#เพลงรักที่หายไป หนูด้วง+พี่โอบอุ้ม 20 ตอนจบ สารบัญหน้าแรก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เพลงรักที่หายไป หนูด้วง+พี่โอบอุ้ม 20 ตอนจบ สารบัญหน้าแรก  (อ่าน 89120 ครั้ง)

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ตลกหนูด้วง แพ้ทางพี่โอบมากเลยค่ะ
แล้วคืออะไร อาบน้ำตัวหอมรอพี่มากอด
หนูด้วงจะเล่นตัวบ้างก็ได้ ไม่มีใครห้ามเลยลูก

โอบอุ้มต้องร้ายเพราะความจำเป็น
เพื่อปกป้องทุกคนที่รัก และหนูด้วงคือคนสำคัญ

แล้วทีมเดอะซูจะตามไปช่วย หรือไปป่วนกันนะ

รอบนี้เชียร์ดาวเรืองค่ะ คะแนนมาแล้ว
ทำดีไม่ต้องรอให้ใครเห็นนะ เพื่อตัวเองด้วยค่ะ

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
กรี๊ดดดด พี่โอบเวอร์ชั่นโหดดดดด ลูกพ่อพญาตัวจริงเสียงจริง บังอาจมาแตะต้องหนูด้วงสุดรักสุดหวง ฮึ! มันต้องเจออย่างนี้!!

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
รู้สึกดีใจที่พเยียและดาวเรืองคิดได้ ไม่อยากให้มีดราม่าอีกแล้ว

ออฟไลน์ mashimashi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เพลงรักที่ 20

Part 1 เหมือนเคย
ศิลปิน บอย โกสิยพงษ์

(โอบอุ้ม)



เมื่อคืนหนูด้วงไม่ได้กลับมานอนที่บ้าน ได้แต่ส่งข้อความมาบอกผมว่านกฮูกเหงาเลยตัดสินใจไปนอนที่หอเป็นเพื่อนนกฮูก ผมคิดว่าน้องอาจจะงอนที่ผมออกไปข้างนอกโดยไม่บอกเขาล่วงหน้าและทิ้งแค่ข้อความเอาไว้เท่านั้น นั่นเพราะผมรู้หากผมบอก น้องจะต้องขอตามไปด้วย แม้ผมจะเคยสัญญาว่าถ้าผมไปไหนผมจะพาเขาไปด้วย แต่สิ่งที่ผมจะไปทำมันคือสิ่งที่น้องไม่ชอบ เพราะน้องมีจิตใจที่อ่อนโยน ผมจึงไม่อยากให้น้องไปเห็นว่าผมตัดสินใจทำอะไรกับผู้ชายคนนั้น คนที่มันบังอาจคิดไม่ดีและทำให้น้องต้องเจ็บตัว

เช้านี้ผมตั้งใจว่าจะไปรับเขาและพาเขาไปรับน้องแฝดกลับบ้านด้วยกัน แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ออกจากบ้าน ป้าประนอมก็ขึ้นมาตามผมเสียก่อน

“คุณโอบคะ มีตำรวจมาขอพบค่ะ”

“เชิญเขาไปนั่งรอที่ห้องรับแขกก่อนครับป้า เดี๋ยวผมตามลงไป” ผมได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเตรียมตัวลงไปพบคุณตำรวจ

ถ้าเป็นไปตามแผน ทางตำรวจคงจะเจอศพไอ้สามารถแล้ว มันไม่ได้ถูกสิงโตกินอย่างแน่นอน เพราะผมพาสิงโตตัวนั้นกลับเข้ากรงก่อนที่ผมจะกลับบ้าน ผมแค่อยากให้มันรับรู้ความรู้สึกของการเป็นเหยื่อที่ไร้อิสรภาพ ผมนั่งดูมันร้องไห้สลับกับหัวเราะอยู่บนต้นไม้เป็นชั่วโมง จนมันผล็อยหลับผมส่งจึงสัญญาณเรียกให้สิงโตที่เลี้ยงเอาไว้กลับเข้ามาในกรง ส่วนที่ผมคิดว่ามันอาจจะตายไปแล้วเพราะเรือลำเล็กที่จอดอยู่ริมชายหาดมันพร้อมจะระเบิดได้ตลอดเวลาหากมีใครสักคนไปสตาร์ทเครื่องยนต์

“สวัสดีครับคุณตำรวจ” ผมยกมือไหว้ตำรวจทั้งสองนายที่นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก

“สวัสดีครับคุณนโม”

“เรียกผมว่าโอบอุ้มเถอะครับ”

“ครับคุณโอบอุ้ม ผมจะมาแจ้งว่าเราพบนายสามารถแล้ว มีคนแจ้งว่ามันหนีไปกบดานที่ท้ายเกาะโน้นเลยครับ ทีแรกผมคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้เพราะเกาะฝั่งนั้นรกร้าง การจะข้ามไปได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ดีไม่ดีอาจจะโดนสัตว์ป่ากินเสียก่อน แต่เมื่อมีคนแจ้งมาทางผมก็เลยส่งกำลังไปตรวจค้น แล้วก็พบหมอนั่นจริงๆ สภาพอิดโรยมาก“

“เขาคงดวงดีมากนะครับที่ไม่โดนสัตว์ป่ากินเสียก่อน” ผมไม่ได้แสดงอาการใดๆ ทั้งที่กำลังรู้สึกประหลาดใจ คนเห็นแก่ตัวและเอาตัวรอดเก่งอย่างไอ้สามารถ ทำไมมันถึงไม่ลงเรือหนีไป ดวงมันคงดีอย่างที่ผมพูดไป เพราะหากมันเลือกที่จะหนี จุดหมายเดียวที่มันจะไปถึงคือนรก

“คือนายสามารถให้การกับทางเราว่าคุณโอบอุ้มจับตัวเขาไปกักขัง แถมยังปล่อยสิงโตมาทำร้ายเขา เขาบอกว่าที่เขาหนีไปท้ายเกาะได้เพราะคุณวางแผนเอาไว้ บ้านพักบนดอยของคุณมีทางลับที่พาไปยังท้ายเกาะได้ พอเราตรวจดูก็พบว่ามีทางลับเส้นนั้นจริงๆ แถมยังมีกรงขังตามที่นายสามารถบอกเล่าทุกอย่าง เราจึงต้องมาเชิญคุณโอบไปให้ปากคำที่โรงพักด้วยครับ”

“ยินดีครับ เส้นทางลับนั้นมีจริง แต่ผมทำเอาไว้เวลาที่ต้องพาสัตวแพทย์ไปดูแลสัตว์บางตัวที่อาศัยอยู่ที่ป่าหลังเกาะ พวกมันอยู่กันแบบอิสระ แต่ผมจะจับมันใส่กรงต่อเมื่อมันป่วย ผมฝังชิพพวกมันเอาไว้เพื่อการศึกษาครับ” ผมพูดเหตุผลทุกอย่างตามจริง แต่ก็นึกสงสัยว่าใครกันที่รู้ว่าผมกับไอ้สามารถไปที่นั่น “พอจะบอกผมได้ไหมครับว่าใครแจ้งความบอกทางคุณตำรวจว่านายสามารถหนีไปอยู่ที่นั่น”

“ผู้หวังดีแจ้งชื่อไว้ว่านายด้าวครับ”

ผมได้ยินชื่อแล้วก็ยิ้มพลางส่ายหน้า ไม่ใช่ใครอื่นจริงๆ เจ้าตัวยุ่งของผมนั่นเอง
 

….


เมื่อผมไปถึงโรงพักก็ได้ยินเสียงไอ้สามารถโวยวายดังมาก่อนตัว ข้างกายของมันมีผู้ชายท่าทางดูดีคนหนึ่งยืนคุยกับคุณตำรวจอยู่ เมื่อคุณตำรวจแนะนำผมถึงได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้คือทนายของมัน มันแจ้งตำรวจว่าผมข่มขู่และกักขังหน่วงเหนี่ยวมัน

“ผิดก็ส่วนผิด ผมยอมรับความผิด แต่ผมก็ไม่ยอมในสิ่งที่มันทำกับผม ผมเกือบตาย มันปล่อยให้สิงโตมากินผม มันตั้งใจจะฆ่าผม” ไอ้สามารถพูดเสียงกร้าว แต่พอมันเห็นสายตาของผมมันก็หยุดพูดแล้วหันไปมองหน้าทนายของมัน คนอย่างมันไม่มีปัญญาจ้างทนายหรอก คงมีใครสักคนหนุนหลังมันอยู่

“คุณหนีขึ้นไปเอง ใครๆ ก็รู้ว่าเขาลูกนั้นมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เต็มไปหมด การที่คุณจะเจอสิงโตสักตัวมันไม่ใช่เรื่องแปลก” ผมตอบเสียงเรียบ

“ไม่จริง มึงวางแผนเอาไว้ทั้งหมด มึงต้องการฆ่ากู”

“จะกล่าวหาใครต้องมีหลักฐานนะครับ” คุณตำรวจพูดกับทนายของมันแทนผม

“นายสามารถบอกว่าที่นั่นมีกล้องวงจรปิด” ทนายของมันตอบกลับ

“มีครับ ถ้าคุณตำรวจต้องการผมจะให้คนเอามาให้” ผมตอบรับ

“ไม่ได้ๆ เดี๋ยวมันสั่งให้คนทำลายหลักฐาน คุณตำรวจต้องไปเอามาเอง” ไอ้สามารถรีบแย้ง

“นายสามารถบอกว่าคืนนั้นคุณอยู่กับเขา คุณมีพยานยืนยันไหมครับว่าคุณไม่ได้อยู่ที่นั่น” คราวนี้ท่านสารวัตรเป็นคนหันมาถามผม

“มีครับ พี่โอบอยู่กับหนูเอง” เสียงที่ตอบกลับมาทำให้ทุกคนหันไปมอง เจ้าของเสียงก็คือหนูด้วง ซึ่งเดินขึ้นมาบนโรงพักพร้อมกับป๊าพญา

“สวัสดีครับคุณพญา” ท่านสารวัตรทักทายป๊าก่อนจะหันไปรับไหว้หนูด้วง

“มันโกหก! มันเป็นผัวเมียกันยังไงต้องเข้าข้างกันอยู่แล้ว” ไอ้สามารถรีบโวยวายเมื่อเห็นป๊า สีหน้าของมันซีดหนักกว่าเดิมแต่ยังคงทำปากดี

“แต่หนูมีหลักฐานนะฮะ”

“ไหน หลักฐานอะไร เอามาให้กูดู”

“คุณอยู่เงียบๆ ก่อนได้ไหม ผมจัดการเอง” ทนายหันไปตำหนิลูกความของตัวเอง ถ้าผมคิดไม่ผิด ผมว่าป๊ารู้ว่าใครส่งทนายคนนี้มา เพราะป๊าจ้องหน้าทนายตลอดจนฝ่ายนั้นเริ่มออกอาการกังวล

“นี่ไงฮะ เมื่อคืนนี้หนูกับพี่โอบ...แบบว่า...นี่ไง” หนูด้วงดึงคอเสื้อลงจนเห็นรอยแดง “เรากำลังโรมรันพันตูกันอยู่ ไม่ว่างไปทำร้ายใครหรอกฮะ ยังไม่เชื่อเหรอฮะ หนูมีโชว์ให้ดูอีกนะ”

“นะ นะ หนูด้วง!” ป๊าพญารีบดึงมือของหนูด้วงออกจากชายเสื้อของตัวเอง ส่วนผมก็ได้แต่นั่งอึ้งไปต่อไม่ถูก

“หลักฐานแค่นี้มันไม่พอหรอกครับ” ทนายของไอ้สามารถแย้ง “แค่คุณเอาไฟล์กล้องวงจรปิดบ้านบนดอยมาให้ทุกคนดูก็จบ”

“ดูมึงจะมั่นใจเหลือเกินนะว่าเจ้าอุ้มอยู่ที่นั่น เจ้านายของมึงอยากทำลายชื่อเสียงเจ้าอุ้มมากเลยสินะ”

“คุณพูดถึงใครคุณพญา ผมไม่เข้าใจ”

“กูเชื่อว่ามึงยังไม่เข้าใจจริงๆ ว่ามึงหาเรื่องใส่ตัวเอง”

“คุณข่มขู่ผมต่อหน้าคุณตำรวจเลยนะคุณพญา”

“เอาเป็นว่า ผมขอไฟล์กล้องวงจรปิดบ้านบนดอยได้ไหมครับ ถ้าไฟล์ภาพที่ได้มาไม่ตรงกับคำกล่าวอ้างของนายสามารถ เราจะได้ดำเนินการเรื่องความผิดของนายสามารถให้จบ”

“งั้นผมขอล็อกอินจากคอมของคุณตำรวจเลยนะครับ” ผมคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะถ่วงเวลาเอาไว้

ป๊าพญาจับไหล่ผม สีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด ผมยอมรับว่าตัวเองสะเพร่าไม่ได้ปิดกล้องตอนที่ขึ้นไปที่นั่น ไม่ทันคิดว่าไอ้สามารถมันจะมีโอกาสรอดชีวิตเพื่อมาเอาคืนผมได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพราะถึงยังไงในคลิปก็จะเห็นว่ามันเลือกที่จะเดินออกไปเอง

ผมเปิดอีเมล์และอธิบายไฟล์กล้องแต่ละให้คุณตำรวจฟัง จากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาที่จะดำเนินการต่อ เนื่องจากกล้องมันมีหลายตัว คุณตำรวจจึงใช้เวลาไล่ดูแต่ละไฟล์นานพอสมควร พักใหญ่ท่านสารวัตรก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะลุกจากโต๊ะแล้วเดินมาหาพวกผม

“จับนายสามารถไปขังตามเดิม” ท่านสารวัตรเป็นคนออกคำสั่งก่อนจะหันมาพูดกับผม “ขอบคุณมากนะครับสำหรับหลักฐานที่ใช้มัดตัวนายสามารถได้แน่นกว่าเดิม คุณโอบอุ้มพ้นข้อกล่าวหาแล้วครับ”

“อะไรนะ! คุณตำรวจเป็นพวกมันใช่ไหม หลักฐานคาตาแบบนี้ยังจะปล่อยมันไป” ไอ้สามารถหัวฟัดหัวเหวี่ยง เตรียมจะลุกมาหาผมจนโดนนายตำรวจสองคนเข้าไปคุมตัวอย่างใกล้ชิด

“ผมขอดูไฟล์จากกล้องวงจรปิดได้ไหมครับ” ทนายของไอ้สามารถทำหน้าเลิ่กลั่กก่อนจะขอดูหลักฐานบ้าง

“หนูว่าเปิดให้ดูพร้อมกันเลยก็ได้ฮะ จะได้ยุติธรรม” หนูด้วงเสนอ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมคุณตำรวจถึงบอกว่าผมพ้นข้อกล่าวหา เพราะอย่างน้อยก็ถือว่าผมกักขังหน่วงเหนี่ยวมันจริงๆ

“ถ้าอย่างนั้นเชิญทางนี้ครับ” ท่านสารวัตรเชิญทุกคนไปที่ห้องประชุมเพื่อจะได้ดูคลิปจากกล้องวงจรปิดพร้อมกัน

ท่านสารวัตรพาพวกเรามาที่ห้องประชุมนี้เพราะที่นี่มีจอภาพขนาดใหญ่พอที่จะทำให้ทุกคนดูคลิปได้พร้อมกัน ไฟล์แรกที่คุณตำรวจเลือกมาเปิดให้ดูคือตอนที่ไอ้สามารถมันเดินวนอยู่ภายในบ้าน มันเดินวนรื้อค้นข้าวของ ผมเดาว่ามันคงหาของมีค่า เมื่อมันไม่เจออะไรก็หยิบของในตู้เย็นมากินราวกับเป็นเจ้าของบ้าน สักพักใหญ่มันถึงเดินไปทางหลังบ้าน ผมนึกแปลกใจว่าทำไมจึงไม่มีภาพของผมเดินตามมันไป ต้องมีคนทำอะไรกับไฟล์กล้องวงจรปิดพวกนี้

ไฟล์ที่ถูกเปิดต่อมาคือภาพจากกล้องตัวที่ติดอยู่ด้านหลังของบ้าน ในคลิปเห็นได้ชัดว่าไอ้สามารถมันกำลังเดินไปยังช่องทางลับ ก่อนจะเข้าไปมันยังยืนฉี่ใส่ปากทางเข้าแล้วหัวเราะชอบใจ หนูด้วงเห็นแล้วส่งเสียง ‘อี๋’ ออกมาจนมันหันมาถลึงตาใส่ แต่พอเจอทั้งผมและป๊าจ้องตามันกลับ มันถึงรีบหดคอแล้วขยับไปหาทนายของมัน

“แล้วไฟล์นี้คือคลิปในถ้ำ” ท่านสารวัตรพยักหน้าให้ลูกน้องเปลี่ยนไฟล์คลิปอีกอัน

แล้วสิ่งที่ได้เห็นคือภาพของไอ้สามารถกำลังคุยกับใครบางคนอยู่ ไฟล์นี้มาจากกล้องตัวที่หันไปทางมันคนเดียว ภาพฉายตั้งแต่เริ่มคลิปจนถึงตอนที่มันเดินออกจากปากถ้ำไป แต่กล้องตัวนี้บันทึกเสียงไม่ได้ จึงไม่มีใครรู้ว่ามันพูดคุยกับใคร

“คุณไม่ได้ถูกกักขังอะไรเลย ในคลิปเห็นอยู่ว่ากรงเปิดออกง่ายๆ แล้วคุณก็เดินออกไปเอง ผมเช็คทุกคลิปแล้ว ไม่มีคุณโอบอุ้มในเลยสักคลิปเดียว”

“มันมีกล้องอีกตัวที่หันไปทางมัน ผมเห็นติดไว้ตรงปากถ้ำ คุณตำรวจเลือกเปิดแต่ฝั่งผม ไม่ยุติธรรม” มันรีบฟ้องท่านสารวัตร

“ใช่ มันมีไฟล์คลิปกล้องตัวนั้น แต่คุณอยากให้ผมเปิดจริงเหรอ” ท่านสารวัตรละสายตาจากจอภาพแล้วหันมาถาม

“ต้องเปิดสิครับ ดูก็รู้ว่านายสามารถกำลังคุยกับใครสักคน แล้วกรงที่เปิดออก ลักษณะเหมือนว่ามีคนกดเปิดให้ เพราะฉะนั้นต้องขอดูเหตุการณ์ก่อนหน้าที่กรงจะเปิดจากกล้องอีกฝั่ง” ทนายของไอ้สามารถยังคงพยายามที่จะหาความผิดของผม

“เฮ้อ ตามใจก็แล้วกัน แล้วจะหาว่าผมทำให้อับอายไม่ได้นะ กล้องตัวนี้สามารถเก็บเสียงได้ด้วย เดี๋ยวเอาโน้ตบุ๊กอีกตัวมาเปิดพร้อมกับไฟล์ของนายสามารถเลย จะได้ดูการโต้ตอบของทั้งสองฝั่ง” ท่านสารวัตรสั่งให้ลูกน้องของตัวเองเปิดไฟล์คลิปสุดท้ายพร้อมกับไฟล์กล้องที่หันไปทางไอ้สามารถอีกครั้ง

.
.
.


‘หิวเหรอ’ เสียงที่เอ่ยออกมาเป็นเสียงบี้แบนเหมือนเสียงเป็ด ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ถ่ายไปยังต้นเสียงค่อนข้างมืดมัวจนเห็นคนพูดเพียงแค่ลางๆ ผมเริ่มขมวดคิ้วเพราะว่ามันไม่ใช่เสียงของผมและเงาลางๆ ที่อยู่หน้ากรงขังก็ไม่ใช่ผมแน่นอน

‘ใคร ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย’ เสียงของไอ้สามารถตะโกนขอความช่วยเหลือ

แล้วความมืดในคลิปก็ถูกทำลายด้วยแสงไฟที่สว่างจ้า ภาพจากกล้องที่หันไปทางไอ้สามารถกำลังฉายภาพมันหันหน้าหนีแสงไฟ เมื่อมันปรับสายตาได้แล้วจึงหันกลับมามอง คราวนี้บนจอภาพใหญ่ฉายให้เห็นด้านนอกกรงขังว่ามีใครบางคนยืนอยู่ ทุกคนเพ่งพยายามมองไปที่จอภาพขนาดใหญ่แล้วก็ต้องตกใจ

“นั่นมันน้องด้าวนี่นา” หนูด้วงทำเสียงแปลกใจ แต่ผมรู้ได้ทันทีว่าถึงคราวซวยของไอ้สามารถจริงๆ น้องด้าวไม่เคยปราณีใคร และไม่มีใครเคยพ้นจากความผิดถ้ามีน้องด้าวปรากฏตัว

‘ไอ้สัตว์!’

‘ครับ ด้าวเอง’

‘มึง มึง...นี่มึงเป็นคนขังกูเหรอ’

‘ขังอะไร คุณเดินเข้าไปเองแท้ๆ’

‘กู...’ สามารถพูดไม่ออก

‘หิวน้ำเหรอครับ ที่นี่ไม่มีน้ำ มีแต่ฉี่สิงโต ในขวดนี่ไง’

‘มึงแก้แค้นกูเหรอ’

‘ผมมาทวงความยุติธรรม’

‘หึ...อยากจะฆ่ากูก็ฆ่าเลย’ สามารถปัดขวดน้ำทิ้ง

‘ผมไม่ฆ่าคุณหรอก แต่ถ้าคุณอยากตายผมก็ไม่ขวาง ที่มุมถ้ำมีเชือกอยู่’

‘ไหนไอ้พญามันป่าวประกาศว่าลูกมันเป็นคนดี มึงก็เลวไม่ต่างจากกูหรอก’

‘ถึงผมจะเป็นแค่ตุ๊กตา ไม่ใช่ลูกแต่ก็เหมือนลูกของผู้ยิ่งใหญ่ แล้วผมก็นิสัยดีกว่าคุณ และต่างจากคุณเหอะ เพราะผมจับผู้ร้ายได้ทุกซีซั่น ผมไม่อยากจะคุย’

‘แล้วมึงขังกูทำไม’

‘ผมไม่ได้ขัง คุณเข้าไปเองนะ แต่..คุณทำให้หนูด้วงเจ็บตัว”

‘กู กูไม่ได้ตั้งใจ’

‘มึงคิดจะข่มขืนหนูด้วง คิดจะลักพาตัวน้องแฝด นี่ใช่ไหมที่ไม่ได้ตั้งใจ ผมจะบอกคุณให้นะ คนอย่างคุณมันต้องติดคุกหัวโต ผมจะทำให้คุณติดคุก’

‘ไอ้สัตว์ เอ้ย โอบ ชื่อโอบอุ้มใช่ไหม น้าขอโทษนะ น้าสัญญาว่าจะแก้ไขตัวเอง ให้โอกาสน้านะ แล้วน้าไม่ได้ลักพาตัวโอบมาจากครอบครัวนะ พ่อของโอบเอาโอบมาขายใช้หนี้ น้าพูดจริงๆ ไม่ได้โกหก ไปถามไอ้พญาสิ มันเคยมาเค้นถามน้าเรื่องครอบครัวของโอบแล้ว มันไปเจอพ่อโอบมาแล้วด้วย พ่อแท้ๆ ของโอบเป็นนักพนันตัวยง แต่ไอ้พญามันให้น้ารับปากว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับโอบหรือใครอีก มันกลัวโอบรู้ความจริงแล้วจะเสียใจเลยให้น้าโกหกว่าลักพาตัวโอบมา’

‘........’

‘น้าพูดจริงนะ ที่น้าทำรุนแรงกับโอบตอนนั้นก็เพราะต้องเอาตัวเองให้อยู่รอด ถ้าน้าไม่ทำน้าก็ถูกเจ้านายลงโทษอีกทีหนึ่ง แต่น้าก็ไม่เคยให้โอบอดตายนะ ก็ยังหาข้าวให้กินหาที่ให้นอน ต่างจากคนอื่นๆ เห็นไหมพวกมันต้องนอนข้างถนน’

‘ขอบคุณที่ให้น้ำให้ข้าวและที่นอนกับคุณโอบอุ้ม แต่ผมไม่ใช่คุณโอบ ไว้ไปสารภาพกับเขาเองเถอะ ท่าทางจะหิวจนตาลายสินะ’ เสียงจากตุ๊กตามนุษย์ต่างดาวหยุดลงพักหนึ่งก่อนจะเริ่มส่งเสียงต่อ ‘ผมจะยอมให้คุณเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง ถ้าคุณเดินออกจากถ้ำนี้ไปแล้วถือว่านี่คือโอกาสของคุณ ไม่ว่าคุณจะหาทางออกจากเกาะนี้ไปได้ยังไงก็ตาม เป็นตายคุณเลือกเอง แต่ถ้าคุณยอมมอบตัวสารภาพความผิดทั้งหมด ก็จงเลือกที่จะอยู่ที่นี่อีกคืน พรุ่งนี้ตำรวจจะมารับตัวคุณไป’

‘ขอบคุณนะ ขอบคุณ’ ถึงตรงนี้เป็นภาพไอ้สามารถกำลังยกมือไหว้ นายตำรวจหลายคนแอบหัวเราะเพราะคิดว่ามันกำลังไหว้ตุ๊กตามนุษย์ต่างดาวอยู่

เสียง ‘คลิก’ ดังมากจากกรงเหล็กทางฝั่งปากถ้ำเมื่อตัวล็อกไฟฟ้าถูกปลดออกมันรีบพยุงร่างที่อ่อนแรงของตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วเดินโซเซออกไปก่อนจะพึมพำเบาๆ แต่เสียงของมันก็ถูกบันทึกได้อยู่ดี

‘อยู่รอตำรวจให้โง่สิ มึงมันใจอ่อนเกินไปไอ้สัตว์ ริอาจจะมาขู่คนอย่างกู ถ้ากูรอดไปได้กูจะกลับมาทำให้มึงต้องจำกูจนวันตาย’

‘เดี๋ยวก่อน’

‘อะไร’ สามารถทำหน้าระแวงเมื่อได้ยินเสียงท้วง

‘คุณโอบมีพ่อเพียงคนเดียว พ่อของเขาชื่อพญา ภูมิเทพ’

‘อยากมีไอ้พญาเป็นต้นแบบว่างั้น หึหึ...มึงไม่เหมือนมันสักนิดเดียว ฮ่าๆๆ’

‘แหงล่ะ จะเหมือนได้ไง ก็ผมเป็นตุ๊กตา จงจำชื่อผมไว้ ผมคือน้องด้าว มณีรัตณ์นฤวิทย์ภูมิเทพ ผู้พิทักษ์ความยุติธรรม’

.
.
.


“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ที่แท้มึงคุยกับน้องด้าวนี่เอง” ป๊าพญาหัวเราะดังลั่นห้องประชุม นายตำรวจที่อยู่ในห้องก็แอบลอบขำเมื่อดูคลิปจบ

“เป็นไปไม่ได้ ผมไม่ได้คุยกับตุ๊กตาหน้าตาบ้าๆ นี่แน่ๆ” ไอ้สามารถปฏิเสธ แต่น้ำเสียงก็เริ่มดูจะไม่มั่นใจสักเท่าไหร่

“หน้าตาแบบนี้เหรอฮะ” หนูด้วงหยิบตุ๊กตาน้องด้าวออกจากระเป๋าแล้วยื่นไปตรงหน้าของไอ้สามารถจนมันสะดุ้งสุดตัว

“ถ้าตุ๊กตาอยู่ที่คุณหนูด้วง แปลว่าอาจจะมีการตัดต่อเอาตุ๊กตาใส่ไปในคลิปแทนก็ได้นะครับ มันเป็นไปไม่ได้ที่ตุ๊กตาจะเดินไปอยู่ตรงนั้นเอง” ทนายของมันยังคงไม่ละความพยายาม ถึงมันจะเดาถูกก็เถอะ ผมเริ่มจะรำคาญหมอนี่ อยากรู้ว่าใครเป็นคนส่งมาให้ช่วยคนเลวอย่างไอ้สามารถ

“ตุ๊กตาแบบนี้หนูมีหลายตัว มีอยู่ทุกที่ เพราะหนูจะอุ่นใจเวลามีน้องด้าว บ้านบนดอยก็มี ไม่คิดว่าพี่สามารถจะชอบเล่นตุ๊กตาด้วย เดี๋ยวหนูให้เอาไปเล่นในคุกสักตัวแก้เหงานะฮะ”

“ผมจำได้ ตุ๊กตาแบบนี้บันทึกภาพและเสียงตอนที่นายสามารถลักพาตัวคุณพยัคฆ์ไปที่กระท่อมร้าง ตอนนี้ตุ๊กตายังอยู่กับเราเลยครับท่านสารวัตร” นายตำรวจคนหนึ่งเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีตุ๊กตาที่ใช้เป็นหลักฐานสำคัญในวันที่ดาวเรืองและหนูด้วงถูกจับตัวไป ซึ่งตุ๊กตาตัวนั้นมันยังอยู่ที่โรงพัก แปลว่าที่หนูด้วงบอกว่ามีหลายตัวนั้นเป็นความจริง

“ผมขอตัวสักครู่นะครับ พอดีมีสายเข้า” ทนายของไอ้สามารถเดินออกไปรับโทรศัพท์ ส่วนตัวไอ้สามารถจ้องมองไปที่ตุ๊กตาน้องด้าวและลูบที่แขนของตัวเองเป็นระยะ

“ยังไงผมคงต้องขอไฟล์คลิปเหล่านี้เอาไว้เป็นหลักฐานก่อน”

“ยินดีครับท่าน” ผมตอบท่านสารวัตรกลับไป

“ผมคงต้องขอตัวกลับก่อน ส่วนเรื่องที่จะเป็นทนายให้นายสามารถ ผมขอถอนตัวนะครับ” ทนายความเดินกลับเข้ามา หน้าตาซีดลงจนเห็นได้ชัด

“อ้าว มึงคิดจะทิ้งกูเหรอ มึงบอกว่าให้กูซัดทอดไอ้โอบแล้วมึงจะช่วยกูไม่ให้ติดคุกไง ไอ้สัตว์เอ้ย คิดทิ้งกูเหรอ อย่าให้กูออกไปได้นะมึง กูจะตามไปฆ่ามึงทั้งครอบครัวเลย” ไอ้สามารถมันพรั่งพรูทุกอย่างออกมาเมื่อโดนหักหลัง

“อย่ามากล่าวหาผมนะ ผมไม่เคยให้คุณทำอะไรแบบนั้น ระวังผมจะฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท” ทนายความหน้าเสียเมื่อเห็นสายตาของป๊าพญา เขาชี้หน้าต่อว่าไอ้สามารถก่อนจะรีบเดินออกจากห้องประชุมไป

“งั้นพวกผมคงต้องกลับก่อน หวังว่ามันคงจะได้รับโทษที่มันก่อไว้ ท่าทางจะหนักอยู่ใช่ไหมครับท่าน” ป๊าพูดกับท่านสารวัตร

“ไม่ต้องห่วงครับ” ท่านสารวัตรยิ้มให้ป๊าเหมือนรู้กันก่อนจะสั่งให้ลูกน้องพาไอ้สามารถกลับไปเข้าห้องขังตามเดิม ได้ยินเสียงของมันโวยวายขอโทษผมสลับกับด่าทอ จนกระทั่งเสียงเงียบไป

“ป๊าต้องกลับไปที่เกาะใบไม้ครามก่อน มีเรื่องต้องไปสะสางนิดหน่อย” ป๊าบอกกับผม

“ผมจะไปรับน้องแฝดเหมือนกันครับ”

“ไม่ต้อง อาน้องของเราไปจัดการให้แล้ว”

“งั้นเรากลับบ้านกันเถอะฮะพี่โอบ”

“เกิดมากูไม่เคยตีหลานกูเลย แต่มาถกเสื้อต่อหน้าตำรวจกูละเครียด ฝากจัดการให้ด้วย” ป๊าส่งสายตาดุไปให้หนูด้วงก่อนจะหันมาพูดกับผม ส่วนเจ้าตัวแสบก็หน้าจ๋อยไปเลย

“ยุง รักหนูไหม”

“ไม่รู้ไม่ชี้”

“ยุงฮะ หนูผิดไปแล้ว ถ้าจะตีหนู อย่าตีแรงนะฮะ หนูจะเจ็บ” หนูด้วงทำหน้าอ้อนใส่ป๊า ซึ่งแน่นอนว่าป๊าทำได้แค่ถอนหายใจก่อนจะลูบผมของน้องเบาๆ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ป๊าไม่เคยชนะหนูด้วงได้สักที

“ถึงป๊าจะยกโทษให้หนู แต่พี่ไม่ยกโทษให้นะครับคนดี กลับไปรับโทษที่บ้าน”

“ก็ได้ก็ได้ฮะ” หนูด้วงรับคำเสียงอ่อย


มีต่อด้านล่าง
V
V
V



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2019 17:45:18 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ต่อจากด้านบน


ผมพาหนูด้วงมาถึงรถ พอน้องขึ้นไปนั่งในรถแล้วป๊าพญาก็รีบเข้ามากอดคอผมเอาไว้ก่อนจะพูดกับผม

“มึงคือลูกป๊า มึงคือราชสีห์ ภูมิเทพ” ป๊าตบบ่าผมเบาๆ ก่อนจะพูดต่อ “แต่อย่าทำน้องรุนแรงนะ สงสารน้อง”

“น้องดูจะชอบการลงโทษของผมนะครับป๊า” ผมตอบกลับไป

“เหรอวะ” ป๊าขมวดคิ้วจนผมนึกขำ

“ผมล้อเล่นครับ ผมไม่เคยทำรุนแรงกับน้อง แค่ตีก้นนิดเดียวก็แดงไปหมดแล้ว”

“จิ๊ๆๆ มึงนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ เจ้าอุ้ม แบบนี้ค่อยสมกับเป็นลูกกูหน่อย ฮ่าๆๆ ไปเว้ยไอ้หนอม กูต้องไปจัดการน้องเขยตัวดีของกูก่อน” ผมได้ยินป๊าพูดกับพี่หนอมก็เข้าใจได้ทันทีว่าคนที่จ้างทนายมาให้ไอ้สามารถคงจะเป็นสามีของอาเยีย

“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับป๊า”

“ป๊าภูมิใจในตัวเรานะเจ้าอุ้ม”

ผมยืนส่งป๊าขึ้นรถก่อนจะกลับไปขึ้นรถของตัวเองเหมือนกัน พอขึ้นไปก็เห็นว่าเจ้าตัวป่วนแกล้งหลับก็เลยปล่อยให้เขาแกล้งหลับไปอย่างนั้น ผมรู้ว่าทุกอย่างเป็นฝีมือของหนูด้วง เขาคงหายไปตัดต่อคลิปทั้งคืน อันที่จริงผมควรจะต้องขอบคุณในสิ่งที่เขาทำเพื่อผมไม่ใช่การลงโทษ ถ้าไม่ติดที่ว่าไอ้รอยจ้ำแดงๆ ที่คอและที่ตัวมันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน ใครเป็นคนทำ


เมื่อกลับมาถึงบ้านผมก็เดินไปที่ร้านก่อน วันนี้ผมสั่งปิดร้านหนึ่งวันเพราะคิดว่าจะไปรับน้องแฝดกลับมา ผมมีเรื่องจะต้องคุยกับอาเยีย แต่เมื่อป๊าบอกให้ผมรออยู่ที่นี่ผมเลยต้องทำตามคำสั่งของป๊า

ผมหยิบแผ่นเสียงเพลง ‘เหมือนเคย’ วางลงบนเครื่องเล่นแผ่นเสียง ทำนองเพลงเริ่มบรรเลงพร้อมกับเสียงกระดิ่งจากประตูร้านที่ถูกเปิดออก น้องเดินหน้าจ๋อยเข้ามาหาผม เมื่อเห็นว่าผมหันกลับไปสนใจเครื่องเล่นแผ่นเสียงต่อน้องเลยเข้ามาสวมกอดผมจากทางด้านหลัง

“พี่โกรธหนู”

“พี่โกรธตัวเอง”

“ทำไมพี่ถึงโกรธตัวเองฮะ” น้องกระชับกอดผม

‘ยิ้มที่ดูสดใส กับหัวใจที่อ่อนหวาน ท่าทางเธอแบบนั้น ดูเท่าไรไม่เคยเบื่อ’

ผมยกมือขึ้นไปทาบที่มือของน้อง อยากให้น้องได้ฟังเพลงที่ผมกำลังเปิดอยู่ในตอนนี้ แต่เจ้าตัวคงจะมีแต่ความกังวลในใจ คงกลัวว่าผมจะโกรธ

คนตัวเล็กกว่ารีบพาตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าของผม และจับมือของผมให้กอดเอวของเขาเอาไว้ ริมฝีปากสีแดงระเรื่อพยายามคลี่ยิ้มเพื่ออ้อนผม คงอยากรู้ว่าผมโกรธตัวเองเรื่องอะไร

‘แม้เวลาจะพ้นไป นานสักเท่าไร เธอยังคงสดใสได้อย่างเหลือเชื่อ’

“พี่โกรธตัวเองที่ทำให้หนูต้องเหนื่อย เมื่อคืนไม่ได้นอนเลยใช่ไหมครับ”

“หนูไม่เหนื่อยเลย ก็แค่ตัดต่อคลิป ที่สำคัญหนูไม่ได้ทำ น้องเกลเป็นคนทำให้ น้องเกลเก่งมากๆ เลยฮะพี่โอบ แต่คนพากย์เสียงคือน้องเม่น บีบเสียงน้องด้าวจนเหมือนเป็ด น้องด้าวต้องงอนแน่ๆ เลยฮะ” น้องยิ้มหวานให้ผมหลังจากที่เจื้อยแจ้วให้ฟัง

“แล้วรอยแดงๆ ใครเป็นคนทำให้” คราวนี้เสียงของผมเข้มขึ้นโดยอัตโนมัติ

“พี่ป้ายฮะ” หนูด้วงตอบ พอเห็นสีหน้าของผมน้องก็รีบอธิบายต่อ “นกฮูกให้พี่ป้ายมาเพ้นท์สีให้ นี่ไง มันลบได้ฮะ” น้องเอามือขึ้นถูที่คอจนสีมันจางลง “แต่พี่ป้ายทำซะเหมือนจริงเลยพี่โอบ...หนูมีความลับจะบอก บนคอของนกฮูกมีรอยแดงด้วยฮะ แล้วนกฮูกก็มาพร้อมกับพี่ป้าย หนูว่านะ...คงไม่ใช่สีเพ้นท์ แต่ต้องเป็นรอยจูบจริงๆ แน่เลย หนูว่านะ..”

“กลับมาเรื่องของตัวเองก่อน ถึงจะเป็นการเพ้นท์ แต่ไอ้ป้ายมันก็ต้องเห็นอะไรๆ ของหนู”

“ก็เห็นแค่ข้างบนเอง หนูกลัวคุณตำรวจไม่เชื่อเลยเพ้นท์ที่หน้าอกด้วย”

“แค่ข้างบนพี่ก็หวง”

“แต่หนูก็เคยถอดเสื้อเล่นน้ำ ถอดเสื้อแตะบอลบ่อยๆ ทำไมตอนนั้นพี่โอบไม่เห็นหวงเลย”

“พี่หวง หวงแต่ไม่แสดงออก แต่ตอนนี้อยากแสดงออกแล้ว”

“แต่ว่าหนู...”

“โอเค งั้นเพื่อความยุติธรรม พี่จะให้คนอื่นมาเพ้นท์ตัวพี่บ้าง เริ่มจากเพ้นท์ที่หน้า”

“.....”

“แล้วก็เพ้นท์คอ”

“.....”

“จากนั้นก็เพ้นท์อก”

“......”

“เพ้นท์หน้าท้อง”

“......”

“แล้วก็ลงไปเพ้นท์ที่...”

“ไม่ได้ไม่ได้ หนูไม่ชอบ!” หนูด้วงเลิกกอดผมแล้วทำหน้างอจนผมนึกขำ “หนูไม่ชอบตั้งแต่เพ้นท์คอแล้วด้วย ก็ได้ก็ได้ หนูจะไม่ถอดเสื้อเล่นน้ำ ไม่ถอดเสื้อเตะบอล”

“ไม่ถอดเสื้อให้ใครเห็นทั้งนั้น” ผมเป็นฝ่ายพูดต่อให้น้อง

“พี่โอบก็ห้ามเหมือนกัน”

“ตกลง” ผมตอบรับ

“หนูก็หวงพี่โอบ” น้องเข้ามากอดผมอีกครั้งแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้

“พี่ก็หวงหนู มากๆๆๆๆ” ผมเน้นคำว่ามาก พูดไปก็จูบที่หน้าผากของน้องย้ำๆ จนจ้าตัวหัวเราะชอบใจ

‘เสียงหัวเราะในวันนั้น ฉันยังจำถึงวันนี้ นึกทีไรรู้สึกดี และดีทุกๆ เมื่อ’

“หนูขอโทษนะที่ทำให้พี่เป็นห่วง”

ผมเกลี่ยปลายผมที่ละใบหน้าของน้องออก ใบหน้านี้ผมไม่เคยเบื่อที่จะมอง ทั้งดวงตาที่สดใส จมูกรั้นๆ รอยยิ้มที่ทำให้ผมต้องยิ้มตาม รวมถึงแก้มกลมๆ ที่ให้สัมผัสนุ่มนิ่มและหอมชื่นใจทุกครั้งที่ผมได้กดจมูกลงไป

“หนูคงได้เห็นแล้วว่าพี่คิดจะทำอะไรกับไอ้สามารถ ผิดหวังในตัวพี่ไหมครับ”

“ไม่ฮะ หนูรู้ว่าพี่ทำเพราะกลัวมันกลับมาทำร้ายหนู แต่หนูปล่อยให้พี่ทำแบบนั้นไม่ได้”

“กลัวพี่ถูกจับเหรอ”

“คุณทวดสอนว่าถ้าทำไม่ดีจะตกนรก หนูไม่อยากให้พี่ทำไม่ดี เพราะเดี๋ยวพี่ต้องไปเจอไอ้คุณสามารถในนรกอีก แล้วหนูก็ไม่อยากไปตามหาพี่ที่นั่นด้วย มันน่ากลัว หนูเลยคิดว่าต้องพาพี่มาอยู่บนสวรรค์กับหนูดีกว่า”

“รู้เหรอครับว่านรกเป็นยังไง”

“รู้สิฮะ คุณย่าทวดเล่าให้ฟังบ่อยๆ มือของพี่อาจจะถูกหนามต้นงิ้วทิ่มตำ” หนูด้วงพูดพลางยกมือของผมขึ้นมาจูบและขบกัด เจ็บจนผมต้องสูดปาก “หรือถ้าต้องลงกระทะทองแดง ตัวของพี่จะต้องแสบร้อน” มือของน้องเริ่มลูบไล้เข้าไปในเสื้อของผม “หรือไม่พี่ก็อาจจะจะถูกคีมหนีบปาก” น้องเขย่งตัวขึ้นมาและขบเม้มที่ริมฝีปากของผมอย่างอ้อยอิ่ง

‘แม้เวลาจะพ้นไป นานสักเท่าไร ไม่เคยมีวันไหนที่ฉันจะเบื่อเลย’

“นรกเป็นแบบนี้นี่เอง” ผมแสร้งทำหน้าว่าหวาดกลัวจนน้องหัวเราะ

“จริงๆ แล้วไม่ว่านรกหรือสวรรค์หนูก็พร้อมจะไปกับพี่ แต่หนูรู้ดีว่าถ้ามันตาย คนที่จะต้องนึกถึงเรื่องนี้ตลอดไปคือพี่ พื้นที่ความทรงจำของพี่ไม่ควรมีคนแบบนั้น ที่สำคัญการตายคงจะง่ายไปสำหรับคนเลวแบบมัน” แววตาของน้องดูแข็งขึ้นจนผมประหลาดใจ ผมไม่เคยเห็นน้องแสดงสายตาที่ดูโกรธและชิงชังใครแบบนี้มาก่อน ขนาดตอนที่น้องโดนไอ้สามารถมันทำร้ายที่กระท่อมร้าง น้องยังไม่ดูเกลียดชังมันเท่านี้

“โกรธมันมากเหรอครับ” ผมถาม

“ก็มันคิดจะลักพาตัวน้องไม้น้องหม่อน ถ้ามันลักพาตัวน้องแฝดไปจริงๆ หนูนี่แหละจะฆ่ามันให้ตาย”

“อ้าว ไม่กลัวตกนรกแล้วเหรอครับ” ผมนึกขำท่าทางจริงจังของน้อง เพิ่งจะห้ามผมอยู่แท้ๆ

“ก็กลัวเหมือนกัน แต่หนูจะลองเจรจากับท่านพญายมดู ท่านอาจจะเข้าใจ” น้องพูดจบก็หัวเราะร่วน ผมเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะกดจูบที่หน้าผากมนอีกรอบ

‘ต่อให้โลกจะหมุนสักเท่าไร เธอยังคงสดใสอ่อนหวานเหมือนเคย ต่อให้ใครจะสวยเท่าไร รู้ไหมว่าฉันเฉยๆ’

“แต่งงานกันไหม”

“พี่ขอหนูแต่งงานเหรอฮะ”

“อืม”

“ไม่ต้องรอให้หนูเรียนจบก่อนเหรอฮะ”

“ครับ”

“ได้เหรอฮะ”

“ได้ครับ แค่หนูตอบว่าตกลง”

“ตกลงฮะ ตกลง” หนูด้วงสวมกอดผมแน่น

ผมเคยรับปากกับป๊าว่าจะรอให้หนูด้วงเรียนจบก่อน แต่ผมไม่อยากรออีกแล้ว ถึงแม้ตอนนี้เราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันและได้คบกันในฐานะคนรัก แต่ผมรู้ว่าน้องฝันถึงวันแต่งงานเฉกเช่นคนธรรมดาทั่วไป ถึงเราจะดูแตกต่างในสังคม แต่ความรักของเรามันไม่ได้ต่างจากใครเลย ผมรู้ว่าน้องไม่ได้อยากมีงานแต่งงานที่ใหญ่โตเพื่อโอ้อวดใคร น้องแค่อยากมีวันดีๆ ให้จดจำ ผมก็เช่นกัน

“แต่....”

“แต่อะไรฮะ” รอยยิ้มของน้องจางลงเมื่อผมพูดคำว่าแต่ออกมา

“พี่ขอบวชก่อน พี่อยากบวชให้แม่แท้ๆ ของพี่ที่เสียไป แล้วก็อยากอโหสิกรรมให้พ่อ พี่อยากบวชทดแทนคุณทุกคนที่เกาะใบไม้ครามด้วย ไม่มีพวกท่านพี่คงไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ ถึงการทดแทนคุณจะมีได้หลายทาง แต่พี่เชื่อว่าสิ่งนี้จะทำให้พวกท่านมีความสุข โดยเฉพาะคุณปู่”

“หนูเสียใจด้วยนะฮะเรื่องของครอบครัวที่แท้จริงของพี่”

“ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องเสียใจครับ โชคชะตามันนำพาให้เราสองคนมาเจอกัน เพราะฉะนั้นทุกเรื่องดีกับพี่เสมอ พี่รักหนูมากนะหนูด้วง”

‘ก็เพราะว่าเธอน่ารักทุกๆ วัน จนไม่อาจเปลี่ยนใจฉันที่มีให้เธอได้เลย ฉันก็คงต้องบอก ฉันรักเธอ เหมือนเคย’

“หนูก็รักพี่โอบมากๆ” หนูด้วงอ้อนผมด้วยการมาซุกที่อก

“บวชเสร็จแล้วมาเบียดหนูเลยนะ หนูจะรอ” ...

“ทะเล้นใหญ่แล้วนะเรา” ผมขำน้อง รู้สึกว่าจะแก่นขึ้นทุกวัน

“เมื่อกี้หนูไม่ได้พูดนะ” น้องที่กำลังซบอกผมอยู่รีบเงยหน้ามาบอกผม เราสองคนเลยมองไปทางหน้าร้าน

“พวกเราพูดเองคร้าบบบบบ”

เสียงประสานของชาวแกงค์เดอะซูและสมาชิกทุกคนในวงเดอะบ็อกซ์ทำให้ทั้งผมและหนูด้วงต้องหัวเราะออกมา มัวแต่จมอยู่ในโลกส่วนตัวกันสองคนจนไม่ทันสังเกตว่าที่หน้ากระจกบานใหญ่ของร้านมีคนนับสิบเอาหน้าแนบแอบดูพวกผมอยู่

แต่แทนที่หนูด้วงจะเขินอายกลับรั้งคอผมให้โน้มลงมาแล้วจูบโชว์ทุกคน เสียงโห่ร้องที่แซวมาไม่ได้ทำให้หนูด้วงหยุดการกระทำ ผมเลยจัดการจูบตอบอย่างดื่มด่ำจนน้องระทวยอยู่ภายในอ้อมกอดของผม ถ้าไม่เกรงใจว่ามีน้องเกลอยู่ด้วยผมคงโชว์ใหญ่กว่านี้ เพราะเพียงแค่นี้น้องเกลก็หน้าแดงจนเลือดเกือบจะทะลักออกมาอยู่แล้วครับ

‘ทุกอย่างช่างดูเหมือนฝัน ตั้งแต่เราได้พบกัน เธอเติมให้ฉันเต็มโดยไม่ต้องเอ่ย แม้เวลาจะพ้นไป นานสักเท่าไร ไม่เคยมีวันไหนที่ฉันจะเบื่อเลย’


Part 2 Que Sera Sera


ศิลปิน Doris Day

(หนูด้วง)



วันงานบวชของหลวงพี่ได้ผ่านพ้นไปเกือบสองเดือนแล้ว ตอนนี้หลวงพี่จำวัดอยู่ที่วัดเดียวกับหลวงพ่อของหนู ช่วงอาทิตย์แรกหนูรู้สึกเหงาและคิดถึงพี่โอบมาก เคยอยู่คนเดียวมาได้ก็จริง แต่พอได้มาใช้ชีวิตกับพี่โอบมาช่วงหนึ่ง ตอนนี้หนูกลับรู้สึกว่าการอยู่คนเดียวมันเป็นเรื่องที่น่ากลัวไปเสียแล้วฮะ วันเวลามันเดินช้าเสียจริง จนหนูคิดจะบวชตามพี่โอบ อยากไปดูแลหลวงพี่ใกล้ๆ อ้างกับทุกคนว่าอยากทดแทนพระคุณ แต่ทุกคนในครอบครัวไม่มีใครเห็นด้วยเพราะหนูยังต้องเรียนและมีหน้าที่อื่นที่ยังต้องทำ หนูยอมรับคำตัดสินของทุกคน เพราะลึกๆ หนูก็รู้ดีว่ามันไม่ควร แต่อาการของหนูคงทำให้ทุกคนเป็นห่วง หนูก็ไม่ได้อยากซึมเศร้าหรือเก็บตัวเงียบ พยายามเตือนตัวเองว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว พี่โอบไม่ได้หนีไปไหน พี่โอบกำลังทำอีกหน้าที่ให้สมบูรณ์ ถึงจะคิดได้อย่างนั้นแต่จิตใจของหนูกลับไม่ตอบสนองในสิ่งที่ควรจะเป็น

หนูเก็บตัวจนหลวงพ่อถึงกับมาหาที่บ้านและให้ธรรมเทศนาหนูในเรื่องของการบวช แต่หนูก็ยังไม่นำพา ในใจมันคิดแค่ว่าอยากทำอะไรพร้อมกับคนที่เรารัก ปู่ช้วนบ่นว่าบทจะดื้อหนูก็ดื้อจนเอาไม่อยู่ สุดท้ายมัมก็ตัดสินใจจะให้หนูบวช แต่ต้องผ่านข้อเสนอที่ทุกคนกำหนดทำเสียก่อน อย่างแรกยุงพญาจ้างช่างทำผมมาทำวิกหัวล้านให้หนูลองใส่ หนูยอมรับว่าเมื่อเห็นศีรษะของตัวเองที่ไร้เส้นผมก็ตกใจจนหน้าซีดไปเลย หนูไม่ได้ห่วงหน้าตานะฮะ! ก็ได้ก็ได้...หนูก็ห่วงเรื่องภาพลักษณ์นิดหน่อย มันดูไม่เหมาะกับหนูจริงๆ หนูจะตกนรกไหมฮะที่คิดแบบนี้

จากนั้นแด๊ดดี้ก็ให้หนูลองไปปฏิบัติธรรมนอนค้างที่วัดดูก่อน แต่ต้องนอนคนเดียว ห้ามไปยุ่งกับหลวงพี่ ห้ามไปวอแวหรือชวนหลวงพี่คุย หนูต้องตื่นแต่เช้าเพื่อสวดมนตร์ และยังต้องตามไปช่วยหลวงพ่อกับหลวงพี่ตอนที่ท่านทั้งสองไปบิณฑบาต ถ้าหนูทำได้ดีหลวงพ่อท่านก็จะบวชให้ มัมๆ บอกว่าหนูต้องสำรวมและอย่าทำให้หลวงพี่มีห่วง ห้ามส่งสายตาหรือทำการใดๆ ให้หลวงพี่ต้องผิดศีล ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นบาป และสิ่งที่หลวงพี่เพียรทำอยู่จะไม่มีความหมาย

 สุดท้ายหนูก็เข้าใจสิ่งที่ทุกคนพยายามบอก หนูไม่เหมาะกับการเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์จริงๆ ให้หนูตื่นเช้ามาสวดมนตร์หรือทำความสะอาดวัดอะไรก็ได้หนูไม่เคยท้อ แต่ห้ามสบตาหลวงพี่มันยากมากจริงๆ เกือบจะหลุดพูดคำว่าคิดถึงหลายรอบ หนูเลยคิดว่าหนูต้องเอาชนะใจตนเองให้ได้ เอาชนะความคิดที่เห็นแก่ตัวตัวเองเป็นหลัก ขอไปทำความดีอย่างอื่นเป็นการทดแทนการบวช แบบนั้นคงจะทำให้หลวงพี่และทุกคนหมดห่วง

เมื่อตัดสินใจว่าจะไม่ไปกวนการใฝ่ธรรมของหลวงพี่ หนูจึงกลับมาทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวด้วยการดูแลน้องแฝด ทั้งไปส่งน้องแฝดที่โรงเรียน สอนการบ้าน ดูแลอาหารการกินให้เหมือนที่หลวงพี่เคยทำ อันที่จริงน้าเยียบอกว่าจะเอาน้องแฝดไปดูแลให้ แต่หนูปฏิเสธเพราะอยากดูแลน้องด้วยตัวเอง ที่สำคัญไม่อยากให้น้องแฝดอยู่ใกล้สามีของน้าเยีย วันเสาร์อาทิตย์ก็จะมีน้องไหมมาเพิ่มอีกคน มันเป็นความต้องการของหนูเองที่อยากให้พี่น้องได้ผูกพันกัน สามีของน้าเยียก็ไม่กล้าขัด ยอมปล่อยให้น้องไหมมาอยู่กับหนู หนูไม่รู้ว่าอาน้องไปพูดอะไรกับฝ่ายนั้น รู้แต่ว่าหลังจากนั้นมาสามีน้าเยียไม่กล้ามาวุ่นวายกับน้องแฝดอีกเลย เฉียบขาดกว่ายุงพญาก็อาน้องนี่แหละฮะ ไอดอลของหนูจริงๆ

ส่วนงานมหา’ลัยที่ต้องส่งอาจารย์หนูก็ต้องทำให้เสร็จตรงเวลาเพราะรับปากแด๊ดดี้เอาไว้ว่าจะไม่ทำให้การเรียนเสีย หนูอยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าหนูโตแล้ว ร้านของหลวงพี่ก็เปิดตามปกติ โชคดีที่มีเพื่อนหมุนเวียนมาช่วย น้าตวงกับพี่ก้านก็มาช่วยดูเรื่องบัญชีให้ และตอนนี้หนูยังต้องไปดูแลรีสอร์ทแสงแรกของน้องแฝดแทนหลวงพี่อีกด้วย แต่สิ่งเหล่านี้ทำให้หนูเข้าใจแล้วว่าการจะเป็นพ่อแม่ให้ใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่แบกภาระมากมายมันก็ไม่ง่ายเหมือนกัน บางวันหนูก็หลับไปพร้อมกับน้องแฝดเพราะเหนื่อยสายตัวแทบขาด นึกแล้วก็อดชื่นชมหลวงพี่ไม่ได้ ท่านต้องดูแลน้องแฝดเพียงลำพังมาตั้งนาน ไม่มีใครมาช่วยอย่างที่หนูได้รับ คงลำบากกว่าหนูหลายเท่า ไม่ใช่แค่เพียงหลวงพี่เท่านั้นที่หนูนึกถึง คนในครอบครัวทั้งหมดก็คงเหนื่อยยากลำบากมาไม่ต่างกันกว่าจะดูแลให้หนูโตมาจนถึงตอนนี้

พอย้อนนึกไปถึงวันงานบวช ไม่แปลกใจเลยที่หนูได้เห็นน้ำตาของคุณตาพยนต์ ยุงพญา และน้าเยีย ทุกคนตื้นตันและซาบซึ้งที่ได้เกาะชายผ้าเหลืองของหลวงพี่ ยุงพญาบอกว่าคุณยายและแม่พยงค์ของหนูคงดีใจและได้รับบุญนี้เช่นกัน หนูแอบคิดในใจว่าหลวงพี่คงทำหน้าที่นี้แทนหนู คิดแล้วก็น้ำตาจะไหล หลวงพี่เป็นคนดีที่นึกถึงคนอื่นเสมอ หนูก็จะอดทนและเป็นคนดีให้ทุกคนภูมิใจเหมือนกัน



มีต่อด้านล่าง
V
V
V

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ต่อจากด้านบน


สุดสัปดาห์นี้หนูพาน้องแฝดกลับมาที่เกาะใบไม้ครามตั้งแต่เย็นวันศุกร์เพราะน้าเยียอยากให้พาเด็กๆ มาค้างกับคุณตาบ้าง ส่วนหนูขอกลับมาค้างที่บ้านตลาดเพราะอยากตื่นมาใส่บาตรในเช้าวันเสาร์ ตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดีเพราะจะลุกไปซื้อของเตรียมใส่บาตรก่อน

“อ้าว อาหนูด้วง กลับมาเที่ยวบ้านเหรอ แล้วทำไมตื่นแต่เช้าเลย”

“หนูก็จะมาใส่บาตรไงอาแปะซ้ง ร้านอาแปะมีอะไรใส่บาตรได้บ้าง”

“มีทุกอย่าง ลื้อจะเอาอะไร”

“มีซูชิไหม”

“อั๊วว่าแล้วว่าลื้อจะต้องป่วน อยากได้ก็จัดให้” อาแปะซ้งหายกลับเข้าไปในร้าน พักเดียวก็เดินออกมาพร้อมกับหม้อข้าวและปลาเป็นๆ หนึ่งตัว “นี่ข้าว ลื้อปั้นเอาเอง ปลานี่ก็แล่เอาเอง ส่วนสาหร่ายเดี๋ยวอั๊วให้ยืมตีนกบ ลื้อไปดำเอาในทะเล”

“อะโห อาแปะอัพเกรด หนูชอบ ฮ่าๆๆๆ” หนูหัวเราะชอบใจที่อาแปะเล่นงานหนูเข้าบ้างแล้ว อีกฝ่ายยิ้มจนเห็นฟันหลอเมื่อเอาชนะหนูได้

“วันนี้อั๊วอารมณ์ดี เดี๋ยวจะเข้าไปเตรียมของใส่บาตรให้ก็แล้วกัน” อาแปะซ้งเดินหัวเราะกลับเข้าไปในร้านอีกครั้ง ไม่นานก็กลับออกมาพร้อมถาดที่มีของใส่บาตรครบครัน

“พระท่านจะเดินมาตรงนี้ไหมอาแปะ”

“ต้องไปใส่ตรงหน้าสำนักงานของอาพญา แต่วันนี้ฝนทำท่าจะตก ไม่รู้ว่าพระท่านจะลงมาไหม”

“อ้าว...” หนูรู้สึกห่อเหี่ยวเมื่อมองไปที่ท้องฟ้า มันตั้งเค้ามาตั้งแต่ก่อนจะสว่างแล้ว อุตส่าห์ตั้งใจมาใส่บาตรให้หลวงพ่อกับหลวงพี่เสียหน่อย

“แต่คงมาแหละ ท่านรู้ว่ามีคนรอ” อาแปะซ้งปลอบใจเมื่อเห็นท่าทางของหนู

“งั้นเราเดินไปรอที่หน้าสำนักงานกันเถอะอาแปะ”

“ลื้อก็ไปสิ มาชวนอั๊วทำไม อั๊วใส่บ่อยแล้ว”

“ก็หนูอยากเกิดมาเจออาแปะอีก หนูรักอาแปะนะ อยากเจอทุกชาติทุกชาติ ไป นะๆ ไปทำบุญด้วยกัน”

“ใครจะไปอยากเจอลื้อทุกชาติ อะๆ ไปก็ไป อั๊วไปเตรียมของใส่บาตรเพิ่มก่อน”

“หนูรู้น้าว่าอาแปะก็รักหนู” หนูหยอกอาแปะก่อนจะรีบเดินนำไป เพราะขืนแกล้งแกมากไปกว่านี้คงจะโดนอาแปะบ่นจนหูชา

แล้วเมฆที่ตั้งเค้าก็ส่งพระพิรุณลงมาจนได้ ถึงจะเป็นแค่ปรอยฝนแต่ถ้ายืนตากฝนนานๆ ก็ทำให้เปียกได้เหมือนกัน หนูตัดสินใจพาอาแปะเข้ามาหลบละอองฝนในสำนักงานก่อน อาแปะแกแก่มากแล้ว ไม่อยากให้ป่วย ในใจก็คิดว่าฝนตกแบบนี้หลวงพ่อกับหลวงพี่คงไม่ได้ลงมารับบิณฑบาตแล้ว แต่เมื่ออาแปะหันมาบอกว่าพระท่านมาแล้วหนูจึงรีบชวนอาแปะออกมายืนตรงด้านหน้าซึ่งมีหลังคาคุ้มฝนอยู่

“โยมกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” หลวงพ่อทักหนู ส่วนอาแปะรีบถวายผ้าขนหนูให้หลวงพ่อกับหลวงพี่ ท่านรับไปเช็ดน้ำฝนออกจากใบหน้าก่อนจะส่งให้ลูกศิษย์วัดนำไปเก็บ

“เมื่อคืนฮะ พาน้องแฝดมาหาคุณตากับน้าเยีย”

“สบายดีไหม” คราวนี้หลวงพี่ถามหนู หนูมองหน้าหลวงพี่ บอกตามตรงว่าน้ำตาจะไหล หนูคิดถึงหลวงพี่มากๆ พร้อมกันนั้นก็นึกเลื่อมใสความสงบเยือกเย็นของหลวงพี่ แววตาของท่านยังคงมีแต่ความอบอุ่นและอ่อนโยนเหมือนเคย

“สบายดีฮะ” หนูตอบสั้นๆ กลัวจะไปแสดงท่าทีที่ทำให้หลวงพี่เป็นกังวล

“มาใส่บาตรกันอาหนูด้วง” อาแปะยกถาดมาให้หนูก่อนจะหันไปพูดกับหลวงพ่อ “ฝนตกพื้นเฉอะแฉะแบบนี้ อั๊วใส่รองเท้าได้ไหมหลวงพ่อ”

“หนูว่าใส่แค่ข้าวปลาอาหารก็พออาแปะ บาตรหลวงพ่อคงรับรองเท้าของอาแปะไม่หมดหรอก” หนูหันไปบอก เห็นหน้าอาแปะเหรอหราแล้วต้องกลั้นขำ

“ไอ้หย๋าอาหนูด้วง หาบาปมาให้อั๊วแล้วไง อั๊วหมายถึงอั๊วขอสวมรองเท้าใส่บาตรได้ไหมต่างหาก พื้นมันเปียก ไม่ใช่เอารองเท้าไปใส่ในบาตร ลื้อนี่น้า ไม่ไหวไม่ไหว”

“หนูล้อเล่น มาๆ อาแปะใส่ก่อน”

หนูเห็นหลวงพี่อมยิ้มแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้ ได้แต่ลอบมองแต่ไม่กล้าสบตาตรงๆ เมื่อใส่บาตรเรียบร้อยแล้วก็รับพร จากนั้นหลวงพ่อกับหลวงพี่ก็เดินไปรับบิณฑบาตต่อ หนูออกไปยืนมองจนทั้งสองท่านลับสายตาไป ความคิดถึงที่มีมันบีบรัดจนต้องแอบร้องไห้ออกมา รู้ว่าต้องอดทน แต่ขอออกไปยืนร้องไห้กลางสายฝนแบบนี้คงไม่มีใครรู้หรอกมั้ง แต่หนูคิดผิด

“ลื้อร้องไห้ทำไมอาหนูด้วง”

“อาแปะเห็นได้ไง”

“ก็เบะจนปากล่างยื่นออกมาเป็นเมตร แถมยังทำหน้าตาเหยเกอย่างกับเป็ดจะโดนต้ม”

“เป็ดมันเบะปากได้ด้วยเหรออาแปะ”

“ได้สิ”

“ทำไมหนูไม่เคยเห็น”

“บางอย่างไม่เคยเห็นก็ใช่ว่ามันไม่มีนาอาหนูด้วง”

“คมคายสุดๆ”

“ความอดทนของลื้อไม่เสียเปล่าหรอก เคยทนมาได้ตั้งแต่เด็ก อีกนิดเดียวไม่เห็นจะเป็นไร จริงไหม เอาแบบนี้ เดี๋ยวอั๊วจะต้มเป็ดพะโล้ ลื้อตามมาดูว่าเป็ดมันเบะปากได้ไหม”

“ไม่เอาหรอก เพิ่งจะทำบุญเสร็จก็จะให้หนูไปดูอาแปะทำบาป ระวังนะอาแปะ กระดูกกระเดี้ยวก็ไม่แข็งแรง ปีนต้นงิ้วไหวเหรอฮะ” หนูรีบเช็ดน้ำตาแล้วกลับมาเป็นหนูด้วงที่ชอบต่อล้อต่อเถียงกับอาแปะเหมือนเดิม

“เฮ้อ อั๊วไม่น่ามาใส่บาตรกะลื้อเลยจริงๆ แค่เจอชาติเดียวอั๊วก็ปวดหัว”

“อ้าวอาแปะ เดินตากฝนไปได้ยังไง หนูไปเอาร่มมากางให้ก่อน รอหนูก่อนฮะอาแปะ”

“อั๊วขอตากฝนดีกว่า”

“ดื้อกว่าหนูก็อาแปะนี่แหละ”

อาแปะให้มาทำมือมะเหงกส่งให้หนู พออาแปะเดินไปไกลหนูก็ลอบถอนหายใจเมื่อต้องอยู่ตามลำพัง แต่แล้วอาแปะก็หันมายิ้มโชว์ฟันหลอให้ “ถ้าเหงา...ก็มาช่วยอั๊วขายของ ค่าแรงไม่ให้เพราะหักจากที่ลื้อมาหลอกกินของฟรีตั้งแต่พูดไม่ชัด”

“ก็ได้ก็ได้ฮะ” หนูระบายยิ้มให้คู่ปรับของหนูก่อนจะวิ่งฝ่าฝนตามออกไป ก็แค่อีกนิดเดียวอย่างที่อาแปะบอก มันไม่เห็นจะเป็นไร...



หลังจากไปป่วนอาแปะกับชาวตลาดจนเริ่มง่วงเพราะเมื่อคืนนอนไม่หลับแถมยังตื่นมารอใส่บาตรแต่เช้า เย็นนี้คุณตาก็โทรมาชวนไปกินข้าวที่โรงแรม หนูเห็นว่ายังเหลืออีกสองสามชั่วโมงจึงคิดว่าจะหลับสักงีบสองงีบแล้วค่อยตื่นมาอาบน้ำแต่งตัว

หนูเลือกที่จะเข้ามานอนในห้องวังของเรา หยิบหมอนลงมานอนหน้าตู้ปลา นอนดูลูกๆ ของหนูจนเคลิ้มหลับไป หลับไปนานแค่ไหนไม่รู้หรอกฮะ รู้แต่ว่ายังนอนไม่อิ่มก็มีอะไรบางอย่างมากวนให้ตื่น เหมือนถูกอะไรอุ่นๆ มาแปะแถวๆ ใบหน้าของหนู ตั้งแต่หน้าผาก ตา จมูก ปาก และคาง  พอยกมือขึ้นมาเกา มือของหนูก็ถูกใครบางคนจับเอาไว้เสียก่อน

“เจ้าชายมาปลุกแล้ว เจ้าหญิงนิทรายังไม่ยอมตื่นเสียที”

เสียงของพี่โอบ หนูฝันถึงอีกแล้ว

“คนดีของพี่...”

หนูกำลังฝันดี...แต่ทำไมหนูอยากร้องไห้จัง

“ร้องไห้ทำไมครับ คิดถึงพี่เหรอ”

ก็ใช่น่ะสิ หนูคิดถึงพี่ คิดถึงมาก

“พี่กลับมาแล้ว”

กลับมาแค่ในฝัน เดี๋ยวพอหนูตื่นหนูก็อยู่คนเดียวตามเคย หนูจะไม่ตื่น เดี๋ยวพี่โอบจะหายไปอีก

“ดื้อแม้ตอนหลับเลยนะครับ”

เสียงของพี่โอบอยู่ใกล้มากจนคิดว่าฝันครั้งนี้เหมือนจริงเหลือเกิน จนกระทั่งมือของหนูไปสัมผัสความลื่นเย็น ลองลูบไปมาอยู่นาน หนูคิดว่านี่คงไม่ใช่ความฝันแล้ว สิ่งที่สัมผัสมันทำให้หนูต้องเด้งตัวขึ้นมามอง

...อย่าคิด 20+ กันสิฮะ ที่หนูลูบอยู่มันคือหัวล้านๆ ของคนตรงหน้าต่างหาก...

“พี่โอบ เอ้ย! หลวงพี่ เอ้ย! ทิดโอบ”

“ฮ่าๆๆ ใครสอนให้หนูเรียกพี่แบบนั้น”

“ปู่ช้วนฮะ แล้ว...พี่สึกแล้วเหรอฮะ ทำไมไม่ใส่ชุดพระ” หนูยังคงมองคนตรงหน้าและใช้สองมือจับไปทั่วตัว อยากให้แน่ใจว่ามันไม่ใช่ความฝัน

“ครับ พี่สึกเมื่อตอนสายๆ แต่ช่วยหลวงพ่อท่านซ่อมคอมพิวเตอร์ที่ห้องสมุดอยู่เลยกลับมาช้าไปหน่อย”

หนูขยับไปสวมกอดพี่โอบทันทีที่รู้ว่าทำได้แล้ว จากที่คิดว่าจะอดทนไม่ร้องไห้ ตอนนี้ความตั้งใจนั้นมันไม่เป็นผล หนูร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดของคนที่คิดถึงจนสุดหัวใจ

“พี่ขอโทษนะครับที่ทำให้หนูร้องไห้อีกแล้วทั้งที่เคยสัญญาเอาไว้ ตอนบวชพี่ตั้งใจมากๆ ปฏิบัติกิจของสงฆ์ได้ครบสมบูรณ์ นอกจากทดแทนผู้มีพระคุณแล้ว พี่อยากให้ผลบุญพาพี่ขึ้นสวรรค์ พี่กลัวจะตกนรกแล้วไม่ได้อยู่กับหนู จากนี้ไปพี่จะได้อยู่กับหนูในทุกๆ ที่”

“หนูทำให้พี่ต้องสึกรึเปล่าฮะ”

“เปล่าครับ กำหนดฤกษ์สึกของพี่คือวันนี้พอดี พี่ไม่ได้บอกหนูเพราะไม่อยากหนูจดจ่อ”

“บังเอิญจังที่หนูมาที่นี่พอดี หนูเลยได้กอดพี่โอบแล้ว”

“เรื่องบังเอิญของเราอาจจะเป็นเรื่องที่เบื้องบนตั้งใจให้เกิด ลุกขึ้นไปอาบน้ำและแต่งตัวนะครับ ทุกคนรออยู่”

“หนูยังอยากกอดพี่อยู่เลย”

“คืนนี้พี่จะให้หนูกอดจนเหนื่อยเลย ดีไหม”

“ดีที่สุดฮะ แต่พี่อย่าลืมสัญญาของเรา”

“หืม...”

“พี่บวชแล้วต้องเบียดหนูนะฮะ”

“ก็ได้ก็ได้ครับ พี่รักหนูมากนะ คนดีของพี่”

“หนูก็รักพี่ทิดโอบคนดีของหนู” อากาศที่ว่าเย็นสดชื่นยังไม่เท่าจิตใจของหนูในตอนนี้ มันเบ่งบานและแสนจะสดใสยิ่งกว่าออกไปวิ่งสูดอากาศอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีสายรุ้งเจ็ดสีทอประกายอยู่ พี่โอบของหนูกลับมาแล้วฮะทุกคนทุกคน





เพราะเมื่อเช้ามีฝนตกลงมา ตกค่ำเลยทำให้อากาศชายทะเลในวันนี้เย็นสบายกว่าทุกวัน ที่หนูเล่าว่าคุณตาชวนมาทานอาหารเย็นด้วยกัน หนูก็นึกว่าคุณตาจัดเลี้ยงเฉพาะคนในครอบครัว แต่เท่าที่เห็นนี่มันไม่ใช่อย่างที่คิด ถึงจะไม่ได้ใหญ่โตเท่าตอนที่คุณตาจัดงานวันเกิด แต่คนที่หนูรู้จักก็มากันจนครบ คนในครอบครัวมณีรัตน์ ภูมิเทพ นฤวิทย์ ครอบครัวอาน้อง เพื่อนๆ ของหนู เพื่อนของพี่โอบ คนในตลาด ทุกคนมารวมตัวกัน แถมแต่งตัวดีจนหนูนึกแปลกใจ

“เขามางานแต่งของเรา”

“อะไรนะฮะ” ผมถามอีกครั้งเมื่อพี่โอบมากระซิบที่ข้างหู

“นี่คืองานแต่งของเรา พี่ไม่ได้บอกล่วงหน้าเพราะอยากให้หนูประหลาดใจ”

“......”

“งานสบายๆ ริมทะเลแบบที่หนูเคยบอก เชิญมาแค่คนที่เรารักและรักเรา”

“.......”

“นอกจากญาติๆ เพื่อนฝูงคนสนิท พี่พาลูกๆ ของหนูมาด้วย” พี่โอบชี้ไปที่ตู้ปลาใบใหญ่ ด้านในมีน้องปลาว่ายอยู่เต็มไปหมด ใกล้กันนั้นก็มีสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ของหนู พวกมันถูกจัดให้อยู่ในคอกกั้นที่ตกแต่งสวยงาม

“หนูดูดีไหมฮะ ไม่ได้เตรียมตัวเลย” หนูถามพี่โอบทั้งที่น้ำตามันเอ่อคลออยู่ ยอมรับฮะว่าหนูดีใจจนกลั้นความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่

“หนูดูดีเสมอในสายตาของพี่”

“มากันแล้วเหรอเจ้าของงาน” อาน้องเดินเข้ามาหา หนูรีบเดินไปกอดอาน้องเพราะรู้ว่าอาน้องต้องเป็นคนจัดงานนี้ให้ “คนขี้แยแห่งปี” อาน้องบ่นหนูทั้งที่ตัวอาน้องก็น้ำตาซึมอยู่

“ก็หนูดีใจนี่ฮะ”

“น้องโอบไปรอตรงที่อาบอกก่อน ได้เวลาแล้ว”

“พี่โอบจะไปไหนเหรอฮะ”

“พี่เขาไม่หนีไปไหนแล้วครับคนเก่ง” อาน้องรีบบอกเมื่อเห็นหนูทำท่าตกใจ

หลังจากนั้นอาน้องก็พาหนูเดินไปหาแด๊ดดี้ แด๊ดดี้ยื่นมือมาให้หนูจับและพาเดินไปยังซุ้มดอกไม้รูปทรงโค้งเหมือนประตู มองไปด้านหน้าก็เห็นว่ากลุ่มเพื่อนของหนูยืนเรียงแถวกันอยู่ หนูต้องพยายามอย่างหนักที่จะไม่ร้องไห้ออกมาเพราะว่าดีใจที่ทุกคนที่หนูรักมารวมตัวกันมากมาย มองตรงไปอีกก็เห็นพี่โอบยืนรออยู่ตรงแท่นพิธี มียุงพญายื่นอยู่ถัดไปทางด้านหลัง

เสียงเพลงเริ่มบรรเลงขึ้นโดยสมาชิกวงเดอะบ็อกซ์ เพลงบรรเลงนี้เป็นเพลงที่หนูคุ้นเคยเพราะมันเป็นเสียงดนตรีจากมิวสิคบ็อกซ์อันที่พี่โอบส่งมาให้หนูเป็นของขวัญ ‘Canon in D Major’ พี่โอบเคยบอกหนูว่า...เพลงนี้มีความหมายในทางดนตรี คือการเล่นวนซ้ำไปซ้ำมาโดยใช้เครื่องดนตรีเพียงสี่ชิ้นที่มาประกอบเป็นเพลงนี้ แต่ในทางความรักของพี่โอบนั้น ก็คือการได้เจอกับหนูและได้รักหนูซ้ำไปซ้ำมา เครื่องดนตรีทั้งสี่ชิ้นของครอบครัวเราก็คือ พี่โอบ หนู และน้องไม้กับน้องหม่อน เป็นเพลงที่เราจะบรรเลงไปด้วยกัน ‘ซ้ำไปซ้ำมา’

แด๊ดดี้พาหนูเดินผ่านกลุ่มเพื่อน ทุกคนส่งยิ้มให้หนู ถึงแม้ไม่มีคำพูดใดๆ หนูก็สัมผัสได้ว่าทุกคนดีใจที่หนูมีความสุข โดยเฉพาะสิงโต หนูอยากให้สิงโตได้รับความสุขเหมือนอย่างที่หนูได้รับ ภาวนาให้คนที่ยืนข้างสิงโตในวันนี้เป็นคนที่ได้อยู่เคียงข้างสิงโตตลอดไป

จนกระทั่งแด๊ดดี้พาหนูมาถึงตรงที่พี่โอบยืนอยู่ หนูหันกลับไปกอดแด๊ดดี้เอาไว้

“ขอบคุณฮะแด๊ด แด๊ดดี้คือพ่อที่ดีที่สุดของหนู”

“หนูก็เป็นลูกที่แด๊ดดี้รักที่สุด” แด๊ดดี้ส่งมือของหนูให้กับพี่โอบ

หนูแอบเห็นว่าไม่ใช่แค่หนูที่มีน้ำตา เจ้าของมือที่กระชับมือของหนูเอาไว้ก็กำลังปล่อยให้น้ำใสๆ ไหลลงมาไม่ต่างกัน พี่โอบกำลังรู้สึกเหมือนที่หนูรู้สึก หนูมั่นใจว่าเป็นแบบนั้น หนูแอบเหลือบตามองไปด้านหลังอีกนิด ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเกาะใบไม้ครามกำลังกลั้นน้ำตาจนปากสั่นไปหมด หนูรู้ว่ายุงก็ดีใจที่เห็นหลานและลูกได้แต่งงานกัน ใช่ไหมฮะยุง...

คนที่มาทำหน้าที่ตรงกลางแท่นพิธีให้เราไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นปู่ช้วนที่แต่งตัวเลียนแบบบาทหลวงในหนังซะเหมือนเป๊ะ หนูกับพี่โอบพูดคำสัญญาตามที่ปู่ช้วนพูดนำให้ เป็นคำสัญญารักในแบบสไตล์ของปู่ช้วน เรียกเสียงหัวเราะและความซาบซึ้งให้แขกในงานได้ทุกคน

จากนั้นเสียงเพลงก็บรรเลงดังขึ้นอีกครั้ง มัมๆ กับแม่เรืองจูงน้องไม้กับน้องหม่อนเข้ามา ในมือของน้องแฝดอุ้มตุ๊กตาน้องด้าวมาคนละตัว และในมือของน้องดาวที่น้องไม้อุ้มมามีกล่องแหวนสองกล่อง ส่วนตัวที่น้องหม่อนอุ้มมามีช่อดอกไม้

“เอ้า แลกแหวนกัน ใส่แล้วต้องใส่ตลอดไป ห้ามเอาไปขายหรือจำนำ” ปู่ช้วนตะโกนบอก

หนูมองหน้าน้องแฝดด้วยความกังวล หนูไม่รู้ว่าน้องเข้าใจแค่ไหนกับงานที่ถูกจัดในวันนี้ และไม่รู้ว่าน้องยอมรับได้แค่ไหนที่จะมีหนูก้าวเข้ามาอยู่ในชีวิตของพี่โอบ แต่แล้วความกังวลใจของหนูก็ถูกทำลายเมื่อน้องไม้กับน้องหม่อนดึงหนูลงมากระซิบให้ได้ยินกันเพียงสามคน

“น้องหม่อนดีใจที่พี่หนูด้วงจะมาเป็นแม่ของน้องหม่อน แต่พี่หนูด้วงต้องสัญญาว่าจะไม่ห้ามน้องหม่อนกินของในตู้เย็นเหมือนคุณเชนนะ คุณเชนขี้หวงและดุน้องหม่อนบ่อยๆ”

“ตกลง พี่หนูด้วงจะซื้อตู้เย็นจัมโบ้ไซส์ให้น้องหม่อนเลย พี่หนูด้วงรวย แล้วก็ไม่ให้ใครมาดุน้องหม่อนได้อีก ยกเว้นนาโม” หนูพูดจบน้องหม่อนก็ยิ้มกว้างแล้วยื่นดอกไม้ให้ จากนั้นก็เป็นคิวของน้องไม้ คนนี้แหละฮะที่หนูกลัวใจเป็นที่สุด

“พี่หนูด้วงรักนาโมมากไหม” น้องไม้ถามหนู หนูจึงพยักหน้าให้แทนคำตอบ “ถ้าพี่หนูด้วงเข้ามาอยู่กับเราแล้ว จะไม่ให้นาโมทิ้งเราไปใช่ไหม” หนูอึ้งเมื่อได้ยินคำถาม ก่อนจะรีบส่ายหน้าให้แทนคำตอบเพราะมันพูดไม่ออกเมื่อเห็นแววตาที่หวั่นไหวของเด็กน้อย “พี่หนูด้วงเองก็จะไม่ทิ้งเราไปใช่ไหม”

“ไปไหนไปด้วยกันตลอดไป ตลอดชีวิต” หนูตอบน้องไม้

“อย่าผิดสัญญานะ” น้องไม้ยื่นกล่องแหวนให้หนู หนูดึงน้องแฝดมากอด ทั้งกอดทั้งหอมเพราะรู้ดีว่าการกอดคือคำพูดที่ดีที่สุดของการกระทำ

เมื่อพิธีให้คำสาบานและสวมแหวนเสร็จสิ้น หนูก็โยนช่อดอกไม้ คนที่ได้รับคืออาน้อง ยุงพญาหัวเราะชอบใจก่อนจะประกาศว่าจะจัดงานแต่งงานอีกรอบ จากนั้นก็ถึงเวลาที่เราสองคนพูดขอบคุณทุกคนที่มาในงาน หนูให้พี่โอบเป็นฝ่ายพูดก่อนเพราะไม่ได้เตรียมตัวมาเลย ถึงหนูจะรอคอยวันนี้มาแสนนาน แต่ถึงเวลาจริงทุกอย่างมันรวดเร็วไปหมดจนทำอะไรไม่ถูก ร้องไห้เก่งจนถูกเพื่อนๆ แซวว่าเป็นคนเจ้าน้ำตา

“คำขอบคุณคงเป็นอย่างแรกที่ผมอยากบอกทุกคน มันคงจะยาวจนกินเวลาข้ามคืนถ้าผมต้องบอกสิ่งที่รู้สึกจนครบ กว่าจะมีวันนี้มันนานเหลือเกินสำหรับผม แต่มันก็คุ้มค่ามากกว่าเวลาที่สูญเสียไป ผมขอใช้เวลาของชีวิตที่เหลือเพื่อจะรักและดูแลผู้วิเศษคนนี้ให้ดีที่สุดแทนคำขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างและทุกคนที่ทำให้วันนี้มันเกิดขึ้น ผมได้ศึกษาธรรมจากการบวชที่ผ่านมา ทำให้ผมเข้าใจคำว่าไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต แต่ก็มีอย่างหนึ่งที่ผมมั่นใจและคิดว่ามันแน่นอนสำหรับผม มันคือความรักที่ผมมีให้กับน้อง จริงอยู่ว่ามันจะอาจจะเปลี่ยนไป แต่มันไม่ใช่การน้อยลง มันจะมากขึ้นตามวันเวลา รวมถึงความรักที่ผมมีให้น้องไม้และน้องหม่อนด้วยครับ ผมจะทำให้ครอบครัวของผมมีความสุข อืม...ลืมครับ อีกคนในครอบครัวของเราที่จะลืมไม่ได้นั่นก็คือน้องด้าว ผมจะรักและดูแลเขาให้ดีเช่นกัน”

เสียงปรบมือและเสียงหัวเราะดังขึ้นเมื่อพี่โอบพูดจบ คราวนี้ทุกคนหันมามองหนู หนูรับผ้าเช็ดหน้าจากอาน้องมาซับน้ำตา มันมีคำพูดมากมายแต่หนูกลับพูดไม่ออก ยืนนิ่งอยู่นานจนพี่โอบถามว่าหนูไหวไหม หนูพยักหน้าและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อตั้งสติ ทุกคนก็ดูจะรอคอยว่าหนูจะพูดอะไร

“หนูจะเป็นเมียและแม่ที่ดีฮะ”

หนูพูดจบเสียงกลองให้จังหวะ ‘ตึ่งโป๊ะ’ ทันที แอบเห็นยุงพญาขาอ่อนไปวูบหนึ่งหนูจึงหัวเราะออกมา

“หนูล้อเล่นฮะ แต่หนูไม่รู้จะบรรยายยังไงกับความรู้สึกที่มี รู้แต่ว่าหนูโชคดีเหลือเกิน โชคดีที่มีทุกคนที่นี่ในชีวิต โชคดีที่เติบโตมาอย่างมีความสุข โชคดีที่ได้รับความรักมากมาย โดยเฉพาะกับผู้ชายที่ยืนข้างๆ หนู หนูเคยนึกว่ามันจะไม่ง่ายที่เราจะรักกัน แล้วมันก็ไม่ง่ายจริงๆ แต่แล้วกาลเวลาก็พิสูจน์ว่าความยากมันหอมหวานตรงที่มันจะไม่มียากสำหรับเราสองคนอีกแล้ว หนูไม่สัญญาว่าจะไม่ดื้ออีก หนูไม่สัญญาว่าจะไม่วุ่นวายอย่างที่เคยเป็น หนูไม่สัญญาอะไรทั้งนั้นเพราะหนูคือตัวป่วนของทุกคนทุกคน แต่หนูสัญญาว่าทุกการกระทำของหนูจะเป็นบทเรียนที่จะสอนให้หนูดีขึ้นกว่าเดิม” หนูพูดถึงตรงนี้ก็หันไปหาพี่โอบ “อย่าเบื่อที่จะรักหนูนะฮะ หนูดื้อแต่หนูจะน่ารักให้มากขึ้น”

“พี่เชื่อครับว่าหนูน่ารักมากขึ้นทุกวัน”

“เจ๋ง จูบเลย จูบเลย” น้องเม่นตะโกนขึ้นมาหลังจากที่พี่โอบพูดจบ จากนั้นทุกคนก็ตะโกนตามน้องเม่น  หนูยอมรับว่าเขินมากแต่ก็หลับตารอรับจูบจากพี่โอบแล้วฮะ

จูบที่อ่อนโยนและแสนหวานเหมือนเคย หนูรักพี่โอบจัง รักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว

งานแต่งงานของเราจบลงด้วยความสุข มันเป็นจุดสิ้นสุดการรอคอยของเราสองคนก็จริง แต่มันเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการรักษาครอบครัวให้คงอยู่เหมือนดั่งที่เราหวังเอาไว้ มันคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อย่างที่หนูบอกไป มันคงไม่มีอะไรที่ยากสำหรับเราอีกแล้ว บทเรียนคงมีเข้ามาทดสอบเราสองคนเรื่อยๆ แต่บทเรียนที่สำคัญเราได้เรียนรู้มาแล้ว เรารู้แล้วว่าการจากกันมันเจ็บปวดและทรมานที่สุด เพราะฉะนั้นเราจะไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นกับเราอีก

.

.

.

“มัมๆ โตขึ้นหนูจามีความฉุดมั้ย จะมีคนมาตีหนูมั้ย หนูอยาดให้ทุดคนทุดคนยักหนู หนูไม่ชอบให้คนไม่ยักหนู”

“เราไม่มีทางรู้เรื่องที่ยังไม่เกิดหรอกครับ อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด แต่มัมคนนี้จะปกป้องหนูด้วงเอง”

‘ในตอนที่ฉันยังเป็นเด็กน้อย ฉันถามแม่ว่า ฉันจะเป็นยังไงในวันข้างหน้า ฉันจะสวยไหม ฉันจะรวยไหม และนี่คือสิ่งที่แม่ของฉันได้บอกกับฉัน... Que sera sera อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม อนาคตนั้นไม่ใช่สิ่งที่เรานั้นจะมองเห็น อะไรจะเกิด มันก็จะเกิดไปของมันเอง’

ตอนนั้นหนูยังเด็กจึงไม่เข้าใจคำตอบของมัม ทำไมมัมถึงตอบหนูถึงเรื่องราวของอนาคตไม่ได้ แล้วหนูเป็นผู้วิเศษ หนูจะเสกทุกอย่างให้เป็นอย่างใจฝันไม่ได้เลยหรือ?

.

.

.

“พี่โอบฮะ เราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไปหรือเปล่า”

“พี่ไม่รู้ว่าตลอดไปมันนานแค่ไหน แต่พี่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดนะครับ”

‘พอฉันโตขึ้นมาเป็นวัยรุ่นหน่อย ฉันก็มีความรัก ฉันเลยได้ถามที่รักของฉัน ว่าอะไรกำลังรอเราข้างหน้านะ เราจะมีอนาคตที่สดใสในทุก ๆ วันใช่ไหม และนี่คือสิ่งที่เขาได้บอกกับฉัน... Que sera sera อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม อนาคตนั้นไม่ใช่สิ่งที่เรานั้นจะมองเห็น อะไรจะเกิด มันก็จะเกิดไปของมันเอง’

หนูเริ่มโตพอที่จะรู้ว่าเราไม่มีทางรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเรา แต่ ณ วันนั้นหนูก็หวังเอาไว้เสมอว่าหนูจะไม่ยอมให้อะไรมาพรากเราจากกัน จนกระทั่ง...

.

.

.

“พี่หนูด้วงครับ นาโมกับพี่หนูด้วงจะอยู่กับพวกเราตลอดไปใช่ไหม น้องหม่อนกับน้องไม้อยากให้นาโมกับพี่หนูด้วงอยู่กับเราสองคนไปตลอดเลย”

‘ตอนนี้ฉันก็เป็นแม่คนแล้ว ลูก ๆ ของฉันก็เฝ้าแต่ถามฉันว่า แล้วพวกเขาจะเป็นอย่างไร เขาจะหล่อไหม เขาจะรวยไหม ฉันเลยได้บอกกับเขาด้วยความรักว่า... Que sera sera อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม อนาคตนั้นไม่ใช่สิ่งที่เรานั้นจะมองเห็น อะไรจะเกิด มันก็จะเกิดไปของมันเอง’

หลังจากที่น้องแฝดถามคำถามนี้กับหนู หนูเข้าใจลึกซึ้งแล้วในสิ่งที่มัมและพี่โอบบอกกับหนู ไม่มีอะไรชนะกาลเวลา ทุกอย่างจะเป็นไปในสิ่งที่มันจะเป็น การพรากจากคนหรือของอันเป็นที่รักมันคือสัจธรรม เราไปหยุดยั้งมันไม่ได้ แต่สิ่งเดียวที่เราทำได้ หนูจะสอนสิ่งนั้นให้กับน้องแฝด…

“อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด ขอแค่เราทำทุกวันให้มันดีที่สุด ความผิดพลาดมันเกิดขึ้นได้ แต่น้องไม้กับน้องหม่อนต้องเรียนรู้ที่จะแก้ไขและยับยั้งไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำซาก แล้วเมื่อถึงวันหนึ่งในอนาคต เราจะไม่เสียใจกับผลของมันเพราะเราทำดีที่สุดแล้ว พี่หนูด้วงตอบไม่ได้ว่าเราจะอยู่กับคนที่เรารักได้นานแค่ไหน แต่มีคนเคยบอกพี่หนูด้วงว่า เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้ เราจะย้ายไปอยู่ในหัวใจและความทรงจำของใครคนนั้นแทน”

“น้องหม่อนจะทำดี จะได้อยู่ในหัวใจของคนที่เรารักตลอดไป ใช่ไหมน้องไม้”

“อืม น้องไม้ก็จะเป็นคนดี”



‘Que sera sera อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม อนาคตนั้นไม่ใช่สิ่งที่เรานั้นจะมองเห็น อะไรจะเกิด มันก็จะเกิดไปของมันเอง’



เราทุกคนมีเพลงรักเป็นของตัวเอง เพลงรักที่อาจจะไม่มีคำว่ารัก เพลงรักที่อาจจะไม่ได้สุขสมหวังเสมอไป แต่มันก็ขับเคลื่อนด้วยความรัก พี่โอบบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นนกฮูกกับพี่ป้าย หรือสิงโตกับตี๋น้อย ทุกคนจะต้องเรียนรู้เพลงรักนั้นด้วยตัวเอง บางคู่อาจจะไม่ได้มีเพลงรักเพียงแค่เพลงเดียว อาจจะต้องผ่านบทเพลงที่สุขจนต้องยิ้มออกมาหรือทำให้ต้องร้องไห้เสียใจ แต่สุดท้ายเราจะเจอเพลงที่ใช่ในแบบของเรา อาจจะเป็นเพลงที่หายไปในช่วงชีวิตหนึ่ง แต่เมื่อได้กลับมาฟัง เพลงที่ทำให้เราร้องไห้ในวันนั้น อาจจะกลายเป็นเพลงที่ทำให้เรายิ้มได้เมื่อนึกถึงในวันนี้ฮะทุกคนทุกคน



~ จบบริบูรณ์พูนสุข ~





ขอบคุณพี่จ๋าทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตอนจบของซีรีส์เซ็ทนี้ มันใช้เวลายาวนานมากเลยนะคะ

เรียกได้ว่าถ้าเราเป็นเพื่อนกันก็คงสนิทกันระดับหนึ่งเลยเชียว

บางคนก็เห็นหนูด้วงเป็นลูกเป็นหลานไปล้าววววว

หลายคนที่เข้ามาทักทาย ทั้งในนี้ทั้งในเว็บต่างๆ หรือทางเพจและทวิต จนคุ้นชื่อไปหมด

ขอบคุณมากนะคะสำหรับมิตรภาพและกำลังใจที่มอบให้กัน มันมีค่ามากเลยค่ะ

บอกตรงๆ ว่ากว่าจะแต่งตอนจบนี่ลบไปหลายรอบมาก ถึงวันนี้ก็คิดว่ามันน่าจะจบได้สวยกว่านี้

ยังไงก็ขออภัยพี่จ๋าไว้ก่อนหากมันยังมีอะไรค้างคา เลิฟจะกลับมารีไรท์ให้มันโอเคกว่านี้

แต่ตอนนี้ขอหยุดไปพักสมองสักระยะหนึ่งก่อนเด้อ มันตันจริงๆ

ส่วนคู่ของตัวรองจะอยู่ในตอนพิเศษฉบับรวมเล่มนะคะพี่จ๋า


ปิดท้ายขายของ #ปลดล็อกให้ความรักตีพิมพ์แล้วนะคะ พี่จ๋ามีในครอบครองอ๊ะยังงง

ตอนพิเศษสนุกสนานเฮอาน้า ไปตำกันเถอะจ่ะ

...รัก...
 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2019 17:49:51 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรนะหนูด้วง+พี่โอบขอให้มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองมาให้ย่าเลิฟเลี้ยงน้า

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ booboos

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
ดีใจกับหนูด้วง พี่โอบ น้องหม่อน น้องไม้  :กอด1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ New_atcha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จบแล้ว ชอบๆ ตามตั้งแต่รุ่นพ่อยันรุ่นลูก ขอบคุณนะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ขอแสดงความยินดีกับคู่แต่งานคู่ใหม่ ที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันเป็นครอบครัวจริง ๆ สักที  หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั้งดีทั้งร้ายมา

ป.ล. หลังจากปิดฉากเรื่องนี้ไป  คงมีแอบคิดถึงผู้วิเฉด  เพราะติดตามน้องมาตั้งแต่น้องเป็นเด็กตัวน้อยจนเติบใหญ่มีสามีเป็นตัวเป็นตน 

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ขอบคุณค่ะนิยายในซีรีย์ที่มีหนูด้วงสนุกทุกเรื่องเลย

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
ดีใจกับความสุขของทุกคนด้วยนะ  :L2: :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :katai2-1: ยินดีกับครอบครัวใหม่ที่เกิดขึ้นค่า ขอบคุณผู้เขียนกับนิยายที่อบอุ่น และสนุกสนานเรื่องนี้ค่ะ  :pig4:   :pig4:

ออฟไลน์ btoey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
หนูด้วงป่วนจนตอนสุดท้าย น่ารักจริงๆ
เรื่องสนุกมากเลย ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
อบอุ่น

สมหวัง

มีความสุข

นะทุกๆคน

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
น่ารักแบบป่วน ๆ เสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ
หนูด้วงเอ๊ยยยยย  :mew1:

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 407
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
 :pig4: อยากมีพี่โอบเป็นของตัวเองงงง

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แงงงงง พี่โอบกับหนูด้วงจบแล้ว แอบน้ำตาซึม หนูด้วงของเราโตแล้วจริงๆ :hao5:

รักเจ้าหนูด้วงนะจ้ะ  :mew1:

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ในที่สุด ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆทุกๆเรื่องนะคะ เราชอบงานเขียนคุณมาก นิยายทุกๆเรื่องเต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ มุมมองดีๆแถมยังเขียนให้รู้สึกอินตามตัวละคร เรื่องนี้เสียน้ำตาไปเยอะทีเดียว อ่านจบแล้วแอบใจหายเหมือนกัน  :pig4:

ออฟไลน์ Parapoyfaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เอ็นดูแงงงงงง
น้องหนูด้วงง อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจมาก เป็นผู้วิเศษจริงๆ
พูดอะไรก็น่าเอ็นดูไปหมด อยากบีบน้องงงง
ในที่สุดก็ได้กลับมาเจอกันซักที
รู้สึกเหมือนมีลูกแล้วลูกโต55555
ตามอ่านมาตั้งแต่เป็นเด็กน้อย ตอนนี้เป็นแม่แล้ว
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆ มาให้อ่านนะคะ <3

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
มากอดลูกมากอด โตจนได้แต่งงานแล้วนะหนู มีความสุขจริงๆ  :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด