[3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy แจ้งข่าว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy แจ้งข่าว  (อ่าน 81268 ครั้ง)

ออฟไลน์ CookieCK

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ดราม่าเหี้ยไรเยอะเนี่ยยยยยย จะเป็นประสาทแล้วโว้ยยยยย :katai1: :katai1: :katai1: :z3: :z3: อยากถีบให้หมดทุกคนเลวโว้ยยยยย :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: ไม่ได้เรื่องกันสักคน ถ้าอย่างนั้นพริ้มอาจจะไม่อยากมีชีวีตอยู่แล้ว ก็จะอยู่ไปเพื่ออะไรในเมื่อไม่มีใครต้องการแล้ว หายไปเลยดีกว่าจะได้ไม่ต้องมาทนทุกข์อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ สงสารพริ้ม :hao5: :hao5: ไรท์มาต่อด้วยมาช้ามากเลยเราค้างอยากอ่านต่อแล้ว

ออฟไลน์ minnien

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากให้พริ้มกระโดดลงไปให้จบเรื่อง อินจัด   :hao5:

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
กอดราวสะพานต่อไปก่อนนะพริ้ม   จนกว่าผู้แต่งจะมา   :katai1:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
มาต่อเถอะนะ
 :hao5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-07-2018 17:54:36 โดย little_munoi »

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
รออยู่นะคะ :hao5:

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: พริ้มแกเกาะราวสะพานมา 19 วันแล้วเมื่อไหร่จะโดด  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ แม่พิเสือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-2
ตอนที่ 20


สายลมเย็นๆที่พัดผ่านไม่ได้ช่วยทำให้จิตใจอันร้อนรุ่มของผมสงบขึ้น ในอกมีแต่คำถามผุดออกมาว่าทำไมเรื่องพวกนี้ต้องเกิดในชีวิตผม ทำไมถึงเป็นผมคนเดียวที่เจอแต่เรื่องแย่ๆ


ทำไมกัน…


ผมก้มมองผืนน้ำมืดมิดดำสนิทด้านล่างสะพานด้วยใจวูบโหวง ใจหนึ่งก็กลัว แต่ใจหนึ่งก็ไม่อยากเจ็บอีกแล้ว
เพียงแค่ก้าวเท้าเท่านั้น เรื่องทุกอย่างก็จะจบลง


ถึงแม้ว่ายังตัดสินใจไม่ได้ แต่ขาข้างหนึ่งของผมก็เริ่มปีนขึ้นไปบนรั้วสะพาน ดวงใจดวงเล็กๆเท่ากำปั้นสั่นระรัว กลัวก็กลัว แต่ก็อยากตายให้มันจบๆไป


ถ้ากระโดลงไปแล้ว ผมต้องทรมานนานแค่ไหนกว่าจะขาดอากาศหายใจตาย ความรู้สึกที่ดำดิ่งในท้องน้ำมืดสนิทเพียงคนเดียว มันคงเวิ้งว้าง เงียบเหงาจับใจ ผมจะทนได้รึเปล่านะ


ผมสูดลมหายใจเข้าปอด เอาวะ เป็นไงเป็นกันไอ้พริ้ม! ชีวิตแกมันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
ตายก็ถือว่า ‘กำไร’ รอดตายก็ ‘เสมอตัว’


ขออย่างเดียว อย่ามี ‘ชาติหน้า’ เป็นพอ ผมไม่อยากเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารนี่อีกต่อไปแล้ว
มันมีแต่ความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน
คำว่า ‘ความสุข’ สะกดยังไง ผมแทบลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ


ในขณะที่ผมกำลังใช้ขาอีกข้างถีบตัวเองขึ้นไปยืนสะพาน เตรียมใจทิ้งตัวลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ผมก็ถูกดึงตัวจากด้านหลังอย่างแรง ตกลงมาก้นจ้ำเบ้ากระแทกพื้น มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงตกแตกตามลงมาด้วยเหมือนกัน จากมือถือราคาแพงกว่าทองเหลือมูลค่าเพียงไม่ถึงเศษสตางค์แค่เพียงชั่วพริบตา


ชีวิตผมเองก็เหมือนกัน จากที่จะมีโอกาสล้ำค่าได้จบชีวิตสับปะรังเคนี่ ตอนนี้กลับไม่มีอีกแล้ว


ผมปล่อยให้คุณตำรวจจับข้อมือของผมไพล่มาข้างหน้า ตามด้วยกุญแจมือที่คล้องลงมาอย่างยอมจำนน


เสียงแตรรถบนสะพานบีบดังสนั่น เสียงไซเรนดังก้องสะท้อนไปทั่วถึงพื้นน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจมากมายหลายนายกำลังเคลียร์พื้นที่เพื่อให้รถวิ่งได้ เนื่องจากตอนนี้มีอุบัติเหตุรถหลายคันชนกัน


เหตุการณ์รอบตัววุ่นวายขนาดนี้ ทำไมผมถึงไม่ได้ยินสักนิดเลยนะ ผมเหมือนคนหูดับไปชั่วขณะ ตอนนั้นจิตใจคงจดจ่อแต่กับคำถามที่ว่ากระโดดดีหรือไม่


ความผิดผมอีกแล้วสินะ ที่จอดรถไม่เป็นที่เป็นทาง จนทำให้คนอื่นเกิดอุบัติเหตุ
แค่เกิดเป็น ‘พริ้ม’ ก็ผิดแล้ว


“ทำไมไม่ปล่อยให้ผมตายไป”ผมถามคุณตำรวจระหว่างที่ถูกจับยัดเข้าไปในรถตำรวจที่เปิดเสียงไซเรนเสียงดัง

 
“นั่นไม่ใช่หน้าที่ของผมครับ ตำรวจมีหน้าที่ปกป้องประชาชน”


เพียงไม่นาน ผมถูกนำตัวมาที่โรงพักและเริ่มถูกสอบสวน


“คุณชื่ออะไรครับ”คุณตำรวจเริ่มซักประวัติผม


“...”คุณตำรวจเงยหน้าจากจอคอมพิวเตอร์ เลิกคิ้วถามผมหลังจากที่ผมปิดปากเงียบสนิท


“ผมถามว่าคุณชื่ออะไรครับ”


“…”


“ช่วยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยครับ ไม่เช่นนั้นผมจะแจ้งข้อหาคุณเพิ่มฐานปกปิด…”ผมที่ไม่อยากจะรับทราบข้อหล่าวหาเพิ่มตอนนี้รีบพูดแทรกก่อนที่คุณตำรวจจะพูดจบ


“ภัทรกันต์  ไวยวงศ์ ครับ”


“ตามบันทึก พ่อแม่ของคุณเสียหมดแล้ว ตอนนี้คุณอยู่ภายใต้ความดูแลของใครครับ”


“…”คนดูแล…หมายถึงผู้ปกครองเหรอ ผมอายุ 20 แล้วนะ ไม่เห็นมีความจำเป็นต้องถามหาผู้ปกครอง


“ผู้ปกครองของคุณคือใครครับ”


“ผมบรรลุนิติภาวะแล้วนะครับ ผู้ปกครองคงไม่จำเป็น”


“ผมถามคุณว่าผู้ปกครองคือใคร”คุณตำรวจเริ่มใช้เสียงที่ดังและเข้มขึ้น


“อย่างที่คุณทราบ พ่อแม่ผมตายหมดแล้ว ถ้าอยากได้ผู้ปกครองคงต้องไปขุดหาในทะเล”


คุณตำรวจถอนหายใจและส่ายหน้าแรงใส่ผม “ถ้าคุณไม่แจ้งว่าผู้ปกครองคือใคร คืนนี้คุณต้องนอนในห้องขังนะครับ”


“ผมทำผิดอะไร แค่จะฆ่าตัวตาย”


“ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต จอดรถกีดขวางการจราจร คุณไม่ทราบเหรอครับว่าจอดรถแบบนั้นมันทำให้เกิดอุบัติเหตุ รถคันอื่นไปไม่ได้ ติดยาวเป็นกิโล”ผมนั่งนิ่งก้มหน้ารับฟังคุณตำรวจ ก็ทำผิดจริงๆนี่ ไม่รู้จะเถียงยังไง


“โทรเรียกผู้ปกครองมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยครับ”


“ผมไม่มีผู้ปกครอง”


คุณตำรวจทำหน้าเอือมระอา ก่อนจะเรียกตำรวจอีกนายหนึ่งให้จับผมเข้าห้องขัง


ผมเองก็ไม่ได้อยากยียวนกวนประสาทว่าไม่มีผู้ปกครอง ก็ผมไม่มีจริงๆนี่ ตั้งแต่พ่อแม่ตายพร้อมทิ้งหนี้หลายล้านไว้ให้ ญาติมิตรที่เคยมีก็พากันตัดญาติขาดมิตร จะให้บอกว่าคุณท่านหรือพี่ธิวาเป็นผู้ปกครอง ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธินั้นรึเปล่า ผมไม่ใช่เด็กในปกครองของพวกเขานี่ ผมมันก็แค่วัตถุทางเพศที่พวกเขาซื้อมาใช้ระบายอารมณ์และความใคร่ มันก็แค่นั้น


ผมนั่งอยู่ริมห้องขัง มองลอดผ่านซี่กรงเหล็กออกไปแล้วได้แต่กอดเข่าร้องไห้อยู่เงียบๆ ชีวิตบางทีมันก็เหี้ยเกินไป อยากตายหนีปัญหายังตายไม่ได้เลย แถมยังสร้างปัญหาเพิ่มอีก นี่ถ้าคุณท่านกลับมาแล้วรู้ว่าผมก่อเรื่องมีหวังคอไม่เหลืออยู่บนบ่า ไม่รู้คุณตำรวจจะช่วยผมทำไม ปล่อยให้ผมตายไปซะยังดีกว่า


หรือจริงๆเป็นผมเองกันนะที่ตัดสินใจผิดพลาดทำให้ตัวเองเจอแต่เรื่องแย่ๆ


ตัดสินใจอยากสบาย ได้เงินง่ายๆด้วยการเลือกนอนอ้าขาให้เขาเอา แต่ก็ลืมคิดว่าพวกเสี่ยใจป้ำ สายเปย์มักหวงเด็กของตัวเอง สุดท้ายก็โดนบังคับให้ชายชู้ข่มขืนผม


ตัดสินใจเชื่อคนที่ไม่ควรไว้ใจ คิดอยากจะเอาเมมโมรี่การ์ดคืน จนสุดท้ายถูกหลอกไปฆ่าข่มขืน


ตัดสินใจเลี้ยงน้องด้วยเงิน สุดท้ายก็ถูกหลอกปอกลอกเอาแต่เงินทอง มันไม่นับผมเป็นพี่ด้วยซ้ำ ไม่เคยสนใจใยดีว่าพี่จะต้องลำบากลากเลือดขนาดไหน กว่าใช้แรงกายแรงใจ แลกเงินแต่ละบาทแต่ละเศษสตางค์มาให้ใช้ แถมยังเอาเงินไปเล่นยาเพื่อหาความสนุกชั่วครั้งชั่วคราวเพราะคิดว่าเงินที่ผมหามาให้เป็นแค่เศษเงิน


ไอ้พริ้ม...ไอ้เด็กโง่งี่เง่า คิดว่าตัวเองโต ดูแลตัวเองได้ แต่จริงๆแล้วผมมันก็แค่คนไม่เอาไหน ตัดสินใจอะไรเองไม่เป็น เวลาต้องเลือกทางเดินในชีวิต ก็เลือกทางที่ผิดมาโดยตลอด


ผมนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ในหัวมีแต่คำด่า คำสบถโทษตัวเองเต็มไปหมด
ผมมันไม่ดี ผมมันเป็นคนห่วยๆที่ไม่สมควรมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
ผมอยากตาย ทำไมผมถึงให้ผมตายไม่ได้
ผมแค่อยากไม่ต้องรู้สึกอะไรอีกแล้ว ไม่อยากแบกรับภาระอะไรอีกแล้ว


ได้โปรดให้ผมตาย…ปล่อยผมไปเถอะ


ถึงมันจะไม่ใช่ทางที่มีความสุข แต่มันเป็นทางเดียวที่ผมไม่ต้องรู้สึกอะไรอีกแล้ว


ใครก็ได้ ปลดปล่อยผมที

.
.
.

“พริ้มครับ”ผมเงยหน้ามองพี่ธิวาที่ยืนอยู่นอกห้องขังด้วยความฉงนสงสัยว่าพี่ธิวามาได้ยังไง แต่พอเหลือบมองไปเห็นเศษซากมือถือในมือพี่ธิวาก็เข้าใจได้ 


ร่างสูงวิ่งมาหาผมหน้าตาตื่น เส้นผมที่ปกติถูกเซ็ทอย่างดีชี้ฟูจนไม่เป็นทรง เสื้อยืดสีขาวที่พี่ธิวาชอบใส่นอนมีแต่คราบเหงื่อไคลไหลโทรมกาย รองเท้าก็ใส่มาคนละสี คนละแบบ พี่ธิวาคงรีบมาจริงๆหลังจากรู้เรื่อง


ผมสร้างปัญหาให้พี่ธิวาอีกแล้วสินะ
ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะพริ้ม ไปอยู่กับใครก็เอาแต่สร้างปัญหาให้เขา


“ออกมาครับ ออกมาหาพี่”พี่ธิวากวักมือเรียกผมอยู่นอกห้องขังหลังจากคุณตำรวจไขกุญแจปลดล็อคให้แล้ว


ผมฟุบหน้าลงกับเข่าตัวเอง ไม่รู้ทำไม….น้ำตามันถึงไหลออกมา
หยุดเป็นคนอ่อนแอเสียทีพริ้ม


“พริ้มครับ”พี่ธิวาเรียกผมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง แต่ผมยังไม่อยากขยับไปไหน ออกไปต้องถูกดุ ถูกว่าอยู่แล้ว ใจบางๆของผมยังไม่พร้อมจะยอมรับผลของการกระทำของตัวเองเลย


พี่ธิวาถอนหายใจแรง ก่อนจะเดินถอยหลังเข้ามาในห้องขัง คนเป็นหมอก็เชื่อเรื่องพวกนี้เหมือนกันเหรอเนี่ย


“พริ้มครับ กลับบ้านกันนะ บ้านของเรา โอเคไหมครับ คนดี”พี่ธิวาลูบหัวผมอย่างอ่อนโยนก่อนจะกุมมือผมไว้ พี่ธิวาบีบมือผมเบาๆให้ผมรับรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้กับผม


“ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูดอะไรครับ กลับบ้านกันนะ”พี่ธิวาพยุงตัวผมให้ลุกขึ้นจากพื้น อ้อมอกอุ่นโอบกอดผมไว้ คอยประคับประคองให้เดินออกไป ระหว่างทางออกจากโรงพัก ก็เจอคุณตำรวจคนนั้น…คนที่ช่วยชีวิตผมไว้ ผมยกมือไหว้ขอบคุณ


“อย่าคิดสั้นโง่ๆอีกละไอ้หนู”


ผมไม่รู้ว่าการฆ่าตัวตายเป็นการคิดสั้นรึเปล่า ผมว่าผมก็ ‘คิดยาว’ แล้วนะ ผมยืนคิดเป็นชั่วโมงเลยด้วยซ้ำกว่าจะตัดสินใจกระโดดสะพาน


ผมนั่งคิดทบทวนตัวเองระหว่างทางที่พี่ธิวาขับรถกลับบ้าน จริงๆการที่ผมไม่ตาย อาจเป็นโชคดีของผมก็ได้ บางทีนี่อาจเป็นโอกาสดีของการเริ่มต้นชีวิตใหม่


ชีวิตที่ผมจะใช้มันเพื่อ ‘ตัวเอง’ บ้าง


ผมหันไปมองหน้าพี่ธิวาที่ใบหน้ามีแต่ความตึงเครียด คิ้วได้รูปสวยขมวดชิดติดกัน ภายใต้ใบหน้าเคร่งเครียดนั้น ผมไม่รู้จริงๆว่าพี่ธิวาคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่เอ่ยปากด่าผมสักคำที่ผมสร้างความเดือดร้อนให้


ผมยังจำวันแรกที่เจอพี่เขาได้อยู่เลย ผู้ชายนัยน์ตาโศกที่นั่งบรรเลงเพลงอยู่หลังเปียโนหลังงาม ตอนแรกผมคิดว่าเขาเป็นคนเย็นชา ไม่ใส่ใจใคร แต่จากการที่ได้อยู่ด้วยกัน ผมว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น


แต่มันมีความรู้สึกบางอย่างที่เป็นกำแพงระหว่างเรา กำแพงที่ผมไม่กล้าปีนเข้าไป กำแพงที่ทำให้ผมไม่รู้จริงๆว่าเขาเป็นคนยังไงกันแน่


“พริ้มครับ ถึงบ้านแล้วนะ”ผมพยักหน้า เปิดประตูลงจากรถ


พี่ธิวาเดินมาจูงมือผมเข้าบ้าน ฝ่ามืออุ่นกุมมือผมแน่น ไม่ปล่อย พาไปอาบน้ำและพาเข้านอน เขายังคงทำทุกอย่างเหมือนทุกวัน หลังจากห่มผ้าให้ผมแล้ว พี่ธิวาเปิดเพลงบรรเลงกล่อมเบาๆให้ผมนอน แสงไฟถูกหรี่ลงเหลือเป็นเพียงแค่แสงสลัวๆ ฝ่ามือนุ่มดึงตัวผมไปโอบกอดแล้วตบหลังผมเบาๆ


ไม่มีคำต่อว่า ดุด่าออกมาจากพี่ธิวาเลยสักนิด…ยิ่งเป็นแบบนี้ผมยิ่งรู้สึกผิด
ผิดที่…สร้างความเดือดร้อนให้พี่ธิวาอีกแล้ว


“พี่ธิวา…ฮึก พริ้ม”


“ไม่เป็นไรครับคนดี ไม่เป็นไรแล้วนะ”พี่ธิวาปาดน้ำตาอย่างอ่อนโยน จูบเบาๆเปลือกตาก่อนดึงผมมากอดแนบอก


“พี่…ฮึก”


“ชู่ว!”พี่ธิวาเอานิ้วชี้มาปิดปากผม “นอนครับ คนดี”


ผมพยายามข่มตาเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับ ในหัวยังคิดถึงแต่เรื่องราวที่เกิดวันนี้วนไปวนมาหาจุดจบไม่ได้ เหมือนใจยังค้นหาคำตอบอะไรบางอย่าง


คำตอบที่ไม่มีใครให้ผมได้ นอกจากตัวผมเอง



ออฟไลน์ แม่พิเสือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-2
Here I’am again
Everybody screaming
The walls are closing in
I’m stuck in the middle


ผมลืมตาขึ้นมามองพี่ธิวาที่ร้องเพลงคลอเบาๆ


Swimming up a stream
Suffocating in between
I wake up from the dream
Still stuck in the middle
I guess this time I’ll wait it out

Someday thing will be PERFECT
It will be worth it all this time
Stuck in the middle

I know things will get BETTER
Hold it together
T A K E    Y O U R    T I M E


ยิ่งฟังเนื้อเพลง ยิ่งทำให้น้ำตาไหลคลอออกมาเรื่อยๆ ผมปาดน้ำตาออกจากหน้าแล้วสะอื้นไห้ไปด้วย


ทุกอย่างจะดีขึ้นจริงๆเหรอ
เขาจะจับมือผมแล้วเราจะเดินไปข้างหน้าด้วยกันจริงๆเหรอ
ช่วงเวลาที่มีคำว่า ‘เรา’ มันจะนานแค่ไหน…หนึ่งนาที หนึ่งวันหรือหนึ่งปี


เขาจะทนผมที่เหมือนคนบ้าอยากตายตลอดเวลาได้จริงๆเหรอ
จะเป็นเขาจริงๆใช่ไหมที่จะคอยดูแล ประคับประคองผมให้กลับมาเข้มแข็ง


น้ำตาบ้านี่ก็หยุดไหลสักทีสิ
ร้องไห้เหมือนผีบ้าอยู่นั่นแหละ


“ตาบวมแล้วครับ”


“พี่ธิ…ฮึก พริ้มไม่ได้อยากร้อง แต่มันหยุดไม่ได้ พี่เข้าใจพริ้มไหม”ผมไม่ได้อยากอ่อนแอ ร้องไห้โยเยเป็นเด็กๆ แต่น้ำตามันไหลออกมาเอง


ผมเหมือนคนที่ตกอยู่ในวังวนแห่งความเศร้า ผมไม่ได้ไม่อยากออกไปจากหลุมนรกนี้ แต่ผมออกไปไม่ได้


“พี่เข้าใจครับ ถ้าพริ้มหยุดร้องไม่ได้ พี่จะเป็นคนหยุดมันเองดีไหม”พี่ธิวาคลอเคลียอยู่แถวใบหน้าผม ริมฝีปากนุ่มประทับรอยจูบลงที่เปลือกตาทั้งสองข้าง ผมหลับตาแล้วรอรับสัมผัสด้วยความเต็มใจ


โอบกอดผมที กอดผมไว้แน่น ให้ผมรู้ว่าพี่อยู่กับผมจริงๆ ให้ผมรู้ว่าพี่ไม่ได้ทิ้งผมไว้คนเดียว


“พี่ครับ…อื้อ…”ผมเลื่อนมือไปโอบรอบคอของพี่ธิวา รอรับสัมผัสอ่อนโยนที่เขามอบให้ มันเป็นจูบที่ไม่มีการเรียกร้องใด มีแต่การเน้นย้ำสัมผัสว่าเขาอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างหน้าผม ไม่ได้ทิ้งผมไปไหน


ผมไล้มือไปที่ข้างแก้มของพี่ธิวา ฝังจมูกลงที่แก้มนุ่มแทนคำขอบคุณ


ผมมองจ้องเข้าไปในนัยน์ตาของพี่ธิวา ระยะห่างระหว่างเราเริ่มน้อยลงทีละนิด “กอดผมสิครับ” ผมร้องขอในขณะที่ริมฝีปากเราห่างกันไม่ถึงมิล


“รู้ไหมว่าขอแบบนี้แล้วจะเจออะไรบ้าง”


ผมยังคลอเคลียอยู่ไม่ห่างจากกายของพี่ธิวา “แค่เป็นพี่ จะพาผมไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ตามใจเถอะครับ”


“พี่สาบานด้วยเกียรติทั้งหมดที่มีว่าจะไม่ทำให้เราเสียใจที่เอ่ยคำนั้นออกมา”

.
.
.

ผมถูกกอดทั้งคืนด้วยความอ่อนโยน สุขสมครั้งแล้วครั้งเล่าจนแทบลืมหายใจ มันเป็นความสุขทางเพศครั้งแรกจริงๆที่ได้รับ…สุขทั้งกายและใจ


เป็นความสุขที่ผมยินดีจะมอบให้เขา และเขาก็มอบให้ผมคืนกลับมาเช่นกัน


ผมดึงมือพี่ธิวาที่โอบเอวออกอย่างแผ่วเบา ไม่อยากจะรบกวนให้เขาตื่น ผมลุกจากเตียงเก็บเสื้อผ้าที่ถูกถอดโยนทิ้งไว้เกลื่อนห้องขึ้นมาพับวางไว้ข้างเตียงให้พี่ธิวา ก่อนจะหยิบชุดของตัวเองมาใส่


ท้องฟ้ายามเช้าที่พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นจากขอบฟ้า ถูกแต่งแต้มด้วยสีส้มอ่อนๆ ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันสวยงามน่าหลงใหลขนาดนี้ อยากออกไปดูใกล้ๆจัง


ผมเดินไปนั่งเล่นที่ริมทะเลสาบ ให้สายลมเย็นๆในยามเช้าและเสียงนกร้องขับกล่อมผม จริงๆแล้วการที่เรามีโอกาสได้ตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตอีกวันหนึ่ง มันอาจเป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานมอบให้ก็ได้


ผมควรหัดมีความสุขกับสิ่งเล็กๆรอบตัวบ้าง


 “ตอนเช้าน้ำค้างเยอะนะครับ เดี๋ยวไม่สบาย”พี่ธิวาคลุมผ้าห่มให้ผม ก่อนจะนั่งหย่อนเท้าลงข้างๆ


“ขอบคุณครับ”ผมให้ไปยิ้มให้พี่ธิวาด้วยความขอบคุณ ไม่ใช่ขอบคุณแค่เรื่องผ้าห่ม แต่ขอบคุณที่เขาทำให้ผมผ่านค่ำคืนอันหนาวเหน็บมาอย่างไม่ทรมานมากนักเพราะได้รับความอบอุ่น อ่อนโยนจากเขา


ฝ่ามือหนาทาบลงมาเบาๆบนหน้าผากและข้างลำคอ “รู้สึกครั่นเนื้อครั้นตัวเหมือนจะมีไข้รึเปล่าครับ”


“ไม่ครับ”


“เจ็บรึเปล่า”


“ไม่ครับ”พี่ธิวาทำหน้าโล่งอกหลังจากที่ผมปฏิเสธ


“ถ้ามีอาการอะไรก็บอกพี่นะครับ ไม่ต้องอดทน เข้าใจไหม”ผมพยักหน้ารับรู้ จ้องมองเขาด้วยความขอบคุณ


“อย่ามองกันตาใสแบบนี้สิครับ”ผมยิ้มให้เขาก่อนจะไถลตัวลงนอนบนตัก พี่ธิวาปัดไรผมออกจาหน้าให้ ผมดึงมือพี่ธิวามาสอดประสาน


“ขอโทษนะครับที่สร้างปัญหาให้”


“อยากเล่าให้พี่ฟังไหมครับ”ผมพยักหน้าแล้วเริ่มเล่าสิ่งที่เจอเมื่อวาน เล่าความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัว ความคิดที่ทำให้ผมขาดสติจนถึงขั้นตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง


“เหนื่อยไหมครับคนดี ไหล่เล็กๆนี่เหนื่อยมากไหมที่ต้องแบกอะไรไว้มากมายขนาดนี้”ผมพยักหน้ารัวๆ น้ำตาเริ่มจะไหลออกมาอีกครั้ง


“ให้พี่ช่วยแบ่งเบาความรู้สึกของเราบ้างได้ไหมครับพริ้ม มีอะไรช่วยเล่าให้พี่ฟัง หรือปรึกษาพี่บ้างได้รึเปล่าครับ”


“พริ้มไม่อยากเอาภาระหนักหัวไปให้พี่ แค่ทำงานพี่ธิวาก็เหนื่อยแล้ว”


“พี่ไม่เคยคิดว่าการที่พริ้มจะมาเล่าอะไรให้พี่ฟังแล้วช่วยกันคิด ช่วยกันตัดสินใจเป็นภาระ”


“นับตั้งแต่วันนี้ให้พี่ดูแลเราได้ไหมครับ ไม่ต้องจำกัดสถานะว่าเราเป็นอะไรกัน พี่แค่อยากดูแลเรา พี่อยากเห็นเด็กคนนึงที่จิตใจดี ขยัน มีความตั้งใจได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองรัก ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ”


“แค่คิดว่าพี่เป็นแค่คนๆหนึ่งที่อยากดูแลเราแค่นั้นก็พอ ได้ไหมครับพริ้ม ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องความรัก เงินทองร่างกายหรือแม้แต่สถานะใดๆที่จะมาจำกัดความความสัมพันธ์นี้ได้ไหมครับ”


ผมพยักหน้ายอมรับ การที่พี่ธิวาเอ่ยปากอยากดูแลผมแค่นี้มันก็เพียงพอแล้วจริงๆ แค่ครั้งหนึ่งได้กลับมามีคนดูแลเหมือนตอนที่พ่อแม่ยังอยู่มันก็เพียงพอแล้วจริงๆ


“เรื่องกาล พี่จัดการเอง พริ้มไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น แค่กลับมาใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นคนหนึ่งที่ควรจะเป็น ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆวันก็พอ แล้วก็อย่าคิดทำร้ายตัวเองอีก พี่ขอแค่นี้ไหมครับ”ผมพยักหน้า


“ไปครับ ไปอาบน้ำ เดี๋ยวพี่ทำข้าวเช้าให้ทาน”


ผมลุกจากตักพี่ธิวา โถมกอดเขาเต็มแรง “เหมือนได้ลูกมาเลี้ยงเพิ่มคนนึงเลย”


“แด๊ดดี้…”


“อยากเป็นพ่อที่ไม่ใช่พ่ออะครับ”

.
.
.

หลังจากที่ได้อาบน้ำเย็นๆ ผมก็รู้สึกสดชื่นมากขึ้น เดินเข้าครัวไปก็พอดีกับพี่ธิวาที่กำลังตักข้าวต้มหมูใส่ถ้วย


“พริ้มมาทานข้าวเร็ว กำลังร้อนเลยครับ”ผมรีบไปช่วยพี่ธิวาจัดโต๊ะ แทบไม่อยากเชื่อสายตาว่าคนตัวสูงจะทำข้าวต้มได้น่าทานขนาดนี้ ข้ามต้มหมูร้อนๆที่มีควันลอยขึ้นมา โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวกับผักชี แถมยังมีน้ำมะเขือเทศปั่นอีกตังหาก


“เป็นไง อร่อยไหม”


“อร่อยครับ”ผมตักข้าวต้มเข้าปากพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา พี่ธิวาเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยความตกใจ


“เป็นอะไรครับ ร้อนไปเหรอ เดี๋ยวพี่เป่าให้นะ”ผมไม่ใช่เด็กเล็กๆนะที่จะร้องไห้เพราะข้าวต้มร้อน


พี่ธิวาตักข้ามต้มในชามผมไปเป่าแล้วป้อนให้ถึงปาก ยิ่งทำให้ขนาดนี้ ผมยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปอีก


“ฮรือ…”


“โอ๋ๆ คนดี ร้องไห้เบะเป็นเด็กเลย”ผมเดินลงจากเก้าอี้อ้อมฝั่งไปหาพี่ธิวา กอดเอวพี่ธิวาร้องไห้เป็นเด็กๆ


ความรู้สึกมันทั้งดีใจที่มีคนดูแล มีคนทำให้กันถึงขนาดนี้ แต่พอคิดว่าพี่ธิวาอาจทำดีกับผมแค่วันสองวันเพราะความสงสาร มันก็เสียใจ แต่ก็พยายามคิดว่าแค่เขาทำให้เท่านี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว กับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ญาติก็ไม่ใช่ ครอบครัวก็ไม่ใช่ ยิ่งคนรักยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลย


“เป็นอะไร หื้ม”พี่ธิวาดึงแก้มผมยืดตามใจชอบ ผมยู่จมูกใส่


“กับข้าวฝีมือพี่อร่อยจนน้ำตาไหลเลยรึไงครับ”ผมส่ายหน้า


“ไหนพูดสิ เป็นอะไร”พี่ธิวาลุกจากที่นั่งแล้วอุ้มผมขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ตัวสูงแทน คนตัวสูงเท้าแขนกับเก้าอี้มองหน้าผมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แววตาฉายแววตลกปนเอ็นดู


“พริ้มกลัวพี่ธิวาจะใจดีกับพริ้มแค่วันเดียวแล้วจะกลับไปร้ายอีก”


“พี่เคยร้ายกับเราตอนไหน”


“ก็ตอนวันนั้นที่คุณท่านเอามาทิ้ง พี่ธิวาก็โกรธ”


“พี่ไม่ได้โกรธเรา พี่โกรธกาลที่มันเอาเรามาทิ้งไว้คนเดียวมืดๆแบบนั้น นอนมืดๆข้างถนนแบบนั้นมันอันตรายมากรู้ไหม”


“รู้ครับ”


“ขอโทษนะครับ ที่พี่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เอาอารมณ์โกรธไปลงกับเรา”


“ไม่เป็นไรครับ พี่ธิวา…”ผมกัดปาก ลังเลที่จะพูด


“ว่าไงครับ”


“ถ้าพี่ธิวาไม่เต็มใจจะดูแลพริ้มก็ไม่เป็นไรนะครับ พริ้มย้ายออกไปหาห้องเช่าอยู่เองก็ได้”


“พี่พูดตอนไหนว่าไม่เต็มใจ”


“ก็วันนั้นพริ้มแอบฟังพี่ธิวาคุยโทรศัพท์ ขอโทษนะครับที่แอบฟัง”


“วันนั้นอะไม่เต็มใจจริงครับ อยู่ดีๆก็มีคนโยนเด็กมากองหน้าบ้าน พริ้มต้องให้เวลาพี่ตกใจนิดหนึ่งนะ พี่ไม่มีใครมานานแล้วนะครับ ใช้ชีวิตชายโสดสนุกๆไปวันๆ พอมีคนมาอยู่ด้วยแถมยังไม่รู้จักอีกว่าเป็นเด็กที่ไหนอะไรยังไง แค่เคยนอนด้วยกันครั้งเดียว จะให้พี่ยอมรับใครก็ไม่รู้เข้าบ้านง่ายๆคงแปลกนะครับ”ผมพยักหน้ารับเห็นด้วย


“แต่ตอนนี้พี่รู้จักเราแล้ว อยู่ด้วยกันมาสักพักนึงแล้ว พี่ว่าเราก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปคนนึงนั่นแหละ ดื้อบ้าง งอแงบ้าง ขี้เหงาบ้าง แต่ก็ขยันแล้วก็ตั้งใจเรียน พี่ชอบเราที่จุดๆนี้นะ”ผมมองหน้าพี่ธิวาตาใส พูดว่า ‘ชอบ’ อีกแล้ว


“แค่ชอบครับ ยังไม่ ‘รัก’ ถ้าวันไหนรักแล้วพี่จะบอกนะ”พี่ธิวาจุ๊บจมูกผมแล้วถอดผ้ากันเปื้อนออก “ทานข้าวเสร็จแล้วล้างจานให้เรียบร้อยด้วยนะครับ พี่จะขึ้นไปอาบน้ำ พี่ให้แค่ล้างจานนะ ห้ามพังทลายครัวพี่เด็ดขาด”


“รู้แล้วครับ”


หลังจากจัดการในครัวเสร็จแล้วผมก็มาช่วยพี่ธิวาเก็บกวาดบ้าน “ปกติพี่ธิวาทำเองเหรอครับ” ผมถามขณะที่พี่ธิวาที่กำลังเช็ดกรอบรูป


“เปล่าครับ”


“แล้วทำไมวันนี้…”


“พริ้มกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ พี่ก็อยากเริ่มใหม่เหมือนกัน”พี่ธิวาพูดแล้วดึงรูปคุณฟ้าครามออกจากกรอบทิ้งลงถังขยะ


“พี่ธิวาไม่เสียดายความทรงจำดีๆเหรอครับ ถ้าทิ้งไปแล้ววันนึงคิดถึง…”


“ไม่ครับ พี่จมปลักอยู่กับความรู้สึกผิดมานานมากพอแล้ว ความรู้สึกพวกนั้นมันลบเลือนความทรงจำดีๆไปจากใจพี่ตั้งนานแล้วครับ”


ถึงผมอยากจะถามแค่ไหนว่าอะไรทำให้พี่ธิวารู้สึกผิด แต่ผมก็รู้ดีว่าผมไม่มีสิทธินั้น ถ้าเขาอยากบอก อยากเล่าเขาคงพูดออกมาเอง แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีใครอยากกรีดรอยแผลเก่าที่ตกสะเก็ดของตัวเองหรอก


ผมไม่ได้ทักท้วงอะไรพี่ธิวาอีก ทำแค่ช่วยทำความสะอาด เอาขยะในความทรงจำของพี่ธิวาไปทิ้ง


“พี่ธิวาอันนี้ก็ทิ้งเหรอครับ”ผมถามพี่ธิวาที่กำลังรื้อของในตู้ออกมาโยนทิ้ง มีแต่ของแพงๆทั้งนั้น “ทิ้งครับ เจ้าของเขาไม่อยากได้ ไม่รู้พี่บ้าเก็บไว้ตั้งนานทำไม”


ผมพับเสื้อผ้าที่พี่ธิวาโยนออกมากกองใส่ถุงดำแล้วก็นึกถึงวันก่อนที่ไถเฟซบุ๊คแล้วเจอโพสต์รับบริจาคของ


“พี่ธิวา วันก่อนพริ้มเจอโพสต์รับบริจาคเสื้อผ้าให้น้องๆที่ขาดแคลน เราเอาไปบริจาคกันดีไหมครับ”พี่ธิวาหันมามองหน้าผมด้วยแววตาที่ประเมินไม่ได้


“เดินมาหาพี่หน่อยสิครับ”ผมกลืนน้ำลายลงคอ ไม่แน่ใจที่เรียกไปใกล้นี่จะตีกันรึเปล่าที่ละลาบละล้วง รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว


“ไม่ตีได้ไหมครับ พริ้มแค่เสนอความเห็น พริ้มขอโทษถ้ามันเป็นการละลาบละล้วงชีวิตพี่มากเกินไป”


พี่ธิวาดึงตัวผมไปคล้องเอวไว้ “ทำไมเราน่ารักขนาดนี้นะ”ผมทำหน้าเหรอหรา งงงวย “เป็นเด็กที่จิตใจดีจริงๆเลยน้า”พี่ธิวาลูบศรีษะผม ผมได้แต่ยิ้มแหยๆแล้วดึงมือพี่ธิวาออก


“พี่ธิวาใส่ถุงมือที่มีแต่หยากไย่นะครับ เผื่อจะลืม”คนตัวสูงหัวเราะเสียงดังแล้วดีดหน้าผากผม


“หึๆ ไปครับ ช่วยพี่ขนของลงไปข้างล่าง เราจะได้เอาของไปบริจาคกัน”ผมช่วยพี่ธิวาขนของใส่รถ จากตอนแรกที่มีแต่ของคุณฟ้า ตอนนี้ก็มีเสื้อผ้าที่พี่ธิวาไม่ใช้บวกกับหนังสือที่จะเอาไปบริจาคเพิ่ม

.
.
.

“ยิ้มกว้างเลยนะเรา”พี่ธิวาทักผมหลังจากที่เรากลับจากการเอาของไปบริจาคแล้ว ภาพเด็กๆที่ได้เสื้อผ้าใหม่ยิ้มยินดีด้วยความดีใจ กระโดดโลดเต้นอวดของกันสนุกสนานยังคงติดตาตรึงใจผม เด็กๆไม่รู้หรอกว่าของที่ได้มีค่ามีราคามากแค่ไหน แค่เขาได้สิ่งที่เขาขาดไป เขาก็พอใจแล้ว


“ขอบคุณนะครับที่พี่ธิวาที่พาผมมาทำอะไรดีๆ”


“พี่สิครับที่ต้องขอบคุณเรา หิวข้าวรึยังครับ”


“ยังครับ เมื่อกี้คุณครูเอาขนมมาให้ทานเยอะเลยครับ ผมยังอิ่มอยู่เลย”


“พริ้มชอบทานขนมเหรอครับ”


“ครับ ชอบขนมทุกชนิด ไอติมยิ่งชอบมากเลยครับ”


“อ้วนนะครับ”


“ยังไม่อ้วนสักหน่อย”


“เหรอ…”


ผมก้มลงมองพุงตัวเองที่เริ่มย้วยออกมานิดๆ “มีนิดนึงก็ได้”


“ฮ่าๆ ออกกำลังกายบ้างนะเรา ถ้าพริ้มยังไม่หิว เราไปซื้อของเข้าบ้านกันก่อนดีไหม”


“พี่ธิวาจะซื้ออะไรครับ”


“ซื้อเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องให้เราไงครับ เผื่อเราอยากมีห้องส่วนตัว”


“ไม่เป็นไรครับ ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ดีแล้ว พี่ธิวาอึดอัด อยากนอนคนเดียวบ้างรึเปล่าครับ”


“ไม่ครับ พี่ไม่อึดอัด แรกๆก็แปลกเหมือนกัน ตื่นมากลางดึกมีคนปีนขึ้นมานอนทับอกทุกคืน พี่คิดว่าโดนผีอำ”


“ผมขอโทษ ไม่รู้ตัวจริงๆว่าปีนขึ้นไปนอนทับ งั้นไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ก็ได้ครับ ผมเกรงใจ”


“ไม่เป็นไรหรอก พี่เริ่มจะชินแล้วละ งั้นเราแวะซื้อแค่ของสดเข้าบ้านละกัน พริ้มอยากได้อย่างอื่นอีกรึเปล่า”ผมส่ายหน้าปฏิเสธ

ผมนั่งมองใบหน้าด้านข้างของพี่ธิวา พี่ธิวาเป็นคนหน้าตาดีชนิดหาตัวจับยาก ถึงจะอายุมากขึ้นแต่ริ้วรอยตีนกาก็ไม่ได้ถามหาสักเท่าไหร่ หน้ายังตึงเหมือนคนอายุ 20 ต้นๆอยู่เลย


“มองหน้าพี่คิดอะไรอยู่ครับ”


“คิดว่าพี่ธิวาหล่อดี”


“อื้มมมมม…เหรอ ชมกันตรงๆแบบนี้ก็ได้เหรอครับ”ผมยิ้มขำตลกกับท่าทางเขินๆของพี่ธิวา คิดว่าพี่ธิวาเป็นพวกหลงตัวเองซะอีก ที่ไหนได้…มีโมเม้นท์เขินเวลาคนชมด้วย


“ไม่ต้องมาขำพี่เลย ไปครับ ไปซื้อของกัน”ผมปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วรีบเดินลงจากรถตามพี่ธิวาไป


พี่ธิวาเดินชอปปิ้งด้วยความรวดเร็วเหมือนวางแผนในหัวมาแล้วว่าวันนี้จะซื้ออะไรบ้าง แต่ก็หันมาบอกผมเป็นระยะว่าอยากได้อะไรให้ไปหยิบมา ผมก็หยิบขนม ไอติมมาใส่จนแทบเต็มรถเข็น แต่สิ่งสุดท้ายที่หยิบมาทำพี่ธิวาส่ายหน้า


“อันนี้พี่ไม่ได้ห้ามนะครับ แต่พี่ขอได้ไหม”ผมมองซองสีขาวในมือที่มีรูปปอดดำๆติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์แล้วเงยหน้ามองพี่ธิวา


จะให้เลิกบุหรี่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้ายอมเอาไปเก็บวันนี้แปลว่าต่อไปคงไม่ได้สูบอีก แล้วถ้าพี่ธิวาเห็นว่ากลับมาสูบอีกคงไม่โอเค


“พี่ไม่ได้ขอเพื่อตัวพี่ แต่พี่ขอเพื่อพริ้มนะ เข้าใจไหมครับ ถ้ามันเลิกไม่ได้จริงๆก็ให้พ้นช่วง 2 เดือนนี้ไปก่อน ปอดเรายังไม่กลับมา100%นะครับพริ้ม”


“ไม่มีอะไร 100% ใน medicine ไม่ใช่เหรอครับ”


“ไปเอาคำพูดแบบนี้มาจากไหนหึ”


“ผมแอบเห็นในหนังสือที่พี่ธิวาบริจาค”


“แล้วจะเอายังไงครับ พ่อคนดื้อ จะเอาไปเก็บหรือจะซื้อกลับบ้าน”


“เก็บก็ได้ครับ แต่ถ้าผมเครียดๆแล้วอยากดูดขึ้นมาจะทำไง”


“มาดูดปากพี่แทนครับคนดี จบนะ เอาไปเก็บได้แล้วครับ”พี่ธิวาดันหลังผมให้เอาบุหรี่ไปเก็บ แถมท้ายด้วยการตีก้นหนึ่งที จะหันไปโวยวายคนตัวสูงก็เข็นรถไปจ่ายเงินแล้ว


น้ำตา​าาาามาาาาา TT

ลงเป็นสิบรอบกว่าจะได้

ขอบคุณที่รอติดตามกันนะคะ

มีคนนับวันด้วย :)

#พริ้มกับdaddy


ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
กำลังจะดี ใช่ไหม ~'''~

มันกำลังจะดีขึ้น

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รอดูฉากกระโดดเลยนะบอกตรงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ดีแล้วพริ้ม

ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 o12 o12 o12 อดดูฉากพริ้มโดดสะพานเลย  ลอยไปกับน้ำให้เจ้านายตามหาซะหน่อยก็ไม่ได้  :m7: :m7: :m7:

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ชีวิตพริ้มจะดีขึ้นใช่มั้ย? :hao5:

ออฟไลน์ Yui_baanindy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กลัวตอนคุณท่านกลับมาจัง...มโนไปก่อน :mew6:

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ปล่อยเรื่องเศร้าๆไปนะ มาเริ่มใหม่นะพริ้ม

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
กลัวตอนคุณท่านกลับมาจัง...มโนไปก่อน :mew6:

คิดเหมือน
คุณท่าน  โหดเกิ๊น   :z6: :z6: :z6:
ธิวา  น่าจะดีกว่าคุณท่านนะ   :mew1:

พริ้ม ตัดขาดน้องไปเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-07-2018 05:29:24 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ lalun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
เข้มข้นมากกกกกก
ทำเพื่อตัวเองบ้างนะ พริ้ม

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
พี่ธิวาเป็นแด๊ดดี้ไม่ได้หรอก  ต้องผ่านการอนุมัติจากคุณท่านก่อน
อยากเป็นแด๊ดดี้ ต้องจ่ายให้คุณท่าน 10ล้าน

อยู่ๆพริ้มไปเรียกพี่ธิวาว่าแด๊ดดี้
อ่านบทนี้จะว่าหวานมั้ย  ก็เลยไม่หวาน  เพราะติดอยู่ที่คำเดียว...  คุณท่าน

ออฟไลน์ nuum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
  แล้วพริ้มจะเป็นยังงัย
เมื่อคุณท่านกลับมา
แล้วรู้ความจริงทั้งหมด
จะโกรธพริ้ม
จนทำร้ายพริ้มอีกมั้ย

             :o11:
           

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ถ้าคุณท่านรู้เรื่องนี่จะซวยไหมละ ทำรถราคาแพงเขาไปชน แล้วยังจะฆ่าตัวตายอีก

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พี่ธิวาน่ารักอ่ะ :hao5:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไปได้ดีกับผู้ปกครองฝ่ายขวาแล้ว หรือผู้ปกครองฝ่ายซ้ายนี่ล่ะ จะว่าไง  :katai1:

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
น่าจับคุณท่าน  :beat: :beat: :beat:


ป.ล. รอตอนต่อไปอยุ่นะครับ

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
คลื่นลมสงบก่อนพายุใหญ่จะมา

ออฟไลน์ minnien

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไม่เอามาม่าได้ไหมคะ  :mew4:
อยากให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาหาน้อง

ออฟไลน์ iiduckii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เชียร์ทิวา เฮ้!!!!!!!!!! :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
คู่นี้น่ารัก

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
เชียร์พี่ธิวาแทนล่ะะะะะ
เกลียดฟ้าอ่ะ เซงแม่ม ตัวยังไม่มาก็เกลียดแล้ว

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
อ่านแล้วน้ำตาไหลตลอดตอนเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด