พิมพ์หน้านี้ - [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: littlepig ที่ 14-02-2018 06:50:39

หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 14-02-2018 06:50:39
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ3
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาทของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


คลังนิยายของข้าพเจ้า

 :mc4:จบแล้ว

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58878.msg3600724#msg3600724 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58878.msg3600724#msg3600724) Which one? รัก||หลอก||เด็ก (แนวกินเด็กและโดนเด็กกิน)

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58331.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58331.0)Blind side รัก || ของ || แว่น(แนวแอบรัก)

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59401.0ํ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59401.0ํ)Your Stranger รัก||ไม่||ลืม (แนวความจำเสื่อม)

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60332.0 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60332.0)How to fall in love with your boss คู่มือการเป็นเลขาฉบับเกือบสมบูรณ์ (แนวแอบรัก)


 :z13:ยังไม่จบ

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66195.0 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66195.0) Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) (แนวโดนเด็กกิน) rewrite อยู่ coming soon

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70320.0 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70320.0) Soulmate From Hell ด้วยรักจากนรก (แนวแฟนตาซี)

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70468.0 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70468.0) #Newyou สามสิบวันรับประกันคุณคนใหม่
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 14-02-2018 07:01:10
Intro:

”Attention please, this is the final announcement for flight XX000 to Narita international airport."
เสียงประกาศเรียกขึ้นเครื่องครั้งสุดท้ายเร่งให้ขาเรียวยาวในกางเกงผ้าแสลคสีดำรีบจ้ำอ้าวไปยังเกทของตน ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนเช่นเดียวกับดวงตารีบมากจนไม่ทันได้สังเกตเห็นชายหนุ่มที่ลากกระเป๋าวิ่งมาจากอีกทางด้วยความเร่งรีบไม่แพ้กัน ร่างสูงโปร่งถูกชนจนล้มกระแทกพื้น บัตรโดยสารและพาสปอร์ตในมือตกกระจายไปคนละทาง



"ขอโทษครับ เมื่อกี้ผมไม่ทันมอง" ร่างสูงที่แม้จะชนกับผู้ชายโตเต็มวัยแต่กลับไม่แม้แต่จะเซเอ่ยขึ้นขณะก้มลงช่วยเขาเก็บเอกสาร



"ครับ ผมก็เหมือนกัน" ร่างโปร่งตอบเสียงเรียบๆแม้ในใจจะร้อนรนด้วยกลัวขึ้นเครื่องไม่ทัน



"ยังไงก็เดินทางปลอดภัยนะครับ คุณ...ภรัณยู" ร่างสูงอ่านชื่อบนบัตรของคนที่ทำตกก่อนจะยื่นให้พร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก เจ้าของชื่อรับบัตรโดยสารมาพร้อมคำขอบคุณเบาๆ เพิ่งสังเกตเห็นใบหน้าของคนที่ตนชนแบบเต็มตา



หล่อ...



หล่อมาก...



ชายหนุ่มที่ดูจากหน้าตาน่าจะอายุราวๆยี่สิบกลางๆ น้อยกว่าเขาร่วมสิบปี ร่างที่สูงจนแม้กระทั่งผู้ชายตัวสูงอย่างภรัณยูยังยอมแพ้บวกกับไหล่กว้างและช่วงตัวที่แม้จะอยู่ในโค้ทยาวสีครีมก็ยังดูออกไม่ยากว่าอุดมไปด้วยมัดกล้ามผิดกับเขาที่ตัวบางจนโดนทักว่าไม่สบายอยู่บ่อยครั้ง เส้นผมสีดำสนิทตัดซอยตามสมัยนิยม คิ้วเข้มรับกับจมูกโด่งเป็นสันและนัยน์ตาคมสีควันบุหรี่ บวกกับรอยยิ้มที่แม้จะเป็นเพียงการยิ้มมุมปากแต่กลับทำให้คนมองหน้าแดงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ทั้งที่ปกติไม่เคยสนใจคนอายุน้อยกว่าแท้ๆ




"เกทจะปิดแล้วนะครับ"



เสียงทุ้มน่าฟังเอ่ยเตือน จนคนที่เกือบลืมไปแล้วว่าตัวเองอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงจะตกเครื่องรีบลากกระเป๋าไปยังจุดหมายปลายทางทันที



แม้จะเสียดายที่ไม่ได้ถามแม้แต่ชื่อ แต่ร่างโปร่งก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก



ช่างเถอะ....



คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ...






จากวันนั้นก็ผ่านมาสามเดือนแล้ว ภรัณยูที่ยุ่งกับงานบริษัทแม้จะไม่ได้ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามบินวันนั้นแต่ก็ไม่ได้นำมาใส่ใจอะไร จนกระทั่งเช้าวันหยุดวันหนึ่ง



"เอาคาปูชิโน่ร้อนแก้วใหญ่ครับ"




 ร่างโปร่งบอกพนักงานร้านกาแฟที่เปิดใหม่ใกล้ๆกับคอนโดที่เขาอยู่ ขณะที่กำลังจะจ่ายเงิน มือใหญ่ของคนที่ยื่นต่อคิวอยู่ด้านหลังก็ยื่นแบงค์สีม่วงให้พนักงานสาว



"สวัสดีครับคุณภรัณยู"



"คุณ..."



ภรัณยูแอบตกใจเล็กน้อยเมื่อหันไปเห็นคนที่คิดว่าจะไม่มีโอกาสเจอกันอีกแล้วยืนอยู่ด้านหลัง



"ซันครับ"



ร่างสูงว่า วันนี้ชายหนุ่มอยู่ในชุดกางเกงยาวสีดำกับเสื้อยืดสีเทาสบายๆแต่กลับดูเหมือนนายแบบหลุดออกมาจากนิตยาสารอย่างไรอย่างนั้น หน้าตาดีจนน่าหมั่นไส้จริงๆ



"ของผมเอาอเมริกาโน่แก้วกลางแล้วกันครับ"



"ค่ะ ทั่งหมดสี่ร้อยสิบแปดบาท รับเครื่องดื่มด้านข้างเลยค่ะ"



ทั้งสองเดินไปรับเครื่องดื่ม เดินนำ'คุณซัน'มาที่โต๊ะมุมในของร้าน เนื่องจากร้านเพิ่งเปิดใหม่ ยังไม่เป็นที่รู้จัก ทำให้บรรยากาศรอบกายค่อนข้างเงียบพอสมควร



"คุณมาเลี้ยงผมทำไม"



พูดจบก็แทบกัดลิ้นตัวเอง ทำไมเขาถึงเริ่มบทสนทนาด้วยประโยคขวานผ่าซากแบบนั้นกัน



ชายหนุ่มเป็นคนเข้าสังคมไม่เก่ง เขาเป็นคนนิ่งๆ ไม่ใช่เพราะหยิ่ง แต่เป็นเพราะเขาเป็นคนที่มีปฎิกิริยาตอบสนองช้ากว่าคนอื่น ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาเฉยชาต่อโลก อีกทั้งวิธีการพูดที่เรียกได้ว่ามะนาวไม่มีน้ำยิ่งทำให้คนที่ไม่สนิทกันไม่อยากพูดคุย
กับเขาเท่าไหร่นัก



"ก็เลี้ยงขอโทษที่ผมชนคุณวันนั้นไงครับ"



ตอบด้วยท่าทางสบายๆและรอยยิ้มมุมปากอันเป็นเอกลักษณ์ ภรัณยูยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มอย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อ



"บ้านคุณภรัณยูอยู่แถวนี้เหรอครับถึงได้มากินกาแฟร้านนี้" ชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามถามทำลายความเงียบ



"เรียกภัทรก็ได้ครับ คอนโดผมอยู่แถวๆนี้แหละ คุณซันล่ะครับ?"



“ไม่ต้องมีคุณก็ได้ครับคุณภัทร ผมแค่มาทำธุระแถวนี้ บังเอิญจังนะครับที่ได้เจอคุณอีก" คนอายุน้อยกว่าตอบ



"จริงสิ... คืนนี้คุณภัทรว่างมั้ยครับ สนใจจะไปหาอะไรทานกับผมมั้ย? ผมเพิ่งกลับมาเมืองไทยได้ไม่นาน ยังไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่ นะครับคุณภัทร ผมเลี้ยงเอง”



ภรัณยูนิ่งไปเมื่อได้ยินคำชวนที่ไม่มีปี่มีขลุ่ย นี่ผู้ชายคนนี้แค่เฟรนด์ลี่จนน่ากลัว หรือเขาเองที่มนุษย์สัมพันธ์น้อยเกินไปกันแน่



"เอ่อ...." แม้ในหัวสมองจะรู้สึกว่ามันมีอะไรทะแม่งๆ แต่หากไม่นับความสัมพันธ์ที่เขาคิดไปเองว่าเป็นความสัมพันธ์ที่จริงจังกับพนักงานรุ่นพี่ที่ตอนนี้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว เขาใช้ชีวิตอยู่ในวังวนของการยุ่งวุ่นวายกับงาน กลับคอนโดนอน ทำงานบ้าน และกลับไปทำงานอย่างนี้มาจนเรียกได้ว่าลืมไปแล้วว่าการมีสังคมคืออะไร จะหาเพื่อนใหม่บ้างก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง "ก็ว่างนะครับ"



“งั้นคืนนี้เจอกันที่โรงแรมXXXนะครับ”



กว่าจะรู้ตัว ในมือถือของเขาก็มีทั้งไลน์และเบอร์ของผู้ชายตรงหน้าเสียแล้ว ภรัณยูก้มมองอุปกรณ์สื่อสารในมือตัวเองงงๆ



“ผมต้องไปแล้ว เจอกันเย็นนี้นะครับ” ร่างสูงว่ายิ้มๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากร้านไป ทิ้งให้ชายอายุมากกว่านั่งประมวลผลเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่คนเดียว








“....กลับทันมั้ยเนี่ย”



ร่างโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าแขนยาวกับกางเกงทำงานขายาวสีดำขยับเนคไทค์ มองตัวเองในกระจกหน้าต่างของโรงแรมอย่างประหม่า พอได้ยินว่าอีกฝ่ายชวนมาทานอาหารที่โรงแรมก็พยายามหาชุดดีๆให้เข้ากับสถานที่แล้วนะ แต่พอมาเห็นสภาพโรงแรมห้าดาวตรงหน้าแล้วภรัณยูแทบอยากม้วนตัวกลับอย่างไม่สนนัดเลยทีเดียว



“สวัสดีครับคุณลูกค้า ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ” พนักงานต้อนรับหน้าโรงแรมที่เห็นเค้ายึกยักไม่ยอมเข้าไปซักที่อยู่นานสองนานถามพร้อมรอยยิ้มพร้อมให้บริการสุดๆ ภรัณยูกำลังคิดว่าจะบอกไปว่าตนมาผิดที่แต่พนักงานอีกคนที่ดูจากเครื่องแบบแล้วน่าจะเป็นผู้จัดการเดินออกมาเสียก่อน



“คุณภรัณยูใช่มั้ยครับ เชิญทางนี้เลยครับ”



เจ้าของชื่อเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในลิฟต์แก้วอย่างงงๆ เมื่อเข้ามาถึงโซนภัตรคารของโรงแรมร่างโปร่งที่มักจะไม่มีปฎิกิริยาอะไรถึงกับตาค้างมองไปรอบๆอย่างตื่นตะลึง



ทุกสิ่งทุกอย่างดูราวกับเขาหลุดเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงของพระราชวังอะไรซักอย่าง ห้องอาหารตกแต่งสไตล์ยุโรปเน้นโทนสีครีมเหลือบทองพร้อมทั้งแสงไฟสีเหลืองนวลจากแชนเดอเลียคริสตัลขนาดยักษ์ทำให้บรรยากาศดูฟุ้งเหมือนอยู่ในความฝัน สิ่งที่ดูจะผิดที่ผิดทางสิ่งเดียวในนี้คงจะเป็นเขานี่ล่ะ



“คุณภัทรครับ”



เสียงทุ้มที่ดังขึ้นจากข้างหลังเรียกความสนใจเจ้าของชื่อไปจากห้องที่ดูราวกับเทพนิยายไปหาเจ้าชายในชุดสูทสามชิ้นที่ด้านนอกสีดำสนิทและเสื้อตัวในสีควันบุหรี่รับกับดวงตาที่ยืนอยู่ด้านหลัง



“ขอโทษนะครับที่มาช้า รอนานมั้ยครับ”



“ไม่ครับ ผมก็เพิ่งมาถึง” ร่างโปร่งส่ายหน้า พยายามไล่ความรู้สึกร้อนๆบริเวณแก้มทั้งสองข้างออกไป



“งั้นไปนั่งกันเถอะครับ คุณภัทรอยากนั่งตรงไหน”



“หืม?”



 คนฟังทำหน้างง ไม่ใช่ว่าที่แบบนี้ก็ต้องล็อกที่นั่งไว้แล้วหรอกเหรอ แต่พอมองไปรอบๆคนความรู้สึกช้าก็เริ่มจับสังเกตอะไรบางอย่างได้



“ทุกคน...หายไปไหนหมด”



ไม่มีลูกค้านั่งอยู่แม้แต่โต๊ะเดียว แม้แต่บริกรก็มีเพียงคนเดียวยืนอยู่ตรงประตูทางเข้า ซึ่งผิดวิสัยภัตรคารหรูในช่วงอาหารค่ำแบบนี้ ร่างสูงที่เมื่อรู้ว่าโดนจับได้ทำหน้าเจื่อนเล็กน้อย เอามือลูบท้ายทอยอย่างเก้อๆ



“ผมแค่คิดว่าคุณภัทรน่าจะไม่ชอบคนเยอะๆน่ะครับ..ก็เลย...จองทั้งร้าน”



สามคำสุดท้ายแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินแต่ก็ยังทำให้คนฟังอ้าปากค้างได้



นับว่าเป็นเรื่องดีที่ภรัณยูไม่ได้กำลังดื่มอะไรอยู่ ไม่อย่างนั้นคงพ่นน้ำใส่หน้าคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆนี้เป็นแน่



นี่เรา...มายุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งรึเปล่านะ



“งั้นนั่งตรงนี้ดีกว่าครับ เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของร้าน”



จู่ๆคนตรงหน้าก็คว้ามือเขาไว้แล้วจูงไปยังโต๊ะริมหน้าต่าง ร่างโปร่งจึงได้แต่เลยตามเลย



ช่างเถอะ...ไหนๆก็มาแล้ว



“คุณภัทรอยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ”



“คุณซันสั่งเถอะครับ ผมทานได้หมด”



“บอกว่าให้เรียกซันไงครับ” ร่างสุงยิ้ม กุมมือเขาไว้หลวมๆ นิ้วโป้งลูบหลังมือของเขาไปมาสร้างความรู้สึกประหลาดจนร่างโปร่งพยายามดึงมืออกอย่างไม่ให้เสียมารยาท แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่รับรู้ถึงความพยายามของเขา



“งั้นคุ... ซันก็เรียกผมภัทรเฉยๆก็ได้ครับ”



แม้จะมั่นใจว่าอีกฝ่ายอายุน้อยกว่า แต่ท่าทางของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกว่ากำลังคุยอยู่กับคนรุ่นเดียวกัน



“ครับ...ภัทร”



ไวน์แดงชื่อประหลาดที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนถูกรินใส่แก้วทรงสูงสองใบ ภรัณยูรีบส่ายหน้าปฎิเสธ



“พรุ่งนี้ผมมีงาน คงไม่..”



“ดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยนะครับภัทร  แก้วเดียวก็ยังดี”



“คือ...”



“นะครับภัทร...”



เสียงทุ้มออดอ้อนจนภรัณยูยอมรับแก้วไวน์มาไว้ในมืออย่างเสียไม่ได้ มือเรียวยกแก้วขึ้นจรดริมฝีปากบางก่อนจะยกขึ้นจิบ



อร่อย...



กว่าจะรู้ตัวแก้วในมือก็ถูกเต็มไปสี่ห้ารอบจนคนดื่มเริ่มมึนๆ



“ผมว่าผมกลับดีกว่า...”



“เมาอย่างนี้กลับคนเดียวมันอันตรายนะครับภัทร ผมเปิดห้องไว้แล้ว ไปนั่งพักให้สร่างก่อนดีกว่า”



“อะ...อืม..” แม้จะไม่ได้รู้สึกเมามากแต่ร่างโปร่งก็คิดว่าเป็นความคิดที่ดีที่จะรอให้สติสัมปะชัญญะเข้าที่เข้าทางกว่านี้ โดยไม่เฉลียวใจเลยว่าเหตุใดร่างสูงถึงได้ ‘เปิดห้อง’ เตรียมไว้








“ถึงแล้วครับ”



เมื่อเปิดประตูเข้าไป คนเมาก็ต้องตะลึงอีกรอบกับความเว่อร์วังอลังกาลของห้อง ในห้องมีห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอนแยกกันเป็นสัดส่วนเหมือนคอนโดของเขา ผิดแค่ใหญ่กว่าประมาณห้าเท่าได้



“นี่ซันคงไม่ใช่นักต้มตุ๋นมาหลอกเงินผมหรอกใช่มั้ยครับ”



 ภรัณยูเอ่ยติดตลกแต่ในใจก็เริ่มกังวลถึงความเป็นไปได้



ร่างสูงหัวเราะในลำคอเบาๆ “วางใจเถอะครับ ถ้าผมจะปล้นเงินคุณ ผมไม่รอถึงตอนนี้หรอก”



ฉับพลัน เสียงทุ้มน่าฟังก็ดังอยู่ข้างๆหูพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆที่รินรดต้นคอ



“แต่ถ้าขโมยอย่างอื่น...ก็ไม่แน่”



“ซัน..คือ..ผมไม่...”



“ทำไมเหรอครับ หรือว่าภัทรมีแฟนแล้ว”



เสียงที่ดังอยู่ข้างหูฟังดูเเข็งกร้าวขึ้นเล็กน้อย คนฟังรีบปฎิเสธ



“เปล่าครับ คือ...ผมแค่ยุ่งกับงานมาก...ไม่อยากมี...พันธะ...”



....ภาระ จะพูดคำนี้ก็ดูจะแทงใจอีกฝ่ายเกินไป เขาไม่ชอบการผูกสัมพันธ์กับคนอื่น ไม่ชอบที่จะต้องคอยสนใจตลอดเวลาว่าใครทำอะไรที่ไหน ไม่ชอบที่จะต้องมานั่งเดาใจว่าเขาทำอะไรไม่ถูกใจคนรัก หลังจากถูกทิ้งในความสัมพันธ์ครั้งล่าสุดที่อุตส่าห์ประคับประคองมาร่วมปี เขาจึงเลือกที่จะเป็นโสดจนถึงทุกวันนี้



“ถ้างั้น...” ร่างสูงดึงข้อมือบางอย่างไม่ทันให้ตั้งตัวทำให้อีกฝ่ายเซไปปะทะกับแผงอกแกร่ง “ให้ผมช่วยคลายเครียดให้นะครับ”



“เดี๋ยว...!!” มือหนาสอดเข้ามาในเสื้อลูบไล้แผ่นหลังเนียนไปตามแนวกระดูกสันหลัง ร่างโปร่งที่กำลังจะประท้วงกัดปากกั้นเสียงร้องแทบไม่ทัน



“ว่าไงครับภัทร... ให้ซันช่วยนะครับ...”



ลิ้นร้อนๆตวัดเลียไปตามใบหูไล้ลงมาขบเม้มที่ติ่งหูเย็น ดูดดุนติ่งเนื้อนิ่มจนเกิดเสียงชื้นแฉะข้างหูปลุกเร้าอารมณืคนที่เมาอยู่แล้วให้รู้สึกมึนมากขึ้นไปอีก



“ขะ...ขนาดนี้แล้วจะขออีกทำไม...อึก”



 นิ้วเย็นๆสะกิดที่ยอดอกสีสวยอย่างหยอกเย้า ปกติแล้วร่างโปร่งไม่เคยone night standกับใคร แต่ด้วยอารมณ์ที่โหมกระพือขึ้นจากฤทธิ์แอลกอฮอล์และการปลุกเร้าทำให้ภรัณยูยอมให้อีกฝ่ายแต่โดยดี “อ๊ะ...คืน..คืนเดียวนะ..."



“ฮะๆ...ครับคนสวย” อีกฝ่ายรับคำอย่างอารมณ์ดีจนน่าหมั่นไส้ “งั้นขอกินให้คุ้มเลยนะครับ”



“อะ...ไอ้เด็กบ้า อ๊ะ...อ๊าาาา....”









“อือ..."



ร่างเปลือยเปล่าที่มีเพียงผ้าห่มสีขาวสะอาดปกคลุมช่วงล่างสะลึมสะลืมตื่นขึ้น ภรัณยูพยายามลุกขึ้นจากเตียงแต่ความเจ็บที่แล่นปราดจากช่วงล่างขึ้นมาทำเอาร่วงลงไปนอนอยู่บนเตียงอีกรอบ



“โอย...นี่แรงคนแน่เหรอ”



ชายหนุ่มลูบสะโพกเบาๆ ก่อนจะหน้าแดงวาบขึ้นมาเมื่อนึกถึงตัวต้นเหตุที่พาเขาทัวร์ห้องทุกซอกทุกมุมตั้งแต่โซฟา เคาท์เตอร์ครัว โต๊ะทานข้าว ริมระเบียง บนพื้น ก่อนมาจบที่เตียง



จำได้ว่าตัวเองสลบไปตอนอยู่บนเตียงนี่แหละ



“ทำอะไรไม่ดูสังขารคนแก่เลย...” ร่างโปร่งบ่นอุบ จริงอยู่ที่ด้วยความเป็นคนสูงโปร่งผิวขาวแถมยังไม่มีริ้วรอยที่ผู้คนพึงมีตามกาลเวลาทำให้ใครๆมักจะคิดว่าเขาอายุยี่สิบปลายๆ ยิ่งผมสีน้ำตาลรับกับดวงตายิ่งทำให้ดูเด็กกว่าวัย แต่เขาก็อายุอานามจะสามสิบสองอยู่แล้ว ไม่ใช่เด็กแรกรุ่นที่พร้อมออกรบตลอด มาเจอศึกหนักหลังไม่ได้ออกรบมานานทำเอาเอวเคล็ดเหมือนกัน



ร่างโปร่งมองไปรอบห้องหาตัวการหวังจะคาดโทษ แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า พลันสายตาเหลือบไปเห็นยาแก้ปวดกับขวดน้ำดื่มที่โต๊ะหัวเตียงพร้อมกับกระดาษโน๊ตเล็กๆที่เขียนว่า



‘ขอบคุณสำหรับของหวานนะครับ’ แค่นั้น




“เฮ้อ...คืนเดียวจริงๆสินะ"



ร่างโปร่งส่ายหัวขำๆ แม้จะเสียใจเล็กน้อย แต่ก็เตรียมใจไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้




 ช่างเถอะ...คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ

--------

 :L1: :L1: :L1:HAPPY VALENTINE'S DAY :L1: :L1: :L1:
เรื่องนี้มีอยู่สองคู่หลักด้วยกันนะคะ คือน้องซัน น้องคนสุดท้องของบ้านกับพี่ภัทร
ส่วนอีกคู่ คือคู่ที่ทุกคนรอคอย(?) เชษฐ์มีนนั่นเอง5555

นิยายเรื่องนี้ลงที่เล้าเป็ดครั้งแรกเดือน กันยายน 2016 นะคะ เคยลงไว้สามสี่ตอน มีชื่อว่า พี่ครับรับผมได้มั้ย แต่ตอนนี้รีไรท์ใหม่หมดแล้วเน้อ ถ้าใครอ่านแล้ว เอ๊ะ คุ้นๆ จงอย่าตกใจ5555

นิยายเรื่องนี้จริงๆเป็นเรื่องแรกในซีรีย์นีี้ แต่กว่าจะได้เข็นออกมา กลายเป็นเรื่องสุดท้ายซะงั้น5555

ขอบคุณที่รอนะคะ แฟนคลับเชษฐ์มีนอดใจอีกนิดเน้อ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 14-02-2018 07:52:59
ซันแซ่บมากค่ะ
ทำภัทรลุกไม่ขึ้นเลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 14-02-2018 08:56:55
      ยินดีกับเรื่องนี้นะค่ะในที่สุดก็ครบตัวละครแล้ว
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ข้าวเหนียวมะม่วง ที่ 14-02-2018 12:30:10
ตามค่าาา
 :L1: :L1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-02-2018 01:19:41
เปิดฉากมาก็ร้อนแรงเกินบรรยาย  :m25:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: W2P5 ที่ 15-02-2018 05:20:03
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 15-02-2018 10:10:18
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 15-02-2018 13:37:05
 :m25: กินเด็กเป็นอมตะนะคุณภัทร อิอิ  :z1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 15-02-2018 14:04:12
 o13 o13 เปิดเรื่องได้แซ่บจริงๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 15-02-2018 14:28:09
ฮือออ อยากจะแย้งเหลือเกินว่า 32 นี่ยังไม่ถึงกับแก่นะคะ ถ้าสัก 35-38 นี่ค่อยว่าไปอย่าง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 15-02-2018 15:40:03
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 15-02-2018 19:49:20
 โหหห นี่แค่เปิดเรื่องยังอื้อหือออ

รอๆๆๆ ทั้งสองคู่มานานล่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-02-2018 22:11:30
รอๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 15-02-2018 22:50:33
 :mew4: ดีใจอ่ะ อิตาคุณเชษฐ์เจ้านายสุดแย่?ของหมอกมาแล้ว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 16-02-2018 15:27:59
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 16-02-2018 18:46:32
หืออออออออออ  เล่นอย่างนี้หรือคะพี่ซันนนน 
ช่วยดูสังขารพี่ภัทรด้วยนะคะ อิอิ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Intro P.1
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 17-02-2018 11:48:08
Chapter 1: ทินกร

วันนี้เป็นวันแรกตั้งแต่เข้าทำงานที่บริษัทนี้มาเกือบสามปีที่ภรัณยูมาทำงานสาย ถึงแม้จะสายไปเพียงสามนาทีแต่ก็ทำเอาโทรศัพท์เกือบไหม้จากสายโทรเข้านับร้อยที่ดูจะตื่นตกใจกับการหายไปของเขาสุดๆ



“พี่ภัทร/น้องภัทร/คุณภัทร/คุณภรัณยู เป็นอะไรรึเปล่าคะ/ครับ”




เสียงเพื่อนร่วมงานถามตั้งแต่ทางเข้าบริษัทยันโต๊ะทำงาน ภรัณยูเป็นรองหัวหน้าฝ่ายการตลาดของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งแยกสาขามาจากธุรกิจร้อยแปดพันเก้าในเครือของบริษัททรัพย์ดำรง ซึ่งบริษัทนี้เป็นหนึ่งในธุรกิจแรกๆที่ท่านประธานลงทุน ทำให้มีชื่อเสียงมายาวนาน ค่าตอบแทนก็ดี ทำให้ร่างโปร่งอยากที่จะทำงานให้คุ้มค่าแรงจนไม่เคยคิดจะลาหยุดหรือมาสายแม้แต่วันเดียว




“ภัทร เป็นไงบ้าง พี่เป็นห่วงแทบแย่”




แจน หรือ เจนจิรา หัวหน้าของเขาและแม่พระของคนทั้งแผนกถามอย่างเป็นห่วง เจ้าของชื่อส่ายหน้ายิ้มๆ “แค่ตื่นสายน่ะครับ คงเพลียสะสม”




“งั้นก็ดีแล้วจ้ะ วันนี้มีงานให้ช่วยพอดี”




“งานอะไรเหรอครับ?”




ร่างโปร่งถามอย่างสงสัย เพราะบรีฟงานครั้งล่าสุดก็มีแต่ทำโปรเจคต์เก่าๆ ไม่ได้มีงานใหม่อะไรเพิ่มเติมมา




“จะว่างานก็...”




“พี่แจนค้าาาาาาา ลูกพี่แจนจะกลับมาแล้วเหรอคะ”




ฝน พนักงานในฝ่ายที่เข้ามาที่นี่ก่อนเขาไม่กี่เดือนทำให้สนิทกันพอสมควรกระโดดโลดเต้นเข้ามา



“พอเลยยัยฝน ไปเรียกคุณทินเขาแบบนั้นเดี๋ยวก็โดนท่านประธานดุหรอก”



เจนจิราเตือนอย่างไม่จริงจรังนัก




“แหมๆ ก็สมัยก่อนคุณทินเล่นติดพี่แจนขนาดนั้นนี่นา”




“เอ่อ...คุณทินนี่...”




รองหัวหน้าฝ่ายพยายามเค้นสมองหาชื่อนี้แต่ไม่ปรากฏ เจนจิราที่เห็นลูกน้องมีสีหน้างุนงงจึงช่วยอธิบาย



“คุณทินกรเป็นลูกคนสุดท้องของท่านประธานน่ะจ้ะ แต่ก่อนตอนพี่ทำงานเป็นเลขาแกชอบมานั่งรอท่านประธานที่นี่บ่อยๆ แต่พอจบม.ต้นก็โดนส่งไปเรียนต่อที่อเมริกา คลาดกับภัทรนิดเดียวเอง”




“ใช่ๆ ฝนก็มาทันแค่ช่วงที่คุณทินกำลังจะไปเรียนต่อ ตัวเล็กนิดเดียว แถมยังไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา แต่ก็เป็นเด็กดีมากเลย น่า
รักน่าหยิก โตเป็นหนุ่มแล้วจะหล่อมั้ยน้าาา”





“พอเลยยัยฝน เด็กยังไม่สิบแปดนะเธอ เสี่ยงคุกเสี่ยงตาราง”





“โหพี่แจน อีกแค่เดือนสองเดือนเอง”





ฝนตอบกลับที่เล่นทีจริง ภรัณยูทำได้เพียงยืนฟังเงียบๆ เขาพอจะรู้มาว่าท่านประธานมีลูกชายสามคน คนโตคือคุณเมฆาซึ่งเขาเจอบ่อยตามงานเลี้ยงบริษัทหลังจากที่อีกฝ่ายกลับมาจากการดูแลบริษัทสาขาที่ต่างประเทศ แต่อีกสองคนเหมือนจะยังเรียนอยู่ทั้งคู่เลยไม่มีข้อมูลอะไร




“พี่แจนครับ...งานที่ว่า...”




“จริงสิ งานที่ว่าก็เรื่องคุณทินนี่แหละ คือแกจะมาเรียนต่อที่ไทย เลยอยากจะมาศึกษาดูงานแผนกเรา พี่ก็ยุ่งๆเลยอยากจะวานให้ช่วยดูแลคุณเขาหน่อยน่ะ แล้วก็พาแกไปเที่ยวไปอะไรบ้าง สมัยก่อนตอนอยู่ไทยคุณทินก็เอาแต่เฝ้าคุณหญิง ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน ท่านประธานบอกว่าอยากให้หาใครซักคนมาช่วยดูหน่อยน่ะจ้ะ ค่าทำงานมีค่าโอทีมีทุกอย่างครบเลยนะ เรื่องนี้พี่ไว้ใจเราคนเดียว พอจะช่วยได้มั้ย”




ภรรยาของท่านประธานป่วยเสียชีวิตไปก่อนที่ร่างโปร่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ดูท่าจะเป็นที่รักของพนักงานมากเนื่องจากบรรยากาศดูอึมครึมอยู่พักหนึ่ง ภรัณยูอดสงสารเด็กคนนั้นไม่ได้ที่ต้องมาเสียแม่ไปตั้งแต่ยังอายุน้อย แต่ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่น่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดกับการเป็นพี่เลี้ยงเด็กในครั้งนี้




“ผม..”




“ช่วยพี่เถอะนะภัทร พี่รู้ว่าพี่มองคนไม่ผิดหรอก”




เจนจิราขอร้องอีกรอบ ความกรงใจทำให้ภรัณยูต้องยอมรับอย่างเสียไม่ได้




“แล้วคุณทินจะมาเมื่อไหร่เหรอครับ”




“อ๋อ มาแล้วล่ะจ้ะ ตอนนี้คุยกับท่านประธานอยู่ในห้อง ท่านประธานบอกว่าคุยกับภัทรรู้เรื่องแล้วค่อยไปหา งั้นเราไปกันเลยดีกว่า”




หัวหน้าของเขาลุกจากโต๊ะเดินนำไปยังห้องทำงานของท่านประธาน คุณมธุวัน เลขาของท่านประธานที่ถึงแม้จะอายุเพียงยี่สิบห้าปีแต่ก็เป็นที่เคารพของเหล่าพนักงานด้วยความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสาวๆที่มาวีนหน้าห้องทำงานได้ไม่เว้นแต่ละวันจนทั้งยามทั้งบอดี้การ์ดก็ละเหี่ยใจไปตามกันนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะประจำหน้าห้องของท่านประธาน ราวกับสุนัขสามหัวเฝ้าประตูนรกที่กำลังรอคอยเวลาจับวิญญาณที่เถลไถลกลืนลงท้องเป็นอาหารว่าง



“คุณมธุวันคะ ดิฉันกับภรัณยูมาขอพบท่านประธานค่ะ”




เจนจิรายิ้มหวาน การที่สาวใหญ่วัยสี่สิบกว่าปีเรียกชายหนุ่มอายุยี่สิบห้าด้วยความเคารพควรจะเป็นภาพแปลกตา แต่กลับเป็นธรรมชาติอย่างประหลาดในสายตาของคนในบริษัทนี้ไปเสียแล้ว



“เชิญครับ”




ชายหนุ่มดันแว่นขึ้นเอ่ยเสียงเรียบ แล้วกลับไปพิมพ์งานในคอมพิวเตอร์ต่อ




มนุษย์สัมพันธ์ติดลบกว่าเขาก็คุณมธุวันนี่แหละ...




แม้จะได้รับอนุญาตแล้ว แต่เจนจิราก็เคาะประตูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ



“เข้ามา”



เมื่อประตูเปิดออก ภรัณยูจึงรีบเดินตามหลังหญิงสาวเข้าไปทันที ท่านประธานกำลังคุยกับผู้ชายคนหนึ่งที่หันหลังให้พวกเขาอยู่ ท่านประธานธีรเชษฐ์ ทรัพย์ดำรงเป็นพ่อหม้ายวัยสี่สิบสองปีที่มีเสน่ห์เหลือล้นเสียจนน่าสงสัยที่ยังไม่มีใครสามารถพิชิตใจชายหนุ่มได้เสียที ด้วยความที่เป็นลูกครึ่งไทยรัสเซีย ทำให้ท่านประธานตัวสูงชะลูดจนถึงจะเข้ามาทำงานสามปีกว่าเขาก็ยังคงไม่ชิน ร่างที่นั่งหันหลังให้พวกเขาก็ดูสูงพอสมควรเช่นกัน ถึงแม้จะนั่งอยู่แต่ส่วนสูงของอีกฝ่ายทำให้ภรัณยูรู้ว่าถ้ายืนคงท่วมหัวเขามิด นี่มันเด็กอายุสิบเจ็ดจริงๆเหรอเนี่ย




“นี่ภรัณยูค่ะ คนที่จะมาดูแลคุณทินช่วงนี้”



“ทิน ทักทายพี่เขาหน่อยสิ”



ร่างสูงลุกขึ้นจากเก้าอี้ ว่าแล้วไม่มีผิด ถึงแม้จะสูงไม่เท่าท่านประธานแต่ก็สูงจนเขายอมใจ สูงพอๆกับซันเลยด้วยซ้ำ



จะว่าไป...ขนาดตัวก็ดูเท่าๆกันนะ



เด็กหนุ่มหันกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่สำหรับภรัณยู เขารู้สึกเหมือนเวลาหยุดหมุนไปชั่วขณะ ใบหน้าที่คุ้นเคย รอยยิ้มมุมปากที่คุ้นตา เสียงทุ้มที่กระซิบถ้อยคำน่าอายต่างๆข้างหูของเขาตลอดคืนย้อนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง




“สวัสดีครับ ผมทินกร ทรัพย์ดำรง ยินดีที่ได้รู้จักครับ”



…..



…….




………





#@$%!!!!!!!!!!










“ภัทรครับ...ภัทรครับรอผมด้วยสิ”




ภรัณยูสาวเท้าให้เร็วที่สุดเท้าที่ขายาวๆของตัวเองจะอำนวย แต่ไอ้เด็กข้างหลังที่มีช่วงขาที่ยาวกว่า(มาก)กลับก้าวยาวๆตามร่างโปร่งได้อย่างสบายๆ




“หยุดเลยนะ หยุดอยู่ตรงนั้นเลย”




เขาหันกลับไปบอกให้อีกฝ่ายหยุด ซึ่งได้ผล ทินกรชะงักค้าง ยืนนิ่งด้วยสายตาประเมินสถานการณ์เหมือนจะรอดูว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรต่อ




“ตกลงคุณชื่ออะไรกันแน่”




ขนาดชื่อเขายังโกหก มีอะไรที่เด็กนี่โกหกเขาอีก




“ผมชื่อทินกร ชื่อเล่นชื่อซัน แต่พวกผู้ใหญ่ชอบเรียกผมว่าทิน ก็แค่นั้นเองครับ ผมไม่ได้โกหกภัทรนะ”




“กรุณาอย่าเรียกชื่อเล่นผมในที่ทำงาน ผมไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณ”ภรัณยูเอ่ยเสียงเรียบ




“ผมขอโทษ...”




“แล้วคุณอายุเท่าไหร่”




“จะสิบแปด...อีกหนึ่งเดือน”




น่าน...อยู่ดีไม่ว่าดีมีดวงจะได้กินข้าวแดงฟรีในคุกเฉยเลย




เขามองดวงหน้าคมเข้มที่แม้จะทำหน้าเหมือนลูกหมาโดนเตะก็ยังไม่คลายความหล่อระดับนายแบบชื่อดังอย่างพิจารณา เพราะการวางตัวที่ดูเป็นผู้ใหญ่ประกอบกับโครงหน้าคมแบบนี้ทำให้ชายหนุ่มไม่นึกเอะใจเลยว่าอีกฝ่ายจะยังไม่บรรลุนิติภาวะ



“ภัทร...”




“ผมขอตัว”




ร่างโปร่งหมุนตัวเตรียมจะเดินกลับโต๊ะทำงานแต่โดนอีกฝ่ายดึงรั้งเข้าไปในอ้อมกอด เเรงกระเเทกที่ไม่เบานักทำเอาคนที่โดนกระทำชำเรามาทั้งคืนเผลอร้องซี้ดด้วยความเจ็บ



“ภัทร! ผมขอโทษ เจ็บมากรึเปล่า”




เพราะใครล่ะไอ้เด็กบ้า!!!




 เจ็บก็เจ็บ อายก็อาย




“ปล่อย...”



“ผมขอโทษ ผมรู้ว่าถ้าบอกอายุจริงไปภัทรคงจะไม่ยอม...”




“รู้ตัวก็ดี ปล่อยครับคุณทินกร ผมจะไปทำงาน”




ร่างโปร่งพยามขืนตัวออกจากวงแขนแต่ไม่เป็นผล ทินกรไม่ยอมปล่อยเขาไปโดยง่าย จนภรัณยูเริ่มกังวลแล้วจะมีใครผ่านมาเห็น




“ภัทร อย่าดื้อสิ ฟังผมก่อน"



“มีอะไรต้องฟังอีก”




ร่างโปร่งกระชากเสียงอย่างไม่พอใจ เขาจะเชื่ออะไรจากปากคนโกหกตรงหน้าได้อีก




“ผมชอบภัทร...”



“….”




ห๊ะ?!!!











“เอาล่ะ เล่ามาตั้งแต่ต้นซิ”




ภรัณยูพาเด็กหนุ่มร่างสูงมาที่ห้องประชุมที่ไม่มีคนใช้วันนี้ก่อนจะล็อคประตู ปิดมูลี่ทุกอัน และะหันกลับไปหาร่างในชุดสูทที่ยืนพิงโต๊ะประชุมด้วยท่าทีประหม่า แต่กลับเหมือนว่าอีกฝ่ายกำลังถ่ายแบบโฆษณาลงปกนิตยาสารอย่างไรอย่างนั้น




“วันที่เราเจอกันวันแรก ผมเห็นบัตรพนักงานที่คล้องคอภัทรอยู่ เลยรู้ว่าภัทรทำงานที่นี่ หลังจากนั้นผม...เอ่อ...ผมเลยแอบ
ไปค้นประวัติพนักงาน แล้วลองไปเดินป้วนเปี้ยนแถวๆคอนโดนั้นดู”




นี่มันสตอล์กเกอร์โรคจิตชัดๆเลยไม่ใช่รึไง?!!




“ทำไม...”




“ผมอยากรู้จักภัทร” ทินกรตอบเสียงดังฟังชัด ผละจากโต๊ะเดินตรงมาหาร่างที่ถอยกรูดอย่างไม่มั่นใจว่าคนตรงหน้าจะทำอะไร “ผมถูกใจภัทรตั้งแต่วันนั้น พอเจอกันอีก ภัทรก็ดันบอกว่าไม่อยากมีพันธะตอนนี้...”





สรุปเขาผิดสินะ...




“คุณก็เลยคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่จะนอนกับผมโดยไม่บอกอายุ หรือเรื่องที่คุณเป็นลูกเจ้าของบริษัทให้ผมรู้?”




“…..”




“….เฮ้อ...เด็กหนอ...” คนอายุมากกว่าส่ายหัวกับความคิดของเด็กสมัยนี้ “ช่างเถอะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว”




“ภัทร...”




“ถ้าอยู่ที่นี่กรุณาอย่าเรียกผมแบบนั้น...” แต่เมื่อเห็นสีหน้าสลดลงของอีกฝ่าย คนขี้สงสารก็อดใจอ่อนไม่ได้ “แต่ถ้านอกเวลาจะเรียกอะไรก็ตามใจ”




สีหน้าเศร้าสลดเหมือนลูกหมาโดนรถทับกลายเป็นลูกหมาได้กระดูกภายในเวลาไม่ถึงสามวินาที ก่อนจะสลดลงไปอีกเมื่อเขาเอ่ยประโยคถัดมา




“แต่เรื่องของเราขอให้จบแค่ที่นี่ ลืมมันไปซะ”




“ภัทรครับ ผมขอโอกาสไม่ได้เหรอ ขอให้ผมได้ดูแลภัทร...ผมสัญญาว่าจะไม่เป็นภาระ ไม่ทำตัววุ่นวายให้ภัทรรำคาญ”




ร่างสูงขยับเข้ามาใกล้จนพนักงานหนุ่มรับรู้ได้ถึงไออุ่นจากร่างของอีกฝ่าย สมองเจ้ากรรมดันนึกไปถึงความร้อนที่ร่างนี้ถ่ายทอดให้ในคืนก่อน




สติๆ ไอ้ภัทร อย่าเพิ่งหลุดตอนนี้




“นะครับภัทร...นะครับ...”




“โอ๊ยยยย จะทำอะไรก็ทำ ผมไม่รับปากอะไรทั้งนั้น แต่ถ้าคุณยังไม่บรรลุนิติภาวะ เรื่องเมื่อคืนจะไม่เกิดขึ้นอีก”




หงุดหงิด...ยิ่งทินกรเข้าใกล้มากเท่าไหร่ ลมหายใจของเขายิ่งติดขัดมากขึ้นเท่านั้น ร่างโปร่งรีบผละออกจากอีกฝ่ายแล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องนั้นให้เร็วที่สุด




“ขอบคุณครับพี่ภัทร”





 อีกฝ่ายตะโกนไล่หลังมาจนคนแถวนั้นมองเป็นแถว





ไอ้เด็กบ้า....



--------

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 60% P.1 คหใ 17 (17/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 17-02-2018 13:05:54
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 60% P.1 คหใ 17 (17/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 17-02-2018 16:34:39
ซันแสบจริงๆ ภัทรจะรับมือไหวไหมน้าาา :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 60% P.1 คหใ 17 (17/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 17-02-2018 17:37:34
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 60% P.1 คหใ 17 (17/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 17-02-2018 21:56:07
ภัทรผู้ใจอ่อน ดูแพ้ทางกันมาตั้งแต่ต้นเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 60% P.1 คหใ 17 (17/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 17-02-2018 23:37:18
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 60% P.1 คหใ 17 (17/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-02-2018 04:41:49
ภัทรเอย  เสร็จเด็กจนได้ซินะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 60% P.1 คหใ 17 (17/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 18-02-2018 11:52:20
อุ้ะต้ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 60% P.1 คหใ 17 (17/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 18-02-2018 13:56:25
น้องซันมาแว้วววว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 60% P.1 คหใ 17 (17/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 18-02-2018 19:36:20
กินเด็กเขาว่าเป็นอมตะ นะภัทร
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 60% P.1 คหใ 17 (17/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ChocoPop ที่ 19-02-2018 17:53:03
ซันนี่ไม่ใช่เล่นๆ  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 60% P.1 คหใ 17 (17/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 22-02-2018 07:11:51

"อะไรนะครับ?”



“ขอร้องนะภัทร ช่วยพี่หน่อยเถอะ คุณทินเขาภาษาไทยไม่แข็งแรงจริงๆ”




เจนจิราแทบจะพนมมือไหว้เล่นเอาคนอายุน้อยกว่าถลาไปรับมือหญิงสาวแทบไม่ทัน




“ครับๆ ผมไปให้ก็ได้”




“ขอบใจมากนะภัทร ไหนๆก็ไหนๆแล้วช่วงนี้พี่ถือโอกาสเเจกงานให้น้องๆคนอื่นเลยละกัน ภัทรโฟกัสกับคุณทินก็พอนะ”
เจนจิรายิ้มหวานให้ แต่ภรัณยูเริ่มชักจะหลอนกับรอยยิ้มนั้นเข้าไปทุกวัน




เอาอีกแล้ว...โดนมัดมือชกอีกแล้ว








ร่างโปร่งพาทินกรในชุดนักศึกษามามอบตัวที่มหาวิทยาลัยครับ จากเหตุผลของเจนจิรา เด็กหนุ่มข้างๆเรียนนานาชาติตั้งแต่อนุบาลทำให้'ภาษาไทยไม่แข็งแรง’ เดือดร้อนเขาต้องมาเป็นล่ามเฉพาะกิจให้




“เซ็นตรงนี้ แล้วก็ตรงนี้นะครับ”




“ตรงไหนนะครับ” ร่างสูงถาม ภรัณยูใช้ดินสอที่พกติดตัวมาขีดกากบาทเล็กๆตรงที่ที่ให้ลงชื่อ




“ทำไมคุณทินกรไม่เรียนต่อที่อเมริกาล่ะครับ”




“จริงๆก็จบมาใบนึงแล้วล่ะครับ แต่ผมอยากได้อีกใบที่ไทย อยากได้ประสบการณ์แบบเด็กมหาวิทยาลัยจริงๆด้วย”




“อ๋อ....” พวกหัวกะทินี่เอง




“แล้วก็นะ ภัทร”




“หืม..เฮ้ย!” เจ้าของชื่อร้องอย่างตกใจเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “ถ้าเรียกผมว่าคุณทินกรอีก ผมจูบจริงๆด้วย”




“ผมบอกแล้วไงว่าถ้าคุณยังไม่สิบแปด..”




“ผมทำแบบคืนนั้นไม่ได้ แต่ผมจูบภัทรได้ ไม่ผิดกฎนี่ครับ”




 อีกฝ่ายยิ้มตาหยี น่าตั๊นหน้าให้หายซ่าซักหมัด ทำไมยิ่งอยู่กับคนตรงหน้าเขายิ่งเหมือนวัยรุ่นหัวร้อนเข้าไปทุกที




“อร๊ายยย แกกก พ่อของลูก”




“น้องปีหนึ่งเหรอ คณะไหนเนี่ย แซ่บๆๆๆ ถ่ายไว้สิแก ถ่ายยยย”




“คนที่เดินมาด้วยนั่นโคตรโคตรเคะ รังสีโมเอะบีมรุนแรงมว๊ากกกกก”




“อร๊ายยย จิ้นๆๆๆ"




สองประโยคแรกภรัณยูพอจะเข้าใจ แต่สองประโยคหลังนี่มันภาษาต่างดาวอะไร



“เขากรี๊ดอะไรกันครับภัทร มีดารามาเหรอ” ร่างสูงหันซ้ายหันขวาอย่างสนใจ




โถ พ่อคุณ




“เขามองคุณนั่นแหละ รีบๆไปยื่นเอกสารได้แล้ว ผมหิว”




“ภัทรหิวเหรอ? ไปรอผมที่ร้านข้าวตรงนั้นก็ได้นะ เดี๋ยวผมยื่นเอกสารเสร็จแล้วตามไป”




ทินกรเสนอ เดินตรงไปยังจุดลงทะเบียนโดยไม่สนใจจะรอฟังคำตอบจากคนข้างๆ ภรัณยูถอนหายใจ ก่อนจะทำตามคำพูด
ของอีกฝ่ายอย่างไม่มีทางเลือก




โชคดีที่เขามาถึงเร็ว เพราะหลังจากนั่งลงได้ไม่นาน ร้านอาหารตามสั่งที่เขานั่งอยู่ก็เต็มไปด้วยบรรดาว่าที่นักศึกษาและผู้ปกครองมาจับจองที่นั่งกันจนแทบไม่เหลือที่




“ทางนี้”




ชายหนุ่มโบกมือให้ร่างในชุดนักศึกษาเมื่อเห็นเด็กหนุ่มหันซ้ายขวามองหาเขาผ่านฝูงชน เมื่อเห็นเขาร่างสูงใหญ่เหมือนเสาไฟฟ้าก็รีบเดินฝ่าผู้คนเข้ามาในร้าน ทินกรทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ตรงข้ามเขาพร้อมกับถอนหายเฮือกใหญ่





“ผมไม่ชอบที่ที่คนเยอะๆแบบนี้เลยจริงๆ”




“ฝึกไว้ โตไปคุณต้องเข้าสังคม พบปะคนอีกเยอะ”



 ภรัณยูถือโอกาสสอน ยกโกโก้เย็นที่สั่งมาขึ้นดูดอึกใหญ่




“แต่ผมไม่ชอบนี่”



ทินกรงอแง ดึงมือที่เรียวถือแก้วน้ำหวานอยู่ไปกินหน้าตาเฉย



จะเอาไปก็เอาไปสิ จะเอามือเขาไปด้วยทำไมเนี่ย?



“ขอโทษนะครับ พวกเรานั่งตรงนี้ได้มั้ย”




เสียงหวานดังขึ้นจากด้านหลัง ภรัณยูหันกลับไปเจอเด็กหนุ่มตัวเล็กหน้าตาน่ารักในชุดนักศึกษากำลังยิ้มให้พวกเราอย่างลำบากใจ  ด้านหลังมีเด็กหนุ่มร่างสูงผิวสีน้ำผึ้งพร้อมใบหน้าคมเข้มมาตรฐานชายไทยยืนกอดอกหน้านิ่งอยู่




“คือ...ที่อื่นเต็มหมดแล้ว”



“ได้ครับ”




ร่างโปร่งรีบตอบแล้วขยับให้ทั้งสองเข้ามานั่ง ร่างเล็กนั่งลงข้างซันที่ตอนนี้นั่งหน้าบูดมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ ส่วนเด็กหนุ่มอีกคนที่ยิ่งมองใกล้ๆยิ่งโคตรละลายใจเก้งกวางบ่างชะนีนั่งลงข้างเขาเงียบๆ คิ้วหนาตาคมดุ ควรค่าแก่การจารึกภาพลงสมอง




อื้อหือ อาหารตา



“คือ..เราชื่อมีนานะ”




เด็กหนุ่มตัวเล็กแนะนำตัวเสียงเบาหวิว เจ้าเด็กเอาแต่ใจนั่งนิ่งไม่ยอมตอบจนคนถามที่ดูจะรวบรวมความกล้าพอสมควรมีสีหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ภรัณยูที่ปกติใจเย็นประดุจน้ำนิ่งทนไม่ไหวเตะหน้าแข้งอีกฝ่ายดังปั้ก ทินกรสะดุ้ง จ้องคนทำด้วยสายตาคาดโทษก่อนจะยอมแนะนำตัว



“ซัน"



 มีนามีสีหน้าสดใสขึ้นทันทีที่อีกฝ่ายยอมพูดด้วย ร่างเล็กหันมาทางคนในชุดทำงานที่ดูจะเป็นมิตรกว่ามาก “แล้ว...”





“พี่ชื่อภัทร” ร่างโปร่งตอบพร้อมกับรอยยิ้ม ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าเด็กคนนี้น่าเอ็นดู เหมือนหมากระเป๋าตัวเล็กๆอย่างไรบอกไม่ถูก “น้องมีนเรียนคณะอะไรเหรอครับ”




“เอ่อ...แพทย์ครับ” คนถูกถามตอบอย่างขัดเขิน




นิสัยดี มีมนุษยสัมพันธ์ดี เรียนเก่งซะด้วย...




“ซันเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ไม่ค่อยมีเพื่อน ยังไงพี่รบกวนเป็นเพื่อนเขาหน่อยสิ”




ภรัณยูยิ้มหวานให้น้องมีนที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าถูกล็อกเป้าสำหรับปฎิบัติการถีบหัวส่งคุณทินกรเสียแล้ว




รีบๆเป็นเพื่อนกันแล้วช่วยเอาไอ้เด็กบ้านี่ไปให้พ้นจากมือเขาซักทีเถอะ




“เอ่อ...” เด็กหนุ่มกระพริบตาปริบๆราวกับไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆให้




"ซันเรียนบริหาร รู้สึกว่าจะมีหลายตัวที่ปีหนึ่งเรียนกับแพทย์ อย่างนี้คงได้เจอกันเนอะ”




ปกติเขาเป็นคนไม่พูดมาก แต่นี่อีกนิดเดียวก็จะลดแลกแจกแถมใส่โปรโมชั่นยิ่งกว่าขายของให้ลูกค้าแล้ว เด็กหนุ่มร่างสูงที่กำลังโดนขายหรี่ตามองคนอายุมากกว่าอย่างรู้ทัน แต่ภรัณยูแสร้งทำเป็นไม่สนใจ




“เรียนบริหารเหมือนพายุเลย..” มีนาเอ่ยขึ้น หันไปหาเพื่อนที่พยักหน้ารับแต่ไม่พูดอะไร




“แล้วนี่สองคนมาจากโรงเรียนเดียวกันเหรอ" ภรัณยูชวนคุย ด้วยความหวังว่าทินกรที่เท่าที่เขาเห็นคารมของอีกฝ่ายดูจะมีทักษะการหาเพื่อนสูงพอควรจะเข้าร่วมบทสนทนาเสียที แต่ร่างสูงเพียงแต่นั่งจ้องเขาด้วยสายตาไม่พอใจ





“เปล่าครับ เพิ่งเจอกันเหมือนกัน” ร่างเล็กตอบยิ้มๆ ก่อนจะหันไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังร้าน “จะถึงคิวผมแล้ว ขอบคุณที่ให้นั่งด้วยนะครับ แล้วเจอกันนะซัน”




ภรัณยูมองตามร่างของเด็กหนุ่มไป เพิ่งสังเกตว่าเสื้อของอีกฝ่ายดูเก่าเกินจะเป็นชุดของนักศึกษาปีหนึ่ง แม้จะไม่หลวมโพรกแต่ก็ดูไม่พอดีตัวนัก รองเท้าหนังที่ร่างเล็กสวมใส่ก็ดูจะมีขนาดไม่พอดีทำให้เขาต้องลากฝีเท้าเพื่อไม่ให้รองเท้าหลุด ประกอบกับการที่อีกฝ่ายไม่สั่งอะไรในร้านทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ว่ามีนามีปัญหาทางการเงินอะไรรึเปล่า




“เด็กทุนน่ะ” พายุที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆเอ่ยลอยๆราวกับเดาออกว่าเขาคิดอะไรอยู่  เด็กหนุ่มหยิบซองเอกสารของตัวเองแล้วลุก
ขึ้น “เลขที่ต่อกันช่ะ จะไปด้วยกันมั้ย”




อ้าว....ก็พูดได้นี่




“พี่ภัทร รอผมอยู่นี่นะครับ”




ทินกรลุกขึ้นตามอีกฝ่ายไป คนถูกสั่งเท้าคางมองร่างทั้งสองที่เดินตรงไปยังตึกบริหารพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่





มนุษย์สัมพันธ์แย่ขนาดนี้จะไปรอดมั้ยเนี่ย


--------
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 100% P.1 คห 28 (22/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 22-02-2018 09:55:03
 :L2: รอคับผม
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 100% P.1 คห 28 (22/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 22-02-2018 10:52:13
       สงสารมีนน้องเป็นเด็กดีสู้ชีวิตมากอ่านมาทุกเรื่องทำให้รู้ความลำบากของน้อง
เลยทำให้ไม่พอใจคุณเชษฐ์ที่ชอบใจร้ยใส่
อ่าาาาสางสารจะร้องละนะพอนึกภาพของมีนทีไรสงสารตั้งแต่ขายพวกมาลัยละ
และนี่เข้ามหาลัยก็ใส่ชุดเก่าโอ๊ยยยยยสงสาร :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 100% P.1 คห 28 (22/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 22-02-2018 13:02:25
น้องมีนนนน ลูกกกกก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 100% P.1 คห 28 (22/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-02-2018 02:33:57
ซันต้องเป็นเพื่อนกับมีนให้ได้นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 1 100% P.1 คห 28 (22/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 25-02-2018 08:37:50
Chapter 2:  อาจารย์สอนพิเศษ




"เป็นอะไร”





ภรัณยูถามคนที่นั่งเงียบมาตลอดทาง ไม่ได้อยากจะสนใจหรอกนะ แต่อยู่เงียบๆแบบนี้แล้วมันรู้สึกอึดอัด





“ผมไม่ชอบให้ใครมายัดเยียดเพื่อนให้”





คนที่นั่งหน้าบูดอยู่ที่นั่งข้างคนขับตอบแล้วเอนหัวพิงหน้าต่างรถ





“แล้วทำตัวแบบนี้จะหาเพื่อนได้มั้ย”




“ถ้าจุดประสงค์ของพี่มีแค่ต้องการจะกำจัดผม พี่ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ครับ”





คนฟังฉุนกึก ตีไฟฉุกเฉินแล้วดึงรถเข้าจอดข้างทาง ไม่รู้ทำไม ทั้งที่นั่นเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขา แต่ภรัณยูกลับรู้สึกไม่พอใจที่ได้ยินมันออกจากปากอีกฝ่าย





“ผมมีชีวิตของผม...” ร่างโปร่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้เหตุผลเหนืออารมณ์ “คุณขอโอกาสจากผม ผมก็ไม่ได้ห้ามอะไร แต่การที่คุณใช้อำนาจของท่านประธานมาทำให้ผมต้องหยุดงานของตัวเองเพื่อมาเป็นพี่เลี้ยงคุณแบบนี้ บอกตามตรงผมรับไม่ได้"





“….”





“ถ้าอยากจะให้ผมเปิดใจ คุณก็ต้องเข้าใจด้วยว่านี่คือตัวตนของผม ถ้าคุณไม่พอใจ ผมก็ไม่ได้รั้งคุณไว้ คุณทินกร”





ร่างโปร่งใส่เกียร์เดินหน้า เลี้ยวรถกลับเข้าสู่ท้องถนนอีกครั้ง โชคดีที่วันนี้รถไม่ติด ทำให้เขาไม่ต้องอยู่กับเจ้าเด็กเอาแต่ใจนี่มากเกินความจำเป็น เมื่อมาถึงคฤหาสน์ของตระกูลทรัพย์ดำรง ภรัณยูปลดล็อกรถให้อีกฝ่ายแต่คนที่นั่งอยู่ข้างๆกลับไม่ยอมลงจากรถเสียที





“ทำไมยังไม่ลงปะ....”




ริมฝีปากอุ่นประกบลงมาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว คนถูกจู่โจมหลับตาลงรับสัมผัสของอีกฝ่ายอย่างเผลอไผล มือใหญ่ของอีกฝ่ายประคองใบหน้าเรียวไว้อย่างทะนุถนอม ก่อนที่ทินกรจะถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง





“ผมบอกแล้วนะครับ ว่าถ้าเรียกผมแบบนั้นอีกผมจะทำอะไร”




 รอยยิ้มจางๆที่ไม่ได้เห็นมาทั้งวันที่ไม่ได้เข้ากับแววตาเจ็บปวดในดวงตาสีควันบุหรี่เลยพาหัวใจของภรัณยูเต้นผิดจังหวะไปวูบหนึ่ง





“ผมขอโทษนะครับที่พี่คิดแบบนั้น....แต่วันนี้ผมดีใจมากจริงๆนะ ที่พี่ยอมมากับผม”




เด็กหนุ่มปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเปิดประตูรถ ร่างสูงหันกลับมามองคนอายุมากกว่าเป็นครั้งสุดท้ายด้วยแววตาเศร้าสร้อย





“ผมสัญญา เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”











หลังจากวันนั้นภรัณยูก็ถูกเรียกตัวกลับไปทำงานตามปกติ





ส่วนลูกชายคนเล็กของเจ้าของบริษัทก็เตรียมตัวสำหรับการรับน้องและการเปิดเทอมของมหาวิทยาลัย ทำให้หมู่นี้พวกเขาไม่ค่อยเจอกันเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปเป็นเดือนแล้วที่เขาไม่มีเด็กหนุ่มร่างสูงมาคอยก่อกวน แต่ในหัวของเขากลับสลัดภาพรอยยิ้มสุดท้ายของทินกรก่อนจะลงไปจากรถในวันนั้นไม่ได้เสียที





ก็ดีแล้วล่ะ...




“ภัทร มาหาพี่หน่อยซิ”




เจนจิรากวักมือเรียกคนที่กำลังง่วนอยู่กับงานกองโตเข้าไปในห้องทำงาน ภรัณยูปิดแฟ้มเอกสารหนาเตอะบนโต๊ะของตัวเองแล้วเดินตามเข้าไปอยย่างงงๆ





หัวหน้ามีอะไรจะคุยกับเขา? ปิดงบโปรเจคก็เพิ่งเสร็จไปไม่ใช่เหรอ หรือว่างานมีปัญหาอะไร





 “ภัทร พี่ถามจริงๆนะ ภัทรกับคุณทินมีปัญหาอะไรกันรึเปล่า”




สาวใหญ่ในชุดสูทเปิดประเด็นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด




“เปล่านี่ครับ ทำไมเหรอครับ”




เจ้าเด็กนั่นไปฟ้องอะไรอีกล่ะ




“ก็ท่านประธานโทรมาขอให้พี่เรียกตัวภัทรกลับมาทำงาน แถมยังกำชับด้วยว่าทีหลังให้เลือกคนที่เขาอยากจะทำงานจริงๆ
โดนสวดยกใหญ่เลย พี่เลยคิดว่าภัทรไม่ชอบหน้าคุณทินซะอีก” สาวใหญ่ถอนหายใจเฮือก ก้มลงเปิดลิ้นชักหยิบแฟ้มเอกสารสีดำสนิทออกมาเปิดอ่าน “แต่ถ้าไม่มีอะไรพี่ก็สบายใจ สงสัยเห็นภัทรเงียบๆคุณทินเขาอาจจะคิดมากว่าภัทรไม่ชอบรึเปล่า รายนั้นน่ะยิ่งขี้กังวลอยู่”





“พี่แจนครับ คุณทินกรเขาไม่ได้สั่งให้ผมไปดูแลเขาเหรอครับ” ภรัณยูอดถามไม่ได้





“อย่างคุณทินเนี่ยนะ” เจนจิราเงยหน้าขึ้นมองคนอายุน้อยกว่ากึ่งขบขัน “อย่าว่าแต่สั่งอะไรพี่เลย ขนาดลุงยามหน้าบริษัทเข้าใจผิดนึกว่าเป็นเด็กยกของยังเลยตามเลยไปช่วยเขาขนของอยู่เลย”





เพล้ง




ภรัณยูถึงกับไม่กล้าก้มเก็บเศษหน้าที่ไม่รู้ว่าชาตินี้จะต่อติดรึเปล่าเลยทีเดียว




“ภัทร ไม่สบายเหรอ หน้าซีดๆนะ” เจนจิราถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล




“เปล่าครับ อากาศมันร้อน” ภรัณยูตอบ ไม่ใส่ใจเสียงแอร์ที่กำลังทำงานอย่างแข็งขันราวกับจะให้เขาได้ยินความลำบากของ
มัน หญิงสาวมองพนักงานหนุ่มรุ่นน้องอย่างงุนงงแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร หยิบแฟ้มเอกสารเล่มหนายื่นให้ร่างโปร่ง




“ถ้างั้นพี่รบกวนภัทรติดต่ออาจารย์สอนพิเศษภาษาไทยให้คุณทินหน่อยได้มั้ย รายชื่ออยู่ในนี้แหละ สกรีนให้พี่หน่อย พี่ต้องไปประชุมกับท่านประธานต่อ”




“อาจารย์ภาษาไทย?” ภรัณยูทวนคำงงๆ




“ใช่ คุณทินเธออยากเรียนน่ะ ถึงคณะจะสอบเป็นภาษาอังกฤษ สไลด์เป็นภาษาอังกฤษ แต่พวกรายงานกับเอกสารบางอย่างก็ยังเป็นภาษาไทย คงกลัวตัวเองจะไม่เข้าใจล่ะมั้ง”




เจนจิรายิ้มขำ ก้มๆเงยๆรวบรวมเอกสารสำหรับการประชุมอย่างคล่องแคล่ว ส่วนคนที่ได้รับมอบหมายนั้นได้แต่ยืนมองด้วยกลัวว่าถ้าช่วยหยิบจับจะไปทำให้ลำดับเอกสารผิดพลาด




“คุณทิน...ภาษาไทยเขาแย่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”




“เรื่องฟังพูดน่ะไม่เท่าไหร่ แต่การเขียนเนี่ยเด็กประถมยังเก่งกว่าเลยจ้ะ เมื่อวานยังมาถามพี่อยู่เลยว่าเหงาอ่านว่า เหงา  หรือ เห-งา” เจนจิราเสียบเอกสารใส่แฟ้มว่างแล้วเขียนหัวข้อการประชุมลงบนสัน “พี่ไปก่อนนะ ฝากด้วยนะจ๊ะ”




“เอ่อ...พี่แจนครับ”




ปากไปไวกว่าความคิด คนที่กำลังจะบิดลูกบิดประตูหันมามองคนเรียกเป็นเชิงถามว่ามีอะไร




“คือ….”











ว่ากันว่าคนเรามีความคิดฆ่าตัวตายเพียงไม่กี่วินาที




หากเลยช่วงเวลานั้นไปแล้ว ความคิดที่ยากจะฆ่าตัวตายของคนคนนั้นจะหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น




น่าสียดายที่หลายคนเลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง ก่อนที่เวลาไม่กี่วินาทีนั้นจะผ่านพ้นไป




ภรัณยูเชื่อว่าหากคนเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ จะต้องรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจในตอนนั้น





เหมือนกับที่เขากำลังรู้สึกในตอนนี้




ชายหนุ่มมองไปรอบๆห้องรับแขกของคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ผมเคยมาส่งลูกชายคนเล็กของเจ้าของบ้าน คนรวยนี่สมกับเป็นคนรวยจริงๆ บ้านทั้งหลังถูกตกแต่งด้วยโทนสีขาวทองดูหรูหรา แต่ก็ดูสบายตาไปในตัว โซฟาทรงหลุยส์นุ่มนิ่มนั่งสบายสีแดงเข้มเข้ากับโต๊ะไม้สักทรงเตี้ย เพดานห้องมีแชนเดอเลียคริสตัลอันใหญ่ที่ร่างโปร่งเงยหน้ามองทีไรก็อดหวาดเสียวไม่ได้ว่ามันจะตกลงมาทับหัวรึเปล่า หญิงชายร่างท้วมที่น่าจะอยู่ในวัยราวๆหกสิบปลายๆเจ้าของรอยยิ้มใจดียกน้ำหวานกับชมพู่หั่นซีกที่จัดเรียงอย่างสวยงามมาให้แขกที่นั่งรอคนในบ้านอยู่ร่วมยี่สิบนาทีแล้ว




“ขอบคุณครับ”




ภรัณยูยกมือไหว้ขอบคุณ แอบชำเลืองมองบันไดบ้านที่อยู่ด้านหลังของอีกฝ่ายเล็กน้อยไม่ให้เป็นที่สังเกต แต่หญิงชรากลับมองเขาอย่างรู้ทัน




“คุณทินกำลังช่วยคุณผู้ชายดูเอกสารอยู่น่ะค่ะ เดี๋ยวอีกซักพักคงลงมา”




ไม่ทันขาดคำเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากบนบันไดพร้อมกับเสียงพูดคุยที่ภรัณยูค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่ภาษาไทย





ร่างสูงของท่านประธานและลูกชายคนเล็กเดินลงมาพร้อมกับหนังสือหลายเล่มในมือ ทินกรพูดอะไรบางอย่างในภาษาที่เขาไม่เข้าใจด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ท่านประธานที่กำลังจะตอบหันมาเจอพนักงานในบริษัทเสียก่อน สีหน้าดุดันของคุณธีรเชษฐ์แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มรับแขกอย่างรวดเร็ว




“สวัสดีครับท่านประธาน คุณทินกร”




ภรัณยูลุกขึ้นยกมือไหว้อย่างนอบน้อม อีกฝ่ายพยักหน้ารับ ส่วนคนที่ยืนอยู่ข้างหลังนั้นยืนอึ้งมองคนตรงหน้าเหมือนเห็นเอเลี่ยนกำลังแพลงกิ้งอยู่บนยอดเสาไฟฟ้า




“ภรัณยู ขอโทษด้วยนะที่เจ้าลูกไม่ได้เรื่องของฉันไปสร้างความเดือดร้อนให้”




“เอ่อ...ไม่ใช่นะครับ” ภรัณยูรีบปฎิเสธ ยิ่งรู้สึกผิดที่ว่าทินกรไปแบบนั้น



“แจนบอกเธอจะพาครูสอนพิเศษมาส่ง...” ท่านประธานเลิกคิ้ว “ไปไหนซะล่ะ”




พี่แจนนะพี่แจน เล่นอะไรของเขาเนี่ย




“คือ…ผมขอพี่แจนมาสอนน่ะครับ”




ภรัณยูยกกระเป๋าที่มีหนังสือแบบเรียนภาษาไทยอยู่จนแทบปริให้ดู ราวกับจะให้มันช่วยไขข้อข้องใจให้อีกฝ่าย ท่านประธานมีสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย




“ถ้าอย่างนั้นก็ฝากด้วยแล้วกัน” ก่อนจะหันไปหาลูกชายที่ยังคงยืนนิ่ง“วันนี้พ่อมีประชุมยาว จะค้างที่คอนโด ไม่ต้องรอนะ”
ทินกรพยักหน้ารับ ยังคงไม่ละสายตาราวกับกลัวว่าร่างโปร่งจะหายไปหากไม่จับตาดูไว้ตลอด




ท่านประธานออกไปประชุมแล้ว แต่ซันยังคงยืนนิ่งไม่พูดอะไรจนอาจารย์สอนพิเศษจำเป็นเริ่มรู้สึกอึดอัด “จะจ้องอีกนานมั้ยครับ เริ่มเรียนได้แล้ว”




“พี่ภัทร...ไม่โกรธผมแล้วเหรอครับ?”




“จะเรียนที่ไหนครับ” ภรัณยูแกล้งทำเป็นหูทวนลม “ที่นี่หรือว่ามีห้องอื่น”




ทินกรมองหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาไม่เข้าใจ ร่างสูงเอื้อมมือมาดึงกระเป๋าหนังสือของคนอายุมากกว่าไปถือทั้งที่ตัวเองก็หอบหนังสือมามากมาย “ไปข้างบนแล้วกันครับ”





“นี่ คุณทิน ผมถือกระเป๋าเองได้ เดี๋ยวก็ตกหรอกครับ”




ร่างสูงที่เดินนำแขกของบ้านขึ้นบันไดมายังคงเดินต่อไป ทินกรใช้ไหล่ดันประตูห้องที่อยู่ใกล้กับบันไดที่สุดให้เปิดออกแล้วเดินเข้าไป กองข้าวของทั้งหมดลงบนโต๊ะเขียนหนังสือตัวยาวที่อยู่ติดกับประตูห้อง ไม่สนใจร่างโปร่งที่เดินตามมาแม้แต่น้อย




“คุณทิน...อื้อ!”



โดนจูบอีกแล้ว...



คราวนี้ภรัณยูตั้งสติได้เร็วกว่ารอบที่แล้ว ดันไหล่อีกฝ่ายออกไปจนสุดช่วงแขน



“นี่คุณ! เลิกทำแบบนี้ซะทีได้มั้ย!”




“ผมบอกแล้วว่าให้เลิกเรียกผมแบบนั้น”




เจ้าของชื่อกดเสียงต่ำ ทั้งที่เป็นแค่เด็กแท้ๆแต่ไม่รู้ทำไมสีหน้าของอีกฝ่ายดูน่ากลัวกว่าท่านประธานเวลาโมโหเสียอีก




“….จะเรียนตรงไหน”




 ภรัณยูที่ทำตัวไม่ถูกแกล้งหันไปมองสำรวจห้องนอนของเด็กหนุ่ม ห้องนอนขนาดใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัวอัดแน่นไปด้วยชั้นหนังสือบิวท์อินกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของผนัง แต่นอกจากนั้นเฟอร์นิเจอร์ในห้องมีเพียงตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน ตู้เย็นขนาดกลาง โต๊ะเขียนหนังสือตัวยาวและโทรทัศน์จอแบนกับชุดเครื่องเสียงที่ติดอยู่กับผนัง กับเตียงนอนขนาดคิงไซส์สไตล์เรียบๆที่เห็นได้ตามร้านขายเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป ที่เหลือเป็นเพียงพื้นที่โล่งมากพอที่จะเอาเตียงเข้ามาวางอีกตัวแล้วยังคงมีทางเดินได้สะดวก 




ไม่เหมือนกับที่คิดไว้เลยแฮะ




ไม่สิ...ทำไมเขาถึงต้องคิดถึงห้องนอนของทินกรด้วยล่ะ?!




“บนเตียงก็ได้ครับ”




เจ้าของห้องตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลีย หยิบกระเป๋ากับสมุดเปล่าและปากกามาวางบนเตียง




“พี่ภัทรจะทานอะไรมั้ยครับ”




ภรัณยูส่ายหน้า นั่งลงบนเตียงของอีกฝ่ายอย่างถือวิสาสะแล้วเปิดซิปกระเป๋า ทินกรเดินไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบน้ำขวดเล็กออกมาสองขวดก่อนจะกลับมานั่งลงบนเตียงอีกฝั่ง เด็กหนุ่มยื่นขวดน้ำให้ร่างโปร่งแล้วหยิบสมุดของตัวเองขึ้นมาเปิด




“พี่ภัทรครับ”



“หืม?”



เจ้าของชื่อหยิบแบบเรียนภาษาไทยที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวานกับแบบฝึกหัดที่มีหน้าปกเป็นรูปการ์ตูนสีสันสดใสออกมา




“ทำไมพี่ถึงมาสอนผมล่ะครับ?”



“….” ร่างโปร่งยื่นหนังสือทั้งสองเล่มให้คนตรงหน้า “ถ้าอยากให้เป็นคนอื่น ผมไปก็ได้นะ”




เด็กหนุ่มส่ายหน้าอย่างรุนแรงจนคนมองเกือบจะหลุดขำออกมา



น่ารัก...



“ขอบคุณนะครับที่มา”




“อืม” ภรัณยูเอื้อมไปเปิดหนังสือในมือของร่างสูง เขยิบเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นเพื่อให้สะดวกต่อการสอน “ถ้าเป็นเด็กดี พี่อาจจะมีรางวัลให้ก็ได้นะ....ซัน”




เจ้าของชื่อหูผึ่ง หันขวับมามองคนพูดด้วยดวงตาระยิบระยับเหมือนสุนัขตัวโตที่เพิ่งได้รับรางวัลจากเจ้าของเป็นครั้งแรก




“มองอะไรเล่า จะเรียนไม่เรียน”



“เรียนครับๆ”




เด็กหนุ่มก้มลงอ่านหนังสือในมืออย่างขะมักเขม้น คลาดกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนริมฝีปากของภรัณยูอย่างห้ามไม่อยู่เพียงเสี้ยววินาที







ตอนที่ได้ยินเจนจิราพูดว่าคุณทินกรอ่านภาษาไทยได้แย่กว่าเด็กประถม ภรัณยูคิดว่าเขาแค่พูดให้มันฟังดูเกินจริงเฉยๆ




ตอนนี้เขารู้แล้ว ว่าเคสนี้มันเกินเยียวยาจริงๆ



“ตำรวจทำวิ เอ่อ...วิสาขบูชา?”




“วิสามัญฆาตกรรม”




 ภรัณยูออกเสียงช้าๆชัดๆอย่างอดทน ทินกรขมวดคิ้วมองริมฝีปากปากสีชมพูระเรื่อนั้นอย่างไม่เข้าใจ ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะมองไม่เห็น คนสอนจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้




“วิ-สา-มัญ-”




“พี่..พี่ภัทรเขยิบออกไปหน่อยได้มั้ยครับ” เด็กหนุ่มขัด เบี่ยงตัวหนีเล็กน้อย




“ทำไม? ปากเหม็นเหรอ?”ภรัณยูรีบเอามือปิดปากอย่างตกใจ นี่เขาเพิ่งแปรงฟันมานะ




“เปล่าครับ...คือ...มันใกล้ไป ผมไม่มีสมาธิ”




เด็กหนุ่มหลุบตาลงต่ำ ชายหนุ่มมองตามสายตาของอีกฝ่ายลงมาที่ขาของตัวเองซึ่งแทบจะเกยตักอีกฝ่ายอยูรอมร่อ




“โทษๆ” คนลืมตัวรีบขยับตัวออกมานั่งที่เดิม “พี่ว่า...เราลองเปลี่ยนวิธีเรียนดีมั้ย”




“ครับ?” ทินกรปิดสมุด สีหน้าของร่างสูงดูไม่มีความสุขกับการเรียนจนน่าสงสาร ภรัณยูลุกขึ้นจากเตียงเพื่อยืดเส้นยืดสาย แล้วไล่ดูแผ่นหนังที่วางเรียงกันอยู่บนชั้นลอยอย่างสนใจ




“ซันชอบหนังแบบไหนเหรอ?”



“ผมเหรอครับ? จริงๆผมก็ดูได้ทุกแนวนะ แต่ส่วนใหญ่ผมจะชอบพวกหนังสยองขวัญ”



คนที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียงตอบ



“พี่ชอบหนังตลก”




คนที่กำลังสำรวจชั้นวางพูดโดยไม่หันกลับไปมองอีกฝ่าย พยายามทำเหมือนคำแทนตัวเองที่เปลี่ยนไปของตนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เมื่อเจอหนังโรแมนติกคอมเมดี้ที่ไม่รู้ว่าหลงเข้ามาอยู่ในชั้นนี้ได้อย่างไรเลยดึงออกมาดู “เรื่องนี้สนุกดีนะ”




“ครับ?” ทินกรยังคงตามไม่ทัน ภรัณยูกดเปิดเครื่องโฮมเธียเตอร์แล้วใส่แผ่นเข้าไป ก่อนจะกลับมานั่งข้างอีกฝ่ายบนเตียงเช่นเดิม




“ปกติซันใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักใช่มั้ย” ร่างโปร่งหันไปถามเพื่อความมั่นใจ



“ครับ"




“พี่จะเปิดซับไตเติ้ลภาษาไทย พี่อยากให้ซันอ่าน แล้วฟังไปด้วยว่าคำคำนั้นแปลว่าอะไร ถ้าคำไหนไม่ได้ก็กดปุ่มหยุด แล้วถามพี่ ตกลงมั้ย”




เด็กหนุ่มพยักหน้า ดูสนอกสนใจความคิดนี้ไม่น้อย อาจารย์พิเศษกดปุ่มเล่นแล้วเอนตัวพิงหมอนใบใหญ่ที่กองกันเป็นภูเขาทั้งที่มีคนนอนแค่คนเดียว ฟังอีกฝ่ายอ่านซับไตเติ้ลของหนังอย่างตั้งใจ แม้จะมีผิดบ้างถูกบ้าง แต่ก็นับว่าทำได้ดีกว่าการอ่านตำราก่อนหน้านี้มาก




“จบแล้วครับ”




 ทินกรหันมายิ้มให้คนที่เลื้อยลงไปนอนฟังบนเตียงนุ่มตั้งแต่กลางเรื่อง




“ไม่เลวนี่” ภรัณยูชันตัวขึ้นนั่ง กระดิกนิ้วเรียกให้อีกฝ่ายเขยิบเข้ามาใกล้ๆ “อยากได้รางวัลอะไรล่ะ”




“อะไรก็ได้เหรอครับ?”เด็กหนุ่มทำท่าเหมือนไม่รู้ว่าควรจะระแวงหรือควรจะตื่นเต้นดี




“อืม…อะไรก็ได้”




“ถ้างั้น...” ใบหน้าคมโน้มลงมาใกล้ ร่างโปร่งหลับตาลงรอรับสัมผัสของริมฝีปากได้รูปอย่างรู้ทัน




ว่าแล้วว่าต้องมาไม้นี้ไอ้เด็กลามก



ริมฝีปากอุ่นทาบลงบนหน้าผากอย่างแผ่วเบา แต่กลับส่งกระแสไฟฟ้าให้วิ่งพล่านไปทั่วร่าง ภรัณยูลืมตาขึ้นพบกับใบหน้าหล่อเหลาแต่งแต้มที่ด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุขในระยะประชิดจนเลือดลมสูบฉีดดีเกินความจำเป็น




“ขอบคุณครับ”




ก่อนจะรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร คนอายุมากกว่าก็โน้มตัวเข้าไปแตะริมฝีปากลงบนริมฝีปากเรียวอย่างไม่ให้คนตรงหน้าตั้งตัว ซันเบิกตากว้างเมื่ออีกฝ่ายผละออกมา




“อันนี้แถม"




ภรัณยูง้อใครไม่เก่ง




เขาไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำขอโทษที่เข้าใจอีกฝ่ายผิด




แต่รอยยิ้มที่กว้างขึ้นจนแทบฉีกถึงใบหูของอีกฝ่ายทำให้ชายหนุ่มอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าทินกรรับรู้ถึงการขอคืนดีของเขาแล้ว




“พี่ภัทรครับ”




“ว่าไง?” ชายหนุ่มถาม เก็บข้าวของบนเตียงไปวางบนโต๊ะหนังสือแก้เขิน



“คืนนี้นอนที่นี่นะครับ”




“!!!!!”

---------

 :katai5: :katai5: :katai5:

ตอนหน้าเตรียมพบกับน้องมีนและคุณเชษฐ์ซะที55555
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 25-02-2018 10:44:02
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-02-2018 13:41:20
จ้ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Jadd ที่ 25-02-2018 16:05:44
ว้าว  :L2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 25-02-2018 18:12:46
เด็กมันยั่วเลยหลวมตัวไปหน่อย...  นึกเพลงนี้ขึ้นมาเลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 25-02-2018 19:18:30
กรี๊ดด มันดีต่อใจเหลือเกินจ้าาา
อ่านงานคุณลิตเติ้ลพิกทุกเรื่องเกลียดพระเอกมันทุกเรื่องเลยค่ะ หมั่นไส้ เหม็นความรัก ฉันเกลียดดด ฮ่าๆตอนหน้าหนูมีนของแม่
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 25-02-2018 21:20:28
จ้าาาาาา เอายังไงก็ได้เลยน้องซัน

แหมมมมมม
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 26-02-2018 00:23:30
แหมๆ พี่ภัทรก็ขี้อ่อยเหมือนกันนะ   :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 26-02-2018 00:47:55
น่ารักมากครับ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 26-02-2018 01:13:24
คุยกันแบบผู้ใหญ่ๆ5555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-02-2018 01:20:57
สุดท้ายก็อ่อยซันจนได้นะภัทร  o18
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 26-02-2018 03:50:14
 :katai2-1:


อมตะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 26-02-2018 15:31:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-02-2018 19:31:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 26-02-2018 22:10:24
โถ คุณน้องซันนน เอ็นดู :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 2 100% P.2 คห 33 (25/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kikilululu ที่ 27-02-2018 00:08:03
จริงๆคุณภัทรก็ไม่ได้นิ่งๆเอื่อยๆอย่างที่คิด แค่คิดในใจมากกว่าพูดเงี้ยะ สรุปคือบ้านนี้เจ้าเล่ห์กันทั้งบ้านสินะ หุหุหุหุ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 27-02-2018 08:38:31
Chapter 3: ทางที่เลือกเดิน





มีนาไม่อยากเชื่อว่าเขากำลังจะทำอะไรแบบนี้




เด็กหนุ่มยืนเก้ๆกังๆอยู่บนถนนสายยาวที่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นสถานที่สำหรับ 'เด็กขาย' มายืนอวดสินค้ารอให้ลูกค้ามาเลือกชม ท่ามกลางเด็กวัยรุ่นหลายสิบชีวิตในชุดล่อแหลมยื่นเท้าแขนแอ่นสะโพกอวดสัดส่วนที่เติบโตก่อนวัยอันควร ร่างเล็กอยู่ในชุดกางเกงยีนส์ขาสั้นและเสื้อคอเต่าแขนกุดสีเลือดหมูขับผิวขาวให้ยิ่งดูผ่อง เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนตามธรรมชาติเป็นประกายยามกระทบแสงไฟ ใบหน้าขาวปราศจากเครื่องสำอางค์ หากแต่ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกลมโตกับริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูอิ่มน้ำกลับทำให้เขาดูโดดเด่นจากผู้คนรอบข้างที่จัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผมไม่เว้นหญิงชาย แต่เด็กหนุ่มกลับไม่ยินดีกับความเด่นของเขาในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย





สำหรับนักศึกษาทุนอย่างเขา เงินเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตยิ่งกว่าอากาศที่หายใจเข้าออก กว่าจะได้เข้ามาเรียนในคณะแพทยศาสตร์ที่ใครหลายคนใฝ่ฝันด้วยทุนเต็มจำนวนไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบ้านของเขาเรียกได้ว่าดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุของยาย และเงินเก็บที่เหลืออยู่น้อยนิดซึ่งตอนนี้หมดไปกินค่ารักษาพยาบาลของมารดาที่ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง





มีนารู้ดีตั้งแต่วันที่สอบติด ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดเขาต้องเป็นคนออกเองจนกว่าจะเบิกเงินคืนได้ตอนปลายเทอม อีกทั้งค่ากินค่าอยู่ที่ไม่ครอบคลุมในทุนการศึกษา เขาได้แต่ภาวนาว่าตนจะสามารถกู้ยืมอะไรได้บ้างเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัวที่มีกันอยู่แค่สามคน




แต่ก็ไม่มีหวัง





เด็กหนุ่มก้มมองเสื้อผ้าอวดเนื้อหนังที่ตนซื้อมาจากตลาดหลังมหาวิทยาลัยอย่างสมเพชตัวเอง เพื่อนของเขาที่ขายของที่ตลาดนัดเดียวกันนั้นแนะนำงานนี้ให้กับเขา ด้วยความจนตรอก เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจลองดูสักตั้ง




เกิดมาจน...จะโทษใครได้




ร่างเล็กสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะขยับเข้าไปอยู่ในแสงไฟเพื่อให้รถที่ขับผ่านไปมาได้เห็นเขาชัดขึ้น




ขอให้คืนนี้ผ่านไปได้ด้วยดี







ธีรเชษฐ์กำลังหงุดหงิด




ร่างสูงของนักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบสองปีเจ้าของเครือธุรกิจใหญ่ยักษ์ระดับต้นๆของประเทศขยับตัวอย่างเมื่อยขบในรถสปอร์ตคันหรู มองถนนสายหลักยามค่ำคืนที่รถติดยาวจากการปิดซ่อมแซมถนน เมื่อเห็นว่าไม่น่าจะถึงจุดหมายในเร็วๆนี้ ชายหนุ่มจึงตีไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเส้นทางไปยังถนนที่คู่ขนานกับถนนเส้นนี้ แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่อโคจร แต่ถ้ามันทำให้เขาถึงคอนโดเร็วขึ้นหลังจากที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน ชายหนุ่มก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร





ร่างบอบบางที่ยืนตัวสั่นอย่างหวาดกลัวอยู่ภายใต้แสงไฟสะกดสายตาของธีรเชษฐ์ไว้ทันทีที่เข้าเลี้ยวเข้ามา แม้ชายหนุ่มจะไม่เคยมาเที่ยวในที่แบบนี้ แต่เขาค่อนข้างมั่นใจว่าคนตรงหน้าดูไม่เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบแม้แต่น้อย




อายุถึงสิบแปดรึยังล่ะนั่น...





เขาได้แต่ส่ายหัวกับโลกที่หมุนเร็วเกินไปจนเขาตามไม่ทัน ได้แต่นึกสงสารพ่อแม่ของเด็กแบบนี้ที่ลูกมาเร่ขายร่างกายตัวเองเพียงเพื่อเงินไม่กี่บาท





ทว่ายิ่งขับเข้าไปใกล้ สีหน้าตื่นกลัวของอีกฝ่ายยิ่งทำให้เขาตัดใจขับผ่านไม่ลง ชายหนุ่มชะลอลดลงจอดตรงหน้าของเด็กน้อยที่สะดุ้งโหยง แล้วลดกระจกลง มีนามองชายหนุ่มที่เขาคิดว่าไม่น่าจะอายุเกินสามสิบห้าในชุดสูทสีเทาเข้ม ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับนายแบบนิตยาสารกำลังจ้องตรงมาที่เขาดวงดวงตาคมดุสีเทาเข้ากับชุด




ลูกครึ่งเหรอ?




"ขายมั้ย?"




"..." มีนกระพริบตาปริบๆ ดวงหน้าน่ารักเอียงคออย่างงุนงง หันรีหันขวางอย่างไม่มั่นใจว่าอีกฝ่ายพูดกับเขารึเปล่า




"ฉันถามว่าขายมั้ย" เสียงเข้มเอ่ยอย่างเริ่มหมดความอดทน คนขี้ตกใจสะดุ้งโหยง




"ขาย...ขายครับ"




"ขึ้นมา" อีกฝ่ายพยักเพยิดไปทางประตูรถอีกฝั่ง มีนกลืนน้ำลาย ทว่าสายตาดุๆของคนตรงหน้าทำให้เขายอมเดินไปขึ้นรถอย่างเชื่อฟัง




เอาเถอะ...ถ้าโดนลักพาตัวไปฆ่าก็ถือว่าเป็นค่าโง่ของเขาเองก็แล้วกัน





รถสปอร์ตสีดำสนิทกระชากตัวกลับเข้าสูท้องถนน ธีรเชษฐ์ที่ยังคงสับสนว่าตนเรียกอีกฝ่ายขึ้นรถมาทำไมนั่งเงียบ สายตาไม่ละจากท้องถนนแต่หางตาเหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มที่พยายามจดจำเส้นทางตลอดเวลา ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้มมุมปาก




ฉลาดเหมือนกันนี่




"อายุเท่าไหร่แล้ว?"





"ครับ?" มีนารีบหันมาทันทีที่ได้ยินเสียงของเจ้าของรถ ธีรเชษฐ์เคาะพวงมาลัยอย่างหงุดหงิด





"ฉันไม่ชอบพูดซ้ำ"




"เอ่อ สิบแปดครับ" มีนโกหกเสียงสั่น แต่จริงๆอีกไม่นานเขาก็จะสิบแปดแล้ว ไม่ถือว่าเป็นคำโกหกเท่าไหร่...ล่ะมั้ง




"..." เท่าลูกชายคนเล็กของเขา




ธีรเชษฐ์รู้สึกโหวงในใจอย่างประหลาดเมื่อนึกว่าเด็กอายุแค่นี้ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ชายหนุ่มจมอยู่ในความคิดของตัวเองจนกระทั่งร่างที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ




"เอ่อ...คุณ...ชื่ออะไรเหรอครับ?"




"เชษฐ์ เธอล่ะ"  ร่างสูงถือโอกาสถาม




"มีนครับ" เด็กหนุ่มตอบแล้วเงียบไปอีกครั้งอย่างไม่รู้จะชวนคุยอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนควรจะชวนอีกฝ่ายคุยหรือไม่





ทำไมถึงไม่มีคู่มือเตรียมตัวสำหรับเด็กขายบริการบ้างนะ... ร่างเล็กลอบถอนหายใจ รถคันหรูเลี้ยวเข้าไปในลานจอดรถของคอนโดขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่เด็กหนุ่มเคยเห็นในโฆษณาว่าเริ่มที่ห้องละสิบล้าน ร่างบางเริ่มใจไม่ดีขึ้นมาอีกครั้ง





นี่เขาไม่ได้ขึ้นรถมากับเจ้าพ่อมาเฟียอะไรเทือกนั้นหรอกใช่มั้ย




"ลงมา" เด็กหนุ่มทำตามคำสั่งทันทีด้วยกลัวว่าจะโดนดุอีกครั้ง ร่างเล็กเดินตามชายหนุ่มที่เมื่อยืนตรงแล้วตัวสูงกว่าเขาร่วมสามสิบเซ็น น่าจะประมาณร้อยเก้าสิบกว่าๆ




ลูกครึ่งแน่ๆ




"เร็ว" เสียงดุสั่งอย่างหงุดหงิด




ครึ่งคนครึ่งยักษ์...








"โห..."





ร่างเล็กเบิกตากว้างมองไปรอบห้องที่อยู่ชั้นบนสุดของคอนโดหรูอย่างชื่นชม ห้องชายโสดหนึ่งห้องนอนถูกจัดอย่างเป็นระเบียบและใช้พื้นที่ใช้สอยทุกตารางนิ้วอย่างคุ้มค่าไปกับห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอนที่จัดอย่างเป็นสัดส่วน ไม่คิดว่าชาตินี้เขาจะได้เห็นของจริงเป็นบุญตา




"ชั่วโมงละเท่าไหร่?" ร่างสูงถามพลางปลดหัวเข็มขัดแล้วดึงรูดออกมา มีนที่ลืมไปชั่วคราวว่าตนมาทำอะไรถอยกรูดไปติดผนังตามสัญชาตญาณ ทำเอาคนที่แค่จะถอดชุดเปลี่ยนเสื้อผ้าตามความเคยชินเกือบหัวเราะออกมา




เด็กหนอ....




น่าแกล้งจริงๆ




"ว่าไง"




"เอ่อ... เท่าไหร่ก็ได้ครับ" ทำไมเขาถึงไม่ศึกษาเรื่องช่วงราคามาก่อนนะ





ร่างสูงเลิกคิ้ว โยนเข็มขัดลงบนเก้าอี้ข้างเด็กหนุ่ม มือใหญ่ยกขึ้นรูดเนคไทค์ออกจากคอแล้วโยนไว้ที่เดียวกับเข็มขัดอย่างไม่ใส่ใจเพราะมัวแต่สนุกอยู่กับใบหน้าที่ซีดเผือดลงเรื่อยๆของเด็กตรงหน้า




ทั้งที่ตั้งใจว่าจะให้เงินแล้วไล่ลงไปตั้งแต่ก่อนถึงคอนโดแท้ๆ





เธอผิดเองนะ...เด็กน้อย




"หมื่นนึงเหมาทั้งคืน แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปส่ง พอมั้ย?"




"หมื่นนึง?!" มีนทวนคำเสียงหลง ร่างบางรีบส่ายหน้าพรืด "เยอะเกินไปแล้วครับ!"




"นี่เธอคิดว่าตัวเองมีค่าน้อยขนาดนั้นเลยเหรอ?" ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ "อย่าดูถูกตัวเองแบบนั้น"




แค่มาทำอะไรแบบนี้ก็ดูถูกตัวเองมากพอแล้วล่ะครับ.... เด็กหนุ่มคิดอย่างเพลียจิต




"จะไปที่เตียงเลยมั้ย หรือจะอาบน้ำก่อน?" ร่างสูงถาม ปลดกระดุมเสื้อลงทีละเม็ด มีนาที่พอได้ค่าจ้างก็รีบเสนอตัวช่วยทันทีด้วยความเกรงใจ




"เดี๋ยวผมทำให้ครับ" เด็กหนุ่มรีบก้าวมาหาร่างสูง มือเรียวช่วยปลดกระดุมเม็ดที่เหลือ มีนาลอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยเมื่อหน้าท้องที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามเป็นลอนเหมาะกับผิวสีขาวที่เข้มขึ้นตามแสงแดดอย่างคนเล่นกีฬาปรากฎแก่สายตา




คนแบบนี้ดูไม่น่าจะมีปัญหาในการพาใครขึ้นเตียงโดยไม่ต้องเสียเงิน




คนรวยนี่เข้าใจยากจัง...




"กางเกงด้วยสิ" เสียงทุ้มสั่งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงจากที่ผ่านมา ธีรเชษฐ์ถอดเสื้อแล้วโยนลงบนพื้น กอดอกรอเด็กน้อยด้วยสายตาที่เขาอ่านไม่ออก มีนาก้มลงแกะตะขอกางเกงของอีกฝ่ายอย่างงุ่นง่าน ดึงซิปลงอย่างเชื่องช้า แล้วดึงกางเกงลงให้
ร่างสูงก้าวออกมา แล้วเก็บเอาเสื้อที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาพับอย่างคล่องแคล่ว แล้ววางลงบนเก้าอี้




"แม่บ้านแม่เรือนจังนะ"ชายหนุ่มอดแซวไม่ได้ คนถูกทักยิ้มเขิน




"ผมไม่ค่อยชอบอะไรรกๆน่ะครับ"




"แล้วตกลงจะอาบน้ำก่อนมั้ย?"




ธีรเชษฐ์ถามย้ำ มีนาที่พอจะทำใจได้บ้างแล้วหลังจากได้พูดคุยกับอีกฝ่ายส่ายหน้า ถ้าครั้งแรกของเขาจะเป็นคนแปลกหน้า คนตรงหน้าก็ดูจะไม่ใช่ทางเลือกที่เลวร้ายเท่าไหร่




ร่างสูงที่ตอนนี้มีเพียงชั้นในสีดำสนิทแนบเนื้อติดกายจนเรียกได้ว่าไม่สามารถอำพรางอะไรได้แม้แต่น้อยเดินนำเขาไปยังห้องนอน มีนที่ทำหน้าเหมือนสัตว์ที่กำลังจะเข้าโรงเชือดเดินตามเข้าไปในห้องอย่างว่าง่าย ทันทีที่พวกเขายืนอยู่หน้าเตียง ชายหนุ่มก็ก้าวเข้ามาประชิดตัวเด็กน้อยตรงหน้า นิ้วชี้เรียวยาวเชยคางเรียวขึ้นก่อนจะประกบริมฝีปากลงมา มีนาที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเม้มปากสนิทอย่างตกใจ ชายหนุ่มส่งเสียงในลำคออย่างหงุดหงิด ใช้มือบีบกรามของอีกฝ่ายเบาๆให้อ้าปากรับลิ้นร้อนที่ตรงเข้าไปสำรวจในโพรงปากนุ่มทันที




มีนาคว้าแขนอีกฝ่ายไว้ด้วยความตกใจกับสัมผัสแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รับ เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าตนจะต้องทำอย่างไรจึงได้แต่ยืนนิ่งปล่อยให้ลิ้นที่ช่ำชองหยอกล้อกับลิ้นเล็กของตนจนกว่าจะพอใจ ชายหนุ่มดูดดึงริมฝีปากล่างของเด็กน้อยอย่างเพลิดเพลินสลับกับหยอกล้อลิ้นเล็กที่ไม่ประสีประสาก่อนจะยอมถอนจูบเมื่อรู้สึกว่าร่างเล็กกว่าเริ่มหายใจกระชั้นขึ้น




"แฮ่กๆ" มีนหอบหายใจราวกับตนไปวิ่งมาราธอนมาสักยี่สิบกิโลเมตร เอนหัวซบอกแกร่งอย่างเผลอตัว




"เอ้าๆ แค่นี้ก็ยอมแพ้แล้วเหรอ" ร่างสูงหัวเราะเสียงต่ำ ดันร่างเล็กที่ยืนไม่ค่อยจะอยู่ให้นอนราบลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล



"อย่าเพิ่งหมดแรงสิเด็กน้อย คืนนี้ยังอีกยาวไกล"




"มะ...ไม่ปิดไฟเหรอครับ" มีนถาม ห้องสว่างจ้าแบบนี้...ก็เห็นหมดน่ะสิ




"ไม่ล่ะ ฉันอยากเห็นหน้าเธอชัดๆ"




มือใหญ่สอดเข้าไปใต้เสื้อของอีกฝ่าย ลูบไล้ขึ้นไปตามหน้าท้องแบนราบ สะกิดตุ่มไตใต้ร่มผ้า คนถูกแกล้งกัดริมฝีปากกลั้นเสียงประหลาดในลำคอ นอนตัวแข็งทื่อด้วยไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร




"อย่าเกร็ง..." ร่างสูงกระซิบชิดริมหู ทาบริมฝีปากลงบนหลังใบหูของร่างข้างใต้อย่างแผ่วเบา เรียกเสียงหวานให้หลุดรอด
ออกมาจากริมฝีปากรูปกระจับอย่างลืมตัว "ร้องออกมาอีกสิ"




มีนาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจัดการกับเสื้อผ้าของเขาตอนไหน รู้ตัวอีกที่ขาเรียวเปลือยเปล่าก็ถูกอีกฝ่ายจับแยกออกเสียแล้ว ชายหนุ่มหยิบขวดเจลที่วางอยู่ข้างเตียงมาเปิดฝาแล้วเทลงบนมือ ก่อนจะก้มลงมอบจุมพิตหอมหวานให้กับเด็กน้อยบนเตียงพร้อมกับสอดนิ้วเข้าไปที่ช่องทางคับแคบช้าๆ




"ฮึก เจ็บ!" มีนาร้องออกมาทันทีที่รับรู้ถึงสิ่งแปลกปลอมในช่องทางที่ยังไม่เคยมีใครแตะต้อง ร่างเล็กพยายามกระถดตัวหนีแต่ถูกมืออีกข้างของธีรเชษฐ์ยึดสะโพกไว้




“ทนหน่อยนะ"




 ชายหนุ่มกระซิบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ลิ้นร้อนหยอกเย้ายอดอกที่ตึงแน่นจากการถูกปลุกเร้าเพื่อช่วยลดความเจ็บของร่างเล็ก ขยับนิ้วที่ชโลมไปด้วยสารหล่อลื่นช้าๆเป็นจังหวะอย่างใจเย็นเสียจนตัวเองยังแปลกใจ




เขาเป็นคนรุนแรง…คำคำนี้ยังฟังดูเบาไปสำหรับความเป็นจริงด้วยซ้ำ



หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 27-02-2018 08:38:59

ธีรเชษฐ์เป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรงมาตั้งแต่เด็ก ทั้งมารดาและบิดาที่แยกทางกันตั้งแต่เขาจำความได้มักจะส่งเขาไปเล่นกีฬาหรือเรียนศิลปะป้องกันตัวสักรูปแบบเพื่อระบายความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ข้างในรอวันระเบิดของร่างสูง แต่นั่นก็ยังไม่สามารถช่วยเขาได้มากเท่าที่ธีรเชษฐ์อยากให้เป็น




จนกระทั่งเขาได้พบกับเกศรา หญิงสาวรุ่นพี่ที่ก้าวเข้ามาในชีวิตเขาผ่านทางคนรู้จัก ธีรเชษฐ์ที่ในตอนนั้นเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยรุ่นมุทะลุตกหลุมรักนางฟ้าแสนอ่อนโยนองค์นั้นเข้าอย่างจัง





ธีรเชษฐ์ใช้เวลาร่วมปีในการตามตื๊อ มอบของขวัญ และโทรคุยกับหญิงสาวเพียงเพื่อที่จะได้บอกราตรีสวัสดิ์ แม้จะมีนอกลู่นอกทางบ้างตามประสาวัยรุ่น แต่นี่ก็เรื่องที่เสือผู้หญิงที่ไม่เคยต้องเดือดร้อนเรื่องนี้ล้วนแล้วแต่ไม่เคยทำ ทว่าสิ่งที่หญิงสาวตอบกลับมามีเพียง




‘เชษฐ์เป็นน้องชายที่น่ารักของพี่แบบนี้ต่อไปเถอะนะ’




นั่นจึงทำให้ร่างสูงตกใจอย่างมากเมื่อจู่ๆเกศราก็ตอบตกลงคบกับเขาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยหลังจากไม่มีท่าทีจะยอมลงให้มาแรมปี แต่แน่นอน ธีรเชษฐ์ไม่คิดจะซักถามให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสเปลี่ยนใจ เขายังจำได้ว่าวีรภัทร เพื่อนรุ่นน้องที่อยู่ทีมบาส
เดียวกันกับตนในตอนนั้นเคยล้อเขาว่าเหมือนเสือโดนถอดเขี้ยวเล็บไม่มีผิด




ทว่าแม้จะโดนถอดเล็บออกไปแล้ว เสือก็ยังเป็นเสืออยู่วันยังค่ำ





ถึงแม้ว่าธีรเชษฐ์จะรักและซื่อสัตย์กับเกศราอย่างที่เขาไม่คิดว่าชีวิตนี้จะทำให้ใครมาก่อน ร่างสูงรับรู้ถึงปัญหาที่พวกเขามีได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่หญิงสาวรุ่นพี่ยอมให้ตนได้สัมผัสเพียงไม่กี่ครั้ง





แม้จิตใจจะตรงกัน แต่ร่างกายของเกศรานั้นไม่สามารถรองรับอารมณ์ของเขาได้ทั้งหมด และเรื่องนั้นหญิงสาวเองก็รู้ดี





หลังจากที่เกศรามีเมฆาและบิดาของเขาหมดวาระส่งค่าเลี้ยงดู ธีรเชษฐ์ทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการสร้างร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าของมารดาให้เป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามากขึ้นกว่าเดิม เพื่อสร้างอนาคต เพื่อภรรยาและลูกของเขาได้มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย ซึ่งมาพร้อมกับความเครียดเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และภรรยาที่เขาไม่สามารถแตะต้องได้ด้วยสุขภาพที่ทรุดโทรมลงเรื่อยๆหลังจากคลอดลูกคนแรก




เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนดี





ครั้งแรกที่ธีรเชษฐ์นอกกายภรรยาของตน เขาจำได้ว่าในความคิดของตัวเองมีเพียงเกศราทั้งที่หญิงสาวใต้ร่างไม่มีความละม้ายคล้ายคลึงใดๆกับนางฟ้าของเขา การได้ปลดปล่อยอารมณ์ที่จุกอยู่ในอกมาพร้อมกับความรู้สึกผิดที่ท่วมท้นจนแทบหายใจไม่ออก ธีรเชษฐ์ได้แต่นั่งอยู่ที่บันไดบ้าน ไม่กล้าแม้แต่จะเดินขึ้นไปสู้หน้าภรรยาที่กล่อมลูกน้อยเข้านอนไปตั้งแต่หัวค่ำ ชายหนุ่มกุมศีรษะที่ปวดจนแทบจะระเบิด เหวี่ยงหมัดลุ่นๆกระแทกเข้ากับผนังบ้านอย่างโมโหตัวเอง ส่งผลให้กรอบรูปวันแต่งงานของพวกเขาตกลงมากระแทกพื้นเสียงดัง ธีรเชษฐ์คุกเข่าลงเก็บเศษกระจกที่แตกกระจายบนพื้น ไม่สนใจเลือดที่ซึมออกมาตามข้อนิ้วหลังจากกระแทกกับคอนกรีต




“เชษฐ์…แค่ก…”





ร่างของชายหนุ่มเย็นวาบเมื่อได้ยินเสียงของเกศราดังขึ้นพร้อมกับเสียงไอค่อกแค่กที่กลายเป็นเสียงที่คุ้นเคยดีในบ้านหลังนี้ ธีรเชษฐ์ไม่มีหน้าแม้แต่จะหันกลับไปสู้หน้าภรรยาของตน แต่เพียงแค่เสียงฝีเท้าที่มาหยุดอยู่ข้างหลังของเขาและมีเรียวเล็กที่แต่ลงบนบ่า ก็มากพอที่จะทำให้ชายร่างสูงที่คุกเข่าอยู่บนพื้นโผเข้ากอดเอวบางไว้แล้วซุกหน้าลงกับหน้าท้องของหญิงสาว




“ผมขอโทษ…”




ธีรเชษฐ์พึมพำ ถึงแม้กรอบรูปที่แตกกระจายจะยังคงหล่นอยู่บนพื้น แต่เกศราฉลาดเกินกว่าจะรู้ว่าท่าทีของสามีเกิดจากการทำของตกแตก




แทนที่จะก่นด่า ทุบตี หรือทำอะไรก็ตามที่สมกับที่คนอย่างธีรเชษฐ์จะได้รับ หญิงสาวเพียงแต่ยกมือขึ้นลูบศีรษะของสามีอย่างอ่อนโยนก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราวกับน้ำชะโลมใจที่ไม่ว่าจะได้ยินสักกี่ครั้งเขาก็ไม่มีวันเบื่อ




“ไม่เป็นไรหรอกเชษฐ์…”ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมองเกศราอย่างประหลาดใจ แต่เกศราเพียงแค่ยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ “…เกศเข้าใจ เกศเข้าใจจริงๆนะ”




ราวกับว่านั่นเป็นข้อตกลงที่คนสองคนไม่จำเป็นต้องเอื้อนเอ่ยออกมา




สภาพร่างกายของเกศราทรุดหนักลงเรื่อยๆหลังจากมีลูกชายคนที่สอง ทั้งที่ธีรเชษฐ์มั่นใจว่าตนป้องกันทุกวิถีทางแล้ว ร่างสูงถึงกับไม่ยอมแตะต้องภรรยาของตนอีกหลังจากนั้น แม้ว่าทุกครั้งที่นำอารมณ์ไปลงกับคู่นอนคนอื่น ในห้วงความคิดของ
เขาจะไม่เคยปรากฎภาพใครนอกจากเกศราก็ตาม




ครั้งสุดท้ายที่เขาเผลอไผลไปกับอารมณ์ชั่ววูบในวันครบรอบแต่งงานของเขากับเกศรา เกิดผลลัพธ์เป็นทินกร ลูกชายคนสุดท้อง และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี เกศราก็ไม่สามารถลุกขึ้นจากรถเข็นที่เธอใช้อีกตลอดชีวิต




 หลังจากที่ภรรยาของเขาเสียไปเมื่อสี่ปีก่อน ธีรเชษฐ์ก็ไม่เคยมีคนรักใหม่ เขาอาจจะมีคู่นอนเป็นดาราหรือนางแบบสาวที่แวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสายบ้าง แต่ทุกคนก็รู้ว่าเขาเพียงต้องการที่ระบายความใคร่ เซ็กซ์ที่เกิดขึ้นจึงเร่าร้อน รุนแรง ไร้ซึ่งความรู้สึก





แต่กับคนตรงหน้า เขากลับไม่ได้รู้สึกอยากจะทำอะไรรุนแรงอย่างที่ตนทำกับคู่นอนคนอื่นมากนัก





คงเพราะเป็นเด็ก...




หรืออาจเป็นเพราะดวงตาใสซื่อที่แฝงไปด้วยอดีตที่หนักอึ้งซึ่งทำให้เขานึกถึงคู่ชีวิตที่ลาจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับก็เป็นได้




มีนาพยายามสูดลมหายใจเข้าออกปรับจังหวะให้เข้ากับแรงกระแทกของนิ้วเรียวยาว เริ่มรู้สึกถึงความเสียวซ่านเมื่อนิ้วชองอีกฝ่ายกระแทกจุดบางอย่างในตัวของเขา แต่ร่างกายเพิ่งจะปรับตัวได้ไม่นานนิ้วที่สองและสามก็ถูกแทรกเข้ามาอย่างไม่บอกกล่าว ร่างบางแอ่นสะโพกรับอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้




"อ๊ะ..."




"ชอบมั้ย?" เสียงทุ้มถาม คนขี้อายหน้าขึ้นสีเรื่อ พยักหน้าเล็กน้อย เรียกรอยยิ้มมุมปากจากใบหน้าหล่อเหลาได้เป็นอย่างดี



"เด็กดี..."




นิ้วของอีกฝ่ายถอนออกไปอย่างเชื่องช้า ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยบางอย่างที่ใหญ่กว่ามาก มีนจิกผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อรู้สึกถึงการรุกราน ริมฝีปากได้รูปของชายหนุ่มที่วนเวียนอยู่ตรงหน้าอกทำให้เขาลืมความเจ็บปวดได้บ้างแต่ก็ไม่มากนัก ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วกับความคับแน่นที่บีบรัดเสียจนเขาแทบทนไม่ไหว




"อา...อย่ารัดมากสิ.."




"ขอ..ขอโทษครับ อ๊ะ...อะ...”




 เสียงครางหวานหูดังขึ้นเรื่อยๆเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับ ความเจ็บปวดแปรเปลี่ยนเป็นความเสี่ยวซ่าน มีนายกแขนขึ้นคล้องคอชายหนุ่มเพื่อหาที่ยึดเกาะจากการถูกกระแทกกระทั้นเสียจนตัวโยน ธีรเชษฐ์ฝังใบหน้าลงบนซอกคอขาว สูดกลิ่นหอมอ่อนๆของแป้งอบที่เขาไม่ได้กลิ่นมานานมากแล้ว




เด็กประหลาด




Rrrrrr




เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดกิจกรรมเข้าจังหวะของทั้งคู่ ธีรเชษฐ์กัดฟันอย่างสะกดกลั้นอารมณ์แต่จำต้องเอื้อมมือไปหยิบ
โทรศัพท์ด้วยกลัวว่าจะมีเรื่องด่วน มองร่างที่นอนหอบหายใจยกมือปิดปากอย่างรู้งาน เห็นแล้วมันน่าแกล้งจริงๆ





"ว่าไง..."





'พ่อครับ โปรเจ็กต์ที่ดีลไว้กับทางญี่ปุ่นผ่านแล้วนะครับ จะให้ดำเนินการเลยมั้ย' เสียงลูกชายคนโตที่นิ่งขรึมเสียจนบางทีคนเป็นพ่ออย่างเขายังอดเสียวสันหลังวาบไม่ได้ดังขึ้นจากปลายสาย





"แกไม่ต้องไปหรอก..." ชายหนุ่มขยับกายเล็กน้อย มีนรีบปิดปากแน่นขึ้นแต่ดูเหมือนร่างสูงจะยิ่งได้ใจ สาวกายเข้าออกกระแทกจุดอ่อนไหวของเด็กน้อยซ้ำๆอย่างไม่ปราณี




มีนาถลึงตาที่ฉ่ำเยิ้มด้วยแรงอารมณ์ใส่เขาอย่างเหลืออด ยิ่งทำให้คนขี้แกล้งรู้สึกสนุกยิ่งขึ้น




'แล้วจะให้ใครไปครับ?'




"เดี๋ยวพ่อไปเอง"




พ่อ?




มีนรู้สึกเหมือนหัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มวูบหนึ่ง  นี่เขามีครอบครัวแล้วอย่างนั้นเหรอ?




แล้วทำไม....




"เป็นอะไรไป" ธีรเชษฐ์ที่วางสายแล้วหันกลับมาสนใจคนบนเตียง ขยับเร่งจังหวะจนเด็กหนุ่มต้องจับเขาไว้แน่นขึ้น "บอกว่าอย่ากลั้นเสียงไว้ไม่ใช่เหรอ?"




"คุณ..อ๊ะ..แต่งงานแล้วเหรอะครั..ฮะ..ฮ้า..." ร่างบางจิกเท้าเกร็งรับแทกกระแทกที่ถาโถมเข้ามาเรื่อยๆ สะโพกกลมยกขึ้นสวนแรงของชายหนุ่มตามสัญชาตญาณ เขารับรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าอีกฝ่ายใกล้จะถึงแล้ว




ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นสีขาวโพลนชั่วขณะ




ร่างสูงทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างสบายตัว ดึงร่างที่นอนหมดสภาพหลังจากถูกทำไปเพียงรอบเดียวเข้ามาในอ้อมกอด หลับตาลงซุกหน้ากับหัวไหล่มนอย่างผ่อนคลาย




"ใช่ ฉันแต่งงานแล้ว"




"แล้วภรรยา..." เด็กหนุ่มรู้สึกผิดขึ้นมาจับใจเมื่อว่าคนที่กอดเขาอยู่มีครอบครัวให้กลับไปหา




"เสียไปสี่ปีแล้ว"




ชายหนุ่มตอบเสียงห้วนเป็นเชิงตัดบทสนทนา มีนอยากจะบอกอีกฝ่ายว่าเขาเสียใจด้วยแต่ก็รู้สึกว่ามันคงแปลกพิกล เด็กหนุ่มนอนมองเพดานอย่างเหม่อลอย บรรยากาศในห้องถูกปกคลุมด้วยความเงียบจนกระทั่งธีรเชษฐ์เอ่ยขึ้นทั้งที่ยังไม่ลืมตา




"มาอยู่กับฉันมั้ย?"




"เอ๊ะ?" มีนหันไปหาคนข้างๆอย่างงุนงง




"เรื่องค่ากินค่าอยู่ ค่าเทอม ฉันจะเป็นคนออกให้พร้อมเงินเดือนต่างหาก" ชายหนุ่มพูดต่อ ดวงตาคมลืมขึ้นมองดวงหน้าน่ารักอย่างจริงจัง "มาเป็นคนของฉัน"




"เหมือน...เด็กเก็บน่ะเหรอครับ?" มีนถามอย่างไม่แน่ใจ




"ก็ดีกว่าไปเร่ขายตัวให้คนไม่รู้จักมั้ยล่ะ" นักธุรกิจหนุ่มเลิกคิ้ว "อีกอย่าง ลีลาห่วยแถมยังแข็งทื่อเป็นท่อนไม้อย่างเธอ คิดว่าจะหาเงินจากอาชีพแบบนี้ได้จริงๆเหรอ?"




"ขอโทษนะครับที่ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้น่ะ" เด็กหนุ่มเถียงอย่างน้อยใจก่อนจะตะครุบปากตัวเองอย่างรวดเร็ว
ซวยแล้วมั้ยล่ะ




"ไม่เคย..." ธีรเชษฐ์ชันตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว "ไม่เคยนี่คือ ไม่เคยทำ'อะไร'เลยงั้นเหรอ?"




"...." มีนเบือนหน้าหนี ยิ่งตอบคำถามให้คนที่กำลังสงสัยได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มถอนหายใจ ตวัดผ้าห่มที่คลุมท่อนล่างของเด็กน้อยอยู่ออกแล้วแยกขาเรียวออกจากกันอย่างคล่องแคล่ว "ทำอะไรน่ะครับ!"




"ว่าแล้ว..." ช่องทางที่บีบรัดเขาจนแทบไปสวรรค์ทั้งที่ยังไม่ได้ขยับเมื่อครู่บวมแดง โชคดีที่เขาไม่ได้รุนแรงมากทำให้ช่องทางที่ว่าไม่ได้ฉีกขาดหรือมีเลือดออก "รอนี่ เดี๋ยวไปเอายามาให้"




มีนมองตามคนที่เดินโทงๆออกไปโดยไม่สนใจจะหาอะไรมาปิดบังร่างของตนแล้วถอนหายใจ นี่มันวันอะไรของเขาเนี่ย
ไม่นานนักอีกฝ่ายก็เดินกลับมาพร้อมกับกระปุกยา ธีรเชษฐ์ใช้นิ้วปาดเอาตัวครีมออกมาเป็นจำนวนมาก แล้วป้ายลงรอบช่องทางที่บวมขึ้นเล็กน้อย มีนสะดุ้งกับความเย็นและปลายริ้วค่อยรุกล้ำเข้ามา เด็กหนุ่มพยายามไม่มอง ไม่รู้ทำไม แต่เขารู้สึกอายกับภาพตรงหน้ามากกว่าที่ถูกอีกฝ่ายทำเรื่องน่าอายก่อนหน้านี้เสียอีก




"ว่าไง ข้อเสนอของฉันน่าสนใจมั้ย" นักธุรกิจหนุ่มปิดฝากระปุกยาแล้วนั่งลงข้างคนตัวเล็กที่รีบดึงผ้าห่มมาปิดตัวเองดังเดิมมีนพยักหน้าอย่างไม่อยากยอมรับเท่าไหร่




"แต่มีข้อแม้นะครับ..." เด็กหนุ่มว่า ดึงผ้าห่มขึ้นมากอด "ถ้าคุณเบื่อผมแล้ว ผมต้องได้รับการแจ้งล่วงหน้าและเงินเดือนล่วงหน้าสามเดือน"




เขารู้ว่ามันฟังดูเห็นแก่เงิน




แต่หากเขาถูกไล่ออก มีนจำเป็นต้องมั่นใจว่าสถานะทางการเงินของตัวเองยังพอไปให้ประคับประคองตัวเองได้ตอนที่กำลังหางานใหม่




เพราะมันไม่ใช่ปากท้องของเขาคนเดียวที่เขาเป็นห่วง




"ถ้าเธอตกลงรับงานนี้ เธอจะต้องทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่างตอนที่อยู่ในห้องนี้ ห้ามเรียกร้องมากกว่าที่ฉันให้ ห้ามบอกใครเรื่องของเราโดยที่ฉันไม่อนุญาต" ธีรเชษฐ์ว่า "เข้าใจแล้วใช่มั้ย?"




มีนพยักหน้า ยังคงรู้สึกไม่มีมั่นใจว่าสิ่งที่ตนตัดสินใจไปนั้นถูกหรือไม่




"ดี พรุ่งนี้ไปเก็บของให้เรียบร้อย" ชายหนุ่มหยิบหมอนของตัวเองมาถือไว้ "ยกสะโพกขึ้น"




เด็กหนุ่มทำตามอย่างงุนงง ร่างสูงสอดหมอนเข้าไปใต้บั้นท้ายตึงที่ยังคงปวดระบมจากกิจกรรมเมื่อครู่




"คืนนี้จะได้ไม่ปวด"




"แล้วคุณเชษฐ์จะนอนยังไง...อ๊ะ" ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนบนหมอนใบเดียวกันโดยไม่บอกกล่าว ใบหน้าคมที่อยู่ใกล้แค่คืบเรียกเลือดฝาดให้มาเลี้ยงใบหน้าขาวนวลจนแดงระเรื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขารั้งร่างของอีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมกอด




น่ารักจริงๆ...




"นอนได้แล้วพรุ่งนี้ฉันไปส่ง"




"ไม่ต้องลำบากหรอกครับ ผมกลับเองได้" เด็กหนุ่มปฎิเสธอย่างเกรงใจ




"อย่าดื้อ" ธีรเชษฐ์ทำเสียงดุ เมื่อเห็นอีกฝ่ายหน้าหงอยลงไปถนัดตาจึงปรับเสียงให้นุ่มลง "ฉันอยากไปส่ง"




"ขอบคุณครับ" เสียงหวานเอ่ยเบาๆ



"นอนได้แล้ว ฉันง่วง" ร่างสูงพาดขาเกี่ยวรั้งเอวบางให้ใกล้ตัวเองมากขึ้น




"ฝันดีนะครับ"มีนายิ้ม ก่อนจะหลับตาลงตามคำสั่งของร่างสูง




"ฝันดี" สัมผัสอุ่นแตะลงบนหน้าผาก อ้อมกอดแกร่งกระชับร่างของเขาให้แนบติดกับแผงอกของอีกฝ่าย




อุ่น..




ริมฝีปากเล็กระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนที่เด็กหนุ่มจะจมสู้ห้วงนิทรา


----------
มาลงยาวๆไปหน่อย เผื่อต้องเก็บตัวอ่านหนังสือต่อจากนี้555555
หลังจากนี้ไรท์อาจจะหายไปบ้าง ขออภัยล่วงหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 27-02-2018 10:44:46
น่ารัก  :katai4: :katai4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 27-02-2018 10:52:06
มีสองคู่อ่ะ ^^
หวังว่าดราม่าจะไม่หนักหน่วงนะครับ //ขอบคุณสำหรับ 3 ตอนที่ผ่านมา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 27-02-2018 15:31:55
 :katai2-1:


เป็นอมตะอีกราย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 27-02-2018 16:50:15
เชษฐ์ก็มีมุมน่ารักนะค่ะนี่ไม่คิดว่าจะมี o13
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 27-02-2018 17:59:11
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: PAtxxkMxxn ที่ 27-02-2018 19:01:36
2คู่นี่คนละอารมณ์เลย555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ็Hollyk ที่ 27-02-2018 19:33:11
ชอบคู่รอง55555 แต่สงสัยว่าถ้าน้องมีนเก่งขนาดเป็นนักเรียนทุนเเพทย์ ทำไมต้องไปขายบริการด้วย เรียนเก่งขนาดนี้มีงานดีๆให้ทำเยอะแยะ รับสอนพิเศษยังได้เลยนะ
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 27-02-2018 21:10:55
งานละมุนนน
คาดว่าวันเกิดครบ18มีนคงโดนจัดหนัก ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 27-02-2018 23:09:20
พอเป็นมุมของเชษฏร์ก็ทำให้เราเข้าใจลุงเค้ามากขึ้นเนอะ แอบมีความอ่อนโยนกับน้องมีน o13
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 28-02-2018 01:05:42
คุณลุงเชษฐ์เนี่ยก็น่ารักนะ อ่อนโยนกับน้องมีนด้วย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 28-02-2018 02:31:39
ตาแก่ก็มีมุมนี้เหมือนกันแฮะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-02-2018 03:23:30
ได้มีนแล้วดูแลมีนให้ดี ๆ นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-02-2018 08:14:56
จ้าาา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 28-02-2018 11:23:12
น้องมีนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 28-02-2018 13:37:53
อร้ายยยยยยยย  :ling1:
น้องมีนนน เจอกันแพพเดียวเองถ่อออ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 28-02-2018 15:43:37
นึกว่าเรื่องน้องซัน

อ่านไปๆ อ๋อ คุณเชษฐ์


ชริชะ ยังอายุเท่าลูกแป๊บๆ ก็จับกิน ตาคนนี้นี่นะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 3 100% P.2 คห 49-50 (27/2/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 02-03-2018 10:18:22
Chapter 4: เอาภัทรขี้เมาหนึ่งที่ครับ

ถามว่าเมื่อคืนพวกเขาได้นอนด้วยกันมั้ย



หลังจากคำชวนที่ออกจากปากโดยไม่ผ่านสมองหลุดออกไป ภรัณยูก็ฝากรอยรักลงบนกระโหลกของเขาด้วยกำปั้นดังโป๊กเบ้อเริ่ม




‘อูย…’




‘สมน้ำหน้า เจ็บแล้วจะได้จำ’ ร่างโปร่งกอดอกมองคนที่ตนเพิ่งประทุษร้ายด้วยแววตาพึงพอใจ




‘ผมแค่กลัวพี่เดินทางลำบาก มันดึกแล้ว’ ทินกรรีบแก้ความเข้าใจผิด แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เชื่อซักนิด




‘ไปอาบน้ำนอนได้แล้ว พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าไม่ใช่เหรอ’ ชายหนุ่มคว้าประเป๋าของตัวเองมาสะพายไว้ที่ไหล่แล้วเปิดประตูห้อง ภรัณยูยืนนิ่งราวกับชั่งใจอะไรบางอย่างอยู่ ก่อนจะหันกลับมาหาเขา



‘ฝันดี’




‘ฝันดีครับพี่ภัทร’




ร่างสูงยิ้ม มองตามร่างของคนอายุมากกว่าเดินลงบันไดไปจนลับตา แล้วทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า ดวงตาสีควันบุหรี่เหม่อมองเพดานห้อง




วันนี้...พี่ภัทรมาง้อเรารึเปล่านะ




ไม่ใช่หรอกมั้ง?






“เฮ้อ..."





“จะถอนหายใจอีกนานมั้ย สร้างมลพิษให้โลก”




พายุ อัครพันธุ์ ลูกชายเจ้าของไร่ผลไม้ทางภาคเหนือ เพื่อนคนเดียวที่เขารู้จักในคณะที่นั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆเขาถาม แต่สายตาของเด็กหนุ่มผิวเข้มให้ความสนใจกับรุ่นพี่ที่กำลังอธิบายกิจกรรมรับน้องของคณะที่ดูอย่างไรก็เหมือนรับน้องมหาวิทยาลัยที่ซอยย่อยให้มีคณะน้อยลงมากกว่าทางโทรโข่งอยู่หน้าแถวของเด็กปีหนึ่งคณะบริหารที่นั่งเรียงกันเป็นแถวตอนจนเต็มพื้นที่




“น้องๆคะ อย่างที่ทราบว่าคณะของเราต้องพบปะกับผู้คนมากมาย ก่อนหน้านี้พวกเราไปร่วมกิจกรรมกับคณะอื่นๆมาเยอะแล้วเนอะ รู้กันนะเด็กๆว่าต้องทำตัวยังไง วันนี้เราจะทำกิจกรรมร่วมกับคณะแพทย์นะคะ ดูแลเพื่อนๆหมอกันด้วยน้า”




ฮิ้วววว




เสียงโห่แซวจากนักศึกษาชายดังไปถึงบริเวณข้างๆของโถงคณะ พี่ๆปีสองที่ยืนล้อมเด็กคณะแพทย์ส่ายหน้าอย่างระอา บางคนก็โห่แซวสาวบริหารกลับมาบ้างพอให้ได้หัวเราะกัน ด้วยความที่เป็นคนตัวสูง ซันจึงมองข้ามหัวคนอื่นไปได้ไกลพอสมควร สายตาของเด็กหนุ่มพลันเหลือบไปเห็นร่างที่คุ้นตาอีกร่าง มีนานั่งอยู่ท้ายแถว ร่างเล็กนั่งเหม่อไม่สนใจที่รุ่นพี่ของตนกำลังประชาสัมพันธ์ ไม่ได้คุยกับเพื่อนหรือเล่นโทรศัพท์เหมือนคนอื่น ดูแตกต่างกับเด็กอัธยาศัยดีที่เขาเจอในวันมอบตัวอยู่มากโข




“พายุ…มีนเป็นอะไรรึเปล่า”




ร่างสูงพยักเพยิดไปยังร่างที่ยังคงไม่สนใจสภาพรอบตัว




“จะไปรู้ได้ไง ไม่ได้นั่งทางในสื่อจิตถึงกันได้”




หลังจากที่ได้รู้จักกับพายุ ทินกรถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นหนึ่งในมนุษย์ที่ออดอ้อนบาทาได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดูเป็นที่สุด ที่มันตีหน้านิ่งทำเป็นขรึมเพราะต้องการสร้างความประทับใจแรกที่ดีให้กับตัวเอง แต่แค่อยู่กับมันเกินสิบนาทีเขาก็รู้สึกว่าฝ่าเท้าคันยุบยิบไปหมด ทั้งที่ทินกรคิดว่าตนเป็นคนใจเย็นกว่าคนในครอบครัวพอสมควร




"ได้เวลาแล้ว น้องๆลุกมานั่งรวมกันเลยค่ะ มาทำความรู้จักกับเพื่อนๆแพทย์กัน~"




ทั้งสองคณะลุกขึ้นพร้อมกัน เดินตามพี่ที่ถือป้ายคณะไปอย่างไม่ค่อยจะเป็นระเบียบนักแต่ก็ยังเกาะกลุ่มกันดี ซันแทรกตัวผ่านกลุ่มคนไปทางที่เห็นร่างขาวของเพื่อนต่างคณะนั่งอยู่เมื่อครู่ มีนาที่หันมาทางเขาพอดีทำหน้างุนงงเมื่อเห็นร่างสูงเดินตรงมาหา




"ซัน..." เด็กหนุ่มทักเสียงเบา จำได้ว่าคนตรงหน้าไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่นัก




"ไหวมั้ย นายดูเพลียๆนะ"




เด็กหนุ่มผมดำถามอย่างเป็นห่วง เดินไหลไปตามแถว เขาสังเกตว่าคนที่เดินอยู่ข้างๆนิ่วหน้าอย่างเจ็บปวดแทบทุกฝีก้าว กัดฟันแน่นเมื่อถูกคนเซมาชนจากการเบียด พายุที่เดินตามเขามายืนประกบไม่ให้ร่างเล็กโดนชนปลิวไป




"เป็นอะไร ทำหน้าอย่างกับคน..." ดวงตาสีควันบุหรี่ตวัดมองเพื่อนเป็นเชิงปราม พายุรีบเปลี่ยนคำพูด "...ไม่ได้นอน"




"คือ..เมื่อคืนเราตื่นเต้น เลยนอนไม่หลับน่ะ" มีนายิ้มเจื่อน "เราไม่เป็นไรหรอก"




"น้องๆไม่คุยกันนะครับ" รุ่นพี่ที่คุมแถวดุ โบกมือไล่ให้เด็กปีหนึ่งรีบๆนั่งให้เรียบร้อยเพื่อให้ทุกอย่างไปตามกำหนดเวลา ซันเลือกนั่งข้างคนตัวเล็กด้วยกลัวว่าเด็กหนุ่มจะเป็นลมล้มพับไปเสียก่อน




"มีน...ฉันถามอะไรนายตรงๆได้มั้ย"




คนที่นั่งเหม่ออีกครั้งหลังจากได้ที่นั่งเป็นหลักแหล่งหันกลับมาหาเขางงๆ




"เมื่อคืน...นายไม่ได้โดนทำอะไรที่นายไม่เต็มใจใช่มั้ย"




"!!!" ดวงตากลมโตเบิกกว้าง คนตัวเล็กกว่ามีท่าทีลนลานเมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย "พูด...พูดอะไรน่ะ เราไม่เห็นรู้เรื่อง"
เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่เต็มใจจะพูด ทินกรจึงหยิบยาแก้อักเสบกับยาลดไข้ที่พกติดตัวไว้ออกมา




"กินก่อนจะเป็นอะไรไป เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก"




มีนรับแผงยาทั้งสองมาเงียบๆ แต่การกระทำของคนทั้งคู่ไม่อาจหลุดรอดสายตาพี่ๆที่คุมฐานไปได้




"ฮั่นแน่ สองคนทำอะไรกันเอ่ย ออกมาเล่าให้เพื่อนฟังซิ ออกมาๆๆ"




พี่ๆสันทนาการตีกลองบิวท์อารมณ์ ทินกรลุกขึ้นยืนอย่างช่วยไม่ได้ แต่เสียงร้องตกใจของพายุทำให้เขาหันขวับกลับไปมอง




"เฮ้ย! มีนเป็นไร" พายุเขย่าเพื่อนที่จู่ๆก็ล้มพับลงไป ดีที่เขารับอีกฝ่ายไว้ได้ทันก่อนศีรษะจะกระแทกพื้น




"พาไปห้องพยาบาลก่อน" ทินกรบอกพายุ เพื่อนผิวเข้มพยักหน้าแล้วช้อนตัวร่างเล็กที่ยังไม่ได้สติเดินไปยังโต๊ะฝ่ายพยาบาลโดยเด็กหนุ่มเคลียร์เส้นทางให้ท่ามกลางเสียงฮือฮาของเพื่อนๆจากทั้งสองคณะ









"โห เหงื่ออกเต็มเลย พี่ว่าไปโรงพยาบาลมั้ย"




พี่ที่ประจำฝ่ายพยาบาลบอกอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นร่างบางที่หน้าซีดเหงื่อกาฬแตกพลั่กอยู่ในอ้อมแขนของพายุ




"ไม่...ไม่เป็นไรครับ นอนพักก็น่าจะหาย"




มีนที่เริ่มรู้สึกตัวปฎิเสธเสียงอ่อน ซันที่เข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่อยากถูกตรวจร่างกายจึงเอ่ยสมทบ




"ผมว่าให้กลับไปนอนบ้านดีกว่านะครับ นายมีใครมารับได้มั้ย?"




มีนลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า




"ถ้างั้นน้องๆกลับเข้าไปทำกิจกรรมเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อนน้องเอง”




รุ่นพี่ประจำฝ่ายพยาบาลเอ่ยเป็นเชิงไล่ ทินกรกับพายุมองหน้ากัน ก่อนจะหันมาถามย้ำเป็นครั้งสุดท้าย




“มีคนมารับแน่นะ”




“อื้อ ไม่ต้องห่วงหรอก”




เด็กหนุ่มยิ้มให้เพื่อนทั้งสองสบายใจ แม้จะไม่รู้ว่าคนที่ว่าจะมารับได้จริงๆรึเปล่า




เมื่อเพื่อนทั้งสองกลับเข้าไปทำกิจกรรมต่อ คนป่วยหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่ธีรเชษฐ์สั่งให้พกติดตัวไว้เมื่อเช้าออกมากดหาเบอร์โทรศัพท์เบอร์เดียวที่ถูกบันทึกไว้ในเครื่องภายใต้ชื่อ ‘Chase’




“สวัสดีครับคุณเชษฐ์...”











“ฉันบอกให้เลื่อนนัดลูกค้าไปไง!”




“ท่านประธานพูดเหมือนมันทำได้ง่ายๆอย่างนั้นแหละครับ!”




“ถ้าฉันจ้างเลขามาทำงานง่ายๆฉันจ้างเด็กประถมมาทำก็ได้!”




ภรัณยูชะงักมือที่กำลังจะเคาะประตูห้องของท่านประธาน เสียงทะเลาะของธีรเชษฐ์และเลขาหนุ่มที่มีข่าวลือหนาหูถึงความสัมพันธ์ที่เกินเลยไปมากกว่าคำว่าเจ้านายกับลูกจ้างทำให้ภรัณยูไม่กล้าที่จะรบกวน โชคดี(?)ของเขาที่ประตูห้องถูกเปิดออกโดยมธุวันซึ่งทำหน้าบอกบุญไม่รับมากกว่าปกติก่อนที่เขาจะได้ตัดสินใจว่าควรทำอย่างไร




“มีอะไรครับ” เสียงเย็นประดุจน้ำแข็งขั้วโลกเหนือถาม ถึงแม้อีกฝ่ายจะเด็กกว่าเขาเป็นสิบปี แต่สายตาของอีกฝ่ายในตอนนี้ทำให้ภรัณยูแทบจะก้มลงไปกราบขอขมาที่ตนมายืนขวางหูขวางตาชายหนุ่ม



“เอ่อ...เอกสาร...”




“วางไว้ที่โต๊ะผมครับ” ชายหนุ่มบอกสั้นๆแล้วเดินไปยังลิฟต์ส่วนตัวของท่านประธานด้วยรังสีอำมหิตที่ทำให้คนเดินสวนถอยกรูดชิดผนังเป็นแถบ




“คุณภัทร”




เจ้าของชื่อหันกลับมาหาเจ้านายของตน ธีรเชษฐ์ที่มีสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างสูงยัดแฟ้มเอกสารหนาเป็นปึกสองเล่มใส่มือเขาแล้ววางซองเอกสารสีน้ำตาลปึกหนาทับลงมาอีกทีอย่างรีบร้อนโดยไม่สนใจคนที่เซวูบเพราะกะน้ำหนักไม่ทันเลยแม้แต่น้อย




“บ่ายสองไปรับทินกรที่มหาลัยแทนผมให้ที วันนี้เขามีคุยงานลูกค้ากับผม แต่ผมมีธุระ”




“เอ๊ะ แล้วรายละเอียดงาน...”




“อยู่ในนั้นนั่นแหละ ฝากด้วยนะ” ร่างสูงเดินจ้ำอ้าวไปยังลิฟต์ที่มธุวันเข้าไปก่อนหน้านี้ ในมือกำโทรศัพท์มือถือไว้แน่น ร่างโปร่งได้แต่มองตามอีกฝ่ายไปอย่างมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วก้มมองนาฬิกาข้อมือของตนที่ถูกเอกสารนับร้อยแผ่นบังอยู่อย่างทุลักทุเล




“เฮ้ย!บ่ายโมงครึ่งแล้ว!” ภรัณยูรีบหอบข้าวของทั้งหมดวิ่งไปยังลิฟต์พนักงานอย่างรวดเร็ว




จะทันมั้ยเนี่ย?!









มีนาไม่มั่นใจว่าตัวเองทำถูกหรือไม่ที่โทรเรียกธีรเชษฐ์ออกมาแบบนี้




‘ถ้ามีเรื่องฉุกเฉินก็โทรหาฉันแล้วกัน’ ชายหนุ่มสั่งเขาไว้แบบนี้เมื่อเช้า




อย่างนี้มันเข้าข่ายเรื่องฉุกเฉินมั้ยนะ?




"อ้าว พี่น้ำอุ่น สวัสดีค่ะ มาทำอะไรคะเนี่ย"




หญิงสาวที่เอาพัดมานั่งพัดให้มีนอยู่นานสองนานยกมือไหว้ร่างที่เดินมาที่โต๊ะเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มีนเงยหน้ามองร่างสูงโปร่งเจ้าของรอยยิ้มสว่างไสวในชุดกาวน์ยาวสีขาวปักชื่อ'นศพ.ธารธารา ทรัพย์ดำรง' ด้วยด้ายสีเขียวอันเป็นสัญลักษณ์ของนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่สี่และห้า ชายหนุ่มมีเส้นผมสีน้ำตาลและดวงตาเรียวเล็กที่หยีเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวจากการยิ้มอยู่ตลอดเวลา




"สวัสดีครับ"




เด็กหนุ่มยกมือไหว้อย่างนอบน้อม คนตรงหน้ารับไหว้เขาพร้อมรอยยิ้มที่ไม่จางหายแล้วตอบคำถามของหญิงสาว




"พี่มารับรางวัลให้ชมรมน่ะ เดี๋ยวเค้ามีประกาศรางวัลตอนเย็น"




"โห ได้รางวัลอีกแล้วเหรอคะ พี่อุ่นเก่งจัง" คนพูดทำเสียงเพ้อเหมือนมีหัวใจอยู่ในดวงตา




"งานชมรมต่างหาก" ชายหนุ่มเขาคิดว่า 'น้ำอุ่น' น่าจะเป็นชื่อเล่นนั่งลงข้างๆมีนา "อีกอย่าง...พี่มาส่องน้องปีหนึ่งแหละ เผื่อได้ลากเข้าชมรม"




"ปีสี่แล้วยังไม่ทิ้งงานชมรมอีกเหรอคะ" รุ่นพี่ประจำฝ่ายพบายาลถามเสียงกลั้วหัวเราะ ชายหนุ่มเพียงแต่ส่ายหน้ายิ้มๆแล้วหันมาหามีนที่นั่งเงียบอย่างไม่รู้จะพูดอะไร



"แล้วนี่เป็นอะไรมาครับ?"




"น้องเป็นลมน่ะค่ะ นี่รอผู้ปกครองมารับอยู่"




หญิงสาวรายงานแทนก่อนมีนาจะได้พูดอะไร น้ำอุ่นไล่สายตาสำรวจเด็กหนุ่ม ก่อนจะสะดุดกับรอยรักสีกุหลาบที่กระจายอยู่ตามลำคอขาวเนียน มีนาที่เพิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องอะไรอยู่ตะครุบคอของตัวเองอย่างรวดเร็ว หลบสายตาล่วงรู้ของอีกฝ่ายด้วยสีหน้าแดงก่ำ




"ถึงขั้นเป็นลมเลยเหรอ..."




ถ้าจะรู้กันทุกคนขนาดนี้ประกาศตามสายไปเลยมั้ย?!




น้ำอุ่นหันไปมองที่ถนนหน้าคณะเป็นเพื่อนเด็กหนุ่ม เมื่อรถสปอร์ตสีดำคุ้นตาเลี้ยวเข้ามาในเขตมหาวิทยาลัยด้วยความเร็วที่น่าจะเกินกำหนดสถานศึกษาไปไม่น้อย มีนารีบเก็บข้าวของลุกขึ้นทันที




"ผมกลับแล้วนะครับ"




เด็กหนุ่มยกมือไหว้ลารุ่นพี่สาวที่โบกมือให้เขา และรุ่นพี่ปีสี่ที่รอยยิ้มอันตรธานหายไปจากไปหน้าอย่างรวดเร็ว แม้จะเพิ่งเคยเจอกัน แต่มีนาค่อนข้างมั่นใจว่าสีหน้าแบบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติของคนตรงหน้า เดาได้จากขนที่ลุกชันทั่วร่างกายของเขาในตอนนี้




นะ...น่ากลัว...




ร่างบางก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณ น้ำอุ่นหลับตาลงราวกับกำลังข่มอารมณ์ที่ใกล้จะระเบิดเต็มทน ก่อนที่รอยยิ้มจางๆจะย้อนกลับมาบนริมฝีปาก




แต่รอยยิ้มนั้นไปไม่ถึงดวงตาสีอัลมอนด์ที่จ้องตรงมาที่เขาอย่างเยือกเย็น




"รถคันนั้นเหรอ?"




"ครับ...ผะ ผมไปนะครับ"




มีนากอดกระเป๋าหันหลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังรถที่กำลังแล่นเข้ามา เขาไม่อยากอยู่ให้ตัวเองโดนรุ่นพี่หมายหัวตั้งแต่วันรับน้องหรอกนะ





ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าทำไมพี่น้ำอุ่นถึงมีท่าทีแบบนั้นก็เถอะ



--------

 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 02-03-2018 10:55:50
น้ำอุ่นรู้เรื่องมีนาแล้ว จะเป็นยังไงบ้างเนี่ย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 02-03-2018 11:00:32
ซวยเลย โดนน้ำอุ่นรู้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 02-03-2018 20:47:21
งานเข้าน้องมีนแล้วพี่น้ำอุ่นน่ากลัวมาก :ling3:

ภัทรแค่เจอหมอกถามถึงกับต้องอยากกราบขอขมากันเลยหรา55555 หมอกออกจะน่ารัก?
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-03-2018 22:39:43
จ้าาา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 02-03-2018 23:52:02
นี่คุ้นชื่อน้ำอุ่นมากเรื่องไหนแล้วนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-03-2018 23:58:39
น้ำอุ่นใจเย็น ๆ อย่าว่ามีนนะ มีนไม่ได้เป็นอย่างที่น้ำอุ่นคิดนะ ถ้าจะว่าไปว่าพ่อน้ำอุ่นโน้น  :serius2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 03-03-2018 01:12:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 03-03-2018 02:00:14
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 03-03-2018 03:39:57
ยังจำตอนเรื่องของน้องแว่นได้อยู่เลย น้ำอุ่นนี่สุดยอด
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 03-03-2018 03:44:08
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 03-03-2018 11:59:35
น้องมีนชีวิตรันทดเข้าไปอีก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 03-03-2018 12:53:43
น้ำอุ่นทำตัวแปลกๆ แต่อย่างน้อยมีนก็มีคนดูแล
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-03-2018 16:47:09
โอ้ แค่ไม่กี่วัน น้องมีนดูจะเจออะไรเยอะแยะเลยนะ จะไหวมั๊ยคะลูก   :hao4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 03-03-2018 19:24:17
น้ำอุ่นรู้แล้วว่ามีนเป็นคนของพ่อ
แต่มีนยังคงไม่รู้ว่าอุ่นเป็นลูกคุณเชษฐ์
สู้นะมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 60% P.3 คห 67 (2/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 05-03-2018 09:05:26

"มึงจะกลับแล้วเหรอ?" พายุที่อยู่ในสภาพใกล้เคียงกับกุ้งชุบแป้งทอดจากการถูกรุ่นพี่ปะแป้งถาม ทินกรซึ่งไม่ได้อยู่ในสภาพที่ต่างกันมากนักส่ายหน้า




"อือ เดี๋ยวต้องไปธุระกับพ่อ" ไม่ทันขาดคำโทรศัพท์ของเด็กหนุ่มก็สั่นครืดในกระเป๋ากางเกง แต่ชื่อที่โชว์หราอยู่กลับเป็นคนที่เขาไม่คิดว่าจะโทรมาหาเขาในเวลาแบบนี้




"พี่ภัทรเป็นอะไรรึเปล่าครับ?" ร่างสูงรีบถามทันทีที่รับสาย ในหัวเต็มไปด้วยสถานการณ์คอขาดบาดตายที่ร่างโปร่งจำเป็นต้องโทรมาหาเขาเป็นทางเลือกสุดท้าย พายุที่นั่งอยู่ข้างๆเลิกคิ้วกับคำถามประหลาดของเพื่อน




"เอ่อ...พี่สบายดี" สายที่ดังขึ้นจากปลายสายฟังดูงุนงงกับคำถาม "ท่านประธานติดธุระกระทันหัน พี่เลยมารับแทนน่ะ ตอนนี้พี่จอดอยู่จุดรับส่งประตูสอง..."




"รออยู่ตรงนั้นนะครับ เดี๋ยวผมไป" เด็กหนุ่มลุกออกไปจากที่นั่งทันที




"เฮ้ย ไอ้ซัน ไปบอกพี่เขาก่อน...”




เสียงของพายุเข้าหูซ้ายปลิวทะลุออกหูขวาเด็กหนุ่มไปอย่างง่ายดาย ร่างสูงเดินตรงไปยังประตูที่ชายหนุ่มบอกซึ่งไม่ไกลจากจุดที่เขาอยู่มากนัก ทันทีที่เห็นรถยนต์สี่ประตูของภรัณยูปรากฏแก่สายตา ทินกรก็ยิ้มออกทันที




“พี่ภัทร~” คนอายุน้อยกว่าเปิดประตูเข้ามานั่งในรถพร้อมรอยยิ้มประจำตัว ผิดกับคนขับรถที่ยังคงก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารงานที่ได้รับมอบหมายมาในวินาทีสุดท้ายอย่างขะมักเขม้นจนไม่ได้ยินแม้แต่เสียงของทินกร เด็กหนุ่มได้ทีกดจมูกลงบนแก้มนุ่มของคนที่กำลังเผลอ ภรัณยูสะดุ้งเฮือก เกือบปาแฟ้มขนาดยักษ์ใส่หัวคนเล่นพิเรนทร์ด้วยความตกใจ




“ซัน!”




“ครับพี่ภัทร?”





ร่างสูงขานรับด้วยสีหน้าใสซื่อราวกับตนไม่ได้ทำอะไรผิดเมื่อครู่ ภรัณยูทำได้เพียงข่มความอยากเขกกะโหลกลูกเจ้านาย แล้วโยนเอกสารทั้งหมดลงบนตักของเด็กหนุ่มอย่างไม่นิ่มนวลนัก ชายหนุ่มเข้าเกียร์รถ มุ่งหน้าไปยังสถานที่นัดพบลูกค้าโดยไม่พูดอะไรอีก








"เฮ้อ เสร็จซะที ผมหิวไส้จะแตกอยู่แล้ว"




"ไส้จะขาด"




ภรัณยูแก้ เขายังอดทึ่งไม่ได้กับบุคลิกที่แตกต่างของ'คุณทินกร'ที่สามารถเจรจาธุรกิจกับลูกค้าได้ประหนึ่งว่าตัวเองมีประสบการณ์การทำงานมาเป็นสิบปีกับ'ซัน'ที่ดูอย่างไรก็เหมือนเด็กน้อนอารมณ์ดีที่ล่อด้วยขนมก็ยิ้มได้แล้วที่เขากำลังคุยด้วยตรงหน้า




"เมื่อกี้ ทำได้ดีนะ"




ร่างโปร่งชมเสียงเบา เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายเหลิง แต่ก็ไม่อยากให้ทินกรคิดว่าเขาเป็นพวกดีแต่ดุ ทำดีแล้วไม่เคยชม คนถูกชมยิ้มกว้างอย่างดีใจ ท่าทีเหมือนเด็กน้อยนั้นกลับทำให้ภรัณยูใจเต้นทั้งที่รู้ว่าไม่ควร ร่างโปร่งกวาดตามองไปรอบๆหาหัวข้อเปลี่ยนประเด็น




"หิวไม่ใช่เหรอ แวะกินอะไรก่อนมั้ย?"




ภรัณยูรีบเสนอ ชี้ไปที่ร้านอาหารตามสั่งเล็กๆที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของตึกที่พวกเขาอยู่  ทินกรมองตามมือของอีกฝ่ายแล้วพยักหน้า รอยยิ้มสดใสยังไม่เลือนหายไปจากใบหน้า




"เอาสิครับ แต่มื้อนี้พี่ภัทรต้องให้ผมเลี้ยงนะครับ"




"เป็นเด็กเป็นเล็กจะมาเลี้ยงผู้ใหญ่ได้ยังไง"



ภรัณยูดุ แต่คนโดนดุกลับมีสีหน้าไม่พอใจเสียอย่างนั้น



"อะไรๆก็บอกว่าผมเป็นเด็ก พี่ภัทรจะมองผมเหมือนผมเป็นผู้ชายคนนึงซักครั้งไม่ได้เหรอครับ?"




"ก็เด็กอยู่นี่นา"




ภรัณยูว่า ถึงจะมีวุฒิภาวะ และดูดีในชุดสูทสั่งตัดนั้นมากเพียงใด อีกฝ่ายก็ยังเป็นแค่เด็กอายุสิบเจ็ดในสายตาเขาอยู่ดี ทินกรถอนหายใจ ก่อนจะส่งมือให้เขาเมื่อทั้งสองเดินมาถึงหน้าถนน



"หือ?"




คนอายุมากกว่าเอียงคออย่างไม่เข้าใจ




"ก็ผมเป็นเด็กไม่ใช่เหรอครับ" เสียงทุ้มเอ่ยงอนๆ "จูงมือผมข้ามถนนด้วยสิครับ เป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่เหรอ"




ภรัณยูทนไม่ไหว หลุดขำพรืดออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่




"ฮ่าๆๆ"




"อะ...อะไรล่ะครับ ก็ผมเป็นเด็กไม่ใช่รึไงล่ะ"




ร่างสูงตะกุกตะกัก ภรัณยูกลั้นรอยยิ้มของตัวเองไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเสียเซลฟ์ไปมากกว่านี้




“เอ้าๆ ไม่เด็กแล้วก็ได้ ทีนี้จะข้ามถนนเองได้รึยังครับ หรือจะให้พี่สอนมองซ้ายขวา”




“พี่ภัทรอ่ะ”




เด็กหนุ่มทำหน้ามุ่ยตลอดระยะทางสั้นๆจากถนนมาจนถึงร้านที่เป็นจุดหมาย เรียกได้ว่าขนาดเข้ามานั่งในร้านอาหารแล้วยังไม่หายงอนเขาเลยด้วยซ้ำ




“โอ๋…ไม่งอนนะเด็กน้อย”





ภรัณยูพยายามกลั้นหัวเราะขณะที่ง้อเด็กโข่งตรงหน้า ร่างสูงเพียงแต่ก้มหน้าจนแทบจะสิงไปกับเมนู แต่จากหูที่แดงก่ำ เขาคิดว่าเด็กหนุ่มคงจะอายน่าดู




“รับอะไรดีคะ?”




ภรัณยูหันไปหาคนที่ยังคงนั่งเงียบไม่พูดไม่จา เลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามว่าเมื่อไหร่จะสั่งอาหารเสียที




“ซัน จะกินอะไร?”




ร่างโปร่งทวนคำถามของบริกรสาวให้คนที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะฟัง ทินกรเงยหน้าขึ้นจากเมนูหันไปหาบริกรสาว




“เอาภัทรขี้เมาครับ”




“ผัดขี้เมา”




ภรัณยูแก้โดยไม่ได้เอะใจถึงความนัยของรายการอาหารเมื่อครู่ ก่อนจะสั่งข้าวผัดกระเพราหมูสับไข่ดาวของตัวเอง เมื่อบริกรสาวเดินจากไป ทินกรจึงหันกลับมาหาคนอายุมากกว่าพร้อมกับส่ายหน้า




“ผมไม่ได้พูดอะไรผิด”




“ผัด ต้องออกเสียง ผ ไม่ใช่ พ”



ครูภาษาไทยจำเป็นสอน แต่ลูกศิษย์ยังคงส่ายหน้าอย่างดึงดัน




“ไม่ใช่ครับ...ผมจะ’เอาภัทรขี้เมา’”




กว่าจะเข้าใจสิ่งที่เด็กหนุ่มต้องการจะสื่อใช้เวลาหลายนาที และเมื่อสมองของภรัณยูประมวลผลเสร็จ สิ่งที่ทินกรได้รับคือฝ่ามืออรหันต์ที่บ้องหูเขาจนเห็นดาวระยับ




“ไอ้เด็กทะลึ่ง”




“ทะลึ่งกับพี่ภัทรคนเดียวแหละครับ”




คนถูกด่ายิ้มทะเล้นอย่างไม่สำนึก ภรัณยูได้แต่ทอดถอนใจ หันไปสนใจอาหารตามสั่งหน้าตาน่าทานที่ถูกวางลงบนโต๊ะ
ให้ตายเถอะ ไหนเขาว่ากินเด็กแล้วจะอายุยืน ทำไมอยู่กับเจ้าเด็กนี่แต่ละวันแล้วเขารู้สึกว่าโดนสูบพลังชีวิตจนจะแห้งอยู่แล้วล่ะ





--------------

หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 100% P.3 คห 82 (5/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 05-03-2018 11:42:55
เด็กมันหยอดตลอดเลยวุ้ย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 100% P.3 คห 82 (5/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 05-03-2018 13:44:12
เริ่มสงสารมีนแล้วอ่ะ โดนพี่น้ำอุ่นหมายหัวแน่เลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 100% P.3 คห 82 (5/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 05-03-2018 18:48:46
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 100% P.3 คห 82 (5/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-03-2018 02:59:31
กินเด็กแล้วหัวใจกระชุ่มกระชวย เลือดลมไหลเวียนดีออก กิน ๆ ไปเถอะ ก็เด็กมันแซ่บทำไงได้นิ  :hao3:

ปล. กด +เป็ดให้แล้วแต่คะแนนเป็ดไม่ขึ้นอ่ะ  :z3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 100% P.3 คห 82 (5/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 06-03-2018 17:56:58
มีความหยอด o18
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 100% P.3 คห 82 (5/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-03-2018 20:18:13
เด้กสมัยนี้ก้อแบบนี้จิงๆอ่าเนาะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 100% P.3 คห 82 (5/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 06-03-2018 21:40:36
หยอดวันละนิดละหน่อย ภัทรก็ใจอ่อนยวบแล้ว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 100% P.3 คห 82 (5/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: klomkling ที่ 06-03-2018 21:51:26
ดีค่ะดี ดีมากค่ะลูกกกกก
หยอดวันละนิดละหน่อย ยังไงพี่ภัทรก็ใจอ่อนยวบยาบ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 100% P.3 คห 82 (5/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 07-03-2018 01:43:06
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 100% P.3 คห 82 (5/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 07-03-2018 08:24:44
ชอบคู่ซันภัทรอะ เด็กมันร้ายยยยยย คู่นี้น่ารัก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 100% P.3 คห 82 (5/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 07-03-2018 15:45:10
มารอ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 100% P.3 คห 82 (5/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-03-2018 21:34:44
รุ่นพี่น้ำอุ่นนี่คือยังไง?
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 4 100% P.3 คห 82 (5/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 09-03-2018 07:28:06
Chapter 5: อาจารย์ที่ปรึกษา

"ขอโทษนะครับที่ต้องรบกวน"




มีนาเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนแรงหลังจากที่รถของธีรเชษฐ์เคลื่อนตัวออกมาจากมหาวิทยาลัยได้ระยะหนึ่ง คนขับเหลือบมองร่างเล็กที่มีเหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้า ลมหายใจกระชั้นถี่ขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าเป็นห่วง ชายหนุ่มเอื้อมไปกดเร่งความแรงของแอร์ในรถ แต่นั่นกลับทำให้มีนากอดตัวเองอย่างหนาวสั่น ธีรเชษฐ์เหลือบมองร่างเล็กข้างๆสลับกับถนนตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา




"คราม มึงมาที่คอนโดกูหน่อย เปล่า ไม่ใช่เมฆ เออน่า ช่วยกูหน่อย"




สติของเด็กหนุ่มร่างเล็กเริ่มเลือนหายไปทุกขณะ เมื่อธีรเชษฐ์วางสาย มีนาก็หมดสติไปเสียแล้ว ร่างสูงอุ้มร่างที่มีเหงื่อโทรมกายออกมาจากรถ ความเบาหวิวดุจปุยนุ่นทำให้เขาแอบสงสัยว่าอีกฝ่ายได้กินอะไรบ้างหรือไม่



"อือ..."



เสียงครางผะแผ่วดังลอดออกมาจากลำคอเมื่อธีรเชษฐ์วางร่างที่ยังคงไม่ได้สติลงบนเตียง ร่างสูงตัดสินใจเตรียมน้ำอุ่นเช็ดตัวให้กับเด็กหนุ่มที่ตอนนี้เหงื่อกาฬทำให้เสื้อผ้าเหนื่อยติดตัวจนดูไม่น่าสบายตัวเท่าไหร่ โชคดีที่เขาให้มีนาขนของจากหอใส่รถเขาตั้งแต่เมื่อเช้า ทำให้เขามีชุดของเด็กหนุ่มไว้เปลี่ยนให้อีกฝ่าย




ร่องรอยสีกุหลาบที่กระจายเต็มร่างขาวบอบบางทำเอาคนทำแอบรู้สึกผิด




ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เด็กนี่น่าฟัดขนาดนี้กันล่ะ




"นั่นเหรอเด็กมึง? เดี๋ยวนี้มีเซอร์วิสขนาดนี้เลยเหรอ?"




เสียงของคเชนทร์ เพื่อนของเขาซึ่งเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ในมหาวิทยาลัยที่มีนาเรียนอยู่ดังขึ้นจากด้านหลังคนที่ก้มๆเงยๆถอดเสื้อผ้าให้ร่างที่ไม่ได้สติ




จะว่าไป...ทำไมเมื่อกี้มีนาถึงให้เขาไปรับแถวๆคณะแพทย์?




เขาไม่ได้ใส่ใจพอจะถามอีกฝ่ายว่าเรียนอยู่คณะอะไร แต่พอมาคิดดูตอนนี้ก็อดสงสัยไม่ได้




"ลงมาสิ กูจะได้ตรวจคนไข้"




คเชนทร์เร่ง ขยับแว่นรีไร้กรอบของตัวเองอย่างหงุดหงิดที่ถูกเรียกออกมาในวันหยุดจากเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยมที่ไม่เข้าใจว่าโรงพยาบาลคืออะไร ธีรเชษฐ์ขยับลุกออกมาจากเตียง เผยให้เห็นร่างของมีนาที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ดวงตาสีดำสนิทของคเชนทร์เบิกกว้าง ก่อนจะหันมาหาเจ้าของห้องด้วยสีหน้าที่บอกได้ว่าชายหนุ่มกำลังบันดาลโทสะถึงขีดสุดแต่พยายามข่มอารมณ์ไว้ไม่ให้รบกวนคนไข้ตัวน้อย




"ออกไปรอข้างนอก เสร็จแล้วกูมีเรื่องจะคุยกับมึง"









"อือ..."




ดวงตาสีน้ำตาลปรือขึ้นอย่างยากลำบาก หัวของมีนารู้สึกหนักอึ้งเมื่อพยายามขยับตัวลุกขึ้นจากที่นอน




"อย่าเพิ่งลุกจะดีกว่านะ"




เสียงที่คุ้นเคยแต่ไม่ควรอยู่ในห้องของธีรเชษฐ์ทำให้มีนาชะงัก ร่างเล็กตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองเจ้าของเสียงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง ราวกับว่าหากเขาไม่หันไป คนที่นั่งกอดอกมองหน้าเขาอยู่นี้จะสลายหายไปเอง




"ไม่คิดเลยนะว่าจะมาเจอเธอในที่แบบนี้ มีนา"





เสียงทุ้มเจือไปด้วยความผิดหวัง และนั่นยิ่งทำให้สภาพจิตใจที่เปราะบางอยู่แล้วของคนป่วยย่ำแย่ลงไปอีก มีนาก้มหน้านิ่ง บอกตัวเองว่าอย่าร้องไห้ อย่าทำให้อีกฝ่ายรู้สึกรังเกียจตัวเองไปมากกว่านี้




"มีน อยากพูดอะไรกับครูมั้ย?"




คเชนทร์ถามเสียงอ่อนโยน ซึ่งหาได้ยากจากคนเจ้าระเบียบอย่างเขา ชายหนุ่มไม่เคยคิดว่าเด็กคนใหม่ของธีรเชษฐ์จะเป็นนักศึกษาในความดูแลที่เขาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาอยู่ และยังเป็นเด็กที่เขาไม่มีวันคิดฝันว่าจะทำเรื่องแบบนี้




มีนาเป็นนักเรียนทุนเพียงคนเดียวของคณะในปีนี้ การที่จะได้ทุนเต็มจำนวนจากพวกเขาไม่ใช่แค่จะต้องเรียนเก่ง แต่เด็กที่เข้ามาจะต้องเป็นเด็กที่มีจิตใจดีงามและพร้อมจะช่วยเหลือสังคม ในรอบสิบปีที่เขาเป็นคณะกรรมการในการสัมภาษณ์เพื่อให้ทุนมา มีนาเป็นคนแรกที่ได้คะแนนเต็มจากอาจารย์ทุกคนไม่เว้นแม้แต่คณบดีเอง




"ผม...อึก...ขะ...ขอโทษครับ"




เสียงหวานสั่นเครือเดาได้ไม่ยากว่าเด็กหนุ่มตรงหน้ากำลังกลั้นสะอื้นไว้อย่างสุดความสามารถ




"มีน เล่าให้ครูฟังได้มั้ย ทำไมถึงต้องทำแบบนี้"




หลังจากเค้นคอเอาข้อมูลออกมาจากธีรเชษฐ์ได้บางส่วน เขาค้นพบว่าอีกฝ่ายก็ไม่รู้เช่นกันว่ามีนาต้องการเงินไปทำอะไร




"แม่ผม...ต้องใช้เงินรักษา ยายผมก็ลุกไม่ไหว ไปขายของที่ตลาดไม่ได้แล้วครับ ผมกลัวว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ผมจะไม่มีเงินรักษาแม่กับยาย ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม..."




เสียงหวานสั่นเครือขึ้นเรื่อยๆ คเชนทร์จำได้ว่ามารดาของเด็กหนุ่มล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง ส่วนยายก็มีโรคประจำตัวมากมาย นั่นเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่พวกเขาชื่นชมร่างเล็กที่ช่วยแม่กับยายเร่ขายของมาตั้งแต่เด็ก จริงอยู่ที่พวกเขาให้ทุนค่าเทอมเต็มจำนวนกับอีกฝ่าย แต่ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นถึงแม้จะไม่รวมค่าคีโมและค่ายาราคาสูงบางตัวก็ยังสามารถทำให้คนที่ไม่มีรายได้อย่างอื่นนอกจากการขายของที่ตลาดในวันเสาร์อาทิตย์หมดทางเลือกได้เหมือนกัน




"เรื่องค่าเทอมที่ต้องจ่ายล่วงหน้า ครูจะคุยให้เอง"




มีนาเงยหน้าขึ้นมองอาจารย์ที่ปรึกษาของตัวเองอย่างประหลาดใจ




"ผม...ไม่ถูกไล่ออกเหรอครับ?"




"คิดมากไปแล้วมีน เธอคิดว่าคณะจะไล่เธอออกแค่เพราะเธอพยายามหาเงินช่วยแม่ของตัวเองเหรอ?"




รอยยิ้มที่หาได้ยากยิ่งปรากฎบนใบหน้าคมของชายหนุ่มวัยสี่สิบสองปี คเชนทร์เอื้อมมือออกมาอย่างละล้าละลัง แต่ก็วางลงบนศีรษะของร่างเล็กในที่สุด




ในกลุ่มเพื่อนสนิทที่มีอยู่น้อยนิดของธีรเชษฐ์ คเชนทร์น่าจะเรียกได้ว่าเป็นคนที่มีคุณธรรมและน่าเชื่อถือที่สุด แต่ชายหนุ่มก็ขึ้นชื่อเรื่องการไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของคนรอบกายแม้จะเป็นเรื่องที่เขาไม่เห็นด้วยเช่นกัน




ร่างสูงมีความเชื่อว่า ‘ความถูกต้อง’ ไม่สามารถตีความได้ด้วยความหมายเดียว




"เรื่องค่ารักษาพยาบาลของคุณแม่กับคุณยายของเธอ เอาจริงๆถ้าให้ครูช่วยพูดกับคณะก็น่าจะพอมีทาง...."




อย่างเช่นในตอนนี้ ดวงตากลมโตที่เปี่ยมไปด้วยความหวังทำเอาหัวใจที่ไม่ค่อยรู้สึกอะไรกับใครเขาเจ็บแปลบด้วยความสงสาร และทำให้สิ่งที่จะพูดต่อไปยากยิ่งกว่าเดิม




"....แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ยังมีค่ารักษาที่เธอยังต้องออกเองจำนวนนึง ซึ่งก็ยังถือว่าเยอะในสถานภาพทางการเงินของเธอในตอนนี้"



คเชนทร์รู้ว่าคำพูดของตนแทบจะเป็นการผลักไสให้ร่างเล็กเข้าสู่อ้อมกอดของธีรเชษฐ์ไปครึ่งก้าว แต่นั่นเป็นสิ่งที่มีนาจะเป็นคนตัดสินใจ




"ครับ..."




ถึงแม้จะยังไม่รู้จำนวนเงิน แต่มีนาก็ยังรู้สึกว่าดีกว่าสภาพที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ที่เขาไม่รู้ว่าจะต่อลมหายใจของมารดาไปได้อีกเท่าไหร่




"ใครบอกว่าจำเป็นจะต้องให้มึงช่วย"




ธีรเชษฐ์ที่ยืนฟังอยู่ข้างนอกเปิดประตูเข้ามา คนที่อยู่ภายในห้องนอนหันไปหาเจ้าของห้อง คเชนทร์เลิกคิ้ว




"กูว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะเชษฐ์"




"กูจะคุยกับมีน มึงกลับไปได้แล้ว" ชายหนุ่มลูกครึ่งเอ่ยเสียงเรียบ




"เชษฐ์ เด็กมันยังมีอนาคต..." ชายหนุ่มพยายามให้เพื่อนสนิทได้เห็นเด็กหนุ่มบนเตียงจากมุมมองของตน อย่างน้อยก็ให้คนที่ไม่เคยเห็นค่าของของเล่นบนเตียงมีความเมตตาต่อร่างเล็กบ้าง




"กูก็ไม่ได้บอกว่าจะทำลายอนาคตใคร" ร่างสูงขัด "ทำไม? กูจะเป็นพ่อพระให้อะไรใครโดยไม่หวังผลตอบแทนบ้างไม่ได้รึไง?"




"มึงเห็นหัวกูมีเขาเหรอ?" อาจารย์แพทย์กอดอกอย่างไม่พอใจ ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ




"คราม กลับไปก่อน กูสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเด็กนี่ กูแค่อยากคุยให้รู้เรื่อง แล้วหลังจากนั้นจะทำอะไรก็เรื่องของมึง ตกลงมั้ย?"




ถึงแม้ธีรเชษฐ์จะไม่ใช่คนมีคุณธรรมนำจิตใจอะไร แต่คเชนทร์รู้ว่าเนื้อแม้ของเพื่อนเขาเป็นคนดี อาจารย์แพทย์เหลือบมองร่างเล็กบนเตียง ก่อนจะพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจนัก




"ครูจะให้เธอตัดสินใจ มีอะไรก็ปรึกษาครูได้นะ"




"ครับอาจารย์ ขอบคุณมากครับ"




มีนายกมือไหว้อาจารย์ปรึกษาของตัวเอง เมื่อลับร่างของคเชนทร์ ธีรเชษฐ์ก็ทรุดตัวลงนั่งบนเตียง มีนาสะดุ้ง กระถดตัวหนีตามสัญชาตญาณ ชายหนุ่มแค่นเสียงหึในลำคออย่างไม่สบอารมณ์




"ทีเมื่อคืนไม่เห็นหนีแบบนี้เลยนี่"




"ขอ...ขอโทษครับ"




ร่างเล็กเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองต่อจากนี้




"ขอโทษที่หลอกฉันเรื่องอายุ ขอโทษที่ไม่บอกฉันว่าตัวเองไม่มีเงินกินข้าวจนเป็นลมไป หรือขอโทษที่ทำให้ฉันโดนเพื่อนสวดรอเธอตื่นเป็นชั่วโมง หืม?"




สีหน้าหวาดหวั่นของเด็กน้อยตรงหน้าช่างปลุกสัญชาตญาณนักล่าในตัวเขาได้ดีเหลือเกิน แต่ถึงแม้ธีรเชษฐ์จะไม่ใช่คนดีอะไรนัก แต่เขาก็ไม่ได้เลวถึงขั้นฉวยโอกาสจากเด็กตัวเล็กๆที่ถูกโชคชะตาเหยียบย่ำจนติดดินแบบนี้




"ขอโทษครับ..."




มีนาก้มหน้างุด ร่างกายที่สั่นเทาเป็นลูกนกท้าทายขีดจำกัดความอดทนอดกลั้นที่มีอยู่น้อยนิดของเขายิ่งนัก




"โลกกลมดีนะ ใครจะคิดว่าเพื่อนสนิทฉันจะกลายเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอไปซะได้"




ร่างสูงเหลือบมองปฎิกิริยาของร่างบางที่ไม่หือไม่อืออะไรทั้งนั้น




"แล้วไหวมั้ย?"




"คะ...ครับ?"




มีนาเงยหน้าขึ้นอย่างงุนงงกับคำถามนั้น




"เงินส่วนต่าง เห็นว่าเยอะพอตัวเหมือนกันนี่ หาไหวเหรอ?" ชายหนุ่มเลิกคิ้ว มีนากัดริมฝีปากก่อนจะส่ายหน้า เขารู้ว่าอาจารย์อยากช่วย แต่สำหรับเขามันยังไม่พอจริงๆ




"แล้วจะไปหามาจากไหน?"ร่างสูงถามต่อ สังเกตปฎิกิริยาของเด็กหนุ่มตลอดบทสนทนานี้



"ก็คง...หากู้นอกระบบมาโปะก่อนน่ะครับ"




เขาไม่อยากทำแบบนั้น แต่เมื่อไม่มีทางเลือก สิ่งนั้นก็ดูจะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ที่สุดที่เขาคิดออกในตอนนี้




ในหัวของมีนานึกถึงทรัพย์สินบ้านไม้เพิงเก่าๆที่พวกเขาอยู่ด้วยกันสามคนที่จะสามารถค้ำประกันได้ แต่ในหัวของธีรเชษฐ์นั้นคิดเลยไปถึงอาเสี่ยหัวล้านที่รอเวลาให้มีนาใช้ร่างกายขัดดอกชดเชยไปแล้ว




"ไม่ได้!"




มีนาสะดุ้งกับเสียงตวาดดังลั่นของชายหนุ่ม ร่างเล็กขวัญเสียอยู่แล้วยิ่งตัวสั่นเข้าไปใหญ่




"อะ...อะไรเหรอครับ?"




"ฉันไม่ให้ทำ" ธีรเชษฐ์เอ่ยเสียงห้วนอย่างเอาแต่ใจ "กู้ไปแล้วแล้วจะเอาที่ไหนไปใช้เขา ดอกเบี้ยอีก คิดบ้างสิมีนา"




"ขอโทษครับ" คนโดนดุเอ่ยเสียงอ่อย



"ขอเสนอของฉันยังอยู่"




"เอ๊ะ?"




มีนาเอียงคออย่างประหลาดใจเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้นมาแบบนั้น




"ฉันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แลกกับการที่เธอมาอยู่ที่นี่ หน้าที่ของเธอคือทำอาหาร ทำความสะอาด ซักผ้ารีดผ้า เชื่อฟังฉันทุกอย่าง ฉันพาไปไหนก็ต้องไป ฉันให้ใส่อะไรก็ต้องใส่ ฟังดูดีกว่ามั้ย?"




"แต่...เงินขนาดนั้น แค่ต้องการคนรับใช้เนี่ยเหรอครับ?"




ร่างเล็กมีสีหน้าเคลือบแคลงใจ ทั้งที่ถ้าเป็นคนอื่นคงตะครุบข้อเสนอนั้นตั้งแต่เขายังพูดไม่จบแล้ว ธีรเชษฐ์ยิ้มอย่างพึงพอใจ




"เปล่า ฉันอยากได้สัตว์เลี้ยง"




"สัตว์...สัตว์เลี้ยงเหรอครับ?" คนฟังทวนคำอย่างงุนงง ไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ




"แค่อยากเลี้ยงอะไรน่ารักๆไว้ดูเล่นบ้าง แต่ฉันไม่มีเวลามานั่งให้อาหาร" ชายหนุ่มไหวไหล่ คนโดนชมอย่างไม่ทันตั้งตัวหน้าแดง




"ถึงอย่างนั้นก็เถอะครับ..."...เงินพวกนั้นมันก็มากเกินไปอยู่ดีนั้นแหละ




"อีกไม่กี่เดือนเธอก็จะสิบแปดแล้วใช่มั้ย?"ธีรเชษฐ์ถามขึ้น




"เอ่อ..ครับ" ร่างเล็กตอบอย่างลังเล




"หลังจากวันเกิดครบรอบสิบแปดของเธอ ฉันมีทางเลือกให้สองทาง" ชายหนุ่มว่า "ทางแรกคือฉันจะรอจนเธอเรียนจบมีรายได้เป็นของตัวเอง แล้วเอาเงินมาให้ฉัน ส่วนเรื่องงานบ้านพวกนี้ฉันจะถือว่าเป็นค่าดอกเบี้ย"




"แล้ว...ทางที่สองล่ะครับ?"





ถึงแม้จะดีใจจนเนื้อเต้นกับทางออกที่หนึ่ง แต่มีนาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าอีกทางเลือกคืออะไร




"ถ้าเธอยอมนอนกับฉัน ฉันจะให้ครั้งละสองหมื่น" ชายหนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง "ฉันไม่ชอบบังคับจิตใจใคร แล้วฉันก็รู้ว่าฉันไม่จำเป็นต้องซื้อกิน แต่เห็นแก่ที่เธอเป็นเด็กดีฉันจะให้ทางปลดหนี้สบายๆนี่แล้วกัน"




"ทำไม...ถึงช่วยผมล่ะครับ"




มีนาที่รู้ดีอยู่แล้วว่าจะเลือกหนทางไหนถามอย่างไม่เข้าใจ ทำไมอีกฝ่ายถึงมาทำดีกับเขาทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่วันเดียว




"ฉันเป็นนักธุรกิจนะ" ธีรเชษฐ์โน้มเข้าไปใกล้ใบหน้าที่แดงระเรื่อเพราะพิษไข้ รอยยิ้มที่ขโมยใจสาวมานักต่อนักทำเอาท้องไส้ของมีนาปั้นป่วนโดยไม่ทันตั้งตัว "ถ้าเจอสินค้าที่ทดลองใช้แล้วคุ้มค่าต่อการลงทุน ทำไมฉันจะไม่จ่าย"




มีนาหน้าร้อนวูบเมื่อนึกถึงการ'ทดลองใช้'ของอีกฝ่ายเมื่อคืน




"แต่...แต่ผมไม่ได้บอกเลยนะครับว่าจะเลือกทางที่สอง"



มีนาแย้งเสียงสั่น ร่างสูงหัวเราะเสียงต่ำ ใบหน้าที่ใกล้จนแทบจะไม่มีช่องว่างระหว่างกันทำให้เด็กหนุ่มต้องรีบเบือนหน้าหนีด้วยกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น




"ฉันบอกแล้วไงว่าฉันเป็นนักธุรกิจ อะไรที่ไม่ได้กำไร ฉันไม่ทำอยู่แล้ว"




สายตาโลมเลียบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่มีความคิดสักนิดว่ามีนาจะปฎิเสธที่จะนอนกับเขา และนั่นทำให้ร่างเล็กรู้สึกว่าตัวเองไร้ศักดิ์ศรีเหลือเกินในสายตาของคนตรงหน้า




"ถ้ามีทางเลือก ผมไม่มีวันขายตัวให้คุณเพื่อใช้หนี้หรอกครับ"




เด็กหนุ่มสวนกลับอย่างมุ่งมั่นถึงแม้ร่างกายจะสั่นเป็นลูกนก ธีรเชษฐ์ยิ้มรับคำท้า




"ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอวันที่เธอเต็มใจขึ้นเตียงกับฉันเองฟรีๆก็แล้วกันนะ มีนา"


--------------

หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 50% P.4 คห 95 (9/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 09-03-2018 08:44:57
เหอๆ เจ้าเล่ห์เชียวนะคุณเชษฐ์
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 50% P.4 คห 95 (9/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 09-03-2018 09:15:54
คนแก่เจ้าเล่ห์ ลูกแกะน้อยมีนาของแมมมม่
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 50% P.4 คห 95 (9/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 09-03-2018 09:32:52
คุณเชษฐ์นี่นักธุรกิจจริงๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 50% P.4 คห 95 (9/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 09-03-2018 12:28:24
โฮฮฮฮฮ น้องมีนนนนนน คิดถึงหนูจัง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 50% P.4 คห 95 (9/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 09-03-2018 13:11:36
คุณเชษฐ์ ข่มน้องตลอดอ่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 50% P.4 คห 95 (9/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 09-03-2018 14:13:07
แพ้คนเจ้าเล่ห์ ใจบางงงงง o18
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 50% P.4 คห 95 (9/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 09-03-2018 17:08:08
 :hao3:


ดีลลล
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 50% P.4 คห 95 (9/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-03-2018 23:47:36
หึหึ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 50% P.4 คห 95 (9/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-03-2018 03:47:44
ยอมๆ เขาไปเถอะมีน เพื่อแม่กันยาย  o18
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 50% P.4 คห 95 (9/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 10-03-2018 08:59:45
เป็นข้อเสนอที่เย้ายวนใจมากเลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 50% P.4 คห 95 (9/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 12-03-2018 09:54:50

"มีน...นี่มันอะไรกันลูก มีนมีเงินจ่ายค่าห้องพิเศษโรงพยาบาลแบบนี้ด้วยเหรอ?"




มารดาของเขาถามด้วยน้ำเสียงแตกตื่นเมื่อจู่ๆเธอก็ถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลเอกชนที่เชี่ยวชาญทางด้านโรคมะเร็งเป็นพิเศษ แถมยังได้อยู่ห้องพิเศษที่มีห้องนอนญาติอยู่ภายในให้ยายของเขาได้อาศัยนอนอีกด้วยอีกด้วย เรียกได้ว่าใหญ่กว่าเพิงไม้ที่พวกเธออยู่หลายเท่า




“...เอ่อ...พอดีอาจารย์ของหนูเขาช่วยน่ะจ้ะแม่ แล้วท่านก็ช่วยฝากหนูเข้าทำงานพิเศษที่บริษัทของเพื่อนด้วย แม่ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ พักผ่อนเถอะ"




มีนายิ้มให้มารดาที่ถึงแม้จะล้มป่วยได้ไม่นาน แต่การไม่ยอมไปหาหมอทำให้อาการแย่กว่าที่ควรจะเป็นบ้าง มีนาได้คุยกับคุณหมอเจ้าของไข้ ถึงแม้การรักษาจะมีราคาที่สูงลิบลิ่วจนเขาไม่มั่นใจว่าชาตินี้จะหามาคืนธีรเชษฐ์ได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยโอกาสรอดก็มีมากขึ้นจนเด็กหนุ่มที่แทบหมดหวังยิ้มแก้มปริตอนออกมาจากโรงพยาบาล







"ถูกใจมั้ย?"





นั่นเป็นคำแรกที่ธีรเชษฐ์ถามเขาเมื่อร่างเล็กเข้ามานั่งในรถ




"คือ...ผมว่าห้องพิเศษมันแพงไปรึเปล่าครับคุณเชษฐ์"




มีนาถามขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ หลายวันที่ผ่านมานี้เขาปรับตัวคุ้นชินกับเจ้าชีวิตคนใหม่ของตัวเองได้ดีขึ้น แต่นั่นก็ทำให้เขาเรียนรู้ด้วยว่าอีกฝ่ายไม่ชอบให้ใครสงสัยในการตัดสินใจของตน




คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันทีที่ได้ยินพร้อมรถคันหรูที่กระชากตัวออกสู่ท้องถนนอย่างรวดเร็วจนมีนาคว้าเข็มขัดนิรภัยแทบไม่ทัน




นั่นไง ว่าแล้ว




"โกรธ...เหรอครับ?"




ร่างเล็กถามขึ้นเสียงเบาเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมพูดอะไรกับเขา




"รู้มั้ยว่ามีคนมากมายแค่ไหนพยายามหาทางนอนกับฉันเพื่อให้ซื้อเสื้อผ้าแพงๆ กระเป๋าหรูๆให้?"




ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น มีนานิ่งเงียบ ไม่มั่นใจว่าควรจะตอบอะไรในสถานการณ์แบบนี้




"กับเธอ นอกจากฉันจะให้ทุกอย่างโดยที่เธอไม่ต้องทำอะไร ยังให้ของที่ดีที่สุดกับเธอ แล้วเธอมีอะไรไม่พอใจอีก?"




"มะ...ไม่ใช่นะครับ" มีนารีบส่ายหน้าปฎิเสธ ความกตัญญูตีกันในหัวกับหนี้ที่ทับถมจนแทบมองไม่เห็นยอด "ผมแค่กลัวว่าผมจะไม่มีเงินมาใช้คุณ..."




"ฉันยินดีรับอย่างอื่นเสมอ" ร่างสูงตอบอย่างไม่ใส่ใจ "แค่วันละสิบครั้งไม่กี่เดือนก็หมดหนี้แล้ว"




"...."




ร่างเล็กตัดสินใจที่จะไม่ต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่าย พูดอะไรไปก็ยิ่งเหมือนเขาหาเรื่องให้ตัวเองขึ้นทุกที







"คุณเชษฐ์ ผมเตรียมน้ำในอ่างแล้วนะครับ"




มีนาที่ม้วนแขนเสื้อขากางเกงเพื่อกันน้ำกระเด็นใส่เดินออกมาเรียกคนที่นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะตั้งแต่กลับมา ร่างสูงพยักหน้ารับรู้ แต่ยังคงไม่ขยับจากโต๊ะทำงาน




เป็นอย่างนี้ทุกวัน




แต่ร่างเล็กเพียงแค่นั่งรอ เขาไม่เคยกล้าเรียกอีกฝ่ายมากเกินกว่าสองสามครั้งด้วยกลัวว่าชายหนุ่มจะรำคาญ นี่เป็นเหตุผลที่เขารองน้ำไว้แค่ครึ่งเดียวเพื่อที่จะได้เตรียมที่เหลือให้อุ่นเวลาที่ธีรเชษฐ์ขยับ ซึ่งคือสองชั่วโมงให้หลัง




ร่างสูงถอดเสื้อผ้าโยนลงบนพื้นระหว่างทางอย่างไม่ใยดีโดยมีร่างเล็กตามเก็บไม่ห่าง มีนาเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็พบธีรเชษฐ์ยืนเปลือยอยู่ในอ่างน้ำเข้าเต็มตา



"ตกใจอะไร ทำเป็นไม่เคยเห็น"




ชายหนุ่มกอดอกโชว์กล้ามเนื้อต้นแขนที่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากล้ามเนื้อท้องแน่นเป็นลูกที่มีนาเคยสัมผัสเลย เด็กหนุ่มกลืนน้ำเอื้อก รีบกุลีกุจอเก็บผ้าบนพื้นแล้วเอาไปใส่ในตะกร้า เมื่อหันมาอีกทีคนที่ทำเอาเขาเกือบหัวใจวายแต่เด็กก็ทรุดตัวลงแช่ในอ่างเสียแล้ว




มีนาตั้งใจว่าจะกลับออกไปเตรียมเสื้อผ้ารออีกฝ่ายข้างนอก แต่สีหน้าเคร่งเครียดและเสียงคำรามในลำคออย่างหงุดหงิดของคนที่กำลังพยายามผ่อนคลายในอ่างน้ำทำให้เขาเป็นห่วงขึ้นมา




หลังจากวันที่มีนาตกลงเป็นกระต่ายน้อยให้ร่างสูงเลี้ยง ธีรเชษฐ์ก็มัวแต่วุ่นวายกับการจัดการเรื่องย้ายโรงพยาบาลและการจ้างพยาบาลพิเศษมาช่วยดูแลทั้งมารดาและยายของร่างเล็ก อีกทั้งเรื่องเกลี้ยกล่อมให้เพื่อนรักยอมโอนอ่อนตามการตัดสินใจของลูกศิษย์ ถึงแม้คเชนทร์จะคาดโทษเขาไว้อย่างเต็มที่ก็ตาม




อีกทั้งหลังจากเรื่องที่เขาหุนหันออกมาหามีนาในวันที่ร่างเล็กล้มป่วย มธุวัน เลขาคนสนิทของเขาก็งอนที่ถูกเขาดุจนหนีไปทำงานที่ห้องลูกชายคนโตของเขา กว่าจะง้อกลับมาได้เล่นเขาเหนื่อย แถมเด็กที่ให้มาทำงานระหว่างที่มธุวันไม่อยู่ยังโดนหนึ่งในผู้หญิงของเขาซ้อมจนได้แผลเต็มตัว ทำให้มธุวันโกรธเขาเข้าไปใหญ่ ส่งงานมาให้ทำราวกับธีรเชษฐ์เป็นเลขาเสียเอง ทั้งหมดนี่ทำให้เขาไม่ได้ออกไประบายความเครียดที่ไหน และสำหรับธีรเชษฐ์นั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยชินอย่างมาก





แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่ออกไปหาเด็กมากกเลย ขนาดจะกินข้าวเขายังไม่มีเวลา ดูท่ารอบนี้เขาจะทำให้เลขาของเขาโกรธมากจริงๆ





และการที่มีกระต่ายตัวน้อยขนปุยส่ายหางกลมดุ๊กดิ๊กล่อสายตาเขาอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ช่วยธีรเชษฐ์เลย ก้อนเนื้อกลมกลึงที่เคยพาเขาทัวร์สวรรค์ไปรอบหนึ่งในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเบาบางซึ่งเป็นหนึ่งในชุดที่เขาซื้อมาให้อีกฝ่ายใหม่ยกตู้เสื้อผ้าขยับไปมาตามจังหวะการเดินของคนที่ก้มๆเงยๆเก็บข้าวของที่เจ้าของห้องทำรกไว้ส่งสัญญาณกระตุ้นคนที่ไม่ได้ปลดปล่อยนานจนผิดวิสัย ร่างสูงกัดฟันกรอด ได้แต่หลับตาท่องไว้ในใจว่ายิ่งเขาทนมากเท่าไหร่ เวลาที่ได้อีกฝ่ายมาครอบครองจะยิ่งคุ้มค่ามากขึ้นเท่านั้น




"คุณเชษฐ์ เป็นอะไรรึเปล่าครับ? ปวดหัวเหรอครับ?"




แต่มือนุ่มนิ่มที่แตะลงบนไหล่ของเขากับกลิ่นน้ำอบหอมอ่อนๆนั้นทำให้คนที่พยายามผ่อนคลายเครียดหนักขึ้นไปอีก




"ออกไปรอข้างนอก"




ชายหนุ่มข่มใจสั่ง ลืมตาขึ้นพบใบหน้าหวานและดวงตากลมโตที่ฉายแววกังวลในระยะประชิด




"ให้ผมนวดขมับให้มั้ยครับ เผื่อจะดีขึ้น"




ร่างเล็กเสนอ ถึงอย่างไรธีรเชษฐ์ก็เป็นผู้มีพระคุณ เขาอยากจะตอบแทนอีกฝ่ายในทุกทางที่เขาทำได้




"ไม่ต้อง ออกไป ล็อคประตูด้วย"




ชายหนุ่มสั่งเสียงห้วน มีนาที่รู้ตัวว่ากำลังกวนใจอีกฝ่ายรีบขอโทษขอโพยแล้วออกไปจากห้องน้ำ ไม่ลืมล็อคประตูตามคำสั่งของอีกฝ่าย ทันทีที่เขากดล็อคประตู เสียงครางต่ำในลำคอที่เขาเคยได้ยินในคืนแรกที่พวกเขาเจอกันก็ดังขึ้นจากอีกฝั่งของประตู มีนาไม่ได้ใสซื่อถึงขั้นจะไม่รู้ว่าธีรเชษฐ์กำลังทำอะไร แต่เมื่อคิดว่านี่คือสาเหตุของสีหน้าหงุดหงิดงุ่นง่านใจเมื่อครู่ของอีกฝ่ายก็ทำให้เขาอดหน้าร้อนด้วยความอับอายไม่ได้ที่คิดว่าชายหนุ่มแค่เครียดสะสมจากงานเท่านั้น





จะว่าไป หลายวันมานี้เขาก็ไม่เคยเห็นธีรเชษฐ์พาใครมาที่ห้องเลยซักคน หรือว่าร่างสูงจะเกรงใจเขา?




"ไม่ใช่หรอกมั้ง..."




เด็กหนุ่มส่ายหน้า คนที่แก้ผ้าเดินไปไหนมาไหนต่อหน้าเขาได้อย่างไม่อายมีหรือจะมาเกรงใจกับเรื่องแบบนี้ 




"ไม่เอามีน เลิกคิดๆ ไปทำกับข้าวได้แล้ว"




ร่างเล็กพึมพำกับตัวเอง ไม่อยากหาคำตอบว่าทำไมภาพของชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังทำเรื่องแบบนั้นกับคนอื่นทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมา เด็กหนุ่มทุ่มเทสมาธิทั้งหมดไปที่การทำครัวจนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาประชิดตัวจนกระทั่งเอวบางถูกรั้งเข้าไปในอ้อมกอดของร่างที่มีเพียงผ้าขนหนูผูกไว้ที่เอว




"อ๊ะ..."




มีนาตัวแข็งทื่อกับสัมผัสที่ทำอย่างไรเขาก็ยังไม่คุ้นเคย ถึงแม้จะตกลงกันไว้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ทำอะไรเขา แต่ร่างสูงก็มักจะสัมผัสเขาอย่างถือวิสาสะด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับนั่นเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของตัวเองแบบนี้เสมอ




ซึ่งหากมาคิดดูดีๆก็เป็นสิทธิ์ของอีกฝ่ายจริงๆ




“พึมพำอะไรอยู่คนเดียว?”



เสียงทุ้มถาม กระชับอ้อมกอดให้สัมผัสเด็กหนุ่มได้มากขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่ธีรเชษฐ์ชอบทำเป็นประจำ ถึงกระนั้นมีนายังคงไม่ชินกับท่าทีเป็นเจ้าข้าวเจ้าของที่อีกฝ่ายปฎิบัติกับเขาเสียที




“ผมแค่…คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรให้คุณทานน่ะครับ”




มีนาแก้ตัวเสียงเบา เขาเป็นคนที่พูดจาแผ่วเบาจนหลายครั้งหลายหนถูกคนรอบข้างตำหนิว่าฟังไม่ได้ศัพท์ แต่บุคลิกของเขาจะสดใสขึ้นทันเมื่อถึงเวลาที่จำเป็นจะต้องไปขายดอกไม้ไหว้พระที่ตลาดแทนแม่กับยายที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในตอนนี้ เขาพยายามผูกมิตรกับเพื่อนใหม่ที่มหาวิทยาลัยด้วยวิธีนั้นในวันแรกๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไม กับธีรเชษฐ์เขาถึงรู้สึกว่าไม่สามารถปั้นรอยยิ้มหวานและน้ำเสียงสดใสนั้นมาหลอกตาอีกฝ่ายได้




“ไม่ต้องทำ เดี๋ยวคืนนี้พาออกไปกินข้างนอก”




ชายหนุ่มฝังจมูกโด่งเป็นสันลงบนกลุ่มผมนุ่มนิ่มสีน้ำตาล สูดกลิ่นหอมอ่อนจางของน้ำอบจากร่างเล็ก มีนาห่อไหล่ ย่นคอหนีตามสัญชาตญาณ เมื่อรู้ตัวว่าเผลอแสดงกริยาที่ไม่เหมาะสมออกไป เด็กหนุ่มจึงรีบหันไปหาอีกฝ่ายเพื่อขอโทษขอโพย แต่ถึงแม้ธีรเชษฐ์จะชักสีหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ แต่อีกฝ่ายเพียงแค่ผละจากเขาเงียบๆโดยไม่พูดอะไร




มีนาสลด ความรู้สึกผิดก่อตัวภายในจิตใจ





คุณเชษฐ์โกรธเขารึเปล่านะ?

-------
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 100% P.4 คห 106 (12/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 12-03-2018 10:36:32
สงสารคนแก่ ต้องข่มใจขนาดไหน เอิ๊กกก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 100% P.4 คห 106 (12/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 12-03-2018 10:57:19
เข้ามาเพราะคู่ภัทร ดันเป้นคู่มีนา เสียใจ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 100% P.4 คห 106 (12/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 12-03-2018 13:14:31
ผู้สูงวัยอดกินเด็กจ้าาาาาาาา  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 100% P.4 คห 106 (12/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 12-03-2018 17:00:59
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 100% P.4 คห 106 (12/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 12-03-2018 20:28:59
คนแก่จะลงแดงตายก่อนไหมหนิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 100% P.4 คห 106 (12/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-03-2018 20:38:23
สงสารแฮะ โคแก่อยากกินหญ้าอ่อน  :hao6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 100% P.4 คห 106 (12/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 12-03-2018 22:59:51
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 100% P.4 คห 106 (12/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 13-03-2018 00:50:45
       สงสารมีนามากถึงจะมีคุณเชษฐ์มาช่วยแต่ไม่รู้ทำไมเรายังสงสารเด็กตัวเล็กที่ต้องอาศัยกับแม่และยายในบ้านเก่าๆแค่คิดภาพตามก็ชวนหดหู่แล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 100% P.4 คห 106 (12/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 13-03-2018 01:15:09
อร้ายยยยยยยยยยน้องมีนน่ารักน่าชัง
รอนะคะรอเอ็นดูน้อง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 100% P.4 คห 106 (12/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 13-03-2018 05:31:06
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 100% P.4 คห 106 (12/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 13-03-2018 09:17:27
คุณเชษฐ์พยายามข่มกลั้นความรู้สึกน่าดู น้องมีนคนเก่งอย่าหลงกลเชษฐ์ง่ายๆนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 100% P.4 คห 106 (12/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 14-03-2018 11:58:39
กระต่ายน้อยน่ารักส่ายหางกลมดุกดิ๊ก555555 อดทนไว้คุณพ่อ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 100% P.4 คห 106 (12/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: EunSung87 ที่ 16-03-2018 07:59:22
กระต่ายน้อยแค่นังไม่ชินนะ
คุณเชษก็ฝึกหักให้กระต่ายน้อยเก่งได้นิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 5 100% P.4 คห 106 (12/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 17-03-2018 07:52:17
Chapter 6: หึง

ถึงแม้จะรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกอีกฝ่ายขยับหนีราวกับรังเกียจเขาเสียเต็มประดา แต่ธีรเชษฐ์ต้องยอมรับว่าเขาได้ความบันเทิงเล็กๆจากการเห็นสีหน้าแตกตื่นของคนข้างๆเมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาในห้องอาหารขนาดใหญ่ของโรงแรมห้าดาวที่ธีรเชษฐ์ให้เลขาจองไว้ให้ก่อนหน้านี้




“เป็นอะไร?” ชายหนุ่มแสร้งถามคนที่ตัวลีบติดกับเขาทุกฝีก้าวทั้งที่รู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร




“คือ…”




มีนาอึกอัก เขาไม่อยากทำให้ร่างสูงรู้สึกรำคาญใจ แต่เขาไม่เคยชินกับร้านอาหารหรูหราราคาแพงที่แม้แต่บริกรยังแต่งตัวดีกว่าเขาแบบนี้




ไม่สิ คงต้องบอกว่านอกจากร้านอาหารในมหาวิทยาลัย มีนาไม่เคยเข้ามานั่งทานอาหารในร้านเลยสักที่





“เชิญครับคุณธีรเชษฐ์”




บริกรหนุ่มร่างสูงหน้าตาดีเดินนำพวกเขาไปยังห้องวีไอพีขนาดกลางที่มีประตูปิดกั้นพวกเขาจากโลกภายนอก ดูท่าร่างสูงจะมาใช้บริการที่นี่อยู่บ่อยครั้ง ดูจากท่าทีสนิทสนมของบริกรหนุ่มกับลูกค้าระดับวีไอพีที่มีหลุดออกมาบ้างถึงแม้การบริการจะคงไว้เป็นมืออาชีพอยู่ตลอด





แต่ที่เด่นชัดที่สุดเห็นจะเป็นสายตาดูถูกที่บริกรคนนั้นมียามเหลือบมองมาที่ร่างเล็ก





มีนาทำได้เพียงก้มหน้างุด ปล่อยให้ธีรเชษฐ์โอบเอวพาตนไปยังโต๊ะอาหารโดยไม่กล้าแม้แต่จะสบตาบริกรคนนั้น





“มานี่”




ก่อนที่เด็กหนุ่มจะได้นั่งลงบนเก้าอี้ แขนแกร่งที่โอบรอบเอวของเขาอยู่นั้นก็ดึงรั้งให้ร่างเล็กเซถลาลงไปนั่งบนตักแข็งของอีกฝ่ายอย่างพอดิบพอดี




”คุณเชษฐ์ครับ คือ…”




มีนาขยับตัวอย่างอึดอัด ก้มหน้ามองมือของตัวเองบนตักอย่างไม่รู้จะพูดอะไร เขาได้ยินเสียงเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิดก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะเชยคางมนขึ้นให้ดวงตากลมโตสบนัยน์ตาคมสีควันบุหรี่ของตน




“อะไร?”





“คือ…แบบนี้…คนอื่นจะ…”




“ห้องนี้เป็นห้องส่วนตัว ไม่มีใครเห็นเธอในสภาพนี้หรอกน่า”




ร่างสูงเอ่ยเสียงห้วน แต่เด็กหนุ่มยังคงไม่สบายใจกับคำตอบนั้น มีนายุกยิกไปมาบนตักของร่างสูงจนคนตบะไม่ได้แก่กล้าต้องยึดสะโพกมนไว้ให้อยู่นิ่ง




“แต่…คุณบริกร…”





“ทำไม? เห็นมองมันตาไม่กระพริบตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว…” มีนาย่นคอหนีใบหน้าคมเข้มที่ยื่นเข้ามาใกล้ใบหน้าของตนอย่างกระทันหัน แต่นั่นยิ่งไปกระตุกต่อมโมโหของคนอารมณ์ร้อนมากขึ้นไปอีก “หึ จะบอกให้นะ เด็กนั่นไม่ได้เด็ดอย่างที่เธอคิดหรอก ถึงจะลีลาดีกว่าก็เถอะ”





มีนากัดริมฝีปาก เบือนหน้าหนีคนที่พูดเรื่องแบบนั้นได้อย่างไม่อายด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเพียงแค่คำพูดที่สื่อเป็นนัยว่าธีรเชษฐ์เคยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งอย่างน้อยก็ทางร่างกายกับบริกรคนนั้น ในใจก็รู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านขึ้นมาเสียอย่างนั้น




“ผม…ไม่ได้คิดเรื่องแบบนั้น…”





“ดี” เสียงทุ้มเอ่ยสั้นๆ “ฉันไม่ชอบแบ่งของกับใคร เข้าใจใช่มั้ย?”





“ครับ”




ร่างเล็กพนักหน้าอย่างว่าง่าย ดวงตากลมโตที่หม่นลงทำให้จิตใจของธีรเชษฐ์รู้สึกไม่สงบขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่บริกรที่เดินเข้ามาพร้อมอาหารเรียกน้ำย่อยขัดจังหวะคนที่กำลังจะถามหาสาเหตุของดวงตาเศร้าสลดนั้น





บริกรหนุ่มชะงักเมื่อเห็นมีนาอยู่บนตักของธีรเชษฐ์ สายตาไม่พอใจที่ถูกส่งตรงมาทำให้มีนาก้มหน้างุดอย่างหวาดกลัว แต่บริกรหนุ่มยังคงรักษาความเป็นมืออาชีพไว้ วางถ้วยใส่ซุปครีมข้นสีขาวที่มีเห็ฝานบางและผงเครื่องเทศโรยประดับอย่าง
สวยงามสองถ้วยลงบนโต๊ะ




“ออเดิรฟของวันนี้เป็นซุปครีมเห็ดทรัฟเฟิล…”




แต่ธีรเชษฐ์ไม่ได้สนใจเสียงของคนที่กำลังแนะนำเมนูอยู่ ชายหนุ่มใช้ช้อนตักซุปร้อนๆที่ส่งกลิ่นหอมและมีควันลอยออกมาขึ้นมาเป่าให้หายร้อน ก่อนจะนำมาจ่อที่ริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูที่เผยอเล็กน้อยด้วยความงุนงง




“ชิมสิ”




ริมฝีปากของมีนาอ้าออกโดยอัตโนมัตเมื่อช้อนโลหะแตะที่ริมฝีปากของตน รับเอาซุปหวานหอมกลมกล่อมกลืนลงลำคอไปอย่างว่าง่าย ดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกายเมื่อรับรู้ได้ถึงรสชาติที่ยังคงหลงเลืออยู่ในปาก มีนาไม่เคยคิดว่าตนเคยรับประทานอะไรที่มีรสชาติแบบนี้มาก่อนในชีวิต





“ชอบมั้ย?”




 คนป้อนถามพร้อมกระตุกยิ้มมุมปากอย่างถูกใจกับปฎิกิริยาที่ได้รับ มีนาพยักห้นาหงึกหงัก ท่าทีใสซื่อของเด็กหนุ่มยิ่งทำให้ธีเรชษฐ์นึกอยากจับเด็กน้อยขึ้นนั่งบนโต๊ะทานข้าวแล้วสวาปามกระต่ายตัวน้อยให้ไม่เหลือแม้แต่เนื้อติดกระดูก




“เด็กดี…”




คำชมหวานหูที่อยู่ห่างจากใบหน้าของมีนาเพียงลมหายใจคั่นทำเอาร่างเล็กหน้าขึ้นสี มีนาสะดุ้งอย่างตกใจเมื่อลิ้นร้อนของอีกฝ่ายตวัดเลียเอาซุปสีขาวข้นที่เลอะอยู่ตรงมุมปากของตน ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะประทับตามลงมาอย่างอ่อนโยน




“อืม…อร่อยดี”




“คะ…คุณเชษฐ์…”




ที่ปลายหางตา มีนาเห็นบริกรหนุ่มหมุนตัวออกไปจากห้องด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างถึงที่สุด แต่ธีรเชษฐ์ยังคงไม่หยุดแค่นั้น มือใหญ่ประคองใบหน้ารูปไข่ให้เชิดขึ้นรับริมฝีปากที่บดขยี้ลงมาอย่างรุนแรง ร่างเล็กร้องออกมาด้วยความเจ็บ ร่างสูงใช้โอกาสนั้นสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากนุ่มหยอกเย้าลิ้นเล็กที่ไม่ประสีประสาจนมีนาหัวหมุนกับความรู้สึกวาบหวามที่ได้รับ




“อึ่ก!”





เด็กหนุ่มหลุดครางออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อรับรู้ถึงความเจ็บแปลบบริเวณริมฝีปากล่างที่ถูกฟันคมกัด แต่ธีรเชษฐ์ดูราวกับมัวเมากับรสชาติของขนมหวานขนาดพกพาบนตักไม่ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของมีนา ลากลิ้นเลียลงมาตามลำคอขาว ฝากรอยเขียวคมฝังไว้แสดงความเป็นเจ้าของจนร่างเล็กร้องออกมาด้วยความเจ็บ





“โอ๊ย! คุณเชษฐ์ครับ ผมเจ็บ…”





เสียงของมีนาทำให้ร่างสูงหยุดการกระทำของตนทันทีราวกับถูกกระชากออกจากห้วงภวังค์ ธีรเชษฐ์สบถในลำคอแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เล่นเอาคนบนตักแทบร่วงลงไปกองกับพื้น





“สำหรับเมนคอร์สในวันนี้เรามี…” บริกรหนุ่มที่เดินเข้ามาวางจานบนโต๊ะยังไม่ได้ทันจะได้พูดเมนูจบก็ถูกธีรเชษฐ์กระชากแขน
ให้เดินตามออกไป มีนายืนอึ้งอย่างตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะรีบเดินตามร่างทั้งสองที่หายไปจากทางเดินแล้วหลังจากที่ได้สติ




“อะ…คุณเชษฐ์…รีบจัง อื้อ…”





เสียงของบริกรคนนั้นดังลอดออกมาจากห้องอาหารข้างๆ มีนารู้สึกบิดมวนในช่องท้องอย่างไม่ทราบสาเหตุขณะที่ผลักประตูห้องอาหารเปิด





“อ๊ะ…อะ…”





เสียงครางแว่วหวานอย่างมีจริตจกร้านดังลอดออกมาจากริมฝีปากของคนที่ถูกธีรเชษฐ์ไซร้ซอกคออยู่บนโต๊ะอาหาร บริกรหนุ่มเหลือบเห็นมีนาที่ยืนอึ้งอยู่หน้าประตู ริมฝีปากของชายหนุ่มเหยียดยิ้ม ยกมือขึ้นแทรกนิ้วผ่านเส้นผมของธีรเชษฐ์แล้วครางออกมาอย่างสุขสม




“ขะ…ขอโทษครับ”




มีนาสามารถตะกุกตะกักออกมาได้เพียงแค่นั้นก่อนจะรีบปิดประตู ก้าวหนีออกมาจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่ขาสั้นๆของตนจะอำนวย




ผลั่ก!




เด็กหนุ่มชนเข้าอย่างจังกับร่างในชุดสูทที่เดินเลี้ยวมาจากมุมทางเดิน มีนาเซหงายไปด้านหลัง และคงล้มกระแทกพื้นไปแล้วหากไม่มีวงแขนแกร่งดึงตนเข้าไปในอ้อมกอดอย่างทันท่วงที




“เป็นอะไร…อ้าว มีน? มาทำอะไรที่นี่เนี่ย?”




เสียงของเพื่อนจากคณะบริหารทำให้มีนาที่หลับตาปี๋เตรียมรับแรงกระแทกเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างงุนงง




“พายุ?”



“นี่เจอกันแต่ละครั้งมึงจะไม่เจ็บตัวซักครั้งได้มั้ยเนี่ย?”




พายุส่ายหน้าอย่างละเหี่ยใจ ครั้งแรกที่พวกเขาเจอกันในวันรายงานตัวมีนาก็โดนฝูงชนเบียดจนเซมาชนเขา เรียกได้ว่าเป็นมนุษย์ที่ใครชนก็ปลิว





“ขะ…ขอโทษ…”




ร่างเล็กก้มหน้าเอ่ยเสียงสั่น เมื่อเห็นท่าทีของเพื่อน พายุจึงปรับเสียงให้นุ่มนวลลงด้วยกลัวว่าบุคลิกโผงผางของตนจะทำให้คนตรงหน้าขวัญเสียมากไปกว่าเดิม




“เป็นไรไป? ใครทำอะไรมึง?”




“มีนา!”




ร่างของมีนาถูกกระชากออกจากอ้อมแขนของพายุอย่างแรงจนเซไปปะทะกับอกของธีรเชษฐ์ที่มีสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างถึงที่สุด ฝ่ายพายุเมื่อเห็นเพื่อนโดนกระชากแบบนั้นก็มองคนอายุมากกว่าตาขวางทันที




“ทำอะไรวะ?!”




“เรื่องของผัวเมีย อย่ามายุ่งจะดีกว่า” ธีรเชษฐ์ตอบเสียงห้วน ดึงข้อมือของร่างเล็กจนแทบปลิวติดมือตามมา พายุตั้งท่าจะเข้ามาช่วยแต่มีนาหันไปส่ายหน้าให้พร้อมกับขมุบขมิบปากไร้เสียง




‘เราไม่เป็นไร’




แต่ท่าทีนั้นยิ่งทำให้ธีรเชษฐ์ยิ่งโมโหขึ้นไปอีก มีนานิ่วหน้ากับความเจ็บปวดที่ข้อมือขณะที่ถูกลากกลับไปที่รถแล้วเปิดประตู ดึงมีนาให้เข้าไปนั่งประจำที่นั่งคนขับแล้วปิดประตูเสียงดังปังจนมีนาสะดุ้งเฮือก ร่างเล็กได้แต่ก้มหน้างุดเมื่อเจ้าชีวิตของตนก้าวเข้ามาในรถแล้วกระแทกประตูปิดด้วยเสียงที่ดังไม่แพ้กัน





มีนารวบรวมความกล้าทั้งหมดเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อลอบมองสีหน้าร่างสูงเมื่อรถสปอร์ตคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดรถของคอนโด อารมณ์คุกรุ่นที่ฉายชัดบนใบหน้าทำให้เด็กหนุ่มรีบก้มหน้ากลับลงไปอีกคราด้วยกลัวจะเหยียบกับระเบิดที่เตรียมปะทุได้ทุกเมื่อลูกนี้เข้า




ธีรเชษฐ์คว้าข้อมือที่เจ็บระบมของมีนาให้ลงมาจากรถ ร่างเล็กปล่อยให้อีกฝ่ายลากไปโดยไม่ขัดขืนเพื่อลดอาการบาดเจ็บของตนให้น้อยที่สุด แต่ก็ยังเผลอร้องออกมาเบาๆเมื่อถูกธีรเชษฐ์ผลักลงบนเตียงโดยมีร่างของอีกฝ่ายตรึงข้อมือของเขาทั้ง
สองข้างไว้เหนือศีรษะประหนึ่งกรงขัง




“ทีฉันจับทำเป็นสำออย ทีกับไอ้เด็กนั่นยอมให้มันกอดหน้าตาเฉย นี่ฉันดูเธอผิดไปรึเปล่า มีนา?”




ร่างสูงเอ่ยเสียงเย็น มีนาส่ายหน้าพรืดอย่างหวาดกลัว น้ำตาที่ที่ไม่รู้ว่าเอ่อคลอหน่วยตาขึ้นมาเมื่อไหร่ไหลอาบแก้มอย่างห้ามไม่อยู่




“ปะ…เปล่านะครับ เขาแค่ช่วยผมไว้…”…ตอนที่ผมวิ่งออกมาจากห้องนั้น




มีนาเม้มริมฝีปากแน่น ไม่อยากที่จะต้องอธิบายความรู้สึกที่ตนก็ยังไม่เข้าใจว่าคืออะไรในตอนนั้นให้คนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดฟัง




“หึ พอเห็นคนที่จะเกาะได้ก็โผเข้าใส่” นิ้วเรียวยาวไล้ตามกรอบหน้ารูปไข่ของคนที่นอนตัวสั่นอย่างไร้ทางสู้ แต่แววตาของอีกฝ่ายนั้นไร้ซึ่งความอ่อนโยนตามการกระทำของตน “แต่ก็นะ ฉันจะหวังความซื่อสัตย์อะไรกับเด็กขายอย่างเธอได้”




แม้จะรู้ว่าสถานะของตนในตอนนี้ไม่ต่างจากขายร่างกายของตัวเองให้กับธีรเชษฐ์ล่วงหน้า แต่การได้ยินอีกฝ่ายพูดออกมาแบบนี้หลังจากที่ปฎิบัติกับเขาอย่างอ่อนโยนมาตลอดหลายวันทำให้ร่างเล็กสะอึกพูดไม่ออก




ดูเหมือนธีรเชษฐ์จะถือเอาความเงียบของเขาเป็นการยอมรับไปในตัว ร่างสูงผละจากร่างที่นอนนิ่งน้ำตาไหลอาบแก้มอยู่บนเตียง แม้ความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ในอกซึ่งยังไม่ได้รับการระบายจะทำให้เขาอยากแสดงให้คนตรงหน้าได้รับรู้ว่าตัวเองเป็นของใคร แต่เขาสัญญากับเพื่อนสนิทไว้แล้วว่าลูกศิษย์ตัวน้อยจะปลอดภัยอย่างน้อยก็ถึงวันเกิดอายุครบรอบสิบแปดปีของเด็กหนุ่ม





“ฉันจะกลับไปนอนที่บ้าน” ร่างสูงเอ่ยโดยไม่มองหน้ามีนา “จะทำอะไรก็ทำ แต่คงรู้นะ ว่ามูลค่าของเธอจะตกต่ำตามพฤติกรรมของเธอ มีนา”




ร่างเล็กชันตัวลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า มองเจ้าชีวิตที่กระแทกประตูห้องปิดตามหลังตัวเองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด มีนาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเจ็บที่ถูกอีกฝ่ายดูถูกด้วยคำพูดว่าร้ายที่ไม่เป็นจริง หรือเจ็บที่เห็นธีรเชษฐ์เดินจากไปในตอนนี้มากกว่ากัน









ฝ่ายธีรเชษฐ์ ชายหนุ่มทุบพวงมาลัยอย่างเจ็บใจกับอารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้ของตัวเอง ตอนที่มีนานั่งอยู่ตักของเขา ร่างสูงรู้สึกมึนเมาไปกับริมฝีปากนุ่มที่อ้ารับช้อนซุปที่เขาป้อนอย่างว่าง่าย รสชาติของร่างเล็กที่ติดมากับซุปที่เลอะอยู่ตรงมุมปาก และใบหน้าเขินอายกับกลิ่นน้ำอบอ่อนๆที่แตะจมูกของเขายามซุกไซร้ซอกคอขาว เขาไม่ได้ยินอะไรนอกจากเสียงครางแว่วหวานที่ปราศจากการเสแสร้งเช่นคู่นอนคนอื่น ก่อนที่เสียงร้องด้วยความเจ็บและความหวาดกลัวที่ตัดผ่านห้วงราคะที่ปกคลุมจิตใจจะทำให้เขาผละออกมาจากร่างเล็กทันทีด้วยกลัวว่าตนจะเผลอทำให้มีนาเจ็บตัว





เด็กคนนี้ไม่ใช่คู่นอนตามปกติที่ยอมอ้าขาให้เพียงแค่ธีรเชษฐ์ชายตามอง ร่างสูงเตือนตัวเอง





อารมณ์ที่คั่งค้างมาหลายวันทำให้ชายหนุ่มดึงตัวบริกรร่างโปร่งที่เคยเป็นคู่ขาชั่วคืนเมื่อนานมาแล้วของตนไปที่ห้องข้างๆเพื่อระบาย ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมเอียงคอให้เขาฝากรอยอย่างรู้หน้าที่ด้วยรู้ว่าวันรุ่งขึ้นธีรเชษฐ์จะตบรางวัลให้มากกว่าที่ตนจะสามารถหาได้ในหนึ่งเดือนเสียอีก




“ขะ…ขอโทษ…”





แต่เป็นอีกครั้งเสียงที่สั่นเครือของมีนาที่สามารถหาทางวาดผ่านอารมณ์ที่พุ่งพล่านของธีรเชษฐ์อย่างที่ไม่มีใครที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ทำได้เข้าสู่โสตประสาทของร่างสูง แต่เมื่อเขาผละออกมาจากบริกรหนุ่ม ร่างเล็กของกระต่ายน้อยของเขาก็หายไปเสียแล้ว




“คุณเชษฐ์…อย่าไปสนใจเด็กแบบนั้นเลยครับ…”ร่างโปร่งคว้าแขนของเขาไว้เมื่อธีรเชษฐ์ตั้งท่าจะตามเด็กหนุ่มไป มืออีกข้างเกี่ยวหัวเข็มขัดของชายหนุ่มให้ขยับเข้ามาหาแล้วทรุดตัวลงคุกเข่าบนพื้นอย่างชำนาญ “ให้ผมบริการดีกว่า”




หากเป็นยามปกติ ธีรเชษฐ์คงจะยอมให้อีกฝ่ายบริการอย่างไม่อิดออด แต่ร่างสูงที่กระวนกระวายใจกับการหายตัวไปของมีนาเพียงแต่ปัดมือของบริกรหนุ่มออกอย่างไม่ใยดีแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องไปทันที




การได้เห็นอีกฝ่ายในอ้อมกอดของเด็กหนุ่มอายุไล่เลี่ยกันที่มองมีนาด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใยจนออกนอกหน้าทำให้โทสะของร่างสูงพุ่งพล่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ธีรเชษฐ์ไม่เคยรู้สึกไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเอง แต่แม้แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าตนไม่สามารถแข่งกับเวลาได้ การที่มีนาจะเผลอไผลไปกับเด็กหนุ่มหน้าตาดีที่อายุน้อยกว่าเขาในภายภาคหน้าย่อมไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้





แต่แค่คิดเขาก็อยากจะล่ามโซ่มีนาไว้ในห้องจนกว่าอีกฝ่ายจะอายุสิบแปด แล้วตีตราประทับไม่ให้ร่างเล็กสามารถอยู่อ้อมกอดของใครนอกจากเขาได้ไปตลอดชีวิต




ธีรเชษฐ์รู้ว่านั่นเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัว




แต่เขาก็รู้เช่นกัน ว่าตัวเองไม่ใช่คนดีอะไร


----------

มีนเชษฐ์ก็เป็นคู่หลักน้า ก็จะมีความมีพล็อตกับชาวบ้านเขา อย่าได้ตกใจ55555
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Phuengwu ที่ 17-03-2018 08:27:43
 :katai1: :katai1:  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 17-03-2018 08:33:32
คนแก่ขี้หึง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 17-03-2018 08:52:57
เนี่ยยย ก็คุณเชษฐ์ชอบรุนแรงกับน้องตลอดอ่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 17-03-2018 09:04:15
สงสารน้องมีน ทำตัวไม่ถูกเลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 17-03-2018 11:04:21
 :katai4: :katai4: คุณเชษฐ์ต้องให้คุณเลขามาปราบ ส่งคุณหมอกไป!
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 17-03-2018 18:02:04
ต่างฝ่ายต่างก็หวงกันนะเนี่ย แต่ไม่ยอมพูดออกมาให้ชัดเจน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 17-03-2018 21:04:21
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 17-03-2018 22:01:32
 คุณเชษฐ์นี้ไม่เหมาะที่จะมีครอบครัวหรือคนรักเลยจริงๆเพราะเป็นคนที่มีความเห็นแก่ตัวสูงมาก
อะไรมันจะต้องการความไคร่มากขนาดนั้นกันถ้าต้องการมากขนาดนั้นก็ไม่ควรมีความรักตั้งแต่แม่ของลูกแล้วคนดีเค้าทนกันได้แต่คนแบบ คุณเชษฐ์ก็มีข้องอ้างไปเรื่อย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-03-2018 22:32:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-03-2018 01:18:52
ท่านประธานกรุณาอย่าทำให้มีนเครียดมากนัก มีนรับศึก 2 ด้านไม่ไหวนะ ไหนจะท่านประธาน ไหนจะหมออุ่นลูกท่านประธานอีกคน   :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: EunSung87 ที่ 18-03-2018 01:40:33
ขุ่นพ่อหึงโหดไปแล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 18-03-2018 07:54:45
พูดทำร้ายจิตใจกันทำไม จะห้าม หึง หวง ก็บอกกันตรงๆ อย่าพูดแบบนี้ มีนาเสียใจ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 18-03-2018 08:26:40
ชอบคู่คุณพ่อ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 18-03-2018 08:35:47
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-03-2018 00:46:37
เห้อออ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-03-2018 19:15:31
น้องมีนต้องไปเรียนรู้จากหมอกนะ จะได้กล้าแกร่ง
เด็กน้อยน่าสงสาร ความสดใสต้องมามัวหมองเพราะสถานะ

แต่ก็ยังพอโชคดีที่เจอคุณเชษฐ์
แล้วแถมหลงมีนหนักมากด้วย
เข้าใจน้องด้วยนะคะ เค้าเป็นเด็กดี
จะทำอะไรก็มีสะดุ้งบ้าง ตกใจบ้างสิ

มีนมาเอง คงได้เจอโมเมนท์น้ำอุ่นจังๆ แล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 6 100% P.5 คห 120 (17/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 21-03-2018 07:37:11
Chapter 7: เด็กเล่นขายของ

“มีน? มึงเป็นไงบ้าง? ที่กูเห็นวันนั้นคือแฟนมึงเหรอ?”




ทินกรไม่ได้ฟังพายุที่รัวคำถามใส่มีนาอย่างผิดวิสัยทันทีที่ร่างเล็กนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมข้าวราดแกงในจาน เด็กหนุ่มลูกเสี้ยวรัสเซียนั่งเท้าคางกับโต๊ะหินอ่อนเพ้อไปถึงชายหนุ่มรุ่นพี่เจ้าของตำแหน่งรองหัวหน้าฝ่ายการตลาดในบริษัทของบิดาที่ในตอนนี้ดูเหมือนจะเริ่มเปิดใจให้เขาทีละนิด และตั้งหน้าตั้งตารอบทเรียนวิชาภาษาไทยในวันนี้อย่างใจจดใจจ่อ




“เฮ้ย ไอ้ซัน! ช่วยกูหน่อยสิวะ!”




เสียงแหกปากของพายุและมือใหญ่ที่ตบหลังเขาดังป้าบเล่นเอาทินกรแทบหัวทิ่มไปกับโต๊ะ




“อะไร?” เด็กหนุ่มขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดเมื่อโดนขัดจังหวะฝันกลางวัน




“บอกมันดิ๊ว่ามีแฟนอายุมากกว่าเป็นสิบปีเนี่ยมันอันตราย เกิดโดนเขาหลอกไปขายขึ้นมาจะทำยังไง?” พายุขอกำลังเสริม




“ไม่ใช่แฟนซะหน่อย แค่…คนรู้จัก”มีนาแย้งเสียงเบาหวิว




อนิจจา เด็กหนุ่มผิวคล้ำเลือกคนที่จะช่วยตนผิดไปมาก




“พี่ภัทรก็อายุมากกว่ากูสิบห้าปี ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”





ทินกรไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ เพื่อนทั้งสองของเขาชะงัก โดยเฉพาะพายุที่ทนเก็บสุนัขไว้ในปากไม่ได้นานนัก




“พี่เขาจะเอามึงเหรอวะ? แน่ใจนะว่าไม่ได้โมเมเอง?”




“กินข้าวไม่อิ่มเหรอถึงมาขอกำปั้นแถวนี้?”




คนโดนว่าถามสวน เดือดร้อนถึงมีนาที่ต้องเขามาห้ามทัพเพื่อนทั้งสองไม่ให้ตีกัน ทินกรสำนึกในบุญคุณและสายตาที่เฉียบคมของภรัณยูอยู่เสมอที่ทำให้เขาได้รู้จักกับมีนา ถึงแม้เพื่อนต่างคณะคนนี้จะไม่ได้เรียนทุกวิชาร่วมกับเขา แต่ตอนที่อยู่ด้วยกัน มีนาก็ช่วยทั้งเรื่องภาษาไทยของเขาและติวเนื้อหาให้พายุได้พอสมควร แถมยังเป็นกรรมการห้ามมวยตัวจิ๋วระหว่างเพื่อนทั้งสองอยู่บ่อยครั้ง




“ว่าแต่…แฟนมีนนี่เป็นคนยังไงเหรอ?” ทินกรถามด้วยน้ำเสียงใคร่รู้




“กะ…ก็บอกว่าไม่ใช่แฟนไง” มีนางึมงำเถียง




“ฝรั่งตัวอย่างใหญ่ จะว่าไปก็แอบคล้ายๆมึงอยู่นะ แต่แม่งดูโฉดกว่าเยอะ” พายุสังเกต มีนาพินิจพิจารณาใบหน้าของเพื่อนตามที่อีกฝ่ายว่า แอบเห็นด้วยกับข้อสังเกตของเพื่อน




“ฝรั่งก็หน้าเหมือนกันหมด มีคนทักกูผิดกับอาจารย์ฝรั่งตลอด” ทินกรว่า “แต่พายุก็มีเหตุผลนะมีน ซื่อบื้อแบบมีนจับคนอื่นไม่ได้ว่ายไม่ทันหรอก”




“ฮ่าๆๆๆๆ”




หนุ่มไทยแท้ปล่อยเสียงหัวเราะก๊ากกับคำพูดของเพื่อน ส่วนมีนาที่โดนด่าโดยที่คนด่าไม่รู้ตัวนั่งหน้าเสียจนทินกรต้องรีบขอโทษขอโพยแม้จะไม่รู้ว่าตนพูดอะไรผิดไปก็ตาม



Rrrrr




เสียงโทรศัพท์ของร่างสูงดังขึ้นพร้อมกับชื่อของคนที่ตนกำลังรออยู่ ทินกรรีบกดรับสายด้วยน้ำเสียงสดใส




“อยู่ตรงม้าหินอ่อนโรงกลางครับพี่ภัทร”




“เดินออกมาเลย เดี๋ยวพี่วนไปรับ”




เสียงปลายสายฟังดูเนือยๆถึงแม้ว่าตามปกติเสียงของร่างโปร่งจะติดยานคางหน่อยๆเหมือนง่วงอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วก็ตาม แต่ทินกรไม่ได้ซักถามอะไรต่อเพราะเห็นว่าถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็กำลังจะมารับตนอยู่แล้ว




“สวัสดีครับพี่ภัทร”




ทินกรยกมือไหว้อีกฝ่ายเมื่อเข้ามาในรถเป็นที่เรียบร้อย ภรัณยูพยักหน้าให้ร่างสูงอย่างเชื่องช้า ขอบตาแดงๆและท่าทีเซื่องซึมผิดปกติของคนขับทำให้ทินกรถามอย่างเอะใจ




“เมื่อคืนพี่ภัทรนอนไปกี่ชั่วโมงครับ?”




“พี่โตแล้ว ไม่ต้องให้ซันมาเช็คเป็นเด็กๆหรอก” ภรัณยูตอบปัด และนั่นยิ่งตอบข้อสันนิษฐานของคนถามได้เป็นอย่างดี




“ถ้าพี่ภัทรโตแล้วก็ตอบคำถามผมตรงๆแบบผู้ใหญ่สิครับ”




ทินกรยังคงดื้อดึงจะเอาคำตอบ จากที่เขาเคยคุยกับมธุวัน เลขาของบิดาซึ่งรู้จักภรัณยูอยู่บ้าง และเป็นคนที่แอบกระซิบที่อยู่ของร่างโปร่งให้เขา ทินกรค้นพบว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ปฏิเสธใครไม่เป็น ทำให้ถึงแม้จะมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าฝ่าย แต่งานที่เจนจิราซึ่งเป็นหัวหน้ากระจายลงมานั้นส่วนใหญ่ภรัณยูก็มักจะถูกลูกน้องในฝ่ายรบเร้าให้ช่วยทำให้อยู่เรื่อย ถึงแม้มธุวันจะเคยตักเตือนทั้งตัวภรัณยูและลูกน้องไปแล้ว แต่พฤติกรรมแบบนี้เลิกได้ไม่นานก็กลับมาใหม่จนเลขาหนุ่มเหนื่อยใจที่จะพูด ทินกรจึงพอจะเดาออกว่าอีกฝ่ายคงโต้รุ่งทำงานของคนอื่นอีกตามเคย




 ภรัณยูมีสีหน้าลังเล ก่อนจะตัดสินใจตอบไปตามความจริง




“สาม…”




“สามชั่วโมง? สามสิบนาที?!” ร่างสูงเดาอีกครั้งเมื่อหางคิ้วของคนขับกระตุกเล็กน้อยอย่างมีพิรุธกับการเดาครั้งแรก “สามสิบนาที? พี่ภัทรจอดรถเดี๋ยวนี้เลยครับ!”




อารามตกใจกับเสียงของร่างสูง ภรัณยูตีไฟชิดเข้าจอดข้างทางโดยไม่มีคำโต้แย้งใดๆ ทินกรเปิดประตูออกมาจากรถแล้ว
เปิดประตูฝั่งของภรัณยูออก




“ลงมาครับ ผมขับเอง”




“ได้ยังไง ใบขับขี่ก็ไม่มี” ภรัณยูเถียงด้วยดวงตาปรือปรอย




“ผมว่าถ้าเทียบความเสี่ยงตอนนี้พี่น่าจะมีสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าผมนะครับ” เมื่อใช้เหตุผลไม่สำเร็จ เด็กหนุ่มจึงต้องใช้กำลังเข้าขู่บังคับ “ถ้าพี่ภัทรไม่ให้ผมขับผมจะปล้ำพี่ตรงนี้แหละ”




“ซัน อย่างอแงได้…เฮ้ย! ทำอะไรเนี่ย?!” ภรัณยูร้องอย่างตกใจเมื่อมือใหญ่ดึงเอาเนคไทค์ของตนออกพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเม็ดบนอย่างคล่องแคล่ว “รู้แล้วๆ ยอมแล้วๆ ไปก็ได้”




คนที่ง่วงๆอยู่ถึงกับตื่นเต็มตา รีบกระโดดลงจากรถแล้วเดินอ้อมไปนั่งที่นั่งข้างคนขับแต่โดยดี




“นอนไปเลยครับ เดี๋ยวถึงแล้วผมปลุก”




เด็กหนุ่มที่จี้รถของเขากลางทางเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งสั่ง ใส่เกียร์เดินรถแล้วหักพวงมาลัยกลับเข้าสู่ท้องถนน




“ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวช่วยดูทาง”คนที่ไม่ได้ฝากชีวิตไว้กับมือคนอื่นหลังพวงมาลัยมานานเอ่ยอย่างไม่ไว้ใจ




“พี่ลืมตาผมจูบ” ทินกรขู่ ทำเอาคนที่เกือบโดนจับถอดเสื้อในรถตัวเองบนถนนรีบหลับตาปี๋อย่างว่าง่าย




ทินกรอมยิ้ม ขับรถของภรัณยูมุ่งหน้าไปยังบ้านของตัวเองโดยมีเจ้าของรถที่นอนหลับสนิทหลังจากปิดเปลือกตาได้ไม่นานนอนหายใจดังฟี้เบาๆไปตลอดทาง










ธีรเชษฐ์เดินลงบันไดบ้านมาด้วยจิตใจขุ่นมัวจากเรื่องของกระต่ายน้อยที่เขาทิ้งไว้ที่คอนโด ถึงแม้เขาจะรู้สึกตัวเมื่อใจเย็นลงว่าอาจจะทำเกินไป แต่ทิฐิในใจก็ยังสามารถเอาชนะความรู้สึกผิดของชายหนุ่มได้จนกระทั่งวันนี้





ธีรเชษฐ์ก้มมองโทรศัพท์ของตัวเองอย่างหงุดหงิด




ผ่านมาสัปดาห์กว่าๆแล้ว เด็กนั่นไม่คิดจะโทรมาถามสารทุกข์สุขดิบเขาสักนิดเลยรึไงกัน?





ไม่สิ ดีไม่ดีอีกฝ่ายจะดีใจด้วยซ้ำที่ได้อิสระเป็นของตัวเองมาตลอดสัปดาห์





เมื่อลงมาถึงห้องโถง ร่างสูงเห็นลูกชายคนเล็กนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวกลางห้องนั่งเล่น โดยมีพนักงานของบริษัทเขาที่ควรจะทำหน้าที่เป็นครูสอนพิเศษให้เด็กหนุ่มนอนหลับสนิทอยู่บนตัก




“พี่ภัทร…ขึ้นไปนอนที่ห้องผมก่อนมั้ยครับ? ตรงนี้มันร้อนนะครับ”




ทินกรกระซิบถามคนที่หลับอยู่ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เกลี่ยเส้นผมสีน้ำตาลออกจากใบหน้าของชายหนุ่มอายุมากกว่าอย่างแผ่วเบาราวกับว่าอีกฝ่ายทำจากแก้วแสนเปราะบาง ร่างโปร่งส่งเสียงครางในลำคอแต่ไม่ตอบสนองต่อคำถามนั้น




“ซัน…”




ธีรเชษฐ์ที่กำลังจะเอ่ยถามลูกชายถูกเด็กหนุ่มยกนิ้วขึ้นแต่ริมฝีปากด้วยสายตาดุๆราวกับว่าตนเป็นลูกเสียเอง ทินกรคว้ามองอิงสี่เหลี่ยมมาแล้วยกศีรษะของครูสอนพิเศษของตนขึ้นเล็กน้อยก่อนจะสับเปลี่ยนกับตักของตัวเองแล้วลุกขึ้นมาจากโซฟา พยักเพยิดให้อีกฝ่ายออกไปคุยไกลๆเพื่อไม่ให้คนที่นอนหลับอยู่ตื่น




“ไวไฟเหมือนกันนะแก” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วถามเมื่อพ้นรัศมีการได้ยินของภรัณยู



“ก็ลูกพ่อนี่ครับ”




ทินกรยิ้มแฉ่งตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน ธีรเชษฐ์นึกดีใจที่ตนตัดสินใจส่งลูกชายคนเล็กไปอยู่กับญาติฝ่ายแม่ที่เปิดร้านอาหารอยู่ที่อเมริกา อย่างน้อยทินกรก็ได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นกับคนที่รักและเอ็นดูเด็กหนุ่มหลังจากเกศราเสียไป เขารู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่พ่อดีเด่น แต่ธีรเชษฐ์ก็เหมือนพ่อทั่วไปที่อยากให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุดที่ตนจะสามารถหาให้ได้




“แล้วนี่เขาตกลงปลงใจกับแกแล้วรึไงถึงไปทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาขนาดนั้น? ยิ่งเป็นพวกตามใครไม่ทันอยู่”




ถึงแม้พฤติกรรมของตัวเองจะเหลวแหลกแค่ไหน ธีรชเษฐ์ก็ยังคงพยายามสั่งสอนลูกชายคนเล็กที่ดูจะเป็นคนเดียวที่ยังมีความเคารพเชื่อฟังในตัวเขาอยู่บ้างให้เติบโตมาเป็นคนดี เขาเชื่อว่าภรรยาที่เสียไปคงจะอยากให้เขาทำอย่างนั้น




 อีกอย่าง นอกจากเรื่องงาน ภรัณยูนั้นเป็นพวกที่มีปฎิกิริยาตอบสนองเชื่องช้าจนน่าเป็นห่วงไปเสียทุกเรื่อง มีหรือจะตามลูกชายตัวแสบของเขาทัน




“ไม่ยอมผมก็ไม่ปล่อยเขาไปไหนหรอกครับ”




ทินกรตอบพร้อมรอยยิ้มมั่นใจ ธีรเชษฐ์ไม่รู้ว่าควรจะโทษตัวเองหรือไม่ที่ความคิดความอ่านของลูกชายกลายเป็นแบบนี้ไปได้




“แสดงว่าคนนี้เอาจริง?” ชายหนุ่มถามลูกชาย “แน่ใจแล้วเหรอ? อายุแกแค่สิบเจ็ดสิบแปด จะมาเอาอะไรกับผู้ชายสามสิบกว่า คบกับเด็กรุ่นเดียวกันไม่ง่ายกว่ารึไง?”




“ถ้าไม่ใช่พี่ภัทร จะใครผมก็ไม่เอา”



เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงดื้อดึงราวกับเด็กน้อยอยากได้ของเล่น ทั้งที่ปกติทินกรไม่เคยแม้แต่จะใช้อภิสิทธิ์ความเป็นลูกชายคนเล็กเพื่อขออะไรจากคนในบ้าน




รักเร็ว รักแรง รักมากจนยอมทำทุกอย่างเพื่อความรักของตัวเอง




ธีรเชษฐ์จำได้ว่าตอนเด็กๆ สมัยที่เขายังอยู่กับบิดาที่รัสเซีย ผู้ชายคนนั้นเคยบอกเขาว่านี่เป็นคำสาปของผู้ชายในตระกูลของเขา แต่กับเด็กทั้งสามที่แทบไม่เคยเจอปู่ของตัวเองเลยในช่วงชีวิต การได้เห็นลูกชายคนเล็กประกาศกร้าวถึงเจตจำนงของตัวเองอย่างมั่นใจแบบนี้ทำให้ร่างสูงอดนึกถึงคำสาปที่ว่านั่นไม่ได้




รักมากจนยอมทำทุกอย่างเพื่อความรักของตัวเอง…




ชายหนุ่มสลัดความคิดนั้นออกไปจากหัวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยกับลูกชายด้วยน้ำเสียงเพลียจิต




“จะทำอะไรก็ทำ อย่าให้เสียการเรียนแล้วก็อย่าให้เขาเสียการเสียงานก็พอ”




ถึงอย่างไร วันนี้เขาก็ไม่คิดจะอยู่คุมความประพฤติลูกชายที่บ้านอยู่แล้ว




“ครับ” ทินกรรับคำเสียงใส ก่อนจะรีบเรียกบิดาไว้ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้ออกไปจากบ้าน “พ่อครับ?”




“หือ?” ธีรเชษฐ์ขานรับโดยไม่หันกลับมา




“วันนี้ให้พี่ภัทรค้างที่นี่ได้มั้ยครับ?”



------------

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 50% P.5 คห 137 (21/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 21-03-2018 08:05:35
 :o8:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 50% P.5 คห 137 (21/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 21-03-2018 10:08:39
โผล่มาสักทีคู่พี่ภัทร
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 50% P.5 คห 137 (21/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 21-03-2018 13:21:16
ครอบครัวนี้ผู้ชายเรียกว่ามีคำสาปเลยรึเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 50% P.5 คห 137 (21/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 21-03-2018 15:52:50
รักเมียหลงเมีย คริๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 50% P.5 คห 137 (21/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 21-03-2018 19:29:44
รักเร็วเราเข้าใจ แต่รักแรงนี่คิดดีไม่ได้เลย #ทำไมอิฉันเป็นคนแบบนี้
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 50% P.5 คห 137 (21/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-03-2018 03:26:32
ซัน-ภัทร ฉลุยแล้วพ่อเปิดทางให้ คู่พ่อนี่ซิ คงโดนลูกชายคนรองเล่นงานอ่วมแน่ ๆ หนูมีนเอย  :z3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 50% P.5 คห 137 (21/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 22-03-2018 14:48:25
         :heaven :heaven :heaven
โอ๊ยอิจฉาในความสมัยใหม่ของคนบ้านนี้จริงๆค่ะลูกบ้านนี้โชคดีนะค่ะที่ไม่มีใครมาตีกรอบของชีวิตให้เดินอยากรักใครก็ได้รักไม่ลำใย :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 50% P.5 คห 137 (21/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 24-03-2018 20:31:31
ความต่างของอายุ ไม่เป็นอุปสรรคกับคนบ้านนี้เลยงั้นสินะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 50% P.5 คห 137 (21/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 26-03-2018 06:50:39

ผ่านมาสัปดาห์กว่าแล้วธีรเชษฐ์ยังคงไม่กลับมาที่ห้อง



มีนาเหลือบมองโทรศัพท์ของตนด้วยสีหน้าเศร้าหมอง เขาไม่รู้ว่าตนมีสิทธิ์ที่จะโทรหาอีกฝ่ายหรือไม่ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าธีรเชษฐ์อยากจะเห็นหน้าเขาอีกรึเปล่า




“เป็นอะไรลูก หน้าตาไม่แจ่มใสเลย”




เมษา มารดาของเด็กหนุ่มเอ่ยขึ้น หลังจากสองวันที่ธีรเชษฐ์ไม่กลับห้อง มีนาตัดสินใจมานั่งช่วยยายร้อยมาลัยในห้องพักคนไข้ของมารดาหลังเรียนหนังสือเสร็จเพื่อทำให้จิตใจหายฟุ้งซ่าน แล้วกลับไปนั่งรอชายหนุ่มที่ห้องหลังจากหมดเวลาเยี่ยมผู้ป่วย




“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะแม่ หนูแค่เครียดเรื่องเรียนน่ะจ้ะ”




มีนาฝืนยิ้มให้มารดาคลายกังวล เขาไม่อยากให้แม่ต้องมีเรื่องเครียดไปมากกว่านี้




“อย่าหักโหมมากนะลูก หนูน่ะชอบฝืนตัวเองอยู่เรื่อย”




เมษาเอ่ยอย่างหนักใจกับนิสัยไม่คิดถึงตัวเองของลูกชาย มีนาพยักหน้าให้มารดาพร้อมรอยยิ้ม ก้มร้อยมาลัยข้างยายของตนที่หูตาฝ้าฟางเสียจนต้องก้มหน้าชิดเข็มเพื่อให้ตัวเองมองเห็น









มีนาขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นว่าไฟในห้องนอนเปิดอยู่เมื่อตนแตะคีย์การ์ดกลับเข้ามาในห้อง ร่างเล็กวางกล่องใส่มาลัยขนาดยักษ์ที่ทำให้ตนจำเป็นต้องขึ้นรถแท็กซี่มาลงบนโต๊ะทานข้าวแล้วเปิดประตูห้องนอนเข้าไปด้วยคิดว่าตนลืมปิดไฟก่อนออกจากห้อง แต่ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างเมื่อเห็นร่างสูงที่ตนนั่งรอจนหลับไปไม่รู้กี่วันต่อกี่วันนั่งกอดอกรอเขาอยู่ปลายเตียงด้วยสีหน้าหงุดหงิด




“ไปไหนมา?”




“ผะ…ผม…ไปเยี่ยมแม่มาครับ…ไปร้อยมาลัยกับยาย…”




 มีนาตอบเสียงเบา ยังคงสับสนกับการที่อีกฝ่ายกลับมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ธีรเชษฐ์กระดิกนิ้ว เรียกให้เด็กหนุ่มเดินเข้ามาหาตน มีนาก้าวเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างกล้าๆกลัวๆ ไม่มั่นใจว่าจะถูกคนตรงหน้าอารมณ์เสียใส่อีกหรือไม่




เอวบางถูกแขนของอีกฝ่ายรั้งเข้ามาใกล้ จมูกโด่งฝังลงบนซอกคอขาว สูดกลิ่นหอมของน้ำอบและกลิ่นดอกไม้ที่เด็กหนุ่มใช้ร้อยมาลัยและจัดเป็นมัดไว้สำหรับนำไปขายที่ตลาดในวันรุ่งขึ้นเข้าไปจนเต็มปอด




“อือ…เชื่อก็ได้…” ร่างสูงพึมพำข้างหูของมีนา ซุกหน้าลงบนไหล่บาง คนที่ไม่ทันตั้งตัวได้แต่ยืนตัวแข็งอย่างไม่รู้จะทำตัวอย่างไร




“เอ่อ…คุณเชษฐ์ทานอะไรมารึยังครับ? ให้ผมทำอะไรให้ทานมั้ย?”




ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ถามออกไปด้วยน้ำเสียงเกรงๆ ธีรเชษฐ์ผละออกมาเล็กน้อย ดวงตาสีควันบุหรี่จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลกลมโตราวกับจะล้วงลึกไปถึงก้นบึ้งของจิตใจของร่างเล็ก มีนารู้สึกว่าหน้าของตัวร้อนผ่าว เบือนหน้าหนีสายตาสำรวจของอีกฝ่ายอย่างอึดอัด




“ฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร” ร่างสูงเอ่ยขึ้น เรียกความสนใจของมีนากลับมา




“ครับ?”




“ตราบใดที่หนี้ของเธอยังไม่หมด ร่างกาย หัวใจ ชีวิตของเธอเป็นของฉัน…” ชายหนุ่มไล้ปลายนิ้วไปตามแนวกระดูกสันหลังของร่างเล็กเหนือชุดนักศึกษา “เข้าใจมั้ย?”




“…ครับ”




เด็กหนุ่มตัวน้อยงึมงำตอบพร้อมกับก้มหน้างุด เขาไม่เคยคิดที่จะนอกลู่นอกทางไปหาใครอย่างที่ธีรเชษฐ์ระแวงอยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่มีอีกฝ่ายเข้ามาในชีวิต มีนาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมีเวลาพอสำหรับเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว




“เวลาพูดกับฉัน มองหน้าฉัน มันเสียบุคลิก”





นิ้วเรียวยาวแตะแก้มนิ่มดันให้หันกลับมาหาตัวเอง มีนาพยักหน้า พยายามฝืนตัวเองไม่ให้หลบสายตาอีกฝ่ายตามความเคยชิน




“พรุ่งนี้อยากไปไหน? เดี๋ยวฉันพาไป”




แม้ธีรเชษฐ์จะไม่ได้เอ่ยออกมาตรงๆ แต่มีนาก็พอจะเดาออกว่านี่คือคำขอโทษของร่างสูงกับพฤติกรรมที่ทำลงไปครั้งสุดท้ายที่เจอกัน เด็กหนุ่มอมยิ้มเล็กๆอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ แต่จำเป็นต้องปฎิเสธข้อเสนอของอีกฝ่าย




“พรุ่งนี้วันพระ ผมต้องไปขายดอกไม้ที่ตลาดน่ะครับ”




“ทำไม? เงินไม่พอใช้?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยิน มีนารีบส่ายหน้า




“เปล่าครับ! ผมแค่…อยากมีเงินเก็บเป็นของตัวเอง…” …ไว้ใช้หนี้ที่กองจนท่วมหัวผมมิดนี่




ธีรเชษฐ์หรี่ตาลงอย่างไม่พอใจ ดูท่าความคิดที่ไม่ได้เอื้อนเอ่ยออกไปของเด็กหนุ่มจะถูกอีกฝ่ายอ่านออกอย่างทะลุปรุโปร่ง




“ฉันไปด้วย”




ผิดคาด นอกจากธีรเชษฐ์จะไม่ว่าอะไรแล้ว ร่างสูงยังเสนอตัวขอไปที่ตลาดกับเขาอีกด้วย




“เอ๊ะ? แต่ที่ตลาดมันร้อนนะครับคุณเชษฐ์ ไม่มีเก้าอี้นั่งด้วย จะเมื่อยเอานะครับ”




“ฉันไม่ได้แก่ขนาดนั้น” ร่างสูงแย้งหน้ามุ่ย “ทำไม? มีอะไรที่ไม่อยากให้ฉันเห็นรึไง?”




“เปล่าซักหน่อยครับ!” มีนารีบปฏิเสธ “ก็ได้ครับ งั้นพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าหน่อยนะครับ”








มีนาบอกว่าเช้า แต่ธีรเชษฐ์ไม่คิดว่าเวลาเช้าที่อีกฝ่ายว่าจะเป็นยามเช้ามืดที่คนปกติยังนอนหลับอุตุอยู่ในผ้าห่มแบบนี้




“นี่เธอจะมาขายของให้คนหรือขายให้ผีเขาไปไหว้พระ?” ชายหนุ่มถามขณะวางถังใส่พวงมาลัยลงบนพื้นของแผงขายดอกไม้เล็กๆที่อยู่ซอกมุมของตลาด เรียกได้ว่าหากไม่รู้จักร้านอยู่แล้วไม่มีทางมีลูกค้าหลงมาซื้อแน่นอน “ทำเลอะไรเนี่ย? แบบนี้จะขายของได้เหรอ?”




“แค่นี้ผมก็ติดค่าแผงเขามาเป็นปีแล้วครับ”




มีนาถอนหายใจ คุกเข่าลงกับพื้นคอนกรีตโดยไม่สนว่าเข่าของตนจะด้านแล้วยกพวงมาลัยขึ้นวางเรียงบนใบตองที่ปูไว้อย่างทะนุถนอม




“สวยดี” ร่างสูงเอ่ยชม มีนายิ้มรับ รอยยิ้มหวานจริงใจทำหัวใจคนมองกระตุกอย่างไม่ทันตั้งตัว




“ยายผมเป็นคนสอนร้อยครับ แต่เดี๋ยวนี้ตายายไม่ค่อยจะดีแล้ว ผมเลยเป็นคนทำเป็นส่วนใหญ่”




ร่างสูงช่วยหยิบธูปเทียนและชุดหมากมาเรียงในแผง ไม่กล้าแตะดอกไม้ด้วยกลัวจะทำกลีบช้ำ มีนาอมยิ้มกับท่าทีเก้ๆกังๆของคนมือหนัก จับมือใหญ่ดึงมาใกล้แล้ววางพวงมาลัยลงไปอย่างเบามือ




“ของพวกนี้ถึงจะดูบอบบาง แต่ถ้าเรามีสติเวลาจับ ดอกไม้ก็ไม่ช้ำง่ายๆหรอกครับ”




รอยช้ำรอบข้อมือขาวทั้งสองข้างของคนพูดที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวสร้างความรู้สึกผิดในในของคนทำ แต่คนปากแข็งแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น ก้มลงวางพวงมาลัยลงบนแผงอย่างเบามือ




“ยายเธอ…ตาเป็นอะไรเ?” ชายหนุ่มเปลี่ยนหัวข้อสนทนา




“ต้อกระจกน่ะครับ” มีนาตอบ หันกลับไปจัดดอกไม้ลงแผงขายต่อ




“ทำไมไม่ไปลอก?” ร่างสูงถามอย่างงุนงง เด็กหนุ่มส่ายหน้าด้วยสีหน้าเศร้าหมอง




“ผมสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหวหรอกครับ ลำพังแค่ค่ารักษาพยาบาลของแม่ก็เต็มกลืนแล้ว ที่ให้จองคิวรอที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายก็รออีกเป็นปี อีกอย่าง ยายกลัวว่าถ้าต้องพักฟื้นผมจะต้องดูแลทั้งแม่ทั้งยาย เลยไม่ยอมทำไปกันใหญ่”




“เงินแค่นั้นฉันจัดการให้ได้ จ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลยายเธออีกคน…”




“ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงต้องขายวิญญาณให้คุณเชษฐ์ด้วยแล้วล่ะครับ”




มีนาเอ่ยติดตลก แต่เขารู้ว่านั่นอาจจะไม่พอชดใช้หนี้ที่เขาติดค้างอีกฝ่ายไว้ด้วยซ้ำ




“แล้วมันเป็นเรื่องแย่นักเหรอ?”



ธีรเชษฐ์ถาม คราวนี้เด็กหนุ่มไม่มีคำตอบให้อีกฝ่าย มีนาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำถามนั้นแล้วก้มจัดของต่อ นึกขอบคุณที่อีกฝ่ายไม่ถามคำถามนั้นซ้ำอีกครั้ง เพราะคำถามที่ควรจะมีคำตอบชัดเจนนั้น เขากลับไม่รู้ว่าคำตอบของตัวเองคืออะไร





“ตายแล้วน้องมีน ทำไมตัวเล็กอย่างนี้ล่ะลูก ได้กินข้าวบ้างมั้ยเนี่ย เอ้า เอาข้าวแกงป้าไปซักถุง”




“น้องมีน แม่เป็นไงบ้างลูก เอาพวงมาลัยซักสามพวงนะ ไม่ต้องทอนนะลูก”




“น้องมีน ป้าซื้อผลไม้มาฝาก ดูซิ หน้าซีดเซียวเชียว กินอะไรเปรี้ยวๆหน่อยจะได้มีสีเลือดฝาดลูก”




“ขอบคุณมากเลยจ้ะป้า ช่อนี้หนูแถมให้จ้ะ สวัสดีวันพระนะจ๊ะ”




เด็กหนุ่มไหว้รับของฝากจากเหล่าแม่บ้านที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาดยามเช้า กลายเป็นว่าแผงขายดอกไม้ของมีนามีถุงกับข้าวกับปลาวางเรียงราย แม้จะขายดอกไม้ไม่ได้มากแต่เงินในกระป๋องกลับมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ธีรเชษฐ์ที่นั่งขัดสมาธิภายในร่มคันใหญ่ที่กางเหนือแผงเลิกคิ้ว นี่ตกลงกระต่ายน้อยของเขามาขายของหรือมารับบริจาคกับข้าวกันแน่




“ปกติได้ของกินมาเยอะแยะแบบนี้เลยเหรอ?”




“ครับ ป้าๆที่ตลาดใจดีกันทั้งนั้นเลย” มีนาตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง ปอกส้มเขียวหวานที่เพิ่งได้มาแล้วยื่นให้ชายหนุ่มที่นั่งนิ่งสังเกตการณ์เขามาตั้งแต่เช้ามืดไม่ยอมไปไหน “รองท้องหน่อยมั้ยครับ?”




“แล้วเธอล่ะ?”ธีรเชษฐ์ถาม ไม่ยอมรับผลส้มที่ปอกแล้วจากมือของเด็กหนุ่ม




“ผมไม่ทานข้าวเช้าอยู่แล้วน่ะครับ ชินแล้ว”




มีนาตอบตามความจริง แม้จะไม่ได้บอกอีกฝ่ายต่อว่า บางครั้ง แม้แต่ข้าวกลางวันกับข้าวเย็นตนก็ไม่ได้ทานก็ตาม




ร่างสูงรับส้มผลนั้นมาบิกลีบออกมากลีบหนึ่ง แต่แทนที่จะส่งเข้าปากของตนธีรเชษฐ์กลับยื่นมันไปจ่อที่ริมฝีปากของคนที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดธนบัตรให้เป็นระเบียบ มีนาหันไปมองเขาด้วยสายตางุนงง แต่ก็อ้าปากรับส้มกลีบนั้นแต่โดยดี




ธีรเชษฐ์ทยอยป้อนคนที่ง่วนกับการขายของโดยไม่สนใจจะพักทานอะไร ไม่นานนัก ทั้งส้มและขนมต่างๆที่สามารถยัดเข้าปากเด็กหนุ่มได้ก็ค่อยๆพร่องลงในปริมาณที่เป็นที่น่าพอใจของร่างสูง ดูเหมือนมีนาจะขะมักเขม้นกับการขายของมากเสียจนไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าถูกหลอกป้อนไปไม่รู้กี่คำต่อกี่คำแล้ว




“อุ๊ย ตายแล้ว แฟนเหรอจ๊ะน้องมีน?”




แม่ค้าที่ขายข้าวแกงอยู่ร้านข้างๆถามอย่างสนใจเมื่อเห็นท่าทีเอาใจใส่ของชายหนุ่มที่นั่งอยู่กับมีนา ร่างเล็กรีบส่ายหน้าพรืดอย่างตกใจ




“มะ…ไม่ใช่นะครับ!”




“แหม ไม่ต้องปิดหรอกจ้ะ นี่มันสมัยไหนแล้ว ลูกป้าก็เป็น เนี่ย ถ้าไม่ติดว่ารายนั้นเขาวี้ดว้ายแต่หนุ่มหล่อๆกล้ามล่ำๆ ป้าจะแนะนำน้องมีนให้แล้วเนี่ย จะว่าไปแฟนเรานี่ก็เสป็กลูกป้าเลยนะ”




“ไปกันใหญ่แล้วครับป้า…”




“ลูกพี่นี่รสนิยมดีนะครับ แต่ผมคงต้องขอผ่าน”




ธีรเชษฐ์เอ่ยขัดคำปฎิเสธของมีนาขึ้นมากลางปล้อง มิหนำซ้ำยังยกมือขึ้นโอบไหล่เด็กหนุ่มเป็นเชิงยอมรับข้อกล่าวหาของหญิงสาวอีก เล่นเอาเด็กหนุ่มไปไม่เป็นเลยทีเดียว




ไหนว่าห้ามบอกใครไง?



“โอ๊ย เรียกน้าก็ได้จ้ะ นี่น้าห้าสิบกว่าแล้ว พ่อหนุ่มนี่จะถึงสามสิบห้ารึยังเนี่ย?”




แม่ค้าสาวหัวเราะ มีนาไม่มั่นใจเรื่องอายุจริงของธีรเชษฐ์เท่าไหร่ แต่จากรูปลักษณ์ภายนอก ชายหนุ่มเป็นคนประเภทที่คนอื่นไม่สามารถเดาอายุได้ บางครั้งธีรเชษฐ์ก็ดูเหมือนเพียงยี่สิบปลายๆ แต่บางทีมีนาก็คิดว่าอีกฝ่ายเหมือนจะอายุสามสิบกลางๆ แต่จากที่เขาเคยได้ยินธีรเชษฐ์คุยกับลูกชายที่อยู่ในวัยทำงาน ชายหนุ่มจะต้องมีอายุมากกว่านั้นแน่




ธีรเชษฐ์ยิ้มให้อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มการค้า ไม่ได้ตอบอะไรหญิงสาว ซึ่งทำให้ความสงสัยของมีนาเพิ่มขึ้นจากเดิมหลายเท่าตัว



-------------

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 100% P.5 คห 146 (26/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 26-03-2018 07:32:50
ฮืออออ
รอหนูมีนทุกวันเลยน้าาา  ไม่ค่อยได้มาคอมเม้นเท่าไหร่
แต่เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 100% P.5 คห 146 (26/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 26-03-2018 08:54:21
น้องมีนลู้กกก น่าเอ็นดูว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 100% P.5 คห 146 (26/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 26-03-2018 09:16:59
คุณเชษฐ์ผู้ปากหนัก เขาก็มุมมุ้งมิ้งของเขาเนอะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 100% P.5 คห 146 (26/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 26-03-2018 11:38:30
 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 100% P.5 คห 146 (26/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 26-03-2018 12:58:27
น้องมีนน่ารักมาก คุณเชษฐ์ถนอมน้องมีนหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 100% P.5 คห 146 (26/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 26-03-2018 13:02:45
 :3123: เป็นกำลังใจให้หนูมีนนะลูก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 100% P.5 คห 146 (26/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 26-03-2018 18:04:03
หวงก็พูดมาเถอะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 100% P.5 คห 146 (26/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-03-2018 01:58:21
หนูมีน รักษาเนื้อ รักษาตัวให้ดี ๆ นะลูก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 100% P.5 คห 146 (26/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 27-03-2018 05:47:58
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 100% P.5 คห 146 (26/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 27-03-2018 11:33:53
อื้อหืออ มีนาแน่มากค่ะ ทำประธานบริษัทใหญ่มานั่งเฝ้าได้

คุณเชษฐ์อย่าขรึมมากสิ แค่นี้น้องก็หลอนจะแย่แล้ว
ถึงจะห่วงมากด้วยก็เหอะ

น่ารักเนาะคนแก่หวงแฟนเด็ก  :mew3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 100% P.5 คห 146 (26/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 27-03-2018 14:10:01
คนแก่ปากหนักไม่ยอมขอโทษเด็ก
แต่ให้อภัยเพราะมีฉากให้ฟิน อิอิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 100% P.5 คห 146 (26/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 27-03-2018 23:06:15
ใครๆก็รักน้องมีนเนอะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 100% P.5 คห 146 (26/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 30-03-2018 09:11:55
คู่คุณเชษฐ์กับน้องมีนเป็นคนปากหนักกันทั้งคู่ ไม่ยอมพูดคุยกันตรงๆซักที
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 7 100% P.5 คห 146 (26/3/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 01-04-2018 07:50:41
Chapter 8: Perfect dream



ภรัณยูลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงของทินกร



ร่างโปร่งลุกพรวดขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อสมองจดจำห้องที่ตนนอนอยู่ได้ ความทรงจำสุดท้ายของเขาคือเด็กหนุ่มเจ้าของห้องขู่ด้วยน้ำเสียงจริงจังว่าหากลืมตาขึ้นมาจะจูบ แค่คิดถึงใบหน้าของคนอายุมากกว่าก็ร้อนผ่าวอย่างควบคุมไม่ได้



“อ้าว พี่ภัทร ตื่นแล้วเหรอครับ?”




เสียงของเจ้าของห้องดังขึ้น ภรัณยูหันไปเจอคนที่ก้าวออกมาจากห้องน้ำโดยที่ไม่มีแม้แต่ผ้าขนหนูสักผืนอำพรางร่างกาย ผ้าขนหนูผืนเดียวที่อีกฝ่ายมีกำลังถูกใช้เช็ดผมสีดำสนิทที่เปียกลู่ติดศีรษะ




“เฮ้ย!”




ภรัณยูรีบเบือนหน้าหนีอย่างตกใจ ไม่เกี่ยวกับว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงหรอก ต่อให้ใครมายืนแก้ผ้าเดินโทงๆแบบนี้เขาก็ตกใจทั้งนั้น




“อะไรกันครับพี่ภัทร ทำเป็นไม่เคยเห็นไปได้”




ชีเปลือยตรงหน้าเขาเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะอย่างน่าไม่อาย เด็กหนุ่มเปิดประตูตู้เสื้อผ้าแล้วดึงเอากางเกงบ็อกเซอร์ลายการ์ตูนที่ไม่ควรจะดูดีได้ขนาดนี้ออกมาใส่ ก่อนจะหยิบเสื้อยืดและกางเกงขายาวออกมาสวมตามแล้วหยิบไดร์เป่าผมออกมาเป่าพอเป็นพิธี ภรัณยูเพิ่งจะกล้าหันหน้ากลับมาเมื่ออีกฝ่ายทิ้งตัวลงบนเตียงของตัวเองอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เล่นเอาคนที่นั่งอยู่บนเตียงตัวเด้งตามแรงสั่น




“กี่โมงแล้วเนี่ย” ร่างโปร่งถาม สมองยังไม่ตื่นดีจากการเผลอหลับไปอย่างไม่ได้คาดคิด




“เจ็ดโมงเช้าครับ” ทินกรยิ้มแฉ่ง แต่คำตอบนั้นทำเอาภรัณยูกระโดดแผล็วออกจากเตียงอย่างที่คนอืดอาดอย่างเข้าไม่เคยคิดฝันว่าจะทำได้แทบจะในทันที




“สายแล้วๆๆๆ” ชายหนุ่มพึมพำอย่างลุกลี้ลุกลนขณะมองหาโทรศัพท์และกุญแจรถของตัวเอง



“พี่ภัทร…” เสียงกลั้วหัวเราะดังขึ้นพร้อมกับเจ้าเด็กยักษ์ที่สวมกอดเขาจากด้านหลัง รวบแขนของคนที่ปัดนู่นยกนี่ไว้ไม่ให้ซุกซนไปมากกว่านี้ “วันนี้วันเสาร์ครับ”




คนลืมวันลืมคืนชะงัก ก่อนจะแถด้วยน้ำเสียงอับอาย




“ระ…รู้แล้วน่า วันนี้พี่มีธุระ…”




“ม่ายมีซ้ากหน่อย~” คนรู้ดีเอ่ยเสียงยานคาง “วีคที่แล้วพี่ภัทรบอกผมเองว่าเสาร์นี้พี่ภัทรว่างทั้งวัน”
ภรัณยูนึกย้อนไปถึงสัปดาห์ก่อนที่เจ้าเด็กจอมตื๊อโทรมาราตรีสวัสดิ์แล้วถือโอกาสตอนที่เขากำลังสะลึมสะลือง่วงนอนถามตารางชีวิตของเขา




‘เสาร์หน้าพี่ภัทรว่างมั้ยครับ?’




“อือ ก็ว่างแหละ ทำไมเหรอ?” คนที่กำลังง่วงเหงาหาวนอนถาม




“พอดีผมมีเรื่องอยากวานให้พี่ภัทรช่วยหน่อย พี่ภัทรว่างทั้งวันเลยรึเปล่าครับ?”




“อือ…ก็ว่างทั้งวันแหละ เดี๋ยวไปเป็นเพื่อน”




คนที่เปลือกตาจะปิดอยู่รอมร่อตัดบท ปล่อยให้คนที่โทรมาได้บอกราตรีสวัสดิ์ให้เสร็จสรรพก่อนตัดสายด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์ว่าหากตัดสายก่อนทินกรก็จะโทรมารังควาญเขาอยู่ดี




ที่จริงภรัณยูก็มีส่วนผิด ทั้งที่ปกติเขาจะปิดโทรศัพท์ก่อนนอนทุกครั้ง แต่หลังจากคืนที่ทินกรโทรมาเพื่อบอกราตรีสวัสดิ์คืนแรก ร่างโปร่งก็มักจะ‘เผลอ’เปิดโทรศัพท์ไว้เสมอ




“ก็…นั่นแหละ ธุระของซันไง พี่จะรีบกลับไปอาบน้ำแต่งตัว” ร่างโปร่งแถต่อ




“ถ้าเป็นธุระของผม พี่ภัทรไม่ต้องกลับไปที่คอนโดหรอกครับ” ทินกรฉีกยิ้ม “ผมมีชุดให้ยืม”











“ซัน ให้เป็นแบบวาดรูปให้พี่ก็เข้าใจนะ แต่ทำไมพี่ต้องใส่ชุดแบบนี้ด้วยล่ะ”




ภรัณยูถามอย่างไม่เข้าใจ ตอนนี้เขาอยู่ในเสื้อยืดตัวหลวมและกางเกงบอลที่อีกฝ่ายให้ยืมใส่ นั่งขัดสมาธอกอดหมอนรูปพระอาทิตย์ขนาดใหญ่บนเตียงของเด็กหนุ่มที่ลงทุนแบกเอาอุปกรณ์วาดภาพและขาตั้งเข้ามาในห้องนอนของตัวเองทั้งหมด ทินกรยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเอง




“อย่าเพิ่งขยับครับพี่ภัทร มุมกำลังได้เลย”




เมื่ออีกฝ่ายพูดแบบนั้นคนเป็นแบบจึงไม่กล้าซักถามอะไรต่อ ทินกรเลือกวิชาวาดภาพเหมือนเป็นวิชาเลือกเสรี และทุกสองสัปดาห์อาจารย์จะสั่งหัวข้อให้นักศึกษาไปวาดเพื่อเป็นคะแนนเก็บ แต่ร่างโปร่งไม่รู้ว่าหัวข้อในครั้งนี้คือหัวข้ออะไร ทินกรถึงได้ต้องจำเพาะเจาะจงให้เขาเป็นแบบให้อย่างนี้




“เรียบร้อย! ขอบคุณมากเลยครับพี่ภัทร”




ทินกรเอ่ยหลังจากนายแบบจำเป็นต้องนั่งค้างท่าไว้เกือบชั่วโมง ถึงแม้จะเป็นท่าที่สบาย แต่นั่งขัดสมาธิไปนานๆเขาก็แอบชาขาเหมือนกัน ภรัณยูเหยียดขาออกอย่างเมื่อยขบ รอให้อีกฝ่ายเก็บรายละเอียดรูปของตนแล้วหมุนขาตั้งให้เขาได้เห็นภาพ




ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างอย่างตกตะลึง เขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะมีพรสวรรค์ด้านการวาดรูปถึงขนาดนี้ รูปของเขาดูราวกับภาพถ่ายขาวดำของตัวเองที่นั่งอยู่บนเตียง ทินกรเก็บรายละเอียดได้จนถึงแววตาง่วงงุนและรอยยับของเสื้อผ้าของเขา รวมไปถึงข้าวของที่ฉากหลังซึ่งหากเก็บรายละเอียดอีกนิดคงจะได้คะแนนเต็มจากอาจารย์เป็นแน่




“โห สวยจัง” ร่างโปร่งชมอย่างจริงใจ เรียกสีเลือดฝาดบนใบหน้าเด็กหนุ่มลูกเสี้ยวรัสเซียได้เป็นอย่างดี “ตกลงเขาให้วาดหัวข้ออะไรส่งเหรอ?”




“Perfect dream” ทินกรตอบพร้อมรอยยิ้ม




ความฝันที่สมบูรณ์แบบ…




คราวนี้ถึงตาภรัณยูได้หน้าขึ้นสีบ้าง ส่วนคนที่เพิ่งสารภาพกลายๆถึงภาพความฝันที่สมบูรณ์แบบของตัวเองอมยิ้มกับท่าทีขัดเขินที่มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อของคนตรงหน้า




“ฝันแค่นี้ มักน้อยดีนะ” ร่างโปร่งพึมพำอย่างไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร




“ฝันแค่นี้ผมยังไม่รู้เลยครับว่าจะเป็นจริงได้มั้ย”




ชั่วขณะหนึ่งภรัณยูเห็นแววเศร้าหมองในดวงตาทินกร ก่อนที่มันจะหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อเด็กหนุ่มเอ่ยต่อเสียงใส




“พี่ภัทรหิวรึยังครับ? ลงไปดูกันดีกว่าว่าป้าแต้วทำอะไรกินเช้านี้”




ภรัณยูพยักหน้า เดินตามคนที่ทำเป็นยิ้มร่าเริงกลบเกลื่อนลงไปยังห้องอาหารชั้นล่างด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ




เด็กโง่… ขนาดนี้แล้วยังไม่รู้ตัวอีกรึไง







“ไม่มีใครอยู่บ้านเหรอ?”




ภรัณยูถามแล้วตักข้าวต้มหมูเข้าปาก นอกจากป้าแต้ว หัวหน้าแม่บ้านของที่นี่เป็นหญิงชราร่างท้วมที่เลี้ยงดูคุณหนูทั้งสามของบ้านทรัพย์ดำรงมาตั้งแต่เกิดที่เพิ่งกลับเรือนเล็กของตัวเองไปแล้ว ในบ้านใหญ่ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดนอกจากทินกรและเขาเท่านั้น




“ครับ ปกติก็ไม่มีใครอยู่อยู่แล้ว”




ทินกรตอบอย่างไม่ใส่ใจ ภรัณยูมองไปรอบบ้านหลังใหญ่ที่มีเพียงเฟอร์นิเจอร์แต่ไม่มีบรรยากาศที่เหมาะจะให้เรียกว่าบ้านสักนิดแล้วหันกลับมาหาคุณหนูเล็กของบ้านที่ดูไม่ประหลาดใจกับสภาพแบบนี้




“ก่อนที่จะไปอเมริกาก็อยู่คนเดียวแบบนี้ตลอดเหรอ?”




“เปล่าครับ แต่ก่อนผมค้างที่โรงพยาบาลกับแม่” รอยยิ้มเศร้าปรากฏบนริมฝีปากของอีกฝ่ายวูบหนึ่งเมื่อพูดถึงมารดา “ผมติดแม่น่ะครับ”




ภรัณยูนึกย้อนไปถึงที่พนักงานในบริษัทเคยพูดกันว่าชีวิตวัยเด็กของทินกรหมดไปกับการนั่งเฝ้าข้างเตียงมารดา ทำให้ไม่เคยได้ไปเที่ยวเล่นเหมือนเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน




“นี่ ไว้ว่างๆเราหาเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดกันมั้ย?”




“เอ๊ะ…ได้เหรอครับ?” เจ้าตูบยักษ์หูหางกระดิกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินดังนั้น ก่อนจะหรี่ตาลงอย่างจับผิดเมื่อฉุกคิดขึ้นได้ “ทำไมจู่ๆพี่ภัทรถึงได้ชวนผมล่ะครับ?”




“ก็…เห็นพี่แจนพูดว่าแต่ก่อนไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหน…” ภรัณยูตอบอ้อมแอ้ม ทั้งที่เป็นความจริงแท้ๆ ไม่รู้เขาจะลุกลี้ลุกลนทำไม “เขาวานพี่มานานแล้ว เพิ่งนึกได้”




“อ๋อ…” สีหน้าคนที่ดี๊ด๊าอยู่เมื่อครู่สลดลงทันตา ก่อนจะยิ้มให้เขาอีกครั้ง “ไม่เป็นไร แค่พี่ภัทรอยากไปกับผมผมก็ดีใจแล้ว”



“…ไม่ได้อยากไปซักหน่อย”




ทั้งที่รู้ว่าคำพูดนั้นจะทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่าย แต่รู้ตัวอีกทีก็เผลอแก้ตัวไปเสียแล้ว ภรัณยูเหลือบมองคนที่หงอยลงไปอีกครั้ง แต่เลือกที่จะหุบปากเงียบแล้วทานอาหารเช้าต่อ




เขาบอกแล้วไง…การที่ต้องใส่ใจว่าคนอื่นคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา มันไม่ใช่ทางของเขาสักนิด




“แต่…ถ้าอยู่บ้านคนเดียวแล้วเหงา จะไปกินกาแฟแถวคอนโดพี่ก็ได้นะ เดี๋ยวไปนั่งเป็นเพื่อน”




แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะเสนอออกไป ภรัณยูต้องยอมรับว่าตนรู้สึกอุ่นวาบในอกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าคมหล่อเหลาของเด็กหนุ่ม




“นั่งเป็นอย่างอื่นไม่ได้เหรอครับ?”




“ได้คืบจะเอาศอกนะเรา พอเลย”




ภรัณยูดันใบหน้าที่ยื่นมาใกล้ตนอย่างทะลึ่งทะเล้นไปให้ห่าง แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เข้าใจสำนวนที่ตนใช้ แต่ใบหน้างุนงงของทินกรก็ดูน่ารักไปอีกแบบสำหรับเขา




“ผมไม่อยากเอาศอกซะหน่อย ผมอยากเอา…โอ๊ย!” คนอายุน้อยกว่าโอดครวญเมื่อโดนมะเหงกจากผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างๆ “…เอาใจใส่พี่ภัทร แค่นั้นเอง ทำไมต้องเขกหัวผมด้วยอ่า”




“พี่หมั่นไส้”




ภรัณยูตอบง่ายๆเบือนหน้าหนีรอยยิ้มรู้ทันของทินกรแล้วก้มลงทานอาหารต่อโดยไม่สนใจอีกฝ่ายอีก











“เหม่ออะไรของมึงนักหนาวะ? นี่กูเรียกมาช่วยไม่ได้เรียกมาเพ้อหาเมีย”



พายุบ่นเพื่อนตัวโตพอกันที่นั่งกอดกระเป๋าเป้ตัวเองยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เป็นสาวน้อยแรกรุ่น วันนี้เป็นวันถ่ายรูปติดโปสเตอร์ของเหล่าเฟรชชี่เดือนคณะเพื่อโปรโมทการประกวดเดือนมหาวิทยาลัย อันที่จริงคนที่ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุดในคณะคือทินกร แต่เนื่องจากเจ้าตัวไม่อยู่ในวันที่ทำการโหวต เด็กหนุ่มจึงถูกตัดสิทธิ์ไปโดยปริยาย ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องดีสำหรับร่างสูง เพราะสิ่งที่ทินกรเกลียดยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดคือการตกเป็นจุดสนใจ เคราะห์กรรมนั้นจึงไปตกกับเพื่อนที่ได้คะแนนโหวตเป็นอันดับสองอย่างพายุแทน ซึ่งถึงแม้เจ้าตัวจะไม่ได้ไม่พอใจอะไร แต่เด็กหนุ่มยังคงไม่ยอมให้ทินกรลืมบุญคุณที่ตนขึ้นมารับตำแหน่งแทนสักครั้ง




“กูแต่งหน้าไม่เป็น ให้มีนแต่งสิ” ทินกรโบ้ยไปยังเพื่อนต่างคณะตัวเล็กที่โดนเด็กคณะจอมเอาแต่ใจลากมาหลังทานอาหารกลางวันเสร็จอีกราย




ร่างเล็กสะดุ้งแล้วส่ายหน้าพรืด



“ระ…เราก็ทำไม่เป็น…”




“แค่ลงรองพื้นกับแป้งเองค่ะน้อง เดี๋ยวที่เหลือพี่ไปทำต่อ ช่วยพี่หน่อยนะลูก แค่แต่งหน้าดาวพี่ก็จะไม่ทันแล้วเนี่ย”




รุ่นพี่ที่แต่งหน้าให้ดาวคณะมือเป็นระวิงหันมาขอร้องอีกแรง คนขี้เกรงใจอย่างมีนาจึงทำได้เพียงพยักหน้าอย่างจำยอมแล้วลุกไปหยิบขวดรองพื้นกับแปรงแต่โดยดี



“เอ่อ…ซัน…”




ร่างเล็กหันมาขอความช่วยเหลือจากทินกรทางสายตา เด็กหนุ่มลูกเสี้ยวรัสเซียลุกมาช่วยเพื่อนพิจารณาวิธีใช้ ก่อนจะไหวไหล่




“คงเหมือนทาสีบ้านแหละมั้ง ให้มันเป็นสีเดียวกันก็พอ“



มีนาพยักหน้าอย่างเคลือบแคลงใจ แต่ก็บีบครีมรองพื้นเฉดสีผิวของพายุแล้วใช้นิ้วแต้มไปตามใบหน้าของเพื่อนตัวโตที่นั่งอยู่บนเก้าอี้แต่งหน้า ถึงแม้อีกฝ่ายจะนั่งอยู่ แต่ช่วงขายาวๆที่ขวางอยู่ทำให้มีนาต้องโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อแต้มครีมสีเนื้อเข้มลงบนใบหน้าร่างสูง พายุเดาะลิ้นอย่างขัดใจ แยกขาออกแล้วดึงให้เพื่อนตัวเล็กเข้ามาใกล้จนแทบจะนั่งอยู่บนตักของตนเพื่อให้สะดวกต่อการแต่งหน้า




“โฮ่ เดี๋ยวนี้ช่างแต่งหน้าเขาเซอร์วิสกันถึงที่แบบนี้เลยเหรอ?”



เสียงของรุ่นพี่หัวทองดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขา ทินกรและเพื่อนทั้งสองหันกลับไปไหว้พี่ปีสามของคณะบริหารทั้งสองคนที่เพิ่งเดินเข้ามา ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นลุงรหัสของทินกรและเป็นเดือนมหาวิทยาลัยเมื่อสองปีก่อน ส่วนอีกคนที่ย้อมผมสีทองและมีรอยยิ้มกวนๆเป็นเอกลักษณ์ประดับอยู่บนใบหน้านั้นชื่อเหนือฟ้า เป็นลุงรหัสของพายุ



“พี่กล้า พี่เหนือ สวัสดีครับ”




กวินภพ หรือต้นกล้า อดีตเดือนมหาวิทยาลัยพูดน้อยต่อยหนักยกมือรับไหว้น้องๆ แต่ดวงตาสีรัตติกาลกลับมองเลยข้ามหัวพวกเขาไปเสียอย่างนั้น ด้วยความสงสัย ทินกรจึงหันไปมองตามสายตาของลุงรหัส ที่อีกฟากของห้อง ในโซนของคณะแพทยศาสตร์ เดือนคณะลูกครึ่งหัวทองตาฟ้าพิมพ์นิยมของคนชอบฝรั่งนามว่าแทนไทยกำลังนั่งคุยกับเด็กหนุ่มร่างเล็กอีกคนซึ่งสวมแว่นหนาเตอะปิดบังใบหน้าไปเสียครึ่ง แถมทรงผมกาละครอบที่เขาไม่เห็นใครทำหลังจากเขามหาวิทยาลัยยิ่งทำให้อีกฝ่ายดูจืดชืดเมื่อยืนอยู่ท่ามกลางดงดอกไม้งาม



โฮ่ สเป็กพี่กล้าเป็นเด็กลูกครึ่งเหรอเนี่ย?




ทินกรเอียงคออย่างประหลาดใจ ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าคนอย่างแทนไทยไม่น่าใช่สเป็กของลุงรหัสของเขากันนะ




“อย่ามอง”




เสียงเข้มของกวินภพที่มักจะพยายามพูดจาดีๆกับเขาเสมอเอ่ยห้วนๆ ทำเอาทินกรที่ยืนเหม่ออยู่สะดุ้งแล้วรีบหันกลับมาทันที
แค่มองก็หวง…พี่เราน่ากลัวไปไหนเนี่ย




“เอ้าๆ ไอ้กล้า น้องหัวหดหมดแล้วเนี่ย” เหนือฟ้าเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ “งี้แหละไอ้พวกหมาหวงก้าง ระวังเถอะแมวจะคาบไปแดกซักวัน”




ทินกรแอบชำเลืองมองไปทางแทนไทยอีกครั้ง ร่างสูงนั่งหลับตาให้ช่างแต่งหน้าลงเครื่องสำอางค์ แต่เด็กหนุ่มร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างกันกำลังมองตรงมาทางกวินภพที่หันกลับไปคุยกับเหนือฟ้า เมื่อดวงตาภายใต้กรอบแว่นหนาเตอะสบกับทินกร เด็กคนนั้นรีบเบือนหน้าหนีสายตาใคร่รู้ของเขาอย่างมีพิรุธ



หืม…น่าสนใจ




ทินกรเลิกคิ้ว ก่อนจะรีบหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงเหนือฟ้าเรียกชื่อตัวเอง



“ซัน ไอ้ยุ เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกพี่พาไปเลี้ยงชาบูหน้ามอนะ ห้ามเบี้ยวนะเว้ย”



คนที่ชอบเบี้ยวนัดเลี้ยงสายจนรุ่นพี่เอือมระอายิ้มเจื่อนพร้อมพยักหน้า ยังไงเสียพรุ่งนี้เขาก็ไม่มีธุระอะไรอยู่แล้ว



“งั้นพวกพี่ไปละ แค่มาให้กำลังใจไอ้คุณเดือนคณะ”



เหนือฟ้ายีผมที่ยังไม่จัดทรงของพายุอย่างหมั่นไส้ สายรหัสนี้สนิทสนมกลมเกลียวกันเสียจนให้ความรู้สึกเหมือนเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมา




ไม่สิ ถ้าจะเปรียบแบบนั้น คงไม่สามารถใช้วลีนั้นกับคนในบ้านของเขาได้…




“สวัสดีครับพี่”




เด็กหนุ่มทั้งสองรวมถึงมีนายกมือไหว้รุ่นพี่ ก่อนที่ร่างเล็กที่เพิ่งเกลี่ยรองพื้นได้เนียนจนเป็นที่พอใจของตัวเองจะลงแป้งฝุ่นให้เพื่อนอย่างขะมักเขม้นแล้วผละออกจากคนที่ใช้แขนรั้งเอวบางไว้หลวมๆเพื่อไม่ให้หงายตกลงจากตักของตนพร้อมเอ่ยขอตัว




“งั้นเราไปก่อนนะ พอดีมีนัดต่อ…”




“โห่ เหม็นความรักว่ะ”




พายุล้อ คนโดนแซวสะดุ้ง ปฎิเสธด้วยใบหน้าแดงก่ำ



“กะ…ก็บอกว่าไม่ใช่ไง…”




“งั้นเดี๋ยวฉันไปด้วย ว่าจะออกไปซื้อน้ำพอดี”



ทินกรเอ่ย ก้มลงซ้ายขวาตบขากางเกงเพื่อหากระเป๋าเงินและโทรศัพท์ของตน จากหางตา เขาสังเกตว่ามีนาพยักหน้าอย่างเกร็งๆ ดูไม่เต็มใจที่จะให้เขาเห็น‘คนที่ไม่ใช่แฟน’ที่ว่านี้เท่าไหร่







“ซัน…”




มีนาเอ่ยเรียกร่างที่เดินอยู่ข้างตัวเองอย่างกล้าๆกลัวๆ เขายังไม่มั่นใจว่าทินกรเป็นเพื่อนของตน หรือเพียงแค่ยอมให้มีนาติดไปไหนมาไหนด้วยเพราะเห็นแก่พายุ ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ได้สนิทกับร่างเล็กขนาดนั้น



“หืม? ว่าไงเหรอ?”




ทินกรหันมาหาคนตัวเล็กข้างๆ ถึงแม้ความแตกต่างระหว่างความสูงของคนทั้งคู่จะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าของธีรเชษฐ์กับมีนา แต่ร่างสูงก็ยังคงต้องก้มหน้าคุยกับอีกฝ่ายอยู่ดี




“ซันเป็นลูกครึ่งอะไรเหรอ?”




ด้วยโครงหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงกับธีรเชษฐ์จนน่าตกใจ มีนาคิดว่าอย่างน้อยที่สุดคนทั้งคู่อาจจะมีเชื้อสายเดียวกัน ถึงแม้ใบหน้าของทินกรจะอ่อนโยนกว่าคนอายุมากกว่าอยู่มาก แต่มีบางมุมที่ไม่ว่าจะมองอย่างไรมีนาก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายดูคล้ายกับธีรเชษฐ์อย่างบอกไม่ถูก




“ลูกเสี้ยว” ทินกรครุ่นคิดก่อนตอบ “เสี้ยวรัสเซียกับเสี้ยวจีน แต่ส่วนใหญ่ก็มีแต่คนทักว่าหน้าฝรั่งอ่ะนะ”



“อ๋อ…”



มีนาพยักหน้าเข้าใจ อาจเป็นไปได้ว่าธีรเชษฐ์ก็มีเชื้อสายของหลายชาติเช่นกัน ทำให้คนทั้งคู่หน้าตาคล้ายกัน




“นี่ มีน…” ทินกรขมวดคิ้วเมื่อคนที่ถูกเรียกชื่อสะดุ้งเล็กน้อยอย่างตื่นๆ “ไม่ต้องเกร็งเวลาอยู่ใกล้เราขนาดนั้นก็ได้นะ เราไม่กัดหรอก”



ข้อเสียอีกอย่างของความคล้ายคลึงของคนทั้งสองทำให้บางครั้งมีนาก็รู้สึกเกร็งเมื่ออยู่ใกล้ทินกร ยิ่งสีหน้าไม่สบอารมณ์ของร่างสูงในครั้งแรกที่เจอกับเขายิ่งไม่ช่วยให้มีนาสบายใจเมื่ออยู่กับอีกฝ่ายสักนิด



“ขะ…ขอโทษ…”




“ฉันสิต้องขอโทษ คงทำให้มีนกลัวตั้งแต่วันแรกเลย” ทินกรโอบไหล่ร่างบางเข้ามาใกล้พร้อมรอยยิ้มกว้าง “ต่อไปนี้ไม่ต้องกลัวแล้วเนอะ เพื่อนกันๆ”




มีนาพยักหน้าอย่างขัดเขินกับท่าทีสนิทสนมของเพื่อนตัวโต แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า หากธีรเชษฐ์ยิ้ม ทุกสิ่งรอบตัวร่างสูงจะดูสดใสเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับทินกรในตอนนี้หรือไม่




Rrrrrr



“อ๋า พี่ภัทรโทรมา”




เด็กหนุ่มตัวโตผละออกจากมีนาทันทีที่โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงสั่น โบกมือลามีนาแล้วเดินแยกเข้าไปในโรงอาหาร หากโลกดูสดใสเมื่อทินกรยิ้มก่อนหน้านี้ แสงสว่างจากรอยยิ้มของร่างสูงในตอนนี้คงสามารถแผดเผาคนมองจนไหม้เป็นจุณได้




ปริ๊น!




เสียงบีบแตรสั้นๆจากรถสปอร์ตคันหรูที่เพิ่งเลี้ยวเข้ามาในเขตมหาวิทยาลัยเรียกความสนใจจากมีนาไปจากแผ่นหลังของร่างสูง เด็กหนุ่มรีบเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างในทันทีด้วยกลัวว่าคนที่ผ่านไปมารวมถึงทินกรจะสังเกตเห็น



“ช้า”




เจ้าของรถเอ่ยสั้นๆ เสียงเข้มฟังดูหงุดหงิดใจอย่างไม่ปิดบัง แค่ฟังดูก็รู้แล้วว่าที่ทำงานของอีกฝ่ายคงมีอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจร่างสูงตามเคย มีนาพึมพำเอ่ยคำขอโทษแม้จะรู้ดีว่าเมื่อครู่ไม่ใช่ความผิดของตน รถยนต์คันหรูแล่นออกจากมหาวิทยาลัยเช่นทุกวัน มีนาคุ้นชินกับอารมณ์แปรปรวนของชายหนุ่มพอสมควรแล้วจึงไม่รู้สึกตกใจอะไรกับสีหน้าบึ้งตึงของอีกฝ่ายนัก




“กินอะไรมารึยัง?”




“…ทานแล้วครับ” เขาไม่ได้โกหก เขาทานอาหารเที่ยงกับเพื่อนไปแล้วจริงๆ




มีนาไม่เคยมีความคิดที่จะอดอาหาร ที่เขาไม่ทานเป็นเพราะเขาไม่มีอะไรให้ทาน เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เขาได้มา มีนาทุ่มไปกับค่ารักษาพยาบาลและค่าอาหารของยายและมารดา หากหญิงทั้งสองยังไม่อิ่ม มีนาก็จะไม่ยอมทาน
คนเราอดอาหารได้เจ็ดวันโดยไม่ตาย




ร่างเล็กถือข้อมูลนั้นในการดำรงชีวิตมาโดยตลอด ถึงแม้ในตอนนี้ทั้งแม่และยายของเขาจะมีมากเกินกว่าพวกเขาจะนึกฝันด้วยความเมตตาของธีรเชษฐ์ แต่มีนาก็ยังเลือกที่เก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ที่สามารถเจียดได้ ทั้งที่ได้รับเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจากร่างสูง เงินที่ขายพวงมาลัยได้ในตลาด และเงินที่เขาได้จากลูกค้าในตลาดที่เคยรู้จักกับมารดาแล้วอยากช่วยเหลือ ไว้ในบัญชีที่แม้ในตอนนี้จะมีอยู่เพียงน้อยนิด แต่เขาได้แต่หวังว่าก่อนเขาจะตายเขาจะมีเงินมากพอที่จะสามารถปลดหนี้และทดแทนบุญคุณที่อีกฝ่ายมีต่อเขาและครอบครัวได้




“วันนี้ฉันต้องกลับไปบริษัท นอนไปเลยก็ได้ ไม่ต้องรอ”




มีนาพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ธีรเชษฐ์เลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าคอนโดของตัวเอง มีนาพนมมือไหว้ชายหนุ่มอย่างนอบน้อม แต่ก่อนที่จะเปิดประตูรถออกไป ร่างเล็กไม่รู้ว่าตนคิดอะไรอยู่ถึงได้เอื้อมมือไปแตะที่หลังมือของร่างสูงเบาๆ “ไปดีมาดีนะครับ”




ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว ก่อนจะพลิกหงายฝ่ามือแล้วดึงข้อมือเล็กให้คนตัวเล็กเซมาหาตน มีนาหลับตาลงเมื่อริมฝีปากได้รูปบดจูบลงบนริมฝีปากนุ่มหยุ่นรูปกระจับของตัวเอง ถึงแม้ธีรเชษฐ์จะดึงเขามากอดหรือกดจูบลงบนซอกคอขาวอยู่บ่อยครั้ง แต่นอกจากคืนแรกของพวกเขาแล้ว มีนาคิดว่าอีกฝ่ายไม่เคยจูบเขาแบบนี้อีก




ซึ่งร่างเล็กถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะเขาไม่มั่นใจว่าตัวเองจะสามารถทนความรู้สึกวาบหวามในช่องท้องขณะที่ลิ้นสากหยอกล้อกับลิ้นของเขาอย่างชำนาญได้อีกกี่ครั้ง




“ไปได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจไม่ไปประชุม”




ธีรเชษฐ์กระซิบเสียงพร่า แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายเพียงแค่หยอกให้เขาตกใจเล่น แต่มีนาก็ยังคงรีบเปิดประตูลงจากรถเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ร่างเล็กกอดกระเป๋าเป้กลางเก่ากลางใหม่ของตนมองตามรถสปอร์ตคันหรูที่วิ่งออกไปด้วยหัวใจที่ยังคงเต้นไม่เป็นส่ำ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในคอนโดราคาหลายล้านที่เขาไม่เคยนึกฝันว่าจะได้ย่างกรายเข้ามาในชีวิต

--------

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 01-04-2018 08:20:25
5555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-04-2018 08:40:55
55555 ภัทรตกหลุมเด็กน้อยซะแล้ว
ซันน่ารักนะ และปกติที่สุดในบ้านละ

มีนน่าสงสาร ตราบใดที่คุณเชษฐ์ยังทำเข้มแบบนี้
น้องก็ไม่มั่นใจสักทีแหละ

พายุคือตัวป่วนและกวนประสาทตลอดเวลา


หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 01-04-2018 08:51:40
ฟินจ้าาา การกินเด็กมันทำให้เราฟินอะไรอย่างนี้
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 01-04-2018 10:14:26
ภรัณยูปากไม่ตรงกับใจมากเหมือนกันนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 01-04-2018 10:17:03
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 01-04-2018 10:42:08
ทำเป็นเข้มไปคุณเชษฐ์
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 01-04-2018 13:42:30
พี่ภัทรบอกเอาใจใส่ใครไม่เป็น แต่กับน้องซันอดเอ็นดูเด็กไม่ได้ใช่มะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-04-2018 20:10:33
ตอนนี้พวกกินเด็กนี่ สุขสุดๆเลยนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 02-04-2018 07:55:25
ลุ้นคู่หนูมีนกับตาลุง :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 02-04-2018 18:50:51
 :mew1:จ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 03-04-2018 19:59:20
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 04-04-2018 11:24:12
ถถถถถถถ น้องมีนลูกกกก อยากกอดหนูจัง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 04-04-2018 11:49:30
งื้ออออออ
ขอบคุณที่มาต่อจ้า
รอตอนต่อไปเด้อ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 04-04-2018 23:10:48
อีตาแก่ อารมณ์แปรปวน  :z3:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 05-04-2018 10:47:25
คุณเชษฐ์นี่มันนิสัยไม่ดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 8 100% P.6 คห 160 (1/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 06-04-2018 06:44:25
Chapter 9: เอาแต่ใจ

หลังจากถูกเรียกประชุมด่วนตั้งแต่ช่วงบ่ายลากยาวไปจนถึงสามทุ่ม ภรัณยูที่ยังไม่ได้ทานแม้แต่อาหารเที่ยงแทบจะต้องคลานออกมาจากห้องประชุม โชคยังดีที่เขารู้เรื่องก่อนทำให้ภรัณยูโทรไปยกเลิกนัดสอนพิเศษกับทินกรได้ทัน แต่น้ำเสียงผิดหวังที่ส่งผ่านมาจากปลายสายอย่างชัดเจนทั้งที่พูดว่า ‘ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ’ ทำเอาภรัณยูอดรู้สึกผิดไม่ได้




”ภัทร กินข้าวมารึยัง ไปกินข้าวกินมั้ย?”




สอง เพื่อนจากแผนกบุคคลที่ลงลิฟต์มาด้วยกันชวน ภรัณยูส่ายหน้า เขาอยากจะกลับห้องไปสลบบนเตียงมากกว่า แต่แผนการของร่างโปร่งเป็นอันต้องถูกพับเก็บไปทันทีที่ก้าวออกมาจากลิฟต์ เพราะลูกชายคนเล็กของเจ้าของบริษัทกำลังโบกมือให้เขาอย่างร่าเริงจากโต๊ะรับรองที่มีขนมนมเนยที่คาดว่ามาจากพนักงานต้อนรับวางอยู่เต็มไปหมด พนักงานสาวๆรุมล้อมหน้าหลังเด็กหนุ่มราวกับเห็นดาราดัง และนั่นทำให้อารมณ์ที่หงุดหงิดอยู่แล้วของคนอายุมากกว่าขุ่นมัวขึ้นอีกระดับ
อย่างไม่ทราบสาเหตุ




“ซัน…มาได้ไงเนี่ย?”





ภรัณยูถาม สองที่เดินตามออกมาเลิกคิ้วเมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่แม้จะเข้าบริษัทมาเรียนรู้งานกับบิดาและกลุ่มผู้บริหารอยู่บ่อยๆ แต่ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับพนักงานอย่างพวกเขานอกเหนือไปจากการทักทายตามมารยาทมีท่าทีสนิทสนมกับเพื่อนของตนอย่างเห็นได้ชัด




“ผมคิดถึงพี่ภัทรครับ”




ทินกรยิ้มแฉ่งตอบราวกับว่านั่นเป็นเหตุผลเพียงพอให้ตัวเองมานั่งรออีกฝ่าย แม้จะอยากคุยกับเด็กหนุ่มให้รู้เรื่องเสียตั้งแต่ตรงนี้ แต่สายตาอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนร่วมงานทำให้ภรัณยูต้องดึงอีกฝ่ายให้เดินตามมาพร้อมกระซิบ




“ไปคุยกันที่รถ”





ทินกรพยักหน้าหงึกหงักด้วยสีหน้างุนงง เดินตามคนอายุมากว่าที่ดึงเสื้อลากตัวเองไปที่รถแต่โดยดี ภรัณยูลากเด็กหนุ่มไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ในลานจอดรถพนักงาน ทินกรเปิดประตูผลุบเข้าไปนั่งในที่ข้างคนขับทันทีที่ภรัณยูกดปลดล็อครถ





“ทำอะไรของเราเนี่ย? พี่บอกแล้วไงว่าอย่าทำตัวแบบนี้ที่บริษัท”




ภรัณยูดุทันทีที่กระแทกประตูรถปิด เด็กหนุ่มหน้าเจื่อนลงเมื่อเห็นว่าคนอายุมากกว่ามีสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด ภรัณยูขับออกไปด้วยความเคยชินโดยมีจุดหมายปลายทางคือคฤหาสน์ทรัพย์ดำรง




“พี่ภัทร…โกรธเหรอครับ?”




“ก็น่าจะรู้ตัวนี่ ไหนว่าไม่ใช่เด็กๆแล้วไง?”





ภรัณยูตอบอย่างหงุดหงิด เขาไว้ใจทินกรมากเกินไป ปล่อยให้อีกฝ่ายล้ำเส้นที่ขีดไว้จนเคยตัว จนเผลอลืมคิดไปว่าเด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ




“ที่ผมชอบพี่ภัทรนี่มันผิดมากเลยรึไงครับ?” ทินกรถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด




“มันไม่เหมาะสม”




ภรัณยูให้เหตุผลด้วยน้ำเสียงเหมือนผู้ใหญ่คุยกับเด็กดื้อเอาแต่ใจ แต่สิ่งที่ทินกรถามสวนกลับมากลับทำให้คนอายุมากกว่าสะอึก




“แล้วในเวลาอีกไม่ถึงสามสิบวันที่จะถึงวันเกิดผม มันจะทำให้การที่ผมชอบพี่เหมาะสมขึ้นมาเหรอครับ?”




“ถ้าเรื่องแค่นี้ซันยังทำให้พี่ไม่ได้ เราก็คงไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วล่ะ”




ชายหนุ่มเอ่ยหลังจากเงียบไปหลายอึดใจ เขารู้ว่าคำถามของอีกฝ่ายมีเหตุผล แต่เขาไม่ได้เรียกร้องขอให้ทินกรวิ่งไล่ตามเขา




ประสบการณ์สอนให้ภรัณยูรู้ว่าคนเราไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความรักความชอบพอเพียงอย่างเดียว ความเหมาะสมในสายตาของคนรอบข้างก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่จะทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น ใครที่บอกว่าความรักเป็นเรื่องของคนสองคนนั้นโกหก
ทั้งเพ และถึงแม้เขาจะเผลอใจปล่อยให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ทั้งที่รู้ว่าไม่ควรไปแล้ว แต่เขาจะไม่ยอมให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้




และหากทินกรไม่เป็นผู้ใญ่พอที่จะเคารพการตัดสินใจของเขา ภรัณยูก็ยินดีที่จะปล่อยอีกฝ่ายไปเจอคนที่เหมาะสมกว่า
อย่างไรเสีย ปลายทางของความสัมพันธ์ในครั้งนี้คงหนีไม่พ้นจุดจบแบบนั้นอยู่แล้ว




“ขอโทษครับ...”





ทว่าสิ่งที่อีกฝ่ายตอบมามีเพียงคำขอโทษที่กลับทำให้หัวใจของคนฟังหนักอึ้งยิ่งกว่าเดิม ก่อนที่ภายในรถจะถูกปกคลุมอยู่ด้วยความเงียบไปตลอดทาง












ติ๊ด!





เสียงแตะคียการ์ดลงบนเครื่องอ่านที่หน้าประตูทำให้มีนาที่นั่งอ่านชีททบทวนบทเรียนรอธีรเชษฐ์ตั้งแต่หัวค่ำรีบเก็บเอกสารกลับลงไปในกระเป๋าเป้กลางเก่ากลางใหม่ของตนแล้วซุกตัวลงใต้ผ้าห่มด้วยกลัวว่าหากอีกฝ่ายพบว่าตนฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมนอน  ร่างเล็กจะโดนเจ้าชีวิตลงโทษด้วยบทลงโทษที่ทำให้ใจของเขาเต้นแรงจนเจ็บไปทั้งอก





เสียงประตูห้องนอนที่เปิดออกอย่างช้าๆและฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาทำให้มีนารีบหลับตาปี๋ ร่างเล็กนอนตัวแข็งทื่อผิดธรรมชาติเมื่อรู้สึกถึงที่นอนข้างกายที่ยวบลงตามน้ำหนักตัวของเจ้าของห้อง พร้อมกับลมหายใจอุ่นๆที่รินรดข้างแก้มเมื่อธีรเชษฐ์โน้มหน้าเข้ามาใกล้เสียจนขนอ่อนที่หลังคอของเด็กหนุ่มลุกชัน




“ไม่เนียนเลยซักนิด”




มีนายังคงไม่ยอมขยับ ตอนนี้เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองกำลังใช้วิธีการแกล้งหลับหรือกำลังแกล้งตายเพื่อหนีความผิดกันแน่ ร่างเล็กผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าใบหน้าของอีกฝ่ายกำลังถอยห่างออกไป




“อ๊ะ!”




เสียงหวานอุทานเมื่อมือใหญ่สอดเข้ามาใต้เสื้อนอนตัวบาง มือที่เย็นเยียบจากการอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำมาตลอดหลายชั่วโมงไล้ไปตามแนวกระดูกสันหลังของแผ่นหลังขาวเนียน ทำเอาคนขี้หนาวรีบขยับลุกหนีสัมผัสของอีกฝ่ายทันที




“หึ จะหลอกฉันมันยังเร็วไปยี่สิบปี มีนา”




ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก แต่คำพูดของอีกฝ่ายทำให้คนตัวเล็กคิดย้อนไปถึงเรื่องที่ตนยังคงสงสัยไม่หาย




ยี่สิบปี...ถ้าอย่างนั้นคุณเชษฐ์อายุสามสิบปลายๆรึเปล่านะ




มีนาโทษเชื้อตะวันตกและการดูแลตัวเองของอีกฝ่ายที่ให้การกะอายุยากขึ้นไปอีก หากให้เขาเดาจากใบหน้าคม ยังไงเขาก็เชื่อว่าธีรเชษฐ์อายุไม่เกินสามสิบห้า




“เหม่ออะไร หืม?”




“ผมแค่...คิดว่าผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณเลยน่ะครับ” เด็กหนุ่มยอมรับ ถึงแม้จะไม่ได้พูดความคิดของตนทั้งหมดออกไป มีนาไม่รู้ว่าตนมีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องของธีรเชษฐ์มากน้อยเพียงใด และไม่อยากให้อีกฝ่ายนึกรำคาญใจความเซ้าซี้ของตน




แต่นอกจากร่างสูงจะไม่โกรธแล้ว ชายหนุ่มยังมีรอยยิ้มพึงพอใจที่ทำให้มีนารู้สึกปั่นป่วนในช่องท้องติดที่มุมปากอีกด้วย




“ถ้าคิดเรื่องของฉันอยู่ก็แล้วไป...”




“เอ๊ะ?…อื้อ...”




ริมฝีปากรูปกระจับสีแดงระเรื่อถูกครอบครองอย่างเอาแต่ใจ แต่ถึงกระนั้นมีนายังคงรับรู้ถึงความอ่อนโยนที่ถ่ายทอดจากริมฝีปากที่ตนถูกบังคับให้คุ้นเคยโดยไม่ได้ร้องขอ แม้เด็กหนุ่มจะไม่ได้รู้สึกรังเกียจมันก็ตาม




“…แต่ถ้าขัดคำสั่งฉันอีก บทลงโทษจะไม่เบาแบบนี้แล้วนะ”




ร่างสูงกระซิบชิดริมฝีปากของมีนา สัมผัสของริมฝีปากที่ขยับแนบชิดกับริมฝีปากของเด็กหนุ่มทำให้ร่างเล็กรู้สึกมึนเมาราวกับถูกอีกฝ่ายมอมด้วยรสจูบที่แสนช่ำชอง รู้ตัวอีกที เขาก็นอนอยู่บนเตียงโดยมีธีรเชษฐ์เกลี่ยผมที่ปรกอยู่บนหน้าผากออกจากดวงตากลมโต




“ครับ...”




“หลับตาซะเด็กดี”




มีนาหลับตาลงอย่างว่าง่าย ข้อดีของเขาน่าจะมีเพียงอย่างเดียวคือการเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ทำให้ผู้ใหญ่ทุกคนที่พบเห็นมักจะเอ็นดูเขาเป็นพิเศษ




ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งที่เขาได้ยินคำชมนี้จากหลายคนในชีวิต แม่ ยาย อาจารย์ หรือแม้แต่นายจ้างในงานพิเศษหลายงานที่เขารับทำเพิ่มควบคู่ไปกับการเรียน แต่เมื่อธีรเชษฐ์เป็นคนชมเขาแบบนั้น มีนากลับรู้สึกเหมือนมันเป็นคำพูดหยาบโลนที่ปลุกเร้าอารมณ์ที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน





มีนาจมสู่ห้วงนิทราอย่างช้าๆ รู้สึกถึงร่างสูงข้างกายที่ขยับลุกจากเตียงไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลออกไป เมื่อห่างจากสัมผัสของร่างกายและกลิ่นโคโลญจ์อ่อนจางชวนให้มัวเมาของอีกฝ่าย สมองที่เต็มไปด้วยความงุนงงก็สามารถกลับมาคิดได้แจ่มชัดขึ้นอีกครั้ง




วันนี้...เขาก็ยังคงไม่รู้เรื่องของธีรเชษฐ์มากไปกว่าที่เขาเคยรู้แม้แต่นิดเดียว

หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 50% P.6 คห 176 (6/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-04-2018 08:56:04
ถ้ามีนรู้ว่ามีอะไรกับพ่อของเพื่อนตัวเอง จะเป็นยังไงนะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 50% P.6 คห 176 (6/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 06-04-2018 11:56:22
แหม อ่อนโยนกับเด็กก็เป็นนะคะ 
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 50% P.6 คห 176 (6/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 06-04-2018 13:28:33
มีนจะเป็นแม่เลี้ยงที่อายุน้อยที่สุด
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 50% P.6 คห 176 (6/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 06-04-2018 13:39:48
พี่ภัทรขึ้หึงนะเนี่่ย
น้องมีนโดนคนแก่ฉกชิมแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 50% P.6 คห 176 (6/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 06-04-2018 23:04:38
ตามมม น้องมีนมาแร้วววว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 50% P.6 คห 176 (6/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 08-04-2018 07:08:38
เจอคุณเชษฐ์โหมดอ่อนโยนแบบนี้ใจบางไปหมดเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 50% P.6 คห 176 (6/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Hananijinji ที่ 10-04-2018 10:34:24
ทำไมภัทรใจร้ายกับซันนน น้องทำอะไรผิดอ่า ดุน้องจนหงอยเลย สงสาร แต่คิดว่าอีกไม่นานภัทรจะรู้สึกผิดเอง แล้วกลับบมาง้อซันเหมือนเดิม 5555 บางทีเราก็รู้สึกว่าเชษฐ์ กับภัทรนิสัยคล้ายกันตรงที่อารมณ์แปรปรวนเหมือนกัน ทำให้ซันกับมีนต้องเป็นที่รองรับอารมณ์บ่อยๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 50% P.6 คห 176 (6/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Kkfu ที่ 10-04-2018 18:42:39
น้องมีน พี่น้ำอุ่นนี่มาจากเรื่องน้องแว่นใช่ไหมมมมมมมมมมมคะ :katai1: :katai1: แงงงง ถ้าใช่นี่สงสารน้องมีนล่วงหน้าเลยยยยย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 50% P.6 คห 176 (6/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 11-04-2018 09:45:47


ผ่านมาห้าวันแล้วที่ทินกรไม่ติดต่อมาหาเขา




หลังจากคืนที่ภรัณยูขับรถไปส่งอีกฝ่ายที่คฤหาสน์ เด็กหนุ่มก็เงียบหายไปราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่ในชีวิตเขา คืนแรกที่ทินกรไม่โทรมาบอกราตรีสวัสดิ์ ภรัณยูรู้ว่าสิ่งที่เขาว่าไปคงทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายพอดู แต่เขาคิดเอาเองว่าเด็กหัวรั้นอย่างทินกร เดี๋ยวพอหายซึมก็คงจะโทรมาเอง




ทว่าคืนต่อมา ยังคงไร้วี่แววของทินกร ถึงแม้ภรัณยูจะนั่งจ้องโทรศัพท์ของตนจนถึงตีสองก็ตาม




เช่นเดียวกับคืนถัดไป




และคืนถัดไปจากนั้น...




“เป็นอะไรภัทร? หน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว น้องๆเขากลัวหมดแล้ว”




เจนจิราทักพนักงานหนุ่มอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นชายหนุ่มรุ่นน้องนั่งทำหน้าเหมือนจะกินหัวคนที่เดินผ่านไปมา ภรัณยูยังคงไม่เข้าใจว่าหัวหน้าของเขาสามารถแยกสีหน้าของเขาออกได้อย่างไรทั้งที่พนักงานส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสีหน้าของเขาไม่ว่าจะเป็นเวลาดีใจ เสียใจ โกรธ หรือมีความสุข ล้วนแล้วแต่เป็นสีหน้าเดียวกันทั้งสิ้น




“ขอโทษครับ”





ภรัณยูพยายามสลัดเรื่องของทินกรออกไปจากสมอง เขาไม่่ควรให้เรื่องส่วนตัวมาทำให้บรรยากาศในที่ทำงานของเขาเสีย เจนจิราเอียงคอ ก่อนจะดึงเก้าอี้ที่ว่างอยู่มานั่งลงตรงข้ามกับเขา ขณะนี้เป็นเวลาพักเที่ยง ทำให้พนักงานรอบๆทยอยกันออกไปทานอาหารกลางวัน เหลือเพียงพวกเขาสองคนในแผนก




“มีอะไรปรึกษาพี่ได้นะภัทร”




“ไม่มีอะไรจริงๆครับพี่แจน แค่โหมงานหนักไปหน่อย ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะครับ”




ภรัณยูยังคงยืนยันคำเดิม แม้เจนจิราจะดูไม่เชื่อคำพูดของพนักงานรุ่นน้อง แต่ก็ไม่ได้ซักต่อ




“งั้นก็แล้วไป เห็นทำหน้าแบบนี้แล้วเหมือนคุณทินตอนเด็กๆไม่มีผิด”




ชื่อของคนที่อยู่ในห้วงความคิดมาตลอดหลายวันทำเอาภรัณยูหูผึ่งขึ้นมาทันที แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมขยายความ ชายหนุ่มจึงจำเป็นต้องถาม




“ที่ว่าเหมือนคุณทินตอนเด็กๆนี่...”




“อ๋อ พี่ก็ลืมไปว่าภัทรยังไม่มาทำงานตอนนั้น” เจนจิราเอ่ยอย่างนึกขึ้นได้ “คุณทินน่ะ แกเป็นเด็กคิดมากมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวลาเพื่อนพูดจาอะไรไม่ดีใส่นิดๆหน่อยๆ ก็จะเก็บมานั่งหน้าเครียดแบบนี้แหละ กว่าพี่จะปลอบให้หายกังวลได้ เล่นเอาเหนื่อย”




“….”ภรัณยูทำได้เพียงนั่งฟังเงียบๆ ไม่รู้ว่าตนควรจะพูดอะไร




“จริงสิ พูดถึงคุณทินแล้ว ไม่รู้เป็นอะไรนะ คืนที่เราประชุมดึกกันเห็นหอบขนมนมเนยมาให้ทุกคนเยอะแยะเลย บอกว่ากลัวพวกเราหิวกัน แล้วก็จะกลับไปซะอย่างนั้น” เจนจิรานึกย้อนไปถึงวันนั้น “พี่เลยบอกว่าให้รอพี่ประชุมเสร็จอีกแป๊บเดียว เดี๋ยวจะพาไปกินขนมร้านโปรด ก็เห็นรับปากนั่งรอซะดิบดี พอพี่ลงมาก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”



ภรัณยูรู้สึกว่าใบหน้าของตนชาวาบ




“พี่แจน...บอกให้เขารอเหรอครับ?”



“อื้ม ทีแรกเห็นบอกว่าจะกลับเลย ไม่อยากเกะกะคนอื่นที่ทำงานกันอยู่” หญิงสาวรุ่นพี่ส่ายศีรษะยิ้มๆ “เด็กอะไรก็ไม่รู้ ขี้เกรงใจจนไม่เหมือนเด็ก พี่ต้องย้ำตั้งหลายรอบว่าไม่มีใครรำคาญเขาหรอก เขาถึงยอมรับปากจะรอพี่”




ความรู้สึกผิดถ่วงอยู่ในท้องของภรัณยูเหมือนก้อนหินหนัก นี่เขาด่วนตัดสินอีกฝ่ายอีกแล้วงั้นเหรอ...




“จริงสิ วันนี้ภัทรมีสอนพิเศษคุณทินใช่มั้ย? เดี๋ยวไปเอาขนมในออฟฟิศพี่ไปฝากคุณทินหน่อยนะ พี่ขับผ่านร้านคุ้กกี้ร้านโปรดเขาพอดี” เจนจิราทิ้งท้าย ภรัณยูพยักหน้ารับอย่างไร้เรี่ยวแรง ก้มมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมืออย่างลังเล ก่อนจะตัดสินใจวางอุปกรณ์สื่อสารขนาดเท่าฝ่ามือลงบนโต๊ะทำงาน




บอกแล้วไง...เขาไม่เก่งเรื่องขอโทษคนสักนิด













ทินกรเปิดประตูให้เขาด้วยสีหน้าเซื่องซึม ร่างสูงอยู่ในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นที่ดูเหมือนชุดนอนมากกว่าชุดอยู่บ้านทั่วไป ทว่าดวงตาของเด็กหนุ่มกลับดูเหมือนคนอดหลับอดนอนมาหลายคืน




“ซัน เป็นอะไร? ไม่สบายเหรอ?” ภรัณยูลืมเรื่องที่ตนอยากมาคุยกับอีกฝ่ายจนหมดเมื่อเห็นสภาพของเด็กหนุ่ม มือเรียวยกขึ้นทาบบนหน้าผากของทินกรอย่างเป็นห่วง แต่ร่างสูงกลับก้าวถอยห่างแทบจะในทันทีราวกับสัมผัสถูกของร้อน




ภรัณยูนิ่วหน้ากับความรู้สึกปวดแปลบในอกของตน




ซัน...คงโกรธเขาอยู่สินะ




“พี่ภัทร?”




“วันนี้มีเรียน จำไม่ได้เหรอ?”




ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่านั่นไม่ใช่สาเหตุที่ตนมาหาทินกรในวันนี้ แต่ร่างกายกลับไม่ฟังสิ่งที่เขาต้องการจะพูดเลยสักนิด



“จริงสิครับ...ผมลืมไปสนิทเลย”




แววตาของเด็กหนุ่มไหววูบ ทินกรขยับเปิดทางให้ร่างโปร่งในชุดทำงานเข้ามาในบ้าน แต่เมื่อภรัณยูจะขึ้นไปที่ชั้นบนของบ้านเช่นทุกครั้ง ร่างสูงกลับเรียกเขาไว้ด้วยน้ำเสียงอึกอัก




“พี่ภัทร..สอนข้างล่างได้มั้ยครับ?”



“…ได้สิ”




แม้จะไม่เข้าใจ แต่ภรัณยูเลือกที่จะเก็บความสงสัยไว้ในใจแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาวของบ้าน โดยมีทินกรนั่งลงที่โซฟาเดี่ยวตัวเล็กไม่ห่างจากเขามากนัก




ถึงกระนั้นระยะห่างที่ภรัณยูรู้สึกได้กลับไกลเกินกว่าร่างโปร่งจะรู้สึกชอบใจ




“มานั่งข้างพี่สิ แบบนี้จะมองเห็นได้ยังไง?”




“…ครับ”




ทินกรขยับลุกมานั่งข้างภรัณยูอย่างว่าง่าย แม้ดวงตาสีควันบุหรี่คู่นั้นจะไม่เคยเหลือบมองเขาตั้งแต่เข้ามาก็ตาม





“วันนี้ก็อยู่คนเดียวเหรอ?” คนอายุมากกว่าพยายามทำลายความเงียบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องถนัดของเขาเท่าไหร่





“ครับ ป้าแต้วพาพี่ๆไปซื้อของที่ตลาด” ทินกรตอบ ก่อนที่ทั้งห้องจะตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง





“จริงสิ พี่แจนฝากคุ้กกี้มาให้” ภรัณยูเปลี่ยนเรื่อง หันไปเปิดกระเป๋าเป้ข้างกายแล้วหยิบเอากล่องคุ้กกี้ขนาดกลางออกมาให้อีกฝ่าย “พี่เขาบอกว่าขับรถผ่านแล้วคิดถึงซัน”




“ขอบคุณนะครับ” ทินกรเอื้อมมือมารับกล่อง แต่ภรัณยูที่เพิ่งนึกอะไรออกชักมือกลับก่อนที่อีกฝ่ายจะได้หยิบกล่องคุ้กกี้ไปจากตน ทินกรมีสีหน้างุนงงกับการกระทำของคนอายุมากกว่า “มีอะไรรึเปล่าครับ?”




“พี่ป้อน”




ภรัณยูไม่เคยทำแบบนี้กับใคร เขาไม่เคยเข้าใจหลักการของการ’อ่อย’ที่ใครหลายคนบอกนักบอกหนาว่าเป็นศาสตร์ที่จำเป็นเสียยิ่งกว่าวิชาในโรงเรียน แต่ในตอนนี้ เขานึกโกรธตัวเองที่ไม่ตั้งใจฟังน้องๆในออฟฟิศเม้าท์ให้มากกว่านี้




“….”





ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของเขาที่ทินกรนั่งนิ่งเหมือนโดนคาถานะจังงังเข้าไป ทำให้ภรัณยูมีเวลามากพอที่จะแกะกล่องคุ้กกี้แล้วหยิบคุ้กกี้ช็อกโกแลตชิพขนาดพอดีคำขึ้นมา ภรัณยูนำขนมหน้าตาน่าทานไปจ่อที่ริมฝีปากของคนที่ยังคงนั่งอ้าปากค้างอยู่ ร่างโปร่งกลั้นหายใจ ลุ้นจนตัวโก่งว่าอีกฝ่ายจะรังเกียจการกระทำของตนหรือไม่ แต่ทินกรเพียงแค่อ้าปากงับคุ้กกี้ชิ้นนั้นไว้ ดวงตาสีควันบุหรี่ยังคงเบิกกว้างเหมือนเด็กหลงทาง




ภรัณยูนึกอยากถอยกลับไปตั้งหลักเมื่อเห็นท่าทีไม่ตอบสนองนั้น แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่รู้ว่าชาตินี้เขาจะรวบรวมความกล้าได้มากเท่านี้อีกครั้งเมื่อไหร่




“ชิมด้วยสิ”




ก่อนที่ทินกรจะได้ประมวลผลว่าคำพูดของอีกฝ่ายหมายความว่าอย่างไร ริมฝีปากเรียวก็งับลงบนอีกด้านของคุ้กกี้ชิ้นนั้น ใบหน้าของคนทั้งคู่อยู่ใกล้เพียงลมหายใจกั้น แต่ภรัณยูไม่คิดว่าตนจะมีความกล้าที่จะทำอะไรมากกว่านี้




โชคดีของเขาที่ในที่สุดทินกรก็ดึงขนมชิ้ินเล็กออกจากปากแล้วบดขยี้ริมฝีปากของตนลงบนเรียวปากของภรัณยูราวกับเขาเป็นคุ้กกี้เจ้าโปรดของตน ภรัณยูถูกร่างสูงรุกเร้าจนต้องนอนราบไปกับโซฟาโดยมีร่างของทินกรทาบทับอยู่ด้านบน แขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคอของเด็กหนุ่มขณะที่ริมฝีปากเผยอให้ลิ้นร้อนสอดเข้ามาตักตวงความหวานอย่างไม่ขัดขืน ภรัณยูหลับตา ดื่มด่ำกับสัมผัสที่ตนปฏิเสธว่าโหยหา



“อือ…”






เสียงครางในลำคอของภรัณยูปลุกร่างสูงให้ตื่นจากมนต์สะกดของริมฝีปากอ่อนนุ่มที่เขาหลงใหล ทินกรผละออกจากร่างข้างใต้ราวกับโดนของร้อน แววตาของเด็กหนุ่มมีทั้งความสับสนและหวาดกลัวปนเปกันไป



“ซัน…”




“พี่ภัทรต้องการอะไรกันแน่ครับ” คำถามของทินกรไม่มีความโกรธแค้นใดๆแอบแฝง มีเพียงความสับสนและไม่เข้าใจ แต่นั่นกลับยิ่งทำให้ภรัณยูรู้สึกเจ็บแปลบในอกมากกว่าเดิม




“ซัน…พี่...”




“พี่บอกผมว่าพี่ไม่อยากเห็นผมที่บริษัท พี่ทำเหมือนสิ่งที่ผมพยายามอยู่เป็นแค่ความหวังลมๆแล้งๆ แต่พอไม่มีสายตาของคนอื่น พี่ทำเหมือนผมมีโอกาส...” เสียงของร่างสูงสั่นเครือ ทินกรยกมือขึ้นนวดขมับ พยายามสงบสติอารมณ์ที่เป็นดั่งพายุที่กำลังก่อตัว “ผม...วันนี้ผมไม่ไหวจริงๆ...ขอโทษนะครับ”




“ซัน..เดี๋ยว...”





ภรัณยูมองคนที่หมุนตัวกลับขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองที่อยู่ชั้นบนด้วยความว้าวุ่นใจ หากเป็นคนอื่น ร่างโปร่งคงกลับไปตั้งหลักที่ห้อง ปล่อยให้อีกฝ่ายได้มีเวลาส่วนตัว




แต่ทินกรไม่เหมือนคนอื่น




ทินกร...ไม่เหมือนใครที่เขาเคยพบเจอ




“ซัน…พี่เองนะ...”




รู้ตัวอีกที ภรัณยูก็มายืนอยู่หน้าห้องนอนของเด็กหนุ่มเสียแล้ว





ภายในห้องไม่มีเสียงตอบกลับมา ภรัณยูเม้มปากแน่น สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเอ่ยจุดประสงค์หลักที่ตนมาหาอีกฝ่ายในวันนี้




“เรื่องที่บริษัท พี่ขอโทษ”




“…” ยังคงไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนที่เขาต้องการจะขอโทษ แต่เสียงฝีเท้าที่มาหยุดอยู่อีกฟากของประตูทำให้เชายหนุ่มรู้สึกใจชื้นขึ้น




“พี่…กลับก่อนนะ”




“กลับดีๆนะครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นในที่สุด ภรัณยูอมยิ้ม เด็กอะไร โกรธเขาอยู่แท้ๆยังจะเป็นห่วงเขาอีก




คืนนั้น ภรัณยูนั่งมองหน้าจอโทรศัพท์ของตนสลับกับนาฬิกาที่อยู่มุมบนของจอ ปกติทินกรจะโทรมาช่วงสี่ทุ่มกว่าๆ ขณะนี้เพิ่งเลยสามทุ่มครึ่งมาเล็กน้อย อีกฝ่ายจะยังไม่โทรมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก



ชายหนุ่มกดเข้าไปที่รายชื่อสมุดโทรศัพท์ ชื่อของทินกรที่เจ้าตัวเป็นคนบันทึกเองเด่นหราอยู่ในรายชื่อที่เขาโทรบ่อย แต่ไม่มีซักครั้งที่ภรัณยูจะโทรไปหาอีกฝ่ายหากไม่มีธุระอะไร




ร่างโปร่งจ้องมองตัวเลขทั้งสิบตัวภายใต้ชื่อนั้นจนสามารถท่องได้ขึ้นใจ แววตาของภรัณยูเต็มไปด้วยความลังเล แต่นิ้วเรียวก็ตัดสินใจกดโทรออกในที่สุด




“พี่ภัทร?มีอะไรรึเปล่าครับ?พี่ภัทรเป็นอะไรรึเปล่า?”




เสียงปลายสายฟังดูดีขึ้นกว่าที่เขาได้ยินล่าสุดแม้จะเจือไปด้วยความกังวลที่ภรัณยูโทรมาในเวลาแบบนี้




“เปล่า...” ชายหนุ่มกัดริมฝีปากอย่างชั่งใจ ทำให้เขาถึงไม่สามารถพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติอย่างทินกรบ้างนะ “...พี่แค่โทรมาราตรีสวัสดิ์”




“….”




ปลายสายนิ่งไปอีกครั้ง ภรัณยูไม่รู้ว่าทินกรช็อกตาค้างกับคำพูดเมื่อครู่ของเขาไปหรือยัง




“ฝันดีนะครับพี่ภัทร” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใสในที่สุด




แน่นอน...คืนนั้นเขานอนหลับฝันดีเช่นเดียวกับทุกคืนที่เด็กหนุ่มโทรมากล่าวราตรีสวัสดิ์





------



กำลังจะตายในดงข้อสอบ :z6: :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 11-04-2018 10:53:23
บางทีก็อยากถามภัทรว่า เป็นบ้าหรอ? ถ้านี่เป็นซันก็ไม่ไหวเหมือนกันอะ ถึงจะชอบมากให้ตาย เจอคนแบบภัทรเข้าไปก็ไม่ไหวนะ ไม่เข้าใจอะ :katai4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 11-04-2018 13:14:43
สงสารเด็กน้อยย คนแก่ก็อารมณ์แปรปรวนแบบนี้แหละ อิอิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-04-2018 20:58:06
ซันสับสนในชีวิตเพราะภัทรเนี่ยแหล่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 11-04-2018 22:42:28
ดีจริงภัทรมาง้อซันแล้ว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 12-04-2018 00:58:16
 :katai1:


คุ้กกี้ !!!
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 12-04-2018 00:59:01
ซันน้อยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 12-04-2018 07:19:28
เด็กหนอเด็ก พอผู้ใหญ่กลับมาใส่ใจก็ดีใจเอาง่ายๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 12-04-2018 08:23:10
หลอกให้อยากแล้วจากไป ภัทรจะรักเด็กก็จริง
แต่ซันความคิดโตแล้วนะ แต่แค่อายุน้อยกว่าเอง
ซันถึงกับหงอยไปเลย พี่ก็พูดทำร้ายจิตใจจัง

ตลกมีน ซ้อมนอนหรือซ้อมเป็นหิน
เวลาคุณเชษฐ์อยู่ด้วย แล้วอารมณ์ดี ก็น่ารักจังเลยน้า
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 12-04-2018 23:28:19
ซันเล่นตัวอีกหน่อย ให้พี่ภัทรได้ตามง้อ :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 13-04-2018 01:27:29
โถ่ ซัน พอพี่ภัทรง้อหน่อย
ดีใจใหญ่เลยหล่ะสิ
 :impress2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 13-04-2018 22:13:34
อารมณ์คนแก่เรื่องนี้ขึ้นๆลงๆซินะ
สงสารเด็กๆแต่เวลาง้อก็น่ารักจนลืมอายุไปเลยนะนี่อิอิยกโทษให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 14-04-2018 19:06:48
ความต่างของอายุ ความคิด หน้าที่การงานและฐานะมันเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งที่ต้องก้าวข้ามไปให้ได้
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 15-04-2018 03:05:47
น้องมีนนนนนน
น่ารักจังเลยลูก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 16-04-2018 19:18:21
ไม่แปลกใจทำไมภัทรถึงโสด
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 9 100% P.7 คห 185 (11/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 18-04-2018 11:39:39
Chapter 10: พายุพัด




“จะประกวดอะไรนักหนาวะเนี่ย เขาไม่กะให้กูเรียนหนังสือหนังหาบ้างเลยรึไง?”




พายุบ่นเป็นหมีกินผึ้งในห้องแต่งตัว แต่มีนาค่อนข้างมั่นใจว่าอารมณ์หงุดหงิดของร่างสูงน่าจะมาจากโมโหหิวมากกว่าโกรธเรื่องตารางการประกวดเดือนมหาวิทยาลัย เพราะใจจริงแล้วเขารู้ว่าร่างสูงก็สนุกกับชื่อเสียงที่ตามมาในฐานะเดือนคณะอยู่ไม่น้อย แค่ดูจากสาวน้อยสาวใหญ่ที่ตามกรี๊ดเชียร์ติดขอบสนามทุกครั้งก็พอจะเดาได้ไม่ยาก




“จะกินอะไรมั้ย?เดี๋ยวเราออกไปซื้อให้” มีนาเสนอ




“เออ เอาข้าวไข่เจียวหมูสับ ซัน มึงเอาอะไรป่ะ?”




พายุหันไปหาเพื่อนทีี่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารซึ่งมีนาค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่เอกสารประกอบการเรียน ทินกรส่ายหน้า ดึงปากกาไฮไลท์ที่คาบไว้มาขีดเน้นข้อความด้วยท่าทีจริงจัง มีนาเคยได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทใหญ่โตที่ไหนสักที่ ร่างเล็กรู้สึกชื่นชมเด็กหนุ่มวัยเดียวกันที่แม้จะคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด แต่ยังคงจริงจังกับการเรียนและการทำงานมากกว่าเด็กคนอื่นในรุ่นเสียอีก




พ่อแม่ของทินกรคงจะภูมิใจในตัวลูกชายมาก




“ข้าวไข่เจียวหมูสับนะ เอาน้ำอะไรด้วยรึ...อ๊ะ...”




“หลบค่ะชะนี” ชายร่างใหญ่แต่งหน้าหนาเตอะในชุดนักศึกษาแน่นเปรี๊ยะสะพายกระเป๋าเครื่องสำอางค์ครบชุดเดินชนมีนาที่กำลังลุกขึ้นจากเก้าอี้จนเซถลา โชคดีที่เดือนของซักคณะเดินผ่านมาแล้วคว้าตัวเขาไว้ได้ทันก่อนที่จะล้มจ้ำเบ้าลงไปกับพื้น




“เป็นอะไรมั้ย?”เด็กหนุ่มร่างสูงถาม มีนาส่ายหน้า




“เฮ้ย! ทำอะไรของมึงวะ?!”พายุลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้ทันทีที่เห็นว่าเพื่อนของตนโดนทำร้าย ด้วยความที่เด็กหนุ่มเป็นคนพูดจาโผงผางเสียงดังเป็นทุนเดิมแม้ไม่ได้โกรธใคร ทำให้คนรอบข้างเริ่มหันมามอง แต่นอกจากจะไม่ขอโทษแล้ว



สาว(?)อาวุโสยังหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ




“ว้าย ไม่ใช่ชะนีเหรอจ๊ะ เป็นลูกสาวก็ไม่บอก โมหน้าที่ไหนมาอ่ะ งานดีเว่อร์ค่ะลูก”




“อ้าวไอ้เชี่ยนี่...”




ทินกรรั้งตัวเพื่อนที่กำลังโมโหจนเลือดขึ้นหน้าไว้ อย่างหนึ่งที่มีนาเรียนรู้หลังจากเป็นเพื่อนกับพายุ คืออีกฝ่ายเป็นคนที่ปกป้องพวกพ้องของตัวเองมาก ถึงแม้จะเป็นคนปากเสียอย่างหาตัวจับยาก แต่เนื้อแท้แล้วอีกฝ่ายเป็นคนดีคนหนึ่ง




“คุณน้องนั่งสิคะ ยืนอยู่แบบนี้พี่ก็แต่งหน้าให้ไม่ได้พอดี” ช่างแต่งหน้าเฉพาะกิจที่ดูแล้วน่าจะเป็นนักศึกษาปีสูงในคณะเอ่ยราวกับไม่ได้ยินคำด่าของพายุ เพิกเฉยต่อท่าทีที่เหมือนกับจะกินหัวตนได้ทุกเมื่อของร่างสูงโดยสิ้นเชิง




“เจ๊แนนนี่คะ คนนี้พี่ชมพู่บอกให้หนูแต่ง พี่ไปแต่งหน้าดาวนะคะ”




มีนาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับตนในชุดนักศึกษาพร้อมกระเป๋าเครื่องสำอางค์หน้าตาคล้ายกับของ’เจ๊แนนนี่’เข้ามาแทรกก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปมากกว่านี้ มีนาคิดว่าเขาเคยเห็นเด็กหนุ่มร่างโปร่งคนนี้ในงานรับน้องร่วมกับคณะบริหารธุรกิจ อาจเป็นเพราะเครื่องสำอางค์อ่อนๆที่แต่งแต้มเสริมความสดใสให้ใบหน้าขาวเนียนที่ค่อนไปทางน่ารักมากกว่าหล่อและเส้นผมสีดำสนิทยาวประบ่าที่รวบไว้เป็นหางม้าดูแปลกตาทำให้อีกฝ่ายดูโดดเด่นในความทรงจำของเขา





“อ้าว ทำไมน้องเจนนี่แย่งสามีพี่ไปแบบนี้ล่ะคะ...”





“โอ๊ย อย่าอาลัยอาวรณ์ให้มันมากนัก น้องมันจะต่อยหน้าแกแหกอยู่แล้วไม่เห็นเหรอยะ?”




หญิงสาวรุ่นพี่อีกคนล็อกแขนลากเจ๊แนนนี่ไปยังดาวคณะที่ยังนั่งรออยู่ แม้พายุจะยังเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันมองตามอีกฝ่ายไป แต่ก็ดูจะสงบลงเล็กน้อย มีนาหันไปทาง’เจนนี่’ที่ตอนนี้เขาจำได้แล้วว่าชื่อเจนวิทย์ เด็กคณะบริหารเช่นเดียวกับเพื่อนทั้งสอง เด็กหนุ่มเหลือบมองพายุอย่างกล้าๆกลัวๆเหมือนไม่มั่นใจว่าตนควรจะเข้าใกล้อีกฝ่ายในตอนนี้หรือไม่ พายุทิ้งตัวกลับลงไปบนเก้าอี้ ส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ




“กูถึงได้เกลียดนักไง ไอ้พวกแม่งนี่...”




มีนาสังเกตว่าเจนวิทย์สะดุ้งกับคำพูดนั้น พายุส่ายหัวอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะสังเกตเห็นช่างแต่งหน้าของตนที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่




“อ้าว? ไม่แต่งล่ะ”




“คะ..ครับๆ แต่งครับ” เจนวิทย์ลุกลี้ลุกลนวางกระเป๋าลงบนโต๊ะด้านหลังของพายุแล้วเริ่มลงมีทำงานของตน สีหน้าของช่าง
แต่งหน้าจำเป็นดูประหม่าอย่างเห็นได้ชัด คาดว่าคำพูดของพายุจะไปแทงใจอีกฝ่ายเข้าให้ไม่มากก็น้อย




“เวย์ ปล่อยเพื่อนได้แล้วมั้ง” เสียงของทินกรทำให้มีนาเพิ่งตระหนักว่าตนยังคงอยู่ในอ้อมกอดของคนแปลกหน้า เด็กหนุ่มร่างสูงรีบปล่อยมีนาเป็นอิสระทันทีที่ถูกทัก




“เอ้อ โทษทีๆ มัวแต่ดูคนทะเลาะกัน” คนที่ชื่อเวย์เอ่ยพร้อมรอยยิ้มแห้ง ดูจากเสื้อช็อป อีกฝ่ายน่าจะเป็นตัวแทนของคณะวิศวกรรม และเป็นตัวเต็งในการประกวดครั้งนี้




แต่หากจะให้พูดตามความคิด มีนาคิดว่าทินกรดูดีกว่าผู้เข้าประกวดทุกคนที่เขาเห็นอยู่หลายขุม หากอีกฝ่ายลงเข้าประกวด ดีไม่ดีอาจจะชนะไปเลยโดยไม่ต้องแข่งก็เป็นได้




“แล้วนี่มึงรอดเงื้อมือกองประกวดมาได้ไง?” เวย์ หรือที่ชื่อที่ปักอยู่บนเสื้อช็อปเขียนไว้ว่า วศิน พิพัฒน์ธาราถามอย่างสงสัย




“โดดรับน้อง”ทินกรตอบตามความเป็นจริง




“อะไรวะ ทำไมมึงถึงรอดงานแบบนี้ทุกที” วศินบ่นอุบ




สองคนนี้รู้จักกันมาก่อนด้วยงั้นหรือ?




“เอ่อ งั้นเราไปซื้อข้าวให้พายุก่อนนะ”




มีนาเอ่ยขอตัวกับคนทั้งสอง เหลือบมองไปทางเดือนคณะบริหารที่ตอนนี้นั่งหน้าบูดให้เพื่อนร่วมคณะแต่งหน้าให้อยู่ในตอนนี้
เดี๋ยวถ้าโมโหหิวไปมากกว่านี้จะยุ่งไปกันใหญ่










เมื่อมีนากลับมาถึง เจนวิทย์ก็หายไปเสียแล้ว เหลือเพียงเพื่อนทั้งสองที่คนหนึ่งนั่งก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสาร กับพ่อเดือนคณะรูปหล่อที่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจใคร




“พายุ ข้าวมาแล้ว”



“เอ้อ แทงกิ้ว หิวไส้จะขาดแล้วเนี่ย”




พายุบ่นอุบ พอเปิดฝากล่องโฟมได้ก็พุ้ยข้าวเข้าปากอย่างหิวโหยสมกับที่รอ มีนานั่งลงข้างๆร่างสูง เขารู้ว่ามันไม่ใช่ที่ของเขาที่จะตักเตือนอีกฝ่าย แต่มีนาไม่อาจปล่อยให้คนที่ตนเรียกว่าเพื่อนมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อคนเพียงเพราะการแต่งกายหรือการแสดงออกของคนกลุ่มนั้น




“พายุ ทำไมพายุถึงเกลียด...พี่ที่เขาเป็นสาวประเภทสองเหรอ?” ร่างเล็กพยายามสรรหาคำที่ฟังดูเป็นกลางมากที่สุด พายุ
ชะงัก กลืนข้าวในปากลงคอพร้อมกับตอบด้วยสีหน้างุนงง




“ใครบอก? กูไม่ได้เกลียดตุ๊ดซะหน่อย เพื่อนกูที่เป็นตุ๊ดก็มีเยอะแยะ”




“อ้าว...แล้วที่บอกว่าเกลียดคนพวกนี้...”




“กูหมายถึงพวกที่คิดว่าตัวเองไม่เคยทำอะไรผิด ทำคนอื่นเจ็บยังทู่ซี้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กูไม่ชอบ”




ร่างสูงไขข้อข้องใจ มีนาพยักหน้าเมื่อถึงบางอ้อ นี่เขาเข้าใจอีกฝ่ายผิดไปเองสินะ




“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไป...”



“ว่าแต่ช่างแต่งหน้าคนเมื่อกี้หายไปไหนแล้ววะ?” เดือนคณะบริหารธุรกิจมองไปรอบๆ ทว่าไร้วี่แววของช่างแต่งหน้าที่เอาแต่ละเลงสีลงบนใบหน้าของเขาไม่พูดไม่จาก่อนหน้านี้



“หือ? ทำไมเหรอ?” มีนาถาม เงยหน้าขึ้นมาฟังคำตอบของเพื่อนข้างๆด้วยสีหน้าสนใจ



“เปล่า น่ารักดี” พายุตอบด้วยสีหน้าเป็นธรรมชาติราวกับกำลังคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ ผิดกับมีนาที่อ้าปากค้างจนคางแทบจะติดพื้นอยู่แล้ว



“เอ๊ะ...แต่ว่า...”...พายุไม่ได้ชอบผู้หญิงหรอกเหรอ?




“มึงมีปัญหา?” ดวงเนตรสีรัตติกาลหรี่ลงเมื่อเห็นท่าทีของเพื่อน มีนาส่ายหน้าพรืด




“ปะ…เปล่า เราแค่ตกใจน่ะ”




“แล้วไป เข้ากันไม่ได้เดี๋ยวจะลำบากกูทีหลัง” พายุเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายใจราวกับว่าเพียงแค่มีนายอมรับ เจนวิทย์ก็ตกเป็นสมบัติของเดือนคณะรูปหล่อโดยไม่จำเป็นต้องถามความยินยอมสมัครใจใดๆจากเจ้าตัว ทินกรที่นั่งฟังอยู่เงียบๆมาตลอดอดย้อนถามเพื่อนด้วยคำถามที่อีกฝ่ายเคยถามตนก่อนหน้านี้ไม่ได้




“แน่ใจนะว่าเขาจะเอา?”




“อย่างกูใครจะไม่เอา” พายุตอบอย่างไร้ซึ่งความกังวลใดๆ




มีนาได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆกับความมั่นใจเกินร้อยของเพื่อน ก่อนจะเปิดกระเป๋าหยิบเอาชีทเรียนออกมาอ่านทบทวนรอเวลาที่ธีรเชษฐ์จะมารับกลับไปที่คอนโดเช่นเคย







“ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มละสามคน วิเคราะห์วรรณกรรมที่ให้ไปอ่านนะคะ ส่งสัปดาห์หน้านะ”




วิชาที่ทินกรมีปัญหามากที่สุดยังคงเป็นวิชาภาษาไทย ซึ่งเป็นวิชาบังคับของเด็กปีหนึ่งทุกคณะ โชคดีของเขาที่การแบ่งเซคเรียนในวิชานี้ใช้การลำดับการลงทะเบียนรายวิชาเป็นตัวตัดกลุ่ม ทำให้เขา มีนา และพายุ ได้อยู่ในเซคเดียวกัน




“มีน มึงจะอยู่กับเพื่อนในคณะมึงป่ะ?” พายุหันไปถามเพื่อนตัวเล็ก มีนาส่ายหน้า จะว่าไป ทินกรก็ไม่เคยเห็นอีกฝ่ายอยู่กับเพื่อนในคณะของตัวเองเท่าไหร่ “งั้นไปทำรายงานห้องกูมะ? อ่านกันจบแล้วใช่ป่ะ?”




“ยังอ่ะ”




ทินกรส่ายหน้า เขายังอ่านได้ไม่ถึงครึ่งเรื่องด้วยซ้ำ นอกจากความซับซ้อนในตัวของเนื้อเรื่องเองแล้ว ภาษาที่ใช้ก็สละสลวยเสียจนคนที่มีความสามารถในการอ่านเทียบเท่าเด็กประถมต้นอย่างเขาถึงกับเหงื่อตกเวลาหยิบขึ้นมาอ่านแต่ละครั้ง




“ให้เราเล่าเรื่องย่อให้ฟังมั้ย?” มีนาเสนออย่างมีน้ำใจ




“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ตกลงจะไปทำรายงานกันที่ไหน?”




พายุขัดขึ้น ด้วยตาสีนิลเหลือบมองกลับไปมาระหว่างพวกเขากับร่างของเด็กหนุ่มที่แม้จะอยู่ในชุดนักศึกษาชายแต่ก็ยังคงแต่งหน้าทาปากอ่อนๆที่นั่งจับกลุ่มปรึกษางานกับเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนที่อีกฟากของห้อง




“ยังไงก็ได้ มีนว่าไง?” ทินกรหันมาหาเพื่อนตัวเล็กด้วยรู้ว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นคนที่มีปัญหาที่สุด มีนาอึกอัก




“เอ่อ...เรา..เราขอโทรถาม...ที่บ้านก่อนได้มั้ย?”




“ทำอะไรก็ทำ จะเอาไงก็บอก เดี๋ยวกูมา”




พายุลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมเหวี่ยงกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายที่ไหล่ซ้าย วางมาดเก๊กหล่อเต็มที่ขณะเดินทอดน่องล้วงกระเป๋าไปหาคนที่ยังหันหลังคุยกับเพื่อนๆเสียงดังอย่างออกรส




มีนาหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาจากกระเป๋าเป้แล้วเดินออกไปที่ระเบียงทางเดิน เวลาพักเที่ยงแบบนี้อีกฝ่ายน่าจะมีเวลารับโทรศัพท์เขาละมั้ง




“เป็นอะไรรึเปล่า?”




เสียงที่ดังขึ้นจากปลายสายแม้จะไม่ได้ฟังร้อนรน แต่ก็ยังห่างไกลจากคำว่าสงบเยือกเย็นอยู่มาก




จริงสิ...คุณเชษฐ์บอกให้เขาโทรหาแค่ในเวลาฉุกเฉินนี่นา




“เปล่าครับ..ขอโทษนะครับที่โทรมารบกวน...” เด็กหนุ่มตอบเสียงเบา




“มีอะไร?” ปลายสายผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงติดรำคาญเล็กน้อย




“ผมขออนุญาตไปทำรายงานที่ห้องของเพื่อนวันเสาร์นี้ได้มั้ยครั...”




“ไม่อนุญาต” ธีรเชษฐ์เอ่ยตัดบทก่อนที่เขาจะพูดจบ “ไปหาร้านกาแฟหรือห้องสมุดทำซะ”




ติ๊ด!




อีกฝ่ายตัดสายไปก่อนที่มีนาจะได้อ้าปากเถียง ร่างเล็กคอตกกับคำสั่งของเจ้าชีวิต ก่อนจะเดินกลับไปหาทินกรและพายุที่ตอนนี้ดูจะอารมณ์ดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มาก




“คือ…เราว่าพวกเราไปทำงานที่ห้องสมุดกันดีมั้ย?” มีนาเสนอ พายุแค่นเสียงเหอะ เอ่ยด้วยสีหน้าไม่เชื่อ




“มึงว่า...หรือใครว่ามึงมา?”




“คะ..คือ....”




“น่าๆ เพื่อนเขาไม่สะดวกก็อย่าไปบังคับเลย ไปห้องสมุดก็ได้ เนอะ” ทินกรเจรจาขอประณีประณอม เด็กหนุ่มผิวเข้มกลอกตาอย่างเหลืออด เอนตัวพิงพนักเก้าอี้พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด




“ผัวหรือพ่อวะ? สั่งได้แม่งทุกอย่าง”




“….” มีนาทำได้เพียงก้มหน้ามองมือของตัวเองอย่างอับอาย เขารู้ว่าที่เพื่อนพูดเพราะเป็นห่วง แต่เขาไม่อยู่ในสถานะที่
สามารถจะขัดคำสั่งของธีรเชษฐ์ได้ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเรียกร้องอะไรจากเขา




ที่เป็นอยู่ตอนนี้มีนาก็สำนึกในความเมตตาของธีรเชษฐ์มากพออยู่แล้ว




“ถ้างั้นเจอกันที่ห้องสมุดพรุ่งนี้นะ”






ทินกรเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ มีนาพยักหน้า คว้ากระเป๋าของตัวเองมากอดไว้แนบอกแล้วเดินก้มหน้าก้มตาออกไปจากห้องเรียนอย่างที่ทำเป็นประจำจนเป็นภาพชินตาของเพื่อนทั้งสอง








ภรัณยูยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ดวงตาสีน้ำตาลไล่หาชุดที่ไม่ใช่ชุดทำงานและเสื้อคอปกแขนยาวที่ตนใส่ประจำ เมื่อคืนทินกรโทรมาดึกกว่าทุกคืนด้วยน้ำเสียงสะลืมสะลือเหมือนเป็นฝ่ายที่งัวเงียรอโทรศัพท์เสียเอง แถมยังไม่ได้โทรมาเพียงเพื่อจะบอกราตรีสวัสดิ์เขาเช่นทุกคืนอีกด้วย




“พี่ภัทร พรุ่งนี้ว่างมั้ยครับ...ฮ้าว...”




คำพูดของทินกรถูกคั่นด้วยเสียงหาว ภรัณยูขมวดคิ้วเมื่อไปยินความเหนื่อยล้าในน้ำเสียงที่มักจะสดใสอยู่เสมอ



“เป็นอะไรไป? ทำไมเสียงเพลียขนาดนั้น?”




“อ่านหนังสืออยู่ครับ...” ทินกรหาวอีกรอบ “พรุ่งนี้ไปห้องสมุดที่มอกับผมนะ”




“ห้องสมุด?” ภรัณยูทวนคำอย่างงุนงง




“อื้อ...อยากให้ไป...” เสียงของอีกฝ่ายเหมือนจะหลับคาโทรศัพท์ได้ทุกเมื่อ




“โอเคๆ เดี๋ยวพี่ไปรับแปดโมงนะ” ชายหนุ่มรับปาก ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว



“Okay, It’s a date.”



อีกฝ่ายเอ่ยเสียงงึมงำฟังแทบไม่ได้ศัพท์ก่อนจะตัดสายไป ทิ้งให้ภรัณยูนั่งตาสว่างอยู่กับโทรศัพท์มือถือของตน



เดท?



เมื่อกี้ทินกรบอกว่าเป็นเดทงั้นเหรอ?



นอกจากที่อีกฝ่ายพาเขาไปที่ร้านหรูเพื่อหวังมอมเหล้าเขาในครั้งนั้น ภรัณยูก็ไม่เคยคิดถึงการไปทานข้าว ไปไหนมาไหนกับทินกรเป็นการเดทเลยสักครั้ง ความตื่นเต้นที่ไม่เคยได้รู้สึกมานานทำให้ภรัณยูรู้สึกร้อนรนเป็นพิเศษ




และคำพูดทิ้งท้ายของเด็กหนุ่มก็ทำให้ภรัณยูที่เพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองไม่มีชุดอะไรใส่นอกจากชุดทำงานและชุดสูทสำหรับงานเลี้ยงบริษัทมายืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าของตัวเองแบบนี้




เขารู้ว่าอายุอานามตัวเองก็ขึ้นเลขสามไปแล้ว ถึงแม้หน้าจะดูเด็กแค่ไหนแต่ภรัณยูก็รู้ว่าเขาไม่สามารถหลอกใครได้ว่าเป็นเด็กหนุ่มรุ่นเดียวกับทินกร ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นร่างโปร่งก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจที่จะแต่งตัวตามปกติออกไปพบกับนักศึกษาหนุ่มอยู่ดี




เอายังไงดีล่ะเนี่ย?









“เฮียภัทร? มาทำอะไรแต่เช้าครับเนี่ย?”




ญาติผู้น้องของเขาเปิดประตูบ้านออกมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ แต่ภรัณยูรู้ดีจากการที่เคยมาอาศัยอยู่ที่นี่สมัยที่ยังเป็นนักเรียนเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยว่าเลยเวลาตื่นนอนของอีกฝ่ายก่อนที่เขาจะมากดออดหน้าบ้านนานแล้ว



“พี่ยืมเสื้อผ้าหน่อยสิ”




“หือ? อารมณ์ไหนเนี่ย” ร่างโปร่งที่สูงน้อยกว่าเขาเพียงไม่กี่เซนติเมตรถามอย่างงุนงง “เห็นปกติผมจะพาไปซื้อเสื้อผ้าทีแทบจะกอดเสาบ้านไม่ยอมไป”




“เถอะน่า ยืมตัวที่มันไม่...ฉูดฉาดซักตัวสิ” ภรัณยูบ่ายเบี่ยง แต่ญาติผู้น้องไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ




“ฮั่นแน่~ ลงทุนขนาดนี้นัดใครไว้ครับ”



“พอเลยไอ้เหนือ ไม่ต้องมาซักพี่เลย พี่รีบ”




ภรัณยูผลักญาติผู้น้องเบาๆ ถึงกระนั้นเรียวปากบางยังไม่สามารถสะกดกลั้นรอยยิ้มไว้ได้ ถึงแม้จะมีอายุห่างกันถึงสิบสองปีและไม่ได้เจอกันบ่อยนัก แต่เขากับเหนือฟ้ายังคงสามารถพูดคุยกันอย่างสนิทสนมเหมือนไม่เคยจากกันไปมากกว่าหนึ่งวัน




“ครับๆ เดี๋ยวจะแต่งให้คนเหลียวหลังมองทั้งซอยเลย” ชายหนุ่มอายุน้อยกว่า เจ้าของผมย้อมสีทองสว่างดึงญาติผู้พี่เข้าไปในบ้านพร้อมรอยยิ้มกว้าง




ภรัณยูได้แต่ทอดถอนใจ นี่แค่เพื่อไปเดทกับทินกร เขาต้องยอมขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย


---------
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 10 100% P.7 คห 200 (18/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 18-04-2018 13:03:23
ชอบน้องมีนมากกกกกก
ฮืออออออ น่ารักที่สุดดดด
เมื่อไหร่พ่อลูกจะได้เจอกัลลลล
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 10 100% P.7 คห 200 (18/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-04-2018 13:32:19
มีนเอยมีน  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 10 100% P.7 คห 200 (18/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 18-04-2018 15:09:27
ถ้าพ่อลูกมาป๊ะกันคงช็อกทั้งสองฝ่าย555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 10 100% P.7 คห 200 (18/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 18-04-2018 15:53:10
อุ๊ย คนแก่ออกเดต อิอิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 10 100% P.7 คห 200 (18/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 18-04-2018 20:04:36
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 10 100% P.7 คห 200 (18/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 18-04-2018 20:43:43
พี่ภัทรเตรียมตัวไปเดทไว้ดีมาก
หวังว่าซันคงไม่ทำพี่ผิดหวังนะ

มีนน่ารักและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน
คุณเชษฐ์ก็ชอบทำเข้มจนน้องคิดมากว่าไม่ชอบกัน

พายุมีความรุกนะ เจนจะรับไหวไหม คงไม่นอยด์ไปก่อนแล้ว



หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 10 100% P.7 คห 200 (18/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 18-04-2018 22:51:02
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 10 100% P.7 คห 200 (18/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 18-04-2018 23:12:44
พี่ภัทรแต่งออกมานี้จะลดอายุไปได้กี่ปี ที่แน่ ๆ คงมีเด็กหลงจนหัวปักหัวปำ ถอนตัวไม่ขึ้นแน่
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 10 100% P.7 คห 200 (18/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 18-04-2018 23:22:17
พ่อยังไม่ห้ามเท่าผัวเลยจ้า :hao3: หวงจริงจัง ดุมาก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 10 100% P.7 คห 200 (18/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 18-04-2018 23:41:21
พี่ภัทรน่ารัก ลงทุนไปขอเสื้อผ้าญาติเลย
คุณเชษฐ์หวงมีนน่าดู
ลุ้นคู่พายุกับเจนด้วย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 10 100% P.7 คห 200 (18/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 19-04-2018 00:00:38
แหม พี่ภัทรถึงกับต้องดิ้นรนหาเสื้อผ้าไปเดทเลยเหรอค้า  :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 10 100% P.7 คห 200 (18/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 20-04-2018 16:23:41
รอๆ น้องซันกับพี่ภัทรเขาจะไปเดทกัน!!!
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 10 100% P.7 คห 200 (18/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 21-04-2018 11:10:38
รออ่านฉากน้องมีนคุณพ่อ
หายไปนานแล้วๆๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 10 100% P.7 คห 200 (18/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 23-04-2018 06:22:48
Chapter 11: ธีรเชษฐ์ ทรัพย์ดำรง




“พี่…ภัทร?”




โอเค...เขารู้ว่าเสื้อผ้าของเหนือฟ้ามันอาจจะ...วัยรุ่นไปหน่อยสำหรับเขา แต่ท่าทีตกตะลึงประหนึ่งเห็นเอเลี่ยนหล่นลงมาจากยอดตึกของทินกรทำให้ภรัณยูนึกเสียใจที่ยอมให้ญาติผู้น้องแต่งตัวให้



เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดคอกว้างแทบเสมอไหล่สีขาวแขนยาวตัวบางที่เผยเนื้อหนังมังสามากกว่าที่เขาสบายใจ กางเกงแนบเนื้อสีดำอวดเรียวขายาว แถมยังมีโช๊กเกอร์เส้นหนาสีดำพร้อมจี้เหล็กสีเงินกลมช่วย’ไม่ให้คอโล่ง’ตามที่เหนือฟ้าอ้าง แต่ดูอย่างไรก็เหมือนกับปลอกคอสุนัขเสียมากกว่าในความคิดของร่างโปร่ง




รู้แบบนี้ใส่ชุดทำงานมาซะยังจะดีกว่า




“…ไม่ชอบเหรอ?”




เสียงที่ออกมาจากลำคอเบากว่าที่เขาตั้งใจไว้มาก ทินกรกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ก่อนจะถามด้วยเสียงแหบพร่า




“พี่ภัทร...ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้ล่ะครับ?”




ร่างสูงอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สบายๆ ถึงแม้เด็กหนุ่มจะดูดีอย่างน่าหมั่นไส้ในทุกชุดที่ใส่ แต่ภรัณยูก็พอดูออกว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาที่จะแต่งองค์ทรงเครื่องในการมาเจอกับเขาวันนี้เท่าไหร่นัก




นี่เขา...ฟังอะไรผิดไปจริงๆสินะ




“จะไปไหนนะ ห้้องสมุดมหาวิทยาลัยใช่มั้ย? รีบขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวไม่มีที่จอดกันพอดี”





ร่างโปร่งเปลี่ยนเรื่อง เฉไฉไม่ยอมตอบคำถามด้วยความอับอายที่ตีโพยตีพายไปก่อนอยู่คนเดียว กลับเข้าไปนั่งในรถรอให้เด็กหนุ่มร่างสูงเข้ามานั่งข้างๆแล้วขับรถออกไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว




“โห พี่ภัทร แต่ตัวซะหล่อเลยครับ มีนัดต่อเหรอ?” พายุทักขึ้นทันทีที่ร่างโปร่งเข้ามาในรัศมีการมองเห็น แม้ครั้งแรกที่เจอกัน ร่างสูงจะพูดกับเขาแทบจะนำคำได้ แต่จากคำบอกเล่าของทินกร ดูเหมือนว่าภาพลวงของเด็กหนุ่มเงียบขรึมคมเข้มนั้นเป็นเพียงสิ่งที่อีกฝ่ายสร้างขึ้นเพื่อความประทับใจแรกพบเท่านั้น ภรัณยูย่นคิ้วเมื่อเจอคำถามจี้ใจดำอีกครั้ง ด้วยความอับอาย
ชายหนุ่มจึงพยักหน้าส่งๆไปอย่างนั้น




อันที่จริง วันนี้เขาก็คิดอยู่ว่าจะไปงานเปิดตัวร้านอาหารใหม่ของเพื่อนตอนเย็น จะบอกว่าไม่มีนัดต่อเลยก็คงจะเป็นการโกหก
“แต่งแบบนี้แล้วดูโกงอายุไปเลย” พายุเอ่ยเสียงจริงจัง “บอกว่าเพิ่งจบมหาลัยผมก็เชื่อนะเนี่ย”




มีนาที่นั่งอยู่ข้างอีกฝ่ายพยักหน้าสนับสนุน แต่คนที่ดูจะไม่พอใจกับการแต่งกายของเขาน่าจะมีอยู่คนเดียว ซึ่งเป็นคนที่ภรัณยูยอมแหกขี้ตาขึ้นมาแต่งเนื้อแต่งตัวแบบนี้เพื่อให้อีกฝ่ายได้เดินข้างเขาได้อย่่างไม่อายใคร




จะไม่ชอบก็ไม่ชอบไปสิ นี่มันร่างกายของเขา เขาจะแต่งตัวยังไงมันก็เรื่องของเขา เจ้าเด็กบ้านี่จะคิดยังไงเขาไม่เห็นจะสนสักนิด!




“อ่านถึงไหนแล้ว? จะให้พี่ช่วยตรงไหน?” ร่างโปร่งสลัดความรู้สึกหงุดหงิดออกไปจากหัว ขยับเข้าไปใกล้คนที่นั่งก้มหน้าอ่านหนังสือไม่พูดไม่จาอยู่ข้างๆเขา




“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวมีนเล่าเรื่องย่อให้ฟัง”ทินกรปฏิเสธโดยไม่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือ  ภรัณยูขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ



“แล้วให้พี่มาทำไม?”




ชายหนุ่มแทบจะกัดลิ้นตัวเองทันทีที่เอ่ยออกไป ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน นิสัยพูดจามะนาวไม่มีน้ำของเขาก็ยังแก้ไม่หายเสียที




“…ขอโทษครับ” ร่างสูงเอ่ยเสียงอ่อย




“อ่า...พิมพ์หัวข้องานกันก่อนดีกว่า มีน มึงเอาคอมมาใช่มั้ย? เอาคอมมึงพิมพ์ละกัน”




พายุรีบเอ่ยขึ้นเมื่อรู้สึกถึงความตึงเครียดในบรรยากาศ มีนารีบทำหน้าที่ลูกกระจ๊อกที่ดีหยิบคอมพิวเตอร์แล็บท็อปของตนออกมาจากกระเป๋าเป้ใบเก่าซอมซ่อที่วางอยู่ข้างเก้าอี้ของตน ภรัณยูเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าคอมพิวเตอร์ของร่างบางเป็นตัวท็อปใหม่เอี่ยมของยี่ห้อที่แพงหูฉี่อยู่แล้ว ซึ่งดูอย่างไรก็ไม่ใช่ของที่เด็กนักเรียนทุนที่ใส่เสื้อผ้าเก่าขาดและรองเท้ามือสองควรจะมีใช้




จะว่าไปแล้ว นอกจากกระเป๋าเป้ใบเก่า เสื้อผ้าและรองเท้าของมีนาก็ดูจะเป็นของใหม่ทั้งหมด ต่างจากเสื้อผ้าเด็กหนุ่มที่เขาเคยเห็นในวันมอบตัวราวกับเป็นคนละคน




“เอ่อ..ซันนามสกุลอะไรเหรอ?” มีนาเงยหน้าขึ้นมาถามสมาชิกคนสุดท้ายของกลุ่มด้วยเสียงแผ่วเบาเป็นเอกลักษณ์




“ทรัพย์ดำรง”




เจ้าของชื่อตอบด้วยน้ำเสียงหม่นหมอง ภรัณยูวางมือลงบนต้นขาของเด็กหนุ่มข้างๆ ตบเบาๆราวกับจะบอกอีกฝ่ายว่าเขาไม่ได้โกรธอะไร ทินกรมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทำให้บรรยากาศในกลุ่มดีขึ้นมาทันตา




“ทรัพย์ดำรง...เอ...” มีนาเอียงคอมองนามสกุลของเพื่อนที่ตนเพิ่งพิมพ์ลงไป รู้สึกคุ้นตากับนามสกุลนี้อย่างบอกไม่ถูก




“มีอะไรเหรอ?” ทินกรถามเมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กขมวดคิ้วมองหน้าจออยู่นานสองนาน




“ไม่มีอะไรหรอก เราแค่รู้สึกคุ้นๆกับนามสกุลซันน่ะ” มีนาตอบตามความเป็นจริง ยังคงพินิจพิจารณาว่าเคยเห็นนามสกุลนี้ที่ไหน




“อ๋อ…พี่ฉันเรียนอยู่คณะเดียวกับมีน อาจจะเคยเจอกันรึเปล่า?” ร่างสูงเสนอความเห็น “อยู่ปีสี่อ่ะ”




“เอ๋? พี่ซันชื่ออะไรเหรอ?” มีนาถามอย่างสนใจ



“พี่น้ำอุ่น ชื่อจริงชื่อธารธารา”




ชื่อของรุ่นพี่ปีสี่หน้าสวยที่ถึงแม้จะดูใจดี แต่กลับมีแววตาเย็นเยียบน่าขนลุกที่สุดที่มีนาเคยเห็นทำให้ร่างเล็กขนลุกขึ้นมา เด็กหนุ่มพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะก้มหน้าพิมพ์หัวข้องานเงียบๆต่อไป









“เสร็จแล้วให้พี่ไปส่งมั้ย?”




ภรัณยูถามขึ้นหลังจากที่เห็นว่างานกลุ่มในครั้งที่ใกล้เสร็จแล้ว ทินกรส่ายหน้า



“เดี๋ยวผมไปกับเพื่อนน่ะครับ”




ใจจริงแล้วเขาอยากจะติดสอยห้อยตามภรัณยูไปยัง‘นัด’ที่ทำให้ร่างโปร่งลุกขึ้นมาแต่งตัวแบบนี้มากกว่า แต่เด็กหนุ่มไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเขากำลังตามติดแจจนน่ารำคาญ ถึงแม้เขาจะกังวลว่าภรัณยูอาจจะคิดอย่างนั้นอยู่แล้วก็ตาม



อีกอย่าง เขาสัญญากับวศินไว้แล้วด้วยว่าจะไปงานเปิดร้านอาหารใหม่ของเชฟโตมร หัวหน้าเชฟในโรงแรมที่พ่อของวศินเป็นเจ้าของซึ่งมักจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้พวกเขาเสมอหลังจากที่รถตู้โรงเรียนมาส่งพวกเขาที่โรงแรมสมัยเด็กๆ




“แป๊บนึงนะ เดี๋ยวกูมา”



จู่ๆพายุก็ผุดลุกขึ้นจากที่นั่ง ภรัณยูมองตามเด็กหนุ่มผิวเข้มที่เดินตรงไปยังเด็กสาวสามคน...ไม่สิ เขาค่อนข้างมั่นใจว่าคนที่ใส่เสื้อปาดไหล่สีชมพูกับกางเกงยีนส์ขายาวที่พายุเดินเข้าไปทักไม่น่าจะใช่เด็กผู้หญิง ถึงแม้จะดูคล้ายมากเมื่อมองผ่านๆก็ตาม




“พายุมันเอาจริงเหรอเนี่ย?” ทินกรพึมพำ




“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ ไม่อย่างสงสารเจนนี่แย่เลย”




มีนาเอ่ยอย่างเป็นกังวล แต่ทั้งสองเลือกที่จะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเพื่อน สักพัก เสียงสั่นของโทรศัพท์ในกระเป๋าเป้ของมีนาก็ดังขึ้น เด็กหนุ่มรีบก้มลงค้นหาต้นตอของเสียงสั่นครืดนั้นแล้วกดรับ ผงกศีรษะเป็นเชิงขอตัวแล้วลุกจากเก้าอี้ไปยังทางออกห้องสมุด ทิ้งให้ภรัณยูและทินกรนั่งอยู่ด้วยกันตามลำพัง




“โช้คเกอร์...สวยดีนะครับ” ทินกรเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ภรัณยูยกมือขึ้นจับสร้อยหนังเส้นหนาที่พันคอตัวเองอยู่ นึกดีใจที่ได้รับคำชมจากอีกฝ่ายแม้จะแค่เรื่องเครื่องประดับก็ตาม “ผม...ไม่เคยเป็นพี่ภัทรแต่งตัวแบบนี้เลย”




“อือ…วันนี้เพื่อนนัดน่ะ..” ภรัณยูยังคงยึดมั่นกับเรื่องที่ตนโมเมไปตามน้ำก่อนหน้านี้ด้วยอายเกินกว่าจะบอกความจริงอีกฝ่ายไปตรงๆ




“…ปกติแต่งตัวแบบนี้กับเพื่อนทุกคนเหรอครับ?” ทินกรพึมพำถาม ราวกับไม่คิดอยากได้คำตอบเสียเอง




“เปล่า...คนนี้เพื่อนสนิทน่ะ” ภรัณยูนึกโกรธตัวเองที่ไม่พูความจริงไปตั้งแต่แรก มาถึงขั้นนี้หากเขาไม่ไปงานของเพื่อนเขาคงจะมองหน้าทินกรไม่ติดไปอีกนาน




แต่เป็นอีกครั้งที่เขาไม่ได้โกหก เขากับโตมร เพื่อนที่ปัจจุบันเป็นเชฟชื่อดังของวงการอาหารเคยสนิทกันมาก สมัยเด็กๆ บ้าน
อยู่ข้างกัน พ่อแม่ก็สนิทกัน เรียกได้ว่าถูกบังคับให้เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เกิด ถึงแม้เส้นทางอาชีพที่แยกสายกันมาตั้งแต่ระดับมัธยมจะทำให้ภรัณยูไม่ได้สนิทกับโตมรอย่างแต่ก่อน แต่พวกเขาก็ยังได้พูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันทุกครั้งที่กลับบ้านไปเยี่ยมพ่อกับแม่ โตมรเคยชวนเขาไปทานอาหารที่โรงแรมที่อีกฝ่ายทำงานอยู่หลายครั้ง แต่ภรัณยูก็ไม่เคยว่างจะได้ไปเสียที




“…พี่ภัทร...”




“ขอโทษนะซัน เราต้องกลับแล้ว งานตรงนี้ไม่น่ามีอะไรแล้ว เดี๋ยวเราเอากลับไปตรวจคำผิดแล้วปรินท์มาให้”




มีนากลับเข้ามาอย่างรีบร้อน ขัดคำพูดอะไรก็ตามที่ทินกรกำลังจะเอ่ย ร่างเล็กเก็บข้าวของใส่กระเป๋าแล้ว ยกมือไหว้ภรัณยู พยักหน้าให้เพื่อนร่างสูงแล้วก้าวฉับๆออกไป  ทินกรเอียงคอ




“นับดาวมีนยิ่งดูแปลกๆ”




“นับวัน” ภรัณยูแก้ แต่เขาก็รู้สึกจริงๆว่าท่าทีของเด็กหนุ่มดูแปลกไป ดูตื่นตกใจง่ายขึ้น แถมยังข้าวของเครื่องใช้แพงๆนั่นอีก
หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิดนะ




“อ้าว ไอ้มีนกลับไปแล้วเหรอ?” พายุที่เพิ่งกลับมาที่โต๊ะถามขึ้น



“อือ สงสัยแฟนโทรมาตาม” ทินกรตอบ เดือนของคณะบริหารส่ายหน้าอย่างเอือมระอา



“ให้ตายเหอะ ถ้าหวงไอ้มีนขนาดนี้จับใส่กรงทองขังไว้เลยมั้ย”




“กรง…ทอง...” ทินกรพึมพำตามอย่างงุนงง



“ถ้ากูไม่เคยเห็นแฟนมัน ใครบอกว่ามันเป็นเด็กเสี่ยกูก็เชื่อนะ” พายุทรุดตัวลงบนเก้าอี้ของตัวเอง “แต่เบ้าดีขนาดนั้นไม่ต้องจ่ายก็ขี้คร้านจะมีแต่คนอ้าขารอ”




“เสี่ย...คร้าน...” ทินกรกระพริบตาปริบๆ ภรัณยูตั้งท่าจะอธิบาย แต่เปลี่ยนใจกลางคันด้วยไม่อยากคุยเรื่องแบบนี้กับเด็กหนุ่มสักเท่าไหร่




ปล่อยให้งงไปแบบนี้น่าจะดีกว่า




“ซัน เสร็จยังวะ เดี๋ยวรถติด”




เด็กหนุ่มหน้าตาดีอีกคนโผล่มาจากด้านหลังของพวกเขา  ภรัณยูชักสงสัยเสียแล้วว่าทินกรมีคุณสมบัติเป็นสนามแม่เหล็กดูดคนหน้าตาดีมาโคจรรอบตัวเองหรือไม่




คงไม่ใช่ เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงโดนดีดหายออกไปสุดขอบจักรวาลแล้ว



“อือ เสร็จแล้ว” ทินกรตอบแล้วหันมาหาเขา “ผมไปนะครับ”




“อื้อ งั้นพี่กลับดีกว่า”




 ภรัณยูลุกตามอีกฝ่ายไปยังรถที่ตนจอดไว้ที่ลานจอดรถหน้าห้องสมุด ร่างโปร่งเปิดจีพีเอสหาตำแหน่งของร้านอาหารที่ว่าตามที่เพื่อนได้ส่งพิกัดมาให้ ก่อนจะเคลื่อนรถออกจากลานจอด มุ่งหน้าไปยังถนนใหญ่ตามที่ระบบนำทางบอก








“กินซะ”




หลังจากอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง ธีรเชษฐ์เลิกถามมีนาแล้วว่าร่างเล็กหิวหรือไม่ เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายรู้ทันคำโกหกของเขา หรือเป็นเพราะชายหนุ่มไม่สนใจว่าคำตอบที่ได้จะเป็นอะไรกันแน่



“เอ๊ะ..”




มีนาอุทานออกมาเบาๆเมื่อเห็นว่าวันนี้อาหารที่ร่างสูงซื้อมาให้ไม่ใช่ซาลาเปา แซนวิช หรืออาหารรองท้องที่สามารถหยิบจับได้ง่ายเช่นทุกวัน แต่เป็นข้าวกล่องอาหารญี่ปุ่นน่าตาหน้าทานที่อัดแน่นไปด้วยกับสารพัดอย่างไม่ว่าจะเป็นเทมปุระ ปลาย่าง และไก่ทอดคาราเกะ คู่กับซุปในถ้วยพลาสติกและสลัดหน้าตาน่าทาน แต่สำคัญชุดอาหารทั้งหมดทั้งมวลนี้มาพร้อมกับตะเกียบที่มีนาใช้ไม่คล่องในสภาพแวดล้อมที่นิ่งสนิทอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงในรถที่ไร้ซึ่งความเสถียรของสภาพแวดล้อมแบบนี้




“เป็นอะไร? ไม่ชอบอาหารญี่ปุ่น?”




 น้ำเสียงของธีรเชษฐ์ไม่ได้บอกว่าร่างสูงกำลังโกรธที่เขาไม่ยอมทาน ตรงกันข้าม มีนารู้สึกว่ามันใกล้เคียงกับความกังวลมากกว่า หากเขาไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง แต่ถึงกระนั้นร่างเล็กก็ยังคงก้มหน้าสั่นศีรษะ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาสีควันบุหรี่ของธีรเชษฐ์เสียที




เขาไม่รู้ว่าเขากลัวสิ่งที่จะเห็นในแววตาของร่างสูง หรือกลัวจังหวะการเต้นของหัวใจที่บีบตัวอย่างบ้าคลั่งทุกครั้งที่เห็นหน้าอีกฝ่าย




ความรู้สึก...ที่มีนาไม่เคยรู้สึกตลอดเกือบสิบแปดปีที่ลืมตาดูโลก




เหมือนร่างกายถูกดึงให้ลอยขึ้นที่สูงและกระชากลงสู่หุบเหวในเวลาเดียวกัน




เหมือนโลกทั้งใบหมุนไปรอบๆทั้งที่เวลารอบตัวหยุดนิ่ง




เหมือนมีอะไรบิดมวนอยู่ในช่องท้องแต่กลับร้อนวูบวาบในช่องอก



บางครั้งมีนาก็คิดว่าตัวเองอาจจะอดข้าวมากจนร่างกายเข้าสู่ภาวะประสาทหลอนจากการขาดวิตามินไปแล้ว



“เปล่าครับ...ผมกลัวหก”



“หกก็เช็ดได้ กินไป”




ร่างสูงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ กระนั้นมีนาก็ยังก้มมองกล่องอาหารบนตักอย่างละล้าละลัง เด็กหนุ่มได้ยินเสียงถอนหายใจจากคนข้างๆ ก่อนที่เจ้าของรถจะตีไฟเลี้ยวเข้าจอดที่ลานจอดร้านหน้าร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันข้างทาง




“จะกินดีๆหรือจะให้จับกรอก”



มีนารีบหยิบกล่องข้าวออกมาจากถุงหิ้วเมื่อได้ยินดังนั้น เด็กหนุ่มตัดสินใจไม่ยุ่งกับถ้วยซุปแล้วเปิดฝาข้าวกล่องออก มือเรียวเล็กพยายามใช้ตะเกียบพยายามหนีบเม็ดข้าวอ้วนป้อมขึ้นมาแต่ไม่เป็นผล แม้จะลองเริ่มที่กุ้งชุบแป้งทอดตัวอวบอ้วน แต่เจ้ากุ้งยังคงดิ้นหลุดจากตะเกียบของเขากลับไปอยู่ในกล่องราวกับว่ามันยังมีชีวิตอยู่




“…ใช้ไม่เป็นทำไมไม่บอก”




ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นท่าทางทุลักทุเลของร่างเล็ก ชายหนุ่มดึงเอากล่องข้าวกับตะเกียบมาจากมือเล็กแล้วใช้ตะเกียบคีบก้อนข้าวรวมกับชิ้นปลาย่างอย่างชำนาญ ก่อนจะนำไปจ่อที่ริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูระเรื่อ




“วันหลังค่อยสอนแล้วกัน”



“มะ…ไม่ต้อ...อุ๊บ”




ร่างสูงใช้จังหวะที่มีนาอ้าปากเอ่ยปฎิเสธอย่างเกรงใจป้อนข้าวเข้าปากเล็ก เด็กหนุ่มที่สำนึกได้แล้วว่าตนเถียงไปก้ไม่มีประโยชน์จึงเคี้ยวข้าวตุ้ยๆอย่างไม่มีทางเลือก แก้มขาวที่พองกลมอย่างน่าเอ็นดูตามจังหวะการเคี้ยวทำให้ธีรเชษฐ์นึกอยากป้อนกระต่ายน้อยของตนไปเรื่อยๆ แต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นหลังจากอาหารพร่องไปได้ครึ่งกล่องทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดมารับอย่างช่วยไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาคือใคร




“ว่าไงหมอก...หือ? ด่วนมากเลยเหรอ? ฉันกลับไปที่บริษัทก็ได้ อือ อีกห้านาทีเอาลงมาที่ล็อบบี้แล้วกัน”




มีนารู้ว่าเขาควรจะรู้ที่ของตัวเอง แค่ทุกสิ่งที่ธีรเชษฐ์ให้เขาในตอนนี้ก็มากเกินกว่าที่เขาจะนึกฝัน แต่ทุกครั้งที่เด็กหนุ่มได้ยินร่างสูงคุยกับเลขาที่ชื่อหมอกคนนี้ มีนามักจะเผลอปล่อยให้ตัวเองมีความหวังว่าซักวัน น้ำเสียงของชายหนุ่มเวลาที่พูดกับเขาจะอ่อนโยนได้ครึ่งหนึ่งของตอนที่คุยกับเลขาของตนก็ยังดี




“รออยู่นี่”




ธีรเชษฐ์สั่งตุ๊กตาหน้ารถของตัวเองขณะที่เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าบริษัทของตน มีนาเงยหน้าขึ้นมองอาคารสูงในยามค่ำคืนที่ยังมีเงาร่างของพนักงานเดินขวักไขว่ไปมา ดวงตากลมโตสีน้ำตาลไล่มาหยุดที่ป้ายหินขนาดใหญ่ที่ถูกสปอตไลท์ฉายใส่เพื่อแสดงชื่อของสำนักงานแห่งนี้ด้วยตัวอักษรโลหะขนาดใหญ่




‘บริษัท ทรัพย์ดำรง จำกัด’




 มีนารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเห็นนามสกุลของเพื่อนและรุ่นพี่ไม่ชอบขี้หน้าเขาอย่างไม่ทราบสาเหตุตั้งแต่แรกเจอบนป้าย ร่างเล็กได้แต่ปลอบตัวเองว่าทินกรไปธุระกับเพื่อน ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะมาเจอเขาที่บริษัทของครอบครัวตัวเองในวันนี้




“คุณเชษฐ์...ทำงานที่นี่เหรอครับ?”




เขาเดาว่าธีรเชษฐ์จะต้องมีตำแหน่งใหญ่โตในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไหนสักแห่ง แต่ร่างเล็กไม่เคยคิดเลยว่าโลกจะกลมถึงขั้นที่ชายหนุ่มจะทำงานที่บริษัทของตระกูลทรัพย์ดำรงแบบนี้




“ทำงาน?” คนถูกถามเลิกคิ้ว กระตุกยิ้มมุมปากราวกับขบขันกับคำพูดของเด็กหนุ่มเสียเต็มประดา “ฉันเป็นคนสร้างมันมาเองกับมือ”




มีนารู้สึกชาวาบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ความบังเอิญที่ร่างเล็กไม่นึกเก็บมาใส่ใจ ทั้งดวงตาที่เย็นเยียบของธารธาราทันทีที่เห็นรถของร่างสูง ใบหน้าของทินกรที่คล้ายคลึงจนแทบจะเป็นภาพเหมือนอายุน้อยกว่าของอีกฝ่ายในบางมุม ความรู้สึกตะขิดตะขวงใจทุกครั้งที่เขาเห็นภาพซ้อนของธีรเชษฐ์ในตัวของทินกร ทุกสิ่งทุกอย่างลงล็อคกันอย่างพอดีเมื่อเด็กหนุ่มตระหนักว่าคนที่ตนขายวิญญาณให้อย่างไร้ทางเลือกคนนี้เป็นใคร





ดวงตาสีน้ำตาลมองตามแผ่นหลังของธีรเชษฐ์ที่รับเอกสารจากชายหนุ่มร่างโปร่งในชุดสูทสีกากีมาอ่าน รู้สึกถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเปิดประตูออกจากรถแล้ววิ่งหนีไปจากที่นี่




แต่ใบหน้าของมารดาและยายวาบเข้ามาในหัวทันทีที่มือเรียวเอื้อมไปหาที่จับประตูรถ มีนากัดริมฝีปาก รู้สึกร้อนวาบที่หางตาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้





เขาไม่สามารถละทิ้งหน้าที่ที่เขามีต่อครอบครัวของตัวเองได้ แต่เขาก็ไม่สามารถทำเรื่องแบบนี้กับครอบครัวของคนที่เขาเรียกว่าเพื่อนได้เช่นกัน




ร่างเล็กซุกหน้าลงกับฝ่ามือ นึกอยากให้ความมืดกลืนกินเขาเข้าไปทั้งตัว เขาจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับทางเลือกที่ไม่ว่าทางใดก็ต้องมีคนเจ็บปวดแบบนี้


------------
ใครอยากต้มมาม่าซองไหนก็เลือกสรรตามความสมัครใจเลยจ้า :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-04-2018 06:53:14
จะเจอใครที่บริษัทไหมนะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 23-04-2018 07:15:57
โอ้โห คนเขียนใจกว้าง มีการให้เลือกซองมาม่ามาฉีกได้ตามอัธยาศัยด้วย 555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 23-04-2018 09:03:44
โอ้ยเครียดตามมีนเลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Hananijinji ที่ 23-04-2018 09:11:30
ซันเป็นคนมีเหตุผล ซันน่าจะเข้าใจนาาาๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 23-04-2018 11:03:32
สงสารน้องมีนนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 23-04-2018 11:11:49
น้องมีนนนนน :sad4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 23-04-2018 12:01:06
ขอมาม่าที่ต้มแล้วรีบหมดนะคะ สงสารมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 23-04-2018 12:48:28
ฮือออออออออ สงสารน้องมีนแล้ว
หนูลูกกกกกกก
คุณเชษฐ์อย่าทิ้งมีนน่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 23-04-2018 14:33:52
ถถถถถถ น้องมีนของพี่
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 23-04-2018 14:42:56
ขอมาม่าหมูสับน้ำใสละกัน ดูใสๆปลอดภัยไร้ดราม่าหนัก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 23-04-2018 16:58:32
แงงงง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 23-04-2018 19:04:31
มาม่าหลายซองแท้
ว่าแต่ไม่เอาสักซองได้มั้ยอะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 23-04-2018 19:20:07
มามา เราจะช่วยกินมมาม่า จะได้หมดๆ ไม่อืดเต็มชาม

ฮรือออ แต่ยังไงก็ยังยังหวีดคุณพ่ออ่ะ แซ่บลืม
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: hikkie ที่ 23-04-2018 19:38:48
เครียดแทนมีนา เพิ่งรู้ว่าเป็นพ่อเพื่อน ต้องลุ้นละว่าเจ้าตัวจะชิ่งรึป่าว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 23-04-2018 21:37:38
โถถถถ หนูมีนลูกกก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 23-04-2018 22:26:41
 :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 23-04-2018 23:44:40
แบบมีนนี่เรียกว่าอะไรค่ะเหมือจะสุขใช่ไหมค่ะ
กว่าจะผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปได้น่าสงสารน้องที่สุด
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 24-04-2018 07:00:18
ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: PAtxxkMxxn ที่ 24-04-2018 07:06:47
พายุกับแจนนี่นี่ยังไงกัน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 24-04-2018 13:56:06
เรื่องนี้มาม่ามาหนักน่าดู
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HPG ที่ 24-04-2018 15:07:27
หนูมีนาลู๊กกกกกกก ทำไมหนูน่าสงสารแบบนี้ อยากกอดปลอบลูกน้อย อย่าแกล้งลูกน้อยเราเยอะเลยนะคะคนเขียน สงสารน้องด้วย น้องตัวนิดเดียวเอง งือ~~~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 24-04-2018 15:32:51
น้องมีนของแม่
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: W2P5 ที่ 25-04-2018 12:36:54
มาม่ารสนี้ไม่อร่อยเลยค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 25-04-2018 14:11:28
ไม่เอามาม่าาาา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 25-04-2018 15:56:50
เครียดแทนน้องเลย ร้องไห้แร้ววว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-04-2018 22:20:48
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Hananijinji ที่ 27-04-2018 09:43:59
 :sad4:8 สงสารมีนสุดหัวไต
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 11 100% P.8 คห 214 (23/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 29-04-2018 07:37:32
Chapter 12: เพื่อนสนิท





พอไม่มีสาเหตุที่ทำให้เขาแต่งตัวแบบนี้อย่างทินกรอยู่ข้างๆแล้ว ภรัณยูก็รู้สึกว่าเสื้อคอกว้างตัวนี้มันหนาวไหล่อย่างบอกไม่ถูก




ร่างโปร่งก้าวลงมาจากรถพร้อมกับถุงกระดาษใส่แก้วเซรามิกสีแดงรูปครึ่งหัวใจสองแก้วที่นำมาต่อกันเป็นรูปหัวใจเต็มดวงสำหรับโตมรและคนรักของชายหนุ่มซึ่งเป็นเชฟขนมหวานชื่อดัง แก้วเซรามิกหน้าตาประหลาดเป็นมุกตลกสำหรับเขาและโตมรมาตั้งแต่สมัยเด็ก เริ่มจากแก้วกาแฟรูปทรงหัวกระโหลกที่ไม่ควรจะเป็นของขวัญวันเกิดของเด็กอายุสามขวบที่โตมรให้เขาไปจนถึงแก้วรูปอ่างอาบน้ำที่ภรัณยูให้อีกฝ่ายตอนจบมัธยมปลาย





แต่อีกเหตุผลที่เขาเลือกแก้วเซรามิกเป็นของขวัญให้เพื่อนเป็นเพราะภรัณยูไม่มีเวลาหาซื้ออะไรที่ดีกว่านี้แล้ว




“เฮ้ย ภัทร แต่งแบบนี้แล้วเหมือนนักร้องเกาหลีีเลยว่ะ”




เจ้าของร้านร่างสูงกำยำในชุดหัวหน้าพ่อครัวสีขาวสะอาดที่กำลังทักทายแขกร้องทักอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นเพื่อนสมัยเด็กในชุดที่เขาไม่คิดว่าจะมีวันได้เห็นอีกฝ่ายใส่ ขนาดตอนที่ภรัณยูมีแฟนเขายังไม่เห็นร่างโปร่งลุกขึ้นมาแต่งตัวแบบนี้เลย
งานในวันนี้มีแค่เพื่อนและครอบครัวที่ได้รับเชิญ ‘เรือนละมุนรัก’เป็นร้านอาหารไทยสไตล์ครอบครัวที่ดูอบอุ่นไม่เหมือนภัตราคารหรูที่ภรัณยูคุ้นเคยเวลาอ่านคอลลัมน์ในนิตยาสารแนะนำร้านอาหาร ภายในร้านตกแต่งด้วยกรอบรูปสีสันสดใสแขวนเรียงรายประดับผนังไม้สีน้ำตาลเข้ม ในกรอบรูปแต่ละรูปมีภาพถ่ายทั้งภาพในวัยเด็กของโตมรและครอบครัว วัยเด็กของณัฐภาส คนรักของชายหนุ่ม และรูปของชายหนุ่มทั้งสองที่กอดคนกันถ่ายรูปหน้าภัตราคารและโรงเรียนสอนทำอาหารมากมาย ราวกับว่าภรัณยูกำลังก้าวเข้ามาเป็นแขกในบ้านของเพื่อนแทนที่จะเป็นร้านอาหาร





“ตาภัทร ทำไมวันนี้น่ารักแบบนี้ เสียดายนะแม่เราไม่มาเห็น”





มารดาของโตมรทักทายเขาอย่างสนิทสนม ภรัณยูยกมือไหว้หญิงชราอย่างนอบน้อม ทั้งมารดาและบิดาของเขาไปเที่ยวชมวัดที่ต่างประเทศสัปดาห์นี้ ไม่อย่างนั้นคงจะได้มาแสดงความยินดีกับโตมร





“ไปนั่งโต๊ะริมหน้าต่างนั่นก็ได้ เดี๋ยวกูขอไปดูนัทในครัวแป๊บ”





โตมรชี้ไปที่โต๊ะที่ยังไม่มีใครนั่ง ภรัณยูพยักหน้า ปล่อยให้เพื่อนที่ยุ่งจนหัวหมุนกลับไปช่วยคนรักในครัว ร่างโปร่งนั่งลงบนโซฟาตัวยาวสีเลือดหมูแล้วขยับนั่งชิดหน้าต่างเพื่อเว้นที่ให้คนที่จะมานั่งร่วมโต๊ะกับตน ชายหนุ่มเท้าคางเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง ใจลอยไปถึงคนที่ตอนนี้ไม่รู้ไปทำอะไรที่ไหนกับเพื่อน





“เชิญเลยจ้ะสองหนุ่ม นั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างกับพี่ชุดขาวตรงนั้นก็ได้”





ภรัณยูขยับนั่งตัวตรงเมื่อเห็นร่างสองร่างทรุดตัวลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามจากหางตา ดวงตาสีน้ำตาลเบิกกว้างเมื่อเห็นเพื่อนร่วมโต๊ะทั้งสองเต็มตา




“ซัน?”




“พี่ภัทร?”





“อ้าว มาแล้วเหรอเด็กๆ รอแป๊บนะ อาหารเสร็จละ”





เสียงที่สามมาจากโตมรที่เพิ่งกลับออกมาจากในครัว ร่างสูงใหญ่ที่ถึงแม้จะเป็นหนุ่มไทยเต็มร้อยแต่กลับทำให้ลูกเสี้ยว
รัสเซียอย่างทินกรดูตัวเล็กกว่าปกติทิ้งตัวลงข้างภรัณยู แขนยาวที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามวางพาดบนไหล่เปลือยเปล่าของเพื่อนสมัยเด็ก ภรัณยูไม่รู้ว่าตนคิดไปเองหรือไม่ แต่แววตาของทินกรที่มองมาที่มือของเชฟหนุ่มดูราวกับอยากจะหักกระดูกของโตมรทีละท่อนด้วยมือเปล่า





“ภัทร นี่น้องเวย์ลูกเจ้านายกู แล้วก็นี่น้องซันเพื่อนน้องเวย์ เด็กๆ นี่พี่ภัทร เพื่อนร้ากกกกของพี่ รู้จักกันไว้นะ” โตมรแนะนำคนในโต๊ะโดยไม่รู้ว่าสองในสามรู้จักกันเกินกว่าขั้นตอนการแนะนำตัวไปหลายขุมแล้ว





“….”





ทั้งโต๊ะตกอยู่ในความเงียบหลังจากสิ้นเสียงของร่างสูง ภรัณยูขยับตัวอย่างอึดอัดกับสายตาทิ่มแทงของเด็กหนุ่มที่นั่งฝั่งตรงข้าม





“รูปพี่ใหญ่ตอนเด็กๆนี่หล่อดีนะครับ” วศินเอ่ยขึ้นท่ามกลายความกระอักกระอ่วน โตมรยิ้มรับคำชมอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้รับรู้ถึงสายตาประทุษร้ายของทินกรแม้แต่น้อย ภรัณยูนึกละเหี่ยใจกับความใสซื่อไม่รับรู้ถึงอันตรายของเพื่อนสมัยเด็ก





“เอ้อ มีรูปมึงด้วยนะภัทร น่ะ เห็นมะ? กูต้องกลับไปเอาที่บ้านมึงเลยนะ”





โตมรชี้ไปยังรูปที่ผนังด้านหลังศีรษะของทินกร ทุกคนในโต๊ะหันไปตามนิ้วของร่างสูง ร่างโปร่งเบิกตากว้างเมื่อเห็นรูปของตนในวัยสองขวบแก้ผ้านั่งอยู่ในกะละมังเดียวกับโตมร มืออ้วนป้อมของภรัณยูแปะฟองลงบนหัวของเพื่อนตัวใหญ่กว่าพร้อมรอยยิ้มกว้าง




“ชอบอ่ะเด้ พูดไม่ออกเลย” โตมรยืดอกอย่างภูมิใจ





“เออๆ ชอบก็ชอบ” ภรัณยูกลอกตาอย่างเหนื่อยจะเถียง ทินกรเบือนหน้าหันไปมองนอกหน้าต่าง ขบกรามแน่นจนกรามนูนขึ้นเป็นสัน





“แล้วนี่อะไร ของขวัญกู?”





เมื่อภรัณยูพยักหน้า โตมรจึงหยิบเอาแก้วเซรามิกรูปหัวใจสองแก้วออกมาจากถุงกระดาษ หัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจ มือใหญ่หยาบกร้านตบลงบนไหล่เปลือยเปล่าของเพื่อนแล้วลุกขึ้น




“ตามสบายเว้ย”





“อือ ขอบใจ”





ภรัณยูพยักหน้าให้เพื่อนที่เดินไปพูดคุยกับแขกโต๊ะอื่นต่อ แล้วหันกลับมาหาทินกรที่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จาผิดวิสัย





เขาทำอะไรอีกล่ะ?





“อ่า…ซัน ให้กูไปนั่งที่อื่น...”




“ไม่ต้อง”




วศินที่กำลังจะลุกหนีจากบรรยากาศอันมาคุทรุดกลับลงมาที่เดิมเมื่อได้ยินน้ำเสียงเฉียบขาดของเพื่อน ปกติแล้วนอกจากความคล้ายคลึงทางพันธุกรรม ภรัณยูไม่เคยเห็นว่าเด็กหนุ่มจะเหมือนธีรเชษฐ์ผู้เป็นบิดาตรงไหน แต่เสียงของทินกรเมื่อครู่แทบจะถอดแบบน้ำเสียงของท่านประธานเวลาไม่สบอารมณ์เลยทีเดียว





อาหารหน้าตาน่าทานหลายจานถูกวางลงตรงหน้าของพวกเขา วศินจ้วงตักอย่างขยันขันแข็ง ถึงแม้อาหารจะอร่อยสมกับเป็นฝีมือของเชฟชื่อดังอย่างโตมร แต่ภรัณยูค่อนข้างแน่ใจว่าสาเหตุที่เด็กหนุ่มไม่ยอมหยุดพักน่าจะเป็นเพราะกลัวว่าหากปากว่างจะไม่มีข้ออ้างให้ไม่เริ่มบทสนทนาเสียมากกว่า





ส่วนทินกร แม้อาหารจะรสเลิศเพียงใด สีหน้าของเด็กหนุ่มก็สามารถทำให้คนที่กำลังหิวอย่างภรัณยูหมดความอยากอาหารได้ง่ายๆ





“เป็นอะไร?” ภรัณยูพยายามไม่ให้เสียงของตัวเองฟังดูเป็นห่วงเป็นใยคนอายุน้อยกว่าจนออกนอกหน้า แต่นั่นกลับกลายเป็น
ว่าน้ำเสียงของเขากลับฟังดูเหมือนโกรธเคืองอีกฝ่ายมาชาติเศษเสียอย่างนั้น





“…เปล่าครับ”





“เปล่าก็กินเข้าไปสิ” ภรัณยูอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้หยุดพูดมันตอนนี้ เขาอยากให้อีกฝ่ายทานเพราะกลัวเด็กหนุ่มจะปวดท้องเอา แต่คำพูดที่ออกมาแม้แต่เขายังรู้สึกว่ามันฟังดูไม่น่าฟังเอาเสียเลย




“ครับ...”





ความเงียบที่น่าอึดอัดเข้าปกคลุมบรรยากาศรอบโต๊ะอีกครั้ง ภรัณยูรู้สึกถึงสายตาของทินกรที่จับจ้องที่ตัวเองทุกครั้งที่ร่างโปร่งก้มลงทาน แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาคมสีควันบุหรี่ก็หลุบลงมองที่ตักของตัวเองอยู่ร่ำไป





“อ่า…กลับกันเลยมั้ย” วศินเสนออย่างกล้าๆกลัวๆ ราวกับไม่มั่นใจว่าเพื่อนจะกินหัวตัวเองหรือไม่




“กลับไปก่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวพี่ไปส่งซันเอง”




ภรัณยูขัดขึ้นก่อนที่คนตรงข้ามเขาจะได้ตอบ วศินเหลือบมองเพื่อนอย่างขอความเห็น ทินกรพยักหน้าอย่างลังเล เดือนคณะร่างสูงจึงยอมทิ้งเพื่อนกลับแต่โดยดีด้วยทนกับบรรยากาศอึมครึมที่คนทั้งสองสร้างไม่ไหว





“เป็นอะไร?”





ภรัณยูถามอีกครั้ง คราวนี้ทินกรเพียงแต่ส่ายหน้า ไม่ยอมแม้แต่จะสบตาภรัณยูที่ตอนนี้เริ่มรู้สึกของขึ้นกับเด็กตรงหน้าอย่างไม่มีสาเหตุ ชายหนุ่มวางช้อนส้อมของตัวเองลงอย่างไม่เบานักหลังจากเห็นว่าทินกรเพียงแต่นั่งจ้องโดยไม่แตะต้องอาหารมาได้สักพัก ร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงนั้น ทินกรรีบลุกตามเมื่อเห็นภรัณยูลุกออกจากโต๊ะไปยังโตมรที่ยืนอยู่กับชายหนุ่มสูงโปร่งในชุดเชฟที่เขาจำได้ว่าเป็นคนรักของร่างสูง




“ใหญ่ กูกลับนะ” ภรัณยูว่า โตมรเอียงคออย่างงุนงง





“รีบจังวะ ไม่อยู่กินเหล้ากับกูก่อนอ่ะ”





ภรัณยูเพียงแต่ส่ายหน้าโดยไม่มีคำอธิบาย สิ่งหนึ่งที่เขาชอบในตัวโตมรคือร่างสูงไม่ใช่คนเซ้าซี้ เชฟหนุ่มเพียงแต่พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะทำหน้าหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้





“เออ อาทิตย์หน้ากูกลับบ้าน กูนอนห้องมึงนะ”




ทินกรเงยหน้าขึ้นขวับเมื่อได้ยินดังนั้น แต่ภรัณยูกลับพยักหน้าอย่างง่ายดาย




“ได้ แม่บอกไว้แล้วว่าห้องมึงซ่อมฝ้าอยู่ กุญแจ...”





“ไม่เป็นไร กูมีอยู่” เชฟโตมรชูพวงกุญแจพวงเล็กให้ดู ภรัณยูเลิกคิ้ว





“ตั้งแต่สมัยม.ปลาย มึงยังไม่คืนกูอีกเหรอ?”




“น่า ยังไงกูก็ใช้ห้องมึงบ่อยกว่ามึงอยู่ละ เก็บกุญแจไว้กับกูนี่แหละดีสุด”




มารดาของโตมรไม่ชอบให้ลูกชายอ่านหนังสือการ์ตูนหรือนิยายกำลังภายในที่เชฟหนุ่มติดนักติดหนา หนังสือที่กองพะเนินอยู่ในห้องของภรัณยูมาตั้งแต่เด็กจึงมีแต่ของโตมรแทบจะทั้งหมด ปัจจุบัน เชฟหนุ่มในวัยย่างสามสิบสองปียังคงไม่กล้าเอาหนังสือการ์ตูนเข้าบ้านของมารดา ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงกองอยู่ในสภาพเดิมกับที่โตมรไปนอนค้างบ้านเขาครั้งล่าสุดตอนที่แอร์ห้องของชายหนุ่มเสีย





“เออ ทำอะไรก็ทำ”




ภรัณยูเอ่ยตัดรำคาญ กล่าวลามารดาของเจ้าของร้านและคนรักตามมารยาท แล้วเดินนำเด็กหนุ่มร่างสูงที่นอกจากเสียงพึมพำกล่าวลาเจ้าของร้านยังคงไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้นออกมาที่รถของตัวเอง




“พี่ภัทรครับ...”




“อะไร?”




ภรัณยูถามเสียงเรียบ ไม่สนใจจะหันไปมองคนที่เขายังอารมณ์เสียด้วยอยู่ เขารู้ว่าเด็กหนุ่มไม่ผิดที่นอกจากจะไม่ยินดียินร้ายกับความพยายามของเขาแล้วยังดูจะไม่ค่อยพอใจที่เห็นเขาแต่งตัวแบบนี้ แต่วันนี้ภรัณยูรู้สึกว่าอารมณ์ของเขาอยู่เหนือเหตุผลมาตั้งแต่ที่รู้ว่าทินกรเพียงแค่อยากให้เขาไปช่วยตนทำงานในวันหยุดเท่านั้น




“…ชุดแบบนี้ พี่ใหญ่ชอบเหรอครับ?”




คำถามประหลาดที่หลุดออกมาจากปากเด็กหนุ่มทำให้ภรัณยูคิดตามอย่างลืมความโกรธไปชั่วคราว จริงๆแล้วเสื้อผ้าแบบนี้เขาเห็นณัฐภาส คนรักของโตมรใส่อยู่บ่อยครั้ง รสนิยมของเชฟขนมหวานร่างโปร่งกับเหนือฟ้าญาติของเขาดูจะคล้ายคลึงกันพอสมควร




“ชอบมั้ง”




อันนี้จริงจากแววตาที่โตมรมองคนรัก ภรัณยูคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะชอบให้ณัฐภาสไม่ใส่อะไรเสียมากกว่า





“….”





เด็กหนุ่มเบือนหน้ามองไปนอกหน้าต่างรถ ไม่คิดจะต่อบทสนทนาที่ตนเป็นคนเริ่ม ทำให้ภรัณยูทำได้เพียงขับรถต่อไปในความเงียบที่น่าอึดอัดนั้น




หรือว่า...ทินกรจะหมดความอดทนกับเขาแล้ว?





-----------

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 29-04-2018 08:06:28
หึงเด้ หึงเด้ โยโย้ว  :z2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Hananijinji ที่ 29-04-2018 08:11:09
งอนอะไรกันนนนน ทำไมไม่บอกเหตุผลกันเล่า คนอื่นงงเด้อ ึึึึึึึึ. รอเชษฐ์มีนค่าา :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-04-2018 09:07:07
เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 29-04-2018 09:23:34
อ่ะจ่ะ โกรธกันไป งอนกันมา
ดีจ่ะ ไม่คุยกัน
ก็เข้าไปผิดกันต่อไปแบบนี้สิน่า
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 29-04-2018 10:51:56
ใครจะง้อใครก่อนกะนน้า
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 29-04-2018 12:16:28
เหอะๆๆๆ คนนึงก็หึง อีกคนก็ไม่ได้รู้อะไรกับเขาเลย
ต้องคุยกันนะ ไม่อย่างนั้นก็ไม่เข้าใจกันสักทีสิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 29-04-2018 13:21:00
เอาเข้าไป  อึมครึมสุดๆ
คนแก่ปากหนัก เด็กก็กลัวว่าเขาจะรำคาญตัวเอง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-04-2018 15:09:55
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 29-04-2018 16:07:40
เป็นการคุยกันคนละเรื่องเดียวกันมากเลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 30-04-2018 10:27:23
โว๊ะ!! น้องซันนนนนน
เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว
คุยกันเรื่องเดียวกันหรือเปล่านี่พี่ภัทรน้องซัน เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 30-04-2018 22:00:56
ต่างฝ่ายต่างเข้าใจผิดกัน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-05-2018 08:12:03
อึดอัดเนาะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-05-2018 10:34:57
คิดเองเออเองตลอด :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 01-05-2018 11:53:18
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 03-05-2018 00:48:14
คิดถึงน้องมีนนนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Hananijinji ที่ 05-05-2018 20:40:48
 :z13: รอนะค้าาาา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 50% P.9 คห 242 (29/4/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 06-05-2018 17:53:40


“เดี๋ยว”




ภรัณยูดับเครื่องยนต์แล้วก้าวออกมาจากรถเมื่อเด็กหนุ่มที่เขาขับรถมาส่งเดินดุ่มๆเข้าบ้านโดยมีเพียงการยกมือไหว้และคำพึมพำขอบคุณเท่านั้นเป็นการทิ้งท้าย ทินกรชะงัก แต่ร่างสูงยังคงไม่หันมาหาเขา




“ครับ?”




“อยู่คนเดียวเหรอ?”




“ครับ ป้าแต้วไปตลาด..!”





คนอายุมากกว่าคว้าข้อมือของทินกรแล้วลากเด็กหนุ่มให้ตามเข้าไปในบ้านโดยไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบ เมื่อมาถึงในตัวบ้านที่ปราศจากสายตาของคนนอก ร่างโปร่งหันกลับมาหาทินกรด้วยสีหน้าที่ทำให้คนมองแตกตื่น




สีหน้าที่เหมือนกับอีกฝ่ายกำลังจะร้องไห้




“ถ้าเบื่อพี่แล้ว...บอกกันตรงๆไม่ได้เหรอ?”




“อะ…อะไรนะครับ?” ทินกรเบิกตากว้าง ราวกับไม่อยากเชื่อว่าคนตรงหน้าจะพูดแบบนั้นออกมา





“ซันไม่ใช่คนแรกหรอกนะที่ทนพี่ไม่ได้...” ถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นคนแรกที่ทำให้ภรัณยูรู้สึกใจหายกับความคิดนั้น “พี่จะหาครูสอนพิเศษคนใหม่ให้ ระหว่างนี้ก็ทบทวนบทเรียนไปก่อนแล้วกัน”




“พี่ภัทร...”





“ขอโทษนะที่ทำให้เสียเว...อื้อ!”




ริมฝีปากได้รูปฉกฉวยจุมพิตจากริมฝีปากนุ่มก่อนที่ภรัณยูจะได้พูดจบ ทินกรบดขยี้กลีบปากของร่างโปร่งอย่างไม่ปราณี ประคองใบหน้าเรียวให้เงยขึ้นรับลิ้นร้อนที่แทรกเข้าไปในโพรงปากอุ่นอย่างกระหาย





ภรัณยูขยุ้มเสื้อของเด็กหนุ่มไว้เพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ล้มลงไปกองกับพื้น ลิ้นเรียวเกี่ยวกระหวัดตอบรับสัมผัสดูดดื่มจากร่างสูงอย่างเผลอไผล กว่าทินกรจะยอมปล่อยริมฝีปากอันบวมเจ่อของเขาให้เป็นอิสระ ภรัณยูที่ขาดอากาศหายใจเป็นเวลานานถึงกับต้องเอนซบไหล่ของตัวต้นเหตุเพื่อหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด





“ซั...อะ..”




ร่างโปร่งถูกผลักลงบนโซฟาตัวยาวพร้อมกับร่างของทินกรที่ทาบทับลงมา




“ถ้าผมเบื่อพี่...ผมจะทำแบบนี้เหรอครับ?”




ริมฝีปากร้อนไล้ลงมาตามซอกคอขาว ดูดเม้มที่แอ่งชีพจรอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ภรัณยูครางเสียงแผ่วเมื่อร่างสูงฝากรอยประทับเพิ่มตามลำคอระหงส์




“ที่ผมโกรธ...เพราะพี่ภัทรใส่เสื้อผ้าแบบนี้เพื่อคนอื่น...”




หัวไหล่เปลือยเปล่าเป็นเป้าหมายถัดไปของทินกร ร่างสูงขบเบาๆที่ผิวเนื้อขาวเนียนซึ่งโผล่พ้นเสื้อผ้าของอีกฝ่ายออกมา ภรัณยูตัวสั่นเทาอย่างประหม่าเมื่อมือใหญ่เลิกเสื้อตัวบางของตนขึ้น เผยให้เห็นหน้าท้องแบนราบและเม็ดทับทิมสีหวานบนแผ่นอกของร่างโปร่งที่ทินกรเคยครอบครองไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งในคืนแรกของพวกเขา ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกเมื่อลิ้นร้อนหยอกล้อกับตุ่มไตสีหวานหนึ่งข้าง ขณะที่นิ้วเรียวสะกิดเขี่ยอีกข้างอย่างไม่น้อยหน้ากัน เมื่อริมฝีปากร้อนครอบครองดูดดุนยอดอกของภรัณยูอย่างกระหาย ร่างโปร่งต้องยกมือขึ้นปิดปากเพื่อไม่ให้เสียงครางแว่วหวานนั้นหลุดออกมาจากปาก




“ผมโกรธ...เพราะผมรู้ตัวว่าผมไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวพี่”




“ซะ…ซัน…พอเถอะ” คำขอร้องเสียงสั่นเครือหายไปในลำคอเมื่อทินกรจุมพิตไล่ลงมาตามหน้าท้องแบนราบ นิ้วเรียวเกี่ยวดึงเข็มขัดกางเกงของภรัณยูออกอย่างชำนาญ กว่าคนที่ยังมัวเมากับความรู้สึกที่ถูกปรนเปรอจะรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เสื้อผ้าท่อนล่างของเขาก็ถูกโยนลงไปกองกับพื้นเสียแล้ว





“ผมโกรธ...ที่ทั้งที่รู้อย่างนั้นผมก็ยังอยากดึงพี่ออกมาจากพี่ใหญ่ อยากบอกคนทั้งร้านว่าพี่เป็นของผม”





“อ๊ะ…อะ…ซัน...”




แผ่นหลังขาวเนียนแอ่นโค้งอย่างเสียวซ่านเมื่อริมฝีปากร้อนเข้าครอบครองที่จุดกึ่งกลางของตนอย่างไม่นึกรังเกียจ แม้ภรัณยูจะไม่ใช่เด็กวัยรุ่นที่ยังไม่เคยผ่านเรื่องอย่างว่ามา แต่เขาไม่เคยถูกใครทำแบบนี้ให้มาก่อน ร่างโปร่งยกมือข้างหนึ่งปิดเสียงครางลั่นไม่เป็นภาษาที่หลุดออกมาจากในลำคออีกครั้ง สะโพกมนขยับสวนจังหวะการขยับของเด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าอย่างควบคุมไม่อยู่ มืออีกข้างขยุ้มกลุ่มผมนุ่มแน่น




“อ๊ะ..ซัน...พะ...พอแล้ว...ไม่เอา....”




ภรัณยูเอ่ยขอร้องด้วยน้ำเสียงที่แม้แต่ตนก็รู้ว่าน่าอายแค่ไหน แต่ทินกรดูจะชื่นชอบเสียงแหบพร่าที่เต็มไปด้วยราคะซึ่งเกิดจากฝีมือของตนเสียเหลือเกิน




“ไม่ต้องห่วงครับพี่ภัทร...” ร่างสูงผละออกมาจากร่างที่ตนให้ความสนใจจนสั่นระริกอย่างน่าเอ็นดู เลียริมฝีปากช้าๆขณะดื่มด่ำกับภาพผลงานชิ้นโบว์แดงของตนที่พยายามไขว้ขาเรียวยาวของตนเพื่อลดความอับอายจากสายตาที่ทำให้หน้าร้อนฉ่า “ผมสัญญาแล้วว่าตราบใดที่ผมยังไม่ถึงสิบแปด เรื่องแบบคืนนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีก ผมน่ะ...รักษาสัญญาเสมอครับ”




“ซะ..อ๊าาา!!!”




ร่างของภรัณยูกระตุกเกร็งอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมที่ค่อยๆแทรกเข้ามาในร่างของตนอย่างช้าๆ แต่ความรู้สึกอึดอัดหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อทินกรขบเม้มเม็ดทับทิมสีหวานที่เริ่มบวมแดงจากการถูกครอบครองเพื่อเบีี่ยงเบนความสนใจคนที่สติเริ่มเลือนราง นิ้วเรียวยาวขยับควงจนสะโพกมนยกลอยแทบไม่ติดโซฟา แม้จะอยากด่าแต่สิ่งที่ออกมาจากริมฝีปากเรียวตอนนี้มีเพียงเสียงครางแว่วหวานที่ฟังไม่ได้ศัพท์เท่านั้น




“ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่มีหวัง...แต่อย่างน้อย ให้ผมทำให้พี่ภัทรมีความสุขได้มั้ยครับ?”




น้ำเสียงออดอ้อนพร้อมริมฝีปากที่ทาบลงบนขมับชื้นเหงื่อทำให้ภรัณยูนึกอยากจะค้อนคนที่ชอบทำอะไรแล้วมาขอทีหลัง แต่สิ่งที่ทำได้ขณะที่อารมณ์วาบหวามถูกกระตุ้นให้พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆมีเพียงการพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต ก่อนจะสะดุ้งเฮือกอีกครั้งเมื่อนิ้วเรียวครูดผ่านจุดไวต่อสัมผัสภายในที่ทำให้ร่างโปร่งถึงกับเห็นดาวระยับ




“จะเอาจริงแล้วนะครับ”




เสียงทุ้มกระซิบอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมเร่งจังหวะนิ้วเรีวยาวของตน เล่นเอาคนที่กำลังจะถามว่านี่ยังไม่เอาจริงอีกหรือซุกหน้าเข้ากับไหล่กว้างเพื่อช่วยอำพรางเสียงอันน่าอายที่ดังขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่หยุดหย่อน ร่างโปร่งกระตุกเฮือกพร้อมกับภาพเบื้องหน้าที่กลายเป็นสีขาวโพลน ก่อนจะทิ้งตัวลงในอ้อมกอดของตัวต้นเหตุขณะหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดอย่างอ่อนเพลีย
“ผมน่ะ ไม่ใช่คนที่เบื่ออะไรง่ายๆหรอกนะครับ” เด็กหนุ่มประทับจุมพิตลงบนหน้าผากชื้นเหงื่อของภรัณยูอีกครั้งอย่างอ่อนโยน “แค่ได้ไล่ตามพี่ภัทรแบบนี้ ผมก็มีความสุขจนเหมือนตัวจะระเบิดอยู่แล้ว”




“…เด็กบ้า...”




นั่นคือสิ่งเดียวที่ภรัณยูสามารถพึมพำออกมาได้ ทินกรช้อนร่างที่อ่อนปวกเปียกขึ้นอุ้ม เรียกเสียงครางในลำคออย่างไม่พอใจจากภรัณยูได้เป็นอย่างดี




“ผมพาขึ้นไปนอนข้างบนดีกว่านะครับ”




เด็กหนุ่มยิ้มร่าราวกับไม่ได้รู้เลยว่าที่ตนเพิ่งทำลงไปนั้นเป็นเรื่องน่าอายมากแค่ไหน ทินกรอุ้มร่างของคนอายุมากกว่าขึ้นไปบนห้องนอนของตน หลังจากวางร่างของภรัณยูลงบนเตียง ทินกรเอ่ยกับคนที่นอนหลับตาหน้าแดงก่ำบนเตียงทั้งที่ไม่ได้หลับ ดูก็รู้ว่าพยายามหาข้ออ้างที่จะไม่ต้องพูดกับเขา




“เดี๋ยวผมไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้นะครับ”





“เอ๊ะ...ดะ...เดี๋ยวสิ...” ภรัณยูชันตัวขึ้นนั่งอย่างสับสนเมื่อเห็นร่างสูงหันหลังตรงไปยังห้องน้ำจริงๆ ทินกรหันกลับมาด้วยสีหน้างุนงง



“ครับ?”



“แล้ว...ซันจะไม่...” คนอายุมากกว่าพยักเพยิดไปยังปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขของเด็กหนุ่มด้วยใบหน้าแดงก่ำ




“อ๋อ…เดี๋ยวผมค่อยจัดการทีหลังครับ” ทินกรไหวไหล่เป็นเชิงว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร




“เดี๋ยวสิ คือพี่...” ภรัณยูเอื้อมมือคว้าข้อมือของเด็กหนุ่มไว้ก่อนที่สมองจะได้สั่งการอะไรมากกว่านั้น “คือว่า...”




“พี่ภัทรครับ...” ทินกรคุกเข่าลงตรงหน้าคนที่ยังนั่งอยู่บนเตียงพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน “พี่ภัทรไม่ต้องรู้สึกติดค้างอะไรผมหรอกนะครับ แค่พี่ภัทรยอมให้ผมเอาแต่ใจกับพี่ขนาดนี้ ผมก็ดีใจมากแล้วครับ”




“….”




ภรัณยูอยากจะบอกให้อีกฝ่ายเอาแต่ใจให้มากกว่านี้ ดึงดันให้มากกว่านี้ แต่เขารู้ดีว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะพูดอะไรแบบนั้น ในเมื่อคนที่ไม่ยอมแสดงความชัดเจนในสถานะความสัมพันธ์ของพวกเขาแต่แรกคือตัวเขาเอง




“ที่พี่แต่งตัวแบบนี้...เพราะพี่ไม่อยากให้ซันอายคนในมหาลัย...” ร่างโปร่งหลบสายตาของเด็กหนุ่มที่มองตรงมาที่เขาอย่างสับสนระคนแตกตื่น “พี่แค่...อยากดูดีกับคนอื่นเขาบ้าง อื้อ..”




ริมฝีปากได้รูปบดจูบลงบนริมฝีปากของภรัณยูทันทีที่ร่างโปร่งพูดจบ ใบหน้าของทินกรในตอนนี้ดูเจิดจ้าเสียงยิ่งกว่าพระอาทิตย์ยามกลางวัน




“จริงเหรอครับพี่ภัทร?”




คนอายุมากกว่าพยักหน้าอย่างเขินอาย เขายังคงไม่ชินกับแววตาที่มองเขาเหมือนเขาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของอีกฝ่ายเสียที




“ถึงพี่จะบอกว่าเรื่องอย่างนั้นห้ามทำจนกว่าจะสิบแปด...” ร่างโปร่งยังคงไม่สามารถทำใจมองหน้าอีกฝ่ายขณะพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้ “แต่ถ้าแค่แบบเมื่อกี้...พี่ทำให้ได้นะ...”




หากก่อนหน้านี้อีกฝ่ายดูเหมือนดวงอาทิตย์ ตอนนี้ทินกรคงจะเหมือนซุปเปอร์โนวาระเบิดพลังแสงไปทั่วทุกทิศ




ภรัณยูรู้ว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเขาอาจจะเสียใจกับการตัดสินใจนี้เมื่อกรามของเขาเริ่มส่งเสียงประท้วงด้วยความเมื่อยขบ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มเหมือนเด็กเล็กๆบนใบหน้าของทินกร เขากลับรู้สึกว่ามันช่างคุ้มค่าเสียเหลือเกิน





ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ความรู้สึกของเขาที่มีต่อคนตรงหน้าเปลี่ยนไปขนาดนี้?




--------

สไลด์ตัวมากราบขอโทษรัวๆ เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ+ท้องเสียหนักที่สุดในชีวิตตั้งแต่เกิดมา+ พรุ่งนี้เปิดเทอม เมฆหมอกสัปดาห์นี้อาจจะไม่ได้ลงน้า เดี๋ยวจะลงเรื่องนนี้ชดเชยความผิด ฮือออออ
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 100% P.9 คห 259 (6/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Itachishang ที่ 06-05-2018 22:00:41
คู่คุณพ่อจะมีแบบนี้มั้งไมอ่ะ 55 อยากเห็นมีนโดนรังแก อิอิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 100% P.9 คห 259 (6/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Itachishang ที่ 06-05-2018 22:07:32
ไรท์หายเร็วนะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 100% P.9 คห 259 (6/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 06-05-2018 22:42:44
เป็นการปรับความเข้าใจทีีฟินจริงๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 100% P.9 คห 259 (6/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 06-05-2018 23:19:11
ดีจังปรับความเข้าใจกันเร็วมาก ชอบวิธีการที่ใช้จังเลย ฟินมาก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 100% P.9 คห 259 (6/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-05-2018 00:25:24
ใจไม่แข็งพอนี่ภัทร แพ้ซันจนได้  o18
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 100% P.9 คห 259 (6/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-05-2018 09:59:10
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 100% P.9 คห 259 (6/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-05-2018 10:32:25
ไรท์หายไวๆนะ  :mew1:

ซัน  ภัทร     :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 12 100% P.9 คห 259 (6/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 08-05-2018 13:23:32
Chapter 13: รู้สึกผิด




“ซัน…”




ผิวกายเนียนนุ่มที่ยอมให้เขาเชยชม ฝากรอยประทับไว้บนหัวไหล่มนและซอกคอขาว




“ซัน….”




ความรู้สึกของริมฝีปากเรียวฉ่ำน้ำที่ทำให้เขาแทบจะแตะขอบสวรรค์ทันทีที่ได้สัมผัส




“ไอ้เชี่ยซัน!!!”




พายุแทบจะต้องแหกปากใส่หูของคนที่เหม่อไปถึงดาวพลูโตเพื่อดึงความสนใจของอีกฝ่าย กระนั้นทินกรก็ยังหันมาอย่างเหม่อลอยราวกับไม่ได้ยินอะไรที่เขาพูดก่อนหน้าแม้แต่น้อย




“มีอะไรเหรอ?”




“กูถามว่า เดี๋ยวนี้มึงเห็นมีนบ้างมั้ย หายไปไหนของมัน ไม่มากินข้าวกับพวกเราเลย”




เดือนคณะถามเพื่อนด้วยสีหน้าติดรำคาญ ในเวลาว่าง ทินกรมักจะนั่งฝันหวานหาชายหนุ่มอายุมากกว่าที่พายุยังไม่ค่อยมั่นใจสถานะของคนทั้งคู่เท่าไหร่โดยไม่สนใจคนรอบข้างเสมอ




“อ๋อ คงเรียนหนักมั้ง พวกหมอนี่นา”




ทินกรไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ เขาเดินสวนกับมีนาอยู่บ้างทำให้รู้ว่าร่างเล็กยังคงมาเรียนหนังสือ แต่เวลาที่เขาโบกมือหรือส่งเสียงเรียก อีกฝ่ายมักจะไม่ได้ยินเขาเสมอ




“เหรอ...”




น้ำเสียงของพายุฟังดูไม่เชื่อคำพูดนั้น แต่เมื่อหางตาเหลือบไปเห็นใครบางคนเดินผ่านไป เพื่อนตัวเล็กก็ถูกลืมหายไปจากสมองทันที




“พายุ ถ้าไม่เอาจริง ก็อย่าไปแกล้งเขาแบบนี้เลยนะ”




ทินกรดักคอเพื่อนที่กำลังจะลุกตามกลุ่มเด็กสาวที่มีนักศึกษาหนุ่มเป็นสิ่งแปลกปลอมพูดคุยหัวเราะกันเดินผ่านไป เพื่อนผิวเข้มตวัดสายตาค้อนเพื่อนตาเขียวปั้ด




“อะไรทำให้มึงคิดว่ากูไม่เอาจริง?”




“ก็…อ่า…” ทินกรอึกอักเมื่อพบว่าตัวเองไม่มีเหตุผลใดๆที่จะทำให้มีความคิดเช่นนั้น แต่พายุเป็นคนโผงผาง พูดจาอะไรก็ดูเหมือนเป็นเรื่องเล่นๆ เป็นอะไรง่ายๆไปเสียหมด ครั้งนี้เขาเลยดูไม่ออกจริงๆว่าไอ้ความคิดที่จู่ๆจะอุตริไปจีบช่างแต่งหน้าของตัวเองนั้นเพื่อนรักได้แต่ใดมา“แล้วทำไมจู่ๆถึงได้นึกชอบเขาขึ้นมาล่ะ?”




“ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอวะ?” พายุเลิกคิ้ว




“ต้องสิ”ทินกรดันพาซื่อพยักหน้าหงึกหงักใส่เสียอย่างนั้น พายุถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับเพื่อน




“ก็เคยเห็นตอนเขาประกวดดาวเทียมของคณะเรา กูแค่รู้สึกว่าเขาน่ารักดี บางทีก็ดูเอ๋อๆมึนๆไปหน่อย แต่แม่งจี้ดี กูชอบ”ร่างสูงไหวไหล่ “พอเจอกันอีกครั้งเลยอยากลองคุยดู แปลกตรงไหนวะ?”




หากจะว่ากันตามตรง ความสัมพันธ์อันพิลึกพิลั่นของเพื่อนทั้งสองคนของเขายังดูน่าเป็นห่วงมากกว่าเขาเสียอีก




“อ๋อ…”




ทินกรพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะรีบชี้เป้าให้เพื่อนเมื่อคนที่เดินผ่านไปซื้อน้ำกับเพื่อนเมื่อครู่เดินกลับมาทางเดิมอีกครั้งพร้อมน้ำหวานในมือ คราวนี้พายุไม่พลาดโอกาส รีบตีเนียนเขาไปทักทายเด็กหนุ่มคนเดียวในกลุ่มที่ดูจะตกใจเล็กน้อยกับการปรากฎตัวของร่างสูง





ฝ่ายทินกรทำได้เพียงแอบส่งกำลังใจให้เพื่อนอยู่ห่างๆ แต่เมื่อโทรศัพท์ของตนที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นครืดพร้อมกับชื่อและรูปแอบถ่ายยามนอนของภรัณยูเด่นหราบนหน้าจอ เด็กหนุ่มก็โดดแผล็วขึ้นจากโต๊ะหินอ่อนที่นั่งอยู่ทันที




“ครับพี่ภัทร จะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”











ธีรเชษฐ์เป็นพ่อของทินกร...




ทินกรเป็นน้องชายของธารธารา...




แต่หากธีรเชษฐ์เป็นบิดาของธารธารา...ทำไมสายตาของรุ่นพี่ร่างโปร่งที่มองไปที่รถของชายหนุ่มถึงได้ดูไม่เป็นมิตรได้
ขนาดนั้น?




“โอ๊ย!”




มีนาร้องออกมาเบาๆเมื่อความใจลอยทำให้เข็มปักผ้าที่ตนใช้ซ่อมสายกระเป๋าเป้ตำนิ้วเข้าให้




“มีน ทำไมวันนี้ใจลอยจังลูก”




มารดาของเขาเอ่ยทััก จากคำพูดของแพทย์เจ้าของไข้ ผลการทำเคมีบำบัดออกเป็นที่น่าพึงพอใจในขณะนี้ อันที่จริง มะเร็งที่มารดาของเขาเป็นอยู่นั้นไม่ใช่โรคชนิดที่รุนแรงมากนัก แต่ด้วยความยากจนทำให้พวกเขาไม่มีแม้แต่ทางเลือกที่จะเข้ารับการรักษา โชคดีของพวกเขาที่ก้อนเนื้อร้ายยังไม่ได้ลุกลามไปที่อื่นๆ มีเพียงโรคแทรกซ้อนจากภูมิคุ้มกันที่ต่ำลงเท่านั้นที่ทีมแพทย์แนะนำให้ญาติสังเกตอาการ




มีนาแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เมื่อได้ยินคำว่า ‘มีความเป็นไปได้ในการหายขาด’ ออกจากปากของนายแพทย์เจ้าของไข้ ถึงแม้เขาจะไม่กล้าแม้แต่จะตั้งความหวังกับสิ่งที่ดูเหมือนจะดีเกินจริงที่เกิดขึ้นกับเขา



“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะแม่ แค่คิดเรื่องเรียนน่ะจ้ะ” มีนาตอบด้วยคำโกหกเดิมๆ หันไปยิ้มให้มารดาคลายกังวล




“อย่าเครียดมากนะลูก...จริงสิ ว่างๆ มีนร้อยพวงมาลัยเอาไปกราบขอบคุณอาจารย์ของลูก แล้วก็คุณธีรเชษฐ์ด้วยนะ อุตส่าห์รับลูกเข้าทำงานพิเศษในบริษัทของเขา แถมยังช่วยออกเงินค่ารักษาแม่” หญิงสาวบนเตียงหันไปมองกระเช้าของเยี่ยมข้างเตียงที่มีนาไม่ได้สั่งเกตตอนเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม “ดูสิ ส่งกระเช้าผลไม้ให้คุณพยาบาลเอามาให้อีก เป็นคนที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีจริงๆ”




มีนาถึงกับพูดไม่ออกกับคำชมของผู้เป็นมารดา ร่างเล็กเหลือบมองกระเช้าผลไม้ที่จัดเรียงอย่างสวยงามนั้นด้วยสีหน้าเคลือบแคลงใจ




ทำไมคุณเชษฐ์ถึงได้...




ก็อกๆๆ




เสียงเคาะประตูเรียกให้มีนาหลุดออกจากความคิดของตัวเอง นายแพทย์เจ้าของไข้เข้ามาในห้องด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ยกมือรับไหว้ทั้งมีนาและคนไข้ของตน หลังจากสอบถามอาการของหญิงสาวไปได้ครู่หนึ่ง นายแพทย์หนุ่มก็เอ่ยขึ้น




“เดี๋ยววันนี้หมอจะขอปรับขนาดยานะครับ คนไข้อาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ หรือปวดเมื่อยตามตัวนะครับ...”




มีนากุมมือมารดาอย่างเป็นกังวล แต่หญิงสาวเพียงแต่ส่งยิ้มให้กับลูกชาย หลังจากที่คุณหมอกลับออกไป มีนาก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง




“แม่จ๋า คืนนี้ให้หนูนอนด้วยมั้ยจ๊ะ...”




“ไม่ต้องหรอกลูก วันนี้มีงานต่อไม่ใช่เหรอ? แม่มีคุณพยาบาลคอยดูแลอยู่แล้ว ยายเราก็อยู่ ไม่ต้องห่วงแม่หรอกจ้ะ”
แม้จะไม่อยาก แต่มีนารู้ว่าหากเขาไม่กลับให้ถึงคอนโดในเวลาที่ธีรเชษฐ์กำหนด เจ้าชีิวิตของเขาจะต้องไม่พอใจเป็นแน่
แค่ที่อีกฝ่ายให้เขาตอนนี้ก็มากเกินกว่ามีนาจะกล้าต่อรองขอเวลาอยู่กับมารดาต่ออีกสักนิดแล้ว









เด็กหนุ่มวางจานผัดผักลงบนโต๊ะทานข้าวพอดีกับที่ธีรเชษฐ์เปิดประตูเข้ามาในห้อง




“จะทานข้าวเย็นเลยมั้ยครับคุณเชษฐ์”




มีนาตรงเข้าไปช่วยเจ้าของห้องจัดเก็บรองเท้าหนังสีดำมันเงาที่เขาเพิ่งขัดเมื่อเช้าเข้าตู้เก็บรองเท้า ธีรเชษฐ์พยักหน้า ดึงเนคไทค์ออกจากคอแล้วโยนลงพื้นให้ร่างเล็กกุลีกุจอตามเก็บ อันที่จริงเขาไม่ใช่คนไร้ระเบียบขนาดนั้น แต่การได้เห็นเด็กหนุ่มตามเก็บข้าวของให้เขาด้วยสีหน้าจริงจังราวกับเป็นงานที่สำคัญที่สุดในชีวิตทำให้ธีรเชษฐ์รู้สึกอยากแกล้งขึ้นมาเสมอ
มีนาคดข้าวจากหม้อหุงใส่จานสองจานแล้ววางลงบนโต๊ะ ธีรเชษฐ์มักจะบังคับให้ร่างเล็กทานอาหารด้วยเสมอจนร่างกายที่เคยชินกับการอดมื้อกินมื้อเริ่มปรับตัวให้รู้สึกอยากอาหารวันละสามมื้อเหมือนคนปกติ




“วันนี้แต่งตัวน่ารักดีนี่”




แขนแกร่งตวัดรวบเอวบางดึงให้มีนาเซลงมานั่งบนตักของตน อีกเรื่องที่ถึงแม้จะยังมีท่าทีขัดเขิน แต่มีนาเริ่มรู้สึกชินมากขึ้นเรือยๆ ซึ่งเขาไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจกับความเรียนรู้ไวของร่างกายตัวเอง



“ผม..ผมก็แต่งแบบนี้ทุกวันนี้ครับ...”




ร่างเล็กแย้งเสียงแผ่ว วันนี้เขาก็อยู่ในเสื้อยืดกางเกงขาสั้นที่ร่างสูงซื้อมาให้ จะมีอะไรแปลกไปก็คงจะเป็นความสั้นของกางเกงที่มากกว่ากางเกงตัวอื่นอยู่มากโข แต่มีนาใช้เวลาตลอดทั้งเย็นคุกเข่าคลานเช็ดพื้นจนเงาวับ จะให้ใส่กางเกงตัวอื่นเขาก็กลัวจะเลอะเทอะเสียเปล่าๆ




“หืม? จริงเหรอ?” นิ้วเรียวยาวไล่กรีดเบาๆขึ้นมาตามผิวขาวเนียนที่ไร้อาภรณ์บดบัง ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มอย่างพึงพอใจกับร่างที่สั่นเป็นลูกนกกับสัมผัสของเขา “ฉันว่าฉันน่าจะจำได้นะถ้าเธอเคยใส่เสื้อผ้าแบบนี้”




“….”




ร่างเล็กก้มหน้างุดไม่พูดไม่จา แสร้งหันไปดึงจานข้าวทั้งสองจานเข้ามาใกล้ตัวเองมากขึ้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจอีกฝ่ายกลับมาที่อาหารบนโต๊ะ แต่เสียงหัวเราะทุ้มต่ำในลำคอข้างหูของเขาทำให้มีนารู้ว่าธีรเชษฐ์ไม่ตกหลุมพรางของเขาเลยแม้แต่น้อย แต่ชายหนุ่มยังพอมีเมตตาปล่อยให้เขาได้ทานอาหารเย็นในความสงบ ถึงแม้ธีรเชษฐ์จะไม่เคยเอ่ยปากชมฝีมือการทำอาหารของเขา แต่จะปริมาณอาหารที่พร่องลงมากโขผิดกับเวลาออกไปทานข้างนอกทำให้มีนาอดรู้สึกภูมิใจลึกๆไม่ได้ ถึงแม้บ้านของเขาจะไม่ได้มีอะไรที่พอจะประกอบเป็นสำรับอาหารได้ในแต่ละมื้อ แต่เขาและมารดาเคยเป็นลูกมือป้าร้านขายข้าวแกงสมัยที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา ป้าเจ้าของร้านถึงกับไว้ใจให้เขาช่วยทำอาหารในวันที่มารดาของเขาไม่สบายด้วยซ้ำ




มีนาอยากจะหาโอกาสคุยกับธีรเชษฐ์เรื่องของธารธาราและทินกร แต่ความกังวลต่างๆนานาในหัวทำให้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเริ่มบทสนทนาอย่างไร



หากธีรเชษฐ์ปล่อยเขาไปด้วยเหตุผลที่ว่าลูกชายคนรองรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขา มีนาไม่อยากจะคิดว่าจะเกิดอะไรกับมารดาและยายของตนต่อจากนี้




แต่อีกใจหนึ่ง ร่างเล็กก็อยากเชื่อว่าร่างสูงจะมีเมตตาพอที่จะไม่ทำอย่างนั้น



“คิดอะไรอยู่?”




ธีรเชษฐ์กระซิบถามคนที่นั่งเหม่ออยู่บนตักของเขา ไม่รับรู้ถึงมือปากหมึกที่นวดคลึงสะโพกแน่นอย่างหยอกเย้าด้วยซ้ำ มีนาส่ายหน้า ขยับตัวลุกจากตักของอีกฝ่ายเพื่อเก็บจานชามไปล้าง




“เปล่าครับ...แค่เพลียนิดหน่อย”



ธรรมชาติของมีนาไม่ใช่คนที่ร้องขอความช่วยเหลือจากใคร




ไม่สิ...คงต้องบอกว่าทั้งชีวิตของเขา เด็กหนุ่มไม่เคยได้รับโอกาสที่จะร้องขอความเมตตาไม่ว่าจะจากใครก็ตาม









ในความคิดของธีรเชษฐ์ เขารู้สึกว่ามีนาดูเครียดกว่าทุกวัน




ใช่ว่าปกติร่างเล็กจะไม่เครียด เขาไม่รู้ว่าเด็กตัวแค่นี้จะมีเรื่องที่ต้องคิดอะไรนักหนา ถึงแม้ว่าสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวมีนาจะเรียกได้ว่าหลุดออกมาจากนางเอกละครน้ำเน่า แต่ตอนที่เขาอายุไล่เลี่ยกับเด็กหนุ่ม เขาก็เพิ่งได้รู้ข่าวว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นพ่อคน ทั้งเรียนไปทำงานไปหามรุ่งหามค่ำเพื่อหาเงินมาดูแลเกศราหลังจากค่าเลี้ยงดูก้อนสุดท้ายจากบิดาที่หายหัวไปจากชีวิตเขามานมนาน ธีรเชษฐ์ยังไม่คิดว่าเขาจะหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลาแบบนี้





อาจเป็นเพราะเขามีคนที่คอยยืนเคียงข้างเขาในตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็นเกศรา เพื่อนสนิททั้งสองของเขา คเชนทร์กับวีรภัทร หรือแม้แต่มารดาที่แม่จะเป็นแค่เจ้าของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเล็กๆแต่ก็ยังเชื่อใจเขาที่ยังไม่มีประสบการณ์อะไรมากมายพอที่จะให้ธีรเชษฐ์ลงทุนกับมัน




เพราะตัวเขาในตอนนั้นไม่ได้อ้างว้างอย่างเด็กคนนี้




“อ๊ะ…”




มีนาร้องออกมาเบาๆเมื่อถูกคนบนเตียงรวบเข้าไปกอด กักขังร่างของเขาไว้ด้วยร่างสูงใหญ่นั้นหลังจากที่มีนานอนตาค้างอยู่ในความมืดมาระยะหนึ่ง แม้จะเริ่มเคยชินกับความปากว่ามือถึงของธีรเชษฐ์แล้วแต่มีนาก็ยังอดหน้าแดงวาบทุกครั้งที่ใกล้ชิดกันไม่ได้




เขาได้แต่บอกตัวเองว่ามันเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายมนุษย์ แม้ว่าจะทำใจให้เชื่อเหตุผลนั้นยากขึ้นทุกวัน




“นอนไม่หลับเหรอ? ทำไมวันนี้ถึงได้ยุกยิกจัง?”




น้ำเสียงของอีกฝ่ายไม่มีแววโกรธขึง มีแต่ความสงสัยใคร่รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้คนที่มักเหนื่อยจนหลับปุ๋ยทันทีที่หัวถึงหมอนนอนพลิกไปมาในคืนนี้




“ขะ…ขอโทษครับ”




มีนารีบพึมพำขอโทษอย่างรู้สึกผิด ทั้งที่ธีรเชษฐ์มีประชุมเช้าพรุ่งนี้แท้ๆ แต่อีกฝ่ายกลับต้องมาตื่นเพราะเขา




“นั่นไม่ใช่คำตอบที่ฉันอยากรู้” ชายหนุ่มกดเสียงต่ำ บ่งบอกว่าเริ่มไม่สบอารมณ์กับการเบี่ยงประเด็นของมีนาแล้ว ร่างเล็กชั่งใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจตอบความจริงออกไป...แม้จะเพียงแค่ครึ่งเดียวก็ตาม




“ผมห่วงเรื่องแม่น่ะครับ วันนี้หมอเพิ่มยาให้ ผมกลัวว่าจะมีผลข้างเคียงอะไรให้อาการไม่ดีรึเปล่า...”




“งั้นเหรอ...”




ธีรเชษฐ์ปรับเสียงให้อ่อนลงเมื่อได้ยินเหตุผลของเด็กหนุ่ม มือใหญ่เอื้อมขึ้นลูบกลุ่มผมนิ่ม นิ้วเรียวเกี่ยวพันเส้นผมสีน้ำตาลนุ่มเล่น มีนาตัวแข็งอย่างตกใจกับสัมผัสอ่อนโยนของอีกฝ่าย การแตะเนื้อต้องตัวของธีรเชษฐ์ตามปกตินั้น แม้จะไม่ใช่อย่างที่อีกฝ่ายทำกับเขาในวันแรกที่เจอกัน ได้แต่มีนาสามารถบอกได้ว่าทุกสัมผัสของร่างสูงมีความต้องการแฝงอยู่ไม่มากก็น้อย
แต่ครั้งนี้ สิ่งที่เขาสัมผัสได้มีเพียงมือใหญ่ที่ลูบศีรษะของเขาราวกับเขาเป็นเด็กน้อยน่าเอ็นดู




ซึ่งมีนาไม่รู้ว่าทำไมความคิดนั้นถึงทำให้เขารู้สึกแย่ขึ้นมาเสียอย่างนั้น




“คราวหลัง โทรมาบอกฉันก็ได้นะว่าจะนอนกับแม่”




“เอ๊ะ?”




เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองธีรเชษฐ์อย่างประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากอนุญาตเขาแบบนี้ ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วกับสีหน้าของร่างเล็ก




“ทำไม? เห็นฉันใจร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”




“ปะ…เปล่าครับ!” มีนารีบปฏิเสธด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ ธีรเชษฐ์หัวเราะเสียงต่ำ




“ไม่ต้องห่วง...เดี๋ยวลงบัญชีไว้ให้”





มีนารีบซุกหน้ากับแผงอกแกร่งตามสัญชาตญาณเมื่อจมูกโด่งเป็นสันโฉบมาที่แก้มนิ่ม แม้เขาจะรู้ว่าธีรเชษฐ์ไม่ชอบ แต่มีนาก็ไม่สามารถห้ามตัวเองได้เสียที เด็กหนุ่มได้ยินเสียงธีรเชษฐ์เดาะลิ้นอย่างไม่พอใจ แต่เช่นเคย ชายหนุ่มไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น




“แล้วคืนนี้ต้องทำยังไงเธอถึงจะหลับ?”




“ผม..ผมไปนอนโซฟา...”




“อย่าเรื่องมาก มีนา” เสียงเข้มที่กลับมาดุอีกครั้งทำให้มีนาหุบปากเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพึมพำออกมา




“ตบก้น..”




“หืม?” ใบหน้าคมเคลื่อนเข้ามาใกล้เพื่อฟังให้ชัดขึ้น




“ตอนเด็กๆ เวลาผมนอนไม่หลับ ยายจะตบก้นให้...”




มีนาไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะพูดแบบนั้นออกไปจริงๆ เด็กหนุ่มหลับตาปี๋อย่างอับอาย สะดุ้งเฮือกเมื่อมือใหญ่ตบลงที่บั้นท้ายของเขาเบาๆเป็นจังหวะจริงๆ




“นอนซะ แม่เธอไม่เป็นอะไรหรอก”เสียงทุ้มกระซิบ แต่ถึงอย่างนั้น สัมผัสของมือใหญ่กลับทำให้มีนารู้สึกวูบวาบไปทั้งตัวจนหลับไม่ลง ร่างเล็กพยายามนอนหลับตานิ่งไม่กระดุกกระดิกเพื่อให้เจ้าของห้องได้พักผ่อนเสียที แต่ธีรเชษฐ์กลับลุกออกไปจากเตียงหลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที





เมื่อไม่มีใครมากวนให้ชีพจรเต้นรัวตลอดเวลาแล้ว มีนาเริ่มรู้สึกถึงความง่วงงุนที่เข้าครอบงำ ก่อนจะจมสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว





ค่อยบอกเรื่องของธารธารากับทินกรให้ธีรเชษฐ์รู้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน









หลังจากง้องอนให้เลขาของตนกลับมาทำงานได้สำเร็จ มธุวันดูเหมือนจะไม่สาแก่ใจกับคำขอโทษของเขาเรื่องวันที่ร่างสูงทิ้งงานเพื่อไปรับมีนาที่มหาวิทยาลัยก่อนหน้านี้ เพราะหลังจากนั้นงานของธีรเชษฐ์ยังคงพอกพูนขึ้นชนิดที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน แต่ถึงอย่างนั้น ร่างสูงก็ยังพบว่าเวลาว่างที่มีอยู่น้อยนิดของเขาถูกใช้ไปกับการนั่งมองมีนาทำงานบ้าน และพาเด็กหนุ่มไปไหนมาไหน มากกว่าการคว้าเอาคนที่ใกล้ที่สุดที่สนใจขึ้นเตียงแล้วระบายความเครียดออกไปให้หมดอย่างที่เขาเคยทำก่อนหน้านี้




อีกอย่าง ประสบการณ์จากครั้งแรกที่พามีนาไปทานอาหารข้างนอกครั้งแรกบอกเขาว่าเขาไม่สามารถละสายตาจากเด็กหนุ่มได้แม้แต่วินาทีเดียว




แต่ในตอนนี้ แค่คิดถึงภาพของร่างเล็กที่นอนอยู่บนเตียงขณะที่จัดการตัวเองให้เรียบร้อยในห้องน้ำก็เพียงพอที่จะลดความหงุดหงิดใจของเขาออกไปได้บ้างถึงแม้จะไม่ทั้งหมด ทว่าธีรเชษฐ์กลับไม่ได้รู้สึกถึงความ’จำเป็น’ที่จะต้องหาใครมาบำบัดความต้องการที่เขามีต่อมีนาในเร็ววันนี้ ซึ่งเขาไม่รู้ว่าถือเป็นเรื่องดีสำหรับตนได้หรือไม่




สงสัยเขาคงจะเริ่มแก่แล้วจริงๆ


---------

เอามาเสิร์ฟทดแทนความผิดที่ปั่นอีกเรื่องไม่ทัน55555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 13 100% P.9 คห 267 (8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 08-05-2018 13:46:45
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 13 100% P.9 คห 267 (8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 08-05-2018 14:21:47
ตบก้น โถถถถ เอ็นดูเด็กน้อยมีนา :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 13 100% P.9 คห 267 (8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 08-05-2018 16:09:09
สงสารคนแก่ เอ่เอ๊ ตบก้นนอนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 13 100% P.9 คห 267 (8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 08-05-2018 18:25:43
อุ๊ย คุณเชษฐ์เริ่มยังไงยังไงกับมีนบ้างแล้ว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 13 100% P.9 คห 267 (8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 08-05-2018 19:02:56
น่ารักจังเลยลูกกกกกกกก น้องมีน
คุณเชษฐ์ถึงรู้ความจริงเรื่องลูก ก็เอ็นดูน้องมีนต่อไปน่ะ สงสารน้องงงงง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 13 100% P.9 คห 267 (8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-05-2018 19:19:28
เปลี่ยนจากตบเป็นลูบก้นแทนดีกว่าไหม  o18
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 13 100% P.9 คห 267 (8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-05-2018 22:28:13
คุณป๋าน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 13 100% P.9 คห 267 (8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 08-05-2018 23:06:24
เอ็นดู~~~~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 13 100% P.9 คห 267 (8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 09-05-2018 06:55:41
น่าเอ็นดูจังเลยลูกเอ๊ย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 13 100% P.9 คห 267 (8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: W2P5 ที่ 09-05-2018 06:56:19
สงสารมีนา :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 13 100% P.9 คห 267 (8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 09-05-2018 07:34:18
ตบก้น! น้องงงงงงงง

แล้วก็ยิ่งไม่หลับด้วยนะ 555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 13 100% P.9 คห 267 (8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-05-2018 16:15:23
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 13 100% P.9 คห 267 (8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 11-05-2018 09:14:21
มีนน่ารัก อยากอ้อนอยากให้กอด นอนไม่หลับ ไม่สบาย ขอตบก้น
คุณเชษฐ์หลงหนักมาก ถึงขั้นมีรักบ้างแล้วล่ะ ไม่งั้นไม่ทำใจรอหรอก

ตลกภัทรซัน ชอบคิดไปเอง แล้วเป็นไง สมใจกันเลยค่ะ

มีนจะได้บอกคุณเชษฐ์ตอนไหนล่ะเรื่องซันกับอุ่น
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 13 100% P.9 คห 267 (8/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 15-05-2018 08:01:25
Chapter 14: ครึ่งหัวใจ



“มีน โกรธอะไรฉันรึเปล่า?”




มีนาเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนต่างคณะในโรงอาหารของโรงพยาบาล วันนี้มีนามีเรียนที่คณะจึงทำให้เป็นข้ออ้างอันดีที่จะไม่ต้องเจอหน้าเพื่อนทั้งสอง ถึงแม้วันนี้จะเป็นครั้งแรกที่เขาไม่ได้จงใจหลบหน้าทินกรจริงๆก็ตาม
สีหน้าของทินกรดูเป็นกังวลจนมีนารู้สึกผิดกับการกระทำที่ไม่นึกถึงใจเพื่อนของตัวเอง ร่างเล็กรีบส่ายหน้า




“เปล่าซะหน่อย...”




“ถ้าเปล่าแล้วทำไมถึงหลบหน้าพวกเราล่ะ? ฉันเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับมีนก่อนหน้านี้ ถ้าฉันไม่ได้ทำให้มีนโกรธแล้วทำไมมีนถึงไม่มาหาพวกเราเลยล่ะ?”




ทินกรดูเหมือนเด็กเล็กๆที่รู้ว่าตนทำอะไรสักอย่างให้คนอื่นไม่พอใจ แต่ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร




“งานที่คณะเรายุ่ง...” มีนาชี้ไปที่กองเอกสารประกอบการสอนที่แทบล้นท่วมหัวเป็นหลักฐาน รู้สึกโชคดีที่หยิบเอกสารมาอ่านทบทวนเยอะในวันนี้พอดี ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นทินกรแสดงสีหน้าโล่งใจออกมา “แล้วมาทำอะไรที่นี่กันเหรอ?”




“ก็มาหานายไง”




ทินกรตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง เพื่อนตัวใหญ่ทั้งสองของเขาทรุดตัวลงนั่งคนละข้างของมีนา การปรากฎตัวของหนุ่มหล่อสองหน่อข้างกายเด็กหนุ่มตัวน้อยที่มักจะอยู่คนเดียวตลอดเวลาเรียกความสนใจจากเพื่อนในคณะที่เดินผ่านได้เป็นอย่างดี




“มาหาเรา?”




“นายไปกินข้าวที่โรงอาหารคณะเราบ่อยแล้ว ก็ต้องเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างสิ” ทินกรว่า ส่วนพายุนั้นเพียงแต่บ่นเสียงดังว่าหิวแล้วลุกออกไปสำรวจร้านค้าหาอาหารกลางวัน ทินกรที่ยังระแวงว่ามีนาจะหลบหน้าตัวเองอีกฝากเพื่อนซื้อข้าวมันไก่แล้วหันกลับมาให้ความสนใจกับเพื่อนตัวเล็กต่อ




ฝ่ายมีนา เมื่อนั่งอยู่ตามลำพังกับลูกชายของคนที่เขานอนร่วมเตียงทุกคืน ความรู้สึกผิดที่พยายามกดไว้ในใจตีตื้นกลับขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับความทรงจำจากบทสนทนาของเขากับธีรเชษฐ์เมื่อเช้า







“คุณเชษฐ์ครับ...คือ...”




เจ้าของชื่อที่กำลังยกแก้วกาแฟหอมกรุ่นจดริมฝีปากชะงัก วางแก้วกาแฟเซรามิกสีขาวใบโตของตนลงบนโต๊ะพร้อมกับเลิกคิ้วอย่างสงสัย




“มีอะไร?”




“ผม...คะ...คือ...ก่อนหน้านี้...คือ...”




“มีนา หายใจ” ร่างสูงเตือนเมื่อท่าทีลุกลี้ลุกของเด็กหนุ่มทำให้เขาฟังไม่รู้เรื่อง มีนาสูดหายใจเขาลึกๆตามคำสั่งของอีกฝ่าย ก่อนจะกลั้นใจสารภาพออกไป




“ผมเคยเจอลูกชายคนรองกับลูกชายคนเล็กของคุณเชษฐ์ แล้วผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าคุณธารธารารู้แล้วว่าผมเป็นอะไรกับคุณ...”




มีนาหลับตาปี๋เตรียมรับระเบิดลูกใหญ่ที่กำลังจะลง แต่นอกจากสิ่งที่เขาหวาดกลัวจะไม่เกิดขึ้นแล้ว เสียงหัวเราะทุ้มต่ำที่ดังลอดออกมาจากริมฝีปากของคนฟังยังทำให้ดวงตากลมโตเผลอปรือขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจ




“แล้วเราเป็นอะไรกัน?”




“เอ๊ะ?” ร่างเล็กกระพริบตาปริบๆเมื่อถูกตั้งคำถามที่ตนไม่คิดว่าจะถูกธีรเชษฐ์ถาม




“ฉันถามว่า...” ชายหนุ่มรั้งเอวบางของคนที่ยืนอยู่ข้างเขาในชุดนักศึกษาและผ้ากันเปื้อนลงมานั่งบนตักของตน เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูเล็กด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน“...เธอเป็นอะไรกับฉัน มีนา”




“…”




คนถูกถามเบือนหน้าหนีใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้กับตนเกินความจำเป็น ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ด้วยหวังว่าคำถามนั้นจะจบลงโดยที่เขาไม่ต้องให้คำตอบ




“สงสัยแบบนี้คงต้องเตือนความจำกันซักหน่อยล่ะมั้ง?”




มือใหญ่ขยับเคลื่อนลงมาที่ต้นขาเรียวภายใต้ชุดนักศึกษา จับขาเรียวเล็กข้างหนึ่งแยกออกจากอีกข้างเล็กน้อยพอให้เด็กดื้อได้สะดุ้งตกใจ สัมผัสของชายหนุ่มที่เริ่มรุกเร้าเอาแต่ใจขึ้นทุกเมื่อเชื่อวันทำให้มีนาเริ่มอยู่ไม่สุข แต่ขาที่พยายามขยับกลับมาที่เดิมถูกมือของธีรเชษฐ์ตรึงไว้กับที่ มิหนำซ้ำชายหนุ่มยังเลื่อนมือขึ้นมาใกล้กับซอกขาขาวเนียนภายใต้กางเกงนักศึกษาเรื่อยๆเป็นเชิงเตือนให้อีกฝ่ายยอมแพ้




…ซึ่งแน่นอนว่ามีนาทำตามทันทีอย่างไม่มีทางเลือก




“ผม…ผมเป็นของคุณเชษฐ์ครับ!”




มือใหญ่หยุดชะงักอยู่กับที่เช่นเดียวกับธีรเชษฐ์ที่นิ่งไปอย่างประหลาดใจหลังจากได้ยินคำตอบของเขา แต่ดูท่าคำตอบของมีนาจะเป็นที่พอใจของร่างสูง เพราะอีกฝ่ายยอมรามือจากการกลั่นแกล้งประจำวันแต่โดยดีถึงแม้ว่าจะยังโอบเอวของเขาไว้ไม่ปล่อยก็ตาม




“ถ้าเป็นปกติ...ฉันก็จะปล่อยคนของฉันไปถ้ามีเรื่องแบบนี้ ฉันไม่ค่อยชอบปนเรื่องส่วนตัวกับเรื่องครอบครัวเท่าไหร่” มีนารู้สึกชาวาบไปทั้งตัวเมื่อได้ยิน แต่เสียงหัวเราะของธีรเชษฐ์เมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของเด็กหนุ่มบนตักทำให้ร่างเล็กได้สติ




“แต่เธอเป็น‘สัตว์เลี้ยง’ของฉัน เพราะฉะนั้นกฏข้อนั้นใช้กับเธอไม่ได้หรอกนะกระต่ายน้อย”




“แล้ว...เรื่องคุณธาร...”





“เด็กคนนั้นไม่เห็นฉันเป็นพ่อมาตั้งแต่ยังไม่มีเธอในชีวิตของพวกเราแล้วล่ะ” น้ำเสียงของธีรเชษฐ์ราบเรียบลงเมื่อพูดถึงลูกชายคนรอง มีนาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แต่ไม่กล้าละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของครอบครัวร่างสูงไปมากกว่านั้น “แต่เจ้าซันมันไม่สนใจเรื่องของฉันหรอก ต่อให้เห็นเธออยู่บนเตียงฉันเด็กนั่นคงไม่สังเกตถ้าเธอไม่บอกไปตรงๆ”




ร่างสูงไหวไหล่ ความห่างเหินในครอบครัวของธีรเชษฐ์ทำให้มีนาอดรู้สึกหดหู่ใจไม่ได้ ทั้งชีวิตเขามีแต่แม่และยายเป็นครอบครัวของเขา แม้จะไม่สุขสบายมีเงินทองใช้จ่ายไม่ขาดมือเหมือนคนอื่น แต่มีนาก็มีความสุขที่ได้เกิดมาในครอบครัวนี้
แต่กับธีรเชษฐ์ที่มีเงินทองล้นฟ้า สายตาของชายหนุ่มยามพูดถึงสายเลือดแท้ๆของตัวเองกลับดูโดดเดี่ยวจนน่าสงสาร
เขาได้แต่หวังว่าตัวเองจะสามารถทำอะไรซักอย่างที่จะลบเอาแววตาเศร้าหมองนั้นออกไปจากดวงตาสีควันบุหรี่ได้
มีนาไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่เขาไม่อยากเห็นแววตาแบบนั้นบนใบหน้าของธีรเชษฐ์อีก









หลังจากที่ธีรเชษฐ์บอกว่าไม่กังวลอะไรเรื่องที่เขาเคยพบกับลูกชายของตัวเอง มีนาจึงตัดสินใจว่าตนจะเลิกหลบหน้าทินกรอย่างเคยทำมาตลอดหลายวัน ถึงแม้จะอยู่คนละคณะ แต่ทินกรก็เป็นหนึ่งในเพื่อนเพียงไม่กี่คนของเขา มีนาไม่อยากที่จะต้องเสียเพื่อนดีๆแบบร่างสูงไป




“อ้าว พี่อุ่น? พี่อุ่นคร้าบ~”




ทินกรโบกมือให้พี่ชายหยอยๆเมื่อเห็นร่างโปร่งที่คุ้นตาในชุดกาวน์ยาวกำลังถือจานข้าวเดินออกมาจากร้านอาหารตามสั่งพร้อมเพื่อนร่วมรุ่นร่างสูงอีกคนที่มีนาจำได้ว่าเป็นเดือนคณะของปีสี่




“ซัน? มาทำอะไรที่นี่...”




เสียงของธารธาราหายไปในลำคอเมื่อดวงตาสีเมล็ดอัลมอนด์เหลือบเห็นมีนาที่นั่งตัวสั่นอยู่ข้างน้องชายคนเล็ก รอยยิ้มของร่างโปร่งอันตรธานหายไป สร้างความตกใจให้คนในโรงอาหารที่กำลังแอบมองดอกฟ้าปีสี่คนนี้อยู่ไม่น้อย แต่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆกลับไม่แสดงสีหน้าแปลกใจอะไรนอกจากคิ้วเข้มที่เลิกขึ้นเพียงเล็กน้อย





“มาหาเพื่อนน่ะครับ มีน นี่พี่อุ่น พี่ชายฉัน” ทินกรหันมาแนะนำพี่ชายให้มีนารู้จัก ร่างเล็กยกมือไหว้รุ่นพี่หน้าสวยอย่างนอบน้อม แต่นอกจากไม่คิดจะรับไหว้แล้ว ธารธารายังมองผ่านเขาไปเหมือนเด็กหนุ่มไม่มีตัวตนอีกด้วย




“ไม่กินข้าวเที่ยงเหรอ?” ร่างโปร่งถามน้องชายพร้อมรอยยิ้ม




“ฝากเพื่อนอีกคนซื้อน่ะครับ” ทินกรยังพูดไม่ทันขาดคำพายุก็วางจานข้าวมันไก่กับก๋วยเตี๋ยวชามโตลงบนโต๊ะ แถมที่ข้อมือยังมีถุงใส่ลุกชิ้นกับไส้กรอกหลายไม้ห้อยอยู่





“มีน มึงมาช่วยกูกินก๋วยเตี๋ยวเลย ป้าให้โคตรเยอะ เดี๋ยวไม่หมด” เพื่อนผิวเข้มเอ่ยกับมีนา ก่อนจะเห็นว่ามีรุ่นพี่สองคนยืนอยู่หน้าโต๊ะ เด็กหนุ่มอึ้งไปเมื่อเห็นธารธารา ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติของคนที่เพิ่งเคยได้เห็นใบหน้าสวยหวานและออร่ารักษาเยียวยสจิตใจของชายหนุ่ม





“พี่ว่าใช้ช้อนกลางดีกว่านะครับ” ธารธาราเสียสละวางช้อนของตัวเองที่เพิ่งหยิบมาใส่ชามก๋วยเตี๋ยวพร้อมรอยยิ้ม ดวงสีอัลมอนด์เหลือบมองมีนาด้วยสายตาที่ทำให้เด็กหนุ่มตัวสั่นขึ้นมาอีกครั้ง “เดี๋ยวจะติดโรคกัน”




ร่างโปร่งกล่าวลาน้องชายของตนและพยักหน้าให้พายุก่อนจะเดินจากไป มีนาเม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรง แม้จะรู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เขาก็ไม่คิดว่าการเผชิญหน้ากับธารธาราอีกครั้งพร้อมกับทินกรจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้





“พี่มึงโคตรน่ากินเลยว่ะ” พายุหันไปบอกทินกร ได้รับรางวัลเป็นศอกแข็งๆที่กระแทกเข้ากับหน้าท้องโดยไม่กลัวเพื่อนจุก




“พอเลย มึงเอาเจนนี่ไว้ไหน?” เด็กหนุ่มลูกเสี้ยวถาม




“ไว้ที่เดิมนี่แหละ กูไม่ยุ่งกับพี่มึงหรอก ออร่าแม่งโคตรน่ากลัวอ่ะ” พายุส่ายหน้า





“ออร่า?” มีนาทวนคำอย่างงุนงง เช่นเดียวกับทินกรที่มีสีหน้าไม่เข้าใจ




“เออ ออร่าแบบนั้นอ่ะนางพญาโซ่แส้กุญแจมือชัวร์” เด็กหนุ่มผิวเข้มการันตี ทินกรมีสีหน้าปุเลี่ยนเมื่อคิดถึงภาพพี่ชายตามที่เพื่อนว่า ส่วนมีนานั้นเพียงแต่โล่งใจที่ดูเหมือนจะไม่มีใครสังเกตเห็นบรรยากาศตึงเครียดระหว่างเขากับธารธารา



-------------


เฮลโลววววว :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
Part 1มาแบบเบาๆ หุหุหุ

ส่วนPart 2.... :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 50% P.10 คห 280 (15/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 15-05-2018 08:50:40
หูยยยย รอพาสสอง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 50% P.10 คห 280 (15/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 15-05-2018 09:48:42
สงสารมีน  :katai1:
รอพาสสองค่าาาา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 50% P.10 คห 280 (15/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-05-2018 09:59:05
ออร่านางพญามาก~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 50% P.10 คห 280 (15/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-05-2018 11:03:22
รอพาร์ทสองจ้า :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 50% P.10 คห 280 (15/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-05-2018 13:55:32
มีนเด็กน้อย จะมีวันสู้แม่มดไออุ่นได้ไหมนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 50% P.10 คห 280 (15/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-05-2018 14:29:13
รอพาร์ทสอง อิอิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 50% P.10 คห 280 (15/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 15-05-2018 17:14:01
พี่อุ่นอย่าใจร้ายกับน้องมีนมากนักเลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 50% P.10 คห 280 (15/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 15-05-2018 21:33:50
คุณพี่อุ่นน่ากลัว  น่าจะเห็นใจน้องมีนว่าโดนตาลุงล่อลวงมามากกว่านะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 50% P.10 คห 280 (15/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 16-05-2018 15:08:26
รอๆๆๆ :pighaun: :hao6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 50% P.10 คห 280 (15/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 22-05-2018 07:34:59
“ซัน…อ๊ะ..ซะ...ซัน....”




ภรัณยูรู้ว่าความใจอ่อนจะย้อนกลับมาแว้งกัดตนทีหลังตั้งแต่ครั้งที่เขายอมให้เด็กหนุ่มทำตามอำเภอใจได้ก่อนหน้านี้ แต่บางครั้งเขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าเด็กบ้านี่จะไม่มียางอายกับคนอื่นเขาบ้างจริงๆเหรอ?





เจ้าของชื่อที่ทำให้เขาครวญครางเสียงสั่นอยู่บนเตียงยอมผละจากส่วนอ่อนไหวที่ตนปลุกเร้าจนไวต่อสัมผัส ทินกรเลียริมฝีปากของตนขณะดวงตาสีควันบุหรี่โลมเลียร่างเปลือยเปล่าของภรัณยูอย่างหิวกระหาย นิ้วเรียวยาวที่ขยับเข้าออกจากช่องทางสีหวานเป็นจังหวะยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างขยันขันแข็ง กระแทกย้ำในจุดที่ทำให้ร่างโปร่งร่อนสะโพกตามเกมส์รักอย่างห้ามไม่อยู่





“พี่ภัทร...อย่ายั่วผมสิครับ”




“ฮะ…อ๊ะ…พี่ทำ...อะไร...อ๊ะ...”




คนโดนกล่าวหาตวัดดวงตาที่หวานเชื่อมจากบทรักเนิบช้าที่บรรเลงติดต่อกันมาไม่รู้กี่ชั่วโมงค้อนใส่เด็กหนุ่มเมื่อทินกรถอนนิ้วทั้งสามออกไปกลางคัน ในตอนนี้ร่างกายของเขาถูกอีกฝ่ายกระตุ้นไปทุกส่วนเสียจนหากร่างสูงจะผิดสัญญาในตอนนี้ ภรัณยูก็ค่อนข้างมั่นใจว่าตนคงจะไม่ขัดขืน




“ทำตัวน่ารักแบบนี้ไงครับ...”




ทินกรแทรกกายระหว่างขาเปลือยเปล่า ยกขาเรียวทั้งสองข้างขึ้นพาดไหล่ของตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่จะได้ทันทักท้วงอะไร เสียงหวานก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงน่าอายจากลิ้นร้อนที่แทรกเข้าไปแทนที่นิ้วทั้งสามเมื่อครู่ ความรู้สึกวาบหวามเกินกว่าจะรับได้ทำให้สะโพกมนพยายามกระถดหนีแต่กลับถูกมือใหญ่ทั้งสองข้างยึดไว้กับที่ ร่างโปร่งทำได้เพียงกระตุกเฮือกรับความรู้สึกเสียวซ่านที่ถูกอีกฝ่ายปรนเปรอจนแทบสำลักความสุข




“ซัน…ซัน…อ๊า!!!”




ในที่สุดทินกรก็ปล่อยให้เขาเป็นอิสระจากห้วงราคะที่ฉุดให้ภรัณยูจมดิ่งลึกลงไปก่อนหน้านี้เมื่อเห็นร่างโปร่งหอบหายใจอย่างอ่อนเพลีย โดยที่ตัวเองเดินเข้าไปจัดการธุระของตนต่อในห้องน้ำ แม้ว่าของรางวัลหลังจากทำแบบฝึกหัดได้คะแนนเต็มของอีกฝ่ายจะไม่เคยพ้นเรื่องแบบนี้หลังจะที่ภรัณยูเผลอตัวไปตอนนั้น แต่นอกจากขอเป็นคนดูแลและมอบความสุขให้กับภรัณยูแล้ว ทินกรไม่เคยร้องขอให้เขาทำอะไรให้ตัวเองเลย





แม้จะนึกสงสาร แต่ร่างโปร่งก็ไม่อยากที่จะให้อารมณ์ของตัวเองเลยเถิดไปมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ ภรัณยูจึงเลือกที่จะไม่เสนอตัวไปช่วย ซึ่งทินกรก็ดูจะไม่ได้หวังให้เป็นเช่นนั้น




ไม่รู้ว่าทำไมนั่นกลับทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา




“พี่ภัทรอยากเช็ดตัวมั้ยครับ? หรือจะให้ผมพาไปอาบน้ำ?”




คนที่ออกมาจากห้องน้ำในผ้าเช็ดตัวผืนเดียวทรุดตัวลงบนเตียงข้างกายร่างที่ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวไว้บางส่วน ภรัณยูถอนหายใจอย่างอ่อนเพลีย




“…อาบน้ำแล้วกัน”




ทินกรพยุงร่างที่ตวัดขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างระมัดระวัง แต่เมื่อมาถึงห้องอาบน้ำ เด็กหนุ่มกลับไม่ยอมออกไปรอด้านนอกเสียอย่างนั้น




“ผมเป็นห่วงนี่ครับ...กลัวพี่ภัทรเป็นลม” ทินกรยิ้มแฉ่ง ภรัณยูทำได้เพียงถอนหายใจกับบทสนทนาที่ชักจะเกิดบ่อยขึ้นทุกวันนี้




“ดูแต่ตามืออย่าต้องแล้วกัน”




คิดดูว่าบ่อยจนถึงขั้นที่ทินกรจำความหมายของสำนวนนี้ได้ขึ้นใจแล้วถึงแม้ร่างสูงจะไม่ชอบแค่ไหนก็ตาม




ทินกรกอดอกเอนพิงผนังห้องน้ำขณะที่ร่างโปร่งก้าวเข้าไปในห้องอาบน้ำที่มีกระจกใสกั้นรอบทิศ ภรัณยูปล่อยให้น้ำอุ่นไหลผ่านร่างที่เมื่อยขบจากความเอาแต่ใจของคนอายุน้อยกว่า ดวงตาสีน้ำตาลเหลือบมองคนที่กลืนน้ำลายเอื้อกจ้องเขาไม่วางตา ความคิดนึกสนุกที่เขาไม่ค่อยได้มีนักพลันผุดขึ้นมาในหัว




มือเรียวกดสบู่เหลวมาถูจนเกิดฟองแล้วลูบไล้ไปตามเรือนร่างของตัวเองอย่างเชื่องช้า ภรัณยูก้มลงลูบไล้ฟองสบู่ไปตามเรียวขาขาว ก้อนเนื้อเนียนกลมกลึงลอยเด่นให้คนที่จ้องเขาตาไม่กระพริบก่อนหน้านี้ถึงกับหายใจหายคอไม่สะดวก




“พะ..พี่ภัทร....”



“หืม?”




เจ้าของชื่อขานรับราวกับไม่รู้ว่าตนกำลังทำอะไรผิด ทินกรลูบใบหน้าของตัวเองเรียกสติ




“ผะ...ผมไปรอข้างนอกนะครับ”




ร่างเปลือยเปล่าเกือบหลุดขำออกมาเมื่อเห็นเจ้าของห้องเผ่นแน่บออกไปแทบไม่ทัน ดวงตาเรียวสีน้ำตาลมองตามร่างของทินกรไปก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย




เมื่อไหร่กันนะที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาเลยเถิดมาถึงขึ้นขั้นนี้





บ่อยครั้งที่ภรัณยูเคยถามตัวเองว่า‘ขั้นนี้’ที่พวกเขาเป็นอยู่นั้น มันคือความสัมพันธ์แบบไหนกันแน่ แต่ทุกครั้งร่างโปร่งเพียงแค่ปัดความคิดนั้นออกไปจากหัวด้วยกลัวว่าจะรับคำตอบของตัวเองไม่ได้




เขายังคงยืนยันคำเดิม เขายังไม่พร้อมที่จะมีภาระชิ้นใหญ่อย่างทินกรเข้ามาในชีวิต




ถึงแม้การอยู่กับเด็กหนุ่มจะทำให้เขามีความสุข ทำให้หัวใจของภรัณยูพองโตและทำให้ทุกวันของเขาดูมีสีสันให้ตั้งหน้าตั้งตารอ แต่ภรัณยูเคยผ่านความรู้สึกแบบนั้นมาแล้ว และความสัมพันธ์ในครั้งนั้นลงท้ายด้วยการที่ชายหนุ่มที่บอกว่ารักเขาหนักหนากลับเลือกที่จะจูงมือลูกสาวของเจ้าของบริษัทที่เขาเคยทำงานอยู่ในตอนนั้นเข้าประตูวิวาห์ พร้อมกับประโยคทิ้งท้ายที่ทำให้ภรัณยูรู้สึกเหมือนถูกตบจนหน้าชา





‘ผู้ชายกับผู้ชายน่ะมันไม่มีความรักที่ยั่งยืนหรอก เซ็กส์กับภัทรมันก็ดี แต่ต่อจากนี้พี่ต้องสร้างครอบครัวจริงๆกับผู้หญิงที่พี่พาออกหน้าออกตาในสังคมได้ ภัทรเข้าใจพี่ใช่มั้ย? ’





ที่เจ็บกว่านั้นคือเขาเข้าใจดี





นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ภรัณยูถูกคนรักทิ้งด้วยเหตุผลเรื่องสายตาของคนในสังคม หรือเหตุผลที่ว่าอีกฝ่ายเพียงแค่สับสน แต่นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินความคิดของอีกฝ่ายถ่ายทอดผ่านคำพูดออกมาอย่างชัดเจน





เขาไม่ต้องการความสัมพันธ์เพียงแค่ร่างกาย...




แต่เขาก็เหนื่อยกับการถูกทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นกัน ก้อนเนื้อในอกบอบช้ำจนเขาไม่คิดว่าจะสามารถรับความเจ็บปวดแบบนั้นได้อีก




“พี่ภัทรครับ ผมวางเสื้อผ้าไว้ตรงนี้นะครับ”




ทินกรกลับเข้ามาในห้องน้ำพร้อมกับกระเป๋าเป้ใส่เสื้อผ้าสะอาดที่ภรัณยูเตรียมมาเผื่อได้ค้างที่คฤหาสน์ทรัพย์ดำรงซึ่งกลายเป็นที่นอนของเขาบ่อยกว่าห้องของตัวเองไปเสียแล้ว ร่างโปร่งพยักหน้าให้อีกฝ่ายแล้วปิดน้ำจากฝักบัว คว้าผ้าเช็ดตัวมาซับเอาหยดน้ำออกจากร่างของตนแล้วเริ่มแต่งตัวโดยไม่พูดอะไร ทินกรเหลือบมองเขาอย่างงุนงงกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของคนอายุมากกว่า แต่เด็กหนุ่มเลือกที่จะก้าวออกไปรอหน้าห้องน้ำด้วยไม่อยากละลาบละล้วงถามให้อีกฝ่ายรำคาญ








“….”




ภรัณยูต้องยอมรับว่าการใส่เสื้อผ้าที่เหนือฟ้าเลือกให้ในบ้านที่มีเพียงเขากับทินกรเท่านั้นไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่นัก แต่ดวงตาสีควันบุหรี่ที่เบิกโตเท่าไข่ห่านกับปากที่อ้ากว้างอย่างตกตะลึงนั้นทำให้ภรัณยูรู้สึกว่ามันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม




“ทะ..ทำไมเสื้อมันบางอย่างนั้นครับพี่ภัทร...”




“ก็พี่ร้อน” ชายหนุ่มตอบหน้าตาย เป็นอีกครั้งที่เครื่องปรับอากาศที่น่าสงสารถูกปรักปรำทั้งที่มันยังคงทำหน้าที่ของมันอย่าง
แข็งขัน นอกจากเสื้อแขนกุดตัวโคร่งบางที่เห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว กางเกงของเหนือฟ้าก็ยังคงคอนเซ็ปท์ ‘ฟิตไว้ก่อน เรื่องอื่นช่างมัน’ ไว้อย่างเหนียวแน่น ภรัณยูนั่งลงบนเตียงข้างเด็กหนุ่มร่างสูงที่ยังนิ่งอึ้งไม่หาย “หิวมั้ย? ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่กลับมาเลยนี่?”





“..ครับ ผมว่าจะชวนพี่ภัทรออกไปกินข้างนอก ป้าแต้วป่วย ผมเลยให้แกกลับไปนอน พี่ๆคนอื่นก็ไม่ได้มีหน้าที่ทำกับข้าว ผมไม่อยากกวน” เด็กหนุ่มอธิบายเมื่อหายจากการตกตะลึง ภรัณยูอดยิ้มเล็กๆกับความขี้เกรงใจของทินกรไม่ได้ ทำไมกันนะ ลูกคนเล็กของบ้านเศรษฐีที่ควรจะเอาแต่ใจกลับกลัวตัวเองเป็นภาระของคนอื่นอยู่ตลอดเวลาแบบนี้





“เอาสิ อยากไปไหน...”




“ไม่เอาครับ!”ทินกรเอ่ยขัดเสียงแข็งก่อนที่ภรัณยูจะได้พูดจบประโยค “ผมไม่ให้พี่ภัทรออกไปไหนทั้งนั้น แต่งตัวแบบนี้เกิดถูกฉกจะทำไงครับ?!”




“ฉก? แถวนี้มีงูด้วยเหรอ?” ร่างโปร่งถามงงๆ




“เปล่าครับ เดี๋ยวผู้ชายฉกพี่ภัทร”




“อ๋อ…’ฉุด’ ไม่ใช่ ‘ฉก’...เฮ้ย!” ภรัณยูร้องลั่นเมื่อเข้าใจความหมาย “จะบ้าเหรอซัน ใครเขาจะอยากมาฉุดพี่กัน”




“ผมไง” ทินกรเอ่ยเสียงจริงจัง เล่นเอาคนถามไปไม่เป็น




“เอ่อ...งั้นให้พี่ทำอะไรให้กินมั้ย ถ้าอาหารง่ายๆก็พอทำเป็นอยู่”คนอายุมากกว่าเสนออย่างต้องการเปลี่ยนเรื่องคุย




“ให้ผมช่วยทำนะครับ! ผมอยากช่วย!”เจ้าลูกบอลเด้งดึ๋งตรงหน้าเขาออดอ้อน




“อย่าซนแล้วกัน” ภรัณยูยิ้มน้อยๆอย่างเหนื่อยใจกับคนที่ชอบช่วยเหลือเขาไปเสียทุกอย่าง ทินกรพยักหน้าหงึกหงัก เดินตามคนอายุมากกว่าออกไปจากห้องอย่างเชื่อฟัง








กลายเป็นว่าเด็กหนุ่มเป็นลูกมือทำครัวที่ดีทีเดียว




“โห ไข่เจียวฟูเชียว เก่งนะเรา”




ร่างโปร่งชมคนที่โยกซ้ายโยกขวาหลบน้ำมันไข่เจียวราวกับนักมวยกำลังหลบหมัดคู่ต่อสู้ ทินกรหันมายิ้มกับคำชมของเขาก่อนจะร้องจ๊ากออกมาเมื่อละอองน้ำมันกระเด็นใส่ผิว เรียกเสียงหัวเราะจากคนมองได้เป็นอย่างดี




“พี่ภัทร...เป่าให้ผมหน่อยจิ”




หลังจากวางจานไข่เจียวและยำปลากระป๋องลงบนโต๊ะทานข้าว เจ้าเด็กยักษ์ก็หันมาเรียกคะแนนสงสารจากคนข้างกาย ภรัณยูแสร้งส่ายหน้าอย่างเอือมระอาแม้ว่าจะไม่สามารถสะกดกลั้นรอยยิ้มที่มุมปากของตัวเองได้




“ไหน เอามือมาดูซิ”




ภรัณยูดึงข้อมือขาวของเด็กหนุ่มลูกเสี้ยวรัสเซียมาพินิจพิจารณาใกล้ๆ นอกจากรอยแดงเล็กๆจากละอองน้ำมันเมื่อครู่แล้วมือของร่างสูงยังคงดูสมบูรณ์ดีทุกประการ




“พี่ภัทรเป่า...” คนตัวสูงกว่าอ้อนเป็นเด็กๆ ภรัณยูทาบริมฝีปากลงบนข้อมือของทินกร แล้วเงยหน้ามองเด็กหนุ่มที่หน้าขึ้นสีจากการกระทำของเขา




“มีแผลตรงไหนอีกมั้ย?”




“อ่า…เมื่อกี้ที่ปากก็โดนครับ...โอ๊ย!”




คนโกหกโดนดีดที่ริมฝีปากเป็นการลงโทษ ทินกรลูบปากป้อยๆแล้วนั่งลงข้างภรัณยูที่โต๊ะทานข้าว คนอายุมากกว่าตักไข่เจียวฝีมือทินกรใส่จานของเจ้าตัวโดยไม่พูดอะไร ร่างสูงหันไปมองอีกฝ่ายอย่างงุนงง




“ถ้ากินแล้วตายพี่จะได้ไม่กิน” ภรัณยูตอบเสียงเรียบ




“โธ่ พี่ภัทรอ่า...”




ทินกรทำเป็นโอดครวญเกินจริง แต่รอยยิ้มมุมปากจากคนแกล้งหยอกทำให้เขารู้สึกว่าอยากโดนอีกฝ่ายแกล้งแบบนี้ไปตลอดชีวิต




ใช่ว่าเด็กหนุ่มจะไม่อึดอัดกับสถานะที่ไม่ชัดเจนของพวกเขาในตอนนี้ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการที่ภรัณยูโอนอ่อนตามคำขอของเขาในหลายๆครั้งเป็นเพราะอีกฝ่ายเริ่มเปิดใจให้เขา เพราะสงสารเด็กน่าสมเพชที่คอยตามตื๊ออย่างไม่ย่อท้อ หรือเพราะอีกฝ่ายเป็นคนหัวอ่อนอย่างที่ใครๆว่าไว้กันแน่




เขาอยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ยิ่งคิดทบทวนกลับไปเขายิ่งไม่มั่นใจว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงการเออออตามของคนที่ไม่เคยปฏิเสธคำขอของใครได้อย่างภรัณยูหรือไม่




แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ทินกรก็เลือกที่จะมีความสุขกับช่วงเวลาสั้นๆที่เขาสามารถหลอกตัวเองได้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังก้าวไปยังทิศทางที่ดี การเติบโตมาพร้อมการเฝ้ามองมารดาที่นาฬิกาชีวิตนับเวลาถอยหลังทำให้ทินกรเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันโดยไม่สนใจว่าอนาคตจะออกมาในรูปแบบใด




ภรัณยูรู้ตัวว่าตอนนี้เขากำลังเผลอไผลไปกับความสดใสดั่งดวงตะวันของทินกร แต่ร่างโปร่งทำได้เพียงบอกตัวเองว่าครั้งนี้เขาจะไม่ยอมวางหัวใจทั้งดวงของเขาไว้ในมือของเด็กหนุ่ม...




“พี่ภัทร ซอสเลอะครับ” ทินกรทัก เอื้อมมือไปหามุมปากของร่างโปร่งหวังเช็ดเอาคราบซอสปลากระป๋องสีส้มออก
ภรัณยูขยับหนีมือของอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา




“ไม่เป็นไร พี่เช็ดเอง”




“พี่ภัทรทานเยอะๆนะครับ”




ร่างสูงที่ไม่ยอมแสดงให้เขาเห็นว่ากิริยาของเขาเมื่อครู่ทำให้ตัวเองรู้สึกอย่างไรเอ่ยขึ้นพร้อมตักกับข้าวบริการคนข้างกาย แววตาของเด็กหนุ่มดูมีความสุขเพียงแค่ภรัณยูยอมให้ตนทำอะไรให้ ภรัณยูไม่อยากเคยชินกับความเอาใจใส่นี้ เขาไม่อยากรู้สึกว่าจะต้องพึ่งพาใครแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน




ใช่...เขาจะไม่ยอมวางหัวใจทั้งดวงของตัวเองไว้ในมือของใครอีก




ภรัณยูตักอาหารเข้าปาก ก่อนจะแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมาเมื่อไข่เจียวของทินกรจัดอยู่ในข่ายอร่อยมากทีเดียว




“ผมตั้งใจทำให้พี่ภัทรสุดฝีมือเลยนะครับ” เด็กหนุ่มยิ้มกว้างเมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนข้างกาย รอยยิ้มสดใสดุจดวงตะวันนั้นทำให้ภรัณยูอดขยับยิ้มตามไม่ได้




แต่ว่า...ถ้าแค่ครึ่งหัวใจ คงจะไม่เป็นไรหรอกมั้ง?


-------------

 :mew1: :mew1: :mew1:
ปั่นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 100% P.10 คห 291 (22/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 22-05-2018 09:51:11
ตอนนี้ว่างไว้ก่อนครึ่งดวง อีกหน่อยก็อีกครึ่งดวงจะได้เต็มดวงพอดี ไม่รีบๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 100% P.10 คห 291 (22/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-05-2018 10:42:44
เมื่อไหร่ภัทรจะยอมเปิดใจเนี่ย :hao4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 100% P.10 คห 291 (22/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-05-2018 11:41:08
ภัทรยังกลัวความรักอยู่เลย ซันจะช่วยได้ไหมนะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 100% P.10 คห 291 (22/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-05-2018 16:52:58
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 100% P.10 คห 291 (22/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 22-05-2018 19:04:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 100% P.10 คห 291 (22/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mintlatte ที่ 22-05-2018 19:30:22
น้องภัทรต้องสู้
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 100% P.10 คห 291 (22/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 24-05-2018 13:50:22
ซันสู้ๆ ภัทรใจอ่อนลงบ้างแล้ว อดีตภัทรน่าสงสารมากเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 100% P.10 คห 291 (22/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 24-05-2018 21:04:05
ซันต้องทำให้ภัทรเปิดใจได้แน่ๆ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 100% P.10 คห 291 (22/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 25-05-2018 07:51:51
ค่อยเป็นค่อยไปก่อนเนอะภัทร น้องซันอาจจะไม่เหมือนคนในอดีตก็ได้ สู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 100% P.10 คห 291 (22/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 28-05-2018 11:10:36
พี่อุ่นก็ยังคงน่ากลัวเหมือนเดิมเวลาเจอน้องมีน
จริงๆ พี่อุ่นไม่ควรโกรธน้องมีนนะ คนที่ควรจะเคืองโน้นเลยคุณเชษฐ์อ่ะ พ่อพี่อุ่นนั่นแหละ
ส่วนพี่ภัทรมีอดีตฝังใจ จะเปิดใจให้น้องซันก็กลัวก็ระวัง
แต่ตอนนี้วางหัวใจใส่มือน้องซันไปครึ่งดวงแล้ว
อีกหน่อยพี่ภัทรมั่นใจในตัวน้องซันค่อยวางอีกครึ่งดวงที่เหลือลงไปละกันเนอะพี่ภัทร
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 14 100% P.10 คห 291 (22/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 28-05-2018 12:36:16
Chapter 15: มาลัย

“ร้อยอะไรแต่เช้าเลยลูกเอ๊ย”




ยายของมีนานั่งลงข้างร่างเล็กที่นั่งร้อยมาลัยอยู่บนโซฟา มีนาจัดกลีบดอกมะลิตูมสีขาวบริสุทธิ์แล้วหันไปหาหญิงชรา หลังจากลอกต้อที่ดวงตาออก เขารู้สึกว่ายายของเขาดูมีความสุขขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก




มีนาไม่รู้จริงๆว่าทั้งชีวิตนี้เขาจะสามารถตอบแทนสิ่งที่ธีรเชษฐ์ทำให้ครอบครัวของเขาได้หรือไม่




“ร้อยมาลัยให้คุณเชษฐ์กับอาจารย์คเชนทร์จ้ะยาย”




“ดีแล้วล่ะจ้ะ ทั้งสองท่านมีเมตตากับพวกเรามาก เราต้องไม่ลืมบุญคุณคน ถ้ามีอะไรที่ทำให้เขาได้ มีนก็ทำซะนะลูกนะ”




แม้จะรู้ว่ายายของตนไม่มีทางรู้ถึงข้อตกลงที่เขาทำไว้กับธีรเชษฐ์ แต่คำพูดนั้นก็ทำให้มีนาอดรู้สึกลำบากใจไม่ได้




“จ้ะยาย...”




“เอ้า ร้อยต่อไปเถอะ เดี๋ยวยายไปดูแม่เราก่อน”




มีนาพยักหน้า ก่อนจะก้มหน้าก้มตาร้อยมาลัยต่อไปด้วยความตั้งใจ









“คุณเชษฐ์ครับ”




“หืม?” ร่างสูงขานรับโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อมือเล็กแตะลงบนต้นขาของเอาอย่างละล้าละลัง ธีรเชษฐ์จำต้องละสายตาจากหน้าจอมาหาคนที่ไม่เคยแตะต้องตัวเขาก่อนอย่างเสียไม่ได้




มีนานั่งพับเพียบอยู่บนพื้นข้างเก้าอี้ของเขา ในมือมีพวงมาลัยสีขาวที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเจ้าตัวเป็นคนทำเอง เด็กหนุ่มมีท่าทีประหม่า ก่อนจะกระพุ่มมือแนบอกแล้วก้มลงกราบที่ตักของเขาพร้อมกับพวงมาลัยช่องาม





“ผมอยากจะขอบคุณที่ช่วยเหลือครอบครัวของผม ถึงพวงมาลัยนี่จะไม่มีค่าอะไร แต่ผมก็อยากทำอะไรตอบแทนพระคุณของคุณเชษฐ์บ้าง”




“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ช่วยเธอฟรีๆ” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่คนมีฟอร์มก็ยังรับพวงมาลัยพวงเล็กมาถือไว้อย่างทะนุถนอมราวกับกลัวว่าหากออกแรงเพียงนิดกลีบดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์จะบอบช้ำเอาได้




มีนาก้มหน้างุดซ่อนรอยยิ้มของตัวเองหลังจากเห็นท่าทีของร่างสูง ถึงอีกฝ่ายจะพูดว่าตัวเองทำเพื่อหวังร่างกายของเขาเป็นสิ่งตอบแทนยังไง แต่มีนารู้ดีว่าเนื้อแท้แล้วธีรเชษฐ์เป็นคนดีที่อยากจะช่วยเหลือเขาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม




และหากท้ายที่สุดแล้วร่างกายของเขาเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายอยากได้มากกว่าเงิน มีนาก็ยินดีที่จะยกมันให้กับผู้มีพระคุณของเขา




เอ๊ะ...ทำไม...?




ความคิดที่จู่ๆก็ผุดขึ้นมาในหัวเมื่อครู่ทำให้มีนาขมวดคิ้วอย่างสับสน




แต่เมื่อมองลึกเข้าไปในใจของตัวเอง คำตอบที่ได้ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม




ต่อให้ยกทั้งร่างกายและเงินทองทั้งหมดที่เขาหาได้ทั้งชีวิตให้กับร่างสูง มีนาก็ยังคงไม่คิดว่าจะสามารถชดใช้หนี้บุญคุณที่อีกฝ่ายมีต่อเขาได้




“ลุกขึ้นมาได้แล้ว นั่งอยู่แบบนั้นนานๆเดี๋ยวเข่าก็ด้านหมด”




ธีรเชษฐ์ฉุดรั้งร่างเล็กที่วันนี้ทำตัวน่ารักเป็นพิเศษขึ้นมานั่งบนตัก เขาชอบความรู้สึกของน้ำหนักตัวของมีนาบนตักของเขา ชอบแขนเรียวที่โอบรอบคอของเขาเพื่อป้องกันการหงายหลังตกลงไปโดยอัตโนมัติและใบหน้าหวานที่อยู่ใกล้เพียงคืบก้มลงอย่างเขินอายไม่ยอมสบตากับเขา




“ผม...ผมไปเตรียมอาหารเย็นนะครับ”




“วันนี้ไอ้ครามจะมากินข้าวด้วย”




ชายหนุ่มเอ่ยอย่างนึกขึ้นได้ มีนาเงยหน้าขึ้นด้วยแววตาเป็นประกายทันทีที่ได้ยินชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาของตน ซึ่งทำให้ธีรเชษฐ์รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเสียอย่างนั้น




ทีกับคนอื่นทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นได้ง่ายนัก




“ถ้าอย่างนั้นให้ผมเตรียมอาหารเผื่อ...”




“ไม่ต้อง เดี๋ยวมันซื้อข้าวมาให้”ธีรเชษฐ์ขัดเสียงห้วน คนที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดสะดุ้งตกใจ ก่อนจะพึมพำขอตัวลงจากตักของชายหนุ่มอีกครั้ง แต่วันนี้ธีรเชษฐ์ไม่ยอมปล่อยอีกฝ่ายไปง่ายนัก




“เงยหน้าขึ้น”




มีนาทำตามคำสั่งด้วยสีหน้าหวาดกลัว ดวงตาสีช็อกโกแลตที่ไหวระริกยิ่งทำให้ธีรเชษฐ์รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก ทำไมกับคนอื่นมีนาถึงไม่เคยมีท่าทีแบบนี้ให้เห็น ยิ่งเวลาไปขายของในตลาดเขายิ่งเห็นดวงตากลมโตคู่นั้นเปล่งประกายอย่างสนุกสนาน แต่กับเขาอีกฝ่ายกลับแสดงท่าทางหวาดระแวงเหมือนเขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องหนีคดีอย่างไรอย่างนั้น




“ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?”




คนตัวเล็กที่ไม่รู้ว่าควรจะตอบถามนั้นอย่างไรได้แต่นั่งแข็งทื่อตัวเป็นอยู่บนตักของชายหนุ่ม ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว แววตาของชายหนุ่มฉายชัดว่ายังคงรอคำตอบจากเด็กหนุ่ม




“…ขอโทษครับ...!!”




มีนาสะดุ้งอย่างตกใจเมื่อธีรเชษฐ์เชยคางของตนขึ้นเพื่อครอบครองริมฝีปากรูปกระจับ




“ถ้าตอบไม่ตรงคำถามอีกฉันจะทำมากกว่านี้” ร่างสูงกระซิบเสียงเย็น ไม่ได้เข้ากับบทลงโทษที่ทำให้หน้าของเด็กหนุ่มร้อนผ่าวเลยสักนิด




“ผม..ขี้ตกใจน่ะครับ ไม่ใช่เพราะคุณเชษฐ์หรอกครับ” ร่างเล็กหลบสายตา ดูท่าคำตอบของเขาจะเป็นที่พอใจของคนถาม ธีร
เชษฐ์ถึงยอมปล่อยให้มีนาลุกออกจากตักของตนได้




“เดี๋ยวซักพักไอ้ครามก็คงถึงแล้ว ไปเปลี่ยนชุดหน่อยไป เดี๋ยวมันมาเจอเธอในสภาพนี้แล้วมาโวยวายใส่ฉันอีก”




มีนาก้มลงมองเสื้อยืดแขนกุดกับกางเกงขาสั้นของตัวเอง ใบหน้าขาวขึ้นสีเรื่อเมื่อค้นพบว่าตัวเองชินชากับเสื้อผ้าที่ธีรเชษฐ์ซื้อมาให้จนไม่ได้คิดเขินอายอะไรแล้ว










มีนาได้ยินเสียงประตูห้องด้านนอกเปิดออกและเสียงคนคุยกันดังลอดมาเป็นระยะขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าจึงรีบติดกระดุมเสื้อคอปกสีฟ้าอ่อนของตัวเองให้เรียบร้อย มีนาก้มมองกางเกงขายาวสีขาวของตนแล้วเงยหน้ามองสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองในกระจกอีกครั้งก่อนจะรีบเปิดประตูออกไปทักทายแขกในค่ำคืนนี้




“สวัสดีครับอาจารย์”




“สบายดีนะมีน ดูแข็งแรงขึ้นเยอะเลย”




คเชนทร์รับไหว้นักศึกษาตัวน้อยด้วยสายตาเอ็นดู เขารู้ว่าธีรเชษฐ์ไม่ใช่คนเลวร้ายโดยนิสัย เพื่อนสนิทของเขาคงจะบังคับจับอาหารกรอกปากเด็กหนุ่มไปพอสมควร ร่างเล็กผอมโซเหมือนเด็กขาดสารอาหารในตอนที่เขาเจอครั้งแรกถึงได้ดูมีน้ำมีนวล ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้นอย่างผิดหูผิดตา




มีนาเป็นเด็กหัวอ่อน ว่านอนสอนง่าย คเชนทร์ได้แต่หวังว่าคุณสมบัติข้อนี้ของลูกศิษย์จะไม่ทำให้ธีรเชษฐ์เบื่ออีกฝ่ายในเร็ววัน เพราะแม้เพื่อนสนิทของเขาจะเกลียดคนที่ไม่เชื่อฟังคำสั่ง แต่บรรดาคู่นอนที่ยอมอ้าขาจัดท่าให้ตามคำบัญชาก็อยู่ไม่ยืดเช่นกัน




“ครับ เดี๋ยวผมจัดจานให้นะครับ”




มีนารับถุงจากมือของคเชนทร์พร้อมรอยยิ้มกว้างแล้วผลุบหายเข้าไปในครัว ปล่อยให้ผู้ใหญ่สองคนนั่งคุยกันรอที่โต๊ะทานข้าว




“มึงจำได้ใช่มั้ยว่ารับปากอะไรกูไว้” คเชนทร์ได้ทีออกปากเตือนเพื่อน ธีรเชษฐ์กลอกตา




“คิดว่าถ้ากูไม่รักษาสัญญาเด็กคนนั้นจะเดินเหินได้ปกติแบบนี้เหรอ?”




อาจารย์แพทย์ส่ายหัวอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับคำพูดของเพื่อนสนิท แม้ว่าธีรเชษฐ์จะไม่ใช่คนเลว แต่คเชนทร์ก็รู้ดีว่าเพื่อนของเขาช่างห่างไกลจากคำว่าคนดีอยู่มากโข ชายหนุ่มยังไม่เห็นหนทางที่ลูกศิษย์ของตนจะได้ออกจากสัญญาหนี้บ้าๆของเพื่อนสนิทได้อย่างไร้รอยขีดข่วน สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงประวิงเวลา และขอให้ธีรเชษฐ์อ่อนโยนกับเด็กหนุ่มเพื่อเห็นแก่ความเป็นเพื่อนของพวกเขาก็เท่านั้น




“กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงนึกสนุกอะไรถึงได้ยื่นมือเขามาช่วยมีนา จะบอกว่าติดใจ...เด็กตัวแค่นั้นจะทำอะไรให้มึงได้ดีกว่านายแบบนางแบบที่มึงเคยควง...” คเชนทร์เกริ่น “แต่กูขอมึงในฐานะที่กูทนเรื่องเชี่ยๆของมึงมาได้ไม่รู้กี่สิบปี มีนาเป็นเด็กดี...จะทำอะไรก็เบามือหน่อยก็แล้วกัน”




“จะไม่ขอให้กูยกหนี้ให้เด็กนั่นฟรีๆเหรอ?” เจ้าของห้องเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ คเชนทร์ส่ายหน้า




“ขอไปมึงก็ไม่ทำ เห็นสายตามึงกูก็รู้แล้ว...” ธีรเชษฐ์รู้สึกหงุดหงิดใจกับรอยยิ้มกวนบาทาที่มุมปากของเพื่อนสนิทอย่างบอกไม่ถูก “อย่าทำอะไรให้ตัวเองเสียใจทีหลังก็แล้วกัน”




แค่สายตาของชายหนุ่มตอนที่มีนาเดินออกมาจากห้องนอนคเชนทร์ก็พอจะรู้แล้วว่าความสนใจในตัวเด็กหนุ่มของธีรเชษฐ์นั้นไม่ได้มีแค่ผิวเผินอย่างที่เพื่อนของเขาหลอกตัวเอง แม้จะไม่รู้ว่าเรื่องราวของคนทั้งคู่จะดำเนินไปในทิศทางไหน แต่คเชนทร์ก็ยินดีที่ในตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะลงตัวโดยที่ไม่มีฝ่ายใดต้องเสียอะไรมากนัก




“ขอโทษที่ให้รอนะครับ”




มีนาออกมาจากห้องครัวพร้อมจานใส่กับข้าวที่คเชนทร์แวะซื้อก่อนจะมาที่นี่ คเชนทร์คิดว่าถึงแม้เขาจะเผลอมองข้ามแววตาที่ธีรเชษฐ์มองมีนาไป การที่เพื่อนสนิทที่ร้อยวันพันปีไม่เคยจะสนใจความเป็นอยู่ของใครโทรมาบอกเขาให้ซื้อกับข้าวเข้ามาเพราะวันนี้พ่อครัวตัวน้อยของตนมีเรียนทั้งวันก็พอจะบอกถึงระดับความใส่ใจของอีกฝ่ายที่มีต่อมีนาได้แล้ว




มีนาจัดโต๊ะอาหารอย่างคล่องแคล่ว ปฏิเสธคเชนทร์ที่เสนอตัวไปช่วยในครัวอย่างสุภาพ ผลุบเข้าผลุบออกจากห้องครัวอย่างรวดเร็วเสียจนคนมองรู้สึกเวียนหัวแทน




“ร่าเริงจังนะ”




น้ำเสียงขุ่นมัวของธีรเชษฐ์ทำให้มีนาที่ยิ้มกว้างตั้งแต่เห็นคเชนทร์ในห้องหน้าเสีย เด็กหนุ่มก้มหน้างุด ก้มศีรษะห่อไหล่กลับเข้าไปในครัวด้วยสีหน้าอมทุกข์ที่เจ้าชีวิตของตนคุ้นเคยเป็นอย่างดี




“เด็กยิ้มก็ผิด?” คเชนทร์เลิกคิ้วถามธีรเชษฐ์ที่ยังคงมีสีหน้าไม่สบอารมณ์




“อยู่กันสองคนทำหน้าเหมือนกูเอามีดจ่อคอหอยอยู่ตลอดอย่างนั้นแหละ”




“แล้วมึงไม่ได้ทำอยู่เหรอ?”




เจ้าของห้องกำลังจะถามความหมายของประโยคเมื่อครู่ แต่ถูกขัดจังหวะด้วยร่างเล็กที่ถือพวงมาลัยที่แทบจะเหมือนกับพวงที่อีกฝ่ายให้ธีรเชษฐ์ทุกกระเบียดนิ้วออกมาจากห้องครัว




“อาจารย์ครับ ผมอยากขอบคุณที่อาจารย์เมตตาช่วยเหลือผมกับครอบครัว” มีนาทรุดตัวลงกราบแทบเท้าของอาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งรีบนำมือข้างหนึ่งไปรองมือของเด็กหนุ่มไหว้




“ครูไม่ได้ทำอะไรมากหรอก” คเชนทร์ลูบศีรษะของมีนาอย่างเอ็นดู ไม่คิดจะผละจากลูกศิษย์ตัวน้อยแม้จะเห็นสายตาไม่พอใจของธีรเชษฐ์อย่างชัดเจน “เป็นเด็กดีแบบนี้ต่อไปนะมีน ครูขอโทษที่ช่วยอะไรเธอไม่ได้มากกว่านี้”





“ครับ”มีนาเงยหน้ามองอาจารย์ของตนอย่างตื้นตันใจ




“เอ้า ไปนั่งได้แล้ว เพื่อนครูจะกินหัวครูอยู่แล้ว”




คเชนทร์เอ่ยติดตลก ซึ่งไม่ใช่ภาพที่เห็นได้บ่อยนักของร่างสูง พยักเพยิดให้มีนารีบลุกขึ้นจากพื้นไปที่เก้าอี้ว่างข้างๆเจ้าของห้องซึ่งในตอนนี้หน้านิ่วคิ้วขมวดเสียจนคนมองใจไม่ดี




“...ร้อยให้ทุกคนเลยรึไง?”




เสียงทุ้มพึมพำ มีนาไม่รู้ว่าธีรเชษฐ์ถามเขาหรือเพียงแค่บ่นกับตัวเองเท่านั้นจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จาข้างร่างสูง
“กินเถอะ อย่าสนใจมันเลย วัยหมดประจำเดือนก็แบบนี้ อารมณ์ขึ้นๆลงๆ” คเชนทร์เอ่ยหน้าตาย ขยับบขาหลบบาทาของเพิื่อนที่ขยับเตะหน้าแข้งของตนใต้โต๊ะทานข้าวอย่างรู้ทัน




Rrrr




ธีรเชษฐ์ลุกไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่ตนชาร์จไว้บนเคาท์เตอร์มากดรับสาย




“ฮัลโหล? หมอก? อะไรนะ...ได้ ฉันจะไปรับเดี๋ยวนี้ อย่าออกจากฝูงคนนะ”




มีนาเงยหน้ามองเจ้าของห้องดึงโทรศัพท์ออกจากสายชาร์จพร้อมกับคว้ากุญแจรถและกระเป๋าเงินของตนอย่างเร่งรีบ




“เอ่อ..มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ...”




“เดี๋ยวมา”




ชายหนุ่มทิ้งท้ายเพียงแค่นั้นก่อนจะผลุบหายไปจากห้อง มีนามองตามแผ่นหลังกว้างไปด้วยสายตาเป็นกังวล




“จะไม่ร่าเริงขึ้นหน่อยเหรอ?” คำถามของอาจารย์ที่ปรึกษาทำให้มีนาหันกลับมาอย่างฉงน




“ครับ?”




“ปกติเหยื่อจะต้องดีใจรึเปล่าเวลาที่ผู้ล่าไม่ได้อยู่ใกล้ๆ” คเชนทร์เลิกคิ้ว มีนาก้มหน้างุด ไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามนั้นอย่างไร




“มีน ครูถามอะไรหน่อยได้มั้ย?”





“ถาม…อะไรเหรอครับ?” แม้จะไม่อยากตอบ แต่มีนารู้ว่าถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็คงหาทางเอาคำตอบจากเขาได้อยู่ดี




“มีน…เริ่มชอบไอ้เชษฐ์มันแล้วรึเปล่า?”




“เอ๊ะ? ทะ...ทำไมถึงได้คิดอย่างนั้นล่ะครับ?!”




มีนาแตกตื่นกับคำถามของร่างสูง อาจารย์หนุ่มหัวเราะในลำคอ ท่าทางของอีกฝ่ายในตอนนี้ทำให้มีนาที่ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมคเชนทร์ถึงได้เป็นเพื่อนกับคนอย่างธีรเชษฐ์มานานขนาดนี้เริ่มจะพอมองออกถึงความคล้ายคลึงของคนทั้งคู่




“แค่เห็นสายตาเธอครูก็รู้แล้ว”




แน่นอนว่านั่นไม่ใช่คำตอบที่มีนาอยากได้ยิน




เขาไม่รู้ว่าสายตาของเขายามที่มองเจ้าชีวิตของตัวเองเป็นอย่างไร แต่มีนารู้ว่าความรู้สึกที่เขามีต่ออีกฝ่ายไม่ใช่ความหวาดกลัว




หากมานึกดูดีๆ ร่างเล็กไม่คิดว่ามันเป็นความหวาดกลัวมาตั้งแต่แรก




แต่หากสายตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึกภายในใจของเขาถูกคนนอกอย่างคเชนทร์มองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่มีเหตุผลเลยที่ธีรเชษฐ์ซึ่งอยู่ใกล้กับเขาเพียงลมหายใจคั่นจะไม่รู้ถึงข้อเท็จจริงนี้




“ไม่ต้องห่วง เพื่อนครูมันซื่อบื้อกว่าที่เธอคิดเยอะ” คเชนทร์ปลอบพร้อมรอยยิ้มมุมปาก




“อาจารย์...รู้ได้ยังไงเหรอครับ?” มีนาถามด้วยสีหน้าเคลือบแคลงใจ




“ครูเห็นสายตาที่มันมองเธอไง”อาจารย์หนุ่มตอบพร้อมกับดันแว่นกรอบดำของตัวเองขึ้น “เพื่อนครูน่ะ มันไม่ได้เก็บความรู้สึกเก่งเหมือนที่มันชอบคิดหรอกนะ”




“….”




มีนาทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างไม่ยอมรับ จะให้เขาเชื่อได้อย่างไรว่าความรู้สึกอะไรก็ตามที่เขามีต่อธีรเชษฐ์ อีกฝ่ายก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ในเมื่อตัวเขาไม่มีอะไรนอกจากรูปร่างหน้าตาที่บังเอิญไปต้องตาอีกฝ่ายได้อย่างไรก็ไม่อาจทราบ นอกจากสัตว์เลี้ยงในห้องและของเล่นบนเตียงแล้ว มีนาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสามารถอาจเอื้อมเปลี่ยนสถานะเป็นอย่างอื่นไปได้




“ไอ้เชษฐ์น่ะ เนียนกับแค่คนที่มันไม่ได้จริงใจเท่านั้นแหละ” คเชนทร์เอ่ยขึ้น “กับคุณเกศ ภรรยาเก่ามัน มันเต๊ะท่าทำตัวเข้มจนเกือบชวดไปตั้งหลายครั้ง”




มีนานึกภาพธีรเชษฐ์’เนียน’กับใครไม่ออก คนคนเดียวที่เขาเห็นชายหนุ่มอ่อนโยนด้วยคือคุณมธุวัน เลขาร่างสูงโปร่งเจ้าของนัยน์ตาเย็นเยียบสีเทาอมฟ้าที่ให้ความรู้สึกเหมือนราชินีผึ้งที่มีผึ้งงานทุกตัวอยู่ใต้อาณัติ




นึกถึงน้ำเสียงอ่อนโยนและแววตาเอ็นดูของธีรเชษฐ์แล้วมีนาก็นิ่วหน้ากับความรู้สึกเสียวแปลบในอก




“เอาล่ะๆ ไม่เชื่อครูก็ไม่เป็นไร แต่ครูขอเตือนไว้นะมีน” คเชนทร์ขยับเก้าอี้เข้ามาใกล้เขาด้วยสีหน้าจริงจัง “คนอย่างไอ้เชษฐ์น่ะ ความรักกับเซ็กส์เป็นคนละเรื่องกัน ต่อให้มันรักเธอจนหมดหัวใจ มันก็ไม่มีทางมีเธอคนเดียว”




“ผมไม่...”




“ในฐานะเพื่อน ครูก็อยากให้เชษฐ์มันได้เจอคนดีๆอย่างมีน แต่ในฐานะที่ครูเป็นครูของเธอ...” คเชนทร์ถอนหายใจ “อย่าถลำลึกไปมากกว่านี้เลยจะดีกว่านะ”




มีนากัดริมฝีปากพร้อมพยักหน้ารับคำ ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าการที่ตัวเองจะอยู่หรือไปจากธีรเชษฐ์นั้น ร่างเล็กไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจแม้แต่นิด



คำพูดของคเชนทร์ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของมีนาถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มจะพยายามปิดกั้นมันออกไปแค่ไหน




ร่างเล็กได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออก มีนาเด้งตัวลุกขึ้นมาจากเตียงจังหวะเดียวกับที่ธีรเชษฐ์เปิดประตูเข้ามา





“ดึกแล้วนะ ยังไม่นอนอีกเหรอ?”





คนอายุมากกว่าขมวดคิ้ว ทรุดตัวลงนั่งข้างร่างเล็กบนเตียง ทั้งที่ระยะห่างอันน้อยนิดระหว่างพวกเขาไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่ในครั้งนี้ มีนารู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงกว่าทุกวันที่ผ่านมา




‘...เริ่มชอบไอ้เชษฐ์มันแล้วรึเปล่า?’




คำพูดของคเชนทร์ยังคงดังก้องอยู่ในหัว มีนาเบือนหน้าหลบดวงตาสีควันบุหรี่




“ครับ...ผมนอนไม่หลับ”




“จะให้ตบก้นให้มั้ย?”ความขบขันในน้ำเสียงของอีกฝ่ายยิ่งทำให้มีนาหน้าร้อนผ่าว เด็กหนุ่มส่ายหัวดิ๊กๆอย่างอับอาย
วันนั้นเขาคิดอะไรอยู่กันนะถึงได้พลั้งปากหลุดเรื่องน่าอายแบบนั้นออกไป




Rrrr




เสียงโทรศัพท์ของธีรเชษฐ์ดังขึ้นอีกครั้ง ร่างสูงขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอ




“มีอะไรรึเปล่าหมอก?”




มีนากัดริมฝีปากเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่อ่อนลงเมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อเลขาของตน




“จะนอนห้องฉัน? จริงๆก็ได้อยู่นะ แต่มันนอนไม่ค่อยสบายนะ หืม? เอางั้นเหรอ? ก็ได้ อยากนอนที่ไหนในบ้านนั้นก็นอนเถอะ ถ้าเป็นเธอฉันไม่ว่าอะไรหรอก”




ร่างเล็กนึกอยากจะลุกออกไปจากตรงนี้ แต่เขารู้ดีว่านั่นจะยิ่งทำให้ธีรเชษฐ์สงสัย




“ล็อกห้องด้วย ฉันเป็นห่วง อืม ”




ธีรเชษฐ์กดตัดสายแล้วหันกลับมาหามีนา น้ำเสียงของอีกฝ่ายยังคงเย็นชาอย่างที่มีนาคุ้นเคยดี แม้ว่าจะมีความอ่อนโยนเจืออยู่ในน้ำเสียงเพียงเล็กน้อยเสียจนมีนาแทบจะรับรู้ไม่ได้ก็ตาม





ไม่เหมือนกับที่พูดกับเลขาหน้าสวยของตัวเองสักนิด




“นอนได้แล้ว”



“ครับ”




ร่างเล็กรับคำอย่างง่ายดาย เขาไม่ได้รู้สึกโกรธ เขารู้ดีว่าเขาไม่มีสิทธ์อะไรในตัวของธีรเชษฐ์ แต่มีนาเพียงแค่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับการถูกปฏิบัติคนละแบบกับเลขาหนุ่มที่ธีรเชษฐ์ดูจะทะนุถนอมเสียเหลือเกิน




ถึงแม้คเชนทร์จะบอกว่าธีรเชษฐ์ทำตัวดีกับคนที่ไม่ได้จริงใจด้วย แต่ความอบอุ่นในน้ำเสียงของชายหนุ่มยากจะจินตนาการได้ว่าธีรเชษฐ์ไม่ได้ใส่ใจมธุวัน




อีกอย่าง...มีเลขาที่ไหนอีกหรือที่สามารถนอนที่ไหนในบ้านของประธานบริษัทได้ตามแต่ใจปรารถนา




“พรุ่งนี้แต่งตัวดีๆล่ะ จะพาไปข้างนอก”




ริมฝีปากได้รูปฉกชิมความหอมหวานจากโพรงปากนุ่ม ลิ้นร้อนแสนช่ำชองเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกับลิ้นเล็กอย่างสนุกสนาน ซึ่งพักหลังมานี้ดูเหมือนจะกลายเป็นกิจวัตรประจำวันก่อนนอนของพวกเขาไปเสียแล้ว




มีนาหลับตาพริ้มรับสัมผัสจาบจ้วง ถึงแม้จะไม่ได้ร้องขอ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้ขัดขืน




เขารู้ตัวว่าเขาไม่มีสิทธิ์ สิ่งที่เขาจะได้รับมีเพียงสิ่งที่ร่างสูงต้องการจะให้เท่านั้น




สิ่งที่เด็กหนุ่มทำได้มีเพียงปล่อยให้อีกฝ่ายตักตวงสิ่งที่ต้องการจนพอใจ ก่อนจะพลิกกายซุกหน้าลงกับหมอนสีขาวใบนิ่ม ปล่อยให้น้ำตารินไหลซึมหายไปกับเนื้อผ้าของปลอกหมอน




---------

โอ๋เอ๋นะหนูมีนนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 28-05-2018 12:55:49
น้องมีนนนน เอ็นดู อย่าแกล้งน้อง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: MR.J ที่ 28-05-2018 14:28:30
 :ruready :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 28-05-2018 15:24:01
สงสารมีน
อยากให้คุณเชษฐ์ชัดเจนสักที
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-05-2018 16:38:37
พ่อเจ้าเมฆ ทำมีนเสียใจอีกแล้วนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 28-05-2018 17:03:09
สงสารเด็กกกก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 28-05-2018 18:06:28
โถถถ หนูมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 28-05-2018 23:08:48
มีนหนูคงไม่เข้าใจที่ครามบอกเรื่องคุณเชษฐ์แน่เลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-05-2018 01:24:58
น้องมีนทำผิดอะไร ทำไมทำกับน้องแบบเน้~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-05-2018 08:05:00
T^T
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 29-05-2018 12:45:21
รู้สึกกับใครก็เลือกเอาสักคนเถอะคุณเชษฐ์ ถ้าจะเอาเลขานั้นเรื่องก็ปูทางให้ฝ่ายนั้นเป็นนายเอกได้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่จับปลาสองมือ
- เลขาหน้าสวย
- ข่าวลือว่าเป็นมากกว่าเจ้านายกับเลขา
- ง้องอนให้กลับมาทำงานด้วยเหมือนเดิม
- รีบออกไปหาทันทีที่โทรมา
- พาไปนอนที่บ้าน ถ้าเป็นนายจะนอนห้องไหนก็ได้
- เสียงเย็นชาแต่แฝงความอบอุ่น

ยินดีด้วยคุณได้นายเอกแล้วค่าาา

เทียบกับเด็กที่ซื้อมาเป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยง ไม่อ่อนโยนด้วย แค่เอาเงินช่วยเหลือรักษาแม่ให้ ซื้อของให้ แล้วขังไว้ในกรงอดทนรอวันที่อายุครบ18 เพียงแค่ความหวงที่แสดงออกออกเท่าที่ผ่านมากับคำพูดอาจารย์หมอเรื่องเนียนไม่เนียนนั่น น้ำหนักมันไม่พอให้ชนะฝั่งโน้นเลย มันไม่พอ
แค่ซีนรับโทรศัพท์แล้วหุนหันออกไป แล้วพาไปนอนที่บ้านแค่นี้ก็คิลกระต่ายน้อยในกรงทองได้แล้วอ่ะ

รอวันที่กระต่ายน้อยจะแหกกรงออกมา เปิดตัวคู่แข่งที่จะพาแหกออกมาสักคนเถอะ จะทนอยู่กับความน้อยเนื้อต่ำใจไปถึงเมื่อไหร่กัน ผู้มีพระคุณก็ส่วนผู้มีพระคุณ คนใจร้ายก็ส่วนคนใจร้าย

เอาพี่น้ำอุ่นมา พี่น้ำอุ่นต้องมีบทแล้วล่ะ พาแหกกรงออกไปที
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 29-05-2018 18:35:07
อยากรู้จริงๆ ว่าหมอกกำความลับอะไรของธีรเชษฐ์ไว้ ทำให้เจ้านายต้องเอาอกเอาใจเลขาขนาดนี้

สงสารเด็กน้อยตาดำๆ อยู่กับความไม่แน่นอนอย่างนี้ เข้มแข็งนะลูก ...น้องมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 29-05-2018 22:23:28
 :เฮ้อ:


หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Destiny ที่ 30-05-2018 00:41:36
รู้สึกกับใครก็เลือกเอาสักคนเถอะคุณเชษฐ์ ถ้าจะเอาเลขานั้นเรื่องก็ปูทางให้ฝ่ายนั้นเป็นนายเอกได้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่จับปลาสองมือ
- เลขาหน้าสวย
- ข่าวลือว่าเป็นมากกว่าเจ้านายกับเลขา
- ง้องอนให้กลับมาทำงานด้วยเหมือนเดิม
- รีบออกไปหาทันทีที่โทรมา
- พาไปนอนที่บ้าน ถ้าเป็นนายจะนอนห้องไหนก็ได้
- เสียงเย็นชาแต่แฝงความอบอุ่น

ยินดีด้วยคุณได้นายเอกแล้วค่าาา

เทียบกับเด็กที่ซื้อมาเป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยง ไม่อ่อนโยนด้วย แค่เอาเงินช่วยเหลือรักษาแม่ให้ ซื้อของให้ แล้วขังไว้ในกรงอดทนรอวันที่อายุครบ18 เพียงแค่ความหวงที่แสดงออกออกเท่าที่ผ่านมากับคำพูดอาจารย์หมอเรื่องเนียนไม่เนียนนั่น น้ำหนักมันไม่พอให้ชนะฝั่งโน้นเลย มันไม่พอ
แค่ซีนรับโทรศัพท์แล้วหุนหันออกไป แล้วพาไปนอนที่บ้านแค่นี้ก็คิลกระต่ายน้อยในกรงทองได้แล้วอ่ะ

รอวันที่กระต่ายน้อยจะแหกกรงออกมา เปิดตัวคู่แข่งที่จะพาแหกออกมาสักคนเถอะ จะทนอยู่กับความน้อยเนื้อต่ำใจไปถึงเมื่อไหร่กัน ผู้มีพระคุณก็ส่วนผู้มีพระคุณ คนใจร้ายก็ส่วนคนใจร้าย

เอาพี่น้ำอุ่นมา พี่น้ำอุ่นต้องมีบทแล้วล่ะ พาแหกกรงออกไปที

คุณกำลังเข้าใจหมอกผิดนะคะ หมอกเค้าคู่กับ เมฆา ลูกชายคนโตคุณเชษฐ์ ในเรื่อง รักไม่ลืม เท่าที่ดูน่าจะเป็นเรื่องหลักของซีรี่ย์นี้  นิสัยน่ารักมากและน่าสงสารมากด้วยค่ะ ส่วนตัวเราเองอ่านเรื่องรักไม่ลืมมาก่อน ก็หมั่นไส้ ไม่ชอบน้องมีนามาก่อนเหมือนกัน เพราะสิ้นไร้ไม้ตอกยังไงก็ยังมีหนทางอื่น
มากกว่าจะยอมขายตัว  เลยต้องตามมาอ่านเรื่องนี้ต่อ
เพื่อที่จะทำความเข้าใจน้องมีนาค่ะ และก็ทำให้ทราบว่าแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง เราไม่ควรตัดสินใครจากแค่ที่เห็น พอเห็นคุณเข้าใจหมอกผิด ก็เลยอดไม่ได้ที่ตัองขอแก้ตัวแทน เพราะเค้าเป็นนายเอกคนโปรดหน่ะค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 30-05-2018 08:31:23
รู้สึกกับใครก็เลือกเอาสักคนเถอะคุณเชษฐ์ ถ้าจะเอาเลขานั้นเรื่องก็ปูทางให้ฝ่ายนั้นเป็นนายเอกได้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่จับปลาสองมือ
- เลขาหน้าสวย
- ข่าวลือว่าเป็นมากกว่าเจ้านายกับเลขา
- ง้องอนให้กลับมาทำงานด้วยเหมือนเดิม
- รีบออกไปหาทันทีที่โทรมา
- พาไปนอนที่บ้าน ถ้าเป็นนายจะนอนห้องไหนก็ได้
- เสียงเย็นชาแต่แฝงความอบอุ่น

ยินดีด้วยคุณได้นายเอกแล้วค่าาา

เทียบกับเด็กที่ซื้อมาเป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยง ไม่อ่อนโยนด้วย แค่เอาเงินช่วยเหลือรักษาแม่ให้ ซื้อของให้ แล้วขังไว้ในกรงอดทนรอวันที่อายุครบ18 เพียงแค่ความหวงที่แสดงออกออกเท่าที่ผ่านมากับคำพูดอาจารย์หมอเรื่องเนียนไม่เนียนนั่น น้ำหนักมันไม่พอให้ชนะฝั่งโน้นเลย มันไม่พอ
แค่ซีนรับโทรศัพท์แล้วหุนหันออกไป แล้วพาไปนอนที่บ้านแค่นี้ก็คิลกระต่ายน้อยในกรงทองได้แล้วอ่ะ

รอวันที่กระต่ายน้อยจะแหกกรงออกมา เปิดตัวคู่แข่งที่จะพาแหกออกมาสักคนเถอะ จะทนอยู่กับความน้อยเนื้อต่ำใจไปถึงเมื่อไหร่กัน ผู้มีพระคุณก็ส่วนผู้มีพระคุณ คนใจร้ายก็ส่วนคนใจร้าย

เอาพี่น้ำอุ่นมา พี่น้ำอุ่นต้องมีบทแล้วล่ะ พาแหกกรงออกไปที

คุณกำลังเข้าใจหมอกผิดนะคะ หมอกเค้าคู่กับ เมฆา ลูกชายคนโตคุณเชษฐ์ ในเรื่อง รักไม่ลืม เท่าที่ดูน่าจะเป็นเรื่องหลักของซีรี่ย์นี้  นิสัยน่ารักมากและน่าสงสารมากด้วยค่ะ ส่วนตัวเราเองอ่านเรื่องรักไม่ลืมมาก่อน ก็หมั่นไส้ ไม่ชอบน้องมีนามาก่อนเหมือนกัน เพราะสิ้นไร้ไม้ตอกยังไงก็ยังมีหนทางอื่น
มากกว่าจะยอมขายตัว  เลยต้องตามมาอ่านเรื่องนี้ต่อ
เพื่อที่จะทำความเข้าใจน้องมีนาค่ะ และก็ทำให้ทราบว่าแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง เราไม่ควรตัดสินใครจากแค่ที่เห็น พอเห็นคุณเข้าใจหมอกผิด ก็เลยอดไม่ได้ที่ตัองขอแก้ตัวแทน เพราะเค้าเป็นนายเอกคนโปรดหน่ะค่ะ ^^
อ๋ออออ เข้าใจผิดเสียอย่างนั้น 555555 ก็อ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกสำหรับเซ็ตนี้ เห็นมีตัวละครหลายตัวมาก ก็คิดว่าคงจะมีหลายเรื่อง แต่น้ำหนักมันเอนไปทางโน้นก็แบบคุณเชษฐ์มันอะไรนักหนากับเลขา อ๋อ เป็นสะใภ้

แลกกันๆ เดี๋ยวเราไปอ่านรักไม่ลืมบ้าง จะได้เข้าใจหมอก

เคลียร์ หยุดความเข้าใจผิดไว้แค่นี้นะคะ เดี๋ยวลามไปใหญ่โต ปล่อยไก่ อาย 55555555555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 30-05-2018 16:42:35
น้องมีนาลูกกกกก :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 01-06-2018 13:50:35
 :mew6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-06-2018 21:04:19
สงสารมีน มาแบบไม่รู้ตัว ก็มีน้อยใจ มีระแวงบ้าง
แต่คนใกล้ชิดดูรู้ว่าคุณเชษฐ์ไม่ปกติ แถมตามไปได้ทุกที่ด้วย

ถ้ามีคนเข้ามาจีบ มีนจะเด๋อไหม แล้วคุณเชษฐ์จะปรี๊ดไหม อยากรู้
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 15 100% P.11 คห 302 (28/5/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 05-06-2018 10:11:18

Chapter  16: เสี้ยวความทรงจำ

วันนี้ทินกรไม่มีเรียน




ภรัณยูไม่รู้ว่าชีวิตของลูกชายมหาเศรษฐีบ้านอื่นเป็นอย่างไร แต่ดูจากความขยันขันแข็งของท่านรองประธานและน้องชายคนสุดท้องแล้ว เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่เป็นพนักงานกินเงินเดือนธรรมดา




“วันนี้ท่านประธานให้มาดูการทำงานของฝ่ายการตลาดนะคะ มีอะไรถามภัทรได้ รายนี้เขารู้ทุกเรื่อง”




เจนจิราพาร่างสูงในชุดสูทสั่งตัดราคาแพงเข้ามาในแผนก เส้นผมสีดำสนิทถูกหวีเสยจัดทรงเรียบร้อยทำให้เด็กหนุ่มดูโตกว่าความเป็นจริง หากไม่รู้จักกัน ภรัณยูคงคิดว่าอีกฝ่ายเป็นพนักงานระดับสูงคนใหม่ หรือดารานายแบบที่มาคุยงาน




อันที่จริงเขานี่แหละ คนแรกในบริษัทที่ถูกมาดสุขุมเยือกเย็นนั้นหลอกขึ้นเตียง




“ขอบคุณครับคุณแจน ขอโทษด้วยนะครับที่รบกวน”




ทินกรโปรยยิ้มทรงเสน่ห์ให้พนักงานในแต่ละคอกที่ชะเง้อคอหวังได้ยลโฉมลูกชายคนเล็กของประธานบริษัทเกิดอาการใจเต้น เขินอายบิดม้วนเป็นไส้เดือนถูกเตะไปตามๆกัน ภรัณยูนั้นยังคงรักษาความสงบเยือกเย็นไว้ได้เพียงเพราะฝึกปรือเกราะป้องกันมาอย่างแก่กล้า แต่ดูเหมือนคนส่วนใหญ่จะคิดว่าเป็นเพราะ’เจ้าชายน้ำแข็ง’ของพวกตนไม่มีทางอ่อนไหวกับแค่รอยยิ้มละลายใจนี้




เหอะ...ละลายคนแรกเลยครับ



“พี่ภัทรครับ วันนี้ผมขอรบกวนด้วยนะครับ”




ทินกรนั่งลงข้างภรัณยูโดยเว้นระยะห่างจากชายหนุ่มเล็กน้อย รอยยิ้มอบอุ่นแต่งแต้มมุมปากพอเป็นพิธีด้วยรู้ว่าภรัณยูไม่ชอบให้ตนทำตัวสนิทสนมในเวลาทำงาน




ทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายทำเพื่อเอาใจตัวเอง แต่เมื่อเห็นสายตาวาววับของสาวๆในแผนก รวมถึงพนักงานชายบางคน ภรัณยูแอบนึกอยากให้ทินกรออดอ้อนเขามากกว่านี้...




ไม่สิ คิดบ้าอะไรของเราเนี่ย?




“คุณทินกร รบกวนถ่ายเอกสารฉบับนี้ให้หน่อยครับ ยี่สิบชุด”




ภรัณยูตัดสินใจส่งเด็กหนุ่มไปให้ไกลหูไกลตาเพื่อให้ตัวเองมีสติที่แจ่มใสกว่านี้ในการทำงาน แต่ก่อนที่ทินกรจะได้ตอบรับอะไร มือเรียวเล็กมือหนึ่งก็คว้าปึกเอกสารของเขาไปเสียก่อน




“ตายแล้วพี่ภัทรคะ ไปใช้คุณทินกรแบบนั้นได้ยังไงคะ” พนักงานสาวที่มีอายุน้อยกว่าเขาเพียงไม่กี่ปีจีบปากจีบคอ ทั้งที่ยามปกติงานของเจ้าหล่อนมักจะถูกโยนมาให้ภรัณยูแก้หรือต้องทำใหม่เสมอๆ “ไม่เป็นไรนะคะคุณทินกร เดี๋ยวกิ๊ฟทำให้เองค่ะ”
“คงไม่ได้หรอกครับ พี่ภัทรบอกให้ผมไป” ทินกรยิ้มให้หญิงสาวด้วยรอยยิ้มสว่างสดใสเป็นเอกลักษณ์ ใช้จังหวะที่คนตรงหน้ากำลังเขินอายดึงเอกสารกลับมาอย่างแนบเนียน “หน้าที่ของผม ผมต้องเป็นคนทำครับ”



“อร๊ายยย เท่อ่ะ”




หญิงสาวกรี๊ดกร๊าดเบาๆหลังจากที่ทินกรเดินออกไปจากห้อง ร่างเล็กในชุดเครื่องแบบพนักงานและรองเท้าส้นเข็มเดินนวยนาดไปเม้าท์กับกลุ่มเพื่อนของตัวเองที่โต๊ะทำงานโดยไม่สนใจภรัณยูที่นั่งทำงานงกๆอยู่ไม่ไกล อาจเป็นเพราะหญิงสาวคงรู้ดีอยู่แล้วว่าต่อให้พูดจากระทบกระแทกแดกดันอะไรรองหัวหน้าคนนี้ไป ภรัณยูก็ไม่เคยนำมาผูกใจเจ็บสักครั้ง




“ลูกชายเจ้าของบริษัทยังกล้าใช้ คนอะไรไม่รู้ที่ต่ำที่สูง”




“ยัยกิ๊ฟ!เบาๆสิ เดี๋ยวพี่ภัทรก็ได้ยินหรอก” เพื่อนๆของหญิงสาวรีบเตือน เหลือบมองมาทางภรัณยูอย่างหวาดระแวง




“โอ๊ย ถ้าได้ยินก็ได้ยินไปหลายรอบแล้วล่ะ หูเหอไปหมดแล้วมั้ง” หญิงสาวหัวเราะ




“ต่ำ”




เสียงหวานที่คุ้นเคยดังขึ้นหน้าโต๊ะของเขาไม่ได้มีความคิดที่จะลดระดับเสียงให้ใคร ภรัณยูเงยหน้ามองฝน ลูกน้องอีกคนของเขาที่เป็นคนเอ่ยคำปริศนาหนึ่งพยางค์นั้นออกมา




“แกว่าใคร ยัยฝน?” กิ๊ฟตวัดตาค้อนหญิงสาวอายุเท่ากันอย่างหาเรื่อง




“ฉันพูดกับพี่ภัทร บอกว่าเก้าอี้มัน‘ต่ำ’ไป นั่งแล้วจะปวดหลัง” ฝนเอ่ยเสียงเรียบ แล้วหันมายิ้มให้ภรัณยู “เนอะ พี่ภัทร”




“…”




คนโดนลากมาเอี่ยวทำได้เพียงพยักหน้าช่วยน้อง กิ๊ฟทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ แล้วเดินออกไปห้องพักพนักงาน ทั้งที่เพิ่งออกไปพักกลับมาก่อนหน้านี้




“พี่ภัทรนะพี่ภัทร ถ้าเป็นฝนนะ ให้พี่แจนไล่ออกไปตั้งแต่เดือนแรกแล้ว คนอะไรทำดีให้ก็แค่เสมอตัว”




ฝนบ่นอุบ ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ของโต๊ะทำงานตัวเองที่อยู่ข้างเขา




“อย่าไปหาเรื่องเขาเลย พี่ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่” ภรัณยูเตือนรุ่นน้องด้วยน้ำเสียงใจเย็น




“โอ๊ย พี่ภัทรก็พ่อพระไปไหนคะเนี่ย ยัยกิ๊ฟทั้งทำงานชุ่ยทั้งนินทาพี่อย่างกับหมูกับหมา ยังจะไปช่วยมันทำงานอีก” หญิงสาวกอดออกอย่างไม่พอใจ




“เขามีลูกต้องดูแล ไม่สงสารเขาก็สงสารลูกเขาเถอะ แม่ตกงานไปเขาจะอยู่ยังไง”




ภรัณยูให้เหตุผล กิ๊ฟเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ส่งเสียลูกน้อยวัยประถมเข้าเรียนด้วยตัวเอง ถึงแม้หญิงสาวจะชอบโยนงานให้เขาแล้วหนีกลับบ้านบ่อยๆ แต่ภรัณยูก็มักจะบอกตัวเองเสมอว่านั่นเป็นเพราะเธอคงอยากใช้เวลากับลูกให้มากขึ้น




“เฮ้อ ฝนไม่พูดแล้ว พี่ภัทรก็แบบนี้ตลอดอ่ะ ชอบช่วยคนที่ไม่น่าช่วย คนแบบนี้ต้องปล่อยให้ธรรมชาติคัดเลือกค่ะ เดี๋ยวกรรมก็ตามทัน”




“….”




ภรัณยูทำได้เพียงปล่อยให้รุ่นน้องของตนบ่นจนพอใจ เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นพวกใจอ่อนง่าย แต่เขาก็เป็นของเขาแบบนี้ จะให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองข้ามวันก็คงทำได้ยาก





“นี่ใช่เวลาพักของคุณเหรอครับ?” เสียงเย็นเยียบอันเป็นเอกลักษณ์ของเลขาที่มีอำนาจมากที่สุดในบริษัทดังขึ้นจากภายนอกแผนก แม้จะไม่ใช่เสียงตะโกน แต่ก็ดังพอให้พนักงานทุกคนหยุดงานที่ทำ แล้วเงี่ยหูฟังโดยพร้อมเพรียงกัน
แน่นอนว่าภรัณยูก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น




“คือกิ๊ฟ...ไม่สบาย...”




“กรรมตามทันแล้ว...” ฝนเอ่ยขึ้นลอยๆพร้อมรอยยิ้มมุมปาก




“ป่วยก็ลาป่วย ถ้าคุณจะมาทำงานก็อย่ากินแรงของพนักงานคนอื่น ผมเคยเตือนคุณไปแล้วครั้งนึงเรื่องการเอางานของคุณให้คนอื่นทำ ถ้าพฤติกรรมแบบนี้ยังเกิดขึ้นอยู่ ผมคงต้องขอคุยกับหัวหน้าของคุณ”




“คือ..กิ๊ฟปวดท้องประจำเดือนน่ะค่ะ...”




“โอ้โห แหลได้อีก”




ฝนกระซิบกับภรัณยู ซึ่งชายหนุ่มเพียงแค่ส่ายหน้ากับอคติที่รุ่นน้องของเขามีต่อเพื่อนร่วมงาน




“ถ้าอย่างนั้นกลับไปพักที่บ้านมั้ยครับ ผมจะรายงานท่านประธานให้เป็นกรณีพิเศษ ทางเราจะจ่ายเงินชดเชยให้” สีหน้าของพนักงานแต่ละคนเปลี่ยนไปเป็นสับสนเมื่อได้ยินข้อเสนอของมธุวัน ก่อนจะหลุดขำพรืดออกมาเมื่อได้ยินประโยคถัดไป “ไว้อีกสักยี่สิบปีค่อยกลับมาทำงานนะครับ น่าจะหมดประจำเดือนพอดี”




หากสามารถขึ้นมายืนบนโต๊ะแล้วปรบมือให้เลขาหนุ่มของประธานบริษัทได้ ภรัณยูคาดว่าหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆเขาคงทำไแล้ว บรรยากาศในห้องเงียบกริบลงทันทีที่เจ้าของเสียงเย็นเยียบเมื่อครู่ก้าวเข้ามาในห้อง เรือนร่างสูงเพรียวในชุดสูทสั่งตัดสีครีมยากจะทำให้ชายหนุ่มกลมกลืนกับสถานที่ ยังไม่นับรวมถึงโครงหน้าที่แม้จะไม่ได้หวานเหมือนหญิงสาวแต่เกลี้ยงเกลาหมดจด ทำให้คนมองเหลียวหลังกันเป็นแถบ โดยเฉพาะดวงตาสีเทาอมฟ้าที่ทอประกายสีเขียวภายใต้แว่นไร้กรอบยามกระทบแสงซึ่งทำให้ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลคนนี้ยิ่งดูมีเสน่ห์น่าค้นหา





“คุณภรัณยู ตัวเลขในนี้ถูกต้องแล้วใช่มั้ยครับ?”




แม้ว่าชื่อเสียงด้านความเย็นชาและเฉียบขาดของมธุวันจะทำให้คนในบริษัทกลัวจนหัวหด รวมถึงข่าวลือที่ว่าเลขาหนุ่มนั้นเป็นมากกว่าแค่เลขาคนสนิทของท่านประธานธีรเชษฐ์ ยิ่งทำให้พนักงานไม่กล้าปีนเกลียวกับเลขาผู้ทรงอิทธิพลทั้งที่มีอายุเพียงยี่สิบห้าปีคนนี้ไปกันใหญ่ แต่ภรัณยูเรียนรู้ว่า แค่ทำตามหน้าที่ของตัวเองให้ดี แค่นี้ก็ไม่ถูกกรรมตามสนองอย่างเมื่อครู่แล้ว




“พี่ภัทร เอกสารได้แล้วครับ...พี่หมอก?”




ระหว่างที่ภรัณยูกำลังตรวจสอบเอกสารให้กับมธุวันอยู่นั้น ร่างสูงที่เขาใช้ให้ไปถ่ายเอกสารก็กลับมาพอดี ทินกรวางกองเอกสารลงบนโต๊ะทำงานของภรัณยู ก่อนจะโถมตัวเข้ากอด’ปีศาจน้ำแข็ง’ที่ใครๆต่างหวาดกลัวแน่นพร้อมรอยยิ้มกว้างจนคนตัวเล็กกว่าถึงกับเซไปหนึ่งก้าว




“พี่หมอกกกกก"




“ครับ...จะเอาอะไร”




รอยยิ้มจางปรากฎบนมุมปากของเลขาหนุ่ม แม้ว่าจะไม่ใช่ภาพที่หาได้ยากจากคนธรรมดา แต่จากมธุวัน ภาพนั้นเป็นเหมือนการได้เห็นไดโนเสาร์ใส่กระโปรงบัลเล่ต์เต้นฮิปฮอปอย่างไรอย่างนั้น




แม้ว่าพนักงานคนอื่นจะตกอยู่ในภาวะช็อค แต่ภรัณยูเพียงแค่ก้มลงจัดการกับเอกสารที่มธุวันมีคำถามเงียบๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นความสนิทสนมระหว่างคนทั้งคู่ ร่างโปร่งนึกย้อนกลับไปถึงคืนก่อนหลังจากที่เขาสอนหนังสือให้ทินกรเสร็จ มธุวันในชุดลำลองที่ทำให้ชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าปีดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงลงไปโขเดินเขามาในตัวบ้านพร้อมกับธีรเชษฐ์และเมฆา













“พี่หมอก! ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!”




ร่างสูงในชุดนักศึกษาโถมกายเข้าใส่มธุวันโดยไม่ทันตั้งตัว ร่างโปร่งรีบยกมือเกาะร่างของทินกรที่พุ่งเข้ามาใส่เขาเหมือนลูกปืนใหญ่ด้วยกลัวว่าจะหงายลงไปกองกับพื้น รอยยิ้มเอ็นดูที่ปรากฏบนใบหน้าของมธุวันอย่างเป็นธรรมชาติทำให้ภรัณยูที่เดินตามเด็กหนุ่มมาถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง




“ซัน…พี่หายใจไม่ออก”




“คิดถึงพี่หมอกที่ซู้ดดดดเลยครับ!”




เจ้าเด็กตัวยักษ์กอดรัดร่างโปร่งฟัดไปมาจนมธุวันแทบจะลอยขึ้นจากพื้น กว่าที่เมฆาจะสามารถช่วยชีวิตของเลขาหนุ่มออกมาจากกรงเล็บมัจจุราชได้ มธุวันแทบขาดอากาศหายใจ




ภรัณยูสังเกตเห็นธีรเชษฐ์หมุนตัวเดินกลับออกไปจากคฤหาสน์เงียบๆราวกับไม่อยากให้เลขาของตนสังเกตเห็น




“ซัน เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง” ภรัณยูปกปิดความรู้สึกประหลาดในจิตใจของตัวเองเมื่อเห็นความสนิทสนมของคนทั้งคู่ด้วยการดุพฤติกรรมของเด็กหนุ่มตามความเคยชิน




“คุณ…ภรัณยู?” มธุวันเอียงคอมองเขาอย่างประหลาดใจ ราวกับว่าภรัณยูเป็นฝ่ายที่อยู่ผิดที่ผิดทางในบ้านหลังนี้
ซึ่งหากจะพูดกันตามตรง เขาก็เป็นจริงๆนั่นแหละ...




“เอ่อ...สวัสดีครับคุณมธุวัน”



ภรัณยูทักทายคนที่ในทางปฏิบัติมีตำแหน่งสูงกว่าอย่างนอบน้อม




“สวัสดีครับ”มธุวันทักทายทายกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่เขาคุ้นเคยดี




“พี่ภัทรหึงเหรอครับ...อุ่ก!”




ภรัณยูถองศอกใส่สีข้างเด็กหนุ่มที่แซวขึ้นมา แต่นอกจากทินกรจะไม่โกรธแล้ว ร่างสูงยังผละจากมธุวันมาออดอ้อนเขาต่ออีกด้วย




แม้จะไม่อยาก แต่ภรัณยูก็อดสังเกตไม่ได้ว่าท่าทีของทินกรที่มีต่อมธุวันเมื่อครู่ ไม่ได้ต่างอะไรกับที่อีกฝ่ายปฏิบัติต่อเขามากนัก




“ค่าสอนพิเศษวันนี้ได้รึยังครับ”เมฆาที่เงียบอยู่นานถามขึ้น ภรัณยูพยักหน้า




“ครับ ถ้าอย่างนั้นผมลานะครับ คุณเมฆา คุณมธุวัน” ชายหนุ่มเอ่ยขอตัว




“เดี๋ยวสิครับพี่ภัทร ผมไปส่ง~”




ทินกรรีบเดินตามเขาออกมา ภรัณยูรู้ว่าเขาไม่ควรจะหงุดหงิด ในเมื่อสมองของเขาเตรียมตัวพร้อมสำหรับวันที่สายตาของทินกรจะละจากเขาไปยังเป้าหมายต่อไป




แต่เขาก็อดที่จะรู้สึกเจ็บแปลบในใจไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีของทินกรเมื่อครู่ มธุวันอายุห่างกับเด็กหนุ่มเพียงแปดปี ทั้งความมั่นใจและความเด็ดขาดของเลขาหน้าสวยยังเสริมเสน่ห์ให้กับดวงตาสีเทาอมฟ้าทำให้ภรัณยูยิ่งรู้สึกว่าเขาไม่มีอะไรที่สู้อีกฝ่ายได้



“พี่ภัทร...โกรธอะไรผมเหรอครับ?”




ทินกรถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล ความจริงใจในแววตาของร่างสูงทำให้ยากที่จะโกรธอีกฝ่าย




เอาเถอะ...เขาทำใจไว้แล้วนี่




“เปล่า พี่แค่เพลียน่ะ” ชายหนุ่มแก้ตัว “พี่กลับแล้วนะ อย่าลืมทบทวนบทเรียนล่ะ”




“คืนนี้ผมโทรหานะครับ” ทินกรยังคงไม่ค่อยวางใจเหตุผลของเขา ภรัณยูขยับยิ้มให้อีกฝ่าย




“อืม พี่จะรอ”












กลับมาที่ปัจจุบัน หลังจากมธุวันเสร็จธุระกับเขาแล้ว เลขาหนุ่มก็หมุนตัวเดินออกไปจากแผนกทันทีโดยไม่มีการอ้อยอิ่งใดๆ ทินกรโบกมือลาพร้อมรอยยิ้มแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเองตามเดิม




“สนิทกันจังนะ” ภรัณยูสบถในใจเมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอพูดสิ่งที่คิดออกไปด้วยน้ำเสียงประชดประชัน แต่ดูเหมือนทินกรจะไม่ได้สังเกตเรื่องนั้น




“ครับ พี่หมอกเป็นคนช่วยผมให้ผมหาพี่ภัทรจนเจอนี่นา” เด็กหนุ่มกระซิบตอบ




“…ฮะ?”




ภรัณยูใช้เวลาเกือบหนึ่งนาทีเต็มในการประมวลผล ร่างโปร่งหันไปหาคนพูดอย่างไม่เข้าใจ




“ที่บอกว่าได้ที่อยู่พี่ภัทรมาจากประวัติพนักงาน...ผมโกหกน่ะครับ” ทินกรยิ้มเจื่อน




ภรัณยูเพิ่งนึกได้ ว่าห้องของเลขาหนุ่มอยู่ชั้นบนห้องของเขาในอพาทเมนต์ที่เขาเช่าอยู่ หากมธุวันจะเป็นคนบอกพิกัดที่อยู่ของเขาให้กับลูกชายคนสุดท้องของประธานบริษัทก็ดูจะไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายอะไร




สรุปว่าเขาตีโพยตีพายไปเองงั้นเหรอ?




พอคิดว่าแค่ท่าทีสนิทสนมของทินกรกับคนอื่นยังทำให้ความคิดของเขาเตลิดไปไกลขนาดนั้น ภรัณยูนึกอยากเอาหัวตัวเองโขกโต๊ะทำงานสักทีสองทีให้หายจากความฟุ้งซ่านนี้










“พี่ภัทรอยากกินอะไรครับ?”




ในที่สุดก็ถึงเวลาพักกลางวัน ทินกรไม่รอช้า ทันทีที่เหลือเพียงพวกเขาแค่สองคนในแผนก เด็กหนุ่มขี้อ้อนก็กลับเข้าสู่โหมด

ปกติของตัวเองทันที




“พี่ตามใจซัน”ภัทรตอบอย่างไม่ใส่ใจขณะก้มเก็บข้าวของบนโต๊ะลงในลิ้นชัก เขากินร้านในโรงอาหารพนักงานและร้านรอบออฟฟิศจนไม่มีอะไรอยากกินพิเศษแล้ว




“ถ้างั้น...” ชายหนุ่มผงะเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเจอกับใบหน้าคมคายที่ยื่นเข้ามาใกล้ “กินพี่ภัทรได้มั้ยครับ?”




“พอเลย ไอ้เด็กทะลึ่ง”




ภรัณยูดันหน้าผากของเด็กหนุ่มออกห่างจากตัวเองด้วยความหมั่นไส้ ทินกรหัวเราะ ดูจะมีความสุขกับการได้แกล้งคนอายุมากกว่าอยู่พอสมควร




สุดท้ายทินกรก็เลือกที่จะมาโรงอาหารพนักงาน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับภรัณยูพอสมควร




ไม่ใช่ว่าเขาเห็นเด็กหนุ่มเป็นคนติดหรู ทินกรนั้นดูจะติดดินเสียยิ่งกว่าลูกน้องเขาบางคนเสียอีก แต่เขาแค่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะอยากมาทานอาหารกลางวันในที่ที่มีคนพลุกพล่านและสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่ตัวเองแบบนี้




“ทำไมถึงอยากมากินที่นี่ล่ะ?” ชายหนุ่มอดถามไม่ได้




“ผมเก็บเงินอยู่ครับ”ทินกรตอบ คนถามเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ




“ทำไมล่ะ? ที่มีอยู่นี่ไม่พอใช้เหรอ?”




“เปล่าครับ ค่าขนมที่พ่อให้ผมก็เก็บแยกไว้ เงินที่ผมหามาเองผมก็ไม่ค่อยอยากใช้เท่าไหร่น่ะครับ”




คำตอบที่ได้ไม่ได้ทำให้ภรัณยูรู้สึกกระจ่างขึ้นเท่าไหร่ ชายหนุ่มเอียงคออย่างไม่เข้าใจ




“จะเก็บเงินไว้ซื้ออะไรเหรอ?”  หรือว่าเด็กหนุ่มมีของที่อยากได้ที่ราคาแพงจนต้องคิดเล็กคิดน้อยขนาดเลือกร้านที่อาหารถูกที่สุดแบบนี้?




“ไว้สร้างครอบครัวครับ” ทินกรยิ้มแฉ่ง “ผมอยากใช้เงินที่ผมหามาเองสร้างครอบครัวของผมเองครับ”




คำพูดของอีกฝ่ายเหมือนฝ่ามือตบลงบนใบหน้าของภรัณยูจนหน้าชา




เขารู้...ว่าสถานะของพวกเขาในตอนนี้ จะเรียกว่าคนรักก็ไม่ใช่ จะเรียกว่าดูใจก็ไม่เชิง แต่เมื่อได้ยินเด็กหนุ่มวางแผนเรื่อง
อนาคตหลังจากความสัมพันธ์ของพวกเขาจบลงไว้ล่วงหน้าแบบนนี้ ภรัณยูก็อดรู้สึกใจหายไม่ได้





“ภัทร นั่งด้วยดิ... อ้าว คุณทินกร สวัสดีครับ”




ชายหนุ่มรู้สึกถึงร่างสูงของเพื่อนร่วมงานที่ผลุบนั่งลงบนที่ว่างข้างตน เขากับสอง พนักงานแผนกบุคคลไม่ได้สนิทกันอะไรขนาดนั้น แต่ด้วยวัยที่ไล่เลี่ยกันประกอบกับการที่ชายหนุ่มเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ทำให้ภรัณยูมักจะเผลอตอบตกลงเวลาถูกชายหนุ่มชวนไปพักกลางวันอยู่บ่อยครั้ง




ภรัณยูแทบจะถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เพื่อนของตนโผล่มาในเวลาที่ต้องการพอดี ชายหนุ่มขยับให้คนมาใหม่นั่งได้สะดวก สองพินิจพิจารณาทินกรที่กลับเข้าสู่โหมดทางการทันทีที่มีคนนอกเข้ามาร่วมวงสนทนา แล้วหันมาหาภรัณยูอย่างนึกขึ้นได้
“เออ เมื่อกี้ฉันลงมาชั้นล่าง มีคนมาหาคนชื่อภัทร ฉันไม่รู้ว่าเป็นนายรึเปล่า แต่เขาเมามาก โวยวายเสียงดังเลย ฉันเลยให้รปภ.เชิญกลับไปก่อน ไม่งั้นถ้าคุณมธุวันมาเห็น โดนกินหัวกันหมดแน่ๆ”





“…ฉันไม่ได้นัดใครไว้นะ”




ภรัณยูขมวดคิ้วทบทวนความจำ แต่ก็ยังคงคิดไม่ออกว่าคนที่เขารู้จักคนไหนจะโผล่มาในสภาพเมามายที่บริษัทแบบนี้




“คงไม่ใช่นายหรอกมั้ง ดูไม่น่าคบค้าสมาคมกับคนดีๆอย่างนาย” สองหัวเราะ “เมาด่าคนผ่านไปมากราดเลย บอกว่าตัวเองรวย เดี๋ยวจะซื้อบริษัท จะไล่ออกให้หมด...มาคิดๆดูแล้ว ชักอยากจะให้เจอคุณมธุวันแฮะ คงมันส์ดี”




“เมาขนาดนั้นเลยเหรอครับ?” ทินกรเอ่ยถามพร้อมกับขมวดคิ้ว




“ครับ ถามว่าภัทรไหนก็ไม่ยอมตอบ บอกว่าให้บอกพี่ภพมาหา ตะโกนโวยวายอยู่นั่นแหละ”




คนถูกถามส่ายหน้าอย่างละเหี่ยใจ ที่หางตาของทินกร เด็กหนุ่มเป็นว่าใบหน้าของภรัณยูซีดขาว แววตาของชายหนุ่มไหวระริกก่อนที่ภรัณยูจะกระพริบตาเพื่อซ่อนปฏิกิริยาที่ตนมีต่อชื่อนั้นแทบจะในทันที




พี่ภัทร?




ทินกรไม่รู้ว่าหลังจากนั้นภรัณยูจงใจที่จะหลบหน้าเขาหรือไม่ แต่ชายหนุ่มโอนหน้าที่ดูแลทินกรในช่วงบ่ายของวันให้กับพนักงานสาวที่ชื่อพี่ฝน ซึ่งทินกรพอจะจำได้รางๆจากสมัยที่มานั่งเล่นที่บริษัทภายใต้การดูแลของเจนจิราซึ่งยังเป็นเลขาของบิดาของตนอยู่ในขณะนั้น โดยให้เหตุผลว่าต้องไปติดต่อลูกค้านอกสถานที่ ไม่สะดวกที่จะให้ทินกรไปด้วย




แต่ถึงอย่างไร ภรัณยูก็ยังคงจำเป็นต้องกลับมาเจอทินกรอยู่ดี เพราะวันนี้เขามีเรียนพิเศษกับอีกฝ่าย




“พี่ภัทรครับ...” ภรัณยูที่เดินนำเขาเข้าไปในบ้านชะงักแต่ไม่หันกลับมา แผ่นหลังของร่างโปร่งดูเกร็งขึ้นราวกับรู้ว่าทินกรกำลังจะถามเรื่องอะไร “พี่ภัทรรู้จักใช่มั้ยครับ? คนที่ชื่อภพ...”




“พี่ว่าวันนี้เราเรียนข้างล่างดีมั้ย อากาศถ่ายเทดี...” คนอายุมากกว่าเฉไฉ ดูก็รู้ว่าจงใจหลบคำถามของเด็กหนุ่ม




“พี่ภัทร...เล่าให้ผมฟังไม่ได้เหรอครับ?” ทินกรขยับเข้าไปใกล้ มือใหญ่เอื้อมไปแตะข้อศอกของอีกฝ่ายเบาๆ “เขาสร้างความเดือดร้อนอะไรให้พี่ภัทรรึเปล่าครับ?”




‘พี่ต้องสร้างครอบครัวจริงๆกับผู้หญิงที่พี่พาออกหน้าออกตาในสังคมได้’




‘ผมอยากใช้เงินที่ผมหามาเองสร้างครอบครัวของผมเองครับ’




ทั้งที่เจ้าของประโยคสองประโยคนี้ต่างกันราวกับดวงตะวันและนภาอันมืดมิด แต่ความหมายของคำพูดยากจะมองผ่านความคล้ายคลึงที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้เขารู้สึกเจ็บเหมือนตายทั้งเป็นไปได้




‘ครอบครัว’




เขารู้ว่าตัวเองไม่มีวันที่จะหยิบยื่นสิ่งนั้นให้กับทินกรได้ เขาไม่สามารถเดินเข้าประตูวิวาห์ จดทะเบียนสมรส ออกหน้าออกตาในสังคมได้เหมือนผู้หญิง




เขาไม่สามารถอุ้มท้อง ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆที่เป็นพื้นฐานของคำว่าครอบครัวที่ทินกรใฝ่ฝันหนักหนาได้





เขารู้ตัวดีว่าความสัมพันธ์ในครั้งนี้เป็นเพียงแค่การนับถอยหลังสู่การจากลา แต่เพียงแค่เสียงของปภพ คนรักเก่าที่ซ้อนทับกันรอยยิ้มสดใสของทินกรยามพูดถึงครอบครัวที่ตนอยากสร้างก็มากพอที่จะทำให้ภรัณยูรู้สึกอยากจะยกมือขึ้นปิดหูไม่รับรู้คำพูดเหล่านั้น




“พี่ภัทร...อย่างน้อยบอกผมได้มั้ยครับว่าเขาเป็นใคร....”




“ถ้าไม่เรียนพี่จะกลับแล้วนะ” ชายหนุ่มตัดบทเสียงห้วน หมุนตัวเดินผ่านทินกรเพื่อกลับไปยังรถของตัวเอง ด้วยกลัวว่าความรู้สึกมากมายที่ประดังประเดเข้ามาตั้งแต่ได้ยินชื่อของคนที่เดินออกไปจากชีวิตเขาเมื่อสามปีก่อนอีกครั้งจะฉายชัดในแววตาจนไม่สามารถปกปิดได้




ทว่าก่อนที่จะได้ก้าวพ้นประตูบ้าน ร่างของเขาก็ถูกรวบเข้าไปในอ้อมกอดของเด็กหนุ่มร่างสูงในชุดสูทที่ผวาสวมกอดเขาไว้แน่น




“ผมขอโทษครับ...” ทินกรเอ่ยเสียงสั่น ซุกหน้าลงกับคอของร่างโปร่ง “ผมไม่ถามแล้ว ผมขอโทษ...พี่ภัทรอย่าไปได้มั้ยครับ...”




ภรัณยูรู้อยู่เต็มอกว่าทินกรไม่ได้ผิดอะไร แต่เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายนำเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นอีก ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงพยักหน้านิ่งๆ




“อืม”




รอยยิ้มกว้างอย่างโล่งใจของทินกรที่เขาเห็นเป็นอย่างแรกเมื่อหันกลับมาทำให้ภรัณยูยิ่งรู้สึกว่าตัวเองทำตัวเลวร้ายกับอีฝ่ายเกินไป




“พรุ่งนี้พี่มีธุระแถวนี้...คืนนี้พี่ค้างที่นี่ได้มั้ย?”




แม้ว่าปกติภรัณยูจะนอนค้างที่นี่แทบทุกครั้งที่มาสอน แต่นั่นเป็นเพราะทินกรพันแข้งพันขาไม่ยอมให้เขากลับจนชายหนุ่มใจอ่อน เมื่อร่างโปร่งออกปากเองแบบนี้ เด็กหนุ่มเจ้าของบ้านทำตาโตอย่างไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน




“ครับ!ได้เลยครับ!พี่ภัทรอยากค้างกี่คืนก็ได้ครับ!”




ประกายสดใสกลับมาในแววตาของร่างสูงอีกครั้ง  ภรัณยูอมยิ้ม บางทีเขาก็รู้สึกว่าทินกรเป็นเด็กที่ให้อภัยง่ายจนน่าเป็นห่วง




แต่ก็...ทำให้คนที่ขอโทษออกมาตรงๆไม่เป็นอย่างเขาทำอะไรง่ายขึ้นล่ะนะ




เมื่อหมดห่วงเรื่องทินกร ความคิดของชายหนุ่มก็วนกลับไปที่คนรักเก่าที่โผล่มาที่บริษัทในสภาพเมาแอ๋และขอพบเขาแบบนั้น




ผู้ชายคนนั้น...กลับมาทำไมกัน?



--------

เอามาไถ่โทษความสั้นของเมฆหมอก :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 16 100% P.11 คห 320 (5/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-06-2018 10:30:33
แฟนเก่าภัทรกลับมาหรอ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 16 100% P.11 คห 320 (5/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 05-06-2018 11:20:15
รำคานมธุวัน ทำไมต้องมาวุ่นวายกับทั้ง2คู่เลย
สงสารน้องมีน คุณเชษฐ์ท่าจะไม่จริงใจ ก็ปล่อยน้องมีนไปเหอะ คเชนยังดีสะกว่า
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 16 100% P.11 คห 320 (5/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 05-06-2018 12:12:46
แฟนเก่าภัทรนี่ต้องการอะไรกันแน่เนี่ย เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 16 100% P.11 คห 320 (5/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-06-2018 13:40:16
รำคานมธุวัน ทำไมต้องมาวุ่นวายกับทั้ง2คู่เลย
สงสารน้องมีน คุณเชษฐ์ท่าจะไม่จริงใจ ก็ปล่อยน้องมีนไปเหอะ คเชนยังดีสะกว่า
อย่ารำคาญหมอกเลย ทั้งซันกับคุณเชษฐ์เป็นน้องชายและพ่อของเมฆแฟนหมอก มันก็ต้องดูแลกันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนพ่อถนัดเรื่องเจ้าชู้กับหนีงานประจำ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 16 100% P.11 คห 320 (5/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-06-2018 17:59:45
แฟนเก่าก็กลับมา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 16 100% P.11 คห 320 (5/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 05-06-2018 20:44:33
อยู่ๆแฟนเก่าก็โผล่มาซะงั้น ซันพูดให้เคลียร์นะว่าอยากสร้างครอบครัวกับใครยังไง ภัทรคิดไปไกลแล้ว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 16 100% P.11 คห 320 (5/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 06-06-2018 07:43:57
พี่ภัทรรีบเคลียร์ตัวเองกับแฟนเก่าด่วนๆ เลย น้องซันมารู้ทีหลังคงจบแบบไม่สวยแน่
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 16 100% P.11 คห 320 (5/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 06-06-2018 22:14:01
สนุกมากจ้า
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 16 100% P.11 คห 320 (5/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 10-06-2018 10:37:01
คู่ที่น่าห่วงยิ่งกว่าคุณเชษฐ์กับน้องมินนี่คงไม่พ้นคู่น้องซันกับพี่ภัทร
คือชอบคิดเองเออเองทั้งคู่
แต่คนพี่หนักกว่า ฟังอะไรเห็นอะไรก็คิดไปไกล
แถมยังคิดผิดอีกตังหาก
มีอะไรคิดอะไรสงสัยอะไรทำไมไม่พูดไม่ถามน้องซันตรงๆ
แถมคนรักเก่าก็กลับมาอีก ความสัมพันธ์กับน้องซันก็คลุมเครือ
จะรอดมั้น
ยนี่คู่นี้
ทางที่ดีพี่ภัทรไม่ควรเอาสิ่งที่คนรักเก่าในอดีตมายึดติดหรือตัดสินความคิดการกระทำของน้องซันนะ
ัคือคนละคน คนละเรื่องกันมั้ยอะ
เจ็บแล้วระวังตัวระวังใจได้ แต่อย่ายึดติดกับสิ่งที่ทำให้เจ็บที่ผ่านมานะพี่ภัทร
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 16 100% P.11 คห 320 (5/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 11-06-2018 11:34:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 16 100% P.11 คห 320 (5/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 11-06-2018 23:07:44
Chapter 17: คนอ่อนโยน

ณ ร้านอาหารบรรยากาศกึ่งผับในย่านของผู้มีอันจะกินใจกลางเมืองแห่งแสงสี ธีรเชษฐ์นั่งลงที่โต๊ะประจำของเขาและเพื่อนสนิททั้งสองด้วยสีหน้าบูดบึ้ง วีนภัทร เพื่อนรุ่นน้องที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมยิ้มขำ ปัจจุบันชายหนุ่มเป็นเจ้าของโรงแรม ‘ธารา’ ที่มีสาขาอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และกำลังขยายพื้นที่ออกไปเรื่อยๆอย่างไม่คิดจะหยุดพัก



“ไปกินรังแตนที่ไหนมาวะเชษฐ์?ทำไมหน้าเป็นแบบนั้น?”



หากฟังจากคำทักทาย คงไม่มีใครคิดว่าอีกฝ่ายอายุน้อยว่าเขาถึงสองปี



“มีเวลาไหนที่หน้ามันไม่เป็นแบบนี้ด้วยเหรอ?” คเชนทร์เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ แม้แววตาภายใต้กรอบแว่นจะซ่อนรอยยิ้มไว้อย่างแนบเนียน วีรภัทรพยักหน้าเห็นด้วยอย่างว่าง่าย



“จริงด้วยครับพี่คราม”



ธีรเชษฐ์ไม่ถือสาอะไรกับการไม่เป็นหัวเขาที่เป็นรุ่นพี่ของวีรภัทร แต่เขามักจะรู้สึกขากระตุกอยากถีบชายหนุ่มรุ่นน้องทุกครั้งที่อีกฝ่ายกลับทำตัวเคารพนอบน้อมคเชนทร์ที่อายุอ่อนกว่าเขาไม่กี่เดือน



“มึงยังจะอ้อนไอ้ครามอีกเหรอวะ? มึงไม่ได้ต้องติดรถมันกลับบ้านแล้วไม่ใช่รึไง?” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว สมัยที่พวกเขาเรียนอยู่มัธยม หลังจากซ้อมบาสเก็ตบอลเสร็จ วีรภัทรมักจะเกาะคเชนทร์แจเพื่อขอติดรถกลับบ้าน จนคนชอบล้ออยู่บ่อยๆว่าเหมือนลูกลิงเกาะแม่



“ต้องดิ”



วีรภัทรชูแก้วทรงเตี้ยที่บรรจุของเหลวสีอำพันไว้ให้อีกฝ่ายดู ส่วนทางด้านคเชนทร์ นายแพทย์หนุ่มยังคงดื่มน้ำเปล่าเช่นเดียวกับทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าคเชนทร์ไม่ดื่ม แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะดื่มในโอกาสพิเศษที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คเชนทร์ไม่ได้พิศมัยรสชาติของเครื่องดื่มมึนเมาพวกนี้เท่าไหร่ และเขาก็ไม่มีอะไรให้ต้องดื่มย้อมใจเหมือนกับเพื่อนทั้งสอง



ก็ทำตัวเองทั้งนั้น



อาจารย์แพทย์ไม่อยากจะซ้ำเติมให้อาการของเพื่อนหนักไปกว่าที่เป็นอยู่



“แล้วพี่ครามไม่คิดจะมีข่าวดีบ้างเหรอครับ? ผมว่าตั้งแต่รู้จักกันมาผมไม่เคยเห็นพี่ครามมีแฟนเลยนะ”




วีรภัทรถามเมื่อนึกขึ้นได้ คนถูกถามกลอกตาอย่างเหนื่อยใจ ใช่ว่าเขาจะไม่เคยคบกับใครมาก่อน แต่ด้วยงานที่รัดตัวและตารางชีวิตที่ไม่แน่นอนทำให้ความสัมพันธ์ของเขาไม่เคยยืดยาวพอที่ชายหนุ่มจะพาใครมาแนะนำให้เพื่อนทั้งสองรู้จัก


“ใครจะเอามัน ดุอย่างกับหมา” ธีรเชษฐ์แทรกขึ้นอย่างไม่ได้ดูตัวเอง คเชนทร์แค่นเสียงในลำคอ



“หึ หมาบ้าอย่างมึงยังมีคนทนได้เลยนี่” ดวงตาสีควันบุหรี่หรี่ลงอย่างไม่พอใจ คเชนทร์ที่รู้ว่าจี้ใจดำเพื่อนเข้ายอมล่าถอย
ด้วยไม่อยากให้อีกฝ่ายโกรธขึ้นมาจริงๆ “แค่ตามล้างตามเช็ดให้พวกมึงกูก็ไม่มีเวลาไปเจอใครแล้ว”



“โห…ทำไมพวกผมฟังดูเลวขึ้นมาเลยอ่ะ” วีรภัทรเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ ไม่ได้สำนึกถึงความผิดที่ก่อ



“เออ อย่างน้อยมึงก็ยังไม่พรากผู้เยาว์ล่ะวะ” คเชนทร์ปรายตามองคนมีชนักติดหลังที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่วีรภัทรกลับรู้ทันทีว่าคเชนทร์กำลังด่าอีกฝ่าย



“คนบรรลุนิติภาวะเสร็จมึงหมดแล้วเหรอวะถึงได้ข้ามรุ่นไปไกลแบบนั้น?”



“ทำอย่างกับมึงไม่มีนักศึกษาในคลาสซุกไว้” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว เล่นเอาคนโดนกล่าวหาส่ายหน้าพรืด



“ไม่มีว้อย!!”



“ให้มันจริงเถอะ” คเชนทร์บ่นอุบ แค่ปัญหาของธีรเชษฐ์กับลูกศิษย์ของเขาก็วุ่นวายอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงการยื่นมือไปช่วย
อาจารย์พิเศษภาคภาษาอังกฤษอย่างวีรภัทรข้ามคณะเลย “แล้วที่คอนโดเป็นยังไงบ้าง?”



“ยังไม่ตาย” แม้จะปากคอเราะร้าย แต่คเชนทร์ก็รู้ได้จากน้ำเสียงของธีรเชษฐ์ว่าเด็กหนุ่มยังคงมีความเป็นอยู่ที่ดี



“ปากแบบนี้ระวังเด็กหนีไปซบอกป๋าคนอื่นนะ” วีรภัทรแซว ทั้งที่ปกติธีรเชษฐ์ไม่เคยสนใจว่าใครจะเดินจากไป แต่เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ชายหนุ่มกลับแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ออกมาอย่างชัดเจนเสียจนคนแกล้งประหลาดใจ



“กล้าก็ลองดู”



“เชษฐ์ ถามจริงๆเถอะ จะทำตัวเย็นชากับเด็กคนนั้นไปทำไม? แค่นี้เขาก็กลัวมึงจนตัวสั่นแล้ว” คเชนทร์ถามเพื่อนอย่างเหลืออดธีรเชษฐ์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่มั่นใจในความคิดของตัวเองเท่าไหร่เช่นกัน



“กูไม่จำเป็นต้องทำตัวดีให้เด็กนั่นชอบ”



“แต่มึงก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวให้เด็กเกลียดเหมือนกัน” คเชนทร์สวน ซึ่งได้คำตอบเป็นเพียงความเงียบจากเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยม อาจารย์หมอถอนหายใจ ก่อนจะหันไปหาชายหนุ่มรุ่นน้องที่นั่งเอ๋อเหมือนไม่รู้จะพูดอะไรในสถานการณ์นี้ด้วยสีหน้าติดรำคาญ “มีอะไรจะช่วยมันมั้ย? เก่งไม่ใช่เหรอ?”




“อ่า…” วีรภัทรที่จู่ๆก็กลายเป็นกรรมการห้ามมวยจำเป็นระหว่างเพื่อนทั้งสองถึงกับเหงื่อตก ก่อนจะตัดสินใจว่าเขามีสิทธิ์รอดชีวิตมากกว่าหากไม่ขัดแข้งขัดขาคเชนทร์ “เชษฐ์ กูว่าบางทีทำตัวน่าคบหาบางทีมันก็ไม่เสียหายป่ะวะ เด็กคนอื่นของมึงมึงยังสปอยล์เลย ถ้าเด็กคนนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ทำไมต้องทำกับเขาต่างไปจากคนอื่นล่ะ?”




ธีรเชษฐ์นิ่งไป ราวกับกำลังไตร่ตรองคำพูดของเพื่อน



“มึงชอบเชื่องๆไม่ใช่เหรอ แค่ทำตัวอ่อนโยนใจดีซักสองสามวัน ดีไม่ดีเด็กเขาจะอ้าขารอ...โอ๊ย! พี่ครามตีผมทำไมอ่ะ” คนพยายามช่วยร้องโอดโอยเมื่อโดนสันมือของเพื่อนรุ่นพี่ คเชนทร์ไม่ตอบ เพียงแค่เหลือบมองธีรเชษฐ์ด้วยหางตา ร่างสูงยกมืออย่างยอมแพ้ ด้วยรู้ว่าหากเขาไม่ทำตาม คงได้โดนเพื่อนสนิทตามมาแหกอกถึงคอนโดเป็นแน่



 และอีกเหตุผลที่ธีรเชษฐ์ไม่คิดจะยอมรับออกมาตรงๆ คือความรู้สึกที่ว่าหากรอยยิ้มของร่างเล็กอยู่บนใบหน้าขาวได้นานกว่านี้ ห้องของพวกเขาคงจะสว่างขึ้นไม่น้อย



ห้องของพวกเขา...งั้นเหรอ?



ธีรเชษฐ์สลัดความคิดประหลาดที่โผล่ขึ้นมาจากจิตใต้สำนึกออกไป ยกเครื่องดื่มในมือขึ้นกระดกเข้าคอรวดเดียวหมดเพื่อดับความคิดฟุ้งซ่านพวกนั้น



ลองดู...ก็คงไม่ใช่เรื่องเสียหายเท่าไหร่หรอกมั้ง?










มีนาไม่มั่นใจว่าธีรเชษฐ์พาเขามาที่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่แถวคอนโดของร่างสูงทำไม




นอกจากร้านอาหาร ธีรเชษฐ์ไม่เคยพาเขาออกไปไหนมาไหนข้างนอกโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้มาก่อน มีนาจึงรู้สึกแตกตื่นเป็นพิเศษกับความพลุกพล่านที่ตนไม่ได้เตรียมใจจะเผชิญ และตัดสินใจเกาะติดชายหนุ่มอายุมากกว่าไว้ราวกับอีกฝ่ายเป็นห่วงยางในทะเล




“เป็นอะไร?”




ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วก้มมองร่างเล็กที่เกาะเขาแจเหมือนลูกสุนัขตื่นฝูงชน มีนาส่ายหน้า รีบปล่อยมือจากชายเสื้อของชายหนุ่มร่างสูงด้วยกลัวว่าจะโดนดุ แต่นั่นกลับยิ่งทำให้คิ้วเข้มขมวดเพิ่มขึ้นไปอีก




ชายหนุ่มคว้ามือเล็กมาจับไว้ ดึงให้คนตัวเล็กเดินตามก่อนมีนาจะได้ทันทักท้วงอะไร เด็กหนุ่มหน้าร้อนผ่าว พยายามก้มหน้าก้มตาไม่มองคนรอบข้างด้วยกลัวสายตาของคนภายนอกที่กำลังมองมา แม้จะมีสีหน้าไม่สบอารมณ์ แต่ธีรเชษฐ์ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรกับท่าทีนั้นของอีกฝ่าย จนกระทั่งขายาวๆนั้นพามีนามาหยุดลงที่ร้านร้านหนึ่ง




“เงยหน้าขึ้นสิ แบบนี้จะเลือกของได้ยังไง?”




เลือกของ?




มีนาเงยหน้าขึ้นตามคำสั่งอย่างงุนงง ร้านที่พวกเขายืนอยู่ข้างหน้าคือร้านขายเสื้อผ้าวัยรุ่นตามสมัยนิยมชื่อดังที่แม้จะไม่ได้มีราคาแพงโขกสับหูฉี่ แต่ก็ไม่ได้อยู่ในช่วงราคาที่มีนาจะเดินเข้าไปจับจ่ายใช้สอย




“คุณเชษฐ์...ให้ผมมาทำอะไรเหรอครับ?” ร่างเล็กถามเสียงเบาอย่างไม่เข้าใจ




“ซื้อชุด ชอบแบบไหนก็หยิบมา เดี๋ยวฉันจ่ายให้”




แม้จะบอกตัวเองให้ลดระดับความแข็งกระด้างของน้ำเสียงลง แต่การกระทำมันไม่ได้ง่ายเท่าความคิด มีนาชะเง้อหน้ามองเข้าไปในร้านด้วยแววตาแตกตื่น ก่อนจะรีบส่ายหน้า




“มะ…ไม่ไหวหรอกครับ ของแพงขนาดนี้...”




“ฉันบอกว่าจะจ่ายให้ ไม่ได้บวกหนี้เพิ่มให้เธอหรอกน่า” ร่างสูงว่าอย่างหงุดหงิด แค่เขาอยากจะทำดีด้วยมันทำใจให้เชื่อยากขนาดนั้นเลยรึไง?




“ถึงอย่างนั้นก็เถอะครับ...เสื้อผ้าที่คุณเชษฐ์ซื้อให้ผมยังใช้ได้อยู่เลยนี่ครับ...” มีนาแย้งอย่างกล้าๆกลัวๆ ธีรเชษฐ์สูดหายใจเข้าลึกๆ




ได้...ทำตัวดีๆด้วยแล้วเล่นตัวนักใช่มั้ย?




“แปลว่าเธอชอบชุดที่ฉันซื้อให้งั้นเหรอ?”




“เอ๊ะ?” มีนาเอียงคออย่างไม่ค่อยเข้าใจคำถาม ธีรเชษฐ์ก้าวเข้ามาใกล้ ส่งผลให้ร่างเล็กถอยหลังหนีอย่างตกใจ ใบหน้าคมโน้มลงมาพร้อมรอยยิ้มมุมปาก แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า




“เสื้อผ้าสั้นๆ โชว์นู่นโชว์นี่ยั่วฉันทุกวัน...ชอบแบบนั้นใช่มั้ย?”




“ปะ…เปล่านะครับ! ก็...ก็ผมไม่มีชุดอื่นใส่นี่ครับ...” มีนารีบเอ่ยแก้ตัวด้วยไปหน้าแดงก่ำ แต่นั่นดูเหมือนจะเข้าทางคนขี้แกล้งเข้าอย่างจัง เพราะธีรเชษฐ์ยิ่งขยับเข้ามาใกล้ด้วยรอยยิ้มของหมาป่าเจ้าเล่ห์ ไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองกำลังอยู่ในที่สาธารณะ




“ฉันให้โอกาสเธอมาเลือกชุดเองแล้วไง แต่ถ้าเธอชอบชุดที่ฉันเลือกให้อยู่แล้วฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ”



“ครับๆ เลือกครับ” มีนารีบเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน มุดตัวลอดใต้วงแขนที่กักขังตัวเองไว้กับผนังแล้วผลุบหายเข้าไปในตัวร้านทันที ธีรเชษฐ์มองตามร่างเล็กไปด้วยแววตายิ้มๆ หัวเราะในลำคอกับท่าทีของอีกฝ่ายเมื่อครู่ก่อนจะเดินตามเข้าไปในร้าน




ใครใช้ให้เด็กนี่น่าแกล้งขนาดนี้กันล่ะ?










“คุณเชษฐ์ครับ...ผมใส่ชุดพวกนี้ได้จริงๆเหรอครับ?”





มีนาที่ถูกดึงมือไปเกาะกุมไว้อีกครั้งหลังจากเดินออกมาจากร้านเสื้อผ้าถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจ เสื้อผ้าที่เขาเลือกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเสื้อแขนยาวกางเกงขายาว ถึงแม้จะไม่มีเรื่องความสั้นของชุดที่ธีรเชษฐ์ซื้อให้ก่อนหน้านี้เข้ามาเกี่ยว แต่ห้องของร่างสูงที่เปิดแอร์อุณหภูมิเย็นเฉียบอยู่ตลอดเวลาจนมีนารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะกลายร่างเป็นเพนกวินขั้วโลกเข้าไปทุกวัน เสื้อแขนยาวขายาวจึงดึงดูดใจมีนาเป็นพิเศษในวันนี้




“ไม่อยากใส่อะไรเลยก็ได้นะ”




คำตอบแกมหยอกล้อของคนที่ปกติมักจะชอบทำเสียงและหน้าดุๆใส่เขาทำให้มีนารู้สึกสับสนระคนเขินอาย เขาไม่อยากให้คุณเชษฐ์เป็นแบบนี้ แค่ตอนที่อีกฝ่ายทำเหมือนรำคาญเขาอยู่ตลอดเวลา มีนาก็จัดการกับความรู้สึกของตัวเองยากมากอยู่แล้ว แต่ชายหนุ่มที่เป็นแบบนี้ยิ่งทำให้มีนาหวั่นไหวมากขึ้นไปอีก




นอกเหนือจากเสื้อผ้า ธีรเชษฐ์ยังพาร่างเล็กไปร้านเฟอร์นิเจอร์ขนาดยักษ์ที่กินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของห้าง มีนาพบว่าตัวเองถูกอีกฝ่ายถามความเห็นกับเฟอร์นิเจอร์แทบทุกชิ้นที่ชายหนุ่มตั้งใจจะซื้อไปตกแต่งห้อง แม้จะไม่รู้เรื่องอะไรด้านการตกแต่งมากนัก แต่มีนาก็พยายามเลือกสิ่งที่คิดว่าเข้าได้กับห้องของธีรเชษฐ์มากที่สุด ส่วนตัวเจ้าของห้องนั้นเพียงแต่พยักหน้าตามความเห็นเขา แล้วหันไปสั่งสินค้าจากพนักงานโดยไม่ออกความเห็นส่วนตัวแม้แต่ครั้งเดียว




“คุณเชษฐ์ครับ ทำไมถึงพาผมมาเลือกของด้วยล่ะครับ?” มีนาถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ คนถูกถามไหวไหล่ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ





“เธออยู่ห้องบ่อยกว่าฉัน จะมีสิทธิ์เลือกของเข้าห้องก็ไม่เห็นแปลก”




คำตอบง่ายๆแต่กลับทำให้มีนาหน้าร้อนเห่ออย่างควบคุมไม่ได้ เด็กหนุ่มได้แต่บอกตัวเองว่าประโยคเมื่อครู่ไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งใดๆแอบแฝงอยู่ เป็นเพียงสมองไม่รักดีของเขาเท่านั้นที่ตีความหมายผิดเพี้ยนไปจากเดิม





“ไปหาอะไรกินกัน”




คำพูดของธีรเชษฐ์ทำให้มีนาเริ่มตระหนักว่าท้องของตัวเองกำลังส่งเสียงประท้วง ดูท่าเขาจะเผลอปล่อยให้ตัวเองเคยชินกับการมีอาหารให้ทานสามมื้อเข้าแล้วจริงๆ ร่างกายถึงไม่ยอมให้เขาอดทนได้มากเท่าแต่ก่อน




“ครับ”




“อยากกินอะไร?”




“เอ๊ะ? ผมเหรอครับ?” มีนาเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงอย่างประหลาดใจเป็นครั้งที่สองของวัน ทำไมจู่ๆธีรเชษฐ์ถึงได้อยากให้เขาตัดสินใจเรื่องพวกนี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น?




“เลือกสิ วันนี้ฉันตามใจเธอ” รอมยิ้มอบอุ่นที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนปรากฏบนริมฝีปากได้รูปเพียงเสี้ยวินาทีก่อนจะอันตรธานหายไป แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นผิดจังหวะ




“เอ่อ...ผม ผมไม่รู้...”




“ไม่รู้ก็เลือกร้านที่เธออยากเข้าสิ...” ธีรเชษฐ์ก้มลงมาพูดกับเขาอีกครั้ง ระยะห่างที่ใกล้เกินไปแบบนี้ทำให้สมองของมีนารู้สึกขาดออกซิเจนจนคิดอะไรไม่ออก “...แล้วถ้าเลือกเพราะคิดว่าร้านนั้นถูกที่สุด...ฉันจะลากเธอไปภัตรคารห้าดาว เข้าใจมั้ย?”




“คะ…ครับ...”




มีนาจำใจต้องคิดอย่างจริงจังถึงตัวเลือกทั้งหลายที่อยู่รอบตัวของพวกเขา เด็กหนุ่มไม่เคยมีโอกาสได้เข้ามาทานอาหารในที่แบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงโอกาสที่จะได้เลือกร้านเองอย่างอิสระ ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆด้วยความวิตก เขาไม่อยากให้ร้านที่เขาเลือกไม่ถูกปากคุณเชษฐ์หรอกนะ




“เอ่อ..ร้านนั้นก็ได้ครับ” มีนาชี้ไปยังร้านพิซซ่าร้านหนึ่งที่เขาจำได้ว่าตอนเลี้ยงสายรหัสพี่ๆเคยซื้อมาให้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ชอบอาหารชนิดนี้เป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ได้เกลียดอะไร




อีกอย่าง เขาจำได้ว่าธีรเชษฐ์มักจะพาเขาไปทานอาหารที่ภัตรคารอีตาเลียนเสมอ ทำให้เขาใช้การอนุมานเอาว่าอาหารอิตาลีอย่างพิซซ่าจะถูกปากชายหนุ่ม





พนักงานเสิร์ฟพาพวกเขามานั่งที่โต๊ะริมหน้าต่าง ภายในร้านไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่นักทำให้บรรยากาศรอบตัวพวกเขาค่อนข้างเงียบสงบพวกสมควร เป็นอีกครั้งที่ธีรเชษฐ์ปล่อยให้มีนาสั่งอาหารด้วยตัวเอง ร่างเล็กที่ไม่รู้จะสั่งอะไรเลยทำได้เพียงพยักหน้าตามเมนูแนะนำของทางร้าน ได้แต่หวังว่าร่างสูงที่ทานแต่ของดีหรูหราในภัตรคารราคาแพงจะสามารถทานอะไรก็ตามที่มีนาเพิ่งสั่งไปได้




ร่างเล็กลอบมองคนที่นั่งเท้าคางกับโต๊ะเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ความรู้สึกผิดที่จุดอยู่ในอกตั้งแต่วันที่คเชนทร์มาทานอาหารเย็นยิ่งทำให้เขารู้สึกเข้าหน้าอีกฝ่ายไม่ติด





“มีน…เริ่มชอบไอ้เชษฐ์มันแล้วรึเปล่า?”





คำถามของอาจารย์ที่ปรึกษายังคงตามหลอกหลอนมีนา เขาไม่อยากยอมรับความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อธีรเชษฐ์ แต่นับวัน การเพิกเฉยต่อหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำอยู่ในอกยิ่งทำได้ยากขึ้นทุกที มีนานึกโกรธตัวเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ทั้งที่คุณเชษฐ์เมตตาเขามากขนาดนี้ ทุกสิ่งที่ร่างสูงให้มากกว่าที่ในช่วงชชีวิตนี้มีนาจะกล้านึกฝัน ทั้งที่เป็นอย่างนั้น ทำไมเขาถึงได้เป็นคนโลภไม่รู้จักพอแบบนี้ไปได้





ทำไมเขาถึงยังอยากให้อีกฝ่ายมองเขาด้วยแววตาเอ็นดู ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับเขาเหมือนยามที่พูดคุยกับเลขา




ทำไมเขาถึงเป็นเด็กไม่ดีแบบนี้...




“หน้าฉันมีอะไรติดอยู่เหรอ?” ธีรเชษฐ์ที่หันกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เลิกคิ้วถามเมื่อเห็นดวงตากลมโตที่จ้องตัวเองตาไม่กระพริบ มีนาที่เพิ่งรู้สึกตัวรีบส่ายหน้า




“…เปล่าครับ”




“นี่…อยู่กับฉันมันไม่มีความสุขขนาดนั้นเลยเหรอ?”




คำถามที่ไม่มีที่มาที่ไปจากปากของร่างสูงทำให้มีนาทำสีหน้างุนงง




“ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะครับ?”




“ถ้าไม่ได้ไม่มีความสุขอะไรก็ยิ้มบ้างสิ” ไม่ว่าเปล่า มือใหญ่เอื้อมมาหาใบหน้าของมีนา จิ้มที่มุมปากของร่างเล็กเบาๆให้หยักขึ้นเล็กน้อย สัมผัสที่ได้รับอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้มีนาร้อนวูบไปทั้งหัว “ยิ้มแล้วก็น่ารักดีนี่”




มีนาไม่รู้ว่าจะโต้ตอบอย่างไรกับคำพูดนั้น โชคดีของเด็กหนุ่มที่พนักงานเสิร์ฟสาวนำอาหารที่สั่งมาวางที่โต๊ะอย่างประจวบเหมาะพอดีเวลา ทำให้มีนาใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการขยับหนีจากมือของธีรเชษฐ์




“เซทคู่รักอิ่มคุ้ม หน้าฮาวายเอี้ยนมาแล้วค่ะ”




เซท...อะไรนะ?



มีนาเหลือบมองเมนูโปรโมชั่นที่บริกรคนก่อนแนะนำ เด็กหนุ่มเพิ่งสังเกตเป็นครั้งแรกว่ามันเป็นโปรโมชั่นสำหรับคู่รักที่ประกอบไปด้วยพิซซ่ารูปหัวใจ แก้วใส่น้ำอัดลมขนาดใหญ่ที่มีหลอดรูปหัวใจสีชมพูสองแฉกเสียบอยู่ และปีกไก่ย่างหกชิ้นที่ยังอุตส่าห์วางเป็นคู่สามคู่ให้เข้ากับโปรโมชั่น เรียกได้ว่าถ้าไม่มีคนมาทานด้วยคงจะถูกโต๊ะข้างๆมองแปลกๆเป็นแน่





เขารู้แล้วว่ารอยยิ้มขบขันของธีรเชษฐ์ก่อนหน้านี้มีสาเหตุมากจากอะไร




“คุณเชษฐ์...ทำไมไม่เตือนผมล่ะครับ?”




“เตือน?” คนอายุมากกว่าเลิกคิ้ว




“ก็…มันเป็นโปรโมชั่นคู่รัก...” มีนาก้มหน้างุด พึมพำในลำคอทั้งที่ไม่รู้ว่าตนจะรู้สึกเขินอายกับเรื่องแค่นี้ทำไม




“แล้ว?” คนขี้แกล้งแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจความหมายที่เด็กหนุ่มต้องการจะสื่อ มีนายังคงก้มหน้างุด เลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อให้ตัวเองตกเป็นเป้าให้อีกฝ่ายกลั่นแกล้ง “ว่ายังไงมีนา...”




“เรา…ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้นนี่ครับ”




มีนาตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขาไม่รู้ว่าที่น้ำเสียงของเขาเป็นแบบนั้นเพราะกลัวว่าจะคำตอบที่ตนให้จะไม่เป็นที่พอใจของอีกฝ่าย หรือเพราะคำพูดนั้นทำให้เขาระลึกถึงสถานะของตัวเองในตอนนี้ได้กันแน่




“คิดมาก”




มือใหญ่ขยี้ผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่มเบาๆอย่างเอ็นดู แต่ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น




ไม่มีคำตอบรับ แต่ก็ไม่มีคำปฏิเสธ....




มีนาปัดความหวังที่วาบขึ้นมาในหัวอย่างไม่รู้กาละเทศะทิ้งไปแทบจะในทันที ไม่ยอมให้ความคิดเกินตัวแบบนั้นได้มีพื้นที่เติบโตในจิตสำนึกของตน





มื้ออาหารของพวกเขาดำเนินต่อไปด้วยความเงียบ ทั้งที่ตามปกติแล้วมีนาไม่ใช่คนที่รู้สึกอึดอัดกับความเงียบรอบกาย แต่ครั้งนี้เด็กหนุ่มกลับเลือกที่จะเป็นคนเริ่มบทสนทนาขึ้นมาอีกครั้งอย่างกล้าๆกลัวๆ





“ทำไมคุณเชษฐ์ถึงชอบทานอาหารอิตาลีเหรอครับ?”




เขาอยากรู้เรื่องของคนตรงหน้าให้มากขึ้น...ถึงแม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยอย่างของที่ชอบหรือของที่เกลียดก็ตาม





“ภรรยาของฉันเกิดที่อิตาลี อาหารที่เขาทำเป็นเลยมีแค่ของพวกนี้...” ธีรเชษฐ์ก้มมองจานอาหารตรงหน้าของเขาด้วยรอยยิ้มจางที่ผุดขึ้นมาโดยที่ชายหนุ่มไม่รู้ตัว “เวลากินเลยรู้สึกเหมือนมีเขาอยู่ข้างๆล่ะมั้ง”




เมื่อคำถามที่ไม่ได้หวังคำตอบจริงจังอะไรถูกตอบด้วยความจริงอันแสนหนักอึ้ง มีนารู้สึกถึงก้อนบางอย่างที่ถ่วงอยู่ในอก ทั้งที่รู้ว่าไม่ควร แต่รอยยิ้มที่ธีรเชษฐ์มีให้ภรรยาผู้ล่วงลับทำให้เขาอดรู้สึกอิจฉาหญิงสาวที่เป็นเจ้าของหัวใจของคนตรงหน้าขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 16 100% P.11 คห 320 (5/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 11-06-2018 23:08:12












“ไปไหนต่อ?”




ธีรเชษฐ์ก้มถามร่างเล็กที่ดูเหม่อลอยมาตั้งแต่ตอนที่อยู่ในร้านอาหาร มีนาสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก




“เอ่อ...คุณเชษฐ์ว่ายังไงนะครับ?”




“ฉันถามว่าอยากไปไหนต่อ”




ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้ว เขาถามแค่นี้ทำไมต้องทำท่าตกอกตกใจอะไรขนาดนั้นด้วย




แต่หลังจากที่ได้ยินคำถามอย่างชัดเจน สีหน้าของมีนาก็ไม่ได้ดีขึ้นมากนัก ริมฝีปากอิ่มขยับอ้าแล้วหุบอยู่สองสามสามครั้งก่อนจะเม้มแน่นเป็นเส้นตรง เหมือนจะไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามของชายหนุ่มอย่างไร




ทำไมแค่เอาใจเด็กคนเดียวมันถึงยากขนาดนี้...



ธีรเชษฐ์ลูบใบหน้าของตนอย่างหงุดหงิด ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นป้ายโฆษณาภาพยนตร์เข้าใหม่ที่แปะอยู่หน้าโรงภาพยนตร์




“ไปดูหนังกันมั้ย?”




“ดู…หนัง? อ๊ะ!” มีนาทวนคำอย่างงุนงง แต่ก่อนจะได้ตอบรับหรือปฏิเสธข้อมือเล็กก็ถูกคนอายุมากกว่าลากไปยังทิศทางที่
ตั้งของโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่นั้นเสียแล้ว




“อยากดูเรื่องอะไร?”



เป็นอีกครั้งที่ธีรเชษฐ์หันไปถามความเห็นคนข้างๆ และเป็นอีกครั้งที่มีนายืนใบ้รับประทานอย่างไม่รู้ว่าควรจะตอบว่าอย่างไร แต่คราวนี้ร่างสูงไม่คิดจะปล่อยให้กระต่ายน้อยของตนหลุดจากการตอบคำถามไปง่ายนัก




“มีนา...พูดกับฉัน”




เด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อร่างสูงย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับตน ท่าทีเก้ๆกังๆของชายหนุ่มตัวใหญ่ยักษ์นั้นทำให้คนที่เดินผ่านไปมาแอบเหลือบมองอย่างขบขัน แต่เด็กหนุ่มตัวเล็กนั้นยังคงนิ่งอึ้งเกินกว่าจะประมวลผลถึงความน่าขันในท่าทางของคนตรงหน้า




“คือ...ผม...ผมไม่เคย...”




“ไม่เคย? ไม่เคยมาดูหนังเลย?” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ แม้ว่ามีนาจะรู้ว่าคนตรงหน้าเพียงแค่ถามโดยไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไร แต่ดวงหน้าขาวยังคงร้อนเห่อด้วยความอับอาย ชายหนุ่มเห็นว่าร่างเล็กมีท่าทีอึดอัด จึงรีบดึงความสนใจของมีนาไปจากบทสนทนาก่อนหน้า “ถ้าอย่างนั้นลองดูที่โปสเตอร์สิ คิดว่าอันไหนน่าสนใจ?”




เด็กหนุ่มหันไปทางโปสเตอร์ภาพยนตร์ที่เรียงรายบนผนัง ก่อนจะตัดสินใจชี้ไปที่โปสเตอร์รูปการ์ตูนสีสันสดใส เขาได้ยินเสียงชายหนุ่มหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ธีรเชษฐ์คว้ามือของเขาไว้อีกครั้ง แล้วดึงให้เด็กหนุ่มออกเดินไปยังตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ
ด้วยรอยยิ้มมุมปากที่ทำให้มีนารู้สึกขัดเขินขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ











ธีรเชษฐ์เหลือบมองร่างเล็กที่ซุกตัวอยู่ข้างเขา ชายหนุ่มจองที่นั่งแบบโซฟาคู่ขนาดใหญ่ที่แทบจะเรียกได้ว่าเลื้อยลงไปนอนได้ แน่นอนว่าที่นั่งที่แพงที่สุดนี้มาพร้อมกับผ้าห่มผืนหนาและบริการเสิร์ฟน้ำและขนมจากทางโรงภาพยนตร์ เขาคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้มีนารู้สึกผ่อนคลายในสภาพแวดล้อมร่างเล็กไม่เคยพบเจอ แต่กระต่ายน้อยของเขากลับขดตัวเป็นก้อนกลมใต้ผ้าห่มโดยมีเพียงส่วนเหนือคางขึ้นไปที่โผล่ออกมาจากผ้าผืนหนา แถมยังซุกกายแนบชิดเขาเสียจนธีรเชษฐ์รู้สึกถึงอุณหภูมิร่างกายของอีกฝ่าย




ใช่ว่าเขาจะไม่ชอบ...เขาเพียงแต่สงสัยเท่านั้น




“เป็นอะไร?” ชายหนุ่มก้มลงกระซิบถาม ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นเด็กหนุ่มส่ายหน้า “แล้วที่เกาะฉันอยู่นี่คือจะยั่วฉันเฉยๆ?”




“ปะ..เปล่าครับ!” มีนากระซิบตอบเสียงแตกตื่นกับคำกล่าวหา เขยิบออกห่างจากธีรเชษฐ์เล็กน้อย




“แล้วเป็นอะไร?” ร่างสูงถามย้ำ มีนากัดริมฝีปาก แม้ในแสงไฟสลัวธีรเชษฐ์ยังคงพบว่าริมฝีปากอิ่มรูปกระจับนั้นยังคงน่า
บดขยี้ให้บวมเจ่อและแดงก่ำไม่ว่าจะมองจากมุมใด




“มัน…มืด...หนาว...”




เขาไม่คิดมาก่อนว่ามีนาจะไม่ชอบความมืด แต่เรื่องขี้หนาวนี้ชายหนุ่มพอจะเดาได้อยู่บ้างจากการอยู่ด้วยกันทุกวัน ธีรเชษฐ์เป็นคนขี้ร้อนอย่างหาตัวจับยาก เรียกได้ว่าต่อให้แก้ผ้านอนก็ยังไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าห่ม แต่สำหรับมีนานั้น นอกจากจะม้วนเอาผ้าห่มไปจากเขาทั้งหมดตอนกลางดึกแล้ว บางคืนที่หนาวเป็นพิเศษ เด็กหนุ่มยังเผลอขยับเข้ามาแนบชิดร่างเขาโดยไม่รู้ตัวอยู่บ่อยครั้ง




เขาจะไม่ยอมรับหรอกนะว่านั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาจงใจเปิดเครื่องปรับอากาศอุณหภูมิต่ำกว่าปกติแทบทุกคืน




แขนใหญ่ยกขึ้นโอบรอบไหล่เล็กผ่านผ้าห่ม กอดอีกฝ่ายไว้หลวมๆด้วยแขนข้างเดียว




“อุ่นขึ้นมั้ย?”




มีนาเพียงแต่พยักหน้าหงึกหงัก ปฏิเสธที่จะสบตาเครื่องทำความร้อนขนาดยักษ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ถึงอย่างนั้นสีหน้าขัดเขินใต้แสงไฟสลัวก็ไม่อาจเล็ดรอดสายตาธีรเชษฐ์ไปได้




เขาจะถือว่าวันนี้เขาประสบความสำเร็จตามเป้าหมายก็แล้วกัน








มีนากัดกระพุ้งแก้มของตัวเองอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้หลุดยิ้มออกมา อุณหภูมิร่างกายที่ถ่ายทอดผ่านมืออุ่นของธีรเชษฐ์ขณะที่พวกเขาออกมาจากโรงภาพยนตร์ส่งกระแสไฟฟ้าแล่นไปถึงหัวใจของเด็กหนุ่ม




มีความสุขจัง...




จู่ๆความคิดนั้นก็แล่นเข้ามาในหัวของมีนา เด็กหนุ่มเมินเสียงหัวใจที่เต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งในอก พยายามกล่อมตัวเองไม่ให้คิดไปไกล




“อ้าว มีน...อุ๊ย!”




เลือดในกายของเด็กหนุ่มเย็นเฉียบทันทีได้ยินเสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเรียกชื่อของตน มีนารีบดึงมือออกจากการเกาะกุมของร่างสูงข้างกาย ภาวนาให้ตนหูฝาดไป แต่ภาพของเด็กสาวกลุ่มหนึ่งที่เรียนคณะเดียวกับเขาซึ่งกำลังเบิกตากว้างมองร่างเล็กกับธีรเชษฐ์สลับกันไปมานั้นยากจะจินตนาการให้เป็นภาพหลอนได้





เด็กสาวทั้งหลายที่เห็นเขาก็ทำตัวไม่ถูกไม่แพ้กัน เพียงแค่โบกมือให้เขาอย่างเงอะงะ ก้มศีรษะให้ธีรเชษฐ์แล้วรีบดึงกันให้เดินต่อไป




“ขะ..ขอโทษครับ”




มีนาพึมพำ ลอบชำเลืองมองคนข้างๆจากหางตา เขาไม่รู้ว่าตัวเองขอโทษที่ดึงมือออกมา หรือเพราะว่าไม่ทันระวังตัวจนถูกคนรู้จักเห็นเข้า




“…ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่”




ร่างสูงตอบเสียงเรียบ ขยับก้าวต่อไปยังทางออกของห้าง คนขาสั้นรีบเดินตามด้วยกลัวโดนอีกฝ่ายทิ้ง มีนาเริ่มกังวลมากขึ้นเรื่อยๆว่าอีกฝ่ายจะไม่พอใจกับท่าทีของตนเมื่อครู่ แต่เมื่อชายหนุ่มผ่อนฝีเท้าลงและยื่นมือให้เขาเมื่อมาถึงลานจอดรถที่ไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่นัก มีนาก็หลุดยิ้มออกมาอย่างโล่งอกแล้วจับมือคนปากหนักไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ




 ฝ่ายธีรเชษฐ์ แม้จะเข้าใจเหตุผลในการกระทำของมีนา หนำซ้ำยังเป็นคนสั่งเองด้วยว่าไม่ให้แพร่งพรายเรื่องของพวกเขา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ท่าทีของเด็กหนุ่มเมื่อครู่น่าหงุดหงิดน้อยลงเลย




เขาไม่ได้โกรธ...




แต่เมื่อตระหนักได้ว่าอารมณ์ของตัวเองเมื่อครู่ใกล้เคียงกับคำว่า’งอน’มากกว่าแล้ว ชายหนุ่มวัยสี่สิบกว่าจึงเลือกที่จะลืมเรื่องเมื่อครู่ไปก่อนที่ตัวเองจะรู้สึกอับอายไปมากกว่าที่เป็นอยู่




เมื่อไหร่กันนะที่เด็กคนนี้เข้ามามีอิทธิพลกับความคิดของเขาขนาดนี้



----------

มีข่าวร้ายจิมาแจ้ง :hao5: :hao5:
คือตอนนี้ไรท์เรียนยุ่งมากกกกกก(ก ไก่ล้านตัว) ยุ่งแบบที่ว่าจะนอนยังไม่มีเวลา5555
จึงอยากจะขอเรียนนักอ่านที่รักว่าอาจจะหายหน้าหายตาไป(อีกแล้ว)บ้างเน้อ
แต่ละเรื่องจะพยายามมาอัพทุกสองอาทิตย์นะคะ ไม่ดองแน่นอนนนนน แต่จะได้เขียนเมื่อไหร่นี่สิ  :o12: :o12:

จึงกราบขออภัยมา ณ ที่นี้
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 17 100% P.12 คห 331-332 (11/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 11-06-2018 23:26:30
หลงเด็กแล้วละสิ อิอิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 17 100% P.12 คห 331-332 (11/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 12-06-2018 00:11:12
สู้ สู้ ค่ะไรท์
เป็นกำลังใจให้นะคะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 17 100% P.12 คห 331-332 (11/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-06-2018 02:25:12
จะมีข่าวลือในมหาลัยเรื่องมีนหรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 17 100% P.12 คห 331-332 (11/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 12-06-2018 17:43:10
มีนาสู้ ๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 17 100% P.12 คห 331-332 (11/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: W2P5 ที่ 12-06-2018 18:02:37
น้องมีนสู้ๆ   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 17 100% P.12 คห 331-332 (11/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 13-06-2018 00:50:22
สงสารมีนาอ่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 17 100% P.12 คห 331-332 (11/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-06-2018 04:37:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 17 100% P.12 คห 331-332 (11/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 13-06-2018 21:11:59
คนแก่เอาใจเด็กแบบน้องมีนไม่ถูกเท่าไรนะเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 17 100% P.12 คห 331-332 (11/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 13-06-2018 21:52:33
สงสารน้องมีน เข้าใจน้องอ่ะ ว่าไม่ได้อยู่สถานะที่จะเรียกร้องอะไรได้ แล้วน้องก็เจียมตัวตลอด :m15:
ถ้าอิคุณเชษฐ์ไม่พูด น้องก็คงไม่เข้าใจอ่ะ สงสารน้อง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 17 100% P.12 คห 331-332 (11/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 16-06-2018 14:44:05
น้องมีนน่ารักกกก แต่สงสารน้องจัง
ดีใจตอนนี้เปนตอนน้องมีนคุณเชษฐ์จริงๆ ไม่มีคนอื่นมาขัด
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 17 100% P.12 คห 331-332 (11/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Itachishang ที่ 23-06-2018 01:18:36
เมื่อไหร่นุ้งมีนจะ 18เน้อออออ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 17 100% P.12 คห 331-332 (11/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 25-06-2018 23:00:17
Chapter 18: บ้านในฝัน

ภรัณยูขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อไม่เห็นลูกชายคนสุดท้องของบ้านวิ่งกระดิกหางออกมาต้อนรับเขาเช่นทุกวัน ยิ่งไปกว่านั้นคฤหาสน์ทั้งหลังยังไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตชนิดใดอยู่ ทำเอาอาจารย์พิเศษจำเป็นต้องรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาตรวจดูว่าทินกรได้ส่งข้อความมายกเลิกการเรียนในวันนี้หรือไม่



เสียงดนตรีคลาสสิคแผ่วเบาลอยมากระทบหูของร่างโปร่งทำให้ภรัณยูตัดสินใจเดินตามไปทางด้านหลังของคฤหาสน์ ยิ่งเข้าไปใกล้ ชายหนุ่มยิ่งได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของคนที่ควรจะเตรียมตัวรอเรียนพิเศษกับเขาฮัมเพลงเบาๆอย่างอารมณ์ดี และเสียงปลายพู่กันที่ตวัดปาดไปตามผืนผ้าใบกว้าง




ภาพของทินกรที่นั่งหันหลังให้กับเขา ข้างกายมีโทรศัพท์ต่อกับลำโพงขนาดเล็กที่ทำหน้าที่ขยายเสียงเพลงไปทั่วบริเวณ เบื้องหน้าของร่างสูงคือขาตั้งรูปวาดที่มีผืนผ้าใบขนาดใหญ่วาดอยู่



วาดรูปอยู่นี่เอง..




ชายหนุ่มส่ายหน้าขำๆ เด็กคนนี้มักจะหลุดหายเข้าไปในโลกส่วนตัวทุกครั้งที่ได้หยิบจับอุปกรณ์ศิลปะ แม้ว่าจะเป็นเวลาเรียน แต่อาจารย์สอนพิเศษจำเป็นก็รู้สึกโกรธไม่ลงที่ได้เห็นอีกมุมของเด็กหนุ่มแสนจริงจังที่กำลังจับพู่กันด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข



“วาดอะไรอยู่?”



ทินกรหันขวับกลับมาตามเสียงของเขา ดวงตาสีควันบุหรี่เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ



“พี่ภัทร? ขอโทษนะครับ ผมลืมดูเวลา...”




“ไม่เป็นไรหรอก วันนี้เราเริ่มเลทหน่อยก็ได้ พี่ไม่รีบ”




ความรู้สึกผิดเรื่องที่หงุดหงิดใส่อีกฝ่ายเมื่อคราวก่อนยังคงหลงเหลืออยู่ในจิตใจทำให้ร่างโปร่งดีใจกับคนตรงหน้าเป็นพิเศษ
ภรัณยูรู้ดีว่าทินกรหวังดีกับเขา แต่เขายังไม่พร้อมที่จะคุยเรื่องนี้กับคนตรงหน้า...และไม่คิดว่าเขาจะมีวันพร้อม




สิ่งที่เขาทำได้ มีเพียงแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างยังคงเป็นปกติ อย่างที่เขาทำประจำมาตลอดไม่ว่ากับเรื่องอะไร





“ถ้าอย่างนั้นพี่ภัทรมานั่งกับผมหน่อยสิครับ”




ทินกรขยับเว้นที่ว่างให้กับภรัณยูบนม้านั่งตัวยาว คนอายุมากกว่านั่งลงข้างๆเด็กหนุ่ม รู้สึกถึงไออุ่นที่แผ่ออกมาจากร่างสูงใหญ่ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้สัมผัสตัวเขาแม้แต่ปลายนิ้ว




“ตกลงวาดอะไรอยู่?”




ภรัณยูถาม พยายามไม่สนใจเสียงหัวใจที่เต้นแรงอย่างน่าอับอายของตน ภาพร่างบนผืนผ้าใบขนาดใหญ่นั้นเป็นภาพบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งจากขนาดที่เล็กกว่ากันแบบครึ่งต่อครึ่งแล้ว เขามั่นใจว่าไม่ใช่คฤหาสน์แห่งนี้




ตัวบ้านในรูปวาดนั้นเป็นแบบที่เรียบง่าย เรียกได้ว่าสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในสมุดนิทานก่อนนอนในฉากสุดท้ายที่จบด้วยคำว่า ‘แล้วทั้งสองก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข’ ในโรงจอดรถหน้าบ้านมีรถยนต์จอดอยู่สองคัน พร้อมกับจักรยานคันเล็กที่เป็นของเด็กที่ยังต้องใช้ล้อพยุงปั่น รอบตัวบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม ที่หน้าบ้านมีศาลาไม้หลังเล็กและน้ำตกจำลองประดับประดาให้ความรู้สึกสดชื่นทั้งที่ยังไม่ได้ลงสี




“บ้านในฝันครับ” ทินกรตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง “ผมเคยบอกพี่ภัทรแล้วใช่มั้ยครับ ว่าผมอยากสร้างครอบครัวขอองตัวเอง ซักวัน ผมจะสร้างบ้านหลังนี้ให้ครอบครัวของผม...ให้คนที่ผมรัก”




คำพูดของอีกฝ่ายเปรียบเสมือนรอยมีดที่กรีดย้ำลงบนรอยแผลของคนฟัง




เขาไม่เข้าใจ ทินกรจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดให้มันได้อะไรขึ้นมา..




จะตอกย้ำถึงอนาคตที่อีกฝ่ายจะใช้ร่วมกับผู้หญิงที่เพียบพร้อม?




อยากให้เขาเป็นฝ่ายทนไม่ไหวแล้วจากไปเองรึยังไงกัน?




“พี่ภัทรชอบบ้านสีอะไรเหรอครับ? ผมชอบสีม่วงอ่อนนะ มันดูสบายตาดี แต่ผมเคยถามพี่ที่เป็นสถาปนิกเขาบอกว่ามันจะอึมครึมถ้าไปทาในบ้าน งั้นสีสว่างๆอย่างสีครีมเป็นไงครับ?”




ภรัณยูไม่ตอบ ยังคงจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ความรู้สึกขุ่นมัวที่พยายามกดเอาไว้ก่อตัวขึ้นในอกกับทุกคำที่อีกฝ่ายพูด แต่ทินกรที่เสนอไอเดียต่างๆด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นยังคงคุยเจื้อยแจ้วต่อไปอย่างกระตือรือร้นโดยไม่ได้รับรู้ถึงความอึดอัดใจของคนข้างกาย




“ผมอยากได้ลูกหมาล่ะ พี่ภัทรชอบหมามั้ยครับ? หรือว่าชอบแมว? จริงสิ พี่ภัทรมีดอกไม้ที่ชอบมั้ยครับ? อยากปลูกไว้ตรงไหน....”




“จะมาถามพี่ทำไม”




น้ำเสียงหงุดหงิดจากความขุ่นเคืองที่อัดอั้นอยู่ภายในหลุดออกไปจากริมฝีปากก่อนที่ภรัณยูจะสามารถยั้งตัวเองไว้ทัน




จะมาถามเขาทำไม?



จะพูดเรื่องพวกนี้ให้มันได้อะไรขึ้นมา?





“อ้าว...” ทินกรทำสีหน้างุนงง เด็กหนุ่มเอียงคออย่างสับสนราวกับไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังทำอะไรผิด “ถ้าไม่ถามคนที่ผมจะสร้างครอบครัวด้วย แล้วจะให้ผมถามใครล่ะครับ?”




….




…..




……




ภรัณยูไม่เคยรู้สึกอายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต




“พี่..พี่...” เสียงหวานตะกุกตะกัก เลือดที่สูบฉีดไวเกินไปทำให้เขารู้สึกร้อนวาบไปทั้งตัว “พี่รู้สึกมึนๆ...เดี๋ยวไปรอที่ห้องนะ”




“ไม่สบายเหรอครับพี่ภัทร? ถ้าอย่างนั้นวันนี้ไม่ต้องสอนหรอกครับ พักผ่อนเถอะ”





ทินกรที่ได้ยินว่าคนข้างๆรู้สึกไม่สบายรีบประคองร่างโปร่งไว้ด้วยสีหน้าเป็นห่วง คิ้วหนาที่ขมวดมุ่นอย่างเป็นกังวลยิ่งทำให้ภรัณยูรู้สึกผิดกับคำโกหกของตัวเอง




“ไม่ต้องหรอก...”




“นะครับ...ผมอยากดูแลพี่ภัทร...”




ดวงตาคมสีควันบุหรี่ช้อนมองเขาอย่างออดอ้อน ซึ่งแค่ปกติเด็กคนนี้ก็ทำให้ภรัณยูอ่อนยวบเป็นขี้ผึ้งลนไฟได้ดั่งใจนึกอยู่แล้ว ร่างโปร่งจึงทำได้เพียงพยักหน้าอย่างเหนื่อยใจกับตัวเอง




ยิ่งได้เห็นอีกฝ่ายเข้ามาในห้องนอนพร้อมกับกล่องยาปฐมพยาบาลขนาดยักษ์ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด ทินกรกรีดนิ้วผ่านซองยาที่อัดแน่นอย่างเป็นระเบียบอย่างคล่องแคล่ว เงยหน้าขึ้นถามอาการของคนแกล้งป่วยอย่างเป็นมืออาชีพจนภรัณยูอดถามไม่ได้



“ดูแลคนป่วยบ่อยเหรอ?”




ทินกรชะงัก คำถามง่ายๆของภรัณยูกับทำให้แววตาของคนตอบหม่นลง แม้ว่ารอยยิ้มจะยังคงแต่งแต้มอยู่ที่มุมปากของเด็กหนุ่มไม่หายไปไหน



“ครับ ตอนที่แม่ป่วย”




คำตอบนั้นทำให้หัวใจของคนฟังบีบตัวอย่างเจ็บปวดกับสีหน้าของเด็กหนุ่มยามเอ่ยถึงมารดา




ร่างโปร่งชันตัวขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง ตบลงบนที่ว่างข้างกายของตัวเองเบาๆ




“ซัน พี่หายมึนหัวแล้ว...มานี่หน่อยสิ”




เด็กหนุ่มทำตามคำขอของคนอายุมากกว่าอย่างงุนงง ร่างสูงนั่งลงบนเตียงของตัวเอง ภรัณยูเอื้อมไปดึงแขนของอีกฝ่ายให้เอนลงมานอนข้างๆตัวเอง




“นอนข้างๆพี่แบบนี้...ได้มั้ย?”




ดวงตาสีควันบุหรี่เป็นประกายระยับ ก่อนที่คิ้วเข้มจะขมวดมุ่นอย่างไม่สบายใจ




“เป็นอะไรรึเปล่าครับพี่ภัทร...”




ปกติภรัณยูเคยเป็นฝ่ายขอให้เขานอนข้างๆก่อนแบบนี้ที่ไหนกัน




“ชอบนอนแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?”




ภรัณยูลูบศีรษะของเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน นิ้วเรียวแทรกไปตามกลุ่มผมนุ่มลื่นดุจผ้าไหมสีรัตติกาลอย่างเบามือ แม้จะไม่ได้รู้สึกเร่าร้อนเหมือนคราแรกที่มือเรียวจิกทึ้งกลุ่มผมหนาไว้เพื่อระบายความเสียวซ่านจากสะโพกสอบที่โรมรันกระแทกกระทั้นจนขาสั่นระริก แต่ทินกรพบว่าความสุขที่ได้จากการถูกลูบศีรษะอย่างเอ็นดูนี้ก็ล้นในอกไม่ต่างกัน




“กับพี่ภัทร..นอนแบบไหนก็ชอบทั้งนั้นแหละครับ”




เด็กแก่แดดยังไม่วายหยอดคนตรงหน้าไปอีกประโยค ก่อนจะร้องโอดโอยเกินจริงเมื่อได้มะเหงกกลางหน้าผากเป็นของที่ระลึกไปหนึ่งรอย




ภรัณยูซุกหน้ากับกลุ่มผมนิ่มของร่างสูง รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นของทินกรบนซอกคอขณะที่มือเรียวกลับมาลูบศีรษะของเด็กหนุ่มอย่างเบามือ




ทั้งที่บอกตัวเองไม่ให้ถลำลึก แต่ยิ่งนับวัน เขายิ่งรู้สึกว่าเขากำลังขุดหลุมฝังตัวเองมากขึ้นทุกที




“มีความสุขจัง..” เสียงทุ้มพึมพำข้างลำคอของเขา




ฝังตัวเองในหลุมไร้ก้นที่มีชื่อว่าทินกรหลุมนี้....








เมื่อมีนาปรือตาขึ้นจากห้วงนิทราแสนสุข อ้อมกอดอุ่นที่โอบรัดรอบเอวบางของเขาไว้ก็หายไปเสียแล้ว




ร่างเล็กชันตัวขึ้นจากที่นอนอย่างง่วงงุน เสียงสายน้ำกระทบกับพื้นห้องน้ำบ่งบอกให้เขารู้ว่าร่างที่หายไปกำลังชำระร่างกายอยู่ในห้องน้ำ และนั่นทำให้มีนาที่มักจะตื่นก่อนธีรเชษฐ์เป็นส่วนใหญ่หันไปมองนาฬิกาหัวเตียงอย่างงุนงง ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าขณะนี้ใกล้เวลาทำงานของร่างสูงเข้าไปทุกทีแล้ว




เด็กหนุ่มนึกโกรธตัวเองที่จำไม่ได้่ว่าวันนี้เจ้าของห้องมีประชุมทั้งวัน ทั้งที่เขาเพิ่งถามธีรเชษฐ์ไปตอนก่อนนอนแท้ๆ




มีนาตวัดขาลงจากเตียง ตรงไปยังห้องครัวอย่างรีบร้อนด้วยกลัวว่าความสะเพร่าของตนจะทำให้คนที่อยู่ในห้องน้ำต้องไปทำงานสาย ถึงแม้เขาจะรู้ว่าธีรเชษฐ์ไม่ได้จะว่าอะไรเขาก็ตาม




หลายวันที่ผ่านมา มีนารู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาดำเนินไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก ถึงแม้ว่าธีรเชษฐ์จะไม่ได้แสดงท่าทีอะไรที่ทำให้มีนารู้สึกว่าอีกฝ่ายรู้สึกกับเขาเหมือนกับที่เขารู้สึกแม้เพียงเศษเสี้ยว แต่เขารับรู้ได้ว่าบางอย่างระหว่างพวกเขากำลังเปลี่ยนไป




และมีนาก็รู้สึกชอบทิศทางของการเปลี่ยนแปลงนี้เสียด้วย




“ตื่นแล้วเหรอ?”




อ้อมแขนแกร่งที่โอบรัดรอบเอวบางกับใบหน้าคมที่เพิ่งผ่านการโกนหนวดมาหมาดๆที่ซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างมัวเมาเป็นสิ่งที่มีนาเริ่มปรับตัวให้ชินได้แล้ว แต่ถึงกระนั้นใบหน้าขาวยังคงขึ้นสีเรื่ออย่างควบคุมไม่อยู่




“เอ่อ...อาหารเช้า รอแป๊บนึงนะครับ...”




“ไหนว่าวันนี้เรียนบ่าย ตื่นมาทำไมแต่เช้า หืม?”




มีนาสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงริมฝีปากอุ่นชื้นที่งับเบาๆลงบนใบหูของตน พฤติกรรมแทะโลมของธีรเชษฐ์นั้นมักจะทำหัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำจนเด็กหนุ่มกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงหัวใจของตน




“ก็...อาหารเช้าคุณเชษฐ์...”





“บอกแล้วไงว่าถ้าเรียนบ่ายก็ไม่ต้อง” เสียงทุ้มแฝงแววตำหนิ แม้ว่าในระยะเผาขนขนาดนี้สิ่งเดียวที่มีนาได้ยินจะเป็นเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นรัวอย่างบ้าคลั่งก็ตาม




นั่นเป็นหนึ่งในคำสั่งใหม่ของธีรเชษฐ์ นอกเหนือไปจากการจำกัดสิ่งที่เขาต้องใส่และสิ่งที่เขาสามารถทำได้ในแต่ละวัน ชายหนุ่มอ้างว่าเป็นเพราะตนไม่อยากให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรดต้องเฉาตาย แต่แววตาของอีกฝ่ายทำให้มีนาอดคิดเข้าข้างตัวเองอย่างมีความหวังไม่ได้




“ดูซิ...ตาบวมหมดแล้ว”




มือใหญ่เชยคางมนขึ้นให้เงยหน้ามองตน นิ้วหัวแม่มือนวดคลึงขอบตาที่เด็กหนุ่มไม่คิดว่าบวมขึ้นเท่าไหร่นัก




“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใ...อือ...”




ริมฝีปากหยักได้รูปทาบทับลงมาอย่างอ่อนโยน ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดส่งเสียงน่าอายที่ทำให้พวงแก้มนิ่มขึ้นสีฝาด แต่ยังคงพยายามตอบรับรสจูบหวานล้ำที่ชายหนุ่มมอบให้อย่างไม่ประสา




“ไว้มื้อเย็นแล้วกัน” ธีรเชษฐ์เอ่ยขึ้นกับร่างเล็กที่หายใจหอบเอนพิงอกของเขาหลังจากถูกแย่งอากาศหายใจไปจนหมดยิ้มรอยยิ้มมุมปากที่ทำให้คนที่แดงไปทั้งตัวแล้วรู้สึกขัดเขินขึ้นมาอย่างที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ “มื้อเช้าแค่นี้พอ”




“แค่นี้? แต่คุณเชษฐ์ยังไม่ได้ทาน....” เสียงหวานถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังสื่อถึงจุมพิตเมื่อครู่ ธีรเชษฐ์ฉวยโอกาสที่มีนาไม่ทันตั้งตัวขโมยหอมแก้มขาวเนียนไปหนึ่งฟอดแล้วคว้ากระเป๋าของตัวเองจากโต๊ะอาหาร มีนานึกอยากจะทักท้วง แต่รู้ว่าแค่ตอนนี้ร่างสูงก็สายมากแล้ว จึงทำได้เพียงปิดไฟเตาไฟฟ้าแล้วเดินตามออกไปส่งธีรเชษฐ์ที่หน้าห้อง
ขณะที่มองส่งแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มไปจนลับสายตา มีนาอดคิดไม่ได้ว่าท่าทางของเขามันช่างดูคล้ายภรรยาที่ออกมาส่งสามี....



หยุด!หยุดคิดเดี๋ยวนี้เลยมีน!




เด็กหนุ่มตบแก้มตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสติแล้วหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง หลังจากจัดการกับอาหารเช้าและถ้วยชามทั้งหมดแล้ว เด็กหนุ่มหมุนตัวกลับไปยังห้องนอนเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายก่อนไปเรียนเมื่อดวงตากลมโตสะดุดกับแฟ้มเอกสารฉบับหนา




“เอกสาร...อ๊ะ เอกสารที่คุณเชษฐ์ต้องใช้ประชุมช่วงบ่ายนี่”




มีนาเงยหน้ามองนาฬิกาแล้วตัดสินใจผลึบหายเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว




ดูท่าวันนี้เขาคงจะต้องออกจาากห้องเร็วหน่อยเสียแล้ว




---------

หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 100% P.12 คห 344 (25/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 25-06-2018 23:17:46
เหมือนอะไรจะเริ่มดีขึ้น? :impress2: คงไม่มีมาม่านะจ๊ะ  :call:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 100% P.12 คห 344 (25/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 25-06-2018 23:58:27
เด๋วน้องมีนเอาของไปให้ ต้องไปยัยเลขาแน่ๆ
เซงล่วงหน้า เบื่อไม่ชอบเลขาเลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 100% P.12 คห 344 (25/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 26-06-2018 00:14:58
จะเกิดอะไรกับมีนาอีกหรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 100% P.12 คห 344 (25/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 26-06-2018 01:19:36
รู้สึกว่าต้องมีเรื่องไรตามมาแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 100% P.12 คห 344 (25/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-06-2018 02:52:34
ตอนหน้าจะเจอกับอะไรอีกละเนี่ย หนูมีน  :hao4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 100% P.12 คห 344 (25/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 27-06-2018 23:01:16
เดี๋ยวน้องมีนจะได้เจอกับหมอกแล้ว มีนต้องเข้าใจผิดมากขึ้นแน่เลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 100% P.12 คห 344 (25/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 28-06-2018 07:57:25
รอๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 100% P.12 คห 344 (25/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 30-06-2018 08:08:45
คุณเชษฐ์เค้าพัฒนาแล้ว
มีนน่ารักดีค่ะ แต่ก็น่าสงสารไปพร้อมกัน
ก็เป็นคนคิดมาก และคิดว่าตัวเองไม่สำคัญอะเนาะ

เอิ่มมม บางทีก็เบื่อภัทร ชอบทำซันเสียใจ
ชอบคิดไปเอง แล้วมาทำมึนใส่กัน
ซันวางแผนไปซะเยอะแล้ว ชัดเจนไปอีก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 100% P.12 คห 344 (25/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 01-07-2018 12:53:59
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 100% P.12 คห 344 (25/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 03-07-2018 12:15:04
มีนจะไบนิษัท... มีนจะเจออะไร.. เอาใจช่วยมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 100% P.12 คห 344 (25/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 10-07-2018 13:14:36
รอจ้าาา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 100% P.12 คห 344 (25/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 10-07-2018 14:01:29
รอน้องมีนนนนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 100% P.12 คห 344 (25/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 21-07-2018 21:04:05
บริษัททรัพย์ดำรงดูใหญ่กว่ามากเมื่อมองจากมุมเงย มีนาแหงนหน้ามองตึกสูงตระหง่านอย่างประหม่า ในมือกอดแฟ้มเอกสารฉบับหนาไว้แนบอก



โทรศัพท์ของธีรเชษฐ์ถูกปิดทำให้เขาไม่สามารถติดต่อชายหนุ่มได้ โชคดีที่มีนาพอจะจำได้รางๆว่าธีรเชษฐ์เคยบอกว่าตนอยู่ชั้นบนสุดของตึก ทำให้เขาเลือกที่จะเดินเข้าลิฟต์ไปโดยไม่จำเป็นต้องถามทางกับประชาสัมพันธ์




แม้จะเป็นเหตุสุดวิสัย แต่เด็กหนุ่มก็อดรู้สึกดีใจไม่ได้ที่จะได้เห็นหน้าอีกฝ่ายอีกครั้งแม้จะแค่ในระยะเวลาสั้นๆ




แต่เมื่อก้าวผ่านประตูลิฟต์ที่กำลังเปิดออก เผยให้เห็นห้องทำงานของธีรเชษฐ์ซึี่งสังเกตได้ง่ายจากการเป็นเพียงห้องเดียวในชั้นที่ไม่ใช่ห้องกระจกใส ร่างโปร่งของชายหนุ่มในชุดสูทสีครีมที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเลขาหน้าห้องของประธานบริษัททำให้มีนานึกอยากหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในลิฟต์




มีนาส่ายหน้า




ไม่!เราต้องไม่ทำตัวไร้สาระแบบนี้




ความหึงหวงไม่ใช่สิทธิ์ของเขา เขาไม่มีสิทธิ์ในตัวของธีรเชษฐ์ นั่นเป็นสิ่งที่มีนาท่องย้ำในหัวขณะก้าวอย่างเชื่องช้าไปยังโต๊ะของเลขาหนุ่มที่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้าของตนแม้แต่วินาทีเดียว




“เอ่อ...”




ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่กำลังตรวจสอบตามเสียงเรียกของเขา ดวงตาสีเทาอมฟ้าที่ทอประกายสีเขียวแปลกตาภายใต้กรอบแว่นดึงดูดให้คนมองรู้สึกเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ ยิ่งได้เห็นดวงหน้าหมดจดของเลขาหนุ่มในระยะประชิดยิ่งทำให้มีนารู้สึกด้อยกว่าอย่างห้ามไม่ได้





ร่างโปร่งสูงเพรียวแต่กลับไม่ได้บอบบางอ้อนแอ้น ดวงหน้างดงามหมดจดแต่กลับไม่ได้ดูหวานเหมือนเด็กผู้หญิง บรรยากาศรอบกายที่ทำให้คนรอบข้างรู้สึกถึงกลิ่ยอายอันตรายแต่ยิ่งมีเสน่ห์น่าค้นหา





คนคนนี้มีทุกสิ่งที่เขาไม่มี




“ผม..ผมมาหาคุณธีรเชษฐ์ครับ”




มีนานึกโมโหตัวเองที่ไม่สามารถคุมเสียงไม่ให้สั่น ดวงตาสีแปลกของคนตรงหน้าฉายแววประหลาดที่เขาไม่รู้ว่าคืออะไรเพียงวูบเดียวก่อนจะหายไป มธุวันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่กลับทำให้มีนารู้สึกอึดอัดขึ้นมา




“นัดไว้รึเปล่าครับ?”




เด็กหนุ่มส่ายหน้า กอดแฟ้มในมือไว้แน่นราวกับจะใช้มันเป็นอาวุธป้องกันตัว มธุวันแสร้งทำเป็นเหลือบมองตารางนัดของธีรเชษฐ์บนโต๊ะ แต่มีนารู้ดีว่าถึงอย่างไรคนตรงหน้าก็คงไม่ให้คนแบบเขาเข้าพบเจ้านายของตัวเองอยู่แล้ว




"ถ้าอย่างนั้นผมคงให้คุณเข้าพบท่านประธานไม่ได้ ต้องขอโทษด้วยครับ" อีกฝ่ายเอ่ยขึ้นในที่สุดด้วยคำตอบที่มีนาคาดการณ์ไว้อย่างไม่ผิดเพี้ยน "มีธุระอะไรจะฝากไว้มั้ยครับ?"




“เอ่อ...ถ้างั้นผมฝากแฟ้มไว้ได้มั้ยครับ" มีนายื่นแฟ้มปึกใหญ่นั้นให้มธุวัน “เมื่อคืนผมได้ยินคุณเชษฐ์บอกว่าต้องใช้วันนี้”`




เด็กหนุ่มรู้ว่าเขาไม่จำเป็นจะต้องบอกให้คนตรงหน้ารู้ว่าธีรเชษฐ์อยู่กับเขาเมื่อคืน แต่ประโยคนั้นหลุดออกไปจากปากเขาก่อนที่มีนาจะสามารถห้ามตัวเองได้ทัน ร่างเล็กพยายามหลอกตัวเองว่าความรู้สึกลึกๆในอกตอนที่เห็นเลือดฝาดที่มีอยู่น้อยนิดบนใบหน้าของมธุวันหายไปกับคำพูดของเขาไม่ใช่ความพึงพอใจในชัยชนะเล็กๆของตน




ร่างโปร่งพยักหน้า รับแฟ้มปึกนั้นมาวางรวมกับเอกสารบนโต๊ะ มีนาพนมมือไหว้ลาเลขาหนุ่มตามมารยาท นึกแปลกใจที่อีกฝ่ายยกมือรับไว้เขาโดยไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอะไร ถึงแม้จะไม่ได้มีส่วนไหนของใบหน้ามธุวันที่บอกว่าอยากให้มีนาอยู่ที่นี่
ก็ตาม




ร่างเล็กหันกลับไปยังลิฟต์ที่ตัวเองขึ้นมา แต่ร่างของประธานบริษัทหนุ่มที่ก้าวออกมาจากลิฟต์ทำให้เด็กหนุ่มชะงัก ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นคนตรงหน้า เขาเพิ่งประชุมเช้าเสร็จ และความหงุดหงิดจากการต่อล้อต่อเถียงกับบอร์ดบริหารเป็นเวลาหลายชั่วโมงแม้จะไม่สามารถหายไปได้ในทันทีที่เห็นหน้ามีนา แต่ธีรเชษฐ์ก็ยอมรับว่าเขารู้สึกใจเย็นลงพอสมควรเพียงแค่ได้เห็นดวงตากลมโตคู่นั้น




"มาทำอะไรที่นี่?"




"คุณ...คุณลืมเอกสารไว้ที่ห้องน่ะครับ"




เด็กหนุ่มตอบเสียงเบา ก้มหน้างุดราวกับกลัวว่าจะถูกชายหนุ่มดุ ธีรเชษฐ์เพียงแต่ก้มมองร่างเล็กนั้นด้วยความหงุดหงิดที่ตีตื้นกลับขึ้นมา




เอาอีกแล้ว ทำไมพออยู่ในที่สาธารณะถึงต้องทำท่าเหมือนกลืนยาขมทุกครั้งที่อยู่กับเขาด้วย?




ดึงแขนเรียวให้เดินตามมา ร่างบอบบางที่ไม่มีเรี่ยวแรงอยู่แล้วแทบจะลอยหวือตามแรงกระชาก




“ท่านประธาน...." มีนาได้ยินเสียงมธุวันร้องเรียกชายหนุ่ม




“ทีหลังถ้าเด็กคนนี้มาให้เขาเข้าไปรอในห้อง" นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ธีรเชษฐ์พูดก่อนจะกระแทกประตูห้องทำงานปิดตามหลังพวกเขา




ก่อนที่มีนาจะได้เอ่ยอะไร ริมฝีปากได้รูปก็บดขยี้ลงบนกลีบปากนุ่มที่เผยออ้าอยู่นั้นเสียก่อน แม้จะเป็นจูบที่เร่าร้อนดูดดื่มต่างจากในตอนเช้า แต่มีนาที่เริ่มปรับตัวได้บ้างแล้วกับวิธการ’บำบัดความเครียด’ของอีกฝ่ายหลับตาลงรับสัมผัสจาบจ้วงของคนตรงหน้าแต่โดยดี




“แฮ่ก...แฮ่ก...”




 แน่นอนว่ากว่าที่คนตัวใหญ่กว่าจะยอมผละออกจากเขา มีนารู้สึกว่าตัวเองแทบจะเป็นลมจากการขาดอากาศหายใจ ริม
ฝีปากรูปกระจับบวมเจ่อขึ้นสีแดงสดจากการดูขบดูดเม้มย้ำอย่างไม่ปราณี




มีนาไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือไม่ แต่ทุกครั้งที่เขาถูกรุกเร้าจนต้องหอบหายใจเพื่อเติมอากาศเข้าปอดแบบนี้ แววตาที่ธีรเชษฐ์มองมาที่เขามักจะดูเข้มขึ้นจากปกติเสมอ




“อยู่ที่นี่ก่อน” นิ้วหัวแม่มือของชายหนุ่มเช็ดริมฝีปากบวมเจ่อที่ถูกเคลือบด้วยของเหลวสีใสเบาๆ




“... ผมมีเรียนต่อ” มีนาเอ่ยท้วงเสียงแผ่ว รู้สึกถึงระยะห่างระหว่างใบหน้าของพวกเขาที่ใกล้จนริมฝีปากแทบจะแนบชิดกันและกัน




“ฉันไม่ได้ขอร้อง”




และนั่นเป็นการจบบทสนทาของพวกเขา มีนาเลือกที่จะนั่งลงบนโซฟารับแขกแล้วหยิบชีทออกมาอ่านทบทวนบทเรียนอย่างว่าง่าย รู้ดีว่าตัวเองยังมีเวลาเหลือเฟือก่อนจะถึงคาบบ่ายของวันนี้




เขารู้สึกถึงสายตาของธีรเชษฐ์ที่เหลือบมองมาที่เขาเป็นระยะ ดวงตาคมหรี่ลงเมื่อเห็นร่างเล็กแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่ยังคงบวมเจ่อของตัวเองอย่างประหม่า




กระต่ายน้อยก้มหน้างุดอ่านชีทของตัวเอง แสร้งทำเป็นไม่เห็นสายตาของราชสีห์ผู้หิวโหย




มีนาจมอยู่กับโลกของตัวเองมากเสียจนเสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอาเขาสะดุ้งโหยง มธุวันเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถาดใส่ของว่างในมือ คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยราวกับกำลังประหลาดใจกับอะไรบางอย่างในห้อง




"ของว่างครับ"



"อ๊ะ ขอบคุณครับ"




มีนารีบกุลีกุจอลุกไปช่วยมธุวันจัดของว่างให้กับธีรเชษฐ์ ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นว่ามีส่วนของตัวเอง เขาไม่คิดว่ามธุวันจะเอาอะไรมาเผื่อเขาด้วยซ้ำ




“ขอบคุณครับ” มีนาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มดีใจที่ตนจะมีอะไรตกถึงท้องเสียที เขามัวแต่รีบมาที่นี่จนลืมทานอาหารเช้าไปทั้งที่ทำไว้แล้วที่คอนโด




"มีนา กินข้าวรึยัง?"




ธีรเชษฐ์ที่ลอบสังเกตท่าทีของเด็กหนุ่มอยู่ตลอดถามขึ้น เจ้าของชื่อชะงักเมื่อรู้ตัวว่าเผลอทำตัวมีพิรุธกับคนที่กำชับเขาหนักหนาว่าให้ทานข้าวทุกมื้อ ก่อนจะตอบเสียงตะกุกตะกักอย่างลุกลี้ลุกลน




"ผะ...ผม...ไม่หิว..."




"ฉันไม่ได้ถามความเห็น" ธีรเชษฐ์ขัดเสียงเย็น "ฉันถามว่าเธอกินข้าวรึยัง?"




เด็กหนุ่มกัดริมฝีปาก ก่อนจะส่ายหัวน้อยๆ เตรียมใจรับบทลงโทษที่ขัดคำสั่งของเจ้าชีวิต




ทั้งที่พวกเขาเริ่มจะเข้ากันได้ดีขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้แท้ๆ




ธีรเชษฐ์ปิดแฟ้มเสียงดังอย่างหัวเสีย เล่นเอามีนาสะดุ้งเฮือก ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันไปหาเลขาของตนด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์




"หมอก พาเด็กคนนี้ไปกินข้าว ถ้ายังดื้ออีกวันนี้ไม่ต้องไปเรียน"




"...ครับ"



มธุวันที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ได้แต่รับคำอย่างงุนงง เดินนำมีนาไปยังลิฟท์เพื่อพาไปที่หาอะไรทานตามคำสั่งของเจ้านาย ตลอดทางเด็กหนุ่มเพียงแต่เดินจับสายกระเป๋าเป้เก่าเปื่อยรุ่ยของตัวเอง ก้มหน้าเดินตามเลขาร่างโปร่งที่ไม่ว่าจะเลี้ยวไปทางไหนพนักงานที่เดินสวนทางก็พร้อมใจกันแหวกทางให้อย่างเกรงกลัว สายตาที่หลายคนมองมาที่มีนาเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ไม่มีใครกล้าพอจะเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา




นี่เลขาหรือว่าเจ้าของบริษัทอีกคนกันแน่



มธุวันพาเด็กหนุ่มไปยังร้านอาหารอิตาเลี่ยนเล็กๆที่อยู่ชั้นล่างสุดของบริษัท มีนามองไปรอบๆร้านที่เป็นอิฐสีนำตาลเข้มตกแต่งด้วยตู้ไวน์เรียงรายตามผนัง ประกอบกับเถาวัลย์ปลอมรอบร้านและแสงสีส้มสลัวอย่างตื่นตาตื่นใจ แต่ด้วยความหรูหราของการตกแต่ง ย่อมไม่แปลกที่เขาจะเริ่มมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกี่ยวกับป้ายราคาท้ายเมนูที่บริกรหยิบยื่นมาให้




“สั่งอะไรก็ได้ครับ" มธุวันเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของเขา “ท่านประธานไม่คิดเงินคุณย้อนหลังหรอก"




คำพูดนั้นแม้จะไม่ได้แฝงไปด้วยน้ำเสียงดูถูกดูแคลน แต่มีนาก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่ตัดสินเขาไปแล้วของคนตรงหน้า ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของมีนากับธีรเชษฐ์จะไม่ได้ต่างไปจากที่มธุวันคิดเท่าไหร่ แต่เด็กหนุ่มก็ยังอดรู้สึกถึงความไม่พอใจเล็กๆที่ก่อตัวขึ้นในก้นบึ้งของจิตใจ




“ถึงจะเป็นเงินของเขา ผมก็ไม่อยากสิ้นเปลืองอยู่ดีนั่นแหละครับ”



สุดท้าย มีนาเลือกสั่งเมนูที่ถูกที่สุดในร้านซึ่งเป็นแค่ของทานเล่นเพียงแค่ให้ธีรเชษฐ์รู้สึกว่าเขาไม่ได้ขัดคำสั่ง ทว่าขณะนั้นเองหางตาของเขาก็บังเอิญเหลือบไปเห็นร่างร่างหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาในร้าน




“เอ๊ะ?”



มีนาเผลอจ้องหน้าของชายหนุ่มที่ดูเหมือนกับธีรเชษฐ์ราวกับเคาะออกมาจากพิมพ์เดียวกันด้วยสีหน้าสับสน แม้ว่าชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังเดินตรงมาทางพวกเขาจะดูอายุน้อยกว่าธีรเชษฐ์พอสมควรก็ตาม




ครืด...




ชายหนุ่มร่างสูงเลื่อนเก้าอี้แล้วผลุบนั่งลงข้างมธุวันโดยไม่คิดเอ่ยขออนุญาต ส่วนเลขาหนุ่มนั้นกลับเบือนหน้าหนีราวกับรังเกียจคนข้างๆเสียเต็มประดา



“….”




มีนาหันไปหามธุวัน รอให้ร่างโปร่งแนะนำผู้มาใหม่ แต่เลขาหนุ่มเพียงแค่ปิดเมนูแล้วส่งคืนให้บริกร




“ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยเหรอ?”



ร่างสูงเปิดประเด็นถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ มธุวันกลอกตา แต่ก็ยอมทำตามด้วยสีหน้าไม่เต็มใจนัก





“คุณมีนาครับ นี่คุณเมฆา ลูกชายคนโตของคุณธีรเชษฐ์”




ดวงตาสีน้ำตาลกลมคู่สวยเบิกกว้างอย่างตกใจ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าธีรเชษฐ์มีลูกชายวัยทำงาน แต่เขาไม่คิดว่าจะมีวันที่ต้องพบกับชีวิตอีกด้านของธีรเชษฐ์ที่เขาไม่มีส่วนร่วม ร่างเล็กสั่นระริกอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้ที่เมฆาจะ...ไม่
พอใจเท่าไหร่หากรู้ว่าเขาเป็นใคร และจากรูปร่างที่สูงใหญ่พอๆกับบิดามีนาไม่คิดว่าเขาจะสามารถป้องกันตัวเองได้
แต่คำแรกที่หลุดออกมาจากปากเมฆาคือ




“ทนาย?”



“เรียบร้อยครับ” มธุวันตอบเสียงเรียบแทบจะในทันที แม้จะเป็นเพียงการแลกเปลี่ยนคำศัพท์สองสามคำ แต่มีนากลับรู้สึกว่าคนทั้งสองสามารถสื่อความหมายถึงกันได้มากกว่านั้นหลายเท่าตัวนัก




มีนาเริ่มอยู่ไม่สุขเมื่อรู้สึกว่าหัวข้อสนทนาที่คนทั้งคู่กำลังส่งจิตถึงกันนั้นคงหนีไม่พ้นเรื่องของเขา




“ฉันไม่กัดหรอกน่า” เมฆาเอ่ยกับร่างเล็กที่สะดุ้งเมื่อรู้ตัวว่าเมฆากำลังพูดกับตัวเอง ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างขบขัน“แต่ถ้าพ่อฉันล่ะก็ไม่แน่”




“ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้นะครับ” มธุวันกระซิบเสียงลอดไรฟัน แต่ถึงกระนั้นมีนาก็ยังคงได้ยินอยู่ดี




เมฆาก้มหน้าดูเมนู ดูเหมือนจะตัดสินใจที่จะไม่พูดตามที่โดนเลขาหนุ่มดุ




มีนาสังเกตว่ามธุวันสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆสองสามครั้งราวกับกำลังประหม่า ก่อนที่คนตรงหน้าจะทำสิ่งที่ทำให้เขารู้สึก
แตกตื่นขึ้นมา




มธุวันถอดแว่นไร้กรอบของตัวเองออก แล้วยิ้มให้มีนาอย่างอ่อนโยน




“มีน…พี่เรียกน้องมีนได้มั้ยครับ?”




มีนานั้นเงยหน้าขึ้นสบตาคนเรียกอย่างกล้าๆกลัวๆ ดวงตากลมโตฉายแววไม่ไว้ใจคนที่จู่ๆก็ฉีกยิ้มพูดจาเสียงอ่อนเสียงหวานกับเขาขึ้นมา




“คะ..ครับ?”




“อายุเท่าไหร่แล้ว?”




มธุวันถามราวกับกำลังพูดกับเด็กเล็กๆ ท่าทางที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือของเลขาหนุ่มทำให้มีนารู้สึกสับสนมากกว่าเดิม



“สะ..สิบเจ็ดครับ”




รอยยิ้มหวานที่อีกฝ่ายดูจะเรียกขึ้นมาอย่างยากลำบากแข็งค้างไปครู่หนึ่ง มีนาสังเกตว่าเมฆาที่แอบลอบสังเกตการณ์อยู่เงียบๆนั้นส่ายหน้าเบาๆเมื่อได้ยินคำตอบของเขา




“เหรอ พี่จะยี่สิบห้าแล้ว เรียกพี่หมอกก็ได้” มธุวันเอ่ยต่อ รอยยิ้มที่สะดุดก่อนหน้านี้กลับมาหวานอ่อนโยนราวน้ำผึ้งเดือนหน้า




“เอ่อ..มะ...ไม่เป็นไรครับ”มีนายังคงตั้งการ์ดอย่างเหนียวแน่น หากมีอะไรที่ชีวิตปากกัดตีนถีบได้สอนเขาไว้ นั่นคือการไม่ประมาทให้ตัวเองถูกเป็นเบี้ยล่าง




“สิบเจ็ดนี่...เพิ่งสิบเจ็ดไปหรือว่าย่างสิบแปดปีนี้เหรอ?”




ร่างโปร่งทำเสียงใสเหมือนกับแค่จะชวนคุยเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป แต่มีนารู้ดีว่าจุดประสงค์ของคำถามนั้นคืออะไร




“จะสิบแปดแล้วครับ” มีนาตอบตามความเป็นจริง แต่ไม่คิดจะพูดอะไรมากกว่านั้น




“มีน พี่น่ะ ดูแลคุณเชษฐ์มานาน แล้วพี่ก็เจอของเล่...คนของคุณเชษฐ์มาบ่อยพอที่จะรู้ว่ามีนไม่ใช่พวกกระสือหิวเงินพวกนั้น” มธุวันย่นจมูกราวกับได้กลิ่นเหม็นเน่าเมื่อนึกถึงเหล่านางแร้งนางกาที่ชอบรุมจิกรุมทึ้งกระเป๋าเงินธีรเชษฐ์แลกกับความสุข
ทางกายเพียงชั่วคราว “แต่พี่ก็ไม่ได้โง่ถึงขั้นดูไม่ออกหรอกนะ ว่าเราเป็นอะไรกับเขา”




“มะ…ไม่ใช่นะครับ ผมกับคุณเชษฐ์ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดนะครับ”




มีนารีบโบกมือปฎิเสธพัลวัน แน่นอน มธุวันไม่เชื่อสิ่งที่ออกมาจากปากของร่างเล็กแม้แต่คำเดียว




“แปลว่ามีนไม่เคยทำอะไรกับเขาเลย?”




เด็กหนุ่มสะอึก ดวงตาสีน้ำตาลหลุบต่ำอย่างมีพิรุธด้วยรู้ว่าไม่สามารถปฏิเสธข้อกล่าวหานั้นได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ซึ่งความเงียบของร่างเล็กแทนคำตอบให้กับมธุวันได้เป็นอย่างดี




“มีน รู้ใช่มั้ยว่าเรื่องนี้มันมากกว่าเรื่องความเหมาะสม ถ้ามีใครรู้เข้าทั้งมีนทั้งคุณเชษฐ์จะเสียหายทั้งคู่”




มีนาพยักหน้าอย่างเซื่องซึม แม้ว่าชื่อเสียงของเขาไม่ใช่สิ่งที่เขาเป็นห่วง แต่เด็กหนุ่มก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขากลัวธีรเชษฐ์จะถูกสังคมประณามไปมากกว่าที่เป็นอยู่




 อาหารที่สั่งเริ่มทยอยมาวางตรงหน้า แต่ทุกคนไม่มีใครมีความอยากอาหารพอที่จะกระเดือกมันลงไปในตอนนี้




“พอจะเล่าให้พี่ฟังได้มั้ย อย่างน้อยถ้าพี่รู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไง เรื่องจะได้ไม่บานปลายใหญ่โต”




มธุวันว่า สีหน้าของชายหนุ่มดูเป็นกังวลอย่างที่ว่า ถึงแม้มีนาจะไม่ไว้ใจคนตรงหน้า แต่เขาดูออกว่าคนอย่างมธุวัน แม้จะไม่ได้คำตอบจริงๆจากปากเขา ก็ต้องหาวิธีง้างปากเขาให้พูดได้อยู่ดี




ในที่สุด ร่างเล็กจึงตัดสินใจเล่าความจริงให้ชายหนุ่มฟัง




“คุณเชษฐ์เคย...แค่ครั้งเดียว แต่ตอนนั้นผมหลอกเขาว่าผมอายุสิบแปดแล้ว คุณเชษฐ์ไม่ผิดอะไรเลยนะครับ!”มีนารีบเสริม ไม่อยากให้มธุวันเข้าใจผิดว่าธีรเชษฐ์ทำไปทั้งที่รู้ “หลังจากที่รู้คุณเชษฐ์ก็ไม่เคยทำอะไรผม เขาให้ผมอยู่ต่อ ช่วยทำงานบ้าน ทำกับข้าว...แค่นั้นจริงๆครับ”




แม้ว่ามีนาจะจงใจละส่วนสุดท้ายของสัญญาว่าจะให้เขาชดใช้ด้วยร่างกายตอนอายุครบสิบแปดหากไม่อยากจ่ายเงิน แต่ถึงอย่างนั้นมธุวันยังคงจับทางเรื่องราวได้จากคำพูดของเขา




“ถ้าให้พี่เดา...จนกว่ามีนจะสิบแปดใช่มั้ย?”




ร่างเล็กชะงัก ก่อนจะพยักหน้าอย่างเชื่องช้า




“มีน พี่เข้าใจนะว่าเราอยู่ในวัยที่ต้องใช้เงิน แต่มันคุ้มกันเหรอกับการต้องเอาศักดิ์ศรีของตัวเองมาแลกกับเงินแบบนี้” มธุวันสั่งสอนด้วยน้ำเสียงที่...แทบจะเรียกได้ว่าผิดหวังในตัวของเขา และนั่นทำให้ความโกรธที่มีนามีอยู่เพียงเล็กน้อยจากความหึงหวงและน้อยใจที่เด็กหนุ่มพยายามมองข้ามเริ่มปะทุแทรกความละอายใจต่อการกระทำของตัวเองทีละนิด




“พี่เข้าใจนะ เรื่องเงินมันไม่ใช่เรื่องเล็ก...”



“ไม่ครับ ผมไม่คิดว่าคุณเข้าใจ” เด็กหนุ่มเอ่ยขัดคำพูดของร่างโปร่งเสียงเบาแต่มีความแข็งกร้าวอยู่ในที ดวงตากลมโตกวาดมองเสื้อผ้าและนาฬิกาเรือนแพงของร่างโปร่ง




คนแบบนี้เหรอที่บอกว่าเข้าใจเขา?



“มีน…”




“ศักดิ์ศรีของผมในตอนนี้ไม่ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าคีโม ค่าห้องพักให้แม่ของผม ไม่ได้จ่ายค่าข้าวค่าน้ำให้กับยายของผม ไม่ได้จ่ายค่าเทอม ค่าที่ซุกหัวนอน ค่าเช่าที่ในตลาดที่ผมค้างมาเป็นปี...” เสียงหวานสั่นเครือเช่นเดียวกับแววตาที่ไหวระริก แต่มีนายังคงจ้องเขาตาไม่กระพริบ “ผมไม่คิดว่าสิ่งที่ผมทำในตอนนี้เป็นเรื่องถูก ผมขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องวุ่นวาย ผมขอโทษด้วยที่ต้องปฎิเสธสิ่งที่ผมรู้ว่าคุณกำลังจะขอให้ผมทำ ผมขอโทษ...”




เด็กหนุ่มพนมมือ ก้มศีรษะไหว้คนทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาด้วยความรู้สึกผิดจากใจจริง




“…แต่คุณไม่เข้าใจ”




คราวนี้เป็นมธุวันที่เป็นฝ่ายสะอึก มีนารู้สึกเกลียดตัวเองที่ท่าทีเหมือนโดนตบหน้าของเลขาหนุ่มทำให้หัวใจที่ขุ่นมัวของเขารู้สึกดีขึ้นบ้าง




“ห้าแสน”




ขณะที่มธุวันมีสีหน้าเหมือนกำลังจะยอมแพ้ จู่ๆเมฆาที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในบทสนทนาก็เอ่ยตัวเลขปริศนาขึ้นมา เรียกความสนใจของคนทั้งสองไปหาชายหนุ่มร่างสูง



“ครับ?”มีนาเอียงคออย่างสับสน




“ฉันจะให้เธอห้าแสน ไม่รวมค่ารักษาพยาบาลของแม่เธอ แลกกับการที่เธอเลิกยุ่งกับพ่อของฉันจนกว่าจะอายุครบสิบแปด”




เมฆาว่า หยิบสมุดเช็คออกมาจากกระเป๋าในของสูทตัวนอกแล้วใช้ปากกาเขียนตัวเลขลงไปอย่างคล่องแคล่วโดยไม่แม้แต่จะกระพริบตากับจำนวนเงินที่กำลังจะมอบให้เด็กหนุ่ม มีนานิ่งอึ้ง ก้มมองตัวเลขที่เขาไม่เคยนึกฝันว่าจะได้เห็นในชีวิตอย่างไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น




“ว่าไง?” เมฆาถาม




“ผม…”




“ถ้าคุณเชษฐ์รู้เรื่องนี้ต้องไม่ยอมแน่” มธุวันเอ่ยแทรกขึ้นมาก่อนที่มีนาจะได้ตอบอะไร




“เพราะอย่างนั้นเราถึงให้เขารู้ไม่ได้ไงล่ะ” เมฆาว่า เลิกคิ้วมองเด็กหนุ่มที่ยังคงมีสีหน้าลังเล “ว่าไง? หน้าตาอย่างเธอต่อให้หายไปซักเดือนสองเดือน กลับมาราคาก็ไม่ตกหรอกจริงมั้ย?”




ข้อเสนอของเมฆานั้นแก้ปัญหาเกือบทุกอย่างที่ีมีนาเพิ่งร่ายออกไป หากจะว่ากันตามจริงแล้วเขาไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม้ยอมรับเงินของร่างสูงด้วยซ้ำ




แต่ที่มีนายังคงลังเล เป็นเพราะความเป็นไปได้ที่ตัวเองจะไม่ได้เจอธีรเชษฐ์อีกนานทำให้เขารู้สึกไม่อยากตอบรับข้อเสนอที่เหมือนฝันนี้




นี่เขา...เห็นแก่ตัวขนาดนี้เลยเหรอ?





“ถือซะว่าเห็นแก่คุณเชษฐ์เถอะนะ ถ้าเรื่องนี้มีคนรู้เข้า ต่อให้ไม่ได้ทำอะไรกัน คุณเชษฐ์ก็เดือดร้อนอยู่ดี” มธุวันขอร้องอีกแรง





ในที่สุด มีนาพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้ เขารู้ว่า้รื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลเสียกับแค่เขาหรือธีรเชษฐ์ เขาไม่อยากให้ใครต้แงเดือดร้อยกับความเห็นแก่ตัวของเขาไปมากกว่านี้




 ร่างเล็กกัดริมฝีปากก่อนจะหยิบเช็คใบนั้นเข้ากระเป๋าโดยไม่พูดอะไร




มื้ออาหารดำเนินไปอย่างเงียบเชียบ ความอยากอาหารของมีนาหายไปตั้งแต่ก่อนที่อาหารจะมาถึงเสียด้วยซ้ำ ร่างเล็กจึงตัดสินใจขอตัวกลับไปที่คอนโด เพราะของทุกอย่างของมีนาล้วนแล้วแต่อยู่ในห้องของธีเชษฐ์ทั้งสิ้น





“เอาไงต่อดี...”




ร่างเล็กพึมพำหลังเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นลงกระเป๋าของตน ดวงตากลมโตกวาดมองรอบห้องที่ตนอาศัยอยู่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาอย่างรู้สึกใจหาย




เขาไม่อยากไป...




แต่มีนารู้ดีว่าคนอย่างตัวเองไม่สามารถร้องขอทุกอย่างที่ต้องการได้




เขารู้ว่านี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับธีรเชษฐ์ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความรู้สึกเจ็บแปลบในอกนั้นลดน้อยลงไปสักวินาที





“ผมขอโทษนะครับ...”




มีนาเอ่ยกับห้องที่ว่างเปล่าเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะก้าวออกไปด้วยแววตาเจ็บปวด เขาได้แต่หวังว่าเมื่อรู้เรื่องทั้งหมด ธีรเชษฐ์จะยอมให้อภัยเขาที่เดินจากมาในครั้งนี้





ว่าแต่...เขาจะไปอยู่ที่ไหน....




---------
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 21-07-2018 23:06:38
คู่หลักค่าตัวแพงแน่ๆ นานๆมาที555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 22-07-2018 00:45:09
โถ่ น้องมีนลูกกกกกก :mew6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 22-07-2018 01:18:04
มีนตัดสินใจแบบนี้ดีแล้วจริงๆ เหรอ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-07-2018 02:50:52
รอดู เด๋วคุณป๋ามีโวยแน่ ๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 22-07-2018 07:59:19
น้องมีนของแม่
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 22-07-2018 08:52:07
นี่สินะน้องหมอกคนดีของทุกคน ตอนแรกไม่คิดว่ามีนจะเจอบทสนทนาแบบนี้เลยนะ คนนึงถามหาศักดิศรี คนนึงเอาเงินฟาดหัว
 อืม คนด้อยกว่าก็ต้องยอมโดนดูถูก เอาเงินฟาดหัว ไปเสียก็ดีเหมือนกันน้องมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 22-07-2018 10:23:36
ไปเช่าหอพักแถวมหาลัยอยู่นะน้องมีน
เข้มแข็งนะลูก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-07-2018 10:52:57
สองคนนั่นมีแผนอะไร?
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 22-07-2018 12:33:04
สงสารน้องมินมาก ทำไงล่ะทีนี้ เดี๋ยวคุณเชษฎร์ต้องโกรธมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-07-2018 13:51:01
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 22-07-2018 20:34:16
น้องมีน คุณเชษฐ์รู้ไม่เจ็บตัวหนักขึ้นหรอ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 22-07-2018 21:46:54
คิดว่าหมอกจะดีกว่านี้...
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: toonsora ที่ 23-07-2018 11:10:08
โอ๊ยยยยยย แค่นี้มันไม่พอ อยากอ่านอีก จะขาดใจล้าววววว :hao5: :hao5: :serius2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 23-07-2018 21:18:41
ดูวุ่นวายนะครอบครัวนี้
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 29-07-2018 08:12:45
สงสารมีน น้องแค่อยากให้ครอบครัวปลอดภัย
ที่อยู่ต่อ ก็มีความสุขดี และความรักก็กำลังเกิด
จะรอดูว่าคุณเชษฐ์จะไปตามหามีนกลับมายังไง
ออกอาการห่วง หวงขนาดนี้ ไม่น่าจะปล่อยไปนาน

ที่เมฆกับหมอกทำ คิดว่าช่วยน้อง หรือซ้ำเติมน้องนะ

หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 10-08-2018 21:46:28

Chapter 19: ของขวัญวันเกิด



‘พี่ภัทรครับ คืนนี้พี่ภัทรมาหาผมได้มั้ยครับ?’



ภรัณยูขมวดคิ้วกับคำถามของคนที่อยู่ปลายสาย



“วันนี้พี่ไม่มีสอนนะ”



ชายหนุ่มตรวจปฏิทินที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของตัวเองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจด้วยดวงตาปรือปรอย ตอนนี้เป็นเวลาพักกลางวันของพวกเขา จึงไม่แปลกที่ออฟฟิศจะเงียบเหงาราวกับป่าช้าแบบนี้



และแน่นอน ไม่แปลกที่ภรัณยูจะเป็นคนเดียวในออฟฟิศที่งานท่วมหัวจนไม่สามารถออกไปไหนได้ การพลาดทั้งอาหารเช้าและอาหารกลางวันหลังจากพักผ่อนไม่พอมาหลายวันติดกันทำให้เขารู้สึกเพลียเป็นพิเศษ เรียกได้ว่ากระทั่งเสียงของทินกรก็ไม่อาจปลุกให้เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้



‘ผมรู้ครับ…แต่ผมอยากเจอพี่ภัทร…’



“พี่มีประชุมเย็น”



ภรัณยูตอบเสียงเหนื่อยหน่าย ให้ความสนใจกับเอกสารที่จะใช้ประชุมในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้ามากกว่าคนปลายสาย เนื่องจากเขารู้ว่าทินกรไม่เคยโกรธเขาด้วยเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว



‘ถ้าพี่ภัทรประชุมเสร็จ ผมไปรับได้มั้ยครับ…’




ภรัณยูปิดแฟ้มเอกสาร ความหงุดหงิดที่เริ่มสั่งสมทำให้เขาเริ่มตอบกลับอีกฝ่ายด้วยนั้นเสียงไม่พอใจนัก



“พี่ไม่ว่าง แค่นี้นะซัน พี่มีประชุมต่อ”




ชายหนุ่มกดตัดสายแล้วรวบรวมข้าวของเพื่อเตรียมตัวสำหรับการประชุมแจกแจงงบประมาณที่เขารู้ดีว่าจะยืดเยื้อจนกว่าแผนกใดแผนกหนึ่งจะหมดแรงแล้วยอมแพ้ไปเอง



“เหนื่อยหน่อยนะภัทร เลิกซะค่ำเลย”




เจนจิรากล่าวอย่างเห็นใจเมื่อเสร็จสิ้นการประชุมที่ลากยาวมาจนถึงสามทุ่ม ภรัณยูส่ายหน้า



“ไม่หรอกครับ”




ในมือของเขามีโทรศัพท์มือถือของตัวเองอยู่ หลังจากจบการประชุม ความรู้สึกผิดที่ตัวเองจบบทสนทนากับทินกรแบบนั้น ทำให้เขารู้สึกร้อนใจที่จะโทรกลับไปหาร่างสูงเป็นพิเศษ




“จริงสิ พรุ่งนี้ภัทรไปสอนพิเศษคุณทินรึเปล่า” เจนจิราเอ่ยอย่างนึกขึ้นได้ เมื่อเห็นภรัณยูพยักหน้าตอบรับ หญิงวัยกลางคน
จึงเปิดกระเป๋าแล้วล้วงเอากล่องใส่นาฬิกายี่ห้อดังกล่องหนึ่งออกมา “ถ้าอย่างนั้นพี่ฝากของขวัญให้คุณทินหน่อยได้มั้ย?”



“ของขวัญ?” ภรัณยูทวนคำอย่างงุนงง




“ของขวัญวันเกิดคุณทินน่ะ จริงๆเขาเกิดวันนี้ แต่พี่ฝากเป็นของขวัญวันเกิดย้อนหลัง” เจนจิราไขข้อข้องใจ ซึ่งนอกจากจะทำให้คำขอประหลาดของเด็กหนุ่มก่อนหน้านี้มีเหตุมีผลขึ้นมาบ้างแล้ว








ภรัณยูเหลือบมองกล่องนาฬิกาของเจนจิราและกล่องใส่สีน้ำมันกล่องใหญ่ที่วางอยู่บนที่นั่งข้างคนขับของตน เขาได้แต่หวังว่าของขวัญที่เขารีบร้อนหามาจากร้านขายเครื่องเขียนไม่ไกลจากบริษัทจะสามารถสู้ของที่คนอื่นมีเวลาเตรียมมาให้




แค่จะชวนมางานวันเกิด ทำไมถึงไม่บอกดีๆ




ความสงสัยนั้นยิ่งทวีคูณเมื่อเขาชะลอจอดเทียบที่ประตูรั้วของคฤหาสน์ทรัพย์ดำรงที่ไม่มีไฟเปิดอยู่แม้แต่ดวงเดียว ภรัณยูดับเครื่องยนต์แล้วก้าวลงมาชะเง้อมองหน้ารั้วเพื่อความแน่ใจ แต่ยังคงไม่เห็นวี่แววของงานวันเกิดครบรอบสิบแปดปีของลูกชายคนสุดท้องของบ้าน



หรือว่าจะไปจัดที่อื่น?



ภรัณยูนึกอยากจะเขกหัวตัวเอง แน่นอนว่าวันเกิดครบรอบสิบแปดปีของทายาทมหาเศรษฐีคนนี้ย่อมไม่ได้จัดปาร์ตี้วันเกิดในบ้านกับครอบครัวและเพื่อนๆเหมือนเด็กทั่วไป




ชายหนุ่มหันหลังกลับไปที่รถของตนเมื่อเสียงของป้าแต้วดังขึ้นจากในรั้วบ้าน




“คุณภัทร?มาหาคุณหนูเหรอคะ?”




ภรัณยูหันกลับไปตามเสียงเรียก ไม่มั่นใจว่าคนจะตอบอะไรหญิงชราที่ทินกรรักเหมือนมารดาแท้ๆให้อีกฝ่ายไม่รู้สึกสงสัยว่าอาจารย์สอนพิเศษอย่างเขามาทำอะไรในวันเกิดของคุณหนูเล็กของบ้าน




“คือ…”




“คุณหนูอยู่ข้างในค่ะ เชิญตามสบายเลยนะคะคุณภัทร”




ประตูรั้วถูกเปิดออกด้วยระบบกุญแจอัตโนมัติ แม้ภรัณยูจะรู้สึกประหลาดใจที่ทินกรอยู่บ้านในวันเกิด แต่ร่างโปร่งก็ยังคงก้าวเข้าไปในตัวคฤหาสน์ที่มืดสนิทเพื่อส่งมอบของขวัญวันเกิดให้ตามที่ตั้งใจไว้




มือเรียวกดเปิดสวิชต์ไฟตามทางที่ตนเดินเข้าไปในตัวบ้านที่เงียบสงัด ภรัณยูก้าวขึ้นบันไดทีละขั้นอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียง




ไม่รู้ว่านึกอีท่าไหนเขาถึงอยากจะเซอไพร์สเจ้าของวันเกิดขึ้นมา




อาจเป็นเพราะความรู้สึกผิดที่ตัวเองลืมวันเกิดของอักฝ่ายไปเสียสนิทแม้ทินกรจะเคยบอกวันที่กับเขาไปแล้ว แต่ภรัณยูก็ยังคงเป็นภรัณยู เขาไม่เคยจำวันสำคัญอะไรได้สักครั้งอยู่แล้ว




แสงไฟที่ลอดออกมาจากประตูห้องนอนของทินกรทำให้เขารู้ว่าเด็กหนุ่มอยู่ข้างใน ภรัณยูค่อยๆเปิดประตูออกโดยระมัดระวังไม่เผยไต๋ให้คนในห้องรับรู้ถึงการมาเยือนของเขา คำว่า ‘เซอไพร์ส!’ ติดอยู่ที่ริมฝีปาก




แต่ภาพตรงหน้าทำให้ร่างโปร่งต้องกลืนคำพูดที่เตรียมไว้ลงไป




“ซัน…อย่ารีบปั่นสิลูก เดี๋ยวก็ล้มหรอก…เชษฐ์ อย่าผลักรถลูกแรงนักสิคะ”




ในห้องนอนมีเพียงแสงสว่างจากโทรทัศน์จอแบนที่แขวนติดผนังเท่านั้นที่ทำให้ภรัณยูเห็นเงาร่างของเจ้าของห้องนั่งกอดเข่าตัวเองจ้องมองหน้าจออยู่บนเตียง สายตาของทินกรจดจ้องอยู่กับภาพตรงหน้าจนไม่ได้รับรู้ถึงการมาของภรัณยู



“แม่ฮะ! ดูสิๆ…เหวอ!!!”



เด็กชายวัยประมาณสี่ห้าปีในวีดีโอที่เรียกให้มารดาดูความสำเร็จของตัวเองร้องลั่นเมื่อรถจักรยานต์สามล้อที่กำลังปั่นสะดุดเข้ากับก้อนหินบนพื้นถนน โชคดีที่ธีรเชษฐ์คว้าตัวลูกชายคนเล็กไว้ก่อนที่เด็กชายจะลอยหวือไปตามแรงกระแทก แต่หัวเข่าของทินกรยังคงครูดกับพื้นจนเป็นรอยถลอกอยู่ดี



“แง้!!!!!”




กล้องวีดีโอที่เกศราถืออยู่ถูกว่าลงบนโต๊ะเมื่อคนเป็นแม่ก้าวมาดูบาดแผลของลูกชาย ภรัณยูเพิ่งเคยเห็นเกศราชัดๆเป็นครั้งแรก หญิงสาวหน้าตาสะสวยรูปร่างผอมบางสูงโปร่งในชุดกระโปรงพลิ้วสีเหลืองอ่อนย่อตัวลงข้างเด็กน้อยที่งอแงกับแผลถลอกเล็กๆที่เข่าของตน



“เป็นอะไรครับซัน…”



“ฮึก…ซันเจ็บ…” เด็กน้อยในจอสะอื้น เกศราลูบศีรษะลูกชายคนเล็กพร้อมรอยยิ้ม มือขาวเริ่มซูบตอบแสดงถึงการถูกกัดกินจากโรคร้ายทีละน้อย




“ไหน…ยิ้มให้แม่ดูหน่อยสิครับคนเก่ง”



ทินกรพยายามกลั้นสะอื้นเพื่อฉีกยิ้มให้ตามที่มารดาขอ แต่ก้อนสะอื้นยังคงตีตื้นขึ้นจากอกเป็นระยะ



“ฮึก…ฮึก…”



“ซันครับ…” เกศราเรียกลูกชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “รู้มั้ยว่าชื่อซันแปลว่าอะไร?”



“อึก…พระอาทิตย์ฮะ” เด็กน้อยที่เช็ดน้ำตาป้อยๆตอบเสียงงึมงำ คนเป็นแม่พยักหน้า



“ใช่แล้วครับ ชื่อซันแปลว่าพระอาทิตย์ เพราะฉะนั้น ซันจะต้องมีรอยยิ้มสว่างไสวเหมือนพระอาทิตย์นะครับ”



เด็กชายพยายามกลั้นสะอื้น ฉีกยิ้มเหยเกให้กับมารดาที่หลุดขำออกมาเมื่อได้เห็น



”…”



ภรัณยูละสายตาจากหน้าจอมาที่ทินกร เด็กน้อยในวันวานเติบโตเป็นเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ใครๆก็ต้องชื่นชมในความร่าเริง แต่ไหล่กว้างในตอนนี้กลับสั่นระริกราวกับลูกนกตากฝน ไม่มีเสียงสะอื้นเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากของทินกร แต่นั่นกลับยิ่งทำให้ภาพตรงหน้าสะเทือนจิตใจของผู้พบเห็นมากกว่าเดิมหลายเท่า




ร่างกายของภรัณยูเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ แขนเรียวโอบรอบร่างที่แม้จะตัวใหญ่กว่าเขามากแต่กลับให้ความรู้สึกบอบบางจนน่าใจหายในตอนนี้ไว้เท่าที่ความยาวแขนของเขาจะเอื้อมถึง ภรัณยูรู้สึกได้ถึงร่างของเด็กหนุ่มที่แข็งเกร็งขึ้นอย่างตกใจกับการมาของเขา




“พี่ภัทร…อึ่ก… มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”




เสียงแหบพร่าที่บ่งบอกชัดเจนว่าพยายามบังคับไม่ให้สั่นเครือเอ่ยถาม แม้เจ้าของเสียงจะปฏิเสธที่จะเงยหน้ามองเขา ภรัณยูมองอีกฝ่ายด้วยแววตาที่อ่อนลง ความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก่อตัวในหัวใจอีกครั้ง




“เพิ่งมาถึง…ขอโทษนะที่มาช้า”




น้ำเสียงอ่อนโยนที่ไม่ได้ยินบ่อยๆทำให้ทินกรรู้สึกอุ่นวาบในอก เด็กหนุ่มซุกหน้าลงกับบ่าของคนอายุมากกว่า ภรัณยูอาจไม่เคยรู้ แต่แค่ท่าทีที่บ่งบอกว่าชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไรเขาก็ทำให้ทินกรมีกำลังใจกับการไล่ตามที่ไร้จุดสิ้นสุดนี้ขึ้นมาอีกครั้ง



“ไม่เป็นไรครับ ถ้าเป็นพี่ภัทรช้าแค่ไหนผมก็จะรอ”



หากเป็นคำพูดจากปากของคนอื่น ภรัณยูคงจะไม่เสียเวลาฟัง แต่กับทินกร ทุกสิ่งทุกอย่างที่อีกฝ่ายพูดมักจะเหมือนกับออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจเสมอ



“สุขสันต์วันเกิดนะ”



ชายหนุ่มกระซิบข้างหูเจ้าของวันเกิด มือเรียวสอดเข้าใต้กลุ่มผมนุ่มสีรัตติกาลพร้อมกับริมฝีปากเรียวที่ประทับจุมพิตลงบนขมับของเด็กหนุ่มเบาๆ ทอนกรไม่ตอบ เพียงแค่กอดเขาแน่นขึ้นราวกับกลัวว่าเขาจะหายไป




ภรัณยูไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่แบบนั้นนานแค่ไหน แต่แสงไฟจากหน้าจอโทรทัศน์ที่ดับลงทำให้ชายหนุ่มเริ่มขยับตัวผละออกจากทินกร แม้ในตอนแรกร่างสูงจะกอดเขาไว้แน่น แต่เมื่อรับรู้ว่าภรัณยูไม่ได้คิดจะหนีหายไปไหน เด็กหนุ่มจึงยอมปล่อยเขาเป็นอิสระแต่โดยดี




“พี่ภัทร…ขอโทษนะครับที่ผมเอาแต่ใจ…”




ภรัณยูยัดของขวัญของตัวเองใส่มือทินกรเป็นการตัดบท เด็กหนุ่มกระพริบตาปริบๆ ก้มมองกล่องใส่สีน้ำมันในมือราวกับไม่เคยเห็นมันมาก่อนในชีวิต




“ให้ผมเหรอครับ?”




”วันเกิดซัน จะให้พี่ให้ใครล่ะ?” ภรัณยูถามย้อน ทินกรเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาเป็นประกาย รอยยิ้มกว้างที่สว่างสดใส
ดุจดวงอาทิตย์กลับมาบนใบหน้าของเด็กหนุ่มอีกครั้ง



“ขอบคุณครับพี่ภัทร!”



รอยยิ้มที่ไม่ว่ากี่ครั้งก็ยังทำให้เขารู้สึกขัดเขินทำให้ภรัณยูรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา



“งานวันเกิดเลิกแล้วเหรอ? พี่ไม่เห็นใครอยู่บ้านเลย”



แม้แต่บรรดาคนรับใช้ที่ปกติจะเห็นอยู่ประปรายยังหายไป ภายในตัวบ้านเงียบเหงาจนเขาเข้าใจว่าไม่มีใครอยู่ในทีแรกทั้งที่วันนี้ควรจะมีผู้คนที่ทินกรรักรายล้อมรอบตัวร่างสูง ภรัณยูนึกขึ้นได้ว่าในการประชุมก่อนหน้านี้ เขายังเห็นธีรเชษฐ์กับเมฆาเข้า
ร่วมการประชุมอยู่




ทินกรหลบสายตาของเขา ราวกับว่าคำตอบของคำถามเมื่อครู่เป็นเรื่องน่าละอาย



“วันเกิดของผม…ไม่ใช่วันที่น่าฉลองนักหรอกครับ”



“ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ?” ภรัณยูขมวดคิ้ว ทำไมจู่ๆคนที่มองโลกในแง่ดีอย่างทินกรถึงพูดอะไรแบบนั้นออกมา



“ถ้าผมไม่เกิดมา…” ทินกรหันกลับไปมองหน้าจอโทรทัศน์ที่ดับลงไปแล้ว “แม่ของผมอาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้”



“ซัน…” ภรัณยูเรียกอีกฝ่ายเสียงแผ่ว ไม่อยากเชื่อว่าอีกฝ่ายจะคิดแบบนั้นจริงๆ




“ตอนเด็กๆพี่อุ่นก็เคยพูดกับพี่เมฆ ตอนที่พี่ๆคิดว่าผมไม่ได้ยิน…” ทินกรก้มมองมือของตัวเอง “…ถ้าผมไม่เกิดมาซักคน
สุขภาพของแม่คงไม่ทรุดลงขนาดนี้…แม่คงอยู่กับทุกคนได้นานกว่านี้…”




ร่างโปร่งทรุดตัวลงข้างร่างที่นั่งอยู่บนเตียง มือเรียวเอื้อมไปจับมือใหญ่บนตักของอีกฝ่ายหลวมๆ




“ซันคิดว่าถ้าแม่ของซันที่อยู่บนสวรรค์ได้ยินซันพูดแบบนี้ ท่านจะเสียใจมั้ย?”




ทินกรก้มหน้านิ่ง ไม่คิดจะตอบคำถามของเขา ภรัณยูมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้ากังวลใจ




“พี่ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมพี่ๆของซันถึงพูดแบบนั้น และพี่ก็ไม่คิดว่านั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาคิดด้วย…” มือเรียวอีกข้างแตะที่ใบหน้าของทินกรให้อีกฝ่ายหันมาหาหาตน “…แต่ต่อให้ใครคิดแบบนั้นจริงๆ พี่คนนึงแหลพที่ดีใจที่ซันเกิดมา”




ดวงตาสีควันบุหรี่ไหวระริกกับคำพูดของเขา เด็กหนุ่มมีสีหน้าเหมือนกำลังพยายามกลั้นน้ำตาไว้อย่างสุดความสามารถ แต่ในที่สุดหยาดน้ำใสๆก็เอ่อล้นขอบตาของทินกร ภรัณยูใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดน้ำตาให้กับคนตรงหน้าพร้อมกับเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน




“เอ้า เลิกร้องได้แล้ว วันนี้วันเกิดซันนะ”




เจ้าของวันเกิดขยับยิ้มฝืนๆให้กับภรัณยู แม้จะไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ แต่ชายหนุ่มก็รู้สึกว่ายังดีกว่าสีหน้าเมื่อครู่มาก
หลังจากที่เริ่มสบายใจกับท่าทีที่ผ่อนคลายลงของเด็กหนุ่ม ดวงตาเรียวสวยเหลือบไปเห็นกล่องกระดาษสีขาวที่หน้าตาคล้ายคลึงกับกล่องใส่เค้กวางอยู่บนโต๊ะหนังสือของเด็กหนุ่ม ทินกรหันไปมองตามสายตาของภรัณยู ร่างสูงเกาจมูกอายๆ ก่อนจะไขข้อข้องใจให้กับคนอายุมากกว่า




“พี่เมฆทำฝากคนส่งของบริษัทมาส่งให้น่ะครับ ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกไว้ว่าอยากกินเค้กฝีมือพี่เมฆตอนวันเกิด”




ภรัณยูนึกภาพรองประธานบริษัทสุดขรึมในชุดผ้ากันเปื้อนเข้าครัวทำขนมแล้วรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แต่ร่างโปร่งนึกขอบคุณพี่ชายคนโตของทินกรที่ไม่ลืมนำส่วนสำคัญของวันเกิดนี้มาให้น้องชาย




ภรัณยูขยับลุกจากเตียงไปยังโต๊ะเขียนหนังสือที่ทินกรแทบไม่เคยได้ใช้เวลาเรียนกับเขา โล่งอกขึ้นมาเมื่อเห็นว่ามีกล่องเทียนวันเกิดเล็กๆกับไม้ขีดติดอยู่กับตัวกล่อง ขนมเค้กก้อนเล็กภายในนั้นดูจะเป็นเค้กครีมสีขาวเรียบๆที่มองอย่างไรก็รู้ว่าไม่ใช่มืออาชีพทำ โดยเฉพาะครีมแต่งหน้าสีแดงที่เขียนเป็นตัวโย้เย้ลวกๆว่า ‘HBD’




ภรัณยูปักเทียนลงบนหน้าเค้กหนึ่งแท่งแล้วจุดเทียน ประคองถาดรองขนมเค้กก้อนนั้นหันกลับมาหาเจ้าของวันเกิดที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียง ทินกรนิ่งค้างมองตามการเคลื่อนไหวทุกอย่างของร่างโปร่งด้วยดวงตาเบิกกว้าง ราวกับว่าไม่เคยมีใครทำแบบนี้ให้ตนมาก่อน ซึ่งนั่นทำให้ภรัณยูยิ่งรู้สึกสงสารอีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก




“Happy birthday to you…” เสียงหวานร้องเบาๆในลำคอ ชายหนุ่มไม่ใช่คนร้องเพลงเพราะอะไร ความมั่นใจในเสียงของ
ตัวเองนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่เขาอยากให้ทินกรรู้ว่าเขาให้ความสำคัญกับอีกฝ่ายมากแค่ไหน “Happy birthday to you…”
ร่างโปร่งทรุดตัวลงบนเตียงอีกครั้ง เค้กในมืออยู่ตรงหน้าของเจ้าของวันเกิดอยากพอดิบพอดี ภายใต้แสงเทียนสลัว แววตาลุ่มลึกที่ทินกรมองเขานั้นเป็นแววตาที่ภรัณยูไม่เคยเห็นมาก่อนแม้ในยามที่พวกเขาทั้งสองแนบชิดจนแทบจะหลอมรวมเป็นร่างเดียวกัน คนอายุมากกว่าหลบสายตาอีกฝ่ายอย่างรู้สึกขัดเขิน




“Happy birthday…Happy birthday…Happy birthday… to you…”




ทินกรก้มลงเป่าเค้ก ดวงตาคมสีควันบุหรี่ช้อนมองเขาในความมืด ไม่ยอมละสายตาไปไหน ภรัณยูที่เร่ิมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกคนตรงหน้าแทะโลมไปทุกสัดส่วนทั้งที่ไม่ได้สัมผัสวางถาดเค้กลงบนเตียงแล้วรีบลุกไปหาสวิชต์ไฟเพื่อเป็นข้ออ้างในการหลบสายตาที่ทำให้เขารู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัวนั้น




ไม่รู้ว่าเขาคิดผิดหรือไม่ที่หันหลังให้กับเด็กหนุ่ม เมื่อคนที่ควรจะนั่งรอเขาอยู่บนเตียงโอบแขนรอบเอวบางไว้จากด้านหลัง ความอบอุ่นที่แผ่จากร่างสูงผ่านเนื้อผ้าทำให้ภรัณยูรู้สึกอยากจะเอนพิงแผงอกแกร่งนี้สักพัก




“ขอบคุณนะครับพี่ภัทร…” เสียงทุ้มกระซิบชิดริมหูของร่างโปร่ง “…ที่ทำให้ผมเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก”




ภรัณยูอมยิ้มกับคำหยอดหวานหูที่มีเพียงทินกรที่สามารถทำให้ฟังดูจริงใจได้ แต่เช่นเคย ชายหนุ่มเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องเพื่อกลบความรู้สึกเขินอายที่ทำให้เขาทำตัวไม่ถูกนี้




“กินเค้กกันดีกว่า ทิ้งไว้นานเดี๋ยวมดขึ้น” มือเรียวดึงมือที่วางอยู่บนหน้าท้องแบนราบของตนให้เดินตามเขากลับไปที่เตียง ใช้ส้อมพลาสติกที่มีอยู่เพียงคันเดียวตักขนมหวานคำใหญ่ไปจ่อที่ริมฝีปากเจ้าของวันเกิดที่อ้าปากรับแต่โดยดี




…ก่อนที่ทินกรจะไอค่อกแค่กกน้าดำหน้าแดงพร้อมเอากำปั้นทุบอกตัวเองเบาๆ




“เป็นอะไรซัน?! สำลักเหรอ? เอาน้ำมั้ย?” ภรัณยูรีบถามอย่างเป็นห่วง ทินกรส่ายหน้า กลืนขนมเค้กคำนั้นลงคือไปด้วยสีหน้าเหมือนกลืนยาขม




“ไม่เป็นไรครับ…รสมันแค่แรงไปหน่อย…”




แรง?




ภรัณยูขมวดคิ้ว ตัดขนมคำเล็กเข้าปากด้วยความสงสัย ทันทีที่ขนมชิ้นนั้นแตะกับลิ้น กลิ่นแอลกอฮอล์ดีกรีแรงที่ตีขึ้นจมูกก็ทำให้เขาแทบสำลักอีกคน




“แค่ก…วอดก้าเพียวๆเลยไม่ใช่รึไงเนี่ย?!” ร่างโปร่งร้อง “เอาของแบบนี้มาให้เด็กอายุสิบเจ็ดกินได้ยัง…”




“สิบแปดครับ” ทินกรขัด สีหน้าของเด็กหนุ่มจริงจังจนภรัณยูชะงัก “ผมอายุสิบแปดแล้ว”



คำพูดนั้นทำให้ร่างโปร่งรู้สึกเหมือนตนเพิ่งได้เห็นเด็กหนุ่มตรงหน้าเต็มตาเป็นครั้งแรกในคืนนี้




แววตาแน่วแน่ ที่บ่งบอกว่าทินกรตั้งใจจะทวงคำสัญญาทั้งหมดที่เขาเคยให้ไว้ก่อนหน้านี้


-----------(มีต่อ)------------
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 18 อัพเต็มบทแล้ว P.12 คห 357 (21/7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 10-08-2018 21:46:53

ภรัณยูก้มลงมองเค้กก้อนเล็กที่ยังคงวางอยู่ระหว่างพวกเขาทั้งคู่ ก่อนจะตักเอาเค้กคำโตเข้าปากไปอีกคำ



เขาเชื่อว่าดีกรีของวอดก้าในเค้กจะมากพอที่จะเพิ่มความกล้าให้เขาแม้จะเพียงแค่เล็กน้อย




“พี่ภัทรครับ?” ทินกรเอียงคออย่างงุนงงกับการกระทำของเขา ภรัณยูหยิบเค้กที่เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่งก้อนไว้บนโต๊ะหัวเตียง ก่อนจะหันกลับมาหาเจ้าของวันเกิด




ทินกรเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อภรัณยูทรุดตัวลงคุกเข่าอยู่บนพื้นตรงหน้าของตน มือเรียวแยกขายาวของเด็กหนุ่มออกก่อนจะปลดซิปกางเกงของร่างสูงออก ดวงตาสีน้ำตาลจดจ้องอยู่กับการกระทำของตน ปฏิเสธที่จะเงยหน้ามองทินกรด้วยไม่อย่างให้ความกล้าที่เรียกออกมาอย่างยากลำบากสลายไป




แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับภรัณยู แต่หากเทียบกับจำนวนครั้งที่ทินกรปรนเปรอความสุขให้กับเขา ชายหนุ่มยังคงขาดการฝึกฝนอยู่มาก




เขาได้แต่หวังว่าความตั้งใจของตัวเองจะช่วยทดแทนความอ่อนประสบการณ์นี้




“อึ่ก…พี่ภัทร…”




เสียงของทินกรพร้อมกับสะโพกสอบที่ขยับเข้าหาโพรงปากอุ่นตามสัญชาตญาณทำให้ภรัณยูรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ลิ้นเรียวหยอกล้อกับส่วนปลายก่อนจะขยับศีรษะอย่างเชื่องช้า พยายามปรับตามความต้องการที่ขยายตัวจนคับแน่นไปหมดนั้น




“พี่…พี่ภัทร…” ภรัณยูรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อมือใหญ่ขยุ้มกลุ่มผมนุ่มเพื่อระบายอารมณ์ แต่ก็อดรู้สึกดีใจไม่ได้ที่ตนสามารถทำให้ทินกรเสียการควบคุมจนเผลอทำเรื่องที่ไม่เคยทำแบบนี้ “พี่ภัทร…ผมจะ…”




ภรัณยูผละจากร่างสูงตรงหน้าก่อนที่ทินกรจะได้พูดจบ เด็กหนุ่มปรือตาขึ้นอย่างประหลาดใจ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อร่างโปร่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าตวัดขาคร่อมหน้าตักของตนพร้อมยกแขนโอบรอบคอของร่างสูงไว้



“พี่ภัทร…จะทำอะไร…”




“ของขวัญเกิดไงครับ…” ภรัณยูตอบยิ้มๆ ขยับสะโพกมนบดเบียดกับความต้องการที่ยังคงไม่ได้รับการปลดปล่อยของทินกร การเสียดสีผ่านเนื้อผ้านั้นทำเอาเด็กหนุ่มขบกรามแน่น แต่ยังคงพยายามควบคุมสติของตัวเองไว้อย่างเต็มที่




“พี่ภัทร หยุดก่อนครับ!”




น้ำเสียงเฉียบขาดของเด็กหนุ่มทำให้ภรัณยูชะงัก ความมั่นใจที่เรียกขึ้นมาได้อย่างยากลำบากหายไปแทบจะในทันที เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่ความคิดที่ว่าทินกรจะไม่ต้องการเขาไม่เคยแวบเข้ามาในหัวของร่างโปร่ง ภรัณยูผุดลุกขึ้นจากตักของอีกฝ่าย ใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอาย



“พี่ขอโทษ พี่…พี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ซันลำบากใจ…”




“ผมต่างหากที่กำลังทำให้พี่ภัทรลำบากใจ” ทินกรเอ่ยขัดขึ้น ดวงตาสีควันบุหรี่เศร้าหมองจนภรัณยูรู้สึกเจ็บแปลบในอก “ผมเคยคิดว่าต่อให้พี่ภัทรแค่ยอมเพราะความสงสาร ผมก็มีความสุขกับทุกอย่างที่พี่ภัทรให้ แต่ตอนนี้…ผมไม่อยากได้แค่ความสงสารของพี่ภัทรแล้ว”




“ซันคิดว่าพี่จะยอมนอนกับใครแค่เพราะความสงสารเหรอ?” ภรัณยูถามย้อนด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ “ ซันคิดว่าพี่ง่ายขนาดนั้นเลยรึไง?”



“…ถ้าไม่ใช่เพราะความสงสาร แล้วเป็นเพราะอะไรล่ะครับ?”



ภรัณยูเห็นประกายความหวังผุดขึ้นมาในดวงตาสีควันบุหรี่ ร่างโปร่งเบือนหน้าหนีอย่างหงุดหงิด




“เรื่องแค่นี้คิดเองไม่ได้เหรอ?”




“ผมคิดเองได้ แต่ผมไม่รู้ว่าสิ่งผมคิด มันใช่สิ่งที่พี่ภัทรคิดรึเปล่า” ทินกรตอบ ดวงตาคมเว้าวอนขอคำตอบจากปากของคนตรงหน้า



ภรัณยูถอนหายใจ




เขาไม่ใช่คนพูดเก่ง ถึงแม้เขาจะมีความคิดมากมายในหัว แต่น้อยครั้งที่ความคิดพวกนั้นจะได้เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบาง ร่างโปร่งไม่ค่อยเอื้อนเอ่ยความคิดของตนให้ใครรู้หากไม่จำเป็นจริงๆ




แต่ดูเหมือนว่านี่จะเป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่ ‘จำเป็นจริงๆ’นั้น




“ถ้าพี่ไม่รู้สึกดีกับซัน พี่คงไม่มายืนอยู่ตรงนี้…พอใจรึ…อ๊ะ!!”



ร่างโปร่งถูกเด็กหนุ่มตรงหน้าดึงกลับลงไปบนเตียงโดยมีร่างสูงใหญ่ทาบทับลงมา แม้จะไม่ถึงกับรุนแรงอถไร แต่แรงของทินกรที่มากกว่าปกติบ่งบอกว่าครั้งนี้ของพวกเขาจะแตกต่างไปจากทุกครั้งที่ร่างสูงมอบความสุขให้เขาผ่านมือใหญ่และริมฝีปากได้รูป



“หมดโอกาสเปลี่ยนใจแล้วนะครับ”




ดวงตาสีควันบุหรี่เข้มขึ้นจากความต้องการที่ไม่ได้รับการปลดปล่อย มือใหญ่กระชากชุดทำงานของเขาออกจากร่างขาวราวกับไม่สามารถรอได้มากกว่านี้แม้แต่วินาทีเดียว



น่าแปลกที่ภรัณยูไม่ได้รู้สึกอยากห้ามการกระทำของเด็กหนุ่ม หนำซ้ำยังอดรู้สึกตื่นเต้นกับด้านที่เขาไม่เคยเห็นนี้ของทินกรไม่ได้




“ซัน…ปิดไฟก่อน…อ๊ะ…”




ขาเรียวเปลือยเปล่าถูกจับแยกออกกว้าง ภายใต้แสงไฟสว่างจ้า ภรัณยูสามารถเห็นแววตาของอีกฝ่ายที่ไล้โลมไปตามเรือนร่างไร้อาภรณ์ของเขาอย่างหื่นกระหายอย่างชัดเจน ร่างโปร่งพยายามหุบขาของตนกลับเข้ามา แต่ทินกรไม่ยอมปล่อยให้เขาทำอย่างที่คิด




“ทำไมล่ะครับ?” ทินกรเลียริมฝีปากด้วยท่วงท่าที่ทำให้ภรัณยูกลืนน้ำลายฝืดคอ “พี่ภัทรไม่อยากรู้เหรอครับ…ว่าผมจะทำอะไรกับของขวัญวันเกิดที่พี่ภัทรให้”




“มะ…ไม่เห็นจะอยากรู้เลย” คนถูกแกล้งเถียง ยกมือปิดหน้าตัวเองอย่างอับอาย แต่เป็นอีกครั้งที่ทินกรไม่ยอมให้ชายหนุ่มได้ทำตามใจปรารถนา มือใหญ่รวบข้อมือทั้งสองข้างของภรัณยูตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียว




“ไม่เป็นไรครับ ยังไงผมก็จะเปิดไฟ” ทินกรฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ “เพราะผมอยากเห็นพี่ภัทรชัดๆตอนที่พี่ภัทรเป็นของผม…”




“ไอ้เด็กบ้า…อ๊ะ…อะ…”ภรัณยูไม่รู้ว่าตัวเองเผลอใจอ่อนกับเจ้าเด็กกะล่อนนี่ได้อย่างไร








คืนนั้น ร่างโปร่งไม่รู้ว่าตัวเองเพลียจนหลับไปตอนไหน แต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า อุณภูมิผิวกายของทินกรที่แนบสนิทกับแผ่นหลังของเขาทำให้ภรัณยูอดยิ้มออกมาไม่ได้



วงแขนหนากระชับอ้อมกอดขึ้นเมื่อรู้สึกถึงการขยับตัวของเขา คนที่ภรัณยูเข้าใจว่าหลับอยู่ขโมยหอมที่แก้มของเขาไปฟอด
ใหญ่พร้อมเสียงพร่าที่กระซิบข้างหู



“Good morning ครับพี่ภัทร”



ริมฝีปากได้รูปไล่ประทับจุมพิตจากหัวไหล่มนลงมาตามแผ่นหลังขาวเนียน ภรัณยูพลิกตัวหันกลับเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่มเมื่อทนความรู้สึกวาบหวามจากสัมผัสของริมฝีปากนั้นไม่ไหว แต่หน้าท้องแบนราบกลับกลายเป็นเป้าหมายต่อไปของคนที่ยังคงมัวเมากับผิวกายของเนียนของคนอายุมากกว่า




“พะ…พอแล้วซัน… พี่ต้องไปทำงาน…” ภรัณยูเอ่ยปราม แม้ว่าร่างกายของตนจะขยับเข้าหาสัมผัสของอีกฝ่ายอย่างห้ามไม่อยู่ก็ตาม




ทินกรหัวเราะในลำคอ



“จะไปทำงาน เดินได้เหรอครับพี่ภัทร”



คนถูกแซวค้อนขวับกลบเกลื่อนความอาย ตวัดขาลงจากเตียง ก่อนจะทรุดฮวบลงไปกับพื้นในก้าวแรก เล่นเอาคนขี้แกล้งรีบคว้าอีกฝ่ายเอาไว้แทบไม่ทัน



“พี่ภัทร…ผมว่าวันนี้พี่ภัทรนอนพักก่อนดีมั้ยครับ?” ทินกรถามด้วยความเป็นห่วง ภรัณยูส่ายหน้า


“พี่ไหว”



“แต่ว่า…”




”เชื่อพี่สิ” ภรัณยูตัดบท หันไปหาเด็กหนุ่มข้างกายพร้อมกับเลิกคิ้ว “ไม่อย่างนั้นหลังจากนี้พี่ไม่ต้องลางานทุกวันเลยเหรอ?”
คนที่กลั่นแกล้งเขาจนไม่ได้นอนตลอดทั้งคืนเกาแก้มอย่างขัดเขินกับคำพูดนั้น แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งภรัณยูก็รู้ดีอยู่แล้วจึงไม่ได้รู้สึกอยากเขกกะโหลกอีกฝ่ายเท่าที่ควร




“ถ้าอย่างนั่นให้ผมไปส่งนะครับ”ทินกรเสนอตัว เมื่อเห็นภรัณยูขมวดคิ้วอย่างลำบากใจร่างสูงจึงรีบเอ่ยเสริม “ผมสัญญาว่าจะไม่ให้ใครเห็นผม”




ทั้งที่นั่นควรจะทำให้ภรัณยูโล่งอกที่อีกฝ่ายเข้าใจ แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกผิดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าทินกรดูจะคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเขาอยากให้มีคนรู้เรื่องของพวกเขาน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้




คงเป็นเพราะในความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ คนที่เขาคบด้วยมักจะเป็นฝ่ายตั้งกฏและกะเกณฑ์ชีวิตคู่ของพวกเขาทุกอย่าง ภรัณยูจึงรู้สึกผิดที่ครั้งนี้เขากลายเป็นฝ่ายเรื่องมากขึ้นมา…



เดี๋ยวนะ…




ร่างโปร่งหน้าแดงวาบเมื่อคิดได้ว่าตัวเองเผลอให้คำจำกัดความสถานะของพวกเขาไปในความคิดโดยไม่รู้ตัว




“นะครับพี่ภัทร…” ทินกรออดอ้อนเมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งไปนาน เหมือนว่าอีกฝ่ายแปลความหมายความเงียบของเขาเป็นคำปฏิเสธไปเสียแล้ว“ผมเป็นห่วง”




แน่นอน…คนอย่างเขาเคยปฏิเสธสายตาออดอ้อนของลูกหมาตัวโตตัวนี้ได้ที่ไหน










“ซัน ลานจอดรถพนักงานมันสูงสุดแค่ชั้นนี้นะ” ภรัณยูเตือนเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มยังคงวนรถขึ้นไปชั้นบนอย่างต่อเนื่อง




“ผมไม่อยากให้พี่ภัทรเดินไกลนี่ครับ” ทินกรที่อยู่ในชุดสูททำงานเต็มยศตอบพร้อมรอยยิ้ม หยิบบัตรสีขาวจากกระเป๋าเสื้อนอกของตนขึ้นมาแตะที่เซ็นเซอร์ของรั้วกั้นแล้วขับเข้าไปในลานจอดรถผู้บริหารซึ่งแยกชั้นอยู่กับพนักงานอย่างพวกเขาอีกที




“แต่นี่มันรถพี่นะ ที่จอดรถผู้บริหารเขาล็อคทะเบียนไว้ไม่ใช่…” เสียงของภรัณยูกลืนหายลงไปในลำคอเมื่อเขาเห็นป้ายที่แปะอยู่บนกำแพงของช่องจอดรถ




‘ทินกร ทรัพย์ดำรง ประธานกรรมการ’ และป้ายทะเบียนของภรัณยูเด่นหราบนป้ายเหล็ก ร่างโปร่งหันขวับไปหาคนขับที่ยิ้มเจื่อนๆราวกับเด็กน้อยที่รู้ว่าตัวเองทำผิดแต่หวังว่าความน่ารักของตนจะทำให้คนอื่นให้อภัย




“ผมแค่ทำไว้เผื่อวันที่พี่ภัทรไม่มีที่จอดรถ…”




“แบบนี้คือไม่เป็นจุดสนใจของซันเหรอ?” ภรัณยูถามเสียงดุ เล่นเอาคนมีชะนักติดหลังรีบแก้ตัว




“ไม่ต้องห่วงครับพี่ภัทร ส่วนนี้ของลานมีแค่ผม พ่อ กับพี่เมฆที่เข้าได้ เดี๋ยวนี้พ่อจอดรถไว้ข้างหน้าบริษัทจะได้หนีพี่หมอกง่ายๆ ส่วนพี่เมฆก็เลิกขับรถมาหลายปีแล้ว ลานจอดรถนี้มีผมใช้แค่คนเดียว”




ภรัณยูไม่ได้ซักไซร้อะไรต่อ ทินกรลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าเหตุผลของตัวเองดูจะเป็นที่พึงพอใจของร่างโปร่ง




“พี่ภัทรลงไปก่อนก็ได้นะครับ ลิฟต์อยู่หน้าประตู เดี๋ยวซักสิบนาทีผมค่อยเข้าไป จะได้ไม่ผิดสังเกต” เด็กหนุ่มเสนอ ภรัณยูกัดริมฝีปาก แววตาของชายหนุ่มดูราวกับกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายร่างโปร่งเพียงแต่พยักหน้า แล้วเปิดประตูก้าวลงไปจากรถ




ทินกรดับเครื่องยนต์พร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เอนศีรษะพิงเบาะอย่างอ่อนเพลียแล้วหลับตาลงเพื่อหลบหนีจากโลกแห่งความเป็นจริงสักพัก




คำถามที่ยังคงค้างคาอยู่ในใจตั้งแต่วินาทีที่ภรัณยูก้าวเข้ามาในห้องของเขาเมื่อคืนกลับเข้ามาในหัวของเด็กหนุ่มอีกครั้ง




‘ตอนนี้…พวกเราเป็นอะไรกันเหรอครับ?’




ทินกรเกลียดการจมอยู่กับความไม่รู้ เขาเกลียดสถานะที่ไม่ชัดเจนของพวกเขาในตอนนี้ แต่การที่ภรัณยูเพียงแค่ยอมรับเป็นนัยว่าเริ่มรู้สึกดีๆกับเขาก็มากเกินกว่าที่ทินกรจะคิดฝัน เขาไม่อยาก…พี่ภัทรเคยสอนเขาว่ายังไงนะ? ได้คืบจะเอา…




เสียงประตูรถฝั่งของเขาที่เปิดออกทำให้ทินกรเด้งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทินกรหันไปพบกับภรัณยูที่ยืนอยู่ข้างตัวรถด้วยสีหน้าที่เขาอ่านไม่ออก แต่ก่อนจะได้ซักถามอะไร ริมฝีปากเรียวที่เขาหลงใหลก็ทาบทับลงมาบนริมฝีปากของเขา แม้จะไม่เข้าใจ แต่ทินกรเลือกที่จะตักตวงความสุขนั้นไว้ตอนที่ยังมีโอกาส จนกระทั่งภรัณยูเป็นฝ่ายถอนริมฝีปากไปเอง




“…พี่ภัทร?” ทินกรกระพริบตาปริบๆอย่างงุนงง




“พี่ไม่อยากให้ซันเป็นความลับของพี่…” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงปนหอบเล็กน้อย “พี่ไม่อยากให้ซันต้องโกหกเพื่อพี่”




“…” ทินกรไม่รู้ว่าตัวเองต้องมีปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างไร นอกจากรอยยิ้มกว้างที่ค่อยๆปรากฏขึ้นบนริมฝีปาก





ระหว่างทางจากลานจอดรถไปจนถึงประตู พวกเขาไม่ได้จับมือกัน พวกเขาไม่ได้ยืนข้างกัน พวกเขาไม่แม้แต่จะมองหน้ากันในลิฟต์ที่มีเพียงพวกเขาสองคนกับความเงียบในยามเช้า แต่ทินกรกลับรู้สึกว่าตัวเองเข้าใกล้อีกฝ่ายมากกว่าตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมามาก





เขาได้แต่หวังว่าซักวัน ภรัณยูจะยอมให้เขาเป็นคนคนนั้นที่คู่ควรจะเดินข้างชายหนุ่มไปในเส้นทางชีวิตจากนี้ไป


--------------

ปั่นกว่านี้ก็รายงานแล้วค่ะ :hao5:
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ยังอดทนรอหมูน้อยที่หายไป :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 10-08-2018 22:19:13
ของขวัญชิ้นนี้คงถูกใจเด็กโข่ง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 10-08-2018 23:02:42
เศร้าปนหวาน พี่ภัทรกล้าเปิดเผยแล้วนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 11-08-2018 00:46:19
เหมือนจะเป็นเรื่องดีๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-08-2018 02:05:15
 :a13: ขอให้มีความสุขกับพี่ภัทรนะ  :oo1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 11-08-2018 02:30:04
ดีใจกับซันด้วย
อีกนิดเดียวนะ
สถานะคงชัดเจนขึ้นกว่านี้
 :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-08-2018 08:57:38
อย่างน้อยก็คืบหน้า
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 11-08-2018 09:32:06
อย่างน้อยก็เป็นวันเกิดที่ต่างไปจากทุกปีล่ะนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 13-08-2018 03:31:49
โอ้ยยยยยยย สงสารน้องมีนอ่ะ
มธุสันกะเมฆานี้สอใส่เกือกมากกกกกก ลำไยๆๆๆๆๆๆ
คุณเชษฐ์ไปตามมีนกลับมาเร้วๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 13-08-2018 17:51:11
ว้าวๆ อย่างน้อยก็เลื่อนขั้นและพัฒนาความสัมพันธ์แล้วนะซัน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 13-08-2018 18:20:52
บางครั้งก็เบื่อภัทรนะ ชอบทำให้น้องเสียใจ
ทำก่อนคิด แล้วมาขอโทษทีหลัง
ถ้าซันไม่รักนะ จะมาเสียใจไม่ได้เลย

คืบหน้าอีกขั้นแล้วค่ะ ที่รอคอยมา คุ้มค่าอยู่เนาะซัน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 14-08-2018 14:24:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 25-08-2018 02:34:26
รอน้องมีนนนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: NOO~KUNG ที่ 29-08-2018 13:02:36
คู่พ่อกำลังจะดิ่ง  คู่ลูกกำลังดี...
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 31-08-2018 17:43:52
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13 o18 :man1: :z2: :m4: :จุ๊บๆ: :oni1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Itachishang ที่ 08-09-2018 21:03:18
 :sad4: ซัน 18 แล้ว มีนก็ 18เถอะ  ตามมาเพื่ออ่าน nc มีนอย่างจริงจัง5555  :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 19 100% P.13 คห 373-374 (10/8/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 15-09-2018 15:37:05
Chapter 20: คนใจร้าย

หากจะบอกว่าธีรเชษฐ์กำลังอารมณ์เสีย คงเหมือนกับบอกว่างูจงอางไม่ได้มีพิษถึงตาย
เขาไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าตัวเองเคยรู้สึกโกรธมากขนาดนี้ครั้งสุดท้ายตั้งแต่ตอนไหน
“คุณมีนาขอตัวกลับไปแล้วครับ บอกว่ามีเรียนตอนบ่าย”
นั่นคือสิ่งที่มธุวันบอกเขาหลังจากที่เขาออกมาจากห้องประชุม ธีรเชษฐ์พยักหน้ารับอย่างไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดอะไร เพราะถึงอย่างไรการศึกษาของมีนาก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าลึกๆแล้วชายหนุ่มจะอยากเห็นหน้าอีกฝ่ายก่อนที่จะกลับไปเรียนต่อในช่วงบ่ายก็ตาม
ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรเย็นนี้เขาก็ได้เจอมีนาอยู่แล้ว…
ชายหนุ่มเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงาน ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นบัตรเข้าสวนสนุกในช่วงเย็นที่เขาซื้อมาเซอร์ไพร์สร่างเล็ก
แค่นึกถึงดวงตากลมโตที่เบิกกว้างอย่างตื่นตาตื่นใจเมื่อได้เห็นแสงสีและการแสดงในสวนสนุกยามค่ำคืนก็มากพอที่จะทำให้ชายหนุ่มอารมณ์ดีไปตลอดทั้งวันโดยไม่รู้ตัว
เมื่อธีรเชษฐ์กลับมาถึงห้อง ร่างสูงขมวดคิ้วเมื่อไม่เห็นร่างที่ควรจะกลับมาก่อนเขาเป็นชั่วโมงแล้ว แต่ชายหนุ่มยังคงไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอะไร ธีรเชษฐ์ใช้โอกาสนั้นเปิดลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือของอีกฝ่ายเพื่อซ่อนบัตรเข้าสวนสนุกไว้ข้างใน ชายหนุ่มเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นตั๋วหนังที่พวกเขาไปดูด้วยกันเมื่อคราวก่อนวางอยู่ในกล่องเครื่องเขียนเล็กๆในลิ้นชัก ริมฝีปากได้รูปผุดยิ้มมุมปากขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ยังคงไม่มีวี่แววของมีนา ธีรเชษฐ์เหลือบมองนาฬิกาบนผนังเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนตัดสินใจโทรหาเด็กหนุ่ม
‘เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ’
คราวนี้ร่างสูงเริ่มรู้สึกตระหนกขึ้นมาแล้ว ธีรเชษฐ์เดินวนไปวนมาเป็นหนูติดจั่นในห้องของตัวเอง ในมือยังคงกดโทรศัพท์หาหมายเลขเดิมโดยไม่เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่าง
ชายหนุ่มชะงักมือที่กำลังจะกดโทรออกเป็นรอบที่สิบกว่าๆเขาเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างบนโต๊ะเขียนหนังสือของร่างเล็ก
บนโต๊ะไม่มีชีทเรียนของมีนาวางไว้แม้แต่แผ่นเดียว สมุดจดและกระดาษโน๊ตต่างๆที่เคยวางซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบก็หายไปด้วย ร่างสูงรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง กระชากประตูตู้เสื้อผ้าฝั่งของมีนาเปิดด้วยหัวใจที่เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง
ดังคาด ไม่มีเสื้อผ้าของเด็กหนุ่มหลงเหลืออยู่แม้แต่ตัวเดียว
ธีรเชษฐ์กัดฟันกรอด กระแทกประตูตู้เสื้อผ้าปิดด้วยโทสะที่พลุ่งพล่านอย่างที่เขาไม่ได้รู้สึกมานาน
เขาหลงคิดไปเอง…ว่าหากเขารู้สึกดีกับมีนา อีกฝ่ายย่อมรู้สึกดีที่ได้อยู่กับเขา
เหมือนเจ้าของที่โง่เขลา หลงคิดไปว่าสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่ตนซื้อมาจะมีความผูกพันธ์กับตนเหมือนกับที่ตนกำลังเริ่มรู้สึก โดยลืมคำนึงถึงความเป็นไปได้ที่เจ้ากระต่ายตัวนั้นจะอยากกลับไปสู่ท้องทุ่งกว้างที่ตนจากมา
“ได้…จะเล่นแบบนี้ใช่มั้ย…”
ชายหนุ่มคว้ากุญแจรถสปอร์ตคันหรูของตน จุดหมายปลายทางคือโรงพยาบาลที่มารดาของมีนาเข้าพักรักษาตัว

ดังคาด เด็กหนุ่มไม่ได้อยู่ที่นั่น
“น้องมีนไปเข้าค่ายกับคณะค่ะ คุณธีรเชษฐ์มีเรื่องด่วนอะไรรึเปล่าคะ?”
หญิงสาวบนเตียงผู้ป่วยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
เมษาเป็นหญิงสาวร่างเล็กที่หากไม่มีโรคร้ายที่ทำให้ร่างกายของหญิงสาวทรุดโทรมลงก่อนเวลาอันควรคงจัดเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง
การเห็นอีกฝ่ายทำให้ธีรเชษฐ์นึกถึงภรรยาที่ล่วงลับของตนพร้อมกับเห็นใบหน้าของมีนาซ้อนทับกับคนตรงหน้าอย่างน่าประหลาด ทำให้เขาไม่เคยรู้สึกเสียดายเม็ดเงินที่จ่ายไปเพื่อช่วยให้เมษากลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้ง
“ผมไม่ได้มาหามีนาหรอกครับ” ชายหนุ่มตอบ ยื่นเอกสารที่ตนเตรียมมาอย่างเร่งรีบจากสำนักงานทนายความส่วนตัวให้กับคนป่วยพร้อมรอยยิ้มการค้าที่แต่งแต้มบนริมฝีปากได้รูป “พอดีผมมีเอกสารให้คุณเมษาช่วยเซ็นต์หน่อยน่ะครับ”
“ผู้ปกครองชั่วคราว?” หญิงสาวอ่านหัวข้อเอกสารปึกหนาด้วยสีหน้างุนงง
“เอกสารหลายอย่างทั้งในบริษัทและมหาวิทยาลัยจำเป็นจะต้องให้ผู้ปกครองเซ็นยินยอม มีนาคงเกรงใจไม่อยากรบกวนคุณ ทำให้เอกสารมีความล่าช้าอยู่บ่อยๆ” ร่างสูงเกริ่นด้วยน้ำเสียงเห็นอกเห็นใจจอมปลอม “ผมเลยคิดว่าถ้าคุณมอบอำนาจให้ผมชั่วคราว น่าจะสะดวกกับทุกฝ่ายมากกว่า”
“ขอบคุณนะคะที่เมตตามีนาขนาดนี้”
น้ำเสียงซาบซึ้งของหญิงสาวทำให้ธีรเชษฐ์เกือบจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตนกำลังจะทำ…
ก็แค่เกือบล่ะนะ
“กรอกที่อยู่ตรงนี้ด้วยครับ…”
ดวงตาสีควันบุหรี่กวาดตามที่อยู่ที่เมษากรอกด้วยลายมือบรรจง หากหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาในตอนนี้ คงจะตกใจไม่น้อยกับสีหน้าแข็งกระด้างของผู้มีบุญคุณของครอบครัวเธอ

น่าแปลก ทั้งที่จากไปไม่นานขนาดนั้น แต่มีนากลับรู้สึกว่าบ้านของตนเล็กลงจนน่าอึดอัด เพิงไม้เล็กๆที่มีขนาดพอๆกับตู้เสื้อผ้าของธีรเชษฐ์เคยเป็นที่พักพิงให้แก่สามชีวิตในครอบครัวของเขา แต่บัดนี้แค่มีนาเพียงคนเดียวก็รู้สึกแทบขาดอากาศหายใจ
ร่างเล็กทิ้งตัวลงนอนบนพื้นไม้แข็งๆซึ่งมีหมอนเก่าใบเล็กวางอยู่หนึ่งใบ ทั้งมารดาและยายของเขายืนกรานให้มีนาได้นอนบนหมอนเก่าที่บางจนแทบไม่เหลือนุ่นยัดไส้ใบนี้มาตั้งแต่เด็ก เป็นความสะดวกสบายเล็กๆที่หญิงทั้งสองดิ้นรนเพื่อมอบให้กับเขาทั้งที่พวกตนไม่มีอะไรติดตัว
ความรัก…
นั่นคือสิ่งเดียวครอบครัวของเขาสามารถมอบให้เขาได้ ทั้งด้วยเหตุผลที่ว่าความรักหาซื้อด้วยเงินไม่ได้ และพวกเขาไม่มีเงินมากพอที่จะซื้ออะไรได้นอกจากความรักที่มีติดตัว
และด้วยเหตุผลนั้นทำให้มีนาเลือกที่จะเดินจากมาตามคำขอของเมฆาและมธุวัน
เขาไม่มีอะไรให้ธีรเชษฐ์ เขาไม่มีเงิน ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีค่าพอที่จะทำประโยชน์อะไรให้ร่างสูง
สิ่งเดียวที่เขามีคือความรัก และนั่นทำให้เขาเลือกที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาจะสามารถทำให้อีกฝ่ายได้…นั่นคือการก้าวออกมา
เขาได้แต่ภาวนาให้ธีรเชษฐ์จะให้อภัยและเข้าใจเหตุผลของเขา แต่เด็กหนุ่มรู้นิสัยของอีกฝ่ายดีเกินกว่าจะคาดหวังเป็นจริงเป็นจัง…
ความคิดของมีนาหยุดลงเมื่อแรงมหาศาลของใครบางคนฉุดกระชากร่างเล็กของเขาให้ลอยขึ้นจากพื้น

ธีรเชษฐ์ก้มหน้ามองที่อยู่บนเอกสาร แล้วเงยหน้ามองเพิงไม้เล็กๆมุงสังกะสีเก่าๆผุพังตรงหน้าตัวเอง
หากเขาได้มาเห็นบ้านของมีนาในสถานการณ์อื่น ความรู้สึกของเขาคงมีเพียงความสงสาร แม้กระทั่งเห็นอกเห็นใจร่างเล็กที่เติบโตมาด้วยสภาพแบบนี้
แต่ในตอนนี้สิ่งที่ธีรเชษฐ์รับรู้มีเพียงความโกรธที่ทวีเพิ่มขึ้นเมื่อตระหนักว่าเด็กหนุ่มเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในที่แบบนี้มากกว่าที่จะใช้ลมหายใจร่วมกับเขา และภาพของมีนาที่นอนขดตัวหลับสนิทอยู่บนพื้นไม้แข็งไม่ได้ช่วยให้โทสะนั้นลดลงแม้สักน้อย
มือใหญ่กระชากแขนเรียวขึ้นจากพื้น ปลุกร่างเล็กจากห้วงนิทราพร้อมเสียงร้องอย่างตกใจ ชั่วอึดใจหนึ่งมีนาดูสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อดวงตากลมโตสบกับดวงตาสีควันบุหรี่ ใบหน้าของเด็กหนุ่มซีดลงทันตา
“คุณเชษฐ์…”
“คิดว่าเป็นคนอื่นรึไง?”
ชายหนุ่มถามเสียงเย็น แววตาของร่างสูงในตอนนี้ทำให้มีนาตัวสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ แต่ความหวาดกลัวที่ฉายชัดบนใบหน้าเรียวรูปไข่ไม่ได้ทำให้โทสะของธีรเชษฐ์มอดลงแม้แต่น้อย เพียงออกแรงแค่นิดเดียวร่างของมีนาก็แทบลอยหวือตามไปทั้งตัว มีนาเบิกตากว้างเมื่อรู้สึกว่ากระดาษที่เสียบไว้ในกระเป๋ากางเกงนักศึกษาร่วงลงบนพื้น พอดีกับที่สายตาของคนที่กำลังฉุดกระชากเขาอยู่เหลือบไปเห็นเข้า
ทันทีที่ธีรเชษฐ์ก้มลงหยิบกระดาษใบนั้นมาคลี่ออกดู มีนารู้ตัวว่าโอกาสรอดของตัวเองมีค่าเท่ากับศูนย์
“หึ…ทีกับฉันทำตัวสูงส่งนักหนา” ธีรเชษฐ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ “แค่โดนเงินของลูกฉันฟาดหัวก็เก็บข้าวเก็บของวิ่งแจ้นมาถึงนี่…”
“มะ…ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ…”
“บอกแล้วใช่มั้ย ว่าเงินทั้งหมดฉันไม่ได้ให้เธอฟรีๆ” ธีรเชษฐ์เอ่ยขัด ไม่สนใจข้อแก้ตัวของร่างเล็ก “ฉันคงใจดีกับเธอมากไปจริงๆ”
เหตุการณ์หลังจากนั้นเป็นเพียงภาพเบลอในความทรงจำของมีนา ข้อมือของเด็กหนุ่มปวดระบมจากการถูกดึงกระชากตลอดทางกลับมาที่ห้อง แต่ในหัวของร่างเล็กมีเพียงความหวาดกลัวจนไม่รู้สึกถึงแรงมหาศาลที่บับข้อมือของตนไว้ราวกับคีมเหล็ก
“โอ๊ย!”
มีนาร้องออกมาในที่สุดเมื่อร่างของตนถูกผลักลงบนเตียงนุ่มที่กลายเป็นที่นอนประจำของตนตลอดช่วงที่ผ่านมา เด็กหนุ่มพยายามชันตัวขึ้นจากเตียงแต่ถูกน้ำหนักตัวของร่างสูงที่คร่อมทับลงมากักขังไว้ใต้ร่าง
“รู้มั้ยว่าฉันลงโทษคนที่ขัดคำสั่งของฉันยังไง?”
เสียงทุ้มกระซิบข้างหู ไร้ซึ่งเศษเสี้ยวความอ่อนโยนที่มีนาเคยได้รับ เด็กหนุ่มพยายามขัดขืน แต่ดูเหมือนธีรเชษฐ์จะไม่ได้มีความยากลำบากใดๆในการตรึงข้อมือทั้งสองข้างของเขาไว้เหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียว
 “ผม…ขอโ…”
“อย่าพูดถ้าเธอไม่ได้หมายความตามนั้น” ธีรเชษฐ์ตัดบท มี “คำขอโทษ…มันลบล้างความผิดไม่ได้หรอกนะ”
เรื่องนั้นธีรเชษฐ์รู้ดีที่สุด
“ผม…อื้อ…”
คำแก้ตัวของมีนาถูกกลืนหายไปกับริมฝีปากได้รูปที่บดขยี้ลงมา แม้ความรุนแรงของฟันคมที่ขบลงบนริมฝีปากอิ่มน้ำจะไม่เหมือนกับจูบรับอรุณและจูบราตรีสวัสดิ์แสนหวานที่เขาเคยได้รับ แต่สัมผัสของธีรเชษฐ์ยังคงทำให้ร่างกายที่ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดีโอนอ่อนตามสัมผัสโดยง่าย
ถึงอย่างนั้น มีนายังคงรู้สึกได้ว่าสัมผัสของธีรเชษฐ์นั้นไม่ใช่สัมผัสที่เขาคุ้นเคย โทสะของร่างสูงที่ฉายชัดในจูบนั้นทำให้มีนาเบือนหน้าหนีอย่างดื้อรั้น
ไม่เอาแบบนี้…
เขาไม่อยากถูกสัมผัสโดยไร้ซึ่งความรู้สึกแบบนี้
น่าแปลกที่เมื่อเขาทำเช่นนั้น น้ำหนักของร่างที่ทาบทับตัวเขาอยู่นั้นกลับผละออกไป ทำให้คนที่หลับตาปี๋อย่างหวาดกลัวบทลงโทษหันกลับมามองอีฝ่ายด้วยสีหน้างุนงง
“รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ” ความโกรธในน้ำเสียงของธีรเชษฐ์เจือด้วยความรู้สึกบางอย่างที่มีนาไม่เคยได้ยินมาก่อน
ความเจ็บปวดที่เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะสามารถเป็นต้นเหตุของมันได้
“คุณเชษฐ์...”
“วันนี้ยังไม่ต้องไปเรียน” ร่างสูงเอ่ยเสียงแข็ง ลุกจากเตียงด้วยสีหน้าหงุดหงิด “ต่อไปนี้หลังเลิกเรียนฉันจะไปรับ ถ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องเรียนฉันไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมทุกชนิด ฉันจะระงับบัตรเครดิตของเธอทุกใบ ถ้าอยากได้อะไรให้มาขอเงินกับฉันโดยตรง”
มีนาพยักหน้าหงึกหงักอย่างว่าง่ายด้วยกลัวว่าจะทำให้ร่างสูงโกรธไปมากกว่านี้
“แล้วอย่าคิดหนีไปอีก จำไว้ เพราะถ้ายังมีครั้งต่อไป ฉันจะไม่ใจดีแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สองแน่”
ชายหนุ่มทิ้งท้ายเสียงห้วน โยนเอกสารปึกหนึ่งลงบนเตียงข้างร่างเล็กแล้วกลับออกไปจากห้อง กระแทกประตูปิดเสียงดังจนร่างบางสะดุ้งอย่างตกใจ มีนาเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า หยิบเอกสารที่วางอยู่ข้างกายขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทา
สำเนาเอกสารรับรองการเป็นผู้ปกครองชั่วคราวที่มีลายมือมารดาของเขาเซ็นยินยอมอย่างชัดเจน
เด็กหนุ่มปล่อยให้กระดาษในมือร่วงกลับลงไปบนเตียงอย่างหมดแรง หัวเราะเบาๆทั้งน้ำตาอย่างขมขื่นกับตลกร้ายที่เกิดขึ้น
ธีรเชษฐ์ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ต่อให้ไม่มีเอกสารพวกนี้ มีนาก็เป็นของชายหนุ่มทั้งตัวเเละหัวใจ สาเหตุเดียวที่เขาเลือกที่จะจากไปมีเพียงความหวังที่ว่าเขาจะไม่เป็นตัวถ่วงให้ชีวิตของร่างสูงตกต่ำลง
แต่หากธีรเชษฐ์ต้องการให้เขาอยู่ เขาก็จะอยู่
ต่อให้โซ่ตรวนที่ล่ามเขาอยู่นี้บาดลึกจนถึงกระดูก เขาก็จะไม่ไปไหน
ถ้านั่นคือสิ่งที่ทำให้ธีรเชษฐ์พอใจ เขาก็ยินดีที่จะถูกขังไว้ในกรงทองนี้ตลอดชีวิต

ภรัณยูยังคงตัดสินใจไม่ได้ว่าตนคิดถูกหรือคิดผิดที่ยอมโอนอ่อนตามความต้องการของทินกรในวันเกิดของร่างสูง
“อือ…ซัน ตั้งใจเรียนหน่อยสิ”
ชายหนุ่มดูร่างที่ดึงเขามานั่งซ้อนบนตักแล้วพรมจูบฝากรอยรักแสดงความเป็นเจ้าของไว้ทั่วลำคอระหงส์ตั้งแต่ครูสอนพิเศษจำเป็นนั่งลงบนเตียง พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้น้ำเสียงของตัวเองฟังดูจริงจัง แต่มันข่างยากลำบากเหลือเกินเมื่อมีมือใหญ่ลูบไล้หน้าท้องแบนราบพร้อมสะกิดเขี่ยยอดอกสีชมพูไวต่อสัมผัสใต้เสื้อทำงานของเขาอยู่แบบนี้
“ผมก็ตั้งใจอยู่นี่ไงครับ พี่ภัทรสอนสิครับ” เสียงทุ้มกระซิบหยอกเย้า ลิ้นร้อนลากเป็นทางยาวขึ้นมาตามเรียวคอขาว ขบเม้มติ่งหูเย็นจนคนถูกทำร้ายต้องขยับหนีเพื่อลดความรู้สึกวูบวาบที่เกิดขึ้นในช่องท้อง
“หยุด เวลาเรียนก็เรียนสิ” ร่างโปร่งเค้นเอาน้ำเสียงจริงจังของตนออกมาในที่สุด ได้ผล ทินกรหยุดการกระทำของตน แม้ว่าภรัณยูจะไม่ได้อยากเห็นสีหน้าที่สลดลงของอีกฝ่ายก็ตาม
ชั่วโมงเรียนผ่านไปอย่างช้าๆโดยที่ภรัณยูยังคงนั่งอยู่บนตักของร่างสูง แต่เด็กดีอย่างทินกรเมื่อถูกดุไปแล้วหนึ่งรอบก็กลายเป็นนักเรียนดีเด่นที่เก็บมือซุกซนของตัวเองไว้กับตัวตลอดบทเรียน ทั้งที่นั่นควรจะเป็นเรื่องดี แต่ภรัณยูกลับอดรู้สึกผิดไม่ได้
“สี่สิบหกคะแนนเต็มห้าสิบ ไม่เลวนี่”
ภรัณยูเอ่ยขึ้นหลังจากจบแบฝึกหัดท้ายบทเรียน ทินกรยิ้มรับคำชมอย่างดีใจ ปิดหนังสือแบบฝึกหัดและสมุดของตัวเองวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง ก่อนจะหันกลับมาหาคนรักอายุมากกว่าด้วยสีหน้าคาดหวัง
ภรัณยูถอนหายใจ แต่ในที่สุดก็เผลอหลุดยิ้มขำออกมา
“อยากได้รางวัลใช่มั้ย?”
ทินกรพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น และนั่นทำให้รอยยิ้มมุมปากของร่างโปร่งเปลี่ยนเป็นหลุดขำออกมา ก่อนที่เสียงหัวเราะนั้นจะถูกปิดโดยริมฝีปากได้รูปของเด็กหนุ่ม คราวนี้แทนคำดุว่า เสียงที่ออกมาจากริมฝีปากเรียวมีเพียงเสียงครางหวานหูที่ทินกรหลงใหลหนักหนา

บางทีภรัณยูก็คิดว่าตัวเองตามใจเด็กหนุ่มมากเกินไป
“ขออีกรอบนะครับ…”
เปลือกตาของร่างโปร่งเริ่มปรือปรอยจากกิจกรรมที่ลากยาวกว่าที่คิดหลายชั่วโมง แต่ร่างสูงที่ควรจะเป็นฝ่ายออกแรงมากกว่าเขากลับไม่มีท่าทีอ่อนเพลียแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังดูมีเรี่ยวแรงกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
”พี่ขอพักก่อน” ภรัณยูตอบในที่สุด ทินกรไม่ได้แสดงสีหน้าผิดหวังออกมา เด็กหนุ่มเพียงแค่พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม โอบเอวบางไว้หลวมๆจากด้านหลัง พรมจุมพิตลงบนหัวไหล่เปลือยเปล่าชื้นเหงื่ออย่างรักใคร่ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายการกระทำของทินกรที่แตกต่างจากคนรักในอดีตของเขา
เรื่องบนเตียงสำหรับภรัณยูเป็นเหมือนหัวข้อต้องห้ามในความสัมพันธ์ก่อนหน้า คนที่ผ่านมาไม่เคยมีใครกระซิบถามเขาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลว่าเขารู้สึกเจ็บหรือไม่ ไม่เคยมีใครถามถึงความพร้อมของเขา ไม่มีใครสนใจว่าเขาจะรู้สึกดีเช่นกันหรือไม่
แน่นอน ไม่มีใครพร่ำบอกคำรักแว่วหวาน คลอเคลียข้างกายไม่ห่างเช่นที่ทินกรกำลังทำอยู่ตอนนี้ เรือนร่างที่แนบชิดจนแทบจะหลอมรวมเนื้อเนื้อเดียวกันทำให้ภรัณยูรู้ดีว่าปัญหาของร่างสูงยังไม่คลี่คลาย แต่ทินกรไม่คิดจะเอ่ยขอให้เขาลำบากใจอีกครั้ง เด็กหนุ่มเพียงแต่กอดเขาไว้ในอ้อมแขนเงียบๆ ราวกับว่าแค่นั้นก็มากเกินกว่าที่ทินกรจะนึกฝัน
บางครั้งเขาก็เกลียดความเป็นเด็กดีของอีกฝ่าย
“ซัน…” ร่างโปร่งพลิกตัวกลับไปหาคนรัก ทินกรขยับถอยออกมาเล็กน้อย ยิ้มเจื่อนๆให้เขาราวกับเด็กน้อยที่ถูกจับได้ว่าทำผิด
“ขอโทษครับ”
“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรนี่” ร่างโปร่งกระซิบตอบ ขยับเข้าไปใกล้คนตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มจางที่มุมปาก “พี่หายเหนื่อยแล้ว”
“…จริงเหรอครับพี่ภัทร?”เด็กหนุ่มถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาสีควันบุหรี่เป็นประกายระยับเมื่อได้ยินดังนั้น
ภรัณยูโกหก…
ร่างกายของเขาส่งเสียงร้องประท้วงทุกครั้งที่ขยับ สะโพกของเขายังคงร้าวระบมจากความรุนแรงที่ได้รับ แม้ว่าทินกรจะพยายามอ่อนโยนแค่ไหน
แต่เขาอยากให้ทินกรรู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่เลือกเขา อย่างน้อยที่สุด เขาอยากให้ทินกรรู้สึกว่าเขาสามารถให้อะไรได้พอๆกับเด็กอายุใกล้เคียงกันที่ทินกรเคยคบมา
ขาเรียวตวัดคร่อมร่างสูง ภรัณยูพลิกกายขึ้นนั่งบนตักของทินกร มือเรียวยกขึ้นทัดผมของตัวเองกับหลังหู สังเกตดวงตาสีควันบุหรี่ไล่มองตามทุกการกระทำของเขาราวกับสุนัขป่าผู้หิวโหย
สะโพกมนบดเบียดร่างข้างใต้อย่างยั่วเย้าแทนคำเชิญชวน
เขารู้ว่าตัวเองจะต้องเสียใจทีหลัง
แต่เป็นอีกครั้งที่แววตาของทินกรที่มองเขาเหมือนเป็นโลกทั้งใบทำให้ภรัณยูเลือกที่จะอยู่กับปัจจุบันมากกว่าสิ่งที่ยังไม่เกิด
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 50% P.13 คห 390 (15/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-09-2018 19:20:57
มีนาาาาาาา  :o12:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 50% P.13 คห 390 (15/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 15-09-2018 20:20:44
โถ...น้องมีน น่าสงสารจริงๆ เลยลูลุงเชษฐ์ใจร้าย ต้องโทษตัวเองสิถึงจะถูก ทุกคนทำไปเพราะเป็นห่วงลุงแท้ๆ :angry2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 50% P.13 คห 390 (15/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 15-09-2018 21:20:33
ลุงสายโหด ไม่ลองกลับไปถามลูกชายตัวเองบ้างว่าพูดอะไรไว้กับน้องบ้าง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 50% P.13 คห 390 (15/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 15-09-2018 22:03:06
ฮรื่อออออ ค้างไปอีก น้องมีนลูก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 50% P.13 คห 390 (15/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-09-2018 22:39:20
โถๆๆ น้องมีนของแม่
คนแก่ใจร้าย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 50% P.13 คห 390 (15/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-09-2018 23:50:13
น้องมีนโดนเข้าใจผิด บอกไปสิลูก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 50% P.13 คห 390 (15/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 16-09-2018 13:40:37
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 50% P.13 คห 390 (15/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 16-09-2018 18:13:00
มีนาน่าสงสารจังเลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 50% P.13 คห 390 (15/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-09-2018 18:19:34
ดราม่า...
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 50% P.13 คห 390 (15/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 17-09-2018 21:31:12
เจ็บปวดมากก
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 50% P.13 คห 390 (15/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 20-09-2018 17:10:10
ฮืออออออออ น้องมีนหนูลูกกกกก
น่าสงสารรรรรรร ทำไมคุณเชษฐ์ไม่ถามเหตุผลน้องมีนเลย
แล้วเด๋วลูกชายคนโตกะเลขาจะมาทำร้ายน้องมีนไหมเนี้ย สงสารน้องมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 50% P.13 คห 390 (15/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mookim ที่ 04-10-2018 21:50:59
รออยู่นะคะ งื้อออ คิดถึงแล้วว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 50% P.13 คห 390 (15/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 09-10-2018 08:12:21
เป็นไงล่ะ จากไปแบบไม่ต้องย้อนกลับมา
ไปตามมาเองเลยจ้า เจ็บกว่าเดิมไปอีก
สงสารมีนามากค่ะ เลือกอะไรได้บ้างไหม

คุณเชษฐ์ฟังน้องบ้างก็ดีนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 50% P.13 คห 390 (15/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 10-10-2018 14:19:41

ใครจะคิดว่าเขาจะได้ชดใช้เวรกรรมเร็วขนาดนี้
ภรัณยูคิดขณะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มไล่เม็ดยาแก้ปวดแก้อักเสบลงท้อง ร่างโปร่งที่ตื่นก่อนคนรักใช้โอกาสนั้นเพื่อจัดการร่างกายของตัวเองให้อยู่ในสภาพที่เป็นผู้เป็นคนมากขึ้น ใช่ว่าเขาจะไม่มีความต้องการ แต่ความต้องการของเขากับทินกรนั้นต่างกันมากเสียจนเหมือนกับเอาขันน้ำไปดับไฟป่า
“พี่ภัทรครับ…”
ภรัณยูสะดุ้ง รีบเก็บกระปุกยาเข้าตู้แล้วหันไปหาร่างที่เพิ่งเดินเข้ามาในครัว
ดังคาด นอกจากจะไม่เหนื่อยแล้ว เจ้าเด็กถึกนี่ยังดูกระดี๊กระด๊าจนน่าหมั่นไส้อีกด้วย ทินกรยิ้มกว้างเมื่อเห็นเขา ร่างสูงอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขายาวที่ไม่ควรจะดูดีขนาดนี้ไม่ว่าใครจะเป็นผู้สวมใส่
“มีอะไรรึเปล่า?” ภรัณยูถาม พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“ผมตื่นมาไม่เห็นพี่ภัทร เลยกังวลนิดหน่อยน่ะครับ”
ร่างโปร่งขมวดคิ้วกับคำตอบของอีกฝ่าย
“กังวลเรื่องอะ…”
ทินกรวบเอาร่างของคนรักเข้าไปในอ้อมกอด ความเจ็บแปลบที่ไม่ทันได้เตรียมใจทำให้ภรัณยูตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง โชคดีที่ดูเหมือนทินกรจะไม่สังเกตเห็น
“ผมคิดว่าพี่ภัทรจะเปลี่ยนใจแล้วทิ้งผมไปแล้วซะอีก”
คำพูดของร่างสูงเหมือนเพียงคำล้อเล่น แต่น้ำเสียงที่ทินกรใช้นั้นแฝงความกังวลไว้อย่างปิดไม่มิด
“มาถึงขนาดนี้แล้วใครเขาจะเปลี่ยนใจกัน” ภรัณยูถอนหายใจกับความคิดของเด็กหนุ่ม ยกแขนขึ้นโอบรอบไหล่กว้าง “ถ้าพี่จะทิ้งซันจริง พี่ทิ้งไปตั้งแต่มาสอนครั้งแรกๆแล้ว เด็กอะไรมือไวเป็นบ้า”
ทินกรอมยิ้ม สีหน้าที่สดใสขึ้นของเด็กหนุ่มทำให้ภรัณยูอดยิ้มตามไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้เราไปเที่ยวกันได้มั้ยครับพี่ภัทร?”
ร่างสูงเสนอขึ้น ภรัณยูลังเล เขาไม่ใช่คนชอบออกไปข้างนอกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่แววตามีความหวังของอีกฝ่ายทำให้ร่างโปร่งไม่มีกะใจจะปฏิเสธ

“สวนสนุก? คนอย่างซันชอบอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ?”
ภรัณยูควรจะรู้ดีเกินกว่าจะเผลองีบในรถของทินกรโดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง แต่ความอ่อนเพลียเอาชนะความพยายามที่จะฝืนเปลือกตาเอาไว้ของเขาอย่างง่ายดาย
และเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ภาพแสงสีสว่างสดใสที่เขาไม่ได้เห็นมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมก็ทำเอาชายหนุ่มตื่นเต็มตา
“พ่อให้บัตรฟรีมาน่ะครับ ไม่รู้ไปเอามาจากไหน” ทินกรเกาคอพร้อมรอยยิ้มแห้ง “อีกอย่าง…ผมอยากให้พี่ภัทรผ่อนคลายจากเรื่องเครียดๆบ้าง เดี๋ยวนี้ผมเห็นพี่ภัทรทำหน้าเครียดอยู่ตลอดเลย”
ภรัณยูนิ่งไปกับคำตอบนั้น เขามักจะคิดอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่งระดับหนึ่ง การถูกทักเรื่องสีหน้าจึงไม่ใช่สิ่งที่เขาประสบพบเจอบ่อยนัก
แต่ก็นั่นแหละนะ ทินกรเป็นข้อยกเว้นของทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเขาอยู่แล้ว
“อืม…งานมีเรื่องนิดหน่อยนะ ไม่ต้องห่วงหรอก” ร่างโปร่งเออออไปตามน้ำ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่หลบสายตาให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเขากำลังทำตัวมีพิรุธ
“ไม่ให้ห่วงได้ไงล่ะครับพี่ภัทร แฟนทั้งคน” ทินกรยิ้มร่า ดูจะมีความสุขเหลือเกินกับสถานะใหม่ของตัวเอง ภรัณยูยิ้มตอบอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ แม้ในใจจะยังคงหนักอึ้งจากอดีตที่ตัดสินใจกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง
เขายังไม่อยากให้รอยยิ้มของทินกรจางหายไปในตอนนี้
ครืด…
“ข้อความเข้ารึเปล่าครับพี่ภัทร?” ทินกรถามเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของร่างโปร่งสั่น ภรัณยูดึงโทรศัพท์ออกมาดูหน้าจอก่อนส่ายหน้า
“ข้อความโฆษณาน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
ชายหนุ่มเปิดประตูลงจากรถ นึกดีใจที่ทินกรไม่ใช่คนประเภทที่ชอบยุ่งวุ่นวายกับโลกส่วนตัวของเขาจนต้องเห็นทุกข้อความในโทรศัพท์
เพราะข้อความตลอดสองสามวันที่ผ่านมาจากเบอร์ที่เขาไม่ได้เห็นบนหน้าจอมาหลายปีนั้นเป็นสิ่งที่ภรัณยูไม่พร้อมจะให้ทินกรเห็น
’ให้โอกาสพี่ซักครั้งเถอะนะภัทร…พี่คิดถึงภัทรจริงๆนะครับ
-ปภพ’


“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรของมึงอยู่คนเดียว ขนลุกว่ะ”
พายุถามเพื่อนร่างสูงที่ผลุบนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ห่างจากตนไปอีกหนึ่งตัว กันที่ตรงกลางไว้ให้มีนาที่เดี๋ยวนี้มักจะมาสายกว่าพวกตนเสมอ ไอ้ฝรั่งรัสเซียเพื่อนเขาดูจะอารมณ์ดีจนน่าหมั่นไส้ ทินกรไม่ตอบ นั่งอมยิ้มเมื่อมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ตั้งเป็นรูปคู่ของเขากับภรัณยูในสวนสนุกเมื่อคืนอย่างมีความสุขโดยไม่สนสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
เมื่อวานเขาคิดว่าภรัณยูจะไม่ชอบสถานที่ท่องเที่ยวแบบเด็กๆที่เขาเลือก แต่ชายหนุ่มกลับยอมให้เขาลากไปนู่นไปนี่โดยไม่มีท่าทีขัดขืนใดมากไปกว่ารอยยิ้มระอาใจบนริมฝีปากเรียว
แน่นอน ภรัณยูยังคงไม่ยอมให้เขาจับมือถือแขนหรือโอบไหล่ในที่สาธารณะ แต่แค่อีกฝ่ายยอมแบ่งขนมให้เขากัดหรือแบ่งน้ำอัดลมให้เขาดื่ม ก็มากพอที่จะทำให้หัวใจของทินกรพองโตจนคับแน่นไปทั้งอก
หลายวันที่ผ่านมาเขารู้สึกว่าภรัณยูมีเรื่องกลุ้มใจอยู่ตลอดเวลา เด็กหนุ่มได้แต่หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่นึกเสียใจที่ยอมตกลงคบกับเขา แต่เขารู้ดีว่าคนอย่างภรัณยู ต่อให้ง้างปากเจ้าตัวก็ไม่ยอมพูดอะไร ทินกรจึงรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จเมื่อได้เห็นรอยยิ้มจางบนใบหน้าของคนรัก
“ขอโทษนะที่สาย…”

เสียงอิดโรยของมีนาเรียกความสนใจของเพื่อนทั้งสอง พายุเป็นคนแรกที่ลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งเมื่อเห็นสภาพของมีนาเต็มตา
“ไอ้มีน นี่มึงไปทำอะไรมาวะ สภาพอย่างกับผ่านสงครามโลกมา?!”
“พายุ เบา” ทินกรปรามเสียงดุ แต่คิ้วเข้มที่ขมวดมุ่นบ่งบอกว่ามีความคิดไม่ต่างจากเพื่อนตัวสูงนัก เด็กหนุ่มขยับให้พายุประคองมีนานั่งลง ร่างเล็กซึ่งไม่ได้มีน้ำหนักตั้งต้นอะไรมากนักอยู่แล้วยิ่งดูตัวบางลงหลังจากไม่ได้เจอกันหลายวัน สีหน้ามีนาที่เหมือนคนอดนอนมาหลายคืนยิ่งทำให้เพื่อนทั้งสองรู้สึกไม่สบายใจ “มีน…ใครทำอะไรนาย บอกพวกฉันได้มั้ย?”
“จะใครซะอีกล่ะ ก็ไอ้เสี่ยฝรั่งมันน่ะสิ แม่ง…” พายุเอ่ยด้วยน้ำเสียงมีน้ำโห ดวงตาคมสีรัตติกาลสำรวจบาดแผลตามแขนขาวเนียนด้วยความเป็นห่วง “…ผู้ชายเลวๆแบบนั้นทนคบกับมันไปทำไมวะ? หรือเป็นเรื่องเงิน บ้านกูรวยนะ เอาเงินกูก็ได้…”
“พอได้แล้ว” ทินกรกดเสียงต่ำเมื่อเห็นว่ามีนาคู้ตัวลงจนแทบจะจมหายไปกับเก้าอี้จากคำพูดของเพื่อน เขารู้ว่าพายุหวังดี แต่บางครั้งความตรงไปตรงมาของอีกฝ่ายก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป เด็กหนุ่มหันกลับไปหาเพื่อนตัวเล็ก “…เจ็บมากมั้ย?”
แม้ร่างกายจะสั่นเทาเป็นลูกนกตากฝน แต่มีนายังคงส่ายหน้าอย่างร้อนรน ริมฝีปากรูปกระจับเม้มแน่นจนแทบเป็นเส้นตรง ก่อนที่ร่างเล็กจะเอ่ยขึ้นเบาๆ
“เขา…ไม่ได้ทำอะไรเรา…”
“ถ้ามันไม่ได้ทำแล้วหมาที่ไหนทำ” พายุยังคงอดไม่ได้ที่จะขัดอย่างมีน้ำโห สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการเห็นคนอ่อนแอถูกรังแก โดยเฉพาะเมื่อคนอ่อนแอที่ว่านั้นคือเพื่อนของเขา
ทินกรกอดอกฟังเงียบๆ แต่ดวงตาสีควันบุหรี่ที่ไม่ละไปจากใบหน้าของมีนานั้นบ่งบอกว่าตนก็รอเหตุผลของอีกฝ่ายอยู่เช่นกัน
“เรา…แค่มีเรื่องให้คิดมากไปหน่อยน่ะ” ร่างเล็กก้มมองตักของตัวเอง ซ่อนสีหน้าจากเพื่อนทั้งสองด้วยกลุ่มผมสีน้ำตาลที่ปรกลงปิดดวงตากลมโต “เราไม่ค่อย…มีประสบการณ์ เลยกลัวว่าเขาจะเบื่อแล้วไปหาคนอื่น…”
แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ความกลัวที่แท้จริงของมีนา
สาเหตุที่เขานอนไม่หลับในช่วงหลายวันที่หลายวันที่ผ่านมานี้ เป็นเพราะธีรเชษฐ์ทำตัวเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศ ดวงตาสีควันบุหรี่มักจะมองเลยผ่านเหมือนเขาไม่มีตัวตน ทำให้บรรยากาศในห้องอึดอัดเสียจนมีนาไม่คิดที่จะอยากกลับไปในแต่ละวัน
“มึงก็เป็นซะแบบนี้ อย่าฝืนตัวเองสิวะ ที่เป็นลมไปรอบนั้นยังไม่เข็ดอีกเหรอ” พายุผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกระคนอ่อนใจ แววตาที่อ่อนลงของร่างสูงบ่งบอกว่าเชื่อคำพูดของร่างเล็กอย่างไม่มีข้อกังขา ทินกรขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ “กินยามารึยัง? ให้กูไปซื้อให้มั้ย?”
“เรากินมาแล้ว ขอบใจนะ”มีนาพึมพำตอบ เปลือกตาที่หนักอึ้งประกอบกับศีรษะที่เต้นตุบๆมาตั้งแต่เช้าทำให้เขาได้แต่ยอมรับความจริงว่าวันนี้คงไม่ได้จดเลคเชอร์อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ร่างเล็กรู้สึกถึงแรงดึงเบาๆที่แขน แต่มากพอที่จะทำให้เขาเซไปซบกับไหล่ของพายุที่นั่งอยู่ข้างๆ
“นอนไปมึง เดี๋ยวไอ้ซันจดให้” มือใหญ่ของพายุวางปุลงบนกลุ่มผมนิ่ม มีนาอยากจะทักท้วง แต่ความอ่อนล้าที่สั่งสมมาตลอดคืนทำให้เปลือกตาของร่างเล็กปิดลงอย่างว่าง่าย นึกเกลียดตัวเองที่ในเวลาแบบนี้กลับนึกไปถึงคนใจร้ายที่ไม่มีวันอ่อนโยนกับตัวเองแบบนี้ขึ้นมา

“กินเข้าไป ถ้าไม่หมดมึงไม่ต้องลุก”
มีนานั่งจ้องอาหารนับสิบจานที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้าตัวเองจากเงินของพายุตาปริบๆ ก่อนจะเงยหน้ามองทินกรด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ แต่เพื่อนที่ปกติดูจะเป็นคนที่มีเหตุผลที่สุดกลับพยักหน้าเห็นด้วย
“กินเยอะๆจะได้แข็งแรง”
“เยอะขนาดนี้เราจะได้ป่วยแทนน่ะสิ” มีนาถอนหายใจ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาคุ้นชินกับตรรกะประหลาดของเพื่อนทั้งสอง
“บ่นจังวะ จะกินเองกรือจะให้กูจับยัด”
คำขู่ของพายุทำให้ร่างเล็กหยิบช้อนขึ้นมาอย่างว่าง่าย แต่ยังไม่ทันจะได้ตักอาหารเข้าปาก คนที่นั่งเฝ้าเขาอย่างใกล้ชิดประดุจผู้คุมนักโทษก็ลุกพรวดขึ้นจากเก้าพร้อมโบกมือให้ใครสักคนด้วยรอยยิ้ม
“ที่รักคร้าบบบ”
“ใครเป็นที่รักนายไม่ทราบ” ร่างโปร่งในชุดนักศึกษาตอกกลับด้วยสีหน้าหงุดหงิด หมุนตัวเดินกลับไปทางที่ตัวเองจากมาโดยไม่สนใจเสียงเรียกของพายุ เด็กหนุ่มร่างสูงนั่งลงด้วยสีหน้าสับสน
“อะไรวะ?เมื่อวานยังดีๆอยู่เลย”
“เมื่อวานเจอกันด้วยเหรอ?” ทินกรถามอย่างประหลาดใจ
“เออ เมื่อวานเขาบอกว่าไม่เข้าใจแคล กูเลยไปช่วยติว” พายุตอบ ขมวดคิ้วเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนทั้งสอง “อะไร? ทำเหมือนมึงไม่เคยจีบใครงั้นแหละ”
“สรุปแล้ว เรื่องเจนนี่นี่พายุเอาจริงเหรอ” มีนาถามเสียงเบา พยายามไม่ให้น้ำเสียงของตนดูก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเพื่อนมากเกินไป
“เอาจริงดิ คนอย่างกูไม่เคยเอาใครเล่นๆ”
พายุตอบ กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำของคนถาม มือใหญ่ขยี้กลุ่มผมนุ่มอย่างเอ็นดู แม้จะอายุเท่าๆกัน แต่สำหรับเขามีนาเป็นเหมือนน้องชายตัวน้อยที่เขาอยากจะปกป้องจากโลกภายนอกอันโหดร้าย
“นี่…รู้สึกมั้ยว่าคนเขามองเราแปลกๆ” ทินกรที่เงียบไปสักพักเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ เพื่อนอีกสองคนหันไปตามที่อีกฝ่ายบอก มีนาสังเกตเห็นว่ามีนักศึกษาหลายคนที่เดินผ่านพวกเขาเริ่มเดินช้าลง หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นบ้าง ยกโทรศัพท์มาทางพวกเขาแล้วรีบเดินจากไปบ้าง แต่พายุเพียงแค่ไหวไหล่
“ก็คงแค่แฟนคลับกูล่ะมั้ง”
จริงสิ...พายุเป็นเดือนคณะนี่นะ
“โย่ว เด็กๆ โห สั่งอะไรมากินกันเยอะแยะเลยเนี่ย”
มีนาไม่ได้เจอกับลุงรหัสของพายุและทินกรบ่อยนัก แต่บุคลิกร่าเริงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเหนือฟ้านั้นยากจะลืมเลือน ส่วนกวินภพที่ติดสอยห้อยตามเพื่อนรักมานั้น มีนาจำไม่ได้ว่่าอีกฝ่ายเคยพูดคุยอะไรกับตนหรือไม่
“เอามาบำรุงไอ้มีนมันพี่ เมื่อคืนใช้แรงเยอะ”
พายุตอบขำๆ เหนือฟ้าเหลือบมองเด็กหนุ่มร่างเล็กที่ก้มหน้างุดอย่างอับอายพร้อมกับเลิกคิ้ว
“อ้าว สรุปมึงกับน้องมีนคบกันแล้วเหรอ?”
“เฮ้ย เปล่าพี่!/มะ...ไม่ใช่นะครับ!”ทั้งสองประสานเสียงปฏิเสธกันเสียงหลง เหนือฟ้าเอียงคออย่างไม่เข้าใจ แล้วหันไปทางทินกร
“งั้นก็มึงกับน้องมีนเหรอที่คบกันอยู่?”
“หือ? ทำไมพี่ถึงคิดแบบนั้นล่ะครับ?” ทินกรถามด้วยสีหน้าฉงน เหนือฟ้าหยิบโทรศัพท์มือถือของตนออกมาเปิดหน้าเพจที่มีรูปของพายุซึ่งกำลังอุ้มมีนาที่เป็นลมในวันปฐมนิโทศน์ไปโต๊ะพยาบาลให้เด็กหนุ่มทั้งสามดู มีนาเบิกตากว้างเมื่อเห็นชื่อของเพจนั้น
‘มีนาพายุแฟนคลับ’
“นี่ไง ดังใหญ่จนเขาจับคนมาจิ้นด้วยแล้วนะพวกมึง” ชายหนุ่มรุ่นพี่แซวพร้อมรอยยิ้มขบขัน “มีเพจของน้องมีนกับเจ้าซัน ซันกับพายุ แล้วก็มีเพจเชียร์ให้พวกมึงสามคนตกลงปลงใจกันด้วยนะ”
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอครับ...” มีนาพึมพำอย่างเป็นกังวล เขารู้ว่าธีรเชษฐ์ไม่ค่อยได้ใช้โซเชียลมีเดีย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้การมีรูปของเขาในสภาวะล่อแหลมแบบนั้นอยู่ในโลกออนไลน์เป็นเรื่องที่ดีขึ้น แค่นี้เขาก็ถูกอีกฝ่ายโกรธมากพออยู่แล้ว...
“ผมว่าผมควรส่งข้อความไปให้เจ้าของเพจนี่ซักหน่อยดีกว่า” ทินกรขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “ผมไม่อยากให้แฟนคิดมาก...”
“ยิ่งปฏิเสธยิ่งโดนหาว่าร้อนตัว ดูกูกับไอ้กล้าดิ จะเรียนจบอยู่แล้วกระแสยังดีไม่มีตกเลย” เหนือฟ้าไหวไหล่ ก่อนจะฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก “ว่าแต่...เมื่อกี้เหมือนพี่จะได้ยินคำว่า‘แฟน’นะครับน้องซัน”
แทนที่จะรู้สึกเขินอายที่หลุดปากออกไปแบบนั้น แต่ทินกรกลับเพียงแค่ยิ้มรับด้วยสีหน้าสว่างสดใสจนคนแซวยังไปต่อไม่เป็น เหนือฟ้าได้แต่ทอดถอนใจกับความเจิดจ้าของเด็กหนุ่มที่ไม่ได้เผื่อแผ่ให้กับลุงรหัสของตัวเองที่ยืนหน้าหงิกอยู่ข้างตนเลย
“เดี๋ยวพรุ่งนี้กูกับไอ้กล้าเลี้ยงสาย ห้าโมงเจอกันศาลาหน้าคณะ” ชายหนุ่มผมทองแจ้งเจตจำนงที่มาหาน้องๆในที่สุด ทินกรกับพายุพยักหน้ารับอย่างพร้อมเพรียงกัน ในที่สุด หลังจากลับร่างของรุ่นพี่ทั้งสอง พายุที่ไม่ได้มีความเห็นใดๆกับการได้เห็นเพจเมื่อครู่ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้
“มีอะไรรึเปล่า?” ทินกรหันไปถามเพื่อนอย่างงุนงง
“กูรู้แล้วล่ะว่าเจนนี่โกรธอะไร...” พายุตอบด้วยสีหน้าบึ้งตึง “ไปเลย ไม่ต้องรอกู”
เพื่อนทั้งสองกระพริบตาปริบๆมองคนที่คว้ากระเป๋าเป้ของตัวเองผลุบหายเข้าไปในฝูงชนที่เดินสวนกันไปมาอย่างง่ายดายด้วยสีหน้าสับสน ไม่มั่นใจว่าตนควรจะทำอะไรต่อ
 “มีน นายก็ไปให้ห้องพยาบาลดูหน่อยก็ดีนะ แล้วบอกแฟนเบาๆด้วย ตัวแค่นี้เองรุนแรงอะไรนักหนา” ทินกรเอ่ยกำชับ ก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้อีกคน “ไปละ เดี๋ยวไม่ทันเรียน”
“อื้อ...”
การถูกลูกชายของคนที่ทำให้เขาอยู่ในสภาพอิดโรยแบบนี้ตักเตือนเรื่องแบบนี้ทำให้มีนารู้สึกแปลกๆ แต่เขาไม่มีทางเลือกนอกจากพยักหน้ารับความหวังดีของอีกฝ่าย
จะให้เขาบอกได้ยังไงว่าเขาไม่มีสิทธิ์บอกให้ ‘แฟน’ คนที่อีกฝ่ายว่าทำอะไรทั้งนั้น ในเมื่อชีวิตของเขาทั้งชีวิตอยู่ในกำมือของธีรเชษฐ์เพียงคนเดียว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 100% P.14 คห 400 (10/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 10-10-2018 15:32:26
เกียมยาดม  :sad4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 100% P.14 คห 400 (10/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 10-10-2018 17:17:23
ลุงเชษฐ์ต้องโดนจับตีๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 100% P.14 คห 400 (10/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-10-2018 18:44:25
อีตาลุงนี่ มือหนักจังนะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 100% P.14 คห 400 (10/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 10-10-2018 19:21:05
จะฟินหรือไม่ฟินดี น้องมีนโดนขนาดนี้ แต่ที่แน่ๆคือโกรธหมอกมาก ตัวต้นเหตุแท้ๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 100% P.14 คห 400 (10/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 10-10-2018 21:54:30
สงสารน้องมีนจังเลยลูก. อิตาลุงใจร้าย.  :angry2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 100% P.14 คห 400 (10/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 11-10-2018 01:35:24
ฮืออออออ คิดถึงน้องมีนที่สุดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 100% P.14 คห 400 (10/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 11-10-2018 09:36:10
จะมีมาม่าอีกมั้ยน๊อออออ5555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 100% P.14 คห 400 (10/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-10-2018 10:04:10
รอๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 100% P.14 คห 400 (10/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 12-10-2018 21:27:51
ถ้ามีนไม่สบายนี่จะมานั่งดูแลไหม
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 20 100% P.14 คห 400 (10/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 15-10-2018 00:01:35
Chapter 21 ของเล่น

‘ภัทร ให้โอกาสพี่นะครับ พี่ขอร้อง’
‘เห็นแก่เรื่องของเราได้มั้ย พี่คิดถึงภัทรมากจริงๆ’
‘พี่ยังรักภัทรอยู่นะ’
ภรัณยูกำลังจะเป็นบ้า
นอกจากข้อความจากปภพที่ถูกส่งมาในโทรศัพท์ทุกวันแล้ว อีกฝ่ายยังโทรมาหาเขาไม่หยุดจนเขาต้องกดบล็อกหมายเลขไปหลังจากผ่านไปหลายวันเข้า
เขาคิดว่าปภพจะหยุด แต่ช่อดอกไม้และกระเช้าหน้าตาสวยงามที่ถูกส่งมาที่ทำงานของเขาบ่งบอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น ร่างโปร่งต้องแจ้งให้ประชาสัมพันธ์ด้านล่างงดรับพัสดุของเขาทุกชนิด ของขวัญที่ไหลทะลักเข้ามาถึงหยุดกวนใจเขาเสียที
ชายหนุ่มไม่รู้ว่าอดีตคนรักของเขาเกิดบ้าอะไรขึ้นมาตอนนี้ แต่ตัวเขาในตอนนี้มีความรู้สึกของคนอีกคนให้คิดถึง และเขาจะไม่ทำให้ทินกรต้องเป็นห่วงเขาด้วยเรื่องแบบนี้
“ตั้งใจทำงานนะครับพี่ภัทร”
ตั้งแต่ได้ใบขับขี่มา ทินกรไม่เคยยอมให้เขาขับรถเองอีกเลยเด็กหนุ่มยืนกรานที่จะขับรถรับส่งเขาเช้าเย็นทุกวันแม้ว่าตัวเองจะไม่มีงานอะไรที่บริษัทในวันนั้นก็ตาม และหากเพื่อนร่วมงานของเขาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนั้น ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
 “วันนี้เข้าบริษัทมั้ย?”
ภรัณยูเอื้อมไปจัดเนคไทค์ของชุดนักศึกษาให้ร่างสูง หนึ่งในช่วงเวลาที่เขาชอบที่สุดคือช่วงเวลาสั้นๆในลานจอดรถของบริษัทยามเช้าแบบนี้ เวลาที่เขารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบมีเพียงเขาและทินกรในรถ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศในรถและเสียงหายใจของพวกเขาเป็นเพลงบรรเลงคลอบทสนทนา
“ไม่ครับ เดี๋ยวผมจะเข้ามาวันเสาร์ทีเดียว” ทินกรเอื้อมมือขึ้นมาจับข้อมือของเขา ดึงมือเรียวขาวขึ้นมาจรดริมฝีปากลงบนหลังมือนิ่มด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ผมคงคิดถึงพี่ภัทรแย่เลย”
“พอเลย เดี๋ยวเย็นนี้ก็เจอกันไม่ใช่เหรอ”  แม้จะพูดแบบนั้นแต่ภรัณยูไม่ได้คิดจะชักมือออกจากการเกาะกุม “รีบไปได้แล้ว เดี๋ยวเข้าเรียนสายหรอก”
“พี่ภัทร…ขอจูบทีนึงได้มั้ยครับ…”
ทินกรดูเขินอายขึ้นมาทันทีกับคำขอของตัวเอง ท่าทีของเด็กหนุ่มทำให้ภรัณยูหลุดยิ้มขำออกมาอย่างเอ็นดู
“ทีเดียวน…อือ…”
ริมฝีปากได้รูปดูดกลืนคำอนุญาตของชายหนุ่มไปจนหมด ดวงตาเรียวปรือลงตามสัญชาตญาณ ปล่อยให้สัมผัสของริมฝีปากและลิ้นร้อนที่ดุนดันที่ระหว่างกลีบปากนุ่มอย่างออดอ้อนเป็นตัวกำหนดทิศทางของการกระทำของเขา ภรัณยูเผยอปากให้ลิ้นซุกซนแทรกเข้ามา เสียงหวานครางในลำคออย่างเผลอไผลกับสัมผัสอ่อนโยนของอีกฝ่าย ก่อนเป็นฝ่ายจำใจต้องผละออกมาเพื่อไม่ให้เกิดอะไรบานปลายตามมามากกว่านี้ ริมฝีปากของทินกรเคลื่อนลงมาที่ลำคอขาวอย่างมัวเมาแทบจะในทันที ภรัณยูยอมให้อีกฝ่ายแทะโลมผิวกายบริเวณลำคอระหงส์ซักพักตามประสาคนขี้ใจอ่อน ดันใบหน้าคมออกเบาๆเมื่อรู้สึกว่าหากยังปล่อยให้เรื่องบานปลายเขาอาจจะได้ไปทำงานสายเข้าจริงๆ
”พอแล้ว…”
“ผมจะทนถึงตอนเย็นได้ยังไง…” ทินกรงอแง แม้น้ำเสียงของอีกฝ่ายจะดูไม่จริงจัง แต่ดวงตาสีควันบุหรี่นั้นบ่งบอกว่าร่างสูงหมายความตามนั้นทุกประการ ภรัณยูถอนหายใจ
“ถ้าดื้อแบบนี้พี่จะไม่ให้มาส่งแล้วนะ”
แม้จะแอบรู้สึกผิดกับคำขู่ของตน แต่ภรัณยูไม่มีทางเลือกหากจะทำให้เจ้าเด็กขี้อ้อนตรงหน้ายอมทำตาม
ให้ตายเถอะ…นี่เขาต้อบเจอกับเรื่องแบบนี้ไปทุกวันจริงๆเหรอเนี่ย
แต่ก็…ใช่ว่าเขาจะไม่ชอบใจซะทีเดียวหรอกนะ

“เดี๋ยวนี้อารมณ์ดีจังนะภัทร”
ทั้งที่มั่นใจว่าไม่มีใครสังเกต แต่ท่าทีของภรัณยูก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นสายตาของเจนจิราไปได้ ภรัณยูเพียงแต่ยิ้มให้หัวหน้าของตนแห้งๆ ไม่รู้ว่าควรจะให้คำตอบใดกับข้อสังเกตนั้น
“ครับ”
“อารมณ์ดีแบบนี้…มีใครดีๆผ่านเข้ามารึเปล่าน้า”  หญิงสาวรุ่นพี่เอ่ยแซวอย่างไม่คิดจริงจัง แต่เมื่อเห็นท่าทีเลิ่กลั่กเหมือนคนโดนจับได้ว่าไปทำความผิดมาของอีกฝ่าย ความสนใจของเจนจิราจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว “ฮั่นแน่…ทำหน้าแบบนี้มีอะไรแน่เลย”
“ปะ…เปล่านะครับ” ชายหนุ่มตะกุกตะกักปฏิเสธ แต่แววตาหงอยๆเหมือนลูกสุนัขถูกทิ้งของคนรักหมาดๆกลับแวบเข้ามาในหัว แถมยังทำให้เขารู้สึกผิดเสียจนไม่สามารถโกหกอีกฝ่ายได้เต็มปากเต็มคำ “คือ…แค่ดูๆกันอยู่น่ะครับ”
“ไม่น่าล่ะ หน้าตาดูเปล่งปลั่งขึ้นเยอะเลย” เจนจิราอมยิ้ม “ยังไงก็พามาแนะนำพี่บ้างนะ”
อย่าเลยครับ ผมกลัวพี่แจนหัวใจวาย…
ภรัณยูตอบในใจ เขาไม่อยากคิดอะไรไปล่วงหน้ามากนัก แต่ชายหนุ่มหวังว่าหากเขากับทินกรคบกันไปรอดจริงๆจนถึงเวลาที่เขาพร้อมจะพาเด็กหนุ่มมาแนะนำให้คนรอบข้างของเขารู้จัก ปฏิกิริยาจากเพื่อนร่วมงานของเขาจะไม่เลวร้ายอย่างที่เขาคิดไว้
“โหพี่ภัทร พี่ไปหว่านเสน่ห์ไว้ที่ไหนเยอะแยะเนี่ย ของขวัญของกำนัลส่งมาไม่เว้นแต่ละวันจนประชาสัมพันธ์ต่อสายขึ้นมาด่าแผนกเราแล้วเนี่ย” ภรัณยูหน้าซีดเผือดเมื่อได้ยินคำพูดของฝน หญิงสาวรุ่นน้องที่เดินเข้ามาในแผนก ในอ้อมแขนอุ้มช่อดอกไม้ช่อโตเอาไว้ เขาพยายามปรับสีหน้าของตัวเองให้เป็นปกติ บังคับเสียงไม่ให้สั่นแล้วถามออกไป
“พี่แจ้งไว้แล้วนี่ว่าไม่ให้เขารับของ ทำไม…”
“อ๋อ เปล่าค่ะ อันนี้ไม่ได้มาจากคนส่งของ” หญิงสาวยิ้มกว้าง ค่อยๆวางช่อดอกไม้ขนาดเกือบครึ่งตัวคนลงในอ้อมกอดของภรัณยูที่จำใจต้องรับมาอย่างไม่มีทางเลือก “อันนี้จากคุณมธุวันค่ะ”
“ฮะ?” ชื่อของเลขาส่วนตัวของประธานบริษัททำให้คนฟังเหวอไปครู่หนึ่ง
“คุณมธุวันบอกว่าคุณทินกรให้สั่งดอกไม้มาให้พี่ภัทร ตอบแทนที่ช่วยสอนงานให้มาตลอด” หญิงสาวร่างอวบบิดไปมาอย่างขัดเขิน “โอ๊ยยยยย ผู้ชายอะไร๊ นอกจากงานดีแล้วยังนอบน้อมน่าร้ากกก เฮ้อ ทำไมไม่อายุมากกว่านี้ซักสิบปีน้า”
ภรัณยูสะอึก ช่องว่างระหว่างวัยที่เขาพยายามไม่ใส่ใจถูกยัดเยียดเข้ามาในสมองอีกครั้ง ชายหนุ่มเอนช่อดอกไม้พิงผนังแล้วหันไปสนใจงานของตัวเองต่อ แต่ดูเหมือนว่าหัวข้อสนทนาของสาวๆในออฟฟิศจะไม่เบี่ยงไปจากประเด็นของทินกรแต่โดยง่าย
“ว่าแต่…แฟนของคุณทินกรจะเป็นคนแบบไหนนะ คงเป็นสาวน้อยลูกคุณหนูตัวเล็กๆนุ่มนิ่มๆ ใช่มั้ยคะพี่แจน?” ฝนหันไปถามคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ทินกรเคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่ สายตาของภรัณยูยังคงจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า แต่หูของร่างโปร่งผึ่งรอคำตอบของเจนจิราโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว
“ไม่รู้สิ เหมือนว่าคุณทินจะยังไม่มีแฟนนะตอนนี้”
“แล้วแต่ก่อนล่ะคะ? สมัยอยู่อเมริกา…”
“โอ๊ย อย่าถามว่ามีมั้ยเลย มีรอบล่ะกี่คนดีกว่า คนอย่างคุณทินกรน่ะจะหล่นไกลต้นท่านประธานได้ยังไงยะ” พนักงานสาวอีกคนเอ่ยแทรกขึ้นมา ภรัณยูพบว่ามือของตนกำปากกาไว้แน่น แต่เขารู้ว่าตัวเองในตอนนี้ไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะปกป้องคนอายุน้อยกว่า
”ไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก พี่เคยได้ยินว่าคุณทินเคยคบกับเด็กผู้หญิงสองสามคนตอนอยู่ที่นั่น แต่เรื่องสับรางอะไรนั่น…คุณทินไม่ใช่เด็กแบบนั้น” เจนจิราตอบเสียงเรียบ ไม่นึกอยากมีส่วนร่วมแต่ไม่อาจทนให้อีกฝ่ายพูดจาใส่ร้ายเด็กหนุ่มที่เธอเอ็นดู โดยมีฝนเอ่ยสนับสนุน
“ใช่ๆ แกไม่รู้เหรอว่าลูกบ้านนั้นน่ะโทษนิสัยของท่านประธานที่ทำให้คุณเกศราอาการทรุดจนเสียชีวิต ถึงได้บ้านแตกแยกกันอยู่แบบนี้ไง…”
“พอได้แล้ว”
เจนจิราเหลือบมองพนักงานสาวรุ่นน้องเป็นเชิงเตือน ภรัณยูกัดริมฝีปาก ขมวดคิ้วอย่างไม่สบายใจกับข้อมูลที่ได้รับ เขาพอจะรู้ว่าทินกรไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่การได้ยินว่าอีกฝ่ายเคยคบกับผู้หญิงมาจริงๆทำให้เขารู้สึกโหวงๆในอกอย่างบอกไม่ถูก
ส่วนเรื่องระหว่างทินกรกับธีรเชษฐ์ เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนว่ามันรุนแรงขนาดนั้น
“ภัทร…ภัทร…ภรัณยู!”
“…ครับ!” เจ้าของชื่อสะดุ้ง
“ไปประชุมเถอะจ้ะ เดี๋ยวจะสาย” เจนจิราตักเตือนด้วยสีหน้าเป็นห่วงด้วยรู้ว่ารุ่นน้องไม่ใช่คนไม่มีความรับผิดชอบ ภรัณยูกล่าวขอโทษขอโพยด้วยสีหน้าว้าวุ่นใจ แล้วลุกออกไปโดยไม่ต้องรอให้บอกซ้ำ
ตั้งใจทำงานสิภัทร เลิกฟุ้งซ่านได้แล้ว!

ธีรเชษฐ์ไม่เคยคิดว่าจะมีคนที่ทำให้เขาบันดาลโทสะได้ด้วยการทำตามคำสั่งอย่างที่มีนากำลังทำ
ทั้งที่เด็กหนุ่มปฏิบัติตามคำสั่งของเขาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ร่างเล็กที่ยอมก้มหน้าก้มตามองยาแนวกระเบื้องดีกว่ามองหน้าเขากำลังจะทำให้ธีรเชษฐ์กำลังจะเป็นบ้า มีนาทำตัวเหมือนตุ๊กตาไร้ชีวิต นั่งซึมกะทืออยู่คนเดียว พอหันมามองหน้าเขาก็มองเข้าด้วยแววตาตัดพ้อ ทั้งที่คนที่โกรธควรจะเป็นเขาแท้ๆ
ได้…อยากเล่นแบบนี้ใช่มั้ย?
“มีน จูบฉัน”
“อะ...อะไรนะครับ?”
ริมฝีปากรูปกระจับอ้าค้างอย่างสับสนกับคำสั่งไม่มีปี่มีขลุ่ยของอีกฝ่าย ธีรเชษฐ์ไม่เคยสั่งให้เขาทำอะไรแบบนี้มาก่อน
มือใหญ่จับหลังคอของเด็กหนุ่มให้โน้มลงมา มีนารู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านร่างเมื่อลิ้นร้อนแตะลงบนริมฝีปากของตนอย่างหยอกเย้า ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกอย่างไรกับท่าทีคุ้มดีคุ้มร้ายของร่างสูง ดวงตาคมสีควันบุหรี่ยังคงจับจ้องมาที่เขา บ่งบอกว่าตนหมายความตามที่พูดทุกคำ มีนาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยื่นหน้าเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างละล้าละลัง ทาบทับริมฝีปากนุ่มลงบนริมฝีปากได้รูปอย่างเงอะงะ นิ่งค้างอย่างไม่มั่นใจว่าตนควรจะทำอะไรต่อ
ธีรเชษฐ์คำรามในลำคอ ทั้งที่จูบไร้เดียงสาของเด็กตรงหน้าไม่ควรทำให้เขารู้สึกอะไร แต่ความต้องการที่มีต่อร่างเล็กยิ่งทวีความรุนแรงจนเขาไม่อยากจะปล่อยเกมดำเนินไปตามจังหวะของอีกฝ่าย มือใหญ่ดันให้ริมฝีปากนิ่มเข้ามาแนบชิด ส่งลิ้นร้อนเข้าไปในริมฝีปากที่ยังเผยออ้าปากสับสนเพื่อตักตวงความหวานที่ตนโหยหา
ลิ้นร้อนช่ำชองและริมฝีปากที่ขบเม้มเรียวปากนิ่มเบาๆทำให้มีนาอดไม่ได้ที่จะตอบรับจุมพิตนั้นอย่างคะนึงหา นี่น่าจะเป็นครั้งแรกทั้งแต่ที่ร่างสูงพาเขากลับมาที่อีกฝ่ายยอมรับรู้ถึงตัวตนของเขาในห้องนี้ แม้จะดุดันไปบ้าง ยังคงดีกว่าสายตาเย็นเยียบที่ไม่มีเขาอยู่ในนั้นอยู่มาก
ก่อนหน้านี้ มีนาพยายามที่จะหลบหนีไปในโลกแห่งความฝันที่ธีรเชษฐ์ยังคงยิ้มให้เขาบ้าง มองเขาด้วยสายตาอ่อนโยนที่ถึงแม้จะไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเวลาที่อีกฝ่ายคุยโทรศัพท์กับมธุวัน แต่อย่างน้อยนั่นก็ยังพอหล่อเลี้ยงให้ความหวังเล็กๆของเขายังคงเติบโตไปได้ ทำให้ท่าทีสนใจแม้เพียงน้อยนิดของธีรเชษฐ์ก็ยังคงทำให้เขาตอบรับสัมผัสอย่างกระตือรือร้น
ท่าทีที่โยนอ่อนอย่างว่าง่ายนั้นทำให้ธีรเชษฐ์เผลอขยับยิ้มมุมปาก ก่อนจะรีบกลับมาตีสีหน้านิ่งเฉยเพื่อไม่ให้คนในอ้อมกอดได้ใจจนเกินไป เมื่อใจดีด้วยแล้วเหลิงเช่นนี้ ธีรเชษฐ์ก็จะขอรับบทเป็นคนใจร้ายเช่นนี้ต่อไปก็แล้วกัน
ถ้าใจดีด้วยแล้วอีกฝ่ายเลือกที่จะไป เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะพยายามทำดีเพื่อคนตรงหน้า...
ถ้าการบังคับจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขามีมีนาอยู่ข้างๆ เขาก็จะทำโดยไม่สนใจว่าดวงตากลมโตนั้นจะมองเขาด้วยแววตาตัดพ้อเพียงไร
มีนาหลับตาลง ไม่อยากรับรู้ถึงสายตาเย็นชาของคนตรงหน้าที่สวนทางกับจุมพิตหวานล้ำแสนอ่อนโยน ปล่อยใจไปกับภาพของธีรเชษฐ์ในหัวเพื่อบรรเทาความรู้สึกบอบช้ำในใจของตน
เขาได้แต่หวังว่าซักวัน...แววตาอ่อนโยนที่ธีรเชษฐ์เคยมีให้เขาจะกลับมา แต่มีนารู้ดีเกินกว่าจะคาดหวังในสิ่งที่อาจเป็นไปไม่ได้
เขาเป็นคนทำให้เรื่องทุกอย่างเป็นแบบนี้ และนั่นคือสิ่งที่เขาจำเป็นต้องยอมรับ

ธีรเชษฐ์เลี้ยวรถเข้ามาในลานจอดรถของโรงพยาบาล มีนาที่นั่งอยู่ข้างๆเพียงแต่เงยหน้ามองประตูทางเข้าเงียบๆเช่นเดียวกับระยะเวลาตลอดทางจากคอนโดมาที่นี่ เด็กหนุ่มไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรกับเขาแม้แต่ประโยคเดียว ซึ่งธีรเชษฐ์ที่รู้ดีว่านั่นเป็นความผิดของตัวเองไม่อาจทำใจโกรธอีกฝ่ายได้ลง
หลายวันที่ผ่านมานี้ หลังจากที่โทสะที่คุกรุ่นในอกเริ่มคลายลง เขาเริ่มรู้สึกผิดที่ทำตัวเฉยชาใส่เด็กหนุ่มข้างกาย แม้จะไม่เข้าใจสาเหตุที่ทำให้มีนาต้องหนีไปจากเขา ธีรเชษฐ์ยังคงตระหนักดีว่าการทำตัวเช่นนี้ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่นี้

หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-10-2018 00:27:46
จับลุงเชษฐ์ใส่โหลแล้วเขย่าให้หายบ้าสักทีได้ไหม
สงสารน้องมีนนน
ช่างเป็นสองคู่ที่คลุมเครือ จะชัดเจนก็ไม่ใช่ไม่ชัดเจนก็ไม่เชิง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-10-2018 00:28:26
สงสารมีนา  :sad4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 15-10-2018 00:47:16
การทำแบบนี้ก็จะได้แต่ตัวแต่ไม่ได้ใจ ลุงเป็นนักธุรกิจน่าจะรู้นะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-10-2018 00:49:41
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 15-10-2018 01:09:14
น้องงงงงงงงงงงง ลูกเขาจะรู้บ้างมั้ยว่าการกระทำของตัวเองทำให้เด็กคนนึงต้องเจอกับอะไร
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-10-2018 02:00:40
เรื่องชักอีรุงตุงนังไปแล้วนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 15-10-2018 08:26:20
ทำไมทุกคนทำร้านหนูลูกกกก มีนาาาของพี่ :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 15-10-2018 08:40:35
กะคนอื่นอ่อนโยนนัก ทำไมกับน้องต้องรุนแรง กูไม่เข้าใจ ตอนเรื่องของหมอกก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนแบบนี้ :z6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 15-10-2018 09:51:51
อิตาลุงนี่จะใจร้ายกับน้องมีนไปถึงไหนกัน  :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BChampa ที่ 15-10-2018 10:04:46
สงสารน้องมีน เอาอิตัวต้นเหตุมารับผิดชอบดิ๊ เอาเงินฟาดหัวเค้าแล้วหายไปไหนล่ะ หรือครอบครัวนี้ถนัดแต่ใช้เงินอย่างเดียว จะเป็นพระเอกนางเอกเรื่องไหนมาก่อนก็ไม่ได้แปลว่าจะสร้างเรื่องแล้วดูดีนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 15-10-2018 11:04:35
น้องมีนลูก หนูน่าสงสารมากเลย เมื่อไรเชษฐ์จะเข้าใจความรู้สึกของน้องมีนบ้าง ฮืออออออ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 15-10-2018 18:21:54
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 16-10-2018 14:50:28
ลุงเชษฐ์อ่อนโยนกะน้องมีนหน่อยได้มั้ยยยยย
จะกรี้ดแล้วน่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Hoya ที่ 17-10-2018 01:57:18
 :m16: :m16: อ่านไปอ่านมา ทำไมรู้สึกว่า ภัทร ทำตัวน่าเบื่อ ผิด ซ้ำๆ เดิมๆ โดยที่ไม่คิดแก้ไข ให้ดีขึ้น  :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 50% P.14 คห 414 (14/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 17-10-2018 21:34:03
และอีกอย่างที่เขารู้ คือแววตาที่มองเขาเหมือนเป็นคนแปลกหน้าเป็นสิ่งที่ธีรเชษฐ์ตระหนักว่าตนไม่คิดอยากเห็นอีกตลอดชีวิต
จะเรียกว่าการพาอีกฝ่ายมาหามารดาที่โรงพยาบาลเช่นนี้เป็นวิธีขอโทษของเขาทางอ้อมก็คงไม่ผิดเท่าไหร่นัก
“เย็นนี้จะมารับ”
แต่เขาก็ยังคงเป็นเขาที่ไม่รู้ว่าจะกู้สถานการณ์ให้มันดีขึ้นอย่างไร ทิฐิที่ค้ำคออยู่ทำให้ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบกับอีกฝ่ายโดยไม่หันไปมอง มีนาพยักหน้ารับคำในลำคอ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไปเงียบๆ
ธีรเชษฐ์เอนศีรษะพิงพนักพิง ยกมือขึ้นนวดขมับของตัวเองอย่างอ่อนล้า ทว่าเมื่อดวงตาสีควันบุหรี่เหลือบมองซองเอกสารฉบับหนึ่งที่วางอยู่เบาะหลังของรถ โทสะที่กักเก็บเอาไว้นานกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
….เรื่องมีนาคงต้องเอาไว้ก่อน ตอนนี้ เขามีคนที่เขาต้องคิดบัญชีด้วยอยู่

มีนาในชุดลำลองเสื้อยืดกางเกงขาสั้นนั่งร้อยมาลัยอยู่บนพื้นห้องพักของมารดาเงียบๆ เด็กหนุ่มรู้ว่าตัวเองเป็นคนโกหกไม่เก่ง การที่เขาปิดบังเรื่องของตัวเองกับธีรเชษฐ์มาได้จนถึงตอนนี้ก็เป็นเรื่องน่าทึ่งสำหรับเขามาพอแล้ว แต่หากเขาเปิดปากพูดกับมารดาในตอนนี้ มีนาเชื่อว่าทุกสิ่งที่อัดอั้นไว้ในอกคงระเบิดออกมาพร้อมๆกัน
“มีน มาลัยเบี้ยวแล้วลูก”
มีนาสะดุ้ง ก้มมองพวงมาลัยของตนที่ในวันนี้เละเทะอย่างเห็นได้ชัด เด็กหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองมารดาของตน แต่หากจะมีอะไรที่แม่ของเขาถนัด คงจะเป็นการทำให้เขาสามารถแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาได้แม้จะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขาก็ตาม
“…ฮึก…”
น้ำตาหยดแรกร่วงเผาะลงบนพวงมาลัยที่บิดเบี้ยว มีนากัดริมฝีปาก กลั้นเสียงสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอไม่ให้คนที่อยู่บนเตียงคนไข้ได้ยิน
“มีน…เสียใจที่พวงมาลัยเบี้ยวสินะจ๊ะ”
เมษาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่านั้นไม่ใช่เหตุผล แต่มีนายังคงพยักหน้าตามคำพูดของมารดาอย่างว่าง่าย
“แม่จ๋า..หนู...อึก...หนูขอโทษ...”
หลังจากน้ำตาหยดแรก หยาดน้ำตาที่เหลือก็พรั่งพรูออกมาราวกับทำนบแตก
“แม่รู้ว่าหนูเป็นเด็กดีนะมีน แค่พวงมาลัยเบี้ยวไม่ได้ทำให้หนูเป็นเด็กดีน้อยลงหรอกนะจ๊ะ”
มีนารู้ว่าหญิงสาวไม่ได้พูดถึงพวงมาลัยในมือของเขา เด็กหนุ่มไม่รู้ว่ามารดารู้เรื่องของธีรเชษฐ์มากน้อยแค่ไหน แต่การได้ยินหญิงสาวพูดว่าเขาเป็นเด็กดีทั้งที่สิ่งที่เขาทำในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่สามารถหาคำเรียกอย่างอื่นได้นอกจากคำว่าน่ารังเกียจยิ่งทำให้มีนารู้สึกขยะแขยงตัวเองมากขึ้น
เขาไม่ใช่อะไรนอกจากของเล่นที่ซื้อได้ด้วยเงิน..
ต่อให้ธีรเชษฐ์แสดงออกชัดว่าต้องการเขามากแค่ไหน สถานะของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง
“มาหาแม่ซิ...”
มีนาไม่รู้ว่าเขาร้องไห้ในอ้อมกอดผอมบางของหญิงสาวนานแค่ไหน เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ เขาได้แต่หวังว่าวันหนึ่ง เมื่อมารดาของเขารู้ความจริง หญิงสาวจะยังคงมองเขาเป็นเด็กดีอยู่อย่างนี้

หลังจากล้างหน้าล้างตาและสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้พอสมควรแล้ว มีนาบอกตัวเองว่าเขาจะใช้เวลาที่เหลือของวันอยู่กับครอบครัวให้เต็มที่ และเลิกคิดถึงเรื่องของธีรเชษฐ์แม้จะแค่ไม่กี่ชั่วโมง
แต่นั่นเป็นความคิดก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงเคาะประตูห้องพักคนไข้
“ครับ?”
มีนาเปิดประตูออกอย่างไม่คิดมาก คิดว่าคงจะเป็นพยาบาลที่มาเช็ดตัวหรือแพทย์เวรที่เข้ามาตรวจดูความเรียบร้อย แต่ร่างเล็กต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าคนสองคนที่มาเคาะประตูคือเลขาหนุ่มหน้าสวยของธีรเชษฐ์ และลูกชายคนโตที่หน้าตาถอดแบบกันมาไม่ผิดเพี้ยน
 เมฆาใช้จังหวะที่เด็กหนุ่มยังคงอึ้งค้างดันประตูให้เปิดออกกว้าง เผยให้เห็นห้องพักคนไข้วีไอพีขนาดใหญ่พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน มีนาพยามอย่างสุดความสามารถที่จะยืนขวางระหว่างคนทั้งคู่กับมารดาของตัวเอง แม้จะรู้ว่าตนไม่สามารถต่อกรกับชายหนุ่มร่างสูงทั้งคู่ได้หากอีกฝ่ายตั้งใจจะทำอะไรจริง
“มีน ใครมาเหรอลูก?” มีนากัดริมฝีปากทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากเมฆาและมธุวัน เขาไม่รู้ว่าควรจะบอกมารดาของตัวเองว่าอะไร
“ผมทำงานอยู่บริษัทที่น้องมีน’ทำงานพิเศษ’อยู่น่ะครับ” เมฆาเป็นฝ่ายอธิบายแทนเด็กหนุ่มเสียงนอบน้อม ยกยิ้มมุมปากอวดเขี้ยวคมที่เขาสังเกตว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ธีรเชษฐ์ไม่มี คำว่า ‘งานพิเศษ’นั้นเห็นได้ชัดว่าจงใจขู่ให้มีนาทำตาม “พวกผมจะมาคุยเรื่องงานกับน้องมีน เลยถือโอกาสมาเยี่ยมคุณแม่ด้วย”
“ตายจริง ไม่ต้องลำบากก็ได้นะจ๊ะ ตามสบายเลย” หญิงสาวยิ้ม
“น้องมีน ออกมาคุยกันหน่อยสิครับ”
น้ำเสียงและแววตาของเมฆาไม่ได้โน้มน้าวจิตใจคนฟังเลยแม้แต่น้อย แต่มีนายอมตามออกมาจากห้องพักคนไข้ด้วยนึกหวาดกลัวดวงตาเย็นเยียบสีควันบุหรี่ที่บ่งบอกว่าไม่คิดจะรับคำปฏิเสธใดๆ และกลัวว่าหากอยู่ข้างในต่อไป คนสองคนนี้อาจจะทำอะไรให้แม่ของเขาระแคะระคาย
หรือว่า...จะมาเอาเงินคืน?
ไม่ใช่เรื่องแปลก เงินตั้งห้าแสนหากเป็นมีนาก็คงจะทวงเงินของตัวเองคืนเช่นกัน แต่เขาคิดว่าธีรเชษฐ์คืนเงินก้อนนั้นให้ลูกชายคนโตตั้งแต่วันที่เขาแล้วเสียอีก
“เอ่อ...ระ...เรื่องเงินผมตั้งใจจะคืนให้นะครับ แต่ตอนนี้คุณเชษฐ์ยึดกระเป๋าเงินผมไป...”
มีนาก้มหน้างุดอย่างสำนึกผิด ถึงอย่างไร เขาก็ควรจะมีความรับผิดชอบกับคำพูดของตัวเองมากกว่านี้
เมฆากับมธุวันมองหน้ากัน มีนาไม่รู้ว่าทำไม แต่เขารู้สึกเหมือนกับว่าสองคนนี้กำลังสื่อสารกันทางสายตาอย่างไรอย่างนั้น
“พวกผมไม่ได้มาเรื่องนั้น” ในที่สุด มธุวันก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เอ๊ะ?”
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่ายอย่างงุนงง หากไม่ใช่เรื่องนี้ แล้วยังมีเรื่องอะไรอีก?
มธุวันชำเลืองมองคนข้างๆ ก่อนจะเอ่ยกับมีนาด้วยน้ำเสียง...จะเรียกว่าเหนื่อยหน่ายหัวใจก็คงได้
“ผม…อยากให้คุณช่วยพูดกับท่านประธาน”
“ผม?ไม่ไหวหรอกครับ”
มีนาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายให้เขาพูดอะไรกับธีรเชษฐ์ แต่เขาไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นตัวเลือกที่ดีในการโน้มน้าวใจชายหนุ่มเท่าไหร่นัก
แค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้...เขาก็แทบจะเอาตัวเองไม่รอดอยู่แล้ว
“หมอนี่แค่อยากให้เธอช่วยง้อพ่อฉันให้เขา” เมฆาเอ่ยขึ้นในที่สุด มธุวันชำเลืองมองคนข้างๆอย่างไม่สบอารมณ์
“‘ให้พวกเรา’ ท่านประธานก็โกรธคุณเหมือนกันนั่นแหละ”
ท่าทีเหมือนกับคนถูกแฟนงอนของมธุวันทำให้คนอารมณ์เย็นรู้สึกคุกรุ่นในอก
ทั้งที่คนคนนี้เป็นคนบอกให้เขาไป แต่คนที่ถูกธีรเชษฐ์เกลียดกลับเป็นเขา
ทั้งที่เขาพยายามสุดความสามารถที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ธีรเชษฐ์ คนที่ไม่โดนอะไรเลยกลับเป็นคนตรงหน้า
ทั้งที่เขาขอแค่แววตาที่อ่อนลงของธีรเชษฐ์ให้มองมาทางนี้ แต่มธุวันกลับได้รอยยิ้มอบอุ่นของชายหนุ่มไปครอบครองโดยไม่ต้องพยายาม
มีนาเคยชินกับการที่โลกทั้งใบไม่ยุติธรรมกับเขา แต่ถ้าหากเขาจะนึกตัดพ้อโชคชะตาบ้าง...มันไม่ได้รึยังไง
“ใช่ แต่ฉันไม่จำเป็นต้องสนใจว่าผู้ชายคนนั้นจะคิดยังไงกับฉันอยู่แล้ว” เมฆาไหวไหล่
คำพูดนั้นทำให้มีนาสะอึก เขารู้ดีเรื่องที่ธีรเชษฐ์ถูกลูกชายคนรองเกลียดเข้าไส้ และความสัมพันธ์ของชายหนุ่มกับทินกรก็ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถเรียกได้ว่าสายสัมพันธ์พ่อลูกตัวอย่าง แต่การได้ยินเมฆาที่มีวุฒิภาวะสูงสุดในสามพี่น้องพูดแบบนี้ มันทำให้เขาอดรู้สึกเจ็บแทนธีรเชษฐ์ไม่ได้
“เอ่อ...ผม...ผมจะลองพูดดูนะครับ ตะ...แต่คุณเชษฐ์เขาไม่ฟังอะไรผมหรอกครับ...”
มีนาตะกุกตะกักตอบเสียงเบา ถ้าหากนั่นจะช่วยให้ธีรเชษฐ์กับลูกชายเข้าใจกันมากขึ้นอีกเพียงน้อยนิด เขาก็อยากจะลองพยายามดู
“ผมขอคุยกับคุณมีนาเป็นการส่วนตัวหน่อยได้มั้ยครับ?” แต่คนที่ตอบกลับเป็นเลขาหนุ่มที่มีนาไม่นึกอยากจะต่อประโยคสนทนาไปมากกว่านี้
เขารู้ว่าเขาไม่มีสิทธิ์ แต่ความรู้สึกของคนเรามันห้ามได้ง่ายๆที่ไหน
เมฆายืนนิ่งอยู่กับที่ แต่เมื่อถูกสายตาของมธุวันจ้องนานเข้า ชายหนุ่มจึงยอมก้าวถอยออกไปแต่โดยดี
“มะ…มีอะไรเหรอครับ?”
มีนาเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างหวาดระแวง เขาไม่รู้ว่าคราวนี้มธุวันจะมาไม้ไหนอีก
“ผมอยากขอโทษเรื่องครั้งที่แล้ว” แต่แล้วคำพูดของอีกฝ่ายก็ทำให้ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเบิกกว่างอย่างประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยิน“ผมไม่่ควรตัดสินคุณจากสิ่งที่ผมคิด”
คำขอโทษนั้นทำเอาเขาปรับอารมณ์ไม่ถูก แต่ในเมื่อมธุวันขอโทษเขาแล้ว มีนาจึงไม่มีทางเลิกอื่นนอกจากขอโทษกลับ
“...ไม่เป็นไรหรอกครับ” เด็กหนุ่มส่ายหน้า “ผมก็ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ขึ้นเสียงใส่คุณ”
มธุวันยิ้ม ไม่ใช่รอยยิ้มหลอกๆที่อีกฝ่ายยิ้มให้เขาก่อนหน้านี้ แต่เป็นรอยยิ้มจริงใจที่ทำให้มีนาพอจะนึกออกว่าทำให้ธีรเชษฐ์ถึงได้เอ็นดูคนตรงหน้า
และนั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นแม้แต่นิด
แต่มีนาสัญญาแล้วว่าเขาจะช่วยมธุวัน‘ง้อ’เจ้านายของตัวเอง ดังนั้น เขาคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยายามในส่วนของเขาให้เต็มที่

สิ่งแรกที่ธีรเชษฐ์สังเกตตอนที่เขากลับมารับมีนาจากโรงพยาบาล คือร่างเล็กดูเหมือนมีอะไรอยู่ในใจตลอดเวลา
“คิดอะไรอยู่?” เด็กหนุ่มสะดุ้ง ความกลัวของอีกฝ่ายที่มีต่อเขาทำให้ธีรเชษฐ์แอบรู้สึกผิดลึกๆ แต่เช่นเคย ร่างสูงกลบเกลื่อนความรู้สึกนั้นด้วยความหงุดหงิดใจที่เข้ามาแทนที่ “ทำไม?กลัวฉันขนาดนั้นเลยรึไง?”
“ปะ…เปล่านะครับ ผม...” มีนาตะกุกตะกัก ไม่กล้าสบตาคนที่จู่ๆก็โมโหเขาขึ้นมาอีกครั้ง “ผมแค่คิดว่าอาหารเย็นจะทำอะไร...คุณเชษฐ์มีอะไรอยากทานเป็นพิเศษมั้ยครับ?”
“นอกจากเธอ ก็คงไม่มี” แววตาของร่างสูงอ่อนลงเมื่อได้ยินดังนั้น คำพูดสองแง่สามง่ามชวนคิดมากที่ควรจะทำให้มีนาหวั่นใจกลับทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกใจชื้นขึ้นมาเมื่อได้ยินน้ำเสียงเย้าแหย่ที่คุ้นเคย
และนั่นยิ่งทำให้สิ่งที่มีนารู้สึกมั่นใจขึ้นแม้จะไม่มากนักกับสิ่งที่เขาวางแผนจะทำหลังจากนี้
ร่างเล็กตรงดิ่งเข้าไปในครัวทันทีที่พวกเขากลับมาถึงห้อง ธีรเชษฐ์ที่เดินตามเข้ามาเอียงคออย่างประหลาดใจ ไม่รู้ว่าอะไรไปเข้าสิงมีนาให้ดูกระตือรือร้นผิดหูผิดตาจากเมื่อเช้าขนาดนี้
“ทำอะไร หืม?”
ท่อนแขนใหญ่รวบเอวบางของคนที่วุ่นอยู่หน้าเคาท์เตอร์ครัวอย่างเคยชิน ริมฝีปากได้รูปซุกไซร้ตามซอกคอขาวที่ยังคงเอกลักษณ์ไว้ด้วยกลิ่นน้ำอบและกลิ่นดอกมะลิหอมๆที่ธีรเชษฐ์ไม่เคยคิดว่าตนจะชอบ
น่าแปลกที่นอกจากวันนี้มีนาจะไม่ได้ตัวแข็งทื่อเหมือนท่อนไม้ทันทีที่ถูกเขาสัมผัส เด็กหนุ่มยังเอนตัวพิงร่างของเขา แล้วเอียงคอให้เขาซุกไซร้ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
แน่นอน ธีรเชษฐ์ไม่คิดจะบ่นอะไรกับความแปลกประหลาดนี้
“สปาเก็ตตี้..อ๊ะ..ขี้เมาทะเลคะ..ครับ..”
เสียงหวานสั่นเครือจากลิ้นร้อนที่ตวัดเลียใบหูขาว ฟันคมที่ขบเบาๆลงบนติ่งหูเย็นสิ่งกระแสไฟฟ้าแล่นปราดไปทั่วร่างของมีนา ชนิดที่ว่าไม่มีส่วนใดในร่างกายเขาที่ไม่แดงระเรื่อจากสัมผัสของร่างสูง
“น่ากิน...”
มือใหญ่สอดเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวบาง สะกิดตุ่มไตสีชมพูที่เริ่มคุ้นชินกับมือสากอย่างหยอกเย้า ทำเอามีนาไม่รู้เลยว่าอะไรที่อีกฝ่ายบอกว่าน่ากิน
“อะ…คุณเชษฐ์...เดี๋ยวไหม้..อื้อ...”
ริมฝีปากนุ่มถูกครอบครองไปก่อนที่มีนาจะได้พูดอะไรมากกว่านี้ ธีรเชษฐ์เอื้อมมือไปปิดเตา ก่อนจะช้อนตัวร่างเล็กให้ลอยหวือขึ้นจากพื้น
“บอกแล้วไง...ฉันมีของที่อยากกินมากกว่า”
ริมฝีปากที่เพิ่งบดเบียดแนบชิดกับเขาขยับยิ้มเจ้าเล่ห์ ธีรเชษฐ์เลียริมฝีปากของตัวเองขณะที่ดวงตาสีควันบุหรี่สบกับดวงตาของเขาด้วยความกระหายที่ไม่คิดปิดบัง รู้ตัวอีกที มีนาก็ถูกอีกฝ่ายวางลงบนโต๊ะทานข้าวราวกับอาหารจานหนึ่ง
“คุณ…คุณเชษฐ์...” ธีรเชษฐ์เงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก ดวงตาสีควันบุหรี่เข้มขึ้นด้วยความต้องการ มีนาหน้าขึ้นสีอย่างขัดเขิน พึมพำด้วยเสียงตะกุกตะกัก “ผม..ชะ..ใช้ปากให้นะ..ครับ...”
หากจะบอกว่าธีรเชษฐ์ไม่แปลกใจกับข้อเสนอนั้นคงเป็นเรื่องโกหก แต่ในตอนนี้เลือดที่ควรจะขึ้นไปเลี้ยงสมองไหลลงไปกองอยู่ที่อื่นหมดแล้ว เมื่อถูกคนที่เขาต้องการจนแทบคลั่งเสนอ ต่อให้ร่างสูงไม่คิดอยากสนอง คำปฎิเสธที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากนั้นก็หายไปทันทีที่มีนาถือเอาความเงียบของเขาเป็นคำอนุญาต ร่างเล็กขยับลงจากโต๊ะอย่างระมัดระวัง แม้จะรู้ดีว่าส่วนสูงของพวกเขาต่างกันแค่ไหน แต่การได้ยืนประจันหน้ากับธีรเชษฐ์ตรงๆทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลงไปกว่าความเป็นจริงเสียอีก
เด็กหนุ่มทรุดตัวลงบนพื้น ก้อนเนื้อในอกเต้นรัวเมื่อใบหน้าขาวอยู่ในระดับเดียวกับเข็มขัดของร่างสูง มือเรียวสั่นเทายกขึ้นปลดเข็มขัดของอีกฝ่ายออกอย่างเงอะงะ ภาวนาว่าความเชื่องช้าของเขาจะไม่ทำให้อีกฝ่ายหมดอารมณ์ไปเสียก่อน
แต่มีนาพบว่าตนไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร ในเมื่อร่างกายสูงใหญ่นั้นแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่หมดอารมณ์ง่ายๆ เด็กหนุ่มหน้าร้อนเห่อเมื่อได้เห็นความต้องการของชายหนุ่มเต็มตา อีกทั้งเขายังเป็นคนเสนอตััวทำเรื่องน่าอายแบบนั้นอีก
มือเล็กที่สั่นเทาค่อยๆกำรอบความเป็นชายที่เขาไม่อยากเชื่อว่าครั้งหนึ่งเคยอยู่ในร่างของตน ความร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างของอีกฝ่ายยิ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง มีนาขยับข้อมืออย่างเชื่องช้า ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ตนกำลังทำนั้นถูกหรือไม่ แต่เสียงทุ้มต่ำในลำคอของร่างสูงทำให้เด็กหนุ่มเริ่มมีความมั่นใจขึ้นทีละนิด
ธีรเชษฐ์ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้กระต่ายน้อยของเขาคิดเล่นพิเรนทร์แบบนี้ขึ้นมา แต่เมื่อโพรงปากอุ่นที่พยายามครอบครองเขาอย่างสุดความสามารถเริ่มขยับอย่างเชื่องช้า ความคิดทั้งหมดของเขาก็ถูกโยนออกไปนอกหน้าต่างทันที
ร่างสูงก้มลงมองคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า จังหวะเดียวกับที่มีนาช้อนตาขึ้นมองเขา ดวงตาสีน้ำตาลหวานเชื่อมปรือปรอยกับริมฝีปากที่คับแน่นจนเห็นน้ำใสๆที่ไหลออกมาจากมุมปากสีแดงทำเอาธีรเชษฐ์แทบจะขาดสติขยับสะโพกกระแทกสวนทั้งอย่างนั้น แต่ร่างสูงเพียงแค่ขยุ้มกลุ่มผมนิ่มไว้ ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ทำตามอำเภอใจของตัวเอง
“แค่กๆๆ”
มีนาผละออกมาพร้อมไอโขลกจนน้ำตาเล็ด แต่ท่าทางนั้นกลับไม่ได้ดูน่าสงสารเลยสำหรับธีรเชษฐ์ ตรงกันข้าม ใบหน้าที่แดงก่ำในตอนนี้กลับดูน่ารังแกเสียยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ
แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร ความอุ่นชื้นของโพรงปากนิ่มก็เข้าโอบล้อมแก่นกายร้อนอีกครั้งโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว
“อึ่ก...มีน...”
ลมหายใจของคนมากประสบการณ์ขาดห้วงกับลิ้นเล็กที่พยายามปรนเปรอเขาอย่าสุดความสามารถ มีนาเหลือบตามองเขาตามเสียงเรียก แววตานั้นราวกับคาดหวังอะไรบางอย่างที่ธีรเชษฐ์อ่านไม่ออก
มือใหญ่วางลงบนกลุ่มผมนุ่ม ลูบศีรษะของเด็กหนุ่มเบาๆอย่างอ่อนโยน
“เก่งมาก เด็กดี..”
ดวงตากลมโตที่เป็นประกายกับคำชมทำให้ธีรเชษฐ์เตือนตัวเองให้ชมอีกฝ่ายมากกว่านี้ มีนายังคงขยับศีรษะอย่างต่อเนื่อง ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกับแก่นกายที่คับพองในโพรงปากอุ่นอย่างไร้เดียงสาทำให้ธีรเชษฐ์กัดฟันกรอด
ร่างเล็กสะดุ้ง ผละออกมาจากอีกฝ่ายเมื่อรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆที่แตะริมฝีปากปากนิ่ม...แม้ว่าจะหลบไม่พ้นก็ตาม
ธีรเชษฐ์สบถในลำคอ ก้มลงหมายจะช่วยเช็ดเอาสิ่งที่ตนทำเลอะเทอะออกจากใบหน้าขาว แต่ภาพตรงหน้าทำเอาชายหนุ่มที่ผ่านมาหลายสมรภูมิชะงักค้าง
ลิ้นเล็กแลบออกมาเลียริมฝีปากของตัวเองอย่างเชื่องช้า ราวกับไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนกำลังทำอะไรอยู่ ใบหน้าหวานเงยขึ้นสบตาคนตัวสูงกว่าด้วยแววตาเป็นกังวล
“ผม…ทำดีมั้ยครับ?”
ให้ตายเถอะ วันนี้เด็กนี่ไปกินอะไรมาวะเนี่ย?!

มีนาซุกหน้าลงกับเข่าของตัวเองอย่างอับอายในอ่างอาบน้ำขนาดยักษ์ โดยมีธีรเชษฐ์ที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังนอนแช่น้ำอย่างสบายใจ
หลังคำถามที่เขากลั้นใจข่มความอายถามออกไป คำตอบของร่างสูงมีเพียง...
‘ไปอาบน้ำกัน’
“วันนี้...เธอทำแบบนี้ทำไม?”
“ทำ...ทำอะไรเหรอครับ?” มีนาแสร้งถาม แม้จะรุ้อยู่แก่ใจดีว่าสิ่งที่ร่างสูงถามถึงคืออะไร
“ทั้งเรื่องในครัว ทั้งตอนนี้..” ร่างสูงโอบรั้งให้คนในอ้อมกอดขยับเข้ามาใกล้“เธอคิดว่าฉันโง่งั้นเหรอ?”
“ผมไม่ได้...”
“มีน” เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูเริ่มฉายแววหงุดหงิด ถึงอย่างนั้นริมฝีปากที่ทาบทับลงมาบนหลังคอขาวยังคงทำให้ร่างบางอ่อนยวบราวกับขี้ผึ่งลนไฟ “ฉันไม่ใช่คนมีความอดทนสูง เธอก็น่าจะรู้”
“คุณ...คุณเมฆากับคุณมธุวัน เขาขอให้ผมช่วย...” เสียงหวานของคนที่ก้มหน้างุดจนแทบจะจมหายไปกับฟองสบู่กล่าวเสียงอ่อยด้วยกลัวว่าธีรเชษฐ์จะโกรธตัวเองขึ้นมาอีกอย่างที่ว่าจริงๆ ชื่อของลูกชายคนโตและเลขาที่ธีรเชษฐ์ไม่คิดว่าจะได้ยินทำให้ร่างสูงเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ
“เล่ามา”
“คุณ..คุณเมฆากับคุณมธุวันเขาอยากให้ผมช่วยพูดให้คุณหายโกรธพวกเขาครับ..” มีนาเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ที่เมฆาและมธุวันเสนอเงินให้เขาไปจนถึงการพบกันที่โรงพยาบาลในวันนี้ ดวงหน้าเกลี้ยงเกลาแดงก่ำเมื่ออธิบายถึงแผนการของตัวเองในคืนนี้ที่อยากให้ร่างสูงอารมณ์ดี เพื่อที่ธีรเชษฐ์จะได้ให้อภัยคนทั้งสองได้ง่ายขึ้น
“ทำไม...ทีเป็นเรื่องของคนอื่นเธอถึงยอมช่วยขนาดนี้” ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้ว “แล้วทำไมพอเป็นทีตัวเองถึงไม่กล้า”
เพราะผมอยากให้คุณกับครอบครัวใกล้ชิดกันขึ้นอีกสักนิด...
“เพราะเรื่องของผม ผมเป็นคนผิดจริงๆ” มีนาเอ่ยเสียงเบา “ถึงจะทำอะไรไป...ก็คงไม่ช่วย”
ธีรเชษฐ์รู้ตัวดีว่าความโกรธอะไรก็ตามที่เขามีต่อร่างบาง ตอนนี้มันสลายหายไปกับธาตุอากาศหมดแล้ว แต่การได้เห็นร่างเล็กก้มหน้างุดอย่างสำนึกผิดในอ้อมกอดของเขาทำให้ชายหนุ่มอดนึกอยากแกล้งต่อไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้น ก็ก้มหน้ารับบทลงโทษของตัวเองต่อไปแล้วกัน”
ชายหนุ่มก้มลงซุกไซร้ซอกคอขาวเนียนทันทีที่พูดจบ ถึงอย่างนั้น ความอ่อนโยนที่หลุดลอดออกมาในน้ำเสียงของร่างสูงยังคงทำให้มีนาหลุดยิ้มออกมา
เขารู้ว่าธีรเชษฐ์หายโกรธเขาแล้ว ถึงแม้ว่าการกระทำของร่างสูงอาจจะไม่ได้ดูเป็นเช่นนั้นเท่าไหร่นัก แต่เพียงแค่แววตาที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดของธีรเชษฐ์ที่มองเขาในค่ำคืนนี้ ก็มากพอที่จะให้เด็กหนุ่มยอมทนกับบทลงโทษแสนหวานของคนขี้แกล้งไปตลอดทั้งคืน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 17-10-2018 22:51:47
ยังไม่สุดอะ มันต้องกดให้มิด
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 18-10-2018 00:03:47
ชิ....ตาลุงนี่  หาเรื่องแกล้งเด็กจนได้เหอะ

ยังงัยน้องมีนก็เสียเปรียบทั้งขึ้นทั้งล่อง.
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 18-10-2018 00:19:59
เข้าทางคนแก่สุดๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 18-10-2018 00:46:46
งุ้ยยย :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 18-10-2018 01:14:45
คุณเชษฐ์เจ้าเล่ห์เว่ออออ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-10-2018 02:01:52
มีนลูก หนูต้องทนอีกแล้วใช่ไหม เมื่อไหร่จะลุกขึ้นสู้กลับบ้างล่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 18-10-2018 10:55:04
น้องมีนนนนน หนูก็คือเด็กดีที่หนึ่งเลยคับ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 18-10-2018 14:12:18
ทั้งบ้านเป็นดงสัตว์ประหลาด มีน้องมีนเป็นกระต่ายน้อยหลงเข้ามาชัดๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า ที่ 18-10-2018 14:58:22
มีนาจะไม่ทน~~~~~~~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 18-10-2018 19:57:51
สงสารมีน ทำไมต้องเจอแต่คนใจร้าย
ตอนทำน้องเดือดร้อน ไม่เห็นมาดูแลเลย
งอนเมฆหมอก ทำน้องได้

แล้วคุณเชษฐ์ก็บ้าบอ ไม่ฟังอะไรสักอย่าง
รู้ว่าผิด ก็ไม่มีง้อ แถมยังชอบทำเสียงเข้มใส่

ภัทรอย่านอยด์ง่าย อย่าพึ่งคิดไปไกล
ทำซันเสียใจมาหลายครั้ง อย่าทำอีกเลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 19-10-2018 03:55:28
เข้ามารอน้องมีนนนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: W2P5 ที่ 19-10-2018 06:36:42
งู้ยยยยเหมือนคุณเขาสองคนจะดีกันแล้ววว :katai3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Itachishang ที่ 07-11-2018 23:44:16
 เอาอีกๆๆๆๆๆๆ  :ling1: :z3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-11-2018 00:26:53
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 08-11-2018 14:28:05
รอน้องมีนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 21 100% P.15 คห 429 (17/10/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 09-11-2018 21:28:58
Chapter 22: เพื่อนใหม่




เป็นอีกวันที่ภรัณยูตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกของริมฝีปากที่พรมจูบทั่วแผ่นหลังเปลือยเปล่าของตนอย่างหลงใหล ร่างโปร่งขยับตัว บ่งบอกให้ทินกรรู้ว่าเขากำลังตื่นนอน แต่แทนที่เด็กหนุ่มจะผละออกไป มือใญ่ทั้งสองข้างกลับช่วยพลิกให้เขานอนหงายแล้วตวัดขาคร่อมร่างเขาไว้เสียอย่างนั้น



“อรุณสวัสดิ์ครับพี่ภัทร”




ริมฝีปากได้รูปปัดผ่านริมฝีปากนุ่มเบาๆ ก่อนจะจุมพิตปลายจมูกของเขาอย่างแผ่วเบา




“อือ..หื่นแต่เช้าเลยนะไอ้เด็กบ้า”




ภรัณยูบ่นอย่างไม่จริงจังนัก ดวงตาสีน้ำตาลปรือปรอยพยามฝืนเผยอขึ้นอย่างยากลำบาก ทินกรยิ้มในใจเมื่อชายหนุ่มใต้ร่างเอียงคอให้เขาได้ดูดเม้มรอยรักสีกุหลาบทิ้งไว้ได้สะดวกขึ้น




นี่ถือเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของพวกเขาหลังจากเริ่มคบกัน เด็กหนุ่มมักจะปลุกร่างโปร่งขึ้นมารับอรุณด้วยการครอบครองยอดอกสีหวานและดูดเม้มจนกว่าคนหลับจะทนไม่ไหวและเป็นฝ่ายตื่นขึ้นมาเอง เป็นการฝึกให้ร่างกายของภรัณยูเสพติดสัมผัสของเขาทีละน้อยได้อย่างดีเยี่ยม




หลังจากนั้น ภรัณยูที่เพิ่งตื่นเต็มตาจะมองค้อนเขาพอเป็นพิธี...ก่อนจะเริ่มโอนอ่อนตามสัมผัสของทินกรภายในวลาไม่ถึงนาที




อย่างเช่นในวันนี้ ที่ขาเรียวขยับแยกออกจากกันอย่างเชื่องช้า เผยให้เห็นช่องทางสีหวานที่ไม่ว่าจะได้สัมผัสกี่ครั้งก็ยังทำให้ทินการใจเต้นไม่เป็นส่ำในอกอยู่ร่ำไป ขาเรียวตวัดโอบรอบเอวสอบ ดวงตาสีน้ำตาลเรียวสวยที่ปรือปรอยด้วยความง่วงงุนยิ่งดูหวานฉ่ำในห้องที่มีเพียงแสงอาทิตย์ลอดผ่านเข้ามาเพียงเล็กน้อย



“แน่ใจนะครับว่ามีแค่ผมที่หื่น...”



ทินกรยิ้มขำ กระชับขาเรียวให้เกาะเกี่ยวสะโพกของเขาให้มั่นคง โน้มตัวลงมาหาคนที่หน้าขึ้นสีจากคำพูดเมื่อครู่ ลิ้นร้อนตวัดเลียริมฝีปากเรียวของคนตรงหน้าอย่างหยอกเย้า ยิ่งถูกใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายสั่นไปทั้งร่างกับสัมผัสนั้น



“พอเลย...ถะ...ถ้าไม่ทำพี่จะไปทำงานแล้วนะ” ภรัณยูเบือนหน้าหนี แต่ไม่อาจซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำไปยันใบหูได้



ทินกรยิ้ม สะกิดเขี่ยตุ่มไตท่ีบวมแดงจากการดูดเม้มก่อนหน้าจนคนใต้ร่างกระตุกเฮือกหลังไม่ติดเตียง




“ทำสิครับ...ถ้าปล่อยให้พี่ภัทรไปทำงานแบบนี้มีหวังโดนผู้ชายแถวนั้นฉุดแน่ๆ”



ภรัณยูกลอกตา ไม่อยากพูดเลยว่าสภาพของเขาหลังจากถูกทินกร ‘ปลุก’ ในแต่ละวันนั้นน่าจะสุ่มเสี่ยงกับการโดนทำมิดีมิร้ายมากกว่า








หลังจากกิจกรรมยามเช้าที่นับวันยิ่งจะถี่ขึ้นเรื่อยๆ ทินกรก็ยอมปล่อยให้ภรัณยูได้อาบน้ำแต่งตัวทำกิจวัตรประจำวันจริงๆ
เสียที แม้ว่ากว่าจะได้ออกจากห้องน้ำร่างโปร่งจะแทบคลานออกมาก็ตาม




อันที่จริงวันนี้เขามีประชุมที่บริษัท แต่ทินกรเลือกที่จะให้คนรักล่วงหน้าไปก่อนเนื่องจากตนยังมีรายงานที่คณะต้องปั่น แม้ในจริงเด็กหนุ่มจะอยากไปส่งภรัณยูให้ถึงที่ก็ตาม




“เฮ้อ...เสร็จซะที”




ทินกรยืดตัวบิดขี้เกียจหลังจากใช้เวลาร่วมสามชั่วโมงไปกับการทำงาน ร่างสูงคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่คิดเสียเวลาอยู่ในห้องต่อ เวลาแค่ไม่กี่วิินาทีที่ไม่ได้เจอภรัณยูเขารู้สึกเมื่ออากาศรอบกายค่อยๆลดลงอย่างต่อเนื่อง เขาเคารพการตัดสินใจของชายหนุ่มที่ไม่อยากให้คนนอกรู้เรื่องของพวกเขา แต่อย่างน้อยแค่ได้พูดคุยกับภรัณยูระหว่างอยู่ที่บริษัทก็ทำให้โลกของเขาสว่างไสวขึ้นมาบ้างแล้ว




ทินกรมาถึงบริษัทในช่วงเวลาใกล้พักเที่ยงพอดี เด็กหนุ่มคิดถึงรายชื่อร้านอาหารต่างๆใกล้บริษัทที่ภรัณยูน่าจะชอบมากพอที่จะยอมไปกับเขา แต่ระหว่างที่ชายหนุ่มเดินผ่านห้องประชุมเล็กห้องหนึ่ง เสียงของเลขาของบิดาที่เขานับถือเป็นพี่ชายคนหนึ่งซึ่งดังลอดออกมาจากรอยแยกของประตูทำให้ร่างสูงชะงัก




“เกิดอะไรขึ้นกับคุณ คุณภรัณยู? ถ้าพลาดแค่ครั้งสองครั้งผมก็เข้าใจได้นะ นี่คุณเข้าประชุมสาย พูดจาไม่รู้เรื่อง งานก็คุณภาพแย่ลง คุณมีอะไรจะแก้ตัว?”




“ผม…ขอโทษครับ”




คนรักของเขาไม่คิดจะแก้ตัว เสียงของภรัณยูแหบพร่า และทินกรตระหนักว่าเสียงของร่างโปร่งน่าจะหายไปจากกิจกรรมยามค่ำคืนที่ลากยาวมาจนถึงเช้าของพวกเขา ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เขารู้สึกว่าปฏิกิริยาตอบสนองของภรัณยูบนเตียงเร่าร้อนขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน บางครั้งลีลาของร่างโปร่งทำให้เขาสงสัยว่าชายหนุ่มเป็นคนเดียวกับคนขี้อายที่ครางเสียงหวานใต้ร่างเขาก่อนหน้านี้จริงหรือไม่ แต่เขาไม่เคยคิดว่าเรื่องนั้นจะมีผลอะไรกับการทำงานของภรัณยู




ทำไมพี่ภัทรถึงไม่บอกเขา?



“…รู้ใช่มั้ย ผมไม่ชอบคนที่ทำผิดพลาดซ้ำๆ” เสียงของมธุวันฟังดูอ่อนลง แต่เนื้อความนั้นไม่ได้ทำให้ทินกรอุ่นใจขึ้น “แก้ไขซะ ก่อนที่ผมจะรายงานคุณเจนจิรา”



“ครับคุณมธุวัน”



ทินกรรีบเดินหลบออกมาก่อนที่คนทั้งสองจะรู้ว่ามีใครแอบฟังอยู่ คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างเป็นกังวล ทั้งที่ตนก็ไม่รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้คนรักเลือกจะปิดปากเงียบเรื่องผลกระทบที่มีต่องานคืออะไร










“โด่ เรื่องแค่นี้ใครก็รู้ป่ะวะ?”




โชคดี ที่เขามีเพื่อนอย่างพายุและวศิน เด็กหนุ่มวัยคะนองที่ทำตัวเจนสนามจนน่าหมั่นไส้ทั้งที่อายุเท่าเขาเป็นที่ปรึกษา ทั้งยังมีมีนาที่แม้จะดูพึ่งพาอะไรไม่ไดในหัวข้อนี้ แต่ยังอุตส่าห์ยอมมานั่งเป็นที่พึ่งทางจิตใจให้เขา



“นั่นดิ ไอ้ซันแม่งกากว่ะ โด่ๆๆๆ” วศินได้ทีสมทบอย่างสนุกสนาน ทินกรอยากจะถามจริงๆว่ามันเป็นเพื่อนใครกันแน่



“….”



มีนาก้มลงอ่านชีทเงียบๆ แต่สีหน้าของร่างเล็กดูสับสนไม่แพ้ทินกรเลย




“…แล้วตกลงไอ้ที่ใครก็รู้นี่มันคืออะไร” ร่างสูงถามขึ้นอย่างหมดความอดทนเมื่อเพื่อนทั้งสองไม่คิดจะเฉลยโดยง่าย พายุหัวเราะ เหล่มองวศินที่เหล่ตอบด้วยสายตามีลับลมคมใน ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ



“ก็มึงไม่ถึงขั้นไง”



“ฮะ?”



ทินกรหวังว่ามีนาที่เปรียบเสมือนล่ามภาษาไทยส่วนตัวจะเข้ามาช่วยแปลภาษาให้ แต่ร่างเล็กที่เมื่อครู่จดจ่ออยู่กับหนังสือก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างงุนงงเช่นกัน




“ก็คนคัน...มึงเกาไม่ถูกจุด เขาก็ต้องคันต่อป่ะวะ?” ร่างสูงไม่มั่นใจว่าตัวเองเข้าใจสำนวนเปรียบเปรยของเพื่อนถูกหรือไม่ แต่ดูจากใบหน้าขึ้นสีของมีนา เขาค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งที่พายุต้องการจะสื่อคืออะไร “ถ้าเกาตรงที่ พี่เขาก็นอนหลับสบาย ง่ายๆ”




“จะโทษไอ้ซันมันก็ไม่ได้หรอก มึงก็รู้ว่าไอ้ซันมันซื่อ” วศินหัวเราะ “ผู้ใหญ่น่ะ เขาผ่านใครมาไม่รู้ตั้งกี่คน จะให้เด็กๆอินโนเซนต์อย่างมึงตามเขาทันคงยาก”



มีนาทำหน้าเหมือนอยากจะแย้ง แต่ร่างเล็กตัดสินใจที่จะอยู่เงียบๆ ด้วยคิดว่าตนไม่น่าจะอยู่ในสถานะที่จะสามารถให้คำแนะนำอะไรใครได้



“งั้นเหรอ...”



ทินกรลากเสียงอย่างครุ่นคิดกับคำพูดของทั้งสอง ไม่นึกสงสัยเลยว่าตนกำลังโดนเพื่อนสนิทสมัยเด็กและเพื่อนสนิทในคณะรวมหัวกันกลั่นแกล้งอย่างสนุกสนาน



แค่คิดว่าพี่ภัทรของเขาเคยเป็นของใคร จิตใจของทินกรก็ร้อนรุ่มจนแทบคลั่ง เขารู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์หึงหวงความสัมพันธ์ก่อนๆของอีกฝ่าย แต่เพียงแค่ความคิดที่ว่าเขาไม่ดีพอให้คนรักของเขาลืมอ้อมกอดของผู้ชายคนอื่น เขาก็อยากจะกระชากตัวภรัณยูเข้ามาบดขยี้ริมฝีปากสีหวานนั้น สลักย้ำความเป็นเจ้าของจนกว่าจะมีเพียงร่องรอยของเขาบนตัวตนของอีกฝ่าย
ทินกรสลัดความคิดนั้นออกไปจากหัวอย่างรวดเร็วก่อนที่ความคิดจะบานปลายไปมากกว่านั้น แต่เขารู้ว่าหากไม่ทำอะไรสักอย่างในเร็วๆนี้ เขาอาจจะเผลอทำอะไรที่ตัวเองต้องเสียใจในภายหลังก็เป็นได้










“เรียนวันนี้เป็นไ....อื้อ...”



ภรัณยูขมวดคิ้วอย่างงุนงงเมื่อริมฝีปากของตนถูกครอบครองโดยเจ้าของห้องโดยไม่มีแม้แต่คำทักทาย ร่างสูงในชุดนักศึกษาที่ปลดเนคไทค์ออกหลวมๆรอบคอ กระดุมเม็ดบนสองสามเม็ดถูกปลดออกเผยให้เห็นกล้ามอกสมส่วนและลอนหน้าท้องสวยขยับต้อนให้คนตัวเล็กกว่าถอยชิดประตูห้องนอน มือใหญ่กำรอบข้อมือแต่ละข้างของเขายกตรึงเหนือศีรษะ



“..ทะ…ทำไมวันนี้...”



ชายหนุ่มในชุดทำงานหอบหายใจเมื่อริมฝีปากถูกปล่อยเป็นอิสระ จริงอยู่ที่ทินกรเรียกได้ว่าเป็นเด็กหนุ่มที่ ‘กระตือรือร้น’ พอ
สมควร แต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ไม่เคยจู่โจมเขาตั้งแต่หน้าประตูแบบนี้



“ก็พี่ภัทรน่ารักนี่ครับ...” ใบหน้าคมคายอยู่ห่างเพียงลมหายใจกั้น ดวงตาสีควันบุหรี่ไม่ละไปจากริมฝีปากหวานที่อ้าฮุบเอาอากาศหายใจ “น่ารักจนผมอดใจไม่ไหว”



“พอเลย...นะ...น่ารักอะไร” คนถูกชมโดยไม่ทันตั้งตัวเบือนหน้าหนี รู้สึกร้อนผ่าวบริเวณแก้มทั้งสองข้าง




วันนี้...เขารู้สึกว่าท่าทีของทินกรมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล



“น่ารัก...”



เด็กหนุ่มยังคงยืนยันคำพูดของตน คลอเคลียซอกคอขาวรอจังหวะที่ภรัณยูสามารถปรับลมหายใจเป็นปกติได้ ก่อนจะประกบปิดริมฝีปากเรียวอีกครั้ง



“อื้อ...”



ภรัณยูรู้สึกว่ามือไม้ตัวเองเริ่มอ่อนจากการขาดอากาศหายใจ ทำให้ไม่สามารถดันคนที่ไม่รู้ว่าถูกอะไรเข้าสิงออกไปได้ ร่างโปร่งกระตุกเฮือกเมื่อทินกรสะกิดเขี่ยตุ่มไตเม็ดน้อยบนแผ่นอกแบนราบที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมา ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากลงมาครอบครองโดยไม่ยอมบอกกล่าว




“อ๊ะ!…ซะ…ซัน…”




มือเรียวขยุ้มกลุ่มผมสีรัตติกาลเพื่อระบายความรู้สึกประหลาดในช่องท้อง เมื่อลิ้นร้อนที่ไล้เลียวนอย่างหยอกเย้าถูกแทนที่ด้วยฟันคมๆ ขาเรียวสั่นระริกจากการถูกปลุกเร้า แต่ก่อนจะได้ทรุดลงไปกับพื้น ร่างสูงก็ดึงให้ขาเรียวเกี่ยวสะโพกสอบไว้เป็นที่ยึดเกาะ




“ซัน..ซั...ที่เตียง...พี่ขอ...”



ภรัณยูของร้องเสียงสั่น ตอนนี้ร่างกายของเขารู้สึกเหมือนกระดูกถูกหลอมละลายจนไม่สามารถทรงตัวด้วยตัวเองได้แล้ว เขาไม่ไว้ใจตัวเองให้ยืนต่อไปนานกว่านี้




“ไม่ต้องห่วงครับ” ทินกรเลียริมฝีปาก ภรัณยูรู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งร่างกัับแววตากระหายยามที่ดวงตาสีควันบุหรี่ไล่ตามเรือนร่างของเขา “ผมจะเป็นเป็นเตียงให้พี่ภัทรเอง”



“พี่ไม่ได้หมายความ...ซะ....อื้อ...”



ริมฝีปากได้รูปบดจูบปิดคำโต้แย้งของคนรัก วันนี้ต่อให้ต้องงัดอะไรออกมา เขาก็จะทำให้อีกฝ่ายสำลักความสุขในอ้อมกอดของเขาจนไม่สามารถคิดถึงอ้อมกอดที่ผ่านมาของคนอื่นได้













“…จูบเก่งขึ้นนี่”




คำชมของธีรเชษฐ์หลังจากร่างบนตักถอนริมฝีปากออกไม่ได้ทำให้มีนารู้สึกดีใจ ความอับอายจากการกระทำของตัวเองทำให้เขานึกอยากจะลุกออกไปให้พ้นๆจากตรงนี้ แต่ร่างเล็กรู้ดีว่านั่นเพียงแต่จะทำให้ร่างสูงโกรธเขามาขึ้นก็เท่านั้น
มือเล็กเอื้อมลงมาที่หัวเข็มขัดของร่างสูง แต่ธีรเชษฐ์จับข้อมือเรียวไว้พร้อมกับส่ายหน้า




“วันนี้ไม่ต้อง”




ดวงตากลมโตฉายแววประหลาดใจกับคำพูดนั้น แต่มีนาไม่อยู่ในสถานะที่จะถาม เด็กหนุ่มในชุดนอนตัวบางที่แทบไม่มีผลอะไรในการบดบังสรีระขยับลงจากตักแข็งพร้อมพึมพำขอตัวไปอาบน้ำ ดวงตาสีน้ำตาปฏิเสธจะสบตากับคนที่เป็นเหมือนเจ้าชีวิตของตัวเอง




ธีรเชษฐ์มองตามร่างเล็กไปจนลับสายตาด้วยสีหน้าลำบากใจ แต่จนแล้วจนรอด คำพูดที่เขาอยากบอกอีกฝ่ายมากที่สุดก็ไม่ยอมหลุดออกจากปากของคนปากแข็งเสียที



เขาอยากขอโทษ...




แม้จะคิดได้แบบนั้น แต่การกระทำมักจะยากกว่าภาพที่วาดไว้ในหัวเสมอ



“มีนา...”



“สะ..เสร็จแล้วครับ!”



เสียงหวานที่รีบตอบจากในห้องน้ำอย่างลนลานยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด มือที่กำลังจะยกขึ้นเคาะประตูห้องน้ำลดลงมาทิ้งข้างลำตัว ตัดสินใจปล่อยให้ร่างเล็กได้ใช้เวลาส่วนตัวอันน้อยนิดที่มีอยู่กับตัวเอง







มีนากอดกระเป๋าเป๋าใบเก่าของตนไว้แนบอก การเป็นนักศึกษาปีหนึ่งทำให้เขาไม่ได้เรียนวิชาที่เป็นวิชาของคณะเพียวๆนัก แต่เมื่อโอกาสเช่นนั้นมาถึง มันทำให้เขาที่มีเพื่อนอยู่เพียงสองคนและเป็นคนนอกคณะทั้งคู่อดรู้สึกอึดอัดใจไม่ได้
โดยเฉพาะเมื่อมีสายตาหลายคู่จับจ้องเขาพร้อมคำซุบซิบนินทาที่คิดว่าเขาจะไม่ได้ยิน



“แก คนนั้นไงที่เป็นเด็กเสี่ยอ่ะ”



“อี๋ จริงอ่ะ ที่จิ๊บเล่าให้ฟังน่ะนะ”



“หน้าไม่อาย...”



“ไม่มีใครฟ้องอาจารย์เลยรึไง...”



เขาอยากจะหนีออกไปให้พ้นจากที่นี่...เขาไม่อยากอยู่ตรงนี้



ภาพชีทที่เขากำลังใช้จดเลคเชอร์เลือนรางจากคราบน้ำตาที่บดบังทัศนียภาพ แต่มีนาปฏิเสธที่จะยกมือขึ้นปาดน้ำตาให้ใครเห็นถึงความอ่อนแอ



ต่อให้ใครหาว่าหน้าด้านหน้าทน เขาก็จะก้มหน้ายอมรับมัน



เพราะเขาตระหนักอยู่เสมอ ว่ามันไม่ใช่ชีวิตของเขาแค่คนเดียวที่เขาต้องคิดถึง



--------------

 :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 50% P.15 คห 445 (9/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 09-11-2018 23:48:04
อิตาลุงนี่ก็นะ.

สงสารพี่ภัทร ร่างคงจะพังซะก่อน มีแฟนเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกายนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 50% P.15 คห 445 (9/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 10-11-2018 00:14:24
น้องมีนา ทำยังไงกับตาลุงใจร้ายนี่ดี  :hao5: :hao5:
ส่วนนายซันพักบ้างเถอะ ได้ยินแล้วนิว่างานภัทรแย่ลง  :ling2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 50% P.15 คห 445 (9/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-11-2018 09:04:04
ถ้ามีนาเป็นโรคซึมเศร้านะ นายโดนแน่เชษฐ์  :fire:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 50% P.15 คห 445 (9/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 10-11-2018 09:37:25
 สงสารมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 50% P.15 คห 445 (9/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 10-11-2018 09:54:42
น้องมีนของพี่ เอ็นดู เดี๋ยวฟ้าจะสดใสนะลูกนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 50% P.15 คห 445 (9/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า ที่ 10-11-2018 13:23:19
สงสารน้องมีนา
รอตอนต่อไปค่ะ รอน้องซันเผด็จศึกพี่ภัทร555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 50% P.15 คห 445 (9/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Tuffina ที่ 10-11-2018 17:48:17
สงสารน้องมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 50% P.15 คห 445 (9/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 11-11-2018 10:04:34
น้องมีนของแม่ ต้องทุกข์อีกนานเท่าไรหนอ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 50% P.15 คห 445 (9/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 11-11-2018 10:44:11
“เลิกคลาสได้ครับ”




หลังจากสั่งรายงานกลุ่ม อาจารย์ประจำวิชาก็ปล่อยนักศึกษาให้เป็นอิสระ มีนาแทบจะพุ่งตัวออกมาจากบรรยากาศอึดอัดในห้องสี่เหลี่ยมนั้น ในหัวไม่มีแม้แต่ความกังวลว่าตนจะทำอย่างไรกับการจับกลุ่มทำรายงานที่ได้รับมอบหมายเมื่อครู่
เขาแค่อยากไปให้พ้นจากคนพวกนี้ อยากออกไปจากตรงนี้ เขาไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น



"มีน รอก่อน"




เจ้าของชื่อสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่เขาไม่รู้จักเรียกตัวเองไว้ มีนากอดกระเป๋าของตัวเองแน่น หันซ้ายขวามองหาต้นเสียงอย่างงุนงง




ในที่สุดเขาก็เห็นเพื่อนร่วมคณะสองคนที่เดินตรงมาหาเขา หนึ่งในนั้นเป็นเด็กหนุ่มลูกครึ่งผมสีบลอนด์ทรายที่ร่างเล็กจำได้ว่าเป็นเดือนของคณะแพทยศาสตร์ที่เขาเห็นบ่อยๆเวลาติดสอยห้อยตามพายุไปหลังเวที ส่วนอีกคนเป็นเด็กหนุ่มร่างเล็กที่สูงกว่ามีนาเพียงไม่กี่เซนติเมตร สวมแว่นหนาเตอะและไว้ผมทรงกะลาครอบดูแปลกตา




"เอ่อ...มีน รายงานมีกลุ่มรึยัง” คนตัวเล็กที่เขาจำได้อย่างเลือนรางว่าชื่อแว่นถาม มีนามองคนทั้งสองด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจ กอดกระเป๋าเรียนของตนไว้แน่น แต่ก็ยังคงส่ายหน้าช้าๆ




"งั้นอยู่กลุ่มเดียวกันป่ะ พวกเราขาดคนนึงพอดี”



เดือนคณะที่มีนาเพิ่งนึกออกว่าชื่อแทนไทยถามแทรกเสียงดัง แม้จะรู้ว่าเป็นบุคลิกของอีกฝ่ายอยู่แล้ว แต่มีนาก็อดสะดุ้งอย่างตกใจอีกครั้งไม่ได้




"...ว่าไง สนใจมั้ย?" แว่นถามด้วยน้ำเสียงที่มีนารู้สึกว่าคนปกติใช้พูดกับลูกนกที่บาดเจ็บ แต่นั่นก็ทำให้รู้สึกปลอดภัยขึ้นเล็กน้อย




เด็กหนุ่มพยักหน้าช้าๆ



"ดีเลย งั้นเดี๋ยวไปกินข้าวกันจะได้รีบแบ่งงาน"




ไม่พูดพร่ำทำเพลง แทนไทยกอดไหล่เพื่อนร่วมกลุ่มคนใหม่พร้อมรอยยิ้ม มีนาสะดุ้งเฮือกอีกครั้งอย่างตกใจ นอกจากเพื่อนสนิทต่างคณะทั้งสองแล้วแล้ว ไม่มีใครเคยแตะต้องเขาด้วยท่าทีสนิทสนมแบบนี้มาก่อน แต่ร่างเล็กก็ยังคงยอมปล่อยใหอีกฝ่ายกอดคอพาไปทางโรงอาหารแต่โดยดีด้วยไม่อยากให้เพื่อนร่วมกลุ่มรู้สึกว่าตนเป็นคนประหลาด







"มีนเป็นคนที่ไหนเหรอ?" แทนไทยพยายามชวนคนที่นั่งทานข้าวเงียบๆอยู่คุย เจ้าของชื่อตอบเสียงแผ่ว



“เราเป็นคนที่นี่..”



เขาเกิดที่นี่ โตที่นี่ ถึงแม้ว่าสภาพความเป็นอยู่จะอัตคัดขัดสนแค่ไหน แต่ครอบครัวของเขาก็ไม่มีที่ใดให้หนีไปตายเอาดาหน้าแล้ว



"เหรอ เหมือนกันเลย นี่ เคยไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือที่คลองข้างวัด..."




มีนาพยักหน้ารับฟังคำพูดของแทนไทยตามมารยาท ท่าทีเป็นมิตรของอีกฝ่ายทำให้เขาคิดถึงทินกร ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่าเพื่อนใหม่ของเขาดูร่าเริงกว่าพอสมควรก็ตาม




"แว่น ทำไรวะ?" แทนไทยหันมาถามเพื่อนที่ฟังบทสนทนาไปตัดกระดาษไปบ้างอย่างสงสัย มีนาหันกลับไปมองที่มือของแว่น...




…และค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขาเบิกตากว้าง



"ตัดคูปองแลกน้ำยาปรับผ้านุ่ม" แว่นตอบ "จะหมดเขตอยู่แล้วเหลืออีกตั้งใบนึง เสียดายว่ะ"



"ไอ้นี่ ทำตัวเป็นแม่บ้านดีเด่นอะไรเบอร์นั้น" ร่างสูงหัวเราะ



มีนาก้มลงมองกระเป๋าเป้ที่วางอยู่บนตักของตนอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจหยิบยื่นมิตรภาพของตนให้กับคนทั้งสองที่ยอมเดินเข้ามาชวนเขาทำงานก่อนทั้งที่ไม่จำเป็น



"เอ่อ..." เสียงหวานเรียกเพื่อนร่วมคณะทั้งคู่เบาๆ "เรามีเกินใบนึง..."



เสียงหัวเราะของแทนไทยหยุดลงกลางอากาศ เช่นเดียวกับแว่นที่เงยหน้าขึ้นจากใบเสร็จที่ตัดอยู่




"คะ...คือเราสะสมครบแล้วมันเกินมาใบนึงพอดี จะเอาไปก็ได้นะ" ร่างเล็กเปิดกระเป๋าเป้กลางเก่ากลางใหม่ของตนแล้วหยิบซองพลาสติกใสที่ใส่คูปองซึ่งตัดไว้อย่างเป็นระเบียบ แถมยังเขียนติดซองไว้ว่าเป็นคูปองของร้านใดบ้างออกมา




ดูจากสีหน้าของแว่นตอนที่รับคูปองของเขาไป มีนาคงได้รับมิตรภาพของอีกฝ่ายตอบกลับมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



"มีอะไรเหรอ อารมณ์ดีจัง"



ร่างสูงของชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มปรากฏตัวด้านหลังเพื่อนใหม่ของเขา โอบแขนรอบคอแว่นอย่างถือวิสาสะพร้อมเกยคางบนไหล่โดยไม่สนว่าจะมีคนนอกอย่างมีนาอยู่ และจากสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจของแว่น นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกที่อีกฝ่ายทำแบบนี้



จะว่าไป...ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นหน้ารุ่นพี่คนนี้แบบนี้นะ



"พี่กล้าสวัสดีครับ" แทนไทยยกมือไหว้คนอายุมากกว่า มีนายกมือไหว้ตามเพื่อนตัวสูง ก่อนจะถึงบางอ้อเมื่อได้ยินชื่อของคนตรงหน้า



พี่กล้า..พี่กวินภพ พี่รหัสปีสามของทินกรที่เขาเคยเห็นผ่านตาสองสามครั้งแต่ไม่เคยพูดคุยกัน



"กินข้าวเสร็จแล้วเหรอ?" ร่างสูงถามคนที่ตนกำลังคลอเคลียอยู่



"ครับ หลังจากนี้ก็ว่าจะไปทำรายงานกันที่ห้องสมุด" แว่นตอบเสียงเรียบ ดูไม่ยินดียินร้ายกับรุ่นพี่ต่างคณะจนมีนาอดนึกสงสัยกับภาพตรงหน้าไม่ได้



สองคนนี้เป็นอะไรกันรึเปล่านะ?






เด็กทั้งสามมานั่งทำรายงานในชั้นของห้องสมุดที่มีไว้เพื่อการทำงานกลุ่ม เป็นโต๊ะญี่ปุ่นกระจัดกระจายไว้ให้นักศึกษาได้ใช้งาน ซึ่งเด็กส่วนใหญ่กำลังจับจองที่นั่งอยู่ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เสียงพูดคุยปรึกษากันดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณ



ยกเว้นเด็กปีสามคณะบริหารธุรกิจที่นอนตากแอร์โดยมีตักของแว่นเป็นหมอนในตอนนี้



"พี่กล้า ถ้าง่วงก็ไปนอนคอนโดสิครับ" เด็กหนุ่มบ่น แต่มีนาสังเกตว่ากวินภพไม่คิดจะขยับไปจากตักของคนตัวเล็ก สักพัก เด็กหนุ่มแว่นกลมก็สะดุ้งเล็กน้อย แม้จะไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นใต้โต๊ะ แต่มีนาก็พอจะเดาออกว่าท่าทีของอีกฝ่ายเมื่อครู่ต้องเกี่ยวกับคนที่นอนหนุนตักเด็กหนุ่มอยู่




"แว่น เป็นไรป่าววะ?”แทนไทยทักอย่างเห็นห่วง แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายส่ายหน้า คนขี้ห่วงจึงไม่ได้ถามอะไรต่อ



"จะถึงเวลาเข้าห้องเชียร์แล้ว ไปกันเลยมั้ย" แทนไทยชวน แว่นพยักหน้าแล้วเริ่มเก็บของ ผิดกับมีนาที่นั่งนิ่ง ริมฝีปากเม้มเข้าหากันอย่างลำบากใจ




เขาไม่เคยเข้าห้องเชียร์ นั่นเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ธีรเชษฐ์จัดอยู่ในหมวดหมู่ของคำว่า’ไร้สาระ’ ซึ่งวันนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น



"เราต้องกลับ..."



"เฮ้ย แต่วันนี้วันให้รุ่นนะ พี่เขาเช็คชื่อ"



แทนไทยเตือนด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แม้จะไม่ใช่การรับน้องระบบโซตัส แต่คณะแพทยศาสตร์ก็ถือเป็นคณะที่มีระบบรุ่นพี่รุ่นน้องเข้มข้นที่สุดคณะหนึ่ง เพราะอาจารย์ของพวกเขาไม่ได้มีแค่อาจารย์และคนไข้ แต่ยังมีรุ่นพี่ที่ช่วยสั่งสอนประสบการณ์ให้ หากโดนรุ่นพี่เกลียด เท่ากับปิดประตูให้อนาคตของตัวเองไปแล้วเกือบครึ่ง



“เอ่อ...” มีนาลังเล แม้จะกลัว แต่การที่เขาจะได้เข้าร่วมกิจกรรมหรือไม่นั้นไม่ใช่การตัดสิยใจของเขา



"น่า ไปเถอะ แค่ไปเช็คชื่อก็ยังดี" แทนไทยทำตาวิ้งๆใส่เขา ด้วยดีกรีเดือนคณะและนิสัยขี้อ้อนอย่างเป็นธรรมชาติ การจะปฏิเสธคนตรงหน้ายิ่งเป็นเรื่องที่มีนาลำบากใจ




"เอ่อ..เรา...ขอโทรศัพท์ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวตามไป”




มีนาตัดสินใจลุกออกไปจากตรงนั้น เด็กหนุ่มหาซอกมุมมืดที่ไม่มีใครเดินผ่าน หยิบโทรศัพท์ของตนออกมาอย่างลำบากใจ นิ้วเรียวแตะที่ปุ่มไอคอนรายชื่ออยู่หลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะตัดสินใจกดโทรออกในที่สุด



“ว่าไง?”




มีนารู้สึกถึงลมหายใจที่ขาดห้วงของตนเมื่อได้ยินเสียงทุ้มจากปลายสาย ความกล้าที่สามารถรวบรวมได้เพียงเล็กน้อยเพียงเล็กน้อยแตกสลายหายไปในพริบตา เด็กหนุ่มกำลังชั่งใจว่าจะวางสายดีหรือไม่เมื่อธีรเชษฐ์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล



“มีนา เป็นอะไรรึเปล่า?”



“ปะ…เปล่าครับ” อาจเป็นเพราะความเป็นห่วงที่เจืออยู่ในน้ำเสียงของธีรเชษฐ์ ที่ทำให้มีนากล้าที่จะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “วันนี้...ผมขออยู่ร่วมกิจกรรมคณะได้มั้ยครับ?”




ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปลายสาย มีนากัดริมฝีปากอย่างกังวลใจด้วยกลัวว่าคำขอของเขาจะได้กระตุ้นต่อมโมโหของธีรเชษฐ์ แต่หลังจากผ่านไปเกือบหนึ่งนาที ร่างสูงก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ยินดียินร้าย




“เสร็จแล้วโทรมาแล้วกัน”




มีนากระพริบตาปริบๆอย่างประหลาดใจ แม้หลังจากธีรเชษฐ์วางสายไปแล้ว เขาก็ยังยืนนิ่งอึ้งอย่างไม่รู้ว่าตัวเองหูฝาดไปหรือไม่









“มึงว่าพี่เขาจะมีเซอร์ไพร์สอะไรป่ะวะ”



มีนานั่งลงข้างเพื่อนใหม่ในคณะทั้งสองทันได้ยินคำพูดของแทนไทยที่กระซิบกับเพื่อนสนิทในห้องประชุม แว่นส่ายหน้า ส่วนมีนามองไปรอบๆอย่างไม่มั่นใจว่าตนควรจะเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไม่คาดฝันอะไรหรือไม่



ไม่ทันขาดคำ ทันทีที่เด็กคนสุดท้ายนั่งประจำที่ แสงไฟในห้องก็ดับลง



"เปลวเทียนน้อยๆ ในค่ำคืนไม่มีแสง..."



เสียงร้องเพลงของรุ่นพี่ดังขึ้นก้องหอประชุม รุ่นพี่ในคณะของพวกเขาค่อยๆเดินเรียงแถวเข้ามาพร้อมกับเทียนส่องแสงสว่างริบหรี่ในมือ



ไม่ใช่แค่พี่ปีสอง พี่ปีสาม ปีสี่ ปีห้า หรือแม้แต่พี่เอ็กเทิร์นบางคนก็มาร่วมร้องเพลงด้วย ภาพแสงนวลตาที่หลวมรวมเป็นดวงไฟตรงหน้าของเด็กปีหนึ่งทำให้มีนารู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา ถึงแม้ว่าตนจะไม่เคยเข้าร่วมห้องเชียร์เลยก็ตาม



 "ลำดับต่อไปขอเชิญพี่ๆผูกสายสิญจ์ให้น้องด้วยนะครับ"



พิธีกรพูดออกไมค์หลังจากเสร็จสิ้นการร้องเพลง เหล่าพี่ๆปีสูงเดินตามหาน้องในสายของตัวเองกันให้ควั่ก ส่วนมีนานั้นไม่ได้หวังอะไรนักด้วยรู้ว่าพี่รหัสก็ไม่ได้สนิทอะไรกับตนเช่นกัน



แต่ในตอนนั้นเอง คนคนหนึ่งที่เขาควรจะรู้ว่าจะต้องได้เจอแต่พยายามไม่ใส่ใจกำลังเดินตรงมาทางเขาด้วยรอยยิ้มมุมปากเป็นเอกลักษณ์ที่แต่งแต้มใบหน้าสวยหวานราวอิสตรีให้ดูเหมือนนางฟ้ามาจุติ แต่กลับทำให้ขนอ่อนที่หลังคอของมีนาลุกชันอย่างห้ามไม่อยู่



"มา แว่น พี่ผูกข้อมือให้" ธารธาราหยิบสายสิญจ์เส้นหนึ่งออกมาแล้วเริ่มถูมันไปมาเบาๆบนข้อมือเด็กหนุ่มร่างเล็กที่ยืนห่างจากมีนาไปไม่ไกล มีนาอาศัยจังหวะนั้นขยับหลบด้านหลังแทนไทย มองซ้ายแลขวาหาทางหนีที่ไล่ที่ไม่มีอยู่จริง "ขอให้เก็ทเอทุกตัวนะ มีอะไรปรึกษาพี่ๆได้นะ"



"ขอบคุณครับ" แว่นยกมือไหว้เมื่ออีกฝ่ายผูกข้อมือเสร็จ มีนาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นเพื่อนร่วมคณะอีกกลุ่มเข้ามาขอให้ร่างโปร่งที่เปรียบเสมือนนางฟ้าของปีสี่ผูกข้อมือให้ ดูจากสีหน้าของคนทั้งกลุ่มสิ่งที่อยากได้จากรุ่นพี่คนสวยคงไม่ใช่แค่ศีลพร



"พี่อุ่น ผมอ่ะ" มีนาสะดุ้งเมื่อคนตัวโตที่เป็นเกราะกำบังให้เขาเริ่มงอแง ร่างเล็กไม่รู้มาก่อนว่าเพื่อนใหม่ของเขารู้จักกับธารธาราด้วยซ้ำ



"ใจเย็นดิวะไอ้แทน ของแบบนี้มันต้องตามคิว" อาร์ม รองเดือนคณะยักคิ้วให้เด็กหนุ่มอย่างอ้อนบาทา



“น้องอาร์มพูดถูกนะ" ธารธารายิ้มหวานให้เด็กหนุ่มลูกครึ่งอังกฤษ "อีกอย่าง ถ้าอยากได้อะไรผูกข้อมือ เดี๋ยวคืนนี้พี่หาอะไรดีๆผูกให้แทนสายสิญจ์ ดีมั้ย?"



มีนารู้สึกว่าเลือดในกายเย็นเฉียบเมื่อได้ยินประโยคนั้น



แทน...กับคุณธาร...



"เอ่อ..จริงสิ พี่อุ่นผูกให้มีนหน่อยสิครับ" ร่างสูงที่แดงไปทั้งหน้าทั้งคอคว้าตัวเพื่อนที่ยืนหลบอยู่หลังตัวเองอย่างแนบเนียนมานานสองนานให้คนรักผูกข้อมือให้แก้เขิน แต่ทว่าเมื่อเห็นร่างเล็ก รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนริมฝีปากของร่างโปร่งตรงหน้า
กลับอันตรธานหายไป เหลือเพียงแววตาเกลียดชัง และสีหน้าที่มองเขาเหมือนมดปลวกเหลือบไรที่ตนอยากขยี้ให้ตายคามือ
มีนาหน้าซีดเผือด ตัวสั่นระริกไปทั้งร่างอย่างควบคุมไม่ได้ ในหัวมีเพียงความคิดที่ว่าธารธาราจะบอกความลับของเขาให้ทุก
คนในที่นี้รู้ และนี่จะเป็นจุดจบของเขาในคณะนี้




มือเรียวของธารธาราแบออก ปล่อยสายสิญจ์ให้ร่วงกระจัดกระจายอยู่บนพื้นแทบเท้าของตน ท่าทีที่หากเป็นคนอื่นคงดูออกไม่ยากว่าจงใจ แต่กับนางฟ้าคนนี้ คนรอบข้างพร้อมจะปิดตาทำเป็นไม่เห็นได้ทุกเมื่อ



"ขอโทษนะครับ ผมนี่ซุ่มซ่ามจัง" ร่างโปร่งก้มลงเก็บสายสิญจ์ รอยยิ้มหวานกลับมาประดับบนใบหน้าอีกครั้ง เอียงคอถามด้วยเสียงเนิบนาบแต่กลับน่าขนลุกในความรู้สึกของมีนา "ยังอยากได้อยู่มั้ย?"



มีนก้มหน้านิ่ง



"เอ่อ...พี่อุ่นรีบผูกเถอะครับ จะได้ผูกคนอื่นต่อ" แม้จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แทนไทยก็พยายามแก้ไขสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียดอย่างสุดความสามารถ



ธารธาราถูสายสิญจ์กับข้อมือเล็กเบาๆ ก้มลงมาใกล้คนที่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นจากพื้น ก่อนจะกระซิบถ้อยคำที่ทำให้ใบหน้าขาวชาวาบ



“จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด...อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย”



ธารธาราผละออกมาพร้อมรอยยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีนายกมือขึ้นไหว้อีกฝ่ายอย่างนอบน้อมแม้เสียงหวานจะสั่นเครือจากบทสวดแผ่เมตตาเมื่อครู่



"ขอบ...ขอบคุณครับพี่..."



"อะไรนะครับ?" น้ำอุ่นถามด้วยน้ำเสียงสงสัย แต่แววตากลับเย็นเยียบจนคนมองสะดุ้ง มีนากัดริมฝีปากก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาหวิว



"ขะ...ขอบคุณครับคุณธาร"



"ยินดีเสมอครับ" รุ่นพี่ปีสี่ยิ้มบางอย่างพึงพอใจแล้วเดินไปหาคนอื่นเพื่อผูกสายสิญจ์ต่อโดยไม่สนใจมีนาอีก



"อะไรของพี่อุ่นน่ะ" แทนไทยมีสีหน้างุนงงปนโมโห "ไม่ต้องห่วงนะมีน เราจะไปคุยกับพี่อุ่นให้รู้เรื่อง"



"อย่านะแทน" มีนารีบเอ่ยห้าม เขาไม่อยากให้ธารธาราต้องทะเลาะกับคนรักเพราะเขา “เรา...เราแค่ตกใจน่ะ"



“เรื่องอะไรเหรอ?” แว่นอดถามขึ้นมาไม่ได้



“คือ…พี่เขาชวนเราสวดมนต์น่ะ เราไม่ทันตั้งตัวเลยหลอนๆ ไม่มีอะไรหรอก แหะๆ” มีนายิ้มเจื่อน ไม่ได้โกหกเพื่อนใหม่ของตนเสียทีเดียว “ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ”



คนฟังมีสีหน้าไม่อยากเชื่อ แต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ



เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเป้ของมีนาดังขึ้น เด็กหนุ่มหยิบโทรศัพท์ออกมารับอย่างรีบร้อนด้วยรู้หนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์ของเขาคือใคร ผงกหัวให้เพื่อนๆเป็นเชิงลาแล้วเดินออกจากห้องประชุมไปทันทีด้วยกลัวว่าจะสายจากเวลานัดที่ตนโทรไปบอกอีกฝ่ายไว้







“ขอโทษครับที่มาสาย”



นั่นเป็นประโยคแรกที่หลุดออกมาหลังจากมีนาก้าวขึ้นมาในรถคันหรูที่จอดรออยู่



“อืม…สนุกมั้ย?”



คำถามแปลกๆนั้นทำให้มีนาชะงักไปอีกครั้ง



จะให้พูดว่ายังไงดีล่ะ...



“ใครผูกให้?” ยังไม่ทันจะได้ตอบคำถามแรก ดวงตาสีควันบุหรี่ก็เหลือบไปเห็นเชือกสีขาวเส้นเล็กรอบข้อมมือคนอายุน้อยกว่า ดูจากดวงตาคมที่่หรี่ลงก็รู้ว่าไม่พอใจ



“คุณ…ธารครับ”



มีนากลั้นใจตอบ เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่กำลังจะแย่ลงในเวลาอันใกล้ ทว่าธีรเชษฐ์กลับมีสีหน้าผ่อนคลายลง ร่างสูงพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรอีก



“คุณเชษฐ์กับคุณธาร...มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ?”



มีนาอยากจะกัดลิ้นตัวเองทันทีที่พูดออกไป ให้ตายเถอะ ทำไมเขาถึงได้ถามอะไรแบบนั้นออกไปนะ
ธีรเชษฐ์นิ่งไปราวกับไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกจากปากร่างเล็ก มีนากำลังจะเอ่ยปากขอโทษที่ละลาบละล้วง เมื่อชายหนุ่มข้างๆเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ





“ฉันเป็็นคนทำลายครอบครัวของเขา”


------------

คิดถึงคนอ่านนนน :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 11-11-2018 11:35:29
สงสารน้องมีน โดนตลอดเลย    :m15:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 11-11-2018 11:52:28
ธารนิสัยโคตรแย่อ่ะ สงสารมีนมาก
คือตัวเองโกรธพ่อก็โกรธไปดิ่ เกี่ยวไรกะมีนอ่ะ
ทำตัวไม่สมเป็นคนเรียนหมอเลย ตลก ทำไมมีนต้องมาเจอลูกที่แย่ๆของคุณเชษฐ์ด้วย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า ที่ 11-11-2018 17:30:26
น้องมีนๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 11-11-2018 18:50:21
น้องมีนเหมือนต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-11-2018 19:33:29
ธาร เมื่อไหร่นิสัยจะดีขึ้นนะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-11-2018 21:13:00
สงสารมีนา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 11-11-2018 22:04:49
น้องงงงงงงงงง ฮรื่อออออ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 12-11-2018 01:21:35
น้องมีนผู้น่าสงสาร อ่านไปน้ำตาไหลเลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-11-2018 01:32:35
สงสารมีนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 12-11-2018 01:50:03
รอนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 12-11-2018 02:31:42
กลับมาอ่านอีกรอบ
น้ำอุ่นนิสัยแย่มากๆจริง ไม่แยกแยะ เรียนหมอสะเปล่า
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 12-11-2018 06:36:04
เมื่อไรน้องมีนของแม่จะมีความสุข
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 16-11-2018 19:39:11
เมื่อไรมีนจะมีความสุขกับเขาซักที
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 17-11-2018 20:20:31
โหย....มีความหลังกันแบบนี้นี่เอง
รอติเตามตอนต่อไปอยู่นะ  o13
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kawaiineko ที่ 24-11-2018 13:26:22
โอ้ย.....สงสารน้องมีน  :serius2: :sad4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: amizchi ที่ 25-11-2018 21:24:09
 :z10: :katai5: แงรอไรท์มาอัพนะคะㅠㅠ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Itachishang ที่ 02-12-2018 11:17:55
 :z13: :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Itachishang ที่ 03-12-2018 00:17:44
ไรท์กลับมนา เถอะทึกคนให้อภัยแล้ววววววว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 22 100% P.16 คห 454 (11/11/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 03-12-2018 12:29:06
Chapter 23: คนในอดีต




หลังจากที่มีนาก้าวเข้ามาในบริษัทของธีรเชษฐ์ในวันนั้น ประธานบริษัทหนุ่มมักจะรับเขามาจากมหาวิทยาลัยแล้วทิ้งให้เขาอ่านหนังสือรอในห้องทำงานหลังเลิกเรียนทุกวันหากตนยังทำงานไม่เสร็จ เป็นหนึ่งในบทลงโทษที่มีนาคิดว่าทำได้ไม่ยากนัก



…แต่ทว่าในตอนนั้นเขาไม่ได้คิดถึงใครคนหนึ่งที่รวมอยู่ในบทลงโทษนี้ด้วย



วันนี้เป็นวันแรกที่เขาเดินทางมาจากมหาวิทยาลัยคนเดียวเพราะธีรเชษฐ์ไม่สามารถปลีกตัวออกมาจากห้องประชุมได้ ความอึดอัดกับการถูกสายตานับร้อยคู่จ้องมอง ตั้งแต่ยามหน้าบริษัทยันพนักงานระดับสูง ไม่สามารถเทียบได้กับสิ่งที่เขากำลังรู้สึกเพียงแค่เลขาคนสนิทของธีรเชษฐ์ช้อนตาขึ้นจากคอมพิวเตอร์โดยไม่พูดอะไร



“สวัสดีครับคุณมธุวัน เอ่อ...คุณเชษฐ์อยู่มั้ยครับ?”




เด็กหนุ่มพนมมือไหว้ทักทายตามมารยาท ถามด้วยเสียงเบาหวิวอันเป็นเอกลักษณ์ มธุวันเหลือบมองนาฬิกาบนผนังก่อนจะตอบ



“ท่านประธานคุยธุระอยู่ข้างในครับ เชิญนั่งรอก่อนนะครับ”




มีนาพยักหน้า ก่อนจะนั่งลงบนพื้นข้างๆโต๊ะทำงานของเลขาหนุ่ม มธุวันผุดลุกขึ้นมารั้งเขาไว้แทบจะในทันที คิ้วเรียวที่ขมวดมุ่นของเลขาหนุ่มทำให้มีนารู้สึกเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งทำความผิดไป



“ขวางทางใช่มั้ยครับ? ขอโทษนะครับ”



เด็กหนุ่มก้มศีรษะขอโทษขอโพยอย่างสำนักผิด มธุวันมีสีหน้าเหมือนพูดอะไรไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง



“...เชิญที่ห้องรับรองครับ”



 ร่างโปร่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่คล้ายคลึงกับความอ่อนอกอ่อนใจ นำทางแขกของเจ้านายไปยังห้องรับรองแขกซึ่งมรผนังเป็นกระจกใสสี่ด้านเช่นเดียวกับห้องอื่นๆในชั้น มีนานั่งลงบนโซฟาตัวยาวด้วยท่าทีแข็งเกร็ง กอดกระเป๋าไว้แนบอกราวกับโล่ป้องกันตัว มธุวันนำของว่างกับโกโก้ร้อนมาวางลงตรงหน้าของเด็กหนุ่มที่พึมพำขอบคุณเขาเสียงเบา แล้วหมุนตัวเดินกลับออกไปจากห้องโดยไม่พูดอะไรกับเขาอีก มีนากอดกระเป๋าเป้ของตนไว้แน่น ก้มมองพื้นกระเบื้องมันเงาใต้เท้าของตนอย่างประหม่า นึกโกรธตัวเองที่เพียงแค่ได้เห็นคนที่ธีรเชษฐ์ให้ความสำคัญ ก็รู้สึกงุ่นง่านใจจนทำอะไรไม่ถูกแบบนี้



ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์แท้ๆ...




“ขออนุญาตครับ”




เสียงที่ไม่คุ้นเคยเรรียกให้มีนาเงยหน้าขึ้นจากพื้น ตรงหน้าของเขามีเด็กหนุ่ม...ไม่สิ คงต้องบอกว่าเป็นชายหนุ่มร่างเล็กที่มีหน้าตาโกงอายุอย่างน่ากลัวในชุดทำงานยืนอยู่พร้อมรอยยิ้มประหม่า



“ครับ?”



“ผมชื่อขวัญข้าว คุณมธุวันขอให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อนคุณมีนาน่ะครับ”



เอ๊ะ?



“มะ…ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเกรงใจ รบกวนเวลางานเปล่าๆ” มีนาเอ่ยอย่างเกรงใจ แต่คนแก้มป่องตรงหน้าไม่ยอมขยับไปไหน




“แค่คุณมธุวันสั่ง ก็ถือว่าเป็นงานแล้วล่ะครับ” ขวัญข้าวยิ้ม รอยยิ้มจริงใจนั้นทำให้เด็กหนุ่มเดาไม่ออกว่าคำพูดของอีกฝ่ายมา
จากใจจริงหรือเป็นเพียงคำประชดประชัน




ถึงขั้นชี้นิ้วสั่งพนักงานคนอื่นได้แบบนี้...เป็นเลขาจริงๆงั้นหรือ



แถมยังสั่งเรื่องไม่เป็นเรื่องเบียดเบียนเวลางานของคนอื่นอีก




มีนารู้สึกตกใจกับความคิดเมื่อครู่ของตัวเอง เขาไม่เคยคิดกับคนอื่นในแง่ลบมากขนาดนี้ โดยเฉพาะกับคนที่เคยพูดคุยกันแค่ไม่กี่ครั้งอย่างมธุวัน




นี่เขา...กลายเป็นคนไร้เหตุผลแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?




“คุณมธุวันคงกลัวว่าคุณมีนาจะเหงาน่ะครับเลยให้ผมมาอยู่ด้วย” มีนาไม่รู้ว่าตัวเองแสดงสีหน้าแบบไหนออกไป ขวัญข้าวจึงเอ่ยปกป้องมธุวันออกมาแบบนี้ “เห็นแบบนั้น จริงๆคุณมธุวันเป็นคนที่ใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้างมากๆเลยนะครับ”
ท่าทีปกป้องของขวัญข้าวทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกประหลาดใจมาก มีนาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเก็บสีหน้าไม่เชื่อของตนไว้ในส่วนลึกของจิตใจแล้วเอ่ยถามสิ่งที่ตนอยากรู้



“คุณมธุวันเป็นคนยังไงเหรอครับ?”



คนถูกถามนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนตอบ



“คุณมธุวัน...เป็นperfectionistครับ เป็นคนที่ไม่มีคำว่าผิดพลาดในพจนานุกรมของตัวเอง ร่วมงานกันแต่ละครั้งเล่นเอาพวกผมปาดเหงื่อเลยล่ะ”




นั่นไง...ผิดจากที่เขาคิดเสียเมื่อไหร่



“แต่ว่า...” ราวกับล่วงรู้ความคิดของเขา ขวัญข้าวอธิบายต่อพร้อมรอยยิ้มจาง “จริงๆแล้วคุณมธุวันเป็นคนขี้ใจอ่อนนะครับ ถ้ารู้ว่าเราไม่ได้ตั้งใจทำผิด เขาจะสอนงานทุกอย่างใหม่ให้ด้วยตัวเอง สอนซ้ำไปซ้ำมา ไม่เคยดุเลยถ้าเราไม่เข้าใจ แต่ถ้าหลังจากนั้นยังพลาดอยู่ก็มีโกรธบ้างเป็นเรื่องธรรมดา คุณมธุวันเป็นคนทำงานเก่งมากครับ ไม่ว่าปัญหาเฉพาะหน้าจะสุดวิสัยแค่ไหนก็สามารถแก้ไขได้เสมอ ผมนับถือเขามากๆเลยล่ะ”



“คนที่ดีพร้อมขนาดนั้น...มีคนที่คบอยู่รึเปล่าครับ?” มีนาพยายามที่จะไม่ให้น้ำเสียงของตนอยากรู้อยากเห็นมากเกินไป แต่ดูเหมือนขวัญข้าวจะไม่ได้สงสัยอะไรอยู่แล้ว เพราะร่างเล็กส่ายหน้าพรืดแทบจะในทันที ตอบด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ



“ไม่มีหรอกครับ ถ้ามีคงเป็นเรื่องเม้าท์กันไปทั้งบริษัทแล้ว”



“แล้ว...กับคุณเชษฐ์...” คำถามนั้นหลุดออกมาจากปากก่อนที่เขาจะห้ามตัวเองได้ทัน ขวัญข้าวอมยิ้ม แววตารู้ทันของชายหนุ่มรุ่นพี่ทำให้มีนาเสตาหลบอย่างอับอาย



“คนในบริษัทก็เดาไปต่างๆนานา ไม่มีใครรู้จริงหรอกครับ” ขวัญข้าวตอบ “ผมรู้แค่ว่าคุณมธุวันไม่ใช่คนที่จะเอาเรื่องงานมาปนกับเรื่องส่วนตัว”




“ถ้าอย่างนั้น มีใครมาจีบคุณมธุวันบ้างมั้ยครับ” มีนาไม่รู้ว่าความสงสัยของตนมาจากไหนมากมาย แต่เขาสงสัยจริงๆว่าคนเย็นชาแบบนั้นมีชีวิตส่วนตัวกับใครเขาบ้างหรือไม่



เขาสังเกตว่ารอยยิ้มบนใบหน้าของขวัญข้าวเจื่อนลง



“มีครับ...” แววตาของพนักงานหนุ่มหม่นลงเล็กน้อย “แต่ถูกหักอกไปแล้วล่ะครับ”



เมื่อเห็นท่าทีอึดอัดของอีกฝ่าย มีนาจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา



“คุณขวัญข้าวทำงานอะไรเหรอครับ?”



“ผมเป็นเลขาของคุณจอมทัพน่ะครับ เขาเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของที่นี่”



ขวัญข้าวพยักเพยิดไปด้านหลังของตัวเอง ตอนนั้นเองที่มีนาสังเกตว่า ณ ห้องทำงานห้องหนึ่ง มีสิ่งมีชีวิตหน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม รูปร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสั่งตัดกำลังแนบหน้าติดกระจกผนักห้องจนหน้าบู้บี้ และโบกมืออย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นขวัญข้าวหันกลับไปหาตน



“บอกให้เขาเข้ามาดีกว่ามั้ยครับ?” มีนาเอ่ยอย่างเกรงใจ ดูเหมือนว่าคุณจอมทัพคนนั้นจะมีเรื่องอยากพูดกับขวัญข้าวพอตัว




“ผมว่า...ท่านประธานน่าจะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่มั้งครับ” ขวัญข้าวอมยิ้ม



ทั้งสองสะดุ้งเมื่อจู่ๆเสียงเคาะกระจกห้องของพวกเขาก็ดังขึ้น มีนาหันไปพบธีรเชษฐ์ยืนรออยู่ด้านนอกด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จึงรีบคว้ากระเป๋าเดินออกไปหาร่างสูงที่ยืนรออยู่



“คุณเชษฐ์...”




“คืนนี้ฉันจะไม่กลับห้อง เดี๋ยวจะไปส่งหน้าคอนโด”



ธีรเชษฐ์เอ่ยขึ้นทันทีที่ร่างบางก้าวออกมาพ้นประตู มีนาหุบปากฉับ สีหน้าของธีรเชษฐ์ในตอนนี้ทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะถามว่าเกิดอะไรขึ้น



“ครับ”




ชั่วขณะหนึ่งเขาคิดว่าธีรเชษฐ์อาจจะมีนัดกับเด็กในสังกัดของตน แต่สีหน้าของร่างสูงนั้นเคร่งเครียดอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน อีกทั้งมือที่กำโทรศัพท์ไว้แน่นตลอดระยะเวลาบนรถยิ่งทำให้มีนารู้สึกตะหงิดในใจอย่างบอกไม่ถูก




เสียงโทรศัพท์ของธีรเชษฐืดังขึ้นเพียงแค่วินาทีเดียวก่อนร่างสูงจะรีบกดรับทั้งที่มืออีกข้างยังคงประคองพวงมาลัยไว้ บทสนทนาของชายหนุ่มกับปลายสายเป็นภาษาที่มีนาไม่รู้จัก แต่ยิ่งฟัง เขายิ่งรู้สึกว่ามือที่จับพวงมาลัยอยู่ของธีรเชษฐ์กำแน่นขึ้นเรื่อยๆ




และภาษาไทยคำเดียวที่หลุดออกมาจากปากของธีรเชษฐ์นั้น เป็นคำที่มีนาไม่คิดว่าจะได้ยิน



“เกศรา...”



ชื่อของภรรยาล่วงลับไปของธีรเชษฐ์ทำให้คนฟังขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ รถยนต์คันหรูวนมาจอดที่หน้าคอนโดของร่างสูง มีนาเปิดประตู แต่ข้อมือเรียวอีกข้างถูกรั้งไว้ก่อนที่เด็กหนุ่มจะได้ก้าวออกไป



“คุณเชษฐ์...อือ...”



ริมฝีปากได้รูปกดจูบลงบนริมฝีปากรูปกระจับอย่างแผ่วเบา มีนาหลับตาพริ้มรับสัมผัสอ่อนโยนเนิบช้าตามสัญชาตญาณแม้จะรู้สึกประหลาดใจอยู่ลึกๆ มือใหญ่ประคองใบหน้าของเขาให้รับจุมพิตหวานล้ำ กระจายความอบอุ่นไปทั่วร่างเล็กด้วยสัมผัสนั้น



“ฝันดี” เสียงทุ้มกระซิบแผ่วชิดริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ ความใกล้ชิดนั้นทำให้มีนารู้สึกว่าก้อนเนื้อที่เต้นอย่างบ้าคลั่งกำลังจะ
หลุดออกมานอกอก




“ราตรีสวัสดิ์ครับคุณเชษฐ์”เสียงหวานสั่นเล็กน้อย เรียกรอยยิ้มมุมปากที่เขาไม่ได้เห็นมาพักใหญ่จากร่างสูง




“อือ…”




ขณะที่มองตามรถของร่างสูงที่ขับออกไปจนลับสายตา มีนารู้สึกโหวงๆในอกอย่างประหลาด จะเรียกว่าลางสังหรณ์คงไม่ผิดนัก




เด็กหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือที่ธีรเชษฐ์ซื้อให้ออกมาจากกระเป๋ากางเกง พิมพ์ชื่อที่ติดอยู่ในหัวของตนตั้งแต่ในรถพร้อมหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในตัวตึก





‘เกศรา ทรัพย์ดำรง’



---------

ไรท์ยังไม่ตายยยยยย
จริงจริ๊งงงงงงงง
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
รักทุกคนเลย ขอบคุณที่ยังติดตาม ยังอดทนกับไรท์นะคะ สัญญาว่าจะพยายามเข็นออกมา ไม่หายไปไหนไกลมากมาย :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Hoya ที่ 03-12-2018 13:36:33
รอ...... ยังไง ก็ รอ.......  :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 03-12-2018 15:23:53
น้องมีน TT
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 03-12-2018 16:06:41
มีเรื่องอะไรอีกเนี่ย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 03-12-2018 17:05:39
จะกินมาม่าอีกหรอ น้องมีนไม่น่าไหวแล้วนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-12-2018 17:43:05
กว่าจะจบเรื่อง หนูมีนย้ายไปอยู่โรงบาลแทนอยู่คอนโดแน่นอน น้องซึมเศร้ามากวักมือเรียกแล้ว  :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 03-12-2018 19:15:04
จะทำร้ายน้องมีนอีกนานมั้ยอะไรท์
เกินไปแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :m15:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 03-12-2018 20:17:37
แน่ะ!!! กลิ่นมาม่าเริ่มมาละ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 04-12-2018 07:44:16
หัวใจคนๆนึงจะทนได้ขนาดไหนนะ.  :hao4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-12-2018 10:14:56
ยังไงต่อ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 04-12-2018 13:30:51
ฮืออออออ น้องมีนของคุณแม่ๆๆ แง้
คิดถึงน้องมีนมากกกก
เมียเก่ากลับมาทำไมมมมมม
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-12-2018 16:57:49
กล้า กับแว่น  :กอด1:
แทนไท กับธาร  :กอด1:
จอมภพ  กับขวัญข้าว  :กอด1:

เพราะมีน ยังไม่รู้ว่าเมฆา กับมธุวันชอบกัน
เลยสงสัยมธุวัน กับคุณเชษฐ์จะมีอะไรกันหรือเปล่า  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 04-12-2018 22:43:01
มาอ่านอีกรอบ น้องมีนอย่าเพิ่งคิดมากน้ะลูก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 20-12-2018 14:37:30
ตามๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 21-12-2018 14:18:35
พออ่านเรื่องอื่นที่ครอสเวลากันทำให้เห็นมุมมองของแต่ละคนไปด้วย พอมิงจากมึมของคนละคน ตีวเกเรื่องนึงก็กลายเป็นตัวร้ายของอีกเรื่องไปซะงั้น ^^
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Itachishang ที่ 23-12-2018 19:05:21
เมื่อไหร่มีนจะโดนกินนนนน555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 05-01-2019 13:12:16
รอน้องมีนนนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 50% P.16 คห 473 (3/12/61)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 12-01-2019 12:48:52

ธีรเชษฐ์สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ ตรงหน้าเขาคือประตูบานใหญ่สีขาวเรียบหรูซึ่งถูกขนาบข้างโดยชายชาวต่างชาติร่างสูงกำยำในชุดสูทสองคน แต่นั่นกลับไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหวั่นใจเท่ากับสิ่งที่รอคอยเขาอยู่เบื้องหลังบานประตู



“นึกว่าคุณจะไม่มาซะแล้ว...”




เสียงทุ้มของชายชาวต่างชาติร่างสูงใหญ่ไม่แพ้ลูกน้องของตนทักทายทันทีที่ธีรเชษฐ์ก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์และดวงตาสีเขียวมรกตฉีกยิ้มกว้างให้เขา ผิดกับสภาพเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นและเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยปริศนาสีแดงคล้ำเหมือนกับว่าชายหนุ่มเพิ่งผ่านสมรภูมิรบมาสดๆร้อนๆอย่างไรอย่างนั้น




ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับคนตรงหน้า ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อมาเฟียที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในวงการ



“คุณนิโคไล...”



“เรียกผมว่านิคก็ได้ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงร่าเริง แต่กลับไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศรอบตัวของพวกเขาดีขึ้นแม้แต่น้อย “ถ้าอย่างนั้น...เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะครับ”




ธีรเชษฐ์นั่งลงบนโซฟาตัวยาวตรงข้ามกับชายหนุ่มชาวต่างชาติ ขยับตัวอย่างอึดอัดเมื่อดวงตาสีควันบุหรี่เหลือบไปเห็นรูปถ่ายที่วางกระจายกันอยู่บนโต๊ะเตี้ยตรงหน้าของตน




โดยเฉพาะรูปร่างไร้วิญญาณของภรรยาที่ล่วงลับไปแล้วของเขาในห้องดับจิตของโรงพยาบาล ที่ทำให้เขานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เขามาอยู่ที่นี่ในวันนี้








สี่ปีก่อน..



ธีรเชษฐ์จำไม่ได้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่อยู่ในห้องประชุมตอนที่เจนจิรา เลขาของเขาในตอนนั้นพรวดพราดเข้ามาด้วยสีหน้าแตกตื่น ถึงแม้คนรอบข้างอาจจะไม่ได้รู้สึกถึงความตื่นตกใจของหญิงสาว แต่ธีรเชษฐ์ที่ทำงานกับพนักงานรุ่นพี่มานานรู้ดีว่านี่ไม่ใช่วิสัยปกติของอีกฝ่าย



และโทรศัพท์ที่แสดงเบอร์โรงพยาบาลที่ภรรยาของเขารักษาตัวอยู่เด่นหรายิ่งทำให้เขารู้สึกว่าหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ



“..ธีรเชษฐ์พูดครับ...”




ธีรเชษฐ์รู้สึกว่าเสียงของตัวเองแหบพร่า ราวกับว่าน้ำตาที่ทำให้ภาพรอบตัวเขาพร่าเลือนนี้ดึงเอาน้ำในร่างกายของเขาไปจนไม่เหลือสักหยาดหยด ชายหนุ่มไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองไปถึงโรงพยาบาลได้อย่างไร สิ่งแรกที่เขาสามารถเห็นได้ชัดเจนผ่านม่านน้ำตาคือภาพลูกชายคนโตนั่งเหม่ออยู่ที่ระเบียงทางเดินหน้าห้องพักของภรรยาของเขา โดยมีลูกชายคนกลางและคนเล็กกอดพี่ชายร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดังไปทั่วทั้งชั้น



ธีรเชษฐ์รู้สึกว่าร่างกายหนักอึ้ง ขาทั้งสองข้างไม่มีแรงแม้แต่จะก้าวเดิน จนกระทั่งมือของใครบางคนวางลงบนไหล่ของเขา



“ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ...”



“เกศอยู่ที่ไหน”



ธีรเชษฐ์เอ่ยขัด เขาไม่อยากได้ยินคำปลอบใจไร้ค่าของแพทย์เจ้าของไข้ในวินาทีที่ทุกอย่างสายเกินไป ถึงแม้จะรู้ว่าระพีพัฒน์ทำหน้าที่แพทย์ได้ดีที่สุดที่กำลังเอื้ออำนวยแล้วก็ตาม




“อยู่ที่ห้องดับจิตชั้นล่าง ผมต้องรบกวนให้คุณเซ็นต์เอกสารบางส่วนก่อนที่คุณจะสามารถพาคุณเกศรากลับไปประกอบพิธี...”



“ผมอยากเจอเกศ” ธีรเชษฐ์ย้ำ เขารู้ว่าความต้องการของตัวเองในตอนนี้อาจจะดูไร้สาระในสายตาของนายแพทย์อาวุโสเมื่อในตอนนี้คนที่เขาอยากเจอไม่สามารถรับรู้การมาถึงของเขาได้แล้ว แต่มีบางอย่างในหัวของเขาตะโกนบอกให้เขาตามหาเกศราเดี๋ยวนี้



“คุณธีรเชษฐ์...”



“ผม…ผมขอตัวก่อน” ธีรเชษฐ์ไม่สามารถทนยืนอยู่ตรงนั้นได้นานกว่านี้ เขาต้องการอยู่คนเดียว เขาต้องการอากาศหายใจ และที่สำคัญ...เขาต้องการออกไปให้พ้นจากความเป็นจริงที่เขากำลังเผชิญอยู่ ร่างสูงหมุนตัวก้าวออกไปโดยไม่ฟังคำเรียกของแพทย์เจ้าของไข้ ภาวนาให้ทุกอย่างเป็นเพียงฝันร้าย



ขาของเขาพาเขามายังห้องดับจิตโดยไม่ถามถึงความสมัครใจ ธีรเชษฐ์ยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากหางตาของตัวเองแล้วเงยหน้ามองป้ายของห้องที่เขารู้ว่าเกศรานอนหลับใหลอยู่เบื้องหลังประตูบานยักษ์ซึ่งมีเครื่องแสกนลายนิ้วมือไว้ป้องกันผู้บุกรุก ทว่าประตูเล็กอีกบานที่มีป้าย ‘เฉพาะเจ้าหน้าที่’ติดอยู่กลับเผยออ้าอยู่เล็กน้อย ราวกับจะเชิญชวนใครก็ตามที่ผ่านมาพบเห็น



ธีรเชษฐ์รู้ดีว่าตัวเองจะต้องเดือดร้อนหากถูกใครจับได้ แต่ตัวเขาในตอนนั้นเพียงแค่ต้องการพบกับเกศราอีกสักครั้ง



เป็นอีกครั้งที่ขาของธีรเชษฐ์ก้าวไปโดยไม่ฟฟังคำสั่งของเขา ร่างสูงเปิดประตูพนักงานเข้าไปโดยไม่ได้คำนึงว่าจะมีใครอยู่ภายในนั้น ซึ่งน่าแปลกที่ภายในห้องดับจิตไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่แม้แต่คนเดียว ธีรเชษฐ์ไม่ได้วางแผนมาก่อนว่าจะตามหาร่างของภรรยาอย่างไร แต่ร่างสูงค้นพบว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำอะไร เมื่อร่างไร้ลมหายใจของหญิงสาวที่เขารักนอนนิ่งอยู่บนเตียงเหล็กกลางห้องดับจิตเพียงลำพังในชุดกี่เพ้าสีม่วงสดที่เขาไม่มั่นใจว่าเคยเห็นเกศราใส่มาก่อน



“เกศ…”



ลำคอของธีรเชษฐ์แห้งผาก ขาของเขาเหมือนไร้เรี่ยวแรงไปเสียดื้อๆทันทีที่ได้เห็นคนที่กำลังตามหา ชายหนุ่มโอบร่างไร้ลมหายใจของภรรยาด้วยมืออันสั่นเทา ใบหน้าคมซุกลงบนไหล่ของหญิงสาวตัวเล็ก ไหล่กว้างสั่นระริกจากแรงสะอื้นที่ไร้เสียง...




จนกระทั่งชายหนุ่มสังเกตเห็นบางสิ่งที่ไม่ควรจะอยู่บนร่างของเกศรา




รอยกระสุนที่ถูกซ่อนไว้ใจ้เนื้อผ้าของชุดกี่เพ้าตัวหนาโผล่พ้นเนื้อผ้าออกมาจากการที่ร่างกายถูกขยับเมื่อครู่ ร่างสูงผละออกจากร่างไร้วิญญาณของเกศราอย่างตกใจ ในหัวเต็มไปด้วยความสับสนกับภาพที่เห็นตรงหน้า



ตำรวจ...เขาต้องรีบไปแจ้งตำรวจ!



ชายหนุ่มแทบสะดุดขาตัวเองเพื่อออกไปจากห้องนั้น เขาต้องรีบพาลูกออกไปจากที่นี่ แม้เขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเกศรา แต่เขามั่นใจว่ารอยกระสุนปืนนั้นไม่มีทางเป็นอุบัติเหตุ และการที่ลูกชายทั้งสามของเขายังอยู่หน้าห้องที่น่าจะเป็นสถานที่ที่เกศราสิ้นลมหายใจย่อมไม่ใช่เรื่องดี



ประตูห้องดับจิตที่เขาเข้ามาถูกเปิดออกก่อนที่ธีรเชษฐ์จะไปถึง ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อ ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าคนที่เปิดประตูเข้ามาคือป้าแต้ว แม่บ้านที่เปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของเกศรา



“พี่แต้วครับ เกศ...เกศถูกยิง ผมต้องไปแจ้งความ...”



เสียงของธีรเชษฐ์ถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อเห็นปืนพกสีดำในมือของหญิงชรา ดวงตาสีควันบุหรี่เบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อเห็นนายแพทย์เจ้าของไข้อย่างระพีพัฒน์ยืนอยู่ข้างหลังป้าแต้วด้วยสีหน้าเป็นกังวล



“ขอโทษนะคะคุณเชษฐ์ แต่พี่คงปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนั้นไม่ได้...”









“คุณเชษฐ์? คุณโอเคมั้ย?”




ธีรเชษฐ์ถูกดึงออกมาจากความทรงจำด้วยเสียงเรียกของนิโคไล ชายหนุ่มผมดำยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเองอย่างอ่อนล้า



“ขอโทษครับ...ผมคิดอะไรไปเรื่อย”



“ผมเข้าใจครับ บางครั้งผมก็เป็น” นิโคไลยิ้มอย่างเห็นอกเห็นใจ แต่ธีรเชษฐ์รู้ดีว่าตนสามารถเชื่อใจคนตรงหน้าได้พอๆกับงูจงอางที่ไม่มีเหยื่อตกถึงท้องมาหลายเดือน



“สรุปว่าคุณต้องการให้ผมทำอะไรครับ?” ธีรเชษฐ์ถาม ยกมือขึ้นนวดขมับที่ปวดตุบของตัวเอง



“ผมว่าเราใกล้มาถึงจุดจบแล้วล่ะ...” นิโคไลดีดนิ้ว ลูกน้องของชายหนุ่มผมบลอนด์ก้าวเข้ามาใกล้พร้อมกับซองจดหมายในมือ ธีรเชษฐ์รับมาเปิดดูอย่างงุนงง ภายในซองบรรจุบัตรเชิญเข้าร่วมงานเดินแฟชั่นชุดเจ้าสาวที่จัดขึ้นในโรงแรมธาราสาขาหนึ่งซึ่งเป็นโรงแรมของเพื่อนสนิทของเขา



“คุณจะให้ผมชวนผมไปดูแฟชั่นโชว์?”



“ครับ พาเลขาของคุณมาด้วย ส่วนที่เหลือ จะพาใครมาก็แล้วแต่คุณ”



ธีรเชษฐ์หรี่ตาลงอย่างจับผิด ไม่เข้าใจว่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวข้องอะไรกับเลขาของเขาที่นิโคไลดูจะสนใจนักหนา ทุกครั้งที่เจอกัน คนแรกที่นิโคไถามถึงมักจะเป็นมธุวัน เลขาของธีรเชษฐ์ที่แม้จะได้เจอกันแค่ครั้งเดียว แต่เจ้าพ่อมาเฟียหนุ่มดูจากถูกอกถูกใจเสียเหลือเกิน



“หมอกเป็นเหมือนครอบครัวของผม ถ้าคุณคิดจะทำอะไร...”



“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอก” นิโคไลเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ “แค่พาเขามาก็พอ แล้วผมสัญญาว่าคุณจะ
ได้แก้แค้นให้คุณเกศรา”




เช่นเคย ก่อนที่ธีรเชษฐ์จะได้ถามอะไรไปมากกว่านั้น นิโคไลก็ลุกขึ้นจากโซฟา เป็นสัญญาณการจบบทสนทนาครั้งนี้



“แผลพวกนั้น...ไปหาหมอหน่อยจะดีกว่านะครับ” ไม่รู้อะไรดลใจให้ธีรเชษฐ์พูดออกไป นิโคไลชะงัก ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ



“ขอบคุณครับ ผมมีนัดกับคุณหมอต่อจากนี้พอดี”




ธีรเชษฐ์ไม่รู้ว่าตนคิดไปเองหรือไม่ แต่แววตาของมาเฟียหนุ่มมีประกายวาววับขึ้นมาเมื่อพูดถึงนัดของตน



ชายหนุ่มเก็บบัตรเชิญที่ได้มาเข้าไปในชุดสูทของตน ก้มมองนาฬิกาของตนเอง นึกไปถึงคนที่เขาทิ้งไว้หน้าคอนโดเมื่อหัวค่ำ ความตึงเครียดที่สั่งสมมาตลอดวันลดลงเพียงแค่คิดว่ามีนายังคงรอเขาอยู่ในห้องไม่ไปไหน




ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่การแก้แค้นคนที่พรากเกศราไปจากโลกใบนี้ไม่ใช่จุดประสงค์เดียวในการมีชีวิตของเขา



ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่โลกที่ดำมืดมีแสงสว่างแทรกเข้ามาแม้จะเพียงน้อยินด



แม้จะรู้ว่าการแก้แค้นไม่ทำให้เกศราฟื้นขึ้นมา และไม่เป็นประโยชน์ต่อใคร แต่ธีรเชษฐ์รู้ว่าเขาไม่สามารถปล่อยวางความรู้สึกที่ถ่วงลึกในใจตั้งแต่วันที่เขารู้ว่าภรรยาของเขาถูกสั่งฆ่าจนกว่าทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะได้รับผลกรรมที่พวกมันทำไว้




และเมื่อนั้น...หากแสงสว่างที่เล็กลอดเข้ามาในรอยแยกของหัวใจยังคงไม่จากไปไหน เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าชีวิตของเขาต่อจากนี้จะดำเนินไปในทิศทางใด


--------

 :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 100% P.17 คห 490 (12/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-01-2019 14:03:15
สงสารมีนาเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 100% P.17 คห 490 (12/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 12-01-2019 14:18:05
สงสารหนูมีนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 100% P.17 คห 490 (12/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 12-01-2019 19:49:42
ชีวิตลุงเชษฐ์ก็ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน น้องมีนคงจะเป็นคนที่ช่วยเยียวยาให้ลุงเชษฐ์ ถึงลุงจะทำน้องเสียใจอยู่บ่อยๆ ก็เถอะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 100% P.17 คห 490 (12/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 12-01-2019 20:22:52
ลุงเชษ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 100% P.17 คห 490 (12/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 12-01-2019 22:34:56
สงสารน้องมีนล่วงหน้าเลยลูกกก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 100% P.17 คห 490 (12/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 13-01-2019 02:04:40
เพิ่มปมมาอีกหนึ่ง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 100% P.17 คห 490 (12/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-01-2019 02:04:49
ในอดีตมีอะไรเกิดขึ้นที่ยังไม่เฉลยอีกเยอะล่ะซิเนี่ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 100% P.17 คห 490 (12/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 13-01-2019 03:24:09
แล้วน้องจะทนอยู่ถึงวันนั้นมั้ยล่ะ
ไม่อยากให้อยู่ด้วยแล้ว  :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 100% P.17 คห 490 (12/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: KoROGeFeE ที่ 15-01-2019 00:21:16
ปัญหาครอบครัวตาคุณเชษฐ์นี่ซับซ้อนวุ่นวายมาก


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 100% P.17 คห 490 (12/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 15-01-2019 12:34:19
น้องมีนสู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 23 100% P.17 คห 490 (12/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 26-01-2019 12:25:57
Chapter 24: คนคิดมาก




ทินกรไม่อยากเป็นคนคิดมาก




ทินกรไม่อยากเป็นคนที่เก็บเอารายละเอียดเล็กน้อยในความสัมพันธ์มาใส่ใจแล้วทำให้ภรัณยูต้องพลอยเป็นกังวลไปกับเขา เขาไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจและไม่มั่นคง



แต่เขาเป็นคนคิดมาก เขาเป็นคนคิดมากและจะคิดมากต่อไปจนกว่าจะรู้แน่ชัดว่าสิ่งที่เขาคิดไว้นั้นเป็นความจริงหรือไม่



‘ผู้ใหญ่น่ะ เขาผ่านใครมาไม่รู้ตั้งกี่คน จะให้เด็กๆอินโนเซนต์อย่างมึงตามเขาทันคงยาก’



เขาพยายามที่จะไม่เก็บคำพูดของเพื่อนมาใส่ใจ แต่คำพูดของวศินเป็นเพื่อนสิ่งเดียวที่เล่นวนไปมาในหัวของเขาเหมือนเทปเสียงตกร่อง และมันกำลังจะทำให้เขากลายเป็นบ้า



“ซัน เป็นอะไรรึเปล่า? ทำไมหน้าเครียดแบบนั้น?” ภรัณยูที่เพิ่งเสร็จจากการชำระร่างกายทรุดตัวลงข้างคนรักบนเตียง ใช้ผ้าขนหนูขยี้ผมที่เพิ่งสระเสร็จ ทินกรหันไปหาชายหนุ่ม ทว่าเขากลับไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกไป “ซัน?”



“ผม…แค่คิดถึงพี่ภัทรน่ะครับ”



ทินกรตอบด้วยมั่นใจว่าคนขี้อายจะไม่ซักไซร้อะไรไปมากกว่านั้นแล้วช่วยเช็ดผมให้กับคนอายุมากว่าเพื่อเลี่ยงบทสนทนา นึกโมโหตัวเองที่ทำให้ภรัณยูไม่สบายใจ




เด็กหนุ่มดึงผ้าขนหนูออกจากศีรษะของภรัณยูอย่างเบามือ ใช้นิ้วหัวแม่มือนวดคลึงขมับของคนรัก เรียกเสียงครางแผ่วเบาในลำคอของคนที่เอนศีรษะพิงอกเขาอย่างสบายใจได้เป็นอย่างดี




ภรัณยูจะรู้ไหมนะ...ว่าท่าทีผ่อนคลายของอีกฝ่ายเวลาอยู่ด้วยกันมีผลกับหัวใจของทินกรแค่ไหน



“ซัน…คือมัน...”



แต่ตอนนี้ เขาแน่ใจว่าภรัณยูตระหนักดีว่าตนมีผลกับร่างกายของเด็กหนุ่มแค่ไหน



“ขะ…ขอโทษครับพี่ภัทร”



ร่างสูงรีบขยับห่างจากคนรัก ใบหน้าคมแดงก่ำเมื่อเห็นว่าความต้องการของตนแสดงตัวเด่นชัดเป็นรูปธรรมเพียงแค่ได้อยู่ใกล้เรือนร่างหอมกรุ่น ภรัณยูก้มหน้างุด แต่ทินกรยังสังเกตเห็นรอยยิ้มมุมปากอย่างเขินอายของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มขยับเข้าไปใกล้ ก่อนจะปิดระยะห่างระหว่างพวกเขาด้วยริมฝีปาก ลิ้นร้อนตักตวงความหวานจากโพรงปากนุ่มหยุ่นอย่างโหยหา ทั้งที่เขาเจอกับภรัณยูแทบทุกวัน จูบชายหนุ่มแทบทุกคืน แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยังไม่เคยรู้สึกพอเสียที



“อือ…”



ดวงตาปรือปรอยที่หวานฉ่ำไปด้วยอารมณ์มักจะทำให้ทินกรเครื่องติดได้เสมอ ไม่สิ...คงต้องบอกว่าทุกอิริยาบถของอีกฝ่ายสามารถทำให้ทินกรเครื่องติดได้โดยไม่ต้องพยายาม




“พี่ภัทร...”



มือใหญ่ปลดกระดุมเสื้อนอนผ้าลื่นสีเลือดหมูออกทีละเม็ด แต่ก่อนภรัณยูมักจะใส่เสื้อยืดตัวเก่าย้วยกับกางเกงขาสั้นนอน บางครั้งเป็นเสื้อของชายหนุ่มเอง แต่บางครั้งอีกฝ่ายก็ขอยืมเสื้อของทินกรมาใส่ อันที่จริงแค่นั้นก็มากพอที่จะทำให้เด็กหนุ่มคลั่ง ทว่าเมื่อภรัณยูเปลี่ยนมาใส่ชุดนอนผ้าลื่นตัวบางที่ขับผิวขาวๆของตนให้ดูผ่องยิ่งทำให้ทินกรนึกอยากฉีกกระชากชุดนอนของอีกฝ่ายออกทันทีที่ได้เห็น



และนั่นคือสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ในตอนนี้



“ซัน…อ๊ะ...”



แม้ว่ากิจกรรมยามค่ำคืนของเขาจะเริ่มกลายเป็นกิจวัตรประจำวันเข้าไปทุกที ทินกรยังคงรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ยินเสียงครางหวานใต้ร่างของเขา ถึงแม้ภรัณยูจะไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเขาด้วยคำพูด แต่แววตาเว้าวอนและร่างขาวเนียนที่ขยับสวนสะโพกสอบเป็นจังหวะนั้นแสดงอย่างชัดเจนว่าชายหนุ่มต้องการอะไร




ทินกรขบกรามแน่น ผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆพร้อมกับดึงจังหวะรักให้ช้าลงจนคนที่ใกล้ถึงฝั่งส่งเสียงประท้วงในลำคอ เด็กหนุ่มเม้มริมฝีปากลงบนผิวกายเนียนขาวใกล้กับบริเวณก้อนเนื้อที่เต้นรัวอยู่ในอกอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะครอบครองเม็ด
ทับทิมสีชมพู ภรัณยูสะดุ้งเมื่อเขี้ยวคมครูดกับส่วนปลายของยอดอกที่เริ่มบวมแดงจากแรงดูดดึง แต่ร่างกายที่สั่นระริกมากขึ้นด้วยแรงอารมณ์ทำให้ทินกรไม่คิดจะหยุดการกระทำของตน



“ซั…อือ…ทะ..ทำไม...”




ปกติแล้วเด็กหนุ่มมักจะรวดเร็ว รุนแรง และตักตวงสิ่งที่ต้องการอย่างหิวกระหายภายในเวลาอันสั้น แม้ว่าจะมีรอบต่ออีกหลายรอบ แต่ครั้งนี้ภรัณยูรู้สึกว่ามีบางอย่างต่างออกไป




ริมฝีปากร้อนจุมพิตไล่ลงมาตามหน้าท้องแบนราบ มือใหญ่วางลงบนเข่าเพื่อแยกเรียวขาขาวออกจากกัน ดวงตาสีควันบุหรี่ไม่ยอมละไปจากทิวทัศน์ตรงหน้าแม้เพียงวินาที




“พี่ภัทร...น่ารักจังครับ”




ภรัณยูดึงหมอนมาปิดหน้าด้วยความอับอาย แววตาของทินกรเหมือนกับแววตาที่เด็กหนุ่มใช้เวลาจดจ่ออยู่กับแบบฝึกหัด



“จะ…จะทำอะไรก็ทำสิ จ้องอยู่ได้...อ๊ะ...”



เขารู้ว่าตัวเองคิดผิดที่พูดออกไปแบบนั้นเมื่อก้อนเนื้อกลมกลึงถูกแยกออก ร่างโปร่งกระตุกเฮือกตามสัญชาตญาณเมื่อรู้สึกถึงลิ้นร้อนแทรกเข้ามาภายในร่างของตน เขาได้ยินเสียงทินกรหัวเราะในลำคอ แต่แรงสั่นสะเทือนนั้นส่งผลต่อเขามากกว่าเสียงทุ้มมาก



“ซัน…มะ…ไม่ไหวแล้ว...”




ขาเรียวสั่นระริก ภรัณยูรู้สึกเหมือนร่างทั้งร่างถูกปลุกเร้าจนไม่มีพื้นที่เหลือให้สมองของเขาได้ทำงาน ทินกรเป็นเพียงคนเดียวที่ทำให้เขารู้สึกไร้การควบคุม ทำได้เพียงโอนอ่อนตามทุกการชักจูงของร่างสูง



นาน..นานเกินไปแล้ว...



“อ๊ะ…”



ร่างโปร่งเกร็งขึ้นตามสัญชาตญาณเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่สอดเข้ามาแทนลิ้นร้อน แต่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคุ้นเคย ทินกรผละจากร่างของคนรัก ดวงตาสีควันบุหรี่เก็บภาพคนรักที่บิดเร่าอยู่ข้างใต้ ของเล่นที่เขาเป็นคนเลือกเองกับมือขยับภายในร่างโปร่งอย่างรู้งาน ช่างเป็นภาพที่น่าวาดเก็บไว้เป็นความทรงจำเสียจริง




“ซัน…ไม่...ไม่ไหว...เข้ามา....”



ภรัณยูกอดคอร่างสูงแน่น ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านเมื่อถูกทินกรรั้งขึ้นมานั่งบนตักทั้งอย่างนั้น เขาไม่รู้ว่าตัวเองไปทำอะไรถึงได้ถูกอีกฝ่ายลงโทษด้วยวิธีนี้ แต่เขาไม่คิดว่าตัวเองจะทนมากไปกว่านี้ได้








กลายเป็นว่าเขาไม่จำเป็นต้องคิด เพราะภาพรอบตัวเขาดับวูบไปตั้งแต่ครั้งแรกที่สะโพกสอบขยับบดเบียดเข้ามาในช่องทางที่ถูกเตรียมพร้อมจนแทบทนไม่ไหว ภรัณยูขยับตัวอย่างเมื่อยขบหลังจากฉุดกระชากตัวเองกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงสำเร็จ คิ้วเรียวขมวดมุ่นกับสะโพกที่ลั่นกร๊อบเมื่อตนขยับเปลี่ยนท่าทาง จากความมืดที่ยังคงปกคลุมทั่วทั้งห้องภรัณยูเดาว่าตอนนี้คงยังอยู่ในช่วงกลางดึก ตัวต้นเหตุของความเจ็บระบมที่วางท่อนแขนแข็งแรงพาดเอวของเขาอยู่ก่อนหน้านี้ปรือตาขึ้นอย่างง่วงงุน ขยับซุกตัวเข้าใกล้เข้ามากขึ้น คว้าเอวอีกฝ่ายมากอดแน่นเมื่อรู้สึกว่าความอบอุ่นข้างกายหายไป



...และนั่นทำให้ร่างโปร่งตระหนักได้ว่าตัวเองควรไปหายามากินก่อนจะต้องลาป่วยในวันรุ่งขึ้น




“พี่...ไปหาอะไรกินหน่อยนะ...”




ภรัณยูนึกอยากตบหน้าผากตัวเองแรงๆกับข้ออ้างประหลาด แต่ทินกรเพียงแค่ส่งเสียงงึมงำบางอย่างในลำคอก่อนจะผล็อยหลับไปอีกครั้ง ร่างโปร่งอมยิ้ม ก้มลงทาบริมฝีปากลงบนหน้าผากชื้นเหงื่อของคนรักก่อนจะขยับตัวลงจากเตียงอย่างยากลำบาก




ทางเดินในคฤหาสน์ทรัพย์ดำรงนั้นสามารถทำให้คนธรรมดาเหนื่อยได้ ไม่ต้องพูดถึงคนที่ช่วงล่างบอบช้ำจนแทบต้องคลานลงมาตามบันไดอย่างภรัณยู แต่เขาก็สามารถพาตัวเองไปถึงห้องครัวได้โดยสวัสดิภาพ ชายหนุ่มตรงไปยังตู้ยาสามัญประจำบ้านแทบจะในทันที



“ชั้นบนสุด ทางขวา”




เสียงทุ้มที่ดังขึ้นในห้องที่เงียบสงัดทำให้ภรัณยูสะดุ้งโหยง คนขวัญอ่อนหันขวับไปทางต้นเสียงอย่างตกใจ เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกหรือควรตื่นตระหนกมากกว่าเดิมที่เห็นธีรเชษฐ์ยืนกอดอกเอนพิงกรอบประตูมองเขาด้วยสายตาขบขัน ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มครึ่งรัสเซียมีเพียงกางเกงขายาวผ้าลื่นสีดำสนิทปกปิดร่างกายท่อนล่าง แผงอกแกร่งเปลือยเปล่ายังคงมมีหยดน้ำเกาะพราวเช่นเดียวกับเส้นผมสีรัตติกาลที่ลู่ลงมาปรกบางส่วนของใบหน้า ทำให้ร่างสูงดูเด็กกว่าความเป็นจริง...เรียกได้ว่าแทบจะดูเหมือนเพื่อนรุ่นเดียวกับเขา



และนั่นยิ่งตอกย้ำภรัณยูถึงความจริงที่ว่าเขาอายุใกล้กับธีรเชษฐ์มากกว่าทินกร




“จะจ้องนานกว่านี้ก็ไม่ได้ว่าหรอก...แต่ถ้าเจ้าซันมันไม่ยอมปล่อยเธอไปทำงานพรุ่งนี้ไปเคลียร์กับหมอกเองนะ”




ภรัณยูเพิ่งตระหนักว่าตัวเองเผลอจ้องร่างสูงนานจนเกินควร ร่างโปร่งรีบเบือนหน้าหนีอย่างอับอาย แต่ก็อดสังเกตถึงรูปร่างราวรูปสลักของประธานบริษัทไม่ได้ เขาคิดว่าทินกรหุ่นดีมากแล้ว แต่ธีรเชษฐ์นี่เรียกได้ว่าอยู่คนละระดับกับลูกชายอย่างสิ้นเชิง ชนิดที่ว่าต่อให้ไม่คิดอะไรกับอีกฝ่ายเขาก็ยังอดชื่นชมความงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้นมานี้ไม่ได้




“เอ่อ..ทะ..ท่านประธานมาทำอะไรที่นี่เหรอครับ” ภรัณยูแทบจะกัดลิ้นตัวเองทันทีที่ประโยคนั้นหลุดออกจากปากไป แต่ธีรเชษฐ์ดูจะไม่ได้ถือสาอะไรกับคำถามนั้น




“ลืมของไว้นิดหน่อยน่ะ เห็นมันดึกแล้วเลยค้างที่นี่”




“…” ภรัณยูทำได้เพียงพยักหน้า ไม่ไว้ใจให้ตัวเองพูดอะไรออกไปมากกว่านี้




ความเงียบเข้าปกคลุมห้องครัวอีกครั้ง ร่างโปร่งคิดว่าบทสนทนาของพวกเขาจะจบลงเพียงเท่านั้น แต่ธีรเชษฐ์กลับเป็นฝ่ายย่นระยะห่างระหว่างพวกเขา สายตาของร่างสูงบ่งบอกว่าลำบากใจกับสิ่งที่กำลังจะพูดพอสมควร




“ฉันอาจจะไม่ใช่พ่อที่ดี...ไม่สิ ฉันอาจจะเป็นพ่อที่เฮงซวยที่สุดที่ใครซักคนจะมี แต่ฉันอยากเห็นซันมีความสุข แล้วฉันก็หวังว่าเขาจะเจอความสุขนั้นกับเธอ”




“ผม…ก็หวังอย่างนั้นครับ” ภรัณยูประหลาดใจที่คำตอบนั้นหลุดออกจากปากเขาอย่างง่ายดาย แต่เขาพบว่าตัวเองหมายความตามนั้นทุกคำ



ธีรเชษฐ์ขยับยิ้ม รอยยิ้มจริงใจที่ทำให้ภรัณยูเห็นภาพของอีกฝ่ายซ้อนกับลูกชายคนเล็ก ก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้ผมเขาอย่างเบามือ



“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะนับเธอเป็นลูกชายของฉันอีกคนก็แล้วกันนะ ภัทร”




ภรัณยูรู้สึกว่าขอบตาของตนร้อนผ่าว ชายหนุ่มพยักหน้าให้คนอายุมากกว่าพร้อมรอยยิ้ม



“พี่ภัทร...พ่อครับ?”



เสียงของทินกรเรียกให้คนทั้งสองหันไปมอง ธีรเชษฐ์ละมือจากกลุ่มผมนุ่มสีน้ำตาล เอ่ยกับลูกชายคนเรียกด้วยน้ำเสียงดุๆอย่างไม่จริงจังนัก



“มาพอดี ดูแลพี่เขายังไงให้ลุกมายากินเองเนี่ย” เจ้าของบ้านผละจากภรัณยูเดินไปทางลูกชายที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตู “ระวังหมอกเขาตามมาเฉ่งถึงบ้านนะ”




“ผมไม่ใช่พ่อนะครับ” ทินกรตอบ แต่สายตายังคงไม่ละไปจากภรัณยู



หลังลับร่างของธีรเชษฐ์ ภรัณยูคิดว่าเด็กหนุ่มจะถามอะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนหน้า แต่ทินกรเพียงแค่เดินตรงมาหาเข้าด้วยสีหน้าเป็นกังวล




“พี่ภัทรเป็นอะไรรึเปล่าครัับ...หรือว่าผมทำแรงไป?”



หากเขามีน้ำอยู่ปากภรัณยูคงจนพ่นพรวดออกมากับคำถามตรงไปตรงมานั้น ชายหนุ่มรีบส่ายหน้า กลัวคนตรงหน้าจะคิดว่าเขา...ไม่อึดพอจะรองรับความต้องการของอีกฝ่าย




“เปล่า พี่ไม่ค่อยสบายน่ะ เลยลงมาหายากิน”




ดวงตาสีควันบุหรี่ยังไม่คลายความเป็นกังวล แต่ทินกรก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ ร่างสูงสาละวนกับการจัดเตรียมยาและอาหารว่างให้คนรัก ถึงแม้ภรัณยูจะรู้สึกแปลกๆเสมอที่ต้องให้เด็กหนุ่มมาดูแล แต่ในช่วงเวลาแบบนี้ ร่างโปร่งก็อดรู้สึกดีที่มีคนอยากดูแลเขาขนาดนี้ไม่ได้




ทันทีที่กลับมาถึงเตียงนุ่มขนาดยักษ์ ภรัณยูล้มตัวลงบนที่นอนอย่างอ่อนเพลีย ทินกรทิ้งตัวลงข้างคนรัก แขนใหญ่โอบรัดเอวบางพร้อมกับใบหน้าคมที่ซุกลงบนไหล่




“ผม…ไม่ได้เรื่องเองรึเปล่าครับ?”



“หือ?”ภรัณยูขมวดคิ้วอย่างตามไม่ทัน พลิกตัวหันกลับมาหาคนที่นอนมองเขาด้วยสีหน้าอมทุกข์




“ขอโทษนะครับ...ผมแค่ไม่อยากให้พี่ภัทรผิดหวังที่เป็นแฟนกับเด็กอย่างผม” ทินกรไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตนก้าวผ่านความคาดหวังแบบทุกอย่างที่ภรัณยูต้องการในตัวคนรัก ชนิดที่ต่อให้เขาเป็นคนวาดฝันคนรักในจินตนาการ คงยังไม่มีใครสมบูรณ์แบบเท่าเด็กหนุ่มที่นอนอยู่ข้างเขาในตอนนี้




ภรัณยูนึกอยากดึงทินกรเขามากอดแน่นๆและเขกกระโหลกเด็กคิดมากคนนี้ในเวลาเดียวกัน




“ทั้งที่ผมอยากให้ความสุขพี่ภัทรได้เหมือนคนที่พี่เคยคบ แต่ทุกครั้งที่ผมพยายาม...พี่ภัทรยิ่งดูเหนื่อยขึ้น”




ทินกรเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด ภรัณยูใช้เวลาไม่นานในการประมวลผลคำพูดของร่างสูง ก่อนจะเอื้อมมือหยิบหมอนใบโตมาฟาดลงบนร่างของคนที่ยกมือปัดป้องอย่างตกใจ




“ไอ้!เด็ก!บ้า!” ชายหนุ่มคั่นทุกคำพูดของตัวเองด้วยหมอนที่ทุบลงบนตัวทินกร “คิดว่าพี่เป็นดาราหนังโป๊รึไงถึงจะได้ชอบอะไรพิเรนทร์ๆแบบนั้นน่ะ?!”




ดวงหน้าขาวแดงก่ำด้วยความอับอาย ตัวต้นเหตุของเรื่องทำหน้าเหวออย่างงุนงง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงประหลาด




“พี่ภัทร...ไม่เคยใช้ของเล่น...”




“ไม่เคยว้อย!!”



หากหมอนในมือเป็นไม้นวม ทินกรคงจะน่วมคามือเขาไปแล้ว ไอ้เด็กบ้านี่คิดได้ยังไงว่าจะมีใครทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นให้เขากันน่ะ?!



เด็กหนุ่มมีสีหน้าไม่อยากเชื่ิอ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ไฟโทสะอันครุกรุ่นในอกภรัณยูลุกโชนยิ่งกว่าเก่า




“นี่ซันคิดว่าพี่เป็นคนยังไงเนี่ย?!”



“แล้ว...ปกติพี่ภัทรทำอะไรบ้างล่ะครับ...” ทินกรอดถามไม่ได้



เชื่อเถอะว่าเขาไม่ได้อยากรู้เรื่องราวของภรัณยูกับคนอื่นก่อนที่จะพบเขา ไม่ได้อยากคิดว่าพี่ภัทรของเขาเคยเป็นของใครมาก่อน แต่หากมันทำให้เขาเข้าใจความต้องการของอีกฝ่ายมากขึ้น ทินกรก็ยินดีที่จะยอมรับความเจ็บปวดนั้น
ภรัณยูเบือนหน้าหนีคำถาม แก้มเนียนขึ้นสีแดงก่ำลามไปทั่วใบหน้าและลำคอ




“จะ…จะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ก็ปกติ...มันไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้นี่...”




ประโยคหลังแผ่วเบาและรัวเร็วเสียจนทินกรแทบตามไม่ทัน เด็กหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจคำตอบนั้น




“เมื่อกี้...หมายความว่ายังไงเหรอครับ?”




“ก็…ก็ปกติมันต้องเจ็บไม่ใช่รึไง” ภรัณยูปฏิเสธที่จะมองหน้าคนรัก “ครั้งไหนที่ไม่เจ็บก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ไม่มีใครเขามาถามกันหรอกว่ารู้สึกยังไง”




เพราะหน้าที่ของเขาในความสัมพันธ์คือการอยู่นิ่งๆบนเตียง ตั้งแต่แฟนคนแรกที่คบ ไม่เคยมีใครถามว่าเขารู้สึกอย่างไร ครั้งแรกในชีวิตที่มีคนทำให้เขารู้สึกดีจนแทบสำลักความสุขคือครั้งแรกของเขากับทินกร




ภรัณยูเกลียดสายตาที่ทินกรใช้มองเขาในตอนนี้มากกว่าอะไรทั้งหมด สายตาที่มีทั้งความสงสารและเจ็บปวดปะปนกัน สายตาที่ทำให้ขอบตาของเขาร้อนผ่าว




ร่างโปร่งรู้สึกโชคดีที่อีกฝ่ายดึงเขาเข้ามาในอ้อมกอดก่อนที่น้ำตาหยดแรกจะไหลออกมา ภรัณยูฝังใบหน้าลงบนไหล่กว้าง ปล่อยให้มือใหญ่ลูบผมของตนเบาๆโดยไม่ทักท้วง




“ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะไม่มีวันทำให้พี่ภัทรเจ็บ”



ชายหนุ่มรู้ว่าทินกรหมายความตามนั้นทุกคำ และเขาก็รู้ว่าหากจะมีคนทำให้ใครเจ็บในความสัมพันธ์ครั้งนี้ คนคนนั้นคงจะเป็นเขามากกว่า




“แต่ว่า...ผมดีใจนะครับที่พี่ภัทรรู้สึกดี ทั้งที่ผมไม่เคยทำแบบนี้กับใครก่อนพี่ภัทร...”



ภรัณยูขมวดคิ้ว ผละจากคนรักด้วยสีหน้างุนงง



“แล้ว...กับแฟนคนก่อนๆ...”



“แฟน?” ทินกรเอียงคออย่างไม่เข้าใจ “ผมไม่เคยมีแฟนก่อนหน้าพี่ภัทรเลยนะครับ”



“แล้วพวกผู้หญิงที่อเมริกา...” ภรัณยูรีบหุบปากฉับเมื่อรู้ว่าเผลอหลุดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกไป แต่สีหน้าของทินกรยังคงไม่
เปลี่ยนแปลง



“ผมเคยเดทกับเพื่อนสองสามคนที่อเมริกา แต่ผมไม่เคยรู้สึกว่าใครเป็นคนที่ใช่ ผมเลยไม่เคยขอคบกับใครเป็นแฟน” น้ำ
เสียงของเด็กหนุ่มหนักแน่น “ผมไม่เคยตกหลุมรักใครเหมือนตอนที่ผมเจอพี่ภัทรในสนามบินตอนนั้น”




“ความรู้สึกฉาบฉวยแบบนั้นไม่ถาวรหรอกนะ”ภรัณยูอดแย้งขึ้นมาไม่ได้ แต่แทนที่ทินกรจะโต้ตอบ เด็กหนุ่มเพียงแค้กระพริบตาปริบๆมองเขาอย่างสงสัย



“ฉาบกล้วย?”



“ฉาบฉวย” ภรัณยูกลอกตา “แค่มองหน้าแล้วชอบเลย มันเป็นไปไม่ได้หรอกนะ”



“ได้สิครับ!” ทินกรขัดเสียงแข็ง “ผมก็ทำอยู่นี่ไง พี่ภัทรไม่รู้สึกอะไรตอนที่เราเจอกันครั้งแรกเลยเหรอครับ?”



“…รู้สึกอะไร?” ภรัณยูถาม แม้จะรู้คำตอบของคนตรงหน้าดีอยู่แล้ว



“รู้สึกว่าไม่อยากให้คนคนนี้หลุดมือไป...”ทินกรไล้นิ้วหัวแม่มือบนหลังมือนิ่ม ภรัณยูถอนหายใจ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเหนื่อยใจระคนเอ็นดูความใสซื่อที่ไม่ควรมีในคนที่ผ่านโลกมามากกว่าผู้ใหญ่อายุมากกว่าตัวเองหลายเท่านี้



“เอาเถอะ พี่ไม่อยากเถียงกับซันแล้ว ถ้าซันเชื่อแบบนั้น พี่ก็จะเชื่อใจซัน” ร่างโปร่งเอนศีรษะลงซบไหล่กว้างอีกครั้ง “แต่ถ้าวันไหนที่ซันเปลี่ยนใจ รีบบอกพี่นะ พี่ไม่อยากเจ็บนาน”



“คงไม่มีวันนั้นหรอกครับ”



ร่างสูงเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ โอบไหล่บางไว้แน่นแล้วจุมพิตลงบนหน้าผากใสเบาๆ ภรัณยูหลับตาลงรับสัมผัสอย่างเต็มใจ ปล่อยให้ความกังวลและความไม่มั่นใจกลับเข้าไปในซอกหลืบของความคิดที่มันควรอยู่



วันนี้...เขาเลือกที่จะเชื่อใจทินกรโดยไม่มีข้อกังขา



------



[แจ้งข่าวค่าาาาาา]

How to fall in love with your boss คู่มือการเป็นเลขาฉบับเกือบสมบูรณ์มีขายแล้วนะคะ พร้อมส่งมากเว่อร์
ใครอยากได้นุ้งขวัญไว้ในอ้อมใจ กดสั่งทางนี้ได้เลยจ้า
http://www.hermitbookshop.com/product/503/เรื่อง-how-to-fall-in-love-with-your-boss-คู่มือการเป็นเลขาฉบับเกือบสมบูรณ์-ผู้แต่ง-littlepig (http://www.hermitbookshop.com/product/503/เรื่อง-how-to-fall-in-love-with-your-boss-คู่มือการเป็นเลขาฉบับเกือบสมบูรณ์-ผู้แต่ง-littlepig)
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 24 100% P.17 คห 501 (26/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-01-2019 13:04:07
ทีเรื่องของลูกเข้าใจ แต่เรื่องมีนาไม่อยู่ในหัวเลยหรือไง  :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 24 100% P.17 คห 501 (26/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Hoya ที่ 26-01-2019 13:24:53
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:  ฉาบกล้วย 5555555555555555555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 24 100% P.17 คห 501 (26/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 26-01-2019 19:41:34
แหม คุณเชษฐ์ ไม่ใช่เรื่องของตัวเองแล้วเข้าใจง๊ายง่าย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 24 100% P.17 คห 501 (26/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 26-01-2019 19:42:11
คิดถึงน้องมีนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 24 100% P.17 คห 501 (26/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 26-01-2019 22:33:22
คิดถึงน้องมีนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 24 100% P.17 คห 501 (26/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 27-01-2019 00:11:04
รอน้องมีนอยู่นะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 24 100% P.17 คห 501 (26/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 27-01-2019 00:15:38
อิตาลุงโผล่มาแย่งซีนทำไมเนี่ย.  :katai1:

น้องซันจะซื่อไปไหนคะลูก แต่ก็น่ารักดี หึงพี่ภัทรกับอดีตรักของพี่เค้าด้วย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 24 100% P.17 คห 501 (26/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 27-01-2019 02:52:36
คุณเชษฐ์ควรดูคู่นี้เป็นตัวอย่างนะ
หันหน้าคุยกันก้าวผ่านความคิดไปเอง ความไม่แน่ใจ ถ้าไม่คุยกันแล้วจะมีความสุขทั้งสองฝ่ายได้ยังไง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 24 100% P.17 คห 501 (26/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-01-2019 09:20:16
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 24 100% P.17 คห 501 (26/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-02-2019 21:05:18
สงสารมีน คุณเชษฐ์ดูแลให้เยอะๆ นะ
แค่กลับมายิ้มให้กันได้บ้าง มีนก็ลอยไปไกลแล้ว

ซันภัทร ต่างคนต่างคิด อย่านอยด์เยอะเลย
ไปให้สุดแล้วหยุดที่มีกัน แค่นั้นพอ

ลุ้นเรื่องเกศรามากค่ะ ปกปิดได้มิดมาก
ขนาดสามียังไม่รู้ คุณเชษฐ์ก็เจอนิคแล้ว

หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 24 100% P.17 คห 501 (26/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 20-02-2019 15:42:19
รอน้องงมีนนนนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 24 100% P.17 คห 501 (26/1/62)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 20-02-2019 16:56:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 21-02-2019 19:09:05
Chapter 25: ใจร้าว

ว่ากันว่าเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ



“อะ…อะไรนะครับ?”



“ฉันจะให้เธอไปพบลูกค้ากับซัน ได้ข่าวว่าเธอเคยทำงานที่นั่นไม่ใช่เหรอ” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว ไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องธรรมดา
แบบนี้ถึงดูจะเป็นปัญหากับลูกน้องของตนขึ้นมาเสียอย่างนั้น



“ครับ...”



ใช่ ภรัณยูเคยทำงานที่นั่น เขาเคยทำงานที่นั่นจนกระทั่งสามปีที่แล้ว และเขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้กลับไปเหยียบสถานที่แห่งนั้นอีกตราบเท่าที่เขายังมีลมหายใจ



“มีอะไรรึเปล่า?” ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วกับท่าทีประหลาดของลูกน้อง ดวงตาสีควันบุหรี่ที่ทินกรได้รับสืบทอดมาเต็มๆฉายแววกังวลเล็กน้อย “ถ้าเธอไม่สะดวกใจ ฉันให้ซันไปคนเดียวก็ได้”



“ไม่เป็นไรครับ ผมไปได้” ภรัณยูรีบตอบ ไม่อยากให้อีกฝ่ายผิดสังเกตไปมากกว่านี้



แน่นอน...สายตาฉงนสงสัยของธีรเชษฐ์บ่งบอกว่ามันได้ผลตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง









“อาหารไม่อร่อยรึเปล่าครับ”



 เอาเข้าไป…นอกจากจะทำให้เจ้านายของตัวเองเป็นกังวลแล้ว ภรัณยูยังทำให้คนรักเป็นห่วงเรื่องเขาไปอีกคน



“เปล่า พี่แค่ไม่ค่อยหิวน่ะ” ภรัณยูยิ้มให้คนรัก



พวกเขาอยู่ในคาเฟ่เล็กๆใต้ตึกบริษัทที่ภรัณยูเคยทำงานอยู่ตั้งแต่ก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัยจนถึงเมื่อสามปีก่อน ชายหนุ่มตัดขนมเค้กในจานของตนแล้วนำไปจ่อที่ริมฝีปากของคนรักที่ยังคงขมวดคิ้วอย่างไม่วางใจ




“ชิมดูสิ อร่อยดีนะ”



ทินกรอ้าปากรับอย่างว่าง่าย เด็กหนุ่มอยู่กับภรัณยูมานานพอที่จะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของเขา และไม่ว่าเขาจะซักไซ้แค่ไหน หากภรัณยูไม่ต้องการพูด สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่ออกมาคงมีแค่เขาถูกอีกฝ่ายโกรธเข้าให้อีก




“ไว้เสร็จแล้ว เราแวะซื้อผ้าใบที่ร้านอุปกรณ์ศิลปะได้มั้ยครับ ที่บ้านใกล้หมดแล้ว”



ทินกรตัดสินใจเป็นฝ่ายเปลี่ยนประเด็นด้วยตัวเอง ภรัณยูมีสีหน้าประหลาดใจ แต่ก็พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม



“ได้สิ พี่ว่าจะแวะดูหนังสือที่ร้านแถวนั้นพอดี”



“ถ้าอย่างนั้นเราไปกันดีกว่านะครับ งานเสร็จเร็วจะได้มีเวลาเยอะๆ”




ร่างสูงใช้กระดาษทิชชู่ซับมุมปากแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ภรัณยูมองตามการเคลื่อนไหวของคนรัก เวลาที่เห็นทินกรในสูทแบบนี้ เขามักจะลืมเสมอว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง




ชายหนุ่มได้แต่หวังว่าความเป็นผู้ใหญ่ของทินกรจะมากพอสำหรับพวกเขาสองคนในวันนี้




เมื่อพวกเขาก้าวเข้าไปในลิฟต์ ภรัณยูสังเกตว่าเด็กหนุ่มในชุดสูทที่มักจะคงมาดสุขุมเวลาทำงานเขย่าขามองตัวเลขดิจิตัลแสดงชั้นที่ลิฟต์กำลังเคลื่อนผ่านอย่างผิดวิสัย




“เป็นอะไรรึเปล่า?”



“ผมแค่…ตื่นเต้นน่ะครับ” ทินกรยอมรับ ใบหน้าคมขึ้นสีเรื่อ “ที่จะได้เห็นช่วงชีวิตของพี่ภัทรที่ผมไม่เคยเห็น”



“ไม่มีอะไรน่าดูหรอก”ชายหนุ่มขัดเสียงเรียบ




ชีวิตของเขาก่อนที่จะพบทินกร ไม่มีอะไรโดดเด่นน่าจดจำมากนัก



 แต่สิ่งที่ไม่อยากจำนี่…มีเยอะเกินกว่าจะนับไหวจริงๆ



“ไม่จริงหรอกครับ…” ทินกรแย้งด้วยแววตาอ่อนโยน “เพราะเป็นพี่ภัทรนี่ครับ…”



“พี่ภัทร? สวัสดีค่ะ ไม่ได้เจอกันนานเลย”



ประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมกับหญิงสาวในชุดเครื่องแบบพนักงานที่ก้าวเข้ามาข้างใน ภรัณยูจำได้ว่าเคยทักทายอีกฝ่ายบ้างตามมารยาทในช่วงที่เขายังทำงานอยู่ที่นี่แม้จะไม่ได้รู้จักกันจริงๆ




“พี่ภัทรสบายดีมั้ยคะ? สามปีก่อนจู่ๆพี่ก็หายไปเลย ขนาดคนในแผนกบางคนยังไม่รู้ว่าพี่ภัทรลาออกจนผ่านไปเป็นอาทิตย์ เลยไม่ได้เลี้ยงส่งเลย” หญิงสาวทำหน้าเสียดาย ภรัณยูรู้สึกถึงสายตาของทินกรที่เหลือบมองเขา แต่แสร้งทำเป็นไม่สนใจ




“อุ๊ย…แล้วนี่ใครเหรอคะพี่ภัทร” พนักงานสาวกระซิบถามเมื่อเห็นหนุ่มหล่ออีกคนในลิฟต์ ภรัณยูลอบถอนหายใจ ก่อนจะแนะนำทินกรให้อีกฝ่ายรู้จัก



“คุณทินกร เจ้านายพี่”



จากสีหน้าของเด็กหนุ่มข้างกาย ภรัณยูพอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายไม่ชอบสถานะนั้นสักนิด



“สวัสดีค่ะคุณทินกร”หญิงสาวทักทายตามมารยาท ทินกรยิ้มรับ



“รู้จักกับคุณภรัณยูด้วยเหรอครับ?”



เจ้าของชื่อเกร็งขึ้นมาอย่างหวาดระแวง ทำให้จู่ๆทินกรถึงได้เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาขึ้นมาเองแบบนี้



“ค่ะ เคยทำงานด้วยกันบ้าง” พนักงานสาวตอบอย่างแบ่งรับแบ่งสู้เมื่อรู้ว่ากำลังคุยกับเจ้านายใหม่ของอดีตเพื่อนร่วมงาน




“ตอนอยู่ที่นี่…เขาเป็นคนแบบไหนเหรอครับ?” ทินกรถามเสียงใคร่รู้ ในสายตาคนนอก คำถามของทินกรไม่ได้ดูเป็นอะไรที่ผิดแปลกไปจากบทสนทนาปกติมากนัก แต่สำหรับภรัณยู คำถามนั้นทำให้เขาแทบจะกระโดดตะครุบปากคนพูดไม่ให้ถามอะไรมากกว่านี้



“ก็…เป็นพี่ที่ดีค่ะ พี่ภัทรเป็นคนใจเย็น ชอบสอนงานให้น้องๆ ทุกคนเลยชอบมาถามนู่นถามนี่พี่ภัทรกันใหญ่เลยคะ”



คนถูกถามได้ทีช่วยชมพนักงานรุ่นพี่ให้เจ้านายใหม่ฟัง หารู้ไม่ว่าตัวตนของภรัณยูในบรัษัทใหม่นั้นแทบไม่มีอะไรเหมือนกับคนที่เดินจากไปเมื่อสามปีก่อน



การลาออกของเขาแม้จะไม่ใช่เรื่องผลีผลาม แต่นอกจากคนที่จำเป็นต้องรู้ ภรัณยูไม่เคยบอกใคร หลังจากจัดการทุกอย่างที่จำเป็นต้องทำ เขาเก็บข้าวของของตัวเองในวันหยุดสุดท้ายและไม่เคยก้าวเท้ากลับเข้ามาในบริษัทนี้อีก



…จนกระทั่งวันนี้



หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงขึ้นเมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวมาหยุดในชั้นที่คุ้นเคย แม้ในใจจะบอกว่าเขากำลังคิดมากไปเอง ผู้ชายคนนั้นแต่งงานกับลูกสาวเจ้าของบริษัทและเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่เขาออกมาใหม่ๆ การจะได้เจอกับอีกฝ่ายที่ห้องทำงานของผู้จัดการฝ่ายการตลาดไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ



แต่เขาประเมินความโชคร้ายของตัวเองต่ำไป



ทินกรเปิดประตูให้ร่างโปร่ง ภรัณยูยิ้มให้อีกฝ่ายเล็กน้อยก้อนจะก้าวเข้าไปในห้องทำงานของคนที่พวกเขานัดพบในวันนี้ ภาพของชายหนุ่มข้างในทำให้ภรัณยูชะงักค้าง ไม่ใช่แค่เขา แม้แต่ทินกรและเลขาสาวที่นำทางพวกเขามายังหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ต่างกัน



ภาพตรงหน้าของพวกเขาคือชายหนุ่มในชุดสูทยับยู่ยี่กำลังกระดกเหล้าดีกรีแรงจากขวดโดยตรงอย่างไม่เกรงใจแสงตะวันภายนอกหน้าต่าง ใบหน้าของชายหนุ่มรุ่นพี่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนรักของภรัณยูแดงก่ำด้วยความเมามาย กลิ่นแอลกอฮอล์เหม็นหึ่งตลบอบอวลไปทั่วห้องจนเขาต้องยกมือขึ้นปิดจมูก



“ภัทร…ภัทรกลับมาหาพี่แล้ว…”



ปภพลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะ โซเซไปมาด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แต่ยังคงพยายามก้าวมาหาเขา ภรัณยูก้าวถอยหลังอย่างตกใจ แต่ก่อนที่ปภพจะได้เข้าถึงตัวเขา ร่างสูงของเด็กหนุ่มข้างๆก็ก้าวเข้ามาขวางไว้เสียก่อน



“มีเรื่องอะไรกับคนของผมรึเปล่าครับ?”



ปภพชะงักเมื่อเห็นเงาร่างที่สูงท่วมศีรษะของตน ชายหนุ่มพยายามยืดตัวตรงและจัดเสื้อผ้าของตนให้เข้าที่เข้าทาง




“เชิญทางนี้ครับ คุณทินกร”



ถึงแม้ปภพจะแสร้งทำเหมือนเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่ได้เกิดขึ้น แต่สภาพของอีกฝ่ายและกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ตลบอบอวลไปทั่วห้องนั้นยากจะเพิกเฉย ภรัณยูนึกชื่นชมคนรักที่วางตัวได้อย่างเป็นมืออาชีพและไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา




แต่จะดีกว่านี้ถ้ามือของอีกฝ่ายไม่วางนิ่งใต้โต๊ะอยู่บนต้นขาของเขาอย่างแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแบบนี้



“คุณภรัณยู ในเรื่องของงบประมาณ…”



“ทั้งหมดอยู่ในเอกสารที่ทางเราส่งมาล่วงหน้า คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ”




ทินกรชิงตอบ คงต้องบอกว่าเด็กหนุ่มไม่เปิดโอกาสให้ภรัณยูได้มีโอกาสตอบคำถามใดๆของปภพตลอดบทสนทนา หากเป็นเวลาอื่น ภรัณยูอาจจะรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของอีกฝ่าย แต่เขาในตอนนี้มีเพียงความรู้สึกขอบคุณกับความห่วงใยที่อีกฝ่ายมีให้เขาถึงแม้จะไม่เคยได้รับคำอธิบายใดๆ




หลังจากหนึ่งชั่วโมงที่อึดอัดที่สุดในชีวิตของเขา ภรัณยูแทบจะก้มลงกราบกรานฟ้าดินที่ทำให้การพูดคุยครั้งนี้ผ่านไปอย่างราบรื่น



เขาน่าจะรู้ตัวว่าดีใจเร็วเกินไป




“คุณภรัณยู รบกวนอยู่ก่อนได้มั้ยครับ? ผมมีเรื่องอยากปรึกษาเกี่ยวกับตัวงาน…” ปภพเอ่ยทักเมื่อเห็นเขาเริ่มเก็บข้าวของ แต่ก่อนที่ภรัณยูจะได้พูดอะไร คนข้างกายของเขาก็ชิงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง




“ขอโทษด้วยนะครับ คุณภรัณยูกับผมมีธุระด่วนต่อจากนี้ คงต้องเป็นวันหลัง”



ทินกรกดเสียงต่ำ แววตาของร่างสูงบ่งบอกว่าไม่เปิดช่องให้ปภพต่อรอง และดูเหมือนปภพจะรับรู้สารจากดวงตาสีควันบุหรี่ได้เป็นอย่างดี เพราะชายหนุ่มเพียงแค่ปล่อยให้พวกเขาเดินออกมาจากห้องโดยไม่ทักท้วง แม้ภรัณยูจะรู้สึกถึงสายตาที่จับ
จ้องแผ่นหลังของตนไปตลอดทาง











“ซัน…ไม่มีอะไรจะถามพี่เหรอ”




หลังจากความเงียบในรถตลอดระยะทางที่กลับมาถึงบ้านของทินกร ภรัณยูที่ทนไม่ไหวเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ทินกรที่เดินนำเขาเข้ามาในบ้านชะงักฝีเท้า เอ่ยตอบโดยไม่หันกลับมา



“ถ้าพี่ภัทรไม่อยากเล่า ถึงผมถามไปพี่ภัทรก็ไม่ตอบอยู่ดี จริงมั้ยครับ?”



ทินกรตอบเสียงเรียบ ไร้ซึ่งความน้อยอกน้อยใจในน้ำเสียง แต่นั่นกลับยิ่งทำให้ภรัณยูรู้สึกเจ็บแปลบในอกกว่าที่เป็นอยู่ ร่างโปร่งขยับเข้าใกล้คนรัก โอบแขนรอบเอวสอบ ซุกหน้าลงบนแผ่นหลังกว้างอย่างรู้สึกผิด



“เขาเป็นแฟนเก่า…ก่อนที่พี่จะลาออกจากบริษัทนั้น”



แม้ในสายตาของปภพ ความสัมพันธ์ของพวกเขาอาจจะไม่ได้อยู่ในสถานะดังกล่าว แต่ภรัณยูไม่เคยคิดสงสัย การตั้งคำถามไม่อยู่ในธรรมชาติของเขา เช่นเดียวกับการเผชิญหน้ากับปัญหาตรงๆ



เขาไม่เคยสงสัยว่าทำไมพวกเขาไปเคยออกไปทานอาหารนอกห้อง ไม่เคยไปดูหนัง ไม่เคยทำตัวเหมือนคนรักเวลาที่อยู่ในที่ที่มีคนอื่นนอกจากพวกเขา ชายหนุ่มเพียงแต่บอกตัวเองว่าการให้คนอื่นรู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาจะทำให้พวกเขาดูไม่เป็นมืออาชีพในสายตาของคนนอก



ด้วยเหตุนั้นเขาถึงถูกหลอกให้อยู่ในความสัมพันธ์แบบ’เด็กเก็บ’ของปภพซึ่งมีตำแหน่งเป็นเจ้านายของเขาในตอนนั้น โดยไม่ได้รู้เลยว่านอกจากเขา อีกฝ่ายยังคงคอยตามเทียวไล้เทียวขื่อลูกสาวคนเดียวของประธานบริษัทอยู่ตลอด




จนกระทั่งวันที่หญิงสาวยอมตกลงปลงใจกับปภพ ภรัณยูถึงได้เข้าใจสถานะของตัวเอง




หรือหากจะพูดให้ถูก…สถานะที่เคยเป็นของเขา




ตลอดเวลาที่ภรัณยูเล่าเรื่องในอดีตให้ทินกรฟัง เด็กหนุ่มไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ และนั่นยิ่งทำให้หัวใจของร่างโปร่งตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม




“ซัน…พูดอะไรหน่อยสิ”




“พี่ภัทร…คิดว่าผมจะเป็นแบบผู้ชายคนนั้นจริงๆเหรอครับ?”




เสียงทุ้มสั่นเครือ และภรัณยูรู้ว่านั่นไม่ได้มาจากความโกรธ มือเรียวรั้งให้อีกฝ่ายหันกลับมาหาเขา และสีหน้าที่ราวกับจะร้องไห้ของคนรักทำให้ภรัณยูนึกอยากให้อีกฝ่ายตะโกนโวยวายใส่เขาอย่างที่เขานึกกลัวก่อนหน้า




“ซัน…”



“ผม…ดูเลวขนาดนั้นในสายตาพี่ภัทรจริงๆเหรอครับ”



“…”



เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรตอบคำถามนั้นอย่างไร เขารู้ดีว่าทินกรไม่ใช่ปภพ แต่ในขณะเดียวกัน ภรัณยูก็ไม่เคยคิดว่าปภพจะเป็นคนที่สามารถทำเรื่องแบบนั้นกับเขาได้เช่นกัน




แต่ทินกรถือเอาความเงียบของเขาเป็นคำตอบไปเสียแล้ว ร่างสูงก้าวถอยห่างจากภรัณยู แม้ในตอนที่เขาทำร้ายจิตใจจนอีกฝ่ายไม่อยากมองหน้า ทินกรยังคงแกะมือเขาออกจากแขนของตัวเองอย่างนุ่มนวล




“ผมขอ…อยู่คนเดียวสักพักได้มั้ยครับ”




แม้ในใจจะกรีดร้องให้เขาดึงดันจะอยู่ แต่ภรัณยูเลือกที่จะพยักหน้า ชายหนุ่มมองตามร่างที่ก้าวขึ้นบันไดอย่างเชื่องช้า
รวบรวมความกล้าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ



“พี่…มาหาซันพรุ่งนี้ได้มั้ย”



“พรุ่งนี้ผมมีเรียนทั้งวัน…ขอโทษนะครับ” เด็กหนุ่มตอบโดยไม่หันกลับมา ภรัณยูกัดริมฝีปาก แม้หัวใจจะหนักอึ้ง แต่เขารู้ว่าตัวเองต้องเคารพการตัดสินใจของคนรัก




อย่างน้อย…นั่นก็เป็นสิ่งเดียวที่เขาจะทำให้ทินกรได้ในตอนนี้

หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 21-02-2019 20:01:32
เห็นใจแฟนเด็กนี๊สสนึงงง น้องต้องการเวลา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 21-02-2019 20:31:15
คิดถึงจังเลยยย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 21-02-2019 21:49:08
น้องเสียใจอย่างแรง พี่ภัทรต้องรีบง้อด่วนๆ เลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 21-02-2019 23:59:52
ดราม่า...
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 22-02-2019 00:15:40
ความนิ่งช่างน่ากลัว  :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 22-02-2019 00:19:51
เฮ้อ คอนเซปต์ของทั้ง2คู่ในเรื่องนี้คือไม่ยอมพูดออกมาว่าคิดยังไง ชอบตีความกันไปเองจริงๆเลย กินมาม่าแปบ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-02-2019 00:32:47
ก็เพราะกลัวอีกฝ่ายคิดมากไง มันถึงได้เป็นแบบนี้  :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-02-2019 00:57:56
ดราม่าสาหัสเลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 23-02-2019 22:25:11
อ้าว คู่นี้ขยันมีเรื่องให้นอยด์กันตลอด
ต้องเข้าใจกัน พูดคุยกันให้มากนะ
ด้วยความต่างวัย และความคิดมากไปเองของทั้งคู่เลย

เอาใจช่วยซันภัทรนะคะ

สงสารมีน ที่ต้องเจอความร้ายของธาร
แต่ยังมีความใจดีของคุณเชษฐ์กอบกู้ได้บ้าง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 26-02-2019 16:17:32
รีบเคลียร์เลย ไม่เอาดราม่านานนะ
รอติดตามอยู่นะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: jagkree ที่ 01-03-2019 20:22:16
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 04-03-2019 16:25:22
สงสารน้องอ่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-03-2019 05:41:06
อ่านมาถึงตอนนี้แล้ว ความสงสารต่าง ๆ ยังคงให้น้องมีนอยู่นะครับ หวังว่าน้องจะผ่านไปได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 06-03-2019 23:11:18
น้องซันนน ฮึบๆน้าา

กลับมาปรับความเข้าใจกันดีๆเถอะะ
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 07-03-2019 18:20:25
หื้มมมม นี่ดราม่าหนักทั้งสองคู่เลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Rach ที่ 27-03-2019 11:35:59
อยากอยู่คนเดียวสักพัก กี่วัน กี่เดือน กี่ปี ถ้ารับอดีต เขาไม่ได้ หรือไม่ไว้ใจเขาก็ปล่อยเขาไปเถอะ :z10:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 18-05-2019 10:55:48
เนื่องจากปัญหาทางเนื้อเรื่องบางประการ ขออนุญาตหยุดอัพเรื่องนี้อย่างไม่มีกำหนดนะคะ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 25 100% P.18 คห 514 (21/2/62)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 18-05-2019 11:34:10
เนื่องจากปัญหาทางเนื้อเรื่องบางประการ ขออนุญาตหยุดอัพเรื่องนี้อย่างไม่มีกำหนดนะคะ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

จะรอน๊าไรท์   :sad11:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) ประกาศขออนุญาตหยุดอัพนิยายเรื่องนี้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 18-05-2019 11:45:22
สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) ประกาศขออนุญาตหยุดอัพนิยายเรื่องนี้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-05-2019 22:37:35
 :กอด1: รับทราบจ้า
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) ประกาศขออนุญาตหยุดอัพนิยายเรื่องนี้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 18-05-2019 22:47:25
รับทราบจ้า.  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) ประกาศขออนุญาตหยุดอัพนิยายเรื่องนี้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 08-06-2019 16:42:52
Chapter 26: วันครบรอบ



มีนารู้สึกว่าธีรเชษฐ์มีบางอย่างในใจตั้งแต่วันที่อีกฝ่ายออกไปทำธุระ แต่วันนี้ท่าทีของธีรเชษฐ์ยิ่งดูเหม่อลอยจนน่ากังวลกว่าปกติ ร่างสูงขังตัวเองอยู่ห้องนอนมาตั้งแต่เช้า ไม่ได้ออกไปทำงานแม้จะแต่งกายด้วยชุดสูทสีดำสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้า


“คุณเชษฐ์ครับ อาหารเช้าเสร็จแล้วนะครับ…”  เมื่อเคาะประตูไม่มีเสียงตอบรับ มีนาจึงกลั้นใจหมุนลูกบิดประตูด้วยแรงที่ทำให้เกิดเสียงน้อยที่สุด “ขออนุญาตนะครับ…”



เห็นได้ชัดว่าคนในห้องไม่ได้ยินเสียงเขาเข้ามา ธีรเชษฐ์ยังคงนั่งก้มหน้าอยู่บนเตียง ในมือมีกรอบรูปที่มีนาจำได้ว่าเคยเห็นวางคว่ำอยู่ภายในลิ้นชักหัวเตียงของร่างสูงตอนทำความสะอาด แม้จะไม่เคยกล้าหงายขึ้นดูว่าเป็นรูปอะไรก็ตาม



ร่างเล็กค่อยๆทรุดตัวลงบนพื้นข้างกายธีรเชษฐ์ มือเรียวเอื้อมไปแตะที่แขนของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา คนที่จมอยู่ในโลกส่วนตัวขยับเล็กน้อย หันมามองมีนาด้วยสีหน้าราวกับเพิ่งเห็นเด็กหนุ่มเป็นครั้งแรก


“อาหารเช้าเสร็จแล้วครับ” มีนาเอ่ยเสียงเบา “ทานซักหน่อยนะครับ”



“อืม เดี๋ยวฉันออกไป”



เสียงทุ้มแหบพร่า มีนาลอบสังเกตว่าดวงตาสีควันบุหรี่ที่มักจะไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกมามากนักแดงระเรื่อ แต่ไม่กล้าถาม
หลังจากมีนากลับออกมาจากห้องนอนได้สักพัก ร่างสูงก็เปิดประตูออกมา ใบหน้าคมเรียบนิ่งไม่แสดงความรู้สึก เด็กหนุ่มขยับตัวอย่างอึดอัดกับบรรยากาศตึงเครียดในห้อง ทั้งที่เขาคิดว่าเรื่องระหว่างพวกเขากำลังเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นแล้วแท้ๆ…



“ไม่มีเรียนเหรอ?” ธีรเชษฐ์ถามด้วยน้ำเสียงอิดโรยหลังรวบช้อนส้อมของตัวเอง



“มีเรียนตอนบ่ายครับ” ร่างเล็กตอบ แม้เขาจะไม่อยากทิ้งให้อีกฝ่ายอยู่ในสภาพแบบนี้คนเดียวก็ตาม



ธีรเชษฐ์เพียงแต่พยักหน้ารับรู้ เด็กหนุ่มลอบมองร่างสูงที่นิ่งไปอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มเก็บจานชาม ใช้การล้างจานเป็นข้ออ้างเอาตัวเองออกจากสถานการณ์น่าอึดอัดนี้



ครืดดดด


ร่างเล็กขมวดคิ้ว วางกองจานชามขนาดย่อมลงในอ่างล้างจานแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมารับสาย


“มีอะไรรึเปล่าซัน?”



“มีน วันนี้รบกวนส่งเลคเชอร์บ่ายมาให้หน่อยได้มั้ย ฉันคงไม่ได้เข้า” เสียงไม่สู้ดีของลูกชายคนเล็กของบ้านทรัพย์ดำรงทำให้มีนารู้สึกไม่สบายใจ เด็กหนุ่มเหลือบมองคนพ่อที่นั่งเหม่ออยู่ที่โต๊ะทานอาหาร แล้วถามคนปลายสายอย่างสงสัย



“มีอะไรรึเปล่าซัน เสียงไม่ดีเลย”


“พอดี…วันนี้เป็นวันครบรอบวันที่แม่ฉันเสียน่ะ ฉันจะไปทำความสะอาดสุสานกับพี่ๆ คงกลับไปไม่ทันเรียน”



มีนารู้สึกเหมือนเลือดในร่างกายเย็นเฉียบ ท่าทีประหลาดของธีรเชษฐ์ดูมีเหตุผลขึ้นมาในสายตาของเด็กหนุ่ม


“เรา…ก็ไม่น่าจะได้ไปเรียนวันนี้ มีธุระนิดหน่อย ขอโทษนะ”



ร่างเล็กประหลาดใจที่การตัดสินใจนั้นง่ายมากสำหรับเขาทั้งที่เด็กหนุ่มไม่เคยขาดเรียนเองหากไม่มีทางเลือก



”อ๋อ ไม่เป็นไร เดี๋ยวขอพายุเอา” ทินกรวางสายไปหลังจากนั้น มีนาเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋ากางเกง ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความกังวลยังคงไม่ละไปจากร่างสูง



“คุณเชษฐ์ครับ…วันนี้จะออกไปไหนรึเปล่าครับ”



เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือเล็กที่แตะลงบนไหล่ของตนอย่างแผ่วเบา แววตาของร่างสูงว่างเปล่าเหม่อลอย บีบหัวใจคนมองจนมีนานึกอยากดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดไว้ให้แน่น




“ไม่มี” คำตอบนั้นทำให้เด็กหนุ่มเอียงคออย่างประหลาดใจ และท่าทีนั้นกระตุ้นความสงสัยของคนเหม่อลอยมาตลอดทั้งเช้า



“ทำไม? คิดว่าฉันจะต้องไปไหนเหรอ?”



“คือ…” มีนาก้มหน้าหลบสายตาจ้องจับผิด รู้สึกเหมือนตัวเองล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของธีรเชษฐ์โดยไม่ได้รับอนุญาต



“คุณทินกรบอกว่าวันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของคุณเกศรา ผมเลยคิดว่า…”


“ไม่หรอก เด็กพวกนั้นคงโกรธถ้าฉันเข้าไปยุ่งในวันครอบครัวของพวกเขา”



“แต่ว่า…” คุณเชษฐ์ก็เป็นครอบครัวของพวกเขาไม่ใช่เหรอครับ?


“เชื่อเถอะ ไม่มีฉันพวกเขาจะมีความสุขกว่า” ธีรเชษฐ์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “ตอนบ่ายฉันคงไม่ได้ไปส่งนะ ไปเรียนเองได้ใช่
มั้ย?”



“พอดีวันนี้อาจารย์เขายกเลิกคลาสน่ะครับ” มีนาโกหก หากเป็นเวลาปกติน้ำเสียงสั่นๆและแววตาล่อกแล่กของเด็กหนุ่มคงจะทำให้ถูกจับได้อย่างง่ายดาย แต่ธีรเชษฐ์ในตอนนี้เพียงพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจแล้วกลับเข้าห้องนอนไป


มีนามองตามร่างสูงไปด้วยสายตาเป็นกังวล แต่ไม่กล้ารบกวนความเป็นส่วนตัวของธีรเชษฐ์ในตอนนี้



การไม่สามารถแม้แต่จะไปเยี่ยมหลุมศพของคนที่รักในวันครบรอบวันเสียชีวิตเป็นเรื่องที่เขาคิดว่าเป็นบทลงโทษที่รุนแรงเกินไปแม้ว่าความผิดของธีรเชษฐ์จะเป็นอะไรก็ตาม



เด็กหนุ่มตัดสินใจใช้เวลาว่างทำความสะอาดห้องไปเรื่อยๆโดยหวังว่าคนข้างในจะส่งสัญญาณบางอย่างให้เขารับรู้ว่าสามารถเข้าไปได้



แต่เวลาผ่านไปจนถึงช่วงบ่ายก็ยังคงไม่มีวี่แววของสัญญาณดังกล่าว




มีนาประคองถาดอาหารกลางวันไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง เคาะประตูเบาๆเพื่อขออนุญาตแต่ไม่มีเสียงตอบรับจากภายใน เด็กหนุ่มชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจแง้มประตูเปิดเข้าไป



ร่างสูงที่เขาเป็นห่วงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ยังคงอยู่ในชุดสูทสีดำสนิทที่ใส่ออกมาก่อนหน้านี้ ในมือมีกรอบรูปที่มีนาคาดว่าคงไม่พ้นเป็นรูปภรรยาที่ล่วงลับ เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในห้องนั้นกลับทำให้มีนารู้สึกเหมือนตนได้เห็นสิ่งที่ตนไม่ควรไปเห็นเข้า เด็กหนุ่มตั้งใจจะปิดประตูกลับออกไป แต่สีหน้าเจ็บปวดของคนที่ยังคงจมอยู่ในฝันร้ายทำให้เขาตัดใจทิ้งคนตรงหน้าไม่ลง



“คุณเชษฐ์ ได้เวลาอาหารเที่ยงแล้วครับ”



มีนาเขย่าไหล่กว้างเบาๆ ธีรเชษฐ์ขยับเล็กน้อย เปลือกตาหนาปรือขึ้นอย่างง่วงงุนก่อนที่ร่างสูงจะยันตัวขึ้นนั่งบนเตียง



“ฉันไม่ค่อยหิว…เธอกินไปก่อนเถอะ”



มีนาวางถาดอาหารกลางวันลงบนชั้นข้างหัวเตียงแล้วนั่งลงข้างชายหนุ่ม เขาไม่อยากล่วงล้ำพื้นที่ส่วนตัวของธีรเชษฐ์ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่อยากปล่อยให้คนตรงหน้าจมอยู่กับความเศร้าเพียงลำพัง



สุดท้าย ร่างเล็กจึงเลือกที่จะลุกขึ้นจัดเก็บห้องนอนของอีกฝ่ายเงียบๆ แม้ว่าห้องของธีรเชษฐ์จะไม่ค่อยมีอะไรให้จัดเก็บมากนักก็ตาม



มีนาเก็บชั้นหนังสือไปได้สองชั้นเมื่อแขนแข็งแรงโอบเอวบางรั้งเข้ามาในอ้อมกอด



“ชั้นนั้นเพิ่งเก็บไปเมื่อวานไม่ใช่เหรอ?” เสียงทุ้มกระซิบถามชิดริมหู มีนายิ้มเจื่อนเมื่อถูกจับได้ แต่ไม่คิดจะแก้ตัวอะไรกับร่างสูง
ธีรเชษฐ์ยิ้มขำ แม้รอยยิ้มนั้นจะส่งไปไม่ถึงดวงตาแต่มีนาก็ยังดีใจที่เห็นอีกฝ่ายยิ้มได้



“เป็นห่วงฉันรึไง?”



“ครับ” มีนาพยักหน้ารับอย่างไม่คิดแก้ตัว แต่สีหน้าประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัดของคนอายุมากกว่าทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนตนเพิ่งพูดอะไรผิดไป “มะ…ไม่ได้เหรอครับ?”



ธีรเชษฐ์ยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเองอย่างอ่อนเพลียหัวใจ นี่คือจุดจบของพวกเสี่ยใหญ่ที่คิดว่าตัวเองรับมือเด็กน้อยตาใสพวกนี้ได้สินะ



โลหะเย็นที่สัมผัสกับใบหน้าคมทำให้ร่างสูงชะงัก ธีรเชษฐ์พิจารณาแหวนเงินเกลี้ยงเกลาบนนิ้วนางข้างซ้ายที่ปกติมักจะถูกเก็บไว้บนลิ้นชักหัวเตียงของตน มีนามองตาการกระทำนั้นอย่างฉงนสงสัย ร่างเล็กสะดุ้งก่อนจะรีบหลบสายตาของธีรเชษฐ์เมื่ออีกฝ่ายละสายตาจากแหวนแต่งงานของตนมายังเด็กหนุ่มตรงหน้า



“เย็นนี้ไม่ต้องทำอาหารเย็นนะ” มีนาพยักหน้ารับคำ ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายถอดแหวนแต่งงาน
ของตัวเองออกและวางมันกลับลงไปในลิ้นชักพร้อมกับกรอบรูปที่นอนกอดมาตลอดทั้งวัน “ฉันจะพาออกไปกินข้างนอก”



ธีรเชษฐ์ดันลิ้นชักหัวเตียงกลับเข้าไปแล้วไขกุญแจปิด ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยังคงมองตามการกระทำของเขาพร้อมแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ก่อนจะยื่นกุญแจดอกนั้นให้กับมีนา



“ฝากเก็บไว้หน่อยได้มั้ย?”



“ครับ…” มีนาพยักหน้ารับ ก้มมองกุญแจในมือด้วยสีหน้างุนงง แต่เมื่อเห็นว่าธีรเชษฐ์ดูจะอารมณ์ดีขึ้นมากหลังจากนั้น เด็กหนุ่มจึงเลือกที่จะไม่คิดมากให้ปวดหัว







ถ้าหากการกระทำทั้งหมดก่อนหน้านี้ของภรัณยูยังไม่ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนรักที่เฮงซวยที่สุดในโลก สิ่งที่เจนจิรากำลังพูดอยู่ตอนนี้ก็ทำให้เขามั่นใจถึงสถานะนั้นอย่างไม่มีข้อกังขา


“ภัทร? เป็นอะไรไปอีกล่ะ ทำงานหนักไปรึเปล่าช่วงนี้ ชักจะเหม่อบ่อยขึ้นทุกวันแล้วนะ” เจนจิราติงลูกน้องของตนอย่างเป็นห่วง ภรัณยูกล่าวขอโทษหญิงสาวในชุดกระโปรงสอบสีดำสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้าหลังจากแวะทำบุญให้กับภรรยาที่ล่วงลับของท่านประธาน ยังคงไม่เข้าใจว่าในบรรดาวันเกิดและวันครบรอบต่างๆในความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งหมด วันที่เขาเลือกที่จะปล่อยให้ทินกรอยู่คนเดียวตามคำขอคือวันครบรอบวันเสียชีวิตของมารดาของเด็กหนุ่ม


เขาไม่รู้ว่าคำว่า ‘อยากอยู่คนเดียวซักพัก’ ของทินกรหลังจากวันนั้นมันนานแค่ไหน แต่การปล่อยให้ทินกรต้องอยู่คนเดียวในวันที่เป็นเครื่องย้ำเตือนถึงการสูญเสียของอีกฝ่ายเป็นสิ่งที่ภรัณยูรู้ว่าไม่มีคนรักดีๆที่ไหนทำ


แต่จะให้เขาทะเล่อทะล่าเดินเข้าไปในสุสานในตอนนี้ก็คงจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก



“พี่แจนครับ แล้วปกติทุกปีใครเป็นคนไปทำความสะอาดสุสานเหรอครับ?”



“คุณธาร ลูกชายคนรองของท่านประธานน่ะจ้ะ แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่ทั้งคุณทินทั้งคุณเมฆากลับมา คงจะไปช่วยกันทั้งสามพี่น้องนั่นแหละ” เจนจิราอธิบายด้วยรอยยิ้มเอ็นดู



“แล้วท่านประธาน…”



“คงไม่ได้ไปด้วยหรอก เรื่องทางบ้านน่ะ” หญิงสาวรุ่นพี่ตอบกว้างๆ ก่อนจะยิ้มอย่างรู้ทัน “ฮั่นแน่ เป็นห่วงคุณทินล่ะสิ”


“เอ๊ะ? ผม…” เมื่อถูกทักอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้คำปฏิเสธติดอยู่ที่ริมฝีปากแต่ไม่สามารถออกมาเป็นคำได้ เจนจิราส่ายศีรษะยิ้มๆ


“ไม่ต้องปฏิเสธหรอกภัทร คุณทินเธอเป็นเด็กดี อยู่กับใครใครก็รัก ภัทรอยู่กับคุณทินบ่อยขนาดนั้นจะเป็นห่วงบ้างก็ไม่แปลกหรอก”


“…”ภรัณยูพยักหน้าตามน้ำ ไม่คิดแก้ไขความเข้าใจผิดของหญิงสาวรุ่นพี่



หากในระหว่างการประชุมเขาเหม่อลอยกว่าปกติ ภรัณยูก็เก็บความรู้สึกได้มากพอที่จะไม่เป็นที่สังเกตของผู้เข้าร่วมการประชุม ร่างโปร่งคิดไปว่าตัวเองรอดพ้นจากการถูกตำหนิไปได้ด้วยดีเมื่อเลขาของท่านประธานที่วันนี้เข้าประชุมแทนทั้งธีรเชษฐ์และเมฆาเอ่ยปากขอให้เขารออยู่ก่อน


“ขอโทษครับคุณมธุวัน…”



“ขอโทษ? เรื่องอะไรเหรอครับ?” มธุวันเลิกคิ้ว คนที่คิดว่าตัวเองถูกเรียกมาด่าชะงัก ไม่มั่นใจว่าถ้าอย่างนั้นตนถูกเรียกมาด้วยเรื่องอะไร



“เอ่อ…คุณมธุวันมีอะไรให้ผมทำรึเปล่าครับ?”



“…” ถึงคราวมธุวันที่เป็นฝ่ายนิ่งไป ภรัณยูยืนรอฟังชายหนุ่มอายุน้อยกว่าอย่างใจเย็น เพราะไม่บ่อยนักที่ใครจะได้เห็นคุณมธุวันอ้ำอึ้งแบบนี้



“วันนี้…เป็นวันที่หนักสำหรับทุกคนในบ้านนั้น ไม่ใช่แค่คุณทินกร…” เลขาหนุ่มเอ่ยขึ้นในที่สุด “ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจนเกินไป ผมรบกวนคุณช่วยดูคุณเมฆาด้วยจะได้มั้ยครับ?”



“เอ๊ะ…”



ภรัณยูกระพริบตาปริบๆ ทั้งที่เขาเคยเห็นมธุวันกับเมฆานอกเวลางาน เห็นมธุวันกับเมฆาด้วยกันที่คฤหาสน์ทรัพย์ดำรง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้ที่ลูกชายคนโตของท่านประธานกับเลขาหนุ่มจะมีอะไรในกอไผ่มากกว่าที่ตาเห็น



“ผมแค่เป็นห่วงเขาในฐานะมนุษย์ร่วมโลกคนนึง” มธุวันเอ่ยเสียงเรียบ ดวงตาสีเทาอมฟ้าไม่เผยความรู้สึก “อย่างน้อยคุณทินกรกับท่านประธานยังมีคนอยู่ด้วยในเวลาแบบนี้”



“ถ้าอย่างนั้น…ทำไมคุณมธุวันถึงไม่ไปหาคุณเมฆาล่ะครับ?”



ภรัณยูหวังว่าน้ำเสียงของตัวเองจะฟังดูบริสุทธิ์ใจพอที่คนตรงหน้าจะรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจกวน มธุวันส่ายหน้า เก็บเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะประชุมแล้วเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอายุมากกว่าด้วยแววตาที่ทำให้ภรัณยูรู้สึกว่าร่างกายของตนลีบเล็กลง



“ผมไม่ใช่เพื่อนของเขา เราเรียกกันว่าคนรู้จักไม่ได้ด้วยซ้ำ…” ภรัณยูลอบกลืนน้ำลาย รู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวพวกเขาหนักอึ้งขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ “ถือว่าผมขอร้องแล้วกัน“



เขาอยากจะบอกเลขาหนุ่มที่เดินออกจากห้องไปหลังจากนั้นเหลือเกินว่าไม่ว่าใครที่สอนวิธีการขอร้องกับมธุวันสอนอีกฝ่ายมาผิดอย่างไม่น่าให้อภัย



แต่ภรัณยูรู้ดีว่าตอนนี้เขามีปัญหาใหญ่กว่านั้นมาก








”คุณเชษฐ์ เรากำลังจะไปไหนกันเหรอครับ?”



มีนาถามขึ้นหลังจากพวกเขาออกมาจากคอนโดได้ระยะหนึ่ง ธีรเชษฐ์เพียงแค่บอกให้เขาแต่งตัวน่ารักๆสำหรับมื้อเย็นแต่ไม่ได้บอกจุดหมายปลายทางของพวกเขา หากเป็นวันปกติ มีนาอาจจะแต่งกายด้วยเสื้อยืดกางเกงขายาวเหมือนทุกครั้งที่ร่างสูงไม่ได้จำเพาะเจาะจงการแต่งกายของเขา แต่วันนี้เด็กหนุ่มเลือกที่จะใส่เสื้อแขนกุดมีฮู้ดสีเข้มกับกางเกงขาสั้นที่แม้จะไม่ได้สั้นกุดจนหนาวขาแต่ก็ไม่ยาวคลุมเข่าให้เขาสบายใจเหมือนตัวอื่น



แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เสื้อผ้าที่มีนารู้สึกสบายใจที่จะสวมใส่ที่สุด แต่แววตาพึงพอใจของธีรเชษฐ์ที่ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกหน้าแดงวาบนั้นคุ้มค่ากับความไม่สบายกายของเขาอย่างมาก


แทนคำตอบ คนขับเลี้ยวเข้าไปในร้านจอดรถของร้านอาหารอิตาเลี่ยนขนาดไปเล็กไม่ใหญ่ร้านหนึ่ง ตัวร้านตกแต่งด้วยสีขาวและต้นไม้เถาวัลย์ปลอมที่ช่วยให้ทุกอย่างไม่ดูสว่างจ้าจนเกินไปในแสงไฟสีส้มนวล แม้ว่านี่จะไม่ใช่ร้านอาหารริมทางราคาย่อมเยาว์ แต่มีนาก็ดูออกว่ามันไม่ใช่ภัตราคารหรูที่แต่ละจานสามารถซื้อข้าวในโรงอาหารมหาวิทยาลัยได้เป็นเดือนอย่างที่ธีรเชษฐ์ชอบพาเขาไป



ร้านนี้เป็นร้านอาหารบรรยากาศดีที่ราคาอยู่ในหลักร้อยต้นๆ ทำให้มีทั้งคนวัยทำงานและครอบครัวมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก



“คุณธีรเชษฐ์ สวัสดีครับ ทางร้านจัดโต๊ะเดิมไว้ให้....” บริกรหนุ่มชะงักเมื่อเห็นร่างเล็กที่เกาะอยู่ข้างกายชายหนุ่มในชุดสูทสีดำสนิท “หรือว่าจะคุณธีรเชษฐ์สนใจจะนั่งที่อื่น...”



“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก” ธีรเชษฐ์เอ่ยพร้อมรอยยิ้มตามมารยาท ทำให้มีนาที่ไม่เคยเห็นร่างสูงทำตัวแบบนี้กับพนักงานเงยหน้ามองชายหนุ่มอย่างประหลาดใจ บริกรหนุ่มเดินนำพวกเขาไปยังโซนที่ถูกจัดให้โต๊ะแต่ละตัวกระจายกันอยู่มากกว่าส่วนอื่นของร้าน และถูกกั้นจากส่วนอื่นด้วยกำแพงพุ่มไม้ปลอมสูงระดับเอว  แม้จะไม่ได้เป็นส่วนตัวมาก แต่ก็ไม่ได้อยู่ท่ามกลางผู้คนเช่นกัน



มีนานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับร่างสูง ธีรเชษฐ์ยื่นเมนูให้เด็กหนุ่มสั่งอาหาร กิจกรรมเล็กๆที่ร่างสูงเริ่มให้เขาทำบ่อยขึ้นเรื่อยๆก่อนหน้าที่เขาจะทำให้ธีรเชษฐ์โกรธในวันนั้น



มีนาหันไปสั่งอาหารกับบริกร แม้จะไม่ได้ลนลานเหมือนครั้งแรกๆ แต่สายตาของเด็กหนุ่มยังคงเหลือบมองธีรเชษฐ์เป็ฯระยะอย่างของความเห็นชอบ ซึ่งอีกฝ่ายเพียงแค่นั่งนิ่งไม่คิดจะเสนอความคิดเห็นอะไร



“คุณเชษฐ์มาร้านนี้บ่อยเหรอครับ” มีนาเอ่ยขึ้นหลังจากพับเมนูส่งกลับไปให้บริกร ธีรเชษฐ์ส่ายหน้า



“เปล่าหรอก แค่ปีละครั้งเท่านั้นแหละ”



“เอ๊ะ...ถ้าอย่างนั้นทำไม...” ทำไมบริกรคนนั้นถึงทักเหมือนกับชายหนุ่มเป็นลูกค้าประจำแบบนั้น



“ฉันมาที่นี่ทุกวันนี้ของปีหลังเกศเสีย” ธีรเชษฐ์ตอบ ยกแก้วไวน์ที่มีนามั่นใจว่าตนไม่ได้สั่งขึ้นจิบ “ฉันขอเขาแต่งงานที่นี่ ที่โต๊ะนี้”



มีนารู้ว่าเขาควรจะดีใจที่อีกฝ่ายยอมเผยตัวตนของตัวเองให้เขารู้ด้วยความสมัครใจ แต่เขากลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังก้าวล้ำพื้นที่ส่วนตัวของธีรเชษฐ์และภรรยาที่ล่วงลับ



เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อจากนั้น ทุกอย่างในหัวดูเป็นหัวข้อที่ไม่เหมาะสมจะพูดหลังประเด็นการสูญเสียคนรักนั้น มีนาก้มหน้างุดตามความเคยชิน หวังว่าอาหารที่สั่งจะมาเสิร์ฟโดยเร็วเพื่อช่วยให้เขามีอะไรเปลี่ยนประเด็น



ทว่าเมื่อจานอาหารถูกวางลงตรงหน้า มีนาพบว่าตัวเองยังคงไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร



“พื้นร้านอาหารมันมีอะไรน่าสนใจขนาดนั้นเลยรึไง?” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด



เขาเกลียดเวลาที่มีนาไม่ยอมมองหน้าเขา แม้จะรู้เหตุผลดีแต่เขาก็ยังเกลียดทุกครั้งที่เด็กหนุ่มมีท่าทีเหมือนอยากจะอยู่ที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีเขาอยู่ด้วย


“ขะ…ขอโทษครับ” มีนรีบเงยหน้าขึ้น แต่ก็ก้มลงไปอีกแทบจะในทันที ธีรเชษฐ์หลับตาข่มอารมณ์ที่คุกรุ่น ทานอาหารของตัวเองไปอย่างไม่สบอารมณ์่



“เอ่อ...คุณเชษฐ์ครับ..” มีนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ ไม่รู้ว่าทำไมความคิดบางอย่างถึงได้โผล่เข้ามาในหัวของเขาใน
ตอนนี้ แต่เขาคิดว่าในวันครบรอบวันที่ธีรเชษฐ์สูญเสียคนในครอบครัวไปอย่างวันนี้จะทำให้ชายหนุ่มต้องการคนในครอบครัวกลับมา



เจ้าของชื่อไม่ตอบ แต่วางส้อมกับมีดลงเป็นเชิงอนุญาตให้เด็กหนุ่มตรงหน้าพูดต่อ



“คือ…วันเสาร์หน้าจะมีงานออกซุ้มของคณะ...”



“ไม่อนุญาต” ชายหนุ่มตอบทันทีอย่างไม่ให้เสียเวลา



เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางยอมให้เขาไป แต่จุดประสงค์ของมีนาที่เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาไม่ได้อยู่ตรงนั้น



“ผมไม่ไปอยู่แล้วครับ เขาไม่ได้บังคับ” มีนตอบเสียงแผ่ว “แต่...คือ...”



“…”ชายหนุ่มกอดอกรอคำพูดที่หลุดออกมาจากปากอีกฝ่ายทีละคำอย่างอดทน



“งานวันเสาร์นี้ คุณธารก็จะไปช่วย...”



ธีรเชษฐ์ชะงักมือที่กำลังเอื้อมไปหยิบแก้วไวน์ของตน สีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดของอีกฝ่ายทำให้มีนาห่อไหล่ด้วยความหวาดกลัว



“เธอต้องการจะสื่ออะไร มีนา?”



“ผมแค่คิดว่า คุณธารน่าจะดีใจ....” เด็กหนุ่มก้มหน้างุด แต่ถูกมือใหญ่เชยคางมนขึ้นให้มองมาที่ตน ธีรเชษฐ์โน้มตัวเข้าไปใกล้ร่างบางจนใบหน้าของพวกเขาแทบไม่เหลือช่องว่างระหว่างกัน ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น



“ฉันเอ็นดูเธอมากนะมีน ถ้าเป็นคนของฉันคนอื่น เธอได้หายตัวไปตั้งแต่วันแรกที่ธารรับรู้การมีตัวตนอยู่ของเธอแล้ว”



“ครับ...ผมทราบ” มีนตอบเสียงสั่น



เขารู้ เขารู้ตัวดีว่าโชคดีแค่ไหนที่ตนอยู่นอกกฏเกณฑ์ที่ร่างสูงตั้งไว้ให้คู่นอนของตัวเอง



“อย่าเอาเรื่องที่เหนือการควบคุมของเธอมาคิดให้รกสมองเลย ยิ่งเธออยากจะซ่อมแก้วที่แตกมากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ที่ออกมาก็จะทำให้เธอผิดหวังมากขึ้นเท่านั้น” ธีรเชษฐ์ละมือจากใบหน้าของเด็กหนุ่ม “เรื่องของลูกชายฉัน ให้ฉันจัดการเอง”



“แต่คนเป็นลูก อยากจะตัดยังไงก็ตัดพ่อแท้ๆของตัวเองไม่ขาดหรอกนะครับ” มีนยังคงดึงดันแม้น้ำเสียงจะสั่นด้วยความหวาดกลัว



“เชื่อเถอะ คนอย่างธาร อยากทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้นนั่นแหละ”น้ำเสียงของธีรเชษฐ์ฟังดูภาคภูมิใจอย่างน่าประหลาด และนั่นทำให้มีนารู้ว่าความรักที่ชายหนุ่มมีต่อบุตรชายคนรองยังคงไม่จางหาย“เรื่องนั้นเขาได้ฉันมาเต็มๆ"


“แต่ว่า...”



“มีน ถ้าเธอยังไม่หยุด ฉันจะทำให้สมองเธอคิดอะไรไม่ออกนอกจากชื่อของฉัน..” ธีรเชษฐ์เอื้อมมือไปกุมมือเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะ ดวงตาสีควันบุหรี่ที่เจือไปด้วยแววข่นมัวก่อนหน้านี้ถูกแทนที่ด้วยประกายหยอกเย้า “...ที่นี่ ตรงนี้ ตอนนี้ เอามั้ย?”
เด็กหนุ่มส่ายหน้าพรืด หยิบขนมปังเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆอย่างว่าง่ายด้วยสีหน้าแดงก่ำ



“เด็กดี...” มีนาไม่คิดว่าเขาจะสามารถได้ยินคำนั้นได้โดยไม่รู้สึกถึงความปั่นป่วนในอกได้อีกตลอดชีวิต“คืนนี้ฉันจะให้รางวัล...”



มีนาก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารของตนอย่างขยันขันแข็ง ไม่อยากขุดหลุมฝังตัวเองให้ลึกลงไปกว่านี้



ธีรเชษฐ์ยกแก้วไวน์ของตัวเองขึ้นจิบด้วยสีหน้าขบขัน แต่แววตาของชายหนุ่มหม่นลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงคนที่จู่ๆก็โผล่ขึ้นมาในบทสนทนาหลังจากที่อีกฝ่ายเดินออกไปจากชีวิตเขามานานถึงสี่ปี



‘พ่อครับ...พ่ออยู่ที่ไหน พี่เมฆแย่แล้ว...’



ในวันที่นิโคไล อัลฟอนโซ่ เจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ของอิตาลีเรียกเขาไปพบ วันที่ธีรเชษฐ์รับรู้ความจริงว่าภรรยาของตนเป็นส่วนหนึ่งของโลกมืด หญิงสาวที่เป็นเหมือนเสาต้นใหญ่ในตระกูลที่รับใช้ตระกูลอัลฟอนโซ่หันหลังให้กับทุกสิ่งที่เธอรู้จักแต่งงานกับธีรเชษฐ์เพียงเพราะบิดาของเขาเป็นมาเฟียรัสเซียที่มีอำนาจมากพอให้คนที่คิดจะตามล่าเธอเคารพยำเกรง แน่นอนว่าธีรเชษฐ์ไม่เคยรู้เรื่องนี้ เขามักจะคิดเอาเองว่าคาซีเมียร์ เจเลซนอฟ พ่อของเขาเป็นเพียงชายแก่ที่ชอบสะสมปืนเป็นชีวิตจิตใจ วันที่ความจริงกระจ่าง ธีรเชษฐ์เลือกที่จะปิดกั้นตัวเองจากความเป็นจริงแล้วย้อมใจด้วยเหล้าดีกรีแรงในคอนโดของตัวเอง ไม่ได้ใส่ใจจะชาร์จโทรศัพท์ที่แบตหมดเกลี้ยงของตน



จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นที่เขาได้สติมากพอที่จะเอาตัวเองกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง ธีรเชษฐ์ค้นพบว่าลูกชายคนโตของตนประสบอุบัติเหตุรถคว่ำอาการสาหัสตั้งแต่กลางดึกของเมื่อคืน



เมื่อเขามาถึงโรงพยาบาล ภาพของธารธารา ลูกชายคนรองที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ข้างเตียงของลูกชายคนโตที่ยังคงหลับใหลทำให้ธีรเชษฐ์รู้สึกเหมือนตนกลับไปในวันที่เห็นร่างไร้ลมหายไร้ของเกศรานอนนิ่งอยู่บนเตียงโลหะอีกครั้ง



“ธาร…”



“พ่อหายไปไหนมา” เด็กหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงโกรธขึง ลุกขึ้นยืนคั่นระหว่างบิดาและพี่ชายคนโตของตน ดวงตาสีอัลมอนด์ถอดแบบมาจากมารดาแดงก่ำจากการร้องไห้มาเป็นเวลานาน “เวลาที่พวกผมต้องการที่สุด พ่อหายไปไหน”



เขารู้ว่าเขาบอกความจริงกับลูกชายไม่ได้



และต่อให้เขาทำได้ ธีรเชษฐ์ก็ไม่คิดที่จะเอาชีวิตของลูกชายเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องอันตรายแบบนี้




เขารู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำต่อจากนี้จะทำให้ธารธาราหายไปจากชีวิตของเขา แต่นั่นก็หมายความว่าเด็กหนุ่มจะปลอดภัยจากเกมอะไรก็ตามที่นิโคไลคิดจะใช้เขาเป็นหมากหลังจากนี้



เขาส่งทินกรไปอเมริกาก่อนหน้านี้ และหลังจากเมฆาหายดี ธีรเชษฐ์เชื่อว่าเขาจะสามารถเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายช่วยดูแลบริษัทสาขาของเขาที่ต่างประเทศได้สักพัก คนคนเดียวที่ยังคงอยู่ในรัศมีของอันตรายคือลูกชายคนรองของเขาที่เพิ่งสอบติดคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยไม่ไกลจากตัวเมือง



“เมื่อคืนปาร์ตี้หนักไปหน่อย สงสัยพ่อคงเมาหลับไปน่ะ” ธีรเชษฐ์ไหวไหล่ ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะหันไปตามแรงที่ส่งความเจ็บแปลบให้แล่นไปทั่วบริเวณที่กระทบกับฝ่ามือเรียว



“ออกไป” ธารธาราเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ แววตาของเด็กหนุ่มไร้ซึ่งหลักฐานว่าพวกเขาเคยแม้แต่รู้จักกันมาก่อน “แล้วอย่ากลับมาให้ผมเห็นหน้าอีก”



ธีรเชษฐ์ไม่เคยพูดว่าเขาเป็นคนดี แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่เคยมีอะไรที่ทำให้ร่างสูงรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเลวได้เท่ากับดวงตาเรียวที่มองตรงมาที่เขาด้วยความผิดหวังและโกรธเคืองในวันนั้น



เขาไม่หวังว่าจะได้รับการให้อภัยจากธารธาราในชีวิตนี้ สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงแอบส่งเงินให้กับวีรภัทรและคเชนทร์ เพื่อนสนิทที่เขารู้ว่าให้การช่วยเหลือลูกชายของเขา และหวังว่าธารธาราจะมีความสุขกับชีวิตที่ไม่มีเขาอยู่ในนั้น

 
-----------

มาแล้วววววว ฮว้ากกกกกกกกก :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนนี้ไรท์เปิดเรื่องใหม่สองเรื่องในเล้าเป็ดนะคะ

Soulmate from hell ด้วยรักจากนรก https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70320.0 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70320.0)

#newyou #สามสิบวันรับประกันคุณคนใหม่ https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70468.msg3979838#msg3979838 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70468.msg3979838#msg3979838)

ฝากนิยายน้องใหม่ทั้งสองด้วยนะคะ

หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 26 100% วันครบรอบ [08-06-62] คห.536 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-06-2019 17:44:54
แวบแรกนึกว่าตาฝาด 555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 26 100% วันครบรอบ [08-06-62] คห.536 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Hoya ที่ 08-06-2019 20:05:17
 :hao5: :hao5: ดีใจ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 26 100% วันครบรอบ [08-06-62] คห.536 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-06-2019 22:46:10
วันแห่งความระทมของทุกคนในครอบครัวจริง ๆ เลย  :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 26 100% วันครบรอบ [08-06-62] คห.536 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 09-06-2019 01:17:49
อึมครึมมาก
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 26 100% วันครบรอบ [08-06-62] คห.536 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 09-06-2019 02:50:09
มันหน่วงๆ   :katai1: :mew4:


หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 26 100% วันครบรอบ [08-06-62] คห.536 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 09-06-2019 03:05:58
คนแก่ใกล้วัยทองยังคงอารมณ์แปรปรวนเหมือนเดิม
ช่วยเอ็นดูน้องมีนจนจบตอนหน่อยเถอะจ้าา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 26 100% วันครบรอบ [08-06-62] คห.536 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-06-2019 09:02:46
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 26 100% วันครบรอบ [08-06-62] คห.536 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 09-06-2019 16:33:45
ครบรอบวันแห่งเศร้าของครอบครัวนี้เลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 26 100% วันครบรอบ [08-06-62] คห.536 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 09-06-2019 20:33:57
ฮือออ สงสารคุณเชษฐ์
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 26 100% วันครบรอบ [08-06-62] คห.536 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 10-06-2019 23:04:28
จะดราม่าอะไรเยี่ยงนี้คนเรามันจะมีแบบนี้จริงๆเหรอประเภทไม่พูดไม่จากันไม่บอกอะไรเลยปล่อยชีวิตดำเนินไปอยากจะเข้าใจแบบไหนอะไรก็ชั่งมัน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 26 100% วันครบรอบ [08-06-62] คห.536 P.18
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 16-06-2019 10:56:29
Chapter 27: วันครบรอบ (2)

ป้าแต้วเปิดประตูบ้านให้ภรัณยูโดยไม่แม้แต่จะซักถามสาเหตุที่เขามาในวันนี้ หญิงชราในชุดไว้ทุกข์สีดำสนิทดูมีอายุเพิ่มขึ้นหลายปีภายในเวลาไม่กี่วันที่ไม่ได้เจอกัน ร่างโปร่งก้าวขึ้นบันไดอย่างเงียบเชียบ ในบ้านที่ไม่มีแม้แต่เสียงโทรทัศน์เปิดทำให้เสียงฝีเท้าของเขาฟังดูดังกว่าความเป็นจริงเสมอ ขาของภรัณยูมาหยุดลงที่หน้าประตูห้องที่เขาคุ้นเคย ชายหนุ่มลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตู



“ซัน…”




ประตูห้องของทินกรถูกเปิดออก แต่คนที่อยู่หน้าประตูกลับไม่ใช่เด็กหนุ่มที่ภรัณยูต้องการจะเจอ




ร่างโปร่งที่ดูจะอายุไม่ห่างจากทินกรมากนักอยู่ในชุดสูทเข้ารูปสั่งตัดสีดำสนิท เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนตัดสั้นตามสมัยนิยม ดวงตาสีอัลมอนด์เรียวรีและริมฝีปากเรียวบางที่ขยับยิ้มมุมปากอยู่ตลอด ผิวขาวเนียนละเอียดตัดกับสีชุด ภรัณยูชะงักค้าง ไม่คาดคิดว่าตนจะเจอใครนอกจากทินกรในห้องของร่างสูง



“เอ่อ..คือ...ผม..”



“มาหาซันเหรอครับ?” ร่างโปร่งเอียงคอถามด้วยสีหน้าใคร่รู้ ใบหน้าสวยหวานราวกับไม่ใช่ผู้ชายนั้นมีแต่จะทำให้คนตรงหน้าดูใสซื่อบริสุทธิ์มากขึ้น



“...” ภรัณยูอึกอัก สมองสั่งให้เขาถามออกไปว่าคนตรงหน้าเป็นใคร และมีสิทธิอะไรมายืนอยู่ในห้องของคนรักของเขา แต่ปากของเขาทำได้เพียงอ้าปากและหุบโดยไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา



“ซันอยู่ในห้องน้ำครับ เดี๋ยวผมไปเรียกให้นะครับ” คนอายุน้อยกว่าเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นภรัณยูไม่ตอบคำถามเสียที



“พี่อุ่น คุยกับใครอยู่เหรอครับ?”



อุ่น...



ภรัณยูรู้สึกเหมือนหินที่ถ่วงอยู่ในอกถูกยกขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินชื่อของลูกชายคนรองของบ้านดังมาจากในห้อง เขายังไม่เคยเจอธารธารา แต่หากภรัณยูเดินสวนกับอีกฝ่ายตามท้องถนน เขาคงเดาไม่ออกว่าคนตรงหน้ามีความสัมพันธ์อย่างไรกับคนในบ้าน ในเมื่อร่างโปร่งไม่ได้มีเศษเสี้ยวของความเป็นลูกครึ่งรัสเซียอยู่อย่างพี่น้องของตัวเองเลย




“แฟนซันรึเปล่า? เขาไม่พูดอะไรกับพี่ พี่เลยไม่แน่ใจ” ธารธาราหันกลับไปตอบน้องชาย ผลลัพธ์ที่ได้คือร่างสูงใหญ่ของทินกรที่โผล่พรวดออกมาจากด้านหลังของพี่ชายราวกับตัวเองตัวเล็กเสียเต็มประดา




“พี่ภัทร? มาทำอะไรที่นี่ครับ?”



ธารธาราขยับถอยห่างจากคนทั้งคู่อย่างรู้งาน ภรัณยูรู้สึกขอบคุณอยู่ในใจ เพราะการคุยกับทินกรนั้นยากพออยู่แล้วโดยไม่มีพี่ชายคนใดก็ตามของเด็กหนุ่มมายืนคุมอยู่ข้างๆ




“พี่รู้ว่าซันขออยู่กับตัวเองซักพัก...” ภรัณยูกัดริมฝีปากอย่างประหม่า ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาสีควันบุหรี่ที่เขารู้ว่ากำลังมองตรงมาที่เขา “แต่พี่แค่ไม่อยากให้ซันอยู่คนเดียวในวันแบบนี้..พี่... พี่โง่เองแหละ ยังไงซันก็ต้องอยู่กับพี่ๆอยู่แล้วนี่นะ พี่ไปก่อนนะ...”




“เดี๋ยวก่อนสิครับพี่ภัทร” มือใหญ่คว้าข้อมือคนที่พ่นคำพูดออกมารัวๆผิดวิสัยไว้ก่อนที่ภรัณยูจะได้เดินหนีไป “ผมมีเรื่องอยากคุยกับพี่ภัทร”



อะไรก็ตามที่ขึ้นต้นด้วยประโยคนั้นไม่เคยจบด้วยเรื่องดีๆ หากความสัมพันธ์ก่อนหน้าของภรัณยูจะสอนอะไรสักอย่างกับเขา คงจะไม่พ้นเรื่องนี้



“…พี่ภัทรทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว” สายตาของทินกรหม่นลงเมื่อเห็นสีหน้าของคนรัก ซึ่งภรัณยูไม่มั่นใจว่าสีหน้าของเขาในตอนนี้เป็นอย่างไร “อยู่กับผมแล้วพี่ภัทรอึดอัดใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”



“ไม่ใช่นะซัน..”



“ผมไม่ใช่คนแบบผู้ชายคนนั้น” ทินกรตัดบทด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมไม่มีวันเป็นแบบผู้ชายคนนั้น ผมรักพี่ภัทร แล้วถ้ามันขึ้นอยู่กับผม ผมจะประกาศในอีเมลล์บริษัทให้ทุกคนรู้ว่าพี่ภัทรเป็นแฟนผม ผมจะบอกทุกคนที่ผมรู้จักว่าผมรักพี่ภัทรแค่ไหน แล้วผมก็จะไม่มีวันทิ้งพี่ภัทรไปแต่งงานกับผู้หญิงแค่เพราะหน้าตาในสังคม เพราะพ่อผมตั้งบรรทัดซานไว้ต่ำจนผมไม่ทำอะไรก็ดูเป็นคนดีกว่าอยู่แล้ว”



เออ...มันก็จริงอยู่หรอกนะ



“แต่ผมรู้ว่าถึงพูดอะไรไป ถ้าพี่ภัทรไม่เชื่อใจผม...คำพูดของผมก็พิสูจน์อะไรไม่ได้อยู่ดี” ทินกรว่า “ผมไม่อยากอยู่ในความสัมพันธ์ที่รอวันหมดอายุ ถ้าพี่ภัทรคิดว่าไม่ว่าผมจะพยายามแค่ไหนพี่ก็มองไม่เห็นอนาคตของพี่ที่มีผมอยู่ในนั้น พี่ภัทรก็ไปเถอะครับ”



เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกๆด้วยสีหน้าเจ็บปวด



“เพราะในทุกอนาคตของผม ผมเห็นพี่ภัทรอยู่ในนั้น”



“….” นี่เด็กคนนี้รู้ตัวบ้างมั้ยว่าตัวเองทำอะไรกับหัวใจเขาบ้าง



ทินกรยังคงยืนนิ่งรอคำตอบจากเขา ศีรษะหดเกร็งราวกับกำลังเตรียมรับแรงกระแทกที่มองไม่เห็น แม้ใจหนึ่งภรัณยูจะนึกอยากบอกให้อีกฝ่ายหนีไปให้ไกล ให้อีกฝ่ายหาคนที่ดีกว่าเขา คนที่คู่ควรกับความรักและความอดทนของทินกรมากกว่าเขามายืนเคียงข้าง




แทนคำตอบ ภรัณยูก้าวเข้ามาประชิดตัวร่างสูงในชุดสูทไว้ทุกข์สีดำ แขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคอของอีกฝ่ายแล้วรั้งให้คนตัวสูงกว่าโน้มลงมา ก่อนที่ริมฝีปากเรียวจะประทับลงบนริมฝากได้รูปของเด็กหนุ่ม มอบจุมพิตหวานล้ำที่ทำให้ทุกสิ่งนอกเหนือจากพวกเขาทั้งคู่กลายเป็นเพียงธาตุอากาศ



“พี่ขอโทษ ให้โอกาสพี่อีกครั้งนะ” ภรัณยูกระซิบเสียงพร่าหลังจากที่ทินกรยอมให้เขาผละออกมาแม้จะเพียงเล็กน้อย ร่างกายอ่อนยวบจนต้องใช้คนตัวใหญ่กว่าเป็นแหล่งพักพิงชั่วคราว



“จะอีกกี่ครั้งผมก็ให้ครับ” อ้อมแขนแกร่งกระชับกอดร่างของภรัณยูไว้ให้แน่นขึ้น ทินกรประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากของคนรัก เรียกรอยยิ้มจากคนอายุมากกว่าได้เป็นอย่างดี



….เพราะเขาก็เห็นทินกรอยู่ในทุกความเป็นไปได้ของอนาคตตัวเองเช่นกัน



“อะแฮ่ม”



เสียงกระแอมกระไอจากภายในห้องทำให้ภรัณยูรีบผละออกจากเด็กหนุ่มในทันที ทินกรมีสีหน้ารำคาญใจ หันไปหาพี่ชายของตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์



“พี่อุ่น ไม่มีห้องให้กลับเหรอครับ”



จากคำพูดของคนรักทำให้ภรัณยูเพิ่งสังเกตว่านอกจากเสียงของธารธารา ยังมีเสียงของพี่ชายคนโตของบ้านอยู่ในห้องด้วย



“พี่ไม่ออกอ่ะ ก็ซันเป็นคนขอให้พี่อยู่ด้วยเองนี่นา” ธารธาราเสริมพร้อมรอยยิ้ม



 “ตามสบายครับ ผมไปนอนห้องพ่อก็ได้ แบร่” ทินกรแลบลิ้นใส่พี่ชายคนรอง ท่าทางเด็กๆนั้นทำให้ภรัณยูอมยิ้มอย่างเอ็นดู เขาไม่ค่อยได้เห็นมุมเด็กๆของทินกรมากนักนอกจากเวลาที่เด็กหนุ่มอยู่กับพี่ชาย ต่อให้เป็นกับเขาการออดอ้อนของร่างสูงก็มักจะไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์เท่าไหร่นัก “พี่ภัทรรอนี่นะครับ เดี๋ยวผมไปเอากุญแจจากป้าแต้วก่อน”




“อ้าว...เอ่อ...”




คนที่จู่ๆก็ถูกทิ้งให้อยู่กับพี่ชายของคนรักตามลำพังยืนนิ่งอย่างทำอะไรไม่ถูก ธารธาราที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียงของน้องชายเอียงคอมองเขาพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งมาถึงตอนนี้ภรัณยูเริ่มจะคิดแล้วว่าอีกฝ่ายทำสีหน้าอื่นไม่เป็น




“ขอบคุณนะครับ ที่ช่วยดูแลซันแทนพวกผม” นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ภรัณยูคิดว่าอีกฝ่ายจะพูดกับเขา และนั่นทำให้เขารู้สึกผิดขึ้นมากับสิ่งที่กำลังจะพูดต่อจากนี้




รอยยิ้มของธารธาราหุบลงเล็กน้อยพร้อมกับแววตาฉงนเมื่อเห็นภรัณยูเอื้อมไปผลักบานประตูปิดแล้วกดล็อก



“ซันเขายังจำได้นะครับ...” ภรัณยูเอ่ยขึ้น ธารธาราขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดไป “ที่คุณพูดกับคุณเมฆาตอนเด็กๆว่าเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้คุณเกศราเสียชีวิต เขายังจำได้นะครับ”




เขารู้ว่ามันไม่ใช่กงการของเขาแต่ภรัณยูไม่อยากให้ทินกรต้องทนอยู่กับความทรงจำที่เจ็บปวดไปนานกว่านี้




“พี่ภัทร? พี่อุ่น?” เสียงเรียกของทินกรจากหน้าห้องเจือไปด้วยความสับสนเมื่อเห็นประตูห้องของตัวเองถูกล็อคไว้ ภรัณยูกำลังจะหันไปเปิดประตูให้เด็กหนุ่มเมื่อพี่ชายของทินกรพุ่งตัวตัดหน้าเขาไปยังประตู



“ทำอะไรกันอยู่เหรอครั...พี่อุ่น?” ทินกรกระพริบตาปริบๆอย่างประหลาดใจเมื่อถูกพี่ชายสวมกอดไว้แน่นพร้อมน้ำตานองหน้า ก่อนจะโอบกอดร่างโปร่งตอบอย่างเก้ๆกังๆ



“พี่รักซันนะ พี่กับพี่เมฆรักซันที่สุดในโลกเลยรู้มั้ย” ธารธาราเอ่ยเสียงปนสะอื้น ซุกหน้าเข้ากับไหล่ของน้องชาย ภรัณย
ทินกรหันมาหาเขาด้วยสีหน้าสับสน ภรัณยูยิ้ม กดจมูกลองบนแก้มของคนรักเบาๆก่อนเอ่ยลา




“วันนี้พี่กลับก่อนดีกว่า พรุ่งนี้พี่มารับนะ”




เขากับทินกรยังคงมีอีกหลายวันที่จะสร้างความทรงจำให้ย้อนกลับมามองในความสัมพันธ์ แต่วันนี้เป็นวันของธารธารา



ภรัณยูได้แต่หวังว่าหลังจากวันนี้ สายสัมพันธ์ของสองพี่น้องจะไม่มีความทรงจำนั้นเป็นหนามที่ยังคงทิ่มแทงใจของทินกรดั่งเช่นทุกวันที่ผ่านมา









“นี่ๆ กูซื้อมาฝาก กินเยอะๆเลย” แทนไทยวางถุงจากมินิมาร์ทข้างๆโต๊ะหินอ่อนที่พวกเขานั่งลงกลางโต๊ะ ภายในบรรจุด้วย
ขนมขบเคี้ยวจำนวนมาก มีนาพยักหน้าขอบคุณขณะที่แว่นแบมือตรงหน้าร่างสูง เด็กหนุ่มลูกครึ่งหยิบสแตมป์ส่งให้เพื่อนรักพร้อมเสียงหัวเราะ



"มึงนี่ ตกถังข้าวสารแล้วยังงกไม่เปลี่ยนเลยนะ"



"เขาเรียกรู้จักค่าของเงิน" เด็กหนุ่มตอบเสียงเรียบ



มีนายังคงง่วนอยู่กับการทำสไลด์พรีเซ้นต์รายงานกลุ่มที่เพื่อนในคณะทั้งสองใจดีพอจะให้เขาเข้ากลุ่มด้วยไม่ได้สนใจสภาพแวดล้อมรอบกายมากนักจนกระทั่งได้ยินเสียงแสตมป์สะสมแต้มถูกฉีกแบ่งเป็นครึ่งแผงแล้วถูกยื่นมาตรงหน้าของเขา



"..." มีนาเงยหน้าขึ้นมองของในมือเขา กระพริบตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจ


"ขอบใจที่ให้คูปองนะ" แม้น้ำเสียงของแว่นจะเรียบเฉย แต่มีนาพอจะเดาได้จากท่าทางว่าอีกฝ่ายอยากขอบคุณเขาเรื่องคูปองที่มีนาเคยให้ไปก่อนหน้านี้



"ไม่เป็นไรหรอก เราเต็มใจ" มีนารีบปฎิเสธ



"รับไปเถอะ ยังไงก็เพื่อนกัน” เด็กหนุ่มร่างเล็กยังคงดื้อดึง แต่สิ่งที่ทำให้มีนารู้สึกจุกอยู่ในอกคือคำว่าเพื่อนที่ถูกเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างง่ายดายราวกับเป็นเรื่องที่เขาควรรู้อยู่แล้ว



เพื่อน...



คำที่เขาไม่ได้ยินมานานแสนนานหากไม่ใช่จากทินกรและพายุ คำที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินจากคนในคณะหลังจากเรื่องของธารธาราและข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่วเกี่ยวกับตัวเขา



ข่าวลือที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้เต็มปากเต็มคำว่าไม่เป็นความจริง



และนั่นทำให้ขอบตาของมีนาร้อนผ่าว



"ขอบ...ขอบใจนะ" มีนารับแสตมป์มาด้วยมืออันสั่นเทา กว่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หยดน้ำใสๆที่ร่วงเผาะลงบนแผงแสตมป์ที่แว่นให้มาก็ทำให้คนทั้งวงแตกตื่น



"เฮ้ย! เชี่ยแว่น มึงแกล้งไรเพื่อนเนี่ย" แทนไทยรีบโอบเพื่อนร่วมกลุ่มไว้ มือใหญ่ถูต้นแขนขาวขึ้นลงเชิงปลอบโยน



"อ้าว ทำไมกูผิดล่ะ" แว่นโวยวาย



"ก็มึงทำมีนร้องอ่ะ โอ๋ๆ" แทนไทยกอดเด็กหนุ่มโยกไปโยกมาเหมือนเก้าอี้โยกตัวใหญ่




"เปล่า..เรา...เราแค่ดีใจที่มีเพื่อน.." มีนาพยายามควบคุมน้ำเสียงของตัวเองไม่ให้สั่นเครือ “ขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ"




เขารู้ว่ามันน่าสมเพช แต่เขาไม่สามารถควบคุมเสียงสะอื้นที่เล็ดลอดออกมาจากลำคอพร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาได้ ความเจ็บปวดที่สั่งสมมาตั้งแต่วันแรกที่เขาก้าวเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ได้เจอกับธีรเชษฐ์ ถูกปลดปล่อยออกมาจนมีนายังรู้สึกตกใจตัวเอง




"เฮ้ย คิดมาก เราก็เพื่อนกันหมดนั่นแหละ" แทนไทยขยี้ผมเขาอย่างเอ็นดู ส่วนแว่นก็พยักหน้าสมทบหงึกหงัก



"ทำอะไรกันอยู่เหรอ" มีนารู้สึกถึงขนอ่อนทั่วร่างที่ลุกชันเมื่อได้ยินเสียงเนิบนาบที่ดังขึ้นจากด้านหลัง ธารธาราที่เดินมาจากทางไหนก็ไม่รู้เอียงคอถามพร้อมกับรอยยิ้ม มีนารีบผละออกจากอ้อมกอดของแทนไทยแล้วยกมือไหว้ชายหนุ่มอย่างหวาด
กลัว



แค่อยู่เฉยๆโดยไม่มีคนรักของธารธาราเป็นตัวประกอบฉากยังถูกเกลียดขนาดนั้น เขาไม่อยากคิดเลยว่าในตอนนี้อีกฝ่ายจะโกรธเขาขนาดไหน



"สะ..สวัสดีครับ"



ธารธาราเพียงแต่เหลือบมอง ไม่คิดจะรับไหว้เด็กหนุ่ม ร่างโปร่งเดินไปนั่งที่อีกข้างของแทนไทย คล้องแขนและเอาคางเกยไหล่คนรักของตัวเองอย่างสนิทสนม



"กินขนมกันอยู่เหรอ?"



"ครับ พี่อุ่นกินมั้ย?" แทนไทยที่ไม่ได้รับรู้ถึงบรรยากาศมาคุหยิบซองขนมขึ้นมาฉีกให้



"ขอบใจนะ" คนสวยยิ้ม หยิบขนมชิ้นหนึ่งขึ้นมาแล้วนำไปจ่อที่ปากของเด็กหนุ่ม



"อ้าว พี่อุ่นไม่กินเหรอครับ?" แทนไทยถามงงๆ



"กิน แต่ให้แทนกินก่อน เดี๋ยวพี่กินแทนต่อ" คนหน้าเป็นยังคงยิ้มน่ารัก ขัดกับคำพูดสิบแปดบวกของตนเช่นเคย มีนาลอบถอนหายใจที่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจตนเท่าไหร่นัก "แล้วนี่ทำอะไรกันอยู่เหรอ?"



"รายงานครับ เรื่องการค้าประเวณีในนักศึกษามหาวิทยาลัย พรีเซ้นต์วันศุกร์" แทนไทยตอบ



"เหรอ.." ธารธาราพยักหน้า "มีนเป็นคนขึ้นพรีเซนต์เหรอ?"


เจ้าของชื่อสะดุ้งที่จู่ๆก็ถูกอีกฝ่ายพูดด้วย เด็กหนุ่มส่ายหน้าพรืดแทนคำตอบแล้วก้มหน้าพิมพ์งานต่อ ในใจเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัวทุกคำพูดของลูกชายคนรองของธีรเชษฐ์



"เงียบขนาดนี้จะพรีเซนต์ได้ยังไงครับ ผมต่างหากที่พรี" แทนไทยอธิบายพร้อมรอยยิ้ม ธารธาราเอียงคอมองมีนาที่ยังคงก้มหน้าก้มตาอยู่กับคีย์บอร์ดแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงใสซื่อ



"เหรอ... นึกว่าจะขึ้นไปเป็นกรณีศึกษา"



ความเงียบปกคลุมรอบวงสนทนา มีนาตัดสินใจที่จะไม่เงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์ด้วยกลัวว่าหากทำอะไรผิดไปเพียงเล็กน้อย อีกฝ่ายจะทำให้เขาเสียเพื่อนทั้งสองที่ตัวเองเพิ่งได้มาไปในวันเดียวกัน



แต่แทนไทยไม่คิดเช่นนั้น



"พี่อุ่นพูดว่าอะไรนะครับ?"


"พี่บอกว่า นึกว่าจะพรีเซนต์เรื่องกรณีศึกษา" ธารธาราว่าเสียงใสซื่อ "รู้มั้ยวิชานี้เขาเน้นการนำเสนอตัวอย่างมากเลยนะ ถ้า
เพิ่มเติมไปหน่อยพี่ว่าน่าจะช่วยดึงคะแนนได้ดีเลยล่ะ"



"อ๋อ.." เด็กหนุ่มลูกครึ่งพยักหน้าอย่างไม่ติดใจสงสัย ซึ่งมีนาก็เข้าใจดี หากไม่เคยเป็นฝ่ายรองรับอารมณ์ของธารธาราโดยตรง ก็ยากที่จะเชื่อว่านนางฟ้าของปีสี่คนนี้จะจงใจหาเรื่องเขา



"เรา...ไปห้องน้ำก่อนนะ"



มีนาลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างอึดอัด เขาไม่อยากอยู่ตรงนี้นานไปกว่านี้ อย่างน้อยที่สุดระยะห่างน่าจะทำให้จิตใจที่ปั่นป่วนของเขาสงบลงมากพอที่จะไม่เต้นตามเกมของธารธาราจนเกินไป



มีนาหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา เบอร์โทรในเครื่องของเขาเริ่มมีชื่อของคนอื่นอยู่ในรายชื่อติดต่อบ้างแล้วถึงแม้ว่าจะยังมีไม่ถึงสิบคน แต่ถึงอย่างไรรายชื่อเดียวที่ขึ้นเป็นรายการโทรด่วนของเขาก็ยังคงเป็นชื่อคนที่ซื้อโทรศัพท์เครื่องนี้มาให้เขา
มือไปไวกว่าความคิด กว่าจะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป มือเรียวก็กดโทรออกหาคนที่เขาควรจะโทรหาแค่ไหนยามฉุกเฉินเสียแล้ว



“มีน? เป็นอะไรรึเปล่า?” แน่นอนว่าผลลัพธ์คือเสียงทุ้มจากปลายสายที่ถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล



“ผม…ขอโทษครับ...” เสียงหวานยังคงแหบพร่าจากการร้องไห้ก่อนหน้านี้ “ผมแค่อยากได้ยินเสียงคุณเชษฐ์...”
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ธีรเชษฐ์จะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง



“ฉันติดงานอยู่ เสร็จแล้วจะรีบไปหา”



“มะ..ไม่เป็นไรครับ ผม...ผม...ไม่อยากรบกวน” มีนาละล่ำละลัก เช็ดน้ำตาที่ยังไม่แห้งดีของตัวเองราวกับกลัวว่าคนที่อยู่ปลายสายจะมองเห็น



“อีกไม่เกินสองชั่วโมง”



อีกฝ่ายพูดแค่นั้นก่อนจะตัดสายไป มีนาก้มมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง แม้ดวงตาจะยังแดงก่ำจากการร้องไห้ แต่ริมฝีปากรูปกระจับกลับมีรอยยิ้มแต่งแต้มจากความใส่ใจที่เขาไม่คิดว่าจะได้รับจากร่างสูง



มีนาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะหันหลังเดินกลับไปยังทางที่ตนจากมา ได้แต่หวังว่าธารธาราจะไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วตอนเขากลับไป









ธีรเชษฐ์กดตัดสายโทรศัพท์จากมีนา ก่อนจะเงยหน้ามองชายหนุ่มชาวอิตาลีที่นั่งเท้าคางมองเขาด้วยรอยยิ้มกริ่ม



“อา…ความรัก สวยงามเสมอนะครับ คุณว่าไหม?”



“เรื่องที่คุณให้ผมทำเรียบร้อยแล้ว พวกผมจะไปงานแฟชั่นโชว์นั่นตามที่คุณต้องการ” ธีรเชษฐ์เปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้คน
ตรงหน้าให้ความสนใจเรื่องของเขากับมีนาไปมากกว่าที่ควรจะเป็น “ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมคุณต้องการให้ผมพาหมอกไปด้วย เด็กคนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้”



เลขาของเขาเป็นจุดสนใจของนิโคไลตั้งแต่วันแรก ธีรเชษฐ์รักมธุวันไม่ต่างจากลูกในไส้ หากจะให้พูดกันตรงๆ เขาคิดว่าสายสัมพันธ์ของเขากับมธุวันนั้นหยั่งลึกเกินกว่าเขากับลูกชายทั้งสามเสียด้วยซ้ำ และความคิดที่ว่ามาเฟียหนุ่มตรงหน้าจะทำอะไรเลขาของเขาทำให้ธีรเชษฐ์รู้สึกถึงสัญชาตญาณของตนที่ต้องการจะปกป้องชายหนุ่มอายุน้อยกว่า



“ผมบอกแล้วไงครับ ว่าคุณไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องนั้น” นิโคไลยิ้ม แต่ดวงตาสีมรกตบ่งบอกว่าตนไม่ต้องการตอบคำถามอะไรไปมากกว่านี้



“ถ้าหมอกเป็นอะไร...”



“ผมให้สัญญากับคุณไว้ตรงนี้ คุณธีรเชษฐ์” นิโคไลเอ่ยขัด ความอบอุ่นจอมปลอมในน้ำเสียงของชายหนุ่มผมบลอนด์อันตรธานหายไปครู่หนึ่ง “ผมจะปกป้องมธุวันด้วยชีวิตของผม พอใจรึยังครับ”



“….”



ธีรเชษฐ์ทำได้เพียงพยักหน้า เขาไม่ใช่คนที่รู้สึกกลัวอะไรง่ายๆ แต่อะไรบางอย่างเกี่ยวกับคนตรงหน้าทำให้เขาเลือกที่ปิดปากเงียบแม้จะไม่อยากเชื่อคำสัญญาของคนที่มีธุรกิจผิดกฎหมายในมือมากมายนับไม่ถ้วนก็ตาม



ชายหนุ่มก้มลงมองโทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้




หากทุกอย่างกำลังจะมาถึงจุดจบ เขาก็อยากจะใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดในตอนนี้กับคนที่มอบชีวิตใหม่ให้กับเขา



“ผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีมีธุระสำคัญ”




------------------

ฮึบๆๆๆๆๆ :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 27 100% วันครบรอบ(2) [16-06-62] คห.546 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 16-06-2019 11:57:55
คือถ้าในเรื่องนี้นี่คือรำคาญอุ่นมากอ่ะ นิสัยไม่ดีอ่ะอุ่น สงสารน้องมีน ฮืออออออออ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 27 100% วันครบรอบ(2) [16-06-62] คห.546 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 16-06-2019 12:07:23
มีนก็ยังน่าสงสารอยู่เช่นเคย  :mew2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 27 100% วันครบรอบ(2) [16-06-62] คห.546 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 16-06-2019 12:59:23
เอาใจช่วยน้องมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 27 100% วันครบรอบ(2) [16-06-62] คห.546 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-06-2019 14:25:31
อยากรู้ความจริงแล้ว~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 27 100% วันครบรอบ(2) [16-06-62] คห.546 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 16-06-2019 22:18:43
น้องมีนของแม่ กอดปลอบบ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 27 100% วันครบรอบ(2) [16-06-62] คห.546 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-06-2019 22:51:28
อุ่น เรื่องนี้นิสัยหนูน่าจะโดนดักตบมาก ๆ เลยนะ  :beat:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 27 100% วันครบรอบ(2) [16-06-62] คห.546 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 17-06-2019 11:39:09
มีนไม่ได้ผิดอะไรเล้ยยยยยย  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 27 100% วันครบรอบ(2) [16-06-62] คห.546 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-06-2019 08:06:46
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 27 100% วันครบรอบ(2) [16-06-62] คห.546 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 18-06-2019 17:39:00
มีนน่าสงสารอ่ะ แต่ก็โทษธารมากไม่ได้ด้วย ธีรเชษฐ์ก็ทำตัวไม่ดีไว้ เฮ้อ เรื่องมันหน่วงมาก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 27 100% วันครบรอบ(2) [16-06-62] คห.546 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 20-06-2019 01:57:33
สงสารรร น้องมีนหรือดาวพระศุกร์เนี่ย รันทดเหลือเกิน
 :ling1: :ling3: :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 27 100% วันครบรอบ(2) [16-06-62] คห.546 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-06-2019 07:39:07
เอาใจช่วยมีน   :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 27 100% วันครบรอบ(2) [16-06-62] คห.546 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 24-06-2019 12:10:56
Chapter 28: คนใจดี


มีนาวักน้ำขึ้นทำความสะอาดใบหน้าและหวังว่ามันจะช่วยให้ดวงตาที่แดงก่ำดูสดชื่นขึ้นก่อนที่ธีรเชษฐ์จะมาถึง เขาส่งข้อความไปบอกร่างสูงว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายและขอกลับมาที่คอนโดด้วยตัวเองเพราะไม่อยากอยู่ที่มหาวิทยาลัยนานเกินความจำเป็น แต่เขาเพิ่งมาฉุกคิดได้ทีหลังว่าการทำแบบนั้นมีแต่จะทำให้ร่างสูงรู้สึกสงสัยมากขึ้น



มาคิดได้ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว



มีนาตบหน้าของตัวเองเบาๆให้กลับมามีสีเลือดฝาดเมื่อได้ยินเสียงประตูหน้าห้องเปิดออก แล้วก้าวออกไปเพื่อเผชิญหน้ากับเจ้าของห้อง...



…ที่ยัดตุ๊กตากระต่ายขนฟูสีชมพูขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ใส่ในมือเขาด้วยสีหน้าที่มีนาอ่านไม่ออก



“อะไรเหรอครับ”



“ลูกค้าที่บริษัทให้มา” ชายหนุ่มโกหกหน้าตาย มีนาก้มลงมองตุ๊กตาในอ้อมกอดด้วยสีหน้าไม่เชื่อ แต่เลือกที่จะไม่ถามแล้วกอดกระชับเจ้าเพื่อนสนิทตัวใหม่ให้แน่นขึ้นพร้อมกับซุกหน้าลงกับขนปุยนุ่มเพื่อซ่อนรอยยิ้มดีใจของตัวเองจากคนตรงหน้า



“วันนี้ฉันซื้อข้าวมาให้ ไม่ต้องทำข้าวเย็นนะ” มือใหญ่วางปุลงบนศีรษะกลมแล้วแช่ไว้อย่างนั้น



ทั้งที่ธีรเชษฐ์ไม่ได้ลูบศีรษะเขาด้วยซ้ำ แต่อุณภูมิที่ถ่ายทอดผ่านมือของอีกฝ่ายก็มากพอที่จะทำให้ขอบตาของมีนาร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง



“เจอเจ้าธารมาล่ะสิ” ร่างสูงเดา มีนาพยักหน้า ยังคงไม่กล้าส่งเสียงออกไปด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะรับรู้ถึงน้ำเสียงที่สั่นเครือ “ไปอาบน้ำอาบท่าซะไป เดี๋ยวฉันจัดจานให้”



“….” มีนาเงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างลืมตัว ก่อนจะรีบก้มหน้ากลับลงไปอย่างรวดเร็ว แม้จะรู้ว่าขอบตาแดงๆของตัวเองไม่มีทางรอดพ้นสายตาของอีกฝ่ายไปได้



น่าแปลกที่ธีรเชษฐ์เพียงแต่ตบศีรษะเขาเบาๆสองสามปุแล้วเดินเข้าไปในครัวพร้อมถุงกับข้าวในมือ ความปกติที่ไม่ปกตินี้ทำให้มีนาเริ่มเป็นฝ่ายเป็นกังวลขึ้นมาเสียเอง แต่เขาไม่อยากทำให้ธีรเชษฐ์อารมณ์เสียด้วยการขัดคำสั่ง เด็กหนุ่มจึงอุ้มเจ้ากระต่ายน้อยสีชมพูกลับเขาไปในห้องนอนแล้วผลุบหายไปในห้องน้ำอีกครั้ง







พวกเขาไม่ได้พูดคุยกันระหว่างมื้ออาหาร ทั้งห้องมีเพียงเสียงช้อนส้อมกระทบกับจานและเสียงลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ยังคงทำหน้าที่ของมันในการทำให้มีนาต้องหดขาขึ้นนั่งขัดสามธิเพื่อให้ความอบอุ่นท่อนขาเรียวที่โผล่พ้นขากางเกงตัวจิ๋วได้เป็นอย่างดี แต่เด็กหนุ่มกลับรู้สึกผ่อนคลายกับท่าทีของคนตรงหน้าอย่างที่ไม่ได้รู้สึกเป็นเวลานาน



“เย็นนี้มีงานอะไรต้องทำรึเปล่า?”



ธีรเชษฐ์ถามขึ้นทำลายความเงียบ มีนานิ่งคิดเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้า



“ไม่มีครับ”


“ดี ฉันซื้อดีวีดีมา ไปเลือกดูสิว่าอยากดูเรื่องไหน”



มีนาชะงัก เงยหน้ามองคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะอาหารด้วยสีหน้าประหลาดใจอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ธีรเชษฐ์รวบช้อนส้อมแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหยิบจานของตัวเองกับของมีนา ด้วยความตกใจ เด็กหนุ่มรีบลุกขึ้นคว้าจานอาหารที่ว่างเปล่าของตัวเองไว้



“คุณเชษฐ์...คุณเชษฐ์จะทำอะไรครับ?”



“ล้างจานไง ไม่รู้จักเหรอ?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม มีนาอยากจะตอบเหลือเกินว่าไม่ เขาไม่คิดว่าตัวเองรู้จักคำนั้นเมื่อมีธีรเชษฐ์อยู่ในรูปประโยค “ไปเลือกหนังไป เอาผ้าห่มออกมาจากห้องนอนด้วย”



แม้จะยังสับสนกับมิติใหม่ของชายหนุ่มตรงหน้า แต่มีนาก็พยักหน้าอย่างว่าง่ายแล้วเดินไปยังถุงสกรีนลายร้านขายดีวีดีกถุงใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโทรทัศน์จอแบนขนาดยักษ์ที่ต่อกับเครื่องโฮมเธียร์เตอร์รอบทิศ เด็กหนุ่มเปิดถุงออกแล้วหยิบดีวีดีนับสิบแผ่นออกมา พบว่าทั้งหมดในนั้นเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นสีสันสดใสแบบที่มีนาเลือกดูในวันที่ธีรเชษฐ์พาเขาไปดูหนังเป็นครั้งแรก บางเรื่องดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เพิ่งออกมาจากลายเส้นที่ดูใหม่กว่า และบางเรื่องที่เขาเคยได้ยินชื่อมาตั้งแต่สมัยเด็กๆแต่ไม่เคยมีโอกาสได้ดูจริงๆ ไม่มีเรื่องใดที่ดูจะเป็นเรื่องที่ธีรเชษฐ์อยากจะดูด้วยตัวเองสักเรื่อง



มีนาไม่รู้ว่ารอยยิ้มของตัวเองนั้นโผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่รู้ตัวอีกที แก้มของเขาก็เริ่มจะเจ็บจากรอยยิ้มที่ฉีกจนเกือบจะถึงรูหูแล้ว



ร่างเล็กขนเอาผ้าห่มผืนหนาและตุ๊กตากระต่ายของตนออกมาถึงโซฟาพอดีกับที่ธีรเชษฐ์ก้าวออกมาจากห้องครัว มีนาวางข้าวของลงบนโซฟาแล้วหันไปหยิบแผ่นดีวีดีใส่เครื่องเล่น



มีนาหันกลับมาพบธีรเชษฐ์ผลุบนั่งลงบนโซฟาพร้อมคลี่ผ้าห่มรอ กระต่ายสีชมพูวางอยู่บนตักของร่างสูง มีนาเดินกลับมานั่งข้างๆอีกฝ่าย ก้มหน้างุดเพื่อซ่อนรอยยิ้มกว้างของตัวเองเมื่อธีรเชษฐ์ห่มผ้าห่มผืนหนานั้นให้ตนพร้อมกับวางเจ้ากระต่ายน้อย
บนตักเล็ก



มีนากอดตุ๊กตาขนปุยไว้แน่น ดวงตากลมโตจดจ่ออยู่กับภาพการ์ตูนสีสันสดใส เขาสังเกตว่าธีรเชษฐ์ไม่ได้หรี่ไฟในห้องลงเพื่อให้จอโทรทัศน์ดูสว่างขึ้น ราวกับว่าอีกฝ่ายจำเรื่องสิ่งที่เขาไม่ชอบในโรงภาพยนตร์ได้



มีนาไม่ชอบความมืด ตั้งแต่เล็กความมืดเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับเด็กชายตัวเล็กที่อาศัยอยู่ในเพิงไม้ผุพังในที่ดินรกร้าง สิ่งที่มองไม่เห็นทำให้จินตนาการของเขาโลดแล่นขึ้นมาโดยไม่ถามความสมัครใจ เสียงลมพายุที่ตีกระทบสังกะสีเก่าๆที่เขาใช้มุงบ้านในวันพายุฝนฟ้าคะนองก็เป็นอีกสิ่งที่มีนาไม่ถูกจริตด้วยอย่างสิ้นเชิง



นอกจากจะไม่ได้หรี่ไฟแล้ว ร่างสูงยังไม่ได้บังคับให้เขาขยับเข้าใกล้ไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือภาษากาย ซึ่งแม้มีนาจะคิดว่าเขาควรรู้สึกขอบคุณกับระยะห่างเล็กๆนั้น แต่เด็กหนุ่มกลับพบว่าสิ่งที่เขากำลังรู้สึกกลับกลายเป็นความผิดหวังเสียอย่างนั้น
เพราะหากธีรเชษฐ์ไม่บังคับ ถึงแม้มีนาจะอยากเอนซบแผงอกแกร่งแล้วถูไถใบหน้ากับผ้าเนื้อดีราวกับลูกแมวเหมียวเพียงใด เขาก็ไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นด้วยตัวเอง



แต่เมื่อนึกย้อนไปถึงสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้เขาทั้งหมดในวันนี้ มีนาก็นึกอยากจะลองทำอะไรตามใจตัวเองขึ้นมาสักครั้ง



“…?”



ธีรเชษฐ์ชะงักเมื่อรู้สึกถึงร่างเล็กๆที่เขาอุตส่าห์เว้นระยะห่างให้อีกฝ่ายไม่อึดอัดเป็นฝ่ายขยับเข้ามาใกล้ เอนศีรษะพิงแขนของเขาเบาๆอย่างลองเชิงราวกับกลัวจะถูกสะบัดออก มีนาไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองเขา แต่ใบหูที่แดงก่ำของเด็กหนุ่มบ่งบอกว่าร่างเล็กรวบรวมความกล้ามากแค่ไหนกับการกระทำง่ายๆนั้น



ร่างสูงกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะดึงให้คนข้างๆขยับเข้ามาชิดจนนั่งเกยอยู่บนตักตัวเอง ประทับริมฝีปากลงบนขมับและหลังใบหูของเด็กหนุ่มอย่างอดไม่ไหว ธีรเชษฐ์หัวเราะเสียงทุ้มต่ำในลำคอเมื่อเห็นคนตัวเล็กกว่าขนลุกซู่ ริมฝีปากรูปกระจับเม้มแน่นสะกดกลั้นเสียงน่าอายในลำคอ



“นั่งดูดีๆ มีนา ถ้าเธอยุกยิกมากๆระวังจะได้ทำอย่างอื่นแทนนะ”



ท่อนแขนแข็งแรงโอบรอบร่างเล็กที่ถูกห่ออยู่ในผ้าห่มผืนยักษ์ไว้แน่น แล้วปล่อยให้เด็กหนุ่มดื่มด่ำกับภาพยนตร์ตรงหน้าโดยไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น



เขาู้สึกถึงร่างที่แข็งเกร็งก่อนหน้านี้ค่อยๆผ่อนคลายลงเมื่อเวลาผ่านไป เรื่องราวในจอโทรทัศน์ดำเนินมาถึงครึ่งเรื่องเมื่อมีนาทิ้งน้ำหนักทั้งตัวเอนพิงร่างของเขาราวกับเป็นโซฟาส่วนตัวของตัวเอง



ซึ่งธีรเชษฐ์พบว่าเขาค่อนข้างชอบความรู้สึกนี้มากทีเดียว




“ขอบคุณนะครับคุณเชษฐ์...”



เจ้าของชื่อก้มลงมองคนพูดอย่างประหลาดใจ แต่เด็กหนุ่มบนตักของเขาหลับปุ๋ยไปเรียบร้อยหลังจากพึมพำคำขอบคุณนั้นออกมา แขนเรียวกอดตุ๊กตากระต่ายที่เขาซื้อให้ไว้แน่น ร่างสูงยิ้มขำ นึกขอบคุณคำแนะนำของจอมทัพ ญาติฝ่ายมารดาที่มีศักดิ์เป็นหลานชายและผู้บริหารในบริษัทของเขาที่มักจะเดินไปไหนมาไหนพร้อมกับดอกไม้ ตุ๊กตา ขนมหวาน ตั้งแต่สมัยที่มาขายขนมจีบให้เลขาของเขาไปจนถึงตอนนี้ที่เจ้าตัวกำลังตามเทียวไล้เทียวขื่อเลขาของตัวเองแทนที่เป็นเหมือนตำราเดินได้ในการทำให้คนที่กำลังทุกข์ใจยิ้มออก



ธีรเชษฐ์เล็กน้อยเพื่อให้ร่างเล็กบนตัวเขาสามารถนอนหลับได้สบายที่สุด แม้จะรู้ดีว่าพรุ่งนี้เช้า ตัวเขาเองนี่แหละที่จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับกล้ามเนื้อที่ปวดระบม แต่เมื่อเห็นใบหน้าสงบสุขของคนที่หลับสนิท เขาก็ไม่มีกะจิตกะใจจะขยับตัวไปไหนเท่าไหร่นัก








มีนาลืมตาตื่นขึ้นมาบนที่นอนแข็งๆที่หลังจากย้ายเข้ามาอยู่กับธีรเชษฐ์เขาไม่เคยได้สัมผัส แต่ความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากสิ่งที่อยู่ใต้ร่างของเขาตัดกับความเย็นของเครื่องปรับอากาศทำให้มีนาขยับซุกเข้าหามันอย่างมีความสุข



…ก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นอย่างตกใจเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ร้อนกว่าส่วนอื่นนาบกับสะโพกมนอย่างเรียกร้องความสนใจ



“ขะ..ขอโทษครับ” เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากด้วยสีหน้าสำนึกผิด ธีรเชษฐ์ชันตัวขึ้นนั่งตัวตรงแล้วหันไปมองนาฬิกาซึ่งบอกเวลาเจ็ดโมงเช้า



“ตื่นมาทำไมเช้าขนาดนี้ วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ?”



“ผม…ผมจะทำอาหารเช้าน่ะครับ คุณเชษฐ์ไปนอนในห้องนอนต่อดีกว่านะครับ”



“ไม่ล่ะ ฉันตื่นแล้ว” ธีรเชษฐ์ขยับหมุนหัวไหล่ของตัวเองอย่างเมื่อยขบ ด้วยตาสีควันบุหรี่เหลือบมองร่างเล็กที่แม้จะตกใจแค่ไหนก็ยังคงไม่ปล่อยตุ๊กตากระต่ายที่กอดไว้แน่นอย่างพึงพอใจ “ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ?”



มีนาซุกหน้ากับตุ๊กตาในอ้อมแขน พยักหน้ารับด้วยสีหน้าเอียงอาย



“ผม…ไม่เคยมีของพวกนี้”



โตมาในบ้านที่ปัจจัยสี่เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน มีนาไม่เคยมีของเล่นเป็นของตัวเองไม่ว่าจะราคาถูกแค่ไหน เงินทุกบาททุกสตางค์ที่พวกเขาได้มาไม่เคยเหลือถึงขั้นเป็นเงินเก็บ มีนาไม่เคยแม้แต่จะหยุดยืนมองตุ๊กตาที่วางโชว์ตามร้านค้าในวัยเด็ก เพราะรู้ดีว่าพวกตนไม่มีทางมีเงินมากพอสำหรับของฟุ่มเฟือยพวกนั้น



เด็กหนุ่มไม่ได้รู้เลยว่าคำสารภาพนั้นทำให้คนฟังนึกอยากจะเหมาร้านขายตุ๊กตามาถมห้องเพียงเพื่อจะได้เห็นสีหน้าแบบนั้นของคนตรงหน้าอีกครั้ง



“เมื่อวานมีพัสดุมาส่งให้เธอ ฉันลืมบอก อยู่บนเคาท์เตอร์ในครัว” ธีรเชษฐ์เปลี่ยนเรื่องพร้อมเบือนหน้าหนี ไม่อยากให้ร่างเล็กรู้ว่ารอยยิ้มของตัวเองมีอิทธิพลต่อเขามากแค่ไหน มีนาเอียงคออย่างประหลาดใจแล้วเดินเข้าไปในครัว ในมือยังคงไม่ปล่อยกระต่ายน้อยไปไหนโดยง่าย ธีรเชษฐ์ลุกตามไปอย่างสงสัยเช่นกัน เด็กหนุ่มไม่ใช่คนที่จะสั่งซื้ออะไรโดยไม่บอกเขา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเด็กหนุ่มยังคงไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเงินของเขาหลังจากถูกธีรเชษฐ์ยึดกระเป๋าเงินครั้งก่อน และอีกส่วนเป็นเพราะมีนาเป็นคนแบบนั้น ร่างเล็กไม่เคยใช้จ่ายอะไรโดยไม่บอกเขาแม้ว่าเขาจะบอกหลายครั้งหลายคราว่าเขาไม่ได้สนใจ



“อ๋อ ชุดงานเทศกาลน่ะครับ เขาบังคับซื้อต่อให้ไม่ได้ไป ผมเลยต้องซื้อมา” มีนาถอนหายใจ วางตุ๊กตาของตนเอนพิงเอาท์เตอร์ครัว หยิบกรรไกรมากรีดเทปใสที่ปิดกล่องกระดาษไว้อย่างแน่นหนา



“ชุดอะไร?” ธีรเชษฐ์ก้าวมายืนซ้อนอยู่ด้านหลังระหว่างรอร่างเล็กแปะพัสดุ มีนาชะงัก แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำถามของร่างสูงแล้วแกะต่อไป “มีน ชุดอะไร?”



“คือ….”



ชายหนุ่มตัดปัญหาด้วยการเอื้อมไปหยิบกล่องกระดาษขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มาจากมีนาแล้วเปิดมันออกด้วยตัวเอง



ผ้าเงาวาวสีสันสดใสซึ่งถูกห่อในซองพลาสติดใสภายในกล่องทำให้ร่างสูงชะงัก ธีรเชษฐ์ดึงเอาซองภายในออกมาแล้วฉีกมันออกอย่างไม่รีรอ ชุดเดรสสีแดง ขาว น้ำเงิน และเหลืองพร้อมกระโปรงฟูฟ่องที่เขาคุ้นเคยจากเทพนิยายที่เด็กทั่วโลกรู้จักดี



“สโนวไวท์? นี่มันงานอะไรเนี่ย?”



“คาเฟ่เทพนิยายน่ะครับ” มีนาตอบ สีหน้าที่เด็กหนุ่มมองชุดในมือของเขาทำให้ร่างสูงหลุดขำออกมา ธีรเชษฐ์ควานเจอที่คาดผมและถุงน่องยาวสีขาวในกล่องที่ทำให้เขารู้สึกอยากส่งดอกไม้ช่อโตไปให้ใครก็ตามที่เสนอไอเดียนี้ขึ้นมา “ผมเอาไปทิ้งดีกว่าครับ จะได้ไม่รกห้อง”



“ไม่เอาน่า ไหนๆก็ซื้อมาแล้ว” ธีรเชษฐ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่งสอนราวกับคนตรงหน้าไม่รู้ค่าของเงิน “ถ้าไม่ใส่ซักครั้งก็เสียดายเงินแย่”



“…” แม้จะไม่อยากทำ แต่มีนารู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะปฎิเสธ



“คิดอีกที ไม่เอาดีกว่า” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นอย่างประหลาดใจกับการเปลี่ยนใจกระทันหันของร่างสูง  ธีรเชษฐ์ฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ สายตาที่มองตรงมาที่ร่างเล็กเต็มไปด้วยความต้องการอย่างไม่ปิดบัง “เอาไว้อีกซักสองอาทิตย์ค่อยว่ากัน”



“ทำไมต้องอีกสองอาทิตย์เหรอครั....” เสียงของมีนาถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อเด็กหนุ่มตระหนักได้ว่าวันนี้เป็นวันแรกใน
เดือนเกิดของตัวเอง ซึ่งนั่นทำให้ในอีกสองสัปดาห์ เขาจะมีอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์...



…และทำให้คำสัญญาที่จะไม่แตะต้องเขาของธีรเชษฐ์หมดไป พร้อมกับทางเลือกที่เขาต้องเลือกสองทางที่แม้ก่อนหน้านี้มีนาจะมั่นใจว่าตนไม่มีทางเลือกที่จะขายร่างกายของตัวเองหากมีทางเลือก แต่เขารู้ดีว่าสิ่งที่ธีรเชษฐ์ต้องการจากเขาจริงๆไม่
เคยเป็นเงิน



“คิดมากอีกแล้ว เป็นเด็กเป็นเล็กเลิกขมวดคิ้วได้แล้วรู้มั้ย” นิ้วชี้ของธีรเชษฐ์จิ้มบนหว่างคิ้วของเด็กหนุ่มแล้วคลึงเบาๆ ความอ่อนโยนที่มีนาได้รับอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานเริ่มจะทำให้สมองของร่างเล็กไม่ยอมสั่งการขึ้นมา



ครืดดด



เสียงข้อความเข้าในโทรศัพท์ของธีรเชษฐ์ทำให้ร่างสูงละมือจากเด็กหนุ่มไปหยิบอุปกรณ์สื่อสารของตัวเองออกมาจากกระเป๋ากางเกง ดวงตาสีควันบุหรี่ฉายแววประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนที่มีนาไม่เคยเห็นมาก่อน
แม้จะอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้ร่างสูงแสดงท่าทีแบบนั้นออกมา แต่มีนาไม่กล้าเอ่ยถาม ร่างเล็กนิ่วหน้ากับความรู้สึกเจ็บแปลบในอกที่เขาเกลียดแสนเกลียด



“หึ…เหมือนแม่เข้าไปทุกวัน” ธีรเชษฐ์พึมพำพร้อมรอยยิ้มแล้วหันหน้าจอมาให้มีนาดูบ้าง ภาพที่แสดงอยู่บนหน้าจอมือถือของชายหนุ่มนั้นเป็นรูปของทินกรซึ่งเปลือยท่อนบนตามคอนเซปท์ร้านเครปหนุ่มบริหารที่เขาเคยได้ยินเพื่อนทั้งสองคุยกัน เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาไม่แพ้บิดากำลังกอดเอวของเด็กสาวในชุดคอสตูมอลิซจากเรื่องอลิซในดินแดนมหัศจรรย์พร้อมรอยยิ้มกว้าง ซึ่งนั่นทำให้มีนารู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเด็กหนุ่มร่างสูงนั้นแทบจะเรียกได้ว่าหลงแฟนหนุ่มอายุ
มากกว่าของตัวเองจนโงหัวไม่ขึ้น



แต่เมื่อสังเกตดูใกล้ๆ มีนาก็ค้นพบว่าคนที่ทินกรอิงแอบแนบชิดอยู่นั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นพี่ชายคนรองของทินกรที่จงเกลียดจงชังบิดาของตัวเองเข้าไส้ และเผื่อแผ่อานิสงค์นั้นมาถึงมีนาด้วย



“คุณธาร...สวยเหมือนผู้หญิงมากจริงๆนะครับ”



มีนาไม่เคยเกลียดใคร แต่นั่นเป็นคำชมเดียวที่เขาสามารถเค้นออกมาจากปากได้โดยไม่ฝืนความรู้สึกตัวเอง



“เหมือนแม่เขานั่นแหละ” ธีรเชษฐ์ยิ้ม แววตาที่มองรูปของลูกชายคนรองนั้นมีความเศร้าหมองเจือปนอยู่อย่างปิดไม่มิด
“สมัยก่อนเขาถูกยายจับแต่งเป็นผู้หญิงอยู่ตลอดเพราะซินแสทักว่าจะช่วยให้เกศราหาย ฉันเคยพยายามพูดให้ยายแก่นั่นเลิกวุ่นวายกับเขา แต่เกศขออย่าให้ฉันเขาไปยุ่ง”



ในตอนนั้นธีรเชษฐ์เข้าใจว่าภรรยาไม่ต้องการให้มารดาขาดที่พึ่งทางจิตใจ แต่เมื่อย้อนมองกลับไป เขารู้สึกว่านั่นคือบทเรียนราคาแพงที่เกศราจงใจให้ลูกชายคนรองได้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อตัวเองในวันที่ไม่มีเธอ



ซึ่งนั่นทำให้ธารธาราเติบโตขึ้นมาเป็นบุคคลที่น่ากลัวที่สุดภายใต้ใบหน้าสวยหวานและการวางตัวที่ไม่ต่างจากเด็กสาวซึ่งถูกอบรมมาในตระกูลชั้นสูงคนหนึ่ง



“คุณเชษฐ์ครับ...”



“ฉันรู้ว่าเธอจะพูดอะไร” ธีรเชษฐ์หยุดคำพูดของมีนาไว้ตรงนั้น “แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของฉันกับเขา เข้าใจมั้ยมีนา”



“ครับ” มีนาพยักหน้ารับคำเสียงอ่อย



ธีรเชษฐ์วางมือลงบนศีรษะกลมอีกครั้งแล้วตบเบาๆก่อนจะเดินผ่านเด็กหนุ่มไปที่ห้องนอน มีนาอมยิ้มแล้วยกมือขึ้นแตะบริเวณที่มือใหญ่เคยวางอยู่ ก่อนจะก้มลงหยิบกระทะออกมาตั้งไฟเตรียมทำอาหารเช้า



------------

มือใหม่หัดมุ้งมิ้งก็จะเป็นแบบคุณเชษฐ์นี่แล55555
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 24-06-2019 12:28:08
ฮืออออ ตอนนี้น่ารักมาก
คุณเชษฐ์ใจดีขึ้นมากจริงๆ ดีใจกะน้องมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 24-06-2019 13:30:04
อยากเหมาตุ๊กตาให้มีนา  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 24-06-2019 14:40:53
คนแก่หัดหวานน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 24-06-2019 16:47:20
แดดดี้ มีมุมน่ารักด้วย :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 24-06-2019 20:16:39
มือใหม่หัดมุ้งมิ้งว่างั้นเถอะ 5555555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า ที่ 24-06-2019 23:38:15
โง้ยยยยยยยยย คุณเชษมุ้งมิ้ง วาปไปวันเกิดน้องเลยได้ไหมคะ555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-06-2019 00:23:08
พฤติกรรมแบบนี้ ทำให้ตลอดนะ คุณท่าน  o18
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 25-06-2019 00:36:11
มามามารออ่านนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-06-2019 05:45:39
คุณเชษฐ์เริ่มเข้าใจมีนา แค่นี้มีนาก็สุขแล้ว   :impress2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 25-06-2019 07:24:57
คุณเชษฐ์มีมุมใจดีด้วย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-06-2019 17:50:39
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 26-06-2019 01:40:51
ตอนคุณเชษฐ์น่ารักที่สุดแหละ 555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 26-06-2019 08:17:26
 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 26-06-2019 18:16:09
คิดถึงน้องมีนที่สุดดด
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 28 100% คนใจดี [24-06-62] คห.559 P.19
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 28-06-2019 17:10:55

Chapter 29: กลิ้งตกที่นอน




“ซัน ตั้งใจเรียนหน่อยสิ ไม่งั้นพี่จะหาคนอื่นมาสอนแทนแล้วนะ”



ภรัณยูดุลูกศิษย์ตัวใหญ่ที่นับวันชักจะได้ความรู้จากบทเรียนน้อยลงไปทุกที ทินกรยิ้มเผล่ แต่ยังคงไม่ยอมดึงมือที่สอดเข้า
มาใต้เสื้อของร่างโปร่งออกไป



“ก็ผมคิดถึงพี่ภัทรนี่ครับ”



“พอเลย อ่านย่อหน้านี้ให้พี่ฟังซิ” ภรัณยูกลอกตากับคำพูดของคนรัก ทินกรเกยคางกับไหล่ของเขาแล้วอ่านบทความที่ภรัณยูชี้ให้ชายหนุ่มฟังอย่างตั้งใจ แม้ว่ามือที่วางอยู่บนหน้าท้องของเขาจะเริ่มไต่สูงขึ้นมาเรื่อยๆราวกับคิดว่าร่างโปร่งจะไม่สังเกตเห็น




“...และนอกจากนี้ยังทำให้....โอ๊ย เจ็บๆๆๆๆ”




เด็กหนุ่มร้องลั่นเมื่อโดนหยิกหลังมือเข้าให้เต็มแรงหลังภรัณยูรู้สึกว่ามือปลาหมึกนั้นเริ่มเคลื่อนตัวสูงเกินกว่าเขาจะให้อภัย ร่างโปร่งส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่ายใจกับคนรักที่เริ่มจะดื้อขึ้นทุกวันแล้วลุกขึ้นจากเตียง



“ถ้าบนเตียงเรียนไม่ได้ก็ลงไปเรียนข้างล่าง พี่บอกแล้วไงว่าเรียนคือเรียน เล่นคือเล่น”



“โธ่ พี่ภัทรครับ...” ทินกรทำตาละห้อยใส่เขา ซึ่งคนขี้ใจอ่อนก็ยินยอมพร้อมจะให้อภัยอยู่แล้วหากไม่มีประโยคถัดมา “พี่ภัทรคิดจริงๆเหรอครับว่าอยู่ข้างล่างแล้วพี่ภัทรจะปลอดภัย”
ไอ้เด็กบ้านี่ พอใจดีด้วยแล้วเอาใหญ่เลยนะ




“เก็บของ”



“ครับ?” รอยยิ้มกว้างผู้ชนะค้างกึกอย่างไม่เข้าใจ



“เก็บของ” ภรัณยูเอ่ยย้ำ เก็บชีทเรียนและหนังสือบทเตียงใส่กระเป๋าเป้ใบโตของตัวเอง “วันนี้เราจะไปเรียนนอกสถานที่กัน”









“พี่ภัทรใจร้าย” ทินกรทำหน้ามุ่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนเด็กโดนขัดใจ ก่อนจะหันไปยิ้มและรับไหว้ให้พนักงานของบริษัทที่ผ่านไปมา



“ก็ทำตัวเองนี่” ภรัณยูเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “ตั้งใจเรียนได้แล้ว”



พวกเขาอยู่ในห้องกระจกซึ่งเป็นห้องรับรองแขกห้องหนึ่งในชั้นบนสุดของบริษัทซึ่งอยู่หน้าห้องทำงานของพี่ชายคนโตและบิดาของเด็กหนุ่ม ยังไม่รวมถึงจอมทัพที่เป็นญาติผู้พี่ คุณขวัญข้าวเลขาของคุณจอมทัพและคุณมธุวันที่นอกจากการเหลือบมองพวกเขาตอนที่เดินออกมาจากลิฟท์แล้วไม่คิดจะสนใจพวกเขาอีกเลย



“พี่ภัทรรู้มั้ยครับว่าผู้ชายบ้านผมมีอะไรที่เหมือนกัน?”



ภรัณยูเงยหน้าจากหนังสืออย่างงุนงงกับคำถามที่จู่ๆก็ถูกโพล่งออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยก่อนจะส่ายหน้า ทินกรยิ้ม ดวงตาสีควันบุหรี่วาววับอย่างสนุกสนาน



“พวกผมชอบความท้าทาย ยิ่งใครบอกว่าทำไม่ได้ พวกผมก็ยิ่งอยากทำ”



“ซัน…”




“พี่ภัทรคิดว่าบทสรุปในคืนนี้คืออะไรเหรอครับ?” ทินกรถามเสียงซื่อ แม้ว่าแววตาของเด็กหนุ่มจะไม่ได้ใกล้เคียงกับความใสซื่อนั้น “อีกไม่กี่นาที ชั้นนี้ทั้งชั้นก็จะไม่มีคนอยู่แล้ว พี่ภัทรรู้มั้ยครับ?”




“…” พนักงานหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ เพราะยังไม่ถึงเวลาเลิกงานของใครสักคนในละแวกนี้




“พี่เมฆมีนัดกับหมอ พี่หมอกต้องขับรถไปส่งพี่เมฆ ส่วนพ่อ พอทางสะดวกไม่มีพี่หมอกอยู่ก็หนีไปหาเด็กในสต็อก ส่วนพี่นายกับพี่ข้าว...”




ทินกรหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมากดโทรออกทั้งที่ยังไม่ละสายตาไปจากภรัณยู




“ครับ พี่นาย รู้มั้ยครับว่าวันนี้มีเปิดตัวบุฟเฟ่ต์ขนมไทยเจ้าดังที่โรงแรมของอาวี ครับ แต่ว่าพี่ต้องออกตอนนี้เลยนะครับ ไม่อย่างนั้นไม่ได้เข้างานแน่เลย”




ที่หางตาของภรัณยู เขาเห็นขวัญข้าวลุกขึ้นจากโต๊ะของตัวเองแล้วเปิดประตูเข้าไปหาจอมทัพที่พูดอะไรบางอย่างกับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตื่นเต้น ก่อนจะลากเลขาของตัวเองออกจากห้องไป



ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลายเมื่อตระหนักว่าในชั้นนี้ไม่มีใครอยู่แล้วนอกจากพวกเขา ในห้องกระจกเก็บเสียงที่เขาเป็นคนพาร่างสูงเข้ามา ทินกรเลียริมฝีปากของตัวเองช้าๆ



“ผมอยากรู้มานานแล้ว ว่าผนังกระจกนี่มันแข็งแรงได้แค่ไหน...”




“อยากให้พี่ช่วยจับคนแถวนี้ทุ่มใส่ดูมั้ยล่ะ?” เสียงของเลขาหนุ่มร่างโปร่งดังขึ้นเล่นเอาเด็กหนุ่มที่กำลังขยับเข้ามาใกล้เขาเบรกตัวโก่ง มธุวันที่ไม่รู้ว่าโผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ยืนกอดอกพิงขอบประตูกระจกด้วยสีหน้าที่ภรัณยูไม่มั่นใจว่าจะสามารถเรียกว่าเป็นความขบขันได้หรือไม่



“พะ…พี่หมอก...” ทินกรหันไปยิ้มแหยให้ผู้มาใหม่ มธุวันก้าวเข้ามาในห้องด้วยท่วงท่าที่ทำให้ภรัณยูนึกถึงเสือดาวที่กำลังจ้องจะขย้ำเหยื่อ ก่อนเท้าแขนลงบนโต๊ะ โน้มตัวลงมาหาทินกรพร้อมรอยยิ้มมุมปาก



“ซันรู้มั้ยครับ ว่าผู้ชายบ้านซันเหมือนกันยังไง?”



“ยะ…ยังไงเหรอครับ?” ทินกรกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก หากเป็นคนอื่นมาทำแบบนี้กับคนรักของเขา ภรัณยูอาจจะรู้สึกหึงหวงอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เขาแค่ดีใจที่ตัวเองไม่ใช่คนที่ถูกมธุวันจ้องด้วยสายตาเหมือนงูจงอางที่กำลังจะกลืนลูกหมาป่าตัวใหญ่ลงท้องในคำเดียวนั้น



“ตรงที่คิดว่าจะหนีพี่พ้นได้ง่ายๆไงครับ” มธุวันชี้ไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองพร้อมรอยยิ้ม “เอกสารกองนั้นต้องเสร็จก่อนพี่กลับมา เข้าใจมั้ยครับ?”



“แต่…”



“อะไรนะครับซัน?” มธุวันแสร้งทำเป็นเงี่ยหูฟัง “เมื่อกี้ซันจะบอกอะไรพี่รึเปล่า?”



“ครับ เสร็จแน่นอนครับ”



“แล้วทำไมซันยังนั่งอยู่ตรงนี้ล่ะครับ หืม?”



เด็กหนุ่มพุ่งตัวไปยังโต๊ะทำงานของมธุวันด้วยความเร็วเหนือเสียง ภรัณยูมองตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปอย่างไม่รู้ว่าตัวเอง
ควรมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างไร ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อด้วยตาสีเทาอมฟ้าคู่นั้นตวัดมามองเขาเป็นรายต่อไป



“ผมว่าเรียนอยู่ที่บ้านแบบเดิมน่าจะปลอดภัยกับตัวคุณมากกว่านะครับ คุณภรัณยู”



“คือ..ผม...”



“กล้องวงจรปิดห้องนี้บันทึกเสียงได้ด้วยนะครับ” มธุวันชี้ไปที่กล้องวงจรปิดขนาดเล็กตรงมุมห้องที่ดูกลืนไปกับเพดานจนเขาไม่สังเกตเห็น “ผมแนะนำว่าห้องเบรกหลังห้องท่านประธานน่าจะสะดวกกว่า เพราะห้องเก็บเอกสารมีคนจองแล้ว”
ร่างโปร่งหมุนตัวเดินกลับออกไป ชายตามองทินกรที่สะดุ้งไม่ต่างจากเขาแล้วเดินตรงไปยังลิฟท์ส่วนตัวของท่านประธานก่อ
นที่ภรัณยูจะได้มีโอกาสแก้ไขความเข้าใจผิดอะไร



ภรัณยูนั่งสงบนิ่งไว้อาลัยให้กับภาพลักษณ์ของตัวเองในสายตาของมธุวันสักพัก ก่อนจะเก็บอุปกรณ์การเรียนการสอนของตนใส่ลงในกระเป๋าเป้อีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจว่าตัวเองควรจะไปสำรวจห้องเบรกที่ว่านี่ดูสักนิดเผื่อเวลาฉุกเฉิน



สรุปแล้ว นอกจากจะไม่ได้เรียน พวกเขายังต้องอยู่รอมธุวันกลับมาตรวจความเรียบร้อยของงานของทินกรอีกด้วย ภรัณยูตวัดสายตามองค้อนเด็กหนุ่มข้างกาย แม้จะรู้ว่าความน่ากลัวของตัวเองไม่ได้เทียบเท่าปีศาจน้ำแข็งที่เป็นที่ยำเกรงของทุกคนในบริษัทเลย


“คุณภรัณยู พอดีเลยครับ มีพัสดุมาส่งไว้เมื่อเช้า ผมไม่มั่นใจว่าเป็นของสดรึเปล่าเพราะมันเริ่มมีกลิ่นแล้วน่ะครับ” เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์เอ่ยเรียกพวกเขาไว้ ภรัณยูขมวดคิ้ว นึกไม่ออกว่าตัวเองสั่งของสดอะไรให้มาส่งที่บริษัท



กลิ่นที่ว่าเริ่มลอยมาแตะจมูกเมื่อประชาสัมพันธ์หนุ่มยกกล่องขึ้นมาวางทำให้ภรัณยูเบ้หน้าเบาๆ



“พี่ภัทรหยุดก่อนครับ” ทินกรเอ่ยห้ามเมื่อชายหนุ่มกำลังจะเปิดออกดู “ผมเปิดเอง”



“ทำไมเหรอซัน?” ภรัณยูหันไปหาคนรักอย่างไม่เข้าใจ แต่เด็กหนุ่มนั้นหันกลับไปหาพนักงานทำความสะอาดแล้วขอถุงมือกับผ้าปิดปาก การกระทำนั้นยิ่งทำให้คนที่เดินผ่านไปมาหยุดมองด้วยความสนใจ



หลังจากใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปตัวกล่องไว้ เด็กหนุ่มก็ใช้คัตเตอร์กรีดตามแนวเทปกาวแล้วดึงกล่องกระดาษให้เปิดออก ภรัณยูถึงกับผงะเมื่อเห็นซากนกพิราบที่ถูกยัดไว้ภายในกล่องส่งกลิ่นคละคลุ้งจนเขาแทบจะอาเจียนออกมา



“รบกวนแจ้งตำรวจให้ด้วยนะครับ” ทินกรเอ่ยกับประชาสัมพันธ์ด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะหันมาหาภรัณยู “ผมว่าเขาไม่ยอมจบง่ายๆแน่”



ชายหนุ่มยังคงไม่เข้าใจว่าเขาที่ว่าของเด็กหนุ่มนั้นหมายถึงใคร จนกระทั่งดวงตาเรียวสีน้ำตาลเหลือบไปเห็นภาพถ่ายที่ถูกฉีกเป็นสองซีกซึ่งถูกทับโดยซากนกพิราบนั้น



รูปของเขากับปภพกำลังกอดคอกันยิ้มให้กับกล้องอย่างมีความสุข










“หน้าตาสดชื่นเชียวนะมึง”



แว่นแซวแทนไทยที่มีสีหน้าอิ่มเอิบใจตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องเรียนจนกระทั่งทานข้าว มีนาเงยขึ้นจากหนังสืออย่างอยากรู้อยากเห็นเมื่อได้ยินดังนั้น ก็เด็กหนุ่มลูกครึ่งเล่นเดินฮัมเพลงอย่างมีความสุขจนออกนอกหน้าเสียขนาดนั้น
 แทนไทยเพียงแต่ยิ้มอย่างมีเลศนัยแต่ไม่พูดอะไร



มีนาไม่มั่นใจว่าจะมีอะไรที่ทำให้เพื่อนผมบลอนด์ดูมีความสุขได้ขนาดนี้ แต่คาดว่าคงจะไม่พ้นคนรักของเจ้าตัวที่เป็นหัวข้อที่มีนาไม่คิดจะอยากเปิดบทสนทนาเสียเท่าไหร่



ร่างเล็กหันกลับไปสนใจชีทเรียนในมือเมื่อฝ่ามืออรหันต์บินมาลงกลางกบาลของแทนไทยที่นั่งเหม่อหานางฟ้าคนสวย



“โอ๊ย! เจ็บๆๆ พี่ติณณ์ทำอะไรครับเนี่ย?!”




เด็กหนุ่มลูกครึ่งโวยวายคนที่เดินเข้ามาเพ่นกบาลเขาโดยไม่พูดไม่จา ติณณ์ภพดีดหน้าผากเด็กหนุ่มอีกรอบอย่างหมั่นไส้ เดือนปีสี่ของคณะแพทยศาสตร์ไม่ไดปรากฎกายให้สาธารณชนเห็นบ่อยนัก แต่ขนาดคนไม่เข้าสังคมอย่างมีนายังรู้ว่าชายหนุ่มกับธารธาราเป็นเพื่อนสนิทกัน



“เห็นมาถามซะดิบดี กลัวพี่อุ่นเจ็บอย่างนั้นกลัวพี่อุ่นปวดอย่างนี้ นี่อะไร ไอ้อุ่นแทบคลานมาเรียน”



ติณณภพด่าเด็กหนุ่มรุ่นน้องอย่างเกรี้ยวกราด ถึงแม้ว่ามีนาจะสนใจเนื้อความของโยคนั้นมากกว่าน้ำเสียงของร่างสูงก็ตาม



“ก็ผมถึงบอกไง ว่าผมไม่อยากทำ” แทนไทยบ่นอุบ “ผมกลัวหยุดตัวเองไม่ได้...”



“แล้วมันใช่ข้ออ้างมั้ยได้เด็กเวร” ติณณ์ภพประเคนฝ่ามือให้อีกป้าบแทนเพื่อนรักที่นอนหลับเป็นตายในห้องเลคเชอร์ทั้งที่
ร้อยวันพันปีไม่เคยฟุบ



“โอ๊ย! หัวคนนะครับไม่ใช่ลูกวอลเล่ย์” แทนไทยโอดครวญ



“ไม่รู้ล่ะ ถ้าไอ้อุ่นเสียการเรียนเพราะเรื่องนี้หัวมึงเป็นลูกบอลให้กูเตะแน่” ติณณภพชี้หน้าคาดโทษ แล้วเดินผ่านพวกเขาเข้าไปในโรงอาหารที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนมากมาย



ส่วนของมีนานั้น สิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวของร่างเล็กมีเพียงความทรงจำของความเจ็บระบมไปทั้งร่างในวันรุ่งขึ้นหลังจากครั้งแรกของเขากับธีรเชษฐ์ และนั่นคือผลลัพธ์จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์หลายสิบปีรวมกับยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบที่เขาได้กันไว้ก่อนแล้ว เขาไม่อยากคิดเลยว่าสภาพของธารธาราในตอนนี้จะเป็นอย่างไร



“แทน ได้ให้เขากินยาแก้อักเสบกับยาแก้ปวดรึเปล่า” ร่างเล็กถามเสียงเบา



“เอ๊ะ? ต้องให้กินด้วยเหรอ?” แทนไทยมีสีหน้าตกใจ



“จริงๆก็มียาทาด้วย...แต่ถ้ามันไม่บวมคงไม่ต้อง” มีนางึมงำ จดชื่อยาที่ธีรเชษฐ์เคยให้เขากินในกระดาษแผ่นเล็กแล้วยื่นให้แทนไทย ไม่กล้าสบตาเพื่อนที่เขามั่นใจว่าตอนนี้คงอ้าปากค้างมองเขาด้วยตาโตเท่าไข่ห่านแล้ว



“เราขึ้นเรียนก่อนนะ”



เด็กหนุ่มหยิบจานของตัวเองลุกขึ้น เดินไปยังที่เก็บจานโดยไม่เปิดช่องว่างให้ใครถามอะไร



เพราะเขาก็ไม่รู้คำตอบของสิ่งที่เขามั่นใจว่าเพื่อนใหม่ของเขาอยากถามเช่นกัน



ร่างเล็กเดินออกมาจากโรงอาหารได้เพียงไม่กี่ก้าวก่อนจะชนกับร่างสูงของทินกรที่เขารู้สึกเหมือนไม่ได้เจอมานานเข้าอย่างจังจนเซไปหลายก้าว



“ซัน เป็นอะไรรึเปล่า หน้าตาดูไม่ดีเลย” มีนาทักด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง  ทินกรถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ซึ่งผิดวิสัยเด็กน้อยร่าเริงของอีกฝ่ายมาก



“พี่ภัทรโดนแฟนเก่าตามมารังควาญไม่เลิกเลย เมื่อวานเขาส่งพิราบตายมาที่บริษัทด้วย”



“ฮะ? ขนาดนั้นเลยเหรอ?” มีนาถามอย่างไม่อยากเชื่อ



“อือ แจ้งความไปแล้วล่ะ” ร่างสูงถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “แต่ตอนนี้ฉันเป็นห่วงพี่ภัทรมากกว่า พี่ภัทรไม่ยอมย้ายเข้ามาบ้านฉัน แต่ฉันไม่อยากให้เขาอยู่ห้องคนเดียวแบบนี้เลย”



ส่วนตัวแล้วมีนาคิดว่าคนรักของเด็กหนุ่มคงไม่อยากให้ทินกรมาเสี่ยงอันตรายกับตัวเอง แต่หากมีอะไรที่เขาเรียนรู้จากคนบ้านนี้ ร่างเล็กคิดว่าคนที่ควรจะกลัวน่าจะเป็นแฟนเก่าของคุรภรัณยูที่กล้ามายุ่งกับคนของทินกรมากกว่า




“แล้วทำไมนายไม่ย้ายไปห้องเขาล่ะ” มีนาถาม ก่อนจะเอ่ยต่ออย่างนึกขึ้นได้ “แต่ถ้าซันไป อาจจะเป็นการรบกวนเขาก็ได้นะ ห้องของคุณภรัณยูเขาคงไม่ได้มีพื้นที่ให้ข้าวของซันขนาดนั้นหรอก”




ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะมีห้องขนาดเท่าบ้านไว้นอนเล่นอย่างธีรเชษฐ์น่ะ



 ทินกรชะงัก ดวงตาสีควันบุหรี่เป็นประกายแพรวพราวราวกับกับไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นมาก่อน ซึ่งนั่นทำให้มีนาค่อนข้างมั่นใจว่าอะไรก็ตามที่เขาเพิ่งพูดไปนั้นถูกแปลสารผิดไปจากที่เขาตั้งใจแน่ๆ



“ขอบใจมากนะมีน! บ่ายเรามีเรียนด้วยกันใช่มะ? ฝากจดหน่อยนะ”



“อ้าว เอ๊ะ เดี๋ยวสิ...”



เพื่อนตัวสูงของเขาวิ่งหายไปเร็วพอๆกับขามา มีนาเอียงคอมองตามแผ่นหลังกว้างในชุดนักศึกษาไปอย่างเป็นกังวล ไม่มั่นใจว่าตนควรจะบอกธีรเชษฐ์เรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่



แต่เขาคิดว่าแทนที่ชายหนุ่มจะสนใจเรื่องนั้น เขานี่แหละน่าจะเป็นฝ่ายถูกทำโทษเรื่องแอบพูดคุยกับลูกชายของอีกฝ่ายลับหลังมากกว่า เขามีปัญหามากพอแล้วกับเรื่องของลูกชายคนรอง




และเขาเชื่อว่าป่านนี้ธีรเชษฐ์คงรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในบริษัทจากเลขาของตัวเองแล้ว










ก๊อกๆๆ



ภรัณยูสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง ชายหนุ่มกำโทรศัพท์มือถือของตัวเองไว้แน่นแล้วเดินไปยังประตูหน้าของห้องตัวเอง หลังจากตื่นตกใจกับสิ่งเร้าเพียงเล็กน้อยมาตั้งแต่เมื่อวาน เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่ปฏิเสธข้อเสนอของทินกรที่ให้เขาไปอยู่ด้วยที่คฤหาสน์ทรัพย์ดำรง แต่ภรัณยูไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเขาดูแลตัวเองไม่ได้ ถึงแม้เขาจะตกใจกับซากนกพิราบก่อนหน้า แต่ชายหนุ่มไม่คิดว่าปภพอยู่ในสถานะที่จะทำอะไรเขาได้



จากที่พวกเขาได้ยินจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปภพถูกจับได้ว่าคบชู้กับพนักงานผู้ชายในบริษัทและยักยอกเงินจากบริษัทของภรรยาไปเป็นจำนวนมากเพื่อนำไปซื้อยาเสพติดและปรนเปรอเด็กของตัวเอง ชายหนุ่มหนีหายเข้ากลีบเมฆไปสองสามวันก่อนที่กล่องพัสดุปริศนานั้นจะมาถึงภรัณยู



ต่อให้โง่แค่ไหน คนคนนั้นก็คงไม่โผล่มาที่ห้องของเขาทั้งที่รู้ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตาอยู่หรอก



และเมื่อเห็นว่าใครอยู่ที่อีกฝั่งของประตูจากตาแมว ภรัณยูก็ทำได้เพียงถอนหายใจออกมาแล้วเปิดประตูให้คนรัก



“ซัน พี่บอกแล้วไงว่า...นั่นอะไรน่ะ?”



ชายหนุ่มเหลือบไปเห็นกระเป๋าใบโตที่วางอยู่แทบเท้าของทินกร ผู้บุกรุกของเขายิ้มแฉ่ง ตอบคำถามของเจ้าของห้องได้โดยไม่ต้องใช้คำพูด



“ซัน…”



“ถ้าเกิดสลับกัน แล้วเป็นผมกลิ้งตกที่นอน พี่ภัทรจะไม่อยากขนข้าวของมานอนห้องผมเหมือนกันเหรอครับ” ทินกรออดอ้อน ซึ่งภรัณยูคิดว่าตัวเองน่าจะสามารถตอบคำถามนั้นได้หากเขาเข้าใจประโยคที่ออกมาจากปากร่างสูง



“กลิ้งตกที่นอน?”



“เวลาพี่ภัทร in troubleไงครับ ตกที่นอนอ่ะ” เด็กหนุ่มยังคงดื้อแพ่งราวกับว่าเขาเป็นคนที่ไม่เข้าใจภาษาไทยเสียเอง




“ตก…ที่นั่งลำบาก?” ภรัณยูมั่นใจแล้วว่าบทเรียนภาษาไทยที่เขาเสียเวลาสอนไปทั้งหมดนั้นไม่ได้เข้าหัวร่างสูงเลย ประโยคอะไรก็ตามที่ทินกรสามารถพูดได้ถูกนั้นล้วนแล้วแต่มาจากละครไทยย้อนยุคที่เด็กหนุ่มชอบไปขลุกดูอยู่ที่เรือนคนรับใช้กับป้าแต้วทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับที่เขาสอนเลยสักนิด



“ใช่ๆ ถ้าเป็นผมพี่ภัทรก็ต้องอยากอยู่ข้างๆเหมือนกันใช่ม้า” ทินกรพยักหน้าหงึกหงึกพร้อมรอยยิ้มกว้างที่ทำให้ภรัณยูรู้สึกอุ่นใจและหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน



“เหอะ อยากไปคนเดียวเถอะ ถ้าเป็นซันพี่จะปล่อยให้อยู่คนเดียวนั่นแหละ”



“พี่ภัทรปากแข็ง” เด็กหนุ่มเอ่ยหน้าระรื่นแล้วยกกระเป๋าก้าวเข้ามาให้องโดยไม่รอคำอนุญาตจากคนรัก “รบกวนด้วยนะคร้าบ”




“ก็รู้นี่ว่ารบกวน” ภรัณยูที่สู้แรงคนตัวใหญ่ไม่ได้ปล่อยเลยตามเลย ปิดประตูตามหลังอีกฝ่ายด้วยีหน้าจนใจ “มันอันตรายนะซัน พี่ไม่อยากให้ซันอยู่ใกล้พี่ตอนนี้เลย”



“เพราะมันอันตรายไงครับผมถึงอยากให้พี่ภัทรมาอยู่กับผม บ้านผมมีทั้งยาม ทั้งแม่บ้านคนสวนอยู่กันเยอะแยะ มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วย” ทินกรไหวไหล่ “แต่ในเมื่อพี่ภัทรไม่อยากไปนอนบ้านผม ผมก็จะมาก่อกวนจนกว่าพี่ภัทรจะยอมไป”



เดี๋ยว สรุปนี้คือจุดประสงค์ที่แท้จริงงั้นเหรอ?!



ภรัณยูนึกอยากเขกกระโหลกเจ้าเด็กหน้าเป็นตรงหน้า แต่เขาก็รู้เช่นกันว่าครั้งนี้ฝ่ายที่มีเหตุผลกว่าไม่ใช่เขา




“ไปลากกระเป๋าเดินทางพี่มา เดี๋ยวพี่ไปเก็บเสื้อผ้ารอ”



สุดท้ายสิ่งที่ทำได้มีเพียงยกมือขึ้นยอมแพ้แล้วหมุนตัวเดินกลับไปในห้องนอนด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ ทินกรยิ้มร่า ก่อนจะรีบมองหากระเป๋าลากของคนรักตามคำสั่ง



ทางด้านภรัณยู ร่างโปร่งเปิดประตูตู้เสื้อผ้าของตัวเองออกแล้วหยิบเอาเสื้อผ้าที่แขวนไว้ออกมาวางบนเตียงแล้วหันกลับไปหยิบผ้าส่วนที่พับไว้ในตู้ ก่อนจะชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก



เงาสะท้อนที่มีรอยยิ้มกว้างแปะอยู่บนใบหน้าอย่างผิดวิสัยคนอย่างเขาเป็นที่สุด




ให้ตายเถอะ แบบนี้ใช่มั้ยที่เขาเรียกว่าแพ้ทางน่ะ


----------------------

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 29 100% กลิ้งตกที่นอน [28-06-62] คห.574 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 28-06-2019 18:00:22
ไอ้เราก็งงตั้งนานกับตกที่นอนของซัน
ปล่อยนางเรียนภาษาไทยกับละครเถอะ
เหมือนคนเราเรียนภาษาอังกฤษกับซีรีย์ไง
แต่พี่ภัทรคงทำใจไม่ได้หรอกถ้าไม่ได้สอนเอง
ก็ขนาดห้องพักเบรกยังไปสำรวจเลย
ปล.จำได้นะว่าห้องเอกสารคนจองคือใคร อิอิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 29 100% กลิ้งตกที่นอน [28-06-62] คห.574 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า ที่ 28-06-2019 18:41:52
น้องซันมันน่ารักจริงๆเลยน้าาาา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 29 100% กลิ้งตกที่นอน [28-06-62] คห.574 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 28-06-2019 20:51:22
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 29 100% กลิ้งตกที่นอน [28-06-62] คห.574 P.20
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 28-06-2019 22:21:02
ขอคั่นรายการด้วยข่าวด่วนข่าวร้อนนะคะ

หนังสือเรื่อง Which one รักหลอกเด็ก จะออกวางขายที่งาน Ybookfair กรกฎาคม 2562 นะคะ รอบไปรษณีย์จะเปิดให้จองวันที่ 5 กรกฎาคม และสามารถหาซื้อได้ตามร้านนายอินทร์และB2Sค่ะ

(https://scontent.fbkk8-3.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/65461559_2204111239637067_8919825987714154496_n.jpg?_nc_cat=111&_nc_eui2=AeGZWYs27OlN6EunI1CA-UGSsw00mHVBDJesvEnELYMmwXNWx1fWTS7D2PYtVWHfH4FF9Cwmygj0Y0OOkoGmTwrfrzFkp9S9KWV_6bvcq1xZqA&_nc_oc=AQksAYZ1LneacLFvAJ8x9-jrM8vNmKR-uQWHrALT6yj6JTgxQgNUSrYADvmSEuP9dis&_nc_ht=scontent.fbkk8-3.fna&oh=00f98b849fa71a80e6644e433746ab41&oe=5DC67F8D)

https://www.facebook.com/HermitBooks/photos/a.359474807434062/2204111236303734/?type=3&theater (https://www.facebook.com/HermitBooks/photos/a.359474807434062/2204111236303734/?type=3&theater)
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 29 [28-06-62] คห.574 P.20 +แจ้งข่าวคห578
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 28-06-2019 22:39:59
คุณมธุวันนี่สุดยอดจริงๆ
ส่วนพี่ภัทรก็แพ้ทางเด็กอีกแล้ว 555555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 29 [28-06-62] คห.574 P.20 +แจ้งข่าวคห578
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 29-06-2019 00:14:38
ตกที่นอน = ตกที่นั่งลำบาก จะจำไว้ ๆ  o18
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 29 [28-06-62] คห.574 P.20 +แจ้งข่าวคห578
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-06-2019 01:09:57
เอ็นดูภาษาไทยของซัน ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 29 [28-06-62] คห.574 P.20 +แจ้งข่าวคห578
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-06-2019 01:12:02
เป็นคำศัพท์สไตล์ซันๆ5555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 29 [28-06-62] คห.574 P.20 +แจ้งข่าวคห578
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 30-06-2019 00:22:08
เป็นการเรียนภาษาซันจริงๆ ตกที่นอน 5555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 29 [28-06-62] คห.574 P.20 +แจ้งข่าวคห578
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 30-06-2019 17:11:06
ซันนี้ใช้การได้จริงๆๆ 55555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 29 [28-06-62] คห.574 P.20 +แจ้งข่าวคห578
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 01-07-2019 18:35:06
เขาเรียกแพ้ทางเด็ก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 29 [28-06-62] คห.574 P.20 +แจ้งข่าวคห578
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 04-07-2019 19:18:53
Chapter 30:  คนขี้เก๊ก




“....งั้นเหรอหมอก ขอบใจมากนะ บอกทางตำรวจไปด้วยว่าถ้ามีอะไรที่เราช่วยได้ให้บอก ภรัณยูเป็นยังไงบ้าง? อือ แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน มาอยู่บ้านกับเจ้าซันน่าจะปลอดภัยกว่าจริงงๆนั่นแหละ ลำบากเธออีกแล้วนะ”



เป็นอย่างที่มีนาคิด มธุวันโทรศัพท์มารายงานความคืบหน้าของสถานการณ์ทุกอย่างให้ธีรเชษฐ์ฟังระหว่างทางที่พวกเขากลับจากมหาวิทยาลัย ถึงแม้จะรู้ว่าเรื่องที่ทั้งสองคุยกันเป็นเรื่องจริงจัง แต่ในหัวของมีนากลับอดไม่ได้ที่จะสังเกตความอ่อนโยนในน้ำเสียงที่ธีรเชษฐ์มีให้กับเลขาของตนทุกครั้งที่คุยกัน



“จริงสิ ฉันวางกล่องโมจิเจ้าประจำที่เธอชอบไว้ที่โต๊ะ เห็นรึยัง?” ร่างสูงถาม รอยยิ้มเล็กๆแต่งแต้มมุมปากเมื่อได้ยินคำตอบ
จากปลายสาย “อย่ากินทีเดียวหมดล่ะ อืม พรุ่งนี้คงเข้าสายหน่อย แค่นี้นะ”




เวลาสั้นๆเพียงไม่กี่นาทีที่ร่างสูงถือสายคุยกับเลขาของตนรู้สึกเหมือนหลายชั่วโมงสำหรับคนที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ มีนาเกลียดความรู้สึกน้อยอกน้อยใจของตัวเองที่มักจะเอ่อท้นขึ้นมาจนท่วมอกทุกครั้งที่เห็นธีรเชษฐ์คุยกับมธุวัน



เขาเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้



“อยากกินอะไร?” น้ำเสียงที่ธีรเชษฐ์ใช้กับเขานั้นถึงแม้จะไม่เหมือนช่วงก่อนหน้าที่ทำให้มีนานึกอยากจะขดตัวหนีจากอีกฝ่าย แต่ยังคงไม่ใกล้เคียงกับเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน



“ผมไม่หิวครับ” ร่างเล็กตอบเสียงเบา แม้จะรู้ว่านั่นไม่ใช่คำตอบที่อีกฝ่ายต้องการ




“ไม่หิวก็ต้องกิน” ธีรเชษฐ์ดุ ก่อนจะถามย้ำอีกครั้ง “อยากกินอะไร?”



“ของที่ผมอยากกิน คุณเชษฐ์กินไปม่เป็นหรอกครับ” มีนาตอบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้คำตอบที่แปลกประหลาดออกไปจากที่ผ่านมาไปสะกิดต่อมความสนใจของคนฟังเข้าให้อย่างจัง



“บอกทางมา” ร่างสูงเอ่ยขึ้นตามประสาคนไม่ยอมแพ้ เด็กนี่คิดว่าเขาเป็นใครกัน ถึงจะกินอะไรอย่างที่อีกฝ่ายกินไม่ได้
มีนายอมบอกจุดหมายปลายทางให้อีกฝ่ายรู้แต่โดยดี เขารู้ว่าตัวเองกำลังทำตัวไม่น่ารัก แต่บางครั้ง เขาก็แค่อยากเอาแต่ใจ
ตัวเองในแบบของเขาบ้างก็แค่นั้นเอง









“เธอมั่นใจนะว่าตัวเองเป็นเด็กอายุสิบเจ็ดจริงๆ”



ธีรเชษฐ์นั่งมองร่างเล็กที่เอาแตงกวาจิ้มน้ำพริกกะปิขึ้นมากัดกรวมๆอย่างอเร็ดอร่อย พวกเขาอยู่ที่ร้านบุฟเฟ่ต์ข้าวแกงและน้ำพริกราคาไม่กี่สิบบาทซึ่งเป็นร้านข้างทางห่างจากมหาวิทยาลัยของเด็กหนุ่มไปไม่มาก แน่นอนว่าเขาไม่ได้กินอาหารพวกนี้ไม่เป็นอย่างที่มีนากล่าวหา แต่ธีรเชษฐ์กับลูกๆมักจะไม่ค่อยถูกโฉลกกับอาหารรสจัดกันเท่าไหร่นัก



แต่ดูจากจานอาหารที่วางเรียงรายกันอยู่ตรงหน้ามีนา ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะชอบของพวกนี้มากกว่าอาหารญี่ปุ่นหรืออาหารฝรั่งที่เขาชอบพาไปกิน



ธีรเชษฐ์จดจำรายละเอียดนั้นไว้ในหัว เตือนตัวเองให้ถามเลขาที่ชื่นชอบอาหารอีสานและอาหารรสจัดเป็นชีวิตจิตใจว่ามีร้านแนะนำบ้างมั้ย



“อร่อยนะครับคุณเชษฐ์ ลองดูมั้ยครับ?” มีนาถาม ดวงตากลมโตจ้องจานอาหารที่ยังคงว่างเปล่าของชายหนุ่มตรงหน้าด้วย
แววตาคาดหวัง กัดลูกแตงกวาด้วยท่าทางที่ทำให้ธีรเชษฐ์ไขว้ขาตัวเองตามสัญชาตญาณ



เขาจะบอกอีกฝ่ายก็ได้ว่าตัวเองไม่ทานเผ็ด นั่นเป็นทางออกง่ายๆในสถานการณ์แบบนี้ แต่ธีรเชษฐ์ไม่ใช่คนที่ชอบทำอะไรง่ายๆเท่าไหร่นัก



ชายหนุ่มเลือกที่จะตักแกงสีเหลืองในถ้วยที่อยู่ขวามือสุดของมีนาขึ้นมาชิม เดาจากสีที่ไม่ฉูดฉาดเท่าอย่างอื่นว่ามันจะมีรสชาติอ่อนที่สุด แต่ร่างสูงพบว่าตัวเองคิดผิดถนัดเมื่อความเผ็ดร้อนตีแสกหน้าแล้วพุ่งขึ้นจมูกทันทีที่ตักเข้าปาก




แม้จะรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆที่เอ่อล้นขอบตา แต่ร่างสูงยังคงสามารถกระเดือกลูกไฟในปากลงไปตามลำคอได้โดยไม่สำลัก



“ก็ใช้ได้” เสียงทุ้มแหบพร่า ราวกับว่าคอหอยของเขานั้นถูกเผาไปตามทางเช่นกัน



“คุณเชษฐ์! เมื่อกี้ไม่เผ็ดเหรอครับ?” เด็กหนุ่มถาม ดวงตากลมโตมีแววตื่นตระหนกและแฝงด้วยความประทับใจที่ทำให้ธีรเชษฐ์แอบยืดอกอย่างภูมิใจในความสามารถในการแสดงของตัวเอง



“เฉยๆ” ร่างสูงไหวไหล่



“โห เมื่อกี้นี้เป็นของที่เผ็ดที่สุดในร้านเลยนะครับ ขนาดผมถ้าไม่ได้คลุกข้าวคงแสบท้องแย่” เด็กน้อยมองเขาตาแป๋ว ก่อนจะยิ้มออกมา รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของธีรเชษฐ์กระตุกวูบเหมือนโดนดึง “แบบนี้ผมจะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องทำของเผ็ดให้คุณ
เชษฐ์แล้วสินะครับ”



“…ก็ไม่เคยบอกให้ห่วงนี่”



ธีรเชษฐ์ขุดหลุมฝังตัวเองด้วยประโยคสุดท้ายแล้วเบือนหน้าหนีก่อนที่อีกฝ่ายจะจับพิรุธได้ โชคดีที่มีนาลุกไปตักอาหารเพิ่ม ทำให้เขาได้จังหวะคว้าขวดน้ำเปล่าบนโต๊ะมายกกระดกรวดเดียวหมดขวดแม้จะรู้ดีว่าสิ่งที่มีนาเรียกกว่าของกินนั้นน่าจะย่อยทำลายทางเดินอาหารเขาไปจนหมดแล้วก็ตาม



“คุณเชษฐ์ อันนี้อร่อยมากเลยนะครับ ลองชิมดู”



เมื่อเห็นท่าทีกระตือรือร้นของคนที่มักจะทำตัวเหมือนเขาเป็นเจ้าหนี้นอกระบบอยู่ตลอดทำให้ธีรเชษฐ์ยอมอ้าปากรับช้อนที่มาจ่อชิดริมฝีปากอย่างว่าง่าย โชคดีที่ดูเหมือนแกงอะไรก็ตามก่อนหน้านี้นั้นทำลายต่อมรับรสบนลิ้นของเขาจนด้านชาไปหมดแล้ว ทำให้ทุกย่างหลังจากนั้นง่ายขึ้นสำหรับร่างสูง



สำหรับพรุ่งนี้อะไรจะเกิดเขาก็จะถือว่ามันเป็นเวรเป็นกรรม



“วันหลังต้องพาหมอกมาบ้างแล้ว” ธีรเชษฐ์เอ่ยขึ้นลอยๆ มีนาชะงัก ก่อนจะรีบปรับสีหน้าของตัวเองให้เป็นปกติก่อนที่ร่างสูงจะสังเกตเห็น



“ครับ?”



“เขาชอบอาหารแบบนี้เหมือนกัน” ธีรเชษฐ์ขยายความ แม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยให้มีนารู้สึกดีขึ้นสักนิด



“คุณเชษฐ์กับคุณมธุวันนี่สนิทกันดีนะครับ”


หากน้ำเสียงของมีนาแฝงไปด้วยความประชดประชัน ธีรเชษฐ์ไม่ได้สังเกตเห็นมันแม้แต่น้อย



“เราผ่านอะไรด้วยกันมามาก ไม่ให้สนิทก็คงยาก” แม้จะประหลาดใจกับคำถามของเด็กหนุ่ม แต่ธีรเชษฐ์ก็รู้สึกดีใจอยู่ลึกๆที่อีกฝ่ายให้ความสนใจถามเรื่องของเขา “อีกอย่าง หมอกเขาเป็นเด็กน่าสงสาร ฉันเลยเอ็นดูเขาเป็นพิเศษล่ะมั้ง”



 มีนาไม่สามารถปิดบังแววตาไม่เชื่อของตัวเองได้แม้จะพยายามเพียงใด



ภาพของเลขาหนุ่มในเสื้อผ้าแบรนด์เนมและการวางตัวที่แค่เหลือบตามองทุกคนก็แทบจะถลาเข้ามารับคำสั่งนั้นต่อให้มอง
ยังไงเขาก็ไม่เห็นถึงความน่าสงสาร



“ฉันรู้ว่ามันฟังดูไม่น่าเชื่อ” ธีรเชษฐ์ยิ้มอย่างรู้ทัน ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องเลขาของตัวเองให้อีกฝ่ายฟัง “เด็กคนนั้นเป็นเด็กกำพร้า ผู้หญิงที่ทำงานในสถานสงเคราะห์เอามาเลี้ยงหลังสถานสงเคราะห์ปิดตัวเพราะขาดเงินสนับสนุน นอกจากหมอกแล้วเขายังต้องเลี้ยงลูกชายตัวเองกับแม่ ต้องอดมื้อกินมื้อ หมอกต้องไปเป็นลูกมือช่วยเขาขายข้าวแกงมาตั้งแต่เด็ก”



มีนาเกือบสำลักน้ำที่ดื่มเมื่อได้ยินภูมิหลังที่ละม้ายคล้ายคลึงกับของตัวเองจนน่าตกใจ ธีรเชษฐ์ที่ไม่ได้สังเกตยังคงเล่าต่อ


“เขาสอบเข้ามหาลัยนี้ได้เป็นนักเรียนทุน จบเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ส่งเงินกลับไปให้ดูแลแม่บุญธรรมกับยายของตัวเองที่ภาคอีสานตลอดไม่เคยขาด แถมยังเป็นเด็กขยันเอาการเอางาน หาไม่ได้แล้วนะกับเด็กสมัยนี้”



เด็กอายุสิบเจ็ดปีที่ทำงานตัวเป็นเกลียวหาเงินจุนเจือครอบครัว เคยเป็นลูกมือช่วยแม่ที่เคยทำงานร้านขายข้าวแกงตั้งแต่เล็ก และเข้าเรียนคณะแพทยศาสตร์ได้ด้วยทุนเต็มจำนวนและดิ้นรนทำทุกวิถีทางให้มีเงินมารักษามารดาและดูแลครอบครัวกระพริบตาปริบๆกับคำพูดของคนตรงหน้า ก่อนจะตัดสินใจว่าเขาจะไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับสุดยอดเลขาในดวงใจของธีรเชษฐ์



เพราะสำหรับอีกฝ่าย เขาคงเป็นได้แค่เด็กอมมือที่หวังรวยทางลัดโดยไม่สนใจซึ่งวิธีการเท่านั้น












ฮัดชิ่ว



เสียงจามเบาๆของมธุวันทำให้ภรัณยูควานหาทิชชู่ให้เลขาหนุ่มอย่างเร่งรีบ แต่ในมือของอีกฝ่ายนั้นมีผ้าเช็ดหน้าของตัวเองกดปิดใบหน้าไว้ตั้งแต่ก่อนจามแล้ว และเสียงจามที่ฟังดูราวกับซักซ้อมมาเป็นอย่างดีให้ฟังดูระคายหูน้อยที่สุดทำให้เขาเริ่มสงสัยแล้วว่าคนข้างๆเป็นมนุษย์จริงๆหรือไม่



“มีอะไรรึเปล่าครับคุณภรัณยู” มธุวันเหลือบตามองเขาหลังจากถูกจ้องนานเกินควร ภรัณยูรีบเสตาไปมองผนังข้างกายแล้วส่ายหน้าอย่างร้อนตัว



“เปล่าครับคุณมธุวัน”


“ท่านประธานให้แจ้งว่าถ้าคุณมีปัญหาอะไรให้ติดต่อผมได้ แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้ ผมคิดว่าคุณน่าจะติดต่อคุณทินกรได้เร็วกว่า”



ใช่ เร็วมาก เร็วชนิดที่หันไปหาตอนตื่นนอนก็เจอเลยล่ะ



ถึงแม้ภรัณยูจะมานอนค้างที่บ้านของทินกรบ่อยจนเคยชิน แต่การย้ายข้าวของของตัวเองเข้ามาในห้องของเด็กหนุ่มกลับดูเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากในความคิดของเขา ทินกรนั้นดูอยากจะยกมือกราบไหว้ขอบคุณปภพนาทีที่ภรัณยูรื้อข้าวของออกจากกระเป๋าเดินทางเสร็จ แถมยังหาเรื่อง’รับขวัญ’เข้าบ้านใหม่จนกว่าเขาจะได้นอนก็เช้าวันถัดไป เรียกได้ว่าอีกฝ่ายมีอต่ได้กับได้



เขาชักเริ่มสงสัยแล้วว่านี่อาจจะเป็นแผนการของเด็กหนุ่มมาโดยตลอด



”พี่ภัทร ผมมารับแล้วคร้าบ~” ร่างสูงที่เขากำลังนึกถึงโผล่ออกมาจากลิฟท์ราวกับมีคนจุดธูปอันเชิญ ภรัณยูขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ



“มารับ?”



“ครับ ไปให้ปากคำเพิ่มที่สถานีตำรวจไงครับ” ทินกรอธิบาย ก่อนจะโน้มตัวเข้ามากระซิบพร้อมรอยยิ้มกว้าง “เสร็จแล้วไปเที่ยวกันต่อนะครับ ผมลาคุณแจนให้แล้ว”



“ซันคิดว่าหูพี่ตึงขนาดไหนกัน?” มธุวันที่ยืนอยู่ไม่ไกลถามขึ้นอย่างน้ำเสียงเหนื่อยใจ ทินกรยิ้มเผล่ เข้าไปเกาะแกะเลขาหนุ่มที่เห็นได้ชัดว่าแพ้ทางเด็กยักษ์นี่ไม่ต่างจากเขา



“โธ่ พี่หมอกอ่ะ ผมรู้ว่าพี่หมอกใจดี ให้พี่ภัทรคลายเครียดบ้างเถอะนะครับ”



“จะพาเขาไปคลายเครียดน่ะถามเขารึยัง” มธุวันบีบจมูกคนตัวสูงกว่าอย่างหมั่นเขี้ยวจนทินกรร้องโอดโอย ภาพที่ไม่ว่าจะผ่านไปแค่ไหนภรัณยูก็ยังคงไม่ชินเสียที



“อี้ออกอ่า(พี่หมอกอ่า)” คนโดนทำโทษงอแง มธุวันยิ้ม อีกภาพที่ภรัณยูยังคงรู้สึกไม่ชินเท่าไหร่



“ดื้อเหมือนใครเนี่ยเรา จะไปไหนก็ไป เกะกะ จะพี่ทำงาน” มธุวันปล่อยจมูกโด่งให้เป็นอิสระแล้วหันหลังเดินจากไป ทิ้งให้ทินกรลูบจมูกที่แดงระเรื่อของตัวเองป้อยๆแล้วหันมายิ้มแฉ่งให้คนรักอายุมากกว่า



“ป่ะ ไปกันดีกว่าครับพี่ภัทร”



“มาป่ะเปอะอะไรล่ะ” ภรัณยูเขกกระโหลกอีกฝ่ายไปอีกสักครั้งให้สำนึกผิด “เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง ถ้าเป็นคนอื่นโดนคุณมธุวันเขากินหัวแล้วรู้มั้ย?”



“เอ๋ พี่หมอกเป็นซอมบี้เหรอครับ?” ทินกรถามตาโต ความเสแสร้งในน้ำเสียงของอีกฝ่ายทำให้ภรัณยูกลอกตาอย่างเหนื่อยใจ



“ไปสถานีก่อน แล้วพาพี่กลับมาส่ง…” ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าที่หงอยลงไปถนัดตาของคนรัก “…กินข้าวกันก่อนแล้วค่อยกลับมาก็ได้ พอใจรึยัง?”



“ครับ!” ร่างสูงรีบพยักหน้าหงึกหงักอย่างดีใจ เดินตามภรัณยูไปที่ลานจอดรถพร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า



เขาว่า…ทินกรน่าจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังจริงๆนั่นแหละ











”พี่ภัทรไม่เครียดจริงๆใช่มั้ยครับ?”



ทินกรถามขึ้นหลังจากพวกเขาให้ปากคำที่สถานีตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขาอยู่ในร้านอาหารข้างทางเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลจากสถานี ภรัณยูส่ายหน้า



“จะบอกว่าไม่เครียดก็คงไม่ใช่หรอก คงต้องบอกว่าพี่ไม่คิดว่าเขาจะมาทำอะไรพี่มากกว่า”



“ลองทำดูสิครับ ผมไม่เอาไว้แน่” ทินกรพึมพำกับตัวเอง แต่ภรัณยูที่ได้ยินชัดเต็มสองรูหูเงยหน้ามองคนรักอายุน้อยกว่าอย่างตกใจ



“ซัน อย่าพูดแบบนั้นสิ เอาพิมเสนไปแลกกับเกลือมันไม่คุ้มหรอกนะ”



“พิม…อะไรนะครับ?”ทินกรขมวดคิ้วอย่างงุนงง ภรัณยูถอนหายใจ


“เอาเป็นว่า เรื่องนี้ปล่อยให้ตำรวจจัดการก็พอ ตกลงมั้ย?”



“ก็ได้ครับ…” คนอายุน้อยกว่ารับคำอย่างไม่เต็มใจนัก จนกระทั่งภรัณยูเอื้อมมือมาแตะหลังมือของอีกฝ่ายด้วยสีหน้าไม่สบายใจที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน



“รับปากกับพี่นะว่าซันจะไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงกับเรื่องนี้ พี่เป็นห่วง เข้าใจมั้ย”



“พี่ภัทรเป็นห่วงผมเหรอครับ?” เจ้าเด็กโข่งทำตาวาววับหูตั้งหางกระดิก



“เอ้า ขนาดหมาพี่ยังห่วงเลย นี่แฟนทั้งคนไม่ให้ห่วงได้ยังไง”




แน่นอนว่าทินกรยังคงประมวลผลไม่ทันว่าตัวเองถูกหลอกด่าหรือถูกชมกันแน่ แต่เด็กหนุ่มยังคงเลือกที่จะยิ้มอย่างมีความสุขกับการยอมรับของคนรัก



“ครับ ผมสัญญา”



“ค่อยน่ารักหน่อย” ภรัณยูขยี้ผมของอีกฝ่ายเบาๆพร้อมรอยยิ้ม



“แบบนี้ต้องมีรางวัลให้แล้วล่ะครับ” คนได้คืบจะเอาศอกกระแซะออดอ้อนอย่างไม่อายสถานที่ ภรัณยูแสร้งกลอกตาอย่างเหนื่อยหน่าย แต่รอยยิ้มที่ติดอยู่ที่มุมปากชักจะเริ่มยากที่จะแอบซ่อนขึ้นทุกวัน



“กลับบ้านค่อยว่ากัน”


ร่างโปร่งทิ้งท้าย รู้ดีว่าคำตอบปลายเปิดของตนนั้นจะทำให้เด็กหนุ่มตรงหน้าอารมณ์ดีไปได้ตลอดทั้งวัน



--------------
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 คนขี้เก๊ก [4-07-62] คห.586
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 04-07-2019 22:11:24
 :pig4:
:กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 คนขี้เก๊ก [4-07-62] คห.586
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 04-07-2019 22:18:38
ชั้นก็ยังคงสงสารน้องอยู่ดี อีคุณเชษ อีขี้เก๊ก อีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไม่รู้จะด่าอะไร จะว่าว่าพูดและทำกับน้องไม่ดี ก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะนางก็ดูแลน้องดีอยู่
แต่จะท่ามากไปไหนอะ :angry2: :z6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 คนขี้เก๊ก [4-07-62] คห.586
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า ที่ 04-07-2019 22:44:00
น้องมีนน้อยใจ น่ารัก~~~~~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 คนขี้เก๊ก [4-07-62] คห.586
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-07-2019 23:48:33
หนูมีนน้อยใจ แต่ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครปลอบ  :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 คนขี้เก๊ก [4-07-62] คห.586
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 05-07-2019 00:08:17
น้องมีนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 คนขี้เก๊ก [4-07-62] คห.586
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-07-2019 01:37:48
อยากรู้ว่า หมอกมีซัมติงกับคุณเชษรึป่าว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 คนขี้เก๊ก [4-07-62] คห.586
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-07-2019 14:53:05
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 คนขี้เก๊ก [4-07-62] คห.586
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 05-07-2019 16:07:33
เด็กอยากกินคนแก่อีกแล้วจ้าาาา
คุณเชษฐ์น้องมีนยังอยู่ในหมอกต่อไป
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 คนขี้เก๊ก [4-07-62] คห.586
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-07-2019 18:30:30
ชั้นก็ยังคงสงสารน้องอยู่ดี อีคุณเชษ อีขี้เก๊ก อีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไม่รู้จะด่าอะไร จะว่าว่าพูดและทำกับน้องไม่ดี ก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะนางก็ดูแลน้องดีอยู่
แต่จะท่ามากไปไหนอะ :angry2: :z6:

จริงด้วย .....  :z3:  :z3:  :z3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 คนขี้เก๊ก [4-07-62] คห.586
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 06-07-2019 01:38:04
พูดดีๆกับน้องกว่านี้หน่อยได้มั้ยคุณเชษฐ์
ส่วนซันก็คือภาษาไทยไม่แข็งแรง เอ็นดู  :m3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 คนขี้เก๊ก [4-07-62] คห.586
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 06-07-2019 11:05:07
ฮือออออ น้องมีนคิดมากอีกแล้วลูกกกกกกกก
คุณเชษฐ์น่ะ ตบปากตัวเองเลยยยย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 คนขี้เก๊ก [4-07-62] คห.586
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 06-07-2019 22:54:58
น้องมีนคิดมากจริงๆเลย คงไม่เข้าอารมณ์เอ็นดูเหมือนลูกหลาน หึงคุณเชษฐ์ใหญ่แล้ว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 คนขี้เก๊ก [4-07-62] คห.586
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 11-07-2019 19:22:32
Chapter 31: บตบก.ย่อมาจากบิวตี้บลอกเกอร์





“มีน อ้าปากๆ” มีนาเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียกของทินกร ก่อนจะพบกับไส้กรอกที่ถูกยัดเข้าปากเขาโดยไม่ยินยอม ร่างเล็กเคี้ยวตุ้ยๆ แม้จะพยายามส่งสายตาเตือนเด็กหนุ่มลูกครึ่งที่ก้มลงจิ้มไส้กรอกคำโตอีกคำอย่างไม่สนใจ ทำไมคนรอบข้างเขาถึงได้ชอบขุนเขาให้อ้วนอยู่เรื่อยเลยนะ




“ไอ้มีน อ้าปาก” พูดยังไม่ทันขาดคำ เพื่อนตัวสูงของเขาอีกคนก็ผลุบนั่งลงขนาบอีกฝั่งของม้านั่งพร้อมกับไข่นกกระทาดาวเต็มถาดกระดาษ จิ้มไข่นกกระทายักเข้าปากเขาที่ยังคงเคี้ยวไส้กรอกไม่หมดโดยไม่สนใจว่ามีนาจะมีพื้นที่ให้มันหรือไม่




“เราคนนะ ไม่ใช่ลิงแสม ยัดเอาๆ” คนตัวเล็กท้วงด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ หลายเดือนที่เป็นเพื่อนกันมาทำให้มีนาเรียนรู้ว่าคนพวกนี้ไม่ได้เกรงกลัวอะไรเขาสักนิด ต่อให้เขาดุไปก็คงไม่มีใครสนใจ แต่หากเขาตีหน้าเศร้าทำเสียงอ่อยแบบนี้ อย่างน้อยที่สุดเขามักจะได้แรงสนับสนุนจากทินกรเสมอ





“หวา เราขอโทษนะมีน เราไม่ได้ตั้งใจ เราแค่อยากให้มีนกินเยอะๆ ...” ทินกรรีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ ก่อนจะหันไปหาพายุ “ว่าแต่ ลิงสมุยคืออะไรเหรอ?”




“แสมว้อย ไอ้ฝรั่งขี้นก ทีชื่อท่านเจ้าคุณในละครยาวเป็นกิโลมึงท่องได้ ละครจักรๆ วงศ์ๆ ตอนเช้านี่รู้จักทุกตัวละคร” พายุด่า ก่อนจะหันมาหามีนาด้วยสีหน้าไม่สำนึกผิด “มึงก็ด้วยมีน ไม่ต้องมาแกล้งให้ไอ้ซันรู้สึกผิดเลย กูรู้ว่าปากมึงจุได้มากกว่านั้นเยอะ กูเคยเห็นผัวมึง”




“พายุ!” ร่างเล็กหน้าแดงก่ำ ส่วนทินกรที่ยังคงไม่เคยเห็นคนรักที่ว่าของเพื่อนตัวเล็กหูผึ่งอย่างสนอกสนใจ




“ขนาดนั้นเลยเหรอ?”




“ก็ถ้าขนาดแม่งแปรผันตามรูปร่างก็ใหญ่กว่าของกูกับมึงอ่ะ” พายุตอบอย่างจริงจัง อ้าแขนทำภาพประกอบให้เพื่อนเห็น




การได้เห็นทินกรมีสีหน้าเลื่อมใสกับขนาดของผู้ให้กำเนิดทำให้มีนารู้สึกอยากจะเป็นลมหนีความเป็นจริงไปเสียดื้อๆ เด็กหนุ่มร่างเล็กมองหาหัวข้อสนทนาใหม่เพื่อเปลี่ยนประเด็น ก่อนจะมาจบที่ใบหน้าที่เขาเพิ่งสังเกตว่าดูเปลี่ยนแปลงไปจากปกติเล็กน้อยของเพื่อนผิวเข้ม




“พายุ..หน้าดูเนียนขึ้นรึเปล่า?”





“เออ จริง ตอนแรกก็ว่าจะทักอยู่ ไปทำไรมาวะ?” ทินกรถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัยเช่นกัน





“สังเกตด้วยเหรอวะ?” พายุเกาหลังคอด้วยสีหน้าที่มีนาไม่เคยเห็นและไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร นั่นคือสีหน้าเอียงอายราวกับสาวน้อยกำลังมีความรัก




“มีน ถ่ายรูป เร็วๆ ๆ ๆ” ทินกรกระซิบตาโต ส่วนมีนานั้นตั้งกล้องพร้อมก่อนเพื่อนจะสั่งนานแล้ว





“พอเลยพวกมึง” พายุผลักศีรษะของร่างเล็กเบาๆ “เจนเขาให้กูไปช่วยถ่ายคลิป...”





“เชี่ย...กู้ดจ้อบ” ทินกรพยักหน้าพร้อมยกนิ้วโป้งให้เพื่อนอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะโดนปาเมล็ดถั่วคั่วที่อีกฝ่ายซื้อมาด้วยอัดเข้ากลางหน้าผาก





“คลิปสอนแต่งหน้าว้อย เขาให้กูไปเป็นตัวอย่างสอนแต่งหน้าผู้ชาย ปกปิดรอยคล้ำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอไรงี้ พวกมึงนี่ไม่อินเทรนด์เลย” หนุ่มผิวเข้มกอดอกส่ายหน้ามองเพื่อนๆ ราวกับว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนนั่งจ้องขวดรองพื้นด้วยสายตาพิศวงพร้อมๆ กับพวกเขาในช่วงประกวดเดือนก่อนหน้านี้ “เพิ่มมูลค่าสินค้าไง ถึงกูจะหล่อวัวตายควายล้ม แต่ถ้ามันหล่อได้อีกก็ต้องงัดให้สุดป่ะ”





“แล้วตกลง เจนนี่กับพายุ...”





“เออ คบกันแล้ว กูยังไม่ได้บอกพวกมึงเเหรอ?” พายุขมวดคิ้วอย่างงุนงง “เออ แต่ก็ไม่แปลก เรียนเสร็จแม่งหายหัวกันเป็นว่าเล่น ไอ้ซันนี่ขนาดมีเรียนยังไม่โผล่หัวมาเลย”





“โทรศัพท์ก็มีป่ะวะ?” ทินกรเลิกคิ้ว แต่ก่อนที่พายุจะได้โต้ตอบอะไร คนในหัวข้อสนทนาก็เดินเข้ามาในลานสายตาของพวกเขาเสียก่อน พายุโบกมือให้คนรักพร้อมรอยยิ้ม ส่วนเจนวิทย์ที่สังเกตเห็นอีกฝ่ายก็หันไปพูดอะไรบางอย่างกับกลุ่มเพื่อนแล้วปลีกตัวออกมาหาพวกเขา





“โทษทีนะ เราเพิ่งเลิกอ่ะ” เจนวิทย์เอ่ยกับพายุพร้อมรอยยิ้มเจื่อน ใบหน้าของเด็กหนุ่มหน้าหวานยังคงแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์บางๆ ที่แม้จะไม่ได้กลืนไปกับผิวจนแยกไม่ออกเหมือนของพายุ แต่ก็สำหรับคนที่ไม่รู้จักเครื่องสำอางค์อย่างพวกเขาแล้วก็ยากจะดูออกว่ามีอะไรอยู่บนหน้านอกจากลิปกลอสสีชมพูอ่อนบนริมฝีปาก





“อื้อ ไม่เป็นไร เราซื้อข้าวมาไว้ให้แล้ว” พายุชี้ไปที่กล่องโฟมสองกล่องในถุงหิ้ว “เอาข้าวหมูแดงช่ะ”




การได้ยินคนที่แพร่พันธุ์สุนัขนานาชนิดไว้ในปากตั้งแต่รู้จักกันมาแทนตัวเองว่าเราทำให้มีนาและทินกรมองหน้ากันด้วยสีหน้าสับสน แต่เจนวิทย์เพียงแค่ยิ้มขอบคุณแล้วนั่งลงข้างแฟนของตัวเอง




“เอ่อ เจนนี่...”





“เรียกเจนก็พอ” เจนวิทย์เอ่ยขัดทินกร “พี่ๆ ช่างแต่งหน้าเขาชอบเรียกเราว่าเจนนี่จนคนอื่นเขาติดเรียกกันไปแบบนั้น แต่จริงๆ เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่”




“อ๋อ ได้ๆ เราชื่อซันนะ นี่มีน ยินดีที่ได้รู้จัก” เด็กหนุ่มแนะนำตัวแล้วยื่นมือไปจับมือของเพื่อนใหม่ แต่โดนมือใหญ่ของเพื่อนตัวเองตีดังเพี๊ยะ




“ไม่ได้ กูหวง”




“พอเลย เยอะนะเราอ่ะ” เจนวิทย์ยิ้มขำ ยื่นมือไปจับมือทินกร ซึ่งหันไปฉีกยิ้มอวดเขี้ยวให้พายุอย่างมีความสุขที่แกล้งเพื่อนได้ มีนายิ้มแล้วพยักหน้าให้อีกฝ่าย นึกดีใจแทนพายุที่ดูเหมือนชีวิตรักของเพื่อนจะดำเนินไปด้วยดี




“แล้วไปทำอะไรยังไงทำไมถึงได้ยอมคบกับคนอย่างพายุอ่ะ” ทินกรถาม ได้รางวัลจากเพื่อนเป็นฝ่ามืออรหันต์ตบเข้าที่กลางหลัง




“ก็…คุยกันถูกคอ พายุเขาก็น่ารักดี พอเขาขอคบเราก็เลยตอบตกลง” เจนวิทย์เล่าพร้อมรอยยิ้ม แก้มของเด็กหนุ่มแดงระเรื่อเพิ่มจากบลัชออนสีเลือดฝาดขึ้นมาเล็กน้อย ทินกรและมีนากระพริบตาปริบๆ ด้วยความประหลาดใจกับคำบอกเล่า ราวกับว่านั่นเป็นสิ่งที่ทั้งสองไม่รู้มาก่อนว่าสามารถเกิดขึ้นได้ในการคบกับใครสักคน




“แป๊บนะ เดี๋ยวเรากลับมา” เจนวิทย์หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาเมื่อได้ยินเสียงสายเรียกเข้า




“อย่าไปนานนะ คิดถึง” พายุหยอดเสียงหวาน ทำเอาเพื่อนทั้งสองเบ้หน้าอย่างรับความหวานของอีกฝ่ายไม่ได้ ก่อนที่เด็ก
หนุ่มผิวเข้มจะหันมาหาพวกเขาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง “อะไรของพวกมึงวะ? ทำเหมือนไม่เคยมีแฟน ใครๆ เขาก็ทำกันแบบนี้ป่ะวะ?”




“เอ่อ...” มีนาพยายามหาคำตอบให้กับคำถามนั้นแต่ในหัวสมองมีเพียงความว่างเปล่า ทินกรทินกรนั้นไม่พยายามจะแก้ต่างอะไรให้ตัวเอง “เราแค่คิดว่าพายุจะ...โผงผางกว่านี้น่ะ”




“อะไร คิดว่ากูจะตีหัวเขาลากเข้าถ้ำจับปล้ำทำเมียงั้นดิ?” เด็กหนุ่มผิวเข้มถามเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนที่เสียงหัวเราะนั้นจะค่อยๆ หยุดลงเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองไม่ขำกับตัวเองด้วย “นี่พวกมึงรู้ใช่มั้ยว่าคนปกติเวลาจะหาแฟนเขาไม่ได้สปาร์คกันหนึ่งวันแล้วลากขึ้นเตียงน่ะ”




“….” มีนาตัดสินใจที่จะไม่ตอบคำถามนั้น และการเบือนหน้าหนีของทินกรยิ่งเป็นการคอนเฟิร์มสมมติฐานของพายุไปในตัว




“เฮ้ย พวกมึงจริงจังป่ะเนี่ย?”




“บางที คนเราก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรตามขั้นตอนก็ได้นี่” ทินกรอ้าง พายุเลิกคิ้วราวกับจะถามว่า ‘มึงเอาจริงดิ?’ ก่อนจะถอนหายใจออกมา




“ซัน การจะคบกับใคร มันก็เหมือนมึงจะสร้างบ้านอ่ะ มึงจะลงเสาหลักก่อนหรือจะสร้างหลังคาก่อนมันก็เป็นบ้าน แต่ถ้ามึงทำงานทั้งหมดจนเสร็จโดยที่มึงไม่ลงเสาหลัก บ้านมึงก็พังง่ายกว่าบ้านที่มีไง เก็ทป่ะ”




“มัน…ก็ไม่เสมอไปหรอก ใช่มั้ย?” มีนาพยายามให้กำลังใจเพื่อนที่หน้าเสียไป แม้ว่าน้ำเสียงของเด็กหนุ่มจะไม่มีความมั่นใจเลยก็ตาม




“ก็ไม่เสมอไป” พายุยอมรับ “แต่มึงอยากเป็นกลุ่มเสี่ยงมั้ยล่ะ?”




มีนากัดริมฝีปาก แม้จะรู้ว่าในกรณีของตัวเอง เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะเปลี่ยนสถานะของตัวเองจากสัตว์เลี้ยงและลูกหนี้ไปเป็นอย่างอื่น แต่การได้ยินสิ่งที่เพื่อนพูดก็ไม่ได้ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกดีขึ้น




“อีกอย่าง ถ้ามึงคิดจะจริงจังกับใครสักคน มันอยู่ที่ความเคารพในตัวเขาของมึง” พายุอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้ามึงคิดจะคบกับใครซักคนไปนานๆ มึงไม่อยากให้เขาได้ทุกอย่างที่ควรจะได้เหรอ?”




“ทุกอย่าง...” มีนาทวนคำอย่างไม่เข้าใจ




“มึงอยากให้ความทรงจำที่มองย้อนกลับมาเป็นเดทแรกที่พวกมึงคุยกัน ทำความรู้จักกัน ให้มึงได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นคนที่เขาคู่ควรจะสานต่อความสัมพันธ์ด้วย หรืออยากให้มันเป็นเรื่องบนเตียงของคนสองคนที่ถ้าไม่นับเรื่องชื่อแล้วก็คนแปลกหน้าดีๆ นี่เองกันล่ะ” พายุไหวไหล่ “จริงๆ ก็ตามสะดวกพวกมึงล่ะนะ แต่กูอยากให้เจนได้ทุกอย่างที่เขาสมควรจะได้ เพราะสำหรับกู เขามีค่าขนาดนั้น”




“คุยอะไรกันเหรอ หน้าเครียดเชียว” เจนวิทย์ที่กลับมาจากการคุยโทรศัพท์ถามเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนทั้งสาม พายุหันไปยิ้มให้แฟน กลับมาทำเสียงอ่อนเสียงหวานอย่างเดิม




“ก็ไอ้สองตัวนี้มันอยากรู้ว่าทำไมเราหล่อขึ้นไง เจนแนะนำมันหน่อยดิ ดูแต่ละคน หน้าตาอย่างกับซอมบี้”





นั่นก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน มีนารู้ว่าหมู่นี้ความเครียดที่สั่งสมมาเป็นเวลานานเริ่มแสดงของทางผิวพรรณและใต้ตาที่เริ่มคล้ำขึ้นของตัวเอง ถึงแม้ว่าเวลานี้เขาจะไม่ได้เครียดอย่างก่อนหน้ามากนัก แต่ความเสื่อมโทรมของร่างกายไม่ใช่สิ่งที่จะหายไปได้ทันทีทันใด และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองควรจะแก้ไขมันอย่างไร




“ของมีนง่ายนิดเดียวเอง ผิวใสอย่างกับแก้วกระจกแบบนี้แค่คอนซีลเลอร์ปิดแพนด้าก็เริ่ดละ” ผู้เชี่ยวชาญออกความเห็น



“บ่ายนี้ว่างมั้ย เดี๋ยวเราพาไปเลือกสี”




“คือ...”




“แล้วเราล่ะเจน” ทินกรเอ่ยแทรกขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่พายุพุดก่อนหน้านี้แทงใจดำเด็กหนุ่มเข้าอย่างจัง “เราก็อยากลองบ้าง เราไม่อยากให้แฟนคิดว่าเราไม่ดูแลตัวเอง”




ชัดเลย...ทินกรคนคิดมากเข้าสู่วังวนของความเครียดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว





“โห ซัน หล่อขนาดนี้เราบอกตรงๆ เลยนะว่าไม่รู้จริงๆ ว่าจะแต่งอะไรเพิ่ม ขนาดขนคิ้วซันยังเรียงเป๊ะอย่างกับกันมาเลยอ่ะ” เจนวิทย์เอ่ยด้วยขบขัน “นี่ตำแหน่งเดือนหลุดจากซันมาที่พายุได้ไงอ่ะ ซันหล่อกว่าเดือนมหาลัยอีกนะรู้ตัวมั้ย”





“ไม่ขนาดนั้นหรอก” ทินกรยิ้มเจื่อนเมื่อเห็นสายตาอาฆาตของพายุ “แล้ว...เราทำอะไรได้บ้าง”





“เน้นบำรุงผิวก็ได้นะ ป้องกันการเสื่อมโทรม...” เจนวิทย์พินิจพิเคราะห์ใบหน้าหล่อเหลาอย่างงุนงง “นี่ผิวคนจริงๆ เหรอ รูขุมขนนายอยู่ตรงไหนเนี่ย”





มีนาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ไพล่นึกไปถึงคนพ่อที่แม้จะสี่สิบกว่าแล้ว แต่ผิวหน้ายังคงเหมือนกับลูกชายคนเล็กไม่มีผิด





เขารู้ดี เพราะเขาตื่นขึ้นมามองใบหน้านั้นในระยะห่างที่สามารถมองเห็นทุกรูขุมขนของมนุษย์ได้ทุกเช้า




เด็กหนุ่มยกมือขึ้นลูบใบหน้า เริ่มรู้สึกเป็นกังวลกับสภาพของตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว













และแน่นอน เมื่อพวกเขาทั้งสามคนเห็นตรงกันเมื่อไหร่ หายนะย่อมปรากฎกายให้เห็นเมื่อนั้น




“ซัน…ที่นี่มันที่ไหนอ่ะ”




“เรา…เราก็ไม่รู้เหมือนกัน” ทินกรกลืนน้ำลายมองแดนดินลับแลที่แผ่ไกลสุดลูกหูลูกตาตรงหน้า โซนหนึ่งของห้างสรรพสินค้าที่เขาไม่เคยย่างกรายเข้ามา “มีน...เรากลัว”




“ซันตัวโตกว่าเรานะ ซันหลบหลังเราไม่ได้หรอก” มีนากระซิบบอกเพื่อนที่แทบจะสิงอยู่ในหลังของตัวเอง หันไปยิ้มแหยให้พนักงานที่เชิญชวนให้พวกเขาทดลองสินค้าและเดินตามประกบถามว่าพวกเขาหาอะไรอยู่ซ้ำไปมาแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีคำตอบให้ ส่วนพายุนั้นเดินควงแขนกับคนรักที่เป็นคนนำทัพอย่างสบายใจ เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกของร่างสูงในดินแดนแห่งสีสัน





“คุณลูกค้าหาอะไรอยู่เหรอคะ”





“พี่ครับปล่อยผมไปเถอะ ผมกลัวแล้ว” ทินกรยกมือไหว้ท่วมหัวอย่างน่าสูง เล่นเอาพนักงานสาวตัวพอๆ กับมีนาปั้นหน้าไม่ถูก





“มีน มาลองอันนี้ซิ ชอบรึเปล่า”





เจนวิทย์เอ่ยเรียก ลูกแกะหลงฝูงทั้งสองรีบพุ่งตัวไปหาอีกฝ่ายทันที เจนวิทย์แตะเนื้อครีมจากหลอดใสที่บรรจุของเหลวสีเนื้อมาแตะตรงใบหน้าขาว





“ถ้าเป็นคอนซีลเลอร์ใต้ตา จะใช้อันที่สีสว่างกว่าผิวหน่อยก็ได้ จะได้ดูสดใสขึ้น ตัวนี้มีส่วนผสมของสารบำรุงด้วย น่าจะเหมาะกับมีน” เด็กหนุ่มผมยาวออกความเห็น “แต่ยังไงก็ต้องใช้สกินแคร์ควบคู่กันไปด้วยนะ ความสวยมันต้องออกมาจากภายใน”





มีนาเหลือบมองราคาจากป้ายบนเคาท์เตอร์แล้วส่ายหน้าพรืด ไม่มีทาง ต่อให้เขามีเงินเป็นของตัวเองเขาก็ไม่มีทางซื้อของราคาขนาดนี้ให้ตัวเองเด็ดขาด




“เจนเลือกเลยครับ เอาที่คิดว่าเหมาะ เดี๋ยวเราจ่ายให้” พายุเอ่ยขัดแล้วหยิบกระเป๋าตังค์ของตัวเองออกมา “เอาที่มันปิดรอยดูดรอยอะไรด้วยอันนึง”




“ไอ้ยุ!” ทินกรถองสีข้างเพื่อนด้วยแรงไม่เบานัก นี่เขาอุตส่าห์ไม่พูดแล้วนะ




“อะไรวะ? มึงจะเก็บไว้ให้เพื่อนในคณะมันเป็นคนทักรึไง” พายุเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะหันไปหามีนา “แล้วอีกอย่าง กูนี่แหละที่ทนมองไม่ได้ เห็นแล้วหน้าไอ้เสี่ยฝรั่งมึงก็ลอยมาทุกที แม่ง คิดว่ามึงเป็นชาไข่มุกเหรอวะ ดูดเอาๆ”




“พายุ!” คราวนี้เจนวิทย์เป็นฝ่ายปรามบ้าง ส่วนมีนาเพียงแต่ก้มหน้างุดอย่างไม่รู้จะพูดอะไร แม้เขาจะรู้ว่าพายุไม่ได้มีเจตนาร้ายและนั่นเป็นวิธีที่ปากของอีกฝ่ายทำงาน แต่เขาก็อดยกมือขึ้นปิดคออย่างเสียความมั่นใจไม่ได้




“ขอบใจนะที่เตือน...ดีกว่าให้คนอื่นมาเห็นจริงๆ นั่นแหละ” มีนาพึมพำ เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กไม่ถือสา หมู่คณะทั้งสี่ก็เดินตามหาเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้กับทั้งมีนาและทินกรต่อไป




สิ่งที่พวกเขาได้มาทั้งหมดรวมมูลค่าแล้วมากกว่าค่าเช่าแผงที่มีนาติดไว้ทั้งปีเสียอีก





“มา เดี๋ยวเราสอนแต่ง วิธีทำความสะอาดเราส่งคลิปให้แล้ว ไปเปิดดูนะ การล้างหน้าให้สะอาดจำเป็นมากนะรู้มั้ย” เจนวิทย์สอนแล้วจับมีนานั่งลงที่หน้ากระจกบานใหญ่ ก่อนจะดึงเอาของที่ซื้อมาออกมาสาธิตกับหน้าของร่างเล็ก โชคดีที่มันดูง่ายกว่าที่เขาคิดไว้มาก และวิธีการแต้มคอนซีลเลอร์เพื่อลบรอยที่ธีรเชษฐ์ทำไว้เมื่อเช้าก็ทำให้มีนารู้สึกใจชื้นขึ้นมาอีกครั้งกับการมาเรียนในแต่่ละวัน




เด็กหนุ่มมองหน้าตัวเองในกระจก ทั้งที่ดูเหมือนไม่มีเครื่องสำอางค์ได้ๆ แต่งแต้มบนใบหน้า แต่มีนากลับรู้สึกได้ว่าตัวเองดู...สะอาดตาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก





“อ่ะ นี่ลิปกลอส เราให้เป็นของขวัญ” เจนวิทย์ยื่นถุงกระดาษใบเล็กให้มีนาพร้อมรอยยิ้ม “ถึงทาไปแล้วจะดูออกว่าทา แต่มันจะทำให้ปากมีนน่าจุ๊บมากเลยนะ แฟนมีนน่าจะชอบ”




“ขะ…ขอบใจนะ” มีนารู้สึกว่าแก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าว ก้มหน้างุดหลบสายตาหยอกล้อของเพื่อนทั้งสาม




เขาจะไม่มีวันยอมรับหรอกว่า ก่อนที่ธีรเชษฐ์จะมารับในเย็นวันนั้น มีนาแอบเข้าไปทาลิปกลอสที่เจนวิทย์ซื้อให้ในห้องน้ำก่อนจะก้าวออกมารอร่างสูงที่จุดนัดประจำของพวกเขา












“หน้าไปโดนอะไรมา”




นั่นคือสิ่งแรกที่ธีรเชษฐ์ทักเมื่อเด็กหนุ่มก้าวเข้ามาในรถ มีนาหน้าเสียไปกับคำถามและแววตาสับสนงุนงงราวกับไม่มั่นใจว่ากำลังมองอะไรอยู่ของเจ้าชีวิต เขาไม่ได้คาดหวังให้ธีรเชษฐ์อ้าปากค้างอย่างตื่นตะลึงหรือชมว่าเขาดูดีขึ้นผิดหูผิดตา แต่การถูกถามด้วยสายตาเหมือนเห็นเขาโดนยุงกัดหน้าผากแบบนี้ก็ทำให้คนตัวเล็กแอบรู้สึกน้อยใจไม่ได้




“ปะ…เปล่าครับ ไม่มีอะไร”




“จะไม่มีได้ยังไง” อีกฝ่ายจับที่หัวไหล่มนให้เด็กหนุ่มหันมามองหน้าเขาตรงๆ มือใหญ่ดึงคอเสื้อของเขา เผยให้เห็นช่วงคอขาวและบางส่วนของแผ่นอกแบนราบ




ทีแรก มีนาไม่เข้าใจจุดประสงค์ของการกระทำนั้น ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าดวงตาสีควันบุหรี่ที่ดูไม่สบอารมณ์นั้นกำลังกวาดมองหาอะไร




ธีรเชษฐ์กำลังมองหารอยที่ตนทำไว้บนซอกคอขาวเมื่อเช้า




“คือ…เพื่อนที่เป็นช่างแต่งหน้าเขาอยากลองแต่งหน้าให้ผู้ชายน่ะครับ…” มีนาพึมพำโกหกไม่เต็มเสียง แต่ธีรเชษฐ์ที่ยังคงแสดงสีหน้าหงุดหงิดไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ มีนาก้มหน้ามองตักของตัวเอง รู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองแดงก่ำไปตลอดระยะทาง








สิ่งแรกที่มีนาทำหลังจากกลับมาถึงห้องคือการล้างเครื่องสำอางค์ทั้งหมดออกพร้อมกับอาบน้ำให้เสร็จในรอบเดียว เด็กหนุ่มเหลือบมองลิปกลอสที่เสียบอยู่ในกระเป๋าตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจหยิบมันออกมาทาบางๆ อีกครั้ง ริมฝีปากของเด็กหนุ่มใน
ตอนนี้ไม่ได้ดูชมพูกว่าปกติมากนัก แต่สิ่งที่แปลกตาไปคือความเงาวาวที่ช่วยเน้นให้ริมฝีปากอิ่มดูโดดเด่นขึ้น




ลองใหม่อีกครั้งคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง




ในตอนนี้ที่มีนาไม่มีอะไรมาดึงดูดความสนใจนอกจากรอยรักสีหวานที่ถูกปิดฝังใต้คอนซีลเลอร์ก่อนหน้านี้กลับมาเด่นชัดอีกครั้ง ริมฝีปากปากของร่างเล็กจึงกลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุด




แน่นอน มีนาไม่ได้คิดว่าคนอย่างตัวเองจะมีปัญญาทำให้คนอย่างธีรเชษฐ์หลงได้ แต่เขาแค่อยาก…พายุเรียกว่าอะไรนะ? เพิ่มมูลค่าสินค้าไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเขาน่าเบื่อจนเกินไป




“ทำอะไรอยู่…” เสียงทุ้มถูกกลืนหายไปในลำคอ ดวงหน้าหวานขึ้นสีเล็กน้อยเมื่อเห็นดวงตาคมเคลื่นลงมาหยุดที่ริมฝีปากอิ่ม ก่อนจะเคลื่อนลงไปยังร่องรอยที่ตนตามหาก่อนหน้า ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มอย่างพึงพอใจ “ค่อยดีขึ้นหน่อย”




ร่างเล็กถูกดึงเข้าไปในอ้อมแขนแกร่ง ริมฝีปากร้อนโฉบลงมาครอบครองริมฝีปากนิ่ม มีนารู้สึกว่าธีรเชษฐ์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่
ลิ้นร้อนจะสอดเข้ามาในโพรงปากอุ่น เกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กที่พยายามโต้ตอบอย่างไม่ประสา แม้เวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ การฝึกฝนที่ได้รับจากร่างสูงจะมากแค่ไหน แต่มีนาก็ยังคงขัดเขินเกินกว่าจะเปิดใจเรียนรู้ได้มากกว่าการตอบโต้ตามสัญชาตญาณ





แต่ครั้งนี้ เขารู้สึกว่าริมฝีปากได้รูปไม่ยอมผละจากเขาง่ายๆ ธีรเชษฐ์งับริมฝีปากล่างของเด็กหนุ่มเบาๆ ดูดดึงติ่งเนื้อสีหวานราวกับมีนาเป็นลูกกวาดรสเลิศ ร่างเล็กพยายามจะผละออกแต่กลับถูกมือใหญ่กดท้ายทอยไว้ก่อนที่ลิ้นร้อนจากลากกลับมาหยอกล้อกับลิ้นเรียวเล็กอีกครั้ง





“แฮ่ก…”





กว่าธีรเชษฐ์จะยอมปล่อยให้คนตัวเล็กเป็นอิสระ มีนารู้สึกว่าขาของตัวเองกลับไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาจนต้องเป็นฝ่ายคว้าแขนของ
ร่างสูงไว้เสียเอง ริมฝีปากที่บวมเจ่อจากการถูกชิมอ้าฮุบเอาอากาศหายใจอย่างเอาเป็นเอาตาย เรียกเสียงหัวเราะทุ้มต่ำในลำคอจากคนขี้แกล้งได้เป็นอย่างดี





“ปากนี่ทาอะไรมา” นิ้วหัวแม่มือของอีกฝ่ายเกลี่ยที่ริมฝีปากของมีนาเพื่อช่วยเช็ดของเหลวสีใสที่ไม่ใช่ลิปกลอสออกเบาๆ






“ลิป…ลิปมันน่ะครับ…” เด็กหนุ่มตอบเสียงเบา “พอดีได้มาฟรีก็เลย…”




“อร่อยดีนะ”




เสียงทุ้มกระซิบข้างหูของร่างเล็ก ก่อนจะผละจากมีนาที่เริ่มยืนเองได้แล้วก้าวเข้าไปในห้องน้ำบ้าง มีนาทรุดตัวลงบนเตียง มือเรียวยกขึ้นกุมหน้าอกของตัวเองที่หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมานอกอก





มีนาทิ้งตัวลงนอนบนเตียง มองเพดานห้องพร้อมรอยยิ้มกว้างขณะฟังเสียงน้ำไหลกระทบพื้น





เด็กหนุ่มหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาเปิดอินเตอร์เน็ตแล้วพิมพ์ชื่อของลิปที่เจนวิทย์ให้เขามา ในเว็บไซต์ของเครื่องสำอางมีภาพของหญิงสาวหลายคนในชุดนอนเบาบางขยิยตาส่งจูบให้กล้องอย่างยั่วยวน





‘Made for your man.’




‘มอบของขวัญให้คนที่คุณรัก ด้วยริมฝีปากที่เขาไม่มีวันลืม’





เด็กหนุ่มหน้าแดงวาบกับคำเคลมที่บอกว่ากลิ่นในลิปกลอสตัวนี้ถูกสังเคราะห์ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้ได้รสสัมผัสที่ชายหนุ่มส่วนใหญ่หลงใหล เรียกได้ว่าเป็นลิปที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการถูกจูบโดยเฉพาะ




เจนนะเจน เล่นอะไรของเขาเนี่ย




มีนาส่ายหน้าแล้วกดปิดล็อคหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนจะพลิกตัวไปหยิบลิปกลอสแท่งนั้นจากกระเป๋าตัวเองอีกครั้งแล้วแต้มเนื้อลิปลงบนริมฝีปากของตัวเองเบาๆ

















“ซื้ออะไรมาเยอะแยะน่ะซัน”




ภรัณยูที่อาบน้ำแต่งตัวในชุดนอนเสร็จเรียบร้อยแล้วถามเมื่อเห็นถุงกระดาษจากห้างสรรพสินค้าหลายถุงวางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือของคนรัก ทินกรที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เขาอย่างภาคภูมิใจ




“สกินแคร์ครับ เพื่อนผมเลือกมาให้เยอะแยะเลย”





“เหรอ…พี่ไม่เห็นซันจะเคยใช้อะไรพวกนี้เลยนี่”




ภรัณยูเปิดดูภายในถุงอย่างสนใจ




“ก็ผมไม่อยากโทรมนี่ครับ เดี๋ยวพี่ภัทรไม่รักไง” ทินกรโอบแขนรอบเอวของคนรัก ถูไถใบหน้าไปกับหน้าท้องแบนราบอย่างเอาอกเอาใจ ภรัณยูลูบศีรษะคนขี้อ้อนอย่างงุนงง วันนี้มาอารมณ์ไหนเนี่ย




“อะไรคือโทรมแล้วพี่จะไม่รัก ไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหนเนี่ย”




“ไม่รู้อ่ะ กันไว้ดีกว่าแก้” ทินกรเงยหน้ามองคนรักด้วยสีหน้าเป็นกังวล “พี่ภัทร ผมถามหน่อยได้มั้ยครับ?”




“อะไรเหรอ?” ภรัณยูขมวดคิ้วเมื่อจู่ๆ คนที่ทำเล่นเมื่อครู่ดันมีสีหน้าจริงจังขึ้นมาเสียอย่างนั้น




“พี่ภัทรเสียใจมั้ยครับที่เราไม่ได้รู้จักกันมากกว่านี้ก่อนคืนแรกที่เรานอนด้วยกัน”




ภรัณยูพยายามเก็บซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำของตัวเองกับคำถามนั้น เขาไม่ใช่สาวน้อยในการ์ตูนตาหวานนะจะได้มาหน้าแดงกับคำถามแบบนี้





“ทำไมพี่ต้องเสียใจด้วย?”





“ก็ผมข้ามมันไปทั้งหมดเลยนี่นา” เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด “ทั้งจับมือกันครั้งแรก ได้กอดพี่ครั้งแรก หอมแก้มราตรีสวัสดิ์ครั้งแรก ของที่ผมควรจะทำก่อนหน้า ผมไม่ได้ทำให้พี่ภัทรเลยนี่ครับ”




“แล้วมันยังไงล่ะ?” ภรัณยูนั่งลงบนเตียง โอบแขนรอบไหล่กว้างของคนรัก นึกแปลกใจกับความคิดของอีกฝ่ายในวันนี้





ทินกรเล่าสิ่งที่พายุพูดกับตัวเองให้ภรัณยูฟัง ร่างโปร่งพยักหน้ารับฟังด้วยสีหน้าที่เขาอ่านไม่ออกตั้งแต่ต้นจนจบ ก่อนจะดึงแก้มของคนรักยืดขึ้นลงสุดแรงจนเด็กหนุ่มร้องโอดโอยออกมาดังลั่น




“โอ้ยอี้อัดเอ็บๆ ๆ ๆ ๆ (โอ้ยพี่ภัทรเจ็บๆ ๆ ๆ ๆ) ” คนโดนหยิกแก้มร้องโอดโอย ทว่าไม่ได้รับความเห็นใจจากคนรัก




“ดี จะได้ไม่คิดอะไรแบบนี้อีก” คนอายุมากกว่าดุด้วยน้ำเสียงจริงจัง “คนเราน่ะ ถ้าไม่ได้รักกันแล้ว ต่อให้เคยมีความทรงจำดีๆ ร่วมกันแค่ไหน สุดท้ายก็เอามาเป็นเรื่องชวนทะเลาะกันได้อยู่ดีนั่นแหละ”




ทินกรยังคงมองเขาด้วยสายตาคลางแคลงใจ




“เชื่อพี่สิซัน” ภรัณยูเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง “เพราะคนที่พี่ทำทุกอย่างด้วยตามลำดับขั้นตอนที่ซันว่ามา ตอนนี้เขากำลังพยายามทำทุกวิถีทางให้ชีวิตพี่ตกนรกทั้งเป็น แค่เพราะพี่เลือกที่จะไม่กลับไปเป็นความลับของเขา”




“พี่ภัทร…” ทินกรมีสีหน้าสำนึกผิด “ขอโทษนะครับ ทั้งที่พี่ภัทรมีเรื่องเครียดอยู่แล้วแท้ๆ”




“พี่น่ะ อยากคิดเรื่องของซันมากกว่าเรื่องของผู้ชายคนนั้นเยอะ เชื่อสิ” ร่างโปร่งเอ่ยยิ้มๆ “ไหน เอาของที่ซื้อมามาลองบ้างซิ”




“พี่ภัทรไม่เห็นต้องใช้เลย แค่นี้ผมก็หลงจะตายอยู่แล้ว” เด็กหนุ่มแย้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง ภรัณยูหัวเราะ เอื้อมไปหยิบถุงกระดาษถุงนั้นมาเทลงบนเตียงเพื่อดูว่าอีกฝ่ายซื้ออะไรมาบ้าง




” แล้วใช้เป็นเหรอเนี่ย ซื้อมาเยอะแยะเลย”




” อ่า…เจนก็สอนมาบ้างแล้วล่ะครับ ใช้ไปเรื่อยๆ น่าจะจำได้” ทินกรยิ้มเจื่อน ร่างโปร่งส่ายหัวยิ้มๆ ดึงให้อีกฝ่ายเอนตัวลงมา
นอนที่ตักของตัวเอง




“พี่ทาให้”




ถึงเขาจะไม่ได้สันทัดอะไรมากนัก แต่ภรัณยูก็ไม่ได้ปล่อยปะละเลยการดูแลตัวเองขนาดวักน้ำเปล่าล้างหน้าแบบอีกฝ่าย ยิ่งหลังจากคบกับร่างสูง เขายิ่งรู้สึกว่าตัวเองต้องพยายามมากขึ้น




จากหน้าเด็กแค่ไหน สังขารก็คือสังขารอยู่ดีล่ะนะ




“โห เที่ยงคืนแล้วเหรอครับเนี่ย?” เด็กสมาธิสั้นที่นอนนิ่งๆ ให้เขานวดครีมเข้าหน้าไม่เป็นเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองจากหัวเตียง





“ทำอะไรเหรอ?” ภรัณยูถาม ก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์ของร่างบนตัก ทินกรยิ้ม






“ทำหน้าที่ลูกที่ดีครับ”





-----------




น้องมีนนางก็ขี้อ่อยเหมือนกันนะตัว :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 บตบกย่อมาจากบิวตี้บลอกเกอร์ [11-7-62] คห.599
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 11-07-2019 20:26:07
โอ้ยยยยย น้องมีนน่ารักที่สุดในโลกเลยลู๊กกกกกก
ทาลิปอีกๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 บตบกย่อมาจากบิวตี้บลอกเกอร์ [11-7-62] คห.599
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 11-07-2019 21:06:58
จัดไปน้องมีน ให้อีตาคุณเชษฐ์หลงหัวปักหัวปำไปเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 บตบกย่อมาจากบิวตี้บลอกเกอร์ [11-7-62] คห.599
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-07-2019 21:52:39
ซัน มีน พอฟังเจนวิทย์ เลยดูแลหน้าตาผิวพรรณกันใหญ่
แถมได้แง่คิดในการดูแลคนรักจากพายุอีก  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
มีน ปกติก็โดนจัดหนักอยู่แล้ว
พอทาลิปมันเพิ่มเท่านั้นเลยยิ่งน่าจูบเข้าไปอีก  :impress2:
รอยที่คอนี่หายไม่ได้เลยนะ คุณเชษฐ์ ชอบตีตราแสดงความเป็นเจ้าของจริงๆ  :impress2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 บตบกย่อมาจากบิวตี้บลอกเกอร์ [11-7-62] คห.599
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-07-2019 23:39:05
หน้าที่ลูกที่ดีของซันเป็นไงน่ะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 บตบกย่อมาจากบิวตี้บลอกเกอร์ [11-7-62] คห.599
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 11-07-2019 23:41:37
 :hao4: ทำอะไรอ่ะน้องซัน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 บตบกย่อมาจากบิวตี้บลอกเกอร์ [11-7-62] คห.599
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 12-07-2019 00:47:20
ติดทาลิปเลยทีนี้
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 บตบกย่อมาจากบิวตี้บลอกเกอร์ [11-7-62] คห.599
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 12-07-2019 02:11:11
น้องมีนลูกกก
อิแม่ใจบาปไปหมดแล้ววว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 บตบกย่อมาจากบิวตี้บลอกเกอร์ [11-7-62] คห.599
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-07-2019 12:17:22
ลิปกลอส อาถรรพ์555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 บตบกย่อมาจากบิวตี้บลอกเกอร์ [11-7-62] คห.599
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-07-2019 15:34:32
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 บตบกย่อมาจากบิวตี้บลอกเกอร์ [11-7-62] คห.599
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 13-07-2019 15:46:11
สามคนนี้นี่เหมาะที่จะเป็นเพื่อนกันจริงๆอ่ะ
แค่เสริมความมั่นใจให้ตัวเองนิดหน่อยเองเนอะน้องมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 บตบกย่อมาจากบิวตี้บลอกเกอร์ [11-7-62] คห.599
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 16-07-2019 23:51:33
น้องมีนหนูต้องเรียนรู้อีกเยอะ :katai5: :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 บตบกย่อมาจากบิวตี้บลอกเกอร์ [11-7-62] คห.599
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 18-07-2019 18:27:58
Chapter 32: ตอกฝาโลง

สิ่งแรกที่มีนารู้สึกหลังจากสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในเข้าวันรุ่งขึ้นคือริมฝีปากของคนข้างกายที่ทาบทับลงมาบนหน้าผากใส เด็กหนุ่มที่ยังคงไม่ยอมลืมตาพลิกกายซุกหน้ากับหมอนใบนิ่มหนีริมฝีปากร้อนที่ยังคงไล่จุมพิตใบหูขาวไล่ลงมาถึงหลังคออันเป็นที่สิงสถิตประจำของรอยรักในยามเช้า ไม่ต้องการให้ธีรเชษฐ์เห็นใบหน้าที่แดงก่ำแม้จะรู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองคงแดงไปทั้งร่าง



ครืด…ครืด…




สิ่งที่สองที่มีนารู้สึกคือเสียงโทรศัพท์มือถือของร่างสูงที่สั่นครืดๆอย่างไม่หยุดหย่อน พยายามเรียกร้องความสนใจจากเจ้าของของมันไปจากร่างเล็กที่ธีรเชษฐ์กำลังสำรวจอยู่นี้



“คุณเชษฐ์…โทรศัพท์ครับ…”



คนที่ลืมตัวไปว่าจะต้องแกล้งหลับเอ่ยเตือน เรียกเสียงหัวเราะในลำคอข้างหูได้เป็นอย่างดี



“แค่ข้อความน่า…”



“อาจจะสำคัญก็ได้นะครั…อือ…” มีนาหันหน้ากลับมาหาอีกฝ่าย ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะถูกปิดด้วยริมฝีปากของคนที่รอจังหวะมานาน




“แค่อวยพรไร้สาระน่า” ธีรเชษฐ์ตอบหลังจากยอมปล่อยมีนาเป็นอิสระ ร่างเล็กที่นอนหอบอยู่บนเตียงช้อนตามองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่นัยน์ตาหวานเชื่อมและริมฝีปากที่เผยออ้าเล็กน้อยนั้นจะทำให้คนมองทนไม่ไหวอีกครั้ง




เรียกได้ว่ากว่ามีนาจะรู้เรื่องว่าร่างสูงหมายความว่าอย่างไร เล่นเขาเด็กหนุ่มเปลืองตัวไปหลายครั้ง



“วันนี้…วันเกิดคุณเชษฐ์เหรอครับ?”




“อืม…” ธีรเชษฐ์พยักหน้าขณะพิมพ์ตอบข้อความของลูกชายคนเล็ก ถึงแม้จะเป็นเพียงคำว่า ‘อ่านเเล้ว’ ก็ตาม ก่อนจะหันมาถามมีนา “อยากไปไหนล่ะ”




“เอ๊ะ? คุณเชษฐ์…ไม่ออกไปฉลองกับคนอื่นเหรอครับ…” มีหลายคนที่มีนาคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะอยากใช้เวลาด้วยในวันพิเศษของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวคู่นอน…หรือเลขาคนพิเศษที่เขาไม่เห็นชื่อในทะเลของข้อความที่ส่งมาอวยพรชายหนุ่ม




“ปกติก็ไปกินข้าวกับไอ้ครามไอ้วี แต่ปีนี้ไม่มีใครว่าง”ร่างสูงไหวไหล่ มีนาไม่รู้จักคนชื่อที่อีกฝ่ายว่า แต่เขาเดาว่าคงเป็น
เพื่อนสนิทของอีกฝ่ายเช่นเดียวกับคเชนทร์



“คือผม…”



“ถ้าไม่อยากไปไหนฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ” มือใหญ่วางลงบนกลุ่มผมนุ่มราวกับอ่านใจเด็กหนุ่มออก “นานๆจะหยุดจริงๆซักที อยู่ห้องก็ดีเหมือนกัน”



วันนี้เป็นวันหยุดของพวกเขาทั้งคู่แม้ว่าจะไม่ใช่วันเสาร์อาทิตย์ มีนาไม่มีเรียนและธีรเชษฐ์ไม่มีงานด่วนอะไรให้เข้าบริษัท ร่างสูงจึงไม่มีท่าทีที่จะลุกจากเตียงโดยง่าย มีนาเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ของอีกฝ่ายที่ไล่อ่านข้อความซึ่งนอกจากคนที่มีนารู้จักแล้ว ยังมีข้อความที่เด็กหนุ่มมั่นใจว่าเหมาะสมจะอยู่ในห้องนอนมากว่าคำอวยพรวันเกิดจากหนุ่มสาวหน้าตาดีมากหน้าหลายตา ก่อนจะรีบหันหน้าหนีเมื่อดวงตาคมหันมามองเขา แต่นอกจากธีรเชษฐ์จะไม่ได้ดูไม่พอใจแล้ว ร่างสูงยังขยับยิ้มมุมปากราวกับกำลังสนุกสนานกับท่าทีของเขาเสียเต็มประดา



“เป็นอะไร?”




“ปะ…เปล่าครับ” เด็กหนุ่มส่ายหน้าพรืด ธีรเชษฐ์ที่ยังไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆยื่นหน้าเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด




“ไม่ชอบให้ฉันคุยกับคนอื่น?”



หากบอกว่าชอบ เขาก็ดูจะเป็นพวกโรคจิต แต่หากบอกว่าไม่ชอบ ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่ออีกฝ่ายกลายๆ ไม่ว่าจะตอบอย่างไร มีนาก็รู้สึกว่าตัวเองมีแต่เสียกับเสีย



“ผมจะชอบหรือไม่ชอบ…ก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามคุณเชษฐ์อยู่แล้วนี่ครับ” มีนาก้มหน้าพึมพำ



ใช่ ต่อให้อีกฝ่ายใจดีกับเขาแค่ไหน มีนายังคงไม่ลืมสถานะของตัวเอง



“ฉันถาม” ลมหายใจอุ่นที่ปะทะข้าวแก้มและเสียงทุ้มที่กระข้างหูทำให้มีนารู้สึกว่าขนอ่อนทั่วร่างลุกชันขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย “เธอในตอนนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไม่ตอบเหมือนกัน”



“…ก็…ก็ต้องไม่ชอบ…ไม่ใช่เหรอครับ”มีนายังคงพึมพำเสียงเบา พวงแก้มใสขึ้นสีเรื่อด้วยความอับอาย



“งั้นก็เอาไปลบสิ”




“เอ๊ะ?” มีนาหันไปมองคนพูดอย่างประหลาดใจ ก่อนจะรู้สึกถึงวัตถุสี่เหลี่ยมที่ถูกยัดเข้ามาในมือ “แต่ว่า…”




“อยากลบใครก็ลบไป” ธีรเชษฐ์ตวัดขาก้าวลงจากเตียงแล้วยืดแขนบิดไล่กล้ามเนื้อที่เมื่อยขบ “แค่ดูรูปก็น่าจะรู้แล้วมั้งว่าใครที่ฉันไม่ได้ติดต่อเรื่องงานด้วย”




มีนาก้มลงมองโทรศัพท์ในมือ จริงอย่างที่อีกฝ่ายว่า รูปโปรไฟล์ของแต่ละแชทแทบจะคุมโทนสีเนื้อกันทั้งสิ้น




แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆอีกฝ่ายถึงได้ทำแบบนี้ แต่ร่างเล็กเลือกที่จะไม่เข้าข้างตัวเองให้หัวใจที่อ่อนแออยู่แล้วรู้สึกอะไรไปมากกว่านี้




เด็กหนุ่มไล่กดลบรายชื่อของคู่นอนในอดีตของธีรเชษฐ์ทีละคน เข้าไปดูข้อความแชทของแต่ละคนก่อนหน้าที่จะลบเพื่อความมั่นใจ ถึงแม้ว่าข้อความล่อแหลมและภาพที่เกินเลยคำว่าไม่เหมาะสมไปไกลที่ถูกส่งมาจะทำให้มีนารู้สึกเสียความมั่นใจขึ้นทุกทีที่เห็น





สายตาของเด็กหนุ่มมาสะดุดอยู่ที่แชทของชายหนุ่มผมยาวที่ในแวบแรก เขาคิดว่าเป็นหญิงสาวร่างสูงคนหนึ่ง เขาจำได้ว่าเคยเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายตามโทรทัศน์ นิตยาสาร และป้ายโฆษณาตามท้องถนน แต่ถึงแม้ว่ารูปของชายหนุ่มหน้าสวยจะใส่เสื้อผ้าปกปิดมิดชิดผิดกับคนอื่นๆที่ผ่านมา แต่เมื่อมีนากดเข้าไปดูข้อความระหว่างคนทั้งคู่ นิ้วเรียวรีบกดบล็อคคนคนนั้นโดยไม่ต้องผ่านสมองส่วนใดทั้งสิ้น



ไม่ต้องอ่านอะไรมาก แค่ภาพของชายหนุ่มที่งดงามราวกับนางฟ้าคนนั้นในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำผ้าลื่นสีม่วงเช่นเดียวกับดวงตา เส้นผมสีดำสนิทเปียกลู่แนบติดกรอบหน้าเรียวลงไปถึงบางส่วนของแผ่นอกขาวที่โผล่พ้นการปกคลุมของเสื้อมาแทบทั้งหมด ลิ้นสีแดงสดลากยาวไปตามนิ้วกลางเรียวยาวของตัวเองด้วยแววตาที่ทำให้มีนาหน้าร้อนเห่อก็เพียงพอแล้วต่อการบล็อคและลบแชทนั้นทิ้งไป 




ถึงอย่างนั้น แชทเดียวที่มีนารู้สึกอยากจะลบมากที่สุดซึ่งถูกติดดาวไว้บนสุดเหนือทุกแชท คือคนที่เขารู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ลบออกไป




ราวกับรับรู้ความคิดของเขา หน้าจอแอพถูกขัดจังหวะด้วยสายเรียกเข้าจากเลขาคนดังกล่าว มีนาแทบจะทำโทรศัพท์หลุด
มือเมื่อเห็นชื่อของมธุวันเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆแล้วลุกจากเตียงไปหาร่างสูงที่ยังคงอาบน้ำอยู่



“คุณเชษฐ์ คุณมธุวันโทรมาครับ”



“อือ รับเลย” เสียงในห้องน้ำดังตอบกลับมา มีนานิ่งอึ้งไปกับคำตอบนั้น ก้มลงมองโทรศัพท์มือถือในมืออย่างชั่งใจว่าจะปล่อยให้อีกฝั่งถอดใจและตัดสายไปเองดีหรือไม่ ก่อนจะตัดสินใจกดรับตามคำสั่งของร่างสูง



“คุณเชษฐ์อาบน้ำอยู่ครับ” 



ความเงียบที่ปลายสายราวกับไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยพองโตขึ้นเล็กน้อยในแบบที่มีนารู้สึกรังเกียจตัวเอง ก่อนที่ปลายสายจะเอ่ยขึ้น



“ถ้าอย่างนั้นฝากเรียนท่านประธานด้วยนะครับคุณมีนา ว่าธุระที่ท่านให้ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว”




อีกฝ่ายตัดสายไปแต่เพียงเท่านั้น มีนาเอ่ยทวนคำพูดของมธุวันให้คนในห้องน้ำฟัง ได้รับคำตอบเป็นเพียงเสียงทุ้มที่ตอบรับว่ารู้แล้วเท่านั้น



มีนารู้ว่าเรื่องที่คนทั้งคู่คุยกันไว้คงจะหนีไม่พ้นเรื่องงาน แต่เด็กหนุ่มยังคงห้ามตัวเองไม่ให้รู้สึกอะไรก็ตามที่ตัวเองกำลังรู้สึกทุกครั้งที่ชื่อของมธุวันโผล่ขึ้นมาในบทสนทนาและบนหน้าจอโทรศัพท์ไม่ได้




ไม่นานนัก ธีรเชษฐ์ก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่แทบจะปิดอะไรไม่มิดพันรอบเอว มีนายังคงไม่เข้าใจว่าผู้ชายอายุสี่สิบสองปีที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งทำงานในบริษัทมีกล้ามเนื้อแบบนั้นได้อย่างไร แม้ว่าเด็กหนุ่มจะเคยเห็นธีรเชษฐ์ในฟิตเนสอยู่บ้างก็ตาม แต่เวลาของธีรเชษฐ์นอกบริษัทใช้ไปกับการอยู่ในห้องหรือพามีนาออกไปไหนมาไหนแทบทั้งหมด ทำไมกล้ามเนื้อของอีกฝ่ายยิ่งดูแน่นขึ้นทุกครั้งที่เขาเห็นกันนะ



“แต่งชุดสุภาพนะ ฉันจะพาไปข้างนอก” ธีรเชษฐ์ออกคำสั่งขณะที่เปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดใส่ มีนาขมวดคิ้ว




“ไปไหนเหรอครับ?”




“เอาน่า ไปอาบน้ำได้แล้ว” อีกฝ่ายเฉไฉ ซึ่งเด็กดีว่าง่ายก็ไม่คิดจะซักไซ้อะไรให้ร่างสูงรำคาญใจไปมากกว่านั้นและลุกไปอาบน้ำตามคำสั่ง ในใจนึกเดาไปเรื่อยว่าในวันนี้ธีรเชษฐ์จะนึกอยากพาเขาออกไปที่ไหนอีก











แน่นอน ในทุกที่ที่มีนาคิดไว้ในหัว เขาไม่คิดว่าร่างสูงจะพาเขามาทำพาสปอร์ต ร่างสูงที่ถือซองเอกสารซึ่งไม่บอกก็รู้ว่าเป็นสำเนาบัตรประชาชนและเอกสารอื่นของมีนาพาเขาไปต่อคิวโดยไม่อธิบายอะไรกับร่างเล็ก แต่เด็กหนุ่มที่เก็บความสงสัยไว้กับตัวต่อไปอีกไม่ไหวเอ่ยถามขึ้นในที่สุด




“คุณเชษฐ์...ให้ผมมาทำพาสปอร์ตไปทำไมเหรอครับ?”




“อาทิตย์หน้าฉันจะไปประชุมที่สิงคโปร์” ร่างสูงตอบเสียงเรียบ “มันตรงกับวันหยุดเธอพอดี”





“แต่…คุณเชษฐ์จะพาผมไปด้วยเหรอครับ?” มีนาถามอย่างไม่เข้าใจ อีกฝ่ายยังคิดว่าเขาจะหนีไปอีกอย่างนั้นหรือ “ผมไม่หนีไปไหนแล้วจริงๆนะครับ ทิ้งผมไว้ที่ห้องก็ได้”




ธีรเชษฐ์หันมามองเขา คิ้วเข้มเลิกสูงอย่างประหลาดใจ ราวกับไม่ได้นึกถึงความเป็นไปได้ที่คนข้างๆจะหนีไปจนถึงตอนที่มีนาพูดขึ้นมา




“ทำไม? ไม่อยากไปเที่ยวต่างประเทศเหมือนคนอื่นเขาบ้างรึไง?”




“ผม…ผมไม่เคยออกจากตัวจังหวัดด้วยซ้ำครับ” มีนาตอบเสียงเบา เขาไม่เคยคิดฝันเรื่องการเดินทางออกนอกประเทศ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่อีกฝ่ายเสนอ แต่แค่คิดถึงว่าเขาต้องจากมารดาไปตลอดช่วงวันหยุดยาว และการไปในบ้านเมืองที่ไม่ใช่ประเทศของตน ไม่ได้พูดภาษาเดียวกับตน ก็ทำให้เด็กหนุ่มเริ่มเป็นกังวลขึ้นมา




“รู้ว่าจะคิดเยอะแบบนี้ไง ฉันถึงไม่บอกล่วงหน้านาน” ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ “ถ้าเรื่องแม่เธอ จากที่นั่นก็โทรกลับมาคุยกันได้ อาการเขาดีขึ้นมากแล้วไม่ใช่เหรอ? ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอกน่า”




มีนาช้อนตามองคนที่เหมือนอ่านใจเขาออกอย่างทะลุประโปร่งอย่างประหลาดใจ ก่อนจะพยักหน้าให้ธีรเชษฐ์แล้วเดินตามหลังอีกฝ่ายไปเงียบๆ หลังจากการกรอกเอกสาร พิมพ์ลายนิ้วมือ วัดส่วนสูงและถ่ายรูปติดพาสปอร์ต ไม่นานนักพวกเขาก็กลับมาอยู่ในรถของธีรเชษฐ์ซึ่งเคลื่อนตัวออกมาจากลานจอดรถของตึกเข้าสู่ถนนใหญ่







-------มีต่อ-----------



หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 30 บตบกย่อมาจากบิวตี้บลอกเกอร์ [11-7-62] คห.599
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 18-07-2019 18:28:17
“อือ…รู้แล้วน่าหมอก”




มีนาที่นั่งร้อยมาลัยอยู่บนพื้นเงี่ยหูฟังอย่างห้ามตัวเองไม่ได้เมื่อได้ยินเสียงทุ้มคุยโทรศัพท์กับเลขา ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ น้ำเสียงของธีรเชษฐ์มักจะอ่อนโยนน่าฟังเสมอเมื่อคุยกับมธุวัน




บางครั้ง ในช่วงเวลาที่เขารู้สึกอ่อนแอเป็นพิเศษ มีนาชอบที่จะจินตนาการว่านั่นเป็นน้ำเสียงที่ธีรเชษฐ์ใช้กับเขา




“ก็ฉันอยากจัดงานวันเกิดเหมือนคนอื่นเขาบ้างนี่” เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว แม้จะยังไม่เงยหน้าจากมาลัยของตน “สักวันที่14 อืม ที่บ้านนั่นแหละ ฝากด้วยนะ”



สิบสี่?



มีนายังคงขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ งานวันเกิดที่ธีรเชษฐ์อยากจัดให้ตัวเองย้อนหลังนั้นจะถูกจัดขึ้นหลังวันเกิดของมีนาหนึ่งวัน ถึงแม้เขาจะไม่คิดว่านั่นเป็นเรื่องบังเอิญ แต่มีนาก็นึกไม่ออกเช่นกันว่าสาเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายนึกอยากจัดงานวันเกิดขึ้นมาเป็นเพราะอะไร



“หึ…เธอรู้จักฉันดีเกินไปแล้ว”



มีนารีบก้มหน้าก้มตามองพวงมาลัยของตัวเองเมื่อร่างสูงที่วางสายจากเลขาก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่น ไม่อยากทำตัวมีพิรุธให้อีกฝ่ายจับได้ว่าเขาแอบฟังบทสนทนาเมื่อครู่



เด็กหนุ่มคาดว่าเจ้าของห้องจะเดินผ่านเขาไปอย่างที่ทำเป็นปกติ แต่วันนี้ ธีรเชษฐ์กลับเลือกที่จะทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิบนพื้นตรงหน้าเขา ดวงตาสีควันบุหรี่มองพวงมาลัยในมือของเด็กหนุ่มอย่างสนอกสนใจ



“สอนร้อยหน่อยสิ”




“ครับ?” มีนาจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่มั่นใจว่าคนตรงหน้ากำลังล้อเขาเล่นหรือไม่



“ฉันอยากรู้ว่ามันสนุกนักเหรอ? ถึงได้ร้อยเช้าร้อยเย็นอยู่ได้ทุกวัน” ธีรเชษฐ์ประคองมาลัยในกล่องโฟมออกมาพินิจพิจารณา มีนาอมยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายประคองพวงมาลัยไว้บนฝ่ามืออย่างมั่นคงไม่ให้กลับช้ำอย่างที่เขาเคยสอน



“ไม่สนุกหรอกครับ แต่มันเป็นความเคยชิน” มีนาตอบ วางพวงมาลัยพวงล่าสุดที่ทำเสร็จลงในกล่อง “เวลาร้อยมาลัย ผมจะรู้สึกมีสมาธิ ไม่ฟุ้งซ่านเรื่องอื่น…”



“แล้วเธอฟุ้งซ่านเรื่องอะไร?” ธีรเชษฐ์ถามขึ้น คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อได้ยินคำพูดของเด็กหนุ่ม



“ก็เรื่องเรียน เรื่องแม่กับยาย...ผมก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนั่นแหละครับ” มีนาโกหก โชคดีที่ธีรเชษฐ์ดูจะไม่ติดใจสงสัยอะไรคำตอบของเขา “ยังอยากลองร้อยอยู่มั้ยครับ?”




“สอน” ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ มองดูเข็มแท่งยาวในมือของมีนาด้วยสีหน้าใคร่รู้



“วันนี้วันเกิดคุณเชษฐ์นะครับ…คุณเชษฐ์ไม่อยากทำอย่างอื่นเหรอครับ?”



มีนาถามอย่างสงสัย รู้สึกยากที่จะเชื่อว่าอีกฝ่ายอยากใช้เวลาในวันเกิดของตัวเองเรียนร้อยมาลัยกับเขา ธีรเชษฐ์ยิ้มกริ่ม ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ด้วยแววตาพราวระยับ



“จริงๆก็อยาก แต่เก็บไว้วันเกิดเธอจะดีกว่า”



มีนาหน้าแดงก่ำ กระวีกระวาดจัดเตรียมอุปกรณ์ร้อยมาลัยเพื่อเบี่ยงประเด็นไปจากประโยคเมื่อครู่ของร่างสูง



“…หลังจากคัดกลีบดอกก้านดอกขนาดเท่าๆกันแล้ว ชั้นแรกที่ร้อย เราจะต้องให้ระยะห่างพอๆกันนะครับ แถวต่อไปจะได้ไม่เบี้ยว” มีนาอธิบายอย่างตั้งอกตั้งใจ ทีแรก เขาคิดว่านี่เป็นอีกหนึ่งข้ออ้างของร่างสูงที่จะดึงความสนใจของเขากลับไปหาตัวเอง แต่ธีรเชษฐ์กลับดูจะสนใจการสอนของเขาจริงๆ ขนาดมีนาเป็นฝ่ายขยับเข้าไปใกล้และช่วยจับมือของร่างสูงร้อยทีละกลีบ เขายังไม่ถูกสายตาหรือมือใหญ่จับลูบเค้นคลึงอย่างที่โดนเป็นประจำสักครั้ง ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เด็กหนุ่มปั้นหน้าไม่ถูก
ไม่นานนัก ร่างสูงก็เริ่มร้อยมาลัยของตัวเองได้อย่างคล่องแคล่วราวกับฝึกฝนมานาน มีนาเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ แต่ก็กลับมาสนใจเข็มร้อยในมือของของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ พรุ่งนี้ต้องไปขายมาลัยที่ตลาดแต่เช้า ถ้ามัวแต่ชักช้าคงจะได้นอนตีสองตีสามเป็นแน่




มีนาวางมาลัยของตัวเองลงในกล่อง ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นพวงมาลัยที่ร่างสูงเพิ่งร้อยเสร็จอยู่ในนั้น และคุณภาพของมันแม้จะไม่เทียบเท่าของที่มีนาทำ แต่ก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์สวยงามวางขายได้



และเจ้าของผลงานกำลังขึ้นมาลัยพวงใหม่ต่ออย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง แม้จะประหลาดใจ แต่เด็กหนุ่มก็ตัดสินใจปล่อยให้ธีรเชษฐ์ทำต่อไปและหันไปสนใจงานของตัวเองจนกระทั่งวัสดุที่เขาซื้อมาไม่เหลืออยู่ในถุงแล้วนั่นแหละที่มีนาหันไปมองในกล่องอย่างประหลาดใจ



พวงมาลัยที่เขาไม่ได้เป็นคนร้อยวางเรียงกันนับสิบพวง ธีรเชษฐ์วางเข็มร้อยกลับลงไปในกล่องเครื่องมือแล้วยันตัวลุกขึ้นจากพื้น



“ไปนอนได้แล้ว”



มีนาเงยหน้ามองนาฬิกาที่บอกเวลาสี่ทุ่มตรง เด็กหนุ่มหยิบพวงมาลัยของธีรเชษฐ์มาตรวจสอบคุณภาพ ก่อนจะพบว่าทุกพวงที่ร้อยมานั้นสามารถขายได้ทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่อะไรที่เขาคิดว่ามือใหม่จะสามารถทำได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง




คุณเชษฐ์นี่ อัจฉริยะจริงๆเลยแฮะ










“ขอบคุณนะครับคุณเชษฐ์ที่มาส่ง” มีนาเอ่ยกับคนที่อุตส่าห์ตื่นมาตั้งแต่เข้ามืดเพื่อมาส่งเขาที่ตลาดด้วยน้ำเสียงเกรงใจ อีกฝ่ายเพียงแต่โบกมืออย่างไม่ใส่ใจ



“ฉันแค่อยากกินโจ๊กหม้อดิน ร้านนี้ขายเร็วหมดเร็ว” ร่างสูงว่า ดับเครื่องยนต์แล้วก้าวออกมาจากรถ “ไปกินข้าวเช้าก่อนแล้วค่อยมาเปิดแผงก็ได้มั้ง วันนี้เธอมาเร็วไม่ใช่เหรอ?”



มีนากระพริบตาปริบๆ เขาคิดว่าอีกฝ่ายจะแค่มาส่งแล้วขับรถกลับคอนโด แต่เมื่อเห็นธีรเชษฐ์ที่กอดอกอย่างเริ่มหมดความอดทน เด็กหนุ่มจึงไม่มีโอกาสคิดอะไรไปมากกว่าการวางของกลับไปในรถแล้วรีบเดินตามอีกฝ่ายไป




“โจ๊กหมูใส่ไข่พิเศษสองครับ” ธีรเชษฐ์สั่งอาหารกับแม่ค้าแล้วนั่งลงที่โต๊ะว่าง หันไปหาเด็กหนุ่มร่างเล็กที่นั่งลงฝั่งตรงข้ามเขาเงียบๆ “อยากเอาอะไรเพิ่มมั้ย? กาแฟ? โอวัลติน?”



“…ไม่เป็นไรครับ”



“เอากาแฟร้อนกับโอวัลตินอย่างละหนึ่งครับ” ธีรเชษฐ์หันไปสั่ง มีนาถอนหายใจ บางทีเขาก็คิดว่าตัวเองจะปฏิเสธไปทำไมในเมื่อไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็ทำตามใจตัวเองอยู่ดี



เด็กหนุ่มชะงัก เริ่มรู้สึกตัวเองว่าเขาเริ่มทำตัวเอาแต่ใจมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นในความคิดของตัวเองก็ตาม และส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะธีรเชษฐ์ที่จู่ๆก็ชอบทำอะไรให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญขึ้นมาเสียอย่างนั้น



ตั้งสติหน่อยสิมีนา



“มาแล้วจ้า” โจ๊กร้อนๆสองถ้วยถูกวางลงตรงหน้าของคนทั้งสอง พวงแก้มใสขึ้นสีเรื่อเมื่อท้องของตนร้องโครกครากขึ้นมาเสียงดังขานรับกลิ่นหอมของอาหารตรงหน้า ธีรเชษฐ์ยิ้มมุมปาก ก่อนจะตักหมูก้อนส่วนของตัวเองใส่ถ้วยของคนตรงหน้า



“คุณเชษฐ์ ไม่เป็นไรครับ…”



“กินเข้าไปเถอะน่า ขายของทั้งวันไม่ใช่รึไง เป็นลมขึ้นมาฉันไม่กลับมารับหรอกนะ” ชายหนุ่มดุ คนตัวเล็กที่รู้ว่าขัดใจอีกฝ่ายไม่ได้เพียงแต่พยักหน้า หยิบช้อนของตัวเองขึ้นมาตักโจ๊กในถ้วยขึ้นมาเป่าแล้วงับช้อนเข้าปากอย่างว่าง่าย



เมนูขึ้นชื่อนี้อร่อยสมเป็นร้านขายดีเจ้าดังของตลาด มีนาแทบจะเลียก้นถ้วยก่อนจะดื่มโอวัลตินร้อนที่ธีรเชษฐ์สั่งจนหมด ตามด้วยน้ำเปล่าแล้วผุดลุกจากเก้าอี้เมื่อเห็นว่าดวงอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาแล้ว




”ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณเชษฐ์”



“เดี๋ยว…” ชายหนุ่มรั้งข้อมือเล็กไว้ มีนาหันไปมองอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ “ข้าวเลอะ”




ธีรเชษฐ์ใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดคราบที่เลอะบนริมฝีปากอิ่มเบาๆ ดวงตาสีควันบุหรี่เข้มขึ้นเมื่อเห็นว่ามีนายังคงใช้ลิปกลอสสีวาวระเรื่อที่ได้มาจากเจนวิทย์ เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากอย่างประหม่า แต่นั่นดูเหมือนจะยิ่งทำให้แววตาของร่างสูงที่ยังคงจดจ้องอยู่กับริมฝีปากของเขายิ่งเข้มขึ้นไปอีก



“เห็นว่าอยู่กลางตลาดหรอกนะ” ธีรเชษฐ์พึมพำ หันไปขอคิดเงินกับแม่ค้า ทำให้ไม่เห็นสีหน้าน่าอายที่มีนารู้ว่าตนกำลังทำในตอนนี้



คุณเชษฐ์มาเล่นอะไรกับหัวใจเขาตั้งแต่เช้าเนี่ย?!



ร่างสูงเดินกลับไปที่รถพร้อมกับเขา มีนารู้สึกโล่งใจขึ้นเมื่ออีกฝ่ายปล่อยให้เขาเอากล่องข้าวของออกมากองไว้ข้างรถโดยไม่ได้ขออยู่ด้วยเหมือนครั้งก่อนหน้า



เขาไม่คิดว่าหัวใจตัวเองจะสามารถรับธีรเชษฐ์คนใหม่ได้มากกว่านี้แล้ว



เด็กหนุ่มหอบข้าวของไปยังแผงของตนที่ท้ายตลาด แต่แผงเล็กๆของเขากลับถูกแทนที่ด้วยร้านขายข้าวเหนียวหมูปิ้งที่เขาไม่คุ้นตา




“น้องมีน แผงหนูย้ายไปหน้าตลาดแล้วนี่ลูก” คุณป้าร้านข้าวแกงเอ่ยทัก มีนาหันไปหาหญิงชราอย่างประหลาดใจ




“แต่หนูไม่ได้ขอย้ายนะจ๊ะ”




“ป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน เจ้าของตลาดเขามาเองเลยนะเมื่อวาน บอกว่าให้ย้ายน้องมีนไปข้างหน้า”




“แบบนี้ก็แย่เลยสิจ๊ะ ขนาดอยู่ตรงนี้หนูยังไม่มีเงินจ่ายเลย” มีนาเอ่ยอย่างกังวลใจ คุณป้าร้านขายข้าวแกงยิ้มอย่างเอ็นดู



“เขาฝากบอกน้องมีนว่าค่าแผงเท่าเดิมจ้า”



แปลก…




ร้อยวันพันปีเจ้าของตลาดไม่เคยเมตตาเขาไปมากกว่าการอนุญาตให้ค้างค่าเช่าแผง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการย้ายแผงไปยังทำเลที่ดีที่สุดของตลาดแบบนี้ แต่จะให้มีนาไปไล่ที่แม่ค้าหมูปิ้งก็ใช่ที่ เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจเดินกลับไปยังแผงว่างส่วนหน้าของตลาดที่ตนเดินผ่านมาเมื่อครู่ แล้วค่อยไปคุยกับเจ้าของแผงหลังขายของเสร็จ




โชคดีของเด็กหนุ่มที่แผงเปล่านี้มีร่มคันใหญ่กางไว้ช่วยบังความร้อนจากแสงแดด มีเก้าอี้พลาสติกแบบมีพนักพิงทิ้งไว้ให้เขาอีกตัว มีนาจึงไม่จำเป็นต้องยืนขายให้เมื่อยตุ้ม เด็กหนุ่มหยิบชีทเรียนออกมาอ่านหลังจากตั้งแผงเสร็จ รอให้ลูกค้ามาซื้อดอกไม้ธูปเทียนและพวงมาลัยอย่างเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา




แต่ในวันนี้ ร่างเล็กแทบไม่ได้แตะต้องชีทเรียนของตัวเองด้วยซ้ำ ด้วยทำเลที่เปลี่ยนไปทำให้เด็กหนุ่มมีลูกค้าแวะเวียนมาเสมอทำให้เขานั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ ทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าหน้าใหม่แวะเวียนกันมาไม่ขาดสาย จนของที่เตรียมมาขายพร่องลงไปมากในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง



“น้องมีน ข้าวกลางวันจ้า วันนี้มีพะแนงหมูไข่พะโล้นะ”




เด็กหนุ่มรีบยกมือไหว้ขอบคุณคุณป้าร้านขายข้าวแกงที่แม้จะขายของอยู่ท้ายตลาดยังจะอุตส่าห์มีน้ำใจตักกับข้าวใส่ถ้วยกระดาษเอามาให้เขาจนพูนจาน ท้องของเด็กหนุ่มเริ่มครางประท้วงให้รู้ว่าถึงเวลาอาหารทำให้มีนารู้ว่าเริ่มเข้าสู่ช่วงเที่ยงวันแล้ว



“ขอบคุณมากเลยนะจ๊ะป้า ลำบากป้าแย่เลยเดินมาถึงตรงนี้” มีนาเอ่ยอย่างเกรงใจ



“โอ๊ย มาขอบคงขอบคุณอะไรกันล่ะน้องมีน พ่อรูปหล่อแฟนหนูน่ะ เขามาผูกปิ่นโตป้าไว้ก่อนหน้านี้ เขาบอกว่ากลัวหนูทำงานหนักจนลืมกินข้าวกินปลา เลยจ่ายไว้ล่วงหน้าให้ป้าเอามาให้” หญิงชราหัวเราะ “นี่ทิปหนักด้วยนะ เล่นซะป้าเกรงใจเลย”



คำตอบที่ไม่คาดคิดของอีกฝ่ายทำให้มีนานิ่งไป คนมองยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มขึ้นสีเรื่อพร้อมรอยยิ้มที่พยายามสะกดกลั้นไว้อย่างเต็มที่



“เด็กดีอย่างมีนได้แฟนที่เขารักเขาเอาใจใส่เราแบบนี้ ฟ้ามีตาจริงๆ”




“คือ…เขา....” มีนาพยายามแก้ไขความเข้าใจผิดนั้น ก่อนจะพบว่าทุกคำแก้ตัวมีแต่จะทำให้เรื่องราวซับซ้อนมากขึ้นไปอีก “ขอบคุณนะจ๊ะป้า”




“จ้า รักกันนานๆนะ”




มีนายิ้มรับคำอวยพรด้วยรอยยิ้มที่แม้แต่ตัวเขาเองยังรู้สึกว่าฝืน




ถ้าคุณเชษฐ์ทำดีกับเขามากไปกว่านี้ มีนาไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถปีนกลับขึ้นมาจากปากเหวที่เขาร่วงหล่นลงไปได้อีกแล้วในชีวิตนี้









และธีรเชษฐ์ก็ตอกปิดฝาโลงเขาด้วยสิ่งที่ทำให้มีนารู้สึกถึงก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอ



“ทั้งหมด...เลยเหรอครับ?”



“ใช่จ้า คุณธีรเชษฐ์เขาจ่ายค่าเช่าแผงที่ค้างไว้ทั้งหมดแล้ว ส่วนค่าเช่าแผงงวดต่อๆไปถ้าไม่อยากจ่ายก็ไม่ต้องจ่าย คุณเขาให้ส่งบิลไปเก็บกับเขาเอา” หญิงร่างอวบเจ้าของแผงตลาดที่มีนาเช่าเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ “แหม่ ดีจริงๆ มีแฟนทีปลดนี่หมด
เลยนะน้องมีน”



เด็กหนุ่มรู้สึกว่าหัวสมองของตัวเองมึนเบลอไปหมดตลอดทางที่กลับมาคอนโด จากรองเท้าของอีกฝ่ายที่ถอดระเกะระกะหน้าห้องธีรเชษฐ์คงกลับมาถึงก่อนเขา มีนาก้มลงเก็บรองเท้าคู่นั่งกลับเข้าชั้นวางให้เป็นระเบียบ เปิดประตูห้องนอนของอีกฝ่ายแล้วชะเง้อเข้าไป ดังคาด คนที่เขาตามหากำลังอ่านอะไรสักอย่างในแท็บเล็ตของตนอยู่บนเตียง



“ก่อนเธอจะพูดอะไร เรื่องทั้งหมดนั่นฉันให้เป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้า ไม่เกี่ยวอะไรกับหนี้ที่เธอ...” เสียงทุ้มถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อเด็กหนุ่มร่างเล็กทรุดตัวลงบนพื้น กอดเอวของเขาไว้แน่นโดยไม่พูดอะไรกับเขาแม้แต่คำเดียว ธีรเชษฐ์ชะงักอย่างไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร สุดท้าย ร่างสูงจึงจบลงที่การลูบกลุ่มผมนุ่มไปมาอย่างเบามือ “ชอบมั้ย?”



“ชอบครับ..” เสียงอู้อี้จากใบหน้าที่ซบอยู่กับตักของเขาตอบกลับมา “ขอบคุณครับคุณเชษฐ์”




“ไม่ดื้อแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย” ชายหนุ่มยิ้ม ดึงให้อีกฝ่ายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ดวงตากลมโตของมีนารื้นไปด้วยหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอเต็มหน่วย “ไหน...ฉันติดอะไรไว้เมื่อเช้า”




“ติด?…อื้อ…”




เด็กหนุ่มหลับตาพริ้มรับสัมผัสอ่อนโยนจากริมฝีปากได้รูปอย่างว่าง่าย ริมฝีปากรูปกระจับเผยออ้าให้อีกฝ่ายแทรกลิ้นร้อนเข้ามาอย่างเต็มใจโดยไม่ต้องรอให้สั่ง ลิ้นเรียวเล็กขยับโต้ตอบอย่างกระตือรือร้น แม้จะไม่ได้ไม่ประสีประสาอย่างครั้งแรกที่ถูกจูบ แต่มีนาเรียนรู้จากธีรเชษฐ์มามากพอที่จะรู้ว่าอะไรทำให้อีกฝ่ายครางเสียงต่ำในลำคออย่างสะกดกลั้นอารมณ์ และอะไรที่ทำให้ความเป็นชายที่กำลังบดเบียดต้นขาของเขาแข็งขืนอย่างเรียกร้องเอาแต่ใจ




และอะไร ที่ทำให้ธีรเชษฐ์คำรามออกมาอย่างสุขสมในแบบที่ทำให้ร่างทั้งร่างของมีนาตอบรับเสียงนั้นอย่างโหยหา



“อึก…มีน...”



ชื่อของมีนาที่ออกมาจากริมฝีปากได้รูปช่วยให้มีนารู้สึกดีขึ้น แม้ว่าริมฝีปากสีหวานที่ปรนเปรอความสุขให้ร่างสูงอยู่นั้นจะเริ่มเจ็บระบมจากการเสียดสีที่คับแน่นอยู่ภายใน เด็กหนุ่มรู้สึกถึงน้ำตาคลออยู่หางตาและสิ่งแปลกปลอมที่แทบจะมาจุกอยู่ที่หลังคอ แต่เสียงที่หลุดออกมาจากคนเจนสนามที่ดูเหมือนควบคุมตัวเองไม่อยู่ในตอนนี้ทำให้สิ่งเล็กน้อยนั้นไม่อยู่ในความคิดของมีนาสักนิด



“อึก…อื้อ อือ...” สะโพกสอบขยับสวนพร้อมกับมือใหญ่ที่ขยุ้มกลุ่มผมนุ่มลื่นไม่ให้ขยับหนี แม้สิ่งนี้จะเคยเป็นบทลงโทษในวันที่เขาทำให้อีกฝ่ายโกรธ แต่ในตอนนี้มีนากลับรู้สึกอุ่นวาบในอกกับปฏิกิริยาของร่างสูงที่มีต่อเขา




“มีน…ออก...ออกไป” ธีรเชษฐ์กัดฟันกรอด รีบปล่อยมือจากศีรษะกลมเมื่อรู้สึกถึงการปลดปล่อยที่ใกล้เข้ามา แต่มีนาที่ตัดสินใจจะเป็นเด็กดื้อขึ้นมาในตอนนั้นไม่ยอมถอย และนั่นส่งผลให้เด็กอวดดีไอโขลกหน้าดำหน้าแดงกับสิ่งที่ตนรับไม่ไหว



“หึๆ ซ่าดีนัก” ธีรเชษฐ์หัวเราะเบาๆ เอื้อมมือไปหยิบทิชชู่มาให้อีกฝ่ายปิดปากไอและหยิบอีกแผ่นมาช่วยทำความสะอาดใบหน้าที่แดงก่ำ



ทั้งที่มีนาเคยทำแบบนี้ให้ธีรเชษฐ์มาหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่ทำให้เขารู้สึกขัดเขินกับสายตาโลมเลียอย่างไม่ปิดบังของร่างสูงได้มากขนาดนี้



“คุณเชษฐ์...ชอบมั้ยครับ?” มีนาแทบจะกัดลิ้นตัวเองกับคำถามที่เลยคำว่าน่าอายไปหลายขุมนั้น ขนาดคนถูกถามยังดูประหลาดใจกับคำพูดของมีนา ก่อนจะยิ้มอวดเขี้ยวคมที่มีนาไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักแต่เคยสัมผัสกับผิวกายเนียนหลายครั้งหลายครา



“ถ้าฉันบอกว่าชอบ...จะทำให้อีกรึไง?”



“คะ..คือ...ผม...คือ...”



“แค่นี้ ฉันไม่อิ่มหรอกนะ” ร่างสูงว่า ดวงตาคมสีควันบุหรี่ไล่สำรวจเรือนร่างบอบบางจนมีนารู้สึกเหมือนตัวเองถูกจับถอดเสื้อผ้าด้วยสายตาของอีกฝ่ายเท่านั้น



“อีก…ไม่กี่วันเองครับ...” เด็กหนุ่มพึมพำ เบือนหน้าหนีดวงตาของธีรเชษฐ์ที่เบิกกว้างกับคำตอบของเขา “ผม...ผมไปทำอาหารเย็นนะครับ”



มีนาไม่รอให้อีกฝ่ายอนุญาต แทบจะพุ่งตัวออกไปจากห้องนอนด้วยคาวมเร็วเหนือแสง นึกขอบคุณที่ธีรเชษฐ์ไม่ตามเขาเข้ามาในห้องครัว ร่างเล็กทรุดตัวลงบนเก้าอี้ในห้องครัวแล้วซุกหน้าลงกับฝ่ามือของตัวเอง



ไม่ทันแล้วมีนา




ต่อให้มีเฮลิคอปเตอร์โรยเชือกลงมาช่วย เขาก็ไม่รอดแล้ว

------------

คนแก่ก็อยากทำแต้มบ้างไรบ้าง :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 32 [11-7-62] คห.611-612
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 18-07-2019 18:54:34
นี่คนแก่ทำดีรอเวลากินน้อง หรือดีจริง เพราะตกหลุมเด็กล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 32 [11-7-62] คห.611-612
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 18-07-2019 23:45:41
       ในเวลาที่คุณเชษฐ์น่ารักนางก็น่ารักจนน่าอิจฉาแต่พอนางจะไม่น่ารักก็น่าเรียกเทศบาลมาเก็บจริงๆ
ในที่สุดน้องมีนก็ได้เจอความสุขบ้างละถึงจะมีความทุกข์รออยู่ก็ตามสู้ๆนะน้องมีน
       รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 32 [11-7-62] คห.611-612
เริ่มหัวข้อโดย: Hoya ที่ 19-07-2019 12:09:09
 :o12: :o12:  มีนา หนีปายยยยย  .... ทันไหม
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 32 [11-7-62] คห.611-612
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 19-07-2019 12:49:33
คนแก่อ่อนโยนจ้าาา
ถึงวันเกิดน้องมีนของแม่ไม่เหลือแน่จ้าา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 32 [11-7-62] คห.611-612
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 19-07-2019 16:13:59
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 32 [11-7-62] คห.611-612
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 19-07-2019 20:28:56
หนูมีนติดเชื้อมาจากคุณเชษฐ์แล้ว 5555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 32 [11-7-62] คห.611-612
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 19-07-2019 21:23:52
คุณเชษฐ์ ชอบๆ หุหุ ถูกใจแทน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 32 [11-7-62] คห.611-612
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 19-07-2019 22:09:09
 :L2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 32 [11-7-62] คห.611-612
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-07-2019 00:44:48
จะเปิดตัวแล้วอ่ะดิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 32 [11-7-62] คห.611-612
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า ที่ 20-07-2019 19:25:00
คุณเชษน่ารักอะไรขนาดนั้นนนนนนน นี่ใจรอถึงวันเกิดน้องมีนแล้วนะคะ555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 32 [11-7-62] คห.611-612
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 22-07-2019 17:49:38
ฮือออออ น่ารักที่สุดดดด เปนกำลังใจให้น้องมีนเสมอๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 32 [11-7-62] คห.611-612
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 24-07-2019 19:33:04
Chapter 33: ลูกเลี้ยง

“หา? นี่มันอีกไม่กี่วันเองไม่ใช่เหรอ?”
ทินกรร้องออกมาเมื่อกดดูข้อความในโทรศัพท์ มีนาเงยหน้าขึ้นจากหนังสืออย่างสบสัย เช่นเดียวกับพายุที่เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม



“อะไรของมึงวะซัน?”




“พ่ออ่ะดิ ร้อยวันพันปีไม่เคยจัดวันเกิด อยู่ๆอารมณ์ไหนมาร่อนการ์ดเชิญ แถมยังจัดที่บ้านอีก” เด็กหนุ่มร่างสูงกุมขมับ “กูจะหาของขวัญทันมั้ยเนี่ย”



“คิดมากไมวะ พ่อมึงอายุเท่าไหร่แล้ว เขาคงไม่มานั่งรอของขวัญมึงเป็นเด็กๆหรอก” พายุให้เหตุผล ทินกรส่ายหน้า คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างกังวลใจ



“มึงไม่เข้าใจ มันไม่เกี่ยวกับพ่อจะอยากได้หรือไม่อยากได้ มันเกี่ยวกับกูไม่มีปัญญาหาของขวัญดีๆให้พ่อ”




ทินกรมักจะเป็นแบบนี้ ในช่วงเวลาไม่นานที่มีนารู้จักอีกฝ่ายมา ร่างสูงมักจะคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ เด็กหนุ่มใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยที่ใครหลายคนมองข้ามไป และมักจะกดดันตัวเองให้หาสิ่งที่ดีที่สุดให้คนรอบข้าง



“ไอ้มีน ดูแลลูกมึงดิ๊ ฟุ้งซ่านอีกละ”



มีนาสะดุ้งกับคำพูดของพายุ พยายามปรับสีหน้าดูมีพิรุธน้อยที่สุดก่อนจะหันไปหาเด็กหนุ่มลูกครึ่งที่ตอนนี้เริ่มแปรสภาพกลายเป็นของไหลยวบลงไปกองบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว



จึ้ก…จึ้ก…



นิ้วเรียวเล็กจิ้มสสารตรงหน้าเพื่อทดสอบว่าทินกรยังอยู่กับพวกเขาหรือไม่ ใบหน้าคมหล่อเหลาละม้ายคล้ายคลึงบิดาที่ฟุบอยู่กับโต๊ะหันมาหาเขา แต่ยังคงไม่ยอมยกศีรษะขึ้นมาจากผิวโต๊ะหินอ่อน



“อีกตั้งหลายวันนี่ซัน ยังมีเวลานะ” แม้ว่าในใจจะร้อนรนไม่ต่างกัน แต่เขาต้องเก็บซ่อนสีหน้าวิตกกังวลของตัวเองไว้ก่อนที่คนตาดีทั้งคู่จะสังเกตเห็น “คุณพ่อซันท่านชอบอะไรเหรอ?”



มีนาบอกตัวเองว่าเขาแค่อยากช่วยเพื่อนหาของขวัญวันเกิดให้พ่อ และไม่ได้มีความคิดที่จะใช้ประโยชน์จากทินกรในการหาของขวัญให้ธีรเชษฐ์เลยสักนิด



ทินกรจ้องเขาตาแป๋ว ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะที่คางของคนที่รอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อแล้วบิดให้อีกฝ่ายหันซ้ายขวา เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่มีนาเดาไม่ออกว่ากำลังล้อเล่นหรือไม่



“แบบนายพ่อก็น่าจะชอบนะ”



“เหอะ ฝันไปเถอะ ไอ้เสี่ยฝรั่งมันเอาตาย” พายุแค่นเสียงหึในลำคอ



“แต่กูว่ากูมาถูกทางแล้วล่ะ” ทินกรผงกหัวขึ้นจากโต๊ะพร้อมดวงตาเป็นประกาย



“เดี๋ยวครับไอ้คุณเพื่อน มึงจะออฟเด็กให้พ่อมึงเป็นของขวัญวันเกิดไม่ได้นะ” พายุรีบเบรกเพื่อนที่มีสีหน้าจริงจังจนคนมองเริ่มหวั่นใจ มีนารีบพยักหน้าสมทบจนคอแทบหลุด



“ทำไมอ่ะ ก็กูไม่รู้แล้วนี่นาว่าพ่อชอบอะไรอีก” ทินกรทำหน้าหงอยลงไปทันทีที่ได้ยิน พายุเกาศีรษะแกรกๆอย่างไม่รู้จะอธิบายความผิดพลาดของตรรกะนั้นอย่างไร



“มีน จัดการลูกมึงดิ๊”



“เพราะ…ของขวัญที่เราจะให้ญาติผู้ใหญ่ควรเป็นของที่เขาเก็บไว้ได้นานๆไง” มีนาแถ ที่หางตา เขาเห็นพายุหลุดขำพรืดออกมากับเหตุผลประหลาดนั้น “แบบ ของใช้ เสื้อผ้า หรือของทำมืออะไรแบบนี้…”



“รู้แล้ว! งั้นเราร้อยพวงมาลัยให้พ่อดีกว่า!” ทินกรเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าตื่นเต้น มีนาชะงัก ส่วนพายุนั้นขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่




“ทำไมวะ? มึงจะเอาไปกราบตีนขอขมาพ่อมึงเหรอ”




“…” ทินกรดูเหมือนจะไม่เข้าใจคำศัพท์ของเพื่อนสนิท แต่ยังคงพยายามอธิบาย “เปล่า ช่วงนี้พ่อกูชอบร้อยมาลัย ไม่รู้อารมณ์ไหนช่วงเย็นชอบกลับบ้านมาขอให้ป้าแต้วสอน เห็นร้อยมาหลายวันแล้ว ตอนร้อยก็ยิ้มอยู่คนเดียว คงเป็นฮอบบี้ใหม่
คนแก่”



มีนารู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองในตอนนี้ร้อนฉ่าไปถึงใบหู หัวใจดวงน้อยที่ถูกทารุณกรรมอย่างต่อเนื่องมาหลายวันตอนนี้แทบจะกรีดร้องของความเมตตา



“เอาอย่างอื่นดีมั้ย พวงมาลัยแป๊บๆก็เหี่ยวป่ะวะ” พายุว่า “อีกอย่าง มึงมาฝึกตอนนี้กูว่าอย่าว่าแต่ได้พวงมาลัยเลย เข็มจะทำมือแม่ง เป็นบาดทะยักตายห่าไปก่อน”



“ซันชอบวาดรูปไม่ใช่เหรอ?” ร่างเล็กเสนอขึ้นหลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก “ไม่วาดให้คุณพ่อล่ะ”



“จริงด้วย! มีนฉลาดอ่ะ” ทินกรพยักหน้าเห็นด้วย



“หมอมั้ยล่ะมึง” พายุตบหัวเพื่อนตัวสูงเบาๆ แต่คนโดนตบนี่แทบจะหน้าทิ่มไปกับโต๊ะอีกรอบ



“งั้นเย็นนี้ชวนพี่ภัทรไปซื้อสีเพิ่มดีกว่า” เมื่อได้ของขวัญให้บิดา ทินกรควักโทรศัพท์ออกมาพิมพ์หาคนรักอย่างสบายใจ ส่วนมีนานั้นคงมืดแปดด้านด้วยไม่รู้ว่าจะให้อะไรผู้ชายที่เป็นเจ้าของทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเขาและมีพร้อมในทุกด้านๆ




เว้นอยู่อย่างเดียวเขารู้ว่าธีรเชษฐ์โหยหามากกว่าสิ่งใดในโลก และจำนวนเงินเท่าไหร่ก็ไม่สามารถซื้อมันมาได้…










มีนารู้ว่าเขากำลังทำภารกิจฆ่าตัวตายตั้งแต่ก่อนที่จะก้าวเข้ามาในโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย แต่เขาก็รู้เช่นกัน ว่าหากเขาไม่ลองพยายามดูอีกสักครั้ง เด็กหนุ่มคงจะรู้สึกผิดกับตัวเองไปตลอดชีวิต



เด็กหนุ่มพยายามมองหาคนที่ตนมาดักรอท่ามกลางทะเลของชุดกาวน์สีขาว ทุกๆครั้งที่เขาพยายามจะเข้าหาธารธารา อีกฝ่ายมักจะถูกรายล้อมด้วยเพื่อนร่วมชั้นเสมอ แม้ว่าคุณชายคนรองของบ้านทรัพย์ดำรงจะเห็นเขาทุกครั้ง แต่อีกฝ่ายเลือกที่เมินเฉยการมีตัวตนของมีนาแล้วเดินผ่านเขาไป



ครั้งนี้ มีนาไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของตัวเองที่ในครั้งนี้ ร่างโปร่งของ’นางฟ้า’ของปีสี่กำลังเดินผ่านทางเดินเปลี่ยวนี้โดยไม่มีเพื่อนขนาบข้างเช่นทุกวัน  ไม่มีแม้แต่ติณณ์ภพ เพื่อนสนิทที่ไม่เคยห่างกายชายหนุ่มตั้งแต่ที่มีนารู้จักคนทั้งคู่มา
สมองของเขาร้องเตือนเป็นครั้งสุดท้ายว่าอย่าทำอะไรโง่ๆ แต่มีนายังคงดื้อรั้นไม่ยอมฟัง เขารู้ว่าเขาจะต้องเสียใจทีหลัง แต่ตอนนี้เขามาไกลเกินกว่าจะถอยแล้ว



“คุณธาร…คุณธารธาราครับ”



ฝีเท้าของธารธาราหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงของเขา แต่ร่างโปร่งในชุดกาวน์ยาวสีขาวบริสุทธิ์ยังคงไม่คิดจะหากลับมา มีนากลืนน้ำลายอย่างยากลำบก ก่อนจะเป็นฝ่ายก้าวเข้าไปหาคนอายุมากกว่า



“วันที่สิบสี่ คุณเชษฐ์จะจัดงานวันเกิด…”



“แล้วมันกงการอะไรของผมไม่ทราบ?” อีกฝ่ายหมุนตัวกลับมาหาเขา สีหน้าไม่พอใจที่คนอื่นแทบไม่เคยได้เห็นเริ่มกลายเป็นสิ่งที่มีนาคุ้นชิน ถึงแม้ว่านั่นจะไม่ได้ทำให้ความน่ากลัวของอีกฝ่ายลดน้อยลง



ในบางมุม เขารู้สึกว่าการวางตัวของคนตรงหน้านั้นดูคล้ายคลึงเลขาหน้าสวยของธีรเชษฐ์อยู่มาก



“คุณเชษฐ์เขาคิดถึงคุณธารมากนะครับ” มีนาเอ่ยเสียงแผ่ว อีกฝ่ายแค่นเสียงหึ กอดอกส่ายหน้าไปอย่างขบขันราวกับกำลังได้ยินเรื่องตลกที่มีนาไม่เข้าใจ



“ผมจำได้ว่าวันเกิดของผู้ชายคนนั้นไม่ใช่วันที่สิบสี่…”



“คุณเชษฐ์เลื่อนไปจัดหลังกลับจากต่างประเทศ…”



“ผมถามอะไรหน่อยได้มั้ย?” ธารธาราเอ่ยขัด มีนานิ่งไป ก่อนจะพยักหน้าอย่างประหลาดใจ “คุณจะครบสิบแปดปีวันที่สิบสามรึเปล่า?”



มีนาพยักหน้าอีกครั้ง ยังคงไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไร ธารธาราหัวเราะออกมากับคำตอบนั้น เสียงหัวเราะขมขื่นที่บ่งบอกว่าอีกฝ่ายรับรู้ถึงเจตนาของบิดาเป็นอย่างดี



“หึ ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะจัดงานวันเกิด พออยากอวดของเล่นก็ทำให้คนอื่นวุ่นวายไปทั่ว” ธารธาราส่ายหัว “เอาเวลานี้ไปนวดตัวเข้าสปาอัพราคาตัวเองจะดีกว่านะ วันจริงผู้ชายคนนั้นจะได้ไม่รู้สึกว่าคุณไม่คุ้มค่าการลงทุน”



มีนารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่กับเหตุผลของอีกฝ่าย ใจหนึ่งเขาไม่อยากเชื่อสิ่งที่ธารธาราพูด แต่มีนาต้องยอมรับว่านั่นดูจะเป็นเหตุผลที่สมเหตุสมผลที่สุดสำหรับการกระทำของร่างสูง



แค่คนเอาแต่ใจ ที่อยากอวดสัตว์เลี้ยงของตัวเองให้ทุกคนดู



เขาควรจะไม่รู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งนั้น แต่มีนารู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ ธารธาราเอียงคอพินิจพิจารณาเด็กหนุ่มรุ่นน้องด้วยแววตาที่มีนาอ่านไม่ออก เอ่ยเสียงเรียบทิ้งท้ายก่อนเดินจากไป



“คุณไม่ใช่คนแรกหรอกนะที่คิดว่าจะเปลี่ยนคนแบบนั้นได้”



แม้จะรู้สึกเหมือนถูกอีกฝ่ายตีแสกหน้าด้วยไม้หน้าสาม แต่มีนายังคงเลือกที่จะก้าวตามอีกฝ่ายไปตามทางเดินของโงพยาบาลแม้ว่าขาจะรู้สึกไร้เรี่ยวแรงเพียงใด



เขามาที่นี่เพื่อธีรเชษฐ์...เรื่องของเขาสามารถเอาไว้ร้องไห้คนเดียวในห้องน้ำหลังจากนี้ก็ยังไม่สาย



“ขอร้องล่ะครับคุณธาร...”



“ผมต้องบอกคุณกี่ครั้งถึงจะพอ เลิกตามรังควานผมซะที” เจ้าของชื่อเอ่ยขึ้นเสียงติดรำคาญ เห็นได้ชัดว่าความอดทนที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของอีกฝ่ายได้หมดลงแล้ว



“คุณธารครับ ผมขอร้อง อย่างน้อยวันเกิดคุณเชษฐ์...”



“ถ้าผู้ชายคนนั้นประสบอุบัติเหตุ เป็นโรคร้ายแรง หรืออะไรก็ตาม อะไรที่ผมช่วยยื้อชีวิตเขาได้ ผมยินดีจะช่วย อย่างน้อยที่สุดก็ในฐานะบุคลากรทางการแพทย์คนนึง แต่นอกจากนั้น ก็ทางใครทางมัน” เสียงหวานขัด ดวงตาสีน้ำตาลเย็นยะเยือกจนมีนารู้สึกเสียววาบไปถึงกระดูกสันหลัง



“ได้โปรดเถอะครับคุณธาร ถ้ามันเป็นเพราะผม ผมจะไม่ยุ่งกับคุณเชษฐ์อีก” ถึงแม้น้ำเสียงจะสั่นเครือราวกับจะร้องไห้ แต่ร่างเล็กก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ



ถ้าหากมันทำให้ธีรเชษฐ์ได้ลูกชายคนรองกลับมา ถ้าหากมันทำให้ครอบครัวของร่างสูงได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง มีนาก็ยินดีที่จะไป ถึงแม้ว่าหนทางข้างหน้าจะลำบากแค่ไหนก็ตาม



“อย่าสำคัญผิด มีนา” เสียงเย็นของธารธาราเจือแววขบขัน ราวกับอีกฝ่ายกำลังเล่าตลกร้ายบางอย่างให้เขาฟัง “ผมไม่เคยเกลียดคุณ ถามว่าในฐานะเพื่อนร่วมโลก ผมรังเกียจสิ่งที่คุณกำลังทำมั้ย? ก็มีบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่กงการอะไรของผม”



ร่างโปร่งก้าวเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มที่ยืนตัวสั่นอย่างหวาดกลัว เชยคางมนให้เงยขึ้นสบตาเขาด้วยแรงที่ไม่เบานัก มีนาสะดุ้ง แต่ยังคงไม่ยอมขยับไปไหน ความตั้งใจแน่วแน่ที่ฉ่ยชัดในดวงตากลมโตไม่ได้ช่วยให้ธารธาราใจอ่อนลงสักนิด



“คนที่ผมเกลียด คือผู้ชายคนนั้น ความเกลียดของผมมันหยั่งรากลึกมานานกว่าที่คุณจะก้าวเขามาในชีวิตเขาเสียอีก” ธารธาราปล่อยมือจากใบหน้าของอีกฝ่าย “ถ้าคุณยังไม่เลิกยุ่งวุ่นวาย พยายามให้ผมไปเจอกับเขาอีก ทั้งซัน ทั้งแว่น ทั้งแทนไทย จะได้รู้ ว่าเพื่อนที่แสนเรียบร้อยของตัวเองทำอาชีพเสริมอะไรในเวลาว่าง”



ชายหนุ่มกอดอก  ขยับยิ้มเมื่อเห็นว่าคำพูดของตัวเองจี้ใจดำร่างเล็กเข้าให้อย่างจัง



“ถูกเชิญออกด้วยข้อหาค้าประเวณี ศพคงไม่สวยเท่าไหร่ คุณว่าไหม”




มีนาก้มหน้านิ่ง ไหล่บางสั่นระริกอย่างห้ามไม่อยู่



เขากลัว...



มีนายอมรับว่าตัวเองกลัวคำขู่ของคนตรงหน้า ที่ดูจากแววตาที่มองเขาราวกับมองซากสัตว์เน่าเฟะตามท้องถนนนั้นแล้ว คงไม่ใช่แค่คำขู่เปล่าๆ ต่อให้คเชนทร์ยอมเอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับสิ่งที่เขาทำเพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อนของตนกับธีรเชษฐ์ แต่อาจารย์ที่ปรึกษาของเขาไม่เคยปิดบังความรักความเอ็นดูของตนที่มีต่อธารธาราดุจลูกในไส้แม้จะเป็นในคณะ จนใครหลายคนต่างพากันเข้าใจผิดว่าธารธาราเป็นลูกชายแท้ๆของคเชนทร์ เพราะฉะนั้นคงไม่ต้องสงสัยว่าอาจารย์ของเขาจะเลือกใคร



ธารธาราขยับยิ้มอย่างผู้ชนะที่คล้ายคลึงกับบิดาของตนมากแม้จากไม่ได้โครงหน้าของธีรเชษฐ์มา เห็นได้ชัดว่าร่างโปร่งรู้ดีว่าคำพูดของตนบรรลุจุดประสงค์ที่ต้องการ



“อย่ามายุ่งกับผม ถ้ายังอยากมีชีวิตที่สงบสุข จำไว้”



ครั้งนี้ มีนาเลือกที่จะยืนอยู่ที่เดิม มองร่างสูงโปร่งในชุดกาวน์ยาวสีขาวหมุนตัวเดินเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างเสียขวัญ แม้จะยังไม่อยากยอมแพ้ แต่มีนายังไม่อยากเสี่ยงทำอะไรไปมากกว่านี้ในตอนนี้



เด็กหนุ่มเดินกลับไปในทางที่ตนจากมา ขาเรียวชะงักเมื่อเห็นเงาตะคุ่มของร่างสองร่างคุดคู้อยู่ข้างถังขยะใบโต หัวใจของมี
นาตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อเห็นกลุ่มผมสีบลอนด์ทรายของแทนไทยโผล่พ้นขอบถังขยะออกมา แต่ร่างเล็กเลือกที่จะเดินต่อไป แสร้งทำเป็นไม่เห็นเพื่อนเพียงสองคนในคณะของตน ที่ในตอนนี้น่าจะรับรู้เรื่องของเขามากพอที่จะประติดประต่ออะไรได้หลายๆอย่างแล้ว



หากแว่นกับแทนไทยเดินเข้ามาถามเขา มีนาก็ไม่คิดที่จะโกหกในสิ่งที่คนทั้งสองน่าจะเดาออกได้ไม่ยาก แต่ในตอนนี้ มีนาเลือกที่จะไม่รับรู้การมีอยู่ของคนทั้งคู่



เขามีเรื่องให้ลำบากใจมากพออยู่แล้ว












“สีนั้นก็หมดอีกแล้วเหรอ? วาดรูปบ่อยขนาดนั้นเลยเหรอเรา?” ภรัณยูเลิกคิ้วเมื่อเห็นทินกรกหยิบหลอดสีขนาดใหญ่ที่สุดที่ร้านมีลงในตะกร้า เด็กหนุ่มหันมายิ้มให้คนรักอย่างมีความสุข



“ครับ แค่รูปพี่ภัทรคนเดียวก็เป็นอัลบั้มแล้ว”



“….” ภรัณยูเลือกที่จะยิ้มตอบคนรักโดยไม่พูดอะไร เขารู้ว่าในบางครั้งสิ่งที่ตัวเองพูดออกไป แม้จะเป็นเพียงแค่ปฏิกิริยา
โต้ตอบเพื่อกลบเกลื่อนความอายก็สามารถทำร้ายความรู้สึกของคนคิดเยอะอย่างทินกรได้ ดังนั้นอะไรที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง
ภรัณยูก็อยากจะทำให้คนรัก



ถึงเขาจะยังอ่านใจคนไม่เก่ง แต่ในบางครั้ง ภรัณยูรู้สึกว่าเขากับเด็กหนุ่มสามารถสื่อสารกันได้แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรออกมา



ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่มากกว่าที่เขาเคยรู้สึกกับใคร



“แล้วซันจะวาดรูปอะไรให้ท่านประธานเหรอ?”



“เรียกพ่อสิครับพี่ภัทร” ทินกรแย้ง “เรียกท่านประธานแล้วฟังดูห่างเหินจัง”



“หยุดเลย ตอนพี่เกิดท่านประธานยังไม่ขึ้นมัธยมเลยซัน จะให้เรียกพ่อนี่สงสารเขาบ้างเถอะ” ภรัณยูเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ แต่ทินกรกลับทำหน้ามุ่ย



“ก็พ่อแฟนก็ต้องเรียกพ่อสิครับ”



“เลือกสีต่อเลย พี่ไม่คุยด้วยแล้ว” ภรัณยูเปลี่ยนหัวข้อสนทนาก่อนเรื่องจะบานปลายใหญ่โตไปมากกว่านี้ ทินกรมมีสีหน้าเหมือนอยากจะพูดอะไรต่อแต่เปลี่ยนใจ ก่อนจะหันไปเลือกสีต่อตามที่คนรักบอก



พวกเขาใช้เวลาอยู่ในร้านขายอุปกรณ์วาดรูปนานพอสมควร สังเกตได้จากท้องที่เริ่มร้องโครกครากของเด็กหนุ่มร่างสูง ทินกรหันมายิ้มแห้งๆให้เขา ภรัณยูส่ายหน้ายิ้มๆแล้วหันไปมองหาร้านอาหารในละแวกนั้น



ดวงตาสีน้ำตาลกวาดไปทั่วบริเวณก่อนจะรีบหันขวับไปมองด้านหลังอีกครั้งด้วยสีหน้าแตกตื่น



“พี่ภัทร? เป็นอะไรรึเปล่าครับ?” ทินกรถามเมื่อเห็นท่าทีประหลาดของคนรัก ภรัณยูยังคงไม่ละสายตาจากฝูงชนด้านหลัง คิ้ว
เรียวขมวดมุ่นอย่างเป็นกังวล



“พี่คิดว่าพี่เห็นปภพ....” ร่างของทินกรเกร็งขึ้นอย่างระแวดระวังทันทีที่ได้ยินดังนั้น “...พี่คงเครียดมากไปน่ะ ไปหาอะไรกินกันดีกว่า”



“ผมว่าเรากลับกันดีกว่าครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล



“ไม่มีอะไรหรอกซัน พี่หลอนไปเองแหละ ในห้างคนเยอะแยะ เขาไม่โง่ขนาดนั้นหรอก” ภรัณยูปลอบคนรัก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาคิดไปเองว่าเห็นแฟนเก่าที่ตำรวจยังคงตามจับไม่พบอยู่ในทุกที่ที่เขาไป และชายหนุ่มรู้ว่าหากเขายังอยู่ในห้วงความคิดจิตตกแบบนี้ เขาคงไม่ได้เป็นอันทำอะไรพอดี



“ผมอยากกลับแล้วครับพี่ภัทร เราสั่งอะไรมากินที่บ้านก็ได้”



ทินกรยืนยัน เมื่อเป็นอย่างนั้น ภรัณยูจึงยอมทำตามคำขอของคนรักแต่โดยดี



ท้องฟ้าภายนอกเริ่มมืดสลัวตอนที่พวกเขาเดินมาถึงลานจอดรถ ทินกรเปิดฝากระโปรงรถขึ้นแล้วยัดข้าวของที่ซื้อมาทั้งหมด
เข้าไปในนั้น ภรัณยูยืนรอคนรักเงียบๆ ก่อนจะร้องออกมาเมื่อแรงกระชากจากด้านหลังทำให้เขาเซถลาไปตามแรงดึง สัมผัสเย็นๆที่จ่อยู่ที่คอหอยและกลิ่นเหล้าเหม็นคละคลุ้งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกสันหลัง



“พี่ภัทร!!!”



“อย่าเข้ามานะเว้ย!!”



เสียงตะโกนอย่างคลุ้มคลั่งของปภพดังขึ้นพร้อมกับมีดที่แนบชิดเข้ามาใกล้คอของภรัณยูมากขึ้น ชายหนุ่มชาไปหมดทั้งร่างด้วยความหวาดกลัว แต่แววตาหวาดผวาของทินกรที่มองตรงมาที่เขาทำให้คนอายุมากกว่าต้องฝืนทำเป็นเข้มแข็ง



“ซัน หนีไป…”



“หุบปาก!!” ภรัณยูรู้สึกถึงปลายมีดที่กรีดลงบนผิวกายขาว ความรู้สึกเจ็บแปลบที่คอทำให้ร่างโปร่งเริ่มมีตื่นตระหนกมากขึ้น



“แกต้องการอะไร?” ทินกรถาม แววตาของร่างสูงผสมผสานปนเปไปด้วยความหวาดกลัวและโทสะที่ภรัณยูไม่เคยเห็นมาก่อน “เงินเหรอ? แกอยากได้เท่าไหร่บอกมา แค่ปล่อยพี่ภัทรมาให้ฉัน…”



“ฮ่าๆๆๆ มึงคิดว่ากูโง่เหรอ?!” น้ำเสียงคลุ้มคลั่งของปภพทำให้ภรัณยูเริ่มสงสัยแล้วว่าสิ่งที่อยู่ในร่างกายของชายหนุ่มคงไม่ได้มีแค่แอลกอฮอล์ “ถึงกูได้เงินไป มึงก็ไม่ปล่อยกูหรอกเว้ย!!”



“แล้วแกอยากได้อะไร” ทินกรพยายามข่มเสียงของตัวเองให้ฟังดูใจเย็นที่สุด “แค่ปล่อยพี่ภัทรแล้วแกจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ”



“ของที่กูอยากได้เหรอ…” ภรัณยูนิ่วหน้าด้วยความเจ็บเมื่อมือสากบีบเข้าที่คาง พยายามเบือนหน้าหนีอย่างขยะแขยงเมื่อลิ้นของอดีตคนรักเลียเข้าที่ข้างแก้มอย่างหื่นกระหาย “กูอยากให้มึงพังพินาศ ให้มึงไม่เหลืออะไรเหมือนกู! คิดว่าผัวเด็กของมึงจะยังเอามึงลงมั้ยถ้ากูเอามึงตรงนี้ต่อหน้ามัน ฮึ? คิดว่ามึงสูงส่งกว่ากูเหรอ? ดี กูจะย่ำยีให้มึงไม่เหลือค่า ต่อหน้าคนที่บอกว่ารักมึงนักหนา…อุ่ก!”



แรงกระแทกจากด้านหลังอย่างรุนแรงส่งให้ปภพล้มกลิ้งลงไปกับพื้น ร่างสูงใหญ่ของพายุนั่งทับอีกฝ่ายไว้ ดึงมีดออกจากมือของชายหนุ่มที่ดิ้นพล่านไปมาบนพื้นแล้วโยนมันไปให้ห่างจากมือของปภพ ภรัณยูทรุดตัวลงกับพื้น หัวใจเต้นรัวในอกจนเขารู้สึกเหมือนจะเป็นลมไปตรงนี้



“ทางนี้ครับ!” เสียงของเจนวิทย์ดังขึ้นไม่ไกล พายุที่ใช้ร่างกายของตัวเองกดทับตัวคนร้ายไว้หันไปหาทินกร



“ยืนบื้ออะไรอยู่ล่ะ? ไปดูพี่ภัทรดิวะ!”



ทินกรที่ยังคงตกอยู่ในสภาวะช็อกรีบเรียกสติของตัวเองกลับมาแล้ววิ่งไปหาคนรักที่ยังคงนั่งอยู่บนพื้น



“พี่ภัทร…พี่ภัทรเป็นไงบ้างครับ?”



“พี่ไม่เป็นไร…” ภรัณยูพยายามยิ้มให้เด็กหนุ่มทั้งที่ยังคงเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากเหตุการณ์ระทึกขวัญเมื่อครู่จบลงความรู้สึกเจ็บแปลบบริเวณแผลเริ่มกลับคืนมาอีกครั้ง ทินกรถอกเสื้อของตัวเองออกแล้วใช้มันกดไว้ที่ปากแผลเพื่อห้ามเลือด แม้ว่าภรัณยูจะรู้สึกว่าตนไม่ได้ถูกบาดลึกอะไรนัก หันไปหาพายุที่กำลังส่งมอบหน้าที่ต่อให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้าง



“กู…กูพาพี่ภัทรไปหาหมอนะ”


“หน้าซีดเป็นไก่ต้มแบบนั้นเดี๋ยวก็รถคว่ำตายห่าก่อนถึงโรงบาลอ่ะ” เพื่อนผิวเข้มว่า “เดี๋ยวกูไปส่ง ขอโทษนะครับเจน เราขอแวะไปส่งเพื่อนเราก่อนกลับได้มั้ย?”



ประโยคหลังนั้นหันไปพูดกับแฟนของตัวเองที่วันนี้อยู่ในชุดกระโปรงสีหวาน เด็กหนุ่มร่างโปร่งรีบพยักหน้า



“รีบไปกันดีกว่า ทางนี้เดี๋ยวให้พี่ๆเขาจัดการ”



พายุรับกุญแจรถมาจากทินกรและเปิดประตูหลังให้เพื่อนประคองคนรักเข้าไป เปิดประตูให้แฟนของตัวเองแล้ววิ่งอ้อมรถมาเพื่อสตาร์ทรถ



ทินกรรู้ดีว่าเพื่อนของเขาเหยียบคันเร่งมิดเท้าเท่าที่กฎหมายจะเอื้ออำนวยแล้ว แต่ระยะทางจากห้างสรรพสินค้าไปโรงพยาบาลนั้นยังรู้สึกยาวนานชั่วกัปชั่วกัลป์ในหัวของเขาเมื่อมีภรัณยูที่นอนซบไหล่เขาด้วยสีหน้าอ่อนเพลีย เลือดอุ่นๆซึมผ่านเนื้อผ้าที่เขาใช้กดปากแผลไว้ออกมาเป็นระยะ



“อดทนหน่อยนะครับพี่ภัทร” ทินกรประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากชื้นเหงื่อของคนรักอย่างปลอบโยน ภรัณยูขยับยิ้มอย่างอ่อนเพลีย กุมมือที่สั่นระริกของเด็กหนุ่มที่พยายามปั้นสีหน้าเข้มแข็งเพื่อเขาไว้แน่น



“อื้อ มีซันอยู่พี่ก็ไม่เจ็บแล้ว”



‘แค่มีซันอยู่ แม่ก็ไม่เจ็บแล้วล่ะ’



ทินกรเม้มริมฝีปากแน่นกับคำพูดของคนรักที่ซ้อนทับกับมารดาเมื่อครั้งวัยเยาว์ เขาสลัดความคิดนั้นออกไปจากหัว บอกตัวเองว่าเรื่องนี้จะไม่จบแบบเดียวกับเรื่องของเกศรา

--------มีต่อ------------------
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 32 [11-7-62] คห.611-612
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 24-07-2019 19:35:05
“โชคดีจังนะครับที่ไม่เป็นไร” เจนวิทย์เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าโล่งอกหลังจากพบแพทย์แล้ว พวกเขานั่งอยู่ที่แผนกการเงินของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังเพื่อรอรับยา ภรัณยูยกมือขึ้นแตะที่ผ้าก็อซปิดแผลสีขาวบนคอของตัวเองเบาๆอย่างเห็นด้วย พายุที่เดินไปซื้อน้ำจากตู้กดให้ทุกคนแจกจ่ายขวดน้ำเปล่าให้กับพวกเขาแล้วนั่งลงข้างคนรักของตัวเอง




“เออ เมื่อกี้กูบอกไอ้มีน มันบอกมันอยู่แถวนี้พอดี เดี๋ยวมาหา”



“มึงไปบอกมีนทำไม แค่นี้เพื่อนก็มีเรื่องเครียดเยอะอยู่แล้ว” ทินกรขมวดคิ้ว เขาเจอมีนาแต่ละครั้งเด็กหนุ่มมีแต่จะโทรมลงเรื่อยๆ เขาจำได้ว่ามารดาของเพื่อนป่วยหนักต้องนอนโรงพยาบาลอย่างไม่มีกำหนดออก และนั่นทำให้ทินกรนึกถึงภาพของตัวเองซ้อนทับกับเพื่อนตัวจิ๋ว



เขาในตอนนั้นไม่สามารถแบกรับอะไรได้มากกว่าอาการของมารดา และเขาไม่อยากให้มีนาต้องมากังวลใจกับเรื่องของเขา



“ถ้ามึงเป็นมีน แล้วมีนเป็นคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น มึงจะไม่อยากรู้เหรอวะ?” พายุเลิกคิ้ว “เพื่อนน่ะ เขามีไว้เวลาแบบนี้แหละ มึงไม่รู้เหรอ?”



คำพูดนั้นทำให้ทินกรเงียบไป ร่างสูงพยักหน้าให้เพื่อนผิวเข้ม



“ขอบใจมึงมากนะ ที่ช่วยพี่ภัทร”



“ไม่เท่าไหร่หรอกน่า มึงโชคดีนะที่กูพาเจนไปกินข้าวห้างนั้นพอดี” พายุตบบ่าเพื่อนแรงๆ แม้จะเจ็บระบมไปทั่วทั้งไหล่ แต่ทินกรรู้ดีว่านั่นเป็นวิธีแสดงความรักของคนหัวรุนแรงอย่างพายุ



“ซัน พี่ภัทร เป็นอะไรมากมั้ยครับ?”



ทั้งสี่ชีวิตหันไปหามีนาที่ก้าวออกมาจากลิฟต์ด้วยสีหน้าเป็นห่วง ภรัณยูส่ายหน้าเบาๆ นอกจากแผลที่ค่อนข้างลึกแต่ไม่ได้ตัดโดนเส้นเลือดใหญ่และขวัญที่เสียไปแล้ว ชายหนุ่มคิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไรมาก



“แค่รับยาแล้วก็กลับได้แล้วล่ะ” ทินกรตอบยิ้มๆ



“ดีจัง” คนตัวเล็กถอนหายใจอย่างโล่งอก



“เออ มึงโทรให้พ่อมึงมารับมั้ย หน้าซีดขนาดนี้มึงขับกลับเองไม่ไหวหรอก เดี๋ยวกูเรียกแท็กซี่กลับไปเอารถที่ห้าง” พายุถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนยังคงไม่อยู่ในสภาพที่จะขับรถ มีนาตัวแข็งทื่อ แม้เขาจะเคยบอกธีรเชษฐ์ว่าเคยเจอกับทินกรแล้ว แต่การเจอสองพ่อลูกในเวลาเดียวกันไม่ใช่สิ่งที่เขานึกอยากให้เกิดขึ้นสักเท่าไหร่



ทินกรส่ายหน้า



“เวลาแบบนี้ถ้าพ่อไม่ติดประชุมก็กกเด็กในสต็อกอยู่ จะทางไหนกูก็ไม่อยากกวนเขาทั้งนั้นแหละ”



‘เด็กในสต็อก’ คนที่ว่าสะดุ้งเล็กน้อยอย่างคนมีชนักติดหลัง เขารู้ดีว่าในตอนนี้ธีรเชษฐ์น่าจะประชุมใกล้เสร็จแล้ว แต่ร่างเล็กไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะสามารถบอกเพื่อนได้



“เออ ดีเนอะ มีลูกประเสริฐอย่างมึงเนี่ย” พายุเอ่ยเสียงประชดประชัน “ต้องให้มึงโดนแทงซักสิบแผลมั้ยเขาถึงจะสนใจ”



“พ่อกูรักกู” ทินกรแย้ง แม้ว่าน้ำเสียงของเด็กหนุ่มจะเจือไปด้วยความไม่มั่นใจอย่างเห็นได้ชัด ลึกๆแล้วเขารู้ดีว่าธีรเชษฐ์รักเขา แต่การเติบโตมาหลายต่อหลายปีโดยไม่มีอีกฝ่ายทำให้การร้องขอความช่วยเหลือจากบิดาแท้ๆรู้สึกไม่ต่างอะไรกับการร้องขอคนแปลกหน้า “กูรู้ว่าเขารักกู…”



“รักสิซัน” มีนาเอ่ยขึ้น ทนเก็บความรู้สึกอึดอัดในใจไว้ไม่ไหว “คุณพ่อซันน่ะ ต้องรักซันมากแน่ๆเลย”



“…ขอบใจนะมีน” ทินกรยิ้ม ไม่คิดอะไรจากคำพูดของเพื่อนตัวเล็กไปมากกว่าคำปลอบโยนจากคนใจดีอย่างมีนา “ว่าแต่มีนมาทำอะไรที่นี่เหรอ?”



“แม่เราอยู่ที่นี่น่ะ” มีนาตอบอย่างไม่ได้คิดอะไรมาก ก่อนจะนิ่งไปเมื่อเห็นสีหน้าประหลาดใจของคนสามคนที่รู้ถึงสถานะทางการเงินของเขาดี



“มึงเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่ารักษาวะ?” พายุถามด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ



“…” แม้จะไม่อยากตอบ แต่มีนารู้ดีว่าตนไม่มีทางเลือก เมื่อสายตาของเพื่อนอีกคนที่ไม่เคยพูดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องของมีนามองมาที่เขาด้วยสีหน้าเป็นกังวล “คุ…แฟนเรา…แฟนเราเป็นคนจ่ายให้น่ะ”


”มีน…”



ทินกรมีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจที่จะเปิดบทสนทนาในประเด็นนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาพยายามที่จะไม่ก้าวก่าย แต่ในฐานะของคนที่เคยนอนเฝ้ามารดาที่โรงพยาบาลนี้อยู่นาน เขารู้ดีถึงค่าใช้จ่ายที่เพื่อนจะต้องเผชิญ



มันเป็นเรื่องหนึ่งที่คนรักของมีนาจะซื้อเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ให้อีกฝ่าย แต่มันเป็นอีกเรื่องที่คนคนนั้นจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลหลักล้านให้เด็กหนุ่มโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ต่อให้ทินกรอยากจะเชื่อว่ามีนาฉลาดพอที่จะไม่ถูกหลอก แต่จากสิ่งที่เขาเห็นมาทั้งหมดทำให้เขาเริ่มจะเป็นห่วงสวัสดิภาพของเพื่อนตัวเล็ก



“…เราไม่เป็นไร” มีนาพึมพำเสียงเบา พยายามยิ้มให้เพื่อนที่ยังคงมองมาที่เขาด้วยสายตาเป็นกังวลทั้งที่ตัวเองเพิ่งผ่านเหตุการณ์สะเทือนขวัญมา



“มีน กูยังยืนยันคำเดิมนะ บ้านกูมีเงินพอจะจ่ายค่ารักษาให้แม่มึงโดยที่ขนหน้าแข้งกูไม่ร่วงด้วยซ้ำ มึงไม่ต้องทนทำอะไรที่มึงไม่อยากทำ กูกับไอ้ซันอยู่ตรงนี้ มึงเข้าใจมั้ย?” พายุเอ่ยย้ำด้วยสีหน้าจริงจัง “มึงจะมีเพื่อนรวยไว้ทำไมถ้ามึงไม่ขอความช่วยเหลือจากพวกกูวะ?”



คราวนี้ทินกรไม่ได้ปรามเพื่อนตัวโตอย่างที่ทำประจำ หนำซ้ำยังพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของอีกฝ่ายด้วย



มีนาก้มหน้ากัดริมฝีปาก เทคนิคประจำของเด็กหนุ่มทุกครั้งที่ร่างเล็กกำลังลำบากใจ ทินกรอ้าปาก แต่ภรัณยูที่นั่งอยู่ข้างๆเขากลับเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน



”พี่ว่าเขาเรียกชื่อพี่แล้วนะซัน”



“งั้นผมไปเอายาให้นะครับ พี่ภัทรนั่งอยู่นี่แหละ”



ความสนใจของทินกรกลับมาอยู่ที่คนรักของตัวเองทันทีที่ได้ยินดังนั้น เด็กหนุ่มส่งสายตาให้มีนาว่าเรื่องนี้ยังไม่จบและเดินไปที่ช่องรับยา พายุหันกลับมาหาเพื่อนตัวเล็ก แต่ภรัณยูเอ่ยขัดขึ้นมาอีกครั้ง



“พายุ พี่รบกวนไปซื้อแซนด์วิชที่ร้านสะดวกซื้อตรงนั้นให้หน่อยได้มั้ย พี่อยากกินยาเลยน่ะ”




“อ๋อ ได้ครับพี่ภัทร” พายุพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย เจนวิทย์รีบเดินตามคนรักไป ไม่อยากถูกทิ้งอยู่ในวงสนทนาที่บรรยากาศยังคงน่าอึดอัด มีนาเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยสีหน้าขอบคุณ แต่ภรัณยูเพียงแค่เอ่ยขัดเสียงเรียบ



“ซันเขาจะเข้าบริษัททุกวันอาทิตย์ แล้วก็เย็นวันพุธหลังจากนี้ไป ถ้ายังไงเวลาอยู่ที่บริษัทก็ออกประตูหลังจะดีกว่านะ”
เขาไม่คิดอยากให้ข้อสันนิษฐานของตัวเองถูกต้อง แต่ใบหน้าซีดเผือดของมีนานั้นเป็นสิ่งยืนยันได้อย่างดี




ภรัณยูไม่ใช่คนติดตามข่าวซุบซิบในบริษัท แต่เรื่องของเด็กคนใหม่ของธีรเชษฐ์ที่ดูจะมีอภิสิทธิ์พิเศษเหนือดารานางแบบที่ชายหนุ่มเคยควงนั้นก็ยังอุตส่าห์มาถึงหูเขาจนได้ ประกอบกับท่าทีประหลาดของมีนาเมื่อครู่ทำให้เขายิ่งกว่ามั่นใจ



“พี่ภัทรครับ…ผม…”


“ไม่ต้องห่วง พี่ไม่บอกซันหรอก” ชายหนุ่มเอ่ยขัดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุดที่เขาจะสามารถทำได้ “พี่ดูออกว่ามีนเป็นเด็กดี แล้วพี่ก็ไม่อยากให้ซันคิดมากด้วย”




ดวงตากลมโตมีน้ำใสๆเอ่อคลอหน่วยตา มีนากัดริมฝีปาก ยกมือไหว้ขอบคุณคนตรงหน้าด้วยแววตาสำนึกผิด




“รีบไปเถอะ เดี๋ยวพี่บอกทุกคนเองว่ามีนมีธุระ” ภรัณยูเสนอพร้อมรอยยิ้ม มีนาขอบคุณร่างโปร่งอีกครั้ง ก่อนจะรีบออกไปจากที่ตรงนั้นก่อนที่เพื่อนทั้งสองจะกลับมา









“พี่ภัทรครับ…”



“หืม?”



ภรัณยูเงยหน้าขึ้นจากไหล่กว้างที่เขาเอนซบอยู่อย่างงุนงง สุดท้ายแล้วทินกรตัดสินใจโทรขอร้องคนขับรถของบริษัทให้นำรถของเขามาจากห้างเพื่อมารับทั้งสองคนที่โรงพยาบาล ภรัณยูต้องใช้คำว่า ‘ขอร้อง’ กับการกระทำของร่างสูง เพราะความเดรงใจอย่างท่วมท้นของทินกรที่มีต่อพนักงานของตัวเอง รวมถึงคำขอโทษขอโพยไม่ขาดปากตั้งแต่ก้าวขึ้นรถมา



“พี่ภัทรว่ามีนจะโอเคมั้ยครับ?” ทินกรถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล ภรัณยูนึกสงสารคนรัก แต่เขาคิดว่านี่ยังไม่ใช่เวลาอันสมควรที่อีกฝ่ายจะรู้เรื่องของเพื่อนตัวเล็กกับบิดาของตน



”โอเคสิ” ภรัณยูตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เอื้อมมือไปกุมมือใหญ่ที่วางอยู่บนตักของเด็กหนุ่ม “ก็มีนเขามีซันกับพายุอยู่นี่นา”
ร่างสูงมีสีหน้าไม่เชื่อเขาเท่าไหร่นัก แต่เด็กหนุ่มเพียงแค่บีบมือเขาตอบเบาๆเท่านั้น



พวกเขามาถึงคฤหาสน์ทรัพย์ดำรงหลังจากนั้นไม่นาน ทินกรจ่ายค่าล่วงเวลารวมถึงทิปแบงค์สีเทาที่ทำให้ภรัณยูแทบจะคว้ามันกลับมาอย่างตกใจพร้อมกับกล่าวขอบคุณคนขับรถด้วยสีหน้าจริงใจ หยิบข้าวของของพวกเขาและถุงใส่ยาของภรัณยูออกมาจากรถแล้วเอื้อมมือไปจับมือของคนรัก



“ถึงบ้านแล้วนะครับพี่ภัทร”



ภรัณยูพยักหน้า ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาเริ่มคิดถึงคำว่าบ้านเวลานึกถึงที่นี่ มากกว่าห้องที่เขาอาศัยอยู่มาตลอดสามปี และนั่นทำให้การที่จะต้องย้ายกลับไปที่ห้องของตัวเองหลังจากเรื่องวุ่นวายนี้จบลง




เขาน่าจะรู้ว่าเมื่ออ้อยเข้าปากช้าง โดยเฉพาะช้างที่ดื้อด้านไม่ฟังใครอย่างทินกรแล้ว ย่อมไม่มีทางถูกคายออกมาโดยง่าย



“พี่ภัทร...ย้ายมาอยู่ที่นี่เลยได้มั้ยครับ”



“อะ..อะไรนะ?” ภรัณยูที่กำลังติดกระดุมชุดนอนหันขวับไปหาคนข้างกายที่เพิ่งแปรงฟันเสร็จ ร่างสูงช่วยภรัณยูติดกระดุมเม็ดที่เหลือแล้วจัดปกเสื้อนอนให้คนรัก



“ผมไม่อยากห่างจากพี่ภัทรอีกแล้ว” ทินกรเอ่ยเสียงจริงจัง “ก่อนจะเกิดเรื่องวันนี้ ผมก็รู้แล้วว่าผมไม่อยากห่างจากพี่ภัทรซักวินาที ผมแค่ไม่อยากทำให้พี่ภัทรลำบากใจ แต่ตอนนี้…ผมกลัวที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นหน้าพี่ภัทรอยู่ข้างๆผมมากกว่า”




“ซัน…เรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ…” แม้จะไม่ได้ปฏิเสธ แต่คำตอบของภรัณยูก็ไกลจากที่เด็กหนุ่มหวังไว้มาก “ไหนจะเรื่องห้องพี่ เรื่องท่านประธาน เขาจะยอมให้พี่มาเป็นกาฝากที่นี่เหรอ?”



“กา…” ทินกรขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ



“เขาจะยอมให้พี่เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาฟรีๆเหรอ” ภรัณยูแก้




“ถ้าเรื่องนั้นพี่ภัทรไม่ต้องเป็นห่วงครับ พ่อเขาเต็มใจอยู่แล้ว เขาบอกเหมือนได้พี่เลี้ยงเด็กมาฟรีๆ” เด็กหนุ่มส่ายหน้าอย่างเอือมระอา “แต่ถ้าพี่ภัทรไม่สบายใจ ผมมีคอนโดอยู่ใกล้ๆบริษัท พ่อซื้อให้ลูกๆทุกคนเป็นของขวัญ แต่ผมไม่เคยใช้ ถ้าพี่ภัทรคิดว่าบ้านหลังนี้มันมากเกินไป เราย้ายไปอยู่ที่นั่นก็ได้นะครับ พี่ภัทรไม่ต้องเสียค่าเช่า  แถมระยะทางก็ใกล้กว่าด้วย”
“มันไม่ใช่อยากนั้น…” ภรัณยูเกาศีรษะอย่างลำบากใจ เขาจะพูดยังไงให้คนขี้น้อยใจไม่ตีโพยตีพายไปเองอีก “ถ้าเราเลิกกันล่ะ? พี่ก็ไม่มีห้องให้กลับไปอยู่ จะเช่าห้องใหม่ก็ต้องซื้อของเข้าห้องใหม่หมด…”



“พี่ภัทรคิดว่าเราจะเลิกกันจริงๆเหรอครับ…”



นั่นไง เขายังพูดไม่ทันจบประโยคคนฟังก็ทำหน้าหงอยเหมือนลูกหมาโดนเตะเสียแล้ว



“ซัน พี่รู้ว่าตอนนี้ซันคิดว่าเราจะคบกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งพี่ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ในฐานะคนที่โตกว่า พี่ต้องใช้สมองคิดถึงทุกความเป็นไปได้ ไม่ใช่หัวใจ”



ภรัณยูอธิบายด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็นที่สุดที่ตนจะสามารถทำได้ เขาอยากที่จะใช้หัวใจตัวเองพุ่งชนทุกปัญหาอย่างที่ทินกรทำ แต่ใครสักคนในความสัมพันธ์ต้องเป็นเสียงแห่งเหตุผล เพื่อที่พวกเขาทั้งสองคนจะอยู่ด้วยกันได้นานที่สุด



และทินกรพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าตัวเองคือคนคนนั้นด้วยการหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลบนโต๊ะยื่นให้เขา



“ผมโอนคอนโดของผมเป็นชื่อพี่ภัทรแล้ว ถ้าเราเลิกกัน พี่ภัทรจะอยู่ที่นี่ หรือจะขายแล้วหาที่อยู่ใหม่ ก็เป็นสิทธิ์ของพี่”




“จะบ้าเหรอซัน?! ของแบบนี้จะให้พี่รับไว้ได้ยังไง?!” ภรัณยูร้องอย่างตกใจ คอนโดหรูใจกลางเมืองที่ธีรเชษฐ์ซื้อให้ลูกชายย่อมไม่มีคำว่าราคาย่อมเยาว์อยู่ในนั้น และมูลค่าของมันมีแต่จะเพิ่มขึ้นไปตามกาลเวลา



“พี่ภัทรมองหาปัญหา ผมเลือกที่มองหาทางแก้” ทินกรตอบเสียงเรียบ ดวงตาสีควันบุหรี่ฉายแววเศร้าหมอง “แต่ไม่ว่าผมจะพยายามแก้ปัญหาแค่ไหน มันก็เหมือนกับว่าพี่ภัทรพยายามจะมองหาปัญหาในทางแก้นั้นให้ผมอยู่เรื่อยๆ”



“ซัน…”



“พี่ภัทร…จริงๆแล้วแค่อยากหาข้ออ้างให้ผมไม่เข้าใกล้พี่ไปมากกว่านี้รึเปล่าครับ?” ทินกรเอ่ยขัด



ภรัณยูสะอึกกับคำถามนั้น แววตาเจ็บปวดของร่างสูงที่เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้ชายหนุ่มหายใจไม่ออก




นี่เขา…กำลังทำอย่างที่ทินกรว่าจริงรึเปล่า?



ทั้งที่คำตอบของทุกปัญหาของเขา ทินกรมักจะเสนอทางเลือกให้อยู่เสมอ แต่ภรัณยูกลับดึงดันที่จะหาข้อบกพร่องในคำตอบนั้นอยู่ร่ำไป เหมือนกับข้ออ้างอย่างที่อีกฝ่ายได้กล่าวไว้จริงๆ



ตอนนี้…คนคนเดียวที่กำลังขัดขวางเขากับความสุขของพวกเขา ก็คือตัวของภรัณยูเอง



“ซัน…”



คนขี้ขลาดอย่างเขา จะมีความกล้าที่จะรักใครสักคนได้เท่ากับที่เด็กคนนี้รักเขามั้ยนะ?



มือเรียวเอื้อมไปหยิบซองเอกสารในมือของคนรัก แล้วโยนมันลงบนพื้นห้อง



“พี่ไม่ต้องการห้องของซัน”



เด็กหนุ่มมีสีหน้าสลดลงเมื่อได้ยิน ก่อนที่ใบหน้าคมจะสดใสขึ้นทันทีที่ได้ยินประโยคถัดมา



“พี่จะย้ายมาอยู่ที่นี่กับซัน พี่…พี่อยากอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับคนที่พี่ไม่ต้องนึกถึงเรื่องในอดีต และไม่จำเป็นต้องคิดถึงอนาคต…”





เพราะซันคือปัจจุบันของพี่




ความคิดที่เขาไม่ได้เอื้อนเอ่ยถูกส่งไปยังอีกฝ่ายทางสายตา คนที่ปกติมักมีอุปสรรคทางภาษากลับเข้าใจมันอย่างง่ายดาย ทินกรดึงเขาเข้ามาในอ้อมกอดแน่น ใบหน้าคมซุกกับซอกคอขาว พึมพำข้างหูของภรัณยูอย่างมีความสุข



“ผมรักพี่ภัทรนะครับ”



คำพูดที่ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ชายหนุ่มก็ยังรู้สึกว่าตนไม่คู่ควรกับมัน



“พี่ก็รักซันนะ” ร่างโปร่งกระซิบตอบ “ขอโทษนะที่ทำให้เสียใจ…”



ทินกรหัวเราะเบาๆ ผละออกมาจากคนในอ้อมกอดเล็กน้อย สีหน้าของเด็กหนุ่มดูป่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด



“ถ้าเป็นพี่ภัทร จะเสียใจกี่ครั้งผมก็ยอมครับ”



“เด็กบ้า” คนอายุมากกว่าเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนที่เสียงหัวเราะนั้นจะถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอของร่างสูงที่ประทับริม
ฝีปากลงมา



หมดแล้ว…




ทั้งหัวใจ…ภรัณยูไม่เหลือเผื่อไว้ให้ใครอีกแล้ว

---------


จุใจมั้ยฮะ5555



เนื่องด้วยหบังจากนี้หมูน้อยจะอยู่เวรแบบใช้กรรม น่าจะไม่ได้ลงอีกสองเรื่อง เลยส่งนุ้งมีนนำทีมมาพบปะก่อน55555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 33 ลูกเลี้ยง [24-7-62] คห.625-626
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 24-07-2019 21:13:33
       เป็นกำลังใจให้นะค่ะคุณนักเขียน
รออ่านตอนต่อไปค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 33 ลูกเลี้ยง [24-7-62] คห.625-626
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 24-07-2019 21:23:51
หมดเคราะห์จากอิพี่ภพแล้วชิมิ
นุ้งมีนของแม่
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 33 ลูกเลี้ยง [24-7-62] คห.625-626
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 24-07-2019 21:50:09
 :katai2-1: ปรบมือให้กับความรักของนุ้งซัน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 33 ลูกเลี้ยง [24-7-62] คห.625-626
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-07-2019 21:59:56
มีนเอ่ย เมื่อไหร่หนูจะมีความสุขกับเขาเสียทีนะ  :เฮ้อ: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 33 ลูกเลี้ยง [24-7-62] คห.625-626
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 24-07-2019 22:49:48
รักพี่เขามากเลยซัน  :hao5:
เห็นเวลามีนาโดนขู่แล้วก็สงสาร อย่าทำน้องงงงงง ฮือออออออออออออ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 33 ลูกเลี้ยง [24-7-62] คห.625-626
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 24-07-2019 23:52:46
สงสารหนูมีน~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 33 ลูกเลี้ยง [24-7-62] คห.625-626
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 25-07-2019 00:50:37
วิบากกรรมน้องมีนคงไม่หมดง่ายๆ  แต่ของพี่ภัทรน่าจะจบแล้ว

สู้ สู้นะคะไรท์  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 33 ลูกเลี้ยง [24-7-62] คห.625-626
เริ่มหัวข้อโดย: Diyosa ที่ 25-07-2019 03:06:12
อยากว๊าปไปวันเกิดนุ้งมีนแล้วค่ะ งานวันเกิดคุณเสี่ยก็ได้ เผื่อมีนจะได้แฮปปี้ขึ้นสักที :mew2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 33 ลูกเลี้ยง [24-7-62] คห.625-626
เริ่มหัวข้อโดย: Hoya ที่ 25-07-2019 09:00:44
 o18 o18 อยากให้ถึงวันที่ 14 ไวไว  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 33 ลูกเลี้ยง [24-7-62] คห.625-626
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า ที่ 25-07-2019 10:14:50
งุ้ยยยยยยย น้องซันมันน่ารักอะไรอย่างงี้ๆๆๆ
สงสารน้องมีนจัง กลัวเวลาซันกับพายุรู้เรื่องน้องกับคุณเชษ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 33 ลูกเลี้ยง [24-7-62] คห.625-626
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 26-07-2019 23:42:17
เฮ้อ มีนก็น่าสงสาร ซันก็น่าสงสาร ไม่ชอบธารธาราเลย นิสัยแบบแย่มาก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 33 ลูกเลี้ยง [24-7-62] คห.625-626
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-07-2019 14:14:58
สงสารมีนอย่างต่อเนื่อง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 33 ลูกเลี้ยง [24-7-62] คห.625-626
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 30-07-2019 12:43:00
Chapter 34: ทำคะแนน



“จัดอยู่เป็นชั่วโมงแล้วยังไม่เสร็จอีกเหรอ?”



มีนาที่นั่งจัดกระเป๋าเดินทางอยู่บนพื้นสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออ้อมแขนแกร่งโอบรอบร่างของเขาพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มลูกครึ่งรัสเซียที่นั่งซ้อนเขาไว้จากด้านหลัง เด็กหนุ่มในตอนนี้นั่งอยู่ระหว่างขายาวๆของอีกฝ่ายบนพื้น ร่างเล็กถูกกักขังไว้ด้วยร่างของธีรเชษฐ์จากทุกๆด้าน



หากเป็นเมื่อก่อน ธีรเชษฐ์อาจจะรู้สึกรำคาญท่าทีหวาดกลัวราวกับเขาเป็นยักษ์มารของเด็กหนุ่ม แต่เมื่อเห็นคนในอ้อมกอดเริ่มผ่อนคลายลงและเอนพิงเขาโดยไม่รู้ตัว ร่างสูงกลับรู้สึกถูกใจการเปลี่ยนแปลงนั้นขึ้นมา



“ก็ผมไม่รู้นี่ครับว่าต้องเอาอะไรไปบ้าง” มีนาตอบอย่างเป็นกังวล



“แค่เสื้อผ้าก็พอน่า ขาดเหลืออะไรค่อยไปซื้อที่นู่นก็ได้”



ริมฝีปากได้รูปคลอเคลียที่หลังใบหูขาว ลมหายใจอุ่นๆที่รินรดบนต้นคอและเขี้ยวคมที่งับลงมาบนใบหูเล็กเรียกให้ขนอ่อนทั่วร่างของมีนาลุกชัน เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปิดปากสะกดกลั้นเสียงน่าอาย ใบหน้าเนียนขึ้นสีเลือดฝาดลามไปถึงคอ



“คะ…คุณเชษฐ์…”



“มา…ฉันช่วย” มือใหญ่สอดเข้ามาใต้เสื้อยืดตัวบางแล้ววางพักไว้บนหน้าท้องแบนราบ แม้จะไม่ได้ซุกซนลูบไล้ไปทั่วอย่างทุกวัน แต่ความอบอุ่นที่แผ่จากฝ่ามือใหญ่ก็มากพอที่จะทำให้มีนาก้มหน้างุดกลบเกลื่อนความเขินอาย ร่างสูงเกยคางลงบนไหล่บาง มองข้าวของในกระเป๋าเดินทางพร้อมขมวดคิ้ว “ทำไมไม่มีเสื้อผ้าของเธอ?”



“ผมแยกใส่เป้ไว้น่ะครับ” มีนาตอบ



“แยกไปทำไม?เหลือที่ว่างตั้งครึ่งกระเป๋า” ชายหนุ่มถามอย่างไม่เข้าใจ



“ผม…ใส่ในกระเป๋าใบเดียวกับคุณเชษฐ์ได้เหรอครับ?” มีนาถามเสียงแผ่ว ดวงตากลมโตฉายแววไม่มั่นใจ



“คิดว่าฉันจะใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้นเลยรึไง?”เสียงทุ้มเอ็ด มือใหญ่อีกข้างเคาะหน้าผากใสเบาๆเป็นการลงโทษ “ไปเอาของมา เร็ว”



มีนารีบลุกขึ้นตามคำสั่งของร่างสูง ก้อนเนื้อในอกพองโตอย่างมีความสุขกับความใจดีเล็กๆที่ได้รับ เขาไม่อยากจะทำตัวให้คุ้นชินกับมัน แต่นับวันเขาก็ยิ่งคาดหวังความอบอุ่นนั้นให้คงอยู่ต่อมากขึ้นทุกที



และการใช้คำศัพท์ที่หากลูกชายคนเล็กมาได้ยินคงทำหน้างงหันซ้ายแลขวาหาตัวช่วยก็ทำให้มีนาแอบหลุดขำออกมา




ร่างเล็กกลับออกมาพร้อมกระเป๋าเป้ของตน มีนาทรุดตัวลงนั่งแล้วเปิดกระเป๋าเพื่อเอาเสื้อผ้าที่พับไว้อย่างเป็นระเบียบออกมา ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วเมื่อเห็นเสื้อผ้าที่อีกฝ่ายเลือกในการไปเที่ยวครั้งนี้



เสื้อผ้าทั้งหมดของมีนามีแต่กางเกงขาสั้นและเสื้อตัวบางที่ชายหนุ่มยอมรับว่าในตอนแรกที่ซื้อมา ส่วนหนึ่งเพื่อประชดประชันร่างบางให้ใส่แต่เสื้อผ้าน่าอายอวดเนื้อหนังที่อีกฝ่ายดูจะหวงหนักหนา ร่างสูงพยายามมองหาเสื้อแขนยาวหรือกางเกงขายาวผ้านิ่มที่เขาจำได้ว่าเคยซื้อให้อีกฝ่ายก่อนหน้านี้แต่ไม่พบ นัยน์ตาคมตวัดมองคนข้างกายอย่างไม่เข้าใจ



“ฉันคิดว่าเธอไม่ชอบเสื้อผ้าพวกนี้ซะอีก”



“ก็…ที่นั่นตอนนี้อากาศร้อนไม่ใช่เหรอครับ...” คนที่ปกติขี้หนาวจนทำเหมือนอุณหภูมิในห้องเป็นขั้วโลกเหนือตอบอ้อมแอ้ม เบือนหน้าหลบสายตาจับพิรุธของธีรเชษฐ์



ตีให้ตายมีนาก็ไม่มีทางยอมบอกความจริง ว่าที่เขาเตรียมชุดพวกนั้นไปในครั้งนี้ เป็นเพราะทริปในครั้งนี้นอกจากการประชุมแล้ว ธีรเชษฐ์ยังเลือกที่จะอยู่พักผ่อนต่อหลังจากนั้นในช่วงวันหยุดยาวของมหาวิทยาลัยของมีนา เขาเลยอยากเอาใจคนที่นานๆจะลาหยุดพักผ่อนด้วยการแต่งตัวแบบที่อีกฝ่ายชอบ และที่ไหนจะน่าทำไปกว่าที่ี่เขาไม่มีทางเจอคนรู้จักแบบนี้
แต่ดูจากคิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันกับคำตอบของเขา ดูท่ามีนาคงจะทำอะไรผิดอีกแล้ว



“ไม่ร้อนขนาดนั้นหรอกน่า คนขี้หนาวอย่างเธอมาเดือดร้อนอะไร” ธีรเชษฐ์เอ่ยเสียงห้วน “ไปเอาพวกชุดที่ฉันให้เธอเลือกมา
แล้วชุดพวกนี้ เก็บไว้ใส่ให้ฉันดูในห้องนี้ก็พอ เข้าใจมั้ย?”



มีนาพยักหน้าอย่างว่าง่าย แก้มแดงเรื่ออย่างเขินอายกับความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดนั้น




“เอาเสื้อกันหนาวมาด้วย” ชายหนุ่มสริม มีนาทำหน้าประหลาดใจ เขาเช็คมาก่อนหน้านี้เพื่อจัดเสื้อผ้าให้ธีรเชษฐ์แล้วว่าอากาศจะร้อน เสื้อกันหนาวจึงเป็นสิ่งที่เด็กหนุ่มไม่ได้คิดถึง “ที่สนามบินมันหนาว บนเครื่องบินก็หนาว เดี๋ยวจะหวัดกินซะก่อน”



“แต่ผมไม่มีเสื้อกันหนาว...” ร่างเล็กแย้งเสียงเบาด้วยกลัวจะโดนอีกฝ่ายดุ แต่ธีรเชษฐ์เพียงแค่พยักหน้าตามอย่างครุ่นคิด



“จะไปพรุ่งนี้ ออกไปซื้อก็คงไม่ทันแล้ว ถ้าอย่างนั้นเอาเสื้อหนาวบางๆของฉันไปซักตัวแล้วกัน”



ไม่พูดเปล่า ชายหนุ่มลุกขึ้นจากพื้นตรงไปยังตู้เสื้อผ้าของตัวเองเพื่อค้นหาเสื้อกันหนาวตัวที่ว่า มีนาหยิบเสื้อผ้าเซ็ทใหม่ของตัวเองออกมานั่งพับเพื่อจัดใส่กระเป๋าเดินทาง ก่อนจะรู้สึกถึงเนื้อผ้าเนียนลื่นที่แม้จะดูเบาบางแต่กลับให้ความอบอุ่นได้เป็นอย่างดีคลุมลงบนไหล่ของตน



“ใส่ตัวนี้ไปแล้วกัน” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างพึงพอใจในตัวเลือกของตน มีนาลูบเนื้อผ้าลื่นมือนั้นอย่างเพลินมือ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล



“คุณเชษฐ์อย่าให้ผมยืมของแพงๆแบบนี้เลยครับ ผมกลัวทำหาย”



“ตัวนี้ได้มาฟรี หมอกเขาซื้อให้ฉันวันเกิดปีที่แล้วน่ะ” ธีรเชษฐ์ว่า ไม่ได้สังเกตสีหน้าที่สลดลงของเด็กหนุ่มเมื่อได้ยินชื่อที่มีนายังคงไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องได้ยินจากปากอีกฝ่ายทุกวี่ทุกวัน “ถ้าหายขึ้นมาก็ไปบอกเขาเอาเองแล้วกัน”



“ไม่เป็นไรครับ หนาวแค่ไม่กี่ชั่วโมง ผมทนได้”



มีนาดึงเสื้อคลุมแขนยาวสีครีมออกจากไหล่ตัวเองแล้วยื่นให้ร่างสูง เมื่ออีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะรับไว้จึงเปลี่ยนมาวางลงบนเตียงแล้วลุกขึ้นจากพื้น สีหน้าของเด็กหนุ่มที่ธีรเชษฐ์เริ่มคิดว่าตนดูออกบ้างในตอนนี้เหมือนมีกำแพงบางอย่างขวางกั้นจนเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่



“ผมไปอาบน้ำนะครับ”



“เดี๋ยวสิ มีน...”



ร่างสูงเอ่ยรั้งคนที่แทบจะพุ่งตัวเข้าไปในห้องน้ำไว้ไม่ทัน ธีรเชษฐ์เกาศีรษะแกรกๆอย่างไม่เข้าใจ นั่งลงบนพื้นแทนที่เด็กหนุ่มแล้วพับเสื้อตัวนั้น ก่อนจะจัดเก็บเสื้อผ้าของมีนาที่ยังคงพับวางไว้บนพื้นลงในกระเป๋าเดินทาง แม้ว่าจะยังไม่เข้าใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ตาม



เด็กนั่น...โกรธอะไรเขารึเปล่านะ?










มีนารู้ว่าตัวเองไม่ควรทำตัวแบบนั้น



ไม่สิ...คงต้องบอกว่าเขาไม่มีสิทธิ์ทำตัวแบบนั้นถึงจะถูก



แต่สุดท้ายเขาก็ยังทำ ทั้งที่บอกตัวเองว่าจะเป็นเด็กดี ไม่ทำให้ธีรเชษฐ์ต้องหงุดหงิดใจในการไปเที่ยววันหยุดครั้งนี้ แต่มีนากลับทำให้ร่างสูงอารมณ์เสียตั้งแต่ยังไม่ก้าวออกจากห้องด้วยซ้ำ



เด็กหนุ่มปล่อยให้สายน้ำเย็นๆชะล้างความรู้สึกหนักอึ้งในใจออกไป ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวมาซับหยดน้ำตามร่างกาย แต่งตัวเตรียมพร้อมเผชิญกับบทลงโทษใดก็ตามสำหรับกิริยาไม่เหมาะสมของตน...



แน่นอน...คำว่าเตรียมพร้อมของเขาไม่ได้รวมถึงการเห็นร่างสูงนั่งจัดเก็บเสื้อผ้าที่เหลือของเขาใส่กระเป๋าเดินทางอย่างระมัดระวังราวกับกลัวว่าจะทำให้มันยับย่น



“คุณเชษฐ์...ไม่ต้องเก็บให้ผมก็ได้ครับ...” มีนารีบปรี่เข้ามาช่วยอีกฝ่ายถึงแม้ว่าธีรเชษฐ์จะปิดกระเป๋าเดินทางไปแล้วก็ตาม ร่างสูงส่ายหน้า



“ให้เธอทำพรุ่งนี้คงไม่เสร็จ”



 คนโดนว่าหน้าสลดลงทันทีที่ได้ยิน แต่มือใหญ่ที่ขยี้กลุ่มผมนุ่มเบาๆบ่งบอกว่าร่างสูงไม่ได้คิดอะไรจริงจังกับคำพูดนั้น



“แล้วนี่วางแผนรึยังว่าอยากไปไหน?”



“วางแผน...?” เด็กหนุ่มทำหน้าฉงนกับคำถามนั้น เขาคิดว่าตัวเองจะมีหน้าที่แค่เดินตามธีรเชษฐ์ไปทุกที่เท่านั้น



“ไปเที่ยวตั้งหลายวัน เธอไม่คิดอยากจะไปไหนเลยเหรอ?” ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้ว มีนารีบส่ายหน้า



“แค่คุณเชษฐ์พาผมไปด้วย ผมก็ดีใจแล้วครับ”



“ไปตั้งหลายวัน ลองดูสิว่าอยากไปไหน” ร่างสูงว่า หยิบแท็บเล็ตของมีนาที่ร่างเล็กวางไว้บนโต๊ะหนังสือให้เด็กหนุ่ม “ฉันซื้อหนังสือนำเที่ยวไว้ในแท็บเล็ตเธอแล้ว ไว้ค่อยดูพรุ่งนี้ก็ได้”



“แต่ว่า...”


“ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?” ชายหนุ่มถอนหายใจ ก้มลงมาระดับเดียวกับร่างเล็ก ดวงตาสีควันบุหรี่จ้องลึกลงไปในดวงตากลมโตที่ยังคงดูสับสนของมีนา “ฉันไม่ได้ไปเที่ยวที่นั่น....ฉันพาเธอไปเที่ยว”



“….” มีนารู้ตัวว่าใบหน้าของตัวเองแดงก่ำ ชนิดที่ต่อให้ปิดยังไงอยีกฝ่ายก็ยังคงเห็นความแดงที่แผ่ซ่านลงมาตามใบหูและลำคอขาว และจากรอยยิ้มมุมปากของธีรเชษฐ์ อีกฝ่ายรู้ดีว่ากำลังทำให้หัวใจของเขาปั่นป่วนแค่ไหน



“นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”



มือใหญ่ปัดปอยผมที่ปรกลงมาบังดวงตาบางส่วนของมีนาออก ริมฝีปากได้รูปประทับลงอย่างเนิบนาบบนหน้าผากใส



คืนนั้น แม้ว่ามีนาจะพยายามข่มตาหลับแค่ไหน เสียงหัวใจที่ดังก้องอยู่ในอกก็ยังคงไม่ยอมให้เขาได้พักผ่อน สิ่งสุดท้ายที่มีนารู้สึกคืออ้อมกอดของธีรเชษฐ์ที่ดึงเขาเข้าไปหลังการพลิกไปพลิกมาของคนตัวเล็กดำเนินมานานเกินกว่าหนึ่งชั่วโมง
ฝ่ามือใหญ่ตบลงบนบั้นท้ายกลมกลึงผ่านเนื้อผ้าเบาๆเป็นจังหวะ



ทั้งที่หัวใจยังคงเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง แต่ความอบอุ่นที่คุ้นเคยและแรงสั่นสะเทือนเบาๆที่มักจะทำให้เขาผ่อนคลายลงเสมอทำให้มีนาค่อยๆจมสู่ห้วงนิทราในที่สุด









แต่น่าแปลกที่การนอนหลับเพียงไม่กี่ชั่วโมงกลับไม่ทำให้มีนารู้สึกเพลียสักนิดในเช้าวันรุ่งขึ้น ความตื่นเต้นในการได้ออก
นอกประเทศเป็นครั้งแรกทำให้เด็กหนุ่มเด้งตัวขึ้นจากเตียงวินาทีที่นาฬิกาปลุกดัง ธีรเชษฐ์พลิกตัวหนีเสียงนาฬิกาปลุก ครางเสียงต่ำในลำคออย่างหงุดหงิดที่ถูกรบกวน มีนาเลือกที่จะลุกไปอาบน้ำ ปล่อยให้คนข้างๆที่ถูกเขากวนทั้งคืนได้มีโอกาสงีบต่ออีกสักพักแล้วค่อยมาปลุกอีกฝ่ายไปอาบน้ำต่อ



เด็กหนุ่มกำลังเปิดฝักบัวเพื่อชำระล้างร่างกายเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก มีนาหันไปทางต้นเสียงเพื่อบอกธีรเชษฐ์ว่าตนกำลังอาบน้ำอยู่ แต่เสียงของเด็กหนุ่มถูกกลืนหายไปในลำคอพร้อมกับใบหน้าหวานที่รีบหันกลับมาเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นติดกายในตอนนี้



“อาบด้วยสิ”



“ตะ..แต่ว่า...”



“เดี๋ยวไม่ทัน” ชายหนุ่มอ้าง ก้าวเข้ามาในห้องอาบน้ำที่แม้จะไม่ได้เล็ก แต่อีกฝ่ายกลับขยับเข้ามายืนซ้อนด้านหลังของร่างเล็กที่ไม่มีทางหนีทีไล่ ถึงมีนาจะไม่ได้หันกลับไปมอง แต่บางสิ่งที่ขยับแนบชิดทักทายสะโพกกลมกลึงก็มากพอที่จะทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย “รีบอาบสิ”




“คุณ…คุณเชษฐ์ขยับหน่อยสิครับ” มีนาพึมพำเสียงสั่น แต่นั่นดูเหมือนจะยิ่งทำให้คนขี้แกล้งขยับใกล้เข้ามาอีก




“แบบนั้นฉันก็ไม่โดนน้ำสิ”




มีนาอยากจะหันไปบอกว่ายิ่งทำแบบนี้พวกเขายิ่งจะอาบน้ำเสร็จช้าลง แต่ทันทีที่เขาเอี้ยวคอเงยหน้ามองร่างสูง อีกฝ่ายที่รอจังหวะอยู่ก็โฉบลงมาครอบครองริมฝีปากรูปกระจับอิ่มน้ำ สัมผัสจาบจ้วงที่นับวันยิ่งจะทำให้มีนาโหยหาทำให้แขนเรียวยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งอย่างรู้งาน เรือนร่างทั้งสองแนบติดกันจนมีนารับรู้ได้ถึงทุกสัดส่วนของร่างกายอีกฝ่าย โดยเฉพาะความโกรธขึงที่นาบชิดก้อนเนื้อกลมกลึงราวกับเกลียดมาแต่ชาติปางไหน



“อื้อ...พะ...อืม...พอก่อนครับคุณเชษฐ์...” เด็กหนุ่มขอร้องเสียงสั่น คนที่กำลังเพลิดเพลินกลับสัมผัสนุ่มของโพรงปากอุ่นและริมฝีปากนุ่มหยุ่นส่งเสียงฮึดฮัดในลำคออย่างขัดใจ แต่ก็ยอมปล่อยอีกฝ่ายเป็นอิสระแต่โดยดี



แม้ว่าร่างสูงจะไม่ได้รบกวนมีนาอีกตลอดเวลาในห้องน้ำ แต่กว่าคนขี้อายจะรวบรวมสติสตังค์ได้มากพอจะอาบน้ำต่อโดยไม่สนใจอุณหภูมิกายของคนข้างหลังก็ใช้เวลาอยู่นาน เรียกได้ว่าสายจากเวลาที่พวกเขาตั้งใจจะออกจากคอนโดไปโข โชคดีที่พวกเขาออกมาตั้งแต่เช้ามืด ทำให้ตลอดระยะทางที่ไปสนามบินแทบไม่มีรถขวางทางพวกเขาอยู่เลย



“หิวมั้ย?”



ธีรเชษฐ์ถามหลังจากโหลดสัมภาระเสร็จ มีนาส่ายหน้า ขาสั้นๆพยายามก้าวตามคนข้างหน้าให้ทันในสนามบินที่มีผู้คนพลุกพล่าน ธีรเชษฐ์ลอบสังเกตคนที่ดูลุกลี้ลุกลนผิดปกติตั้งแต่เข้ามาในสนามบิน คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างเป็นกังวล ดวงตากลมโตจ้องมองเขาไม่วางตาราวกับกลัวว่าหากละสายตาแม้แต่วินาทีเดียว ธีรเชษฐ์จะถูกกลืนหายไปในฝูงชน เขาเห็นว่ามือเล็กเผลอยกขึ้นมาจะจับชายเสื้อนอกเขาอยู่หลายครั้งแต่ห้ามตัวเองไว้ทันทุกครั้ง และนั่นทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะเอื้อมมือไปจับมือเล็กไว้แล้วดึงให้เด็กหนุ่มมาเดินข้างกาย



“คุณเชษฐ์ครับ...คน...”



“กลัวหลงไม่ใช่รึไง?” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วถาม มีนาพยักหน้า แต่ดวงตากลมโตยังคงสอดส่ายไปมาอย่างหวาดระแวง กลัวว่าจะมีคนสังเกตเห็นมือที่สอดประสานกันของพวกเขาทั้งคู่ “ไม่มีใครสนใจเราหรอกน่า ทุกคนก็มีที่ที่ต้องไปทั้งนั้น”



คำพูดของร่างสูงดูจะคลายความกังวลใจของมีนาลงได้บ้าง แม้ว่าเด็กหนุ่มจะยังคงไม่หยุดเหลือบมองรอบกายเป็นระยะอย่างกระวนกระวายใจ



“เราต้องไปไหนต่อเหรอครับ?”



“ตรวจคนเข้าเมือง เข้าเครื่องแสกน แล้วเดี๋ยวฉันพาไปนั่งกินอะไรรอเวลาเปิดเกทที่เลาจน์” นักธุรกิจหนุ่มอธิบายแผนการในหัว “แต่ถ้าเธออยากเดินดูของ หลังกินเสร็จเดี๋ยวฉันพาลงมา”



“มะ…ไม่เป็นไรครับ” มีนารีบพูดอย่างเกรงใจ ซึ่งธีรเชษฐ์นั้นทำได้เพียงลอบถอนหายใจกับคำตอบนั้น




เขารู้อยู่แล้วว่านี่จะเป็นการไปเที่ยวที่เสียเงินน้อยที่สุดในชีวิตของเขา แต่ชายหนุ่มไม่คิดจะปล่อยให้มีนากลับบ้านมือเปล่าเพียงเพราะความขี้เกรงใจของเจ้าตัว



พวกเขาต่อคิวที่ช่องพาสปอร์ตไทย ธีรเชษฐ์ดันให้มีนามายืนอยู่ข้างหน้าตัวเอง เผื่อว่าหากอีกฝ่ายเกิดเรื่องขัดข้องอะไร เขาจะได้สามารถช่วยได้อย่างไม่วุ่นวายมากนัก



“Excuse me, sir?(ขอโทษนะครับคุณ)” ชายหนุ่มด้านหลังสะกิดเขาเบาๆ ธีรเชษฐ์หันไปตามเสียงเรียกอย่างงุนงงเช่นเดียวกับมีนา “Foreign passport is that way.(พาสปอร์ตต่างประเทศไปทางนั้นครับ)”



ธีรเชษฐ์นึกอยากจะถอนหายใจออกมาแรงๆกับการโดนทักแบบนี้ทุกครั้งที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง แม้ว่าเขาจะมีมารดาเป็นคนไทยเชื้อสายจีน แต่ชายหนุ่มที่ได้รับพันธุกรรมมาจากบิดาอย่างเต็มเปี่ยมนั้นมักจะถูกทักว่าเป็นชาวต่างชาติอยู่บ่อยครั้ง



“คนไทยครับ” ร่างสูงตอบเสียงเรียบ หันกลับไปสนใจแถวด้านหน้าของตัวเองต่อ



“น้องคนนี้ก็คนไทยเหรอครับ?” แต่ที่น่าแปลกคือประโยคที่คนข้างหลังเขาถามต่อจากนั้น ธีรเชษฐ์พินิจพิจารณาใบหน้าของเด็กหนุ่มตัวเล็กตรงหน้าของเขา แม้มีนาจะมีโครงหน้าที่ดูเอเชียแท้ๆไม่มีอย่างอื่นเจอปน แต่ดวงตากลมโตหวานกับผิวพรรณขาวเนียนละเอียดของเด็กหนุ่มทำให้ชายหนุ่มไพล่นึกไปถึงนามสกุลของร่างเล็ก


‘มีนา โอคุระ’



อา...บางทีีธีรเชฐ์ก็คิดว่าตัวเองซื่อบื้อกว่าที่คิด



“มีน เธอเป็นลูกครึ่งเหรอ?”


นั่นเป็นคำถามแรกที่ธีรเชษฐ์ถามหลังจากพวกเขาผ่านเข้ามาในเขตปลอดภาษี มีนาพยักหน้าหงึกหงัก เหลือบมองเขาอย่างไม่มั่นใจว่าทำไมจู่ๆเรื่องนี้ถึงได้เป็นประเด็นขึ้นมา



“ครับ ลูกครึ่งญี่ปุ่น”



“แล้วพ่อเธอ...”



“ทิ้งแม่ผมไปตั้งแต่ผมอายุไม่กี่เดือนแล้วครับ” มีนาตอบเสียงเรียบ บรรยากาศรอบตัวของเด็กหนุ่มเหมือนมีกำแพงค่อยๆก่อตัวขึ้นรอบกายเมื่อได้ยินคำถามนั้น “เขาต้องกลับประเทศไปหาคู่หมั้นของเขา”



“….” ร่างสูงไม่รู้ว่าตัวเองควรมีปฏิกิริยาอย่างไรกับข้อมูลของอีกฝ่ายที่เขาไม่เคยรับรู้ หรือหากจะพูดให้ถูกคงต้องบอกว่าเป็นข้อมูลที่เขาไม่เคยนึกถาม สภาพความเป็นอยู่ที่ยิ่งกว่าอัตคัดของบ้านมีนา การที่เด็กหนุ่มไม่เคยพูดถึงสมาชิกครอบครัวคนอื่นนอกจากแม่และยาย “เพราะแบบนี้ใช่มั้ย เธอถึงอยากให้ฉันคืนดีกับธาร”



“ผมน่ะ ไม่รู้หรอกนะครับว่าคนคนนั้นเขาอยากให้ผมเกิดมารึเปล่า ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่อยากให้ผมเกิดมามั้ย” มีนายิ้มขื่น แม้ว่าทุกครั้งหญิงสาวจะบอกว่าเขาเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตของเธอ แต่ลึกๆแล้ว เด็กหนุ่มยังคงรู้สึกว่าตัวเองเป็นจุดเริ่มต้นของรอยแยกที่ทำให้คนรักของมารดาเลือกที่จะเดินจากไป “แต่ถ้าผมได้เจอเขาอีกครั้ง ผมก็อยากที่จะรู้จักเขา ดีกว่ามานั่งเสียใจที่ชีวิตนี้ผมไม่ได้ใช้เวลากับคนที่ทำให้ผมเกิดมาบนโลกใบนี้ ผมไม่อยากให้คุณหรือคุณธารมองย้อนกลับมาในช่วงเวลานี้แล้วนึกเสียใจที่ไม่เคยลองปะรอยร้าวในความสัมพันธ์ทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่นี้”



“ฉันว่า...บางครั้งการตัดคนเลวๆออกไปจากชีวิตก็ไม่ใช้เรื่องเลวร้ายเท่าไหร่หรอกนะ” ธีรเชษฐ์เอ่ยด้วยสีหน้าเหม่อลอย มีนาบีบมือที่ยังจับเขาไว้ไม่ปล่อยเบาๆ



“ผม…ไม่คิดว่าคุณเป็นคนที่ควรตัดออกไปจากชีวิตหรอกนะครับ”



“ดี…” ชายหนุ่มขยับยิ้มมุมปาก ก้มลงกระซิบข้างหูของร่างเล็ก “เพราะเธอคงตัดฉันออกไปไม่ได้ง่ายๆหรอกนะ มีนา”



“ก็ไม่ได้คิดจะตัดอยู่แล้วนี่ครับ”


เด็กหนุ่มก้มหน้าพึมพำไม่เต็มเสียง คนหูดีที่ได้ยินทุกคำพูดอย่างชัดเจนหัวเราะเสียงต่ำข้างหูของเขาแล้วผละจากร่างเล็กแม้ว่าจะยังคงไม่ปล่อยมือจากมีนา




และมีนาก็ไม่คิดอยากให้อีกฝ่ายปล่อยมือจากเขาแม้แต่วินาทีเดียว










“ดื่มก่อนขึ้นเครื่องแบบนี้จะดีเหรอครับ?”



 มีนาหลุดถามออกมาเมื่อเห็นบริกรสาววางแก้วไวน์ลงตรงหน้าอีกฝ่าย



ในเลาจน์นี้มีอาหารให้บริการตัวเองมากมายและในส่วนของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีพนักงานมาเสิร์ฟให้ในปริมาณที่จำกัด แต่คนที่กำลังจะต้องติดอยู่บนนกเหล็กยักษ์ที่บินด้วยความสูงหลายพันฟุตเหนือระดับน้ำทะเลเป็นเวลามากกว่าสองชั่วโมงเป็นครั้งแรกของชีวิตต้องการนั่งข้างใครสักคนที่มีสติสัมปชัญญะเต็มร้อยโดยไม่มีแอลกอฮอล์ในเลือดมาเบียดบังการตัดสินใจ



เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปิดปากตัวเองทันทีที่ตระหนักว่าหลุดถามอะไรออกไป แต่นอกจากธีรเชษฐ์จะไม่ถือสาแล้ว ยังวางแก้วไวน์ที่กำลังจะจรดริมฝีปากกลับลงไปบนโต๊ะอย่างง่ายดาย



“คุณเชษฐ์...คือผมไม่ได้....”


“ถ้าเธอยอมเลือกซื้ออะไรซักอย่างที่ตัวเองชอบหนึ่งชิ้นตอนไปถึงที่นั่น ฉันจะดื่มลดลงหนึ่งแก้ว”



ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอ เงื่อนไขพิลึกพิลั่นที่ดูอย่างไรอีกฝ่ายก็มีแต่เสียกับเสียทำเอามีนาปั้นหน้าไม่ถูก



“คือ…”



“ว่าไง ตกลงมั้ย?” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว



มีนาพยักหน้าช้าๆ เขารู้ดีว่านั่นเป็นการเอาเปรียบอีกฝ่าย แต่ในตอนนี้เขายอมทำทุกอย่างไม่ให้ร่างสูงมีแอลกอฮอล์อยู่ในกระแสเลือดจนกว่าพวกเขาจะเท้าแตะพื้นที่จุดหมายปลายทาง



“คุณเชษฐ์...เป็นนักธุรกิจจริงๆเหรอครับ?”



บริษัทของอีกฝ่ายเติบโตมาจนถึงขนาดนี้ด้วยททักษะการเจรจาของอีกฝ่ายได้อย่างไรยังคงเป็นปริศนาที่มีนาแก้ไม่ตก



“แน่นอน” คนถูกด่าทางอ้อมยิ้ม “เพราะสุดท้าย...ฉันก็ได้สิ่งที่ฉันต้องการเสมอ”




มีนาพยายามสุดความสามารถที่จะไม่รู้สึกหมั่นไส้รอยยิ้มมั่นอกมั่นใจของอีกฝ่าย  เด็กหนุ่มตักข้าวต้มร้อนๆเข้าปากเป็นการตัดบทสนทนา แม้ว่าท้องไส้ของเขาจะปั่นป่วนจากความตื่นเต้นและกระวนกระวายใจที่ตีกันอยู่ภายใน



“ร้อน!” คนตัวเล็กสะดุ้งกับความร้อนของข้าวต้มที่ตนลืมเป่า พยายามเป่าอาหารในปากให้ไอร้อนที่ระอุอยู่ข้างในทุเลาลง ธีรเชษฐ์ส่ายหัวยิ้มๆ หยิบแก้วน้ำให้คนที่แลบลิ้นที่แดงพองจากความร้อนของตัวเองพร้อมน้ำตาคลอหน่วยอย่างน่าสงสาร



“นานๆทีก็ทำตัวเป็นเด็กๆเป็นเหมือนกันนี่”



ชายหนุ่มแซวคนที่นั่งร้อยมาลัยเป็นงานอดิเรก ตัวหอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นน้ำอบอยู่ตลอดเวลาและชื่นชอบการทำงานบ้านเป็นชีวิตจิตใจ



“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนี่ครับ...” มีนาแย้งเสียงอ่อยหลังจากดื่มน้ำที่ร่างสูงยื่นให้จนหมดแก้ว ธีรเชษฐ์ยิ้มมุมปาก แววตาของชายหนุ่มเข้มขึ้นกับคำพูดนั้น



“ฉันรู้...ฉันนับถอยหลังอยู่ทุกวัน”



“คุณเชษฐ์!” เด็กหนุ่มรีบหันซ้ายแลขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในรัศมีการได้ยิน แต่นอกจากพวกเขาแล้ว ในเลาจน์มีเพียงบริกรสาวที่ยืนอยู่อีกฟากของห้อง



“เรียกทำไม...ซ้อมไว้เหรอ?” เจ้าของชื่อยิ้มกวน รู้สึกถูกใจที่ทำให้เด็กน้อยว่าง่ายของตัวเองดื้อขึ้นมาได้แม้เพียงเล็กน้อย



“ไม่ต้องห่วงน่า ถึงเวลาฉันจะให้เรียกจนไม่มีเสียงเลย”



“ผม…ผมไปห้องน้ำก่อนนะครับ!”



มีนาผุดลุกจากที่นั่งอย่างรวดเร็ว รีบจ้ำอ้าวไปยังประตูทางออกโดยไม่คิดจะหันกลับไปมองคนขี้แกล้ง แม้จะรู้สึกถึงแววตาของอีกฝ่ายที่มองตามแผ่นหลังของตนอย่างขบขันจนลับสายตา



คุณเชษฐ์...คนนิสัยไม่ดี

------------

แอบวาร์ปมาลงให้เร็วๆ ถือว่าไถ่โทษที่ลลงแต่เรื่องนี้แล้วกันเน้อ5555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 30-07-2019 13:06:41
นับถอยหลังวันเกิดน้องมีนนนนน 555555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 30-07-2019 16:08:45
 :katai2-1: เรานี่นับถอยหลังตามคุณเชษฐ์เลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 30-07-2019 16:51:29
อันตรายกับน้องมากขึ้นทุกวันเลยคุณเชษฐ์!!!!
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-07-2019 17:38:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 30-07-2019 18:33:51
คนแก่ขี้หื่น
มานับถอยหลังวันเกิดน้องไปพร้อมกับคนแก่จ้า คริๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: Diyosa ที่ 30-07-2019 19:08:27
รอไปพร้อมคุณเชษฐ์  :katai5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า ที่ 30-07-2019 19:36:07
คุณเชษเอ้ยยยยยยยยย นับวันรอวันเกิดน้องมีนนนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 30-07-2019 20:13:32
มานับถอยหลังเป็นเพื่อน​คุณเชษฐ์ค่าาา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 30-07-2019 20:50:44
นานๆทีจะมีบรรยากาศผ่อนคลายแบบนี้
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-07-2019 22:57:38
ทำบ่อย ๆ นะ หนูมีนตอนนี้ยังไม่ชิน  o18
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 30-07-2019 23:47:26
รอๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 31-07-2019 04:52:51
แหมๆๆๆ คุณเชษฐ์ล่ะก็  :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-07-2019 07:56:16
 :o8:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 31-07-2019 08:06:23
ลุงเชษฐ์จะรอไม่ไหวแล้วหรือเปล่า  o18
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: พระสนมฝ่ายซ้าย ที่ 31-07-2019 11:49:16
เขินคุณเชษฐ์ตอนท้ายๆมากเลยค่ะ ><
คนอ่านก็นับวันรอเช่นกันค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 01-08-2019 03:46:21
       มีนาก็คือมีน่าตามไม่ทันลุงเค้าหรอกลูก
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 04-08-2019 12:30:26
ถึงขั้นนับวันรอแล้วรู้สึกใจคอไม่ค่อยจะดี
ระหว่างนี้ก็ออกกำลัง ทำร่างกายให้แข็งแรงนะมีนา จะได้ไม่เจ็บไม่ป่วย ><
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 34 ทำคะแนน [30-7-62] คห.637
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 05-08-2019 09:38:53

Chapter 35: ผู้ชายของเธอ




มีนาสะดุ้้งโหยงทันทีที่เครื่องบินลำยักษ์ค่อยๆเคลื่อนตัว ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วมองคนข้างกายที่นั่งไม่นิ่งมาตั้งแต่ก้าวขึ้นเครื่องมธุวันจองที่นั่งชั้นธุรกิจให้เขากับมีนาแม้ว่าจะเป็นเที่ยวบินระยะใกล้ ซึ่งแม้ธีรเชษฐ์จะไม่ถือการนั่งชั้นประหยัดแต่เขารู้ว่าด้วยภาพลักษณ์ของบริษัทการนั่งชั้นธุรกิจก็เป็นหนึ่งในข้อดีของการเป็นผู้บริหาร



ที่เขารู้สึกขอบคุณเลขาของตัวเองเป็นเพราะอีกฝ่ายเลือกที่จะจองที่นั่งให้มีนาเช่นกัน เลขาของเขามีประวัติศาสตร์อันยาวนานกับคนที่ธีรเชษฐ์ควงแทบทุกคน และชายหนุ่มก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารสนิยมการเลือกคู่นอนของเขาไม่ได้มีเรื่องของอุปนิสัยและมารยาทเข้ามาเกี่ยวข้องเท่าไหร่ แม้ว่ามธุวันจะทำตามคำสั่ง...ไม่สิ คำขอของธีรเชษฐ์ทุกครั้ง แต่เลขาหนุ่มมัก
จะอดไม่ได้ที่จะเอาคืนคนของเขาสำหรับความยุ่งยากที่ตนต้องพบเผชิญทุกครั้ง ทั้งดอกไม้ที่จงใจเขียนชื่อคนรับผิด กระเป๋าและรองเท้าที่ผิดไซส์ผิดแบบจากที่เจ้าหล่อนต้องการ และที่น่าปวดหัวที่สุดคือการจองที่นั่งบนเครื่องบินคนละส่วนหรือคนละไฟล์ทกับเขา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วธีรเชษฐ์มักจะปล่อยให้เลขาของตนได้เล่นสนุกโดยไม่ห้าม เพราะถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็สำคัญกับเขามากกว่าคู่นอนคนไหนๆ



อย่างน้อยก็ก่อนที่เขาจะมาเจอกับมีนา



ในความเป็นจริงแล้วธีรเชษฐ์จะใช้เครื่องบินส่วนตัวของตัวเองก็ย่อมได้ แต่เขาอยากให้คนตัวเล็กฝึกขึ้นเครื่องบินพานิชย์ให้เป็นก่อน เผื่อว่าในวันหนึ่งที่อีกฝ่ายต้องเดินทางโดยไม่มีเขา ธีรเชษฐ์จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมากนัก




ในวันที่ไม่มีเขา...




ธีรเชษฐ์รู้ว่าถึงแม้จะมีปาฏิหาริย์ทำให้มีนายอมทนอยู่เคียงข้างเขาไปตลอดอย่างที่หวัง แต่ด้วยอายุและความเสี่ยงในภารกิจที่ร่างสูงกำลังแบกรับ ธีรเชษฐ์มีความมั่นใจเกือบเต็มเปี่ยมว่าไม่ว่าอย่างไรมีนาก็จะต้องมีช่วงชีวิตที่ไม่มีเขาอยู่ตรงนั้นในอนาคต



เขาได้แต่หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้รู้สึกโล่งใจกับความคิดนั้นมากนัก




“คุณเชษฐ์ครับ...”



“หืม? มีอะไรเหรอ?” คนที่นั่งเหม่ออยู่นานหันมาหาคนข้างกายที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด มีนาพยักเพยิดไปทางพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่กำลังสาธิตวิธีการเอาตัวรอดหากเกิดเหตุฉุกเฉินด้านหน้าของตัวเครื่อง



“ผมมองไม่เห็น...”



“ไม่เป็นไรหรอกน่า อ่านแผ่นพับเอาก็ได้” ร่างสูงหยิบแผ่นพับยื่นให้เด็กหนุ่ม แต่มีนายังคงมีสีหน้าไม่สบายใจ “โอเคๆ ฉันจะตั้งใจดูให้ โอเคมั้ย ถ้ามีอะไรฉันจะดูแลเธอเอง”



ชายหนุ่มเสนอทางเลือกใหม่ให้แม้ว่าตนจะเห็นการสาธิตนี้มานับไม่ถ้วนแทบจะท่องบทได้แล้ว คนฟังมีสีหน้าผ่อนคลายลงเล็กน้อย พยักหน้าให้เขาพร้อมรอยยิ้มน่ารักที่แต่งแต้มมุมปาก




เจอแบบนี้ธีรเชษฐ์รู้สึกว่าการหันกลับไปดูการสาธิตของพนักงานสาวเป็นเวลาไม่กี่นาทีนั้นช่างคุ้มค่าเสียยิ่งกว่าคุ้ม




ดวงตากลมโตของเด็กหนุ่มจดจ้องอยู่ที่ถุงกระดาษสำหรับการเมาเครื่องบินตรงหน้าของตัวเองไม่วางตา มือเรียวเล็กกำที่เท้าแขนไว้แน่นราวกับเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวเพียงหนึ่งเดียวของตน




ธีรเชษฐ์ไม่ได้คิดว่าตัวเองจำเป็นจะต้องเป็นผู้ชนะตลอดเวลา แต่การพ่ายแพ้ให้กับเก้าอี้โดยสารก็ยังคงเจ็บปวดอยู่ดี
ชายหนุ่มเอื้อมไปแย่งมือของมีนาจากที่เท้าแขนนั้นมาเกาะกุมไว้เอง มีนาเหลือบมองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะรีบ
บีบมือเขาไว้แน่นอย่างลืมตัวเมื่อนกเหล็กขนาดยักษ์พุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้าในที่สุด



“ไม่ต้องกลัว...ฉันอยู่ตรงนี้” ชายหนุ่มกระซิบข้างหูของคนที่หลับตาปี๋อย่างหวาดกลัว มีนาซุกกายเข้าใกล้ร่างสูงเท่าที่เข็มขัดนิรภัยของตนจะเอื้ออำนวย ร่างเล็กสั่นงกๆเหมือนลูกนกตากฝนทำให้ธีรเชษฐ์โอบแขนอีกข้างรอบไหล่บาง ลูบต้น

แขนเรียวเล็กขึ้นลงอย่างปลอบประโลม




ชายหนุ่มเอื้อมมือมาปลดเข็มขัดนิรภัยให้ร่างเล็กทันทีที่สัญญาณแจ้งรัดเข็มขัดดับลง กลัวว่ามีนาจะอึดอัดจนทนไม่ไหวเสียก่อน แม้มีนาจะยังคงตัวสั่นอยู่บ้าง แต่สีหน้าของเด็กหนุ่มดูดีขึ้นมากหลังจากที่เครื่องบินรักษาระดับอยู่บนอากาศได้แล้ว



“เห็นมั้ย...ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเลย” ธีรเชษฐ์อ่ยด้วยน้ำเสียงเดียวกับที่ใช้ปลอบประโลมเด็กน้อยที่กำลังหลงทาง ดึงผนังคั่นระหว่างพวกเขาออกเพื่อให้อีกฝ่ายมีที่ขยับร่างกาย มีนาพยักหน้า แม้ว่าเด็กหนุ่มจะยังขมวดคิ้วเหมือนมีเรื่องอะไรในใจ กัดริมฝีปากอิ่มของตัวเองจนธีรเชษฐ์กลัวว่าอีกฝ่ายจะได้เลือด “เป็นอะไรรึเปล่า?”



“ผม…ขอโทษนะครับ ทั้งที่คุณเชษฐ์ตั้งใจจะมาพักผ่อนแท้ๆ แต่ผมกลับมีแต่เป็นภาระให้คุณ” เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างขอโทษขอโพย ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ ตัวสั่นขนาดนี้ยังมีกะจิตกะใจมาห่วงเขาอีก



“แล้วนี่โอเคแล้วรึยัง? กินอะไรหน่อยมั้ยเผื่อจะดีขึ้น?”



“ไม่เป็นไรครับ...” มีนาชะงักก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสีหน้าเกรงใจ “...คือ...ผมหูอื้อมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”



“ฉันไม่มีหมากฝรั่งซะด้วยสิ” ร่างสูงขมวดคิ้ว “ลองอ้าปากหาวดู เผื่อจะปรับความดันในหูได้”



มีนาทำตามอย่างว่าง่าย ริมฝีปากสีสดเผยออ้าเล็กน้อยพร้อมกับเสียง’ฮ้าว...’เบาๆ  ธีรเชษฐ์ส่ายหน้า



“อ้ากว้างอีก” มีนาทำตามอีกครั้ง แต่ยังคงไม่รู้สึกอยากหาวขึ้นมา ร่างสูงเลิกคิ้ว ก้มลงกระซิบข้างหูเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียง
ขบขัน “อ้าปากแบบที่เธอทำให้ฉันเมื่อคืนก่อน ทำได้มั้ยมีน?”



“คุณเชษฐ์!” คนโดนแกล้งรีบหุบปากฉับ ใบหน้าเรียวแดงก่ำกับคำพูดไม่อายผีสางเทวดาของอีกฝ่าย



“หรือว่าต้องมีตัวช่วย?” ชายหนุ่มถามด้วยสีหน้าใสซื่อ “ห้องน้ำข้างหน้าว่างนะ สนใจมั้ย?”



“ผม…ผมง่วงแล้วครับ ราตรีสวัสดิ์” มีนาไม่สนแสงจากพระอาทิตย์ที่ลอดหน้าต่างมา ปรับที่นั่งของตัวเองให้กลายเป็นเตียงนอนแล้วแกะหมอนกับผ้าห่มออกจากซองพลาสติก แม้ใจจะนึกอย่างแกล้งอีกฝ่ายต่อ แต่ธีรเชษฐ์ก็ปล่อยให้คนขี้อายมุดตัว
หนีลงใต้ผ้าห่มไป



อย่างน้อยแบบนี้มีนาก็คงลืมความกลัวของตัวเองไปได้สักพักล่ะนะ








“โห…”



ดวงตากลมโตสีน้ำตาลกวาดมองไปทั่วสนามบินอย่างตื่นตาตื่นใจ เขาไม่อยากเชื่อว่าในตอนนี้ตัวเองอยู่ในอีกประเทศหนึ่ง ได้ออกนอกประเทศอย่างที่เขาไม่เคยคิดฝันว่าจะได้มา เด็กหนุ่มนึกอยากจะวีดีโอคอลหามารดาของตัวเองแล้วถ่ายทอดทุกอย่างให้อีกฝ่ายได้เห็นจากห้องพักผู้ป่วย แต่รู้ดีว่านั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้



เขาบอกแม่ว่าเป็นโครงการของคณะให้นักศึกษามาแลกเปลี่ยนระยะสั้นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย มารดาของเขาเพียงแต่พยักหน้ารับทราบคำอธิบายนั้น ไม่คิดทวงถามหาเอกสารหรือแผนการเดินทางอย่างที่มีนานึกกังวล แต่เด็กหนุ่มไม่รู้จริงๆว่าเขาจะสามารถโกหกผู้หญิงที่ให้กำเนิดเขามาไปได้อีกสักกี่น้ำ



“ดิวตี้ฟรีขาเข้าไม่ค่อยมีอะไรหรอก เดี๋ยวหาอะไรกินกันที่นี่แล้วค่อยไปที่โรงแรมก็แล้วกัน”



ธีรเชษฐ์หันไปพูดกับคนข้างกายที่ยังคงหันซ้ายแลขวาอย่างตื่นตาตื่นใจกับสิ่งแวดล้อมรอบกาย มีนาหันมาพยักหน้าให้เขา เอื้อมมือไปจับมือของธีรเชษฐ์โดยอัตโนมัติทันทีที่ร่างสูงเริ่มออกก้าว ร่างสูงแสร้งทำเป็นไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงนั้น ด้วยกลัวว่าเด็กขี้อายข้างๆจะปล่อยมือหายไปจากเขา



ตัวยิ่งเล็กๆอยู่ ปลิวไปนี่ท่าจะหายแล้วหายเลย



“อ๊ะ…” เสียงร้องเบาๆของเด็กหนุ่มเรียกให้ธีรเชษฐ์หันไปมองตาม บูธความงามที่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในสนามบินไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนของท่าอากาศยานมีเคาท์เตอร์แบรนด์เครื่องสำอางแบรนด์หนึ่งตั้งอยู่ และที่ด้านหน้าของบูธนั้น คือลิปกลอสหลอดสีทองวาวหลายเฉดสีนับสิบแท่งที่วางเรียงรายเด่นหรา บ่งบอกว่าเป็นสินค้าขายดีอันดับหนึ่งของแบนชรนด์ ธีรเชษฐ์ไม่ได้สันทัดอะไรเรื่องเครื่องสำอาง แต่เขาจำได้ดีว่ามันคือลิปกลอสที่มีนาขยันทาเหลือเกินหลังจากได้มาจากเพื่อนที่เป็นช่างแต่งหน้า



และเขาก็ชอบมันมากพอๆกับเด็กหนุ่มเสียด้วยสิ


“‘Made for your man.’…หืม ไม่ยักรู้นะว่าฉันเป็นผู้ชายของเธอ”



ธีรเชษฐ์ยักคิ้วหลิ่วตาให้เด็กหนุ่มที่อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ก่อนจะดึงข้อมือผอมให้อีกฝ่ายเดินตามเข้าไปในร้าน



“คุณเชษฐ์...จะ...จะทำอะไรครับ?”



“ซื้อไปตุนเพิ่มไง” ร่างสูงตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง กวาดตามองลิปกลอสหลากสีตรงหน้าอย่างสนใจ “ว่าไง เธอชอบสีไหน?”



“ผมไม่ได้อยากได้...”


“แต่ฉันอยากได้ ยังไงซะ...มันก็ทำมาเพื่อฉันไม่ใช่เหรอ?” ชายหนุ่มหันไปหาร่างเล็กที่ยังคงก้มหน้างุดไม่ยอมสบตาเขาลูกเดียว “ฉันให้เวลาสิบวินาที บอกฉันมาว่าชอบสีไหนบ้าง”



มีนาเม้มปากแน่นอย่างดื้อดึง ไม่ยอมให้ธีรเชษฐ์ได้คำตอบโดยง่าย



แต่นั่นไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับร่างสูง



“สาม..สอง...หนึ่ง...หมดเวลา” ชายหนุ่มก้มลงให้ใบหหน้าของตนอยู่ในระดับเดียวกับคนที่ยังคงสนใจขี้ฝุ่นบนพื้นมากกว่าเขา “ว่าไงมีนา โอกาสสุดท้ายแล้วนะ ไม่อยากเลือกลิปกลอสให้ผู้ชายของเธอหน่อยเหรอ?”



มีนาปฏิเสธที่จะเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย ความอับอายที่มีในตอนนี้ไม่สามารถแบกรับอะไรเพิ่มได้อีกแล้ว
“ตามใจ” ธีรเชษฐ์ไหวไหล่ ก่อนจะหันไปหาพนักงานสาวที่ยืนมองพวกเขาอยู่ไม่ไกล “Can we have one of each color, please?(พวกเราเอาทุกสีอย่างละแท่งแล้วกันครับ)”



“Certainly! Right this way, sir. (แน่นอนค่ะ! เชิญทางนี้เลยค่ะ)” พนักงานสาวตาลุกวาว รีบเชื้อเชิญให้ลูกค้าทั้งสองเดินไปที่เคาท์เตอร์แล้วกุลีกุจอหยิบสินค้าทั้งหมดตามมา



“เยอะไปแล้วครับคุณเชษฐ์...” มีนาท้วงเสียงเบา



“ไม่เยอะหรอกน่า” ธีรเชษฐ์ปัดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้าทาใหม่ทุกครั้งที่ชิม แป๊บเดียวก็หมดแล้ว”



มีนาไม่รู้ว่าอะไรที่ดลใจให้ร่างสูงชอบแกล้งให้เขาทำตัวไม่ถูกอยู่เรื่อยๆในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เขาอยากจะให้สิ่งนั้นเมตตาหัวใจดวงน้อยๆแล้วปล่อยให้เขาได้อยู่อย่างสงบสุขบ้างสักพักก็ยังดี










มีนาไม่สนด้วยซ้ำว่าตัวเองเหมือนสุนัขตัวน้อยที่กระดิกหางเกาะขอบหน้าต่างรถลีมูซีนของโรงแรมมองทิวทัศน์ภายนอกอย่างตื่นตาตื่นใจ ริมฝีปากรูปกระจับพึมพำอย่างตื่นเต้นกับตัวเอง ดวงตากลมโตวาววับไม่ละไปจากนอกหน้าต่างตั้งแต่ขึ้นรถมา



“นี่ ไม่คิดจะสนใจฉันหน่อยเหรอ?”



คนโดนเมินถามขึ้นอย่างอดรนทนไม่ไหว มีนาชะงักก่อนจะหันกลับมายิ้มเจื่อนๆให้เขา



“ขอโทษครับ ผมแค่กลัวคุณเชษฐ์จะรำคาญ”



“ถ้ารำคาญแล้วฉันจะบอก” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงห้วน ทำเอาคนตัวเล็กใจเสีย แต่มีนานั้นพัฒนามาไกลจากเด็กน้อยขี้กลัวในวันวาน แม้จะยังตื่นกลัวสีหน้าไม่สบอารมณ์ของธีรเชษฐ์อยู่บ้าง แต่มีนาเริ่มเรียนรู้ที่จะเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองแล้วเขยิบเข้าไปใกล้ร่างสูง ร่างเล็กๆเอนซบกับต้นแขนหนาภายใต้เสื้อสูทราคาแพงแล้วสอดแขนคล้องกับอีกฝ่ายเงียบๆ



เด็กหนุ่มลอบยิ้มกับตัวเองเมื่อเริ่มรู้สึกว่าร่างสูงเริ่มผ่อนคลายลงแม้จะยังไม่ยอมหันมาพูดกับเขาก็ตาม



พวกเขามาถึงโรงแรมไม่นานหลังจากนั้น มีนายังคงเกาะชายเสื้อของร่างสูงไว้อย่าางเหนียวแน่นแม้ว่าผู้คนรอบกายจะบางตาลงกว่าที่สนามบินมากก็ตาม



ร่างเล็กเงยหน้ามองเพดานโค้งสูงลวดลายสวยงามของโรงแรม ตัวโรงแรมสร้างขึ้นเลียนแบบสถาปัตยกรรมยุโรปซึ่งยิ่งทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูมีมนต์ขลัง ข้างน้ำพุขนนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่กลางลอบบี้มีชายหนุ่มในชุดโค้ทยาวบรรเลงเพลงคลาสสิคบนแกรนดืเปียโนสีดำตัวใหญ่ขับกล่อมแขกที่มาเข้าพัก



“มองอะไร?” ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นมีนาหยุดมองนักดนตรีหนุ่มตาแป๋ว ร่างเล็กเกาแก้มเขินๆ สารภาพด้วยสีหน้าเอียงอาย



“ผมแค่คิดว่าคนที่เล่นเปียโนเป็นนี่...เท่มากๆเลยน่ะครับ”


“…แค่เปียโน ฉันก็เล่นเป็น”



มีนาเงยหน้ามองคนอายุมากกว่าที่พึมพำออกมาอย่างหงุดหงิดด้วยสีหน้าประหลาดใจ เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าอีกฝ่ายเล่นเปียโนได้



“คุณเชษฐ์เก่งจังเลยครับ”



คนโดนชมอย่างไม่ทันตั้งตัวเบือนหน้าหนี ไม่อยากเสียเชิงให้เด็กรู้ว่าตัวเองกำลังหน้าร้อนเห่อกับคำชมของอีกฝ่าย



“กีต้าร์ กลอง ไวโอลิน ขิม ระนาด ฆ้องวง กู่เจิ้ง โคโตะ ฉันเล่นได้หมดนั่นแหละ”


มีนาเงยหน้ามองคนข้างกายตาโตด้วยสีหน้าประทับใจ ธีรเชษฐ์ยกหลังมือขึ้นถูจมูกแก้เขินแล้วรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนที่จะถูกคนตัวเล็กจับได้



พนักงานยกกระเป๋านำทางพวกเขาขึ้นไปยังห้องพักของตัวเองหลังจากเช็คอันเสร็จ ทันทีประตูห้องเปิดออก มีนารู้สึกเหมือนตัวเองหลุดเข้ามาอยู่ในเทพนิยายที่เขาเคยนั่งดูภาพประกอบกับมารดาในห้องสมุดเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ห้องนอนของพวกเขามีขนาดพอๆกับคอนโดของธีรเชษฐ์ ตกแต่งด้วยโทนสีทองอมชมพูตัดกับสีขาวสะอาดตาของผ้าปูเตียง แสงไฟสีส้มสบายตาทำให้ห้องทั้งห้องดูเหมาะสมกับการพักผ่อน แต่สิ่งที่ทำให้มีนาอ้าปากค้างคือห้องน้ำที่ผนังด้านที่ติดกับห้องนอนกลับเป็นกระจกใส มีเพียงม่านผืนบางที่สามารถรูดปิดให้คนข้างนอกพอจะมองเข้ามาไม่เห็น



“ตกใจอะไร?” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว



“ห้องมันดู....”



“ฮันนีมูนสวีทก็แบบนี้แหละ” ร่างสูงไหวไหล่ กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อคนที่ได้ยินชื่อห้องหันขวับมามองเขาด้วยสีหน้าตกใจ



“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ หมอกเขาเป็นคนจอง ไม่ใช่ฉัน”




และธีรเชษฐ์ก็ตอบแทนความหวังดีของเลขาตัวเองด้วยการจองห้องแบบเดียวกันที่สำหรับทริปไปญี่ปุ่นของอีกฝ่ายกับลูกชายคนโตของตนเป็นที่เรียบร้อย



“…ผมจัดของก่อนนะครับ” มีนาเปลี่ยนเรื่อง เดินไปลากกระเป๋าเดินทางใบโตไปยังตู้เสื้อผ้าบิวท์อินกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของผนังฟากที่ติดกับห้องน้ำ



จะให้เขาทำอย่างไร ในเมื่อขนาดตัวอยู่ห่างกันเป็นประเทศ แต่ธีรเชษฐ์ยังคงไม่หยุดหยิบยกชื่อเลขาคนสนิทขึ้นมาพูดในบทสนทนา




เมื่อเห็นคนอย่างมธุวันที่ทั้งที่ไม่ได้คิดจะพยายามแต่ยังเป็นที่รักของธีรเชษฐ์ขนาดนี้  คนที่กำลังพยายามแค่ให้อีกฝ่ายเอ็นดูก็อดรู้สึกท้อไม่ได้



“ฉันช่วย”



“เอ๊ะ? ไม่ต้องก็ดะ....” ริมฝีปากที่กำลังขยับพูดถูกคนเอาแต่ใจช่วงชิงไปด้วยริมฝีปากของตัวเอง ธีรเชษฐ์ดันร่างเล็กติดประตูตู้เสื้อผ้า แขนทั้งสองข้างเท้ากับบานประตูปิดทางหนีทีไล่ของเด็กหนุ่ม มีนาหลับตาพริ้ม เผยอริมฝีปากให้ลิ้นร้อนสอดแทรกตักตวงความหวานเท่าที่ใจปรารถนา เสียงครางแว่วหวานที่เล็ดลอดออกจากริมฝีปากของมีนายิ่งทำให้คนอายุมากกว่าเบียดกายแนบชิดกับร่างเล็ก สัมผัสรุกเร้าจากคมเขี้ยวที่ขบดึงริมฝีปากของเด็กหนุ่มอย่างหยอกเย้าสลับกับลิ้นร้อนที่ไล้ปลอบประโลมประกอบกับเนื้อผ้าของเสื้อสูทสั่งตัดและอุณหภูมิกายที่ส่งผ่านมาถึงเขาทำให้มีนาเริ่มยืนไม่อยู่ แต่ธีรเชษฐ์กลับผละไปจากเด็กหนุ่มเพียงเท่านั้น ร่างสูงยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นคนโดนกระทำแทบจะไหลลงไปกองกับพื้นเพียงแค่เพราะจูบของตน



“ค่าช่วยจัดของ”



มีนานึกอยากจะประท้วงออกไปว่าตนไม่ได้ขอให้อีกฝ่ายช่วยเสียหน่อย แต่เขารู้ดีว่าพูดอะไรไปตอนนี้ก็มีแต่เสียกับเสีย ธีรเชษฐ์ก้มลงช้อนร่างที่อ่อนปวกเปียกอยู่บนพื้นขึ้นอุ้มแล้ววางเด็กหนุ่มลงบนเตียงขนาดยักษ์อย่างเบามือ



“คุณเชษฐ์...”



“เก็บค่าจ้างแล้ว เดี๋ยวฉันทำเอง” เสียงทุ้มเอ่ยแกมหยอกเย้า มีนาทำท่าจะเอ่ยเถียง แต่มือใหญ่กดไหล่บางไว้ไม่ให้ลุกกลับขึ้นมาอีกครั้ง “นอนพักซักงีบไป ตั้งแต่บนเครื่องก็ไม่ได้นอนไม่ใช่เหรอ?”



เขาเห็นอีกฝ่ายนอนพลิกไปพลิกมาอยู่ข้างกายตลอดทางบนเครื่องบิน มีนาขมวดคิ้วอย่างไม่สบายใจ แต่ก็ยอมนอนลงไปตามคำสั่งของร่างสูงแต่โดยดี



พอไม่ดื้อแล้วน่ารักชะมัด




กระต่ายน้อยของเขาดูจะไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองทำคนแก่ใจบางไปแค่ไหน ธีรเชษฐ์ผละจากเด็กหนุ่มบนเตียงเล็กน้อยเพื่อจะกลับไปยังกระเป๋าเดินทางของพวกเขา แต่มือเรียวเล็กที่เอื้อมมาคว้ามือของเขาเอาไว้อย่างกล้าๆกลัวๆทำให้ธีรเชษฐ์หันกลับไปหาอีกฝ่ายอย่างงุนงง




“คือ…คุณเชษฐ์....” มีนากัดริมฝีปาก ดวงหน้าขาวขึ้นสีแดงระเรื่อน่ามอง “นอนข้างๆผมก่อนได้มั้ยครับ...พอไม่มีคุณเชษฐ์แล้วผม...นอนไม่หลับ”




ถามแบบนี้คิดว่าจะมีคนปฏิเสธได้มั้ย?



“ใครสั่งใครสอนให้อ้อนแบบนี้?” ธีรเชษฐ์นวดขมับตัวเองที่ปวดตุบขึ้นมา มีนามีสีหน้าสลดลง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างโล่งใจเมื่อร่างสูงทรุดตัวลงข้างตัวเองบนเตียงนุ่ม ธีรเชษฐ์ถอดเสื้อนอกของตัวเองโยนไปบนเก้าอี้อย่างไม่ใส่ใจแล้วเอนตัวลงข้างร่างเล็กอย่างที่อีกฝ่ายขอ “นอนได้แล้ว ตื่นแล้วจะพาไปหาอะไรกิน”



มีนาพยักหน้าอย่างว่าง่าย สอดตัวลงใต้ผ้าห่มผืนหนาแล้วข่มเปลือกตาให้ปิดลง ไม่นานนัก เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของเด็กหนุ่มก็บ่งบอกว่าอีกฝ่ายเข้าสู่ห้วงนิทราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภาพตรงหน้าทำให้ธีรเชษฐ์ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู เอื้อมมือไปปัดเส้นผมสีน้ำตาลที่ปรกหน้าใบหน้าของอีกฝ่ายให้พ้นทางแล้วโน้มลงมาประทับริมฝีปากบนหน้าผากใส





เด็กคนนี้จะรู้บ้างมั้ยนะว่าตัวเองทำอะไรกับหัวใจเขาไว้บ้าง


--------

ใจบางกันไปข้าง วะฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 35 ผู้ชายของเธอ [5-8-62] คห.656
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-08-2019 10:16:40
หูย~ ฮันนีมูนสวีท
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 35 ผู้ชายของเธอ [5-8-62] คห.656
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 05-08-2019 11:04:47
ไม่ได้เลยคุณเชษฐ์ ต้องเป็นคนเก่งของน้องทุกอย่างเลย 55555555
พูดถึงคุณเลขาทีน้องก็หงอยที บอกน้องได้แล่ว  :ling3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 35 ผู้ชายของเธอ [5-8-62] คห.656
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 05-08-2019 11:33:28
 o18 คุณเชษฐ์นี่ก็เหมือนเด็กเนอะ กลัวน้องมีนไม่สนใจ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 35 ผู้ชายของเธอ [5-8-62] คห.656
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 05-08-2019 16:33:48
มีนยังคงคิดมากเรื่องหมอกอยู่เสมอเลย เมื่อไรอะไรจะกระจ่างให้มีนเข้าใจความสัมพันธ์ของหมอกและธีรเชษฐ์น้า
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 35 ผู้ชายของเธอ [5-8-62] คห.656
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 05-08-2019 18:23:53
อ่อยแบบไม่รู้ตัวแบบนี้ น้องมีนจะทำคนแก่หัวใจวายได้
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 35 ผู้ชายของเธอ [5-8-62] คห.656
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-08-2019 22:00:50
งวดนี้ ใครได้ ใครเสียหว่า  :hao6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 35 ผู้ชายของเธอ [5-8-62] คห.656
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 05-08-2019 22:46:20
ฮืออออ สวีทมากกกก ดีใจกะน้องมีนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 35 ผู้ชายของเธอ [5-8-62] คห.656
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 06-08-2019 00:30:07
(เด็ก)ผู้ชายของน้องมีนสินะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 35 ผู้ชายของเธอ [5-8-62] คห.656
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 06-08-2019 10:14:12
อ้อนเก่งงงง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 35 ผู้ชายของเธอ [5-8-62] คห.656
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 06-08-2019 23:33:34
ลุงเชษฐ์ใจบาง กะน้องมีนช่างอ้อนขึ้นทุกวันๆ ล่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 35 ผู้ชายของเธอ [5-8-62] คห.656
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 11-08-2019 12:35:43
Chapter 36: กามเทพ



มีนาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้กลิ่นหอมชวนน้ำลายสอลอยมาแตะจมูก เด็กหนุ่มชันตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงแล้วขยี้ตาอย่างง่วงงุน ข้างกายของเขาว่างเปล่า แต่ร่างสูงในกางเกงนอนก้าวออกมาจากห้องน้ำไม่กี่นาทีหลังจากนั้น เส้นผมสีรัตติกาลยังคงหมาดหลังการสระ


“ตื่นแล้วเหรอ?”



“กี่โมงแล้วเหรอครับคุณเชษฐ์?” มีนาขยี้ตาอย่างง่วงงุน




“สามทุ่มแล้ว” ร่างสูงว่า  ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมของตัวเอง “ฉันสั่งรูมเซอร์วิสมาให้แล้ว ไปอาบน้ำก่อนก็ได้”



“ขอโทษนะครับ…” มีนาเอ่ยอย่างสำนึกผิด ทั้งที่ธีรเชษฐ์บอกว่าจะพาออกไปข้างนอกแท้ๆ “วันหลังคุณเชษฐ์ปลุกผมเลย
ก็ได้นะครับ”



“ฉันจะปลุกทำไม…” ชายหนุ่มไหวไหล่ “หลับลึกแบบนี้ลักหลับง่ายดีออก”



มีนารีบสลัดผ้าห่มผืนหนาออกอย่างรวดเร็ว แต่เสื้อผ้าของเขายังคงครบถ้วนสมบูรณ์ดี เขาได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะเบาๆกับท่าทีลุกลี้ลุกลนของตัวเอง มีนาถอนหายใจกับความขี้แกล้งของอีกฝ่าย ตวัดขาลงจากเตียงแล้วตรงไปยังห้องน้ำ
เด็กหนุ่มรีบรูดผ้าม่านห้องน้ำปิดไม่ให้คนภายนอกมองเข้ามาเห็น แต่ถึงอย่างนั้นมีนายังคงรู้สึกได้ถึงสายตาของคนข้างนอกที่จ้องทะลุผ่านม่านเข้ามา



ธีรเชษฐ์นั่งรอเขาอยู่ที่โต๊ะอาหารตอนที่เด็กหนุ่มก้าวออกมาจากห้องน้ำ มีนานั่งลงตรงข้ามกับร่างสูง ดวงตาสีน้ำตาลกวาดมองอาหารชวนน้ำลายสอที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะหลายจาน ท้องเล็กๆส่งเสียงร้องตอบรับกลิ่นหอมๆของไก่ย่างตัวอวบ




“พรุ่งนี้ฉันมีประชุมทั้งวัน ถ้าไม่กลัวหลง จะออกไปเดินเล่นรอในตัวเมืองก็ได้นะ” ธีรเชษฐ์หั่นเนื้อไก่ชิ้นใหญ่วางลงบนจานของคนตัวเล็ก ตักสลัดใส่จานของเด็กหนุ่มแล้วดันถ้วยซุปให้อีกฝ่าย ก่อนจะกลับมาตักอาหารใส่จานตัวเองบ้าง



“มะ…ไม่เป็นไรครับ ผมไปนั่งรอแถวห้องประชุมก็ได้”



มีนาตัวเกร็งขึ้นมาทันทีกับความคิดที่จะต้องออกไปเจอกับโลกภายนอกเพียงลำพัง ธีรเชษฐ์ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มขำ หยิบกระเป๋าเงินของตัวเองมาเปิดเอาบัตรเครดิตสีดำที่มีนาจำได้ดียื่นให้เด็กหนุ่ม



“จะไปรอทำไม อย่างน้อยก็ลงมาเดินเล่นในห้างที่ชั้นล่างของโรงแรมก็ยังดี ฉันไม่อยากให้เธอต้องอุดอู้อยู่ในห้องแบบนี้ทั้งวัน”



ห้องแบบนี้ยากจะเรียกได้ว่าอุดอู้ แต่มีนาก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายแล้วรับบัตรเครดิตใบนั้นไป



“แล้วตอนแรกเธอคิดว่าจะทำอะไรรอฉันถ้าไม่ไปเที่ยว?” ธีรเชษฐ์ถามด้วยความสงสัย มีนาชี้ไปที่กระเป๋าเป้ของตนที่วางอยู่
บนตู้เตี้ยข้างฝั่งที่ร่างสูงกำลังนั่งอยู่



“ผมเอาหนังสือมาครับ”




“เธอนี่นะ ห่างจากหนังสือซักวันเลยไม่ได้ใช่มั้ย?” ธีรเชษฐ์ส่ายหน้าอีกครั้งอย่างเหนื่อยใจ โน้มตัวไปหยิบกระเป๋าของมีนามาเปิดหยิบเอาหนังสือเล่มหนาออกมา สภาพกน้าปกที่เปื่อยยุ่ยและสติกเกอร์เลขรหัสที่แปะอยู่ที่สันปกแสดงให้เห็นว่าเป็นนิยายที่อีกฝ่ายยืมมาจากห้องสมุดมหาวิทยาลัย คิ้วเข้มเลิกสูงเมื่อเห็นว่ามันเป็นนิยายคลาสสิคที่เขาเคยถูกบังคับให้อ่านตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มัธยมปลาย แถมยังเป็นหนังสือเล่มโปรดของคเชนทร์ที่เขาบังคับให้เพื่อนสนิทสรุปให้เขาฟังเพื่อทำรายงานส่งอาจารย์เสียด้วย




“ชอบแนวนี้เหรอ?”



“ครับ สนุกดี” มีนายิ้ม



จู่ๆธีรเชษฐ์ก็ย้อนอดีตไปสู่วันวาน สมัยเพื่อนสนิทของเขายังเป็นคนอารมณ์ดียิ้มง่ายที่ชื่นชอบนิยายคลาสสิคเป็นชีวิตจิตใจ ก่อนจะลอบกลืนน้ำลายด้วยความหวาดเสียวไปถึงกระดูกสันหลัง เริ่มไม่นึกอยากมีชีวิตอยู่รอวันที่มีนาจะกลายร่างเป็นทายาทอสูรของคเชนทร์สักเท่าไหร่




โลกนี้มีคเชนทร์แค่คนเดียวก็เพียงพอแล้ว



“คุณเชษฐ์เป็นอะไรรึเปล่าครับ?” มีนาถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไปนาน




“ไม่มีอะไร ตามใจเธอแล้วกัน หลังจากนี้ฉันต้องเตรียมงาน นอนไปก่อนเลย” ธีรเชษฐ์ว่า มีนาพยักหน้ารับแล้วรวบช้อนส้อม ยกน้ำขึ้นดื่มแล้วนั่งรอให้อีกฝ่ายทานต่อด้วยความเคยชิน



หลังจากมื้ออาหารจบลง ธีรเชษฐ์ก็ยึดเอาโต๊ะเครื่องแป้งหน้ากระจกบานกว้างเป็นสถานที่เตรียมงานสำหรับการประชุมในวันรุ่งขึ้น มีนาทิ้งตัวลงบนเตียงหลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ นอนมองแผ่นหลังกว้างเปลือยเปล่าของคนที่นั่งทำงานตาแป๋วตั้งใจว่าหลังจากชิงหลับไปก่อนหน้านี้เขาจะรอให้ร่างสูงกลับมานอนข้างๆเสียก่อนถึงจะนอน



แต่ความอ่อนเพลียคงจะสะสมไว้มากกว่าที่มีนาคิด เพราะสิ่งสุดท้ายที่เขารู้สึกก่อนจะจมสู่ห้วงนิทราเป็นครั้งที่สองของวัน คือผ้าห่มผืนหนาที่ถูกดึงขึ้นมาห่มถึงคางของเขา และริมฝีปากอุ่นที่ประทับลงมาข้างแก้ม



ถ้านี่คือการลักหลับของธีรเชษฐ์ มีนาก็คิดว่าตัวเองไม่ได้ถือสาอะไรเท่าไหร่นัก




ร่างเล็กตื่นขึ้นมาด้้วยจุมพิตรับอรุณหวานล้ำที่ทำให้มีนาเผยอริมฝีปากรับอย่างเต็มใจ ความง่วงงุนที่ยังสะสมอยู่ทำให้ยางอายของร่างเล็กยังคงไม่ทำงาน  มีนาร้สึกถึงรอยยิ้มบนริมฝีปากได้รูปที่ยังคงรุกล้ำอย่างไม่สนใจความเห็นชอบของเขา แม้ว่าเด็กหนุ่มจะไม่ได้คิดที่จะปฏิเสธก็ตาม




กลิ่นอาฟเตอร์เชฟของร่างสูงในชุดสูทกลายเป็นกลิ่นโปรดของมีนาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคอของธีรเชษฐ์ ระวังไม่ให้เสื้อสูทของร่างสูงยับย่นจากการสัมผัส มีนาเอียงคอให้ริมฝีปากอุ่นไล่ฝากเครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าของไว้อย่างรู้งาน เปลือกตายังคงปิดสนิท ไม่กล้าลืมขึ้นสบตาเจ้าชีวิตของตนในตอนนี้



“ไปอาบน้ำได้แล้ว ลงไปกินข้าวเช้ากับฉัน” เสียงทุ้มเอ่ยทั้งที่ยังไม่ละริมฝีปากไปจากซอกคอขาว
มีนาพยักหน้า พยายามดันให้คนที่คร่อมทับร่างของเขาอยู่ให้ลุกออกไปแต่ไม่เป็นผล



“คุณเชษฐ์ครับ...”



“ค่าผ่านทาง” ชายหนุ่มเคาะที่ริมฝีปากของตัวเอง มีนาเกาแก้มด้วยสีหน้าเขินอาย ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บริมฝีปากได้รูปที่รออยู่เบาๆ แต่ดูเหมือนว่านั่นจะไม่เป็นที่พอใจของคนเก็บค่าผ่านทางเท่าไหร่นัก “ไม่พอ...”



“คุณเชษฐ์ เดี๋ยวจะสายเอานะครับ” มีนาเอ่ยเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง  ธีรเชษฐ์เดาะลิ้นอย่างไม่พอใจ แต่ก็รู้ว่าอีกฝ่ายมีเหตุผล
หลังจากมีนาอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ธีรเชษฐ์ยื่นเสื้อคลุมที่มธุวันซื้อให้เขาให้ร่างเล็ก ถึงแม้ว่าอากาศภายนอกจะค่อนข้างร้อน แต่อุณหภูมิในโรงแรมยังคงทำให้เด็กหนุ่มลูบแขนของตัวเองด้วยความหนาว ถึงอย่างนั้นมีนายังคงไม่ยื่นมือมารับเสื้อไปจากเขา



“ใส่เสื้อสิ”



“ผมไม่หนาวครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยทั้งที่ริมฝีปากยังสั่นจากความหนาว ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจกับความดื้อดึงอย่างไร้เหตุผลนั้น มีนาเกลียดอะไรการใส่เสื้อหนาวนักหนา



“มีน อย่าดื้อ!” ชายหนุ่มดุ เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องมาป่วยกับเรื่องไร้สาระแบบนี้หรอกนะ



 แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่น้ำเสียงห้วนสั้นอย่างไม่พอใจที่ไม่ได้ยินมาสักพักทำให้มีนาสะดุ้งอย่างตกใจ มือเรียวเอื้อมไปรับเสื้อในมือของธีรเชษฐ์มาสวมแต่โดยดี แม้ว่าจากสีหน้าของอีกฝ่าย มีนาจะดูไม่ได้เต็มใจจะสวมมันเลยก็ตาม
พวกเขามาถึงห้องอาหารของโรงแรมไม่นานหลังจากนั้น เครื่องปรับอากาศในห้องอาหารไม่ได้ดีขึ้นจากความเย็นในห้องพักมากนัก แต่เสื้อกันหนาวที่มีนาถูกบังคับให้ใส่ทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี




ถึงแม้ว่าเด็กหนุ่มจะอยากทนความหนาวมากกว่ารับรู้ว่าของที่มธุวันมอบให้ธีรเชษฐ์เป็นของขวัญนั้นทำหน้าที่ของมันได้ดีแค่ไหนก็ตาม



พวกเขาเดินตามบริกรไปยังโต๊ะว่างที่อยู่ไม่ไกลจากที่ตักอาหาร มีนาสังเกตว่าธีรเชษฐ์หันกลับไปมองด้านหลังของตัวเองอยู่ตลอดเวลา จึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย



“คุณเชษฐ์...มีอะไรรึเปล่าครับ?”



ร่างสูงไม่ตอบ เพียงแต่กวักมือเรียกให้เขาเดินตามไปยังโต๊ะที่อยู่อีกฝั่งของห้องอาหาร แม้จะไม่เข้าใจ แต่มีนาก็เดินตามอีกฝ่ายไปโดยไม่ปริปากถามอะไร



จุดหมายของธีรเชษฐ์ดูจะเป็นโต๊ะที่มีชายหนุ่มชาวไทยวัยไล่เลี่ยกับร่างสูงในชุดสูทสีเข้มและเด็กหนุ่มร่างโปร่งที่ดูน่าจะอายุไม่เกินยี่สิบปีนั่งอยู่ สาเตุที่มีนารู้ว่าคนทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมสัญชาติ เป็นเพราะบทสนทนาของคนทั้งคู่ที่เขาได้ยินก่อนจะเดินไปถึงที่โต๊ะเสียอีก



“เป็นอะไรครับคนดี อาหารไม่ถูกปากเหรอ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามคนอายุน้อยกว่าที่กำลังนวดขากรรไกรของตัวเองพร้อมส่งสายตาค้อนคนข้างกายวงใหญ่ ราวกับว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นคนที่รู้คำตอบนั้นดีที่สุด



“น่า อย่างอนป๋าน้า อ่ะ ไส้กรอกมั้ย”


ชายหนุ่มในชุดสูทยักคิ้วข้างหนึ่งด้วยสีหน้าที่ใครก็ดูออกว่าจงใจกวนคนข้างกาย จิ้มไส้กรอกชีสร้อนๆไปจ่อที่ริมฝีปากของคนที่ถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ ทั้งที่ใบหน้าขึ้นสีเลือดฝาดทรยศความคิดของเจ้าตัว



“ไม่เอาครับ ไม่ชอบ”



“นั่นสิเนอะ บุฟเฟ่ต์ที่นี่มีแต่อันเล็ก ไม่ไหวๆ” คนอายุมากกว่าแสร้งทำสีหน้าไม่พอใจ มีนาเหลือบมองธีรเชษฐ์ สงสัยว่าอีกฝ่ายพาเขามาแอบดูคู่รักคู่นี้สวีทกันทำไม “เดี๋ยวกลับห้องไปป๋าจะจัดชุดใหญ่ให้ ดีมั้ยจ๊ะ”



“กินไปเลยครับ!” คนตัวเล็กกว่าดึงส้อมออกมาจากมือร่างสูงแล้วยัดไส้กรอกเข้าปากอีกฝ่ายให้หยุดพูดจาลามกในที่สาธารณะ มีนาที่ยืนมองดูอยู่เงียบๆนึกกลัวขึ้นมาว่าอีกฝ่ายจะสำลักไส้กรอกจนไปอุดหลอดลมหรือไม่



“ร่าเริงกันจังนะ” ธีรเชษฐ์เอ่ยขึ้น เรียกความสนใจของคู่รักตรงหน้ามาหาพวกเขาในที่สุด ชายหนุ่มในชุดสูทหันมาหาพวกเขาพร้อมรอยยิ้มกว้าง ผิดกับชายอีกคนที่กระพริบตามองพวกเขาตาปริบๆอย่างงุนงง



“มาด้วยเหรอเชษฐ์”



“กูมากกว่ามั้งความต้องเป็นคนถาม ไหนบอกว่าจะอยู่กับเมียให้เอาเอกสารมาแทน” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว มีนาหันไปมอง ‘เมีย’คนที่ว่าของร่างสูงที่เขาไม่รู้จักที่มีสีหน้าเหมือนอยากจะมุดแทรกแผ่นดินลงไปใต้ผืนธรณีในตอนนี้ ในขณะที่คนถูกถามมีเพียงสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจกับคำพูดของธีรเชษฐ์



“ไอ้เชษฐ์ ไม่พูดตรงๆซักวันมึงจะตายมั้ย”



เจ้าของชื่อมองคนตรงหน้านิ่งก่อนจะหันไปมองร่างโปร่งที่นั่งอยู่ข้างกายอีกฝ่าย คิ้วเข้มขมวดมุ่นก่อนจะเลิกขึ้นสูงอย่างประหลาดใจ มีนาแอบเห็นรอยยิ้มมุมปากของชายหนุ่มลูกครึ่งรัสเซียที่แสร้งทำสีหน้าตกใจก่อนจะเอ่ยกับคนตรงหน้า


“นี่เมียมึงเหรอ กูนึกว่าลูก”


“พูดอะไรเกรงใจผู้เยาว์ข้างๆมึงด้วยครับไอ้เพื่อนเวร”


“สวัสดีครับ”



คนถูกพาดพิงสะดุ้ง รีบยกมือขึ้นไหว้ผู้อาวุโสกว่าทั้งสองด้วยกลัวจะเป็นการเสียมารยาท ชายหนุ่มชาวไทยในชุดสูทนั้นความหล่อเหลาเรียกได้ว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับธีรเชษฐ์ แม้ว่าในสายตาของมีนานั้นคุณเชษฐ์ย่อมเป็นที่หนึ่งอยู่เสมอไม่ว่าจะเทียบกับใคร



หยุดเลยมีน! หยุดความคิดนั้นเดี๋ยวนี้!




“ไหว้พระเถอะลูก เอ๊ย! สวัสดี” ชายหนุ่มร่างสูงยกมือรับไหว้เขาพร้อมเอ่ยตอบอย่างเผลอตัว ก่อนจะรีบกลับลำกลางคันเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกไป มีนายิ้มเจื่อน ไม่มั่นใจว่าตัวเองควรจะพูดอะไรมากกว่านี้กับคนแปลกหน้าทั้งสองหรือไม่



“มีน นี่วีรภัทร เพื่อนฉัน ส่วนคนนี้...” เชษฐ์ลากเสียง เลิกคิ้วเมื่อนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายยังไม่เคยแนะนำชื่อของคนรักให้ตนรู้จัก มีนาขยับยิ้มฝืนให้กับคนทั้งสองอย่างไม่รู้จะทำอะไรต่อ   



“เอ่อ...พี่ชื่อเทสต์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”



คนอายุน้อยกว่าแนะนำตัวขึ้นมาด้วยท่าทีเป็นมิตร ร่างโปร่งที่ดูอย่างไรก็ไม่น่าจะอายุเกินยี่สิบปีมีใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่แม้จะไม่ได้หล่อเหลาโดนเด่นหรือสวยหวานเยี่ยงอิสตรี แต่ถือว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง ดวงตาเรียวมองมีนาด้วยแววตาอ่อนโยนที่ทำให้ร่างเล็กรู้สึกไว้ใจอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เด็กหนุ่มยิ้มตอบออกมาอย่างจริงใจ แต่ถูกดวงตาคมสีควันบุหรี่ที่จดจ้องอย่างไม่พอใจทำให้เขาหลบกลับไปด้านหลังชายหนุ่มอีกครั้ง



“ผมไปตักอาหารให้นะครับคุณเชษฐ์” เด็กหนุ่มขออนุญาตเสียงแผ่ว ไม่นึกอยากอยู่ร่วมในวงสนทนามากไปกว่านี้ และที่สำคัญ หากอีกฝ่ายไม่รีบทานให้เสร็จในตอนนี้ คงจะได้เข้าประชุมสายกันพอดี


ธีรเชษฐ์พยักหน้า นั่งลงข้างเพื่อนสนิทโดยไม่รอให้เจ้าของโต๊ะเชิญ มีนาผละไปจากบทสนทนาของคนทั้งสาม แม้จะได้ยินเสียงของวีรภัทรดังขึ้นไล่หลังมา



“นั่นเด็กใหม่เหรอวะ? อายุถึงรึยัง? ”


มีนาสะอึก แม้จะรู้ถึงสถานะของตัวเองดี แต่การได้ยินคนข้างนอกนิยามความสัมพันธ์ของพวกเขาแบบนี้ทำให้ทุกอย่างรู้สึกจริงขึ้นมากว่าเดิม เด็กหนุ่มรีบจ้ำอ้าวออกไปจากตรงนั้นด้วยกลัวจะได้ยินคำตอบจากปากของธีรเชษฐ์



อย่างน้อย...ให้เขาได้หลอกตัวเองอย่างนี้ไปซักพักก็ยังดี


มีนาคีบขนมปังใส่เครื่องปิ้งแล้วขยับไปตักไข่ดาว ไส้กรอกและอาหารเช้าง่ายๆต่างๆให้ธีรเชษฐ์ก่อนจะหันไปชงกาแฟร้อน แม้จะรู้ว่าร่างสูงไม่ชอบกาแฟผงแบบนี้แต่นี่เป็นตัวเลือกเดียวที่ทางโรงแรมมีให้



เด็กหนุ่มประคองถาดกลับมาหาคนทั้งสามที่เงียบลงแทบจะในทันทีที่เขาอยู่ในรัศมีการได้ยิน ซึ่งสิ่งเดียวที่ร่างเล็กทำได้คือแสร้งทำเป็นไม่สังเกตความผิดปกตินั้น



“ขออนุญาตครับ” มีนาวางถาดลงบนโต๊ะ จัดวางอาหารเช้าลงตรงหน้าธีรเชษฐ์อย่างคล่องแคล่ว เด็กหนุ่มตั้งใจจะเดินเอา
ถาดไปเก็บแต่กลับถูกมือใหญ่ของเจ้าชีวิตคว้าเอวเอาไว้เสียก่อน



“มานี่” ชายหนุ่มรั้งเอวบอบบางให้มีนาเซลงมานั่งบนตักแข็ง มีนารีบตะครุบปากของตัวเองปิดกั้นเสียงร้องอย่างตกใจไว้ก่อน
จะเรียกความสนใจจากแขกคนอื่นของโรงแรม


“คุณ..คุณเชษฐ์...” มีนาไม่กล้าแม้แต่เหลือบมองสีหน้าของคนอีกสองคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ แม้อีกฝ่ายจะเคยทำแบบนี้หลายต่อหลายครั้งในห้องส่วนตัว แต่ในที่สาธารณะที่มีคนเดินผ่านไปมาขวั่กไขว่แบบนี้ มีนาอดรู้สึกเหมือนตุ๊กตาตั้งโชว์บนตักของ
ธีรเชษฐ์ไม่ได้


“ทำไมถึงไม่มีส่วนของเธอ?” ร่างสูงถามเสียงเรียบ ความหงุดหงิดฉายชัดในน้ำเสียง มีนามัวแต่กังวลว่าร่างสูงจะไม่ได้ทานอาหารเช้าจนลืมตักส่วนของตัวเองไปเสียสนิท



“คือ…ผะ..ผมไม่หิว..” เด็กหนุ่มตะกุกตะกักตอบ ไม่อยากทำให้อีกฝ่ายโมโหไปมากกว่านี้



“ตัวเท่าลูกหมา อย่าซ่าให้มันมากจะได้มั้ย”


ธีรเชษฐ์พึมพำอย่างไม่สบอารมณ์ หยิบขนมปังปิ้งทาเนยหอมๆขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากอิ่ม เมื่อเห็นเด็กน้อยบนตักยังมีท่าทีลังเลก็ยิ่งทำให้เขาอารมณ์เสียขึ้นไปอีก “มีนา อย่าดื้อ ฉันสั่งให้กิน”



เจ้าของชื่อสะดุ้งกับเสียงเข้ม อ้าปากงับขนมปังอย่างว่าง่าย เคี้ยวอาหารในปากอย่างเชื่องช้า แต่รีบเร่งสปีดขึ้นมาเมื่อเห็นดวงตาของอีกฝ่ายหรี่ลงอย่างไม่พอใจ สมาธิของเขาในตอนนี้อยู่กับการรีบอ้าปากรับอาหารที่ถูกป้อน ได้ยินเสียงของคู่รักที่นั่งอยู่ข้างๆกระซิบกระซาบกันดังแว่วมา



“คุณวี...ผมว่าเราย้ายโต๊ะกันมั้ยครับ”



“นั่นสิ”



มีนาไม่รู้ว่าเขาอยากจะขอบคุณคนทั้งคู่ที่ช่วยให้เขาไม่ต้องรู้สึกอับอายกับเหตุการณ์ในตอนนี้ไปกว่านี้หรือขอร้องให้คนทั้งสองอยู่ต่อเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องรองรับสนามอารมณ์ของธีรเชษฐ์คนเดียว แต่คนที่ยังขู่บังคับป้อนอาหารเช้าให้เขาด้วย
สายตาตัดสินใจแทนเขาเสียก่อน



“เทสต์ ตอนประชุมฝากเด็กคนนี้ไว้กับเราหน่อยได้มั้ย” ร่างสูงหันไปบอกคนรักของเพื่อนสนิท ร่างโปร่งชี้ตัวเองอย่างงุนงง เช่นเดียวกับคนที่จู่ๆก็ถูกฝากไว้กับคนแปลกหน้าที่รู้สึกสับสนไม่แพ้กัน



“ครับ?” เสียงนั้นเป็นประโยคคำถาม แต่ธีรเชษฐ์กลับถือเอาคำพูดของคนตรงหน้าเป็นการตอบตกลงไปเสียอย่างนั้น



“ขอบใจมากนะ มีนเพิ่งมาต่างประเทศครั้งแรก กลัวจะโดนอุ้มไปขาย” ธีรเชษฐ์ก้มลงมองคนบนตักที่หลุบตาหนี ก้มหน้าลงต่ำอย่างไม่กล้าสู้หน้าคนที่จู่ๆก็ดูจะหงุดหงิดขึ้นมาในเช้านี้ “เดี๋ยวที่ฉันลงทุนไว้จะไม่ได้ถอนทุนคืน”



ร่างเล็กสะอึก คำพูดของร่างสูงทิ่มแทงหัวใจทั้งที่ไม่ใช่ข้อมูลใหม่อะไร ธีรเชษฐ์เปิดเผยชัดเจนในสิ่งที่ตัวเองต้องการมาตั้งแต่ต้น มีแต่มีนาเท่านั้นที่บิดเบือนความใจดีของอีกฝ่ายไปเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่มีอยู่จริง



“ได้ครับ ไม่มีปัญหา” คุณเทสต์ยิ้มให้ธีรเชษฐ์ ส่วนมีนาทีไม่มีอำนาจอะไรเหนือชะตาชีวิตของตัวเองนั้นเพียงแต่นั่งนิ่งบนตัก
ของร่างสูง ปล่อยให้อีกฝ่ายบังคับป้อนอาหารเช้าที่เขาตักมาให้จนกว่าเจ้าชีวิตของเขาจะพอใจ














“คุณเทสต์ครับ จริงๆไม่ต้องลำบากมาดูแลผมก็ได้นะครับ” มีนาเอ่ยอย่างเกรงใจ สิ่งแรกที่ร่างเล็กทำหลังจากธีรเชษฐ์และวีรภัทรปลีกตัวไปเข้าประชุม คือการถอดเสื้อคลุมกันหนาวที่ธีรเชษฐ์ยืนกรานจะให้เขาใส่พับเก็บใส่กระเป๋าเป้ เด็กหนุ่มตอบสายตาใคร่รู่ของคนที่ยืนมองการกระทำของตนด้วยคำว่า ‘ผมเริ่มร้อนแล้วน่ะครับ’ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วมีนาจะหนาวจนฟันกระทบกันก็ตาม



“เรียกพี่เทสต์ก็ได้ ไม่ต้องเรียกคุณหรอก”



ทั้งสองอยู่ในร้านกาแฟหน้าตาน่ารักแห่งหนึ่งในห้างของถนนออชาร์ด ตกแต่งด้วยต้นไม้ปลอมพร้อมดอกสีอ่อนดูสบายตา เก้าอี้หวายบุเบาะผ้านุ่มสบายน่านั่ง คัพเค้กหน้าตาน่าเอ็นดูวางเรียงรายในตู้กระจกซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มข้างกายมีนาแทบจะพุ่งตัวเข้ามา คุณเทสต์ หรือคุณธัชนนท์เป็นคนที่ชื่นชอบการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะการทำขนมหวาน แค่คุยกันไม่ถึงสิบนาทีมีนาก็รับรู้ถึงความหลงใหลคลั่งไคล้ในศาสตร์แห่งคหกรรมของอีกฝ่าย



มีนาตั้งใจจะรออยู่ข้างนอกเมื่อเห็นราคาสินค้าภายใน แม้เขาจะตั้งใจไว้แล้วว่าจะเสียเงินที่ธีรเชษฐ์ให้มาแค่เฉพาะกับเรื่องของกินเท่านั้น แต่ของกินพวกนี้ก็ยังราคาแพงไปสำหรับเด็กหนุ่มอยู่ดี



คนรักของคุณวีรภัทรนั้นเป็นคนที่โน้มน้าวคนได้อย่างมีศิลปะ มีนาตระหนักเรื่องนั้นได้หลังจากที่เข้ามานั่งในร้านกับร่างโปร่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



“สั่งอะไรหน่อยสิ เมื่อกี้นอกจากขนมปังก็ไม่ได้ทานอะไรเลยไม่ใช่เหรอ?” คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเขาทักด้วยความหวังดี



“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ค่อยหิว” มีนาส่ายหน้าปฏิเสธ เด็กหนุ่มไม่ใช่คนพูดเก่งมาตั้งแต่ต้น และการอยู่กับคนที่เพื่อนสนิทของ
ธีรเชษฐ์ให้สถานะเป็นคนรักทำให้มีนารู้สึกเกร็งเป็นพิเศษ



คุณธัชนนท์พยักหน้าเข้าใจ แต่ปริมาณของขนมที่ร่างโปร่งหันไปสั่งนั้นมากเกินกว่าจะเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายจะทานหมด ก่อนที่ความสนใจของอีกฝ่ายจะกลับมาอยู่ที่เขา



“คุณเชษฐ์กับมีนนี่...เป็นอะไรกันเหรอ?”



คำถามนั้นทำให้มีนาชะงัก เขาไม่ได้ตกใจกับคำถาม หากเขาอยู่ในสถานะเดียวกับธัชนนท์เขาก็คงจะมีคำถามที่ไม่ต่างกัน
แต่สิ่งที่ทำให้เขาอึกอักอย่างลำบากใจ คือเขาไม่มีคำตอบให้กับคำถามนั้น



“ไม่เป็นไร ถ้าไม่อยากตอบพี่ก็เข้าใจ” คนถามรีบพูด มีนาส่ายหน้า



“ไม่เป็นไรครับ จริงๆคุณเชษฐ์ไม่ได้ห้าม ผมแค่...” เด็กหนุ่มกัดริมฝีปาก ธีรเชษฐ์ดูจะไม่ได้ใส่ใจอะไรเรื่องการเปิดเผยสถานะของพวกเขา สังเกตได้จากการที่อีกฝ่ายดึงเขาไปนั่งบนตักอย่างเเสดงความเป็นเจ้าของเมื่อเช้า “ไม่อยากให้คุ..พี่เทสต์มองผมไม่ดี”


“พี่เชื่อว่าคนเรามีเหตุผลในการกระทำของตัวเองนะมีน” อีกฝ่ายว่า ยิ้มให้กำลังใจ มีนายิ้มตอบสีหน้าอบอุ่นนั้นด้วยความรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย “แต่ถ้ามีนไม่อยากพูด ก็ไม่ต้องพูดก็ได้นะ”



“แม่ผมเป็นมะเร็ง” เด็กหนุ่มตอบเสียงเบา “ยายของผมก็มีโรคประจำตัวเยอะแยะ ผมไม่มีพ่อ พวกเราอยู่ได้ด้วยเบี้ยผู้สูงอายุ กับร้อยมาลัยขายที่ตลาด”



มีนาสังเกตว่าคนฟังมีสีหน้าเหมือนอยากจะเอ่ยปลอบเด็กหนุ่มแต่ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไร ซึ่งเขาก็รู้สึกขอบคุณอยู่ลึกๆกับความใส่ใจของคนที่เพิ่งเคยเห็นหน้า



“ผมสอบติดมหาวิทยาลัยด้วยทุนเต็มจำนวน แต่ค่าหอพัก ค่ากินค่าอยู่ เอกสารทุกอย่าง ผมต้องออกเองทั้งหมด” มีนาก้มหน้าลงมองมือของตัวเองที่วางอยู่บนหน้าตัก การได้พูดออกมาทำให้ความรู้สึกละอายใจเอ่อท้นขึ้นมาอีกครั้ง “ผมเลย...ลองทำตามที่เด็กแถวบ้านแนะนำ ลองขาย..อึก...”


ลมหายใจของเด็กหนุ่มสะดุด น้ำตาหยดแรกตกลงบนตัก มีนาพยายามกระพริบตาไล่น้ำตา ภาพตรงหน้าของเขาพร่าเลือนไปชั่วขณะ



“มีน…”



“ผมโชคดีมากครับที่วันแรกของผม ผมได้เจอคุณเชษฐ์” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นพูดกับธัชนนท์พร้อมรอยยิ้ม ปาดน้ำตาที่ติดอยู่บริเวณหางตาของตัวเองออก “คุณเชษฐ์ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการรักษาพยาบาลแม่กับยาย ค่าหอ ค่ากิน ค่าอยู่...”



“แลกกับร่างกายของเธอ?”



น้ำเสียงของคนฟังเต็มไปด้วยความไม่เห็นด้วย มีนารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ และรู้ด้วยว่าความคิดของอีกฝ่ายไม่ผิดจากความเป็นจริงเท่าไหร่นัก


แต่เขายังคงคิดว่าธีรเชษฐ์ไม่ใช่คนแบบนั้น และไม่อยากให้ธัชนนท์มองผู้มีพระคุณของเขาแบบนั้นเช่นกัน



“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ คุณเชษฐ์ไม่เคยบังคับอะไรผม หลังจากที่เขารู้ว่าผมอายุไม่ถึง คุณเชษฐ์ก็ไม่เคยแตะต้องผม” เด็กหนุ่มยิ้มออกมาน้อยๆอย่างไม่รู้ตัว แววตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงผู้มีพระคุณของตน “ตอนนี้ผมแค่ช่วยทำความสะอาดห้อง ทำอาหาร ดูแลเรื่องเสื้อผ้า แล้วก็ไปไหนมาไหนเป็นเพื่อนคุณเชษฐ์ ส่วนเรื่อง...คุณเชษฐ์บอกว่าถ้าผมอายุสิบแปดแล้วค่อยคุยกัน”



“เห? แล้วถ้าอย่างนั้น ถ้าถึงวันเกิดขึ้นมา มีนจะไม่ปฏิเสธเขาเหรอ?” ธัชนนท์เท้าคางอย่างสนใจ



“เอ๊ะ เอ่อ..คุณเชษฐ์เป็นผู้มีพระคุณ...” ใบหน้าของมีนาร้อนเห่ออย่างเขินอาย มือไม้พันกันอย่างประหม่า “ต่อให้ชีวิตผม...ผมก็ยกให้ได้”



ใช่…เพราะเป็นธีรเชษฐ์ ต่อให้สิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะทำให้คำที่ตราหน้ามีนาเป็นจริงขึ้นมาอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง แต่เด็กหนุ่มก็ยังคงยินดีที่จะยกร่างกายของตนให้อีกฝ่ายอย่างไม่ขัดขืน แม้ว่าเหตุผลของการกระทำนั้นจะไม่ได้หยุดอยู่แค่คำว่าบุญคุณอีกต่อไปมานานแล้วก็ตาม



“ลองบอกเขาไปสิ ว่าเรารู้สึกยังไง”



“…”


มีนาเงยหน้ามองคนพูดทันทีที่ได้ยินดังนั้น ริมฝีปากรูปกระจับอ้าค้างอย่างตกใจ แววตารู้ทันของคนตรงหน้าบ่งบอกว่าอีกฝ่ายอ่านความรู้สึกที่มีนามีต่อธีรเชษฐ์ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ซึ่งนั่นยิ่งทำให้คนตัวเล็กก้มหน้างุดอย่างทำอะไรไม่ถูก



“พี่ว่าอะไรๆมันอาจจะง่ายขึ้นก็ได้นะ”



“มะ…ไม่หรอกครับ คนอย่างผมไม่คู่ควรกับคุณเชษฐ์หรอก” มีนส่ายหน้าพรืด ลนลานอย่างเก็บอาการไม่อยู่



 ใช่ คนอย่างเขา แค่ร่างสูงนึกถูกใจร่างกายขึ้นมาก็เป็นเรื่องปาฏิหาริย์มากพออยู่แล้ว


“ค่าของคน มันตีไม่ได้ด้วยเงินหรอกนะมีน” ร่างโปร่งยิ้ม แลดูขบขันกับปฏิกิริยาของมีนาเสียเต็มประดา “ลองเอาไปคิดดูนะ”
ร่างเล็กก้มหน้านิ่ง คำพูดของธัชนนท์ดังสะท้อนอยู่ในหัว และที่มีนาไม่อยากจะเชื่อ คือเขารู้ว่าตัวเองกำลังบ้าจี้พิจารณาคำ
พูดของอีกฝ่ายขึ้นมาจริงๆ



เขาบอกแล้ว ผู้ชายตรงหน้าของเขานี่โน้มน้าวใจคนฟังเก่งชะมัด

หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 36 กามเทพ [11-8-62] คห.667
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 11-08-2019 14:43:18
น้องมีนสู้ๆ ลูก มั่นใจในตัวเองหน่อย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 36 กามเทพ [11-8-62] คห.667
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 11-08-2019 18:39:10
สู้ๆ หนูมีน  :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 36 กามเทพ [11-8-62] คห.667
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-08-2019 22:09:52
บอกเลย ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :ped149:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 36 กามเทพ [11-8-62] คห.667
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 11-08-2019 22:24:06
น้องมีนนนนน จะไปตีคุณเชษฐ์แล้ว!!!
 :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 36 กามเทพ [11-8-62] คห.667
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 12-08-2019 02:24:50
บอกไปเลยค่ะลูก เผื่อคนแก่หายบ้า
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 36 กามเทพ [11-8-62] คห.667
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-08-2019 10:28:40
รอๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 36 กามเทพ [11-8-62] คห.667
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 12-08-2019 11:04:57
มีนลองทำตามที่เทสต์บอกก็ดีนะ คนแก่จะได้หายโมโหหึงบ้าง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 36 กามเทพ [11-8-62] คห.667
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 12-08-2019 13:51:15
น้องมีนต้องสู้นะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 36 กามเทพ [11-8-62] คห.667
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 12-08-2019 14:16:40
       สู้ๆนะมีนา :mew1:
ค่าของคนอยู่ที่เราเลือก อย่าคิดติดลบกับตัวเอง :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 36 กามเทพ [11-8-62] คห.667
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 13-08-2019 03:01:59
บอกเลยๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 36 กามเทพ [11-8-62] คห.667
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 14-08-2019 08:00:28
มีนหนูสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 36 กามเทพ [11-8-62] คห.667
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 17-08-2019 15:42:36
Chapter 37: แสดงความเป็นเจ้าของ




“มา พี่ถ่ายรูปให้” ธัชนนท์เอ่ยขึ้นหลังจากที่พวกเขามาถึงจุดท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ รูปปั้นเมอร์ไลอ้อนที่กำลังพ่นน้ำออกมาจากปากตัวเองอย่างพอดิบพอดี เด็กหนุ่มที่กำลังตื่นตาตื่นใจกับการได้เห็นของจริงในระยะใกล้หันไปปฏิเสธร่างสูงอย่างเกรงใจ



“ไม่เป็นไรครับ...”



“น่า มาต่างประเทศครั้งแรกทั้งที ถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึกหน่อยสิ” ธัชชนนท์ดึงมือถือสมาร์ทโฟนยี่ห้อยอดฮิตติดตลาดออกมาจากมือเด็กหนุ่ม ชี้ให้อีกฝ่ายไปยืนหน้าเมอร์ไลอ้อนพร้อมกับยกมือถือขึ้นเตรียมถ่ายรูป เมื่อเห็นมีนายังคงละล้าละหลังจึง
เอ่ยขู่ด้วยชื่อของคนที่เขารู้ว่าจะทำให้มีนากลัวที่สุด “เก็บไว้ให้คุณเชษฐ์เป็นหลักฐานไง เดี๋ยวเขาหาว่าเธอไม่ยอมมาเที่ยวก็โดนดุหรอก”



ได้ผลทันตา เด็กหนุ่มรีบยิ้มให้กล้องทันที แม้จะเป็นรอยยิ้มที่ประหม่าเขินอายก็ตาม



จริงอยู่ที่มีนาไม่คิดว่าธีรเชษฐ์จะสนใจว่าเขาทำอะไรในเวลาว่าง ไม่ต้องพูดถึงการไล่เช็ครูปภาพว่าเขาได้ไปเที่ยวจริงหรือไม่ แต่การมีหลักฐานยืนยันที่อยู่มักเป็นเรื่องดีกว่าเสมอ



ทั้งสองเดินเที่ยวไปเรื่อยเปื่อย แม้ว่าธัชนนท์จะเสนอตัวพามีนาไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวอื่นที่อยู่ห่างออกไป แต่เด็กหนุ่มปฏิเสธอย่างสุภาพโดยให้เหตุผลว่าอยากจะรีบกลับโรงแรมให้ทันก่อนที่ธีรเชษฐ์จะประชุมเสร็จ



ถึงแม้ว่าเหตุผลที่แท้จริงของมีนานั้น จะเป็นเพียงความคิดเด็กๆที่ว่าเขาอยากจะเห็นที่อื่นๆเป็นครั้งแรกพร้อมกับคนที่กำลัง
ติดอยู่ในห้องประชุมตอนนี้ก็ตาม



ธัชนนท์เลี้ยวเข้าไปในร้านขายอาหารว่างที่มีแซนด์วิชทำเสร็จวางเรียงรายอยู่ในตู้กระจก ชายหนุ่มมักจะทำแบบนี้ระหว่างทริปเล็กๆของพวกเขา ซื้อของกินมาแบ่งมีนาที่แทบจะไม่ยอมซื้ออะไรตลอดการเดินทางโดยใช้ข้ออ้างเดิมๆที่รู้ว่ามีนาไม่มีทางปฏิเสธ



“มีน พี่กินไม่หมด ช่วยพี่กินหน่อยได้มั้ย”



ร่างเล็กก้มลงทานแซนวิชอีกครึ่งที่ร่างโปร่งแบ่งให้แต่โดยดี ยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างขอบคุณ



“จริงสิ มีนเมมเบอร์พี่ไว้แล้วกัน เผื่ออยู่ที่ไทยมีปัญหาอะไรก็โทรหาพี่ได้นะ” ธัชนนท์เสนอ ร่างบางก้มมองโทรศัพท์มือถือในมือของตัวเองด้วยสีหน้าลำบากใจ



“ผมทำไม่เป็นน่ะครับ”



“อ่า งั้นเหรอ มาๆเดี๋ยวพี่สอนให้” อีกฝ่ายขยับเข้ามาใกล้ โน้มตัวเข้ามาสอนเมื่อเห็นว่ามีนายังคงไม่เข้าใจวิธีการทำงานของเครื่องมือสื่อสารในมือของตัวเอง ธีรเชษฐ์ซื้อโทรศัพท์เครื่องนี้ให้เขา แต่มีนาไม่มีความกล้ามากพอที่จะบอกร่างสูงว่าโทรศัพท์แบบเดียวที่เขาเคยใช้คือโทรศัพท์สาธารณะ ร่างเล็กต้องใช้วิธีการแอบดูทินกรกับพายุใช้โทรศัพท์ของตัวเองแล้วอ่านคู่มือที่มากับมือถือซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเขามากนัก



“เรียบร้อย อ๊ะ สองคนนั้นประชุมเสร็จแล้ว เรากลับกันดีกว่า” ธัชนนท์ว่าเมื่อเห็นข้อความเด้งขึ้นมาในโทรศัพท์ตัวเอง มีนาพยักหน้า รู้ดีว่าตัวเองมีรอยยิ้มกว้างอยู่บนหน้าแต่ไม่คิดจะปิดบังคนที่ดีกับเขามาตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อธัชนนท์มีรอยยิ้มแบบเดียวกับเขาประดับอยู่บนริมฝีปากแบบนี้










“สนุกกันใหญ่เลย”




วีรภัทรเอ่ยเสียงกลัวหัวเราะขณะก้มลงอ่านข้อความที่คนรักส่งมาในช่วงพักเบรกก่อนเข้าช่วงสุดท้ายของการประชุม ยื่นมือถือของตัวเองให้ธีรเชษฐ์ดูภาพของมีนาที่งับคัพเค้กสีหวานคำโตจนแก้้มป่อง ปลายจมูกมีครีมฟรอสติ้งสีชมพูหวานติดอยู่เช่นเดียวกับแก้มใสชวนให้คนมองอยากจะใช้นิ้วปาดครีมที่เลอะอยู่ออกแล้วส่งเข้าปากของตัวเอง ตบท้ายด้วยการดึงคนตัวเล็กเข้ามาชิมความหวานของขนมเค้กที่อีกฝ่ายกินเข้าไป



ธีรเชษฐ์เหลือบมองโทรศัพท์ของตัวเองที่ปิดโหมดห้ามรบกวนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทว่ายังคงไม่มีข้อความจากคนในรูปถ่ายเมื่อครู่ส่งมาหาตัวเอง



“ไปดูรูปปั้นกันมาเหรอ...กินอีกแล้ว? สรุปนี่เทสต์ลากเด็กมึงไปช่วยแบ่งเบาความอ้วนในทริปกินใช่มั้ยเนี่ย?” วีรภัทรยิ้ม มือพิมพ์ตอบคนรักอย่างไม่หยุดพัก แววตาของเพื่อนสนิทยามที่คุยกับคนรักผ่านทางข้อความนั้นเป็นสิ่งที่ธีรเชษฐ์ไม่เคยเห็นมาก่อนในช่วงเวลายี่สิบกว่าปีที่เป็นเพื่อนกันมา วีรภัทรในตอนนี้เหมือนมีแสงสว่างแผ่ออกมาจากทุกอณูของร่างกาย ใบหน้าคมเข้มตามประสาชายไทยฉาบไล้ไปด้วยความสุขเปี่ยมล้นชนิดที่ใครมองก็ต้องรู้สึกอิจฉา



ธีรเชษฐ์ก้มมองโทรศัพท์ของตัวเองอีกครั้ง ยังคงไม่มีข้อความจากมีนา


“เทสต์บอกกำลังพามีนกลับมา น่าจะถึงตอนเราประชุมเสร็จพอดี” วีนภัทรหันไปบอกเพื่อนสนิท ชาหนุ่มชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนอายุมากกว่าพยักหน้าด้วยสีหน้าเหมือนไปโกรธใครมาชาติเศษ “เฮ้ยเชษฐ์ เป็นไรวะ?”
“เปล่า” ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ดวงตาสีควันบุหรี่ยังคงจับจ้องอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองไม่วางตา วีรภัทรเลิกคิ้ว ไม่เคยเห็นมุมนี้ของเพื่อน



“อะไร? มึงงอนเด็กเหรอ?”



“งอนเชี่ยไรล่ะ เด็กนั่นต่างหากที่งอนกู” ธีรเชษฐ์เถียงเสียงห้วน “เป็นอะไรไม่รู้มาตั้งแต่เช้าแล้ว กูบอกให้ใส่เสื้อหนาวก็ไม่ยอมใส่ ตัวเองขี้หนาวจนตัวสั่นงกๆก็ยังดื้อ พอกูบอกให้ใส่เสื้อก็ทำเหมือนกูไปบังคับฝืนใจอะไรตัวเอง”



“เขาใส่ไม่สบายรึเปล่า”



“เหอะ เสื้อหนาวแคชเมียร์ตัวที่หมอกซื้อให้กูน่ะนะจะใส่ไม่สบาย” ร่างสูงกอดอก เสื้อตัวนั้นนับว่าเป็นตัวที่เป็นผู้เป็นคนที่สุดของเขาแล้ว เพราะเสื้อตัวอื่นที่ธีรเชษฐ์ซื้อเองนั้นร่างสูงไม่ใช่คนใส่ใจกับรายละเอียดของสินค้ามากพอที่จะดูอะไรนอกจากว่ามันอุ่นพอหรือไม่



“ของรักของหวงมึงอ่ะนะ? ไรวะ ทีกูยืมมึงไม่ให้ใช้” วีรภัทรโวย มีที่ไหนยอมให้เด็กในสังกัดยืมของแต่หวงกับเพื่อนฝูง
แต่แววตาของธีรเชษฐ์กลับทำให้คนที่กำลังโวยวายเริ่มฉุกคิด...หรือว่าเด็กคนนั้นจะเป็นมากกว่านั้น?
ชิ้นส่วนของปริศนาค่อยๆประกอบตัวเองเป็นรูปเป็นร่างในหัวของวีรภัทร ชายหนุ่มถามเพื่อนของตัวเองที่ยังคงหน้านิ่วคิ้วขมวดจ้องโทรศัพท์ไม่วางตา นึกอยากพิสูจน์สมมติฐานที่มีในตอนนี้ขึ้นมา



“เชษฐ์...มึงได้บอกเขารึเปล่าว่าเลขามึงเป็นคนซื้อเสื้อตัวนั้นให้”



“บอก แล้วไง?” ธีรเชษฐ์ตอบตามความจริง นึกสงสัยว่าเรื่องนั้นมาเกี่ยวอะไรกับสิ่งที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่เมื่อครู่
วีรภัทรเกาศีรษะแกรกๆอย่างเหนื่อยใจกับความซื่อบื้อของเพื่อนสนิท บางทีเขาก็รู้สึกว่าที่เขา ธีรเชษฐ์ และคเชนทร์สนิทกันมาได้จนอายุปูนนี้เป็นเพราะความซื่อบื้อด้านอารมณ์ความรู้สึกที่ยึดเหนี่ยวพวกเขาไว้ด้วยกัน



แน่นอน หากเทียบจากเรื่องนั้น วีรภัทรในตอนนี้น่าจะเป็นคนที่ดูเป็นผู้เป็นคนที่สุดในบรรดาเพื่อนทั้งสาม เพราะคุณหมอคเชนทร์ของพวกเขานั้นดูไม่มีวี่แววจะได้ลงจากหิ้งบูชาเสียที



วีรภัทรมักจะแซวอาจารย์หมอรูปหล่ออยู่หลายครั้งว่าไม่มีคนไข้มาขายขนมจีบบ้างเลยหรือ แต่แววตาเย็นเยียบภายใต้กรอบ
แว่นของคเชนทร์นั้นดูจะเป็นคำตอบในตัวของมันเองได้เป็นอย่างดี



“มึงบอกเด็กน้อยของมึงว่าเสื้อตัวนั้น เป็นเสื้อที่มึงได้มาเป็นของขวัญจากเลขาที่มึงชื่นชมบูชาทะนุถนอมอย่างกับไข่ในหิน แถมยังเป็นคนที่มีข่าวลือว่าเป็นสนมเอกในฮาเร็มของมึงมาไม่รู้กี่ปี แถมยังบังคับให้เขาใส่ของที่เป็นเหมือนเครื่องแทนใจ
ของมึงกับเลขาคนสวย...แต่มึงไม่รู้ว่าเขางอนอะไรมึงเนี่ยนะ?”



“….”



วีรภัทรไม่รอช้า ยกโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นมาถ่ายรูปเพื่อนสนิทที่มีสีหน้าเหมือนกวางเดินตัดหน้ารถสิบล้อเก็บไว้เป็นภาพประทับใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงขบขัน



“มึงก็ไปคิดดูเอาแล้วกัน ป่ะ รีบๆประชุมให้เสร็จ กูคิดถึงอีหนูของกูจะแย่อยู่แล้ว” วีรภัทรตบบ่าเพื่อนสนิทก่อนจะลุกจากม้านั่งกลับเข้าไปในห้องประชุม



คิดว่าหลังจากนั้นมีเนื้อหาการประชุมผ่านเข้าหูของธีรเชษฐ์บ้างมั้ย?










“ประชุมเหนื่อยมั้ยครับ”



ทันทีที่พวกเขาก้าวออกมาจากลิฟต์ คนรักของวีรภัทรที่นั่งรออยู่กับมีนาแทบจะกระโจนใส่เพื่อนสนิท  วีรภัทรโอบเอวอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ ส่วนธัชนนท์ก็ยกแขนขึ้นโอบรอบคอของคนรักพร้อมรอยยิ้ม ได้รับรางวัลเป็นหอมฟอดใหญ่จากวีรภัทร
ในขณะที่มีนาเพียงแค่ลุกจากที่นั่งแล้วยืนนิ่งอยู่หลังคนทั้งคู่ ไม่มีวี่แววจะเดินเข้ามาหาธีรเชษฐ์ด้วยตัวเอง



“แค่เห็นหน้าเธอก็หายเหนื่อยแล้ว” วีรภัทรป้อ ร่างโปร่งทุบไหล่คนรักอย่างเขินอายด้วยแรงไม่เบานักจนชายหนุ่มถึงกับกุมไหล่ร้องโอดโอย ธีรเชษฐ์ส่ายหน้าด้วยความรู้สึกสมเพชเวทนา หันไปหาเด็กน้อยของตัวเองที่ในที่สุดก็ยอมเดินมาหาเขา ในมือมีขวดน้ำแร่เย็นขวดหนึ่ง มีนารู้ว่าเขามักจะรู้สึกเจ็บคอทุกครั้งหลังการประชุม และมักจะเตรียมน้ำดื่มและน้ำผึ้งมะนาวอุ่นๆไว้ให้เขาเสมอหลังจากกลับมาถึงคอนโด แต่แปลกที่แบบนี้คงจะไปหาส่วนผสมมาชงน้ำผึ้งมะนาวเองก็คงยากอยู่



“น้ำครับคุณเชษฐ์”  มีนายื่นขวดน้ำพร้อมหลอดให้กับเขา ธีรเชษฐ์สังเกตว่าอีกฝ่ายยังคงใส่ชุดกันหนาวที่เขาให้ แม้ว่ารอยยับเป็นเส้นตรงที่บ่งบอกถึงการถูกพับเก็บใส่กระเป๋าและภาพถ่ายของมีนาในร้านเค้กที่ไม่มีชุดตัวที่ว่าอยู่จะทำให้ธีรเชษฐ์รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใส่ชุดนี้เลยตลอดทั้งวันก็ตาม



หากเป็นเมื่อเช้า ธีรเชษฐ์คงจะดุอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วงว่าคนตัวเล็กจะล้มป่วยกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่หลังจากคุยกับเพื่อนสนิทเมื่อครู่ ประกอบกับท่าทีอึดอัดอย่างเห็นได้ชัดของมีนาทำให้เขาเริ่มจะพิจารณาคำพูดของวีรภัทรอย่างเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา…



บ้าน่า นี่คือมีนานะ! เด็กนี่รู้จักทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของใครเป็นเสียที่ไหนกัน ไม่ต้องพูดถึงการหึงหวงอย่างที่วีรภัทรว่าเลย
แต่ถึงอย่างนั้น ส่วนลึกในจิตใจของธีรเชษฐ์กลับอดยืดอกเล็กๆอย่างภูมิใจไม่ได้ที่เขาเป็นสิ่งของสิ่งแรกที่มีนาเรียนรู้ที่จะหวง
ดูท่าเขาจะเป็นเอามากแล้วจริงๆ



“ป้อน” เสียงทุ้มสั่งห้วนสั้น กลบเกลื่อนความเขินอายที่ผู้ชายวัยสี่สิบสองตัวเท่าตึกไม่ควรรู้สึก โดยเฉพาะกับเด็กน้อยตาใสตรงหน้า



มีนก้มลงบิดเปิดฝาขวดน้ำแล้วเสียบหลอดลงไปอย่างว่าง่าย ด้วยความสูงที่ต่างกันจนน่ากลัว เด็กหนุ่มต้องยกขวดขึ้นเกือบสุดแขนเพื่อให้ร่างสูงดูดน้ำ ซึ่งธีรเชษฐ์ก็ไม่ได้คิดจะช่วยก้มลงมาอำนวยความสะดวกให้อีกฝ่ายแม้แต่น้อย



เพราะเขาชอบสีหน้าตั้งอกตั้งใจของคนที่พยายามทำตามคำสั่งไร้สาระของเขาอย่างไม่เกี่ยงงอนมากที่สุด



ก็บอกแล้วว่าถ้าหากเป็นเรื่องของมีนา ชายหนุ่มรู้ว่าตัวเองนั้นเป็นเอามากจริงๆ




ธีรเชษฐ์ไม่ได้สนใจว่าเพื่อนสนิทกับคนรักหายหัวไปตอนไหน สิ่งเดียวที่เขาสนใจ คือเด็กหนุ่มร่างเล็กที่เมื่อเขาดื่มน้ำเสร็จก็ก้มหน้างุดมองพื้นนิ่งราวกับว่าฝุ่นละอองบนพื้นนั้นน่าสนใจกว่าเขานักหนา



“ตามมา”



“เอ๊ะ? เราจะไปไหนกันเหรอครับคุณเชษฐ์?”



ขาสั้นๆก้าวตามเขามาเมื่อเห็นว่าธีรเชษฐ์ไม่คิดจะตอบ ร่างสูงกดลิฟท์แล้วใช้มือขวางประตูลิฟท์ไว้ให้เด็กหนุ่มตามเข้ามา มีนาเหลือบมองใบหน้าคมเข้มไม่บ่งบอกอารมณ์เป็นระยะ พยายามจะคาดคะเนความคิดของเจ้าชีวิต แต่ธีรเชษฐ์เพียงแค่กดชั้นที่เป็นส่วนของห้างสรรพสินค้าแล้วก้าวนำร่างเล็กออกไป



ร้านเแล้วร้านเล่า ชายหนุ่มพาเขาเดินเข้าออกร้านเสื้อผ้าติดแบรนด์ราคาสูง เลือกดูเสื้อผ้าแต่ละตัวอย่างตั้งใจ เหลือบมองมีนาเป็นระยะก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินต่อไป เด็กหนุ่มเดินตามอีกฝ่ายเงียบๆ จนกระทั่งธีรเชษฐ์มาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่พนักงานทุกคนในร้านแต่งตัวดีกว่าลูกค้าที่เดินผ่านไปมาเสียอีก ดวงตาคมจดจ้องอยู่กับหุ่นโชว์หน้าร้านที่สวมเสื้อคลุมตัวยาวสีน้ำตาลเรียบเข้ารูปบริเวณเอวที่ใครมองมาก็รู้ว่าเป็นของมีราคา มีนาพิจารณาเสื้อคลุมตัวนั้นเช่นเดียวกับร่างสูง นึกชอบสไตล์การตัดเย็บของชุดที่เก็บเนียนเรียบราวกับออกมาจากแม่พิมพ์แบบนั้น



“สวยมั้ย?” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิด มีนาสะดุ้งเล็กน้อยที่จู่ๆอีกฝ่ายก็ตัดสินใจหันมาพูดกับเขา เด็กหนุ่มพยักหน้า นึกสงสัยว่าใครกันที่ธีรเชษฐ์ดั้นด้นตามหาเสื้อผ้าให้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแบบนี้



ก็คงไม่พ้นเลขาคนสำคัญของอีกฝ่ายนั่นล่ะนะ



“ครับ สวยมาก”



ธีรเชษฐ์ก้าวไปยังประตูกระจกบานเขื่องที่พนักงานในชุดสูทเปิดให้ร่างสูงทันทีด้วยท่วงท่านอบน้อม มีนาเดินตามชายหนุ่มเข้าไป รู้สึกเกร็งกับบรรยากาศที่แตกต่างจากภายนอกอย่างเห็นได้ชัด



ธีรเชษฐ์ก้าวเข้าไปหาพนักงานสาวที่ยืนอยู่หลังเคาท์เตอร์ พูดอะไรสักอย่างกับอีกฝ่ายแล้วชี้มายังมีนา เด็กหนุ่มเอียงคอ ก้าวตามไปยืนร่างสูงด้วยสีหน้างุนงง



“ถอดนี่ออกก่อน” ธีรเชษฐ์ดึงเบาๆที่เสื้อคลุมตัวหลวมโพรกที่มีนาใส่อยู่ ก่อนจะรับชุดตัวลองที่พนักงานสาวนำมาให้สวมแทนที่



“เอ๊ะ?” เด็กหนุ่มกระพริบตา ยังคงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น



“ชอบมั้ย?” มือใหญ่คว้าข้อมือของคนที่กำลังจะตบไปตามตัวหาป้ายราคา “มีน ฉันถามว่าเธอชอบมั้ย?”
มีนาเงยหน้ามองคนพูด ดวงตาคมจ้องตรงมาที่เขา คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างรอคอยคำตอบ



“ชะ…ชอบครับ” มีนาตอบไม่เต็มเสียง



จริงอยู่ที่เขาชอบเสื้อตัวนี้ ทั้งสไตล์การตัดเย็บ ความเรียบลืนสบายผิวของเนื้อผ้าและวิธีที่เสื้อคลุมตัวนี้โอบกอดรูปร่างของเขาอย่างพอดิบพอดีราวกับสั่งตัด แต่เขาก็รู้เช่นกันว่าราคาของสินค้ามาใหม่ในร้านระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขายินดีจะได้รับ



“ดี…เพราะฉันเลือกให้เธอ” ธีรเชษฐ์หันไปส่งบัตรเครดิตของตัวเองให้พนักงานสาว มีนาจ้องอีกฝ่ายด้วยสีหน้าสับสน



“ผมไม่เข้าใจ…”




“เสื้อตัวนี้ฉันตั้งใจเลือกให้เธอ มันเป็นของของเธอแค่คนเดียว” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ ลูบศีรษะของเด็กน้อยของตนเบาๆ “รักษามันไว้ให้ดีๆล่ะ”



ดวงหน้าขาวสว่างไสวขึ้นกับคำพูดนั้น ธีรเชษฐ์ไม่รู้ว่ามีนาเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อมากน้อยแค่ไหน แต่รอยยิ้มเปี่ยมสุขเมื่อร่างเล็กก้มมองเสื้อคลุมตัวใหม่ของตัวเองทำให้ธีรเชษฐ์รู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์



ดวงตากลมโตเหลือบมองบางสิ่งที่เคาท์เตอร์โชว์สินค้าไม่ไกล ก่อนจะหันไปหาธีรเชษฐ์ด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ



“ข้อตกลงของเรา…ยังมีอยู่มั้ยครับ?”



ทีแรก ร่างสูงเข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายความถึงข้อตกลงของพวกเขาที่ใกล้จะถึงกำหนดวาระตัดสินใจในไม่ช้า แต่เมื่อเห็นคนตัวเล็กเล่นกับบัตรเครดิตสีดำในมืออย่างประหม่า ธีรเชษฐ์ถึงได้เขัาใจ


“อยู่ ทำไม?มีของที่อยากได้เหรอ?”



ธีรเชษฐ์ยอมรับว่าเขาประหลาดใจกับคำถาม ร่างสูงให้บัตรเครดิตกับอีกฝ่ายเพราะอยากให้มีนาได้ซื้อของที่อยากได้ แต่เขาที่รู้นิสัยของอีกฝ่ายดีก็คาดการณ์ไว้แล้วเช่นกันว่ามีนาจะไม่ยอมใช้มันซื้ออะไร



“ครับ…”



มีนาหันไปมองตู้โชว์นั้นอีกครั้ง ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วเมื่อเห็นเข็มขัดหนังสีดำเรียบวางเรียงราย หัวเข็มขัดเป็นโลโก้ของแบรนด์ในรูปแบบต่างๆให้ลูกค้าเลือกสรร



“ก็ไม่ได้จะว่าอะไรหรอกนะ” ชายหนุ่มเปรย “แต่ฉันไม่คิดเลยนะว่าเธอจะชอบใช้อะไรแบบนี้”



“…ต่างหากครับ”



“หืม?” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ก้มลงเงี่ยหูฟังคนที่พึมพำไม่ได้ศัพท์ใต้ลมหายใจ



“ผมอยากซื้อให้คุณเชษฐ์ต่างหากครับ” มีนาเอ่ยซ้ำด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ดังเพิ่มขึ้นมากนัก แต่ก็มากพอที่ธีรเชษฐ์จะได้ยิน
อย่างชัดเจน



ร่างสูงยิ้มมุมปาก นิ้วเรียวยาวเชยคางมนขึ้นในสบกับดวงตาสีควันบุหรี่ฉายแววขบขัน



“ไม่คิดเลยนะว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้”



“…” มีนาหน้าเสียกับคำพูดของอีกฝ่าย ความกล้าที่รวบรวมได้เมื่อครู่สลายหายไปกับตา



“ฉันอุตส่าห์ให้อิสระเธอซื้อของที่อยากได้” ธีรเชษฐ์แสร้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงผิดหวัง “แต่เธอดันเอาเงินของฉันไปซื้อของให้ผู้ชายเนี่ยนะ”



คนโดนแกล้งทำหน้ามุ่ย อยากจะเถียงว่าผู้ชายคนที่เขาอยากซื้อให้ก็คนเดียวกับผู้ชายที่ให้เงินเขา แต่บางอย่างในแววตาของธีรษฐ์ทำให้คำพูดของเด็กหนุ่มออกมาเป็นเสียงตะกุกตะกักด้วยความเขินอาย



“มะ…ไม่เอาก็ได้ครับ…”



“อะไรกัน ฉันเสียใจนะ” คนพูดไม่ได้มีสีหน้าเสียใจสักนิด ตรงกันข้าม ธีรเชษฐ์ดูสนุกสนานเสียด้วยซ้ำกับการได้แกล้งเด็กน้อยตรงหน้า “ไม่อยากเลือกเข็มขัดให้ผู้ชายของเธอเหรอมีน”



“คุณเชษฐ์ใจร้าย...” คนที่โดนแกล้งจนหน้าแดงก่ำน้ำตาคลอหน่วยด้วยความอับอายตัดพ้อ



“ฉันใจร้ายตรงไหน...”คนขี้แกล้งยังคงลอยหน้าลอยตา “เธอไม่ใช่เหรอที่บอกว่าจะซื้อของให้ฉันแล้วเปลี่ยนใจน่ะ”
มีนาตัดสินใจเลิกต่อล้อต่อเถียงกับคนแก่ใจร้ายแล้วหันไปสนใจการเลือกเข็มขัดหน้ามุ่ย ไม่ได้รู้เลยว่าสีหน้าที่ตัวเองทำอยู่นั้นถูกใจคนมองมากแค่ไหน



ธีรเชษฐ์ลอบยิ้มกับตัวเอง แม้เขาอยากจะให้มีนาเอาแต่ใจตัวเองมากกว่านี้ เชื่อใจเขามากพอที่จะดื้อกับเขามากกว่านี้ แต่แค่นี้ก็คุ้มค่ากับการมาถึงที่นี่แล้ว



“เส้นนี้สวยดีนะครับ” มีนาเอ่ยขึ้นในที่สุด ชี้ไปที่เข็มขัดที่ดำเรียบที่มีสัญลักษณ์ตัวอักษรย่อของแบรนด์ไขว้กันสีเงินวาว ธีรเชษฐ์พยักหน้า หันไปบอกพนักงานที่ยืนรอว่าจะเอาเข็มขัดเส้นนั้น ไม่นานนักหญิงสาวก็กลับมาพร้อมกับถุงกระดาษบรรจุกล่องใส่สินค้า ธีรเชษฐ์ยื่นมือไปรับพร้อมรอยยิ้มขอบคุณ ทั้งสองก้าวออกมาจากร้านได้ไม่นานนักเมื่อธีรเชษฐ์เอ่ยขึ้น



“ขอบใจนะ”


“ครับ?”



มีนาหยุดอยู่กับที่ หันขวับกลับไปหาคนพูดอย่างไม่มั่นใจว่าตนได้ยินถูกต้องหรือไม่ ธีรเชษฐ์มองถุงกระดาษประทับตราในมือ ก่อนจะเสริมพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์



“ฉันรอไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นมันรอบข้อมือเธอ”



“เอ๊ะ…”



มีนาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อความหมายของสิ่งที่อีกฝ่ายพูดกระจ่างแจ้งในหัว เด็กหนุ่มหมุนตัวก้าวหนีคนขายาวโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะไม่รู้ทาง ไม่แม้แต่จะหยุดตกใจกับร่างสูงที่หัวเราะออกมาเสียงดังกับท่าทีของเขาโดยไม่สนใจคนที่เดินผ่านไปมาซึ่งเหลียวกลับมามองตามเสียงอย่างตกใจ



------------

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 37 แสดงความเป็นเจ้าของ [17-8-62] คห.679
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 17-08-2019 15:54:16
ดีใจกับหนูมีนา :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 37 แสดงความเป็นเจ้าของ [17-8-62] คห.679
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 17-08-2019 16:01:05
คุณเชษฐ์หื่นมากไปไม๋เนี่ย นี่ในห้างนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 37 แสดงความเป็นเจ้าของ [17-8-62] คห.679
เริ่มหัวข้อโดย: Hoya ที่ 17-08-2019 17:39:27
 :oo1: :oo1: หนูมีน.... หนีปายยยยย 5555555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 37 แสดงความเป็นเจ้าของ [17-8-62] คห.679
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 17-08-2019 17:50:52
เป็นเอามากจริงๆคุณเชษฐ์  :hao3:
ดีนะที่มีเพื่อนมาด้วยไม่งั้นก็ยังไม่รู้ว่าน้องเป็นอะไร 555555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 37 แสดงความเป็นเจ้าของ [17-8-62] คห.679
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 17-08-2019 20:57:15
เป็นตาลุงเจ้าเล่ห์แล้วนะคุณเชษฐ์
แต่น้องเริ่มมีการพัฒนาบ้างแล้ว สู้ๆ น้องมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 37 แสดงความเป็นเจ้าของ [17-8-62] คห.679
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 17-08-2019 21:38:31
ฮืออออ คุณเชษฐ์ใจดีอีกเยอะๆๆๆขอร้อง แล้วน้องมีนหนูอย่าคิดเองเออเองสิลูก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 37 แสดงความเป็นเจ้าของ [17-8-62] คห.679
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-08-2019 23:15:13
หนูมีนมีแววจะโดนแล้ว กลับถึงห้องแล้วรายงานผลให้รู้ด้วยนะ อยากรู้ ๆ  o18
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 37 แสดงความเป็นเจ้าของ [17-8-62] คห.679
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 18-08-2019 08:27:41
แหมม ถ้าไม่ได้เพื่อนช่วยบอกจะได้ลัลล้าขนาดนี้ไหมลุง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 37 แสดงความเป็นเจ้าของ [17-8-62] คห.679
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 18-08-2019 09:30:39
ตาลุงซื่อบื้อ ไม่มีเพื่อนช่วยก็คงไม่รู้อะไรสินะ
หนูมีนน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกก เพิ่งรู้ว่าอัพในเล้าด้วยย อ่านอีกเว็บตลอดเลยยย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 37 แสดงความเป็นเจ้าของ [17-8-62] คห.679
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-08-2019 20:08:57
นี่ถ้าวีรภัทร ไม่พูดเรื่องเสื้อคลุม    :hao3:
คุณเชษฐ์คงนึกไม่ออก เอาแต่ดุมีนอย่างเดียว  :serius2:
มีนก็ เจียมตัว คิดมาก คิดเองเออเองอยู่คนเดียว  :เฮ้อ:
ดูท่าอีกนานกว่าจะสวีทหวานแหววแบบคู่ของวีรภัทร  :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 37 แสดงความเป็นเจ้าของ [17-8-62] คห.679
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 18-08-2019 23:40:55
คุณเชษฐ์ดูเป็นตาลุงหื่นกามเลย 5555 แถมขี้อิจฉาซะด้วย เห็นเพื่อนมีคนรักส่งรูปให้รู้สถานการณ์ตลอดเวลา แต่ของตัวเองเงียบก็จ้องใหญ่เลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 37 แสดงความเป็นเจ้าของ [17-8-62] คห.679
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-08-2019 09:33:08
รอๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 37 แสดงความเป็นเจ้าของ [17-8-62] คห.679
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 19-08-2019 21:21:51
อื้อหือ!!!!คุณเชษฐ์
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 37 แสดงความเป็นเจ้าของ [17-8-62] คห.679
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 23-08-2019 22:03:05
Chapter 38:เสียแผน



มีนาไม่รู้ว่าพวกเขาจะออกไปไหนกันในวันนี้ เด็กหนุ่มรู้แค่ว่าธีรเชษฐ์ปลุกเขามาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ร่างเล็กที่แต่งตัวในชุดเสื้อยืดกางเกงขายาวสบายๆนั่งขยี้ตาป้อยๆอยู่บนเตียงนุ่มเมื่อร่างสูงก้าวออกมาจากห้องน้ำในชุดลำลองที่มีนาไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก เสื้อยืดเข้ารูปอวดกล้ามแน่นพอเป็นพิธีถูกสวมทับด้วยเสื้อตัวนอกสีเข้มเข้ากับกางเกงยีนส์ขายาว เส้นผมที่มักจะหวีเป็นทรงถูกปล่อยให้ลู่ลงตามแรงโน้มถ่วงทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มดูอ่อนเยาว์ลงมาก ดูไปแล้วแอบ
คล้ายคลึงกับลูกชายคนโตของตัวเองอยู่พอสมควร


แต่คุณเชษฐ์ก็หล่อกว่าอยู่ดีนั่นแหละ



มีนาเถียงในใจเงียบๆ ก่อนจะฉุกคิดได้และนึกอยากเขกหัวตัวเองแรงๆ ไม่รู้ว่าเขาจะเถียงกับตัวเองเรื่องความหล่อของคนตรงหน้าทำไม



“เดินไหวมั้ย? หรือจะให้ฉันอุ้ม?” ธีเรชษฐ์ถามคนที่กลายเป็นคนขี้เซาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ด้วยรอยยิ้มขบขัน


“เราจะไปไหนกันเหรอครับ?” มีนาถาม ลุกขึ้นจากเตียงแล้วคว้ากระเป๋าเป้ของตัวเองมาสะพาย


“ถ้าบอกก็ไม่สนุกน่ะสิ” ธีรเชษฐ์บ่ายเบี่ยง เอื้อมมือไปจับมือเล็กไว้แล้วดึงให้อีกฝ่ายเดินตามมา


มีนายังคงไม่รู้จุดหมายปลายทางในวันนี้แม้กระทั่งตอนที่พวกเขาอยู่ในรถที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ แม้กระทั่งตอนที่เขาสังเกตเห็นป้ายโฆษณาสวนสนุกขนาดยักษ์ที่เริ่มมีจำนวนถี่ขึ้นตลอดระยะทางที่ผ่านมา


จนกระทั่งป้ายสวนสนุกที่ว่าแทบจะกระแทกตาเขาอยู่แล้วนั่นแหละ มีนาถึงได้หันไปมองคนอายุมากกว่าด้วยแววตาประหลาดใจ ธีรเชษฐ์กอดอกเบือนหน้าหนี แก้ต่างให้ตัวเองอย่างเร่งรีบ



“ฉันเห็นมันใกล้ดี ขี้เกียจหาที่เที่ยวให้” เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่มีนารู้สึกว่าตัวเองอ่านอีกฝ่ายออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ท่าทีเมื่อครู่ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่เนียนเลยสักนิด “ทำไม ไม่ชอบรึไง?”



“ผมไม่รู้หรอกครับ” มีนาส่ายหน้า “ก็ผมไม่เคยมาที่แบบนี้นี่นา”



แม้ว่าธีรเชษฐ์ไม่ควรจะแปลกใจกับคำตอบนั้น แต่เขายังคงเหลือบมองคนตัวเล็กด้วยสายตาไม่อยากเชื่ออยู่ดี หลังจากยืนรอต่อแถวเข้าสวนสนุกไม่นานนัก พวกเขาก็ผ่านด่านตรวจบัตรมาอีกฟากของประตูในที่สุด มีนายืนอ้าปากค้างมองความใหญ่โตสุดลูกหูลุกตาของสวนสนุกที่เต็มไปด้วยสีสันสดใสและเสียงเพลงสนุกสนานอย่างตกตะลึง ธีรเชษฐ์คว้ามือของคนข้างกายไว้อีกครั้ง กลัวว่าคนที่มัวแต่ตื่นตกใจกับแสงสีเสียงรอบกายจะถูกฝูงชนกลืนหายไปเสียก่อน



ชายหนุ่มยอมรับว่าตัวเองรู้สึกมากกว่าเป็นกังวลในการพามีนามาสวนสนุกในครั้งจนี้ เขาจำได้ดีว่าครั้งก่อนที่เขาคิดจะพาอีกฝ่ายไปเที่ยวสวนสนุกนั้นเกิดอะไรขึ้น



แต่ไม่นานนัก หลังจากปรับตัวกับความสดใสของสีสันรอบกายได้สำเร็จ เด็กหนุ่มข้างกายก็เริ่มผ่อนคลายลงและโอนอ่อนตามบรรยากาศรอบกายมากขึ้นในที่สุด รอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าหวานสร้างความโล่งใจให้แก่คนที่ลุ้นจนตัวเกร็งได้เป็นอย่างมาก



ดวงตาสีควันบุหรี่เหลือบไปเห็นรถขายของที่ละรึกรูปตัวการ์ตูนจากภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องดังหลายสิบเรื่อง ธีรเชษฐ์ดึงให้เด็กหนุ่มที่ยังคงยืนยิ้มมองครอบครัวที่พาลูกเด็กเล็กแดงมาเที่ยวให้เดินตามมา มีนาที่ยังคงงุนงงว่าอีกฝ่ายดึงให้ตนไปไหนย่นคอกนีตามสัญชาตญาณเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็สวมที่คาดผมที่มีกระต่ายขนปุยสีขาวขนาดเกือบเท่าหัวของมีนาเกาะอยู่ลงมาบนหัวเสียอย่างนั้น


“อะ…อะไรครับเนี่ย”



“เหมาะกับเธอดีออก” คนที่หันไปจ่ายเงินยิ้มขำ จูงมือคนตัวเล็กให้ออกเดินต่อโดยไม่สนใจเสียงร้องประท้วงเบาๆของคนตัวเล็ก “อยากทำอะไรก่อน?”


“ผม…แล้วแต่คุณเชษฐ์ครับ” คนไม่เคยมาสวนสนุกตอบ เขาจะไปรู้ได้ยังไงว่ามีอะไรให้ทำบ้าง


“จะดีเหรอ?” คนถูกตามใจยิ้มอย่างนึกสนุก “เพราะถ้าแล้วแต่ฉัน…ไอ้ที่ฉันอยากทำคงไม่เหมาะกับสวนสนุกเท่าไหร่”



“คุณเชษฐ์!” เอาอีกแล้ว ทำไมช่วงนี้คนพูดน้อยถึงได้ชอบพูดจาแบบนี้ใส่เขานักนะ


“บอกแล้วไงให้เก็บไว้เรียกบนเตียง” คนขี้แกล้งเย้า ดึงให้เด็กหนุ่มเดินตามไปยังแถวรถไฟเหาะที่น่าจะยาวที่สุดในบรรดาเครื่องเล่นทั้งหมดอย่างกลัวว่าคนขี้อายจะเขินจนม้วนตัวหนีเขาไปเสียก่อน



“คะ…คุณเชษฐ์ครับ มันดูจะ…”


มีนากลืนน้ำลาย เงยหน้ามองเครื่องเล่นที่แล่นผ่านพวกเขาไปด้วยความเร็วแรงสูงพร้อมกับเสียงกรีดร้องดังลั่นเขย่าขวัญคน
ขี้กลัวของคนบนเครื่องเล่นด้วยสายตาหวาดหวั่น


“อยู่กับฉันจะกลัวอะไร?” 



ธีรเชษฐ์เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังที่ทำให้มีนารู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดถึงแค่เครื่องเล่น สีหน้าที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยขึ้นมาเพียงแค่ได้เห็น



ขอแค่มีคุณเชษฐ์อยู่ข้างๆ เขาก็ไม่กลัวอะไรแล้ว…


ความคิดที่วาบขึ้นมาในหัวถูกมีนาสะกดไว้อย่างรวดเร็ว หลายวันที่ผ่านมาต่อให้ตักเตือนตัวเองแค่ไหน แต่ทุกครั้งที่ได้เห็นแววตาอ่อนโยน ได้ยินน้ำเสียงนุ่มทุ้มที่เขาเฝ้าฝันจะได้ยินอีกฝ่ายใช้กับตัวเอง มีนาก็มักจะเผลอลำพองใจกับสิ่งที่ได้รับอยู่เสมอ


เขาควรจะกลัว…เขาควรจะกลัวให้มากๆ


มีนาขยับตัวเข้าใกล้ร่างสูงข้างกายอีกนิด ได้รับรางวัลเป็นท่อนแขนที่โอบรอบไหล่บางไว้อย่างมั่นคง



แต่ถ้าสวรรค์จะมีเมตตา เขาขอละทิ้งความกลัวนั้นไว้สักวันจะเป็นอะไรไหมนะ?







ธีรเชษฐ์รู้สึกผิดเล็กน้อยหลังจากก้าวลงมาจากเครื่องเล่นที่ขึ้นชื่อว่าน่าหวาดเสียวที่สุดในสวนสนุก แม้แต่ตัวเขาเองขนาดขึ้นมาไม่รู้กี่รอบยังแอบเดินเซตอนลุก ไม่อยากจะคิดเลยว่าคนตัวเล็กข้างกายจะตกใจขนาดไหน


คงจะไม่หมดสนุกไปก่อนหรอกนะ



ดวงตาคมเหลือบมองคนข้างกายที่เดินก้มหน้าไม่พูดไม่จาตั้งแต่ก้าวออกมาจากเครื่องเล่นเมื่อครู่ ไหล่บางสั่นระริก และนั่นทำให้คนที่กังวลอยู่แล้วแตกตื่นขึ้นไปอีก


“มีน เป็นอะไร…”


ร่างสูงถาม จังหวะเดียวกับที่มีนาเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตากลมโตเป็นประกายสุกใส


“ขอบคุณนะครับคุณเชษฐ์! ผมไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อนเลย!”ร่างเล็กในตอนนี้ราวกับมีสายรุ้งทอประกายรอบตัว “อีก
รอบได้มั้ยครับ?”


“เอ่อ...”


“อันนั้นก็เหมือนแบบนี้เหรอครับ?” มีนาชี้ไปยังรถไฟเหาะตีลังกาที่อยู่อีกฟากของสวนสนุก ธีรเชษฐ์ที่ไม่เคยเห็นสีหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุขอย่างที่เห็นในตอนนี้พยักหน้า จู่ๆก็เกิดหาเสียงตัวเองไม่เจอขึ้นมาเสียอย่างนั้น “เราไปเล่นอันนั้นต่อได้มั้ยครับ?”



“…เอาสิ” ธีรเชษฐ์ตอบรับอย่างว่าง่ายราวกับต้องมนต์ มีนายิ้มกว้าง คล้องแขนกับท่อนแขนแกร่งหลวมๆแล้วเป็นฝ่ายดึงให้คนอายุมากกว่าเดินตามไปบ้าง ซึ่งธีรเชษฐ์ก็ปล่อยให้อีกฝ่ายลากไปโดยไม่ขัดขืน


ไอ้ดีใจที่เห็นคนตรงหน้ามีท่าทีตื่นเต้นดีใจแบบนี้เขาก็ดีใจอยู่หรอก...


 แต่เล่นพูดว่า’ไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อน’ แบบนี้ เล่นเอาคนที่เคยทำให้อีกฝ่ายครวญครางขาสั่นระริกใต้ร่างเสียความมั่นใจไปเหมือนกันนะ


มีนาลากเขาไปทางนู้นทางนี้ทีอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จากที่กลัวอีกฝ่ายจะไม่สนุก กลายเป็นกลัวร่างเล็กจะวิ่งเล่นเพลินจนหลุดมือหายไปในฝูงชนเสียก่อน


“หิวมั้ย? พักกินอะไรก่อนมั้ย?”


ธีรเชษฐ์ถามคนข้างกาย มีนาส่ายหน้า รอยยิ้มกว้างที่ทำให้คนมองหัวใจไม่หยุดนิ่งยังคงประดับอยู่บนใบหน้า  แต่ธีรเชษฐ์ยังคงไม่วางใจ เขาไม่อยากหันไปอีกที่แล้วเด็กหนุ่มเป็นลมล้มพับไปก่อนหรอกนะ


“ถ้าอย่างนั้นให้เล่นอีกอันแล้วค่อยไปกิน ตกลงมั้ย?”


ธีรเชษฐ์ลืมตัวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เขาเคยใช้กับลูกน้อยทั้งสามเวลาที่พาเด็กๆไปเที่ยวเมื่อครั้งวันวาน ท่าทีสนุกสนานสมวัยของมีนาทำให้เขาอดนึกไพล่ไปถึงลูกชายของตัวเองไม่ได้ ร่างสูงหุบปากฉับทันทีที่รู้ตัว แต่ดูจากสีหน้าของมีนา สิ่งที่เขาคิดไม่อาจเล็ดรอดการสังเกตของร่างเล็กไปได้


และจากรอยยิ้มหวานที่อันตรธานหายไปอย่างรวดเร็ว มีนาไม่ได้ชอบมันแม้แต่น้อย


“ฉัน…”


“เราไปกินเลยก็ได้ครับ” มีนาตอบ เสียงหวานตึงขึ้นอย่างชัดเจน ธีรเชษฐ์ลอบกลืนน้ำลาย รู้ตัวว่าเมื่อครู่นี้ตัวเองพลาดเองเต็มๆ


“มีน คือฉัน…”


“ไปกันเถอะครับ” คนตัวเล็กไม่ฟัง เดินดุ่มๆนำเขาไปโดยไม่รอ แต่ที่ทำให้คนมองสะอึกมากไปกว่าเดิมคือการที่อีกฝ่ายถอดที่คาดผมของตัวเองมาถือไว้ด้วย


ใจหนึ่งก็ดีใจที่อีกฝ่ายรู้จักโกรธเขาแบบนี้ แต่อีกใจก็แอบหวั่นว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างมาจะกลับไปอยู่ที่ศูนย์เพียงเพราะคำพูดของตัวเอง


เขาไม่ได้คิดกับมีนาเหมือนลูก แต่ด้วยอายุที่ต่างกันขนาดนี้ มันก็ต้องมีบ้างที่เขาจะปฏิบัติกับมีนาเหมือนเด็กอายุเท่ากัน
ในร้านอาหารที่มีเมนูมากมายได้แรงบันดาลใจมาจากตัวการ์ตูนในสวนสนุก แต่มีนากลับเจาะจงเลือกเมนูข้าวแกงกระหรี่หน้าตาเรียบๆมาทาน เรียกได้ว่าตอกย้ำสุดๆว่าเคืองกันแค่ไหน


ไม่น่าเชื่อ เรื่องแค่นี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้คนตัวเล็กฟิวส์ขาดได้


ทางฝ่ายคนตัวสูงที่คิดจนหัวแทบแตกว่าจะทำอย่างไรให้ทริปวันนี้ไม่กร่อยไปตลอดวันกวาดตามองเมนูบนผนังบ้าง ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นสิ่งที่ตนกำลังตามหา


“เอ๊ะ…”


มีนาเบิกตากว้างอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นธีรเชษฐ์อุ้มถ้วยพาเฟ่ต์ขนาดพอๆกับกะละมังขนาดเล็กตรงมายังโต๊ะของพวกเขา ภายในบรรจุไอศรีมสลับชั้นกับผลไม้ ครีมสด และเค้กเนื้อนุ่มหลายสิบชั้นโปะด้วยไอศรีมลูกกลมหลากหลายรสชาติด้านบน มีสตรอเบอร์รี่หั่นซีกปักตั้งเป็นหูกระต่ายบนไอศกรีมแต่ละลูก


“ทำไมถึง…”


“ก็มันน่ารักดี” ธีรเชษฐ์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ “มาสวนสนุกทั้งทีกินอะไรน่ารักๆบ้างสิ”


“ผม…ไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ” มีนาพึมพำเสียงขุ่น


“ฉันก็ไม่ใช่” ธีรเชษฐ์ยิ้ม ตักไอศกรีมคำใหญ่เข้าปาก เกือบเผลอนิ่วหน้ากับรสชาติหวานเลี่ยนที่ไม่ได้ลิ้มรสมานาน “ไม่ได้หมายความว่าฉันจะทำอะไรแบบนี้ไม่ได้นี่”


ชายหนุ่มตักไอศกรีมหลากชั้นอีกคำแล้วยื่นช้อนไปจ่อที่ริมฝีปากอิ่ม มีนาเม้มปากอย่างดื้อดึง แต่กลับแลดูน่าเอ็นดูอย่างที่ธีรเชษฐ์ก็ไม่เข้าใจตัวเอง


“ไม่เอาน่า ช่วยฉันซักคำสิ” ธีรเชษฐ์หลอกล่อ ทั้งที่รู้เต็มอกว่านั่นจะยิ่งทำให้คนตัวเล็กโกรธ


“…” มีนายังคงเป็นมีนา แม้จะบอกว่ากำลังดื้อแต่สิ่งที่อีกฝ่ายทำมีเพียงเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง ไม่แม้แต่จะหันหน้าหนีช้อนที่จ่อชิดริมฝีปากตนอยู่


“มีนา…”เงียบ


“มีน….”ยังคงนิ่ง


“ดื้อ”


ได้ผล คราวนี้มีนาอ้าปากค้างกับสิ่งที่หลุดออกมาจากปากของร่างสูงจนสามารถยัดไอศกรีมใส่เข้าไปได้ทั้งลูก ธีรเชษฐ์ยิ้มขำ ดึงช้อนคันโตกลับมาเสียบในถ้วยไอศกรีมของตน


“คะ…คุณเชษฐ์ว่าไงนะครับ”


“ดื้อ...ไหนว่าไม่ใช่เด็ก ทำไมดื้อแบบนี้ครับ?” เสียงทุ้มอ่อนโยนในแบบที่ทำให้มีนาหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา ดวงตาคมตรึงให้คนตรงหน้านิ่งอึ้งอยู่กับที่


“ผม…ดื้อ?” มีนาเอ่ยทวนช้าๆ ราวกับไม่เคยมีใครเคยนำชื่อของเขากับคำคำนั้นมาอยู่ในประโยคเดียวกันมาก่อน



“ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะใคร?” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว “เด็กดื้อ แล้วแบบนี้จะไม่ให้ฉันพูดกับเธอเหมือนเด็กๆได้ยังไง?”



“….” มีนากัดกระพุ้งแก้มห้ามตัวเองไม่ให้เถียงคนตรงหน้า รู้ว่ายิ่งเขาเถียง ยิ่งจะเพิ่มน้ำหนักให้ข้อกล่าวหาของร่างสูง


“แล้วทีนี้จะบอกฉันได้รึยัง...” นิ้วเรียวยาวจิ้มแก้มนิ่มเบาๆ “...ว่าทำไมถึงได้ดื้อแบบนี้”


“…ก็คุณเชษฐ์พูดกับผมเหมือนเด็ก” มีนายอมพึมพำตอบในที่สุด ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ บีบแก้มนิ่มอย่างมันเขี้ยว



“ก็เด็กจริงๆนี่” ร่างสูงรีบเสริมก่อนที่คนฟังจะหน้าบูดไปมากกว่านี้ “แต่เธอก็น่าจะรู้ ว่าฉันไม่ได้มองเธอเป็นเด็กน้อยแบบที่ฉันมองซัน ธาร หรือเจ้าเมฆ ฉันไม่เคยมองเธอแบบนั้นมาตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน”



ถ้าเขาคิดแบบนั้นน่าจะเป็นอะไรที่น่ากลัวกว่า


“…”



คนตัวเล็กตรงหน้าเขาบรรลุจุดสูงสุดของความดื้อ เบือนหน้าหนีคำพูดของเขากลางประโยคให้เห็นจะจะตา
แต่ไม่รู้ทำไม นั่นกลับทำให้หัวใจของคนที่คิดว่าตัวเองไม่มีอยู่แล้วเต้นแรงขึ้นมาเสียอย่างนั้น



“หรือเธออยากให้ฉันมองเธอแบบนั้น” ร่างบางส่ายหัวพรืดอย่างรวดเร็วกับคำถามนั้น ธีรเชษฐ์ยิ้มขำ “แล้ว...อยากให้ฉันมอง
เธอแบบไหน?”



มีนารีบเอื้อมมือไปหยิบช้อนไอศกรีมที่ธีรเชษฐ์วางไว้ตักขนมเข้าปากคำใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงบทสนทนา



แม้จะอยากแกล้งต่ออีกสักนิด แต่ธีรเชษฐ์รู้ดีว่าถ้าเขายังดึงดัน คนตรงหน้าคงซัดไอศกรีมถ้วยยักษ์นี่จนหมดก่อนจะยอมพูดกับเขาแน่



“เสร็จแล้วไปเดินถ่ายรูปก่อนแล้วกัน ไปเล่นต่อตอนนี้คงไม่ไหว” ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้เมื่อเห็นว่ามีนาอิ่มแล้ว เด็กหนุ่มพยักหน้าเงียบๆ แล้วลุกตามอีกฝ่ายไป ดวงตาสีน้ำตาลยังเหลือบมองเขาเป็นระยะอย่างไม่ไว้วางใจ


“ไปยืนตรงนั้นสิ” ธีรเชษฐ์ชี้ไปยังรูปปั้นตัวการ์ตูนกระต่ายชื่อดังในชุดกะลาสีหน้าท่าเรือจำลองภายในสวนสนุก มีนาลังเล ก่อนจะรีบก้าวไปตามที่ร่างสูงชี้เมื่อเห็นคนด้านหลังเริ่มต่อแถวกัน


ธีรเชษฐ์หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาถ่ายรูปร่างเล็กที่ยืนเกร็งอยู่ข้างรูปปั้นเหมือนกลัวมันจะมีชีวิตขึ้นมาทำร้ายตัวเอง ก่อนจะเรียกให้คนที่ยังคงไม่เข้าใจถึงความสนุกของการยืนถ่ายรูปกับรูปปั้นที่ตัวเองไม่รู้จักเดินตามหามุมถ่ายรูปสวยๆต่อไป


“คุณเชษฐ์ ไม่ต้องถ่ายรูปให้ผมก็ได้นะครับ” มีนาเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจหลังจากรูปที่สิบที่ร่างสูงถ่าย ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว



“ใครบอกว่าฉันถ่ายให้เธอ?”


“เอ๊ะ?” ร่างเล็กหันไปหาอีกฝ่ายอย่างประหลาดใจ ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก



“ฉันถ่ายเก็บไว้ต่างหาก”...เก็บไว้ในวันที่ไม่มีเธออยู่ข้างๆ



“เก็บไว้...?”


“เผื่อวันที่เธอไม่ติดหนี้ฉันแล้ว จะได้เอารูปพวกนี้แบล็กเมลล์” ชายหนุ่มเอ่ยทีเล่นทีจริง แต่คนตัวเล็กกลับหยุดฝีเท้าของตัวเองทันทีที่ได้ยินดังนั้น



“คุณเชษฐ์คิดว่าจะมีวันนั้นจริงๆเหรอครับ?”



แค่นี้มีนาก็มองไม่เห็นยอดภูเขาของกองหนี้ที่ท่วงศีรษะเขาอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงหนี้บุญคุณที่ทดแทนไม่ได้ด้วยเงินของอีกฝ่าย



และความจริงที่ว่ามีนาไม่นึกอยากจะให้พันธะประหลาดระหว่างพวกเขาสิ้นสุดลงมาได้ระยะหนึ่งแล้ว



“นี่เธอคิดว่าจะต้องอยู่ใช้หนี้ฉันไปตลอดชีวิตเลยรึไง?”



ถึงเขาจะพูดแบบนั้นอยู่บ่อยๆ แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะมีใครที่ว่าง่ายพอจะยอมอยู่ใช้หนี้เขาไปจนตายโดยไม่ดิ้นรนหาทางหนีที
ไล่หรอกนะ



“…” เด็กหนุ่มเงียบไปกับคำถามนั้น แต่สีหน้าของอีกฝ่ายแทนคำตอบได้เป็นอย่างดี  ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ มือใหญ่วางลงบนกลุ่มผมนุ่ม



“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้นหรอกน่า เธอก็หัดคิดถึงอนาคตหลังเป็นอิสระจากฉันไปแล้วซะบ้าง...”



“วันที่ไม่มีคุณเชษฐ์…ผมไม่อยากคิดถึงหรอกครับ”



คำตอบที่โพล่งขึ้นมากลางคันของร่างเล็กทำให้ธีรเชษฐ์ชะงัก ดวงตาสีควันบุหรี่ตวัดมองคนพูดอย่างไม่เข้าใจ มีนาเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตากลมโตประสานกับดวงตาที่ยังคงไม่ละไปจากใบหน้าขาว



“มีน…”


“ผมชอบคุณเชษฐ์ครับ”



มีผู้คนมากมายพยายามทำให้ธีรเชษฐ์จนด้วยคำพูด แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ร่างสูงรู้สึกเหมือนแม้แต่จะหายใจเขายังจำไม่ได้ว่าต้องทำอย่างไร



ความคิดแรกที่วาบเข้ามาในหัว คือมีนาทำลายแผนที่เขาอุตส่าห์คิดหัวแทบแตกจนย่อยยับไม่มีชิ้นดี



ชายหนุ่มวางแผนไว้ว่าจะใช้เวลาทั้งวันในสวนสนุกจนถึงช่วงเริ่มขบวนพาเหรด ชายหนุ่มจะพามีนาไปยังม้านั่งริมะเลสาบที่
มธุวันช่วยโบกไม้กายสิทธิ์ประสานงานกับทางสวนสนุกให้กันพื้นที่เล็กๆตรงนั้นไว้ ดุพลุไฟหลากสีที่จะถูกยิงขึ้นฟ้าหลังจากจบขบวนพาเหรด แล้วสารภาพสิ่งที่อยู่ในใจของตัวเองให้เด็กหนุ่มร่างเล็กรู้



ผู้ชายอายุขนาดเขา ผ่านประสบการณ์มาโชกโชนจนน่าตบแบบเขา ธีรเชษฐ์ไม่คิดว่าการทำอะไรแบบนี้เป็นเรื่องจำเป็นอะไร การแสดงออกหวานเลี่ยนมีแต่จะทำให้ความคาดหวังของคนรับเพิ่มขึ้น เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า



แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปจากทุกครั้ง คือคนคนนี้คือมีนา


เด็กหนุ่มตัวน้อยแสนบริสุทธิ์ที่แม้จะถูกเขาทำให้แปดเปื้อนเพียงใด ความใสซื่อก็ยังคงไม่ละไปจากดวงตากลมโตนั้น คนที่ก่อนจะได้มีโอกาสในความสัมพันธ์ที่เกิดจากความรักอย่างคนปกติก็ถูกลากเข้ามาในโลกของคนที่หมดศรัทธาอย่างธีรเชษฐ์
คนที่แม้จะถูกเขาทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ยังคงไม่เคยถือโทษโกรธเคืองสิ่งที่ร่างสูงทำ



คนที่ไม่ว่าอย่างไร ธีรเชษฐ์ก็อยากให้อีกฝ่ายมีความทรงจำการถูกสารภาพรักที่เด็กหนุ่มจะไม่มีวันลืม และเพราะเป็นมีนา เขาถึงอยากให้เด็กหนุ่มได้สิ่งที่ดีที่สุดแม้ว่าเขาจะต้องอับอายเพียงใด


“…ผมชอบคุณเชษฐ์ ผมน่ะ ชอบคุณเชษฐ์มาตลอด…” เสียงหวานสั่นเครือ ดวงตาสีน้ำตาลมีน้ำใสเอ่อคลอหน่วย “ผมรู้ตัวดี
ว่าไม่คู่ควร ผมรู้ว่าตัวเองไม่มีอะไรที่จะให้คุณเชษฐ์ได้… แต่ผมแค่อยากให้คุณรู้ ว่าผมไม่เคยคิดจะไปจากคุณถ้าคุณไม่ต้องการ”



ขบวนพาเหรดยังไม่เริ่ม ถนนที่พวกเขายืนอยู่ยังคงมีผู้คนเบียดเสียดคับคั่ง เสียงพูดคุยจ้อแจ้กจอแจจากทั่วทุกสารทิศทำให้เสียงของมีนาแทบจะถูกกลบไปจนหมดหากไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่เด็กหนุ่มกลับทำให้คำสารภาพนั้นสมบูรณ์แบบในตัวของมันได้โดยไม่ต้องพยายาม



“ผม…”


 มีนากัดริมฝีปาก หากธีรเชษฐ์คิดว่ามีนาไม่สามารถทำให้เขาประหลาดใจได้แล้วในวันนี้ การกระทำของร่างเล็กพิสูจน์ชัดว่าเขาคิดผิดถนัด เมื่อคนที่ทำท่าจะพูดอะไรต่อกลับหมุนตัววิ่งหนีเขาเข้าไปในฝูงชน เมื่อได้สติจากความตกใจเมื่อครู่ ธีรเชษฐ์รีบก้าวตามอีกฝ่ายไปด้วยความร้อนรน แต่ร่างเล็กๆกลืนหายไปในฝูงชนที่เริ่มหนาตัวขึ้นเรื่อยๆอย่างง่ายดาย



“มีน!”


ชายหนุ่มพยายามสอดส่ายสายตาหาร่างเล็กที่วิ่งหนี หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาอีกฝ่ายแต่ไม่มีใครรับ สวนสนุกที่พวกเขามาแม้จะไม่ได้ให้ที่สุดในโลกแต่ก็มีพื้นที่มากพอที่จะให้เด็กหนุ่มตัวเล็กหลบซ่อนตัวเองจากสายตาของเขา


ยิ่งเวลาผ่านไปธีรเชษฐ์ยิ่งร้อนใจ เขาไล่หาไปตามทุกเครื่องเล่น ทุกร้านขายของ ทุกจุดถ่ายรูป ไม่มีร่องรอยของมีนา ใน
ตอนนี้ขบวนพาเหรดเริ่มออกมาสร้างสีสันให้กับค่ำคืนอันมืดมิด ทำให้บริเวณโดยรอบของสวนสนุกแทบไม่มีผู้คน ร่างสูงหยิบโทรศัพท์ออกมาจะกดโทรมีนาอีกครั้ง ก่อนที่ความคิดหนึ่งจะแล่นเข้ามาในหัว





“ฮึก…”


มีนาขดตัวนั่งอยู่ด้านหลังรูปปั้นขนาดยักษ์ที่บดบังสรีระของตนจนมิด เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าตัวเองร้องไห้มานานแค่ไหน แต่แสงอาทิตย์เคยอาบไล้ทะเลสาบให้กลายเป็นสีส้มนวลตาลับขอบฟ้าไปได้ระยะหนี่งแล้ว


ทำไมเขาถึงได้ทำอะไรโง่ๆแบบนั้นออกไป


ทั้งที่ทุกอย่างกำลังดีขึ้น ธีรเชษฐ์กำลังเริ่มจะใจดีกับเขาแท้ๆ ทำไมมีนาถึงได้พูดอะไรแบบนั้นออกไป


โลภ…


มีนาได้ยินเสียงในหัวของตัวเองอย่างชัดเจน



คนอย่างเขา ธีรเชษฐ์ไม่มีทางรู้สึกแบบเดียวกันตอบกลับมาหรอก



มีนาปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น แม้ว่าน้ำใสๆจะพรั่งพรูออกมาจากดวงตาของร่างเล็กไม่หยุดราวกับทำนบแตก



โง่…โง่ๆๆ โง่ๆๆๆๆ!!!


“เจอซักที ฉันเป็นห่วงแทบแย่”



มีนาสะดุ้งเมื่อร่างทั้งร่างถูกดึงจากพื้นที่นั่งอยู่เข้าไปในอ้อมกอดของคนที่เขากำลังหลบหน้า ธีรเชษฐ์กอดรัดคนที่ตนตามหาจนทั่วสวนสนุกไว้แน่น รู้สึกเหมือนได้หายใจหายคออีกครั้ง ชายหนุ่มนึกดีใจที่มีนาไม่เก่งเรื่องเทคโนโลยี ทำให้เขาสามารถใช้แอพติดตามโทรศัพท์ตามหาอีกฝ่ายจนพบในที่สุด


“ฮึก…คะ…คุณเชษฐ์…”



มีนาพยายามยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไม่ยอมหยุดไหลอาบแก้มขาว แต่เขารู้ว่าไม่สามารถซ่อนดวงตาที่แดงก่ำร่างสูงได้



“ทีหลังอย่าหนีมาแบบนี้อีกนะ” เสียงทุ้มกระซิบ ยกมือขึ้นช่วยเช็ดน้ำตาให้กับร่างเล็กอย่างเบามือ “ถ้าฉันหาเธอไม่เจอขึ้นมาจะทำยังไง? หืม?”



“ขะ…ขอโทษครับ” มีนาพยายามปรับเสียงให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลำคอแห้งเป็นผงจากการร้องไห้ติดต่อกันมานาน



“แล้วตกลงวิ่งหนีมาทำไม” ร่างสูงถาม ราวกับจำเรื่องน่าอายที่มีนารวบรวมความกล้าทั้งหมดสารภาพออกไปก่อนหน้าไม่ได้แล้ว ซึ่งมีนาไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจ



“ผม…ไม่กล้าสู้หน้าคุณเชษฐ์ครับ” เด็กหนุ่มตอบตามตรง ซุกหน้าลงกับแผ่นอกกว้างด้วยไม่อยากรับรู้สีหน้าของอีกฝ่ายในตอนนี้



“เล่นวิ่งหนีมาแบบนี้ ใจคอไม่คิดจะฟังคำตอบฉันเลยรึไง?”



ธีรเชษฐ์ก้มถามคนที่มุดอยู่ที่อกเขา มีนาส่ายหน้า เขารู้อยู่แล้วว่าคำตอบของธีรเชษฐ์คืออะไร ทำไมเขาจะต้องทรมานตัวเองด้วยการได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยมันออกมาจริงๆด้วย



“มีน ดูปากฉันนะ”


มือใหญ่ช้อนใต้คาวเรียวบังคับให้คนดื้อดึงเงยหน้าขึ้นมองตัวเอง ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตจ้องนิ่งที่ริมฝีปากได้รูป ปล่อยให้ธีรเชษฐ์ปฏิเสธเขาให้จบๆเสียที



แต่สิ่งที่อีกฝ่ายทำ มีเพียงการประทับริมฝีปากลงมาอย่างไม่ปล่อยให้เขาได้ตั้งตัว ลิ้นร้อนสอดเข้ามาในริมฝีปากที่เผยอเล็กน้อยในจังหวะที่พลุสีสันสดใสถูงยิงขึ้นฟ้า แสงสีที่แตกกระจายบนฝืนฟ้ายามรัตติกาลบรรยายความรู้สึกของมีนาในตอนนี้ได้เป็นอย่างดี



“อุตส่าห์จะหาที่โรแมนติกๆสารภาพ ดันมาถูกเธอแย่งพูดก่อนซะได้”



“เอ๊ะ?” คนที่ยังมึนเมากับรสจูบหวานฉ่ำขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ



“ฉันชอบเธอ” ธีเชษฐ์ประคองใบหน้ารูปไข่นั้นอย่างทะนุถนอม ดวงตาสีควันบุหรี่ที่แม้จะมีแววประหม่าแต่กลับไม่ยอมละสายตาไปจากคนตรงหน้า ใบหน้าของมีนาร้อนฉ่ากับคำสารภาพสายฟ้าแลบ ก้อนเนื้ออกเต้นรัวอย่างบ้าคลั่งจนเขาแทบไม่มีโอกาสได้พักหายใจ “คบกับฉันนะมีน”



เอ๊ะ...


เอ๊ะ....



เอ๋?!!!!




----
สอบเสร็จแล้วจิทำไรก็ดั้ยยยย//กลับไปอ่านหนังสือต่อ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 38 เสียแผน[23-8-62] คห.690
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 23-08-2019 22:52:25
 :hao6: คุณเชษฐ์ก็โรแมนติกเหมือนกันนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 38 เสียแผน[23-8-62] คห.690
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 23-08-2019 23:19:46
กลับมาก๊อนนนนน คนเขียนนนนน อย่าทิ้งให้คนอ่านอย่างเราเอ๊ะ!! ตามน้องมีนสิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 38 เสียแผน[23-8-62] คห.690
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 23-08-2019 23:47:29
แอร๊ยยยย :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 38 เสียแผน[23-8-62] คห.690
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 24-08-2019 00:01:13
คุณเชษษษษษษษษษษฐ์ โดนน้องตัดหน้าแต่ก็ทำคะแนนตีตื้นได้ ขอน้องคบแล้ววววววววววววว
น้องมีนลูกกกกกกก อย่าเขินจนเป็นลมนะะ น้องมีนน่ารักกก
ชอบหวานๆ ไม่เอามาม่าจะดีมากค่าา อิอิ เขินคุณเชษฐ์ โรแมนติกใช่ย่อยยย  :impress2:
รักคุณคนเขียนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 38 เสียแผน[23-8-62] คห.690
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 24-08-2019 00:06:57
ลุงเชษฐ์จอมเก็ก ถึงกับเก็กแตกเพราะกลัวน้องมีนจะหายไปเหรอ.  :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 38 เสียแผน[23-8-62] คห.690
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 24-08-2019 03:36:24
แผนเขาก็โรแมนติกอยู่นาว่าไม่ได้
แต่ก็แอบขำที่มีนาบอกก่อน โอ๊ย ลูก 55555555555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 38 เสียแผน[23-8-62] คห.690
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 24-08-2019 08:08:20
ลุ้นมาตั้งแต่เรียนยันเรียนจบ :sad4: :o12: :o8: :impress2:
เขาเข้าใจกันแล้วแม่
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 38 เสียแผน[23-8-62] คห.690
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 24-08-2019 09:08:56
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 38 เสียแผน[23-8-62] คห.690
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 24-08-2019 09:26:51
กรี๊ดดดดดดดดด แม่เจ้า สุดยอด
หวานกันไม่บอกก่อนเลย
ลุ้นกับชื่อตอนจะแย่ค่ะ

มีนาร้องไห้เคล้าน้ำตาลจริงๆ
คุณเชษฐ์ตอนนี้ทำไมดูหนุ่มอ่ะ 555
ขอบคุณที่พูดออกมานะคะ

❤❤
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 38 เสียแผน[23-8-62] คห.690
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 24-08-2019 12:00:20
ดีต่อใจ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 38 เสียแผน[23-8-62] คห.690
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 24-08-2019 13:53:11
ขอน้องคบแล้ว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 38 เสียแผน[23-8-62] คห.690
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 24-08-2019 23:41:43
งานเบิกเนตรคนแก่ก็มาจ้าาา
ตอนหน้าเราจะฟินสุดกู่ชิมิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 38 เสียแผน[23-8-62] คห.690
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 25-08-2019 11:22:13
ว้าว เป็นตอนที่รู้สึกดีมากเลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 38 เสียแผน[23-8-62] คห.690
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 29-08-2019 19:07:51
Chapter 39: กินเปรี้ยว


หากจะถามว่ามีนาได้ตอบตกลงคำขอของธีรเชษฐ์หรือไม่


สัมผัสชื้นแฉะที่ลากไล้ลงมาตามผิวกายขาวเนียนและความรู้สึกวาบหวิวในท้องน้อยทุกครั้งที่แรงดูดดุนทิ้งรอยไว้บนร่างเปลือยเปล่าของมีนาคงจะเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดี


“อ๊ะ..คะ..คุณเชษฐ์...”


ร่างเล็กแอ่นรับสัมผัสจากริมฝีปากร้อนที่ทาบทับลงมาบนแผ่นอกบางอย่างเผลอไผล เรียกเสียงหัวเราะทุ้มต่ำในลำคออย่างพึงพอใจจากธีรเชษฐ์ได้เป็นอย่างดี


บอกตามตรง มีนารู้สึกประทับใจร่างสูงมากที่ไม่ได้ฉีกเสื้อผ้าเขาออกเป็นชิ้นๆทันทีที่รถที่อีกฝ่ายเรียกวนมารับพวกเขา เขายิ่งรู้สึกประทับใจมากขึ้นไปอีกที่ร่างสูงมีสติพอจะแขวนป้ายห้ามรบกวน ปิดประตูคล้องโซ่ห้องพัก วางสัมภาระของพวกเขาลงบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ก่อนจะพุ่งเข้ามาหาร่างเล็กด้วยความเร็วของเสือชีต้าร์ที่ออกล่าเหยื่อ



ใช่...พวกเขายังคงอยู่บนพื้นห้องโดยมีเสื้อผ้าที่แทบจะไม่เหลือชิ้นดีรองใต้เรือนกายขาวเนียนของมีนาไว้ลวกๆด้วยฝีมือของคนที่เห็นได้ชัดว่าอยากจะอ่อนโยนแต่กำลังจะทนความต้องการของตัวเองไม่ไหว



ร่างเล็กสะท้านเฮือกเมื่อริมฝีปากช่ำชองคู่นั้นครอบครองเม็ดทับทิมสีหวานอย่างหิวกระหาย ดูดเน้นย้ำราวกับตุ่มไตที่แข็งขืนสู้การหยอกเย้านั้นจะมีน้ำนมไหลออกมา นิ้วเรียวยาวสะกิดเขี่ยตุ่มไตอีกข้างไม่ให้ได้อยู่อย่างสงบ มีนานึกอยากจะค้อนคนตรงหน้าแต่ความปั่นป่วนที่อีกฝ่ายมอบให้ทำให้สมองเขาไม่สามารถสั่งงานอะไรได้นอกจากการโอนอ่อนตามทุกสัมผัสของคนประสบการณ์มากกว่า


“ฮะ…มะ…ไม่ไหว…”



มันมากเกินไป การปลุกเร้าจากธีรเชษฐ์มันมากเกินกว่าที่มีนาจะรับไหว ลิ้นร้อนตวัดดูดเลียเม็ดทับทิมสีหวานจนเกิดเสียงหยาบโลนระคายหู ก่อนที่ร่างเล็กจะถูกพลิกให้คลานเข่าอยู่บนผ้าผืนบางที่เคยเป็นเสื้อของตัวเอง ผิวกายเนียนถูกแสดงความเป็นเจ้าของจนแดงเป็นจ้ำกุหลาบกระจายทั่วร่าง



“คุณเชษฐ์…อ๊ะ…เตียง…”



“หึๆ…กลัวเจ็บเข่าเหรอ?”เสียงทุ้มเย้าข้างหู



มีนาพยักหน้า เพราะเหตุผลที่แท้จริงที่เขากล้าเอ่ยปากขอให้อีกฝ่ายย้ายสถานที่ทำกิจกรรมก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้น่าอายกว่าข้อสันนิษฐานของธีรเชษฐ์หลายเท่า



เขากลัวเข่ากับข้อศอกของตัวเองจะเสียดสีจนดำด้าน ดูไม่สวยงามสำหรับร่างสูง



ก่อนหน้านี้มีนามักจะนั่งถูพื้น คุกเข่ากับพื้น ทำอะไรไม่สนใจความสวยงามไร้ค่าพวกนั้นเป็นอาจิณ แต่หลังจากได้พูดคุยกับเจนวิทย์ มีนาค้นพบว่ามีหลายสิ่งที่เขาปล่อยปะละเลยโดยไม่คำนึงว่าจะทำให้ธีรเชษฐ์พอใจเรือนร่างของเขาลดลง
โชคดีที่เขาไหวตัวทันก่อนหน้าที่ข้อศอกขาวจะมีอะไรมากกว่ารอยแดง มีนาจึงหมั่นทาครีมบำรุงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ร่างเล็กร้องออกมาเบาๆอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่อร่างทั้งร่างถูกอุ้มขึ้นจากพื้นตรงไปยังเตียงใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล แต่ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะได้จัดที่จัดทางของตนให้ดี สัมผัสของมือใหญ่ที่แหวกก้อนเนื้อกลมกลึงออกและริมฝีปากที่งับลงบนก้อนเนื้อนุ่มนิ่มอย่างมันเขี้ยวก็มากพอที่จะทำให้คนประสบการณ์น้อยแทบประคองตัวเองไม่อยู่



“ไม่ต้องห่วง ฉันยังไม่ลืมสัญญาของเราหรอกน่า” ร่างสูงเอ่ยขึ้นขณะที่นิ้วเรียวยาวซึ่งชุ่มไปด้วยของเหลวที่มีนาไม่อยากรู้ว่าคืออะไรไล้วนรอบช่องทางอ่อนนุ่มอย่างหยอกเอิน ไม่ได้รู้เลยว่าฝ่ายคนโดนกระทำนั้นปาสัญญาทิ้งลงมารีน่าเบย์ไปตั้งแต่คำว่า ’ฉันชอบเธอ’ที่สวนสนุกแล้ว



“มะ…อึ่ก!” ร่างเล็กเกร็งตัวตามสัญชาตญาณเมื่อรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมที่แทรกเข้ามา ธีรเชษฐ์โน้มตัวลงทาบทับแผ่นหลังขาวเนียน กระซิบถามข้างหูของเด็กหนุ่ม



“อะไรนะ?”




“มะ…ไม่…“



“ไม่ชอบเหรอมีน?” นิ้วเรียวยาวหมุนควงภายในช่องทางอ่อนนุ่มที่ตอบรับสัมผัสของเขาอย่างกระตือรือร้น ไม่อยากจะนึกเลยว่าหากเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นจะสุขล้นเพียงใด “แต่ร่างกายเธอมันไม่ได้พูดแบบนั้นนะ”



“มะ…อื้อ!…ช้าลง…อ๊ะ…”



นิ้วเรียวที่ขยับเข้าออกเป็นจังหวะเนิบช้ายอมหยุดให้คนที่พยายามจะพูดอะไรบางอย่างกับตัวเอง แม้ว่าการรับรู้สถานะปัจจุบันของจัวเองหลังจากสติเริ่มกลับเข้าร่างจะทำให้มีนาอับอายจนพูดไม่ออกก็ตาม



“ว่าไง…ไม่อะไร?”ชายหนุ่มถามย้ำ ขยับนิ้วครูดผนังอ่อนนุ่มให้คนใต้ร่างบิดเร่าเป็นเชิงขู่ “ถ้าไม่ตอบฉันจะขยับแล้วนะ”



“ไม่…ไม่ต้องสนเรื่องสัญญาก็ได้ครับ”


ธีรเชษฐ์มั่นใจว่าเขาได้ยินเสียงเส้นสติของตัวเองขาดผึงอย่างชัดเจน เด็กนี่ตั้งใจจะไม่ปล่อยเขาให้หลุดมือไปเลยใช่มั้ย
แต่ธีรเชษฐ์เชื่อว่าเขาต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แม้ว่าใจจริงจะอยากกินทั้งตอนหวานและตอนเปรี้ยวมากแค่ไหนก็ตาม



“ฉันรอได้”




แต่ผมรอไม่ได้…



มีนาดีใจที่ตัวเองมียางอายมากพอที่จะไม่หลุดประโยคนั้นออกมา



เขาอยากเป็นของธีรเชษฐ์ อยากให้อีกฝ่ายทำให้เขาเป็นของตัวเอง ให้เขาได้รับการยืนยันอีกครั้งว่าทุกสิ่งทุกอย่างของมีนาเป็นของธีรเชษฐ์ ให้ร่องรอยของร่างสูงบนตัวเขาเป็นหลักฐานว่ามีนาไม่ได้คิดเรื่องทั้งหมดขึ้นมา ความต้องการแสนน่าอับอายนี้กำลังทำให้เด็กหนุ่มทุรนทุรายเหมือนถูกเปลวเพลิงแผดเผาจากภายใน



“คุณเชษฐ์…”


ร่างสูงผละออกจากเด็กหนุ่มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยายามพลิกตัวกลับมาหาตน



มีนาคว้ามือของคนอายุมากกว่าไว้อย่างร้อนรน กลัวการแยกจากแม้เพียงเสี้ยววินาที เสียงหวานอ้อนวอน



“ขะ…เข้ามานะครับ”



“มีน…”



“เข้ามา…ได้มั้ยครับ?”



ถ้าธีรเชษฐ์ตายคาอกเด็กนี่ เขาจะกลายเป็นผีร้ายอาฆาตมาหลอกหลอนมีนาทุกค่ำคืนไม่ไปผุดไปเกิด



“รอก่อนนะครับคนเก่ง…” ชายหนุ่มดึงมือเรียวเล็กที่ยึดมือของเขาไว้แน่นขึ้นมาประทับจุมพิตที่หลังมือขาวอย่างอ่อนโยน เรียกสีเลือดฝาดบนแก้มใสได้เป็นอย่างดี “อีกแค่ไม่กี่วัน แล้วฉันสัญญาว่าเธอจะไม่มีแรงร้องขอฉันแบบนี้อีก”



มีนาหลบสายตาที่มองมาที่เขาด้วยความต้องการอย่างไม่ปิดบัง มันไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา แววตาของธีรเชษฐ์ไม่ได้มีเพียงความปรารถนาดิบและสัญชาตญาณของสัตว์ป่า ความอ่อนโยนที่มีนาเคยเฝ้าฝันถึงฉายชัดในแววตาจนคนถูกมองอายม้วนไปทั้งตัว



“ตะ…แต่ว่า…”


“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ปล่อยให้เธอนอนทั้งอย่างนี้หรอก” ธีรเชษฐ์ยิ้มขำ “เดี๋ยวใครจะพูดเอาได้ว่าผู้ชายของเธอไม่ดูแล”



คะ…ใครจะไปพูดเรื่องแบบนั้นกันครับ?!



มีนายังไม่ทันจะได้เถียง มือใหญ่ที่ขยับลงมาตามหน้าท้องแบนราบก็กุมจุดอ่อนไหวที่เรียกร้องหาสัมผัสอย่างน่าอายของตนไว้ ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะครอบครองทำหน้าที่แทนมือใหญ่อย่างชำนาญ


“อ๊ะ…คุ…อ๊า…” สะโพกมนขยับตามจังหวะที่ร่างสูงเป็นผู้ควบคุม อย่างห้ามไม่อยู่ มีนาพยายามดันศีรษะของอีกฝ่ายออก แต่นอกจากธีรเชษฐ์จะไม่ยอมทำตามคำขอแล้ว นิ้วเรียวที่แทรกเข้ามาในช่องทางด้านหลังยังทำให้มือที่พยายามดันอีกฝ่ายออกเปลี่ยนเป็นขยุ้มเส้นผมสีรัตติกาลแน่น ร่างเล็กกระตุกเฮือกหนีสัมผัสรุกเร้านั้นเข้าไปในโพรงปากอุ่นที่อ้ารับอย่างเต็มใจ
มีนาไม่มีแรงแม้แต่จะกัดริมฝีปากกลั้นเสียงครางแว่วหวาน ขยับตามจังหวะรักของนักรบเจนสนามอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ใบหน้าเรียวหวานสะบัดเชิดขึ้นอย่างเสียวซ่าน ร่างทั้งร่างบิดเร่าจากสัมผัสที่ปรนเปรอจากทั้งด้านหน้าและด้านหลังพร้อมกัน



“อ๊ะ…อ๊า…คุณ…อึ่ก…อะ…ออกไป…”


แน่นอนว่าธีรเชษฐ์ไม่คิดจะใส่ใจคำเตือนนั้น ร่างเปลือยเปล่าเกร็งกระตุกไปทั้งร่างกับสัมผัสที่ทำให้เขาทนไม่ไหวในที่สุด ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม หอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดอย่างเหนื่อยอ่อน



ธีรเชษฐ์ยืดตัวลุกขึ้น ลิ้นสากแลบเลียริมฝีปากเอาน้ำหวานของคนตัวน้อยอย่างอ้อยอิ่ง จ้องมองผลงานของตัวเองที่นอนหอบร่างเปลือยเปล่าผมเผ้ายุ่งเหยิงอยู่บนเตียงอย่างพึงพอใจ



“น่าจะพอแก้ขัดได้ล่ะนะ”



“ละ…แล้วคุณเชษฐ์…” แม้ขาเรียวจะยังสั่นระริก แต่มีนายังคงไม่วายนึกเป็นห่วงคนที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย เด็กหนุ่มค่อยๆขยับชันตัวจากเตียง ดวงตากลมโตเบิกกว้าง รีบเสตามองไปทางอื่นเมื่อเห็นความต้องการเด่นชัดภายในกางเกงยีนส์ราคาแพงของร่างสูง



“ไม่ต้องห่วงฉันหรอก”


มือใหญ่วางลงบนกลุ่มผมนุ่มอย่างปลอบประโลม แต่มีนากลับส่ายหน้าเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลช้อนมองคนตรงหน้าด้วยสายตาอ้อนวอนที่ทำให้คนแก่ใจกระตุก



“ผม…ผมขอทำให้นะครับ”


อยากกินเปรี้ยว อยากกินเปรี้ยวว้อย!!!



“อย่าฝืนล่ะ” ปากพูดไปอย่างนั้นแต่ในใจระริกระรี้จนเขายังหมั่นไส้ตัวเอง



ร่างเล็กเอื้อมไปปลดเข็มขัดหนังสีดำใหม่เอี่ยมที่มีนาเป็นคนซื้อให้เขาด้วยมือที่สั่นเทา แต่นั่นเป็นครั้งแรกที่ธีรเชษฐ์สังเกตว่าอาการสั่นนั้นไม่ได้มาจากความกลัว



มือเล็กจัดการอาภรณ์ชิ้นอื่นของธีรเชษฐ์อย่างเชื่องช้า มีนาผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นความเกรี้ยวกราของร่างสูงเต็มตา มือเรียวขาวเนียนกอบกุมความเป็นชายของอีกฝ่ายอย่างประหม่า ก่อนจะเริ่มขยับข้อมือด้วยจังหวะที่เนิบช้าเสียจนธีรเชษฐ์แทบคลั่ง
แต่ที่ทำให้ร่างสูงคลั่งขึ้นมาจริงๆในตอนนั้นคือลิ้นเรียวเล็กที่เลียริมฝีปากของตัวเองเบาๆโดยไม่รู้ตัว



และสมองของเขาเลือกเวลานั้นในการปะติดปะต่อภาพเหตุการณ์ทั้งหมดในหัวของจำนวนครั้งที่ร่างเล็กเสนอตัวให้เขา



“นี่เธอ…ชอบใช้ปากให้ฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”



หลังจากหลุดถามออกไปธีรเชษฐ์คิดว่าอีกฝ่ายจะอายม้วนลุกหนีไปกลางคันเสียแล้ว แต่แทนคำตอบ ริมฝีปากอวบอิ่มรูปกระจับสีหวานกลับเผยออ้าครอบครองความเป็นชายที่กำลังพองโตจนปวดหนึบอย่างทุลักทุเลพร้อมกับช้อนตามองปฏิกิริยาของร่างสูงตาแป๋ว



ตาย…เขาได้ตายคาอกเด็กจริงๆก็คราวนี้แหละ


ธีรเชษฐ์เลือกที่จะใช้ไหล่บางเป็นแหล่งยึดเกาะเพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอขยับเร่งคนที่ยังไม่พร้อม แต่จังหวะที่ริมฝีปากอิ่มและลิ้นเรียวเล็กกำลังปรนเปรอให้เขานั้นพอดีเสียจนคนสอนครางเสียงต่ำอย่างพึงพอใจ สะโพกสอบขยับสวนจังหวะของริมฝีปากนุ่มนิ่มที่การฝึกฝนหลายสิบครั้งจนเริ่มทำให้เด็กหนุ่มมีความมั่นใจมากขึ้นจากเมื่อก่อน มีนาถอนริมฝีปากออกมาช้าๆ ลิ้นเรียวเล็กจะลากไล้ไปตามความยาวจนร่างสูงกระตุกเกร็งหน้าท้อง แตะของฝั่งอย่างรวดเร็วยิ่งกว่านักว่ายน้ำเหรียญทองมืออาชีพ



หากนี่เป็นแผนของมีนาที่จะทำให้เขาหัวใจวายตายก่อนวัยอันควรเพื่อปลดหนี้ของตัวเอง ธีรเชษฐ์คิดว่าเด็กหนุ่มกำลังปฏิบัติตามแผนการของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพเกินไปแล้ว










ในเช้าวันแรก มีนาเคยกลัวว่าหากเขาลืมตาตื่นขึ้นมาจริงๆ พวกเขาจะกลับไปอยู่ในคอนโดของธีรเชษฐ์ เรื่องทั้งหมดจะเป็นเพียงแค่ความฝันที่สมองของเด็กหนุ่มสร้างขึ้นเพื่อหนีจากความเป็นจริง


แต่หลังจากวันที่สามที่เขาถูกปลุกด้วยเสียงทุ้มของคนที่คร่อมอยู่เหนือร่างกล่าวอรุณสวัสดิ์ข้างหูและริมฝีปากร้อนที่จุมพิตบนหน้าผากอย่างแผ่วเบา ไล่ลงมาแตะจมูกรั้นและประทับบนแก้มใสทั้งสองข้าง รอให้มีนาลืมตาตื่นขึ้นมาแตะริมฝีปากนุ่มกับริมฝีปากที่รออยู่เบาๆพร้อมรอยยิ้มเขินอาย เขาก็เริ่มจะเชื่อแล้วว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความจริง



มีนาไม่เคยเป็นเจ้าของนาฬิกาปลุกนอกจากฟังก์ชั่นในโทรศัพท์ แต่เขาเชื่อว่าธีรเชษฐ์น่าจะเป็นนาฬิกาปลุกที่ราคาแพงและ
มีประสิทธิภาพที่สุดในโลก



ตื่นทีตื่นไปหมดทั้งตัว


“รีบอาบน้ำเร็ว เดี๋ยวถึงสนามบินสาย” ธีรเชษฐ์ว่า ขโมยหอมฟอดใหญ่จากแก้มนิ่มไปอีกหนึ่งฟอดก่อนจะลุกให้คนตัวเล็กไปอาบน้ำ มีนายิ้มขอบคุณร่างสูง เปิดประตูตู้เสื้อผ้าหยิบชุดของตัวเองออกมา แอบเหลือบมองคนบนเตียงเพื่อดูว่าอีกฝ่ายจะเดินตามมาหรือไม่



“อาบไปเถอะน่า วันนี้ฉันไม่แกล้งหรอก” ธีรเชษฐ์ที่เช็คอีเมลล์ในโทรศัพท์ของตัวเองตอบเสียงกลั้วหัวเราะราวกับอ่านใจมีนาได้ทั้งที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา เด็กหนุ่มพยักหน้าแล้วผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำ รู้สึกโชคดีที่พลังการอ่านใจของอีกฝ่ายไม่ได้หยั่งลึกไปถึงส่วนลึกในจิตใจของเขาที่นึกอยากให้ร่างสูงเดินตามเข้ามา



โลภ…มีนาตระหนักแล้วว่าตัวเองเป็นคนโลภมากจริงๆ



เด็กหนุ่มก้าวออกมาจากห้องน้ำ แล้วพบกับภาพของธีรเชษฐ์ที่นั่งพับเสื้อผ้าใช้แล้วของพวกเขาลงกระเป๋าเดินทาง ข้าวของเครื่องใช้ของคนทั้งสองถูกแพ็คอย่างเป็นระเบียบในกระเป๋าชนิดที่มีนาไม่เคยคิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะสามารถทำได้
เด็กหนุ่มทรุดตัวลงข้างคนที่นั่งอยู่บนพื้น



“คุณเชษฐ์ไม่ต้อง…”



“เธอหมดสิทธิ์ใช้ข้ออ้างนั้นกับฉันแล้ว มีนา”ธีรเชษฐ์เอ่ยขัด คนข้างกายเอียงคออย่างไม่เข้าใจ ข้ออ้างอะไรกัน?



“ต่อไปนี้ เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธความช่วยเหลือจากฉัน เพราะเธอไม่ใช่ลูกหนี้ของฉันอีกต่อไปแล้ว เข้าใจมั้ย?” ธีรเชษฐ์บีบจมูกคนทำหน้าใสซื่อเบาๆ มีนายังคงรู้สึกไม่คุ้นชินกับการกระทำที่แสดงออกถึงความเอ็นดูอย่างชัดเจนของอีกฝ่าย แต่
ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้รอยยิ้มเขินอายไม่เคยจางหายไปจากริมฝีปากของเด็กหนุ่ม



เเต่ถึงอย่างนั้น เรื่องน่ากังวลสำหรับมีนาก็ยังคงไม่หมดแต่เพียงเท่านี้



“เงินมากมายขนาดนั้น ผมทำเป็นเหมือนไม่ได้ติดค้างอะไรคุณเชษฐ์ไม่ได้หรอกนะครับ”



“ถ้าอย่างนั้นก็จ่ายคืนฉันมา จะห้าปีสิบปี หรือจะใช้หนี้ฉันไปตลอดชีวิตได้ยิ่งดี อย่างน้อยมันก็เป็นเครื่องการันตีว่าเธอจะไม่ไปไหน” ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ เขารู้อยู่แล้วว่านิสัยของมีนาไม่มีทางปล่อยให้ชีวิตตัวเองง่ายดายขนาดนั้น “แต่อย่าเอามันมาปน กับเรื่องของเรา อายุฉันปูนนี้แล้ว ถ้าฉันคิดจะเริ่มใหม่กับใคร ฉันไม่คิดจะคบเล่นๆรอเธอขัดดอกเสร็จแล้วทิ้งฉันนอน
พะงาบอยู่บนเตียงโรงพยาบาลหรอกนะ”



ธีรเชษฐ์ไม่มีทางรู้เลยว่ามีนาใจเต้นไปกี่ครั้งกับสิ่งที่ชายหนุ่มพูดออกมาภายในหนึ่งลมหายใจ แต่เขาคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะพอเดาได้จากร่างกายทรยศที่แดงเถือกไปทุกสัดส่วนในตอนนี้



“คุณเชษฐ์...ไม่ได้แก่ขนาดนั้นซักหน่อยครับ...” เด็กหนุ่มแย้งเสียงเบา


“ไม่แก่ขนาดนั้น?” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว “มีน ตอนที่เธอเกิด ฉันมีลูกสามคนกับบริษัทอีกหนึ่งบริษัท เธอคิดว่าฉันไม่แก่ขนาดนั้นจริงๆเหรอ?”



“…ผมไม่เคยคิดว่าคุณเชษฐ์แก่เลยนะครับ” มีนาพึมพำตอบ คนฟังหัวเราะเสียงต่ำ ลูบหัวเด็กหนุ่มเบาๆอย่างมันเขี้ยว



“ก็แน่ล่ะสิ แค่ตอนนี้เธอยังจับไข้ตั้งแต่ครั้งแรก ถ้าเจอฉันสมัยหนุ่มๆคงได้หามเข้าโรงพยาบาล”



“ผะ…ผมไม่ได้หมายความถึงเรื่องนั้นซักหน่อยครับ!”คนโดนแกล้งรีบแก้ตัวเสียงสูง แม้จะรู้ว่ามันสายไปเสียแล้ว



“เธอเนี่ยนะ จะให้ฉันหยุดแกล้งก็ทำตัวให้มันน่าแกล้งน้อยกว่านี้หน่อยสิ” คนอายุมากกว่าขโมยหอมฟอดใหญ่ไปจากแก้มนิ่มอีกครั้ง ก่อนจะลุกไปสำรวจว่ามีของที่ลืมไว้หรือไม่เป็นครั้งสุดท้าย มีนายกมือขึ้นแตะแก้มของตัวเองเบาๆ รอยยิ้มเอียงอายประดับมุมปากไม่จางหาย



แล้วใครบอกคุณเชษฐ์ล่ะครับว่าผมอยากให้หยุดแกล้ง...










“มาเที่ยวต่างประเทศทั้งที จะไม่ซื้ออะไรไปฝากเพื่อนหน่อยเหรอ?”



ธีรเชษฐ์เอ่ยทักเมื่อเห็นมีนาไม่มีท่าทีจะสนใจอะไรในเขตปลอดภาษี ร่างเล็กที่อยู่ในชุดคลุมที่ธีรเชษฐ์เลือกให้หันกลับมามองเขา ดวงตากลมโตเป็นประกายอย่างดีใจระคนประหลาดใจ



“เอ๊ะ...ได้เหรอครับ?”


ทำหน้าแบบนั้นมาจะขอดาวขอเดือนขอพระอาทิตย์ก็ได้หมดนั่นแหละ



ธีรเชษฐ์อยากจะกุมขมับกับความหลงเด็กของตัวเอง ถ้ามีนาเป็นพวกสิบแปดมงกุฎจ้องจะสูบเงินเขาแล้วหนีไปล่ะก็ ธีรเชษฐ์คงสิ้นเนื้อประดาตัวไม่เหลือเงินสักบาทเดียว



“บัตรเครดิตที่ฉันให้ไปถือว่าเป็นของของเธอ” มือใหญ่ยกขึ้นห้ามคนที่กำลังจะเถียง “ฉันไม่ชอบให้คนของฉันลำบาก ถ้าเธอจะคบกับฉัน เธอต้องทนของราคาแพงที่ฉันซื้อให้ ทนกับร้านอาหารหรูๆที่ฉันจะพาไป ทนกับบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินที่ฉันให้ เธอทนเพื่อฉันได้ใช่มั้ย?”



เล่นพูดดักกันแบบนี้ เด็กดีอย่างมีนาจะกล้าตอบว่าทนไม่ได้ได้อย่างไรกัน



คนใจร้าย ยังไงก็ใจร้ายอยู่วันยังค่ำ











มีนาเดินดูสินค้าฆ่าเวลาไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย แม้จะอยากซื้อของฝากให้มารดาและยาย แต่ราคาสินค้าที่คนอย่างเขาไม่ควรมีเงินจ่ายทำให้ตัวเลือกของเด็กหนุ่มมีจำกัด



ร่างสูงข้างๆเดินตามเขาโดยไม่ปริปากบ่น บนหลังสะพายเป้ใบน้อยของมีนาที่อีกฝ่ายดึงดันจะถือให้จนร่างเล็กยอมแพ้



“คุณเชษฐ์ มีอะไรรึเปล่าครับ?” เด็กหนุ่มถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนมองอะไรบางอย่างบนชั้นวางอยู่นานสองนาน ธีรเชษฐ์ส่ายหน้า ดวงตาสีควันบุหรี่สลดลงอย่างที่มีนาไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก



“สมัยก่อน เจ้าซันชอบขอให้ฉันซื้อช็อกโกแลตยี่ห้อนี้มาฝากเวลามาทำงานต่างประเทศ” ร่างสูงว่า หยิบกล่องช็อกโกแลตขนาดพอๆกับหนังสือหนึ่งเล่มออกมา ภายในบรรจุช็อกโกแลตขนาดเล็กหลากรสคละกันตามสีห่อ ดูจากป้ายราคาแล้วขนมกล่องนี้ไม่ได้มีราคาแพงนัก “ช่วงที่เกศป่วยหนัก เขาไม่เคยพูดเรื่องช็อกโกแลตนี่ เขาไม่เคยขออะไรจากฉัน ปกติเขาก็เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว แต่ช่วงที่แม่เขาป่วย เด็กคนนั้นไม่เคยพูดกับใครอีก”



มีนานึกภาพทินกรเป็นเด็กเงียบๆไม่ออก ในความคิดของเขา นิสัยของทินกรตรงตามความหมาย เด็กหนุ่มคือพระอาทิตย์ คือความเจิดจ้าที่ทำให้มีนายิ้มได้เสมอ



“…ซื้อไปฝากสิครับ”


“…?” ธีรเชษฐ์หันมามองหน้าเขาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ มีนาเงยหน้าขึ้นยิ้มจให้อีกฝ่ายอย่างให้กำลังใจ



“ผมว่าคุณทินกรต้องดีใจแน่ๆเลยครับ”



“ลูกชายฉันไม่ใช่เด็กๆแล้ว คงไม่ได้ชอบอะไรแบบนี้แล้วล่ะ” ชายหนุ่มทำท่าจะนำสินค้ากลับไปวางที่ชั้น แต่มีนาไวกว่ายื้อ
ข้อมือของคนข้างๆไว้


“ถ้าอย่างนั้นผมซื้อเองก็ได้ครับ” เด็กหนุ่มดึงดัน “ผมซื้อฝากคุณเชษฐ์ไปให้คุณทินกรได้มั้ยครับ”



คนฟังหลุดขำพรืดออกมากับคำถามนั้น จากสีหน้างุนงงของมีนา ร่างเล็กคงไม่ได้รู้เลยว่าสิ่งที่ตัวเองพูดนั้นสื่อความหมายเช่นไร



“ได้สิ” ธีรเชษฐ์หยิบขนมกล่องนั้นใส่ตะกร้าพลาสติก “ซันคงดีใจที่แม่เลี้ยงซื้อขนมมาฝาก”


“ผมไม่ได้…” ใบหน้าขาวขึ้นสีเลือดฝาดทันทีที่เข้าใจ ร่างสูงหัวเราะ ไม่ยอมให้เด็กหนุ่มปฏิเสธ



“อย่าอายไปเลยน่า จะช้าจะเร็วเธอก็ต้องเจอกับลูกชายฉัน เจ้าเมฆกับเจ้าธารนี่คงไม่ต้องแนะนำกันแล้ว ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าเคยเจอกับซันไม่ใช่เหรอ?”



“แค่เคยคุยงานกันบ้างน่ะครับ” มีนาโกหก ความหวาดกลัวในตัวเขาบอกให้เด็กหนุ่มยืดเวลาการเผชิญหน้ากับทินกรในฐานะ...อะไรก็ตามในตอนนี้ให้นานที่สุด



“ถ้าจะมีลูกคนไหนของฉันที่น่าจะเป็นมิตรกับเธอ ก็คงจะเป็นซัน” ธีรเชษฐ์คาด ซึ่งไม่ผิดจากความเป็นจริงเสียเท่าไหร่ “ฉันว่านะ ดีไม่ดีเด็กนั่นจะดีใจด้วยซ้ำที่ได้คนรุ่นราวคราวเดียวกันมาเป็นเพื่อน”



มีนานึกย้อนไปถึงทุกครั้งที่ทินกรพูดถึงเด็กในสต็อกของธีรเชษฐ์ แม้จะไม่ได้มีความรังเกียจเจือปนอยู่ในน้ำเสียง แต่มีนาไม่คิว่าเพื่อนของเขาจะพิสมัยความคิดนั้นเสียเท่าไหร่



“แต่คุณทินกรก็มีคุณธารธาราไม่ใช่เหรอครับ?”



แม้จะมีอายุห่างกันสามสี่ปี แต่มีนาก็ยังคิดว่าพี่น้องทั้งสองน่าจะยังอยู่ในวัยที่สามารถพูดคุยกันได้
ธีรเชษฐ์นิ่งไปกับคำถามนั้น ยกมือขึ้นเกาหลังคอด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ



“ธาร...ไม่ค่อยชอบซันเท่าไหร่”



“เอ๊ะ?”



สิ่งที่ธีรเชษฐ์พูดออกมานั้น คนที่เคยเห็นสองพี่น้องอยู่ด้วยกันอย่างเขาแทบจะเดาไม่ออกเลยว่าจะเป็นเรื่องจริงไปได้อย่างไร แต่หากนึกย้อนดูแล้ว เขาก็ไม่ได้เห็นสองพี่น้องอยู่ด้วยกันบ่อยสักเท่าไหร่



“เกศอาการทรุดลงทันทีที่ซันเกิด ตอนนั้นธารยังเด็ก ไม่เข้าใจว่ามันไม่ใช่ความผิดของน้อง ตอนเด็กๆธารเลยไม่เล่นกับซันเท่าไหร่ สองคนนั้นพอโตขึ้นก็รักกันดีอยู่หรอก แต่เรื่องในอดีตมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ สองคนนั้นเลยไม่ค่อยสนิทกันมาตั้งแต่แรก” ธีรเชษฐ์อธิบาย “ส่วนเมฆมีโลกส่วนตัวของเขาอยู่แล้ว ไม่ค่อยสุงสิงกับน้องแต่แรกอยู่แล้ว ช่วงมหาวิทยาลัยก็ดูจะเริ่มมีสังคมขึ้นบ้างนะ แต่หลังจากรถคว่ำตอนก่อนขึ้นปีสี่ ก็กลับมาเป็นเด็กเงียบๆเหมือนเดิม”


มีนาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในชีวิตของเพื่อนที่เขาค่อนข้างสนิท เด็กหนุ่มตัดสินใจว่าหลังจากนี้จะใส่ใจเพื่อน
ร่างสูงให้มาก ถึงแม้ว่าทินกรจะมีคนดูแลเป็นอย่างดีอยู่แล้วในตอนนี้ก็ตาม



“แล้วก็นะ” ร่างสูงปรายตามองเด็กหนุ่มข้างกาย “เลิกเรียกลูกชายฉันว่าคุณซักที ตอนนี้เธอเป็นแฟนของฉัน ยังไงเธอก็มีสิทธิเรียกพวกเขาด้วยชื่อเล่น”



การเรียกทินกรว่าซันเป็นเรื่องปกติในชีวิตของมีนา แต่แค่ความคิดของการเรียกธาราว่าพี่น้ำอุ่นหรือคุณเมฆาว่าพี่เมฆก็ทำให้ขนอ่อนทั่วร่างของเด็กหนุ่มลุกชันโดยง่าย



“มะ...ไม่ดีกว่าครับ”


ธีรเชษฐ์เพียงแค่ยิ้มกับน้ำเสียงตะกุกตะกัก ไม่ได้หงุดหงิดอะไรกับคำตอบของคนรัก เรื่องแบบนี้มันต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป



ว่าแต่ เมื่อกี้เขาเรียกมีนว่าอะไรนะ?



-------------

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 39 กินเปรี้ยว [29-8-62] คห.707
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 29-08-2019 19:12:02
 :pig4:
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 39 กินเปรี้ยว [29-8-62] คห.707
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 29-08-2019 20:24:28
แฟนไงคุณเชษฐ์ เรียกน้องว่าแฟนนนนนนนนนนนน
น้องมีนลูกก หนูไม่ได้โลภนะ หนูแค่หื่น 5555555555 :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 39 กินเปรี้ยว [29-8-62] คห.707
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 29-08-2019 20:42:21
เรียกว่าแฟนข่ะคุณพ่อ!!!
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 39 กินเปรี้ยว [29-8-62] คห.707
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 29-08-2019 21:49:44
น่าร๊ากกก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 39 กินเปรี้ยว [29-8-62] คห.707
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 29-08-2019 22:05:22
ลุงเชษฐ์รู้สึกงัยบ้างมีแฟนเด็ก กระชุ่มกระชวยดีมั้ยคะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 39 กินเปรี้ยว [29-8-62] คห.707
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 29-08-2019 22:49:24
โอ๊ยน้ออออ  :katai2-1:
เดี๋ยวก็ได้กินหวานแล้ว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 39 กินเปรี้ยว [29-8-62] คห.707
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 29-08-2019 23:00:54
หนูมีน จะได้เป็นแม่บ้านใจกล้าแล้วนิ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 39 กินเปรี้ยว [29-8-62] คห.707
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-08-2019 23:58:14
แหม~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 39 กินเปรี้ยว [29-8-62] คห.707
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 30-08-2019 00:38:26
แหม เพิ่งพูดไปเองนะคุณเชษฐ์  ลืมซะแล้ว555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 39 กินเปรี้ยว [29-8-62] คห.707
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 31-08-2019 22:55:11
มีแฟนเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกายย~~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 39 กินเปรี้ยว [29-8-62] คห.707
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 04-09-2019 18:43:34
Chapter 40: เป็นแฟนแล้วนะ

มีนาไม่ได้มีโอกาสดูภาพยนตร์รักโรแมนติกมากนัก แต่เขาคิดว่าสิ่งที่ตัวเอกของเรื่องกำลังรู้สึกคงไม่ต่างจากสิ่งที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้มากนัก


“เย็นนี้ฉันมารับนะ”



แม้ว่าธีรเชษฐ์จะไปรับไปส่งเขาแทบทุกวันเป็นหนึ่งในกฎของอีกฝ่าย แต่เมื่อประกาศิตเปลี่ยนเป็นประโยคคำถามที่มาพร้อมกับแววตาออดอ้อนของเจ้าชีวิต คนขี้ใจอ่อนอย่างมีนาหรือจะกล้าปฏิเสธ



“คุณเชษฐ์จะมากี่โมงเหรอครับ?” มีนาถามตามความเคยชิน ปกติแล้วตารางชีวิตของเขาในแต่ละวันถูกจัดตามกำหนดเวลาของร่างสูง กิจกรรมหลังเลิกเรียนหรือการนัดเพื่อนทานอาหารเย็นไม่เคยมีอยู่ในชีวิตของเด็กหนุ่ม



“กี่โมงก็ได้ อยากกลับแล้วค่อยโทรตามฉัน” ธีรเชษฐ์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ มีนานิ่งอึ้งไปกับความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันภายในเวลาอันสั้นทำให้ร่างเล็กรู้สึกปรับตัวไม่ทัน



ธีรเชษฐ์สังเกตเห็นสีหน้าของคนรัก คิ้วคมตกลงอย่างรู้สึกผิด



“ถ้าอยากไปเที่ยวกับเพื่อนก็บอกได้นะ”



“ขอบคุณนะครับคุณเชษฐ์” มีนายิ้ม รับน้ำใจของอีกฝ่ายไว้แม้จะรู้ว่าเพื่อนเพียงไม่กี่คนของเขาคงเลือกที่จะอยู่กับคนรักมากกว่านัดกันไปสังสรรค์ก็ตาม เด็กหนุ่มยกมือไหว้ลาคนอายุมากกว่าแล้วเอื้อมไปเปิดประตูรถ


“เดี๋ยวมีน…”



ธีรเชษฐ์เอ่ยรั้ง ยกมือขึ้นเคาะที่แก้มของตัวเองเบาๆ มีนามีสีหน้าขัดเขิน แต่ก็ยอมโน้มตัวมากดจมูกลงบนแก้มสากของคนรักหมาดๆของตัวเองแต่โดยดี



คนถูกหอมยิ้ม ก่อนจะเอื้อมมือมาที่แก้มเนียนใส ใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดคราบซอสจากมื้อเช้าออกจากแก้มของเด็กหนุ่มเบาๆ


“จะบอกว่าซอสเลอะแก้ม”



“...ผมไปเรียนแล้วนะครับ” มีนารีบเปิดประตูลงจากรถกลบเกลื่อนความอาย แม้รอยยิ้มกว้างจนแทบจะฉีกไปถึงใบหูไม่เคยละจากใบหน้าหวาน เด็กหนุ่มมองส่งรถของคนรักที่เคลื่อนตัวออกไปจนลับสายตาก่อนจะตรงไปยังตึกเรียนของตัวเอง




คิดถึงคุณเชษฐ์แล้ว...








มีนารู้สึกว่าตัวเองเพิ่งค้นพบโลกใบใหม่ของคนเห่อแฟนจากเพื่อนทั้งสองในมุมที่เขาไม่เคยสังเกตมาก่อน



“รายงานตัวก่อน เดี๋ยวเมียหาไม่เจอ”



พายุถ่ายรูปร้านข้าวขาหมูที่พวกเขานั่งอยู่ด้านหน้า เช่นเดียวกันทินกรที่เสียงหูฟังกดวีดีโอคอลหาแฟนหนุ่มอายุมากกว่าตั้งแต่นั่งลง เข้าสู่โลกสีชมพูของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองทำแบบนี้ แต่มันเป็นครั้งแรกที่ทำให้มีนาเริ่มสนใจการกระทำของเพื่อน



“พายุ ปกติเป็น…เป็นแฟนกันนี่ต้องส่งข้อความหากันตอนไหนบ้างเหรอ?”


คำว่า ‘แฟน’ ยังคงเป็นเรื่องกระดากปากสำหรับมีนา ยิ่งในตอนนี้คำคำนั้นไม่ใช่แค่สถานะจอมปลอมที่เขาเอาไว้เรียกธีรเชษฐ์ต่อหน้าเพื่อนทั้งสองอีกต่อไป มีนายิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีพิรุธมากขึ้นไปอีก




“หือ? ก็ต้องทุกตอนดิวะ” พายุขมวดคิ้วตอบราวกับเป็นเรื่องที่มีนาควรรู้อยู่แล้ว “ถ้ามึงคิดถึงใครมึงก็ส่งข้อความหา โทรหาเขา เป็นเรื่องปกติป่ะ? ดูไอ้ซันดิ แม่งจะสิงจออยู่ละน่ะ”



จริงอย่างที่อีกฝ่ายว่า ทินกรนั้นแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับโทรศัพท์ตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่มีนานึกภาพบิดาของเพื่อนทำไม่ออก



“แล้ว...เราต้องพูดอะไรบ้างเหรอ”



“ฮะ? นี่มึงเปลี่ยนผัวใหม่แล้วเหรอวะ? ทำไมจู่ๆถึงได้สนใจอะไรแบบนี้?” คนชอบเผือกละความสนใจจากหน้าจอมาทำหูผึ่งใส่เพื่อน มีนาส่ายหน้า เรียกเสียงโห่อย่างผิดหวังจากพายุได้เป็นอย่างดี



“เราแค่…อยากลองอะไรใหม่ๆบ้าง”




“อ๋อ เรื่องนี้เอง กูก็นึกว่าอะไร” พายุพยักหน้ารับอย่างเข้าใจด้วยสีหน้าที่จริงจังจนมีนาเริ่มไม่คิดแล้วว่าอีกฝ่ายกำลังพูดเรื่องเดียวกับเขา “งี้แหละ อยู่กันไปก็ต้องอยากได้อะไรกร๊าวใจเป็นเรื่องธรรมดา”



“กร๊าว…?” มีนาทวนคำอย่างไม่เข้าใจ



“เออ เวลามึงถ่ายรูปส่งให้เขาก็ให้มั่นใจว่าไม่ติดหน้ามึง ดูว่าไม่มีเงาสะท้อน แล้วมึงก็ถอด…”



มีนาไม่ได้ยินประโยคหลังจากนั้นของพายุเนื่องจากเพื่อนอีกคนที่เมื่อครู่ยังสวีทหวานกับคนรักรีบเอามือมาปิดหูเขาไว้แน่น




“พายุ! มึงพูดอะไรกับเพื่อนเนี่ย?!” ทินกรโวยวาย มีนาพยายามแกะมือใหญ่ที่ประกบปิดหูของตัวเองไว้จนมิด แต่เพื่อนตัวโตกลับไม่สนใจความพยายามของเขาสักนิด




“อะไรของมึงวะซัน? ไอ้มีนแม่งเผลอๆจะเจนสนามกว่ามึงด้วยซ้ำ อาจารย์มันประสบการณ์เยอะจะตาย” พายุกลอกตากับความปกป้องเพื่อนจนเกินเหตุของทินกร



คนฟังมีสีหน้าลังเล แต่ก็ยอมปล่อยมือจากหูของมีนาแต่โดยดี



“มีน…นายอยากส่งอะไรให้แฟนก็ส่งไปเถอะ คิดถึงก็พิมพ์บอกไปว่าคิดถึง แค่นี้เขาก็คงดีใจแล้ว” ทินกรแนะนำอย่างมี

เหตุผล แต่คำแนะนำของอีกฝ่ายไม่ได้ช่วยมีนาในตอนนี้เท่าไหร่



“เราไม่อยากกวนเขา คุณ…แฟนเรางานยุ่งมาก”



“ข้อดีของข้อความคือเขาเปิดอ่านตอนไหนก็ได้ไง” เพื่อนตัวสูงยังคงพูดต่อ โดยไม่ได้เอะใจเลยว่ากำลังพูดอยู่กับคนรักของบิดา “ถ้าเขาว่างเดี๋ยวเขาก็ตอบ”



“หราาาา” พายุลากเสียงอย่างหมั่นไส้ “แล้วใครวะที่งอนสะบัดสะบิ้งจนพี่ภัทรต้องมาง้อถึงมหาลัยเพราะเขาไม่ตอบ
ข้อความ?”



มีนานึกภาพตามแล้วอดหลุดขำออกมาไม่ได้



“…เออ กูมันขี้เหงา ใครจะโชคดีมีแฟนอยู่ด้วยตลอดเหมือนมึงล่ะ” ทินกรตัดพ้อ มีนาหันซ้ายแลขวาดูการเถียงกันไปมาเหมือนคู่สามีภรรยาแก่ๆของเพื่อน รู้สึกเหมือนไม่ได้เจอคนทั้งคู่มานาน



“ให้กูบอกพี่ภัทรให้มะว่ามึงอยากได้แฟนแถวนี้”



“หยุดเลยไอ้ยุ! แล้วมึงมีเบอร์พี่ภัทรได้ไงเนี่ย?!”



“เมียเพื่อนคือครอบครัวป่ะวะ มึงแหละทำไมไม่มีเบอร์เจน เพื่อนกันป่ะเนี่ย?”



เด็กหนุ่มตัวโตทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชากโทรศัพท์มือถือกันอย่างเอาเป็นเอาตายโดยไม่สนคนที่กำลังจะโดนบี้แบนอยู่ระหว่างพวกตน มีนายิ้มอย่างเอ็นดูแกมระอา รู้ว่าห้ามปรามไปก็คงเท่านั้น



“ได้ งั้นมึงเอาเบอร์เจนมา มีน เอาเบอร์แฟนมาด้วย ครอบครัวเดียวกันต้องมีเบอร์ดิ”



สะดุ้งในสะดุ้ง มีนาที่เมื่อครู่ยังยิ้มแย้มรีบส่ายหน้าพรืด มือกำโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงนักศึกษาของตัวเองแน่น



“มะ…ไม่ได้...”



“ทำไมอ่า มีนไม่เห็นเราเป็นครอบครัวเหรอ” ลูกชายของคนรักถามมีนาด้วยแววตาเจ็บปวดเหมือนลูกสุนัขโดนเตะ ราวกับเด็กน้อยที่ถูกภรรยาใหม่ของบิดาทอดทิ้งอย่างไม่ใยดี



ปะ...ไปกันใหญ่แล้ว ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปล่ะ?



มีนาถึงกับเหงื่อตกกับคำถามนั้น



“นั่นดิวะไอ้มีน นี่ลูกมึงนะ จะไม่ให้มันเห็นหน้าพ่อตัวเองหน่อยเหรอ?” พายุแซวเสียงกลั้วหัวเราะ ไม่ได้รู้เลยว่าคำพูดส่งเดชของตัวเองนั้นจะตรงกับสถานการณ์จริงแค่ไหน



ทินกรพยักหน้าสนับสนุน เล่นเอามีนาลมจะจับเสียให้ได้



“เรา…เรามีเรียน”



สู้ไม่ไว้ก็ต้องถอยกลับไปตั้งหลัก มีนาคว้ากระเป๋าลุกพรวดขึ้นจากโต๊ะทั้งที่เหลือเวลอีกเกือบสองชั่วโมงจะถึงคาบถัดไป เพื่อนตัวโตทั้งสองที่รู้ว่าแกล้งร่างเล็กเกินไปแล้วรีบคว้าตัวมีนาไว้ ยื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่สักพักกว่ามีนาจะยอมนั่งกลับลงไปเพราะแรงมหาศาลของเพื่อน



“โอ๋…ไม่งอนดิ ก็เดี๋ยวนี้มึงเล่นหายไปกับผัวตลอดเลยอ่ะ” พายุจิ้มจึกๆที่ไหล่ของเพื่อนเป็นการขอคืนดี



มีนาอยากจะถามเหลือเกินว่าเขาต่างจากทั้งสองคนตรงไหน แต่คำถามนั้นถูกกลืนลงไปในลำคอทันทีที่เห็นกล่องช็อกโกแลตคุ้นตายื่นมาตรงหน้า



“เราแบ่งให้ อย่างอนเราเลยนะ” ทินกรทำตาปิ๊งๆใส่เพื่อนตัวเล็ก ซึ่งมีหรือมีนาจะสามารถโกรธใบหน้านี้ลง เล่นถอดแบบบิดามาซะอย่างกับโขกพิมพ์แบบนี้ “พ่อเราซื้อมาให้จากต่างประเทศเลยนา”



อีกอย่าง ความรู้สึกอุ่นวาบในอกที่เห็นว่าธีรเชษฐ์นำช็อกโกแลตกล่องนั้นไปฝากลูกชายคนเล็กจริงๆก็ทำให้มีนาแทบกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่



“พ่อซื้อขนมมาฝากนี่เอง ไม่น่าล่ะลั้ลลาเชียว ซื้อได้ด้วยของกินนะมึงเนี่ย” พายุเหน็บ ทินกรยิ้มรับ



“จริงๆแฟนพ่อฝากมาให้ แต่แค่พ่อเอามาให้กูก็ดีใจแล้ว"



“หา?!”


มีนานึกขอบคุณที่เสียงของพายุนั้นดังกว่าเขาอยู่หลายขุมทำให้ทินกรไม่ทันสังเกตว่าพวกเขาทั้งสองนั้นร้องออกมาอย่างไม่อยากเชื่อในเวลาเดียวกัน



“แฟน…คนรัก? เมีย? เลิฟเวอร์? ว้อทททท” 



พายุที่เห็นภาพธีรเชษฐ์เป็นพระเอกนิยายฮาเร็มคลำไม่เจอหางก็ฟาดดะไม่เหลือมาโดยตลอดไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้หลุดออกมาจากปากของทินกร ส่วนมีนานั้นไม่เคยคิดว่าธีรเชษฐ์จะกล้าเอ่ยถึงเขาต่อหน้าทินกรแบบนี้ คนโดนเปิดตัวอย่างครึ่งๆกลางๆรู้สึกลมจะจับขึ้นมาอีกครั้ง



“กูก็ไม่เคยได้ยินพ่อเรียกใครแบบนั้น ตั้งแต่แม่เสีย...พ่อไม่เคยพูดถึงใคร” ทินกรตอบ แววตาเด็กหนุ่มดูปลงอนิจจังมากกว่าเศร้าสร้อยเมื่อเอ่ยถึงบิดามารดา “แต่หลังๆพ่อดูมีความสุขขึ้นมาก ถ้าเขามีคนที่ทำให้เขามีความสุขได้แบบนี้ กูก็ดีใจ”



ต้นเหตุของความสุขนั้นนั่งหน้าแดงเป็นลูกตำลึงอยู่ข้างคนพูด หัวใจดวงน้อยเต้นรัวจนแทบจะหลุดมานอกอก ทั้งความสุขและความหวาดกลัววันที่ทินกรจะรู้ความจริงผสมปนเปกันไป



แต่แบบนี้...จะดีแล้วจริงๆน่ะเหรอ?









“ขออนุญาตนะครับคุณมีนา”



มธุวันไม่รอฟังคำอนุญาตของร่างเล็กจับสายวัดคาดรอบอกของร่างในชุดนักศึกษาอย่างคล่องแคล่ว จดสัดส่วนของเด็กหนุ่มลงบนกระดาษด้วยสีหน้าครุ่นคิดราวกับตัวเองเป็นช่างตัดชุด แม้ความรู้สึกของมีนาในเรื่องของเลขาหนุ่มจะยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่เขาต้องยอมรับว่ามธุวันเป็นเลขาที่ทำงานได้เกินค่าจ้างของตัวเองไปมากโข



“โทษทีนะ ให้ทำอะไรกระทันหันอีกแล้ว”



แม้จะพูดแบบนั้นแต่แววตาของธีรเชษฐ์ไม่มีแววสำนึกผิดแม้แต่น้อย ประธานบริษัทเอนพิงโต๊ะทำงานของตัวเอง ปล่อยให้เลขาสารพัดประโยชน์ที่วันนี้แปลงร่างเป็นสไตล์ลิสจัดการงานของตัวเองต่อไป



“ถ้าไม่ได้หมายความตามนั้นก็ไม่ต้องพูดครับ” มธุวันตอบเสียงเย็น มีนาแอบสะดุ้งกับกิริยาที่อีกฝ่ายใช้กับเจ้านาย แต่ธีรเชษฐ์เพียงแค่หัวเราะอย่างไม่ถือสา



วันนี้ร่างสูงให้มธุวันวัดตัวมีนาเพื่อหาเสื้อผ้าใส่ออกงานวันเกิดของอีกฝ่ายที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่กี่วัน เรื่องของตัวงานส่วนใหญ่มธุวันจัดการให้หมดแล้ว เหลือแค่รายละเอียดปลีกย่อย และเสื้อผ้าของมีนาที่มธุวันยังไม่มีสัดส่วนอยู่ในมือ



ที่จริงแล้ววันนี้ธีรเชษฐ์สั่งให้เลขาของตัวเองนำแบบแผนของงานเลี้ยงทั้งหมดมาให้มีนาดูเพื่อให้เด็กหนุ่มได้มีส่วนในการตัดสินใจ แต่มีนาเพียงแค่เออออตามแผนการเดิมอย่างไม่อิดอออด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเวลากระชั้นชิดแบบนี้หากเปลี่ยน
อะไรก็คงไม่ทัน อีกส่วนเป็นเพราะการจัดงานของมธุวันแม้จะมีขอบเขตเวลาที่น้อยนิดหากเทียบกับสเกลงาน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาสะท้อนให้เห็นตัวตนของเลขาหนุ่มอย่างชัดเจน



สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ


ในที่สุดเลขาหนุ่มก็ลุกขึ้นจากการวัดรอบต้นขาของร่างเล็ก นับว่าเป็นสิบนาทีที่อึดอัดที่สุดในชีวิตของเด็กหนุ่มก็ว่าได้



”ท่านประธาน ไหล่กว้างขึ้นรึเปล่าครับ? ผมว่าน่าจะต้องแก้นะ”



…จนกระทั่งมธุวันเบนเข็มไปสนใจเจ้านายของตัวเองนั่นแหละ



“เอาเท่าที่ได้น่า”


ธีรเชษฐ์เอนตัวหนีเลขาที่ก้าวมาหาตัวเองพร้อมสายวัด แม้จะไม่ได้พูดออกมาตามตรง แต่ดวงตาสีควันบุหรี่ที่เหลือบมองมาทางมีนาอย่างเป็นกังวลนั้นทำให้เขารู้ว่าสาเหตุของท่าทีประหลาดนั้นคงไม่พ้นตัวเขา



และมีนาคงจะอมยิ้มกับความใส่ใจนั้น หากดวงตาเย็นเยียบสีเทาอมฟ้าไม่ไล่ตามสายตาของเจ้านายมาหยุดที่เขาเช่นกัน
บางทีมีนาก็นึกสงสัย ว่าคนหนึ่งคนจะต้องผ่านอะไรมาถึงได้สามารถใช้เพียงสายตาก็ทำให้คนถูกมองหนาวยะเยือกไปถึงกระดูกสันหลังอย่างง่ายดายแบบนี้



มธุวันไหวไหล่ราวกับจะบอกว่า ‘เรื่องของคุณ’ แล้วหมุนกายเดินออกจากห้องไป ธีรเชษฐ์มองตามเลขาของตนไปแล้วถอนหายใจออกมา มีนาลูบแขนตัวเองขึ้นลงด้วยสีหน้าเป็นกังวล



“ผมคง…ถูกคุณมธุวันเกลียดเข้าแล้วจริงๆ”



“เขาเคยชอบใครด้วยเหรอ?” ร่างสูงถามเสียงกลั้วหัวเราะ แววตาอ่อนลงเมื่อเห็นว่ามีนาดูจะเป็นกังวลจริงๆ “ฉันว่า…มันดูตรงกันข้ามมากกว่านะ”



“เอ๊ะ?” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ



“เด็กคนนั้นน่ะ เวลาเจอคนที่ถูกชะตาก็ประมาณนี้แหละ กับขวัญข้าวก็มองอยู่เงียบๆแต่เวลาเขามาขอความช่วยเหลือก็ไม่เคยปฏิเสธ” ธีรเชษฐ์ยิ้มมุมปาก ”ลองคุยกับเขาดูสิ”



มีนาส่ายหน้าพรืดโดยไม่ต้องคิด เรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากคนมองได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มกวักมือเรียกคนรักตัวเล็กเข้ามา
ในอ้อมแขนที่อ้ารออยู่ก่อนแล้ว



อุ่น…



มีนาขยับซุกหน้ากับแผ่นอกกว้างอย่างสบายใจ แอบเห็นด้วยกับมธุวันว่าไหล่ของธีรเชษฐ์ดูกว้างขึ้นจริงๆ คงจะมาจากที่จู่ๆร่างสูงก็นึกครึ้มอยากออกกำลังกายขึ้นมาในช่วงนี้



“พรุ่งนี้ฉันต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัด กลับมามะรืนเย็น” มือใหญ่ลูบศีรษะของมีนาอย่างรักใคร่ “อยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย? จะไปนอนกับแม่ก็ได้นะ”



“ผมอยู่ได้ครับ“ มีนาตอบเสียงอู้อี้จากการที่ยังคงซุกหน้าอยู่กับอกของคนรัก เขาอยู่ได้จริงๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากจะอยู่คนเดียวในห้องกว้างของร่างสูงเสียเท่าไหร่




ว่าแต่…ถ้าธีรเชษฐ์จะกลับมาเย็นมะรืน นั่นก็หมายความว่า…



“พอกลับมาแล้ว…” มือใหญ่ที่โอบรอบเอวบางไว้เมื่อครู่ไล่ตามแนวกระดูกสันหลังภายใต้ชุดนักศึกษา แต่แค่นั้นก็มากพอที่จะทำให้คนไวสัมผัสสั่นเทิ้มไปทั้งร่างราวลูกนกตากฝน “…ฉันจะดูแลเธอจนถึงเช้าเลย ดีมั้ย?”



“…ดี…ครับ”




แม้เสียงหวานจะแผ่วเบาแต่คนหูดียังคงได้ยินอย่างชัดเจน ร่างสูงโน้มลงจุมพิตบนกระหม่อมของเด็กหนุ่มเบาๆ เชยคางมนขึ้นรับจุมพิตหวานล้ำ มัดจำไว้ให้หายคิดถึงแม้จะรู้ว่าไม่เป็นผล ริมฝีปากรูปกระจับเผยออ้ารับลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาตักตวงความหวานอย่างเต็มใจ มือเรียวเล็กขยุ้มเสื้อตัวในของอีกฝ่ายจนยับย่น ร่างที่แทรกระหว่างขายาวของคนรักอิงแอบแนบชิดไออุ่นผ่านเนื้อผ้าอย่างโหยหา



ไม่ใช่แค่ธีรเชษฐ์หรอกนะที่นับวันรอ



“ถือซะว่าแยกกันอยู่ก่อนเข้าหอแล้วกันนะ” เสียงทุ้มหยอกเย้า แต่คนฟังที่แก้มแดงระเรื่ออย่างเขินอายกลับพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง




ธีรเชษฐ์ไม่รู้ว่ามีนาทำคุณไสยอะไรใส่เขา อีกฝ่ายถึงได้ทำอะไรก็น่ากอดน่าฟัดไปหมดในความคิดของร่างสูง




เขาจะลงแดงตายก่อนถึงมะรืนนี้มั้ยเนี่ย


---------
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 40 เป็นแฟนแล้วนะ [4-9-62] คห.718
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 04-09-2019 19:35:14
อย่าเพิ่งตายก่อนได้แอ้มเมียเด็กล่ะคุณเชษฐ์์ รอไปตายคาอกเมียเด็กดีกว่าาา 555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 40 เป็นแฟนแล้วนะ [4-9-62] คห.718
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 04-09-2019 20:12:10
พอเลิกเก๊กได้ก็คือหลง(ว่าที่)เมียหนักมากเลยอะคุณ555555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 40 เป็นแฟนแล้วนะ [4-9-62] คห.718
เริ่มหัวข้อโดย: mookim ที่ 04-09-2019 21:11:20
 โอ๊ยย คือมันดีมากกก  คนอ่านกำลังจะตายก่อนแล้วค่ะ  นาทีนี้คือเขินหนักมากกก  เค้าดาวน์รอ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 40 เป็นแฟนแล้วนะ [4-9-62] คห.718
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 04-09-2019 21:34:20
 :impress2: มีเมียเด็กอดใจรอนะจ๊ะ  :hao7: :hao7: :hao6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 40 เป็นแฟนแล้วนะ [4-9-62] คห.718
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 04-09-2019 21:39:34
หนูมีนนนน  เดี๋ยวนี้พัฒนา555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 40 เป็นแฟนแล้วนะ [4-9-62] คห.718
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 04-09-2019 22:43:07
ตอนหน้านี้ตอนใจบาปเลยป่ะ
ดมกาววว ฟืดดด~~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 40 เป็นแฟนแล้วนะ [4-9-62] คห.718
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 04-09-2019 23:25:24
น้องมี๊นนนนนนนนนนนนน ไม่เจอกันซักอาทิตย์ดีมั้ย 555555555555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 40 เป็นแฟนแล้วนะ [4-9-62] คห.718
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-09-2019 23:52:48
จะมีคนตายคาอกหนูมีนก็คราวนี้แหละ  :z1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 40 เป็นแฟนแล้วนะ [4-9-62] คห.718
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 05-09-2019 06:47:55
น้องมีนเตรียมตัวเตรียมใจรับการฉลองวันเกิดดีกว่านะ ลุงเชษฐ์แกอดทนอดกลั้นมานาน น้องอาจจะสลบคาอกลุงแกก่อนก็ได้ 55555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 40 เป็นแฟนแล้วนะ [4-9-62] คห.718
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 05-09-2019 15:26:21
คุณเชษฐ์ใกล้มีเมียเด็กแล้วค่าาาา
อย่าตายคาอกน้องมีนนะคุณเชษฐ์
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 40 เป็นแฟนแล้วนะ [4-9-62] คห.718
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-09-2019 23:48:21
มีเมียเด็กก็งี้แหละ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 40 เป็นแฟนแล้วนะ [4-9-62] คห.718
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 06-09-2019 11:26:19
ความคิดคุณเชษฐ์เข้าข่ายตาแก่หื่นกามมาก 5555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 40 เป็นแฟนแล้วนะ [4-9-62] คห.718
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 16-09-2019 21:30:39
Chapter 41: ส่งตัวเข้าหอ




“เหม็นชิบ…”



“บ่นอะไรเนี่ยยุ ขัดเบาๆสิ นี่จะขัดผิวหรือถลกหนังเพื่อน?!” เจนวิทย์แหว ควักสมุนไพรขัดผิวสีน้ำตาลโปะลงบนแผ่นหลังขาว
ของร่างเล็กในอ่างอาบน้ำ แม้จะแสบจนน้ำตาเล็ด แต่มีนายังคงเม้มปากแน่นอย่างอดทน



เขาแค่ปรึกษาเจนวิทย์ว่าอยากบำรุงผิวพรรณให้สดใสขึ้นสักหน่อยก่อนแฟนจะกลับมาจากต่างจังหวัด คนรักของพายุเมื่อได้ยินว่าเด็กหนุ่มขี้อายอยากทำเซอร์ไพร์สแฟนก็ตื่นเต้นดีใจเสียอย่างกับเป็นคนถูกเซอร์ไพร์สเสียเอง



ด้วยเหตุนี้ มีนาจึงมาจบอยู่ที่คอนโดของพายุ นั่งในอ่างอาบน้ำของร่างสูงที่เละเทะด้วยสมุนไพรบำรุงผิวพรรณกลิ่นฉุนตลบ
อบอวลไปทั่วห้องโดยมีเพียงกางเกงขาสั้นปกปิด เจนวิทย์ขัดซ้าย พายุขัดขวา ทินกรที่โดนลากมาอย่างงุนงงกำลังเฝ้าลูกประคบสมุนไพรในครัว


ขัดสีฉวีวรรณ…




สุดท้ายเขาก็ทำตามคำแนะนำอย่างประชดประชันของธารธาราจนได้



“นี่มึงจะเซอร์ไพร์สผัวหรือขัดตัวประกวดนางงามวะ ทำไมขึ้นตอนมันวุ่นวายขนาดนี้” พายุบ่น แต่ก็ช่วยขัดผิวให้เพื่อนตัวเล็กอย่างตั้งอกตั้งใจ



“มันต่างกันตรงไหน ใครก็อยากสวยที่สุดในสายตาแฟนอยู่แล้ว เนอะมีนเนอะ” เจนวิทย์หันไปขอความเห็น มีนายิ้มแห้ง เกรงว่าหากพูดอะไรออกไปเสียงร้องจากความเจ็บปวดที่กลั้นไว้จะหลุดตามออกมาด้วย



“ถ้าเจนเจ็บขนาดนี้ไม่ต้องสวยให้ยุก็ได้ครับ ยังไงเจนก็สวยที่สุดสำหรับยุอยู่แล้ว” พายุก็ยังคงเป็นพายุ หยอดคำหวานข้ามหัวเพื่อนหน้าเป็นอย่างไม่มียางอาย คำเรียกตัวเองที่เปลี่ยนไปของคนทั้งคู่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่กำลังก้าวไปในทางที่ดี มีนายิ้มอย่างยินดีให้เพื่อน ก่อนจะนิ่วหน้ากับแรงขัดที่คนเขินอายบิดไปมาใช้เขาเป็นตัวระบาย



กว่าจะจบครบกระบวนความ คนที่ผ่าน’คอร์สเจ้าสาวฉบับเร่งรัด’ ทิ้งตัวนอนแผ่หลาบนเตียงกว้างของเจ้าของคอนโดอย่างหมดแรง ร่างทั่งร่างเหมือนโดนรถสิบล้อทับร่วมกับการถูกย่างไฟเหมือนไก่ย่างเสียบไม้หมุน ไม่มีเรี่ยวแรงจะคลานลงจากเตียงด้วยซ้ำ



“กูนอนด้วย”



เจ้าของเตียงทิ้งตัวลงบนเตียงของตัวเองด้วยแรงที่ทำให้มีนาแทบจะลอยเด้งลงไปกองกับพื้น สภาพของคนตามใจแฟนที่ช่วยขัดสีฉวีวรรณให้มีนาตั้งแต่ต้นจนจบนั้นดูไม่จืดเลยสักนิด เด็กหนุ่มร่างเล็กแอบรู้สึกผิดขึ้นมาเมื่อเห็นดังนั้น



“นอนด้วย!”


ยังไมทันได้ตั้งตัว ทินกรก็กระโดดขึ้นมาบนเตียงราวกับลูกหมาตัวยักษ์ที่โดดขึ้นมานอนกับเจ้าของ แรงปะทะนั้นทำให้ร่างของมีนาลอยหวือขึ้นจากเตียงจริงๆ ร่างเล็กหลุดร้องโอดโอยออกมาเบาๆ



นี่เขาจะช้ำในตายก่อนมั้ยเนี่ย



”นอนอะไร ไปเลย มึงทำไรบ้างวะ? เห็นแต่เฝ้าเตา” พายุเอื้อมไปผลักหัวทินกรที่นอนทิ้งตัวสบายใจเฉิบอยู่อีกข้างของมีนา ไม่สนใจคนตัวเล็กที่ร้องอู้อี้ประท้วงจากการโดนทับ



“เฝ้าเตาก็เหนื่อยป่ะวะ ร้อนก็ร้อน มึงแหละ ไปเก็บของช่วยแฟนดิ อู้เหรอ” ทินกรผลักเพื่อนกลับอย่างไม่ยอมแพ้ กลายเป็นสงครามขนาดย่อมอย่างไม่มีใครยอมใคร และไม่ไม่มีใครสนใจเสียงร้องขอความช่วยเหลือของคนตัวเล็กที่ติดแหง็กอยู่ตรงกลางด้วย



“ซัน พี่ภัทรมารับ…มีน!” เจนวิทย์กับภรัณยูที่มาพบสภาพเหตุการณ์รีบช่วยกันดึงคนตัวเล็กที่กำลังจะขาดอากาศหายใจออกมาจากเพื่อนทั้งสองที่เริ่มเอาหมอนมาตีใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร “โอเคมั้ย?”



มีนาพยักหน้า เกาะเจนวิทย์ไว้แน่นเพื่อพยุงไม่ให้ตัวเองล้มลงไปกองกับพื้น



“อะไรวะ โดนเพื่อนทับแค่นี้เข่าอ่อน ผัวกลับมาไม่ลมจับเลยเหรอ” พายุแซวเสียงกลั้วหัวเราะ ภรัณยูเลิกคิ้ว เหลือบมองมีนาด้วยหางตา เด็กหนุ่มหลบหลังเจนวิทย์ แก้มขาวขึ้นสีเรื่ออย่างอับอาย



”ซัน กลับบ้านกันได้แล้ว ป้าแต้วทำข้าวเย็นไว้รอนานแล้ว” ภรัณยูหันไปสนใจคนรัก ทินกรพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มกว้างโดดลงจะเตียงวิ่งตื๋อมาหาภรัณยูเหมือนเด็กเล็กๆเวลาคุณแม่มารับที่โรงเรียน



“ถ้าอย่างนั้นเราไม่รบกวนแล้วล่ะ ขอบใจมากนะเจน พายุ” มีนาเอ่ยกับเพื่อนทั้งสองบ้าง เจนวิทย์พยักหน้ายิ้มๆ แต่พายุกลับเรียกเขาไว้ก่อน



“เดี๋ยวมีน เอานี่ไปด้วย”


มีนาหันไปรับวัตถุที่เพื่อนโยนมาให้ ก้มอ่านฉลากบนขวดพาสติกก่อนใบหน้าหวานจะขึ้นสีแดงสดเมื่อเห็นว่าเจ้าขวดที่ว่านี่คือ
อะไร



“รุ่นนี้นอกจากหล่อลื่นดีแล้วยังมีกลิตเตอร์ด้วยนะเว้ย ของนอกนะเนี่ย กูไม่รักมึงนี่ไม่ซื้อมาเผื่อนะ”



“ให้ของเพื่อนแต่ละอย่าง ดูซิ” เจนวิทย์ส่ายหน้าอย่างจนใจ แก้มแดงเรื่อไม่ต่างจากร่างเล็กข้างกาย “รีบกลับได้แล้วมีน พักผ่อนเยอะๆผิวจะได้สวยๆ”



มีนาพยักหน้ารับ เอ่ยลาเพื่อนทั้งสอง นึกอิจฉาความสัมพันธ์ที่ดูเรียบง่ายและมั่นคงของคนทั้งคู่




แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะยอมแลกความสัมพันธ์ที่มีกับธีรเชษฐ์ในตอนนี้กับอะไรก็ตาม









สองวันผ่านไป ธีรเชษฐ์กลับรู้สึกเหมือนรอมาสองปี



ชายหนุ่มแทบจะเหาะผ่านเครื่องตรวจวัดความเร็วหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ตัวอยู่ในรถแต่ใจพุ่งแซงไปดีดดิ้นรอที่คอนโดแล้ว



ช่อดอกไม้ช่อโตและตุ๊กตาตัวใหญ่ที่อยู่หลังรถกลิ้งขลุกขลักไปมาราวกับจะส่งเสียงประท้วง แต่สิ่งเดียวที่ธีรเชษฐ์สนใจคือคนที่เขาซื้อมันมาให้มากกว่า



วันนี้เป็นวันเกิดของมีนา วันเกิดครบรอบสิบแปดปี วันในปฏิทินที่ธีรเชษฐ์วงกลมซ้ำไปซ้ำมาจนกระดาษแทบทะลุ แน่นอนว่าเขาเตรียมของขวัญ เค้กวันเกิดของอีกฝ่ายเขาก็สั่งให้คนรับไว้ที่ล็อบบี้คอนโดแล้ว ร่างสูงหอบของขวัญเต็มไม้เต็มมือ ประคองกล่องเค้กมะพร้าวใบเตยที่เจ้าตัวชอบเปิดประตูเข้าไปในห้องด้วยหัวใจที่เต้นระรัว



ก่อนจะคว้ากล่องเค้กไว้แทบไม่ทันหลังจากมือไม้อ่อนแรงเฉียบพลันจากภาพตรงหน้า



“กะ…กลับมาแล้วเหรอครับคุณเชษฐ์”


ตาย…เมื่อกี้เขาขับรถแหกโค้งตายแล้วขึ้นสวรรค์ใช่มั้ย?



มีนาซุกหน้ากับกระต่ายสีชมพูที่เขาซื้อให้ซ่อนความเขินอาย ร่างบางอยู่ในชุดสโนว์ไวท์ที่เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายถูกบังคับให้ซื้อในงานคณะ และจำได้ว่าเขานึกภาพอีกฝ่ายในชุดนี้ในเวลาเปล่าเปลี่ยวในห้องน้ำไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง


เมื่อได้มาเห็นของจริงนั้น บอกได้เลยว่าจินตนาการของเขาเทียบไม่ติด



“มีน…” เสียงทุ้มแหบพร่า ธีรเชษฐ์ค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองสูญเสียความสามารถในการพูดไปเรียบร้อยแล้ว



“อยะ…อย่านิ่งแบบนั้นสิครับ”



มีนาเริ่มใจไม่ดี ความกล้าที่อุตส่าห์รวบรวมมาอย่างยากลำบากเริ่มลดลงไปเรื่อยๆตามระยะเวลาที่ร่างสูงยืนตะลึงค้างอยู่หน้า
ประตู



“ทำไม…”



“ก็…ก็คุณเชษฐ์บอกเองนี่ครับ…”



‘เอาไว้อีกซักสองอาทิตย์ค่อยว่ากัน’ คำพูดของตัวเองตอนที้ชุดนี้ส่งมาที่คอนโดย้อนกลับเข้ามาในหัว ธีรเชษฐ์เริ่มเห็นข้อดีของการมีคนรักความจำดีก็วันนี้



“แล้ว…ถืออะไรมาเยอะแยะเหรอครับ?”



มีนาเปลี่ยนเรื่องก่อนจะทนความอับอาย ธีรเชษฐ์ก้มมองข้าวของในมือด้วยสีหน้าว่างเปล่า เลือดที่ไหลไปเลี้ยงส่วนอื่นชั่วคราวทำให้สมองของเขาหยุดทำงานเพื่อรักษาสมดุลร่างกาย



“เอ่อ…เธอ…เอ่อ…ของขวัญ…”


“ให้ผมเหรอครับ?” รอยยิ้มสดใสกลับคืนสู่ใบหน้าน่ารัก มีนาเอื้อมมือไปรับช่อดอกไม้ช่อโต รับเจ้าหมีตัวขนาดพอฟัดพอเหวี่ยงกับกระต่ายสีชมพูของตนมากอดไว้ในมืออีกข้างโดยไม่ยอมปล่อยอะไรไปสักอย่าง “ขอบคุณครับคุณเชษฐ์ ผมเอาไปเก็บในห้องนอนนะครับ”



“…อือ…” ธีรเชษฐ์มองตามร่างเล็กในกระโปรงฟูฟ่องแทบปิดต้นขาไม่มิดชวนน้ำลายหก ก่อนจะเดินสโลเสลตามไปเฉกเช่นร่างไร้วิญญาณ



มีนาวางตุ๊กตาทั้งสองตัวลงบนเตียง เสียบช่อดอกไม้ลงในแจกันแล้วหันกลับมาหาธีรเชษฐ์ที่กำลังใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำลายตัวเองอย่างแรง สีหน้าขัดเขินกลับมาอีกครั้ง ดวงตากลมโตช้อนมองคนอายุมากกว่าอย่างเอียงอายราวกับรอว่าธีรเชษฐ์จะทำ
อย่างไรต่อ



หากจะให้พูดกันตามตรง ธีรเชษฐ์ก็ไม่รู้เช่นกันว่าเขาจะทำอย่างไรต่อ



ไม่รู้ว่าทำไม แต่ทุกครั้งที่ธีรเชษฐ์วาดฝันถึงวันนี้ เขาชอบคิดว่ามันจะเป็นเหมือนพิธีกรรมบางอย่าง เหมือนการเข้าหอเชื่อมสัมพันธ์หลังประตูวิวาห์ของคู่บ่าวสาวในครั้งแรก นุ่มนวล เนิบช้า เบสิค ไร้สิ่งโลดโผน



ในมโนภาพของเขา สิ่งที่เกิดขึ้นคือเขาช่วยมีนาถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น รอให้อีกฝ่ายพับเก็บเสื้อผ้าวางไว้บนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ ก่อนจะหรี่ไฟในห้องเพื่อให้ร่างเล็กที่เปลือยเปล่าล้มตัวลงบนเตียงอย่างไม่ขัดเขินมากนัก



แน่นอน สิ่งแรกที่เขาจะทำคือครอบครองริมฝีปากรูปกระจับอย่างอ่อนโยน ลูบไล้ไปตามผิวกายขาวเนียน ฟ่อนเฟ้นเค้นคลึงสะโพกกลมกลึงจนคนข้างใต้ร้องครางออกมาอย่างสุขสม ก่อนจะค่อยๆใช้นิ้วที่ชโลมไปด้วยเจลหล่อลื่นแทรกผ่านช่องทางสีหวานที่ได้ลิ้มลองเท่าใดก็ไม่เคยพอ ปรนเปรอจุดไวสัมผัสต่างๆไปพลางให้คนตัวเล็กโอนอ่อนตามสัมผัสของเขาโดยง่าย ในขณะที่เอ่ยปลอบขวัญและจูบซับน้ำตาจากความเจ็บปวดระคนวาบหวามของคนรัก คลอเคลียพวงแก้มใสขณะที่ค่อยๆชำแรกความใหญ่โตของตนเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มอย่างนิ่มนวล…



มันควรจะเป็นอย่างนั้น…


“ถะ…ถ้าอย่างนั้น… ผมขออนุญาตนะครับ”



มีนาทรุดตัวลงคุกเข่าตรงหน้าร่างสูงที่ยังยืนอึ้งอยู่หน้าประตูห้องนอน มือเรียวเอื้อมมาปลดเข็มขัดหนังที่ตนเป็นคนซื้อให้อีกฝ่ายออก ก่อนจะจัดการกับซิปกางเกงของธีรเชษฐ์เป็นลำดับถัดไป



ความต้องการของร่างสูงเด่นชัดแม้มองผ่านเนื้อผ้าของปราการด่านสุดท้ายสีเข้ม ร่างเล็กที่มักจะหน้าร้อนเห่ออย่างอับอายบัดนี้กลับแฝงไปด้วยความภาคภูมิใจที่อีกฝ่ายเป็นแบบนี้เพราะตน



ร่างกายของธีรเชษฐ์มีปฏิกิริยาขนาดนี้แค่เห็นเขา


ริมฝีปากรูปกระจับจุมพิตลงบนความเป็นชายผ่านเนื้อผ้า ไล่จุมพิตไปตามความยาว แผ่วเบาราวแมลงปอแตะผิวน้ำ แต่กลับ
มากพอที่จะทำให้คนมากประสบการณ์เกร็งตามสัมผัสหวานล้ำ ดวงตากลมโตช้อนมองเขาอย่างคาดหวัง ราวกับจะถามว่าตัวเองทำได้ตามมาตรฐานที่ธีรเชษฐ์พึงพอใจหรือไม่



ไม่ได้รู้เลยว่าตนทะลุมาตรฐานทุกอย่างของชายหนุ่มตั้งแต่รอยยิ้มเอียงอายที่หน้าประตูแล้ว



มือใหญ่ลูบกลุ่มผมนิ่มเป็นเชิงสนับสนุน ปล่อยให้คนตัวเล็กได้ทำตามใจตัวเองอย่างเต็มที่ในวันเกิด มีนาขยับยิ้มอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะจัดการกับปราการด่านสุดท้าย ทักทายสิ่งที่โผล่มากล่าวสวัสดีตัวเองอย่างกระตือรือร้นไม่แพ้กัน



ริมฝีปากเล็กรูปกระจับอ้ารับความเป็นชายของร่างสูงเข้าไปอย่างไม่นึกรังเกียจ ความอ่อนนุ่มของโพรงปากอุ่นที่ดูจะตั้งอกตั้งใจกว่าทุกวันทำเอาคนท่าเยอะถึงกับกัดริมฝีปาก กระหายอยากให้อีกฝ่ายกลืนกินตัวตนของเขาเข้าไปอีกทีละนิด


“…อุ่ก!”



เสียงร้องเบาๆของคนที่ถูกสะโพกสอบขยับสวนอย่างลืมตัวทำให้ธีรเชษฐ์รีบหยุดขยับ น้ำใสๆเอ่อไหลตามพวงแก้มพองโตที่แดงระเรื่อ แต่นอกจากนั้นแล้ว มีนายังคงไม่ลดละความพยายาม



“มีน…อึ่ก…พอก่อน…” ธีรเชษฐ์ปราม หากร่างเล็กยังดื้อดึงเขาคงได้เรือล่มก่อนถอนสมอแน่ๆ



เด็กดีของเขายอมผละออกมาอย่างง่ายดาย แม้ว่าแววตาอาลัยอาวรณ์นั้นจะทำให้ธีรเชษฐ์นึกอยากจะขยุ้มกลุ่มผมนุ่มดึงให้อีกฝ่ายกลับมาอย่างเอาอกเอาใจคนตัวเล็ก


ดูท่ามีนาจะชอบมากจริงๆถึงได้ลืมอายขนาดนี้



ก่อนที่มีนาจะได้ถามอะไร ร่างสูงก็ช้อนแขนใต้ข้อพับขาแล้วตวัดแขนเรียวให้โอบรอบคอของตนก่อนจะอุ้มไปที่เตียงของพวกเขา กำจัดชุดคอสตูมสีสดใสแทบจะในพริบตาโดยเหลือไว้เพียงถุงน่องขาวยาวเหนือเข่าที่ทำให้เขาลมปราณแตกซ่านแค่ได้เห็นเท่านั้น



”เอ่อ…คุณเชษฐ์ครับ…”


เสียงหวานเอียงอายดังเบาๆข้างหูของคนที่ซุกไซร้ซอกคอขาวอย่างโหยหา ธีรเชษฐ์ดูดเม้มฝากรอยไว้บนแอ่งชีพจรของร่างเล็กก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนเรียกเป็นเชิงถาม
มีนามีสีหน้าประหม่าระคนขัดเขิน มือเรียวยื่นสิ่งที่ธีรเชษฐ์คิดว่าวางกองอยู่บนพื้นพร้อมกับเสื้อผ้าของเขาให้ ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว ก่อนจะจำได้ว่าตัวเองเคยพูดไว้ว่าจะทำอะไรกับเข็มขัดเส้นนี้



“เธอนี่มัน…” ธีรเชษฐ์ลูบหน้าตัวเองแรงๆ พยายามตั้งสติแต่คนใต้ร่างที่ยื่นข้อมือทั้งสองให้เขาอย่างจำยอมไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย



แน่นนอน โอกาสดีๆมีหรือร่างสูงจะปฏิเสธ แต่ธีรเชษฐ์ไม่ลืมที่จะสอดผ้าเช็ดหน้าผืนนิ่มไว้ใต้เข็มขัดเพื่อป้องกันการเสียดสี
แม้เขาจะชอบทิ้งร่องรอยไว้บนร่างขาว แต่ก็ไม่คิดจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บขึ้นมาจริงๆหรอกนะ




เข็มขัดหนังราคาแพงมัดรอบข้อมือทั้งสองข้างของมีนาไว้ ไม่หลวมและไม่เน่นจนเกินไป แถมสายตาที่มองมายังอ่อนโยนเสียจนเด็กหนุ่มรู้สึกว่าผิดจุดประสงค์ของการถูกมัดอย่างไรชอบกล



“เอื้อมไปจับหัวเตียงถึงมั้ย?” มีนารอบทำตามที่ร่างสูงว่า แม้จะลำบากไปสักนิดแต่เด็กหนุ่มก็สามารถทำได้อย่างไม่ยากเย็น
นัก “ดี ต่อจากนี้ห้ามปล่อยมือ เข้าใจมั้ย?”



“อะ…” คนโดนสั่งอ้าปากค้าง เขามีแต่ถูกมัดกับหัวเตียงไม่ใช่รึไง มีที่ไหนใช้แรงงานคนอื่นแบบนี้



แต่ก่อนจะได้ทักท้วงอะไร ริมฝีปากของอีกฝ่ายก็กระกบลงมาปิดปากของเขาไว้เสียก่อน มือใหญ่ลูบไล้ลงมาตามแผ่นอกแบนราบก่อนจะมาหยุดที่ตุ่มไตสีชมพูหวาน สะกิดวนรอบจุดไวสัมผัสนั้นอย่างเบามือ แต่ก็มากพอที่จะทำให้มีนาแอ่นกายรับสัมผัสอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ ริมฝีปากร้อนเลื่อนลงมาครอบครองเม็ดทับทิมสีหวาน ดูดดุนมอบสัมผัสวาบหวามให้กับเด็กหนุ่มที่แม้จะบิดเร่าอยู่ใต้ร่างแต่กลับไม่ยอมปล่อยมือจากหัวเตียง เห็นแล้วยิ่งรู้สึกว่าน่ากินไปทุกอิริยาบถ



“เด็กดี…” ธีรเชษฐ์ไล่ประทับริมฝีปากลงมาตามหน้าท้องแบนราบขาวเนียนของร่างเล็กอย่างหลงใหล “…ฉันหลงเธอจนแทบบ้าอยู่แล้วรู้บ้างมั้ย?”



มีนาไม่ตอบ แต่ดวงตากลมโตฉ่ำเยิ้มที่ช้อนมองเขาอย่างออดอ้อนทำให้ธีรเชษฐ์คำรามออกมาราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะจัดการกับเหยื่อ แต่ในตอนนี้ เขากลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหยื่อของผู้ล่าตัวน้อยใต้ร่างเสียมากกว่า



“คุณเชษฐ์…ลิ้นชัก…”



ชายหนุ่มเปิดลิ้นชักหัวเตียงอย่างไม่รีรอ หยิบขวดสารหล่อลื่นยี่ห้อดังที่วางนิ่งอยู่ก้นลิ้นชักมาบีบใส่นิ้วของตัวเองอย่างเร่งรีบ…



…ก่อนจะสังเกตเห็นกากเพชรระยิบระยับบนมือของตัวเอง



“มีน…”



“คือ…เพื่อนให้มาน่ะครับ” มีนารีบแก้ตัวอย่างร้อนรน



“เพื่อนเธอแต่ละคนมีใครปกติบ้างมั้ย…” เขาจะมาคิดบัญชีเรื่องนี้กับเด็กหนุ่มทีหลัง แต่ตอนนี้คงต้องรับความหวังดีจาก ‘เพื่อน’ ของมีนาไว้ก่อน



“อะ…อ๊ะ…” ร่างเล็กเกร็งขึ้นมาทันทีที่มือใหญ่แหวกก้อนเนื้อกลมกลึงออกจากกัน




“อย่าเกร็ง…” ธีรเชษฐ์จุมพิตลงบนแก้มเนียนใสเบาๆ “ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บ”


แม้จะพูดอย่างนั้น แต่การผ่อนคลายไม่เคยเป็นจุดแข็งของมีนา ร่างสูงมองคนรักตัวเล็กที่พยายามหยุดเกร็งจนน้ำตาคลอหน่วยก่อนจะถอนหายใจ ทำไมเขาถึงได้ทำให้มีนาร้องไห้ได้ทุกสถานการณ์เลยนะ



“ไม่ต้องร้อง ฉันไม่ได้ดุ…”



ร่างสูงจูบซับน้ำตา คลอเคลียข้างพวงแก้มใสอย่างเอาอกเอาใจ นิ้วเรียวยาวที่ไล้วนสร้างความคุ้นเคยค่อยๆชำแรกเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มอย่างใจเย็น ไม่นานนัก ร่างที่เริ่มปรับตัวให้คุ้นชินกับจังหวะเนิบช้าส่งเสียงครางหวานหูออกมาก่อนจะรีบหุบปากฉับอย่างอับอาย ร่างเล็กกระตุกเฮือกเมื่อนิ้วเรียวยาวจงใจลากผ่านจุดอ่อนไหวภายในช้าๆ ก่อนที่นิ้วที่สองจะเข้ามาช่วยทำความคุ้นเคยให้กับเด็กหนุ่มที่เคยผ่านศึกจริงจังมาเพียงครั้งเดียว ธีรเชษฐ์ยังคงนึกเสียใจที่ไม่ได้อ่อนโยนกับอีกฝ่ายมากกว่าในตอนนั้น



“อย่าเก็บเสียงไว้สิ…” ร่างเล็กส่ายหน้าทั้งน้ำตาคลอหน่วย เบือนหน้าหนีภาพที่ร่างกายของเขากำลังตอบสนองทุกสัมผัสของธีรเชษฐ์อย่างโหยหา รู้สึกว่าตัวเองดูไร้ยางอายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก



แม้จะต้องตะล่อมหว่านล้อมไปทุกฝีก้าว แต่ชายหนุ่มกลับไม่นึกรำคาญใจแต่อย่างใด ตรงกันข้าม ในอกกลับรู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาที่เห็นคนขี้กลัวที่มักจะปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกอย่างมีนายอมโอนอ่อนตามเขามากขนาดนี้



“เสียงของเธอ…ร่างกายของเธอ… ฉันชอบทุกอย่างที่เธอเป็น…” เสียงทุ้มพร่ากระซิบหว่านล้อม ในขณะที่นิ้วเรียวหมุนคว้าน
เรียกให้สะโพกมนขยับตามอย่างควบคุมไม่ได้ “ว่าไงมีน…ลองเชื่อคำพูดของผู้ชายของเธอดูสักครั้งได้มั้ย…”



“อะ…ฮะ…คะ…คุณเชษฐ์…อ๊ะ…” แทนคำตอบ เสียงครางแว่วหวานเรียกชื่อเขาข้างหู มีนาขยับตัวเล็กน้อยโดยที่มือยังคงยึดเกาะหัวเตียงไว้อย่างเหนียวแน่น ธีรเชษฐ์ผ่อนความเร็วลงแต่ไม่ยอมหยุดด้วยกลัวว่าคนที่กำลังเคลิบเคลิ้มจะเสียอารมณ์ ร่างเล็กค่อยๆพลิกกายคว่ำ ขยับสวนทุกการกระทำของร่างสูงไปในที แอ่นกายโก้งโค้งให้สะโพกกลมกลึงลอยเด่นอยู่ตรงหน้าราวกับจะทดสอบความอดทนของคนมอง



“มีน ทำอะไร…”



“ผม…อ๊ะ…อ่านเจอว่า…ฮะ…ท่านี้…ขะ…เข้า…ง่ายสุด…”



ร่างเล็กสารภาพหน้าร้อนผ่าว ธีรเชษฐ์หัวเราะในลำคอกับความไร้เดียงสานั้น ถอนนิ้วของตัวเองออกอย่างช้าๆ ก่อนที่อะไรบางอย่างที่ขยับจ่อช่องทางอุ่นเตรียมเข้ามาแทนที่จะทำให้มีนาตัวสั่นระริก



“มีน…ระหว่างเธอกับฉัน…ท่าไหนก็ไม่ง่ายทั้งนั้นแหละ”



ทั้งที่พูดแบบนั้นแต่ความเจ็บปวดที่มีนาคาดไว้กลับเบาบาง มือใหญ่ที่เอื้อมมาสะกิดเขี่ยเม็ดทับทิมสีหวานช่วยเบนความสนใจของมีนาไปจนกระทั่งความรู้สึกคับแน่นที่จงใจเสียดสีจุดอ่อนไหวภายในทำให้มีนารับรู้ความเป็นไปของเหตุการณ์อีกครั้ง



“อ๊ะ…อะ…”


มือเล็กที่ถูกมัดไว้กำหัวเตียงแน่น ร่างทั้งร่างโยกคลอนไปตามจังหวะรักที่มีแต่จะรุนแรงขึ้นของร่างสูง มือใหญ่ประคองหน้าท้องแบนราบไว้อย่างทะนุถนอม ส่วนมืออีกข้างขยับปรนเปรอทางด้านหน้าให้กับเด็กหนุ่มอย่างไม่ละเลย การถูกกระตุ้น
พร้อมกันหลายๆจุดยิ่งทำให้คนประสบการณ์น้อยแทบสะอื้นกับคลื่นความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาหลายระลอกใหญ่ ภาพในหัวของมีนาขาวโพลนไปชั่วขณะเมื่อความรู้สึกที่รุนแรงกว่าครั้งแรกของพวกเขาหลายเท่าตัวทำให้ร่างเล็กอ่อนยวบลงไปกับมือที่ประคองเขาไว้ตั้งแต่ต้น หอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดในอ้อมกอดของธีรเชษฐ์



“เก่งมาก สนุกมั้ยครับ?”



ธีรเชษฐ์ถามเสียงหยอกเย้า ปลดสายเข็มขัดที่รัดรอบข้อมือขาวออก สิ่งหนึ่งที่เขาเรียนรู้เกี่ยวกับมีนาคือ แม้อีกฝ่ายจะเป็นคนพูดเสียงเบา แต่ยามที่เสียงหวานครางระงมไปทั่วห้องอย่างไร้การสะกดกลั้นเมื่อครู่นั้น เขาคิดว่าต่อให้ห้องเก็บเสียงก็เอา
มีนาไม่อยู่



และเขาก็รู้สึกชอบมันมากเสียด้วย


“คุณ…คุณเชษฐ์ครับ…” เสียงหวานกระซิบแผ่ว ธีรเชษฐ์ขยับเข้าไปใกล้ร่างบาง คลอเคลียใบหน้ากับพวงแก้มใสอย่างรักใคร่



“ครับ…”




“คะ…คือว่า…” มีนาตะกุกตะกัก ใบหน้าขาวแดงซ่าน ร่างบอบบางที่สั่นระริกในอ้อมกอดของเขาทำให้ธีรเชษฐ์นึกอยากดูแลให้อีกฝ่ายได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม แต่คำถามที่มาพร้อมกับสีหน้าขัดเขินนั้นปักความตั้งใจเขาตกแตกกระจายบนพื้นอย่างไม่ใยดี “อีกรอบ…ได้มั้ยครับ…”




ตาย…ธีรเชษฐ์ยังคงยืนยันว่าอายุขัยของเขาถูกบั่นทอนลงทุกวันด้วยท่าทีของเด็กคนนี้




“ฉันไม่ใช่รถไฟเหาะนะ…” ชายหนุ่มแกล้ง นึกย้อนไปถึงคำขอขึ้นเครื่องเล่นอีกครั้งของมีนาในสวนสนุก มีนามีสีหน้าเสียดายอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับหัวใจคนแก่สักนิด “จะอีกกี่รอบก็ได้ทั้งนั้นแหละ”




มีนายิ้ม เงยหน้าขึ้นแระทับจุมพิตลงบนมุมปากของคนอายุมากกว่าเบาๆ



“ขอบคุณนะครับคุณเชษฐ์…” เด็กหนุ่มยิ้ม แม้จะไม่ยอมสบตากับเขาก็ตาม “ผม…ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆนะครับ”
ธีรเชษฐ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองขย้ำลูกกระต่ายน้อยตรงหน้าจนช้ำในไปเสียก่อน




ดูท่าเขาต้องแวะไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลสักหน่อยเสียแล้ว



------------

ฉลองเล้าด้วยตอนใจบาป5555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 16-09-2019 21:43:21
นู๋มีน ร้อนแรงน่าขย้ำ :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า ที่ 16-09-2019 21:50:49
ทั้งใจบาปและใจบางไปพร้อมๆกัน
เมียคุณเชษแซ่บมากคุณเชษไหวเหรอ555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 16-09-2019 22:59:46
มีแนวโน้มว่าจะหยุดงานในวันรุ่งขึ้นทั้งคู่ อ่ะป่าว  :hao6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 16-09-2019 22:59:53
 :laugh: มีเมียเด็ก(เด็ด) ต้องหมันตรวจเช็คร่างกายยยยย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 16-09-2019 23:20:50
เปิดเล้าพร้อมความหวานของคู่ข่าวใหม่ปลามัน.  o18
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-09-2019 23:43:38
:laugh: มีเมียเด็ก(เด็ด) ต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกายยยยย

ช่ายเลยยยยย..........  :katai2-1:
คิดเหมือน............   :z1: :pighaun: :haun4:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 17-09-2019 01:31:33
จะเป็นลมแทนคุณเชษฐ์เอง  :m25:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 17-09-2019 02:17:23
หนูมีนลูกจะทำคุณเชษฐ์ตายคาอกใช่มั้ย 5555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 17-09-2019 06:17:10
นู๋มีนร้อนแรงดัง Fire คุณเชษฐ์จะตายคาอกเด็กก็ตอนนี้แหละ หึหึ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 17-09-2019 08:00:26
So damn hot
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-09-2019 09:16:26
มีนไม่ธรรมดานะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: mookim ที่ 17-09-2019 10:29:01
แซ่บมากลูกมีนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 17-09-2019 21:17:42
น้องสนุกค่ะพ่อขราาาาาาา กรี้ดดดดดดดด :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 17-09-2019 22:40:47
คุณเชษฐ์ต้องรีบไปรพ.แล้วว 555 มีเมียเด็กต้องฟมั่นตรวจเช็คร่างกาย ~ ท่อนนี้ลอยเข้ามาในหัวเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 17-09-2019 23:40:11
มีนอ้อนขนาดนี้ คุณเชษคงตามใจน่าดู
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 18-09-2019 17:55:33
ขอเลือดสองถุงจ้าา :m25:
คุ้มค่ากับการใจบาป
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 18-09-2019 21:32:38
ในที่สุดก็ตามอ่านทันแล้วววว  :sad4:
ฉลองอายุ18ปีได้เริศมากกกกก ชอบค่าาาาา :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 19-09-2019 11:40:56
งืออออ  ฟินไปอี้กกกกกตอนนี้
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 41 ส่งตัวเข้าหอ [16-9-62] คห.730
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 19-09-2019 18:17:21

Chapter 42: งานเลี้ยงวันเกิด




แน่นอน ธีรเชษฐ์ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ



หลังจากยกที่สี่ที่มีนาเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอพักหายใจในที่สุด เขาก็ยอมให้เด็กหนุ่มที่โดนสูบเรี่ยวแรงจนตัวอ่อนปวกเปียกได้นอนหลับพักผ่อน เขาเป็นสุภาพบุรุษถึงขนาดยอมขยับถอนกายออกจากช่องทางที่ตอดรัดจนเขาไม่อยากผละออกไป แต่คนตัวเล็กกลับขอให้เขากอดตัวเองไว้อย่างนั้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อนที่นับวันเจ้าตัวชักจะมีทักษะเก่งกล้าสามารถขึ้นมาทุกที
เพราะฉะนั้น จึงไม่แปลกที่ธีเชษฐ์จะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาโดยที่ความอ่อนนุ่มของช่องทางอุ่นยังคงโอบรัดเขาไว้อยู่อย่างนั้น




“อือ...” เพียงเท่านั้นยังไม่พอ เจ้าเด็กตัวแสบในอ้อมกอดของเขายังขยับเข้ามาแนบชิด บดเบียดสะโพกมนกับตัวตนของชายหนุ่มทั้งที่ยังหลับสนิท




“...”โดนลูบคมขนาดนี้ ไม่ให้เอาคืนก็อย่าเรียกเขาว่าธีรเชษฐ์เลย




“งืม…อะ…คะ…คุณเชษฐ์…”




มีนางัวเงียตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกเสียววาบในท้องน้อยจากอะไรบางอย่างที่ขยับเสียดสีจุดอ่อนไหวภายในที่โดนทรมานมาทั้งคืนจนไวสัมผัสไปเสียหมด ของเหลวที่ยังคงคั่งค้างอยู่ภายในทำให้เกิดเสียงหยาบโลนที่ทำให้ร่างเล็กแดงก่ำไปหมดทั้งตัว



“อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก”




ไรหนวดสากคลอเคลียหลังใบหูทำให้มีนาต้องย่นคอหนีความรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆนั้นตามสัญชาตญาณ แต่เมื่อถูกตามมาคลอเคลียที่ผิวบางบริเวณซอกคอขาวไม่หยุดหย่อน คนตัวเล็กก็ทำได้เพียงขยุ้มผ้าปูเตียงระบายความรู้สึก ครางเสียงหวานเป็นรางวัลให้กับชายหนุ่ม



Rrrrrr




ธีรเชษฐ์คำรามในลำคออย่างหงุดหงิดใจที่ถูกขัดจังหวะ แต่จากเสียงเรียกเข้า เขารู้ดีว่าหากไม่รับสาย คนที่อยู่ปลายสายคงจะหาวิธีถีบประตูห้องเขาเข้ามาได้แม้ว่าธีรเชษฐ์จะแอบซ่อนรังลับของตัวเองไว้อย่างดีก็ตาม




ถึงกระนั้น กระต่ายน้อยของเขาที่กำลังโอนอ่อนตามสัมผัสทำให้ธีรเชษฐ์ตัดใจหยุดการกระทำไม่ลง ชายหนุ่มปิดริมฝีปากรูปกระจับนั้นไว้ ผ่อนจังหวะการขยับลงแล้วกดรับสาย



“ว่าไง?”



ธีรเชษฐ์พยายามปรับเสียงให้ดูไม่ผิดปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้การตอดรัดของร่างข้างใต้จะทำให้เขาแทบเห็นดาว ชายหนุ่มไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ แต่จังหวะที่เขากะผ่อนปรนลงกลับถูกเร่งเร้าขึ้นมาเสียอย่างนั้น แม้ว่าคนที่ถูกเขาปิดปากจะไม่ได้สงเสียงสักแอะก็ตาม




เร่งไม่เร่ง หากฟังเสียงขาเตียงคุณภาพดีที่ลั่นเอี๊ยดอ๊าดจนเขารู้ว่าไม่มีทางหลุดจากหูผีของเลขาที่เคารพของเขาก็คงจะบอกได้ไม่ยาก




“งานจะเริ่มแล้วนะครับ” เสียงเย็นเอ่ยขึ้นจากปลายสาย ธีรเชษฐ์เกือบหลุดสบถออกไปดังๆ เลือดที่ไหลไปเลี้ยงส่วนอื่นของร่างกายจนหมดทำให้ในตอนนี้สมองของเขาไม่ได้ฉุกคิดเลยว่าวันนี้เป็นวันอะไร




“สิบนาที...” เสียงทุ้มเอ่ยลอดไรฟัน แม้จะอยากขอเวลาอีกสักหนึ่งชั่วโมง แต่ข้าวใหม่ปลามันแบบนี้เขายังไม่อยากให้กระต่ายน้อยของเขาเป็นหม้ายหรอกนะ




“เสียงผมเหมือนคุณมีสิทธิ์ต่อรองเหรอครับ?” มธุวันตวัดเสียงห้วนสั้น ก่อนจะกดตัดสายโดยไม่รอให้ธีรเชษฐ์ได้ตอบอะไร
คราวนี้ธีรเชษฐ์ได้สบถออกมาสมใจอยาก หากเขาไม่เร่งรีบ อีกไม่ถึงสิบนาทีประตูห้องของเขาจะต้องถูกถีบหลุดจากบานเป็นแน่



“ขอโทษนะมีน...”




“อะไรครั...อ๊ะ!!!”



ร่างที่ถูกช้อนให้นั่งบนตักแกร่งร้องออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ องศาที่ลึกเกินกว่าครั้งไหนและแรงกระแทกกระทั้นที่จงใจจะให้ทุกสัมผัสตราตรึงไปถึงส่วนลึกของจิตใจทำให้ร่างเล็กแทบละลายลงไปกองกับเตียงนุ่ม  ลิ้นร้อนเลียวนตามใบหูขาวแล้วสอดเข้ามาในหูอย่างหยอกเย้า เด็กหนุ่มสั่นสะท้านกับการปลดปล่อยครั้งที่เท่าไหร่ของตนก็ไม่รู้ ทิ้งตัวลงซบแผ่นอกกว้างอย่างหมดแรง



เร็ว...เร็วมาก....




“วันหลังฉันจะใช้คืน....เอาให้เธอร้องไห้ขอให้ฉันทำเร็วๆเลยล่ะ” ชายหนุ่มหอมแก้มชื้นเหงื่อฟอดใหญ่  และนั่นทำให้ร่างเล็กรู้ว่าตัวเองเผลอพึมพำความคิดนั้นออกมา มีนาอยากจะทักท้วงเหลือเกินว่าตนไม่ได้ขอ แต่ก็รู้ว่าป่วยการจะพูดกับคน
เอาแต่ใจ




ธีรเชษฐ์ช้อนตัวอีกฝ่ายขึ้นอุ้ม สังเกตว่าร่างเล็กแม้จะยังคงผอมบางจนน่าตกใจ แต่เริ่มมีน้ำมีนวลให้เขาได้หยิบจับติดไม้ติดมือมาบ้างแล้ว แม้จะยังไม่ใกล้เคียงกับความพึงพอใจของธีรเชษฐ์สักนิด
ดูท่าคงต้องขุนกันอีกยาว







คำว่าเส้นยาแดงผ่าแปดคืออะไรธีรเชษฐ์รู้ซึ้งแก่ใจก็วันนี้




สิ่งแรกที่ชายหนุ่มทำคือโบกมือให้มธุวันที่อยู่อ่ำฟากของสนามบ้านเป็นหลักฐานยืนยันที่อยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเลขาของเขาไม่ได้ประทับใจความสามารถในการมาตรงเวลาของเจ้านายเลยสักนิด




ชายหนุ่มที่ถือว่าตัวเองมาปรากฏตัวในงานแล้วไม่สนใจจะทักทายแขกเหรื่อที่เริ่มทยอยกันเข้ามาในสนามหน้าบ้านที่ถูกเนรมิตเป็นงานเลี้ยงกลางแจ้ง เปิดประตูให้กับคนรักที่ยังคงหมดเรี่ยวหมดแรงแม้จะมีสีหน้าดูดีขึ้นมาก แล้วประคองมีนาเข้าไปในในตัวบ้าน




เด็กหนุ่มที่อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงตั้งแต่เห็นสนามหญ้ายันตัวคฤหาสน์แหงนหน้ามองเพดานสูงแขวนโคมระย้าของบ้านจนคอแทบหัก ช่องว่างทางสังคมของเขากับธีรเชษฐ์ดูกว้างขึ้นทุกฝีก้าว แค่โซฟาของคฤหาสน์ทรัพย์ดำรงก็ใหญ่พอจะจุบ้านสังกะสีผุพังของมีนาได้ทั้งหลังแล้ว



“เปิดตัวซะเอิกเกริก กลัวคนอื่นเขาจะไม่รู้เหรอว่ามึงกินเด็ก”




มีนาสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจากภายในตัวบ้าน คเชนทร์ที่อยู่ในชุดทำงานเต็มยศก้าวออกมาจากห้องห้องหนึ่งพร้อมกับแก้วกาแฟแก้วใหญ่ ดวงตาคมภายใต้กรอบแว่นปรือปรอย ทว่าน้ำเสียงจิกกัดของอาจารย์ที่ปรึกษาของเขายังคงแจ่มชัดเหมือนคนตื่นเต็มตา



“ก็ดีกว่าคนไม่มีใครให้เปิดตัวป่ะวะ?” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้ว คเชนทร์ไหวไหล่อย่างไม่ได้สะทกสะท้าน เหลือบมองมีนาที่พยายาม
ทำตัวลีบเล็กให้เป็นที่สังเกตน้อยที่สุดแต่ดูจะไม่เป็นผล




“สบายดีมั้ยมีน?”



“คะ…ครับ” มีนาพยักหน้า สีหน้าของคเชนทร์ดูผ่อนคลายลงเมื่อได้ยินดังนั้น



“ดีแล้วล่ะ ครูขอยืมตัวไอ้เชษฐ์หน่อยนะ มีเรื่องคุยกับมันนิดหน่อย”



มีนาพยักหน้าอย่างว่าง่าย นั่งปุลงบนโซฟาตัวยาวมองคเชนทร์ที่แทบจะขยุ้มคอเสื้อของธีรเชษฐ์ลากขึ้นไปชั้นบน มองสำรวจทางนั้นทีทางนี้ทีอย่างตื่นตาตื่นใจ



แม้การตกแต่งจะยิ้งใหญ่หรูหราตระการตา แต่ในความรู้สึกของมีนา ที่นี่เหมือนพิพิธภัณฑ์มากกว่าบ้านเสียอีก



เด็กหนุ่มก้มมองชุดสูทสีขาวพอดีตัวที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นฝีมือของมธุวันที่ทำให้ดูพอดิบพอดีราวกับได้เข้าไปลองชุดเองจริงๆแบบนี้



 ส่วนของธีรเชษฐ์นั้น ด้วยความปรารถนาดีต่อเด็กหนุ่มที่ทำให้ร่างสูงไม่ยอมให้เลขาวัดตัวให้ทำให้มธุวันต้องเสียเวลาเอาชุดกลับไปแก้อีกครั้ง ปัจจุบันธีรเชษฐ์อยู่ในเสื้อคอเต่าสีเลือดหมูที่ทำให้คนมองแทบเลือดพุ่งออกจากรูจมูก แต่ชุดสูทของร่างสูงนั้นมีนาก็ยังไม่เคยเห็นเหมือนกัน



“มีน!”




ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นธัชนนท์ที่มากับวีรภัทรกำลังยิ้มกว้างให้เขา รู้สึกโล่งใจที่เจอหน้าคนคุ้นเคย



“สวัสดีครับคุณวี พี่เทสต์”



“ไอ้เชษฐ์มันหายหัวไปไหนแล้วล่ะ”วีรภัทรเลิกคิ้ว ประหลาดใจที่ธีรเชษฐ์ทิ้งเด็กของตัวเองไว้คนเดียว



“คุยกับคุณหมอคเชนทร์อยู่ในห้องทำงานน่ะครับ”เด็กหนุ่มตอบ นึกสงสัยแล้วเหมือนกันว่าทั้งสองคนคุยอะไรกันอยู่ตั้งนานสองนาน



ธัชนนท์นั่งลงข้างมีนา ชายหนุ่มที่อายุมากกว่าเขาสองปีให้ความรู้สึกเหมือนพี่ชายที่มีนาไม่เคยมีมาก่อน



“ดูดีขึ้นเยอะนะเรา คุยกันแล้วเหรอ?”



“ก็…”เด็กหนุ่มก้มหน้าเอียงอาย “จริงๆ... เมื่อวานวันเกิดผม เลยได้คุยกันนิดหน่อย...”



แม้จะรู้สึกว่าคำว่า ‘คุยกันนิดหน่อย’ไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานได้ แต่เขาไม่คิดว่าการบรรยายฉากอัศจรรย์ให้ธัชนนนท์ฟังในที่โล่งกว้างที่เพื่อนสนิทของธีรเชษฐ์ยืนอยู่ไม่ไกลนั้นจะเป็นความคิดที่ดีนัก



“สิบแปดแล้วสินะ” ร่างโปร่งลูบศีรษะของมีนาอย่างเอ็นดู ร่างเล็กก้มหน้าอย่างเขินอาย ที่หางตา เขาเห็นวีรภัทรหลุดยิ้มออกมาเช่นกัน



“อ้าว มาเร็วเหมือนกันนะเนี่ย”


เสียงของธีรเชษฐ์ทำให้คนทั้งสามหันไปมอง ร่างสูงเดินลงมาจากบันไดโดยมีคเชนทร์ที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยจนมีนาอ่านไม่ออกเดินตามลงมา เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าคนทั้งสองคุยอะไรกัน แต่คงยากที่จะไม่มีเรื่องของเขาอยู่ในหัวข้อสนทนา


“พี่คราม สวัสดีครับ”



วีรภัทรกล่าวทักทายคนที่ยืนข้างเจ้าของวันเกิด หมอคเชนทร์พึมพำสวัสดีตอบกลับมา เหลือบมองธัชนนท์อย่างสงสัยแต่ไม่ได้พูดอะไร



“เด็กไอ้วีมัน มึงยังไม่เคยเจอเหรอ?”ธีรเชษฐ์หันไปถามเพื่อนที่อายุเท่ากัน คเชนทร์ส่ายหน้า



“เด็กเชี่ยไรล่ะ พูดอะไรให้เกียรติน้องนิดนึงครับไอ้ผู้ใหญ่เวร”วีรภัทรกอดอกอย่างไม่พอใจ



“โอ้โห น้องเหรอ นี่หลานแล้วมั้งไอ้กระบือแก่”เจ้าของวันเกิดหัวเราะ



“มึงนี่ก็กล้าล้อคนอื่นนะ” คเชนทร์เหลือบมองมีนาที่สะดุ้งเฮือกอยู่บนโซฟา เด็กหนุุ่มนึกอยากให้ตัวเองตัวเล็กพอที่จะมุดไป
ด้านหลังของธัชนนท์แล้วขดตัวเป็นก้อนกลมไม่ให้คนอื่นเห็น “พรุ่งนี้มีนัดพบอาจารย์ที่ปรึกษาช่วงเช้า แต่ถ้ามาไม่ไหว...”ดวงตาเรียวคมตวัดมองธีรเชษฐ์ที่มีสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “เดี๋ยวครูมาคุยที่นี่ก็ได้”



แม้จะรู้ว่าสายตาของคเชนทร์ไม่มีทางพลาดร่องรอยของสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่มีนายังคงรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนเห่อขึ้นมาอย่างอับอายอยู่ดี




“ไม่..ไม่เป็นไรครับอาจารย์ ผมไปได้” เด็กหนุ่มรีบบอกอาจารย์ที่ปรึกษาของตนอย่างเกรงใจ แค่นี้เขาก็อายมากพออยู่แล้ว




“อ่า…ถ้างั้นของขวัญกูมึงค่อยเปิดวันหลังนะ”วีรภัทรยิ้มแห้ง ส่งกล่องของขวัญให้เพื่อนสนิทอายุมากกว่าที่รับมาด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนมีนานั้นได้แต่เหลือบมองธัชนนท์ที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างขอคำตอบ แต่ชายหนุ่มรุ่นพี่ปฏิเสธที่จะหันมาสบตาเขา




“ไปนะ เดี๋ยวมีเคสผ่าตัดต่อ” คเชนทร์เอ่ยขอตัว ธัชนนท์มองตามคนที่เขาไม่เคยเห็นก่อนจะหันมาหาคนรัก




“คุณหมอนี่ อายุมากกว่าคุณเชษฐ์เหรอครับ?”



“ไม่นะ พี่ครามเกิดหลังไอ้เชษฐ์สองสามเดือน ทำไมเหรอ?” วีรภัทรเลิกคิ้ว





“แล้วทำไมถึงเรียกคุณหมอว่าพี่...แล้วคุณเชษฐ์....”



ธัชนนท์เอ่ยถามสิ่งที่มีนาก็นึกสงสัยอยู่เช่นกัน ร่างสูงหลุดขำออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าที่บึ้งตึงลงของธีรเชษฐ์ ลูบศีรษะของคนช่างสงสัยอย่างเอ็นดู



“คนเราจะแก่ แก่ที่วุฒิภาวะ ไม่ใช่อายุ จำไว้นะเทสต์”



“สาธุ ขอให้มึงโดนเด็กถอนหงอก”ร่างสูงแช่งเพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์ วีรภัทรยิ้มเยาะ



“มึงแช่งกูมากี่รอบละ ระวังจะเข้าตัวเหอะ”



ธัชนนท์ส่ายหัวกับพฤติกรรมเด็กๆของคนทั้งคู่ ส่วนมีนาเพียงแค่นั่งฟังชายหนุ่มอายุสี่สิบกว่าสองคนทะเลาะกันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เขาไม่เคยเห็นธีรเชษฐ์ดูผ่อนคลายและเป็นตัวของตัวเองแบบนี้บ่อยนัก




ดูไปดูมา...ก็น่ารักดีเหมือนกัน



“เทสต์ เป็นอะไรรึเปล่า?” จนกระทั่งวีรภัทรหันกลับมาทักคนรักด้วยแววตาเป็นกังวลนั่นแหละที่มีนาละสายตาไปมองธัชนนท์ ใบหน้าของร่างโปร่งดูซีดขาวลงเล็กน้อย คิ้วเรียวขมวดมุ่น



“เอ่อ...ปวดหัวนิดหน่อย คงนอนน้อยน่ะครับ”ธัชนนท์ตอบ



“เหรอ? ถ้าอย่างนั้นเรากลับกันดีกว่า”



ทั้งสองคนจากไปไวพอๆกับขามา มีนาแอบรู้สึกใจหายเบาๆที่กำลังจะต้องอยู่ท่ามกลางคนมากมายที่เขาไม่รู้จักอีกครั้ง ธีร
เชษฐ์นั่งลงข้างเด็กหนุ่ม มือให้วางลงบนศีรษะของมีนาเบาๆ



“พร้อมมั้ย?”



 คำถามของธีรเชษฐ์ไม่เพียงสื่อถึงงานเลี้ยงในวันนี้ แต่ยังสื่อถึงการป่าวประกาศความสัมพันธ์ของพวกเขาให้คนภายนอกได้รับรู้



ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือทินกร



แม้ธีรเชษฐ์จะไม่ได้รับรู้ความกังวลที่แท้จริงของมีนา แต่ชายหนุ่มยังคงพอจะรู้ว่างานในวันนี้เด็กหนุ่มจะต้องพบเจอกับลูกชายคนโตและคนเล็กของเขาอย่างเป็นทางการ ระดับความเครียดของมีนาในตอนนี้ย่อมไม่ธรรมดา
มีนาพยักหน้าอย่างไม่มั่นใจนัก



“ฉันต้องเปลี่ยนชุดก่อน จะขึ้นไปด้วยกันมั้ย?” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วถาม




มีนาพยักหน้า หัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อยเมื่อตระหนักได้ว่าตนกำลังจะก้าวลึกเข้าไปในโลกอีกใบของร่างสูงที่เขาไม่เคยได้เห็นมาก่อน




เด็กหนุ่มก้าวตามอีกฝ่ายขึ้นบันไดไปเงียบๆ มือเรียวเล็กเอื้อมไปจับชายเสื้อของร่างสูงเป็นที่ยึดเกาะอย่างลืมตัว เป็นพฤติกรรมใหม่ที่มีนาเริ่มจะทำเป็นนิสัยติดตัว และเป็นสิ่งที่ธีรเชษฐ์ไม่นึกอยากให้อีกฝ่ายปรับเปลี่ยน



”นั่นห้องเมฆ นั่นห้องซัน นั่นห้องธาร…”



ธีรเชษฐ์แนะนำอย่างขอไปที เปิดประตูห้องที่อยู่สุดริมทางเดินที่มีนาคิดว่าเป็นห้องนอนของร่างสูง แต่เมื่อมองเข้าไปในห้อง เด็กหนุ่มพบเพียงห้องทำงานเรียบๆห้องหนึ่งที่มีแต่กองเอกสารวางกองระเกะระกะเต็มไปหมด ชุดสูทสั่งตัดสีดำสนิทถูก
แขวนไว้หน้าตู้เอกสารติดผนัง แค่เห็นก็รู้แล้วว่าหากธีรเชษฐ์ใส่แล้วคงจะดูราวกับหลุดออกมาจากเซ็ทถ่ายแบบ




“ทำไมชุดถึงมาอยู่ห้องนี้ล่ะครับ” มีนาอดถามไม่ได้ เขาไม่เชื่อหรอกนะว่าคนที่ได้รับสิทธิ์ในทุกพื้นที่ของชีวิตธีรเชษฐ์อย่างมธุวันจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องนอนของร่างสูง



‘จะนอนห้องฉัน? จริงๆก็ได้อยู่นะ แต่มันนอนไม่ค่อยสบายนะ หืม? เอางั้นเหรอ? ก็ได้ อยากนอนที่ไหนในบ้านนั้นก็นอนเถอะ ถ้าเป็นเธอฉันไม่ว่าอะไรหรอก’




คำพูดของธีรเชษฐ์ในวันนั้นเขายังจำได้ดี




“หมอกเอามาไว้ให้น่ะ เมื่อเช้าพี่แต้วเผลอเอาไปแขวนไว้ในห้องนอน ทำไม อยากเข้าห้องนอนฉันเหรอ?” ร่างสูงยักคิ้วยียวน มีนารีบส่ายหน้าอย่างร้อนตัว เรียกเสียงหัวเราะจากอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี “จะให้พาไปดูก็ได้นะ แต่บอกไว้ก่อนว่าตั้งแต่เกศเสียไป ฉันก็ไม่เคยเข้าไปในห้องนั้นอีก”




ชื่อภรรยาเก่าของชายหนุ่มทำให้มีนาเงียบไปอย่างรู้สึกผิด ธีรเชษฐ์ลูบศีรษะเขาเบาๆ แล้วหันไปสนใจชุดออกงานของตน ร่างสูงถอดเสื้อออกโดยไม่ให้สัญญานเตือนล่วงหน้า แม้มีนาจะเห็นจนไม่มีอะไรให้เห็นแล้ว แต่ใบหน้าของเขากลับยิ่งจะบาง
ลงทุกวันที่ได้เห็น



ถึงอย่างนั้น ดวงตากลมโตก็ยังคงไม่ละไปจากภาพตรงหน้า



เด็กหนุ่มอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าร่างสูงยังคงใช้เข็มขัดที่เขาซื้อให้ไม่ว่าจะใส่ไปทำงานหรือออกงานแบบนี้ มีนาช่วยจัดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายให้เข้าที่ ปัดเศษผงเล็กๆที่เกาะอยู่บนไหล่เสื้อของอีกฝ่ายเบาๆแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มให้คนรักของตน




“เรียบร้อยครับ”



“อารมณ์ดีกว่าที่คิดนะ” ธีรเชษฐ์บีบจมูกเล็กเบาๆอย่างมันเขี้ยว แม้ว่าแววตาจะยังคงเก็บซ่อนความเป็นห่วงไว้ไม่มิด “ใครจะคิดอะไร…ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องเก็บมาใส่ใจ จำไว้นะมีนา”




“ครับ”





เด็กหนุ่มพยักหน้ารับ แม้การปฏิบัติจริงจะเป็นเรื่องยาก แต่ในเมื่อเขาเลือกที่จะยืนเคยข้างคนคนนี้ อย่างน้อยที่สุด เขาต้อง

พยายาม



“ไปกันเถอะ” มือใหญ่ดึงมือของมีนาเข้าไปในการเกาะกุม



เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะก้าวออกไปจากห้อง มือเรียวเล็กบีบมือของอีกฝ่ายอย่างหนักแน่น






อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด…



--------------------
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 19-09-2019 18:46:03
เป็นกำลังใจให้น้องมีนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 19-09-2019 18:48:39
สู้ๆนะมีนา :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 19-09-2019 20:09:37
ตื่นเต้นแทนน้องมีนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 19-09-2019 21:17:47
สู้ๆนะคะน้องมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 19-09-2019 21:33:54
ตื่นเต้นแทน คนอื่นรู้อยู่แล้ว แต่ทินกรยังไม่รู้ แต่คิดว่าเพื่อนคงจะรับได้นะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 19-09-2019 21:52:55
 o18 ทะนุถนอมเด็กบ้างคุณเชษฐ์
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 19-09-2019 22:35:31
เรื่องดี ๆ มักมาก่อนเรื่องไม่ดี สู้ ๆ นะหนูมีน  :a2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-09-2019 22:44:00
ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 19-09-2019 22:52:06
หนูมีนสู้ๆ รอลุ้นตอนซันรู้เรื่อง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 20-09-2019 00:07:28
เป็นกำลังใจให้น้องมีน สู้ สู้ นะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 20-09-2019 00:08:20
ขอให้ผ่านไปด้วยดีคับ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-09-2019 00:44:39
สู้ๆนะหนูมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 20-09-2019 00:46:49
ทินกรจะโกรธมีนไหมเนี่ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 20-09-2019 13:57:53
เป็นกำลังใจใจให้น้องมีนนน สู้ๆนะลูกกก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 22-09-2019 20:03:49
เอ็นดูมีนมาก อยากให้มีความสุขจริงๆ สักทีนะ
ขอให้ซันเข้าใจ และไม่ทิ้งมีนไว้

แหมม คุณเชษฐ์คะ พอจะหวานก็อาการออกมาก
พอได้สารภาพรักกัน ได้เปิดตัวแล้ว ยิ่งหลงหนักเลยจ้า

หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) chapter 42 งานเลี้ยงวันเกิด [19-9-62] คห.750
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 28-09-2019 11:59:54
Chapter 43: คืนถิ่น



แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น แม้แต่ตัวพวกเขาเองยังบอกไม่ถูกว่าภาพตรงหน้าคืออะไร



สิ่งแรกที่ทำให้มีนารู้สึกผิดปกติคือร่างสูงข้างกายที่จู่ๆก็หยุดเดินไปเสียดื้อๆ ธีรเชษฐ์ยืนนิ่งอยู่กลางสนามหญ้า ดวงตาสีควันบุหรี่จดจ้องอยู่กับภาพตรงหน้าของตัวเอง



สิ่งต่อมาที่มีนารู้สึกผิดปกติคือภาพของทินกรกับเมฆาในชุดสูทสีดำคล้ายคลึงกับของธีรเชษฐ์ ข้างกันนั้นมีภรัณยูที่กำลังถูกเมฆามองด้วยสายตาประหลาดใจอย่างไม่ปิดบัง



แต่สิ่งสุดท้ายที่ทำให้มีนานิ่งค้างไปเช่นเดียวกับคนรัก คือภาพของธารธาราในชุดสูทสีอ่อนโดดเด่นท่ามกลางกลุ่มพี่น้องของตน ดวงหน้างดงามฉายแววอบอุ่นอ่อนโยนอย่างที่มีนาไม่เคยเห็นมาก่อน ข้างกันนั้นมีแทนไทยที่แม้จะตัวโตเป็นยักษ์แต่กลับแทบจะมุดหลบหลังคนรักทั้งตัว ภาพแปลกตานั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองหลุดไปอยู่ในห้วงมิติลี้ลับสักแห่ง



"อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเชียวนะ"



มีนารีบก้าวตามธีรเชษฐ์เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหลุดจากภวังค์ก่อนหน้านี้แล้ว เด็กหนุ่มอาศัยรูปร่างของอีกฝ่ายช่วยพรางตัวเองจากสายตาของคนรอบข้าง แม้จะรู้ว่าไม่ช้าก็เร็ว ทั้งทินกรและแทนไทยก็ต้องเห็นเขา



แน่นอน แทนไทยไม่ใช่ปัญหา เพราะถึงอย่างไร อีกฝ่ายก็คงพอจะรู้เรื่องของเขากับธีรเชษฐ์จากการแอบฟังที่เขากับธารธาราคุยกันก่อนหน้านี้อยู่แล้ว



เจ้าของบ้านเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นคนที่เขาไม่คิดว่าจะได้พบ ถึงแม้มีนาจะหวาดกลัวลูกชายคนรองของธีรเชษฐ์แค่ไหน แต่เด็กหนุ่มก็ยังคงดีใจที่ธารธารายอมมางานวันเกิดของบิดา



"ธาร มากับเขาด้วยเหรอ?"



"ก็ไม่ได้อยากมาหรอกครับ ถ้าเด็กของคุณไม่ตามรังควาญชีวิตผมจนไม่เป็นอันทำอะไรแบบนี้”


คุณชายรองของบ้านกอดอกมองมีนา เด็กหนุ่มร่างเล็กตัวสั่นอย่างหวาดกลัว ไม่ใช่เพราะแววตาเย็นชาของธารธารา



…แต่เป็นเพราะในตอนนี้ ทินกรกำลังหันมาทางเขาด้วยแววตาสับสนไม่เข้าใจ



"มีน? ทำไม..."



"รู้จักกันด้วยเหรอ?" ธีรเชษฐ์ถามทินกร ขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจกับความคิดนั้น


เขารู้ว่ามีนารู้จักกับทินกร ซึ่งในหัวของธีรเชษฐ์ ชายหนุ่มคิดเสมอว่าทั้งคู่คงรู้จักกันอย่างผิวเผินเช่นเพื่อนร่วมสถาบันคนอื่นๆ แต่สีหน้าของลูกชายคนเล็กทำให้เขาคิดว่าคงมีอะไรมากกว่านั้น



"ครับ เพื่อนที่มหาลัย แต่ทำไม.." ทินกรยังคงไม่ละสายตาไปจากมีนา ทุกคนในที่นั้นสามารถเป็นเห็นฟันเฟืองในหัวของเด็กหนุ่มร่างสูงที่กำลังทำงานอย่างหนัดหน่วงเพื่อหาข้อสรุปให้กับชิ้นส่วนของปริศนาตรงหน้า



"ซัน ไปคุยกับเราหน่อยได้มั้ย เราจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง"




ร่างเล็กขอร้องขัดคำพูดของอีกฝ่ายก่อนที่สมองของเพื่อนจะเข้าสู่บทสรุปที่ทุกคนกำลังคิด สายตาของมีนาเว้าวอนอย่างน่าสงสารจนทินกรรีบพยักหน้าโดยไม่ต้องคิด ถึงอย่างไร มีนาก็คือเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเขา เด็กหนุ่มไม่คิดอยากด่วนสรุปอะไรไปไกลจนกว่าจะได้ยินคำอธิบายจากปากของร่างเล็ก



"จะดีเหรอ? ได้ข่าวว่าเพื่อนยังน้อยๆอยู่นี่" ธารธาราเลิกคิ้ว ความเย็นชาในน้ำเสียงบ่งบอกว่ารอยยิ้มที่ประดับอยู่บนริมฝีปากเรียวไม่ได้บ่งบอกถึงความรู้สึกจริงๆสักนิด



"ครับ แต่ผมเหนื่อยที่จะต้องถูกใช้เรื่องนี้ขู่ทุกครั้งที่พูดอะไรแล้ว"




น้ำเสียงของมีนาไม่มีแววประชดประชัน มีเพียงความเหนื่อยล้าเจือปนตามที่เจ้าตัวบอก คนถามมีสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มพึงพอใจ ราวกับเริ่มยอมรับอะไรบางอย่างในตัวเด็กหนุ่มตรงหน้า



ทินกรถูกเพื่อนตัวเล็กลากตัวไปยังอีกมุมหนึ่งของสวน เด็กหนุ่มร่างสูงรู้สึกถึงถึงสายตาของบิดาที่แทบจะเผาไหม้กระโหลกของเขาจนเป็นรู แต่ทินกรเลือกที่จะเก็บความกังวลนั้นไว้ก่อน



“มีน นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?”



ทินกรถามอย่างสับสนเมื่อพวกเขามาถึงศาลานั่งพักซึ่งห่างไกลจากรัศมีการได้ยินของผู้คน ทำไมเพื่อนของเขาถึงได้มางานวันเกิดของบิดาของเขา แถมยังมาพร้อมกับเจ้าของวันเกิดเสียด้วย



“ซัน…เรา…” มีนากัดริมฝีปากของของตัวเองอย่างประหม่า ตัดสินใจว่าพูดออกไปให้มันจบๆน่าจะดีกว่าค่อยๆพูดค่อยๆจาให้คนอ่อนภาษาอย่างทินกรสับสน “เราคบกับคุณเชษฐ์อยู่”



“คบ…” ทินกรเอ่ยทวนอย่างไม่เข้าใจ ราวกับว่านั่นเป็นหนึ่งในคำศัพท์ที่ตนไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิต



มีนาเม้มปาก พยักหน้ารับช้าๆ ดวงตากลมโตประเมินท่าทีของร่างสูงตรงหน้าอย่างใจเย็น



ไม่ว่าทินกรมีคำถามอะไร เขาจะตอบอีกฝ่ายตามความจริงทุกคำถาม



“ตั้งแต่เมื่อไหร่”




หากจะบอกว่าเมื่อวานก็คงจะดูแปลกประหลาดไปสักหน่อย มีนาจึงเลือกวันแรกที่เขาพบกับชายหนุ่มเป็นจุดเริ่มต้น




“ตั้งแต่เปิดเทอม”



“แต่ว่า…ถ้าอย่างนั้น…” ทินกรขมวดคิ้ว ดวงตาสีเดียวกับธีรเชษฐ์แลดูกังวลขึ้นมากับคำตอบของเขา “แฟนที่พายุเคยเจอ…คือพ่อเหรอ?”



มีนาพยักหน้า รู้สึกว่าลำคอของตัวเองตีบตันจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้



“ไอ้ผู้ชายเฮงซวยที่พายุด่าสาปส่งทุกวันเช้าเย็นก่อนอาหาร คนที่ทำนายเป็นแผล คนที่ทำนายร้องไห้ คนสารเลวที่ทำให้
นายไข้ขึ้นจนเป็นลม ไม่เคยโผล่หน้ามาที่มหาลัย ขังนายไว้ในห้อง ไม่เคยยอมให้นายไปไหนมาไหนกับพวกเรา…” มือของทินกรค่อยๆกำแน่นขึ้นในแต่ละความทรงจำที่ผุดขึ้นมาในหัว เขาไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น เขาไม่ใช่คนที่เวลาเกลียดใครก็สามารถป่าวประกาศออกมาได้อย่างเปิดเผยเหมือนพายุ แต่เด็กหนุ่มยอมรับว่ามีอยู่หลายครั้งที่เขานึกอยากจะสั่งสอนคนรักของเพื่อนตัวเล็กให้รู้จักคุณค่าของคนดีๆอย่างมีนาบ้าง



เขาน่าจะเดาได้ตั้งแต่ต้น ว่าคนเลวๆแบบนี้ไม่น่ามีอยู่สองคนบนโลก




“มะ…ไม่ใช่นะ!” มีนารีบปฏิเสธอย่างตกใจ เขาเตรียมตัวเตรียมใจที่จะถูกทินกรโกรธเกลียด ให้อีกฝ่ายมองเขาด้วยสายตาเหมือนที่ธารธาราใช้มอง แต่เขาไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้ที่ทินกรจะหันหัวเรือมุ่งเป้าไปทางบิดา “คุณเชษฐ์ไม่ได้…คือ…”



“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพ่อเป่าหูอะไรให้นายยอมคบกับเขา แต่จะให้ฉันอยู่เฉยๆแล้วปล่อยให้เขาทำกับนายเหมือนที่ทำกับของเล่นชิ้นอื่น ฉันทำไม่ได้”



ทินกรหยิบโทรศัพท์ออกมา มีนารีบคว้าข้อมือของเพื่อนสนิทไว้ด้วยสีหน้าแตกตื่น



“ซัน ทำอะไร?”



“โทรหาพายุ ให้เขามาพานายไปจากที่นี่” ทินกรว่า สีหน้าของเด็กหนุ่มไร้วี่แววของการล้อเล่น



“ซัน! จะบ้ารึไง?!  หยุดนะ!” มีนาไม่เคยขึ้นเสียงกับเพื่อน และครั้งนี้ก็ยังคงห่างไกลจากคำว่าขึ้นเสียงอยู่มากถึงแม้ว่าเสียงร้องของร่างเล็กจะดังที่สุดที่ทินกรเคยได้ยินก็ตาม



แต่ร่างสูงเพียงแค่ยกแขนของตัวเองให้พ้นจากการเกาะกุมของเพื่อน เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น



“มีน นายไม่รู้หรอกว่าผู้ชายคนนั้นทำอะไรได้บ้างเพื่อตัวเอง ฉันรู้ว่าตอนนี้นายยังไม่เห็นความจริง แต่ซักวัน…”



“เราเป็นคนหลอกเขา!” มีนาขัดบทอีกฝ่ายในที่สุด



“อะ…อะไรนะ?” ทินกรเบิกตากว้างมองเพื่อนตัวเล็กของตน



“เราอยากได้เงินไปรักษาแม่ เราเลยไปขายตัว คุณเชษฐ์ซื้อเราไว้ แต่หลังจากที่เขารู้ว่าเรายังไม่สิบแปด คุณเชษฐ์ก็ให้เราช่วยทำงานบ้าน อยู่เฝ้าห้องให้เขา จ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง” มีนาอธิบายอย่างร้อนรน “เขาไม่เคยหลอก
อะไรเรา เรารู้ดีว่าเขาต้องการอะไร“



“ทำไม…ทำไมนายถึงไม่มาขอให้พวกเราช่วย” ร่างสูงถามด้วยสีหน้าเจ็บปวด มีนาถอนหายใจ



“ตอนนั้นเราเพิ่งรู้จักกันแค่วันเดียว เราเจอคุณเชษฐ์หลังจากนั้นไม่นาน”



“มีน…”



“ขอร้องล่ะซัน” มีนาบีบมือของเพื่อนตัวสูงแน่น ดวงตากลมโตเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา “เชื่อใจเราซักครั้งได้มั้ย”



“นาย…รักพ่อมากเลยสินะ” ทินกรถอนหายใจออกมาเฮือกใจ มีนากัดริมฝีปาก หลับตาข่มความอายแล้วพยักหน้าให้กับอีกฝ่าย “แล้วเขาล่ะ รักนายรึเปล่า?”



“เราไม่รู้...” มีนาตอบอ้อมแอ้มเสียงเบา “หลังจากที่เขาขอคบกับเรา เรื่องอนาคตก็มีคุยกันบ้างแต่ไม่ได้...”



“เดี๋ยวๆๆๆ” คนฟังตาลีตาเหลือกอย่างตกใจ “ย้อนกลับไปซิ นายว่าอะไรนะ? ขอคบ?”



“….” มีนาพยักหน้า



“พ่อ...พูดออกมาว่าชอบนาย ขอคบกับนาย แล้วยังคุยเรื่องอนาคตกันด้วยงั้นเหรอ?”



“…”ร่างเล็กยังคงพยักหน้าแดงก่ำไปจนถึงใบหู



“ที่มาวันนี้...คือพ่อตั้งใจจะเปิดตัวนายให้ทุกคนรู้จักตั้งแต่แรกอยู่แล้ว?”



“…อื้อ…”



ทินกรนิ่งไปซักพักกับคำตอบของเพื่อนตัวเล็ก ก่อนจะยกมือขึ้นด้วยสีหน้าจนใจ




“เอาล่ะ ถ้านายมั่นใจว่าพ่อจะไม่ทำให้นายเสียใจ ฉันก็จะไม่ห้าม แต่ขออะไรอย่างนึงได้มั้ย?” ทินกรถามด้วยสีหน้าจริงจัง มี
นารีบพยักหน้าแม้จะไม่รู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการคืออะไร



“ได้สิ อะไรเหรอ?”



“อย่าเพิ่งบอกพายุ”



“เอ๊ะ?” มีนากระพริบตาปริบๆ เมื่อกี้อีกฝ่ายยังยืนกรานจะโทรหาเพื่อนมาเอาตัวมีนาไปอยู่เลย



“ฉันอยากเห็นหน้ามันตอนที่รู้...ไม่สิ ฉันอยากอัดวีดีโอหน้ามันตอนที่รู้ความจริง” เด็กหนุ่มลูกเสี้ยวรัสเซียขยับยิ้มมุมปาก หัวเราะหึๆออกมาด้วยสีหน้านึกสนุกที่ทำให้มีนาเริ่มเห็นภาพอีกฝ่ายซ้อนทับกับคนเป็นพ่อ



“…” แม้จะอยากตักเตือนแต่มีนาคิดว่าตนไม่อยู่ในสถานะที่จะทำอย่างนั้นนัก เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างจำยอม ได้แต่ภาวนาไม่ให้พายุโกรธเขามากนักเมื่อความจริงปรากฏ











ทางฝั่งของธีรเชษฐ์นั้น หลังจากที่มีนาลากบุตรชายคนเล็กของตนไปจนลับสายตา ความสนใจของร่างสูงจึงกลับมาอยู่ที่คน
ที่เหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกชายคนรองที่จ้องมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรนัก



“พี่อุ่น..”



เจ้าเด็กผมบลอนด์ตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างธารธาราเอ่ยเป็นเชิงเตือน ธีรเชษฐ์ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นใคร แต่ภาษากายของคนทั้งคู่และสีหน้าไม่สบอารมณ์ของเมฆาทำให้ธีรเชษฐ์รู้ว่ามีบางอย่างที่เขาไม่ชอบใจนักเกิดขึ้นระหว่างสองคนนี้
เจ้าของชื่อขบกรามเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจ



"ผมมีเรื่องจะคุยด้วย"



ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ แค่ธารธารายอมมางานในครั้งนี้ก็ผิดวิสัยมากพออยู่แล้ว ทิฐิของลูกชายเขาสูงแค่ไหนคนที่ถ่ายทอดวิชาให้อย่างคนเป็นพ่อหรือจะไม่รู้ นี่ถึงขั้นเป็นฝ่ายกลับมาแถมยังขอพูดด้วยแบบนี้ คงไม่ได้คิดด้วยตัวเองแน่
ว่าแล้วก็เหลือบมองเจ้าเด็กแปลกหน้านั่นอีกสักที



“ไปคุยในบ้าน"



 ธีรเชษฐ์ตอบเสียงราบเรียบไม่แพ้กัน หมุนตัวหันหลังเดินกลับไปยังตัวบ้านโดยไม่คิดจะรอลูกชายคนรองที่เดินตามไปเงียบๆ ชายหนุ่มพาธารธาราเข้าไปในห้องทำงาน อดนึกไพล่ไปถึงสมัยก่อนที่ตนเคยนั่งทำงานโดยมีลูกชายคนรองในชุด
กระโปรงสีหวานปีนขึ้นมานั่งบนตักพร้อมรอยยิ้มเผล่อย่างมีความสุขไม่ได้



“ลมอะไรหอบมาล่ะ” แม้จะอยากถามสารทุกข์สุกดิบ อยากรู้ความเป็นไปในชีวิตของอีกฝ่าย แต่ธีรเชษฐ์ยังคงไม่รู้ว่าจะพูดกับลูกชายคนรองอย่างไร



เขาเคารพการตัดสินใจของธารธารา เมื่ออีกฝ่ายไม่ต้องการมีเขาเป็นพ่อ คำเรียกแทนตัวของพวกเขาทั้งสองจึงไม่ต่างอะไรกับคนรู้จัก แม้ว่าเขาจะไม่ได้ติดต่อกับอีกฝ่ายเลยก็ตาม



“ก็แค่อยากมาเห็นว่าคุณจะโดนปอกลอกไปแค่ไหน” ธารธาราไหวไหล่ “แต่ตัวติดกันแบบนี้ คงยอมหมดทุกอย่างแล้วสินะ”



“อย่าเอาคนนอกมายุ่งกับเรื่องของเราเลย” ธีรเชษฐ์เอนพิงโต๊ะทำงานของตน กอดอกมองลูกชายนิ่ง รู้ดีว่าอีกฝ่ายเพียงแค่
อยากยั่วโมโหตนเท่านั้น “ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้สนใจว่าเงินในบัญชีฉันจะติดลบไปแค่ไหนหรอก จริงมั้ย?”




“ใครจะรู้ บางทีวันที่คุณไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ผมอาจจะกลับมาแล้วกวาดเอาทุกอย่างของคุณไปจากเด็กนั่นก็ได้” ธารธาราไหวไหล่ “ต่อให้ผมไม่อยากได้ แต่ถ้าได้เห็นของที่คุณเหลือไว้ให้เด็กนั่นวางอยู่ในตู้โชว์ คงสนุกพิลึก”



“อยากได้ก็เอาไปสิ” ธีรเชษฐ์ตอบเสียงนิ่ง ดวงตาสีควันบุหรี่สบกับดวงตาสีอัลมอนด์ที่ถอดแบบมาจากมารดาไม่ผิดเพี้ยน


“เพราะของที่ไม่ใช่ชื่อของเมฆกับซันในตอนนี้ ยังไงก็เป็นชื่อเธอทั้งหมดอยู่แล้ว”



“….” ธารธารานิ่งไปกับคำตอบของร่างสูง



“ถ้าธุระมีแค่นี้ ฉันขอตัว” ธีรเชษฐ์ผละจากโต๊ะทำงานด้วยสีหน้าเรียบเฉย แม้ในใจจะอยากให้ช่วงเวลาที่เขาได้เห็นหน้าลูกชายคนรองอยู่นานขึ้นอีกสักนิดก็ตาม



“คุณจะไม่แก้ตัวจริงๆเหรอ?”



เสียงหวานดังขึ้นหยุดมือที่กำลังจับลูกบิดประตูไว้กับที่ ธารธาราหันมาเผชิญหหน้ากับเขา หน้ากากที่ถูกสวมไว้อย่าง
ระมัดระวังมาตลอดหลายปีถูกกระชากทิ้งอย่างไม่ใยดี แววตาของร่างโปร่งในตอนนี้หากสามารถฆ่าคนได้ธีรเชษฐ์คงจะตาย
ไปนานแล้ว



“…”



“สามปี....ผมรอคุณมาสามปี ผมรอให้คุณมีคำอธิบาย รอคำแก้ตัวบ้าๆบอๆที่ฟังไม่ขึ้นแต่ผมก็ยังรู้ว่าคุณกำลังพยายาม รออะไรก็ได้ที่ทำให้ผมเห็นว่าคุณยังใส่ใจผมบ้างซักนิด!!” เสียงที่ไม่เคยตะโกนใส่ใครอย่างเกรี้ยวกราดนอกจากบิดาแท้ๆดังก้องไปทั่วทางเดิน “ต่อให้ผมรู้ว่าคุณจะไม่รักษาสัญญา แต่ผมก็รอให้คุณกลับมา รอคำสัญญาว่าคุณจะเป็นคนที่ดีกว่านี้ ว่าคุณจะพยายามมากกว่านี้เพื่อผม เพื่อซัน เพื่อพี่เมฆ แล้วนี่อะไร? แล้วนี่มันอะไร?! คุณเปลี่ยนตัวเองเพื่อเด็กขายตัวคนเดียว คุณทำทุกอย่างเพื่อเด็กนั่น แล้วผมเป็นตัวอะไร? แล้วลูกของคุณเป็นตัวอะไร!!!!”



ธารธารากระชากคอเสื้อของอีกฝ่าย ร้องตะโกนอย่างเดือดดาลจนเสียงหวานแตกพร่า ธีรเชษฐ์ยืนยิ่ง เตรียมตัวรับหมัด ฝ่ามือ หรืออะไรก็ตามที่ธารธาราเห็นว่าเหมาะสมที่จะใช้ลงโทษพ่อเลวๆอย่างเขา



แต่สิ่งที่อีกฝ่ายใช้ มีเพียงหยาดน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวยและสีหน้ายอมแพ้ ริมฝีปากเรียวสั่นระริกตามแรงสะอื้นที่กลั้นไว้ไม่อยู่




“แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังรักคุณ...” น้ำเสียงของธารธาราเจ็บใจ แต่ธีรเชษฐ์รู้ว่าคนที่อีกฝ่ายกำลังแค้นอยู่นั้นคือตัวของธารธาราเอง “ทำไมคนเลวๆอย่างคุณถึงยังมีอิทธิพลกับชีวิตผม ทำไมผมถึงเกลียดคุณไม่ได้ ทำไมผมถึงไม่ยอมตัดคุณออกไปซักที...”




“ขอโทษ...” นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ธีรเชษฐ์สามารถพูดออกไปได้ในตอนนี้ ชายหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะยกมือขึ้นโอบกอดร่างที่สั่นสะท้านจากแรงสะอื้น




“ผมเหนื่อยแล้ว...” เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นในที่สุด ดวงของธารธาราแดงก่ำจากการร้องไห้ สีหน้าของร่างโปร่งดูเหมือนจะล้มลงไปกับพื้นได้ทุกเมื่อ “ผมพอแล้ว...”



“ขอโทษ...” ธีรเชษฐ์รู้ว่าคำขอโทษของตัวเองไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงอยากจะขอโทษคนตรงหน้าต่อไป




“ผมแค่อยากมีความสุข...” น้ำเสียงยอมแพ้ต่อทุกสิ่งทุกอย่างนั้นราวกับหมักลุ่นๆกระแทกเข้าที่อกของคนฟัง “ผมแค่อยากเป็นคนที่สมบูรณ์ให้คู่ควรกับที่แทนรัก ทำไมผมถึงทำไม่ได้”



“ทุกอย่างเป็นความผิดของฉัน” ธีรเชษฐ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จับไหล่ทั้งสองข้างของธารธาราไว้มั่นแล้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่ยังคงแดงก่ำจากการร้องไห้ราวกับจะตอกย้ำทุกคำพูดเข้าไปในโสตประสาทของอีกฝ่าย “เธอเป็นคนที่สมบูรณ์ ธาร เธอคู่ควรกับความรักของไอ้เด็กนั่นไม่ว่าใครจะพูดยังไง เธอจะเป็นคนที่มีความสุข เธอไม่ใช่คนเลวในเรื่องนี้ เข้าใจมั้ย”




“ใช่…ทุกอย่างเป็นความผิดของคุณ” ธารธาราพยักหน้าอย่างว่าง่าย พึมพำซ้ำไปซ้ำมาอย่างอ่อนแรง“ของคุณทั้งหมด”



“เก่งมาก...” ธีรเชษฐ์ยิ้มออกในที่สุด อยากจะยกมือขึ้นลูบศีรษะของเด็กตรงหน้าแต่ไม่กล้าพอ



“เพราะมันเป็นความผิดของคุณ คุณถึงต้องรับผิดชอบ” ธารธาราผละออกจากอีกฝ่าย หลบสายตาเป็นกังวลจากบิดาของตน


“ผมจะต้องมีความสุข แล้วถ้าความนั้นหมายถึงยอมให้อภัยคุณ ผมจะทำเพื่อแทน”



“จะเอาอย่างนั้นเหรอ” ธีรเชษฐ์ถามอย่างประหลาดใจ จากบทสนทนาเมื่อครู่ เขาไม่คิดว่ามันจะมีผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบนี้



“ใช่ ผมจะทำ ต่อให้ผมเกลียดที่จะต้องทำมันแค่ไหน แต่ถ้ามันจะทำให้แทนมีความสุข ผมจะให้อภัยคุณ” ธารธาราสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ์ “อย่าเข้าใจผิด ผมไม่คิดจะกลับไปเรียกคุณว่าพ่อ ผมไม่มีวันจะเรียกคุณว่าพ่อ”
ธีรเชษฐ์พยักหน้า แม้จะตระหนักถึงความจริงข้อนี้ดี แต่การได้ยินด้วยตัวเองอีกครั้งก็ยังคงทิ้งรอยแผลไว้ไม่ต่างจากครั้งไหน




“แต่ผมจะกลับมา ทุกวันเกิดซัน วันเกิดพี่เมฆ วันครบรอบวันที่แม่เสีย ผมจะกลับมา แล้วคุณจะต้องอยู่ตรงนั้น เพราะนั่นคือความรับผิดชอบของคุณที่มีกับครอบครัวที่แทบจะไม่เหลืออยู่นี่” ธารธาราเอ่ยเสียงแน่วแน่ ราวกับจะกล่อมตัวเองให้ฟัง “ซักวัน ผมจะมองคุณได้เต็มตา โดยที่ไม่นึกถึงผู้ชายที่ฆ่าแม่ของผม ผู้ชายที่เกือบจะทำให้พี่ชายของผมตาย แล้วผมจะกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง”



“ถ้านั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการ” ธีรเชษฐ์พยักหน้า แม้จะรู้ว่าการกระทำจริงนั้นไม่ได้ง่ายดายเหมือนคำพูดก็ตาม



แต่หากนั่นเป็นสิ่งที่ธารธาราเรียกร้อง เขาก็ไม่คิดจะปฏิเสธ




เพราะคำขอแสนบิดเบี้ยวของธารธารา เป็นคำขอแรกของอีกฝ่ายหลังจากคำว่า ‘ไปให้พ้นหน้าผม’ ในวันที่เมฆาประสบอุบัติเหตุ




แล้วแบบนี้...คนเป็นพ่ออย่างเขาจะปฏิเสธได้อย่างไรกัน


หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 28-09-2019 12:50:37
ลุงเชษฐ์เกือบจะได้ลูกชายคนรองกลับมาแล้ว ถึงจะแบบไม่ธรรมดาก็เถอะ ซึ่งมันคงยากที่จะทำใจให้อภัยกันได้ง่ายๆ ยกความดีให้แทนไทที่ทำให้ธารคิดได้ .

ส่วนน้องซันรู้จักพ่อตัวเองดีจนอยากปกป้องเพื่อนจากจอมมาร น่ารักอ่ะ
จากนี้น้องมีนน่าจะมีความสุขจริงๆ ซักทีนะ.
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 28-09-2019 14:26:55
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 28-09-2019 14:39:45
เหมือนจะเคลียร์แต่ยังรู้สึกค้างคา :mew6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 28-09-2019 20:44:17
เหมือนจะดีขึ้นนะะะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 28-09-2019 21:12:43
เป็นการเคลียร์ปัญหาระหว่างธารกับธีรเชษฐ์ไปได้นิดหนึ่ง นิดหนึ่งจริงๆ

สรุปปัญหาของมีนเรื่องซัน สรุปซันเข้าข้างมีน ไม่โทษมีนเท่าไรเลย ดีแล้วสงสารน้องมากเลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-09-2019 23:02:36
ตอนนี้ซันได้ใจเราไปเต็ม ๆ เลยอ่ะ  o13
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 29-09-2019 00:06:08
สองพ่อลูกติดตรงที่ไม่คุยกันอย่างเดียวเลยจริงๆ
ลูกก็อยากให้พ่อไปหาให้พ่ออธิบายแต่พ่อก็ดันปักใจกับคำพูดของลูกไปแล้ว
หวังว่าจากนี้ความสัมพันธ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 29-09-2019 00:39:04
อ่านซันกับมีน คือโล่งใจ ซันคือพระอาทิตย์จริงๆ :katai2-1:
พออ่านมาถึงพ่อกับลูกคนรองเท่านั้นแหละ ชั้นสงสารธารรรรร :sad4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-09-2019 02:12:03
รอเวลาให้ทุกอย่างมันดีขึ้น
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 29-09-2019 14:30:48
รอดูเมฆตกใจ แต่ขอโทษนะที่แฟนลูกชายควไม่ตกใจ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 29-09-2019 16:37:28
ได้เป็นแม่ซันจริงๆแล้วน้องมีนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 01-10-2019 07:52:46
ธารยังต้องใช้เวลาอีกเยอะ
แค่ยอมรับเท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว
สกิลของซันตอนบรรยายพ่อว่าผู้ชายเฮงซวยนู่นนี่นั่นคือแบบน้องจะสกิลดีกับเรื่องแบบนี้และละครสินะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-10-2019 21:47:14
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 02-10-2019 20:28:39
พ่อก็ไม่ยอมพูดยอมอธิบายอะไร คงคิดว่าจะเป็นเรื่องแก้ตัวเหมือนที่ผ่านมา
เลยเลือกที่จะรับผิดเอง ยอมรับเอง แล้วก็พากันเสียใจกันถ้วนหน้า

แต่เชื่อธารพอทำใจได้บ้างแล้ว ด้วยความรักของอีกคนที่มีให้ แทนช่วยได้เยอะ

เอ็นดูมีน ในที่สุดน้องก็ยอมรับความเป็นไป และสารภาพกับซัน
โชคดีที่ซันยังใจเย็นพอ และเข้าใจมีน

หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: Nongsea13 ที่ 05-10-2019 11:49:33
ยอมให้ลูกเกลียด เพราะกลัวลูกไม่ปลอดภัย  :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 10-10-2019 10:37:02
คิดถึงเรื่องนี้มาก หลังจากที่มีช่วงนึงอัพช้า เราเลยขอดองไว้ก่อน
เพราะรอนานนานมันอาจจะบั่นทอนหัวใจ~~
กลับมาคราวนี้คือ จัดหนักจัดเต็ม สนุกเหมือนเดิม
อยากให้นักเขียนกลับมาอัพอย่างสม่ำเสมอนะ
เราเชื่อว่าคนอ่านที่เคยติดตามยังไงก็กลับมาแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 43: คืนถิ่น [28-9-62] คห.765
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 10-10-2019 20:07:48
Chapter 44: พบที่ปรึกษา

มีนาขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อหาธีรเชษฐ์ไม่พบในห้องทำงานของร่างสูง หลังจากพูดคุยกับทินกร และได้สนทนากับแทนไทยต่ออีกสักพัก เด็กหนุ่มก็เดินไล่หามาตั้งแต่สวนหลังบ้าน ทว่าไม่พบวี่แววของเจ้าของวันเกิด


“คุณเชษฐ์ครับ...”


คนที่เขาหันมาพบกลับเป็นธารธาราที่ยืนกอดอกมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย มีนาสะดุ้ง ยืนนิ่งอยู่กับที่ราวกับลูกกระต่ายที่กำลังจะโดนรถเหยียบแต่หนีไปไหนไม่ได้



“ชั้นสาม ห้องริมขวา”



ร่างโปร่งพูดแค่นั้นก่อนจะหมุนกายเดินจากไป มีนากระพริบตาปริบๆอย่างงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็เดินขึ้นบันไดไปชั้นสามตามที่อีกฝ่ายว่าอย่างไม่มีทางเลือกอื่น



ห้องริมขวาสุดทางเดินเป็ฯเพียงห้องเดียวในชั้นสามที่ประตูแง้มเปิดอ้าและมีแสงไฟลอดออกมา มีนาผลักประตูบานใหญ่ออกเบาๆ ภายในห้องนอนใหญ่ของบ้านแม้จะไม่มีฝุ่นเกาะเขรอะแต่ก็พอดูออกว่าไม่มีคนอยู่อาศัยมานานหลายปี คนที่เขาตามหานั่งอยู่บนพื้นปลายเตียง เอนพิงศีรษะกับขอบเตียงอย่างเหม่อลอย มีนาขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล ทรุกตัวลงข้างคนรักแล้วเอื้อมมือไปวางทาบบนมือใหญ่เบาๆ



“คุณเชษฐ์ โอเคมั้ยครับ?”



“ก็…โอเคขึ้นล่ะมั้ง” คนตอบถอนหายใจ แต่จากแววตาที่ดูกระจ่างขึ้นของร่างสูง บทสนทนาคงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิด



“เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา แต่ผมดีใจนะครับที่พวกคุณได้คุยกันแล้ว” มีนาปลอบ




มือใหญ่เอื้อมมาดึงร่างเล็กเข้ามาใกล้ ซุกหน้าลงกับซอกคอขาวแล้วกอดเขาไว้อย่างนั้น เด็กหนุ่มที่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการการปลอบประโลมยกแขนขึ้นโอบกอดร่างสูงใหญ่เท่าที่จะทำได้ แต่สัมผัสอุ่นชื้นที่เลียแผล็บเข้าที่ต้นคอทำให้เขาตระหนักได้ว่าตัวเองคิดผิดถนัด



“ปลอบหน่อยสิ ฉันเศร้าอยู่นะ”



“คนเศร้าประเภทไหนเขาทำตัวแบบนี้กันบ้างครับ...อ๊ะ..” ลิ้นร้อนที่ลากไล้ไปตามซอกคอขาวแปรเปลี่ยนเป็นริมฝีปากที่ดูดเน้นหมายแสดงรอยความเป็นเจ้าของ มีนากอดแขนเรียวรอบคอหนาแน่นขึ้น ยอมโอนอ่อนกับสัมผัสอย่างว่าง่ายเสียจนธีรเชษฐ์ยังประหลาดใจ



“นี่…จะไม่ขัดขืนหน่อยเหรอ?”



“ทำไมต้องขัดขืนล่ะครับ...” คนตัวเล็กถามเสียงซื่อ แววตางุนงงของเด็กหนุ่มทำเอาคนแก่แทบลมจับ




“มีน…รู้ใช่มั้ยว่าเรากำลังจะทำอะไรกัน...” ไม่ว่าเปล่า ร่างของมีนาก็ถูกฉุดขึ้นไปบนเตียงนุ่มที่ร่างสูงบอกว่าไม่เคยได้นอนมานับตั้งแต่ภรรยาเสียไป เด็กหนุ่มถูกขังอยู่ภายใต้ร่างสูงใหญ่ของคนรัก ทว่านอกจากจะไม่มีท่าทีหวาดกลัวแล้ว มีนายังก้มหน้าเล็กน้อยอย่างขัดเขินอีกด้วย ท่าทีดังกล่าวทำให้ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วอย่างสับสน



“ก็…เป็นแฟนกันแล้วนี่ครับ...” เสียงหวานพึมพำตอบ “ต้องขัดขืนด้วยเหรอครับ...”



“….” ถ้ารู้ว่าเป็นแฟนกันแล้วจะเป็นแบบนี้ ธีรเชษฐ์ไม่รอมาจนถึงตอนนี้หรอก





เขารู้ว่ามธุวันจะต้องโกรธเขาจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ต้องให้ทินกรเป็นตัวแทนเป่าเค้กวันเกิดและกล่าวขอบคุณแขกเหรื่อในงานที่ธีรเชษฐ์เป็นคนดึงดันที่จะจัด แต่เมื่อเห็นร่างเล็กที่นอนคว่ำแผ่บนเตียงกว้างอย่างหมดสภาพ หายใจเข้าออกสม่ำเสมออย่างมีความสุขหลังจากได้ออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ ริมฝีปากรูปกระจับผุดยิ้มมุมปากทั้งที่ยังหลับสนิท




ใครจะรู้ว่าเด็กน้อยของเขาจะมีมุมแบบนี้อยู่ด้วย




ธีรเชษฐ์ก้มลงกดจมูกลงบนแก้มนุ่มเบาๆแล้วลุกขึ้นจากเตียง คว้าเสื้อคลุมของตนมาใส่อย่างลวกๆแล้วเปิดประตูออกไปอย่างเบามือที่สุด เขาไม่ได้อยากผละจากร่างเล็กไปในตอนนี้ หากเลือกได้ เขาไม่อยากแยกจากอีกฝ่ายไปตลอดชีวิต หาก
แต่แขกที่รอเขาอยู่ในห้องทำงานนั้นธีรเชษฐ์ไม่สามารถปล่อยให้รอนานไปมากกว่านี้



“ขอบคุณนะครับที่ยอมสละเวลามาพบผม”



 นิโคไลยิ้มให้กับเจ้าของบ้านในชุดคลุมตัวยาวที่นั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของตัวเอง ธีรเชษฐ์ส่ายหน้า



“ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่...คุณนิโคไลมีธุระอะไรกับผมเหรอครับ?”




“ก็ไม่เชิงธุระหรอกครับ ผมแค่อยากเอาของขวัญมาให้”



ทารินที่ยืนอยู่ด้านหลังของชายหนุ่มผมทองหยิบเอาซองเอกสารสีน้ำตาลปึกหนาออกมาจากกระเป๋าเดินทางส่งให้เจ้านายของตน นิโคไลรับมาด้วยสีหน้าที่ธีรเชษฐ์อ่านไม่ออก ก่อนจะถามชายหนุ่มลูกครึ่งรัสเซียด้วยน้ำเสียงใคร่รู้



“น้องมีนานี่...น่ารักดีนะครับ” มุมปากของชายหนุ่มกระตุกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นดวงตาที่แข็งกร้าวขึ้นของธีรเชษฐ์ “เห็นคุณเชษฐ์มีความสุข ผมก็ยินดี แต่นี่จะส่งผลอะไรกับข้อตกลงที่เราทำไว้รึเปล่าครับ?”



“ไม่ครับ”



ชายหนุ่มอายุมากกว่าตอบโดยไม่ต้องคิด เรียกรอยยิ้มพึงพอใจจากนิโคไลได้เป็นอย่างดี มาเฟียหนุ่มยื่นซองเอกสารในมือให้กับธีรเชษฐ์ ดวงตาสีมรกตลอบสังเกตท่าทีของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างละเอียด



“นี่เป็นเอกสารทุกอย่างเกี่ยวกับการเสียชีวิตของภรรยาของคุณ” นิโคไลลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างเชื่องช้า พึงพอใจกับแรงโทสะที่แผ่ออกมามากขึ้นจากร่างของธีรเชษฐ์เรื่อยๆยิ่งดวงตาสีควันบุหรี่กวาดดูตัวอักษรบนกระดาษสีขาวมากขึ้นเท่าไหร่



“ผมขอรับรองด้วยเกียรติของหัวหน้าตระกูลอัลฟอนโซ่ ผมจะทำให้คนที่ฆ่าภรรยาของคุณต้องชดใช้อย่างสาสม”




การแก้แค้นที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้เขายังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน ในวันนี้กลับรู้สึกเหมือนมันเป็นเพียงหน้าที่ต่อหญิงสาวผู้ล่วงลับ ธีรเชษฐ์ถอนหายใจหลังจากเหลือเพียงตัวเขาคนเดียวในห้อง ยกมือขึ้นลูบใบหน้าอย่างอ่อนเพลีย ก่อนจะหยิบเอกสารในซองออกมาอ่าน








“แม่มีน~”



“ซัน ไม่เอา...”


“แม่มีนคร้าบบบบ”



“ซัน เดี๋ยวใครมาเห็น”



“แม่มีนของซันนนนน”



“ซัน! ถ้าไม่หยุดเราจะดุแล้วนะ!” มีนาที่ไม่มีทางเลือกขู่เพื่อนตัวโตด้วยสีหน้าจริงจังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่นั่นดูเหมือนจะยิ่งเข้าทางคนขี้แกล้งมากขึ้นไปอีก เจ้าตัวทำหน้าเศร้าโศกโศกาเสียเต็มประดา วิ่งไปหลบหลังต้นไม้ทำปากยู่ใส่เขาอีก



“งือออ มี้ดุอ่ะ”



พันธุกรรมสินะ…



“ไหนว่าไม่อยากให้พายุรู้ไง เดี๋ยวเขาก็มาได้ยินหรอก” มีนาถอนหายใจ



“ไม่ให้กูรู้อะไร?” เสียงของคนในหัวข้อสนทนาดังขึ้น คนมีชนักติดหลังทั้งสองสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ



“ไม่อยากให้มึงรู้ว่ากูเป็นลูกรัก มึงเป็นลูกชังไง” ทินกรผละจากต้นไม้มากอดคอมีนาอย่างอารมณ์ดี พายุกลอกตาอย่างเหนื่อยใจแล้ววางจานข้าวลงบนโต๊ะ



“เออ ไอ้ลูกรัก ถ้าลูกรักจริงไอ้มีนจะดันหน้ามึงอยู่งี้เรอะ?”



ทินกรเพิ่งสังเกตว่าเพื่อนตัวเล็กที่กำลังจะขาดอากาศหายใจในอ้อมกอดกำลังพยายามดันตัวเขาออกอย่างไร้เรี่ยวแรง ร่างสูงหัวเราะชอบใจ กอดคนตัวเล็กแน่นขึ้นอย่างมีความสุข จนพายุต้องเป็นฝ่ายช่วยแงะมีนาออกมาก่อนที่ร่างเล็กจะโดนรัดจนกระดูกหักเข้าจริงๆ



“อะไรของมึงวะซัน วันนี้มึงอารมณ์ดีแปลกๆนะ”



“ก็กูมีความสุข” ทินกรยิ้มกว้าง คนมองส่ายหน้า คิดว่าเพื่อนของตนสมงสมองคงจะไปแล้วจริงๆ



ทินกรยิ้มให้มีนาอีกครั้งก่อนจะนั่งลงตักข้าวเข้าปาก แม้ว่าเพื่อนตัวเล็กของเขาจะไม่รู้ว่าตัวเองได้ทำอะไรให้กับครอบครัวที่ทินกรพยายามรั้งไว้ไม่ให้แตกสลายจนสุดกำลัง แต่ร่างสูงยังคงรู้สึกขอบคุณมีนาที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ครอบครัวของเขากำลังขยับเข้าหากันทีละนิด



แม้จะยังคงห่างไกลจากครอบครัวสุขสันต์ที่เคยวาดฝัน แต่ได้เท่านี้ก็มาได้ไกลมากแล้ว



“มีน มึงไม่ซื้อข้าวเหรอ?” พายุที่เห็นเพื่อนตัวเล็กยังคงไม่มีอะไรตกถึงท้องขมวดคิ้ว เช่นเดียวกับทินกรที่หันขวับมาทันทีที่ได้ยิน มีนาที่กลัวจะโดนเพื่อนทั้งสองยัดเยียดอาหารเข้าปากรีบอธิบาย



“วันนี้เรามีพบอาจารย์ที่ปรึกษา คณะเลี้ยงน่ะ”



“แล้วไป...” พายุพยักหน้าอย่างยอมรับได้ “อย่าให้กูรู้นะว่ามึงไม่มีเงินกินข้าวแล้วไม่บอกกู”



“ไม่ต้องห่วงน่า มีนไม่มีทางไม่มีหรอก” กลับเป็นเด็กหนุ่มลูกครึ่งรัสเซียที่ตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ ถ้าพ่อเขาจะมีสิ่งใดที่ไม่เคยขาดตกบกพร่อง คงจะเป็นเรื่องเงินนี่แหละ



“มึงรู้ได้ไง”



“ก็…ก็แฟนมันรวยไม่ใช่รึไง?” คนปล่อยไก่ว่า มีนาส่ายหน้า ไม่คิดว่าความลับของตัวเองจะเป็นความลับอยู่ได้นานนัก



“เราไปก่อนนะ จะถึงเวลาแล้ว” ร่างเล็กว่าแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะ



แม้ใจจะไม่ค่อยอยากสู้หน้าอาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งรู้ดีว่าเขาเพิ่งทำอะไรมาเมื่อวานเท่าไหร่นัก แต่เขาก็ไม่อยากจะอยู่รับอารมณ์ของพายุหากทินกรเผลอหลุดพูดอะไรออกมาอีกหรอกนะ









“มาคนแรกเลยมีน คนอื่นติดเรียนกันอยู่ คงอีกสักพักกว่าจะมา” คเชนทร์กล่าวขึ้นเมื่อเห็นสายรหัสปีหนึ่งที่ตนรับผิดชอบก้าวเข้ามาในห้อง




“สวัสดีครับอาจารย์คเชนทร์”  มีนานั่งลงข้างอาจารย์ที่ปรึกษาของตนแล้วแกะกล่องข้าวที่ได้รับแจกมาออกรับประทาน คเชนทร์ขยับยิ้มมองร่างเล็กที่ดูมีน้ำมีนวลกว่าครั้งแรกที่พวกเขาพบกันมาก ก่อนจะเอ่ยทัก



“ได้ของขวัญที่ครูให้ไอ้เชษฐ์ไปมั้ย?”



“ครับ ได้แล้วครับ” มีนาพยักหน้า



“แล้วไอ้เชษฐ์มันว่าไง?”



“เขาก็…หัวเราะครับ”



มีนาตอบเสียงซื่ออย่างไม่เข้าใจปฏิกิริยาของคนรัก ในบรรดาของขวัญวันเกิดที่ธีรเชษฐ์ได้รับ นอกจากที่คาดผมหูกระต่ายกับขนปุกปุยซึ่งติดอยู่กับบางสิ่งที่มีนาไม่นึกอยากคิดถึงในตอนนี้ซึ่งได้รับมาจากวีรภัทร ของขวัญของคนอื่นๆก็ดูจะเป็นของปกติที่คนทั่วไปได้รับในงานวันเกิด



ไม่เว้นแม้แต่สัปปะรดหลายสิบลูกจากคเชนทร์ที่วางกองอยู่ในห้องครัว



ธีรเชษฐ์หลุดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น ส่วนมีนาในตอนนั้นเพียงแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมปริมาณมันถึงได้มากมายเพียงนั้น
สงสัยคงจะซื้อมาให้คนอื่นๆในบ้านด้วยล่ะมั้ง



“มีการ์ดด้วยครับ” มีนาหยิบการ์ดที่วางอยู่บนเคาท์เตอร์ส่งให้คนรัก แต่ธีรเชษฐ์กับพยักเพยิดให้เขาอ่าน ยังคงปาดน้ำตาออกจากหางตาจากการหัวเราะอย่างหนัก ลายมือบรรจงผิดวิสัยสายอาชีพนี้เขียนเพียงข้อความสั้นๆ



‘ของขวัญให้ลูกศิษย์กู’



“ให้ผม? อาจารย์ให้สัปปะรดคุณเชษฐ์แล้วทำไมถึงเป็นของขวัญผมได้ล่ะครับ?” มีนาเงยหน้าถามร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ ได้รับคำตอบเป็นเพียงเสียงหัวเราะอีกระลอกจากคนรัก



ในอนาคตที่มีนาพอจะรู้เรื่องมากขึ้นกว่าในตอนนี้ เด็กหนุ่มจึงได้เข้าใจว่าทำไมคเชนทร์ถึงได้สนิทกับธีรเชษฐ์และวีรภัทรมาจนถึงปัจจุบันนี้



“แล้วเรื่องของเธอกับเพื่อนครู ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?” คเชนทร์ถามจี้จุด ในเมื่อยังไม่มีใครมา ก็ขอสอบถามเรื่องที่พูดต่อหน้าคนอื่นไม่ได้ก่อนก็แล้วกัน มีนาเพียงแต่ยิ้มเอียงอายให้กับอาจารย์ของตน ซึ่งนั่นเป็นคำตอบที่มากพอจะทำให้คนเป็นกังวล
ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก “ดีแล้วล่ะ”




“ขอบคุณนะครับอาจารย์”



“ครูสิต้องขอบใจเธอ มีน” คเชนทร์ส่ายหน้ายิ้มๆ “เธอยังหาคนดีๆได้อีกมาก แต่ไอ้เชษฐ์ ถ้าไม่ใช่เธอก็คงไม่พบเจอคนดีๆแล้ว”



เสียงโทรศัพท์ของคเชนทร์ดังขึ้น ร่างสูงหยิบออกมาดูชื่อที่แสดงบนหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆแล้วกดรับ จากที่อีกฝ่ายยกจอโทรศัพท์ขึ้ตรงกับใบหน้าของตัวเอง คิดว่าคงกำลังวีดีโอคอลอยู่กับปลายสาย



มีนาก้มหน้าก้มตากินอาหารกล่องของตัวเอง ให้พื้นที่ส่วนตัวกับอาจารย์ที่ปรึกษา แต่เสียงที่ดังลอดออกมาจากลำโพงทำให้เขาชะงัก



“ทำอะไรอยู่?”



“ขโมยเมียเพื่อนมากินข้าวอยู่” คนหน้านิ่งยักคิ้วใส่กล้องโทรศัพท์ มีนาสำลักข้าวจนไอโขลกออกมา หยิบขวดน้ำเปล่ายกขึ้นดื่มหลายอึกเพื่อช่วยไล่อาหารลงไป



“โถ ไอ้คนเหงา กูหาผัวให้มั้ย งานดีๆแบบกูเลย” คนปลายสายล้อ



“กว่าจะหาคนเอามึงไปจากมือกูได้กูแทบกระอัก นี่มึงจะโยนเหาใส่หัวกูอีกเหรอวะ” คเชนทร์กลอกตา




มีนาไม่เคยเห็นธีรเชษฐ์ปล่อยตัวคุยเล่นกับคนอายุใกล้กันบ่อยนัก ยิ่งคเชนทร์เขายิ่งไม่เคยเห็น เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนเด็กนักเรียนเวลาเห็นอาจารย์ประจำชั้นตัวเองนอกโรงเรียนเป็นครั้งแรกอย่างไรอย่างนั้น 




คเชนทร์เปลี่ยนกล้องให้ถ่ายจากกล้องหลังเพื่อให้ร่างสูงได้เห็นร่างเล็กที่ยังคงหน้าแดงก่ำจากการไอเมื่อครู่ มีนาพนมมือไหว้คนรัก ก่อนจะดื่มน้ำตามเข้าไปอีกหลายอึก



“อ่ะ ให้กำลังใจ”



“มึงจะให้กำลังใจหรือจะให้กูไม่มีสมาธิทำงาน”



“เรื่องมาก กลับมามองหน้ากูมั้ย”




“ไม่ๆๆๆๆ ครามคร้าบบบ ทูนหัวของเชษฐ์ อย่าหันกล้องกลับน้าาา”




มีนาหลุดยิ้มขำออกมา จริงอยู่ที่หากเรียงตามอายุแล้วธีรเชษฐ์เป็นพี่ใหญ่สุดของกลุ่ม แต่หากดูตามวุฒิภาวะ อย่างไรคเชนทร์ก็ดูเหมือนพี่ใหญ่ที่ต้องคอยจับปูใส่กระด้งแม้จะยอมปล่อยๆให้น้องๆเล่นสนุกและเล่นสนุกร่วมไปกับน้องๆเป็นครั้งคราว



“ตกลงมึงโทรมามีไร?” คเชนทร์ถาม




“จะโทรมาขอบคุณเรื่องของขวัญ”



“หึ…ชอบมั้ย?”



“ถามมีนดิ ถามกูไมวะ”



มีนากระพริบตาปริบๆอย่างงุนงงเมื่อโดนโยนคำถามใส่ หากเทียบกับเขา ธีรเชษฐ์กินเข้าไเยอะกว่าเขามาก ทำไมต้องให้มาถามเขาด้วยอ่ะ



“ก็…อร่อยครับ หวานดี”



มีนาตอบตามมารยาท คเชนทร์หลุดขำพรืดออกมา มีนาไม่รู้ว่าธีรเชษฐ์มีปฏิกิริยาอย่างไรกับคำตอบนั้น แต่จากที่เห็นคเชนทร์เหลือบมองหน้าจอแล้วหัวเราะออกมาอีกรอบ คงไม่ใช่สีหน้าปกติของอีกฝ่าย



“ไอ้คราม กูโคตรเกลียดมึงอ่ะ”



“กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต เส้นเลือดจะได้แข็งแรง” คเชนทร์ขยับแว่นตอบด้วยน้ำเสียงจริงจััง ก่อนจะตัดสายเมื่อเห็นว่าภายนอกห้องมีความเคลื่อนไหว สายรหัสของมีนาเริ่มทยอยเปิดประตูเข้ามา ร่างสูงโปร่งยืดตัวตรง ‘อาจารย์คเชนทร์’ที่เหล่านักศึกษาต่างพากันเคารพยำเกรงกลับมาอีกครั้ง




แต่จนจบการพบอาจารย์ที่ปรึกษา มีนาก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่าความหวานของสัปปะรดเกี่ยวอะไรกับระบบไหลเวียนโลหิตของคนรัก



------------
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 10-10-2019 20:24:27
นู๋มีนใสๆ  :mew4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 10-10-2019 21:02:48
 :impress2: นุ้งมีน ใสๆ แต่แซ่บมากกกดดดก :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 10-10-2019 21:05:33
 :hao6: หนูมีนตาม2คนนี้ไม่ทันจริงๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 10-10-2019 21:52:00
หนูมีนยัฃคงความใสอยู่ ถึงแม้จะมีความอ่อยเพิ่มขึ้นมาบ้างแล้ว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 10-10-2019 21:58:42
ยกมือ ตามไม่ทันอีกคน สัปปะรด หมายความว่าไง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 10-10-2019 22:09:21
โอ้ยยย อ. คเชนทร์เป็นเพิ่อนก๊วนเดียวกับคุณเชษฐ์ได้เพราะงี้เลย ศีลเสมอกัน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-10-2019 22:28:44
"แต่จนจบการพบอาจารย์ที่ปรึกษา มีนาก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่าความหวานของสัปปะรดเกี่ยวอะไรกับระบบไหลเวียนโลหิตของคนรัก"

นั่นซิ เราอ่าน เราก็งง ใครก็ได้บอกให้รู้หน่อยซิ อยากรู้ ๆๆๆๆๆๆ  :m5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 10-10-2019 23:11:30
งงกับของขวัญอาจารย์คเชนทร์เหมือนกันค่ะ

น้องซันกวนมี้มีน น่ารักอ่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 11-10-2019 00:26:25
เข้ากันได้ดีจริงๆแก๊งผู้สูงวัย ไม่แปลกใจแล้ว 5555555555555555555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 11-10-2019 00:28:23
น้องมีนแอบยั่วว ~~~
เหมือนสับปะรดจะมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นให้น้องชายคึกคักหรือเปล่า?
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-10-2019 01:16:53
 :hao7: อะไรเอ๋ยที่ว่าหวาน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 11-10-2019 03:46:32
อย่าเข้าใจเลยลูก~5555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-10-2019 09:05:14
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 11-10-2019 23:30:39
หนูมีนเด็กน้อยยย ตามพี่ๆเค้าไม่ทันหรอก
สองคนนี้ศีลเสมอกันจริงเชียวว อิอิ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 11-10-2019 23:33:43
สงสารหนูมีนโดนแก๊งส์ชราโฉดแกล้ง  :laugh:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: แก้มกลม ที่ 14-10-2019 20:33:34
อย่ารู้ใครจะมาปราบคุณคเชนทร์
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: Poiijang ที่ 18-10-2019 19:36:22
"แต่จนจบการพบอาจารย์ที่ปรึกษา มีนาก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่าความหวานของสัปปะรดเกี่ยวอะไรกับระบบไหลเวียนโลหิตของคนรัก"

นั่นซิ เราอ่าน เราก็งง ใครก็ได้บอกให้รู้หน่อยซิ อยากรู้ ๆๆๆๆๆๆ  :m5:


เท่าที่ทราบ​ น้ำสัปปะ​รด​ จะทำให้น้ำอสุจิ​ มีรสชาติ​หวาน​กว่าปกติ​ 
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 44: พบที่ปรึกษา [10-10-62] คห.783
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 18-10-2019 19:44:59
Chapter 45: เก็บกระเป๋า

“อะไรของพ่อเนี่ย ไม่ตลกเลยนะ”


ภรัณยูที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเลิกคิ้วเมื่อได้ยินเสียงหงุดหงิดของคนรัก ทินกรไม่ใช่คนขี้หงุดหงิด ยิ่งกับคนในครอบครัวแล้วขีดจำกัดความอดทนของทินกรยิ่งเรียกได้ว่าสูงทะลุฟ้า ร่างโปร่งทรุดตัววลงบนเตียงข้างคนที่หน้านิ่วคิ้วขมวดจ้องหน้าจอ
โทรศัพท์ตัวเองอยู่



“มีอะไรเหรอซัน?”



“พี่ภัทรดูนี่สิครับ”.



ทินกรยินโทรศัพท์ให้คนรักด้วยสีหน้าหงุดหงิดระคนอ่อนใจ ภรัณยูขมวดคิ้วเมื่อเห็นหน้าจอแสดงอีเมลล์ของบริษัท คาดว่าน่าจะเป็นประกาศจากฝ่ายบริหารให้พนักงานทุกคน เนื่องจากโทรศัพท์ของร่างโปร่งชาร์ตแบตอยู่บนโต๊ะหัวเตียง เขาจึงไม่ได้สังเกตว่ามีอีเมลล์เข้า



ดวงเนตรสีน้ำตาลกวาดไล่อ่านเนื้อความบนหน้าจอ ก่อนจะเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆกับทุกประโยคที่เห็น



‘…แต่งตั้งนายทินกร ทรัพย์ดำรง เป็นรักษาการประธานบริษัททรัพย์ดำรงจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง มีผลบังคับใช้…’วันเสาร์?! นี่มันอะไรกันเนี่ย?!”



 “พ่อกับมีนจะไปงานแฟชั่นโชว์ที่บริษัทเป็นสปอนเซอร์ครับ พี่เมฆกับพี่หมอกก็จะไปด้วย” ทินกรตอบเสียงอ่อย “พ่อบอกว่าเป็นการฝึกความรับผิดชอบ ไว้พ่อกลับมาค่อยคืนให้เขา”



“ถ้าอย่างนั้นก็แค่สองสามวันเองนี่นา ไม่เห็นต้องประกาศซะยิ่งใหญ่ เซ็นมอบอำนาจก็จบ”



“พ่อเขาก็เป็นซะแบบนี้ เฮ้อ…” ทินกรถอนหายใจ



“เอาน่าๆ อย่าเครียดไป ซันทำได้อยู่แล้ว”



ภรัณยูบีบนวดไหล่ของคนรักอย่างให้กำลังใจ ทินกรเอนพิงร่างของคนรัก ถูไถใบหน้ากับแผ่นอกแบนราบผ่านเนื้อผ้าอย่างออดอ้อน คนถูกอ้อนลูบผมคนรักพร้อมรอยยิ้ม เขาไม่ได้อยากคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ตั้งแต่คบกันอย่างจริงจัง ภรัณยูรู้สึกว่าทินกรดูมีความสุขกว่าเดิมมาก



“แต่จริงๆแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะครับ” ทินกรเอ่ยขึ้น คนฟังก้มลงมองอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เขา “ห้องทำงานผมจะได้เป็นห้องปิดทึบ…โอ๊ย!”



“คิดอะไรดีๆไม่ได้เลยใช่มั้ย”



“ก็พี่ภัทรแต่งตัวแบบนี้ จะให้ผมคิดดียังไงครับ โอ๊ย!” คนโดนฟาดที่ไหล่ย้ำๆยกมือปัดป้องแม้จะยังหัวเราะกับสีหน้าขัดเขินของคนรัก แม้จะรู้สึกอึดอัดกับความรับผิดชอบระยะสั้นก้อนใหญ่ที่จู่ๆบิดาก็โยนโครมลงมาให้ แต่ทินกรเชื่อว่าเขาจะมีภรัณยูอยู่เคียงข้างหากเขาต้องการที่พึ่งทางจิตใจ ไม่ต้องพูดถึงทีมบรเหารที่เขาเรียนรู้งานด้วยมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาที่ให้ความร่วมมือกับทินกรเป็นย่างดีมาโดยตลอด



 เป็นประธานบริษัทแค่สองสามวัน มันจะยากสักเท่าไหร่กันเชียว?









“อือ…คุณเชษฐ์ครับ ผมต้องเก็บขอ…อื้อ…”



ดวงหน้ารูปไข่ของคนที่นั่งขัดสมาธิพับผ้าลงกระเป๋าเดินทางถูกช้อนขึ้นรับจูบหวานล้ำของร่างสูงที่ก้มลงมาไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่ มีนาที่คิดว่าจะจัดของเสร็จตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วยกแขนขึ้นโอบรอบคอร่างสูงอย่างเต็มใจ ฮัมในลำคออย่างมีความสุขขณะที่ลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นหนาที่แทรกเข้ามาตักตวงความหวานในโรงปากอุ่นอย่างไม่รู้จักเบื่อ รู้ตัวว่าตัวเองจะถูกคนเอาแต่ใจลักพาตัวไปจากงานที่กำลังทำอีกแล้ว



“แต่งตัวใหม่ทำไม เสียเวลาถอดชะมัด” คนรักของเขาพึมพำชิดซอกคอขาวอย่างหงุดหงิดหลังจากช้อนอุ้มคนตัวเล็กขึ้นมาบนเตียงกว้าง มีนาหลุดหัวเราะออกมา ความเขินอายแม้ยังไม่จางหายไปโดยง่ายกลับไม่ไดรู้สึกท่วมท้นจนม้วนตัวหนีอีกฝ่ายอย่างก่อนหน้า



ถ้าเขาต้องถอดเสื้อผ้ารอทุกครั้งที่ธีรเชษฐ์จะจับเขาโยนขึ้นเตียง มีนาคิดว่าเสื้อผ้าคงไม่จำเป็นสำหรับเขาอีกต่อไป
ราวกับจะลงโทษการกระทำอุกอาจของคนตัวเล็ก เสื้อผ้าของมีนาถูกทิ้งกระจัดกระจายไปทั่วห้องอย่างไม่ใยดี ตามด้วยกางเกงขายาวซึ่งเป็นอาภรณ์เพียงหนึ่งเดียวบนร่างของธีรเชษฐ์ที่ปลิวไปติดอยู่บนโคมไฟ



“คุณเชษฐ์…อ๊ะ…ผมขอพับผ้า…”


มีนาพยายามดันแผงอกกำยำของคนรักออกไปจากร่างของตนอย่างยากลำบาก แต่ร่างของธีรเชษฐ์ไม่ขยับแ้แต่มิลลิเมตรเดียว สัมผัสอุ่นชื้นบนลำคอขาวที่ทำให้มีนาสติเริ่มกระจัดกระเจิงบ่งบอกว่าอีกฝ่ายไม่คิดจะผละจากเขา
คนขี้แกล้ง ถึงอย่างไรก็ยังเป็นคนขี้แกล้งอยู่วันยังค่ำ



ธีรเษฐ์รู้ดีว่ามีนาชอบให้ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องอยู่ในที่ทางของมัน ถึงแม้จะไม่ใช่ทุกครั้งที่เด็กหนุ่มมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะจัดเก็บเสื้อผ้าที่ถูกอีกฝ่ายจับลอกคราบพับให้เรียบร้อยก่อนที่ร่างเปลือยเปล่าของตนจะถุกขย้ำอย่างไร้ความปราณี แต่ปกติแล้วธีรเชษฐ์มักจะปล่อยให้เขาทำตามใจอยู่เสมอ



ดูเหมือนวันนี้จะไม่ใช่วันปกติสักเท่าไหร่



“หงุดหงิดเหรอ?” เสียงทุ้มกระซิบแนบชิดซอกคอขาวส่งแรงสั่นสะเทือนแล่นปราดไปทั่วร่าง มีนามองเสื้อผ้าของพวกเขาทั้งสองที่กองกระจัดกระจายบนพื้นแล้วเบือนหน้าจ้องมองกำแพงเพื่อความสบายใจ



“เปล่าครับ...อ๊ะ...”



ช่องทางสีหวานที่ยังคงอ่อนนุ่มจากกิจกรรมยามเช้าตอดรัดนิ้วเรียวยาวที่ส่งเข้ามาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว มีนานิ่วหน้า แม้จะไม่เจ็บแต่ยังคงห่างไกลจากคำว่าสบายตัว สะโพกมนขยับคลึงบดนิ้วเรียวยาวของคนรักในร่างอย่างเผลอไผล ยั่วยวนธีรเชษฐ์อย่างไร้เดียงสา



“โดนรึยัง?” เสียงทุ้มถามขึ้นอย่างจริงจัง หมุนควงภายในช่องทางอ่อนนุ่มอย่างใจเย็น



มีนารู้สึกว่าใบหน้าของตนร้อนผ่าวกับคำถามนั้น ร่างทั้งร่างกระตุกเฮือกเมื่อปลายนิ้วของคนรักปัดผ่านจุดไวต่อความรู้สึก ธีรเชษฐ์นั้นผ่านประสบการณ์มามากมายจนคำว่าเจนสนามยังไม่อาจบรรยายความสามารถของร่างสูง แต่ด้วยเหตุผลกลใดที่มีนาไม่เข้าใจ อีกฝ่ายมักจะถามคำถามประหลาดกับเขาเช่นนี้อยู่เสมอ



ราวกับจงใจแกล้งให้เขาร้องขอให้ทำเรื่องน่าอายกับตัวเองอยู่ร่ำไป



“คะ…คุณเชษฐ์...”



“โดนจุดรึยังครับ...หืม?” ประจวบเหมาะกับที่นิ้วที่สองถูกเพิ่มเข้ามากระแทกจุดอ่อนไหวที่ยังคงบอบช้ำจนมีนาร้องออกมาไม่เป็นภาษา รู้สึกว่าตัวเองตาพร่าไปครู่หนึ่ง



“อ๊า! คะ..คุณ....อ๊ะ....”



แต่ทั้งที่เห็นชัดว่าตนรังแกร่างเล็กได้ถูกจุดเมื่อครู่ ธีรเชษฐ์กลับเลือกที่จะเพิกเฉยต่อเสียงครางแว่วหวาน ยังคงเอ่ยถามเสียงซื่อ



“ว่าไง...โดนรึยังครับมีน...”



“คุณ…อึก...คุณเชษฐ์ใจร้าย...”



“ถ้าเธอไม่บอก...ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ” ทั้งที่ว่าอย่างนั้นทว่าตำแหน่งของสิ่งแปลกปลอมในร่างของมีนาที่ปัดผ่านจุดอ่อนไหวไปมาราวกับรู้ว่าต้องเบี่ยงหลบจุดที่เติมเต็มเขามากที่สุดอย่างไรชี้ชัดว่าอีกฝ่ายรู้จักร่างกายของเขาดีกว่าเจ้าตัวเสียด้วยซ้ำ


“ละ…ลึกอีก...ลึกอีกครับ...อ๊ะ...”



แม้จะขยับลึกเข้ามาแต่กลับแฉลบหนีราวกับจะยั่วโมโห มีนากัดริมฝีปากกลั้นเสียงแหลมเล็กในลำคออย่างขัดใจ
จงใจแกล้งกันชัดๆ



สะโพกมนยกบดเบียดหาตำแหน่งด้วยตัวเองเมื่อทนการกลั่นแกล้งไม่ไหว เสียงหวานดังระงมอย่างสุขสมเมื่อตำแหน่งและจังหวะการขยับนั้นตรงตามที่ต้องการเสียที แต่ดีใจได้ไม่นานก็ต้องร้องประท้วงออกมาอย่างลืมตัวเมื่อนิ้วเรียวยาวถอนออกมาโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ธีรเชษฐ์ยิ้ม ก่อนจะพลิกกายคนรักให้นอนคว่ำลงกับเตียง จัดที่ทางให้ฝ่ามือเล็กและเข่าทั้งสองข้างของมีนารองรับน้ำหนักตัวอย่างที่เจ้าตัวดูจะติดใจหนักหนา แขนใหญ่โอบรั้งหน้าท้องแบนราบให้ร่างทั้งสองขยับแนบชิด ความแข็งขืนร้อนฉ่าไร้อาภรณ์ปกคลุมนาบชิดระหว่างก้อนเนื้อกลมกลึงราวกับถูกสร้างมาเพื่อกันและกัน มืออีกข้างรั้งใบหน้าหวานให้หันกลับมารับการรุกเร้าจากลิ้นร้อนอย่างไม่รู้จักพอ



มีนารู้สึกเหมือนจะวูบหมดสติไปเสียตอนนี้ แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น เด็กหนุ่มคิดว่าคนรักคงยังมีวิธีที่จะทำให้เขารู้สึกงุ่นง่านใจแม้ในความฝัน



“ดูสิมีน...ผ้ากองเต็มพื้นเลย...”


ราวกับว่าประสาทสัมผัสทั้งร่างกายของมีนาที่ถูกกระตุ้นจนอ่อนระทวยยังไม่สาแก่ใจคนกระทำ ธีรเชษฐ์จึงได้ชี้ชวนให้คนที่สติกระเจิดกระเจิงดูสภาพระเกะระกะของพื้นห้องที่มีนาเพิ่งจัดเก็บ สร้างความหงุดหงิดงุ่นง่านใจให้กับคนรักความเรียบร้อย
อย่างร่างเล็กถึงที่สุด ราวกับหากมีแม้สักส่วนของมีนาที่ยังคงสงบและมีสติ ธีรเชษฐ์จะทำทุกวิถีทางให้ความสุขสงบนั้นแตกกระเจิงไม่เหลือชิ้นดี ให้ร่างขาวเนียนบิดเร่าด้วยความต้องการ ให้จิตฟุ้งซ่านกับการเห็นเสื้อผ้ารกๆกองบนพื้นอย่างไร้หนทางจัดเก็บ เด็กหนุ่มพยายามสะกดกลั้นสีหน้าขัดใจที่นับวันยิ่งจะโผล่ออกมาบ่อยครั้งขึ้นของตัวเองด้วยรู้ดีว่ามันทำให้คนขี้แกล้ง
ได้ใจมากเพียงใด



“อ๊ะ…จะ…ใจร้าย....อะ...”



ราวกับทุกอณูภายในร่างกายถูกนาบด้วยแท่งเหล็กร้อน ความอ่อนนุ่มที่ถูกเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดีไม่ต่ำกว่าวันละครั้งโอบรัดตัวตนของธีรเชษฐ์อย่างหิวกระหาย เสียงหัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจของร่างสูงกับความยินยอมของร่างกายเขาทำให้เด็กหนุ่มซุกหน้าลงกับหมอนใบโตอย่างอับอาย ทว่าการกระทำนั้นกลับยิ่งทำให้สะโพกกลมกลึงโก้งโค้งนาบชิดร่างที่ขยับโยกปลุกเร้าอารมณ์วาบหวามขึ้นไปอีก



“ยั่วกันอีกแล้วนะ...” ร่างสูงใหญ่โน้มลงแนบชิด แผ่นหลังขาวเนียนนาบสนิทไปกับร่างกายท่อนบนเปลือยเป่าอุดมไปด้วยมัดกล้าม สะโพกสอบเร่งเร้าจังหวะรัก แม้จะไม่มากนักแต่ก็มากพอที่จะเรียกเสียงครางหวานหูให้ดังลอดออกมาจากหมอนใบใหญ่ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องเก็บเสียงของร่างเล็ก



คิดว่าคนอย่างเขาจะยอมมั้ย?



ท่อนแขนแกร่งรั้งร่างเปลือยเปล่าให้ลอยขึ้นจากเตียง ทำหน้าที่เป็นพนักพิงร่างที่อ่อนยวบราวขี้ผึ้งลนไฟซึ่งโยกคลอนตามแรงส่งจากร่างหนาเป็นจังหวะ มุมองศาที่เปลี่ยนไปเรียกเสียงครางแว่วหวานดังไปทั่วห้อง ถึงกระนั้นมีนายังคงขยับบดเบียดตามจังหวะสอดประสานอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เรียกได้ว่าตั้งแต่สอนสั่งลูกศิษญ์ตัวน้อยหัวไวให้เป็นวิชา มีนาก็ไม่เคยต้องรอให้ธีรเชษฐ์ป้อนความรู้ให้แต่ฝ่ายเดียวอีก


“อ๊ะ…อ๊ะ...ละ...ลึก...อ๊า....”



“ลึกไปเหรอ...”เสียงทุ้มกระซิบถามชิดริมหู มีนาส่ายหน้า สะโพกมนขยับโยกห้การเสียดสีกระแทกกระทั้นจากร่างใหญ่อยู่ในตำแหน่งที่พึงใจที่สุด



“ดะ…ได้..พอได้ครั…อ๊ะ....”



“แค่พอได้เองเหรอ..” บทบรรเลงแปรเปลี่ยนเป็นเนิบช้า ครูดผ่านจุดอ่อนไหวให้ความเจ็บปวดแสนหอมหวานยืดเวลาออกไป มีนาส่ายหน้ารัวเร็ว หันไปจุมพิตไล่ตามสันกรามคมที่เริ่มขึ้นไรหนวดจางอย่างเอาอกเอาใจ ขณะที่ร่างบนตักแกร่งยังคงบดเบียดส่ายร่อนราวกับเด็กน้อยขี้อายภายนอกห้องไม่มีอยู่จริง ทว่าคนขี้แกล้งยังคงดึงจังหวะให้ปั่นป่วน แม้จะสุขสมไม่ต่างกันแต่กลับถึงฝั่งฝันยากเสียจนคนใจเย็นอย่างมีนาเริ่มร้อนรน “แบบนี้ฉันเสียเซลฟ์แย่สิ”



“คุณเชษฐ์...อ๊ะ...เร็ว...”



“บอกฉันมาก่อนสิ...” นิ้วเรียวยาวไล้วนรอบเม็ดทับทิมที่ชูชันตอบรับสัมผัสอย่างกระตือรือร้น “...ว่าอยากได้ฉันมากแค่ไหน”



“อ๊ะ...ฮะ...”



ร่างขาวหอมละมุนแสร้งทำเป็นหูทวนลมกับคำถาม ทั้งที่ทำเรื่องน่าอับอายกับร่างแสนบริสุทธิ์นี้ไปตั้งมาก สิ่งที่มักจะทำให้เด็กน้อยของเขาเครื่องติดด้วยความอับอายกลับกลายเป็นถ้อยคำเร้าอารมณ์ที่ธีรเชษฐ์ไม่ค่อยได้นำออกมาใช้กับคู่นอนคนอื่น



แม้ช่องทาางอุ่นจะตอดรัดตัวตนของเขาเพียงใด สีหน้าราวกับจะมุดแผ่นดินหนีของมีนาหลังจากเสร็จสมอารมณ์หมายต่างหากที่ทำให้คนพูดน้อยอย่างธีรเชษฐ์ชื่นชอบการหยอกเอินร่างเล็กด้วยวาจาแทะโลม



ทว่าเมื่อเห็นสีหน้าดื้อดึงและริมฝีปากที่เม้มแน่นเป็นเส้นตรงของอีกฝ่าย ร่วมกับงานเอกสารที่ยังไม่เสร็จสิ้น ธีรเชษฐ์ที่ไม่มีเวลากลั่นแกล้งคนตัวเล็กไปมากกว่านี้จึงยอมแพ้อย่างเต็มใจแล้วเร่งจังหวะการสาวสะโพกสอบปรนเปรอช่องทางอ่อนนุ่ม เสีียงหวานที่ดังระงมไปทั่วห้องเป็นเหมือนบทบรรเลงที่ทำให้ร่างสูงจูบซับหน้าผากชื้นเหงื่ออย่างหลงใหล มือที่สะกิดเขี่ยตุ่มไตสีหวานเลื่อนลงมากอบกุมตัวตนของคนรักให้อารมณ์วาบหวิวพุ่งทะยาน



“รู้สึกใช่มั้ยมีน...”เสียงแหบพร่าแนบชิดหลังคอขาว “รู้สึกมั้ยว่าฉันต้องการเธอแค่ไหน”



เสียงเนื้อกระทบเนื้อหยาบโลนชื้นแฉะราวกับจะตอกย้ำคำพูดนั้น มีนารู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งร่าง เมื่อไม่อาจเอื้อนเอ่ยสิ่งใดตอบกลับไป เด็กหนุ่มจึงหันไปรั้งให้ใบหน้าคมโน้มมาบดขยี้กลีบปากนุ่มแดงช้ำ ทั้งระบายความรู้สึกในอกและปิดปากคนที่กำลังแทะโลมเขาทั้งกาย วาจา ใจไปในตัว



หากครั้งใดที่เสียงหวานสั่นพร่าพร่ำตอบกลับมาอย่างซื่อตรงต่อความต้องการอย่างไร้ซึ่งยางอาย นั่นคือธีรเชษฐ์เล่นกับอีกฝ่ายมากเสียจนสมองของมีนาไม่อาจคิดอะไรได้มากกว่าการตอบรับทุกสิ่งที่อีกฝ่ายมอบให้



ซึ่งเห็นได้ชัดว่าครั้งนี้ไม่ใช่หนึี่งในนั้น



แม้จะนึกเสียดายแต่ร่างสูงรู้ว่าหากเล่นกับกระต่ายน้อยถึงขั้นนั้นจริงๆ มีหวังคงถูกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟในวันรุ่งขึ้นเพราะจัดกระเป๋าเดินทางไม่เสร็จเป็นแน่
ธีรเชษฐ์คำรามในลำคอ เร่งจังหวะสาวสะโพกสอบเมื่อช่องทางอ่อนนุ่มโอบรัดเขาราวกับจะรีดเอาความรักทุกอยากหยดไป
จากร่าง จุมพิตหนักๆบนขมับชื้นเหงื่อของร่างเล็กที่ร้องครางเสียงสั่นพร่าอย่างควบคุมไม่ได้ ร่างทั้งร่างโยกคลอนตามจังหวะ
ดุดันเผ็ดร้อนของคนมากประสบการณ์



ธีรเชษฐ์ผ่านอะไรมามาก ต่อให้เทียบกับคนรุ่นราวคราวเดียวกันร่างสูงยังคงจัดอยู่ในหมวดหมู่ของนักรบเจนสนาม และการเรื่องบนเตียงของชายหนุ่มไม่ได้จำกัดอยู่ที่ท่าออกกำลังพื้นฐานเสมอไป



ธีรเชษฐ์ไม่ได้มีรสนิยมชมชอบสิ่งใดเป็นพิเศษ ยิ่งของที่ทำให้เลือดตกยางออกเขาไม่มีทางนำมาใช้กับมีนาเป็นอันขาด แต่นอกจากนั้น เขาอยากจะลองทุกสิ่งทุกอย่างกับคนในอ้อมกอด อยากสำรวจความต้องการในส่วนลึกของจิตใจแสนบริสุทธิ์ อยากให้มีนาเผยความต้องการดำมืดในจิตใจออกมาให้เขาเห็นเพียงผู้เดียว



ในขณะเดียวกัน ธีรเชษฐ์ก็อยากจะกอดร่างเล็กไว้ยามหลับใหล ให้คนขี้หนาวในชุดนอนลายคุณหมีซุกตัวอิงแอบหาความอบอุ่นจากร่างของเขา ให้มีนารู้สึกได้รับการปกป้อง ได้รับความอบอุ่นและความรัก อยากให้พวกเขามีค่ำคืนแสนหวานที่ไม่ได้จบลงด้วยร่างเปลือยเปล่านอนแลกลมหายใจของกันและกันอย่างหมดแรงเช่นที่เป็นอยู่ในตอนนี้
ไม่ว่าจะเป็นแง่มุมใดของชีวิต ธีรเชษฐ์ปรารถนาที่จะมีเด็กหนุ่มที่ชื่อมีนาอยู่ในนั้น



เขาเป็นเอามากแล้วจริงๆ



ร่างสูงพลิกกายจากร่างที่ตนคร่อมทับไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายขาดอากาศหายใจไปเสียก่อน ทว่าทันทีที่ทำเช่นนั้น เด็กหนุ่มที่นอนแหม็บอยู่บนเตียงกลับรีบรุดไปเก็บผ้าบนพื้นราวกับว่าหากรออีกเพียงหนึ่งวินาทีผ้ากองนั้นจะเริ่มติดไฟขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น ธีรเชษฐ์มองตามแผ่นหลังบางด้วยสีหน้าขุ่นเคือง ธารอารมณ์ที่ไหลลงมาตามต้นขาขาวเนียนยามสะโพกมนโก้งโค้งเก็บผ้าทำให้ร่างสูงอารมณ์ดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น




เหอะ ถ้ารู้ว่าจะถูกทิ้งให้นอนเหงาคนเดียวเลือดเย็นเหมือนเขาเป็นคู่ขาชั่วคราวแบบนี้ คราวหน้าจะเอาให้ลุกไม่ขึ้นเลยคอยดู







มีนาจัดการกับกระเป๋าเดินทางด้วยความเร็วที่เขาไม่คิดว่าตัวเองมี ไม่ไว้ใจระยะพักผ่อนที่คนบนเตียงมอบให้ ความเหนอะหนะระหว่างเรียวขาและเรือนร่างเปลือยเปล่าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อทำให้เด็กหนุ่มตัดสินใจเดินผ่านคนรักเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย มีนารู้สึกถึงสายตาของธีรเชษฐ์ที่มองตามแผ่นหลังของเขาจนกระทั่งประตุห้องน้ำปิดลง ตลอดเวลาที่สายน้ำอุ่นไหลผ่านร่างที่มีฟองสบู่เกาะบนผิวเนียนลื่นมือ มีนาได้แต่สงสัยว่าเหตุใดคนรักของตนจึงไม่ได้ตามเข้ามาอาบด้วยกัน
หลังจากอาบน้ำปะแป้งจนหอมฉุยไปทั้งตัว มีนาจึงกลับมาที่เตียงกว้างที่ร่างสูงยังคงนอนหนุนแขนตัวเองรอเขาอยู่ ร่างเล็กในชุดนอนสีขาวยาวคลุมเข่าดูราวกับนางฟ้าตัวน้อยนั่งลงบนเตียงกว้าง ทว่านอกจากอีกฝ่ายจะไม่ดึงเขาเข้าไปกอดดังเช่นทุกทีแล้ว ธีรเชษฐ์ยังเบือนหน้าหนีเขาอีกด้วย



โดนงอนอีกแล้วสินะ



หากเมื่อไม่กี่เดือนก่อน มีนาอาจจะร้อนรน ตื่นตระหนก หวาดกลัวอารมณ์สามวันดีสี่วันร้ายของคนรัก แต่ตัวเขาในตอนนี้มีความมั่นใจในความรู้สึกที่พวกเขามีต่อกันมากพอที่จะเป็นฝ่ายขยับเข้าไปหา เอนกายลงซุกหาไออุ่นจากร่างสูงใหญ่ที่ยังคงไร้ซึ่งอาภรณ์ปกคลุมร่างกำยำสมส่วน



“คุณเชษฐ์ โกรธผมเหรอครับ...”



“ทำอะไรให้ฉันโกรธเหรอถึงถาม” คนอายุมากกว่าถามย้อนเสียงเย็น ทว่าความน้อยใจที่เจือในน้ำเสียงทำให้มีนาแทบจะหลุดยิ้มออกมา ร่างเล็กขยับอิงแอบแนบชิดร่างอุ่น รู้ว่าหากทำเช่นนี้แล้วอารมณ์ขุ่นมัวใดๆก็ตามที่ธีรเชษฐ์มีมักจะหายไปกว่าครึ่ง



ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น



มือใหญ่แทรกสางเส้นผมนุ่มมืออย่างเพลิดเพลิน ก่อนจะรั้งเอวบางเข้ามาใกล้ มือใหญ่เคลื่อนต่ำลงมาดึงให้ขาเรียวเล็กเกี่ยวพาดบนสะโพกสอบดุดันเมื่อครู่



มีนาแสร้งทำเป็นเมินแท่งเหล็กร้อนที่เริ่มดุนดันขึ้นมาอย่างต้องการแสดงตัวตน เงยหน้าขึ้นเอียงคอถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าใสซื่อ




“ผมทำอะไรเหรอครับ ถ้าคุณเชษฐ์บอก ผมจะได้ไม่ทำอีก”



“ได้ฉันแล้วทิ้งไว้บนเตียงแบบนี้ ไม่ให้โกรธเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามข้างหู แม้การขยับนัวนาบร่างเล็กในอ้อมกอดจะบ่งบอกว่าไม่ได้โกรธจริงจังก็ตาม มีนาหน้าแดงเรื่อ ซุกหน้ากับแผงอกแกร่งอย่างเขินอาย



“มะ…ไม่ได้ทิ้งซักหน่อยครับ ผมเก็บของให้คุณเชษฐ์ต่างหาก...”



“เห็นว่าฉันยอมเป็นผู้ชายของเธอแล้วจะทิ้งขว้างยังไงก็ได้งั้นเหรอ ใจร้ายเกินไปแล้วนะมีน...” ไม่ว่าเปล่าติ่งหูเย็นถูกริมฝีปากร้อนดูดดุนเบาๆเป็นการลงโทษ ร่างเล็กทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับความผิด ให้ธีรเชษฐ์มอบบทลงโทษแสนหวานให้อย่างเอาแต่ใจเฉกเช่นทุกครั้ง




“เจ็บมากมั้ย” มือใหญ่วางลงบนก้อนเนื้อกลมกลึงผ่านเนื้อผ้า ความเคยชินทำให้มีนาไม่ได้สะดุ้งหนีอย่างแต่ก่อน แม้ว่าใบหน้าขาวจะยังงคงเห่อร้อนอย่างอับอายเมื่อก้อนเนื้อนุ่มขาวถูกนวดคลึงอย่างเอาอกเอาใจ “ตรงนี้ระบมมากรึเปล่า ให้ฉันทายาให้มั้ย”




“มะ...ไม่เป็นไรครับ” คนขี้อายพึมพำตอบเสียงเบา ต่างจากเสียงครางหวาานหูของเจ้าตัวก่อนหน้านี้ลิบลับ



“หึหึ...แสดงว่าเริ่มชินแล้วสินะ”



“ก็…ก็ใครล่ะครับที่ไม่ปล่อยให้ผมพักเลยน่ะ?!” คนถูกทักเริ่มงอแงใส่ ตัวต้นเหตุไม่ได้สะทกสะท้าน ดึงชายเสื้อตัวยาวให้พ้นสะโพกขาวแล้วแหวกก้อนเนื้อกลมกลึงทั้งสองออกจากกันอย่างเบามือ



“นั่นสินะ...คนใจร้ายที่ไหนกล้ารังแกเธอได้ลงคอ”



ก็คนใจร้ายคนนี้นั่นแหละ!!




“พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะครับ” มีนากล่าวเตือนคนที่ไม่ได้สนเดือนสนตะวันเมื่อเป็นเรื่องของเขา รีบตะปบข้อมือใหญ่ไว้ก่อนที่อะไรๆจะผลุบเข้าไปในช่องทางสีหวานโดยไม่ได้รับอนุญาต “ไม่ซนนะครับ”



เดี๋ยวนี้ถึงกลับกล้าใช้คำว่าไม่ซนเชียวเหรอ?



ธีรเชษฐ์นึกอยากจะอัดเสียงกระต่ายน้อยที่ดุเขาเสียงอ่อนเสียงหวานไว้ตั้งเป็นเสียงเรียกเข้ามือถือ ทำไมคนคนนึงถึงได้น่ารักน่ากินไปหมดทุกสัดส่วนแบบนี้นะ



“นอนกอดเฉยๆนี่เรียกว่ซนมั้ย” ชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นโอบรั้งร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอดแทนหมอนข้าง มีนาที่เพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกมาก่อนหน้านี้ถึงกับพูดไม่ออก ทำได้เพียงส่ายหน้าให้อีกฝ่ายเป็นคำตอบ



“แต่ว่า...” วันนี้เขายังไม่ได้โทรคุยกับแม่เลย



ทั้งที่ไม่ได้พูดออกไป แต่โทรศัพท์ของมีนากลับมาอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่มราวกับรู้งาน เวลานี้ของทุกวันหากไม่มีธุระ มีนามักจะโทรศัพท์คุยกับมารดาเสมอ ซึ่งธีรเชษฐ์มักจะเลือกให้ความเป็นส่วนตัวกับร่างเล็ก



แต่วันนี้เขาเลือกที่จะนอนมองคนรักต่อสายหามารดาทั้งที่ยังซุกกายเข้าหาไออุ่นจากร่างของเขา




“แม่จ๋า หนูคิดถึงแม่จังเลย”



สีหน้าราวกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งเมื่อได้ยินเสียงจากปลายสายขโมยหัวใจของธีรเชษฐ์ไปไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่ มีนายิ้มกว้าง พูดคุยกับมารดาเสียงเจื้อยแจ้ว เล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้อีกฝ่ายฟัง แน่นอนว่าตัดเรื่องของธีรเชษฐ์ออกไปจนหมด



“จ้ะ หนูจะไปทำงานกับบริษัทของคุณเชษฐ์ที่ต่างจังหวัด หนูไม่มีเรียนพอดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะจ๊ะ...”
คำแทนตัวที่สงวนไว้ให้กับมารดา ยาย และเหล่ายายๆที่มาซื้อดอกไม้ไหว้พระทำให้ธีรเชษฐ์รู้สึกร้อนรุ่มราวกับโดนของ ไม่รู้ทำไมพอได้ยินมีนาพูดหนูพูดจ้ะแบบนี้แล้วจิตใจมันไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่




‘เที่ยวให้สนุกนะจ๊ะมีน อย่าดื้ออย่าซน เป็นเด็กดีเชื่อฟังคุณเชษฐ์นะ’



เสียงที่ดังลอดออกมาจากปลายสายของหญิงสาวที่นอนอยู่โรงพยาบาลทำให้ธีรเชษฐ์ขยับยิ้ม เช่นเดียวกับมีนาที่หน้าแดงก่ำอย่างเขินอาย




“จ้ะแม่ หนูจะเป็นเด็กดี”



“รับปากแม่แล้วต้องเชื่อฟังฉันแล้วนะ” เสียงทุ้มหยอกเย้าหลังจากเด็กหนุ่มวางสายจากมารดา มีนาย่นจมูกเล็กน้อยอย่างน่าเอ็นดู



“ผมเชื่อฟังคุณเชษฐ์ตลอดอยู่แล้วนี่ครับ...”



“ไม่จริง เดี๋ยวนี้นับวันยิ่งดื้อ ชอบขัดใจฉันอยู่เรื่อย” ชายหนุ่มถูปลายจมูกกับจมูกเล็กๆอย่างรักใคร่ “ทำไมถึงได้ดื้อแบบนี้ครับ หืม?”



“คุณเชษฐ์...ไม่ชอบเหรอครับ?” แววตาของคนที่เพิ่งเริ่มหัดเอาแต่ใจตัวเองไหววูบ เล่นเอาคนขี้แกล้งกลืนน้ำลายตัวเองแทบไม่ทัน



“ชอบ” เสียงทุ้มตอบอย่างหนักแน่น “แต่ห้ามดื้อกับคนอื่น ดื้อกับฉันได้คนเดียว เข้าใจมั้ย?”
ตอบแบบนี้ใครไม่เขินให้มันรู้ไป



“จริงสิ” ธีรเษฐ์เอ่ยขึ้นอย่างนึกขึ้นได้ มีนาเงยหน้ามองคนรักด้วยแววตางุนงง “พูดกับฉันแบบนั้นบ้างสิ”



“แบบนั้นคือ...”



“แทนตัวเองว่าหนู ลงท้ายจ้ะเสียงหวานๆ...” รอยยิ้มหมาป่าผุดขึ้นที่ริมฝีปากได้รูป “ไหนบอกจะเชื่อฟังฉันไง”



“ตะ…แต่ว่า...” มีนามีสีหน้าลำบากใจ “มัน...แปลกๆ...”




“ไม่เห็นแปลกตรงไหน”



“…”




มีนาเม้มปากอย่างลังเลใจ ทั้งที่มันไม่ได้มีอะไรเสียหาย แต่เขากลับรู้สึกว่าการแทนตัวเองว่าหนูกับธีรเชษฐ์นั้นสื่อความหมายไปคนละทางกับเวลาที่เขาพูดคุยกับคนอื่นอย่างสิ้นเชิง ในช่วงที่ตนกำลังลังเลอยู่นั้น คนรอฟังเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ก่อนจะพลิกกายหันหลังให้กับเด็กหนุ่มที่ยังคิดไม่ตกในหัว



ร่างเล็กที่โดนคนอายุมากกว่างอนเป็นรอบที่สองของวันไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมา เด็กหนุ่มชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบข้างหูของคนที่นอนตะแคงหันหลังให้



“คุณเชษฐ์จ๋า อย่าโกรธหนูเลยนะจ๊ะ”



ทั้งที่ไม่ได้คิดอะไรแต่แก้มใสกลับขึ้นสีเรื่อเมื่อทำตามความต้องการของร่างสูง เขารู้สึกว่าคนที่นอนหันหลังตัวแข็งทื่อ แถมยังไม่ยอมพลิกกลับมาหาเขาอย่างที่คิด



มีนาลองง้องอนร่างสูงอีกครั้ง



“คุณเชษฐ์จ๋า ไม่โกรธหนูนะ ดีกันดีกันนะจ๊ะ...” นิ้วก้อยเรียวเล็กถูกส่งให้อีกฝ่ายอย่างใสซื่อ มีนาไม่ค่อยทำให้ใครโกรธ แต่ปกติแล้วเวลาเขาทำปบบนี้คนที่โกรธมักจะหายโกรธแทบทุกราย



มือใหญ่คว้าหมับที่ข้อมือของเขา แล้วพลิกกายคร่อมร่างบอบบางไว้ราวกับกรงขังชั้นดี ธีรเชษฐ์ซุกหน้าลงกับซอกคอขาว เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง



“ต่อไปนี้ห้ามพูดแบบนี้กับใครนอกจากแม่กับยาย โดยเฉพาะผู้ชาย ห้ามเด็ดขาด เข้าใจมั้ย?!”



“ทำมะ...” คำถามของมีนาถูกกลืนหายไปในลำคอทันทีที่รู้สึกถึงตัวตนดุดันที่นาบชิดระหว่างขาเรียว “คุณเชษฐ์...”



“จะด่าว่าฉันเป็นตาแก่ลามกรึไง” ร่างสูงดักคอ เล่นเอาคนตัวเล็กส่ายหน้าพรืด


“มะ…ไม่ได้พูดซักหน่อยครับ”



“เหรอ...จะชมซะหน่อยว่าเดาเก่งดี” เสียงทุ้มหัวเราะในลำคออย่างพึงพอใจ “ฉันรู้ว่าพรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้า แถมเธอยังอาบน้ำมาแล้วด้วย ขออยู่แบบนี้ซักพักแล้วกัน เดี๋ยวก็ดีขึ้น”



มีนาไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว กลัวว่าตัวตนแข็งขืนที่นาบแผ่ความร้อนผ่านเสื้อนอนตัวบางจะแตกตื่นขึ้นมา



แต่นอนแบบนี้ไม่น่าจะสบายตัวเลยนะ...



“ผม…ใช้ปากให้มั้ยครับ?” เด็กหนุ่มเสนอตัวอย่างนึกสงสาร




แม้ว่าอีกใจหนึ่งจะเป็นการทำตามใจตัวเองที่มีนากำลังฝึกฝนกับคนรักอยู่ก็ตาม



ทางฝ่ายธีรเชษฐ์ แม้จะรู้ดีถึงเจตนาแอบแฝงของคนที่ชื่นชอบการใช้ริมฝีปากรูปกระจับนุ่มหยุ่นนั้นปรนเปรอให้เขาเสียเหลือ
เกิน แต่เลือกที่จะไม่กลั่นแกล้งคนขี้อายด้วยวาจาในครั้งนี้



“ฝากด้วยนะ”



ให้ทายสิว่าพวกเขาไปถึงสนามบินสายอีกแล้วรึเปล่า




----------------
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 18-10-2019 20:00:54
 น้องมีนนลู้กกกก อย่าตามใจคุณเชษฐ์บ่อยๆเดี๋ยวไม่ได้นอนน 5555 อยากตีคุณเชษฐ์ถนอมน้องหน่อยสิ !!
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 18-10-2019 20:19:29
คุณเชษฐ์!!!!!!!!!! หลอกเด็กมากๆ หนูมีนลูกกกกกกกกกก เพิ่มเลเวลแล้วนะะะะะะะะะะะะะะ
น่ารักมากเลยตอนแทนตัวเองว่าหนู คุณเชษฐ์ไปไหนไม่รอดแล้ว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 18-10-2019 21:07:21
คราวนี้ลุงเชษฐ์เป็นตาแก่ลามกจริงๆ ด้วยล่ะน้องมีนเอ๊ย.  :laugh:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: Stiiiii ที่ 18-10-2019 21:46:38
น้องมีนเก่งใหญ่เเล้ว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-10-2019 21:59:15
หนูมีนคงไม่กล้าด่าว่า "เฒ่าลามก" หรอก ทั้ง ๆ ที่ในใจคงมีคิดบ้าง  :hao3:
ใจ ๆ หน่อยนะ "เฒ่าทารก" เอ่ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 18-10-2019 23:17:08
แปปนะคะ จกยาดมก่อน  :m25:
หนูมีนช้ำหมดแล้ววววว :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 18-10-2019 23:45:32
น้องงงงงงงงงงงงงงงงงง แบบพี่ไม่ไหว หนูจ๊ะหนูจ๋า
 :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-10-2019 08:58:43
มีนไม่ธรรมดา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 19-10-2019 09:08:18
คนแก่ตักตวงไม่หยุดเลยวุ้ย
คนอ่านกร๊าวใจนัก ฮ่าๆ
เอ็นดูความรีบเก็บเสื้อผ้าบนพื้นของน้อง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 19-10-2019 10:48:36
สรุปแล้วจัดเสื้อผ้าเสร็จกี่โมงเนี่ย  :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-10-2019 21:13:07
สับปะรด ที่อาจารย์ให้เป็นของขวัญ.... o18
คือที่ผ่านมาในสายตาครามมองว่าคุณเชษฐ์ทำตัวไม่ดี ไม่เป็นสับปะรด  
คุณเชษฐ์ จะได้ทำตัวเป็นสับปะรดซะที  :m20: :laugh:  :pigha2:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-10-2019 05:07:08
หนูมีนเดี๋ยวนี้ชักจะแซ่บขึ้นเรื่อยๆนะ :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 20-10-2019 07:58:26
วิ่งเลยลูกเดี๋ยวตกเครื่อง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-10-2019 08:14:23
คนเก็บกด ได้ปลดปล่อย ก็ยิ่งห้ามใจยาก
เอ็นดูมีน ก็รักอะเนาะ ยอมได้หมด ยอมทุกอย่าง

ตลกซัน นัวเนียมีนมากจ้า อีกนิดจะคิดไม่ซื่อละนะ
พายุมีความมึน แต่ถ้ารู้จะเป็นไงนะ

ธารดีขึ้น ความรู้สึกไม่เป็นลบหมด ก็ดีมากแล้วค่ะ

หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 20-10-2019 19:32:06
เด็กมันร้ายแบบใสใสเลยอ่ะ ฮืออออ น้องมีนนนนนน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: Poiijang ที่ 22-10-2019 19:56:12
 :katai5: :katai5: :z2:
รออย่างกระวนกระวาย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 25-10-2019 20:09:08
Chapter 46: หน้าที่ของใจ

 มธุวันไม่ได้พ่นไฟใส่เขาที่มาสายอย่างที่ธีรเชษฐ์คิด


ชายหนุ่มไม่รู้ว่าจะขอบคุณหรือรู้สึกสมเพชพเวทนาลูกชายคนโตที่กลายเป็นสนามอารมณ์ให้มธุวันลงทัณฑ์บัญชาจนสาแก่ใจ เพราะจากสีหน้าลอยละล่องของเมฆา ลูกชายของเขาดูมีความสุขที่สุดที่เขาเคยเห็นในรอบหลายปี


โฮ่…เจ้าเมฆมีรสนิยมแบบนี้เองเหรอ


“คุณเชษฐ์ครับ…มือ…”


“ทำไม? มือฉันทำไมเหรอ?” ร่างสูงถามย้อนด้วยสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ หนำซ้ำยังโอบกอดร่างบางเข้ามาแนบชิดยิ่งว่าเก่า ราวกับจะท้าทายให้มีนาทักท้วงอีกครั้ง


เด็กหนุ่มก้มหน้างุดอย่างเขินอาย ถึงอย่างนั้นยังคงรู้สึกถึงสายตาของคุณมธุวันที่เดินลิ่วๆนำพวกเขาไปเหลือบมองมาทางพวกเขาเป็นระยะ



โชคดีของเขาที่คุณเมฆาดูจะเป็นเดือดเป็นร้อนทุกครั้งที่คุณมธุวันละสายตาไปจากตัวเอง สีหน้าของมธุวันในตอนนี้ หากไม่ได้อยู่ในที่สาธารณะ คนที่เรียกร้องความสนใจอยู่ทุกย่างก้าวนั้นคงจะโดนฟาดไปหลังครั้งแล้ว



จะว่าไป…ตั้งแต่รู้จักสองคนนั้นมา มีนาก็รู้สึกมาโดยตลอดว่ามีอะไรแปลกๆระหว่างลูกชายคนโตของธีรเชษฐ์และเลขาคนงาม



โดยเฉพาะเมื่อมีนาก็โดนลูกหลงความเจิดจ้าจากรอยยิ้มของเมฆาจากระยะไกลทุกครั้งที่มธุวันยอมหันไปพยักหน้าหรือส่ายหน้ากับคำถามของตนไปจนเข่าแทบทรุด เขาไม่คิดว่ารอยยิ้มของเมฆาเป็นสิ่งที่หาดูได้ง่าย แต่มธุวันที่โดนอานุภาพการทำลายล้างเข้าไปโดยตรงกลับไม่ผงะสักนิด



“มองอะไร?” และเดาจากน้ำเสียงขุ่นเคืองของธีรเชษฐ์ คนข้างๆตระหนักดีถึงพลังทำลายล้างนั้น “ชอบ?”



มีนารีบส่ายหน้าพรืด ถึงเขาจะปฏิเสธเสน่ห์ของลูกชายคนโตที่ถอดแบบมาจากธีรเชษฐ์ทุกกระเบียดนิ้วไม่ได้ แต่สิ่งที่อยู่ในหัวของมีนาเมื่อครู่มีเพียงคำถามว่าหากธีรเชษฐ์ยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มแบบนั้นบ้าง ร่างเล็กคงกลายสภาพเป็นของไหลอย่างไม่ต้องสงสัย



ยิ้มที่บ่งบอกว่าคนตรงหน้าคือโลกทั้งใบของตน


เด็กหนุ่มสลัดความคิดงี่เง่านั้นออกไปจากหัวอย่างรวดเร็ว ต่อให้ธีรเชษฐ์ชอบเขาแค่ไหน ผู้ชายที่ผ่านอะไรมามากมายอย่างร่างสูงไม่มีทางที่จะหลุดมาดเสียอาการขนาดนั้นกับคนอย่างเขาแน่ๆ โดยเฉพาะในที่ที่คนนอกมองเห็นได้เช่นนี้



“มีน หยุดก่อน” มือใหญ่รั้งให้เขาหยุดเดิน มีนาเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างงุนงง ธีรเชษฐ์ไม่ได้พูดอะไร แต่ทรุดลงคุกเข่าหนึ่งข้างในชุดสูทราคาแพงของตนต่อหน้าร่างเล็ก



“คุณเชษฐ์ ทะ…ทำอะไรครับ?” มีนาร้องอย่างตกใจ ก้มมองร่างสูงที่หยิบเชือกรองเท้าที่เริ่มหลุดรุ่ยของตนขึ้นมาบรรจงผูกอย่างตั้งใจ เงยหน้าขึ้นมองเด็กน้อยของตนด้วยสายตาที่ทำให้หัวใจของมีนาเต้นผิดจังหวะ



“เชือกรองเท้าหลุดหมดแล้ว เดี๋ยวเดินสะดุดขึ้นมาจะลำบาก”



“ขอบคุณครับ…” มีนาหลุดยิ้มออกมาอย่างขัดเขิน ก่อนจะนุนึกขึ้นได้ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในที่ลับตาคน “คุณเชษฐ์รีบลุกขึ้นเถอะครับ เดี๋ยวคนมอง…”



“ก็ปล่อยเขามองไปสิ” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่หยี่ระ ลุกขึ้นปัดเศษฝุ่นออกจากกางเกงราคาสี่หลักของตน “ผูกเชือกรองเท้าให้แฟนมันผิดมากรึไง?”



มีนาขอถอนคำพูด…



กับธีรเชษฐ์ ต่อให้ไม่มีรอยยิ้มอะไรก็ยังมีพลังทำลายล้างได้มากพอที่จะทำให้มีนาเข่าอ่อนจนแทบยืนไม่อยู่



เด็กหนุ่มสังเกตเห็นหญิงสาวร่างเล็กหน้าตาสะสวยที่น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับมธุวันยืนพูดคุยกับเลขาหนุ่มและเมฆาอยู่นาน
สองนานจึงชะลอฝีเท้าเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวแก่อีกฝ่าย



“บ่ายๆเย็นๆเดี๋ยวพาไปเล่นน้ำ” ธีรเชษฐ์หันมาบอกคนรัก มีนาพยักหน้าให้อีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม เขาค้นพบว่าหลังจากที่เขาเริ่มยอมรับความหวังดีหลายๆอย่างของอีกฝ่ายโดยไม่อิดออด เขารู้สึกว่าธีรเชษฐ์อารมณ์ดีขึ้นมาก



“ว่ายน้ำเป็นรึเปล่า?”



“ก็ไม่ค่อยแข็งนะครับ” ตั้งแต่เล็กมีนาเคยเรียนว่ายน้ำตามหลักสูตรของโรงเรียนอยู่แค่ไม่กี่ปี และไม่ใช่วิชาที่เขาทำได้ดีนัก แต่หากให้ลอยคอหรือว่ายไปมาในที่ตื้นๆน่าจะไม่มีปัญหาอะไร



“ไม่เป็นไร ฉันแข็ง” ร่างสูงกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำของคนรัก “คิดอะไรอยู่?”



“ผม…ผมไม่พูดกับคุณเชษฐ์แล้ว”


มีนาเบือนหน้าหนีแววตาสนุกสนานของคนอายุมากกว่า รีบเดินดุ่มๆไปสมทบกับเพื่อนร่วมทางอีกสองคนเมื่อเห็นว่าหญิงสาวคนนั้นกำลังกล่าวลามธุวันแล้วเดินไปกับชายหนุ่มชาวต่างชาติคนหนึ่งโดยมีธีรเชษฐ์เดินทอดน่องตามมาไม่ห่าง



“มายืนจีบกันอะไรตรงนี้? รถยังไม่มาเหรอ?”


มธุวันนิ่งไปเมื่อได้ยินเสียงของธีรเชษฐ์ แววตาของคนที่หันกลับมาคล้ายจะบอกว่าลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเจ้านายของตนมีตัวตนอยู่



“ยังครับ น่าจะอีกซักพัก รถค่อนข้างติด” เลขาร่างโปร่งเอ่ยเสียงเรียบ



“เหรอ งั้นจีบกันต่อไปก็ได้ เดี๋ยวดูรถให้ ฉันไม่มีอะไรทำพอดี”



ธีรเชษฐ์ขยับยิ้มมุมปากกวนเลขาคนสนิท มีนาลอบกลืนน้ำลายเมื่อรู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่แผ่ออกมาจากดวงตาสีฟ้าอมเทาเป็นเอกลักษณ์นั้น ผิดกับคนรักของเขาที่ดูจะไม่ได้รับรู้ถึงสัญญาณอันตรายใดๆ



“ไม่มีอะไรทำใช่มั้ยครับ? งั้นอ่านเอกสารรายละเอียดความคืบหน้าที่เราต้องไปคุยกับคุณนิโคไลให้ครบทั้งสามร้อยหกสิบแปดหน้านะครับ...” ร่างโปร่งยื่นแทบเล็ตของตัวเองให้กับเจ้านายที่อ้าปากค้างกับจำนวนหน้าในไฟล์ มีนาได้แต่ลอบมองคนแกว่งเท้าหาเสี้ยนอย่างสมเพชเวทนา


“แต่ว่านั่นมันงานของเม....”



“ของใครครับ?”



เลขาหนุ่มเลิกคิ้ว ดวงตาภายใต้แว่นไร้กรอบสื่อความหมายชัดเจนว่าหากธีรเชษฐ์ตอบผิด งานของชายหนุ่มจะไม่จบอยู่เพียงแค่นี้



“ของผมครับบอส...”



ประธานบริษัทหนุ่มเอ่ยเสียงอ่อยอย่างไม่กล้าหือ แม้เขาจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรู้รายละเอียดของโครงการทุกตัวอักษรและย่อหน้าอย่างลูกชายคนโตที่เป็นหัวหน้าโครงการ แต่หากรู้รายละเอียดเพิ่มก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไรนัก ถึงแม้จำนวนสามร้อยกว่าหน้าจะทำให้เขาแอบปาดเหงื่อก็ตาม



มีนาไม่ได้รู้เรื่องงานของร่างสูงมากนัก แต่ในเวลานี้เด็กหนุ่มที่เห็นคนรักมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับงานกองโตนั้นก็นึกสงสารขึ้นมาแม้ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง


“คุณเชษฐ์ครับ ผม...”



“คุณมีนาอยากช่วยเหรอครับ?” มีนาหุบปากฉับ ส่ายหน้าพรืดทันทีที่ได้ยินคำถามของเลขาหนุ่ม ไม่กล้าแม้แต่จะหลบหลังคนรักด้วยกลัวว่านั่นจะไปสะกิดต่อมโมโหของคนที่มองมาเข้าให้อีก



มธุวันเปิดประตูรถตู้ที่เพิ่งมาถึงออกโดยไม่รอให้คนขับวิ่งลงมา ดันที่นั่งให้เคลื่อนไปข้างหน้าเพื่อให้คนที่จะเข้าไปนั่งด้านหลังเข้าไปได้สะดวก แล้วผายมือให้กับเจ้านายทั้งสองด้วยสีหน้าเย็นเยียบ



“เชิญครับ ท่านประธาน คุณมีนา คุณเมฆา”



“นี่ยังเห็นฉันเป็นประธานบริษัทอยู่จริงๆเหรอ”


 ธีรเชษฐ์บ่นอุบ มีนาเหลือบมองคนไม่สำนึกอย่างเป็นกังวลระคนอิดหนาระอาใจ ส่วนชเจ้าของบริษัทนั้นเมื่อโดนสายตาเย็นเยียบเข้าไปอีกดอกก็หุบปากฉับเข้าไปนั่งที่เบาะหลังกับคนรัดตัวเล็กอย่างว่านอนสอนง่าย
มีนาพยายามที่จะไม่มองแล้วจริงๆนะ



เขาพยายามที่จะไม่มองเมฆาที่เอื้อมมาจับประตูเลื่อนเพื่อให้มธุวันขึ้นไปก่อนไม่สังเกตใบหน้าคมที่เคลื่อนเข้าไปใกล้ดวงหน้างดงามแต่บึ้งตึงของเลขาหนุ่ม พยายามที่จะไม่จับผิดตำแหน่งที่นั่งแนบชิดจนแทบจะสิงร่างกันราวกับรถตู้คันนี้มีที่เพียงแค่นั้น



แต่มันอดไม่ได้จริงๆ


“คุณเชษฐ์ครับ คุณเมฆากับคุณมธุวัน…” ธีรเชษฐ์ยกนิ้วขึ้นทาบริมฝีปากของตนพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทว่านั่นก็เป็นคำตอบที่มากพอให้กับมีนาแล้ว



พูดถึงระยะห่าง ในตอนนี้มีนาถูกเบียดแนบชิดจนแทบจะนั่งเกยตักของร่างสูงบนเบาะนั่งตัวยาวด้านหลังสุดของรถตู้ แขนแกร่งโอบรัดรอบเอวบางแทนเข็มขัดนิรภัย ธีรเชษฐ์เกยคางบนไหล่มน ทาบทับริมฝีปากลงบนลำคอขาวกรุ่นกลิ่นน้ำอบหอมจางของคนรัก แม้จะแช่ค้างอยู่อย่างนั้น ทว่าความร้อนซ่านที่นาบผิวกายขาวกลับทำให้มีนาคันยุบยิบในอกได้ไม่ต่างจากยามที่ริมฝีปากร้อนชื้นดูดดุนสร้างรอยสีกุหลาบ



“มองออกไปนอกหน้าต่างสิ เห็นทะเลรึยัง?” เสียงทุ้มกระซิบถามแนบชิดผิวกายเนียน มีนาที่ยังไม่เคยเห็นทะเลจริงๆมาก่อนตาลุกวาวอย่างตื่นเต้น โน้มกายคร่อมทับหน้าตักแกร่งเพื่อชะเง้อมองหน้าต่างฝั่งของธีรเชษฐ์



“คุณเชษฐ์ครับ ทะเลๆ!”


แม้จะเห็นเพียงต้นมะพร้าวและหาดทรายที่เต็มไปด้วยเก้าอี้ผ้าใบ ร่มชายหาด และผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจบดบังทัศนียภาพไปกว่าครึ่ง แต่มีนายังคงร้องออกมาอย่างตื่นเต้นที่ได้เห็นทะเลของจริง หากธีรเชษฐ์พาเด็กหนุ่มมาเที่ยวทะเลก่อนหน้าที่พวกเขาจะคบกัน ชายหนุ่มคงจะไม่เห็นท่าทีแบบนี้ของอีกฝ่าย



“ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ?” ร่างสูงถามเสียงกลั้วหัวเราะ มีนาพยักหน้าหงึกหงัก ดวงตากลมโตเป็นประกายสุกใส ก่อนจะสลดลงแทบจะในทันทีจนคนที่ยังเสพความน่ารักไม่อิ่มขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล “เป็นอะไร?”



“ผม…อยากพาแม่กับยายมาบ้าง…”


“ไว้แม่เธอออกจากโรงพยาบาลแล้วค่อยมากัน”



ทั้งที่เป็นประโยคแสนธรรมดาสามัญทว่ากลับแฝงไปด้วยความหมายที่ทำให้หัวใจดวงน้องเต้นถี่รัวด้วยความยินดีและ
ประหม่าสับสนระคนกันไป



“คุณเชษฐ์…”



“ไว้กลับไปแล้ว…เราไปเยี่ยมคุณแม่เธอด้วยกันนะ”



มีนากัดริมฝีปากสะกดกลั้นรอยยิ้มและก้อนสะอื้นที่จุกในลำคอ พยักหน้าให้ร่างสูงที่โน้มมาช่วงชิงริมฝีปากรูปกระจับนุ่มหยุ่นอย่างอ่อนโยน มีนาโอบแขนรอบลำคอของคนรัก กดศีรษะของธีรเชษฐ์ให้องศาหวานล้ำลึกซึ้งยิ่งขึ้น โหยหาสัมผัสร้อนหวานละมุนจากคนอายุมากกว่าอย่างไม่รู้จักพอ



จนลืมเรื่องแปลกประหลาดระหว่างเลขาหนุ่มและบุตรชายคนโตของธีรเชษฐ์ที่นั่งข้างหน้าไปจนหมดสิ้น




------------
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 45: เก็บกระเป๋า [18-10-62] คห.801
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 25-10-2019 20:11:45
ภาพหาดทรายสีขาวและท้องทะเลสีมรกตสะท้อนประกายจากแสงอาทิตย์ระยิบระยับบนผิวน้ำคล้ายอัญมณีเลอค่าสะกดมีนาให้ยืนตะลึงอยู่กับที่หลังจากก้าวลงจากรถตู้ จนธีรเชษฐ์ต้องโอบเอวบางให้ก้าวออกจากถนน ไม่ใช่แค่มีนาเท่านั้น แม้แต่มธุวันที่ไม่ใช่คนประทับใจอะไรง่ายๆยังต้องหยุดมองความงดงามของภาพตรงหน้า


“ทะเลที่นี่สีสวยดีเหมือนกันนะ” ธีรเชษฐ์เปรยขึ้นเมื่อเห็นสายตาของคนทั้งคู่ไม่ยอมละจากทะเลผืนงาม เหลือบมองบุตรชายคนโตที่เคยชื่นชอบทะเลไม่ต่างจากเด็กน้อยทั่งไปในวันวาน แม้ว่าอาการแพ้อาหารทะเลจะทำให้พวกเขาต้องระมัดระวังเป็น
พิเศษในการเลือกทานอาหารริมชายหาด



“ครับ สวยเกือบที่สุดที่ผมเคยเห็น” เมฆาตอบรับคำพูดของบิดา



“หืม? แล้วที่ไหนล่ะสวยสุด?” ธีรเชษฐ์ถามลูกชายอย่างใคร่รู้ เมฆาไม่ตอบ แต่ดวงตาคมที่สบกับดวงตาสีเทาอมฟ้าของมธุวันสื่อความหมายได้ชัดเจน



ถ้าจะชัดเจนขนาดนี้ เขาคงต้องเตรียมยกขันหมากไปขอเลขาคนสวยให้ลูกชายเสียแล้ว



มธุวันเบือนหน้าหนีสายตาหวานเชื่อมของเมฆาอย่างทำตัวไม่ถูกแล้วรีบตรงไปยังเคาท์เตอร์เพื่อเช็คอินเข้าโรงแรม นับว่า
เป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่งของปีศาจน้ำแข็งแห่งบริษัททรัพย์ดำรง ดูท่าลูกชายของเขาจะไม่ได้หมดหวังซะทีเดียว
ธีรเชษฐ์ก้าวตามเลขาของตนเข้าไปในโรงแรมธาราที่วีรภัทร เพื่อนสนิทของเขาเป็นเจ้าของ มีนามองไปรอบๆอย่างตื่นตาตื่นใจ แม้จะเคยนอนโรงแรมระดับห้าดาวในต่างประเทศมาแล้ว แต่ไม่ว่าใครก็ต้องตื่นตะลึงกับความงดงามภายในตัวโรงแรมธาราที่แม้จะมีกลิ่นอายของความเป็นไทยกลับผสมผสานเข้ากับโครงสร้างสถาปัตยกรรมทางฝั่งยุโรปไเ้อย่างลงตัว นับว่าเพื่อนของเขามีพรสวรรค์อยู่มาก



ชายหนุ่มนึกอยากจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาบันทึกภาพทุกอิริยาบถของมีนาในทริปครั้งนี้ ไม่สิ คงต้องบอกว่าเขาอยากจะมีภาพทุกวินาทีในชีวิตของคนรักไม่ว่าจะเป็นวันไหนก็ตาม คนตัวเล็กที่ไม่ได้รับรู้ถึงความคิดในจิตใต้สำนึกของเขาเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ร่างสูง ก่อนจะหันไปสนใจสภาพแวดล้อมรอบกายของตนต่อ



ผิดกับธีรเชษฐ์ที่ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ยังคงไม่สามารถละสายตาจากเด็กคนนี้ได้สักครา



“เป็นอะไรไปครับคุณหมอก? ทำไมทำหน้าแบบนั้น?”



ในที่สุด ตัวต้นเหตุที่ทำให้ธีรเชษฐ์ต้องมาที่นี่ในครั้งนี้ก็ปรากฎกายขึ้นมาเสียที นิโคไลที่ทักมธุวันก่อนใครเพื่อนเดินตรงมาหาเลขาหนุ่มพร้อมกับเหล่าบอดี้การ์ดบอยแบนด์วงเดิมประกบรอบทิศ แทบจะเรียกได้ว่ามาเป็นขบวนรบ แม้จะเป็นเรื่องดีสำหรับด้านความปลอดภัย แต่ธีรเชษฐ์ยังคงสังเกตได้ว่ามธุวันเริ่มมีสีหน้าไม่ไว้วางใจจำนวนการ์ดที่เยอะจนผิดสังเกตของ ‘คู่ค้าทางธุรกิจ’ ของบริษัททรัพย์ดำรง



“ไม่ต้องตกใจไปหรอกครับคุณหมอก ผมแค่พาลูกน้องมาพักผ่อน” นิโคไลยิ้ม “ถ้าไม่คลายเครียดซะบ้างร่างกายจะแย่เอา แค่นี้หน้าตาเจ้าพวกนี้ก็แก่กว่าอายุไปโขแล้ว”



“ใจดีจังเลยนะครับ” มธุวันตอบเสียงเรียบ เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อคำโกหกของคนตรงหน้าแม้แต่วินาทีเดียว



บางครั้งธีรเชษฐ์ก็นึกกลัวสายตาที่ราวกับจะสามารถมองทะลุทุกสิ่งทุกอย่างได้ของเลขาของตน



ขณะที่มธุวันจัดการเรื่องห้องพักของพวกเขา ธีรเชษฐ์สังเกตว่าคนข้างกายยังคงเหลือบมองไปทางชายหาดเป็นระยะจึงพามีนาไปยืนดูใกล้ๆที่ผนังกระจกใสของโรงแรม หากไม่ติดว่าจะทำกระจกเปื้อนมีนาคงจะเอาหน้าแนบไปแล้วด้วยซ้ำ เด็กหนุ่มซึมซาบเอาความงดงามของธรรมชาติเข้าไปจนเต็มปอดเช่นเดียวกับร่างสูงที่ซึมซาบเอาความงดงามตรงหน้าเข้าไปอย่างไม่รู้จักพอ



“ท่านประธานครับ”



เสียงของมธุวันเรียกคนทั้งสองกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ธีรเชษฐ์กระแอมกระไอกลบเกลื่อนก่อนจะหันไปหาเลขาร่างโปร่งที่กอดอกมองเขาด้วยสีหน้าเอือมระอา



“ว่าไง?”


“คุณนิโคไลเชิญเราไปทานอาหารค่ำที่ห้องอาหารของโรงแรมเย็นนี้ครับ” มธุวันกล่าวเสียงเรียบ ทว่าหางเสียงห้วนสั้นกว่าปกติเล็กน้อยทำให้คนที่อยู่ด้วยกันมานานอย่างธีรเชษฐ์จับสังเกตความหงุดหงิดในน้ำเสียงได้เป็นอย่างดี ร่างสูงมองเลยไปยังลูกชายคนโตที่ยืนคอตกเฝ้ากระเป๋าให้ทุกคนอยู่ไกลๆอย่างนึกสงสาร ให้ปลดชนวนระเบิดยังจะเสี่ยงน้อยกว่าการเกี้ยวพาราสีอาวุธชีวภาพอย่างเด็กคนนี้ ไหนยังจะมีนิโคไลที่คอยกำชับหนักหนาว่าให้พามธุวันมาที่นี่ด้วย ดูอย่างไรก็ศัตรูหัวใจลูกชายเขาชัดๆ



“อืม เจอกันที่ห้องอาหารตอนเย็นแล้วกัน เธอไปพักผ่อนเถอะ”



ธีรเชษฐ์ได้แต่หวังว่าห้อง Conecting room ที่เขาแอบโทรมาเปลี่ยนล่วงหน้าจะทำให้เมฆาได้เข้าใกล้คนที่เจ้าตัวกำลังเทียวไล้เทียวขื่ออย่างทุลักทุเลได้มากขึ้น



ส่วนห้องของเขากับมีนา แน่นอนว่าหนีไม่พ้นฮันนีมูนสวีทที่วีรภัทรเคยพูดเล่นว่าอยากเปลี่ยนชื่อเป็นห้องเสกเด็ก เพราะนอกจากความหรูหราโรแมนติกสมราคาแล้ว ยังมีชื่อเสียงโ่ด่งดังในหมู่คู่รักว่าหากได้เข้าพักในช่วงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ก็เตรียมตัวเป็นคุณพ่อคุณแม่ได้เลย ซึ่งในข้อนี้ธีรเชษฐ์ไม่ได้นึกห่วงอะไรนัก



เพราะถึงมีนาสามารถอุ้มท้องได้จริงๆ ก็คงไม่รอดพ้นมาจนต้องให้ความศักดิ์สิทธิ์ของห้องนี้ช่วยหรอก



“ห้องสวยจังเลยครับคุณเชษฐ์” มีนามองไปรอบห้องอย่างตื่นตาตื่นใจเช่นทุกครั้ง แต่ธีรเชษฐ์กลับไม่เคยรู้สึกเบื่อที่ได้เห็นสีหน้านักสักครา



“ชอบเหรอ…” ท่อนแขนแกร่งโอบรอบเอวบางดึงรั้งร่างเล็กเข้ามาแนบกาย มีนาเอนพิงแผ่นอกกว้างอย่างสุขใจ พยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มกว้าง “ถ้าชอบฉันจะซื้อให้”


“ทั้งห้องเลยเหรอครับ?” มีนาผละจากคนรักอย่างแตกตื่น ร่างสูงกระตุกยิ้มมุมปาก


“ทั้งโรงแรม”


“มะ…ไม่ชอบครับ ไม่ชอบเลยซักนิด!!”



“ล้อเล่นน่า” ธีรเชษฐ์กล่าวหน้าตาย คนถูกแกล้งยังคงเหลือบมองอย่างไม่ไว้ใจ จนคนขี้แกล้งต้องให้เหตุผล “โรงแรมนี้เป็น
สาขาที่ทำรายได้มากที่สุดของไอ้วี มันคงยกให้เมียมันเป็นสิดสอดทองหมั้นไปแล้วล่ะ”



เมื่อได้ยินดังนั้น มีนาจึงแสดงสีหน้าโล่งใจออกมาในที่สุด



“กลัวฉันซื้อโรงแรมให้ขนาดนั้นเลย?” ร่างสูงเลิกคิ้ว



“มันแพงเกินไปครับ ผมไม่อยากให้คุณเชษฐ์ใช้เงินมากขนาดนั้นกับผม” มีนาสารภาพ แม้ธีรเชษฐ์จะรับรู้ความคิดของมีนามาตั้งแต่แรก แต่การได้ยินคำสารภาพที่บ่งบอกว่าอีกฝ่ายเชื่อใจเขาจนสามารถเอ่ยคำตอบนั้นออกมาได้อย่างลื่นไหลทำให้อารมณ์ของร่างสูงดีผิดจากที่มีนาคิดไว้



“ถ้าเธอไม่ชอบให้ฉันซื้อของให้ เราเปลี่ยนมาเป็นบัญชีเงินฝากดีมั้ย? ถ้าฉันอยากซื้ออะไรให้แล้วเธอไม่อยากได้ เราก็โอนเงินเข้าบัญชีนั้นเก็บไว้แทน”



“ยังไงคุณเชษฐ์ก็จะใช้เงินกับผมให้ได้เลยใช่มั้ยครับ” มีนายิ้มอย่างอ่อนใจ ได้รับคำตอบเป็นริมฝีปากได้รูปที่กดลงบนแก้มนิ่มขโมยจุ๊บไปหนึ่งทีพร้อมรอยยิ้มมุมปาก



“ผู้ชายของเธอ ไม่ให้เงินกับเธอจะใช้กับใคร”



“เก็บไว้ให้ลูกไงครับ”


“มีมือมีเท้าก็หากินเองสิ ส่วนแบ่งที่ฉันให้ไว้แต่ละคนก็มีกินมีใช้ไปทั้งชาติแล้ว เรื่องอะไรฉันต้องใช้เงินกับเจ้าพวกนั้น” ธีรเชษฐ์กดเสียงต่ำ คลอเคลียข้างใบหูเล็กอย่างรักใคร่ “หรือว่าคุณมี้ถูกลูกอ้อนอยากได้อะไรมารึเปล่าครับ?”



“คุณเชษฐ์! มี้อะไรล่ะครับ… ลูกคนเล็กคุณเชษฐ์อายุมากกว่าผมอีกนะครับ” มีนาท้วง ก่อนจะพึมพำออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา หลบสายตาคนรักอย่างมีพิรุธ “แต่…รถซันที่ใช้ตอนนี้ก็เก่าอยู่นะครับ…”



“หึๆ เจ้าซันนี่มันขยันอ้อนไปทั่วจริงๆ” ร่างสูงส่ายหัวยิ้มๆ “เอาสิ เดี๋ยวกลับไปจะซื้อคันใหม่ให้”



“งะ…ง่ายๆแบบนี้เลยเหรอครับ?”



“ง่ายสำหรับเจ้าซัน…” ร่างเล็กถูกช้อนตัวขึ้นจากพื้นแล้วโยนลงบนเตียงนุ่ม ตามมาด้วยร่างสูงใหญ่ที่คร่อมทับตนไว้ “แต่สำหรับคุณมี้ ต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ฉันด้วยนะ”



“ติดไว้คืนนี้ได้มั้ยครับ…ผมอยากไปเล่นน้ำ”


ไม่มีสีหน้าหวาดกลัว ไม่มีสีหน้าล่อกแล่กหาทางหนีทีไล่ แววตาของมีนาในตอนนี้ซื่อตรงต่อความรู้สึกของเจ้าตัวซึ่งยินยอมพร้อมใจที่จะเป็นของเขา แค่อยากไปเล่นน้ำก่อนก็เท่านั้น ธีรเชษฐ์นึกอยากจะยกทะเลขึ้นมาไว้บนห้องจะได้ทำทั้งสองอย่างพร้อมกันได้



ใครจะว่าเขาหลงเมียจนโงหัวไม่ขึ้นก็ช่าง เพราะธีรเชษฐ์ไม่คิดว่าเขาจะสามารถต้านทานคำขอใดก็ตามที่ออกมาจากริมฝีปากรูปกระจับสีหวานและดวงตากลมโตคู่นั้น







มีนาอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งสีดำและกางเกงขาสั้นคลุมเข่าที่เจ้าตัวคัดสรรมาแล้วว่าผ่านการประเมินของธีรเชษฐ์แน่ๆ ก้มๆเงยๆหยิบของจำเป็นใส่ในถุงผ้ารอคนรักที่เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องน้ำ



ขวดครีมกันแดดในมือแทบจะร่วงลงพื้นเมื่อเห็นร่างสูงที่ก้าวออกมา กางเกงขาสั้นสีเข้มเป็นอาภรณ์ติดกายเดียวของธีรเชษฐ์ ทำให้ลอนกล้ามเนื้อชวนน้ำลายหกปรากฏแก่สายตาให้สาธารณชนรับชม รอยข่วนสีแดงเป็นทางยาวที่มีนาพอจะเดาออกว่ามาจากไหนเด่นหราบนแผ่นหลังกว้าง ทว่ากลับยิ่งทำให้อีกฝ่ายดูน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก



“ไปกันเลยมั้ย?”



“เสื้อล่ะครับ?”


“หืม?” ธีรเชษฐ์ที่ช่วยหยิบกระเป๋าผ้าของเด็กหนุ่มขึ้นมาสะพายชะงักกับคำถามนั้น “เสื้อทำไมเหรอ?”



“คุณเชษฐ์…จะลงไปทั้งอย่างนี้จริงๆเหรอครับ?”



“หืม…เธอหวงร่างกายฉันด้วยเหรอมีนา?” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมามุมปากของร่างสูง มีนาหลบสายตาแพรวพราวของคนรัก ใบหน้าหวานแดงก่ำอย่างอับอาย



“มะ…ไม่อยากใส่ก็ไม่ต้องใส่ครับ ไปกันเถอะครับ…”



“เดี๋ยวสิ”



ธีรเชษฐ์รวบร่างที่ก้าวฉับๆผ่านเขาไปหาประตูห้องมาไว้ในอ้อมกอดไม่ให้หนี มีนาดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนแกร่งอย่างไร้ทางออก ก่อนจะตัดปัญหาด้วยการพลิกกายซุกหน้าเข้ากลับแผงอกเปลือยเปล่าเพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้า



“เอ้า ซุกอยู่แบบนี้จะคุยกันรู้เรื่องมั้ยเนี่ย” ธีรเชษฐ์ก้มมองร่างนุ่มนิ่มในอ้อมกอดยิ้มๆ “ว่าไงมีน…หวงร่างกายผู้ชายของเธอเหรอ?”



“ถ้าผมหวง…คุณเชษฐ์จะใส่มั้ยครับ?” เสียงอู้อี้ตอบกลับมาอย่างประหม่า



“อยากให้ใส่ตัวไหน ไปเลือกมาสิ”


หลงมาก ยอมรับ



มีนาที่ได้ยินดังนั้นเงยหน้าขึ้นยิ้มกว้างให้คนรักที่แทบจะยกมือกุมใจแล้ววิ่งไปหากระเป๋าเดินทาง ธีรเชษฐ์ส่ายหัวยิ้มๆ รับเสื้อสีเข้มที่คนตัวเล็กเลือกให้มาใส่อย่างว่าง่าย



เขาสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่ามีความสุขกับชีวิตในตอนนี้มาก



มากเสียจนลืมไปว่าชีวิตที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลังนั้นยังคงรอคอยเวลาที่จะหวนกลับมาสร้างความวุ่นวาย



อย่างเช่นในตอนนี้ที่หางตาของเขาเห็นนางแบบสาวคู่ขาเก่าที่กำลังก้าวฉับๆมาทันทีที่เห็นร่างสูงและคนรักก้าวออกมาจากลิฟต์ด้วยสีหน้าเอาเรื่อง



“ออกประตูนั้นแล้วกัน”


ธีรเชษฐ์ใช้ร่างของตัวเองบังมีนาไว้แล้วดันให้คนรักเดินไปอีกทาง หูได้ยินเสียงกรีดร้องโวยวายของหญิงสาว และเสียงห้ามปรามเย็นเยียบของเลขาหนุ่มที่เขายังคงรู้สึกว่าจ่ายเงินเดือนให้เท่าไหร่ก็ไม่พอ



“มีคนทะเลาะอะไรกัน…”



“ฉันว่าไม่มีอะไรหรอก รีบไปดีกว่า เดี๋ยวโดนลูกหลง” ร่างสูงจับไหล่ของคนที่พยายามจะหันกลับไปดูเหตุการณ์แล้วเร่งฝีเท้าโดยเฉพาะเมื่อเสียงโวยวายเริ่มเปลี่ยนจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม และค่อยๆแตกหน่อแพร่พันธุ์จนเขาไม่มั่นใจว่ามธุวันคนเดียวจะสามารถเอาอยู่



โบนัสปีนี้คงต้องยกเงินเดือนเขาให้อีกฝ่ายเป็นการขอขมาเสียแล้ว


ในที่สุดธีรเชษฐ์ก็พาคนรักของตัวเองออกมาถึงชายหาดที่เงียบสงบได้อย่างไร้รอยขีดข่วน อีกด้านของหาดทรายถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายโฟโต้ชู้ตของนิตยาสารแฟชั่นชื่อดังเล่มหนึ่ง ธีรเชษฐ์จึงไม่อยากจะเสี่ยงให้อดีตคู่ขาที่หลายคนอยู่ในสายอาชีพนี้เจอกับกระต่ายน้อยของเขาโดยบังเอิญ


“อย่าวิ่งลงน้ำเองนะ คลื่นเริ่มแรงแล้ว ถ้าจะลงน้ำให้ฉันไปด้วย เข้าใจมั้ย” ธีรเชษฐ์กล่าวเตือนคนที่ทรุดตัวลงนั่งยองๆมองเปลือกหอยบนผืนทราบด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข มีนาพยักหน้าหงึกหงัก จิ้มเบาๆที่เปลือกหอยมันวาวสะท้อนสีฟ้าอมม่วงล้อแสงอาทิตย์อย่างสวยงามแล้วขยับยิ้มอย่างตื่นเต้น ทำเอาคนมองใจบางไปหมดทุกสัดส่วน



มีนาหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดถ่ายรูปเปลือกหอยบนผืนทรายแล้วเก็บใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิม ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้ว



“ถ่ายไว้แค่นั้นเหรอ?”


“ครับ จะเอากลับไปให้แม่ดู” มีนาหันมาตอบเสียงใส



“ไม่อัพรูปลงโซเชียลเหรอ? ฉันนึกว่าเด็กอย่างพวกเธอจะชอบอะไรแบบนั้นซะอีก”



“ซันเคยสมัครให้นะครับ เขาเคยบอกว่าให้ลงรูป เอาไว้แบ่งปันช่วงเวลาที่มีความสุขให้เพื่อนรับรู้…” ร่างเล็กตอบซื่อๆ “แต่ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยมีช่วงเวลาอะไรให้แบ่งปัน แล้วตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะแบ่งปันอะไรให้เพื่อนรู้ได้บ้าง ในเมื่อช่วงเวลาที่
ผมมีความสุข มีแต่คุณเชษฐ์อยู่ในนั้น…”


เขาอยากจะรู้นักว่าใครสั่งใครสอนให้เด็กน้อยของเขาพูดจาแบบนั้นด้วยแววตาซื่อตรงแบบนี้



“อยากจะลงรูปอะไรก็ลงเถอะ เธอไม่จำเป็นต้องขอฉัน” ธีรเชษฐ์ตอบ พยายามตี่หน้านิ่งขรึมทั้งที่แทบจะกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่อยู่


“เธอไม่ใช่ความลับของฉัน แล้วฉันก็ไม่อยากเป็นความลับของเธอ”


“ถ่าย…รูปคู่ได้มั้ยครับ?”


เสียงหวานแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน มีนาก้มหน้างุดอย่างเขินอาย เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนมองได้ไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่ของวัน ธีรเชษฐ์แบมือขอโทรศัพท์จากอีกฝ่าย โอบให้คนขี้อายเขามาอนบชิดแล้วเปิดกล้องหน้า



“เงยหน้าขึ้นสิมีน”


เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นอย่างว่าง่าย ธีรเชษฐ์ใช้โอกาสนั้นกดจมูกลงบนแก้มนิ่ม สีหน้าเหรอหราของมีนาถูกบันทึกไว้ในเครื่องมือสื่อสารของร่างเล็ก ธีรเชษฐ์คืนโทรศัพท์ให้กับคนที่ยังคงทำตาโตไม่พูดไม่จา มีนาจ้องหน้าจอโทรศัพท์นิ่ง ก่อนจะกดล็อคเครื่องโดยที่ไม่ได้อัพโหลดรูปลงโซเชี่ยลมีเดียอย่างที่ธีรเชษฐ์คิด



“อาย?” น้ำเสียงของร่างสูงไม่ได้หงุดหงิด เขาแค่อยากรู้ว่ากระต่ายน้อยของเขาคิดอะไรอยู่เท่านั้น



อะไรที่มีนาไม่อยากพูดเขาจะไม่ฝืน อะไรที่มีนาอยากทำเขาจะไม่ห้าม



เขาอยากให้มีนาได้ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกที่เจ้าตัวต้องการ อยากให้มีนาได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เขาจะมีปัญญาหามาให้อีกฝ่าย



อย่างน้อยที่สุด หากพรุ่งนี้เกิดอะไรขึ้นกับเขา ธีรเชษฐ์จะมั่นใจว่าหัวใจของเขาจะมีความทรงจำที่ดีมากพอให้มองย้อนกลับมา



“ผมไม่ได้อายครับ” มีนาส่ายหน้า คนรักอย่างธีรเชษฐ์จะมีใครหน้าไหนรู้สึกอับอายได้กัน



“แล้วคิดอะไรอยู่?” นิ้วเรียวยาวจิ้มเบาๆที่ข้างแก้มนุ่มนิ่ม ชักจะเข้าใจเจ้าหลานชายที่ชอบฟัดแก้มเลขาตัวน้อยของตัวเองเป็นชีวิตจิตใจแล้วว่ามันเสพติดขนาดไหน



มีนาอึกอัก แก้มขาวเนียนขึ้นสีเรื่อเมื่อสารภาพความจริงออกไปด้วยสีหน้าขัดเขิน


“ผม…ไม่อยากให้ใครเห็นคุณเชษฐ์”


“แล้วมันต่างจากอายตรงไหน?” ร่างสูงขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ



“ผมไม่อยากให้เห็น เพราะผมไม่อยากให้คนอื่นมาชอบคุณเชษฐ์…”


เสียงหวานอ้อมแอ้มทว่าใจความยังคงไม่ขาดตกบกพร่อง ธีรเชษฐ์หัวเราะในลำคอ มือใหญ่ลูบศีรษะของคนรักด้วยความเอ็นดูเต็มหัวใจ


“หวงฉันเหรอ?”



“แล้ว…ได้มั้ยครับ?”



คนฟังรวบร่างเล็กๆนั้นเข้ามาในอ้อมกอดแน่น อยากจะกดให้ร่างบอบบางจมหายไปในอ้อมกอดเป็นหนึ่งเดียวกับตนอยู่ตลอดเวลา



“ก็หวงสิ ผู้ชายของเธอ ทำไมเธอจะหวงไม่ได้”



แขนเรียวเล็กยกขึ้นกอดตอบแม้จะโอบไม่รอบแผ่นหลังกว้างด้วยซ้ำ มีนายิ้มแนบชิดแผ่นอกกว้าง จุ๊บเบาๆลงบนกลางอกของอีกฝ่ายผ่านเนื้อผ้าอย่างมีความสุข



“เล่นน้ำกันเถอะ เดี๋ยวต้องเปลี่ยนชุดอีก” 


มือใหญ่จับข้อมือเรียวเล็กไว้มั่นขณะที่พาคนรักก้าวลงไปในน้ำทะเลใส เท้าเปลือยเปล่าชักหนีเล็กน้อยเมื่อสัมผัสน้ำทะเลเป็นครั้งแรก ก่อนจะแตะผิวน้ำใสอย่างแผ่วเบาอีกครั้งอย่างลองเชิง มีนายิ้มกว้าง ก่อนจะเดินลึกลงไปในน้ำจนธีรเชษฐ์ต้องรีบคว้าตัวไว้



“รองเท้าไปไหน?”


“ถอดไว้บนหาดครับ ผมกลัวมันเปียก” ขนาดรองเท้าแตะ ธีรเชษฐ์ยังดิ้นรนหาของแบรนด์เนมมาให้เขาได้ เชื่อเขาเลยจริงๆ



“เปลือกหอยมันเยอะ เดี๋ยวบาดเท้า” ร่างสูงดุ



“แต่ว่า...”



“เอาแบบนี้แล้วกัน...” ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ ดึงแขนเรียวให้โอบรอบคอของตน รั้งให้เรียวขาขาวตวัดเกี่ยวสะโพกสอบในท่วงท่าที่มีนาไม่อยากยอมรับว่าคุ้นเคย ตวัดแขนรั้งเอวบางให้อยู่กับที่แล้วพาคนรักก้าวลึกลงไปในทะเล



“คุณเชษฐ์ครับ ปล่อยผมลงเถอะครับ...”


“ไม่มีใครมาเห็นหรอกน่า” ร่างสูงดักคอ ทว่ามีนากลับส่ายหน้า



“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” เด็กหนุ่มพึมพำ “ผม...กลัวคุณเชษฐ์เมื่อย”



“เด็กน้อย...” คนฟังหัวเราะ กระชับอ้อมกอดให้อีกฝ่ายแนบชิดขึ้นกว่าเดิม “อุ้มเธอแบบนี้ทั้งคืนฉันก็ทำมาแล้ว แค่นี้ไม่เมื่อยหรอก...”


“คุณเชษฐ์!!”



“แถมตอนนั้นเธอยังขย่มซะ...”



“คุณเชษฐ์!! ถ้าไม่หยุดผมจะหนีไปนอนที่ล็อบบี้โรงแรมแล้วนะครับ!!”



“ดุจังเลยครับ” ธีรเชษฐ์ประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากใสอย่างเอ็นดู “ไม่แกล้งแล้วก็ได้ อยากนอนกอดแฟน”


“ผมว่าผมชอบเวลาคุณเชษฐ์ไม่พูดกับผมมากกว่านะครับ” มีนาบ่นอุบ คนตรงหน้าอ้าปากทีไรเขาเป็นต้องอายม้วนทุกที



“ใจร้าย”



“ไม่เท่าคุณเชษฐ์หรอกครับ”



ร่างสูงพาคนรักที่ยังคงเกาะเอวเขาไว้เหมือนลูกหมีโคอาล่าก้าวลึกลงไปในทะเล น้ำในตอนนี้สูงถึงเอวของธีรเชษฐ์​ แต่มีนาดูไม่อยากจะให้อีกฝ่ายก้าวลึกลงไปกว่านี้ ร่างเล็กไล้นิ้วไปตามผิวน้ำใสอย่างใคร่รู้ แขนอีกข้างยังคงกอดคอร่างสูงไว้แน่น
ธีรเชษฐ์กอดคนรักไว้แน่นขณะที่มีนาเล่นน้ำอย่างมีความสุข ท่าทีตื่นเต้นและแววตาเป็นประกายของเด็กหนุ่มทำให้เขานึกถึงลูกชายทั้งสามตอนที่ได้เห็นทะเลเป็นครั้งแรก



ร่างสูงรั้งความสุขของตัวเองในยามนี้เข้ามาในอ้อมกอด ฝังจมูกลงบนซอกคอขาวเพื่อซึมซับกลิ่นหอมน้ำอบอ่อนๆของร่างบางให้เต็มปอด



เขารู้ว่าเขากำลังเห็นแก่ตัว ทั้งที่รู้ว่าชีวิตของตัวเองอาจจะต้องจบลงในวันพรุ่งนี้แต่กลับยื้ออีกฝ่ายไว้ข้างกาย แต่ธีรเชษฐ์อยากใช้เวลาที่เหลืออยู่นี้กับคนที่เขารัก และอยากให้คนที่คู่ควรกับความรักของคนทั้งโลกคนนี้รู้ว่าครั้งหนึ่งตัวเองเคยเป็นทั้งหัวใจของผู้ชายที่คิดว่าความรักตายไปแล้ว



รัก...



รักจนการปล่อยมือนั้นเจ็บจนแทบหายใจไม่ออก



แต่เขามาไกลเกินกว่าจะหวนกลับ และหนี้ที่เขาติดค้างไว้กับผู้หญิงที่เป็นทั้งภรรยาและแม่ของลูกเขา ธีรเชษฐ์รู้ว่าถึงเวลาที่
ตนต้องใช้คืนเสียที




-------------
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 46: หน้าที่ของใจ(1) [25-10-62] คห.818-819
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 25-10-2019 23:03:31
ลุงเชษฐ์ท่าจะหลงเด็กเอามากๆ ล่ะ.  :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 46: หน้าที่ของใจ(1) [25-10-62] คห.818-819
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 25-10-2019 23:31:16
ุคุณเชษฐ์คิดจะทำอะร๊ายยยยยยย  :ling2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 46: หน้าที่ของใจ(1) [25-10-62] คห.818-819
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-10-2019 01:35:29
หวานหยดย้อยมาก ๆ เลยตอนนี้  :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 46: หน้าที่ของใจ(1) [25-10-62] คห.818-819
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 26-10-2019 02:07:04
ใกล้ถึงช่วงบู๊แล้ว รออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 46: หน้าที่ของใจ(1) [25-10-62] คห.818-819
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 26-10-2019 07:48:14
ต้องมีดราม่าแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 46: หน้าที่ของใจ(1) [25-10-62] คห.818-819
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-10-2019 07:58:39
เหมือนจะมีอะไร
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 46: หน้าที่ของใจ(1) [25-10-62] คห.818-819
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 26-10-2019 10:26:29
หนี้คงไม่ต้องชดใช้ด้วยชีวิตหรอกนะ 555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 46: หน้าที่ของใจ(1) [25-10-62] คห.818-819
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 26-10-2019 11:21:40
คนแก่หลงหนักมากจ้าาา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 46: หน้าที่ของใจ(1) [25-10-62] คห.818-819
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 26-10-2019 12:39:12
จะดราม่าอะไรอี๊กให้น้องมีนมีความสุขตริงๆซะทีเถอะนะขอร้อง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 46: หน้าที่ของใจ(1) [25-10-62] คห.818-819
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 26-10-2019 13:03:30
ถ้าคุณเชษฐ์เป็นอะไรไป มีนคงเสียใจหนักมาก หวังว่าทุกอย่างคงจะคลี่คลายไปแนวทางที่ดีนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 46: หน้าที่ของใจ(1) [25-10-62] คห.818-819
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 26-10-2019 15:45:12
จะเกิดอะไรขึ้น!? ภาวนาให้ปลอดภัยนะคะ :sad4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 46: หน้าที่ของใจ(1) [25-10-62] คห.818-819
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 26-10-2019 22:18:48
หวานมากกกกกกกก เขินนน อ่านแล้วอยากได้แบบคุณเชษฐ์ อยากมีคนหลงเราแบบที่คุณเชษฐ์หลงรักน้องมีนบ้างงง
ทำไมเหมือนจะดราม่าา แต่จบแฮปปี้ใช่มั้ยค้า งื้ออออ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 46: หน้าที่ของใจ(1) [25-10-62] คห.818-819
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 01-11-2019 15:29:03
Chapter 47: หน้าที่ของใจ (2)

พวกเขากลับมาถึงห้องในสภาพเปียกปอนไปทั้งตัว ธีรเชษฐ์นึกอยากจะกราบขอบคุณเลขาของตัวเองงามๆที่ส่งข้อความมาบอกว่าเคลียร์ประตูทางเข้าด้านข้างของโรงแรมไว้แล้ว ภารกิจหลบฝูงแร้งของเขาจึงผ่านไปด้วยดี ร่างสูงรีบพามีนาเข้าไปในห้องน้ำก่อนที่อุณหภูมิเย็นๆของห้องนอนจะทำให้ร่างเล็กจับไข้

“ล้างตัวก่อน เดี๋ยวจะไม่สบายเอา…”

ชายหนุ่มปรับเครื่องทำน้ำอุ่นให้อยู่ในอุณหภูมิที่พอเหมาะแล้วหันกลับมาหาคนรัก แทบจะคว้าราวจับพยุงตัวเองไว้ไม่ทันเมื่อเห็นภาพร่างเปลือยเปล่าขาวนวลเนียนประดับรอยรักสีระเรื่อประปรายภายใต้แสงไฟ


“กะ..ก็คุณเชษฐ์บอกว่าให้ล้างตัว...” มีนารีบแก้ตัวเมื่อเห็นท่าทีตื่นตะลึงนั้น


“เธอจะให้ฉันหัวใจวายให้ได้เลยใช่มั้ย?” ร่างสูงดึงแขนของคนรักให้ก้าวเข้ามาในห้องอาบน้ำแล้วถอดเสื้อผ้าเปียกชื้นของตนออกเช่นกัน “อาบน้ำพอนะ คุณนิโคไลนัดเราทานมื่อค่ำหลังจากนี้”



“คุณเชษฐ์บอกตัวเองเถอะครับ” มีนาถอนหายใจ ปล่อยให้คนรักดึงเข้าไปในอ้อมกอดขณะที่สายน้ำอุ่นไหลผ่านร่างชำระล้างเม็ดทรายที่เกาะอยู่ตามผิวของพวกเขาทั้งคู่ออกไป



ด้วยปาฏิหาริย์บางอย่าง มีนาจึงมีชีวิตรอดออกมาจากห้องน้ำในเสื้อผ้าชุดใหม่โดยที่ไม่ถูกรั้งไว้อย่างที่คิด ร่างเล็กบรรจงผูก
เนคไทค์ให้กับธีรเชษฐ์ เขย่งตัวขึ้นจุ๊บเบาๆที่ปลายคางของร่างสูงด้วยรอยยิ้มเขินอาย ก่อนจะถูกรั้งเข้ามาจูบดีๆเพื่อมัดจำสิ่งที่ร่างสูงต้องอดทนอดกลั้นจนถึงหลังมื้อค่ำกับลูกค้าคนสำคัญ



มีนาชอบความรู้สึกเวลาถูกธีรเชษฐ์จูบแบบนี้ เขาชอบความรู้สึกของริมฝีปากร้อนที่ไล่เม้มตามริมฝีปากนุ่มหยุ่นรูปกระจับทีละน้อยราวกับว่าเด็กหนุ่มเป็นขนมชิ้นโปรด ชอบความรู้สึกที่ลิ้นสากไล้เลียระหว่างกลีบปากนิ่มอย่างใจเย็น รอให้มีนาเป็นฝ่ายอนุญาตให้สัมผัสวาบหวามแทรกเข้าไปตักตวงความหวาน ซึ่งมีนาไม่เคยอิดออด


เขารู้สึกเหมือนตัวเองอยู่บนปุยนุ่น ถูกอาบไล้ด้วยแสงอาทิตย์ และห่อไว้ด้วยสายรุ้งทอประกายในเวลาเดียวกัน
ในเวลาที่ร่างสูงจูบเขาแค่เพราะอยากจูบกับเขาเช่นนี้ มีนารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญ



เป็นคนที่ถูกรัก...



 แม้ว่าจะไม่มีกิจกรรมพิเศษใดๆหลังจากนั้น พวกเขายังคงลงมาจากลิฟต์สายกว่าที่คิดแไว้พอสมควร มีนาคิดว่าเขาต้องคุยกับธีรเชษฐ์อย่างจริงจังเรื่องการปรับเวลาของพวกเขา ไม่อย่างนั้นต้องมีสักวันที่มธุวันจะพังประตูห้องมาลากคอเจ้านายของตัวเองออกไปแน่



ทันทีที่พวกเขาก้าวออกมาจากลิฟท์ คนที่มีนาไม่คิดว่าจะได้เจอแม้ว่าจะเป็นเจ้าของโรงแรมนี้หันมาทางพวกเขาอย่างประหลาดใจ ข้างกันนั้นมีเด็กหนุ่มที่มีนาจำได้ว่าเป็นเพื่อนของทินกรยืนอยู่้วยกัน



"ตายยากจริงนะมึง มาทำอะไรเนี่ย"


วีรภัทรทักทายเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มกว้าง



"มางานนี้" ธีรเชษฐ์ตอบเสียงเรียบ พยักเพยิดไปทางป้ายงานแฟชั่นโชว์ที่ใส่กรอบไว้ทั่วโรงแรม



"โห...พาตัวจริงมาเปิดตัวแบบนี้ ระวังคนเก่ารุมทึ้งเอานะ แค่นางแบบในงานก็หลายสิบตีนแล้วนะ" วีรภัทรแซวเพื่อนสนิท
อย่างไม่คิดอะไรมาก



ทั้งที่รู้เรื่องบรรดาอดีตของธีรเชษฐ์ที่ยาวเป็นหางว่าว แต่มีนายังคงรู้สึกเหมือนถูกของมีคมแทงเข้าที่อกจนหายใจไม่ออก เด็กหนุ่มก้มหน้างุด ขยับหลบหลังธีรเชษฐ์ตามสัญชาตญาณ พยายามปิดกั้นบทสนทนาของคนรักกับเพื่อนให้มากที่สุดเพื่อความสบายใจของตัวเอง



"เออ งั้นที่เมื่อกี้กูเห็นรถพี่ครามก็ไม่ได้คิดไปเองสินะ มาด้วยกันเหรอ?” ชื่อของอาจารย์ที่ปรึกษาทำให้มีนาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ เช่นเดียวกับธีรเชษฐ์



"เปล่านี่ มันจะมาทำไมวะ? ตาฝาดรึเปล่า?" ชายหนุ่มลูกครึ่งส่ายหน้า วีรภัทรขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ


ธีรเชษฐ์เหลือบมองสองฝาแฝดที่เดินตรงมาทางพวกเขา ชั่วขณะหนึ่งชายหนุ่มคิดว่าตัวเองกำลังเห็นภาพซ้อน แต่หลังจากที่ตั้งสติได้ ชายหนุ่มคิดว่าหนึ่งในนั้นต้องเป็นคนรักของวีรภัทรที่พวกเขาพบที่สิงค์โปร์แน่นอน



ร่างสูงเลิกคิ้วให้เพื่อนสนิทอย่างประหลาดใจระคนนับถือ


"นี่มึงชอบแบบนี้เหรอเนี่ย?"



มีนาที่ชะโงกหน้าออกมาจากด้านหลังของธีรเชษฐ์อ้าปากค้าง หันซ้ายขวามองสองแฝดสลับกันไปมาด้วยสายตาสับสน ดูน่าเอ็นดูเป็นที่สุด



"พี่...เทสต์?"


“อ่า….” เจ้าของชื่อเกาหลังคอด้วยสีหน้าเจื่อนๆ เหลือบมองมีนาสลับกับฝาแฝดของตนที่ยืนกอดอกอยู่ข้างๆอย่างลำบากใจ


“จะเล่ายังไงให้สั้นๆดีนะ”








สมองของมีนายังคงสับสนมึนงงกับคำอธิบาย แต่เท่าที่เขาจับใจความได้ ธัชนนท์ หรือพี่เทตส์ที่เขารู้จัก แท้จริงแล้วเป็นน้องชายฝาแฝดที่ชื่อธัชนันท์ หรือ ทีม ซึ่งเป็นคนรักของวีรภัทร ส่วนธัชนนท์ตัวจริงนั้นคบหาดูใจกับวศิน ลูกชายคนเดียวของวีรภัทร



ส่วนวศิน หรือ เวย์ คนรักของธัชนนท์ที่ว่ากำลังจ้องมาที่เขาด้วยสายตาฉงนสงสัยไม่วางตา จนร่างสูงข้างกายมีนาเริ่มจะมีปฏิกิริยาไม่พอใจเท่าไหร่นัก



“นาย...แฟนไอ้พายุป่ะ?” และคำถามที่โพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยนั้นยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก



เมฆครึ้มทะมึนก่อตัวขึ้นรอบกายของธีรเชษฐ์ วีรภัทรเหลือบมองเพื่อนสนิท คว้าแขนอีกฝ่ายไว้ก่อนที่ลูกชายของตนจะโดนคนอารมณ์ไม่คงที่กระทืบข้อหาปากพล่อย มีนารีบส่ายหน้าปฏิเสธข้อกล่าวหา


"ไม่ใช่ เราเป็นเพื่อนพายุเฉยๆ"


"อ้าวเหรอ เห็นชอบอยู่กับไอ้ยุตอนประกวดเดือน จำเราได้ป่ะ ที่เจอกันตอนซ้อมประกวดเดือนมหาลัยบ่อยๆอ่ะ” วศินถามด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรตามประสาคนอัธยาศัยดี แต่มีนาในตอนนี้อยากจะมุดดินหายไปให้รู้แล้วรู้รอด



วศินที่เหมือนจะเพิ่งสังเกตบิดาของเพื่อนสมัยเด็กยกมือไหว้ธีรเชษฐ์พร้อมรอยยิ้มกว้าง ทักทายร่างสูงอย่างไม่ได้ดูบรรยากาศรอบกายสักนิด



"ลุงเชษฐ์สวัสดีครับ"


"พายุนี่ใคร"


คำถามแรกที่ออกจากปากธีรเชษฐ์ทำให้เด็กหนุ่มงงไม่น้อย แต่น้องเวย์คนซื่อก็ยังประติดประต่อเรื่องไม่ได้



"เพื่อนไอ้ซันไงครับ ที่เป็นเดือนบริหารปีนี้ เห็นสนิทกับไอ้ซันมากเลย" เด็กหนุ่มหันกลับมาหามีนาอีกครั้ง "จะว่าไปก็เห็นนายอยู่กับไอ้ซันบ่อยเหมือนกันนะ นี่มาเที่ยวกับซันเหรอ?”



มีนาทำได้เพียงส่ายหน้า เริ่มเห็นอนาคตของตัวเองคืนนี้อยู่รำไร



"เวย์..." วีรภัทรอยากจะยกมือขึ้นนวดขมับ เสนอทางออกให้ก่อนที่ลูกชายของเขาจะโดนประทุษร้าย "ไปหาขนมกินในห้องไป ผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน"



"แต่ผมยัง..."



"น้องเวย์ ไปเถอะครับ" ธัชนันท์ช่วยพูดอีกแรง น่าแปลกที่วศินกลับเชื่อฟังคนที่มีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงของตัวเองโดยไม่มีคำถามใด



"งั้นผมลานะครับลุงเชษฐ์ มีน ไปหาไรกินกันป่าว” ยังไม่วายหันไปถามเพื่อนตัวเล็กอย่างหวังดี คนรอบข้างนี่แทบจะพุ่งเข้าไปดึงเจ้าเด็กบื้อนี่ออกไปจากวงสนทนาแล้ว



"น้องเวย์ กลับห้องไปอาบน้ำนอนได้แล้วครับ พรุ่งนี้ต้องทำงานเช้าไม่ใช่เหรอ"



น้ำเสียงที่เริ่มเย็นขึ้นของธัชนันท์ทำให้เด็กหนุ่มร่างสูงเผ่นแน่บไปแทบจะในทันที ธัชนนท์ที่ไม่มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ตรงหน้าเดินตามคนรักไปอย่างมึนงง ทิ้งให้คนทั้งสี่ยืนนิ่งอยู่ในล็อบบี้ของโรงแรม วีรภัทรกับธัชนันท์เหลือบมองกันและกัน แลกเปลี่ยนความกังวลผ่านทางสายตา



"คุณเชษฐ์..."



"กลับไปค่อยคุยกัน" ร่างสูงตัดบทเด็กหนุ่มที่พยายามอธิบาย หันกลับไปหาวีรภัทรด้วยสีหน้าบึ้งตึง "เจอกันงานพรุ่งนี้"



"มีเหตุผลหน่อยนะเชษฐ์" วีรภัทรแตะที่ต้นแขนของเพื่อนเบาๆอย่างเตือนสติ "อย่าทำอะไรที่มึงต้องเสียใจทีหลัง"
"ดูแลคนของมึงเถอะ"



ชายหนุ่มลูกครึ่งร่างสูงดึงข้อมือร่างเล็กที่เกาะติดเขาให้เดินตามด้วยแรงไม่เบานัก แต่มีนารู้ว่าธีรเชษฐ์ไม่ได้คิดจะทำให้เขา
เจ็บ ตรงกันข้าม ร่างสูงที่มักจะระเบิดออกมาจนมีนานึกกลัวกลับดูเหมือนกำลังสะกดกลั้นอารมณ์ขุ่นมัวของตัวเองอย่างสุดความสามารถจนมีนานึกประหลาดใจ








พวกเขามาถึงก่อนเวลานัดพอสมควร แต่ธีรเชษฐ์ยังคงไม่ยอมพููดอะไรกับเขา ระหว่างยืนรอคนอื่นๆอยู่หน้าร้านอาหาร มีนาขยับไปมาอย่างอึดอัด ทว่ายังคงไม่กล้าดึงมือของตนออกจากการเกาะกุม เด็กหนุ่มแทบจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เมื่อเห็นลูกชายคนโตของธีรเชษฐ์กำลังเดินตรงมาทางพวกเขา



ซึ่งนั่นเป็นการกระทำที่มีนานึกเสียใจทีหลังเมื่อเด็กหนุ่มหันกลับมาเห็นสีหน้าถมึงทึงของคนรัก


ในที่สุดมธุวันก็มาถึง มีนาไม่เคยรู้สึกดีใจที่ได้เห็นเลขาหนุ่มมากขนาดนี้มาก่อนในชีวิต เขาได้แต่หวังว่าธีรเชษฐ์จะหันไปสนใจการมาของมธุวันและลืมสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้า ทว่าร่างสูงเพียงแต่พยักหน้าอย่างขอไปทีกับคำขอโทษขอโพยตามมารยาทของมธุวันที่มาสายที่สุดในกลุ่มแม้จะมาถึงก่อนเวลานัด ก่อนจะเมินเฉยต่อคนรอบกายของตัวเองอย่างสิ้นเชิงอีกครั้งแม้ว่ามือใหญ่ที่กำรอบข้อมือบอบบางจะไม่เคยคลายออกก็ตาม



มีนามัวแต่คิดหาวิธีแก้ไขความเข้าใจผิดของคนรักให้เร็วที่สุดจนไม่ได้ใส่ใจพฤติกรรมประหลาดของมธุวันที่จัดเนคไนค์ให้
กับเมฆาด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจ ส่วนคุณเมฆานั้นก็ออดอ้อนเลขาของบิดาอย่างไม่คิดปิดบัง


“อ้าว มาเร็วกันจังเลยนะครับทุกคน ขอโทษนะครับที่ให้รอ ผมจองโต๊ะไว้แล้ว เชิญเลยครับ”


นิโคไลที่เพิ่งมาถึงเอ่ยพร้อมรอยยิ้มกว้าง แม้จำนวนผู้ติดตามของชายหนุ่มจะยังคงจำนวนเท่าเดิม แต่มีเพียงสองคนเท่านั้นที่ติดตามนิโคไลและพวกเขาทั้งสี่เข้าไปในภัตราคาร



“อ้าว หมอก!”



หญิงสาวที่มีนาเห็นพูดคุยกับมธุวันที่สนามบินโบกมือให้เขาอย่างตื่นเต้นจากโต๊ะเล็กๆริมหน้าต่างที่อีกฝ่ายจับจองกับชายหนุ่มชาวต่างชาติที่มีนาคิดว่าน่าจะเป็นคนรักของเจ้าตัว มธุวันโบกมือตอบเล็กๆพร้อมรอยยิ้มจางที่หาดูได้ยาก พยักหน้าทักทายชายชาวต่างชาติพอเป็นพิธีแล้วเดินต่อไป แต่นิโคไลกลับเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน



“จะไม่แนะนำผมให้รู้จักกับคุณผู้หญิงแสนสวยคนนี้หน่อยเหรอครับคุณหมอก”



มีนาเบนความสนใจจากนิโคไลที่กำลังเล่นหูเล่นตาอย่างโจ่งแจ้งกับหญิงสาวที่ในตอนนี้เขารู้แล้วว่าชื่อญาวิกา แล้วหันไปสนใจร่างสูงที่ยังคงมีสีหน้ามึนตึง นึกอยากให้อาหารค่ำมื้อนี้ผ่านพ้นไปเพื่อที่เขาจะได้ปรับความเข้าใจกับธีรเชษฐ์เสียที
คุณนิโคไลเรียกได้ว่าเป็นเจ้าภาพที่ดีคนนึ่ง แม้จะเห็นได้ชัดว่าจุดสนใจของชายหนุ่มอยู่ที่คุณมธุวัน แต่ยังคงมีบางครั้งที่อีกฝ่ายหันมาชวนมีนาคุยเรื่องสัพเพเหระ ทั้งเรื่องการเรียนและการมาพักผ่อนในครั้งนี้



มีนาที่ไม่ค่อยมีคนชวนคุยยิ้มอย่างยินดี ตอบคำถามร่างสูงอย่างมีมารยาท ก่อนจะถูกธีรเชษฐ์ที่มีสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างโจ่งแจ้งรั้งเอวเข้ามาใกล้ เด็กหนุ่มที่ยังคงมีชนักติดหลังจึงเลือกที่จะสงบปากสงบคำหลังจากนั้น



อาหารเลิศรสกลับจืดชืดเมื่อท้องไส้ของเด็กหนุ่มปั่นป่วนด้วยความกังวล ถึงแม้ระหว่างเขากับพายุจะไม่มีอะไรเกินเลยกว่าความเป็นเพื่อน แต่ยิ่งปล่อยให้ธีรเชษฐ์คิดไปเองเท่าไหร่ มีนายิ่งไม่สบายใจมากขึ้นเท่านั้น



“ผมขอตัวก่อนแล้วกันครับคุณนิโคไล มีนาดูจะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่” ในที่สุดร่างสูงที่เงียบอยู่นานก็ยอมเอ่ยปาก แม้จะไม่ใช่กับเขาก็ตาม นิโคไลเพียงแต่เหลือบมองร่างเล็กแล้วหันไปยิ้มให้ธีรเชษฐ์



“เป็นความคิดที่ดีครับ พรุ่งนี้มีงานใหญ่ ถ้าไม่พักผ่อนให้เต็มที่คงน่าเสียดายแย่”



มีนาลุกขึ้นตามอีกฝ่ายด้วยจิตใจว้าวุ่น ในหัวเต็มไปด้วยความคิดกังวลไปต่างๆนานาจนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขามาถึงห้องนอนตั้งแต่เมื่อไหร่ สติของมีนาเริ่มกลับเข้าร่างเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูห้องของธีรเชษฐ์ เด็กหนุ่มมองแผ่นหลังกว้างของคนรักที่รูดเนคไทค์ออกจากคอโดยไม่พูดอะไร มีนากัดริมฝีปาก ยกแขนขึ้นโอบรอบเอวของคนรัก ฝังใบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้าง



“คุณเชษฐ์…โกรธผมเหรอครับ?”


“…เปล่า”


มือใหญ่จับข้อมือของมีนาให้คลายการเหนี่ยวรั้งออก เด็กหนุ่มพยายามฝืนแรงของคนรักทว่าไร้ผล น้ำใสๆเอ่อล้นที่ขอบตาเมื่อธีรเชษฐ์หันมาเผชิญหน้ากับเขา



”อย่าร้อง…” นิ้วหัวแม่มือเช็ดน้ำตาที่ร่วงเผาะลงมาอย่างอ่อนโยน ธีรเชษฐ์บรรจงจุมพิตปลอบประโลมตามรอยน้ำตาของคน
รัก “ฉันไม่ได้โกรธเธอ…”


“ผมกับพายุไม่มีอะไรจริงๆนะครับ เขาเป็นแค่เพื่อนที่มหาลัย…”


“ชู่ว์” นิ้วเรียวทาบทับบนริมฝีปากนุ่มหยุ่นที่พร่ำเอ่ยสิ่งที่อัดอั้นมาตั้งแต่เย็น “ฉันรู้ เด็กดี ฉันรู้…”



“แล้ว…แล้วทำไม…” ทำไมต้องห่างเหิน ถึงต้องทำเหมือนโกรธกัน…



“ฉันโกรธตัวเอง”


คำสารภาพนั้นทำให้มีนากระพริบตาอย่างงุนงง คุณเชษฐ์จะโกรธตัวเองทำไมกัน?



“ฉันโกรธตัวเอง…” ร่างสูงย้ำ ดวงตาคมสีควันบุหรี่จ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตของคนรัก “ทั้งที่คนที่มางานนี้มีอดีตกับฉัน
ไม่รู้กี่คนต่อกี่คน แต่ฉันกลับเป็นฝ่ายไม่พอใจที่ได้ยินเรื่องเพื่อนของเธอ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเธอไม่มีทางทำแบบนั้น”



“คุณเชษฐ์…”


“แค่คิดว่าเธอมีใครนอกจากฉัน ฉันก็หงุดหงิดใจจนแทบบ้า” ศีรษะของธีรเชษฐ์ซบลงบนบ่าเล็กอย่างหมดแรง “มีน…เธอรังเกียจฉันมั้ย”



“พูดอะไรอย่างนั้นครับ ผมจะรังเกียจคุณเชษฐ์ทำไม” มีนาถามอย่างไม่เข้าใจ



“เธอก็รู้ว่าทำไม”เสียงทุ้มพึมพำกับซอกคอขาว มือเรียวเล็กเอื้อมขึ้นมาลูบศีรษะที่ซุกอยู่กับคอของตนอย่างปลอบโยน



“ถ้าบอกว่าผมไม่เคยคิดมาก ก็คงจะเป็นเรื่องโกหก” มีนายอมรับ “แต่ผมคิดว่าอดีตเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ ถ้าเรามัวแต่จมอยู่
กับมัน เราจะก้าวไปข้างหน้าได้ยังไง จริงมั้ยครับ?”



“นี่เธออายุสิบแปดจริงๆใช่มั้ย” คนอายุมากกว่าผละออกจากอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเคลือบแคลงสงสัย



“สิบแปดสิครับ” มีนาตอบยิ้มๆ “คุณเชษฐ์พิสูจน์ไปตั้งปลายรอบแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”



“ขออีกซักรอบได้มั้ย?” คนเจ้าเล่ห์ขยับยิ้มมุมปาก ทว่ากระต่ายน้อยในอ้อมกอดกลับไม่คิดจะวิ่งหนีเขาไปแต่อย่างใด



“กับคุณเชษฐ์…กี่รอบก็ได้ครับ”



ธีรเชษฐ์อุ้มเด็กน้อยปากหวานขึ้นพาดบ่าทันทีที่ได้รับคำอนุญาตจากอีกฝ่าย มีนาเพียงแต่ร้องออกมาเบาๆอย่างตกใจที่ตัวลอยขึ้นจากพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรคนที่วางเขาลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง หนำซ้ำยังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนที่เริ่มลอกคราบเขาอย่างชำนิชำนาญอีกด้วย



คราวนี้ธีรเชษฐ์ใจดีกับเขาเป็นพิเศษ ถึงขนาดช่วยมีนาพับเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะผลักร่างเล็กลงบนเตียงนุ่มแล้วคร่อมทับตามลงมาอย่างรวดเร็ว



“มีน รักนะ…”



“คุณเชษฐ์…พูดคำนั้นบ่อยจังนะครับ” มีนาอดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ ร่างสูงที่ในตอนนี้เปลือยเปล่าขยับยิ้ม เกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าเด็กหนุ่มแล้วประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากใส



“ไม่ชอบ?”



“ชอบครับ…” เสียงแผ่วเบายอมรับอย่างเขินอาย แขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคอคนรัก “ผมก็รักคุณเชษฐ์นะครับ”



คืนนั้น มีนาไม่รู้ว่าตัวเองถูกรักไปกี่ครั้ง




แต่หากย้อนเวลากลับไปได้ มีนารู้ว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยให้ธีรเชษฐ์ลุกไปจากเตียงในเช้าวันต่อมาอย่างแน่นอน



หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 01-11-2019 21:26:02
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยย ตอนจบตอนคืออะไรร เกิดอะไรขึ้นกับคุณเชษฐ์  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 01-11-2019 22:44:02
เอ็นดูการพับผ้าก่อนเริ่มกิจกรรมเข้าจังหวะ
ตอนหน้าจะบู๊ยังค้าาา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 01-11-2019 23:25:24
จะดราม่าแล้วใช่ไหมม ขอตุนน้ำร้อนไว้ต้มมาม่าก่อนนะคะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-11-2019 23:26:09
เช้านี้มีอะไรหรอ  :m30:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-11-2019 23:43:38
มีความสับสนกับแฝดคู่นั้น
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 02-11-2019 02:31:15
ว้อททททททททททททท คุณเชษฐ์!!!!!!!
 :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 02-11-2019 06:27:54
เฮ้อ!!คิดว่ามีนจะมีความสุขจริงๆแล้วเสียที
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 02-11-2019 11:20:41
สงสารนู๋มีน  เห็นใจคุณเชษ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 02-11-2019 15:20:59
เกิดอะไรขึ้น!!!!!!
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: Stiiiii ที่ 03-11-2019 09:40:05
เกิดอะไรขึ้นอีกกกก  :z3:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-11-2019 12:21:13
วิบากกรรมยังไม่หมดนะน้องมีน.  :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 03-11-2019 13:40:10
ใกล้ถึงฉากระเบิดแล้วแน่เลย หนูมีนต้องเป็นห่วงคุณเชษฐ์มากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 14-11-2019 19:54:08
รอด้วย ใจจดใจ่อ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 29-11-2019 22:10:12
Chapter 48: หน้าที่ของใจ (3)

“ผมยังไม่เข้าใจว่าคุณใช้อะไรล่อพวกมันออกมา”


ธีรเชษฐ์อดถามเจ้าพ่อมาเฟียอิตาลีอายุน้อยกว่าเขาเป็นสิบปีไม่ได้ ตอนนี้เขาอยู่ในห้องของนิโคไลที่แม้จะกว้างขวางโอ่โถงกลับรู้สึกอึดอัดด้วยเหล่าลูกน้องร่างใหญ่ที่กระจายตัวกันหนาตามากกว่าปกติ แต่ธีรเชษฐ์ยังคงสังเกตว่าลูกน้องคนหนึ่งที่มีบาดแผลลากยาวผ่านใบหน้าเด่นสะดุดตาไม่ได้รวมอยู่ในนั้น



และเขายังสังเกตอีกด้วยว่าผ้าปูเตียงของนิโคไลตึงเรียบราวกับไม่เคยมีใครนอน คาดว่าเมื่อคืนมาเฟียหนุ่มคงจะไม่ได้กลับมาที่ห้อง



เสียงเปิดประตูเรียกความสนใจของธีรเชษฐ์ ร่างสูงของชายหนุ่มเชื้อสายจีนร่างสูงในชุดคลุมผ้าลื่นสีดำสนิทลายหงส์สีทองก้าวเข้ามาด้วยสีหน้าบึ้งตึง คนตรงหน้าเขาไม่มีทางอายุมากไปกว่าลูกชายคนโตของธีรเชษฐ์ ทว่าบรรยากาศรอบกายของอีกฝ่ายนั้นอันตรายเสียยิ่งกว่ามาเฟียหลายคนในห้องนี้เสียอีก



ดวงเนตรคมสีรัตติกาลตวัดมองนิโคไลด้วยแววตาสีสงวนไว้ให้กับศัตรูคู่อาฆาต ธีรเชษฐ์ขยับตัวบนโซฟาอย่างไม่มั่นใจว่าควรจะหาที่กำบังหรือไม่



”ดูเหมือนว่าคุณจะชอบสินค้าทดลองของผมมากนะครับคุณเฟิ่ง” นิโคไลกระตุกยิ้มมุมปาก และในตอนนั้นเองที่ธีรเชษฐ์สังเกตเห็นรอยรักสีกุหลาบรวมถึงรอยเล็บที่พาดยาวกลางแผ่นอกขาวกำยำ ดูท่า’สินค้า’ของนิโคไลคงแผลงฤทธิ์น่าดู “หวังว่าคุณจะไม่ได้เล่นเพลินจนพังซะก่อนนะครับ วันนี้เขามีงานทั้งวันด้วย”



“…” คนอายุน้อยกว่าเพียงแต่นั่งลงบนโซฟาที่ว่างอยู่โดยไม่โต้ตอบอะไร

“แน่นอน ถ้าอยากได้กลับไป คงรู้นะครับว่าต้องจ่ายด้วยอะไร” ชายหนุ่มผมบลอนด์กล่าวพร้อมรอยยิ้มสว่างสดใสดูไร้พิษภัย ทว่าคำพูดนั้นดูเหมือนจะไปสะกิดต่อมโทสะของชายอีกคนเข้าอย่างจัง



“เขาไม่ใช่สิ่งของ!”


“ครับ เขาไม่ใช่…” นิโคไลไหวไหล่ “แต่เขาเป็นของผม”



“อีกไม่นานหรอก” ชายแซ่เฟิ่งเอ่ยเสียงเย็น ธีรเชษฐ์ที่นั่งอยู่กลางสนามอารมณ์ได้แต่หันซ้ายแลขวาอย่างไร้ทางออก จนกระทั่งนิโคไลที่สนุกจนพอใจแล้วแนะนำอีกฝ่ายให้เขารู้จัก



“คุณเชษฐ์ครับ นี่คุณเฟิ่งหยางหมิง เป็นผู้สนับสนุนใจดีของเราในครั้งนี้”


เฟิ่งหยางหมิง…



อา…ทายาทตระกูลเศรษฐีเก่าของฮ่องกงที่ก้าวขึ้นมากุมบังเหียนธุรกิจหมื่นล้านของบิดาตั้งแต่อายุยี่สิบต้นๆทั้งที่ก่อนหน้านี้ค้านหัวชนฝาเรื่องการสืบทอดธุรกิจครอบครัวคนนั้นสินะ



“เอาคนนอกมาทำไม” เฟิ่งหยางหมิงปรายตามองชายหนุ่มอายุมากกว่าตนหนึ่งรอบอย่างไม่ไว้วางใจ แม้จะได้ชอบการถูกจ้องราวกับตนเป็นมดปลวกตัวน้อย แต่ธีรเชษฐ์เลือกที่จะไม่สนใจแล้วหันกลับไปหานิโคไลต่อ



“คุณเชษฐ์เป็นสามีของคุณเกศรา” นิโคไลตอบพร้อมรอยยิ้ม “เกศรา ‘เหลียน’”


ชื่อของภรรยาที่เสียไปของธีรเชษฐ์ทำให้ชายหนุ่มชาวฮ่องกงเลิกคิ้ว แต่ไม่พูดอะไรต่อ



สิ่งที่ธีรเชษฐ์เรียนรู้จากป้าแต้ว หญิงชราที่ติดตามรับใช้เกศรามาตั้งแต่เล็กหลังจากเห็นรอยกระสุนบนร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวคือ ภรรยาของเขาไม่ใช่หญิงสาวจากตระกูลเศรษฐีเชื้อสายจีนดังที่เขาเคยเข้าใจ ภูมิหลังของเกศรานั้นซับซ้อน
ซ่อนเงื่อนเกี่ยวพันถึงความขัดแย้งภายในตระกูลมาเฟียใหญ่ในโลกมืดอย่างที่เขาคิดว่ามีอยู่จริงแค่ในนิยาย


เกศรา เหลียน เป็นลูกสาวคนเล็กของประมุขตระกูลเหลียน ซึ่งเป็นตระกูลนักฆ่าที่เป็นกองกำลังหลักของตระกูลอัลฟอนโซ่ ตระกูลมาเฟียทรงอิทธิพลมาหลายชั่วอายุคน พี่ชายของเกศราเป็นคนสนิทของหัวหน้าตระกูลรุ่นก่อน และเป็นบิดาแท้ๆของนิโคไล เกศรามีฐานะเป็นแฮกเกอร์มือหนึ่งของตระกูล เป็นอัจฉริยะที่วางเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของตระกูลอัลฟอนโซ่ตั้งแต่อายุเพียงสิบสองปี เกศราเฝ้าฝันที่จะเป็นอิสระจากโลกมืดแสนโสมมนี้มาโดยตลอด แต่ความฝันนั้นแม้พี่ชายของเธอที่เป็นคนโปรดของหัวหน้าตระกูลในตอนนั้นยังไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก


จนกระทั่งธีรเชษฐ์ทะเล่อทะล่าเข้ามาในชีวิตของหญิงสาว


เด็กหนุ่มในตอนนั้นเข้าใจเพียงว่าการคบกันของพวกเขามาจากความรักใคร่ชอบพอของทั้งสองฝ่าย ไม่ได้นึกเอะใจเลยว่าทำไมเกศราที่ไม่มีท่าทีจะสนใจเขาตอนแรกถึงได้ยอมให้โอกาสเขา



และในช่วงเวลาตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่เขาทุ่มเทชีวิตในการหาตัวฆาตกรของเกศรา เขาค้นพบความจริงบางอย่างเกี่ยวกับตัวเองที่แม้แต่มารดาของเขาก็ยังไม่รู้



บิดาของเขา คาซีเมียร์ เจเลซนอฟ คือผู้ทรงอิทธิพลในโลกมืดชาวรัสเซียที่เลือกจะทิ้วมารดาของเขาไปเพื่อปกป้องธีรเชษฐ์จากอันตราย ด้วยสถานะของธีรเชษฐ์ แม้ว่าการสืบทอดอำนาจจะไม่ใช่ตามสายเลือดอย่างฝั่งของตระกูลอัลฟอนโซ่ แต่เขายังคงถือว่าเป็นบุตรชายคนเดียวของผู้นำตระกูลเจเลซนอฟคนปัจจุบันที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลอัลฟอนโซ่มาโดตลอด การแต่งงานกับธีรเชษฐ์สำหรับเกศราเปรียบเสมือนทางออกเพียงหนึ่งเดียวที่การันตีอิสรภาพของหญิงสาว



ต่อให้อัลฟอนโซ่อำนาจคับฟ้าก็ไม่กล้าทำร้ายลูกชายคนเดียวของตระกูลเจเลซนอฟ



‘เขา…เคยรักผมบ้างมั้ย?’ ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายทำร้ายจิตใจของภรรยาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งในความสัมพันธ์ ธีรเชษฐ์ยังคงหวาดกลัวที่จะได้ยินคำตอบจากป้าแต้ว ผู้ติดตามของภรรยา



‘ป้าว่า…คุณเกศรักคุณ เท่าที่คนที่ไม่รู้จักความรักอย่างเธอจะทำได้แล้วล่ะค่ะ’


แน่นอน คนเลวๆอย่างเขาไม่มีสิทธิ์โกรธเคืองผู้หญิงที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เขา ธีรเชษฐ์ติดค้างทุกสิ่งทุกอย่างกับเกศรา และในวันนี้ เขาจะได้แก้แค้นกลุ่มคนที่สั่งฆ่าภรรยาของเขาอย่างเลือกเย็นเสียที







มีนาลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความว่างเปล่าข้างกาย


แต่ถึงอย่างนั้น ดอกกุหลาบสีขาวช่อโตที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงก็ยังพอที่จะทำให้รอยยิ้มหวานกลับตืนสู่ดวงหน้าใสได้
มีนาอั้มช่อดอกไม้มากอดไว้แนบอก หยิบการ์ดแข็งพับครึ่งที่เสียบไว้ในช่อออกมาเปิดอ่าน กลิ่นหอมอ่อนๆและลวดลายสีทองบนตัวการ์ดบ่งบอกว่าคงมีราคาพอตัว กลับเทียบไม่ได้กับลายมือหวัดๆของชายผู้เป็นเจ้าของช่อดอกไม้นี้


‘ขอโทษที่ไม่ได้ตื่นมาพร้อมเธอ’

แค่นี้ก็ต้องซื้อดอกไม้มาขอโทษเลยเหรอ?


มีนาส่ายหน้ายิ้มๆ วางช่อดอกไม้กลับไปอย่างระมัดระวังแล้วลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลงไปทานอาหารเช้าด้านล่าง น่าเสียดายที่ธัชนันท์และครอบครัวกลับไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่อย่างนั้นมีนาคงจะมีคนรู้จักอยู่เป็นเพื่อนระหว่างรอให้คนรักกลับมาจากการคุยงานยามเช้า



มาคิดๆดูอีกทีอาจจะดีแล้วก็ได้ที่ธัชนนท์กลับไปแล้วแบบนี้ ไม่อย่างนั้นมีนาคงโดนสายตาหยอกล้อของทั้งรุ่นพี่และเพื่อนสนิทของคนรักทำให้อายม้วนจนไม่เป็นอันทำอะไร



เด็กหนุ่มตักอาหารจากบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าอย่างละนิดแล้วนั่งลงที่โต๊ะว่าง ภาวนาไม่ให้ตัวเองต้องเผชิญหน้ากับคุณมธุวันหรือคุณเมฆาเพียงลำพังในตอนนี้



ถึงจะไม่ได้ไม่ชอบ แต่มีนายังคงอึดอัดอยู่บ้างเวลาที่ต้องอยู่กับเลขาของคนรักและชายหนุ่มที่มีศักดิ์เป็น ‘ลูกเลี้ยง’ของเขา


พูดถึงลูกเลี้ยง...



ในห้องแชทที่มีเขา ทินกร และพายุมีจุดแดงแสดงจำนวนข้อความที่มีนาไม่ได้อ่านหลายสิบข้อความ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก
ประหลาดอะไร ทินกรกับพายุมักจะทะเลาะกันด้วยเรื่องสัพเพเหระต่างๆเป็นกิจวัตร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่สิ่งที่มีนาจะเข้าไปร่วมวงด้วย เพียงแค่ไล่อ่านข้อความเงียบๆเผื่อว่าเพื่อนทั้งสองจะต้องการคนสงบศึก



I am the Storm: กูว่ากระโปรงสีชมพูสวยกว่า


My Sunshine: สีขาว เชื่อกูดิ


หือ?


ร่างเล็กถึงกับต้องไถย้อนขึ้นไปอ่านข้อความข้างบนเมื่อเห็นข้อความประหลาดที่เพื่อนทั้งสองส่งหากัน ได้ความคร่าวๆว่าพายุอยากซื้อเสื้อผ้าเป็นของขวัญให้เจนวิทย์ ถึงขั้นแอบวัดสัดส่วนของคนรักที่อ่อนเพลียจนหลับสนิทเอาไว้ แน่นอนว่ามีนาไม่คิดจะถามว่าที่เจนวิทย์สลบไปนั้นมีสาเหตุมาจากใคร



ส่วนที่เพื่อนร่างสูงถึกและบึกบึนของเขาต้องการจะซื้อชุดกระโปรงลูกไม้สีหวานให้กับคนรัก ก็เพราะหลังจากคบกันมา เจนวิทย์เริ่มเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวให้ดูเป็นผู้ชายมากขึ้น ยิ่งในตอนนี้ที่มาค้างห้องของพายุแทบทุกวันยิ่งสังเกตว่านกจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแล้ว คนรักที่ชื่นชอบเครื่องสำอางเป็นชีวิตจิตใจกลับไม่คิดแต่งแต้มใบหน้าของตนมากนัก และนั่นทำให้พายุอยากจะซื้อชุดกระโปรงน่ารักๆสักตัวเพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขารักทุกอย่างที่เจนวิทย์เป็น


มีนาอมยิ้มกับความตรงไปตรงมาในความรู้สึกของพายุ แทบจะได้ยินน้ำเสียงจริงจังของอีกฝ่ายผ่านทางข้อความ


มีนา: เราว่าพายุซื้อตัวไหนไปให้ เจนก็ชอบทั้งนั้นแหละ


I am the Storm: เออ มึงก็พูดได้ดิวะ ผัวมึงซื้ออะไรให้มึงกล้าบอกไม่ชอบเหรอ? แต่กูอยากเลือกชุดที่เขาจะชอบจริงๆ ไม่ใช่ชุดที่เขาต้องฝืนใส่เพราะก็ซื้อให้


มีนา: งั้นเอาสีขาว


I am the Storm: มึงก็งี้ตลอดอ่ะ เข้าข้างลูก


My Sunshine: เอ้า ก็คุณมี้กูนิ


‘คุณมี้’ หน้าร้อนเห่อด้วยความเขินอาย ยังคงทำใจให้ชินกับความกระตือรือร้นของทินกรที่มีต่อตำแหน่งของเขาไม่ได้


มีนา: เราว่ามันดูใส่สบายดี คล้ายๆกับชุดที่เจนเคยใส่ เขาน่าจะชอบนะ


My Sunshine: มึงเชื่อกูดิ สมัยเด็กๆกูเห็นพี่อุ่นใส่ชุดแบบนี้ตลอดอ่ะ สวยจะตาย


I am the Storm: แม่ง ทีงี้ไมกูไม่มีเพื่อนผู้หญิงวะ


มีนายิ้มขำ ปล่อยให้เพื่อนทั้งสองเถียงกันไปมาว่าชุดกระโปรงทั้งสองสีนั้นตัวไหนน่ารักกว่ากัน ดูเหมือนว่าสรุปแล้วพายุจะเลือกไม่ได้ ซื้อไปทั้งสองตัว


เด็กหนุ่มกำลังจะเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงเมื่อทินกรโทรวีดีโอเข้ามาหา มีนาเอียงคออย่างประหลาดใจ ก่อนจะลุกไปพื้นที่สงบนอกห้องอาหารแล้วกดรับสาย


“มีอะไรรึเปล่าซัน?”


“อ๋า! พ่อโป๊อยู่รึเปล่าอ่ะ เราไม่อยากเห็น” คนที่เป็นฝ่ายโทรวีดีโอมาหาเขากลับยกมือปิดตาตัวเองไว้แน่น มีนาส่ายหน้ายิ้มๆ
อย่างขบขัน นึกสนุกอยากแกล้งลูกเลี้ยงของตนขึ้นมา


“อื้อ โป๊อยู่ นอนอยู่ข้างๆเรานี่แหละ คุณเชษฐ์ครับ ลูกจะคุยด้วย...”


“ว้ากกก ไม่เอาๆๆๆ ไม่เอ๊า!!”


“คิก…เราล้อเล่น คุณเชษฐ์ไปทำงานแต่เช้าแล้ว โทรมามีอะไรรึเปล่า” ร่างเล็กถามเสียงกลั้วหัวเราะ เขาไม่ได้มีโอกาสเป็น
คนกลั่นแกล้งใครเท่าไหร่นัก นานๆทีได้ลองแหย่อีกฝ่ายเล่นบ้างก็สนุกดีเหมือนกัน


“มีนนนน อยากเห็นทะเลอ่ะ เราอยากไปทะเล! ทำไมพ่อต้องเอาพี่เมฆไปแล้วให้เราทำงานแทนก็ไม่รู้” ทินกรงอแง เห็นได้ชัดว่าคนรักของเพื่อนที่อยู่ปลายสายคงมีภารกิจติดพัน คนขี้เหงาจึงเริ่มออกก่อกวนเพื่อนๆในกลุ่มแทน


“ทะเลที่นี่สวยมากเลย ไว้ว่างๆซันมาเที่ยวสิ” มีนากดกล้องหลังให้อีกฝ่ายได้เห็นความสวยงามของท้องทะเลผ่านกระจกใส



“อื้อ ไว้เราลากไอ้ยุไปกัน” ร่างสูงเห็นดีเห็นงามกับความคิดของแม่เลี้ยง “มีนไม่ออกไปเดินชายหาดเหรอ วิวสวยดีออก”



“อยากเห็นใกล้ๆก็บอกมา” มีนาเอ่ยอย่างรู้ทัน


หลังจากเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับธีรเชษฐ์ออกมาสู่ที่แจ้งแล้ว ร่างเล็กอดรู้สึกไม่ได้ว่ากำแพงบางอย่างที่เขาเคยสร้างไว้เพื่อป้องกันทินกรโดยไม่รู้ตัวพังทลายลง ทำให้พวกเขาสนิทกันมากขึ้นกว่าเดิม จากที่เคยเกร็งๆอยู่บ้างตอนนี้สามารถพูดคุยหยอกล้อเล่นหัวกันได้อย่างไม่ขัดเขิน



ร่างเล็กเดินทอดน่องไปตามชายหาดในมือถือโทรศัพท์พูดคุยกับเพื่อนสนิทที่ปลายสาย ชี้ชวนให้ทินกรดูทิวทัศน์ดูเปลือกหอยไปตามประสา  จนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากฝั่งของทินกร ดูจากเจ้าของห้องที่หันขวับไปทางประตูด้วยแววตา
เป็นประกาย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนเปิดประตูเข้ามา


“มีน เรา...”


“อื้อ บาย” ร่างเล็กโบกมือให้กับกล้อง ก่อนจะกดตัดสายแล้วเก็บมันลงในกระเป๋ากางเกง



ดวงตากลมโตมองทอดไปยังผืนน้ำสีมรกตซึ่งถูกย้อมดวยแสงอาทิตย์สีส้มนวลตาในยามเช้าตรู่ ชีวิตนี้เขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมาอยู่ในจุดจุดนี้ จุดที่หัวจรดเท้าอยู่ในเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพง เดินทอดน่องไปตามชายหาดส่วนตัวของโรงแรม ในขณะที่คนรักที่ทำทุกอย่างเพื่อให้มีนาและครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ภาระหนี้สินและค่ารักษาพยาบาลที่เป็นเหมือนห่วงผูกคอจนเขาหายใจไม่ออกถูกธีรเชษฐ์กระชากทิ้งอย่างไม่ใยดี


และสิ่งที่เขาไม่คาดคิดมากที่สุด คือการได้หัวใจของคนที่อยู่สูงเสียจนเขาไม่กล้าอาจเอื้อมมาไว้ในอ้อมอก ได้เป็นที่รักของคนที่ยอมรับหัวใจไร้ราคาของเขาไว้เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเช่นกัน


คิดถึงคุณเชษฐ์จัง...


เพราะใจเหม่อลอยไปถึงคนที่ป่านนี้คงนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ในห้องประชุม มีนาถึงได้ชนเข้ากับใครบางคนเข้าอย่างจัง เคราะห์ยังดีที่คนที่ถูกเขาชนคว้ามีนาเอาไว้ได้เสียก่อนที่ร่างเล็กจะหงายหลังล้มลงไปในน้ำทะเล



“อ๊ะ! ขอโทษครับ ผมไม่ทันระวัง”  มีนารีบกล่าวขอโทษขอโพยอีกฝ่าย “ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยผม...ไว้....”


“ยินดีครับ”



ทันทีที่ดวงตากลมโตช้อนมองคนที่ช่วยเขาไว้ สิ่งเดียวที่เด็กหนุ่มสามารถทำได้คือยืนนิ่งบื้อใบ้เบิกตากว้างจ้องอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น



ชายหนุ่มตรงหน้าของเขานั้นดูราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายจีนที่มีตัวเอกเป็นเทพเซียนแสนสง่างามเพียบพร้อมด้วยรูปโฉมแลกิริยามารยาท ดวงเนตรเรียวงามสีม่วงแปลกตาสะท้อนแสงอาทิตย์เปล่งประกายราวอัญมณีแห่งห้วงสมุทร เส้นผมดำขลับยาวถึงกลางหลังถูกมัดรวบครึ่งศีรษะเพื่อไม่ให้ระเกะระกะดวงหน้างดงามหมดจด คนตรงหน้าของเขาไม่ว่ามองอย่างไรก็ไม่อาจบรรยายได้มากไปกว่าคำว่า 'สมบูรณ์แบบ’



“ไม่เป็นไรครับ ผมก็ไม่ได้มองทางเหมือนกัน”



เสียงนุ่มหวานชวนเคลิบเคลิ้มทำให้มีนาพูดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่ ชายหนุ่มตรงหน้าของเขาดูเหมือนภาพหลอนบางอย่างมากว่าคนจริงๆเสียด้วยซ้ำ เด็กหนุ่มส่ายหน้าอย่างไม่ถือสา ว่าจะเด็กชมวิวทะเลยามเช้าต่อเพียงลำพัง แต่ด้วยเหตุผลกลใดมิอาจทราบ ชายหนุ่มหน้าตาสะสวยคนนั้นกลับหาวิธีของติดสอยห้อยตามมีนามาโดยที่เด็กหนุ่มไม่รู้ปฏิเสธอย่างไร



“มาพักผ่อนคนเดียวเหรอครับ?” เจ้าของเครื่องหน้างดงามดุจเทพสวรรค์ชวนคุยด้วยรอยยิ้มจริงใจ ถึงกระนั้นสัญชาตญาณบางอย่างกลับบอกให้มีนาระแวดระวังคนตรงหน้าเอาไว้



“มากับแฟนครับ” เด็กหนุ่มรีบตอบ เตือนให้อีกฝ่ายรู้ว่ายังมีคนรอเขาอยู่ที่ห้อง ร่างสูงโปร่งหัวเราะ เดาออกได้อย่างไม่ยาก
เย็นว่าคนตัวเล็กกำลังหวาดกลัวตนอยู่


“ผมเห็นแล้วล่ะครับ คุณเป็นแฟนของพี่เชษฐ์สินะครับ”


และแล้วความหวาดระแวงของมีนาก็ได้รับการยืนยัน คนตรงหน้าคงเป็นหนึ่งในคู่ควงเก่าของธีรเชษฐ์ เด็กหนุ่มก้าวถอยหลังด้วยสีหน้าไม่ไว้วางใจ เรียกเสียงหัวเราะกังวาลใสจากคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี



“ผมนี่เสียมารยาทจัง ผมชื่อวรินทร์ เป็นคนรู้จักของพี่เชษฐ์ คุณ...”



“มีนาครับ” ร่างเล็กแนะนำตัวตามมารยาท รู้อยู่เต็มอกว่าคนหน้าตาแบบนี้ไม่มีทางเป็นแค่คนรู้จักของธีรเชษฐ์อย่างที่กล่าวอ้าง



“ไม่ต้องระแวงผมขนาดนั้นก็ได้ครับคุณมีนา เรื่องของผมกับพี่เชษฐ์มันจบไปนานแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวยิ้มๆ “ผมดีใจนะครับที่เขาได้เจอคนที่เขาอยากจะใช้ชีวิตด้วยจริงๆซักที”



“…” มีนาไม่รู้ว่าควรมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างไรกับประโยคดังกล่าว แม้น้ำเสียงของคนตรงหน้าจะฟังดูจริงใจอยู่ก็ตาม


ยิ่งไปกว่านั้น การได้เห็นกับตาว่าคนที่ธีรเชษฐ์เคยเลือกเป็นคู่นอนก่อนที่จะมาพบกับตนดูราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายจีนโบราณเช่นนี้ยิ่งทำให้มีนารู้สึกบิดมวนในช่องท้อง อดก้มหน้ามองสภาพที่เหมือนเด็กขาดสารอาหารของตัวเองแล้วเกิดข้อเปรียบเทียบขึ้นมาในใจไม่ได้


“อา…ขอโทษนะครับ ผมคงทำให้คุณลำบากใจสินะ” คนที่ดูเหมือนจะเพิ่งรู้ตัวกล่าวด้วยน้ำเสียงขอโทษขอโพย มีนาส่ายหน้าอย่างไม่ถือสา แม้ว่าในใจจะไม่ได้รู้สึกดีนักก็ตาม


“ไม่เป็นไรครับ คุณ...คุณวรินทร์มีอะไรกับผมรึเปล่าครับ?”



“เปล่าหรอกครับ ผมก็แค่อยากเห็น ว่าคนที่ได้หัวใจพี่เชษฐ์ไปจะเป็นคนแบบไหนกัน” วรินทร์สารภาพตามตรง เอียงคอมองร่างเล็กด้วยสายตาสำรวจที่ทำให้มีนารู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย “ยินดีด้วยนะครับ”



“เอ่อ...ขอบคุณ...ครับ?” มีนายังคงไม่เข้าใจคนประหลาดตรงหน้าเท่าใดนัก


“พายุกำลังจะเข้าแล้ว ผมว่าคุณรีบกลับเข้าไปในโรงแรมจะดีกว่านะครับ” ร่างโปร่งเตือน “ผมต้องไปแล้ว ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณมีนา”



การจากไปของวรินทร์รวดเร็วและแปลกประหลาดไม่ต่างจากขามา มีนากระพริบตาปริบๆมองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายไปอย่างงุนงง ก่อนจะหันไปมองท้องฟ้าสีส้มนวลตาในยามเช้า



พายุอะไรของเขา?


 
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 47: หน้าที่ของใจ(2) [1-11-62] คห.832
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 29-11-2019 22:10:39





เมื่อธีรเชษฐ์กลับมาถึงห้อง มีนาที่นั่งเหม่ออยู่ที่ริมหน้าต่างหันกลับมาส่งยิ้มให้เขา ในมือกอดช่อดอกกุหลาบขนาดยักษ์ไว้แนบอก ดวงตากลมโตเป็นประกายเพียงแค่เห็นร่างสูงเปิดประตูเข้ามา



เดิมที ธีรเชษฐ์คิดว่าหลังจากแก้แค้นให้เกศราสำเร็จแล้ว ต่อให้ต้องตายเขาก็มีหน้าไปพบภรรยาในโลกหลังความตายอย่างไม่เหลือห่วงอะไรติดค้าง ทว่าในตอนนี้ ‘ห่วง’ ตรงหน้ากลับทำให้เขาลังเลใจขึ้นมา ก่อนจะสลัดความคิดนั้นออกไปจากหัวอย่างรวดเร็ว



เขาจะมาว่อกแว่กตอนนี้ไม่ได้



“คุณเชษฐ์ตื่นเช้าจังครับ” ร่างเล็กโผเข้าหาอ้อมกอดอุ่นอย่างเคยชิน ซุกหน้าเข้ากับแผงอกแกร่งของคนรัก “หรือว่าผมตื่นสายขึ้นกันแน่”



“ไม่มีเรื่องอะไรให้รีบตื่นนี่” ธีรเชษฐ์เชยคางมนขึ้นประกบริมฝีปากลงบนกลีบปากนุ่มที่เผยออ้ารอเล็กน้อยอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
เป็นที่สุด ตักตวงความหวานด้วยกลัวจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เชยชม



เขาไม่ได้อยากพามีนามาที่นี่ แต่นิโคไลแนะนำว่าการอยู่ในที่ที่มีลูกน้องและพรรคพวกของเขาอยู่จะปลอดภัยกว่าการทิ้งมีนาไว้คนเดียว อีกทั้งยังแสดงให้คนพวกนั้นคิดว่าเขาไม่ได้ระแวดระวัง ล่อเสือออกจากถ้ำได้โดยง่าย



แต่ชายหนุ่มยังคงไม่เข้าใจการกำชับของนิโคไลที่บอกให้พามธุวันมาด้วยอยู่ดี



“กินข้าวรึยัง?”


“เรียบร้อยแล้วครับ แต่ถ้าคุณเชษฐ์จะทานอีกรอบ ผมไปด้วยได้นะครับ” มีนาเสนอตัว ขยับซุกเข้าหาความอบอุ่นอีกครั้งอย่างออดอ้อนเอาใจจนร่างสูงเลิกคิ้วอย่างนึกประหลาดใจ



“เป็นอะไร ทำไมวันนี้ถึงได้อ้อนจัง หืม?”


“แล้วผมอ้อนไม่ได้เหรอครับ?” คำถามที่เคยเปี่ยมได้ด้วยความประหม่าลังเลใจ บัดนี้มีเพียงน้ำเสียงใสซื่อติดจะแง่งอนเล็กน้อยพอให้หัวใจคนมองได้สั่นไหว



“พูดเหมือนเธอไม่รู้เลยนะ มีนา...” ร่างสูงประทับจุมพิตลงบนเปลือกตาของเด็กหนุ่มทีละข้างอย่างอ่อนโยน “ถ้าเป็นเธอ จะทำอะไรกับฉันก็ได้ทั้งนั้น”



“เมื่อเช้าผมออกไปเดินเล่นริมหาด เจอแฟนเก่าของคุณเชษฐ์...”



สิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวขึ้นทำให้คนที่พรมจูบไปตามดวงหน้าเกลี้ยงเกลาชะงักค้าง ผละออกมาเล็กน้อยเพื่อดูปฏิกิริยาของคนรัก ไม่มั่นใจว่าคำว่า ‘ฉันไม่มีแฟน มีแค่คู่นอน’ หรือ ‘แฟนที่ว่านีี่คนไหนล่ะ’ จะทำให้สถานการณ์แย่ลงเพียงใด จึงตัดสินใจ
หุบปากเงียบเอาไว้



“คุณวรินทร์...คุณเชษฐ์จำได้มั้ยครับ”


“…เธออยากให้ฉันจำได้มั้ยล่ะ”


แน่นอนว่าเขาจำวรินทร์ได้ เขาเชื่อว่าใครที่ได้รู้จักวรินทร์ไม่มีทางลืมเลือนเจ้าของใบหน้าที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบุคคลที่งดงามที่สุดในโลกได้



แต่ต่อให้มีสักกี่วรินทร์บนโลกใบนี้ ธีรเชษฐ์ก็ยังคงไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจไปจากเด็กหนุ่มร่างเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มตรงหน้า


“ผมรู้ว่าคุณเชษฐ์จำได้...” คนที่ยังซุกหน้ากับอกของเขาพึมพำ “จากคนแบบนั้นมาเป็นผม...ดีแล้วจริงๆเหรอครับ”


“แล้วจากคนเป็นล้านๆคนบนโลก เธอเลือกที่จะติดแหง็กอยู่กับตาแก่อย่างฉัน คิดดีแล้วจริงๆเหรอ หืม?” ร่างสูงย้อนถามพร้อมรอยยิ้ม โน้มลงไปหาเด็กน้อยของตนที่เงยหน้าขึ้นสบตา จมูกโด่งปัดไล้ผ่านปลายจมูกรั้นเบาๆอย่างรักใคร่จนคนตัวเล็กย่นคอหนีอย่างเขินอาย “หึงฉันเหรอ?”


“ก็…ก็ต้องหึงไม่ใช่เหรอครับ” นอกจากจะไม่ปฏิเสธแล้ว คนตัวเล็กที่ครอบครองทุกลมหายใจเข้าออกของเขายังกล้าช้อนตามองธีรเชษฐ์อย่างตัดพ้อด้วยดวงตากลมโตสีหวานนั้น “คุณวรินทร์เขาดูดีกว่าผมทุกอย่าง...อื้อ...”


ไม่ทันจะได้พูดจบก็โดนขโมยจูบไปเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันอีกแล้ว มีนานึกอยากจะร้องประท้วง แต่ลิ้นร้อนที่เกี่ยวกระหวัดกลับทำให้ดวงตากลมโตปรือปรอยอย่างเคลิบเคลิ้มไปเสียก่อน แขนเรียวเล็กยกขึ้นโอบรอบคอของคนรัก ลืมไปชื่อขณะว่ากำลังอยู่ระหว่างการตัดพ้ออีกฝ่ายอยู่



จนกระทั่งคนขี้แกล้งที่ยังคงขบเม้มคลอเคลียกลีบปากนุ่มหยุ่นถามย้ำขึ้นมาอีกครั้ง


“ตกลงหึงฉันจริงๆเหรอ”


“อื้อ...” มีนางึมงำ ก่อนที่ริมฝีปากนิ่มจะถูกครอบครองอีกครั้ง


“ไม่เอาอื้อ ตอบดีๆสิ” ธีรเชษฐ์แสร้งดุ แม้ว่าดวงเนตรสีควันบุหรี่จะเต็มไปด้วยความขบขัน “ว่าไง...หึงเหรอครับคนดี”


“ครับ...ผมหึงคุณเชษฐ์...อ๊ะ!” มีนาตอบตามประสาเด็กว่าง่าย ก่อนจะได้รับรางวัลเป็นท่อนแขนแข็งแรงที่ช้อนร่างของเขาให้ลอยหวือขึ้นจากพื้น


“คนหึงเขาหึงกันเรียบร้อยขนาดนี้เลยเหรอ” ร่างสูงวางเด็กหนุ่มในอ้อมแขนลงบนเตียงกว้าง มีนารีบยกมือขึ้นดันแผงอกแกร่งของคนที่โน้มลงมาทาบทับ “ไม่ดื้อสิ ให้ฉันงื้อเธอดีๆก่อน”



“คุณเชษฐ์ครับ งานจะเริ่มแล้วนะครับ”


“อีกตั้งหลายชั่วโมง...” มือใหญ่รวบเอามือที่ดันตัวเองไว้พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ขอกินมื้อเช้าก่อน”



“คุณเชษฐ์ ไม่เอานะครับ ถ้าทำจริงๆผมต้องเดินไม่ได้แน่ๆ” มีนาโอดครวญเสียงอ่อย ไม่ได้คิดว่าคนใจร้ายจะยอมฟังคำขอของตน แต่เมื่อเห็นธีรเชษฐ์ชะงักไปจริงๆก็อดแปลกใจไม่ได้ “คุณเชษฐ์ครับ?”



“ไม่ทำให้เจ็บหรอก สัญญา”


ริมฝีปากร้อนไล่จุมพิตลงมาตามแผ่นอกราบเรียบ ถึงหน้าท้องแบนราบภายใต้เนื้อผ้า ก่อนจะงับเบาๆที่ซิปกางเกงของคนตัวเล็กแล้วรูดมันลงอย่างชำนิชำนาญ


“คะ…คุณเชษฐ์ อ๊ะ...”



มือเรียวขยุ้มเส้นผมดำขลับของคนรักเพื่อระบายความรู้สึกที่ถูกริมฝีปากอุ่นปรนเปรอ สะโพกกลมลอยขึ้นจากเตียงอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ ขาเรียวสั่นระริกขยับอ้าออกจากกันเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนรัก ก่อนจะร้องออกมาเบาๆเมื่อนิ้วเรียวยาวดุนดันช่องทางสีหวานที่ยังคงบอบช้ำจากการถูกใช้งานตลอดทั้งคืน หมุนคว้านไปมาอย่างคุ้นเคย โจมตีความอ่อนไหวภายในและได้รับเสียงครวญครางแว่วหวานเป็นการตอบแทน



“นะ..ไหนว่าจะไม่...อ๊ะ...ฮะ...คะ..คุณเชษฐ์ อ๊ะ!!”


“บอกว่าไม่ทำให้เจ็บ...” ชายหนุ่มผละออกจากความร้อนผ่าวน่ารักที่ตอบบรับสัมผัสของเขาอย่างไร้เดียงสาเช่นทุกครั้งเพื่อตอบคำถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ไม่ได้บอกว่าจะไม่ทำให้เสร็จนี่...”



“มะ…ไม่เอา...คุณเชษฐ์...ชุดจะเลอะ...อ๊ะ...อะ..!!”


ร่างโปร่งบางทิ้งกายลงบนเตียงนุ่มอย่างไร้เรี่ยวแรง เรียวขาขาวยังคงถูกคั่นไว้ด้วยร่างหนาที่ไล้เลียทำความสะอาดทุกหยาดหยดไม่ให้เปรอะเปื้อนเสื้อผ้าดังที่คนรักตัวน้อยเป็นกังวล มีนานอนหอบหายใจอย่างหมดเรี่ยวแรง หลังจากที่ถูกกระตุ้นเน้นย้ไมาตลอดทั้งคืนร่างกายของเขาในตอนนี้ไวต่อสัมผัสจนน่าหวาดกลัว เพียงแค่เรียวลิ้นร้อนและก้านนิ้วเรียวยาวก็มากพอที่จะทำให้เด็กหนุ่มอ่อนระทวย ทว่าหลังจากปรนเปรอร่างเล็กจนอิ่มเอม ร่างสูงกลับไม่คิดจะตักตวงความสุขให้กับตัวเองอย่างที่มีนาคิด



“ไม่ทำ...เหรอครับ?”


“ถ้าทำเธอคงเดินไม่ไหวเอาจริงๆ” ร่างสูงตอบเสียงกลั้วหัวเราะ จัดเสื้อผ้าของคนรักให้เข้าที่เข้าทาง “เอาล่ะ ไปกันเถอะ”



“แต่ว่า...” คิ้วเรียวยังคงขมวดมุ่นอย่างรู้สึกผิดที่เป็นฝ่ายสบายตัวอยู่คนเดียว


“ไม่เป็นไรหรอกน่า แค่เธอมีความสุข ฉันก็พอใจแล้ว” ธีรเชษฐ์ยิ้ม รอยยิ้มที่เคยหาได้ยากนับวันยิ่งจะแจกให้มีนาอย่างพร่ำเพรื่อเสียจนคนได้รับใจเหลวเป็นน้ำ



“ถ้าอย่างนั้น คืนนี้...คุณเชษฐ์ต้องให้ผมดูแลนะครับ” เด็กดีตัวน้อยกล่าวอย่างเอาแต่ใจ ในหัวคิดเพียงว่าค่ำคืนนี้จะดูแลคนรักเป็นการตอบแทน จึงไม่ได้สังเกตสีหน้าที่หม่นลงเพียงชั่ววูบของร่างสูง



“อืม เอาสิ ถึงยังไงเราก็ยังมีเวลาอีกนาน” ทั้งที่กล่าวเช่นนั้น ธีรเชษฐ์กลับรู้ดีว่าทุกคำเป็นเพียงคำโป้ปดของคนที่ไม่รู้ว่าจะ
ได้เจอกับคนตรงหน้าอีกเมื่อไหร่


สัญญา...ว่านี่จะเป็นการโกหกครั้งสุดท้าย


“มีน…”


“รักนะครับ” มีนาที่รู้ดีว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรชิงเอ่ยขึ้นก่อนพร้อมรอยยิ้มสว่างไสวที่ทำเอาคนมองตาพร่าไปชั่วขณะ
รอยยิ้มบริสุทธิ์จริงใจของคนที่ค้นพบความสุขในชีวิตของตัวเองอย่างแท้จริง


“รักเหมือนกัน”


ริมฝีปากได้รูปช่วงชิงลมหายใจไปจากริมฝีปากรูปกระจับที่ตอบรับกับรุกเร้าอย่างอ่อนหวานอีกครา ตักตวงทุกสิ่งทุกอย่างราวกับว่ามันคือจูบสุดท้ายระหว่างพวกเขา



และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ


---

กลับมาล้าววววว โฮกกกกกก
ก็ยังคงอัพห่างอยู่สำหรับเรื่องนี้นะคะ แต่ใกล้จบมากแล้วเน้อ ขอบคุณทุกคนมากๆสำหรับความรักและความเข้าใจค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 48: หน้าที่ของใจ(3) [29-11-62] คห.846-7
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 29-11-2019 22:35:32
ยินดีต้อนรับกลับมานะคะ.  :katai2-1:

พายุลูกใหญ่ที่กำลังจะมา ถึงขนาดพังโรงแรมได้เลยสินะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 48: หน้าที่ของใจ(3) [29-11-62] คห.846-7
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 29-11-2019 22:54:22
มันก็แค่ "พายุ" จิ๊บ ๆ    :laugh:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 48: หน้าที่ของใจ(3) [29-11-62] คห.846-7
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 30-11-2019 02:45:21
โถๆๆ อดใจหลังเรื่องจบก่อนนะลุง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 48: หน้าที่ของใจ(3) [29-11-62] คห.846-7
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 30-11-2019 09:44:16
จะเกิดอะไรขึ้น!?
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 48: หน้าที่ของใจ(3) [29-11-62] คห.846-7
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 30-11-2019 10:01:53
ไม่เอา  ไม่ให้ตายน๊าาาา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 48: หน้าที่ของใจ(3) [29-11-62] คห.846-7
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 30-11-2019 14:19:32
่ม่ายยยยยยยยยยยยขอแค่จบแฮปปี้พอน้าาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 48: หน้าที่ของใจ(3) [29-11-62] คห.846-7
เริ่มหัวข้อโดย: Hoya ที่ 30-11-2019 14:38:30
 :mew6: :mew6: อดห่วงไม่ได้
 o13 o13 แต่ขอบคุณ คุณหมูน้อย ที่กลับมาอัพเรื่องนี้ต่อ


เย้....  ถ้าจบเรื่องนี้แล้ว เรื่องไหนต่อ ไหมคะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 48: หน้าที่ของใจ(3) [29-11-62] คห.846-7
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 30-11-2019 18:42:49
พายุกำลังจะมา :mew6:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 48: หน้าที่ของใจ(3) [29-11-62] คห.846-7
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 01-12-2019 02:55:28
จะทำอะไรกันนนนน  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 48: หน้าที่ของใจ(3) [29-11-62] คห.846-7
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-12-2019 15:21:26
 :L2: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 48: หน้าที่ของใจ(3) [29-11-62] คห.846-7
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-12-2019 21:02:26
แงแง กำลังเข้าใจกัน กำลังหวานกัน ต้องมาเจอเรื่องร้ายแรงอีกแล้ว
มีนน่ารักมากเลยค่ะ น่าเอ็นดูมาก ซื่อตรงและจริงใจ
มีนต้องเข้มแข็งนะ ถ้าต้องเจอเรื่องแย่ๆ ในอนาคต

เชษฐ์ได้รักใครจริงจัง อยากมีชีวิตเพื่ออีกคน แต่ก็ต้องสะสางเรื่องในอดีต

เมฆหมอกก็มีโมเมนท์หวานๆ ให้ได้ส่องนะ

ตลกซันกับพายุ แต่ก็ช่วยฮีลจิตใจมีนได้เยอะนะ



หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)บทที่ 49 รอยยิ้มที่จางหาย [29-11-62] คห.846-7
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 03-12-2019 20:23:55
บทที่ 49 รอยยิ้มที่จางหาย



เป็นอีกครั้งที่มีนาและธีรเชษฐ์มาถึงงานก่อนเลขาคนเก่งและรองประธานที่เป็นเจ้าของโปรเจ็กต์ ดูท่าเจ้าลูกชายที่น่ารักของเขาจะยุ่งวุ่นวายกับมธุวันจนไม่เป็นอันทำการทำงานทีเดียว



ด้วยสเกลงานแฟชั่นโชว์ในคราวนี้เรียกได้ว่าเป็นระดับนานาชาติที่สื่อมวลชนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ จึงทำให้ผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นชาวต่างชาติไม่ว่าจะฝั่งเอเชียหรือตะวันตก ถึงอย่างนั้นธีรเชษฐ์ยังคงใช้เวลาไม่นานในการตามหานิโคไลที่ยืนอยู่ท่ามกลางบอร์ดี้การ์ดร่างยักษ์ตีสีหน้าขึงขังมากหน้าหลายตา แม้ว่ารังสีอาฆาตที่แผ่ออกมาจากเฟิ่งหยางหมิงที่กอดอกนิ่งฟังมาเฟียหนุ่มชาวอิตาลีสนทนาอย่างอกรสออกชาตินั้นจะทำให้คนที่ผ่านไปมารู้สึกกดดันมากกว่าก็ตาม
มือใหญ่วางลงบนแผ่นหลังเหนือสะโพกมนนำทางมีนาผ่านทะเลผู้คนไปยังที่หน้าหน้างานในจังหวะเดียวกับที่มธุวันและเมฆามาถึง



“มาพอดีเลยครับคุณหมอก คุณเมฆ” ชายหนุ่มชาวอิตาลีหันกลับมาเห็นพวกเขา “นี่คุณเฟิ่งหยางหมิง เพื่อนของผมครับ”



“คนรู้จัก” เฟิ่งหยางหมิงกัดฟันกรอด ธีรเชษฐ์ชักเริ่มนึกสงสัยแล้วว่าของตอบแทนที่ทำให้มาเฟียหนุ่มชาวฮ่องกงยอมร่วมมือกับนิโคไลที่ตนดูจะเกลียดแสนเกลียดนั้นเป็นนางฟ้าจากสวรรค์ชั้นไหน



ที่นั่งของพวกเขาอยู่บริเวณหน้าสุดติดขอบเวที ชนิดที่เรียกได้ว่าหากยืดแขนยืดขาผิดท่านายแบบนางแบบบนเวทีอาจจะถูกขัดขาตกลงมาก็เป็นได้



เฟิ่งหยางหมิงนั่งลงที่แถวเดียวกับพวกเขา ไม่ห่างจากนิโคไลไปมากนัก ดวงตาคมสีรัตติกาลจับจ้องไปที่เวทีโดยไม่สนใจสภาพแวดล้อมรอบข้างแม้แต่น้อย



หญิงสาวที่ธีรเชษฐ์จำได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของมธุวันนั่งลงข้างเลขาของเขาด้วยสีหน้ารีบร้อน แต่คนที่ธีรเชษฐ์สนใจมากกว่า คือคู่หมั้นของหญิงสาวที่นิโคไลแนะนำให้เขารู้จักในแฟ้มประวัติอาชญากรรมเล่มหนา



โรเบิร์ต กาวิโน่ หัวหน้าตระกูลกาวิโน่คนปัจจุบัน และลูกชายแท้ๆของคนที่สั่งฆ่าภรรยาของเขาอย่างเลือดเย็น
หากเลือกได้ ธีรเชษฐ์อยากจะฝังกระสุนลงในหัวของขายคนนั้นด้วยตัวเอง แต่น้าเสียดายที่ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ายดายขนาดนั้น



‘คุณไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อฆ่าคน…เชื่อผมสิครับ’ นั่นคือเหตุผลที่นิโคไลให้กับเขา ‘คุณเกศคงไม่ให้อภัยตัวเอง ถ้าหากเธอรู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้พ่อของลูกๆเธอกลายเป็นฆาตรกร’


ทางเลือกที่เหลืออยู่จึงมีเพียงการปล่อยให้ ‘มืออาชีพ’ จัดการถอนรากถอนโคนโค่นล้างตระกูลกาวิโน่ให้หมดไปจากพื้นผิว
โลก



ที่หางตา ธีรเชษฐ์เหลือบมองมธุวันที่โน้มไปกระซิบบางอย่างข้างหูลูกชายคนโตของเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวล ส่วนเมฆานั้นเพียงแต่ส่ายหน้าทั้งที่คิ้วเข้มยังคงขมวดมุ่น นึกเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็กทั้งสองแม้ว่านิโคไลจะรับรองความปลอดภัยและอธิบายแผนให้เขาอย่างละเอียดซ้ำไปซ้ำมาอย่างอดทนก็ตาม



มือใหญ่กอบกุมมือเรียวเล็กของคนอีกครที่ตนเป็นห่วงไม่ต่างกัน มีนาเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างประหลาดใจ แต่ก็บีบมือของร่างสูงตอบกลับราวกับจะปลอบประโลมคนที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นอะไรไป


เสียงทำนองเพลงแว่วหวานคล้ายบทบรรเลงในโบสถ์เริ่มขึ้นพร้อมกับนางแบบคนแรกในชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ฟูฟ่องที่ดูค่อนข้างคล้ายคลึงกับชุดเจ้าสาวในฝันของเด็กหญิงตัวน้อย แม้ว่านางแบบคนสวยรูปร่างผอมเพรียวสูงยาวเข่าดีจะเป็นที่น่าจับตามองเพียงใด ธีรเชษฐ์ยังคงรู้สึกว่าหากคนข้างกายยอมใส่ชุดเจ้าสาวแขนตุ๊กตาแสนอ่อนหวานนั้นคงน่ามองกว่าเป็นไหนๆ



งานเดินแบบดำเนินไปโดยที่เหล่าหญิงสาวดีกรีนางแบบระดับโลกและนายแบบรูปร่างเพรียวลมหลายคนที่สวมใส่ชุดเจ้าสาวทุกรูปแบบที่มนุษย์จะจินตนาการได้ผลัดกันสับขาออกมาตามเวทีด้วยความมั่นใจในรูปลักษณ์ของตน
แน่นอน คนที่สร้างรายได้จากรูปร่างหน้าตาเป็นหลักย่อมเรียกได้ว่าเป็นความเจริญหูเจริญตาในระดับหนึ่ง หลายคนในนั้นธีรเชษฐ์จำได้ด้วยความรู้สึกผิดลึกๆว่าเป็นส่วนหนึ่งของอดีตแสนดำมืดก่อนที่มีนาจะก้าวเข้ามาในชีวิต ทำเอาชายหนุ่มต้องแกล้งทำของตกอยู่หลายครั้งหลายคราเพื่อหลบหน้าบรรดาคู่นอนเก่าที่ส่วนมากจบกันไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก เดือดร้อนถึงมีนาต้องช่วยก้มลงหาเหรียญที่ไม่มีอยู่จริงบนพื้นเป็นเพื่อนเขาแทบทุกครั้ง


เป็นอีกครั้งที่ธีรเชษฐ์ค้นพบว่าเขามีความสุขกับการก้มมองพื้นกับเด็กหนุ่มร่างเล็กที่กวาดสายตามองหาเศษเงินช่วยเขา มากกว่าการผลาญเงินไปกับเหล่าเนื้อนมไข่ที่มีแต่เรียกร้องจากเขาอย่างไม่รู้จักพอ



ร่างสูงอยากจะหัวเราะกับโชคชะตาที่เล่นตลกให้เขาได้พบกับคนที่อยากใช้ชีวิตที่เหลือด้วยหลังจากที่เขาตัดสินใจสังเวยชีวิตเพื่อล้างแค้นให้กับแสงสว่างที่ดับสูญ



“ครางหลังผมพกกระเป๋าใส่เหรียญให้ดีกว่า คุณเชษฐ์จะได้ต้องทำตก…อื้อ…”


มีนาเบิกตากว้างเมื่อคนที่ควรจะตั้งหน้าตั้งตาหาเศษเหรียญที่หล่นหายประกบปิดคำพูดของเขากลางประโยค แม้จะก้มอยู่กับพื้น และความสนใจของผู้คนทั้งหลายยังคงจดจ่ออยู่กับเหตุการณ์บนเวที และการฉกฉวยสัมผัสเมื่อครู่นั้นเบาบางเสียจนแทบจะเรียกไม่ได้ว่าจูบ การกระทำของคนรักยังคงอุกอาจเกินกว่าเด็กน้อยขี้อายจะรับไหว ธีรเชษฐ์หัวเราะในลำคอเมื่อถูกมือเล็กๆนั้นผลักออกเต็มแรง แม้ว่าจะไม่สามารถทำให้เขาขยับได้แม้แต่มิลเดียวก็ตาม



“ไม่เป็นไรหรอกน่า…ตื่นเต้นดีออก”


ตื่นเต้น…ตื่นเต้นจนหัวใจจะวายแล้ว ฮือ



เด็กหนุ่มรีบยืดตัวนั่งตรงอย่างมีพิรุธจนถึงที่สุด ดวงตากลมโตจดจ้องกับเวทีโดยปฏิเสธที่จะหันกลับไปมองคนขี้แกล้ง ดวงหน้าขาวร้อนเห่อแดงซ่านไปจนถึงลำคอ



แม้จะยังไม่หายงอนคนขี้แกล้ง แต่มีนายังคงปล่อยให้มือปลาหมึกเลื้อยมาโอบเอวของเขาไว้โดยไม่คิดอิดออด



ข้อเสียของเด็กดีก็เป็นอย่างนี้นั่นแหละ



แสงไฟรอบเวทีหรี่ลงพร้อมกับควันที่พวยพุ่งออกมาจากพื้น เปลี่ยนเวทีให้เป็นม่านหมอกแห่งความฝันเพื่อต้อนรับร่างสูง
โปร่งในชุดกี่เพ้าผ้าเนียนลื่นสีม่วงสดเฉดเดียวกับดวงตา วรินทร์ย่างเยื้องกรีดกรายออกมาจากหลังเวทีด้วยรอยยิ้มจางจากริมฝีปากเรียวสวยเคลือบด้วยลิปสติกสีม่วงเข้มฉ่ำวาวที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและกลิ่นอายยั่วเย้าอันเป็นเอกลักษณ์ของนายแบบหนุ่ม เล่นเอาหนุ่มๆที่มองใจหวิวกันเป็นแถว รองเท้าส้นเข็มสีเข้มเคาะตามจังหวะการก้าวสับขายิ่งทำให้เรียวขายาวที่โผล่บนรอยแยกจากกระโปรงผ่าข้างซึ่งสูงเสียจนแทบไม่เหลืออะไรให้จินตนาการยิ่งดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้นไปอีก
ในฐานะคู่นอนเก่า ธีรเชษฐ์ต้องยอมรับว่านอกจากรูปร่างหน้าตาที่ฟ้าประทานมาแล้ว วรินทร์ยังรู้จักบริหารเสน่ห์ของตนได้เป็นอย่างดี เพียงชายตามองก็สามารถทำให้ผู้คนที่น้ำลายหกตามเป็นทางสยบแทบเท้าโดยไม่จ้องพยามยาม
แต่คนคนนี้สำหรับธีรเชษฐ์แล้วกลับรู้สึกว่าน่ากลัวเสียยิ่งกว่าเหล่านกหวีดเสียงแหลมที่ตามตอแยเขาจนเลขาหน้าห้องแทบจะเข้ามาแหกอกเขาด้วยตัวเองไม่เย้นแต่ละวันพวกนั้น ทุกการกระทำของวรินทร์นั้นเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ราวกับว่าชีวิตประจำวันของนายแบบหนุ่มเป็นเพียงละครหนึ่งฉากที่มีบทเขียนไว้อย่างชัดเจน กระทั่งท่วงท่าการกระพริบตายังสมบูรณ์แบบราวกับฝึกฝนมาเป็นพันครั้งเพื่อการนี้



สัญชาตญาณของธีรเชษฐ์บ่งบอกว่าเด็กคนนี้มีบางอย่างผิดปกติ ประจวบเหมาะกับที่มีนาเดินทะเล่อทะล่าเข้ามาในชีวิตของเขา ตีรวนชีวิตที่เขาเคยควบคุมได้จนยุ่งเหยิงวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้เขาเลือกที่จะตัดความสัมพันธ์กับวรินทร์ไป ดีหน่อยที่อีกฝ่ายไม่ได้ตามตอแยเขาเเหมือนกับอดีตหลายๆคนที่ผ่านมา



ท่ามกลางกระแสความหลงใหลในเรือนกายเย้ายวน ธีรเชษฐ์สังเกตว่าเฟิ่งหยางหมิงนั่งกอดอกมองนายแบบหนุ่มราวกับนึกอยากจะกระชากอีกฝ่ายลงมาจากเวทีแล้วควักลูกตาทุกคนที่กล้าใช้มันโลมเลียผิวกายนวลเนียนจนเกิดราคี
ราวกับรับรู้ถึงสายตาแผดเผาของอีกฝ่าย วรินทร์ขยับหมุนตัวฟูลบอดี้เทิร์นหนึ่งรอบอย่างงดงามตรงหน้าของมาเฟียหนุ่มหน้าหยกพร้อมกับขยิบตาให้ก่อนจะเดินต่อไป เรียกสายตาของทุกคนให้มองตามจังหวะการขยับของก้อนเนื้อกลมกลึงในชุดแนบเนื้อผ้าเบาบางสมเป็นชุดส่งตัวเข้าหออย่างแท้จริง ธีรเชษฐ์โน้มไปหามีนาที่นั่งตาแปซมองการเดินแบบของวรินทร์ตั้งแต่ต้นจนจบ ซุกหน้าลงกับซอกคอขาวพร้อมประทับริมฝีปากลงบนแอ่งชีพจรที่เต้นตุบๆชวนให้สร้างรอยแสดงความเป็นเจ้าของ



“อะ…อะไรครับคุณเชษฐ์?” มีนาที่โดนจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวอีกครั้งพยายามดันหน้าคนรักออกไปอย่างเบามือที่สุด แต่ขนาดออกแรงทั้งตัวหินผาก้อนนี้ยังไม่ยอมขยับ นับประสาอะไรกับมือเล็กที่ยันหน้าเขาอยู่ในตอนนี้



“ไม่อยากมอง กลัวเธอไม่สบายใจ”




“มะ…ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมก็มอง คนอย่างคุณวรินทร์ เป็นใครก็ต้องมองทั้งนั้น” มีนาตอบอย่างไม่ถือสา แม้ว่าหัวใจดวงน้อยจะพองโตจากความเอาใจใส่เล็กๆนั้น



“ชอบแบบนั้นเหรอ?” กลับกลายเป็นคนฟังที่ขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีที่ได้ยินดังนั้น เด็กหนุ่มขยับยิ้มอย่างอ่อนอกอ่อนใจก่อนจะส่ายหน้า



“ไม่ชอบครับ”



“แล้วชอบแบบไหน” คำถามที่เห็นได้ชัดว่าจงใจเฟ้นหาคำชมจากปากเขาทำให้มีนาอดลอบยิ้มอย่างเขินอายไม่ได้ ทั้งที่อายุมากกว่าเขาตั้งมาก บางสิ่งบางอย่างที่ธีรเชษฐ์ทำกลับทำให้มีนาอดรู้สึกไม่ได้ว่าน่าเอ็นดู เหมือนเด็กตัวน้อยๆที่ติดอยู่ในร่างของนักธุรกิจหนุ่มมากประสบการณ์อย่างไรอย่างนั้น




แม้อยากจะกลั่นแกล้งคนพ่ออย่างที่ทำกับคนลูกไม่เมื่อเช้าแค่ไหน แต่ประกายคาดหวังในแววตาของธีรเชษฐ์ทำให้เด็กหนุ่มทำไม่ลง


“ก็…แบบคนแถวนี้ครับ”



“คนแถวนี้นี่ใคร มีตั้งเยอะแยะ” เด็กโข่งร่างยักษ์ยังคงไม่ยอมแพ้ มีนาเอียงคอ ก่อนจะตอบอย่างเต็มปากเต็มคำ



“ก็…แบบคุณเมฆาล่ะมั้งครับ”


ชื่อของลูกชายคนโตที่ไม่คิดว่าจะหลุดออกมาจากปากของคนรักทำให้ธีรเชษฐ์นิ่งไปครู่หนึ่ง แต่สิ่งที่มีนาเอ่ยถัดมาเรียกรอยยิ้มที่หาดูได้ยากจากชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี



“เสียดายที่คุณเมฆาเด็กไปหน่อย...ถ้าแบบที่ผมชอบคงต้องแก่กว่านี้ซักสิบเจ็ดปีนะครับ” เด็กหนุ่มยิ้มหวานให้คนรัก การที่ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนความรู้สึกของตัวเองจากโลกภายนอกเปลี่ยนให้เด็กน้อยที่มักหวาดระแวงคนรอบข้างอยู่ตลอดเวลากลายเป็นเด็กหนุ่มที่โน้มเข้ามาประทับริมฝีปากลงบนสันกรามของคนรักในที่สาธารณะได้



“หึ เดี๋ยวนี้ปากหวานขึ้นนะ” แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของคนที่หันกลับมาให้ริมฝีปากนุ่มหยุ่นกดลงบนริมฝีปากของตัวเองแทนได้ ธีรเชษฐ์ยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจกับคำตอบของคนรัก แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่ยังคงมีรสลิปกลอสสีใสฉ่ำวาวรสโปรดของตนหลงเหลืออยู่อย่างเชื่องช้า แม้นึกอยากจะสอดลิ้นเข้าไปทวงหาความหวานจากร่างเล็กแต่ยังพอจะรุ้กาละเทศะอยู่บ้าง สายตาหิวกระหายอย่างไม่ปิดบังเรียกให้คนมองร้อนเห่อไปทั้งร่าง มีนาหันกลับไปสนใจงานที่กำลังจะเริ่มการแสดงชุดที่สองในอีกไม่ช้าเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย ทว่าคนข้างที่ขยับเข้ามาคลอเคลียชิดใกล้ประกาศเจตนารมย์ชัดจากการกระทำว่าไม่คิดรามือโดยง่าย



“ตอนนี้ที่หน้าโรงแรมมีรถรออยู่ ไปรอฉันที่นี่” กระดาษแข็งแผ่นหนึ่งถูกสอดเข้ามาในกระเป๋ากางเกง เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบสั่งสลับดูดเม้มติ่งหูเย็นจนคนถูกรังแกต้องยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยความเขินอาย “เปลี่ยนบรรยากาศสักหน่อย...”



“แต่…ห้องเราก็มีนี่ครับ” มีนาไม่เข้าใจ เหตุใดจึงต้องยุ่งยากนัดพบกับคนที่นั่งข้างกัน ธีรเชษฐ์ถอนหายใจข้างหูของเขา ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงราวกับกำลังสั่งสอนวิชาเรียนให้ศิษย์น้อยด้อยวิชา



“เชื่อฉันสิเด็กดี อาบน้ำแต่งตัวหอมๆเป็นเด็กดีรอฉันอยู่ที่นั่น ปิดโทรศัพท์ ตัดขาดจากโลกภายนอก ให้โลกนี้มีแค่เราสองคนทั้งวัน...ทั้งคืน... โรแมนติกดีออก ว่ามั้ย?”



“แต่ว่า...”



“เด็กดี...” ธีรเชษฐ์กดจูบเน้นย้ำลงบนขมับของเด็กหนุ่มอย่างรักใคร่ “เชื่อใจฉันนะ”



แล้วเด็กน้อยว่าง่ายอย่างมีนา จะกล้าปฏิเสธคำขอนั้นได้อย่างไร



ร่างเล็กแอบออกมาในช่วงพักก่อนที่การแสดงชุดใหม่จะเริ่ม ที่หน้าโรงแรมมีรถรถยนต์สำดำคันหนึ่งจอดอยู่จริง ซึ่งคนขับเป็นชายชาวต่างชาติที่โบกมือให้มีนาทันทีที่เห็น แม้รูปร่างสูงใหญ่นั้นจะข่มขวัญคนตัวเล็กจนผงะก้าวถอยหลัง แต่เมื่ออีกฝ่ายแนะนำตัวว่าพูดไทยได้และเป็นคนของนิโคไลที่ร่วมมือกับธีรเชษฐ์สำหรับเซอร์ไพรสในครั้งนี้ มีนาจึงทำได้เพียงก้าวเข้าไปในรถมุ่งหน้าไปยังรีสอร์ทที่อยู่ไกลจากที่นี่ไปเกือบชั่วโมงด้วยสีหน้าเคลือบแคลงใจ
ทำไมคนรักของเขาถึงได้ชอบทำะไรพิเรนทร์ๆแบบนี้อยู่เรื่อยเลยนะ




----------(ต่อ)---------
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 48: หน้าที่ของใจ(3) [29-11-62] คห.846-7
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 03-12-2019 20:25:43


เสียงปรบมือดังก้องไปทั่วห้องจากผู้ชมจำนวนหลายร้อยคน แสงแฟลชจากกล้องนับสิบนับร้อยฉายวาบไปยังเหล่านางแบบนายแบบและดีไซเนอร์ชื่อดังบนเวทีที่ถือดอกไม้ช่อใหญ่โค้งรับคำชม ไม่มีผู้ใดสังเกตว่าชายฉกรรจ์หลายสัญชาติที่อยู่ในกลุ่มผู้ชมนั้นดูมากหน้าหลายตาขึ้นกว่าก่อนหน้า ธีรเชษฐ์เหลือบมองนิโคไลที่กระตุกยิ้มมุมปากให้เขา ไฮไลท์ของงานที่แท้จริงกำลังจะเริ่มนับจากนี้ต่างหาก


ตู้ม!!



เสียงกรีดร้องของผู้คนแตกตื่นจากเสียงระเบิดดังระงมปะปนไปกับเสียงฝีเท้าของผู้คนที่กรูกันหนีตายออกไปจากตัวอาคาร ธีรเชษฐ์เบี่ยงออกมาจากทิศทางที่ฝูงชนกำลังหลั่งไหลออกไป ปืนพกกึ่งอัตโนมัติในมือเตรียมพร้อมปิดฉากละครองค์นี้ของชีวิตเสียที ชายหนุ่มสังเกตเห็นเมฆาและมธุวันที่ออกไปนอกตัวอาคารทันก่อนระเบิดลูกที่สองที่ถูกติดตั้งไว้ในครัวของโรงแรมจะระเบิดขึ้นมา



ในแผนการณ์ล่อเสือออกจากถ้ำเช่นนี้ หากยิ่งเคลื่อนย้ายคนใกล้ตัวออกไปในที่ปลอดภัยมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเท่านั้น แม้จะไม่รู้เหตุผล แต่นิโคไลกำชับอย่างหนักแน่นว่ามธุวันไม่อยู่ในตัวเลือก และธีรเชษฐ์มั่นใจว่าลูกชายของตัวเองไม่มีปัญหาในการหาทางหนีทีไล่ในสถานการณ์คับขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนร้ายพวกนี้ตั้งใจแค่จะกำจัดคนไม่เกี่ยวข้องออกไปอยู่แล้ว จึงเหลือเพียงมีนาที่เขาไม่สามารถแบกรับความเสี่ยงให้เกิดเรื่องกับร่างเล็กได้ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม



“เห็นคุณถือปืนแบบนี้แล้วนึกถึงคุณพ่อคุณเหมือนกันนะครับ” นิโคไลชวนคุยพร้อมรอยยิ้มสบายๆ อาวุธสงครามในมือเตรียมพร้อมปลิดชีพศัตรูได้ทุกเมื่อ



“ไม่รู้สิครับ ผมไม่ค่อยสนิทกับพ่อเท่าไหร่”


ธีรเชษฐ์สอดส่ายสายตาหาความผิดปกติในฝุ่นควัน  ลูกน้องจำนวนเพียงหยิบมือของนิโคไลที่ร่างสูงจดจำได้ดีจากการติดต่อกับมาเฟียหนุ่มตลอดเวลาที่ผ่านมายิงสวนฝ่าม่านฝุ่นควันไปยังเงาร่างของชายฉกรรจ์อาวุธครบมือหลายสิบชีวิต ธีรเชษฐ์หาที่กำบังให้กับตัวเอง เช่นเดียวกับมาเฟียหนุ่มที่ยังคงมีท่าทีเหมือนตัวเองอยู่ในงานปาร์ตี้น้ำชาอย่างไรอย่างนั้น



“พ่อของคุณช่วยเหลือผมมาตลอดตั้งแต่ช่วงที่ผมเริ่มรับช่วงต่อกิจการใหม่ๆ เรียกได้ว่าเป็นพ่ออีคนของผมเลยล่ะ” นิโคไลยังคงชวนคุย แม้ว่าจำนวนร่างที่ล้มลงไปจากปลายกระบอกปืนของชายหนุ่มจะมีมากพอๆกับคนที่ไม่ได้พูดอะไรอย่างเฟิ่งหยางหมิงที่อยู่ข้างๆพวกเขา


อา...ถึงว่าทำไมถึงได้รู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ



“พาคนมาแค่นี้ นี่แกอยากกลับไปอยู่กับพ่อมากขนาดนั้นเลยรึไง อัลฟอนโซ่” เสียงตะโกนของคนหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความโหลาหล ธีรเชษฐ์พยายามหรี่ตามองผ่านควันพอจะจับเค้าได้ลางๆว่าเป็นคนที่มีลูกน้องอีกหลายคนคุ้มกันหน้าหลังแน่นหนา



“ฉันว่าก่อนที่แกจะทำปากดี ลองแหกตาดูก่อนดีมั้ยว่าศพบนพื้นเป็นลูกน้องใคร” นิโคไลไหวไหล่ เก็บชายที่คุ้มกันทางซ้ายของคนคนนั้นอย่างไม่รีบร้อน ธีรเชษฐ์ที่เห็นคนล้มลงไปต่อหน้าต่อตายังคงรู้สึกผะอืดพะอมอยู่มาก ดูท่าพ่อของเขาจะคิดถูกแล้วที่ไม่ให้เขาเดินในเส้นทางนี้



ข้างกายของเขา เฟิ่งหยางหมิงหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้


“นิโคไล แก!!”



ปัง!



ตัวประกอบที่ธีรเชษฐ์คิดว่าเป็นบอสเฉพาะกิจในวันนี้ร่วงลงไปกองกับพื้นก่อนจะได้ขยับปากไปมากกว่านั้น นิโคไลหาวหวอด ก่อนจะเริ่มจัดการกับผึ้งแตกรังทั้งหลายทีละคนสองคนเพื่อแบ่งเบาภาระงานให้ลูกน้องตามประสาบอสที่ดี ดูเหมือนว่าพวกกาวิโน่จะติดกับนิโคไลเข้าอย่างจัง เพราะจำนวนคนที่กรูกันมารุมล้อมพวกเขามากพอที่จะตีได้ว่ายกกันมาทั้งแก๊ง
ล่อเสือออกจากถ้ำ? ล่อง่ายขนาดนี้เห็นทีจะไม่ใช่เสือเสียล่ะมั้ง?



“อย่าเพิ่งได้ใจไปครับ บอสของพวกมันจริงๆจนถึงตอนนี้ยังไม่โผล่หัวออกมาด้วยซ้ำ” นิโคไลกล่าวราวกับอ่านความคิดของธีรเชษฐ์ออก “แต่ก็นะ เจ้าเด็กใหม่นั่นยังไม่ค่อยได้รับความเชื่อจจากคนในตระกูลเท่าไหร่ ที่กรูกันมาขนาดนี้คงจะเพราะใครๆก็อยากอวดอ้างว่าตัวเองได้เป็นคนกำจัดยักษ์ใหญ่อย่างอัลฟอนโซ่ด้วยตัวเองมากกว่า”
ต่อให้สมองดีแค่ไหนถ้าร่างกายไม่ยอมทำตามก็เปล่าประโยชน์ ธีรเชษฐ์ส่ายหน้า ปัญหานี้ต่อให้อยู่ในวงการไหนก็ต้องเจอสินะ



ร่างสูงขมวดคิ้วเมื่อเห็นร่างที่ล้มลงทับกันเป็นผักปลาของเหล่าลูกสมุนของตระกูลกาวิโน่ เงยหน้ามองจุดที่เขาคิดว่าวิถีกระสุนน่าจะมาจากตรงนั้น



“สไนเปอร์?”



“ผมไม่ชอบทำอะไรยืดเยื้อน่ะครับ” คนที่ปิดปากหัวโจกฝ่ายศัตรูโดยไม่คิดจะรอให้ตัวร้ายพูดบทสูตรสำเร็จของตัวโกงระดับล่างของตนให้เสร็จให้เหตุผล ไม่ลืมจัดการกับคนที่หันกระบอกปืนมาทางพวกเขา“หลังจากนี้ผมมีธุระต่อพอดี ให้ตายสิ คน
กำลังคุยกัน พวกกาวิโน่นี่ไร้มารยาทชะมัด”



“….” นี่มันฆ่าล้างบางตระกูลหรือนัดคุยงานลูกค้าที่ร้านกาแฟ


ธีรเชษฐ์ชักจะเริ่มคิดแล้วว่าในโลกของนิโคไล สองสิ่งนี้ไม่มีความแตกต่างกัน



ร่างสูงหันปลายกระบอกปืนไปยังความเคลื่อนไหวข้างกายทันทีตามสัญชาตญาณ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าคนที่โผล่มาอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียง คือบิดาแท้ๆที่ตนบากหน้าไปขอความช่วยเหลือหลังจากขาดการติดต่อกันไปหลายปี



ธีรเชษฐ์บอกตัวเองไม่ให้คาดหวัง แต่เมื่อได้เห็นชายชาวรัสเซียผมแซมสีดอกเลาร่างสูงใหญ่ที่เปลี่ยนตลับกระสุนอยู่ข้างกาย ความปลอดภัยที่เขาไม่ได้รู้สึกมานานกลับแผ่ซ่านไปทั่วร่างของของชายหนุ่มอย่างไร้สาเหตุ



“ช้านะตาแก่...” ถึงอย่างนั้นคนปากแข็งยังคงเลือกที่จะค่อนแคะผู้เป็นบิดากลบเกลื่อนความรู้สึก ดวงตาสีควันบุหรี่เบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าข้างกายของคาร์ซิเมียร์นั้นมีใครติดสอยห้อยตามมาด้วย “เมฆ?”



“พ่อครับ นี่มันเรื่องอะไรกัน?” เมฆาถามด้วยสีหน้าสับสน การปรากฏตัวของลูกชายคนโตที่เขาเห็นว่าวิ่งออกไปจากตัวอาคารแล้วเรียกความหวาดกลัวให้เกาะกุมจิตใจของผู้เป็นบิดา เขาไม่คิดว่าเมฆาจะย้อนกลับมาข้างในอีก



“ไว้ค่อยปรึกษาปัญหาครอบครัวกันทีหลังดีมั้ยครับทุกคน” นิโคไลหันมาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่ไม่เข้ากับสถานการณ์ คาซีเมียร์ขมวดคิ้ว ถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนคุณปู่ที่พาหลานตัวน้อยออกไปซื้อขนมโดยที่พ่อแม่เด็กไม่ได้ยินยอม แต่ไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังทำอะไรผิด



“ถ้าจะแก้แค้นตระกูลที่สั่งฆ่าเมียแก ทำไมลูกแกจะตามมาแก้แค้นให้แม่มันไม่ได้?”



ดวงตาที่เบิกกว้างของเมฆาเมื่อได้ยินความจริงนั้นทำให้ธีรเชษฐ์ตวัดสายตามองผู้เป็นบิดาอย่างขุ่นเคือง เดิมทีเขาไม่ได้คิดจะบอกความจริงกับลูกชายทั้งสาม ไม่เคยคิดอยากให้ร่างไร้ลมหายใจฝังรอยกระสุนปืนของผู้เป็นภรรยากลายเป็นบาดแผลลึกในใจของเด็กทั้งสามเช่นที่เขาต้องแบกรับมาตลอดหลายปี และถึงแม้ว่าจะมีความจำเป็นใดที่ทำให้เขาต้องเปิดเผยความ
จริงนั้น นี่คงเรียกได้ว่าเป็นวิธีที่เลวร้ายที่สุดที่เมฆาจะได้รับรู้เหตุการตายของมารดา



ถึงอย่างนั้น นอกจากแววตาสับสนของลูกชายแล้ว เมฆากลับไม่ได้ดูประหลาดใจกับความจริงที่น่าตกใจนี้มากเท่าที่ควร
คำอธิบายหรือคำปลอบโยนที่ธีรเชษฐ์พยายามสรรหาถูกขัดจังหวะด้วยเสียงระเบิดอีกลูก เรียกความสนใจของทุกคนให้กลับมาสู่สนามรบขนาดย่อมรอบกาย ธีรเชษฐ์สังเกตเห็นว่านอกจากลูกน้องของนิโคไลในตอนต้น ชายแปลกหน้าที่เพิ่มจำนวนขึ้นจนในตอนนี้มีมากกว่าพวกกาวิโน่ทั้งฝูงตามมาสบทบตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่อาจทราบ ทำให้ธีรเชษฐ์นึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง



“Left wing’s cleared! (ปีกซ้ายปลอดภัยแล้วครับ)”



เสียงตะโกนของใครบางคนทำให้นิโคไลยิ้มออก แม้ว่าพวกเขาจะยังอยู่ในระหว่างการดวลปืน แต่ฝ่ายตรงข้ามนั้นเหลือจำนวนน้อยเสียจนแทบไม่น่าจะเป็นปัญหา ธีรเชษฐ์เองก็เริ่มปล่อยให้คนอื่นๆจัดการเก็บกวาดฝ่ายตรงข้ามที่เหลือเพียงหยิบมือ ก้มมองฝ่ามือที่สั่นเทาของตัวเองก่อนจะถอนหายใจ



เขาก็ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อโลกแบบนี้จริงๆนั่นแหละ


“Right wing’s cleared! (ปีกขวาปลอดภัยแล้วครับ)”



นิโคไลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง กระสุนนัดสุดท้ายทะลุเข้ากลางหน้าผากของตระกูลกาวิโน่คนเดียวในที่นี้ที่ยังหลงเหลืออยู่ ก่อนลูกน้องคนหนึ่งของนิโคไลจะประกาศเสียงก้องดังไปทั่วโถงอาคารที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง



“All clear! (ปลอดภัยหมดครับ!)”



ก้อนความรู้สึกที่แบกไว้ในอกมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่ได้สลายหายไปหลังจากบรรลุจุดมุ่งหมายอย่างที่เขาเคยคาดหวัง กลับกัน สิ่งเดียวที่ธีรเชษฐ์รู้สึกเมื่อมองไปรอบๆซากปรักหักพังและร่างไร้ลมหายใจที่นอนเกลื่อนอยู่บนพื้นมีเพียงความว่างเปล่า ราวกับว่าตัวเองกำลังดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เขาไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับเรื่องราวเหล่านี้ หนี้แค้นที่ได้รับการสะสางให้ความรู้สึกเหมือนธุระที่รับฝากฝังมาจากคนอื่นเสียมากกว่า



ราวกับว่าในช่วงชีวิตที่ผ่านมา เขาได้เปิดฉากละครบทใหม่กับใครอีกคน ที่ทำให้บาดแผลนั้นตกสะเก็ดกลายเป็นแผลเป็นที่ด้านชามาได้ระยะหนึ่งแล้ว



แค่คิดถึงคนที่ว่าซึ่งกำลังรอเขาอยู่ในรีสอร์ทริมหาดที่อีกฟากของตัวเมือง ธีรเชษฐ์ก็รู้สึกถึงรอยยิ้มที่ยกขึ้นเองอย่างไร้แรงต้านทานที่มุมปาก



ซื้ออะไรกลับไปให้ดีนะ…



“Boss! Look out!!(บอสครับ ระวัง!)”


ปัง!


ธีรเชษฐ์หันกลับไปทางต้นเสียง เตรียมลั่นไกใส่ความเคลื่อนไหวใดๆก็ตามที่เกิดขึ้น



แต่ภาพที่ร่างสูงเห็นเห็นคือร่างของมือปืนที่ยังมีสติอยู่ซึ่งหวังจะลอบยิงนิโคไลทีเผลอทรุดลงไปบนพื้น เผยให้เห็นนายแบบหนุ่มในชุดเจ้าสาว ที่ถือปืนพกกระบอกเล็กซึ่งมีควันกรุ่นจากปากกระบอกปืนอยู่ด้านหลัง



ปัง!ปัง!ปัง!


วรินทร์ฝังกระสุนลงในร่างของมือปืนที่นอนเรียงรายอยู่บนพื้นอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ดวงตาสีม่วงสดเย็นเยียบและว่างเปล่า ราวกับว่ามันเป็นเพียงกิจวัตรประจำวันหนึ่งในชีวิตของตน



นิโคไลขยับยิ้มมุมปากแล้วกางแขนออกกว้าง วรินทร์โผเข้าไปในอ้อมกอดของร่างสูงอย่างรู้งาน ที่ด้านหลังของนายแบบหนุ่ม เฟิ่งหยางหมิงกัดฟันกรอดมองดูคนทั้งคู่ด้วยแววตาที่สามารถปลิดชีพคนที่ถูกมองได้ในพริบตาเดียว
เขาควรจะแปลกใจที่อดีตคู่ควงของตนแลดูสนิทสนมกับนิโคไลเสียจนแทบจะสิงร่างมาเฟียหนุ่มในตอนนี้ แต่ธีรเชษฐ์ค้นพบว่าเขาไม่ประหลาดใจสักนิดหากคนรอบคอบอย่างนิโคไลจะส่งสายสืบมาเพื่อจับตาดูเขาไว้


ฉับ!


ดวงตาสีม่วงเบิกกว้างอย่างตกใจ ในมือของนิโคไลมีมีดพกขนาดเล็กซึ่งเป็นสาเหตุให้เส้นผมเนียนละเอียดสีดำสนิทที่เคยยาวระสะโพกถูกตัดลงไปกระจายกับพื้น มาเฟียหนุ่มชาวอิตาลียิ้มอย่างอ่อนโยน นิ้วยาวเชยคางมนให้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาเงยขึ้นมองเขา



“ไปเถอะริน...”


“นิค…” ดวงตาสีม่วงสดไหวระริก ไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้าหมายความว่าอย่างไร



“เงาน่ะ..ต้องเป็นของอัลฟอนโซ่ทั้งตัวและหัวใจ” นิโคไลเลิกคิ้วมองเลยไปยังชายหนุ่มชาวเอเชียที่ยืนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ด้านหลังของวรินทร์ “เงาที่เลี้ยงไม่เชื่องอย่างรินน่ะ ฉันไม่ต้องการหรอกนะ”



แม้คำพูดของชายหนุ่มจะดูไร้เยื่อใย แต่แววตาของนิโคไลนั้นฉายแววอ่อนโยนอย่างที่วรินทร์แทบไม่เคยเห็นมันมองมาที่เขามาก่อน นิโคไลดึงให้เงาของตัวเองที่ยังคงนิ่งอึ้งจากความตกใจให้เริ่มเดินไปหาเฟิ่งหยางหมิงที่ยืนกอดอยู่ ดูคล้ายพ่อเจ้าสาวที่กำลังจะส่งตัวลูกให้เจ้าบ่าวในพิธีแต่งงานอย่างน่าประหลาด



“ของตอบแทนเล็กน้อยจากผม หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันอีกครั้งนะครับ คุณเฟิ่ง”



“อย่าเจอกันอีกจะดีกว่าครับ” เจ้าของชื่อดึงร่างของวรินทร์ที่แม้จะเป็นคนตัวสูงแต่ก็ยังเซเข้าไปซบกับอกกว้างของชายหนุ่มราวกับเด็กสาวตัวน้อยมากอดไว้แนบออก ท่าทีแสดงความเป็นเจ้าของแทบจะในวินาทีแรกที่ได้สัมผัสร่างของวรินทร์ทำให้นิโคไลยิ้มขำ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร



“回去! (กลับ!)”



เพียงแค่นั้นชายเกือบครึ่งหนึ่งในห้องก็เดินตามชายหนุ่มชาวฮ่องกงไปอย่างว่าง่าย ส่วนนิโคไลก็หันไปหากลุ่มลูกน้องที่กำลังจัดการเก็บกวาดหลักฐานของการต่อสู้เมื่อครู่อย่างขยันขันแข็ง ชี้ไปที่ศพของชายคนหนึ่งบนพื้นแล้วพูดอะไรสักอย่างเป็นภาษาอิตาลี ไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนกลับเปลวเพลิงที่แผดเผาลามเลียทุกสิ่งรอบกายพวกเขา



“ผมว่าเราออกไปจากที่นี่กันเถอะครับ”



เมฆาหันไปบอกบิดาและปู่ของตัวเองด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ธีรเชษฐ์พยักหน้า นึกเป็นห่วงลูกชายที่มีสีหน้าซีดเซียวจนคล้ายจะเป็นลมล้มพับไปในตอนนี้



“Team A down. Cannot locate Star at the moment. (ทีมAถูกโจมตี ตอนนี้ไม่สามารถระบุตำแหน่งของดวงดาวได้ครับ)”



สีหน้าของนิโคไลที่กระหยิ่มยิ้มย่องมาโดยตลอดถอดสีซีดเผือดไม่ต่างจากเมฆา ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้ว ทว่ายังไม่ทันที่จะได้ขอคำขยายความของรหัสลับนั้น เงาของชิ้นส่วนปูนขนาดยักษ์ที่ร่วงหล่นลวมาจากเพดานในจุดที่เมฆาซึ่งกุมศีรษะด้วยสีหน้าเจ็บปวด ร่างกายโซเซไปมาอย่างไม่รับรู้สภาพรอบกายทำให้ธีรเชษฐ์พุ่งตัวเข้าไปหาลูกชายคนโตโดยไม่ต้องคิด



“เมฆ!!”



ร่างของเมฆาถูกผลักจนเซล้มลงไปกองกับพื้น แต่ยังไม่ทันที่จะได้โล่งใจ แรงกระแทกหนักๆของชิ้นส่วนปูนขนาดใหญ่ที่ทับลงมากลางหลังก็ทำให้ธีรเชษฐ์ล้มลงไปกับพื้น



เขาไม่รู้สึกเจ็บ


ไม่สิ คงต้องบอกว่าเขาไม่รู้สึกอะไรเลยตั้งแต่ช่วงเอวลงไปมากกว่า



ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือเมฆาที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น แม้จะนึกเป็นห่วงลูกชาย แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงปลอดภัยดี



ดีแล้วล่ะ…



ธีรเชษฐ์คิด เปลือกตาที่หนักอึ้งปรือปรอยลงอย่างอ่อนล้า



อย่างน้อยก่อนตาย เขาก็ได้ทำหน้าที่ของพ่อกับคนอื่นเขาบ้างเสียที



เขาได้แต่กระซิบคำขอโทษไปตามสายลมแผ่ว หวังให้มันถูกส่งไปถึงร่างเล็กที่ยังรอคอยเขาพร้อมรอยยิ้มหวานประดับดวงหน้าใส



ขอโทษนะมีน…



ขอโทษนะ ที่ทำให้รอยยิ้มของเธอหายไปอีกแล้ว…


-------------

 :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 03-12-2019 21:15:03
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยคุณเชษฐ์ต้องไม่เป็นอะไรร ไม่เป็นอัมพาตใช่มั้ย
สงสารหนูมีน อุตส่าห์ยิ้มได้แล้วเชียว แงงงงงงงงงงงงงง  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-12-2019 21:38:34
น้องมีนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอีกแล้วลูก.   :m15:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 03-12-2019 22:21:11
สงสารมีนทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้นะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 03-12-2019 22:22:02
คุณเชษฐ์อย่าตายนะ สงสารน้องมีน :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 03-12-2019 22:45:03
คนแก่ของช้านนนน :sad4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-12-2019 23:27:47
อย่าตายนะลุง เมียเด็กรอลุงอยู่นะ อดทนไว้เด้อ  :angry2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 04-12-2019 00:17:56
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 04-12-2019 01:16:49
น้องมีนอาบน้ำรอที่ห้องแล้วนะ คุณเชษฐ์ต้องรีบตื่นแล้วแหละ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-12-2019 10:16:13
บีบหัวใจ!
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 04-12-2019 10:43:25
 :sad4:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 04-12-2019 18:06:35
นู๋มีน :mew2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 05-12-2019 16:23:37
คุณเชษฐ์จะอาการสาหัสมากถึงขั้นอัมพาธไหมน้า น้องมีนน้ำตาแตกแน่เลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-12-2019 23:51:36
ห้ามตายเด็ดขาด!!!!!
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 07-12-2019 23:19:04
บทที่ 50 ไม่มีค่าพอ


‘เชษฐ์…’


‘เชษฐ์คะ…’


“ตื่นได้แล้วคนขี้เซา”



ธีรเชษฐ์ลืมตาตื่นขึ้นมาในความว่างเปล่า




นอกจากความว่างเปล่าที่ไร้จุดสิ้นสุดแล้ว มีหญิงสาวคนหนึ่งที่เขารู้จักที่นั่งไขว่ห้างถักไหมพรมอยู่ข้างๆเตียงของเขา ดวงหน้างดงามหวานละมุนเปล่งปลั่งและเอิบอิ่มอย่างที่ธีรเชษฐ์ไม่ได้เห็นมาตั้งแต่ลูกชายคนเล็กลืมตาดูโลก เกศราอยุ่ในชุดเดรสลายลูกไม้สีม่วงอ่อนที่เขาคุ้นตาว่าเคยเห็นหญิงสาวสวมใส่ในบ้านอยู่หลายครั้ง เสียงติ๊กๆของเข็มถักไหมพรมที่กระทบกันเป็นจังหวะสะท้อนในความมืดมิดไม่มีจุดสิ้นสุด



“คุณเกศ?” ลำคอของเขาแห้งผาก นึกอยากเอื้อมมือไปแตะข้างแก้มของภรรยาผู้ล่วงลับ แต่แขนทั้งสองข้างกลับรู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา



“คะเชษฐ์?” เจ้าของชื่อขานตอบทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากไหมพรมที่ถักอยู่ ธีรเชษฐ์พินิจมองเสี้ยวหน้าของหญิงผู้เคยเป็นดั่งเจ้าของหัวใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น



“ผมฝันอยู่สินะ”



“อะไรกัน...” เกศรายิ้มขำ เงยหน้าขึ้นถามสามีของตนด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า “ไม่คิดว่าตัวเองจะตายแล้วมาเจอเกศบ้างเหรอคะ?”



อา…เขาเกือบลืมไปแล้วว่าภรรยาของเขาอารมณ์ขันร้ายเพียงใด



ธีรเชษฐ์นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้า



“ไม่มีทาง” ชายหนุ่มตอบอย่างมั่นใจ “ถ้าผมตายไปแล้ว คงไม่ได้ขึ้นสวรรค์มาเจอคุณหรอก”



“มั่นใจจังนะคะว่าคนอย่างเกศจะได้ขึ้นสวรรค์” เกศราอมยิ้ม “ไม่ใช่ว่าน้องนิคเล่าทุกอย่างให้คุณฟังหมดแล้วหรอกเหรอคะ?”




การได้ยินหญิงสาวเรียกเจ้าพ่อมาเฟียที่ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตาว่าน้องนิคทำให้ธีรเชษฐ์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี



“เล่า แล้วผมก็ไม่คิดว่าจากที่เล่ามา จะมีใครใจร้ายพอให้คุณไปที่ไหนนอกจากที่นั่นด้วย”



“ปากหวานไม่เคยเปลี่ยนเลยนะคะเชษฐ์” เกศราเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ



“แล้วคุณ…” แม้จะบอกว่าตนกำลังฝัน ชายหนุ่มยังอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามความเป็นไปของคนเคยรัก “เกศ คุณสบายดีมั้ย?”



“เกศสบายดีค่ะ” หญิงสาวหันไปหาความว่างเปล่าด้านหลังของตัวเอง ท่ามกลางความประหลาดใจของธีรเชษฐ์ ดวงไฟสีขาวก่อประกายในความมืด ปรากฏร่างของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชูทสูทสีน้ำตาลอ่อนคนหนึ่งที่ยืนส่งยิ้มให้กับพวกเขาทั้งคู่อยู่ห่างๆ ดวงเนตรสีม่วงล้อแสงไฟทอประกายอ่อนโยนแม้มองจากตรงนี้ เส้นผมยาวสีน้ำตาลถูกรวบเป็นหางม้าด้วยริบบิ้นสีแดงเส้นใหญ่



แม้จะเคยเห็นหน้าค่าตาเพียงไม่กี่ครั้งจากรูปถ่าย แต่ธีรเชษฐ์ยังคงจดจำได้ว่าคนคนนั้นคือพี่ชายของเกศรา เงาของผู้นำตระกูลอัลฟอนโซ่คนก่อน



กรรณวัชร เหลียน


“เกศมีความสุขดี เชษฐ์กับลูกทำใจให้สบายได้แล้วนะคะ” เกศราหันกลับมาหาสามีที่ยังคงมองมาที่ตนราวกับกลัวว่าหญิงสาวจะสลายหายไปกับอากาศได้ทุกเมื่อ “เกศน่ะ ดูคุณกับลูกๆอยู่ตลอดนะคะ เกศดีใจนะที่เห็นคุณกับลูกๆมีความสุข…”
แม้ว่าอายุจะมากขึ้นแค่ไหน แววตาหยอกล้อของหญิงสาวอายุมากกว่ายังคงเรียกริ้วสีชาดบนแก้มสากได้เป็นอย่างดี ธีรเชษฐ์ยกมือขึ้นเกาศีรษะอย่างเงอะงะขัดเขิน วางมือวางไม้ไม่ถูก



“คือ…ผม…เอ่อ…”



“คิก เด็กโง่…” มือเรียวยกขึ้นลูบศีรษะของสามีอย่างอ่อนโยน ธีรเชษฐ์เข้าหาสัมผัสที่คุ้นเคยอย่างโหยหา ขอบตาของร่างสูงร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจ “ถ้าเด็กคนนั้นทำให้คนที่เกศรักยิ้มได้ทุกวันแบบนี้ คิดว่าเกศจะว่าอะไรคุณคะ”



“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ” ใบหน้าคมคายซุกเข้ากับมือของภรรยา ออดอ้อนเป็นเด็กน้อยขัดกับคำพูดอย่างสิ้นเชิง



“ค่ะ น้องเชษฐ์ไม่เด็กแล้วเนอะ” เกศราหยิกแก้มสากเบาๆอย่างมันเขี้ยว เรียกเสียงร้องโอดโอยจากคนถูกแกล้งได้เป็นอย่างดี “แต่เชษฐ์รู้มั้ย… เวลาที่คุณอยู่กับเด็กคนนั้น เกศเหมือนได้เห็นคุณสมัยที่ยังไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตของเกศกับลูกๆ สมัยที่คุณกับวีก่อเรื่องวุ่นวายให้น้องครามปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน เหมือนคุณกำลังใช้ชีวิตที่คุณไม่เคยมีโอกาสได้ใช้อีกครั้ง”



“บางครั้งผมก็รู้สึกผิดนะ…” ธีรเชษฐ์สารภาพด้วยสีหน้าสลดลง “เด็กคนนั้นยังมีโลกทั้งใบให้สำรวจ มีคนมากมายที่จะมีโอกาสได้พบ แต่เขาเลือกผม ทั้งที่ผมไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าเขาเข้าใจว่าความรักคืออะไร”



“แล้ว…เด็กแก่แดดในชุดเครื่องแบบนักเรียนที่ขอเกศแต่งงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบนี่ คิดว่าตัวเองเข้าใจความรักแล้วจริงๆเหรอคะ?”



คนถูกย้อนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลสะอึก



หากจะให้ตอบตามตรง…เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเขาในตอนนี้เข้าใจความรักถ่องแท้แล้วแน่หรือ



“เสียใจมั้ยคะ ที่แต่งงานกับเกศ?”


“ไม่!” ร่างสูงปฏิเสธอย่างหนักแน่นในทันทีที่ได้ยินคำถาม “คุณกับลูกคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในชีวิตของผม ผมไม่มีวันเสียใจที่ได้แต่งงานกับคุณ ต่อให้ผมรู้ก่อนหน้านั้นว่าตัวเองเป็นแค่ใบเบิกทางให้คุณออกมาจากตระกูลบ้าๆนั่น ผมก็ไม่มีวันเลือกที่จะหันหลังให้คุณ”



ผู้หญิงคนนี้คือแสงสว่างในชีวิตของเขา ไม่มีสิ่งใดจะเปลี่ยนแปลงความจริงข้อนั้นได้



“เกศขอโทษนะคะที่ปิดบังคุณมาตลอด…” เกศราถอนหายใจ ดวงเนตรเรียวสีอัลมอนด์ที่มีเพียงลูกชายคนกลางที่ได้รับสืบทอดหม่นลงเล็กน้อย “เกศรักคุณนะคะเชษฐ์ ถึงมันจะดูไม่เหมือนอย่างนั้น แต่ในชีวิตนี้คนที่เกศรักนอกจากพี่กรรณกับลูกก็คือคุณ คุณไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุด แต่คุณมีค่าพอที่จะถูกรัก อย่าสงสัยในตัวเองอีก เข้าใจมั้ยคะ”



“ผมเกลียดตัวเอง…” สิ่งที่วนเวียนอยู่ในความคิด ในที่สุดก็ได้เอื้อนเอ่ยออกมาด้วยเสียงแหบพร่าสั่นเครือ “ผมเกลียดตัวเองที่ไม่อยากให้คุณเจ็บเพราะรักผม แต่ยังอยากให้คุณรัก…”



“เด็กน้อย…” อ้อมแขนเรียวรั้งร่างสูงใหญ่นั้นเข้ามาในอ้อมกอด โยกไปมาเบาๆราวมารดาที่กำลังขับกล่อมลูกน้อยให้หลับใหล “อะไรที่ผ่านไปแล้ว อย่าเก็บมันมาใส่ใจเลยนะคะ”



“ผมคิดถึงคุณ” ธีรเชษฐ์ซุกเข้าหาอ้อมกอดคุ้นเคยในอดีต กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้เมืองหนาวหวนให้เขานึกถึงความทรงจำของครอบครัวพร้อมหน้า “ลูกๆคิดถึงคุณ”



“เกศรู้…” หญิงสาวยิ้มอ่อนโยน “แต่น้องซันดูจะเข้ากับคุณแม่คนใหม่ได้ดีนะคะ”



“ไม่มีใครแทนคุณได้”



ต่อให้เขารักมีนาเพียงใด ธีรเชษฐ์ก็ยังรู้ดีว่ายังมีเสี้ยวหนึ่งในหัวใจของเขาที่ยังคงเก็บความรักครั้งแรกของตนไว้ เช่นเดียวกับลูกๆของเขาที่จะไม่มีใครมาแตทนที่มารดาบังเกิดเกล้า



“กับน้องอุ่น…เชษฐ์ให้เวลาเขาหน่อยนะคะ” คนเป็นแม่ยังคงไม่คลายกังวลเรื่องของบุตรชาย “เขาจะกลับมาในวันที่เขาพร้อม เด็กที่ชื่อแทนไทยคนนั้นดูแลอุ่นดีมาก คุณกับเมฆอย่าแกล้งเขามากนัก”



“ไม่สัญญาได้มั้ย” คนฟังทำหน้ามุ่ย หัวอกคนเป็นพ่อแค่คิดว่าเจ้าเด็กหัวทองนั่นกล้ามายุ่มย่ามกับลูกน้อยของเขาก็อยากจะตามไปแหกอกถึงที่ เกศราหัวเราะเบาๆ



“น้องซันกับคุณภัทรก็เข้ากันได้ดี…” ว่าแล้วก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง “จะเหลือก็แต่พี่เมฆนี่ล่ะน้า ชอบไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่งด้วย เหมือนพ่อเขาไม่มีผิด”



“ถึงหมอกเขาจะเข้าถึงยากไปบ้าง แต่ผมว่าเด็กคนนั้นก็เป็นเด็กดีนะ” ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้ว อดปกป้องเลขาคนเก่งของตนที่เมฆาคอยตามเทียวไล้เทียวขื่อทุกวันไม่ได้



“อา…นั่นสินะคะ” คนฟังอมยิ้ม แววตาระยิบระยับนั้นทำให้ธีรเชษฐ์อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองพลาดอะไรไป “เชษฐ์ เกศรบกวนคุณได้มั้ยคะ”



“ได้สิครับ อะไรก็ได้ทั้งนั้น” ธีรเชษฐ์พยักหน้าแข็งขัน ไม่ว่าอะไรที่อีกฝ่ายต้องการ เขาจะหามาให้อย่างสุดความสามารถ




“เกศมีชุดจีนพิธีการชุดนึงที่เคยฝากไว้กับป้าแต้ว เป็นชุดพิธีการของเงาในวันที่เข้ารับตำแหน่งตอนอายุสิบหก” เกศราอธิบาย “มันเป็นชุดของพี่ชายของเกศ เกศอยากให้เชษฐ์เอามันให้เมฆ”



“เมฆ? เมฆจะเอาไปทำอะไร?” ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วอย่างงุนงง



“ซักวันลูกจะรู้เองค่ะว่าจะทำอะไรกับมัน” เกศราผละจากคนในอ้อมกอดแล้วลุกขึ้น เป็นสัญญาณว่าบทสนทนาของพวกเขากำลังจะจบลงในไม่ช้า หญิงส่วหันไปหาผู้เป็นพี่ชายที่ยังคงยืนรออยู่ที่เดิม “เกศต้องไปแล้วล่ะค่ะ”



“เกศ…”



“เกศว่าคุณก็ได้เวลากลับไปหาคนที่รออยู่แล้วเหมือนกันนะคะ” เกศรากล่าวยิ้มๆ “ดูแลตัวเองดีๆนะคะเชษฐ์”



“แล้วคุณ…จะไปอยู่กับพี่ชายเหรอ?” ธีรเชษฐ์อดถามไม่ได้ เขาไม่ค่อยมั่นใจว่าโลกหลังความตายนั้นมีการจัดการบริหารอย่างไร เกศราส่ายหน้า



“พี่กรรณเขา…ยังมีเรื่องที่ต้องสะสาง พี่เขาคงล่วงหน้าไปก่อนน่ะค่ะ”



สะสาง?ล่วงหน้า?


“ใช้ชีวิตที่เหลือให้มีความสุข แล้วเจอกันใหม่นะคะ เชษฐ์”



นิ้วเรียวแตะลงที่กลางหน้าผากของสามีที่ยังคงสับสนกับคำตอบนั้น ก่อนที่ความมืดมิดจะกลืนกินชายหนุ่มเข้าไปทั้งตัว









ติ๊ด…ติ๊ด…



เปลือกตาที่หนักอึ้งปรือปรอยอย่างยากลำบาก สภาพแวดล้อมรอบกายที่พร่าเลือนทำให้ธีรเชษฐ์ไม่รับรู้ถึงสิ่งใดนอกจากความอึดอัดจากท่อพลาสติกที่สอดเข้ามาในทางเดินหายใจเพื่อช่วยส่งอากาศเข้าไปในปอดของเขาอย่างขันแข็ง
เขาไม่รู้สึกอะไรจากสะโพกลงไป ร่างทั้งร่างหนักอึ้งจนไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวร่างกายได้ ถึงอย่างนั้น โสตประสาทที่ยังแจ่มชัดจับเสียงที่แสนคุ้นเคยของคนรักที่กำลังคุยกับแพทย์เจ้าของไข้ข้างเตียงได้เป็นอย่างดี



“…เขาจะกลับมาเดินได้เหมือนเดิมครับคุณหมอ”



“ในคนอายุเท่านี้เป้าหมายของการรักษาคือการฟื้นฟูให้กลับมาใช้งานได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ หลังการผ่าตัดจะมีเรื่องของกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องเข้ามามีบทบาท อาจจะเป็นหลักเดือนหรือหลักปีจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่หมอยังให้คำตอบไม่ได้ว่าคนไข้จะกลับมาเหมือนเดิมทั้งหมดมั้ย เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งสภาพร่างกายและความร่วมมือของคนไข้เอง ยังไม่อันตรายถึงชีวิต ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว ใส่สายระบายเลือดที่ออกในเยื่อหุ้มปอด ส่วนเรื่องกระดูกซี่โครงกับแขนที่หัก…”



ความอ่อนล้าดึงหนังตาของธีรเชษฐ์ให้ปิดกลับลงไปอีกครั้ง แต่ใจความสำคัญนั้นเขายังคงได้รับมันอย่างถี่ถ้วน



อยากเอื้อมมือคว้าร่างเล็กๆนั้นเข้ามาในอ้อมกอด คิดถึงจนแทบขาดใจทว่าร่างกายกลับไม่ฟังคำสั่ง



และจากที่ฟัง ร่างกายของเขาจะยังคงเป็นเช่นนี้ไปอีกระยะหนึ่ง



เขารู้สึกถึงมือเล็กๆที่สอดกุมประสานกับมือที่วางนิ่งของตน



“การทำกายภาพบำบัดและดูแลคนไข้ หลังจากออกจากโรงพยาบาลต้องใช้ความร่วมมือจากญาติพอสมควรนะครับ คนไข้มีผู้ดูแลหลักที่อยู่ดูแลเขาทุกวันมั้ยครับ?”



“ผม…ผมเองครับ” เสียงเล็กฟังดูอ่อนล้าคล้ายไม่ได้พักผ่อนมานาน ”ผมคุยกับคณะเรื่องหยุดเรียนแล้ว…”



หัวใจของคนฟังบีบตัวแน่นอย่างปวดร้าวกับสิ่งที่ออกมาจากปากของคนรัก



เอาอีกแล้ว…



เขาทำให้คนที่เขารักต้องลำบากเพราะเขาอีกแล้ว




สติสัมปชัญญะเริ่มล่องลอยด้วยฤทธิ์ของยาแก้ปวดหลายขนานในกระแสเลือด สิ่งสุดท้ายที่ธีรเชษฐ์รับรู้คือหยาดน้ำตาที่ร่วงเผาะลงมาบนหลังมือของตน



ขอโทษนะมีน…



ขอโทษนะ ที่ทำให้ต้องร้องไห้อีกแล้ว…







ท่อช่วยหายใจถูกถอดออกไปหลังจากนั้น ธีรเชษฐ์นิ่วหน้ากับความแสบระบมในลำคอ เมื่อเขาตื่นมาก็ไม่พบร่างเล็กของคนรักเสียแล้ว แต่จากคำบอกเล่าของพยาบาล มีนาออกไปจัดการเรื่องเอกสารและแจ้งข่าวอาการของเขาให้กับคนที่รอฟัง ร่างสูงถอนหายใจ ก้มมองสภาพที่ไม่ต่างจากมัมมี่รอสายฟ้าฟาดชุบชีวิตของตนอย่างอดสู แขนขวาถูกผ่าตัดใส่เหล็กดามไว้จากภายใน ส่วนร่างกายท่อนร่างยังคงให้ความรู้สึกชาหนึบราวกับไม่ใช่ส่วนหนึ่งของร่างกาย



ประตูห้องถูกเปิดออก ทีแรก ธีรเชษฐ์คิดว่าคนที่กลับเข้ามาจะเป็นมีนา แต่ร่างที่ก้าวเข้ามาพร้อมกับดวงตาที่แดงก่ำทำให้ร่างสูงเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ



“พ่อ…พ่อครับ”



ก่อนที่คำเรียกที่ธีรเชษฐ์ไม่คิดว่าจะได้ยินอีกครั้งจะหลุดออกมาจากปากของธารธารา



“ธะ…ธาร…” เสียงทุ้มยังคงแหบพร่าโรยแรง ประกอบกับหน้ากากออกซิเจนที่ครอบไว้ทำให้เสียงของเขาอู้อี้จนฟังไม่ได้ความ เด็กหนุ่มทรุดลงข้างเตียงของเขา ดวงหน้าที่ถอดแบบมารดามามากกว่าแดงก่ำจากแรงสะอื้นก่อนหน้า



“อยากตายมากนักเหรอครับ”



“ธาร…”



“ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งพี่เมฆ ทำไมทุกคนที่ผมรักถึงต้องเจอเรื่องแบบนี้ทุกครั้ง ผมทำอะไรผิดเหรอ ทำไมทุกคนถึงอยากไปจากผม…”



หน่วยตาใสรื้นด้วยน้ำตาอีกครั้ง แม้อยากจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มใสแต่ทำไม่ได้ ดูเหมือนว่าธีรเชษฐ์จะมีความสามารถในการทำให้คนที่ตัวเองรักร้องไห้เสียเหลือเกิน



“ขอ…โทษ…” ผู้เป็นพ่อพยายามแค่นเสียงออกมาอย่างยากลำบาก ธารธารายกมือขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ ตีสีหน้าหงุดหงิดกลบเกลื่อนความอับอายที่ร้องไห้ต่อหน้าคนตรงหน้าเป็นครั้งที่สอง



“ไม่ตายก็ดีแล้ว” ลูกชายคนรองของเขาแสร้งกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ แม้แววตายังฉายชัดว่าเป็นกังวล ธีรเชษฐ์ขยับยิ้มอย่างอ่อนเพลีย “แล้วเด็กนั่นไปไหน ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องเลยทิ้งคุณไปแล้วหรอกนะ”



คนป่วยขยับศีรษะให้ธาราราโน้มเข้ามาใกล้ แม้ลำคอยังแห้งผากแต่เรื่องที่เขาจำเป็นจะต้องขอให้ธารธาราทำให้นั้นไม่
สามารถรอนานกว่านี้ได้



‘ใช้ชีวิตที่เหลือให้มีความสุข...’



ขอโทษนะครับเกศ...



ไม่ทันไร ผมก็ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับคุณซะแล้ว




กาแฟที่ซื้อมาแทนอาหารเช้าแทบจะร่วงหล่นลงไปบนพื้นเมื่อมีนาได้ยินจากปากของคุณพยาบาลว่าคนรักฟื้นคืนสติโดยสมบูรณ์แล้ว เด็กหนุ่มที่อดหลับอดนอนตั้งแต่ลูกน้องของคุณนิโคไลพาเขามาส่งที่หน้าห้องผ่าตัดรู้สึกราวกับความอ่อนเพลีย
ที่สะสมมาทั้งวันปลิดปลิวหายไปทันทีที่ได้ยินดังนั้น รอยยิ้มที่เหือดหายไปตั้งแต่ได้ยินข่าวอุบัติเหตุของคนรักกลับคืนมาสู่ใบหน้าอิดโรย



หลังจากที่หนีออกมาจากงานแฟชั่นโชว์ตามคำสั่งของคนรัก ชายหนุ่มชาวต่างชาติพาเขามาส่งที่รีสอร์ทขนาดกลางแห่งหนึ่งที่อีกฟากของตัวเมือง ทันทีที่ก้าวลงมาจากรถ กลิ่นดอกมะลิที่ลอยมาตามสายลมและเสียงน้ำตกรินเอื่อยให้ความรู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด สุดสายตามีเพียงต้นไม้ร่มรื่นเขียวขจี ไม่คิดว่าใกล้ชายทะเลจะมีสถานที่ที่เหมือนกับบ้านสวนเช่นนี้อยู่



“คุณมีนา เชิญทางนี้ค่ะ” หญิงสาวในชุดผ้าไหมไทยที่ยืนรอรับเขาอยู่ด้านหน้าก้าวนำมีนามาจนถึงบ้านพักสีข้าวหน้าตาน่ารักหลังหนึ่งติดธารน้ำตก ภายในห้องตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยเตียงไม้ฉลุลายสีขาวหลังโปร่ง เฟอร์นิเจอร์ด้านในทำให้นึกถึงเรือนไทยประยุกต์ที่มีนาเคยเห็นผ่านๆในตัวอย่างบ้านที่ทินกรมักนำมาปรึกษาพวกเขาเรื่องการออกแบบให้ภรัณยูในอนาคต เด็กหนุ่มต้อองยอมรับว่ารีสอร์ทบรรยากาศร่มรื่นนี้ถูกจริตเขากว่าโรงแรมห้าดาวที่เพื่อนสนิทของธีรเชษฐ์เป็นเจ้าของอยู่มาก มีนายกน้ำใบเตยหอมที่รินไว้รับรองแขกขึ้นดื่มอึกใหญ่ แม้อยากจะโทรคนรักเพื่อสอบถามว่าอีกฝ่ายจะมาถึงตอนไหน แต่เมื่อธีรเชษฐ์เป็นฝ่ายขอให้เขารออยู่ที่นี่ มีนาจึงไม่อยากรบกวน



บนเตียงมีเสื้อผ้าชุดหนึ่งพับวางไว้พร้อมดอกกุหลาบสีขาวหนึ่งดอกที่วางทับไว้ด้านบน เด็กหนุ่มจึงเลือกที่จะคว้าเสื้อผ้าชุดนั้นแล้วก้าวเข้าไปในห้องน้ำที่มีอ่างไม้ขนาดใหญ่รองน้ำอุ่นลอยดอกไม้เตรียมพร้อมไว้ให้แช่กาย นอกจากนั้นยังมีถังแช่น้ำสมุนไพรและแก้วแชมเปญเรียวเล็กวางเคียงคู่อย่างรู้ใจคนไม่ดื่มของมึนเมา



‘อาบน้ำแต่งตัวหอมๆเป็นเด็กดีรอฉันอยู่ที่นั่น ปิดโทรศัพท์ ตัดขาดจากโลกภายนอก ให้โลกนี้มีแค่เราสองคนทั้งวัน...ทั้งคืน...’



ดวงหน้าน่ารักขึ้นสีเรื่อเพียงแค่นึกถึงคำพูดของคนรัก ปล่อยอาภรณ์ตัวบางให้ร่วงหล่นลงบนพื้นกระเบื้องสีขาว รู้สึกว่าตนกลายเป็นเด็กน้อยแสนซุกซนดังที่ธีรเชษฐ์ชอบกล่าวหาเมื่อเขาปล่อยให้เสื้อผ้าของตัวเองกระจัดกระจายอยู่บนพื้น



ทว่าหลังจากแช่น้ำอุ่นจนกล้ามเนื้อที่เขาไม่รู้ว่าปวดเมื่อยผ่อนคลายไปทั้งตัว จนนอนเกลือกกลิ้งรอคนที่สัญญาว่าจะตามมาหาบนเตียงอยู่นานสองนาน ธีรเชษฐ์ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมาถึง จนในที่สุดมีนาที่ทนไม่ไหวจึงหยิบรีโมทโทรทัศน์ขึ้นมาเพื่อเปิดหาอะไรดูฆ่าเวลา ทว่าทันทีที่หน้าจอสี่เหลี่ยมถูกเปิด สิ่งแรกที่เขาเห็นคือภาพของโรงแรมที่ตนจากมาโขมงคลุ้งด้วยควันไฟและเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ มีนารู้สึกว่าหัวใจของตนหยุดเต้นเมื่อเห็นผู้คนที่ิวิ่งหนีตายออกมาจากโรงแรมที่คล้ายจะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ



"...มาต่อกันที่เหตุระเบิดที่โรงแรมธาราสาขาxxxกันนะคะ ขณะนี้เจ้าหน้าควบควมเพลิงไว้ได้แล้ว ยังไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากการก่อการร้ายหรืออุบัติเหตุ ทางด้านผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตยังไม่มีรายงานตัวเลขที่ชัดเจน ทั้งนี้จุดที่ระเบิดเป็นบริเวณที่อยู่ใกล้กับงานแฟชั่นโชว์ ทำให้มีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก...”



มือที่สั่นเทาควานหาโทรศัพท์ของตัวเองแล้วรีบกดโทรหาคนรัก ทว่าปลายสายกลับไม่มีสัญญาณตอบรับ มือเรียวเล็กชื้นเหงื่อเมื่อเขาพยายามติดต่ออีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยังไม่สามารถละสายตาจากภาพเหตุการณ์สะเทือนขวัญตรงหน้าได้
เมื่อเห็นว่าความพยายามของตนไร้ผล เด็กหนุ่มรีบพุ่งตัวออกไปจากห้องเพื่อกลับไปยังสถานที่เกิดเหตุด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ ทว่าร่างสูงใหญ่ของชาายหนุ่มชาวต่างชาติที่เขาคิดว่ากลับไปแล้วหลังจากมาส่งเขากลับก้าวมาขวางทางมีนาไว้ด้วยสีหน้าจริงจัง



“คุณมีนา...”



“ผมต้องรีบกลับไปที่โรงแรม คุณเชษฐ์...คุณเชษฐ์...” มีนาละล่ำละลัก ดวงเนตรกลมโตร้อนผ่าว ภาพตรงหน้าเริ่มพร่าเลืนด้วยหยาดน้ำตาที่เอ่อล้นขอบตา



เขาต้องไปหาคุณเชษฐ์



“คุณเชษฐ์ไม่ได้อยู่ที่โรงแรมแล้วครับ” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กล่าว ดวงตาของอีกฝ่ายอ่อนลงอย่างเห็นอกเห็นใจ “ทำใจดีๆไว้นะครับ”



“คุณเชษฐ์อยู่ไหนครับ?! พาผมไปหาคุณเชษฐ์ที ขอร้องล่ะ คุณเชษฐ์...คุณเชษฐ์อยู่ที่ไหน....”



เขารู้สึกเหมือนคนเสียสติ ขยุ้มเสื้อของคนตัวสูงกว่าเป็นเท่าตัวเขย่าอย่างบ้าคลั่ง ความหวาดกลัวเกาะกุมจิตใจ ทั้งต้องการคำตอบและหวาดกลัวที่จะได้ยินมันในเวลาเดียวกัน



“อยู่ในห้องผ่าตัดครับ คุณนิโคไลสั่งให้ผมพาคุณไปที่โรงพยาบาล”



มือที่เขย่าร่างสูงใหญ่ของบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างเอาเป็นเอาตายพลันหมดเรี่ยวแรงเอาเสียดื้อๆ
หลังจากได้ยินคำพูดจากปากของอีกฝ่าย ในที่สุดมีนาก็ได้เข้าใจ....


ว่าคำว่าโลกทั้งใบแตกสลายนั้นความจริงแล้วมันรู้สึกอย่างไร





==========(ต่อ)==============
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ)Chapter 49: รอยยิ้มที่จางหาย [3-12-62] คห.859-860
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 07-12-2019 23:19:28



มีนาวิ่งกลับมาที่หน้าห้องพักของธีรเชษฐ์เร็วที่สุดเท่าที่ขาเล็กๆของเขาจะนำพา หลังจากได้ยินจากปากของคุณหมอว่าอาการของอีกฝ่ายพ้นขีดอันตรายแล้ว มีนาแทบจะทรุดลงไปกราบไหว้ขอบคุณทั้งทีมแพทย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ไม่พรากธีรเชษฐ์ไปจากเขา การบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังของธีรเชษฐ์นั้นแม้ไม่สามารถการันตีว่าจะอีกฝ่ายจะสามารถกลับมาเดินเหินได้เต็มร้อยในเวลานี้ แต่มีนากลับไม่นึกใส่ใจ เขาไม่รู้สึกอะไรด้วยซ้ำตอนที่โทรไปสอบถามเรื่องระเบียบการพักการเรียนในปีการศึกษานี้เพื่อดูแลคนเจ็บ เขาพร้อมที่จะทำทุกอย่างให้อีกฝ่ายมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยสิ่งใด



ขอแค่ได้คุณเชษฐ์กลับมา เขาไม่สน เขาไม่สนอะไรทั้งนั้น



หัวใจของมีนาเต้นระรัวอย่างลิงโลดเมื่อเห็นหมายเลขประตูห้องใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทว่าประตูที่เปิดออกเองจากข้างในและร่างที่ก้าวออกมาทำให้ฝีเท้าของมีนาหยุดอยู่กับที่อย่างตื่นตระหนก



“อะไรกัน? ยังอยู่ที่นี่อีกเหรอ?” ธารธาราเอียงคอถามด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย “หรือคิดว่าถ้าเขานอนป่วยอยู่แบบนี้จะปอกลอกเขาได้ง่ายกว่ากันแน่?”



“คุณ…คุณธาร?” ธารธารามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?



“ใช่ ผมเอง ลูกชายแท้ๆที่มีสิทธิ์เข้าเยี่ยม ไม่ใช่คนที่แอบอ้างตัวเป็นญาติให้หมอยอมบอกคุณว่าพ่อผมจะตายเมื่อไหร่” ในยามที่ไม่มีคนอยู่รอบข้างธารธาราไม่คิดแม้แต่จะเสแสร้งปั้นแต่รอยยิ้มหรือคำพูดสวยหรู ดวงหน้าสวยหวานเกินชายย่นจมูกราวกับได้กลิ่นขยะเหม็นเน่า “บอกตามตรง ผมประทับใจมากนะที่คุณหลอกคนอย่างพ่อจนหลงหัวปักหัวปำได้ขนาดนี้”



“มะ…ไม่ใช่นะครับคุณธาร ผมไม่ได้...”



“แต่ก็นะ ละครปาหี่ของคุณมันก็มาได้ถึงเท่านี้นั่นแหละนะ” ธารธาราไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ รอยยิ้มมุมปากที่ใครว่ากันว่าบริสุทธิ์สดใสชำระล้างจิตใจของนางฟ้าแห่งคณะแพทย์ในยามนี้กลับทำให้มีนารู้สึกบิดมวนในช่องท้อง  “หลังจากที่แม่เสีย
ผมออกจากบ้าน พี่เมฆกับซันไปเมืองนอก ไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกเหงาจนต้องคว้าหา...” ดวงเนตรเรียวสีอัลมอนด์ไล่มองมีนาตั้งแต่หัวจรดเท้า “สัวต์เลี้ยงมาไว้เป็นเพื่อนเล่น แต่ในเมื่อตอนนี้ครอบครัวของเขากลับมาแล้ว ผมไม่คิดว่าคุณมีความจำเป็นอีกแล้วล่ะ มีนา”


“คุณธาร ผมขอร้อง ให้ผมเข้าไปหาคุณเชษฐ์เถอนะครับ” มีนาอ้อนวอน วาจาดูถูกเหยียดหยามที่อีกฝ่ายกล่าวมานั้นเทียบไม่
ได้เลยกับความรู้สึกร้อนรนใจของมีนาในตอนนี้



เขาอยากเห็นว่าธีรเชษฐ์ฟื้นแล้วจริงๆด้วยตาของตัวเอง



“โชคดีนะ ที่เขาตาสว่างง่ายกว่าที่ผมคิด” ธารธารายื่นซองเอกสารปึกหนึ่งให้กับมีนาที่มองมันอย่างระแวงระวัง “นี่เป็นตั๋วเครื่องบินขากลับ เงินค่ารักษาพยาบาลแม่ของคุณทั้งหมดกับเงินอีกสิบล้าน แล้วก็ห้องคอนโที่พ่อพาคุณไปกกไว้ เขายกให้คุณทั้งหมด”



“ผม…ไม่เข้าใจ”



ธารธารากลอกตาอย่างเหนื่อยใจกับท่าทีสับสนของร่างเล็ก



“จดหมายเลิกจ้าง แบบนี้เข้าใจง่ายกว่ามั้ย”



“คุณธาร ผมขอคุยกับคุณเชษฐ์เถอนะครับ...” ไม่มีทางที่ธีรเชษฐ์จะทำเรื่องแบบนั้นกับเขา มีนารู้



“มีอะไรต้องคุยอีก นี่คุณฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรือยังไงกัน” ร่างโปร่งเลิกคิ้ว เมื่อเห็นว่ามีนาไม่มีทีท่าจะรับซองไปจากมือของเขา คนอายุมากกว่าจึงโยนมันลงบนพื้นแทบเท้าของร่างเล็กอย่างไม่ใส่ใจ “อ้อ เขาฝากมาบอกด้วยว่า ‘จะไปไหนก็ไป’ น่ะนะ”


“ขอผมเจอคุณเชษฐ์เถอะครับ ผมไหว้ล่ะ ขอผมได้เห็นเขาสักนิดก็ยังดี นะครับคุณธาร”



มีนาทรุดกายลงบนพื้น พนมมือก้มกราบแทบเท้าของผู้ที่ขวางกั้นตนกับประตูห้องไว้ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ในตอนนี้เขาเพียงแค่ต้องการได้เห็นหน้าคนรัก ต่อให้ต้องร้องไห้กอดเข่าอ้อนวอนให้ธารธารายอมให้เขาเข้าไป มีนาก็จะทำมันอย่างไม่ลังเล
สีหน้าหยิ่มยิ่มย่อของลูกชายคนรองแห่งบ้านทรัพย์ดำรงผงะไปเล็กน้อยอย่างไม่คาดคิดก่อนจะเรียกสติกลับมาอย่างรวดเร็ว ปั้นสีหน้าเรียบเฉยติดไม่สบอารมณ์แล้วเปิดประตูห้องออกเพื่อตัดรำคาญ



“ถ้าพูดยากนักก็ลองถามเขาเอาเองแล้วกัน”



มีนาเงยหน้าขึ้นจากพื้น ภาพของร่างสูงที่เคยนอนนิ่งบนเตียงบัดนี้นั่งพิงพนักเตียงมองมาที่เขาด้วยแววตาที่มีนาไม่เข้าใจ
ก้อนเนื้อในอกพองโตอย่างมีความสุขที่ได้เห็นอีกฝ่ายฟื้นคืนสติครบถ้วนอย่างที่ว่า ก่อนจะบีบตัวแน่นจนแทบหายใจไม่ออกเมื่อเห็นอีกฝ่ายเบือนหน้าหนีอย่างไม่คิดจะสนทนา



“ถ้าให้เขาเลือกระหว่างสายเลือดกับ ‘คนนอก’ อย่างคุณ คงคิดไม่ยากนะว่าพ่อเลือกที่จะอยู่กับใครในเวลาแบบนี้” ธารธาราทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ “อ้อ แล้วก็อย่ากลับมาอีกล่ะ ถ้าไม่อยากโดนโยนออกไป ผมแจ้งชื่อคุณเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว”
ประตูห้องพักผู้ป่วยปิดลงพร้อมหยาดน้ำตาที่ร่วงเผาะลงมาบนพื้นทางเดิน มีนาปาดน้ำลวกๆแล้วรวบรวมเอกสารที่กีะจัดกระจายบนพื้นขึ้นอย่างไม่มีทางเลือก...



…ก่อนจะสะดุดกับเศษกระดาษพับครึ่งเล็กๆแผ่นนึงที่ร่วงหล่นลงมา








“ชอบจังเลยนะครับ ให้ผมเป็นตัวร้ายเนี่ย”




ธารธารากล่าวขึ้นเมื่อประตูห้องพักปิดลง แม้จะรู้สึกผิดอยู่เต็มอกที่ต้องยืมมือลูกชายทำเรื่องสกปรก แต่ธีรเชษฐ์รู้ว่าลำพังตัวเองคงไม่มีทางบอกเลิกมีนาได้ลง และเด็กดื้อรั้นของเขาคงไม่ยอมไปจากข้างกายในเวลาเช่นนี้ แค่ที่ได้เห็นได้ฟังเมื่อครู่ก็บีบเค้นจิตใจมากพออยู่แล้ว



“เหมาะ...กับเธอดี...” ร่างสูงกล่าวเสียงกระท่อนกระแท่น



“ก็ต้องเหมาะสิครับ” ร่างโปร่งระบายยิิ้มน้อยๆคล้ายรับว่าเมื่อครู่เป็นคำชมจากบิดา “ก็ผมเป็นลูกชายคุณนี่”


“ขอบใจ...”


“ยินดีเสมอครับ” ลูกชายคนรองนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงของเขา “ผมชักจะคิดแล้วสิ ว่าเรื่องที่ชอบผลักไสสิ่งดีๆไปจากชีวิตเนี่ยมันถ่ายทอดทางพันธุกรรมในตระกูลเรารึเปล่า”


“….” ธีรเชษฐ์เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจที่ได้ยินคำว่า ‘สิ่งดีๆ’    หลุดออกมาจากปากของธารธาราเมื่อพูดถึงมีนา



“แต่ก็ดีแล้วล่ะครับ” นิ้วเรียวเกลี่ยเส้นผมออกจากใบหน้าของผู้เป็นบิดาอย่างเบามือ “ของบางอย่าง เราไม่มีวันรู้คุณค่าขงมันถ้าไม่เสียมันไป จริงมั้ยครับ?”



จริงอยู่ที่ในหลายๆครั้งมันเป็นเช่นนั้นสำหรับธีรเชษฐ์


แต่เรื่องของมีนา ต่อไปไม่ต้องเสียอีกฝ่ายไป เขาก็รู้อยู่เต็มอก ว่าเด็กคนนั้นมีค่ากับเขามากแค่ไหน



‘คุณมีค่าพอที่จะถูกรัก....’



ไม่หรอกครับเกศ....




ผมน่ะ ไม่คู่ควรกับการถูกเด็กคนนั้นรักสักนิด

----------

จะจบแล้วฮืออออออ
เป็นนิยายที่เข็นมาตลอดสามปี จิร้องไห้ ใกล้แล้ววววว ลูกๆของหมูน้อยใกล้จะมีความสุขแล้ว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 50: ไม่มีค่าพอ [7-12-62] คห.874-5
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 08-12-2019 00:34:38
ลุ้งงงงงใจร้ายจัง ทำร้ายจิตใจตัวเองไม่พอ ทำร้ายใจเด็กน้อยเข้าไปอีก.  :katai1:

แต่ก็ดีใจกับลุงนะ ที่ลูกคนรองธารธารากลับมาหาพ่อแล้ว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 50: ไม่มีค่าพอ [7-12-62] คห.874-5
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 08-12-2019 01:50:45
เบื่อบทพระเอกคนดีชอบคิดแทนตลอดกลัวคนรักลำบากกลัวทำลายอนาคตเค้า ตัดสินเอง คิดเองเก่ง แต่ดันไม่ถามคนที่ตัวเองรักว่าเค้าต้องการอะไร :mew5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 50: ไม่มีค่าพอ [7-12-62] คห.874-5
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 08-12-2019 02:35:58
คิดเองเออเก่ง
แล้วทำไมถึงไม่คิดซักนิดบ้างว่ามีนาต้องมาเจออะไรแบบนี้ซ้ำอีกรอบเหรอ
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 50: ไม่มีค่าพอ [7-12-62] คห.874-5
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 08-12-2019 09:06:05
อะไรกัน รังแกน้องมีนอีกแล้ววว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 50: ไม่มีค่าพอ [7-12-62] คห.874-5
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-12-2019 10:39:33
บีบคั้นหัวในมาก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 50: ไม่มีค่าพอ [7-12-62] คห.874-5
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 08-12-2019 14:34:18
ถ้าไม่อยากให้มีนาหยุดเรียน ก็แค่จ้างคนดูแลก็ได้นี่
ไม่เห็นต้องไล่มีนาไปอย่างนี้เลย แล้วคิดว่ามีนาจะรับทุกอย่างที่ให้ไปเหรอ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 50: ไม่มีค่าพอ [7-12-62] คห.874-5
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 08-12-2019 15:09:40
ม่ายยยยยยยยยยสงสารหนูมีนง่าาาา ทำไมตาลุงทำแบบนี้ห้ะะะะะะะะะะะะะะะ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 50: ไม่มีค่าพอ [7-12-62] คห.874-5
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-12-2019 22:23:03
อะไร ๆ ก็มาลงกับหนูมีนทุกทีซิน่า สู้ ๆ หนูมีนคนเก่ง  :3125:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 50: ไม่มีค่าพอ [7-12-62] คห.874-5
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 08-12-2019 23:04:14
บ้าบอมากค่ะ ไม่อยากให้น้องลำบาก แต่ความเสียใจที่เกิด
ไม่ช่วยให้หายลำบากได้เหมือนกันนะคะ ธีรเชษฐ์

มีนเสียใจที่คนรักเจ็บตัว อยากดูแล อยู่เคียงข้าง
แต่ตอนนี้กลับถูกไล่ จะให้น้องดีใจได้ยังไง

แต่ว่าๆๆๆๆ มีจดหมายสอดไส้ อยากรู้ว่า ข้างในว่ายังไงบ้างนะ

ธารมาไวมากเลยค่ะ ดูเข้าใจกันมาบ้าง
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 50: ไม่มีค่าพอ [7-12-62] คห.874-5
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 08-12-2019 23:38:35
ดราม่าท้างงงงงงงเรื่อง
อิคุณเชษฐ์ก็คือคิดเองเออเองเก่ง สั่งเก่ง เจ้ากี้เจ้าการ ถามเด็กมันก่อนนะ ปัดโธ่ว้อยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 50: ไม่มีค่าพอ [7-12-62] คห.874-5
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 09-12-2019 02:49:56
ลุง ทำไมอยู่ดีๆก็อยากจะเป็นคนดีและคิดเองเก่งจริงๆ หนูมีนร้องไห้แล้ว กระดาษแผ่นนั้นธารต้องเขียนบอกอะไรแน่เลย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 50: ไม่มีค่าพอ [7-12-62] คห.874-5
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-12-2019 10:49:35
ดราม่าหนักมาก!
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 50: ไม่มีค่าพอ [7-12-62] คห.874-5
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 09-12-2019 12:47:58
คุณเชษฐ์ใจร้ายมาก อยากดึงมีนามาโอ๋ ฮรืออ อ่านแล้วน้ำตาไหลลล 555 อยากจับคุณเชษฐ์มาตี !!
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 50: ไม่มีค่าพอ [7-12-62] คห.874-5
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 14-12-2019 23:04:10
บทที่ 51 สัญญาฉบับสุดท้าย



“มึงนี่นะ ไม่เห็นต้องลำบากมาเองเลย กูให้เมฆมารับก็ได้”


ธีรเชษฐ์กล่าวกับเพื่อนสนิทที่บินมารับเขากลับจากโรงพยาบาลมาที่คฤหาสน์ทรัพย์ดำรงครั้งแรกในรอบสามเดือนที่ผ่านมา
แม้ว่าหลังจากที่อาการของเขาคงที่แล้วแพทย์จะแนะนำให้ร่างสูงกลับมารักษาต่อใกล้บ้านของตน แต่ชายหนุ่มที่ไม่ต้องการสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยในตอนนั้นตัดสินใจที่จะเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลเดิม


“ลูกมึงตัวติดแฟนเป็นตังเม คิดว่าเขาจะอยากมารับมึงรึไง” คเชนทร์กลอกตาอย่างเหนื่อยใจ “คนอื่นเขาก็มีภาระของเขา มีกูเนี่ยที่มีมึงเป็นภาระจนถึงทุกวันนี้”



“โธ่ ขาดกูไปซักคนมึงจะดูแลใคร” คนเจ็บแสร้งถูไถหน้ากับมือของเพื่อนสนิทที่ชักออกด้วยสีหน้ารังเกียจอย่างไม่ปิดบัง



“คนไข้กูเต็มวอร์ด“



ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่คนที่บินไปกลับทุกสุดสัปดาห์เพื่อดูแลธีรเชษฐ์ที่ทำกายภาพบำบัดยังคงไม่คิดที่จะปล่อยเพื่อนสนิทให้อยู่คนเดียวในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่กว่าสภาพร่างกายอยู่มากเช่นนี้



“แล้ว…เขาเป็นยังไงบ้าง…”



และนี่คือคำถามที่คเชนทร์ได้ยินทุกครั้งที่เห็นหน้าเพื่อนสนิทของตน ถึงแม้อาจารย์แพทย์และนักศึกษาปีหนึ่งของคณะจะไม่ได้พบเจอกันบ่อยนัก คเชนทร์ยังคงถือเป็นหน้าที่ของตัวเองที่จะมองหาข่าวสารของคนรักตัวเล็กของธีรเชษฐ์มาเล่าให้เพื่อนสนิทฟังทุกครั้งที่สามารถทำได้



เพราะดูเหมือนนั่นจะเป็นสิ่งเดียวที่สร้างรอยยิ้มให้กับธีรเชษฐ์ได้ในตอนนี้



หลังจากที่ธีรเชษฐ์ตัดความสัมพันธ์กับคนรัก ลูกชายคนเล็กที่ไม่ค่อยบันดาลโทสะกับใครง่ายๆถึงกับหอบผ้าหอบผ่อนพาแฟนหนีไปอยู่หอพักใกล้มหาวิทยาลัยชั่วคราว ไม่ยอมติดต่อกลับมานอกจากเรื่องงานในบริษัท คเชนทร์จึงเป็นความหวังเดียวของธีรเชษฐ์ที่จะได้รับรู้เรื่องราวของมีนา



“ก็…ดูมีความสุขขึ้นนะ” แม้ว่าในระยะหลังมานี้ เขาจะไม่อยากเล่าเรื่องของมีนาให้อีกฝ่ายฟังมากนักก็ตาม



“ยังคุยกับคนเดิมอยู่เหรอ”



คเชนทร์พยักหน้าอย่างลังเล ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาเป็นมีนาไปไหนมาไหนกับนักศึกษาที่ดูเหมือนจะเรียนอยู่ปีสูงกว่าที่เขาไม่รู้จักอยู่เสมอ ส่วนใหญ่ทั้งสองใช้เวลาอยู่ในห้องสมุด แต่มีบางครั้งที่คเชนทร์เห็นมีนากับเด็กคนนั้นอยู่ในร้านกาแฟของโรงพยาบาลที่เขามักจะไปซื้อเป็นประจำ สีหน้าของลูกศิษย์ของเขาดูร่าเริงสดใสอย่างที่คเชนทร์ไม่ได้เห็นมานาน
ส่วนธีรเชษฐ์นั้น หลังจากที่ตัดสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของตนออกไป ชายหนุ่มใช้ชีวิตเหมือนกับตัวเองเป็นหุ่นยนต์ไร้ความรู้สึกนึกคิด สิ่งเดียวที่ทำให้ร่างสูงฮึดสู้เพื่อกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้มากที่สุดคือความหวาดกลัวที่จะเป็นภาระให้กับบุตรชายทั้งสาม แขนขวาในตอนนี้กลับมาใช้งานได้บ้างแล้วแม้ว่าเรื่องการเดินนั้นจะยังคงยากลำบากอยู่มากก็ตาม แต่โดยรวมแล้วการกลับมาเป็นเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่สิ่งที่อยู่ไกลเกินเอื้อมคว้า




ถึงอย่างนั้น บาดแผลภายในใจที่ตนเป็นผู้กรีดเปิดกับมือกลับไม่มีทีท่าว่าจะหายไปเองในเร็ววัน กลับกัน ยิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่ ธีรเชษฐ์ยิ่งรู้สึกว่าอากาศที่หายใจราวกับเข็มนับร้อยพันแท่งที่แทงลึกทุกขั้วอณูปอด




คิดถึง…คิดถึงจนแค่หายใจก็เจ็บไปหมด



“…ดีแล้วล่ะ” ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ “ถ้าเขาเจอคนที่ทำให้เขามีความสุขได้ กูก็ดีใจ”




“มึงนี่นะ” คเชนทร์ขยี้ผมเพื่อนสนิทอย่างหมั่นไส้ “เรื่องโง่ๆนี่ขยันทำนัก”



“แล้วมึงอ่ะ” มือข้างที่ยังใช้การได้ยกขึ้นจัดทรงผมของตนให้เข้าที่เข้าทาง “ไม่คิดจะให้โอกาสคุณนิโคไลอธิบายบ้างเหรอ?”




หลังจากวันที่คเชนทร์ไล่ตะเพิดมาเฟียหนุ่มที่ธีรเชษฐ์เพิ่งรู้ว่าคอยตามเทียวไล้เทียวขื่อเพื่อนสนิทของตนอยู่ตลอดออกไปจากชีวิต นิโคไลก็ไม่เคยย่างเท้ากลับมาที่นี่อีก ส่วนทางด้านคะชนทร์นั้น แม้หลังรู้ความจริงจากปากธีรเชษฐ์ว่าเรื่องทั้งหมด



ไม่ได้เกิดจากฝีมือของนิโคไล อีกฝ่ายยังคงไม่เคยคิดที่จะลดกำแพงรอบกายของตัวเองลง



“มีอะไรจะต้องอธิบาย” คเชนทร์กล่าวเสียงเรียบ “เขามีโลกของเขา กูมีโลกของกู เรื่องระหว่างเขากับกูจะเรียกว่าคนรู้จักยังไม่ได้ด้วยซ้ำ“




แม้จะนึกสงสารมาเฟียหนุ่มอายุน้อยกว่า แต่ธีรเชษฐ์ยังคงอดรู้สึกโล่งใจเล็กๆไม่ได้ที่อย่างน้อยเพื่อนสนิทก็ไม่ต้องเข้าไปพัวพันกับคนอันตรายแบบนั้น



“งั้นมึงก็คงต้องอยู่แบกภาระอย่างกูอยู่นี้นั่นแหละ” คนเจ็บเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ “ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ตบแต่งย้ายทะเบียนบ้าน
มาอยู่กับกูเลยมั้ยล่ะ ยังไงลูกกูก็เห็นมึงเป็นแม่คนที่สองอยู่แล้ว…โอ๊ย!”



“ตื่นรึยัง อีกซักป้าบมั้ย” มะเหงกในมือเตรียมพร้อมประเคนให้ทุกเมื่อ ธีรเชษฐ์ลูบศีรษะป้อยๆด้วยสีหน้าเหมือนลูกสุนัขโดนเตะที่มีแต่จะออดอ้อนบาทาของคนมองให้สั่นระริก



“ใจร้าย…แบบนี้ไงมึงถึงไม่มีผัว…”



“ถามกูหน่อยว่ากูอยากมีมั้ย”



“ถ้ายังติดใจของนอกกูมีเพื่อนแนะนำเยอะแยะ…” เสียงพูดคุยหยอกล้อของคนทั้งสองเงียบหายไปเมื่อมาถึงประตูบ้านบ้านยักษ์ที่มีร่างร่างหนึ่งยืนรออยู่พร้อมรอยยิ้มกว้าง ธีรเชษฐ์นิ่งค้าง จ้องมองมีนาในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นราวกับว่าสถานที่แห่งนี้คือบ้านของตนด้วยสีหน้าตื่นตะลึง



เห็นได้ชัดว่าในสามเดือนที่ผ่านมา มีนาดูแลใส่ใจตัวเองมากแค่ไหน เด็กหนุ่มไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่มาตั้งแต่ต้น แต่มีนาในตอนนี้กลับดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล หากจะพูดให้เห็นภาพง่ายๆ คงต้องบอกว่าเด็กหนุ่มเหมือนคนที่กำลังมีความรัก
ซึ่งความรักที่ว่านั้นไม่ได้เป็นของเขา



ใครก็ตามที่บอกว่าการได้เห็นคนที่รักมัความสุขทำให้เรามีความสุข คนที่ปล่อยความรักของตัวเองให้หลุดมือไปนั้นบอกได้เพียงว่าโกหกทั้งเพ



มันเจ็บ เจ็บจนไม่อยากมีตัวตนอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ



“มีน…ทำไม…”




“กลับมาแล้วเหรอครับคุณเชษฐ์” เจ้าของชื่อทักทายเขาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น รีบปรี่มาหาคนเจ็บและคเชนทร์ที่นิ่งค้างไปอย่างสับสนแล้วหยิบเอาสัมภาระบางส่วนมาถือไว้เอง “เดินทางมาเหนื่อยๆ เข้าไปพักข้างในก่อนนะครับ ป้าแต้วทำกับข้าวรอเต็มโต๊ะตั้งแต่เช้าเลย เดี๋ยวผมจัดสำรับยกขึ้นไปให้ที่ห้อง…”



“เดี๋ยวมีน คุยกันก่อน” มือใหญ่คว้าข้อมือบางไว้ก่อนที่มีนาจะได้หมุนตัวกลับไป สัมผัสเพียงน้อยนิดจากร่างที่คนึงหานั้นส่งกระแสบางอย่างแล่นปราดไปทั่วร่างของชายหนุ่มที่ในตอนนี้แทบไม่เหลือสภาพของประธานบริษัทหนุ่มที่น่าเกรงขาม ดวงเนตรคมเว้าวอน




“ครับ?” ทว่ามีนาเพียงแต่หันมายิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร ราวกับว่าครั้งสุดท้ายที่พบกัน ร่างเล็กไม่ได้ถูกผลักไสไล่ส่งอย่างเลือดเย็น




“ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่…”




“ก็…คุณเชษฐ์บอกเองนี่ครับ ว่าจะไปไหนก็ไป” มีนาตอบด้วยน้ำเสียงใสซื่อ “ก็ผมอยากอยู่กับคุณเชษฐ์ ผมเลยมาที่นี่ไงครับ”



“…”



ธีรเชษฐ์เพิ่งเข้าใจความหมายของคำว่า ‘จนด้วยคำพูด’ อย่างถ่องแท้ในวันนี้ ร่างสูงรู้สึกเหมือนก้อนหนักที่ถ่วงอยู่ในอกก่อนหน้าถูกยกออกไปบางส่วนจนสามารถกลับมาหายใจได้อีกครั้ง ที่ด้านหลังของเขา คเชนทร์ที่มักจะวางตัวเป็นผู้ใหญ่สุขุมเยือกเย็นอยู่เสมอหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ “เจ้าธาร…พูดอะไรกับเธอใช่มั้ย?”



มีนาเพียงแต่ยิ้ม ตอบคำถามด้วยความเงียบนั้นได้เป็นอย่างดี



มือเรียวหยิบเศษกระดาษที่พับครึ่งอย่างลวกๆขึ้นมาเปิด ดวงตาที่พร่าเลือนชั่วขณะทำให้มีนาอ่านข้อความที่ถูกเขียนด้วยลายมือบรรจงกึ่งหวัดของลูกชายคนกลางของบ้านไม่ออกในทีแรก ทว่าหลังจากที่เนื้อหาใจความในกระดาษแผ่นเล็กนั้นถูกจารึกเข้าสู่สมอง ร่างเล็กที่ก่อนหน้านี้ดึงดันจะกลับเข้าไปในห้องพักคนไข้จึงได้ลุกขึ้นจากพื้น กอดเอกสารปึกใหญ่ไว้ในอ้อมกอดแล้วยอมเดินจากไปแต่โดยดี แม้ดวงตากลมโตยังคงแดงก่ำรอยยิ้มหวานล้ำกลับแรากฎบนดวงหน้าหวาน



‘คนหัวดื้ออย่างผู้ชายคนนั้น ต่อให้คุณดึงดันจะอยู่ข้างเขาตอนนี้ เขาก็ไม่ฟังหรอกนะครับ  ทางนี้พวกผมจะดูแลให้เอง หลังจากเขาดีขึ้นจนกลับบ้านได้ ถ้าคุณยังอยากได้เขากลับไป ผมจะไม่ห้าม
ปล. ขอบคุณนะครับ ที่ยอมอยู่ข้างๆเขา’








“เซอร์ไพร์ส!!!”



ปุ้ง!!



ทันทีที่เขาถูกเข็นเข้ามาในบ้าน เสียงร้องตะโกนของคนทั้งหลายที่แอบซ่อนอยู่ข้างในก็ดังขึ้นเป็นเสียงเดียวกันพร้อมกลับพลุกระดาษหลายอันที่ถูกดึงจนเศษกระดาษหลากสีกระจายไปทั่วบ้าน



ทั้งลูกชายทั้งสามและคนรักของพวกเขา ทั้งวีรภัทรที่วันนี้ไม่ได้พ่วงเอาคนรักอายุน้อยกว่ามาด้วย และเหล่าคนรับใช้ทั้งหลายที่รอการกลับมาจากนายใหญ่ของบ้านอย่างใจจดใจจ่อมาตลอดสามเดือน



ธีรเชษฐ์รู้สึกถึงวงแขนเรียวเล็กที่โอบรอบคอของเขา ก่อนที่ริมฝีปากนิ่มจะประทับลงมาข้างแก้มสากซูบตอบ เสียงดังจุ๊บเบาๆที่ข้างหูนั้นละลายหัวใจของคนในรถเข็นจนเหลวเป็นน้ำ กลิ่นน้ำอบหอมละมุนที่คิดถึงลอยแตะจมูก



“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับ”




“พ่อครับๆ มีของโปรดพ่อเยอะแยะเลย” แน่นอนว่าคนแรกที่วิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาหาเขาเหมือนลูกสุนัขตัวโตคือเจ้าลูกชายคนเล็กที่ธีรเชษฐ์เข้าใจว่าตนทำให้อีกฝ่ายโกรธจนไม่อย่ากพบหน้าไปแล้ว ดูท่าว่าเจ้าลูกชายคนรองเขาจะดึงคนเข้ามาในแผนการมากกว่าที่เขาคิด



“หยุดเลยไอ้ตัวแสบ” ธีรเชษฐ์แจกมะเหงกเจ้าเด็กยักษ์ที่มากอดมาเอาหน้าถูไถให้เขาขนพองสยองเกล้า บ้านทรัพย์ดำรงไม่ใช่บ้านที่สกินชิพเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่คนปากแข็งยังคงยกยิ้มอย่างเอ็นดูให้เจ้าลูกคนเล็ก “ร่วมมือกับเจ้าธารแกล้งพ่อแบบนี้ หักค่าขนมดีมั้ย”




“โธ่ ก็พ่อทำมี้ร้องไห้ก่อนนี่ครับ” ทินกรรีบแก้ตัว “ผมก็ต้องเข้าข้างมี้สิ”



“ไม่ใช่ว่าเขาเอาซันไปเก็บกันเพราะกลัวปากโป้งหรอกเหรอครับ หืม?” คเชนทร์ลูบศีรษะหลานชายอย่างเอ็นดู เจ้าเด็กที่ไม่เคยเก็บความลับได้ในชีวิตทำหน้ามุ่ยอมลมจนแก้มพอง



“อาครามใจร้าย”



“ใจร้ายจนผัวทิ้งแล้วมึงอ่ะ โอ๊ย!” มะเหงกอีกลูกจากคนเป็นหมอแลนดิ้งลงบนศีรษะของคนเจ็บอย่างสวยงาม




“เลิกเล่นกันได้แล้ว พ่อกลับมาเหนื่อยๆรีบกินรีบแยกย้าย” พี่ชายคนโตของบ้านดุ ทินกรที่ยังกลัวพี่ชายเป็นนิสัยรีบพยักหน้าหงึกหงักอย่างว่าง่ายแล้วรับช่วงต่อจากคเชนทร์เข็นรถเข็นของบิดาไปที่โต๊ะอาหาร



ข้างกายของบุตรชายคนโตแห่งตระกูลทรัพย์ดำรงคือเลขาหนุ่มร่างโปร่งที่ในตอนนี้อยู่ในชุดลำลอง มธุวันพยักหน้าให้ธีรเชษฐ์ ก่อนจะหันกลับไปสนใจการจัดจานอาหารตรงหน้าของตน



“เมฆช่วยครับ”




ส่วนเจ้าลูกชายของเขาก็ตามเมียต้อยๆเป็นหมาน้อยตามเจ้าของไม่ต่างจากน้องชายคนเล็กของตัวเองมากนัก



“คุณเชษฐ์ ผมเข้าไปช่วยในครัวก่อนนะครับ”



“ฉันไปด้วย!”



ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าได้พันธุกรรมมาจากใคร



พูดถึงเรื่องของเมฆาและมธุวัน ธีรเชษฐ์ยังคงไม่อยากเชื่อว่าเลขาของเขาจะเป็นน้องชายต่างมารดาของนิโคไล และที่น่า
เหลือเชื่อยิ่งไปกว่านั้น คือคำสารภาพของลูกชายคนโตที่ว่าพวกเขาเคยคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย และนิสัยของมธุวันในวันวานนั้นอ่อนหวานละมุนใจไม่ต่างจากเด็กน้อยตาใสข้างกายของเขา ธีรเชษฐ์เหลือบมองเสี้ยวหน้าของเลขาคนเก่งที่แม้จะยังคงสาละวนอยู่กับอีเมลล์งานในมือถือแต่ไม่ลืมตักอาหารบนโต๊ะใส่จานให้เมฆา ดช่นเดียวกับลูกชายของเขาที่ตักอาหารบริการคนรักอย่างขยันขันแข็ง




“คุณเชษฐ์ อันนี้อร่อยนะครับ” มีนาตักซุปเยื่อไผ่ร้อนๆมาเป่าแล้วนำมาจ่อที่ริมฝีปากของเขา ร่างสูงอ้าปากรับอย่างว่าง่าย ไม่อะไรจะเข้าปากก็เห็นดีเห็นงามกับคนที่บอกว่าอร่อยไปเสียหมด ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มชอบใจของคนรัก ธีรเชษฐ์ยิ่งไม่นึกอยากขัดใจอะไรให้รอยยิ้มนั้นจางหายไป



ทั้งที่งานเลี้ยงฉลองต้อนรับกลับบ้านควรจะมีธีรเชษฐ์เป็นตัวเอกของงาน แต่เมื่อความสนใจของตัวเอกของงานมีไว้ให้สำหรับเด็กหนุ่มร่างเล็กข้างกายเพียงผู้เดียว บรรดาแขกเหรื่อในงานจึงตัดสินใจจับกลุ่มพูดคุยสัพเพเหระไปเรื่อยเปื่อยและปล่อยให้นกรักทั้งสองได้ใช้เวลาด้วยกันตามลำพัง



มีนาเข็นรถเข็นของคนรักออกมาที่สวนหน้าบ้าน แสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปนานพอสมควรแล้ว เหลือเพียงแสงจันทร์และแสงจากเสาไฟที่กระจายตัวอยู่ตามมุมสวนเป็นตัวนำทางพวกเขาไปยังศาลารับลม เด็กหนุ่มนั่งลงบนม้านั่งข้างรถเข็นของคนรัก เอื้อมคว้ามือใหญ่ข้างที่ใช้การได้ดีมาบีบนวด



“…ขอโทษนะ”



คำขอโทษไม่อาจหักล้างกับทุกสิ่งที่เขาทำกับคนตรงหน้า แต่ธีรเชษฐ์ยังคงอยากให้มีนาได้ยินคำขอโทษจากปากของเขา
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา วิธีเดียวที่ธีรเชษฐ์รู้จักในการปกป้องคนที่รัก คือการผลักไสคนคนนั้นให้ออกไปคนเลวๆอย่างเขา หากไม่มีเขาอยู่สักคน ก็จะไม่มีใครมาทำแใฟ้คนที่เขารักต้องเจ็บปวด



ตรรกะโง่ๆของคนงี่เง่าอย่างเขา ธีรเชษฐ์รู้ตัวเองดี



“เรื่องอะไรเหรอครับ?” มีนาถามทั้งที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากมือของร่างสูง



 ธีรเชษฐ์นึกขัดใจร่างกายในตอนนี้ของตนที่ไม่อาจดึงอีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมกอดได้ถนัด เขาอยากกอดมีนาไว้แนบอก ฟังเสียงหัวใจดวงน้อยที่เต้นสอดประสานกับจังหวะของใจของเขา การกระทำที่เคยเป็นเรื่องง่ายดายจนแทบไม่ต้องคิดในตอนนี้กลับยากเย็นเสียจนนึกรำคาญใจ



“ทุกเรื่อง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยทำให้เธอเสียใจ ฉันขอโทษ…”



เด็กหนุ่มขยับยิ้ม ยกมือใหญ่ขึ้นแนบกับใบหน้าของตน ถูไถคลอเคลียแก้มนิ่มกับมือของเขาอย่างสุขใจ ท่าทีที่ทำให้คนเคลื่อนไหวไม่สะดวกต้องสงบจิตข่มใจเสียยกใหญ่



“ถ้าผมบอกว่าผมไม่เคยโกรธ…คุณเชษฐ์จะเชื่อมั้ยครับ?”



ร่างสูงพยักหน้าอย่างอ่อนใจ แน่นอนว่าเขาต้องเชื่อ เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองเคยเห็นมีนาตอนโกรธจัดจริงๆด้วยซ้ำตั้งแต่รู้จักอีกฝ่ายมา



“ผมไม่โกรธ…แต่ผมเสียใจ” มีนาพามือใหญ่ลากลงมาจากดวงหน้าเรียว ผ่านลำคอระหงส์มาหยุดอยู่ที่แผ่นอกแบนราบของเจ้าตัว มือหยาบรับรู้ได้ถึงก้อนเนื้อในอกที่เต้นตุบปะทะฝ่ามือของเขาจังหวะสม่ำเสมอ “ทุกครั้งที่คุณเชษฐ์ทำให้ผมเสียใจ มันเจ็บตรงนี้”



“…”



“แต่ว่านะครับ เวลาที่คุณเชษฐ์ใจดีกับผม เวลาที่คุณเชษฐ์บอกรักผม ตรงนี้มันกลับอุ่นวาบข้างในอย่างที่ผมไม่เคยรู้สึก…” รอยยิ้มอ่อนโยนฉายชัดในดวงตาของมีนา “และผมก็ไม่คิดว่าจะมีใครที่มีอิทธิพลกับหัวใจของผมมากกว่าคุณเชษฐ์แล้วครับ”



“รักนะ…” จากนี้และตลอดไป สิ่งเดียวที่ธีรเชษฐ์อยากให้คนตรงหน้ารู้สึก คือความอุ่นวาบในอกจากคำบอกรักของเขาอย่างที่อีกฝ่ายได้กล่าวเมื่อครู่ “รักเธอ…รักที่สุด”



“ผมก็รักคุณเชษฐ์ครับ…รักมาก…” มีนายกมือของร่างสูงขึ้นจรดริมฝีปากนิ่มอย่างรักใคร่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาคนรักด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมรู้ตัวดี ว่าด้วยนิสัยของผมต่อให้เกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ผมจะยังรักคุณอยู่ตรงนี้ ถึงมันจะทำให้ผมเจ็บแค่ไหน ผมก็ไม่มีวันจะไปจากคุณด้วยตัวเอง”



“มีน…”



“แต่ตอนนี้ ผมมีเพื่อน…มีคนที่รอจะพาผมไปจากคุณในวันที่คุณทำร้ายผม ต่อให้ผมไม่ได้คิดอยากจะไปเลยก็ตาม…” มีนากล่าวด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ ราวกับว่าความคิดที่ตนจะถูกพรากไปจากคนตรงหน้าสร้างความเจ็บปวดให้กับร่างเล็กพอๆกับที่เขารู้สึก “ผมไม่อยากไปจากคุณ… เพราะฉะนั้น อย่าทำให้ผมเสียใจอีก เข้าใจมั้ยครับ”



“ถ้าฉันยังเป็นแบบนี้ต่อไป เธอก็จะอยู่งั้นเหรอ?”



ร่างสูงก้มมองสังขารของตัวเอง มีนาทรุดกายลงตรงหน้าของเขา ศีรษะกลมเอนซบลงบนตักแข็งอย่างออดอ้อน สีหน้าเปี่ยมสุขของคนรักบีบหัวใจของธีรเชษฐ์จนแทบหายใจไม่ออก



“อยู่สิครับ จะเป็นแบบไหน ขอให้เป็นคุณเชษฐ์ก็พอแล้วสำหรับผม”



“ถ้าเกิดฉันไม่หาย เธอจะต้องดูแลคนพิการคนนึงไปตลอดชีวิตนะมีนา เธอเข้าใจมั้ยว่ามันลำบากแค่ไหน” ธีรเชษฐ์นึกอยากจะยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเสียตั้งแต่ตอนนี้ ด้วยกลัวว่าสิ่งที่พรั่งพรูออกมาจากปากจะทำให้มีนาเปลี่ยนใจ เด็กหนุ่มเกยคางกับตักของเขา ช้อนตาขึ้นมองคนรักอายุมากกว่าด้วยแววตาขบขัน



“คุณเชษฐ์ลืมแล้วเหรอครับว่าผมดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียงกับยายที่แทบช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มาตั้งแต่เด็ก เรื่องแบบนี้ ผมชินแล้วครับ” มีนาขยับยิ้มจาง “ขอแค่คนที่ผมรักอยู่กับผม จะลำบากแค่ไหน ผมก็มีความสุขครับ”



“ถ้าฉันทำ...อะไรๆไม่ได้อีกตลอดชีวิต เธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจเหรอ”



“อะไรๆ...” คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างงุนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ดวงหน้าขาวจะแดงวาบขึ้นเมื่อเด็กหนุ่มเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่ิิอ “ถะ...ถามอะไรแบบนั้นครับ?!”



“ฉันจริงจังนะ”



ความสัมพันธ์ทางร่างกายแม้ไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิตคู่ ธีรเชษฐ์รู้ดีกว่าใครว่าเป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุด เขาอยากให้มีนาเข้าใจว่าถึงแม้ความเป็นไปได้จะเล็กน้อยเพียงใด เขายังคงมีสิทธิ์ที่จะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกตลอดชีวิต



มือเรียวเล็กที่ยังคงไม่ปล่อยบีบมือของเขาเบาๆแต่หนักแน่น เช่นเดียวกับคำตอบที่มีนามีให้กับเขา



“ไม่เปลี่ยนครับ” เด็กหนุ่มมีสีหน้าเก้อเขิน “ผมไม่รู้ว่าคุณเชษฐ์เคยสังเกตมั้ย แต่จริงๆแล้ว...ผมไม่ได้รู้สึก...แบบนั้นบ่อยๆหรอกนะครับ”



“….”




“ผมน่ะ...นอกจากกับคุณเชษฐ์ ผมไม่เคย...มีความต้องการมาก่อนด้วยซ้ำ” มีนาอธิบายด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ “ต่อให้คุณเชษฐ์ไม่ดีขึ้นไปตลอดชีวิต ผมก็ไม่คิดว่าจะมีใครที่ผมอยากให้แตะต้องอย่างที่คุณเชษฐ์ทำแล้วล่ะครับ”



“….” ให้ตายเถอะ อย่าว่าแต่ดีขึ้นเลย เขาอยากจะหายๆมันตอนนี้เลยด้วยซ้ำ!



“อีกอย่าง...” เด็กหนุ่มถอนหายใจ “ต่อให้ไม่ดีขึ้น ผมก็ไม่คิดว่าคนอย่างคุณเชษฐ์จะปล่อยให้ผมอยู่อย่างสงบทุกคืนหรอกครับ”



“ได้ยินเธอพูดแบบนี้แล้ว ฉันชักจะไม่อยากหายดีซะแล้วสิ จะได้หาเรื่องแกล้งเธอได้ทุกคืน” ร่างสูงเอื้อมมือหมายดึงคนตรงหน้าเข้ามาในอ้อมกอดอย่างลืมตัว ก่อนจะนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ มีนาที่เห็นดังนั้นจึงเป็นฝ่ายลุกขึ้นเพื่อสวมกอดคนรักไว้แน่นด้วยตัวเอง เสียงหวานกระซิบแผ่วข้างหู



“แต่ถ้าคุณเชษฐ์หายดี...จะแกล้งผมทุกคืน ผมก็ยอมครับ”



“สัญญา?”



มีนาพยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบ



“ถ้าฉันหายดีได้ในหนึ่งปีนี้ตามที่หมอบอก เธอจะให้รางวัลอะไรฉัน?” ร่างสูงถามเจือรอยยิ้มจาง




“มีแค่ตัวกับหัวใจ แต่คุณเชษฐ์ก็ได้ไปหมดแล้ว...” ดวงหน้าน่ารักซุกลงกับไหล่หนาแก้เขิน “ให้ของเดิมอีกรอบได้มั้ยครับ”




“เอาสิ ถ้าเป็นเธอ จะให้กี่รอบฉันก็รับทั้งนั้น” จมูกโด่งคลอเคลียพวงแก้มใสอย่างรักใคร่ ไรหนวดบางครูดตามผิวเนียนใส เรียกเสียงหัวเราะคิกจากคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี



“สัญญาขาดทุนแบบนี้ คุณเชษฐ์เป็นนักธุรกิจจริงๆใช่มั้ยครับเนี่ย”




“นักธุรกิจสิ” เสียงทุ้มข้างหูของมีนาหัวเราะต่ำในลำคอ ก่อนจะกดจูบลงบนขมับด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข “สุดท้าย...ฉันก็ได้สิ่งที่ฉันต้องการไม่ใช่เหรอ?”




มีนาหัวเราะออกมาในที่สุด วงแขนบอบบางกระชับโอบรอบคอของคนรักแน่นขึ้น ธีรเชษฐ์รู้สึกถึงความเปียกชื้นที่ซึมผ่านเนื้อผ้าบนไหล่ของตน และถึงแม้ธีรเชษฐ์จะยังคงไม่สามารถเลิกทำให้อีกฝ่ายเสียน้ำตาได้ เขายังคงมั่นใจว่าน้ำตาของมีนาใน
ตอนนี้คือหยาดน้ำตาแห่งความสุข เช่นเดียวกับที่เอ่อล้นขอบตาของเขาในตอนนี้



ขอแค่มีเด็กคนนี้อยู่เคียงข้าง  นับจากนี้จนลมหายใจสุดท้าย ไม่ว่าสิ่งที่ต้องแลกมานั้นคืออะไร ธีรเชษฐ์ก็รู้สึกว่าดีลที่ได้มานั้นมันคุ้มค่าเสียยิ่งกว่าคุ้ม

--------
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 15-12-2019 00:06:21
เด็กดี  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 15-12-2019 06:34:30
มีความสุขสักทีนะน้องมีน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 15-12-2019 07:24:02
มีความสุขมากๆนะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 15-12-2019 07:58:06
น้องมีนนนนนน น้องอดทนมาก น่ารักมากเลย คุณเชษฐ์โชคดีจริงๆ
ขออีกน้าาา ยังไม่จบใช่มั้ยคะะะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-12-2019 08:21:22
จะจบแล้วใช่ไหม?
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 15-12-2019 09:54:33
งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้ธารธารา  มีความสุขได้ซักทีนะน้องมีน   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 15-12-2019 11:05:23
นู๋มีนคนดี น่ารัก จนหมั่นไส้คุณเชษฐ์ที่ได้ของแรร์ ไปจริงๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-12-2019 11:13:32
น้องมีนของแม่ มีความสุขสักทีนะลูกก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-12-2019 11:56:50
โดนลูกซ้อนแผนจนได้555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 15-12-2019 14:04:10
ยอมรับเถอะคุณเชษฐ์ ว่าหลงเด็ก
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 15-12-2019 14:40:08
น้องมีนนนนน คนดีของศรี :impress2:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 15-12-2019 15:31:33
เรื่องราวมากมายมาก ดีนะที่น้ำอุ่นช่วยไว้ ไม่งั้นคุณเชษฐ์โดนงอนตลอดไป แหงๆ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-12-2019 22:57:02
ได้รับการไว้ใจจากธารแล้ว อะไร ๆ ก็จี๊บ ๆ ไปหมด  o13
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 17-12-2019 02:47:43
หนูมีนมีความสุขแล้ว สรุปคนที่ช่วยคู่นี้กลับกลายเป็นธารที่ตอนแรกเหมือนจะไม่ชอบมีนซะงั้น 555
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: กุหลาบเดียวดาย ที่ 17-12-2019 21:00:49
ความรักเยียวยาทุกสิ่งนะ เด็กน้อย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 51: สัญญาฉบับสุดท้าย [14-12-62] คห.886
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 22-12-2019 13:03:51
บทที่ 52 น้ำตาที่เก็บไว้

“อ๊ะ น้ำแข็งหมดแล้ว เดี๋ยวผมเข้าไปเอาในครัวก่อนนะครับ”



ทินกรเขย่าแก้วที่เหลือเพียงก้อนน้ำแข็งเล็กจิ๋วของตนเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้น คว้าเอาแก้วของคนรักไปด้วย ภรัณยูพยักหน้า ก่อนจะหันกลับไปสนใจบทสนทนาบนโต๊ะอาหารของเพื่อนร่วมโต๊ะคนอื่นต่อ



ทินกรกล่าาวเข้าไปในห้องครัวที่ว่างเปล่า กดแก้วลงบนช่องใส่น้ำแข็งของตู้เย็นฝังผนังอย่างไม่รีบร้อน ริมฝีปากที่มักประดับด้วยรอยยิ้มร่าเริงอยู่เสมอเลือนหายไปจากใบหน้าคมเข้มอย่างช้าๆ แทนที่ด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวเหยเกคล้ายจะหลุดสะอื้นออกมาได้ทุกเมื่อ ทินกรพิงศีรษะกับบานประตูตู้เย็น  แนบหน้าผากกับโลหะเย็นนิ่ง ข่มกลั้นความรู้สึกที่ตีตื้นขึ้นมาจากในอกให้กลับลงไปในที่ที่มันสมควรอยู่



งานเฉลิมฉลองที่ควรเต็มไปด้วยความสุขไม่มีที่ว่างให้กับความเจ็บปวดของเขา



ทว่าแขนเรียวที่สอดเข้ามาโอบกอดเอวสอบไว้จากด้านหลังและศีรษะของคนรักที่แนบลงมาบนแผ่นหลังกว้างดูจะไม่คิดเช่น
นั้น



“พะ…พี่ภัทรครับ?” ทินกรรู้สึกว่าอารมณ์ที่ไม่คงที่นักทำให้น้ำเสียงของตนสั่นเครือ



“จับได้แล้ว” เสียงหวานพึมพำแนบชัดแผ่นหลังกว้าง ทินกรดึงมือของคนที่โอบเขาไว้ออกอย่างเบามือแล้วหันไปเผชิญหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้างุนงง



“จับ? จับอะไรได้เหรอครับ?”



“จับซันได้แล้ว...” มือเรียวประคองใบหน้าของคนรักพร้อมรอยยิ้มจาง แววตาของคนอายุมากกว่ามีทั้งความอ่อนโยนและเจ็บปวดปะปนกันไป “เลิกหนีหน้าพี่ทุกครั้งที่ซันเจ็บซักทีได้มั้ย ให้พี่วิ่งตามแบบนี้มันเหนื่อยนะ”



ทินกรสะอึก ดวงเนตรคมจดจ้องใบหน้าอ่อนโยนของคนรักที่เขาเพิ่งสังเกตถึงความอ่อนล้าในแววตา



“ผม…”



“สามเดือนที่ผ่านมา ซันไม่เคยร้องไห้ให้พี่เห็นเลยนะ รู้ตัวรึเปล่า” มือเรียวไล้ไปตามโครงหน้าคมคายอย่างทะนุถนอม ราวกับเด็กหนุ่มร่างสูงตรงหน้าเป็นแก้วเจียระไนที่พร้อมจะแตกหักได้ทุกเมื่อ “ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ทุกคนปลอดภัยดี ทุกคนมีความสุขแล้ว ซัน...ร้องออกมาได้แล้วนะครับเด็กเก่ง”



คำพูดของคนที่เขาไม่คิดอยากให้เห็นน้ำตาที่สุดกลับทำให้หยาดน้ำใสพรั่งพรูออกมาจากดวงตาของเด็กหนุ่มราวกับทำนบแตก ภรัณยูอ้าแขนรอรับร่างที่โถมเข้ากอดเขาไว้แน่นอย่างเต็มใจ ปล่อยให้เสียงสะอื้นจากคนที่ซุกหน้าอยู่กับซอกคอของเขาดังข้างหูอย่างไม่คิดห้าม มือเรียวลูบผมของคนรักอย่างปลอบโยน พร่ำกระซิบคำชื่นชมให้กับเด็กหนุ่มที่กล้าหาญพอที่จะปลดปล่อยความอัดอั้นตันใจที่เก็บกักไว้ภายในตลอดสามเดือนหากไม่ใช่ทั้งชีวิตออกมาให้เขาได้รับรู้



เขาจำได้ดีว่าในวันนั้น แววตาของเด็กหนุ่มอ้อมกอดของเขาว่างเปล่าเพียงใด









“ซัน ตื่นได้แล้ว วันนี้มีประชุมเช้านะ”




ภรัณยูเขย่าปลุกชีเปลือยที่นอนแผ่ไม่อายฟ้าอายดินบนเตียง ตอนที่นาฬิกาปลุกดังเขายังหยวนให้ได้เพราะถึงอย่างไรทินกรก็ต้องรอใช้ห้องน้ำต่อจากเขา แต่หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เจ้าเด็กขี้เซาบนเตียงยังคงไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาโดยง่าย ทั้งที่คนที่นอนหมดแรงบนเตียงควรจะเป็นเขาเสียมากกว่า


“ซัน ลุกขึ้นมาได้…อ๊ะ!”




ร่างของเขาถูกพลิกลงบนนอนแผ่หลาบนเตียงกว้างโดยมีเจ้าลูกหมายักษ์คร่อมทับ ทินกรฉีกยิ้มอวดฟันเขี้ยวที่แม้จะไม่น่ากลัวเท่าพี่ชายคนโต จากประสบการณ์ของภรัณยูยังคงแหลมคมกว่าชาวบ้านอยู่มาก



“พี่ภัทรใส่ชุดทำงานแล้วน่ารักที่สุดเลยครับ”



“ก็เห็นพูดแบบนี้ทุกชุด” มือเรียวดันหน้าของคนที่โน้มลงมาใกล้ออกไป “หยุดเลย เดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอก”



“ไม่สายหรอกครับ ประชุมตั้งเก้าโมง” ทินกรแย้ง


“เผื่อเวลากินข้าวกินปลาหน่อยเถอะ วันนี้ประชุมทั้งเช้าไม่ใช่เหรอ?”



“กินพี่ภัทรแทนไม่ได้เหรอครับ?” ทินกรต่อรองเสียงออดอ้อน แม้จะรู้ดีว่าคนรักไม่มีทางยอมให้ตนทำตามอำเภอใจ ยิ่งหลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วแบบนี้ด้วย



“ซัน ไม่ดื้อสิ ไปทำงานก่อน กลับมาค่อยว่ากัน” ภรัณยูดุคนรัก แม้ว่าคำตอบนั้นจะไม่ใช่คำปฏิเสธเสียทีเดียว ร่างสูงยิ้มร่า ผละออกจากคนใต้ร่างเพื่อไปอาบน้ำตามคำขอ แต่กลับถูกมือเรียวรั้งไว้ “เดี๋ยว…”



“ครับพี่ภั…อื้อ…”


ริมฝีปากได้รูปถูกครอบครองโดยริมฝีปากของคนรัก เด็กหนุ่มประหลาดใจได้เพียงครู่เดียวก็ตอบรับสัมผัสนั่มหยุ่นนั้นอย่างเต็มใจ เมื่อได้รับการเติมพลัง ทินกรจึงผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำพร้อมรอยยิ้มเริงร่า



ภรัณยูมองตามร่างสูงไปจนลับสายตา รอยยิ้มเอ็นดูประดับบนริมฝีปากบาง ก่อนจะลุกไปปิ้งขนมปังชงกาแฟในครัวให้เจ้าเด็กแสบที่หากไม่ทำไว้ให้คงหิ้วท้องเข้าประชุมอีกตามเคย



ทินกรดูจะปรับตัวเข้ากับตำแหน่งประธานบริษัทชั่วคราวได้ดีทีเดียว



ความกังวลของเด็กหนุ่มก่อนหน้านี้ที่คิดว่าภาระหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้พวกเขาไม่มีเวลาให้กันปลิวหายไปตั้งแต่วันแรกที่พวกเขากลับมาจากบริษัทในวันแรก ภรัณยูแทบจะฉีกทึ้งเสื้อสูทราคาแพงของคนรักที่หน้าประตูบ้านจนทินกรต้องรวบร่างโปร่งอุ้มพาดบ่าขึ้นมาบนห้องก่อนที่คนรับใช้สักคนจะบังเอิญผ่านมาเห็นสภาพล่อแหลมของพวกเขา ภรัณยูไม่อยากยอมรับ แต่มาดประธานบริษัทของคนรักทำให้ชายหนุ่ม ‘เครื่องติด’ ง่ายกว่าปกติ



การร่วมรักของพวกเขาจึงเร่าร้อน รุนแรง และทำให้ทินกรที่มักจะงอแงขอทำรอบเพิ่มฟุบลงหอบหายใจไม่ต่างจากเขา
ข้อดีคือมันทำให้เด็กหนุ่มกระตือรือร้นที่จะสวมสูทผูกไทค์ให้เขาดูในทุกๆเช้า



“ไปกันได้แล้ว”




ภรัณยูยื่นขนมปังปิ้งทาเนยถั่วแผ่นหนึ่งกับกาแฟให้คนรักแล้วหยิบส่วนของตัวเองก้าวออกไปยังรถที่จอดรออยู่ ตั้งแต่ได้ใบขับขี่มาเด็กหนุ่มแทบจะไม่ยอมให้ภรัณยูได้แตะต้องพวงมาลัยอีก พวกเขามาถึงบริษัทไม่นานหลังจากนั้น และถึงแม้ในเวลาทำงาน รักษาการประธานบริษัทจะไม่มาก่อกวนเขา ภรัณยูยังคงเลือกที่จะซื้ออาหารกลางวันขึ้นไปทานบนห้องกับอีกฝ่าย



"...มาต่อกันที่เหตุระเบิดที่โรงแรมธาราสาขาxxxกันนะคะ ขณะนี้เจ้าหน้าควบควมเพลิงไว้ได้แล้ว ยังไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากการก่อการร้ายหรืออุบัติเหตุ ทางด้านผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตยังไม่มีรายงานตัวเลขที่ชัดเจน ทั้งนี้จุดที่ระเบิดเป็นบริเวณที่อยู่ใกล้กับงานแฟชั่นโชว์ ทำให้มีผู้คนอยู่เป็นจำนวนมาก...”



ภรัณยูรู้สึกว่าถุงใส่ข้าวกล่องในมือนั้นอ่อนแรงอย่างไร้การควบคุม ร่างโปร่งเบิกตากว้างเงยหน้ามองหน้าจอของโทรทัศน์ในโรงอาหารพนักงานท่แสดงภาพของโรงแรมหรูที่มีมีเปลวเพลิงและควันหนาจนแทบมองไม่เห็นภายใน โรงแรมที่เขาจำได้ว่าเป็นที่พักของทั้งประธานและรองประธานบริษัททรัพย์ดำรงในขณะนี้ รวมถึงเลขาคนเก่งและเพื่อนสนิทของทินกร ดวงตาสีน้ำตาลไล่กวาดมองชื่อผู้บาดเจ็บที่ขึ้นบนหน้าจออย่างเป็นกังวล แม้ว่ารายชื่อจะไม่ได้ยาวอย่างที่คิด สองคนที่ปรากฏในนั้นยังคงทำให้ภรัณยูลืมหายใจไปทั่วขณะ



‘ธีรเชษฐ์ ทรัพย์ดำรง’



‘เมฆา ทรัพย์ดำรง’



ชายหนุ่มไม่ได้สนใจว่าจะมีใครมองมาเมื่อขาเรียวสับก้าวออกไปจากโรงอาหาร มุ่งตรงไปยังห้องทำงานของรักษาการประธานบริษัทในยามนี้ด้วยความร้อนรนอย่างถึงที่สุด



เขาไม่อยากให้ทินกรต้องเผชิญหน้ากับข่าวร้ายนี้ตามลำพัง



“คุณภรัณยู เข้าไม่ได้ครับ”



ทว่าเรื่องกลับไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เขาคิดเมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนก้าวมาขวางเขาไว้เสียก่อน



“ผมจะไปหาซัน”



การขัดขวางของคนทั้งสองยิ่งทำให้ภรัณยูรู้สึกร้อนใจ แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยที่รู้จักเขาดียังไม่ยอมให้ชายหนุ่มผ่านเข้าไปโดยง่าย แม้จะไม่ได้ใช้กำลังกับเขาแต่ยังคงรั้งภรัณยูไว้ไม่ยอมให้เข้าไปในห้องทำงานของคนรักโดยง่าย



“คุณภรัณยู ท่านประธานสั่งห้ามไม่ให้คุณเข้าไปครับ”



“อะ…อะไรนะ?”


 ภรัณยูไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน ในขณะที่เขากำลังสับสนอยู่นั้น ประตูห้องของทินกรก็เปิดออก พร้อมกับร่างของคุณชายรองแห่งตระกูลทรัพย์ดำรงที่ก้าวออกมาด้วยสีหน้าซีดเซียว ดวงตาเรียวรีแดงก่ำ ผิดกับชายหนุ่มหน้าสวยที่เปี่ยมได้ด้วยความมั่นใจที่ภรัณยูเคยเห็น



“คุณธาร…”



“อย่าพึ่งเข้าไปจะดีกว่านะครับ” กระทั่งเสียงหวานยังสั่นเครือคล้ายผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ถีงอย่างนั้นอีกฝ่ายยังคงพยายามส่งยิ้มให้กับเขา




“ทำไมล่ะครับ?” ภรัณยูถามอย่างไม่เข้าใจ



“ผู้ชายบ้านผมก็เป็นซะแบบนี้นั่นแหละครับ” ธารธาราไหวไหล่ กล่าวด้วยน้ำเสียงขบขันไม่เข้ากับสถานการณ์ “เกลียดที่สุดที่คนรักเห็นเราตอนที่อ่อนแอ ชอบแบกเรื่องหนักๆไว้คนเดียว…”




“…” ภรัณยูยังคงเหลือบมองทางประตูห้องทำงานของทินกรเป็นระยะด้วยสีหน้าวิตก ยิ่งพูดแบบนี้เขายิ่งร้อนใจที่จะเข้าไปหาทินกร



“ปล่อยเขาไว้คนเดียวสักพักเถอะครับ ถ้าซันเห็นคุณกังวลแบบนี้ จะยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดนะครับ”



“…” ภรัณยูไม่อยากยอมรับ แต่จากนิสัยของคนรัก คงจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ




“ผมต้องไปดูอาการ…พ่อ…กับพี่เมฆที่โรงพยาบาล ยังไงทางนี้คงต้องฝากคุณภรัณยูดูแล”



คำว่า ‘พ่อ’ ฟังดูแปร่งหูอย่างน่าประหลาดเมื่ออกมาจากปากของอีกฝ่าย ภรัณยูพยักหน้ารับคำหนักแน่น เมื่อลับร่างพี่ชายรองของคนรัก คนที่ยังคงถูกห้ามไม่ให้เข้าไปในห้องทำงานที่ทินกรขังตัวเองอยู่ในนั้นจึงตัดสินใจนั่งลงที่โต๊ะรับรองซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล เฝ้ารอให้เด็กหนุ่มออกมาจากห้องเมื่ออีกฝ่ายพร้อมจะเผชิญหน้ากับโลกภายนอกอีกครั้ง






เวลาล่วงเลยไปจนดวงตะวันลาลับขอบฟ้า ภรัณยูที่นั่งสับปะหงกอยู่หน้าห้องผุดลุกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออกในที่สุด



“ซัน!”


“ขอโทษนะครับพี่ภัทร ให้พี่รอซะนานเลย”



ทินกรกล่าวขอโทษขอโพยพร้อมรอยยิ้มจาง นอกจากความอ่อนล้าในแววตาแล้ว ภรัณยูแทบไม่เห็นร่องรอยของเห็นการสะเทือนใจที่ร่างสูงเพิ่งประสบ ทินกรก้มลงหยิบกระเป๋าเอกสารของร่างโปร่งที่วางอยู่บนพื้นข้างกาย



“ซัน พี่…”



“ไว้ค่อยคุยกันที่บ้านดีกว่านะครับ” ทินกรตัดบทด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เหมือนว่าคนที่ควรไก้รับการปลอบโยนคือภรัณยู ไม่ใช่ตน



ความเงียบเข้าปกคลุมรอบกายพวกเขาทั้งสอง ภรัณยูเหลือบมองเด็กหนุ่มข้างกายที่ไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่พวกเขาออกมาจากบริษัทจนถึงคฤหาสน์ มือใหญ่กำพวงมาลัยแน่นจนข้อนิ้วขึ้นสีขาว



ภรัณยูก้าวลงมาจากรถที่ทินกรวิ่งอ้อมมาเปิดประตูให้เช่นทุกวัน ริมฝีปากเรียวเผยออ้าหมายเอื้อนเอ่ยคำถามที่ค้างคาใจ ทว่าริมฝีปากของทินกรที่ประกบทาบทับลงมาปิดกั้นคำถามนั้นไปจนหมดสิ้น



“อือ…ซัน…อื้อ… พอก่อน…” เสียงหวานปนหอบปรามคนที่เลื้อยลงมาคลอเคลียซอกคอขาวอย่างลุ่มหลง “นี่มันหน้าบ้านนะ”



“ผมอยากกอดพี่ภัทร…” เสียงแหบพร่าพึมพำ ดูดเม้มผิวกายบางอย่างหลงใหลมัวเมา



“เข้าบ้านกันก่อนนะ”



ครั้งนี้ภรัณยูไม่คิดแม้แต่จะปฏิเสธ เขารับรู้ได้จากแววตาของคนรักว่าทินกรในยามนี้โหยหาการปลอบโยนเพียงใด แม้จะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่เขายังคงอยากให้คนรักที่ผ่านเรื่องเลวร้ายมาทั้งวันไดพักผ่อนบ้าง



“อ๊ะ…ซะ…อ๊าาา ตรงนั้…ฮะ…แรงอีก…แรง…”



ทินกรเลียริมฝีปาก เสียงครางหอบกระเส่าของคนรักที่บิดเร่าอยู่ใต้ร่างของเขามานับชั่วโมงปลุกอารมณ์รักให้โหมกระพือ สะโพกสอบสวนขยับรับสะโพกงอนงามที่บทเบียดลงมาอย่างไม่คิดยอมแพ้



แต่ความสุขสมที่ได้รับจากคนรักกลับไม่อาจกลบฝังความว่างเปล่าในอกหลังจากได้รับข่าวการบาดเจ็บของพี่ชายคนโตและบิดาได้



“อ๊ะ…ซัน…!!”



ขาเรียวตวัดโอบรอบเอวสอบกระตุกเฮือกอย่างควบคุมไม่อยู่ เช่นเดียวกับร่างสูงเหนือกายขาว ทินกรฟุบลงบนร่างของคนรักอย่างอ่อนเพลีย เสียงหอบหายใจของร่างสูงยังคงดังต่อเนื่องข้างหูของภรัณยู



มือเรียวลูบกลุ่มผมนุ่มของคนรัก ประทับจุมพิตแผ่วเบาบนแก้มสาก



“ซัน เรื่องท่านประธาน…”



“พี่ภัทร ผมเหนื่อยแล้วครับ” ทินกรตัดบท น้ำเสียงของเด็กหนุ่มอ่อนล้าดังที่ตนอ้าง แม้จะไม่เต็มใจนัก ภรัณยูยังคงยอมปล่อยหัวข้อสนทนาให้เป็นเรื่องของวันต่อไปดังที่ทินกรต้องการ



ทว่าวันแล้ววันเล่า ท่านประธานจำเป็นของเขาก็ยังคงหาข้ออ้างหลบหลีกหัวข้อสนทนากับภรัณยูอยู่ร่ำไป อ้างว่าติดประชุมบ้าง อ้างว่าต้องทำรายงานส่งอาจารย์บ้าง และทุกครั้งที่คนอายุมากกว่าตื๊อถามอย่างไม่ยอมแพ้ ทินกรเพียงแค่หันมายิ้มให้เขาแล้วตอบว่า



“ครับ ผมเป็นห่วงพ่อกับพี่เมฆ แต่ตอนนี้ทุกคนต้องการผม เอาไว้ค่อยร้องไห้หลังจากที่ทุกคนมีความสุขดีแล้วก็ยังไม่สายนี่ครับ”




ด้วยความเป็นคนที่ชอบเซ้าซี้ ต่อให้ไม่เห็นด้วยกับเด็กหนุ่มเพียงใด ภรัณยูก็ยังคงเคารพการตัดสินใจของร่างสูง




เขาไม่รู้ว่านั่นเป็นครั้งที่เท่าไหร่ที่ทินกรใช้วิธีนี้ แต่ภรัณยูได้แต่หวังว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย






ทินกรไม่มีทางรับรู้ได้เลยว่าเขาโล่งใจแค่ไหนที่ได้ยินเสียงร้องไห้ของอีกฝ่ายในที่สุด ร่างโปร่งโอบร่างของคนรักที่สะอึกสะอื้นจนตัวโยนไว้ในอ้อมกอดแน่น แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นอีกฝ่ายร้องไห้ แต่ความอัดอั้นตันใจที่สะท้อนในเสียงสะอื้นยังคงเสียดแทงทุกอนุภาคในร่างกายของเขายังคงเป็นสิ่งที่ภรัณยูไม่มีวันคุ้นชิน



เด็กคนนี้อดทนมานานเหลือเกิน...


“ร้องออกมาเยอะๆนะครับ เด็กเก่ง” จุมพิตเบาบางประทับบนกระหม่อมของคนรัก “ต่อจากนี้ไม่ว่าจะเรื่องอะไร พี่ช่วยซันแบกรับมันไว้เอง ให้พี่ได้กอดซันไว้แบบนี้เวลาที่ซันเสียใจได้มั้ย อย่าหนีพี่ไปอีกได้มั้ย...”



“ฮึก…พะ…พี่ภัทรทำผมขี้แย....” เสียงทุ้มพึมพำปนสะอื้น ใบหน้าหล่อเหลาที่บัดนี้แดงก่ำซุกแน่นกับซอกคอของภรัณยู อับอายเกินกว่าจะให้อีกฝ่ายเห็นสภาพของตนนตอนนี้



“ไม่เห็นเป็นไรเลย...” ร่างโปร่งผละออกจากคนที่ดื้อดึงจะกอดเขาไว้เล็กน้อย ดวงเนตรเรียวรีหยีโค้งตามรอยยิ้มเมื่อเห็นคนรักทำปากยู่ราวกับเด็กน้อย อดไม่ได้ที่จะขโมยจุมพิตจากริมฝีปากยื่นๆนั้นอย่างเอ็นดู “พี่ชอบเด็กขี้แย”




“ไม่..ฮึก..ไม่จริงอ่ะ”



“พี่ชอบเด็กขี้อ้อน...”


“ไม่เชื่อ...”



“พี่ชอบเด็กที่ตามตื๊อพี่ทุกวี่ทุกวันไม่รู้จักเหนื่อย พี่ชอบเด็กดื้อที่ไม่ยอมทิ้งพี่ไปไหนเวลาโดนไล่ พี่ชอบเด็กนิสัยไม่ดีที่แกล้งพี่จนหมดแรงทุกคืน...” ริมฝีปากเรียวประกบปิดทับริมฝีปากของคนที่ยังคงมองเขาด้วยสายตาเคลือบแคลงใจ ประคองใบหน้าของทินกรให้รับจูบหวานล้ำที่ตนรู้ว่าอีกฝ่ายชื่นชอบหนักหนา “พี่ชอบเด็กที่ชื่อทินกรคนนี้ พี่รักเด็กคนนี้ที่สุดในโลกเลย รู้มั้ยครับ?”



“…ผมรักพี่ภัทรที่สุดเลยครับ!!”



ภรัณยูหลุดหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อร่างสูงใหญ่โถมเข้าใส่จนเข้าต้องลงไปนอนแผ่หลาบนพื้น ไม่คิดปัดป้องริมฝีปากร้อนที่ตะโบมจูบตามใบหน้าและเรียวคอระหงงส์อย่างตะกละตะกลาม โอบแขนรอบลำคอหนาพร้อมรอยยิ้มกว้าง




หลังจากนี้ เขาจะไม่ยอมให้ทินกรร้องไห้คนเดียวอีกต่อไปแล้ว....


----------------




หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 22-12-2019 13:53:08
มีความสุขสักทีนะซันน ดีใจจกับน้องด้วย
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 22-12-2019 14:00:18
ซันเข้มแข็งมาก :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-12-2019 14:07:59
ทุกคนแฮปปี้แล้ว~
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 22-12-2019 18:29:23
ไม่ต้องร้องไห้คนเดียวอีกแล้วนะซัน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-12-2019 18:36:55
เรื่องร้ายๆผ่านไปได้สักที
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: hikkie ที่ 22-12-2019 20:49:21
ต่อไปก็น่าจะหวานชื่นแล้ว
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 22-12-2019 21:03:22
ต่อไปต้องมีแต่หวานๆแล้วแหละะ ทุกอย่างคลี่คลาย แฮปปี้น้า
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 22-12-2019 21:42:29
กีดกันคนที่รักในวันที่ทุกข๋
ไม่คิดว่าคนที่รักเขาไม่ทุกข์บ้างเหรอที่โดนกีดกัน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-12-2019 22:24:11
เป็นธรรมดาที่ซันจะช็อคมากกว่าใคร เพราะเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นซันยังเด็กอยู่มาก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 22-12-2019 22:25:00
ต่อไปขอให้มีความสุขทุกๆคนนะคะ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 22-12-2019 23:41:14
เจ้าเด็กน้อย พยายามเข้มแข็งเป็นผู้ใหญ่ได้ดี แต่ก็เป็นเด็กอ่อนแอ อ้อนพี่ภัทรได้นะ พี่เค้าชอบ
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 23-12-2019 10:35:28
เจ้าซันเก่งมาก โตมาแบบเท่ๆเลย กอดๆ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 23-12-2019 20:11:28
เก่งมากเจ้าซันนนนนน o13
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 23-12-2019 22:27:44
ดีขึ้นแล้วซินะซัน
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 25-12-2019 15:24:07
ดีใจมากค่ะ ที่ทุกคนได้กลับมาเป็นครอบครัวแล้ว

ทุกคนร่วมมือกันเอาคืนธีรเชษฐ์ ก็สมควรแล้วล่ะ
ทำน้องเสียใจ ร้องไห้ฟรี แล้วตัวเองก็ซึมแทนจ้า

ชอบที่มีนบอก บอกให้ไปไหนก็ไป ก็จะไปที่นี่ จะทำไม
มีนน่ารักมาก น่าเอ็นดูตลอดเวลา และมีขู่ด้วยจ้า 5555

สงสารซันนะ อัดอั้นมานาน เก็บมาตลอด
ในที่สุดก็ได้ปลดปล่อยละนะ

แต่ละคน เจอความสุขของกันและกันแล้วจ้า แฮปปี้
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 25-12-2019 19:43:30
Epilogue: คำว่าตลอดไป


หลายเดือนผ่านไป


“สอบเสร็จแล้วว้อยยยย!!!”


ถ้าหากไม่ติดว่าจะถูกมีนาบ่นงุ้งงิ้งๆเรื่องความสะอาดของพื้นที่สาธารณะและแอบหวั่นใจอยู่พอสมควรว่าตัวเองจะต้องซ่อมวิชานี้ พายุคงจะฉีกเอกสารประกอบการเรียนโยนขึ้นฟ้าให้กลายเป็นหิมะกระดาษโปรยปรายทั่วพื้นไปแล้ว



“เสียงดังอ่ะยุ คนมองหมดแล้ว” เจนวิทย์ติง แต่เจ้าตัวก็อดยิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้ที่วันหยุดที่รอคอยจะมาถึงเสียที



 หลังจากนี้ทั้งสองมีแผนจะไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มคบหาดูใจกันมา ความจริงแล้วเจนวิทย์ตั้งใจจะชวนเพื่อนๆไปเที่ยวกันเป็นกลุ่ม แต่ทุกคนเมื่อถูกสายตาของพายุจ้องจนแทบทะลุเพียงแต่ยิ้มเจื่อนแล้วบอกว่าไม่ว่าง กระทั่งทินกรและมีนาที่ไม่ได้เกรงกลัวสายตาของเพื่อนสนิทยังเลือกที่จะปล่อยให้เพื่อนทั้งสองได้ฮันนีมูนกันให้สมดังใจคุณชายพายุเขา



“ก็ยุดีใจนี่ครับ จะได้อยู่กับเจนซักที”



สุนัขในปากของร่างสูงรีบกุลีกุจอมาคลอเคลียคนรักไม่ห่าง ก็เจนวิทย์เล่นไล่ตะเพิดเขาไปนอนบนโซฟสมาตั้งหลายวันในช่วงเทศกาลสอบ ทำเอาคนอารมณ์ไม่คงที่แยกเขี้ยวใส่คนรอบข้างไปทั่ว โดยเฉพาะเพื่อนสนิททั้งสองที่โดนกัดไปตั้งหลายแผลแต่ยังคงยิ้มหน้าระรื่นอยู่ได้ ไม่สิ คงต้องบอกว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โลกสีชมพูทั้งของมีนาและทินกรมีชั้นบรรยากาศหนาแน่นเสียจนไม่มีใครสามารถแทรกซึมเข้าไปในพื้นผิวโลกได้



โดยเฉพาะมีนาที่หน้าตาอิ่มเอิบหวานฉ่ำชวนให้ผู้ชายเหลียวหลังมองทั้งที่คอลายพร้อยเหมือนโดนยุงหามทั้งฝูง จนพายุต้องผลัดเวรกับทินกรตามเพื่อนตัวเล็กไปทุกที่ไม่เว้นแม้แต่เข้าห้องน้ำ



“หยุดเลย วันนี้ไปฉลองกับเพื่อนก่อน” เจนวิทย์ดันหน้าคนรักที่จู่โจมเข้ามาอย่างไม่สนใจที่สาธารณะอย่างไม่จริงจังนัก หันไปสนใจมีนากับทินกรที่เก็บข้าวเก็บของเตรียมกลับบ้านหลังจากสอบเสร็จเช่นกัน “ซันกับมีนไปด้วยกันมั้ย เพื่อนๆในกลุ่มเรานัดกันไปร้องคาราโอเกะน่ะ”



“ขอบใจมากนะเจน แต่วันนี้เรานัดกับที่บ้านไว้น่ะ” ทินกรยิ้มให้คนรักของเพื่อนสนิทอย่างสุภาพ “มี้เขาอยากฉลองที่พ่อหายดีแล้วด้วย เลยว่าจะทำอาหารเย็นกินกันที่บ้านน่ะ”



คนมีนาที่ก้มหน้าก้มตาตรวจเช็คคำตอบในชีทเรียนของตนสำลักอากาศขึ้นมากระทันหัน



“มึงนี่ก็ติดคุณมี้มึงเหมือนกันนะเนี่ย พ่อมึงไม่ว่าเหรอวะ” พายุเลิกคิ้วถาม “ไปเกาะแกะเมียเด็กเขาอ่ะ”



“เดี๋ยวนี้พ่อกล้าหือที่ไหน แค่มี้ขมวดคิ้วใส่ก็เครียดจนหงอกขึ้นแล้ว” ทินกรหัวเราะ เหลือบมองคนข้างกายที่ในตอนนี้แทบจะซุกหน้าลงไปกับชีทเรียนอยู่แล้ว “ว่างๆมากินข้าวบ้านกูดิ จะได้เห็นว่าพ่อกูกลัวมี้ทิ้งขนาดไหน”



“มีเมียเด็กก็ต้องอัพเลเวลแบบนี้ล่ะ” คนฟังเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ “พูดถึงเมียเด็ก คุณเมียเด็กตอนนี้ชีวิตเป็นไงบ้าง ผัวเสี่ยมึงยังคนเดิมอยู่ป่ะ”



“อื้อ คนเดิมนั่นแหละ” มีนาพยักหน้าหงึกหงักแม้แก้มยังแดงเรื่อ ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่เขามีเพื่อนอย่างพายุ มีนาจึงได้รู้สึกชาชินกับแต่ละคำที่อีกฝ่ายใช้



เขารู้ว่าเมื่อตัวเองเลือกที่จะเดินเคียงข้างธีรเชษฐ์ มุมมองของคนอื่นต่อความสัมพันธ์ของพวกเขาย่อมไม่ใช่สิ่งที่สวยงาม แต่ในเมื่อความรักของเขาไม่ได้ทำร้ายใคร มีนาจึงเลือกที่จะปล่อยให้ความเห็นของคนรอบกายเป็นเพียงลมผ่านหูที่เขาพยายามไม่นึกใส่ใจ



“ให้กูเดานะ มึงก็ไม่ไปเหมือนกัน อยากฉลองปิดเทอมกับผัวเสี่ยสองต่อสอง?” พายุเลิกคิ้วอย่างรู้ทัน



“เปล่าหรอก วันนี้มีทานข้าวกับครอบครัวเขาน่ะ” มีนาอมยิ้ม ทินกรเหลือบมองเพื่อนตัวเล็กข้างกายอย่างประหลาดใจ แต่ดูเหมือนว่าพายุจะยังคงเชื่อมโยงทั้งสองจุดเข้าด้วยกันไม่ได้



“แล้วมึงเข้ากับลูกเขาได้เหรอวะ มึงอายุน้อยกว่าลูกเขาอีกไม่ใช่เหรอ?” พายุขมวดคิ้ว มีนานิ่งคิด ก่อนจะพยักหน้า



“อื้อ...ครอบครัวเขาเป็นคนไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้วใจดีมากเลยนะ” เด็กหนุ่มร่างเล็กตอบยิ้มๆ “พายุไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เราดูแลตัวเองได้”



“ตัวเท่าลูกหมา กล้าพูดนะมึง” พายุโยกศีรษะเพื่อนตัวเล็กเบาๆ ยังไม่วายเอ่ยสัมทับด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แต่มึงรู้ใช่มั้ยว่ามึง
มาหากููได้ตลอด”



“อื้อ รู้แล้ว” มีนาเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เพื่อนสนิท



ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เขาไม่เคยคิดฝันว่าตัวเองจะมาได้ไกลถึงเพียงนี้ ทั้งแม่และยายของเขาได้รับการรักษาที่ดีที่สุดเท่าที่เงินจะหาซื้อได้ พวกเขาไม่ต้องนอนหนาวสั่นอยู่ในเพิงสังกะสีเล็กๆ ไม่ต้องกังวลว่ามื้อต่อไปจะมีอะไรตกถึงท้องหรือไม่
ในตอนนี้ เขามีครอบครัวที่เขารักเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งครอบครัว มีเพื่อนที่คอยดูแลปกป้องเขาอยู่เสมอ สำหรับคนในวัยเดียวกันกับเขา ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีนามีในตอนนี้อาจถูกมองเป็นเรื่องน่าอึดอัด น่าเบื่อหน่าย ซ้ำซากจำเจ แต่เด็กหนุ่มค้นพบว่า การตื่นมาพบกับใบหน้าของคนที่รักที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างกาย การได้เห็นรอยยิ้มของธีรเชษฐ์ในทุกๆวัน การถูกยอมรับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของคนรักที่ค่อยๆเปิดรับเขาทีละน้อย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่มีนาโหยหามาทั้งชีวิต และเป็นสิ่งที่ในตอนนี้เขาได้มาครอบครองในมือ



ซึ่งมีนาไม่คิดว่าเขาจะมีวันปล่อยมันไปตราบเท่าที่เขายังมีลมหายใจ



“แล้วนี่มึงกลับยังไง? รถเข้าศูนย์อยู่ไม่ใช่เหรอ?” พายุหันไปถามทินกร “ให้กูไปส่งมั้ย?”



“พ่อกูมารับ”



“เฮ้ย! จริงดิ?!” คนฟังตาลุกวาวเมื่อได้ยินดังนั้น ถึงแม้พายุจะไม่ได้สังเกต แต่มีนาสังเกตเห็นรอยยิ้มมุมปากอย่างสมใจของลูกเลี้ยงที่บ่งบอกว่าทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผนการที่ตนวางไว้ “แบบนี้ต้องไปไหว้คุณพ่อซะหน่อยละ อยู่มาตั้งนานไม่เห็นเคยเจอ”



“เออ พ่อกูก็คงอยากเห็นหน้ามึงเหมือนกัน” คนเจ้าแผนการตอบยิ้มๆ



พูดไม่ทันขาดคำ รถสปอร์ตคันหรูใหม่เอี่ยมสีขาวสะอาดที่มีนาเป็นคนช่วยเลือกกับมือเลี้ยวเข้ามาจอดบริเวณที่พวกเขากำลังนั่งอยู่ ฟิล์มกระจกมืดรอบด้านที่บดบังทัศนียภาพภายในรถทำให้พวกเขามองไม่เห็นคนขับ แต่คนที่เห็นรถคันนี้เข้าออกบ้านอยู่เป็นเนืองนิตย์ทั้งสองคนรู้ดีว่าร่างสูงที่อยู่ในนั้นเป็นใคร



“พ่อกูมาละ”



เด็กทั้งสี่ลุกขึ้นจากม้านั่งเพื่อกล่าวทักทายบิดาของทินกร พายุไม่ได้สังเกตเลยว่่านอกจากเพื่อนตัวสูงแล้ว เจ้าตัวเล็กข้างกายก็เก็บกระเป๋าสะพายลุกไปกับเขาด้วย



แน่นอน เมื่อไม่เห็นการกระทำของมีนาย่อมมองไม่เห็นทินกรที่ยกมือถือขึ้นมากดอัดวีดีโออย่างแนบเนียน ประตูรถคันหรูเปิดออก พร้อมการร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเข้มที่ตนไม่ได้ใส่มาระยะหนึ่งก้าวออกมา ในอ้อมกอดมีดอกกุหลาบขาวช่อใหญ่จัดห่อสวยงามผูกริบบิ้นสีเงินเรียบหรู  เพียงแค่การยกมือขึ้นเสยผมจัดทรงอย่างไม่ใส่ใจก็ทำให้สาวๆรวมถึงหนุ่มๆหลายคนที่มองมาเข่าทรุดล้มพับไปตามๆกัน



ไม่เว้นแม้แต่พายุที่เสียศูนย์ไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นโฉมหน้าบิดาแท้ๆของทินกรเป็นครั้งแรก



“อะ…”



นิ้วมือสั่นเทาชี้ไปมาระหว่างคนทั้งสามด้วยสีหน้าสับสนที่ควรค่าแก่การบันทึกภาพเก็บไว้เป็นที่สุด ดวงตาคมเบิกกว้าง คิ้วเข้มเลิกสูงจนแทบจะหายไปในไรผม ริมฝีปากอ้ากว้างอย่างตกตะลึงจนแมลงทั้งฝูงสามารถบินเข้าปากได้อย่างง่ายดาย




“เชี่ย...” ร่างสูงชี้ไปทางทินกรที่ยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจในผลลัพธ์ของแผนการ



“เชี่ย...” กลับมาชี้หน้ามีนาที่กำลังกลั้นหัวเราะไว้อย่างสุดความสามารถ



“เชี่ย!!!” และสุดท้ายมาหยุดอยู่ที่ผัวเสี่ยฝรั่งของมีนาที่เลิกคิ้วมองเขาด้วยแววตาขบขันอย่างไม่ปิดบัง



“พ่อครับ นี่พายุเพื่อนผม” ทินกรแนะนำ ก่อนจะหันไปหาพายุที่ยังคงนิ่งค้างอยู่กับที่อย่างสับสน “ไอ้ยุ นี่พ่อกู ส่วนนี่...”
เด็กหนุ่มโอบเพื่อนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอดพร้อมรอยยิ้มกว้าง



“...มี้กู แม่มีน”


“พอ ไอ้เด็กลามปาม” ธีรเชษฐ์รีบดึงคนรักออกมาจากอ้อมกอดของลูกชายคนเล็กด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ยื่นดอกไม้ช่อโตนั้นให้มีนา ตอนที่ร่างสูงถึงก็ดูช่อใหญ่มากแล้ว เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเด็กหนุ่มนั้นมีนาแทบจะจมหายไปในช่อดอกไม้ เด็กหนุ่มไล้นิ้วไปตามกลีบดอกสีขาวบริสุทธิ์อย่างชื่นชม ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองคนรักด้วยสายตาเป็นกังวล



“คุณเชษฐ์...ผมว่ามันแพงไปนะครับ...”



“โอกาสพิเศษน่า ฉันไม่ได้ซื้อดอกไม้ให้เธอทุกวันซักหน่อย” ธีรเชษฐ์แย้ง



ใช่ อีกฝ่ายไม่ได้ซื้อดอกไม้ให้เขาทุกวัน แต่ของขวัญอย่างอื่นไม่ว่าจะเป็นวัตถุสิ่งของหรือการกระทำเล็กๆที่อีกฝ่ายตั้งใจทำให้เขาในแต่ละวันนั้นก็มากพอที่จะทำให้เด็กหนุ่มได้รับความรักอย่างท่วมท้นจนแทบจะจมหายลงไปในความรักของอีก
ฝ่าย



แต่ก็นะ ใช่ว่ามันจะเป็นเรื่องไม่ดีเสียเมื่อไหร่



“ขอบคุณนะครับ แต่วันหลังขอเป็นของกินได้มั้ยครับ” จริงอยู่ที่เขาชอบดอกไม้ของธีรเชษฐ์มาก แต่มีนายังคงรู้สึกเสียดายทุกครั้งที่ได้รับของราคาแพงจากธีรเชษฐ์ที่เขาจำเป็นจะต้องทิ้งไม่กี่วันให้หลัง อย่างน้อยได้อิ่มท้องก็ยังดี



“ขนมอยู่ท้ายรถ” ร่างสูงโอบคนรักเข้ามาแนบชิด ก้มลงขโมยหอมฟอดใหญ่จากแก้มนิ่ม หากไม่ติดว่าเป็นสถานศึกษาเขาคงทำมากกว่านี้ไปแล้ว ใครใช้ให้เด็กน้อยของเขาน่ากอดน่าฟัดทุกวินาทีแบบนี้ล่ะ



“อื้อ คุณเชษฐ์ อายเขาครับ”



ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ใจจริงแล้วมีนาก็อดอืดอกเล็กๆอย่างภูมิใจในตัวคนรักไม่ได้เมื่อเห็นสายตาของคนรอบข้างที่มองคุณเชษฐ์ของเขาราวกับเทพบุตรมาจุติ ร่างเล็กก้มหน้างุดซ่อนความเขินอายในช่อดอกไม้ใหญ่ เรียกหอมฟอดใหญ่จากอีกฝ่ายไปได้อีกหนึ่งฟอด



“เอ่อ มีน…มาดูพายุหน่อยสิ…”



สองคนที่สวีทกันไม่สนใจโลกก่อนนี้หันมาตามเสียงเรียกของทินกร พายุที่ยังคงอ้าปากค้างมองทพวกเขาไม่วางตามีท่าทีเหมือนจะเป็นลมล้มพับลงไปได้ทุกเมื่อ



“นี่เหรอพายุ…” ธีรเชษฐ์เอียงคอมองเด็กหนุ่มผิวเข้มด้วยสีหน้าสนใจ “ก็ไม่เห็นจะหล่อเท่าไหร่นี่”



“ไม่หล่อก็เตะปี๊บดังกว่าลุงแล้วกัน” ต่อให้ตะลึงตาค้างแค่ไหน สุนัขในปากของพายุก็ยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ขาดตกบกพร่อง คิ้วเข้มของคนที่ถูกเรียกว่าลุงกระตุกกึก มีนารู้สึกเหมือนสายฟ้าฟาดเปรี๊ยะรักว่างดวงตาของคนทั้งสอง



“งั้นเหรอ…” ร่างเล็กที่ภาวนาให้คนทั้งสองไม่ลากตัวเองเข้าไปในวงตะลุมบอนด้วยถอนหายใจเมื่อคางเรียวถูกคนรักเชยขึ้นให้สบตา “เพื่อนเธอว่ามาแบบนี้ สงสัยฉันคงต้องทำรอบให้มากกว่านี้แล้วสิ”



“พะ…พอแล้วครับคุณเชษฐ์ แค่นี้ก็…” มีนากัดริมฝีปาก ดวงหน้าขาวแดงเรื่อ ไม่กล้าสบตาเพื่อนทั้งสองของตน “กลับกันเถอะครับ คนอื่นคงรอแย่แล้ว”



“นั่นสินะ” ธีรเชษฐ์เห็นดีเห็นงามกับคนรัก ซึ่งดูจะเป็นสิ่งเดียวที่ชายหนุ่มทำตั้งแต่มีนาเดินกลับมาในชีวิตของตน ร่างสูงเหลือบมองเพื่อนของคนรักและลูกชาย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง



“ขอบใจนะ ที่ช่วยดูแลมีนมาตลอด”



“ลุงก็อย่าทำมันเสียใจแล้วกัน ผมรู้ที่อยู่บ้านลุงนะ” พายุขู่ด้วยสีหน้าจริงจังไม่แพ้กัน



ธีรเชษฐ์ก้มมองร่างในอ้อมกอดพร้อมรอยยิ้ม เช่นเดียวกับมีนาที่เงยหน้ามองคนรักด้วยหัวใจในแววตา



“ไม่ทำแล้วล่ะ ทั้งชีวิตนี้ จะไม่ทำอีกแล้ว”







เสียงโหวกเหวกโวยวายเป็นภาษารัสเซียเรียกสีหน้าประหลาดใจจากคนที่เพิ่งกลับมาได้เป็นอย่างดี ภาพที่เห็นหลังจากเปิดประตูบ้านเข้ามานั้นก็ไม่ได้ช่วยอธิบายสถานการณ์เท่าไหร่นัก



เมฆาในชุดสียืดกางเกงขาสั้นตัวใหญ่คำรามเมื่อถูกน้องชายคนรองกระโดดล็อกคอ ขาเรียวตวัดเกาะพี่ชายไว้จากด้านหลัง ขยี้ผมที่มักจะถูกจัดทรงเป็นระเบียบอยู่ตลอดของรองประธานทรัพย์ดำรง เสียงสบถดังลั่นของคนเสียงดังทั้งสองทำให้มีนาก้าวหลบหลังคนรักโดยไม่รู้ตัว ร่างเล็กเงยหน้ามองทินกรอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ลูกคนสุดท้องของบ้านเพียงแต่พยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วยกับอะไรก็ตามที่พี่ใหญ่ของบ้านกำลังเถียงคนที่ล็อคคอตัวเองไว้จนแทบขาดอากาศกายใจตอนนี้



“ลูกใครวะ”



คนเป็นพ่อนวดขมับอย่างปวดหัวกับลูกชายทั้งสาม ก้าวไปดึงเอาลูกคนรองที่ตัวเล็กที่สุดออกมาจากพี่คนโต ธารธาราเกาะผู้เป็นบิดาไว้แน่น แลบลิ้นใส่พี่ชายของตนราวกับเด็กน้อยเอาแต่ใจ



“เขาทะเลาะอะไรกันเหรอซัน”




“พี่เมฆเอาขนมพี่อุ่นไปซ่อน บอกว่าพี่อุ่นกินหวานไปแล้ว” ทินกรหันมาอธิบาย “ก็จริงนะ แต่เป็นเราเราไม่กล้าหรอก เดี๋ยวพี่อุ่นงับหัว”



มีนากระพริบตาปริบๆกับคำตอบที่ได้รับ หันไปมองธารธาราที่ปกติแล้วติดพี่ชายมากกว่าบิดายังคงกอดธีรเชษฐ์กลม ไม่สนใจเมฆาที่พยายามง้อตนอย่างเงอะๆงะๆสักนิด



แม้จะรู้ดีว่าเป็นสิ่งคิดไปเอง แต่บางครั้งมีนาก็อดรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินในครอบครัวสุขสันต์ที่เพิ่งประกอบติดรอยร้าวในอดีตได้สำเร็จไม่ได้



“น่า เดี๋ยวพ่อให้มีนทำไข่เจียวให้ ไม่งอแงนะ…ธาร! อย่ากัดเมฆ!” ธีรเชษฐ์คว้าตัวลูกชายคนรองที่ทำท่าจะงับมือของคนพี่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจงใจแหย่ นึกโอดครวญกับฟ้าดินว่าตนแก่เกินไปสำหรับเรื่องแบบนี้แล้วจริงๆสินะ



ธารธาราสงบลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนั้น ยังคงมองพี่ชายของตนด้วยสายตาคาดโทษ ส่วนธีรเชษฐ์เพียงแต่หันมายิ้มให้คนรักด้วยสีหน้าขอโทษขอโพยกับควาาวุ่นวาย



ไม่ได้รับรู้ว่าท่าทีของพวกเขาเมื่อครู่ช่วยให้ก้อนเนื้อในอกพองมีนาพองโตขึ้นมาอย่างตื้นตันเพียงใด



“ครับ ผมจะไปทำให้เดี๋ยวนี้เลย”



“…ไม่ต้องรีบก็ได้” ธารธารางึมงำ ซุกหน้าเข้ากับอกของบิดาคล้ายเพิ่งรู้สึกตัวว่าการอาละวาดเป็นเด็กน้อยของพวกตนเมื่อครู่อยู่ในสายตาของแม่เลี้ยงคนใหม่ของตน



“อ้าวมีน มาแล้วเหรอ? พี่ฝากตำพริกแกงหน่อยสิ ให้แทนทำทีไรเผ็ดจนไฟออกปากทุกที” มธุวันชะโงกหน้าออกมาจากครัวเมื่อได้ยินเสียงของคนรักของเจ้านาย หรือหากจะเรียกให้ถูกต้องกว่านั้นคงต้องพูดว่าเป็นแม่เลี้ยงของสามีของตน



“โธ่ พี่หมอกครับ ไม่เผ็ดก็ไม่ใช่แกงเผ็ดสิครับ” เสียงคนรักของธารธาราแย้งขึ้นดังลอดออกมาจากในครัว เช่นเดียวกับเสียงเบาของภรัณยูที่เอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างกล้าๆกลัวๆ



“เอ่อ…คุณหมอกครับ ผมว่าไฟมัน…”



“เฮ้ย!”




“จะมีซักวันมั้ยที่พากันเข้าครัวแล้วครัวไม่ไหม้น่ะ” ธีรเชษฐ์ถอนหายใจ




ครอบครัวใหญ่ที่แสนวุ่นวาย บ้านที่เคยเงียบเหงาเต็มไปด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวายและกลิ่นไหม้คละคลุ้งในอากาศ อาหารเย็นที่เคยเป็นเมนูแนะนำในภัตราคารหรูชื่อดัง ในวันนี้ปรุงจากฝีมือคนรักของเขาและลูกชายทั้งสามที่กำลังมะรุมมะตุ้มกันอยู่ในครัว และธีรเชษฐ์รู้ดีว่าพวกเขาเลือกอาหารเย็นแบบไหนมากกว่ากัน



เหล่าสมาคมพ่อบ้านที่ถูกแบนจากห้องครัวและธารธาราที่ดูจะสนุกสนานกับการปล่อยให้คนรักผันตัวไปเป็นนางทาสในครัวช่วยกันจัดจานอาหารบนโต๊ะอย่างขะมักเขม้น ถึงท้องจะร้องโครกครากประท้วงอย่างรุนแรงก็ทำได้เพียงสงบเสงี่ยมเจียมตนรออาหารเย็นนที่เปี่ยมไปด้วย’ความรักและความใส่ใจอย่างเปี่ยมล้น’ ตามที่เลขาของเขาเคยนิยามไว้ เรียกได้ว่าหากใครบังอาจแกะลูกอมกินรอแก้หิวมีโทษถึงไล่ออกไปนอนในโรงรถได้เลยทีเดียว



“มาแล้วคร้าบบบ”



แทนไทยในชุดผ้ากันเปื้อนสีสันสดใสเป็นคนนำทัพออกมาพร้อมกับผัดปลาสามรสส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย คนในครัวเริ่มทยอยกันออกมาพร้อมกับจานอาหารในมือ ทินกรรีบกุลีกุจอมาช่วยคนรักถือถ้วยยำวุ้นเส้นเช่นเดียวกับเมฆาที่รีบรับหม้อแกงเผ็ดเป็ดย่างมาจากมธุวัน ธีรเชษฐ์สั่นศีรษะอย่างขบขัน ก่อนจะสังเกตว่าคนรักของตัวเองเป็นคนสุดท้ายที่ยังคงอยู่ในครัว จึงผละจากโต๊ะทานอาหารเข้าไปในครัวที่ยังได้ยินเสียงน้ำมันร้อนฉ่ากระเด็นจากกระทะเป็นระยะ คนรักตัวเล็กของเขายังคงง่วนอยู่หน้าเตาทั้งที่ข้างกายมีจานไข่เจียวสีเหลืองอร่ามดูฟูกรอบน่าทานวางอยู่แล้ว



“ทำอะไรอยู่”



“ทำไข่เจียวให้คุณธารครับ เขาชอบไข่เจียวนุ่มๆ ใส่นมข้นจืดเยอะๆ” มีนาอธิบายทั้งที่ยังคงง่วนอยู่กับไข่ในกระทะ ธีรเชษฐ์มองภาพตรงหน้าด้วยแแววตาอ่อนโยน ความสัมพันธ์ของธารธารากับมีนาแม้ห่างไกลจากคำว่าครอบครัวยังคงเรียกได้ว่าญาติดีกันแล้ว ซึ่งสาเหตุนั้นมาจากเสน่ห์ปลายจวักของคนรักของเขาที่ทำให้คนเรื่องมากเรื่องไข่เจียวอย่างธารธาราติดใจได้ในคำแรกที่รับประทาน



ถ้าหากรู้ว่าจะง่ายขนาดนี้เขาคงให้มีนทำไข่เจียวสักสิบฟองไปเซ่นไหว้ลูกชายคนรองเขาเสียตั้งแต่แรกคงหมดเรื่อง



“จริงสิ เมื่อวานเห็นมีแจ้งเข้ามาว่าเธอรูดบัตรร้านปากกาไป ปกติฉันไม่เคยเห็นเธอซื้อปากกาแพงๆแบบนั้นเลย ซื้อไปให้ใครเหรอ?” มือใหญ่วางบนแผ่นหลังเหนือสะโพกกลมของคนรัก แม้จะอยากดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดไว้แน่นๆให้สมกับที่ไม่ได้เจอกันตลอดทั้งวันแต่เขาไม่ไว้ใจกระทะน้ำมันร้อนฉ่าตรงหน้ามีนาเท่าไหร่นัก



ความจริงแล้วบัตรเครดิตที่ธีรเชษฐ์ให้มีนาเป็นสิทธิ์ของร่างบางโดยชอบธรรม เขาไว้ใจคนรักให้จัดการกับรายจ่ายในชีวิตประจำวันมากพอที่จะไม่ก้าวก่าย แต่มีนายืนกรานที่จะให้เขารับรู้ว่าเงินของเขาหายไปกับอะไรบ้าง



“พี่ภีมน่ะครับ เขาอุตส่าห์ช่วยผมมาตั้งหลายเรื่อง เลยซื้อไปขอบคุณซักหน่อย”มีนาอธิบาย



 ภีม หรือ ภวัต เป็นนักศึกษาปีสามภาควิชากายภาพบำบัดที่มีนารู้จักโดยบังเอิญผ่านกิจกรรมมหาวิทยาลัย ชายหนุ่มร่างโปร่งผิวสีน้ำผึ้งที่คเชนทร์มักจะเห็นมีนาอยู่ด้วยบ่อยครั้งในช่วงที่ธีรเชษฐ์รักษาตัวอยู่ต่างจังหวัด คนรักของเขามักจะนเำรื่องอาการของธีรเชษฐ์ไปปรึกษาอีกฝ่าย ขอคำแนะนำในการดูแลเขาบ่อยครั้งจนทำให้เพื่อนสนิทของธีรเชษฐ์เข้าใจผิด



 หากเป็นเมื่อก่อน เขาคงหึงหวงจนแทบบ้าแค่ได้ยินชื่อผู้ชายคนอื่นออกมาจากปากของคนรัก แต่หลังจากทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาผ่านมาด้วยกันเขาเพียงแค่อยากให้ทุกวันของพวกเขามีเพียงความรักและความเชื่อใจอย่างที่เด็กคนนี้มีให้เขามาโดยตลอด



“แล้วไป แต่อย่าซื้อของขวัญให้ผู้ชายคนอื่นบ่อยนักก็แล้วกัน ฉันหึงนะรู้มั้ย” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูทีเล่นทีจริง พวงแก้มใสซับสีเรื่อพร้อมรอยยิ้มเขินอาย มีนาปิดเตาแก๊สแล้วตักไข่เจียวออกมาจากกระทะ



“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เจ้านายพี่ภีมน่ากลัวจะตาย”



“เจ้านาย?” ร่างสูงขมวดคิ้ว เขานึกว่าเด็กคนนั้นเป็นนักศึกษาเสียอีก



“ครับ บ้านพี่ภีมทำงานให้บ้านเจ้าสัววิสุทธรากร คุณเชษฐ์รู้จักมั้ยครับ?”



“อืม เคยร่วมงานกันอยู่บ้าง” ร่างสูงพยักหน้าครุ่นคิด แม้จะไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันเกินผู้ร่วมลงทุนธุรกิจต่างๆ ธีรเชษฐ์ยังคงนับถือท่านเจ้าสัวเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง


จะว่าไป ก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็มีเด็กแปลกๆคนหนึ่งมาเจรจาของซื้อหุ้นวิสุทธากรทั้งหมดที่ตระกูลทรัพย์ดำรงถืออยู่ แถมข้อเสนอยังใจดีเสียจนน่าสงสัย แต่คนที่รับเรื่องไว้ในช่วงนั้นคือทินกร ทำให้ลูกชายของเขาที่ไม่ค่อยไว้ใจข้อเสนอประหลาดนั้นปฏิเสธไป



“พี่ภีมเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของลูกชายคนโตของท่านเจ้าสัวครับ” มีนากล่าวต่อด้วยสีหน้าไม่เข้าใจนัก “ผมก็ไม่มั่นใจว่าทำไม แต่คุณนคินทร์คนนั้นชอบมานั่งรอพี่ภีมคุยกับผมตลอดเลย ทั้งที่ตัวเองเรียนวิทยาเขตอินเตอร์แท้ๆ แถมจ้องผมเหมือนจะจับไปโยนทะเลด้วย เป็นเจ้านายที่น่ากลัวมากๆเลยครับ”



อา…



ธีรเชษฐ์อ้าปากหมายอธิบาย ก่อนจะตัดสินใจว่าเรื่องบางเรื่องควรให้มีนาได้ลองสังเกตเองบ้างคงสนุกกว่า



“ดีแล่ว คนน่ากลัวแบบนั้นอยู่ให้ห่างๆจะดีกว่า” สิ่งที่ธีรเชษฐ์พอจะจำได้เกี่ยวกับลูกชายคนโตของท่านเจ้าสัวคือความหล่อ
เหลามาดคุณชายสไตล์ผู้ดีเก่าของเด็กคนนั้น ตัวอันตรายประเภทนั้นกันมีนาไว้ให้ห่างน่าจะดีกว่า



มีนาพยักหงึกหงักอย่างว่าง่าย ยื่นจานไข่เจียวจานนั้นให้ธีรเชษฐ์แล้วหันไปหยิบจานที่วางอยู่ก่อนหน้า ด้วยกลัวว่าหากชักช้าไปกว่านี้อาจจะโดนลูกชายคนรองของบ้านงับหัวไม่ต่างจากที่เมฆาโดนไปเมื่อครู่



ธีรเชษฐ์นั่งลงข้างคนรัก ตักอาหารใส่จานของมีนาขณะที่รอบกายของพวกเขา บทสนทนาระหว่างลูกชายทั้งสามกับคนรักยังคงดังอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะทินกรที่ดูเหมือนเพิ่งกระดกกาแฟหมดไปทั้งถังทุกครั้งที่พวกเขามารวมตัวกันอย่างในวันนี้



“พี่ภัทรๆ ปิดเทอมเราไปเที่ยวต่างประเทศกันบ้างมั้ยครับ ผมเห็นไอ้ยุไปกับแฟน…”



“เอาสิ พี่ยังเหลือวันหยุดอยู่…”



“แทน พี่ก็อยากไปอ่ะ”



“เอาสิครับพี่อุ่น ถ้ารีบจองตั๋วน่าจะทัน…”



“ไปกับพี่กับเมฆมั้ย พวกพี่จะไปญี่ปุ่นกัน”



“หมอก! ไหนว่าเราจะไปฮันนีมูนกันไงครับ”



“ก็ฮันนีมูนไง แค่ให้น้องติดไปด้วยเอง เครื่องบินส่วนตัวสะดวกกว่าเครื่องบินพาณิชย์ตั้งเยอะ”



“แต่ถ้าอย่างนั้นเมฆก็อดทำ…”


“ทะลึ่ง!”



“ถ้าไปกันหมดบ้านแบบนี้ พาพ่อไปด้วยดีมั้ยครับจะได้มีคนจ่าย…พ่อครับ? พ่อ?” ธีรเชษฐ์ที่เหม่อมองภาพครอบครัวสุขสันต์ล้อมรอบโต๊ะอาหารตรงหน้าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมีนาสะกิดเขาเบาๆที่ต้นแขน ร่างสูงเห็นทินกรที่มองมาทางเขาอย่างรอคอยคำตอบ เช่นเดียวกับคนอื่นๆที่มองมาทางเขาเป็นตาเดียว



“…อืม ไปสิ”


“เย้! Family trip!”



 เจ้าลูกคนเล็กที่โตจนบริหารบริษัทเองได้แล้วกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจในเก้าอี้ของตัวเอง คราวนี้ไม่มีใครคิดจะห้ามปราม รอยยิ้มสว่างไสวดุจดวงตะวันที่ออกมาจากก้นบึ้งของจิตใจของเด็กหนุ่มเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ได้เห็นบ่อยนัก รอยยิ้มที่ทำให้
คนมองต้องขยับยิ้มตามอย่างห้ามตัวเองไม่ได้



นั่นสินะ พวกเขาไม่ได้ไปเที่ยวกันเป็นครอบครัวมานานแค่ไหนแล้วนะ



 “พี่เมฆๆ ผมอยากไปดูภูเขาฟูจิ~”



“พี่เมฆๆ อุ่นอยากไปโอซาก้าอ่ะ”


“ไม่ได้ หมอกเขาอยากไปฮอกไกโด”



อา…เขาพอจะจำได้แล้วว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ค่อยได้ไปเที่ยวกันบ่อยนัก




------------------
หัวข้อ: Re: Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Chapter 52 น้ำตาที่เก็บไว้ [22-12-62] คห.904
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 25-12-2019 19:43:54


“เฮ้อ…เหนื่อย”



ร่างสูงที่ใช้แรงไปกับการล้างจานกองโตแทบจะฟุบลงกับเตียงทันทีที่ออกมาจากห้องน้ำ มีนาที่นอนอ่านหนังสือนิยายจาก
หนังสือกองโตที่คนรักซื้อให้รออยู่บนเตียงยิ้ม ปิดหนังสือแล้วขยับเข้าไปใกล้ร่างสูงในกางเกงนอนผ้าลื่น โอบแขนรอบเอวสอบพร้อมเกยคางบนไหล่กว้าง



“ก็บอกแล้วว่าผมล้างเองไงครับ”



“ได้ไงล่ะ แบบนี้เธอก็ทำงานอยู่คนเดียวน่ะสิ ฉันบอกว่าให้เก็บไว้ให้เด็กมาล้างก็ไม่ยอม” ร่างสูงบ่น พลิกกายกลับมานอนหงายแล้วรวบเอาร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด จมูกโด่งคลอเคลียจมูกเล็กอย่างรักใคร่ “เธอกับเรื่องจัดของให้เรียบร้อยนี่มันยังไงนะ”



“ก็ผมไม่ชอบนี่ครับ” เด็กหนุ่มตอบงึมงำ “คุณเชษฐ์รำคาญผมเหรอครับ?”



“คิดว่าฉันกล้าเหรอ” ร่างสูงยิ้มขำ มือใหญ่ลูบศีรษะกลมอย่างเอ็นดู “เอาสิ ถ้าเธอไม่ชอบให้มีจานเลอะในอ่าง ฉันก็จะช่วยล้าง ถ้าเธอไม่อยากให้มีผ้ากระจายเต็มพื้น ฉันก็จะช่วยเก็บ ถ้าเธอไม่อยากให้บ้านรก ฉันก็จะช่วยกวาด ขอแค่เธอมีความสุข จะให้ฉันทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”



“แล้วคุณเชษฐ์รู้มั้ยครับ ว่าผมมีความสุขที่สุดตอนไหน”



ดวงแก้วกลมโตสุกใสสบกับดวงเนตรคม มีนาเกยคางกับแผงอกแกร่งพร้อมรอยยิ้มกว้าง



“แล้ว…คุณเชษฐ์รู้มั้ยครับว่าผมมีความสุขที่สุดตอนไหน?”



ร่างสูงเลิกคิ้ว รอให้อีกฝ่ายเฉลยคำถามนั้นด้วยตัวเองแม้จะพอรู้ว่าคำตอบของมีนาคืออะไร



“ผมมีความสุข…” ริมฝีปากนิ่มประทับลงบนแผ่นอกเปลือยเปล่าของคนรัก “เวลาที่คุณเชษฐ์มีความสุข”


“ถ้าอย่างนั้น…” ริมฝีปากได้รูปขยับยิ้มมุมปาก มีนาสะดุ้งเมื่อมือใหญ่ซุกซนเลื้อยลงมาตามแผ่นหลังขาวมาหยุดอยู่ที่ก้อนเนื้อกลมนิ่มใต้กางเกงนอนตัวบาง “ฉันก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าจะทำให้เธอมีความสุขยังไง”



“ไหนว่าเหนื่อยไงครับ…” ถึงจะพูดอย่างนั้น บั้นท้ายกลมกลึงกลับขยับบดเบียดมือใหญ่ให้ขยำความนุ่มนิ่มในมืออย่างมันเขี้ยว “ไม่นอนแล้วเหรอครับ”



“หืม อยากให้ฉันนอนจริงเหรอ?” ร่างสูงเย้า มีนาก้มหน้าอย่างขัดเขิน ผิดกับร่างกายที่ให้ความร่วมมือกับคนรักที่ดึงรั้งขอบกางเกงของตนลงเป็นอย่างดี



“ผมอยากให้คุณเชษฐ์พักผ่อน…แต่ผมก็อยากให้คุณเชษฐ์มีความสุข”



มือเรียวเล็กเคลื่อนลงมาเกี่ยวที่ขอบกางเกงของคนรักเช่นกัน หลายเดือนที่ผ่านมานี้ เด็กน้อยของเขาเติบโตขึ้นจากเด็กขี้อายในวันวานอยู่มาก แน่นอนว่าริ้วสีแดงเรื่อที่พาดผ่านพวงแก้มใสจะยังคงไม่จางหายไปโดยง่าย แต่มีนาเรียนรู้ที่จะร้องขอและไขว่คว้าในสิ่งที่ตนต้องการ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ธีรเชษฐ์รู้สึกว่าตัวเองหลงอีกฝ่ายจนโงหัวไม่ขึ้นมากขึ้นทุกวัน



“อึก…มีน…”



“เพราะฉะนั้น วันนี้ให้ผมดูแลคุณเชษฐ์นะครับ”



คำขอแสนน่ารักที่มาพร้อมกับมือเรียวที่นวดคลึงตัวตนของเขาอย่างเอาอกเอาใจไม่เปิดช่องว่างให้ร่างสูงปฎิเสธ ธีรเชษฐ์พยักหน้า ปล่อยให้เด็กน้อยของตนทำตามอำเภอใจโดยไม่คิดขัดขวาง



ก็เขาเป็นผู้ชายของมีนานี่นะ



“อื้อ…”  มีนากัดริมฝีปาก ผ่อนลมหายใจเมื่อร่างเล็กหย่อนกายลงกลืนกินตัวตนของร่างสูงทีละน้อย ความอ่อนนุ่มที่แม้ยังคงโอบรัดธีรเชษฐ์ไว้ยังคงสังเกตได้ว่ามีการเตรียมพร้อมมาระดับหนึ่ง ร่างสูงยักคิ้วให้เด็กหนุ่มอย่างรู้สึก ก่อนจะถูกลงโทษโดยความอุ่นร้อนที่ตอดรัดตัวตนของเขาอย่างไม่ปราณีตั้งแต่เริ่ม



“อ๊ะ…อะ…คะ…คุณเชษฐ์…อ๊ะ…” นิ้วเรียวเล็กสอดประสานกับมือใหญ่เป็นเครื่องพยุงในร่างที่ขยับโยกบนตักของเขาเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น ธีรเชษฐ์กัดฟันกรอด พยายามลืมตามองผ่านม่านหมอกราคะไปยังตัวตนที่ร่อนสะโพกบดเบียดเสียดสีเร้าจังหวะรัก ดวงเนตรกลมโตหวานฉ่ำด้วยความสุขสม ชายหนุ่มดึงร่างเล็กเข้ามาแนบอก ขยับสวนจังหวะยั่วเย้าของคนรักอย่างอดรนทนไม่ไหว เสียงหวานกระเส่าที่หอบครางข้างหูมีแต่จะทำให้คนฟังขยับสาวสะโพกสอบกระแทกกระทั้นจนร่างในอ้อมกอดของเขาโยกคลอนราวตุ๊กตาตัวหนึ่ง



“อ๊ะ…คุณเชษฐ์…อ๊ะ…จะ…ไม่ไหว…ลึก…อื้ม…”



“ไม่ชอบเหรอครับ…”



ลิ้นร้อนตวัดเลียตามซอกคอขาวขึ้นมาบรรจบกับริมฝีปากที่เผยออ้าส่งเสียงครางหวานอย่างสุขสม มีนาส่งเสียงในลำคอคล้ายพยายามตอบคำถามนั้น ก่อนจะตัดใจยอมแพ้แล้วเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กพัวพันตอบรับแทนคำตอบ



สะโพกกลมกลึงบดสอดประสานรับจังหวะรักของร่างแกร่งข้างใต้ ทั้งที่บอกว่าจะดูแล แต่ในความเป็นจริงแล้วคนที่ทำงานหนักที่สุดยังคงเป็นร่างสูงที่เพิ่งบ่นว่าเหนื่อยก่อนหน้านี้



ร่างทั้งสองสอดประสานหลอมรวมเป็นหนึ่งในที่สุด ร่างเล็กฟุบลงบนแผงอกแกร่งอย่างหมดแรง หอบหายใจทั้งที่ช่องทางอ่อนนุ่มยังคงตอดรัดตัวตนของอีกฝ่ายอย่างอ้อยอิ่ง ความรู้สึกอ่อนวาบภายในร่างที่ควรจะทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัวกลับทำให้มีนาหลับตาพริ้มผ่อนลมหายใจอย่างมาอย่างมีความสุข



“อาบน้ำอีกรอบไหวมั้ย หรือให้ฉันเช็ดตัวให้” ธีรเชษฐ์กระซิบถามคนรักความสะอาดบนตัวของเขา



มีนานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ



“ผม…ขออยู่แบบนี้สักพักได้มั้ยครับ…”



เด็กหนุ่มแนบใบหน้าลงกับแผ่นอกกว้างของคนรัก ฟังเสียงหัวใจของธีรเชษฐ์ที่เต้นตุบกระทบหูเป็นจังหวะ เช่นเดียวกับความอุ่นร้อนภายในร่างของเขาที่แม้จะสงบลงบ้างแล้วยังคงประกาศตนเด่นชัดยากจะเมินเฉย



 เขาอยากรู้สึกถึงตัวตนของอีกฝ่าย อยากได้เครื่องยืนยันว่าอีกฝ่ายยังอยู่ตรงนี้กับเขา…



มีนาขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกถึงการขยับของร่างข้างใต้ แม้เนิบช้าไม่เร่งร้อนกลับปลุกเร้าร่างที่ไวต่อสัมผัสจากกิจกรรมที่เพิ่งจบไปได้เป็นอย่างดี



“คุณเชษฐ์…อะ…ทะ…ทำอะไรครั…อ๊ะ…!”



“กล่อมเธอนอนไง…” มือใหญ่ขยำแหวกก้อนเนื้อกลมกลึงให้สัมผัสนาบชิดย้ำลึกจนมีนาต้องเกาะยึดบ่าแกร่งเพิ่งหาที่ระบาย ดวงตากลมโตฉ่ำหวานช้อนขึ้นมองค้อนคนขี้แกล้ง “ชอบให้ตบก้นไม่ใช่เหรอ…”



“ชะ…ใช้อะไรตบ…อ๊ะ…อะ…” ร่างเล็กที่เริ่มสติหลุดลอยจากจังหวะเนิบช้าชวนเสียสติซุกหน้าลงกับอกคนรักเพื่อตัดปัญหา ปล่อยให้ร่างของตนถูกโยกตามจังหวะกล่อมนอนลามกของคนใจร้ายอย่างไร้เรี่ยวแรงขัดขืน



“ก็ดูเธอจะชอบให้ตบแบบนี้นี่” ร่างสูงเย้า ยังคงรักษาจังหวะเนิบช้าคล้ายจะโยกกล่อมเด็กน้อยให้ผล็อยหลับคาอกไปจริงๆ มือใหญ่ยึดสะโพกกลมไม่ให้ทำตามอำเภอใจโดยง่าย “นอนซะเด็กดี คืนนี้ฉันจะกล่อมเธอเอง…”



มีนาอยากจะประท้วงเหลือเกินว่าเพลงกล่องธีรเชษฐ์นั้นจะทำให้พวกเขาตื่นกันยันฟ้าสางเสียมากกว่า แต่เสียงที่เล็ดลอด
ออกมามีเพียงเสียงครางหวานหูจากการกลั่นแกล้งของผู้ใหญ่ใจร้ายคนนี้



ถ้าเป็นธีรเชษฐ์ จะให้ถูกแกล้งไปตลอดชีวิต มีนาก็ไม่คิดว่าเขาจะมีปัญหาอะไร


“คุณ…คุณเชษฐ์…อะ…” เสียงหวานเริ่มพร่าจากความกระสันซ่าน มีนาเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ท่าทียั่วยวนที่ไร้ซึ่งการสร้างเสริมเติมแต่งยิ่งทำให้ธีรเชษฐ์ลุ่มหลงจนแทบคลั่ง “รัก…อ๊ะ…”



“หึ ทำตัวแบบนี้ คืนนี้กะจะให้ฉันกล่อมถึงเช้าจริงๆสินะ” ร่างสูงพลิกกายให้คนตัวเล็กลงไปนอนใต้ร่าง ดึงหมอนใบโตนุ่มนิ่มมารองใต้สะโพกของคนรักที่ยังคงระบมจากกิจกรรมก่อนหน้า ส่วนที่สอดประสานยังคงรุกเร้าให้สะโพกมนยกตามอย่างโหยหา



“มะ…ไม่เป็นไรครับ…” ดวงตาปรือปรอยฉ่ำเยิ้มหยีโค้งด้วยรอยยิ้มหวานล้ำที่ยั่วยวนอย่างไร้เดียงสา ขาเรียวตวัดโอบสะโพกสอบแนบแน่น “พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียน…”



ธีรเชษฐ์ไม่รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตยืนยาวไปอีกเท่าไหร่…




แต่ที่เขารู้ คือสถานที่ตายของเขา คงไม่พ้นอกของเด็กหนุ่มร่างเล็กคนนี้เป็นแน่



THE END
_______________-

จบแล้วววววววว กรี๊ดดดดดดด
ยอมรับว่าที่ลัดคิวมาปั่นเพราะอยากให้เรื่องนี้จบในวันคริสต์มาส เป็นของขวัญให้กับนักอ่านทุกคนในช่วงวันหยุดยาวที่กำลังจะถึงนี้
ขอบคุณมากๆนะคะที่เป็นกำลังใจให้น้องมีน คุณเชษฐ์ น้องซีน พี่ภัทร มาโดยตลอด ขอให้ปี 2020 นี้เป็นปีที่ดีสำหรับทุกคนนะคะ
วันนี้น่าจะเป็นตอนสุดท้ายในปี 2019แล้ว เจอกันใหม่ปีหน้า ฝากเรื่องใหม่ๆไว้ในอ้อมใจของทุกคนด้วยนะค้าาาาาา
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 25-12-2019 20:45:19
ขอบคุณนะคะไรต์ของขวัญวันคริสมาสต์น่ารักมาก ๆๆเลย ตอนจบน้องมีนแซ่บมากก 5555 นว้องง คุณเชษฐ์จะตายคาอกน้องแล้ว
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 25-12-2019 21:06:37
ขอบคุณมาก
ชอบคู่คุณเชษฐ์กับมีนาที่สุด
รออ่านมาตั้งตอนโน้นน มาจบเป็นคู่สุดท้าย

ขอบคุณอีกครั้ง
Merry Christmas นะคะ
 :ling2:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: Hoya ที่ 25-12-2019 21:37:19
 :L1: :L1: เย้..ดีใจ จบแล้ว
ดีใจ กับครอบครัว ทรัพย์ดำรง
ขอบคุณ คุณหมูน้อย ค่ะ

Merry Christmas คุณหมูน้อย และ เพื่อนนักอ่านทุกคน
มีความสุข มากๆ กันทุกคนค่ะ  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 25-12-2019 21:49:12
ดีใจที่ทุกคนมีความสุข
อยากอ่านทริปครอบครัว คงยุ่งเหยิงน่าดู
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-12-2019 22:04:03
 :m25: หาเรื่องเข้าโรงบาลตอนสิ้นปีอีกแล้วเรา  :pighaun:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 25-12-2019 22:52:55
ขอบคุณมากนะคะ หวานมาก แฮปปี้ทุกคนนน
อยากอ่านตอนไปเที่ยวกันจังเลยยย
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 25-12-2019 22:53:21
ครอบครัวกลับมาสุขสันต์อีกครั้ง
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 26-12-2019 00:17:39
เป็นการฉลองคริสต์มาสที่มีความสุขที่สุดล่ะนะน้องมีน.   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 26-12-2019 01:18:40
แฮพพิ่แฟมิลี่  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 26-12-2019 01:59:22
ตายคาอกเมีย  สโลแกนคุณเชษฐ5555
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 26-12-2019 07:12:55
ขอบคุณคุณ littlepig าำหรับของขวัญคนอ่านมากค่า ขอให้มีความสุขมากๆ merry chrismas & happy new year รอติดตามผลงานเรื่องต่อไปค่า :mew1:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-12-2019 09:47:27
จบแล้ว สนุกมากค่ะเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 26-12-2019 17:30:15
 :pig4: :pig4: ขอบคุณสำหรับของขวัญวันคริสต์มาสนะคะ ดีใจที่ครอบครัวนี้จะได้มีความสุขจริงๆสักที :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 26-12-2019 18:28:06
ดีใจที่ทุกคนมีความสุข..ขอบคุณนะคะเดี๋ยวจะย้อนกลับไปอ่านอีกรอบ
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 28-12-2019 22:16:09
จบซะแล้ว หนูมีนามีความสุขซักที แต่อยากอ่านคู่คุณภีมกับเจ้านายเลย
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 29-12-2019 11:10:32
จบได้ดีค่ะ!!!!! คนอ่านก็จมกองเลือดไปเลย 5555555
ติดตามเรื่องนี้มานานมากค่ะ เหมือนมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้วที่ต้องเข้ามาเชคว่าวันนี้น้องมีนจะมามั้ยนะ 555555 มีครบรสมากค่ะเรื่องนี้ สนุกมาก ขอบคุณที่แต่งให้อ่านนะคะ รออ่านเรื่องต่อไปนะคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 31-12-2019 08:53:41
สนุกมากเลย อ่านรวดเดียวจบ

ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: Areya ที่ 03-01-2020 06:41:09
สนุกมากจริงจนอ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ กว่าจะพบความสุขนี่เล่นเอาเสียน้ำและใจหายใจคว่ำไปตลอดเลย ชอบคู่ภัทร+ซัน ที่รักและเข้าใจกันได้น่ารักเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 05-01-2020 11:50:03
ในที่สุดทุกคนก็มารวมตัว มาอยู่ด้วยกัน
มีความสุขอย่างแท้จริง ชีวิตไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย
มีคนที่รัก และไม่ต้องขวนขวายอะไรมาก ก็พอแล้ว

อื้อหือ น่าจับน้องมีนตีนัก ทำไมตามใจกันขนาดนั้นคะ
เอ็นดูความเจ้าระเบียบ แม้ตอนกำลังจะฟิน ก็ยังเก็บผ้ามาพับ
คุณเชษฐ์คือได้เจอรักสุดท้ายที่จะอยู่ด้วยกันไปอีกนาน

ขอบคุณเรื่องราวและนิยายดีๆ ที่อ่านแล้วทั้งสนุก สุข เศร้า
ติดตามมาหลายเรื่องแล้ว และจะรอติดตามต่อไปค่ะ
เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: noveeo ที่ 05-01-2020 14:55:29
ขอบคุณไรท์มากมาย...ที่พาเรามาจนได้เห็นน้องมีนามีความสุขแบบนี้
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 06-01-2020 14:45:38
สนุกมากเลยค่ะ อ่านแล้ววางไม่ลง
จบได้แบบน่ารักมากๆ
ครอบครัวกชับมาสุขสันต์เหมือนเดิม
ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 06-01-2020 22:36:32
จบไปซะแล้ว สนุกมากลุ้นทุกตอนทุกคู่ ครบรสจริงๆ อยากให้มีตอนพิเศษตอน Family trip คงอลมานและ ครื้นเครงน่าดู ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: Bebii123 ที่ 07-01-2020 18:59:15
ขอบคุณไรท์ สำหรับเรื่องสนุกๆแบบนี้ น่ารักมากๆๆๆๆ :3123:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: kwang0207 ที่ 10-01-2020 21:04:45
ชอบการเขียนมากๆเลยค่ะ เป็นกำลังใจเล็กๆให้เขียนต่อไปนะคะ การดำเนินเรื่องสนุกมากค่ะ :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 12-01-2020 12:51:43
ในที่สุดครอบครัวทรัพย์ดำรงก็มีความสุขแล้วววว รักครอบครัวนี้จัง รักทุกคู่เลย  :กอด1:
//
ขอบคุณคุณนักเขียนนะคะ ซีรีย์เรื่องราวของทุกคนในทรัพย์ดำรงสนุกมากกกกกกกกกๆๆๆๆๆ ปรบมือให้ค่าาาา :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 26-01-2020 23:58:01
สนุกมากๆ น้องมีนน่ารักที่สุด  :กอด1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 01-02-2020 13:28:42
สนุกมากกกกก น่ารัก มีสีสันน่าสนใจ อ่านเพลินๆก็จบแบบไม่รู้ตัวล่ะ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 02-02-2020 19:54:46
 :z1:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) Epilogue คำว่าตลอดไป [25-12-62] คห.922
เริ่มหัวข้อโดย: littlepig ที่ 06-02-2020 22:17:05
ตอนพิเศษ 4 years laters

ชีวิตของนักศึกษาแพทย์ปีสี่นั้นแตกต่างจากสามปีแรกของรั้วมหาวิทยาลัยราวกับหน้ามือเป็นหลังเท้า ในขณะที่นักศึกษาหลายคณะกำลังวุ่นวายกับการฝึกงาน วิทยานิพนธ์ เป็นพี่ใหญ่ที่เตรียมตัวออกมาเผชิญโลกกว้างแห่งความเป็นจริง ปีสี่ในคณะแพทยศาสตร์นั้นเปรียบเสมือนลูกเ็ดน้องที่เพิ่งย่างเท้าออกมาจากการฟูกฟักในเปลือกไข่ตลอดสามปี เกาะติดพี่ปีสูงกว่าตามสัญชาตญาณด้วยดวงตาเบิกกว้างเป็นประกายและรอยยิ้มสดใสที่กำลังจะเลือนหายไปตามการเวลา

ชุดกาวน์ตัวยาวสีขาวสะอาดของเด็กน้อยทั้งหลายยังคงเปล่งประกายขาวสะอาด ผิดกับพี่ปีห้าปีหกในสายที่ก้าวเข้ามาในวอร์ดด้วยสีหน้าคล้ายโลกกำลังจะถล่มลงมาในไม่กี่วินาทีข้างหน้า

มีนาเงยหน้าจากกองชาร์ตข้อมูลคนไข้หลายสิบเตียงบนเคาท์เตอร์พยาบาลและกล่าวทักทายพี่ปีห้าที่เป็นหญิงสาวร่างอวบและพี่ปีหกที่จากดวงตาที่ปรือปรอยและสีหน้าง่วงงุนคงจะอยู่เวรมาเมื่อคืนเป็นแน่

“พี่กิ่ง พี่โต้ สวัสดีครับ”

“โห น้องมีน มาเช้าอีกแล้ว” พี่โต้หาวหวอด เอ่ยชมความกระตือรือร้นของน้องพี่สี่ในสายของตัวเองอย่างจริงใจ “แล้วเจ้าแทน
ไปไหนซะล่ะ”

“ไปคุยกับคนไข้ครับ” มีนาพยักเพยิดไปยังเพื่อนร่วมสายผมบลอนด์ที่พูดคุยกับคุณตาบนเตียงคนไข้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พี่ทั้งสอง พยักหน้า ก่อนจะเดินมาหยิบชาร์ตคนไข้ไปนั้นเปิดดูผลตรวจที่ส่งห้องปฏิบัติการไปวันก่อนหน้า

ในหนึ่งสายราวน์เพื่อดูแลคนไข้ในวอร์ดอายุกรรมชายนี้ประกอบด้วยอาจารย์หนึ่งท่าน หัวหน้าสายที่เป็นแพทย์ประจำบ้านหนึ่งคน แพทย์ใช้ทุนปีหนึ่งหนึ่งคน นักศึกษาแพทย์ปีห้าและหกอย่างละคน ส่วนนักศึกษาแพทย์ปีสี่ที่มีจำนวนมากกว่าในแต่ละกลุ่มจะมีสายละหนึ่งถึงสองคน ซึ่งในกรณีนี้ สายของเขามีเขาและแทนไทย ส่วนสายข้างๆที่ราวน์อยู่ในวอร์ดเดียวกันคือนรธีร์ที่เป็นปีสี่คนเดียว ซึ่งในตอนนี้กำลังก้มหน้าก้มตาจดผลแล็ปเงียบๆอยู่มุมห้อง


“อิจฉาน้องมีนจัง ได้หยุดยาวกับเขาด้วย แล้วนี่ไปเที่ยวไหนมาล่ะ” พี่กิ่งชวนคุย วันหยุดยาวที่ผ่านมา พี่อินเทิร์นหนึ่งหรือแพทย์ใช้ทุนอนุญาตให้น้องปีสี่ผลัดกันมาราวน์ได้ แต่แทนไทยดึงดันที่จะมาราวน์เช้าแทนเขาทุกวัน ทำให้มีนาได้วันหยุดไปเสียอย่างนั้น



ส่วนเหตุผลที่แทนไทย เพื่อนแสนดีของเขาดึงดันแช่นนั้นช่างแสนง่ายดาย...



“พี่อุ่น สวัสดีค่า”


เพราะพี่อินเทิร์นคนงามที่ต้องมาราวน์วอร์ดทกเช้าวันหยุดคือคนที่แทนไทยต้องการใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุดยังไงล่ะ



“สวัสดีครับน้องกิ่ง วันนี้ก็สวยเหมือนเดิมเลยนะครับ”


“อุ๊ย พี่อุ่น ปากหวานอีกแล้ว” คนถูกชมบิดม้วนไปมาอย่างเขินอาย “ถ้าไม่มีแฟนกิ่งจีบแล้วนะเนี่ย”


“พี่กิ่งงงง ผมได้ยินนะ!”



เจ้าคนที่ตรวจคนไข้อยู่ข้างนอกถลาเข้ามาในเคาท์เตอร์แทบจะในทันทีที่เห็นคนรัก ความสัมพันธ์ของธารธาราและแทนไทยนั้นเปิดเผยสู่สาธารณชนมาตลอดสี่ปีที่คบกัน แม้ว่าคนที่ไม่ได้ใส่ใจจะไม่รู้ แต่ใครที่มีโชเชียลมีเดียของสองคนนี้ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งจะเห็นแต่ภาพคู่ของคนทั้งสองเต็มหน้าฟีด



“ไปราวน์กันได้แล้ว เดี๋ยวพี่ปลามา” ธารธารากล่าวถึงพี่แพทย์ประจำบ้านที่มีฐานะเป็นหัวหน้าของพวกเขาทุกคน เด็กปีสี่ทั้งสองช่วงกันเก็บชาร์ตใส่รถเข็นแล้วเข็นตามพี่ๆทั้งหลายออกไปในวอร์ด



“นี่ สรุปวันหยุดมีนไปไหนมาอ่ะ” พี่กิ่งชวนคุย มีนายิ้มเจื่อน ดวงหน้าขาวแดงวาบเมื่อนึกย้อนไปถึงสิ่งที่เขาใช้เวลาหมดไปในวันหยุดที่ผ่านมา



‘อ๊ะ…อ๊า....คุณเชษฐ์...’



‘มีน…อึก...’



‘มะ…ไม่ไหว...’



‘รอบสุดท้ายแล้วครับคนเก่ง...’



‘ไม่…’



‘…?’



‘ผมไม่มีราวน์....’



ใครจะรู้ว่าตอนที่คุณเชษฐ์ชวนขึ้นไปดูดาวบนดาดฟ้า คนรักของเขาจะหมายถึงดูดาวข้ามคืนจนพระอาทิตย์ขึ้นกัน...



นี่ถ้าหากเขาไม่รู้สึกว่าร่างสูงเริ่มตัวรุมๆ สามวันที่ผ่านมานี้มีนาอาจจะไม่ได้ลงมาจากดาดฟ้าเลยก็เป็นได้




“ก็…อยู่บ้านน่ะครับ” ร่างเล็กตอบกว้างๆ



วันๆในชีวิตของนักศึกษาแพทย์ก็มีอยู่เท่านี้ หลังจากราวน์เช้าก็ทำงานจิปาถะทั้งหลายอยู่ภายในวอร์ดหากไม่มีเรียน หลังจากนั้นก็กลับมาราวน์เย็นต่อ ถึงแม้จะฟังอยู่เรียบง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้วแต่ละกิจกรรมใช้พลังมหาศาลจนธีรเชษฐ์ยังออกปากด้วยความเป็นห่วงว่าหากเขาไม่ไหวก็ให้ลาออกมาอยู่บ้านเลี้ยงหลานตัวน้อยวัยเกือบสี่ขวบของพวกเขา ซึ่งมีนาเริ่มคิดอยากจะรับข้อเสนอนั้นขึ้นมาจริงๆเสียแล้ว



“คุณมีนา เคสนี้เป็นยังไงนะครับ” ธารธาราหันมาถามเขาซึ่งเป็นปีสี่เจ้าของไข้



มีนารายงานข้อมูลของผู้ป่วยไปตามความเคยชิน ในวันแรกๆที่เขาอยู่วอร์ดนี้กับธารธารา พี่ๆทั้งหลายดูจะสับสนกับคำเรียกที่เขาทั้งสองใช้เรียกกันและกัน แต่ไม่มีใครกล้าพอจะถาม



ธารธารายืนกรานจะเรียกเขาว่าคุณมีนา ซึ่งเป็นคำเรียกที่ใกล้เคียงการยอมรับเขาในฐานะคนรักของบิดาของตนมากที่สุดทีี่ร่างโปร่งจะทำได้ มีนายังคงเรียกอีกฝ่ายว่าคุณธาร และความเคยชินนั้นดูจะไม่สามารถเปลี่ยนได้ในเร็ววัน



ชีวิตนักศึกษาแพทย์ สำหรับมีนาแล้วเป็นความเหน็ดเหนื่อยที่เขารู้สึกว่าคุ้มค่า ถึงแม้ว่าในบางวันที่เขาจะนึกอยากโยนทุกสิ่งทุกอย่างทิ้งแล้วโทรเรียกคุณเชษฐ์มารับเขากลับบ้านก็ตาม เขาชอบดูแลคนไข้ ชอบพูดคุยกับผู้ป่วยถึงเรื่องของตัวโรค อาการ ความรู้สึกนึกคิดต่างๆที่ผู้ป่วยมีต่อโรคนั้นๆ เขามาจากการไม่มีอะไร ถึงได้รู้ดีว่าเหตุผลหลายอย่างที่เป็นสาเหตุของการเจ็บไข้นั้นมาจากสาเหตุง่ายๆเช่นคำว่า ไม่มี



“เออมีน เคสเข้าใหม่ของมีนนะ เพิ่งเข้ามา เป็นเดงกี่(ไข้เลือดออก) อยู่ล็อคสุดท้าย” แทนไทยหันมาบอก มีนาพยักหน้า เคสที่เพิ่งเข้ามาเช้าๆแบบนี้ส่วนใหญ่พวกเขาก็จะเรียนรู้ตอนราวน์ไปพร้อมกับพี่ๆแบบนี้บ้าง



 “เคสนั้นพี่รับแล้ว ไม่ยากๆ” ธารธาราหันมาบอกคนรัก แทนไทยเอียงคออย่างประหลาดใจ



“พี่อุ่นอยู่เวรเหรอครับ”



“เปล่า รับแทนเพื่อนน่ะ เวรเขายุ่งๆ”



“โอ๊ย พี่อุ่น คนดี๊คนดีย์~” พี่กิ่งชื่นชมเจ้าของฉายานางฟ้าของคณะแพทย์อย่างออกนอกหน้า ธารธารายิ้มรับ ดวงตาสีเมล็ดอัลมอนด์เหลือบมองมีนา ประกายในแววตาของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกหนาวๆร้อนๆขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก



“มีน!”



ระหว่างที่เขากำลังเดินตามพี่ๆทั้งหลาย เสียงร้องเรียกของเพื่อนในกลุ่มทำให้เจ้าของชื่อหันไปหาเด็กสาวหน้าตาแตกตื่นที่ยืนแอบอยู่ไม่ไกล



“ขิม?”



“เมื่อกี้เราโทรไปคอนเฟิร์มเรื่องเรียนเบดไซด์กับอ.สุรชัยมา จารย์บอกว่าจะสอนเคสเดงกี่ มีนมีในมือบ้างมั้ยอ่ะ”



“มีนะ เพิ่งเข้ามาเมื่อกี้เลย อยู่ล็อคสุดท้าย เราก็ยังไม่ได้ดูเหมือนกัน” มีนาตอบ



“โล่งอกไปที” เด็กสาวยิ้มขอบคุณ ก่อนจะวิ่งหายไปยังล็อคสุดท้ายเพื่อซักประวัติคนไข้



การเรียนเบดไซด์ คือการเรียนรู้โรคข้างเตียงตั้งแต่อาการที่ผู้ป่วยมาไปจนถึงการรักษา นักศึกษาแพทย์คนหนึ่งจะเป็นคนเตรียมเคสมาเล่าให้อาจารย์และเพื่อนๆฟังเพื่อให้ซักประวัติเพิ่มเติม วินิจฉัยแยกโรค และการรักษา



มีนาแอบหวังว่าตัวเองจะได้ราวน์รอบเช้าเสร็จก่อนที่อาจารย์จะมาสอน เพื่อที่จะได้รู้ข้อมูลของคนไข้มากกว่าโรคที่สงสัย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีหวังเมื่อเข็มนาฬิกาตีบอกเวลาเก้าโมงตรงในขณะที่พวกเขายังคงไปได้ไม่ไกล



“พี่อุ่น พวกผมไปเรียนนะครับ” แทนไทยขออนุญาต ธารธาราพยักหน้า เด็กทั้งสองจึงเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนที่ยืนรออยู่ก่อนหน้า ขิม เพื่อนของเขาที่รับหน้าที่รายงานอาจารย์ในวันนี้กำลังซักประวัติคนไข้ ในขณะที่เพื่อนๆอีกนับสิบชีวิตล้อมวงฟังอย่าง
ตั้งอกตั้งใจ



แทนไทยที่เดินนำหน้าเขามาชะงัก ดวงตาสีน้ำทะเลเบิกกว้างเช่นด้วยกับปากที่อ้าค้าง แน่นอนว่าหากเทียบกับแทนไทยแล้ว มีนากลายเป็นลูกกระต่ายตัวจิ๋วขึ้นมา แต่กระทั่งกับเพื่อนในรุ่น นอกจากแว่นและเด็กผู้หหญิงบางคนแล้ว มีนาแทบจะมองผ่านคนอื่นไม่เห็นเลย



และนั่นทำให้เมื่อเขามุดเข้ามาในวงได้ในที่สุด มีนาถึงได้เพิ่งเข้าใจสีหน้าแตกตื่นของแทนไทย



“ลุงแกไหวมั้ยเนี่ย” แว่นโน้มมากระซิบข้างหูเขาอย่างเหนื่อยใจ



ตรงหน้าของมีนา ในชุดคนไข้สีชมพูซีดของโรงพยาบาล คือธีรเชษฐ์ที่มีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจกำลังถูกเพื่อนร่วมกลุ่มของเขาซักฟอกอย่างเร่งรีบแข่งกับเวลาอันน้อยนิดก่อนที่อาจารย์จะมา ดวงตากลมโตมองภาพตรงหน้าอย่างหวาดผวา ดวงหน้าซีดเผือดเหลือบมองแทนไทยที่มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกไม่ต่างกัน จังหวะเดียวกับที่ดวงเนตรคมสีควันบุหรี่เหลือบมาเห็นร่างเล็กที่ยืนอยู่ไม่ไกล



“จารย์มาแล้วๆ”


ทว่าก่อนที่จะมีใครได้พูดอะไรออกมา เสียงร้องเบาๆของเด็กสาวข้างกายทำให้มีนาจำต้องยืนนิ่งทั้งที่ในหัวเต็มไปด้วยคำถามมากมาย



“เอ้า เล่าเคสมา”



อาจารย์หนุ่มกอดอก ขิมรีบหยิบกระดาษโน๊ตของตัวเองออกมาอ่านด้วยน้ำเสียงรัวเร็วอย่างตื่นเต้น



“เคสผู้ป่วยชายไทย...”


“ไทย?” ผู้เป็นอาจารย์เลิกคิ้ว เด็กสาวยิ้มเจื่อน รีบเอ่ยต่อด้วยรู้ว่าต้องถูกถามเรื่องนี้



“คนไข้เป็นลูกครึ่งรัสเซียค่ะ สัญชาติไทย”


“ต่อสิ”



“เคสผู้ป่วยชายไทยสี่สิบห้าปี ไม่มีโรคประจำตัวค่ะ อาการสำคัญมาด้วยมีจุดเลือดออกที่ผิว 3 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล สามวันก่อนคนไข้มีไข้สูงค่ะ ไม่มีไอเสมหะ ไม่มีหอบเหนื่อย ไม่มีเจ็บคอ...”



มีนายืนฟังพร้อมกับนึกย้อนไปถึงอาการของคนรักในช่วงสามวันที่ผ่านมา หลังจากวีรกรรมบนดาดฟ้า เขาจะได้ว่าธีรเชษฐ์มีไข้ เขาจึงให้กินยาลดไข้ไป แต่หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก



เมื่อมาคิดดูดีๆแล้ว อีกฝ่ายคงกินยาลดไข้เองเพราะไม่อยากให้เขาเป็นห่วงอีกตามเคย ร่างเล็กนึกอยากจะทอดถอนหายใจกับความดื้อรั้นของคนรัก ทำไมถึงได้ชอบเก็บเรื่องแบบนี้ไว้คนเดียวนักนะ



“ประวัติอดีตนะคะ ไม่มีโรคประจำตัว ไม่แพ้ยาแพ้อาหาร....”


“เดี๋ยว” ชายหนุ่มยกมือขึ้นห้ามนักศึกษาของตนที่กำลังรายงาน สีหน้าของผู้เป็นอาจารย์บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจการรายงานของเด็กสาว “พูดแค่นี้? สิทธิการรักษาเขาล่ะ? อาชีพ? รายได้? ภูมิลำเนา? ครอบครัว? นี่คุณรายงานเคสคนไข้ประเภท
ไหนกัน”



“เอ่อ...คือ....” ขิมอึกอัก เห็นได้ชัดว่าในหัวของเด็กสาวกำลังพยายามหาคำตอบที่ฟังดูสมเหตุสมผลให้กับคำถามนั้น แม้ว่าคำถามยิบย่อยนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับการรักษาโดยตรง แต่ในฐานะนักศึกษาแพทย์แล้วการรู้จักผู้ป่วยอย่างเป็นองค์รวมเป็นสิ่งสำคัญที่เหล่าอาจารย์พร่ำสอน



น่าเสียดายที่เวลาไม่ได้เข้าข้างเพื่อนของพวกเขาเท่าไหร่ในวันนี้



“ไหน ใครเป็นเจ้าของเคส” และประโยคที่มีนากำลังหวาดกลัวก็ดังขึ้นในที่สุด หากเป็นกรณีอื่นเขาคงจะเป็นกังวลเนื่องจากไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนไข้ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ แต่ในตอนนี้เขากลัวที่ตัวเองรู้ข้อมูลเกี่ยวกับคนตรงหน้ามากเกินไปต่างหาก



“ผมครับ”



ร่างเล็กยกมือขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ อาจารย์หนุ่มเลิกคิ้ว หันกลับไปถามธีรเชษฐ์ที่ยังคงทำตัวไม่ถูกกับการถูกรายล้อมโดยผู้คนมากมาย เห็นได้ชัดว่านอกจากอีกฝ่ายจะไม่ค่อยป่วยกับใครเขาแล้ว ยังไม่คุ้นชินกับการเข้ารับการรักษาในโรงเรียนแพทย์เท่าไหร่นัก



“คนไข้ครับ เคยเห็นหน้าหมอคนนี้มั้ย” อาจารย์ของเขาซี้มาที่มีนา ธีรเชษฐ์มองคนรักอย่างไม่มั่นใจว่าคำถามนั้นเป็นกับดักอะไรหรือไม่ แต่ก็พยักหน้ารับ



“เคยเห็นครับ”


“แล้วเขาถามอะไรคุณบ้าง”


“ถาม…” ร่างสูงขมวดคิ้ว ก่อนจะตอบกว้างๆ “ก็เรื่องทั่วไปครับ”



อาจารญืหนุ่มพิจารณาคนไข้บนเตียงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะไหวไหล่


“ถือว่ายกผลประโยชน์ให้จำเลยแล้วกัน เอ้า รายงานมา เอาให้ครบๆด้วย เป็นเจ้าของไข้ต้องรู้ดีกว่าเพื่อน”


“สิทธิการรักษาเป็นประกันครับ อาชีพนักธุรกิจ รายได้...มากกว่าแสนครับ” มีนาตัดสินใจลดจำนวนเลขศูนย์ลงบ้างไม่ให้คนฟังแตกตื่นจนเกินไป “ภูมิลำเนาจังหวัดนี้ ส่วนครอบครัว เอ่อ...อยู่บ้านกับแฟนครับ มีลูกสามคนไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันแล้ว มีหลาน
สี่ขวบมาบ้านบ้าง แต่ไม่มีใครเป็นไข้เลือดออกหรือไข้หวัดใหญ่ครับ”


อาจารย์ของเขาเหลือบมองธีรเชษฐ์เพื่อขอคำยืนยันข้อมูล เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า จึงหันกลับมาสนใจการวินิจฉัยของเด็กแต่ละคนแทน


“จริงสิ แล้วถ้าเป็นประกันเอกชน ทำไมถึงเลือกมารักษาที่นี่ล่ะ” อาจารย์หนุ่มหันมาถามมีนา


“เอ่อ...”


“เขาเป็นคุณพ่อของพี่อินเทิร์นที่นี่น่ะครับ พี่เขาพามา” แทนไทยตอบให้แทนมีนาที่ยังคงพยายามสื่อสารกับคนรักทางกระแสจิต คนฟังเลิกคิ้ว



“อินเทิร์นคนไหน”


“ผมเองครับอาจารย์”


เสียงหวานดังขึ้นพร้อมกับร่างของธารธาราที่ก้าวเข้ามา การปรากฏตัวของนางฟ้าแห่งวอร์ดอายุรกรรมในยามนี้ทำให้ท่าทีของผู้เป็นอาจารย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง สีหน้าบึ้งตึงแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม พยักหน้าเข้าใจ


“อ๋อ เหรอๆ คุณพ่อน้ำอุ่นเองเหรอ”


มีนาไม่รู้ว่าลูกชายคนรองของธีรเชษฐ์นั้นกินยาเสน่ห์เป็อาหารเช้าหรืออย่างไร แต่เมื่อเขาย้ายมาอยู่ฝั่งพันธมิตรของอีกฝ่ายหลังจากถูกโจมตีจากอีกฟากฝั่งมานาน เด็กหนุ่มก็ไม่คิดจะตั้งคำถามอีก



“ครับ พอดีอาครามโทรมาบอก ผมเลยพาพ่อมาตรวจ”



“อาคราม?”



ไม่ทันที่อาจารย์จะได้ถามว่าอาครามที่ว่าเป็นใคร เจ้าของชื่อในชุดลำลองก็โผล่มาราวกับได้ยินชื่อของตัวเอง



“ไง ไอ้ชัย”


“อ๋อ พี่คราม สวัสดีครับ” ผู้เป็นอาจารย์ยกมือไหว้อาจารย์ัลยกรรมสูงวัยกว่าอย่างนอบน้อม



“อ๋อ สอนเด็กอยู่เหรอ พี่ไม่กวนหรอก ขอมาดูหน้าคนป่วยแป๊บนึง” คเชนทร์ว่า อาจารย์สุรชัยพยักหน้า ก่อนจะหันไปสนใจเด็กสาวข้างกาย



“แล้วตรวจร่างกายเจออะไร”


“พบจุดเลือดออกบริเวณอกกับแผ่นหลังค่ะ”



เด็กสาวตอบเสียงฉะฉาน แม้ว่ามีนาจะสังเกตว่าปลายหูทั้งสองข้างของเพื่อนนั้นแดงก่ำ  คเชนทร์ที่ยืนฟังอยู่ข้างเตียงหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เหลือบมองมีนาด้วยแววตาหยอกเย้า ก่อนจะหันไปดึงขอบเสื้อของคนป่วยออก เผยให้เห็นรอยพาดผ่านแผ่นอกที่ยังคงมีจุดเลือดออกไม่หาย ซึ่งมีนารู้ดีว่าใครเป็นคนทำไว้



ด้วยปาฏิหาริย์บางอย่าง การเรียนของพวกเขาดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น ไม่มีใครเะใจสงสัยถึงความสัมพันธ์ของมีนากับคนป่วยบนเตียง ถึงแม้เขาจะไม่ได้ปิดบัง แต่เพื่อนในกลุ่มนี้ยังห่างไกลจากคำว่าสนิททสนมอยู่มากนัก จึงไม่แปลกที่จะยังคงมีเพียงนรธีร์และแทนไทยที่รู้



“ฉันเคยได้ยินว่าแฟนจารย์คเชนทร์เป็นฝรั่งหล่อๆล่ำๆ ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอ”



“ฮืออออ งานดีมากแม่ ยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยก”


“พี่อุ่นเรียกอาครามด้วยอ่ะ บ้านอบอุ๊นอบอุ่น”



แม้ว่าสิ่งที่สาวๆในกลุ่มเข้าใจจะต่างจากความจริงไปคนละโยชน์ก็ตาม



“รีบไปกันเถอะ วันนี้เข้าประชุมเที่ยง” แว่นเอ่ยเสียงเรียบตัดบทสาวๆที่ยังซุบซิบคุยกับอยู่ไม่ไกลจากเตียงคนไข้หลังจากอาจารย์กลับไปแล้ว ด้วยบุคลิกของเด็กหนุ่ม แค่ประโยคสั้นๆก็ทำให้สาวๆที่จับกลุ่มเม้าท์กันอย่างออกรสสลายตัวในทันที มีนายิ้มให้เพื่อนข้างๆอย่างขอบคุณ นึกดีใจที่วันนี้ไม่เกิดเรื่องอะไรอย่างที่เขานึกกลัว



เดี๋ยวประชุมเสร็จคงต้องย้อนกลับมาจัดการกับคนป่วยซักหน่อย



“มีน ไปกินข้าวด้วยกันมั้ย” ขิมหันมาชวน มีนากำลังจะอ้าปากตอบรับเมื่อได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วที่เขาคุ้นเคยดีดังขึ้นไม่ไกล



“จุนปู่~”



ร่างเล็กของกันต์พิชญ์ หลานชายวัยสี่ขวบ และยังเป็นหลานเพียงคนเดียวของตระกูลทรัพย์ดำรงในขณะนี้วิ่งตื๋อเข้ามาพร้อมกับเมฆาและมธุวันผู้เป็นบิดาที่มีสีหน้าเหนื่อยอกเหนื่อยใจระคนเอ็นดู



“น้องกันต์อย่าวิ่งครับ”



“จุนปู่~ อ๊ะ!” เด็กน้อยตาใสหยุดวิ่งเมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยยืนอยู่กับเพื่อนร่วมกลุ่มที่ก้มลงมองสิ่งมีชีวิต



ตัวน้ออยเป็นตาเดียว มีนาลอบกลืนน้ำลาย ส่งสายตาให้กับแทนไทยอย่างขอความช่วยเหลือทว่าสายไปเสียแล้ว...



“จุนย่า!!!”


“ฮะ?“


“อะไรนะ?”



“เมื่อกี้แกได้ยินเหมือนฉันใช่มั้ย?”



เด็กสาวทั้งหลายซุบซิบเสียงดังกับสิ่งที่ได้ยิน มองเจ้าตัวน้อยราวกับไม่มั่นใจว่าเมื่อสักครู่ตนได้ยินถูกหรือไม่



“จุนย่า อุ้มๆ”



“เอ่อ...น้องกันต์ครับ...” มีนามองเด็กน้อยอย่างทำตัวไม่ถูก หลานชายหัวแก้วหัวแหวนที่ไม่เคยถูกคุณย่าขัดใจเริ่มเบ้ปาก ทว่าก่อนที่จะได้ร้องกระจองอแงออกมา เมฆาก็อุ้มเจ้าตัวแสบขึ้นมาเสียก่อน



“คุณย่าแอะๆอยู่ครับ ไว้กลับบ้านค่อยให้คุณย่าอุ้มนะเด็กดี ไปหาคุณปู่กันก่อนเนอะ”



“งื้อ...” เจ้าตัวน้อยทำแก้มพองกลมอย่างขัดใจแต่ก็ยอมพยักหน้าแต่โดยดี



มธุวันที่ก้าวตามมาเพียงแต่ขยับยิ้มกับท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของมีนา ที่ในตอนนี้กำลังตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อนในกลุ่มแทนทุกคนแทบจะในทันที



“ไปได้แล้ว จะถึงเวลาเรียนแล้ว”



เป็นอีกครั้งที่น้ำเสียงเด็ดขาดของนรธีร์ทำให้เพื่อนในกลุ่มแตกฮือ แม้จะเห็นได้ชัดว่าเด็กสาวทั้งหลายต้องการข้อมูลมากกว่านี้ แต่ยังคงหยิบกระเป๋าของตัวเองเดินตามร่างเล็กที่เป็นหัวหน้ากลุ่มในยามนี้ออกไป



ร่างเล็กถอนหายใจอย่างโล่งอกแม้จะรู้ว่าหลังจากนี้ตัวเองต้องถูกซักฟอกโดยเพื่อนในกลุ่มจนขาวสะอาด ก่อนจะก้าวไปหาร่างสูงบนเตียงที่กำลังคุยกลับลูกชายคนโต



“ทำไมถึงไม่บอกผมล่ะครับ”



“ฉันไม่อยากให้เธอเป็นห่วง”  ธีรเชษฐ์สารภาพเสียงอ่อย ลูบศีรษะหลานชายที่จะโผเข้าหาคุณปู่ของตนท่าเดียว มีนามองคนรักอย่างอ่อนอกอ่อนใจ นึกอยากจะโน้มตัวเข้าไปหอมแก้มอีกฝ่ายเป็นกำลังใจแต่รู้ว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม



“ผมต้องไปเรียนแล้ว เดี๋ยวผมจะกลับมาเยี่ยมนะครับ”



“ไอ้ครามบอกว่าเย็นๆน่าจะได้ห้องพิเศษ” คนป่วยขยิบตาให้คนรัก “คืนนี้จะมาเฝ้าก็ได้นะ”



“ถ้ากูไม่กลัวมึงเลือดออกในหัวตายก็จะตบหัวมึงตอนนี้แหละ” คเชนทร์กลอกตาอย่างอ่อนใจ “เกล็ดเลือดเหลืออยู่แค่นี้ยังจะซ่าส์ ถ้าอุ่นไม่อาสาเฝ้ามึงก็ไม่ได้ย้ายหรอกห้องพิเศษน่ะ”



“เพราะฉะนั้น งดกิจกรรมทุกอย่างจนกว่าจะหายดีนะครับ” มีนารีบเสริม ขนาดแปรงฟันยังไม่ควร เรื่องอื่นเลิกคิดไปได้เลย
แน่นอนว่าคนฟังหน้ามุ่ยลงทันทีที่ได้ยินดังนั้น สีหน้าแบบนั้นของธีรเชษฐ์มันจะทำให้สัญชาตญาณของมีนานึกอยากจะดึงคนตัวโตมากอดมาโอ๋อยู่ร่ำไป “ไว้หายดีก่อนนะครับ”




“ใช่ๆ จุนปู่หายดีแล้วจุนย่าจะพาไปกินติมคับ” น้องกันต์พยักหน้าเออออ เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ใหญ่รอบข้างได้เป็นอย่างดี



“เธอไปเถอะ” ธีรเชษฐ์หันมายิ้มให้กับคนรัก “ฉันไม่เป็นไรหรอก”



“ผมรักคุณนะครับ”



คำบอกรักที่ในยามนี้กระทั่งต่อหน้าคนในครอบครัวยังกลายเป็นสิ่งปกติยังคงทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นรัวทุกครั้งที่เอื้อนเอ่ย ธีรเชษฐ์ขยับยิ้ม



“ฉันก็รักเธอ”



มีนาขยับยิ้มตอบ ร่างเล็กรู้สึกเหมือนตัวเองถูกตรึงอยู่กับที่ทั้งที่เขากำลังจะต้องเข้าเรียนในอีกไม่กี่นาที ดวงตากลมโตจดจ้องร่างบนเตียงคนไข้ จนกระทั่งได้ยินเสียงม่านกั้นเตียงถูกรูดปิดคลุมพวกเขาไว้โดยคเชนทร์ที่กลอกตาอย่างเหนื่อยใจ



“เอาสิ จะได้ไปเรียนซักที”



มีนาไม่ต้องรอให้เอ่ยซ้ำ เด็กหนุ่มโผเข้ากอดคนรักแน่น ประทับจุมพิตลงบนแก้มสากทั้งสองข้างฟอดใหญ่



“งื้อ น้องกันต์จุ๊บด้วย...” เด็กน้อยที่ถูกละเลยงอแง จึงถูกเมฆาที่อุ้มไว้หอมฟัดแก้มยุ้ยไปฟอดใหญ่



“ไปได้แล้วมีน” คนป่วยกระซิบกับคนที่ยังกอดเขาไม่ปล่อยเสียงกลั้วหัวเราะ “ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ปล่อยเธอไปแล้วนะ”



แม้จะอยากอยู่ดูแลคนรัก แต่เขารู้หน้าที่ของตัวเอง และรู้ดีว่าพวกเขามีครอบครัวที่ช่วยเหลือไม่ว่าสถานการณ์จะยากลำบากเพียงใดก็ตาม



มีนาหันกลับไปมองคนรักเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะรีบจ้ำอ้าวออกไปจากวอร์ดให้ทันเวลาเรียน



เขาไม่อยากจะพูดเลย ว่าวันนี้เป็นหนึ่งในวันที่เรียบง่ายที่สุดในครอบครัวใหญ่แสนวุ่นวายของเขา...





























หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 06-02-2020 23:16:27
 :z1:เป็นเพราะดูดาวยันเช้า เลยเป็นไข้เลือดออกใช่ไหม
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-02-2020 23:31:04
เย้ ตอนพิเศษมาแล้ว~
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 07-02-2020 07:17:38
ควรสมน้ำหน้าคนไข้ :hao7:
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 07-02-2020 07:59:12
จุนย่า เลิ่กลั่ก
หัวข้อ: Re: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 08-02-2020 21:59:40
จุนนย่าาา 555 ทำไมขำอาครามกับคุณเชษฐ์ ฮรือออ