#เพลงรักที่หายไป หนูด้วง+พี่โอบอุ้ม 20 ตอนจบ สารบัญหน้าแรก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เพลงรักที่หายไป หนูด้วง+พี่โอบอุ้ม 20 ตอนจบ สารบัญหน้าแรก  (อ่าน 89032 ครั้ง)

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
คิดถึงหนูด้วงปู้วิเฉดกับพี่โอดอุ้นทีฉุด แงงงงงงงงงงง
อยากรู้เหตุผลต่างๆมากเลย อยากรู้ด้วยว่าเด็กแฝดเป็นลูกพี่โอบจริงมั้ย

 แต่ไม่ว่ายังไงหนูด้วงก็รักพี่โอบและพี่โอบก็รักหนูด้วงอยู่ดี  :mew1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
หนูด้วงเอ้ยยยยยย เอ็นดูเบอร์แรงมาก

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
พี่นโม=พี่โอบแน่นวล พี่โอบทำ ผญ ท้องแน่ๆ แล้วยุงรู้เลยโกรธ พี่โอบเลยพาลูกกลับมาอยู่ คอยดูหนูด้วงห่างๆ เพื่อพิสูจน์ให้ยุงเห็นว่ารักน้องจริใ

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
หนูด้วงรุกพี่เค้าขนาดนี้ ถ้ายุงพญารู้ต้องอกแตกตายแน่ๆ 555

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เพลงรักที่หายไป
เพลงที่ 6 สบตา
ศิลปิน แอนเดรีย สวอเรช


หนูด้วงแอบถอนหายใจเพราะนึกเสียดายที่พี่โอบอุ้มกลับไปก่อน พี่เขาต้องรีบกลับไปรับใบไม้กับใบหม่อน แล้วก็ต้องรีบกลับไปทำธุระที่ร้านด้วย ทั้งที่อยากจะขอตามไปด้วยแต่ก็ต้องอยู่ทำกิจกรรมรับน้องให้เสร็จ

“วันนี้มีตลาดนัดที่ชายทะเล เราไปกันไหม” น้องเกลชวนเพื่อนทุกคนเพราะเห็นจากใบปลิวที่มีคนเอามาแจก
มีทุกวันศุกร์ใช่ไหม เราก็ได้ใบปลิวมาเหมือนกัน” นกฮูกนึกขึ้นได้เลยหยิบใบปลิวที่ได้รับแจกขึ้นมาอ่านบ้าง

“ไปดิ เอารถเราไป หนูด้วงอยากไปไหม” สิงโตเห็นหนูด้วงเอาแต่เขี่ยข้าวเลยพยายามจะชวนคุย พยายามจะสบตาอีกฝ่ายแต่หนูด้วงก็ไม่เคยมองกลับมาสักที

“เจ๋ง ไปๆ ได้ข่าวว่าร้านที่พี่ป้ายทำงานอยู่แถวนั้นด้วย เราแม่งโคตรชอบพี่ป้ายเลย อย่างเท่” ประโยคนี้ของเม่นมีผลต่อเพื่อนสนิทถึงสองคน คนแรกก็คือหนูด้วงที่หายหงอยทันทีที่ได้ยิน คนที่สองก็คือนกฮูก

“ไปเลยไหม จะได้ไปหาอะไรกินที่ตลาดนัด” หนูด้วงวางช้อนด้วยท่าทางกระตือรือร้น

“ชอบพี่ป้ายเหรอ” สิงโตถามหนูด้วงตรงๆ แต่คนที่สะดุ้งคือนกฮูก

“ชอบสิ เขาเป็นรุ่นพี่ในชมรม นิสัยดีนะ” หนูด้วงก็ตอบสิงโตไปตรงๆ

“เราจะหัดเล่นกีต้าร์” สิงโตพูดลอยๆ ซึ่งทุกคนพอจะเข้าใจในความหมายที่สิงโตจะสื่อออกมายกเว้นคนที่สิงโตต้องการให้รู้

“ดีเลย เดี๋ยวเราหัดด้วย เราก็ชอบกีต้าร์ แต่เราชอบเปียโนมากกว่า” หนูด้วงนึกถึงเสียงเปียโนที่พี่โอบเล่นก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ยิ่งนึกไปถึงตอนที่ตัวเองอาจหาญไปจุ๊บพี่โอบก่อนก็ยิ่งระบายยิ้มกว้างมากกว่าเดิม

“งั้นไปกันเลยเหอะเดี๋ยวจะค่ำ ถึงวันนี้จะเป็นวันศุกร์แต่ก็ไม่ควรกลับเข้าหอดึกเกินไป” น้องเกลมองดูนาฬิกา แม้ช่วงวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์อาจารย์จะอนุญาตให้กลับเข้าหอพักดึกได้ แต่เธอพักที่หอหญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มเลยไม่อยากกลับขึ้นหอคนเดียวตามลำพัง

“ชวนน้องมิกิไปด้วยสิน้องเกล” เม่นทำเสียงอ้อนเพราะตอนนี้กำลังตามจีบรูมเมทของน้องเกลอยู่

“เธอก็ไปชวนเองสิ แล้วก็เอารถของตัวเองพาน้องมิกิไปนะ รถของสิงโตนั่งไม่หมดหรอก” น้องเกลสรุปให้เสร็จสรรพ

“ก็ได้ก็ได้ งั้นน้องเกลไปกับเราไหม มิกิจะได้มีเพื่อน” เม่นเลียนแบบคำพูดติดปากของหนูด้วง เห็นน้องเกลพยักหน้าก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาน้องมิกิ เมื่อพูดคุยแล้วอีกฝ่ายตอบรับ เม่นกับน้องเกลจึงขอตัวแยกไปรับน้องมิกิก่อน

“รอตรงนี้นะ เราจะไปเอารถ จอดเอาไว้หน้าหอพัก”

“เดินไปพร้อมกันก็ได้” หนูด้วงทำท่าจะลุกไปแต่สิงโตจับบ่าของหนูด้วงให้นั่งลงอย่างเดิม

“ไม่เป็นไร รอนี่แหละ จะได้ไม่ต้องเหนื่อย” สิงโตบอกกับหนูด้วงและนกฮูกก่อนจะเดินตามเม่นกับน้องเกลไป

“หนูด้วง” นกฮูกเรียกเพื่อนที่เอาแต่ก้มหน้าอยู่กับโทรศัพท์แล้วก็ยิ้ม

“หื้ม”

“หนูด้วงน่าจะบอกสิงโตไปนะว่าหนูด้วงรู้สึกยังไง เรารู้ว่าหนูด้วงรู้ว่าสิงโตคิดยังไง” นกฮูกนึกสงสารสิงโตเหมือนกัน เคยคิดว่าหนูด้วงคงรักใครไม่ได้อีกนอกจากพี่โอบอุ้ม สิงโตเองก็คงจะรู้ในจุดนี้ถึงได้ไม่สารภาพความรู้สึกกับหนูด้วงเสียที คงจะมีความหวังว่าหากพี่โอบอุ้มไม่กลับมา อย่างน้อยสิงโตก็ยังได้ใกล้ชิดกับหนูด้วงไปเรื่อยๆ แต่ในที่สุดหนูด้วงก็เจอคนที่ทำให้หนูด้วงใจเต้นได้มากกว่าพี่โอบอุ้ม

“เรารู้ แล้วเราก็บอกสิงโตด้วยการกระทำมาตลอดสิบสองปีนะ คนที่ไม่รับรู้คือสิงโตต่างหาก” หนูด้วงยิ้มน้อยๆ ให้นกฮูก

“เราเข้าใจหนูด้วงนะ แต่เราก็เข้าใจคนที่ได้แต่เป็นฝ่ายแอบมองคนอื่นฝ่ายเดียวเหมือนกัน บางทีการได้ยินความรู้สึกจากอีกฝ่ายตรงๆ มันช่วยทำให้ตัดใจได้เร็วขึ้น” นกฮูกลอบถอนหายใจเพราะรู้ดีว่าการแอบรักคนอื่นมันเป็นอย่างไร

“มัมๆ เคยสอนเราว่าเราห้ามความรู้สึกคนอื่นไม่ได้หรอก เขาอยากจะรักก็ต้องให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขารู้สึก มันเป็นสิทธิ์ของเขา สิ่งที่เราจะทำได้ก็คือ...ทำยังไงให้สิงโตรู้ว่าการได้ยืนข้างๆ กันไม่จำเป็นต้องเป็นคนรักก็ได้”

“ดีจัง พ่อกับแม่เราไม่เคยสอนเรื่องพวกนี้เลย เราต้องหาอ่านเอาเองจากหนังสือ” นกฮูกนึกอิจฉาหนูด้วงที่มีคนคอยให้คำปรึกษาได้ทุกเรื่อง

“นกฮูกก็ปรึกษามัมๆ ได้นะ โทรหาทุกคนได้เลยเดี๋ยวเราจดเบอร์ไว้ให้ ถ้าอยากได้มุกขำๆ ให้โทรหาปู่ช้วน ถ้าอยากได้แง่คิดดีๆ แบบผู้ใหญ่ต้องโทรหาแด๊ดดี้ ถ้าอยากได้แง่คิดแบบฮาร์ดคอร์ไม่ง้อคนฟังต้องโทรหามัมๆ ถ้าอยากได้มุกไว้อ้อนแฟนก็ต้องโทรหาพี่พายกับพี่เมี่ยง ถ้าอยากรู้เรื่องศาสตร์มืดต้องโทรหายุงกับพี่ก้าน แต่ถ้า...” หนูด้วงเอานิ้วชี้ทั้งสองข้างมาเขี่ยกันไปมาเพราะไม่รู้จะพูดต่อว่ายังไงดีไม่ให้น่าเกลียด

“ถ้าอะไร..พูดต่อสิ”

“ถ้าอยากเก่งเรื่องแบบ...งั้นอะ ต้องโทรหาอาน้อง อาน้องสอนละเอียดยิบเลย เทคนิคเพียบ”

“เรื่องนั้น เรื่องไหนเหรอ” นกฮูกยังไม่เข้าใจ

“ก็เรื่อง...ทำยังไงให้แฟนไปไหนไม่รอดไง” หนูด้วงกระซิบเบาๆ เพราะตัวเองก็รู้สึกเขินเหมือนกัน

“ฮ่าๆๆ เรื่องแบบนี้ต้องปรึกษาด้วยเหรอ อ่านเอาก็ได้ มีให้ดูด้วย” นกฮูกขำเพื่อนสนิท

“มีให้อ่านด้วยเหรอ มีให้ดูด้วยเหรอ ว้าววว” หนูด้วงตื่นเต้นกับความรู้ใหม่

“มันก็มีนะ แต่หนูด้วงยังเด็ก อย่าอ่านอย่าดูเลย”

“แต่เราอายุเท่ากันนี่นา”

“เด็กก็คือเด็ก อย่าดื้อ” นกฮูกจิ้มที่หน้าผากของหนูด้วงก่อนจะเก็บหนังสือใส่กระเป๋าเพราะเห็นรถของสิงโตขับเข้ามาแล้ว

“เราโตแล้วนะ” หนูด้วงพยายามจะบอกนกฮูก แต่เพื่อนเดินนำไปแล้วจึงได้แต่ทำหน้างอแล้วพึมพำคนเดียวก่อนจะเดินตามไป “ฮึ่ย..เราโตแล้วเหอะ จูบกับพี่โอบแล้วด้วย ไม่อยากจะคุย”

รถสปอร์ตหรูของสิงโตที่มาจอดรับหนูด้วงกับนกฮูกดึงดูดทุกสายตาที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองด้วยความสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มขององุ่นกับคนในชมรมขนนก ยิ่งเห็นสิงโตลงมาเทคแคร์หนูด้วงก็ยิ่งทำให้คนแถวนั้นเริ่มตั้งหัวข้อสนทนากันสนุกปาก

“ตกลงสองคนนั่นเป็นแฟนกันจริงๆ เหรอองุ่น” ‘หน่อย’ เพื่อนสนิทขององุ่นเอ่ยถาม

“ไม่ใช่หรอก สิงโตแมนจะตาย เคยมีแฟนผู้หญิงแต่ก็เลิกกันแล้ว ส่วนหนูด้วงใครๆ ก็รู้ว่าไม่แมน เป็นเกย์กันทั้งบ้านเลยด้วย” องุ่นตอบเพื่อน สายตายังคงจับจ้องแต่สิงโตไม่วางตา

“จริงดิ แต่จะว่าไปหนูด้วงก็ไม่มีท่าทางเหมือนกระเทยเลยนะ ถึงจะดูไม่แมนเหมือนสิงโตแต่ก็น่ารักดี”

“โอ้ยหล่อนไปอยู่ไหนมา สมัยนี้ชายรักชายไม่ได้มีแต่กระเทยแบบฉันนะยะ แล้วฉันฟังธงเลยว่าสองคนนั้นชอบกันแน่ๆ” ‘เบสท์’ สาวประเภทสอง...เพื่อนสนิทอีกคนขององุ่นวางยาทาเล็บลงก่อนจะจีบปากจีบคอพูดให้เพื่อนฟัง

“บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ” องุ่นยังคงเถียงเพราะมั่นใจว่าสิงโตเป็นชายแท้

“แล้วมาดูกัน ว่าแต่พวกหล่อนจะไปตลาดนัดไหม”

“ไปสิ ได้ข่าวว่าวงเดอะบ็อกซ์ไปเปิดหมวกด้วย ฉันชอบพี่กาด จะไปเปย์ให้เต็มหมวกเลย” หน่อยพูดพลางยิ้ม

“ฉันจองพี่ป้ายนะยะ แต่เอาพี่แปะก็ได้ ถึงไม่เซอร์เท่าแต่หน้าตาเหมือนกันฉันก็โอเค” เบส์พูดจบก็หันไปหัวเราะกับหน่อย ส่วนองุ่นได้แต่ขัดใจที่สิงโตไม่ยอมตอบข้อความของตัวเองที่เพิ่งส่งไปหา

หลังจากที่องุ่นกับพี่ชายต้องย้ายออกจากโรงเรียนอนุบาลพันแสงไปเรียนในตัวเมืองเพราะพ่อกับแม่ของเธอกลัวอิทธิพลของพญาซึ่งเป็นน้าของหนูด้วง ตอนนั้นเธอไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมพ่อกับแม่ต้องกลัวขนาดนั้น จนโตพอที่จะรู้เรื่องอะไรต่ออะไรได้แบบผู้ใหญ่ถึงเข้าใจว่าเธอกับพี่ชายไม่ควรไปวอแวกับหนูด้วงจริงๆ

จากวันนั้นมาองุ่นกับพี่ชายก็ไม่ค่อยได้เจอกับเพื่อนเก่าสมัยประถมอีกเลย จนเมื่อช่วงเทอมหนึ่งของชั้น ม.6 เธอได้เจอกับสิงโตและเม่นโดยบังเอิญที่ห้างสรรพสินค้า สิงโตจำเธอไม่ได้แต่เธอกลับจำสิงโตได้ดีเพราะเขาโดดเด่นมาตั้งแต่ประถม ช่วงนั้นเธอกับสิงโตได้ไปเดทกันอยู่หลายครั้งจนสิงโตรู้ว่าเธอคือน้องของพี่โอจึงหายไปและไม่ยอมติดต่อเธออีกเลย มาเจอกันในมหา’ลัยคราวนี้เธอหมายมั่นว่าจะต้องสานสัมพันธ์กับเขาอีกครั้งให้ได้


กลุ่มของหนูด้วงมาถึงตลาดนัดเลียบชายหาด ทุกคนพากันตื่นตาตื่นใจกับข้าวของที่มีทั้งชาวบ้านและนักศึกษามาตั้งร้านขาย อย่างเช่นกลุ่มเด็กศิลปกรรมนำผลงานของตัวเองมาขาย เด็กคหกรรมก็มาออกร้านขายอาหารและขนมเหมือนกัน ที่สำคัญคือมีคนจากที่อื่นข้ามมาเที่ยวที่เกาะนี้ด้วย

“เห็นว่าจะมีเรือเที่ยวพิเศษพาคนนอกมาเที่ยวเฉพาะวันศุกร์กับเสาร์” น้องเกลอ่านรายละเอียดมาจึงมาเล่าให้เพื่อนฟังต่อ

“น้าตวงคงอยากให้นักศึกษาได้โชว์ผลงานของตัวเอง พวงกุญแจสวยอะ ขอไปดูก่อนนะ” หนูด้วงเห็นพวงกุญแจรูปเปียโนก็รีบปรี่เข้าไปดูทันที

“ชอบเหรอ ขายยังไงครับ” สิงโตถามพลางหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมา

“เราจ่ายเอง” หนูด้วงรีบห้าม

“น้องมิกิอยากได้ไหมคะ” เม่นหยิบสร้อยข้อมือลูกปัดขึ้นมาถามว่าที่แฟนในอนาคต อันที่จริงทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่ชั้น ป.1 แต่เพิ่งจะมามีใจให้กันก็ตอนเข้ามหา’ลัยนี่เอง

“น้องเกลก็อยากได้ค่ะคุณเม่น” น้องเกลแซวเพื่อนสนิท

“ไม่ต้องจ่ายหรอก ให้น้องๆ ไป ถือว่าเป็นของขวัญจากพี่นะ” คนใจป๋าสายเปย์ที่แท้จริงเดินเข้ามาทัก คนคนนั้นก็คือ ‘พี่ป้าย’ ผู้ที่เท่ทุกท่วงท่านั่นเอง

“ร้านของพี่ป้ายเหรอฮะ” หนูด้วงถามพร้อมกับแสดงความชื่นชมอย่างออกนอกหน้าจนสิงโตนึกหงุดหงิด

“อืม ก็ให้พวกน้องๆ ในคณะมันทำมาส่ง มันจะได้มีรายได้พิเศษกัน”

“เจ๋ง เท่แล้วยังเท่มากอีกด้วย” คราวนี้เม่นยิ่งเห็นป้ายเป็นไอดอลหนักกว่าเดิม

“เลือกเอาเลย” พอป้ายอนุญาตแล้วทุกคนก็เลือกของกันไปคนละอย่างยกเว้นนกฮูกที่ยืนมองเงียบๆ

“ขอบคุณมากเลยนะครับ”

“ขอบคุณค่ะพี่ป้ายสุดเท่”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงวงพี่จะไปเล่นเปิดหมวกที่หน้าร้านพี่นโม สงสัยวันนี้จะได้นักร้องคนใหม่ของวงมาร่วมแจม โอเคไหม”

“โอเคฮะ!!...แต่พี่นโมไม่ได้ชวนหนู” ทีแรกหนูด้วงก็ดีใจแต่พอนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ถูกชวนก็ทำหน้าหงอยลงทันที

“พี่เขาก็ไม่รู้ว่าพวกพี่จะมาเปิดหมวกกันวันนี้ พอดีอยากลองเครื่องดนตรีใหม่เลยเพิ่งตัดสินใจเล่นกัน งอนเหรอเด็กน้อย” ป้ายโยกศีรษะหนูด้วงเบาๆ

“หนูโตแล้วนะ พี่ป้ายชอบพูดเหมือนนกฮูกเลย” หนูด้วงทำหน้ามุ่ยเพราะโดนบอกว่าเป็นเด็กรอบที่สอง

“อะ...อะไรนะ” นกฮูกสะดุ้งเพราะได้ยินแค่ว่า ‘พี่ป้ายชอบนกฮูก’

“ก็นกฮูกบอกว่าเราเป็นเด็ก พี่ป้ายก็ด้วย”

“ไปดูร้านอื่นกันเถอะ” สิงโตตัดบทเพราะคิดว่าหนูด้วงแอบชอบป้าย

“เอางี้ เราขอพาน้องมิกิไปเดินเล่นก่อน แล้วไปเจอกันตรงที่เปิดหมวก” เม่นเสนอเพราะอยากจะไปสวีทกับน้องมิกิตามลำพัง

“ก็ได้ก็ได้” หนูด้วงเก็บพวงกุญแจใส่กระเป๋าก่อนจะชะเง้อมองไปทางร้านกล่องดนตรี

“ไปเดินดูทางนั้นกัน” น้องเกลจูงมือของหนูด้วงให้เดินไปที่ร้านขายกระเป๋าไหมพรม สิงโตก็รีบเดินตามไปทันที ส่วนนกฮูกกำลังจะเดินตามเพื่อนไปก็ถูกเรียกเอาไว้ก่อน

“เดี๋ยวก่อน” ป้ายเรียกคนตัวเล็กที่ใส่แว่นตาหนา เมื่อเห็นอีกฝ่ายสะดุ้งก็อดขำไม่ได้

“ครับ”

“ไม่เห็นเราเลือกเลย ไม่ชอบเหรอ” ป้ายถามเพราะนกฮูกเป็นคนเดียวที่ไม่เดินเข้ามาเลือกของเหมือนเพื่อนๆ

“ชะ...ชอบครับ แต่เลือกไม่ถูกเลยไม่เลือก”

“อันนี้แล้วกัน พี่เลือกให้” ป้ายยื่นสร้อยคอที่เป็นรูปนกฮูกให้

“ขอบคุณครับ” นกฮูกยกมือไหว้ก่อนจะรับมา ใจเต้นโครมครามจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน

“ดีใจด้วยนะที่ได้เรียนทันตะสมใจ”

“พี่...จำผมได้..เหรอครับ” นกฮูกเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่าย พยายามควบคุมอาการเพราะกลัวว่าสายตาที่บ่งบอกความดีใจจะลอดผ่านแว่นตาไปให้คนตรงหน้ารับรู้

“จะจำไม่ได้ได้ไง หน้าต่างห้องเราตรงกัน เงยหน้าไปทีไรเห็นเรานั่งอ่านหนังสือทุกคืน”

“อ๋อ ครับ” นกฮูกตอบสั้นๆ อีกฝ่ายคงไม่รู้ว่านกฮูกตั้งใจนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะนั้นเพราะรู้ว่าเจ้าของห้องตรงกันข้ามจะกลับมาในเวลานั้นทุกวัน

“ถ้าพี่ไม่ทักก่อนก็คงทำเป็นไม่รู้จักพี่สินะ”

“ไม่ใช่แบบนั้นครับ...คือ...ผมสายตาสั้น บางทีก็มองไม่ชัด” นกฮูกรีบแก้ตัว

“เหรอ” ป้ายถือวิสาสะดึงแว่นออกมาจากหน้าของนกฮูกแล้วมาสวมที่หน้าของตัวเองแทน “โห สั้นเท่าไหร่เนี่ย”

“พี่อย่าใส่เลยครับ เดี๋ยวจะปวดหัว ขอคืนเถอะครับ” นกฮูกรู้สึกว่าถ้ายังอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้อีกนิดหัวใจคงจะกระดอนออกมานอกอกแน่ๆ

“ถ้าแว่นมันไม่ชัด งั้นต้องมองใกล้ๆ แบบนี้” ป้ายถอดแว่นออกแล้วยื่นหน้าของตัวเองมาใกล้ๆ นกฮูก

“พี่...” นกฮูกตกใจจะถอยหลังแต่ป้ายดึงแขนเอาไว้ จากนั้นก็เอาแว่นตาสวมกลับไปให้นกฮูกก่อนจะหัวเราะเบาๆ

“ต่อไปจะได้จำพี่ได้” ป้ายยิ้มให้นกฮูก

“ขอบคุณนะครับสำหรับสร้อย ขอตัวก่อนครับ” นกฮูกรีบหันหลังวิ่งออกไปตามหาเพื่อนๆ แต่สุดท้ายสองขาก็พามาหยุดยืนที่ริมทะเล สองมือก็กุมที่อกข้างซ้ายเอาไว้ ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือกังวลใจดี

..แค่ได้สบตาพี่เขาก็ทำให้ความรู้สึกที่นกฮูกพยายามจะลบมันให้หายไปกลับมาอีกครั้งและครั้งนี้ดูท่าว่าจะรุนแรงกว่าเดิม..



เมื่อสมาชิกแก๊งเดอะซูเดินเล่นและซื้อข้าวของกันจนได้ของเต็มไม้เต็มมือแล้วก็พากันเดินมาที่หน้าร้านกล่องดนตรี หนูด้วงเห็นรุ่นพี่ในชมรมอยู่กันครบก็รีบเข้าไปหา ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ก็เดินไปหาที่นั่งจับจองเอาไว้เพราะคนเริ่มมานั่งรอกันเยอะขึ้น

กาดเห็นกลุ่มเพื่อนของหนูด้วงมากันหลายคนเลยไปหยิบเสื่อในร้านออกมาปูให้ทุกคนได้นั่ง ไม่ลืมที่จะหยิบถุงขนมมาให้เพื่อนๆ ของหนูด้วงได้นั่งทานระหว่างรอ ทันทีที่ได้สบตากับน้องเกล กาดก็นิ่งค้างไปนาน จนน้องเกลเลิกคิ้วมองมากาดถึงได้หัวเราะเขินๆ แล้วรีบเดินกลับไปหาสมาชิกในวง   

สิงโตเห็นหนูด้วงเข้าไปคุยกับกลุ่มรุ่นพี่ด้วยความสนิทสนมก็รู้สึกใจหายแปลกๆ เมื่อก่อนหนูด้วงไม่เคยทำตัวสนิทสนมกับคนที่ไม่คุ้นเคยเลยสักครั้ง แต่วันนี้ทุกอย่างมันดูเปลี่ยนไป เขารู้สึกว่าหนูด้วงกำลังเดินไกลออกไปจากเขาทุกทีทุกที

“อย่าคิดมาก” นกฮูกพูดขึ้นมาหลังจากที่ลงมานั่งข้างๆ สิงโตแล้ว

“เราไม่ควรคิดมากเหรอ” สิงโตถามกลับ

“แล้วที่ผ่านมาทำไมไม่พูดออกไป” ที่นกฮูกถามสิงโตไปเขาไม่ได้ต้องการคำตอบ แต่ที่ถามเพราะอยากตอกย้ำคำตอบนั้นกับสิงโตมากกว่า อยากให้เพื่อนยอมรับความเป็นจริงว่าหนูด้วงไม่ใช่ตุ๊กตาที่สิงโตจะเก็บเอาไว้กับตัว

“รอมั๊ง”

“ถ้ารอแล้วไม่เจ็บก็ตามใจ” นกฮูกไม่ได้พูดเพื่ออยากให้สิงโตเจ็บ คราวนี้นกฮูกพูดเพื่อตอกย้ำกับตัวเองต่างหาก

“นั่งด้วยคน วงกำลังจะเล่นแล้ว” หนูด้วงวิ่งกลับมาหาเพื่อนๆ นกฮูกขยับให้หนูด้วงนั่งข้างสิงโต

“แล้วไม่ไปร้องเพลงให้วงเหรอ” สิงโตถามก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่าย แค่ได้นั่งใกล้ๆ ก็ยังดี ถึงจะมีระยะห่างแต่ยังมองเห็นได้แบบนี้ก็ยังดี

“คงยัง อยากดูพี่ๆ เขาก่อน” หนูด้วงตอบแต่สายตามองไปยังคนที่เพิ่งจะเดินออกมาจากในร้าน ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง ไหล่กว้างดูสง่าในที รูปหน้าดูลงตัวไปหมด

“พี่หนูด้วง น้องหม่อนมาแล้ว” ใบหม่อนเห็นหนูด้วงก็ตะโกนเรียก สักพักใบไม้ก็เดินตามออกมา

“มานั่งกับพี่หนูด้วงเร็วๆ” หนูด้วงกวักมือเรียกเด็กน้อยทั้งสองคน

“รู้จักเหรอ ฝาแฝดนี่นา” น้องเกลถามเมื่อเห็นหนูด้วงทักทายเด็กทั้งสองคนอย่างสนิทสนม

“ลูกชายพี่นโม”

“ห๊ะ!!”

“อะไรนะ!!”

“เจ๋ง!!”

“จริงดิ!!”

“จริงก็ได้ก็ได้ ตกใจใจตกพร้อมกันขนาดนี้กรุณาเก็บใจกลับเข้าที่ด้วยนะฮะเพื่อนๆ” หนูด้วงนึกขำสีหน้าของเพื่อนแต่ก็เข้าใจเพราะตอนที่ตัวเองรู้ก็ตกใจไม่ต่างกัน

“หนูด้วง...ทำไมไม่เห็นเล่าเลย แล้ว...” นกฮูกกระซิบถาม ในเมื่อพี่นโมมีลูกแปลว่าพี่เขาเป็นชายแท้จึงสงสัยว่าหนูด้วงกับพี่นโมรู้สึกอย่างไรต่อกันกันแน่

“พี่ฝากเด็กๆ ด้วยนะ” โอบอุ้มจูงคู่แฝดมาส่งหนูด้วงก่อนจะเดินกลับไปที่วง เด็กน้อยทั้งสองคนยกมือไหว้ทุกคนที่นั่งอยู่

“น่ารักมากเลย ชื่ออะไรครับ” น้องมิกิเอ่ยถามพลางลูบแก้มน้องใบหม่อน

“แก้มยุ้ยๆ นี่ชื่อใบหม่อน ส่วนสุดหล่อคนนี้ชื่อใบไม้” หนูด้วงเป็นคนแนะนำ   

“น้องหม่อนก็หล่อ” ใบหม่อนรีบท้วง

“ใบหม่อนน่ารัก ไม่ได้หล่อ” น้องไม้หันไปพูดกับน้อง

“ทำไมไม้ต้องหล่อคนเดียวด้วยล่ะ” น้องหม่อนหน้างอ

“ไม่ต้องเถียงกัน เป็นแฝดกันก็น่ารักและหล่อเหมือนกันนั่นแหละ มานั่งตักพี่” หนูด้วงรีบตัดสินให้ก่อนเด็กน้อยจะเถียงกันมากกว่านี้

“น้องหม่อนจะนั่งตักพี่หนูด้วง” ใบหม่อนพูดพร้อมรีบลงไปนั่งตักของหนูด้วงก่อน ทิ้งให้น้องไม้ยืนหน้าตึงเพราะอยากนั่งตักหนูด้วงเหมือนกัน

“มานั่งตักพี่ไหมครับ” สิงโตถาม

“พี่เขาชื่อสิงโต แข็งแรงเหมือนกัปตันอเมริกาเลยนะ” หนูด้วงหว่านล้อมน้องไม้เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยทำตัวสนิทกับใครง่ายๆ

“คิดงั้นเหรอ” สิงโตยิ้มกว้างก่อนจะหันมาถามหนูด้วงด้วยความดีใจ

“นั่งก็ได้” น้องไม้ตัดสินใจนั่งตักของสิงโต ส่วนน้องด้าวก็เลยต้องไปนั่งตักของนกฮูกแทน


มีต่อด้านล่างค่ะ
V
V
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-06-2018 12:45:56 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ต่อจากด้านบนค่ะ

สักพักเสียงของทำนุก็ดังผ่านไมโครโฟนเพื่อบอกให้ทุกคนรับรู้ว่าการแสดงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว “เพลงนี้เป็นเพลงเก่าที่หลายๆ คนอาจจะไม่เคยฟัง แต่ผมว่าทุกคนคงจะต้องเคยผ่านความรู้สึกนี้ ผมเชื่อว่าสักครั้งในชีวิตเราต่างต้องเคยภาวนาอยากให้ใครบางคนสบตาเรา เพราะคำบางคำมันดันไปชัดเจนที่ดวงตามากกว่าจะพูดออกไป พบกับเพลงนี้จากพี่นโม...สบตาครับ”

‘เธอเคยรู้ไหมว่าใคร เฝ้ามองตามแต่เธอไปทุกแห่ง เก็บเธอเป็นแรงให้ใจทุกวัน เก็บไว้มานาน’

เสียงนุ่มๆ จากคนสำคัญของหัวใจสะกดสายตาของหนูด้วงได้เหมือนเคย วันนี้พี่นโมเล่นกีต้าร์โปร่ง นั่งไขว้ห้างบนเก้าอี้ทรงสูง ปลายนิ้วยาวพลิ้วไหวกับสายกีต้าร์ให้สัมผัสล่องลอยได้เหมือนกับตอนสัมผัสคีย์บอร์ดจากเปียโน ถ้าให้ปลายนิ้วนั้นมาสัมผัสที่เส้นผมเบาๆ หนูด้วงคงนอนฝันดีทั้งคืน

‘หาก...ได้อยู่ใกล้ใกล้เธอ ฉันจะบอกกับเธอให้รู้ใจ สบตากับฉันลึกลงข้างใน ก็จะเข้าใจความหมาย’

แม้นกฮูกพยายามจะมองไปที่คนอื่นๆ ในวง แต่สุดท้ายสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่หนุ่มผมยาวคนเดิมอยู่ดี สายตาที่เรียบนิ่งและท่าทางที่เข้มขรึมยามได้จับเครื่องดนตรีที่ชอบมันยิ่งทำให้เจ้าตัวดูโดดเด่น แต่ถึงเขาจะยืนอยู่เฉยๆ ท่ามกลางผู้คนนับหมื่นเขาก็โดดเด่นสำหรับนกฮูก พี่ป้ายคงไม่รู้ว่าต่อให้แว่นนกฮูกจะไม่ชัดแค่ไหน...แต่พี่ป้ายก็ยังชัดเจนในความทรงจำของนกฮูกเสมอ

‘เห็นเงาในตาฉันไหม เห็นเธออยู่ในนั้นไหม รู้ใจกันบ้างไหม ว่าฉันนั้นคิดอะไร’

เม่นเองก็ไม่สามารถละสายตาออกจากน้องมิกิได้เลย ใครจะไปคิดว่าเพื่อนในวัยเยาว์จะกลายมาเป็นคนที่ทำให้หัวใจเต้นเพียงแค่ได้มอง ความรู้สึกมันซึมซับแบบช้าๆ แต่ค่อยๆ ชัดเจน รวมไปถึงพี่ประกาศที่แอบลอบมองหญิงสาวที่ดูมั่นใจตัวเองอย่างน้องเกลนั้นก็รู้สึกอินไปกับบทเพลงนี้ด้วยเช่นกัน

‘เห็นเธอมานานรู้ไหม ไม่เคยมองใครที่ไหน ขอเพียงสักครั้งแค่หันมา สบตาครั้งเดียว...ก็พอ’

คนที่อินที่สุดกับบทเพลงนี้เห็นจะเป็นสิงโต ถ้อยความหมายจากเนื้อเพลงทุกคำมันยิ่งตอกย้ำว่าตัวเองเฝ้ารอคนที่นั่งข้างๆ ให้หันมาสบตาสักครั้ง 12 ปีที่ผ่านมาสิงโตรู้ตัวดีว่าเงาในดวงตาของหนูด้วงมีแต่พี่ชายคนสำคัญ เขาเคยคิดมาตลอดว่าหากหนูด้วงมองมาสักครั้ง เขาจะสารภาพทุกสิ่งที่อยู่ในใจ แต่ก็ไม่มีเลย...ไม่มีเลยสักครั้งที่ดวงตาคู่นั้นจะหันมา

‘เพียงบอกฉันด้วยสายตา คิดยังไงบอกมาให้รู้บ้าง ไม่หวังให้เธอต้องเดินร่วมทาง แค่เธอเข้าใจ’

ทุกครั้งที่เหงาและรู้สึกโดดเดี่ยว โอบอุ้มจะบรรเทาความอ้างว้างนั้นด้วยการร้องเพลง เขาอ้อนวอนขออะไรก็ได้ ได้โปรดช่วยให้เสียงเพลงดังไปถึงคนสำคัญที่อยู่อีกฟากฟ้า เฝ้าหวังว่าจะได้ร้องเพลงพร้อมกับสบตาที่ดูใสบริสุทธิ์คู่นั้นเสมอ ยามที่เด็กน้อยเอียงคอมองมาแล้วทำท่าทางจดจ่อรอฟังรอเพลงที่เขาร้องและรอเต้นเพื่อสร้างความสุข มันก็ทำให้เขามีความสุขได้มากมายจริงๆ วันนี้เขาสมใจแล้ว...แม้เด็กน้อยคนนั้นจะเติบโตมากกว่าแต่ก่อน แต่ดวงตาที่มองมายังคงแสดงถึงความตั้งใจที่จะฟังเขาทุกถ้อยคำ

หนูด้วงเป็นคนเดียวบนโลกใบนี้ที่พร้อมจะฟังเขาเสมอแล้วเขาล่ะ...พร้อมจะบอกหนูด้วงหรือยัง

‘อยากให้เธอรู้ใจ อยากให้อยู่เป็นแรงของใจ เก็บความรู้สึกที่ดีมากมาย เก็บไว้ให้เธอคนเดียวเรื่อยไป’

มันไม่สำคัญเลยจริงๆ ว่าผู้ชายตรงหน้าจะผ่านอะไรมา มันไม่สำคัญเลยว่าเขามีเหตุผลอะไรที่หายไป ขอแค่ได้อยู่ใกล้กัน ขอแค่ได้จับมือเดินเคียงกันไป ได้อยู่เป็นแรงใจให้กันและกัน ขอแค่พี่โอบอุ้มกลับมาก็พอแล้ว แค่นั้นเองที่หนูด้วงต้องการ ต่อให้พี่โอบจะมีลูกอีกคนก็ตาม หนูด้วงก็จะอยู่เป็นกำลังใจให้พี่โอบ จะช่วยพี่โอบดูแล ขอแค่...

‘อย่ามีเมียมาอีกก็พอ’ คิกๆๆๆ

“พี่หนูด้วงขำอะไร” น้องหม่อนเงยหน้ามาถาม

“ไม่มีอะไรฮะ” หนูด้วงตอบน้องหม่อนแต่สายตามองไปที่พี่โอบแล้วก็แอบขยิบตาให้อีกฝ่าย พอพี่โอบยกยิ้มกลับมาหนูด้วงก็มองซ้ายมองขวาแล้วส่งจูบกลับไปให้อีกรอบ

แปะส่งจูบกลับมาเพราะนึกว่าหนูด้วงส่งจูบมาให้ตัวเอง หนูด้วงรีบส่ายหน้าแล้วยกมือขึ้นมาทำเป็นเครื่องหมายกากบาททันที เล่นเอาแปะทำหน้าเซ็งๆ เพราะนึกว่าจะมีแฟนคลับอย่างคนอื่นเขาบ้าง


ผู้คนเริ่มทยอยมานั่งฟังเพลงจากวงเดอะบ็อกซ์เพิ่มมากขึ้น เงินในหมวกเต็มไปหลายรอบจนหนูด้วงต้องพาเด็กๆ ไปช่วยถือหมวกรอรับเงินบริจาค จากวงดนตรีวงเล็กๆ ตอนนี้ชาวแก๊งเดอะซูผลัดกันมาช่วยร้อง ร้องเพี้ยนบ้าง ร้องดีบ้างแต่ก็สร้างความสนุกสนานให้กับคนฟังได้พอสมควร ช่วงที่สิงโตลุกขึ้นมาร้องเพลง กลุ่มนักศึกษาสาวๆ พากันเอาเงินมาทำเป็นพวงมาลัยไปคล้องให้ บางคนใจกล้าคว้าคอสิงโตให้โน้มลงมารับจูบ เล่นเอาสิงโตส่งไมค์คืนแล้วเดินหัวเสียกลับเข้าไปนั่งแอบในร้านกล่องดนตรีทันที


หนูด้วงเห็นว่าตะวันเริ่มจะตกดินแล้วเลยพาเด็กๆ กลับเข้าไปรอในบ้าน เด็กแฝดจับหนูด้วงทาหน้าขาวและทาปากสีแดง เอาผ้าขนหนูมาผูกคอให้แทนผ้าคลุม มัดผมของหนูด้วงเป็นจุกแล้วเอาผ้าขาวม้าของพ่อมาต่อให้เป็นผมยาวๆ เอากระบองเป่าลมมาทำเป็นดาบเพื่อที่จะให้หนูด้วงเล่นบทบาทสมมุติเป็นจอมยุทธ์ด้วยกัน

“ไม้...หม่อน...พี่หนูด้วงตายหลายรอบแล้วนะฮะ ยังจะให้ฟื้นอีกเหรอ” หนูด้วงบ่นกระปอดกระแปดเพราะเริ่มจะเหนื่อยกับการต้องกระโดดวิชาตัวเบาไปมาอยู่หลายรอบ

“พี่ไม่เก่งเลย” น้องไม้บ่นกลับไปบ้าง

“ไม่เก่งก็ได้ก็ได้ ยอมแพ้แล้ว” หนูด้วงยกมือยอมแพ้แรงเด็ก โดนทั้งน้องไม้เอากระบองเป่าลมฟาด โดนทั้งน้องหม่อนมานั่งทับจนอ่วมไปหมด

“ตายแล้ว น้องไม้น้องหม่อน ทำไมแกล้งพี่เขาแบบนั้นคะ” ‘ป้าประนอม’ แม่บ้านที่ช่วยโอบอุ้มดูแลบ้านและดูแลเด็กแฝดรีบเข้าไปช่วยอุ้มใบหม่อนที่นั่งทับตัวหนูด้วงออกให้

“เย้ ท่านแม่นางป้าประนอมแห่งวังมังกรหยกมาช่วยแล้ว” หนูด้วงยกมือดีใจ

“หนูรู้จักป้าด้วยเหรอคะ” ประนอมถามด้วยความประหลาดใจ ตัวเธอรู้จักหนูด้วงดีเพราะเธอเห็นมาตั้งแต่ยังเล็ก ได้เจอกับหนูด้วงหลายครั้งก็จริงแต่ตอนนั้นหนูด้วงยังเล็กมากเลยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะจำเธอได้

“ป้าประนอมเป็นแม่ของพี่หนอมไงฮะ”

“โถ จำป้าได้จริงๆ ด้วย”

“ป้ามาอยู่กับพี่โอ..เอ่อ พี่นโมนานแล้วเหรอฮะ”

“ค่ะ พอดีเห็นประกาศรับคนดูแลเด็กกับช่วยทำงานบ้าน ป้าว่างไม่มีอะไรทำเลยมาสมัคร”

“แล้วยุงพญารู้ไหมฮะว่าป้ามาอยู่ที่นี่ ปกติป้าไปทำความสะอาดให้ที่บ้านคุณตาไม่ใช่เหรอฮะ”

“อ๋อ เอ่อ...”

“ป้ามาแล้วเหรอครับ ผมฝากพาเด็กๆ ขึ้นนอนด้วยนะครับ ผมจะพารุ่นน้องไป...” โอบอุ้มพูดค้างเอาไว้เพราะเพิ่งเห็นสภาพของหนูด้วง

“ห้ามขำหนูด้วย” หนูด้วงรีบบอก

“หึหึ..” โอบอุ้มพยายามจะกลั้นขำ

“ได้ค่ะคุณนโม เดี๋ยวป้าจัดการต่อให้ ไปกันเถอะเด็กๆ เดี๋ยวป้าเล่านิทานให้ฟังนะ”

“นาโม...ให้พี่หนูด้วงนอนกับน้องหม่อนได้ไหม” ใบหม่อนรีบเข้ามาอ้อนพ่อ

“เอาไว้ให้พี่หนูด้วงไปขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่พี่เขาก่อนนะครับ ไม่ดื้อนะ เดี๋ยวคืนนี้พ่อจะกลับมานอนกอดไม้กับหม่อนนะ โอเคไหม”

“คร้าบบบบ” ไม้กับหม่อนตอบพร้อมกันแต่ก็ส่งสายตาอาลัยอาวรณ์มาให้หนูด้วงด้วย

“ถ้าหนูขอมัมกับแด๊ดได้ พี่จะให้หนูมาค้างกับพี่ได้จริงเหรอฮะ” หนูด้วงถามด้วยความดีใจ

โอบอุ้มไม่ได้ตอบแต่จูงมือหนูด้วงเดินเข้ามาในห้องน้ำ จากนั้นก็ยกตัวหนูด้วงขึ้นมานั่งตรงเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแล้วดึงทิชชูมาช่วยเช็ดหน้าให้อีกฝ่าย ทำเหมือนที่ทำให้ครั้งทุกสมัยเจ้าตัวแสบยังเด็กๆ

“จะลบออกไหม” โอบอุ้มไม่กล้าออกแรงเพราะกลัวอีกฝ่ายเจ็บ

“ถ้ายุงรู้นะต้องหัวเราะเยาะหนูแน่ๆ อาน้องเคยเล่าว่าตอนหนูเด็กๆ ก็แต่งหน้ายุงกับพี่ก้านจนเหมือนลิเกไปเลย”
“รู้ตัวใช่ไหมว่าเราน่ะตัวแสบ”

“หนูแค่ซนเพราะหนูเป็นเด็กฉลาดต่างหาก”

“หึหึ...” โอบอุ้มเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาชุบน้ำแล้วบรรจงเช็ดหน้าให้หนูด้วงด้วยความทะนุถนอม

ตึกตัก...ตึกตัก...

ใบหน้าของพี่โอบอยู่ใกล้หนูด้วงเพียงนิดเดียวใจมันเลยร้องประท้วงอยู่ในอก ใกล้จนเห็นคิ้วสีเข้ม ขนตาที่ยาวไม่แพ้กับของตัวเอง แต่ดวงตาเรียวยาวจนหนูด้วงเผลอตัวยกมือขึ้นมาลูบที่หางตาของพี่โอบเบาๆ

โอบอุ้มเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่าย สบสายตากันอยู่นาน แล้วโอบอุ้มก็วางผ้าขนหนูลงก่อนจะเท้าแขนลงบนเคาน์เตอร์

“เมื่อเช้ารู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป” โอบอุ้มถาม

“ที่หนูจุ๊บๆ พี่เหรอฮะ”

“อืม”

“ก็หนูตอบแทนที่พี่บอกรักหนูไง”

“พี่ไปบอกรักหนูตอนไหน” โอบอุ้มขยับตัวเข้าไปหา

“ก็พี่ให้ขนมคนรักกันกับหนูไงฮะ”

“หื้ม” โอบอุ้มทำหน้างงๆ

“ก็ ขนมครกไง นกฮูกบอกว่ามันคือขนมคนรักกัน”

“หึหึ...พี่ว่าไม่ใช่นะ”

“อ้าว แล้วมันคืออะไร คอรอกอ คนรักกัน ก็ถูกแล้ว”

“คอรอกอ คนรุกเก่งต่างหาก ถ้าพี่ทนไม่ไหวหนูจะแย่นะครับ” โอบอุ้มขู่ไม่จริงจัง

“ไม่แย่หรอก นกฮูกบอกว่า...ถ้าคนที่เรารักจูบเรา เราจะบินได้”

“หึหึ..”

“พี่ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอฮะ”

โอบอุ้มไม่ได้ตอบ เอาแต่จ้องหน้าของหนูด้วงอยู่นานเหมือนเคย ยิ่งเห็นอีกฝ่ายเอียงคอทำหน้าสงสัยก็เริ่มจะหมดความอดทน ไม่รู้ว่าเจ้าตัวแสบจะรู้บ้างไหมว่าตัวเองยั่วยวนเก่งแค่ไหน

'เห็นเงาในตาฉันไหม เห็นเธออยู่ในนั้นไหม รู้ใจกันบ้างไหม ว่าฉันนั้นคิดอะไร'

“งั้นหนูลองอีกรอบแล้วกัน”

ความอดทนของโอบอุ้มพังทลายลงเมื่อริมฝีปากนุ่มนิ่มของหนูด้วงทาบทับลงมา เมื่อทนไม่ได้อีกต่อไปก็ส่งลิ้นอุ่นเลียไปที่รอยแยกของริมฝีปากและแทรกเข้าไปทักทายอีกฝ่ายด้วยความแผ่วเบา

หนูด้วงทำตาโตเพราะตกใจกับสัมผัสแปลกใหม่ก่อนจะหลับตาลงและโอบรอบคอของพี่โอบอุ้มเอาไว้ ปลายเท้าเกร็งจนตะคริวแทบกินเพราะมันซาบซ่านจนขนลุกไปทั้งตัว อย่างที่อาน้องบอกจริงๆ ว่าจูบลึกซึ้งจากคนที่เรารักมันทำให้เราวาบหวิวและใจสั่น ทีแรกหนูด้วงไม่เข้าใจว่าจูบที่ลึกซึ้งคืออะไร แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่ามันคือการทักทายกันระหว่างน้องลิ้นกับน้องลิ้น เมื่อเข้าใจแล้วหนูด้วงก็ต้องทักทายตอบกลับไปบ้างเพื่อไม่ให้เสียมารยาทเจ้าบ้านที่ดี

โอบอุ้มรู้สึกแปลกใจเมื่อหนูด้วงตวัดปลายลิ้นของตัวเองต้อนปลายลิ้นของเขากลับมา แถมยังขบเม้มที่ริมฝีปากของเขาอีก เจ้าตัวแสบจูบเป็นได้ยังไงกัน!!

“หนูไม่เก่งเหรอฮะ” หนูด้วงเอียงคอถามเมื่อโอบอุ้มถอนจูบออก

“จูบเป็นได้ยังไง” โอบอุ้มถามเสียงเข้ม

“....ก็...ก็หนูจูบตามพี่โอบ” หนูด้วงหน้าเสียเพราะคิดว่าตัวเองทำอะไรผิด

“อย่าไปทำแบบนี้กับคนอื่นนะ...นะครับ” โอบอุ้มดึงตัวหนูด้วงมากอด

“หนูไม่ทำกับคนอื่น”

“พี่ขอโทษนะ พี่ไม่มีสิทธิ์ห้ามหนูด้วงด้วยซ้ำ” โอบอุ้มรู้สึกเกลียดตัวเองที่เอาแต่ใจ หึงบ้าบอจนหนูด้วงหน้าเสีย

“มีสิฮะ พี่มีสิทธิ์ ต่อให้พี่ไม่ห้ามหนูก็จะไม่ทำแบบนี้กับใคร”

“พี่ขอโทษสำหรับทุกอย่าง พี่ขอโทษจริงๆ”

“หนูยกโทษให้ทุกอย่างทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม หนูยกโทษให้” หนูด้วงยิ้มให้อีกฝ่าย เป็นรอยยิ้มที่เยียวยาหัวใจของโอบอุ้มได้เป็นอย่างดี

“ขอบคุณครับผู้วิเศษของพี่”

“สรุปว่าหนูจูบเก่งไหม”

“เก่ง”

“เย้...หนูเก่ง”

“ตัวแสบ” โอบอุ้มอดไม่ได้ต้องทดลองจูบคนเก่งอีกสักรอบเพื่อความมั่นใจ

โลกของสิงโตเหมือนว่าจะพังทลายลงเดี๋ยวนี้เมื่อเขาเข้ามาเห็นหนูด้วงจูบกับผู้ชายที่มีลูกแล้วถึงสองคน ที่ผ่านมาเขายอมเป็นคนนอกสายตา ขอได้อยู่ดูแลหนูด้วงแม้ว่าในหัวใจของหนูด้วงจะเก็บแต่ผู้ชายที่ชื่อโอบอุ้มเอาไว้เพียงคนเดียว ยินดีที่จะรอ รอจนกว่าหนูด้วงจะทำใจได้ว่าพี่โอบอุ้มไม่กลับมาแล้วมองมาที่เขาบ้าง แต่สุดท้ายแล้วในสายตาของหนูด้วงก็ไม่มีแม้แต่เงาของผู้ชายที่ชื่อสิงโตคนนี้อยู่ดี

‘เห็นเธอมานานรู้ไหม ไม่เคยมองใครที่ไหน ขอเพียงสักครั้งแค่หันมา สบตาครั้งเดียว...ก็พอ’    


เกาะใบไม้คราม

“น้อง ไปสอนอะไรหลานวะ”

“สอนอะไร”

“อย่ามาทำซึนใส่พี่ เมื่อวานพี่แอบฟังอยู่ ได้ยินว่าจูบๆ หนูด้วงไปจูบอะไรกับใคร สารภาพมา” อันที่จริงพญาตั้งใจจะถามเทียมฟ้าตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่พอจะอ้าปากถามอีกฝ่ายก็เข้ามานัวเนียจนได้เรื่อง กว่าจะจัดการเจ้ากระต่ายจนหมดแรงก็ปาไปเกือบเช้า

“ก็น้องมีหน้าที่สอนเพศศึกษาให้หนูด้วง”

“ใครไปแต่งตั้งตำแหน่งนี้ให้คุณครับคุณชายน้อง”

“ทำไมล่ะ พี่จะบอกว่าน้องไม่มีสิทธิ์สอนหนูด้วงใช่ไหม”

“อ้าวๆ หาเรื่องงอนใส่กูอีก มานี่เลยไอ้แสบใหญ่ พี่ถามดีๆ นะครับ น้องไปสอนอะไรหลาน เล่าให้พี่ฟังหน่อย” พญารีบเปลี่ยนน้ำเสียงเพราะถ้าทำให้คุณชายหม่อมงอนจะเป็นเรื่องใหญ่

“ก็หลานมาถามว่าจูบมันมีกี่แบบ น้องก็แค่สอนไป เด็กมาถามเราแบบนี้ก็ดีกว่าเขาไปศึกษาเอาเองนะครับ เรื่องพวกนี้เราจะทำเป็นเรื่องต้องห้ามไม่ได้ ปัญหาสังคมเชียวนะ เพราะไม่ได้รับความรู้ที่ถูกต้องถึงได้ท้องกันโครมๆ น้องก็แค่อยากช่วยหลาน ช่วยสังคม”

“แล้วหนูด้วงมันท้องได้เหรอ”

“ถึงท้องไม่ได้แต่ก็ต้องป้องกัน เดี๋ยวกลับมาเที่ยวนี้น้องจะสอนหนูด้วงใส่ถุงยาง”

“เฮ้ย ไม่ต้องหรอกมั๊ง” พญาสะดุ้งกับการอยากเป็นครูของคนรัก

“ทำไม อย่าบอกนะว่าหึงแม้กระทั่งหลาน”

“ไม่ใช่แบบนั้น แต่พี่ว่า...หนูด้วงมันคงไม่ได้จิ้มใครหรอก” พญาพูดไปขำไป

“พี่พญา!! พี่แขวะน้องใช่ไหม น้องก็ไม่ได้จิ้มใครเหมือนกันนะ”

“อ้าวๆๆ ไม่ต้องมางอนกู ถ้ามึงลองไปจิ้มใครกูเอาตาย”

“ขี้หึงนะเรา” เทียมฟ้ายกยิ้มก่อนจะหอมแก้มพญาแรงๆ แล้วก็เดินผิวปากออกจากห้องไป

“กูว่ามันต้องเป็นไบโพล่าร์แน่ๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย”

“น้องได้ยินนะ ว่าน้องเป็นไบโพล่าร์เหรอ” เทียมฟ้าตะโกนเข้ามา

“ได้ยินอะไร หูหาเรื่อง พี่บอกว่ามีแฟนยั่วเก่งคงต้องกินไวอาก้าเสียแล้ว” พญารีบตะโกนกลับไปก่อนจะพรูลมหายใจ นึกในใจว่าเจ้ากระต่ายมันต้องจบจากโรงเรียนสอนเป็นสายลับแน่ๆ นอกจากจะบู้เก่งแล้ว ฝีมือการจับผิดยังไม่มีใครเกินคนรักของตัวเองเลยจริงๆ

โปรดติดตามตอนต่อไป

สิงโตอย่าเสียใจไปนะ มาซบอกพี่มามะ วันนี้ยังไม่ใช่วันของหนูนะลูก
แต่เดี๋ยวคู่แท้ของหนูก็ปรากฏ..พี่มั่นใจ ความรักในวัยว้าวุ่นมันก็เป็นแบบนี้ค่ะคุณผู้อ่าน
ส่วนปี้หนูด้วนศิษย์อาน้อนของเราก็...ค.ร.ก.จริง!! ยั่วเยสเปเชียลฉุดๆ 5555
ขอบคุณที่ติดตามและมาคอมเมนท์กันทุกช่องทาง ขอบคุณที่ช่วยเตือนคำผิดด้วยนะคะ
ถ้าอย่างไรแท็กว่า #หนูด้วง เวลาเขียนถึงในทวิตให้ด้วยก็จะกราบงามๆ
เลิฟจะได้ตามไปอ่านได้ด้วย รักๆๆๆ ขอให้มีความสุขกับชาวแก๊งทุกแก๊งนะคะ


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
ที่ปรึกษาหนูด้วงแต่ละด้านไว้ใจได้ทุกคน รับรองถูกต้อง ตรงตามความต้องการ โดยเฉพาะเรื่องเพศศึกษา ปรึกษาอาน้องถูกต้องที่สุด

กลุ่มชมรมกล่องดนตรี ดูจะหาคู่ได้ทุกคนแล้ว ขาดแต่พี่ทำนุ และพี่แปะ  ใครจะมาดามใจ  ส่วนกลุ่มเดอะซู  ขาดก็แต่สิงโตที่ยังหาคู่ไม่ได้  ยังไงก็อย่าเป็นส้มโอ หรือเชอรี่ก็แล้วกัน 555

ตอนนี้อยากรู้ในส่วนของพี่โอบว่าทำไมถึงเปลี่ยนเป็นพี่นโม เพราะสงสัยตั้งแต่บอกว่าพี่โอบเป็นตำนานของ ม.โซเลย แสดงว่าพี่โอบกลับมาเมืองไทยนานแล้วแน่

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
ฮือเราเสียใจเราเจ็บแทนสิงโต :o12: :o12: :o12: หวังทั้งที่รู้ว่าไม่มีหวังนี่มันเจ็บนะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
พี่โอดอุ้นมีลูกเพราะจะพิสูจน์อะไรหรือเปล่านะ

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
สิงห์โตไม่ต้องเสียใจลูก ดูยุงไว้ก็ได้ แต่ก่อนยุงก็รักพี่นับตังค์ มากๆๆ ตอนนี้เป็นไงหลงอาน้อน จนเข้าชมรมคนกลัวเมียไปแล้ว ถ้าไม่มีใครมาใหม่ พี่ทำนุคู่กับสิงห์โตก็ได้อยู่นะ  หนูด้วงแสบเล็กอาน้อนแสบใหญ๋  หนูด้วงได้อาจารย์ดี เก่งทุกศาสตร์ เด็ดเด็ด

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
หนูด้วงที่ปรึกษาหนูเด็ดๆ ทั้งนั้น
โดยเฉพาะอาน้อง ถูกคนจริงๆ ไม่เชื่อถามยุง

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
ที่ปรึกษาหนูด้วงแต่ละคน สุดยอดมากๆ o13 o13 o13

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ขอโฟกัสไปที่นกฮูกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
สิงโตสักวันก็จะมีคนที่ใช่ของตัวเองเข้ามา เหมือนกับที่ครั้งหนึ่งลุงพญาเคยชอบนับตังค์แล้วอกหักจนมาเจอคุณชายน้องไง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เพลงรักที่หายไป
เพลงที่ 7 เพียงแต่วันนั้น
ศิลปิน แอนนา โรจน์รุ่งฤกษ์


โอบอุ้มให้หนูด้วงชวนเพื่อนๆ ทุกคนไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าดังที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้านกล่องดนตรีก่อนจะกลับหอ แม้ทุกคนจะกินขนมจุกจิกกันจนอิ่มแล้วแต่หนูด้วงก็อ้อนให้เพื่อนๆ อยู่กินด้วยกันก่อนเพราะยังอยากใช้เวลากับพี่โอบอุ้มให้นานที่สุด

“เมื่อเย็นไม่ได้กินข้าวเลยนี่ เอาแต่เขี่ยเล่น ตอนนี้เลยหิวใช่ไหม” น้องเกลถามเชิงบ่น

“ก็ตอนนั้นมันไม่หิว แต่ตอนนี้มันหิวสุดๆ” หนูด้วงลูบท้องของตัวเองเพื่อยืนยันคำพูด

“ไปกินสิ” สิงโตเดินมาวางมือบนไหล่ของหนูด้วงแต่สายตามองจ้องไปที่โอบอุ้มตลอดเวลา

“สิงโตน่ารักที่สุด” หนูด้วงยิ้มกว้างเมื่อเพื่อนรักตอบรับคำชวน

“น่ารักแล้วทำไมไม่รัก” สิงโตพูดจบบรรยากาศโดยรอบก็เงียบกริบ “ล้อเล่น” สิงโตโอบไหล่ของหนูด้วงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย

“ไปกันเถอะ ชักจะหิวเหมือนกัน พี่นโมเลี้ยงใช่ไหมครับ ผมจะได้กินให้ท้องแตกเลย” เม่นรีบเปลี่ยนบรรยากาศ

“จัดไป” โอบอุ้มยักคิ้วให้เม่น

“แล้วพี่ไม่พาลูกไปเหรอครับ” สิงโตเน้นคำว่าลูก

“เขาทานกันแล้ว”

“แล้วเขาจะอยู่กับใครล่ะครับ อ๋อ..คงอยู่กับแม่ แล้วแฟนพี่อยู่ที่ไหนเหรอครับ ผมอยากไปสวัสดีเสียหน่อย” สิงโตถามเองตอบเองเสร็จสรรพ เพื่อนในกลุ่มต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่กเพราะปกติสิงโตไม่ใช่คนพูดมากขนาดนี้

“ผมเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวมาตั้งแต่พวกเขาเกิด” โอบอุ้มตอบคำถามไปตรงๆ

หนูด้วงมองหน้าโอบอุ้มทันทีที่ได้ยิน คำถามที่หนูด้วงเองก็อยากจะถามแต่ไม่กล้า ถึงจะเดาออกว่าพี่โอบอาจจะเลิกรากับแม่ของน้องแฝดแล้วแต่ก็ไม่คิดว่าพี่โอบจะต้องเลี้ยงน้องแฝดคนเดียวมาตั้งแต่เกิด พอได้รู้ก็รู้สึกสงสารโอบอุ้มและน้องแฝดสุดหัวใจ

“ถ้าอย่างนั้นผมพาเพื่อนๆ ไปกินก๋วยเตี๋ยวเองก็ได้ครับ พี่จะได้ดูแลลูกของพี่ ไม่อยากรบกวน”

“น้องมีปัญหาอะไรกับพวกพี่หรือเปล่าครับ” ป้ายเป็นฝ่ายถาม จนกระทั่งโอบอุ้มแตะที่แขนของป้ายเพราะไม่อยากให้มีปัญหากัน

“สิงโต ถ้านายไม่หิวก็กลับก่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันพาหนูด้วงกลับเอง” เม่นรีบตัดบทก่อนเพื่อนสนิทจะทำบรรยากาศให้เสียไปมากกว่านี้

“ไม่เป็นไร ถ้าสิงโตไม่กินเรากลับเลยก็ได้” หนูด้วงมองหน้าสิงโตแล้วยิ้มให้

“ไปเถอะ” สิงโตถอนหายใจก่อนจะดันตัวหนูด้วงให้เดินไป

ร้านก๋วยเตี๋ยวที่โอบอุ้มชวนทุกคนมากินไม่ได้ขายแค่ก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียว แต่ขายอาหารทุกอย่างที่เป็นเส้น เจ้าของร้านสนิทสนมคุ้นเคยกับสมาชิกวงเดอะบ็อกซ์เป็นอย่างดีเนื่องจากเป็นลูกค้าขาประจำกันอยู่ ‘พี่เปิ้ล’ ชายหนุ่มรูปร่างท้วมซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ‘คนมีเส้น’ เองก็อุดหนุนหมาล่ากับบาร์บีคิวที่ร้านกล่องดนตรีเป็นประจำเหมือนกัน

“โอ้โห วันนี้มากันเยอะเลย นั่งก่อนๆ” พี่เปิ้ลออกมาต้อนรับทุกคนด้วยตัวเอง

“นี่พี่เปิ้ลเจ้าของร้าน ใจดีมีเมตตาแต่อย่ากวนบาทาจะโดนดี” แปะแนะนำเจ้าของร้านให้น้องๆ ได้รู้จัก น้องทุกคนยกมือไหว้พี่เปิ้ลโดยพร้อมเพรียง

“เจ๋ง มีสโลแกนประจำตัวด้วย” เม่นยกนิ้วให้พี่เปิ้ล

“มึงนั้นแหละจะโดนคนแรกไอ้แปะ” พี่เปิ้ลยิ้มให้เม่นก่อนจะชี้หน้าแปะ

“ผมหิวแล้ว มีอะไรที่สั่งปุ๊ปได้กินปั๊ปบ้างครับพี่เปิ้ล” แปะยังคงกวนบาทาเจ้าของร้านต่อ

“อากาศไงมึง สั่งปุ๊ปก็อ้าปากโกยเข้าไป กูไม่คิดเงินด้วย แต่ถ้ามึงไม่อยากโกยอากาศเข้าปากกูจะเตรียมโลงเอาไว้ให้เพราะมึงเป็นลูกค้าระดับสูง”

“สูงเท่าไหนหรือพี่” แปะยังทำหน้าทะเล้นถามต่อ

“เท่าเมรุ สูงพอไหมมึง”

“ฮ่าๆๆ โดนเลยจริงๆ”

บรรดาน้องๆ หัวเราะขำที่พี่แปะโดนพี่เปิ้ลจัดให้จนได้ แต่โอบอุ้ม ทำนุ ป้ายและกาดได้แต่ยิ้มน้อยๆ เพราะรู้กันดีว่าสองคนนี้เป็นคู่ปรับกันตลอดกาล พี่เปิ้ลเองก็จบมาจากมหา’ลัยซอเลยเหมือนกัน ติดใจบรรยากาศของที่นี่ พอจบก็เลยมาเปิดร้านอยู่ ไม่ยอมกลับกรุงเทพบ้านเกิด

“เออๆ ผมยอมแพ้พี่แล้ว สั่งเลย น้องๆ รีบสั่งก่อนเจ้าของร้านจะความดันขึ้น” แปะรีบส่งรายการอาหารแจกน้องๆ ทุกคน

“พี่เปิ้ล ผมเอาเส้นใหญ่ ใส่ตำลึง เอาน้ำตกนะ เครื่องในเอาแต่หัวใจ ไม่ใส่ชูรสครับ” ทำนุสั่งเมนูโปรด

“ไอ้ป๊อป ของไอ้นุลึงใหญ่ตกใจไม่ชู” เปิ้ลตะโกนบอกลูกน้องที่เป็นผู้ช่วยอีกต่อ

“โธ่พี่เปิ้ล...หมดกัน ผมยังเตะปี๊บดังนะ” ทำนุยิ้มแห้งๆ เมื่อน้องๆ พากันหัวเราะเมนูย่อของตัวเอง

“ผมเอาเส้นเล็กแห้งใส่ไข่ออนเซนด้วย” แปะสั่งบ้าง

“ของไอ้แปะไข่เล็กและแห้ง”

“ก๊ากกก”

“ของผมเส้นใหญ่ใส่ทุกอย่าง ขอน้ำเขียวแต่ไม่ใส่น้ำแข็งครับพี่เปิ้ล เสียงแหบต้องงดของเย็นๆ” กาดสั่งเสียงเบาด้วยความนอบน้อมเพราะกลัวโดนเล่นงานจากเจ้าของร้าน

“ของไอ้กาดใหญ่ทุกอย่างแต่เขียวและไม่แข็ง”

“จบ จบกัน” กาดเอามือปิดหน้าเมื่อเห็นน้องเกลหัวเราะจนน้ำหูน้ำตาไหล

“จะสั่งอะไร” โอบอุ้มหันมาถามหนูด้วงที่นั่งหน้าตื่นอยู่

“หนูไม่กล้าสั่งเลยฮะ” หนูด้วงกระซิบกลับ

“แล้วหนูอยากกินอะไร บอกพี่สิ พี่สั่งให้” โอบอุ้มอยากจะหอมแก้มคนที่นั่งข้างๆ ใจจะขาด ท่าทางกระซิบกระซาบทำปากขมุบขมิบมันน่ารักจนแทบอดใจไม่ไหว

“หนู นกฮูกแล้วก็น้องเกลอยากกินอุด้งแกงกระหรี่ แต่ไม่กล้าสั่ง” หนูด้วงพยายามพูดให้เบาที่สุด แต่พอดีพี่เปิ้ลหันมามองแล้วอ่านปากของหนูด้วงออกเลยตะโกนสั่งให้

“ตรงนี้กระหรี่สาม อ่อ..เส้นอุด้งนะ”

“พี่เปิ้ลอ่า!!!” หนูด้วง นกฮูกและน้องเกลตะโกนโวยวายขึ้นพร้อมกัน

“ไอ้ป้าย มึงไม่ต้องวางมาดเข้ม จะเอาแบบเดิมไหม” พี่เปิ้ลถาม

“ผมไม่กิน” ป้ายรีบบอก

“พี่ป้ายชอบทานอะไรครับ ผมจะได้ทานบ้าง อยากเท่เหมือนพี่” เม่นรีบถาม ป้ายทำท่าจะห้ามพี่เปิ้ลแต่ไม่ทันแล้ว

“ของไอ้ป้าย หมี่ดำน้ำขลุกขลิก เด็ดและเผ็ชชชชขั้นสุด” พี่เปิ้ลออกสำเนียงฝรั่งโชว์

“เจ๋ง อะไรเด็ดครับพี่ป้าย” เม่นทำหน้าชื่นชมไอดอลของตัวเองอย่างที่สุด

“มันชอบกินถั่วงอกเด็ดหัวออกน่ะ” แปะเป็นฝ่ายอธิบายเพราะตอนนี้ป้ายยกมือมากุมขมับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แค่การสั่งอาหารในร้านคนมีเส้นของพี่เปิ้ลก็ทำให้บรรยากาศที่น่าอึดอัดเมื่อครู่กลับกลายมาเป็นความสนุกสนานอย่างง่ายดาย รสมือของพี่เปิ้ลทำให้ทุกคนลืมความอิ่มที่มีก่อนหน้านี้ไปสิ้น แต่กว่าที่ทุกคนจะได้กินก็ต้องรอหนูด้วงเดินวนถ่ายรูปอาหารจนครบทุกจานเพราะเจ้าตัวแสบบอกว่าต้องถ่ายส่งไปให้ปู่ช้วนดูว่าที่นี่มีอะไรน่ากินบ้าง

สิงโตแอบลอบสังเกตหนูด้วงกับนโมตลอดเวลา แม้ทั้งคู่ไม่ได้แสดงออกว่ามีใจให้กันผ่านท่าทางแต่สายตานั้นมันกลับชัดเจน มันทำให้สิงโตมีคำถามเกิดขึ้นในหัวว่าตัวเองด้อยกว่าผู้ชายคนนั้นตรงไหน หนูด้วงเพิ่งจะเจอกับผู้ชายคนนี้ไม่กี่วันเองแต่กลับตกหลุมรักเขาง่ายๆ แล้วพี่โอบอุ้มคนที่เคยรอคอย คนที่สิงโตต้องฟังชื่อของเขาซ้ำไปซ้ำมาอยู่ตั้ง 12 ปี หนูด้วงลืมได้แล้วอย่างนั้นเหรอ

‘ได้เพียงพบกัน ดังฝันวันวาน พ้นวันผ่านเนิ่นนานฝันลอย ได้เพียงนึกกลัว มัวคิดมัวคอย ฝันเคยใกล้นั้นจึงไกลกัน’

“เพลงนี้ชื่อเพลงอะไร” เพลงที่พี่เปิ้ลเปิดมันโดนใจของนกฮูกเขาอย่างจัง แต่ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยอยากรู้

‘วันนั้น เพียงแต่วันนั้น บอกเขาไปเหมือนใจ บอกว่ารักนี้มีไว้เพียงไร เขาคงอยู่รู้ใจเราจริง’

สิงโตเองก็ไม่ต่างจากนกฮูก เนื้อเพลงมันตอกย้ำให้เขารู้สึกปวดหนึบอยู่ข้างในหัวใจ รู้สึกเคว้งคว้างใจหายคล้ายว่าของที่เคยอยู่ใกล้ๆ และเคยเห็นอยู่ตลอดเวลากำลังจะหายไป

‘ได้เพียงฝันไป ไม่คิดลองทำ ทั้งที่เคยฝันมาเหมือนใจ กลับไม่คว้ามันให้รู้กันไป ทิ้งโอกาสฝันจึงไกลเกิน’
 
“เพียงแต่วันนั้น” โอบอุ้มเป็นคนตอบ

“หนูชอบ” หนูด้วงหันไปยิ้มให้โอบอุ้ม

สิงโตไม่อยากเห็นภาพตรงหน้าเลยก้มหน้ากินก๋วยเตี๋ยวในชามของตัวเองต่อไปแบบเงียบๆ มันผิดที่เขาเองที่โยนโอกาสของตัวเองทิ้งไป ผิดเองที่ไม่เคยสารภาพกับหนูด้วงว่าตัวเองคิดอย่างไร แม้ว่าจะโดนปฏิเสธก็ยังดีกว่าไม่มีโอกาสพูดออกไปเหมือนอย่างตอนนี้

“สิงโต เราให้เทมปุระ ของโปรดของสิงโต” หนูด้วงคีบเทมปุระมาวางในชามของสิงโต

“ทำไมหนูด้วงไม่กิน” สิงโตถามเสียงเบา

“อะไรที่เราให้สิงโตได้ เรายินดีนะ”

“อืม...ขอบใจนะ” สิงโตคีบเทปุระมากินแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย

‘วันนั้น เพียงแต่วันนั้น บอกเขาไปเหมือนใจ’

...มันคงไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้วจริงๆ...

...

เมื่ออิ่มท้องกันแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันกลับ น้องเม่นพาน้องมิกิไปส่งพร้อมกับน้องเกล ส่วนหนูด้วงกับนกฮูกก็กลับพร้อมสิงโตตามเดิม แม้ใจของหนูด้วงอยากจะอยู่ต่อแต่ก็ต้องตัดใจ แต่ในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันหยุดก็แอบอ้อนให้พี่โอบมารับตั้งแต่เช้าเพราะอยากมาเล่นกับน้องแฝด โอบอุ้มตอบตกลงเพราะอยากอยู่ใกล้ๆ หนูด้วงไม่ต่างกัน 

หลังจากที่โอบอุ้มกับป้ายออกมายืนส่งรุ่นน้องขึ้นรถกลับกันไปหมดแล้วป้ายก็หันมาพูดกับโอบอุ้ม

“ถ้าเด็กคนนั้นเป็นผู้หญิง ผมต้องนึกว่าเป็นแม่ของเจ้าแฝดแน่ๆ”

“หึหึ...”

“พี่จะไม่ถามผมเหรอว่าทำไมผมถึงคิดแบบนี้”

“ถ้าอยากพูดก็พูด”

“ใบหม่อนหน้าเหมือนหนูด้วงมาก ปาก ตา จมูก”

“เหมือนเหรอ”

“ผมว่าเหมือน”

“ไม่เหมือนหรอก เจ้าแฝดดื้อกว่าเยอะ”

“พี่พูดอย่างกับรู้จักหนูด้วงมานานแล้ว”

“แล้วมึงกับนกฮูกล่ะ”

“พี่สังเกตด้วยเหรอ ผมนึกว่าพี่จะมองแต่หนูด้วง”

“หึหึ เห็นเงียบๆ เก็บทุกรายละเอียดเลยนะ”

“ไม่ต้องถึงกับสังเกตหรอกพี่นโม มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าพี่ชอบหนูด้วง”

“นกฮูกเป็นเด็กดีนะไอ้ป้าย” โอบอุ้มไม่ได้ตอบเรื่องของตัวเองแต่พูดลอยๆ ขึ้นมาก่อนจะเดินกลับเข้าไปที่ร้าน ปล่อยให้ป้ายยืนล้วงกระเป่าทำเท่อยู่หน้าร้านตามลำพัง

“ก็เพราะเขาเป็นเด็กดีไง” ป้ายถอนหายใจ พึมพำเบาๆ ก่อนจะเดินตามโอบอุ้มไป   

‘บอกว่ารักนี้มีไว้เพียงไร เขาคงอยู่รู้ใจเราจริง’

...

หนูด้วงพี่น้องด้าว พูดชัดแล้ว Thezoo กำลังรู้สึกปลื้มใจกับนาฬิกาเรือนใหม่

3 นาที. Soleil International University.

ชีวิตเดิม คนเดิม กับเวลาใหม่ที่กำลังเริ่มต้น

พญา ผู้ยิ่งใหญ่ , คุณแปะแฝดท่านป้าย Thebox และคนอื่นๆ อีก 54 คน กำลังถูกใจโพสต์ของคุณ


Nightingale Thezoo : ถึงหอแล้วเหรอ จะนอนรึยัง

หนูด้วงพี่น้องด้าว พูดชัดแล้ว Thezoo : ยังเลยน้องเกล อิ่มอยู่ ขอย่อยก่อน

Porcupine อย่าเติมNหลังR Thezoo : เจ๋งงงง สวยอะ ปกติเห็นใส่แต่เรือนเก่า

พญา ผู้ยิ่งใหญ่ : ใครซื้อให้

หนูด้วงพี่น้องด้าว พูดชัดแล้ว Thezoo : หนูม่ายยยยบอก

มีตัง คือ มีคุณกับนับตังค์ : ถึงกับยอมถอดเรือนเก่า?

หนูด้วงพี่น้องด้าว พูดชัดแล้ว Thezoo : หาวววววว ง่วงดีกว่า

พญา ผู้ยิ่งใหญ่ : ต้องสืบ เรื่องนี้มันมีเงื่อนงำ สืบกันมะ มีตัง คือ มีคุณกับนับตังค์

มีตัง คือ มีคุณกับนับตังค์ : ไม่ต้องยุ่งเรื่องของหลาน ไปกล่อมแฟนนอนนะลุง พญา ผู้ยิ่งใหญ่

หนูด้วงพี่น้องด้าว พูดชัดแล้ว Thezoo : อิอิอิ หนูรักมัมที่ซู๊ดดด

พญา ผู้ยิ่งใหญ่ : เพื่อนไม่รัก หลานก็ไม่รัก ไปนอนก็ได้

Porcupine อย่าเติมNหลังR Thezoo : แต่ผมรักยุงนะครับ ยุงคือไอดอล

พญา ผู้ยิ่งใหญ่ : เจ้าเม่นพูดดี เอาเลขที่บัญชีมา

Porcupine อย่าเติมNหลังR Thezoo : เกรงใจ...เดี๋ยวหลังไมค์ไปนะครับ 5555

พ่อคุณของแม่คุณ : อย่าลืมถ่ายรูปของกินมาลงบ้างนะเจ้าด้วง

หนูด้วงพี่น้องด้าว พูดชัดแล้ว Thezoo : ถ่ายเอาไว้เพียบเลยฮะปู่ พรุ่งนี้หนูส่งให้นะ อร่อยสุดยอด

Mink OnlyYYYYY : รีเควสรูปได้เหรอคะ ถ้างั้นพี่มิ้งขอรูปหนูด้วงเยอะๆ เลยนะคะ หรือจะรูปคู่กับน้องสิงโตก็ได้

ฮอนกฮูกตาไม่โต Thezoo : หนูด้วง ไปอาบน้ำ!!

ป้ายพี่ไอ้แปะ Thebox : ดุจังครับ ฮอนกฮูกตาไม่โต Thezoo

คุณแปะแฝดท่านป้าย Thebox : แน่นแน่!

Pragad ไม่ใช่ปลากัด Thebox : แน่นแน่!

Tumnu Thebox : แน่นแน่!

หนูด้วงพี่น้องด้าว พูดชัดแล้ว Thezoo : อีโนไหมฮะพี่ๆ หายแน่นแน่ๆ คลายกรด ลดแน่นเฟ้อ (ส่งรูปอีโนรสส้ม)

Nightingale Thezoo : มันมาจากคำว่า ‘นั่นแน่’ ค่ะหนูด้วง เขาแซวคนสองคนกันอยู่ค่ะหนู

Pragad ไม่ใช่ปลากัด Thebox : น้องเกลเก่งจังครับ

คุณแปะแฝดท่านป้าย Thebox : แน่นแน่!

Porcupine อย่าเติมNหลังR Thezoo : แน่นแน่!

Tumnu Thebox : แน่นแน่!

หนูด้วงพี่น้องด้าว พูดชัดแล้ว Thezoo : แน่นแน่! นกฮูก แน่นแน่ น้องเกล แน่นแน่ แน่นแน่ แฮร่

ฮอนกฮูกตาไม่โต Thezoo : ไปอาบน้ำ 1 ไปอาบน้ำ 2 ไปอาบน้ำ 3

หนูด้วงพี่น้องด้าว พูดชัดแล้ว Thezoo : ย๊ากก ไปแล้วก็ได้ก็ได้ หนูไปก่อนนะทุกคนทุกคน แน่นแน่!

Namo CanonInD : หึหึ...

Mink OnlyYYYYY : กรี๊ดดดด พี่นโมมีเฟสบุ๊กนี่นา เรื่องนี้ต้องประกาศ

VJja Feathergroup : OMG พี่นโม

หนูด้วงยิ้มกว้างเมื่อเห็นพี่โอบมาคอมเมนต์ในเฟสบุ๊กของตัวเองด้วย แม้จะมาแค่ ‘หึหึ’ ก็มีความสุขแล้ว เพิ่งจะตามแอดกันครบทุกคนก็ตอนที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวกันอยู่ แต่ในเฟสบุ๊กของพี่โอบไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เลย นอกจากลงเพลงทุกวัน หนูด้วงกำลังจะเปิดฟังเรียงไปเรื่อยๆ เพราะอยากรู้ว่าพี่โอบฟังเพลงอะไรบ้าง แต่ตัวเองก็ดันมาลงรูปนาฬิกาที่พี่โอบให้เสียก่อน ลงแค่ไม่กี่นาทีมีคนมากดไลค์ แถมยุงพญายังมาคอมเมนต์สงสัยอีก หนูด้วงเลยไม่กล้าพิมพ์อะไรเยอะกลัวถูกจับได้ โชคดีที่มัมกับเพื่อนๆ มาช่วยกันคอมเมนต์พานอกเรื่องไป ยุงพญาถึงได้เงียบไป

“โห นกฮูกดูดิ พี่โอบพิมพ์มาแค่หึหึแต่คนกดไลค์เยอะกว่าเราอีก” หนูด้วงเห็นคนมากดไลค์พี่โอบเยอะก็อยากอวดเพื่อน หันไปพูดกับนกฮูกแต่อีกฝ่ายเงียบไปพอหันไปมองก็เห็นว่าอีกฝ่ายนั่งอมยิ้มอยู่กับโทรศัพท์ หนูด้วงเลยเดินเข้าไปหาพร้อมพูดว่า ‘แน่นแน่’ เสียงดัง

“อะไร” พอได้ยินคำว่า ‘แน่นแน่’ นกฮูกเลยต้องรีบละสายตาจากโทรศัพท์มายังคนที่ส่งเสียงแทน

“นกฮูกชอบพี่ป้ายใช่ไหม” หนูด้วงถามตรงๆ

“ไปอาบน้ำ..สี่...” นกฮูกเริ่มนับต่อเพราะถ้าถึงห้าเมื่อไหร่หนูด้วงจะโดนนกฮูกจี้เอวไม่หยุด

“โหย ก็ได้ก็ได้ ก็เราอยากรู้อ่า เวลาอยากรู้มันคันในหัวใจนะรู้ไหม สบู่อะไรก็ฟอกไม่หาย” หนูด้วงเดินไปบ่นไปจนนกฮูกต้องแอบขำ

“แปลก พักนี้ไม่เห็นเขียนเมล์หาพี่โอบเลย” นกฮูกนึกสงสัยเพราะปกติเพื่อนสนิทจะใช้เวลาสามสี่ชั่วโมงแชทกับพี่ชายคนสำคัญผ่านเมล์ แล้วก็ไม่เคยใช้โทรศัพท์พิมพ์ จะมานอนพิมพ์คอมแล้วกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงจนนกฮูกต้องเตือนให้ไปอาบน้ำทุกที

“สงสัยหนูด้วงจะตกหลุมรักพี่นโมจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วจริงๆ”

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นทำให้นกฮูกเลิกคิดถึงเรื่องหนูด้วงกับพี่นโม เมื่อเปิดประตูออกก็พบว่าสิงโตมายืนอยู่พร้อมกับถือหมอนมาด้วย

“ขอนอนด้วยคน”

“แล้วเม่นล่ะ”

“มันคอลไลน์คุยกับมิกิเสียงดัง เปิดไฟสว่างด้วย นอนไม่หลับเลย”

“เข้ามาสิ” นกฮูกเอี้ยวตัวออกเพื่อให้สิงโตเดินเข้ามา

“หนูด้วงอาบน้ำเหรอ”

“อืม”

“นอนนะ” สิงโตพูดจบก็เดินไปนอนที่เตียงของหนูด้วง

นกฮูกยังไม่ทันจะพูดอะไรอีกฝ่ายก็ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวแล้วหลับตาเหมือนจะบอกว่ายังไม่อยากคุยอะไรทั้งสิน เมื่อหนูด้วงออกมาจากห้องน้ำก็เลิกคิ้วประหลาดใจ พอเห็นนกฮูกมองมาด้วยสายตากังวลก็เลยส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มให้อีกฝ่ายรู้ว่าไม่เป็นไร

หลังจากที่นกฮูกปิดไฟในห้องนอนแล้ว หนูด้วงก็แอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดไลน์เพื่อจะส่งข้อความไปหาคนที่คิดถึง

DAr
หลับรึยังฮะ
Ling
ยัง แล้วเราทำไมยังไม่นอน จะเที่ยงคืนแล้วนะ
DAr
หนูจะบอกว่าหนูลืมของเอาไว้ที่บ้านของพี่
Ling
อ้าว ลืมอะไรเอาไว้
DAr
ความคิดถึงฮะ แฮร่
Ling
หึหึ...
DAr
พรุ่งนี้หนูไปเอา
Ling
ให้พี่เก็บให้หนูดีกว่า เดี๋ยวหนูไปทำหล่นที่อื่น
DAr
ก็ได้ก็ได้ เก็บให้ดีนะฮะ พรุ่งนี้มารับหนูเร็วๆ นะ หนูมีอะไรจะบอก
Ling
ต้องบอกพรุ่งนี้เหรอ
DAr
ใช่แล้ว
Ling
ตกลงครับท่านผู้วิเศษ นอนได้แล้ว
DAr
ฝันดีนะฮะ ฝันถึงหนูด้วงนะ เอ้ย ด้วยนะ แฮร่
Ling
ทุกวัน ซ้ำมาซ้ำไป ฝันดีครับเด็กน้อยของพี่

หนูด้วงอ่านข้อความสุดท้ายซ้ำมาซ้ำไปก่อนจะหัวเราะให้เบาที่สุดเพราะกลัวเพื่อนได้ยิน แค่ชื่อไลน์ที่แอบตั้งให้ตัวเองกับพี่โอบก็ทำให้มีความสุขแล้ว DAr ที่เป็นชื่อของตัวเองก็มาจาก D...ด้วง A...โอบ R...โรแมนติก ส่วนชื่อของพี่โอบ Ling ก็มาจาก L...เลิฟ เติม ing เข้าไปแปลว่ากำลังรักกัน เอาสองคำมารวมกันก็จะเป็น Darling สุดที่รักที่รักที่สุด

“คึคึคึ” หนูด้วงแอบหัวเราะอีกครั้งอย่างมีความสุขก่อนจะวางโทรศัพท์ลงที่เดิมแล้วหลับตาลง

หนูด้วงนอนเงียบไปพักใหญ่สิงโตก็ลอบถอนหายใจ ค่อยๆ ชะโงกหน้ามาดูว่าหนูด้วงหลับจริงหรือเปล่า เมื่อเห็นอีกฝ่ายนอนหายใจสม่ำเสมอก็เลยขยับตัวเข้าไปใกล้ๆ เพื่ออยากมองหน้าให้ชัดๆ แม้ในห้องจะมืดแต่มันก็มีแสงจากด้านนอกลอดเข้ามาให้พอมองเห็น

นกฮูกยังไม่ได้หลับ เมื่อได้ยินเสียงขยับจากเตียงข้างๆ จึงลืมตาขึ้นมาดู เห็นเงาลางๆ ของสิงโตกำลังทำเหมือนว่าจะจูบหนูด้วง ใบหน้าของสิงโตกำลังเคลื่อนเข้าใกล้หนูด้วงเข้าไปทุกที นกฮูกทนไม่ไหวกำลังจะลุกไปเตือนสติสิงโตในการกระทำที่ไม่ควร แต่สุดท้ายนกฮูกก็ต้องโล่งใจเมื่อสิงโตไม่ได้ทำอย่างที่คิดแต่กลับลุกขึ้นยืนหยิบหมอนแล้วเดินออกไปจากห้องแทน ไม่ใช่นกฮูกคนเดียวที่แอบลอบถอนหายใจ หนูด้วงเองก็ลืมตาขึ้นมาแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน

‘ต้องเสียใจ ใครเล่าทำ เพราะเพียงเรา ปล่อยรักไป ไม่เอ่ยคำ’


หลังจากที่อ่านคอมเมนต์ต่างๆ ในเฟสบุ๊กของหนูด้วงแล้วพญาก็ต่อสายหาก้านเพราะต้องการสอบถามอะไรบางอย่าง

“ครับนาย” ก้านรีบตอบรับเมื่อเห็นว่าใครโทรเข้ามา

“ตกลงเจ้าอุ้มมันบอกมึงรึยัง”

“ยังครับนาย”

“ทำไมมันปากแข็งนักวะ จะต้องเป็นความลับอะไรนักหนา”

“นาย นายไม่เชื่อใจคุณโอบเหรอครับ”

“มันบอกกับกูว่ามันรักหนูด้วง แต่มันก็ดันมีลูกกลับมาด้วย โอเค...จะมีลูกติดมากูไม่ได้ว่าอะไร แต่กูถามอะไรมันก็ไม่พูด แล้วกูจะรู้ได้ยังไงว่าที่ผ่านมามันพลาดหรือมันยังสับสน”

“แต่ผมว่าคุณโอบรักนายน้อยนะครับ”

“กูก็รู้ว่ามันรัก แต่มันไม่พอสำหรับกู”

“นายกลัวว่าคุณโอบกลับมาเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองรักนายน้อยในฐานะอื่นที่ไม่ใช่พี่ชายได้หรือเปล่าใช่ไหมนาย”

“มึงเป็นอีกคนที่รู้ว่าตอนเด็กๆ เจ้าอุ้มมันมีปมพอๆ กับหนูด้วง อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ กูรู้ว่าหนูด้วงคือโลกทั้งใบของมันที่มันไม่อยากเสียไป แต่กูก็ไม่อยากให้มันใช้ความรักของหนูด้วงพิสูจน์ความรู้สึกของตัวเอง”

“ผมอยากให้นายเชื่อมั่นในตัวคุณโอบเหมือนตอนที่นายเห็นคุณโอบครั้งแรก ผมจำสายตาของนายได้ดี นายเลือกที่จะเป็นพ่อให้คุณโอบเพราะมั่นใจว่าคุณโอบเป็นเด็กดี สายตาของคุณโอบที่มองนายก็ยังเหมือนเดิม”

“แล้วทำไมมันถึงบอกกูไม่ได้ว่าไปทำใครท้อง เฮ้อ...เอาเถอะ มึงคอยดูแลทั้งคู่ให้กูด้วย”

“ครับนาย”

“ดูแลเจ้าแฝดให้ดีด้วย”

“ไม่ต้องห่วงครับนาย ผมจะทำหน้าที่แทนนายให้ดีที่สุด”


มีต่อด้านล่างค่ะ
V
V
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2018 05:48:46 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ต่อจากด้านบนค่ะ


พญาวางสายก่อนจะถอนหายใจอีกรอบ นึกย้อนไปถึงอดีตวันที่ได้พบเจอกับเด็กน้อยคนหนึ่ง

...
..
.


เด็กน้อยวัยห้าขวบเนื้อตัวมอมแมม ใส่เสื้อตัวใหญ่ที่เก่าและขาดจนไม่น่าเรียกว่าเป็นเสื้อผ้าได้ กำลังเดินเร่ขายพวงกุญแจให้กับนักท่องเที่ยวในบริเวณแหล่งร้านอาหารที่มีคนมาทานเยอะๆ

“ไป ไปขายที่อื่น” เถ้าแก่ร้านข้าวต้มไล่เด็กน้อยให้ไปไกลๆ ร้านเพราะกลัวว่าลูกค้าจะรังเกียจความสกปรก

“ช่วยผมซื้อหน่อยครับ สามพวงร้อยครับ”

“ไม่เอา” หญิงสาวคนหนึ่งทำหน้ารังเกียจและทำสีหน้าไม่พอใจ

เด็กน้อยมองตะกร้าพวงกุญแจในมือด้วยแววตาเศร้าโศก ถ้าขายไม่หมดก็ไม่ได้กลับ แถมยังถูกตีอีกด้วย สองเท้าเปล่าเดินย่ำพื้นที่เปียกแฉะไปเรื่อยๆ ไปหยุดยืนมองรถเข็นขายลูกโป่งที่มีสีสันสวยงามสะดุดตา รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นเพียงแวบเดียวก่อนจะจางหายไปแล้วก้มหน้าก้มตาเดินเข้าไปในร้านอาหารที่พญานั่งอยู่

“ออกไปเลย มาอีกแล้ว” แม้จะสงสาร แต่พนักงานในร้านก็ต้องรีบมาไล่เด็กน้อยให้ออกไป ร้านนี้เป็นร้านที่คนมีเงินส่วนใหญ่มานั่งทานจึงไม่เหมาะหากปล่อยให้เด็กเนื้อตัวมอมแมมเดินเข้าไป

“ผมขอขายนิดเดียวครับ”

“ไม่ได้ ไปๆ” พนักงานดันอกเด็กน้อยให้ถอยออกไป จนกระทั่งไปชนกับแขกที่กำลังจะเดินเข้ามา

“ไอ้เด็กเวร!! เหยียบรองเท้าขาวๆ ของกูดำหมดเลย”

“ขอโทษครับ” เด็กน้อยรีบยกมือไหว้

“ไปกินร้านอื่นเถอะค่ะคุณ” หญิงสาวที่มาด้วยเห็นสภาพของเด็กน้อยก็ไม่พอใจเลยชวนคนรักเปลี่ยนร้าน

“โธ่เอ้ย ออกไปเลย” พนักงานร้านหงุดหงิดที่เด็กน้อยทำให้เสียลูกค้าจึงผลักเด็กน้อยอย่างแรงจนตะกร้าพวงกุญแจหล่นกระจัดกระจาย

สองมือเล็กๆ รีบหยิบพวงกุญแจขึ้นมาเช็ดกับเสื้อจนครบ เมื่อเห็นพนักงานร้านทำท่าจะเข้ามาไล่อีกรอบก็รีบวิ่งออกไป พื้นถนนมีน้ำเจิ่งนองเพราะฝนเพิ่งซาทำให้เด็กน้อยลื่นล้ม พวงกุญแจที่เพิ่งจะทำความสะอาดก็ตกลงไปเปรอะเปื้อนน้ำสีดำบนถนน ยังไม่ทันจะได้ลุกด้วยขาของตัวเองร่างผอมบางก็ถูกกระชากขึ้นมาจนตัวลอย

“ไอ้สัตว์เอ้ย เปื้อนแบบนี้แล้วจะขายได้ยังไง มึงรู้ไหมว่ากูต้องขาดทุนเท่าไหร่” ไม่พูดเปล่า มือหนาตบเข้าไปที่ใบหน้าน้อยๆ จนหันไปตามแรงมือ

“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ” เด็กน้อยกุมใบหน้าที่เจ็บปวด สั่นไปทั้งตัวเพราะความกลัว

“กูอุตส่าห์ให้มึงมาขายของ ไม่ต้องไปนั่งขอทานอย่างเก่า พรุ่งนี้มึงกลับไปนั่งขอทานที่สะพายลอยอย่างเดิมเลยไอ้เด็กเวร”

“อย่าให้ผมไปนั่งบนนั้นเลยฮะ ผมขอขายของนะฮะ ผมไม่อยากขอทาน”

“ฮ่าๆ มึงจำใส่กะโหลกเอาไว้เลย ชีวิตมึงไม่พ้นขอทานหรอก มึงมันเด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่ กูให้ข้าวให้น้ำให้ที่นอนก็บุญแล้ว”

“ผมไม่ขอทาน” เด็กน้อยส่ายหน้าพร้อมกับพนมมือ

“กูไม่ใช่คนขี้สงสาร” ฝ่ามือหน้าตบไปที่หัวของเด็กน้อยจนร่างเล็กๆ หน้าคว่ำลงไปนอนราบกับพื้น เนื้อตัวสั่นเทาแต่ไม่มีน้ำตาสักหยด

“มึงมันเก่งแต่รังแกเด็ก”

“นายพญา!!”

“กูว่ากูเลวแล้วนะ เจอมึงนี่กูแทบกราบ”

“ผมแค่...แค่ต้องทำมาหากินครับ”

“จะเรียกมึงว่าเหี้ยกูยังสงสารเหี้ยเลย ไอ้ก้าน ไอ้หนอม...” พญาพยักหน้าให้ลูกน้องของตัวเอง ทั้งสองคนเดินเข้าไปหา ‘ไอ้สามารถ’ ด้วยท่าทางดุดัน

“นายพญา ผมขอโทษ ผมไม่นึกว่าในเมืองนี่ก็เป็นเขตของนายด้วย ผมจะรีบพาไอ้เด็กนี่ไปไกลๆ อย่าทำอะไรผมเลยนะนาย”

“หึ...กูไม่ได้หากินแบบมึงหรอก ที่กูจะสั่งสอนมึงเพราะอยากให้มึงรู้ว่าคนที่ไม่มีทางสู้เขารู้สึกยังไง”

“ผมไหว้ล่ะนาย อย่าทำผมเลยนะ”

“กูไม่ใช่คนขี้สงสาร” พญาพูดจบก็เดินเข้าไปหาเด็กน้อยที่ยังนอนนิ่งอยู่บนถนนเพราะไม่กล้าลุก ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของสามารถ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พญานึกสงสารแต่อย่างใดเพราะความสงสารทั้งหมดมาหยุดอยู่ที่เด็กน้อยคนนี้แล้ว

เขาเคยเจอเด็กน้อยคนนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่เด็กคนนี้คงจำเขาไม่ได้ ในวันนั้นเขานึกว่าไอ้สามารถเป็นพ่อของเด็กคนนี้เขาถึงไม่ได้ยื่นมือเข้าช่วยตอนที่เห็นว่ามันกระชากลากคอเสื้อเด็กน้อยคนนี้อย่างไม่ปราณีเลยสักนิด เขาไม่ได้เอะใจเพราะสังคมทุกวันนี้มันเน่าเฟะ พ่อแม่รังแกลูกมีให้เห็นเต็มไปหมด คิดแล้วก็นึกเสียใจ ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ต้องเจอกับอะไรมาบ้าง
 
“เอาไงต่อครับนาย” ก้านเดินกลับเข้ามาหาเจ้านายก่อนจะมองเด็กน้อยด้วยความเวทนา

“ลุกขึ้นมา” พญาพูดกับเด็กน้อย เขาไม่ได้ช่วยประคองแต่อยากให้เด็กคนนี้ลุกขึ้นมาด้วยตัวเอง
 
เด็กน้อยมองพญาด้วยความลังเล ไม่ใช่ว่าจำเขาไม่ได้ เขาคือคุณน้าใจดีที่เคยให้เงินสองพันบาทเพราะเหมาซื้อหมากฝรั่งไปในวันนั้น แต่เพราะเขาสั่งให้ลูกน้องไปทำร้ายน้าสามารถ เด็กน้อยกลัวว่าเขาจะทำร้ายตัวเองเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจลุกขึ้นมายืนตัวสั่นตรงหน้าของคนที่ดูน่าเกรงขาม ไม่รู้ว่าคนแปลกหน้าคนนี้จะตบตีเหมือนน้าสามารถหรือเปล่า ที่ผ่านมาโดนทำร้ายจนระแวงว่าไม่มีใครในโลกนี้ที่ทำดีกับตัวเองอีกแล้ว
 

“ชื่ออะไร”

“ไม่มีชื่อ”

“ไม่มีได้ไง ปกติไอ้หมอนั่นมันเรียกเราว่ายังไง” พญาบุ้ยใบ้ไปทางสามารถที่นองกองอยู่กับพื้น

“ไอ้สัตว์ เรียกผมว่าไอ้สัตว์ครับ”

ทีแรกพญาก็สะดุ้งนึกว่าเด็กน้อยคนนี้ด่าตัวเอง แต่พอรู้ว่าไอ้สามารถเรียกเด็กน้อยคนนี้ว่าไอ้สัตว์ก็นึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก จึงสบถออกมา

“ไอ้สัตว์เอ้ย!!!”

“ครับ” เด็กน้อยนึกว่าพญาเรียกตัวเองจึงตอบรับ พญากับไอ้ก้านต้องกลั้นขำ แต่ในใจก็นึกชื่นชมเด็กคนนี้ที่ยังคงความสุภาพเอาไว้ทั้งที่ตัวสั่นงันงก 

“โอบอุ้ม ชื่อโอบอุ้มก็แล้วกัน” พญานึกชื่อนี้ขึ้นมาได้

“โอบ...อุ้ม” เด็กน้อยทวนคำก่อนจะเงยหน้ามองพญาด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความดีใจ

“อยากไปอยู่กับกูไหม”

“ไปครับ” เด็กน้อยตอบโดยไม่คิด ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน ทั้งที่กลัวคนแปลกหน้ามาทำร้ายแต่ก็อยากไปกับเขาคนนี้

“มึงจะต้องโอบตัวเองเวลาไม่มีใคร แล้วก็อุ้มตัวเองออกมาจากความเจ็บปวดที่มึงเคยเจอ กูเปลี่ยนอดีตให้มึงไม่ได้แต่กูจะให้อนาคตกับมึงนะเจ้าอุ้ม” พญารู้ดีว่าการไม่มีแม่อยู่คอยดูแลเป็นยังไง มันโดดเดี่ยวแค่ไหน

“นาย...”

“อะไรวะไอ้ก้าน”

“นายโคตรพระเอกเลย”

“ที่ผ่านมากูไม่ใช่พระเอกเหรอวะไอ้ก้าน” พญาครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะถามลูกน้องของตัวเอง

“โธ่นาย ก็..ก็” ไอ้ก้านไม่อยากโกหกแต่ก็รู้ดีว่าขืนพูดความจริงไปคงจะถูกยันโครมลงไปกองกับพื้นเหมือนไอ้สามารถแน่ๆ

“เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ครับ” โอบอุ้มเงยหน้ามองพญาด้วยแววตาที่แสนจะเทิดทูน คำพูดซื่อๆ ของเด็กน้อยทำให้พญาอดภูมิใจเล็กๆ ไม่ได้ ไม่เคยมีใครชมเขาด้วยความจริงใจ ไม่เคยมีสายตาของใครมองเขาด้วยความหวังแบบนี้มาก่อนเลย

“พูดดี!! กูจะรับมึงเป็นลูกบุญธรรม กูจะทำให้คนอื่นรู้ว่าถึงกูมันเลว แต่ลูกของกูจะต้องเป็นคนดี เป็นราชสีห์ ราชสีห์ ภูมิเทพ ไปโว้ยไอ้ก้าน!! ไปจัดการหาซื้อข้าวของเสื้อผ้าให้เจ้าอุ้ม”

“ครับนาย!!”

.
..
...


พญายกยิ้มเมื่อนึกถึงอดีต อดีตที่เกือบจะลืมไปแล้วว่าตนเองรู้สึกอย่างไรยามที่เห็นแววตาของเด็กน้อยคนนั้น นี่คงเป็นอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตที่เขาคิดว่าตัวเองทำเรื่องที่ถูกต้อง ตอนนี้จึงได้แต่หวังว่าราชสีห์ตนนั้นกำลังทำในเรื่องที่ถูกต้องอยู่เช่นกัน
 

หนูด้วงลุกขึ้นมาอาบน้ำตั้งแต่เช้าพร้อมกับเก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวบางส่วนใส่กระเป๋าเป้ใบโปรด ไม่ลืมที่จับน้องด้าวแต่งตัวให้ดีด้วยเพราะวันนี้จะเป็นวันแรกที่ร้านของพี่โอบเปิดให้บริการ หนูด้วงโทรไปขอแด๊ดดี้กับมัมว่าจะไปค้างบ้านของรุ่นพี่ โทรไปขอตั้งแต่ตีห้าเพราะกลัวว่าหากขอตอนสายๆ อาจจะเจอกับยุงพญาเวลามากินกาแฟที่ร้านของมัมแล้วตัวเองจะอดไป ซึ่งทั้งสองคนถามรายละเอียดของรุ่นพี่ก่อนจะอนุญาต หนูด้วงรู้สึกผิดเหมือนกันที่ต้องปิดบังแต่มันไม่มีทางเลือกจริงๆ

นกฮูกเพิ่งจะตื่น เห็นหนูด้วงตื่นแต่เช้าก็ทำหน้าประหลาดใจ ยิ่งเห็นกระเป๋าเป้ที่วางข้างตัวก็นึกสงสัยเลยอดถามไม่ได้

“จะไปไหนแต่เช้า”

“ไปร้านพี่โอ....เอ่อ พี่นโม จะไปค้างเพราะวันนี้ร้านเปิดวันแรก เราขอมัมกับแด๊ดแล้ว” หนูด้วงตอบละเอียดเพราะรู้ว่านกฮูกต้องเป็นห่วง

“มัมกับแด๊ดอนุญาตด้วยเหรอ”

“อือ”

“แปลก”

“แล้วนกฮูกจะไปเที่ยวที่ร้านของพี่นโมไหม”

“ไม่รู้สิ เปิดกี่โมง”

“อืม น่าจะบ่ายๆ แต่ปิดห้าทุ่ม นกฮูกอยากไปเป็นบาริสต้าไม่ใช่เหรอ ไปฝึกงานไหม เราจะบอกพี่นโมให้”

“ขายเหล้าด้วยรึเปล่า”

“ไม่ขาย เห็นพี่นโมว่ามีแต่เครื่องดื่มแบบม็อกเทล กาแฟ ของทานเล่นต่างๆ เราก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าร้านเป็นยังไง ยังไม่เคยเห็นเลยถึงอยากไปเห็น ไปไหม”

“ไปก่อนแล้วกัน ถ้าอ่านหนังสือเสร็จอาจจะตามไป”

“โอเค งั้นเราลงไปก่อนนะ ได้เวลานัดแล้ว”

“อืม ถึงแล้วไลน์มาบอกด้วยนะ”

“ไปนะคุณหมอ” หนูด้วงเดินไปหอมแก้มนกฮูกก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี

“เที่ยวหอมใครต่อใครแบบนี้ ไม่ใช่หนูด้วงทำไม่ได้นะ” นกฮูกบ่นพลางขำแต่เพราะรู้ว่าหนูด้วงโตมาในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรัก การกอดการหอมของหนูด้วงจึงเป็นแค่การแสดงความรักตามปกติเท่านั้นเอง

หนูด้วงทำหน้าตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าพี่โอบเอารถมอเตอร์ไซด์มารับแทนน้องโฟล์คเต่าสีแดง ถ้าซ้อนมอเตอร์ไซด์ก็จะได้กอดและซบพี่โอบไปด้วย แต่พอมองมาที่น้องด้าวเจ้าตัวก็ทำหน้ายุ่งเพราะว่าน้องด้าวจะต้องคั่นกลาง คิดแล้วหนูด้วงรีบเอาน้องด้าวผูกไว้กับเป้

“ไม่ต้องกลัวตกนะ พี่หนูด้วงผูกแน่นหนา อาจจะเสียวนิดๆ”

“นึกว่ายังไม่ตื่นเสียอีก” โอบอุ้มทักเมื่อเห็นหนูด้วงตื่นลงมารอก่อนเวลา

“หนูโตแล้วนะ ไม่ตื่นสายแล้ว” หนูด้วงคุยโวก่อนจะเดินลงไปหา

“แล้วไหนว่ามีอะไรจะบอกพี่”

“คิดถึง”

“หึหึ...มาใส่หมวกก่อน” โอบอุ้มนึกขำคนขี้อ้อนก่อนจะหยิบหมวกกันน็อกมาใส่ให้

“มีชื่อของหนูด้วย” หนูด้วงดีใจที่มีชื่อของตัวเองบนหมวกกันน็อก

“มีของน้องด้าวด้วย” โอบอุ้มเอื้อมมือไปหยิบหมวกกันน็อกอันเล็กที่วางอยู่ในตะกร้าหน้ารถมาให้หนูด้วง

“เด็ดเด็ด น่ารักมาก หนูใส่ให้น้องด้าวก่อนนะ” หนูด้วงหัวเราะร่าเมื่อรู้ว่าพี่โอบนึกถึงน้องด้าวด้วย

“จับดีๆ นะ” โอบอุ้มบอกหลังจากที่หนูด้วงขึ้นมานั่งซ้อนท้ายตัวเองแล้ว

“จะจับให้แน่นเลยฮะ”

เจ้าสองล้อสีฟ้าอ่อนแล่นไปด้วยความเร็วช้าจนถึงช้ามากแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนที่นั่งบนมันหงุดหงิด กลับกัน...ยิ่งทำให้ทั้งสองคนมีเวลาใกล้ชิดและรับอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มที่ โอบอุ้มยังไม่ได้พาหนูด้วงไปที่บ้านแต่มาแวะที่ร้านอาหารเช้าก่อน ซึ่งพอลงจากรถได้หนูด้วงก็คล้องแขนโอบอุ้มแล้วทำท่าทางลุกลี้ลุกลนทันที

“เป็นอะไร”

“หนูเห็นพี่ก้าน ทำไงดี”

“แล้ว...” โอบอุ้มทำหน้างงๆ

“ก็ถ้าพี่ก้านเอาไปบอกยุง ยุงต้องถามหนูแน่เลยว่าพี่เป็นใคร”

“จริงด้วย ทำยังไงดี”

“หนูต้องปลอมตัวก่อน พี่โอบบังให้หนูแป๊ปหนึ่งนะฮะ” หนูด้วงหลบไปอยู่ด้านหลังของโอบอุ้มก่อนจะเปิดกระเป๋าเป้ของตัวเอง ทำอะไรขยุกขยิกอยู่พักใหญ่ถึงได้เดินมายืนข้างๆ โอบอุ้มตามเดิม

“เฮ้ย...ฮ่าๆๆๆๆๆ” โอบอุ้มหลุดขำเสียงดังเมื่อเห็นหนูด้วงใส่วิกผมปลอมสีเหลืองสด ใส่แว่นกันแดดสีดำที่มีรูปแตงโมขนาดใหญ่ติดที่กรอบแว่น แถมยังเอาเสื้อคลุมลายมังกรยาวถึงข้อเท้ามาใส่อีกด้วย

“พี่อย่าขำสิ นี่เรื่องเครียดนะ”

“โอเค มันเครียดมากเลย” โอบอุ้มพยายามกลั้นขำ

“จะเดินผ่านพี่ก้านแล้ว พี่ทำหน้าขรึมๆ เอาไว้นะฮะ” หนูด้วงกระซิบกระซาบ

“สวัสดีครับนายน้อย พี่ก้านว่าวันนี้แต่งตัวดูเกรี้ยวกราดมากเลยนะครับ” ก้านเดินเข้ามาทักหนูด้วง

“อ้าว จำหนูได้ไง ทำไมอ่า หนูยังจำตัวเองไม่ได้เลยนะ” หนูด้วงมองตัวเองผ่านประตูกระจกของร้าน

“โธ่ พี่ก้านเลี้ยงนายน้อยมาตั้งแต่เดินเตาะแตะ เห็นเงายังจำได้เลย”

“โหย อุตส่าห์ปลอมตัว อ๊ะ!! แล้วพี่ก้านมาที่นี่ทำไม มาหาน้าตวงเหรอฮะ แน่นแน่!!”

“ครับ มาหาคุณตวง” ก้านตอบพลางมองไปที่โอบอุ้ม

“คือ นี่เพื่อน เอ้ย รุ่นพี่ของหนูเอง รุ่นพี่ที่จบไปแล้ว แบบรุ่นพี่ที่เป็นเจ้าของร้านกล่องดนตรี แบบร้านกล่องดนตรีที่หนูจะไปร้องเพลง แบบแต่หนูขอมัมแล้วนะ แบบพี่เขาเป็นคนดี แบบ...”

“สวัสดีครับคุณโอบ พานายน้อยมาทานอาหารเช้าเหรอครับ” ก้านพูดแทรกขึ้นมาเพราะเกรงว่านายน้อยของตัวเองจะคอแห้งที่ต้องหาเหตุผลเป็นร้อยมาอธิบายให้ฟัง

“อะ..อ้าววว พี่ก้านรู้เหรอฮะว่านี่คือพี่โอบ” หนูด้วงทำหน้าเลิ่กลั่ก

“รู้ครับ”

“อ้าว แล้วพี่โอบรู้ไหมฮะว่าพี่ก้านรู้ว่าเป็นพี่โอบเป็นพี่โอบที่ไม่ใช่พี่นโมที่พี่โอบแอบเป็นอย่างที่คนอื่นเข้าใจว่าเป็นพี่นโมไม่ใช่พี่โอบ”

“กวนแล้วเจ้าตัวแสบ” โอบอุ้มยีผมหนูด้วงเบาๆ

“ไอ้ก้านล่ะปวดหัวกับนายน้อยจริงๆ” ก้านส่ายหน้าในความทะเล้นของหนูด้วง

“ก็พี่ก้านกับพี่โอบอยากมาแกล้งหนูก่อน ไหนพี่โอบว่าไม่ให้บอกใครไงฮะ”

“ถึงพี่ไม่บอกพี่ก้าน น้าตวงก็ต้องบอกอยู่ดี” เมื่อโอบอุ้มอธิบายหนูด้วงก็พยักหน้าคล้อยตาม

“แล้วพี่ก้านจะบอกยุงไหมฮะ” หนูด้วงทำสีหน้ากังวล ถึงจะรู้ว่าหากพี่ก้านรู้ยุงพญาก็อาจจะรู้ แต่ที่ไม่แน่ใจว่าทั้งคู่จะรู้ก็คือเรื่องของน้องแฝด ยุงพญาจะต้องไม่ยอมให้หนูด้วงคบกับพี่โอบแน่ๆ หากรู้ว่าพี่โอบมีภรรยาและลูกแล้ว

“ไม่ต้องกังวลครับนายน้อย ใช้ชีวิตให้มีความสุขนะครับ พี่ก้านขอตัวไปรับคุณตวงเข้าเมืองก่อน”

“ขอบคุณครับพี่ก้าน” โอบอุ้มยกมือไหว้ก้านแต่หนูด้วงเดินเข้าไปกอดก้านก่อนจะยกมือไหว้

“หนูมีความสุขมากเลยฮะพี่ก้าน” หนูด้วงยิ้มน้อยๆ ก้านยิ้มตอบก่อนจะขอตัวไป

“แล้วพกชุดพวกนี้มาทำไม” โอบอุ้มพาหนูด้วงมานั่งในร้าน สั่งอาหารทานกันแล้วถึงถามอย่างขำๆ

“ก็จะเอามาเล่นจอมยุทธ์กับน้องไม้น้องหม่อนไงฮะ”

“โดนทับไม่เข็ดเหรอ”

“ไม่เข็ด สนุกดี น้องไม้น้องหม่อนตัวเล็กทับไม่เจ็บ แต่ถ้าพี่โอบทับคงเจ็บ”

“แค่กๆๆๆ” โอบอุ้มสำลักกาแฟทันทีที่ได้ยิน

“ค่อยๆ กินสิฮะ”

“แล้ว...ขนอะไรมาอีก”

“เสื้อผ้า คืนนี้หนูจะมาค้างกับพี่ หนูขอแด๊ดดี้กับมัมๆ แล้ว”

“เทอมสองย้ายมาอยู่กับพี่ไหม”

“มาฮะ หนูอยากอยู่กับพี่ทุกวันทุกวัน”

“จะพากันดื้อไหมนะ สามแสบ” โอบอุ้มยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงเวลาที่หนูด้วงจะได้มาอยู่ด้วยกัน

“หนูจะเป็นแม่ให้น้องแฝดเอง”

“แค่กๆๆๆ” โอบอุ้มสำลักกาแฟรอบสอง

“พี่อย่ารีบดื่มสิ เห็นไหม เสื้อเปื้อนหมดแล้ว” หนูด้วงขมวดคิ้ว ปกติตัวเองจะเป็นฝ่ายถูกพี่โอบดุเวลากินอะไรแล้วเปื้อนเสื้อผ้า แต่วันนี้พอได้เป็นฝ่ายดุพี่โอบบ้างเลยทำหน้าตาขึงขังจริงจัง

“ขอโทษครับพี่หนูด้วง” โอบอุ้มเริ่มคิดว่าตัวเองไม่ควรดื่มกาแฟตอนอยู่กับหนูด้วง สงสัยจะได้สำลักจนหมดแก้ว

“น้องแฝดชอบกินอะไรบ้างฮะ หนูจะได้สั่งไปให้”

“น้องไม้ไม่ชอบกินผักสีเหลืองและชอบกินไส้กรอกคลุกน้ำปลาเหมือนหนูด้วง น้องหม่อนชอบกินแพนเค้กราดน้ำผึ้งกับปลาทูทอดคลุกข้าวเหมือนหนูด้วง”

“เย้ ดีจัง ชอบและไม่ชอบเหมือนหนู”

“ขอบคุณนะที่รักเด็กทั้งสองคน”

“สาม..พี่ด้วย หนูรักพี่ด้วย”

“พี่ก็รักหนู”

เจ้าตัวแสบจะรู้ไหมนะว่าพี่โอบอุ้มอยากจะขี่รถกลับบ้านแล้วจับท่านจอมยุทธ์ในชุดมังกรมาจัดการซะเดี๋ยวนี้ แต่ก็ทำได้แค่อดทนแล้วส่งยิ้มไปให้ แค่ได้มองดูหนูด้วงกินแพนเค้กด้วยความเอร็ดอร่อยก็มีความสุข แค่ได้เห็นรอยยิ้มก็ทำให้โลกที่เคยโดดเดี่ยวของตัวเองเต็มไปด้วยความอบอุ่น อยากใช้ชีวิตที่มีหนูด้วงกับใบไม้และใบหม่อน ต่อให้ต้องเหนื่อยยากหรือไม่มีใครเข้าใจก็ไม่เป็นไร คนไม่สมบูรณ์คนนี้แค่อยากสร้างครอบครัวให้สมบูรณ์ด้วยตัวเอง แค่หนูด้วงเข้าใจและอยู่เคียงข้างเขาก็พอแล้ว

โปรดติดตามตอนต่อไป

          อย่ากังวลเรื่องดราม่านะคะ เลิฟตัดสินใจแต่งเรื่องในวัยมหา’ลัยนี้ทั้งที่ห่างไกลตัวพอควรแล้วเพราะอยากนึกถึงช่วงเวลานั้นอีกครั้ง วัยนี้เป็นวัยที่กำลังอยู่ในช่วงข้ามจากเด็กมาเป็นผู้ใหญ่ บางคนได้ใช้ชีวิตแบบอิสระ ได้มีโอกาสตัดสินในเรื่องต่างๆ ด้วยตัวเอง ได้ลองผิดลองถูก ได้เจอความรักในรูปแบบผู้ใหญ่ ในขณะเดียวกันก็กลับมาทำตัวเป็นเด็กเวลาที่ต้องเผชิญความผิดหวัง ทุกอย่างมันคือบทเรียนของการก้าวเดินไปข้างหน้า

                  มิตรภาพในวัยนี้ก็สำคัญ เป็นได้ทั้งเพื่อนแท้และศัตรู เลิฟอยากให้ทุกคนสนุกกับเรื่องที่พวกเขาต้องเจอและก้าวข้ามไปด้วยกัน ไม่ว่าใครจะคู่กับใครมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งในชีวิต เวลาจะบอกเองว่าตรงไหนคือพื้นที่ของเราและใครคือคนที่ใช่ ลองนึกย้อนไปนะคะ กว่าเราจะได้เจอใครสักคนที่ใช่มันไม่ง่ายเลย บางมุมมันคือเรื่องที่เลิฟอาจจะได้เคยเห็นมันผ่านชีวิตจากคนรอบตัวของเลิฟเอง

                 ...บางคนผ่านเข้ามาเพื่อเป็นกำลังของใจ แต่บางคนก็ผ่านมาเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้กับความเจ็บปวด...


[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-01-2019 12:01:25 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
สงสารพี่โอบมาก กว่าจะมีวันนี้ได้ก็ผ่านอะไรมาเยอะ อะไรที่เป็นความสุขของตัวเอง โอบอุ้มมันเข้าหาตัวเองนะพี่โอบ
สารภาพว่าแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำของออฟฟิศ ตอนอ่านเจอคำว่า "ไอ้สัตว์"

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
อยากรู้ว่า 2 แฝดเกิดขึ้นมาได้ยังไงพี่โอบไปมีเมียแล้วเลิกกันหรืออะไรยังไง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
ฮากับการสั่งอาหารของร้านพี่เปิ้ล   และชอบการตั้งชื่อแทนตัวระหว่างหนูด้วงกับพี่โอบ หวานมากๆ 

สงสารโอบในช่วงวัยเด็ก แต่โชคดีของโอบที่ได้พญามาช่วยไว้ได้ทันและรับเป็นพ่อบุญธรรม

เราว่าทุกคนในครอบครัวหนูด้วงคงรู้ว่าพี่นโมคือโอบ  ถึงได้ยอมให้หนูด้วงมาค้างกับโอบได้

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ kedtawan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สั้นจังงง (ใครจะว่ายาว เราว่าสั้นก็เราคิดถึน) ฮืออออ สงสาร พี่โอบ เมื่อไหร่จะมีความสุขจริงๆสักที

ออฟไลน์ oiw08

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ชีวิตพี่โอบในวัยเด็กน่าสงสารมาก(T___T)

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
ชอบจัง ลุงพญา :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
พี่โอบ น้องด้วง ยังน่ารักเหมือนเดิม  :กอด1:

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
สงสารสิงห์โต ขอให้น้องเจอคนที่ใช่เร็วๆนะ น้องจะได้เป็นเพื่อนรักของหนูด้วง อย่างมีความสุข หนูด้วงก็ห่วงเพื่อน  ในแบบหนูด้วง ชอบชื่อของทุกคนที่ตั้งไว้แชทกัน กินกันไม่ลง แต่ชอบของหนูด้วงที่สุด มันน่ารัก หนูด้วงพี่น้องด้าว

ยุงพญาเท่ มาก รู้เกือบทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องทำไมถึงมีน้องแฝด ส่งพี่ก้านมาดูแลอีก ยุงหล่อที่สุด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด