ ยื่นให้หนูด้วง

ของที่อยู่ในถุงคือสร้อยเงินที่มีจี้เป็นรูปกล่องดนตรีสลักคำว่า musicbox เอาไว้ด้วย หนูด้วงเอาสร้อยมาวางทาบที่คอและพยายามจะติดตะขอเพราะมันไม่ได้ยาวพอที่จะสวมคอได้ แล้วสร้อยในมือก็ถูกนโมคว้าไปใส่ให้แทนท่ามกลางความเงียบของทุกคนในห้อง

“เก็บรักษาให้ดี ถ้ามันหายก็ต้องลาออกจากชมรม” นโมบอกก่อนจะเดินไปหยิบกีต้าร์โปร่งมาสะพายหลัง

“ขอบคุณครับ” หนูด้วงรีบบอก

“กูกลับก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้ที่ร้าน” นโมหันไปบอกคนอื่นๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

“พี่เขาคงเอ็นดูหนูด้วง ถือว่าโชคดีมากเลยนะ ปกติพี่นโมไม่ยอมร้องเพลงง่ายๆ แล้วก็ไม่รับใครเข้าชมรมง่ายๆ เหมือนกัน” ทำนุลูบผมหนูด้วงเบาๆ เพราะรุ้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้ไม่ต่างกัน

“ใช่ แล้วปกติก็ไม่เข้ามอมาด้วยตัวเองแบบนี้ สงสัยพี่เขาจะเบื่อพวกเราแน่เลยว่ะ เลยอยากได้แบบสดใสๆ มาในชมรมบ้าง” กาดยืนยันเพราะคิดว่าหนูด้วงโชคดีจริงๆ

“เดี๋ยวหนูมานะ” หนูด้วงบอกกับทุกคนในห้องก่อนจะวิ่งออกไป เมื่อเปิดประตูออกมาได้หนูด้วงก็ป้องปากตะโกนสุดเสียงหวังให้คนที่เดินไปไกลแล้วได้ยิน “หนูจะรักษามันอย่างดี พี่ได้ยินไหม หนูจะไม่มีวันทำสร้อยหาย!!!”

ขนาดอยู่ไกลพอสมควรนโมยังเห็นว่าหนูด้วงหน้าแดง คงเพราะฝ่ายนั้นพยายามตะเบ็งเสียงให้เขาได้ยิน เขาพยักหน้าให้ก่อนจะหันหลังกลับแล้วยกมือขึ้นแทนคำตอบรับ หนูด้วงเห็นก็กระโดดชูมือชูไม้ดีใจที่จะได้เป็นสมาชิกชมรมกล่องดนตรีโดยสมบูรณ์ จากที่เคยกังวลว่าจะเข้ากับคนอื่นได้ยาก ตอนนี้หนูด้วงรู้สึกสบายใจและดีใจที่สุด เพราะนอกจากเพื่อนสนิทแล้วยังมีคนที่ใจดีกับหนูด้วงมากขึ้นอีกตั้งห้าคน

“กรี๊ดดด นั่นพี่นโมในตำนานใช่ไหมแก แกถ่ายเอาไว้ทันไหม โอ้ย จะเป็นลม นานๆ พี่เขาจะมาที่มอสักที หล่อทะลุพุ่มไม้เข้ามาเลยแก”

“เฮ้ย ฉันมัวแต่ตกอยู่ในออร่าความเท่ห์ของพี่เขา ลืมกดอัดเลยแก”

“ปัดโธ่เอ้ย แกพลาดได้ไงวะ ดูดิ ฉันได้ไอเดียคนที่จะมาเป็นมือที่สามได้แล้วแท้ๆ”

“อ้าว แกไม่เอาไอ้โอมันแล้วเหรอ”

“ไม่เอาหรอก มันนิสัยไม่ดี ฉันไม่อยากให้เรื่องสั้นของเรามีคนนิสัยไม่ดี”

“แล้วมันจะโมโหพวกเราเปล่าว่ะ มันยิ่งชอบพาลอยู่ด้วย”

“ไม่สน ร้ายมาร้ายกลับ พวกเรามันสายวายที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีโว้ย”

“ฮ่าๆ ก็จริง เออแก...ว่าแต่ฉันมีคำถามจะถาม”

“อะไรอีก”

“แกว่า...ให้ใครเป็นพระเอกดีวะ น้องสิงโตหรือพี่นโม”

“เออ...เลือกไม่ถูกเลย น้องสิงโตก็หล่อ พี่นโมก็โคตรเท่ห์ เอาไงดีวะแก”

“งั้นเราเอาไปให้สมาชิกโหวตดีกว่า สิงด้วงหรือโมด้วงดี”

“เฮ้ย แกๆ หนูด้วงกำลังยิ้ม ยิ้มหวานด้วย แกกดถ่ายเร็วเข้า เร็วดิ โอ้ย...น่ารักอะไรแบบนั้นลู๊กกกก”

“เออๆ กดถ่ายแล้ว อย่าเขย่าแขนฉันสิวะ ภาพไหวหมดแล้ว”

“ไม่ว่าจะสิงด้วงหรือโมด้วง ปีนี้พวกเราต้องชนะเลิฟนอร์มอลแน่ฉันมั่นใจ”

“มาทำอะไรกันเหรอครับ”

“ถ่ายหนังสั้นอยู่”

“ถ่ายเรื่องอะไรเหรอครับ”

“ยังไม่ได้ตั้งชื่อ แต่จะดันให้ดังสุดๆ ไปเลย”

“เจ๋ง...แล้วพวกพี่ไม่อยากถ่ายผมบ้างเหรอครับ”

“เฮ้ย!!! น้องเม่น”

สองสาวที่กำลังถ่ายหนูด้วงอยู่ตกใจจนกล้องเกือบหล่นจากมือเมื่อคนที่ยืนถามอยู่ข้างหลังคือเพื่อนสนิทของหนูด้วง ชมรมสาววายของพวกเธอทำการบ้านมาอย่างดีจนรู้จักทุกคนรอบตัวหนูด้วงหมดแล้ว ที่เธอเลือกหนูด้วงมาเป็นตัวเอกเพราะสืบรู้มาว่าครอบครัวของหนูด้วงเต็มไปด้วยกลิ่นอายความวายสีชมพู พวกเธอเลยมั่นใจว่าหนูด้วงต้องได้ความวายแบบหวานละมุนมาจากคนในครอบครัวด้วยแน่ๆ แต่ที่หนักใจคือยังไม่รู้ว่าใครจะได้เป็นพระเอกของหนูด้วง เป็นเหตุให้ทุกคนในชมรมต้องผลัดกันตามติดชีวิตหนูด้วงกันอยู่นั่นเอง

“เจ๋ง พี่รู้จักผมด้วย”

“ระ...เรา เราขอตัวก่อนนะคะ” สองสาวรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปเพราะกลัวว่าจะโดนยึดกล้องซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการดำรงชีวิตอยู่ของชมรมโอนลี่วาย

“อ้าว ไปกันหมดเลย สงสัยเราจะไม่น่ารักเท่าหนูด้วง” เม่นเกาท้ายทอยก่อนจะยักไหล่แล้วเดินออกไปหาเพื่อนสนิท

เม่นมาหาหนูด้วงเพราะสิงโตสั่งให้มา อันที่จริงสิงโตจะมาด้วยตัวเองแต่โดนรุ่นพี่ที่คณะรุมขอให้สิงโตยอมเป็นเดือนคณะจนไม่สามารถออกมาจากวงล้อมได้ บอกตรงๆ ว่าเขาไม่เข้าใจเพื่อนสนิทคนนี้สักเท่าไหร่ เคยถามว่ามันเป็นเกย์รึเปล่ามันก็ปฏิเสธ แต่มันก็ตามติดหนูด้วงแจจนใครต่อใครก็เข้าใจว่ามันแอบหลงรักหนูด้วง ส่วนสิ่งที่ทำให้เม่นสับสนเพราะเวลาที่เม่นชวนสิงโตไปเที่ยวกับเด็กโรงเรียนสตรีในเมือง สิงโตก็ไม่เคยปฏิเสธเหมือนกัน แถมมันยังดูเหมือนผู้ชายปกติที่ชอบผู้หญิงเหมือนตัวเขา

“อ้าวน้องเม่น มาสมัครชมรมนี้เหรอ” หนูด้วงเห็นเพื่อนสนิทเดินมาก็แปลกใจ

“เราขึ้นปีหนึ่งแล้ว เป็นหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวขนาดนี้เลิกเรียกเราว่าน้องเม่นเสียที” เม่นรู้สึกอายเวลาที่โดนหนูด้วงเรียกตัวเองว่าน้องเม่น

“ก็มันชินอะ”

“มันไม่แมน”

“ก็ได้ก็ได้ ไอ้เม่น” หนูด้วงยอมตามใจเพื่อน

“เจ๋ง หนูด้วงพูดคำหยาบเป็นด้วย”

“เปล่านะ นกฮูกบอกว่า ไอ้..ไม่ใช่คำหยาบ แต่..มันหยาบเหรอ” หนูด้วงเริ่มลังเล

“ไม่หยาบก็ไม่หยาบ ว่าแต่ตกลงเข้าชมรมนี้แล้วแน่ๆ ใช่ไหม”

“อือ มันดีมากเลยไอ้น้องเม่น เราชอบ”

“เอ้า! เหมารวมทั้งไอ้ทั้งน้องเลยนะ ว่าแต่ขอไปดูข้างในได้ไหม”

“ได้มั๊ง พี่เขาปิดรับสมัครแล้วแหละแต่ไม่ได้ห้ามคนเข้าไป” หนูด้วงเอียงคอครุ่นคิด

“งั้นยังไม่เข้าไปดีกว่า ไปเถอะ เรามารับไปกินข้าวเย็นด้วยกัน คนอื่นๆ คงรอแล้ว เดี๋ยวไปประชุมสาย” เม่นไม่อยากเข้าไปวุ่นวายกับพื้นที่ส่วนตัวของหนูด้วงมากไปเลยเปลี่ยนใจที่จะไม่ทำตามคำขอของสิงโต

“ก็ได้ก็ได้ ขอเข้าไปบอกพี่ๆ เขาก่อนว่าจะกลับ เดี๋ยวเรามา” หนูด้วงยิ้มสดใสให้เม่นก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปในชมรม

นอกจากสาวๆ กลุ่มโอนลี่วายจะคอยตามติดหนูด้วงแล้ว อีกมุมหนึ่งไม่ไกลส้มโอก็มาแอบดูหนูด้วงอยู่เช่นกัน ตอนนี้ส้มโอมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองแล้ว เพียงแค่เห็นรอยยิ้มของหนูด้วงในตอนนี้ก็ทำเอาเลือดลมสูบฉีดเหมือนได้เจอคนที่แอบหลงรักมานาน จากที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองชอบผู้ชาย แต่ตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าคนที่ชอบและอยากได้มาเป็นแฟนดันเป็นคนที่ไม่อยากยอมรับนั่นเอง


...


ถึง Aubeoomแอดจีเมล์ดอทคอม
เรื่อง ข่าวสั้นทันโลกของหนูด้วงประจำวันนี้


   ‘สวัสดีฮะพี่โอบ พอดีวันนี้หนูเพิ่งเลิกประชุมเรื่องหอพักเลยมารายงานข่าวช้ากว่าทุกวัน จริงๆ หนูมีเรื่องมาเล่าให้พี่ฟังเยอะเลยแต่ว่ามันเยอะจนนึกไม่ออก ฮ่าๆ ที่แน่ๆ หนูกับน้องด้าวเป็นนักศึกษาปีหนึ่งเต็มตัวแล้วนะฮะ หนูโตแล้วนะ เดินออกมาจากเซฟโซนอย่างที่พี่โอบสอนหนู แล้ววันนี้หนูก็ได้รู้จักเพื่อนใหม่เยอะเลย หนูได้เข้าชมรมกล่องดนตรีด้วย ที่ชมรมนี้เขาจะพาไปร้องเพลงเปิดหมวกเหมือนที่พี่โอบทำด้วยนะฮะ หนูตื่นเต้นมากอยากไปร้องเพลงเปิดหมวกเหมือนพี่โอบ แล้วเขาก็มีร้านอาหาร เขาอาจจะให้หนูไปร้องเพลงเป็นงานอดิเรกด้วย เจ้าของร้านเขาชื่อพี่นโม เป็นรุ่นพี่ที่จบไปหลายปีแล้ว แต่หน้าเขาอ่อนมากเลย ถ้าไม่บอกหนูก็นึกว่าเขายังเรียนอยู่ หนูอยากไปร้องเพลงที่ร้านพี่นโมมากๆ แต่เขายังไม่ได้ชวนหนูหรอก หนูซ้อมดีใจล่วงหน้าเอาไว้ก่อน แล้วหนูยังไม่ได้ขออนุญาตทุกคนทุกคนเลย คนอื่นยังไม่เท่าไหร่ แต่ป๊าของพี่โอบนี่แหละเป็นด่านที่ยากที่สุด แต่หนูคิดเอาไว้แล้วว่าหนูจะต้องขออาน้องก่อน ถ้าอาน้องอนุญาตนะ ยุงพญาก็ต้องอนุญาตเหมือนกัน จริงไหมฮะ แฮ่ๆ แล้วพี่โอบอยากให้หนูร้องเพลงให้คนอื่นฟังไหม ถ้าพี่โอบไม่อยากให้หนูไปหนูไม่ไปก็ได้ หนูจะไม่ดื้อกับพี่โอบ (แต่เขายังไม่ได้ชวนหนูเลย พี่โอบว่าเขาจะชวนหนูไหม) วันนี้หนูคงเขียนมาแค่นี้ก่อนเพราะว่าแกงค์ The zoo รอกินขนมอยู่ หนูอยากมาส่งคลิปที่หนูร้องเพลงให้พี่ฟังก่อน เพลงนี้หนูไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่รุ่นพี่ที่ชมรมร้องต้อนรับหนู หนูว่ามันเพราะดีเลยหัดร้องตอนเข้าประชุม (อย่าฟ้องมัมนะฮะว่าหนูไม่ตั้งใจฟังอาจารย์) หนูอยากให้พี่ได้ฟัง มันชื่อว่าเพลง...คืนที่ดาวเต็มฟ้านะฮะ’


หนูด้วงแนบไฟล์คลิปเพลงคืนที่ดาวเต็มฟ้าที่ตัวเองร้องไปกับเมล์ก่อนจะกดส่ง นั่งรอเมล์ตอบกลับจากอีกฝ่ายอยู่นานจนนึกแปลกใจ ปกติพี่โอบจะส่งกลับมาภายใน 5 นาที แต่หนูด้วงรอเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่มีวี่แววการตอบกลับ สุดท้ายก็ตัดสินใจปิดคอมแล้วอุ้มน้องด้าวเดินลงไปหาเพื่อนๆ ที่นั่งรออยู่ใต้หอพัก

“มาช้าจัง ส่งเมล์หาพี่โอบอยู่เหรอ” นกฮูกถาม

“อืม” หนูด้วงตอบด้วยเสียงหงอยๆ จนเพื่อนทุกคนสังเกตเห็น

“มานี่ จะพาไปดูอะไร” สิงโตจับมือของหนูด้วงแล้วพาจูงออกจากหอพักไป

“สิงโต จะพาหนูด้วงไปไหน รอด้วยสิ” น้องเกลกับนกฮูกพูดขึ้นพร้อมกันก่อนจะรีบเดินตามสิงโตออกไป

สิงโตพาหนูด้วงมานั่งเล่นที่สนามฟุตบอลของมหา’ลัย เขาชวนเพื่อนทั้งสามคนเอนตัวลงนอนกับหญ้านุ่มๆ แล้วบอกให้มองขึ้นไปบนท้องฟ้า

“ว้าววว สวยจัง” น้องเกลถึงกับตะลึงในความสวยงามของท้องฟ้ายามราตรี

“เราอยู่ในเกาะกลางทะเล แถมยังอยู่บนเขา ท้องฟ้าที่นี่เลยมืดกว่าในเมือง พระจันทร์กับดวงดาวเลยสวยแบบนี้” นกฮูกยอมรับว่าสิ่งที่เห็นอยู่มันสวยจนไม่อยากละสายตาจริงๆ

“สบายใจขึ้นไหม” สิงโตถามหนูด้วง

“อืม ขอบใจนะที่พามาดูอะไรสวยๆ แบบนี้” หนูด้วงหันไปยิ้มให้สิงโต

“มีอะไรไม่สบายใจเล่าให้พวกเราฟังได้นะหนูด้วง” น้องเกลเอื้อมมือมาจับมือของหนูด้วงที่ยังว่างอยู่

“เราไม่ได้ไม่สบายใจหรอก คิดถึงบ้านเฉยๆ” หนูด้วงรู้สึกคิดถึงบ้านขึ้นมาจริงๆ ไม่เคยห่างจากครอบครัวเลย รอบตัวเคยอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ที่มีแต่ความอบอุ่นและเสียงหัวเราะ พอได้มาอยู่ตามลำพังเลยรู้สึกเหงา และยิ่งเหงาหนักมากเมื่อพี่โอบอุ้มตอบเมล์ช้า

“ทุกคน หนีมาอยู่นี้ก็ไม่บอก ไหนว่าจะนัดปาร์ตี้ขนมหวานกันไง ทิ้งขนมเอาไว้ที่โต๊ะแต่ตัวหายกันไปหมด” เม่นวิ่งตามหาเพื่อนๆ จนเจอ ยืนหอบไปบ่นไปเพราะไม่มีใครยอมทิ้งข้อความบอก โทรหาก็ไม่มีใครรับสายสักคน

“แล้วทำไมไม่โทรมาถามล่ะ” น้องเกลถาม

“ไม่มีใครรับสักคน”

“อ้าว เออ ปิดเสียงเอาไว้ตอนประชุมแล้วลืมเปิดเสียง” นกฮูกนึกขึ้นได้เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

“แล้วหิ้วอะไรมา เราได้กลิ่นหอมๆ” หนูด้วงลุกขึ้นมานั่งก่อนจะทำจมูกฟุดฟิดเหมือนแมว

“ของใครก็ไม่รู้ ฝากมาให้หนูด้วง วางเอาไว้บนโต๊ะเลยหยิบติดมือมา” เม่นยืนถุงให้หนูด้วง

“หมาล่านี่” หนูด้วงเปิดถุงที่บรรจุหมาล่าหลายไม้ก็พอจะเดาออกว่ามาจากไหน แต่ไม่มั่นใจว่าใครในชมรมที่เอามาให้ มันยังร้อนอยู่และส่งกลิ่นตลบอบอวลจนเพื่อนทุกคนต้องลุกมาดูบ้าง

“น่ากินมาก แต่คงเผ็ดน่าดู” น้องเกลกลืนน้ำลายเพราะมันหอมยั่วยวนเหลือเกิน

“อือ เผ็ดแต่อร่อยมากเลย รสชาติเหมือนที่มัมทำเลย” หนูด้วงได้ชิมแล้วรู้สึกอึ้งเพราะมันอร่อยเหมือนได้กินฝีมือของนับตังค์

“มีโน้ตด้วย อ่านสิว่าใครให้มา” สิงโตถาม

หนูด้วงหยิบกระดาษโน้ตมาดู ในกระดาษไม่ได้มีข้อความอะไรเลยมีแต่วาด เป็นรูปการ์ตูนตุ๊กตาเอเลี่ยนและมีลูกศรชี้ไปที่มือของตุ๊กตา หนูด้วงส่งถุงหมาล่าให้สิงโตถือก่อนจะอุ้มน้องด้าวมานั่งตักแล้วกดไปที่มือของน้องด้าว     

‘ปล่อยให้ใจเข้าข้างตัวเองทุกที ว่าจะมีเธออยู่กับฉัน แม้วันนี้จะยังไม่มีวันนั้น ก็จะฝันจะเฝ้ารอ เพราะคำว่ารัก จะมีให้เธอเท่านั้น ในใจฉันไม่มีที่ว่างให้ใคร อยากให้วันพรุ่งนี้ เธอรับรู้และเข้าใจ ที่ว่ามีใคร ที่พร่ำเพ้อ คืนที่ดาวเต็มฟ้าฉันจินตนาการเป็นหน้าเธอ ละเมอไปไกล มองไม่เห็นเป็นดาว จันทร์ที่ดูสดใสนั้นเป็นดั่งใจเธอหรือเปล่า หากมันเป็นจริง จะเก็บเอาจันทร์มาใส่ใจ แม้ไม่รู้ว่าเธอจะอยู่ไหน ขอฝากใจไปถึงหน่อย ใจดวงนี้อาจยังมีค่าน้อย แต่จะคอยเพียงรักเธอ’

“เสียงใครร้อง แถมยังอัดใส่น้องด้าวมาด้วย” นกฮูกถามด้วยความสงสัย

“อ้าว หนูด้วง ร้องไห้ทำไม” เม่นถามด้วยความตกใจ

“คิดถึงมัมเหรอ” สิงโตลูบผมหนูด้วงเบาๆ

“คงคิดถึงบ้านมากๆ เคยอยู่กับครอบครัวใหญ่ๆ คงจะเหงาสินะหนูด้วง” น้องเกลถอนหายใจสงสารเพื่อน

“เรา....” หนูด้วงเงยหน้าขึ้นมาแล้วพยายามเช็ดน้ำตา

เพื่อนทั้งสี่คนขยับเข้ามาใกล้หนูด้วงเพราะอยากปลอบโยน รอฟังคำระบายจากหนูด้วงด้วยความตั้งใจ

“เรา...เราเผ็ด”

“เฮ้อ.......” เสียงถอนหายใจดังมาจากเพื่อนสนิททั้งสี่คน

หนูด้วงรีบหยิบหมาล่ามาแจกจ่ายให้เพื่อนได้กิน แล้วค่ำคืนที่ดาวเต็มฟ้าก็มีพระจันทร์ที่ดูสดใสช่วยเป็นสักขีพยานว่า...หมาล่ามันเผ็ดจนแกงค์ The zoo น้ำตาไหลพรากได้จริงๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วหมาล่าถุงนี้มันไม่ได้ทำร้ายหนูด้วงให้มีน้ำตา

...หนูด้วงแค่โดนความคิดถึงมันทำร้ายแค่นั้นเอง...   

‘จันทร์ที่ดูสดใสนั้นเป็นดั่งใจเธอหรือเปล่า หากมันเป็นจริง จะเก็บเอาจันทร์มาใส่ใจ’

โปรดติดตามตอนต่อไป

โอ้ยหนอออออ แม่ยกปี้โอดอุ้นอย่าเพิ่งรวมตัวมาฆ่าเลิฟนะ 5555 รอลุ้นกันไปก่อน เดากันไปก่อน ใสๆ ไม่ดราม่ารับประกัน แต่เด็กวัยใสมันต้องมีฮอร์โมนว้าวุ่น มีหลายอารมณ์กันบ้าง ลองย้อนกลับไปสิ ตอนเราเรียนเราก็อินไปกับทุกสิ่งรอบตัวเนอะ มาๆ เราไปสมัครกลุ่มโอนลี่วายกันเถอะ 5555 ขอบคุณที่ติดตามนะคะ เดี๋ยวคำผิดที่ตกหล่นจะกลับมาแก้ให้นะคะ

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2018 06:11:24 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
หนูด้วงไม่ใช่เด็กแสบ แต่เป็นเด็กที่จินตนาการสูงไปหน่อย  คนในชมรมกล่องดนตรี เจอหนูด้วงตั้งชื่อใหม่ให้ เล่นเอาฮา

ทั้งพี่ทำนุบำรุง  และ แปะป้ายประกาศ
ี่
พี่นโม กับพี่โอบอุ้มน่าจะรุ่นเดียวกัน  หรือเป็นคนเดียวกัน เพราะหนูด้วงก็ยังไม่เคยเห็นหน้าพี่โอบอีกเลย ตั้งแต่พี่โอบไปเรียนต่อ

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แอบใจไม่ดี​จริงๆ​ ค่ะ ลึกๆ แล้วก็อยากให้หนู​ด้วง​เปิดโลกให้กว้าง แต่อีกใจเขาก็รักกันมานาน

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
พี่มโนกับพี่โอบอุ้มจะใช่คนเดียวหรือเปล่านะ ถ้าใช่ก็จะได้เชียร์แบบบไม่กั๊ก

หนูด้วงยังน่ารักเหมือนเดิมเลย  :กอด1:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เรายังเชียร์สิงโตอยู่นะ อย่าทำให้สิงโตเสียใจเลย เราเศร้าอะ  :hao5: :hao5: :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ oiw08

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
หนูด้วงน่ารักเสมอต้นเสมอปลายเลย
พี่นโมคือใคร? พี่โอบหายไปไหนละเนี้ยะ
รีบๆออกมาทำคะแนนได้แล้ว

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ถึงตอนนี้รู้ว่าหนูด้วงยังไม่ได้เห็นหน้าพี่โอบ มานานเป็นสิบปี และทุกคนดูปิดบัง
และพี่นโมเป็นรุ่นพี่ที่จบไปนานแล้ว การกระทำของพี่นโมเหมือนพี่รู้จักน้องด้าว
คิดว่าพี่นโมกับพี่โอบน่าจะเป็นคนเดียวกัน
ถ้ามีพี่นโมอยู่ด้วยไม่ห่วงว่าหนูด้วงจะโดนใครทำร้าย
เดาว่าที่ยุงพญาไม่ให้หนูด้วงเห็นหน้าพี่โอบน่าจะเป็นว่า เมื่อหนูด้วงโตจะได้เข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงที่หนูด้วงมีให้พี่โอบเพราะอะไร เราเดาไปเรื่อย


ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เพลงรักที่หายไป
เพลงที่ 3 เพ้อ
ศิลปิน เบิร์ดกะฮาร์ท


ถึง ND.superhero@จีmailดอทcom
เรื่อง ขอแสดงความยินดีให้กับผู้วิเศษและน้องด้าวของเขา

            พี่ขอโทษนะครับที่มาตอบช้า คงไม่งอนพี่ใช่ไหม เด็กดีของพี่โตแล้วจริงๆ แถมยังร้องเพลงเพราะขึ้นเยอะเลยนะ พี่โอบฟังเป็นรอบที่สิบแล้ว และคิดว่าคืนนี้จะฟังจนกว่าจะหลับไปเลย อยากให้เสียงของผู้วิเศษเป็นคนกล่อมพี่นอน พี่จะได้ฝันดีเห็นดวงดาวและพระจันทร์

            ส่วนเรื่องที่หนูด้วงอยากไปร้องเพลงที่ร้านของรุ่นพี่ พี่โอบอยากให้หนูด้วงขออนุญาตแด๊ดดี้กับมัมด้วยนะครับ ส่วนพี่โอบสนับสนุนหนูด้วงทุกอย่างที่ทำให้หนูด้วงมีความสุข แต่หนูด้วงก็ต้องดูแลตัวเองให้สมกับที่บอกว่า..หนูโตแล้ว โอเคไหม?

            ตอบแทนที่หนูด้วงร้องเพลงให้พี่โอบฟัง พี่โอบก็เลยเล่นเปียโนมากล่อมหนูด้วงเหมือนกัน อากาศบนเขาตอนกลางคืนคงจะหนาว อย่าลืมใส่ถุงเท้าและห่มผ้าด้วยนะครับผู้วิเศษของพี่

                                                                                                                      'คิดถึงซ้ำมาซ้ำไป'

                                                                                                                                  Aube

...

“เป็นอะไรหนูด้วง เห็นทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่นานแล้ว ยังเผ็ดหมาล่าอยู่อีกเหรอ” นกฮูกเดินมานั่งที่เตียงของหนูด้วง เห็นอีกฝ่ายนอนคว่ำเอาขาไปทางหัวนอนแล้วจ้องจอโน้ตบุ๊กไปด้วยย่นคิ้วไปด้วยอยู่นานสองนาน

“ก็พี่โอบอะสิ เล่นเปียโนส่งมาให้เรา แล้วไม่ยอมบอกชื่อเพลง มีแต่ทำนองแบบนี้แล้วเราจะไปรู้ได้ยังไงว่าเป็นเพลงอะไร ไม่เคยได้ยินเลย แต่มันเพราะมากเลย นกฮูกฟังดูสิ” หนูด้วงพยายามใช้แอพค้นหาเพลงแต่ก็หาเพลงนี้ไม่เจอเลยต้องระบายให้รูมเมทอย่างนกฮูกฟัง

“อืม เพราะจริงด้วย พี่โอบเล่นเปียโนเก่งจัง เอ...มันอาจจะเป็นเพลงที่พี่โอบแต่งเองก็ได้นะ” นกฮูกช่วยเพื่อนคิด

“จริงด้วย เดี๋ยวเราโหลดเก็บในมือถือดีกว่า”

“ยิ้มได้แล้วเหรอ แสดงว่าที่ร้องไห้ไม่ได้เผ็ดหมาล่าใช่ไหม”

“ก็เผ็ดนะ...” หนูด้วงอ้อมแอ้มตอบเพื่อนไป

“สารภาพมาเลย”

“ก็ได้ก็ได้ เราแค่น้อยใจที่พี่โอบตอบเมล์ช้า แต่พอมาคิดดูแล้วเราเป็นคนส่งเมล์ไปผิดเวลาเอง พี่เขาคงรอจนรอไม่ไหว”

“แล้วใครเป็นคนร้องเพลงใส่น้องด้าวมา เล่ามาเลยนะ”

“หาวววว”

“ไม่ต้องมาง่วงเลย”

“เราง่วงจริงๆ อ๊ะ..เราลืมเลยว่าได้เวลาคุยกับทุกคนทุกคนแล้ว” หนูด้วงนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้รายงานตัวกับคนในครอบครัวจึงรีบเปิดโปรแกรมไลน์ในเครื่องมือสื่อสารขนาดหน้าจอ 12.9 นิ้ว เลือกกรุ๊ปไลน์ที่รวมสมาชิกทุกคนในครอบครัว

กรุ๊ป ‘นี่ด้วงไงจะใครล่ะ

เสียงสัญญาณการต่อสายดังแค่ชั่ววินาทีก็มีการตอบรับจากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นนกฮูกทำท่าจะลุกออกไปจากเตียงจึงดึงมือให้มานอนข้างกัน ตอนนี้ในจอปรากฏช่องสี่ช่อง ช่องแรกมีภาพแด๊ดดี้กับมัมกำลังปรับองศาหน้าจอกันอยู่ ช่องที่สองมีภาพอาน้องนั่งตักยุงพญาอยู่ ส่วนช่องที่สามปรากฏภาพสมาชิกในร้านมีคุณอนันต์ที่พยายามเบียดกันออกกล้องจนหนูด้วงขำ ช่องสุดท้ายเป็นหน้าของตัวเองกับนกฮูกที่กำลังทำหน้าทะเล้นใส่กันอยู่

‘ไงครับ น้ารอตั้งนาน กะว่าอีกสองนาทีถ้าไม่ต่อสายมาน้าจะนั่งเรือไปหาถึงเกาะเลย’ คนแรกที่กดตอบรับก็คือพญา เขากำลังนึกห่วงที่หลานไม่คอลไลน์มาหาเสียที

‘เว่อร์มากลุง หลานมันก็ต้องทำกิจกรรมบ้าง อ้าว...สวัสดีครับนกฮูก’

นกฮูกยกมือไหว้ครอบครัวของหนูด้วงทุกคนก่อนจะนึกขำ ครอบครัวของหนูด้วงยังคงเป็นครอบครัวใหญ่ที่น่าอบอุ่นเสมอ และเห็นว่าคนที่ชอบดุยุงพญาก็เห็นจะมีแต่มัมนับตังค์ของหนูด้วงคนเดียวนี่แหละ

“หนูเพิ่งประชุมกับอาจารย์ประจำหอพักเสร็จครับ อาจารย์บอกเรื่องกฎต่างๆ ให้ฟัง”

‘แล้วชอบที่นั่นไหม ได้เจอเพื่อนใหม่บ้างรึยัง’ มีคุณถามลูกชาย

“ชอบมากเลยฮะแด๊ด หนูมีเพื่อนใหม่แล้ว เลือกชมรมแล้วด้วย ชมรมนี้รับหนูคนเดียวเลยนะ หนูเก่ง”

‘ชมรมอะไร’ พญาถาม

“กล่องดนตรีฮะ”

‘แสดงว่าหนูด้วงร้องเพลงให้เขาฟัง เขาเลยติดใจรับหนูด้วงคนเดียวเลยใช่ไหมครับ’ เทียมฟ้าถามขึ้นมาบ้าง

“หนูยังไม่ได้ร้องเพลงโชว์เลย หนูแค่เป่าใบไม้ให้เขาดู เขาก็เลยรับหนู”

‘ไอ้ที่เคยเป่าเหมือนเสียงตดเนี่ยนะ’ ช้วนยังคงจำเสียงเป่าใบไม้ของหนูด้วงได้ไม่ลืม เพราะเจ้าตัวป่วนชอบมาเป่าใส่หูให้ทายว่าคือเพลงอะไรอยู่ทุกวี่ทุกวัน ซึ่งช้วนไม่เคยตอบถูกเพราะได้ยินแต่แป๊ดๆๆ เท่านั้น

“ปู่อะ” หนูด้วงทำหน้าตูมที่โดนดูถูกความสามารถพิเศษ

‘อะๆๆ ข้าไม่ว่าเอ็งก็ได้ เจ้าด้วง...ที่นั่นมีของกินอร่อยขายบ้างไหม’ ช้วนพยายามดันแกงค์เด็กเสิร์ฟออกไปให้พ้นจอเพราะอยากคุยกับหลานนานๆ

‘พี่ช้วนอย่าดันพวกเราสิคะ พวกเราก็อยากคุยกับหนูด้วงบ้าง คิดถึงจะแย่แล้ว’ มานีตัดพ้อเพราะแทบจะเบียดเข้ามาคุยกับหนูด้วงไม่ได้ อันที่จริงได้เวลาเลิกงานแล้วแต่ยังไม่มีใครกลับเพราะรอเจอหนูด้วงก่อน

‘ก็ได้ก็ได้ เอาแบบนี้ ทุกคนทุกคนอยากคุยกับหนู หนูจะจัดตารางสลับวันให้เอาไหมฮะ วันจันทร์คุยกับแด๊ดกับมัมๆ วันอังคารคุยกับยุงกับอาน้อง วันพุธคุยกับปู่ช้วนกับย่าพลอย วันพฤหัสคุยกับพี่ๆ ทุกคน วันศุกร์ก็คุยกับคุณตา น้าเยียแล้วก็น้องไหม วันเสาร์คุยกับปู่อัฐย่านับแล้วก็อาเฟื้อง ส่วนวันอาทิตย์คุยกับพี่พายพี่เมี่ยง’

‘ไม่เอาแบบนั้น กว่าน้าจะได้คุยอีกทีต้องรอเป็นอาทิตย์เลยดิ’ พญารีบปฏิเสธ

‘จริงด้วย เอาเป็นว่าคุยแบบนี้แหละ’ คราวนี้นับตังค์เห็นด้วยกับพญา

‘ทุกคนควรปล่อยให้หนูด้วงได้มีพื้นที่ของเขาบ้าง เขากำลังไปเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ ให้เขาได้ใช้ชีวิตวัยเรียนกับเพื่อนๆ กับอาจารย์ เอาเป็นว่าคุยอาทิตย์ละสามวันก็พอ ที่เหลือหนูด้วงก็อัพเดทข่าวในเฟสบุ๊กก็แล้วกัน นอกจากว่ามีเรื่องจะปรึกษาหรืออยากคุยกับใครเป็นการส่วนตัวก็ค่อยโทรมา’ มีคุณเป็นคนตัดสินใจแทนทุกคน ซึ่งพญาอยากจะเถียงใจจะขาดแต่ก็ต้องยอมเงียบเพราะตกลงกันแล้วว่าจะให้สิทธิ์มีคุณในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ของหนูด้วงก่อนใคร

“ไม่ต้องห่วงนะฮะ หนูจะอัพเดทถี่ๆ ให้หายคิดถึงกันไปเลย”

‘ก็ได้ก็ได้’ เสียงตอบรับจากฝ่ายตรงข้ามดังขึ้นมาพร้อมกันจนหนูด้วงต้องหันไปหัวเราะกับนกฮูก

‘ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก ถ้าอยากกลับบ้านก็รีบบอกนะ ย่าจะไปรับ’ คุณพลอยประดับบอกกับหลาน นึกใจหายเหมือนกันที่หลานโตขึ้นทุกวัน มันแปลว่าเธอก็แก่ลงทุกที จะได้มีเวลาอยู่กับหลานอีกนานสักแค่ไหนกัน

“ครับคุณย่า หนูจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด นกฮูกก็ช่วยดูแลหนูด้วย ใช่ไหมนกฮูก”

“ใช่ครับ ผมจะช่วยดูแลหนูด้วงอย่างดี ที่นี่ปลอดภัย ถึงบนเกาะนี้จะมีชุมชนอยู่แต่ว่าเป็นชุมชนตัวอย่าง ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่จบจากที่มหา’ลัยโซเลยถึงจะได้สิทธิ์เช่าพื้นที่บนเกาะเปิดร้านค้าหรือเปิดบริษัทตามสาขาอาชีพของตัวเอง น้าตวงก็รับรองว่าที่นี่มีความปลอดภัยสูงมาก ที่สำคัญ...คนที่ยุงพญาส่งมากระจายอยู่เต็มเกาะเลย ผมศึกษามาแล้วครับ” นกฮูกให้รายละเอียดจนทุกคนนึกอึ้งในความเป๊ะของว่าที่ทันตแพทย์คนนี้

‘ก็...แค่ห่วงหลานนิดหน่อยเอง’ พญาตอบอ้อมแอ้มเมื่อถูกจับได้ว่าส่งไอ้ก้านและลูกน้องของตัวเองอีกหลายคนมาอยู่บนเกาะแสงแดดด้วย

‘โอเค ไปพักเถอะ ดึกแล้ว’ มีคุณเห็นว่าหนูด้วงกับนกฮูกควรจะนอนได้แล้วเลยตัดบท

“บายๆ นะฮะทุกคนทุกคน หนูคิดถึงทุกคนมากๆ บัยบาย บัยบาย น้องด้าวมาบัยบายทุกคนก่อน” หนูด้วงคว้าน้องด้าวมานั่งหน้าจอ ส่งยิ้มให้ทุกคนก่อนจะกดตัดสาย

เมื่อหนูด้วงวางสายไปแล้วพญาก็แอบเปลี่ยนชื่อไลน์กรุ๊ป ‘หนูด้วงจะเทพวกเราไหม’ พอพญาวางไอแพดลงนับตังค์ก็แอบมาเปลี่ยนชื่อกรุ๊ปอีกรอบ ‘พยัคฆ์โตแล้วรู้ยัง’



“สรุปว่าเรื่องน้องโอบพี่จะทำยังไง พี่จะปล่อยให้ลูกไปอยู่เองตามลำพังแบบนั้นเหรอ มันก็นานแล้วนะ ยังไม่หายโกรธน้องโอบอีกเหรอครับ” เทียมฟ้าถามพญาหลังจากที่คุยกับหนูด้วงเสร็จแล้ว

“ไม่ได้โกรธ แต่จะให้พี่ทำไง ก็เขาเลือกของเขาเอง”

“พี่จำไม่ได้เหรอ พี่เป็นคนบอกให้เขาใช้ชีวิตให้เต็มที่เท่าผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้เอง เขาจะได้ไม่สับสนว่าตัวเองรู้สึกยังไง”

“ทำไมพี่จะจำไม่ได้ แล้วผลเป็นไงล่ะ น้องไม่ต้องพูดอีกแล้ว ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้”

“แต่น้องมั่นใจว่าน้องโอบรักหนูด้วง”

“ถ้ารัก มันไม่ทำแบบนี้หรอก”

“พี่มั่นใจได้ยังไงว่าทุกอย่างมันเป็นอย่างที่เราคิด”

“ก็ในเมื่อเจ้าอุ้มมันไม่เปิดปากพูดแล้วจะให้คิดเป็นอย่างอื่นได้ยังไง หลักฐานทุกอย่างก็รองรับขนาดนั้น”

“ถึงจะเป็นอย่างที่เราคิดแต่คนเรามันพลาดกันได้นะครับ พี่น่าจะเป็นคนที่เข้าใจน้องโอบมากที่สุดว่าการได้รับโอกาสมันมีความหมายต่อชีวิตยังไง”

“คนที่ให้โอกาสไม่ใช่พี่”

“ใช่ครับ คนที่ให้โอกาสไม่ใช่พี่ แต่ถึงเวลาจริงพี่ก็อย่าเป็นคนตัดโอกาสลูกก็แล้วกัน”

“แล้วมึงจะงอนกูทำไมเนี่ย” พญาเห็นเทียมฟ้าเดินหน้างอไปแล้วก็เกาหัว คุยกันเรื่องนี้ทีไรเป็นต้องงอนเขาทุกที

“น้องไม่ได้งอน”

“มึงงอน”

“ไม่ได้งอน”

“มึงงอนกูแน่ๆ”

“น้องไม่ได้งอนแต่หงุดหงิด พี่ไม่ช่วยลูก น้องสะเทือนใจ” เทียมฟ้ายังคงทำหน้างอไม่เลิก พญาจึงต้องดึงอีกฝ่ายมากอด

“มึงคิดว่ากูไม่รักเจ้าอุ้มมันรึไง”

“น้องรู้ว่าพี่รัก แต่พี่ทำทุกอย่างให้มันง่ายได้”

“ไม่ได้หรอก หนูด้วงไม่ได้มีแค่เรานะน้อง เขาเป็นดวงใจของทุกคน เพราะฉะนั้นพี่ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ถ้าเจ้าอุ้มมันรักหนูด้วงจริง มันต้องพาความรักนั้นกลับมาด้วยตัวเอง”

“น้องยิ้มอยู่” เทียมฟ้ารีบบอกเพราะรู้สึกว่าคนรักของตัวเองดูเท่ห์ขึ้นทุกวันทุกวัน

“มึงบ้ารึเปล่า เดี๋ยวงอนเดี๋ยวยิ้ม” พญาแกล้งต่อว่าแต่ก็อดไม่ได้ที่จะหอมแก้มคนขี้งอน

“ถ้าน้องจะบ้าก็เพราะพี่ ความผิดพี่ ไม่ใช่ความผิดน้องสักหน่อย”

“เฮ้อ เกิดเป็นไอ้พญาช่างน่าสงสาร หลานก็จะเท แฟนก็กล่าวหา ต้องพาไปปรับทัศนคติกันหน่อยแล้ว” พญาคลายอ้อมกอดออกมาอุ้มเทียมฟ้าไปที่ห้อง ‘วังของเรา’ เพื่อจัดการคนแสนงอนคนนี้ให้หลาบจำ

....

ก็อกๆๆ

“เดี๋ยวเราไปเปิดเอง” นกฮูกบอกเมื่อเห็นว่าหนูด้วงกำลังเก็บของที่วางเกลื่อนเตียงเพื่อเตรียมตัวจะนอน

“ขอนอนด้วยนะ มันนอนไม่หลับ กลัวผีอะ” คนที่เดินเข้ามาในห้องคือเม่นกับสิงโต ทั้งสองคนอุ้มหมอนมาคนละใบพร้อมกับยืนทำหน้าอ้อนวอนเจ้าของห้องทั้งสองคน

“เตียงเล็กนิดเดียวจะนอนยังไงหมด” นกฮูกถาม

หอพักของทางมหา’ลัยให้พักได้ห้องละสองคน นกฮูกได้เป็นรูมเมทกับหนูด้วง สิงโตกับเม่นก็เป็นรูมเมทกันและห้องของทั้งคู่ก็อยู่ติดกับห้องของหนูด้วงและนกฮูก ส่วนน้องเกลพักที่หอพักหญิงกับน้องมิกิ ทางมหา’ลัยไม่ได้บังคับว่าต้องอยู่หอพักของทางมหา’ลัย แต่ช่วงเทอมหนึ่งมีกิจกรรมแทบจะทุกวัน ทุกคนเลยตัดสินใจว่าจะพักอยู่ในมหา’ลัยไปก่อนจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง

“ไม่รู้แหละ ขอนอนด้วย” สิงโตเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของหนูด้วงหน้าตาเฉย

“ก็ได้ก็ได้ แต่ให้คืนนี้คืนเดียวนะ” หนูด้วงทำท่าอ่อนใจ

น้องเม่นรีบเดินไปนอนบนเตียงของนกฮูกเช่นกันเพราะกลัวอีกฝ่ายไล่ให้กลับห้อง

“โอ้ย แต่ละคนโตแต่ตัวจริงๆ” นกฮูกบ่นแต่ก็นึกขำเพราะรู้ว่าทั้งสองคนนี้เป็นโรคกลัวผีขึ้นสมองจริงๆ

“ไม่ต้องกลัวผีหรอก ห้องนี้มีน้องด้าวคุ้มครองอยู่” หนูด้วงพูดจบก็เดินไปสวมถุงเท้าก่อนจะเดินกลับมานอนข้างสิงโต โดยเอาน้องด้าวมานอนคั่นเอาไว้ตรงกลาง

“โชคดีนะสิงโต” เม่นเห็นน้องด้าวหันมาทางสิงโตก็นึกสงสารเพื่อนสนิทจับใจ นึกในใจว่า...ที่น่ากลัวกว่าผีก็คือน้องด้าวนี่แหละ

“ฝันดีนะทุกคนทุกคน” หนูด้วงบอกเพื่อนก่อนจะดึงผ้าห่มมาห่มจนมิดถึงคอตามคำสั่งของพี่โอบ

นกฮูกเดินไปปิดไฟห้องก่อนจะกลับมานอนที่เตียง แย่งผ้าห่มกับเม่นอยู่พักใหญ่ก่อนจะขู่ว่าถ้าอีกฝ่ายยังนอนม้วนผ้าห่มกับตัวแบบนี้จะให้ไปนอนคนเดียวที่ห้องเม่นถึงยอมคืนผ้าห่มให้ สักพักความมืดและความเงียบก็ทำให้นกฮูกกับเม่นเริ่มผล็อยหลับกันไป

“ฝันดีนะหนูด้วง” สิงโตอมยิ้มก่อนจะขยับตัวเข้าไปนอนใต้ห่มผ้าผืนเดียวกับหนูด้วง แค่ได้อยู่ใกล้ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองคงจะฝันดีในคืนนี้แน่แล้ว
 
หนูด้วงยังไม่หลับแต่ไม่ได้ยินที่สิงโตพูดเพราะใส่หูฟังอยู่ เจ้าตัวกำลังเคลิบเคลิ้มกับเสียงเปียโนที่พี่โอบส่งมาให้ฟัง นึกในใจว่าพรุ่งนี้จะต้องรู้ให้ได้ว่าเพลงนี้คือเพลงอะไร แล้วจู่ๆ หน้าของพี่นโมก็ลอยมา แค่นั้นรอยยิ้มบางๆ เกิดขึ้นในความมืด

‘จริงสิ เดี๋ยวเอาเพลงนี้ไปถามพี่นโมดีกว่า พี่นโมต้องรู้แน่ๆ’

...พี่โอบคือคำตอบสุดท้ายของหนูด้วงเสมอ... นกฮูกเคยบอกเอาไว้

‘แต่ถ้าพี่โอบไม่ยอมตอบล่ะ หนูจะถามพี่นโมก็คงไม่เป็นไรใช่ไหม’ หนูด้วงได้แต่คิดในใจแล้วก็นอนฟังเพลงจนหลับตามเพื่อนๆ ไป

...


วันนี้หนูด้วงมีเรียนคลาสเช้าตั้งแต่แปดโมงและเรียนยาวไปถึงเที่ยง ส่วนในช่วงบ่ายว่างไม่มีเรียน ส่วนเพื่อนในกลุ่มมีเรียนช่วงบ่ายกันหมด เมื่อไม่รู้จะทำอะไรเลยตั้งใจว่าจะไปทำความสะอาดที่ชมรมเพราะเห็นว่าที่นั่นมีแต่ใยแมงมุมเต็มไปหมด

“จะไปที่ชมรมเหรอ” คนที่เข้ามาทักก่อนคือส้มโอ

“ถามเราเหรอ”

“จำพี่ไม่ได้เหรอ พี่โอไง ส้มโอ พี่ชายองุ่น”

หนูด้วงทำท่าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะทำท่านึกได้ “อ๋อ ไอ้พี่ส้มโอ อุ่ย..” พอรู้ว่าเผลอปากเรียกอีกฝ่ายว่า ‘ไอ้’ ก็รีบเอามือปิดปากตัวเองเอาไว้

“ไม่เป็นไร เรียกไอ้ก็ได้ จะได้ดูสนิทสนมกันดี” แม้ตาข้างขวาของส้มโอจะกระตุกทันทีที่อีกฝ่ายเรียกตัวเองว่า ‘ไอ้’ แต่ก็พยายามจะไม่หงุดหงิด

“หนูไม่ได้ตั้งใจ” หนูด้วงยกมือไหว้เพราะถึงยังไงส้มโอก็เป็นถึงรุ่นพี่ปี 3

“ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ถือ พี่เองก็ต้องขอโทษที่เคยแกล้งหนูด้วงนะ ตอนนั้นพี่ยังเด็ก” ส้มโอเอามือมาจับมือของหนูด้วงเอาไว้เพราะอยากรู้ว่าหากได้จับมือคู่นี้แล้วใจจะเต้นแรงไหม ซึ่งคำตอบที่ได้กลับมาตรงกับที่ใจคิด

“ตอนนี้ไม่ทำตัวเลวแล้วใช่ไหม” หนูด้วงถามไปแบบซื่อๆ คราวนี้ตาข้างซ้ายของส้มโอกระตุกขึ้นมาบ้างเมื่อได้ยินคำว่า ‘เลว’

“ไม่เลวแล้ว”

“ดีใจด้วยนะฮะที่ได้เป็นคนดี หนูขอตัวก่อน” หนูด้วงดึงมือของตัวเองออกจากการถูกจับกุมเอาไว้

“พี่พาไปส่งที่ชมรมนะ มันไกล เผื่อไปเจอคนไม่ดี” ส้มโอถือวิสาสะจูงมือหนูด้วงไป

“พี่รู้ได้ยังไงว่าหนูอยู่ชมรมอะไร”

“พี่รู้ทุกเรื่องของคนที่พี่สนใจ ว่าแต่มือของหนูด้วงนิ่มจัง” ส้มโอยกยิ้มที่หนูด้วงยอมให้จูงมือ

“ไม่ใช่มือหนูหรอก”

“เฮ้ย!! ไอ้ตัวประหลาดนี่มันยังอยู่อีกเหรอวะ” ส้มโอสะดุ้งสุดตัวเมื่อมองกลับมาแล้วกลายเป็นว่าตัวเองจับมือตุ๊กตาเอเลี่ยนอยู่

“ฮ่าๆๆๆ”

เสียงหัวเราะดังขึ้นมาจนส้มโอตากระตุก คราวนี้กระตุกทั้งซ้ายขวาสลับกันระรัว เวลาถูกคนอื่นทำให้หงุดหงิดทีไรตามักจะกระตุกเสมอ เมื่อสะกดอารมณ์ให้เย็นลงได้และกำลังจะหันไปแกล้งตัดพ้อที่หนูด้วงหัวเราะตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ใช่หนูด้วงที่หัวเราะอยู่

“พวกมึง หัวเราะเยาะกูเหรอ” ส้มโอชี้ไปทางกลุ่มสาวๆ ชมรมโอนลี่วายอย่างอาฆาต เมื่อเห็นว่าสาวๆ กลุ่มนี้ยืนหัวเราะตัวเองอยู่

“อ๊าว!! คนขำก็ต้องหัวเราะ จะให้ร้องไห้เหรอ” ‘จุ้มจิ้ม’ อดีตประธานใหญ่กลุ่มโอนลี่วาย นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศฯ เอกภาพยนตร์เป็นคนพูดขึ้นมา

“ปากดีแบบนี้ ถึงเป็นผู้หญิงกูก็ตบได้นะ” ส้มโอเดินกร่างเข้าไปหากลุ่มสาวๆ

“กล้าทำออกกล้องก็เอาสิ ตอนนี้กำลังถ่ายทอดสดอยู่ด้วย” คราวนี้ ‘มิ้ง’ รองประธารชมรมเบนกล้องวีดีโอไปที่ส้มโอ

“ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ” ส้มโอกัดฟันด้วยความโกรธ สุดท้ายก็เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไปเพราะขืนอยู่ต่อคงอดทนต่อไปไม่ได้ ตอนนี้ส้มโอยังไม่อยากให้หนูด้วงกลัวตัวเอง

“ไม่เป็นไรใช่ไหมคะลูก” จุ้มจิ้มเดินเข้ามาทักถามหนูด้วงด้วยความเอ็นดู

เธอกำลังมาดูตัวหนูด้วงตามคำบอกเล่าของรุ่นน้องจึงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดพอดี ใจไม่ชอบส้มโอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ใครๆ ก็รู้ว่าส้มโอชอบทำตัวกร่างและอวดร่ำอวดรวย เป็นอันธพาล เธอเลยไม่อยากให้มายุ่งกับหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักคนนี้ แม้ปีนี้เธอคิดวางมือให้น้องๆ มาสานต่อในกิจกรรมของชมรมเพราะเธอใกล้จะเรียนจบแล้ว แต่เธอก็ยังอดห่วงน้องๆ ในชมรมเกี่ยวกับการเข้าแข่งขันหนังสั้นในปีนี้ไม่ได้ ได้ยินเรื่องหนูด้วงมาหลายหนจึงอยากจะเจอตัวจริง พอได้เจอแล้วเธอฟันธงได้เลยว่า...นี่แหละคือนายเอกเพชรแท้แห่งโอนลี่วาย

“หนูโอเคครับแม่”

“เอ่อ..”

“หนูล้อเล่นครับพี่คนสวย” หนูด้วงเห็นอีกฝ่ายเรียกตัวเองว่าลูกเลยแกล้งเรียกอีกฝ่ายว่าแม่กลับไป

“ใจบางเป็นกระดาษสาเลยฉัน” จุ้มจิ้มยกมือมาทาบอกตัวเองเมื่อโดนหนูด้วงอ้อน

“เห็นแล้วใช่ไหมพี่จิ้มว่าหนูด้วงคือสุดยอดเคะที่เราตามหามานาน”

“เคะคืออะไรฮะ หนูเหมือนกบเหรอ” หนูด้วงเลิกคิ้วเอียงคอถามด้วยความสงสัย ยกมือขึ้นมาลูบหน้าตัวเองเพราะเข้าใจไปว่ารุ่นพี่สาวๆ กลุ่มนี้คิดว่าตัวเองเหมือนเคโระ

“น่ารักแบบนี้จะไปเหมือนกบได้ยังไง อ้อนเก่งแบบนี้เหมือนแมวมากกว่า” มิ้งรีบแก้ความเข้าใจผิดของหนูด้วง

“เมี๊ยว” เพื่อนในกลุ่มส่งเสียงรับ

“จิ้มลิ้มเหมือนนกตัวน้อยๆ”

“จิ๊บๆ”

“น่าบีบเหมือนน้องหมากระเป๋า”

“บ็อกๆๆ”

“นุ่มนิ่มเหมือนกระต่ายขนปุย”

“....แก กระต่ายมันร้องไงวะ”

“มันคงร้อง กระต๊าย กระต๊ายยยย มั๊งฮะ” หนูด้วงเห็นบรรดาพี่สาวรับส่งมุกกันเลยอยากร่วมด้วย

“ฮ่าๆๆ น่ารักแล้วยังตลก ครบ ครบจริงๆ” มิ้งชมหนูด้วงไม่ขาดปาก เล่นเอาหนูด้วงเขินจนหุบยิ้มไม่ได้

“เอาเป็นว่า..พวกพี่ทุกคนยินดีที่ได้รู้จักน้องหนูด้วงนะคะ” จุ้มจิ้มยิ่งรู้สึกเอ็นดูหนูด้วง

“ยินดีเช่นกันฮะ ถ้างั้นหนูขอตัวก่อน” หนูด้วงแจกยิ้มให้ทุกคนใจระทวยเสร็จแล้วก็มุ่งหน้าไปที่ชมรม

“น่ารักเนอะ เอาล่ะ!! ปีนี้พี่จะกลับมาช่วยพวกเราอย่างเต็มที่ แต่ดูท่าทางไอ้โอมันจะมาเป็นตัวร้ายในเรื่องสั้นเราแน่ๆ พวกเราต้องพิทักษ์หนูด้วงให้ดีนะ ส่วนพระเอก...พี่ขอเจอตัวจริงทั้งคู่ก่อนแล้วจะช่วยตัดสินใจอีกที มา!! บูมก่อนแยกย้าย” จุ้มจิ้มบอกกับรุ่นน้องก่อนจะยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อให้ทุกคนจับ

“โอลี่วายโอนลี่วิน เฮ้!!!” สาวๆ ให้กำลังใจกันเสร็จแล้วจึงแยกย้ายกันไปทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง


(มีต่อด้านล่างค่ะ)
V
V

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2018 06:11:38 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
(ต่อจากด้านบนค่ะ)


หนูด้วงมาถึงชมรมกล่องดนตรีก็พบแต่ความว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ที่นี่สักคน แต่ว่าประตูชมรมก็ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ นึกในใจว่าทุกคนคงกำลังติดเรียนกันอยู่ เมื่อตั้งใจแล้วว่าจะมาทำความสะอาดชมรมให้ก็เลยลงมือจัดการทำทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา

ถึงแม้อยู่บ้านจะไม่ค่อยได้หยิบจับอุปกรณ์ทำความสะอาดแบบนี้สักเท่าไหร่แต่หนูด้วงก็เคยช่วยมัมทำอยู่บ้าง ไม้กวาดด้ามยาวถูกเลือกมาใช้กวาดหยากไย่ตามมุมห้อง ฝุ่นผงเริ่มร่วงหล่นลงมาจนหนูด้วงจามไปหลายรอบ ลองดึงคอเสื้อขึ้นมาบังจมูกเอาไว้แต่ฝุ่นก็ยังร่วงลงมาเยอะจนกลัวว่าจะเข้าตา เจ้าตัววางไม้กวาดลงแล้วพยายามเดินหาอะไรมาใส่ป้องกัน

“ชมรมดนตรีมันจะมีแว่นตาได้ไงเนอะ” หนูด้วงพึมพำกับตัวเองก่อนจะเหลือบมองไปเห็นอะไรบางอย่าง “อันนี้แหละน่าจะช่วยได้”

แล้วพลาสติกที่เอาไว้ใช้แรปอาหารก็ถูกนำมันพันตัวน้องด้าวเอาไว้เพื่อไม่ให้ถูกฝุ่น ไม่เพียงแต่น้องด้าวเท่านั้นที่ต้องป้องกัน หนูด้วงกลัวว่าอาการภูมิแพ้จะกำเริบก็เลยเอามาแรปมาพันรอบหน้าตัวเองเช่นกัน เมื่อหาวิธีป้องกันตัวเองเสร็จแล้วก็ไปจัดการทำความสะอาดต่อ

ขณะที่กำลังขะมักเขม้นเอาหยากไย่ออกจู่ๆ ก็มีมือมือหนึ่งเอื้อมมาจากทางด้านหลังแล้วเอาพลาสติกออกจากหน้าของหนูด้วง ยังไม่ทันที่จะได้หันไปมองหน้ากากอนามัยก็ถูกสวมลงมาบนใบหน้าของหนูด้วงแทน ไม่เพียงเท่านั้น...ไม้กวาดในมือยังถูกแย่งไปอีกด้วย อยากจะหันหลังกลับไปมองแต่ร่างกายของตัวเองอยู่ระหว่างแขนทั้งสองข้างของคนที่เดินมายืนซ้อนด้านหลัง สุดท้ายเลยได้แต่หันหน้าไปอย่างเดียว

ตึกตัก...ตึกตัก...

มันใกล้มาก ใกล้จนหนูด้วงได้กลิ่นหอมๆ ที่มาจากตัวของพี่นโม

“พันซะแน่นเลย คิดได้ยังไง” นโมดุหนูด้วงก่อนจะถอยหลังออกหนึ่งก้าวเพื่อให้หนูด้วงเดินออกมาจากมุมห้องได้

“หนูกลัวฝุ่นเข้าจมูกกับตาฮะ”

“แต่ไม่กลัวขาดอากาศตาย” นโมเลิกคิ้วถาม

“ก็ถ้าใกล้หายใจไม่ออก หนูก็ดึงพลาสติกออกไง” หนูด้วงตอบไปตามตรง คงไม่มีใครปล่อยให้ตัวเองขาดอากาศตาย ซึ่งคำตอบทำให้นโมอึ้งไปเหมือนกัน

“เราไปเช็ดตู้ใส่อุปกรณ์ พี่จะกวาดผงพวกนี้ให้เอง เป็นภูมิแพ้แล้วยังจะทำอีก”

“พี่รู้ได้ไงว่าหนูเป็นภูมิแพ้”

“ก็ได้ยินเราจามตั้งหลายที ยังจะมองหน้าอีก ไปเช็ดตู้”

“ก็ได้ก็ได้” หนูด้วงห่อไหล่เมื่อโดนดุ แต่เดินไปได้สามก้าวก็หันกลับมาใหม่ “แล้วพี่ไม่กลัวน้องด้าวหายใจไม่ออกเหรอฮะ ไม่เห็นพี่ห่วงมันเลย”

“หึหึ...” นโมไม่ตอบได้แต่ส่งเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ

“ก็ได้ก็ได้” หนูด้วงห่อไหล่อีกรอบเมื่อนโมมองไปที่ตู้กระจก เหมือนจะบอกให้รู้ว่า ‘ไปเช็ดตู้!’

หลังจากที่ช่วยกันทำความสะอาดจนภายในชมรมดูดีต่างจากตอนแรกราวฟ้ากับดินแล้วทั้งคู่ก็เดินออกไปนั่งรับลมที่ม้านั่งด้านหลังชมรม หนูด้วงเพิ่งจะรู้ว่าด้านหลังของชมรมมีแอ่งน้ำตื้นๆ อยู่ด้วย น้ำใสจนเห็นพื้นด้านล่าง แถมบริเวณรอบๆ ยังปลูกดอกไม้สีสันสวยงามเอาไว้ด้วย บรรยากาศมันเหมือนธารน้ำหลังบ้านของตัวเอง ซึ่งเป็นสถานที่โปรดที่หนูด้วงชอบไปนั่งเล่นบ่อยๆ

“ลมเย็นมากเลย สวยมากๆ แสดงว่าที่นี่มีน้ำตกใช่ไหมฮะพี่นโมถึงได้มีแอ่งน้ำ”

“น่าจะมีมั๊ง ไม่เคยขึ้นไป พื้นที่ข้างบนโน้นเขายังไม่ให้ขึ้นไป” นโมยื่นขวดน้ำเปล่าแช่เย็นให้หนูด้วง หนูด้วงรับมาแล้วเอาขวดน้ำเย็นเจี๊ยบไปแตะที่แก้มของคนที่นั่งข้างๆ

“เย็นไหม” หนูด้วงถามพลางขำเพราะคนข้างๆ สะดุ้งเมื่อโดนความเย็น

“หึหึ...กวนล่ะ”

“พี่เปิดให้หนูหน่อย” หนูด้วงไม่ชอบบิดขวดน้ำเพราะตอนเด็กๆ เคยออกแรงบิดจนถูกฝาขวดน้ำบาดมือ

“เปิดให้แล้ว” นโมตอบไปสั้นๆ หนูด้วงเลิกคิ้วแล้วลองหมุนฝาดู ปรากฏว่าฝาขวดเปิดออกได้อย่างง่ายดาย

“ขอบคุณฮะ” หนูด้วงยิ้มก่อนจะยกขวดขึ้นมาดื่ม ด้วยนิสัยที่ไม่ค่อยจะระวังทำให้น้ำหกไหลจากมุมปากลากลงไปยังลำคอและแผ่นอก ผ้าเช็ดหน้าผืนบางถูกนำมาซับน้ำให้แทบจะทันที

“เลอะเทอะจริง” นโมส่ายหน้าก่อนจะเช็ดน้ำให้

“ก็พี่นโมเอามาแต่ขวด ไม่เอาหลอดมาให้หนูนี่นา” หนูด้วงยกแขนเสื้อมาเช็ดที่ปาก

“เฮ้อ แขนเสื้อสกปรกไหม” นโมถอนหายใจก่อนจะถามเสียงเข้ม

“หนูขอโทษ” หนูด้วงไหล่ตกอีกตามเคย วันนี้โดนพี่นโมดุตั้งหลายครั้งแล้ว แอบคิดว่าถ้าเป็นพี่โอบอุ้มคงจะยิ้มแล้วก็สอน คงไม่ทำมาดเข้มแบบนี้ แต่ถ้าถามว่าโกรธไหมที่โดนพี่นโมดุ น่าแปลกที่หนูด้วงกลับรู้สึกดี “จริงด้วย!!!” พอนึกถึงพี่โอบอุ้มขึ้นมาหนูด้วงก็นึกได้

“แค่กๆๆๆ” นโมตกใจที่จู่ๆ หนูด้วงก็ตะโกนออกมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เขากำลังดื่มน้ำอยู่เลยสำลักออกมาด้วยความตกใจ หนูด้วงวางขวดในมือของตัวเองลงแล้วรีบลูบหลังให้พี่นโมยกใหญ่

“หนูแค่มีคำถามนิดหน่อย แต่เพิ่งนึกออกฮะ” หนูด้วงกลัวถูกดุอีกเลยรีบอธิบาย

“ว่า”

“หนูอยากรู้ว่าเพลงนี้มันคือเพลงอะไร มันมีแต่ทำนองนะฮะ”

“ไหนเอามาลองฟังก่อน”

หนูด้วงรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะเปิดเพลงให้พี่นโมฟัง ระหว่างที่กำลังไล่หาเพลงอยู่พี่นโมก็ดึงเอาหูฟังไปแล้วจัดการใส่หูตัวเองข้างหนึ่ง ใส่ที่หูของหนูด้วงอีกข้างหนึ่ง เมื่อสายหูฟังมันตึงจึงขยับมานั่งใกล้ๆ จนไหล่แนบชิดกัน

ตึกตัก...ตึกตัก... 

หนูด้วงกดเปิดเพลงให้พี่นโมฟัง ฟังได้ไม่นานพี่นโมก็เอามือมาเลื่อนที่หน้าจอเพื่อให้เพลงกลับไปเริ่มต้นใหม่

‘อยากจะรู้..ใจ..ทำไมรักเธอ ได้แต่เพ้อไป ด้วยใจเรียกหา แรกที่พบ..เพียงสบตา ก็หลงรักเหมือนดังว่า..จะขาดใจ’

ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก...

‘ตราบวันนี้..ใจ..ก็ยังละเมอ หวาดกลัวเธอ ใจจะร้างรา ภาพเธอยิ้ม..ยังติดตา อยากจะได้เพียงเธอมา..เป็นดวงใจ’

เสียงของพี่นโมที่ร้องตามเสียงเปียโนของพี่โอบอุ้มไปทำให้หัวใจของหนูด้วงเต้นแรงกว่าปกติ

‘ยังใฝ่ฝัน ถึงวัน ที่สุขสันต์และสุดสดใส ยิ้มละไม ขวัญใจให้สุขอุรา สุขหนักหนา แม้ว่าเราสองจะอยู่แห่งไหน สุขเกินใคร เมื่อได้อยู่ใกล้เธอ’

เนื้อเพลงมันเพราะจับจิตหรือว่าเสียงเปียโนมันเพราะจับใจถึงทำให้หนูด้วงเคลิบเคลิ้มได้ขนาดนี้ คงต้องเป็นเพราะทั้งสองอย่างแน่ๆ

‘ยังใฝ่ฝันถึงวันที่เราสองคน สุขเหลือล้น จนใครใครอิจฉา ด้วยได้รักเจ้างามตา ด้วยความรักชุบชีวา..เราสองคน’

“เพ้อ” นโมตอบสั้นๆ

“อืม” หนูด้วงยังคงจมดิ่งกับเพลงจนไม่ทันได้ยิน

“เพลงเก่ามากแล้ว ไม่ยักรู้ว่าเราชอบเพลงเก่าแบบนี้” นโมเห็นหนูด้วงเหม่ออยู่เลยเอามือไปจับศีรษะของหนูด้วงให้หันมาฟังตัวเองพูด เมื่อหนูด้วงหันมาสบตาก็ระบายยิ้มให้

‘ภาพเธอยิ้ม..ยังติดตา อยากจะได้เพียงเธอมา..เป็นดวงใจ’

“ชื่อเพลงอะไรฮะ”

“เพ้อ”

“ก็มันเพราะ เสียงพี่ก็เพราะ เสียงเปียโนก็เพราะ”

“ไม่ได้ว่า แต่บอกชื่อเพลง...เพ้อ”

“ยังใฝ่ฝัน ถึงวัน ที่สุขสันต์และสุดสดใส ยิ้มละไมขวัญใจให้สุขอุรา สุขหนักหนา..แม้ว่า..เราสองจะอยู่แห่งไหน สุขเกินใคร เมื่อได้อยู่ใกล้เธอ” หนูด้วงร้องออกมาเป็นเพลงที่ได้เพิ่งฟังจากคนข้างๆ

“เก่งนี่ จำเนื้อได้แล้ว แค่ฟังครั้งเดียวเอง”

“หนูชอบ หนูชอบเพลงนี้”

“อืม”

“ร้องให้หนูฟังอีกรอบได้ไหม”

“อืม”

หนูด้วงกดเปิดเพลงอีกครั้งเพื่อให้พี่นโมเริ่มต้นร้อง คราวนี้หนูด้วงพยายามร้องคลอตามไปด้วย ไม่รู้นานเท่าไหร่ที่นั่งอยู่ตรงนี้ รู้แต่เปิดเพลงนี้วนซ้ำไปซ้ำมาจนสามารถร้องได้ทั้งเพลง กำลังคิดว่าหัวใจมันไม่ได้เต้นตึกตักเท่าตอนแรกแล้ว ความรู้สึกทั้งหมดมันไปรวมตัวกันอยู่ตรงปลายนิ้วก้อยแทน ปลายนิ้วเล็กๆ ของตัวเองที่บังเอิญแตะไปโดนปลายนิ้วก้อยของพี่นโม

ตึกตัก...ตึกตัก...

แต่สุดท้ายหัวใจของหนูด้วงก็กลับมาเต้นแรงอยู่ดีเมื่อปลายนิ้วของพี่นโมขยับมาวางทับนิ้วก้อยของหนูด้วงเอาไว้ พอหันไปมองพี่นโมอีกฝ่ายก็กำลังจ้องมองมาอยู่เหมือนกัน สายตาสบกันอยู่นานจนหนูด้วงคิดว่าหัวใจของตัวเองกำลังจะหยุดเต้น

“หนูลืมเอาพลาสติกออกให้น้องด้าว น้องด้าวจะตายไหม!! เดี๋ยวหนูมานะฮะ”

หนูด้วงพูดจบก็ลุกพรวดพราดออกมา วิ่งกลับเข้ามาในชมรมได้ก็ยืนพิงกำแพงแล้วยกมือทาบอกเอาไว้ คิดในใจว่าขืนปล่อยให้ตัวเองมองตาพี่นโมอยู่อาจจะเป็นลมไปก็ได้ แต่แล้วหนูด้วงก็แทบเป็นลมไปจริงๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาแล้วพบว่า...

“บรรยากาศก็ดี”

“ดนตรีก็เพราะ”

“น้ำใสๆ กลายเป็นสีชมพู”

“ยิ่งดูก็ยิ่ง...เพ้อ”

“พะ...พะ..พี่ทำนุแปะป้ายประกาศ!!”

หนูด้วงถึงกับเข่าอ่อนเมื่อเห็นว่าท่านพี่ทั้งสี่ยืนเรียงเป็นหน้ากระดานพร้อมกับระบายยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่หนูด้วงเห็นแล้วรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าวไปหมด

“พี่ห้ามยิ้ม” หนูด้วงรีบบอกเสียงดังเพราะอายจนทำหน้าไม่ถูก

“เอ้า!! ห้ามกันแบบนี้ได้เหรอด้วยเหรอวะ” แปะถามพลางขำ

“ปากก็ปากพี่นะครับน้องหนูด้วง” ทำนุแกล้งหนูด้วงบ้าง

“ถ้าไม่อยากเห็นก็ต้องหลับตา” ปกติป้ายไม่เคยแกล้งใคร แต่กับเด็กคนนี้มันก็อดไม่ได้จริงๆ

“พวกมึงนี่ชอบแกล้งเด็ก” นโมเดินตามเข้ามาบ่นรุ่นน้องทั้งสี่คน

“แกล้งที่ไหนกัน พวกเราออกจะเอ็นดูเจ้าหนูจอมแสบ” กาดพูดไปขำไปเพราะหนูด้วงยังหน้าแดงไม่เลิก

“น้องมันมาทำความสะอาดให้ ขอบคุณน้องมันรึยัง” นโมเอ่ยถาม

“ขอบคุณคร้าบบบบ” ทั้งสี่คนยกมือไหว้หนูด้วงจนหนูด้วงไหว้กลับไปแทบไม่ทัน

“ไหว้พระเถอะลูก หนูไม่ได้กล่าวเอง แต่ย่าทวดของหนูกล่าว หนูก็เลยกล่าวแทนย่าทวด”

“อุ๊วะ...ฮ่าๆๆ พี่นโมดูเอา ใครมันกวนใครกันแน่” แปะหัวเราะชอบใจ

“เอากีต้าร์มาให้แล้ว เปลี่ยนคอกับสายให้ใหม่ กลับล่ะ” นโมตัดบทก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋า

“หนูขอไปที่ร้านด้วยได้ไหมฮะ หนูไม่มีเรียนแล้ว” หนูด้วงตัดสินใจเอ่ยปากขอเพราะอยากไปที่ร้านกล่องดนตรี

“ยังไม่ได้กลับไปที่ร้าน” นโมตอบสั้นๆ

“อ้าว แล้วพี่จะไปไหน” หนูด้วงลืมตัวถือวิสาสะถามออกไป

“ไปรับลูก”

“......” หนูด้วงมองตานโมเหมือนไม่เข้าใจจนนโมต้องพูดซ้ำ

“จะไปรับลูกชาย จะไปไหม” นโมถาม

“ไป....ฮะ” หนูด้วงไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงตอบรับไปง่ายๆ ทั้งที่หัวใจมันเต้นแผ่วลงเหมือนจะไม่สบาย

“น้องด้าว” นโมพูดพลางไปมองไปที่ตุ๊กตาเอเลี่ยนของหนูด้วง

“ลืมเลย” หนูด้วงนึกขึ้นได้รีบเดินไปแกะพลาสติกออกจากตัวน้องด้าวแล้วอุ้มเดินมาหานโม

“พวกมึงตามไปตอนเย็นก็แล้วกัน จะแวะพาเด็กๆ แล้วก็เจ้าหนูจำไมไปกินไอติมก่อน แทนคำขอบคุณที่มาทำความสะอาดชมรม” นโมหันไปพูดกับรุ่นน้องทั้งสี่คนที่เอาแต่ยกยิ้มกันอยู่

“พาไปกินพิซซ่าด้วยเลยก็ได้ครับพี่ พวกผมไม่รีบ” กาดพูดจบก็ผายมือให้

“หึหึ..เออ” นโมหัวเราะในลำคออย่างเคยก่อนจะเดินออกไป

หนูด้วงหันมาไหว้รุ่นพี่ทั้งสี่คนก่อนจะเดินตามนโมไปด้วยหัวใจที่มันหวิวๆ ไม่รู้ว่ตัวเองเป็นอะไร รู้แต่ว่ามันไม่ยอมหายโหวงเหวงสักที


โปรดติดตามตอนต่อไป


งานเข้าคนแต่งงงงง แม่ยกปี้โอด แม่ยกสิงโต
แม่ยกส้มโอ(มีเหรอ) จะมาลงหวายเลิฟไหมที่ให้พี่นโมมาแรง
เอาน่า ตอนแรกๆ ปมก็มาบ่อยๆ แบบนี้ทุกเรื่อง ชินกันยังงงง
แต่จงมั่นใจในเรือของคุณต่อไป เราเป็นกำลังใจให้เรือไม่ล่ม
แต่เดี๋ยวนี้คนอ่านเก่งใหญ่แล้วนะ เดาอะไรกันเก่งแบบนี้ 
ท้าวแสนปมถึงกับปาดเหงื่อ เอาซี้ๆ เดาได้เดาไป
ใครเดาถูกทุกปมเดี๋ยวทำของแจกเลย อิอิ แต่ขอบอกว่าอย่าเครียดกันนะคะ อ่านให้บันเทิง
นิยายเลิฟแฮปปี้เอนดิ้งจะตาย (แต่ก่อนแฮปปี้ก็กำหมัดกันไปก่อน) 555555
มาลงถี่กว่าปกติ แต่ละตอนเลยไม่ยาวมากนะคะ ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกันค่ะ


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]


ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
คืือไงเนี่ย พี่โอบคือพี่นโมรึป่าวลุ้นให้เป็นคนเดียวกัน

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
สับสนไปหมดแล้ววววว เชียร์พี่โอดอุ้นเสมอออ  :hao5:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
ฮือๆๆสิงโตเราหมดหวังแล้วอ่า เรียกว่าหมดหวังตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลย  :hao5: แต่ยังใงก็อยากให้สิงโตมีความสุขนะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด