#เพลงรักที่หายไป หนูด้วง+พี่โอบอุ้ม 20 ตอนจบ สารบัญหน้าแรก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เพลงรักที่หายไป หนูด้วง+พี่โอบอุ้ม 20 ตอนจบ สารบัญหน้าแรก  (อ่าน 89043 ครั้ง)

ออฟไลน์ 19august

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
    • https://twitter.com/19august___
หนูด้วงไม่ได้ยั่ว หนูแค่อ่อยยยย
น้องรู้กกกกกกกกก
อยากเห็นคนพี่ตบะแตกเลยนะคะ  :hao3:

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนนี้สงสัยว่าน้องแฝดเป็นลูกของลุงพญาหรือเปล่า พี่โอบย้ำบ่อยเลยว่าทำเพื่อป๊าได้ทุกอย่าง เอ๊ะๆๆ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ก็ได้ก็ได้หนูไม่ยั่วก็ได้หนูแค่อ่อย
หนูด้วงลู้กกกก

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
หนูด้วงจอมอ่อย   :mew3:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
หนูด้วงลูกกกกกกก ไม่ยั่วก้ออ่อยงี้หรอ
พี่โอบคือต้องพระอิฐพระปูนเบอร์แรง 555555555

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
อาน้องต้องภูมิใจในตัวลูกศิษย์​อย่างหนูด้วงสุดๆ แน่ 555 แต่ยุงพญาคงแทบกระอักเลือด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
หนูด้วงสมกับเป็นลูกศิษย์อาน้อง​ แซ่บเวอร์

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
55555 ร้ายนักนะหนูด้วง คนตัวเล็กเจ้าเล่ห์เหลือเกิน
จะเป็นหนูได้ยังไง ในเมื่อรักราชสีห์ขนาดนี้

โอบทำไมถึงคิดว่าป๊าจะไม่รู้ ส่งคนตามติดหนูด้วงขนาดนี้
ชอบความรู้ทันของโอบมากค่ะ และชอบความทะเล้นของหนูมาก

หนูไม่ยั่วเนาะ แค่อ่อย แต่มันต่างกันยังไงหรอ สงสัยเลเวลตำ่กว่า

อยากรู้ว่าที่นกฮูกสะกิดใจเรื่องแฝดน่ะ คืออะไร
รอคู่ป้ายนกฮูกด้วยค่ะ อยากรู้ว่าคนเหงาจะมาลงเอยไหม

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
อ่านแล้วขำกับท่าแกล้งเมา
พี่โอบแม่นมากจริง ๆ กับทุกก้าวของหนูด้วงจอมเจ้าเล่ห์

แล้วยังอ่อยซะกระจ่างแจ้งขนาดนั้น
ยุงรู้เข้า ... โอ๊ยยยยย ไม่อยากคิดถึงหัวร้อน ๆ ของยุง

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เพลงรักที่หายไป
เพลงที่ 11 กาลครั้งหนึ่ง
ศิลปิน แสตมป์ ft. ปาล์มมี่


“อะไรนะหนูด้วง!” ต้นเหตุที่ทำให้นกฮูกต้องส่งเสียงตกใจออกมาก็เพราะเพิ่งรู้เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อวานนี้จากหนูด้วงนั่นเอง เมื่อคืนวานหนูด้วงแค่ส่งข้อความมาบอกว่าจะค้างกับพี่โอบแต่ไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรกับนกฮูกเลย จนกระทั่งเช้านี้เพื่อนตัวดีถึงได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง รวมไปถึงเรื่องที่เจ้าตัวพยายามจะพิชิตใจพี่โอบด้วย

“ฮ่าๆๆๆ” สิงโตเป็นคนแรกที่หัวเราะออกมาหลังจากที่เพื่อนคนอื่นกำลังอึ้งเรื่องเล่าติดเรทจากผู้วิเศษของกลุ่ม

“ขำอะไรสิงโต” น้องเกลถามด้วยความสงสัยทั้งที่หน้าตัวเองยังแดงเพราะเขินที่หนูด้วงไปยั่วพี่โอบแบบนั้น

“ขำเด็กแก่แดด” สิงโตตอบพลางเอามือไปยีผมหนูด้วง

“เจ๋งสุด” เม่นได้ฟังก็นึกทึ่งที่หนูด้วงพยายามจะทำให้พี่โอบตบะแตก

“ชมเราเหรอ” หนูด้วงยิ้มกริ่ม

“ไม่อะ เราชมพี่โอบ อดทนได้ยังไง เป็นเราคงจับหนูด้วงกินไปแล้ว”

“เม่น!!!!” ทุกคนพร้อมใจกันส่งเสียงเข้มๆ ไปให้เม่น

“นกฮูกอย่าทำหน้าดุสิ เราผิดไปแล้ว เราขอโทษนะ” หนูด้วงหันไปเห็นนกฮูกยืนกอดอกหน้าเข้มก็ยิ้มแห้งๆ

“เขาแฟนกันนะนกฮูก” เม่นนึกว่านกฮูกจะดุเรื่องหนูด้วงไปยั่วพี่โอบ

“ถึงจะดูแก่แดดแต่มันก็ธรรมดาของคนรักกัน” สิงโตเห็นด้วยกับเม่น

“อยากจะเอาก้านมะยมมาตีก้นให้หลาบจำ แต่จะว่าไปหนูด้วงก็โตแล้ว ก็คงไม่เป็นอะไรมั้ง” น้องเกลครุ่นคิดก่อนจะสรุปว่าเห็นด้วยกับน้องเม่นและสิงโต

“ไม่ใช่เรื่องนั้น เราหมายถึงเรื่องไอ้โอ ทำไมถึงใจกล้าไปกับมันสองต่อสอง แล้วทำไมไม่โทรมาบอกเพื่อนว่ามันคิดมอมเหล้า”

“เออใช่ ทำไมไม่โทรบอกเพื่อน จำไม่ได้รึไงไอ้โอมันทำอะไรเอาไว้” น้องเกลเสียงเขียวใส่หนูด้วงทันที

“ถ้าพลาดท่าขึ้นมาจะทำยังไง” สิงโตถามเสียงเข้ม

“หนูด้วงผิดมากที่ชะล่าใจ” น้องเม่นหน้าขรึมลงทันทีที่พูดเรื่องส้มโอ

“อ้าว ไหงโกรธเรากันหมด ขอโทษฮะทุกคนทุกคน เราจะไม่ทำอีกแล้ว ยกโทษให้เรานะ นะๆๆๆ” หนูด้วงแทบจะปรับอารมณ์ไม่ทัน เมื่อกี้ยังเข้าข้างกันอยู่เลย ตอนนี้ทุกคนเปลี่ยนข้างมาทำหน้าดุใส่หนูด้วงกันหมด สุดท้ายเลยต้องใช้โหมดอ้อนให้เพื่อนหายโกรธ

“ต่อไปนี้ไปไหนต้องส่งข้อความมาบอกนะ ถึงหนูด้วงจะโตแล้วแต่เราทุกคนก็ห่วงอยู่ดี” น้องเกลเห็นดวงตาออดอ้อนของหนูด้วงก็อดใจอ่อนไม่ได้

“เราจะไม่ฟ้องยุงพญาก็ได้ ยกเว้นให้ครั้งหนึ่ง” เม่นเองก็อดใจอ่อนไม่ได้เหมือนกัน

“แล้วสิงโตกับนกฮูกล่ะ” หนูด้วงถามอีกสองคนที่ยังยืนกอดอกหน้าเข้มอยู่

“เอาไงดีสิงโต” นกฮูกไม่ได้โกรธหนูด้วงจริงจังหรอก แต่ก็อยากให้หนูด้วงรู้ว่าเพื่อนเป็นห่วง ขนาดตอนเด็กๆ ส้มโอยังร้ายกาจทำหนูด้วงเสียน้ำตามาแล้ว โตขึ้นคิดว่ามันต้องร้ายกว่าเดิมแน่ๆ

“เย็นนี้หนูด้วงต้องไปเล่นบอลกับเรา ต้องพาไปออกกำลังกายจะได้ไม่มีเวลาไปซนที่ไหน ดีไหมทุกคน” สิงโตถาม

“ดี!!” ทุกคนตอบรับ

“มันเหนื่อยนะ!!” หนูด้วงทำตาโตเมื่อถูกบังคับให้ไปวิ่งแย่งลูกบอล เป็นกีฬาที่ไม่ชอบเอาเสียเลย

“จะเล่นไม่เล่น” เพื่อนทุกคนถามขึ้นพร้อมกัน

“ก็ได้ก็ได้” หนูด้วงเสียงอ่อย กำลังอยู่ในโหมดสำนึกผิด แต่พอเพื่อนเดินเข้ามารุมกอดถึงได้ยิ้มออก คิดในใจว่าลงไปวิ่งๆ ในสนามนิดหน่อยค่อยชิ่งไปหาพี่โอบก็ได้

“แล้วก็ไม่ต้องคิดแวบไปไหนเลยนะ พี่โอบแอบบอกให้เราให้ดูหนูด้วงให้ดี” นกฮูกบอกจบก็ใช้สองนิ้วชี้มาที่ตาของตัวเองก่อนจะชี้ไปที่ตาของหนูด้วง เป็นสัญลักษณ์ว่าจะไม่มีวันให้หนูด้วงคลาดสายตาได้เลย

“วัยรุ่นเซ็งเลย” หนูด้วงเห็นเพื่อนรู้ทันจึงทำท่าประจำตัว นั้นก็คือท่าคอตกไหล่ลู่จนเพื่อนทุกคนแอบขำ

“วันนี้พวกพี่ๆ กล่องดนตรีเขาจะมาเล่นบอลด้วย นัดกระชับมิตร ไม่ต้องกลัวว่าไม่ได้เจอพี่โอบหรอกนะ รับรองว่ามีถอดเสื้อโชว์กล้ามท้อง” สิงโตรู้ใจว่าหนูด้วงคิดอะไรอยู่เลยบอกให้เพื่อนได้ดีใจ

“จริงเหรอ เย้ งั้นเราจะดูให้เต็มตาเลย เอ้ย!! เราจะเล่นให้เต็มที่เลย” หนูด้วงได้ยินก็เบิกบานขึ้นมาทันที

“อย่าให้หนูด้วงเป็นผู้รักษาประตูนะ” เม่นแย้งขึ้นมา

“ทำไมล่ะน้องเม่น” หนูด้วงเลิกคิ้ว กำลังจะขอเล่นตำแหน่งนี้อยู่พอดีเลยจะได้ไม่ต้องวิ่งให้เหนื่อย

“ก็ถ้าเจอพี่โอบบุกมาท่าทางจะยอมเสียประตูง่ายๆ ฮ่าๆๆ”

“เม่น!!” เมื่อโดนเพื่อนหันมาค้อนใส่โดยพร้อมเพรียงกันอีกรอบเม่นถึงได้เอามืออุดปากตัวเอง

“แยกย้ายกันไปเรียนดีกว่า แล้วเจอกันที่สนามบอลตอนเย็นเลยแล้วกัน” น้องเกลเห็นว่าได้เวลาเข้าคลาสแล้ว อีกอย่างช่วงพักกลางวันก็ไม่ตรงกันคงไม่ได้เจอตอนทานข้าวเลยนัดเจอช่วงเย็นแทนเลย ซึ่งทุกคนตอบตกลงแล้วก็แยกย้ายกันไปที่คณะของตัวเอง

...

คลาสเช้าวันนี้อาจารย์พิชิตไม่ได้เข้าคลาสแต่ให้อาจารย์คนใหม่มาสอนแทน อาจารย์ท่านนี้ยังดูหนุ่มและก็หน้าตาดีจนลูกศิษย์สาวๆ แอบชื่นชมกันยกใหญ่ วันนี้อาจารย์ไม่ได้เข้ามาเพียงคนเดียวแต่พาชายหนุ่มคนหนึ่งมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษด้วย เขาจะมาสาธิตให้นักศึกษาในคลาสได้เรียนรู้เรื่องการถ่ายทอดอารมณ์ผ่านเครื่องดนตรี หนูด้วงรู้สึกคุ้นหน้าแต่ยังนึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน หน้าตาพี่เขายังดูเด็กอยู่เลย แต่อาจารย์บอกว่าพี่เขาอายุมากกว่าพวกเราและเล่นไวโอลินได้ไพเราะมาก

“หน้าตาน่ารักดี ตัวเล็กนิดเดียวเองเนอะ” แก้วชวนหนูด้วงคุยถึงแขกรับเชิญพิเศษ

“เหมือนเคยเจอที่ไหนแต่นึกไม่ออก” หนูด้วงยังคงพยายามนึกอยู่ ทีแรกนึกว่าพี่โอบจะมาเป็นแขกรับเชิญอีกเหมือนคราวที่แล้วแต่กลับกลายเป็นชายหนุ่มที่คุ้นหน้าคนนี้แทน

“สวัสดีครับ พี่ชื่อตะโก้นะ อันที่จริงพี่เริ่มเล่นไวโอลินได้ห้าปีเท่านั้นเอง พี่ชายฝาแฝดของพี่เขาเล่นเก่งกว่าพี่มาก เขาเป็นครูสอนให้พี่เล่นอีกที ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ”

“พี่มีแฟนรึยังครับ”

“ให้มันน้อยๆ หน่อยนะนายชาตรี” อาจารย์ส่งเสียงเตือนแบบไม่จริงจังเพราะรู้ว่าเป็นการหยอกเย้าให้บรรยากาศมันครื้นเครง

“มีแล้วครับ” ตะโก้ตอบพลางยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ดูเศร้าจนหนูด้วงสัมผัสได้

“เอาล่ะ นักศึกษาทุกคนตั้งใจฟังให้ดี ลองดูว่าเราได้ฟังแค่เสียงไวโอลินแบบไม่มีเนื้อร้องแล้วเราเข้าถึงความรู้สึกของผู้ถ่ายทอดได้แค่ไหน เสียงดนตรีให้อะไรกับเรา แล้วเราได้อะไรมาจากเสียงดนตรีบ้าง เริ่มได้เลยครับ” อาจารย์กล่าวกับนักศึกษาก่อนจะหันไปพูดกับแขกรับเชิญ

ตะโก้หยิบไวโอลินขึ้นมาเตรียมพร้อม อาจารย์เดินไปหยิบกีต้าร์โปร่งมาเพื่อช่วยเล่นคลอเบาๆ นักศึกษาทุกคนตั้งใจฟังเพราะรู้ว่าอาจารย์คงให้การบ้านเป็นการเขียนความรู้สึกหลังจากที่ได้ฟังเหมือนของที่อาจารย์พิชิตให้ไว้คราวที่แล้ว บางคนก็นั่งหลับตาเพื่อซึมซับกับเสียงดนตรี

ส่วนหนูด้วงเอาแต่นั่งจ้องหน้าของชายหนุ่มรูปร่างผอมบางที่กำลังเริ่มสีไวโอลิน ตัวเขาผอมบางมาก ดวงตาก็เศร้า แต่เพียงแค่โน้ตท่อนแรกเริ่มขึ้นก็สัมผัสได้ถึงพลังของความคิดถึง ความเศร้า ความสุข เส้นสายที่ถูกเสียดสีจนออกมาเป็นเสียงเพลงบรรเลงมันให้ความรู้สึกได้มากมายจนยากที่จะบรรยายได้หมด ตอนนี้ทุกคนภายในห้องเหมือนตกอยู่ในภวังค์ หนูด้วงไม่รู้ว่าทุกคนกำลังคิดอะไร แต่ที่รู้แน่ๆ ก็คือน้ำตาของตัวเองที่มันไหลออกมาเสียอย่างนั้น ทั้งที่ไม่รู้จักเพลงนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าเนื้อเพลงที่แท้จริงสื่อสารถึงอะไร แต่หนูด้วงรู้สึกได้ว่าคนที่กำลังเล่นไวโอลินอยู่กำลังมีความสุขบนความเจ็บปวด มันปะปนกันไปหมด โชคดีที่หยิบมือถือมาถ่ายคลิปเอาไว้ทัน อยากจะเอาไปให้พี่โอบได้ฟังเพื่อถามถึงชื่อเพลง

เสียงเพลงจบลงแล้วแต่ภายในห้องยังเงียบเหมือนเดิม จนได้ยินเสียงขอบคุณของแขกรับเชิญทุกคนถึงได้หันมามองหน้ากัน ไม่ใช่แค่หนูด้วงเท่านั้นที่ร้องไห้ แก้วเองก็กำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาอยู่ เพื่อนอีกหลายคนก็ไม่ต่างกัน

“ทุกคนคงได้เห็นแล้วว่าดนตรีก็คือการสื่อสารในรูปแบบหนึ่ง บางทีต่อให้มีเสียงร้องที่ไพเราะก้องกังวานแต่มันจะไร้ประโยชน์ถ้าหากเสียงดนตรีมันเข้าไปไม่ถึงหัวใจคนฟัง ผู้ร้องเองก็ต้องเข้าใจในตัวโน้ต เข้าใจถึงทุกเส้นเสียงและหล่อหลอมให้เป็นหนึ่งเดียว การบ้านในวันนี้คือให้นักศึกษาเลือกเพลงที่ต้องการจะร้องมาหนึ่งเพลง แล้วไปเลือกเครื่องดนตรีเพียงหนึ่งชิ้นมาประกอบ จะเล่นเองหรือให้ใครเล่นให้ก็ได้ แต่ขอให้สื่อสารออกมาให้ได้ดีที่สุด ขอบคุณตะโก้มากนะครับที่มาช่วยถ่ายทอดให้ทุกคนได้ฟัง”

“ยินดีครับพี่เกลือ เอ้ย...อาจารย์” ตะโก้เผลอตัวเรียกชื่อเล่นของพี่ชายที่รู้จักกัน อันที่จริงพี่เกลือสนิทกับพี่ชายฝาแฝดของตะโก้ รู้มาว่าเขาออกจากวงการเพลงแล้วแต่ไม่คิดว่าจะมาเป็นอาจารย์อยู่ที่นี่ ตะโก้ได้เจอโดยบังเอิญเขาเลยออกปากเชิญให้ตะโก้มาช่วยเล่นไวโอลินให้นักศึกษาได้ฟัง

“พี่ตะโก้ฮะ” หนูด้วงตะโกนเรียกชื่อของตะโก้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินออกไปจากห้อง

“ครับ” ตะโก้หันมามองหนูด้วงพร้อมกับเพื่อนๆ ทุกคนในห้องที่หันมาสนใจว่าหนูด้วงเรียกแขกของอาจารย์เอาไว้ทำไม

“ช่วยเล่นไวโอลินให้หนูได้ไหมฮะ” หนูด้วงก็ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้ารบกวนคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกัน มันไม่ใช่นิสัยของหนูด้วง แต่คิดว่าหากพลาดโอกาสในการร้องขอครั้งนี้อาจจะไม่ได้มันอีก หนูด้วงได้บทเรียนมาว่าถ้าต้องการอะไรควรจะบอกออกไป การรอคอยโอกาสให้กลับมาหามันอาจจะไม่มีเป็นครั้งที่สอง

“ได้ครับ” ตะโก้ยิ้มให้และตอบรับเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักที่ยืนชูมือชูไม้เรียกตัวเองเอาไว้ ปกติตะโก้ไม่ใช่คนมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นนัก ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับคนแปลกหน้าสักเท่าไหร่แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงได้ตอบรับคำขอจากน้องคนนี้ง่ายๆ

“ขอบคุณฮะ” หนูด้วงยิ้มกว้างเมื่อคำขอเป็นผล

“มีอะไรต้องการอีกไหมครับคุณพยัคฆ์” อาจารย์ถามพลางยิ้ม

“ไม่มีแล้วครับอาจารย์เกลือ” หนูด้วงถือวิสาสะเรียกชื่อเล่นอาจารย์บ้างก่อนจะยกมือไหว้อาจารย์แล้วนั่งลง

“สุดยอดเลยหนูด้วง เป็นเราคงไม่กล้าขอ” แก้วหันมาชูนิ้วให้หนูด้วง

“มันคือความกลัวในความกล้า” หนูด้วงกระซิบบอกเพื่อนคนเดียวในชั้นเรียนที่ยอมคุยกับตัวเองดีๆ คนอื่นถึงจะไม่ได้มาทำตัวร้ายใส่แต่ก็ไม่ค่อยมาคุย บางคนก็นินทาให้ได้ยิน แต่หนูด้วงก็ทำใจเอาไว้แล้วว่ามีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบเป็นธรรมดา

“คืออะไร”

“ก็เลียนแบบวงดนตรีวงหนึ่งไง ที่ชอบตั้งชื่อเพลงย้อนแย้งกันเอง ไกลแค่ไหนถึงใกล้ ความเงียบที่ดังที่สุด แตกต่างเหมือนกัน แบบนี้ไง”

“แล้วของหนูด้วงมันหมายถึงอะไร ความกลัวในความกล้า”

“กลัวที่จะพลาดโอกาสเลยกล้าที่จะร้องขอ ไงล่ะ...คมกริบ” หนูด้วงชมตัวเองก่อนจะหัวเราะเสียงใส จนได้ยินเสียงกระแอมจากอาจารย์ถึงได้ยิ้มแหยๆ ทั้งคู่หยุดคุยกันแล้วตั้งใจฟังอาจารย์ต่อไป

...

อากาศในวันนี้ร้อนอบอ้าวมากกว่าทุกวัน หนูด้วงเดินเหงื่อตกมานั่งรวมอยู่กับเพื่อนในคณะหลังจากที่จบคลาสเรียนสุดท้ายแล้ว จากที่คิดว่าจะได้ไปที่สนามบอลแต่ปรากฏว่ารุ่นพี่กักตัวเอาไว้ให้ทำกิจกรรมของคณะต่อ ซึ่งกิจกรรมที่รุ่นพี่ทำนั้นคนที่โดนเรียกออกมาบ่อยสุดก็คือหนูด้วง ทั้งเต้นทั้งร้อง ทั้งโดนแกล้งสารพัด แต่เป็นการแกล้งออกแนวไปทางขำขันเสียมากกว่า ในใจของหนูด้วงไม่อยากโดนเรียกสักเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะไม่อยากร่วมกิจกรรมกับรุ่นพี่ แต่หนูด้วงสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบหน้าของเพื่อนรุ่นเดียวกัน ตอนเลิกคลาสอาจารย์ให้จับกลุ่มก็ไม่มีใครเรียกหนูด้วงไปเข้ากลุ่มด้วยเลย จนแก้วต้องเป็นคนพาหนูด้วงเข้าไปขอร้องเพื่อนที่ยังขาดคนถึงได้มีกลุ่มอย่างคนอื่นเขา

“ยิ่งทำท่าอยากกลับพวกพี่เขาก็ยิ่งไม่ปล่อย” แก้วกระซิบบอกหนูด้วงอย่างเบื่อๆ อากาศมันร้อนจนเหงื่อชุ่มกันไปทุกคน อยากจะกลับไปอาบน้ำพักผ่อนก็ไม่ได้กลับกันสักที

“ร้อนเหรอ เราพัดให้นะ” หนูด้วงหยิบแผ่นกระดาษมาพัดให้แก้ว

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องทำให้เรา” แก้วรีบห้าม

“ทำไมล่ะ”

“คือ...”

“ทำไมเหรอ บอกเราได้นะ มีอะไร”

“มีคนมาบอกเราว่าน้าของหนูด้วงเป็นมาเฟีย แล้วก็ส่งลูกน้องมาคอยตามดูแลหนูด้วงตลอดเลย มันจริงหรือเปล่า” แก้วถามเสียงเบาก่อนจะมองไปรอบๆ

“ไม่จริงหรอก พูดกันไปเรื่อย แก้วเชื่อเหรอ” หนูด้วงถอนหายใจ

“อย่าคิดมากเลย” แก้วเห็นหนูด้วงมีสีหน้าไม่สบายใจเลยตัดบทไปเพราะเห็นใจ

ข่าวลือเรื่องของหนูด้วงมีมาให้ได้ยินตั้งแต่ก้าวเข้ามาเรียนที่นี่ตั้งแต่วันแรก หนูด้วงอาจจะไม่ได้ดูโดดเด่นที่สุดแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มเพื่อนสนิทของหนูด้วงเป็นที่รู้จักในวงกว้าง แล้วตัวของหนูด้วงเองก็เป็นที่รักใคร่ของรุ่นพี่และอาจารย์ทุกคน คนที่ดูโดดเด่นที่สุดในชั้นปีอย่างสิงโตก็มักจะอยู่ใกล้เพื่อนสนิทคนนี้ไม่ห่าง จึงอาจทำให้มีคนอิจฉาและหมั่นไส้หนูด้วงได้ไม่ยาก

“น้องๆ คงอยากจะกลับที่พักกันแล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้ ถ้าใครตอบคำถามของพี่ได้ พี่จะให้กลับ” เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งตะโกนบอก หนูด้วงกับแก้วจึงหยุดคุยแล้วตั้งใจฟังคำถามให้ดี

“ใครจะไปตอบได้” แก้วบ่นหลังจากได้ยินคำถาม

“นั่นสิ” หนูด้วงเองก็ตอบไม่ได้สักข้อเพราะเป็นคำถามอะไรเอ่ยแบบที่พวกตลกเขาเล่นกัน

หนูด้วงนั่งชะเง้อมองไปนอกหอประชุมบ่อยๆ จนกระทั่งนกฮูกส่งข้อความภาพมาให้ดูว่าทุกคนมารวมกันที่สนามบอลครบแล้ว ส่งรูปพี่โอบอุ้มกำลังวิ่งวอร์มอยู่ในสนาม แถมด้วยรูปน้องแฝดที่มานั่งเชียร์ด้วย หนูด้วงเห็นแล้วแทบจะถลาออกจากห้องประชุมไปเดี๋ยวนั้นแต่ก็ทำได้แค่คิด แล้วจู่ๆ ความคิดก็บรรเจิด หนูด้วงถอดรองเท้าของตัวเองเอาขึ้นมาวางไว้บนศีรษะ แก้วหันมาเห็นก็ตกใจ กำลังจะถามแต่เสียงของรุ่นพี่ดังแทรกขึ้นมาก่อน

“ทำอะไรหนูด้วง!!” สิ้นคำถามของรุ่นพี่หนูด้วงก็ยิ้มกว้างก่อนจะลุกขึ้นตอบแบบเสียงดังฟังชัด

“เอารองเท้ามาวางบนหัวฮะ หนูตอบคำถามของพี่ได้แล้ว หนูกลับบ้านได้แล้วใช่ไหมฮะ”

เสียงหัวเราะดังขึ้นในหอประชุมเมื่อได้ยินคำตอบของหนูด้วง ทำนุที่ยืนอยู่ในกลุ่มรุ่นพี่ถึงกับปรบมือให้ในความเจ้าเล่ห์ของเจ้าตัวแสบ ส่วนรุ่นพี่ที่เสียทีให้กับหนูด้วงถึงกับกุมขมับแล้วโบกมือไล่ให้กลับได้ หนูด้วงยกมือไหว้รุ่นพี่ทุกคนก่อนจะรีบหอบหิ้วของออกไปจากหอประชุมของคณะก่อนที่จะโดนกักตัวต่อ

ใช้เวลาเพียงไม่นานหนูด้วงก็วิ่งมาถึงสนามบอล ตอนนี้เกมการแข่งขันเริ่มไปได้ห้านาทีแล้ว หนูด้วงขึ้นมานั่งบนอัฒจันทร์ข้างนกฮูกกับน้องแฝด ถัดไปก็เป็นน้องเกลกับน้องมิกินั่งอยู่

“พี่หนูด้วงดูนาโมสิ นาโมของน้องหม่อนวิ่งเร็วมาก” น้องหม่อนรีบชวนหนูด้วงคุยทันทีที่เห็นหน้า

“เดี๋ยวพี่หนูด้วงจะลงไปเล่นเหมือนกัน น้องหม่อนกับน้องไม้จะเชียร์พี่หนูด้วงไหม”

“พี่หนูด้วงวิ่งไม่ทันนาโมหรอก” น้องไม้หันมาบอก

“โห พี่หนูด้วงเป็นแชมป์วิ่งสามขาเลยนะ”

“พี่หนูด้วงมีสามขาเลยเหรอ ไหนอีกขา น้องหม่อนไม่เคยเห็นเลย” เจอคำถามซื่อๆ ของน้องหม่อนหนูด้วงถึงไปต่อไม่ถูก นกฮูกนั่งขำที่เจ้าหนูอะไดอย่างหนูด้วงโดนเอาคืนบ้าง

“ทำไมพี่ผู้หญิงคนนั้นต้องคอยวิ่งเอาผ้าเช็ดหน้าไปเช็ดให้นาโมด้วย” น้องไม้ชี้ไปนักศึกษาสาวคนหนึ่งที่คอยวิ่งเอาผ้าเอาน้ำไปให้โอบอุ้มทุกครั้งที่เกมหยุด

“นั่นสิ!” หนูด้วงกับน้องหม่อนพูดขึ้นพร้อมกัน แถมน้ำเสียงยังแสดงออกว่าหวงพี่โอบไม่ต่างกันเลย

“อย่างกับแฝดสาม” นกฮูกมองน้องแฝดกับหนูด้วงแล้วก็พึมพำออกมา

“ไปนกฮูก เราไปลงเล่นกัน” หนูด้วงชวนนกฮูก

“ไม่เอา ทำไมเราต้องไปด้วย หนูด้วงก็ไปคนเดียวสิ” นกฮูกรีบปฏิเสธ

“ไปเป็นเพื่อนกันนะๆๆ”

“ไม่เอา”

“เรายอมขัดห้องน้ำให้สามวันเลย”

“ไม่”

“ห้าวันเลย”

“ตกลง”

“เย้”

ในที่สุดหนูด้วงก็ลากนกฮูกให้ไปเปลี่ยนชุดแล้วมารอเปลี่ยนตัวอยู่ที่ข้างสนามจนได้ เสียงน้องหม่อนตะโกนเชียร์พี่หนูด้วงพร้อมกับส่ายเอวกลมๆ ไปมาเป็นที่น่าเอ็นดูให้คนที่ได้เห็น สักพักกรรมการก็ให้เปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ หนูด้วงกับนกฮูกอยู่ทีมเดียวกับสิงโตและเด็กปีหนึ่งคนอื่นๆ ซึ่งโอบอุ้ม กาด แปะและป้ายอยู่ทีมตรงกันข้าม

“ไหวเหรอ” ป้ายเดิมมาประกบนกฮูกแล้วถาม

“เดี๋ยวก็รู้ครับ” นกฮูกตอบแต่ไม่ยอมมองหน้าป้าย

“พี่ไม่ต้องออมมือให้หนูนะ เพราะหนูเก่ง” หนูด้วงเดินไปประกบพี่โอบพร้อมกับคุยโว

“ครับผู้วิเศษ” โอบอุ้มยิ้มขำ ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อนักศึกษาสาวคนเดิมก็วิ่งเอาขวดน้ำมาให้อีก

“น้ำค่ะพี่นโม”

“พี่กินจนจุกแล้วครับ พอก่อนดีกว่าครับน้องฟาง” โอบอุ้มตอบพลางยิ้มให้

“หนูกินเอง หนูหิว” หนูด้วงคว้าขวดน้ำมาดื่มจนหมดขวดแล้วส่งคืนให้หญิงสาว

“เดี๋ยวก็วิ่งไม่ไหวหรอก” โอบอุ้มยีผมของหนูด้วง

“กายไม่พร้อมแต่ใจพร้อมฮะ” หนูด้วงรีบดันหลังพี่โอบให้เข้าไปในสนามเพราะไม่อยากให้อยู่ใกล้ผู้หญิงที่ชื่อฟางคนนี้


มีต่อด้านล่างค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-08-2018 13:05:50 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ต่อจากด้านบนค่ะ


เกมแข่งขันในสนามเป็นไปอย่างสนุกสนาน หนูด้วงวิ่งเร็วจนทุกคนนึกทึ่ง แต่ต่อให้วิ่งเร็วแค่ไหนก็ถูกโอบอุ้มแย่งลูกบอลไปได้อยู่ดี ส่วนนกฮูกแม้จะวิ่งแย่งบอลจากป้ายจนแก้มแดงไปหมดแต่ก็ไม่ท้อ แม้อากาศจะร้อนมากแต่ทุกคนก็ยังเล่นกันอย่างเต็มที่ จบครึ่งแรกแต่ก็ยังไม่มีฝั่งไหนทำแต้มได้จึงยังเสมอกันอยู่

“หนูด้วงวิ่งโคตรเก่ง” กาดเอ่ยชมระหว่างนั่งพักครึ่งกันอยู่

“หนูด้วงวิ่งเก่งตั้งแต่ประถมแล้ว เรื่องโกยขอให้บอก” สิงโตพูดพลางขำ

“แต่ก็ไม่ทันนาโม นาโมเก่งกว่า” น้องไม้เข้ามาบีบไหล่ให้พ่ออย่างเอาใจ

“นาโมแย่งลูกบอลพี่หนูด้วงอยู่นั่นแหละ เป็นผู้ชายต้องเสียสละนะนาโม” น้องหม่อนยื่นน้ำให้หนูด้วงพร้อมกับหันไปบ่นพ่อของตัวเอง

“ช่ายยยย แต่พี่ก็เป็นผู้ชายนะฮะน้องหม่อน” หนูด้วงลากเสียงก่อนจะทำหน้าเซ็งๆ แต่ก็รู้สึกดีที่น้องหม่อนเข้าข้างตัวเอง แม้จะแปลกๆ กับประโยคของน้องหม่อนก็ตาม

“ก็หนูบอกพี่เองว่าไม่ให้ออมมือให้ไง หรือไม่จริง” โอบอุ้มย้อนถาม

“ไม่ต้องออมก็ได้ เดี๋ยวครึ่งหลังนะ หนูจะทำประตูเอง” หนูด้วงยังคงคุยโวทั้งที่เมื่อยขาแทบวิ่งไม่ไหวแล้ว

“พี่นโมคะ ผ้าเย็นค่ะ” ฟางเดินเข้ามายื่นผ้าเย็นให้คนที่เธอแอบชอบ ถึงจะอึ้งไปที่รู้ว่าเขามีลูกแล้ว แต่พอรู้จากคนอื่นๆ ว่าพี่นโมเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวเธอก็รีบอาสาเข้ามาช่วยดูแลให้ทีมนักกีฬาให้ 

“ขอบคุณครับ” โอบอุ้มรับมาก่อนจะเหลือบมองไปที่หนูด้วง ซึ่งฝ่ายนั้นทำหน้ามุ่ยตั้งแต่เห็นฟางเดินเข้ามาแล้ว

“คุณหมอไหวไหมครับ” ป้ายถามนกฮูกเมื่อเห็นอีกฝ่ายเลือดสูบฉีดจนหน้าแดงเหมือนมะเขือเทศที่สุกเต็มที่

“คนอยู่ตั้งหลายคนแต่พี่ป้ายถามนกฮูกคนเดียวเหรอฮะ” หนูด้วงหันมาถามรุ่นพี่

“เอ้า เรามาพาลอะไรกับพี่” ป้ายนึกขำเพราะรู้ว่าหนูด้วงประชดที่ฟางเอาใจแต่พี่นโมคนเดียว

“ไม่งอแงครับ” โอบอุ้มบอกพร้อมแกะผ้าเย็นออกแล้วเอามาเช็ดหน้าให้หนูด้วง ซึ่งมันทำให้หน้าที่บึ้งตึงเมื่อครู่ของหนูด้วงเปลี่ยนเป็นยิ้มแฉ่งได้อย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

“ฟางเอาให้ใหม่ก็ได้ค่ะ” ฟางมองหนูด้วงด้วยความไม่พอใจก่อนจะลุกออกไป

“น้องไม้ไม่ชอบพี่คนนั้น”

“น้องหม่อนก็ด้วย”

“พี่ก็ด้วย” หนูด้วงพูดตามเด็กๆ ก่อนจะหันไปแท็กมือกับน้องแฝด

“ไม้กับหม่อนขึ้นไปนั่งอยู่กับพี่เกลนะครับ ห้ามไปไหนนะ หนูด้วง...เราไปวิ่งวอร์มกันดีกว่า” โอบอุ้มตัดสินใจลุกขึ้นแล้วฉุดมือของหนูด้วงให้ลุกขึ้นก่อนที่ฟางจะเดินกลับมา เขาไม่อยากให้หนูด้วงกับน้องแฝดงอแงไปมากกว่านี้

“นาโมสู้ๆ” น้องไม้ตะโกนเชียร์

“พี่หนูด้วงสู้ๆ” น้องหม่อนก็ตะโกนเชียร์หนูด้วงบ้างก่อนจะกลับขึ้นไปนั่งบนอัฒจันทร์อย่างเดิม

“เป็นอะไรครับ” โอบอุ้มถามเมื่อเดินลงมาถึงสนามแล้ว

“ถ้าพี่ยิ้มให้เขาแบบนั้นอีกหนูจะลงโทษพี่ หนูไม่ชอบ หนูจะโกรธ หนูจะทำตาเขียว หนูจะทำปากยื่น หนูจะหึงขั้นร้ายแรงแล้วด้วย!!” หนูด้วงขู่ หวังให้พี่โอบรู้ว่าตัวเองกำลังจะโกรธมากๆ แล้ว

“หึหึ หึงทำไมครับ พี่รักหนูคนเดียว”

“แต่พี่ยิ้มให้เขา”

“พี่แค่ยิ้ม แต่กับหนูพี่จูบ เห็นไหม ปากของพี่เป็นของหนูนะ”

“ก็จริง” หนูด้วงคิดตามก่อนจะยิ้มออกมา

“ถ้าหนูทำประตูได้ พี่จะให้จูบเป็นรางวัล ดีไหม”

“ดีสุดๆ พี่โอบเตรียมปากเอาไว้ให้ดีเลยฮะ” หนูด้วงรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาก่อนจะทำท่าสับขาวิ่งอย่างเอาจริงเอาจังโชว์ทุกคน

แล้วเกมกระชับมิตรครึ่งหลังก็ดำเนินต่อไป แต่ในคราวนี้การเล่นกลับเรียกเสียงหัวเราะได้มากกว่าครึ่งแรก ทีมน้องปีหนึ่งต่างก็ใช้กลเม็ดต่างๆ มาทำคะแนนให้ฝ่ายตัวเองทำประตูให้ได้ ทีมรุ่นพี่ก็ไม่แพ้กัน กติกาที่เคยมีก็กลายเป็นปล่อยให้เล่นตามใจสมกับที่เป็นเกมแห่งมิตรภาพ

“พี่ป้าย ปล่อยนะ” นกฮูกร้องโวยวายเมื่อป้ายเอามือมาล็อกคอเอาไว้ไม่ให้วิ่งแย่งบอลได้

“ไม่ปล่อย ไม่อยากปล่อยแล้ว” ป้ายกระซิบที่หู

“เขาให้แย่งลูกนะฮะ ไม่ใช่มาแย่งหัวใจกัน” หนูด้วงวิ่งมาแซวก่อนจะแย่งลูกบอลจากป้ายไป

“หนูด้วงส่งมา” สิงโตตะโกนบอก โอบอุ้มได้ยินก็วิ่งเข้ามาแย่งลูกจากขาของหนูด้วงไป

“ฮึ่ยยย โดนแย่งอีกแล้ว” หนูด้วงเจ็บใจที่โดนพี่โอบแย่งลูกบอลไปได้อีก

สิงโตยืนขำที่หนูด้วงลงไปทุบพื้นหญ้าอย่างเจ็บใจที่โดนแย่งบอลไปได้ เขาดูออกว่าพี่โอบตั้งใจแกล้งป่วนหนูด้วง พี่ป้ายก็เหมือนกัน ถึงเขาจะไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพี่ป้ายกับนกฮูกแต่ก็พอจะรับรู้ได้ความพิเศษที่ทั้งคู่มีให้กัน ปกติสิงโตไม่เคยเห็นนกฮูกทำตัวเป็นเด็กๆ เพื่อนคนนี้ชอบทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินตัว ชอบความสมบูรณ์แบบ ถ้าโดนเล่นผิดกติกาแบบนี้นกฮูกคงไม่มีวันยอมง่ายๆ แต่นี่เขาเห็นพี่ป้ายเอามือยันหัวนกฮูกเอาไว้บ้าง เนียนมากอดเอวเอาไว้บ้าง ดึงเสื้อบ้าง แต่ก็ไม่เห็นว่าเพื่อนสนิทที่เคยชอบความถูกต้องจะต่อว่าอีกฝ่ายเลยสักนิด แถมยังโกงกลับเหมือนกัน เขายืนเท้าเอวมองเพื่อนรักทั้งสองคนโดนป่วนอย่างขำๆ จนสายตาเหลือบไปเห็นใครบางคนนั่งอยู่ด้านบนของอัฒจันทร์ แม้จะไกลแต่เขาจำได้ดี คนที่ทำให้เขาคิดถึงได้ตลอดวัน ใบหน้านั้นมองมาที่เขาและส่งยิ้มให้

“อ้าว สิงโตจะไปไหน” เม่นตะโกนเรียกเพื่อนก่อนจะยืนเกาหัวเมื่อตัวทำแต้มวิ่งออกไปนอกสนามโดยไม่บอกไม่กล่าว   

“ทำอะไรหนูด้วง” ส่วนนกฮูกก็ร้องถามเมื่อเห็นหนูด้วงถอดเสื้อออก

“มันต้องใช้ไม้เด็ด” หนูด้วงโยนเสื้อออกไปไว้ข้างสนาม

“เจ๋ง” เม่นถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อหนูด้วงวิ่งโชว์ผิวขาวๆ กลับเข้าไปในสนามบอล

เสียงเฮดังขึ้นเมื่อหนูด้วงวิ่งแย่งลูกบอลมาได้ในที่สุด นกฮูกตัดสินใจสวมกอดเอวของป้ายเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้แย่งบอลจากหนูด้วงได้ นักบอลทีมปีหนึ่งที่เหลือก็ช่วยวิ่งเข้าไปกันทีมรุ่นพี่เพื่อเปิดทางให้หนูด้วงเลี้ยงลูกได้อย่างสะดวก จนวิ่งมาถึงใกล้ประตูของอีกฝ่ายโอบอุ้มถึงได้เห็นผิวขาวๆ ของหนูด้วงในระยะใกล้ๆ สายตาก็มองไปยังจุดเล็กๆ สีชมพูสองจุดบนร่างของอีกฝ่าย แม้จะเคยเห็นจนชินแล้ว แต่ผิวที่ชุ่มเหงื่อและความร้อนส่งให้หน้า หู คอของหนูด้วงแดงระเรื่อไปหมด ติ่งไตเล็กๆ นั่นก็สีเข้มขึ้นกว่าเดิม หนูด้วงยักคิ้วให้กับแผนเด็ดของตัวเองก่อนจะยักไหล่น้อยๆ ใช้โอกาสช่วงที่พี่โอบมัวแต่ยืนมองตัวเองนิ่งเฉยหลบหลีกและเตะบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

ยังไม่ทันที่กองเชียร์จะได้ดีใจ จู่ๆ สายฝนก็เทลงมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย กลุ่มกองเชียร์วิ่งหนีฝนกันจ้าละหวั่น ส่วนทีมบอลน้องปีหนึ่งกรูกันเข้ามาอุ้มหนูด้วงแล้วส่งเสียงเฮแข่งกับสายฝน กรรมการเป่านกหวีดพักเกมชั่วคราวเพราะฝนตกลงมาอย่างหนัก เมื่อทุกคนปล่อยหนูด้วงลงมายืนแล้วก็เริ่มวิ่งหนีฝน มือของหนูด้วงถูกดึงออกมาจากกลุ่ม คนที่ดึงไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นพี่โอบอุ้ม ซึ่งฝ่ายนั้นถอดเสื้อของตัวเองมาสวมใส่ให้หนูด้วงแล้วแบกขึ้นบ่าก่อนจะพาออกจากสนามไป

“จะทำให้พี่ทนไม่ได้ไปถึงไหนกัน” โอบอุ้มถามหลังจากที่พาหนูด้วงมาหลบฝนในมุมหนึ่งใต้อัฒจันทร์แล้ว

“แล้วพี่จะทนทำไม ที่เราทนกันมายังไม่พอเหรอฮะ”

“หนูมั่นใจแล้วใช่ไหมว่าเป็นพี่”

“คนที่หนูอยากให้เป็นเจ้าของหนูคือพี่คนเดียวมาตลอด”

“คืนนี้พี่จะไม่ทนแล้วนะครับ”

“ก็ได้ก็ได้ คราวนี้หนูจะไม่ขัดขวางการทำประตูของพี่แล้วฮะ เราจะอยู่ทีมเดียวกัน”

“แสบจริงๆ”

“รักหนูไหม”

“รักครับ”

“หนูก็รักพี่ รักสุดๆ”

‘กาลครั้งหนึ่ง การพบใครคนหนึ่งทำให้ฉันสุขใจ กาลครั้งหนึ่ง ทุกช่วงเวลาเราเคยมีกันใกล้ ๆ
แต่กาลครั้งหนึ่ง สุดท้ายไม่จบตรงชั่วนิรันดร์เสมอไป กาลครั้งหนึ่ง ชีวิตเลือกเส้นทางให้เรามีอันต้องไกล’


ส่วนนกฮูกถูกเพื่อนในทีมที่วิ่งหลบฝนชนจนล้ม แว่นตาหลุดกระเด็นไปที่พื้น ฝนที่ตกยิ่งทำให้มองไม่เห็นอะไรเลย จนกระทั่งมีมือของใครบางคนมาสวมแว่นตาให้ มือเดียวกันนั้นจับมือของนกฮูกให้ลุกขึ้นแล้วพาวิ่งฝ่าสายฝนออกมา มือของคนที่เคยปล่อยให้นกฮูกต้องอยู่กับความไม่เข้าใจและก็ยังคงไม่เข้าใจเขามาจนถึงตอนนี้

“ทำยังไงดี เปียกหมดเลย” ป้ายอยากจะเช็ดน้ำฝนบนใบหน้าของนกฮูกออกให้ แต่เพราะเสื้อผ้าของตัวเองไม่สะอาดก็กลัวจะทำให้อีกฝ่ายเปื้อนมากกว่าเดิมจึงพยายามมองหาผ้าสะอาดมาเช็ดให้ แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อนกฮูกถอดแว่นออกแล้วโผเข้าไปซบที่อกของเขา ใบหน้าของนกฮูกกำลังเช็ดอยู่กับเสื้อเปื้อนเหงื่อที่เขาคิดว่ามันไม่สะอาดอย่างไม่รังเกียจ

“ก็แค่เช็ด” เมื่อนกฮูกเช็ดน้ำฝนออกจนพอจะมองได้แล้วจึงสบตาอีกฝ่ายก่อนจะตอบ

“ทำไมไม่ใส่คอนแทคจะได้ไม่ต้องพะวงกับแว่นตา กี่ครั้งแล้วที่ทำแว่นหล่น แล้วร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงจะลงมาเล่นฟุตบอลทำไม ถ้าหอบกำเริบจะทำยังไง แล้วดูดิ๊...ตัวก็เปียก ผมก็เปียก เดี๋ยวพี่ไปหาผ้าแห้งมาเช็ดให้ก่อน” ป้ายบ่นยาวแล้วทำท่าจะเดินออกไปแต่นกฮูกดึงมืออีกฝ่ายเอาไว้

“แค่คำว่าเป็นห่วง”

“.........”

“พูดแค่ว่าเป็นห่วงก็พอ”

“อืม พี่เป็นห่วง”

‘เรื่องราวของฉันเดินต่อไป จากตรงนั้น ไกลสุดไกล เหมือนจะไกลจนลืมว่าเคยเกิดสิ่งเหล่านี้
แต่ในวันที่ฝนร่วงจากฟ้า วันที่มองหาใครก็ไม่มี วินาทีนั้นจะมีบางอย่างที่สำคัญ เกิดในใจฉัน’


ขณะเดียวกันบนอัฒจันทร์ ตะโก้กำลังหลับตาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นรับน้ำฝนที่ตกลงมา ใครบางคนบนฟ้าอาจจะกำลังบอกอะไรบางอย่าง ตะโก้อยากตั้งใจฟังเผื่อจะได้ยิน แต่เม็ดฝนที่ตกลงมากระทบใบหน้าไม่ได้ทำให้ตะโก้รับรู้ได้เลยว่าคนบนนั้นอยากบอกอะไร คงมีแต่ความเงียบเหมือนเคย ความเงียบที่ยังคงลงโทษให้รู้สึกเดียวดาย จู่ๆ สายฝนที่ตกมากระทบใบหน้าก็หายไปเป็นเหตุให้ตะโก้ต้องลืมตาขึ้นมาดู เสื้อของใครบางคนถูกกางบังสายฝนให้ ตะโก้ไม่ได้ยินคนบนฟ้า ได้ยินแค่เสียงของคนตรงหน้า เจ้าของเสื้อที่ปกป้องตะโก้จากสายฝน

“ให้เราเป็นอีกคนในชีวิตของตะโก้ไม่ได้เหรอ”

“ใครที่เข้ามาในชีวิตเรามักจะเจอแต่เรื่องแย่ๆ มักจะไม่มีความสุข”

“เป็นไปไม่ได้หรอก”

“ทำไม”

“ก็ตั้งแต่เราเจอตะโก้ เรามีความสุข”

“.....”

“เขามองโก้อยู่บนฟ้า แต่ให้เรามองโก้อยู่บนพื้นดิน พื้นเดียวกัน มองเห็นกัน”

“เราคงรักใครไม่ได้อีก”

“ไม่เป็นไร โก้รักเขาไป เราจะรักโก้เอง”

‘เรื่องราวชีวิต เดินต่อไป จากตรงนั้น ไกลสุดไกล เหมือนจะไกลจนลืมว่าเคยเกิดสิ่งเหล่านั้น แต่ในคืนเหน็บหนาว เกินจะต้านทาน คืนที่ความเหงาเข้ามาฉับพลัน คืนนั้นจะมีความรู้สึกพิเศษและสำคัญ ปรากฏในใจฉัน’

เสียงสายฟ้าที่ฟาดลงมาให้ได้ยินอยู่ไกลๆ จากที่ไหนสักแห่ง มันเกิดขึ้นพร้อมกับจุมพิตของคนทั้งสามคู่ สายฝนที่เทลงมาอย่างหนักเป็นเหมือนม่านที่ช่วยกั้นให้ทั้งคนทั้งหกคนจมอยู่ในโลกส่วนตัว บางคนรับรู้ได้ถึงการสิ้นสุดของการรอคอย บางคนอาจจะยังไม่เข้าใจกับความรู้สึกที่เกิด บางคนอาจจะยังสับสนในหนทางของชีวิต แต่ที่เข้าใจได้คือรู้สึกดีๆ มันก่อตัวขึ้นโดยที่ไม่อาจต้านทาน

บางครั้งความรักมันไม่ได้หายไปไหน เพียงแค่รอเวลาที่เราจะค้นเจอ มันอาจจะเกิดขึ้นจากคนเพียงเดียวหรือไม่ใช่ก็ได้ เราเองที่ต้องรอและให้โอกาสกับเวลา แต่อย่างน้อยการรอคอยจะไม่สูญเปล่า ความรักทำให้รู้ว่าถ้ามันได้เกิดขึ้นแล้ว...ทุกนาทีนั้นก็แสนจะพิเศษ

‘ฉันจะอยู่ โดยที่รู้ว่าทุกนาทีนั้นแสนพิเศษ ฉันจะทำทุกๆ สิ่งให้เธอภูมิใจเมื่อได้เห็น เธออยู่ตรงนั้นสบายดีไหม ฉันอยู่ตรงนี้เป็นเหมือนเดิม คิดถึงเธอทุกวัน หากชีวิตนี้เร็วดั่งความฝัน กาลครั้งหนึ่ง...สักวันเราคงได้พบกัน’

...

ฝนยังคงตกอยู่แต่ก็เบาบางลงกว่าเดิม กลุ่มของหนูด้วงก็มานั่งรวมตัวกันอยู่ที่ร้านกล่องดนตรี รวมถึงตะโก้ด้วย โอบอุ้มเอาเสื้อผ้ามาให้ทุกคนผลัดเปลี่ยนและให้พนักงานชงโกโก้ร้อนมาแจก คนที่ดูจะดีใจที่สุดเห็นจะเป็นน้องหม่อนเพราะพ่อยอมให้กินถึงสองแก้ว เสียงเจื้อยแจ้วของน้องแฝดที่ถกเถียงกันดังมาให้ได้ยินเรื่อยๆ สายตาของคนบางคู่ก็แอบลอบมองกันไปมาอย่างเงียบๆ จนกระทั่งหนูด้วงอ่านข้อความในโทรศัพท์แล้วถึงส่งเสียงตะโกนบอกทุกคน

“สุดสัปดาห์นี้ขอเชิญทุกคนไปที่เกาะใบไม้ครามนะฮะ วันเกิดคุณตา ยุงพญาจะปิดโรงแรมเลี้ยง ให้หนูพาเพื่อนๆ และพี่ๆ ทุกคนทุกคนไปด้วย”

“เจ๋ง ไปๆๆ ไปด้วยกันนะมิกิ” เม่นรีบหันมาชวนคนรัก

“ไม่รู้จะมีงานถ่ายแบบหรือเปล่า ขอดูก่อนนะ” มิกิยังไม่รับปาก ทำเอาเม่นหน้าหงอยไปเลย

“น้องหม่อนไปได้ไหม” น้องหม่อนรีบเดินเข้ามาหาโอบอุ้มเพราะกลัวตัวเองอดไป

“ไปได้ พี่จะพาไป” หนูด้วงรีบตอบ

“พี่ขอดูก่อนนะ” โอบอุ้มไม่ตอบรับจนน้องหม่อนหน้าจ๋อย คิดว่าคงไม่ได้ไปแน่ๆ

“ยุงบอกให้หนูพาพี่ไปด้วย”

“ไปเถอะครับ มันอาจจะถึงเวลาแล้ว” นกฮูกเป็นคนพูดขึ้นมา ทุกคนมองหน้าโอบอุ้มสลับกับหน้าของนกฮูกเพราะไม่เข้าใจว่าถึงเวลาอะไร

“มีอะไร นกฮูกรู้อะไร” หนูด้วงถาม

“เราไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่าหนูด้วงหรอก แต่แค่เดา เพราะฉะนั้นอย่าให้เราพูดในสิ่งที่เราไม่แน่ใจดีกว่า” นกฮูกตอบเพื่อนไปตรงๆ ซึ่งหนูด้วงเข้าใจดี อะไรที่นกฮูกยังไม่แน่ใจก็จะไม่พูด แต่หนูด้วงคิดว่านกฮูกจะต้องเดาถูก เพื่อนคนนี้เป็นคนฉลาดและมักจะมองอะไรออกเสมอ

“ว้า ทำให้อยากแล้วจากไป” เม่นบ่น

“โก้ไปไหม” สิงโตหันมาถามตะโก้

“ต้องไปสิ พี่โก้ต้องช่วยหนูทำการบ้าน พี่รับปากหนูแล้วนะ” หนูด้วงชิงพูดแทนตะโก้เพราะรู้ว่าสิงโตอยากให้ตะโก้ไปด้วย แม้ในใจยังนึกถึงคำพูดของตะโก้ในคลาสเรียนที่เจ้าตัวบอกว่ามีคนรักแล้ว หนูด้วงกลัวสิงโตจะผิดหวังและต้องเสียใจ

“อะไร ไปรู้จักกันได้ยังไง” สิงโตรีบถาม

“เราก็ว่าแล้วว่าทำไมคุ้นหน้าพี่โก้ ที่แท้ก็...หึหึหึ” หนูด้วงเลียนแบบเสียงหัวเราะของพี่โอบ

“รู้ไปทุกเรื่องนะเจ้าแสบ” พี่แปะเดินมาจิ้มหน้าผากของหนูด้วงเบาๆ

“พี่แปะก็ต้องไปนะ ทุกคนด้วย ห้ามปฏิเสธนะฮะ หนูอยากให้ทุกคนได้กินอาหารฝีมือมัมๆ ได้ไปเที่ยวบ้านหนู ใครไม่ไปจะให้น้องด้าวเข้าฝันทุกคนเลย”

“น้องไม้ไปก็ได้ก็ได้” คนที่ตอบรับก่อนคือน้องไม้ ทั้งที่ไม่รู้ว่านาโมจะไปไหม แต่เพราะกลัวโดนน้องด้าวเข้าฝันเลยรีบตอบรับก่อน

“น้องหม่อนล่ะ” หนูด้วงหันมาถามน้องหม่อนที่ยังคงยืนหน้าจ๋อยๆ

“น้องหม่อนตามใจนาโม”

“แต่บ้านของพี่หนูด้วงมีคุณตู้เย็นใหญ่เท่าบ้านเลยนะ” หนูด้วงวาดแขนออกให้กว้างที่สุด น้องหม่อนเงยหน้าไปสบตาพ่อ ดวงตาเริ่มรื้นไปด้วยหยาดน้ำตา อยากจะไปใจจะขาดแต่ก็กลัว จนเห็นพ่อพยักหน้าให้จึงรีบพยักหน้าตอบรับรัวๆ แล้วเข้าไปกอดหนูด้วงด้วยความดีใจ

“น้องหม่อนไปด้วยนะ น้องหม่อนจะไปช่วยดูแลคุณตู้เย็นของพี่หนูด้วงเอง”

“มันคงถึงเวลาแล้วจริงๆ” โอบอุ้มพูดกับหนูด้วงเบาๆ

แม้หนูด้วงจะไม่เข้าใจแต่ก็ดีใจที่พี่โอบยอมกลับไปเจอยุงพญาแล้ว หนูด้วงรู้ดีว่าทุกคนในครอบครัวจะต้องรักน้องแฝดอย่างแน่นอน ครอบครัวใหญ่ของหนูด้วงผ่านอะไรมาเยอะมาก และทุกคนก็จบทุกปัญหาด้วยความรักที่มีต่อกัน หนูด้วงเชื่อว่าการกลับไปคราวนี้ทุกอย่างจะต้องลงเอยด้วยดี คงมีอีกหนึ่งเรื่องที่หนูด้วงต้องไปจัดการก่อนจะกลับไปที่เกาะ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หนูด้วงหวังว่ามันจะลงเอยด้วยดีเช่นกัน


โปรดติดตามตอนต่อไป

ขอบคุณที่ยังติดตามนะคะ มาลงเร็วบ้างช้าบ้างสลับกันไปเนอะ 555
เดี๋ยวจะตามมาแก้คำผิดที่รอดสายตาค่ะ
...รัก...
 
 

[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-08-2018 19:33:25 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :laugh: หนูด้วงตัวเเสบ  น่าเอ็นดู
เข้าใจหาวิธีทำประตู

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
มันถึงเวลาแล้วจริงๆ   เวลาอะไรก็ไม่แน่ใจต้องรอตอนต่อไป  :katai2-1:

อยากเห็นครอบครัวใหญ่มาอยู่พร้อมหน้า คิดถึงลุงพญา น้อง มีคุณ นับตัง :mew1:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ทำไมน้องแฝดกับหนูด้วงหน้าเหมือนกันอ่ะ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
ถึงเวลาจะได้เจอยุงแระ
อิอิ

คำผิด อ่านผ่าน ๆ เจอคำเดียวนะคะ
ตรงพี่โอบเอาเสื้อมาให้เปลี่ยน

พลัดเปลี่ยน —- ต้องแก้เป็น
ผลัดเปลี่ยน   นะคะ

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
รักหนูด้วงและผองเพื่อน น้องแฝด พี่นโมด้วย  :กอด1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :o12: อ่านเห็นชื่อตะโก้ทีไรละน้ำตาคลอทุกที  :sad4:


ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
หนูด้วงทั้งเจ้าเล่ห์ ทั้งแสบ ทั้งน่ารัก :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โธ่เอ้ยยย ต้องเริ่มต้นให้จริงจังแล้วนะ โอบอุ้ม
ไม่ใช่ว่าลุงไม่รู้ แค่ไม่อยากให้วุ่นวาย

เด็กน้อย ดูน้องหม่อนสิ จะไปเฝ้าคุณตู้เย็นหรอ
น้องไม้ติดอาการหนูด้วงมาบ้างแล้ว อย่าพึ่งโตเกินไปนะลูก

แล้วหนูด้วงซ่อนอะไร ทำไม่ต้องไปจัดการ
แล้วที่ไปทุกเดือน ไปทำไรหรอ

ตะโก้เอ้ยย ชีวิตไม่ดิ้นก็ต้องดิ้นต่อไปนะ อย่าพึ่งยอม
สิงโตก็จะอยู่เคียงข้างเหมือนกัน

ว้าวววว ป้ายนกฮูกกลับมาหากันแล้ววว

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
ดีใจกับทั้ง 3 คู่  โดยเฉพาะนกฮุูกกับพี่ป้าย และสิงโตกับตะโก้

ความรัก ความเข้าใจ และการให้อภัยเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างได้ มันต้องเป็นของขวัญวันเกิดที่พิเศษมากๆ สำหรับครอบครัวภูมิเทพ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
มันก็จริงนะ เมื่อถึงเวลาของมันเรื่องราวต่างๆมันก็จะลงตัวของมันเอง มันอยู่ที่เราว่าจะเป็นคนรอที่ดีหรือไปเร่งมันให้ผิดเพี้ยนไป
เราดีใจที่สิงโตหัวเราะกับเรื่องราวของหนูด้วงได้อย่างมีสุข
ดีใจที่พี่ป้ายก็ตัดสินใจกับเรื่องราวของตัวเองได้ในที่สุด
ดีใจที่ทุกคนกำลังจะมีความสุข  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
พี่โอบสู้ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด