[จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951  (อ่าน 181089 ครั้ง)

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ค่อยเป็นค่อยไปก่อนเนอะภัทร น้องซันอาจจะไม่เหมือนคนในอดีตก็ได้ สู้ๆๆๆ

ออฟไลน์ meyj4ever

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
พี่อุ่นก็ยังคงน่ากลัวเหมือนเดิมเวลาเจอน้องมีน
จริงๆ พี่อุ่นไม่ควรโกรธน้องมีนนะ คนที่ควรจะเคืองโน้นเลยคุณเชษฐ์อ่ะ พ่อพี่อุ่นนั่นแหละ
ส่วนพี่ภัทรมีอดีตฝังใจ จะเปิดใจให้น้องซันก็กลัวก็ระวัง
แต่ตอนนี้วางหัวใจใส่มือน้องซันไปครึ่งดวงแล้ว
อีกหน่อยพี่ภัทรมั่นใจในตัวน้องซันค่อยวางอีกครึ่งดวงที่เหลือลงไปละกันเนอะพี่ภัทร

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 15: มาลัย

“ร้อยอะไรแต่เช้าเลยลูกเอ๊ย”




ยายของมีนานั่งลงข้างร่างเล็กที่นั่งร้อยมาลัยอยู่บนโซฟา มีนาจัดกลีบดอกมะลิตูมสีขาวบริสุทธิ์แล้วหันไปหาหญิงชรา หลังจากลอกต้อที่ดวงตาออก เขารู้สึกว่ายายของเขาดูมีความสุขขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก




มีนาไม่รู้จริงๆว่าทั้งชีวิตนี้เขาจะสามารถตอบแทนสิ่งที่ธีรเชษฐ์ทำให้ครอบครัวของเขาได้หรือไม่




“ร้อยมาลัยให้คุณเชษฐ์กับอาจารย์คเชนทร์จ้ะยาย”




“ดีแล้วล่ะจ้ะ ทั้งสองท่านมีเมตตากับพวกเรามาก เราต้องไม่ลืมบุญคุณคน ถ้ามีอะไรที่ทำให้เขาได้ มีนก็ทำซะนะลูกนะ”




แม้จะรู้ว่ายายของตนไม่มีทางรู้ถึงข้อตกลงที่เขาทำไว้กับธีรเชษฐ์ แต่คำพูดนั้นก็ทำให้มีนาอดรู้สึกลำบากใจไม่ได้




“จ้ะยาย...”




“เอ้า ร้อยต่อไปเถอะ เดี๋ยวยายไปดูแม่เราก่อน”




มีนาพยักหน้า ก่อนจะก้มหน้าก้มตาร้อยมาลัยต่อไปด้วยความตั้งใจ









“คุณเชษฐ์ครับ”




“หืม?” ร่างสูงขานรับโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อมือเล็กแตะลงบนต้นขาของเอาอย่างละล้าละลัง ธีรเชษฐ์จำต้องละสายตาจากหน้าจอมาหาคนที่ไม่เคยแตะต้องตัวเขาก่อนอย่างเสียไม่ได้




มีนานั่งพับเพียบอยู่บนพื้นข้างเก้าอี้ของเขา ในมือมีพวงมาลัยสีขาวที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเจ้าตัวเป็นคนทำเอง เด็กหนุ่มมีท่าทีประหม่า ก่อนจะกระพุ่มมือแนบอกแล้วก้มลงกราบที่ตักของเขาพร้อมกับพวงมาลัยช่องาม





“ผมอยากจะขอบคุณที่ช่วยเหลือครอบครัวของผม ถึงพวงมาลัยนี่จะไม่มีค่าอะไร แต่ผมก็อยากทำอะไรตอบแทนพระคุณของคุณเชษฐ์บ้าง”




“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ช่วยเธอฟรีๆ” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่คนมีฟอร์มก็ยังรับพวงมาลัยพวงเล็กมาถือไว้อย่างทะนุถนอมราวกับกลัวว่าหากออกแรงเพียงนิดกลีบดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์จะบอบช้ำเอาได้




มีนาก้มหน้างุดซ่อนรอยยิ้มของตัวเองหลังจากเห็นท่าทีของร่างสูง ถึงอีกฝ่ายจะพูดว่าตัวเองทำเพื่อหวังร่างกายของเขาเป็นสิ่งตอบแทนยังไง แต่มีนารู้ดีว่าเนื้อแท้แล้วธีรเชษฐ์เป็นคนดีที่อยากจะช่วยเหลือเขาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม




และหากท้ายที่สุดแล้วร่างกายของเขาเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายอยากได้มากกว่าเงิน มีนาก็ยินดีที่จะยกมันให้กับผู้มีพระคุณของเขา




เอ๊ะ...ทำไม...?




ความคิดที่จู่ๆก็ผุดขึ้นมาในหัวเมื่อครู่ทำให้มีนาขมวดคิ้วอย่างสับสน




แต่เมื่อมองลึกเข้าไปในใจของตัวเอง คำตอบที่ได้ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม




ต่อให้ยกทั้งร่างกายและเงินทองทั้งหมดที่เขาหาได้ทั้งชีวิตให้กับร่างสูง มีนาก็ยังคงไม่คิดว่าจะสามารถชดใช้หนี้บุญคุณที่อีกฝ่ายมีต่อเขาได้




“ลุกขึ้นมาได้แล้ว นั่งอยู่แบบนั้นนานๆเดี๋ยวเข่าก็ด้านหมด”




ธีรเชษฐ์ฉุดรั้งร่างเล็กที่วันนี้ทำตัวน่ารักเป็นพิเศษขึ้นมานั่งบนตัก เขาชอบความรู้สึกของน้ำหนักตัวของมีนาบนตักของเขา ชอบแขนเรียวที่โอบรอบคอของเขาเพื่อป้องกันการหงายหลังตกลงไปโดยอัตโนมัติและใบหน้าหวานที่อยู่ใกล้เพียงคืบก้มลงอย่างเขินอายไม่ยอมสบตากับเขา




“ผม...ผมไปเตรียมอาหารเย็นนะครับ”




“วันนี้ไอ้ครามจะมากินข้าวด้วย”




ชายหนุ่มเอ่ยอย่างนึกขึ้นได้ มีนาเงยหน้าขึ้นด้วยแววตาเป็นประกายทันทีที่ได้ยินชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาของตน ซึ่งทำให้ธีรเชษฐ์รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเสียอย่างนั้น




ทีกับคนอื่นทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นได้ง่ายนัก




“ถ้าอย่างนั้นให้ผมเตรียมอาหารเผื่อ...”




“ไม่ต้อง เดี๋ยวมันซื้อข้าวมาให้”ธีรเชษฐ์ขัดเสียงห้วน คนที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดสะดุ้งตกใจ ก่อนจะพึมพำขอตัวลงจากตักของชายหนุ่มอีกครั้ง แต่วันนี้ธีรเชษฐ์ไม่ยอมปล่อยอีกฝ่ายไปง่ายนัก




“เงยหน้าขึ้น”




มีนาทำตามคำสั่งด้วยสีหน้าหวาดกลัว ดวงตาสีช็อกโกแลตที่ไหวระริกยิ่งทำให้ธีรเชษฐ์รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก ทำไมกับคนอื่นมีนาถึงไม่เคยมีท่าทีแบบนี้ให้เห็น ยิ่งเวลาไปขายของในตลาดเขายิ่งเห็นดวงตากลมโตคู่นั้นเปล่งประกายอย่างสนุกสนาน แต่กับเขาอีกฝ่ายกลับแสดงท่าทางหวาดระแวงเหมือนเขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องหนีคดีอย่างไรอย่างนั้น




“ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?”




คนตัวเล็กที่ไม่รู้ว่าควรจะตอบถามนั้นอย่างไรได้แต่นั่งแข็งทื่อตัวเป็นอยู่บนตักของชายหนุ่ม ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว แววตาของชายหนุ่มฉายชัดว่ายังคงรอคำตอบจากเด็กหนุ่ม




“…ขอโทษครับ...!!”




มีนาสะดุ้งอย่างตกใจเมื่อธีรเชษฐ์เชยคางของตนขึ้นเพื่อครอบครองริมฝีปากรูปกระจับ




“ถ้าตอบไม่ตรงคำถามอีกฉันจะทำมากกว่านี้” ร่างสูงกระซิบเสียงเย็น ไม่ได้เข้ากับบทลงโทษที่ทำให้หน้าของเด็กหนุ่มร้อนผ่าวเลยสักนิด




“ผม..ขี้ตกใจน่ะครับ ไม่ใช่เพราะคุณเชษฐ์หรอกครับ” ร่างเล็กหลบสายตา ดูท่าคำตอบของเขาจะเป็นที่พอใจของคนถาม ธีร
เชษฐ์ถึงยอมปล่อยให้มีนาลุกออกจากตักของตนได้




“เดี๋ยวซักพักไอ้ครามก็คงถึงแล้ว ไปเปลี่ยนชุดหน่อยไป เดี๋ยวมันมาเจอเธอในสภาพนี้แล้วมาโวยวายใส่ฉันอีก”




มีนาก้มลงมองเสื้อยืดแขนกุดกับกางเกงขาสั้นของตัวเอง ใบหน้าขาวขึ้นสีเรื่อเมื่อค้นพบว่าตัวเองชินชากับเสื้อผ้าที่ธีรเชษฐ์ซื้อมาให้จนไม่ได้คิดเขินอายอะไรแล้ว










มีนาได้ยินเสียงประตูห้องด้านนอกเปิดออกและเสียงคนคุยกันดังลอดมาเป็นระยะขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าจึงรีบติดกระดุมเสื้อคอปกสีฟ้าอ่อนของตัวเองให้เรียบร้อย มีนาก้มมองกางเกงขายาวสีขาวของตนแล้วเงยหน้ามองสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองในกระจกอีกครั้งก่อนจะรีบเปิดประตูออกไปทักทายแขกในค่ำคืนนี้




“สวัสดีครับอาจารย์”




“สบายดีนะมีน ดูแข็งแรงขึ้นเยอะเลย”




คเชนทร์รับไหว้นักศึกษาตัวน้อยด้วยสายตาเอ็นดู เขารู้ว่าธีรเชษฐ์ไม่ใช่คนเลวร้ายโดยนิสัย เพื่อนสนิทของเขาคงจะบังคับจับอาหารกรอกปากเด็กหนุ่มไปพอสมควร ร่างเล็กผอมโซเหมือนเด็กขาดสารอาหารในตอนที่เขาเจอครั้งแรกถึงได้ดูมีน้ำมีนวล ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้นอย่างผิดหูผิดตา




มีนาเป็นเด็กหัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย คเชนทร์ได้แต่หวังว่าคุณสมบัติข้อนี้ของลูกศิษย์จะไม่ทำให้ธีรเชษฐ์เบื่ออีกฝ่ายในเร็ววัน เพราะแม้เพื่อนสนิทของเขาจะเกลียดคนที่ไม่เชื่อฟังคำสั่ง แต่บรรดาคู่นอนที่ยอมอ้าขาจัดท่าให้ตามคำบัญชาก็อยู่ไม่ยืดเช่นกัน




“ครับ เดี๋ยวผมจัดจานให้นะครับ”




มีนารับถุงจากมือของคเชนทร์พร้อมรอยยิ้มกว้างแล้วผลุบหายเข้าไปในครัว ปล่อยให้ผู้ใหญ่สองคนนั่งคุยกันรอที่โต๊ะทานข้าว




“มึงจำได้ใช่มั้ยว่ารับปากอะไรกูไว้” คเชนทร์ได้ทีออกปากเตือนเพื่อน ธีรเชษฐ์กลอกตา




“คิดว่าถ้ากูไม่รักษาสัญญาเด็กคนนั้นจะเดินเหินได้ปกติแบบนี้เหรอ?”




อาจารย์แพทย์ส่ายหัวอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับคำพูดของเพื่อนสนิท แม้ว่าธีรเชษฐ์จะไม่ใช่คนเลว แต่คเชนทร์ก็รู้ดีว่าเพื่อนของเขาช่างห่างไกลจากคำว่าคนดีอยู่มากโข ชายหนุ่มยังไม่เห็นหนทางที่ลูกศิษย์ของตนจะได้ออกจากสัญญาหนี้บ้าๆของเพื่อนสนิทได้อย่างไร้รอยขีดข่วน สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงประวิงเวลา และขอให้ธีรเชษฐ์อ่อนโยนกับเด็กหนุ่มเพื่อเห็นแก่ความเป็นเพื่อนของพวกเขาก็เท่านั้น




“กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงนึกสนุกอะไรถึงได้ยื่นมือเขามาช่วยมีนา จะบอกว่าติดใจ...เด็กตัวแค่นั้นจะทำอะไรให้มึงได้ดีกว่านายแบบนางแบบที่มึงเคยควง...” คเชนทร์เกริ่น “แต่กูขอมึงในฐานะที่กูทนเรื่องเชี่ยๆของมึงมาได้ไม่รู้กี่สิบปี มีนาเป็นเด็กดี...จะทำอะไรก็เบามือหน่อยก็แล้วกัน”




“จะไม่ขอให้กูยกหนี้ให้เด็กนั่นฟรีๆเหรอ?” เจ้าของห้องเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ คเชนทร์ส่ายหน้า




“ขอไปมึงก็ไม่ทำ เห็นสายตามึงกูก็รู้แล้ว...” ธีรเชษฐ์รู้สึกหงุดหงิดใจกับรอยยิ้มกวนบาทาที่มุมปากของเพื่อนสนิทอย่างบอกไม่ถูก “อย่าทำอะไรให้ตัวเองเสียใจทีหลังก็แล้วกัน”




แค่สายตาของชายหนุ่มตอนที่มีนาเดินออกมาจากห้องนอนคเชนทร์ก็พอจะรู้แล้วว่าความสนใจในตัวเด็กหนุ่มของธีรเชษฐ์นั้นไม่ได้มีแค่ผิวเผินอย่างที่เพื่อนของเขาหลอกตัวเอง แม้จะไม่รู้ว่าเรื่องราวของคนทั้งคู่จะดำเนินไปในทิศทางไหน แต่คเชนทร์ก็ยินดีที่ในตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะลงตัวโดยที่ไม่มีฝ่ายใดต้องเสียอะไรมากนัก




“ขอโทษที่ให้รอนะครับ”




มีนาออกมาจากห้องครัวพร้อมจานใส่กับข้าวที่คเชนทร์แวะซื้อก่อนจะมาที่นี่ คเชนทร์คิดว่าถึงแม้เขาจะเผลอมองข้ามแววตาที่ธีรเชษฐ์มองมีนาไป การที่เพื่อนสนิทที่ร้อยวันพันปีไม่เคยจะสนใจความเป็นอยู่ของใครโทรมาบอกเขาให้ซื้อกับข้าวเข้ามาเพราะวันนี้พ่อครัวตัวน้อยของตนมีเรียนทั้งวันก็พอจะบอกถึงระดับความใส่ใจของอีกฝ่ายที่มีต่อมีนาได้แล้ว




มีนาจัดโต๊ะอาหารอย่างคล่องแคล่ว ปฏิเสธคเชนทร์ที่เสนอตัวไปช่วยในครัวอย่างสุภาพ ผลุบเข้าผลุบออกจากห้องครัวอย่างรวดเร็วเสียจนคนมองรู้สึกเวียนหัวแทน




“ร่าเริงจังนะ”




น้ำเสียงขุ่นมัวของธีรเชษฐ์ทำให้มีนาที่ยิ้มกว้างตั้งแต่เห็นคเชนทร์ในห้องหน้าเสีย เด็กหนุ่มก้มหน้างุด ก้มศีรษะห่อไหล่กลับเข้าไปในครัวด้วยสีหน้าอมทุกข์ที่เจ้าชีวิตของตนคุ้นเคยเป็นอย่างดี




“เด็กยิ้มก็ผิด?” คเชนทร์เลิกคิ้วถามธีรเชษฐ์ที่ยังคงมีสีหน้าไม่สบอารมณ์




“อยู่กันสองคนทำหน้าเหมือนกูเอามีดจ่อคอหอยอยู่ตลอดอย่างนั้นแหละ”




“แล้วมึงไม่ได้ทำอยู่เหรอ?”




เจ้าของห้องกำลังจะถามความหมายของประโยคเมื่อครู่ แต่ถูกขัดจังหวะด้วยร่างเล็กที่ถือพวงมาลัยที่แทบจะเหมือนกับพวงที่อีกฝ่ายให้ธีรเชษฐ์ทุกกระเบียดนิ้วออกมาจากห้องครัว




“อาจารย์ครับ ผมอยากขอบคุณที่อาจารย์เมตตาช่วยเหลือผมกับครอบครัว” มีนาทรุดตัวลงกราบแทบเท้าของอาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งรีบนำมือข้างหนึ่งไปรองมือของเด็กหนุ่มไหว้




“ครูไม่ได้ทำอะไรมากหรอก” คเชนทร์ลูบศีรษะของมีนาอย่างเอ็นดู ไม่คิดจะผละจากลูกศิษย์ตัวน้อยแม้จะเห็นสายตาไม่พอใจของธีรเชษฐ์อย่างชัดเจน “เป็นเด็กดีแบบนี้ต่อไปนะมีน ครูขอโทษที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้มากกว่านี้”





“ครับ”มีนาเงยหน้ามองอาจารย์ของตนอย่างตื้นตันใจ




“เอ้า ไปนั่งได้แล้ว เพื่อนครูจะกินหัวครูอยู่แล้ว”




คเชนทร์เอ่ยติดตลก ซึ่งไม่ใช่ภาพที่เห็นได้บ่อยนักของร่างสูง พยักเพยิดให้มีนารีบลุกขึ้นจากพื้นไปที่เก้าอี้ว่างข้างๆเจ้าของห้องซึ่งในตอนนี้หน้านิ่วคิ้วขมวดเสียจนคนมองใจไม่ดี




“...ร้อยให้ทุกคนเลยรึไง?”




เสียงทุ้มพึมพำ มีนาไม่รู้ว่าธีรเชษฐ์ถามเขาหรือเพียงแค่บ่นกับตัวเองเท่านั้นจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จาข้างร่างสูง
“กินเถอะ อย่าสนใจมันเลย วัยหมดประจำเดือนก็แบบนี้ อารมณ์ขึ้นๆลงๆ” คเชนทร์เอ่ยหน้าตาย ขยับบขาหลบบาทาของเพิื่อนที่ขยับเตะหน้าแข้งของตนใต้โต๊ะทานข้าวอย่างรู้ทัน




Rrrr




ธีรเชษฐ์ลุกไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่ตนชาร์จไว้บนเคาท์เตอร์มากดรับสาย




“ฮัลโหล? หมอก? อะไรนะ...ได้ ฉันจะไปรับเดี๋ยวนี้ อย่าออกจากฝูงคนนะ”




มีนาเงยหน้ามองเจ้าของห้องดึงโทรศัพท์ออกจากสายชาร์จพร้อมกับคว้ากุญแจรถและกระเป๋าเงินของตนอย่างเร่งรีบ




“เอ่อ..มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ...”




“เดี๋ยวมา”




ชายหนุ่มทิ้งท้ายเพียงแค่นั้นก่อนจะผลุบหายไปจากห้อง มีนามองตามแผ่นหลังกว้างไปด้วยสายตาเป็นกังวล




“จะไม่ร่าเริงขึ้นหน่อยเหรอ?” คำถามของอาจารย์ที่ปรึกษาทำให้มีนาหันกลับมาอย่างฉงน




“ครับ?”




“ปกติเหยื่อจะต้องดีใจรึเปล่าเวลาที่ผู้ล่าไม่ได้อยู่ใกล้ๆ” คเชนทร์เลิกคิ้ว มีนาก้มหน้างุด ไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามนั้นอย่างไร




“มีน ครูถามอะไรหน่อยได้มั้ย?”





“ถาม…อะไรเหรอครับ?” แม้จะไม่อยากตอบ แต่มีนารู้ว่าถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็คงหาทางเอาคำตอบจากเขาได้อยู่ดี




“มีน…เริ่มชอบไอ้เชษฐ์มันแล้วรึเปล่า?”




“เอ๊ะ? ทะ...ทำไมถึงได้คิดอย่างนั้นล่ะครับ?!”




มีนาแตกตื่นกับคำถามของร่างสูง อาจารย์หนุ่มหัวเราะในลำคอ ท่าทางของอีกฝ่ายในตอนนี้ทำให้มีนาที่ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมคเชนทร์ถึงได้เป็นเพื่อนกับคนอย่างธีรเชษฐ์มานานขนาดนี้เริ่มจะพอมองออกถึงความคล้ายคลึงของคนทั้งคู่




“แค่เห็นสายตาเธอครูก็รู้แล้ว”




แน่นอนว่านั่นไม่ใช่คำตอบที่มีนาอยากได้ยิน




เขาไม่รู้ว่าสายตาของเขายามที่มองเจ้าชีวิตของตัวเองเป็นอย่างไร แต่มีนารู้ว่าความรู้สึกที่เขามีต่ออีกฝ่ายไม่ใช่ความหวาดกลัว




หากมานึกดูดีๆ ร่างเล็กไม่คิดว่ามันเป็นความหวาดกลัวมาตั้งแต่แรก




แต่หากสายตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึกภายในใจของเขาถูกคนนอกอย่างคเชนทร์มองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่มีเหตุผลเลยที่ธีรเชษฐ์ซึ่งอยู่ใกล้กับเขาเพียงลมหายใจคั่นจะไม่รู้ถึงข้อเท็จจริงนี้




“ไม่ต้องห่วง เพื่อนครูมันซื่อบื้อกว่าที่เธอคิดเยอะ” คเชนทร์ปลอบพร้อมรอยยิ้มมุมปาก




“อาจารย์...รู้ได้ยังไงเหรอครับ?” มีนาถามด้วยสีหน้าเคลือบแคลงใจ




“ครูเห็นสายตาที่มันมองเธอไง”อาจารย์หนุ่มตอบพร้อมกับดันแว่นกรอบดำของตัวเองขึ้น “เพื่อนครูน่ะ มันไม่ได้เก็บความรู้สึกเก่งเหมือนที่มันชอบคิดหรอกนะ”




“….”




มีนาทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างไม่ยอมรับ จะให้เขาเชื่อได้อย่างไรว่าความรู้สึกอะไรก็ตามที่เขามีต่อธีรเชษฐ์ อีกฝ่ายก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ในเมื่อตัวเขาไม่มีอะไรนอกจากรูปร่างหน้าตาที่บังเอิญไปต้องตาอีกฝ่ายได้อย่างไรก็ไม่อาจทราบ นอกจากสัตว์เลี้ยงในห้องและของเล่นบนเตียงแล้ว มีนาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสามารถอาจเอื้อมเปลี่ยนสถานะเป็นอย่างอื่นไปได้




“ไอ้เชษฐ์น่ะ เนียนกับแค่คนที่มันไม่ได้จริงใจเท่านั้นแหละ” คเชนทร์เอ่ยขึ้น “กับคุณเกศ ภรรยาเก่ามัน มันเต๊ะท่าทำตัวเข้มจนเกือบชวดไปตั้งหลายครั้ง”




มีนานึกภาพธีรเชษฐ์’เนียน’กับใครไม่ออก คนคนเดียวที่เขาเห็นชายหนุ่มอ่อนโยนด้วยคือคุณมธุวัน เลขาร่างสูงโปร่งเจ้าของนัยน์ตาเย็นเยียบสีเทาอมฟ้าที่ให้ความรู้สึกเหมือนราชินีผึ้งที่มีผึ้งงานทุกตัวอยู่ใต้อาณัติ




นึกถึงน้ำเสียงอ่อนโยนและแววตาเอ็นดูของธีรเชษฐ์แล้วมีนาก็นิ่วหน้ากับความรู้สึกเสียวแปลบในอก




“เอาล่ะๆ ไม่เชื่อครูก็ไม่เป็นไร แต่ครูขอเตือนไว้นะมีน” คเชนทร์ขยับเก้าอี้เข้ามาใกล้เขาด้วยสีหน้าจริงจัง “คนอย่างไอ้เชษฐ์น่ะ ความรักกับเซ็กส์เป็นคนละเรื่องกัน ต่อให้มันรักเธอจนหมดหัวใจ มันก็ไม่มีทางมีเธอคนเดียว”




“ผมไม่...”




“ในฐานะเพื่อน ครูก็อยากให้เชษฐ์มันได้เจอคนดีๆอย่างมีน แต่ในฐานะที่ครูเป็นครูของเธอ...” คเชนทร์ถอนหายใจ “อย่าถลำลึกไปมากกว่านี้เลยจะดีกว่านะ”




มีนากัดริมฝีปากพร้อมพยักหน้ารับคำ ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าการที่ตัวเองจะอยู่หรือไปจากธีรเชษฐ์นั้น ร่างเล็กไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจแม้แต่นิด



คำพูดของคเชนทร์ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของมีนาถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มจะพยายามปิดกั้นมันออกไปแค่ไหน




ร่างเล็กได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออก มีนาเด้งตัวลุกขึ้นมาจากเตียงจังหวะเดียวกับที่ธีรเชษฐ์เปิดประตูเข้ามา





“ดึกแล้วนะ ยังไม่นอนอีกเหรอ?”





คนอายุมากกว่าขมวดคิ้ว ทรุดตัวลงนั่งข้างร่างเล็กบนเตียง ทั้งที่ระยะห่างอันน้อยนิดระหว่างพวกเขาไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่ในครั้งนี้ มีนารู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงกว่าทุกวันที่ผ่านมา




‘...เริ่มชอบไอ้เชษฐ์มันแล้วรึเปล่า?’




คำพูดของคเชนทร์ยังคงดังก้องอยู่ในหัว มีนาเบือนหน้าหลบดวงตาสีควันบุหรี่




“ครับ...ผมนอนไม่หลับ”




“จะให้ตบก้นให้มั้ย?”ความขบขันในน้ำเสียงของอีกฝ่ายยิ่งทำให้มีนาหน้าร้อนผ่าว เด็กหนุ่มส่ายหัวดิ๊กๆอย่างอับอาย
วันนั้นเขาคิดอะไรอยู่กันนะถึงได้พลั้งปากหลุดเรื่องน่าอายแบบนั้นออกไป




Rrrr




เสียงโทรศัพท์ของธีรเชษฐ์ดังขึ้นอีกครั้ง ร่างสูงขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอ




“มีอะไรรึเปล่าหมอก?”




มีนากัดริมฝีปากเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่อ่อนลงเมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อเลขาของตน




“จะนอนห้องฉัน? จริงๆก็ได้อยู่นะ แต่มันนอนไม่ค่อยสบายนะ หืม? เอางั้นเหรอ? ก็ได้ อยากนอนที่ไหนในบ้านนั้นก็นอนเถอะ ถ้าเป็นเธอฉันไม่ว่าอะไรหรอก”




ร่างเล็กนึกอยากจะลุกออกไปจากตรงนี้ แต่เขารู้ดีว่านั่นจะยิ่งทำให้ธีรเชษฐ์สงสัย




“ล็อกห้องด้วย ฉันเป็นห่วง อืม ”




ธีรเชษฐ์กดตัดสายแล้วหันกลับมาหามีนา น้ำเสียงของอีกฝ่ายยังคงเย็นชาอย่างที่มีนาคุ้นเคยดี แม้ว่าจะมีความอ่อนโยนเจืออยู่ในน้ำเสียงเพียงเล็กน้อยเสียจนมีนาแทบจะรับรู้ไม่ได้ก็ตาม





ไม่เหมือนกับที่พูดกับเลขาหน้าสวยของตัวเองสักนิด




“นอนได้แล้ว”



“ครับ”




ร่างเล็กรับคำอย่างง่ายดาย เขาไม่ได้รู้สึกโกรธ เขารู้ดีว่าเขาไม่มีสิทธ์อะไรในตัวของธีรเชษฐ์ แต่มีนาเพียงแค่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับการถูกปฏิบัติคนละแบบกับเลขาหนุ่มที่ธีรเชษฐ์ดูจะทะนุถนอมเสียเหลือเกิน




ถึงแม้คเชนทร์จะบอกว่าธีรเชษฐ์ทำตัวดีกับคนที่ไม่ได้จริงใจด้วย แต่ความอบอุ่นในน้ำเสียงของชายหนุ่มยากจะจินตนาการได้ว่าธีรเชษฐ์ไม่ได้ใส่ใจมธุวัน




อีกอย่าง...มีเลขาที่ไหนอีกหรือที่สามารถนอนที่ไหนในบ้านของประธานบริษัทได้ตามแต่ใจปรารถนา




“พรุ่งนี้แต่งตัวดีๆล่ะ จะพาไปข้างนอก”




ริมฝีปากได้รูปฉกชิมความหอมหวานจากโพรงปากนุ่ม ลิ้นร้อนแสนช่ำชองเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกับลิ้นเล็กอย่างสนุกสนาน ซึ่งพักหลังมานี้ดูเหมือนจะกลายเป็นกิจวัตรประจำวันก่อนนอนของพวกเขาไปเสียแล้ว




มีนาหลับตาพริ้มรับสัมผัสจาบจ้วง ถึงแม้จะไม่ได้ร้องขอ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้ขัดขืน




เขารู้ตัวว่าเขาไม่มีสิทธิ์ สิ่งที่เขาจะได้รับมีเพียงสิ่งที่ร่างสูงต้องการจะให้เท่านั้น




สิ่งที่เด็กหนุ่มทำได้มีเพียงปล่อยให้อีกฝ่ายตักตวงสิ่งที่ต้องการจนพอใจ ก่อนจะพลิกกายซุกหน้าลงกับหมอนสีขาวใบนิ่ม ปล่อยให้น้ำตารินไหลซึมหายไปกับเนื้อผ้าของปลอกหมอน




---------

โอ๋เอ๋นะหนูมีนนนนน

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
น้องมีนนนน เอ็นดู อย่าแกล้งน้อง

ออฟไลน์ MR.J

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
สงสารมีน
อยากให้คุณเชษฐ์ชัดเจนสักที

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พ่อเจ้าเมฆ ทำมีนเสียใจอีกแล้วนะ  :hao5:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
สงสารเด็กกกก

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โถถถ หนูมีน

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
มีนหนูคงไม่เข้าใจที่ครามบอกเรื่องคุณเชษฐ์แน่เลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องมีนทำผิดอะไร ทำไมทำกับน้องแบบเน้~

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ BChampa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รู้สึกกับใครก็เลือกเอาสักคนเถอะคุณเชษฐ์ ถ้าจะเอาเลขานั้นเรื่องก็ปูทางให้ฝ่ายนั้นเป็นนายเอกได้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่จับปลาสองมือ
- เลขาหน้าสวย
- ข่าวลือว่าเป็นมากกว่าเจ้านายกับเลขา
- ง้องอนให้กลับมาทำงานด้วยเหมือนเดิม
- รีบออกไปหาทันทีที่โทรมา
- พาไปนอนที่บ้าน ถ้าเป็นนายจะนอนห้องไหนก็ได้
- เสียงเย็นชาแต่แฝงความอบอุ่น

ยินดีด้วยคุณได้นายเอกแล้วค่าาา

เทียบกับเด็กที่ซื้อมาเป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยง ไม่อ่อนโยนด้วย แค่เอาเงินช่วยเหลือรักษาแม่ให้ ซื้อของให้ แล้วขังไว้ในกรงอดทนรอวันที่อายุครบ18 เพียงแค่ความหวงที่แสดงออกออกเท่าที่ผ่านมากับคำพูดอาจารย์หมอเรื่องเนียนไม่เนียนนั่น น้ำหนักมันไม่พอให้ชนะฝั่งโน้นเลย มันไม่พอ
แค่ซีนรับโทรศัพท์แล้วหุนหันออกไป แล้วพาไปนอนที่บ้านแค่นี้ก็คิลกระต่ายน้อยในกรงทองได้แล้วอ่ะ

รอวันที่กระต่ายน้อยจะแหกกรงออกมา เปิดตัวคู่แข่งที่จะพาแหกออกมาสักคนเถอะ จะทนอยู่กับความน้อยเนื้อต่ำใจไปถึงเมื่อไหร่กัน ผู้มีพระคุณก็ส่วนผู้มีพระคุณ คนใจร้ายก็ส่วนคนใจร้าย

เอาพี่น้ำอุ่นมา พี่น้ำอุ่นต้องมีบทแล้วล่ะ พาแหกกรงออกไปที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2018 12:50:00 โดย BChampa »

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อยากรู้จริงๆ ว่าหมอกกำความลับอะไรของธีรเชษฐ์ไว้ ทำให้เจ้านายต้องเอาอกเอาใจเลขาขนาดนี้

สงสารเด็กน้อยตาดำๆ อยู่กับความไม่แน่นอนอย่างนี้ เข้มแข็งนะลูก ...น้องมีน

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รู้สึกกับใครก็เลือกเอาสักคนเถอะคุณเชษฐ์ ถ้าจะเอาเลขานั้นเรื่องก็ปูทางให้ฝ่ายนั้นเป็นนายเอกได้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่จับปลาสองมือ
- เลขาหน้าสวย
- ข่าวลือว่าเป็นมากกว่าเจ้านายกับเลขา
- ง้องอนให้กลับมาทำงานด้วยเหมือนเดิม
- รีบออกไปหาทันทีที่โทรมา
- พาไปนอนที่บ้าน ถ้าเป็นนายจะนอนห้องไหนก็ได้
- เสียงเย็นชาแต่แฝงความอบอุ่น

ยินดีด้วยคุณได้นายเอกแล้วค่าาา

เทียบกับเด็กที่ซื้อมาเป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยง ไม่อ่อนโยนด้วย แค่เอาเงินช่วยเหลือรักษาแม่ให้ ซื้อของให้ แล้วขังไว้ในกรงอดทนรอวันที่อายุครบ18 เพียงแค่ความหวงที่แสดงออกออกเท่าที่ผ่านมากับคำพูดอาจารย์หมอเรื่องเนียนไม่เนียนนั่น น้ำหนักมันไม่พอให้ชนะฝั่งโน้นเลย มันไม่พอ
แค่ซีนรับโทรศัพท์แล้วหุนหันออกไป แล้วพาไปนอนที่บ้านแค่นี้ก็คิลกระต่ายน้อยในกรงทองได้แล้วอ่ะ

รอวันที่กระต่ายน้อยจะแหกกรงออกมา เปิดตัวคู่แข่งที่จะพาแหกออกมาสักคนเถอะ จะทนอยู่กับความน้อยเนื้อต่ำใจไปถึงเมื่อไหร่กัน ผู้มีพระคุณก็ส่วนผู้มีพระคุณ คนใจร้ายก็ส่วนคนใจร้าย

เอาพี่น้ำอุ่นมา พี่น้ำอุ่นต้องมีบทแล้วล่ะ พาแหกกรงออกไปที

คุณกำลังเข้าใจหมอกผิดนะคะ หมอกเค้าคู่กับ เมฆา ลูกชายคนโตคุณเชษฐ์ ในเรื่อง รักไม่ลืม เท่าที่ดูน่าจะเป็นเรื่องหลักของซีรี่ย์นี้  นิสัยน่ารักมากและน่าสงสารมากด้วยค่ะ ส่วนตัวเราเองอ่านเรื่องรักไม่ลืมมาก่อน ก็หมั่นไส้ ไม่ชอบน้องมีนามาก่อนเหมือนกัน เพราะสิ้นไร้ไม้ตอกยังไงก็ยังมีหนทางอื่น
มากกว่าจะยอมขายตัว  เลยต้องตามมาอ่านเรื่องนี้ต่อ
เพื่อที่จะทำความเข้าใจน้องมีนาค่ะ และก็ทำให้ทราบว่าแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง เราไม่ควรตัดสินใครจากแค่ที่เห็น พอเห็นคุณเข้าใจหมอกผิด ก็เลยอดไม่ได้ที่ตัองขอแก้ตัวแทน เพราะเค้าเป็นนายเอกคนโปรดหน่ะค่ะ ^^

ออฟไลน์ BChampa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รู้สึกกับใครก็เลือกเอาสักคนเถอะคุณเชษฐ์ ถ้าจะเอาเลขานั้นเรื่องก็ปูทางให้ฝ่ายนั้นเป็นนายเอกได้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่จับปลาสองมือ
- เลขาหน้าสวย
- ข่าวลือว่าเป็นมากกว่าเจ้านายกับเลขา
- ง้องอนให้กลับมาทำงานด้วยเหมือนเดิม
- รีบออกไปหาทันทีที่โทรมา
- พาไปนอนที่บ้าน ถ้าเป็นนายจะนอนห้องไหนก็ได้
- เสียงเย็นชาแต่แฝงความอบอุ่น

ยินดีด้วยคุณได้นายเอกแล้วค่าาา

เทียบกับเด็กที่ซื้อมาเป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยง ไม่อ่อนโยนด้วย แค่เอาเงินช่วยเหลือรักษาแม่ให้ ซื้อของให้ แล้วขังไว้ในกรงอดทนรอวันที่อายุครบ18 เพียงแค่ความหวงที่แสดงออกออกเท่าที่ผ่านมากับคำพูดอาจารย์หมอเรื่องเนียนไม่เนียนนั่น น้ำหนักมันไม่พอให้ชนะฝั่งโน้นเลย มันไม่พอ
แค่ซีนรับโทรศัพท์แล้วหุนหันออกไป แล้วพาไปนอนที่บ้านแค่นี้ก็คิลกระต่ายน้อยในกรงทองได้แล้วอ่ะ

รอวันที่กระต่ายน้อยจะแหกกรงออกมา เปิดตัวคู่แข่งที่จะพาแหกออกมาสักคนเถอะ จะทนอยู่กับความน้อยเนื้อต่ำใจไปถึงเมื่อไหร่กัน ผู้มีพระคุณก็ส่วนผู้มีพระคุณ คนใจร้ายก็ส่วนคนใจร้าย

เอาพี่น้ำอุ่นมา พี่น้ำอุ่นต้องมีบทแล้วล่ะ พาแหกกรงออกไปที

คุณกำลังเข้าใจหมอกผิดนะคะ หมอกเค้าคู่กับ เมฆา ลูกชายคนโตคุณเชษฐ์ ในเรื่อง รักไม่ลืม เท่าที่ดูน่าจะเป็นเรื่องหลักของซีรี่ย์นี้  นิสัยน่ารักมากและน่าสงสารมากด้วยค่ะ ส่วนตัวเราเองอ่านเรื่องรักไม่ลืมมาก่อน ก็หมั่นไส้ ไม่ชอบน้องมีนามาก่อนเหมือนกัน เพราะสิ้นไร้ไม้ตอกยังไงก็ยังมีหนทางอื่น
มากกว่าจะยอมขายตัว  เลยต้องตามมาอ่านเรื่องนี้ต่อ
เพื่อที่จะทำความเข้าใจน้องมีนาค่ะ และก็ทำให้ทราบว่าแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง เราไม่ควรตัดสินใครจากแค่ที่เห็น พอเห็นคุณเข้าใจหมอกผิด ก็เลยอดไม่ได้ที่ตัองขอแก้ตัวแทน เพราะเค้าเป็นนายเอกคนโปรดหน่ะค่ะ ^^
อ๋ออออ เข้าใจผิดเสียอย่างนั้น 555555 ก็อ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกสำหรับเซ็ตนี้ เห็นมีตัวละครหลายตัวมาก ก็คิดว่าคงจะมีหลายเรื่อง แต่น้ำหนักมันเอนไปทางโน้นก็แบบคุณเชษฐ์มันอะไรนักหนากับเลขา อ๋อ เป็นสะใภ้

แลกกันๆ เดี๋ยวเราไปอ่านรักไม่ลืมบ้าง จะได้เข้าใจหมอก

เคลียร์ หยุดความเข้าใจผิดไว้แค่นี้นะคะ เดี๋ยวลามไปใหญ่โต ปล่อยไก่ อาย 55555555555

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
น้องมีนาลูกกกกก :กอด1:

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
สงสารมีน มาแบบไม่รู้ตัว ก็มีน้อยใจ มีระแวงบ้าง
แต่คนใกล้ชิดดูรู้ว่าคุณเชษฐ์ไม่ปกติ แถมตามไปได้ทุกที่ด้วย

ถ้ามีคนเข้ามาจีบ มีนจะเด๋อไหม แล้วคุณเชษฐ์จะปรี๊ดไหม อยากรู้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5

Chapter  16: เสี้ยวความทรงจำ

วันนี้ทินกรไม่มีเรียน




ภรัณยูไม่รู้ว่าชีวิตของลูกชายมหาเศรษฐีบ้านอื่นเป็นอย่างไร แต่ดูจากความขยันขันแข็งของท่านรองประธานและน้องชายคนสุดท้องแล้ว เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่เป็นพนักงานกินเงินเดือนธรรมดา




“วันนี้ท่านประธานให้มาดูการทำงานของฝ่ายการตลาดนะคะ มีอะไรถามภัทรได้ รายนี้เขารู้ทุกเรื่อง”




เจนจิราพาร่างสูงในชุดสูทสั่งตัดราคาแพงเข้ามาในแผนก เส้นผมสีดำสนิทถูกหวีเสยจัดทรงเรียบร้อยทำให้เด็กหนุ่มดูโตกว่าความเป็นจริง หากไม่รู้จักกัน ภรัณยูคงคิดว่าอีกฝ่ายเป็นพนักงานระดับสูงคนใหม่ หรือดารานายแบบที่มาคุยงาน




อันที่จริงเขานี่แหละ คนแรกในบริษัทที่ถูกมาดสุขุมเยือกเย็นนั้นหลอกขึ้นเตียง




“ขอบคุณครับคุณแจน ขอโทษด้วยนะครับที่รบกวน”




ทินกรโปรยยิ้มทรงเสน่ห์ให้พนักงานในแต่ละคอกที่ชะเง้อคอหวังได้ยลโฉมลูกชายคนเล็กของประธานบริษัทเกิดอาการใจเต้น เขินอายบิดม้วนเป็นไส้เดือนถูกเตะไปตามๆกัน ภรัณยูนั้นยังคงรักษาความสงบเยือกเย็นไว้ได้เพียงเพราะฝึกปรือเกราะป้องกันมาอย่างแก่กล้า แต่ดูเหมือนคนส่วนใหญ่จะคิดว่าเป็นเพราะ’เจ้าชายน้ำแข็ง’ของพวกตนไม่มีทางอ่อนไหวกับแค่รอยยิ้มละลายใจนี้




เหอะ...ละลายคนแรกเลยครับ



“พี่ภัทรครับ วันนี้ผมขอรบกวนด้วยนะครับ”




ทินกรนั่งลงข้างภรัณยูโดยเว้นระยะห่างจากชายหนุ่มเล็กน้อย รอยยิ้มอบอุ่นแต่งแต้มมุมปากพอเป็นพิธีด้วยรู้ว่าภรัณยูไม่ชอบให้ตนทำตัวสนิทสนมในเวลาทำงาน




ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายทำเพื่อเอาใจตัวเอง แต่เมื่อเห็นสายตาวาววับของสาวๆในแผนก รวมถึงพนักงานชายบางคน ภรัณยูแอบนึกอยากให้ทินกรออดอ้อนเขามากกว่านี้...




ไม่สิ คิดบ้าอะไรของเราเนี่ย?




“คุณทินกร รบกวนถ่ายเอกสารฉบับนี้ให้หน่อยครับ ยี่สิบชุด”




ภรัณยูตัดสินใจส่งเด็กหนุ่มไปให้ไกลหูไกลตาเพื่อให้ตัวเองมีสติที่แจ่มใสกว่านี้ในการทำงาน แต่ก่อนที่ทินกรจะได้ตอบรับอะไร มือเรียวเล็กมือหนึ่งก็คว้าปึกเอกสารของเขาไปเสียก่อน




“ตายแล้วพี่ภัทรคะ ไปใช้คุณทินกรแบบนั้นได้ยังไงคะ” พนักงานสาวที่มีอายุน้อยกว่าเขาเพียงไม่กี่ปีจีบปากจีบคอ ทั้งที่ยามปกติงานของเจ้าหล่อนมักจะถูกโยนมาให้ภรัณยูแก้หรือต้องทำใหม่เสมอๆ “ไม่เป็นไรนะคะคุณทินกร เดี๋ยวกิ๊ฟทำให้เองค่ะ”
“คงไม่ได้หรอกครับ พี่ภัทรบอกให้ผมไป” ทินกรยิ้มให้หญิงสาวด้วยรอยยิ้มสว่างสดใสเป็นเอกลักษณ์ ใช้จังหวะที่คนตรงหน้ากำลังเขินอายดึงเอกสารกลับมาอย่างแนบเนียน “หน้าที่ของผม ผมต้องเป็นคนทำครับ”



“อร๊ายยย เท่อ่ะ”




หญิงสาวกรี๊ดกร๊าดเบาๆหลังจากที่ทินกรเดินออกไปจากห้อง ร่างเล็กในชุดเครื่องแบบพนักงานและรองเท้าส้นเข็มเดินนวยนาดไปเม้าท์กับกลุ่มเพื่อนของตัวเองที่โต๊ะทำงานโดยไม่สนใจภรัณยูที่นั่งทำงานงกๆอยู่ไม่ไกล อาจเป็นเพราะหญิงสาวคงรู้ดีอยู่แล้วว่าต่อให้พูดจากระทบกระแทกแดกดันอะไรรองหัวหน้าคนนี้ไป ภรัณยูก็ไม่เคยนำมาผูกใจเจ็บสักครั้ง




“ลูกชายเจ้าของบริษัทยังกล้าใช้ คนอะไรไม่รู้ที่ต่ำที่สูง”




“ยัยกิ๊ฟ!เบาๆสิ เดี๋ยวพี่ภัทรก็ได้ยินหรอก” เพื่อนๆของหญิงสาวรีบเตือน เหลือบมองมาทางภรัณยูอย่างหวาดระแวง




“โอ๊ย ถ้าได้ยินก็ได้ยินไปหลายรอบแล้วล่ะ หูเหอไปหมดแล้วมั้ง” หญิงสาวหัวเราะ




“ต่ำ”




เสียงหวานที่คุ้นเคยดังขึ้นหน้าโต๊ะของเขาไม่ได้มีความคิดที่จะลดระดับเสียงให้ใคร ภรัณยูเงยหน้ามองฝน ลูกน้องอีกคนของเขาที่เป็นคนเอ่ยคำปริศนาหนึ่งพยางค์นั้นออกมา




“แกว่าใคร ยัยฝน?” กิ๊ฟตวัดตาค้อนหญิงสาวอายุเท่ากันอย่างหาเรื่อง




“ฉันพูดกับพี่ภัทร บอกว่าเก้าอี้มัน‘ต่ำ’ไป นั่งแล้วจะปวดหลัง” ฝนเอ่ยเสียงเรียบ แล้วหันมายิ้มให้ภรัณยู “เนอะ พี่ภัทร”




“…”




คนโดนลากมาเอี่ยวทำได้เพียงพยักหน้าช่วยน้อง กิ๊ฟทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ แล้วเดินออกไปห้องพักพนักงาน ทั้งที่เพิ่งออกไปพักกลับมาก่อนหน้านี้




“พี่ภัทรนะพี่ภัทร ถ้าเป็นฝนนะ ให้พี่แจนไล่ออกไปตั้งแต่เดือนแรกแล้ว คนอะไรทำดีให้ก็แค่เสมอตัว”




ฝนบ่นอุบ ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ของโต๊ะทำงานตัวเองที่อยู่ข้างเขา




“อย่าไปหาเรื่องเขาเลย พี่ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่” ภรัณยูเตือนรุ่นน้องด้วยน้ำเสียงใจเย็น




“โอ๊ย พี่ภัทรก็พ่อพระไปไหนคะเนี่ย ยัยกิ๊ฟทั้งทำงานชุ่ยทั้งนินทาพี่อย่างกับหมูกับหมา ยังจะไปช่วยมันทำงานอีก” หญิงสาวกอดออกอย่างไม่พอใจ




“เขามีลูกต้องดูแล ไม่สงสารเขาก็สงสารลูกเขาเถอะ แม่ตกงานไปเขาจะอยู่ยังไง”




ภรัณยูให้เหตุผล กิ๊ฟเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ส่งเสียลูกน้อยวัยประถมเข้าเรียนด้วยตัวเอง ถึงแม้หญิงสาวจะชอบโยนงานให้เขาแล้วหนีกลับบ้านบ่อยๆ แต่ภรัณยูก็มักจะบอกตัวเองเสมอว่านั่นเป็นเพราะเธอคงอยากใช้เวลากับลูกให้มากขึ้น




“เฮ้อ ฝนไม่พูดแล้ว พี่ภัทรก็แบบนี้ตลอดอ่ะ ชอบช่วยคนที่ไม่น่าช่วย คนแบบนี้ต้องปล่อยให้ธรรมชาติคัดเลือกค่ะ เดี๋ยวกรรมก็ตามทัน”




“….”




ภรัณยูทำได้เพียงปล่อยให้รุ่นน้องของตนบ่นจนพอใจ เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นพวกใจอ่อนง่าย แต่เขาก็เป็นของเขาแบบนี้ จะให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองข้ามวันก็คงทำได้ยาก





“นี่ใช่เวลาพักของคุณเหรอครับ?” เสียงเย็นเยียบอันเป็นเอกลักษณ์ของเลขาที่มีอำนาจมากที่สุดในบริษัทดังขึ้นจากภายนอกแผนก แม้จะไม่ใช่เสียงตะโกน แต่ก็ดังพอให้พนักงานทุกคนหยุดงานที่ทำ แล้วเงี่ยหูฟังโดยพร้อมเพรียงกัน
แน่นอนว่าภรัณยูก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น




“คือกิ๊ฟ...ไม่สบาย...”




“กรรมตามทันแล้ว...” ฝนเอ่ยขึ้นลอยๆพร้อมรอยยิ้มมุมปาก




“ป่วยก็ลาป่วย ถ้าคุณจะมาทำงานก็อย่ากินแรงของพนักงานคนอื่น ผมเคยเตือนคุณไปแล้วครั้งนึงเรื่องการเอางานของคุณให้คนอื่นทำ ถ้าพฤติกรรมแบบนี้ยังเกิดขึ้นอยู่ ผมคงต้องขอคุยกับหัวหน้าของคุณ”




“คือ..กิ๊ฟปวดท้องประจำเดือนน่ะค่ะ...”




“โอ้โห แหลได้อีก”




ฝนกระซิบกับภรัณยู ซึ่งชายหนุ่มเพียงแค่ส่ายหน้ากับอคติที่รุ่นน้องของเขามีต่อเพื่อนร่วมงาน




“ถ้าอย่างนั้นกลับไปพักที่บ้านมั้ยครับ ผมจะรายงานท่านประธานให้เป็นกรณีพิเศษ ทางเราจะจ่ายเงินชดเชยให้” สีหน้าของพนักงานแต่ละคนเปลี่ยนไปเป็นสับสนเมื่อได้ยินข้อเสนอของมธุวัน ก่อนจะหลุดขำพรืดออกมาเมื่อได้ยินประโยคถัดไป “ไว้อีกสักยี่สิบปีค่อยกลับมาทำงานนะครับ น่าจะหมดประจำเดือนพอดี”




หากสามารถขึ้นมายืนบนโต๊ะแล้วปรบมือให้เลขาหนุ่มของประธานบริษัทได้ ภรัณยูคาดว่าหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเขาคงทำไแล้ว บรรยากาศในห้องเงียบกริบลงทันทีที่เจ้าของเสียงเย็นเยียบเมื่อครู่ก้าวเข้ามาในห้อง เรือนร่างสูงเพรียวในชุดสูทสั่งตัดสีครีมยากจะทำให้ชายหนุ่มกลมกลืนกับสถานที่ ยังไม่นับรวมถึงโครงหน้าที่แม้จะไม่ได้หวานเหมือนหญิงสาวแต่เกลี้ยงเกลาหมดจด ทำให้คนมองเหลียวหลังกันเป็นแถบ โดยเฉพาะดวงตาสีเทาอมฟ้าที่ทอประกายสีเขียวภายใต้แว่นไร้กรอบยามกระทบแสงซึ่งทำให้ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลคนนี้ยิ่งดูมีเสน่ห์น่าค้นหา





“คุณภรัณยู ตัวเลขในนี้ถูกต้องแล้วใช่มั้ยครับ?”




แม้ว่าชื่อเสียงด้านความเย็นชาและเฉียบขาดของมธุวันจะทำให้คนในบริษัทกลัวจนหัวหด รวมถึงข่าวลือที่ว่าเลขาหนุ่มนั้นเป็นมากกว่าแค่เลขาคนสนิทของท่านประธานธีรเชษฐ์ ยิ่งทำให้พนักงานไม่กล้าปีนเกลียวกับเลขาผู้ทรงอิทธิพลทั้งที่มีอายุเพียงยี่สิบห้าปีคนนี้ไปกันใหญ่ แต่ภรัณยูเรียนรู้ว่า แค่ทำตามหน้าที่ของตัวเองให้ดี แค่นี้ก็ไม่ถูกกรรมตามสนองอย่างเมื่อครู่แล้ว




“พี่ภัทร เอกสารได้แล้วครับ...พี่หมอก?”




ระหว่างที่ภรัณยูกำลังตรวจสอบเอกสารให้กับมธุวันอยู่นั้น ร่างสูงที่เขาใช้ให้ไปถ่ายเอกสารก็กลับมาพอดี ทินกรวางกองเอกสารลงบนโต๊ะทำงานของภรัณยู ก่อนจะโถมตัวเข้ากอด’ปีศาจน้ำแข็ง’ที่ใครๆต่างหวาดกลัวแน่นพร้อมรอยยิ้มกว้างจนคนตัวเล็กกว่าถึงกับเซไปหนึ่งก้าว




“พี่หมอกกกกก"




“ครับ...จะเอาอะไร”




รอยยิ้มจางปรากฎบนมุมปากของเลขาหนุ่ม แม้ว่าจะไม่ใช่ภาพที่หาได้ยากจากคนธรรมดา แต่จากมธุวัน ภาพนั้นเป็นเหมือนการได้เห็นไดโนเสาร์ใส่กระโปรงบัลเล่ต์เต้นฮิปฮอปอย่างไรอย่างนั้น




แม้ว่าพนักงานคนอื่นจะตกอยู่ในภาวะช็อค แต่ภรัณยูเพียงแค่ก้มลงจัดการกับเอกสารที่มธุวันมีคำถามเงียบๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นความสนิทสนมระหว่างคนทั้งคู่ ร่างโปร่งนึกย้อนกลับไปถึงคืนก่อนหลังจากที่เขาสอนหนังสือให้ทินกรเสร็จ มธุวันในชุดลำลองที่ทำให้ชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าปีดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงลงไปโขเดินเขามาในตัวบ้านพร้อมกับธีรเชษฐ์และเมฆา













“พี่หมอก! ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!”




ร่างสูงในชุดนักศึกษาโถมกายเข้าใส่มธุวันโดยไม่ทันตั้งตัว ร่างโปร่งรีบยกมือเกาะร่างของทินกรที่พุ่งเข้ามาใส่เขาเหมือนลูกปืนใหญ่ด้วยกลัวว่าจะหงายลงไปกองกับพื้น รอยยิ้มเอ็นดูที่ปรากฏบนใบหน้าของมธุวันอย่างเป็นธรรมชาติทำให้ภรัณยูที่เดินตามเด็กหนุ่มมาถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง




“ซัน…พี่หายใจไม่ออก”




“คิดถึงพี่หมอกที่ซู้ดดดดเลยครับ!”




เจ้าเด็กตัวยักษ์กอดรัดร่างโปร่งฟัดไปมาจนมธุวันแทบจะลอยขึ้นจากพื้น กว่าที่เมฆาจะสามารถช่วยชีวิตของเลขาหนุ่มออกมาจากกรงเล็บมัจจุราชได้ มธุวันแทบขาดอากาศหายใจ




ภรัณยูสังเกตเห็นธีรเชษฐ์หมุนตัวเดินกลับออกไปจากคฤหาสน์เงียบๆราวกับไม่อยากให้เลขาของตนสังเกตเห็น




“ซัน เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง” ภรัณยูปกปิดความรู้สึกประหลาดในจิตใจของตัวเองเมื่อเห็นความสนิทสนมของคนทั้งคู่ด้วยการดุพฤติกรรมของเด็กหนุ่มตามความเคยชิน




“คุณ…ภรัณยู?” มธุวันเอียงคอมองเขาอย่างประหลาดใจ ราวกับว่าภรัณยูเป็นฝ่ายที่อยู่ผิดที่ผิดทางในบ้านหลังนี้
ซึ่งหากจะพูดกันตามตรง เขาก็เป็นจริงๆนั่นแหละ...




“เอ่อ...สวัสดีครับคุณมธุวัน”



ภรัณยูทักทายคนที่ในทางปฏิบัติมีตำแหน่งสูงกว่าอย่างนอบน้อม




“สวัสดีครับ”มธุวันทักทายทายกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่เขาคุ้นเคยดี




“พี่ภัทรหึงเหรอครับ...อุ่ก!”




ภรัณยูถองศอกใส่สีข้างเด็กหนุ่มที่แซวขึ้นมา แต่นอกจากทินกรจะไม่โกรธแล้ว ร่างสูงยังผละจากมธุวันมาออดอ้อนเขาต่ออีกด้วย




แม้จะไม่อยาก แต่ภรัณยูก็อดสังเกตไม่ได้ว่าท่าทีของทินกรที่มีต่อมธุวันเมื่อครู่ ไม่ได้ต่างอะไรกับที่อีกฝ่ายปฏิบัติต่อเขามากนัก




“ค่าสอนพิเศษวันนี้ได้รึยังครับ”เมฆาที่เงียบอยู่นานถามขึ้น ภรัณยูพยักหน้า




“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมลานะครับ คุณเมฆา คุณมธุวัน” ชายหนุ่มเอ่ยขอตัว




“เดี๋ยวสิครับพี่ภัทร ผมไปส่ง~”




ทินกรรีบเดินตามเขาออกมา ภรัณยูรู้ว่าเขาไม่ควรจะหงุดหงิด ในเมื่อสมองของเขาเตรียมตัวพร้อมสำหรับวันที่สายตาของทินกรจะละจากเขาไปยังเป้าหมายต่อไป




แต่เขาก็อดที่จะรู้สึกเจ็บแปลบในใจไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีของทินกรเมื่อครู่ มธุวันอายุห่างกับเด็กหนุ่มเพียงแปดปี ทั้งความมั่นใจและความเด็ดขาดของเลขาหน้าสวยยังเสริมเสน่ห์ให้กับดวงตาสีเทาอมฟ้าทำให้ภรัณยูยิ่งรู้สึกว่าเขาไม่มีอะไรที่สู้อีกฝ่ายได้



“พี่ภัทร...โกรธอะไรผมเหรอครับ?”




ทินกรถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล ความจริงใจในแววตาของร่างสูงทำให้ยากที่จะโกรธอีกฝ่าย




เอาเถอะ...เขาทำใจไว้แล้วนี่




“เปล่า พี่แค่เพลียน่ะ” ชายหนุ่มแก้ตัว “พี่กลับแล้วนะ อย่าลืมทบทวนบทเรียนล่ะ”




“คืนนี้ผมโทรหานะครับ” ทินกรยังคงไม่ค่อยวางใจเหตุผลของเขา ภรัณยูขยับยิ้มให้อีกฝ่าย




“อืม พี่จะรอ”












กลับมาที่ปัจจุบัน หลังจากมธุวันเสร็จธุระกับเขาแล้ว เลขาหนุ่มก็หมุนตัวเดินออกไปจากแผนกทันทีโดยไม่มีการอ้อยอิ่งใดๆ ทินกรโบกมือลาพร้อมรอยยิ้มแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเองตามเดิม




“สนิทกันจังนะ” ภรัณยูสบถในใจเมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอพูดสิ่งที่คิดออกไปด้วยน้ำเสียงประชดประชัน แต่ดูเหมือนทินกรจะไม่ได้สังเกตเรื่องนั้น




“ครับ พี่หมอกเป็นคนช่วยผมให้ผมหาพี่ภัทรจนเจอนี่นา” เด็กหนุ่มกระซิบตอบ




“…ฮะ?”




ภรัณยูใช้เวลาเกือบหนึ่งนาทีเต็มในการประมวลผล ร่างโปร่งหันไปหาคนพูดอย่างไม่เข้าใจ




“ที่บอกว่าได้ที่อยู่พี่ภัทรมาจากประวัติพนักงาน...ผมโกหกน่ะครับ” ทินกรยิ้มเจื่อน




ภรัณยูเพิ่งนึกได้ ว่าห้องของเลขาหนุ่มอยู่ชั้นบนห้องของเขาในอพาทเมนต์ที่เขาเช่าอยู่ หากมธุวันจะเป็นคนบอกพิกัดที่อยู่ของเขาให้กับลูกชายคนสุดท้องของประธานบริษัทก็ดูจะไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายอะไร




สรุปว่าเขาตีโพยตีพายไปเองงั้นเหรอ?




พอคิดว่าแค่ท่าทีสนิทสนมของทินกรกับคนอื่นยังทำให้ความคิดของเขาเตลิดไปไกลขนาดนั้น ภรัณยูนึกอยากเอาหัวตัวเองโขกโต๊ะทำงานสักทีสองทีให้หายจากความฟุ้งซ่านนี้










“พี่ภัทรอยากกินอะไรครับ?”




ในที่สุดก็ถึงเวลาพักกลางวัน ทินกรไม่รอช้า ทันทีที่เหลือเพียงพวกเขาแค่สองคนในแผนก เด็กหนุ่มขี้อ้อนก็กลับเข้าสู่โหมด

ปกติของตัวเองทันที




“พี่ตามใจซัน”ภัทรตอบอย่างไม่ใส่ใจขณะก้มเก็บข้าวของบนโต๊ะลงในลิ้นชัก เขากินร้านในโรงอาหารพนักงานและร้านรอบออฟฟิศจนไม่มีอะไรอยากกินพิเศษแล้ว




“ถ้างั้น...” ชายหนุ่มผงะเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเจอกับใบหน้าคมคายที่ยื่นเข้ามาใกล้ “กินพี่ภัทรได้มั้ยครับ?”




“พอเลย ไอ้เด็กทะลึ่ง”




ภรัณยูดันหน้าผากของเด็กหนุ่มออกห่างจากตัวเองด้วยความหมั่นไส้ ทินกรหัวเราะ ดูจะมีความสุขกับการได้แกล้งคนอายุมากกว่าอยู่พอสมควร




สุดท้ายทินกรก็เลือกที่จะมาโรงอาหารพนักงาน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับภรัณยูพอสมควร




ไม่ใช่ว่าเขาเห็นเด็กหนุ่มเป็นคนติดหรู ทินกรนั้นดูจะติดดินเสียยิ่งกว่าลูกน้องเขาบางคนเสียอีก แต่เขาแค่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะอยากมาทานอาหารกลางวันในที่ที่มีคนพลุกพล่านและสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่ตัวเองแบบนี้




“ทำไมถึงอยากมากินที่นี่ล่ะ?” ชายหนุ่มอดถามไม่ได้




“ผมเก็บเงินอยู่ครับ”ทินกรตอบ คนถามเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ




“ทำไมล่ะ? ที่มีอยู่นี่ไม่พอใช้เหรอ?”




“เปล่าครับ ค่าขนมที่พ่อให้ผมก็เก็บแยกไว้ เงินที่ผมหามาเองผมก็ไม่ค่อยอยากใช้เท่าไหร่น่ะครับ”




คำตอบที่ได้ไม่ได้ทำให้ภรัณยูรู้สึกกระจ่างขึ้นเท่าไหร่ ชายหนุ่มเอียงคออย่างไม่เข้าใจ




“จะเก็บเงินไว้ซื้ออะไรเหรอ?”  หรือว่าเด็กหนุ่มมีของที่อยากได้ที่ราคาแพงจนต้องคิดเล็กคิดน้อยขนาดเลือกร้านที่อาหารถูกที่สุดแบบนี้?




“ไว้สร้างครอบครัวครับ” ทินกรยิ้มแฉ่ง “ผมอยากใช้เงินที่ผมหามาเองสร้างครอบครัวของผมเองครับ”




คำพูดของอีกฝ่ายเหมือนฝ่ามือตบลงบนใบหน้าของภรัณยูจนหน้าชา




เขารู้...ว่าสถานะของพวกเขาในตอนนี้ จะเรียกว่าคนรักก็ไม่ใช่ จะเรียกว่าดูใจก็ไม่เชิง แต่เมื่อได้ยินเด็กหนุ่มวางแผนเรื่อง
อนาคตหลังจากความสัมพันธ์ของพวกเขาจบลงไว้ล่วงหน้าแบบนนี้ ภรัณยูก็อดรู้สึกใจหายไม่ได้





“ภัทร นั่งด้วยดิ... อ้าว คุณทินกร สวัสดีครับ”




ชายหนุ่มรู้สึกถึงร่างสูงของเพื่อนร่วมงานที่ผลุบนั่งลงบนที่ว่างข้างตน เขากับสอง พนักงานแผนกบุคคลไม่ได้สนิทกันอะไรขนาดนั้น แต่ด้วยวัยที่ไล่เลี่ยกันประกอบกับการที่ชายหนุ่มเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ทำให้ภรัณยูมักจะเผลอตอบตกลงเวลาถูกชายหนุ่มชวนไปพักกลางวันอยู่บ่อยครั้ง




ภรัณยูแทบจะถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เพื่อนของตนโผล่มาในเวลาที่ต้องการพอดี ชายหนุ่มขยับให้คนมาใหม่นั่งได้สะดวก สองพินิจพิจารณาทินกรที่กลับเข้าสู่โหมดทางการทันทีที่มีคนนอกเข้ามาร่วมวงสนทนา แล้วหันมาหาภรัณยูอย่างนึกขึ้นได้
“เออ เมื่อกี้ฉันลงมาชั้นล่าง มีคนมาหาคนชื่อภัทร ฉันไม่รู้ว่าเป็นนายรึเปล่า แต่เขาเมามาก โวยวายเสียงดังเลย ฉันเลยให้รปภ.เชิญกลับไปก่อน ไม่งั้นถ้าคุณมธุวันมาเห็น โดนกินหัวกันหมดแน่ๆ”





“…ฉันไม่ได้นัดใครไว้นะ”




ภรัณยูขมวดคิ้วทบทวนความจำ แต่ก็ยังคงคิดไม่ออกว่าคนที่เขารู้จักคนไหนจะโผล่มาในสภาพเมามายที่บริษัทแบบนี้




“คงไม่ใช่นายหรอกมั้ง ดูไม่น่าคบค้าสมาคมกับคนดีๆอย่างนาย” สองหัวเราะ “เมาด่าคนผ่านไปมากราดเลย บอกว่าตัวเองรวย เดี๋ยวจะซื้อบริษัท จะไล่ออกให้หมด...มาคิดๆดูแล้ว ชักอยากจะให้เจอคุณมธุวันแฮะ คงมันส์ดี”




“เมาขนาดนั้นเลยเหรอครับ?” ทินกรเอ่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว




“ครับ ถามว่าภัทรไหนก็ไม่ยอมตอบ บอกว่าให้บอกพี่ภพมาหา ตะโกนโวยวายอยู่นั่นแหละ”




คนถูกถามส่ายหน้าอย่างละเหี่ยใจ ที่หางตาของทินกร เด็กหนุ่มเป็นว่าใบหน้าของภรัณยูซีดขาว แววตาของชายหนุ่มไหวระริกก่อนที่ภรัณยูจะกระพริบตาเพื่อซ่อนปฏิกิริยาที่ตนมีต่อชื่อนั้นแทบจะในทันที




พี่ภัทร?




ทินกรไม่รู้ว่าหลังจากนั้นภรัณยูจงใจที่จะหลบหน้าเขาหรือไม่ แต่ชายหนุ่มโอนหน้าที่ดูแลทินกรในช่วงบ่ายของวันให้กับพนักงานสาวที่ชื่อพี่ฝน ซึ่งทินกรพอจะจำได้รางๆจากสมัยที่มานั่งเล่นที่บริษัทภายใต้การดูแลของเจนจิราซึ่งยังเป็นเลขาของบิดาของตนอยู่ในขณะนั้น โดยให้เหตุผลว่าต้องไปติดต่อลูกค้านอกสถานที่ ไม่สะดวกที่จะให้ทินกรไปด้วย




แต่ถึงอย่างไร ภรัณยูก็ยังคงจำเป็นต้องกลับมาเจอทินกรอยู่ดี เพราะวันนี้เขามีเรียนพิเศษกับอีกฝ่าย




“พี่ภัทรครับ...” ภรัณยูที่เดินนำเขาเข้าไปในบ้านชะงักแต่ไม่หันกลับมา แผ่นหลังของร่างโปร่งดูเกร็งขึ้นราวกับรู้ว่าทินกรกำลังจะถามเรื่องอะไร “พี่ภัทรรู้จักใช่มั้ยครับ? คนที่ชื่อภพ...”




“พี่ว่าวันนี้เราเรียนข้างล่างดีมั้ย อากาศถ่ายเทดี...” คนอายุมากกว่าเฉไฉ ดูก็รู้ว่าจงใจหลบคำถามของเด็กหนุ่ม




“พี่ภัทร...เล่าให้ผมฟังไม่ได้เหรอครับ?” ทินกรขยับเข้าไปใกล้ มือใหญ่เอื้อมไปแตะข้อศอกของอีกฝ่ายเบาๆ “เขาสร้างความเดือดร้อนอะไรให้พี่ภัทรรึเปล่าครับ?”




‘พี่ต้องสร้างครอบครัวจริงๆกับผู้หญิงที่พี่พาออกหน้าออกตาในสังคมได้’




‘ผมอยากใช้เงินที่ผมหามาเองสร้างครอบครัวของผมเองครับ’




ทั้งที่เจ้าของประโยคสองประโยคนี้ต่างกันราวกับดวงตะวันและนภาอันมืดมิด แต่ความหมายของคำพูดยากจะมองผ่านความคล้ายคลึงที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้เขารู้สึกเจ็บเหมือนตายทั้งเป็นไปได้




‘ครอบครัว’




เขารู้ว่าตัวเองไม่มีวันที่จะหยิบยื่นสิ่งนั้นให้กับทินกรได้ เขาไม่สามารถเดินเข้าประตูวิวาห์ จดทะเบียนสมรส ออกหน้าออกตาในสังคมได้เหมือนผู้หญิง




เขาไม่สามารถอุ้มท้อง ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆที่เป็นพื้นฐานของคำว่าครอบครัวที่ทินกรใฝ่ฝันหนักหนาได้





เขารู้ตัวดีว่าความสัมพันธ์ในครั้งนี้เป็นเพียงแค่การนับถอยหลังสู่การจากลา แต่เพียงแค่เสียงของปภพ คนรักเก่าที่ซ้อนทับกันรอยยิ้มสดใสของทินกรยามพูดถึงครอบครัวที่ตนอยากสร้างก็มากพอที่จะทำให้ภรัณยูรู้สึกอยากจะยกมือขึ้นปิดหูไม่รับรู้คำพูดเหล่านั้น




“พี่ภัทร...อย่างน้อยบอกผมได้มั้ยครับว่าเขาเป็นใคร....”




“ถ้าไม่เรียนพี่จะกลับแล้วนะ” ชายหนุ่มตัดบทเสียงห้วน หมุนตัวเดินผ่านทินกรเพื่อกลับไปยังรถของตัวเอง ด้วยกลัวว่าความรู้สึกมากมายที่ประดังประเดเข้ามาตั้งแต่ได้ยินชื่อของคนที่เดินออกไปจากชีวิตเขาเมื่อสามปีก่อนอีกครั้งจะฉายชัดในแววตาจนไม่สามารถปกปิดได้




ทว่าก่อนที่จะได้ก้าวพ้นประตูบ้าน ร่างของเขาก็ถูกรวบเข้าไปในอ้อมกอดของเด็กหนุ่มร่างสูงในชุดสูทที่ผวาสวมกอดเขาไว้แน่น




“ผมขอโทษครับ...” ทินกรเอ่ยเสียงสั่น ซุกหน้าลงกับคอของร่างโปร่ง “ผมไม่ถามแล้ว ผมขอโทษ...พี่ภัทรอย่าไปได้มั้ยครับ...”




ภรัณยูรู้อยู่เต็มอกว่าทินกรไม่ได้ผิดอะไร แต่เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายนำเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นอีก ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงพยักหน้านิ่งๆ




“อืม”




รอยยิ้มกว้างอย่างโล่งใจของทินกรที่เขาเห็นเป็นอย่างแรกเมื่อหันกลับมาทำให้ภรัณยูยิ่งรู้สึกว่าตัวเองทำตัวเลวร้ายกับอีฝ่ายเกินไป




“พรุ่งนี้พี่มีธุระแถวนี้...คืนนี้พี่ค้างที่นี่ได้มั้ย?”




แม้ว่าปกติภรัณยูจะนอนค้างที่นี่แทบทุกครั้งที่มาสอน แต่นั่นเป็นเพราะทินกรพันแข้งพันขาไม่ยอมให้เขากลับจนชายหนุ่มใจอ่อน เมื่อร่างโปร่งออกปากเองแบบนี้ เด็กหนุ่มเจ้าของบ้านทำตาโตอย่างไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน




“ครับ!ได้เลยครับ!พี่ภัทรอยากค้างกี่คืนก็ได้ครับ!”




ประกายสดใสกลับมาในแววตาของร่างสูงอีกครั้ง  ภรัณยูอมยิ้ม บางทีเขาก็รู้สึกว่าทินกรเป็นเด็กที่ให้อภัยง่ายจนน่าเป็นห่วง




แต่ก็...ทำให้คนที่ขอโทษออกมาตรงๆไม่เป็นอย่างเขาทำอะไรง่ายขึ้นล่ะนะ




เมื่อหมดห่วงเรื่องทินกร ความคิดของชายหนุ่มก็วนกลับไปที่คนรักเก่าที่โผล่มาที่บริษัทในสภาพเมาแอ๋และขอพบเขาแบบนั้น




ผู้ชายคนนั้น...กลับมาทำไมกัน?



--------

เอามาไถ่โทษความสั้นของเมฆหมอก :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แฟนเก่าภัทรกลับมาหรอ

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
รำคานมธุวัน ทำไมต้องมาวุ่นวายกับทั้ง2คู่เลย
สงสารน้องมีน คุณเชษฐ์ท่าจะไม่จริงใจ ก็ปล่อยน้องมีนไปเหอะ คเชนยังดีสะกว่า

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แฟนเก่าภัทรนี่ต้องการอะไรกันแน่เนี่ย เฮ้อออออ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รำคานมธุวัน ทำไมต้องมาวุ่นวายกับทั้ง2คู่เลย
สงสารน้องมีน คุณเชษฐ์ท่าจะไม่จริงใจ ก็ปล่อยน้องมีนไปเหอะ คเชนยังดีสะกว่า
อย่ารำคาญหมอกเลย ทั้งซันกับคุณเชษฐ์เป็นน้องชายและพ่อของเมฆแฟนหมอก มันก็ต้องดูแลกันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนพ่อถนัดเรื่องเจ้าชู้กับหนีงานประจำ  :laugh:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
แฟนเก่าก็กลับมา

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
อยู่ๆแฟนเก่าก็โผล่มาซะงั้น ซันพูดให้เคลียร์นะว่าอยากสร้างครอบครัวกับใครยังไง ภัทรคิดไปไกลแล้ว

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พี่ภัทรรีบเคลียร์ตัวเองกับแฟนเก่าด่วนๆ เลย น้องซันมารู้ทีหลังคงจบแบบไม่สวยแน่

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
สนุกมากจ้า

ออฟไลน์ meyj4ever

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คู่ที่น่าห่วงยิ่งกว่าคุณเชษฐ์กับน้องมินนี่คงไม่พ้นคู่น้องซันกับพี่ภัทร
คือชอบคิดเองเออเองทั้งคู่
แต่คนพี่หนักกว่า ฟังอะไรเห็นอะไรก็คิดไปไกล
แถมยังคิดผิดอีกตังหาก
มีอะไรคิดอะไรสงสัยอะไรทำไมไม่พูดไม่ถามน้องซันตรงๆ
แถมคนรักเก่าก็กลับมาอีก ความสัมพันธ์กับน้องซันก็คลุมเครือ
จะรอดมั้น
ยนี่คู่นี้
ทางที่ดีพี่ภัทรไม่ควรเอาสิ่งที่คนรักเก่าในอดีตมายึดติดหรือตัดสินความคิดการกระทำของน้องซันนะ
ัคือคนละคน คนละเรื่องกันมั้ยอะ
เจ็บแล้วระวังตัวระวังใจได้ แต่อย่ายึดติดกับสิ่งที่ทำให้เจ็บที่ผ่านมานะพี่ภัทร

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด