#เพลงรักที่หายไป หนูด้วง+พี่โอบอุ้ม 20 ตอนจบ สารบัญหน้าแรก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เพลงรักที่หายไป หนูด้วง+พี่โอบอุ้ม 20 ตอนจบ สารบัญหน้าแรก  (อ่าน 89065 ครั้ง)

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :sad11: คู่หลักสายฮา คู่รองสายหน่วง สงสารใครดี
พี่ป้าย หรือ น้องฮูก

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
เป็นกำลังใจให้กับทั้งคู่  นกฮูกยังเด็กเพิ่งเข้าปี1 ยังมีเรื่องให้เรียนรู้อีกเยอะ ส่วนพี่ป้ายคงยังหาว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่ ระหว่างรักแบบน้องข้างบ้าน หรือรักแบบคนรัก

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เรื่องนี้ ทุกคู่มีปม มีเงื่อนงำเป็นของตัวเองสินะ~~~
รออ่าน รอคลายปมไปด้วยกันนะคะ ^^

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
 :-[ หนูด้วงงงงงงงงงงงงงงง
อะไรจะขนาดนั้นลูก ป้าจะเป็นลม 5555+
แก่แดดได้เนียนมากกกกกก อ้างเพื่อนได้แบบอาน้องไม่รู้เลยเนอะตัวแสบ
แล้วถุงยางนั่น ซื้อไปทำบอลลูนเหรอลูก
เยอะอะไรปานนั้น 5555+

-------------------
มีคำผิดตอนของพี่หนูด้วงนะคะ
แต่เฉพาะคำทับศัพท์ จะปล่อยผ่านก่อน
มีหลายคำเลย เช่น บาบีคิว (ต้องเป็น บาร์บีคิว) เฟสบุ๊ก (ต้องเป็น เฟซบุ๊ก)
ขอแก้เฉพาะคำไทยก่อนนะคะ
-------------------
อิงลิชจ๋าน้องไม้น้องหม่อมาแล้ว
น้องหม่อนอนกางแขนกางขาอ้าซ่า
ฃื่อน้องหม่อนผิดนะคะ

โอบอุ้มพยายามสะกดอารมณ์ที่กำลังพุ่งพล่าน
พลุ่งพล่าน

“ถึงกับอ่อนแรงเลยเหรอ” โอบอุ้มกระเส้า
กระเซ้า

“แต่...ของนาโมน่ากินกว่า” น้องหม่อมองถุงขนมในมือของนกฮูก
เหมือนว่าแก้แล้ว แต่ลืมลบ ออกไปนะคะเนอะ..

.
.

------------------- :hao4:
ในส่วนของนกฮูก ... หน่วงจิตเลยค่ะ
ยังไม่ได้อ่านละเอียด กลัวสะอื้น 5555+
เดี๋ยวตั้งหลักเรื่องปรับเวลาในไทยได้แล้ว จะมาอ่านทวนนะคะ

....
ตอนนี้ ขอไปนอนขำกับหนูด้วงงงงงงงงงง ตัวแสบสุดก่อนค่ะ

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
กรี๊ดดดดดดด   :o12:  :pighaun: หนูด้วงลูก!

ชอบตรง ไม่ได้หรอ แล้วเอียงคอชม้อยชม้ายชายตาถามนี่ล่ะ

ส่วนน้องหม่อนลูก  :laugh:  หมากฝรั่งอันนั้นมันกินไม่ได้  :laugh:

 :angry2: :beat: สามารถ! แกจะมาทำอะไรโอบอุ้มอีก

แกทำตัวเองทั้งนั้น

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :monkeysad: ต่างฝ่ายต่างชอบกันแน่ๆ  :o12: :sad4:

ตอนแรกแค่คิดว่าจะน้ำตาคลอ บ้าเอ้ย ไหลเป็นทางเลย  :m15:

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เพลงรักที่หายไป

เพลงที่ 10 ซักกะนิด
ศิลปิน ทาทายัง


หลังจากกลับมาถึงบ้าน หนูด้วงรีบขึ้นมาบนห้องนอนเพื่อจะหาที่เก็บกล่องถุงยางอนามัยที่ตัวเองเหมาซื้อมา หนูด้วงกลัวว่าน้องแฝดจะมาเห็นแล้วจะเกิดคำถามอีก ไม่รู้ว่าเด็กทั้งคู่จะยอมรับได้แค่ไหนที่พ่อของตัวเองจะมารักกับผู้ชายด้วยกัน รู้ดีว่าเด็กขนาดน้องแฝดต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกับความรักแบบนี้ ก็เหมือนกับที่ตัวเองก็เคยสับสนมาก่อน ตอนนี้หนูด้วงถึงได้อยากให้เด็กทั้งคู่รักตัวเองให้ได้ก่อนที่จะรู้ความจริง

“ทำอะไรครับ” ระหว่างที่ให้น้องแฝดไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะโอบอุ้มจะพาทั้งคู่ไปเล่นน้ำทะเล เขาเลยเดินตามหนูด้วงเข้ามาในห้องนอนก่อน

“หนูจะซ่อนของ ไม่อยากให้น้องแฝดมาเห็นอีก”

“มาคุยกันก่อน” โอบอุ้มดึงหนูด้วงให้มายืนใกล้ๆ รั้งเอวคอดเอาไว้แล้วกดจูบที่หน้าผาก

“หนูขอโทษนะครับที่ไม่ระวัง” หนูด้วงเสียงอ่อย

“พี่ไม่ได้จะตำหนิ พี่แค่อยากถามว่าหนูจะซื้อมาทำไมเยอะแยะครับ”

หนูด้วงไม่รู้จะตอบว่ายังไงเลยได้แต่หน้าซุกไปที่อกของพี่โอบ วันนี้สมองมันดันตันเอาเสียดื้อๆ คำถามอะไรก็ดูจะตอบยากไปหมด

“ตอบไม่ได้เหรอ งั้นพี่เปลี่ยนคำถาม”

“ดีฮะ” หนูด้วงเงยหน้ามายิ้มเมื่อไม่ต้องตอบคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้

“คิดว่าพี่ควรใช้ของพวกนี้สักกี่วันดีถึงจะหมด หนึ่งวันหรือสองวัน” โอบอุ้มหยอกเย้า

หนูด้วงทำตาโตเมื่อได้ยินคำถาม จากที่ซุกอกของพี่โอบอยู่ก็เดินไปนั่งที่เตียงแล้วเทกล่องถุงยางอนามันออกมาจากถุงหูหิ้ว นิ้วเรียวเล็กเริ่มจิ้มไปที่กล่องถุงยางที่ละกล่อง ปากบางขมุบขมิบนับจำนวน

“มีตั้งสามสิบห้าอัน หนูมาค้างได้แค่วันศุกร์กับเสาร์ แปลว่าเรามีเวลาแค่สองวัน อืม...ถ้าใช้สักวันละห้าอันก็ตกอาทิตย์ละสิบอัน สามสี่อาทิตย์ก็คงหมดฮะ” หนูด้วงยิ้มร่าเมื่อคราวนี้มีคำตอบให้พี่โอบแล้ว

โอบอุ้มอมยิ้มหลังจากได้ยินคำตอบ เขาเดินไปนั่งข้างๆ เชยคางอีกฝ่ายให้เงยหน้าขึ้นมาสบตาตนเอง หนูด้วงโตขึ้นและกล้าที่จะแสดงออกอย่างเปิดเผยในสิ่งที่คิด น้องพยายามจะแสดงให้เขารู้ว่าพร้อมจะใช้ชีวิตกับเขาในแบบคนรัก เขาเองก็พร้อมแล้วถึงได้กลับมา แต่เขาไม่อยากรีบร้อนถึงขั้นนั้น ตัวอย่างของความรีบร้อนมีให้เห็นแล้วในอดีต ซึ่งมันทำให้เขาต้องอยู่ห่างจากหนูด้วงถึง 15 ปี ตอนนี้เป็นเวลาที่เขาต้องพิสูจน์ให้ป๊าพญาเห็นว่าเขาดูแลตัวเองได้และพร้อมที่จะดูแลหนูด้วงได้เช่นกัน

“เราคงยังไม่ทำอะไรถึงขั้นนั้น”

“พี่ไม่ต้องการหนูเหรอ” หนูด้วงใจเสียที่โอบอุ้มเลี่ยงที่จะมีอะไรกับตัวเองอยู่เรื่อย

“พี่ต้องการหนูมากกว่าสิ่งใด แต่เราสองคนต้องพิสูจน์ให้ผู้ใหญ่เห็นก่อนว่าเราจะพากันไปในทางที่ดี หนูด้วงเพิ่งจะอยู่ปีหนึ่ง หน้าที่ของหนูคือเรื่องเรียนนะครับ”

“หนูก็เรียนหนังสือแล้วก็เรียนรู้เรื่องรักกับพี่ด้วยไงฮะ หนูสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนให้จบ แล้วหนูก็สัญญาว่าจะเป็นคนรักที่ดีให้พี่ แล้วก็เป็นมัมๆ ที่ดีให้น้องแฝดด้วย” หนูด้วงยกมือขึ้นคล้องคอพี่โอบก่อนจะทำหน้าอ้อน

น้ำเสียงที่ออดอ้อนบวกกับแววตาที่ดูอ่อนหวานของหนูด้วงทำให้โอบอุ้มอยากจะลืมคำมั่นสัญญาที่ให้กับพญาเอาไว้ อยากจะจับร่างเล็กตรงหน้าให้นอนราบและประทับจูบไปทั้งตัว แต่ถ้าเขารักษาคำมั่นให้กับคนที่เปรียบเหมือนดั่งพ่อไม่ได้ เขาก็คงจะรักษาสัญญาที่ให้กับคนอื่นๆ ไม่ได้เช่นกัน เขาถือว่าการรักษาคำพูดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทุกคนควรจะมี

“อืม...ถ้าอย่างนั้นพี่จะกอดหนู จะจูบหนู จะอาบน้ำให้หนูแค่นี้ก่อนก็ได้ก็ได้ หนูรู้ว่าพี่ไม่อยากผิดคำสัญญากับยุง พี่มาดูมาดู วันหมดอายุของถุงยางยังอีกตั้งนาน ก็เก็บเอาไว้ก่อนเนอะ” หนูด้วงรีบเปลี่ยนบรรยากาศเพราะคิดว่าตัวเองกำลังทำให้พี่โอบหนักใจ

“ขอบคุณที่เข้าใจพี่นะครับคนดี หนูด้วงรู้เอาไว้นะ พี่รักหนูมาก รักมากกว่าชีวิตของพี่อีก” โอบอุ้มจูบที่หน้าผากของหนูด้วงแม้ใจอยากจะทำมากกว่านี้

“หนูก็อยากบอกพี่ว่าหนูรักพี่มากกว่าชีวิตของหนู แต่หนูตัวเล็กกว่าพี่ เดี๋ยวพี่จะว่าหนูรักพี่น้อยกว่า งั้นเอาแบบนี้ หนูรักพี่มากกว่าชีวิตของพี่ที่รักหนู” หนูด้วงพูดจบก็หอมหน้าผากของอีกฝ่ายบ้าง จากนั้นก็หอมแก้ม หอมจมูก หอมคางก่อนจะมาหยุดที่ริมฝีปากของพี่โอบ สองริมฝีปากบดเบียดกันช้าๆ จนได้ยินเสียงน้องแฝดดังขึ้นที่ด้านนอกจึงยอมแยกออกจากกัน

“เก็บเอาไว้ก่อนนะครับผู้วิเศษ ถ้าถึงเวลาที่พี่จะใช้เมื่อไหร่ พี่อาจจะใช้วันละสิบอันเลย” โอบอุ้มกระซิบที่หูของหนูด้วง

“ก็ได้ก็ได้ เอากลิ่นราสเบอร์รี่ก่อนนะฮะ หนูชอบ” หนูด้วงหัวเราะคิกคักก่อนจะรีบหยิบกล่องถุงยางอนามัยใส่ถุงแล้วเอาไปซ่อนในตู้เสื้อผ้าของพี่โอบ

ส่วนโอบอุ้มได้แต่ลอบขำ เขาเดาว่าเจ้าตัวแสบคงคิดว่าการมีอะไรกันสิบรอบมันคงจะสนุกเหมือนตอนได้เล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกอยู่แน่ๆ ถึงได้ไม่มีท่าทีวิตกกังวลอะไรให้เห็นเลย เขามั่นใจว่าน้องคงไปปรึกษาเรื่องพวกนี้กับอาน้อง การกระทำหลายอย่างของหนูด้วงมันเหมือนที่อาน้องแสดงกับป๊า เด็กน้อยของพี่โอบคงอยากทำให้พี่โอบรัก เจ้าตัวไม่รู้ไงกันนะว่าแค่นี้พี่โอบก็รักจนไม่รู้จะรักได้มากกว่านี้อย่างไรแล้ว

......
[/b]

ช่วงเวลาความสุขผ่านไปเร็วมาก หนูด้วงได้แต่ถอนหายใจเมื่อพี่โอบบอกว่าจะไปส่งที่หอพัก แม้หนูด้วงพยายามอ้อนว่าขอกลับดึกกว่านี้อีกนิดแต่พี่โอบก็ไม่ยอมเพราะว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์ พี่โอบบอกว่าหนูด้วงจะต้องไปทบทวนเรื่องการเรียนบ้าง น้องแฝดก็ดูเหมือนจะงอแงเมื่อรู้ว่าหนูด้วงต้องกลับ แต่พอเห็นสายตาเข้มๆ ของพ่อนาโมก็เลยได้แต่ทำหน้าอาลัยอาวรณ์

“วันนี้ก็เล่นน้ำกันจนตัวเปื่อยแล้ว เอาไว้พี่หนูด้วงจะฝากของเล่นมาให้อีก ห้ามดื้อ ห้ามงอแงกับนาโมนะ” หนูด้วงรีบเข้ามาปลอบน้องแฝดทั้งที่ตัวเองก็อยากจะงอแงบ้างที่ต้องกลับ

“พอวันศุกร์พี่หนูด้วงต้องรีบมาหาน้องหม่อนเลยนะ” ใบหม่อนเข้ามากอดหนูด้วง

“ก็ได้ก็ได้ แล้วน้องไม้จะคิดถึงพี่หนูด้วงไหม” หนูด้วงถามเด็กชายที่ยืนเอามือไขว้หลังอยู่ที่ริมประตูรั้ว

“เดี๋ยวก็ได้เจอกันนะน้องหม่อน อย่างอแง” น้องไม้ไม่ตอบหนูด้วง แต่หันไปทำน้ำเสียงจริงจังกับน้องหม่อนให้ดูว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไร

“พี่หนูด้วงกลับก่อนนะ” หนูด้วงดึงน้องหม่อนมาหอมก่อนจะเดินไปหอมน้องไม้บ้าง

“วันศุกร์มาไวๆ ก็แล้วกัน” น้องไม้พูดเบาๆ ทำหน้าเขินจนหนูด้วงอดไม่ได้ต้องหอมแก้มคนปากแข็งอีกรอบ

“นกฮูกมาพอดี พี่ให้น้องแฝดนั่งรถไปส่งหนูที่หอด้วยได้ไหมฮะ” หนูด้วงเห็นเพื่อนสนิทเดินมาเพื่อที่จะกลับไปยังหอพักพร้อมกัน เห็นว่าพี่โอบต้องเอารถยนต์ไปส่งอยู่แล้วเลยอยากอยู่กับน้องแฝดอีกสักหน่อย แค่ช่วงเวลานั่งรถไปส่งก็ยังดี

“อืม” โอบอุ้มพยักหน้า

“เย้” น้องหม่อนตะโกนร้องชูมือชูไม้ดีใจ ส่วนน้องไม้ไม่พูดไม่จารีบเดินขึ้นไปนั่งบนรถก่อนใคร

“ปากแข็งเหมือนยุงพญาจริงๆ” หนูด้วงนึกขำน้องไม้

“น้องหม่อนก็เหมือนหนูด้วง” นกฮูกนึกถึงเพื่อนรักสมัยอยู่ประถมก็เห็นว่าไม่ต่างจากน้องหม่อนเลย ระหว่างนั้นเหลือบเห็นสีหน้าแปลกๆ ของพี่โอบ ทำไมพี่โอบต้องดูตกใจเมื่อพูดถึงความคล้ายของน้องแฝดกับหนูด้วงและยุงพญา เขาเริ่มนึกสงสัยเกี่ยวกับน้องแฝดขึ้นมาทันที

“ไปกันเถอะ” โอบอุ้มรีบชวนทุกคนขึ้นรถเพราะเห็นว่าเย็นมากแล้ว

......
[/b]

เสียงตามสายจากชมรมขนนกดังขึ้นในช่วงเช้าเหมือนอย่างทุกๆ วัน เพลงจังหวะสนุกสนานที่ดีเจเวนส์เปิดสร้างความคึกคักสดใส กลุ่มเดอะซูของหนูด้วงก็มารวมตัวกันที่โรงอาหารเหมือนอย่างเคย แต่ที่ไม่เหมือนเคยคือหลายสายตาในโรงอาหารต่างจับจ้องมาที่กลุ่มจนทุกคนประหลาดใจ ยกเว้นก็แต่น้องเกลที่รู้สาเหตุของการตกเป็นเป้าสายตาในครั้งนี้

ประเด็นก็คือ หนูด้วงและสิงโตถูกพูดถึงในคอลัมน์สะกิดดาว เนื่องมาจากหนูด้วงลงรูปในเฟซบุ๊กเป็นรูปเสือกับสิงโตที่ยืนอยู่คู่กันพร้อมกับข้อความที่เหมือนจะบอกความในใจ กลุ่มสาววายพากันมากันกดไลค์กดแชร์ตั้งแต่เมื่อคืน จากที่คิดว่าคู่นี้คงไม่ได้ชอบกันอย่างที่จิตนาการเอาไว้ ตอนนี้คู่จิ้น ‘สิงห์ด้วง’ ก็กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง ส่วนคอมเมนต์ก็มีทั้งบวกและลบ ซึ่งคนที่แสดงออกว่าไม่ชอบก็คือกลุ่มสาวๆ ที่แอบชื่นชมสิงโตอยู่นั่นเอง

“ทำไมถึงลงรูปนี้” สิงโตถามหนูด้วงเพราะไม่เข้าใจเหมือนกันว่าหนูด้วงจะสื่ออะไร

“คือ...คือ...” หนูด้วงยิ้มแห้งๆ รู้สึกพลาดและลืมคิดไปว่าเพื่อนสนิทก็ชื่อสิงโต แต่ก็บอกเพื่อนไม่ได้ว่าตัวเองหมายถึงชื่อจริงของพี่โอบกับของตัวเอง ซึ่งก็คือราชสีห์กับพยัคฆ์

“ลงรูปผิดใช่ไหม” นกฮูกแกล้งถามนำทาง

“เออ ใช่ๆ เราลงรูปผิด” หนูด้วงรีบเออออตามนกฮูก

“แล้วจะลงรูปอะไร แล้วที่บอกว่า เนื้อคู่ไม่ใช่เหยื่อ หลงรักได้ หมายถึงใคร” น้องเกลถามต่อ

“คือ...คือ...” หนูด้วงหาคำตอบไม่ได้จึงได้แต่อ้ำอึ้งพร้อมกับส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากนกฮูก

“พี่นโมคือพี่โอบใช่ไหม” คราวนี้สิงโตเป็นฝ่ายถาม

“เฮ้ย! รู้ได้ไงอ่า” หนูด้วงตกใจที่ถูกเพื่อนจับได้อีกแล้ว

“เจ๋ง สรุปว่าที่เราสงสัยกันเป็นจริงใช่ไหม” เม่นดีดนิ้วเมื่อเห็นท่าทางของหนูด้วง

“ทำไมถึงได้รู้กันหมดเลยล่ะ” หนูด้วงไหล่ห่อคอตกเมื่อถูกทุกคนจับได้

“ก็เรารู้ว่าหนูด้วงไม่ใช่คนรักใครง่ายๆ จู่ๆ จะมารักคนที่เพิ่งเจอกันมันไม่น่าใช่นิสัยของหนูด้วงไง” น้องเกลตอบพร้อมกับยกยิ้มที่เดาถูก

“เฮ้อ โล่ง” สิงโตถอนหายใจจนทุกคนต้องหันมามอง

“โล่งอะไร” เม่นถามเมื่อเห็นสิงโตยิ้มได้ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำเหมือนจะเป็นจะตายที่หนูด้วงทำท่าว่าชอบพี่นโม

“ก็ถ้าเป็นพี่โอบเราสบายใจ ดีใจด้วยนะหนูด้วงที่ไม่ต้องรอคอยอีกแล้ว” สิงโตยีผมหนูด้วงเบาๆ

ถึงสิงโตจะยังรู้สึกเจ็บแต่ก็รู้สึกสบายใจอย่างที่พูดไป หนูด้วงรอพี่ชายคนนี้มานานมาก เพราะเขารับรู้ถึงความรักที่หนูด้วงมีให้พี่โอบ เขาถึงไม่เคยสารภาพความในใจออกไป พอเห็นหนูด้วงมาชอบพี่นโม เขาถึงรู้สึกเจ็บหนักเพราะคิดว่าตัวเองถูกมองข้ามและไม่เคยอยู่ในสายตา ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าคนที่เกิดมาคู่กันย่อมไม่แคล้วคลาดจากกัน     
 
“ขอบคุณนะสิงโต” หนูด้วงดีใจที่สิงโตแสดงความยินดีให้กับความรักของตัวเอง เผลอเอนตัวไปซบที่แขนเพื่ออ้อนเพื่อน จนได้ยินเสียงกรี๊ดดังขึ้นถึงได้รู้ว่าพี่ๆ กลุ่มโอนลี่วายเฝ้ามองอยู่

“งานเข้าแน่” นกฮูกถอนหายใจ

“ไม่เป็นไรหรอก ให้คนอื่นคิดว่าเราชอบเพื่อนสนิทอย่างสิงโตดีกว่าให้คิดว่าเราไปชอบคนอื่น พี่โอบไม่หึงสิงโตหรอก” หนูด้วงคิดในแง่บวก

“หึง” เสียงเข้มๆ ดังมาจากด้านหลังพร้อมกับกล่องขนมครกที่ถูกนำมาวางตรงหน้าของหนูด้วง

“พี่โอะ...เอ้ย พี่นโม หนู...หนู” หนูด้วงตกใจเพราะไม่คิดว่าพี่โอบจะหึงตัวเอง

“บอกแล้วว่างานเข้า” นกฮูกนึกขำเพื่อนรักที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เพราะพี่โอบเดินหนีไปแล้ว อุตส่าห์ส่งสัญญาณบอกให้รู้ว่าพี่โอบเดินมาแต่หนูด้วงไม่ยอมสนใจ

“ต้องไปง้อ” หนูด้วงรีบลุกขึ้นยืนทันทีจนเพื่อนๆ ต้องดึงมือเอาไว้ก่อน

“จะไปง้อยังไง คนเยอะแยะ” น้องเกลถามเมื่อเห็นว่าหลายสายตายังจับจ้องมาที่กลุ่มของตัวเองอยู่

“ก็ไปดักรอที่มุมมืด พอพี่โอบเดินผ่านก็จับจูบเลย เราไปก่อนนะ แฟนเรางอน เราต้องไปง้อ” หนูด้วงพูดจบก็ออกตัววิ่งเร็วจี๋ตามพี่โอบไปจนเพื่อนๆ รั้งเอาไว้ไม่ทัน

“เจ๋ง ฮ่าๆๆ หนูด้วงของเราโตแล้วจริงๆ” เม่นนั่งหัวเราะชอบใจที่เห็นพัฒนาการด้านความรักของผู้วิเศษประจำกลุ่ม

สิงโตเห็นแล้วก็อดขำตามไม่ได้ อาการเจ็บของคนอกหักมันทุเลาลง แต่เขาไม่แน่ใจว่าที่ความเจ็บมันเบาบางลงเพราะยอมรับเรื่องหนูด้วงได้หรือเพราะใครอีกคนที่ก้าวเข้ามาในชีวิตกันแน่ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมใบหน้าเศร้าๆ ของใครคนนั้นถึงได้ลอยเข้ามาในหัวแทบจะตลอดเวลา แค่คิดถึงก็อยากไปหา แต่ก็ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นจะคิดถึงตัวเองอย่างที่ตัวเองกำลังคิดถึงบ้างหรือเปล่า

......
[/b]

สรุปว่าภารกิจง้อพี่โอบยังไม่สำเร็จอย่างที่ตั้งใจเอาไว้เพราะว่าหนูด้วงหาตัวพี่โอบไม่เจอ ไม่ว่าจะไปตามหาที่ห้องวิชาการหรือที่ชมรมกล่องดนตรีก็ไม่เจอตัว สุดท้ายก็ต้องกลับไปเข้าคลาสเรียนก่อน

“หนูด้วง เราจองที่ให้แล้ว” แก้วเห็นหนูด้วงเดินเข้ามาก็รีบโบกมือให้

“ขอบใจนะ”

“หนูด้วง จำการบ้านที่อาจารย์ให้เขียนถึงความรู้สึกเรื่องเกี่ยวกับอารมณ์เพลงตอนที่ได้ฟังหนูด้วงกับปูลมออกไปร้องเพลงได้ไหม”

“อือ จำได้ เราก็ส่งไปแล้ว ทำไมเหรอ” หนูด้วงเห็นสีหน้าของแก้วไม่ดีเลยนึกสงสัย

“คือ...เราเป็นคนเรียบเรียงการบ้านของเพื่อนๆ ไปส่งอาจารย์ แล้ว...เราก็เจอแผ่นกระดาษพวกนี้แทรกเอาไว้ด้วย ไม่รู้ใครทำ”

หนูด้วงรับกระดาษสามสี่แผ่นจากมือของแก้วมาดู ข้อความที่ถูกพิมพ์ลงในแผ่นกระดาษมันทำให้หนูด้วงยิ้มไม่ออกเพราะมันมีแต่ข้อความต่อว่าหนูด้วงเต็มไปหมด หนูด้วงเงยหน้ามองไปรอบๆ ห้องแต่ก็เดาไม่ออกว่าใครที่เกลียดตัวเองถึงขนาดนี้

“ชอบทำตัวแอ๊บแบ้วหนูอย่างนั้นหนูอย่างนี้..ทุเรศ ทำเป็นเด่นทั้งที่ไม่ได้มีความสามารถอะไรเลย โชคดีที่ได้อยู่กลุ่มคนเก่งๆ ถึงได้มีคนรู้จัก หน้าตาก็ไม่เห็นจะดีเหมือนเพื่อนในกลุ่ม เป็นเด็กเส้นใครๆ ถึงคอยเอาใจ สอบเข้าได้เพราะใช้เงิน ไม่เหมาะสมกับสิงโต” หนูด้วงอ่านคำวิจารณ์ตัวเองในกระดาษก็ได้แต่ถอนหายใจ

“คงมีคนอิจฉาหนูด้วง อย่าไปใส่ใจเลยนะ เราว่าหนูด้วงมีความสามารถ ร้องเพลงได้อารมณ์สุดๆ ดีกว่าปูลมตั้งเยอะ”

“เราไม่เห็นจะมีอะไรให้คนมาอิจฉาเลย” หนูด้วงรู้สึกไม่ดี ไม่อยากให้ใครมาเกลียดตัวเอง

“ทำไมจะไม่มี หนูด้วงน่ารัก แฟนก็หล่อ”

“หื้อ” หนูด้วงทำตาโต ไม่คิดว่าแก้วจะรู้เรื่องของพี่โอบด้วย

“สิงโตไง” แก้วกระซิบ

ทีแรกหนูด้วงจะปฏิเสธเรื่องของสิงโตแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา มันคงไม่มีประโยชน์ที่จะอธิบายใครต่อใครถึงเรื่องส่วนตัวของตัวเอง ทำได้แต่ถอนหายใจและอยากให้จบคลาสไวๆ อยากไปหาเพื่อนๆ อยากไปหาพี่โอบกับพี่ๆ สมาชิกชมรมกล่องดนตรี เพราะหนูด้วงไม่อยากอยู่ในที่ๆ มีคนเกลียดตัวเองแบบนี้เลย หนูด้วงไม่ชอบเลยจริงๆ

จบคลาสแล้วหนูด้วงก็ยังไม่ได้ไปหาคนที่อยากเจออย่างที่ตั้งใจเอาไว้ รุ่นพี่ในคณะพาน้องปีหนึ่งไปเลี้ยงข้าว จากนั้นหนูด้วงก็ต้องเข้าเรียนต่อ พอจบคลาสบ่าย น้องปีหนึ่งก็ต้องไปนั่งรวมกันที่ลานดาวเหมือนเดิม เย็นนี้จะมีการคัดดาวและเดือนคณะออกให้เหลือผู้เข้าชิงแค่ 6 คนสุดท้าย เป็นผู้ชาย 3 คน ผู้หญิง 3 คน

“เราลืมไปบอกพี่ๆ เรื่องที่จะสละสิทธิ์เข้าประกวดเดือนคณะเลย” หนูด้วงเพิ่งจะนึกขึ้นได้แต่ก็คงสายไปเพราะรุ่นพี่คงจะหาคนมาประกวดแทนหนูด้วงไม่ทัน

“ก็ขึ้นๆ ไปแสดงเถอะ ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต” นกฮูกตบบ่าเพื่อนรักก่อนจะเดินออกไปนั่งที่หน้าเวทีรวมกับเพื่อนคนอื่นๆ

“วันนี้ต้องโชว์ความสามารถอีก แล้วหนูด้วงจะทำอะไร” สิงโตถาม ส่วนตัวเขาก็คงจะเดาะบอลโชว์ตามเดิม

“ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย ก็คงร้องเพลงแหละ” หนูด้วงพูดไปก็มองหาพี่โอบไปด้วย
“ต้องขึ้นเวทีแล้ว ไปกันเถอะ” สิงโตจูงมือของหนูด้วงขึ้นไปด้านบน

เสียงกรี๊ดดังขึ้นเหมือนเคยเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนจูงมือกันขึ้นมา หนูด้วงไม่ได้สนใจสายตาคนอื่นเพราะตอนนี้ตัวเองเห็นแล้วว่าพี่โอบนั่งอยู่กับพี่ๆ วงเดอะบอกซ์ รวมถึงพี่เปิ้ลกับพี่นิลด้วย

“วันนี้เป็นรอบรองชนะเลิศการประกวดเดือนดาวคณะ เรามีรุ่นพี่ยุคบุกเบิกของโซเลยมาเป็นกรรมการร่วมตัดสินด้วย เดี๋ยวจ๋าจะแนะนำให้รู้จักทีละคนนะคะ”

วีเจจ๋าซึ่งเป็นพิธีกรบนเวทีทำหน้าที่แนะนำรุ่นพี่ที่จบไปแล้วแต่ละคนให้รุ่นน้องได้รู้จัก พอเอ่ยถึงชื่อของโอบอุ้มก็เรียกเสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดได้ดังมากกว่าคนอื่นๆ จากนั้นก็ถึงเวลาที่น้องปีหนึ่งที่เป็นตัวแทนดาวและเดือนของแต่ละคณะต้องออกมาโชว์ความสามารถกันอีกครั้ง

หนูด้วงไม่ได้สนใจใครเลยเอาแต่มองไปที่พี่โอบและพยายามจะโบกมือให้แต่ฝ่ายนั้นก็มัวแต่คุยกับเพื่อนๆ หนูด้วงอยากให้มองมาสักนิดหนึ่งหนูด้วงจะได้มีกำลังใจ แต่จนแล้วจนรอดพี่โอบก็ไม่ได้มองมาสักที จนกระทั่งถึงตาของหนูด้วงที่จะต้องออกไปแสดงโชว์บ้าง

“วันนี้น้องพยัคฆ์จะมาแสดงความสามารถอะไรคะ” พิธีกรสัมภาษณ์หนูด้วงก่อนการแสดง

“ร้องเพลงฮะ”

“แล้วจะร้องเพลงอะไรคะ”

“อุ่ย...หนูจะร้องเพลงอะไรดี...” หนูด้วงเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยแม้กระทั่งเพลงที่จะร้อง

“ฮ่าๆ มุกใช่ไหมคะ” พิธีกรหัวเราะเมื่อได้ยินคำตอบของหนูด้วง แต่พอเห็นหนูด้วงอึ้งไปนานก็เริ่มหน้าเสีย มองไปทางด้านข้างเวทีก็เห็นว่ารุ่นพี่คณะดุริยางค์ฯ กำลังทำหน้าเลิ่กลั่กกันใหญ่

“รู้แล้วฮะ เอาเพลงซักกะนิดของพี่ทาทา หนูจะง้อแฟน” หนูด้วงพูดออกไมค์เสียงดังฟังชัด คำตอบของหนูด้วงเรียกเสียงฮือฮาและเสียงกรี๊ดจากคนที่นั่งอยู่ด้านล่างจนพิธีกรต้องทำมือให้ทุกคนหยุดส่งเสียง

“โอ้โห ชัดเจนดีมากเลยค่ะ ถ้าอย่างนั้นมาฟังน้องพยัคฆ์ร้องเพลงง้อแฟนกันนะคะ บอกได้ไหมคะว่าแฟนอยู่ตรงไหนพี่จะได้ช่วยลุ้นไปด้วย”

“บอกไม่ได้...หนูหวง แหะๆ หนูล้อเล่น มันเป็นความลับฮะ” หนูด้วงกระซิบแต่มือยังถือไมค์อยู่เลยกลายเป็นว่ากระซิบออกไมค์โดยทั่วถึงกันหมด

“โอเค ความลับก็ความลับ เรามาเอาใจช่วยให้น้องง้อแฟนสำเร็จก็แล้วกันนะคะ” พิธีกรหัวเราะก่อนจะดูสัญญาณทีมงานเพราะตอนนี้กำลังหาคาราโอเกะเพลงซักกะนิดมาเปิดให้หนูด้วงร้องกันจ้าละหวั่น เมื่อทีมงานบอกว่าพร้อมแล้วทางพิธีกรจึงบอกให้หนูด้วงแสดงโชว์ได้

ทำนองเพลงสนุกสนานทำให้บรรยากาศเริ่มคึกคักขึ้น หนูด้วงเริ่มขยับร่างกายให้เข้ากับจังหวะของดนตรี เรื่องร้องเรื่องเต้นขอให้บอกหนูด้วงถนัดนัก 

‘ฉันคิดถึงเธอทุกวัน เปรียบขนาดประมาณเมฆใหญ่ ฉันคิดถึงเธอทุกวัน เปรียบขนาดประมาณรถไฟ
ก็ชอบเธอ ก็เลยบอก เรื่องจริงจึงไม่ยอมเก็บไว้ สนามบอลที่ว่าใหญ่ แต่ใจเราให้เธอยิ่งกว่านี้ ดูให้ดีสิเยอะนะ’

หนูด้วงเริ่มร้องและทำท่าประกอบเพลงไปด้วย มือไม้เหยียดอ้าออกกว้างเพราะต้องการให้พี่โอบเห็นว่าความรักของตัวเองใหญ่เท่าเมฆก้อนโตและหัวใจของตัวเองก็กว้างกว่าสนามบอลเสียอีก

‘ฉันคิดถึงเธอเท่าไร ใหญ่กว่าตึกที่มันสูงชัน ฉันนั้นรักเธอเท่าไร ใหญ่ขนาดประมาณพระจันทร์
ก็ชอบเธอ ก็เลยบอก เรื่องจริงจึงไม่ยอมเก็บไว้ สนามบอลที่ว่าใหญ่ แต่ใจเราให้เธอยิ่งกว่านี้ ดูให้ดีสิเยอะนะ’

ท่าเต้นส่ายก้นไปมาของหนูด้วงดูน่ารักปนตลกจนเรียกเสียงหัวเราะและเสียงปรบมือตามจังหวะจากคนในลานดาว แถมตอนนี้เพื่อนๆ ที่ร่วมประกวดหลายคนกระโดดเข้ามาร่วมวงเต้นด้วยกันเป็นที่สนุกสนาน ยกเว้นกลุ่มขององุ่นและเพื่อนสนิทที่เอาแต่ยืนเฉย

‘บอกว่ารักซักกะนิด ซักกะนิด ลิตเติ้ลบิท แค่นี้ก็พอ ลิตเติ้ลบิท ลิตเติ้ลมอร์
ขอน้ำตาล เติมหัวใจหน่อย อย่างงี้ มันค่อยดีหน่อย หนึ่งคำ ไม่ต้องมีมาเยอะ
บอกว่ารักซักกะนิด ซักกะนิด ลิตเติ้ลบิท แค่นี้ก็พอ ลิตเติ้ลบิท ลิตเติ้ลมอร์
ขอน้ำตาล เติมหัวใจหน่อย อย่างงี้ มันค่อยดีหน่อย หน่อยนึง ไม่ต้องมีมาแยะ แพะ ยังฟังเข้าใจเลย’

หนูด้วงเต้นยึกยักพร้อมกับกะพริบตาปิ๊งๆ ไปทางพี่โอบ พอจบเพลงก็วาดมือออกพร้อมกับชูนิ้วสามนิ้วที่เป็นสัญลักษณ์แทนคำว่ารักไปให้พี่โอบอีกด้วย เมื่อเห็นพี่โอบหัวเราะใจก็พองโต ในที่สุดก็ง้อพี่โอบได้สำเร็จ ด้วยความดีใจเลยหันไปกระโดดกอดสิงโต คราวนี้เสียงกรี๊ดดังลั่นลานดาวหนักกว่าเดิม

“ที่แท้แฟนของหนูด้วงก็คือน้องสิงโตนั่นเอง” พิธีกรเดินเข้ามาแซว

“ไม่ใช่ฮะ ไม่ใช่” หนูด้วงตกใจที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด

“ไม่ต้องเขินค่ะ ทั้งจับมือ ทั้งกอดกันขนาดนี้ ดูพี่ๆ ชมรมโอนลี่วายสิคะ กรี๊ดจนจะเป็นลมกันอยู่แล้ว”

“ไม่ใช่ฮะ แฟนหนูคนนั้น” หนูด้วงรีบชี้นิ้วไปทางพี่โอบ

แต่เมื่อทุกคนหันไปดูตามที่หนูด้วงชี้ก็ชะงักนิ่ง หนูด้วงเห็นพี่พิธีกรทำหน้าแหยๆ ก็สงสัยเลยหันไปมองบ้าง

“อุ่ยยยย” หนูด้วงตกใจเมื่อมองไปก็ไม่เห็นพี่โอบแล้ว ส่วนคนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งตรงที่นิ้วของตัวเองชี้ไปกลับเป็น...พี่เปิ้ล!!

“ฮ่าๆๆๆ เออๆ หนูด้วงเด็กกูเอง” พี่เปิ้ลตะโกนขึ้นมาก่อนจะหัวเราะชอบใจยกใหญ่

“ขอตัวก่อนนะฮะ” หนูด้วงรีบลงจากเวทีไปทันทีโดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากใครๆ ไม่รู้ว่าพี่โอบหายไปไหน เมื่อกี้ยังนั่งยิ้มให้อยู่เลย หนูด้วงกลัวพี่โอบจะงอนอีกรอบที่ตัวเองเผลอไปกอดสิงโตเลยต้องรีบไปตามหา

เมื่อหนูด้วงวิ่งลงไปจากเวทีแล้วองุ่นก็แอบยิ้มเหยียดไล่หลังไปเมื่อเห็นว่าแฟนของหนูด้วงคือผู้ชายรูปร่างท้วมแถมยังหน้าตาธรรมดา เธอกับเพื่อนหันมาหัวเราะให้กันเพราะหลงคิดว่าจะรสนิยมของหนูด้วงจะสูงกว่านี้

“พยัคฆ์”

“ฮะ” หนูด้วงวิ่งมาถึงหน้าตึกคณะก็จำต้องหยุดวิ่งเมื่อโดนอาจารย์เรียกขึ้นมาก่อน

“อาจารย์จะรบกวนเธอสักหน่อย เด็กคนอื่นๆ เข้ากิจกรรมกันหมด”

“ได้ฮะ” หนูด้วงรับคำแม้ใจจะล่วงหน้าไปตามหาพี่โอบแล้ว

“เธอไปซื้อของตามใบสั่งนี่ให้อาจารย์หน่อยนะ ไปกับนายโอฬาร เขาอาสาขับรถไปให้”

“เอ่อ...” หนูด้วงหันไปเห็นส้มโอที่เพิ่งเดินเข้ามาก็ชักไม่อยากไปแต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธอาจารย์

“เธอมีธุระอื่นรึเปล่า” อาจารย์เห็นสีหน้าของหนูด้วงเลยเอ่ยถาม

“เดี๋ยวหนูไปซื้อของให้อาจารย์ก่อนก็ได้ฮะ”

“ผมจะรีบไปรีบกลับครับอาจารย์” ส้มโอบอกอาจารย์ก่อนจะหันมายิ้มให้หนูด้วง อาจารย์ท่านนี้เป็นเพื่อนสนิทกับพ่อของส้มโอจึงไหว้วานให้ส้มโอไปทำธุระให้ แต่ส้มโอเห็นหนูด้วงวิ่งมาแต่ไกลแล้วเลยรบกวนให้อาจารย์ช่วยสั่งให้หนูด้วงไปกับตนเอง โดยอ้างว่าหนูด้วงคือคนรักของตัวเองและกำลังงอนอยู่ อาจารย์ก็เลยตกลง

“ขับรถดีๆ นะ รบกวนหน่อยเถอะ พรุ่งนี้อาจารย์ต้องใช้ประกอบการสอนแต่ไม่ว่างไปซื้อเองจริงๆ ขอบใจทั้งสองคนมากเลยนะ”

เมื่ออาจารย์ไปแล้วส้มโอก็ผายมือให้หนูด้วงเดินไปที่รถคันหรูของตัวเอง หนูด้วงมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นใครเลยที่จะชวนให้ไปเป็นเพื่อนกัน ตอนนี้ทุกคนคงอยู่ที่ลานดาวกันหมด สุดท้ายก็ตัดสินใจขึ้นรถไปกับส้มโอเพราะคิดว่ารีบซื้อให้เสร็จจะได้รีบกลับ


มีต่อด้านล่างค่ะ
[/b]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-07-2018 03:45:38 โดย Loverouter »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ต่อจากด้านบนค่ะ
[/b]

ในตลาดของชุมชนมีร้านอุปกรณ์เครื่องเขียนร้านใหญ่อยู่ หนูด้วงเข้าไปเลือกของตามรายการที่อาจารย์เขียนมาให้แต่ยังขาดอีกสองสามอย่าง เจ้าของร้านบอกว่าให้รอเพราะเดี๋ยวจะมีล็อตใหม่มาลงที่ร้านอีกหลายอย่าง หนูด้วงจึงจำเป็นต้องรอ อยากจะโทรหาพี่โอบแต่ส้มโอก็นั่งจ้องตัวเองตาไม่กระพริบแถมยังเดินตามตลอด หนูด้วงเลยส่งข้อความไปให้พี่โอบแทน

DAr
พี่โอบฮะ
Ling
ว่าไงครับ หนูอยู่ไหน
DAr
พี่โอบนั่นแหละอยู่ที่ไหน หนูตามหาก็ไม่เจอ
Ling
พี่ไปเข้าห้องน้ำ ออกมาอีกทีหนูก็หายไปแล้ว
Dar
อ้าว หนูก็นึกว่าพี่โอบงอนหนู หนูเลยวิ่งตามหา ตั้งใจว่าจะไปจูบให้หายงอนสักหน่อย แฮร่
Ling
หึหึ...
DAr
ตอนนี้หนูออกมาซื้อของให้อาจารย์ฮะ ซื้อเสร็จจะรีบกลับไปเลย
Ling
ที่ไหน กับใคร
DAr
ที่ร้านเครื่องเขียนในตลาดชุมชนฮะ มากับรุ่นพี่ที่อาจารย์เขาใช้ให้มากับหนู
Ling
ให้พี่ไปรับไหมครับ
DAr
ไม่เป็นไรฮะ แต่...
Ling
แต่อะไร
DAr
พี่ไม่งอนหนูแน่นะ
Ling
ไม่งอนครับ แต่หึงครับ ถ้าไปกอดใครง่ายๆ อีก พี่จะตีก้นหนู
DAr
คึคึ...อย่าตีแรงนะฮะ หนูจะเจ็บ
Ling
ทะเล้น เดี๋ยวพี่ต้องไปรับน้องไม้กับน้องหม่อนแล้วไปเปิดร้าน คงไม่ได้เจอกัน ถ้าไงหนูด้วงถึงมอแล้วโทรหาพี่นะครับ
DAr
พี่โอบ วันนี้หนูขอไปค้างกับพี่โอบไม่ได้เหรอฮะ
Ling
ไม่ได้ครับ เอาไว้มาวันศุกร์นะ
DAr
แค่คืนเดียวเอง ไม่ได้เหรอฮะ
Ling
ไม่งอแงนะครับผู้วิเศษ หนูรับปากมัมกับแด๊ดไปแล้ว ไม่ผิดสัญญานะครับ
DAr
ก็ได้ก็ได้ ตอนนี้หนูก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วก็จิตใจห่อเหี่ยวมากๆ หนูบอกเฉยๆ
Ling
หึหึ...รับทราบครับ พี่โอบคิดถึงหนูด้วงนะครับ
DAr
หนูหายห่อเหี่ยวแล้วก็ได้แต่ก็ยังถอนหายใจอยู่
Ling
พี่โอบรักหนูด้วงนะครับ
DAr
เย้ หนูไม่ถอนหายใจแล้วก็ได้ก็ได้ หนูก็รักพี่โอบและก็คิดถึงมากๆ เหมือนกันฮะ

หนูด้วงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนจะกดส่งสติกเกอร์หัวใจดวงใหญ่ไปให้พี่โอบ พอเงยหน้ามาเห็นสายตาจับผิดของส้มโอก็เลยหุบยิ้ม ส้มโอเดินเข้ามาหาหนูด้วงก่อนจะถาม

“หนูด้วงหายโกรธพี่รึยังที่เคยแกล้ง”

“ก็พี่บอกว่าพี่เป็นคนดีแล้ว หนูก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วฮะ”

“ถ้าอย่างนั้นก่อนกลับพี่ขอให้หนูด้วงไปกินข้าวกับพี่สักมื้อได้ไหม”

“ไม่ดีกว่าฮะ เราต้องรีบเอาของไปให้อาจารย์”

“แสดงว่าหนูด้วงยังไม่ไว้ใจพี่ อย่าระแวงพี่เลย พี่ถูกน้าของหนูด้วงลงโทษแล้ว เข็ดแล้วครับ” ส้มโอแกล้งตีหน้าเศร้า

“ก็ได้ก็ได้ แต่รีบกินรีบกลับนะฮะ อาจารย์รออยู่” หนูด้วงนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบตกลง ที่ยอมไปกินข้าวด้วยเพราะนึกสงสารส้มโอกับองุ่นอยู่เหมือนกันที่ต้องถูกย้ายโรงเรียนไปเพราะถูกยุงพญาขู่

“ขอบคุณนะที่เปิดใจให้พี่ เรื่องของที่อาจารย์สั่งซื้อไม่ต้องกังวล พี่จ้างให้คนเอาไปให้อาจารย์แล้ว” ส้มโอยกยิ้มก่อนจะตีหน้าซื่อเมื่อหนูด้วงมองกลับมา

ส้มโอพาหนูด้วงมายังตึกแถวที่อยู่ในซอยลึกใกล้ๆ ตลาด ที่นี่เป็นร้านอาหารอิตาเลี่ยนของรุ่นพี่ที่สนิทกัน เขามาเปิดร้านหลังจากที่เรียนจบจากมหา’ลัยโซเลย เมื่อเจ้าของร้านเห็นส้มโอพาหนูด้วงเข้ามาในร้านก็ยิ้มน้อยๆ ให้ เป็นอันรู้กันว่าถ้าส้มโอพาใครมาที่นี่ด้วยจะต้องจบลงที่ห้องพักด้านบนของร้านทุกครั้ง

“หนูด้วงสั่งเลยครับ อร่อยทุกอย่าง”

“พี่สั่งก็แล้วกัน หนูกินได้หมด”

“โอเค งั้นรอสักครู่นะครับ” ส้มโอลุกไปคุยกับเจ้าของร้านสักพักถึงได้เดินกลับมา

ไม่นานอาหารอิตาเลี่ยนที่ขึ้นชื่อของร้านก็ถูกมาวางตรงหน้าของหนูด้วงพร้อมกับไวน์หนึ่งขวด หนูด้วงปฏิเสธที่จะดื่มไวน์แต่พอถูกส้มโอคะยั้นคะยอมากๆ ก็เลยเลิกปฏิเสธ ส้มโอแอบลอบยิ้มเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไวน์แก้วแล้วแก้วเล่าถูกรินให้หนูด้วงอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งหมดขวด

“หนูด้วงดื่มไวน์เก่งจัง” ส้มโอเริ่มยิ้มไม่ออกเมื่อไม่เห็นทีท่าว่าหนูด้วงจะเมา

“อยากให้หนูเมาเหรอ” หนูด้วงถาม

“ปะ...เปล่า พี่แค่นึกว่าหนูด้วงคออ่อน เอ้ย! หมายถึง นึกว่าไม่เคยดื่มมาก่อน”

“เอาอีกขวดก็ได้นะ อร่อยดี”

“ได้เลยครับ” ส้มโอคิดว่าลองได้กินอีกขวดหนูด้วงต้องเมาพับแน่ๆ จึงรีบสั่งมาให้อีก

เสียงอาเจียนในห้องน้ำดังอยู่พักใหญ่ ไม่นานคนในห้องน้ำก็เดินโซเซออกมาพร้อมกับทำหน้าพะอืดพะอม เจ้าของร้านเดินเอาผ้าเย็นมาส่งให้ส้มโอเมื่อเห็นว่ารุ่นน้องของตัวเองเริ่มเมาจนต้องไปอาเจียนอยู่หลายรอบ

“หนูฝากดูแลพี่ส้มโอด้วยนะฮะ หนูต้องกลับแล้ว” หนูด้วงบอกกับพี่เจ้าของร้าน

“หนูด้วง ไม่ต้องกลับหรอก นอนกับพี่นะ นอนที่นี่แหละ มันดึกแล้ว” ส้มโอพยายามจะรั้งหนูด้วงเอาไว้

“ไม่ดีกว่า ยังไม่ดึกเท่าไหร่แค่ทุ่มเดียวเอง ขอบคุณพี่โอที่เลี้ยงของอร่อยแล้วก็ไวน์นะฮะ หนูไปก่อนนะพี่ตั้ม” หนูด้วงหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วยกมือไหว้เจ้าของร้านก่อนจะเดินออกจากร้านไป

เมื่อหนูด้วงเดินออกมานอกร้านแล้วก็จัดการโทรหาพี่โอบ พออีกฝ่ายรับหนูด้วงก็แกล้งทำเสียงอ้อแอ้ใส่ไปตามสาย

“พี่โอบ หนูม่ายหวายล้าววว”

“หนูด้วง...ทำไมเสียงอ้อแอ้แบบนั้น หนูเมาเหรอ”

“ม่ายเมา เอิ้ก” หนูด้วงแกล้งเรอใส่เพื่อให้สมจริง

“อยู่ที่ไหน” เสียงของโอบอุ้มเข้มขึ้น

“หนูอยู่ที่หนายน้า อ๋อๆ หนูอยู่ในจายพี่โอบงายฮะ”

“หนูด้วง...อยู่ที่ไหน พี่จะไปรับ”

“หนูอยู่ตรงตลาด หนูง่วงจัง ม่ายหวายแล้ว”

“หนูด้วง พี่จะไปรับ นั่งรออยู่หน้าตลาดนะ”

“มาเร็วๆ นะฮะ หนูคิดถึงพี่โอดอุ้นที่ซู้ดดดด”

หนูด้วงยิ้มให้โทรศัพท์เมื่ออีกฝ่ายวางสายไปแล้ว รู้ดีว่าจะต้องโดนพี่โอบดุแน่ๆ แต่มันก็คุ้มถ้าได้นอนค้างกับพี่โอบ เจ้าตัวเอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีเพื่อไปนั่งรออยู่ที่หน้าตลาด แต่ยังไม่ทันไปถึงไหนก็โดนส้มโอคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน

“หนูด้วง อย่ากลับเลยนะ ค้างกับพี่เถอะ มันดึกแล้ว อันตราย”

“พี่นั่นแหละไปค้างกับรุ่นพี่ของพี่เถอะ เมาแบบนี้ขับรถไม่ได้หรอก”

“หนูด้วงก็ขี่พี่ เอ้ย ขับให้พี่ไง”

“ไม่ดีกว่า”

“นะครับ” ส้มโอพยายามตื้อ จนกระทั่งได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากมุมมืด

แฮ่...แฮ่...โฮ่ง!!!

“เฮ้ย ไอ้ห่า หมาที่ไหนมาเห่าวะ” ส้มโอสบถ

แฮ่.... หมาสีดำตัวใหญ่ก้าวออกมาจากเงามืด หนูด้วงกับส้มโอเห็นเขี้ยวสีขาวของมันก่อนตัวมันเสียอีก มันขู่และแยกเขี้ยวใส่จนทั้งคู่สะดุ้ง หนูด้วงรีบก้มลมไปผูกเชือกรองเท้าผ้าใบของตัวเองให้กระชับ

“หนูด้วงคิดจะวิ่งหนีหมาเหรอ พี่ว่าเราวิ่งไม่ทันหมาหรอก ทำไงดี ถ้าโดนกัดรับรองว่าเนื้อแหว่งแน่ๆ” ส้มโอหน้าซีดเมื่อเห็นเชียวแหลมๆ ของเจ้าสุนัขตัวใหญ่ที่ยืนขู่อยู่ตรงท้ายซอย

“จะวิ่งทันหมาไหมหนูไม่รู้หรอก แต่ถ้าหนูวิ่งเร็วกว่าพี่หนูก็รอดแล้ว ไปก่อนนะฮะ ขอให้โชคดี” พูดจบหนูด้วงก็สับขาวิ่งออกตัวไปอย่างเร็วจี๋แบบไม่เห็นฝุ่น ทิ้งให้ส้มโอยืนตาเหลือกอยู่เพียงลำพัง

“ดะ..ดะ...เดี๋ยวสิหนูด้วง รอพี่ด้วย ย๊ากกก” พอได้ยินเสียงเจ้าหมาตัวใหญ่เห่าอีกรอบส้มโอก็วิ่งหนีไปทันทีโดยไม่ทันเห็นว่าที่คอของเจ้าหมามีโซ่ล่ามเอาไว้อยู่กับเสา

ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีโอบอุ้มก็ขับรถมาถึงหน้าตลาด เขาเห็นหนูด้วงนั่งอยู่ที่ร้านขายน้ำเต้าหู้ ซึ่งพอหนูด้วงเห็นรถของโอบอุ้มขับมาจอดก็เดินเข้ามาหา เจ้าตัวแสบเดินเป๋ไปเป๋มาจนเข้ามานั่งในตัวรถ โอบอุ้มไม่ได้พูดอะไรแต่ขับรถออกไปเลย ส่วนคนแกล้งเมาก็นั่งพิงกระจกรถก่อนจะเอนมาพิงที่ไหล่ของโอบอุ้มแทน กลิ่นไวน์ถูกส่งผ่านมาทางลมหายใจ ริมฝีปากอิ่มแดงเข้มบ่งบอกให้รู้ว่าคงดื่มไปไม่น้อย เขาไม่รู้ว่าทำไมหนูด้วงถึงต้องดื่มมากขนาดนี้

“เดินลงไหวไหม” โอบอุ้มถามเมื่อขับรถกลับมาถึงบ้าน

“ม่ายหวาย” หนูด้วงส่ายหน้า

“น่าตีนัก” โอบอุ้มบ่นพึมพำก่อนจะเดินอ้อมไปอุ้มเจ้าตัวแสบ

หนูด้วงโอบกระชับรอบคอของพี่โอบแน่นเมื่อถูกอุ้ม ใบหน้าซุกกับอกแล้วแอบอมยิ้ม อาน้องเคยเล่าให้ฟังว่าแกล้งเมา พอเมาแล้วยุงพญาก็เอาใจทุกอย่าง หนูด้วงก็เลยลองเอาวิธีนี้มาใช้กับพี่โอบบ้าง นอกจากเมาแล้วก็ต้องอ้อนเยอะๆ จะได้ไม่โดนตีอย่างที่พี่โอบขู่เอาไว้

“พี่รู้ว่าหนูไม่ได้เมาจริง”

“อ๊ะ!” หนูด้วงร้องขึ้นมาถูกโอบอุ้มตีที่ก้นเบาๆ จนเห็นสายตาอบอุ่นที่มองมาถึงได้ยิ้มกว้าง

“บอกเหตุผลมาครับ” เสียงดุเข้มต่างจากสายตาทำให้หนูด้วงหุบยิ้มแทบไม่ทัน ได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ ไปให้แล้วเริ่มเล่าทุกอย่างตามความจริง

“หนูไม่อยากให้เขาเกลียดหนูแล้วก็ต้องมีศัตรูอีก” หนูด้วงบอกเหตุผลสุดท้ายให้พี่โอบได้รู้

“แล้วถ้าหนูถูกมอมจนเมาจริงๆ มันคุ้มเหรอครับ”

“หนูไม่เมาหรอกฮะ ยุงพญาสอนหนูให้รู้จักเอาตัวรอด หนูลองมาหมดแล้ว ทั้งเหล้า ทั้งเบียร์ ทั้งไวน์ ยาดองก็เคยนิดหน่อย”

“หนูกำลังประมาท ครั้งนี้โชคดี แต่มันคงไม่ทุกครั้งไป”

“หนูขอโทษนะฮะ พี่โอบอย่าโกรธหนูนะ หนูจะไม่ทำแบบนี้แล้วก็ได้”

“แล้วทำไมต้องแกล้งเมา”

“ก็หนูอยากมาค้างกับพี่โอบนี่ฮะ”

“ทำแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ หนูกำลังผิดคำพูด มันอาจจะทำให้แด๊ดดี้กับมัมของหนูไม่เชื่อใจหนูอีก”

“หนูขอโทษ พี่โอบไปส่งหนูกลับหอพักก็ได้ก็ได้” หนูด้วงรู้สึกเสียใจที่ทำให้พี่โอบผิดหวัง รีบลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าเตรียมตัวจะกลับ จนกระทั่งข้อมือถูกรั้งเอาไว้

“พี่คงปล่อยกลับไม่ได้ เด็กดื้อจะต้องโดนลงโทษ” เสียงของโอบอุ้มเข้มจนหนูด้วงต้องหันมามอง

“ลงโทษยังไงฮะ หนูจะเจ็บไหม” หนูด้วงถามเสียงสั่นเมื่อเห็นสายตาดุๆ ของอีกฝ่าย รีบมองไปทั่วห้องว่าพี่โอบแอบเก็บไม้เรียวเอาไว้หรือเปล่า

“หึหึ...เดี๋ยวก็รู้ครับ” โอบอุ้มยกยิ้มก่อนจะเดินไปเกี่ยวกระเป๋าออกจากไหล่ของหนูด้วงแล้ววางมันลงกับพื้น

ร่างเล็กกว่าถูกพามานอนที่เตียง จากที่หวั่นว่าจะถูกไม้เรียวฟาดก้นที่ทำตัวไม่ดี ตอนนี้ใจของหนูด้วงสั่นไหวกว่าเดิม ก็สายตาของพี่โอบมันดูพร้อมจะฟาดหนูด้วงมากกว่าไม้เรียวเสียอีก ริมฝีปากอยากจะยิ้มออกมาเมื่อแผนพิชิตใจแฟนที่เลียนแบบอาน้องกำลังสัมฤทธิ์ผล แต่ด้วยความที่หนูด้วงกลัวว่าจะไม่สมจริงจึงต้องกลั้นยิ้มเอาไว้แล้วเบนสายตาไปทางอื่นแทน

“ก็ได้ก็ได้ หนูพร้อมถูกลงโทษแล้วฮะพี่โอบ” หนูด้วงพูดเบาๆ ใจก็เต้นตึกตัก จนกระทั่งได้ยินเสียงของพี่โอบหัวเราะถึงได้รู้ว่าตัวเองถูกแกล้งให้ใจสั่นเสียแล้ว
 

โปรดติดตามตอนต่อไป

แอบมาเงียบๆ เอามาหย่อนให้หายคิดถึงสักตอนหนึ่งก่อน

อาจจะมีคำผิดที่หลุดรอด เดี๋ยวจะกลับมาแก้ให้เมื่อหาเจอนะคะ

เรื่องนี้อาจจะไม่ได้ลงถี่เหมือนเดิม ใครอยากรออ่านรวดเดียวก็ได้น้า

เลิฟจะมาอัพรัวๆ ให้หลังจากแต่งจบแล้วค่ะ

หรือถ้ามีคนคิดถึงมากๆ ก็อาจจะมาหย่อนให้บ้าง

อย่าว่ากันน้า เลิฟไม่อยากรีบเกินไปจนมันหมดสนุกค่ะ

...รัก...   



[ทางไปเพจ Loverouter จิ้มเลย]
[ทางไปทวิต Loverouter จิ้มเลย]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-07-2018 03:45:57 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เย้ๆหนูด้วงมาปี้คิดถึงหนูด้วงที่สุด

ออฟไลน์ Madpinkie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอ๊ะ..ตกใจไม่นึกว่าเจอตอนใหม่ ...หนูด้วงนี่เจ้าเล่ห์นักน๊าาา

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อืม เรื่องน้องแฝดนี่น่าสงสัยจริงๆแหละ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
หนูด้วงงงง ทำไมเจ้าเล่ห์งี้ลูก ส่วนส้มโอนี่คงไม่หยุดแค่ครั้งนี้แน่เลย

ไหนจะยัยองุ่นเน่านั่นอีก

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
หนูด้วงเด็กเจ้าเล่ห์  :กอด1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
หนูด้วงฉลาด+เจ้าเล่ห์เลยแฮะ :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ blingsmay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หนูด้วงน่าตีมากเว่ออ พี่โอดอุ้นลงโทษหนักๆได้เลยยยย :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
หนูด้วงงงงงงงงงง
ใครสั่งใครสอนเนี่ย ... มีการตั้งใจนับ จัดสรรปันส่วน!!!!
555555   ท่าว่าพี่โอบจะรับศึกหนักนะเนี่ย

ส่วนเรื่องที่เกือบถูกมอม
หนูด้วงรอดมาได้นับว่า เก่ง
แต่คนเรา พลาดกันได้เสมอ หนูด้วงต้องระวังมากกว่านี้นะ
อย่าเปิดช่องย่องไปไหนคนเดียวโดยไม่บอกใครก่อนอีกนะ
เดี๋ยวป้าจะฟ้องมัม แด๊ด อาน้อง และยุง!!!

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ลูกศิษย์​อาน้อน​ ต้องไม่ ธรรมดาแน่นอน อันนั้น งานนี้ จะได้ใช้ถุงยางหรือเปล่า สงสัยแล้วสิ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อาน้อนจะต้องภูมิใจในตัวศิษย์เอก  :hao7:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
น่ารักและเจ้าเล่ห์จริงๆเจ้าหนูด้วง

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
หนูด้วงได้วิชาที่เก่งในแต่ด้านครบทุกคนเลย

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
เพลงรักที่หายไป
เพลงพิเศษ คนไม่มีสิทธิ์ (โอบอุ้ม)
ศิลปิน ฮิวโก้

เสียงอ้อแอ้ของหนูด้วงที่โทรมาหาผมทำให้ผมอยากจะหายตัวไปหาน้องได้เดี๋ยวนั้นอย่างผู้วิเศษจริงๆ สมองกับใจของผมมันพุ่งไปหาน้องแล้วด้วยความเป็นห่วง ถึงจะรู้ว่าคนของป๊าคอยดูแลน้องอยู่ทั่วเกาะแต่มันก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี ยอมรับว่าโกรธที่น้องไม่รีบกลับหอพักเมื่อเสร็จธุระอย่างที่บอกผมเอาไว้ แต่พอได้เห็นหน้าเจ้าตัวยุ่งอารมณ์โกรธทั้งหมดมันหายไปไหนก็ไม่รู้ ยิ่งท่าทางแกล้งเมาเดินเซไปเซมามันทำให้ผมอยากจะจับมากอดมาจูบให้อีกฝ่ายหายเมาดิบเสียจริงๆ น้องคงไม่รู้ว่าตัวเองตอนเมาจริงๆ เป็นอย่างไร นั่นจึงทำให้ผมจับได้ว่าน้องแกล้ง คิดถึงเรื่องนี้แล้วก็นึกไปถึงเมื่อสองปีก่อน


...
..
.



“จะดีเหรอพี่ ให้หนูด้วงลองกินเหล้าขาวแบบนี้ถ้าพี่ตังรู้น้องว่าตายหมู่แน่ๆ” ผมได้ยินอาน้องถามป๊าหลังจากที่ป๊าสั่งให้พี่ก้านเอาเหล้าขาวมาให้หนูด้วงลองกิน
 
วันนี้ป๊าพญากับอาน้องจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดให้หนูด้วงล่วงหน้าหนึ่งวันเพราะว่าในวันพรุ่งนี้หนูด้วงจะอยู่กับครอบครัวใหญ่ จากนั้นน้องก็จะไปนั่งปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อสองคืนเหมือนอย่างทุกปี ป๊าใช้งานวันเกิดของหนูด้วงเป็นงานเลี้ยงประจำปีของพนักงานไปในตัว ผมเลยอาศัยคนเยอะๆ เข้ามาอยู่ในงาน แต่งตัวให้เหมือนว่าเป็นลูกจ้างของโต๊ะจีน ใส่หน้ากากอนามัยก็ไม่มีใครจับพิรุธได้
 
“ฝึกเอาไว้ ต่อไปอยู่ไกลหูไกลตาจะได้ดูแลตัวเองเป็น กินเพื่อการเรียนรู้ไม่ได้กินเพื่อให้ติด” ป๊าตอบอาน้องไป ส่วนหนูด้วงก็นั่งจ้องแก้วเหล้าขาวตาเป็นประกาย น้องเป็นคนอยากรู้ไปเกือบทุกเรื่อง ยิ่งโตก็ยิ่งมีแต่คำถาม
 
“มันเหมือนสไปรท์ไหมฮะ” ผมได้ยินน้องถามป๊าก็แอบลอบยิ้มอยู่ภายใต้หน้ากากสีขาว
 
“ก็ลองดูสิ” ป๊าพยักหน้าให้หนูด้วงลองดื่ม
 
“อึ๋ย ไม่อร่อยเลย หนูไม่ชอบ” หนูด้วงทำหน้าเหยเก
 
“ไม่ชอบก็ดีแล้ว แต่หัดเอาไว้ เผื่อมีใครมามอมจะได้ไม่เมาง่ายๆ” ป๊ารินเหล้าขาวใส่แก้วของน้องอีก
 
“ใครจะมามอมเหล้าหนู มีแต่ยุงนั่นแหละ” หนูด้วงทำหน้ามุ่ยจนผมต้องแอบลอบยิ้มอีกรอบ
 
“เรียนรู้เอาไว้ก่อน หนูด้วงน่ารักขนาดนี้มันก็ต้องมีคนอยากมอมเหล้าบ้างแหละ จริงไหมวะไอ้ก้าน”
 
“จริงครับนาย เรียนรู้เอาไว้เถอะนายน้อย สมัยนี้ไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น” พี่ก้านรับคำป๊าก่อนจะหันไปพูดกับหนูด้วง
 
“ก็ได้ก็ได้ หนูจะหัดเรียนรู้ทุกเรื่อง ยุงอย่าลืมสัญญาก็แล้วกัน ถ้าหนูจบมอหกเมื่อไหร่ต้องให้หนูหัดยิงปืนด้วย”
 
“ไม่ลืมน่า เอาชน!!”
 
งานเลี้ยงก็ดำเนินไปเรื่อยๆ ผมได้แต่แอบลอบมองน้องอยู่ไกลๆ เดินเฉียดเข้าไปใกล้ๆ บ้างเวลาเอาถังน้ำแข็งไปเสิร์ฟ ริมฝีปากและแก้มของน้องเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังใจสู้ชนแก้วกับป๊าต่อ น่าแปลกใจ...น้องคอแข็งกว่าที่ผมคิด ป๊าเคยให้ผมลองตอนที่กลับมาเมืองไทยครั้งแรก แค่สองสามแก้วผมก็พับคาโต๊ะไปเลย ป๊าดูจะชอบอกชอบใจที่น้องไม่ได้อ่อนแอ ผมรู้ว่าป๊าห่วงน้องและคิดว่าตัวเองไม่สามารถอยู่ดูแลน้องได้ตลอดไป ป๊าถึงอยากให้น้องรู้จักทุกด้านของชีวิต อาน้องเคยบอกกับผมว่าป๊ากลัวเวรกรรมที่เคยทำให้ใครต่อใครเสียใจจะตามสนอง กลัวกรรมนั้นมาลงที่หนูด้วงจึงพยายามทำทุกอย่างให้หนูด้วงรู้จักทั้งด้านมืดและด้านสว่างของคน
 
“เริ่มเมาแล้ว คอแข็งกว่าที่คิด” ป๊าพูดกับอาน้องหลังจากที่หนูด้วงลุกไปเต้นอยู่หน้าเวที
 
“หนูด้วงหัวอ่อนก็จริงแต่เป็นเด็กที่เข้มแข็งนะ พี่อย่ากังวลไปหน่อยเลย”
 
“น้องก็รู้ว่าหนูด้วงเป็นคนคิดบวก ไว้ใจคนง่าย ใจอ่อน พี่กลัวว่าหนูด้วงจะไปเจอคนแบบอีดาวเรืองอีก พี่ไม่อยากให้หลานโดนใครทำร้าย แค่คิดก็ทนไม่ได้แล้ว"
 
“หนูด้วงเขาต้องมีชีวิตของตัวเอง เขาต้องได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง พี่จะเฝ้าหลานเอาไว้ตลอดไปไม่ได้หรอกนะครับ”
 
“พี่รู้ว่าตลอดไปไม่ได้ แต่ขอนานที่สุดก็แล้วกัน”
 
“น้องรักพี่ คืนนี้น้องจะรักพี่ให้พี่หายใจหายคอไม่ทันเลย”
 
“มึงนี่นะ...ยั่วเก่งจริงๆ”
 
“แล้วชอบไหมล่ะ”
 
“ชอบดิ ไปเว้ยไอ้ก้าน เตรียมพาหนูด้วงกลับบ้าน กูง่วงแล้ว”
 
ผมเห็นป๊ากับอาน้องยังหวานกันเหมือนเดิมก็อดยิ้มไม่ได้ ทั้งสองคนเหมาะสมกันมาก ผมดีใจที่ป๊ามีความสุข ผมจะทำให้หนูด้วงมีความสุขได้อย่างป๊าทำให้อาน้องไหม อาจจะไม่ดีเท่าแต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด
 
ผมละสายตาจากป๊าไปมองหนูด้วงต่อ ตอนนี้ตาของน้องหวานเยิ้มจนผมอยากจะเดินไปอุ้มออกมาจากกลุ่มหนุ่มๆ ลูกหลานพนักงานของป๊า ถึงจะรู้ว่าเด็กพวกนั้นโตมากับหนูด้วงและไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าเพื่อนผมก็ไม่ชอบใจอยู่ดี แม้ท่าเต้นของน้องออกแนวจิ๊กโก๋มากกว่ายั่วยวนแต่ผมก็ไม่อยากให้น้องไปยืนให้ใครต่อใครรายล้อม ถึงจะหวงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองอยู่อย่างนี้
 
“จะไม่เข้าไปจริงๆ เหรอ” พี่ก้านเดินเข้ามาหาผม
 
“ครับ”
 
“แล้วน้องแฝดอยู่กับใคร ไว้ใจได้เหรอ”
 
“ไว้ใจได้ครับ พรุ่งนี้ผมก็คงต้องกลับเลย แค่อยากเอาของขวัญมาให้หนูด้วง”
 
“คุณโอบ พี่ว่า...”
 
“ผมรู้ครับว่าพี่ก้านเป็นห่วง แต่ผมขอลองทำอย่างที่ผมตั้งใจก่อน ผมบอกป๊าไม่ได้จริงๆ”
 
“คุณโอบดื้อเหมือนนายไม่มีผิด แต่ก็เอาเถอะ ขอแต่ว่าถ้าไม่ไหวจริงๆ ต้องบอกพี่ คุณโอบไม่ได้ตัวคนเดียวนะครับ...จำเอาไว้”
 
“ขอบคุณมากครับพี่ก้าน ขอโทษนะครับที่ทำให้พี่ลำบากใจ” ผมเห็นพี่ก้านลอบถอนหายใจก็รู้สึกผิด ผมทำให้พี่ก้านต้องคอยโกหกป๊าให้ ซึ่งมันคงเป็นเรื่องที่หนักหนามากสำหรับคนที่ซื่อสัตย์ต่อป๊าอย่างพี่ก้าน
 
“พี่ไม่ลำบากอะไรหรอก คุณโอบต่างหากที่ลำบาก ในเมื่อเลือกแล้วก็ต้องอดทนนะครับ อยู่ทางนี้พี่จะคอยดูแลนายและหนูด้วงให้”
 
“ครับ”
 
“เดี๋ยวนายคงจะพานายน้อยกลับไปนอนแล้วล่ะ ท่าทางจะไม่ไหวแล้ว นี่กุญแจบ้านครับ คุณโอบรีบไปรอก่อนนายจะกลับ”
 
“ขอบคุณครับพี่ก้าน ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”
 
พี่ก้านตบบ่าเพื่อให้กำลังใจผมสองสามทีก่อนจะเดินกลับเข้าไปในงาน ผมได้กุญแจบ้านแล้วก็รีบออกจากงานเพื่อไปรอหนูด้วงที่บ้านพักหลังสำนักงาน ตอนนี้ป๊ายกบ้านหลังนั้นให้หนูด้วง ส่วนป๊ากับอาน้องก็กลับไปอยู่บ้านกับคุณปู่พยนต์เพราะท่านอยู่เพียงคนเดียว อาพเยียแต่งงานมีครอบครัวแล้วจึงย้ายไปอยู่ที่เพนท์เฮาส์ชั้นบนสุดของโรงแรมแทน


...

ผมมาถึงบ้านก็ขึ้นไปแอบอยู่ด้านบนของตู้อควาเรียมในห้อง ‘ใต้ชาหมุด’ หรือห้องใต้สมุทร ห้องนี้เป็นห้องที่ป๊าสร้างขึ้นมาให้หนูด้วงโดยเฉพาะ อันที่จริงห้องนี้ป๊าตั้งชื่อว่าวังของเรา แต่หนูด้วงก็จับเปลี่ยนชื่อให้เสร็จสรรพ นึกถึงวันวานแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ น้องชอบเขียนมาเล่าให้ผมอ่านเสมอเรื่องน้องปลาตัวใหม่ๆ ที่ซื้อมาเลี้ยง
 
ผมได้ยินเสียงอาน้องกับป๊าคุยกันที่นอกห้องจึงได้รู้ว่าทุกคนกลับมาแล้ว สักพักทั้งคู่ก็ประคองน้องเข้ามาในห้องใต้สมุทรที่ผมแอบอยู่ อาน้องบ่นป๊าเรื่องที่ปล่อยให้หนูด้วงเมาทั้งที่น้องเพิ่งจะอยู่มัธยมปลาย ทั้งคู่เถียงกันแบบไม่จริงจัง จบลงด้วยการที่ป๊าจับอาน้องจูบ เสียงอาน้องถึงได้เงียบไป จากนั้นทั้งคู่ก็เดินออกจากห้อง ผมได้ยินเสียงป๊าสั่งให้พี่ถนอมเฝ้าหนูด้วงให้ดี แล้วทุกอย่างก็เงียบสนิท...นั่นแปลว่าถึงเวลาที่ผมรอเสียที
 
ผมลงมาด้านล่างแล้วแอบเปิดประตูไปดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ที่นี่แล้ว จากนั้นผมก็เดินไปเอากะละมังใส่น้ำพร้อมผ้าผืนเล็กมาเพื่อจะเช็ดตัวให้หนูด้วงที่นอนหลับตาอยู่ กลิ่นเหล้าควรจะฟุ้งทั่วห้องแต่แปลกที่กลิ่นตัวของน้องกลับชัดเจนกว่า
 
“หนูม่ายชอบเหล้า ม่ายอาหร่อย” หนูด้วงพึมพำออกมา
 
“พี่ไม่อยากให้หนูกินเลยรู้ไหม” ผมพูดตอบกลับไปทั้งที่รู้ว่าน้องคงไม่มีสติจะรับรู้ว่าผมกลับมาอยู่ข้างๆ แล้ว
 
“หนูโตแล้ว” น้องพลิกตัวหนีผ้าที่ผมพยายามจะเช็ด
 
“จะโตยังไงก็เป็นแค่หนูด้วงสำหรับพี่เสมอ” ผมค่อยๆ เกี่ยวคางน้องกลับมาแล้วเช็ดใบหน้าให้อย่างเบามือ
 
“หนูโตแล้ว...” หนูด้วงยังพึมพำคำเดิม ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรกลับไปน้องก็พึมพำออกมาอีก “หนูโตแล้ว...ทำไมพี่ไม่กลับมาสักที”
 
ผมหยุดชะงักเมื่อน้ำตาของน้องไหลออกมาทั้งที่เจ้าตัวยังหลับตาอยู่ น้องพึมพำแต่ว่าหนูโตแล้วซ้ำมาซ้ำไปจนผมอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ตามออกมาด้วย ความเหงาที่ผมเคยคิดว่ามันกัดกินหัวใจของผมยังไม่เท่าน้ำตาของน้อง มันเหมือนน้ำกรดที่กำลังกัดเซาะหัวใจของผมให้มลายหายไป ยิ่งน้องร้องไห้ หัวใจของผมก็เหมือนจะหยุดเต้น
 
“พี่ขอโทษนะหนูด้วง พี่ขอโทษ”
 
ผมไม่มีคำอธิบายใดๆ นอกจากคำว่าขอโทษ ที่ผ่านมาถึงเราสองคนจะคุยกันทุกวันแต่มันก็เป็นแค่ตัวอักษร น้องไม่เคยงอแงหรือแสดงถ้อยคำตัดพ้อให้ผมได้รับรู้เลยสักครั้ง จนบางครั้งผมอดคิดไม่ได้ว่าน้องอาจจะค่อยๆ ลืมพี่คนนี้ไปแล้วก็ได้ แต่เมื่อได้เห็นน้ำตาของน้องในวันนี้ผมถึงได้กระจ่างชัดว่าน้องไม่เคยลืมผมและยังคงรอผมอยู่
 
ผมปลดเสื้อผ้าน้องออกจนหมด น้องคงหนาวจึงได้งอเข่าขึ้นมากอด ถ้าน้องไม่เมาจนหลับสนิทก็คงกำลังเขินอายผมอยู่แน่ๆ ที่โดนผมจับแก้ผ้าจนหมดแบบนี้ ถามว่าผมรู้สึกอะไรไหมผมก็ต้องรู้สึกเป็นธรรมดา ร่างเปลือยเปล่าตรงหน้านี้เป็นร่างกายของคนที่ผมรัก ผิวของน้องก็ขาว เนื้อก็นิ่มลื่นมือ ผมอยากจะตีตราจองเอาไว้ทุกพื้นที่แต่ก็รู้ดีว่ายังไม่มีสิทธิ์
 
ผมละสายตาจากน้องไม่ได้ ใจมันเต้นและร่างกายก็ตื่นตัวไปหมด จนกระทั่งน้องขดตัวมากกว่าเดิมผมจึงรีบเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้น้องรู้สึกสบายก่อนจะสวมชุดนอนให้ นึกถึงวันที่ได้อาบน้ำให้หนูด้วงเป็นครั้งแรก น้องชวนผมคุยเจื้อยแจ้วและแสดงออกว่ามีความสุขมากที่มีผมเข้ามาในชีวิต ป๊าบอกว่าน้องไม่มีเพื่อนในวัยใกล้เคียงกันและเล่าอดีตที่น่าสงสารของน้องให้ผมฟัง ป๊าอยากให้ผมเป็นพี่ที่ดี ช่วยดูแลปกป้องน้องในวันที่ป๊าไม่อยู่ คำขอของป๊าไม่ได้หนักหนาสำหรับผมในวันนั้น แต่มันเป็นเรื่องหนักใจสำหรับผมในวันนี้ ถ้าผมไม่ได้อยากเป็นแค่พี่ชายที่ดี ถ้าผมอยากเป็นคนรักที่ดี ป๊าจะยอมรับได้ไหม ผมจะได้รับโอกาสนั้นหรือเปล่า
 
ผมคว้าข้อมือบางของน้องขึ้นมา มันไม่เหลือเค้าของข้อมือที่เคยอวบอูมในวัยเยาว์เลย นิ้วของน้องเรียวยาว เล็บยาวเกินปลายนิ้วจนผมต้องเดินไปหยิบกรรไกรตัดเล็บมาจัดการตัดให้ ขนตาของน้องยังงอนหนาเหมือนเดิม เปลือกตาบวมนิดหน่อย ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ของเหล้าขาวหรือเพราะน้องร้องไห้ ผมนั่งมองเพลินอย่างไม่รู้เบื่อ เห็นดวงตาของน้องกระตุกสองสามรอบ อาจจะกำลังฝันร้าย ผมใช้ปลายนิ้วลูบเบาๆ จนมันสงบนิ่งเหมือนเดิม ผมลากปลายนิ้วมาเกลี่ยที่ปลายผมของน้อง ผมน้องยาวละต้นคอ น้องเคยเล่าว่าปกติน้าตังจะเป็นคนตัดผมให้น้องเสมอ ตัดหน้าม้าบ้าง ตัดรองทรงบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะตัดสั้น จนผมบอกน้องไปว่าอยากให้น้องไว้ผมระต้นคอบ้างคงจะน่ารักดี จากนั้นมาน้องก็ไม่ได้ตัดผมสั้นแบบรองทรงอีกเลย
 
“หนูร้อน มัมๆ เปิดแอร์เย็นๆ ให้หน่อยฮะ” น้องขยับตัวพร้อมกับบ่นพึมพำแล้วถีบผ้าห่มออก
 
ผิวแก้มและผิวกายน้องยังคงแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์ของเหล้า ผมปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้ต่ำลงนิดหน่อยก่อนจะดึงผ้าห่มมาห่มให้น้องอีกครั้ง จะโตแค่ไหนแต่การชอบถีบผ้าห่มออกก็ไม่เคยเปลี่ยน แต่ดีแล้วที่น้องยังเหมือนเดิม ผมอยากให้น้องเป็นเหมือนเดิม เป็นหนูด้วงของพี่โอบอุ้ม
 
ติ๊ดๆๆ ติ๊ดๆๆ
 
เสียงตั้งเตือนจากมือถือของผมดังทำให้รู้ว่าอีก 5 นาทีก็จะเที่ยงคืนแล้ว ผมเดินออกจากห้องไปไม่นานและกลับมาพร้อมกับเค้กก้อนเล็กๆ จุดเทียนที่ปักอยู่บนเค้กก่อนจะปิดไฟ จนเข็มนาฬิกาทั้งสองอันเดินมาถึงเลข 12 พร้อมกัน ผมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ทเดย์ให้น้องและอธิษฐานแทนอีกฝ่ายที่กำลังหลับสบายเพราะอุณหภูมิในห้องเริ่มเย็นกว่าเดิม
 
ฟู่!
 
เทียนดับไปจากแรงป่าของผม แสงสีฟ้าจากตู้อควาเรียมส่องสว่างภายในห้องจึงไม่ได้มืดสนิท เจ้าตัวยุ่งยังคงหลับสนิทอยู่ ผมวางเค้กลงและโน้มตัวไปจูบที่แก้มแดงๆ นั้นให้เบาที่สุด ไม่รู้ว่าน้องอยากอธิษฐานอะไร ผมจึงอธิษฐานไปว่าขอให้น้องสมหวังในสิ่งที่หวัง ผมหยิบกล่องของขวัญที่เตรียมมาวางเอาไว้ข้างจานเค้ก จากนั้นก็เดินไปหยิบกีต้าร์ของผมเองที่ทิ้งเอาไว้ที่นี่เพราะอยากให้น้องหัดเล่น มันได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจนเหมือนของใหม่ เมื่อตั้งสายปรับคีย์ดีแล้วก็เริ่มบรรเลงมันเบาๆ แค่พอให้เสียงเพลงนี้ขับกล่อมน้องให้หลับสบาย


‘อยากรู้ ใจเธอมีฉันหรือเปล่า อยากรู้ ว่าเธอได้ยินบ้างไหม
ก็เสียงใจมันบอก ว่ารักเธอมากมาย ร่ำร้องเรียกภายในใจเท่านั้น
ก็รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้ ก็ไม่ต้องการให้เธอเสียใจ
แค่คนๆ เดียว ไม่มีค่าเท่าไร กลัวฉันไปทำลายหัวใจเธอ
ฉันมันคนไม่มีสิทธิ์ ถ้าคิดรักเธอจะผิดไหม
ขอช่วยทำให้ฉันมั่นใจ ว่าเธอคือคนนั้น...ที่ฉันรอ
ไม่รู้ ต้องทนอีกนานเท่าไร ไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหน
ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าควรทำเช่นไร ให้เธอรู้ความในใจ...ว่ารักเธอ
ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าควรทำเช่นไร ให้เธอรู้ว่าในใจ...ฉันรักเธอ’

ผมเล่นและร้องวนไปจนจบเพลง เวลาของผมก็น้อยลงเรื่อยๆ ผมตัดสินใจเอากีต้าร์ไปเก็บและเดินมากลับมานั่งข้างน้อง ลูบใบหน้าอีกฝ่ายเพราะอยากจดจำเวลาที่มีค่านี้เอาไว้ให้มากที่สุด
 
“พี่โอบ หนูหนาวแล้ว”
 
ผมตกใจนึกว่าน้องตื่นมาเห็นผมแต่น้องแค่ละเมออออกมาเท่านั้น แค่นี้ก็ทำให้ผมดีใจที่น้องยังละเมอออกมาเป็นชื่อของผม น้องจะไม่หนาวได้ยังไงในเมื่อเจ้าตัวถีบผ้าห่มออกอีกรอบ พอห่มผ้าก็คงร้อนผิว แต่พอไม่ห่มก็คงจะหนาวจากลมเย็นๆ ของเครื่องปรับอากาศ ผมตัดสินใจลงไปนอนและสวมกอดน้องเอาไว้จากทางด้านหลัง แต่แล้วน้องก็พลิกตัวมาซุกในอ้อมกอดของผมแทน
 
“อุ่นจังเลยฮะ” น้องยังคงพึมพำต่อ ผมอมยิ้ม น้องเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆ น่ารักน่าทะนุถนอม ผมแอบหอมที่หน้าผากของน้องเพราะอดใจไม่ได้
 
‘รัก’ ผมรักหนูด้วง รักมาก อยากจะได้กอดน้องทุกคืน อยากจะตื่นมาเจอทุกเช้า อยากจะปกป้องดูแล ผมไม่รู้ว่าผมจะยังมีสิทธิ์นั้นไหม แต่ผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะไม่ขออยู่ไกลน้องอีกแล้ว ผมจะกลับบ้าน บ้านของผมคือหนูด้วง
 
...ไม่ว่าน้องจะต้อนรับผมในฐานะอะไร...ไม่เป็นไรเลย ไม่เป็นไร....
...ขอแค่ได้ดูแลน้องแบบนี้ ถ้าไม่มีสิทธิ์จะได้ความรักกลับมา ขอแค่ได้ดูแลก็ยังดี....
 
“พี่รักหนูนะ รักหนูมากกว่าชีวิตของพี่ พี่ขอโทษกับเรื่องราวที่มันเกิดขึ้น มันอาจจะทำให้หนูต้องเสียใจ อาจจะทำให้หนูรู้สึกผิดหวัง แต่สักวันหนูจะรู้ว่าหัวใจของพี่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่วินาทีเดียว ขอเวลาพี่อีกสักนิด ไม่รู้ว่าหนูจะยังรอพี่ไหวไหม แต่ไม่ว่าหนูจะรอหรือไม่รอ พี่ก็จะรักหนูเพียงคนเดียว...ผู้วิเศษของพี่โอบ”
 
คืนนั้นผมไม่ได้หลับ ได้แต่นอนกอดหนูด้วงจนได้เวลาที่ไม่อยากให้มาถึง ผมได้แต่ถอนหายใจและก้มลงไปจูบที่แก้มน้องอีกครั้งก่อนจะต้องเดินทางกลับ แต่การกลับไปในครั้งนี้คือกลับไปเพื่อที่จะกลับมา...แล้วผมจะไม่ไปไหนอีก
 
“สุขสันต์วันเกิดนะครับหนูด้วง”



...
..
.


“พี่มองหน้าหนูนานแล้วนะฮะ พี่จะไม่จูบหนูจริงๆ เหรอ”
 
เสียงท้วงของหนูด้วงทำให้สติของผมกลับมาอยู่กับปัจจุบัน เจ้าตัวดีรู้ว่าผมจะทำโทษแต่ก็ไม่มีสลด ยังคงยั่วยวนท้าทายอารมณ์ของผมอยู่แบบเดิม ผมพยายามจะหาเหตุผลให้กับตัวเองว่าถ้าผมไม่ยอมทำอะไรกลับไปบ้าง หนูด้วงอาจจะแกล้งเมาหรือพาตัวเองไปเสี่ยงเพื่อให้ผมแสดงความรักต่อเขาอีก แต่มันก็เป็นเหตุผลที่โทษหนูด้วงจนเกินไป เอาเป็นว่าผมไม่ขอมีเหตุผลอะไรทั้งนั้น ขอทำอย่างที่อยากทำ...คือการได้ลงโทษเจ้าตัวยุ่งให้รู้เสียบ้าง
 
“ทำให้ราชสีห์โกรธมันอันตรายนะ” ผมก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูน้องก่อนจะงับเบาๆ จนน้องต้องหดคอหนี
 
“พี่จะโกรธความรักที่หนูมีต่อพี่ลงเหรอฮะ” อีกฝ่ายทำหน้าอ้อนจนใจของผมอ่อนยวบหนักกว่าเดิม แต่ก็ต้องรักษามาดเอาไว้ก่อน
 
“พี่ควรโกรธหรือไม่ควรโกรธดีนะ” ผมถาม
 
“หนูก็ต้องเลือกแบบไม่ควรโกรธอยู่แล้ว” หนูด้วงรีบตอบ
 
“อืม งั้นไม่โกรธก็ได้ ไม่โกรธก็ไม่ต้องลงโทษ”
 
“พี่จะลงโทษหนูแบบไหนฮะ” เจ้าหนูจำไมเริ่มมีคำถามอีกแล้ว
 
“แบบนี้” ผมก้มลงไปงับติ่งหูน้องอีกรอบก่อนจะเลียช้าๆ ลากปลายลิ้นมาจนถึงซอกคอหอมๆ จากนั้นก็ซุกไซ้ก่อนจะจูบย้ำๆ หลายที
 
“อืม...มมม”
 
“ชอบเหรอ” ผมถาม
 
“ถูกลงโทษนะฮะ จะไปชอบได้ไง แต่ว่าผิดก็ต้องรับผิด พี่ต้องลงโทษหนูอีกฮะ” หนูด้วงเจื้อยแจ้วพร้อมกับหลับตาก่อนจะเงยหน้าขึ้นรับปลายจมูกของผมอีก ผมอยากจะหัวเราะความเจ้าเล่ห์ของเจ้าตัวแสบ
 
“แล้วก็แบบนี้” ผมเลิกปลายเสื้อของหนูด้วงขึ้น ใช้ปลายนิ้ววนรอบเจ้าก้อนเนื้อนุ่มๆ สีชมพูหวานจนมันแข็งชัน เห็นฝ่ายแอ่นอกขึ้นและกัดริมฝีปากก็รู้ว่าอารมณ์คงใกล้เตลิดแล้ว
 
“เป็น..การลง..โทษที่...ทรมานสุดๆ เด็ดๆ” ขนาดฝ่ายนั้นขนลุกไปทั้งตัวก็ยังพูดให้ผมขำ ผมอยากจะบอกอาน้องเหลือเกินว่าลูกศิษย์ของอาน้องร้ายกาจมากๆ คนที่ทรมานสุดๆ เป็นผมต่างหาก
 
“ตกลงจะให้พี่โกรธหรือไม่ให้พี่โกรธครับ” ผมดึงเสื้อน้องลงแล้วทำตัวเป็นเจ้าหนูจำไมบ้าง
 
“โกรธคืนหนึ่งก็ได้ พรุ่งนี้ค่อยหาย” เจ้าตัวทำท่าคิดนิดหนึ่งก่อนจะตอบ
 
“หึหึ พี่ว่าพี่ไม่โกรธแล้วดีกว่า”
 
“ก็ได้ก็ได้ พี่จะไม่โกรธหนูแล้วก็ได้ งั้นพาหนูไปอาบน้ำนะ ร้อนจัง ร้อนๆๆๆ”
 
“หนูด้วงไม่ได้เมานะครับ หนูก็ไปอาบเองสิ”
 
“ไม่เอา แขนหนูสั้น ถูหลังไม่ถึง” หนูด้วงโอบกอดรอบคอผมแน่นไม่ยอมปล่อย ไหนว่าแขนสั้น
 
“เรานี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ พี่จะพาไปอาบน้ำก็ได้ แต่ต้องรับปากพี่ก่อน”
 
“ได้เลยฮะ”
 
“อย่าพาตัวเองไปเสี่ยงแบบนั้นอีก พี่ไม่ชอบ”
 
“ได้ฮะ หนูจะไม่ทำสิ่งที่พี่ไม่ชอบ”
 
“กอดสิงโตได้ แต่อย่าบ่อย”
 
“โอเคฮะ”
 
“ข้อสุดท้าย”
 
“ว่ามาเลยฮะ”
 
“ยั่วพี่ให้น้อยๆ หน่อย”
 
“ก็ได้ก็ได้ ไม่ยั่วก็ไม่ยั่ว” หนูด้วงพูดจบก็งับปากของผมแถมยังเม้มอยู่นาน
 
“ไหนว่าจะไม่ยั่วไงครับ”
 
“ก็ไม่ได้ยั่ว หนูแค่อ่อย” หนูด้วงพูดจบก็หัวเราะชอบใจ ผมเห็นรอยยิ้มสดใสของคนที่ผมรักหมดหัวใจก็อดจะยิ้มตามออกมาไม่ได้
 
“พี่รักหนูนะ”
 
“หนูก็รักพี่”
 
“เรื่องน้องแฝด ถ้าหนูด้วงอยากรู้...”
 
“ถ้ามันยังไม่ถึงเวลาพี่ยังไม่ต้องบอกหนูก็ได้ฮะ ไม่ว่าการมีน้องแฝดจะเกิดจากอะไรมันไม่สำคัญแล้ว หนูรักพี่ แล้วหนูก็รักน้องแฝด มีพี่อยู่ด้วยกันแบบนี้หนูมีความสุข แต่ตอนนี้ความสุขมันเพิ่มขึ้นเพราะมีน้องแฝด ต้องขอบคุณพี่มากกว่าที่ทำให้หนูมีความสุขมากกว่าเดิม”
 
“หนูน่ารักแบบนี้ไงพี่ถึงรักจะตายอยู่แล้ว” ผมหอมแก้มของหนูด้วงหลายทีจนอีกฝ่ายหัวเราะร่วน
 
“อาบน้ำเสร็จมาเล่นพ่อแม่ลูกกันนะ แบบตอนเด็กๆ” หนูด้วงเอ่ยชวน
 
“คงเล่นไม่ได้ น้องแฝดหลับไปแล้ว น้องด้าวก็ไม่อยู่ เหลือแต่พ่อกับแม่” ผมยีผมหนูด้วงที่ชวนเล่นเป็นเด็ก
 
“เล่นได้ ลูกไม่มี พ่อกับแม่ก็ต้องทำลูกไงฮะ”
 
“หึหึ...แล้วถ้าไม่มีลูกสักทีจะทำยังไง”
 
“ก็ทำเรื่อยๆ จนกว่าจะมีไงฮะ หลวงพ่อบอกว่า…วายเมเถว ปุริโส ยาว อุตฺถสฺส นิปฺปทา”
 
“แปลว่าอะไร”
 
“เกิดเป็นคนควรพยายามจนกว่าจะประสบความสำเร็จฮะ ไปฮะ ไปอาบน้ำแล้วมาทำลูกกัน”
 
“หึหึ...ฮ่าๆๆ” ผมกลั้นขำไม่ได้อีกต่อไป เจ้าตัวยุ่งเห็นผมหัวเราะก็เอียงคอแล้วหัวเราะตาม น่ารักครับ เป็นภาพที่น่ารักมากที่สุด ผมหัวเราะได้บ่อยและมากขึ้นตั้งแต่ได้กลับบ้าน บ้านที่มีหนูด้วงรออยู่ ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว น้องแฝดก็หัวเราะและดูมีความสุขมากเช่นกันตั้งแต่หนูด้วงก้าวเข้ามาในชีวิตพวกเรา
 
ชีวิตวัยเยาว์ของผมและหนูด้วงมันเหมือนกับนิทานเศร้าเล่มหนึ่ง ผมเชื่อว่าเราสองคนไม่มีใครลืมเรื่องในอดีต ถึงเราจะเด็กมากแต่ความเจ็บปวดนั้นมันยังชัดเจนในใจ เราสองคนถูกทำร้ายร่างกายจนระแวงไปหมดว่าจะมีคนมาทำให้เจ็บ ในวันนั้นเราสองคนต้องร้องไห้โดยที่ไม่รู้ว่าจะเหลียวหาใครที่จะช่วยพาเราหนีไปจากวังวนนี้
 
...อยู่กับความหวาดกลัว อยู่กับฝันร้ายทุกคืน...
 
นับว่าเป็นโชคดีที่เราทั้งสองคนมีคนมาช่วยฉุดเราออกจากความเจ็บปวดนั้น เราโชคดีที่ได้รับความรักและการเยียวยาจิตใจจากคนดีๆ เราโชคดีที่ได้เริ่มต้นใหม่ ได้มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข เพราะเราสองคนเคยรู้ว่าความทุกข์จากการไม่เป็นที่ต้องการมันเป็นยังไงเราจึงเห็นคุณค่าของการได้รับโอกาส ชีวิตเราคล้ายกัน ผมกับหนูด้วงจึงเหมือนโลกทั้งใบของกันและกัน เราสองคนต่างอยากปกป้องดูแลหัวใจให้กันและกัน นิทานเศร้าเล่มนั้นมันจบไปแล้ว ถึงเวลาที่ผมและหนูด้วงจะสร้างเรื่องราวใหม่ให้กับตัวเอง
 
เพราะมือของป๊าที่ยื่นมาในวันนั้นทำให้ผมมีวันนี้ ผมบอกกับตัวเองว่าผมยินดีทดแทนบุญคุณของป๊า ชีวิตของผม...ผมให้ป๊าได้ ไม่ว่าอะไรก็ตามถ้าเพื่อป๊าและทุกคนในครอบครัวภูมิเทพแล้วผมยินดีทำ สำหรับผมแล้ว..หนูด้วงคือหัวใจและชีวิตและป๊าพญาก็คือคนที่ทำให้ผมได้มีชีวิตและหัวใจ เพราะเหตุนี้ผมถึงอยากให้น้องแฝดได้รับโอกาสอย่างที่ผมเคยได้รับ สองมือของผมจะปกป้องหนูด้วงและเลี้ยงดูน้องแฝดให้ดีที่สุด ผมจะทำให้พวกเขามีความสุขเท่าที่ชีวิตคนๆ หนึ่งจะทำได้
 
“หนูอยากให้พี่หัวเราะเยอะๆ หนูรักเสียงหัวเราะของพี่” หนูด้วงบอกกับผมในขณะที่เราอาบน้ำด้วยกัน
 
“ถ้าอยากให้พี่หัวเราะเยอะๆ หนูด้วงต้องอยู่กับพี่ตลอดชีวิตนะ”
 
“ก็ได้ก็ได้ฮะ ตลอดชีวิต ตลอดไป”
 

โปรดติดตามตอนต่อไป

มาหย่อนให้หายคิดถึง เดี๋ยวจะตามมาแก้คำผิดที่รอดสายตานะคะ
มันเพ่งจนมึนไปหมดแล้วววว
...รัก...
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2018 00:29:01 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :-[ หนู่ด้วงไม่ยั่ว....แค่อ่อย น่าเอ็นดูและจริงๆ

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
หนูด้วงไม่ต้องอ่อย พี่โอบไม่ทิ้งไปไหนแน่

หนูด้วงไม่อยากรู้ แต่คนอ่านอยากรู้ว่าน้องแฝดเกิดมายังไง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด