[จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951  (อ่าน 181122 ครั้ง)

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 20: คนใจร้าย

หากจะบอกว่าธีรเชษฐ์กำลังอารมณ์เสีย คงเหมือนกับบอกว่างูจงอางไม่ได้มีพิษถึงตาย
เขาไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าตัวเองเคยรู้สึกโกรธมากขนาดนี้ครั้งสุดท้ายตั้งแต่ตอนไหน
“คุณมีนาขอตัวกลับไปแล้วครับ บอกว่ามีเรียนตอนบ่าย”
นั่นคือสิ่งที่มธุวันบอกเขาหลังจากที่เขาออกมาจากห้องประชุม ธีรเชษฐ์พยักหน้ารับอย่างไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดอะไร เพราะถึงอย่างไรการศึกษาของมีนาก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าลึกๆแล้วชายหนุ่มจะอยากเห็นหน้าอีกฝ่ายก่อนที่จะกลับไปเรียนต่อในช่วงบ่ายก็ตาม
ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรเย็นนี้เขาก็ได้เจอมีนาอยู่แล้ว…
ชายหนุ่มเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงาน ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นบัตรเข้าสวนสนุกในช่วงเย็นที่เขาซื้อมาเซอร์ไพร์สร่างเล็ก
แค่นึกถึงดวงตากลมโตที่เบิกกว้างอย่างตื่นตาตื่นใจเมื่อได้เห็นแสงสีและการแสดงในสวนสนุกยามค่ำคืนก็มากพอที่จะทำให้ชายหนุ่มอารมณ์ดีไปตลอดทั้งวันโดยไม่รู้ตัว
เมื่อธีรเชษฐ์กลับมาถึงห้อง ร่างสูงขมวดคิ้วเมื่อไม่เห็นร่างที่ควรจะกลับมาก่อนเขาเป็นชั่วโมงแล้ว แต่ชายหนุ่มยังคงไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอะไร ธีรเชษฐ์ใช้โอกาสนั้นเปิดลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือของอีกฝ่ายเพื่อซ่อนบัตรเข้าสวนสนุกไว้ข้างใน ชายหนุ่มเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นตั๋วหนังที่พวกเขาไปดูด้วยกันเมื่อคราวก่อนวางอยู่ในกล่องเครื่องเขียนเล็กๆในลิ้นชัก ริมฝีปากได้รูปผุดยิ้มมุมปากขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ยังคงไม่มีวี่แววของมีนา ธีรเชษฐ์เหลือบมองนาฬิกาบนผนังเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนตัดสินใจโทรหาเด็กหนุ่ม
‘เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ’
คราวนี้ร่างสูงเริ่มรู้สึกตระหนกขึ้นมาแล้ว ธีรเชษฐ์เดินวนไปวนมาเป็นหนูติดจั่นในห้องของตัวเอง ในมือยังคงกดโทรศัพท์หาหมายเลขเดิมโดยไม่เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่าง
ชายหนุ่มชะงักมือที่กำลังจะกดโทรออกเป็นรอบที่สิบกว่าๆเขาเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างบนโต๊ะเขียนหนังสือของร่างเล็ก
บนโต๊ะไม่มีชีทเรียนของมีนาวางไว้แม้แต่แผ่นเดียว สมุดจดและกระดาษโน๊ตต่างๆที่เคยวางซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบก็หายไปด้วย ร่างสูงรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง กระชากประตูตู้เสื้อผ้าฝั่งของมีนาเปิดด้วยหัวใจที่เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง
ดังคาด ไม่มีเสื้อผ้าของเด็กหนุ่มหลงเหลืออยู่แม้แต่ตัวเดียว
ธีรเชษฐ์กัดฟันกรอด กระแทกประตูตู้เสื้อผ้าปิดด้วยโทสะที่พลุ่งพล่านอย่างที่เขาไม่ได้รู้สึกมานาน
เขาหลงคิดไปเอง…ว่าหากเขารู้สึกดีกับมีนา อีกฝ่ายย่อมรู้สึกดีที่ได้อยู่กับเขา
เหมือนเจ้าของที่โง่เขลา หลงคิดไปว่าสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่ตนซื้อมาจะมีความผูกพันธ์กับตนเหมือนกับที่ตนกำลังเริ่มรู้สึก โดยลืมคำนึงถึงความเป็นไปได้ที่เจ้ากระต่ายตัวนั้นจะอยากกลับไปสู่ท้องทุ่งกว้างที่ตนจากมา
“ได้…จะเล่นแบบนี้ใช่มั้ย…”
ชายหนุ่มคว้ากุญแจรถสปอร์ตคันหรูของตน จุดหมายปลายทางคือโรงพยาบาลที่มารดาของมีนาเข้าพักรักษาตัว

ดังคาด เด็กหนุ่มไม่ได้อยู่ที่นั่น
“น้องมีนไปเข้าค่ายกับคณะค่ะ คุณธีรเชษฐ์มีเรื่องด่วนอะไรรึเปล่าคะ?”
หญิงสาวบนเตียงผู้ป่วยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
เมษาเป็นหญิงสาวร่างเล็กที่หากไม่มีโรคร้ายที่ทำให้ร่างกายของหญิงสาวทรุดโทรมลงก่อนเวลาอันควรคงจัดเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง
การเห็นอีกฝ่ายทำให้ธีรเชษฐ์นึกถึงภรรยาที่ล่วงลับของตนพร้อมกับเห็นใบหน้าของมีนาซ้อนทับกับคนตรงหน้าอย่างน่าประหลาด ทำให้เขาไม่เคยรู้สึกเสียดายเม็ดเงินที่จ่ายไปเพื่อช่วยให้เมษากลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้ง
“ผมไม่ได้มาหามีนาหรอกครับ” ชายหนุ่มตอบ ยื่นเอกสารที่ตนเตรียมมาอย่างเร่งรีบจากสำนักงานทนายความส่วนตัวให้กับคนป่วยพร้อมรอยยิ้มการค้าที่แต่งแต้มบนริมฝีปากได้รูป “พอดีผมมีเอกสารให้คุณเมษาช่วยเซ็นต์หน่อยน่ะครับ”
“ผู้ปกครองชั่วคราว?” หญิงสาวอ่านหัวข้อเอกสารปึกหนาด้วยสีหน้างุนงง
“เอกสารหลายอย่างทั้งในบริษัทและมหาวิทยาลัยจำเป็นจะต้องให้ผู้ปกครองเซ็นยินยอม มีนาคงเกรงใจไม่อยากรบกวนคุณ ทำให้เอกสารมีความล่าช้าอยู่บ่อยๆ” ร่างสูงเกริ่นด้วยน้ำเสียงเห็นอกเห็นใจจอมปลอม “ผมเลยคิดว่าถ้าคุณมอบอำนาจให้ผมชั่วคราว น่าจะสะดวกกับทุกฝ่ายมากกว่า”
“ขอบคุณนะคะที่เมตตามีนาขนาดนี้”
น้ำเสียงซาบซึ้งของหญิงสาวทำให้ธีรเชษฐ์เกือบจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตนกำลังจะทำ…
ก็แค่เกือบล่ะนะ
“กรอกที่อยู่ตรงนี้ด้วยครับ…”
ดวงตาสีควันบุหรี่กวาดตามที่อยู่ที่เมษากรอกด้วยลายมือบรรจง หากหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาในตอนนี้ คงจะตกใจไม่น้อยกับสีหน้าแข็งกระด้างของผู้มีบุญคุณของครอบครัวเธอ

น่าแปลก ทั้งที่จากไปไม่นานขนาดนั้น แต่มีนากลับรู้สึกว่าบ้านของตนเล็กลงจนน่าอึดอัด เพิงไม้เล็กๆที่มีขนาดพอๆกับตู้เสื้อผ้าของธีรเชษฐ์เคยเป็นที่พักพิงให้แก่สามชีวิตในครอบครัวของเขา แต่บัดนี้แค่มีนาเพียงคนเดียวก็รู้สึกแทบขาดอากาศหายใจ
ร่างเล็กทิ้งตัวลงนอนบนพื้นไม้แข็งๆซึ่งมีหมอนเก่าใบเล็กวางอยู่หนึ่งใบ ทั้งมารดาและยายของเขายืนกรานให้มีนาได้นอนบนหมอนเก่าที่บางจนแทบไม่เหลือนุ่นยัดไส้ใบนี้มาตั้งแต่เด็ก เป็นความสะดวกสบายเล็กๆที่หญิงทั้งสองดิ้นรนเพื่อมอบให้กับเขาทั้งที่พวกตนไม่มีอะไรติดตัว
ความรัก…
นั่นคือสิ่งเดียวครอบครัวของเขาสามารถมอบให้เขาได้ ทั้งด้วยเหตุผลที่ว่าความรักหาซื้อด้วยเงินไม่ได้ และพวกเขาไม่มีเงินมากพอที่จะซื้ออะไรได้นอกจากความรักที่มีติดตัว
และด้วยเหตุผลนั้นทำให้มีนาเลือกที่จะเดินจากมาตามคำขอของเมฆาและมธุวัน
เขาไม่มีอะไรให้ธีรเชษฐ์ เขาไม่มีเงิน ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีค่าพอที่จะทำประโยชน์อะไรให้ร่างสูง
สิ่งเดียวที่เขามีคือความรัก และนั่นทำให้เขาเลือกที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาจะสามารถทำให้อีกฝ่ายได้…นั่นคือการก้าวออกมา
เขาได้แต่ภาวนาให้ธีรเชษฐ์จะให้อภัยและเข้าใจเหตุผลของเขา แต่เด็กหนุ่มรู้นิสัยของอีกฝ่ายดีเกินกว่าจะคาดหวังเป็นจริงเป็นจัง…
ความคิดของมีนาหยุดลงเมื่อแรงมหาศาลของใครบางคนฉุดกระชากร่างเล็กของเขาให้ลอยขึ้นจากพื้น

ธีรเชษฐ์ก้มหน้ามองที่อยู่บนเอกสาร แล้วเงยหน้ามองเพิงไม้เล็กๆมุงสังกะสีเก่าๆผุพังตรงหน้าตัวเอง
หากเขาได้มาเห็นบ้านของมีนาในสถานการณ์อื่น ความรู้สึกของเขาคงมีเพียงความสงสาร แม้กระทั่งเห็นอกเห็นใจร่างเล็กที่เติบโตมาด้วยสภาพแบบนี้
แต่ในตอนนี้สิ่งที่ธีรเชษฐ์รับรู้มีเพียงความโกรธที่ทวีเพิ่มขึ้นเมื่อตระหนักว่าเด็กหนุ่มเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในที่แบบนี้มากกว่าที่จะใช้ลมหายใจร่วมกับเขา และภาพของมีนาที่นอนขดตัวหลับสนิทอยู่บนพื้นไม้แข็งไม่ได้ช่วยให้โทสะนั้นลดลงแม้สักน้อย
มือใหญ่กระชากแขนเรียวขึ้นจากพื้น ปลุกร่างเล็กจากห้วงนิทราพร้อมเสียงร้องอย่างตกใจ ชั่วอึดใจหนึ่งมีนาดูสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อดวงตากลมโตสบกับดวงตาสีควันบุหรี่ ใบหน้าของเด็กหนุ่มซีดลงทันตา
“คุณเชษฐ์…”
“คิดว่าเป็นคนอื่นรึไง?”
ชายหนุ่มถามเสียงเย็น แววตาของร่างสูงในตอนนี้ทำให้มีนาตัวสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ แต่ความหวาดกลัวที่ฉายชัดบนใบหน้าเรียวรูปไข่ไม่ได้ทำให้โทสะของธีรเชษฐ์มอดลงแม้แต่น้อย เพียงออกแรงแค่นิดเดียวร่างของมีนาก็แทบลอยหวือตามไปทั้งตัว มีนาเบิกตากว้างเมื่อรู้สึกว่ากระดาษที่เสียบไว้ในกระเป๋ากางเกงนักศึกษาร่วงลงบนพื้น พอดีกับที่สายตาของคนที่กำลังฉุดกระชากเขาอยู่เหลือบไปเห็นเข้า
ทันทีที่ธีรเชษฐ์ก้มลงหยิบกระดาษใบนั้นมาคลี่ออกดู มีนารู้ตัวว่าโอกาสรอดของตัวเองมีค่าเท่ากับศูนย์
“หึ…ทีกับฉันทำตัวสูงส่งนักหนา” ธีรเชษฐ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ “แค่โดนเงินของลูกฉันฟาดหัวก็เก็บข้าวเก็บของวิ่งแจ้นมาถึงนี่…”
“มะ…ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ…”
“บอกแล้วใช่มั้ย ว่าเงินทั้งหมดฉันไม่ได้ให้เธอฟรีๆ” ธีรเชษฐ์เอ่ยขัด ไม่สนใจข้อแก้ตัวของร่างเล็ก “ฉันคงใจดีกับเธอมากไปจริงๆ”
เหตุการณ์หลังจากนั้นเป็นเพียงภาพเบลอในความทรงจำของมีนา ข้อมือของเด็กหนุ่มปวดระบมจากการถูกดึงกระชากตลอดทางกลับมาที่ห้อง แต่ในหัวของร่างเล็กมีเพียงความหวาดกลัวจนไม่รู้สึกถึงแรงมหาศาลที่บับข้อมือของตนไว้ราวกับคีมเหล็ก
“โอ๊ย!”
มีนาร้องออกมาในที่สุดเมื่อร่างของตนถูกผลักลงบนเตียงนุ่มที่กลายเป็นที่นอนประจำของตนตลอดช่วงที่ผ่านมา เด็กหนุ่มพยายามชันตัวขึ้นจากเตียงแต่ถูกน้ำหนักตัวของร่างสูงที่คร่อมทับลงมากักขังไว้ใต้ร่าง
“รู้มั้ยว่าฉันลงโทษคนที่ขัดคำสั่งของฉันยังไง?”
เสียงทุ้มกระซิบข้างหู ไร้ซึ่งเศษเสี้ยวความอ่อนโยนที่มีนาเคยได้รับ เด็กหนุ่มพยายามขัดขืน แต่ดูเหมือนธีรเชษฐ์จะไม่ได้มีความยากลำบากใดๆในการตรึงข้อมือทั้งสองข้างของเขาไว้เหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียว
 “ผม…ขอโ…”
“อย่าพูดถ้าเธอไม่ได้หมายความตามนั้น” ธีรเชษฐ์ตัดบท มี “คำขอโทษ…มันลบล้างความผิดไม่ได้หรอกนะ”
เรื่องนั้นธีรเชษฐ์รู้ดีที่สุด
“ผม…อื้อ…”
คำแก้ตัวของมีนาถูกกลืนหายไปกับริมฝีปากได้รูปที่บดขยี้ลงมา แม้ความรุนแรงของฟันคมที่ขบลงบนริมฝีปากอิ่มน้ำจะไม่เหมือนกับจูบรับอรุณและจูบราตรีสวัสดิ์แสนหวานที่เขาเคยได้รับ แต่สัมผัสของธีรเชษฐ์ยังคงทำให้ร่างกายที่ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดีโอนอ่อนตามสัมผัสโดยง่าย
ถึงอย่างนั้น มีนายังคงรู้สึกได้ว่าสัมผัสของธีรเชษฐ์นั้นไม่ใช่สัมผัสที่เขาคุ้นเคย โทสะของร่างสูงที่ฉายชัดในจูบนั้นทำให้มีนาเบือนหน้าหนีอย่างดื้อรั้น
ไม่เอาแบบนี้…
เขาไม่อยากถูกสัมผัสโดยไร้ซึ่งความรู้สึกแบบนี้
น่าแปลกที่เมื่อเขาทำเช่นนั้น น้ำหนักของร่างที่ทาบทับตัวเขาอยู่นั้นกลับผละออกไป ทำให้คนที่หลับตาปี๋อย่างหวาดกลัวบทลงโทษหันกลับมามองอีฝ่ายด้วยสีหน้างุนงง
“รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ” ความโกรธในน้ำเสียงของธีรเชษฐ์เจือด้วยความรู้สึกบางอย่างที่มีนาไม่เคยได้ยินมาก่อน
ความเจ็บปวดที่เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะสามารถเป็นต้นเหตุของมันได้
“คุณเชษฐ์...”
“วันนี้ยังไม่ต้องไปเรียน” ร่างสูงเอ่ยเสียงแข็ง ลุกจากเตียงด้วยสีหน้าหงุดหงิด “ต่อไปนี้หลังเลิกเรียนฉันจะไปรับ ถ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องเรียนฉันไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมทุกชนิด ฉันจะระงับบัตรเครดิตของเธอทุกใบ ถ้าอยากได้อะไรให้มาขอเงินกับฉันโดยตรง”
มีนาพยักหน้าหงึกหงักอย่างว่าง่ายด้วยกลัวว่าจะทำให้ร่างสูงโกรธไปมากกว่านี้
“แล้วอย่าคิดหนีไปอีก จำไว้ เพราะถ้ายังมีครั้งต่อไป ฉันจะไม่ใจดีแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สองแน่”
ชายหนุ่มทิ้งท้ายเสียงห้วน โยนเอกสารปึกหนึ่งลงบนเตียงข้างร่างเล็กแล้วกลับออกไปจากห้อง กระแทกประตูปิดเสียงดังจนร่างบางสะดุ้งอย่างตกใจ มีนาเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า หยิบเอกสารที่วางอยู่ข้างกายขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทา
สำเนาเอกสารรับรองการเป็นผู้ปกครองชั่วคราวที่มีลายมือมารดาของเขาเซ็นยินยอมอย่างชัดเจน
เด็กหนุ่มปล่อยให้กระดาษในมือร่วงกลับลงไปบนเตียงอย่างหมดแรง หัวเราะเบาๆทั้งน้ำตาอย่างขมขื่นกับตลกร้ายที่เกิดขึ้น
ธีรเชษฐ์ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ต่อให้ไม่มีเอกสารพวกนี้ มีนาก็เป็นของชายหนุ่มทั้งตัวเเละหัวใจ สาเหตุเดียวที่เขาเลือกที่จะจากไปมีเพียงความหวังที่ว่าเขาจะไม่เป็นตัวถ่วงให้ชีวิตของร่างสูงตกต่ำลง
แต่หากธีรเชษฐ์ต้องการให้เขาอยู่ เขาก็จะอยู่
ต่อให้โซ่ตรวนที่ล่ามเขาอยู่นี้บาดลึกจนถึงกระดูก เขาก็จะไม่ไปไหน
ถ้านั่นคือสิ่งที่ทำให้ธีรเชษฐ์พอใจ เขาก็ยินดีที่จะถูกขังไว้ในกรงทองนี้ตลอดชีวิต

ภรัณยูยังคงตัดสินใจไม่ได้ว่าตนคิดถูกหรือคิดผิดที่ยอมโอนอ่อนตามความต้องการของทินกรในวันเกิดของร่างสูง
“อือ…ซัน ตั้งใจเรียนหน่อยสิ”
ชายหนุ่มดูร่างที่ดึงเขามานั่งซ้อนบนตักแล้วพรมจูบฝากรอยรักแสดงความเป็นเจ้าของไว้ทั่วลำคอระหงส์ตั้งแต่ครูสอนพิเศษจำเป็นนั่งลงบนเตียง พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้น้ำเสียงของตัวเองฟังดูจริงจัง แต่มันข่างยากลำบากเหลือเกินเมื่อมีมือใหญ่ลูบไล้หน้าท้องแบนราบพร้อมสะกิดเขี่ยยอดอกสีชมพูไวต่อสัมผัสใต้เสื้อทำงานของเขาอยู่แบบนี้
“ผมก็ตั้งใจอยู่นี่ไงครับ พี่ภัทรสอนสิครับ” เสียงทุ้มกระซิบหยอกเย้า ลิ้นร้อนลากเป็นทางยาวขึ้นมาตามเรียวคอขาว ขบเม้มติ่งหูเย็นจนคนถูกทำร้ายต้องขยับหนีเพื่อลดความรู้สึกวูบวาบที่เกิดขึ้นในช่องท้อง
“หยุด เวลาเรียนก็เรียนสิ” ร่างโปร่งเค้นเอาน้ำเสียงจริงจังของตนออกมาในที่สุด ได้ผล ทินกรหยุดการกระทำของตน แม้ว่าภรัณยูจะไม่ได้อยากเห็นสีหน้าที่สลดลงของอีกฝ่ายก็ตาม
ชั่วโมงเรียนผ่านไปอย่างช้าๆโดยที่ภรัณยูยังคงนั่งอยู่บนตักของร่างสูง แต่เด็กดีอย่างทินกรเมื่อถูกดุไปแล้วหนึ่งรอบก็กลายเป็นนักเรียนดีเด่นที่เก็บมือซุกซนของตัวเองไว้กับตัวตลอดบทเรียน ทั้งที่นั่นควรจะเป็นเรื่องดี แต่ภรัณยูกลับอดรู้สึกผิดไม่ได้
“สี่สิบหกคะแนนเต็มห้าสิบ ไม่เลวนี่”
ภรัณยูเอ่ยขึ้นหลังจากจบแบฝึกหัดท้ายบทเรียน ทินกรยิ้มรับคำชมอย่างดีใจ ปิดหนังสือแบบฝึกหัดและสมุดของตัวเองวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง ก่อนจะหันกลับมาหาคนรักอายุมากกว่าด้วยสีหน้าคาดหวัง
ภรัณยูถอนหายใจ แต่ในที่สุดก็เผลอหลุดยิ้มขำออกมา
“อยากได้รางวัลใช่มั้ย?”
ทินกรพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น และนั่นทำให้รอยยิ้มมุมปากของร่างโปร่งเปลี่ยนเป็นหลุดขำออกมา ก่อนที่เสียงหัวเราะนั้นจะถูกปิดโดยริมฝีปากได้รูปของเด็กหนุ่ม คราวนี้แทนคำดุว่า เสียงที่ออกมาจากริมฝีปากเรียวมีเพียงเสียงครางหวานหูที่ทินกรหลงใหลหนักหนา

บางทีภรัณยูก็คิดว่าตัวเองตามใจเด็กหนุ่มมากเกินไป
“ขออีกรอบนะครับ…”
เปลือกตาของร่างโปร่งเริ่มปรือปรอยจากกิจกรรมที่ลากยาวกว่าที่คิดหลายชั่วโมง แต่ร่างสูงที่ควรจะเป็นฝ่ายออกแรงมากกว่าเขากลับไม่มีท่าทีอ่อนเพลียแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังดูมีเรี่ยวแรงกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
”พี่ขอพักก่อน” ภรัณยูตอบในที่สุด ทินกรไม่ได้แสดงสีหน้าผิดหวังออกมา เด็กหนุ่มเพียงแค่พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม โอบเอวบางไว้หลวมๆจากด้านหลัง พรมจุมพิตลงบนหัวไหล่เปลือยเปล่าชื้นเหงื่ออย่างรักใคร่ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายการกระทำของทินกรที่แตกต่างจากคนรักในอดีตของเขา
เรื่องบนเตียงสำหรับภรัณยูเป็นเหมือนหัวข้อต้องห้ามในความสัมพันธ์ก่อนหน้า คนที่ผ่านมาไม่เคยมีใครกระซิบถามเขาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลว่าเขารู้สึกเจ็บหรือไม่ ไม่เคยมีใครถามถึงความพร้อมของเขา ไม่มีใครสนใจว่าเขาจะรู้สึกดีเช่นกันหรือไม่
แน่นอน ไม่มีใครพร่ำบอกคำรักแว่วหวาน คลอเคลียข้างกายไม่ห่างเช่นที่ทินกรกำลังทำอยู่ตอนนี้ เรือนร่างที่แนบชิดจนแทบจะหลอมรวมเนื้อเนื้อเดียวกันทำให้ภรัณยูรู้ดีว่าปัญหาของร่างสูงยังไม่คลี่คลาย แต่ทินกรไม่คิดจะเอ่ยขอให้เขาลำบากใจอีกครั้ง เด็กหนุ่มเพียงแต่กอดเขาไว้ในอ้อมแขนเงียบๆ ราวกับว่าแค่นั้นก็มากเกินกว่าที่ทินกรจะนึกฝัน
บางครั้งเขาก็เกลียดความเป็นเด็กดีของอีกฝ่าย
“ซัน…” ร่างโปร่งพลิกตัวกลับไปหาคนรัก ทินกรขยับถอยออกมาเล็กน้อย ยิ้มเจื่อนๆให้เขาราวกับเด็กน้อยที่ถูกจับได้ว่าทำผิด
“ขอโทษครับ”
“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรนี่” ร่างโปร่งกระซิบตอบ ขยับเข้าไปใกล้คนตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มจางที่มุมปาก “พี่หายเหนื่อยแล้ว”
“…จริงเหรอครับพี่ภัทร?”เด็กหนุ่มถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาสีควันบุหรี่เป็นประกายระยับเมื่อได้ยินดังนั้น
ภรัณยูโกหก…
ร่างกายของเขาส่งเสียงร้องประท้วงทุกครั้งที่ขยับ สะโพกของเขายังคงร้าวระบมจากความรุนแรงที่ได้รับ แม้ว่าทินกรจะพยายามอ่อนโยนแค่ไหน
แต่เขาอยากให้ทินกรรู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่เลือกเขา อย่างน้อยที่สุด เขาอยากให้ทินกรรู้สึกว่าเขาสามารถให้อะไรได้พอๆกับเด็กอายุใกล้เคียงกันที่ทินกรเคยคบมา
ขาเรียวตวัดคร่อมร่างสูง ภรัณยูพลิกกายขึ้นนั่งบนตักของทินกร มือเรียวยกขึ้นทัดผมของตัวเองกับหลังหู สังเกตดวงตาสีควันบุหรี่ไล่มองตามทุกการกระทำของเขาราวกับสุนัขป่าผู้หิวโหย
สะโพกมนบดเบียดร่างข้างใต้อย่างยั่วเย้าแทนคำเชิญชวน
เขารู้ว่าตัวเองจะต้องเสียใจทีหลัง
แต่เป็นอีกครั้งที่แววตาของทินกรที่มองเขาเหมือนเป็นโลกทั้งใบทำให้ภรัณยูเลือกที่จะอยู่กับปัจจุบันมากกว่าสิ่งที่ยังไม่เกิด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2021 13:57:59 โดย littlepig »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มีนาาาาาาา  :o12:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
โถ...น้องมีน น่าสงสารจริงๆ เลยลูลุงเชษฐ์ใจร้าย ต้องโทษตัวเองสิถึงจะถูก ทุกคนทำไปเพราะเป็นห่วงลุงแท้ๆ :angry2:

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ลุงสายโหด ไม่ลองกลับไปถามลูกชายตัวเองบ้างว่าพูดอะไรไว้กับน้องบ้าง

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ฮรื่อออออ ค้างไปอีก น้องมีนลูก

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
โถๆๆ น้องมีนของแม่
คนแก่ใจร้าย

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
น้องมีนโดนเข้าใจผิด บอกไปสิลูก

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
มีนาน่าสงสารจังเลย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ดราม่า...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เจ็บปวดมากก
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะ

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
ฮืออออออออ น้องมีนหนูลูกกกกก
น่าสงสารรรรรรร ทำไมคุณเชษฐ์ไม่ถามเหตุผลน้องมีนเลย
แล้วเด๋วลูกชายคนโตกะเลขาจะมาทำร้ายน้องมีนไหมเนี้ย สงสารน้องมีน

ออฟไลน์ mookim

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รออยู่นะคะ งื้อออ คิดถึงแล้วว

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เป็นไงล่ะ จากไปแบบไม่ต้องย้อนกลับมา
ไปตามมาเองเลยจ้า เจ็บกว่าเดิมไปอีก
สงสารมีนามากค่ะ เลือกอะไรได้บ้างไหม

คุณเชษฐ์ฟังน้องบ้างก็ดีนะ

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5

ใครจะคิดว่าเขาจะได้ชดใช้เวรกรรมเร็วขนาดนี้
ภรัณยูคิดขณะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มไล่เม็ดยาแก้ปวดแก้อักเสบลงท้อง ร่างโปร่งที่ตื่นก่อนคนรักใช้โอกาสนั้นเพื่อจัดการร่างกายของตัวเองให้อยู่ในสภาพที่เป็นผู้เป็นคนมากขึ้น ใช่ว่าเขาจะไม่มีความต้องการ แต่ความต้องการของเขากับทินกรนั้นต่างกันมากเสียจนเหมือนกับเอาขันน้ำไปดับไฟป่า
“พี่ภัทรครับ…”
ภรัณยูสะดุ้ง รีบเก็บกระปุกยาเข้าตู้แล้วหันไปหาร่างที่เพิ่งเดินเข้ามาในครัว
ดังคาด นอกจากจะไม่เหนื่อยแล้ว เจ้าเด็กถึกนี่ยังดูกระดี๊กระด๊าจนน่าหมั่นไส้อีกด้วย ทินกรยิ้มกว้างเมื่อเห็นเขา ร่างสูงอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขายาวที่ไม่ควรจะดูดีขนาดนี้ไม่ว่าใครจะเป็นผู้สวมใส่
“มีอะไรรึเปล่า?” ภรัณยูถาม พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“ผมตื่นมาไม่เห็นพี่ภัทร เลยกังวลนิดหน่อยน่ะครับ”
ร่างโปร่งขมวดคิ้วกับคำตอบของอีกฝ่าย
“กังวลเรื่องอะ…”
ทินกรวบเอาร่างของคนรักเข้าไปในอ้อมกอด ความเจ็บแปลบที่ไม่ทันได้เตรียมใจทำให้ภรัณยูตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง โชคดีที่ดูเหมือนทินกรจะไม่สังเกตเห็น
“ผมคิดว่าพี่ภัทรจะเปลี่ยนใจแล้วทิ้งผมไปแล้วซะอีก”
คำพูดของร่างสูงเหมือนเพียงคำล้อเล่น แต่น้ำเสียงที่ทินกรใช้นั้นแฝงความกังวลไว้อย่างปิดไม่มิด
“มาถึงขนาดนี้แล้วใครเขาจะเปลี่ยนใจกัน” ภรัณยูถอนหายใจกับความคิดของเด็กหนุ่ม ยกแขนขึ้นโอบรอบไหล่กว้าง “ถ้าพี่จะทิ้งซันจริง พี่ทิ้งไปตั้งแต่มาสอนครั้งแรกๆแล้ว เด็กอะไรมือไวเป็นบ้า”
ทินกรอมยิ้ม สีหน้าที่สดใสขึ้นของเด็กหนุ่มทำให้ภรัณยูอดยิ้มตามไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้เราไปเที่ยวกันได้มั้ยครับพี่ภัทร?”
ร่างสูงเสนอขึ้น ภรัณยูลังเล เขาไม่ใช่คนชอบออกไปข้างนอกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่แววตามีความหวังของอีกฝ่ายทำให้ร่างโปร่งไม่มีกะใจจะปฏิเสธ

“สวนสนุก? คนอย่างซันชอบอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ?”
ภรัณยูควรจะรู้ดีเกินกว่าจะเผลองีบในรถของทินกรโดยไม่รู้จุดหมายปลายทาง แต่ความอ่อนเพลียเอาชนะความพยายามที่จะฝืนเปลือกตาเอาไว้ของเขาอย่างง่ายดาย
และเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ภาพแสงสีสว่างสดใสที่เขาไม่ได้เห็นมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมก็ทำเอาชายหนุ่มตื่นเต็มตา
“พ่อให้บัตรฟรีมาน่ะครับ ไม่รู้ไปเอามาจากไหน” ทินกรเกาคอพร้อมรอยยิ้มแห้ง “อีกอย่าง…ผมอยากให้พี่ภัทรผ่อนคลายจากเรื่องเครียดๆบ้าง เดี๋ยวนี้ผมเห็นพี่ภัทรทำหน้าเครียดอยู่ตลอดเลย”
ภรัณยูนิ่งไปกับคำตอบนั้น เขามักจะคิดอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่งระดับหนึ่ง การถูกทักเรื่องสีหน้าจึงไม่ใช่สิ่งที่เขาประสบพบเจอบ่อยนัก
แต่ก็นั่นแหละนะ ทินกรเป็นข้อยกเว้นของทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเขาอยู่แล้ว
“อืม…งานมีเรื่องนิดหน่อยนะ ไม่ต้องห่วงหรอก” ร่างโปร่งเออออไปตามน้ำ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่หลบสายตาให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเขากำลังทำตัวมีพิรุธ
“ไม่ให้ห่วงได้ไงล่ะครับพี่ภัทร แฟนทั้งคน” ทินกรยิ้มร่า ดูจะมีความสุขเหลือเกินกับสถานะใหม่ของตัวเอง ภรัณยูยิ้มตอบอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ แม้ในใจจะยังคงหนักอึ้งจากอดีตที่ตัดสินใจกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง
เขายังไม่อยากให้รอยยิ้มของทินกรจางหายไปในตอนนี้
ครืด…
“ข้อความเข้ารึเปล่าครับพี่ภัทร?” ทินกรถามเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของร่างโปร่งสั่น ภรัณยูดึงโทรศัพท์ออกมาดูหน้าจอก่อนส่ายหน้า
“ข้อความโฆษณาน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
ชายหนุ่มเปิดประตูลงจากรถ นึกดีใจที่ทินกรไม่ใช่คนประเภทที่ชอบยุ่งวุ่นวายกับโลกส่วนตัวของเขาจนต้องเห็นทุกข้อความในโทรศัพท์
เพราะข้อความตลอดสองสามวันที่ผ่านมาจากเบอร์ที่เขาไม่ได้เห็นบนหน้าจอมาหลายปีนั้นเป็นสิ่งที่ภรัณยูไม่พร้อมจะให้ทินกรเห็น
’ให้โอกาสพี่ซักครั้งเถอะนะภัทร…พี่คิดถึงภัทรจริงๆนะครับ
-ปภพ’


“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรของมึงอยู่คนเดียว ขนลุกว่ะ”
พายุถามเพื่อนร่างสูงที่ผลุบนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ห่างจากตนไปอีกหนึ่งตัว กันที่ตรงกลางไว้ให้มีนาที่เดี๋ยวนี้มักจะมาสายกว่าพวกตนเสมอ ไอ้ฝรั่งรัสเซียเพื่อนเขาดูจะอารมณ์ดีจนน่าหมั่นไส้ ทินกรไม่ตอบ นั่งอมยิ้มเมื่อมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ตั้งเป็นรูปคู่ของเขากับภรัณยูในสวนสนุกเมื่อคืนอย่างมีความสุขโดยไม่สนสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
เมื่อวานเขาคิดว่าภรัณยูจะไม่ชอบสถานที่ท่องเที่ยวแบบเด็กๆที่เขาเลือก แต่ชายหนุ่มกลับยอมให้เขาลากไปนู่นไปนี่โดยไม่มีท่าทีขัดขืนใดมากไปกว่ารอยยิ้มระอาใจบนริมฝีปากเรียว
แน่นอน ภรัณยูยังคงไม่ยอมให้เขาจับมือถือแขนหรือโอบไหล่ในที่สาธารณะ แต่แค่อีกฝ่ายยอมแบ่งขนมให้เขากัดหรือแบ่งน้ำอัดลมให้เขาดื่ม ก็มากพอที่จะทำให้หัวใจของทินกรพองโตจนคับแน่นไปทั้งอก
หลายวันที่ผ่านมาเขารู้สึกว่าภรัณยูมีเรื่องกลุ้มใจอยู่ตลอดเวลา เด็กหนุ่มได้แต่หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่นึกเสียใจที่ยอมตกลงคบกับเขา แต่เขารู้ดีว่าคนอย่างภรัณยู ต่อให้ง้างปากเจ้าตัวก็ไม่ยอมพูดอะไร ทินกรจึงรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จเมื่อได้เห็นรอยยิ้มจางบนใบหน้าของคนรัก
“ขอโทษนะที่สาย…”

เสียงอิดโรยของมีนาเรียกความสนใจของเพื่อนทั้งสอง พายุเป็นคนแรกที่ลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งเมื่อเห็นสภาพของมีนาเต็มตา
“ไอ้มีน นี่มึงไปทำอะไรมาวะ สภาพอย่างกับผ่านสงครามโลกมา?!”
“พายุ เบา” ทินกรปรามเสียงดุ แต่คิ้วเข้มที่ขมวดมุ่นบ่งบอกว่ามีความคิดไม่ต่างจากเพื่อนตัวสูงนัก เด็กหนุ่มขยับให้พายุประคองมีนานั่งลง ร่างเล็กซึ่งไม่ได้มีน้ำหนักตั้งต้นอะไรมากนักอยู่แล้วยิ่งดูตัวบางลงหลังจากไม่ได้เจอกันหลายวัน สีหน้ามีนาที่เหมือนคนอดนอนมาหลายคืนยิ่งทำให้เพื่อนทั้งสองรู้สึกไม่สบายใจ “มีน…ใครทำอะไรนาย บอกพวกฉันได้มั้ย?”
“จะใครซะอีกล่ะ ก็ไอ้เสี่ยฝรั่งมันน่ะสิ แม่ง…” พายุเอ่ยด้วยน้ำเสียงมีน้ำโห ดวงตาคมสีรัตติกาลสำรวจบาดแผลตามแขนขาวเนียนด้วยความเป็นห่วง “…ผู้ชายเลวๆแบบนั้นทนคบกับมันไปทำไมวะ? หรือเป็นเรื่องเงิน บ้านกูรวยนะ เอาเงินกูก็ได้…”
“พอได้แล้ว” ทินกรกดเสียงต่ำเมื่อเห็นว่ามีนาคู้ตัวลงจนแทบจะจมหายไปกับเก้าอี้จากคำพูดของเพื่อน เขารู้ว่าพายุหวังดี แต่บางครั้งความตรงไปตรงมาของอีกฝ่ายก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป เด็กหนุ่มหันกลับไปหาเพื่อนตัวเล็ก “…เจ็บมากมั้ย?”
แม้ร่างกายจะสั่นเทาเป็นลูกนกตากฝน แต่มีนายังคงส่ายหน้าอย่างร้อนรน ริมฝีปากรูปกระจับเม้มแน่นจนแทบเป็นเส้นตรง ก่อนที่ร่างเล็กจะเอ่ยขึ้นเบาๆ
“เขา…ไม่ได้ทำอะไรเรา…”
“ถ้ามันไม่ได้ทำแล้วหมาที่ไหนทำ” พายุยังคงอดไม่ได้ที่จะขัดอย่างมีน้ำโห สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการเห็นคนอ่อนแอถูกรังแก โดยเฉพาะเมื่อคนอ่อนแอที่ว่านั้นคือเพื่อนของเขา
ทินกรกอดอกฟังเงียบๆ แต่ดวงตาสีควันบุหรี่ที่ไม่ละไปจากใบหน้าของมีนานั้นบ่งบอกว่าตนก็รอเหตุผลของอีกฝ่ายอยู่เช่นกัน
“เรา…แค่มีเรื่องให้คิดมากไปหน่อยน่ะ” ร่างเล็กก้มมองตักของตัวเอง ซ่อนสีหน้าจากเพื่อนทั้งสองด้วยกลุ่มผมสีน้ำตาลที่ปรกลงปิดดวงตากลมโต “เราไม่ค่อย…มีประสบการณ์ เลยกลัวว่าเขาจะเบื่อแล้วไปหาคนอื่น…”
แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ความกลัวที่แท้จริงของมีนา
สาเหตุที่เขานอนไม่หลับในช่วงหลายวันที่หลายวันที่ผ่านมานี้ เป็นเพราะธีรเชษฐ์ทำตัวเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศ ดวงตาสีควันบุหรี่มักจะมองเลยผ่านเหมือนเขาไม่มีตัวตน ทำให้บรรยากาศในห้องอึดอัดเสียจนมีนาไม่คิดที่จะอยากกลับไปในแต่ละวัน
“มึงก็เป็นซะแบบนี้ อย่าฝืนตัวเองสิวะ ที่เป็นลมไปรอบนั้นยังไม่เข็ดอีกเหรอ” พายุผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกระคนอ่อนใจ แววตาที่อ่อนลงของร่างสูงบ่งบอกว่าเชื่อคำพูดของร่างเล็กอย่างไม่มีข้อกังขา ทินกรขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ “กินยามารึยัง? ให้กูไปซื้อให้มั้ย?”
“เรากินมาแล้ว ขอบใจนะ”มีนาพึมพำตอบ เปลือกตาที่หนักอึ้งประกอบกับศีรษะที่เต้นตุบๆมาตั้งแต่เช้าทำให้เขาได้แต่ยอมรับความจริงว่าวันนี้คงไม่ได้จดเลคเชอร์อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ร่างเล็กรู้สึกถึงแรงดึงเบาๆที่แขน แต่มากพอที่จะทำให้เขาเซไปซบกับไหล่ของพายุที่นั่งอยู่ข้างๆ
“นอนไปมึง เดี๋ยวไอ้ซันจดให้” มือใหญ่ของพายุวางปุลงบนกลุ่มผมนิ่ม มีนาอยากจะทักท้วง แต่ความอ่อนล้าที่สั่งสมมาตลอดคืนทำให้เปลือกตาของร่างเล็กปิดลงอย่างว่าง่าย นึกเกลียดตัวเองที่ในเวลาแบบนี้กลับนึกไปถึงคนใจร้ายที่ไม่มีวันอ่อนโยนกับตัวเองแบบนี้ขึ้นมา

“กินเข้าไป ถ้าไม่หมดมึงไม่ต้องลุก”
มีนานั่งจ้องอาหารนับสิบจานที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้าตัวเองจากเงินของพายุตาปริบๆ ก่อนจะเงยหน้ามองทินกรด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ แต่เพื่อนที่ปกติดูจะเป็นคนที่มีเหตุผลที่สุดกลับพยักหน้าเห็นด้วย
“กินเยอะๆจะได้แข็งแรง”
“เยอะขนาดนี้เราจะได้ป่วยแทนน่ะสิ” มีนาถอนหายใจ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาคุ้นชินกับตรรกะประหลาดของเพื่อนทั้งสอง
“บ่นจังวะ จะกินเองกรือจะให้กูจับยัด”
คำขู่ของพายุทำให้ร่างเล็กหยิบช้อนขึ้นมาอย่างว่าง่าย แต่ยังไม่ทันจะได้ตักอาหารเข้าปาก คนที่นั่งเฝ้าเขาอย่างใกล้ชิดประดุจผู้คุมนักโทษก็ลุกพรวดขึ้นจากเก้าพร้อมโบกมือให้ใครสักคนด้วยรอยยิ้ม
“ที่รักคร้าบบบ”
“ใครเป็นที่รักนายไม่ทราบ” ร่างโปร่งในชุดนักศึกษาตอกกลับด้วยสีหน้าหงุดหงิด หมุนตัวเดินกลับไปทางที่ตัวเองจากมาโดยไม่สนใจเสียงเรียกของพายุ เด็กหนุ่มร่างสูงนั่งลงด้วยสีหน้าสับสน
“อะไรวะ?เมื่อวานยังดีๆอยู่เลย”
“เมื่อวานเจอกันด้วยเหรอ?” ทินกรถามอย่างประหลาดใจ
“เออ เมื่อวานเขาบอกว่าไม่เข้าใจแคล กูเลยไปช่วยติว” พายุตอบ ขมวดคิ้วเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนทั้งสอง “อะไร? ทำเหมือนมึงไม่เคยจีบใครงั้นแหละ”
“สรุปแล้ว เรื่องเจนนี่นี่พายุเอาจริงเหรอ” มีนาถามเสียงเบา พยายามไม่ให้น้ำเสียงของตนดูก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเพื่อนมากเกินไป
“เอาจริงดิ คนอย่างกูไม่เคยเอาใครเล่นๆ”
พายุตอบ กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำของคนถาม มือใหญ่ขยี้กลุ่มผมนุ่มอย่างเอ็นดู แม้จะอายุเท่าๆกัน แต่สำหรับเขามีนาเป็นเหมือนน้องชายตัวน้อยที่เขาอยากจะปกป้องจากโลกภายนอกอันโหดร้าย
“นี่…รู้สึกมั้ยว่าคนเขามองเราแปลกๆ” ทินกรที่เงียบไปสักพักเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ เพื่อนอีกสองคนหันไปตามที่อีกฝ่ายบอก มีนาสังเกตเห็นว่ามีนักศึกษาหลายคนที่เดินผ่านพวกเขาเริ่มเดินช้าลง หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นบ้าง ยกโทรศัพท์มาทางพวกเขาแล้วรีบเดินจากไปบ้าง แต่พายุเพียงแค่ไหวไหล่
“ก็คงแค่แฟนคลับกูล่ะมั้ง”
จริงสิ...พายุเป็นเดือนคณะนี่นะ
“โย่ว เด็กๆ โห สั่งอะไรมากินกันเยอะแยะเลยเนี่ย”
มีนาไม่ได้เจอกับลุงรหัสของพายุและทินกรบ่อยนัก แต่บุคลิกร่าเริงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเหนือฟ้านั้นยากจะลืมเลือน ส่วนกวินภพที่ติดสอยห้อยตามเพื่อนรักมานั้น มีนาจำไม่ได้ว่่าอีกฝ่ายเคยพูดคุยอะไรกับตนหรือไม่
“เอามาบำรุงไอ้มีนมันพี่ เมื่อคืนใช้แรงเยอะ”
พายุตอบขำๆ เหนือฟ้าเหลือบมองเด็กหนุ่มร่างเล็กที่ก้มหน้างุดอย่างอับอายพร้อมกับเลิกคิ้ว
“อ้าว สรุปมึงกับน้องมีนคบกันแล้วเหรอ?”
“เฮ้ย เปล่าพี่!/มะ...ไม่ใช่นะครับ!”ทั้งสองประสานเสียงปฏิเสธกันเสียงหลง เหนือฟ้าเอียงคออย่างไม่เข้าใจ แล้วหันไปทางทินกร
“งั้นก็มึงกับน้องมีนเหรอที่คบกันอยู่?”
“หือ? ทำไมพี่ถึงคิดแบบนั้นล่ะครับ?” ทินกรถามด้วยสีหน้าฉงน เหนือฟ้าหยิบโทรศัพท์มือถือของตนออกมาเปิดหน้าเพจที่มีรูปของพายุซึ่งกำลังอุ้มมีนาที่เป็นลมในวันปฐมนิโทศน์ไปโต๊ะพยาบาลให้เด็กหนุ่มทั้งสามดู มีนาเบิกตากว้างเมื่อเห็นชื่อของเพจนั้น
‘มีนาพายุแฟนคลับ’
“นี่ไง ดังใหญ่จนเขาจับคนมาจิ้นด้วยแล้วนะพวกมึง” ชายหนุ่มรุ่นพี่แซวพร้อมรอยยิ้มขบขัน “มีเพจของน้องมีนกับเจ้าซัน ซันกับพายุ แล้วก็มีเพจเชียร์ให้พวกมึงสามคนตกลงปลงใจกันด้วยนะ”
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอครับ...” มีนาพึมพำอย่างเป็นกังวล เขารู้ว่าธีรเชษฐ์ไม่ค่อยได้ใช้โซเชียลมีเดีย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้การมีรูปของเขาในสภาวะล่อแหลมแบบนั้นอยู่ในโลกออนไลน์เป็นเรื่องที่ดีขึ้น แค่นี้เขาก็ถูกอีกฝ่ายโกรธมากพออยู่แล้ว...
“ผมว่าผมควรส่งข้อความไปให้เจ้าของเพจนี่ซักหน่อยดีกว่า” ทินกรขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ “ผมไม่อยากให้แฟนคิดมาก...”
“ยิ่งปฏิเสธยิ่งโดนหาว่าร้อนตัว ดูกูกับไอ้กล้าดิ จะเรียนจบอยู่แล้วกระแสยังดีไม่มีตกเลย” เหนือฟ้าไหวไหล่ ก่อนจะฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก “ว่าแต่...เมื่อกี้เหมือนพี่จะได้ยินคำว่า‘แฟน’นะครับน้องซัน”
แทนที่จะรู้สึกเขินอายที่หลุดปากออกไปแบบนั้น แต่ทินกรกลับเพียงแค่ยิ้มรับด้วยสีหน้าสว่างสดใสจนคนแซวยังไปต่อไม่เป็น เหนือฟ้าได้แต่ทอดถอนใจกับความเจิดจ้าของเด็กหนุ่มที่ไม่ได้เผื่อแผ่ให้กับลุงรหัสของตัวเองที่ยืนหน้าหงิกอยู่ข้างตนเลย
“เดี๋ยวพรุ่งนี้กูกับไอ้กล้าเลี้ยงสาย ห้าโมงเจอกันศาลาหน้าคณะ” ชายหนุ่มผมทองแจ้งเจตจำนงที่มาหาน้องๆในที่สุด ทินกรกับพายุพยักหน้ารับอย่างพร้อมเพรียงกัน ในที่สุด หลังจากลับร่างของรุ่นพี่ทั้งสอง พายุที่ไม่ได้มีความเห็นใดๆกับการได้เห็นเพจเมื่อครู่ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้
“มีอะไรรึเปล่า?” ทินกรหันไปถามเพื่อนอย่างงุนงง
“กูรู้แล้วล่ะว่าเจนนี่โกรธอะไร...” พายุตอบด้วยสีหน้าบึ้งตึง “ไปเลย ไม่ต้องรอกู”
เพื่อนทั้งสองกระพริบตาปริบๆมองคนที่คว้ากระเป๋าเป้ของตัวเองผลุบหายเข้าไปในฝูงชนที่เดินสวนกันไปมาอย่างง่ายดายด้วยสีหน้าสับสน ไม่มั่นใจว่าตนควรจะทำอะไรต่อ
 “มีน นายก็ไปให้ห้องพยาบาลดูหน่อยก็ดีนะ แล้วบอกแฟนเบาๆด้วย ตัวแค่นี้เองรุนแรงอะไรนักหนา” ทินกรเอ่ยกำชับ ก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้อีกคน “ไปละ เดี๋ยวไม่ทันเรียน”
“อื้อ...”
การถูกลูกชายของคนที่ทำให้เขาอยู่ในสภาพอิดโรยแบบนี้ตักเตือนเรื่องแบบนี้ทำให้มีนารู้สึกแปลกๆ แต่เขาไม่มีทางเลือกนอกจากพยักหน้ารับความหวังดีของอีกฝ่าย
จะให้เขาบอกได้ยังไงว่าเขาไม่มีสิทธิ์บอกให้ ‘แฟน’ คนที่อีกฝ่ายว่าทำอะไรทั้งนั้น ในเมื่อชีวิตของเขาทั้งชีวิตอยู่ในกำมือของธีรเชษฐ์เพียงคนเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2021 13:58:29 โดย littlepig »

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เกียมยาดม  :sad4:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ลุงเชษฐ์ต้องโดนจับตีๆๆๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อีตาลุงนี่ มือหนักจังนะ  :katai1:

ออฟไลน์ BChampa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จะฟินหรือไม่ฟินดี น้องมีนโดนขนาดนี้ แต่ที่แน่ๆคือโกรธหมอกมาก ตัวต้นเหตุแท้ๆ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
สงสารน้องมีนจังเลยลูก. อิตาลุงใจร้าย.  :angry2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
ฮืออออออ คิดถึงน้องมีนที่สุดดดดดดดด

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
จะมีมาม่าอีกมั้ยน๊อออออ5555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ถ้ามีนไม่สบายนี่จะมานั่งดูแลไหม

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 21 ของเล่น

‘ภัทร ให้โอกาสพี่นะครับ พี่ขอร้อง’
‘เห็นแก่เรื่องของเราได้มั้ย พี่คิดถึงภัทรมากจริงๆ’
‘พี่ยังรักภัทรอยู่นะ’
ภรัณยูกำลังจะเป็นบ้า
นอกจากข้อความจากปภพที่ถูกส่งมาในโทรศัพท์ทุกวันแล้ว อีกฝ่ายยังโทรมาหาเขาไม่หยุดจนเขาต้องกดบล็อกหมายเลขไปหลังจากผ่านไปหลายวันเข้า
เขาคิดว่าปภพจะหยุด แต่ช่อดอกไม้และกระเช้าหน้าตาสวยงามที่ถูกส่งมาที่ทำงานของเขาบ่งบอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น ร่างโปร่งต้องแจ้งให้ประชาสัมพันธ์ด้านล่างงดรับพัสดุของเขาทุกชนิด ของขวัญที่ไหลทะลักเข้ามาถึงหยุดกวนใจเขาเสียที
ชายหนุ่มไม่รู้ว่าอดีตคนรักของเขาเกิดบ้าอะไรขึ้นมาตอนนี้ แต่ตัวเขาในตอนนี้มีความรู้สึกของคนอีกคนให้คิดถึง และเขาจะไม่ทำให้ทินกรต้องเป็นห่วงเขาด้วยเรื่องแบบนี้
“ตั้งใจทำงานนะครับพี่ภัทร”
ตั้งแต่ได้ใบขับขี่มา ทินกรไม่เคยยอมให้เขาขับรถเองอีกเลยเด็กหนุ่มยืนกรานที่จะขับรถรับส่งเขาเช้าเย็นทุกวันแม้ว่าตัวเองจะไม่มีงานอะไรที่บริษัทในวันนั้นก็ตาม และหากเพื่อนร่วมงานของเขาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนั้น ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
 “วันนี้เข้าบริษัทมั้ย?”
ภรัณยูเอื้อมไปจัดเนคไทค์ของชุดนักศึกษาให้ร่างสูง หนึ่งในช่วงเวลาที่เขาชอบที่สุดคือช่วงเวลาสั้นๆในลานจอดรถของบริษัทยามเช้าแบบนี้ เวลาที่เขารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบมีเพียงเขาและทินกรในรถ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศในรถและเสียงหายใจของพวกเขาเป็นเพลงบรรเลงคลอบทสนทนา
“ไม่ครับ เดี๋ยวผมจะเข้ามาวันเสาร์ทีเดียว” ทินกรเอื้อมมือขึ้นมาจับข้อมือของเขา ดึงมือเรียวขาวขึ้นมาจรดริมฝีปากลงบนหลังมือนิ่มด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ผมคงคิดถึงพี่ภัทรแย่เลย”
“พอเลย เดี๋ยวเย็นนี้ก็เจอกันไม่ใช่เหรอ”  แม้จะพูดแบบนั้นแต่ภรัณยูไม่ได้คิดจะชักมือออกจากการเกาะกุม “รีบไปได้แล้ว เดี๋ยวเข้าเรียนสายหรอก”
“พี่ภัทร…ขอจูบทีนึงได้มั้ยครับ…”
ทินกรดูเขินอายขึ้นมาทันทีกับคำขอของตัวเอง ท่าทีของเด็กหนุ่มทำให้ภรัณยูหลุดยิ้มขำออกมาอย่างเอ็นดู
“ทีเดียวน…อือ…”
ริมฝีปากได้รูปดูดกลืนคำอนุญาตของชายหนุ่มไปจนหมด ดวงตาเรียวปรือลงตามสัญชาตญาณ ปล่อยให้สัมผัสของริมฝีปากและลิ้นร้อนที่ดุนดันที่ระหว่างกลีบปากนุ่มอย่างออดอ้อนเป็นตัวกำหนดทิศทางของการกระทำของเขา ภรัณยูเผยอปากให้ลิ้นซุกซนแทรกเข้ามา เสียงหวานครางในลำคออย่างเผลอไผลกับสัมผัสอ่อนโยนของอีกฝ่าย ก่อนเป็นฝ่ายจำใจต้องผละออกมาเพื่อไม่ให้เกิดอะไรบานปลายตามมามากกว่านี้ ริมฝีปากของทินกรเคลื่อนลงมาที่ลำคอขาวอย่างมัวเมาแทบจะในทันที ภรัณยูยอมให้อีกฝ่ายแทะโลมผิวกายบริเวณลำคอระหงส์ซักพักตามประสาคนขี้ใจอ่อน ดันใบหน้าคมออกเบาๆเมื่อรู้สึกว่าหากยังปล่อยให้เรื่องบานปลายเขาอาจจะได้ไปทำงานสายเข้าจริงๆ
”พอแล้ว…”
“ผมจะทนถึงตอนเย็นได้ยังไง…” ทินกรงอแง แม้น้ำเสียงของอีกฝ่ายจะดูไม่จริงจัง แต่ดวงตาสีควันบุหรี่นั้นบ่งบอกว่าร่างสูงหมายความตามนั้นทุกประการ ภรัณยูถอนหายใจ
“ถ้าดื้อแบบนี้พี่จะไม่ให้มาส่งแล้วนะ”
แม้จะแอบรู้สึกผิดกับคำขู่ของตน แต่ภรัณยูไม่มีทางเลือกหากจะทำให้เจ้าเด็กขี้อ้อนตรงหน้ายอมทำตาม
ให้ตายเถอะ…นี่เขาต้อบเจอกับเรื่องแบบนี้ไปทุกวันจริงๆเหรอเนี่ย
แต่ก็…ใช่ว่าเขาจะไม่ชอบใจซะทีเดียวหรอกนะ

“เดี๋ยวนี้อารมณ์ดีจังนะภัทร”
ทั้งที่มั่นใจว่าไม่มีใครสังเกต แต่ท่าทีของภรัณยูก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นสายตาของเจนจิราไปได้ ภรัณยูเพียงแต่ยิ้มให้หัวหน้าของตนแห้งๆ ไม่รู้ว่าควรจะให้คำตอบใดกับข้อสังเกตนั้น
“ครับ”
“อารมณ์ดีแบบนี้…มีใครดีๆผ่านเข้ามารึเปล่าน้า”  หญิงสาวรุ่นพี่เอ่ยแซวอย่างไม่คิดจริงจัง แต่เมื่อเห็นท่าทีเลิ่กลั่กเหมือนคนโดนจับได้ว่าไปทำความผิดมาของอีกฝ่าย ความสนใจของเจนจิราจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว “ฮั่นแน่…ทำหน้าแบบนี้มีอะไรแน่เลย”
“ปะ…เปล่านะครับ” ชายหนุ่มตะกุกตะกักปฏิเสธ แต่แววตาหงอยๆเหมือนลูกสุนัขถูกทิ้งของคนรักหมาดๆกลับแวบเข้ามาในหัว แถมยังทำให้เขารู้สึกผิดเสียจนไม่สามารถโกหกอีกฝ่ายได้เต็มปากเต็มคำ “คือ…แค่ดูๆกันอยู่น่ะครับ”
“ไม่น่าล่ะ หน้าตาดูเปล่งปลั่งขึ้นเยอะเลย” เจนจิราอมยิ้ม “ยังไงก็พามาแนะนำพี่บ้างนะ”
อย่าเลยครับ ผมกลัวพี่แจนหัวใจวาย…
ภรัณยูตอบในใจ เขาไม่อยากคิดอะไรไปล่วงหน้ามากนัก แต่ชายหนุ่มหวังว่าหากเขากับทินกรคบกันไปรอดจริงๆจนถึงเวลาที่เขาพร้อมจะพาเด็กหนุ่มมาแนะนำให้คนรอบข้างของเขารู้จัก ปฏิกิริยาจากเพื่อนร่วมงานของเขาจะไม่เลวร้ายอย่างที่เขาคิดไว้
“โหพี่ภัทร พี่ไปหว่านเสน่ห์ไว้ที่ไหนเยอะแยะเนี่ย ของขวัญของกำนัลส่งมาไม่เว้นแต่ละวันจนประชาสัมพันธ์ต่อสายขึ้นมาด่าแผนกเราแล้วเนี่ย” ภรัณยูหน้าซีดเผือดเมื่อได้ยินคำพูดของฝน หญิงสาวรุ่นน้องที่เดินเข้ามาในแผนก ในอ้อมแขนอุ้มช่อดอกไม้ช่อโตเอาไว้ เขาพยายามปรับสีหน้าของตัวเองให้เป็นปกติ บังคับเสียงไม่ให้สั่นแล้วถามออกไป
“พี่แจ้งไว้แล้วนี่ว่าไม่ให้เขารับของ ทำไม…”
“อ๋อ เปล่าค่ะ อันนี้ไม่ได้มาจากคนส่งของ” หญิงสาวยิ้มกว้าง ค่อยๆวางช่อดอกไม้ขนาดเกือบครึ่งตัวคนลงในอ้อมกอดของภรัณยูที่จำใจต้องรับมาอย่างไม่มีทางเลือก “อันนี้จากคุณมธุวันค่ะ”
“ฮะ?” ชื่อของเลขาส่วนตัวของประธานบริษัททำให้คนฟังเหวอไปครู่หนึ่ง
“คุณมธุวันบอกว่าคุณทินกรให้สั่งดอกไม้มาให้พี่ภัทร ตอบแทนที่ช่วยสอนงานให้มาตลอด” หญิงสาวร่างอวบบิดไปมาอย่างขัดเขิน “โอ๊ยยยยย ผู้ชายอะไร๊ นอกจากงานดีแล้วยังนอบน้อมน่าร้ากกก เฮ้อ ทำไมไม่อายุมากกว่านี้ซักสิบปีน้า”
ภรัณยูสะอึก ช่องว่างระหว่างวัยที่เขาพยายามไม่ใส่ใจถูกยัดเยียดเข้ามาในสมองอีกครั้ง ชายหนุ่มเอนช่อดอกไม้พิงผนังแล้วหันไปสนใจงานของตัวเองต่อ แต่ดูเหมือนว่าหัวข้อสนทนาของสาวๆในออฟฟิศจะไม่เบี่ยงไปจากประเด็นของทินกรแต่โดยง่าย
“ว่าแต่…แฟนของคุณทินกรจะเป็นคนแบบไหนนะ คงเป็นสาวน้อยลูกคุณหนูตัวเล็กๆนุ่มนิ่มๆ ใช่มั้ยคะพี่แจน?” ฝนหันไปถามคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ทินกรเคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่ สายตาของภรัณยูยังคงจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า แต่หูของร่างโปร่งผึ่งรอคำตอบของเจนจิราโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว
“ไม่รู้สิ เหมือนว่าคุณทินจะยังไม่มีแฟนนะตอนนี้”
“แล้วแต่ก่อนล่ะคะ? สมัยอยู่อเมริกา…”
“โอ๊ย อย่าถามว่ามีมั้ยเลย มีรอบล่ะกี่คนดีกว่า คนอย่างคุณทินกรน่ะจะหล่นไกลต้นท่านประธานได้ยังไงยะ” พนักงานสาวอีกคนเอ่ยแทรกขึ้นมา ภรัณยูพบว่ามือของตนกำปากกาไว้แน่น แต่เขารู้ว่าตัวเองในตอนนี้ไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะปกป้องคนอายุน้อยกว่า
”ไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก พี่เคยได้ยินว่าคุณทินเคยคบกับเด็กผู้หญิงสองสามคนตอนอยู่ที่นั่น แต่เรื่องสับรางอะไรนั่น…คุณทินไม่ใช่เด็กแบบนั้น” เจนจิราตอบเสียงเรียบ ไม่นึกอยากมีส่วนร่วมแต่ไม่อาจทนให้อีกฝ่ายพูดจาใส่ร้ายเด็กหนุ่มที่เธอเอ็นดู โดยมีฝนเอ่ยสนับสนุน
“ใช่ๆ แกไม่รู้เหรอว่าลูกบ้านนั้นน่ะโทษนิสัยของท่านประธานที่ทำให้คุณเกศราอาการทรุดจนเสียชีวิต ถึงได้บ้านแตกแยกกันอยู่แบบนี้ไง…”
“พอได้แล้ว”
เจนจิราเหลือบมองพนักงานสาวรุ่นน้องเป็นเชิงเตือน ภรัณยูกัดริมฝีปาก ขมวดคิ้วอย่างไม่สบายใจกับข้อมูลที่ได้รับ เขาพอจะรู้ว่าทินกรไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่การได้ยินว่าอีกฝ่ายเคยคบกับผู้หญิงมาจริงๆทำให้เขารู้สึกโหวงๆในอกอย่างบอกไม่ถูก
ส่วนเรื่องระหว่างทินกรกับธีรเชษฐ์ เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนว่ามันรุนแรงขนาดนั้น
“ภัทร…ภัทร…ภรัณยู!”
“…ครับ!” เจ้าของชื่อสะดุ้ง
“ไปประชุมเถอะจ้ะ เดี๋ยวจะสาย” เจนจิราตักเตือนด้วยสีหน้าเป็นห่วงด้วยรู้ว่ารุ่นน้องไม่ใช่คนไม่มีความรับผิดชอบ ภรัณยูกล่าวขอโทษขอโพยด้วยสีหน้าว้าวุ่นใจ แล้วลุกออกไปโดยไม่ต้องรอให้บอกซ้ำ
ตั้งใจทำงานสิภัทร เลิกฟุ้งซ่านได้แล้ว!

ธีรเชษฐ์ไม่เคยคิดว่าจะมีคนที่ทำให้เขาบันดาลโทสะได้ด้วยการทำตามคำสั่งอย่างที่มีนากำลังทำ
ทั้งที่เด็กหนุ่มปฏิบัติตามคำสั่งของเขาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ร่างเล็กที่ยอมก้มหน้าก้มตามองยาแนวกระเบื้องดีกว่ามองหน้าเขากำลังจะทำให้ธีรเชษฐ์กำลังจะเป็นบ้า มีนาทำตัวเหมือนตุ๊กตาไร้ชีวิต นั่งซึมกะทืออยู่คนเดียว พอหันมามองหน้าเขาก็มองเข้าด้วยแววตาตัดพ้อ ทั้งที่คนที่โกรธควรจะเป็นเขาแท้ๆ
ได้…อยากเล่นแบบนี้ใช่มั้ย?
“มีน จูบฉัน”
“อะ...อะไรนะครับ?”
ริมฝีปากรูปกระจับอ้าค้างอย่างสับสนกับคำสั่งไม่มีปี่มีขลุ่ยของอีกฝ่าย ธีรเชษฐ์ไม่เคยสั่งให้เขาทำอะไรแบบนี้มาก่อน
มือใหญ่จับหลังคอของเด็กหนุ่มให้โน้มลงมา มีนารู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านร่างเมื่อลิ้นร้อนแตะลงบนริมฝีปากของตนอย่างหยอกเย้า ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกอย่างไรกับท่าทีคุ้มดีคุ้มร้ายของร่างสูง ดวงตาคมสีควันบุหรี่ยังคงจับจ้องมาที่เขา บ่งบอกว่าตนหมายความตามที่พูดทุกคำ มีนาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยื่นหน้าเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างละล้าละลัง ทาบทับริมฝีปากนุ่มลงบนริมฝีปากได้รูปอย่างเงอะงะ นิ่งค้างอย่างไม่มั่นใจว่าตนควรจะทำอะไรต่อ
ธีรเชษฐ์คำรามในลำคอ ทั้งที่จูบไร้เดียงสาของเด็กตรงหน้าไม่ควรทำให้เขารู้สึกอะไร แต่ความต้องการที่มีต่อร่างเล็กยิ่งทวีความรุนแรงจนเขาไม่อยากจะปล่อยเกมดำเนินไปตามจังหวะของอีกฝ่าย มือใหญ่ดันให้ริมฝีปากนิ่มเข้ามาแนบชิด ส่งลิ้นร้อนเข้าไปในริมฝีปากที่ยังเผยออ้าปากสับสนเพื่อตักตวงความหวานที่ตนโหยหา
ลิ้นร้อนช่ำชองและริมฝีปากที่ขบเม้มเรียวปากนิ่มเบาๆทำให้มีนาอดไม่ได้ที่จะตอบรับจุมพิตนั้นอย่างคะนึงหา นี่น่าจะเป็นครั้งแรกทั้งแต่ที่ร่างสูงพาเขากลับมาที่อีกฝ่ายยอมรับรู้ถึงตัวตนของเขาในห้องนี้ แม้จะดุดันไปบ้าง ยังคงดีกว่าสายตาเย็นเยียบที่ไม่มีเขาอยู่ในนั้นอยู่มาก
ก่อนหน้านี้ มีนาพยายามที่จะหลบหนีไปในโลกแห่งความฝันที่ธีรเชษฐ์ยังคงยิ้มให้เขาบ้าง มองเขาด้วยสายตาอ่อนโยนที่ถึงแม้จะไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเวลาที่อีกฝ่ายคุยโทรศัพท์กับมธุวัน แต่อย่างน้อยนั่นก็ยังพอหล่อเลี้ยงให้ความหวังเล็กๆของเขายังคงเติบโตไปได้ ทำให้ท่าทีสนใจแม้เพียงน้อยนิดของธีรเชษฐ์ก็ยังคงทำให้เขาตอบรับสัมผัสอย่างกระตือรือร้น
ท่าทีที่โยนอ่อนอย่างว่าง่ายนั้นทำให้ธีรเชษฐ์เผลอขยับยิ้มมุมปาก ก่อนจะรีบกลับมาตีสีหน้านิ่งเฉยเพื่อไม่ให้คนในอ้อมกอดได้ใจจนเกินไป เมื่อใจดีด้วยแล้วเหลิงเช่นนี้ ธีรเชษฐ์ก็จะขอรับบทเป็นคนใจร้ายเช่นนี้ต่อไปก็แล้วกัน
ถ้าใจดีด้วยแล้วอีกฝ่ายเลือกที่จะไป เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะพยายามทำดีเพื่อคนตรงหน้า...
ถ้าการบังคับจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขามีมีนาอยู่ข้างๆ เขาก็จะทำโดยไม่สนใจว่าดวงตากลมโตนั้นจะมองเขาด้วยแววตาตัดพ้อเพียงไร
มีนาหลับตาลง ไม่อยากรับรู้ถึงสายตาเย็นชาของคนตรงหน้าที่สวนทางกับจุมพิตหวานล้ำแสนอ่อนโยน ปล่อยใจไปกับภาพของธีรเชษฐ์ในหัวเพื่อบรรเทาความรู้สึกบอบช้ำในใจของตน
เขาได้แต่หวังว่าซักวัน...แววตาอ่อนโยนที่ธีรเชษฐ์เคยมีให้เขาจะกลับมา แต่มีนารู้ดีเกินกว่าจะคาดหวังในสิ่งที่อาจเป็นไปไม่ได้
เขาเป็นคนทำให้เรื่องทุกอย่างเป็นแบบนี้ และนั่นคือสิ่งที่เขาจำเป็นต้องยอมรับ

ธีรเชษฐ์เลี้ยวรถเข้ามาในลานจอดรถของโรงพยาบาล มีนาที่นั่งอยู่ข้างๆเพียงแต่เงยหน้ามองประตูทางเข้าเงียบๆเช่นเดียวกับระยะเวลาตลอดทางจากคอนโดมาที่นี่ เด็กหนุ่มไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรกับเขาแม้แต่ประโยคเดียว ซึ่งธีรเชษฐ์ที่รู้ดีว่านั่นเป็นความผิดของตัวเองไม่อาจทำใจโกรธอีกฝ่ายได้ลง
หลายวันที่ผ่านมานี้ หลังจากที่โทสะที่คุกรุ่นในอกเริ่มคลายลง เขาเริ่มรู้สึกผิดที่ทำตัวเฉยชาใส่เด็กหนุ่มข้างกาย แม้จะไม่เข้าใจสาเหตุที่ทำให้มีนาต้องหนีไปจากเขา ธีรเชษฐ์ยังคงตระหนักดีว่าการทำตัวเช่นนี้ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่นี้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2021 13:59:21 โดย littlepig »

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
จับลุงเชษฐ์ใส่โหลแล้วเขย่าให้หายบ้าสักทีได้ไหม
สงสารน้องมีนนน
ช่างเป็นสองคู่ที่คลุมเครือ จะชัดเจนก็ไม่ใช่ไม่ชัดเจนก็ไม่เชิง

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สงสารมีนา  :sad4:

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
การทำแบบนี้ก็จะได้แต่ตัวแต่ไม่ได้ใจ ลุงเป็นนักธุรกิจน่าจะรู้นะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น้องงงงงงงงงงงง ลูกเขาจะรู้บ้างมั้ยว่าการกระทำของตัวเองทำให้เด็กคนนึงต้องเจอกับอะไร
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด