[จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951  (อ่าน 181136 ครั้ง)

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
พี่ภัทรน่ารัก ลงทุนไปขอเสื้อผ้าญาติเลย
คุณเชษฐ์หวงมีนน่าดู
ลุ้นคู่พายุกับเจนด้วย

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
แหม พี่ภัทรถึงกับต้องดิ้นรนหาเสื้อผ้าไปเดทเลยเหรอค้า  :hao3:

ออฟไลน์ meyj4ever

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
รอๆ น้องซันกับพี่ภัทรเขาจะไปเดทกัน!!!

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
รออ่านฉากน้องมีนคุณพ่อ
หายไปนานแล้วๆๆ

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 11: ธีรเชษฐ์ ทรัพย์ดำรง




“พี่…ภัทร?”




โอเค...เขารู้ว่าเสื้อผ้าของเหนือฟ้ามันอาจจะ...วัยรุ่นไปหน่อยสำหรับเขา แต่ท่าทีตกตะลึงประหนึ่งเห็นเอเลี่ยนหล่นลงมาจากยอดตึกของทินกรทำให้ภรัณยูนึกเสียใจที่ยอมให้ญาติผู้น้องแต่งตัวให้



เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดคอกว้างแทบเสมอไหล่สีขาวแขนยาวตัวบางที่เผยเนื้อหนังมังสามากกว่าที่เขาสบายใจ กางเกงแนบเนื้อสีดำอวดเรียวขายาว แถมยังมีโช๊กเกอร์เส้นหนาสีดำพร้อมจี้เหล็กสีเงินกลมช่วย’ไม่ให้คอโล่ง’ตามที่เหนือฟ้าอ้าง แต่ดูอย่างไรก็เหมือนกับปลอกคอสุนัขเสียมากกว่าในความคิดของร่างโปร่ง




รู้แบบนี้ใส่ชุดทำงานมาซะยังจะดีกว่า




“…ไม่ชอบเหรอ?”




เสียงที่ออกมาจากลำคอเบากว่าที่เขาตั้งใจไว้มาก ทินกรกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ก่อนจะถามด้วยเสียงแหบพร่า




“พี่ภัทร...ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้ล่ะครับ?”




ร่างสูงอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สบายๆ ถึงแม้เด็กหนุ่มจะดูดีอย่างน่าหมั่นไส้ในทุกชุดที่ใส่ แต่ภรัณยูก็พอดูออกว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาที่จะแต่งองค์ทรงเครื่องในการมาเจอกับเขาวันนี้เท่าไหร่นัก




นี่เขา...ฟังอะไรผิดไปจริงๆสินะ




“จะไปไหนนะ ห้้องสมุดมหาวิทยาลัยใช่มั้ย? รีบขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวไม่มีที่จอดกันพอดี”





ร่างโปร่งเปลี่ยนเรื่อง เฉไฉไม่ยอมตอบคำถามด้วยความอับอายที่ตีโพยตีพายไปก่อนอยู่คนเดียว กลับเข้าไปนั่งในรถรอให้เด็กหนุ่มร่างสูงเข้ามานั่งข้างๆแล้วขับรถออกไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว




“โห พี่ภัทร แต่ตัวซะหล่อเลยครับ มีนัดต่อเหรอ?” พายุทักขึ้นทันทีที่ร่างโปร่งเข้ามาในรัศมีการมองเห็น แม้ครั้งแรกที่เจอกัน ร่างสูงจะพูดกับเขาแทบจะนำคำได้ แต่จากคำบอกเล่าของทินกร ดูเหมือนว่าภาพลวงของเด็กหนุ่มเงียบขรึมคมเข้มนั้นเป็นเพียงสิ่งที่อีกฝ่ายสร้างขึ้นเพื่อความประทับใจแรกพบเท่านั้น ภรัณยูย่นคิ้วเมื่อเจอคำถามจี้ใจดำอีกครั้ง ด้วยความอับอาย
ชายหนุ่มจึงพยักหน้าส่งๆไปอย่างนั้น




อันที่จริง วันนี้เขาก็คิดอยู่ว่าจะไปงานเปิดตัวร้านอาหารใหม่ของเพื่อนตอนเย็น จะบอกว่าไม่มีนัดต่อเลยก็คงจะเป็นการโกหก
“แต่งแบบนี้แล้วดูโกงอายุไปเลย” พายุเอ่ยเสียงจริงจัง “บอกว่าเพิ่งจบมหาลัยผมก็เชื่อนะเนี่ย”




มีนาที่นั่งอยู่ข้างอีกฝ่ายพยักหน้าสนับสนุน แต่คนที่ดูจะไม่พอใจกับการแต่งกายของเขาน่าจะมีอยู่คนเดียว ซึ่งเป็นคนที่ภรัณยูยอมแหกขี้ตาขึ้นมาแต่งเนื้อแต่งตัวแบบนี้เพื่อให้อีกฝ่ายได้เดินข้างเขาได้อย่่างไม่อายใคร




จะไม่ชอบก็ไม่ชอบไปสิ นี่มันร่างกายของเขา เขาจะแต่งตัวยังไงมันก็เรื่องของเขา เจ้าเด็กบ้านี่จะคิดยังไงเขาไม่เห็นจะสนสักนิด!




“อ่านถึงไหนแล้ว? จะให้พี่ช่วยตรงไหน?” ร่างโปร่งสลัดความรู้สึกหงุดหงิดออกไปจากหัว ขยับเข้าไปใกล้คนที่นั่งก้มหน้าอ่านหนังสือไม่พูดไม่จาอยู่ข้างๆเขา




“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวมีนเล่าเรื่องย่อให้ฟัง”ทินกรปฏิเสธโดยไม่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือ  ภรัณยูขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ



“แล้วให้พี่มาทำไม?”




ชายหนุ่มแทบจะกัดลิ้นตัวเองทันทีที่เอ่ยออกไป ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน นิสัยพูดจามะนาวไม่มีน้ำของเขาก็ยังแก้ไม่หายเสียที




“…ขอโทษครับ” ร่างสูงเอ่ยเสียงอ่อย




“อ่า...พิมพ์หัวข้องานกันก่อนดีกว่า มีน มึงเอาคอมมาใช่มั้ย? เอาคอมมึงพิมพ์ละกัน”




พายุรีบเอ่ยขึ้นเมื่อรู้สึกถึงความตึงเครียดในบรรยากาศ มีนารีบทำหน้าที่ลูกกระจ๊อกที่ดีหยิบคอมพิวเตอร์แล็บท็อปของตนออกมาจากกระเป๋าเป้ใบเก่าซอมซ่อที่วางอยู่ข้างเก้าอี้ของตน ภรัณยูเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าคอมพิวเตอร์ของร่างบางเป็นตัวท็อปใหม่เอี่ยมของยี่ห้อที่แพงหูฉี่อยู่แล้ว ซึ่งดูอย่างไรก็ไม่ใช่ของที่เด็กนักเรียนทุนที่ใส่เสื้อผ้าเก่าขาดและรองเท้ามือสองควรจะมีใช้




จะว่าไปแล้ว นอกจากกระเป๋าเป้ใบเก่า เสื้อผ้าและรองเท้าของมีนาก็ดูจะเป็นของใหม่ทั้งหมด ต่างจากเสื้อผ้าเด็กหนุ่มที่เขาเคยเห็นในวันมอบตัวราวกับเป็นคนละคน




“เอ่อ..ซันนามสกุลอะไรเหรอ?” มีนาเงยหน้าขึ้นมาถามสมาชิกคนสุดท้ายของกลุ่มด้วยเสียงแผ่วเบาเป็นเอกลักษณ์




“ทรัพย์ดำรง”




เจ้าของชื่อตอบด้วยน้ำเสียงหม่นหมอง ภรัณยูวางมือลงบนต้นขาของเด็กหนุ่มข้างๆ ตบเบาๆราวกับจะบอกอีกฝ่ายว่าเขาไม่ได้โกรธอะไร ทินกรมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทำให้บรรยากาศในกลุ่มดีขึ้นมาทันตา




“ทรัพย์ดำรง...เอ...” มีนาเอียงคอมองนามสกุลของเพื่อนที่ตนเพิ่งพิมพ์ลงไป รู้สึกคุ้นตากับนามสกุลนี้อย่างบอกไม่ถูก




“มีอะไรเหรอ?” ทินกรถามเมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กขมวดคิ้วมองหน้าจออยู่นานสองนาน




“ไม่มีอะไรหรอก เราแค่รู้สึกคุ้นๆกับนามสกุลซันน่ะ” มีนาตอบตามความเป็นจริง ยังคงพินิจพิจารณาว่าเคยเห็นนามสกุลนี้ที่ไหน




“อ๋อ…พี่ฉันเรียนอยู่คณะเดียวกับมีน อาจจะเคยเจอกันรึเปล่า?” ร่างสูงเสนอความเห็น “อยู่ปีสี่อ่ะ”




“เอ๋? พี่ซันชื่ออะไรเหรอ?” มีนาถามอย่างสนใจ



“พี่น้ำอุ่น ชื่อจริงชื่อธารธารา”




ชื่อของรุ่นพี่ปีสี่หน้าสวยที่ถึงแม้จะดูใจดี แต่กลับมีแววตาเย็นเยียบน่าขนลุกที่สุดที่มีนาเคยเห็นทำให้ร่างเล็กขนลุกขึ้นมา เด็กหนุ่มพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะก้มหน้าพิมพ์หัวข้องานเงียบๆต่อไป









“เสร็จแล้วให้พี่ไปส่งมั้ย?”




ภรัณยูถามขึ้นหลังจากที่เห็นว่างานกลุ่มในครั้งที่ใกล้เสร็จแล้ว ทินกรส่ายหน้า



“เดี๋ยวผมไปกับเพื่อนน่ะครับ”




ใจจริงแล้วเขาอยากจะติดสอยห้อยตามภรัณยูไปยัง‘นัด’ที่ทำให้ร่างโปร่งลุกขึ้นมาแต่งตัวแบบนี้มากกว่า แต่เด็กหนุ่มไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเขากำลังตามติดแจจนน่ารำคาญ ถึงแม้เขาจะกังวลว่าภรัณยูอาจจะคิดอย่างนั้นอยู่แล้วก็ตาม



อีกอย่าง เขาสัญญากับวศินไว้แล้วด้วยว่าจะไปงานเปิดร้านอาหารใหม่ของเชฟโตมร หัวหน้าเชฟในโรงแรมที่พ่อของวศินเป็นเจ้าของซึ่งมักจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้พวกเขาเสมอหลังจากที่รถตู้โรงเรียนมาส่งพวกเขาที่โรงแรมสมัยเด็กๆ




“แป๊บนึงนะ เดี๋ยวกูมา”



จู่ๆพายุก็ผุดลุกขึ้นจากที่นั่ง ภรัณยูมองตามเด็กหนุ่มผิวเข้มที่เดินตรงไปยังเด็กสาวสามคน...ไม่สิ เขาค่อนข้างมั่นใจว่าคนที่ใส่เสื้อปาดไหล่สีชมพูกับกางเกงยีนส์ขายาวที่พายุเดินเข้าไปทักไม่น่าจะใช่เด็กผู้หญิง ถึงแม้จะดูคล้ายมากเมื่อมองผ่านๆก็ตาม




“พายุมันเอาจริงเหรอเนี่ย?” ทินกรพึมพำ




“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ ไม่อย่างสงสารเจนนี่แย่เลย”




มีนาเอ่ยอย่างเป็นกังวล แต่ทั้งสองเลือกที่จะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเพื่อน สักพัก เสียงสั่นของโทรศัพท์ในกระเป๋าเป้ของมีนาก็ดังขึ้น เด็กหนุ่มรีบก้มลงค้นหาต้นตอของเสียงสั่นครืดนั้นแล้วกดรับ ผงกศีรษะเป็นเชิงขอตัวแล้วลุกจากเก้าอี้ไปยังทางออกห้องสมุด ทิ้งให้ภรัณยูและทินกรนั่งอยู่ด้วยกันตามลำพัง




“โช้คเกอร์...สวยดีนะครับ” ทินกรเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ภรัณยูยกมือขึ้นจับสร้อยหนังเส้นหนาที่พันคอตัวเองอยู่ นึกดีใจที่ได้รับคำชมจากอีกฝ่ายแม้จะแค่เรื่องเครื่องประดับก็ตาม “ผม...ไม่เคยเป็นพี่ภัทรแต่งตัวแบบนี้เลย”




“อือ…วันนี้เพื่อนนัดน่ะ..” ภรัณยูยังคงยึดมั่นกับเรื่องที่ตนโมเมไปตามน้ำก่อนหน้านี้ด้วยอายเกินกว่าจะบอกความจริงอีกฝ่ายไปตรงๆ




“…ปกติแต่งตัวแบบนี้กับเพื่อนทุกคนเหรอครับ?” ทินกรพึมพำถาม ราวกับไม่คิดอยากได้คำตอบเสียเอง




“เปล่า...คนนี้เพื่อนสนิทน่ะ” ภรัณยูนึกโกรธตัวเองที่ไม่พูความจริงไปตั้งแต่แรก มาถึงขั้นนี้หากเขาไม่ไปงานของเพื่อนเขาคงจะมองหน้าทินกรไม่ติดไปอีกนาน




แต่เป็นอีกครั้งที่เขาไม่ได้โกหก เขากับโตมร เพื่อนที่ปัจจุบันเป็นเชฟชื่อดังของวงการอาหารเคยสนิทกันมาก สมัยเด็กๆ บ้าน
อยู่ข้างกัน พ่อแม่ก็สนิทกัน เรียกได้ว่าถูกบังคับให้เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เกิด ถึงแม้เส้นทางอาชีพที่แยกสายกันมาตั้งแต่ระดับมัธยมจะทำให้ภรัณยูไม่ได้สนิทกับโตมรอย่างแต่ก่อน แต่พวกเขาก็ยังได้พูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันทุกครั้งที่กลับบ้านไปเยี่ยมพ่อกับแม่ โตมรเคยชวนเขาไปทานอาหารที่โรงแรมที่อีกฝ่ายทำงานอยู่หลายครั้ง แต่ภรัณยูก็ไม่เคยว่างจะได้ไปเสียที




“…พี่ภัทร...”




“ขอโทษนะซัน เราต้องกลับแล้ว งานตรงนี้ไม่น่ามีอะไรแล้ว เดี๋ยวเราเอากลับไปตรวจคำผิดแล้วปรินท์มาให้”




มีนากลับเข้ามาอย่างรีบร้อน ขัดคำพูดอะไรก็ตามที่ทินกรกำลังจะเอ่ย ร่างเล็กเก็บข้าวของใส่กระเป๋าแล้ว ยกมือไหว้ภรัณยู พยักหน้าให้เพื่อนร่างสูงแล้วก้าวฉับๆออกไป  ทินกรเอียงคอ




“นับดาวมีนยิ่งดูแปลกๆ”




“นับวัน” ภรัณยูแก้ แต่เขาก็รู้สึกจริงๆว่าท่าทีของเด็กหนุ่มดูแปลกไป ดูตื่นตกใจง่ายขึ้น แถมยังข้าวของเครื่องใช้แพงๆนั่นอีก
หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิดนะ




“อ้าว ไอ้มีนกลับไปแล้วเหรอ?” พายุที่เพิ่งกลับมาที่โต๊ะถามขึ้น



“อือ สงสัยแฟนโทรมาตาม” ทินกรตอบ เดือนของคณะบริหารส่ายหน้าอย่างเอือมระอา



“ให้ตายเหอะ ถ้าหวงไอ้มีนขนาดนี้จับใส่กรงทองขังไว้เลยมั้ย”




“กรง…ทอง...” ทินกรพึมพำตามอย่างงุนงง



“ถ้ากูไม่เคยเห็นแฟนมัน ใครบอกว่ามันเป็นเด็กเสี่ยกูก็เชื่อนะ” พายุทรุดตัวลงบนเก้าอี้ของตัวเอง “แต่เบ้าดีขนาดนั้นไม่ต้องจ่ายก็ขี้คร้านจะมีแต่คนอ้าขารอ”




“เสี่ย...คร้าน...” ทินกรกระพริบตาปริบๆ ภรัณยูตั้งท่าจะอธิบาย แต่เปลี่ยนใจกลางคันด้วยไม่อยากคุยเรื่องแบบนี้กับเด็กหนุ่มสักเท่าไหร่




ปล่อยให้งงไปแบบนี้น่าจะดีกว่า




“ซัน เสร็จยังวะ เดี๋ยวรถติด”




เด็กหนุ่มหน้าตาดีอีกคนโผล่มาจากด้านหลังของพวกเขา  ภรัณยูชักสงสัยเสียแล้วว่าทินกรมีคุณสมบัติเป็นสนามแม่เหล็กดูดคนหน้าตาดีมาโคจรรอบตัวเองหรือไม่




คงไม่ใช่ เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงโดนดีดหายออกไปสุดขอบจักรวาลแล้ว



“อือ เสร็จแล้ว” ทินกรตอบแล้วหันมาหาเขา “ผมไปนะครับ”




“อื้อ งั้นพี่กลับดีกว่า”




 ภรัณยูลุกตามอีกฝ่ายไปยังรถที่ตนจอดไว้ที่ลานจอดรถหน้าห้องสมุด ร่างโปร่งเปิดจีพีเอสหาตำแหน่งของร้านอาหารที่ว่าตามที่เพื่อนได้ส่งพิกัดมาให้ ก่อนจะเคลื่อนรถออกจากลานจอด มุ่งหน้าไปยังถนนใหญ่ตามที่ระบบนำทางบอก








“กินซะ”




หลังจากอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง ธีรเชษฐ์เลิกถามมีนาแล้วว่าร่างเล็กหิวหรือไม่ เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายรู้ทันคำโกหกของเขา หรือเป็นเพราะชายหนุ่มไม่สนใจว่าคำตอบที่ได้จะเป็นอะไรกันแน่



“เอ๊ะ..”




มีนาอุทานออกมาเบาๆเมื่อเห็นว่าวันนี้อาหารที่ร่างสูงซื้อมาให้ไม่ใช่ซาลาเปา แซนวิช หรืออาหารรองท้องที่สามารถหยิบจับได้ง่ายเช่นทุกวัน แต่เป็นข้าวกล่องอาหารญี่ปุ่นน่าตาหน้าทานที่อัดแน่นไปด้วยกับสารพัดอย่างไม่ว่าจะเป็นเทมปุระ ปลาย่าง และไก่ทอดคาราเกะ คู่กับซุปในถ้วยพลาสติกและสลัดหน้าตาน่าทาน แต่สำคัญชุดอาหารทั้งหมดทั้งมวลนี้มาพร้อมกับตะเกียบที่มีนาใช้ไม่คล่องในสภาพแวดล้อมที่นิ่งสนิทอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงในรถที่ไร้ซึ่งความเสถียรของสภาพแวดล้อมแบบนี้




“เป็นอะไร? ไม่ชอบอาหารญี่ปุ่น?”




 น้ำเสียงของธีรเชษฐ์ไม่ได้บอกว่าร่างสูงกำลังโกรธที่เขาไม่ยอมทาน ตรงกันข้าม มีนารู้สึกว่ามันใกล้เคียงกับความกังวลมากกว่า หากเขาไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง แต่ถึงกระนั้นร่างเล็กก็ยังคงก้มหน้าสั่นศีรษะ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาสีควันบุหรี่ของธีรเชษฐ์เสียที




เขาไม่รู้ว่าเขากลัวสิ่งที่จะเห็นในแววตาของร่างสูง หรือกลัวจังหวะการเต้นของหัวใจที่บีบตัวอย่างบ้าคลั่งทุกครั้งที่เห็นหน้าอีกฝ่าย




ความรู้สึก...ที่มีนาไม่เคยรู้สึกตลอดเกือบสิบแปดปีที่ลืมตาดูโลก




เหมือนร่างกายถูกดึงให้ลอยขึ้นที่สูงและกระชากลงสู่หุบเหวในเวลาเดียวกัน




เหมือนโลกทั้งใบหมุนไปรอบๆทั้งที่เวลารอบตัวหยุดนิ่ง




เหมือนมีอะไรบิดมวนอยู่ในช่องท้องแต่กลับร้อนวูบวาบในช่องอก



บางครั้งมีนาก็คิดว่าตัวเองอาจจะอดข้าวมากจนร่างกายเข้าสู่ภาวะประสาทหลอนจากการขาดวิตามินไปแล้ว



“เปล่าครับ...ผมกลัวหก”



“หกก็เช็ดได้ กินไป”




ร่างสูงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ กระนั้นมีนาก็ยังก้มมองกล่องอาหารบนตักอย่างละล้าละลัง เด็กหนุ่มได้ยินเสียงถอนหายใจจากคนข้างๆ ก่อนที่เจ้าของรถจะตีไฟเลี้ยวเข้าจอดที่ลานจอดร้านหน้าร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันข้างทาง




“จะกินดีๆหรือจะให้จับกรอก”



มีนารีบหยิบกล่องข้าวออกมาจากถุงหิ้วเมื่อได้ยินดังนั้น เด็กหนุ่มตัดสินใจไม่ยุ่งกับถ้วยซุปแล้วเปิดฝาข้าวกล่องออก มือเรียวเล็กพยายามใช้ตะเกียบพยายามหนีบเม็ดข้าวอ้วนป้อมขึ้นมาแต่ไม่เป็นผล แม้จะลองเริ่มที่กุ้งชุบแป้งทอดตัวอวบอ้วน แต่เจ้ากุ้งยังคงดิ้นหลุดจากตะเกียบของเขากลับไปอยู่ในกล่องราวกับว่ามันยังมีชีวิตอยู่




“…ใช้ไม่เป็นทำไมไม่บอก”




ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นท่าทางทุลักทุเลของร่างเล็ก ชายหนุ่มดึงเอากล่องข้าวกับตะเกียบมาจากมือเล็กแล้วใช้ตะเกียบคีบก้อนข้าวรวมกับชิ้นปลาย่างอย่างชำนาญ ก่อนจะนำไปจ่อที่ริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูระเรื่อ




“วันหลังค่อยสอนแล้วกัน”



“มะ…ไม่ต้อ...อุ๊บ”




ร่างสูงใช้จังหวะที่มีนาอ้าปากเอ่ยปฎิเสธอย่างเกรงใจป้อนข้าวเข้าปากเล็ก เด็กหนุ่มที่สำนึกได้แล้วว่าตนเถียงไปก้ไม่มีประโยชน์จึงเคี้ยวข้าวตุ้ยๆอย่างไม่มีทางเลือก แก้มขาวที่พองกลมอย่างน่าเอ็นดูตามจังหวะการเคี้ยวทำให้ธีรเชษฐ์นึกอยากป้อนกระต่ายน้อยของตนไปเรื่อยๆ แต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นหลังจากอาหารพร่องไปได้ครึ่งกล่องทำให้ชายหนุ่มต้องหยุดมารับอย่างช่วยไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาคือใคร




“ว่าไงหมอก...หือ? ด่วนมากเลยเหรอ? ฉันกลับไปที่บริษัทก็ได้ อือ อีกห้านาทีเอาลงมาที่ล็อบบี้แล้วกัน”




มีนารู้ว่าเขาควรจะรู้ที่ของตัวเอง แค่ทุกสิ่งที่ธีรเชษฐ์ให้เขาในตอนนี้ก็มากเกินกว่าที่เขาจะนึกฝัน แต่ทุกครั้งที่เด็กหนุ่มได้ยินร่างสูงคุยกับเลขาที่ชื่อหมอกคนนี้ มีนามักจะเผลอปล่อยให้ตัวเองมีความหวังว่าซักวัน น้ำเสียงของชายหนุ่มเวลาที่พูดกับเขาจะอ่อนโยนได้ครึ่งหนึ่งของตอนที่คุยกับเลขาของตนก็ยังดี




“รออยู่นี่”




ธีรเชษฐ์สั่งตุ๊กตาหน้ารถของตัวเองขณะที่เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าบริษัทของตน มีนาเงยหน้าขึ้นมองอาคารสูงในยามค่ำคืนที่ยังมีเงาร่างของพนักงานเดินขวักไขว่ไปมา ดวงตากลมโตสีน้ำตาลไล่มาหยุดที่ป้ายหินขนาดใหญ่ที่ถูกสปอตไลท์ฉายใส่เพื่อแสดงชื่อของสำนักงานแห่งนี้ด้วยตัวอักษรโลหะขนาดใหญ่




‘บริษัท ทรัพย์ดำรง จำกัด’




 มีนารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเห็นนามสกุลของเพื่อนและรุ่นพี่ไม่ชอบขี้หน้าเขาอย่างไม่ทราบสาเหตุตั้งแต่แรกเจอบนป้าย ร่างเล็กได้แต่ปลอบตัวเองว่าทินกรไปธุระกับเพื่อน ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะมาเจอเขาที่บริษัทของครอบครัวตัวเองในวันนี้




“คุณเชษฐ์...ทำงานที่นี่เหรอครับ?”




เขาเดาว่าธีรเชษฐ์จะต้องมีตำแหน่งใหญ่โตในบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ไหนสักแห่ง แต่ร่างเล็กไม่เคยคิดเลยว่าโลกจะกลมถึงขั้นที่ชายหนุ่มจะทำงานที่บริษัทของตระกูลทรัพย์ดำรงแบบนี้




“ทำงาน?” คนถูกถามเลิกคิ้ว กระตุกยิ้มมุมปากราวกับขบขันกับคำพูดของเด็กหนุ่มเสียเต็มประดา “ฉันเป็นคนสร้างมันมาเองกับมือ”




มีนารู้สึกชาวาบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ความบังเอิญที่ร่างเล็กไม่นึกเก็บมาใส่ใจ ทั้งดวงตาที่เย็นเยียบของธารธาราทันทีที่เห็นรถของร่างสูง ใบหน้าของทินกรที่คล้ายคลึงจนแทบจะเป็นภาพเหมือนอายุน้อยกว่าของอีกฝ่ายในบางมุม ความรู้สึกตะขิดตะขวงใจทุกครั้งที่เขาเห็นภาพซ้อนของธีรเชษฐ์ในตัวของทินกร ทุกสิ่งทุกอย่างลงล็อคกันอย่างพอดีเมื่อเด็กหนุ่มตระหนักว่าคนที่ตนขายวิญญาณให้อย่างไร้ทางเลือกคนนี้เป็นใคร





ดวงตาสีน้ำตาลมองตามแผ่นหลังของธีรเชษฐ์ที่รับเอกสารจากชายหนุ่มร่างโปร่งในชุดสูทสีกากีมาอ่าน รู้สึกถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเปิดประตูออกจากรถแล้ววิ่งหนีไปจากที่นี่




แต่ใบหน้าของมารดาและยายวาบเข้ามาในหัวทันทีที่มือเรียวเอื้อมไปหาที่จับประตูรถ มีนากัดริมฝีปาก รู้สึกร้อนวาบที่หางตาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้





เขาไม่สามารถละทิ้งหน้าที่ที่เขามีต่อครอบครัวของตัวเองได้ แต่เขาก็ไม่สามารถทำเรื่องแบบนี้กับครอบครัวของคนที่เขาเรียกว่าเพื่อนได้เช่นกัน




ร่างเล็กซุกหน้าลงกับฝ่ามือ นึกอยากให้ความมืดกลืนกินเขาเข้าไปทั้งตัว เขาจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับทางเลือกที่ไม่ว่าทางใดก็ต้องมีคนเจ็บปวดแบบนี้


------------
ใครอยากต้มมาม่าซองไหนก็เลือกสรรตามความสมัครใจเลยจ้า :mew1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
จะเจอใครที่บริษัทไหมนะ  :hao4:

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
โอ้โห คนเขียนใจกว้าง มีการให้เลือกซองมาม่ามาฉีกได้ตามอัธยาศัยด้วย 555

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
โอ้ยเครียดตามมีนเลย

ออฟไลน์ Hananijinji

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ซันเป็นคนมีเหตุผล ซันน่าจะเข้าใจนาาาๆ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
สงสารน้องมีนนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
น้องมีนนนนน :sad4:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ขอมาม่าที่ต้มแล้วรีบหมดนะคะ สงสารมีน

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
ฮือออออออออ สงสารน้องมีนแล้ว
หนูลูกกกกกกก
คุณเชษฐ์อย่าทิ้งมีนน่ะ

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ถถถถถถ น้องมีนของพี่

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ขอมาม่าหมูสับน้ำใสละกัน ดูใสๆปลอดภัยไร้ดราม่าหนัก

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
แงงงง

ออฟไลน์ meyj4ever

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
มาม่าหลายซองแท้
ว่าแต่ไม่เอาสักซองได้มั้ยอะ

ออฟไลน์ Autonomyz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
มามา เราจะช่วยกินมมาม่า จะได้หมดๆ ไม่อืดเต็มชาม

ฮรือออ แต่ยังไงก็ยังยังหวีดคุณพ่ออ่ะ แซ่บลืม

ออฟไลน์ hikkie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เครียดแทนมีนา เพิ่งรู้ว่าเป็นพ่อเพื่อน ต้องลุ้นละว่าเจ้าตัวจะชิ่งรึป่าว

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โถถถถ หนูมีนลูกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
แบบมีนนี่เรียกว่าอะไรค่ะเหมือจะสุขใช่ไหมค่ะ
กว่าจะผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปได้น่าสงสารน้องที่สุด

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ติดตามๆ

ออฟไลน์ PAtxxkMxxn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
พายุกับแจนนี่นี่ยังไงกัน

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
เรื่องนี้มาม่ามาหนักน่าดู

ออฟไลน์ HPG

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หนูมีนาลู๊กกกกกกก ทำไมหนูน่าสงสารแบบนี้ อยากกอดปลอบลูกน้อย อย่าแกล้งลูกน้อยเราเยอะเลยนะคะคนเขียน สงสารน้องด้วย น้องตัวนิดเดียวเอง งือ~~~

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
น้องมีนของแม่

ออฟไลน์ W2P5

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
มาม่ารสนี้ไม่อร่อยเลยค่ะ  :hao5:

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
ไม่เอามาม่าาาา

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
เครียดแทนน้องเลย ร้องไห้แร้ววว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด