พิมพ์หน้านี้ - [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy แจ้งข่าว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: แม่พิเสือ ที่ 30-01-2018 20:43:06

หัวข้อ: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 30-01-2018 20:43:06
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ตอนที่ 1 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 31-01-2018 20:23:37
ตอนที่ 1


Rose Club


“พริ้ม เหม่ออะไรจ๊ะ?”เจ๊จีน่าเจ้าของ Rose club ที่ผมทำงานเป็นโฮสต์อยู่เดินมาทักผมที่นั่งอัดมะเร็งเข้าปอดอยู่ด้านนอกร้าน


“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”ผมตอบเจ๊ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกจากปากอีกครั้ง


“แค่กๆ”เจ๊จีน่าสำลักควันบุหรี่ที่ผมปล่อยออกไป


“เจ๊เข้าไปข้างในเถอะ ผมจะดูดบุหรี่อีกสักพัก”ผมไล่เจ๊จีน่าเข้าไปด้านในอย่างสุภาพ
ถึงเจ๊จีน่าจะเอ็นดูผมมากแค่ไหน แต่ผมก็ไม่อยากจะยุ่งกับเจ๊แกมาก
สามีเจ๊แกชอบเขม่นผม


“ถ้าเครียดเรื่องเงิน ใส่ชุดนักศึกษามาหาเจ๊ได้นะจ๊ะ”เจ๊จีน่าเดินมาเชยคางผม นิ้วมือเรียวสวยเกลี่ยเบาๆบนริมฝีปากผม


“ไม่เอาหน่าเจ๊ ผมยังไม่อยากสมองกระจุยก่อนได้แต่งงาน”ผมดึงมือเจ๊จีน่าออกเบาๆอย่างสุภาพ ทำท่ารังเกียจมากก็ไม่ได้ ยังไงเจ๊ก็ยังเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้ผมทุกเดือน แต่สามีเจ๊น่ากลัวเหลือเกิน ผมยังไม่อยากเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง


“ทำไมช่วงนี้พริ้มใช้เงินดุจัง พึ่งเบิกไป 5 หมื่นเมื่อต้นเดือน”


“น้องผมพึ่งขึ้นปี 1 ช่วงนี้พึ่งเปิดเทอม ต้องซื้ออุปกรณ์เยอะแยะไปหมด ทั้งดินสอ ปากกา กระดาษชานอ้อย โน๊ตบุ๊ค โต๊ะดราฟมีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอ ของแต่ละอย่างแพงๆทั้งนั้น”


“ถ้าใช้เงินเป็นเบี้ยขนาดนี้ พริ้มก็ให้น้องมาช่วยหาเงินบ้างสิ จะได้รู้จักคุณค่าของเงิน”


“อย่าเลยครับ เด็กมันมีอนาคต”ผมบี้บุหรี่ลงบนที่เขี่ยบุหรี่ ไม่รู้ว่าใจผมกับก้นบุหรี่ตัวนี้ อะไรที่มันพังกว่ากัน


“แล้วพริ้มไม่มีอนาคตเหรอ? อุตส่าห์สอบเข้ามหาลัยดังได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เรียน”


“ช่างมันเถอะเจ๊ เรื่องมันผ่านไปแล้ว”ผมเงยหน้าหลับตามองฟ้า ถ้าน้ำตามันไหลออกมา จะได้มีข้ออ้างว่าแสงมันแยงตา


ชีวิตผมยิ่งกว่าละคร พ่อแม่ติดหนี้ถูกฟ้องล้มละลาย เขาสองคนตัดสินใจฆ่าตัวตายหนีหนี้ ทิ้งผมกับน้องไว้สองคน
จากเด็กที่เคยมีบ้านอยู่ มีข้าวกินครบ 3 มื้อ พอเขาไป ผมกับน้องก็ไม่เหลืออะไรเลย
นอกจากไม่เหลืออะไรเลย ยังมีภาระหนี้นอกระบบอีกมากมายให้ตามชดใช้


“เดือนนี้ต้องใช้อีกเท่าไหร่ เจ๊ให้เบิกล่วงหน้า”


“ไม่เป็นไรหรอกเจ๊ ผมเบิกเจ๊ล่วงหน้ามา 3 เดือนแล้ว สุดท้ายก็ทบกันไปทบกันมา หาจุดสิ้นสุดไม่ได้สักที”


“ถ้าไม่เบิกเจ๊แล้วจะเอาเงินที่ไหนให้น้อง?”


“หาผู้หญิงเลี้ยงผมสักคนสิ”


“พริ้ม เธอจะเป็นแมงดาเหมือนชื่อเธอจริงๆเหรอ?”เจ๊จีน่ามองผมด้วยสายตาผิดหวัง ถึงผมจะทำงานในบาร์โฮสต์ แต่เป็นที่รู้กันว่าผมทำหน้าที่เป็นแค่เพื่อนคุยแก้เหงา ให้อย่างมากที่สุดก็แค่จูบ ผมไม่อยากมั่ว โรคมันเยอะ
ตั้งแต่ที่ผมทำงานในคลับนี้มา มีคนที่เข้ามาทำงานพร้อมผมหลายคนที่รับออฟนอกรอบแล้วโชคร้ายติดโรค


“เจ๊รับพริ้มเข้ามาทำงานเพราะเจ๊สงสาร ทุกวันนี้เวลาเห็นพริ้มรับแขกทีไร เจ็ก็รู้สึกผิดจะแย่ อย่าให้เจ๊ต้องผลักแกลงไปเหวนรกที่ลึกไปมากกว่านี้เลยนะ ชีวิตเด็กเลี้ยงมันไม่สนุกอย่างที่คิดหรอกนะ”เจ๊พูดกับผมก่อนที่จะถอนหายใจ


“ผมไม่รู้จะไปทางไหนแล้ว ทุกวันนี้ผมทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต รับงานวันละ 2 จ๊อบ เงินยังไม่พอหมุนให้ชนเดือน หนี้ก็ต้องจ่าย น้องก็ต้องเรียน คนการศึกษาน้อยแบบผมไม่มีทางเลือกมากหรอก”


“พริ้ม เธอจะมาทางนี้จริงๆเหรอ?”เจ๊จีน่าเท้าสะเอวจ้องผมอย่างดุดัน ผมไม่เคยเห็นเจ๊แกเป็นแบบนี้มาก่อน


“ผมตัดสินใจมาดีแล้ว คิดมาเยอะแล้ว ที่ผ่านมาผมรับแค่เด็กนั่งดริ๊ง ใครเอาเงินมากองเท่าไหร่ ผมก็ไม่ไปต่อ เจ๊ก็รู้”


“เฮ้ออออออ”เจ๊จีน่าถอนหายใจออกมา


ผมรู้ว่าการเลือกเป็นเด็กเลี้ยงมันไม่สนุก เราต้องบริการเขาให้ดี ทำให้เขาประทับใจให้สมกับเงินที่เขาจ่าย
ผมไม่เถียงว่านี่มันเป็นงานสบาย เงินดี แต่มันก็แลกกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผมเหมือนกัน


“ผมรู้ว่าเจ๊มีสายเยอะ หาผู้หญิงมาเลี้ยงผมสักคนคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงเจ๊หรอก”


“พริ้มคิดผิดแล้วละ ตอนนี้เจ๊ไม่มีสตอร์กผู้หญิงสักคน มีแต่ผู้ชาย จะเอาไหมละ?”


“ผมไม่ชอบผู้ชาย เจ๊ก็รู้…”ผมปฏิเสธออกมาทันที ปกติผมรับแต่ลูกค้าผู้หญิง

 
“ตัดสินใจเอาเองแล้วกัน จะเอายังไงก็ขึ้นไปบอกเจ๊ที่ห้องทำงาน”เจ๊พูดก่อนจะเดินเข้าไปในคลับ

.
.
.

ก๊อกๆ


ผมเคาะประตูห้องทำงานเจ๊ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป เจอฉากดุเดือด 18+ ระหว่างเจ๊กับผัว


“เอ้ออออ~ ผมขอโทษครับ”ผมขอโทษพร้อมกับยกมือไหว้เมื่อคุณพัฒน์ ผัวเจ๊หันมามองผมด้วยสายตาเชือดเฉือน


“เข้ามาสิ”เจ๊จีน่าพูดพร้อมกับเช็ดลิปสติกสีแดงสดที่เลอะตรงมุมปาก


“ตัดสินใจได้แล้วเหรอ?”เจ๊จีน่าจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ก่อนจะนั่งอิงแอบแนบอกผัวที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับ


“ครับ แต่ถ้าเจ๊ไม่สะดวกผมค่อยมาใหม่ก็ได้นะครับ”ผมเหลือบมองส่วนกลางลำตัวผัวเจ๊จีน่าโป่งนูนเหมือนจะทะลุออกมานอกร่มผ้า จะว่าไป ผมก็รู้สึกผิดนิดหน่อยที่เข้ามาขัดจังหวะ ผู้ชายเวลาไม่ได้ปลดปล่อย มันทรมานจะตาย


“ไม่ต้องๆ เอาตอนนี้นี่ละ นั่งก่อนสิ”ผมนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามคู่สามีภรรยาข้างหน้า


“คุณพัฒน์คะ วันก่อนคุณให้ชั้นหาเด็กเลี้ยงให้ใช่ไหมคะ”

“ใช่ คุณหาได้แล้วเหรอ?”


“คนนี้ไงคะ พอได้ไหมคะคุณพัฒน์”ผัวเจ๊กวาดสายตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมรู้สึกเหมือนนั่งตัวเปล่าเปลือยให้คนสแกนร่างกายทั้งๆที่ยังสวมเสื้อผ้าอยู่ครบทุกชิ้น


“ผมว่าไม่ผ่าน คุณไม่มีคนอื่นแล้วเหรอ? ผมไม่อยากเสียชื่อ”


“โถ่วววว คุณพัฒน์คะ ช่วยเด็กมันหน่อยเถอะนะคะ”เจ๊วางมือที่หน้าขาของคุณพัฒน์ก่อนจะไล้ขึ้นมาจนถึงอก ขาเรียวเกี่ยวไว้ที่หว่างขา ผมว่าอีกนิดนี่ผมได้ดูหนังสดแล้ว


“คุณก็เทรนด์เด็กมันดีๆแล้วกัน อย่าให้ท่านโกรธได้ เจอกันที่บ้านนะที่รัก”คุณพัฒน์ดึงเจ๊ขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักก่อนจะดูดปากเสียงดัง จ๊วบจ๊าบ ผมเบือนหน้าหนีภาพกึ่งๆหนังเอวีตรงหน้า
 

“แล้วเจอกันค่ะ ที่รัก”เจ๊เดินไปส่งคุณพัฒน์ที่หน้าห้องก่อนจะเดินไปหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลในตู้เซฟออกมา


“นี่สัญญาการว่าจ้าง แล้วก็กฎระเบียบการปฏิบัติตัว”ผมหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลมาเปิดอ่าน


สัญญาการว่าจ้าง

1.   ผู้ถูกจ้างไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของนายจ้างได้ ถ้าตรวจสอบพบการละเมิด จะถือว่าสัญญาเป็นโมฆะ

2.   ผู้ถูกจ้างจะได้รับเงินเดือน เดือนละ 100,000 บาท และเงินพิเศษตามที่นายจ้างเห็นสมควร

3.   ผู้ถูกจ้างจะต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพตามโปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนการแต่งงานในโรงพยาบาลที่กำหนด และเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคติดต่อให้ครบ

4.   ห้ามผู้ถูกจ้างมีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นในกรณีที่นายจ้างไม่อนุญาต

ผมเปิดอ่านสัญญาจนถึงข้อที่ 4 แล้วก็วางสัญญาลง


“เจ๊ นี่มันสัญญาบ้าบออะไร”สัญญาบ้านี่ไม่ได้มีแค่ 4 ข้อแต่มี 4 หน้ากระดาษ


“อย่าพึ่งโวยวาย ใช่ว่าตอนนี้พริ้มจะมีสิทธิเซ็นต์สัญญา”


“เจ๊หมายความว่าไง?”


“ท่านกำหนดสเปคเด็กเลี้ยงที่ต้องการมาคือ ต้องเป็นเด็กที่สะอาด ปราศจากโรค ได้รับวัคซีนครบ…”


“นี่หาเมียหรือหาหมามาเลี้ยง?”ผมขมวดคิ้วถามด้วยความงงใจ


“นี่! อย่าพึ่งขัดเจ๊ได้ไหม ฟังก่อนสิ”


“ครับๆ”


“เจ๊ก็ไม่รู้หรอกนะว่าท่านเป็นใคร อายุเท่าไหร่ แต่เงินหนาและมีอิทธิพลมาก ไม่งั้นคุณพัฒน์คงไม่เกรงใจขนาดนี้”ผมฟังคำพูดเจ๊แล้วพยักหน้าเห็นด้วย


คุณพัฒน์แฟนเจ๊เป็นคนมีสี ยศใหญ่คับกรม ที่เจ๊ยังเปิดร้านได้จนถึงทุกวันนี้แล้วไม่กล้ามีคนมายุ่มย่ามก็เพราะอิทธิพลของเขานี่แหละ


“ถ้าแกตัดสินใจรับงานนี้อย่าทำให้ชั้นกับคุณพัฒน์เสียชื่อละ ถึงท่านจะอยากได้เด็กที่สะอาดไม่เคยผ่านมือใคร แต่ท่านก็อยากได้คนที่เป็นงาน”

“ผมว่าสเปคท่านของเจ๊นี่ดูย้อนแย้ง อยากกินของสด แต่ก็อยากได้ของมันส์ ของแรง เรื่องพวกนี้มันจะมาคู่กันได้ยังไง? เซ็กส์คือประสบการณ์ ถ้าไม่ฝึกแล้วจะเก่งได้ยังไง?”


“ก็นี่แหละเรื่องที่ชั้นกำลังจะพูด ถึงเขาจะย้อนแย้งยังไง แต่เขาก็จ่ายหนัก ยังไงเขาก็มีสิทธิเรียกร้อง”


“หน้าที่ของพริ้มก็คือไปศึกษาและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันลองงาน ทำยังไงก็ได้ให้ท่านประทับใจ อย่าให้เสี่ยชื่อมาถึงเจ๊ ถ้าท่านไม่พอใจ หัวแกกับชั้นจะหลุดออกจากบ่าเมื่อไหร่ก็ได้ เข้าใจที่ชั้นสื่อไหม?”


“อื้อ แต่วันลองงานที่เจ๊พูดถึงนี่คืออะไร?”


“โอ๊ยยยยย! ถ้าแกไม่ขัดชั้นป่านนี้ชั้นก็อธิบายจบละ ข้อมูลตกๆหล่นๆก็เพราะแกเองนั่นแหละ”


“อย่างที่ชั้นบอกไปแล้วว่าแกยังไม่มีสิทธิจะเซ็นต์สัญญาฉบับนี้จนกว่าแกจะผ่านงาน อีก 3 สัปดาห์เจ๊จะนัดท่านให้ ถ้าท่านถูกใจเขาก็จะเลี้ยงแก แต่ถ้าไม่เขาก็จะให้ค่าทำขวัญ 50,000 แล้วทางใครทางมัน”


“คนมีเงินนี่จะมีเงื่อนไขเยอะเท่าไหร่ก็ได้”


“พริ้มมมมมม! เจ๊อยากให้แกตัดสินใจดีๆนะ เจ๊ได้กลิ่นว่างานนี้อันตราย แต่เงินก็หนามากเช่นกัน”


“ผมเลือกแล้วครับ”


“ฟิตหุ่นดูแลตัวเองให้ดีละ อย่าทำให้ท่านโกรธแล้วเจ๊พาลโดนส่งเก็บไปด้วยละ”

.
.
.

หลังจากผ่านไป 3 สัปดาห์ที่ผมฟิตหุ่น ฟิตร่างกาย อาบน้ำแร่ แช่น้ำนม สุดท้ายตอนนี้ผมก็กำลังยืนอยู่หน้าโรงแรมริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง


ผมเดินวนไปวนมาหน้าโรงแรมอยู่หลายรอบ
ทั้งๆที่คิดว่าตัดสินใจมาดีแล้ว แต่พอมาถึงสถานที่จริง วันจริง ใจมันก็หวิวๆแปลกๆ
ลองงานวันนี้จะผ่านรึเปล่า?
ขึ้นไปจะเจอเซ็กส์แบบไหน?
ท่านของเจ๊จะมีรสนิยมวิปริต วิตถารเหมือนพวกตาเฒ่าหัวงูหรือเปล่า?


ใจมันคิดวนไปหมด
แต่เอาวะ อุตส่าห์อดอาหารมาตั้ง 6 ชั่วโมง ทำแท้งไป 5 รอบจนแสบไปหมด
ยังไงวันนี้ก็ต้องได้ลองงาน


“คุณภัทรกันต์     ไวยวงศ์ใช่ไหมครับ?”ผู้ชายสวมชุดสูทสีดำทั้งตัวเดินมาถามผมที่นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้โรงแรม


“ใช่ครับ”


“นำผลตรวจสุขภาพมาด้วยใช่ไหมครับ?”ผมล้วงกระเป๋าหยิบซองที่ได้มาจากโรงพยาบาลส่งให้เขา


“ผลตรวจบอกว่าคุณสะอาดและได้รับวัคซีนแล้ว เชิญด้านบนเลยครับ ท่านรออยู่”เขาผายมือให้ผมเดินไปที่ลิฟท์สีทองตัวในสุดที่มีบอร์ดี้การ์ดชุดดำอีกคนยืนกดลิฟท์รออยู่แล้ว
 

ลิฟท์เคลื่อนที่มาถึงชั้น 23 ทั้งชั้นมีห้องพักเพียงแค่ห้องเดียว
มีบอดี้การ์ดอีก 2 คนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู


“เชิญครับ หวังว่าคุณจะทำให้ท่านประทับใจ”เขาเปิดประตูให้ผมเดินไปด้านใน


ภายในห้องเปิดไว้เพียงไม่กี่ดวง มีเพียงแค่แสงสลัวๆที่ส่องนำทางเท่านั้น
ภายในห้องตกแต่งใน style minimal ผิดไปจากที่ภาพที่ผมคิดว่าโรงแรมหรูหรา ห้อง suit จะต้องตกแต่งด้วยโซฟาหลุยส์อะไรแบบนั้น


“สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้อย่างนอบน้อมตามมารยาทที่เด็กเลี้ยงที่ควรมี


ท่านยืนหันหลังให้ผม สายตาของท่านเหลือบมองในกระจกที่สะท้อนภาพเด็กวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่ง ส่วนสูง 175 ซม สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขาเดฟสีดำ รองเท้าผ้าใบคู่เก่าที่ใส่มาเป็นปีแล้วยังไม่ได้ซัก


“ชื่ออะไร?”ท่านถามผมก่อนจะยกแก้วไวน์ในมือขึ้นจิบ


สายตาของท่านทอดมองผ่านออกไปนอกกระจก บรรยากาศวิวแม่เจ้าพระยายามค่ำคืนช่างดูเวิ้งว้างเสียเหลือเกิน
มองจากทางด้านหลัง ท่านเป็นผู้ชายรูปร่างสมส่วน ส่วนสูงประมาณ 185 ซม แผ่นหลังกว้างแบบที่ผู้ชายทุกคนอยากมี
เห็นแค่นี้ผมก็พอโล่งใจ อย่างน้อยก็ไม่ต้องเป็นเด็กเลี้ยงของผู้ชายแก่คราวพ่อ แค่นี้ก็พอแล้ว


“ผมชื่อพริ้มครับ”


“หึ เข้ากับสิ่งที่ทำอยู่ดี”น้ำเสียงเย้ยหยันที่ดังขึ้นมาช่างบาดใจผมเหลือเกิน


ถึงที่ผ่านมา ผมจะรู้สึกว่า การเป็นโฮสต์คอยพูดคุยคลายเหงาให้หญิงสาวมากหน้าหลายตา จะเป็นความสัมพันธ์แบบวิน-วิน
แต่พอเขาพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันแบบนี้มันก็รู้สึกว่าถูกหยามศักดิ์ศรี
แต่ผมจะไปทำอะไรเขาได้
สิ่งที่ทำได้คงแค่กำหมัดแน่น จิกเล็บลงบนฝ่ามือให้รู้สึกเจ็บกาย เผื่อว่าความรู้สึกเจ็บที่ใจมันจะบรรเทาลง
ใช่สิ!
ผมมันก็แค่แมงดาที่เกาะผู้หญิงกิน



“ไม่พอใจคำพูดชั้นเหรอ?”เขาวางแก้วไวน์ไว้บนโต๊ะแล้วเดินมาหาผม


หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าเขาก็ทำเอาผมตกใจไม่น้อย
คนตรงหน้ามีใบหน้าเหมือนคนอายุ 30 ต้นๆ จมูกโด่งได้รูปรับกับใบหน้าคม
ดวงตาสีควันบุหรี่ที่จ้องมองผมทำให้รู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออก รู้สึกเหมือนถูกกดอยู่ใต้ฝ่าเท้าคนตรงหน้า
จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด


ผมเดินถอยหลังด้วยสัญชาตญาณเมื่อท่านเดินเข้ามาหาผมทีละก้าว
ถึงท่านจะไม่ได้เดินเข้ามาหาผมด้วยท่าทีคุกคาม แต่ผมก็รู้สึกได้ถึงความอันตรายที่กำลังคืนคลานเข้ามาใกล้ตัวมาขึ้นเรื่อยๆ


“อ๊ะ!”ผมอุทานออกมาเมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับกำแพงห้องที่อยู่ด้านหลัง
 

“หึ ตัวสั่นเป็นลูกนก ชั้นว่าเธอไม่มีคุณสมบัติ รับเงินค่าเสียเวลาแล้วกลับบ้านไปเถอะ รำคาญสายตา”เขาเหยียดยิ้มก่อนจะเอ่ยคำพูดร้ายกาจออกมา


“ผมอยากจะขอร้อง ขอท่านช่วยเมตตา อย่าประเมินคุณภาพคนด้วยสายตา ได้โปรดให้ผมได้ลองงานด้วยเถอะครับ”ผมขอร้องเขาอย่างหมดศักดิ์ศรี


ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายที่ผมต้องโยนมันทิ้ง เพราะเห็นบิลเรียกเก็บค่าหอย้อนหลัง 3 เดือนของน้อยชายตัวดี
เงินเกือบ 3 หมื่นที่ต้องจ่ายภายในวันพรุ่งนี้


ถ้าไม่ได้ลองงาน
น้องชายผมคงโดนไล่ออกจากหอเหมือนหมูเหมือนหมา
คนทั้งมหาลัยคงได้นินทากันสนุกปาก


“ชั้นให้โอกาสนายแค่ 15 นาที ถ้าทำให้ชั้นพอใจไม่ได้ก็ไสหัวออกจากห้องนี้ไปซะ”


ผมคลานเข่าเข้าไปหาท่าน
จูบเบาๆตรงส่วนกลางลำตัวจากด้านนอกกางเกงสแล็คสีดำเนื้อดี สองมือเอื้อมขึ้นไปปลดเข็มขัด


ผมงับฟันที่ซิปแล้วค่อยๆรูดลง ใช้สองมือช่วยดึงกางเกงให้หลุดออกจากสะโพกหนา เผยให้ชั้นในสีขาวนวลที่โอบอุ้มเจ้ามังกรยักษ์ขนาดมหึมาเกินขนาดมาตรฐานของผู้ชายไทยทั่วไป


ผมจูบเบาๆลงที่แก่นกาย ไล้เลียเบาๆจากภายนอกจนกางเกงในสีขาวชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำลายสีใส
ผมงับเบาๆลงที่ขอบกางเกงในยี่ห้อดัง
ท่อนเอ็นขนาดใหญ่ดีดออกมาฟาดหน้าผม


“ถ้ามันใหญ่เกินกำลัง จะหยุดก็ได้นะ ชั้นไม่ว่า”ถ้าเป็นคนอื่นมาพูดประโยคนี้ ผมคงถามกลับไปอย่างหมั่นไส้ว่า ‘คิดว่าใหญ่มากไหม? เอาไม้บรรทัดมาวัดสิ’


แต่พอเป็นของเขาผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ


วันนี้ไม่โดนปืนเป่ากบาลเพราะทำท่านไม่พอใจ ก็สำลักท่อนเอ็นอุ่นๆนี่ตายไปข้างแน่ๆ
นี่มันของคนหรือของม้ากันแน่?


คะเนจากสายตาคร่าวๆน่าจะมากกว่า 8 นิ้ว
.
.
.
ยาวกว่า...หนวดปลาดุกเผือกอีก
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 1 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 31-01-2018 22:41:52
จะ 3P ยังไงหนอ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 1 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-02-2018 13:14:31
 o22  น่ากลัวแทนน้องพริ้มอ่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 1 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 03-02-2018 15:52:38
กลัวแทนพริ้มเลย หวังว่าน้องชายพริ้มจะเป็นเด็กดีสมกับความเสียสละของพริ้มนะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 1 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 03-02-2018 18:54:18
พริ้มสู้ๆน่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 1 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: milin03 ที่ 03-02-2018 20:26:23
ปักจ้าาา  :katai4:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 1 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 03-02-2018 21:23:54
ติดตามค่าาาา :katai5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 1 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 03-02-2018 21:29:54
รอจ้า
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 1 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-02-2018 05:38:03
จะทำตามที่สั่งได้ไหมหนอ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 2 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 06-02-2018 08:46:05
ตอนที่ 2


ผมประคองลูกบอลทั้งสองข้าง ใช้ลิ้นไล้เลียเบาๆ ก่อนจะอมเข้าไปทั้งลูก ทำสลับกัน 2 ข้าง แล้วเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ท่อนเนื้ออุ่นกลางลำตัว ผมใช้ปลายลิ้นเลียตั้งแต่โคนจรดปลาย ไล้วนเน้นเป็นพิเศษที่ส่วนปลายแดงก่ำ ทำไปพร้อมๆกับช้อนสายตามองท่านแบบที่นางเอกหนัง AV ชอบทำ


มีคนบอกว่าพวกผู้ชายชอบมองหน้าคู่นอนตัวเองตอนถวายบัวให้
ถ้าผมทำหน้าเซ็กซี่ได้มากเท่าไหร่ ท่านคงพอใจขึ้นบ้าง


“อือออ…”ท่านครางในลำคอหนักมากขึ้นเมื่อผมห่อริมฝีปาก ค่อยๆรับเอาเจ้ามังกรยักษ์เข้ามาในปาก


ผมห่อริมฝีปากดูดท่อนเนื้อแข็งบริเวณส่วนปลายจนแก้มบุ๋ม พร้อมกับละเลงลิ้นหนักๆ


“อย่าลีลามากได้ไหม? คิดว่านี่เป็นแท่งไอติมยักษ์คู่ที่เธอดูดเล่นตอนอนุบาลรึไง? ชั้นไม่เสร็จง่ายๆหรอกนะ”ท่านจิกหัวผมจนหน้าแหงนขึ้น ท่อนเอ็นอุ่นๆหลุดออกจากริมฝีปากดัง ‘บ๊วบ’ ก่อนที่ท่านพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเต็มทน


ผมรู้สึกเจ็บตึงที่หนังศรีษะจนน้ำตาคลอเบ้า


“ผม ฮึก จะ…เจ็บ”ผมแตะที่หลังมือท่านเบาๆก่อนจะพูด


“โดนดึงผมแค่นี้บ่นว่าเจ็บ ทีชั้นโดนฟันเธอตั้งหลายที ยังไม่บ่นเลย”


“ผม ฮึก ขอโทษ”


“อย่าให้โดนฟันอีกละ ระวังจะไม่เหลือฟันไว้เคี้ยวข้าวตอนแก่”ท่านปล่อยมือที่ตรึงเส้นผมของผมเอาไว้ ฝ่าเท้าหนาถีบลงมาที่ยอดอกของผมเต็มแรงจนผมล้มลงไปกองกับพื้น


“ผม ขอโทษ เมตตาผมเถอะนะครับ”ผมวางมือลงบนเท้าของก่อนที่เหยียบอยู่บนยอดอก


“นายนี่มันเป็นหนูที่น่ารำคาญจริงๆ”ท่านพูดก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา ไขว่ห้าง จิบไวน์


ผมกุมอกที่ถูกเหยียบ ค่อยพยุงตัวลุกจากพื้น ผมคลานเข่าเข้าไปนั่งที่ตรงกลางหว่างขาของท่าน


ผมประคองแก่นกายกลางลำตัวของท่านขึ้นมา ก่อนจะห่อริมฝีปากหาทิศทางที่ท่อนเอ็นอุ่นๆจะเข้าไปในช่องปากได้มากที่สุด พยายามขยับริมฝีปากเข้าออกให้สุดความยาว แต่สุดท้ายก็รับเข้าไปไม่ได้ทั้งหมดสักที ความรู้สึกมันทั้งจุก ทั้งอึดอัดเหมือนคนอยากอ้วกตลอดเวลา


“ดีแต่ปาก”ท่านดึงท่อนเอ็นอุ่นออกจากปากผม ก่อนจะตรึงท้ายทอยผมไว้ แล้วจะขยับสะโพกเข้าออกตามใจชอบ


ผมเงยหน้ามองท่านน้ำตาคลอ ความรู้สึกมันทรมานไปหมด รู้สึกคับแน่นจนถึงคอหอย พร้อมที่จะอ๊อกออกมาได้ตลอดเวลา แต่ผมก็พยายามเต็มที่ที่จะกล้ำกลืนฝืนทนความรู้สึกพวกนี้ไว้ นี่มันทางรอดทางเดียวของผม


ตลอดเวลาที่ท่านขยับสะโพกเข้าออก ผมพยายามห่อริมฝีปาก เก็บฟัน สองมือช่วยนวดคลึงพวงองุ่นสวยทางด้านล่าง แต่เพราะมันนานเกินไป ผมเลยหายใจไม่ออก เผลอกัดท่อนเอ็นอุ่นของท่าน


เพียะ!


ฝ่ามือหนาฝาดลงมาที่แก้มผมเต็มแรงจนหน้าหัน เลือดสีแดงสดไหลซึมที่มุมปาก


“ออกไปซะ!”ท่านตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด พร้อมกับชี้นิ้วไปที่ประตู


“ฮึกๆ ท่านครับ ผมขอโทษ ผมสัญญาว่าผมจะไม่พลาดอีกแล้ว”ผมรีบลุกขึ้นมาเกาะขากางเกงท่าน


“ชั้นไม่เคยให้โอกาสใครซ้ำหลายๆรอบหรอกนะ รีบๆไสหัวออกไปให้พ้นหน้าชั้น ตอนที่ชั้นยังอารมณ์ดีอยู่”


“ท่านครับ ได้โปรด”ผมเกาะแข้งเกาะขาท่านไม่ยอมปล่อย ซบหน้าลงบนหลังเท้านุ่ม


“ได้สิ แต่คราวนี้ชั้นจะให้นายฝึกกับลูกน้องชั้นจนเป็นงานแล้วค่อยมาบริการชั้นแล้วกัน”


“ท่านครับ ไม่นะครับ ผมกราบ”ผมก้มลงกราบที่เท้าของท่าน การขัดใจท่านไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ แต่ผมก็ไม่อยากมีผัวเป็นผู้ชายคนอื่นอีก แค่ท่านคนเดียวผมก็กล้ำกลืนฝืนทนจะแย่


“ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้านายพลาดมันหมายถึงความตาย เข้าใจไหม?”ท่านกระชากศรีษะของผมขึ้นมาจากเท้า


“ขอบคุณครับ”ผมยกมือขึ้นไหว้ตัวสั่น สายตาท่านบอกว่าเอาจริง โอกาสคราวนี้มีทางรอดแค่ 50:50 ไม่ตายก็ได้เงิน 50,000 บาท ความรู้สึกผมเหมือนคนจนตรอกที่แท้ทรู


บางทีผมก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่าผมจะยอมเสียศักดิ์ศรีมาทำเรื่องพรรค์นี้ทำไม
แต่พอคิดถึงหน้าน้อง
ผมก็บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร


วันไหนส่งเขาถึงฝั่งฝันเมื่อไหร่
วันนั้นผมจะได้ชีวิตของผมคืนมา


“ไปเตรียมน้ำให้ชั้นอาบ ตอนนี้ชั้นหมดอารมณ์จะทำอย่างว่ากับนายละ หวังว่าบริการอย่างอื่นของนายจะไม่ห่วยแตกเหมือนเซ็กส์นะ”


“ขอบคุณครับ”ผมพนมมือยกมือไหว้ท่านอีกครั้งก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาห้องน้ำ


ผมเปิดประตูเข้ามาเจอห้องน้ำสีขาวขนาดใหญ่ แยกสัดส่วนที่อาบน้ำชัดเจน มุมห้องที่ติดกับสวนทางด้านนอกมีถังไม้โอ๊คใบใหญ่วางอยู่


ผมเปิดหาไฟแช็คในตู้เก็บของเพื่อเอามาจุดเทียนที่วางเรียงรายอยู่รอบๆห้องน้ำในโซนที่เป็น outdoor


หลังจากจุดเทียนจนครบ ผมเปิดน้ำเย็นผสมกับน้ำร้อนใส่ในถังไม้โอ๊คใบใหญ่จนเกือบเต็ม
ใช้มือจุ่มทดสอบความร้อนจนอุณหภูมิของน้ำผสมกันจนอุ่นได้ที่


ผมเลือกหยิบขวด essential oil กลิ่นมะลิกับกุหลาบมาเทใส่ถังจนหอม จัดการโยน bath bomb สีขาวลูกหนึ่งที่วางอยู่ในตะกร้าตามลงไปจนเกิดฟองทั่วทั้งถัง


หลังจากนั้นผมก็เตรียมฟองน้ำมาเตรียมไว้ข้างตัว


“เสร็จรึยัง?”


“เสร็จแล้วครับ”ผมเลิกคนฟองสบู่ในถังเล่น แล้วเดินไปหาท่านที่ใส่ชุดคลุมอาบน้ำสีดำเข้ามา


ชุดคลุมอาบน้ำสีดำกับดวงตาสีควันบุหรี่ของท่านยิ่งส่งให้ท่านดูน่าหลงใหล มีเสน่ห์เย้ายวนมากขึ้นอย่างประหลาด


ถึงจะรู้ว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้าอันตรายแค่ไหน แต่ผมก็ละสายตาไปจากท่านไม่ได้ ทั้งๆที่ผมไม่เคยชอบเพศเดียวกันด้วยซ้ำ


ผมค่อยๆกระตุกเชือกที่รัดชุดคลุมออกจนเผยให้เห็นแผ่นอกขาวที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ผมรีบเบือนสายตาซุกซนของตัวเองหนีก่อนที่จะมองลงไปต่ำกว่านั้น


ผมเดินอ้อมไปด้านหลังแล้วปลดชุดคลุมออก


ผิวของท่านมีสีขาวอมชมพูแบบคนสุขภาพดี แผ่นหลังเต็มไปด้วยมัดกล้าม หุ่นด้านหลังเป็น v-shaped แบบที่ผู้ชายทุกคนอยากมี กล้ามเนื้อทุกส่วนมีพอประมาณแบบคนออกกำลังกาย ตัวแลตัวเอง แต่ไม่ได้ดูมากเกินไปจนน่าเกลียด


ผมเอาเสื้อคลุมไปแขวนไว้ที่ผนังห้องก่อนจะรีบสาวเท้าตามท่านที่เดินออกไปตรงโซนที่เป็นห้องน้ำ outdoor


“ท่านชอบให้นวดแบบไหนครับ?”


“มีสมองไหม? หัดคิดเองให้เป็นแล้วบริการเจ้านายให้ถูกใจเหมือนพวกกะหรี่เกรดเอบ้าง อย่าให้ชั้นต้องสอนทุกขั้นตอนเหมือนพวกเดนตายโดนคัดทิ้งได้ไหม?”


“ครับ”ผมรับคำก่อนจะเริ่มนวดบริเวณคอ ค่อยๆคลึงเบาบริเวณเส้นที่จับแล้วตึง


ถ้าท่านพอใจการนวดของผมบ้าง คงต้องขอบคุณแม่ที่บังคับให้ผมนวดให้ตั้งแต่เด็กๆ


“ทำให้ดีก็ทำได้นี่…”ท่านหลับตาพิงผนังไม้โอ๊ค วางแขนสองข้างไว้บนถัง


ผมค่อยๆนวดไปเรื่อยๆจากคอ บ่า ไหล่ขึ้นมาจนถึงขมับ คลึงเบาๆ ก่อนจะนวดวนลงมาจนถึงปลายแขน
นิ้วมือของท่านเรียวยาวสวย ฝ่ามือนิ่มแบบคนไม่ได้ทำงานหนัก


ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจให้ผมนึกถึงหนัง AV เรื่องล่าสุดที่ดูเมื่อคืน
ซีนที่ผมนึกถึงเป็นซีนในห้องน้ำ นางเอกหนังเห็นมือพระเอกสวย เลยดึงนิ้วพระเอกเข้าปาก
ดูดเลียนิ้วแทนแก่นกายกลางลำตัว ค่อยๆเลียจากปลายนิ้วทุกนิ้ว หลับตาพริ้มห่อริมฝีปากดูดนิ้วเหมือนเด็กทารกดูดนมจากอกแม่ เริ่มต้นทำจากนิ้วเดียว เพิ่มจำนวนไปเรื่อยๆจนครบสามนิ้ว ขยับริมฝีปากเข้าออกจากเบาๆช้าๆเป็นรวดเร็ว รุนแรง


“อืออออ…”เสียงท่านครางในลำคอทำให้ผมสะดุ้งออกจากพะวัง


รู้ตัวอีกทีนิ้วทั้ง 3 นิ้วของท่านก็เปียกเยิ้มไปด้วยน้ำลายใสของผม
ผมมองท่านตาโต
เวรละมึง!
หาเรื่องตายวันละไม่รู้กี่รอบ


“หึ นายนี่แปลกคนดี ไม่มีอารมณ์กับของชั้น แต่ดันมีอารมณ์กับนิ้ว”


“ผมขอโทษครับ”ผมรีบเอานิ้วของท่านล้างน้ำสะอาด ขัดด้วยฟองน้ำที่จุ่มน้ำสบู่มาแล้ว เกิดท่านไม่พอใจที่นิ้วท่านมีกลิ่นน้ำลายของผมติดไป ผมจะซวยเอา


“เตรียมตัวมาพร้อมแล้วใช่ไหม?”ท่านเชยคางผมก่อนจะถาม


“ครับ”ผมตอบก่อนจะมองเข้าไปในนัยน์ตาของท่านที่มีร่องรอยความปรารถนาคุกรุ่นขึ้นมา


อ่า~ อย่าได้จินตนาการไปไกลว่าท่านจะพิศวาสอะไรมากมายในตัวผม
ผมไม่ใช่ผู้ชายอ้อนแอ้นแบบสายรับในอุดมคติที่ทุกคนปรารถนา
มันก็แค่รอยปรารถนาเล็กๆเท่านั้น ที่เหลือในแววตาท่านคือความสนุกล้วนๆ


ใช่สิ!


ราชสีห์ที่มีเหยื่ออยู่มือรอขย้ำเมื่อไหร่ก็ได้
ทำไมจะไม่สนุก


ผมถอดกางเกงขาเดฟกับบ็อกเซอร์ออกจนเหลือเพียงชั้นในสีขาว ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแต่ไม่ถอดออก ค่อยๆก้าวขาลงในถังไม้โอ๊ค นั่งลงไปจนเสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกไปทั้งตัวก่อนจะลุกขึ้นมาใช้สะโพกพิงถังไม้


นิ้วมือของผมข้างนึงใส่เข้าไปในปาก ดูดดึงยั่วยวนให้เหมือนผมดูดที่แก่นกายกลางลำตัวท่าน ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้ตั้งแต่โคนขาด้านในขึ้นมาจนถึงยอดอกสีชมพู ค่อยๆไล้รอบฐานเป็นวงกลมแล้วบดขยี้จนแดงเต่ง


“อิ๊~”ผมครางออกมาอย่างมีอารมณ์ เมื่อเห็นแก่นกายกลางลำตัวของท่านผงกหัวขึ้นมาจากน้ำ


อย่าถามให้ผมอายเชียวว่าไปเอามารยาร้อยเล่มเกวียนพวกนี้มาจากไหน
นี่มันฉากในหนัง AV ที่ต่อจากซีนที่แล้วล้วนๆ


ผมลูบไล้ไปตามลำตัวของตัวเองพร้อมกับส่งเสียงครางกระตุ้นอารมณ์ท่าน ถอดชั้นในสีขาวแล้วเหวี่ยงไปไกลตา
จับเจ้าหนอนชาเขียวขึ้นมาสไลด์ พร้อมกับดูดนิ้วตัวเองจนเสียงดังจ๊วบจ๊าบ
ตอนแรกจะทำแค่กระตุ้นอารมณ์ท่าน แต่ไปๆมาๆ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองจะเสร็จ


ผมกัดริมฝีปากล่างของตัวเองจนรู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือด อ่า~ มันทรมานเหลือเกินที่ต้องยั้งตัวเองตอนจะเสร็จไว้
แก่นกายสีชมพูผงกหัวต้องการอย่างน่าเกลียด ผมปวดมวนในท้องน้อยไปหมด แต่ก็ต้องหยุดไว้เท่านี้


ผมหันหลังให้ท่าน เท้าแขนไว้กับขอบถังไม้โอ๊ค แอ่นสะโพกกลมกลึงไปทางด้านหลัง
ส่งนิ้วเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มจากหนึ่งจนเป็นสาม ขยับนิ้วเข้าออก หมุนวนจนเจอจุดเสียว ขยับเข้าออกรวดเร็วมากขึ้น แทงลึกๆจนเจอจุดนั้นซ้ำๆ ผมขมิบช่องทางสีสวยดึงรั้งนิ้วที่จะหลุดออกทุกครั้ง


“อ๊ะ อ๊า~ ผมอยากได้ของท่าน ฮ้า ได้โปรด ใส่Kเข้ามาในรูร่านๆของผม”


“อ๊ะ … อิ๊  อ๊า…”ผมครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ พึ่งเข้าใจความเสียวจากช่องทางด้านหลังของผู้ชายก็วันนี้


ผมเร่งจังหวะสอดใส่ที่ช่องทางด้านหลังจนเกือบจะเสร็จแต่ก็โดนดึงมือออก


“อึก ท่านครับ ได้โปรด”ผมเอี้ยวตัวหันหลังไปมองท่านน้ำตาคลอ


“แค่นิ้วก็จะเสร็จแล้วเหรอ? นายนี่มันร่านไม่เลือกเลยนะ”ท่านยิ้มร้ายก่อนจะดึงแขนผมไปด้านหลังจนผมล้มลงนั่งบนตักท่าน


ท่านหยิบวงแหวนเงินสีสวยออกจากกล่องที่อยู่ในตู้ไม้เล็กๆข้างถังไม้โอ๊ค ท่านสวมวงแหวนเข้ามาจนสุดที่โคนของแก่นกายผม แค่นั้นยังไม่พอ ท่านหยิบเชือกมามัดแขนผมให้ไพล่ไปด้านหลัง


“ไม่มีมือ ไม่มีนิ้ว ดูสิ นายจะทำยังไง?”ท่านเชยคางผมขึ้นมาก่อนจะบ้วนน้ำลายลงมาที่ริมฝีปากผม


“กินเข้าไปสิ จะได้เชื่อง”ถึงผมจะไม่ใช่หมา แต่ผมก็กลืนน้ำลายของท่านลงไปจนหมด


ถ้าท่านอยากผมเป็นหมา ผมก็จะเป็นหมาที่ซื่อสัตย์มีท่านเพียงคนเดียว
ขอเพียงแค่ท่านจะเมตตาเลี้ยงหมาพันธุ์ทางตัวนี้ให้ได้สัมผัสรสชาติของกรงทองบ้าง


ผมขยับสะโพกที่ทับของแข็งร้อนด้านล่าง ผมสัมผัสได้ว่ามันแข็งตั้งโด่ขึ้นมาชนเนื้อนิ่มในร่องก้นของผม


ผมนั่งยองๆยกสะโพกขึ้นก่อนจะกดตัวเองลงบนแก่งกายร้อน
ผมเชิดหน้า แอ่นอกขึ้นอย่างทรมาน ทั้งเจ็บ ทั้งจุก แต่มันหยุดไม่ได้
ถ้าหยุดคงโดนเป่ากบาลตายคาท่อนเอ็นอุ่นๆที่เสียบคาอยู่ที่ช่องทางด้านหลัง


ผมยกสะโพกขึ้นลงจนสุดความยาว เน้นที่ส่วนปลาย พอใกล้จะหลุด ผมก็หมุนคว้านสะโพกเป็นวงกลม
จากแรกๆที่ค่อยๆทำช้าๆ ขมิบถี่ๆตอนยกตัวขึ้นลง
ผมปรับจังหวะเร็วขึ้นเมื่อหาตำแหน่งที่แก่นกายยาวแทงไปโดนจุดเสียว


“อ๊ะ…อ๊ะ…”ผมร้องออกมาอย่างเสียจริตชาย เมื่อกระแทกโดนจุดเสียวทุกครั้งที่กดสะโพลกลงมา เจ้าหนอนชาเขียวของผมแดงก่ำจนเหมือนจะระเบิด


“อ๊า…”ผมครางยาวเมื่อท่านจับสะโพกผมแน่น ก่อนจะสวนสะโพกขึ้นมารับกับจังหวะที่ผมกดสะโพกลงไป


“ท่านครับ อ๊า…อึก เอาผม เอาผมที เอาผมให้แตกคารู”ผมแอ่นอก เชิดหน้าขึ้น ก่อนจะเอนไปด้านหลังเมื่อท่านเร่งจังหวะเร็วขึ้น ผมซบหน้ากับซอกคอท่านน้ำตาซึม ผมจูบเบาๆที่สันกรามสวย ก่อนจะขอร้องท่าน


ไม่ไหว
ไม่ไหวแล้วจริงๆ
เสียวจนทรมานเหมือนจะตาย...


ท่านจับผมคลานท่าหมา ยกสะโพกผมขึ้นก่อนจะซอยสะโพกเข้าออกอย่างรุนแรงดิบเถื่อน


บางครั้งที่แขนผมอ่อนแรง ผมก็ทรุดลงในถังไม้โอ๊ค สำลักน้ำจนแสบจมูกไปหมด


“อึกๆ” ผมดำบุ๋มๆอยู่ในน้ำสักพัก รู้สึกทั้งเสียว ทั้งจะขาดอากาศหายใจตาย จนสุดท้ายท่านกระชากหัวผมขึ้นมานั่นแหละผมถึงมีโอกาสหายใจอีกครั้ง


“เสียวมากไหม? อีกะหรี่ กูจะเอามึงให้ตายคาKกูวันนี้นี่แหละ” ท่านปลดเชือกที่มัดข้อมือผมออก ก่อนจะดึงสองแขนผมไปด้านหลังแล้วซอยสะโพกถี่ๆ จังหวะการซอยทั้งรวดเร็ว ดุดัน รุนแรง


ผมว่าท่านมีอารมณ์มากขึ้นตอนผมพูดจาหยาบๆ ทำตัวกักขฬะเวลามีเซ็กส์

“แรง…อึก…อีก”


“ร่านแล้วนะมึง”ท่านตีสะโพกผมจนขึ้นรอยแดงเป็นรูปฝ่ามือ แสบไปหมด แต่ไม่รู้ทำไม ถึงผมจะรู้สึกเจ็บ แต่กลับมีอารมณ์มากขึ้น เสียวจนร้องขอชีวิต


“ท่าน อ๊า…ผม จะ...ไป”ผมแอ่นสะโพกรับกับจังหวะเอวของท่าน ผมเชิดหน้าขึ้น อา... เสียวเหลือเกิน


“ไปพร้อมกัน”ท่านซอยสะโพกหนักเข้าออกอีกสามสี่ครั้ง ก่อนจะถอนแก่นกายออกจากช่องทางอ่อนนุ่ม ผมพยายามขมิบดึงรั้งไว้แต่ก็ไม่ทัน


“อยากได้ขนาดนั้นเชียว”ท่านเชยคางผมขึ้น ตีหน้าผมด้วยแก่นกายร้อน ผมแลบลิ้นออกมาอย่างรู้งาน


ทุกครั้งที่แก่นกายตีลงมาโดนปาก ผมก็จะดูดหนักๆที่ส่วนหัวบานๆ


“อ๊ะ…เจ็บ” ผมร้องออกมาเมื่อท่านจิกหัวผมแรงกว่าเดิมเมื่อใกล้จะปลดปล่อย ท่านสไลด์มืออีกไม่เท่าไหร่ น้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งออกมาเลอะบนใบหน้าผม


“อา…”ท่านครางออกมาเมื่อปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาจนหมด


ผมครอบริมฝีปากลงบนแก่นกาย ไล้เลียทำความสะอาดอย่างรู้งาน ค่อยๆเบี่ยงหาทิศทางรับเจ้ามังกรยักษ์เข้าไปจนสุดโคน


“อึก…อ่อก”ผมสำลักเมื่อท่านกดหัวผมค้างไว้ ไม่ยอมปล่อยออก


“แค่กๆ อึก”ผมสำลักน้ำตาคลอ เมื่อท่านยอมปล่อย


“ท่านครับ ช่วยผม”ผมรีบดึงมือท่านเมื่อท่านก้าวออกจากถังไม้โอ๊ค


“หน้าที่ชั้นเหรอ?”


“ไม่ใช่ครับ”


“น่าสมเพชที่สุด อยากมากก็ช่วยตัวเองไปแล้วกัน”ท่านโยนดิลโด้อันใหญ่มาให้ก่อนจะเดินไปอาบน้ำ


ผมกัดริมฝีปากตัวเองน้ำตาคลอ ผมจะเสร็จอยู่แล้ว ถ้าท่านปลดวงแหวนออกให้
คำพูดที่บอกว่า ‘ไปพร้อมกัน’ นั่นไม่จริงสักนิด
รู้ไปถึงไหนอายถึงนั่น ผู้ชายที่มีแต่ผู้หญิงมาทั้งชีวิต เกือบเสร็จเพราะโดนเยทางประตูหลัง


ไม่มีการเล้าโลมใดๆ
ไม่มีการกอด
ไม่มีการจูบ
มีเพียงแค่การสอดใส่เท่านั้น


ถึงจะเจ็บใจ รู้สึกเสียศักดิ์ศรีมากเท่าไหร่กับการผมจะขายตัวในครั้งนี้ 
แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเซ็กส์ของท่านมันสุดยอดจริงๆ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 1 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 06-02-2018 09:49:29
 o13
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 1 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 06-02-2018 12:20:48
ฮือออออออออออ
ดราม่ามากมั้ย?
ถ้ามากเราก็จะอ่าน
ชอบบบบบบบ แรงๆ แบบนี้ยิ่งชอบ

ท่านนี่มันสุดๆ ไปเลย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 2 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 06-02-2018 13:45:06
งือออ สามพียังไงจะได้เตรียมใจถูก สองเมะ สองเคะ หรือยังไงอ่า  :heaven
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 2 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 06-02-2018 16:11:08
ไม่อ่อนโยนเลย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 2 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 06-02-2018 17:01:20
อื้อหือออออออ หวังว่าที่พริ้มเสียสละเพื่อน้องไปมันจะคุ้มค่านะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 2 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 06-02-2018 18:39:44
โอเค อย่างน้อยพริ้มก็ยังมีฟินๆอยู่บ้าง แต่ท่านโหดมาก ซาดิสม์ไหมอ่ะ ส่วนพริ้มก็มาโซ อิอิ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 2 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-02-2018 18:42:30
 :a5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 2 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-02-2018 20:54:23
ท่าน ปากหมา ปากจัดไปหน่อยไหม พูดจาทุเรศ แย่มากกกกกกกก   :fire: :angry2: :z6:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 2 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-02-2018 01:59:08
ท่าน นิสัยไม่ดี ใจร้าย คนแก่ไม่ชอบ โป้งแล้ว   o13
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 3 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 11-02-2018 12:45:38
ตอนที่ 3


“นี่เสื้อผ้าที่ท่านสั่งให้เตรียมให้ครับ”พี่บอดี้การ์ดคนที่พาผมขึ้นมายื่นถุงเสื้อผ้าแบรนด์ดังให้ผมทันทีที่ผมก้าวออกมาจากห้องน้ำ


“ขอบคุณครับ”ผมหยิบถุงเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ราคาแพงแบบที่ผมเอื้อมไม่ถึงมาเปิดดู


ด้านในถุงมีเสื้อยืดสีขาวนวลพับไว้อย่างประณีตห่อทับอีกชั้นด้วยกระดาษ กับกางเกงยีนส์ขายาว
ถึงจะเป็นของที่ดูธรรมดา แต่เนื้อผ้าและการตัดเย็บก็บอกราคา ของดีมีคุณภาพแบบนี้ที่ผมไม่เคยมีโอกาสได้ใส่


ผมเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ ออกมาอีกทีก็ยังเจอคุณบอดี้การ์ดคนเดิมยืนอยู่ เขายื่นซองสีน้ำตาลมาให้ผม


“เงินสด 50,000 บาทครับตามที่ตกลงกันไว้”


“หมายความว่าท่านจะ…”ผมรับซองเงินปึกหนามาด้วยความรู้สึกหลากหลาย


ใจหนึ่งก็…โล่งอก ที่ไม่ต้องรองรับอารมณ์แสนโหดร้าย ป่าเถื่อนแบบวันนี้อีก
ใจหนึ่งก็…โหยหา มีคนเคยบอกว่า ถ้าเราได้ลองมีอะไรกับใคร ความผูกพันธ์มันจะค่อยๆก่อตัวขึ้นเอง ถึงผมจะบริการผู้หญิงมาเยอะ แต่ก็ไม่เคยลึกซึ้งกับใครถึงขั้นนี้ ท่านเป็น…คนแรกของผม


“ใช่ครับ นี่คือค่าเสียโอกาส ค่าทำขวัญที่ท่านตกลงจะจ่ายให้คุณ”


“ขอบคุณครับ”


ผมยกมือไหว้ขอบคุณ หยิบเงินเก็บในกระเป๋า
ผมเหลือบมองไปรอบๆห้องที่ไม่เห็นแม้แต่เงาของใคร ที่หน้าประตูไม่มีบอดี้การ์ดยืนเฝ้าไว้เหมือนตอนแรกที่ผมมาถึง
ท่านคงไปแล้ว…


ผมเดินออกจากโรงแรมอย่างเหม่อลอย
ระหว่างทางมีร้านข้าวต้มยามดึกเปิดขาย มีคุณลุงปิ้งคอหมูย่างขายควันหอมฉุย


ไม่รู้ทำไมน้ำตามันถึงไหลออกมา
เช็ดเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที


เวลาที่เห็นคนอื่นประกอบอาชีพขาวสะอาด ได้เงินแต่ละบาทมาอย่างบริสุทธิ์
ผมก็อดละอายใจตัวเองไม่ได้
เงินที่มีกินมีใช้อยู่ทุกวันนี้มันเงิน…สกปรกทั้งนั้น


ไม่ใช่แค่เงินที่…สกปรก
ตัวผมเองก็…สกปรกเหมือนกัน
มีค่าเพียงแค่ตุ๊กตายางมีชีวิต ให้เขาปลดปล่อยอารมณ์ ทำเสร็จก็โยนทิ้งขว้างไว้ข้างทาง ไม่ต้องใส่ใจ


ผมเชื่อคำพูดที่บอกว่า ‘เวลาที่เราตัดสินใจจะทำอะไร ต้องคิดให้ดี อย่าทำอะไรที่ตัวเองจะเสียใจภายหลัง’
แต่ผมก็อดรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปไม่ได้
งานดีๆ อาชีพสุจริตก็มีมากมาย
ทำไมผมถึงต้องมาขายตัว ขายศักดิ์ศรี แลกเศษเงินของพวกเศรษฐี


ผมคงมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ถ้าพ่อแม่ไม่ฆ่าตัวตายหนีหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ
ทุกวันนี้การที่มีภาระต้องส่งน้องเรียนและหาเงินมาใช้หนี้นอกระบบก้อนโตเกือบ 10 ล้านมันหนักหนาสำหรับผมเหลือเกิน
ผมอยากจะยอมแพ้ต่อโชคชะตาที่โหดร้ายในชีวิต


ทุกวันนี้ผมทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต กลางวันรับจ๊อบทั่วไปกินเงินค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท
กลางคืนทำงานบาร์โฮสต์ดูแลลูกค้าได้คืนละ 20,000 บาท ถ้าช่วงไหนเงินไม่พอใช้ก็ต้องรับตุ๊กตาหมีมาเย็บ
แต่ถึงจะหาเงินได้มากเท่าไหน มันก็ยังไม่พออยู่ดี
ดอกเบี้ยเงินกู้มันขึ้นเร็วเหมือนเงาตามตัว จ่ายไปเท่าไหร่ก็เป็นดอกหมด ต้นไม่ลดสักที


ผมเงยหน้ามองดวงจันทร์สีเหลืองนวลที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าสีดำสนิท
บนนั้นจะมีกระต่ายรึเปล่านะ?
ผมอยากจะอธิษฐานขอเหลือเกิน…



จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง

ขอแหวนทองแดง ผูกมือน้องข้า

ขอช้างขอม้า ให้น้องข้าขี่

ขอเก้าอี้ ให้น้องข้านั่ง

ขอเตียงตั่ง ให้น้องข้านอน

ขอละคร ให้น้องข้าดู

ขอยายชู เลี้ยงน้องข้าเถิด

.
.
.

ขอยายเกิด เลี้ยงตัวข้าเอง



ผมไม่ได้อยากขออะไรมากมายให้ตัวเอง
ผมขอแค่มีที่ซุกหัวนอน มีข้าวกินครบ 3 มื้อแบบไม่ต้องดิ้นรนให้ได้มาแบบทุกวันนี้ แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว


ชีวิต 2 ปีที่ผ่านมามันเหนื่อยเหลือเกิน
ถ้ามีคนอุปถัมภ์อุ้มชูผมบ้างก็คงดี


Rose Club


ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยแสงสีและความมัวเมาในคลับ ทุกคนล้วนแต่เต้นกันอย่างสนุกสนานเข้ากับจังหวะเพลงที่ดีเจเปิดอยู่ แต่ใจผมกลับไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเลย


ทุกอย่างมัน…ว่างเปล่าไปหมด


“เป็นไงบ้างจ๊ะ เมื่อคืนเด็ดไหม?”เจ๊จีน่าเดินกรีดกรายเข้ามาหาผมด้วยชุดสายเดี่ยวสีแดงเพลิง เผยให้เห็นหัวไหล่กลมมน ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงมาเป็นอย่างดี


สวยจนไม่รู้ว่าตอนแต่งหน้ากับหลังล้างหน้าแล้วเป็นคนๆเดียวกัน
 

“ก็ดีครับ”ผมตอบปัดๆแบบขอไปที


“ระดับคุณรัตติกาลนี่เจ๊ว่าไม่น่าจะใช่แค่ก็ดีนะ”


“คุณรัตติกาล นั่นชื่อท่านเหรอครับ”ผมถามอย่างสงสัย ไหนตอนแรกเจ๊จีน่าบอกว่าไม่รู้จัก…รู้แค่ว่าท่านเป็นคนเงินหนา จ่ายหนัก


“คุณรัตติกาลเป็นนักธุรกิจจ๊ะ ติดอันดับ 1 ใน 5 นักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในไทยตอนนี้ ท่านดูแลงานฉากหน้าที่เป็นธุรกิจสีขาวของตระกูล ครอบครัวเขาอีกฝั่งเป็นคนมีสี สืบเชื้อสายกันรุ่นต่อรุ่น ใหญ่โตคับฟ้า ดูแลธุรกิจสีเทาๆ”


“คนมีสี…”ผมรำพึงออกมา ก่อนที่สมองเล็กๆของผมจะเริ่มประมวลผล เพราะแบบนี้สินะ ถึงต้องมีบอดี้การ์ดคุ้มกันมากมาย


“ค้าอาวุธ ค้ายา ค้ามนุษย์เหรอครับ?”ถ้าคิดถึงธุรกิจสีเทาที่สัมพันธ์กับคนมีสีคงไม่พ้นเรื่องพวกนี้


“อย่ามาถามเจ๊ เจ๊ไม่รู้ เจ๊ไม่พูด พริ้มรู้แค่ว่าอย่าทำให้ท่านไม่พอใจก็พอ”เจ๊รีบปฏิเสธหน้าตายว่าไม่รู้ข้อมูลลับ


ถ้าระดับเจ๊จีน่ายังไม่รู้ แล้วใครในโลกละที่จะรู้


“ทำไมเจ๊ไม่บอกผมก่อนว่าท่านคือใคร”ผมอดไม่ได้ที่จะถามออกมาด้วยความคับข้องใจ ถ้ารู้…ผมคงไม่ไปหาท่าน


รอยช้ำสีม่วงอมเขียวที่หน้าอกยังเด่นชัดเป็นหลักฐานชั้นดีว่าเมื่อคืนผมโดนกระทำหนักมากแค่ไหน


“อ๊ะ…”ผมสะดุ้งขึ้นมาเมื่อเจ๊จับแผลที่มุมปากซึ่งเกิดจากการโดนตบ


“เจ๊ขอโทษนะ”ผมถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ปัดมือเจ๊ออกอย่างสุภาพ
การ์ดที่คุมอยู่รอบๆคลับเริ่มส่งสายตามามอง ขืนปล่อยให้จับ คงเอาเรื่องนี้ไปรายงานผัวเจ๊แกอีก ผมยังไม่พร้อมจะมีปัญหาอะไรมากวนใจอีก


คำขอโทษของเจ๊ในวันนี้ ไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นสักนิด
สิ่งที่เจ๊ทำกับผมก็เหมือนการ ‘ตบหัวแล้วลูบหลัง’


ชีวิตคนจนที่เหมือนหมาจนตรอก ไม่มีทางเลือกมากนักหรอก นอกจากเป็นเบี้ยให้เขาหลอกใช้
ผมที่ต้องการเงินกับเจ๊ที่ต้องการเด็กสักคนไปเซ่นสังเวยเศรษฐีกระเป๋าหนัก


“คืนนี้ผมมีคิวจองไหมครับ?”ปกติถ้าเป็นดาวเด่นของร้านหรือทำงานมานาน มักจะมีลูกค้าที่ติดใจการให้บริการของเรา วันไหนที่ลูกค้าจะเข้าร้าน เขาจะโทรมาจองคิวเด็กตัวเองไว้ล่วงหน้า


ผมถึงจะทำงานมานาน แต่ก็ยังไม่ได้เป็นดาวเด่นสำหรับลูกค้า
เรียกว่าอยู่ระดับกลางๆค่อนบน
ไม่ได้มีงานทุกคืน แต่ถ้าคืนไหนมีงาน ก็มักจะได้ลูกค้าสายเปย์ กระเป๋าหนัก ทุ่มไม่อั้น


“ไม่มีจ๊ะ”


ถ้าคืนนี้ไม่มีลูกค้าจอง ผมคงว่าง ไม่ต้องทำงาน
ใครจะอยากได้โฮสต์หน้าตายับเยินไปบริการ


ปกติลูกค้าผมจะเป็นผู้หญิง ส่วนมากจะเหมาผมทั้งคืน คืนละ 100 ดริ้ง ดริ้งละ 350 บาท ผมได้เงินประมาณ 20,000 บาท
ค่าใช้จ่ายพวกเหล้า เบียร์ มิกเซอร์ และเงินค่าดริ้งบางส่วน ร้านก็จะเก็บไป


Rose club เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 2 ทุ่มจนถึงตี 4 ส่วนมากลูกค้าจะแน่นช่วงเที่ยงคืนถึงตี 2 เป็นลูกค้ากลุ่มที่มาต่อจากที่อื่น
ลูกค้าในคลับมีหลายแบบทั้งคนทำงานออฟฟิศทั่วไป พริตตี้ ไฮซ้อไฮโซที่สามีที่บ้านนกเขาไม่ขัน


เรามีหน้าที่ดูแล ทำให้ลูกค้าทุกคนพึงพอใจอย่างสุดความสามารถ แต่ทางคลับไม่อนุญาตให้โฮสต์มีอะไรกับลูกค้า
ลูกค้าบางคนมาเพราะต้องการเพื่อนคุยแก้เหงา เพื่อนดื่ม เพื่อนเต้นหรือแม้กระทั่งคนรับฟังปัญหาชีวิต
แต่ถ้าสำหรับคนที่อยากไปต่อก็ตกลงกันเอาเอง
ร้านปิดก็ทางใครทางมัน อยากจะลงนรกหรือขึ้นสวรรค์ คลับคงตามไปห้ามไม่ได้


ผมเหลือบตามองโต๊ะใหม่ที่พีอาร์เชิญลูกค้าเข้ามา
เธอเป็นผู้หญิงสวย รูปร่าง หน้าตา ท่าทางดี


ปกติถ้าลูกค้าเข้ามา พีอาร์จะถามว่ามีโฮสต์ประจำที่ต้องการเรียกใช้เป็นพิเศษไหม
ถ้าไม่มีโฮส์ประจำ พีอาร์ก็เรียกโฮสต์ที่ว่างอยู่ทั้งหมดไป ‘ยืน’ ล้อมรอบโต๊ะให้ลูกค้าเลือก
อยากเลือกคนเดียวหรือทั้งหมดก็ได้
ถ้ากระเป๋าหนักพอ


คืนนี้ผมถูกเรียกไป ‘ยืน’ เกือบ 5 รอบก็ยังไม่มีลูกค้าเรียกสักที
สุดท้ายผมก็ตัดสินใจเก็บของกลับบ้าน
หน้าตายับเยินแบบนี้ ถึงจะใช้รองพื้นหนาเท่าฝากำแพงบ้านยังไงก็ปิดไว้ไม่อยู่


“กลับแล้วเหรอ?”เจ๊เดินนวดนาดเข้ามาถามผม


“กลับแล้วครับ”


“ถ้าไม่ไหวก็ลาได้นะ เจ๊อนุญาต”ผมพยักหน้ารับคำ ยกมือไหว้เจ๊ก่อนจะเดินออกจากคลับ


ผมเดินเหม่อลอยไปเรื่อยๆบนฟุตบาท


ปริ๊นๆๆๆ


ผมหันหลังกลับไปมองรถเก๋งสีขาวที่ส่งเสียงบีบแตรเรียกผมเป็นครั้งที่ 3 ครั้งแรกผมก็ไม่ได้สนใจ คิดว่าเขาบีบแตรรถคันอื่นไม่ได้เรียกผม


“พี่พริ้มไปไหนครับ? ขึ้นรถสิ ผมไปส่ง”น้องนัทที่เป็นเพื่อนน้องชายผมลดกระจกลง แล้วตะโกนข้ามเลนส์ถนนมาถามผมที่เดินอยู่บนฟุตบาท


“อ้าวนัท”


“พี่ครับ ขึ้นรถเร็ว คันหลังจะด่าแม่ผมแล้ว”น้องตะโกนมาเร่งผม เนื่องจากตอนนี้ไฟเขียวแล้วแต่น้องก็ยังไม่ยอมออกรถ รอผมไปขึ้น


“ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ”ผมปฏิเสธอย่างสุภาพ แต่น้องก็ยังไม่ยอมออกรถ


“พี่พริ้มมมม ขึ้นรถเหอะ ผมไปส่ง”น้องขับรถตามผมที่เดินเร็วหนีน้องพร้อมกับบีบแตรไปด้วย


“ขึ้นรถไปเหอะน้อง เดือดร้อนคนอื่น”พี่วินมอเตอร์ไซค์ที่ผมใช้บริการประจำเวลานั่งรถจากบีทีเอสไปที่คลับขับผ่านมาแล้วตะโกนบอก ผมหันไปมองข้างหลังรถน้องนัทก็เห็นรถอีกหลายคันที่ต่อแถวอยู่


“พี่ขึ้นรถผมตั้งแต่แรกก็จบแล้ว”น้องบ่นทันทีที่ผมขึ้นมาแล้วปิดประตูรถ


“นัทจะไปไหน? ส่งพี่ที่บีทีเอสหน้าปากซอยก็ได้นะ”


“ผมจะกลับบ้านครับ พี่ยังอยู่บ้านหลังเดิมรึเปล่า เดี๋ยวผมไปส่ง”


“ไม่ได้อยู่แล้วละ”


“ตอนนี้พี่อยู่ไหน?”


“พี่เช่าห้องพักอยู่ที่อื่น”


“งั้นพี่บอกทางผมละกัน เดี๋ยวผมขับไปส่ง กันอยู่ด้วยใช่ไหมพี่? ดีเลย ผมจะได้ไปเจอมันด้วย ไม่ได้เจอนานแล้ว”


“ป่าวหรอก แยกกันอยู่”


“อ้าว ทำไมอะพี่?”น้องขมวดคิ้วหันมาถามผมด้วยท่าทางสงสัย


“ที่พักพี่ไกลมหาลัยของกัน พี่กลัวเขาไม่สะดวกเวลาต้องส่งงานอาจารย์ตอนเช้า เขาต้องขนกระดาษดราฟแบบ ขนโมเดล พี่เลยให้เขาเช่าหออยู่แถวมหาลัย”


“นัทส่งพี่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวพี่ขึ้นบีทีเอสไปเอง”ผมรีบบอกทันทีที่ถึงหน้าปากซอย


“เฮ้ยยยย ไม่เอาพี่ เดี๋ยวผมไปส่ง”


“ไม่เป็นไรจริงๆ ขอบคุณนะ”ผมไม่รอให้น้องปฏิเสธ รีบเปิดประตูลงตอนที่รถยังจอดติดไฟแดงรอเลี้ยวซ้ายออกจากซอย


“เฮ้ย พี่ เดี๋ยววววววว”น้องลดกระจกลงเรียกผมดังลั่น แต่ผมไม่สนใจ รีบสาวเท้าขึ้นบีทีเอสเพื่อกลับหอพัก


ขืนนั่งไปด้วยกันต่อแล้วน้องถามว่าตอนนี้ทำอาชีพอะไรอยู่ ผมคงตอบไม่ถูก


ถึงผมจะไม่อายกับเส้นที่ตัวเองเลือก
แต่น้องชายผมคงไม่คิดแบบนั้น
ถ้าวันนึงเขารู้ว่าผมทำงานแบบนี้…ผมคงกลายเป็นพี่ชายน่ารังเกียจที่น้องพร้อมจะตัดสายสัมพันธ์ได้ทุกเมื่อ


ผมขึ้นรถไฟฟ้าโดยที่ไม่ต้องเบียดเสียดผู้คนมากมาย โชคดีแค่ไหนแล้วที่ยังกลับทันรถไฟฟ้าเที่ยวสุดท้าย
ปกติถ้าผมเลิกงานตีสี่ ผมจะงีบที่ร้านจนถึงตีห้าครึ่งแล้วค่อยเดินออกจากซอยมาขึ้นบีทีเอส
กลับถึงหอหกโมงกว่าก็นอนจนถึง 10 โมง
11 โมงก็เข้าไปทำงานที่ร้านกาแฟจนถึง 6 โมงเย็น
หลังจากนั้นก็กลับไปอาบน้ำแต่งตัวมาทำงานที่คลับ


ทุกวันเวลา 5 โมงเย็น ในขณะที่คนอื่นยอมเบียดเสียดเป็นปลากระป๋องบนบีทีเอสเพื่อรีบกลับบ้าน
แต่ผมพึ่งจะออกไปทำงาน
ชีวิตผมวนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทุกวันไม่มีอะไรแปลกใหม่


หอพัก


“อ้าวววววว อีพริ้ม ทำไมกลับเร็วได้ยะ”เจ๊ซอนย่า สาวสองที่อยู่ข้างห้องผมทักขึ้นมา ขณะผมกำลังไขกุญแจห้อง


“วันนี้ไม่มีลูกค้า”


“ไม่มีลูกค้า แล้วจะเอาเงินที่ไหนกิน”


“เฮ้อออออ”ผมถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ


คงไม่ใช่แค่วันนี้ที่ไม่มีลูกค้า แต่ผมคงไม่มีไปอีกสักพักจนกว่าแผลบนหน้าผมจะหาย


งานโฮสต์ก็แบบนี้ วันไหนมีลูกค้าก็มีเงิน วันไหนไม่มีก็ไม่มีเงิน หาเงินกินกันวันต่อวัน ไม่มีเงินเดือนประจำ ไม่มีการการันตีเงินเดือนขั้นต่ำจากร้าน


ถ้าไม่ใช่ ‘ดาว’ แล้วอยากได้ลูกค้า ก็ต้องรีบไป ‘ยืน’ ตั้งแต่หัวค่ำ
ถ้ายืนแล้วไม่มีใครเลือกก็จะปลายเป็นของ ‘เน่า’ ประจำวัน ช่วงใกล้ๆร้านจะปิด พีอาร์ก็จะขออนุญาตลูกค้าเอา ‘เน่า’ ไปแจมตามโต๊ะ ถ้าลูกค้าใจดี อาจจะได้สัก 5-10 ดริ๊งเป็นเงินค่าขนมเล็กๆน้อยๆ


สำหรับคนที่เป็น ‘ดาว’ มักจะมีลูกค้าประจำ ก็สบายหน่อย ไม่ต้องรีบเข้าคลับตั้งแต่หัวค่ำ นัดลูกค้าตัวเองมากี่โมงก็ค่อยเข้าคลับตอนนั้นก็ได้


“ช่วงเงินขาด เจ๊แนะนำงานพิเศษให้เอาไหม?”


“งานอะไรครับ?”ผมถามอย่างสงสัย ช่วงนี้ได้ยินคำว่า ‘พิเศษ’ทีไร แล้วอดขนลุกไม่ได้ รู้สึกเหมือนกำลังถูกล่อลวงไปในทางที่ไม่ดียังไงไม่รู้


“งาน online ง่ายๆ รายได้ดี”


“รับคีย์งานในอินเตอร์เน็ตอะไรแบบนั้นเหรอเจ๊ อย่ามาหลอกผมเลย ผมเห็นข้อความแบบนั้นแปะตามไอจีจนเบื่อละ”


“ไม่ใช่ย่ะ ชั้นจะแนะนำให้แกรู้จักการเป็น sugar baby ตังหาก”


“อะไรบี้ๆนะเจ๊? เฟอร์บี้ผมไม่เลี้ยงหรอกนะ ไม่มีเงินซื้อ”


“ไม่ใช่ว้อออยยยยย!!! ฟังชั้นสิยะ”เจ๊ซอนย่าโวยวายเสียงปรอทแตกพร้อมกับเท้าสะเอวมองผมหน้าเหวี่ยง


“ฮ่าๆ หยอกเล่นหน่า”


“คนอุตส่าห์จะบอกบุญ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสิยะ”


“ครับๆ”ผมรับคำเจ๊แล้วรีบทำตาม ปกติผมชอบแกล้งให้เจ๊แกเหวี่ยงนิดๆ แกล้งแกแล้วสนุกดี แต่สงสัยถ้าแกล้งไปมากกว่านี้ วันนี้เจ๊แกคงโกรธจริง


“เข้า Play Store แล้วโหลดแอพ Sugar”


“นี่มันแอพอะไรเจ๊”ผมเปิดแอพมาแล้วถามเจ๊งงๆ มีแต่รูปผู้ชายให้จิ้มเลือกเต็มไปหมด


“แอพ Sugar เป็นแอพที่ให้ Sugar daddy หมายถึง เสี่ยเลี้ยง มาเจอกับ Sugar baby ซึ่งก็คือ เด็กเลี้ยง แบบแกไง”


“เจอยังไง? นัดเจอแบบนัดบอร์ดเหรอ?”


“ไม่ใช่ แอพจะสุ่มเด็กเลี้ยงให้เสี่ยเลือกคุย โดยจะสุ่มเด็กที่มีคาแรกเตอร์แบบที่เสี่ยกรอกข้อมูลขอไว้ตอนแรก ถ้ามีเสี่ยทักมาแกก็คุยๆไป ถูกใจค่อยนัดเจอ แต่ว่าอย่าไปถึงขั้นนั้นเลย หางานง่ายๆสบายๆทำดีกว่า ไม่ต้องเปลืองตัว”


“ผมว่างานง่ายๆ เงินดีๆมันไม่มีจริงบนโลกหรอกนะเจ๊”


“แต่งานนี้ง่ายจริง มันจะมีเสี่ยบางคนชอบพวก Sex chat Sex phone Sex live ถ้าแกอยากขายก็แค่ขึ้นหน้าชื่อว่า online เดี๋ยวเสี่ยก็ทักมาเอง เอามานี่ เจ๊ทำให้”เจ๊หยิบมือถือผมไปจัดการกรอกประวัติ อัพรูป พร้อมกับขึ้น online ขายให้เสร็จสรรพ


“เจ๊ว่ามันไม่ดูโรคจิตไปหน่อยเหรอ?”


“ถึงจะดูโรคจิต แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่ แอพนี้มีแต่ daddy รวยๆทั้งนั้น จะสมัครได้ต้องมีรายได้มากกว่า 200,000 ดอลล่าร์ แอพถึงจะ verify ตัวตนให้ แต่แกเป็น baby ดังนั้น แชทฟรีนะจ๊ะ”


“ไม่เอาหรอกเจ๊ งานแบบนี้ผมไม่ถนัด”ผมหยิบมือถือคืนมาก่อนจะเปิดประตู


“ไม่เลือกงาน ไม่ยากจนนะยะ แค่โชว์ของนิดๆหน่อยๆให้เสี่ยเสียน้ำก็ได้เงินละ”


“ขอบคุณในความหวังดีครับ ผมนอนละ”ผมบอกเจ๊แล้วรีบปิดประตู แต่เจ๊เอามือมากันไว้ก่อน


“ถ้าแกสมัครละยังไม่มีคนทักมาก็กดตรงฟังก์ชั่นโฆษณานะ เสียเงินเพิ่มนิดหน่อย แต่แอพจะโฆษณาแกให้แด๊ดดี้รู้จักเยอะขึ้น”


“โอ๊ย ไม่เอาเจ๊ ผอมนอนละ บัยส์”ผมรีบปิดประตูล็อคห้อง มือกด log out ออกจากแอพแต่ไม่ทันไรก็มีคนทักมา


V : ทักครับ


*ONLINE Pimp: ครับ


ผมตอบกลับไปแล้วได้แต่ถอนหายใจ เจ๊เล่นผมแล้ว ตั้งชื่อขึ้นต้นด้วยคำว่า online ไม่พอ
ยังเปลี่ยนชื่อผมจาก Prim เป็น Pimp ที่แปลว่า แมงดา อีก
มันแก้ชื่อยังไงละเนี่ย?


V : รับ Sex live พร้อมอุปกรณ์เสริมไหมครับ เรทเท่าไหร่?


*Online Pimp : ตอนนี้ยังไม่รับครับ ขอโทษด้วย


หลังจากวันนั้นที่เจ๊ซอนย่ามัดมือชก โหลดแอพหาเสี่ยให้ผม
ผ่านไป 7 วันคนที่ชื่อ วี ก็ยังทักผมมาทุกวัน
บางวันทักมาชวนคุยเรื่องสารทุกข์สุกดิบ ดินฟ้าอากาศทั่วไป แต่บางวันก็ส่งข้อความทะลึ่ง ลามกมาให้
ผมเองก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างแล้วแต่ความว่างของวันนั้น




ถ้าวันไหนเขาทักมาคุยดีๆ ผมก็ตอบดีๆ แต่บางวันที่ลามกจกเปรตมา บางทีผมก็ไม่ตอบ ถ้าวันนั้นอารมณ์เสีย ผมก็ตอบแบบกวนตีนๆไป บางทีก็หลุดด่าเขาไปแรงๆ แต่เขาก็ยังไม่หยุดทักผมมาสักที


ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา คืนแรกๆที่แผลยังไม่หาย ผมไม่มีลูกค้าเลย
แต่พอหลังจากได้พัก 3-4 วัน แผลหายดีแล้ว ลูกค้าก็กลับมาเลือกผมมากขึ้น
ไม่ต้องออกไปยืนขาแข็งหลายรอบจนเป็นของ ‘เน่า’ ประจำร้าน


V : ถึงหอยังครับ


*Online Pimp : ถึงแล้ว


V : คุยกันมาอาทิตย์นึงยังไม่ยอมผมอีกเหรอ ใจร้ายจัง


*Online Pimp : send a photo


ผมส่งรูปนิ้วกลางไปให้เขา


V : นิ้วกลางไม่เอา ขอ เอา ตูดได้ปะ


*Online Pimp : ออกไปซื้อกินไป เอาๆให้น้ำแตก จะได้จบๆ ไม่ต้องมาเงี่ยนแถวนี้


V : ไม่เอาหรอก เห็นหน้าคนอื่นละมันไม่ตั้ง แต่กับพริ้มอะ แค่แชทไปดูรูปไปก็น้ำซึมละ


*Online Pimp : ถามจริง หน้าผู้ชายอย่างกูเนี่ยมันน่าพิศวาสขนาดนั้นเลยเหรอ?


V : เปิดกล้องดิ เดี๋ยวชักให้ดู จะได้รู้ว่าอยากแค่ไหน


*Online Pimp : ขอให้อยากจนจุกอกตาย


ผมตอบแชทเขา แล้วก็อาบน้ำเตรียมตัวจะนอน น้องชายผมก็โทรมาหา


“มีอะไรหรือเปล่า โทรหาพี่แต่เช้า?”ผมเงยหน้ามองนาฬิกาที่บอกเวลา 7 โมงเช้า ปกติเวลานี้น้องผมยังไม่ตื่น


“โน๊ตบุ๊คผมพัง วันนี้ต้องเอาไปซ่อม พี่โอนเงินให้ผมสักหมื่นได้ไหม”


“พี่ไม่มีหรอก พึ่งจ่ายค่าหอของเรากับพี่ไป เหลือเงินติดตัวอยู่ 500”


“ถ้าพี่ไม่มีเงินแล้วผมจะทำงานยังไง ช่วงนี้อาจารย์ยิ่งเร่งๆงานอยู่ พี่อยากให้ผมได้ F งานชิ้นนี้เหรอ?”


“ยืมคอมเพื่อนก่อนได้ไหม? เดือนหน้าเงินเดือนออกแล้วพี่จะให้”


“เพื่อนผมก็ต้องใช้ทำงานปะ พี่อย่าถามโง่ๆดิ ใครมันจะไปให้ยืมคอม”


“ทำห้องคอมในห้องสมุดไม่ได้เหรอ?”


“สเปคคอมในห้องคอมมันต่ำ ทำงานออกแบบไม่ได้หรอก แปปๆก็ค้าง”


“จะเอาคอมไปซ่อมกี่โมง พี่จะโทรไปยืมเพื่อนให้”


“เที่ยง”


“โอเค เดี๋ยวพี่จัดการให้”


หลังจากวางสายก็เปิดดูเบอร์โทรในโทรศัพท์ตัวเอง เลื่อนขึ้นเลื่อนลงกี่รอบต่อกี่รอบ ก็ไม่มีใครพอที่ผมจะหยิบยืมได้เลย จะโทรไปขอเจ๊ก็เกรงใจ จนสุดท้ายผมก็นึกถึงเขา…


*Online Pimp : Sex live 10,000 บาท โอนตอนนี้ สนใจไหม?


V : ยังไม่ทันอยากจนขาดใจ พริ้มก็มาเสนอซะแล้ว ไม่ยากเลย


*Online Pimp : บล็อคนะ


V : หึๆ ขี้น้อยใจจัง ส่งเลขบัญชีมาสิ ให้ 20,000 เลยแต่ต้องมีอุปกรณ์เสริมนะ เอาไหม?


เงินก็อยากได้ แต่ใจก็กลัว เดาไม่ถูกว่าอุปกรณ์เสริมคืออะไร
แต่สุดท้ายความโลภก็บังตา


*Online Pimp : send a photo
ผมส่งเลขที่บัญชีตัวเองให้เขาแทนการตอบตกลง


V : send a photo
เขาส่งสลิปใบโอนออนไลน์มาให้
ผมจัดการโอนเงินครึ่งหนึ่งของที่ได้มาต่อให้น้อง


V : ขอที่อยู่หน่อยสิ จะให้ messenger ส่งของไปให้


*Online Pimp : ห้อง 304 หอพัก…


ผมพิมพ์ที่อยู่ส่งให้เขาไปแล้วก็พึ่งคิดได้ว่าไม่ควรให้ที่อยู่ละเอียดกับคนแปลกหน้า
เกิดเขาเป็นพวกโรคจิตตามผมมาถึงที่พักจะทำยังไง
เฮ้อออออ ความโลภมันทำให้คนหน้ามืดได้จริงๆ


V : คืนนี้ 2 ทุ่ม เรามาสนุกกันนะ


สนุกกับผีหนะสิ!


*Online Pimp : ให้ที่อยู่แค่ส่งของเท่านั้นนะ


V : ไม่ต้องห่วงหรอก เราชอบผ่าน vdo มากกว่า เร้าอารมณ์กว่ากันเยอะ


เขานี่มันโรคจิตเต็มขั้นจริงๆ ผมตัดสินใจผิดรึเปล่านะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 3 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 11-02-2018 16:02:01
น้องเลวแน่เลย มาจิ้ดเดียวก็เกลียดแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 3 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 11-02-2018 16:41:49
สนุกกกกกกกก อยากอ่านต่อแล้ว  :z3:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 3 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 11-02-2018 20:05:03
รอออออออ. ใครเป็นsugar daddy
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 3 P.1 3.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-02-2018 03:31:42
ท่าทางจะเลี้ยงน้องแบบเปย์อย่างเดียว ต้องการอะไรจะเข้าเด๋วนั้น ดูแล้วน้องจะไม่สงสารพี่ตัวเองเลยนะ เอาแต่ตัวเองสบายอย่างเดียว  :serius2:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 3 P.1 3.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 12-02-2018 12:13:33
รอชม
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 3 P.1 3.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 13-02-2018 01:36:20
น้องนี่ชักยังไงๆละ ใช้เงินเกินตัวจัง
มาเร่งพี่เหมือนรวยมากทั้งๆที่บ้านล้มละลายนี่นะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 4 P.1 14.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 14-02-2018 18:26:19
ตอนที่ 4


ผมนอนอืด พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงอย่างขี้เกียจจนถึงเที่ยง
วันนี้เป็นหยุดครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ผมไม่ต้องไปทำงานที่ร้านกาแฟ เนื่องจากพี่เจ้าของร้านหยุดตรุษจีน


พี่เจ้าของร้านกาแฟที่ผมทำงานอยู่ด้วยเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆน่ารัก พี่เขาชื่อ ‘ส้มโอ’
พี่ส้มโอเป็นคนใจดี เวลาลูกค้ามาซื้อกาแฟก็ชอบแถมขนมนมเนยที่พี่เขาหัดทำให้ลูกค้าเป็นประจำ
ผมเองก็ได้อนิสงค์นั้นไปด้วย ที่ห้องผมมีขนมให้ทานตลอด ไม่เคยขาด

ผมมองยอดเงินในบัญชีธนาคารที่พี่ส้มโอพึ่งโอนให้ 1,000 บาทเป็นเงินแต๊ะเอียอย่างดีใจ
ถึงจะเป็นจำนวนเงินที่ไม่ได้มากมายอะไร
แต่ผมก็ดีใจ
นานแค่ไหนแล้วนะ…ที่ไม่มีคนให้เงินผมด้วยความเอ็นดู โดยที่ผมไม่ต้องเอาตัวไปแลก


ผมพลิกตัวเหลือบไปมองด้านนอกหน้าต่างที่ดวงอาทิตย์กำลังส่องแสงแผดเผา
เที่ยงกว่าแล้วสินะ…ผมควรเลิกนอน แล้วลุกขึ้นมาทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสำหรับวันนี้สักที
ผมลุกจากเตียง สลัดตัวขี้เกียจออกร่าง คว้าผ้าเช็ดตัวที่ตากอยู่ที่ระเบียงก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ


วันนี้วันหยุดทั้งที…ผมควรจะทำอะไรดีนะ?
ผมคิดคำถามเดิมวนไปตั้งแต่เริ่มอาบน้ำจนแต่งตัวเสร็จแล้วก็ยังไม่ได้คำตอบให้ตัวเองสักที
มีหลายสิ่งที่ผมอยากทำเหลือเกิน ผมอยากเรียนหนังสือ ผมอยากไปสังสรรค์กับเพื่อน ผมอยากไปกินอาหารในร้านดีๆ
แต่ทุกสิ่งที่ผมคิดมันล้วนเป็นไปไม่ได้
นี่สินะ…วิถีของคนไม่มีเพื่อน ไม่มีงาน และไม่มีเงินอย่างแท้จริง


ผมถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ ประจวบเหมาะกับน้องที่ไลน์มาบอกพอดีว่ากำลังเอาคอมไปซ่อม
ช่วงนี้งานน้องคงยุ่ง ถึงได้รีบใช้คอมขนาดนี้…ไม่รู้ว่าหอเละเทะไปถึงไหน
ไปทำความสะอาดห้องให้น้องดูเป็นสิ่งที่พี่ชายอย่างผมควรทำมากที่สุด
ไม่ต้องมีเพื่อนไปด้วย แถมยังไม่ต้องเสียเงินไปกินร้านอาหารแพงๆอีก


ผมใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงโดยสารรถไฟฟ้า BTS ต่อรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ก็มาถึงหอพักของน้องชาย
หอพักนี้เป็นหอพักที่พึ่งสร้างขึ้นใหม่ ห้องค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะดราฟขนาดใหญ่ได้
มีร้านสะดวกซื้อให้บริการอยู่ใต้หอ 24 ชม. เหมาะกับน้องผมที่มักจะหิวตอนดึกระหว่างทำงาน
สำหรับผมหอพักที่นี่ถือว่ามีทุกอย่างพร้อม เดินทางสะดวก แน่นอนว่าราคามันก็สูงตามไปด้วย
แต่เพื่อน้อง...พี่ชายอย่างผมต้องจ่ายให้ได้


ผมสแกนลายนิ้วมือผ่านประตูเข้าไปในหอ ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 8 ก็ถึงห้องน้องชายผม
ผมหยิบคีย์การ์ดที่เตรียมมาสอดเข้าไปในประตูก่อนจะผลักเข้าไป


กลิ่นแรกที่ลอยมาปะทะจมูกผมคือกลิ่นอับ มีทั้งกลิ่นบุหรี่ กลิ่นเสื้อผ้าที่ไม่ได้ซักผสมปนเปกันไป
สภาพห้องเรียกว่าแทบดูไม่ได้ ถ้าไม่บอกว่านี่คือหอพัก ผมคงคิดว่าเป็นกองขยะ
ประตูหน้าต่างทุกบานปิดไว้มิดชิด ไม่มีการเปิดระบายอากาศทิ้งไว้สักนิด
เสื้อผ้าที่ใช้แล้วถอดกองเกลื่อนทั่วห้อง ขยะและถุงขนมวางอยู่ทั่วทุกมุมของห้อง ทั้งที่โตะดราฟ โต๊ะเขียนหนังสือหรือแม้กระทั่งบนเตียงนอน


ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนกับสภาพตรงหน้า
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ห้องน้องเป็นแบบนี้
ผมบ่นเรื่องนี้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ทุกครั้งเราสองคนก็มักจะทะเลาะกัน เรื่องมักจะจบลงที่น้องยอมรับปากว่าจะปรับปรุงตัวใหม่ แต่ทุกอย่างมันก็ไม่เคยดีขึ้น
สุดท้ายก็เป็นผมเองที่ถอดใจ ต้องแวะมาทำความสะอาดให้ทุกครั้งที่มีวันหยุด


ผมจัดการรูดผ้าม่านแล้วเปิดหน้าต่าง เปิดประตูที่ติดกับระเบียงเพื่อระบายอากาศ
เก็บเศษซากก้นบุหรี่ที่ตกอยู่เต็มระเบียงใส่ถุงดำ
จัดการเก็บกวาดกองขยะขนาดมหึมาที่ไม่รู้ว่ากองไว้ตั้งแต่ชาติไหนยัดใส่ถุงดำที่ผมซื้อเตรียมไว้ให้ในห้อง
แต่น้องไม่เคยหยิบมาใช้เลย
ผมขนขยะอยู่สามรอบกว่าจะทิ้งขยะที่ระเบียง ในห้องและในห้องน้ำหมด


ตอนเทถังขยะในห้องน้ำใส่ถุงดำแล้วเจอเศษซากถุงยางสามสี่อันในนั้นผมก็อดตกใจไม่ได้
ผมพยายามเข้าใจว่าเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานมันคงเป็นเรื่องปกติของคู่รักสมัยนี้
แต่ผมก็อดห่วงไม่ได้
น้องผมยังเป็นนักศึกษาอยู่ รายได้ก็ยังไม่มี
ถ้าพลาดขึ้นมาจะทำยังไง เด็กคนนึงที่ต้องเกิดมาบนความไม่พร้อมจะต้องทนทุกข์ทรมานขนาดไหน
ผมไม่อยากให้ใครมีชะตากรรมเหมือนผมอีกแล้ว


เฮ้อ! แต่อย่างน้อยการเจอซากถุงยางก็คงดีกว่าการเจอที่ตรวจตั้งครรภ์ขึ้นสองขีดละมั้ง
อย่างน้อยก็รู้จักป้องกัน


ผมหยิบผงซักฟอกเทราดที่ระเบียง จัดการขัดพื้นให้สะอาดเอี่ยมอ่อง
ล้างคราบเศษอาหารที่ติดอยู่ตามพื้น กำจัดคราบบุหรี่สีดำที่ริมระเบียงทิ้ง


หลังจากจัการที่ระเบียงจนสะอาด ผมก็มาขัดห้องน้ำ
ล้างจานที่วางไว้เต็มอ่างล้างหน้า ไม่รู้ว่าน้องผมกินไว้ตั้งแต่ชาติไหน


ผมทำความสะอาดไปก็ได้แต่ถอนหายใจไป พยายามบอกให้ตัวเองปลงแต่ก็ทำไม่ได้
เมื่อก่อนตอนที่บ้านเรามีพร้อม ที่บ้านจะมีแม่บ้านคอยจัดการเรื่องพวกนี้ให้
แต่ตอนนี้เราไม่เหลืออะไรแล้ว ผมเองก็ต้องหัดทำงานบ้านเอง
แต่น้องผมก็ยังเหมือนเดิม


ผมดึงผ้าปูที่นอนที่มีคราบเลือดติดอยู่ออกไปซัก
ดูก็รู้ว่าพึ่งผ่านกิจกรรมหนักหน่วงมาสดๆใหม่ๆ


ผมเก็บเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งเกลื่อนห้องใส่ตระกร้ารวมๆแล้วได้ 2 ตระกร้าเต็มๆ
ผมโยนเสื้อผ้าชุดลำลอง ชุดนอน กางเกงใน ชุดนักศึกษาลงเครื่อง แล้วขึ้นไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนใหม่ จัดข้าวจัดของในห้องให้เป็นระเบียบมากขึ้น


ผมเปิดตู้เย็นเพื่อจะหยิบน้ำเย็นมาดื่มแก้กระหาย แต่กลับพบแต่ความว่างเปล่า
สงสัยผมคงต้องไปซื้อของกินมาตุนไว้ให้น้อง


ผมเดินฝ่าแดดร้อนยามบ่ายไปซุปเปอร์มาเก็ตเล็กๆแถวนั้น ซื้อของใช้จำเป็นที่จดลิสต์มาว่าขาด
ซื้อขนมนมเนย มาม่า ปลากระป๋อง ไข่ไก่ ผลไม้ น้ำเปล่าไปให้ห้อง


สองมือของผมหิ้วของพะรุงพะรัง หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมาจนเต็มหน้าผาก
รู้สึกเหมือนจะเป็นลมแดด เหนื่อยเหลือเกิน



ผมจัดการเก็บของสดไว้ในตู้เย็น เก็บของแห้งไว้บนชั้นวาง
หลังจากจัดการเก็บของทุกอย่างจนเสร็จ ยังไม่ทันเอนกายนอนบนที่นอนให้หายเหนื่อย
นาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้บอกเวลาเครื่องซักผ้าปั่นเสร็จก็ดังขึ้น


ผมต้องจำใจลุกจากเตียงอย่างปฏิเสธไม่ได้
เอาผ้าขึ้นมาตากให้น้องจนหมด แล้วก็เจองานยักษ์ที่ต้องทำต่ออีก
ผมแทบเป็นลมเมื่อเปิดประตูตู้เสื้อผ้าเพื่อหาไม้แขวน ภายในนั้นมีเสื้อผ้าซักแล้วกองระเกะระกะเต็มไปหมด เหมือนยกผ้าจากราวตากผ้ามาโยนใส่ตู้ไว้เฉยๆ


ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
แต่ก็ได้แต่บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร ทำต่ออีกนิดเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว
เวรกรรมนี้ผมสร้างด้วยตัวเอง ถึงพ่อแม่จะเลี้ยงน้องมาให้สบายเป็นคุณหนูมากแค่ไหน
แต่พอวันนึงที่เราลำบาก ผมควรบอกให้เขารับรู้และเผชิญหน้าสถานการณ์นี้ด้วยกัน


ผมผิดเองที่ทนเห็นเขารับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้
ผมผิดเองที่ตามใจเขามากเกินไปจนสุดท้ายมันก็กลับมาทำร้ายผมเอง


ผมหยิบโพสต์อิทมาเขียนข้อความแปะที่ฝาตู้เย็น


พี่ทำความสะอาดห้องให้แล้วนะ
เรื่องผู้หญิงพี่เข้าใจว่าวัยเราต้องมีบ้าง
อย่าลืมป้องกันทุกครั้งถ้ารักสนุก
พี่หาเงินเลี้ยงหลานอีกคนไม่ไหวหรอกนะ

ทำความสะอาดห้องบ้าง ถ้ายุ่งมากจนไม่มีเวลาก็ไลน์มาบอก
อย่าปล่อยให้ห้องเป็นกองขยะแบบนี้อีก

พี่พริ้ม


ผมเดินออกจากหอพักน้องด้วยเหนื่อยอ่อน เหนื่อยทั้ง…กาย เหนื่อยทั้ง…ใจ
อยากจะทรุดลงกับพื้นแล้วร้องไห้ให้สาแก่ใจแต่ก็ทำไม่ได้


พอมาเห็นสภาพห้องน้องตัวเองแล้วก็อดคิดไม่ได้
เงินทุกบาทที่ผมหามาด้วยความเหน็ดเหนื่อย น้องคงไม่ได้เอาไปใช้เรียนอย่างเดียว
แต่คงเลี้ยงผู้หญิงด้วย
สังเกตุจากภายในห้องที่มีเสื้อผ้า ของใช้รวมถึงชุดชั้นในผู้หญิงที่ผมต้องเอาไปซักให้
ผมถอนหายใจกับการใช้เงินอย่างไม่รู้คุณค่าของน้องตัวเอง ฟุ้งเฟ้อแบบเด็กสมัยใหม่
เพื่อนมีอะไรก็ต้องมีให้ทัดเทียมเท่าเพื่อนโดยไม่ประเมินฐานะตัวเองเลย


บางทีมันคงผิดที่ผมเอง ผิดที่ผมให้เงินน้องใช้เต็มที่ ทำหน้าที่เลี้ยงดูเขาแทนพ่อแม่ พยายามหาทุกอย่างมาให้ตามที่เขาต้องการเหมือนตอนที่พ่อแม่ยังมีเงินอยู่
ในขณะที่ผมต้องประหยัดแทบตาย
เสื้อผ้าใหม่ก็ไม่เคยซื้อ ใช้เสื้อผ้าเก่าที่น้องเบื่อแล้วโละทิ้งมาตลอด 2 ปี
ในขณะที่น้องอยู่หอพักดีๆใจกลางเมือง ผมกลับต้องระเห็จตัวเองไปเช่าหอพักอยู่สุดสายปลายทางรถไฟฟ้า
อยู่ห้องพัดลมถูกๆ เดือนละ 3,500 บาท


บางทีก็อดน้อยใจไม่ได้
ทำไมผมต้องเกิดมาเป็น ‘พี่’ ด้วย
ถ้าผมเป็นน้องบ้าง ผมคงใช้ชีวิตสนุกๆ ตื่นเช้าไปเรียนหนังสือ ตกดึกกลับมาทำงานส่งอาจารย์เหมือนเด็กทั่วไป
ไม่ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูใคร ไม่ต้องทำงานกลางคืน วันๆแทบไม่ได้นอนดีเพื่อหาเงินใช้หนี้

.
.
.

ผมกลับถึงหอพักตัวเองพบพัสดุกล่องใหญ่วางอยู่หน้าห้อง คงเป็นพัสดุที่วีส่งมาให้


ผมโยนพัสดุไว้ข้างเตียง แล้วทรุดตัวลงนอน ตอนแรกกะจะนอนเล่นๆพักสายตา
แต่สุดท้ายก็หลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
ตื่นมาอีกทีตอนทุ่มนึงแล้ว


V : พร้อมโดน ‘เอา’ ยังครับ


*Online Pimp : ขออาบน้ำก่อน


V : อาบให้หอมๆ สะอาดทุกซอกทุกมุมเลยนะ


ผมถอดเสื้อม้วนเป็นก้อนกลมๆโยนลงตะกร้าผ้า หยิบผ้าเช็ดตัวมาพันไว้ที่ขอบเอว
เดินเข้าไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน เผื่อเสร็จเรื่องแล้วจะได้นอนเลย


หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็มาทำแท้งเตรียมความพร้อมก่อนจะเจอศึกหนักในคืนนี้
ผมว่าวีต้องเล่นผมหนักแน่ๆ


ยังไม่ทันจะสองทุ่ม วีก็ทักผมมา


V : วีดีโอคอลมาหน่อยสิ


*Online Pimp : เร่งจัง ไม่เบี้ยวหรอกหน่า


ผมกด VDO call โทรหาเขา รอไม่ถึง 10 วินาที เขาก็รับทันที


ผมถือมือถือให้เห็นหน้าตัวเอง แล้วจ้องมองภาพในหน้าจอโทรศัพท์ที่ปรากฎขึ้น
วีเป็นผู้ชายผิวเข้ม หน้าตาคม จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตากลมโตสีดำสนิทที่มองไม่ออกว่าตอนนี้เจ้าของดวงตาคู่นั้นกำลังคิดอะไรอยู่ ถ้ามองจากลักษณะภายนอกที่เห็นผมคิดว่าเขาเหมือนคนใต้


วีสวมเสื้อนักศึกษาที่ปลดกระดุม 3 เม็ดจนเห็นแผงอกที่มีขนปกคลุมอยู่ภายใน
ขนาดขนหน้าอกยังเยอะขนาดนี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าขนที่จุดกลางลำตัวต่อลึงลงไปถึงท่อนเนื้อด้านล่างจะเยอะขนาดไหน


“พริ้มนี่น่าเอาอย่างที่ผมคิดจริงๆด้วย”เขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า ดูเป็นผู้ชายหื่นโรคจิตยังไงไม่รู้


ผมได้แต่มองตัวเองแล้วก็สงสัย ผู้ชายสูง 175 ซม หน้าตาปานกลาง มีกล้ามเนื้อแบบคนทำงานหนัก ผิวขาวเหลืองไม่ได้ขาวอมชมพู
มองตัวเองกี่ทีๆก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองน่าจะจัดอยู่ในไทป์ผู้ชาย ‘น่าเอา’ ได้เลย


ขนาดท่านยังไม่ได้ชอบแบบผมเลย ผมยังจดจำสีหน้าขัดใจของท่านตอนเห็นผมครั้งแรกได้ติดตา
จริงๆถ้าผมเชื่อผัวเจ๊ที่บอกว่าผม ‘ไม่ผ่าน’ ตั้งแต่แรกก็คงจบ
รูปร่าง หน้าตาแบบผมไม่ผ่านก็คือไม่ผ่าน


“เบื่อพวกหน้าตาดีแต่ไม่รู้จักตัวเองจริงๆ แกะพัสดุที่ส่งไปให้รึยัง?”


“ยัง”


“แกะสิ”


ผมเดินไปหยิบกล่องพัสดุที่โยนทิ้งไว้ข้างเตียงขึ้นมาเปิด ด้านในบรรจุของเล่นนานาชนิด
เยอะจนสงสัยว่าเขาไปหาของพวกนี้มาภายในเวลาแค่ครึ่งวันได้ยังไง
เป็นของที่ผ่านมือใครมาบ้างแล้วก็ไม่รู้…
ผมจะติดโรคไหมนะ?


“ไม่ต้องทำหน้ารังเกียจขนาดนั้นก็ได้ นี่ของใหม่ทั้งนั้น”


ผมหยิบกางเกงชั้นในลูกไม้สีดำออกมาจากกล่อง ด้านหน้าเหมือนกางเกงชั้นในของผู้ชายทั่วไป แต่ด้านหลังตัดแหว่งเป็นวงกลมไว้พอดีกับช่องทางรัก


“นี่มันเกินไปปะเนี่ย?”ผมใช้นิ้วจีบกางในขึ้นมาหน้ากล้อง ให้ตายเหอะ! ตลอดชีวิตที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องมาใส่ของพรรค์นี้


“ใส่ให้ดูหน่อยสิ”วีพูดพร้อมกับถอดเสื้อนักศึกษาออก เผยให้เห็นไหล่กว้าง หน้าท้องเป็นลอนกล้ามเนื้อ


ผมกัดริมฝีปากตัวเอง จะถอยตอนนี้คงไม่ทันแล้ว
เพราะความโลภหน้ามืดอยากได้เงินของตัวเองทั้งนั้นที่พาผมมาถึงจุดๆนี้ได้


“ข้อตกลงของเรามีเพียง online เท่านั้น ห้ามแคปหน้าจอ ห้ามอัดคลิป ห้ามมาหาที่ห้อง ถ้าวันไหนนายละเมิดกฎที่ชั้นตั้ง ขอให้พ่อแม่ตาย ตายายติดคุก”ผมเดินไปหยิบธูปขึ้นมาจุดก่อนจะสาปแช่งเขา ถึงมันจะดูไม่สุภาพ ไม่ควรทำ แต่ผมก็ยังไม่อยากมีคลิปเปลือยว่อนเน็ตให้เป็นภาระทางใจในอนาคต


“หึๆ ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ?”


“ใช่”ผมตอบก่อนจะปลดผ้าเช็ดตัวสีขาวออกจากเอว หยิบกางในตัวบางขึ้นมาใส่


“ที่ขายแต่ online ไม่ยอมให้ออฟนี่เก็บรูไว้ให้ใคร”เขาถามกลับมาด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท


“เสือก”ผมตอบกลับเขาไปทันควันขณะรื้ออุปกรณ์ทุกอย่างออกมาวางบนเตียง เลื่อนโต๊ะมาที่ปลายเตียงเพื่อวางมือถือ


“หึๆ ดิบเถื่อนๆแบบนี้ก็ดี เราชอบ จะได้ไม่ต้องถนอมให้เสียเวลา”เขาพูดพร้อมกับยิ้มร้าย


หลังจากหาที่วางมือถือได้แล้ว ผมก็ขึ้นไปนั่งบนเตียง พิงหมอนที่วางซ้อนกันไว้


“พร้อมยัง”


“เอาสิ”


“ลิ้นร้อนๆของเราไล้เลียพริ้มจากปลายเท้า ลากสัมผัสขึ้นมาช้าๆจนถึงโคนขาด้านใน ฝ่ามือร้อนของเราค่อยๆบีบเค้นเบาๆ มือของเราปัดป่ายไปทั่วจนถึงเนินเหนือจุดกลางลำตัวของพริ้ม”ผมหยิบของเล่นที่เป็นลิ้นเทียม เปิดสั่นเบอร์แรงสุด แล้วทำตามที่เขาบอก


“เราค่อยๆจับขาพริ้มตั้งขึ้นแล้วแยกออก อ้าอีก…อ้ามากกว่านี้ อ้าให้เราเห็นรูร่านๆของพริ้มชัดๆ”ผมยกขาขึ้นมาชันเข่าแล้วอ้าขาออกจนเกือบเป็นเส้นตรง


“ลิ้นของเราค่อยๆไล้วนรอบสะดือพริ้ม พรมจูบที่เนินเนื้อเหนือกึ่งกลางลำตัว ลิ้นเราแตะไล้ลากจากโคนท่อนเอ็นของพริ้มจรดปลาย รู้สึกไหม? หื้มมมมม? รู้สึกถึงปลายลิ้นของเราที่ไล้ไปบนท่อนเอ็นของพริ้มไหม”เขาถามขณะที่ผมใช้ลิ้นเทียมไล้ไปบนท่อนเนื้อร้อน ผมกดลิ้นเทียมที่พื้นผิวขรุขระลงบนส่วนปลายแก่นกลางลำตัวจนมันตั้งโด่ขึ้นมา


“อือ…สักที”ผมตอบเขาอย่างขัดใจ เล้าโลมแบบอ่อนโยน ค่อยเป็นค่อยไปแบบนี้มันก็ดี แต่มันตอบสนองความยากที่รุนแรงของผมไม่ได้


“ใจเย็นๆสิ พริ้มเห็นไวเบรเตอร์สีขาวที่เป็นลูกตุ้มอันใหญ่ไหม?”ผมหยิบเจ้าเครื่องสั่นได้มาไว้ในมือ ลองปรับสวิตซ์ดู


“เลื่อนลงมาที่ระดับต่ำสุด ปรับแรงแบบนั้นพริ้มพังกันพอดี เราอยากเล่นกับพริ้มนานๆนะ”ถึงเขาจะพูดให้ผมปรับลงมาที่ระดับต่ำสุดแต่ผมก็ไม่เชื่อเขา


ความอยากรู้อยากลองมันมีมากกว่า ของเล่นพวกนี้มันมีดีอะไรนะ?
ทำไมคนถึงชอบเล่นกับคู่นอน?
ผมจะเสร็จได้เพราะเจ้าพลาสติกคุณภาพต่ำพวกนี้ได้จริงๆเหรอ




ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ ทุกคำติชมน้าาาาา

ฝาก #พริ้มกับdaddy ในทวิตภพด้วยน้า

หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 4 P.1 14.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 14-02-2018 21:01:35
ตัดได้โหดร้ายยยยยยยย :z3:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 4 P.1 14.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-02-2018 21:56:10
อันตรายจริงนะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 4 P.1 14.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-02-2018 00:47:38
ยาลดความดัน ทิชชู่ เตรียมพร้อมสำหรับตอนหน้าเรียบร้อยแล้ว  :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 4 P.1 14.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: chaweewong19841 ที่ 15-02-2018 01:39:09
รอค่าา
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 4 P.1 14.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: W2P5 ที่ 15-02-2018 04:54:41
มีความสงสารพริ้มหนักมาก  แอบไม่ชอบน้องของพริ้มนิดหน่อย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 4 P.1 14.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 15-02-2018 09:21:32
รอจ้าาาา :katai5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 4 P.1 14.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 15-02-2018 10:24:26
สนุกมากเลยครับ
มาต่อไวๆนะครับ

 :3123:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 4 P.1 14.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 15-02-2018 12:19:10
หัวใจป้าจะวาย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 4 P.1 14.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 15-02-2018 18:23:15
กดเข้ามาเพราะ 3P  :z1: แต่หลังจากที่อ่านไปแล้วยังคิดไม่ออกว่าจะใครบ้างละนี่
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 4 P.1 14.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 16-02-2018 23:57:18
 :ling3:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 4 P.1 14.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 17-02-2018 01:02:24
หง่ะ!!!!! :a5: :a5:
ต่อด่วนนนนนน :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 5 P.2 17.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 17-02-2018 21:46:22
ตอนที่ 5


ผมลองเอาเจ้าเครื่องสั่นได้สีขาวสัมผัสเบาๆที่ยอดอก ความรู้สึกเสียวแล่นวาบขึ้นมา


“อ๊า…”ผมแอ่นอกรับสัมผัสให้มากขึ้น ลำตัวช่วงบนบิดเร่าด้วยความเสียว


“ดีมาก…อย่างนั้นแหละพริ้ม ค่อยๆไล้วนรอบฐาน”ผมไล้ไวเบรเตอร์รอบฐานเม็ดเชอร์รี่สีแดง บดขยี้ที่ยอดอกจนกลายเป็นตุ่มไตแข็ง ความเสียวกระสันแล่นจากบนลงล่างไปที่แก่นกายกลางลำตัว


 “หนอนน้อยของพริ้มน่ารักจัง ทักทายมันหน่อยสิ”ผมไล้ไวเบรเตอร์จากยอดอก ผ่านแอ่งสะดือสวย จนถึงท่อนลำลึงค์ที่แข็งตัวจนมีน้ำซึมที่ส่วนปลาย


“คลานท่าหมาให้เราดูหน่อยสิพริ้ม อยากจะเห็นรูหมาติดสัดเต็มที”ผมพลิกตัวคลานกับที่นอน แอ่นสะโพกไปด้านหลังให้ภาพปรากฎชัดในกล้อง


“อ่า…รูร่านรักของพริ้มนี่สวยสุดๆไปเลย ขอเราชิมหน่อยนะ”ผมหยิบเจ้าลิ้นเทียมไล้ไปตามรอยจีบก่อนจะดัดปลายลิ้นเข้าไปช่องทางรัก ผมทรุดลงแนบหน้ากับที่นอนด้วยความเสียว มีเพียงสะโพกเท่านั้นที่ยังแอ่นสูงให้วีเห็นชัด


“แผล่บๆ”ผมได้ยินเหมือนคนกำลังดูดเลียอะไรสักอย่างดังออกมาจากโทรศัพท์


“อย่าขมิบดันลิ้นเราสิพริ้ม”ผมดันเจ้าลิ้นเทียมเข้าไปให้ลึกมากขึ้น ช่องทางรักของผมบีบเจ้าสิ่งแปลกปลอมที่ดันเข้ามาตามกลไกธรรมชาติ


“อ่า…จะตอดให้ลิ้นเราขาดคารูเลยเหรอ”


“อึก…”ผมพยายามกลั้นเสียงคราง ทั้งๆที่รู้สึกเสียวจนอยากจะชักท่อนลำของตัวเองให้เสร็จๆไปสักที


“รูยังแน่นอยู่เลย เคยโดนมากี่K”


“เคย…อึก…ครั้งเดียว”ผมตอบพร้อมกับขยับเจ้าลิ้นเทียมเข้าออกในช่องทางรัก


“สวย สวยจริงๆ สวยเหมือนไม่เคยโดน อ้าให้เราดูชัดๆหน่อยสิพริ้ม อ่า…แบบนั้นแหละ”ผมดึงก้อนเนื้อนิ่มสองข้างออกจากกัน เผยให้เห็นช่องทางอ่อนนุ่มด้านหลังที่ขมิบตัวถี่เนื่องจากลิ้นเทียมที่สอดอยู่


“เราละเลงรูพริ้มจนฉ่ำไปหมดแล้ว พริ้มทำให้เราบ้างสิ”


“จะให้ทำอะไร”


“หันกลับมาสิ ให้เราเห็นหน้าร่านๆน่าราดน้ำKของพริ้มชัดๆ”ผมดึงเจ้าลิ้นเทียมออกจากช่องทางอ่อนนุ่ม หันกลับไปหากล้องพบว่าในจอภาพปรากฏภาพท่อนลำลึงค์สีเข้ม ขนาดมาตรฐานชายไทย


แวบแรกที่เห็น น้ำขมๆมันแล่นขึ้นมาจนถึงคอ
ไม่เหมือนของท่านเลย…
ไม่น่ากิน


“แลบลิ้นออกมาสิ ดูดสิครับ อื้ม…อย่างนั้นแหละเด็กดี”ผมหยิบดิลโด้สีใส รูปร่างเหมือนอวัยวะเพศชายขึ้นมาเลียที่ช่องทางเปิดของน้ำรัก ละเลงลิ้นเฉพาะส่วนนั้น ก่อนจะอมเข้าไปทางอัน ดูดเลียจนสุดความยาว ชักเข้าชักออกจนริมฝีปากเห่อร้อนบวมแดงจากแรงเสียดสี


ในระหว่างที่ทำ ผมพยายามหลับตาหนีท่อนลำลึงค์ที่น่ากลัวในจอโทรศัพท์
รีบๆกลั้นใจทำให้เสร็จๆไป


“ดูน้ำKของพริ้มสิ หึ แค่นี้ก็จะแตกแล้ว หันรูของพริ้มมาสิ ผมจะเอาพริ้มเดี๋ยวนี้แหละ เอาให้ร่านตายคาKผมเลย”ผมพลิกตัวกลับไปให้สะโพกอยู่พอดีกลับกล้องโทรศัพท์


“หยิบเควายมาครับ เปิดฝาจ่อไปที่รูแล้วบีบเข้าไปเลย”ความรู้สึกที่เจลหล่อลื่นไหลเข้ามาในช่องทางรักทำให้ผมรู้สึกเย็นวาบขึ้นมา


“ผมค่อยๆดันKเข้าไปในรูของพริ้ม ตอนนี้ส่วนปลายหัวKแดงก่ำของผมกำลังมุดเข้าไปในถ้ำของพริ้มแล้วนะ”ผมหยิบดิลโด้อันที่ดูดเล่นเมื่อกี้ยัดใส่ช่องทางคับแน่นตามที่เขาสั่ง


“อึก…มะ…มันใหญ่ อึก เข้าไม่ได้”น้ำตาใสไหลซึมออกมากองที่หัวตาจนภาพตรงหน้าพร่าเบลอ นี่แค่ส่วนหัวยังคับแน่นจนเจ็บไปหมด


“กดที่ท้ายด้ามสิครับ มันจะช่วยพริ้มได้นะ”ผมกดที่ท้ายด้ามดิลโด้ทำให้มันสั่นหมุนวนในช่องทางรัก


“อ๊ะ…อื้ออออ”


“ผมดันKเข้าไปแล้วนะครับ ดันเข้าไปทีเดียวจนสุดความยาว อ่า…รูของพริ้มนี่ทั้งอุ่น ทั้งคับ ทั้งแน่น”


“อึก…เจ็บ”


“ผมขยับสะโพกหมุนคว้านเป็นวงกลม พริ้มรู้สึกไหม? รู้สึกไหมว่าKผมกระดกในรูพริ้ม”ผมจับแท่งดิลโด้แน่น หมุนคว้านตามที่เขาสั่ง จนเจอจุดเสียว


“อ๊ะ อ๊ะ…อ๊า...”ผมร่อนสะโพกตามแท่งดิลโด้ที่ชักเข้าออกในช่องทางนุ่ม ผมเสียวไปหมด ความรู้สึกที่มีดิลโด้สั่นได้ในร่างกายมันบอกไม่ถูกจริงๆ


รู้แต่เพียงไม่นานผมก็ปลดปล่อยออกมา


ผมทรุดตัวลงนอนแนบหน้ากับเตียง หลังจากที่ผมเสร็จไม่นาน ผมได้ยินเสียงสาวแก่นกายเร็วขึ้นก่อนที่เสียงครางยาวลอดออกมาจากโทรศัพท์


เขาคงเสร็จแล้ว...


เซ็กส์เป็นเรื่องคาวน้ำกามที่ทำให้มนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาแบบผมหลงมัวเมาไปกับมัน
หลังจากมีครั้งแรกที่เราเล่นเสียวผ่าน VDO Call
ครั้งต่อมาเราก็ทำกันอีกครั้งผ่านโทรศัพท์


ทุกครั้งที่ทำผมพยายามไม่นึกถึงท่อนลำน่ากลัวของเขา มันทำให้ผมไม่แข็ง
แต่สิ่งที่ทำให้ผมเสร็จสุขสมได้ครั้งแล้วครั้งเล่าคือเสียงทุ้มต่ำของเขา


อย่าถามเลยว่าทำไมผมถึงเสร็จเพราะเสียงทุ้มๆของเขา
ผมไม่อยากจะยอมรับ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเสียงเขาทำให้ใจผมนึกถึงท่าน


ทุกครั้งที่เขาพูดว่าท่อนลำเขาอยู่ในช่องทางผม
ใจผมก็จะนึกถึงความคับแน่นในวันนั้น


บางทีผมก็คิดว่าตัวเองเริ่มโรคจิตมากขึ้นทุกวันๆ
โดยเฉพาะช่วงอาทิตย์นี้ที่เรา ‘ทำ’ กันทุกวัน


มีสิ่งหนึ่งที่ผมสงสัยคือนักศึกษาอย่างเขาหาเงินมากมายมาจากไหนจ่ายผมได้ทุกครั้ง

.
.
.

Rose club


“วันนี้เข้าสายนะ”เจ๊จ้องผมตาดุทั้งๆที่ผมเข้าคลับเวลาเดิม…สองทุ่มเหมือนทุกวัน


“ลูกค้ารออยู่ห้อง VIP-3 นานแล้วนะ”ผมเลิกคิ้วมองเจ๊อย่างงงๆ
ปกติห้อง VIP จะจัดให้ลูกค้าที่จอง ‘ดาว’ เท่านั้น แล้วส่วนมากมักจะเป็นดาวที่ชอบรับ ‘ออฟนอก’
ซึ่งที่นั่นไม่ใช่ที่ของผมแน่ๆ


ถึงแม้ว่าร้านจะไม่มีนโยบายให้โฮสต์ ‘ขาย’
แต่ชายหญิงอยู่กัน 2 คนในที่ลับตา ใครไปมันจะห้ามตัณหาราคะได้


“ผมว่าเราน่าจะเข้าใจอะไรกันผิดนะครับ ผมไม่รับออฟเจ๊ก็รู้”


“แกจะไม่รับออฟคนทั้งโลกชั้นไม่ว่า  แต่ต้องไม่ใช่คนนี้!”เจ๊กระซิบผมด้วยน้ำเสียงร้อนรน


“ใคร?”ผมขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย


“ท่าน”ผมเม้มริมฝีปากแน่น ท่านหายไปเป็นเดือน ไม่มีการติดต่อ ไม่มีข่าวคราวแจ้งให้ทราบ
แต่กลับมาอีกทีหลังจากผ่านไป 1 เดือนที่คลับโดยใช้ห้อง VIP-3
ผมว่าวันนี้ฤกษ์ไม่น่าจะดี


ผมกระชับกระเป๋าตัวเองแน่นก่อนจะวิ่งออกจากร้าน


“วิ่งไปตามจับพริ้มสิวะ! จะยืนนิ่งให้พ่อมันลงมาฆ่ารึไง”ผมได้ยินเสียงเจ๊ตะโกนดังลั่นตามมากับสายลม ผมพยายามวิ่งใส่เกียร์หมาเร็วที่สุดในชีวิต แต่สุดท้ายก็ไม่รอดพ้นเงื้อมมือของการ์ดในคลับ


“ปล่อยกู ไอ้เหี้ยเอ๊ยยยยยยย!!!”ผมพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากการเกาะกุมแต่ก็ไม่สำเร็จ การ์ดลากตัวผมที่นั่งอยู่บนพื้นไม่ยอมลุก ผิวของผมครูดไปกับพื้นผิวถนนหยาบๆจนเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ขาดเป็นริ้วๆ เลือดสีแดงสดซึมออกมาตามเนื้อผ้า


“เจ๊ ผมขอร้อง เห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเถอะนะ”ผมยกมือไหว้ขอร้องเจ๊


ฝ่ามือของผมเย็นเยียบ
ผมไม่อยากจะคิดหาเหตุผลที่ท่านจองห้อง VIP-3 แต่ก็อดคิดไม่ได้
ถ้าวันนี้ท่านตั้งใจมา ‘เชือด’ ผมจริงๆ
ถ้าไม่ตาย…ผมคงเลี้ยงไม่โต


“รีบขึ้นไปเลยพริ้ม แกอยากเห็นร้านชั้นโดนถล่มเหรอ?”เจ๊รีบดันตัวผมขึ้นบันไดด้านบน


ผมเกาะราวบันไดแน่น
จะยังไงผมก็ยังไม่พร้อมรับสถานการณ์ตรงหน้า
รอยช้ำเลือดช้ำหนองที่อกพึ่งจะหายได้ไม่กี่วัน
เจ๊จะให้ผมขึ้นไปเพื่อรับรอยใหม่อีกจริงๆเหรอ


“เจ๊ไว้ชีวิตผมเหอะ ผมมันก็แค่ลูกหนูตัวเล็กๆ ปล่อยผมไปเถอะนะ”


“ไม่ ถ้าชั้นปล่อยแกไปชั้นก็ตายแทนแกสิ ชั้นเตือนแกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำให้ท่านไม่พอใจ”


“เจ๊ หรือว่าท่านจะรู้”


“รู้อะไร?!!!”


“ผมขายออนไลน์”


“โอ๊ยยยย! เวรกรรม ชะนีอย่างชั้นอยากจะโหม่งออกนอกร้านให้รถชนตาย”


“เจ๊ ทำไงดี”ผมถามเจ๊เสียงสั่น


“วร้อยยยยยย อีเด็กผี!!! ชั้นบอกแกแล้วใช่ไหมว่าเป็นเด็กเลี้ยงมันไม่สนุก พวกเสี่ยเขาจ่ายเงินแล้ว เขาก็หวงเด็กตัวเองเป็นธรรมดา”


“เจ๊ แต่คืนนั้นท่านไม่ได้บอกว่าจะเลี้ยงผม ให้เงินค่าฟันแล้วทิ้งมาด้วย”


“โว้ย!!! ชั้นไม่รู้ แกเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอาเอง ไสตูดแกขึ้นไปด้านบนเดี๋ยวนี้เลย”


“เจ๊ ปล่อยผมไปเหอะนะ ผมขอร้อง ผมต้องโดนหนักแน่ๆ”ผมลงไปกอดขาเจ๊ ตอนนี้ทำอะไรได้ต้องทำไปก่อน ดีกว่าขึ้นไปตายด้านบน


“แกคิดว่าตัวเองมีปัญญาหนีท่านเหรอ? รอดวันนี้...วันหน้าก็ไม่รอดอยู่ดี รีบๆขึ้นไปเลย อย่าทำคนอื่นเขาเดือดร้อน”เจ๊พูดแค่นั้นแล้วก็พยักหน้า การ์ดของคลับเดินเข้ามาหิ้วปีกผมขึ้นไปโยนหน้าห้อง VIP-3


ผมกำมือที่เริ่มสั่นของตัวเองแน่น
ต่อให้วันนี้ผมปฏิเสธท่าน แต่ก็ใช่ว่าผมจะปฏิเสธท่านได้ตลอดไป
เลือกเข้าหาแบบมีลมหายใจดีกว่าไปแบบร่างไร้วิญญาณ






ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ

ไปคุยเล่นกันได้ใน   #พริ้มกับdaddy   น้าาาาา :)

เตือนกันตอนนี้จะทันรึเปล่านะว่า 3P เรื่องนี้อาจไม่เหมือนเรื่องอื่น

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ


หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 5 P.2 17.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 17-02-2018 23:56:47
ตัดฉับได้แบบทำร้ายกันมากเลยง่ะ  :hao5:
หนูพริ้มหนูทำให้ท่านไม่พอใจหรือทำให้ท่านติดใจคะลูก  :hao7:
แอบบอกได้มั้ยคะว่าไม่เหมือนเรื่องอื่นยังไง เริ่มระแวงแล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 5 P.2 17.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 18-02-2018 01:18:06
ฮื้อออออ ยังไงล่ะเนี่ยยยยยยยยย
เกร้ดดดดดดดด
ไปหวีดในทวีตภพดีก่า
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 5 P.2 17.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: shiroinu ที่ 18-02-2018 02:35:46
+1 จ้า โอ้ยยย(?) พึ่งมาตาม สนุกมว๊ากกกกก มาต่อเร็วนะคะ ค้าง5555 ไอ'ท่าน'นี่จะเอายังไงเนี่ย เบื่อมาก มาทำไมอีกกกกก  :m16: บางทีภริ้มก็ตามใจน้องเกินไปนะ เป็นเรารู้ว่าใช้เปลืองขนาดนี้เพ่นกบาลไปนานแล้ว :m31:

3P เรื่องนี้ไม่เหมือนยังไงน้า แบบนายเอกแอบคบแยกหรอ ฟรือว่าผลัดตำแหน่ง3คน :a5: เอ๊ะ! เอ๊ะ!? รอลุ้น :ruready
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 5 P.2 17.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-02-2018 03:42:16
ทิชชู่ที่เตรียมไว้ตอนที่แล้ว ไม่พอใช้อ่ะ  :m25: :jul1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 5 P.2 17.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 18-02-2018 07:48:07
  :z13:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 5 P.2 17.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 18-02-2018 09:35:19
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 5 P.2 17.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 18-02-2018 10:49:41
ตอนหน้า รอซับเลือดเลย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 5 P.2 17.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 18-02-2018 11:06:38
 :hao6: :hao6: :hao6:


เฝ้าหน้าจอรอชม
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 5 P.2 17.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 18-02-2018 18:57:24
ไหงเสี่ยกลับมา 5555 จ่ายให้พริมค่าเสียเวลาไม่ใช่เราะะะะะ   :z6:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 5 P.2 17.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 18-02-2018 19:35:20
ฮือออ ท่านร้อนแรง ดิบเถื่อน เหลือเกินนนนนน อ่านละฟินนน5555 :jul1: รอต่อนต่อไปเน้ออ ตามอ่านรวดเดียวหนุกมาก
ท่านติดใจหรอคะ // กลับมายังไม่สายน้า
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 5 P.2 17.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 19-02-2018 09:13:38
3P แบบไม่เหมือนเรื่องอื่นคือยังไงหว่า? เริ่มงง 5555
แต่ไม่เป็นไร เราจะรอติดตามต่อไป ตอนนี้ค้างมากกกก :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 6 P.2 19.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 19-02-2018 17:46:57
ตอนที่ 6


“สวัสดีครับ Rose Club ยิน…”ยังไม่ทันที่ผมจะยกมือไหว้แล้วพูดตามบทที่โฮสต์ทุกคนจะต้องพูดต้อนรับลูกค้าจบ ท่านก็ปาแก้วเหล้าเฉียดใบหน้าผมไปกระทบผนังด้านหลัง เศษแก้วที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆกระเด็นมาบาดผิวแก้มผมจนเป็นรอยเลือด


“ช้า”


“ผมขอโทษครับคุณลูกค้า”ผมยกมือไหว้ขอโทษท่าน แล้วเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆท่านบนโซฟา


“ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าจะดื่มอะไรดีครับ”ผมตัดสินใจถามท่านเนื่องจากบนโต๊ะมีทั้งไวน์ราคาแพงและเหล้านอกชั้นดี


“พกสมองมาทำงานบ้างไหม หรืองานกลางคืนแบบนี้เขาขายกันแต่ตัวอย่างเดียว”ผมก้มหน้ารับคำ ไม่อยากจะเถียงให้เจ็บตัว ผมตัดสินใจหยิบแก้วใบใหม่มาใส่น้ำแข็งเพื่อเตรียมชงเหล้า


ผมไม่รู้ว่าตัวเองไปขัดใจอะไรท่านอีก
ไวน์ราคาแพงที่พึ่งเปิดถูกท่านหยิบมาราดหัวผม เปียกไปหมดตั้งแต่หนังศรีษะจรดกางเกงชั้นใน
เดาใจไม่ถูกแล้วว่าท่านต้องการอะไร


“หากว่าไวน์รสชาตินี้ไม่ถูกปาก ผมขออนุญาตเปิดเหล้า…”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ ฝ่ามือหนาก็ตบลงมาบนแก้มผมจนเป็นรอยนิ้วมือสีแดง


ท่านจิกหัวผมขึ้นมาสะบัดหลังมือตบแก้มผมอีกด้าน ฝ่าเท้าหนาขยี้ลงกลางอกจุดเดิมที่เคยทำร้ายกัน


“ท่านครับ ผม…อึก…ทำอะไรผิด ถ้าผมทำอะไรให้ท่านไม่พอใจ ผมขอโทษด้วยนะครับ ยกโทษให้หมาโง่ๆไม่มีเจ้าของตัวนี้ด้วยเถอะนะครับ”ผมยกมือไหว้ขอร้องท่าน


แววตาสีเทาควันบุหรี่ที่น่าหลงใหลตอนนี้ดุดันจนน่ากลัว เป็นแววตาของสัตว์ร้ายที่พร้อมขย้ำเหยื่อให้ตายคามือ


“หมาไม่มีเจ้าของเหรอ? หึ ดี ชั้นจะทำให้นายรู้ว่าเจ้าของนายคือใคร”ท่านพูดก่อนจะจับแขนผมไพล่ไปด้านหลัง ล็อคด้วยกุญแจมือที่ทำจากหนัง จับผมคว่ำหน้าลงกับพื้น ใช้รองเท้าส้นหนากระทืบลงมากลางหลังจนเจ็บจุกไปถึงช่องท้องด้านหน้า


“ท่านครับ ไม่นะครับ ปรานีผมเถอะนะครับ”ผมรีบร้องบอกท่านเสียงสั่นเมื่อเห็นบอดี้การ์ดยื่นแส้หนังสีดำสนิทให้


“ทีตอนนี้มาขอให้ชั้นเมตตา ทำไมตอนทำไม่คิด ฝันไปเถอะ”ท่านเดินมาเชยคางผม ก่อนจะคลายม้วนแส้เส้นยาวลงที่พื้น


“ท่านครับ ไม่นะ…อึก”ผมกลั้นสะอื้นเมื่อท่านลงแส้ที่หลังผมครั้งแรก


เสียงแหวกอากาศของสายแส้ทำให้ผมกลัวเหลือเกิน ทุกครั้งที่แส้สัมผัสที่หลังผมมันเจ็บและแสบไปหมด
น้ำตาผมไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้


“ทะ…ท่านครับ ผม…ฮึก…ขอโทษ ผมทำอะไรผิด ชะ…ช่วยบอกผมที”ผมพูดพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาจากความเจ็บปวดของการโดนเฆี่ยนตีไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง


นี่มันประเทศไทยยุคปี 2018 จริงๆหรือเปล่านะ
ทำไมมนุษย์คนหนึ่งถึงโดนเฆี่ยนตีเหมือนผักเหมือนปลา
ปฏิบัติต่อกันเหมือนสิ่งของ ไม่ใช่คนที่มีชีวิต…จิตใจ


“เคยมีคนบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าเป็นเด็กชั้น ห้ามมีความสัมพันธ์กับคนอื่น”ท่านเดินเข้ามาบีบคางผมแน่นจนปวดกราม


“ผมทราบ แต่ท่านปฏิเสธผมไปแล้ว”เงิน 50,000 ที่ท่านมอบให้คืนนั้นเป็นหลักฐานชั้นดีว่าผมไม่ผ่านการ ‘ลองงาน’ ถ้าผมจะไปขายให้คนอื่นหลังจากท่านปฏิเสธ แล้วผมผิดตรงไหน???


“อ่อ ชั้นผิดเองสินะ ผิดที่หวงของเหลือเดนที่เคยทิ้งขว้าง”


“…”ผมเม้มริมฝีปากแน่น 


ตอนไม่พอใจ ไม่อยากได้ก็เขี่ยทิ้งเหมือนหมูเหมือนหมา
พออยากได้ก็กลับมาทวงสิทธิความเป็นเจ้าของ…ที่ไม่เคยมี
มันใช่เหรอ


“ชั้นคงประเมินนายสูงไป ตอนแรกคิดว่าจะเป็นเด็กดี แต่นี่แค่มีคนโยนเศษเงินให้ ก็พร้อมอ้าขาให้เอาตลอดเวลา”


“ผมไม่เคยทำแบบนั้น”ผมเถียงกลับไปเสียงแข็ง


ท่านกระชากหัวผมขึ้นมาแล้วตะคอก “ถ้าไม่เคย แล้วผู้ชายในรูปนี้คือใคร!!!”


ท่านหยิบรูปออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทปาใส่หน้าผม ขอบคมกระดาษโฟโต้บาดแก้มผมก่อนจะร่วงลงพื้น ผมพยายามตั้งสติแล้วจ้องมองรูปที่ร่วงอยู่ที่พื้น ในภาพเป็นรูปวีที่ดูก็รู้ว่าเป็นภาพโดนแอบถ่าย


“ผมแค่ขายออนไลน์”


การโกหกไม่ใช่สิ่งที่ดี แต่ความจริงก็ทำให้คนตายได้เหมือนกัน


“ได้มาเท่าไหร่แล้วละ โดนจนหลวมแล้วมั้ง”


“…”ผมเม้มปาก มองท่านด้วยสายตาไม่พอใจ ว่ากันขนาดนี้มันเกินไป


“แค่พูดว่าหลวม ไม่ต้องทำสายตาแบบนั้นใส่ชั้นก็ได้ เก็บสายตาแบบนี้ไว้มองคนที่เกือบทำให้นายเป็นนายเอกหนังโป๊ให้ว่อนอินเตอร์เน็ตเถอะ”


“ท่านหมายความว่าไง?”ผมถามท่านอย่างข้องใจ ท่านไม่ตอบคำถามผม ทำเพียงแค่เดินไปนั่งที่โซฟากลางห้องแล้วพยักหน้าให้บอดี้การ์ด


เพียงไม่นาน บอดี้การ์ดก็ลากวีเข้ามาในห้อง ในสภาพที่โดนกระทืบเละไปทั้งตัว ใบหน้าเขียวช้ำจนมองแทบไม่ออกว่าเป็นใคร เลือดสีแดงสดไหลจากหางคิ้วลงมาเปื้อนไปทั้งใบหน้า


“วี…”ผมเรียกชื่อเขาอย่างตกใจ


“ไม่ต้องทำเสียงอาลัยอาวรณ์มันขนาดนั้นก็ได้ ถ้านายเห็นความระยำของมัน นายจะร้องไม่ออก”


หลังจากท่านพูดจบ พี่บอดี้การ์ดก็หยิบถุงกระดาษออกมาเทของกองลงตรงหน้าผม
ด้านในเป็นรูปโป๊ของผมที่ปริ้นท์ด้วยกระดาษโฟโต้อย่างดี มีทั้งรูปที่ใส่ชั้นในประหลาด รูปที่ช่วยตัวเอง หรือแม้กระทั่งรูปที่มีดิลโด้แท่งใหญ่คาอยู่ในรูสวาท


ผมอ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็น


“นี่มันแค่น้ำจิ้มนะ”หลังจากท่านพูดจบ พี่บอดี้การ์ดก็หยิบลังกระดาษใบใหญ่มาเทของลงตรงหน้าผม


สิ่งของที่อยู่ตรงหน้ามันทำให้ผมน้ำตาไหล
เกือบไปแล้ว…เกือบไปแล้วจริงๆ เกือบได้เป็นคนดังในอินเตอร์เน็ตไปชั่วลูกชั่วหลาน


ซีดีมากมายที่สกรีนปกด้วยรูปโป๊ของผม ด้านในซีดีคงบรรจุคลิปที่เราเล่นเสียวกันผ่านทางโทรศัพท์
ไม่มีสัจจะในหมู่โจรจริงๆ


งานสบายเงินดีมันไม่มีจริงในโลก
เงิน 20,000 ที่เขาจ่ายผมในแต่ละครั้งก็เหมือนค่าตัวดาราหน้ากล้อง
เป็นการลงทุนที่คุ้มทุน จ่ายแค่ 20,000 แต่ขายไฟล์หนัง ขายซีดี ได้เงินคืนมากกว่าเดิมไม่รู้กี่เท่า
ผมต้องโง่ถูกหลอกใช้อีกกี่ครั้งกันนะ


“ซึ้งใจกันจนน้ำตาไหลเลยเหรอ แต่ไม่เป็นไร ชั้นจะให้เธอได้ส่งท้ายกันครั้งสุดท้าย”


หลังจากท่านพูดจบ บอดี้การ์ดก็หยิบผ้าลายลูกไม้สีแดงมาคาดทับตาผม
ผมยังคงมองเห็นลางๆผ่านลายฉลุของลูกไม้
ลูกน้องท่านเดินไปหรี่ไฟลงให้เห็นเหลือเพียงแสงสีแดงสลัวๆ


“ท่านครับ ไม่…นะ”ผมพยายามสบัดตัวออกแต่ก็ไม่เป็นผล


“จัดการซะ”บอดี้การ์ดรับคำสั่งจากท่าน เดินไปกระชากร่างวีขึ้นจากพื้น จับถอดกางเกงออก


“ใส่ 52 mm หนาที่สุด”


เสียงฉีกซองถุงยางบาดใจผมเหมือนคมมีดแหลมคม


“ท่านครับ ไม่นะครับ ผมไหว้”ผมร้องออกมาเสียงสั่นเมื่อท่านกระชากเสื้อเชิ้ตของผมออก ท่านปลดเข็มขัดออกจากตัวผมอย่างรวดเร็วก่อนจะฟาดลงมาซ้ำที่แผลเดิมที่ถูกแส้ฟาด


ท่านเดินไปหยิบพู่หนังมาไล้หน้าอกผม ปลดซิปกางเกง รูดกางเกงในสีดำไปกองที่โคนขา
ท่านไล้พู่หนังไปตามพวงองุ่น ขึ้นมาถึงแก่นกายกลางลำตัวก่อนจะไล้ไปที่สะโพกด้านหลัง
ฟาดลงมา 3-4 ทีให้พอเจ็บๆแสบๆคันๆ


บอดี้การ์ดเดินมาจับสะโพกผมให้ลอยเด่นขึ้นมา ฝ่าเท้าของท่านเหยียบลงที่กลางหลังของผม หน้าผมแนบกับรองเท้าท่านอีกข้าง


“ท่านครับ...ฮึก ไม่นะครับ อย่าให้ผู้ชายคนอื่นแตะต้องร่างกายผมนะครับ ให้รูร่านๆของผมมีไว้รับของๆท่านคนเดียว”


“ไปหัดตอแหลมาใหม่นะ กะหรี่อย่างนายผู้ชายคนเดียวมันไม่พอรูหรอก”


“ท่านครับ ผมผิดไปแล้ว ฮึก…”


“ไม่ต้องมาบีบน้ำตา อยากมีผัวใหม่จนตัวสั่น ชั้นก็สนองให้แล้วไง”
หลังจากท่านพูดจบ ท่อนลำลึงค์ของวีก็แทรกเข้ามาในกายผม
ความจุกเสียดแล่นริ้วขึ้นมา มันคับแน่นไปหมด


“เอามันสิ เอาอีกะหรี่นี่ให้ตายคาKนายไปเลย”

 
หลังจากท่านพูดจบ วีก็ขยับสะโพกรวดเร็ว รุนแรงจนช่องทางด้านหลังที่ไม่ได้ขยายเตรียมไว้ก่อนแสบร้อนไปหมด


“ผมเจ็บ ได้โปรด…”ผมขอร้องน้ำตานองหน้า แต่มันก็ไม่เป็นผล


วียังคงเร่งจังหวะสะโพกอย่างเมามันส์
ตักตวงเอาความสุขจากช่องทางร่านรักของผม
ความสุขสมที่มีเพียงแต่เขาที่ได้รับ ไม่ใช่กับผมเลยสักนิด


สกปรก…ร่างกายของผมสกปรกเหลือเกิน
ยิ่งท่านปิดตาผม สัมผัสทุกอย่างยิ่งชัดเจนมากขึ้น
ความรู้สึกขยักแขยงพุ่งขึ้นมาถึงคอหอย


ผมพยายามอมน้ำขมๆไว้ในปากจนสุดท้ายก็ทนไม่ไหว
ปล่อยออกไปที่พื้นด้านหน้าโดนรองเท้าท่าน


“หึ รังเกียจเหรอ?”


“สำหรับผมไม่ใช่ใครก็ได้ ถ้าเป็นผู้ชาย ผมขอมีท่านเป็นคนแรกและคนเดียวที่ได้เข้ามาในรูร่านๆของผม”


“พูดดีนี่ รู้จักเอาตัวรอด”


ท่านปลดกุญแจมือผมออก กระชากให้ผมนั่งคุกเข่า
ผมถูกท่านบีบคางจนต้องอ้าริมฝีปากออกเพื่อรับท่อนลำลึงค์ของวีที่แทรกเข้ามา
วีซอยสะโพกโดยไม่สนใจว่ามันจะเข้ามาในช่องปากผมลึกแค่ไหน
ผมแทบสำลักทุกครั้งที่เขาขยับสะโพก


“ถุย!”ผมถุยเศษซากถุงยางที่หลุดค้างอยู่ในปากออก


“อ่า…”เขาขยับสะโพกจนใกล้สุขสม ท่านดึงท่อนลำลึงค์ของวีออกจากริมฝีปากผม วีสาวแก่นกายเร็วขึ้นก่อนจะแตกลงมาเต็มหน้าผม


“เลียสิ ชอบไม่ใช่เหรอ”ท่านจับหลังคอ ผลักผมให้รับแก่นกายที่มีน้ำรักคาอยู่ตรงส่วนปลายเข้าไปในช่องปากทั้งหมด ผมจุกจนแทบหายใจไม่ออก โดนท่านผลักให้ฝังหน้าอยู่กับหน้าท่องแกร่งเกือบ 5 นาที


“อ่อก…อึก”ท่อนลำคับแน่นอยู่ในริมฝีปากผมจนแทบหายใจไม่ออก


“จำรสชาติความทรมานของวันนี้ให้ดีๆนะ ถ้านายทรยศชั้น…นายจะโดนยิ่งกว่าวันนี้อีก 100 เท่า ชั้นสาบานว่าจะทำให้นายรู้สึกว่าการมีชีวิตอยู่มันทรมานกว่าความตาย”


“อ่อก แค่กๆ”ผมทรุดตัวลงนอนไออยู่กับพื้น สูดอากาศเข้าปอดอย่างรวยรินหลังจากที่ท่านดึงผมถอยหลัง ท่อนลำลึงค์ของวีหลุดออกจากปากผม


เจ็บไปทั้งกายและใจ
พังไปทุกส่วนจนประเมินไม่ได้ว่าอะไรที่พังกว่ากัน


“จัดการเก็บกวาดให้เรียบร้อย”ท่านสั่งเพียงเท่านั้นแล้วก็เดินจากไป


คำว่า ‘เก็บกวาด’ ให้ความรู้สึกเหมือนผมเป็นขยะชิ้นหนึ่ง


ท่านตอบแทนคนทรยศแบบ ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’
ท่านคิดว่าผมเป็นพวกชอบโชว์ ถึงให้วีข่มขืนผมต่อหน้าบอดี้การ์ดนับ 10 คน
ท่านคิดว่าผมร่านK ท่านเลยสนองต่อความต้องการผมด้วยK
เพียงแต่ไม่ใช่ในรูปแบบของการ ‘ทำรัก’ แต่เป็นการ ‘ข่มขืน’
มันเป็นการลงโทษที่โหดร้ายเหลือเกิน


ถึงผมจะเป็นผู้ชาย แต่การโดนผู้ชายด้วยกัน ‘ข่มขืน’ ไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับกันได้





ย่องเบาออกจากกระทู้

สงสารน้อง TT เคราะห์ซ้ำกรรมซัด

ฝาก #พริ้มกับdaddy ด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 6 P.2 19.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: shiroinu ที่ 19-02-2018 17:54:14
กรี้ดดด มาแล้ววว สั้นไปหน่อยแต่ก็มาต่อ เราให้อภัย5555 ท่านโหดจัง ขี้หวงเวอร์ให้น้องแค่50000แต่หวงเหมือนแต่งงานกันแล้ว ชิๆ พริ้มสู้ๆ  รักนักเขียนนะ มาต่อเร็วๆ จุ๊บๆ    :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 6 P.2 19.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 19-02-2018 18:12:02
วีไม่ใช่บุคคลที่ 3 หรอกเรอะ ทำไมชั่วอะจะแบล็กเมล์พริ้ม
แต่ท่านคือที่สุดของความเลว ตัวเองไม่ได้อยากได้พริ้มสักหน่อย ให้เงินไล่อ้อมๆแล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก
พริ้มจะหาเงินด้วยตัวเองก็ไม่แปลกมั้ย แล้วมาโกรธพริ้มได้ไง แต่ยังดีที่ยังช่วยพริ้มให้รอดจากการเป็นนานเอกAV
เอ๊ะแต่พริ้มโดนข่มขืนต่อหน้าการ์ดด้วยนะ มันยิ่งกว่าอะไรที่ผ่านมาเลย เห้อ จะมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยพริ้มมั้ย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 6 P.2 19.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 19-02-2018 18:14:46
ทำไมชีวิตพริ้มเจอแต่คนเลวๆ หวังว่าเพื่อนน้องชายคนนั้นจะเป็นคนดีบ้าง
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 6 P.2 19.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 19-02-2018 18:20:12
เย่มาต่อจากที่ค้างไว้แล้ว :mew1:
ทำไมท่านทำกันขนาดนี้ วีเลวมาก :ling1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 6 P.2 19.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 19-02-2018 18:31:53
เฮ้ออ ดาร์กไปใจรับไม่ไหวจริงๆ ตอนแรกก็คิดว่าท่านมันจะดีกว่านี้คิดด้วยว่ามันเป็นพระเอก แต่พอมาเจอทำแบบนี้แล้วไม่เอาอะ ตัวเองก็ไม่ได้รักไม่ได้ชอบไม่ใช่เหรอแถมยังเขี่ยทิ้งไปแต่แรกอีกแล้วอยู่ๆมาทำเหมือนตัวเองโดนหักหลังคืออะไร หวงก้างเหรอแถมยังจับคนอื่นมาข่มขืนเขาอีก พริ้มควรออกไปหางานอื่นทำนะกับน้องชายถ้ามันรับไม่ได้เรื่องเงินไม่มีก็ช่างมัน เหนื่อยแทน
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 6 P.2 19.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-02-2018 19:01:41
ชีวิต!!!!! อีน้องชั่วมันจะรู้ไหมว่าพี่ชายมันต้องแลกกับอะไรบ้างเพื่อให้มันอยู่สุขสบาย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 6 P.2 19.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 19-02-2018 19:37:04
งื้อออออ..สงสารพริ้ม. ก็ท่านไม่เอาแล้ว ทีงี้ทำไมมาทวง
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 6 P.2 19.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 19-02-2018 19:54:39
ชีวิตอะไรจะโหดร้ายเบอร์นี้ โดนไปขนาดนี้ทำงานไม่ได้ไปอีกหลายวัน จะเอาเงินที่ไหนรักษาตัวกับใช้จ่ายนี่
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 6 P.2 19.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 19-02-2018 20:02:27
สงสารพริ้มอ่ะ ก็ไหนไม่เอาไม่ใช่หรอ ให้ค่าทำขวัญมาตั้ง 50,000 แล้วอ่ะ
เป็นถึงผู้มีอิทธิพลเรื่องแค่นี้สืบไม่ได้หรอว่าพริ้มทำกับท่านแค่คนเดียวอ่ะ หรือพระเอกจะโง่ก่อนแล้วค่อยฉลาด?
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 6 P.2 19.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 19-02-2018 21:24:11
 :ling2:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 6 P.2 19.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 19-02-2018 22:06:36
ดาร์กมาก
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 6 P.2 19.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-02-2018 02:27:45
สงสารพริ้มจังเลย เมื่อไหร่จะได้เจอคนดีๆ บ้างนะ  :sad4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 6 P.2 19.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 20-02-2018 15:38:55
สงสารรรร ทำไมเสี่ยต้องทำขนาดนี้
ถ้าไม่ได้รู้สึกอะไร เสี่ยไม่ต้องหวงก้างขนาดนี้ก็ได้
รู้จักครั้งเดียวก็จบ ไม่ใช่ทำกันแบบนี้ ฮรื่อออ :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 20-02-2018 19:24:16
ตอนที่ 7


หลังจากที่ท่านสั่งให้บอดี้การ์ดเก็บกวาด บอดี้การ์ดก็เอาผ้านวมผืนหนามาห่อตัวผมจนเหมือนเค้กโรลก้อนใหญ่ๆ พี่เขาอุ้มผมมาวางที่เบาะหลังก่อนจะขับรถออกจากคลับ


ผมมองสองข้างทางที่รถขับผ่านด้วยจิตใจเหม่อลอย
เมื่อกี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่นะ มันคือความจริงหรือความฝัน


ผมรู้ว่าท่านคงโกรธที่ผม ‘ขาย’ ให้คนอื่น
แต่สิ่งที่ท่านทำมันโหดร้าย ทารุณ เกินกว่าที่ใจผมจะรับไหว
ชีวิตนี้ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะถูกข่มขืนต่อหน้าผู้ชายหลายคน


ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ติดตัวผมมาตั้งแต่เกิดมันไม่เหลือแล้ว
ท่านทำลายมันป่นปี้ไปหมดแล้ว


ผมเหมือนคนใจสลาย ไม่ยอมรับรู้อะไรจากโลกภายนอกจนกระทั่งถูกอุ้มวางในอ่างน้ำขนาดใหญ่
ใจผมไม่ได้ใส่ใจว่าสถานที่นี้จะหรูหรา ดูดีมากแค่ไหน
ผมแค่อยากไปจากที่นี่ ออกไปจากที่ตรงนี้
ผมอยากหนีหายไปจากท่าน


ผมไม่ได้ใส่ใจฟังว่าพี่บอดี้การ์ดพูดอะไรก่อนจะเดินออกไป
หูผมดับไปชั่วขณะ


ผมนั่งแช่น้ำจนตัวเปื่อยอยู่ในอ่างน้ำวนขนาดใหญ่ เขาเรียกว่าอะไรนะ…จากุชชี่ใช่ไหม
ถึงสายน้ำวนจะช่วยนวดตัวเบาๆสร้างความผ่อนคลาย แต่ผมกลับไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแบบนั้นเลย


ร่างกายของผมเครียด แข็งเกร็งไปหมด
ความทรมานของการถูก ‘ข่มขืน’ ยังฝังอยู่ทั่วทุกอณูของร่างกาย


ผมหลับตาลงช้าๆก่อนจะไถลตัวลงไปในอ่าง ให้น้ำมิดหัว
กลั้นหายใจตายๆไปเลยดีไหมนะ จะได้ปลดปล่อยตัวเองจากความทรมานนี้สักที

1
.
2
.
3
.
4


ยังไม่ทันที่ผมจะนับในใจครบถึงสิบ
ร่างทั้งร่างของผมก็ถูกอุ้มขึ้นมาจากอ่างน้ำ


“เด็กโง่”ผมปรือตาขึ้นมามองท่าน ซบหน้าลงกับแผงอกแกร่ง
กลิ่นหอมเย้ายวน มีเสน่ห์ดึงดูดให้หลงใหลนี้เป็นกลิ่นของท่าน กลิ่นที่ตอนเจอกันครั้งแรก ทำให้ผมรู้สึกลุ่มหลงมัวเมาไปกับมัน แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป กลิ่นนี้ทำให้ผม…กลัว


ผมว่าตอนนี้ผมคงมีอาการหลอนนิดๆแบบที่คนใกล้ตายทุกคนคงเคยสัมผัส
ผมจ้องมองท่านที่อุ้มผมด้วยท่าทีถนุถนอม ค่อยๆประคองวางผมลงบนเตียงอย่างนิ่มนวล   
คนใจร้ายแบบท่านคงไม่มาดูแลผมแบบนี้


ผมหลับตาลงด้วยความอ่อนเพลีย
พิษไข้กับอาการปวดหัวเริ่มแสดงอาการ แผ่นหลังที่โดนทั้งแส้และเข็มขัดฝาดแสบจนชาไปหมด นี่ยังไม่รวมถึงอาการปวดแสบปวดร้อนที่ช่องทางรักด้านหลัง


“เด็กดื้อ”ท่านพูดขณะดึงตัวผมให้นั่งพิงอกท่านที่นั่งซ้อนตัวอยู่ทางด้านหลัง
ท่านใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวให้ผม แต่งตัวให้ผม รวมทั้งเป่าผมให้


นี่ผมฝันอยู่รึเปล่านะ?
หรือว่าผมกำลังหลอน?
คนที่กำลังดูแลผมอยู่ตอนนี้ใช่คนเดียวกับคนที่ทำร้ายกันจนปางตายจริงๆเหรอ


“ชั้นขอโทษ”ผมได้ยินคำขอโทษแว่วเข้ามาในหูก่อนที่สติผมจะลานเลือง


นี่ต้องเป็นฝันแน่ๆ
คนแบบท่านไม่น่าจะขอโทษผมง่ายๆแบบนี้

.
.
.

ผมตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความรู้สึกเจ็บแสบไปทั้งตัว
ข้อมือด้านซ้ายรู้สึกเจ็บจี๊ดเป็นพิเศษเมื่อยกมือขึ้นมา
เข็มน้ำเกลืออันใหญ่ขนาดนี้แทงเข้ามาในร่างกายผมตั้งแต่เมื่อไหร่นะ


ผมพยายามจะลุกจากเตียงแต่ก็ทำไม่สำเร็จ
สุดท้ายสายน้ำเกลือก็หลุดออกจากข้อมือ ที่แขวนน้ำเกลือคว่ำลงกับพื้นเสียงดังโครมคราม


“ซนแต่เช้าเลยนะ”ท่านยืนกอดอกพิงประตูอยู่


“ขอโทษครับ”วินาทีนี้ผมนึกคำอื่นไม่ออก นอกจากขอโทษไว้ก่อน
ผมไม่อยากให้ท่านโกรธอีก เพราะถ้าท่านโกรธ…ผมคงต้องเจ็บตัวอีก


“ลุกขึ้นสิ จะนั่งตรงนั้นอีกนานไหม?”


“ครับ”ผมพยายามเท้าแขนลงกับพื้นแล้วพยุงตัวลุกขึ้น ความเจ็บแผ่ซ่านไปทั้งร่างเมื่อผมก้าวเดิน
โดยเฉพาะความรู้สึกแสบขัดที่ช่องทางด้านหลัง


“ช้า”ท่านพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะสาวเท้าเร็วๆมาหาผม
ผมก้าวถอยหลังด้วยสัญชาตญาณ สุดท้ายผมก็หล่นลงไปกองบนเตียง


ท่านปรับจังหวะการเดินให้ช้าลง เดินด้วยท่าทีสบายๆ แต่ผมกลับไม่รู้สึกแบบนั้น
ร่างกายของผมแข็งเกร็งด้วยความกลัว คราวนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นฝ่ามือหรือฝ่าเท้าที่ประทับลงมาบนร่างผม


ผมยกมือไหว้ท่านน้ำตาคลอ มือสั่น


“กลัวชั้นขนาดนั้นเลยเหรอหมาน้อย”


“…”ผมเม้มริมฝีปากแน่น


“รู้แล้วใช่ไหมว่าผลของการหักหลังชั้นมันเป็นยังไง?”ท่านลูบหัวผมเบาๆ แต่ผมไม่รู้สึกถึงความอ่อนโยนเลย
มันเหมือนการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของคนที่เหนือกว่า


“ครับ”


“รู้ไหมว่าชั้นเมตตานายแค่ไหน ถ้าเป็นคนอื่นชั้นส่งไปให้ลูกน้องรุมโทรมแล้ว”


“ไม่นะครับ ไม่เอานะครับ”


“ถ้าไม่อยากโดน ก็ทำตัวดีๆ เป็นหมาที่ซื่อสัตย์ต่อชั้นเพียงคนเดียว เข้าใจไหม?”


“ครับ”ท่านหยิบโช้คเกอร์หนังถักสีดำ ด้านหน้าห้อยจี้ทองคำขาวแผ่นกลมสลักตรงกลางเป็นรูปตัว R มาใส่ให้ผม


ผมไม่ต่างอะไรกับหมาจริงๆ…วันแรกก็ได้ปลอกคอแล้ว


“ทีนี้ก็รู้แล้วนะว่าใครคือเจ้าของนาย”ผมพยักหน้ารับรู้
คำว่า ‘หมาไม่มีเจ้าของ’ ที่หลุดออกจากปากผมเมื่อคืนคงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ท่านโกรธ


“มองหน้าชั้นทำไม?”ท่านถามผมเมื่อเห็นผมจ้องหน้าท่านไม่วางตา
ผมชอบดวงตาของท่าน มันมีเสน่ห์เย้ายวนใจเหลือเกิน มองแล้วให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหา


“จูบได้ไหม?”ผมตอบกลับไปเหมือนคนต้องมนต์
พอมีสติระลึกได้ว่าตัวเองพูดอะไรไปก็แทบอยากตบปากตัวเอง
ไอ้คนใจไม่รักดี เขาทำร้ายกันขนาดนี้ยังจะอยากจูบเขาอีก


ดวงตาของผมเอาแต่จับจ้องริมฝีปากหนาสีชมพูซีดของท่าน
ที่ผ่านมา เรามีอะไรกันก็จริง แต่เราไม่เคยจูบกันเลย
หรือว่าท่านจะเก็บจูบไว้ให้คนที่ท่านรักแบบในนิยายที่พระเอกแบดๆชอบทำกัน


“อยากเหรอ”ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ ผมไม่ได้อยากมีเซ็กส์ ผมแค่อยากจูบ
อยากให้ท่านมอบสัมผัสดีๆเพื่อลบภาพจำแสนโหดร้ายเมื่อคืน
อยากให้สัมผัสของท่านลบความรู้สึกขยักแขยงร่างกายตัวเองที่โดนผู้ชายคนอื่นสัมผัส


ถ้าท่านจูบผม แสดงว่าท่านคงอภัยให้ผมแล้ว
ถ้าท่านจูบผม อย่างน้อยผมก็ได้รู้ว่าท่านไม่ได้รังเกียจผม ผมจะได้เลิกรังเกียจตัวเองสักที


“หึ”


“ผมคงขอมากไป ขอโทษครับ”ผมก้มหน้ารับในสิ่งที่เกิดขึ้น
ผมมันก็แค่หมาตัวหนึ่งที่ท่านรับเลี้ยง ไม่เห็นจะต้องใส่ใจความรู้สึกหมาโง่น่ารังเกียจตัวนี้เลย
ถึงยังไงผมก็เป็นหมาของท่าน จะให้ไปผสมพันธุ์กับหมาตัวอื่นตามที่ท่านเลือกก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
หมาอย่างผม ไม่มีสิทธิเลือกอนาคตตัวเองอยู่แล้ว


“ตัวก็ใหญ่ ทำไมใจเล็กใจน้อย น่ารำคาญจริงๆ”ท่านพูดแค่นั้นแล้วก็เดินออกไป


ผมนั่งชันเข่าขดตัวกอดเข่าร้องไห้ น้ำตาใสๆไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
ไม่เอาแล้ว…ไม่อยากเป็นหมาแล้ว
ไม่อยากเป็นหมาที่ไม่ถูกรัก
รับเลี้ยงผมแล้วก็ช่วยดูแลกันหน่อยได้ไหม


อย่าเอาแต่มองว่าผมเป็นวัตถุทางเพศ
จะข่มขืน จะทำร้ายจิตใจกันยังไงก็ได้
พอแล้วได้ไหม


ปลอกคอนี่ก็เหมือนกัน
ถอดออกได้ไหม
พันธนาการมันรัดแน่นจนผมหายใจแทบไม่ออกอยู่แล้ว


ผมนั่งร้องไห้อยู่ที่เดิมจนแสบตาไปหมด
คุณบอดี้การ์ดที่พาผมขึ้นไปหาท่านวันนั้นเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับยื่นถุงเสื้อผ้าแบรนด์เดิมมาให้


“นี่เสื้อผ้าของคุณครับ รีบแต่งตัวให้เรียบร้อย ท่านรอทานข้าวอยู่”


ผมค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นจากพื้น ปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออก
ปกติเวลามีเรื่องอะไรผมก็เข้มแข็ง ผ่านมันไปได้ตลอด
ไม่รู้ทำไมกับเรื่องนี้ถึงได้ร้องไห้งอแงเป็นเด็กๆ


ผมเดินช้าๆออกมาจากห้องนอน สายตาสำรวจไปทั่ว
ห้องนี้คงเป็นคอนโดของท่าน ไม่ใช่โรงแรมแบบครั้งนั้น


ท่านนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเล็กๆในห้องกินข้าว
ตอนแรกที่เห็นผมก็อดประหลาดใจไม่ได้ ผมคิดว่าพวกคนรวยจะต้องนั่งโต๊ะยาวๆกินข้าวห่างๆกัน


“ข้าวต้มปลา ทานได้ไหม?”


“ได้ครับ”


“รีบๆกิน อย่าพิรี้พิไร เวลาเป็นเงินเป็นทอง เข้าใจไหม”ท่านดุเมื่อผมเอาแต่คนข้าวต้มให้หายร้อน ไม่ยอมกินสักที ความอยากอาหารของผมเป็นศูนย์เลยตอนนี้


“ครับ”


“ชัย ถ้าพริ้มทานข้าวเสร็จแล้วก็พาไปจัดการเรื่องเรียนให้เรียบร้อย อย่าลืมแวะซื้อเสื้อผ้าของใช้จำเป็นมาด้วยละ ส่วนเรื่องหอพักเน่าๆนั่นก็ยกเลิกเช่าไปเลย ข้าวของดีๆจำเป็นก็ขนมา แต่ของเน่าๆก็ทิ้งไว้ที่นั่น ส่วนเรื่องงานก็ไปลาออกให้หมด”
ตอนแรกที่ท่านพูดเรื่องเรียนผมดีใจแทบตาย
แต่พอพูดเรื่องอื่นต่อก็ทำเอาผมตามไม่ทัน


“มองหน้าชั้นมีปัญหาเหรอ?”ท่านเลิกคิ้วมองผม
สัญชาตญาณการเอาตัวรอดบอกให้ผมตอบว่า ‘ไม่มีปัญหา’ แต่ความสงสัยหลายๆอย่างมันยังค้างคาในใจ


“ไม่มีครับ แต่…”


“แต่อะไร?”


“ท่านจะให้ผมเรียนหนังสือเหรอครับ? ผมไม่เงินจ่ายค่าหน่วยกิตหรอกนะครับถ้าท่านให้ผมลาออกจากงานทั้งหมด”


“ชั้นพูดสักคำรึยังว่าให้นายจ่ายเอง ทำไม? ไม่อยากเรียน?”


“ไม่ครับ ผมอยากเรียน”


“ดี ชั้นไม่ชอบหมาโง่ การศึกษาต่ำ”


“เรื่องหอพักท่านอย่ายกเลิกเลยนะครับ ตอนนี้หอพักดีๆเต็มหมดแล้ว ถ้ายกเลิกหอนี้ไป ผมหาหอราคาถูกแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วแน่ๆ เงินประกันค่าห้องเพื่อเช่าใหม่ผมก็ไม่มี”


“นี่พริ้ม คิดว่าการเป็นเด็กเลี้ยงของผู้ชายสักคนมันหมายถึงอะไร?”ท่านถามผมก้วยน้ำเสียงเอือมระอา


“มันคือการตอบสนองความอยากของผู้ชายคนเดียวแลกเงิน เอากัน น้ำแตก แล้วก็แยกทาง”


“ชั้นเหนื่อยกับเธอจริงๆ ชัยจัดการด้วยนะ”ท่านถอนหายใจ ส่ายหน้าอย่างรำคาญ หยิบไอแพดที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วเดินออกไป


ผมเข้าใจผิดตรงไหน?
คิดยังไงก็คิดไม่ออก…


ผมวางช้อนลงในถ้วยข้าวต้มจ้องมองคุณชัยนิ่ง มีคำถามมากมายที่ผมอยากถาม


“อธิบายให้ผมฟังทีเถอะครับ เด็กเลี้ยงในอุดมคติของท่านเป็นแบบไหน”


“สิ่งแรกที่เด็กเลี้ยงของท่านควรมี คือ ‘สมอง’ ”คุณชัยพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มเหมือนกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป แต่ถ้อยคำที่กล่าวออกมานี่เสียดแทงใจเหลือเกิน
ผมรู้สึกเหมือนกำลังถูกด่าว่า งี่เง่า ไม่มีสมอง คิดเองไม่เป็น เอาแต่ถามอย่างเดียว


“ปกติเด็กเลี้ยงทุกคนของท่านจะได้รับเงินเดือนทุกเดือน เดือนละ 100,000 บาทตามข้อตกลง ไม่ว่าท่านจะใช้บริการคุณหรือไม่ แต่ถ้าท่านไปใช้บริการ ท่านก็จะจ่ายเพิ่มให้ครั้งละ 50,000 บาท เด็กของท่านทุกคนมักจะได้บ้าน ได้รถเป็นชื่อตัวเองเมื่อดูแลท่านครบ 1 ปี แล้วสัญญาทุกอย่างก็จะจบลง ท่านไม่เคยเลี้ยงใครนาน นี่คือสิ่งแรกที่คุณควรเข้าใจ”


ท่านเป็นพวกรักสนุก แต่ไม่ผูกพันธ์สินะ
ไม่เลี้ยงใครนาน ก็เพราะไม่อยากสร้างความสัมพันธ์ผูกมัดตัวเอง


“สิ่งที่สองที่ควรทำความเข้าใจคือท่านไม่ชอบคนไม่ซื่อสัตย์ ในระหว่าง 1 ปีของการอยู่ในสัญญา คุณจะต้องไม่มีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น เว้นแต่ท่านจะเป็นคนอนุญาต”


“แต่ในกรณีของคุณ สัญญาอาจจะแตกต่างจากเด็กเลี้ยงคนอื่นตรงที่ คุณต้องพักอาศัยอยู่กับท่าน ทำงานทุกอย่างที่ท่านสั่ง รวมถึงทำงานบ้าน ทำอาหาร แทนแม่บ้านเพื่อชดใช้หนี้ 10 ล้านที่ท่านได้ชำระไปให้คุณแล้ว”


“ท่านจ่ายไปแล้วเหรอครับ?”ผมถามคุณชัยตาโต หนี้ 10 ล้านไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ


“ใช่ครับ”


“ทำไม?”ผมถามคุณชัยด้วยความสงสัย


“เรื่องนี้ถ้าคุณอยากรู้ คุณควรจะสอบถามกับท่านเองโดยตรง”


ผมกำลังรู้สึกเหมือนถูกท่านเอาเงินฟาดหัว
เงิน 10 ล้านที่ท่านจ่ายให้คงเหมือนเงินค่า ‘ค่าทำขวัญ’ ล่วงหน้าสำหรับการทำ ‘ระยำ’ ยังไงกับผมก็ได้


“ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณจะอายุ 20 ปีบริบรูณ์แล้ว แต่ท่านก็จะทำหน้าที่ผู้ปกครอง ดูแลให้ทุนการศึกษาให้คุณได้เรียนสูงที่สุดเท่าที่คุณอยากเรียน โดยมีข้อแม้ว่าเกรดเฉลี่ยทุกเทอมต้องมากกว่า 3.5 ถ้าเทอมไหนเกรดคุณตก ข้อตกลงนี้จะถูกยกเลิกทันที และเมื่อคุณจบการศึกษา คุณต้องมาทำงานชดใช้ทุนในบริษัทของท่านเป็นเวลา 2 เท่าของเวลาที่ได้รับทุน”


“หมายความว่า ผมจะอยู่ในสัญญาของการเป็นเด็กเลี้ยงแค่ 1 ปี หลังจากนั้นผมก็จะกลายเป็นแค่เด็กในปกครองที่มีพันธะผูกพันธ์กับท่านเพียงแค่การทำงานชดใช้หนี้ เท่านั้นใช่ไหมครับ”


“ใช่ครับ ส่วนเรื่องบ้านและรถที่เด็กเลี้ยงทุกคนของท่านมักจะได้ เรื่องนี้คุณคงต้องคุยกับท่านเอง เพราะท่านก็จ่ายให้คุณไปเยอะมากพอแล้วเหมือนกัน”คำพูดของคุณชัยเหมือนการด่าผมแบบอ้อมโลกว่าอย่าได้สะเออะขออะไรแบบนั้น เพราะเท่านี้ท่านก็ให้ผมมากเกินพอสำหรับสิ่งที่ผมควรจะได้แล้วด้วยซ้ำ


“สิ่งสุดท้ายที่คุณควรทราบก็คือที่นี่คือคอนโดส่วนตัวของท่าน คุณไม่ได้รับอนุญาตให้แจ้งกับใครว่าพักที่นี่ และไม่มีสิทธิพาใครมาที่นี่ทั้งนั้น ถ้าเมื่อใดเรื่องนี้หลุดรั่วออกไป คุณจะถูกไล่ออกจากที่นี่ทันทีโดยไม่มีการสอบสวนใดๆทั้งสิ้น”


“ข้อมูลทุกอย่างในห้องทำงานท่านเป็นความลับของบริษัท ถ้าท่านทราบว่าข้อมูลรั่วมาจากคุณ คุณคงไม่อยากรู้หรอกใช่ไหมครับว่าคุณจะถูกลงโทษลงยังไง”ผมพยักหน้า แค่เมื่อคืนท่านจับได้ว่าผมขาย online ยังโดนข่มขืนโชว์ซะขนาดนั้น เกิดผมขโมยข้อมูลลับของบริษัทท่านไปขาย มีหวังผมโดนแล่เนื้อ ควักอวัยะขายแล้วส่งซากไปค้ามนุษย์ที่ชายแดน


“คุณไม่ได้รับการอนุญาตให้ติดต่อกับท่านโดยตรง ยกเว้นมีกรณีฉุกเฉินเกิดขึ้น ถ้าคุณต้องการติดต่อท่านให้ติดต่อผ่านผมเท่านั้น”ผมพยักหน้าแล้วยื่นโทรศัพท์ให้คุณชัยเมมเบอร์โทรให้


“ข้อตกลงตอนนี้ก็มีเพียงเท่านี้ คุณมีคำถามหรือข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติมรึเปล่า?”


“ผมสามารถเลือกเรียนในสิ่งที่ผมอยากเรียนได้ไหมครับ?”ผมเลือกถามในสิ่งที่ผมสงสัยและต้องการคำตอบมากที่สุด


การได้กลับไปเรียนในคณะที่ผมตั้งใจอ่านหนังสือจนสอบเข้ามหาลัยปิดของรัฐอันดับต้นๆของประเทศเป็นความภาคภูมิใจในชีวิตอย่างหนึ่งของผม
โชคดีเหลือเกินที่ผมทำเรื่องดรอปไว้ และเสียเงินคงสภาพนักศึกษาทุกเทอม


“ได้ครับ เฉพาะปริญญาตรีที่คุณยังมีสถานภาพนักศึกษากับมหาลัยเท่านั้น แต่การศึกษาในระดับสูงต่อจากนี้ ท่านจะเป็นคนพิจารณาให้คุณเอง”


“ขอบคุณครับ”ผมยกมือไหว้คุณชัย แค่ได้กลับมาเรียนผมก็ดีใจมากๆอยู่แล้ว


ท่านหายไป 1 เดือนก็จริง แต่เหมือนท่านไม่ได้ปล่อยเวลานั้นให้สูญไปอย่างเปล่าประโยชน์
จริงๆระหว่างรอ ท่านคงให้คนคอยตามสืบประวัติผม เฝ้าดูพฤติกรรมว่าผมเหมาะสมที่จะมาอยู่ตรงนี้หรือไม่
ผมไม่สงสัยเลยว่าทำไมเมื่อวานท่านถึงโกรธขนาดนั้น


เป็นผม…ผมก็โกรธ
เด็กคนหนึ่งที่เราต้องการมอบชีวิตใหม่ให้ วางแผนอนาคตทุกอย่างไว้ให้
กลับหักหลังเราอย่างเลือดเย็น


ผมกุมสร้อยคอล็อคเก็ตที่ด้านในเป็นภาพพ่อกับแม่อย่างดีใจ
ถึงท่านจะมีพฤติกรรมป่าเถื่อน โหดร้าย รุนแรง แต่ท่านก็มอบชีวิตใหม่ให้กับผม
ดึงผมออกมาจากงานกลางคืน งานที่ผมไม่ชอบทำ


ถึงผมจะไม่ได้มีอะไรกับลูกค้า แต่ผมก็ไม่ชอบเวลาที่ต้องคอยดูแล ปรนนิบัติใคร
ทุกๆคืนเจอลูกค้าหมุนเวียนเปลี่ยนเข้ามา ไม่ซ้ำหน้ากันสักคืน
ลูกค้าบางคนถือว่าตัวเองจ่ายเงินแล้ว เลยคิดว่าการลูบไล้ตามร่างกายโฮสต์เป็นเรื่องที่ทำได้
บางครั้งผมก็ถูกบังคับให้จูบเหมือนวัตถุทางเพศไม่มีราคา


ลูกค้าบางคนยอมจ่ายค่าห้อง VIP เพื่อให้ผมจูบเธอตลอดทั้งคืน
จูบแล้วก็เธอก็ช่วยตัวเองจนเสร็จครั้งแล้วครั้งเล่า
เรื่องแบบนั้นผมไม่อยากทำอีกแล้ว


ผมอยากมีชีวิตเป็นคนกลางวัน
ทำงาน 8 ชั่วโมงเหมือนคนทั่วไป
ได้นอนหลับพักผ่อนให้เต็มอิ่ม
ไม่ต้องคอยพะว้าพะวงว่างานนี้เสร็จ ต้องไปทำงานนู้นต่อ


แค่นี้ก็พอแล้วจริงๆที่ผมต้องการ


ต่อให้ท่านร้ายยังไงกับผมในอนาคต
ทุกๆอย่างก็จะ ‘ไม่เป็นไร’
ท่านคือผู้ให้ชีวิตใหม่กับผม เป็นผู้มีพระคุณ
ผมจะ ‘อดทน’ และผ่านมันไปให้ได้


“ถ้าคุณทำความเข้าใจในข้อสัญญาทุกข้อแล้วก็เซ็นต์ด้วยครับ”ผมรับสัญญามาเปิดอ่านก่อนจะจรดปลายปากกาเซ็นต์ชื่อ


“ผมจะไปจัดการเรื่องเอกสารการเรียนให้ คุณจะออกไปกับผมเลยไหม จะได้ไปซื้อชุดนักศึกษาแล้วก็ไปจัดการเรื่องหอพักของคุณ”


“ไปด้วยกันเลยครับ”


คุณชัยขับรถพาผมมาที่มหาวิทยาลัย
เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนแจ้งว่า ผมไม่สามารถลงทะเบียนเรียนในเทอมนี้ได้แล้ว
เนื่องจากมาติดต่อขอลงทะเบียนล่าช้ากว่ากำหนดไปมาก


หลังจากรับทราบข้อมูล คุณชัยโทรศัพท์รายงานท่าน เพียงไม่นานเจ้าหน้าที่ทะเบียนก็ได้รับโทรศัพท์ให้จัดการกรณีของผมเป็นกรณีพิเศษ
ผมสามารถเริ่มมาเรียนได้เลยในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
มีเวลาเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้นที่ต้องตามงานและเรียนตามเพื่อนให้ทันเพราะใกล้จะสอบมิดเทอมแล้ว


เรื่องนี้สำเร็จไปด้วยดี ไม่รู้เพราะอำนาจเงินหรือบารมีของตระกูลท่านกันแน่


หลังจากจัดการเรื่องลงทะเบียนเรียบร้อย คุณชัยก็พาผมไปซื้อชุดนักศึกษา หนังสือเรียนที่จำเป็นและอุปกรณ์อื่นๆ


“ผมต้องจ่ายคืนท่านไหมครับ”ผมถามคุณชัยด้วยความสงสัย เงินที่จ่ายไปในวันนี้เป็นจำนวนไม่น้อยทีเดียว
ถ้าจะจ่ายคืนให้ครบ ผมคงต้องรับตุ๊กตาหมีมาเย็บหลายตัว


“ไม่ต้องครับ ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาทั้งหมดท่านจะเป็นคนรับผิดชอบให้ เพียงแต่ทุกครั้งที่คุณจ่ายไปต้องมีใบเสร็จรับเงินมาเบิกทุกครั้ง”


“ครับ”ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับวิธีการจัดการของท่าน
หรือผมควรใช้วิธีนี้กับน้องชายตัวเองบ้างนะ


หลังจากซื้อเสื้อนักศึกษาเสร็จ
คุณชัยก็พาผมไปที่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย
คุณชัยเดินพุ่งตรงไปที่แบรนด์ดังซึ่งปกติมีแต่นักท่องเที่ยวจีนต่อแถวซื้อเหมือนแจกฟรี


“คุณชัยครับ แบรนด์นี้ผมจ่ายไม่ไหวหรอกครับ ไปซื้อที่ประตูน้ำดีไหมครับ เดินไปอีกหน่อย แต่ราคาน่ารักกว่ากันเยอะ”


“ไม่ได้ครับ ท่านสั่งมา”


“ผมช่วยท่านประหยัดเงิน ท่านไม่ว่าหรอกครับ”คุณชัยทำท่าคิดแล้วเหมือนจะคล้อยตามผม


“ไม่ได้หรอกครับ ถ้าใครรู้ว่าคุณเป็นเด็กเลี้ยงท่าน แล้วแต่งตัวเหมือนขอทานข้างถนนแบบที่คุณเคยแต่ง ท่านจะดูไม่ดี”


“ไม่มีใครรู้หรอกครับ ในสัญญาก็ระบุไว้ไม่ใช่เหรอครับว่าผมห้ามบอกใครเรื่องที่เป็นเด็กเลี้ยงของท่าน”


“คุณห้ามบอกแต่ใช่ว่าท่านจะบอกไม่ได้นี่ครับ”ผมอ้าปากหวอทันทีที่คุณชัยพูด จริงด้วยแหะ
แต่ถึงยังไงก็ยังมองไม่เห็นวันที่ท่านจะป่าวประกาศว่าผมเป็น ‘เด็กเลี้ยง’ อยู่ดี


“เข้าไปเลือกๆมาสัก 2-3 ตัวเถอะครับ คุณคงไม่อยากโดนท่านลงโทษที่ขัดคำสั่ง”หลังจากที่ได้ยินคำว่าลงโทษ ผมก็รีบเดินเร็วไปต่อแถวแต่คุณชัยดึงผมออกมาแล้วพาเข้าร้าน


ความ VIP ที่ผมเข้าไม่ถึงจริงๆ


ผมเดินไปเลือกเสื้อยืดกับเสื้อเชิ้ตมาอย่างละตัว สายตาเหลือบไปเห็นป้ายราคาแล้วก็ได้แต่สงสัยว่านี่ราคาหรือรหัสสินค้า นับจำนวนหลักตัวเลขไม่ถูกเลยทีเดียว


“แค่นี้?”


“ครับ”คุณชัยพยักหน้าแล้วเดินไป ‘กวาด’ ผมเน้นว่ากวาดเสื้อยืดและเสื้อเชิ้ตแบบที่คล้ายๆกับผมเลือกมาเพียงแต่คนละสีมาทั้งราว


“ผมว่ามันเยอะไปนะครับ ใช้เงินมากไปท่านจะโกรธได้”


“ใช้น้อยไปไม่ถูกใจก็ถูกโกรธได้เหมือนกันครับ คุณเชื่อผมเถอะ”ผมพยักหน้าอย่างปลงๆ


“เอากางเกงไปลองครับ”


“ครับ”


ผมเดินออกมาพร้อมกางเกงแสล็คทรงสวย เข้ารูปสีขาว คุณชัยพยักหน้าแล้วหันไปบอกพนักงาน “เอาแบบนี้อีก 5 ตัวคละสีมาเลยครับ”


หลังจากที่ซื้อเสื้อผ้าเหมือนจะไม่ได้ซื้ออีกแล้วทั้งชีวิต คุณชัยก็พาผมไปซื้อรองเท้า ชุดนอน กางเกงใน
ผมคิดไม่ทันเลยว่าวันนี้รูดบัตรท่านไปเท่าไหร่แล้ว


ขออย่างเดียวอย่าเรียกเก็บผมย้อนหลังเวลาบัตรเครดิตเรียกชำระหนี้แล้วกัน
เพราะถ้าเรียกเก็บทีหลัง ผมจะไม่ยอมตัดป้ายยี่ห้อออกเด็ดขาด ผมจะเอาของมาคืนแทน


หลังจากจัดการเก็บของทั้งหมดในรถ คุณชัยก็ขับรถพาผมมาที่หอพัก
คุณชัยดึงผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋าเสื้อ คลุมมือไว้แล้วกดลิฟท์
เว่อวังไปอีกกกกกกกกกกก!


ผมไขกุญแจห้องแล้วเปิดเข้าไป


“แค่กๆ”เสียงไอของผู้ลากมากดีดังอย่างต่อเนื่อง
ได้ยินแล้วรำคาญจนอยากจะไล่ลงไปด้านล่าง


“อันนั้นคุณเอาไปไม่ได้”คุณชัยรีบตะโกนออกมา เสียงดังทะลุ mask ที่พึ่งหยิบมาใส่หลังจากไอจนเจ็บคอ


“ทำไม”


“เมื่อเช้าท่านสั่งว่าห้ามเอาของเน่าๆเข้าคอนโด คุณก็ได้ยิน”


“ผมไม่เห็นว่าเสื้อนอนของผมมันจะเน่าตรงไหน มันก็แค่ยืดและย้วยกว่าปกติเท่านั้น”


“ยังไงก็ไม่ได้”ผมขี้เกียจจะเถียงด้วย สุดท้ายก็โยนเสื้อยืดลงถุงดำที่เตรียมจะทิ้ง


เลือกของในห้องไปมา สุดท้ายเหลือสิ่งที่เอาไปได้แค่เอกสารระบุตัวตนว่าเป็นพลเมืองไทยเท่านั้น


เสื้อผ้าของใช้ถูกคุณชัยสั่งให้ทิ้งลงถุงดำทั้งหมด
ผมเถียงหน้าดำหน้าแดงอยู่นาน ต่างคนต่างไม่ยอมกัน
จนสุดท้ายท่านโทรมาบอกว่าให้คุณชัยรีบกลับ ท่านต้องการให้คุณชัยขับรถไปงานเลี้ยงคืนนี้
เราเลยได้ข้อสรุปกันว่าต้องทิ้งของทั้งหมด


ผมสอดโน๊ตบอกลาและขอบคุณเจ๊ซอนย่าไว้ที่ช่องใต้ประตูห้อง
ถึงเจ๊ซอนย่าจะเป็นสาวประเภทสอง ชอบเอางานแปลกๆมาแนะนำให้ผมทำ ทั้งการเป็นโฮสต์ที่โรสคลับ และเป็นเด็กขายออนไลน์ แต่ผมก็ต้องขอบคุณเจ๊แกที่ทำให้ผมมีเงินใช้มาถึงทุกวันนี้


ถ้าไม่ได้เจ๊แกป่านนี้ผมโดนพวกหนี้นอกระบบคว้านท้องขายตับ ขายไต ควักแก้วตาออกไปขายนานแล้ว


ผมบอกลาที่อยู่ที่อยู่มาตลอด 2 ปีอย่างใจหาย
วันไหนที่ท่านไม่ต้องการผมแล้ว ผมอาจจะต้องกลับมาอยู่ที่นี่อีก


“เร็วๆสิคุณพริ้ม ถ้าช้าแล้วผมโดนท่านว่า ผมจะบอกให้ท่านลงโทษคุณ”


“คุณชัยครับ คุณเองก็อายุมากแล้วยังทำตัวเป็นตาแก่ขี้ฟ้องอีกเหรอ”คุณชัยอายุน้อยกว่าท่าน ดูหน้าตาน่าจะประมาณ 30 แต่ผมก็ล้อเขาไปอย่างนั้นแหละ


ถึงท่าทาง คำพูดจะดูร้ายกาจ
แต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนใจดี ขี้เม้าท์
เม้าท์ให้ผมฟังเรื่องการทานอาหารของท่านตั้งหลายเรื่อง
ตลกดี


คนอะไรกินเฉาก๊วยไม่เป็น ตอนเด็กๆท่านเคยสำลักจนเฉาก๊วยออกมาทางจมูก


คอยดูนะ ถ้าวันไหนผมโกรธท่าน ผมจะซื้อเฉาก๊วยมาแช่ให้เต็มตู้เย็นเลย


ผมใช้เวลานานมากกว่าจะกลับถึงคอนโดท่าน
ตอนแรกผมกะจะขอคุณชัยไปลาพี่ส้มโอเจ้าของร้านกาแฟหลังจากไลน์ไปขอลาออก
แต่คิดอีกทีผมค่อยมาวันหลังเองดีกว่า
เกิดไปถึงคอนโดช้า ผมได้โดนลงโทษอีก

.
.
.

“ช้า”ท่านนั่งไขว่ห้างกดไอแพดอยู่บนโซฟา พูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์


“รถติดครับ”คุณชัยรีบตอบท่าน


“นายไม่รู้จักนวัตกรรมที่เรียกว่ารถไฟฟ้ารึยังไง?”หลังจากท่านถามผมก็คิดตาม
จริงด้วย…ถ้ามารถไฟฟ้าคงถึงนานแล้ว
แต่เดี๋ยวนะ
ถ้าคุณชัยมารถไฟฟ้าแล้วใครจะขับรถละ


“ผมขับรถไม่เป็น”ผมแทบจะตบปากตัวเองเมื่อหลุดพูดออกไป ท่านตวัดสายตาคมกริบมองผม ลุกจากโซฟาแล้วเดินเข้ามาหาผมช้าๆ ใจผมอยากจะเดินถอยหลังหนี แต่ขามันก้าวไม่ออก


“ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง เซ็กส์ก็ห่วย ทักษะการเอาตัวรอดและใช้ชีวิตก็ไม่มี”ท่านเดินมาพูดกับผมด้วยสายตาดุ


“อบรมเด็กนี่ด้วยนะชัย”


ท่านพูดทิ้งท้ายไว้กับคุณชัยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไป
คุณชัยหันหลังกลับมามองผม และพูดว่า ‘เกือบตาย’
อืม…เกือบตายจริงๆนั่นละ เกือบตายเพราะความปากเปราะของตัวเอง
ถ้าเมื่อกี้ทำตัวนิ่งๆแล้วเอ่ยคำขอโทษให้จบๆไป ก็คงไม่ถูกด่าให้เจ็บใจแบบนี้


ใจมันเจ็บแปล๊บๆแปลกๆ











น้องงงงงงงงงงงงงงง  :mew2:

ดราม่าเกินไปใจไม่ดี

ฝาก #พริ้มกับdaddy ด้วยค่ะ

อย่าพึ่งหนีน้องไปไหน



หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 20-02-2018 20:03:20
สนุป เป็นคนยังไง ?
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 20-02-2018 20:16:01
อ่านตอนล่าสุดละรู้สึกว่าชอบท่านขึ้นมานิดนึง   ท่านก็มีมุมน่ารักๆอยู่สินะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: shiroinu ที่ 20-02-2018 20:25:56
อร้ายยย(?) มาเร็วอีกแล้ว รักคนเขียนมากกว่าพริ้มกับท่านอีก  :-[ ท่านแอบน่ารักนะ แต่ปากไม่ค่อยดี ส่วนพริ้มก็สายงง น้องจะไปทางไหนต่อ ตั้งใจเรียน น่ารักๆนะพริ้ม เอาให้ท่านคลั่งตายไปเลย :hao7:  ว่าแต่.... ท่านชื่ออะไรอ่ะ เราอ่านข้ามหรือนักเขียนยังไม่บอก :m21: ไปหวีดในทวีตต่อออ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 20-02-2018 21:25:08
แต่งสนุกจังครับ
มาต่อบ่อยๆนะครับ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 20-02-2018 21:31:25
อร้ายยย(?) มาเร็วอีกแล้ว รักคนเขียนมากกว่าพริ้มกับท่านอีก  :-[ ท่านแอบน่ารักนะ แต่ปากไม่ค่อยดี ส่วนพริ้มก็สายงง น้องจะไปทางไหนต่อ ตั้งใจเรียน น่ารักๆนะพริ้ม เอาให้ท่านคลั่งตายไปเลย :hao7:  ว่าแต่.... ท่านชื่ออะไรอ่ะ เราอ่านข้ามหรือนักเขียนยังไม่บอก :m21: ไปหวีดในทวีตต่อออ


คุณท่านชื่อคุณ รัตติกาลค่ะ

เจ๊จีน่าเคยกล่าวถึงไว้ในตอนที่ 3

ขอบคุณคนอ่านสำหรับคอมเม้นท์ในทุกๆตอนเหมือนกันนะคะ

เป็นกำลังใจทำให้อยากมาต่อทุกวันเลยค่ะ :)

 :mew3:  :mew2:  :mew6:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 20-02-2018 21:48:56
ชอบอ่ะ คุณท่านโหดมาก คนที่สามจะโผล่มาไงเนี่ย แฝดคุณท่านงี้หรอ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-02-2018 21:57:26
โอ้วววว
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-02-2018 22:11:35
รู้สึกดีมากกับตอนนี้
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 20-02-2018 22:15:00
ท่านดูเป็นคนดีขึ้นนิดนึง
บุคคลที่ 3 โผล่มายังน้า
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 20-02-2018 22:28:49
โถ่วน้องพริ้ม ไปเป็นหนี้อะไรตั้งสิบล้าน ท่านติดใจอะไรน้องมิทราบคะ แต่คงเป็นความโชคดีผสมโชคร้าย รอลุ้นไปกะน้อง
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: shiroinu ที่ 20-02-2018 23:09:19
อร้ายยย(?) มาเร็วอีกแล้ว รักคนเขียนมากกว่าพริ้มกับท่านอีก  :-[ ท่านแอบน่ารักนะ แต่ปากไม่ค่อยดี ส่วนพริ้มก็สายงง น้องจะไปทางไหนต่อ ตั้งใจเรียน น่ารักๆนะพริ้ม เอาให้ท่านคลั่งตายไปเลย :hao7:  ว่าแต่.... ท่านชื่ออะไรอ่ะ เราอ่านข้ามหรือนักเขียนยังไม่บอก :m21: ไปหวีดในทวีตต่อออ


คุณท่านชื่อคุณ รัตติกาลค่ะ

เจ๊จีน่าเคยกล่าวถึงไว้ในตอนที่ 3

ขอบคุณคนอ่านสำหรับคอมเม้นท์ในทุกๆตอนเหมือนกันนะคะ

เป็นกำลังใจทำให้อยากมาต่อทุกวันเลยค่ะ :)

 :mew3:  :mew2:  :mew6:
สรุปคือเราลืมเอง5555 แอบแวบกลับไปอ่านมา จริงด้วยลืมไปเลย  อ่านแต่ท่านจนลืมชื่อ :m20: นักเขียนเขียนได้สนุกมากค่ะ สื่ออารมณ์ดีมาก  :katai2-1: เราจะติดตามผลงานนน  :mew1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 21-02-2018 00:07:50
ตามค่ะ

ท่านโหดนะ คนที่3จะเข้ามาได้ คงต้องระดับเทพแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 21-02-2018 00:11:35
เป็นเด็กท่านต้อง  perfect
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 21-02-2018 01:34:49
นอกจากคุณท่านแล้วจะมีใครมาเป็น3Pของน้องอีกอ่ะ
หวังว่าคุณท่านจะสืบเรื่องน้องชายของน้องพริ้มมาด้วยนะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-02-2018 02:05:22
อันนี้นี่คุณท่านใจดีสุด ๆ แล้วใช่ปะ มีใจดีกว่านี่ไหม  :a6:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 21-02-2018 08:11:03
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 21-02-2018 08:38:56
เสี่ยกำลังตบหัวแล้วลูบหลัง  :ling1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 7 P.3 20.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 22-02-2018 07:04:04
ขอสมัครเป็นแฟนคลับคุณชัยค่ะ ตอนเถียงๆกับพริ้มกับตอนไปซื้อเสื้อผ้ารู้สึกว่าคุณชัยน่ารักจังเลย ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 23-02-2018 18:33:48
ตอนที่ 8


หลังจากท่านกับคุณชัยออกไปแล้ว
พี่แม่บ้านก็เดินเข้ามาทักทายผม


“สวัสดีค่ะคุณพริ้ม พี่ชื่อมะลินะคะ เป็นแม่บ้านดูแลที่นี่”พี่มะลิสวมชุดแม่บ้านเสื้อสีฟ้ากับกางเกงขายาวสีดำ ท่าทางทะมัดทะแมง พี่มะลิเป็นคนผิวค่อนข้างเข้ม แต่มีรอยยิ้มกว้างที่มองแล้วดูสดใส


“สวัสดีครับ ไม่ต้องเรียกผมว่าคุณหรอกครับ”ผมรีบยกมือไหว้ตอบพี่มะลิ


“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณเป็นคนของคุณท่าน ยังไงพี่ก็ต้องให้เกียรติ”อีตัวแบบผมยังมีเกียรติเหลือพอให้คนอื่นมาให้เกียรติอีกเหรอ


“ตามใจพี่มะลิเลยครับ”


“ก่อนอื่นพี่มะลิจะพาคุณพริ้มเดินดูห้องก่อนนะคะ แล้วเราค่อยมาคุยเรื่องงานที่คุณท่านจะให้คุณพริ้มทำแทนพี่นะคะ”


“ครับ”ผมเดินตามหลังพี่มะลิ สายตาก็สำรวจคอนโดของท่านไปด้วย


ห้องของท่านกินอาณาบริเวณกว้างทั้งชั้น ภายในห้องตกแต่งแบบสมัยใหม่ เน้นโทนสีขาวและดำ


“ห้องนี้คือห้องของคุณท่านนะคะ”พี่มะลิเปิดประตูห้องนอนที่อยู่ติดกับระเบียงด้านนอกให้ผมดู
ห้องนอนของท่านภายในตกแต่งด้วยสีดำสนิททั้งห้อง


มืดมัว ใจดำ อำมหิตเหมือนคนอยู่นั่นแหละ...


“ห้องของคุณท่านจะมีห้องน้ำเชื่อมกับห้องของคุณพริ้มนะคะ”พี่มะลิพาผมเดินทะลุห้องน้ำออกไปอีกห้องหนึ่งที่ตกแต่งแตกต่างจากห้องอื่นๆ


ห้องนี้เป็นห้องที่ผมนอนเมื่อคืน ภายในห้องตกแต่งด้วยสีฟ้าทั้งหมด รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ด้วย


“ห้องนี้ดูต่างจากห้องอื่นจังเลยครับ”ผมถามพี่มะลิด้วยความสงสัย
คนแบบคนท่านไม่น่าจะชอบสีฟ้าพาสเทลแบบนี้


“ห้องนี้เคยเป็นห้องของคุณฟ้าครามค่ะ ตอนคุณเขาย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ๆ เธอเจอห้องสีดำแล้วเธอบอกว่ามันดูมืดมัวน่ากลัวเกินไปค่ะ คุณท่านเลยยอมตกแต่งห้องใหม่ตามใจเธอ”พี่มะลิพูดถึงคุณฟ้าครามด้วยดวงตาเป็นประกาย


“ตอนนี้คุณฟ้าไปเรียนต่อที่อเมริกา อีกไม่นานก็น่าจะกลับมาแล้วค่ะ คุณพริ้มน่าจะได้เจอ”พี่มะลิยังคงเล่าถึงคุณฟ้าต่อไปด้วยน้ำเสียงที่คิดถึงคะนึงหา


“คุณฟ้าครามคือผู้ชายในรูปนี้เหรอครับ”ผมเดินไปหยิบกรอบรูปที่ด้านในบรรจุภาพถ่ายเด็กผู้ชายผิวขาวหน้าตาดี ดวงตากลมมน ขนตายาวสวยเรียงเป็นแพ มองครั้งแรกก็รู้สึกว่าสวย เป็นเด็กผู้ชายที่ดูหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก น่าเอ็นดู


“ใช่ค่ะ”พี่มะลิยิ้มกว้างตอบผม


“น่ารักจังเลยครับ น้องชายคุณท่านของพี่มะลิเหรอครับ”


“ไม่ใช่ค่ะ คุณฟ้าเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทคุณพ่อของคุณท่านค่ะ”ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะวางกรอบรูปไว้ที่เดิม


คนในรูปน่าจะมีความสำคัญกับท่านมากกว่านั้น…
ไม่อย่างนั้นคงไม่มีสิทธิครอบครองพื้นที่ส่วนตัวที่ท่านหวงแหนสุดชีวิต...


“ไปค่ะคุณพริ้ม ไปดูห้องอื่นกัน”พี่มะลิพาผมเดินไปดูห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องทานข้าว ห้องทำงานของคุณท่านและสุดท้ายคือห้องดนตรีสีขาว


ผมเดินเข้าไปลูบแกรนด์เปียโนสีขาวหลังใหญ่ที่ตั้งตรงกลางห้อง
ผ้าม่านสีขาวใสปลิวไสวตามแรงลม
ดอกมะลิที่ลอยอยู่ในอ่างแก้วใบใหญ่ส่งกลิ่นหอมอบอวนไปทั้งห้อง


“คุณท่านน่าจะชอบเล่นเปียโนมากเลยนะครับ”ผมถามพลางกดคีย์บอร์ดเปียโนเล่น ส่งเสียงดัง ‘ติ๊งๆ’
ถ้าไม่ชอบเล่นดนตรี คงไม่มีแกรนด์เปียโนหลังใหญ่ขนาดนี้


“ไม่ค่ะ...ไม่ชอบเลย แต่คุณฟ้าเธอชอบ คุณท่านเลยซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดครบรอบอายุ 18 ปี”ผมพยักหน้ารับแล้วรีบปล่อยมือออกจากเปียโนหลังงามตรงหน้า


ของสำคัญ…ที่มอบให้คนสำคัญไม่ควรมีรอยสัมผัสจากคน ‘ไม่มีค่า ไม่มีราคา’ แบบผม


ตั้งแต่เดินสำรวจคอนโดท่านมา ผมได้ยินชื่อคุณฟ้าจากพี่มะลิไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง
เป็นคนที่มีความทรงจำฝังอยู่ทั่วทุกมุม
คุณฟ้าคงเป็นคน ‘สำคัญ’ สำหรับท่านและคนในครอบครัวนี้ไม่น้อย


พี่มะลิเปิดประตูที่เชื่อมห้องดนตรีกับระเบียงด้านนอกออก
เมื่อเดินออกไปจะพบห้องออกกำลังกายอยู่ด้านซ้าย
ส่วนด้านขวาเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่กินความยาวเกือบทั้งชั้น
ผมมองสระว่ายน้ำที่ส่องประกายรับกับแสงสุดท้ายของวันอย่างกลัวๆ ผนังด้านหนึ่งของสระมีเพียงกระจกใสกั้นไว้เท่านั้น ถ้าดำลึงลงไปใต้น้ำคงเห็นวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครได้ไกลสุดลูกหูลูกตา


“คุณท่านของพี่มะลิน่าจะชอบว่ายน้ำน่าดูเลยนะครับ ทำสระใหญ่ขนาดนี้”


“คุณท่านไม่ชอบหรอกค่ะ คุณท่านสร้างให้คุณฟ้า ตอนคุณฟ้าเรียนปริญญาตรี เธอเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของมหาลัย ต้องอยู่ซ้อมดึกๆดื่นๆบ่อยๆ คุณท่านเลยสั่งรื้อสวนออกแล้วสร้างเป็นสระว่ายน้ำแทน”


ในคอนโดของท่านมีสิ่งที่ท่านไม่ชอบมากมาย
แต่มันกลับถูกรังสรรค์ไว้อย่างดีเพื่อคน ‘สำคัญ’ ของท่านล้วนๆ


ผมชักจะอยากเจอคุณฟ้าแล้วสิ
คนๆนั้นจะเป็นคนแบบไหน มีนิสัยใจคอยังไง
ทำไมท่านถึงยอมก้าวข้ามสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ชอบและยอมตามใจได้ขนาดนี้


“รื้อสวนเลยเหรอครับ”


“ใช่ค่ะ เมื่อก่อนตรงนี้เป็นสวน ปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ร่มรื่นมากเลยค่ะ แต่ตอนสร้างสระว่ายน้ำต้องรื้อออกไปเกือบทั้งหมด ตอนนี้เหลือแค่เรือนกระจกหลังเล็กๆเองค่ะ”


“พี่มะลิพาไปผมไปดูได้ไหมครับ”


“ได้สิคะ”ผมเดินตามหลังพี่มะลิไปอย่างระวัง พยายามเว้นระยะห่างจากสระว่ายน้ำเยอะๆ
ใจผมไม่อยากจะเดินผ่านตรงนี้ด้วยซ้ำ เพราะผมว่ายน้ำไม่เป็น
เกิดพลาดท่าตกน้ำตกท่าไป…ใครจะช่วย


ตอนเด็กๆผมเคยจมน้ำ หลังจากนั้นมาผมกลายเป็นเด็กฝังใจและกลัวน้ำ
ถ้าอยู่ในระดับน้ำตื้นๆแค่เข่ายังไม่เป็นไร แต่ถ้าระดับน้ำสูงขึ้นมาจนถึงอกเมื่อไหร่ ผมจะรู้สึกทรมานเหมือนคนหายใจไม่ออกทันที


“นี่ค่ะเรือนกระจก”ผมเดินตามพี่มะลิเข้าไปในเรือนกระจกที่ทำจากไม้สีขาว หลังคาด้านบนเป็นกระจกใส ภายในปลูกไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด


“สวยจังเลยครับ”ผมมองดอกไม้ที่ผลิดอกรอบๆอย่างหลงใหล
กลิ่นหอมของดอกไม้ที่อบอวลในเรือนกระจกทำให้ผมรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย


“มีสวยกว่านี้อีกค่ะ”พี่มะลิพาผมเดินต่อเข้าไปด้านในสุดของเรือนกระจก
มีโซฟาตัวยาววางอยู่เคียงข้างต้นตะบองเพชรหลากหลายสายพันธุ์
ผมเคยรู้มาว่าต้นตะบองเพชรเลี้ยงให้ออกดอกยากมาก แต่ของท่านออกดอกสีสวยแทบทุกต้น


“ต้นตะบองเพชรพวกนี้คุณท่านรักมากนะคะ ต้นไม้อื่น ท่านยอมให้พี่ดูแลรดน้ำต้นไม้ให้ แต่เจ้าเด็กๆพวกนี้ ท่านดูแลเองทุกต้นเลยค่ะ”ผมพยักหน้ารับก่อนจะยื่นมือออกไป หวังใจจะลูบเจ้าดอกสีสวยเบาๆ


“โอ๊ะ!”ผมรีบชักมือกลับด้วยความรวดเร็วเมื่อนิ้วมือผมไปโดนหนามตะบองเพชรแทนดอกสีสวย


“ตายแล้วคุณพริ้ม เจ็บไหมคะ”พี่มะลิถามอย่างร้อนรน ดึงนิ้วผมไปดู


“ไม่เป็นไรครับ”ผมพยายามบีบหนามที่ฝังอยู่ในนิ้วแต่มันไม่ออก มีแต่เลือดสีแดงสดเท่านั้นที่ออกมา


“นั่งรอพี่แปปนึงนะคะ พี่จะเอาไปเข็มมาเขี่ยให้”พี่มะลิพูดจบแล้วรีบวิ่งออกไป


ผมพันไปมองเจ้าตะบองเพชรแล้วอดคิดถึงเจ้าของมันไม่ได้
มันเหมือนกับเจ้าของมันเหลือเกิน...งดงาม มีเสน่ห์ น่าหลงใหล เชิญชวนให้สัมผัส แต่ก็มีหนามแหลมคมพร้อมทิ่มแทงคนอื่นให้เจ็บปวด


“พี่มะลิมาแล้วค่ะ ส่งนิ้วมาให้พี่มะลิดูสิคะ”พี่มะลิวางกล่องปฐมพยาบาลลง หยอบเอาแอลกอฮอล์เทราดลงบนปลายนิ้ว


“…”ผมกัดฟันแน่นด้วยความแสบ


“ทนหน่อยนะคะคุณพริ้ม”พี่มะลิใช้ปลายเข็มสะกิดหนังที่อยู่รอบๆออกก่อนจะเขี่ยหนามออกมา หลังจากเขี่ยหนามออกแล้วก็ทายา ปิดปลาสเตอร์ให้ผม


“วันหลังห้ามซนนะคะรู้ไหม”พี่มะลิดุผมเบาๆหลังทำแผลเสร็จ


“ครับ”ผมรับคำ รู้สึกตัวเองเหมือนเด็กเล็กๆที่ทำผิดแล้วโดนดุ


เมื่อกี้โชคดีแค่ไหนแล้วที่ผมโดนหนามทิ่มก่อน
เกิดผมสัมผัสเจ้าดอกตะบองเพชรไปจริงๆแล้วมันเสียหาย
มีหวังผมจะพาพี่มะลิซวย โดนท่านลงโทษไปด้วย


“อันนี้คือบัวหิมะนะคะ คุณพริ้มเอาไว้ทาแผลที่หลังนะคะ จะได้ไม่เป็นแผลเป็น”พี่มะลิหยิบบัวหิมะกระปุกใหญ่วางบนฝ่ามือผม ผมเปิดกระปุกออกด้านในเป็นครีมสีขาวๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ


“ส่วนถุงนี้เป็นยาที่คุณหมอฝากไว้ให้ มียาลดไข้ ยาแก้อักเสบแล้วก็ยาอะไรอีกก็ไม่รู้ พี่มะลิไม่แน่ใจ ขอโทษนะคะที่ลืมเอาให้คุณพริ้มเมื่อเช้า”


“คุณหมอฝากไว้ให้เหรอครับ”ผมรับถุงยาจากพี่มะลิอย่างแปลกใจ
ผมยังไม่ได้ไปโรงพยาบาล แล้วจะมียาจากคุณหมอได้ยังไง


“ใช่ค่ะ เมื่อคืนตอนตีสามคุณพริ้มไข้ขึ้นสูงมาก คุณท่านเลยโทรตามคุณหมอมาฉีดยาแล้วก็ให้น้ำเกลือค่ะ ท่านอยู่เช็ดตัวคุณทั้งคืนจนไข้ลดเลยนะคะ”


“เหรอครับ?”ผมรับคำอย่างไม่อยากจะเชื่อ คนใจร้ายอย่างเขาเนี่ยนะที่จะดูแลผมทั้งคืน
ความเป็นไปได้นี่ 0.0000000000…..01 % เลย


“ช่วงอาทิตย์นี้พี่จะเข้ามาทุกวันนะคะ มาช่วยสอนคุณเรื่องงานบ้าน เรื่องอาหารแล้วก็ช่วยคุณพริ้มดูแลบ้านก่อน ถ้าคุณมีข้อสงสัยหรือว่าอยากรู้อะไรถามพี่ได้เลยนะคะ”


“พี่มะลิไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอครับ”


“ไม่ค่ะ พี่พักที่บ้านใหญ่ แต่จะเข้ามาทำความสะอาด ทำอาหารให้คุณท่านแล้วก็กลับค่ะ”


“บ้านใหญ่เหรอครับ?”


“บ้านคุณพ่อคุณแม่ของคุณท่านนะค่ะ อยู่ชานเมืองออกไปหน่อย ท่านทั้งสองชอบอากาศบริสุทธิ์ที่นั่น”


“เรื่องงาน…ผมต้องทำอะไรบ้างครับ?”


“ตอนเช้าคุณท่านจะตื่นประมาณตีห้าครึ่งเพื่อออกกำลังกาย คุณพริ้มมีหน้าที่ตั้งโต๊ะอาหารเช้าให้ทันก่อนเจ็ดโมง สิ่งที่คุณพริ้มต้องเตรียมให้คุณท่านทุกเช้าคือกาแฟดำ ไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาลนะคะ ส่วนอาหารท่านทานอะไรก็ได้ค่ะ”


“ท่านทานได้ทุกอย่างใช่ไหมครับ ไม่มีอาหารที่แพ้?”


“ไม่มีค่ะ ส่วนมื้อเย็น คุณพริ้มก็หุงข้าวกล้องกับทำกับข้าว 2-3 อย่าง งานบ้านประจำวันที่ต้องทำ คือ ดูดฝุ่น ถูพื้น รดน้ำต้นไม้”


พี่มะลิอธิบายเรื่องในคอนโดเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยแล้วขอตัวกลับไป
หลังจากพี่มะลิกลับไป ผมก็เดินเข้าห้อง จัดการเก็บข้าวของที่ซื้อมาวันนี้ใส่ตู้ให้เป็นระเบียบ
เสื้อผ้าที่ซื้อใหม่ก็เอาไปซักที่ห้องซักล้าง ตากไว้ริมระเบียง


ผมต้มมาม่าง่ายๆเป็นอาหารเย็น กินเสร็จแล้วก็มานั่งดูทีวีรอคุณท่าน
นาฬิกาบอกเวลา 4 ทุ่มแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าคุณท่านจะกลับมา
สุดท้ายผมผลอยหลับไปบนโซฟาด้วยความอ่อนเพลีย

.
.
.

“เด็กขี้เซา”ผมขมวดคิ้ว ขยี้ตา พยายามเงี่ยหูฟังเสียงคุณท่านพูดอะไรสักอย่างแว่วๆข้างหู
ดวงตาของผมยังไม่ทันลืมสนิทดี รู้ตัวอีกที…ร่างทั้งร่างของผมก็ลอยออกจากอ้อมอกคุณท่านลงไปในสระว่ายน้ำ


ตูมมมมม!
เสียงน้ำแตกกระเซ็นเพราะวัตถุมวลมากตกกระทบผิวน้ำ


ผมตะเกียกตะกายไขว่คว้าหาอากาศ สะบัดมือไปมา พยายามดันตัวขึ้นเหนือผิวน้ำ


“ชะ…ช่วยด้วย”ผมพยายามตีน้ำ เพื่อดันตัวเองขึ้นเหนือผิวน้ำ แต่ก็ไม่รอด ผมค่อยๆจมดิ่งลงไปใต้น้ำอย่างช้าๆ


“แฮ่กๆ”ผมสูดอากาศหายใจเข้าเต็มปอด ทันทีที่คุณท่านลากคอเสื้อ ดึงผมขึ้นมาจากก้นสระ


“ยืนสิวะ!”ท่านลูบเส้นผมที่เปียกน้ำปรกหน้าปรกตาตัวเองออก พร้อมๆกับด่าผมอย่างอารมณ์เสีย


“แค่กๆ”ผมไอค่อกแค่กอย่างแสบคอจากการสำลักน้ำ


“ถึงจะว่ายน้ำไม่เป็น แต่ถ้านายไม่โง่ นายก็แค่ยืนขึ้น นายไม่มีวันจมน้ำในสระที่ลึกแค่เมตรห้าสิบ เข้าใจไหม?!”


“ผมขอโทษ”คำนี้เหมือนคำพูดติดปากผมไปแล้ว
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าเรื่องนั้นผมจะเป็นคนผิดหรือไม่ ผมก็ต้องขอโทษไว้ก่อน
เผื่อว่าคำขอโทษจะช่วยลดอารมณ์โกรธของท่านได้บ้าง


“อยู่ใกล้นายนี่ชั้นเหมือนอยู่ใกล้ระเบิดเวลา หาเรื่องเดือดร้อนได้ทุกวี่ทุกวัน”ผมก้มหน้าเอาคางชิดอก อยากจะเถียงออกไปใจจะขาด แต่ต้องเถียงในใจ


คนผิดวันนี้ก็คือคุณท่านนั่นแหละ
ถ้าไม่พิเรนทร์ปลุกผมด้วยการโยนลงสระว่ายน้ำ…ผมจะจมน้ำไหม???


“ปล่อย ชั้นจะขึ้น”คุณท่านหันมาดุผมเสียงเขียวที่ผมดึงชายเสื้อไม่ให้ท่านเดินขึ้นจากสระ


“ผมไปด้วย”


“ไม่”


“คุณท่าน…”ผมร้องเรียกคุณท่านที่ปัดมือผมทิ้งอย่างไม่ใยดีแล้วเดินขึ้นจากสระ


ท่านทิ้งให้ผมยืนขาสั่นอยู่กลางสระว่ายน้ำ มองไปทางขวาก็เจอกระจกที่มองลงไปเห็นวิวทั่วกรุงเทพจากตึกสูง 20 กว่าชั้น มองไปทางซ้ายก็ไกลเหลือเกินกว่าจะเดินถึงขอบสระ
ถ้าผมเดินแล้วลื่นคงได้จมน้ำตายอยู่ตรงนี้


“จะยืนเป็นผีพรายเฝ้าสระน้ำชั้นอีกนานไหม”คุณท่านกลับออกมาจากห้องนอนด้วยด้วยชุดคลุมสีขาว ฝ่ามือหนากำลังใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเช็ดผมอยู่


“ผมไปไม่ได้ ผมกลัว…อึก ผม…”ผมตอบคุณท่านไปเสียงสั่น ความรู้สึกหายใจไม่ออกกำลังโจมตี
สำหรับคนอื่น ความลึกของน้ำแค่นี้อาจจะไม่ส่งผลอะไร
แต่กับผมที่มีความหลังฝังใจมาก่อน มันไม่ง่ายเลย


“ถ้ากลัวก็ยืนอยู่ตรงนั้นไปทั้งวันนั่นแหละ อย่าหวังว่าชั้นจะช่วย”


ผมยืนขาแข็ง จิกเท้าลงกับพื้นสระว่ายน้ำอยู่นานจนคุณท่านอาบน้ำเสร็จแล้วมานั่งจิบกาแฟดำอยู่ริมสระ


“คุณท่าน…”ผมร้องเรียกคุณท่านอีกครั้งเผื่อท่านจะเมตตา


คุณท่านเหลือบตาขึ้นมองผมจากหน้าจอโทรศัพท์ แล้วทำเพียงแค่โยนโฟมอันเล็กมาให้เท่านั้น


ผมค่อยๆก้าวขาช้าๆไปหาโฟมที่คุณท่านโยนลงมาให้
แต่ด้วยความสั่นกลัวของตัวเองทำให้ผมลื่นลงไปใต้น้ำ ผมสำลักน้ำจนแทบหายใจไม่ออก
สองมือตะเกียกตะกายเหมือนลูกหมาตกน้ำ จนสุดท้ายคำพูดของคุณท่านก็ดังขึ้นมาในหัวว่าให้ผม ‘ยืน’


ผมดันตัวเองขึ้นจากก้นสระขึ้นมาด้านบน
พยายามยืนทรงตัวนิ่งอยู่กับที่ สูดอากาศเข้าปอด
ผมไอแค่กๆหน้าดำหน้าแดง จากการสำลักน้ำ


“เดินมาหาชั้น”คุณท่านเดินมานั่งหย่อนขาอยู่ริมสระแล้วสั่งผม


“ครับ”ผมปาดน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความแสบคอ แสบจมูกแล้วเดินไปหาคุณท่าน


“เกาะขอบสระไว้แล้วลงไปหายใจใต้น้ำให้ครบ 1 นาที”ท่านสั่งทันทีที่ผมเกาะขอบสระได้
ผมเงยหน้ามองท่านงงๆ จะสั่งให้ผมทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร?


“ผมทำไม่ได้”อย่าว่าแต่ 1 นาทีเลย 10 วิยังยากสำหรับคนที่กลัวน้ำแบบผม


“สำหรับชั้น ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”ทันทีที่ท่านพูดจบ ท่านก็กดหัวผมลงไปในน้ำ ผมหายใจใต้น้ำไม่เป็น ทำให้น้ำไหลเข้าจมูกจนแสบไปหมด ผมสะบัดมือคุณท่านออกแล้วรีบขึ้นมาหายใจเหนือน้ำ


“แค่กๆ”ผมหันไปมองคุณท่านด้วยสายตาที่พร่าเบลอ การหายใจไม่ออกเพราะถูกกดให้จมน้ำมันไม่ใช่เรื่องตลก จะฆ่าจะแกงกันทุกลมหายใจเลยรึไง? นี่มันเด็กเลี้ยงแบบไหนกัน?


“เฮ้อออออ มานี่”ท่านลากผมไปยืนที่หว่างขา ใช้เข่าสองข้างหนีบหัวไหล่ผมไว้


“สิ่งที่ชั้นกำลังจะให้นายฝึกคือการหายใจใต้น้ำ นายต้องหายใจเข้าให้เต็มปอดแล้วกลั้นหายใจไว้ ค่อยๆหย่อนตัวลงไปใต้น้ำแล้วปล่อยลมหายใจออกมาทีละนิด หมดลมหายใจเมื่อไหร่ก็ขึ้นมา”ผมรู้ตัวเลยว่าตอนนี้ตัวเองคงมองคุณท่านตาคว่ำ คนอะไร…สอนดีๆก็สอนได้ ทำไมต้องจับกดน้ำด้วย


โป๊ก!


“โอ๊ย”ผมกุมหน้าผากตัวเองที่โดนคุณท่านดีด


“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามาค้อนผู้ใหญ่”ผมหลับตาทำหูทวนลมไม่อยากจะสนใจฟัง หายใจเข้าปอดให้เต็มที่แล้วทรุดตัวลงนั่งยองๆใต้น้ำ ลงไปยังไม่ทันถึง 5 วินาทีผมก็พุ่งตัวขึ้นจากน้ำ


“อดทนหน่อยสิ”


“…”ผมไม่ตอบอะไร แค่ดึงมือท่านมากุมให้อุ่นใจ ท่านคงไม่ใจไม้ไส้ระกำปล่อยให้ผมจมน้ำตายต่อหน้าต่อตา
ผมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วลองพยายามดูอีกรอบ


“15 วิ ลองอีกที”


“30 วิ ดีขึ้น เอาใหม่”


“1 นาที เก่งมากเด็กดี”ฝ่ามือของคุณท่านลูบหัวผมเบาๆ
ผมยิ้มกว้างรับสัมผัสท่าน จริงๆแล้วผมก็เป็นแค่เด็กน้อยคนนึงที่ดีใจเวลามีคนชม


“ทำให้ได้ 5 นาทีแล้วชั้นจะให้พอ”


ผมดำผุดดำว่ายอยู่หลายรอบจนหายใจใต้น้ำได้ครบ 5 นาทีตามที่ท่านตั้งไว้


“ดีมาก เด็กดี ต่อไปเกาะขอบสระไว้ ใช้ขาตีน้ำยกตัวลอยขึ้น”ผมเดินไปเกาะขอบสระ ตั้งใจตีน้ำตามที่ท่านสอนไม่นานก็สามารถลอยตัวขึ้นมาได้


“ลอยตัวได้แล้วทีนี้ก็เกาะโฟมแล้วใช้ขาตีน้ำเหมือนเมื่อกี้”


“ผมไม่กล้า”


“ชั้นสั่ง”คำสั่งของคุณท่านเหมือนประกาสิทธิ์ที่ผมต้องทำตามโดยไม่มีข้อแม้


ผมรับแผ่นโฟมมาเกาะไว้ พยายามตีขาเพื่อลอยตัวขึ้น
ผมลองพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าจน 15 นาทีผ่านไปก็ยังทำไม่ได้
เวลาที่จะยกเท้าขึ้นมาตีความรู้สึกมันเหมือนจะจมลงไป ทำให้ผมเหยียดขาลงเพื่อยืนแทน


“กล้าๆหน่อยพริ้ม ชั้นไม่ได้มีเวลาทั้งวันมานั่งสอนเธอว่ายน้ำหรอกนะ ชั้นให้เวลาเธออีก 30 นาที ถ้ายังว่ายไม่ได้ ชั้นจะลงโทษเธอ นาทีละครั้ง”ภาพที่ท่านใช้แส้ฟาดผมเมื่อคืนก่อนยังสะท้อนชัดอยู่ในใจ


ถึงผมจะกลัวจมน้ำมากแค่ไหน แต่ความหวาดกลัวที่จะเจ็บปวดแบบคืนนั้นมันมีมากกว่า
ผมลองพยายามตีขาอีกครั้ง ถึงจะรู้สึกเหมือนกำลังจะจมก็ไม่ปล่อยขาลงพื้น พยายามตีน้ำดันตัวลอยขึ้น
สุดท้ายไม่กี่นาทีก็ทำได้


“ลอยตัวได้แล้วทีนี้ก็ปล่อยโฟมออก ใช้แขนสองข้างว่ายน้ำ”


“ท่านครับ...”


“ชั้นจะเข้าไปชงกาแฟ หวังว่ากลับมาเธอจะว่ายน้ำได้แล้ว ถ้าไม่ได้ โดนดีแน่”ผมพยายามลอยตัวเหนือน้ำ ดำผุดดำว่าย อยู่หลายครั้งจนครั้งสุดท้ายหางตาผมเหลือบไปเห็นคุณท่านกำลังเดินมา ไม่รู้ผมไปเอาทักษะว่ายน้ำมาจากไหน อยู่ดีๆก็ว่ายได้


“ว่ายได้แล้วนี่”


“ผมขึ้นได้แล้วใช่ไหมครับ”


“ว่ายไปกลับให้ครบ 5 รอบก่อน ถ้าชั้นเห็นว่าเธอทำได้จริงๆ ชั้นจะให้ขึ้น”


ผมว่ายไปเกาะที่ขอบสระก่อนจะเริ่มว่ายไปอีกฝั่ง รอบแรกๆมีจมบ้าง แต่รอบหลังๆดีขึ้น นอกจากจะไม่จมแล้วยังว่ายเร็วขึ้น


หลังจากว่ายครบ 5 รอบคุณท่านก็ไม่อยู่แล้ว
มีเพียงพี่มะลิที่ยืนถือเสื้อคลุมรออยู่


“คุณพริ้มเก่งมากเลยค่ะ ท่านสอนแปปเดียวก็ว่ายน้ำได้แล้ว”
สอนแบบฮาร์ดคอขนาดนี้ ถ้าผมว่ายไม่ได้คงแปลก


“ท่านอาจจะดุไปบ้าง สอนแบบโหดไปหน่อย แต่เชื่อพี่มะลิเถอะค่ะว่าท่านหวังดีกับคุณจริงๆ”


“ครับ”ผมรับคำพี่มะลิถอดเสื้อที่เปียกออกแล้วรับชุดคลุมมาใส่


ผมอยากจะเชื่อในคำพูดที่พี่มะลิพูด
แต่มันยากที่จะเชื่อเหลือเกิน
ถ้าเขาหวังดีกับผมจริงๆ เขาคงไม่สนใจแค่สิ่งที่เขาต้องการคือ ฝึกหมาให้ว่ายน้ำเป็น
แต่เขาควรจะคิดถึงแผลที่หลังและในทางช่องทางรักของผมที่ไม่ควรโดนน้ำ


“ทายาด้วยนะคะคุณพริ้ม”พี่มะลิแตะเบาๆบนแผลที่หลังที่ตอนนี้คงเปื่อยพอสมควร เนื่องจากผมแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน รวมๆน่าจะเกือบ 3 ชั่วโมงได้

.
.
.

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมย้ายตัวเองออกมานั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
เปิดทีวีเลื่อนช่องหารายการดูไปเรื่อยๆ


“ฮัดชิ่ว”ผมจามออกมาเสียงดัง


“ดื่มนมอุ่นๆก่อนค่ะ”


“ขอบคุณครับ”ผมยกมือไหว้ขอบคุณแล้วรับนมอุ่นๆมาดื่ม


“คุณพริ้มไม่ต้องไหว้พี่มะลิหรอกนะคะ”ผมพยักหน้ารับคำอย่างเหนื่อยอ่อน
ตอนนี้ไม่เหลือแรงจะเถียงกับใครแล้ว
ผมล้มตัวลงนอนบนโซฟา หลับตาลงเพื่อพัก

.
.
.

“คุณท่านคะ คุณพริ้มเธอไข้ขึ้นสูงมากเลยค่ะ”มะลิรีบรายงานคุณท่านทันทีที่กลับมา


“ฝากมะลิเอากับข้าวไปตั้งโต๊ะด้วยนะ”รัตติกาลส่งถุงกับข้าวที่ไปซื้อมาให้แม่บ้าน ก่อนจะสาวเท้าเร็วๆไปดูพริ้มที่นอนหลับอยู่ที่โซฟา


ฝ่ามือหนาทาบลงบนหน้าผากของคนป่วย สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างน่าตกใจ


“พริ้มตื่นมาทานข้าวทานยาก่อน”รัตติกาลเขย่าตัวพริ้มเพื่อปลุก


“ผมปวดหัว”พริ้มตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง


รัตติกาลปัดผมที่ปรกหน้าปรกตาพริ้มออก ทำให้เห็นว่าสีผิวบนใบหน้าของคนป่วยซีดลงผิดปกติ
ฝ่ามือหนารีบดึงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงมาโทรออกหาหมอประจำตระกูล


“คุณอาครับ รบกวนช่วยเข้ามาดูคนป่วยให้ผมอีกครั้งได้ไหมครับ ตอนนี้ไข้ขึ้นสูงมาก ผมกลัวว่าจะช็อค”


หลังจากรัตติกาลโทรไปไม่นาน คุณหมอก็เข้ามาดูอาการ จัดการฉีดยาลดไข้ ให้น้ำเกลือผสมวิตามินเพื่อบำรุงร่างกาย


“ดูแลเขาดีๆหน่อยสิกาล ปล่อยให้ไข้ขึ้นสูงบ่อยๆไม่ดีหรอกนะ”หลังจากส่งคุณอาหมอกลับ รัตติกาลอุ้มพริ้มขึ้นมาอยู่ในอ้อมอกแล้วให้มะลิช่วยลากสายน้ำเกลือเข้าไปในห้อง


ฝ่ามือหนารับผ้าเช็ดตัวชุบน้ำอุ่นมาเช็ดตัวให้พริ้ม


“มะลิรบกวนคุณท่านทายาให้คุณพริ้มด้วยนะคะ”มะลิส่งยาที่ใช้ทาที่แผ่นหลังและในช่องทางรักให้รัตติกาลแล้วรีบเผ่นแผลวออกนอกห้อง ขืนไม่รีบออกมาคงโดนคุณท่านไล่เหมือนหมูเหมือนหมา ก็ท่านหวงคนของท่านจะตายไป


รัตติกาลพลิกตัวพริ้มเพื่อทายาให้ ฝ่ามือหนาลูบเบาๆบนรอยแผลที่เขาเป็นคนสร้างไว้
หลังจากทายาที่หลังเสร็จ ก็จัดการป้ายยาที่นิ้วชี้ สอดนิ้วเข้าไปในช่องทางรัก


“อื้อออออ…”คนป่วยครางยาวอย่างไม่สบายตัว


รัตติกาลหมุนวนในช่องทางรักเพื่อทายาให้ทั่ว
การกระทำรุนแรงในวันนั้นทำให้ช่องทางรักอักเสบ บวม แดง แผลที่ฉีกขาดก็ยังไม่หายดี


รัตติกาลจัดการใส่เสื้อผ้าให้คนป่วยก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มจนถึงคอ


“อย่าดื้อกับชั้นให้มากนักสิ เป็นเด็กดีจะได้ไม่เจ็บตัวแบบนี้อีก”











คุณท่านน่ารักจะตาย...เนอะๆ

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ

ฝาก #พริ้มกับdaddy ด้วยนะคะ




หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 23-02-2018 18:57:18
ไม่อะ ไม่น่ารัก เราไม่ชอบคนเล่นกับความกลัวคนอื่น เกิดน้องเป็นโฟเบียขึ้นมาไม่ช็อคตายเหรอ เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง โตๆกันแล้ว เอาแต่ใจเป็นเด็กๆ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 23-02-2018 19:05:25
คุณท่านเป็นคนขี้อายรึเปล่าคะ ทำดีกับพริ้มตอนพริ้มรู้สึกตัวบ้างจะดีมากเลยนะคะท่าน   :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Spenguin ที่ 23-02-2018 19:42:49
คุณท่านเป็นไบโพล่ารึเปล่าเนี่ยะ :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-02-2018 19:46:56
 o13
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-02-2018 19:51:28
ยังมองไม่เห็นความสมเหตุสมผล
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 23-02-2018 20:42:48
ทำไมคุณท่านต้องดูแลขนาดนี้ แล้วทำไมทำแต่ลับหลังพริ้มอ่ะ
ถ้าคนที่ชื่อฟ้าครามกลับมานี่คงต้องกินมาม่ากี่ซองถึงจะพอหล่ะเนี่ย.....
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 23-02-2018 21:00:43
ฟ้าครามนี่คนรักคุณท่านรึเปล่า
ไม่ชอบนิสัย การกระทำของท่านเลยสักนิด
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 23-02-2018 23:03:03
คุณท่านจะฮารดคอร์ไปไหน คุณฟ้าครามคือpที่3ใช่ไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: shiroinu ที่ 23-02-2018 23:43:27
อ่านไถึงตอนดำน้ำแล้วแบบ   หืมมมม?.... กลั้นหายใจ5นาที เอ่อ เราว่ายน้ำกลั้นหายใจได้แค่2นาทีเอง นี่เพิ่งหัด มีความเหนือมาก  :a5: อ่านแล้วตกใจ

เพิ่มเติม เนื้อหาเราว่าค่อนข้างขัดกับในตอนแรกว่าพริ้มกลัวน้ำแต่ตอนที่หลังจากโดนวี.... กลับกลั้นหายใจตายใต้น้ำ? อีกอย่างตามความคิดเราคิดว่าคนที่กลัวน้ำถึงขนาดนั้น ไม่น่ายิมง่ายขนาดนั้นอ่ะ เหมือนเรากลัวจิ้งจก ต่อให้ใครมาสั่ง มาให้ของอะไรก็ไม่ทำอ่ะ ไม่มีทางงงง :katai1:

มาต่อแล้ววว เหมือนฟ้าครามจะสำคัญกับนายท่ายมสกเลย หรือเธอคืออีกคนใน3p นี้ :ruready คงไม่ใช่ว่ามีรับสองคนนะ :hao4: เดาต่อไปปปป
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-02-2018 00:10:22
สุดยอดดดดดดดด ดำได้นานถึง 5 นาที ปอดใหญ่ดีแท้  o13
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 24-02-2018 00:11:24
ฮือออ  นี่ก็ไม่ดื้อแล้วนะ คุณรัตติกาล  :ling1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 24-02-2018 00:30:13
รัตติกาล, กาล  ฟังแล้วไม่แมนเลย  เรียกคุณท่านฟังดุเดือดกว่า
เอ๊ะ หรือว่าที่จริงแล้วคุณท่านเป็นคนน้อมแน้ม
อยากจะบอก   ไอ้หมาสู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 24-02-2018 01:03:45
คนแบบคุณท่านนี่มัน!!!
พริ้มมมมม หนีไปปปปปปปป
กรี้ดดดดดดดดด

ไม่น่ารักเลย
พูดดีๆ ก็ได้ ทำไมไม่พูด
ชิ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่มดน้อยจอมลามก ที่ 24-02-2018 01:27:41
3p เพราะมีนายเอก2คนแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 24-02-2018 10:52:37
เป็นคนที่มีความย้อยแย้งในตัวเองสูงมาก มะลิบอกเป็นคนหวงของ แต่ให้คนอื่นข่มขืนคนของตัวเอง ใช่เหรอ ถ้าดูจากการกระทำพริ้มยังไม่ได้ไปนอนกับใครเลยนะ ทั้งที่ขณะนั้นพริ้มก็ไม่มีพันธะผูกมัดเป็นเด็กเลี้ยงของรัตติกาลสักหน่อย พริ้มไม่เห็นจะมีเรื่องผิดเลย แต่ให้ไอ้คนที่หลอกพริ้มเป็นคนข่มขืนด้วย หนักไปอีก สรุปคือพริ้มซวยฉิบหายที่มาเจอรัตติกาล ฉิบหายแบบบรรลัยวายป่วงเลยชีวิต ถึงกับตายเลยยังดีกว่า จมน้ำในอ่างตายด้วย ไม่ธรรมดา
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 24-02-2018 17:54:48
คุณฟ้าครามนี่เป็นคนรักของท่านรึป่าว
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 25-02-2018 11:29:16
คุณท่าน นี่อารมแปรปรวนเป็นบ้าาา
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 8 P.3 23.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 25-02-2018 12:16:33
จริงๆ ไม่อยากได้ 3P เลย
คุณท่านดูมีหัวใจ แต่แสดงออกรุนแรง
คงมีคนชื่อฟ้าครามมาเกี่ยวด้วยแน่ๆ แต่จะแบบไหน
หรือ 3P แบบนายเอกสอง พระเอกหนึ่ง
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 25-02-2018 12:31:23
ตอนที่ 9


หลังจากนอนหลับเป็นตายบนเตียงเฉยๆไปเต็มๆวันเพราะพิษไข้
อาการผมก็ค่อยๆดีขึ้น ไข้ลดลง แต่ยังมีอาการไอและเจ็บคออยู่บ้าง


แผลในช่องทางรักก็ได้ ‘คนใจร้าย’ ทายาให้ทุกวัน
อาการแสบขัดก็น้อยลง


ส่วนแผลที่หลังก็โดนบังคับให้ทายาวันละ 5 เวลา…เช้า สาย บ่าย เย็นและก่อนนอน
เว่อร์เหลือเกิน!


“แค่กๆ”ผมปิดปากเบี่ยงตัวหนีคุณท่านที่นั่งทานข้าวเช้าด้วยกันบนโต๊ะเพื่อไอ


“ถ้าไปเรียนไม่ไหวก็ให้ชัยทำเรื่องลาป่วย”คุณท่านวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะแล้วหันมาจ้องผม


“ไม่เป็นไรครับ ผมไหว”ผมตอบกลับคุณท่านด้วยเสียงแหบแห้ง
ถึงจะป่วยยังไง ผมก็จะไปเรียน
ถ้าเกิดคุณท่านเปลี่ยนใจไม่ให้ผมเรียน ผมจะได้ไม่เสียใจภายหลัง
ได้ไปเรียนวันเดียวก็ยังดี


“ไหวชั้นไม่กลัว กลัวจะเป็นลมเป็นแล้งระหว่างวัน เป็นภาระให้คนอื่นไปรับอีก”


คำว่า ‘ภาระ’ ที่คุณท่านพูดทำใจผมสั่นไหว


“แค่ก...ผม แค่ก…ไหวครับ”


“จะไปเรียนก็ไป อย่ามานั่งไอใส่หน้าชั้น”ท่านโบกมือไล่อย่างเอือมระอา


“สวัสดีครับ”ผมรีบลุกจากโต๊ะกินข้าว ยกมือไหว้ท่านกับคุณชัยแล้วออกไปเรียน


“ใส่ mask ด้วยครับ”คุณชัยยื่น mask สีเทาให้ผมก่อนจะแสกนคีย์การ์ดกดลิฟท์ให้


“ขอบคุณครับ”ผมรับมาแล้วยัดเจ้า mask สีเทาลงกระเป๋า


ผมเดินออกจากคอนโดท่านไปขึ้นบีทีเอสที่อยู่ห่างจากคอนโดเพียงไม่กี่ก้าว
คอนโดหรูในย่านธุรกิจ เดินทางสะดวกสบาย
วิถีชีวิตคนรวยมันเป็นแบบนี้นี่เอง


ผมเดินลงจากบีทีเอสแล้วเดินต่ออีกไม่ไกลก็ถึงมหาลัย
เดินวนอยู่นานกว่าจะหาห้องเรียนรวมเจอ


ผมเปิดประตูเข้าทางด้านหลัง
ภายในห้องเรียนรวมมีลักษณะเป็นสโลปลงไปเหมือนโรงหนัง
คาดคะเนจากสายตาคร่าวๆน่าจะรองรับนักศึกษาได้หลายร้อยคน


“พี่พริ้มมมม”ผมขมวดคิ้วอย่างงงๆ รู้สึกเหมือนตัวเองหูแว่วได้ยินคนเรียกชื่อ


“พี่พริ้มมมมมมมมม!!!”คราวนี้เสียงตะโกนเรียกดังมากกว่าเดิม ผมหันซ้ายหันขวามองหาไม่นาน ก็เจอน้องนัทโบกมืออยู่ด้านล่าง ผมรีบสาวเท้าเร็วๆไปหาน้องก่อนที่น้องจะตะโกนดังมากกว่านี้แล้วคนทั้งห้องหันมามอง


“เฮ้ยพี่ มาได้ไง?”น้องยิ้มกว้างถามผมอย่างตกใจ


“พึ่งทำเรื่องกลับมาเรียนต่ออะ”


“เหี้ยพี่!!! จริงปะ?”


“จริงครับ นี่ดีใจจนเรียกพี่ว่าเหี้ยเลยเหรอ?”ผมแซวน้องขำๆ ถอดกระเป๋าเป้วางบนเก้าอี้เลคเช่อร์ใกล้ๆน้อง


“โหยดีใจดิพี่ ไม่เจอกันตั้งหลายปี วันนั้นเจอพี่ก็ไม่ยอมคุยกับผม เปิดประตูลงรถหนีไปเลย”


“พี่เกรงใจ แค่กๆ”ผมเบี่ยงตัวหนีน้องนัทเพื่อไอแล้วรีบหยิบ mask ที่คุณชัยให้มาใส่


“เกรงใจทำไมพี่ คนรู้จักกัน”


“ถ้างั้นหลังจากนี้พี่ไม่เกรงใจละนะ”


“เออดิพี่ ลูกผู้ชายป่าว ใจๆดิวะ เกรงใจทำไร”น้องนัทตบอกข้างซ้ายตัวเอง สื่อว่าตัวเองเป็นลูกผู้ชายตัวจริง


“ถ้างั้นพรุ่งนี้เอาเลคเช่อร์ทั้งหมดทุกคาบตั้งแต่ต้นเทอมมาให้หน่อยดิ”


“โหยพี่ ไม่ใช่เรื่องนี้ดิ”น้องรีบปฏิเสธหน้ามู่


“หวงเหรอ แค่กๆ”ผมยักคิ้วถามน้อง
ผมรู้สึกคันคอยังไงบอกไม่ถูก ถ้าได้ยาอมมาอมให้ชุ่มคอคงดีกว่านี้


“โหพี่ คนแบบผมอะไม่หวงหรอกถ้ามีอะ แต่นี่ไม่มีไง ถ้าพี่อยากได้จริงๆต้องขอไออิฐ”


“ใครเหรอ?”


“เพื่อนผมเอง มันเข้าเรียนทุกคาบ ไม่เคยหลับ ไม่เคยโดด แม่งไม่ใช่คน”


“ไปว่าเขาทำไม เพื่อนตั้งใจเรียนทุกคาบก็เป็นเรื่องถูกต้องแล้วนี่”


“โหยยยยพี่!”น้องนัทโอดครวญ ผมตบหลังน้องเบาๆ


“แล้วนี่เพื่อนเราไปไหนหมด ทำไมนั่งเรียนคนเดียว?”


“มันไปกินข้าวกันพี่”


“อื้อ”ผมพยักหน้าแล้วนั่งลงข้างๆน้อง


“พี่อยู่ภาคอะไร?”


“โยธา”


“ภาคเดียวกับผมเลย โลกกลมฉิบหาย ดีๆพี่ มาเรียนด้วยกัน”น้องนัทยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าอยู่ภาคเดียวกัน


น้องนัทเป็นเด็กอัธยาศัยดี เพื่อนเยอะ
เมื่อก่อนเป็นแบบไหนตอนนี้ก็ยังคงเป็นแบบนั้น


“ฝากตัวด้วยนะครับคุณน้องนัท”


“โหยพี่อย่ามาพูดสุภาพ ผมขนลุก”ยังไม่ทันที่ผมจะได้เถียงอะไรไปมากกว่านั้น นาฬิกาหน้าห้องก็บอกเวลา 9 โมงตรง นักศึกษาทยอยเข้าเรียนจบเกือบเต็มห้องเลคเช่อร์


ผมหยิบสมุดจด ปากกาออกจากกระเป๋าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเรียนในวันนี้
แต่พอล้วงเข้าไปก็เจอยาอมอยู่ในกระเป๋ามีโพสต์อิทติดไว้


‘เลิกไอสักที รำคาญ’


ผมยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ
คุณท่านหน่ะ…ปากร้าย ใจดี ขี้เป็นห่วง


“พี่พริ้มยิ้มหวานอะไรเบอร์นั้น ชอบผู้หญิงคนนั้นอ่อ?”น้องนัทหันมาทักผมแล้วชี้ให้ดูน้องนักศึกษาหญิงร่วมชั้นปีที่กำลังเดินขึ้นสโลปโบกมือทักทายเพื่อน เธอเป็นคนผิวขาวเหลือง หน้าคม ดวงตาสวยเฉี่ยว


ผมสั่นหน้าปฏิเสธ มือลูบบนตัวอักษรที่เขียนอยู่บนโพสต์อิท ไม่รู้ว่าคุณท่านเอายาอมมาใส่ไว้ให้ตอนไหน
ตั้งแต่ผมป่วย คุณท่านก็ใจดีขึ้นเยอะ
ใจดีแบบนี้ตลอดไปเลยได้รึเปล่านะ…


หมาโง่…ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา ได้ศาลาจะเอาพระอุโบสถ โลภมากจริงๆ!!!


ผมพยายามตั้งใจเรียน ตั้งใจฟังในสิ่งที่อาจารย์สอน แต่ก็มีหลายๆจุดที่ผมไม่เข้าใจ
แคลคูลัสปีหนึ่งเป็นเรื่องยากมากสำหรับผม เพราะพื้นฐานเดิมที่เคยเรียนตอนม.6 ผมลืมไปหมดแล้ว


ถ้าไม่รีบขอเลคเช่อร์เพื่อนไปอ่านต้องเป็นปัญหาต่อไปในอนาคตแน่ๆ
ผมเห็นเค้าลางของการเรียนไม่รู้เรื่องอยู่รำไร


การเรียน 3 ชั่วโมงแรกผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ผมเก็บสมุดปากกาใส่กระเป๋าก่อนจะสะกิดนัทให้ตื่น


“ตื่นได้แล้วนัท เลิกแล้วนะ”


“งรือ~ เลิกแล้วเหรอวะพี่ โอ๊ย! ง่วงฉิบหาย”น้องขยี้ตาตัวเอง ค่อยๆปรือตามองไปรอบๆห้อง


“เชี่ยนัทกินข้าว”เพื่อนน้องเก็บของเสร็จก็หันมาบอกนัท


“เออๆ”


“ไปพี่ ไปกินข้าวด้วยกัน”ผมพยักหน้าแล้วเดินตามน้องไป


“มึงนี่พี่ชายเพื่อนเก่ากูชื่อพี่พริ้ม เขาจะมาเรียนกับเรา พี่เขาอยู่ภาคโยธา”น้องนัทแนะนำให้ผมรู้จักเพื่อนๆน้องระหว่างทางที่เราเดินไปโรงอาหาร


“สวัสดีครับ”ผมยิ้มทักทายเพื่อนน้องนัท


“หวัดดีครับพี่”เพื่อนน้องพยักหน้าทักทายผม


“นี่อิฐ เพทาย แล้วก็ใบตองพี่”


“กูชื่อตองไอสัส ไม่ต้องเติมใบ”น้องใบตองเป็นคนตัวเล็กแต่ใจห้าวเหลือเกิน
ใบตองเหมือนเด็กชายไซส์มินิ หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก
ไม่รู้จะบรรยายยังไง แต่น้องน่ารักจริงๆ แก้มป่องๆน่าหยิกเหลือเกิน


“แม่มึงบอกว่ามึงชื่อใบตอง ทำมะ? อายชื่อที่แม่ตั้งให้อ่อ”น้องนัทพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆกลับไป


“ไอ้เพื่อนเหี้ย”น้องนัททะเลาะตบตีกับน้องใบตอง ระหว่างทางที่เราเดินไปโรงอาหาร
น้องอิฐกับน้องเพทายเลยเดินมาคุยกับผม
น้องอิฐเป็นผู้ชายสูงประมาณผม ผิวขาวตาตี่ ใส่แว่นกรอบกลมแบบที่วัยรุ่นสมัยนี้นิยมใส่เป็นแว่นแฟชั่น
ผมว่าน้องอิฐนี่สเปคสาวๆเดี๋ยวนี้เลย ‘หนุ่มแว่น ขาว เกาหลี อินเตอร์’


“พี่อย่าไปถือสาพวกมันเลยนะ อ๊องๆ เอ๋อๆ ขาดๆเกินๆแบบนี้แหละพี่”ผมมองภาพที่ใบตองกับนัททะเลาะกันแล้วก็ขำ ดูก็รู้ว่าหยอกกัน ไม่ได้ทะเลาะกันรุนแรง


“ไม่หรอก ตลกดี”


“เออพี่ เมื่อเช้าไอ้นัทไลน์มาบอกผมว่าพี่อยากยืมเลคเช่อร์เหรอ”


“อื้อ ใช่ๆ อิฐสะดวกรึเปล่า”


“สะดวกพี่ แต่ผมเรียนในไอแพดอะ พี่มีรึเปล่า? ดรอปไปตอนนี้เลยก็ได้”


“ดรอปกับไอโฟนได้ไหม”


“ได้ดิพี่ เดี๋ยวผมส่ง text ที่ต้องอ่านให้ด้วย”


“ทาย วิชาเทอร์โมมึงเรียนครบทุกคาบปะวะ”น้องอิฐหันไปถามน้องเพทาย
เพทายเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ เห็นครั้งแรกผมก็ได้แต่ถามน้องในใจ ‘อากาศข้างบนดีไหม?’
น้องสูงมากๆ น่าจะเกือบๆ 185 ซม
ถ้าเล่นบาสคงเทพมากแน่ๆ


“ครบ”น้องทายตอบกลับมาหน้านิ่ง


“เลคเช่อร์เทอร์โมพี่อ่านของไอ้ทายดีกว่า มันจดเข้าใจกว่าผมเยอะ”น้องอิฐหันมาบอกผม


“พี่ขอเลคเช่อร์ทายด้วยไหม”


“ได้ครับ”น้องตอบกลับมาหน้านิ่ง วางกระเป๋าทิ้งไว้บนโต๊ะแล้วไปซื้อข้าว


“ขอบคุณนะ”


ผมเดินวนๆดูร้านข้าวในโรงอาหารแล้วก็ยังไม่เจออะไรที่อยากกิน จนน้องอิฐดึงให้มาต่อแถวร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำด้วยกัน “พี่ต้องลองร้านนี้…เด็ดมาก ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ยางมะตูมนี่โคตรแซ่บ”


“ขนาดนั้นเลย”


“เด็ดมาก พี่ต้องลอง”


ระหว่างต่อแถวยาวเหยียดรอซื้อก๋วยเตี๋ยวร้านเด็ดของน้องอิฐผมก็หันไปถามน้อง “พี่อยากรบกวนถามอะไรหน่อยได้ไหม?”


“ได้ดิพี่ ถามมาๆ ไม่รบกวน”


“ตั้งแต่เปิดเทอมมา อาจารย์สั่งงานอะไรรึเปล่า”


“ไม่มีนะพี่ ควิซก็ไม่มี เกรดนี่มาจากคะแนนสอบ 100 เปอร์เลย”ผมพยักหน้ารับคำน้อง


การเรียนมหาลัยต่างกับการเรียนมัธยมโดยสิ้นเชิง
การบ้านก็ไม่ต้องทำ งานก็ไม่ต้องส่ง แต่ต้องรับผิดชอบตัวให้เองให้เข้าเรียนทุกคาบ เพราะคะแนนมาจากการสอบล้วนๆ


“เรียนทันอยู่แล้วพี่ พี่ไม่ต้องกังวลหรอก ดูไอนัทดิ วันๆแม่งมาหลับอย่างเดียว ไม่เคยเรียน”


ระหว่างต่อแถวผมก็คุยกับน้องอิฐไปเรื่อยเปื่อย
หลังจากได้ก๋วยเตี๋ยวแล้ว ผมก็กลับไปที่โต๊ะ พบว่าน้องๆกินข้าวกันเกือบหมดแล้ว


“หลอกพี่พริ้มไปต่อแถวเป็นเพื่อนมึงใช่มะ”น้องตองว่าอิฐแล้วเบะปาก


“ใครที่ไหนหลอก กูพาพี่เขาไปรู้จักของดี ของอร่อย มีแต่พวกมึงนั่นแหละที่ไม่เห็นค่า”หลังจากน้องอิฐพูดจบ ทุกคนก็มองบน


“พี่ว่าก็อร่อยดีนะ”ผมพูดหลังจากชิมคำแรก


“อร่อยแต่รอนานเสียเวลาทำมาหากินพี่”น้องนัทเถียงกลับมา ผมได้แต่ยิ้มบางๆฟังน้องเถียงกันเรื่องก๋วยเตี๋ยวร้านเด็ดที่มักใช้เวลาต่อแถวซื้อเกือบครึ่งพักกลางวัน
 

หลังจากกินข้าวกับน้องเสร็จ เราก็ขึ้นไปเรียนต่อตอนบ่าย


ผมรู้สึกว่าเวลาในวันนี้เดินผ่านไปเร็วมากกว่าปกติ…แปปเดียวก็เย็นแล้ว
หลังเลิกเรียนแล้วเราแยกย้ายกันกลับบ้าน


ผมใช้เวลาเดินทางไม่นานก็ถึงคอนโดท่าน
แต่พอมาถึงผมก็ได้แต่ยืนเอ๋ออยู่หน้าลิฟท์
คอนโดท่านเป็นคอนโดที่มีระบบรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมาก
การจะใช้ลิฟท์ได้ต้องมีคีย์การ์ดสแกน ห้องของท่านก็ต้องสแกนลายนิ้วมือ
แล้วผมจะขึ้นคอนโดได้ยังไงเนี่ย???


ผมไลน์ไปบอกคุณชัยว่าถึงคอนโดแล้ว
ผ่านไปเกือบสิบนาทีกว่าคุณชัยจะตอบกลับมาว่าให้ผมรออยู่ด้านล่างล็อบบี้


นั่งรออยู่นานคุณชัยก็ยังไม่มาสักที
สุดท้ายผมก็นั่งหลับคอพับคออ่อนด้วยความเพลียอยู่ตรงนั้น
แต่พอตื่นมาอีกทีผมขึ้นมานอนอยู่บนโซฟาในห้องคุณท่านแล้วได้ยังไงไม่รู้


“ชั้นนึกว่าเธอตายไปแล้ว”ผมกระพริบตาปริบๆเงยหน้ามองคุณท่านที่ให้ผมนอนหนุนตักอยู่


“คุณท่าน!!!”ผมเรียกอย่างตกใจ แล้วรีบลุกจากตักท่านขึ้นมานั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ


“ทุกที่บนโลกมันไม่ได้ปลอดภัยให้เธอนอนหลับเป็นตายได้หรอกนะ รู้ไหม?”


“ขอโทษครับ”ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา ผมว่าผมพูดคำนี้บ่อยจนนับครั้งไม่ถ้วน


“ไม่ต้องมาขอโทษชั้น วันหลังนอนให้มันเป็นที่เป็นทางก็พอ เธอไม่ใช่หมาข้างถนนนะ ที่นึกจะนอนตรงไหนก็นอน”


“ครับ”


“ไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย จะได้ทานข้าว”ผมรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน


ผมรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็วเพื่อจะมาเตรียมมื้อเย็นให้คุณท่าน แต่ก็พบว่าอาหารทุกอย่างถูกเตรียมไว้หมดแล้วโดยคุณท่านเอง


“ยังอีก ยังยืนนิ่งอยู่อีก มายกไปสิ”คุณท่านพูดด้วยน้ำเสียงดุ แต่แววตาไม่ได้ดุไปด้วย
ผมรีบเดินเข้าไปยกชามข้าวต้ม ปลากระพงลวกจิ้ม ไชโป๊ผัดไข่ไปวางบนโต๊ะ


คุณท่านถอดผ้ากันเปื้อนแล้วมานั่งข้างผม “ขอโทษนะครับที่ผมไม่ได้ทำกับข้าวให้ท่าน”


“พริ้ม”


“ครับ”


“ชั้นไม่ได้สั่งให้เธอทำกับข้าวให้ชั้นวันนี้ ดังนั้นการที่เธอไม่ได้ทำ มันถือว่าผิดไหม?”


“ไม่ผิดครับ”


“ถ้ารู้ตัวว่าไม่ผิดก็ไม่ต้องขอโทษ คำขอโทษที่สักแต่พูดออกมามันก็แค่ลมปากที่ไม่มีค่า ไม่มีความหมาย”


“ครับ”


“เรื่องงานบ้านที่ชั้นจะให้เธอทำ อีกเดือนนึงค่อยว่ากัน ให้เธอปรับตัวกับการเรียนให้ได้ก่อน”


“ครับ”


“ทานข้าวได้ละ”


“คุณท่านครับ”


“มีอะไร?”คุณท่านขมวดคิ้วมุ่นมองผม อีกนิด…ผมก็รู้สึกว่ากำลังจะถูกกินหัวละ


“ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้ครับ”ผมยกมือไหว้ขอบคุณท่าน
นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่มีคนทำกับข้าวให้กินแบบนี้


“ถ้ารู้สึกขอบคุณชั้นจริงๆ ก็ทานให้หมดอย่าให้เหลือ”คุณท่านพูดพร้อมกับตักปลากระพงและราดน้ำจิ้มซีฟู้ดให้ ผมมองการกระทำของคุณท่านตาแป๋ว…ใจดีอีกแล้ว


“ขอบคุณครับ”


ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ท้องทะเล คลื่นลมสงบ เรือเล็กออกจากฝั่งได้ แต่มรสุมใหญ่กำลังจะเข้ารึเปล่านะ
ชักกลัวใจคุณท่านแล้วสิ…


ผมตักข้าวกล้องเข้าปากคำแรกแล้วกลืนอย่างฝืดคอ รสชาติมันไม่เหมือนข้าวหอมมะลิที่เคยกินประจำทุกวัน


“ไม่ต้องมาทำหน้าแหยเลย ของมีประโยชน์ทั้งนั้น ทานให้หมด”


ผมนั่งทานข้าวกับคุณท่านจนหมด
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารไม่ได้ตึงเครียด ท่านถามผมถึงการเรียนวันนี้ ผมก็เล่าให้ท่านฟัง
คุณท่านเป็นผู้ฟังที่ดี ถึงท่านจะไม่ได้มีทีท่าว่าสนใจในสิ่งที่ผมพูด แต่ท่านก็เก็บข้อมูลครบทุกประโยค


หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 25-02-2018 12:35:54
ผมจัดการเก็บกวาด ล้างจานให้เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไปหยิบมามือถือเตรียมอ่านเลคเช่อร์ที่อิฐส่งมาให้


“ไปเรียนวันแรกทำไมไม่ทบทวน นั่งเล่นมือถืออยู่นั่นแหละ”คุณท่านเดินออกมาจากห้องด้วยชุดคลุมอาบน้ำสีดำ สาบเสื้อไม่ได้ปกปิดร่างกายคุณท่านไว้ทั้งหมด เผยให้เห็นแผงอกแกร่งวับๆแวมๆ
คุณท่านนี่เป็นผู้ชายที่เซ็กซี่จริงๆ


“ผมพยายามเปิดไฟล์เลคเช่อร์ที่เพื่อนส่งมาให้อยู่ครับ แต่มันเปิดไม่ได้”ผมส่งมือถือให้คุณท่านดูเป็นหลักฐานว่าผมเปิดไฟล์ไม่ได้จริงๆ


“ไปหยิบไอแพดในห้องเธอมาสิ”


“ไอแพดในห้องนอนผมเหรอครับ”ผมถามอย่างงงๆ ไอแพดอะไรนั่น…ผมไม่มีเงินซื้อหรอก


“พริ้ม อย่าให้ชั้นพูดหลายรอบ”คุณท่านเริ่มทำหน้าตาไม่สบอารมณ์ ผมรีบลุกขึ้น วิ่งเข้าไปหาไอแพด ในห้องตัวเอง กวาดสายตาหาไม่นานก็เจอกล่อง Ipad pro รุ่นใหม่วางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ


“อันนี้เหรอครับ”


“อือ”ผมยื่นกล่องไอแพดที่ยังไม่ได้แกะให้คุณท่าน
คุณท่านรับไปจัดการเปิดเครื่องให้ผม


“ใส่ ID เธอสิ”ผมป้อน apple ID ของตัวเองเสร็จ
คุณท่านก็จัดการซื้อแอพ Goodnote ให้ แล้ว airdrop ไฟล์จากไอโฟนผมไป
Import ไฟล์เลคเช่อร์เข้า Goodnote
สุดท้ายผมก็เปิดอ่านไฟล์เลคเช่อร์ได้ครบทุกไฟล์


“ขอบคุณครับ”


“อือ”คุณท่านตอบรับสั้นๆแล้วลุกไปห้องทำงาน


“ตามชั้นมาทำไม?”คุณท่านขมวดคิ้วหันมามองผมที่เดินตามท่านมา


ผมไม่รู้ว่าตัวเองไปเอาความกล้ามาจากไหน เดินเข้าไปสวมกอดท่าน


“ขอบคุณครับ”จริงๆคำ ‘ขอบคุณ’ ที่เอ่ยออกมาในครั้งนี้ ไม่ได้เอ่ยเพียงแค่ต้องการขอบคุณที่ท่านซื้อวัตถุสิ่งของให้ แต่ผมอยากขอบคุณที่ท่านดูแลผมตอนป่วยมากกว่า
ถึงผมจะงงหน่อยๆกับความ Bipolar ของคุณท่านที่ลงโทษผมแบบอำมหิต เลือดเย็น เหมือนจะเฆ่นฆ่ากันให้ตายคามือ แต่สุดท้ายพอผมป่วย กลับเป็นท่านที่คอยดูแล เช็ดตัว ป้อนข้าว ป้อนน้ำ ทายาให้


“วันนี้ทานยาแล้วใช่ไหม”ท่านผลักตัวผมออกจากอ้อมกอด ฝ่ามืออุ่นทาบทับลงบนหน้าผากเพื่อวัดไข้


“ทานแล้วครับ”


“ตัวยังอุ่นๆอยู่เลย คืนนี้อย่านอนดึกนะ แล้วอย่าลืมทายาด้วย”


“ครับ”ผมรับคำท่านแล้วน้ำตาไหลออกมาเอง ผมจ้องเข้าไปในนัยน์ตาท่านนิ่ง…นัยน์ตาที่ฉายแววอ่อนโยน


ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ผมเดาความคิดเขาไม่ออกจริงๆ
เขาดูเหมือนปีศาจร้ายกาจที่พร้อมประหัดประหารทำลายทุกคนที่ทรยศเขา
แต่เขาก็เหมือนเทวดาที่บันดาลทุกสิ่งให้คนที่เขาพึงใจได้ในพริบตา


ผมไม่รู้จริงๆว่าร่างไหนกันแน่ที่เป็นร่างที่แท้จริงของเขา
ผู้ชายแววตาดุร้ายเหมือนสัตว์ป่าที่เฆี่ยนตีผมในวันนั้นหรือผู้ชายแววตาอ่อนโยนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมในตอนนี้


“เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็ง อย่าร้องไห้ง่ายๆ”


“ฮึกๆ”ยิ่งห้ามเหมือน…ยิ่งยุ
ยิ่งท่านบอกว่าอย่าร้อง ผมก็ยิ่งร้องหนักขึ้น


ฝ่ามือหนาดึงผมเข้าไปกอด ลูบหลังขึ้นลงอย่างปลอบประโลม เรายืนกอดกันอยู่นาน “เลิกร้องได้แล้วพริ้ม ชั้นขอโทษที่ลงโทษเธอรุนแรงเกินไป”


ใจผมอ่อนยวบทันทีที่ได้ยินคำขอโทษ
ไอ้คนใจไม่รักดี เขาทำเลวไว้กับตัวเองตั้งเยอะ ทำไมให้อภัยง่ายขนาดนี้ละ!!!


“ฮรืออออ….”


ผมร้องไห้น้ำตานองหน้า
ไม่รู้แล้ว…สับสนไปหมด
สับสนกับสิ่งดีๆที่คุณท่านมอบให้…ให้ชีวิตใหม่ ให้ได้เรียนหนังสือ ให้เงินใช้หนี้ ให้ที่อยู่อาศัย ให้ข้าวปลาอาหารประทังชีวิต
คนมันไม่มีใครดูแลมานาน พอมีคนมาทำดีด้วยหน่อย…ใจก็อ่อนยวบ


ถ้าผมจะยอมทิ้งความโหดร้ายที่ผ่านมาไว้ในอดีตแล้วเรามาเริ่มต้นใหม่กับปัจจุบันจะดีไหมนะ?


คุณท่านจูบซับน้ำตาที่หางตา ประทับรอยจูบเนิ่นนาน “ตาบวมแล้วเด็กดี ไปนอนได้แล้ว ชั้นจะไปทำงาน” ผมพยายามกลั้นสะอื้น เงยหน้ามองคุณท่าตาแป๋ว


“คุณท่าน”


“หืม???”


“เรื่องที่ผ่านมาพริ้มไม่ถือโทษโกรธคุณท่าน พริ้มเข้าใจว่าทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ แต่ต่อไป...คุณท่านดูแลพริ้มได้ไหม? ดูแลพริ้มเหมือนคนๆหนึ่ง ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง พริ้มสัญญาว่าพริ้มจะซื่อสัตย์กับคุณท่านคนเดียว”


“ไปนอนได้แล้วพริ้ม”คุณท่านไม่ตอบกลับคำขอของผมเหมือนเป็นการปฏิเสธกลายๆ
ผมเดินคอตกเข้าห้อง ผมมันเด็กไม่รู้จักพอ…คุณท่านให้เท่าไหร่ก็ไม่เติมเต็ม


ผมหยิบไอแพดเครื่องใหม่แกะกล่องเดินเข้าห้อง
สิ่งที่คุณท่านให้ได้ง่ายๆ คงเป็นข้าวของมีราคาพวกนี้
ผมไม่น่าขออะไรที่รู้อยู่แก่ใจว่าชาตินี้คงไม่มีวันได้รับเลย


ผมนอนพลิกตัวไปกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงนานมาก…นอนไม่หลับสักที
การได้นอนในอ้อมกอดอุ่นๆของคุณท่านตลอดเวลาที่ป่วยทำให้ผมเคยตัว
พอต้องมานอนคนเดียวในห้องแอร์หนาวๆ เลยไม่ยอมหลับยอมนอน


สายตาผมเหลือบมองนาฬิกาในความมืดบอกเวลาเกือบเที่ยงคืน
เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น ผมรีบหลับตาลง ซุกหน้าลงกับหมอน
ถ้าคุณท่านเข้ามาเห็นผมยังไม่นอนต้องถูกดุอีกแน่ๆ


คุณท่านเลิกผ้าห่มขึ้น สอดตัวเข้ามานอนด้วย
ฝ่ามือหนาดึงให้ผมพลิกตัวไปหา ผมซุกหน้าลงกับอกอุ่นๆของคุณท่านอย่างเคยเหมือนที่ทำตอนป่วย
หอม…กลิ่นตัวของคุณท่านหอมเหมือนเคย กลิ่นนี้ที่ผมเคยกลัวแต่ตอนนี้มันทำให้ผมอุ่นใจ


“ฝันดีนะเด็กเอาแต่ใจ”ผมอยากจะลืมตาขึ้นมาโวยวายว่าผมเอาแต่ใจตรงไหน แต่ก็ทำไม่ได้


เพียงไม่นานหลังจากที่คุณท่านโอบกอดผมไว้
ผมก็เข้าสู่นิทรา

.
.
.

ผมสะดุ้งตื่นทันทีที่เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น...ตีห้าครึ่งแล้ว
ผมหันไปมองข้างกายไม่เจอใคร แต่ที่นอนยังอุ่นๆอยู่ คุณท่านคงตื่นไปออกกำลังกายแล้ว


ผมบิดขี้เกียจอย่างเด็กไม่อยากลุกจากที่นอน แล้วค่อยๆพาตัวเองเดินไปห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้คุณท่าน


“อ้าวคุณพริ้มตื่นแล้วเหรอคะ”พี่มะลิหันมาทักผม มือก็กำลังล้างผักอยู่


“พี่มะลิสวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้ทักทายพี่มะลิ


“สวัสดีค่ะ คุณพริ้มอย่าไหว้พี่สิคะ”พี่มะลิยกมือรับไหว้ผมแทบไม่ทัน ผมไม่ตอบรับหรือปฏิเสธคำพูดพี่มะลิ ทำเพียงแค่ส่งยิ้มบางๆให้


ไม่ว่าจะเป็นใคร มีฐานะอะไร ทุกคนก็ควรค่าแก่การไหว้
เพราะการไหว้คือสิ่งที่เราใช้ทักทายกัน
ไม่ใช่สิ่งที่เอาไว้แบ่งชนชั้นวรรณะ


“คุณพริ้มอยากทานอะไรคะ พี่มะลิจะทำให้”


“อะไรก็ได้ครับ”


“อะไรก็ได้ไม่ได้ค่ะ คุณพริ้มควรเลือกตอนที่ยังมีโอกาสเลือกนะคะ”
คำพูดพี่มะลิสะกิดใจผมแปลกๆ


“ข้าวห่อไข่ง่ายๆก็ได้ครับ”


“ได้ค่ะ”


“ให้ผมช่วยนะครับ”


“ไม่ต้องค่ะคุณพริ้ม ถ้าอยากช่วยพี่มะลิจริงๆ คุณพริ้มเอาเสื้อคลุมไปให้คุณท่านที่สระว่ายน้ำแทนพี่มะลิจะดีกว่าค่ะ”


“เสื้อคลุมอยู่ในตู้ใต้อ่างล้างหน้าในห้องน้ำใช่ไหมครับ”


“ใช่ค่ะ”ผมพยักหน้ารับทราบแล้วรีบเดินไปหยิบเสื้อคลุม


ผมถือเสื้อคลุมอาบน้ำมารอคุณท่านที่สระว่ายน้ำ
ภาพวิวกรุงเทพจากตึกสูงสวยงามมาก ท้องฟ้าเป็นสีส้มแดง พระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นก็เปล่งลำแสงสีทองออกมาก
ภาพแบบนี้ผมไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก
ปกติเวลานี้ผมมักจะสะลึมสะลือเดินออกจากคลับเพื่อกลับหอพัก
ความเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งคืน ทำให้ผมไม่ได้รู้สึกสุนทรีย์ไปกับภาพงดงามตรงหน้า


“พริ้ม ลงมา”ผมสะดุ้ง หันกลับไปมองคุณท่านที่ลอยคออยู่ในสระ


“ผมไม่มีกางเกงว่ายน้ำ”ผมรีบตอบปฏิเสธ ถึงความหวาดกลัวน้ำจะเบาบางลงและว่ายน้ำเป็น แต่ก็ไม่อยากพาตัวเองลงไปอยู่ในน้ำอยู่ดี


“ถอดเสื้อผ้าออกสิ”ผมมองคุณท่านตาโต บ้าเหรอ จะให้ว่ายน้ำเป็นชีเปลือย


“คุณท่าน…”ผมใช้น้ำเสียงออดอ้อน พยายามหาทางเลี่ยงเพื่อเอาตัวรอด
ผมเป็นคนไม่ชอบใส่ชั้นในนอน ปกติถ้านอนคนเดียวผมใส่แค่บ็อกเซอร์ด้วยซ้ำ เสื้อก็ไม่ใส่ ถ้าถอดตามคำสั่งคุณท่าน ผมก็กลายเป็นชีเปลือยที่แท้ทรู


“นับ 1 ถึง 3”คุณท่านจ้องผมตาดุ…เอาอีกแล้ว เผด็จการเบ็ดเสร็จมาอีกแล้ว
ถ้าไม่ทำตามคงโดนลงโทษอีก


“1”ผมรีบถอดเสื้อผ้าทันทีที่คุณท่านเริ่มนับ 


ตูมมมมม!


หลังจากถอดกางเกงออกจากตัว ผมก็รีบพุ่งตัวลงน้ำอย่างรวดเร็ว ใครจะกล้ายืนเป็นชีเปลือยอยู่เล่า!
น้ำในสระแตกกระเซ็นเปียกไปทั่ว


“ว่ายน้ำแข่งกันพริ้ม ถ้าเธอแพ้จะถูกลงโทษ แต่ถ้าเธอชนะ เธอขออะไรจากชั้นก็ได้ 1 อย่าง”ผมอ้าปากหวอทันทีที่ได้ยินคุณท่านสั่ง
บ้าไปแล้ว ให้คนพึ่งว่ายน้ำเป็นแข่งกับคนที่ว่ายมาแล้วไม่รู้กี่ปี
ใครๆก็เดาผลออกว่าผมต้องแพ้


“อย่าพึ่งคิดว่าตัวเองจะแพ้ทั้งๆที่ยังไม่ได้แข่ง”คุณท่านพูดขึ้นมาเหมือนเดาใจผมออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่


“เราจะแข่งกันว่ายไปกลับ 3 รอบ”


“ครับ”ผมว่ายไปตั้งต้นที่ริมสระน้ำฝั่งที่มีห้องกระจก ผมปีนขึ้นไปเกาะขอบสระอยู่ในท่าเตรียม
รู้สึกหวิวๆลมเย็นๆยังไงก็ไม่รู้


“3...2...1”สิ้นเสียงคุณท่านนับ 1 ผมก็รีบพุ่งตัวลงในน้ำ
ความกระหายในชัยชนะไม่เข้าใครออกใคร


รอบแรกผมยังตามหลังคุณท่านอยู่สองช่วงตัว
คนแก่แรงดีตอนแรกก็แบบนี้แหละ…เดี๋ยวตอนปลายต้องแผ่วลงแน่ๆ
ผมวางแผนไว้ว่า ผมจะออมแรงว่ายให้ช้ากว่าคุณท่านประมาณ 1-2 ช่วงตัว คุณท่านจะได้ตายใจว่าผมว่ายน้ำช้ากว่า ตีตื้นขึ้นมาไม่ทันแน่ๆ


ผมกลับตัวในรอบสุดท้ายก่อนคุณท่าน ผมใส่เต็มแรงที่มี ว่ายให้เร็วที่สุด
ยังไงแรงเด็กหนุ่มก็ต้องมากกว่าแรงผู้ใหญ่อายุขึ้นเลข 3 อยู่แล้ว


ผมแตะถึงขอบสระก่อนแล้วรีบวิ่งไปหยิบเสื้อคลุมที่ตอนแรกจะเอามาให้คุณท่านใส่ก่อน
แค่ว่ายน้ำเปลือยๆด้วยกันก็เสียวจะแย่ ไม่รู้จะถูกกระทำชำเราเมือไหร่


“อยากได้อะไร”คุณท่านดันตัวเองขึ้นจากสระน้ำโดยไม่ใช้บันได
เผยให้เห็นร่างกายขาวที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ หน้าท้องแกร่งเป็นลอนหกห่อแบบคนออกกำลังกายดูแลตัวเอง
ตาซนๆของผมเหลือบไปมองส่วนที่โป่งนูนในกางเกงว่ายน้ำแล้วต้องเบือนหน้าหนี
สงสัยพ่อคุณท่านคงจะรักน่าดู…ถึงได้ให้มาเยอะขนาดนี้


“ว่าไง อยากได้อะไร”


“จูบผม”ผมตอบกลับไปอย่างรวดเร็วเหมือนคำตอบออกมาจากไขสันหลัง ไม่ผ่านการประมวลผลจากสมอง
ไอ้พริ้ม ไอ้เด็กบ้า! แกเป็นไฮดรารึไง!!!
คิดแล้วก็อยากตบปากตัวเอง
มีโอกาสดีๆแทนที่จะขออิสรภาพ ดันบ้าไปขอให้เขาจูบ
โว้ยยยยยยยยยย!!!


“ชั้นไม่จูบใครฟรีๆหรอกนะ ถึงจะเป็นคำขอก็เถอะ พร้อมแลกไหมละ”ผมตวัดสายตาค้อนคุณท่าน
ขี้โกง! แบบนี้มันขี้โกงชัดๆ ไหนบอกว่าขออะไรก็ได้ไงเล่า


“หึ ถ้าไม่พร้อมแลกก็ขออย่างอื่น”คุณท่านยิ้มร้ายเดินเข้าห้องไป


ผมกำมือแน่น คนโกหก! คนหลอกลวง! คนขี้โกง!!!
ขนาดขอจูบยังไม่ได้ นับประสาอะไรกับการขออิสรภาพ


“พริ้มเข้ามาอาบน้ำ เดี๋ยวสาย”ผมหันไปมองคุณท่านที่ใส่เสื้อคลุมแล้วออกมาเรียกผม
บ้าเหรอ จะให้อาบน้ำด้วยกัน


“คุณท่าน พริ้มอาบแปปเดียว 3 นาทีเสร็จ คุณท่านอาบก่อนเลย”ผมปั้นยิ้มตอบคุณท่าน
บ้าไปแล้วขืนอาบน้ำด้วยกัน ผมก็เสียทั้งขึ้นทั้งล่อง
นอกจากจะไม่ได้รางวัลละยังต้องมาเปลืองตัวให้เขาดูอีก
ไอ้พริ้มคนโง่! โง่ให้เขาหลอกไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง!


“ชั้นสั่ง”ผมหลับตาถอนหายใจกับตัวเอง สั่งก็สั่ง! ทำก็ทำวะ!


ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำ ถอดเสื้อคลุมแขวนไว้แล้วรีบเดินเข้าห้องกระจก
แต่ตัวผมลอยกลับมาในนั่งในอ่างอาบน้ำเพราะคุณท่านอุ้มผมจากทางด้านหลัง


“คุณท่าน…”ผมเรียกคุณท่านอย่างตกใจ รีบเกาะรอบคอไว้กลัวท่านจะปล่อยผมตกลงพื้น
คุณท่านนั่งลงที่ขอบอ่างแล้วค่อยๆวางตัวผมลงในอ่างจากุชชี่ที่เปิดน้ำวนอยู่
อุณหภูมิในน้ำค่อนข้างร้อน


“ร้อนไปไหม?”ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ จริงๆก็ร้อนนั่นแหละ อุณหภูมิน่าจะประมาณ 40 องศา มากกว่าอุณหภูมิปกติของร่างกายมนุษย์นิดหน่อย แต่ผมทนได้


คุณท่านดึงให้ผมขยับไปใกล้หว่างขา ท่าทางแบบนี้มันล่อแหลมชอบกล
วันนี้จะได้ไปเรียนไหมนี่?


คุณท่านดึงฝักบัวออกมา เปิดน้ำราดเส้นผมก่อนจะเทแชมพูแล้วสระผมให้
คุณท่านนวดวนหนังศรีษะผมอย่างแผ่วเบา เค้นคลึงหนังศรีษะจากทางด้านหลังจนถึงขมับ
สบายจังเลย~ นี่มันสปาหมาระดับ VIP


หลังจากสระผมเสร็จแล้วท่านก็นวดผมให้
กลิ่นหอมๆของครีมนวดผสานกับความสบายที่มีคนนวดหนังศรีษะให้ ทำให้ผมหลับตาพริ้มรับสัมผัสอ่อนโยน
คุณท่านล้างครีมนวดออกตอนไหน ผมยังไม่รู้ตัวเลย


“เสร็จแล้ว”คุณท่านหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาเช็ดผมให้


“ขอบคุณครับ”ผมเงยหน้าไปหาท่านที่นั่งอยู่ด้านหลัง ท่านก้มหน้าลงมาจุ๊บบนริมฝีปากผมเสียงดัง ‘จุ๊บ’


“รางวัล”ท่านพูดเพียงแค่นั้นก็ลุกออกไปอาบน้ำในห้องกระจก


ผมแตะริมฝีปากตัวเองเบาๆอย่างเสียจริต
ใช่เหรอ…เมื่อกี้มันใช่จริงๆเหรอ


ตอนแรกที่ถูกบังคับให้อาบน้ำด้วยกัน ใจผมคิดไปไกลว่าต้องถูกเชือดคาห้องน้ำแน่ๆ
คิดว่าวันนี้คงไปไม่ได้ไปเรียนแล้วด้วยซ้ำ


แต่นี่อะไร…มาสระผมให้เฉยเลย
ความอ่อนโยนที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้รับมันไม่ดีกับใจไม่รักดีเลยจริงๆ


ใจเจ้ากรรม...อย่าเต้นแรงกับคนที่เคยทำร้ายเราสิ




ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ

ฝากเอ็นดู #พริ้มกับdaddy ด้วยนะคะ



หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: shiroinu ที่ 25-02-2018 13:24:23
แปะไว้ก่อน
------------------
อ่านตอนนี้จบแล้วไม่รู้จะเม้นอะไรดี :m23:
ยังคงสงสัยปริศนาของฟ้าครามกับคุณท่าน แถมคุณท่านก็ดูไม่ได้ชอบพริ้มมากมายเมื่อเทียบกับฟ้าคราม เฮ้อ จะบอกว่าสงสารพริ้มก็ไม่ได้เพราะพริ้มเลือกสถานะนี้เอง ก็ควรจะเจียมตัวในสถานะอ่ะนะ อย่าให้ใจท่านไปหมดนะพริ้ม เดี้ยวเจ็บเอง
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 25-02-2018 15:34:57
พริ้ม สตอล์คโฮล์มซินโดรมละลูก
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-02-2018 16:11:57
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 25-02-2018 19:14:39
ฟ้าคราม อืมมมมม ไม่ใช่ว่ารักกะฟ้าคราม แต่ดันเป็นรุกทั้งคู่ใช่มะ แล้วพริ้มเนี่ย เอามาเลี้ยงแทนฟ้าครามแหง ไอ้สระผมให้อะไรให้เนี่ย พริ้มคิดถูกเเล้วว่ามันโอ่นโยนผิดปกติ เค้าเอาหนูมาเป็นตัวแทนแน่เลยลูก อย่าไปเผลอใจมาก
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 25-02-2018 21:01:08
คุณท่านเป้นไบโพล่าแหงๆ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 25-02-2018 21:12:09
หืมมมม...คุณท่านละมุนมากจนเราใจไม่ดีกับอาการไบโพล่าที่ท่านเป็น
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 25-02-2018 22:34:30
ใจดีแปลกๆนะคุณท่านเนี่ย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 25-02-2018 22:42:24
ระแวงคุณท่าน ดีดีใจหาย ร้ายก็ร้ายสุด
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-02-2018 23:03:15
เหมือนหลอกให้ตายใจ หลงกลเมื่อไหร่โดนเมื่อนั้น  :ling3:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 25-02-2018 23:09:47
ตอนนี้ดีจนน่าใจหาย ตอนหน้ามีเซอร์ไพร์สเปล่าคะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 26-02-2018 00:09:18
คุณท่านดูแปลกๆนะคะ
กลัวใจมากตอนนี้
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 26-02-2018 07:48:53
วิญญาณคนดีสิงคุณท่านรึเปล่าคะ ทำไมดีก็ดีจนใจหายแบบนี้
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 26-02-2018 12:59:11
เรื่องนี้ชอบจังครับ
มาลงบ่อยๆนะครับผม

       :bye2:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: love boy ที่ 26-02-2018 13:37:15
ไม่เอา 3P  ได้ไหมมมม
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 26-02-2018 14:30:22
มรสุมใหญ่กำลับจะมา....
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 26-02-2018 15:19:10
คำพูดของพี่มะลิแปลกๆ ความสุขของพริ้มกำลังจะหมดไปเมื่อฟ้าครามกลับมารึเปล่า
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Mayniemo ที่ 26-02-2018 18:09:34
ทำดีกลบเกลื่อนได้ดีมากจริงๆ อิมควรให้อภัยไหม มะลิพูดอะไรอพรึที่ท่านเลี้ยงพริ้มเพราะหน้าเหมือนฟ้ารึเปล่า แงงงงงงง
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 26-02-2018 20:59:03
ตอนที่ 10


วันนี้อิฐย้ายมานั่งเรียนข้างๆผม คอยสอนเวลาที่ผมตามอาจารย์ไม่ค่อยทัน ทำให้ผมเข้าใจเนื้อหามากกว่าเมื่อวาน
เวลาที่ผมได้มาเรียนอีกหนึ่งวัน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เหมือนเหตุการณ์เมื่อเช้าที่ผมรีบวิ่งเข้าห้องเรียนพึ่งเกิดขึ้นใหม่ๆ ทั้งๆที่ตอนนี้ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว
ผมเก็บของเตรียมกลับคอนโดของท่าน บอกลาเพื่อนรุ่นน้องก่อนจะเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า


ระหว่างทางกลับคอนโด ผมไถโทรศัพท์เล่นไปเรื่อยเปื่อย
พอดีกับที่วีส่งข้อความมา


V : พริ้มเป็นไงบ้าง วันนั้นเราขอโทษนะ เราถูกบังคับ


*Online Pimp : ช่างมันเถอะ


V : พริ้มยกโทษให้เราเถอะนะ


*Online Pimp : กูอโหสิกรรมให้มึง


V : พริ้ม วีขอโทษจริงๆ


V : พริ้มอย่าโกรธวีเลยนะ


V : วันนั้นวีถูกซ้อมแทบตาย ถ้าวีไม่ทำตามคำสั่ง พวกมันคงฆ่าวี


*Online Pimp : ไปตายซะ ไอ้เหี้ยยยยย! กูขอให้ญาติพี่น้องมึงโดนข่มขืนแบบที่กูเจอ


V : วีขอโทษ


V : วีอยากไถ่โทษให้พริ้ม วีจะคืนคลิปที่เคยอัดไว้ทั้งหมดให้พริ้ม


V : พริ้มอยู่ไหน วีจะเอาไปให้


ผมชั่งใจอยู่สักพัก ยังไม่ตอบแชทกลับไป
ไม่รู้ว่าการที่วีทักผมมาหลังจากหายไปหลายวันครั้งนี้จะมาดีหรือมาร้าย


ผมไลน์ไปบอกคุณชัยว่าวีทักมาจะเอาคลิปที่เคยอัดมาให้ ผ่านไป 10 นาทีคุณชัยก็ยังไม่ตอบ
ผมจะโทรหาท่านดีไหมนะ? แต่ผมไม่มีเบอร์ท่านนี่นา…


*Online Pimp : อยู่ไหน


V : หน้าปากซอยโรสคลับ


*Online Pimp : 5 นาทีเจอกัน


*Online Pimp : อยู่ไหน ถึงละนะ


V : พริ้ม เราหาที่จอดรถไม่ได้เลย


V : เจอกันลานจอดรถโรงหนังชั้น 2 ได้ปะ


V : พริ้มรู้จักโรงหนังใช่ปะ ใกล้ๆหน้าปากซอยอะ


*Online Pimp : เดี๋ยวเดินไป


ระหว่างทางที่ผมเดินไป ผมก็เข้าไปกดเช็คในไลน์ว่าคุณชัยตอบกลับมารึยัง
แต่ก็ยังไม่มีข้อความใดๆตอบกลับมา
ผมเลยไลน์ไปบอกเพิ่มเติมว่าผมนัดเจอกับวีที่โรงหนัง


ผมเดินเข้าไปที่ลานจอดรถโรงหนังผ่านทางเชื่อมรถไฟฟ้า
หันซ้ายหันขวาก็หาใครไม่เจอสักคน
บรรยากาศมันวังเวงแปลกๆ


*Online Pimp : ถึงละนะ อยู่ไหน?


ผมหันซ้ายหันขวามองหาวีอยู่นานก็ไม่เจอ
จนผ่านไปสักพักผมรู้สึกได้ถึงแรงรัดลำคอจากด้านหลัง


“ไอ้เหี้ยยยยย! ปล่อยกู ไอสัด”ผมพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนที่รัดแน่นทางด้านหลัง วีเอาผ้าเช็ดหน้ามาปิดจมูกผม ผมพยายามกลั้นหายใจแต่สุดท้ายก็ทนได้ไม่นาน


สติของผมค่อยๆลางเลือน…ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นคงมียาสลบ
สิ่งสุดท้ายที่รับรู้คือร่างของผมโดนลากครูดไปกับพื้น

.
.
.

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนค่อยๆปรือขึ้นจากฤทธิ์ยาสลบ
ผมกวาดสายตาสำรวจพื้นที่ที่อยู่ตรงหน้า...ตอนนี้ผมอยู่ในห้องนอนสีขาว ลักษณะเป็นห้องที่ไม่ได้เปิดใช้มานาน เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างถูกคลุมด้วยผ้าดิบสีครีม
ผมสะบัดศรีษะที่มีอาการมึนงงจากการโดนยา


วีเดินยิ้มร้ายเข้ามาหาผม “โง่เหมือนเดิมเลยนะมึง”


“ไอเหี้ย ไอ้จัญไร ไอเลวระยำ มึงปล่อยกูไอ้สัด”ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการแต่ก็ทำไม่ได้ ข้อมือผมทั้งสองข้างถูกพันธนาการไว้ด้วยกุญแจมือ แล้วผูกโยงกับเชือกที่ห้อยลงมาจากเพดานอีกที


“หึๆ กับกู…มึงกล้าปากดี แต่กับผัว มึงไม่กล้าแหกปากสักนิด”วีเดินมาบีบคางผมแน่นจนเจ็บร้าวไปถึงหน้าใบหู


“ถุย! เสือก”ผมถ่มน้ำลายใส่หน้าวี วีจิกหัวผมขึ้นมาก่อนจะตบผม หน้าผมชาไปหมด


“ถุย!”ผมถ่มน้ำลายที่มีรสคาวเลือดในปากลงพื้น


“คนแบบมึงมันก็ดีแต่เป็นหมาลอบกัด มึงปล่อยกูสิวะ แล้วมาสู้กันตัวๆ”


“กูไม่สู้กับมึงหรอก เสียเวลา เอาเวลามาเยมึงเล่นดีกว่า มันส์กว่าเยอะ”ไอ้สัตว์เดรัจฉานตัวผู้มันพูดไว้แค่นั้น ก็เดินไปหยิบขาตั้งกล้องมากาง เอากล้อง DSLR มาติดตั้ง


ไอ้เหี้ยเอ๊ยยยย! จะถ่ายให้ชัดยันรูขุมขนเลยรึไง


หลังจากตั้งกล้องเรียบร้อยมันก็ย่างสามขุมเข้ามาหาผม “ผัวมึงหวงนักใช่ไหม? ดี!!! กูจะเยมึงให้รูบาน แล้วอัพไฟล์ลงอินเตอร์เน็ต”


“ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยย”ผมแหกปากดังลั่น เผื่อห้องข้างๆจะได้ยินแล้วมาช่วยผม
สองขาที่ไม่ถูกพันธนาการไว้ พยายามกระโดดเตะขาตั้งกล้องที่มันตั้งไว้


“พูดมากน่ารำคาญจริงมึง เก็บปากไว้ครางหน้ากล้องดีกว่า”มันพูดแค่นั้นก็วาดขาเตะหน้าท้องผมจนเจ็บจุก ผมงอตัวลงด้วยความเจ็บ อาการเจ็บยังไม่ทันทุเลา ฝ่าเท้าอีกข้างของวีก็ฟาดมาเต็มๆเข้าที่กลางหลัง


“มึงรู้ไหมว่าวันนั้นกูโดนกระทืบเละมากแค่ไหน แต่ไม่เป็นไร ไม่ต้องอยากรู้ เพราะวันนี้กูจะทำให้มึงได้รู้ซึ้งถึงรสชาติของการโดนซ้อม”ทันทีที่วีพูดจบ มันก็เดินไปใส่สนับมือ ฝ่ามือหนากำมัดแน่นก่อนจะรัวมัดมาที่หน้าผมไม่ยั้ง


ตัวผมตอนนี้เหมือนกระสอบทราย ทั้งหมัด ทั้งเข่า ทั้งฝ่าเท้า รัวเข้ามาที่ร่างกายผมเหมือนไม่ใช่คน


“มึงมันไร้น้ำยา ถุย!”ผมถ่มเลือดที่คาวในปากทิ้ง เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากขมับ หางคิ้ว จมูกของผม แทบไม่มีพื้นที่ใดบนใบหน้าที่ไม่บวมช้ำและเกรอะกรังไปด้วยเลือด


“เดี๋ยวก็รู้ว่ากูมีน้ำยารึเปล่า กูจะฉีดน้ำกูเข้ารูมึงจนทะลักออกมาเลย”


“ไปตายซะ ไอควายยยย”ผมแหกปากร้องเสียงดังด่ามัน สนับมือแข็งๆฟาดมาที่ริมฝีปากผมทันที


“แหกปากมากจริง”วีพูดแล้วเดินไปหยิบสายหนังคาดศรีษะที่มีลูกบอลสีแดงตรงกลางมาคาดปากผม พร้อมกับเอาผ้าปิดตาสีดำสนิทมาสวมให้


“อึก…อ่อยอู อ่อยอู๊ววววววว ไอ่เอี้ยยยยยยยยย”ผลจากลูกบอลที่คาบในปากทำให้ผมพูดออกมาไม่ชัด ดวงตาฉายภาพสีดำสนิท ความรู้สึกกลัวคืบคลานเข้ามากัดกินใจ


“พูดห่าไรไม่รู้เรื่อง เก็บปากมึงไว้ครางดีกว่า”ไอสันดารเลวมันพูดแค่นั้นก็ฉีกทึ้งเสื้อผ้าออกจากร่างกายผม ความรู้สึกเย็นเยียบจากเครื่องปรับอากาศทำให้ผมขนลุกและตัวสั่น


มันจิกหัวผมให้มองไปที่กล้อง “จะได้เป็นนางเอกหนัง GV ทั้งที สู้กล้องหน่อยสิมึง”


“อื้ออออออ…”ผมร้องประท้วงพร้อมกับสะบัดตัวออก


“ร่อนตูดร่านKแรงๆให้ผัวมึงประทับใจเลยนะ กูจะส่งคลิปนี้ให้มันดู”มันพูดจบก็ตบตูดผม


“อ่อยอูวววววววววว”ผมพยายามสะบัดตัวหนีมันแต่ก็ไม่เป็นผล กุญแจมือสีเงินบาดผิวที่ข้อมือจนเลือดซึม
ความเจ็บปวดจากบาดแผลที่โดนซ้อมทำให้ผมรู้สึกทรมาน
อาการหายใจลำบากเริ่มสำแดง


ผมได้ยินเสียงฉีกซองถุงยางก่อนที่เจ้าก้อนเนื้อนิ่มจะถูกจับแยกออกจากกัน ลำลึงค์ของมันดันเข้ามาสุดทีเดียวจนมิดลำในช่องทางรัก


“อ๊ากกกกกกกก!”ผมกรีดร้องอย่างเจ็บปวด น้ำตาใสหลั่งไหลรินออกมา
ความเจ็บปวดที่ช่องทางรักฉีกขาดเหมือนวันนั้นตีกลับมา


มันขยับสะโพกเข้าออกอย่างกักขฬะ มีแต่ความรุนแรง
“อา…”เสียงครางต่ำของมันน่าเกลียด น่าขยักแขยง


“รูมึงเยมันKจริงๆ อา… แน่นฉิบหาย ถึงว่าทำไมผัวมึงหวง”


น้ำขมๆไหลขึ้นมาถึงคอ ผมปล่อยให้ตัวเองอ้วกครั้งแล้วครั้งเล่า
มันเสร็จสุขสมในตัวผมไปไม่รู้กี่น้ำ
คราบน้ำกามขาวขุ่นผสมกับเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากช่องทางรัก ย้อยผ่านโคนขาด้านใน


ผมได้แต่ปล่อยน้ำใสในดวงตาให้ไหลรินออกมาอย่างย้อมแพ้ในชะตากรรม
ผมโง่เอง…โง่ที่คิดว่าคนอย่างมันจะยอมคืนคลิปให้ผมจริงๆ
ไม่เคยมีความสัจในหมู่คนใจหยาบ


ผมพยายามอ้าปากเพื่อรับอากาศเข้าปอด
อาการเจ็บหน่วงๆบริเวณช่องอกทำให้ผมหายใจลำบาก


ตอนนี้คุณชัยจะอ่านข้อความของผมรึยังนะ?
ได้โปรดอ่านข้อความแล้วมาช่วยผมที


“รูมังนี่เยมันKจริงๆ”มันเดินมาถอดผ้าปิดตาผมออก บีบคางให้ผมจ้องมองไปที่กล้องตัวใหญ่ที่ยังคงบันทึกภาพอยู่


“น่าเสียดายที่กูคงเก็บมึงไว้ไม่ได้”มันล็อคคอผมแล้วใช้เชือกรัดคอผมจากด้านหลัง


ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายสะบัดตัวมันออกไป แต่แรงผมที่ถูกทำร้ายมาอย่างสาหัสจะไปสู้แรงผู้ชายปกติได้อย่างไร ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดหายใจ ตาของผมเหลือกขึ้นด้านบนอย่างทรมาน


ผมยังตายตอนนี้ไม่ได้
ถ้าผมตาย…น้องผมใครจะดูแล
คุณท่านอยู่ที่ไหน? ได้โปรดช่วยไอ้พริ้มหมาโง่ตัวนี้ที
ผมสาบาน ถ้าคุณท่านช่วยผม…ผมจะอุทิศชีวิตที่เหลือให้คุณท่าน


ผมดิ้นรนอย่างทรมาน เหมือนลมหายใจเฮือกสุดท้ายกำลังจะหมด
คุณท่าน…ช่วยพริ้มด้วย
พริ้มขอร้อง


ปัง!


ผมได้ยินเสียงถีบประตูพร้อมๆกับเชือกที่รัดคอผมค่อยๆร่วงหล่นลงไปที่พื้น


“แค่กๆ”ผมกุมคอตัวเองที่มีรอยบาดสีแดงจากเชือก ผมหันหลังไปมองปรากฏภาพวีทรุดลงคุกเข่าที่พื้นพร้อมกับขาสองข้างที่มีกระสุนฝังอยู่ เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาจนเจิ่งนองเต็มพื้น


บอดี้การ์ดจับมือวีไพล่หลังใส่กุญแจมือแล้วเหยียบแผ่นหลังวีจนหน้าแนบกับพื้น
คุณท่านเดินเลยผ่านผมไปที่กล้องตัวใหญ่ที่กำลังบันทึกภาพอยู่
รองเท้าคู่สวยถีบทีเดียว กล้องตกลงกระทบพื้น แตกออกเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ตัวเลนส์แตกกระจายเป็นเศษกระจกเล็กๆ


หลังจากพังข้าวของจนพอใจ คุณท่านเก็บเมมโมรี่การ์ดจากกองซากขยะอิเล็กทรอนิกส์แล้วตวัดสายตามาที่ผม
ดวงตาของคุณท่านเหมือนเสือร้ายที่พร้อมขย้ำเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า
ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่น แววตาสั่นระริกด้วยความกลัว


คุณท่านเดินย่างสามขุมเข้ามาหาผมก่อนจะรับมีดยาวจากคุณชัย
ผมหลับตาหนีทันทีคุณท่านเงื้อคมมีดขึ้นสูง
เพียงคมมีดเดียว เชือกก็ขาดสะบั้น ผมเข่าอ่อน ทรุดตัวนั่งลงที่พื้นอย่างหมดแรง


ผมเงยหน้ามองคุณท่าน น้ำตาไหลรินจนภาพตรงหน้าพร่าเบลอ
ในที่สุดความปราถนาของผมก็เป็นจริง…เป็นคุณท่านจริงๆที่มาช่วยผม


คุณท่านหลับตาแน่นเหมือนคนกำลังสะกดกั้นอารมณ์ ก่อนจะเอ่ยคำพูดออกมา “ชัย!”
คุณชัยรีบวิ่งมาหาผมหลังจากคุณท่านเรียกแล้วไขกุญแจมือให้ผมก่อนจะดึงผ้าดิบมาห่อตัว
ผมดึงลูกบอลสีแดงออกจากปากแล้วขว้างทิ้งอย่างไม่ใยดี


ผมกอดเข่านั่งงอตัวอยู่ที่พื้น
ผมหอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน อาการเจ็บบริเวณซี่โครงด้านซ้ายชัดขึ้นในความรู้สึก


“มึงนี่มันไม่เจียมกะลาหัวจริงๆ”ผมเงยหน้ามองคุณท่านใช้ฝ่าเท้าขยี้แผลของวีที่มีกระสุนฝังอยู่ ส่งผลให้เลือดไหลทะลักออกมาเหมือนก๊อกแตก


“ไอ้สัดดดดด!”วีสบถออกมา


ผมมองภาพความรุนแรงตรงหน้าด้วยความกลัวจับใจ
ผมกระเถิบตัวเองด้วยความยากลำบากทีละเล็กเพื่อเข้าไปใต้โต๊ะ
ใช้โต๊ะเป็นปราการคุ้มกันภัย…ปลอดภัยแล้วนะพริ้ม ผมได้แต่บอกกับตัวเองแบบนั้น


“กูบอกมึงแล้วไงว่าครั้งที่แล้วคือครั้งสุดท้าย คนที่มันไม่ฟังคำพูดกูมันต้องตายทั้งเป็น”คุณท่านเหยียบลงที่กลางหลังวีดังอั้ก ผมไม่รู้ว่ามีซี่โครงอันไหนบ้างที่หักไป


“จับมันนั่ง”สิ้งเสียงสั่ง บอดี้การ์ดดึงวีขึ้นจากพื้น
คุณท่านควงมีดในมือเล่น สร้างความสั่นประสาทให้วีที่มองอยู่ไม่น้อย


“มึงจะฆ่ากูก็ฆ่าสิวะ หรือว่าไม่แน่จริง”ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น
วีจะท้าทายใครก็ได้…แต่ไม่ควรท้าทายคุณท่าน


“ฉันจะทำให้นายตายทั้งเป็น”คุณท่านเหยียดยิ้ม ก่อนจะก้าวเข้าไปหาวี ผมรีบหันหน้าหนี


“อ๊ากกกกกกก~”เสียงร้องโหยหวนทรมานของวีดังขึ้น ผมหรี่ตามอง พบส่วนกลางลำตัววีขาดสะบั้นอยู่ที่พื้น
ผู้ชายบ้าเซ็กส์แบบวี ขาดแก่นกายไปก็เหมือนขาดเครื่องมือบำบัดความใคร่ของตัวเอง
โดยตัดKขาดครั้งนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการโดนตัดคอ…เหมือนตายทั้งเป็นอย่างที่คุณท่านว่าจริงๆ


“มึงเก็บไฟล์ของพริ้มไว้ที่ไหนบ้าง คายมาซะดีๆตอนกูยังปรานีมึงอยู่”คุณท่านส่งมีดคืนให้คุณชัยแล้วรับผ้าเช็ดหน้าที่คุณชัยเทแอลกอฮอล์ราดจนชุ่มมาเช็ดมือ


“กูไม่บอก”คุณท่านยิ้มเหี้ยมก่อนจะชักปืนออกมายิงที่หน้าขาด้านซ้ายของวี


“อ๊ากกกกกก”วีคำราม เสียงเหมือนสัตว์ป่าที่กำลังบาดเจ็บ


“กูให้โอกาสมึงอีกรอบ”


ผมมองคุณท่านที่กำลังแสยะยิ้มร้าย
น่ากลัว…คนๆนี้น่ากลัวเกินไป
คุณท่านสามารถลั่นไกปืนได้โดยแววตาไม่มีความสั่นไหวสักนิด


ผมกอดเข่าตัวเองขุดคู้อยู่ใต้โต๊ะตัวสั่น
กลัว…กลัวแล้ว
ยอม…ยอมแล้ว
ผมหวังว่าคุณท่านจะไม่ลงโทษผมที่เชื่อคำพูดวีแล้วทำให้ท่านต้องเดือดร้อนมาเก็บกวาดเรื่องนี้ให้ผม
แค่โดนกระทำชำเราอย่างป่าเถื่อนจากอมนุษย์อย่างวีก็ทำผมบอบช้ำไปทั้งกายและใจ


“คุณท่านครับ ตรวจสอบคอมพิวเตอร์พบว่าไฟล์ถูกอัพโหลดไว้ในเว็บฝากไฟล์ครับ แล้วก็พบไฟล์แบ็คอัพไว้ใน external hard disk ครับ”ผู้ชายสวมชุทสูทสีเทาเดินมารายงานคุณท่านตอนที่ท่านกำลังจะลั่นไกปืนนัดต่อมา


“มึงเก็บไว้ที่ไหนอีก ถ้ามึงบอก...กูจะเว้นโทษตายให้”


“ไม่มี”สิ้นเสียง คุณท่านก็ลั่นไกปืนไปที่โคนขาอีกข้างโดยไม่ลังเล


“บอก…อึก...แล้ว กูบอกแล้ว อยู่ในไอแพดกับมือถือกู”


“พบไอแพดกับมือถือแล้วครับ”คุณชัยเดินเข้ามารายงานคุณท่านหลังจากหายออกไปไม่นาน


คุณท่านยิ้มเหี้ยมหลังจากที่ได้คำตอบจากคุณชัย
“มึงชอบข่มขืนคนอื่นนักใช่ไหม ดี! กูจะให้มึงได้รับรู้รสชาติเองบ้าง”
คนท่านพูดจบก็พยักหน้ากับพี่บอดี้การ์ด “หมดประโยชน์ก็เก็บมันได้เลย”


หลังจากวีถูกลากออกไปเหมือนหมูเหมือนหมา คุณท่านก็เริ่มมองหาผม
ผมพยายามซุกตัวหนีเข้าไปอยู่ใต้โต๊ะมากขึ้น
ปล่อยผมไปเถอะนะ...อย่าจองเวรจองกรรมกันอีกเลย


คุณท่านโหดร้ายกับคนที่ทรยศท่านอย่างเลือดเย็น ถึงครั้งนี้ผมไม่ได้ทรยศท่าน แต่ท่านอาจจะเข้าใจผิด
อย่าทำผมเลย…
อย่าทำร้ายหมาโง่ๆที่ถูกหลอกตัวนี้เลย...


“เด็กดีของชั้น ออกมา”คุณท่านนั่งยองๆอยู่ระดับสายตา ท่านยื่นมือมาให้ผม
ผมส่ายหน้าอย่างกลัวเกรง ตัวผมสั่นเป็นลูกนกปีกหัก


ปล่อยผมไปไม่ได้เหรอ
ทำเหมือนมองไม่เห็นผมไม่ได้เหรอ
ให้ผมเป็นเพียงอากาศธาตุไม่ได้เหรอ


“เด็กดี ออกมาเถอะ”ผมกำมือแน่น จิกเล็บตัวเองลงบนฝ่ามือ
ผมกลัวคุณท่าน


“อยู่กับชั้น เธอจะปลอดภัย”ผมค่อยๆกระเถิบตัวออกมา นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของผมจ้องมองคุณท่าน


“…”คุณท่านเอื้อมมือมาจับตัวผม ผมมองมือคุณท่านด้วยแววตาสั่นระริก ท่านไม่เอ่ยคำใดๆออกมากอีก ทำเพียงแค่ถอดเสื้อสูทคลุมตัวผม


ท่านเช็ดน้ำตาผมที่ไหลนองบนใบหน้าผมอย่างอ่อนโยน


“ปลอดภัยแล้วนะเด็กดี”จบประโยคที่คุณท่านพูด ผมก็โผตัวออกไปกอดคุณท่าน สะอื้นไห้กับอกท่านเหมือนเด็กตัวเล็กๆ


ตอนแรกผมคิดว่าจะถูกฆ่าข่มขืนทิ้งไว้เหลือเพียงซากศพแล้วซะอีก
ถ้าคุณท่านไม่มาช่วย ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตเหลือรอดออกไปจากที่นี่หรือไม่


ผมซบหน้าลงกับอกอุ่นของคุณท่านที่โอบอุ้มผมอยู่
กลิ่นที่คุ้นเคยทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย ผมกอดคอคุณท่านแน่นไม่ยอมปล่อย


“โทรสั่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดของเราให้เตรียมพร้อมไว้ด้วย”คุณท่านสั่งผู้ชายในชุดสูทสีเทาคนนั้นทันทีที่ก้าวขึ้นรถ


“เจ็บตรงไหนบ้าง”ท่านถามผมที่นั่งอยู่บนตัก กอดคอท่านไว้ไม่ยอมห่าง


ผมชี้ไปที่ชายโครงตัวเอง ทุกครั้งที่งอตัวอาการปวดหน่วงๆจะมากขึ้น
ผมไม่แน่ใจว่าตอนที่โดนซ้อม กระดูกซี่โครงจะหักรึเปล่า
อาการหายใจหอบเหนื่อยทำให้ผมไม่อยากพูด


“คุณ…อึก ท่าน”ผมพยายามเปล่งเสียงออกมา แต่มันทำได้ยากเหลือเกิน ยิ่งนาน…อาการหายใจหอบเหนื่อยก็ยิ่งมีมากขึ้น


“ไม่ต้องพูด พยายามหายใจไว้นะ”คุณท่านดึงผ้าเช็ดหน้าออกจากเสื้อสูทเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าให้ผม


ทันทีที่ถึงหน้าโรงพยาบาลก็มีเตียงเข็นมารอรับอยู่แล้ว
คุณท่านอุ้มผมวางบนเตียงอย่างแผ่วเบา
ผมกำชายเสื้อคุณท่านแน่น


“ญาติหลีกทางด้วยครับ”บุรุษพยาบาลบอกคุณท่านเสียงร้อนรน


“มะ…”ผมพูดออกมาไม่เป็นคำ สั่นหน้าระรัว
อย่าปล่อย…อย่าปล่อยมือจากผม


“ขอผมไปด้วยนะครับ”บุรุษพยาบาลคงรู้ว่าไม่ควรเสียเวลาเถียงกับญาติผู้ป่วย ยิ่งเถียงกันยิ่งปล่อยเวลาช่วยชีวิตให้สูญเปล่า อัตรารอดชีวิตก็น้อยลงทุกวินาที


ผมถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน หมอพยาบาลเข้ามารุมตรวจผม
ผมหายใจได้ดีขึ้นจากเครื่องช่วยหายใจที่พยาบาลใส่ให้
ผมได้ยินหมอพูดอะไรสักอย่างกับคุณท่านก่อนที่ร่างผมจะถูกส่งต่อไปเอ็กซเรย์


ผมถูกยกจากเตียงคนไข้ขึ้นไปนอนบนเตียงเอ็กซเรย์
ความอึดอัดจะอ้วก หายใจไม่ออกที่ต้องนอนนิ่งในอุโมงค์ใหญ่ ดำมืดทำให้ผมทรมาน


เมื่อก่อนผมไม่เคยกลัวความมืด
แต่ผลจากการถูกปิดตาตอนวีข่มขืนทำให้ผมกลัว


หลังจากได้ผลเอ็กซเรย์ หมอก็เรียกคุณท่านไปคุย
ฤทธิ์ยาทำให้ผมหลับลง

.
.
.

“น้ำ”ผมเปล่งเสียงแหบแห้งของตัวเองขอน้ำทันทีที่ฟื้น


“คุณพริ้มค่อยๆจิบน้ำนะครับ”คุณชุดสูทสีเทาที่ผมไม่คุ้นหน้าส่งน้ำมาให้ ผมจิบน้ำได้นิดหน่อย คุณท่านก็เดินเข้ามาพร้อมคุณหมอ


“รู้สึกยังไงบ้างคะตอนนี้”คุณหมอหน้าตาสวยหวานถามผมด้วยน้ำเสียงนุ่ม


“จะ…เจ็บ หายใจลำบาก”ผมพูดด้วยความยากลำบาก จมูกก็มีท่อช่วยหายใจใส่อยู่


“จากผลเอ็กซเรย์ของคนไข้พบกระดูกซี่โครงหัก 2 ซี่นะคะ มีอาการแทรกซ้อน คือ พบจุดเลือดออกที่ปอด ทำให้มีอาการหายใจหอบเหนื่อยได้ หมอให้ยาไปแล้วขอดูอาการอีก 3 วันนะคะ ถ้าหายใจได้ดีขึ้น เราก็ไม่ต้องทำการผ่าตัด คนไข้สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้”


“ขอบคุณครับ”คุณท่านเอ่ยขอบคุณคุณหมอคนสวย


“อาการอย่างอื่นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนะคะ พี่กาลสบายใจได้”คุณหมอหันไปยิ้มกับคุณท่าน คุณท่านยกมือลูบผมคุณหมอเบาๆ ภาพความอ่อนโยนตรงหน้าทำให้ผมเบือนหน้าหนี


“พี่กาลอย่าลูบผมแก้วสิคะ เดี๋ยวผมเสียทรง”เสียวหวานกระเง้ากระงอดแบบไม่จริงจังนัก


“ขอบคุณแก้วนะครับที่ดูแลให้”


“สำหรับพี่กาล แก้วเต็มใจอยู่แล้วพี่กาลก็รู้”คุณแก้วดึงมือคุณท่านมากุม
ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาชิดคอ เบือนหน้าหนีภาพตรงหน้า
ผู้ชายก็หล่อ ผู้หญิงก็สวย...สมกันราวกับกิ่งทองใบหยก


ทำไมอีตัวไร้ค่า ไร้ราคาอย่างผมจะต้องมาเป็นสักขีพยานรักให้ทั้งคู่ด้วย
ผมตอนนี้เทียบกับคุณหมอคนสวยไม่ได้สักนิด
แม้เพียงปลายเล็บ…ยังเทียบไม่ได้
ร่างกายสกปรก แปดเปื้อนราคีคาวจากผู้ชายคนอื่น
คุณท่านคงไม่ต้องการผมอีกต่อไป
.
.
.
หลังจากวันนี้คงได้แต่นับถอยหลังรอวันที่ถูกเขี่ยทิ้ง


“พริ้ม หันมาคุยกับชั้น”คุณท่านสั่งผมเสียงเขียวหลังจากคุณหมอคนสวยขอตัวไปดูผู้ป่วยรายอื่นต่อ
น้ำเสียงที่คุยกับผมช่างต่างกับคุณแก้วราวฟ้ากับเหว


ผมยังคงนอนนิ่งไม่ขยับ
ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณท่านให้ช้ำใจ


“พริ้ม อย่าดื้อกับชั้น”


“พริ้ม ชั้นสั่ง”ถ้อยคำหนักแน่นของคุณท่าน ทำให้ผมยอมแพ้
ลองถ้าได้เอ่ยคำว่า ‘ชั้นสั่ง’ แล้วบังอาจแข็งข้อไม่ทำตามคงได้มีบทลงโทษกันอีก


“เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะความโง่ของเธอ รู้ตัวใช่ไหม?”ผมอ้าปากพงาบๆ อยากจะเถียงแต่ก็เถียงไม่ออก
เป็นผมที่โง่เองที่คิดว่าวีจะให้ไฟล์
ความคิดไม่รอบคอบของผม ทำให้ผมลืมไปว่าหมาบ้าที่มีความแค้นอัดแน่นอยู่ในใจย่อมอยากจะแก้แค้น
ทำกับคุณท่านไม่ได้…ก็มาลงกับผม


“ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ชั้นจะเก็บกวาดสิ่งโง่เง่าที่เธอทำ ถ้ามีครั้งหน้าก็เตรียมตัวเก็บของกลับบ้านเก่าไปอยู่กับพ่อแม่เธอได้เลย ชั้นจะส่งเธอไปเองด้วยมือของชั้น เข้าใจไหม?”แววตาดุดันของคุณท่านทำให้ผมรู้สึกกลัว คุณท่านเป็นคน ‘พูดจริง ทำจริง’


บ้านเก่าที่พ่อแม่ผมอยู่…ไม่รู้ว่าจะเป็นนรกหรือสวรรค์ที่คุณท่านจะส่งไป


ผมกลืนน้ำลายเหนียวลงคอด้วยความยากลำบาก…การถูกขู่ฆ่าของคุณท่านในวันนี้น่ากลัวกว่าการขู่ฆ่าจากพวกทวงหนี้นอกระบบเสีย ตอนจ่ายเงินไม่ครบเสียอีก


คุณท่านมองหน้าผมแล้วถอนหายใจ เดินออกไปริมหน้าต่างแล้วจุดบุหรี่เพื่อสูบ


“คุณกาลครับ ถ้าอาการคุณพริ้มดีขึ้นใน 3 วันให้ผมรับกลับเลยไหมครับ”พี่สูทเทาถามคุณท่านที่สูบบุหรี่อยู่
ผมไอค่อกแค่กจากควันบุหรี่ของคุณท่าน
อาการเจ็บร้าวที่ซี่โครงแสดงอาการมากขึ้นเมื่อผมไอ


“ไม่ต้อง ให้นอนโรงพยาบาลไปก่อน 2 อาทิตย์”คุณท่านเท้าแขนกับขอบหน้าต่าง พ่นควันสีขาวออกมา
ผมไอค่อกแค่กจากควันบุหรี่


ปกติผมเองก็เป็นคนสูบบุหรี่ ต่อให้มีควันมากมายแค่ไหนผมก็ไม่เคยสำลักควัน
คุณท่านจะสูบบุหรี่วันไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่วันนี้ที่ผมป่วย!


“ผมอยากไปเรียน”ผมรีบแย้งคุณท่าน


“ไม่ต้องไป”คุณท่านพ่นควันสีขาวออกมาก่อนจะตอบผม


“คุณท่าน…”


“หมามันไม่มีสิทธิต่อรองหรอกนะ หัดเชื่อฟังเจ้าของบ้าง ไอ้หมาโง่”คุณท่านเดินถือบุหรี่มาหาผม บดขยี้ปลายไฟสีแดงก่ำลงบนผ้าห่มของโรงพยาบาลจนไหม้เป็นรู แล้วเดินออกจากห้องไป


“เฮ้ออออออ…”พี่สูทสีเทาถอนหายใจ ยกมือขึ้นมาลูบใบหน้า


ผมเงยหน้ามองพี่สูทเทาที่ยืนทำหน้าลำบากใจอยู่อย่างปลงไม่ตก
.
.
.
ทำไมโชคชะตาถึงนำพาแต่เรื่องร้ายๆมาให้ผม
โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลย






สงสารน้องงงงงงงงงง

ฝากเอ็นดู #พริ้มกับdaddy ด้วยนะคะ



หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 26-02-2018 21:12:53
พริ้มไม่คิดให้ดีก่อนนะ อย่างน้อยก็น่าจะให้ชัยไปด้วย  :ling1:

สมน้ำหน้าวี  o22
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 26-02-2018 21:13:43
หาเรื่องเข้าตัว ไม่น่าเลย แล้วจะโดนอะไรแบบนี้อีกไหมในอนาคต ไม่ชอบ ไม่ชอบ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 26-02-2018 21:15:49
รอสัมมีอีกคนน
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Yui_baanindy ที่ 26-02-2018 21:21:02
หน่วง :m15:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 26-02-2018 21:28:02
สงสารพริ้ม....งื้ออออ   นับถือพริ้มนะ ขนาดโดนทำร้ายจนปางตายแต่นางยังนึกถึงน้อง ทำทุกอย่างเพื่อน้อง ในขณะที่น้องนางยังไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใช้ชีวิตอย่างสบายบนความเป็นความตายของพี่ชายต่อไป
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 26-02-2018 21:32:33
พริ้มขาดทักษะในการใช้ชีวิตรึเปล่า 2 ปีที่ใช้ชีวิตด้วยลำพังต้องเก่งกว่านี้ซิ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 26-02-2018 21:40:28
สงสารน้อง ทำไมต้องถูกทำร้ายขนาดนี้ ท่านไม่ต้องขู่พริ้มก็กลัวแล้ว
ส่วนไอ้เลวเจนั่นก็ตายไปซะ ลงนรกไปปปป  :ling1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: valenpinkpink ที่ 26-02-2018 21:43:44
แงงงงง สงสารน้อง ทำไมคุณท่านไม่อ่อนโยน :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-02-2018 22:39:13
 :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 26-02-2018 22:42:02
พริ้มโง่เองจริงๆนั่นแหละ พลาดเองจะโทษใครได้
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 9 P.4 25.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 26-02-2018 22:47:44
 ดีต่อจายยยยยย  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 26-02-2018 22:59:37
ชอบนิยายเรื่องนี้ครับ
มาต่อบ่อยๆนะครับ
ขอบคุณ


  :pig4: :L1: :L1: :L1: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 26-02-2018 23:00:43
เฮ้อออออ........ ใช้ชีวิตมาขนาดนี้ไมพริ้มไม่คิดให้รอบคอบบ้างนะ บทเรียนที่สำคัญเลยหล่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-02-2018 03:43:47
เจอเรื่องร้าย ๆ อีกแล้ว แถมยังขาดเรียนอีกด้วย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 27-02-2018 05:00:01
จะสงสาร ก็พูดได้ไม่เต็มปาก
เหตุเกิดจากความโง่ซ้ำซาก ไม่ระแวงภัยเท่าที่ควร
โดนไปหนแรกยังไม่เข็ด!!! ยังอวดดีไปเจอไอ้วี ให้มันข่มขืออีก..เฮ้ออออ
เรื่องนี้ 3p อีกคนคือ ฟ้าใช่ไหม??
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: nekodollzz ที่ 27-02-2018 07:41:41
ปักกกกก
ฮือ ทำไมคุณท่านผีเข้าผีออกงี้
เป็นไบโพลาร์หรอออ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: shiroinu ที่ 27-02-2018 11:14:00
ตัดวีไปหนึ่ง เพราะวีโดนตัด ฉับๆ ฉับๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 27-02-2018 18:56:14
วันนี้มาลงมั้ยครับ


        :katai4:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 28-02-2018 00:48:13
พริ้มเอ่ยยยย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 28-02-2018 02:48:13
ชีวิตพริ้มเหมือนอยู่บนเส้นด้ายเลย  ไม่รู้เมื่อไหร่วันไหนเส้นจะขาด
ดูท่านไม่รักพริ้มเลย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: Mayniemo ที่ 28-02-2018 11:26:46
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
จะตาย อึดอัดมากคนไรซวยขนาดนี้  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 10 P.5 26.02.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 03-03-2018 16:07:14
รอคุณท่าน มาต่อนะครับ


          :mew6:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 03-03-2018 18:09:36
ตอนที่ 11


3 วันแรกผมถูกบังคับให้นอนนิ่งๆบนเตียง ห้ามขยับเขยื้อน เนื่องจากคุณหมอกลัวซี่โครงที่หักจะไปทิ่มปอดแล้วเลือดออกมากกว่าเดิม


หลังจากดูอาการครบ 3 วันแล้ว คุณหมอบอกว่าไม่มีเลือดออกเพิ่มเติม อาการหายใจหอบเหนื่อยของผมก็ลดน้อยลง คุณหมอแจ้งว่า ผมสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ แต่คุณท่านไม่อนุญาต ผมเลยต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลต่อ


ผมใช้เวลาในแต่วันผ่านไปอย่างน่าเบื่อ ตื่นเช้ามาทานข้าว ประคบน้ำแข็งบริเวณที่ซี่โครงหัก ฝึกหายใจให้เหมือนปกติ ทานยาตามที่คุณหมอสั่ง กดรีโมททีวีเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ และสุดท้ายพอไม่มีอะไรทำ ผมก็นั่งจ้องคุณชัยทำงาน


ทรมานจังเลย…อยากหายแล้ว แต่คุณหมอบอกว่าต้องรออีก 3-6 สัปดาห์ อาการถึงจะดีขึ้น


“คุณชัย…”ผมเรียกคุณชัยที่นั่งกดแม็คบุ๊คอยู่
มิติใหม่ไปอีก…ตอนแรกผมคิดว่าคุณชัยเป็นแค่บอดี้การ์ดของคุณท่าน ถนัดแค่งานบู๊ลางผลาญ ใช้กำลัง แต่ดูเหมือนว่าคุณชัยจะช่วยงานบริหารของคุณท่านด้วย


“คุณพริ้มเจ็บตรงไหนครับ?”ผมส่ายหน้า ผมไม่ได้เจ็บ 


“ผมเบื่อ”


“เบื่อ? เบื่ออะไรครับ?”


“เบื่อ…”ยังไม่ทันที่ผมจะตอบจนจบประโยค คุณชัยก็ขัดขึ้นมา


“เบื่อหายใจแล้วเหรอครับคุณพริ้ม ดีเลย...ผมจะได้แจ้งคุณท่าน”ผมมองคุณชัยที่พูดแทรกด้วยน้ำเสียงกวนประสาท แล้วหยิบมือถือโทรออกหาคุณท่าน


“คุณชัย! วางเดี๋ยวนี้เลยนะ”


“ครับคุณท่าน”คุณชัยยักคิ้วหลิ่วตากวนประสาทกลับมาแล้วขานรับคุณท่านพร้อมๆกับเปิดเสียงออกลำโพง


“มีอะไร”เสียงนุ่มทุ้มของคุณท่านดังผ่านลำโพงออกมา


“คุณพริ้มเบื่อครับ…เบื่อที่จะหายใจ”


“คุณชัย!”ผมตะโกนเรียกชื่อคุณชัยตาโต
บ้าไปแล้ววววว! ไปบอกคุณท่านแบบนั้นได้ไง


“สงสัยจะเบื่อกันทั้งเจ้านายทั้งลูกน้อง ถึงได้มีเวลาว่างโทรมากวนประสาทชั้น”ผมขมวดคิ้วฟังคำพูดที่คุณท่านเอ่ยงงๆ ใครเจ้านาย? ใครลูกน้อง? แต่คงไม่ใช่ผมแน่ที่เป็นเจ้านาย


“คุณท่านแวะเข้ามาดูคุณพริ้มบ้างสิครับ ผมอยากกลับบ้านไปหาลูกหาเมียแล้วนะ”คุณชัยโอดครวญกับคุณท่าน ผมมองคุณชัยตาโต ไม่คิดว่าคุณชัยจะมีครอบครัวแล้ว
ถึงว่าทำไมคุณชัยถึงทำหน้าเหม็นบูดตลอดเวลาที่ต้องเฝ้าผมตลอดทั้งวันทั้งคืนตลอด 3 วันที่ผ่านมา


“นั่นมันเรื่องของนาย”คุณท่านตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงรำคาญก่อนจะตัดสายไป


ผมล้มตัวลงนอนหันหลังให้คุณชัย ไปพูดแบบนั้นได้ไง? เดี๋ยวคุณท่านก็โมโหผมอีก


“งอนเป็นเด็กเลยคุณพริ้ม”


“ผมไม่ได้งอน”


“ไม่ได้งอนแล้วนอนหันหลังเพื่อ?”คุณชัยส่งเสียง…ขอผมพูดไม่สุภาพหน่อยนะ โคตรกวนตีนเลย


“คุณชัยไปพูดแบบนั้นกับคุณท่านได้ไง”ผมลุกขึ้นจากเตียงหันไปมองคุณชัยหน้างอ


“ผมพูดแทนคุณพริ้มไง”


“พูดแทนผมตรงไหน? พูดว่าผมอยากตายเนี่ยนะ?”


“อันนั้นผมล้อเล่นขำๆ คุณท่านไม่ถือสาหรอก”


“ถ้าคุณท่านไม่ขำด้วยเล่า”


“โธ่! คุณพริ้ม ท่านไม่ได้เป็นคนใจร้ายขนาดนั้น”
ไม่ใจร้ายกับผีหนะสิ…สั่งคนให้ข่มขืนวีแล้วฆ่าเนี่ยนะ


ถึงผมจะเจ็บแค้นเคืองโกรธวีแค่ไหน แต่ผมก็ไม่ได้ปรารถนาให้เขามาโดนเหมือนผม
ผมไม่ได้ปรารถนาให้ใครต้องมาตายเพราะผมเลยจริงๆ


“ถ้าคุณท่านฆ่าผมนะ ผมจะเป็นผีตามหลอกหลอนคุณชัย จะหลอกยันลูกคุณชัยเลย”


“ฮ่าๆๆๆ”คุณชัยขำแรงตัวงอจนต้องเอามือกุมท้อง


“ตลกตรงไหนไม่ทราบ”ผมกอดอกมองคุณชัยหน้างอ


“คุณพริ้ม…คุณท่านไม่มีวันฆ่าคุณหรอก คุณเป็นข้อยกเว้นทุกอย่างของคุณท่านจริงๆ”ผมมองคุณชัยหน้างง คุณชัยพูดอะไร…ผมไม่เข้าใจ หน้าผมจะเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่แล้วเนี่ย!


แอ๊ด!


ผมชะเง้อมองไปทางประตู ปรากฏร่างพี่สูทเทาเดินเข้ามาพร้อมถุงขนม
ลาภปากผมแล้ว...

“ชะเง้อคอยาวเป็นยีราฟเลยคุณพริ้ม อยากเจอคุณท่านก็บอก นี่คุณยังไม่ขอบคุณผมเลยนะที่โทรบอกให้คุณท่านมาหา”


“ผมไม่ได้อยากเจอซะหน่อย”ผมตอบคุณชัยเสียงอ้อมแอ้ม


“คุณชนะ สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้คุณชนะที่เดินเข้ามา คุณชนะเป็นเลขาของคุณท่านและเป็นน้องชายของคุณชัย


“สวัสดีครับ”คุณชนะยกมือรับไหว้ ลากโต๊ะกินข้าวผู้ป่วยมาให้ผม ก่อนจะวางถุงขนมลงตรงหน้า
งรื้ออออ…ผมจะได้กินอย่างอื่นนอกจากอาหารโรงพยาบาลจืดๆสักที


“เค้ก Red velvet ครับคุณพริ้ม”


“ขอบคุณครับ”ผมยกมือไหว้ขอบคุณชนะ คุณชนะส่งยิ้มบางๆให้ผม


“ชัย อันนี้ของแฝด”คุณชนะยื่นถุงเค้กอีกถุงให้คุณชัย


“คืนนี้นายอยู่?”คุณชัยเลิกคิ้วถามคุณชนะที่ทรุดตัวนั่งลงข้างๆ ปลดเนคไทออกจากคอ


“เปล่า”คุณชนะตอบเพียงเท่านั้นก็เหยียดขาหลับตาลง


“โดนทิ้งเป็นหมาหัวเน่าแล้วอะคุณพริ้ม”ผมถือช้อนตักเค้กชะงักค้างอยู่กลางอากาศ หันไปมองคุณชัยแล้วทำหน้าเหม็นเบื่อใส่


“ถ้าอยู่แล้วมันอึดอัด รำคาญใจ คุณชัยกลับบ้านไปเหอะ”ผมว่าแล้วสะบัดหน้าหนี ตักเค้กเข้าปากย้อมใจ
สงสัยคืนนี้คงต้องนอนคนเดียว คิดไม่ออกเลยว่าคืนนี้จะอยู่คนเดียวได้ยังไงในบรรยากาศที่ท้องฟ้าด้านนอกมีแต่ความมืดมิด


“เรื่องประมูล ท่านว่าไง”คุณชัยหันไปถามคุณชนะที่หลับตาอยู่


“ประมูลเหมือนเดิม แต่ท่าน…”คุณชนะลืมตาขึ้นมาคุยกับคุณชัย
ผมนั่งเก็บข้อมูลเงียบๆ…หูฟัง ปากกินเค้ก มือกดรีโมทเลื่อนช่องทีวีเหมือนไม่ได้สนใจในบทสนทนาของคนทั้งคู่
คุณชนะเหลือบมองผม ก่อนจะหยุดพูด


“ตามนั้น”คุณชัยตอบคุณชนะเท่านั้นก่อนจะเก็บของลงกระเป๋า
ผมมองคุณชัยเก็บของแล้วใจหวิวๆ ไม่อยากให้ไปเลย อยู่เป็นเพื่อนกันอีกคืนไม่ได้เหรอ


“ผมกลับแล้วนะคุณพริ้ม”คุณชัยหันกลับมาบอกลาผม


“ขับรถดีๆครับ”ผมยิ้มบางให้คุณชัย
ต้องอยู่ได้สิพริ้ม กลัวอะไรกับความมืด…ต้องเข้มแข็งสิ!


“ขอบคุณสำหรับเค้กนะครับคุณชนะ”ผมขอบคุณคุณชนะแล้วก็ยกมือไหว้ลาคนทั้งคู่


หลังจากพี่น้องสองคนกลับไป พยาบาลก็เอาอาหารเย็นมาให้
อาหารโรงพยาบาลไม่อร่อยเลย...ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว


ผมนอนเหม่อมองท้องฟ้าด้านนอกที่พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ดวงจันทร์ทอประกายแสงสีเหลืองนวลอยู่บนฟากฟ้า ความมืดมิดดำสนิทบนฟากฟ้าทำให้ใจผมหวิวๆ ผมไม่ชอบความมืดเลยจริงๆ


ตลอดเวลา 3 วันที่ผ่านมา ผมมีอาการกลัวความมืด ภาษาหมอเขาเรียกว่า ‘Achluophobia’
คุณหมออธิบายว่าอาการกลัวความมืดของผมมาจากความกลัวในวันนั้นที่ถูกปิดตาแล้วข่มขืนอย่างเลือดเย็น
จิตใจผมต่อต้านความมืดมิด...เพราะจดจำว่าความมืดจะมาพร้อมกับความเจ็บปวด


ผมมีอาการใจสั่น หัวใจเต้นระรัว เนื้อตัวสั่นระริก เหงื่อออกชื้นแฉะทั้งฝ่ามือและฝ่าเท้าถ้าอยู่ในความมืด
อาการผมมักจะแย่ลงในเวลากลางคืน ยิ่งถ้าอยู่คนเดียวยิ่งทรมาน


คืนแรก คุณชัยไม่รู้ว่าผมมีอาการกลัวความมืด
หลังจากเห็นผมหลับแล้ว คุณชัยปิดไฟทุกดวงแล้วออกไปทานข้าว


ผมใจหวิวๆเหมือนคนจะช็อคตายทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในความมืดมิด เล็บของผมจิกลงบนฝ่ามือเพื่อบรรเทาอาการกลัวจนเลือดซึมออกมา ผมขดตัวนอนร้องไห้อยู่บนเตียง จะก้าวลงจากเตียงก็กลัว ไม่กล้าขยับตัวไปไหน


คุณชัยเขย่าตัวเรียกชื่อผมอยู่นานกว่าจะได้สติกลับมา
หมอพยาบาลวิ่งวุ่นเข้ามาหาสาเหตุว่าผมเป็นอะไร เพราะผมไม่ยอมพูด เอาแต่ร้องไห้
คุณหมอกลัวว่าผมร้องไห้เพราะเจ็บซี่โครงจุดที่เคยหักแล้วทิ่มปอด
ตรวจร่างกายกันอยู่นานกว่าจะรู้ผล


วันรุ่งขึ้นจิตแพทย์เกือบทั้งแผนกแวะเวียนมาดูอาการผม คอยพูดคุยเป็นเพื่อนปลอบประโลมอาการเสียขวัญ
คุณหมอบอกว่าวิธีการรักษาคือการทำจิตบำบัด ร่วมกับให้ผู้ป่วยค่อยๆสัมผัสความมืดเพื่อความคุ้นชิน
คุณหมอบอกว่าถึงจะกลัวความมืด แต่ถ้าเราสัมผัสมันบ่อยๆ จิตใจเราจะค่อยๆปรับตัวและคุ้นชินไปเอง วิธีนี้เป็นวิธีเดียวกับที่ใช้รักษานักศึกษาแพทย์หลายคนที่กลัวเลือด
แต่ใจผมยังไม่แข็งพอที่จะอยู่ในความมืดอยู่ดี


คืนนี้ก็เช่นกัน…
เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดมิด…
อาการกลัวของผมก็เริ่มแสดง…


ผมนอนคุดคู้อยู่บนเตียงกอดตัวเองแน่น อาการเจ็บชายโครงเริ่มแสดงอาการเมื่อผมงอตัว
ผมจิกเล็บลงบนฝ่ามือของตัวเองเพื่อบรรเทาความกลัว
กลัวเหลือเกิน ถึงไฟในห้องจะสว่างแต่ความมืดมิดด้านนอกก็ทำให้ผมกลัว
ยิ่งต้องอยู่คนเดียว…ผมยิ่งกลัว


น้ำตาผมเริ่มไหลออกมา
ทรมานเหลือเกิน…เมื่อไหร่จะเช้าสักที


“พริ้ม”ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีคนจับแขนผมจากทางด้านหลัง
ผมค่อยๆหันหลังไปมองอย่างหวาดกลัว น้ำตาคลอหน่วยอยู่ในดวงตา


“คุณท่าน…”ผมพลิกตัวกลับมาโผกอดคอคุณท่าน
ผมปลอดภัยแล้ว
ผมปลอดภัยแล้ว
ถ้าผมอยู่กับคุณท่านผมจะปลอดภัย เหมือนวันนั้นที่คุณท่านมาช่วยผม


“พริ้มใจเย็นๆ ชั้นจะล้ม”ผมไม่สนใจเสียงที่คุณท่านพูด ผมกอดคอคุณท่านแน่นแล้วตะเกียกตะกาย ปีนป่ายไปเกาะตัวคุณท่านเหมือนลูกลิง ขาของผมเกี่ยวที่เอวสอบของคุณท่านแน่น คุณท่านเซไปด้านหลังนิดๆเพราะขนาดตัวผมก็ไม่ใช่น้อยๆ


ผู้ชายตัวใหญ่สองคนเกาะกันเป็นลูกลิงแบบนี้ไม่น่าดูนักหรอก แต่ใครสนกัน…ก็ผมกลัว


“พริ้มปล่อยก่อน”ผมสั่นหน้าแรงอยู่กับซอกคอของคุณท่าน
ให้ตายก็ไม่ปล่อยหรอก


“พริ้ม”คุณท่านดุผมแล้วแงะตัวผมออก


“งรื้อออ~”ผมงอแงอย่างขัดใจ


“ร้องไห้ทำไม?”คุณท่านเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มใสให้ผมอย่างอ่อนโยน


“ผมกลัว”


คุณท่านลูบหัวผมเบาๆ”ชั้นขอโทษ ตอนแรกคิดว่าเคลียร์งานแปปเดียว เลยสั่งให้ชนะกลับไปก่อน


“…”ผมโผกอดคุณท่านอีกครั้ง อ้อมอกอุ่นๆของคุณท่านทำให้ผมอุ่นใจ


“เค้กอร่อยไหม?”


“อร่อยครับ”ผมขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ คุณท่านรู้ได้ยังไงว่าคุณชนะซื้อเค้กมาให้ผม?


“ทานข้าวรึยัง?”


“ทานแล้วครับ แต่ไม่อร่อย”


“เด็กโง่ อาหารโรงพยาบาลที่ไหนจะอร่อย”


“คุณท่านผมอยากกลับบ้าน”


“ไม่ได้”คุณท่านแงะตัวผมออกแล้วค่อยๆปล่อยผมลงบนเตียง


“คุณท่าน…”ผมดึงชายเสื้อคุณท่านอย่างขอร้อง


“ไม่ต้องมาต่อรอง คดีเก่ายังไม่ได้ชำระ อยากโดนคดีใหม่อีกกระทงเหรอ”คุณท่านส่งสายตาดุผมพร้อมกับขยับเนคไทให้หลวม ผมยื่นมือไปแตะที่หลังมือของคุณท่านอย่างขออนุญาต แล้วช่วยคุณท่านปลดเนคไทออก


“คุณท่านลงโทษผมเบาๆได้ไหม?”


“ไหนลองประเมินความผิดตัวเองแล้วบอกชั้นสิว่าควรลงโทษเธอยังไง?”


ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่น “ผมผิดที่ไม่รอบคอบเลยหลงเชื่อคำพูดของคนอื่น ผิดที่ตัดสินใจเองโดยพลการ ไม่รอให้คุณชัยรับทราบก่อน แล้วก็ผิดที่ทำให้คุณท่านเดือดร้อน”


“แต่นี่เป็นความผิดครั้งแรกที่กระทำไปโดยความประมาท รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ควรเห็นให้ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง”
ผมหงายการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หวังใจว่าคุณท่านจะปรานี


“เห็นควรให้คุณท่านตีผมได้ 5 ที”คุณท่านส่ายหน้าทันทีที่ผมพูดจบ “10 ทีก็ได้” คุณท่านก็ยังส่ายหน้า
“15 ทีขาดตัวแล้วนะคุณท่าน มากกว่านี้ผมก็สลบคาแส้คุณท่านแล้ว”


“ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะพริ้มที่จะต้องมานั่งเฆี่ยนตีกัน ถ้าพูดกันรู้เรื่อง เข้าใจสิ่งที่ตัวเองทำผิด ชั้นจะตีเธอทำไม”ผมมองคุณท่านหน้างง ทีวันนั้นยังเฆี่ยนผมด้วยแส้อยู่เลย


เอาใจไม่ถูกละ!!!


“กักบริเวณ 1 เดือนพอ ไม่ว่าเธอจะไปไหนต้องรายงานให้ชั้นรู้ทุกย่างก้าว แล้วก็ให้ชัยเป็นคนไปรับไปส่ง”


“ครับ”
แค่นี้เองเหรอ…ไม่เห็นรู้สึกว่าถูกลงโทษเลย


“ตามนั้น”


“คุณท่านครับ ผมขอโทรศัพท์คืนได้ไหม ผมอยากโทรหาน้อง”
นี่ก็หลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าน้องผมจะเป็นยังไงบ้าง
เงินจะพอใช้รึเปล่านะ?


คุณท่านเดินมาเปิดลิ้นชักข้างเตียงพยาบาล หยิบเศษซากโทรศัพท์ในซองซิปล็อคส่งให้ผม “โทษที ชั้นเผลอทำหล่น”ผมมองซากโทรศัพท์ที่หน้าจอแตกละเอียด แผงวงจรด้านในหลุดออกมาเป็นชิ้นๆตรงหน้า ใครเชื่อก็บ้าแล้วว่าแค่ทำหล่น


“พรุ่งนี้จะให้ชัยซื้อเครื่องใหม่ให้ก็แล้วกัน แต่อย่าให้รู้นะว่าไปโหลดแอพนั่นมาเล่นอีก”แววตาดุหันมามองทำให้ผมรู้สึกเย็นเยียบตั้งแต่ฝ่าเท้าขึ้นมา


ถึงคุณท่านไม่บอก ผมก็ไม่คิดจะกลับไปเล่นแอพนั้นแล้ว
คุณเรารู้หน้าไม่รู้ใจ คิดจะฆ่าข่มขืนก็ทำกันได้ง่ายๆ


“ครับ”ผมรับคำคุณท่าน


“ตอนบ่ายชัยโทรมาบอกว่าเธอเบื่อ”คุณท่านนั่งไขว่ห้างที่โซฟาไม่ไกลจากเตียงพยาบาล แขนข้างหนึ่งพาดกับพนักพิงอย่างสบายๆ แต่ใจผมนี่สิที่ไม่สบายด้วย


“ขอโทษครับ”
คุณชัยหางานให้ผมแล้ว…


“ชั้นแค่จะถามว่าอยากทำอะไรแก้เบื่อ จะขอโทษทำไม?”


“ขอโทษครับ”ปากผมตอบขอโทษไปโดยอัตโนมัติ คุณท่านเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ


“คำขอโทษอย่าพูดออกมาพล่อยๆโดยที่ใจเธอไม่ได้สำนึกผิด มันน่ารำคาญ”ผมเม้มริมฝีปากแน่น
คุณท่านเริ่มโกรธอีกแล้ว ไม่ดีเลยจริงๆ


ผมก้าวลงจากเตียง ค่อยๆเดินช้าไปนั่งใกล้ๆคุณท่าน ซบหน้าลงบนอกอุ่นที่เคยอิงแอบแนบชิด


“พริ้มอยากไปเรียนแต่พริ้มรู้ว่าคุณท่านเป็นห่วงเลยยังไม่อยากให้ไป”
เป็นห่วงจริงรึเปล่าไม่รู้ แต่พูดอ้อนไปก่อน
แค่เอาตัวรอดให้คุณท่านอารมณ์เย็นขึ้นเป็นพอ


“พริ้มก็แค่เบื่อที่วันๆไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากนั่งๆนอนๆ”ผมสอดมือเข้าไปโอบเอวสอบ หน้าท้องคุณนี่แน่นไปอีก


“พริ้มขอคุณท่านเอาตุ๊กตามาเย็บได้ไหมครับ”ผมช้อนตามองคุณท่าน
งัดทุกกลเม็ดเด็กนั่งดริ้งมาใช้แล้วนะ ใจอ่อนเถอะ…


“ผู้ชายตัวโตแบบนาย คิดว่าทำแบบนี้แล้วน่ารักมากไหม?”คุณท่านพูดกับผมแล้วยิ้มมุมปาก
ใช่สิ้!!! ผมมันผอมเก้งก้าง ขายาว แขนยาว ตัวก็ไม่ได้บาง แถมหน้าตายังไม่ได้น่ารักน่าเอ็นดูอีก


ผมปล่อยมือออกจากเอวคุณท่าน ถอยตัวไปจนสุดโซฟา ยกเข่าขึ้นมากอด


“อยากจะทำอะไรก็ทำ”คุณท่านพูดอย่างไม่ใส่ใจ
ผมยิ้มกว้างงอย่างดีใจก่อนจะล้มตัวลงนอนบนตักคุณท่าน หันหน้าซุกหน้าท้องแกร่ง


“ขอบคุณครับ”


ผมนอนนิ่งๆอยู่บนตักคุณท่าน ใจคิดถึงเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น
คุณท่านจะรังเกียจร่างกายของผมที่เปรอะเปื้อนราคีคาวจากผู้ชายคนอื่นรึเปล่านะ
แค่คิดน้ำตาใสก็ไหลออกมาอย่างเสียเชิงชาย ผมใช้เสื้อคุณท่านซับน้ำตาต่างผ้าเช็ดหน้า


เดี๋ยวนี้ใจเปราะบางอะไรนักก็ไม่รู้ น้ำตาสั่งได้ยิ่งกว่านางเอกละครไทย
ผู้ชายตัวใหญ่ ใจเล็ก ร้องไห้ฟูมฟาย ไม่ได้น่าเอ็นดูนักหรอก


คุณท่านวางมือบนเส้นผมหนาของผม ลูบเบาๆ
ผมหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน


ยังไม่ทันที่ผมจะหลับสนิท เสียงโทรศัพท์ของคุณท่านก็ดังขึ้น


“พี่กาลเปิดกล้องหน่อยสิครับ ฟ้าอยากเห็นหน้าพี่กาล”ผมได้ยินเสียงสดใสลอดผ่านลำโพงโทรศัพท์ออกมา


ผมเงยหน้ามองคุณท่านที่ยิ้มหวานให้คนในโทรศัพท์
รอยยิ้มที่ผมไม่เคยเห็นและไม่เคยได้รับมัน


“ขอบตาคล้ำเชียว งานเยอะเหรอครับ”เสียงใสถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย


“นิดหน่อยครับ”


“พี่กาลลลล~ ฟ้าคิดถึง”


“คิดถึงก็กลับมาสิครับ”เสียงนุ้มทุ้มของคุณท่านตอบกลับไปอย่างอารมณ์ดี


“ฮรื้อออออ~ กลับไม่ได้ ฟ้ายังเรียนไม่จบเลย งรุ้ยยยย!”เสียงหวานกระเง้ากระงอดอย่างไม่จริงจังนัก


“รีบๆตั้งใจเรียนแล้วกลับมาได้แล้ว พี่นอนคนเดียวเหงามากเลยรู้ไหมครับ คนดี”
คนขี้โกหก!!! ขอให้จมูกยาวเท่าสะพานพระราม 8 เลย!


“เดือนหน้าฟ้าได้หยุดวีคสิ้นเดือน พี่กาลมาหาฟ้าสิครับ”


“ทำไมได้หยุดละครับ?”


“โปรเฟสเซอร์ให้โจทย์คำถามข้อสอบไฟนอลมาแล้วให้เวลาไปหาคำตอบหนึ่งอาทิตย์”


“ถ้าอย่างนั้นก็อ่านหนังสือสิครับคนดี จะให้พี่ไปหาทำไม”


“ไม่เอา ฟ้าอยากให้พี่กาลมา น้า…นะๆ พี่กาลสุดหล่อ มาหาฟ้านะครับ”


“พี่ไม่รับปากนะครับ ถ้าเคลียร์งานได้แล้วจะไป”


“พี่กาลน่ารักที่สุดเลย ฟ้ารักพี่กาลที่สุดเลย”


“พี่ก็รักฟ้าครับ”


ผมซุกหน้าลงกับหน้าท้องแกร่งของคุณท่าน ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ
คุณท่านใจร้ายเลือดเย็นยิ่งกว่าใคร
บอกรักผู้ชายอีกคนหนึ่ง ในขณะที่มีผู้ชายอีกคนนอนอยู่บนตัก
แต่มันจะแปลกอะไร ผมมันก็แค่อีตัวที่มีไว้เล่นฆ่าเวลาในเวลาที่คนรักของคุณท่านไม่อยู่
พอคุณฟ้ากลับมา ผมคงถูกเขี่ยทิ้งอย่างไม่ใยดี


“ชนะ เคลียร์งานวีคสิ้นเดือนหน้าให้ผมด้วยนะ”


ในที่สุดความสงสัยในความสัมพันธ์ของคุณท่านกับคุณฟ้าครามก็กระจ่างในใจผมแล้ว
ไม่รู้ทำไม ผมถึงต้องรู้สึกเจ็บขนาดนี้
แต่ถึงคุณท่านจะมีคนรักแล้ว ผมก็จะทำตามที่ตัวเองเคยให้สัตย์สาบาน…ชีวิตที่เหลือผมอุทิศให้คุณท่าน
ถ้าคุณท่านไม่เอ่ยปากไล่ ไม่เอ่ยปากว่าไม่ต้องการผมอีกต่อไป…ผมก็จะอยู่รับใช้คุณท่านตรงนี้ไม่ไปไหน





ช่วงนี้เราติดละครมากเลยค่ะ TT

ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และการกดบวกเป็ดด้วยนะคะ

ฝากเอ็นดู #พริ้มกับdaddy ด้วยค่ะ


หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 03-03-2018 18:21:38
ขอทิชชู่มาซับน้ำตาด่วน
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 03-03-2018 19:24:19
รับสองคนหรา ไม่น๊าาาาา
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 03-03-2018 19:26:34
สงสารพริ้มมมม...งื้อทำไมโลกมันโหดร้าย

ปล.อิคุณชัยมีความกวนสูงมาก 555
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 03-03-2018 20:28:04
ตอนนี้ติดใจเรื่่อง 3p มากๆ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-03-2018 20:34:32
พริ้มน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-03-2018 20:37:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-03-2018 20:48:12
ห่วงพริ้มเข้าให้แล้ว ถ้าฟ้ารู้ว่ามีพริ้ม ฟ้าจะร้ายกับพริ้มอีกคนไหมเนี่ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: nekodollzz ที่ 03-03-2018 20:57:37
ม่ายยยยยยย อย่าทำร้ายพริ้มมมม  :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 03-03-2018 21:30:38
พริ้มเอ๊ย ทำไมชีวิตถึงรันทดขนาดนี้ อีคุณท่านก็เหลือเกิน
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: swasdee ที่ 03-03-2018 21:39:48
โอ้ยยยยย ค้างมากกก สงสารพริ้มมมอ่ะ
อย่าเล่นกับความรู้สึกนะ ให้อิตาคุณกาลเจ็บกว่าพริ้ม
พันเท่าล้านเท่าเลย :z3: :mew6:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: theindiez ที่ 03-03-2018 21:45:33
สงสารพริ้มม  :ling1: ไม่อยากให้ 3p เลยแง้
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 03-03-2018 22:09:44
ลูกสาววววววววว
งื้อออออออ แม่โอ๋นะลูกนะ
รักเขามากเลยสินะลูก
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 03-03-2018 22:24:40
น่าสงสาร นะครับ

         :o11:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: shiroinu ที่ 03-03-2018 22:31:54
พริ้ม... เราไม่สงสารนะ เพราะก่อนมาเจ๊แกก็เตือนแล้ว จงยอมรับผลของการกระทำของตัวเอง
ปล.ไม่ใช่แค่คนเขียน นักอ่านก็ติดละคร555 บุพเพสันนิวาสสนุกมว๊าก o13
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 04-03-2018 00:04:36
อ่านไปอ่านมาดราม่าดี ชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 04-03-2018 11:05:14
ดราม่าแต่สนุกดีค่ะ ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกยังไง  :mew6:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 04-03-2018 14:56:55
แวว 3P มาละจ้าาา ฮิฮิ รอฟิน :mew1:

สู้ๆนะจ๊าาาาา
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 11 P.5 03.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 05-03-2018 02:04:55
อ่านแล้วมีแอบน้ำตาซึม
คุณชัยก็โครตกวน   ว่าแต่ใครคือเจ้านาย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 12 P.6 20.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 20-03-2018 20:52:56
ตอนที่ 12


“คุณพริ้ม คุณช่วยมีงานอดิเรกเหมือนเด็กวัยรุ่นคนอื่นหน่อยได้ไหม”คุณชัยบ่นกระปอดกระแปดที่ต้องขนม้วนผ้าสีน้ำตาลหลายม้วนและถุงนุ่นหลายถุงขึ้นมาให้ผม


“อะไรละครับ?”


“เล่นเกมส์ ไถโซเชียล ชอปปิ้งออนไลน์ ดูหนัง ดูซีรีส์ อะไรแบบนั้น”


“ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกันนี่ครับ”ผมค่อยๆก้าวลงจากเตียง เดินไปที่ม้วนผ้าสีน้ำตาลนิ่ม
มือของผมลูบบนผืนผ้าเบาๆ คิดถึงจังเลย คิดถึงวันเวลาเก่าๆที่ต้องเย็บตุ๊กตาเพื่อหาเงินซื้อข้าวประทังชีวิต
ถึงตอนนี้จะไม่ได้ทำงานหนักเหมือนตอนนั้น แต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกเหนื่อยกว่าตอนนั้นเยอะ
ผมอยากกลับไปเหนื่อยกายมากกว่าเหนื่อยใจแบบในตอนนี้...


ผมกวาดสายตามองอยู่นานก็ยังไม่เห็นแพทเทิร์นแบบตุ๊กตา “คุณชัย แพทเทิร์นอยู่ไหนครับ”


“ถ้าเป็นงู คงกัดคุณคงตายไปนานแล้ว”คุณชัยดึงแพทเทิร์นที่อยู่ในถุงกระดาษหน้าผมส่งให้
ผมกลอกตามองบนอย่างเพลียใจ แต่ขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงกับคนแก่ขี้บ่น
เห็นแก่ความใจดีที่คุณชัยไปเอาตุ๊กตามาให้เย็บ ผมจะสงบปากสงบคำละกัน


แบบแพทเทิร์นถูกวาดบนกระดาษไขและตัดมาให้เหลือขอบสามารถเย็บเป็นตะเข็บได้
แพทเทิร์นครั้งนี้ใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผมเคยทำ ขนาดพี่หมีเท็ดน่าจะสูงประมาณเอว


“เจ้าของเขาให้อุปกรณ์มาสำหรับทำ 50 ตัว จะทำไว้เร้ออออ...”คุณชัยเลิกคิ้วถามด้วยน้ำเสียงกวนประสาท


“คนจริงเขาไม่พูดมากครับ”ผมขยิบตาข้างเดียวให้คุณชัย หยิบม้วนผ้ากางลงที่พื้น จังหวะที่งอตัวความรู้สึกปวดหน่วงๆก็แล่นขึ้นมาจนต้องยกมือกุม


“ระวังหน่อยสิคุณพริ้ม ผมขี้เกียจไปตามหมอมาดูคุณนะ”
ถึงปากคุณชัยจะบ่นตลอดเวลา แต่มือคู่นั้นก็เข้ามาประคองผมด้วยความรวดเร็ว
คุณชัยเป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ ถึงใจจะเป็นห่วงยังไงแต่ปากต้องจิกกัดไว้ก่อน
น่าจะติดนิสัยจากคุณท่าน ไม่รู้ชาติที่แล้วเกิดเป็นไก่รึยังไง…จิกตลอดเวลา


ผมวางแพทเทิร์นบนผ้าแล้วใช้สีเขียนผ้าลอกลาย ถึงจะเจ็บหน่วงๆตอนเอี้ยวตัวหรือก้มตัว แต่ผมก็พยายามไม่แสดงออกให้คุณชัยเห็น ผมอยากทำงาน ไม่อยากนอนเป็นผักเหมือนหลายวันที่ผ่านมา


“โหยคุณพริ้ม นี่ต้องเย็บแยกส่วน ทำหู ทำท้อง ทำขาเหรอ?”คนชัยก้มมาเมียงๆมองๆถามผม


“ใช่ครับ เย็บแยกส่วนแล้วนำมาประกอบกันทีหลัง”


“นั่งหลังขดหลังแข็งทำขนาดนี้จะได้สักกี่บาทกันคุณ”


“ถึงจะเป็นเงินจำนวนไม่เยอะ แต่ถ้าใช้ซื้อข้าวกินได้มันก็พอแล้วครับ”
ถึงเงินค่าจ้างจากการเย็บตุ๊กตาจะเป็นเพียงเศษเงินของคนมีอันจะกิน แต่มันมีคุณค่าทางจิตใจสำหรับผม
อย่างน้อยผมก็ยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนมีค่า มีความสามารถ ขายแรงงานแลกเงิน ไม่ใช่ขายตัว อ้าขาให้เขาโปรยเศษเงินให้


ผมเย็บเจ้าหมีเท็ดทีละส่วน จับนุ่นยัดใส่จนพองแล้วนำมาเย็บประกอบกัน ไม่นานก็สำเร็จเป็นตัวแรก
ไม่รู้ว่าความเศร้าของผมมันถ่ายทอดไปที่เจ้าหมีรึยังไง
หน้าตามันถึงเศร้าผิดไปจากแบบ


ผมลูบหัวเจ้าหมีเท็ดเบาๆ…มันเหมือนผมเลย


“หมีหน้าเศร้าของคุณพริ้มนี่จะทำให้เด็กร้องไห้ตอนเห็นมากกว่ามีความสุขนะผมว่า”
ถ้าเด็กจะเห็นเจ้าหมีแล้วร้องไห้…งั้นผมเก็บไว้เองดีไหมนะ?
ปกติผมก็เป็นเด็กผู้ชายทั่วไป ไม่มีความมุ้งมิ้ง ไม่เล่นตุ๊กตา แต่ช่วงนี้ผมรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างบอกไม่ถูก
ถ้ามีตุ๊กตาเป็นเพื่อนก็คงดี


“ถ่ายรูปไปอวดคุณท่านดีกว่า”ผมดึงเจ้าหมีหนีกล้องคุณชัย ไม่ให้ถ่ายหรอก ว่ากันขนาดนี้ ใครจะให้ถ่าย


“เอ้า! คุณพริ้ม จะเอาหมีไปหลบหลังคุณทำไม ผมจะถ่ายรูป”


“…”ผมกอดเจ้าหมีแน่น หมีหน้าเศร้าแบบนี้ ผมไม่ยอมให้คุณท่านเห็นหรอก
ถ้าคุณท่านเห็น ท่านต้องรู้แน่ว่าผมเย็บเจ้าหมีด้วยความรู้สึกยังไง
ผมไม่อยากให้คุณท่านรู้ว่าตัวเขามีอิทธิพลต่อความรู้สึกผมมากขนาดไหน


“คุณพริ้ม! ดื้อจริงๆ”


ผมวางเจ้าหมีเท็ดลงบนเตียงคนไข้จับผ้าห่มมาคลุมปิดหน้า “ผมหวง จบนะ”


“โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วนะคุณ ยังจะมาหวงตุ๊กตาอีก ลูกผมยังไม่หวงเลย”


“ลูกคุณชัยอายุเท่าไหร่”


“3 ขวบ”


“เด็ก 3 ขวบหวงไม่เป็นหรอก ผม 20 ไงเลยหวงได้?”


“เถียงข้างๆคูๆ”


“คุณชัยพาแฝดมาเล่นกับผมบ้างสิ ผมเหงา”


“ผมไม่พามาหรอก ผมหวง!”


“อายุจะขึ้นเลข 4 แล้วยังขี้หวงอีก ผมไม่ง้อหรอก ผมมีลูกเองก็ได้”


คุณชัยมองหน้าผมด้วยแววตาครุ่นคิด สีหน้าขี้เล่นหยอกเย้าหายไป เหลือแต่ความจริงจัง “ถ้าคุณอยากมีลูก อนาคตของคุณคงไม่มีคุณท่านอยู่ในนั้น”


ผมอยากจะตอบคุณชัยกลับไปว่า ‘คุณท่านเองก็ไม่มีผมอยู่ในอนาคตของท่านเหมือนกัน’


เอาจริงๆ ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าความฝันของผมยังเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า…ความฝันที่จะได้แต่งงานกับผู้หญิงดีๆสักคน มีลูก มีครอบครัวที่อบอุ่นอบอวลด้วยความรัก
ผู้ชายที่เคยเป็น ‘เมีย’ มีความรู้สึกดีๆกับผู้ชายด้วยกันยังมีโอกาสที่จะมีครอบครัวได้รึเปล่า ถ้าเธอรู้ว่าผมเคยผ่านอะไรมา เธอจะยอมรับได้ไหม
แต่ช่างเถอะ คิดไปก็เท่านั้น

.
.
.

กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผันไปอย่างรวดเร็วก็ถึงกำหนดที่ผมจะต้องออกจากโรงพยาบาล
จากวันแรกที่เข้ามาอยู่ในห้องนี้ที่เป็นห้องโล่งๆ แต่วันนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป
เจ้าหมีเท็ดหน้าเปื้อนยิ้มถูกวางไว้เต็มพื้นที่ในห้อง


“คุณพริ้ม หยิบตัวนั้นมาสิ ผมจะเอาใส่ถุง”ผมเดินไปหยิบเจ้าหมีเท็ดที่อยู่มุมห้องส่งให้คุณชัย


“เสร็จ 50 ตัวนี้ ผมไม่ไปเอามาให้แล้วนะ”ถึงปากจะบ่นแต่มือก็ทำงาน ค่อยยังชั่วหน่อยที่คุณชัยยอมช่วยจับเจ้าหมีใส่ถุง ถ้าให้ผมทำเองทั้งหมดมีหวังซี่โครงคงทิ่มปอดอีกรอบ


“โธ่คุณชัย ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้เด็กนักศึกษาได้บุญนะคุณ”


“ไม่รู้ได้บุญหรือทำบาป ผมเห็นนะว่าคุณเจ็บซี่โครงบ่อยๆ หมอสั่งให้นอนนิ่งๆบนเตียงคุณก็ไม่ฟัง”


“คนเคยทำงานมาตลอด จะให้มานอนนิ่งๆ ทำไม่ได้หรอก”


“เงินทองคุณท่านก็ให้คุณเต็มที่ ผมถามจริงทำไมต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งเย็บหมีหน้าโง่พวกนี้ด้วย”


“อยากจะตบปากคุณด้วยอุ้งเท้าหมีจริงๆ”ผมจับเท้าเจ้าหมีชี้ไปที่หน้าคุณชัย


“ลามปามคุณพริ้ม”คุณชัยหันมามองผมด้วยแววตาดุ ผมยกมือไหว้ขอโทษ


“คุณชัยว่าเจ้าหมีก่อนทำไม มันไม่ได้หน้าโง่สักหน่อย”


“อ้าวเหรอ?! แต่ผมว่ามันหน้าโง่นะ หมีที่หน้าตาเหมือนคุณ มันก็หน้าโง่ทุกตัวนั่นแหละ”


“คุณชัย!”ผมตะโกนดังลั่นห้อง ผีอะไรเข้าสิง อยู่ดีๆก็มากัดกันซะงั้น
สามคำดี สี่ประโยคไข้ 5 บทสนทนาทำใจ ไม่มีวันไหนที่จะอยู่กันอย่างสงบสุข
ใครก็ได้บอกผมที ทำไมพ่อลูกอ่อนถึงกวนขนาดนี้!!!


“ถึงผมจะแก่แต่หูผมไม่ได้ตึง ส่งไอ้หมีหน้าเศร้าบนเตียงมาให้ผมด้วย”
ผมกอดตุ๊กตาหมีเท็ดที่หน้าเศร้าเหมือนผมไว้อย่างหวงแหน


“คุณพริ้มอย่าลีลา ผมจะรีบเอาไปส่ง”


“ไม่ให้” ผมส่ายหน้าปฏิเสธ กอดหมีเท็ดไว้แนบอก
ไม่ให้...ไม่คืนให้หรอก ถึงจะเย็บ 50 ตัวฟรีแล้วต้องจ่ายเงินเพิ่มค่าตุ๊กตา ผมก็ไม่ให้คืนหรอก


“คุณพริ้ม”คุณชัยทำเสียงดุผม
ไม่กลัวหรอก ถึงคุณชัยจะชอบทำหน้าโหด แต่คุณชัยใจดีจะตาย
ใจดีกว่าคุณชนะที่ชอบยิ้มเย็นไปเรื่อยอีก


“คุณนี่มันดื้อจริงๆ”คุณชัยบ่นกระปอดกระแปดแล้วลากถุงที่บรรจุหมีเท็ดออกไปทีละตัวจนหมด
พอห้องกลับมาโล่งเหมือนตอนแรก มันก็รู้สึกวูบโหวงแปลกๆแหะ


จริงๆแล้วคนทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตให้ทำอะไรแบบนี้ในโรงพยาบาลหรอกครับ
แต่เพราะอำนาจของคุณท่านที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลเลยไม่มีใครกล้าว่าอะไร


ตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา มีแค่วันนั้นเพียงวันเดียวที่คุณท่านแวะเข้ามาหาผม
วันอื่นๆก็เป็นคุณชัยที่อยู่กับผมช่วงกลางวัน ส่วนคุณชนะที่จะเข้ามาช่วงเย็น พร้อมกับกับข้าวกับปลา ขนมนมเนย เค้ก ไอติม เวลาเห็นคุณชนะ ผมเหมือนเห็นประตูสวรรค์ รอดตายไปได้หนึ่งมื้อที่ไม่ต้องทนกินกับข้าวโรงพยาบาลชืดๆ จืดๆ ไม่มีรสชาติ
หลังจากมีความสุขกับการกินมื้อเย็น ช่วงเวลากลางคืนที่เป็นช่วงเวลาที่ทรมานที่สุดก็มาถึง ทุกคืนผมต้องเปิดไฟนอนคนเดียว


ผมเคยขอร้องให้คุณชัยนอนเป็นเพื่อนเหมือนเดิม แต่คุณชัยบอกว่าไม่ได้ เพราะคุณท่านไม่อนุญาต
คุณท่านต้องการให้ผมหักดิบความกลัวที่มีและเผชิญหน้ามัน
ผมอยากจะตะโกนใส่หน้าคุณท่านคืนละล้านรอบ บ้ารึเปล่า นี่มันอาการ phobia จะให้หายกลัวภายในอาทิตย์ สองอาทิตย์จะเป็นไปได้ยังไง
คืนไหนที่ทนได้ ผมก็ทน พยายามเลี่ยงไม่กินยานอนหลับ แต่คืนไหนที่สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะภาพหลอนจากเหตุการณ์ในวันนั้น ผมก็จะเดินออกไปนั่งคุยเล่นกับพี่พยาบาลที่อยู่ด้านนอกจนเช้า


ผมดึงแก้มเจ้าหมีเท็ดยืดเล่นฆ่าเวลาระหว่างรอคุณชัยกลับมารับ
เดาไม่ออก บอกไม่ถูกจริงๆ
ไม่รู้ว่าออกจากโรงพยาบาลในวันนี้แล้วผมจะกลับไปเจออะไรบ้าง
แต่สิ่งที่ผมรู้แน่ๆคือคุณท่าน ‘รังเกียจ’ ผม ถ้าไม่รังเกียจกันคงแวะมาหากันบ้าง


นั่งรอไม่นานคุณชัยก็กลับมา


“คุณพริ้มกลับบ้านกันครับ”ผมพยักหน้ารับ อุ้มเจ้าหมีแนบอกแล้วเดินลงลิฟท์ไปกับคุณชัย


เสียงแจ้งเตือนไลน์ดังขึ้น พี่เจ้าของแบรนด์ไลน์มาบอกว่าจะโอนเงินเข้าบัญชีตามที่ตกลงไว้ ส่วนเจ้าหมีที่อยู่กับผมพี่เขาให้ ผมส่งข้อความกลับไปขอบคุณพี่เขาอย่างดีใจ


“ได้ของฟรีนี่ยิ้มกว้างเลยนะครับคุณพริ้ม”


“ยุ่ง!”


“คุณพริ้มมาว่าผมได้ไง นี่ผมเหนื่อยขนของให้คุณพริ้มตั้งกี่รอบ คุณพริ้ม…”ผมมองคุณชัยที่บ่นกระปอดกระแปดเป็นตาแก่แล้วยิ้มจาง
คุณชัยก็บ่นไปแบบนั้นแหละ


“ขอบคุณครับ ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ขอบคุณที่ดูแล ขอบคุณที่ทนเด็กเอาแต่ใจอย่างผม”


“…”คุณชัยหันมามองผมแล้วเกาท้ายทอยแก้เก้อ
เอ้อ…คนแก่เขิน ทำหน้าไม่ถูกก็ตลกดีเหมือนกัน


ใช้เวลานานไม่นาน คุณชัยก็ขับรถมาถึงคอนโดคุณท่าน
ช่วงเช้าวันอาทิตย์ ถนนโล่ง คุณชัยขับรถเร็วมากกกกกกกก...ผมรู้สึกเหมือนกำลังท้านรกทุกลมหายใจ
ไม่รู้ว่ามีลูกแล้วทำไมยังขับรถอันตรายแบบนี้อีก
ไม่ได้เรื่องเลย


ผมอุ้มเจ้าหมีเดินตามหลังคุณชัยที่เดินเลยผ่านห้องคุณฟ้าไปที่สระน้ำด้านนอก
ผมหันไปมองประตูห้องคุณฟ้าที่ปิดสนิทอยู่อย่างงงๆ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไร


“สวัสดีครับท่าน”คุณชัยทักทายคุณท่านที่กำลังดูแลเจ้าตะบองเพชรต้นเล็กต้นน้อยอยู่ในเรือนกระจก


ผมกวาดตามองรอบเรือนกระจกที่แปลกตาไปกว่าเก่า ข้าวของของผมที่เคยอยู่ในห้องของคุณฟ้าถูกย้ายออกมาไว้ที่นี่ ต้นไม้ส่วนใหญ่ถูกย้ายออกไปไว้ด้านนอกข้างสระน้ำ เหลือเพียงแค่มุมเล็กๆให้เจ้าตะบองเพชรอยู่เท่านั้น


ม่านสีขาวถูกนำมาติดรอบๆห้อง เตียงหลังเล็กสีขาวถูกนำมาวางแทนที่โซฟาตัวเดิมที่เคยตั้งอยู่ โต๊ะเขียนหนังสือถูกจัดวางที่มุมห้องพร้อมกับ I-Mac จอใหญ่ที่วางอยู่เคียงข้าง Ipad Pro มุมห้องอีกมุมมีตู้เสื้อผ้าใบเล็กวางอยู่


“อยู่ได้ไหม? มะลิบอกว่าเธอชอบเรือนกระจก”คุณท่านถามในขณะที่ดวงตาจับจ้องอยู่ที่เจ้าตะบองเพชร


“ได้ครับ”คุณท่านรับฟังผมเพียงเท่านั้นแล้วก็เดินออกไป ไม่มีแม้แต่หางตาจะชายตามามองผม
ถามกันสักคำก็ไม่มีว่าออกจากโรงพยาบาลแล้วเป็นยังไงบ้าง หายเจ็บรึยัง


สัญญาณของการถูกทิ้งมันมาแล้วสินะ ใครจะอยากได้ผู้ชายที่ถูกข่มขืนมา
ผมลูบเบาๆบนหัวเจ้าหมี
อยู่เป็นเพื่อนกันนะ…อย่าให้ชั้นถูกทิ้งอยู่เพียงลำพัง


ตอนแรกที่ผมได้อยู่ห้องคุณฟ้าคงเพราะคอนโดของคุณท่านมีห้องนอนแค่ 2 ห้อง
ผมมันก็แค่เด็กเลี้ยงคนหนึ่งที่คุณท่านซื้อหามาด้วยเงินทอง ประเคนของมีค่ามีราคาให้
ยิ่งตอนนี้เนื้อตัวผมแปดเปื้อนราคีคาว คงไม่มีค่าพอที่คุณท่านจะให้ผมอยู่ในห้องนั้นให้เป็นเสนียดต่อคุณฟ้า


“คุณพริ้มครับ”ผมได้แต่ยิ้มจางๆให้คุณชัย


ชีวิต ‘เด็กเลี้ยง’ มันก็แค่นี้แหละ
ตอนแรกที่เขาอยาก ‘ดูเอ็น’ เขาก็ชายตามาแลบ้าง แต่ตอนนี้ที่ของตายมันกลายเป็นของเน่าหนอนไปแล้ว ใครจะอยากเก็บไว้ข้างตัว เขาแค่เนรเทศมาอยู่ในเรือนกระจกเท่านี้ก็บุญหัวไอพริ้มเท่าไหร่แล้ว
วันไหนที่คนของเขากลับมา คงโดนถีบออกไปเหมือนหมูเหมือนหมา


ผมได้แต่ถอดถอนใจกับโชคชะตาตัวเอง แต่สุดท้ายก็ได้แต่ปลง
อ่านหนังสือดีกว่า ใจคนกำหนดยาก แต่ชะตาชีวิตผมนี่สิที่กำหนดเองได้


“ผมไปแล้วนะครับ”ผมพยักหน้ารับรู้ ยกมือไหว้ลาคุณชัย “ขอบคุณครับคุณชัย”


ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียง หยิบไอแพดมาเปิดไฟล์เล็คเช่อร์ที่อิฐส่งมาให้ทุกวัน
อ่านไปอ่านมา หนังตาก็เริ่มหย่อน สุดท้ายเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
ตื่นมาอีกทีตอนพี่มะลิปลุกให้ลุกขึ้นมากินข้าวกินยา


วันเวลาในวันอาทิตย์ที่เป็นวันครอบครัวผ่านไปอย่างเหงาๆ
คุณท่านหายไปไหนไม่รู้หลังจากที่คุยกับผมแค่สองสามประโยค
ผมไลน์ไปหาน้อง น้องก็อ่านแต่ไม่ตอบ สงสัยคงกำลังดราฟงานอยู่เลยไม่ว่าง
ผมอยากจะใช้เวลาวันอาทิตย์กับคนในครอบครัวเหมือนคนอื่นๆบ้างจัง
ไม่รู้ว่าจะมีวันนั้นบ้างไหม


ผมนอนกอดเจ้าหมีแนบอกเมื่อความมืดเริ่มมาเยือน
ไฟทุกดวงในเรือนกระจกถูกเปิดให้ส่องสว่าง แต่ผมก็ยังมีอาการใจสั่นเมื่อมองขึ้นไปที่คลังคากระจกที่เผยให้เห็นความมืดมิดของฟากฟ้าและมีหมู่ดาวมากมายส่องประกายระยิบระยับอยู่บนนั้น
ผมไม่ชอบเลย ถึงดาวดาวจะสวยแค่ไหน แต่ท้องฟ้าก็ดำมืดอยู่ดี
ผมพลิกตัวเข้าหาผนังเรือนกระจกสีขาว หยิบมือถือมาตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนตีสี่ พรุ่งนี้ตื่นมาอ่านหนังสือต่ออีกนิดก่อนไปเรียนน่าจะจำได้มากกว่านี้ ผมเป็นคนสมองช้า อ่านหนังสือตอนเย็นมักจะหลงๆลืมๆ แต่ถ้าอ่านตอนเช้า สมองโล่งจะจำได้ดีกว่า


ผมเปิดเพลงกล่อมเด็กนอนไว้เป็นเพื่อนก่อนจะหลับตาลง


ฝันดีราตรีสวัสดิ์นะเจ้าหมี







ไม่ได้มาต่อนานมาก

ลืมกันรึยังคะ

เราติดสอบรัวๆเลย TT

ปล.เขียนคาแรคเตอร์ 3p ไว้สองแบบจนตอนนี้ก็ยังตัดสินใจไม่ได้

หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 12 P.6 20.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 20-03-2018 21:12:37
เศร้าจัง
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 12 P.6 20.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 20-03-2018 21:27:30
คุณชัยน่ารัก อยากโดนคุณชัยบ่นทั้งวันบ้าง  :mew2:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 12 P.6 20.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: ous_p ที่ 20-03-2018 22:15:45
 :sad4: เศร้าไปด้วยเลย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 12 P.6 20.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 20-03-2018 22:30:37
ให้กำลังใจช่วงสอบค่ะ เราเข้าใจดี มันสาหัสเหลือเกิน 5555
พอพ้นช่วงสอบมาแล้วจะอัพเป็นปกติแล้วใช่ไหมคะ รอค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 12 P.6 20.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 20-03-2018 23:14:51
ชะงักเลยนึกว่าตาฝาด5555
รอได้จ้าาาา มาม่ากลิ่นโชย :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 12 P.6 20.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 20-03-2018 23:18:06
สู้ๆทั้งพริ้มทั้งคนเขียนเลยนะคะ ฮึบ!ๆ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 12 P.6 20.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-03-2018 23:31:03
 :o12:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 12 P.6 20.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-03-2018 00:55:54
อีพี่ทุกข์หนักขนาดไหน อีตัวน้องมันรู้บ้างไหมเนี่ย  o12
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 12 P.6 20.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 21-03-2018 09:29:51
ยังหาวิถีที่จะตัดเข้าเป็น3Pไม่ได้เลย  อ่านแล้วน่าจะเป็น3เศร้ามากกว่ารึเปล่า
ยังไม่เห็นแววเลยว่าคุณฟ้าหรือคุณท่านจะมาร่วมยำพริ้มยังไง
อีกอย่าง ไม่เชื่อว่าคุณท่านจะให้พริ้มไปร่วมยำคุณฟ้า  ดูบูชากันซะขนาด

อ่านแล้วเศร้าแทนพริ้ม
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 12 P.6 20.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 21-03-2018 09:44:23
สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 12 P.6 20.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 22-03-2018 16:29:31
อีคุณท่านนี่นะ จะอะไรกับพริ้มนักหนา ถ้าไม่ต้องการแล้วก็ปล่อยไปสิ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 12 P.6 20.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 23-03-2018 00:21:17
มาอยู่กับแม่มาลูก
หนูจะเย็บตุ๊กตากี่ตัวก็ได้
แม่ไม่ให้หนูอยู่คนเดียวแน่ๆ
ความมืดจะไม่เป็นอุปสรรคกับหนู
เพราะแม่จะอยู่ข้างๆ หนู

หนูไม่ต้องทนเหงา
สภาพกายย่ำแย่ สภาพจิตใจก็แย่ยิ่งแบบนี้แน่ๆ

ลูกสาวแม่ กอดๆ นะลูก
ขนผ้าขนผ่อนมาอยู่กับแม่เลยลูกมา
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 12 P.6 20.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: momaynadsini ที่ 23-03-2018 02:37:45
 :m15:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 25-03-2018 22:12:23
ตอนที่ 13


“ปล่อย…ปล่อยกู ไอ้เหี้ยยยยยยย!”ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก หัวใจของผมเต้นระรัว
เสียงครางหื่นกาม และภาพจำที่แสนโหดร้ายในวันนั้นยังตามหลอกหลอนผมมาจนถึงปัจจุบัน
ความเจ็บปวดยังคงฝังอยู่ทุกอณูในร่างกาย
ไม่มีคืนไหนที่ผมสามารถหลับสนิทได้โดยไม่พึ่งยานอนหลับ


ผมพลิกตัวไปมาบนเตียงอยู่นาน ก็ไม่สามารถข่มตาหลับลงได้
ผมคว้าพี่หมีขึ้นมากอด สองเท้าก้าวลงจากเตียงเดินไปที่ห้องคุณท่าน
ผมกำลูกบิดประตูแน่น ถ้าคุณท่านรู้ว่าผมแอบเข้าห้องท่านต้องโดนลงโทษแน่ๆ
แต่คืนนี้มันไม่ไหวแล้วจริงๆ
ผมไม่อยากนอนคนเดียว


ผมย่องเบาเข้าไปในห้องคุณท่าน
โชคดีที่คุณท่านเปิดโคมไฟหัวเตียงไว้ ห้องเลยไม่มืดจนเกินไป
ผมวางพี่หมีลงที่พื้น ก่อนจะล้มตัวนอนลงบนพุงพี่หมี


ผมนอนตะแคงมองคุณท่านที่นอนอยู่บนเตียง
ตอนนอนก็ดูเหมือนเทวดาใจดีอยู่หรอก  แต่ไม่รู้ทำไมพอตื่นละกลายเป็นยักษ์เป็นมารทุกที
ผมเอื้อมมือไปแตะเบาๆที่ฝ่ามือคุณท่าน ไออุ่นจากฝ่ามือคุณท่านส่งผ่านมาที่ฝ่ามือเย็นเยียบของผม


“พริ้ม”ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงคุณท่าน ผมรีบกระเด้งตัวลุกจากพื้นเร็วจนเจ็บเสียดที่ซี่โครง


“คุณท่าน…”ผมเรียกคุณท่านเสียงอ่อย กุมมือ ก้มหน้าสำนึกผิด
โดนแน่ๆเลยไอ้พริ้ม มากวนคุณท่านตอนนอนจนตื่นกลางดึกแบบนี้


คุณท่านทำหน้าตาเหนื่อยหน่าย รำคาญใจก่อนจะเอ่ยอนุญาต “จะนอนก็ขึ้นมานอนดีๆ”


ผมรีบคว้าพี่หมีเดินไปอีกฝั่งของเตียง ยังไม่ทันจะวางพี่หมีลงบนเตียง ร่างพี่หมีก็ลอยละลิ่วไปที่พื้นด้วยฝ่าเท้าของคุณท่าน “โตเป็นควายแล้วยังติดตุ๊กตา ปัญญาอ่อน”


ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ไม่ชอบเลย ไม่ชอบคำพูดแบบนี้เลย
ผมเดินไปหยิบพี่หมีที่ถูกถีบนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นขึ้นมากอดแนบอก ก่อนจะเดินออกจากห้อง


“พริ้ม กลับมานอน”คุณท่านขมวดคิ้วสั่งผมอย่างไม่พอใจ


“ไม่”ผมปฏิเสธเสียงแข็ง


“พริ้ม ชั้นสั่ง”ผมยืนดื้อตาใสอยู่ตรงนั้นไม่ขยับตัว


“จะเดินมาเองดีๆหรือจะมาทั้งน้ำตา”
ผมหันหลังให้คุณท่าน หมุนลูกบิดออกนอกห้อง ยังไม่ทันจะก้าวเดิน ร่างทั้งร่างก็ลอยมาอยู่บนเตียง


“ดื้อ!”


“ผมไม่ได้ดื้อ”

“ยังจะมาเถียงอีก”


“…”ไม่เถียงก็ได้


“หันหน้ามาสิ”


“…” ผมกอดพี่หมีแน่น ไม่หันไปหรอก ไม่อยากคุยด้วย ไม่อยากคุยกับคนที่ชอบพูดจาทำร้ายจิตใจคนอื่น


“พริ้ม หันมา ชั้นสั่งให้หันมาไง”เสียงคุณท่านเริ่มเข้มขึ้น น้ำเสียงส่อแววหงุดหงิด


“…”ผมยอมพลิกตัวไปหาคุณท่าน นอนจ้องตากันอยู่นานก็ไม่มีใครยอมเปิดปากพูดก่อน


สุดท้ายก็เป็นผมที่แพ้ “คุณท่านใจร้าย”


“ชั้นใจร้ายตรงไหน”


“ทุกตรง”


“หึ”คุณท่านทำเสียงขึ้นจมูก “ไร้สาระจริงๆ เถียงกับเด็กอย่างเธอ”คุณท่านส่ายหน้าเบาๆดึงผ้าห่มมาคลุมกายก่อนจะหลับตาลง
ได้ไง…มาหนีหลับไปแบบนี้ได้ไง
ผมปีนขึ้นไปบนตัวคุณท่าน จะทับให้หายใจไม่ออกตายเลย…


“พริ้มลงไป ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ ชั้นหนัก”ผมส่ายหน้า ซบหน้าลงกับอกอุ่น


“พริ้ม!”คุณท่านแทบจะตะโกนเรียกชื่อผมด้วยความหงุดหงิด
รำคาญจัง จะเรียกชื่อกันทั้งคืนเลยไหม
ผมกระเถิบตัวขึ้นไป จูบเบาๆที่ปลายคางก่อนจะขบเม้มริมฝีปากล่างของคุณท่าน


“ลงไปนอนดีๆ”คุณท่านผลักผมลงจากตัวอย่างไม่ใยดีและหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง


ผมนอนหันหลังให้คุณท่าน น้ำตาใสไหลออกมาคลอหน่วยในดวงตา
ไม่ต้องการกันแล้วสินะ ถึงได้ผลักไสกันขนาดนี้

.
.
.

ผมตื่นเช้ามาด้วยความงัวเงีย ข้างกายไม่ปรากฎร่างคุณท่านอยู่แล้ว
ผ้าปูที่นอนก็เย็นเยียบ…คุณท่านคงลุกไปนานแล้ว


ก๊อกๆ


“คุณพริ้มครับ ตื่นได้แล้วนะ”คุณชัยเคาะประตูห้อง ตะโกนปลุกผมจากนอกห้อง


“กี่โมงแล้วครับ”ผมลุกจากเตียงนอน บิดตัวอย่างขี้เกียจ


“8โมงแล้วครับ”


“ขอ 5 นาทีครับคุณชัย”ผมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำตาลีตาเหลือก นอนยังไงให้ถึง 8 โมงนะไอพริ้ม สายแล้ว แย่แน่ๆ


หลังจากอาบน้ำเสร็จ สายตาผมก็เหลือบไปเห็นเตียงคุณท่านที่ยังไม่ได้เก็บ งรื้อ…ต้องเก็บเตียงก่อนเดี๋ยวโดนดุว่าตื่นทีหลังไม่ยอมเก็บเตียง ผมพับผ้าห่มให้เรียบร้อย จัดหมอนให้เป็นระเบียบ คลุมเตียงให้คุณท่านด้วยความเร็วแสงแล้วรีบไปแต่งตัว


คุณชัยขับรถพาผมลัดเลาะมาทางลัดจนในที่สุดก็มาส่งผมทันเวลาหน้าตึกห้องเรียนรวมพอดี


“สวัสดีครับคุณชัย ขอบคุณนะครับที่มาส่ง”ผมยกมือไหว้ลาคุณชัย คว้ากระเป๋ามาสะพาย


“แซนวิชกับนมครับ”


“ขอบคุณครับ”ผมรับมื้อเช้าฉบับเร่งด่วนจากคุณชัยแล้วจะเปิดประตูลงจากรถ


“เย็นนี้ให้ผมมารับกี่โมงครับ”


“สองทุ่มได้ไหมครับ ผมมีติวกับเพื่อน อีก 2 อาทิตย์ก็จะสอบแล้ว”


“ได้ครับ ถ้าช้าหรือเร็วกว่านั้น คุณพริ้มโทรหาผมแล้วกัน”ผมพยักหน้ารับคำแล้วรีบวิ่งขึ้นห้องเรียน


ผมเข้ามาในห้องเรียน อาจารย์ก็เริ่มสอนแล้ว น้องนัทโบกมือเบาๆที่ด้านหลังห้อง ผมรีบก้าวขึ้นสโลปไปหาที่นั่ง


“พี่พริ้มมาสายวะพี่”


“ตื่นสายนิดหน่อย”


ยังไม่ทันที่ผมจะได้คุยกับน้องนัทไปมากกว่านั้น เสียงอาจารย์ก็ดังขึ้นพร้อมกับตวัดสายตาดุๆมาทางพวกผม“นักศึกษาคะ ถ้าไม่พร้อมจะเรียนก็เชิญออกไปด้านนอกค่ะ อาจารย์ไม่ว่า ไม่หักคะแนน”
หลังจากโดนดุ ผมรีบเงียบปากไม่คุยกับน้อง ตั้งใจเรียนก่อนที่จะโดนดุอีกรอบแล้วโดนเชิญออกจริงๆ


หลังจากหมดคาบ นักศึกษาก็ส่งเสียงคุยกันแบบผึ้งแตกรังด้วยความทรมานที่พูดอะไรไม่ได้เลยตลอด 3 ชั่วโมง น้องตองเดินมาหาผม แตะมือที่หลังมือผมเบาๆ “พี่พริ้มเป็นไงบ้างครับ ผมจะไปเยี่ยมพี่ก็ไม่ให้ไป”


“หายแล้ว พี่เป็นไข้หวัดใหญ่ เราไม่มาเยี่ยมอะดีแล้ว เดี๋ยวติด”


“ไข้หวัดใหญ่บ้านพี่มีรอยช้ำที่หน้าด้วยเหรอ ไปตีกับใครมา อย่ามาโกหกซะให้ยาก”น้องนัทพูดแทรกขึ้นมา


“ตีกับเรานั่นแหละ พี่หิวข้าวจนจะกินหมูได้ทั้งตัวแล้วนะ จะซักฟอกกันจนขาวเลยไหม ห๊ะ!”ผมแกล้งทำเสียงแข็ง เลี่ยงทำเป็นโมโหหิว ไม่รู้จะตอบคำถามน้องยังไง สุดท้ายน้องก็ยอมเลิกลาถามกันไป

.
.
.

“ตกลงเย็นนี้ติวใช่ไหม”ผมถามน้องขณะกำลังตักเส้นมาม่าเข้าปาก ก๋วยเตี๋ยวร้านเด็ดของน้องอิฐกลายมาเป็นร้านประจำของผมไปแล้วตอนนี้


“ติวดิพี่ ถ้าผมอ่านเองนี่ต้องเอฟแน่ๆ”น้องนัทโอดครวญขึ้นมา


“ก็หัดเรียนซะมั่งสิ ไม่ใช่เอาแต่นอนกับเล่นเกมส์”น้องตองแขวะน้องนัท เบ้ปากมองบนแรง
เออหนอ น้องมันเล่นใหญ่เล่นโตกันดี


“โห กล้าพูดไม่อายปาก คาบเมื่อกี้ มนุษย์หน้าไหนมันหวีดร้องพระเอก Good doctor อยู่วะ บอกกูที”


“เรื่องกู”ผมเลิกคิ้วหลังจากได้ยินน้องนัทพูด หวีดพระเอกอย่างนั้นเหรอ…ถึงน้องตองจะเป็นผู้ชายตัวเล็กให้ความรู้สึกเหมือนสายรับในอุดมคติ แต่ก็ไม่คิดว่าน้องจะมาทางนี้


“หล่อตรงไหน กูหล่อกว่าตั้งเยอะ”น้องนัทบ่นออกมาเบาๆ ผมก็ได้แต่ยิ้มขำ
เอ้อ…คู่นี้มันชักจะยังไงๆ น้องนัทนี่ทำตัวเหมือนเด็กผู้ชายที่แสดงออกไม่เป็นว่าชอบเขา ไม่รู้จะวางตัวยังไงเลยใช้วิธีแกล้งเพื่อดึงดูดความสนใจ


“พี่คิดเหมือนผมชะ”ผมสะดุ้งรีบผละออกเมื่อน้องอิฐเข้ามากระซิบเบาๆที่ข้างหูผม


“เราว่าไง พี่ก็ว่างั้นแหละ”ผมยิ้มบางให้น้องอิฐ เขยิบตัวออกห่างจากน้องช้าๆ ไม่ให้ดูผิดสังเกตุ นอกจากอาการนอนไม่หลับแล้วผมยังเป็นคนขี้ตกใจมากขึ้นด้วย ถ้าใครเข้ามาโดนตัวผมแบบไม่บอกไม่กล่าว


ตลอดพักเที่ยงมีแต่เสียงต่อล้อต่อเถียงของน้องนัทกับน้องตอง ผมนั่งฟังแล้วก็ตลกดี เหมือนจะทะเลาะกัน แต่ก็ดูเหมือนหยอกกันมากกว่า ถ้าวันนึงวันใดที่ใครสักคนเริ่มรู้ใจตัวเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าความสัมพันธ์จะเดินไปทางไหน


หลังเลิกเรียนผมติดรถน้องอิฐไปที่คอนโดของน้องเพราะเราจะมีติวกัน ส่วนคนอื่นก็ขับรถตัวเองไป


“พี่พริ้มอ่านเลคเชอร์ที่ผมส่งให้รู้เรื่องปะครับ”


“รู้เรื่องๆ เราจดเลคเชอร์ดีมาก ลายมือก็อ่านง่าย”


“ผมโดนแม่จับคัดตั้งแต่เด็กๆ ลายมือไม่สวยก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วพี่”


“แม่เป็นครูภาษาไทยอ่อ”ผมแซวน้องขำๆ


น้องหันมามองผมด้วยสีหน้าประหลาดใจ “เฮ้ย ใช่พี่ รู้ได้ไง?” ผมขำออกมาอย่างตลกตัวเอง ไม่คิดว่าสิ่งที่แซวน้องเล่นๆจะเป็นเรื่องจริง


“พี่เก่ง”ผมยักคิ้วให้น้อง


“เฮ้ยพี่ จริงจัง นี่ไอนัทมันเอาผมไปเม้าท์อ่อ?”


ผมรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ “ไม่ๆ พี่แค่แซวเฉยๆ ไม่คิดว่าจะจริง”ผมรีบอธิบายให้น้องเข้าใจก่อนที่น้องจะเข้าใจเพื่อนตัวเองผิดไปมากกว่านี้


“แล้วไปพี่”


ผมมองสองข้างทางที่ไม่คุ้นตา ไม่เคยมาทางนี้เลยแหะ


“ครับแพรว ว่าไง”ผมหันไปมองน้องอิฐที่อยู่ดีๆก็พูดขึ้นมา แต่พอมองดีๆก็พบว่าที่พวงมาลัยน้องใช้กดรับโทรศัพท์ได้


“อิฐอยู่ไหนคะ”เสียงผู้หญิงปลายสายตอบกลับมา


“กำลังขับรถกลับคอนโดครับ วันนี้เพื่อนไปติวที่ห้องผม”


“ตายแล้วอิฐ แพรวยังไม่ได้เก็บชุดชั้นในที่โซฟา ที่เมื่อคืนเรา…”


“ครับๆ เดี๋ยวผมเก็บให้”น้องอิฐรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่แฟนน้องจะพูดอะไรไปมากกว่านี้


“เดี๋ยวดึกๆแพรวโทรหานะคะ”


“ครับ”


“รักอิฐนะคะ”


“รักเหมือนกันครับ”


“โห่ พี่พริ้มไม่ต้องมาอมยิ้มล้อผมเลยพี่”น้องหันมาโวยวายใส่ผมหลังจากวางสายแฟน


“เอ้า! ยิ้มก็ผิด”


“ทำไมรถมันติดแบบนี้นะ”น้องเคาะนิ้วบนพวกมาลัยด้วยความกังวล ต่างจากตอนแรกที่นั่งขับชิวๆ


“จะรีบไปไหน”ผมแกล้งถามแหย่น้องทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าน้องคงอยากกลับถึงคอนโดก่อนที่เพื่อนอีกสามคนจะไปถึง ถึงน้องจะมีอะไรกับแฟนจริง แต่ก็คงไม่อยากป่าวประกาศให้คนอื่นรับรู้ ยิ่งถ้าเข้าไปเจอสภาพห้องที่มีชุดชั้นในถูกโยนทิ้งไร้ทิศทางกับซากถุงยางคงดูไม่ดี เรื่องแบบนี้ต่อให้เป็นเพื่อนสนิทที่รู้แต่ผู้หญิงก็เสียหายอยู่ดี


“พี่พริ้มไม่ต้องมาแซวผมเลยพี่”ผมยิ้มอ่อนให้น้อง
วัยรุ่น วัยคึกคะนอง อยากรู้อยากลอง…สำหรับผมที่เคยผ่านทั้งงานกลางคืน ทั้งงานขายตัว เรื่องเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องผิด แต่เราต้องดูแลตัวเองเป็น รักสนุกก็ต้องรู้จักป้องกัน


การท้องไม่พร้อมในวัยเรียนเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น


หลังจากรับสายแฟน น้องอิฐก็รีบขับรถจนฝ่าไฟแดงถึงสองครั้ง ถ้ากล้องบันทึกภาพไว้ได้ คงจ่ายกันสนุก
น้องส่งให้ผมนั่งรอคนที่เหลือที่ด้านล่างคอนโด แล้วตัวเองขึ้นไปจัดการเก็บกวาดห้อง
รอไม่นานทุกคนก็มาถึง


คืนนั้นเราติวกันจนถึงสี่ทุ่ม ผมต้องไลน์ไปบอกคุณชัยเป็นระยะ จะขอกลับเองคุณชัยก็ไม่ให้เพราะคุณท่านสั่งไว้ว่าตอนนี้ผมโดนกักบริเวณ แต่ผมก็เกรงใจที่คุณชัยต้องมารับมาส่งผมดึกๆดื่นๆ


ผมกลับมาถึงคอนโดของคุณท่านเกือบ 5 ทุ่ม
ไฟถูกเปิดไว้แค่บางดวง ส่องแสงสลัวๆพอให้เดินได้
ผมย่องเบาเพื่อจะเดินไปห้องตัวเอง
ระหว่างนั้น หูผมก็แว่วเสียงบางอย่าง


“อื้อ…อ๊ะ…อ๊า…”ผมขมวดคิ้วกับเสียงที่ได้ยิน…เหมือนเสียงคราง



ผมเดินต่อไปเรื่อยๆจนเห็น
.
.
.
ภาพที่ทำเอาผมแทบยืนไม่อยู่


คุณท่านกับคนของท่านกำลังบำเรอกามารมย์ให้กันอยู่บนโซฟา
ร่างเล็กบิดเร่า ใบหน้าเชิดด้วยแรงอารมณ์ แอ่นอกให้คุณท่านดูดดื่มยอดอกสีชมพูสวย
เส้นผมยาวสลวยปลิวไสวไปกับจังหวะที่คุณท่านขยับสะโพก


ผมพยายามเพ่งมองว่าร่างนั้นคือผู้หญิงหรือผู้ชาย
รูปร่างและผมยาวสวยเหมือนผู้หญิง แต่เสียงครางออกจะแหบห้าวนิดๆเหมือนเสียงผู้ชาย
เมื่อมองเลยไปจนเห็นแก่นกายกลางลำตัวก็ทำให้ผมได้คำตอบ
ผมไม่รู้เลยจริงๆว่าคุณท่านมีรสนิยมชอบ ‘สาวดุ้น’ แบบนี้ด้วย


“แรง…อีก อ๊า…”เสียงครางยาวบ่งบอกถึงความเสียวซ่าน ร่างเล็กผลักคุณท่านนอนลงกับโซฟา หันสะโพกงอนใหญ่กลมกลึงเข้าหาคุณท่าน


ริมฝีปากบางก้มลงไปปรนเปรอคุณท่านอย่างถึงอารมณ์จนคุณท่านส่งเสียงครางต่ำกลับมา “อือ…ดี”
มือเล็กทำงานประสานกับริมฝีปากที่ดูดกลืนแก่นกายใหญ่ที่คับแน่นในช่องปากอย่างเอร็ดอร่อย


คุณท่านดันสะโพกมนให้ยกสูงขึ้น ยกขาเรียวยาวพาดไปกับพนักพิงของโซฟา
ริมฝีปากหนาปรนเปรอกลับให้ร่างเล็กจนร่างเล็กร่อนสะโพกอย่างเสียวซ่าน


“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ…อ๊า…”ริมฝีปากบางปล่อยแก่นกายใหญ่ออกจากปาก ก่อนจะขยับสะโพกเข้าออกที่ริมฝีปากคุณท่าน


คุณท่านยกสะโพกมนของร่างเล็กขึ้นไปพาดพนักพิงโซฟา ทำให้สะโพกมนลอยเด่นอยู่ในอากาศ
ลำตัวบางสวย เอวคอดทอดตัวยาวลงมา
นิ้วมือเล็กดันพื้นไว้ระหว่างที่คุณท่านเดินไปด้านหลังโซฟา


“ฮร้า….อ๊ะ…โอ้ววววว”ริมฝีปากบางห่อปากครางออกมาเมื่อคุณท่านขยับสะโพกเสียบเข้าไปทีเดียวมิดด้าม
คุณท่านหมุนคว้านสะโพกเป็นวงกลมเพื่อหาจุดเสียวก่อนจะซอยสะโพกไม่ยั้ง
ร่างเล็กครางเสียงหวาน มือขาวเอื้อมไปชักแก่นกายของตัวเองตามจังหวะสะโพกคุณท่าน


สุดท้ายทั้งสองคนก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน


ร่างบางปีนกลับขึ้นไปบนโซฟา โอบรอบลำคอคุณท่าน ประทับจุมพิตแลกลิ้นกันจนน้ำลายไหลซึมออกมาที่มุมปาก ขาเรียวเล็กเกี่ยวเข้ากับเอวสอบ ก่อนจะรูดรั้งแก่นกายคุณท่านให้กลับมาแข็งพร้อมรบอีกครั้ง
มือเล็กจับยึดที่บ่าก่อนจะกดสะโพกลงไป


คุณท่านบีบเค้นที่ก้อนเนื้อนุ่มกลมกลึงสองข้าง
ตีอย่างหมั่นเขี้ยวจนขึ้นรอยแดง
ก่อนจะจับร่างเล็กโยกสะโพกขึ้นลง
ช่องทางรักสีชมพูสวยรับของคุณท่านเข้าไปทั้งหมด ขมิบแน่นเมื่อท่อนลำลึงค์จะหลุดออกจากรู


ผมจิกเล็บลงกับฝ่ามือของตัวเองแน่น
เด็กเลี้ยงที่เป็นงานแบบที่คุณท่านอยากได้คงเป็นแบบนี้
เร่าร้อน รุนแรง ยั่วยวนชวนให้ลุ่มหลง
ถ้าเปรียบกายบางเป็นกองไฟ ผู้ชายใดๆก็อยากกระโจนเข้าใส่


ร่างกายแบบบาง เอวคอดกิ่ว หน้าอกมีเม็ดเชอร์รี่สีชมพูประดับอยู่ส่งเสน่ห์เย้ายวนชวนให้โลมเลีย
สะโพกมนใหญ่กลมกลึงน่าขย้ำ น่าฝังรอยเขี้ยว
ทุกท่วงท่าการขยับเย้ายวนโดยธรรมชาติ ไม่มีการปรุงแต่งให้อึดอัดน่ารำคาญ


ทุกอย่างล้วนตรงข้ามกับผม…เด็กเลี้ยงที่คุณท่านเขี่ยทิ้ง


ผมนั่งรอจนทั้งสองคนเสร็จกิจกามกัน ถึงได้เดินเข้าเรือนกระจก


คุณท่านนี่มีเด็กในสต็อคกี่คนกันนะ
บังคับผมตรวจเลือดอย่างดี แต่ตัวเองดันมั่วซะเอง
มันใช่ที่ไหน?!


คุณฟ้าที่อยู่ต่างประเทศจะรู้เรื่องพวกนี้ไหมนะ?


ผมล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน
มีคนบริการให้ถึงใจขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยเมื่อคืนคุณท่านปฏิเสธผม

.
.
.

ผมนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน ใจไม่รักดีเอาแต่นึกถึงภาพเล่นรักของคุณท่านกับคู่ขา 
เพราะเนื้อตัวผมมันเหม็นเน่า เปรอะเปื้อนราคีคาวจากผู้ชายคนอื่นแล้วสินะ
คุณท่านถึงได้เขี่ยทิ้ง


ผมลุกขึ้นมานั่งที่โต๊ะหนังสือ พยายามรวบรวมสติและสมาธิเพื่ออ่านหนังสือแต่ก็ไม่เป็นผล
ผมนั่งเหม่อลอยอยู่แบบนั้นจนกระทั่งเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือดังขึ้นเมื่อถึงเวลา 5.30 น.
ไปช่วยพี่มะลิเตรียมอาหารเช้าที่ห้องครัวดีกว่า


“คุณพริ้มตื่นแล้วเหรอคะ”พี่มะลิหันมายิ้มทักทายผมเสียงสดใส ใจจริงผมอยากตอบพี่มะลิไปว่าผมยังไม่ได้นอนเลยสักนิด


“ครับ ให้ผมช่วยอะไรไหมครับพี่มะลิ”


“ไม่ต้องค่ะ พี่มะลิทำเสร็จแล้ว วันนี้พี่มะลิทำข้าวต้มกุ้ง”ผมเดินเข้าไปใกล้หม้อข้าวต้ม กลิ่นหอมของข้าวต้มช่างเย้ายวนเหลือเกิน เสียงกระเพาะของผมร้องโครกครากอย่างน่าอาย…หิวเหลือเกิน


“รับเลยไหมคะ”


“ขอกุ้งเยอะๆเลยนะครับพี่มะลิ”ผมตอบรับ นั่งรอตรงบาร์สูงที่เอาไว้เตรียมของทำกับข้าว


“รีบทานแล้วไปอาบน้ำนะคะ เดี๋ยวคุณท่านมาเห็นพี่มะลิตักข้าวให้คุณทานก่อน จะถูกดุกันทั้งนายทั้งบ่าว”ผมพยักหน้ารับรู้ ตักข้าวต้มเข้าปากโดยที่ลืมเป่า


ผมคายข้าวต้มที่ลวกออกออกแทบไม่ทัน “พี่มะลิ ร้อนจังครับ”


“ทานน้ำก่อนค่ะ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ค่ะคุณพริ้ม เดี๋ยวลวกปาก”


ผมกินข้าวต้มจนอิ่มแล้วก็รีบไปอาบน้ำ ผมยืนอยู่ระหว่างกลางประตูห้อง 2 ห้องอย่างลำบากใจ
ห้องน้ำอยู่ตรงกลางระหว่างห้องคุณท่านกับคุณฟ้า ไม่มีประตูเข้าจากภายนอก
ต้องเข้าจากทางห้องคุณท่านหรือคุณฟ้าเท่านั้น
แล้วผมจะเข้าทางไหนดีนะ


ยังไม่ทันที่จะได้ข้อสรุปในใจ
คุณท่านก็เปิดประตูออกมาด้วยชุดทำงาน พาดเสื้อสูทไว้ที่แขน


“ทำไมยังไม่อาบน้ำ”


“ขอโทษครับ”ผมก้มหน้าคางชิดอก


“เฮ้อ จะไปทำอะไรก็ไป”คุณท่านถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายแล้วออกปากไล่


ผมรีบสอดตัวเข้าไปในห้องคุณท่าน เปิดประตูเข้าไปในห้องน้ำก็เจอเด็กของคุณท่านนั่งอยู่หน้ากระจก


“มาอาบน้ำไม่ใช่เหรอ อาบสิ”จากตอนแรกที่ผมคิดว่าเด็กของคุณท่านคงเป็นอีตัวที่หาซื้อมาด้วยเงินตราเหมือนผม แต่พอเห็นคุณเขาชัดๆ ผมคงต้องคิดใหม่
หน้าตาสวยหมดจดจนมองไม่ออกว่าเป็นเพศชาย ใบหน้าเรียวถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงไว้อย่างพอเหมาะ ดูงดงามเป็นธรรมชาติ


“ช่วยชั้นแต่งตัวหน่อยสิ”ร่างบางก้าวเดินมาหาผม ดวงตาสวยเฉี่ยวสะกดให้ผมยืนนิ่งอยู่กับที่
มือเล็กกุมมือผมให้ช่วยปลดเชือกรัดชุดคลุมอาบน้ำออก
ผมรีบเบือนหน้าหนีก่อนที่ภาพเรือนร่างแบบบางจะเผยให้เห็นในครรลองสายตา


“ชั้นน่าเกลียดขนาดนั้นเลยเหรอหนุ่มน้อย”มือบางดึงคางผมกลับมา ปลายนิ้วเรียวสวยไล้เบาๆบนริมฝีปาก ผมเหมือนคนสมองโล่ง หูดับไปชั่วขณะ
ความสวยของคนตรงหน้าทำผมใจสั่นไม่น้อย


“มะ…”ยังไม่ทันที่ผมจะตอบว่า ‘ไม่’ นิ้วเรียวยาวก็สอดเข้ามาในช่องปาก ลิ้นผมดันตวัดผลักปลายนิ้วออกไป แต่ดูเหมือนจะเป็นการไปกระตุ้นอารมณ์ของอีกคนแทน


“เนื้อแน่นของเด็กหนุ่มอย่างเธอจะ…หวานรึเปล่า”ปลายนิ้วยาวลากไล้จากริมฝีปากลงมาจนถึงหน้าอก วนรอบสะดือก่อนจะจับที่แก่นกายผม


ผมรีบดึงมือคุณเขาออก…มากไปกว่านี้ก็ไม่งามแล้ว


“ใส่เสื้อผ้าเถอะครับ ผมจะรูดซิปให้”ผมรีบไปหยิบชุดเดรสสีขาวที่แขวนอยู่มาให้


ร่างบางหันก้นงอนที่มีเส้นสปาเกตตี้เส้นเล็กผูกไว้มาทางผม แล้วรับชุดไปสวม ผมช่วยรูดซิปให้


“ผมจะออกไปรอข้างนอก ใช้ห้องน้ำตามสบายเลยครับ”ยังไม่ทันที่ผมจะก้าวเดินพ้นช่วงแขน มือบางก็ดึงคอเสื้อผมจากทางด้านหลัง


“ลูกหมาตัวใหม่ของกาลนี่น่าเล่นด้วยจัง”คุณเขาดึงตัวผมมาใกล้ กระซิบข้างใบหู ลมหายใจอุ่นๆที่แนบข้างใบหูทำผมขนลุก ริมฝีปากสีชมพูสวยงับเบาๆที่ใบหูผมก่อนจะผละออกไป


ไม่ดีกับใจเลยจริงๆ


ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จภายใน 5 นาที เก็บของใส่กระเป๋าเตรียมพร้อมออกไปเรียน
ผมเดินไปหาคุณท่านที่ห้องทานข้าวเพื่อจะขอออกไปเรียนก่อน


“ทานข้าวสิ”คุณท่านหันมาบอกผม


“ผมทานแล้วครับ”ผมส่ายหน้าปฏิเสธคุณท่านก่อนจะรับโถน้ำส้มที่พึ่งคั้นใหม่จากพี่มะลิ ผมรินใส่แก้วให้คุณท่าน


“ใครสั่งให้ทานก่อน”คุณท่านหันมามองหน้าผม สายตาคมกริบเหมือนใบมีดเฉือดเฉือนผมเหลือเกิน


“ขอโทษครับ ผมต้องทานยา”


“ใครสั่งใครสอนให้หมาทานข้าวก่อนเจ้าของ”คุณท่านพูดจบก็ดึงโถแก้วในมือผมไป สาดน้ำส้มใส่หน้าผมก่อนจะปาโถแก้วลงพื้น


“วร้ายยยย…”เด็กของคุณท่านร้องอย่างตกใจ


โถแก้วใบสวยแตกละเอียดเป็นเศษซากกองอยู่ที่พื้น น้ำส้มหกเลอะเทอะเจิ่งนองไปทั่วพื้น


“เก็บกวาดให้เรียบร้อย ถ้าไม่เสร็จไม่ต้องไปเรียน”คุณท่านสั่งไว้เท่านั้นแล้วเดินจากไป โดยไม่เหลียวหลังมามองสักนิด


ผมรีบวิ่งไปหยิบไม้กวาดมากวาดเศษแก้วที่แตกละเอียดยิบบนพื้นใส่ที่ตักผง
ด้วยความรีบ ไม่ทันระวังตัวทำให้ขอบคมเศษแก้วบาดเข้าที่นิ้ว
พี่มะลิรีบลงมาห้ามไม่ให้ผมทำต่อ ผมเลยไปหยิบผ้ามาเช็ดพื้นแทน


ละครฉากแรกได้เริ่มขึ้นแล้ว...
ความร้ายกาจของคุณท่านคงพรั่งพรูออกมาได้มากกว่านี้กับหมาโง่ที่ท่านไม่ต้องการ


“มะลิพาพริ้มไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เดี๋ยวจะไปเรียนไม่ทัน”คุณชัยออกคำสั่ง


ผมเดินเหม่อลอยตามพี่มะลิเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง
แค่กินข้าวก่อนเพราะผมหิวแล้วต้องกินยา…ผมผิดขนาดนั้นเลยเหรอ
จิตใจผมบอบช้ำจนเหมือนถูกตัดการรับรู้ รู้ตัวอีกทีก็นั่งอยู่บนรถกับคุณชัยแล้ว


“คุณพริ้มเย็นนี้เลิกกี่โมงครับ”


“สี่โมงครับ”


ผมตอบคุณชัยแล้วหันไปมองวิวข้างทาง
เป็นหมามีปลอกคอให้พวกคนรวยเล่นนี่มันไม่สนุกเลยจริงๆ
เขาถือว่าเขาจ่ายเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ


ถ้าย้อนเวลากลับไปได้แล้วผมเชื่อคำเตือนของเจ๊จีน่าสักนิด
วันนี้ผมคงไม่ต้องมานั่งทุกข์ทรมานใจเหมือนอย่างทุกวันนี้


“คุณพริ้มถึงแล้วนะครับ”ผมพยักหน้ารับรู้ หันไปหยิบกระเป๋าเป้ที่เบาะด้านหลัง ยกมือไหว้คุณชัย “ขอบคุณที่มาส่งครับ”


“คุณพริ้ม”ผมเลิกคิ้วมองคุณชัยที่เรียกผม ดวงตาของคุณชัยฉายแววสงสาร คุณชัยทำเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่สุดท้ายก็ปล่อยให้มันผ่านไป


“ตั้งใจเรียนนะครับ”ผมยิ้มจางๆให้คุณชัย


ตั้งแต่มาอยู่กับคุณท่าน รอยยิ้มของผมก็ยิ่งจางลงทุกวันๆ
ไม่รู้ว่าผมจะต้องอดทนถึงวันไหน
คงเป็นวันนั้น…วันที่รอยยิ้มของผมมลายหายไปในอากาศ




#พริ้มกับdaddy

สงสารน้องจริงๆ

หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: valenpinkpink ที่ 25-03-2018 22:53:00
เราไม่เข้าใจการกระทำของคุณท่าน เราสงสารน้อง จะไม่มีเวลาที่น้องมีความสุขจริงๆเลยเหรอ :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 25-03-2018 22:54:50
คุณท่านเหมือนพวกตัณหากลับมากกว่าคนมีเสน่ห์นะ
นิสัยคุณท่านก็ไม่น่ารัก     ยิ่งเอากับคู่ควงคนใหม่แบบนี้ยิ่งลดเกรดคุณท่าน
ถ้าเราเป็นพริ้มคงไม่รักและเสียน้ำตาให้ผู้ชายคนนี้
จะทนอยู่แค่คบสัญญาแล้วไป  จะดีกว่า   นะพริ้มนะ
เด็กขายก็จริง แต่ไม่ใช่ทาส มาด่าเป็นหมางี้  ไม่ไหว โดดถีบคุณท่านแมร่งเลย
เรื่องนี้ลูกน้องคุณท่านน่ารักทุกคน....ขอไป3Pกับคุณชัยยังดีกว่า 
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 25-03-2018 22:56:00
  :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-03-2018 23:05:58
เช็ดน้ำตาปรอยๆ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 25-03-2018 23:07:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: มายาป่าฝน ที่ 26-03-2018 00:31:04
ทำไมใจร้ายกับพริ้มจัง
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-03-2018 01:10:15
พริ้มต้องทุกข์ใจ ทุกข์กายมากเพียงไหน ถึงจะหลุดพ้นจากคุณท่านไปได้นะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 26-03-2018 01:25:42
ทำไมนะ
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ ลู๊กเอ๊ยยย
แม่กอดนะลูกนะ

แม่บอกแล้ว ให้ขนผ้าขนผ่อนมาอยู่กับแม่
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: W2P5 ที่ 26-03-2018 07:29:47
ทำไมเสี่ยทำกับน้องแบบนี้ :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 26-03-2018 08:00:21
ถ้าพริ้มไม่ได้ติดภาระเรื่องน้อง เราว่าพริ้มคงพร้อมที่จะหายไปพร้อมกับรอยยิ้มเศร้าๆนั้นได้ทุกเมื่อ   แข็งใจไว้นะพริ้ม
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: swasdee ที่ 26-03-2018 09:19:08
 :monkeysad: ตกลงต้องการอะไรจากพริ้มกันแน่ สงสารพริ้มอ่ะ เมื่อไหร่จะหลุดพ้นจากความทุกข์บ่วงบ้าๆแบบนี้สักที
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 26-03-2018 13:03:10
อยากดึงพริ้มออกมาจากสถานการณ์แบบนี้
สงสาร
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 26-03-2018 13:32:24
จะบ้าตายกับคุณท่าน
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 26-03-2018 17:05:00
ดราม่าหนักมาก
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 26-03-2018 19:24:33
จะมีโอกาสที่จะได้เข้าใจคุณท่านไม่เนี่ย :ruready
พริ้มรักคุณท่านไปแล้วหรือแค่กลัวถูกทิ้งง่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 26-03-2018 19:25:56
อีคุณท่าน
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-03-2018 20:08:20
หนีๆไปเถอะพริ้ม
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 26-03-2018 21:54:55
สงสารน้องงง
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 27-03-2018 09:11:47
 :m15:  :katai1: :o12:
ยิ่งอ่านยิ่งน้ำตาไหล
 :3123:  :pig4:   :3123:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 27-03-2018 14:33:11
สงสารพริ้ม คุณท่านใจร้ายมากๆเลย :ling1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 27-03-2018 21:53:23
อีคุณท่าน วันไหนพริ้มทนไม่ไหวนะ อยากจะให้หายไปแบบไม่รู้ตัวเลย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 28-03-2018 00:29:17
 :sad4: ฮืออออ ใจร้ายจังเลย ไม่รู้สึกอะไรกับน้องเลยหรอ....
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 28-03-2018 21:22:32
คุณท่านนี่ร้ายกับน้องตลอด
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 13 P.6 25.03.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 04-04-2018 23:11:28
รอค่าาาาา คิดฮอดคุณท่านกับพริ้มแล้ว
อยากรู้จะไปยังไง :katai5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 04-04-2018 23:54:34
ตอนที่ 14


ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นขยะ เป็นของไม่มีค่า ไม่มีราคา ไม่มีประโยชน์
ผมปล่อยเวลาทั้งวันไปอย่างเสียเปล่า ต่อให้ผมพยายามตั้งใจเรียนแค่ไหน ผมก็เรียนไม่รู้เรื่อง ภาพสุขสมของคุณท่านเมื่อคืนกับเหตุการณ์เมื่อเช้ายังคงวนเวียนในใจผม ผมหยุดคิดไม่ได้สักที
ผมไม่ชอบตัวเองเลยที่เป็นแบบนี้


“พี่พริ้มเย็นนี้ไม่ไปติวจริงๆเหรอพี่”น้องนัทเดินกลับมาถามผมอีกรอบ ทั้งๆที่ตอนแรกก็บอกลากันแล้ว


“พี่ปวดหัวอะ ไม่ไหวจริงๆ”


“อย่าหักโหมอ่านหนังสือมากนะพี่ ขอบตาคล้ำเป็นหมาแพนดี้แล้ว”


“ฮ่าๆ ก็ไม่ขนาดน้านนน”ผมหลุดขำกับมุขของน้อง


“ผมไปแล้วนะพี่”ผมพยักหน้ารับโบกมือไล่ให้น้องรีบไป


ใต้ชีวิตน่าสงสารของผมที่ต้องเจอคนแบบคุณท่าน ก็ยังโชคดีที่ฟ้ายังพอมีตาส่งเพื่อนแบบกลุ่มน้องนัทมาให้
ผมนวดคลึงข้างขมับตัวเอง อาการปวดหัวเริ่มแสดงตั้งแต่เมื่อเช้า น่าจะเป็นเพราะเมื่อคืนผมไม่ได้นอน


ตอนแรกผมจะอดทนไม่กินยา แต่สุดท้ายพอเวียนหัวมากๆ อาการพะอืดพะอมอยากอาเจียนก็ตามมา สุดท้ายผมก็ทนไม่ไหวต้องเดินไปเซเว่น ซื้อพารามากิน


“คุณพริ้ม”ยังไม่ทันจะกลืนพาราเม็ดที่สองลงคอ คุณชัยก็เปิดกระจกรถเรียกผม


“ครับๆ”ผมกำพาราไว้ในมือ รีบวิ่งไปขึ้นรถก่อนที่รถคันข้างหลังจะบีบแตรด่าคุณชัย


“คุณชัย สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้คุณชัย หยิบพาราในมือใส่ปากแล้วดื่มน้ำตาม


คุณชัยขมวดคิ้วมองผมก่อนจะถาม “คุณพริ้มกินยาอะไรครับ”


“พาราครับ ผมปวดหัวนิดหน่อย”พอรู้ว่าเป็นพารา สีหน้าคุณชัยก็ดูโล่งขึ้น


“คุณพริ้มนอนก่อนก็ได้ครับเดี๋ยวถึงคอนโดแล้วผมปลุก”


“ครับ”ผมปรับเบาะให้เอนนอน “คุณพริ้มหมอนผ้าห่มอยู่ด้านหลัง”ผมพยักหน้ารับ เอื้อมมือไปหยิบหมอนผ้าห่มสีชมพูลายคิตตี้มา “รสนิยมนี้ก็ไม่บอกนะคุณชัย”ผมแซวขำๆ


“ของลูกผมครับคุณพริ้ม ขอประทานโทษที”ผมยิ้มขำออกมา คลี่หมอนผ้าห่มแล้วเอามาคลุมตัว พยายามข่มตานอน แต่ก็ไม่หลับสักที


“ช่วงนี้คุณนอนไม่หลับเหรอครับ”คุณชัยหันมาถามผมขณะที่รถติดไฟแดง เอาจริงๆก็ติดไฟแดงแยกนี้อยู่เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว


“…”ผมไม่ตอบคุณชัย ไม่อยากจะให้ใครมาเป็นกังวลกับอาการของผม


“พรุ่งนี้ไปหาหมอกันนะครับ”ผมส่ายหน้าปฏิเสธ


“คุณจะพึ่งยานอนหลับตลอดไปไม่ได้หรอกนะครับคุณพริ้ม”


“ผม…”


“ผมจะบอกคุณท่าน ยังไงพรุ่งนี้คุณก็ต้องไปหาหมอ”ผมเบือนหน้าหนีคุณชัย บอกคุณท่านไปก็เท่านั้น เดี๋ยวนี้คุณท่านไม่ใส่ใจผมแล้ว


ผมนอนหลับตานิ่งๆ ตอนแรกคิดจะแค่พักสายตาเพราะขี้เกียจเถียงกับคุณชัย แต่สุดท้ายก็ผลอยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้


ผมตื่นมาอีกทีก็ตอนที่คุณชัยปลุกให้ลงจากรถ ผมลุกขึ้นมาตาปรือ
อยากนอนต่อชะมัด


“คุณพริ้มครับ วันนี้คุณท่านมีแขกนะครับ”ผมพยักหน้ารับรู้ คำว่า ‘มีแขก’ ของคุณชัยคงเป็นการพยายามบอกผมอ้อมๆว่าอย่าออกมาเผ่นพ่านนอกเรือนกระจกโดยไม่จำเป็น


“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง”ผมไหว้ขอบคุณ แล้วเดินเข้าคอนโด


ผมเดินเข้ามาในห้องคุณท่านผ่านห้องรับแขก เจอเพื่อนคุณท่านนั่งอยู่ตรงนั้น
ทุกสายตาหันมาจับจ้องผมเป็นตาเดียว ผมรีบยกมือไหว้ก่อนจะเลี่ยงเดินไปที่เรือนกระจก


ผมเข้ามาในเรือนกระจก จัดการเก็บของให้เรียบร้อย ปลดกระดุมแขนเสื้อนักศึกษาพับขึ้นมาถึงข้อศอก
แล้วเสียงท้องร้องของผมก็ดังขึ้น หิวข้าวจัง…นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นกินเลยจริงๆ


ผมโผล่หน้าออกไปดูต้นทาง เมื่อมองไม่เห็นใคร ผมรีบเดินเลียบริมสระน้ำทะลุผ่านห้องดนตรีเพื่อจะไปห้องครัวแต่ผมก็ต้องชะงักเมื่อเจอผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่หลังแกรนด์เปียโน


เขาหยุดเล่นเพลงที่กำลังบรรเลงอยู่ทันทีที่ผมก้าวเข้ามาในห้อง ดวงตาที่หันมามองผมฉายแววฉงน สงสัย เศร้าสร้อยและไม่พอใจ…สงสัยจะไม่พอใจที่ผมมารบกวนเวลาเล่นเปียโน


“ขอโทษครับ”ผมรีบยกมือไหว้แล้วเดินทะลุออกไปห้องครัว


“พี่มะลิ สวัสดีครับ”ผมทักทายพี่มะลิที่กำลังหัวหมุนทำกับข้าวหลายอย่างเหมือนจะเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้าน


“กลับมาแล้วเหรอคะคุณพริ้ม หิวไหมคะ”ผมพยักหน้ารับ มือกำลังจะหยิบขนมปังกระเทียมเข้าปากก็ถูกพี่มะลิตีมือ


“ไม่ได้ค่ะ เมื่อเช้าก็โดนดุไปรอบนึงแล้วนะคะ”


“ชิ้นเดียวก็ไม่ได้เหรอครับ”ผมมองขนมปังกระเทียมหน้าหมูสีสวยน่ากินที่อยู่ตรงหน้าแล้วน้ำลายสอ
งรื้อ…หิว


“ทานนมรอก่อนนะคะ”พี่มะลิหยิบนมวนิลลาในตู้เย็นรินให้ผม


ผมเหลือบตาไปเห็นพุดดิ้งที่วางในตู้เย็น “ขอพุดดิ้งด้วยได้ไหมครับ”ผมส่งสายตาวอนขอพี่มะลิ


“ถ้าคุณพริ้มโดนดุคราวนี้พี่ไม่รู้ด้วยนะคะ”ผมยักไหล่ ทำถูกก็โดนดุ ทำผิดก็โดนดุ ผมไม่อยากจะใส่ใจแล้ว
ขอท้องอิ่มก่อนดีกว่า


ผมกินพุดดิ้งรสวนิลลาอย่างมีความสุข ผมชอบความหอมและหวานของกลิ่นวนิลลา อดแปลกใจนิดๆไม่ได้ที่ตู้เย็นคุณท่านมีขนมมากมาย ทั้งพุดดิ้ง ทั้งไอติมถังใหญ่
เพราะชอบกินของหวานแบบนี้นี่เอง ถึงได้ ‘ดุ’ เป็นพิเศษ
ผมเปล่าว่าคุณท่านเป็น ‘หมา’ นะ อย่าไปฟ้องละ!


“มะลิ ตั้งโต๊ะได้แล้วนะ”คุณท่านเดินเข้ามาสั่งพี่มะลิ ก่อนที่สายตาดุๆจะตวัดมองพุดดิ้งในมือผม


“แค่กๆ”ผมสำลักพุดดิ้งที่กำลังกลืนลงคอ ผมทุบอกตัวเองเบาๆ พี่มะลิรีบรินน้ำส่งให้ผมแล้วเข้ามาช่วยลูบหลัง
คุณท่านยืนพิงกรอบประตู สีหน้าท่าทางตีความไม่ออกว่ากำลังรู้สึกอะไร


“ขอโทษครับ”สุดท้ายก็เป็นผมอีกเช่นเคยที่พ่ายแพ้ในเกมส์จ้องตาครั้งนี้


“เธอนี่เหมือนวัวเหมือนควาย ดุด่ายังไงก็ไม่เคยจำ”คุณท่านทิ้งคำพูดไว้เท่านั้นแล้วเดินออกไป


กินข้าวก่อนก็ผิด กินขนมก็ไม่ได้
ชีวิตลำบากจริงๆ วันหลังเลิกเรียนแล้วจะแอบกินบนรถคุณชัยก็แล้วกัน


“คุณพริ้มคะ ออกไปทานข้าวได้แล้วค่ะ อย่าให้ท่านรอ”พี่มะลิวิ่งเข้ามาตามผมหลังจากยกกับข้าวออกไปหมดแล้ว


“จะให้ผมไปนั่งร่วมโต๊ะด้วยเหรอครับ”ผมชี้นิ้วมาที่ตัวเองอย่างงงๆ


“ใช่ค่ะ รีบออกไปเถอะค่ะคุณพริ้ม เดี๋ยวคุณท่านจะโมโหนะคะ”ผมพยักหน้ารับแล้วรีบเดินตามพี่พริ้มออกไป


“เพื่อนชั้น สวัสดีสิ”ผมรีบยกมือไหว้ ไล่สายตามาเรื่อยจนมาสะดุดที่คนสุดท้าย คนเมื่อคืนนี่นา…


“นั่งสิจ๊ะ”คุณเขาปรายตามองเก้าอี้ที่อยู่ตรงกลางระหว่างคุณท่านกับเขา


“ชั้นชื่อแพท เงินไม่พอใช้ก็โทรหาชั้นนะ”คุณแพทพูดแล้วขยิบตาข้างเดียวให้ผม


“เด็กในปกครองชั้น ชั้นดูแลเองได้ คงไม่ต้องพึ่งเธอ”คุณท่านปรายตามองคุณแพทด้วยแววตาเย็นเยียบ
ผมนั่งเกร็งตัวอยู่ท่ามกลางบรรยากาศมาคุตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ
อะไรกัน…เมื่อคืนยังเอากันอยู่เลย


ไม่รู้ว่าหน้าตาผมฉายแววสงสัยจนคุณแพทสมเพชเวทนารึไง ถึงได้มากระซิบบอกคำตอบในสิ่งที่ผมสงสัยข้างหู “Friend with benefits อะรู้จักไหมหนู” ผมตกใจจนสะดุ้งลุกขึ้นยืนเมื่อคุณแพทไม่ทำแค่กระซิบแต่งับเบาๆที่ใบหูผมด้วย ช้อนส้อมบนจานลอยขึ้นแล้วตกลงมากระทบโต๊ะเสียงดัง


“ขอโทษครับ”ผมยกมือไหว้ขอโทษ “เมื่อเย็นผมทานขนมไปเยอะเลยไม่ค่อยหิว ขอตัวนะครับ”ยังไม่ทันที่ผมจะเดินเลยพ้นโต๊ะอาหารออกไป คุณท่านก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง คว้าแขนผมไว้


“ไปนั่งที่ชั้น”ผมยอมนั่งลงแทนที่คุณท่านอย่างปฏิเสธไม่ได้


“เด็กนายนี่หวงเนื้อหวงตัวจริงๆ”คุณแพทบ่นกระปอดกระแปด แต่คุณท่านไม่ได้สนใจ “มะลิ ตักข้าว”


“ค่ะ คุณท่าน”พี่มะลิรีบตักข้าวให้คุณท่านและผองเพื่อนอย่างรวดเร็ว
เพื่อนคุณท่านแต่ละคนดูเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ต่อให้ใบหน้ามีรอยยิ้มยังไง แต่มันก็ดูไม่จริงใจสักนิด
คงมีแต่ผู้ชายคนนั้นในห้องเปียโนที่นั่งนิ่ง ไม่สนทนาอะไร


ประเด็นบนโต๊ะอาหารมีตั้งแต่เรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป ไปจนถึงเรื่องหุ้น เรื่องลงทุน เรื่องธุรกิจที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง


“พริ้มทำไมเงียบละจ๊ะ”คุณแพทหันมายิ้มหวานถามผม แต่ผมรู้สึกว่ามันเหมือนรอยยิ้มอาบยาพิษยังไงชอบกล ทุกสายตาหันมาจับจ้องผมแทนที่ถ้วยกาแฟที่พี่มะลิกำลังเสิร์ฟหลังอาหาร


“ผมปวดหัวนิดหน่อยหนะครับ ขอตัวนะครับ”


“จะรีบไปไหนละจ๊ะ เป็นพ่อหนุ่มเนื้อทองเหรอ ถึงแตะต้องไม่ได้”


“ไม่ใช่แบบนั้นครับ…”


“หน้าตา ผิวพรรณก็ไม่ได้ดีอะไร ทำไมกาลไปคว้าก้อนกรวดมาเคี้ยวเล่นแทนเพชรที่มีอยู่แล้วละ”คุณแพทจบประโยควาจาเฉือดเฉือนด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ
ผมว่าผมกำลังโดนเล่นงานที่ทำให้เธอไม่พอใจเรื่องย้ายที่นั่งหนีแล้วละ


“ไม่เอาหน่าแพท”คุณกาย เพื่อนของคุณท่านที่นั่งฝั่งตรงข้าม เอ่ยขัดคุณแพทพร้อมกับส่งสายตาปราม


“ทำไมละกาย ก็แพทอยากรู้นี่ หรือว่าลีลาจะเด็ด”คุณแพทมองผมด้วยสายตาดูถูก


“เด็ดหรือไม่เด็ดก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องใส่ใจ”ผมเงยหน้ามองคุณท่านที่ตอบด้วยน้ำเสียงนิ่ง
อืม ผู้ดีเขาด่ากันว่า ‘เสือก’ แบบสุภาพอย่างนี้นี่เอง


“แหม ก็แพทแปลกใจนี่ ปกติกาลไม่ได้รสนิยมนี้ ถามกาลไม่ได้…งั้นแพทถามไทม์ดีกว่า รสนิยมเหมือนๆกันนี่”


“แพท!”คุณกายและเพื่อนคนอื่นเรียกชื่อคุณแพทออกมาพร้อมกัน
ผมมองบรรยากาศตรึงเครียดตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ
คุณท่านกับคุณไทม์จ้องตากันแบบไม่มีใครยอมใคร หรือว่าจะเคยแย่งคนรักกัน…


“ไหนๆเด็กมันก็ขาย ลองแบ่งให้ไทม์ชิมบ้างสิ ไทม์จะได้ให้คำตอบแพทได้ว่าน้องเขาเด็ดพอที่กาลจะเอาก้อนกรวดมาแทนที่เพชรเม็ดงามที่มีอยู่”สิ้นเสียงคุณแพท คุณกายก็ลุกขึ้นยืนจนเก้าอี้ล้ม


“ชั้นว่ามันมากไปแล้วนะแพท”คุณกายมองคุณแพทอย่างไม่สบอารมณ์
ผมว่าเรื่องนี้มันจะแปลกๆหน่อยๆแล้วละ
ดูเหมือนสิ่งที่คุณแพทยกขึ้นมาพูดให้มันมีประเด็นจะไม่ใช่แค่ต้องการดูถูกผม แต่มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น


“ชั้นไม่ขายให้ใครทั้งนั้น”คุณท่านจบประโยคของคุณแพทด้วยการสั่งให้พี่มะลิเก็บโต๊ะ เป็นการไล่ทุกคนกลับอย่างอ้อมๆ


“หวงน่าดูเลยน้า ท่าทางจะมันส์กว่าน้องฟ้า”คุณกายเดินมาลากคุณแพทออกไปทันทีที่ชื่อคุณฟ้าหลุดออกมาจากปากคุณแพท


ผมมองคุณไทม์ที่กำมือแน่น ขบฟันแน่นจนสันกรามนูนเด่นออกมา


“ใจๆหน่อยสิกาล ไทม์มันยังเคยให้นายลองของๆมันเลย”ผมอ้าปากค้างกับคำพูดของคุณแพท นี่ผมยังเป็นคนอยู่รึเปล่า หรือเป็นแค่วัตถุทางเพศ


“ของฟรีไม่มีในโลก”ผมมองคุณท่านด้วยสายตาตัดพ้อ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? ถ้ามีคนมาซื้อผม คุณท่านก็พร้อมที่จะขายต่อยังงั้นเหรอ ไม่ยุติธรรมเลย ทำไมไม่ถามผมสักคำว่าผมเต็มใจ ‘ขาย’ ให้เขาไหม


“คืนละแสนมากพอไหม ชั้นจะซื้อให้ไทม์ลองซะหน่อย จะได้รู้ว่ารสนิยมพวกนายสองคนยังเหมือนกันไหม”


ผมมองคุณท่านน้ำตาคลอ ไม่นะ…ถึงจะรังเกียจกันยังไงก็แค่ยกเลิกสัญญาสิ อย่าขายผมให้ใครเด็ดขาด
ถึงคุณท่านจะมีบุญคุณที่มอบชีวิตให้ผม ช่วยผมหลายอย่าง ทั้งใช้หนี้ ให้เรียนหนังสือ ให้ที่อยู่ ให้ข้าวกิน แต่การขายผมมันเป็นเรื่องที่เกินจะรับไหว…นี่มันไม่ใช่สมัยกรุงศรีอยุธยานะ ที่จะค้าทาสกันได้


ผมปล่อยให้น้ำตาที่คลอหน่วยอยู่ในดวงตาให้ไหลรินออกมา เมื่อคุณท่านไม่เอ่ยคำปฏิเสธใดๆ


“ทำงานให้คุ้มค่าตัวละ”หลังจากคุณท่านตบปากรับคำ คุณแพทก็หันมายิ้มเย้ยผม “อย่าสำคัญตัวผิดเพราะเขาเอานายมาเลี้ยง ถ้านายสำคัญจริง เขาคงไม่ขาย”


ผมทรุดตัวนั่งลงบนพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม ไม่มีแรงแม้แต่จะสะอื้น


“กาย พาแพทไปสงบสติอารมณ์”คุณทีเพื่อนอีกคนของคุณท่านเข้ามาประคองผมให้ลุกขึ้น


ผมมองคุณแพทดิ้นและกรีดร้องเสียงดัง ไม่ยอมออกไปจากห้องของคุณท่านอย่างสมเพชเวทนา
ความสวยหรูดูแพงของคุณแพทมันดูด้อนค่าด้อนราคาไปทันทีเมื่อเธอแสดงกิริยาแบบนั้น


ผมไม่รู้จริงๆว่าที่คุณแพททำแบบนี้เพราะโกรธผมเรื่องย้ายที่นั่งหนีหรือเกลียดผมที่เป็นเด็กของคุณท่าน


“ไปเก็บของเถอะ”ผมเงยหน้ามองคุณไทม์อย่างไม่เข้าใจ คุณแพทกำลังเล่นเกมส์บ้าอะไรถึงยอมเสียเงินแสนเพื่อให้ผมนอนกับคุณไทม์กันแน่


ผมเก็บของไป น้ำตาไหลไป สุดท้ายก็เก็บไม่เสร็จสักที จนคุณไทม์รอไม่ไหว เข้ามาตามแล้วจับชุดนักศึกษายัดใส่เป้ ผมโดนคุณไทม์ลากออกจากห้องคุณท่านแบบไม่มีสติรู้ตัว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขึ้นรถมาตอนไหนแล้วกำลังจะไปที่ไหน


ผมโอบกอดตัวเองแน่นเมื่อลมเย็นๆปะทะร่างเมื่อคุณไทม์เปิดประทุนรถทันทีที่พ้นเขตกรุงเทพ คุณไทม์ขับรถเร็วจนเกือบแตะ 200 กม./ชม. ผมเลิกเศร้าทันทีที่เห็นเข็มหน้าปัดบอกความเร็วหน้ารถ ตอนนี้สวดมนตร์ภาวนาขอให้ถึงที่หมายโดยไม่เกิดอุบัติเหตุน่าจะเป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่าการร้องไห้เสียใจ


ผมหยิบมือถือมาเสิร์จว่าต้องท่องคาถาอะไร สุดท้ายก็หาไม่เจอ ได้แต่ท่องนะโมตัสสะ
เวรกรรมของไอพริ้มจริงๆ ทำไมชีวิตถึงได้แขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลานะ


“สาธุ”ผมยกมือไหว้ท่วมหัวทันทีที่คุณไทม์จอดรถที่บ้านพักริมทะเลอย่างปลอดภัย


“หึ ทำอะไรของเธอ”คุณไทม์มองผมแล้วยิ้มขำ


“คุณขับรถเร็วอย่างกับกำลังท้านรก”


“แค่นี้เด็กๆ”คุณไทม์ปิดประทุนรถแล้วเดินเข้าบ้าน


ผมมองสำรวจรอบๆบ้านพบว่าบ้านหลังนี้ถูกตกแต่งด้วยกระจกทั้งหลัง สีที่ใช้เป็นโทนฟ้าขาวดูเย็นตา สบายใจ
แต่ผมไม่สบายใจด้วยหรอกนะ ไม่รู้คืนนี้จะโดนอะไร...


“อยากดื่มอะไร”คุณไทม์ตะโกนถามผมมาจากในห้องครัว


“ขอน้ำเปล่าสักขวดก็พอครับ”


“ขอบคุณครับ”ผมยกมือไหว้ขอบคุณ รับขวดน้ำเปล่ามาเปิดแล้วดื่มแก้กระหาย การสวดมนตร์ตลอดชั่วโมงที่ผ่านมาทำเอาผมคอแห้งไปไม่น้อย


“เบียร์หน่อยไหม”คุณไทม์ถามผมขณะนั่งเอนกายที่โซฟา ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ครับ ขอบคุณ”


“อายุยังไม่ถึงเลยกินไม่ได้?”คุณไทม์เลิกคิ้วถาม โถพ่อคุณ นี่ผมดูหน้าเด็กกว่า 18 ปีอีกเหรอนี่…


“ไม่ใช่ครับ พรุ่งนี้ผมมีเรียน”


“เหรอ”คุณไทม์เลิกคิ้วถามผม “แต่พรุ่งนี้ชั้นลา”ผมอ้าปากค้างกับความกวนประสาทของคนตรงหน้า
เออ...ให้มันได้แบบนี้ นึกจะมาทะเลก็มา ไม่ได้สนใจคนที่หนีบติดรถมาด้วยเลย


“ถ้างั้นพรุ่งนี้รบกวนไปส่งผมที่คิวรถตู้ได้ไหมครับ”


“ไม่ได้”ผมอ้าปากค้างอีกครั้งกับคำตอบที่ได้รับและใบหน้ายียวนกวนประสาท
นี่ใช่คนเดียวกับคนที่ทำหน้านิ่ง เล่นเปียโนเพลงเศร้าในห้องคุณท่านจริงๆรึเปล่าเนี่ย


“ผมต้องไปเรียน”


“ลากิจสิ”


“กิจอะไรไม่ทราบครับ”


“กิจธุระ…ขายตัวไง”จบประโยคร่างผมก็ถูกกดจนจมโซฟา


“ไม่ขายครับ ผมไม่อยากและไม่เต็มใจ”ผมเบี่ยงหน้าหนีเมื่อคุณไทม์เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้


“แต่ชั้นอยาก นายจะให้เพื่อนชั้นเสียเงินแสนฟรีๆเพื่อพานายมานอนกกริมทะเลรึไง ไม่เอาหน่า อย่าลีลาอัพค่าตัวหน่อยเลย ชั้นไม่จ่ายมากไปกว่านี้แน่”ผมอ้าปากค้างกับถ้อยคำร้ายกาจจากปากคุณไทม์ เพื่อนกันนี่มันออสโมซิสความร้ายกาจให้กันได้ด้วยจริงๆ


“อยากมากนักก็ทำเลยครับ เอากับท่อนไม้คงสนุกพิลึก”


“ปากดี”


#พริ้มกับdaddy
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04 .04.61
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 05-04-2018 00:13:16
เรื่องชักจะไปกันใหญ่
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04 .04.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 05-04-2018 01:19:37
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
ในหัวมีแต่อีตัวกระต่ายนี้
โว้ยยยยยยยย
อิคุณท่านไบโพล่าร์

อิคุณแพทก็ยังไงวะ

งุ้ยยยยย
แม่บอกให้มาอยู่กับแม่ไงลูกสาว
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04 .04.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 05-04-2018 01:39:44
หึ้ เรื่องนี้มันยังไง คุณท่านนนนสน
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04 .04.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-04-2018 03:22:37
ทะเลาะกันเอง แต่พริ้มกลับต้องเดือดร้อน ไอ้พวกคนรวยในเรื่องนี้มันเป็นอะไรของมันฟ่ะ  o12
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04 .04.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-04-2018 03:53:50
 :ling3:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04 .04.61
เริ่มหัวข้อโดย: W2P5 ที่ 05-04-2018 04:43:04
เราก็ได้แต่หวังว่าคนนี้จะดีกว่าคุณท่าน :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04 .04.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 05-04-2018 06:52:43
กลับไปอ่านบทที่1มาใหม่
คุณท่านนี่แกก็ร้ายมาตลอดนะ ไม่เคยตกเลย บางเรื่องก็ร้ายเหนือความคาดหมาย อย่างตอนให้คนมาข่มขืนพริ้มงี้
ตอนนี้ก็บอกว่าพริ้มไม่ได้มีขาย แต่ก็ขายจนได้

เพื่อนกลุ่มนี้คุยกันเหมือนพวกร่วมสวิงกิ้ง  แปลกที่แพทเหมือนจะอยู่ฝ่ายฟ้า
เดาว่า คุณท่านเป็นพี่น้องกับไทน์ และน่าจะได้ฟ้ามาจากไทน์
และที่ยอมขายพริ้มให้เพราะเชื่อว่าไทน์ต้องชอบพริ้ม....ขอโลกสวยไว้ก่อน

อีกอย่าง ไม่น่าเชื่อว่าคุณท่านจะเคี้ยวกรวดอย่างแพทได้ลง ดูไม่น่าอร่อย เคมีไม่เข้ากันเลย
ขอบทต่อไปไวๆเด้อจ้า
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 05-04-2018 22:15:04
สรุปแล้วคุณท่านเห็นพริ้มเป็นคนหรือสิ่งของ :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: zaneforest ที่ 05-04-2018 22:53:33
พระเอกเรื่องนี้น่ารักจังเลยค่ะ

คงไม่มีโอกาสคอมเม้นท์เเบบนี้เเล้วสินะ TT
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: t152_rakjai ที่ 06-04-2018 00:23:58
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: คุณท่าน................ :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 06-04-2018 00:40:55
 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 06-04-2018 00:55:55
หรือไทม์จะเป็นพระเอกอีกคน(?)
ถึงยังไงก็สงสารพริ้ม คุณท่านทำไมเป็นแบบนี้ :m15:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 06-04-2018 06:09:10
เห้อ เลวไม่มีใครเกินเลยนะคุณท่าน
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: lalun ที่ 06-04-2018 10:10:14
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 06-04-2018 10:56:15
สรุปว่า เรื่องนี้ มีนายเอกหลายคนใช่ม่ะ คุณท่านมีคนเดียว อ่านไปอ่านมา พริ้มก็ไม่ได้มีอะไรดึงดูดนะ ทำไมคุณท่านยังเลี้ยงอยู่
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 06-04-2018 17:24:47
สรุปว่า เรื่องนี้ มีนายเอกหลายคนใช่ม่ะ คุณท่านมีคนเดียว อ่านไปอ่านมา พริ้มก็ไม่ได้มีอะไรดึงดูดนะ ทำไมคุณท่านยังเลี้ยงอยู่
........................................

เดาว่าคุณฟ้านี่ไม่น่าจะกลับมาหรือมีบทบาทเยอะ น่าจะพระเอกสองนายเอก1
ระหว่างคุณท่านกับพริ้มน่าจะเป็นเรื่องความเอ็นดูอะไรสักอย่างเพราะจริงๆพริ้มถึกและทนนะ เป็นเด็กดี รักเรียน สู้ชีวิตด้วย ..ถ้าแค่เซ็กซ์พริ้มน่าจะถูกทิ้งไปนานแล้ว  แต่เหมือนคุณท่านจะหวงในแบบของท่าน
เราว่าพริ้มมีลักษณะ หมาตัวโตๆที่ซื่อสัตย์และรักเจ้าของ แถมมีบทดื้อเล็กๆด้วย(แต่ไม่อาละวาดหรือวีน) ทำให้เจ้าของอดเอ็นดูไม่ได้ 
มีสองสามฉากที่พริ้มอ้อนจนคุณท่านออกปากว่า "ทำแบบนี้คิดว่าน่ารักเหรอ"แต่คุณท่านก็ลูบหัวให้  เหมือนที่คุณชัยว่า พริ้มนี่แหวกทุกกฎของคุณท่านมาเลย
คือถ้าพริ้มไม่ดีจริง คุณแพทคงไม่ของขึ้น.... เชื่อว่าอิคุณไทน์นี่ เดี๋ยวก็หลงเสน่ห์พริ้มแน่... สาธุ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: Victor.yuriyurio ที่ 12-04-2018 03:18:38
 o22 ใจคอไม่ดีเลยอะ ฟ้าครามแม่มต้องกลับมาแล้วทุกอย่างต้องแย่สำหรับพริ้มแน่ จบแบบbad endหรอ ดมยาดม :call:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: chuxm ที่ 12-04-2018 16:16:55
สนุกดีค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 14 P.7 04.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 14-04-2018 09:42:10
มาต่อเร็วๆนะ สนุกดี
เดาต่อไม่ถูกเลย แต่ชอบ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 14-04-2018 14:38:43
ตอนที่ 15


ลมหายใจที่มีกลิ่นเบียร์ผสมคลอเคลียอยู่ข้างลำคอผม เสื้อนักศึกษาถูกปลดจนถึงกระดุมเม็ดสุดท้าย เผยให้เห็นอกเปลือยเปล่า ปลายจมูกของคุณไทม์ไล้สัมผัสที่ข้างลำคอ สร้างความรู้สึกสัมผัสแบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อน


“แค่เสียบๆให้มันจบๆไปได้ไหมครับ คุณจะมาลีลาทำไม”ผมมันก็แค่อีตัว ไม่ต้องมาพิรี้พิไรเล้าโลม โอ้โลม ปฏิโลมให้เสียเวลาหรอก แค่เอากัน…น้ำแตกแล้วแยกทางก็พอ


“เซ็กส์ที่มีความสุขอยู่ฝ่ายเดียวมันไม่ใช่เซ็กส์ที่ดีหรอกนะ รู้ไหม? หื้มมม….”คุณไทม์พูดแล้วดึงตัวผมให้ลุกจากโซฟามานั่งคร่อมตักคุณไทม์แทน


“ปล่อยผมลงเถอะครับ คุณจะหนักเปล่าๆ”ผมผลักหน้าอกคุณไทม์ไว้ไม่ให้คุณไทม์ขยับหน้ามาชิดใกล้เกินกว่านี้


“เคยมีคนบอกว่านายหนักด้วยเหรอ”คุณไทม์ยิ้มเย็นถามไปเรื่อย ดึงมือผมออกจากอกแล้วกุมไว้
ถามแบบนี้คงหยั่งเชิงว่าผมผ่านมากี่คน


“จะมีกี่คนที่เคยบอกก็ไม่สำคัญเท่ากับตอนนี้ว่าคุณรู้สึกหนักรึเปล่าหรอกครับ”ผมดึงมือออกจากเกาะกุม ผู้ชายสองคนนั่งตกจับมือกัน มันรู้สึกแปลกๆยังไงชอบกล


“หึๆ ฉลาดตอบ”คุณไทม์ยิ้มอย่างพอใจ ลูบไล้ใบหน้าผมเบาๆ


“อย่าพิรี้พิไรเลยครับ รีบๆเอากันให้จบๆ เพื่อนคุณจะได้ไม่เสียเงินฟรี”ผมปลดเข็มขัดออกจากกางเกงคุณไทม์ โยนลงพื้นอย่างไม่ใส่ใจ มือกำลังจะรูดซิบกางเกงลงแต่โดนห้ามไว้ก่อน


“กาลมันเลี้ยงนายมายังไงเนี่ย เซ็กส์มันไม่ใช่การเอากันให้จบๆไป เข้าใจไหม?”


“คุณท่านจะเลี้ยงผมมาแบบไหนก็ไม่ใช่เรื่องของคุณ ถ้าไม่ทำ ผมจะไปนอน”ผมพูดออกมาอย่างรำคาญ ไม่ต้องมาตอกย้ำได้ไหม ว่าเซ็กส์ของคุณท่านที่มีให้ผม มันก็แค่เซ็กส์เอามันส์กับอีตัวที่ใช้ปลดปล่อยไปวันๆ ไม่ได้สนใจผมด้วยซ้ำว่าผมจะมีความสุขกับมันรึเปล่า


“ดุจริงๆ”คุณไทม์ยิ้มเย็นไปเรื่อยเปื่อย ผมถอนหายใจแรงลุกขึ้นจากตักแกร่ง
รีบหนีไปอาบน้ำนอนน่าจะดีกว่า…เผื่อว่าคืนนี้จะไม่โดน


“ผมอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไหนได้บ้างครับ”


“ด้านบน ห้องแรก”ผมรับคำแล้วเดินขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้าน เปิดประตูเข้าไปในห้องพบว่าทั้งห้องเป็นสีฟ้าทั้งหมด รู้สึกเหมือนเดจาวูตอนเข้าห้องคุณฟ้าที่คอนโดคุณท่านเลยแหะ


หรือว่าคนรักที่คนทั้งคู่เคยแย่งกันจะเป็น…คุณฟ้าคราม


ผมเดินผ่านเลยเตียงนอนไปที่ห้องน้ำ สายตาสะดุดกับกรอบรูปมากมายที่วางเรียงรายอยู่บนชั้นวาง ภาพๆหนึ่งเป็นภาพคุณท่านกับคุณไทม์ใส่ชุดนักเรียนกางเกงน้ำเงินยืนกอดคอกันอย่างสนิทสนม ผมอดแปลกใจไม่ได้ ตอนเด็กๆสนิทกันขนาดนี้ ทำไมวันนี้ถึงได้หมางเมินกัน


บางทีกรอบรูปที่วางข้างกัน ซึ่งบรรจุภาพคุณฟ้ายิ้มสดใสอยู่ในกรอบคงเป็นคำตอบชั้นดี ที่คุณแพทพูดว่าเพื่อนสองคนนี้มีรสนิยมเหมือนกัน คงเพราะเคยชอบคุณฟ้าทั้งคู่แน่


ผมวางกรอบรูปคุณฟ้าลงที่เดิมอย่างปลงๆ ไม่ว่าจะไปไหนก็รู้สึกเหมือนอยู่ในเงาของคุณฟ้า อยากจะไปที่ที่ไม่ต้องอยู่ใต้เงาของใครสักที


ผมถอดชุดนักศึกษาแขวนไว้ที่ราวตากผ้าเช็ดตัว ระหว่างที่กำลังปลดกระดุมก็อดรู้สึกแปลกไม่ได้ นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่ในบ้านคนที่ผมไม่รู้จักกันนะ โชคชะตาจะนำพาชีวิตผมไปทางไหนกันแน่ ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วได้ไหมที่…คุณท่านจะยัดเยียดผมให้คนอื่น


ผมปล่อยให้สายน้ำเย็นเยียบไหลผ่านตัวตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า ผมยืนหลับตานิ่งอยู่แบบนั้นจนรู้สึกถึงแรงโอบกอดจากทางด้านหลัง


“คุณ!”ผมหันไปโวยวายใส่คุณไทม์ที่เข้ามากอดไม่ให้สุ่มให้เสียง


“ขี้ตกใจเป็นกระต่ายไปได้”


“ผมไม่ใช่กระต่าย”


“แล้วเป็นอะไร”


“เป็นคน”เป็นคนที่มีเลือดเนื้อ มีหัวใจด้วย


“อาบน้ำให้ชั้นหน่อยสิ”


“คุณอายุมากกว่าผมจนจะเป็นพ่อผมได้อยู่แล้ว ยังอาบน้ำเองไม่เป็นอีกเหรอครับ”


“สงสัยต้องเรียกชั้นว่า ‘แด๊ดดี้’ แล้วละ อยากจะเป็นพ่อกับเขาอยู่เหมือนกัน พ่อที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ พ่อที่เรียกแล้วไม่ได้นอนทั้งคืน”


“คุณไทม์!”ผมโวยวายออกมาเมื่อมือหนาลูบผ่านเจ้าก้อนเนื้อนิ่มสองลูกบริเวณสะโพก


“ชั้นไม่อยากจะเสียเวลาต่อล้อต่อเถียงกับเธอแล้ว”สิ้นเสียง ร่างทั้งร่างของผมก็ถูกดันแนบกระจก สะโพกของผมถูกบีบเคล้นอย่างมันส์มือ นิ้วเรียวสวยของคุณไทม์แทรกเข้ามาในช่องทางคับแน่น


“อื้อ…เจ็บ”ผมโวยวายออกมา เมื่อนิ้วที่สามยังคงแทรกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ปล่อยช่องว่างให้ได้หายใจ


คุณไทม์จับผมพลิกตัวกลับมาหา โอบกอดร่างของผมให้แนบไปกับเนื้อตัวเปล่าเปลือยของเขา
 ริมฝีปากหนาจูบผมเหมือนจะสูบวิญญาณ ไม่เว้นช่องว่างให้ได้หายใจ
รสจูบของคุณไทม์ต่างจากคุณท่าน จูบของคุณไทม์มีแต่การเรียกร้อง ดูดดึง เคล้าเคลีย เร่าร้อน หายใจไม่ทันจนน้ำใสไหลเยิ้มที่มุมปาก ต่างจากคุณท่านที่ดุเดือด รุนแรง เอาแต่ใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารสจูบจากคนทั้งคู่ทำให้ผมรู้สึกหวิวๆในท้องน้อย เหมือนมีหมู่มวลภุมรินทร์บินวน


“อือ…”ผมครางประท้วงเมื่อเริ่มหายใจไม่ทัน คุณไทม์โอบอุ้มตัวผมขึ้นจากพื้น สองขาของผมเกี่ยวที่เอวสอบแน่น ริมฝีปากผมไม่ถูกปล่อยออกจากการดูดดึงแม้สักวินาทีเดียว


ผมมัวเมาไปกับรสจูบที่คุณไทม์ปรนเปรอให้ จนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถูกพามานั่งหน้ากระจกตั้งแต่เมื่อไหร่


คุณไทม์ซุกไซร้ซอกคอผม ขบเม้มจนขึ้นรอยแดง ก่อนจะจับผมหันหน้าเข้าหากระจก ขาสองข้างถูกจับกางออกเกือบ 180 องศา เผยให้เห็นท่อนเนื้อน่าอายที่กำลังแข็งตัวและช่องทางรักอันอ่อนนุ่มที่กำลังขมิบตัวรอรับลำลึงค์ด้วยแรงปรารถนา


“ท่อนไม้ที่ไหนจะอ่อนระทวยในอ้อมกอดชั้นแบบนี้”ผมปรือตามองภาพตัวเองในกระจกแล้วอดหน้าขึ้นสีไม่ได้ ยอดอกผมถูกคุณไทม์บีบเค้นจนเป็นตุ่มไตสีแดงจัด ข้างลำคอถูกฝากรอยรักไว้นับไม่ถ้วน ยังไม่นับแก่นกายกลางลำตัวที่แข็งโด่จากการโดนเล้าโลมแม้ไม่ได้สัมผัส


“ครางชื่อชั้น”


ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ไม่มีทางเสียละที่ผมจะเปล่งเสียงน่าอายนั่นออกมา แต่สุดท้ายผมก็พ่ายแพ้ให้กับเรียวลิ้นร้อนที่ดูดดึงยอดอกผมจนเป็นสีแดง “คุณ…ไทม์”


“เด็กดี”คุณไทม์ผละออกจากเม็ดทับทิมคู่สวย มามอบจุมพิตให้ผมก่อนจะกลับไปเล่นกับมันอีกครั้ง ผมก้มมองภาพคุณไทม์ที่กำลังดูดดึงเม็ดทับทิมจนแทบหลุดติดไปกับเรียวลิ้นร้อนอย่างต้องการ ยิ่งถูกกระตุ้นยิ่งต้องการ


ต้องการมากกว่านี้…เท่าไหร่ก็ไม่พอ


คุณไทม์ไล่จูบลงไปเรื่อยๆจนถึงแอ่งสะดือสวย ผมเกร็งหน้าท้องด้วยความเสียว มือนุ่มของคุณไทม์จับเจ้าน้องชายผม เค้นคลึงที่ส่วนหัวจนลำตัวผมบิดเร่า


ผมเผยอปากครางสุดเสียง ยอมแล้ว…ยอมในมืออุ่นๆคู่นี้แล้ว


ผมหลับตาไม่กล้ามองภาพตัวเองในกระจก แค่ได้ยินเสียงครางของตัวเองก็อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี…ไม่คิดว่าจะตัวอ่อนตัวนวลให้เขาเค้นคลึงได้ทั้งร่างขนาดนี้ ทั้งๆที่ตอนแรกทำปากกล้าว่าจะเป็นท่อนไม้ให้เขา ‘เล่น’ แท้ๆ ชั้นเชิงมันผิดกันจริงๆ คนไม่ประสาเรื่องเซ็กส์แบบผมจะสู้เขาได้ไง


“รู้สึกดีไหม หื้ม?”ผมเม้มปากแน่น ไม่อยากจะยอมรับว่ารู้สึกดี ตอนแรกผมคิดว่าผมคงเกลียดเซ็กส์ไปแล้วจากการโดนข่มขืนวันนั้น แต่พอโดนเล้าโลม โดนเอาอกเอาใจ มันก็ทำให้ผมใจบาง บางทีเซ็กส์มันอาจไม่ได้มาพร้อมกับความรุนแรงเสมอไป


“กัดปากทำไมละ หื้มมม? เด็กดี”ขณะที่มือข้างขวาของคุณไทม์กำลังปรนเปรอให้ผมจนเกือบสุขสม มืออีกข้างก็ไล้ริมฝีปากผมเบาๆ ส่งนิ้วเข้ามาทักทาย ผมดูดเม้มเล่นแก้เสียว


อือออ…ทรมานเหลือทน ความเสียวจากการไม่ได้ปลดปล่อยมันเป็นแบบนี้นี่เอง
ถึงแม้ว่าจะมีนิ้วให้ดูดเล่นในปากก็ยังไม่สามารถเบี่ยงเบนความรู้สึกจากความเสียวได้


มากกว่านี้…
ต้องการมากกว่านี้…
แค่นิ้วดูดเล่นแก้เสียวมันไม่พอ...


“อ๊า…”ผมครางออกมา แอ่นกายพิงอกคุณไทม์เมื่อปลายนิ้วร้อนที่เปียกชุ่มด้วยน้ำลายกำลังหมุนคว้านอยู่ในช่องทางคับแคบ


เสียวเหลือทน การโดนกระตุ้นทั้งสองทางทำให้ผมปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นข้นออกมาในมือคุณไทม์ในที่สุด ริมฝีปากหนาประกบจูบลงมาอย่างดูดดื่ม ผมโอบรอบคอคุณไทม์แนบแน่น แลกจูบกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ยอดอกแดงก่ำเสียดสีกับแผงอกแน่นของคุณไทม์จนร้อนรุ่มไปทั่วร่าง


“ใส่เข้ามาสักที”ผมขอร้องออกมาอย่างอดรนทนไม่ไหว


คุณไทม์ยิ้มอย่างพึงใจ สอดปลายนิ้วเข้ามาพร้อมกับน้ำรักของผมถูกใช้แทนสารหล่อลื่น  ผมร้องปริ่มจะขาดใจเมื่อถูกกระตุ้นที่ช่องทางด้านหลังจนแก่นกายกลางลำตัวกลับมาแข็งตัวอีกรอบ มันผงกหัวอย่างน่าเกลียดต้องการจะปลดปล่อยทั้งๆที่พึ่งปล่อยไป


“เรียกชั้นว่า แด๊ดดี้ ก่อนสิ”ผมมองคุณไทม์น้ำตาคลอ คนๆนี้เป็นคนชอบเอาชนะอย่างเหลือจะรับ อะไรที่เขาต้องการ เขาก็ต้องเอาให้ได้


“ว่าไง หื้ม?”คุณไทม์ยิ้มมุมปากมองผมที่บิดกายเร่าทรมานจากการโดนกระตุ้นอย่างหนักหน่วง


“อ๊ะ…อื้อ…”ผมหอบหายใจหนัก เมื่อคุณไทม์งอนิ้วกดย้ำๆที่จุดเสียว พึ่งรู้จักกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่กลับคุ้นเคยกับร่างกายผมมากกว่าตัวผมเองซะอีก รู้ว่าจุดไหนควรเล่นด้วย รู้ว่าจุดไหนควรทำให้เสียว


“อ๊า…”ผมกัดปากตัวเองแน่น ไม่ยอมแพ้หรอก ไม่ยอมเรียกว่าแด๊ดดี้ง่ายๆหรอก


“อื้อ…”ผมร้องประท้วงเมื่อนิ้วเรียวถูกถอดถอนจากช่องทางรัก ผนังช่องทางรักบีบตัวถี่ไม่ยอมปล่อยให้เรียวนิ้วร้อนที่สร้างความสุขสมหลุดออกไปง่ายๆ


“ชั้นไปอาบน้ำดีกว่า”ผมรีบคว้าตัวคุณไทม์ไว้ เกี่ยวขากับเอวสอบ ยกสะโพกตัวเองขึ้นแล้วกดลงบนแก่นกายที่แข็งตัวรออยู่แล้ว


“ฮรื่อ…อึก…”ผมกลั้นสะอื้นเมื่อแท่งร้อนแทรกเข้ามาในร่าง…คับแน่นจนแทบหายใจไม่ออก


“รีบจริงเด็กน้อย ชั้นไม่สดกับใครหรอกนะ”สะโพกออกของผมถูกดันออก



คุณไทม์เอื้อมมือไปหยิบถุงยางในตู้มาสวมลงที่แท่งร้อน ผมรู้สึกอายตัวเองยังไงไม่รู้ที่หน้ามือตามัวจนเกือบจะสดกันอยู่แล้ว


“อื้อ…แน่นจริง”ผมถูกจัดอยู่ในท่าลิงอุ้มแตง แรกๆก็มันส์ดีแต่พอสักพักก็เริ่มเจ็บซี่โครง จนต้องขอให้คุณไทม์พาไปที่เตียง


อย่าถามผมเลยว่าเสร็จไปกี่รอบ เสียหายไปกี่น้ำ เสียงแหบแห้งนี่คงเป็นคนคำตอบได้ดี
ผมนี่ไม่เคยชนะใครเลย ทั้งคุณท่าน ทั้งคุณไทม์
อายตัวเองจริงๆที่ยอมร้องครางใต้ร่างคุณไทม์ เรียกหาแด๊ดดี้ตลอดทั้งคืน

.
.
.

แสงแดดอ่อนกับสายลมเย็นๆที่พัดผ่านเข้ามาในห้องทำให้ผมไม่รู้สึกอยากตื่น ผมขยับตัว บิดไล่ความเมื่อยขบที่กัดกินร่างกาย ความเจ็บแปลบปวดระบมจากช่องทางด้านหลังแล่นขึ้นมาจากไขสันหลัง ผมขมวดคิ้วแน่นกับความเจ็บปวดที่ได้รับ


เมื่อคืนคุณไทม์ก็ถนอมผมดี…อย่างน้อยก็ดีกว่าคุณท่าน แต่ไม่รู้ทำไมถึงเจ็บขนาดนี้


ผมลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วก็ต้องหรี่ตาลงเมื่อพบเจอกับแสงอาทิตย์จากหน้าต่างที่สาดส่องเข้ามา เมืองไทยช่วงนี้เป็นอะไร นี่ขนาดตอนเช้าพระอาทิตย์เพิ่งโผล่พ้นจากเส้นขอบฟ้า แต่ทำไมแสงแรงแสบตาขนาดนี้


ผมจับแขนคุณไทม์ที่วางพาดเอวของผมออกอย่างเบามือ ค่อยๆสไลด์ตัวออกจากอ้อมกอดอุ่น แต่ก็ต้องชะงักกับความเจ็บปวดที่แล่นริ้ว


“ยังเช้าอยู่เลย พริ้มจะรีบตื่นไปไหน”คุณไทม์กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นจนผมจมเข้าไปในอก ไม่อยากจะพูดเลยว่าผมไม่ใช่สายรับตัวเล็กที่จะดูน่ารักให้กอดแนบอกหรอกนะ ไม่ต้องเอาคางมาเกยบนหัวด้วย


“ผมจะไปเรียนครับ”


“ไปตอนนี้?”คุณไทม์เลิกคิ้วถามผมอย่างแปลกใจ


“ครับ”


“ไม่ต้องไปหรอก ไปถึงก็บ่ายพอดี”


“แล้วคุณจะให้ผมอยู่ทำอะไรละครับ ร่างกายก็ได้ไปแล้ว จะกักขังผมไว้อีกทำไม”ผมขมวดคิ้ว หน้าตาเริ่มเหวี่ยง ส่วนคุณไทม์ยิ้มขำ “มีอะไรน่าตลกตรงไหนไม่ทราบครับ”ผมถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ คำพูดผมมันน่าหัวเราะเยาะมากนักรึไง


“ชั้นชอบเธอ”ผมอ้าปากค้างกับคำตอบที่ได้รับ คำว่า ‘ชอบ’ นี่มันพูดออกมาพล่อยๆได้ง่ายดายขนาดนี้เลยเหรอ


“อยากจะได้อีกสักน้ำสองน้ำก็บอกกันตรงๆสิครับ ไม่ต้องโอ้โลม ปฏิโลม ยกเมฆมาพูดหรอกครับ”


คุณไทม์ขยี้เส้นผมของผมเบาๆ ฝ่ามือนุ่มไล้บนแก้มผมอย่างอ่อนโยน “ชั้นชอบเธอจริงๆ ชอบเซ็กส์ ชอบคำพูด ชอบความคิด”


“ผมขี้เกียจจะฟังลมปากพล่อยๆของผู้ชายที่พูดคำว่า ‘ชอบ’ ออกมาได้เพียงแค่ ‘นอน’ ด้วยกันคืนเดียว” ผมไม่อยากจะเชื่อคำพูดของใครอีกแล้ว “ถ้าคุณไม่ทำ ผมไปอาบน้ำแล้วนะครับ” ผมเลิกผ้าห่มขึ้น เดินลงจากเตียงเป็นชีเปลือยไปห้องน้ำ


นั่งแช่น้ำในอ่างน้ำได้ไม่นาน คุณไทม์ก็ตามลงมาแช่ด้วย


“พริ้มมานั่งนี่สิ”คุณไทม์เรียกให้ผมไปนั่งที่หว่างขา ผมว่ามันไม่น่าจะเป็นตำแหน่งที่ดีเท่าไหร่ ผมหรี่ตามองประเมินว่าคุณไทม์ต้องการอะไร


ใบหน้าหล่อเหลา ขี้เล่น ทะเล้นต่างจากเมื่อวานปรากฎรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ไม่ทำอะไรหรอกหน่า เมื่อคืนแด๊ดดี้เจอพริ้มรีดพิษออกไปตั้งไม่รู้กี่รอบ ไม่เหลือน้ำให้ใช้แล้วเนี่ย”


“คุณนี่พูดเรื่องบนเตียงได้หน้าตาเฉย”


“ก็มันเรื่องธรรมชาติ มานั่งนี่เร็ว”


“เป็นคำสั่งรึเปล่าครับ”


“ถ้าบอกว่าเป็นคำขอร้องละ”ผมยอมเขยิบตัวเองไปนั่งตรงนั้นในที่สุด คุณไทม์นิสัยต่างจากคุณท่าน คนนั้นสั่งตรงไปตรงมา อยากได้อะไรต้องได้ เดี๋ยวนี้ แต่คุณไทม์เป็นพวกเจ้าเล่ห์ ท่าทางเจ้าสำราญ คารมแยบยลคมคาย ถนัดนักงานใช้วาจาหลอกล่อให้คนอื่นทำตามที่ตัวเองต้องการ


ทั้งๆที่ผมรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขาพูดไปทำไม แต่ผมก็ทำตามอยู่ดี “เลิกเรียกตัวเองว่าแด๊ดดี้เถอะครับ คุณไม่รู้สึกเหมือนเป็นไอ้แก่ตัณหากลับ มีอะไรกับคนคราวลูกรึไง”


“มีแต่เธอคนเดียวนี่แหละที่ว่าชั้นแก่”


“ก็คุณแก่…กว่าผม”


“งั้นเรียกพี่แทนก็ได้...เรียกพี่ธิวาสิ”


“ไม่เอาครับ เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”


“ได้เสียเป็นผัวเมียกันจนถุงยางหมดกล่องนี่ยังไม่สนิทกันอีกเหรอ”คนตัวสูงว่าผมเสียงทะเล้น หัวเราะเสียงดังลั่น


“คุณ!”ผมผละตัวออกจากอ้อมอกอุ่น หน้าตาเริ่มบอกบุญไม่รับ
ไม่ชอบจริงๆพวกกินในที่ลับ ไขในที่แจ้ง


“โอเคๆ พริ้มไม่ชอบ พี่ไม่พูดแล้วก็ได้”


“เรีกกพี่สิครับ”คุณไทม์ขยับเข้ามาใกล้ผม จนจมูกเราแตะกัน ผมจ้องมองดวงตาสีดำสนิทของคุณไทม์ คนๆนี้น่ากลัวกว่าคุณท่านอีก ไม่รู้ว่าเป็นพวก ‘ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ’ รึเปล่า เป็นคนตรงๆแบบคุณท่านยังดีกว่า


“ดื้อจริงๆนะเรา”คุณไทม์บิดจมูกผมอย่างหมั่นเขี้ยว


“คุณไทม์ ผมเจ็บ”ผมลูบจมูกตัวเองที่โดนบิดอย่างเคืองๆ นี่ถ้าทำมาซิลิโคนคงหักแล้ว ต้องเสียเงินค่าแก้อีก


“ก็เรามันน่าแกล้ง”


“ผมไม่ได้ตัวเล็ก ตะมุตะมิ น่ารัก น่าแกล้งขนาดนั้นซะหน่อย”คุณไทม์ลูบหัวผมพร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างเอ็นดู


“หันหลังให้พี่หน่อยสิ พี่จะดูแผลให้” ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่เอาครับ”


“พริ้มอย่าดื้อ”คุณไทม์ทำเสียงเข้มดุผม แววตาไม่มีความล้อเล่นหลงเหลืออยู่เลย “ไม่ครับ” ผมยังยืนยันคำเดิม


“ได้”คุณไทม์ยิ้มหวานแล้วดึงผมไปนั่งบนตัก ประกบริมฝีปากลงมา ตอนแรกผมก็ดิ้นแต่สักพักก็พ่ายแพ้กับรสจูบของเขา “อื้อ…” ผมเผยอปากครางเมื่อปลายนิ้วเรียวสอดเข้ามาในช่องทางรักตอนผมเผลอ “ผมเจ็บ”


“มันอักเสบ เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จ พี่ไปซื้อยามาทาให้ อาจจะต้องทานยาแก้อักเสบด้วย”


“ครับ”ผมพยักหน้ารับซุกหน้าลงบนไหล่หนา อายจะตายอยู่แล้ว…


“พี่ตรวจให้แล้ว ไหนเรียกพี่ให้ชื่นใจหน่อยสิครับ คนเก่ง”


“ผมไม่ใช่เด็กสองขวบไม่ต้องมาหลอกกันเลย ตรวจอะไรของคุณ ใบประกอบโรคศิลป์ก็ไม่มี”


“ว่าพี่เป็นหมอเถื่อนเหรอ”


“ใช่”


“เดี๋ยวจะกลับไปปริ้นท์ใบประกอบมาแปะไว้ที่หน้าเราเลย”


“คุณเป็นหมอจริงๆเหรอครับ”ผมมองคุณไทม์อย่างไม่เชื่อสายตา คนแบบนี้เป็นหมอจริงๆเหรอ…ปกติหมอในอุดมคติผมจะต้องเป็นคนที่ดูสุขุม นุ่มลึก ไม่ใช่ทะเล้น เซ็กส์จัดแบบนี้


“จริงสิครับ พี่จะหลอกเราไปทำไม เอาเลขว.ไปเสิร์ชเลยดีไหม”


“งรื้อ…ไม่ต้อง ขอบคุณครับที่ช่วยดูให้”ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ยกมือไหว้ขอบคุณ


“พริ้ม”ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าเรียกชื่อผมทำไม “รู้ไหมว่าเราเป็นเด็กน่ารัก ไม่ใช่น่ารักที่รูปร่างหน้าตา แต่เป็นที่นิสัย”


“ชมกันขนาดนี้ อยากได้อีกสักกี่น้ำละครับ”ผมโดนดีดหน้าผากหลังพูดจบ “เรานี่มันนักล่มเรือจริงๆ”คุณไทม์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ผมรีบผละลงจากตักแล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

.
.
.

ผมนั่งรอคุณไทม์อยู่ด้านล่าง ไลน์ไปบอกในกลุ่มว่าวันนี้ไม่เข้า ฝากน้องเก็บชีทให้ ระหว่างรอก็รู้สึกหายใจติดขัด ยิ่งหอบขึ้นเรื่อยๆ


“พริ้มไปทานข้าวกัน”คุณไทม์แกว่งกุญแจรถในมือเล่นระหว่างเดินลงมา 


“คิดอะไรครับ คิ้วขมวดเชียว”คุณไทม์จิ้มลงระหว่างกลางหว่างคิ้วของผม ผมกุมอกตัวเองแน่น


“ไม่…อึก…มี”ผมตอบแล้วลุกขึ้น แต่กลับทรุดกลับลงไปนั่งใหม่ “พริ้มเป็นอะไร”คุณไทม์ถามผมอย่างตกใจ


“ผมเจ็บ”ผมตอบแล้วชี้ไปที่ชายโครงด้านที่เคยหัก


“เจ็บยังไงครับ เจ็บตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ็บมานานแค่ไหนแล้ว”ผมฟังคำถามที่รัวจากปากคุณไทม์อย่างเบลอๆ ตอนนี้มันเจ็บจนคิดอะไรไม่ออก


“พริ้มครับ…ตอบพี่”คุณไทม์ลูบหน้าผมที่เริ่มมีเหงื่อซึมออกมา


“ผม…มะ...ไม่...ไหว”ผมปรือตามองคุณไทม์ ภาพตรงหน้าเริ่มพร่าเบลอ ได้ยินเสียงเรียกแต่ไม่มีแรงจะขานรับ

.
.
.

ผมตื่นขึ้นมาอีกทีด้วยความมึนงง กวาดสายตาไปรอบห้องก็เดาได้ไม่ยากว่าอยู่ที่โรงพยาบาลอีกแล้ว ตั้งแต่มาอยู่กับคุณท่านนี่ผมเข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น จะอยู่โรงพยาบาลมากกว่าอยู่คอนโดคุณท่านแล้ว


“ขอ…น้ำ”ผมหันไปขอน้ำกับคุณชัยที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยเสียงแหบแห้ง


“น้ำครับคุณพริ้ม”ผมรีบรับน้ำมาดูดด้วยความกระหาย แต่ยังไม่ทันที่หลอดจะเข้าปาก เสียงดุๆจากคุณไทม์ก็ดังขึ้น “พี่ให้แค่จิบนะครับพริ้ม ไม่ให้ดูดหมดแก้ว”ผมขมวดคิ้วงงๆ แต่ก็ทำตาม


“ทำไมไม่บอกพี่ว่าซี่โครงหัก พี่จะได้ไม่ทำ”ผมเลิกคิ้วกับคำถามแสนประหลาด “ผมบอกคุณแล้วว่าผมไม่อยาก”


“แต่พริ้มไม่ได้บอกพี่ว่าซี่โครงหัก”


“ผมจะไปรู้ได้ยังไงละครับว่าคุณเป็นหมอ ถึงผมบอกไป คุณก็ทำอยู่ดี เดี๋ยวก็มานั่งบ่นอีกว่าไม่คุ้มกับเงินแสนที่เพื่อนคุณเสียไป”


“ปากดีเกินไปแล้วนะพริ้ม”คุณไทม์ขมวดคิ้วดุผมด้วยสีหน้าจริงจัง เวลาดุน่ากลัวกันทั้งคู่เลย


“ขอโทษครับ”ผมขอโทษเสียงอ่อย


“เด็กนายนี่มันดื้อจริงๆ”คุณไทม์หันไปบ่นกับคุณท่านที่เดินเข้ามาจากระเบียง ควันบุหรี่กลิ่นมิ้นท์ลอยตามเข้ามาด้วย ผมได้กลิ่นแล้วก็อดไอไม่ได้ มันคันคอยังไงชอบกล


“ไอเบาๆครับ เดี๋ยวซี่โครงทิ่มปอดอีก คราวนี้รอดูอาการไม่ได้แล้วนะพริ้ม ต้องผ่าตัด”คุณไทม์ดุผม


“ต้องนอนโรงพยาบาลรึเปล่า”คุณท่านถามคุณไทม์


“ชั้นอยากให้นอนดูอาการสามวัน”คุณไทม์ตอบคุณท่าน ผมรีบพูดแทรกหลังจากได้ยิน “ไม่เอานะครับ อีกสองอาทิตย์ผมจะสอบมิดเทอมแล้ว”


“พริ้ม ไม่พูดแทรกผู้ใหญ่ครับ”คุณไทม์หันมาดุผม ผมเม้มปากแน่น เหอะ!!!


“นายว่าไง ชั้นก็ว่าตามนั้น เด็กนี่ไฮเปอร์อยู่นิ่งไม่เป็น คราวที่แล้วนอนโรงพยาบาลสองอาทิตย์ก็ให้ชัยขนตุ๊กตาหมีมาเย็บจนล้นห้อง”


“ยิ่งเป็นแบบนั้น ชั้นยิ่งอยากให้แอดมิทเลย”


“ตามนั้น”คุณท่านตอบคุณไทม์ ผมนั่งมองคนสองคนคุยกันตาละห้อย ตัดสินใจกันโดยไม่ถามผมสักคำ ให้ผมหยุดแบบนี้แล้วผมจะมีสิทธิสอบได้ยังไงถ้าเข้าเรียนไม่ครบ 80%


“ชัยจัดการเรื่องลาให้เรียบร้อยด้วยนะ”


“ชั้นไปแล้วนะ อย่าดื้อ อย่าซนให้มันมากนักนะพริ้ม”คุณท่านหันมาดุผมก่อนจะออกไป


หลังจากคุณท่านออกไป ผมก็ยิ้มหวานให้คุณไทม์ ถ้าเปลี่ยนใจคุณไทม์ได้ก็เปลี่ยนใจคุณท่านได้เหมือนกัน


“พี่ธิวาครับ ให้พริ้มไปเรียนเถอะนะครับ ถ้าพริ้มเรียนตามเพื่อนไม่ทัน พริ้มจะสอบตกนะครับ”ผมใช้เสียงสองออดอ้อน ได้ยินเสียงตัวเองแล้วก็อดขนลุกไม่ได้ ทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย


“ไม่ต้องมาอ้อนครับ พี่ไม่ใจอ่อนหรอก”


“พี่ธิวา...นะๆ ให้เรียกว่าแด๊ดดี้ก็ได้”


“งั้นก็ได้ แต่เราต้องมาให้พี่ดูอาการทุกวันนะ โอเคไหม”


“ได้ครับ แด๊ดดี้ โทรบอกคุณท่านด้วยสิครับ”ผมยิ้มหวานเป็นพิเศษ


พี่ธิวาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคุณท่าน เปิดลำโพงให้ผมได้ยินด้วย “กาล ชั้นเปลี่ยนใจละ ชั้นให้พริ้มไปเรียนได้แต่ต้องมาดูอาการทุกวัน”


“ตามใจนาย”คุณท่านตอบเพียงเท่านั้นก่อนจะตัดสายไป


“พอใจแล้วละสิ ไหนเรียกว่าแด๊ดดี้สิ”ผมยิ้มหวาน นอนหันหลังให้พี่ธิวา หึ! เรื่องอะไรจะเรียก


“ถ้าไม่เรียกพี่โทรหากาลใหม่นะ”


“โงร้ยยย เรียกก็ได้ แด๊ดดี้ๆๆๆๆ พะ…”ผมแกล้งเรียกว่าแด๊ดดี้ติดต่อกันหลายครั้งให้พี่ธิวารำคาญ แต่แทนที่คนตัวสูงจะรำคาญกลับยิ้มอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินมาหา ก่อนจะประกบปากลงมา ผมตาเหลือกรีบผลักพี่ธิวาออก คุณชัยยังนั่งอยู่ตรงนี้ มาทำอะไรประเจิดประเจ้อแบบนี้ได้ไง


“พี่ธิวา”ผมเรียกชื่อเขาอย่างขัดใจ


“จุ๊บ เย็นนี้เจอกันครับ”คนตัวสูงไม่ได้ใส่ใจผม ก้มลงมาจุ๊บเบาๆที่มุมปาก ก่อนจะออกไปทำงานต่อ

 



#พริ้มกับdaddy

สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ

เล่นน้ำเผื่อด้วยนะคะ :)
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-04-2018 17:03:35
Daddy คือคนที่ 3ใช่ไหม
ปล. เราชอบ daddy นะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 14-04-2018 17:52:19
ชอบพี่ธิวาจังงงงง น่าร้ากกกก
จะเอาแบบพี่ธิวา งื้ออออ
เป็นตอนแรกของเรื่องนี้เลยมั้งที่รู้สึกฮีลลิ่ง
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 14-04-2018 18:04:17
กรี๊ด ฮอตเวอร์ :jul1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 14-04-2018 18:26:08
พริ้มเนี่ยดื้อจริงๆ
แอบอึ้งนิดๆ ไม่คิดว่าไทม์จะทำหรือคุณท่านจะยอมจริงๆ
จะมีคนอื่นๆตามมาอีกไหมเนี่ย
เป็นเรื่องที่เดาอะไรไม่ได้เลยเพราะความไบโพล่าของตัวละคร
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 14-04-2018 18:39:45
 :mew3: :mew3:


คือมันดีอะตอนนี้  แต่ทำไมยังรู้สึกว่าวางใจไม่ได้
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: W2P5 ที่ 14-04-2018 18:49:46
ชอบคนนี้555555 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-04-2018 18:58:22
คนที่ใจดีๆ น่ากลัวสุดๆ ก็ตอนโกรธนี่แหล่ะ  :mew5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: ous_p ที่ 14-04-2018 18:59:15
พี่ธิวาหวังว่าจะดีกับน้องนะคะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 14-04-2018 20:01:10
ส่วนตัวเราคิดว่าพฤติกรรมของพริ้มน่าเบื่อและน่ารำคาญ คุณท่านจะเบื่อก็ไม่แปลก
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 14-04-2018 20:29:41
งั้นที่คุณท่านยังไม่ทำกับพริ้ม อาจจะกลัวซี่โครงพริ้มหัก เพราะพริ้มยังป่วยและกินยาอยู่    เนาะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: zaneforest ที่ 14-04-2018 23:20:50
เราจะไม่ไว้ใจใครในเรื่องทั้งนั้น !!!
555555 #เค้าอิน
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 15-04-2018 00:38:58
เรื่องนี้ไม่สามารถไว้ใจใครได้จริงๆ ฮือออ
แต่ตอนนี้เทใจให้แด๊ดดี้แล้ววว
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 15-04-2018 01:28:14
เราจะไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-04-2018 02:40:56
อ่านรวดเดียวจบ บอกเลยพี่ไทม์มาตอนหลังแต่ได้ใจไปเต็มๆ น่ารัก เค้าแพ้หมอแบบเน้~ :ling1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 15-04-2018 07:06:43
พี่หมอน่ารัก
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: lalun ที่ 15-04-2018 08:47:38
เขินแด๊ดดี้ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 15-04-2018 11:53:17
คุณไทม์น่ารักดีนะ น่ารักกว่าคุณท่านมากเลย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-04-2018 16:15:13
อ่านไปตาเหลือกไป
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 23-04-2018 23:13:09
หายไปนานจัง
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 15 P.8 14.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 24-04-2018 19:53:07
ตามจร้าาา
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 29-04-2018 22:47:50

ตอนที่ 16


การกลับมาใช้ชีวิตในโรงพยาบาลอีกครั้งเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับผม สองสัปดาห์ที่แล้วก็ได้แต่ กิน นอน เย็บตุ๊กตา วนเป็นวงจรชีวิตที่ซ้ำซากจำเจ แต่ครั้งนี้ผมจะไม่ยอมปล่อยเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์แบบนั้นอีกแล้ว


“พริ้ม ทานข้าวครับ”พี่ธิวาตะโกนเรียกผมด้วยเสียงเหนื่อยหน่ายใจที่เรียกผมเท่าไหร่ ผมก็ยังไม่ยอมละสายตาจากการฝึกทำข้อสอบเก่าที่เพื่อนส่งต่อกันในกรุ๊ปไลน์


“แปปนึงครับ”ผมตะโกนตอบพี่ธิวา ขณะที่มือก็กดเครื่องคิดเลขในมือถือไปด้วย แคลคูลัสข้อนี้ยากจนผมทำมาสิบนาทีก็ยังแก้ไม่เสร็จ พอจะได้คำตอบก็โดนเร่งให้ทานข้าว ความรู้ผมหลุดลอยไปกับอากาศทุกครั้งที่พี่ธิวาตะโกนเร่ง


“แปปมา 3 รอบแล้วนะครับพริ้ม”พี่ธิวายืนกอดอกพิงกรอบประตู หน้าตาเริ่มดุ
ผมประเมินสถานการณ์ตรงหน้าว่าผมควรดื้อดึงต่อไปหรือยอมทำตามพี่ธิวาดี แต่สุดท้ายผมก็เลือกอย่างหลัง “ทานก็ได้ครับ”


“เรานี่มันขยันเรียนเกินเบอร์จริงๆ นอนป่วยก็ยังอ่านหนังสือ”พี่ธิวาบ่นผมแต่ก็เข้ามาช่วยพยุงพาเดินไปห้องทานข้าวที่เชื่อมติดกัน


“ไม่ขยันไม่ได้หรอกครับ ถ้าเกรดน้อยกว่า 3.5 คุณท่านจะไม่ให้ทุนผม”


“กลัวอะไร การเงินมีปัญหา ใส่ชุดนักศึกษามาหาพี่สิครับ”พี่รีบส่ายหน้าปฏิเสธพี่ธิวา “ไม่เอาครับ ผมไม่อยากเป็นเด็กโง่ ไม่เอาไหนในสายตาคุณท่าน”


“เรานี่หายใจเข้าก็คุณท่าน หายใจออกก็คุณท่าน”


ผมฟังคำพูดพี่ธิวาแล้วก็สะท้อนใจ นั่นสินะ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ผมเอาใจไปผูกไว้กับคนใจร้ายคนนั้นทุกลมหายใจ


“พี่ไม่รู้ว่าพริ้มชอบทานอะไร เลยให้เขาจัดอาหารง่ายๆมา”ผมมองแกงจืดเต้าหู้หมูสับกับปูผัดผงกะหรี่ที่อยู่บนโต๊ะแล้วยิ้มหวาน งรื้อ…น่ากินกว่าคราวที่แล้วที่โดนปล่อยลอยแพให้นอนโรงพยาบาลอีก


“ขอบคุณครับ จริงๆพี่ธิวาไม่ต้องยุ่งยากก็ได้ ผมทานได้ทุกอย่าง”


“พี่บอกสักคำรึยังครับว่าพี่ยุ่งยาก ลำบาก?”พี่ธิวาเลิกคิ้วถามกวนๆ


“นั่นสินะครับ แค่สั่งเอง จะยุ่งยากอะไร”


โป๊ก!


ผมลูบหน้าผากตัวเองที่โดนพี่ธิวาดีดจนขึ้นรอยแดง “พี่ธิวาผมเจ็บ”


“เจ็บก็ดี จะได้สงบปากสงบคำบ้าง เห็นพี่ใจดีด้วยหน่อย เลย…” ผมไม่ปล่อยให้พี่ธิวาบ่นไปมากกว่านั้น จัดการตักกับข้าวใส่จานพี่ธิวาแทนแล้วยิ้มให้ “ทานเยอะๆนะครับ”


“เรานี่มันจริงๆเลยนะพริ้ม”


ระหว่างทานข้าวพี่ธิวาก็ชวยคุยนู่น นั่นนี่ ส่วนใหญ่จะเป็นผมที่ถูกซักฟอกซะมากกว่า ทั้งเรื่องมาอยู่กับคุณท่านได้ยังไง มีปัญหาอะไร อยู่ในฐานะไหน ได้เงินเท่าไหร่ ผมก็ตอบตามความจริงทั้งหมด
เลือกจะเป็นแบบนี้แล้วไม่รู้จะอายอะไร…ก็เลือกเองทั้งนั้น


ในขณะที่ผมกำลังจะอิ่ม คุณท่านก็เดินเข้ามาพร้อมถุงเบเกอร์รี่ร้านโปรดของผมที่คุณชนะชอบซื้อมาฝาก


“อิ่มแล้วสิ งั้นก็ไม่ต้องกิน”คุณท่านปรายตามามองผมที่กำลังรวบช้อน ฝ่ามือหนาโยนถุงขนมลงถังขยะอย่างไม่ใยดี ผมรีบลุกจากเก้าอี้ ลากสายน้ำเกลือพะรุงพะรังเดินตามออกไป


“เดี๋ยวสิครับ”ผมรีบแทรกตัวไปยืนหน้าคุณท่าน กางแขนไม่ให้เดินหนี


“ขนมของผมเหรอครับ”


“เปล่า”คุณท่านปฏิเสธออกมาหน้าตาย แต่ผมไม่เชื่อหรอก…ผมยิ้มหวานออกมาอย่างดีใจ ถ้าไม่ใช่ของผมแล้วจะของใคร


ผมสวมกอดที่เอวของคุณท่าน ซบหน้าลงบนแผงอกอุ่น แค่คุณท่านมาเยี่ยมแล้วซื้อขนมมาให้ ใจเจ้ากรรมก็เต้นระรัวด้วยความอิ่มเอมใจ ลืมหมดแล้วเรื่องร้ายๆที่เคย ‘ขาย’ กัน


ผมผละออกจากอกอุ่น แต่ยังคล้องเอวคุณท่านไว้ เงยหน้าเชยตามองคุณท่านตาใส “ขอบคุณนะครับ”


“ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซื้อให้ซะหน่อย”ผมมองหน้าคุณท่านอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะนึกถึงวันนั้น...วันแรกและวันเดียวที่คุณท่านมาเยี่ยมผมแล้วถามถึงเค้กที่คุณชนะเอามาให้ ถ้าคุณท่านไม่ได้ซื้อแล้วคุณท่านจะรู้ได้ยังไงว่าคุณชนะซื้อเค้กมาให้ผม


ผมยิ้มหวานยืดตัวจุ๊บที่ปลายคางของคุณท่าน “ที่ผ่านมา คุณท่านซื้อให้ผมเองเหรอครับ”ถึงจะคิดเองได้ว่าเป็นคุณท่านที่ซื้อ แต่ก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเองว่าคุณท่านจะใจดีมาเหลียวแลผม คอยซื้อขนมนมเนยฝากมาให้ทุกวัน


ถึงตัวจะไม่มา…แค่ฝากใจมาก็พอ
 

“ถ้าชั้นไม่ซื้อแล้วใครจะ…”ผมไม่อยากฟังแล้วละ แค่นี้ผมก็ได้คำตอบที่ผมต้องการแล้ว ที่ผ่านมาคุณท่านไม่ได้ใจร้ายซะหน่อย ถึงจะแอบดูแลอยู่ห่างๆ แต่คุณท่านก็ไม่ได้ปล่อยมือจากผม


ผมจูบเบาๆลงบนริมฝีปากหนา ขบเม้มริมฝีปากหยุ่นเล่นก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปเลาะลิ้มชิมรสมิ้นต์…คุณท่านคงสูบบุหรี่ก่อนมาหาผม ผมแนบริมฝีปากแน่น ไม่อยากปล่อย


“พอแล้ว จะกอดอะไรนักหนา ชั้นอึดอัด”ผมส่ายหน้ากับอกอุ่น ไม่เอาหรอก ไม่ยอมปล่อยง่ายๆหรอก ใครจะไปรู้ว่าวันไหนผมจะมีโอกาสได้อิงแอบแนบชิดกับคุณท่านแบบนี้อีก


คุณท่านลูบหลังผมเบาๆ “เด็กขี้อ้อน”


“ใครว่า ชั้นว่าเป็นเด็กดื้อมากกว่า”ผมผละออกจากอ้อมอกคุณท่าน หันไปมองพี่ธิวาอย่างเซ็งๆ
มาขัดจังหวะทำไม?


“พอกาลมานี่ชั้นเป็นหมาหัวเน่าเลยนะ”ผมมองบน ชมนกชมไม้ ไม่อยากจะใส่ใจคำพูดของพี่ธิวา


“งรื้อออ…”ผมร้องประท้วงเมื่อพี่ธิวาบิดจมูกผม “พี่ธิวา ผมเจ็บ”


“หมั่นไส้”


ผมเงยหน้ามองคุณท่านจะฟ้องว่าโดนพี่ธิวาแกล้ง “ปวดหัว”คุณท่านบ่นแค่นั้นแล้วพยุงให้ผมเดินไปนั่งบนเตียง
 

ผมมองสถานการณ์อึดอัดตรงหน้า แทบไม่กล้าจะหายใจ ทั้งสองคนไม่มีใครยอมเอ่ยปาก
พี่ธิวาก็เอาแต่กอดอกมองหน้าคุณท่าน ส่วนคุณท่านก็นั่งไขว้ห้างจ้องตากลับ
จนสุดท้ายผมก็ทนความอึดอัดไม่ไหว ยอมพูดออกมาเอง


“พรุ่งนี้ผมขอออกจากโรงพยาบาลตอนเช้าแล้วไปมหาลัยเองนะครับ”


“ไม่ได้ พรุ่งนี้จะให้ชัยมารับ”ผมพยักหน้ารับรู้คำพูดของคุณท่าน


“ไม่ต้อง ชั้นพาไปส่งมหาลัยเอง”พี่ธิวาเถียงกลับ


“เด็กชั้น ชั้นดูแลเองได้”


“หึ!”พี่ธิวาทำเสียงขึ้นจมูก “ถ้าดูแลได้อย่างปากว่า น้องคงไม่อยู่ในสภาพนี้”


“จะสภาพนี้หรือสภาพไหน เด็กนี่ก็เป็นของๆชั้น นายไม่มีสิทธิ์”


พี่ธิวายิ้มร้าย “เผื่อนายจะลืม ผัวทุกคนมีสิทธิ์ในตัวเมียทั้งนั้นแหละ” คุณท่านลุกจากโซฟาเดินไปกระชากคอเสื้อพี่ธิวา


พี่ธิวาปรายตามองคุณท่านที่กำคอเสื้อพี่ธิวาจนยับยู่ยี่แบบไม่รู้สึกรู้สา ทั้งๆที่ผมนั่งนิ่งตัวแข็งอยู่บนเตียง ไม่กล้าแม้แต่จะขยับเขื้อนตัว กลัวจะโดนลูกหลงไปด้วย


“ไม่มี one night stand ที่ไหนเขามีสิทธิ์ในตัวกันและกันหรอก”คุณท่านยอมปล่อยมือออกจากคอเสื้อพี่ธิวา แต่ก็ยังเอ่ยวาจาถากถาง


พี่ธิวาหยิบมือถือขึ้นมาควงเล่น “มาพนันกันไหมละ ว่าถ้าฟ้ารู้...ใครกันแน่ที่จะมีสิทธิ์ในตัวเด็กคนนี้”


“ไอ้เหี้ยไทม์ มึงมันถนัดแต่เล่นสกปรก”


“ถ้ากูสกปรก มึงก็คงสกปรกไม่ต่างกัน ต่อหน้าฟ้าทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดี ไม่ล่วงเกิน แต่ลับหลังเลี้ยงเด็กไว้บำเรอตั้งกี่คน ที่มั่วไม่เลือกอีกตั้งเท่าไหร่”


“ที่พูดมามันก็นิสัยมึงด้วยนี่ ถ้าไม่ทำตัวเหี้ยๆ ฟ้าจะเขี่ยมึงทิ้งแล้วมาหากูไหม”


“มึงมันเพื่อนเหี้ย เมียเพื่อนสนิทก็ไม่เว้น”


“มึงไม่ใช่เพื่อนสนิทกูไอ้ไทม์”


ผมล้มตัวลงนอน ดึงผ้าห่มมาคลุมโปง ไม่อยากจะฟังคนสองคนนี้เถียงกันอีกแล้ว สุดท้ายเรื่องที่เขาเถียงกันก็ไม่พ้นเรื่องของคนๆเดิมที่ครอบครองจิตใจของเขาทั้งคู่


ผมไม่อยากอยู่ในเงาของใคร ไม่อยากอยู่ในฐานะสัตว์เลี้ยงบำบัดความใคร่แทน ‘คุณฟ้า’ ในสายตาคุณท่าน ไม่อยากอยู่ในฐานะเด็กโง่เง่า น่าสงสารในสายตาพี่ธิวา


ไม่อยากเป็นแค่สิ่งของที่เขาสองคนเอาไว้ใช้เอาชนะ คะคานกันว่าใครเหนือกว่า ถึงจะมีสิทธิ์ในตัวผม


ผมนอนนิ่งปล่อยน้ำตาให้ไหลริน เสียงทะเลาะเบาะแว้งยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายเขาก็ต่อยตีกันเหมือนเด็กวัยรุ่นอารมณ์ร้อนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ เดือดร้อนพยาบาลด้านนอกต้องเข้ามาห้ามและพาออกไปทำแผล


ไปเถอะ จะไปไหนก็ไป ไปทะเลาะกันให้พอ ผมไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยว

.
.
.

“อย่า…มึง ออกไป”ผมตะโกนไล่สุดเสียง เมื่อใบหน้าของวีที่เปรอะเปื้อนไปด้วยรอยเลือด มีแต่ความช้ำเลือดช้ำหนองปรากฏให้เห็นกำลังเดินเข้ามาหาผม


วีแสยะยิ้มอย่างน่ารังเกียจ “กูจะเอามึงไปอยู่ด้วย อีพริ้ม อีกะหรี่”กลิ่นความเหม็นเน่าของซากศพลอยเข้ามาแตะจมูก ผมรู้สึกสะอิดสะเอียนจนอยากจะอ้วก


“มึงออกไป ออกไปให้พ้นตัวกู”ผมร้องตะโกนเมื่อมันเอามือเน่าๆของมันที่มีแต่หนอนไชมาลูบไล้บนใบหน้าผม หนอนตัวเล็กตัวน้อยหลุดออกจากมือมันลงมาที่ใบหน้าผม


ผมรู้สึกอึดอัดจนแทบบ้า


“ตายซะเถอะ อีพริ้ม”มันพูดแล้วเอาเชือกรัดคอผม ผมกุมคอตัวเองแน่น ดิ้นพล่านเพราะหายใจไม่ออก ความรู้สึกเหมือนลมหายใจสุดท้ายกำลังจะหมดลง มันทรมานเหลือเกิน


“อ่อก…ปล่อย…กู”ตาของผมเหลือกถลนขึ้นด้านบน ลมหายใจขาดห้วงเหมือนคนกำลังจะสิ้นใจ
ผมยังตายไม่ได้ ปล่อยผมที….
ผมตายไม่ได้….


ภาพสุดท้ายที่ปรากฎในคลองสายตา คือ ภาพของวีที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาแดงก่ำจ้องมองผมที่อ้าปากค้าง ตาถลน กำลังจะขาดอากาศหายใจตายอย่างพึงใจ น้ำหนองบนใบหน้าวีไหลเยิ้มเปรอะเปื้อนไปทั่วร่าง ยังไม่นับหนอนนับร้อยตัวที่ไชยั้วเยี้ยอยู่บนผิวหนังผุพอง “ฮ่าๆ สะใจกูนักที่ได้ฆ่ามึง อีกะหรี่ ฮ่าๆ”


“ม่ายยยยยยยยย…”ผมกรีดร้อง ทุรนทุรายเมื่อวีกำลังคายซากหนอนใส่ปากผม


นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน วีตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ

.
.
.

“พริ้มครับ”


ผมสะดุ้งตื่นจากความฝัน เหงื่อเกาะพราวทั่วใบหน้า เมื่อกี้มันคือความฝันจริงๆเหรอ ทำไมทุกอย่างถึงเหมือนจริง ทั้งรูป รส กลิ่น เสียงหรือแม้กระทั่งสัมผัส


“พริ้ม…ปล่อยมือก่อนนะครับ”พี่ธิวาค่อยๆแกะมือผมที่บีบคอตัวเองออก เผยให้รอยนิ้วมือแดงเป็นปื้น
ผมมองรอยแดงที่คอตัวจากกระจกที่สะท้อนมาทำให้ผมกลัวใจตัวเอง นี่ผมบ้าถึงขนาดบีบคอตัวเองแล้วเหรอเนี่ย


“พริ้ม เล่าให้พี่ฟังหน่อยสิครับว่าเราฝันอะไร”พี่ธิวาดึงผมเข้าไปกอดจนจมอก ฝ่ามืออุ่นลูบเบาๆเป็นการปลอบประโลมที่ต้นแขน ผมเงยหน้ามองหน้าพี่ธิวาอย่างทำอะไรไม่ถูก จะให้เล่ายังไง จะบอกได้ยังไงว่าผมกลัววีจนเป็นบ้าไปแล้ว…กลัวจนฝังใจเอามาฝันเป็นเรื่องเป็นราวน่ากลัวแบบนี้เกือบทุกคืน


จะพูดได้ยังไงว่าผมเหมือนคน…โรคจิตอ่อนๆ


น้ำตาใสไหลคลอในดวงตา ผมกำมือสั่นๆของตัวเองแน่น จะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าผมกำลังจะเป็นบ้า
ฮรือ…ให้รู้ไม่ได้


“พริ้มครับ…เชื่อใจพี่นะ”พี่ธิวาลูบเบาๆบนหลังฝ่ามือผม ค่อยๆคลายมือผมที่กำมัดแน่นจนเล็บจิกลึกเข้าไปในฝ่ามือจนเป็นแผล ฝ่ามืออุ่นของพี่ธิวาสอดประสานกับมือผมเบาๆ


“พริ้มครับ พี่อยู่ตรงนี้นะ”พี่ธิวากดจูบแนบกับขมับผม ไล้เบาๆตามโครงหน้า


ผมจะทำยังไงดี ถ้าพูดไปพี่ธิวาจะรังเกียจผมไหม จะเอาไปบอกคุณท่านไหม แล้วคุณท่านจะเขี่ยผมทิ้งไหม
ผมไม่อยากถูกทิ้ง ทำไงดี…


อ้อมกอดของพี่ธิวารัดแน่นขึ้น ผมเงยหน้ามองพี่ธิวาน้ำตาคลอ จะลองเชื่อใจคนๆนี้ดูสักครั้งดีไหมนะ เขาจะหลอกผมเหมือนที่วีเคยหลอกรึเปล่า


“เชื่อใจพี่นะครับคนดี เล่าให้พี่ฟังนะครับ”พี่ธิวาใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาใสบนแก้มออกให้ ผมพลิกตัวโผกอดพี่ธิวาแน่น พี่ธิวาไม่เอ่ยคำใดออกมาอีก ทำเพียงแค่ลูบหลังเบาๆอย่างปลอบประโลม


“แด๊ดดี้…”


“ว่าไงครับ”พี่ธิวาลูบหัวผมเบาๆ หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อมาเช็ดน้ำตาให้
ทำไมถึงอ่อนโยนกับผมขนาดนี้นะ ถ้ารู้เรื่องนั้นแล้วจะอ่อนโยนกับผมเหมือนเดิมไหม


“แด๊ดดี้…”


“ว่าไงครับ เด็กดี”


“แด๊ดดี้จะไม่รังเกียจพริ้มใช่ไหม”


“แด๊ดดี้จะรังเกียจพริ้มทำไมละครับ หื้มมมม?”


“แด๊ดดี้จะไม่บอกคุณท่านใช่ไหมถ้าพริ้มเล่าให้ฟัง”


“ความลับคนไข้คือสิ่งที่แพทย์ทุกคนต้องรักษาครับ”ผมมองเข้าไปในนัยน์ตาตาของพี่ธิวาที่ฉายแววเด็ดเดี่ยว มั่นคง จะลองเชื่อใจใครสักคนอีกครั้งคงไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเกินไปมั้ง ถ้าคนนั้นจะเป็น…พี่ธิวา


“แด๊ดดี้ พริ้ม…”ผมเล่าทุกอย่างให้พี่ธิวาฟังตั้งแต่ต้น ตั้งแต่วันแรกที่ผมตัดสินใจเป็นเด็กขาย
พี่ธิวานั่งฟังผมด้วยสีหน้าท่าทางนิ่งสงบ ไม่พูดขัดใดๆสักคำ มีแต่รอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยนเท่านั้นที่ส่งมาให้หลังผมเล่าจบ


“เด็กดี มันไม่ใช่ความผิดของพริ้มทั้งหมดรู้ไหมครับ”


“แด๊ดดี้…”ผมกำมือพี่ธิวาด้วยมือสั่นๆของผม เล่าหมดแล้ว เล่าไปหมดแล้วในทุกสิ่งที่ประสบพบเจอ


“ตอนนี้เราแค่กลัว อาการแบบนี้สามารถรักษาหายได้ พริ้มรู้ไหมครับ”


“พริ้มเป็นบ้าเหรอครับ ฮรือ…”ผมร้องไห้ออกมาอย่างหมดหวัง ผมเป็นบ้าสินะ เป็นบ้าจริงๆสินะ


“ไม่ครับ พริ้มยังไม่ได้เป็นบ้า มันเป็นแค่ความกลัวที่เกิดจากเหตุการณ์วันนั้น แต่เราจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เราต้องรักษา”


“ไม่เอา พริ้มไม่อยากไปโรงพยาบาลบ้า ฮรือ…อย่าเอาพริ้มไปทิ้งไว้ที่นั่นเลยนะครับ พริ้มไม่อยากถูกฉีดยา ไม่อยากโดนมัด”


“แด๊ดดี้ไม่ปล่อยให้ใครมาฉีดยาเราได้หรอกนะ แด๊ดดี้ฉีดได้คนเดียว”


“แด๊ดดี้”ผมร้องประท้วงเสียงดังทั้งน้ำตา คนกำลังเครียดๆอยู่วกมาพูดเรื่องลามกได้หน้าตาเฉย


“การรักษามีหลายรูปแบบนะครับพริ้ม ถ้าพริ้มไม่อยากกินยา เราใช้วิธีทำจิตบำบัดแทนได้”


“แต่…”


“แด๊ดดี้จะอยู่กับพริ้ม จะรักษาใจพริ้มให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม พริ้มไม่อยากสู้ไปกับแด๊ดดี้เหรอครับ”ผมฟังคำพูดพี่ธิวาแล้วก็คิดตาม…พี่ธิวาเป็นคนที่มีจิตวิทยาสูงจริงๆในการใช้คำพูดชักจูงใจคน


“แด๊ดดี้ไม่รังเกียจพริ้มเหรอครับ”


“ต้องทำยังไงหื้มถึงจะยืนยันว่าแด๊ดดี้ไม่ได้รังเกียจพริ้ม”ผมไม่ตอบคำถามพี่ธิวา ได้แต่ยืดตัวขึ้นประทับจูบลงบนริมฝีปากหนาสีชมพูระเรื่อ


“รักพริ้มนะครับ”ผมกระซิบแนบหูพี่ธิวา งับเบาๆที่ติ่งหู ใช้ปลายลิ้นไล้เลียเบาๆ


“ยั่วแด๊ดดี้แบบนี้ไม่ดีกับตัวเราเลยนะ”


“แด๊ดดี้รังเกียจพริ้ม”


“ไม่ได้รังเกียจครับ แด๊ดดี้กลัวซี่โครงเราจะทิ่มปอดอีก”ผมมองหน้าพี่ธิวางอง้ำ พูดแบบนี้ใครก็พูดได้ แท้จริงก็รังเกียจกัน


“งอนอีกแล้ว”


“พริ้มไม่ได้งอน”


“น่ารัก”


“หื้ออออ?”น่ารักอะไรของพี่ธิวา


“ที่แทนตัวเองว่าพริ้มอะน่ารัก”


“พี่ธิวา…”


“นอนนะครับเด็กดี พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปเรียนอีก”


“ฝันดีครับ”ผมจูบจมูกพี่ธิวา ก่อนจะไถตัวลงมานอนกอดซบอก…อกอุ่นๆ อ้อมกอดแข็งแรงและฝ่ามือนุ่มที่คอยลูบเบาๆที่แผ่นหลังทำให้ผมเข้าสู่ห้วงนิทราได้อย่างรวดเร็ว



ฝาก #พริ้มกับdaddy ด้วยนะคะ

<3
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-04-2018 23:22:36
อย่าหายไปนานๆแบบนี้อีกนะ :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-04-2018 01:32:53
วี ใครฟ่ะ นึกไม่ออก มานเป็นคาย มานทำอะไรพริ้ม แถมตายไปแล้วด้วย ดีโสมนามหน้า  :m4:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-04-2018 02:17:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 30-04-2018 05:39:25
พริ้มนี่โรคซึมเศร้าถามหาละนะ คือแบบอารมณ์สวิงแบบเดี๋ยวสุขเดี๋ยวเศร้าจนเราปรับไม่ทัน   งื้ออออ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: W2P5 ที่ 30-04-2018 05:42:58
ทำ! ไม! พี่ธิวาอ่อนโยนแบบนี้ ใจน้องไม่ดี้ลยยยย :hao7:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 30-04-2018 06:07:09
ทำไมเราชอบโมเม้นท์คุณท่าน  มากกว่าพี่ธิวา
หรือเราชอบคนซาดิสต์มากกว่าคนหวาน   
คือพี่ธิวาแกหวานไวไปหน่อยเลยไม่ค่อยอิน แถมพริ้มดูใจง่ายไงไม่รู้  เหมือนนอกใจคุณท่าน
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 30-04-2018 08:55:05
แพ้ใจคุณหมอ อบอุ่นมากกกก
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 30-04-2018 09:26:07
สงสารพริ้ม
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 30-04-2018 10:36:58
วีน่ากลัววว :sad3: :sad5: ตอนคายหนอนคือแหยะมาก
คุณท่านกับธิวาแตกหักกันเพราะฟ้า แล้วตอนนี้ก็ทะเลาะกันเพราะพริ้มอีก อยากรู้ว่าคุณท่านให้ความสำคัญกับพริ้มในแบบไหน เพราะอะไร อยากรู้ความรู้สึกของธิวาต่อพริ้มด้วย
พริ้มก็หวั่นไหวง่ายเพราะเจอแต่เรื่องร้ายๆ แถมยังไม่เคยมีใครคอยเคียงข้างอีก เลยเอาตัวเองไปผูกไว้กับคุณท่านแล้วยังเอาตัวเองไปผูกกับธิวาอีก
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 30-04-2018 11:36:13
พริ้มน่าสงสารมาก เหมือนถูกเอามาเป็นตัวแทนฟ้าที่ไม่อยู่ แล้วต้องเจอแต่เรื่องร้ายๆที่ทำร้ายจิตใจ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: ous_p ที่ 30-04-2018 14:07:26
พริ้มมีปมในใจสินะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 30-04-2018 14:50:15
คุณท่าน&แด๊ดดี้แสดงความห่วงใยต่อะริ้มกันคนละแบบ คุณท่านแนวโหด คุณหมอแนวอ่อนโยน
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 30-04-2018 21:43:10
ถ้าพริ้มรักทั้ง 2 คน แล้วถ้าฟ้ากลับมาพริ้มจะยิ่งเจ็บกว่าที่เป็นอยู่ไหม
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 01-05-2018 01:31:14
ขอแด๊ดดี้ ขอออออออ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 01-05-2018 04:11:37
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 01-05-2018 18:26:05
 :hao5: ปวดตับกับชีวิตออพริ้ง เขี่ยคุณท่านทิ้งลงเรือแด๊ดดี้ดีกว่า แซบกว่าเยอะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: Yui_baanindy ที่ 01-05-2018 19:51:30
3P สินะ  :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 16 P.9 29.04.61
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 04-05-2018 00:26:20
สนุก แต่ดราม่ามาก
สงสารพริ้ม
น้องนี่ก็น่าจะเด็กเอาแต่ใจ ทำให้พริ้มเสียใจแน่ๆ
คุณท่านนี่ก็เดาไม่ถูกเลย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 04-05-2018 23:31:55
ตอนที่ 17


หลังจากคืนนั้นที่คุณท่านกับพี่ธิวามีเรื่องกันจนหน้าตายับเยินกันทั้งคู่ พอถึงตอนเช้าก็ไม่มีใครมารับผมออกจากโรงพยาบาลสักคน มีแต่คุณชัยแวะเอาชุดนักศึกษามาให้แล้วแจ้งว่าให้ผมไปมหาลัยเอง สุดท้ายคงตกลงกันไม่ได้เลยออกมารูปแบบนี้ แต่ก็ดีเหมือนกัน


หลังจากเลิกเรียน คุณชัยมารับผมตามปกติ แต่สิ่งที่ผิดปกติคือคุณชัยพาผมไปส่งที่บ้านพี่ธิวา ผมหันไปถามคุณชัยด้วยความไม่เข้าใจ “คุณชัย นี่มันหมายความว่าไงครับ”


“คุณเองก็ทราบดีว่าใครจะเป็นคนให้คำตอบเรื่องนี้กับคุณได้ดีที่สุด”คุณชัยพูดเพียงเท่านั้นแล้วส่งผมลงหน้าบ้านพี่ธิวาพร้อมกับขนข้าวของของผมลงจากรถ กองไว้ข้างกำแพงบ้าน


ผมเงยหน้ามองรั้วไม้สีน้ำตาลอุ่นที่อยู่ตรงหน้าแล้วได้แต่ถอนหายใจ เหมือนหมาถูกทิ้งข้างถนนเลยเรา บ้านพี่ธิวาเป็นบ้านติดริมทะเลสาบ พื้นที่บ้านมีอาณาเขตบริเวณกว้างขวางดูจากขอบแนวรั้วที่ยาวไปสุดแนวสายตา ส่วนตัวบ้านเป็นสิ่งที่ผมมองไม่เห็นเนื่องจากต้นไม้มากมายปกคลุมไว้


ผมเดินไปเดินมาอยู่ข้างกำแพงรั้ว เฝ้าถามตัวเองว่าทำอะไรผิด คุณท่านถึงทิ้งกันง่ายๆแบบนี้ ทั้งๆที่เมื่อวานยังเถียงกับพี่ธิวาเรื่องสิทธิ์ขาดในตัวผมอยู่แท้ๆ บางทีความคิดคุณท่านก็เข้าใจยาก ซับซ้อนเกินกว่าที่ผมจะเข้าใจ หรือจริงๆเรื่องทุกอย่างมันไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น เพราะผมมันก็แค่…เด็กเลี้ยง นึกจะเลี้ยงเมื่อไหร่ก็เลี้ยง นึกจะทิ้งเมื่อไหร่ก็ทิ้ง


สุดท้ายทนความเมื่อยไม่ไหว ผมนั่งลงที่ขอบฟุตบาทหน้าประตูบ้าน ก้มหน้ามองนาฬิกาในมือถือเป็นรอบที่ร้อยก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าพี่ธิวาจะกลับมา จะโทรหาคุณท่านก็ไม่กล้า เปิดปิดหน้าจอล็อคสกรีนเป็นสิบรอบก็ไม่กล้ากดโทรหารายชื่อหนึ่งเดียวที่อยู่ใน favorite สักที


รัตติกาลดำมืดค่อยๆคืบคลานเข้ามาเมื่อเวลาหมุนไป ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนจากสีส้มแดงเป็นสีดำสนิท ดวงดาวส่องประกายระยิบระยับบนฟากฟ้าเหมือนทุกวัน ต่าวจากใจผมนัก ที่รู้สึกเหมือนความหวังที่มีจะริบหรี่ลงไปทุกที การคาดหวังจะให้คุณท่านหันมาใส่ใจดูแลผมบ้าง คงเป็นเรื่องที่เกินเอื้อมจริงๆ


แค่คาดหวังให้…ไม่ทำร้ายกัน ยังดูน่าจะเป็นไปได้มากกว่าการคาดหวังการดูแลจากคนใจร้าย เห็นคนเหมือนสิ่งของที่ซื้อหามาง่ายๆด้วยเงินตรา


ผมโดนยุงกัดจนคันไปหมดทั้งตัว นั่งตบยุงตัวแล้วตัวเล่าจนรู้สึกผิดบาป ปาณาติปาตา เวรมณี สิก… ศีลยังท่องได้ไม่ครบเลย เนี่ย…ศีลขาดแล้ว อ้าว ไม่ขำเหรอ ขำกับผมหน่อยเถอะ ผมยังอยากขำกับชีวิตทุกข์ระทมของผมเองเลย 


ชะเง้อคอรอจนคอยาวเป็นยีราฟ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าพี่ธิวาจะกลับมา ท้องก็ร้อง หิวก็หิว เหนื่อยก็เหนื่อย น้ำก็อยากอาบ ทำไมถึงเอาผมมาทิ้งไว้แบบนี้นะ


จากจิตใจที่เข้มแข็ง พอถูกทิ้งให้รอนาน จิตก็ฟุ้งซ่านคิดนู่นคิดนี่ คิดจนน้ำตาไหลคลอออกมาจนได้ ผมเงยหน้ามองพระจันทร์ หวังใจจะให้น้ำตาที่คลอหน่วยไหลกลับเข้าไป บางทีผมก็สับสนว่าชีวิตคนกลางคืนกับการเป็นเด็กเลี้ยงอะไรมันดีกว่ากัน ทำไมช่วงนี้ผมถึงเสียน้ำตามากมายขนาดนี้


ผมใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาที่ไหลเอ่อ ก้มหน้ากอดเข่าตัวเองชิดริมขอบรั้ว กลางคืนอีกแล้ว ผมเกลียดความมืดมิดเป็นที่สุด มันทั้งน่ากลัว ทั้งมืดมน ผมอยากจะหลับตานิ่งๆตัดการรับรู้ ผมใช้กระเป๋าเสื้อผ้าต่างหมอนนอนลงที่ริมรั้ว


พี่ธิวาอยู่ที่ไหนกัน
กลับมาได้รึยัง?
ผมจะไม่ไหวแล้วนะ

.
.
.

ปรี๊น!
ผมสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงบีบแตรรถเสียงดัง ลืมตาขึ้นมาเห็นเป็นพี่ธิวายังไม่ทันได้ยิ้มกว้าง คนตัวสูงก็ลงจากรถมาด้วยหน้าตาโมโหเหมือนจะกินคนได้ 


“พี่…”ผมเรียกพี่ธิวาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง การนอนข้างถนนตากน้ำค้างทำให้ร่างกายแสนอ่อนแอของผมครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้


พี่ธิวาขมวดคิ้วแน่นจนหัวคิ้วชนกัน สายตามีแต่ความสงสัย ไม่เข้าใจและที่มากที่สุดคือความรู้สึกไม่พอใจ ถึงผมจะไม่ใช่เด็กฉลาด แต่ผมก็รับรู้ถึงอารมณ์ของคนตัวสูงได้ เวลานี้การเงียบปากไว้น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด


“ขึ้นรถ”ผมรีบวิ่งขึ้นรถแทบไม่ทัน กลัวว่าจะช้าแล้วจะขัดใจเขาไปมากกว่านี้


ผมรีบก้าวตามขายาวๆของพี่ธิวาที่ก้าวทีเดียวถึงหน้าประตูบ้าน ผมชั่งใจอยู่นานกว่าจะยื่นมือไปดึงเสื้อพี่ธิวา คำพูดที่เตรียมจะบอกว่า ‘ผมหิว ขอข้าวกินหน่อย’ กลืนหายไปในลำคอ เมื่อสายตาดุหันขวับกลับมา


เมื่อเห็นผมไม่พูด พี่ธิวาตอบกลับด้วยการถอนหายใจแรงใส่หน้าผมก่อนจะเปิดประตูเข้าบ้าน
เสียงท้องร้องดังโครกคราก ผมหิวจนแสบท้องไปหมด แต่ก็ไม่กล้าร้องขอ ยิ่งเห็นความเหน็ดเหนื่อยในแววตาคู่นั้นยิ่งไม่กล้าร้องขอ


คนตัวสูงนั่งทิ้งตัวลงบนโซฟา ใบหน้าบอกบุญไม่รับ “เรามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ มาได้ยังไง”


“คุณชัยมาส่งหลังเลิกเรียนครับ”


“ตั้งแต่กี่โมง?”พี่ธิวาเลิกคิ้วถามผม “ห้าโมงครับ”


“ทำไมไม่โทรหาพี่”พี่ธิวาขมวดคิ้วถามด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์


“ไม่มีเบอร์ครับ”


“เอามือถือมานี่”ผมยื่นมือถือให้พี่ธิวาแต่โดยดี คนตัวสูงรับไปเมมเบอร์ก่อนจะโยนมือถือทิ้งลงบนโซฟาอย่างไม่ใยดี

 
“ไปอาบน้ำนอนไป”พี่ธิวาโบกมือไล่แต่ผมยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่


“พริ้ม!”พี่ธิวาตวาดผมเสียงดังจนผมสะดุ้ง ผมไม่เคยเจอพี่ธิวาเป็นแบบนี้มาก่อน รับมือไม่ไหวหรอกนะ 


พี่ธิวาถอนหายใจแรงก่อนจะสั่งผมใหม่ “ขึ้นบันไดไปชั้นสอง ห้องแรกคือห้องพี่ พริ้มไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย”ผมมองเข้าไปในนัยน์ตาของพี่ธิวาที่ฉายแววอ่อนล้า นั่นสินะ นี่ก็ดึกจนเข้าเช้าวันใหม่แล้ว พี่ธิวาทำงานเหนื่อยมาทั้งวันยังต้องกลับมาเจอภาระอย่างผมอีก จะไม่หงุดหงิดได้ยังไง


“ครับ”


ผมเดินเหม่อลอยขึ้นบันได บ้านของพี่ธิวาตกแต่งง่ายๆ ผนังบ้านถูกแทนที่ด้วยกระจกเผยให้เห็นต้นไม้ด้านนอกที่ปลูกจนรกครึ้ม และมีด้านหนึ่งที่เห็นวิวทะเลสาบ ผมหยุดยืนมอง…อยากออกไปที่นี่ ตอนนี้ ที่ที่ไม่มีใครต้องการผม ผมก็ไม่อยากอยู่ด้วยหรอกนะ


“พริ้ม ทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก”ผมหันไปมองพี่ธิวาที่มายืนด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้


“ขอโทษครับ”ผมขอโทษเสียงอ่อย แล้วรีบวิ่งขึ้นบ้านไปอาบน้ำ


หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมจะออกมาขออนุญาตพี่ธิวาใส่ชุดนอน ก็เจอกับข้าวของของผมที่กองอยู่กลางห้องนั่งเล่นพร้อมกับพี่ธิวาที่ยืนตะโกนเสียงดังใส่โทรศัพท์


“ทำไมมึงทำอะไรไม่เคยปรึกษากูเลย”


“กูไม่เคยบอกว่าอยากให้เขามาอยู่กับกู”


“ไอ้เหี้ยกาล!!!”พี่ธิวาตะโกนด่าคุณท่านเสียงดัง ใบหน้าอบอุ่นที่เคยส่งรอยยิ้มให้ผม บัดนี้ไม่มีอีกแล้ว มีแต่ความโกรธเกรี้ยว เกรี้ยวกราด


นั่นสินะ


เด็กเลี้ยงที่เนื้อตัวมีแต่ร่องรอยราคีคาว ไม่สด ไม่ใหม่ เนื้อมันคงไม่หอมหวานมัน ไม่น่าขบเคี้ยว แล้วไหนยังจะอาการทางจิตที่มีนี่อีกละ ต่อหน้าก็บอกว่าไม่เป็นไร รับได้ พี่จะดูแลแต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่ ใครจะรับได้


ผมไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่คนรัก แม้แต่สถานะ ‘คนรู้จัก’ ยังพูดยากเลย ก็แค่เคยนอนด้วยกันคืนเดียว ใครจะอยากรับภาระมาดูแล


สุดท้ายผมมันก็แค่ ‘หมาหัวเน่าที่ถูกทิ้ง’ อย่างไม่มีใครต้องการ


ผมเดินกลับขึ้นไปด้านบน หยิบชุดนอนพี่ธิวามาใส่ เดินไปนอกระเบียง หมาเน่าๆแบบผมคงนอนได้แค่ที่นี่ ผมล้มตัวลงนอนบนพื้นระเบียงเย็นๆ ขดตัวเข้าหากัน น้ำตาที่หยุดไปแล้วเอ่อออกมาอีกรอบ สายตาของผมทอดมองออกไปที่ทะเลสาบ


ภาพวันนั้นที่ผมเอากระดูกของพ่อกับแม่ไปลอยอังคารที่ทะเลยังติดตาและฝังอยู่ในจิตใจ


พ่อครับ แม่ครับ พริ้มเหนื่อยเกิน ทำไมถึงทิ้งพริ้มให้เผชิญโชคชะตาร้ายๆแบบนี้คนเดียว
พาพริ้มไปอยู่ด้วยได้ไหม


หยาดน้ำตาของเด็กธรรมดาๆคนหนึ่งหลั่งรินลงบนพื้น เป็นหยอดน้ำตาที่ไม่มีค่า เหมือนเจ้าของๆมัน…ไม่มีค่า ไม่มีราคา ไม่มีใครต้องการ

.
.
.

“พริ้ม ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ”ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงปลุกแสนดังจากปากพี่ธิวา คนตัวสูงกอดอกจ้องมองผมด้วยสีหน้าท่าทางไม่พอใจ ผมสีดำน้ำตาลถูกเสยลวกๆ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวถูกพับลวกๆขึ้นมาถึงข้อศอก พี่ธิวายังอยู่ในชุดเดิมเช่นเดียวกับเมื่อวาน


“ทำไมออกมานอนที่นี่ จะประชดชีวิตรึไง ถ้าดื้อแบบนี้พี่ดูแลไม่ไหวหรอกนะ”พี่ธิวาดุผมด้วยท่าทีนิ่งขรึม น่ากลัวกว่าคุณท่านตอนดุผมอีก ผมกัดปากตัวเองแน่น ไม่กล้าแม้แต่จะเถียง


“ไม่ต้องมาจ้องตาพี่ ลุกขึ้นไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้”ผมกะพริบตาถี่ไล่น้ำตาที่กำลังคลอหน่วย ไม่อยากจะร้องไห้ให้พี่ธิวาเห็น รู้สึกปวดเมื่อยครั่นเนื้อครั่นตัวจนลุกแทบไม่ไหว


“พริ้ม พี่ไม่ได้มีเวลาทั้งวันมานั่งรอเราหรอกนะ”ผมสะดุ้งตัวโยนเมื่อพี่ธิวาดุผมอีกครั้ง เสียงถอนหายใจของพี่ธิวาดังก้องอยู่ในใจผม ปากอยากจะเอ่ยตัดพ้อออกไปว่า ‘ดูแลผมมันเหนื่อยนักเหรอ แค่เลี้ยงเด็กไม่มีที่ไปคนเดียวมันเหนื่อยมากนักหรือไง ถึงต้องแสดงท่าทีรังเกียจ ผลักไล่ไสส่งกันขนาดนี้’


“พี่ให้เวลา 10 นาที ต้องเห็นเราที่โต๊ะทานข้าวด้านล่าง”สั่งแค่นั้นแล้วพี่ธิวาก็เดินออกไป


ฮัดชิ่ว! ผมจามออกมาเสียงดัง รู้สึกเจ็บคอ เจ็บแม้กระทั่งเวลากลืนน้ำลาย หลังจากอาบน้ำเสร็จ ชุดลำลอง 1 ชุดถูกเตรียมวางรอไว้บนเตียงนอน วันนี้คงไม่ได้ไปเรียนอีกแล้ว ป่วยการจะดื้อกับพี่ธิวาตอนที่อารมณ์ไม่ดี


ผมรีบแต่งตัวแล้วรีบวิ่งลงบันได กลัวจะไม่ทันเวลา 10 นาทีที่พี่ธิวาตั้งไว้ “พริ้ม อย่าวิ่ง” เสียงเตือนจากปากพี่ธิวายังไม่ขาดคำ ผมก็ลื่น ไถลตูดกระแทกปั้กๆกับขอบบันได เจ็บจนน้ำตาไหล


“พี่เตือน พี่พูดทำไมไม่เคยฟัง จะต้องทำตัวเองเจ็บ ทำตัวเองป่วย อีกกี่ครั้งกี่หน”ปากพี่ธิวาก็บ่นไปด้วย แต่มือก็คอยประคองผมจากพื้นไปนั่งที่โซฟา ผมรู้สึกเจ็บแปลบๆที่ข้อเท้าทุกครั้งที่ลงน้ำหนัก  แต่ก็ไม่กล้าร้องโวยวาย กลัวจะโดนว่าอีก


“เจ็บตรงไหนครับ”ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ ใครจะกล้าบอกว่าตอนนี้เจ็บระบมไปทั้งตัว เดี๋ยวก็โดนดุอีก


“พริ้มครับ พี่ไม่ชอบเด็กขี้โกหก”ไม่รู้ทำไมแค่ได้ยินคำว่า ‘ไม่ชอบ’ น้ำตาก็ไหลออกมา จะมาเซนซิทีฟอะไรตอนนี้


“พริ้มหยุดร้อง แล้วมาคุยกับพี่ดีๆ”ผมสะบัดหน้าหนี นอนลงบนโซฟาหันหลังให้พี่ธิวา
ไม่ชอบก็ไม่ต้องมาสนใจกัน


“พริ้ม! เฮ้อ”แค่ได้ยินเสียงถอนหายใจ น้ำตาก็พาใจกันไหลออกมาเหมือนเขื่อนแตก ผมมันก็แค่ ‘หมาหัวเน่า’ ที่ไม่มีใครต้องการ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีประโยชน์ ไปอยู่กับใครก็ดีแต่สร้างความยุ่งยาก เหนื่อยหน่าย ลำบากใจให้เขาไปหมด


พี่ธิวาทิ้งผมไว้ตรงนั้นคนเดียวกับเสียงถอดถอนหายใจที่ดังก้องในหัวผม รำคาญจนต้องเดินหนีกันเลยรึไง


“พริ้ม พี่ไม่ได้อยากจะดุหรอกนะ แต่เรามันดื้อ”พี่ธิวากลับมาอีกครั้งพร้อมกับกล่องพยาบาล ร่างสูงนั่งลงบนโซฟาที่ปลายเท้าผม ยกข้อเท้าด้านที่เจ็บขึ้นมาวางบนตัก ข้อเท้าที่พลิกเริ่มมีอาการบวมแดง ร่างสูงทายาแล้วพันผ้าให้ผม


“ขอบคุณครับ”ผมยกมือไหว้ขอบคุณแล้วรีบยกเท้าลงจากตักพี่ธิวา การวางเท้าบนตักคนอายุมากกว่าทำให้ผมรู้สึกเกรงใจ แต่พี่ธิวายื้อไว้


“เช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้นมาคุยกับพี่ดีๆครับ”ผมยกแขนเสื้อยืดปาดน้ำตาออกจากใบหน้าลวกๆแต่ก็โดนดุ “พริ้ม ทำดีๆครับ” พี่ธิวาดุแล้วดึงตัวผมไปใกล้ ใช้ทิชชู่ซับน้ำตาให้อย่างเบามือ


“ไหนบอกพี่สิครับว่าทำไมถึงออกไปนอนที่ระเบียง”ผมเม้มปากแน่น ไม่อยากตอบ “พริ้มครับ” แต่พี่ธิวาก็ยังคงเร่งเอาคำตอบ


เมื่อเห็นว่ารอสักพักก็ยังไม่ได้คำตอบ ร่างสูงดึงผมเข้าไปกอดแล้วลูบหลังเบาๆ “พี่ไม่ได้อยากโมโหหรอกนะ แต่เราชอบทำตัวเองป่วย พี่ไม่ชอบ รู้ไหมครับเมื่อวานตอนเห็นเรานอนรออยู่ที่ฟุตบาทหน้าบ้าน พี่ตกใจขนาดไหน นี่ดีว่าอยู่ในหมู่บ้าน ถ้าเป็นข้างถนนที่อื่น ถ้ามีคนมาทำร้าย พริ้มจะทำยังไง”


“ขอโทษครับ”ขอโทษที่ไม่ทันคิด ขอโทษที่สร้างปัญหา ขอโทษที่เป็นคนไม่มีที่ไป


“โรงพยาบาลพี่ พริ้มก็รู้จัก ทำไมไม่ไปหาครับ จะนั่งรอจนถึงตีสองตีสามทำไม ละถ้าเมื่อวานพี่ไม่กลับบ้าน พริ้มจะทำไงครับ”


“รอจนกว่าพี่จะกลับ”


“การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเราแย่มากนะพริ้ม”ผมรู้สึกเจ็บที่โดนดุตรงๆมากกว่าโดนลงโทษจากคุณท่านอีก ผมใช้หลังมือปาดน้ำตาลวกๆ พยายามเก็บเสียงสะอื้นไม่ให้พี่ธิวาได้ยิน


“แล้วอีกเรื่องที่พี่โมโหคือการที่พริ้มออกไปนอนที่ระเบียง ทำไปทำไมครับ”ผมผละออกจากอกพี่ธิวา เงยหน้ามองเขาตาแดงก่ำ


“พี่ไม่ชอบการกระทำแบบนี้ มีอะไรก็พูดก็คุยกันดีๆ ไม่ใช่ทำตัวประชดชีวิตแบบนี้”


“ขอ…”


“พริ้มเลิกพูดคำว่าขอโทษสักที”ผมแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว เวลาพี่ธิวาดุ ผมรู้สึกเจ็บเหลือเกิน


“ถ้าจะอยู่ด้วยกัน เราต้องเคารพซึ่งกันและกัน มีอะไรก็พูดคุย ทำความเข้าใจกัน ไม่ใช่ทำตัวแบบนี้ รู้ไหมครับ”


“ครับ”ปากผมตอบว่าเข้าใจ แต่จริงๆผมก็ไม่เข้าใจหรอก จะให้ทำความเข้าใจง่ายๆว่าพี่ธิวาไม่ได้รังเกียจที่จะรับผมเข้ามาอยู่ในบ้านก็ออกจะเป็นเรื่องแปลก ในเมื่อสิ่งที่ผมได้ยินเมื่อคืนมันค้านกับคำพูดของเขาในตอนนี้


 “กฎของการอยู่ร่วมกันคือ เราจะไม่ลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของกันและกัน พี่จะไม่ห้ามอะไรพริ้ม อยากไปไหนก็ไป แต่ขอให้บอก จะกลับดึกก็ต้องบอก จะไม่กลับบ้านก็ต้องบอก แต่มีเรื่องที่พี่จะขอคือ อย่าโกหก อย่าเล่นการพนัน ที่สำคัญคืออย่าเล่นยา แค่นี้พริ้มทำให้พี่ได้ไหม”


“ได้ครับ”


“ไปล้างหน้าล้างตาแล้วมาทานข้าว”พี่ธิวาพูดแล้วเดินเข้าไปในห้องครัว


ผมเองก็บอกความรู้สึกตัวเองไม่ถูกเหมือนกัน มันเจ็บๆหน่วงๆ ยิ่งโดนดุแบบนี้ยิ่งเจ็บ ผมล้างหน้าแล้วมองตัวเองในกระจก เห็นสภาพดูไม่ได้ของตัวเองแล้วรับไม่ได้ จากปกติที่ก็ดูไม่ค่อยได้อยู่แล้วอะนะ ตาก็บวมช้ำ แถมขอบตายังดำคล้ำอีก


ชีวิตผมตอนนี้ถ้าไม่เดินหน้าก็คงถอยหลัง...ถอยหลังลงคลอง
เอาวะพริ้ม ชีวิตแม่งต้องสู้ ลองดูกันสักตั้ง


เราอาจเข้ามาในชีวิตเขาในฐานะคนที่ไม่มีใครต้องการ แต่เราเปลี่ยนตัวเองได้ เปลี่ยนให้เป็นคนที่เขาต้องการแล้วไม่อยากปล่อยมือ ถึงความคิดแบบนี้มันก็จะดูเพ้อฝันไปหน่อยๆก็เถอะ


วันนี้พี่ธิวาทำมื้อเช้าเป็นข้าวต้มหมู ผมตักเข้าปากคำแรกแล้วไม่อยากเชื่อว่าพี่ธิวาทำกับข้าวอร่อยขนาดนี้ พอๆกับคุณท่านเลย เอ๊ะ หรือของคุณท่านอร่อยกว่านะ ไม่หรอก “ของพี่ธิวาอร่อย” ผมแทบตบปากตัวเองที่หลุดพูดออกมา


พี่ธิวายิ้มขำ “ของพี่อร่อยเหรอ พริ้มยังไม่เคยชิมเลยนี่”รอยยิ้มมีเลศนัยแบบนี้ คำว่า ‘ของ’ ไม่ได้หมายถึงอาหารบนโต๊ะตอนนี้แน่


“ลามกอีกแล้วนะครับ”


“ใครว่าลามก พี่บอกพริ้มแล้วไงครับว่าเรื่องธรรมชาติ”ผมพยักหน้ารับ ขี้เกียจจะเถียงด้วย


“วันนี้จะไปเรียนหรือเปล่าครับ พี่จะไปส่ง”


“ไปครับ”


“ชุดนักศึกษาน่าจะอยู่ในลัง พริ้มลองไปรื้อดู”


“ขอบคุณครับที่ยกของเข้ามาให้แล้วก็ขอบคุณสำหรับอาหารอร่อยๆมื้อนี้ด้วย”พี่ธิวายิ้มอบอุ่นให้ผม “ด้วยความยินดีครับ ไอ้ตัวดื้อ”


“อิ่มแล้วเหรอพริ้ม ทานไปนิดเดียวเอง”


“อิ่มแล้วครับ”ผมรีบยกน้ำขึ้นมาดื่ม ต้องรีบไปเรียน แค่นี้ก็สายจะแย่แล้ว


“ทานยาก่อนครับ พี่ว่าเราตัวร้อน เดี๋ยวจะป่วยไปมากกว่านี้”ผมรีบกินยาแล้ววิ่งไปเปลี่ยนชุด ใช้เวลาไม่นานผมก็เปลี่ยนชุดเสร็จ พี่ธิวานั่งควงกุญแจรถรออยู่แล้ว


ฮัดชิ่ว!


ผมจามเสียงดังตอนอยู่ในรถ พี่ธิวาหยิบผ้าเช็ดหน้ายื่นให้ งรือ…มีน้ำมูกด้วย ป่วยแล้วละพริ้ม


“mask อยู่ในที่เก็บของหน้ารถครับพริ้ม หยิบมาใส่เลยครับ เดี๋ยวเอาไปติดคนอื่น”ถ้าจะติดก็ติดพี่ธิวาคนแรกนี่แหละ


“ครับ”ผมรับคำแล้วหยิบ mask มาใส่


“เย็นนี้เลิกเรียนแล้วโทรหาพี่นะ พี่จะไปรับ จะได้ไปหาหมอกัน”


“เป็นหวัดนิดเดียว ไม่ต้องหาหมอก็ได้ครับ พี่ธิวาก็เป็นหมอไม่ใช่เหรอครับ”


“ไม่ได้หาหมอกายครับ จะพาไปหาหมอใจ”หมอโรคจิตนั่นเอง ถ้าจะพูดให้ถูก


“ผมไม่อยากไป”


“ทำไมครับ”ไม่เห็นต้องถามเลย ใครจะอยากกินยา ยิ่งกินยิ่งบ้ารึเปล่าก็ไม่รู้ พออาการหนักมากขึ้นเรื่อยๆก็ถูกทิ้งให้อยู่โรงพยาบาลบ้า โดนจับมัดแขนมัดขา ใครจะยอม

ผมนั่งเงียบไม่ยอมตอบ “พริ้มครับ พี่บอกว่าไงครับ มีอะไรให้คุยกันใช่ไหม”


“ผมกลัว”


“มันไม่มีอะไรน่ากลัวเลยครับพริ้ม เชื่อพี่”


“ฮรื่อ ไม่เอา พี่ธิวาไม่ต้องมาหลอกเด็กเลย ตอนเด็กๆ หมอชอบหลอกว่าฉีดยาเจ็บเหมือนมดกัด มดยักษ์สิไม่ว่า”


“นั่นเขาไม่เรียกว่าหลอกครับ แค่พูดไม่หมด”


“งั้นคราวนี้ก็พูดไม่หมดเหมือนกันใช่ไหมครับ”


“ไม่ครับพริ้ม มันเป็นแบบนั้นจริงๆ”


ผมหันหน้าออกนอกหน้าต่าง พี่ธิวาบอกว่าไม่ชอบคนโกหกแต่ตัวเองกลับโกหกซะเอง


“พริ้มครับ”ผมหันไปมองหน้าพี่ธิวาที่ดึงมือผมไปกุม “เชื่อใจพี่สักครั้งนะครับคนดี”


ผมมองหน้าพี่ธิวาอย่างไม่เชื่อสายตา คำขอร้องให้เชื่อใจที่หลุดออกจากปากคนที่เคยเอ่ยคำว่าไม่อยากให้ผมอยู่ด้วย มันจะเชื่อถือได้สักแค่ไหนกัน


ผมยังคงนั่งนิ่งตลอดทางที่พี่ธิวาขับรถมาส่งที่มหาลัย จวบจนกระทั่งถึงคณะผมถึงได้ดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของพี่ธิวา “ขอบคุณนะครับที่มาส่ง เลิกแล้วเดี๋ยวพริ้มโทรหานะครับ”


ผมเดินเข้ามาในห้องสโลปตอนเลยเวลาเข้าเรียนไปเกือบชั่วโมง อาจารย์หยุดกด powerpoint หันมามองผมตาเขียว ผมยกมือไหว้ขอโทษแทบไม่ทัน มาถึงที่นั่งก็โดนน้องแซวว่าอ่อนแอ ขี้โรค ป่วยอีกแล้ว ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง บางทีผมก็ว่าตัวผมเองนี่แหละที่ทำให้ตัวเองป่วย


ระหว่างเรียน ผมนั่งจามน้ำมูกยืดทั้งวัน เกรงใจน้องนัทที่นั่งข้างๆจะแย่ กลัวจะติดหวัดไปด้วย


“พี่พริ้ม วันนี้ไปติวปะ”น้องนัทถามผมระหว่างเดินออกจากห้องเลคเช่อร์ ผมส่ายหน้าปฏิเสธ “พี่พริ้มเบี้ยวอีกแล้ววะ”น้องหันไปโวยวายกับเพื่อน “โหยพี่พริ้ม ไปด้วยกันเถอะนะๆ”น้องตองเดินมาอ้อน


“พี่ป่วยอยู่ เดี๋ยวเอาหวัดไปติด อาทิตย์หน้าสัญญาจะอยู่ติวด้วยทั้งอาทิตย์เลย”


“ดีมากพี่ ดีล”น้องตองว่าแล้วชนมือกับผม


เราโบกไม้โบกมือบ๊ายบายกันก่อนจะแยกย้าย น้องๆไปติวกัน ส่วนผมก็ได้แต่นั่งรอพี่ธิวามารับ ระหว่างรอก็นั่งเล่นกับเจ้าเหมียวขาใหญ่ประจำคณะ เล่นเพลินจนลืมว่ารอพี่ธิวามารับ รู้ตัวอีกทีว่าพี่ธิวามาถึงตอนได้ยินเสียงบีบแตรเรียก


“พี่ธิวาหวัดดีครับ”ผมยกมือไหว้ทักทายพี่ธิวา ยังไม่ทันพ้นเขตมหาวิทยาลัย คนตัวสูงก็โยนเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือมาให้ “เล่นกับแมวข้างถนน สกปรก”แมวข้างถนนก็หาว่าสกปรก ผมเองก็คงสกปรกไม่ต่างกัน เพราะเมื่อวานก็พึ่งนอนข้างถนนเหมือน ‘หมาข้างถนน’ มาเหมือนกัน


“ไม่ต้องมาทำหน้าตัดพ้อพี่เลยนะ ถึงจะเป็นแมวบ้าน พี่ก็ว่ามันสกปรกเหมือนกันนั่นแหละ”ผมทำปากยื่น พิงหัวที่กระจกมองหน้าพี่ธิวา “กวนใหญ่แล้วนะพริ้ม”ผมหัวเราะพี่ธิวาที่ทำหน้ายู่เป็นคนแก่ขี้บ่นอย่างอารมณ์ดี


“อารมณ์ดีแล้วไปหาหมอได้แล้วมั้ง”


“ไม่ไป”


“พริ้ม”


“คนไข้มีสิทธิตัดสินใจในการรักษาของตัวเองไม่ใช่เหรอครับคุณหมอ”


“ใช่ครับ แต่ตอนนี้พี่เป็นผู้ปกครองเรา พี่มีสิทธิตัดสินใจด้วย”


“ผมอายุเกิน 18 แล้วนะครับ มีสิทธิตัดสินใจทำสิ่งที่มีผลทางกฎหมายได้เองแล้ว”


“หัวหมอจริงๆ” พี่ธิวาหันมาคุยกับผมเพระตอนนี้รถติดไฟแดงอยู่ “ผมไม่ได้หัวหมอ ถ้าหัวหมอจริงๆก็อยู่บนบ่าพี่ธิวาแล้วไง”ผมว่าแล้วจิ้มนิ้วที่ไรผมพี่ธิวา “เด็กไม่ดีเล่นหัวผู้ใหญ่”พี่ธิวาดึงนิ้วผมไว้ ใช้มืออีกข้างดึงคอผมเข้าไปหาจนหน้าเราแทบชิดกัน


“อยากจะกัดปากดื้อๆ ช่างเถียงนี่ให้ช้ำเลยจริงๆ”


“หึ! กัดได้ก็กัดสิครับ ใครห้าม”


“พี่จะกัดปากเราทุกไฟแดง เอาให้เจ่อไปอวดคุณหมอเลยดีมะ”


“แด๊ดดี้แก่แล้วไม่มีน้ำยาหรอก อื้อ…”พี่ธิวาดูดปากผมแรงจนเจ็บไปหมด แต่ยังไม่ทันสอดลิ้นเข้ามา รถคันข้างหลังก็บีบแตรไล่เสียงดังลั่น สมน้ำหน้า! หื่นไม่ดูเวลาล่ำเวลา


พี่ธิวานี่ก็เป็นอีกหนึ่งคนจริง พูดแบบไหนก็ทำแบบนั้น ทำขนาดนี้เอาโล่ไปเลยไหม! เล่นดูดปากผมจนเห่อแดงไปหมด ไฟแดงกี่ไฟแดงก็เอาหมด 30 วิก็ไม่ปล่อยเวลาไปให้เปล่าประโยชน์ จนเรามาถึงโรงพยาบาลก็ยังไม่ปล่อยให้ผมลงจากรถ


ริมฝีปากอุ่นชื้นคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง “ว่าไงครับ จะยอมลงไปหาคุณหมอดีๆหรือให้พี่ดูดปากอยู่ตรงนี้ทั้งคืน” ผมหันไปมองหน้าพี่ธิวาหน้างอง้ำ บ้าจริง! เอาเรื่องแบบนี้บังคับผมได้ไง


“อื้อ…ปะ…ไปก็ได้”ผมรีบตบปากรับคำก่อนที่รปภ.จะเดินมาเห็นผู้ชายสองคนจูบดูดดื่มกันบนรถ พี่ธิวานี่ไม่อายฟ้าอายดินเลยจริงๆ โรงพยาบาลของตัวเองแท้ๆ


“เก่งมากครับเด็กดี”พี่ธิวาจุ๊บจมูกก่อนจะปล่อยให้ผมลงจากรถ ผมจับจมูกตัวเองแล้วหันไปค้อนพี่ธิวาตาคว่ำ นี่ก็อีกคน ขี้บังคับ เอาแต่ใจ อยากให้ทำอะไรก็ต้องทำ เพียงแต่วิธีการบังคับต่างกับคุณท่านก็แค่นั้น


ผมยังคงอิดออดไม่อยากเดินเข้าโรงพยาบาล จนพี่ธิวาต้องเดินมาดันหลัง งรื้อ…กลัวโว้ยยยยยย!


ใจของผมเต้นสั่นระรัว เหงื่อออกจนชื้นฝ่ามือไปหมด ขาก็เริ่มสั่น ยิ่งตอนพยาบาลเรียกชื่อให้เข้าไปพบคุณหมอ ขายิ่งสั่นจนก้าวไม่ออก ผมหันไปมองพี่ธิวาน้ำตาคลอ จะอ้อนหรือจะวิ่งหนีดี


ยังไม่ทันจะได้วิ่งหนีอย่างใจนึก เหมือนพี่ธิวาจะรู้ทัน จูงมือผมเข้าไปตรวจ “พี่รอด้านนอกนะครับ”ผมส่ายหน้าปฏิเสธ มาถึงขั้นนี้แล้วจะมาทิ้งกันได้ไงเล่า “ก็ได้ครับคนดี”พี่ธิวาลูบหัวผมเบาๆอย่างปลอบประโลม ผมจับมือพี่ธิวาแน่นไม่ยอมปล่อย ไม่ได้หรอก เกิดหนีผมไปกลางคัน ผมจะทำยังไง


คุณหมอยิ้มให้ผมอย่างใจดี เริ่มจากซักประวัติ ถามอาการ ตอนแรกผมก็เกร็ง ไม่กล้าเล่า กลัวคุณหมอหาว่าบ้า แต่การที่มีพี่ธิวาอยู่ใกล้ๆ คอยบีบมือให้กำลังใจก็ทำให้ผมกล้าเล่ามากขึ้น ยิ่งตอนที่ต้องเล่าถึงเรื่องของวีก็ทำผมเกือบประสาทเสีย ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนมาเกือบเดือนทำให้ผมไม่อยากนึกถึงมัน


แต่สุดท้ายผมก็ผ่านขั้นตอนรับการรักษาไปได้ ผมบอกคุณหมอว่าผมสามารถหลับเองได้ เพียงแค่สะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะฝันร้าย ผมเลยขอไม่ใช้ยานอนหลับ ผมกลัวว่าถ้าใช้แล้วผมจะติด จนสุดท้ายขาดยานอนหลับไม่ได้ ผมไม่อยากเป็นแบบนั้น การนอนไม่หลับมันทรมาน ผมอยากนอนได้เองโดยไม่ต้องพึ่งยา


ส่วนเรื่องอาการของผม คุณหมอบอกว่าเกิดจากความกลัว ทำให้จิตวิตกและคอยย้ำคิดถึงแต่เรื่องนั้นซ้ำๆ ผมถึงยังฝันร้ายไม่เลิกสักที คุณหมอนัดให้ผมมาทำจิตบำบัดทุกอาทิตย์และบอกให้ผมลองพยายามนอนปิดไฟ โดยเริ่มจากปิดทีละดวง ค่อยๆให้ร่างกายและจิตใจคุ้นชินกับความมืดไปทีละนิด


ผมถามว่าผมนอนเปิดไฟไปตลอดชีวิตไม่ได้เหรอ คุณหมออธิบายว่าไม่ได้ เมลานินจะไม่หลั่ง ทำให้เรานอนไม่หลับตามนาฬิกาชีวิตอะไรก็ไม่รู้ ผมเองก็ไม่มีความรู้เรื่องนี้ คุณหมอว่ายังไง ผมก็ว่าตามนั้น


“เห็นไหมพี่บอกแล้ว มาหาจิตแพทย์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด”


“ก็ผมไม่รู้นี่ครับ”


“พี่บอกพริ้มจนปากจะฉีกถึงรูหู พริ้มไม่เชื่อพี่เอง”


“งรื้อ”


ใครจะไปรู้เล่า คิดว่าเหมือนในละคร เรื่องหลังคาแดงอะพี่ธิวาไม่เคยดูละสิ






แต่ง #พริ้มกับdaddy แล้วเหมือนเอาพลังชีวิตที่มีทั้งหมดมาใช้เลยค่ะ

ทานมาม่ากันจนอืดเต็มถ้วยแล้ว

ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ

ขอบคุณทุกวิว ทุกคอมเม้นท์ ทุกบวกเป็ดทั้งในนี้แล้วก็ในทวิตด้วยนะคะ

<3
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 05-05-2018 00:03:22
เดี๋ยวๆ คุณท่านนี่คืออะไร ทำงี้ โหดร้าย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 05-05-2018 00:26:20
ถามจริงนักพริ้มกันบ้างมั้ย?
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 05-05-2018 01:32:04
เนื่องจากเพราะชื่อเรื่องมีคำว่า3P ทำให้ยังรอคุณท่านอยู่เสมอ   ทั้งๆๆที่ดูเหมือนพริ้มจะห่างจากคุณท่านออกไปทุกที(รึเปล่า)
คุณธิวานี่ ไม่น่าไว้ใจ ดูคุ้มดีคุ้มร้าย จะปากหวานก้นเปรี้ยวไหม
เรื่องคุณท่านเทพริ้มมาให้ธิวานี่พอจะเข้าใจนะว่า น่าจะมาจากที่ธิวาพูดกับคุณท่าน คล้ายอยากยุ่งกับพริ้ม แล้วพูดว่าถ้าฟ้ารู้..คุณท่านเลยเทพริ้มมาให้เลย   เหมือนคุณท่านมีนิสัยชอบประชด(เอาไว้กลบความอ่อนแอ ทำเหมือนไม่ได้แคร์พริ้ม กลัวคนว่าติดเด็ก  แต่จริงๆเริ่มจะแคร์ )....  คาดว่าเมื่อเอาพริ้มมาทิ้งไว้ทางนี้  คุณท่านน่าจะเป็นฝ่ายมาหาพริ้มเอง.....ไหมๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-05-2018 01:49:30
พริ้ม สู้ ๆ นะลูก หนูต้องหายจากโรคนี้ได้แน่ ๆ  :กอด1:

ปอลอ   ผู้ใดเอา + เป็ด ไป รบกวนเอามาคืนด้วยจ้า   :m5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-05-2018 02:06:51
อ่านแล้วเครียดตามเลย มันจะอะไรนักว่ะกับชีวิตเนี่ย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: LAFIA ที่ 05-05-2018 05:02:07
นิสัยไม่สมเหตุสมผลทั้ง3คนอะ อ่านละขัดอารมณ์ ตอนแรกชอบนายเอกนะใจแข็ง ปากแข็งปากดี ดี ที่ด่าวีเสือกตอนไลฟ์เซ็ก ที่เถียงไทม์ให้เอาๆให้เสร็จๆไปอะ เราชอบอารมณ์แบบนั้นมากกว่าอะ เอ็งทำงานเลี้ยงน้องมากี่ปีอะเห้ยยย อารมณ์แบบถวายชีวิตเลย single dad อะ แต่ตอนหลังๆดูเหมือนเด็กปัญญาอ่อนไปเลยอะ เดี๋ยวงื้อเดี๋ยวเง้อ แด๊ดดี้ตอนคุยโทรศัพท์บอกไม่ต้องการให้พริ้มมาอยู่กับกู แต่ตอนเช้าบอกมาเห็นหน้าบ้านละโกรธที่นั่งให้ยุงกัดเป็นชม.ๆโดยไม่โทรบอกหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าดีดี คืออารมณ์ตอนนั้นของไทม์แน่ๆตอนเจอหน้าบ้านคือ เหี้ยไรเนี่ย ห่ากาลกูไม่ได้ต้องการให้เด็กนี่มาอยู่กับกูอะ!! สุดท้ายที่แย่สุดคือความเอาใจใส่ของทั้ง2รุกที่มีต่อพริ้ม สลับร้ายแบบที่อ่านแล้วคือ...อะไรอะ? มันใช่หรอวะ? อารมณ์ไม่สอดคล้องกันเลย แล้วอีนางฟ้าที่จะกลับมามั้ยไม่รู้แต่ตัวประเด็นเลยแหละ คือเป็นแฟนไทม์ เสร็จละนางฟ้าเลิกรักไปรักกาลแทน วอทททท แล้วการพูดของนางฟ้าในโทรศัพท์คือปัญญาอ่อนสุดๆ สมองดูไม่น่าเรียนต่างประเทศอะ หรือไม่ก็นางควรเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชายอะ
เห้อ ยังไงพริ้มก็คือเงาของอีนางฟ้าอยู่วันยังค่ำ กาลถวายทุกอย่างให้ดูจากทั้งเคลียงาน ทั้งรีโนเวทคอนโดจนสภาพมีแต่สิ่งที่มันชอบ ให้พลิคมารักก็คิดไม่ออก ถ้าให้อยู่ดีดีพระเอกทั้ง2เริ่มมีใจให้หรอ เหอะๆ ยากเถอะ โครตไม่สมเหตุสมผล very invalid อะ เชื่อมอารมร์กับนิสัยไม่เข้ากันเลย อ่านแล้วขัด  :a5: ส่วนเรื่องsugar daddy ตามชื่อเรื่องออนไลน์ออฟไลน์ มีบทบาทแค่ไม่กี่ตอนคือใช้ไลฟ์เซ็กกับวี แค่นั้นอะ แล้วอีวีก็โดนเฉือน ข่มขืน ฆ่าตายไปละ จบ ที่เหลือก็ตรงตามชื่อคือเด็กเสี่ย sugar daddy

P.S.ขออนุญาติแก้ไขคำผิดค่ะ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 05-05-2018 06:15:26
ชีวิตมันยุ่งยากจริงๆสินะ เดี่ยวถูกโยนไปนั่นโยนไปนี่  ยิ่งอ่านยิ่งมึนตามพริ้ม  อืดท้องกับมาม่าชามโตของพริ้มละเกิน
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 05-05-2018 08:00:23
อะไรกันเนี่ยย ย ทุกคนจะเอาไงกับพริ้มกันแน่
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 05-05-2018 08:11:26
ชีวิตพริ้มคือแบบวุ่นวายมาก เมื่อไหร่พริ้มจะได้อยู่อย่างมีความสุขบ้างน้อ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-05-2018 10:13:21
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-05-2018 13:01:51
งานนี้มีมาม่า มาม่าสิบซองด้วยจ้า555
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม้วธวัลหทัย ที่ 05-05-2018 14:02:02
แด๊ดดี้ไม่น่ารักแล้ว!!!!!
ลูกสาวก็เป็นคนช่างประชดชีวิต

งื้อออออออ รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 05-05-2018 18:49:15
สงสารพริ้มจัง  :o12:
กินมาม่าอืดมาก อยากได้ของหวานบ้างอ่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 05-05-2018 22:30:53
อือ ยิ่งอ่านยิ่งแปลก ออกทะเลไปไกล ตัวละครมีเหตุผลที่่ป่วยเกินหรือเปล่า ดูไม่สมเหตุสมผล คาแรกเตอร์ไม่คงที่เลย แถมยัดเยียดดราม่าเกิน ถ้ามันไร้เหตุผลแต่แรก ตอนคลายปมมันก็ไม่มีวันเมคเซนส์ตามต้นเรื่องอะแหละ สุดท้ายนี้ นังฟ้า นังใจฬ่านเลเวลร้อยขนาดนี้ มีดีอะไรทำไมคนรักหลง ยัดเยียดมากอ่ะตรงนี้ ปมนี้อ่ะ ทำให้ ตัวละครอื่นมีความคิดที่ปัญญาอ่อนมาก น่าตบกะโหลก
สุดท้ายของสุดท้าย นักเขียนสู้
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 05-05-2018 22:44:50
ถ้าคิดว่าไม่มีใครต้องการ ไม่ลองย้อนไปก่อนหน้านี้ที่ทำงานหาเงินให้น้องมาตั้งนานยังอยู่ได้
เพื่อที่จะได้เข้มแข็งขึ้นอีกซักนิด
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: lalun ที่ 05-05-2018 23:18:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 06-05-2018 06:16:31
 :m16: ชิส์..พอรังเกียจก็เอามาทิ้ง  :m31: พอคึดถึงก็วิ่งมาหา  :fire:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: ous_p ที่ 06-05-2018 15:08:54
ผู้ชาย  2 คนก็ดูจะผีเข้าผีออก ทำแบบนี้ปล่อยน้องไปจะง่ายกว่า
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: hikkie ที่ 06-05-2018 16:25:03
ถ้าเฉลยตอนสุดท้ายว่าคุณท่านมีแฝด นี่ก็จะเชื่อเพราะดูแปลกๆเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-05-2018 18:52:03
พริ้ม อารมณ์หม่นมากกกกกกกกก
ดูถูกตัวเอง เด็กขาย ก็ขาย จะเศร้าหม่นไรนักหนา
หลงไปกับความแปรปรวนของคุณท่าน
แรกๆดูพริ้ม  เป็นคนใจแข็ง ที่ไหนได้ดูอ่อนแอมากกกกกก   :angry2:

พริ้มใจอ่อน กับน้องก็ตามใจซะเหลวไหล ไม่ได้เรื่อง
จมไม่ลง ทั้งที่ไม่มีรายได้
ต่อไปต้องทำปัญหาให้พริ้มแน่

ที่คุณชัยทำท่าว่าพริ้มสำคัญต่อคุณท่าน ตรงไหน ?????  :hao3:
แตะต้องพริ้มก็ไม่แตะ แต่ไปฟัดๆเร่าร้อนกับนังแพท ไม่มีอาย
กาล เดี๋ยวโหด เดี๋ยวดี สองบุคลิกปะ

นังแพท เหมือนรู้อะไรๆ อิจฉาพริ้มที่สำคัญกับกาลสินะ
สำคัญมากกว่าตัวเอง ยุแยง ให้ธิวาได้พริ้มไป
กาล ก็ทำเป็นไม่ใส่ใจ ไหนว่าหวง ของๆข้าห้ามใครมายุ่ง
ก็ตัวเองแหละทำโทษพริ้มให้การ์ดข่มขืนพริ้มซะเอง
แล้วขายพริ้มให้แพทที่ซื้อให้ธิวาอีก หวงบ้าหวงบอแล้ว   :z3: :z3: :z3:

แล้วฟ้าครามนี่ยังไงกัน
ทั้งกาล ทั้งธิวา หัวหมุนตามๆกัน จะเอาไงกันแน่
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 01-06-2018 12:47:13
หายไปนานเลยครับ
รออ่านอยู่นะครับ

            :m16:
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 01-06-2018 18:12:20
รออ่านเหมือนกัน
ยังเฝ้ารอคุณท่าน เหมือนพริ้ม เสมอ
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: kawaiineko ที่ 10-06-2018 23:10:39
แอบรออ่านอยู่นะจ้ะ...เทอไม่รู้บ้างเลย แอบส่งใจให้นิดๆ ดูเทอช่างเฉยเมย..เอาล่ะเตรียมใจไว้หน่อย มันจะหัวก้อยต้องเสี่ยงกัน..เย้..อิ..เย่..อิ...เย่~
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 11-06-2018 08:42:58
หายไปนานจัง  อย่าเทเรื่องนี้นะ o22
หัวข้อ: Re: Sugar daddy [3P] Offline ก็ได้...Online ก็ดี ❤️ ตอนที 17 P.9 04.05.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 14-06-2018 20:16:27
ขอโทษนะคะที่หายไปนานเลย

ช่วงที่หายไปคือช่วงที่เปิดเทอมครบ 1 เดือนพอดีเลยค่ะ

ชีวิตช่วงนี้เหนื่อยแบบ beyond มากจริงๆค่ะ

จะกลับมาต่อแน่นอนนะคะ ไม่ทิ้งแน่นอน

อย่าพึ่งทิ้งน้องพริ้มกับแด๊ดดี้ไปไหนนะคะ

คอมเม้นท์ติชมที่เขียนกันมาเราจะนำไปปรับปรุงนะคะ :)

สุดท้าย ขอบคุณที่ยังรอกันนะคะ

ป.ล. มีคนทักเรื่องชื่อเรื่องมา เราขอเปลี่ยนแล้วกันเนอะ

หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 17 + แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 14-06-2018 21:16:16
รอนะคะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 17 + แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 14-06-2018 22:03:45
เปลี่ยนชื่อเรื่องแล้ว   ขออยู่ทีมคุณท่านน๊า
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 15-06-2018 07:48:17
ตอนที่ 18


ความเชื่อที่ว่า ‘ฟ้าหลังฝนมักสวยงามเสมอ’ มันก็แค่คำพูดหลอกเด็ก


หลังจากพบจิตแพทย์แล้ว ผมรู้สึกเหมือนยกภูเขาที่หนักอึ้งอยู่ในอกออกไป แต่มันก็เป็นแค่ความสบายใจชั่วลมหายใจ เพราะเมื่อกลับมาถึงบ้าน…รถคุณท่านก็จอดรออยู่แล้ว


ไม่อยากจะคาดเดาจริงๆว่าคุณท่านมาทำไม หรือจะมาดูซากหมาหัวเน่าที่ถูกทิ้ง


ผมนั่งเท้าคางอย่างเบื่อๆ มองผู้ชายสองคนที่นั่งจ้องกันเขม็งอยู่คนละฝากโซฟามาสักพักใหญ่ มีอะไรทำไมไม่พูดกันสักที จะนั่งจ้องหน้ากันอีกนานไหม เห็นแบบนี้แล้วอึดอัดแทน


“มาทางไหนก็ไสหัวกลับไปทางนั้น บ้านนี้ไม่ต้อนรับพวกไร้มนุษยธรรม”พี่ธิวาเป็นคนพ่ายแพ้ในเกมส์จ้องตาครั้งนี้เพราะอดรนทนไม่ไหว ยอมพูดออกมาก่อน


สำหรับเกมส์นี้คุณท่านเก็บแต้มนำไปก่อน
คุณท่าน : พี่ธิวา = 1 : 0


“มนุษยธรรมเป็นยังไงเหรอครับคุณ คุณมีไหม? ไหนเอามาโชว์หน่อยสิ อย่าดีแต่ออกเสียงคำว่า ‘มนุษยธรรม’ เป็น แต่ตัวเองไม่มี”


“ชั้นเบื่อจะพูดกับนายจริงๆ วันหลังอย่าเอาน้องมาทิ้งไว้แบบนั้นอีก น้องต้องนอนรอข้างถนนตั้งนาน”


“เป็นหมาเหรอพริ้ม ถึงต้องนอนรอข้างถนน”ผมอ้าปากค้างกับคำพูดของคุณท่าน เอามาทิ้งไว้แบบนั้น ไม่ให้รอข้างถนนแล้วให้ปีนเข้าบ้านพี่ธิวารึไง


“พอใจแล้วนี่ที่ให้เห็นหน้าน้อง กลับไปได้ละ”พี่ธิวาเอ่ยปากไล่คุณท่านอีกเป็นครั้งที่สอง


“ชั้นไม่ใช่เด็ก 18 ที่เห็นหน้าเด็กแล้วใจชุ่มชื้น ถ้ามาหา มันแปลได้แค่ว่า อ ย า ก เ อ า”


“บ้านกูไม่ใช่ม่านรูด”


“ความรู้ใหม่นะเนี่ย ไม่ใช่ม่านรูดแต่เป็นโรง ‘เชือด’ ใช่ไหมละ ตอนนั้นฟ้ายังเล่าให้กูฟังเลยว่าเห็นมึงเอากับเด็กตั้งไม่รู้กี่ท่าต่อกี่ท่า”


“ไอเหี้ย”พี่ธิวาลุกจากโซฟา แขนยาวเอื้อมมือทีเดียวกระชากคอเสื้อคุณท่านจนตัวลอยขึ้นมาจากโซฟา ผมว่าคนที่จะแพ้เกมส์ในวันนี้คงเป็นพี่ธิวาแน่ ถ้ายังโดนคุณท่านปั่นหัวอยู่แบบนี้


พี่ธิวาถูกคุณท่านเอาจุดอ่อนมาปั่นประสาทอีกแล้ว
ไม่รู้จะต้องแพ้กี่รอบ ถึงจะรู้ตัวสักที
คุณท่าน : พี่ธิวา = 2 : 0


“หึ! มึงมันก็แค่เต่าที่หดหัวอยู่ในกระดอง ฟ้าก้าวข้ามมึงไปเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ แต่มึงยังย่ำอยู่ในโคลนตมเน่าๆเหมือนเดิม”ผมว่าวันนี้คุณท่านพูดดี พี่ธิวายังยึดติดอยู่กับความรู้สึกเดิมๆจริงๆนั่นละ


“ถ้าฟ้าก้าวไปข้างหน้า มึงคงถอยหลังลงคลอง อะไรเหี้ยๆกูเคยทำกับฟ้า มึงก็กำลังทำมันกับพริ้ม”


“กูทำอะไร?”คุณท่านสบัดข้อมือพี่ธิวาที่กำปกคอเสื้อจนยับยู่ยี่ออก


“ตอนอยากได้ก็บังคับให้ได้มา พอรู้ว่าตัวเองกำลังตกหลุมที่ขุดไว้ ก็รีบตะเกียกตะกายดันทุรังจะหนี แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น”


“กูหนีไม่พ้นตรงไหน”


“ตรงที่มึงทิ้งพริ้มได้ไม่ถึงวัน สุดท้ายก็ต้องเสนอหน้ามาหาพริ้มถึงบ้านกูนี่ไง”


“กูไม่ได้มาหามัน กูมา ‘เอา’ มันให้คุ้มกับเงินที่กูจ่าย”


“ก็แค่เศษเงินแสน ถ้ามึงเสียดายมาก กูจ่ายคืนให้สิบเท่าเลย แล้วช่วยเอาหน้าเหี้ยๆของมึงออกไปจากชีวิตกูกับพริ้มสักที”


“มึงแน่ใจนะว่าจะจ่ายให้กูสิบเท่า”คุณท่านยิ้มร้ายอย่างพอใจ


“เงินแค่นั้นไม่กระทบเศษขี้ตีนกูหรอกไอกาล มึงอยากได้ก็เอาไป แล้วไสหัวไปซะที กูหวังว่าชาตินี้กูกับมึงจะหมดเวรหมดกรรมกันสักที ไอ้สันดารหมา แค่เห็นเป็นรูก็อยากเอาไปหมด ไม่สนว่ามันจะเหม็นคาวน้ำกามเพื่อนสักนิด”พี่ธิวาด่าคุณท่านไป เซ็นต์เช็คไป เซ็นต์เสร็จก็โยนเช็คใส่หน้าคุณท่าน ส่วนคนได้รับก็สะบัดเช็คในมืออย่างอารมณ์ดี


“ด่ากูไม่ดูตัวเองเลยนะเพื่อน มึงก็เอาพริ้มต่อจากกูเหมือนกัน เป็นไงละ รูพริ้มมันคาวน้ำกามกูไหมละ”


“ไอ้เหี้ยกาล”พี่ธิวาตวาดเสียงดังลั่น หน้าตาโกรธจัดจนแทบฆ่าคนได้ ฟันกรามขบกัดกันแน่นจนเป็นสัน


“เช็คที่มึงให้มามันก็แค่เศษเหรียญ ถ้าจะให้แค่นี้ กูรอเก็บเหรียญจากปากมึงยังดีกว่า”


“ไม่รู้สิ ไม่รู้ว่าใครจะได้เก็บเหรียญจากปากใครกันแน่ ช่วงนี้ถูกหมายหัวอยู่ไม่ใช่รึไง อยู่ดีไม่ว่าดีดันอยากแกว่งตีนไปเอาสัมปทานรังนกของนายหัวมา”


ผมว่ายกนี้พี่ธิวาน่าจะชนะ ประเมินจากหน้าตาคุณท่านที่ไม่สบอารมณ์
คุณท่าน : พี่ธิวา = 2 :1


“ไม่ใช่เรื่องที่มึงต้องสอดตีนมายุ่ง เอาเวลาไปกกเด็กค่าตัวร้อยล้านของกูเถอะ วันไหนหลงมันหน้ามืดตามัวแล้วค่อยเซ็นเช็คใหม่มาไถ่รูมันก็แล้วกัน”คุณท่านพูดพร้อมกับฉีกเช็คมูลค่าหนึ่งล้านบาทให้กลายเป็นแค่เศษกระดาษไร้ค่าชิ้นเล็กชิ้นน้อย


“ขอกูเอาเลือดชั่วๆออกจากหัวมึงหน่อยเถอะ”ผมมองคนสองคนที่เริ่มตีกันจนสะบักสะบอมอยู่ห่างๆ ดูยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าจะเลิกตีกัน ผมเดินเลี่ยงจะขึ้นห้องไปอาบน้ำนอน แต่ยังไม่ทันพ้นหางตา ก็เห็นคุณท่านหยิบแจกันคริสตัลใบใหญ่เตรียมจะฟาดหัวพี่ธิวาที่นอนฟุบหน้าอยู่ที่พื้น


ผมไม่รู้ว่าตัวเองเสียสติไปแล้วรึไง ถึงได้หาเรื่องใส่ตัวรีบวิ่งลงบันไดไปยื้อแขนคุณท่านไว้ พี่ธิวาเงยหน้าขึ้นมาจากพื้น เลือดอาบแก้มจากคิ้วที่แตกไปแล้วข้างหนึ่ง


“ปล่อย นี่ไม่ใช่เรื่องของเธอ”


“ถือว่าผมขอเถอะครับ อย่าทำร้ายกันจนตายเลย”


“มันเป็นผัวเธอรึไง ถึงได้มาเดือดร้อนแทนมัน”


“คุณท่านอย่าถามคำถามที่ทราบคำตอบดีอยู่แล้วเลยครับ เพราะคุณท่านเป็นคนยัดเยียดสถานะนั้นให้พี่ธิวาเอง”


“โธ่เว้ย”คุณท่านสะบัดจนผมลงไปกองที่พื้น แจกันคริสตัลใบงามถูกขว้างลงพื้นตามลงมา แจกันใบสวยแตกเป็นเศษแก้วไร้ค่าอยู่ที่พื้น


เมื่อได้ทำลายข้าวของจนพอใจ คุณท่านถึงกลับได้ แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมาพูดกับพี่ธิวา “เด็กนี่เป็นของกู”


ผมช่วยพยุงพี่ธิวาให้ลุกขึ้น ถึงพี่ธิวาจะตัวพอๆกับคุณท่านแต่พละกำลังนี่สู้ไม่ได้เลย คุณท่านไม่มีแม้แต่รอยเลือดสักนิดบนใบหน้า เกมส์นี้พี่ธิวาพ่ายแพ้อย่างหมดท่าจริงๆ การใช้กำลังตัดสินปัญหา บางทีมันก็แค่ทางเลือกโง่ๆของคนไร้สติ 


“มองหน้าพี่ด้วยสายตาแบบนี้ ก็ด่าออกมาเลยดีไหม”พี่ธิวาดีดหน้าผากผม


“ถ้าไม่บอกนี่ไม่รู้เลยนะครับว่าคนตีกันเมื่อกี้แก่แล้ว คิดว่าเด็กวัยรุ่นเลือดร้อนที่ไหนซะอีก”


“ปากดี”พี่ธิวาลูบริมฝีปากผมก่อนจะดึงเข้าไปจูบ ริมฝีปากผมถูกดูดจนเห่อช้ำไปหมด ผิวเนื้อข้างลำคอถูกขบกัดจนเป็นรอยฟัน ทับด้วยรอยดูดซ้ำๆอยู่ที่บริเวณเดิม


“พี่ธิวา ผมเจ็บ”ผมโวยวายประท้วงเพราะรับแรงอารมณ์ดุดันนี่ไม่ไหวแล้ว


“พริ้มเป็นของพี่ ไม่ใช่ของมัน”ผมถอนหายใจ คุณท่านกับพี่ธิวานี่เหมือนเด็กน้อยสองคนที่ตีกันแย่ง ‘ของเล่น’ เอาเถอะ ตอนเด็กๆคงแย่งรถบังคับ พอโตมาหน่อยก็แย่ง ‘อีตัว’ กัน


“ทำแผลไหมครับ”ผมชี้ไปที่หางคิ้วพี่ธิวาที่เลือดไหลซึมลงมาอาบหน้า


“ไปอาบน้ำเถอะ พี่จัดการตัวเองได้”


ผมยอมไปอาบน้ำตามที่พี่ธิวาบอก หันมามองตอนขึ้นบันไดก็เห็นคนตัวสูงนั่งพิงพนักโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อนอยู่ ไม่รู้จะโทษใคร ก็หาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น


ผมอาบน้ำเสร็จแล้วมานอนรอพี่ธิวาบนเจียง นอนพลิกไปพลิกมาอยู่นานมาก พี่ธิวาถึงเข้าห้องมา คนตัวสูงถอดเสื้อโยนลงตะกร้า เผยให้เห็นแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม…กล้ามขนาดนี้ก็ยังสู้คุณท่านไม่ได้ กล้ามไม่ช่วยอะไรอะ บอกเลย


ผมที่นอนหลับตาอยู่รู้สึกถึงแรงยวบจากอีกฝั่งหนึ่งของเตียง หันไปมองก็เห็น พี่ธิวานอนก่ายหน้าผาก หน้าตาครุ่นคิดถึงบางสิ่ง


“ไล่ให้มานอนตั้งนานแล้วยังไม่หลับอีก ดึกแล้วนะครับ”


“เจ็บไหมครับ”ผมไล้ไรคิ้วของพี่ธิวาเบาๆด้วยปลายนิ้ว พลาสเตอร์ลายแองกรี้เบิร์ดนี่ก็ตลกจัง


“เจ็บครับ นอนได้แล้ว”พี่ธิวาดึงมือผมออกจากแผล


“พี่ธิวา…”


“หื้ม?...”พี่ธิวาเลิกคิ้วถามผม ผมขยับตัวเข้าไปนอนพิงอกพี่ธิวา ใกล้จนได้ยินเสียงหัวใจเต้นดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ


พี่ธิวาดึงผมไปกอด เกยคางไว้บนศรีษะทุยสวยของผม ฝ่ามือนุ่มลูบหลังเบาๆ “นอนได้แล้วเด็กดี” พี่ธิวาค่อยๆหรี่ไฟในห้องให้สว่างน้อยลงจนเหลือเพียงแค่แสงสลัวๆ ผมเกาะแขนพี่ธิวามือสั่น รู้สึกไม่ดีเลย


“นอนเถอะนะคนดี…”พี่ธิวาลูบหัวผม พร้อมกับเสียงเพลงบรรเลงเพลงกล่อมเด็กที่ค่อยๆดังขึ้นคลอเบาๆ “ไม่มีอะไรที่พริ้มต้องกลัว ถ้าพี่ยังอยู่ตรงนี้”


ผมพยายามข่มตาหลับ แต่สุดท้ายก็ไม่หลับ เป็นพี่ธิวาที่ชิงหลับไปก่อน ผมนอนจ้องหน้าพี่ธิวาแล้วก็ได้แต่สงสัย ผู้ชายรูปร่างหน้าตาดีขนาดนี้ ทำไมยังเป็นหนุ่มโสดจนถึงทุกวันนี้นะ


อาจเป็นเพราะเจ้าตัวไม่พร้อมจะเปิดใจรับใครเข้ามา เพราะในนั้นมีแต่ ‘คุณฟ้า’

หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 15-06-2018 08:24:39
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 15-06-2018 09:13:26
โอ้คุณท่านปล่อยไม่สุด
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: ous_p ที่ 15-06-2018 09:27:00
พี่ธิวา เป็นยังไงแน่น๊า
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-06-2018 10:41:46
คุณท่าน ตกหลุมพริ้มแล้ว
เดี๋ยวคุณธิวา ก็ตกหลุมพริ้มตามไปด้วย  :m20: :laugh: o18

คุณท่าน ทำเป็นเรียกเงินสิบเท่า
เอาเข้าจริงพอได้ก็ฉีกเช็คซะและ
แสดงว่าไม่ยอมปล่อยพริ้มจริงๆสินะ   :serius2: :serius2: :serius2:

แอบคิดว่าไรท์ เขียนชีวิตพริ้มภาคผู้ชาย
ภาคหญิงก็ อีพริ้ง.......คนเริงเมือง ไง  :katai3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-06-2018 15:37:59
คราวหน้าพริ้มคงต้องซื้อนวมใว้สักคู่555
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-06-2018 15:48:48
อยากเจอฟ้าจังเลย  :hao3:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 15-06-2018 18:10:52
 ดีใจที่มาต่อนะครับ


               :pig4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: btoey ที่ 15-06-2018 22:38:41
คุณฟ้า ทำไมค่าตัวเเพงงจัง มีชื่อทุกตอนแต่ตัวอยู่หน่ายย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 16-06-2018 01:35:11
โอ้ยยยย ชิวิตพริ้ม น่าสงสารเว่รอ์ ผช 2 คนนั้นก็ช่วยชัดเจนทีเถอะ ละพอฟ้ากลับมานะ สองคนนี้ก็คงหันไปสนใจฟ้า ทิ้งพริ้มอีก อยากให้จบแบบพริ้มหายไปเลย แล้วปล่อยให้สองคนนั้นรู้ใจทีหลังแต่ทำอะไรไม่ได้แล้ว ถ้าจบแบบนี้คือแฮปปี้เอนด์ของเราที่สุดสำหรับเรื่องนี้แล้ว 5555555555

เป็นกำลังใจให้คนแต่งจ้าา
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 16-06-2018 09:19:35
พริ้มลูก น่าสงสารที่สุด
นี่รอคุณฟ้าอยู่อยากรู้เค้าเป็นคนยังไง เห็นมีชื่อมาหลายตอนแล้ว5555
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: M_Y MILD ที่ 16-06-2018 11:01:40
สนุกดีค่ะ แต่อ่านไปอ่านมารู้สึกตัวเองจะเป็นไบโพลาเลย ตามอารมพริ้มไม่ทัน ทำตัวเป็นของเล่นเขา ตัดก็ตัดไปเลยลูก หนูไม่ใช่ของเล่นของใคร ให้กาลมันอยากได้มากๆจนอกแตกตายไป
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 16-06-2018 16:34:49
แปลว่าคุณท่านตกหลุมพริ้ม แต่ธิวาออกแนวรู้สึกผิดหรอ อ่านไปอ่านมา รู้สึกคุณท่านรังเกียจที่จะเอาพริ้ม แต่เอ็นดู บอกไม่ถูก แต่ที่แน่ ๆ พริ้ม เขาไม่เอาก็หาเลี้ยงตัวเองดิ ที่ทำมาสองปีไม่สำนึกคิดเลย หรือนอนอ้าขามันสบาย ?? แต่ที่โดนมาแต่ละเรื่อง หาตังเลี้ยงตัวเองมันดีกว่ามะ หนักจนเกือบเอาชีวิตไปทิ้งปะวะ งงใจ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-06-2018 16:50:20
เฮ้อ~
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 18 P.10 15.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 18-06-2018 22:03:09
คุณท่านน่ะเป็นพวกปากแข็ง
กลัวเสียฟอร์มถ้าจะบอกว่าชอบสไตล์หมีควายแบบพริ้ม(คุณท่านมองว่าพริ้มเป็นพวกตัวใหญ่)

แต่ชอบไม่ชอบ  ตั้งแต่ลองพริ้มครั้งแรก คุณท่านก็ตัดใจไม่ขาด จนต้องกลับมารับเลี้ยงพริ้ม
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 19-06-2018 22:36:08
ตอนที่ 19


ชีวิตช่วงสอบของนักศึกษามหาวิทยาลัยอย่างผมเป็นชีวิตที่ไม่มีอะไรตื่นเต้นเอาเสียเลย วันๆทำแต่กิจวัตรประจำวันเดิมๆ…ตื่นนอน ไปเรียน อ่านหนังสือวนๆไป


ตะบี้ตะบันอ่านจนเหลือเวลานอนแค่วันละ 2-3 ชั่วโมงยังทำข้อสอบไม่ได้เลย เศร้าใจ บางทีเห็นข้อสอบแล้วนึกออกว่าคำตอบมาจากชีทไหน อยู่มุมซ้ายหรือมุมขวาของหน้ากระดาษ แต่ดันจำสิ่งที่เขียนอยู่ในนั้นไม่ได้ สงสัยสมองผมจะเท่าเม็ดถั่วเขียว


ผมเดินสะโหลสะเหลเหมือนซอมบี้ออกจากห้องสอบ ตอนลงบันไดรู้สึกเหมือนหัวจะทิ่ม


“พี่พริ้มไหวไหมเนี่ย”น้องนัทช่วยประคองผมที่กำลังจะร่วงลงไปกองที่พื้น พยุงมานั่งที่โต๊ะประจำที่นั่งกินข้าวกันทุกวัน


“ไหวๆ”ผมตอบน้องเสียงยานคางด้วยความเหนื่อยอ่อน


“แต่หน้าพี่นี่ไหวนะ”


“ง่วงอะ หิวด้วย เมื่อเช้ากินข้าวไม่ทัน”


“งั้นไปกินข้าวกันไหมพี่ รอพวกนั้นออกจากห้องสอบอีกสักพักก็หมดเวลาละ”


“ไปไม่ได้อะ เดี๋ยวมีคนมารับ นัทพี่ขอฟุบหน่อยนะ เฝ้ามือถือให้ด้วย ถ้ามีคนโทรเข้าก็ปลุกได้เลย”


“ได้พี่ เดี๋ยวผมดูให้”


ยังไม่ทันที่ผมจะฟุบหน้านอนลงบนโต๊ะแล้วหลับสนิท น้องนัทก็สะกิดว่ามีคนมารับแล้ว ผมลืมตาสะลึมสะลือเห็นน้องกดวางโทรศัพท์แล้วก็งงๆ เสียงโทรศัพท์ดังตอนไหนนะ ทำไมผมไม่ได้ยิน


ผมข้ามถนนหน้าคณะไปฝั่งตรงข้ามที่มีรถคุณชัยจอดรออยู่ ยกมือไหว้สวัสดีคุณชัยเหมือนที่ทำทุกวันแล้วขออนุญาตนั่งหลัง


ผมทิ้งตัวนอนลงบนเบาะหลังด้วยความง่วง พยายามเหยียดขายาวแต่ก็ติดประตูรถ ต้องนอนคุดคู้งอขา ผมหันหน้าซ้ายขวา ขมวดคิ้วกับสัมผัสที่ไม่คุ้นชิน


นอนแล้วรู้สึกแข็งๆยังไงไม่รู้ ด้วยความขี้เกียจลืมตา ผมใช้มือคลำหาแทนว่านอนทับอะไรอยู่รึเปล่า เบาะรถมันต้องนุ่มสิ นี่นอนทับอะไรอยู่นะ ทำไมมันแข็งๆกล้ามๆ


คลำหาเท่าไหร่ก็หาคำตอบไม่ได้ จนต้องลืมตาขึ้นมานั่นแหละ ถึงได้เห็นว่านอนทับขาคุณท่าน แถมยังเผลอคลำโดนโคนขาด้านในจนเกือบถึงจุดยุทธศาสตร์อีก ผมนี่ปล่อยมือแทบไม่ทัน


ผมรีบลุกจากตักด้วยความตกใจ แต่ด้วยความซวยที่คุณท่านก้มมาพอดี head-shot ตายไปเลยผม


ผมนอนมึนเห็นดาวล้านดวงในดวงตา นอกจะเจ็บตัวแล้วต้องโดนคุณท่านด่าแน่เลย


“ทำไมไร้สติขนาดนี้พริ้ม”เสียงดุๆเสียงเดิมๆเริ่มเทศนาสั่งสอนผม


“ก็ผมไม่คิดว่าคุณท่านจะก้มลงมา”


“ก็ชั้นอยากดูให้ชัดๆว่านี่ใช่เด็กชั้นจริงๆรึเปล่า หน้าตาดูไม่ได้ ตาคล้ำ ถุงใต้ตาก็ใหญ่ สิวก็ขึ้น นี่ไม่ดูแลตัวเองเลยรึไง”


“ก็ผม…”


“ไม่ต้องมาเถียง”


ผมเม้มปาก ไม่เถียงก็ไม่เถียง คุณท่านถูกเสมอนั่นแหละ ผมพลิกตัวเข้าหาคุณท่าน เอาหน้าฝังไว้ที่กล้ามเนื้อหน้าท้องแน่นๆของคุณท่าน อยากบ่นอะไรก็บ่นไป ผมจะนอน ขี้เกียจฟัง…เหนื่อย ง่วงด้วย


“ไม่ต้องมาหลับตาหนี คดียังไม่ได้ชำระ”ผมอ้าปากค้างด้วยความงงงวย คดีอะไร?....ช่วงสอบก็ไม่ได้เจอกัน ผมไปก่อคดีตรงไหน


“วันนั้นเข้ามารับแจกันแทนธิวาทำไม?”เพลียใจ เรื่องเก่าสมัยปีละโว้ ยังขุดมาพูดได้อีก คนแก่นี่ชีวิตย้ำคิดแต่เรื่องเก่าๆรึไง


“อย่าทำอีก…อย่าเห็นใครสำคัญกว่าชั้น ชั้นเป็นเจ้าของชีวิตเธอ ถ้าวันนั้นชั้นไม่ไปช่วย เธอคงตายเป็น ‘ศพ’ ไปแล้ว อย่าใช้ชีวิตที่ชั้นมอบให้ไปเพื่อคนอื่น”



ผมฟังคำคุณท่านแล้วได้แต่ครุ่นคิด คุณท่านเห็นแก่ตัว ดีแต่จะเรียกร้องจากผม แต่ไม่เคยให้สิ่งที่ตัวเองเรียกร้องกับผมเลยแม้แต่น้อย


“เงียบทำไม ชั้นพูดภาษาคนนะพริ้ม มันเข้าใจยากตรงไหน?” ทุกตรงนั้นแหละ


“ป่าวครับ ผมจะจำไว้”


“ดี”


.
.
.
ผมเดินสะโหลสะเหลเข้าห้องตัวเอง ทักทายเจ้าแคคตัสที่ผลิดอกสวยงาม ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียง ยังไม่ทันจะหลับตาก็มีมารความสุขมาผจญ


“พริ้ม ลุกขึ้นมาอาบน้ำ”ผมส่ายหน้ายู่ คว่ำหน้าลงกับหมอน


พริ้มจะน๊อนนนนนน…คุณท่านเลิกยุ่งกับผมสักชั่วโมงเถอะ


“ลุกขึ้น”คุณท่านเปลี่ยนโทนเสียงเป็นเสียงที่ดุขึ้น ผมหันหน้ามาลืมตามองเห็นคุณท่านยืนพิงกรอบประตูด้วยสะโพกแกร่งอยู่ คิดว่ากอดอกแล้วยืนท่านี้มันเท่อ่อ…เอออ เท่ ยอมรับ


“ไม่ต้องมาทำดื้อตาใส สภาพซกมก ดูไม่ได้ ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย”


“คุณท่าน พริ้มไม่ไหวจริงๆ”ผมยกมือไหว้ปลกๆก่อนจะหลับตาลง


“คุณท่าน ปล่อยผม”ผมโวยวายที่คุณท่านดึงคอเสื้อผมให้ลุกจากที่นอน ตอนแรกจะบ่นงุ้งงิ้งมากกว่านี้ แต่พอเห็นหน้าตาไม่สบอารมณ์ สุดท้ายเลยต้องยอมเงียบปาก เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวกับชุดคลุมอาบน้ำแล้วไปอาบน้ำแต่โดยดี


เดินเข้าไปในห้องน้ำ ก็เห็นน้ำในอ่างอาบน้ำถูกรองไว้เต็ม ฟองสบู่สีเรนโบว์ส่องประกายสดใจจากกลิตเตอร์เม็ดเล็กๆ มองแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นนิดนึง อุณหภูมิน้ำก็อุ่นกำลังดี


ถึงจะไม่รู้ว่าใครเตรียมให้แต่ก็ขอบคุณนะครับ ผมจะนอนแช่ให้สบายใจ


ด้วยความที่ผมใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วงตลอดช่วงสอบ พอได้นอนแช่ในน้ำอุ่นๆ ผมก็ผลอยหลับไป


“พริ้ม ชั้นให้มาอาบน้ำ ไม่ได้ให้มาเปลี่ยนที่นอน”ผมสะดุ้งตื่น หันไปตามเสียงเห็นคุณท่านเดินเข้ามาในห้องน้ำ กำลังจะเอามือขยี้ตา ก็โดนตีมือซะก่อน “มือเลอะฟองสบู่ ขยี้ตาเดี๋ยวก็แสบพอดี”


“แช่น้ำมาจะชั่วโมงแล้วนะพริ้ม ลุกไปอาบน้ำดีๆไป”โดนดุแล้วก็อยากจะเถียง ว่าคุณท่านนั่นแหละที่บังคับให้ผมมาอาบน้ำ ทั้งๆที่ปากผมพึ่งบอกหยกๆว่า ไม่ไหว คนมันง่วงงงงง! ไม่เข้าใจวัยรุ่นเลย แก่แล้วก็งี้ สอบครั้งล่าสุดคงสัก 20 ปีก่อน


ผมลุกจากอ่างอาบน้ำ ก้าวลงพื้น แต่ด้วยความลื่นของสบู่ทำให้ผมไถลไปกับพื้น ดีที่หน้าไม่คว่ำเพราะคุณท่านดึงไว้ทัน “เซ่อซ่า เฟอะฟะจริงๆพริ้ม รีบไปอาบน้ำ ชั้นให้เวลา 5 นาที”


ผมพยักหน้ารับรู้ รีบไปอาบน้ำสระผม อาบเสร็จ ออกจากห้องน้ำก็เจอคุณท่านนั่งรออยู่บนเตียง กวักมือเรียกให้ไปหา ฝ่ามือหนาตบลงบนตัก ผมนั่งหันหน้าคร่อมลงบนตักคุณท่านทั้งๆที่ใส่ชุดคลุมอาบน้ำอยู่ ชายผ้าแหวกจนเห็นถึงขาอ่อน


ผมจุ๊บเบาๆที่สันกรามคุณท่านก่อนจะซบหน้าลงที่ซอกคอ ปล่อยให้ริมฝีปากหนาของคุณท่านลากเลื่อนมาตามแนวสันคอ ประทับรอยจูบจนเต็มพื้นที่ “อื้อ…คุณท่าน”


ฝ่ามือหนากระตุกเชือกที่รัดชุดคลุมอาบน้ำออก ทุกๆสัมผัสที่ลูบไล้ไปทั่วกายสร้างความรู้สึกหวาบหวิว ปวดมวนในท้องน้อยได้ไม่น้อย


นิ้วเรียวสวยเชยคางผมขึ้น ก่อนจะประทับจูบลงมาอย่างดุดัน เอาแต่ใจ ลิ้นหนาสอดประสานเข้ามาในริมฝีปากผม พร้อมจะดูดดึง กลืนกินทุกอย่าง แม้แต่จิตวิญญาณผมถ้าเอาไปได้คงเอาไปแล้ว


“อื้อ…”ผมมองคุณท่านด้วยแววตาฉ่ำวาว ไฟปรารถนาถูกปลุกให้ลุกโชนได้โดยง่ายด้วยสัมผัสที่คุ้นชิน ร่างกายของผมเหมือนไม่ใช่ของผมอีกต่อไป คุณท่านขยับแตะตรงไหนก็เหมือนมีไฟฟ้าสถิต จุดติดไฟปรารถนาได้ทุกที่


ฝ่ามือหนาสอดเข้ามาใต้ชุดคลุมอาบน้ำ กอบกุมเจ้าก้อนเนื้อนุ่มสองข้าง เค้นคลึงจนพอใจ ผมบดสะโพกลงที่แก่นกายกลางลำตัวของคุณท่านด้วยแรงอารมณ์ที่ถูกปลุก


ผมแนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากหยุ่น “คุณท่าน…” ผมครางเบาๆชิดริมฝีปากของคุณท่าน คนตัวสูงกดไหล่ผมลงต่ำเป็นสัญญาณว่าต้องการอะไร


ผมเลื่อนตัวลงไปนั่งกองกับพื้น จัดการปลดเข็มขัด รูดซิบลง ทันทีที่ดึงชั้นในสีดำเข้มลง เจ้ามังกรยักษ์ที่แข็งขืนก็ดีดออกมาเกือบจะตีหน้า ผมครอบปากลงไปที่ส่วนปลาย ดูดกลืนแท่งสวรรค์อย่างเอร็ดอร่อยเหมือนอาหารชั้นเลิศ


ไล้เลียตามแนวแก่นกายที่ปูดโปนด้วยเส้นเลือด ก่อนจะครอบครองทั้งหมดเข้ามาในปาก ผมแทบสำลักกับความใหญ่โตของมัน ไม่ว่าจะได้ลิ้มชิมรสกี่ครั้งก็ยังไม่ชิน คุณท่านจับท้ายทอยผมตรึงไว้ ความรู้สึกอึดอัดเหมือนเคยเข้ามาแทนที่ ผมหายใจไม่ออกจนน้ำตาซึมที่บริเวณหางตา


“อึก…บ๊วบ…อื้อ…”ผมห่อปากให้คุณท่านขยับสะโพกเข้าออกตามแรงอารมณ์ ยิ่งใกล้ปลดปล่อย ยิ่งแรงและดุดันมากขึ้น ผมใช้มือดันหน้าท้องแกร่งที่เกร็งจนเป็นมัดกล้ามเนื้อเป็นลอนๆเพื่อชะลอความเร็ว แต่ก็ไม่เป็นผล


ผมเงยหน้ามองคุณท่านทั้งๆที่ท่อนเนื้อยาวยังคาอยู่ในปาก ริมฝีปากผมแดงและเห่อร้อนด้วยแรงเสียดสี


“หน้าตาเธอนี่มันร่ายKจริงๆเลยพริ้ม”คุณท่านดึงเจ้าท่อนเนื้อยักษ์ออกจากช่องปากผม จัดการเอาท่อนเนื้อฟาดไปที่แก้มและริมฝีปาก ผมลงลิ้นที่รูสวรรค์ตรงส่วนปลายอย่างรู้งาน


คุณท่านครางต่ำๆในลำคออย่างพึงใจ สาวมือสองสามทีก่อนจะยัดมันกลับเข้ามาในริมฝีปากผมอีกครั้ง “อึก…” ครั้งนี้ซอยอีกไม่เท่าไหร่ น้ำกามสีขาวข้นฉีดเข้ามาในลำคอผม ปริมาณของมันมากจนเอ่อล้นออกมานอกช่องปาก


คุณท่านลูบหัวผม “เดี๋ยวนี้เก่งขึ้นเยอะเลยนี่ ธิวามันสอนมาดีละสิ” ผมมองคุณท่านด้วยสายตาไม่เข้าใจ จะประชดประชันกันแบบนี้ไปเพื่ออะไร


คุณท่านดึงตัวผมขึ้นจากพื้นแล้วโยนลงบนเตียง ร่างหนาจับผมหันข้างก่อนนอนซ้อนทับจากด้านหลัง เจ้าท่อนเนื้อยักษ์ถูกดันแทรกเข้ามาในช่องทางอ่อนนุ่ม ผมขมิบต้อนรับมัน


“อืออ…แน่นจริงๆ นี่ขนาดผ่านมาหลายคนยังแน่นขนาดนี้”ผมซบหน้าลงกับที่นอน ไม่อยากให้คุณท่านเห็นน้ำตา คำพูดแบบนี้ไม่ต่างจากมีดคมๆที่กรีดใจผมให้เหวอะหวะ


ผมที่ไม่เคยเสียเอกราชทางด้านหลังให้ใคร แต่กลับต้องเสียมันให้กับผู้ชายมากหน้าหลายตา มันไม่ใช่เพราะคุณท่านรึไง ที่ยัดเยียดท่อนเนื้อน่ารังเกียจพวกนั้นเข้ามาในรูผม


ผมหมดสติไปด้วยความอ่อนเพลียหลังจากคุณท่านตักตวงความสุขอย่างเต็มที่จากร่างกายผม ไม่รู้ว่าไปอดอยากมาจากไหน 


ถึงผมจะปลดปล่อยออกมาหลายครั้งพร้อมๆกับคุณท่าน แต่ใจผมไม่รู้สึกถึงความสุขเลยสักนิด คำพูดคำนั้นยังวนเวียนอยู่ในความคิด ไม่เข้าใจว่าจะพูดออกมาเพื่อทำร้ายกันทำไม


ถ้าผมสกปรกอย่างปากว่าจริง แล้วจะมา ‘เอา’ กันให้แปดเปื้อนทำไม

.
.
.

ผมสะลึมสะลือปรือตามองคุณท่านที่ลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางอย่างงงๆ


“ชั้นจะไม่อยู่อาทิตย์นึง มีอะไรก็ติดต่อชัย ห้ามติดต่อชั้นเด็ดขาด เข้าใจไหม”ผมพยักหน้ารับด้วยความเหนื่อยอ่อน


“เงินเดือนเดือนนี้ ชั้นจะให้ชัยจัดการ ส่วนนี่บัตรเครดิตของเธอ อยากซื้ออะไรก็ซื้อ”ผมมองบัตรเครดิตสีดำในมือคุณท่าน “รับไปสิ”


“คุณท่านจะไปไหนครับ”


“ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องรู้”คุณท่านตอบพร้อมกับโยนบัตรเครดิตลงบนเตียงตรงหน้าผม ความรู้สึกมันพังทลายอย่างบอกไม่ถูก ถึงจะตัดสินใจขายเองก็เถอะ แต่พอเขาเอาเงิดฟาดหัวแล้วก็เจ็บแปลบๆ ผมกำบัตรสีดำในมือแน่น


“ผมอยากซื้ออะไรก็ได้เหรอครับ ถ้าผมรูดซื้อบ้าน ซื้อรถ…”


“อยากซื้ออะไรก็ซื้อ เธอมีปัญญารูด ชั้นก็มีเงินจ่าย”คุณท่านชักสีหน้ารำคาญพร้อมกับติดกระดุมเสื้อเชิ้ตไปด้วยผมลุกขึ้นจากที่นอน ผ้าห่มสีดำร่นลงไปกองอยู่ที่เอว เผยให้เห็นอกที่เต็มไปด้วยรอยฟันที่โดนขบกัดจนช้ำเป็นจ้ำๆ ผมลูบรอยฟันคมๆที่มีเลือดซึมนิดๆ


คุณท่านรุนแรงกับผมเสมอ ไม่เคยปรานีกันสักนิด


“เจ็บหน้าอก หายใจไม่ออกรึเปล่า”ผมส่ายหน้าตอบ “โทษที ชั้นรุนแรงไปนิด ถ้ามีอาการก็ให้ธิวาดูละกัน อ่อ...นี่กุญแจรถของเธอ จอดอยู่ชั้น B1 ล็อค 3”ผมมองกุญแจรถที่มีตัวอักษรเขียนว่า mini อย่างเหม่อลอย


เป็นเด็กเลี้ยงมันดีแบบนี้สินะ…แต่ทำไมผมถึงไม่รู้สึกดีใจกับวัตถุสิ่งของที่คุณท่านปรนเปรอให้สักนิด


“ส่วนเรื่องบ้าน เธอก็ไปดูๆมาแล้วกันว่าอยากได้แบบไหน แล้วก็ให้ชัยจัดการให้ได้เลย”คุณท่านสวมนาฬิกา ฉีดน้ำหอมเสร็จแล้วก็เดินมาหยิบมือถือที่โต๊ะข้างเตียง


“ชั้นไม่อยู่ก็ทำตัวดีๆ อย่าก่อเรื่องเพราะถ้าเธอก่อเรื่องอีก แม้แต่ชีวิตเธอเอง ชั้นก็จะไม่รักษาไว้ เข้าใจไหมพริ้ม”ผมพยักหน้าเข้าใจอย่างว่าง่าย


คำพูดแบบนั้นบวกกับโทนเสียงดุดัน มันตีความได้ว่าผมกำลังถูกขู่ฆ่าอยู่รึเปล่านะ


ผมนั่งนิ่งทบทวนตัวเองอยู่บนเตียงที่มีกลิ่นกายคุณท่าน กลิ่นน้ำหอมที่คุณท่านฉีดยังคงอบอวนอยู่รอบตัว คำถามที่ผมสงสัยแล้วเอ่ยปากถามไป มันได้คำตอบไม่ยากเลยสักนิดว่าคุณท่านไปไหน ทำไมถึงห้ามติดต่อ คำตอบเดียวคือไปหาคุณฟ้าคราม ‘คนรัก’ของคุณท่านตามที่เคยสัญญาไว้


ผมว่าตัวเองควรหยุดเพ้อเจ้อที่จะรู้สึกดีๆกับคุณท่านได้แล้ว ถึงคุณท่านจะเคยช่วยชีวิตผมไว้ ช่วยใช้หนี้ให้ แต่สิ่งที่เขาทำมันก็แลกกับความสุขบนเตียง รสนิยมบนเตียงทีมีแต่ความดุดัน รุนแรงที่เขาคงไม่สามารถทำกับคนรักของเขาแบบนี้ได้ มันเป็นความสัมพันธ์ที่ต่างคนต่างได้ผลประโยชน์


ผมได้เงินทองของมีค่า ส่วนคุณท่านได้ปลดปล่อย


คิดจะเป็น ‘อีตัว’ ก็ใช้ชีวิตให้สมกับเป็น ‘อีตัว’ สิพริ้ม
ผมมองบัตรเครดิตสีดำในมืออย่างหมายมาด เอาสิ อยากจ่ายดีนัก จะรูดให้สลิปยาวเป็นหางว่าวเลย


.
.
.
ผมตื่นนอนด้วยความอ่อนเพลีย ก้าวลงจากเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน อาการเจ็บแสบที่ช่องทางด้านหลังตอนอาบน้ำเป็นความทรมานอย่างบอกไม่ถูก แต่ยังโชคดีที่ผมยังมียาเก่าเหลืออยู่ เอามาทาบรรเทาอาการได้บ้าง


หลังจากทานข้าวเช้าที่พี่มะลิเตรียมไว้ให้ ผมก็ลงไปที่ลานจอดรถ มองรถที่จอดอยู่ตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา ขับรถก็ขับไม่เป็น ออกถนนใหญ่ก็ไม่เคย เคยแต่แอบช่วยพี่รับรถที่คลับขับรถลูกค้าไปจอดบ้างบางครั้ง จะขับได้รึเปล่าก็ไม่รู้


แต่พอเห็นรถจอดอยู่ตรงหน้าแล้วคิดว่าจะขับออกไปใช้ไม่ได้ มันรู้สึกเหมือนพ่ายแพ้ยังไงไม่รู้ เอาวะ ลองกันสักตั้ง


ผมกดปุ่มสตาร์ทรถ จับพวงมาลัยแล้วเหยียบคันเร่งเบาๆ ผมขับออกจากที่จอดด้วยความระวัง เพราะถ้าขับไปเฉี่ยวรถคุณท่านที่จอดอยู่ข้างๆนี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีเงาหัวเหลืออยู่ไหม


ผมมองรถซ้ายขวาด้วยความระวังก่อนจะเลี้ยวออกจากคอนโด โชคดีที่รถคันเล็กเลยขับให้อยู่ในเลนได้ง่าย ขับๆไปก็เจอคุณตำรวจยืนอยู่ คุณตำรวจครับ…ยืนเฉยๆพอนะครับ อย่ามาโบกรถขอดูใบขับขี่เป็นพอ เพราะผมไม่มีให้


ผมเปิดเพลงฟังฆ่าเวลารอไฟเขียว บางทีผมก็สงสัยว่าทำไมคนชอบขับรถมาห้างในเมืองกันจัง ทั้งๆที่รถติดจนทรมานขนาดนี้ ทำไมไม่ใช้รถไฟฟ้าแทน สบายกว่าตั้งเยอะ


จากคอนโดคุณท่านขับมาถึงห้าง ใช้เวลาเกือบชั่วโมง นี่ขนาดวันเสาร์ รถยังติดขนาดนี้ จะมีที่จอดรถรึเปล่านะ
ตอนแรกคิดว่าต้องวนหาที่จอดนาน แต่จริงๆไม่ใช่เลย แค่พนักงานเห็นรถที่ขับมาก็รีบโบกให้จอด รถแพงๆมันมีประโยชน์แบบนี้เองสินะ


ถึงตอนแรกผมจะตั้งใจรูดบัตรคุณท่านให้ล้มละลายกันไปข้าง แต่สุดท้ายผมก็ไม่ทำแบบนั้น ของที่ซื้อทั้งหมดเป็นของที่ผมซื้อให้น้อง ทั้งกระดาษชานอ้อยสำหรับทำโมเดล ปากกาโคปิกที่น้องชอบใช้ แล้วก็อุปกรณ์อื่นๆที่น้องชอบใช้ให้ผมไปซื้อมาเก็บไว้ที่หอให้ ส่วนของอย่างอื่นก็มีพวกซื้อผ้า รองเท้าสองคู่ที่ผมซื้อให้น้อง อ่อมีของในซุปเปอร์อีกที่ผมซื้อเป็นเสบียงเก็บไว้ให้น้อง ด้วยปริมาณของที่หยิบมาจนเต็มรถเข็นน่าจะอยู่ได้สักสามเดือนโดยที่ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่ม


ผมยัดของทั้งหมดใส่รถแทบไม่พอ ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณท่านเลือกซื้อรถเล็กๆแบบนี้มาให้ แพงก็แพงแต่บรรทุกของได้นิดเดียวเอง


ผมยิ้มกับตัวเอง น้องต้องดีใจแน่ๆที่ได้ของพวกนี้
ผมนี่มันเป็นพี่ที่แน่จริงๆที่สปอยน้องขนาดนี้ แต่มันก็ห้ามตัวเองไม่ได้ ผมแค่อยากให้เขาสุขสบายเหมือนตอนที่พ่อแม่ยังอยู่

.
.
.
ผมขับรถมาหาน้องที่หอ พยายามจะจอดรถโดยเอาหลังเข้าด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ พยายามมองภาพจากกล้องที่ติดหลังรถ แต่สุดท้ายก็พลาด เอาตูดไปเฉี่ยวเสาจนได้


ผมหยิบของบางส่วนที่เป็นของใช้สำหรับเรียนขึ้นไปให้น้องก่อน จริงๆวันนี้ผมไม่ได้บอกน้องว่าจะมาหา กะจะมาเซอร์ไพรส์ แต่ไม่รู้ว่าห้องจะเละเทะเหมือนคราวที่แล้วเป็นการเซอร์ไพรส์ผมแทนรึเปล่า


ผมขมวดคิ้วอยู่หน้าห้อง ยังไม่ทันไขประตูเปิดเข้าไป ก็ได้ยินเสียงครางเหมือนคนมีอะไรกัน หรือจริงๆผมหูฝาด หรือน้องอาจจะกำลังดูหนังโป๊ ช่างเถอะ คิดไปก็เท่านั้น


ผมไขประตูเปิดเข้าไปในห้อง กลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่ลอยคละคุ้งทั่วห้องอ ผมพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆไม่โมโห น้องมันยังวัยรุ่น จะสูบ จะกินบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก


แต่สิ่งที่ผมรับไม่ได้เลย คือซากผงสีขาวๆ เศษฟอยสีเงิน เข็มฉีดยาและไฟแช็คที่วางเกลื่อนอยู่บนพื้นห้อง และที่มากกว่านั้น คือ ยังมั่วเซ็กส์กันอีกสองคู่ ผมเปิดประตูเข้ามายืนดูตั้งนานก็ยังไม่ยอมหยุด


ผมโยนกระดาษชานอ้อยใส่น้องด้วยรู้สึกสุดจะทน หันมาเห็นผมยืนหัวโด่ก็ยังไม่หยุดขยับสะโพกใส่คู่ขาที่อยู่ด้านล่างลำตัว


“พี่พริ้ม ผมเจ็บ โยนมาทำเหี้ยอะไร”ผมกำหมัดแน่น ยังอีก ยังไม่รู้ตัวอีก


ผมหยิบกระบอกสีดำที่ปกติน้องใช้ใส่งานไปส่งไล่หวดน้อง สุดท้ายวงแตกกระเจิง หาเสื้อผ้าใส่กันแทบไม่ทัน


หลังจากวิ่งไล่ตีจนเหนื่อย ผมมานั่งกอดอกอยู่บนเก้าอี้ กัดริมฝีปากตัวเองระงับความโกรธจนเลือดซึมเหม็นคาวคละคลุ้งไปทั้งปาก


“เล่นมานานเท่าไหร่แล้ว”


“พี่มึงอย่าหัวโบราณได้ปะ ก็แค่เล่นสนุกๆ ไม่ติดหรอกหน่า พี่จะซีเรียสทำไม”


“เงินที่ให้เท่าไหร่ก็ไม่พอนี่เอามาเล่นยาใช่ไหม” ทำไมผมถึงไม่เอะใจเลยนะ


“นิดหน่อยหน่าพี่ ก็แค่เศษเงินสำหรับพี่ไม่ใช่เหรอ นอนอ้าขาให้เสี่ยสักน้ำสองน้ำก็ได้เงินแล้วนี่”


“ไอ้น้องเหี้ย”ผมกระชากหัวน้องด้วยความโกรธ แต่มันยังไม่สำนึก ทำสีหน้าเย้ยหยันผม


“ตั้งแต่เมื่อไหร่ กูถามว่ามึงรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่”


“หึ ผมคนนะไม่ใช่ควาย ถ้าพี่ไม่ขายตัวแลกเงินจะมีปัญญาหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ แถมยังหาเงินให้ผมได้ทีละหลายหมื่น ใครมันก็ต้องคิดได้ปะ คิดว่าแยกไปอยู่แล้วผมจะไม่รู้รึไงว่าพี่ขายตัว”


“กูแม่งเป็นพี่ที่เหี้ยๆจริงๆ เหี้ยที่ให้มึงปอกลอกเงินจากกู กูเสียสละ ยอมทิ้งทุกอย่างแม้แต่อนาคตตัวเองก็เพื่อให้มึงอยู่สบาย ตั้งใจเรียน มีการมีงานทำดีๆในอนาคต แต่มึงกลับทำเหี้ยๆเอาเงินที่กูขายศักดิ์ศรีความเป็นคนแลกมาไปเล่นยา กูพอกับมึงแล้วจริงๆ นับตั้งแต่วันนี้มึงจะไม่ได้อะไรจากกูอีก แม้แต่สตางค์แดงเดียว”ผมปาดน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความโกรธ อยากจะระบายด้วยการตีมัน แต่คิดอีกทีน่าจะเสียมือเปล่า


“เก่งกล้าสามารถนัก มึงก็หาเลี้ยงตัวเองแล้วกัน กูส่งเสียให้เรียนดีๆไม่ชอบ ไอ้น้องเหี้ย”ผมผลักมันลงบนพื้นด้วยแรงทั้งหมดที่มี


“นับตั้งแต่วันนี้กูกับมึงขาดกัน”


“พี่มึงทำไม่ได้หรอก”


“ถ้ามึงเหี้ยกับกู กูก็เหี้ยกับมึงได้มากกว่าที่มึงคิด ไอ้น้องเวร เป็นบุญของกูแล้วจริงๆที่เข้ามาหามึงวันนี้”


ผมปิดประตูห้องเสียงดังลั่นจนประตูแทบพัง จัดการขนของทุกอย่างที่อยู่ในรถออกมาให้น้องจนหมด “นี่คือสิ่งสุดท้ายที่กูจะให้มึง”


ผมขับรถออกจากหอน้องด้วยความรู้สึกทั้งเสียใจ ผิดหวังและโกรธ
ผมเป็นพี่ที่แย่จริงๆที่คิดว่าการหาเงินมาให้น้องมีกินมีใช้คือสิ่งที่ดีที่สุด แต่จริงๆมันไม่ใช่เลย ผมควรจะดูแลเขาให้มากกว่านี้ ควรจะสนใจเขาให้มากกว่านี้ นี่น้องเล่นยามั่วเซ็กส์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมยังไม่รู้เลย


ผมปาดน้ำตาที่ไหลออกมา โกรธจนปวดใจไปหมด พอกันทีกับความอ่อนแอ ความใจดี สุดท้ายสิ่งพวกนั้นมันก็ย้อนกลับมาทำร้ายผมทั้งนั้น


ผมว่าผมทำเพื่อน้องมามากเกินพอแล้ว ทั้งยอมเป็นเด็กเสี่ย ยอมขายออนไลน์จนเกือบถูกหลอกไปฆ่าข่มขืน ใช้ชีวิตทุกวันนี้แบบไร้ศักดิ์ศรีบนโลกบิดๆเบี้ยวๆ


ผมอยากหยุดทุกอย่างไว้แค่นี้
พอกันทีกับความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมา


ผมขับรถไปตามทางเรื่อยๆจนมาถึงสะพานพระรามแปด ผมจอดรถไว้ข้างทาง ทิ้งรถไว้แบบนั้นแล้วเดินไปเกาะราวสะพาน ก้มหน้าลงไปมองในน้ำที่มืดมิดดำสนิท


แม่น้ำเจ้าพระยามันลึกแค่ไหนกันนะ ถ้าผมกระโดดลงไป ผมจะตายรึเปล่า


แต่ถ้าตายก็ดี…ในเมื่อวันนี้ผมไม่มีบ่วงอะไรให้ต้องรับผิดชอบอีกต่อไป
ที่เคยสัญญากับพ่อแม่ตอนเอากระดูกไปลอยอังคารไว้ว่าจะใช้หนี้ให้หมด ไม่ให้เป็นภาระกับน้องก็ทำแล้ว
สัญญาว่าจะส่งน้องเรียน ก็ทำแล้ว ถึงน้องจะยังเรียนไม่จบก็ไม่ถือว่าผิดสัญญาละกัน เพราะน้องมันไม่รักดีเอง ถ้ามันใฝ่รู้ใฝ่เรียนจริง มันคงไม่เล่นยา


ผมกอดราวสะพานแล้วตัดสินใจอยู่เกือบชั่วโมง
.
.
.
ผมเหนื่อย…เหนื่อยทั้งกายและใจ
ผมไม่อยากจะรู้สึกอะไรอีกแล้ว


สกรีมในทวิตได้นะคะ

#พริ้มกับdaddy


หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 19-06-2018 23:03:05
ให้พริ้มหลุดจากบ่วงพวกนี้ทีเถอะ คุณท่านก็หนีออกมาได้แล้ว

สงสารจริงๆ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 19-06-2018 23:09:00
ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าพริ้มเป็นเด็ก2ป๋าไปแล้ว ใครต้องการก็มาหางี้เหรอ....
ยังไม่เข้าใจคุณท่านเหมือนเดิม แสดงออกดีๆไม่เป็น ไบโพล่าร์ หรือว่าเป็นคนเห็นแก่ตัวกันแน่
ส่วนน้องของพริ้มคือเลวจริงๆ หวังว่าจะไม่มาสร้างความเดือดร้อนอะไรให้พริ้มอีก แล้วพริ้มก็ตัดน้องออกจากชีวิตได้จริงๆ

ตอนนี้ชีวิตพริ้มมีทางเลือกอะไรที่ดีบ้าง ถ้ากระโดดลงไปแล้วรอด คุณท่านลงโทษหนักแน่ เห้อ...
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 20-06-2018 00:07:56
หนีไปตั้งต้นใหม่ดีกว่าไหม
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 20-06-2018 00:26:36
พริ้มอย่าฆ่าตัวตายเลยนะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-06-2018 01:51:26
ดูอย่างไงก็มองไม่เห็นความสุขของพริ้มเลย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-06-2018 03:01:26
แนะนำให้โดด
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 20-06-2018 03:11:55
พริ้มเด็กดี
ไม่ทำร้ายตัวเอง  เพื่อคนอื่น นะพริ้ม

นี่อ่านแล้วก็ยังสงสัยเหมือนเดิมว่า คุณท่านกับพี่ธิวา น่าจะเป็นอะไรกัน
คุณท่านถึงยอมให้พริ้มไปอยู่ด้วย และยังบอกพริ้มถ้ามีอาการ ให้หาธิวา
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 20-06-2018 04:30:36
ถ้าเราเป็นพริ้มเราโดดอะ ขอตายดีกว่ามีชีวิตอยู่ คือมันที่สุดแล้ว ในเมื่อยังไงก็เหมือนตายทั้งเป็นอยู่ดี มันทรมานและเหนื่อยเกินกว่าจะหายใจ เหมือนที่ทำมาโคตรไร้ค่าเลย

พริ้ม ถ้าโดดต้องตายนะ จะได้มีความสุขสักที ไม่เป็นบ้าก็บุญแล้ว
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-06-2018 09:56:01
T^T
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 20-06-2018 19:36:28
ปวดใจไปกับพริ้ม
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: iiduckii ที่ 20-06-2018 20:50:57
ฮรือออออออออ เพิ่งเข้ามาอ่าน ตามอ่านตั้งแต่แรกจนตอนล่าสุด ยังไม่เห็นความสุขของพริ้มเลย สงสารพริ้มมากอ่ะ ถ้าพริ้มเลือกโดดแม่น้ำ เราขอสนับสนุนเลย ในเมื่อทุกทางในชีวิตมันไม่มีอะไรให้มีความสุขเลย  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-06-2018 23:31:54
ตัดขาดไอ้น้องชั่ว เลววว  ให้ขาดอย่างที่พูดให้ได้จริงๆนะพริ้ม
น้องเชี่ยมาก รู้ทั้งรู้ว่าพี่หาเงินมาให้ตัวเองใช้นั้น
ต้องผ่านอะไรมาบ้างยังพูดแบบดูถูก ดูหมิ่น ไม่แยแส ไม่เห็นค่า
น้องแบบนี้ ตัดพี่ตัดน้องไม่เสียใจเลย
หาที่อยู่ใหม่ เปลี่ยนเบอร์ อย่าให้ตามตัวเจอ
ไปอยู่คนละมุมเมิองเลย
คุณท่าน ก็ประหลาดๆ มีแต่หื่น บ้าเซ็กซ์  :fire: :fire: :fire:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 21-06-2018 00:27:47
สงสารพริ้มอ่าา
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: Blackbone ที่ 22-06-2018 09:03:17
พริ้ม โดดไปเลยลูก
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 22-06-2018 14:29:03
รอตอนต่อไปครับ


        :110011: :z7:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: 2gether4ever ที่ 23-06-2018 00:30:03
พระรามแปด...บ้านเราเลยนะพริ้ม //วิ่งไปหาที่สะพาน
ตัด ๆ ไปรักตัวเองให้รอดก่อนน ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 23-06-2018 08:33:12
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 23-06-2018 13:20:44
เอาเลยแก ให้มันจบๆไป
ไม่ไหวเหมือนกัน
ชีวิตแบบนี้ ไม่ไหวจะทน
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 23-06-2018 17:53:02
เม้นท์ตอน 8
คือคุณท่านไม่น่ารักอ่ะ เหมือนจะถูกใจน้องมากแต่ทำรุนแรงไป
สงสารน้องมากเลย แล้วเรื่องว่ายน้ำสำหรับคนว่ายไม่เป็นเลยมันยากนะ
ตอนเราเริ่มเรียนแค่ฝึกหายใจใต้น้ำครูเขาก็ให้ฝึกหลายวันกว่าจะปรับตัวได้นะคะ
อันนี้โหดมากเลยที่น้องว่ายน้ำได้ภายในไม่กี่ชม. 555555
ตอนที่ผ่านมาอ่านไปก็จะร้องไห้ตามน้อง ทำไมต้องแบกรับทุกอย่าง น้องขายไม่ช่วยอะไรเลย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 23-06-2018 20:31:25
อ่านถึงหน้า 6 จะร้องไห้แล้วววว สงสารน้อง T.T
ทำไมอยู่ๆ คุณท่านก็กลับมาใจร้ายอ่ะ คิดจะทำอะไรน้อง
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 23-06-2018 21:47:14
โห อ่านจนถึงตอนนี้แล้วปวดหัวเลยอ่ะ
ภาระมันมากเกินกว่าที่คนๆนึงจะรับไหวจริงๆ
ถ้าน้องชายเป็นงี้ ตัดเหอะ เสียเวลาเปล่าๆ
ส่วนคุณท่านกับพี่ธิวานี่โนคอมเม้นต์ว่ะ เหมือนเด็กที่แข่งกันชนะงี้ เห้อ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 23-06-2018 22:40:42
คือแบบ สุดดด น้องเหี้ยสุดดดด ไม่ต้องไปห่วงใยมันแล้ว
คุณท่านก็เลวเกิ้น เหมือนจะดีก็ไม่ใช่
ไหนว่าถูกใจเขา เขาคือข้อยกเว้น  จริงๆก็ชอบเขาแต่ก็ยังทำเลวอ่ะ
ตอนนี้น้องเป็นได้แค่เงาฟ้าครามจริงๆ สงสารมากเลย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: Hananijinji ที่ 25-06-2018 12:42:02
เราเข้าใจพริ้มนะ แต่เสี่ยนี่เหมือนจะหลุดคาแร็กเตอร์ไปเยอะหน่อย เรางงมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: CookieCK ที่ 25-06-2018 23:24:39
ดราม่าเหี้ยไรเยอะเนี่ยยยยยย จะเป็นประสาทแล้วโว้ยยยยย :katai1: :katai1: :katai1: :z3: :z3: อยากถีบให้หมดทุกคนเลวโว้ยยยยย :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: ไม่ได้เรื่องกันสักคน ถ้าอย่างนั้นพริ้มอาจจะไม่อยากมีชีวีตอยู่แล้ว ก็จะอยู่ไปเพื่ออะไรในเมื่อไม่มีใครต้องการแล้ว หายไปเลยดีกว่าจะได้ไม่ต้องมาทนทุกข์อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ สงสารพริ้ม :hao5: :hao5: ไรท์มาต่อด้วยมาช้ามากเลยเราค้างอยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: minnien ที่ 26-06-2018 05:48:34
อยากให้พริ้มกระโดดลงไปให้จบเรื่อง อินจัด   :hao5:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 26-06-2018 06:58:59
กอดราวสะพานต่อไปก่อนนะพริ้ม   จนกว่าผู้แต่งจะมา   :katai1:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 27-06-2018 16:00:15
มาต่อเถอะนะ
 :hao5:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 07-07-2018 21:55:54
รออยู่นะคะ :hao5:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 19 P.11 19.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 08-07-2018 05:56:17
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: พริ้มแกเกาะราวสะพานมา 19 วันแล้วเมื่อไหร่จะโดด  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 08-07-2018 11:59:24
ตอนที่ 20


สายลมเย็นๆที่พัดผ่านไม่ได้ช่วยทำให้จิตใจอันร้อนรุ่มของผมสงบขึ้น ในอกมีแต่คำถามผุดออกมาว่าทำไมเรื่องพวกนี้ต้องเกิดในชีวิตผม ทำไมถึงเป็นผมคนเดียวที่เจอแต่เรื่องแย่ๆ


ทำไมกัน…


ผมก้มมองผืนน้ำมืดมิดดำสนิทด้านล่างสะพานด้วยใจวูบโหวง ใจหนึ่งก็กลัว แต่ใจหนึ่งก็ไม่อยากเจ็บอีกแล้ว
เพียงแค่ก้าวเท้าเท่านั้น เรื่องทุกอย่างก็จะจบลง


ถึงแม้ว่ายังตัดสินใจไม่ได้ แต่ขาข้างหนึ่งของผมก็เริ่มปีนขึ้นไปบนรั้วสะพาน ดวงใจดวงเล็กๆเท่ากำปั้นสั่นระรัว กลัวก็กลัว แต่ก็อยากตายให้มันจบๆไป


ถ้ากระโดลงไปแล้ว ผมต้องทรมานนานแค่ไหนกว่าจะขาดอากาศหายใจตาย ความรู้สึกที่ดำดิ่งในท้องน้ำมืดสนิทเพียงคนเดียว มันคงเวิ้งว้าง เงียบเหงาจับใจ ผมจะทนได้รึเปล่านะ


ผมสูดลมหายใจเข้าปอด เอาวะ เป็นไงเป็นกันไอ้พริ้ม! ชีวิตแกมันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
ตายก็ถือว่า ‘กำไร’ รอดตายก็ ‘เสมอตัว’


ขออย่างเดียว อย่ามี ‘ชาติหน้า’ เป็นพอ ผมไม่อยากเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารนี่อีกต่อไปแล้ว
มันมีแต่ความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน
คำว่า ‘ความสุข’ สะกดยังไง ผมแทบลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ


ในขณะที่ผมกำลังใช้ขาอีกข้างถีบตัวเองขึ้นไปยืนสะพาน เตรียมใจทิ้งตัวลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ผมก็ถูกดึงตัวจากด้านหลังอย่างแรง ตกลงมาก้นจ้ำเบ้ากระแทกพื้น มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงตกแตกตามลงมาด้วยเหมือนกัน จากมือถือราคาแพงกว่าทองเหลือมูลค่าเพียงไม่ถึงเศษสตางค์แค่เพียงชั่วพริบตา


ชีวิตผมเองก็เหมือนกัน จากที่จะมีโอกาสล้ำค่าได้จบชีวิตสับปะรังเคนี่ ตอนนี้กลับไม่มีอีกแล้ว


ผมปล่อยให้คุณตำรวจจับข้อมือของผมไพล่มาข้างหน้า ตามด้วยกุญแจมือที่คล้องลงมาอย่างยอมจำนน


เสียงแตรรถบนสะพานบีบดังสนั่น เสียงไซเรนดังก้องสะท้อนไปทั่วถึงพื้นน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจมากมายหลายนายกำลังเคลียร์พื้นที่เพื่อให้รถวิ่งได้ เนื่องจากตอนนี้มีอุบัติเหตุรถหลายคันชนกัน


เหตุการณ์รอบตัววุ่นวายขนาดนี้ ทำไมผมถึงไม่ได้ยินสักนิดเลยนะ ผมเหมือนคนหูดับไปชั่วขณะ ตอนนั้นจิตใจคงจดจ่อแต่กับคำถามที่ว่ากระโดดดีหรือไม่


ความผิดผมอีกแล้วสินะ ที่จอดรถไม่เป็นที่เป็นทาง จนทำให้คนอื่นเกิดอุบัติเหตุ
แค่เกิดเป็น ‘พริ้ม’ ก็ผิดแล้ว


“ทำไมไม่ปล่อยให้ผมตายไป”ผมถามคุณตำรวจระหว่างที่ถูกจับยัดเข้าไปในรถตำรวจที่เปิดเสียงไซเรนเสียงดัง

 
“นั่นไม่ใช่หน้าที่ของผมครับ ตำรวจมีหน้าที่ปกป้องประชาชน”


เพียงไม่นาน ผมถูกนำตัวมาที่โรงพักและเริ่มถูกสอบสวน


“คุณชื่ออะไรครับ”คุณตำรวจเริ่มซักประวัติผม


“...”คุณตำรวจเงยหน้าจากจอคอมพิวเตอร์ เลิกคิ้วถามผมหลังจากที่ผมปิดปากเงียบสนิท


“ผมถามว่าคุณชื่ออะไรครับ”


“…”


“ช่วยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยครับ ไม่เช่นนั้นผมจะแจ้งข้อหาคุณเพิ่มฐานปกปิด…”ผมที่ไม่อยากจะรับทราบข้อหล่าวหาเพิ่มตอนนี้รีบพูดแทรกก่อนที่คุณตำรวจจะพูดจบ


“ภัทรกันต์  ไวยวงศ์ ครับ”


“ตามบันทึก พ่อแม่ของคุณเสียหมดแล้ว ตอนนี้คุณอยู่ภายใต้ความดูแลของใครครับ”


“…”คนดูแล…หมายถึงผู้ปกครองเหรอ ผมอายุ 20 แล้วนะ ไม่เห็นมีความจำเป็นต้องถามหาผู้ปกครอง


“ผู้ปกครองของคุณคือใครครับ”


“ผมบรรลุนิติภาวะแล้วนะครับ ผู้ปกครองคงไม่จำเป็น”


“ผมถามคุณว่าผู้ปกครองคือใคร”คุณตำรวจเริ่มใช้เสียงที่ดังและเข้มขึ้น


“อย่างที่คุณทราบ พ่อแม่ผมตายหมดแล้ว ถ้าอยากได้ผู้ปกครองคงต้องไปขุดหาในทะเล”


คุณตำรวจถอนหายใจและส่ายหน้าแรงใส่ผม “ถ้าคุณไม่แจ้งว่าผู้ปกครองคือใคร คืนนี้คุณต้องนอนในห้องขังนะครับ”


“ผมทำผิดอะไร แค่จะฆ่าตัวตาย”


“ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต จอดรถกีดขวางการจราจร คุณไม่ทราบเหรอครับว่าจอดรถแบบนั้นมันทำให้เกิดอุบัติเหตุ รถคันอื่นไปไม่ได้ ติดยาวเป็นกิโล”ผมนั่งนิ่งก้มหน้ารับฟังคุณตำรวจ ก็ทำผิดจริงๆนี่ ไม่รู้จะเถียงยังไง


“โทรเรียกผู้ปกครองมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยครับ”


“ผมไม่มีผู้ปกครอง”


คุณตำรวจทำหน้าเอือมระอา ก่อนจะเรียกตำรวจอีกนายหนึ่งให้จับผมเข้าห้องขัง


ผมเองก็ไม่ได้อยากยียวนกวนประสาทว่าไม่มีผู้ปกครอง ก็ผมไม่มีจริงๆนี่ ตั้งแต่พ่อแม่ตายพร้อมทิ้งหนี้หลายล้านไว้ให้ ญาติมิตรที่เคยมีก็พากันตัดญาติขาดมิตร จะให้บอกว่าคุณท่านหรือพี่ธิวาเป็นผู้ปกครอง ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธินั้นรึเปล่า ผมไม่ใช่เด็กในปกครองของพวกเขานี่ ผมมันก็แค่วัตถุทางเพศที่พวกเขาซื้อมาใช้ระบายอารมณ์และความใคร่ มันก็แค่นั้น


ผมนั่งอยู่ริมห้องขัง มองลอดผ่านซี่กรงเหล็กออกไปแล้วได้แต่กอดเข่าร้องไห้อยู่เงียบๆ ชีวิตบางทีมันก็เหี้ยเกินไป อยากตายหนีปัญหายังตายไม่ได้เลย แถมยังสร้างปัญหาเพิ่มอีก นี่ถ้าคุณท่านกลับมาแล้วรู้ว่าผมก่อเรื่องมีหวังคอไม่เหลืออยู่บนบ่า ไม่รู้คุณตำรวจจะช่วยผมทำไม ปล่อยให้ผมตายไปซะยังดีกว่า


หรือจริงๆเป็นผมเองกันนะที่ตัดสินใจผิดพลาดทำให้ตัวเองเจอแต่เรื่องแย่ๆ


ตัดสินใจอยากสบาย ได้เงินง่ายๆด้วยการเลือกนอนอ้าขาให้เขาเอา แต่ก็ลืมคิดว่าพวกเสี่ยใจป้ำ สายเปย์มักหวงเด็กของตัวเอง สุดท้ายก็โดนบังคับให้ชายชู้ข่มขืนผม


ตัดสินใจเชื่อคนที่ไม่ควรไว้ใจ คิดอยากจะเอาเมมโมรี่การ์ดคืน จนสุดท้ายถูกหลอกไปฆ่าข่มขืน


ตัดสินใจเลี้ยงน้องด้วยเงิน สุดท้ายก็ถูกหลอกปอกลอกเอาแต่เงินทอง มันไม่นับผมเป็นพี่ด้วยซ้ำ ไม่เคยสนใจใยดีว่าพี่จะต้องลำบากลากเลือดขนาดไหน กว่าใช้แรงกายแรงใจ แลกเงินแต่ละบาทแต่ละเศษสตางค์มาให้ใช้ แถมยังเอาเงินไปเล่นยาเพื่อหาความสนุกชั่วครั้งชั่วคราวเพราะคิดว่าเงินที่ผมหามาให้เป็นแค่เศษเงิน


ไอ้พริ้ม...ไอ้เด็กโง่งี่เง่า คิดว่าตัวเองโต ดูแลตัวเองได้ แต่จริงๆแล้วผมมันก็แค่คนไม่เอาไหน ตัดสินใจอะไรเองไม่เป็น เวลาต้องเลือกทางเดินในชีวิต ก็เลือกทางที่ผิดมาโดยตลอด


ผมนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ในหัวมีแต่คำด่า คำสบถโทษตัวเองเต็มไปหมด
ผมมันไม่ดี ผมมันเป็นคนห่วยๆที่ไม่สมควรมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
ผมอยากตาย ทำไมผมถึงให้ผมตายไม่ได้
ผมแค่อยากไม่ต้องรู้สึกอะไรอีกแล้ว ไม่อยากแบกรับภาระอะไรอีกแล้ว


ได้โปรดให้ผมตาย…ปล่อยผมไปเถอะ


ถึงมันจะไม่ใช่ทางที่มีความสุข แต่มันเป็นทางเดียวที่ผมไม่ต้องรู้สึกอะไรอีกแล้ว


ใครก็ได้ ปลดปล่อยผมที

.
.
.

“พริ้มครับ”ผมเงยหน้ามองพี่ธิวาที่ยืนอยู่นอกห้องขังด้วยความฉงนสงสัยว่าพี่ธิวามาได้ยังไง แต่พอเหลือบมองไปเห็นเศษซากมือถือในมือพี่ธิวาก็เข้าใจได้ 


ร่างสูงวิ่งมาหาผมหน้าตาตื่น เส้นผมที่ปกติถูกเซ็ทอย่างดีชี้ฟูจนไม่เป็นทรง เสื้อยืดสีขาวที่พี่ธิวาชอบใส่นอนมีแต่คราบเหงื่อไคลไหลโทรมกาย รองเท้าก็ใส่มาคนละสี คนละแบบ พี่ธิวาคงรีบมาจริงๆหลังจากรู้เรื่อง


ผมสร้างปัญหาให้พี่ธิวาอีกแล้วสินะ
ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะพริ้ม ไปอยู่กับใครก็เอาแต่สร้างปัญหาให้เขา


“ออกมาครับ ออกมาหาพี่”พี่ธิวากวักมือเรียกผมอยู่นอกห้องขังหลังจากคุณตำรวจไขกุญแจปลดล็อคให้แล้ว


ผมฟุบหน้าลงกับเข่าตัวเอง ไม่รู้ทำไม….น้ำตามันถึงไหลออกมา
หยุดเป็นคนอ่อนแอเสียทีพริ้ม


“พริ้มครับ”พี่ธิวาเรียกผมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง แต่ผมยังไม่อยากขยับไปไหน ออกไปต้องถูกดุ ถูกว่าอยู่แล้ว ใจบางๆของผมยังไม่พร้อมจะยอมรับผลของการกระทำของตัวเองเลย


พี่ธิวาถอนหายใจแรง ก่อนจะเดินถอยหลังเข้ามาในห้องขัง คนเป็นหมอก็เชื่อเรื่องพวกนี้เหมือนกันเหรอเนี่ย


“พริ้มครับ กลับบ้านกันนะ บ้านของเรา โอเคไหมครับ คนดี”พี่ธิวาลูบหัวผมอย่างอ่อนโยนก่อนจะกุมมือผมไว้ พี่ธิวาบีบมือผมเบาๆให้ผมรับรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้กับผม


“ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูดอะไรครับ กลับบ้านกันนะ”พี่ธิวาพยุงตัวผมให้ลุกขึ้นจากพื้น อ้อมอกอุ่นโอบกอดผมไว้ คอยประคับประคองให้เดินออกไป ระหว่างทางออกจากโรงพัก ก็เจอคุณตำรวจคนนั้น…คนที่ช่วยชีวิตผมไว้ ผมยกมือไหว้ขอบคุณ


“อย่าคิดสั้นโง่ๆอีกละไอ้หนู”


ผมไม่รู้ว่าการฆ่าตัวตายเป็นการคิดสั้นรึเปล่า ผมว่าผมก็ ‘คิดยาว’ แล้วนะ ผมยืนคิดเป็นชั่วโมงเลยด้วยซ้ำกว่าจะตัดสินใจกระโดดสะพาน


ผมนั่งคิดทบทวนตัวเองระหว่างทางที่พี่ธิวาขับรถกลับบ้าน จริงๆการที่ผมไม่ตาย อาจเป็นโชคดีของผมก็ได้ บางทีนี่อาจเป็นโอกาสดีของการเริ่มต้นชีวิตใหม่


ชีวิตที่ผมจะใช้มันเพื่อ ‘ตัวเอง’ บ้าง


ผมหันไปมองหน้าพี่ธิวาที่ใบหน้ามีแต่ความตึงเครียด คิ้วได้รูปสวยขมวดชิดติดกัน ภายใต้ใบหน้าเคร่งเครียดนั้น ผมไม่รู้จริงๆว่าพี่ธิวาคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่เอ่ยปากด่าผมสักคำที่ผมสร้างความเดือดร้อนให้


ผมยังจำวันแรกที่เจอพี่เขาได้อยู่เลย ผู้ชายนัยน์ตาโศกที่นั่งบรรเลงเพลงอยู่หลังเปียโนหลังงาม ตอนแรกผมคิดว่าเขาเป็นคนเย็นชา ไม่ใส่ใจใคร แต่จากการที่ได้อยู่ด้วยกัน ผมว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น


แต่มันมีความรู้สึกบางอย่างที่เป็นกำแพงระหว่างเรา กำแพงที่ผมไม่กล้าปีนเข้าไป กำแพงที่ทำให้ผมไม่รู้จริงๆว่าเขาเป็นคนยังไงกันแน่


“พริ้มครับ ถึงบ้านแล้วนะ”ผมพยักหน้า เปิดประตูลงจากรถ


พี่ธิวาเดินมาจูงมือผมเข้าบ้าน ฝ่ามืออุ่นกุมมือผมแน่น ไม่ปล่อย พาไปอาบน้ำและพาเข้านอน เขายังคงทำทุกอย่างเหมือนทุกวัน หลังจากห่มผ้าให้ผมแล้ว พี่ธิวาเปิดเพลงบรรเลงกล่อมเบาๆให้ผมนอน แสงไฟถูกหรี่ลงเหลือเป็นเพียงแค่แสงสลัวๆ ฝ่ามือนุ่มดึงตัวผมไปโอบกอดแล้วตบหลังผมเบาๆ


ไม่มีคำต่อว่า ดุด่าออกมาจากพี่ธิวาเลยสักนิด…ยิ่งเป็นแบบนี้ผมยิ่งรู้สึกผิด
ผิดที่…สร้างความเดือดร้อนให้พี่ธิวาอีกแล้ว


“พี่ธิวา…ฮึก พริ้ม”


“ไม่เป็นไรครับคนดี ไม่เป็นไรแล้วนะ”พี่ธิวาปาดน้ำตาอย่างอ่อนโยน จูบเบาๆเปลือกตาก่อนดึงผมมากอดแนบอก


“พี่…ฮึก”


“ชู่ว!”พี่ธิวาเอานิ้วชี้มาปิดปากผม “นอนครับ คนดี”


ผมพยายามข่มตาเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับ ในหัวยังคิดถึงแต่เรื่องราวที่เกิดวันนี้วนไปวนมาหาจุดจบไม่ได้ เหมือนใจยังค้นหาคำตอบอะไรบางอย่าง


คำตอบที่ไม่มีใครให้ผมได้ นอกจากตัวผมเอง


หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 08-07-2018 13:40:34
Here I’am again
Everybody screaming
The walls are closing in
I’m stuck in the middle


ผมลืมตาขึ้นมามองพี่ธิวาที่ร้องเพลงคลอเบาๆ


Swimming up a stream
Suffocating in between
I wake up from the dream
Still stuck in the middle
I guess this time I’ll wait it out

Someday thing will be PERFECT
It will be worth it all this time
Stuck in the middle

I know things will get BETTER
Hold it together
T A K E    Y O U R    T I M E


ยิ่งฟังเนื้อเพลง ยิ่งทำให้น้ำตาไหลคลอออกมาเรื่อยๆ ผมปาดน้ำตาออกจากหน้าแล้วสะอื้นไห้ไปด้วย


ทุกอย่างจะดีขึ้นจริงๆเหรอ
เขาจะจับมือผมแล้วเราจะเดินไปข้างหน้าด้วยกันจริงๆเหรอ
ช่วงเวลาที่มีคำว่า ‘เรา’ มันจะนานแค่ไหน…หนึ่งนาที หนึ่งวันหรือหนึ่งปี


เขาจะทนผมที่เหมือนคนบ้าอยากตายตลอดเวลาได้จริงๆเหรอ
จะเป็นเขาจริงๆใช่ไหมที่จะคอยดูแล ประคับประคองผมให้กลับมาเข้มแข็ง


น้ำตาบ้านี่ก็หยุดไหลสักทีสิ
ร้องไห้เหมือนผีบ้าอยู่นั่นแหละ


“ตาบวมแล้วครับ”


“พี่ธิ…ฮึก พริ้มไม่ได้อยากร้อง แต่มันหยุดไม่ได้ พี่เข้าใจพริ้มไหม”ผมไม่ได้อยากอ่อนแอ ร้องไห้โยเยเป็นเด็กๆ แต่น้ำตามันไหลออกมาเอง


ผมเหมือนคนที่ตกอยู่ในวังวนแห่งความเศร้า ผมไม่ได้ไม่อยากออกไปจากหลุมนรกนี้ แต่ผมออกไปไม่ได้


“พี่เข้าใจครับ ถ้าพริ้มหยุดร้องไม่ได้ พี่จะเป็นคนหยุดมันเองดีไหม”พี่ธิวาคลอเคลียอยู่แถวใบหน้าผม ริมฝีปากนุ่มประทับรอยจูบลงที่เปลือกตาทั้งสองข้าง ผมหลับตาแล้วรอรับสัมผัสด้วยความเต็มใจ


โอบกอดผมที กอดผมไว้แน่น ให้ผมรู้ว่าพี่อยู่กับผมจริงๆ ให้ผมรู้ว่าพี่ไม่ได้ทิ้งผมไว้คนเดียว


“พี่ครับ…อื้อ…”ผมเลื่อนมือไปโอบรอบคอของพี่ธิวา รอรับสัมผัสอ่อนโยนที่เขามอบให้ มันเป็นจูบที่ไม่มีการเรียกร้องใด มีแต่การเน้นย้ำสัมผัสว่าเขาอยู่ตรงนี้ อยู่ข้างหน้าผม ไม่ได้ทิ้งผมไปไหน


ผมไล้มือไปที่ข้างแก้มของพี่ธิวา ฝังจมูกลงที่แก้มนุ่มแทนคำขอบคุณ


ผมมองจ้องเข้าไปในนัยน์ตาของพี่ธิวา ระยะห่างระหว่างเราเริ่มน้อยลงทีละนิด “กอดผมสิครับ” ผมร้องขอในขณะที่ริมฝีปากเราห่างกันไม่ถึงมิล


“รู้ไหมว่าขอแบบนี้แล้วจะเจออะไรบ้าง”


ผมยังคลอเคลียอยู่ไม่ห่างจากกายของพี่ธิวา “แค่เป็นพี่ จะพาผมไปขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ตามใจเถอะครับ”


“พี่สาบานด้วยเกียรติทั้งหมดที่มีว่าจะไม่ทำให้เราเสียใจที่เอ่ยคำนั้นออกมา”

.
.
.

ผมถูกกอดทั้งคืนด้วยความอ่อนโยน สุขสมครั้งแล้วครั้งเล่าจนแทบลืมหายใจ มันเป็นความสุขทางเพศครั้งแรกจริงๆที่ได้รับ…สุขทั้งกายและใจ


เป็นความสุขที่ผมยินดีจะมอบให้เขา และเขาก็มอบให้ผมคืนกลับมาเช่นกัน


ผมดึงมือพี่ธิวาที่โอบเอวออกอย่างแผ่วเบา ไม่อยากจะรบกวนให้เขาตื่น ผมลุกจากเตียงเก็บเสื้อผ้าที่ถูกถอดโยนทิ้งไว้เกลื่อนห้องขึ้นมาพับวางไว้ข้างเตียงให้พี่ธิวา ก่อนจะหยิบชุดของตัวเองมาใส่


ท้องฟ้ายามเช้าที่พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นจากขอบฟ้า ถูกแต่งแต้มด้วยสีส้มอ่อนๆ ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันสวยงามน่าหลงใหลขนาดนี้ อยากออกไปดูใกล้ๆจัง


ผมเดินไปนั่งเล่นที่ริมทะเลสาบ ให้สายลมเย็นๆในยามเช้าและเสียงนกร้องขับกล่อมผม จริงๆแล้วการที่เรามีโอกาสได้ตื่นขึ้นมาใช้ชีวิตอีกวันหนึ่ง มันอาจเป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานมอบให้ก็ได้


ผมควรหัดมีความสุขกับสิ่งเล็กๆรอบตัวบ้าง


 “ตอนเช้าน้ำค้างเยอะนะครับ เดี๋ยวไม่สบาย”พี่ธิวาคลุมผ้าห่มให้ผม ก่อนจะนั่งหย่อนเท้าลงข้างๆ


“ขอบคุณครับ”ผมให้ไปยิ้มให้พี่ธิวาด้วยความขอบคุณ ไม่ใช่ขอบคุณแค่เรื่องผ้าห่ม แต่ขอบคุณที่เขาทำให้ผมผ่านค่ำคืนอันหนาวเหน็บมาอย่างไม่ทรมานมากนักเพราะได้รับความอบอุ่น อ่อนโยนจากเขา


ฝ่ามือหนาทาบลงมาเบาๆบนหน้าผากและข้างลำคอ “รู้สึกครั่นเนื้อครั้นตัวเหมือนจะมีไข้รึเปล่าครับ”


“ไม่ครับ”


“เจ็บรึเปล่า”


“ไม่ครับ”พี่ธิวาทำหน้าโล่งอกหลังจากที่ผมปฏิเสธ


“ถ้ามีอาการอะไรก็บอกพี่นะครับ ไม่ต้องอดทน เข้าใจไหม”ผมพยักหน้ารับรู้ จ้องมองเขาด้วยความขอบคุณ


“อย่ามองกันตาใสแบบนี้สิครับ”ผมยิ้มให้เขาก่อนจะไถลตัวลงนอนบนตัก พี่ธิวาปัดไรผมออกจาหน้าให้ ผมดึงมือพี่ธิวามาสอดประสาน


“ขอโทษนะครับที่สร้างปัญหาให้”


“อยากเล่าให้พี่ฟังไหมครับ”ผมพยักหน้าแล้วเริ่มเล่าสิ่งที่เจอเมื่อวาน เล่าความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัว ความคิดที่ทำให้ผมขาดสติจนถึงขั้นตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง


“เหนื่อยไหมครับคนดี ไหล่เล็กๆนี่เหนื่อยมากไหมที่ต้องแบกอะไรไว้มากมายขนาดนี้”ผมพยักหน้ารัวๆ น้ำตาเริ่มจะไหลออกมาอีกครั้ง


“ให้พี่ช่วยแบ่งเบาความรู้สึกของเราบ้างได้ไหมครับพริ้ม มีอะไรช่วยเล่าให้พี่ฟัง หรือปรึกษาพี่บ้างได้รึเปล่าครับ”


“พริ้มไม่อยากเอาภาระหนักหัวไปให้พี่ แค่ทำงานพี่ธิวาก็เหนื่อยแล้ว”


“พี่ไม่เคยคิดว่าการที่พริ้มจะมาเล่าอะไรให้พี่ฟังแล้วช่วยกันคิด ช่วยกันตัดสินใจเป็นภาระ”


“นับตั้งแต่วันนี้ให้พี่ดูแลเราได้ไหมครับ ไม่ต้องจำกัดสถานะว่าเราเป็นอะไรกัน พี่แค่อยากดูแลเรา พี่อยากเห็นเด็กคนนึงที่จิตใจดี ขยัน มีความตั้งใจได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองรัก ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ”


“แค่คิดว่าพี่เป็นแค่คนๆหนึ่งที่อยากดูแลเราแค่นั้นก็พอ ได้ไหมครับพริ้ม ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องความรัก เงินทองร่างกายหรือแม้แต่สถานะใดๆที่จะมาจำกัดความความสัมพันธ์นี้ได้ไหมครับ”


ผมพยักหน้ายอมรับ การที่พี่ธิวาเอ่ยปากอยากดูแลผมแค่นี้มันก็เพียงพอแล้วจริงๆ แค่ครั้งหนึ่งได้กลับมามีคนดูแลเหมือนตอนที่พ่อแม่ยังอยู่มันก็เพียงพอแล้วจริงๆ


“เรื่องกาล พี่จัดการเอง พริ้มไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น แค่กลับมาใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นคนหนึ่งที่ควรจะเป็น ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆวันก็พอ แล้วก็อย่าคิดทำร้ายตัวเองอีก พี่ขอแค่นี้ไหมครับ”ผมพยักหน้า


“ไปครับ ไปอาบน้ำ เดี๋ยวพี่ทำข้าวเช้าให้ทาน”


ผมลุกจากตักพี่ธิวา โถมกอดเขาเต็มแรง “เหมือนได้ลูกมาเลี้ยงเพิ่มคนนึงเลย”


“แด๊ดดี้…”


“อยากเป็นพ่อที่ไม่ใช่พ่ออะครับ”

.
.
.

หลังจากที่ได้อาบน้ำเย็นๆ ผมก็รู้สึกสดชื่นมากขึ้น เดินเข้าครัวไปก็พอดีกับพี่ธิวาที่กำลังตักข้าวต้มหมูใส่ถ้วย


“พริ้มมาทานข้าวเร็ว กำลังร้อนเลยครับ”ผมรีบไปช่วยพี่ธิวาจัดโต๊ะ แทบไม่อยากเชื่อสายตาว่าคนตัวสูงจะทำข้าวต้มได้น่าทานขนาดนี้ ข้ามต้มหมูร้อนๆที่มีควันลอยขึ้นมา โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวกับผักชี แถมยังมีน้ำมะเขือเทศปั่นอีกตังหาก


“เป็นไง อร่อยไหม”


“อร่อยครับ”ผมตักข้าวต้มเข้าปากพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา พี่ธิวาเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยความตกใจ


“เป็นอะไรครับ ร้อนไปเหรอ เดี๋ยวพี่เป่าให้นะ”ผมไม่ใช่เด็กเล็กๆนะที่จะร้องไห้เพราะข้าวต้มร้อน


พี่ธิวาตักข้ามต้มในชามผมไปเป่าแล้วป้อนให้ถึงปาก ยิ่งทำให้ขนาดนี้ ผมยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปอีก


“ฮรือ…”


“โอ๋ๆ คนดี ร้องไห้เบะเป็นเด็กเลย”ผมเดินลงจากเก้าอี้อ้อมฝั่งไปหาพี่ธิวา กอดเอวพี่ธิวาร้องไห้เป็นเด็กๆ


ความรู้สึกมันทั้งดีใจที่มีคนดูแล มีคนทำให้กันถึงขนาดนี้ แต่พอคิดว่าพี่ธิวาอาจทำดีกับผมแค่วันสองวันเพราะความสงสาร มันก็เสียใจ แต่ก็พยายามคิดว่าแค่เขาทำให้เท่านี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว กับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ญาติก็ไม่ใช่ ครอบครัวก็ไม่ใช่ ยิ่งคนรักยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลย


“เป็นอะไร หื้ม”พี่ธิวาดึงแก้มผมยืดตามใจชอบ ผมยู่จมูกใส่


“กับข้าวฝีมือพี่อร่อยจนน้ำตาไหลเลยรึไงครับ”ผมส่ายหน้า


“ไหนพูดสิ เป็นอะไร”พี่ธิวาลุกจากที่นั่งแล้วอุ้มผมขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ตัวสูงแทน คนตัวสูงเท้าแขนกับเก้าอี้มองหน้าผมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แววตาฉายแววตลกปนเอ็นดู


“พริ้มกลัวพี่ธิวาจะใจดีกับพริ้มแค่วันเดียวแล้วจะกลับไปร้ายอีก”


“พี่เคยร้ายกับเราตอนไหน”


“ก็ตอนวันนั้นที่คุณท่านเอามาทิ้ง พี่ธิวาก็โกรธ”


“พี่ไม่ได้โกรธเรา พี่โกรธกาลที่มันเอาเรามาทิ้งไว้คนเดียวมืดๆแบบนั้น นอนมืดๆข้างถนนแบบนั้นมันอันตรายมากรู้ไหม”


“รู้ครับ”


“ขอโทษนะครับ ที่พี่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เอาอารมณ์โกรธไปลงกับเรา”


“ไม่เป็นไรครับ พี่ธิวา…”ผมกัดปาก ลังเลที่จะพูด


“ว่าไงครับ”


“ถ้าพี่ธิวาไม่เต็มใจจะดูแลพริ้มก็ไม่เป็นไรนะครับ พริ้มย้ายออกไปหาห้องเช่าอยู่เองก็ได้”


“พี่พูดตอนไหนว่าไม่เต็มใจ”


“ก็วันนั้นพริ้มแอบฟังพี่ธิวาคุยโทรศัพท์ ขอโทษนะครับที่แอบฟัง”


“วันนั้นอะไม่เต็มใจจริงครับ อยู่ดีๆก็มีคนโยนเด็กมากองหน้าบ้าน พริ้มต้องให้เวลาพี่ตกใจนิดหนึ่งนะ พี่ไม่มีใครมานานแล้วนะครับ ใช้ชีวิตชายโสดสนุกๆไปวันๆ พอมีคนมาอยู่ด้วยแถมยังไม่รู้จักอีกว่าเป็นเด็กที่ไหนอะไรยังไง แค่เคยนอนด้วยกันครั้งเดียว จะให้พี่ยอมรับใครก็ไม่รู้เข้าบ้านง่ายๆคงแปลกนะครับ”ผมพยักหน้ารับเห็นด้วย


“แต่ตอนนี้พี่รู้จักเราแล้ว อยู่ด้วยกันมาสักพักนึงแล้ว พี่ว่าเราก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปคนนึงนั่นแหละ ดื้อบ้าง งอแงบ้าง ขี้เหงาบ้าง แต่ก็ขยันแล้วก็ตั้งใจเรียน พี่ชอบเราที่จุดๆนี้นะ”ผมมองหน้าพี่ธิวาตาใส พูดว่า ‘ชอบ’ อีกแล้ว


“แค่ชอบครับ ยังไม่ ‘รัก’ ถ้าวันไหนรักแล้วพี่จะบอกนะ”พี่ธิวาจุ๊บจมูกผมแล้วถอดผ้ากันเปื้อนออก “ทานข้าวเสร็จแล้วล้างจานให้เรียบร้อยด้วยนะครับ พี่จะขึ้นไปอาบน้ำ พี่ให้แค่ล้างจานนะ ห้ามพังทลายครัวพี่เด็ดขาด”


“รู้แล้วครับ”


หลังจากจัดการในครัวเสร็จแล้วผมก็มาช่วยพี่ธิวาเก็บกวาดบ้าน “ปกติพี่ธิวาทำเองเหรอครับ” ผมถามขณะที่พี่ธิวาที่กำลังเช็ดกรอบรูป


“เปล่าครับ”


“แล้วทำไมวันนี้…”


“พริ้มกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ พี่ก็อยากเริ่มใหม่เหมือนกัน”พี่ธิวาพูดแล้วดึงรูปคุณฟ้าครามออกจากกรอบทิ้งลงถังขยะ


“พี่ธิวาไม่เสียดายความทรงจำดีๆเหรอครับ ถ้าทิ้งไปแล้ววันนึงคิดถึง…”


“ไม่ครับ พี่จมปลักอยู่กับความรู้สึกผิดมานานมากพอแล้ว ความรู้สึกพวกนั้นมันลบเลือนความทรงจำดีๆไปจากใจพี่ตั้งนานแล้วครับ”


ถึงผมอยากจะถามแค่ไหนว่าอะไรทำให้พี่ธิวารู้สึกผิด แต่ผมก็รู้ดีว่าผมไม่มีสิทธินั้น ถ้าเขาอยากบอก อยากเล่าเขาคงพูดออกมาเอง แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีใครอยากกรีดรอยแผลเก่าที่ตกสะเก็ดของตัวเองหรอก


ผมไม่ได้ทักท้วงอะไรพี่ธิวาอีก ทำแค่ช่วยทำความสะอาด เอาขยะในความทรงจำของพี่ธิวาไปทิ้ง


“พี่ธิวาอันนี้ก็ทิ้งเหรอครับ”ผมถามพี่ธิวาที่กำลังรื้อของในตู้ออกมาโยนทิ้ง มีแต่ของแพงๆทั้งนั้น “ทิ้งครับ เจ้าของเขาไม่อยากได้ ไม่รู้พี่บ้าเก็บไว้ตั้งนานทำไม”


ผมพับเสื้อผ้าที่พี่ธิวาโยนออกมากกองใส่ถุงดำแล้วก็นึกถึงวันก่อนที่ไถเฟซบุ๊คแล้วเจอโพสต์รับบริจาคของ


“พี่ธิวา วันก่อนพริ้มเจอโพสต์รับบริจาคเสื้อผ้าให้น้องๆที่ขาดแคลน เราเอาไปบริจาคกันดีไหมครับ”พี่ธิวาหันมามองหน้าผมด้วยแววตาที่ประเมินไม่ได้


“เดินมาหาพี่หน่อยสิครับ”ผมกลืนน้ำลายลงคอ ไม่แน่ใจที่เรียกไปใกล้นี่จะตีกันรึเปล่าที่ละลาบละล้วง รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว


“ไม่ตีได้ไหมครับ พริ้มแค่เสนอความเห็น พริ้มขอโทษถ้ามันเป็นการละลาบละล้วงชีวิตพี่มากเกินไป”


พี่ธิวาดึงตัวผมไปคล้องเอวไว้ “ทำไมเราน่ารักขนาดนี้นะ”ผมทำหน้าเหรอหรา งงงวย “เป็นเด็กที่จิตใจดีจริงๆเลยน้า”พี่ธิวาลูบศรีษะผม ผมได้แต่ยิ้มแหยๆแล้วดึงมือพี่ธิวาออก


“พี่ธิวาใส่ถุงมือที่มีแต่หยากไย่นะครับ เผื่อจะลืม”คนตัวสูงหัวเราะเสียงดังแล้วดีดหน้าผากผม


“หึๆ ไปครับ ช่วยพี่ขนของลงไปข้างล่าง เราจะได้เอาของไปบริจาคกัน”ผมช่วยพี่ธิวาขนของใส่รถ จากตอนแรกที่มีแต่ของคุณฟ้า ตอนนี้ก็มีเสื้อผ้าที่พี่ธิวาไม่ใช้บวกกับหนังสือที่จะเอาไปบริจาคเพิ่ม

.
.
.

“ยิ้มกว้างเลยนะเรา”พี่ธิวาทักผมหลังจากที่เรากลับจากการเอาของไปบริจาคแล้ว ภาพเด็กๆที่ได้เสื้อผ้าใหม่ยิ้มยินดีด้วยความดีใจ กระโดดโลดเต้นอวดของกันสนุกสนานยังคงติดตาตรึงใจผม เด็กๆไม่รู้หรอกว่าของที่ได้มีค่ามีราคามากแค่ไหน แค่เขาได้สิ่งที่เขาขาดไป เขาก็พอใจแล้ว


“ขอบคุณนะครับที่พี่ธิวาที่พาผมมาทำอะไรดีๆ”


“พี่สิครับที่ต้องขอบคุณเรา หิวข้าวรึยังครับ”


“ยังครับ เมื่อกี้คุณครูเอาขนมมาให้ทานเยอะเลยครับ ผมยังอิ่มอยู่เลย”


“พริ้มชอบทานขนมเหรอครับ”


“ครับ ชอบขนมทุกชนิด ไอติมยิ่งชอบมากเลยครับ”


“อ้วนนะครับ”


“ยังไม่อ้วนสักหน่อย”


“เหรอ…”


ผมก้มลงมองพุงตัวเองที่เริ่มย้วยออกมานิดๆ “มีนิดนึงก็ได้”


“ฮ่าๆ ออกกำลังกายบ้างนะเรา ถ้าพริ้มยังไม่หิว เราไปซื้อของเข้าบ้านกันก่อนดีไหม”


“พี่ธิวาจะซื้ออะไรครับ”


“ซื้อเฟอร์นิเจอร์แต่งห้องให้เราไงครับ เผื่อเราอยากมีห้องส่วนตัว”


“ไม่เป็นไรครับ ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ดีแล้ว พี่ธิวาอึดอัด อยากนอนคนเดียวบ้างรึเปล่าครับ”


“ไม่ครับ พี่ไม่อึดอัด แรกๆก็แปลกเหมือนกัน ตื่นมากลางดึกมีคนปีนขึ้นมานอนทับอกทุกคืน พี่คิดว่าโดนผีอำ”


“ผมขอโทษ ไม่รู้ตัวจริงๆว่าปีนขึ้นไปนอนทับ งั้นไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ก็ได้ครับ ผมเกรงใจ”


“ไม่เป็นไรหรอก พี่เริ่มจะชินแล้วละ งั้นเราแวะซื้อแค่ของสดเข้าบ้านละกัน พริ้มอยากได้อย่างอื่นอีกรึเปล่า”ผมส่ายหน้าปฏิเสธ

ผมนั่งมองใบหน้าด้านข้างของพี่ธิวา พี่ธิวาเป็นคนหน้าตาดีชนิดหาตัวจับยาก ถึงจะอายุมากขึ้นแต่ริ้วรอยตีนกาก็ไม่ได้ถามหาสักเท่าไหร่ หน้ายังตึงเหมือนคนอายุ 20 ต้นๆอยู่เลย


“มองหน้าพี่คิดอะไรอยู่ครับ”


“คิดว่าพี่ธิวาหล่อดี”


“อื้มมมมม…เหรอ ชมกันตรงๆแบบนี้ก็ได้เหรอครับ”ผมยิ้มขำตลกกับท่าทางเขินๆของพี่ธิวา คิดว่าพี่ธิวาเป็นพวกหลงตัวเองซะอีก ที่ไหนได้…มีโมเม้นท์เขินเวลาคนชมด้วย


“ไม่ต้องมาขำพี่เลย ไปครับ ไปซื้อของกัน”ผมปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วรีบเดินลงจากรถตามพี่ธิวาไป


พี่ธิวาเดินชอปปิ้งด้วยความรวดเร็วเหมือนวางแผนในหัวมาแล้วว่าวันนี้จะซื้ออะไรบ้าง แต่ก็หันมาบอกผมเป็นระยะว่าอยากได้อะไรให้ไปหยิบมา ผมก็หยิบขนม ไอติมมาใส่จนแทบเต็มรถเข็น แต่สิ่งสุดท้ายที่หยิบมาทำพี่ธิวาส่ายหน้า


“อันนี้พี่ไม่ได้ห้ามนะครับ แต่พี่ขอได้ไหม”ผมมองซองสีขาวในมือที่มีรูปปอดดำๆติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์แล้วเงยหน้ามองพี่ธิวา


จะให้เลิกบุหรี่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้ายอมเอาไปเก็บวันนี้แปลว่าต่อไปคงไม่ได้สูบอีก แล้วถ้าพี่ธิวาเห็นว่ากลับมาสูบอีกคงไม่โอเค


“พี่ไม่ได้ขอเพื่อตัวพี่ แต่พี่ขอเพื่อพริ้มนะ เข้าใจไหมครับ ถ้ามันเลิกไม่ได้จริงๆก็ให้พ้นช่วง 2 เดือนนี้ไปก่อน ปอดเรายังไม่กลับมา100%นะครับพริ้ม”


“ไม่มีอะไร 100% ใน medicine ไม่ใช่เหรอครับ”


“ไปเอาคำพูดแบบนี้มาจากไหนหึ”


“ผมแอบเห็นในหนังสือที่พี่ธิวาบริจาค”


“แล้วจะเอายังไงครับ พ่อคนดื้อ จะเอาไปเก็บหรือจะซื้อกลับบ้าน”


“เก็บก็ได้ครับ แต่ถ้าผมเครียดๆแล้วอยากดูดขึ้นมาจะทำไง”


“มาดูดปากพี่แทนครับคนดี จบนะ เอาไปเก็บได้แล้วครับ”พี่ธิวาดันหลังผมให้เอาบุหรี่ไปเก็บ แถมท้ายด้วยการตีก้นหนึ่งที จะหันไปโวยวายคนตัวสูงก็เข็นรถไปจ่ายเงินแล้ว


น้ำตา​าาาามาาาาา TT

ลงเป็นสิบรอบกว่าจะได้

ขอบคุณที่รอติดตามกันนะคะ

มีคนนับวันด้วย :)

#พริ้มกับdaddy

หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 08-07-2018 14:01:42
กำลังจะดี ใช่ไหม ~'''~

มันกำลังจะดีขึ้น
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-07-2018 14:17:52
รอดูฉากกระโดดเลยนะบอกตรงๆ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-07-2018 15:16:16
ดีแล้วพริ้ม
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 08-07-2018 15:24:13
 o12 o12 o12 อดดูฉากพริ้มโดดสะพานเลย  ลอยไปกับน้ำให้เจ้านายตามหาซะหน่อยก็ไม่ได้  :m7: :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 08-07-2018 15:59:10
ชีวิตพริ้มจะดีขึ้นใช่มั้ย? :hao5:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: Yui_baanindy ที่ 08-07-2018 18:51:54
กลัวตอนคุณท่านกลับมาจัง...มโนไปก่อน :mew6:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: ous_p ที่ 08-07-2018 19:33:19
ปล่อยเรื่องเศร้าๆไปนะ มาเริ่มใหม่นะพริ้ม
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-07-2018 19:36:32
กลัวตอนคุณท่านกลับมาจัง...มโนไปก่อน :mew6:

คิดเหมือน
คุณท่าน  โหดเกิ๊น   :z6: :z6: :z6:
ธิวา  น่าจะดีกว่าคุณท่านนะ   :mew1:

พริ้ม ตัดขาดน้องไปเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: lalun ที่ 08-07-2018 20:30:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 08-07-2018 20:34:27
เข้มข้นมากกกกกก
ทำเพื่อตัวเองบ้างนะ พริ้ม
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 08-07-2018 22:21:41
พี่ธิวาเป็นแด๊ดดี้ไม่ได้หรอก  ต้องผ่านการอนุมัติจากคุณท่านก่อน
อยากเป็นแด๊ดดี้ ต้องจ่ายให้คุณท่าน 10ล้าน

อยู่ๆพริ้มไปเรียกพี่ธิวาว่าแด๊ดดี้
อ่านบทนี้จะว่าหวานมั้ย  ก็เลยไม่หวาน  เพราะติดอยู่ที่คำเดียว...  คุณท่าน
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 08-07-2018 22:50:35
  แล้วพริ้มจะเป็นยังงัย
เมื่อคุณท่านกลับมา
แล้วรู้ความจริงทั้งหมด
จะโกรธพริ้ม
จนทำร้ายพริ้มอีกมั้ย

             :o11:
           
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 08-07-2018 23:26:28
ถ้าคุณท่านรู้เรื่องนี่จะซวยไหมละ ทำรถราคาแพงเขาไปชน แล้วยังจะฆ่าตัวตายอีก
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-07-2018 00:43:18
พี่ธิวาน่ารักอ่ะ :hao5:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-07-2018 03:54:33
ไปได้ดีกับผู้ปกครองฝ่ายขวาแล้ว หรือผู้ปกครองฝ่ายซ้ายนี่ล่ะ จะว่าไง  :katai1:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 09-07-2018 08:23:59
น่าจับคุณท่าน  :beat: :beat: :beat:


ป.ล. รอตอนต่อไปอยุ่นะครับ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 09-07-2018 18:14:52
คลื่นลมสงบก่อนพายุใหญ่จะมา
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: minnien ที่ 09-07-2018 19:10:09
ไม่เอามาม่าได้ไหมคะ  :mew4:
อยากให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาหาน้อง
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: iiduckii ที่ 09-07-2018 21:28:15
เชียร์ทิวา เฮ้!!!!!!!!!! :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 10-07-2018 13:06:48
คู่นี้น่ารัก
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 10-07-2018 15:51:12
เชียร์พี่ธิวาแทนล่ะะะะะ
เกลียดฟ้าอ่ะ เซงแม่ม ตัวยังไม่มาก็เกลียดแล้ว
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 10-07-2018 20:55:55
อ่านแล้วน้ำตาไหลตลอดตอนเลย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: zaneforest ที่ 11-07-2018 00:54:11
ไม่ไว้ใจ ไม่ไว้ใจ ไม่ไว้ใจ
เกิดทำดีด้วยเข้ามากๆ ตอนที่โดนทิ้งจะเจ็บด้วยมากๆนะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 20 100% P.12 8.7.61
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 23-07-2018 08:45:55
อ่อยยยย สงสารฟ้า ชีวิตอะไรมันจะขนาดเนน้
รออยู่นะจ๊ะ รีบมาอัพนะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 27-07-2018 21:03:07
ตอนที่ 21


ผมไม่คิดว่าชีวิตที่เหลือจะได้รับโอกาสนี้อีกครั้ง…โอกาสที่ผมรู้สึกเหมือนมีครอบครัวเป็นของตัวเอง
การได้ใช้เวลาร่วมกับใครสักคน ทานข้าวด้วยกัน ดูทีวีด้วยกัน แชร์ความคิดกัน
มันเป็นความรู้สึกที่เต็มตื้น หัวใจพองฟู ความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างที่เกาะกุมหัวใจค่อยๆได้รับการเติมเต็ม


“พี่ธิวา เคยไปที่นี่ไหม”ผมชี้ไปที่ทีวีซึ่งตอนนี้กำลังฉายภาพทุ่งดอกลาเวนเดอร์ในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า


ท้องฟ้าสีส้มแดงตัดกับสีม่วงของดอกลาเวนเดอร์ที่เบ่งบานไปทั่วทั้งทุ่ง ให้ความรู้สึกสวยงามไปอีกแบบ


“เคยครับ พี่เคยไปปั่นจักรยานด้วยนะ”


“ดีจัง แล้วพี่ธิวาเคยชิมไอติมอันนี้ด้วยไหม”พิธีกรในรายการพาเที่ยวกำลังชิมไอติมรสลาเวนเดอร์อยู่ ผมสงสัยจังเลยว่ารสชาติมันจะเป็นยังไง? จะอร่อยรึเปล่า?


“เคยครับ ก็อร่อยดีนะ กลิ่นหอมติดจมูกมาก”กลิ่นของลาเวนเดอร์ที่ผสมอยู่ในไอติมคงคล้ายคลึงกับกลิ่นสเปรย์ลาเวนเดอร์ที่พี่ธิวาฉีดหมอนให้ผมก่อนนอนทุกคืน


“พริ้มอยากไปไหมครับ”


ผมส่ายหน้าปฏิเสธด้วยความรวดเร็ว “ไม่ไปหรอกครับ เปลืองเงิน”พี่ธิวายิ้มขำกับคำตอบผม


“งรื้ออ…ไอติม…จะหก”ผมโวยวายเมื่อพี่ธิวาสอดมือเข้ามาที่ใต้วงแขนของผมก่อนจะออกแรงดึงผมขึ้นมานั่งบนตัก


“แด๊ดดี้ ผมหนักนะครับ”


“หนักจริงๆด้วยเนอะ”ผมเหลือบตามองบน มันใช่ไหมเนี่ย!


“วันหยุดยาวครั้งหน้าเราไปเที่ยวกันดีไหมครับ”ผมยังคงส่ายหน้าเหมือนเดิม


“ทำไมละครับ”


“ผมยังไม่มีงานทำ ไม่มีเงิน ถ้าไปเที่ยวก็ต้องใช้เงินที่พี่ธิวาหามาด้วยความยากลำบาก ผมไม่ไปหรอก”


“หื้ออออ…เป็นห่วงเรื่องเงินของพี่ขนาดนั้นเลย ไอติมที่พริ้มกินอยู่ก็แพงนะครับ กินวันเดียวครึ่งถังเนี่ย พี่เลี้ยงไม่ไหวหรอกนะ จนพอดี”


ผมหันไปมองถังไอติมที่ตัวเองกินด้วยความเพลิดเพลิน…กินไปครึ่งถังจริงๆด้วย


ผมยกมือไหว้ขอโทษพี่ธิวา “ขอโทษนะครับ ผมจะกินให้น้อยลงนะ”ผมลุกเอาถังไอติมไปเก็บในครัวอย่างเศร้าๆ ไอ้พริ้ม…เด็กตะกละ กินไอติมยังไงวันเดียวครึ่งถัง ทำตัวเหมือนคนไม่เคยพบเคยเจอของกินไปได้ รู้ถึงไหน อายถึงนั่น


“มานั่งนี่เร็ว”พี่ธิวากวักมือเรียกผมที่เดินหน้าหงอยเข้ามาในห้องนั่งเล่น ผมนั่งขัดสมาธิข้างๆพี่ธิวาบนโซฟา


“พี่ธิวา ผมกินจุอะ ผมไปหางานพาร์ทไทม์ทำดีไหม ถ้าพี่ธิวาล้มละลายเพราะการกินของผมจะทำยังไง”ทันทีที่ผมพูดจบ พี่ธิวาก็หลุดหัวเราะออกมา ขำแรงจนตัวงอ


ตลกตรงไหน? การที่ผมจะไปหางานทำเพื่อซื้อข้าวกินนี่ตลกตรงไหน หรือหน้าตาผมจะจริงจังไม่พอ


“นี่พูดจริงปะครับ”


“พี่ธิวาเห็นหน้าผมล้อเล่นเหรอครับ”


“พี่พูดเล่น ต่อให้พริ้มกินไอติมวันละตันก็ไม่ระคายขนหน้าแข้งพี่หรอกรู้ไหม พี่รวยมากนะครับ เผื่อพริ้มไม่รู้”หมั่นไส้คนอวดรวยจริงๆ…แต่ก็นะ เขามีความรวยให้อวดนี่


“รวยได้ ก็จนได้เหมือนกันนะครับ”ดูบ้านผมเป็นตัวอย่างสิครับ เมื่อก่อนบ้านเราก็พอมีฐานะระดับหนึ่ง แต่พอเกิดวิกฤต ก็จนได้เพียงชั่วข้ามคืน ข้าวคลุกน้ำปลายังไม่มีกินเลย


“อยากกินเท่าไหร่ก็กินเถอะครับ พริ้มเป็นเด็กวัยกำลังโต แค่เด็กคนเดียวทำไมพี่จะเลี้ยงไม่ได้”


“ขี้โม้”


“คนจริงเขาไม่พูดเยอะกันครับ อาทิตย์หน้ากินอาหารโรงแรมทุกมื้อเลยดีไหม”ผมรีบส่ายหน้ายู่


“รู้แล้วครับว่ารวย ไม่ต้องอวดแล้ว”


“หึๆ”พี่ธิวาหัวเราะในลำคอ แล้วหยิบรีโมททีวีมาเลื่อนเปลี่ยนช่องจนเจอช่องหนึ่งที่ฉายรายการเกี่ยวกับแมวอยู่ ผมรีบจับมือพี่ธิวาไม่ให้เปลี่ยนช่อง


“พี่ครับ ผมอยากดูช่องนี้”


“ชอบแมวเหรอ”


“ชอบครับ”พี่ธิวาลูบหัวผมเล่น แต่ผมไม่ได้ใส่ใจ สายตาผมเอาแต่จับจ้องภาพพิธีกรรายการทีวีที่กำลังเดินเข้าไปในบ้านแมวขนาดใหญ่


บ้านแมวหลังนี้ทำด้วยปูน ภายในแบ่งเป็นห้องเล็กๆให้แมวแต่ละตัวอยู่ เจ้าของบ้านเป็นคนรักสัตว์ ชอบเก็บแมวและหมาจรจัดที่ถูกทิ้งตามวัดมาเลี้ยงที่บ้าน เริ่มแรกทำไปเพราะสงสารพระที่ท่านต้องรับภาระหาอาหารให้หมาและแมวจรจัด


เจ้าของให้สัมภาษณ์ว่าตอนรับมาเลี้ยงเริ่มแรกมีเพียงไม่กี่สิบตัว แต่ปัจจุบันมีเกือบร้อยตัวแล้ว เขารู้สึกว่าเริ่มเลี้ยงไม่ไหวแล้ว มีการประกาศหาบ้านให้แมว แต่เขาก็ทิ้งท้ายไว้ว่าถ้ารับไปเลี้ยงแล้วจะเอาไปปล่อย ให้เอามาคืนเขา เขาจะเลี้ยงเอง


ผมมองเข้าไปในนัยน์ตาของเจ้าเหมียว สายตามันดูเศร้า แมวที่ถูกเจ้าของทิ้ง ถึงจะมีคนเก็บมันมาเลี้ยง แต่การถูกทิ้งในครั้งนั้นคงยังเป็นบาดแผลในใจของมัน


สัตว์ตัวเล็กๆที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ กลับโดนเขี่ยทิ้งอย่างไม่ใยดีเมื่อเจ้าของหมดรัก ชะตาชีวิตของหมาแมวเหล่านี้คงไม่ต่างอะไรจากผม “น่าสงสารจังเลยครับ” ไม่ใช่แค่หมาแมวที่น่าสงสาร แต่ชีวิตผมเองก็ด้วย


“ไปรับมาเลี้ยงไหมครับ”


“ไม่เอาหรอกครับ พี่ธิวาไม่ชอบนี่”


“พริ้มชอบคนเดียวก็พอแล้ว ถ้ารับแมวมาเลี้ยง พริ้มจะได้ไม่เหงาไงครับ มีเจ้าเหมียวอยู่เป็นเพื่อน”


“ไม่เอาจริงๆครับ ถ้าจะเลี้ยง...เราต้องช่วยกันดูแลสิครับ ถ้าวันไหนพี่ธิวาพร้อมที่จะดูแลมันร่วมกับพริ้มจริงๆ วันนั้นเราค่อยเลี้ยงแล้วกันเนอะ”ถ้าเกิดวันไหนผมไม่อยู่ แล้วพี่ธิวาเอาแมวไปทิ้งก็แย่สิ


“ตามใจ พี่ขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะครับ ดูทีวีเสร็จแล้วก็ปิดทีวี ปิดไฟให้เรียบร้อยแล้วตามขึ้นมานะครับ อ่อ อย่านอนดึกเกินละ พรุ่งนี้ต้องไปเรียน รู้ไหมครับ”


“รู้ครับ”พี่ธิวาขยี้หัวผมด้วยความเอ็นดู ก่อนจะก้มลงมาจุ๊บที่ริมฝีปากผม

.
.
.

หลังจากเกิดเหตุการณ์น่าเศร้าในวันนั้น พี่ธิวาก็ไม่ปล่อยให้ผมเศร้าใจอยู่ตามลำพังอีกเลย เขามักจะตัวติดกับผมอยู่แทบตลอดเวลา ยกเว้นเวลาเรียน


โชคดีที่ช่วงอาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์หลังสอบซึ่งถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดของนักศึกษามหาวิทยาลัย หนังสือก็ไม่ต้องอ่าน งานก็ไม่ต้องทำ ไม่มีความเครียดมาเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการแย่ๆ และที่โชคดีไปมากกว่านั้น คือ อีกสามอาทิตย์จะมีการแข่งขันกีฬามหาลัย ซึ่งผมจะได้หยุดเรียนเต็มๆหนึ่งอาทิตย์


ผมได้แต่หวังว่าหนึ่งอาทิตย์ที่จะได้หยุดจะเป็นช่วงเวลาดีๆที่ผมได้ผ่อนคลายและพักใจ


แต่ก่อนที่จะไปถึงช่วงนั้น คงต้องเอาตัวรอดให้ผ่านช่วงวิกฤตที่คณะหาคนลงแข่งกีฬาไม่ได้ไปซะก่อน ใครๆก็อยากหยุดกันทั้งนั้น ไม่มีคนยอมลงแข่งกีฬากันสักเท่าไหร่


“ทำไงดีวะ คณะเราไม่มีคนลงแข่งว่ายน้ำมาราธอนเลย”น้องตองบ่นหลังจากอ่านไลน์รุ่นที่รุ่นพี่ขอตัวแทนคนลงแข่งว่ายน้ำมาราธอน สิ่งที่เกิดขึ้นในกรุ๊ปไลน์มีแต่คนอ่านแล้วไม่ตอบ


“ว่ายน้ำมาราธอนอะไรตอง พี่ไม่เคยได้ยิน”ผมถามน้องด้วยความสงสัย


“ฟรีสไตล์ 1500 เมตรครับพี่พริ้ม ตองมันตั้งชื่อเองมั่วๆ”น้องนัทไขข้อข้องใจให้ผม


“อ่อ มันต้องได้คนที่อึดๆหน่อยปะ ต้องว่ายไปกลับตั้งหลายรอบ”


“ใช่พี่ สระยาว 50 เมตร สรุปคือว่าย 30 รอบ เป็นผม ผมก็ไม่ลงอะ”น้องนัทบ่น


“แต่ถ้าไม่มีใครลง พี่วินัยจะมาบังคับปีหนึ่งลงอะดิ เห็นว่าปีนี้อยากเก็บเหรียญจากว่ายน้ำเพิ่มด้วย”น้องตองพูดหน้านิ่วคิ้วขมวด


“แล้วทุกปีเราไม่ได้เหรียญจากว่ายน้ำเหรอ”ผมถามด้วยความสงสัย เพราะวิศวะเป็นคณะใหญ่ มีจำนวนคนเยอะ ดังนั้นโอกาสที่จะได้คนเล่นกีฬาเก่งๆมาอยู่ในคณะมากกว่าคณะอื่น ปกติกีฬาประเภทอื่นก็เห็นว่าวิศวะเป็นแชมป์มาตลอด โดยเฉพาะฟุตบอลนี่ไม่แบ่งถ้วยให้ใครเลย ได้ถ้วยมา 4 ปีติด


“ได้บ้างไม่ได้บ้างพี่”น้องตองตอบผม


“งี้แกล้งว่ายน้ำไม่เป็นดีปะ”น้องนัทเสนอทางเลือก


“ของแบบนี้มันแกล้งกันยากปะวะ”น้องตองบ่นแล้วถอนหายใจ


ช่วงนี้ท็อปปิคเรื่องกีฬามหาลัยเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงเป็นพิเศษ ผู้หญิงในคณะผมบางคนเอาตารางแข่งมาวงวันที่ว่าวันไหนมีกีฬาอะไรแข่งบ้าง มีคนที่ตัวเองชอบแล้วต้องไปเชียร์ไหม จริงจังกว่าการเรียนหลายร้อยเท่า


“ตอง ตอนนี้ยังมีใครอยู่คณะบ้างวะ”น้องคนหนึ่งในคณะที่เห็นหน้าค่าตาเดินผ่านกันบ่อยๆในห้องเลคเชอร์วิ่งเข้ามาหาน้องตองหน้าตาตื่น


“จะเหลือใครวะ วันนี้อาจารย์ประกาศยกคลาสตอนบ่าย มันออกไปเดินสยามกันหมดแล้ว”


“ฉิบหายแล้ว พี่วินัยโทรสั่งหัวหน้าชั้นปีให้หาคนว่ายน้ำเก่งๆ 5 คนไปทดสอบตอนนี้”


“แล้วถ้าไม่ได้อะ”น้องตองถามกลับด้วยความกังวล


“ก็โดนสั่งซ่อมยกรุ่นไงครับ”


“เวร! เออๆเดี๋ยวกูช่วยหา”น้องตองรับปากแล้วเริ่มเปิดหารายชื่อในโทรศัพท์ ไล่โทรหาเพื่อนทีละคน สุดท้ายก็จิกตัวมาได้ 3 คน แววตาที่กำลังหมดหวังของน้องตองทอประกายแสงทันทีที่เงยหน้าสบตาผม


“พี่พริ้มว่ายน้ำเป็นปะ”ผมจะส่ายหน้าปฏิเสธน้องก็เกรงใจ แต่จะพยักหน้าก็ลำบากใจ ก็รู้ตัวว่าพอว่ายได้บ้าง


“ถีบตกน้ำก็ไม่จม”ผมตอบในเชิงไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ


“ดีเลยพี่ งั้นเพิ่มพี่คนนึง ละอีกคนก็มึงเลยไอนัท ช่วยกันหน่อย แมร่งเอ้ย! ไลน์ไปในกรุ๊ปก็ไม่มีใครตอบ”


“จะดีเหรอตอง พี่ว่าลองโทรหาคนอื่นก่อนดีมะ”ผมพยายามเจรจากับน้องระหว่างเดินไปสระว่ายน้ำ


“นี่ไงพี่ ตองโทรอยู่ ช่วยกันหน่อย”


ผมเดินตามหลังน้องตองไปสระว่ายน้ำของมหาลัยด้วยความไม่สมัครใจ “พี่ว่าเราหนีตอนนี้เลยดีปะนัท”ผมแอบกระซิบกับน้องนัท มองคนตัวเล็กกว่าที่รีบวิ่งเร็วเป็นลมกรดไปที่สระว่ายน้ำซึ่งมีพี่วินัยรออยู่นานแล้ว


“หนีวันนี้ตายวันหน้าดิพี่ โดนมันบ่นหูชาเรื่องไม่ช่วยเพื่อนในรุ่นเบื่อกันไปข้างแน่”


ผมถอนหายใจยอมรับชะตากรรมอย่างยอมจำนน เอาวะ เป็นไงเป็นกัน อย่าเป็นลมคาสระว่ายน้ำพอ


ผมหยิบมือถือไลน์ไปบอกพี่ธิวาว่าวันนี้มีทดสอบแข่งว่ายน้ำที่มหาลัยจะกลับช้าหน่อย ข้อความแสดงสถานะว่าอ่านแล้วแต่ไม่มีการตอบกลับใดๆ คนแก่ก็แบบนี้ ชอบอ่านแล้วไม่ตอบ คุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ถ้ามีอะไรสำคัญจริงๆต้องโทรหาเท่านั้น

.
.
.

“อะนี่ ของพี่พริ้ม นี่ของมึง”ผมมองกางเกงว่ายน้ำสีดำตัวเล็กที่ใส่แล้วแทบจะไม่ปิดอะไรเลยด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน ถ้าให้ใส่จริงๆก็ไม่ต่างอะไรกับใส่กางเกงในเดินตัวเปล่า


“ขอแบบที่มีขากางเกงหน่อยได้ไหมตอง พี่ว่าอันนี้มันสั้นไป”


“ไม่มีแล้วพี่ หามาให้ใส่ได้ก็บุญแล้ว”น้องตองตอบผมแล้วรีบวิ่งออกไปด้านนอก สงสัยจะไปรับหน้าพี่วินัย


“เอาหน่อยวะพี่”น้องนัทตบหลังผมปลอบใจ ผมมองกางเกงตัวน้อยตัวนิดในมือแล้วถอนหายใจยาวๆ


เอาวะ…เพื่อรุ่น


ทันทีที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ น้องตองวิ่งมาดึงมือผมให้ออกจากห้องแต่งตัว “ไปพี่ ขึ้นไปยืนบนที่ปล่อยตัวเลย”


ผมกำเสื้อนักศึกษาที่ใส่คลุมทับออกมา ไม่อยากจะถอดเลย ยิ่งเห็นนักศึกษาผู้หญิงนั่งกันเต็มอัฒจันทร์แล้วยิ่งใจไม่ดี ไหนว่าอาจารย์ยกคลาสแล้วกลับบ้านไปเดินสยามกันหมดไงวะ


“โหพี่ ใจๆหน่อย โชว์พุงแปปเดียวเดี๋ยวก็เสร็จ”น้องตองดึงชายเสื้อนักศึกษาผมยิกๆเป็นการเร่งให้ถอด


“นี่ทำขนาดนี้ได้อะไรวะตอง”ผมถามน้องด้วยความสงสัย


“ได้ดูพุงพลุ้ยๆของพี่ไง ฮ่าๆ”น้องตองพูดอย่างอารมณ์ดีแล้วดึงเสื้อนักศึกษาของผมไป


“เอ้า! ฟังๆ หยุดกรี๊ดกันสักที”พี่วินัยหันไปตะโกนบอกคนอื่นๆที่นั่งกันอยู่บนอัฒจันทร์ ผมว่าห้ามยังไงก็ห้ามยาก เล่นเอารองเดือนคณะมาแข่งว่ายน้ำ ใครก็ต้องอยากกรี๊ดซิคแพคแน่นๆเป็นธรรมดา


“พี่บอกให้หยุดกรี๊ดไงครับ”พี่วินัยเริ่มสั่งอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเข้ม มีความคาบเกี่ยวกับความเกรี้ยวกราดแค่เส้นบางๆกั้น


“น้องที่จะลงแข่งฟังพี่นะ การทดสอบครั้งนี้ให้ว่ายไปกลับ 10 รอบใครทำเวลาได้ดีที่สุด 3 คนแรกจะต้องไปฝึกว่ายน้ำมาเพิ่มแล้วอีกสองอาทิตย์เรามาแข่งกันใหม่”


“ทราบครับ”


“คุณพูดว่าไงนะ ผมไม่ได้ยิน เสียงผมคนเดียวยังดังกว่าเสียงพวกคุณ 5 คนอีก”


“ทราบครับ”ผมแทบตะโกนตอบรับคำสั่งของพี่วินัย


“ประจำที่”


ผมขึ้นไปยืนประจำที่ ดึงแว่นตาว่ายน้ำลงมาคาดตา จัดท่าออกตัวตามเพื่อนข้างๆ


ปี๊ดดดดดดดดดด!


สิ้นเสียงสัญญาณนกหวีด นักกีฬาว่ายน้ำจำเป็นทุกคนก็ออกตัว กระโดดลงไปในน้ำ ผมมองทุกคนที่ทิ้งระยะห่างออกไปจากผมหลายช่วงตัวด้วยความดีใจ รอดละพริ้ม มีคนทำเวลาดีกว่าแกเยอะ คนที่ทำเวลาได้ดีที่สุดในรอบแรกคือรองเดือน ซึ่งผลก็เป็นไปตามความคาดหมาย หุ่นดีขนาดนั้นคงออกกำลังกายบ่อย


ผมเองก็ว่ายเต็มที่ตามสมรรถภาพที่ตัวเองมี ไม่ฝืนเร่งทำเวลาเพื่อนำใครเพราะรู้ว่าร่างกายตัวเองไม่พร้อม ไม่รู้ว่าซี่โครงที่พึ่งหักมาจะสมานกันดีหรือยัง แต่ระยะเวลาตั้งแต่เกิดเรื่องก็เดือนกว่าๆแล้ว


ช่วงกลับตัวในรอบที่ 5 มีน้องคนหนึ่งในคณะเกิดตะคริวกิน ทำให้ในสระเหลือนักกีฬาจำเป็นรอดชีวิตอยู่ 4 คน ผมเองก็เริ่มเหนื่อยแล้ว นึกอยากยอมแพ้บ้าง แต่พี่วินัยพูดออกไมค์เสียงดังว่าใครแกล้งแพ้จะให้วิ่งรอบสนามฟุตบอลมหาลัยตามจำนวนรุ่น


บ้าบอมาก ขืนต้องวิ่งเท่าจำนวนรุ่นจริงๆ ผมคงตายตั้งแต่ยังไม่ครึ่งรุ่น


เสียงกรี๊ดและเสียงเชียร์ยังคงดังไม่ตก แต่อยู่ดีๆเสียงก็เงียบไป หันไปมองข้างตัวอีกทีก็พบว่าน้องนัทถูกพาขึ้นไปข้างสระแล้ว


สุดท้ายบทสอบก็จบลงที่รอบที่ 8 พี่วินัยสั่งให้พวกผมหยุดว่ายน้ำแล้วขึ้นมารับคำสั่งให้ไปซ้อมมาเพิ่มแล้วมาคัดตัวกันอีกทีสองอาทิตย์ข้างหน้า


ผมนั่งโชว์พุงอยู่ริมสระด้วยความเหนื่อยอ่อน อยากจะนอนแผ่ตัวลงตรงนี้แต่ก็อายนักศึกษาหญิงเกินกว่าที่จะทำแบบนั้น จะให้ลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตอนนี้ก็ไม่มีแรง


“ขอบคุณนะนัท”ผมขอบคุณน้องนัทที่ยื่นผ้าเช็ดตัวมาให้ กำลังจะยื่นมือไปรับ ผ้าเช็ดตัวผืนหนานุ่มก็ถูกดึงกลับ


“พี่ชื่อธิวาครับ ไม่ใช่นัทอะไรนั่น”ผมหันไปมองพี่ธิวาที่อยู่ในชุดสูทด้วยความตกใจ มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
คนตัวสูงยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความไม่พอใจ


“ฮัดชิ่ว!”ทันทีที่ผมจาม ผ้าขนหนูผืนใหญ่หนานุ่มก็ถูกกางมาคลุมตัว “รู้ว่าป่วยง่ายแทนที่แข่งเสร็จจะรีบวิ่งไปเปลี่ยนชุด เอาแต่นั่งอวดพุงอยู่นั่นแหละ”


ผมยิ้มขำกับการบ่นกระปอดกระแปดของพี่ธิวา “รอผมแปปเดียวนะครับ จะรีบไปเปลี่ยนชุด”


“เร็วๆละ”


“ใครอะพี่พริ้ม หล่อเหี้ยๆ แต่งตัวก็ดี ใครเดินใกล้ๆนี่โคตรหมองเลย”ผมหันหลังกลับไปมองพี่ธิวาที่โดดเด่นออกมาท่ามกลางผู้คน


ผมยิ้มจางๆให้น้องนัท “ผู้ปกครองพี่เอง”

.
.
.

“ช้า”พี่ธิวาบ่นด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์แล้วเดินไปขึ้นรถ ก้าวเท้าเร็วจนผมต้องวิ่งตาม


คนตัวสูงเปิดประตูรถด้วยแรงที่เยอะจนเหมือนกระชาก เอาแล้วสิ…ถูกโกรธอีกแล้วพริ้ม


“โกรธอะไรครับ”ผมหันไปถามพี่ธิวาระหว่างที่รถติดไฟแดง การที่คนตัวสูงเอาแต่ตีหน้าเคร่ง ไม่พูดไม่จาตลอดระยะเวลาที่เดินทางออกจากมหาลัยทำให้ผมเดาได้ไม่ยากว่าต้องไปทำอะไรขัดใจเขาแน่ๆ


“ไม่รู้”


“ไม่รู้แล้วทำหน้าแบบนี้ทำไมครับ”


“ก็พี่บอกว่าไม่รู้ไงครับ”


ผมจนใจที่จะถาม ตัดสินใจหันหน้าหนี ไม่อยากจะทะเลาะด้วย งงใจสุดๆ อยู่ดีๆก็โกรธขึ้นมาแบบไม่ทราบสาเหตุเหรอ หรือว่าจริงๆพี่ธิวากำลังเข้า ‘วัยทอง’


“หันหน้ามาคุยกันหน่อยสิ”อยู่ดีๆพี่ธิวาก็ทักผม


“คุยอะไรดีละครับ”ผมไม่ได้กวนประสาทนะ แต่จะให้คุยอะไรกับคนที่เอาแต่ดึงหน้าโกรธ พูดจาสะบัดเสียงใส่


พี่ธิวาเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินแล้วเลี้ยวรถจอดข้างทาง


“ตอนแรกเป็นพี่ที่โกรธอยู่ดีๆ ทำไมตอนนี้เป็นเราละ”


“แล้วมันน่าโกรธไหมครับ ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย อยู่ดีพี่ก็เกรี้ยวกราดใส่ผมแบบไม่มีเหตุผล”


“ใครว่าไม่มีเหตุผล”


“งั้นก็บอกมาสิครับ ผมถามพี่ไปหลายครั้งแล้วนะครับว่าโกรธอะไร พี่ก็เอาแต่บอกว่าไม่รู้ๆ”


“พี่งี่เง่าเอง จบไหม”


“ไม่จบครับ”


“ต้องทำยังไงถึงจะจบ”


“บอกเหตุผลดีๆมาสักข้อสิครับว่าอะไรทำให้พี่เป็นแบบนี้”


“พี่หวง พี่ไม่ชอบให้คนอื่นเห็นร่างกายพริ้ม พี่ไม่ชอบเสียงที่พริ้มเรียกชื่อผู้ชายคนอื่น รู้ไหมตอนนี้พี่อยากจับพริ้มมัดไว้กับเตียง ทำให้ทรมานด้วยความเสียว เอาแต่ครางชื่อพี่คนเดียวทั้งคืน”


ทันทีที่ฟังเหตุผลจบ ผมรีบผลักตัวพี่ธิวาออกแล้วปีนหนีไปนั่งเบาะหลัง คนโรคจิต!!!


“นี่ไง พอพี่บอกเหตุผลแล้วก็เป็นแบบนี้”


“แล้วเหตุผลที่พี่พูดมามันเหมือนคนทั่วไปเขาไหมเล่า”


“ไม่เหมือนตรงไหน พี่ชอบพริ้ม พี่ก็ต้องหวงพริ้มเป็นธรรมดา ผู้ชายที่ไหนก็มีอารมณ์กับคนที่ตัวเองชอบทั้งนั้นแหละ”ผมไม่รู้ว่าตัวเองควรหน้าแดงด้วยความเขินหรือหวาดกลัวผู้ชายหื่นกามตรงหน้าดี


“…”


“เงียบทำไมละ”


“แล้วพี่จะให้ผมพูดอะไรเล่า”


“เมื่อคืนนอนแล้วรู้สึกเตียงเย็นๆไหม”อยากจะถามว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับสถานการณ์ตรงหน้า แต่ก็ยอมตอบไป


“ก็ต้องเย็นสิครับ พี่ธิวาเปิดแอร์ 22 นี่”


“งั้นคืนนี้พี่ทำให้เตียงร้อนเอาไหม warming bed service”


“ตาแก่บ้ากาม ขับรถกลับบ้านเลย”


“หึๆ วันหลังอย่าใส่กางเกงว่ายน้ำตัวเท่าฝ่ามือแบบนั้นอีกนะ พี่หวง”


“งั้นพี่ธิวาคงต้องซื้อชุดว่ายน้ำแขนยาวขายาว ปิดถึงคอกับตาตุ่มให้ผม”


“เป็นความคิดที่ดี”


ผมละเพลียใจกับความขี้หวงของพี่ธิวา ไม่ต่างอะไรกับคุณท่านเลยจริงๆ
หวงแล้วชอบฟาดงวงฟาดงา

หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 27-07-2018 21:06:50
“พี่ธิวาทานอะไรดีครับ”ผมถามขณะที่รื้อค้นตู้เย็นเพื่อทำอาหารเย็น กินอะไรดีน้า


“พี่ขี้เกียจทำ สั่งมาทานไหม”


“ไม่เอา เดี๋ยวผมทำให้เอง”


“จะทานได้เร้ออออ ไม่ใช่พรุ่งนี้พี่ท้องเสียจนไปทำงานไม่ได้นะ”


“โหย อย่าดูถูกกัน”


ผมหยิบกุ้งออกมาจากช่องแข็ง ตามด้วยหมู เต้าหู้และสาหร่าย “กุ้งกระเทียมกับแกงจืดเต้าหู้หมูสับดีไหมครับ”


“ดีครับ จัดไป”


“พี่ธิวาไปอาบน้ำสิครับ พี่ธิวาอาบเสร็จ พริ้มก็ทำกับข้าวเสร็จพอดี”


“วันนี้ดีแปลกๆนะเนี่ย”


“ก็ง้ออยู่นี่ไงครับ จะให้พี่ธิวาจับผมมัดกับเตียง ผมทำไม่ได้หรอก ทำได้แค่ทำอาหารง้อ”พี่ธิวาเดินมาหาผมยิ้มอย่างอารมณ์ดี จับผมอุ้มขึ้นไปนั่งบนเคาท์เตอร์ครัว


“ทำไมน่ารัก”


“ไม่รู้”ผมเบี่ยงหน้าหนีเมื่อพี่ธิวาเขยิบหน้าเข้ามาใกล้


“เหม็นกลิ่นคลอรีน”ผมตีบ่าพี่ธิวาไม่แรงนัก คนพึ่งขึ้นจากสระว่ายน้ำ จะให้หอมกลิ่นลาเวนเดอร์รึไง


“รู้ไหมว่าเราเป็นคนเอ็กซ์แปลกๆเวลาอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อน”คนหื่นกามกระซิบริมกกหูผมก่อนจะงับเบาๆ


“ฮรื่อ…ไม่เอาครับ เดี๋ยวก็ไม่ได้กินข้าวกันพอดี”ผมพยายามดันอกพี่ธิวาที่เข้ามาคลอเคลียไม่ห่าง มือปลาหมึกจับนู่นลูบนี่ยุบยับไปหมด ปากเองก็เหมือนกัน แทบจะประทับรอยไว้ทุกตารางนิ้ว


“พี่ธิวา!”ผมโวยวายทันทีที่ตัวเองเหลือเพียงผ้ากันเปื้อนสีฟ้าใช้คลุมตัว ชุดนักศึกษาถูกคนเจ้าเล่ห์ลอกคราบออกไปจนหมด เหลือไว้เพียงแค่กางเกงใน


“ถ้าอยากง้อพี่ก็ทำกับข้าวอร่อยๆนะครับ”พี่ธิวาสั่งอย่างเอาแต่ใจแล้วดูดปากผมแรงๆ


“อยากให้ทำกับข้าว ก็หยิบเสื้อผ้ามาให้ผมใส่สิครับ เหลือแค่ผ้ากันเปื้อนผมจะทำได้ไง”


“ทำได้สิ พริ้มไม่ได้ใช้ชุดนักศึกษาทำกับข้าวนี่”


“พี่ธิวา!!!”ผมร้องประท้วงเสียงดัง เอาใหญ่เกินไปแล้ว หื่นกามไม่รู้เวล่ำเวลา


“อยากง้อพี่ไม่ใช่เหรอ แค่นี้ก็ทำให้ไม่ได้เหรอครับ”


“โรคจิต”ผมเบะปากใส่พี่ธิวาแล้วกระโดดลงจากเคาท์เตอร์ เอาวะ อยากเห็นนักก็จะโชว์ให้ดู


ผมตั้งน้ำบนเตาแก๊สรอน้ำเดือด ระหว่างรอก็ปั้นหมูบดให้เป็นลูกบอลกลมๆ หลังจากจัดการเตรียมหมูเสร็จ ผมก็ไปล้างผัก ระหว่างที่กำลังหั่นแครอทคนตัวสูงก็มายืนซ้อนด้านหลัง


“หื้อออ! อย่ากวนกันสิครับ”ผมหันไปดุพี่ธิวาที่บดเจ้าลูกชายเขากับสะโพกผม


“พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนี่”คนตัวสูงทำหน้าเหรอหรา เล่นใหญ่ขนาดนี้ เอารางวัลตุ๊กตาทองไปเลยดีมะ


ผมขี้เกียจจะสนใจ หยิบเต้าหู้มาหั่นต่อ แต่พี่ธิวาก็ยังไม่หยุด กางเกงลิงตัวเดียวที่เหลือปกปิดของสงวนถูกดึงไปกองที่ข้อเท้า ฝ่ามือหนาบีบเค้นสะโพกผมเล่นอย่างย่ามใจ


“พี่ธิวาหยุดเล่นสักที”ผมตวาดเกรี้ยวกราดด้วยความโมโห มีดจะหั่นนิ้วผมอยู่แล้วเพราะการเล่นไม่รู้เวลาล่ำเวลา


“ใครบอกว่าพี่เล่นหื้ม”นิ้วเรียวยาวดุจลำเทียนสอดเข้ามาในช่องทางรัก หมุนวนหาจุดรักจนผมแข้งขาอ่อนต้องเท้าแขนไว้กับเคาท์เตอร์


“พี่ธิ…อื้อ พอ…อึก…ก่อน”


“ทำไมละครับ กำลังสนุกเลย”คนตัวสูงถอนนิ้วออกจากช่องทางของผม จัดการกวาดของลงจากโต๊ะทานข้าว แล้วอุ้มผมไปวาง


ฝ่ามืออุ่นเลิกผ้ากันเปื้อนสูงขึ้น “ปากบอกว่าให้พอ แต่เจ้าหนูตรงนี้มันยังไม่รู้จักพอเลยนะครับ”พี่ธิวาสะกิดส่วนปลายของลูกชายผมที่ชูคอผงกหัวอย่างน่ารังเกียจ ปลายนิ้วยาวของเขาลากไล้ไปตามความยาว


“อยากกินไอติมบ้างจังเลยน้า”คนตัวสูงหายไปแวบเดียวกลับมาพร้อมถังไอติมและวิปครีม วิปครีมสีขาวถูกบีบออกจากขวดไว้บนยอดอกของผมสองข้าง ตามด้วยไอติมที่ถูกตักวางไว้บนส่วนปลายของแก่นกายกลางลำตัว


ลิ้นร้อนตวัดเลียวิปครีม “หวานจังน้า” ผมยกมือปิดหน้าด้วยความอาย พี่ธิวาเล่นบ้าอะไรเนี่ย คนตัวสูงยังคงดูดดึงยอดอกผมจนเป็นรอยแดง มืออีกข้างก็ขยำขยี้จนยอดอกอีกข้างชูชัน


“ว้า ไอติมละลายซะแล้ว”


“พี่ อย่า…”ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากห้าม ริมฝีปากร้อนก็ครอบครองยอดกายสีแดงฉ่ำที่มีน้ำรักไหลเยิ้มออกมาด้วยความปรารถนา คนตัวสูงปรนเปรอให้ผมจนแทบลืมหายใจ


ผมบิดเร่าอยู่บนโต๊ะกินข้าวเมื่อเขาหยุด ผมลืมตามองเขาด้วยแววตาฉ่ำวาว น้ำใสไหลคลอหน่วยที่ดวงตา


“น่ารักจังเลยนะ”ผมลุกขึ้นจากโต๊ะ เกี่ยวคอเขามาจูบระบายตัณหาราคะที่แผดเผาผมจนแทบไหม้ เราแลกลิ้นกันจนน้ำใสไหลหยดที่มุมปาก เท่าไหร่ก็ไม่พอ ผมอยากได้มากกว่านี้ ผมเกี่ยวขาที่เอวพี่ธิวา จับลูกชายเขากับผมชักขึ้นลงพร้อมกัน


“ถุงยาง”ผมกระซิบริมกกหูของเขาก่อนดูดดึงเล่น


“ยสตนดีไหม”


“พี่ธิวาไม่เอา อื้อ…ไม่สด…อึก”ยังไม่ทันที่จะเอ่ยปากประท้วงจับ คนตัวสูงจะจับขาผมพับไปด้านหลังในแนบกับสะโพก ก่อนจะรวบตัวผมขึ้นแล้วเสยสะโพกเข้ามาในช่องทางรัก ผมกัดฟันแน่นด้วยความอึดอัด ท่านี้มันทั้งเสียว ทั้งลึก  ฝ่ามือแกร่งรวบขาผมขยับขึ้นลง พร้อมกับสะโพกแกร่งที่เด้งสวนกลับมา


ผมเสียวจนปากสั่น “อ๊า…ซี้ด…”


“เสียวไหมครับ”


“ยะ…อย่าถาม”ริมฝีปากนุ่มคลอเคลียแถวเม็ดเชอร์รี่ ลิ้นร้อนไล้เลียวนรอบฐานก่อนจะดูดดุนดึงเข้าปากแล้วครอบครองไว้ทั้งหมด “ฮ้า…แด๊ดดี้ อื้อออ…”ผมครางยาวด้วยความเสียว เสียวจนจุกอก ในขณะที่ปากของพี่ธิวาปรนเปรอจนผมแทบเอ่อล้นไปด้วยความเสียว สะโพกแกร่งก็ไม่หยุดทำงานเลยแม้แต่น้อย ยังคงเพิ่มจังหวะและความแรงในการสอดใส่


“ฮ้า…ไม่ไหว อึก…อื้อ”ผมเหมือนคนที่กำลังว่ายน้ำอยู่กลางแม่น้ำที่เชี่ยวกราก มือแทบจะปริ่มๆแตะขอบตลิ่งได้ แต่ก็โดนแกล้งยื้อไว้ตลอด ความปวดมวนในท้องน้อยมันอึดอัดจนแทบระเบิด


“อย่า…แกล้งกัน”


ฝ่ามือแกร่งดึงสะโพกผมทีเดียวหลุดพ้นจากท่อนลำยาวใหญ่ที่คอยตอกอัดความปรารถนาให้ทรมานใจ ผมใช้มือขยี้ยอดอกตัวเองระหว่างที่พี่ธิวาเอาแต่มองดู ริมฝีปากบวมแดงเจ่อของผมรับนิ้วของพี่ธิวามาดูดเล่นแก้เสียว


“อย่าเล่น…แบบนี้”ผมแอ่นอกครางเสียงดังเมื่อพี่ธิวาตอกอัดความปรารถนาเข้ามาในรูสวรรค์อย่างรุนแรง แต่ทว่าเนิบช้า รอจังหวะ


“ทำไมครับ พริ้มไม่ชอบเหรอครับ”ผมเกลียดสีหน้าท่าทางเจ้าเล่ห์ของเขาเวลาทำเรื่องใต้สะดือเหลือทน


“มันเสียว”ผมแหวใส่เขาเสียงดัง


“แด๊ดดี้ทำให้พริ้มเสียวได้มากกว่านี้อีก”ยังอีก ยังพูดไม่หยุดอีก


“อย่าดีแต่ปากสิครับ สะโพกอะทำงานหน่อย”ผมยื่นมือไปกำเจ้าลูกชายของพี่ธิวา จัดการรูดรั้งเพิ่มแรงอารมณ์


“ถ้าพรุ่งนี้คลานไปเรียน อย่ามาโทษพี่นะครับ”พี่ธิวาอุ้มผมขึ้นไปบนโต๊ะกินข้าว จับผมนอนคว่ำหน้า ยกสะโพกกลมมนให้นูนเด่นเหมาะกับการทำภารกิจ น้ำลายสีใสถูกถ่มลงมาใส่ช่องทางรักพร้อมกับนิ้วที่สอดแทรกเข้ามา


“ไม่เอานิ้วแล้ว”ผมหันไปโวยวายเสียงดัง เอากันจนจะเสร็จอยู่แล้ว ยังจะกลับมาเล้าโลมอีก


“ใจร้อนจริง เมียใครเนี่ย”ผมลุกขึ้นจากโต๊ะดึงหน้าพี่ธิวามาจูบแลกลิ้น รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นอีตัวร่านค_ยก็วันนี้นี่แหละ


“เมียพี่ไงครับ”ผมกระซิบริมกกหู แลบลิ้นเลียดูดดึงใบหูเล่น


“โอ้ววว…แบบนี้ มันต้องแบบนี้ อ๊า…แรงอีก อีก…อึก…”ผมร้องเสียงดังเมื่อพี่ธิวากระแทกเข้ามา มันช่างรวดเร็วและรุนแรงเหมือนไฟปรารถนาที่แผดเผาสุมทรวงผมอยู่ตอนนี้


ผมไม่คิดว่าตัวเองเวลาถูกกระตุ้นถึงขีดสุดจะร่านได้ขนาดนี้ ผมเหมือนคนตะกละตะกราม เท่าไหร่ก็ไม่พอ ปรารถแต่ความรุนแรง ยิ่งพี่ธิวารุนแรงกับผมมากเท่าไหร่ ผมยิ่งอิ่มเอม


ไม่ใช่ว่าเซ็กส์แบบอ่อนโยนจะไม่ทำให้ผมเสร็จ แต่ผมรู้สึกสุขสมกับเซ็กส์ที่ถึงรสถึงชาติแบบนี้มากกว่า
บางทีการที่คุณท่านเอาแต่รุนแรงกับผม อาจจะทำให้ผมเสพติดความรุนแรงแบบนี้ก็เป็นไปได้

.
.
.

“เจ็บคอ”ผมโวยวายกับพี่ธิวาที่กำลังเช็ดตัวให้ด้วยเสียงแหบแห้ง


“ก็เราไม่ใช่รึไงที่ครางเสียงดังลั่นบ้าน”


“ก็พี่ไม่ใช่รึไงที่เริ่มก่อน”


“หึๆ”พี่ธิวาขำแล้วจับผมพลิกตัวให้ชันเข่าขึ้น “ฮรื่อ…ไม่เอาแล้ว”ผมงอแง


“เอาจนอิ่มแล้วครับ น้ำพี่ทะลักออกมานอกรูพริ้มแล้วนี่ เห็นไหม”คนขี้แกล้งว่าแล้วสอดนิ้วเข้าไปช่องทางอ่อนนุ่มของผม กวาดเอาน้ำรักออกมา แถมยังทำลามกเอามาชูให้ผมเห็นอีกว่าน้ำรักสีขาวขุ่นมากมายเหลือเกินที่เคลือบติดนิ้วออกมาด้วย


“ลามก”ผมสะบัดหน้าหนี ฝังหน้าลงกับหมอนนุ่ม อายจะตายอยู่แล้ว


“ตอนนี้ทำมาอาย ที่เมื่อกี้นะ…”


“หยุดพูดได้แล้ว บอกให้หยุดพูดไงเล่า”


“หึๆ”คนเจ้าเล่ห์หื่นกามหัวเราะในลำคอ ดึงตัวผมขึ้นมานั่งคร่อมตัก


“มันต้องทำความสะอาดรู้ไหม ไม่งั้น…”


“จะทำอะไรก็รีบทำได้ไหม ผมอายจะแย่อยู่แล้ว”พี่ธิวายิ้มขำ อุ้มเข้าไปในห้องน้ำ จัดการทำความสะอาดช่องทางอ่อนนุ่ม แล้วอาบน้ำแต่งตัวให้ เรียกว่าเห็นกันทุกซอกทุกมุม


แบบนี้มันเกินไป…เกินไปจริงๆ


เขินจนตัวจะระเบิดอยู่แล้ว


“เอาแต่ซุกหน้าอกพี่ เดี๋ยวก็หายใจไม่ออก”ผมเงยหน้าขึ้นมามองตาพี่ธิวา แต่ก็สู้สายตาไม่ได้ ต้องกลับไปก้มหน้าซุกอกพี่ธิวาเหมือนเดิม


พี่ธิวาเกลี่ยแก้มผมเบาๆ “แค่นี้ก็หลงจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งเจอแม่เสือสาวเมื่อตอนเย็นเข้าไปอีก เราจะผูกพี่ ไม่ให้มองใครเลยอีกรึไง”


ผมหลับตาพริ้มอยู่กับอกพี่ธิวา อยากจะบอกเหลือเกินว่าแม่เสือสาวตอนเย็นนั่นอารมณ์จริงๆล้วนๆ ไม่มีการประดิษฐ์อะไรทั้งสิ้น เพราะเป็นพี่ธิวาที่ปลุกตัวตนนั้นขึ้นมา

.
.
.

ผมนอนกระสับกระส่ายทั้งคืนด้วยพิษไข้ ทำเอาพี่ธิวาไม่ได้นอนไปด้วย ต้องคอยเช็ดตัวให้ผมทั้งคืน


“แค่กๆ”ผมไอแค่กๆอยู่บนเตียง มีพี่ธิวานั่งอยู่เคียงข้างคอยเช็ดตัวให้


“ไหวไหมครับ”ผมส่ายหน้า ตอนนี้ผมรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ร้อนรุ่มไปหมด หัวก็ปวดจนแทบระเบิด คอก็แสบเป็นผุยผง กลืนน้ำลายแต่ละทีเหมือนกลืนน้ำกรด


พี่ธิวาจ่อเครื่องวัดไข้ตรงข้างขมับผม “ไข้เราสูงมากเลยนะพริ้ม ไปโรงพยาบาลนะครับ”


“ไม่ไปครับ”ผมงอแงเป็นเด็กๆ “ทำไมครับ”


“พริ้มไม่อยากไป  ฮรือ…”ยิ่งปวดหัวยิ่งงอแง น้ำตานี่สั่งได้เลย


“ไม่ร้องครับ ไม่ไปก็ไม่ไป แต่เราต้องทานข้าว ทานยาก่อนนะ พี่มีผ่าตัดตอนสิบโมงด้วย”ทันทีที่รู้ว่าวันนี้จะต้องนอนป่วยอยู่บ้านคนเดียว น้ำตาผมก็หยดแหมะๆแบบไม่มีเสียงสะอื้น


ไม่อยากทำให้พี่ธิวาลำบากใจ แต่ก็น้อยใจที่ต้องอยู่คนเดียว
ตอนทำก็ทำด้วยกัน ทำไมต้องเป็นผมที่ป่วยคนเดียวด้วย


“พริ้มครับ ไม่งอแงนะ”ผมพลิกหน้าหนีพี่ธิวา


“เฮ้อออ…”ผมได้ยินเสียงถอนหายใจเสียงดัง ก่อนที่พี่ธิวาจะหายไปจากห้อง


“พี่ยกเลิกผ่าตัดแล้วนะ คนไข้เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วด้วย ถ้าไม่ผ่าตัด…”


“ผมขอโทษ”


“จะงอแงอีกไหม”


“ไม่งอแงแล้วครับ”


“ถ้างั้นก็ลุกขึ้นมาทานข้าว ทานยา เราจะได้ไปโรงพยาบาลด้วยกัน”


“ครับ”


ผมนั่งนิ่งอยู่ข้างๆพี่ธิวาตลอดทาง รู้สึกหนาวสั่นทั้งๆที่พี่ธิวาไม่ได้เปิดแอร์ด้วยซ้ำ คนตัวสูงยอมปิดแอร์ เปิดกระจกขับรถเพราะผมบ่นว่าหนาว


ผมยื่นมือตัวเองไปเช็ดเหงื่อให้พี่ธิวา “ตัวร้อนมากเลยรู้ไหมครับ พริ้มต้องฉีดยาแล้วนะ ถ้าไข้ไม่ลด มีโอกาสช็อคได้นะครับ” ผมกุมมือคนข้างกายแน่น ไม่รู้ว่าทำไมแต่พอป่วยแล้วก็อยากอ้อน อยากเอาแต่ใจ แต่ก็รู้ดีว่าเพราะความเอาแต่ใจของตัวเองเกือบทำให้คนข้างๆเสียการเสียงาน

.
.
.

“ยังหนาวอยู่ไหมครับ”ผมส่ายหน้า ซุกหน้าลงกับผ้านวมผืนหนานุ่มที่ห่อรอบกาย


“นอนพักก่อนนะครับ พี่จะรีบไปทำงาน มีอะไรก็บอกเลขาหน้าห้องพี่นะ”ผมพยักหน้ารับรู้แต่จับมือพี่ธิวาไว้ไม่ยอมปล่อย


คนตัวสูงก้มลงมาลูบหัวผม “ฝันดีนะครับเด็กดื้อของพี่”


สัมผัสบางเบาที่หน้าผากทำให้ผมยอมปิดตาหลับลงด้วยความอ่อนเพลีย

.
.
.

ผมไม่รู้ว่านี่คือความจริงหรือความฝัน แต่ถ้ามันเป็นความฝัน…ให้ผมตื่นได้ไหม


ร่างเละเน่าหนอนของวีที่ไม่ได้ตามหลอกหลอนมานานกลับมาหลอกหลอนผมอีกครั้ง คราวนี้มันมาพร้อมกับเม็ดยาสีชมพูที่ปาใส่ผม


“อีพริ้ม มึงมันอีกะหรี่”ผมยกมือขึ้นปิดหูตัวเอง ไม่อยากจะฟังถ้อยคำโสโครกที่เอ่ยออกจากปากเน่าๆนั่น


“มึงทำให้น้องติดยา มึงทำให้น้องหมดอนาคต มึงสมควรตาย ตายยยย…ตายยยยยยยยย”


“ม่ายยยยยยย….”ผมกรีดร้องทันทีที่เม็ดยาสีชมพูตกลงมาจากฟากฟ้า ทุกครั้งที่เม็ดยาตกใส่ตัวผมมันแสบร้อนไปหมด แสบเหมือนไฟบรรลัยกัลป์ที่พร้อมแผดเผาให้ผมมอดไหม้ไปพร้อมกับความบาปที่ผมได้ก่อ


บาปที่ทำให้น้องติดยา


ทรมาน…ทรมานเหลือเกิน
ถ้าจะลงโทษผมแบบนี้ให้ผมตายไปซะยังดีกว่า


ผมเจ็บปวดเหลือเกิน


ได้โปรดปลดปล่อยผมไป

.
.
.

“พริ้มครับ พริ้ม”ผมลืมตามองพี่ธิวาด้วยน้ำตานองหน้า ความเจ็บปวดจากในฝันมันเหมือนจริงมาก เหมือนจนผมกลัวว่ามันจะเป็นความจริง



“พริ้มครับ นี่พี่เองไงครับ พริ้มอยู่กับพี่ พริ้มปลอดภัยแล้วนะ”ผมมองหน้าพี่ธิวาด้วยความหวาดกลัว จนเขาต้องเขย่าตัวผมเพื่อเรียกสติ ดวงตาของเขาฉายแววกังวล


แววตาของพี่ธิวาสั่นไหวอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน มันคือแววตาของคนหวาดกลัวความสูญเสีย


“ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”ผมยื่นมือขึ้นไปลูบที่ข้างแก้มของพี่ธิวา พูดปลอบเขาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง คอเจ็บทุกครั้งที่เปล่งเสียงออกมา


“พริ้มฝันร้ายอะไรครับ บอกพี่ได้ไหม”ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ ไม่อยากบอกกล่าวความจริงให้พี่ธิวากังวลใจไปมากกว่านี้


“ไม่บอกก็ไม่บอกครับ อาการเรายังไม่ดีขึ้นเลยนะ ไข้ก็ไม่ลด คืนนี้เราต้องนอนโรงพยาบาลนะ”ผมพยักหน้ารับรู้ รู้ดีว่าอาการตัวเองแย่ลงกว่าเมื่อเช้าด้วยซ้ำ


“เดี๋ยวพี่ไปเอารถเข็นมานะ”ผมพยักหน้ารับรู้แทนคำพูด ตอนนี้ไม่มีแรงแม้แต่จะเอื้อนเอ่ยคำใดออกไป


พี่ธิวาพาผมมาพักที่ห้องพิเศษ ถูกบังคับให้ทานข้าวทานยาและให้น้ำเกลือตามระเบียบ คนตัวสูงยังคงอยู่ไม่ห่างจากข้างกายผม คอยเช็ดตัวให้หวังใจว่าให้ไข้ผมลดลงสักนิดก็ยังดี


ผมเห็นแววตาสั่นไหวของพี่ธิวาแล้วรู้สึกเจ็บปวดใจไม่ได้ เพราะผมอีกแล้วที่ทำให้พี่ธิวาต้องคอยห่วงและเป็นกังวล ผมยกมือขึ้นลูบแก้มพี่ธิวาเบาๆ เขาไม่ควรต้องมาเหนื่อยกับคนแบบผมเลยจริงๆ


“พี่ไม่ชอบเห็นเราป่วยเลยรู้ไหมครับ มันทำให้พี่ใจไม่ดี”ผมยิ้มจางๆให้พี่ธิวา วางมือที่ร้อนเป็นไฟของตัวทาบทันบนมืออุ่นของร่างสูง


“พี่ขอโทษนะ ถ้าพี่ไม่ทำ เราคงไม่ป่วยแบบนี้”


“ไม่ใช่ความผิดของพี่สักหน่อยครับ เรามีความสุขร่วมกันตังหาก”


“วันหลังพี่จะไม่…”ผมทาบนิ้วที่ริมฝีปากนุ่มหยุ่นของคนตัวสูง ยิ้มจางๆให้เขา


“กอดผมหน่อยสิครับ ผมอยากได้ไออุ่นจากพี่นะ”เขายอมทำตามคำขอร้องจากผม พี่ธิวาเอนกายลงนอนข้างผม ดึงผมไปกอดไว้แนบอก ริมฝีปากอุ่นประทับจูบข้างขมับ


“เด็กดี หายไวๆนะครับ”


ผมซุกหน้าลงกับอ้อมอก กลิ่นกายหอมอ่อนๆที่คุ้นชินทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น
ผมหลับตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อน พิษไข้ทำให้ผมรู้สึกร้อนรุ่มและหนาวสั่นสลับกันไป 


“ขอโทษนะครับที่เอาแต่ใจ พี่จะติดไข้ผมไหม”


“ไม่เป็นไรครับ ตราบใดที่เรานอนหลับ ต่อให้พี่ติดไข้จากเราก็ไม่เป็นไรเลยจริงๆ”ผมยิ้มอ่อน รู้สึกขอบคุณเขามากๆ ขอบคุณที่เข้าใจ ขอบคุณที่ดูแลกัน


ผมไม่รู้ว่าเขาจะรู้รึเปล่า แต่ทุกครั้งที่เขาโอบกอดผมไว้ ผมไม่เคยฝันร้ายอีกเลย


“ขอให้คืนนี้ไม่มีฝันร้ายสำหรับเด็กดีของพี่นะครับ”


ผมรับรู้ได้ถึงความสั่นไหวทางอารมณ์จากน้ำเสียงของพี่ธิวา ผมคิดว่าตอนที่ผมฝันร้าย ผมคงกรีดร้องและแสดงอาการน่ากลัวให้เขาเป็นห่วงอีกแล้ว


พี่ครับ ถ้าผมไม่หายจากอาการบ้าๆนี่สักที
บางทีมันอาจจะดีกว่าไหม ถ้าเป็นผมที่...หายจากโลกนี้ไปเอง



ทวิตภพ #พริ้มกับdaddy

มีความสุขกับวันหยุดยาวกันนะคะทุกคน

ขอบคุณที่คอยติดตามกันมาน้าาาาาาา


หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 27-07-2018 22:26:15
น้องพริ้มมมมมม ทำไมคิดแบบนั้น ไม่เอาค่ะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 27-07-2018 22:28:58
งื้ออออ พี่ธิวาคนดี
ขนาดอยู่กับพี่ธิวาพริ้มก็ยังคิดถึงคุณท่าน
 :pig4:

หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-07-2018 23:36:53
พี่ธิวา  ดีกับพริ้มจริงๆ   :mew1:
ทั้งหึงที่พริ้มโชว์ร่างกายในกางเกงว่ายน้ำตัวเล็กจิ๊ดเดียว
มีงอนใส่พริ้มอีก
จากงอนกัน  ง้อกัน จนมีเซ็กส์กัน อย่างสุดๆ   :pighaun: :haun4: :jul1:
แล้วพริ้มก็ป่วย  อย่างนี้พริ้มก็ไม่ได้ฝึกว่ายน้ำอีกน่ะสิ 
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 27-07-2018 23:58:44
เพิ่งมีซีนแข่งว่ายน้ำมา เป็นโรคจิตเฉยเลย ตั้งแต่กลัวความลึก ความมืด มาซึมเศร้า พริ้มไม่ถูกกับโรงพยาบาลจริงๆ มาทีไรจิตหลอนตลอด
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 28-07-2018 02:09:45
อย่านะน้องพริ้ม
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-07-2018 03:39:28
พริ้มป่วยแล้วงอแงน่าดูนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 28-07-2018 11:02:29
ขอให้พริ้มหายจากอาการนีี้สักที สงสาร :mew4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 29-07-2018 01:11:56
งื้อออออ สงสารร
พริ้ม มันฝังอยู่ในใจสินะ
เง้อ...สู้ๆลูกขา
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 29-07-2018 04:00:00
ถ้าอีกนิดพริ้มบ้าจะไม่แปลกใจ แลดูทรมานเหลือเกินชีวิตนี้
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyjimmy ที่ 29-07-2018 07:13:54
อย่า คิดมาก น้อง พริ้ม... มีความสุขกับเค้าสักที
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: ous_p ที่ 29-07-2018 11:05:53
 :mew1: พี่ธิวาดีงามอ่ะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 29-07-2018 15:24:39
เชียร์พี่ธิวา เชียร์แดดดี่
พริ้มต้องเลิกดื้อนะ
หาหมอ เข้ารับการบำบัด จะได้ดีขึ้นนะ
พี่ธิวาดูแลน้องดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 29-07-2018 20:47:04
พริ้มอย่าดื้อนะ อย่าหายไปเลย พี่ทิวาคงคิดมากกว่าเดิมถ้าหนูหายไป
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 30-07-2018 00:46:54
น่ารักครับ

     :man1:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 30-07-2018 18:31:04
ความมืดเดี๋ยวความสว่างเขาก็ทำคะแนนนำไปไกลหรอกอย่าทำร้ายพริ้มมากนัก
พริ้มมีอะไรก็ปรึกษาคนที่ไว้ใจเถอะอย่ :katai1:าเก็บไว้คนเดียวเลย
รอเป็นกำลังใจพริ้มให้ผ่านพ้นไปได้ :กอด1:
เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วย :กอด1: :3123:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 30-07-2018 19:17:50
 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 31-07-2018 10:36:00
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที 21 P.13 27.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 09-08-2018 06:45:19
คิดถึงคนเขียน><
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy waiting....
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 11-08-2018 18:18:12
มีใครกู้ไฟล์ word ใน ipad เป็นไหมคะ
เรากด restore แล้วมันไม่กลับมา
TT

หายไปทั้งตอนเลย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy waiting
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 12-08-2018 03:13:18
https://discussions.apple.com/thread/7885965
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy waiting
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 12-08-2018 07:53:44
ไม่นะ ฮือ คิดถึงพริ้ม  :a5:

ขอให้กู้ได้นะคะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy waiting
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-08-2018 08:42:35
รอ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy waiting
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 12-08-2018 20:20:08
สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy waiting
เริ่มหัวข้อโดย: akichan ที่ 13-08-2018 00:06:21
สนุกค่ะ รอติดตามพริ้มมีความสุขอย่างแท้จริง
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy waiting
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 13-08-2018 03:20:20
เกลียดอีน้องชายพริ้ม พริ้มอย่าไปรู้สึกผิดกะคนแบบนั้นเลย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 13-08-2018 16:29:24
ตอนที่ 22

ก๊อก…ก๊อก…ก๊อก


เสียงเคาะประตูเป็นเชิงขออนุญาตเข้าห้องดังขึ้นเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดิมๆ ซึ่งก็คือแปดโมงเช้าและสี่โมงเย็น คุณหมอเวรมากหน้าหลายตาผลัดกันมาดูอาการผม ซึ่งจริงๆอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆทุกวัน


“เชิญครับ”


หลังจากได้รับคำอนุญาต คุณพยายาบาลคนเดิมเดินเข้ามาพร้อมกับคุณหมอคนใหม่ที่ผมไม่คุ้นตาแต่ทว่ารู้สึกคุ้นเคย ใบหน้าของคุณหมอท่านนี้ละม้ายคล้ายคลึงกับคนที่ผมรู้จัก แต่ผมก็นึกไม่ออกว่าคนๆนั้นคือใคร


“สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้คุณหมอ เขาทำเพียงแค่พยักหน้ารับ พยาบาลทำหน้าที่วัดไข้และบันทึกลงชาร์ตผู้ป่วยก่อนจะส่งชาร์ตให้คุณหมอ


ผมพินิจพิจารณาใบหน้าของคุณหมอท่านนี้ด้วยความสงสัย ถึงแม้ว่าท่านจะดูมีวัยวุฒิแต่ผมกลับไม่รู้สึกเลยว่าท่านดูแก่กว่าวัย ท่านยังดูกระฉับกระเฉง น่าเกรงขาม


“วันนี้อาการเป็นยังไงบ้างครับ”


“ปกติดีแล้วครับ”


“อาการปวดศรีษะ คลื่นไส้เจียนยังมีอยู่ไหมครับ”


“ไม่มีแล้วครับ”


“ถ้าไม่มีแล้วทำไมคุณถึงไม่ทานอาหารที่ทางโรงพยาบาลจัดให้”ผมก้มหน้าเก็บคางชิดอก รู้สึกถึงรังสีดำมือที่แผ่ออกมาจากตัวคุณหมอ ผมรู้สึกเหมือนถูกกดดันและถูกตำหนิในเวลาเดียวกัน

 
“ผมไม่ค่อยอยากทานอาหารครับ”ตั้งแต่ป่วยนี่ผมแทบไม่ค่อยอยากจะทานอะไรเลย ทานได้แค่มื้อละคำสองคำพอให้ท้องไม่ว่างเพื่อทานยาเท่านั้น


“ไม่อยากทานก็ต้องทานนะครับ คุณจะมาเอาปต่ใจตัวเองให้คนอื่นคอยหาอาหารที่คุณอยากทานมาประเคนให้ถึงที่ไม่ได้ ป่วยแล้วทำตัวเป็นภาระให้คนอื่นเขาวุ่นวายดูแลมันไม่น่ารักเลยรู้ไหม”ผมไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่หลังจากที่โดนดุแล้วผมกลับรู้สึกผิดมากๆ


สิ่งที่คุณหมอพูดมามันไม่ใช่สิ่งที่ต่างไปจากความจริงเลย การที่ผมไม่ยอมทานอาหารของโรงพยายาบาลทำให้พี่ธิวาต้องทำอาหารมาให้ผมทานเพราะหวังว่าผมจะทานได้มากขึ้น แต่สุดท้ายผมก็ทานได้แค่คำสองคำอยู่ดี


“ขอโทษครับ”ผมยกมือไหว้ขอโทษที่ทำผิด รู้สึกแปลกใจตัวเองเหมือนกะนที่รู้สึกเสียใจเพราะคำพูดของคนแปลกหน้าทั้งๆที่ไม่รู้จัก


“คุณช่วยไปจัดอาหารมาทีนะ ผมจะนั่งรอจนกว่าคนไข้คนนี้จะทานหมด”คุณหมอหันไปบอกคุณพยาบาล ผมฟังแล้วก็รีบแย้งทันที “ไม่เป็นไรครับ ผมจะพยายามทาน คุณหมออย่ามาเฝ้าผมเลย”การที่จะให้คุณหมอที่อายุอานามรุ่นราวคราวพ่อมานั่งเฝ้าผมทานข้าว มันออกจะน่าเกลียดเกินไป


“ผมไม่ได้ถามความคิดเห็นคุณ มีหน้าที่ทานก็ทานไปเถอะครับ เดี๋ยวจะอดข้าวประท้วง เดือดร้อนคนอื่นเขาอีก”คำก็เดือดร้อน สองคำก็ภาระ การที่ผมป่วยนี่มันสร้างความปวดหัวให้คนรอบข้างขนาดนี้เลยรึไง


ผมเปิดชามข้าวต้มหมูที่คุ้นเคย รีบตักเข้าปากเพราะโดนกดดันจนข้าวต้มร้อนๆลวกปาก ต้องรีบดื่มน้ำตามแทบไม่ทัน


“เป่าก่อนสิ ทำไมต้องให้บอกเป็นเด็กๆ”เสียงดุๆของคุณหมอดังขึ้นจนผมสะดุ้ง ผมหันไปมองก็เจอกะบสายตาคมประหนึ่งมีดที่พร้อมบินมาตัดคอโทษฐานสร้างเรื่องวุ่นวาย


ผมรีบตักข้าวต้มร้อนๆเข้าปาก ไม่สนใจแล้วว่าความร้อนจะทำให้ริมฝีปากผุพองขนาดไหน ขอเพียงอย่างเกียวคือให้ผมทานให้หมดเร็วที่สุด คุณหมอจะได้ออกไปเสียที แต่ด้วยความรับทำให้ผมสำลักข้าวต้ม “แค่กๆ”


ผมไอหน้าดำหน้าแดงอยู่นานจนคุณหมอทนไม่ไหว ลุกจากโซฟามาลูบหลังให้ ฝ่ามืออุ่นคอยลูบหลังให้จนผมหายสำลัก


“ขอโทษนะครับ”


ทันทีที่คุณหมอได้ยินผมเอ่ยคำว่าขอโทษอีกครั้ง  คำพูดเฉือดเฉือนใจถูกเปล่งออกมาจากปากเขา “ถ้ารู้ว่าต้องเอ่ยคำขอโทษแล้วจะทำสิ่งที่ทำให้ขอโทษทำไม”


กาลเวลาเหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ สายตาตำหนิติเตียนที่ส่งมาเหมือนไม่ได้ต้องการตำหนิแค่เรื่องนี้ “ชั้นไม่อยากจะพูดอะไรมาก มันเจ็บคอ…แต่อนาคตลูกชายชั้นไม่ควรถูกฉุดรั้งด้วยเด็กขายไร้ค่าแบบเธอ”ผมเหมือนคนหูดับไปชั่วขณะ โลกเหมือนจะถล่มลงมาตรงหน้า


คำว่า ‘เด็กขาย’ มันจะไม่บาดใจผมเท่านี้ ถ้าคำๆนั้นไม่ได้เอ่ยออกมาจากปากคุณพ่อพี่ธิวา เค้าโครงหน้าที่ผมคุ้นเคยและนึกไม่ออกก็คือพี่ธิวานั่นเอง


“ถ้าอยากจะยืนข้างลูกชายชั้นจริงๆ ก็จัดการเอาตัวเองไปใส่ตะกร้าล้างน้ำมาให้ขาวสะอาด อย่าให้ราคีคาวเหม็นเน่ามันมาแปดเปื้อนครอบครัวชั้น ถ้าวันไหนเธอเพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ คุณสมบัติและทรัพย์สมบัติ วันนั้นชั้นอาจจะรับพิจารณาเธอเข้ามาในตระกูลก็ได้ แต่เท่าที่มองวันนี้…วันนั้นคงไม่มีวันมาถึง”


คุณพ่อพี่ธิวาเดินออกไปนานแล้ว ทิ้งไว้เพียงแต่ถ้อยคำที่กรีดลึกลงไปในจิตใจจนทำให้ใจดวงเล็กๆที่แสนเปราะบางดวงนี้มีแผลเหวอะหวะ ผมปล่อยน้ำตาให้ไหลริน เสียใจให้พอ


ความสุขที่มีพี่ธิวาคอยเคียงข้างมันเป็นความสุขที่ผมกลัวมาโดยตลอด กลัวว่ามันจะไม่มีวันหวนกลับมา ตั้งแต่เริ่มรู้สึกรัก ผมก็ตระหนักถึงสถานะของตัวเองมาโดยตลอดว่าผมมันด้อยค่า ด้อยราคา ไม่ควรคู่กับเขา คนดีๆที่เพียบพร้อมแบบพี่ธิวาควรจะมีคู่ชีวิตที่เหมาะสมคู่ควรมากกว่าผม


เนื้อตัวที่แปดเปื้อนราคีคาวจากผู้ชายคนอื่น ต่อให้เอาตัวเองไปใส่ตะกร้าล้างน้ำสักร้อยพันครั้ง มันก็ไม่มีวันขาวสะอาดเหมือนผู้ถือพรหมจารีหรอก ผมปาดน้ำตาที่นองหน้าออก ร้องไห้ไปก็เท่านั้น ถึงร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดก็ไม่มีวันที่ผมจะเรียก ‘ศักดิ์ศรีความเป็นคน’ ของผมคืนมาได้ 


ผมพาร่างกายและจิตใจที่บอบช้ำออกจากโรงพยาบาล นั่งรถเมล์วนจนสุดสายก็ไม่รู้จะไปไหน เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบผมไม่ต่างอะไรจากหมาข้างถนนที่ไม่มีแม้แต่ที่ไป สุดท้ายผมก็กลับไปตายรังที่บ้านพี่ธิวา


ผมเดินเข้าหมู่บ้านท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุที่สุดของรอบวันในช่วงบ่าย สายตาผมพร่ามัวด้วยแสงอาทิตย์ที่เจิดจ้าเหลือทน ในระหว่างที่กำลังเหม่ออยู่นั้น สายตาผมก็เหลือบไปเห็นลูกแมวตัวเล็กกำลังจะวิ่งไปกลางถนน แต่ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดทำให้ผมหันไปมองด้านหลังซึ่งมีรถซุปเปอร์คาร์คันสวยที่ขับมาด้วยความเร็วสูง


ผมกระโดดหลบเข้าไปในสวนสาธารณะริมทะเลสาบด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอดซึ่งผมก็หลบทัน แต่สัตว์สี่เท้าหน้าขนมันไม่ได้มีสมองที่ชาญฉลาดเหมือนมนุษย์…มันหลบไม่ทัน


“เมี้ยวววววว…. เมี้ยว”เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทรมานของเจ้าลูกแมววัยสองเดือนดังขึ้นบาดใจผม ลำตัวของมันถูกทับด้วยล้อของรถซุปเปอร์คาร์ เจ้าของรถไม่มีท่าทีว่าจะเหลียวหลังมาดูซากแมวที่ตัวเองได้ปลิกชีวิตมันไปเลยสักนิด


ผมนั่งช็อคอยู่ริมฟุตบาท จ้องมองซากเจ้าแมวตัวเล็กที่หัวกับลำตัวขาดออกจากกัน ริมฝีปากเล็กๆของมันมีเลือดสีแดงสดกระอักออกมา ไหนจะเลือดอีกมากที่ไหลออกจากช่วงคอที่ถูกตัดจนเจิ่งนองไปทั่วทั้งถนน


ผมมองมันด้วยใจสั่น มือของผมสั่นไปหมด น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
เหตุการณ์เมื่อกี้มันเกิดขึ้นเร็วมาก ถ้าผมไม่เห็นแก่ตัวเอาตัวรอดคนเดียว แมวก็คงไม่ต้องตาย
 

ผมฝืนกลืนก้อนสะอื้นลงคอ เดินด้วยขาสั่นๆไปที่กลางถนน ฉีกชายเสื้อของตัวเองมาโอบอุ้มซากแมวตัวน้อย


“เมี้ยว เมี้ยว เมี้ยว”พี่น้องที่เหลืออีกสองตัวของเจ้าเหมียวเดินเข้ามาคลอเคลียผม มันพยายามเดินเข้าไปหาเจ้าเหมียวที่จมกองเลือดอยู่ แต่ผมอุ้มไว้ก่อน


ผมอุ้มเจ้าเหมียวสองตัวที่ยังมีชีวิตอยู่แนบอก ส่วนอีกตัวหนึ่งซึ่งเป็นร่างไร้ลมหายใจ ผมก็เอากลับบ้านมาด้วย


ในระหว่างที่เดินกลับบ้าน ผมก็เอาแต่โทษตัวเอง โทษตัวเองที่เป็นคนเห็นแก่ตัว ถ้าวันนี้ผมไม่กระโดดหลบรถแล้วเลือกช่วยเจ้าเหมียวแทน คนที่บาดเจ็บคงเป็นผมแทนที่เจ้าเหมียวที่ตาย


ผมมันคนตัวเปล่าเล่าเปลือย ไร้ญาติขาดมิตร ถ้าเป็นผมที่ตายไปคงจะดีกว่านี้ ไม่มีใครต้องมาร้องไห้เสียใจกับการจากไปของผม


พื้นดินใต้ต้นไม้ใหญ่ถูกใช้เป็นที่ฝังเจ้าเหมียว โดยที่ผมเอาผ้าขาวรองบริเวณก้นหลุม ถึงแกจะตายอย่างเจ็บปวดแต่อย่างน้อยแกก็ยังอยู่ในหลุมฝังศพที่ไม่แย่จนเกินไป หลังจากจัดการฝังเสร็จแล้ว ผมหยิบดอกมะลิที่ผลิดอกบานส่งกลิ่นหอมมาวางไว้บนหลุมฝังศพแทนดอกไม้อาลัย


ไปดีนะเหมียว พี่ขอโทษนะ…ขอโทษที่เห็นแก่ตัวไม่ยอมช่วยแก
ถ้าพี่ช่วยแก พี่คงไม่ต้องเสียใจและรู้สึกผิดแบบนี้
ถ้าพี่เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องและควรกระทำตั้งแต่แรกเหมือนที่คุณพ่อพี่ธิวาพูด
พี่คงไม่เป็นแบบนี้


ผมอุ้มเจ้าแมวสองตัวที่ยังมีชีวิตอยู่เข้าบ้าน มันส่งเสียงร้องโวยวายและพยายามตะกุยเสื้อผมซึ่งมีคราบเลือดติดอยู่  ผมมองออกไปที่ทะเลสาบด้วยความเหม่อลอย เอาจริงๆผมแทบไม่รับรู้อะไรแล้ว
ในหัวมีแต่เสียงที่ดังก้องว่า ‘แมวตายเพราะผม’


ผมยกมือขึ้นปิดหู ไม่อยากได้ยินเสียงแมวสองตัวร้องเรียกหาพี่น้องของมันที่ตายไป
ผมมันคนบาปที่พรากพี่พรากน้องของมัน


ขอโทษนะเหมียว พี่ผิดเอง…พี่ผิดเอง หยุดร้องเรียกกันเถอะ
พี่ขอโทษที่คืนชีวิตพี่น้องของแกให้ไม่ได้
ได้โปรด หยุดร้องเรียกกันสักที
หรือจะเอาชีวิตพี่ไปแทนดี


ผมซุกตัวนั่งลงติดมุมห้องนั่งเล่น ฝังตัวอยู่หลังผ้าม่าน ไม่อยากจะเห็นเจ้าเหมียวสองตัวนั่น เวลาที่ผมจ้องเข้าไปในดวงตาของมัน ความรู้สึกผิดกัดกินหัวใจผมจนเละไม่เหลือชิ้นดี


เหมียวตายแล้ว…ผมควรชดใช้ชีวิตให้มัน
ชีวิตแลกชีวิต
แบบนี้สิถึงเท่าเทียม


ผมค่อยๆคลานออกมาจากหลังม่าน เดินหลบแมวที่วิ่งตามผมขึ้นมาถึงชั้นบนของบ้าน ผมปิดประตูห้องน้ำ ขังตัวเองอยู่ในนั้น เปิดน้ำให้ไหลลงในอ่างอาบน้ำจนล้นเอ่อออกมาเจิ่งนองทั่วพื้นห้องน้ำ หวังใจว่าน้ำเย็นๆจะช่วยคลายความทุกข์ที่อยู่ในจิตใจผม แต่มันกลับไม่ช่วยอะไรเลย


แมวตายแล้ว
มันตายแล้ว


ผมต้องชดใช้


มีดพับเล่มเล็กที่ถูกเก็บในลิ้นชักถูกดึงออกมาใช้งาน
คมมีดสีเงินวาวสะท้อนแสงไฟ


คมมีดถูกกรีดลงบนข้อมือด้านซ้าย เลือดปริมาณไม่น้อยไหลทะลักออกมา
ผมแกว่งแขนตัวเองในอาบอาบน้ำเล่นจนมันแดงฉานไปด้วยสีเลือด


ชั้นชดใช้ให้แล้วนะเหมียว
ชีวิตแลกชีวิต
เลือดต้องชดใช้ด้วยเลือด
เราไม่มีอะไรติดค้างกันอีกแล้วนะ


ตายไปก็ดีเหมือนกัน อยู่ไปก็ดีแต่เป็นภาระของคนอื่น
เสนียดจัญไรแบบผมไม่ควรจะอยู่เพื่อเกลือกกลั้วกับใครให้เขามีมลทิน


ไม่เอาแล้ว ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว
ไม่อยากสร้างความเดือนร้อนให้ใครอีกแล้ว
ไม่อยากเป็นภาระ


ที่สำคัญ
.
.
.
ไม่อยากรู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว


“พริ้ม!!!”ผมปรือตามองพี่ธิวาที่เรียกผมเสียงดังด้วยความตกใจ เขาถลาเข้ามาในห้องน้ำที่บัดนี้เจิ่งนองไปด้วยเลือดสีแดงสด ฝ่าอบอุ่นตระกองกอดผมขึ้นมาจากพื้น


ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยเห็นทุกวันมีน้ำตาคลอหน่วย ผมลูบใบหน้าของเขาด้วยความแผ่วเบา อยากจะจดจำรายละเอียดบนใบหน้าของเขาทั้งหมดด้วยการสัมผัส


ผมมอบรอยยิ้มที่สวยงามที่สุดให้เขาแทนคำขอบคุณเท่าที่เด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนนี้จะให้ได้


“เด็กโง่ ทำไมทำแบบนี้ ทำไมทิ้งพี่ไปง่ายๆแบบนี้ละครับ”หยาดน้ำตาลูกผู้ชายไหลลงมาจนเปียกแก้มผม


ผมไม่ได้ทิ้งพี่นะ ผมแค่ไม่อยากเป็นภาระให้พี่ต้องลำบากดูแล


นับตั้งแต่วันนี้ วินาทีนี้...
ไม่มีภาระที่ชื่อ ‘พริ้ม’ ให้ต้องดูแลอีกแล้วนะ
ไม่ต้องตื่นเช้าตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่สางมาทำกับข้าวให้ผมกินทั้งๆที่ตัวเองไม่กินข้าวเช้า
ไม่ต้องรีบกลับจากที่ทำงานเพราะเป็นห่วงผม


สิ่งที่ทำให้ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมันเป็นสิ่งที่ผมไม่สมควรได้รับจากพี่เลย
ขอให้พี่เจอแต่คนดีๆเข้ามาในชีวิตของพี่นะ
พี่เป็นความ ‘อบอุ่นใจ’ ของผม


“พริ้มมมมม!!!”เสียงกรีดร้องจากปากเทพบุตรของผมดังขึ้นเมื่อผมปิดตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อน
เสียงกรีดร้องทรมานใจจากปากของเขาเหมือนใบมีดคมๆนับล้านเล่มที่กรีดใจผม


ผมขอโทษที่ทำให้พี่ร้องไห้เสียใจ
น้ำตาของพี่มันมีค่ามากเกินกว่าจะมาเสียไปเพราะผู้ชายไร้ค่าแบบผม


ผมขออวยพรให้พี่มีอนาคตที่ดี…อนาคตที่ไม่ถูกฉุดรั้งไว้เพราะมีผมอยู่เคียงข้างกาย
ขอให้พี่เจอคนที่ดีที่คู่ควรและเหมาะสมกับพี่
ผมจะคอยมองพี่ลงมาจากบนฟ้านะ ถึงมันจะไกลไปหน่อย แต่ผมรู้ว่าความปารถนาดีที่ผมมีให้พี่ จะส่งลงมาถึงพี่แน่นอน


พี่ธิวาอย่าร้องไห้สิครับ
พริ้มทำให้พี่ธิวาเสียใจเหรอครับ
พริ้มขอโทษนะ

นับตั้งแต่วันนี้มันจะไม่มีอีกแล้ว
ไม่มีพริ้มให้พี่เสียใจอีกแล้ว


ลาก่อน...





ตอนนี้เป็นตอนที่แต่งยากมา ไม่รู้ว่าจะแต่งให้ทุกคนสามารถเข้าใจถึงอารมณ์ของน้องได้จริงๆหรือเปล่า

ขอบคุณนะคะที่ช่วยหาทางแก้เรื่อง word เราโง่เองที่ไม่เปิด sync ไว้

อ่านตอนนี้แล้วต้องหน่วงกันแน่เลย เลยเอามาให้อ่านก่อนที่วันหยุดยาวจะหมดไป

ฝากทวิตภพ #พริ้มกับdaddy ด้วยนะคะ

อวยพรย้อนหลังขอให้ทุกคนมีความสุขในวันแม่น้า ขอให้คุณแม่ทุกๆคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบรูณ์นะคะ

ขอบคุณที่คอยติดตามกันเสมอมา

ดรั๊ก








หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: shiroinu ที่ 13-08-2018 16:42:49
ช่างหดหู่เหลือเกินนนน :m15: ปวดตับ ปวดม้ามกันไป มาต่อเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 13-08-2018 17:01:22
พริ้มเอ้ยยยย คราวนี้จะรอดไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-08-2018 17:33:57
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: btoey ที่ 13-08-2018 18:01:59
หน่วงสุด พริ้มเก็บกดมาก คงเหนื่อยมากแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 13-08-2018 18:30:41
อยากให้มาต่อด่วนสงสารพริ้มสุดใจ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-08-2018 18:41:41
พริมมมมมมม  :sad4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 13-08-2018 19:29:47
จะต้องอ่านภาวะซึมเศร้าไปอีกนานไหมน้อ
เหมือนผู้แต่งจะเลือกเส้นทางตันไว้ให้พริ้มรึเปล่า  ดูหงอไปหมด

ความรักของธิวาดูไม่สัมพันธ์กับไทม์ไลน์  รูปลักษณ์ของพริ้มไม่น่าจะทำให้ธิวารักลึกซึ้งได้ง่ายแค่การมีเพศสัมพันธ์กันไม่กี่ครั้ง(รู้สึกไทม์ไลน์ส่วนนี้ไม่ค่อยตรง) ...คุณท่านก็หายจากเนื้อเรื่องไปนาน / แต่ชื่อเรื่องก็ยังเป็น 3Pนะ  .. พ่อพี่ธิวาก็ไม่น่ากังวลจนต้องมายุ่งกับการที่ลูกชายมั่วเด็ก (พริ้มไม่ใช่เด็กขายอย่างที่ด่า แต่เป็นเด็กเสี่ย เด็กเลี้ยงและยังเป็นเด็กของคุณท่านอยู่ ไม่ใช่เด็กของธิวา)  เพราะจากอดีตพี่ธิวาอยู่ในสังคมการสวิงกิ้งมานานพอสมควรตั้งแต่สมัยคุณฟ้าและพี่ธิวาก็น่าจะมีอายุไม่น้อยแล้ว..  อีกอย่างเป็นจรรยาบรรณของแพทย์ไหม  เจอกันครั้งแรกก็สาดคำด่าใส่ อ่านเผินๆนึกว่าพริ้มถูกมาเฟียข่มขู่ให้กินข้าว ... และก็เหมือนพริ้มจะลืมไปว่าตัวเองมีสังคมที่ดีในมหาวิทยาลัย  ชีวิตไม่ได้เก็บกดจนต้องซึมเศร้าขนาดนี้  คือเหมือนพาร์ทมหาลัยจะโดดออกไปจากเนื้อเรื่อง .. หางานทำหรืออะไรก็ได้นะพริ้ม เสี่ยงให้คุณท่านด่าก็ได้  ใช่ว่าชีวิตไม่มีทางออกซะเมื่อไหร่ ไหนๆคุณท่านก็หายหัวไปนานซะขนาดนั้น...
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 13-08-2018 19:40:38
จะช่วยพริ้มทันไหมนะ

มองมุมพริ้มมันมืดไปหมดเลย

จะเอาไงไปทางไหนกันดี :z3:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: Riik ที่ 13-08-2018 20:18:47
เอาจริงนะชีวิตน้อง ส่ง บัดซบมากอ่ะ

เจอขนาดนี้ไม่บ้าไปก่อนก็คงจิตไม่ปกติ

แล้วเจอคนแต่ละคนรอบตัวสิ ทำเหมือนไม่ใช่คนทั้งนั้น ใครมันจะอยากมีชีวิตต่อ

โอ้ยยยยยย โปรดสัตว์เถอะพ่อทุกคน

สงสารน้อง
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 13-08-2018 20:44:03
ทำไมมีแต่คนมาทำให้พริ้มต้องคิดมากจนทำร้ายตัวเองกันจัง จะมีใครเห็นปัญหาของพริ้มจนยื่นมือเข้าช่วยน้องจริงๆจังๆบ้างบอกตรงๆสงสารมาก อยากให้หายจากโรคนี้สักที จะมีหน่วงกว่านี้อีกไหม?
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 13-08-2018 21:13:00
สวสารน้องพริ้ม
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-08-2018 22:23:34
การตายของพริ้ม คงไม่ไปกระทบพ่อพี่ธิวาหรอก
เขาคง โธ่.........สนิมสร้อย  ตายไปก็ดี จะได้ไม่ทำให้ตระกูลเราแปดเปื้อน
ไอ้อ่อนเอ๊ย....... พูดนิดหน่อยก็ทนไม่ได้จนต้องฆ่าตัวตาย
ไม่ก็........แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้ว นี่คงเป็นการแสดง คงรอให้ธิวาไปช่วยละสิ  :hao3:

ชีวิตพริ้ม มีคนรักกับเขาก็ยากกกกกกกกกกก จริงๆ
ยังไงพ่อแม่เขาก็รังเกียจ
ถึงไม่ใช่เด็กขายก็เถอะ  เขาก็มีข้อมาตำหนิติเตียนได้อีก   :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ยังไง พริ้มอยู่ไปก็คงไม่มีความสุข
แต่นี่เท่ากับพริ้มฆ่าตัวตาย........
คนฆ่าตัวตาย........ทางศาสนาพุทธว่า
เกิดใหม่ ก็ต้องฆ่าตัวตาย........แบบนี้อีกห้าร้อยชาตินะ  โธ่.....พริ้ม  :m15: :m15: :m15:
ขอบคุณไรท์
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 14-08-2018 00:00:08
ยังไม่ใช่ตอนจบใช่มั้ยคะTT
สงสารพริ้ม ไม่อยากให้ตายแต่ก็ไม่อยากให้ทรมาน
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-08-2018 00:27:40
ตายจริงเหรอ?
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 14-08-2018 03:50:16
โอ้ยยยยย พี่ธิวาพาพริ้มไปรพอื่นได้มั้ย ไม่งั้นก็ไปเคลียกะพ่อให้เสดไป
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: ous_p ที่ 14-08-2018 12:04:30
สงสารอ่ะ พริ้มป่วยโรคซึมเศร้าหรือป่าว
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 14-08-2018 18:56:20
โอ๊ยยย ตายค่ะ ดราม่าระดับพรีเมี่ยม
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 14-08-2018 19:53:28
เพิ่งตามมาอ่าน สนุกดี ..
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 14-08-2018 19:54:16
ไม่ได้ซ้ำเติมนะ แต่ถ้าพริ้มยังต้องอยู่แบบนี้ตายไปดีกว่า มีชีวิตมันเหนื่อยหนัก ก็ตายเถอะ ไม่มีภาระอะไรละนิ ความรับผิดชอบก็ไม่จำเป็นแล้ว สงสารพริ้ม มันต้องดราม่าขนาดนี้เลยหรอ พริ้มป่วยตั้งแต่เจอคุณท่าน คุณท่านนี่ไม่ควรเป็นพระเอก
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 14-08-2018 20:28:02
พริ้มจะตายจริงๆหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 14-08-2018 22:18:30
พริ้มหนูไม่น่าคิดแบบนั้นเลย เรื่องนี้กินมาม่าไปหลายห่อแล้วนะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 18-08-2018 16:18:02
ทุกคนมีทางเดิน ถ้าเหนื่อยนัก ก็พักผ่อน ..
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: Ryyy ที่ 19-08-2018 04:24:47
ผิดไหมที่เราอยากให้พริ้มตายให้จบๆไป ดูเหนื่อยมามากแล้วอ่ะ แถมดูเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้าอีก

ชีวิตพริ้มมันบัดซบเกินไป อยากให้หลุดพ้นสักที
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 26-08-2018 23:55:11
Heeey~
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 27-08-2018 21:50:20
 :กอด1:รอตอนต่อไปนะ พี่ธิวา ช่วยน้องนะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 22 P.13 13.08.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 07-09-2018 00:15:12
รออยู่นะคะ คิดถึงมากๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 13-09-2018 20:41:39
ตอนที่ 23

ในสถานการณ์ทั่วไป เข็มนาฬิกาถูกใช้บอกเวลา แต่ในสถานการณ์วิกฤตที่ชีวิตคนๆนึงแขวนอยู่บนเส้นด้ายระหว่างความเป็นกับความตาย เข็มนาฬิกานั้นกลับถูกใช้นับถอยหลังเวลาที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้


ธิวานั่งกุมมืออยู่หน้าห้องผ่าตัด การรอคอยแต่ละวินาทีที่ผ่านไปมันช่างเจ็บปวด ก้อนเนื้อเล็กๆขนาดเท่ากำปั้นในอกข้างซ้ายบีบตัวด้วยความหน่วงหนัก เจ็บจนชาไปหมด


สิ่งที่เขากลัวมาตลอดได้เกิดขึ้นแล้ว…
ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าไม่เคยคิดฆ่าตัวตายเพียงแค่ครั้งเดียว
ถ้าครั้งแรกไม่สำเร็จ ความพยายามในครั้งต่อๆไปย่อมตามมาจนกว่ามันจะสำเร็จ


เขาเข้าใจดีว่าการตัดสินใจฆ่าตัวตายในผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเป็นสิ่งที่คิดไตร่ตรองมาดีแล้ว แต่เขาไม่อาจยอมรับมันได้ เขารู้ว่าน้องใช้ชีวิตผ่านไปทุกวันด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังอดเห็นแก่ตัวไม่ได้ที่จะฉุดรั้งน้องไว้


การเป็นหมอสวมเสื้อกาวน์สีขาวมีความรู้ท่วมหัวมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เมื่อเราไม่สามารถใช้ความรู้ที่มีเพื่อฉุดรั้งคนที่เรารักให้ออกจากหลุมลึกของความซึมเศร้าได้
คนผิดส่วนหนึ่งในเรื่องนี้คือเขา…ผิดที่ไม่สามารถดึงน้องออกมาจากหลุมดำนั้นได้


มองย้อนเหตุการณ์กลับไปแล้วเขาก็อดโทษตัวเองไม่ได้
ถ้าเขาไม่ปล่อยให้น้องอยู่คนเดียว เรื่องวันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นแน่


ในขณะที่ธิวากำลังดำดิ่งในความเศร้าและเริ่มโทษตัวเอง รัตติกาลที่พึ่งลงจากเครื่องก็ก้าวเข้ามาถึงตัวธิวา


“พริ้มเป็นยังไงบ้าง”รัตติกาลเอ่ยปากถามธิวา


จากสายตาเศร้าสร้อยที่มีแต่ความกังวลของธิวากลับแข็งกร้าวขึ้นมาทันที่สบตากับรัตติกาล “เป็นตาย 50:50”


หลังจากได้รับคำตอบ ใบหน้าที่ปกติมีแต่ความราบเรียบสงบนิ่งของรัตติกาล กลับแปรเปลี่ยนไป


“เกิดอะไรขึ้น”รัตติกาลถามด้วยความฉงนสงสัย เหตุการณ์เมื่ออาทิตย์ก่อนที่เขาได้รับรายงานว่าพริ้มพยายามกระโดดสะพานพระรามแปดฆ่าตัวตายก็นับเป็นเรื่องชวนปวดหัวมากพอแล้ว ยังจะมีเรื่องวันนี้อีกที่เขาได้รับรายงานทันทีที่ล้อเครื่องบินแตะพื้นดินประเทศไทยว่าเด็กในปกครองของเขาพยายามฆ่าตัวตายอีกรอบ และมีวี่แววว่ารอบนี้จะสำเร็จเสียด้วย


 “เป็นเพราะมึง”ธิวาแค่นเสียงตอบด้วยความสั่นเครือจนคนฟังสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่แฝงมากับน้ำเสียงนั้น คนตรงหน้าเขาเหมือนเสือหลังหักที่ถูกตีจนเจ็บหนัก


“เด็กนั่นอยู่กับนาย แล้วมันเกี่ยวอะไรกับชั้น”


“มึงมันคนไร้หัวใจ จิตใจดำอำมหิตเหมือนชื่อมึง ทำเหี้ยอะไรไว้ไม่เคยสำลึก”ธิวาแค่นเสียงตอบ สองมือกำหมัดแน่น รัตติกาลขมวดคิ้วด้วยความสับสนและไม่เข้าใจ


คนที่อยู่ตรงหน้าใช่ธิวาคนที่เขารู้จักแน่เหรอ? ทำไมถึงดูเสียสติ พูดจาไม่รู้เรื่องขนาดนี้


“พูดเหี้ยอะไรวะ ตั้งสติแล้วพูดภาษาคนได้ไหมวะ”ธิวาลุกจากเก้าอี้มาประจันหน้ากับรัตติกาล สองมือยกขึ้นผลักรัตติกาลจนเซไปชนกำแพง มือที่กำหมัดแน่นยกขึ้นชกกำแพงเฉียดแก้มรัตติกาลไปเพียงนิดเดียว


ดวงตาแดงก่ำของธิวามองหน้ารัตติกาลด้วยความเจ็บปวด หยาดน้ำตาใสไหลลงมาอาบแก้ม “ถ้าน้องตาย มันเป็นเพราะมึง ไอ้ฆาตกร”


คนถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกรจากเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด หน้าชาไปชั่วขณะ สายตาเหลือบไปมองเห็นรอยเลือดที่หยดจากมือของธิวาด้วยความแปลกใจ


ผู้ชายที่ไม่เคยแยแสใคร วันนี้กลับทำร้ายตัวเองเพราะความเจ็บปวดที่เกิดจากเด็กนั่น ความสัมพันธ์ของเด็กนั่นกับธิวามันลึกซึ้งถึงขนาดไหนกันแน่ ทำไมธิวาถึงยอมเสียน้ำตาและหลั่งเลือดให้เด็กข้างถนนไร้ค่า ไร้ราคาที่ขายตัว ขายศักดิ์ศรีแลกเงิน


แค่คนไร้ค่าคนหนึ่ง ทำไมถึงยอมเสียน้ำตาให้ง่ายๆ ทั้งๆที่ตอนเลิกกับฟ้าคราม ความเสียใจสักนิดยังไม่มี


“น้ำตามึง มันน่าสมเพช ผู้ชายที่ไหนเขาร้องไห้กัน”วาจาเฉือดเชือนร้ายกาจออกจากปากรัตติกาล ธิวาตวัดสายตามองด้วยความไม่พอใจ ใจจริงเขาอยากจะฉีกทึ้งเนื้อมันเป็นชิ้นๆ ให้สาสมกับที่มันเป็นสาเหตุให้พริ้มต้องเจ็บมาจนถึงทุกวันนี้


“ผู้ชายที่มีหัวใจไง”


ธิวากับรัตติกาลเหมือนคู่เวร คู่กรรมที่ถูกลิขิตด้วยโชคชะตาให้ต้องเกี่ยวพันกัน
เริ่มแรกจากที่พ่อแม่ของเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน สองครอบครัวมีความคิดเหมือนกัน คือ อยากได้ลูกแฝด จึงตัดสินใจทำกิฟท์พร้อมกัน แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ได้เพียงแค่ลูกชายคนเดียว



หลังจากที่ผ่าคลอดเด็กสองคนออกมาพร้อมกัน ในวันและเวลาเดียวกัน สองครอบครัวจึงตัดสินใจรับลูกอีกฝ่ายเป็นลูกบุญธรรมของตัวเองด้วยเพื่อตอบสนองความต้องการที่อยากได้ลูกแฝด ดังนั้นสถานะระหว่างเด็กสองคนนี้ก็ไม่ต่างจากการเป็นพี่น้องกันท้องเดียวกัน


เขาทั้งคู่ถูกเลี้ยงมาคู่กันเหมือนฝาแฝด ชื่อจริงของทั้งคู่ถูกตั้งมาให้ต่าง ทว่าเติมเต็มซึ่งกันและกัน
ธิวา หมายถึง กลางวัน เขาเติบโตเป็นเด็กที่สดใส ใครเห็นก็หลงรัก เจ้าตัวอบอุ่นเหมือนแสงอาทิตย์ที่คอยสาดส่องให้ไออุ่นกับคนรอบข้าง
รัตติกาล หมายถึง กลางคืน เขาเติบโตมาอย่างเย็นชา เยือกเย็น อำมหิต มืดมิดเหมือนความมืดในยามอนธกาล
ส่วนชื่อเล่นของทั้งคู่นั้นมีความหมายเหมือนกัน Time ซึ่งแปลว่า ‘เวลา’ เช่นเดียวกับคำว่า ‘กาล’


ตอนเด็กๆ พวกเขาสองคนก็ยังมีความสุขกันดีที่ถูกเลี้ยงมาเหมือนแฝด แต่งตัวเหมือนกัน มีข้าวของเครื่องใช้เป็นคู่เหมือนกัน พวกเขาไม่เคยคิดอะไรเลย รู้แค่ว่ามีเพื่อนเล่นก็เพียงพอ


แต่เมื่อโตมาความคิดก็เปลี่ยน พวกเขาเกลียดการที่มีอีกคนซึ่งเหมือนกับตัวเอง เกลียดการเห็นเงาสะท้อนของตัวเองจากคนอีกคนหนึ่ง
จากเด็กน่ารักๆสองคนก็เริ่มเปลี่ยนไป พวกเขาเริ่มค้นหาตัวตนของตัวเอง มีชีวิตในแบบที่ตัวเองเป็น เพื่อหลีกหนีการเหมือนกับอีกคน แต่รสนิยมความชอบที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กมันหนีกันไม่ได้ ปัญหาครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้นเมื่อเขาทั้งคู่หลงรักคนๆเดียวกัน


ซึ่งคนๆนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่…ฟ้าคราม

.
.
.

เข็มนาฬิกายังคงเดินต่อไปโดยไม่รีรอใคร ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ความหวังที่จะช่วยชีวิตพริ้มให้รอดพ้นจากความตายก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น อาการช็อคจากการเสียเลือดมากสามารถพรากชีวิตเด็กหนุ่มไปได้ทุกวินาที


“เชี่ยแม่งเอ้ย!”ธิวาลุกขึ้นเตะเก้าอี้ที่นั่งอยู่ด้วยความเกรี้ยวกราด เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองให้สงบนิ่งได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นมี ‘ชีวิต’ ของคนที่เขารักเป็นเดิมพัน


เขาเกลียดตัวเอง...เกลียดที่ได้แต่นั่งรอโง่ๆโดยทำอะไรไม่ได้เพราะเขารู้ดีอยู่แก่ใจว่าต่อให้เขาเข้าไปรักษาน้องแทนหมอที่ทำการรักษาอยู่ในเวลานี้ ก็ใช่ว่าเขาจะทำได้ดีกว่า
การรักษาคนในครอบครัวในภาวะวิกฤตเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำสำหรับแพทย์ มันมีเรื่องของความรู้สึก ความกังวลมาแทรกแซงการรักษามากเกินไป ซึ่งนั่นอาจทำให้เกิดความผิดพลาดในการรักษาได้


เขาเกลียดตัวเองที่รู้และเข้าใจทุกอย่าง แต่ทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้สักอย่าง


“ต่อให้มึงเตะเก้าอี้หักทั้งโรงพยาบาล ถ้าเด็กนั่นจะตายมันก็ต้องตาย”


ดวงตากราดเกรี้ยวของธิวาตวัดมองรัตติกาลที่พูดคำว่า ‘ตาย’ ออกมาได้หน้าตาเฉยโดยไม่รู้สึกรู้สา
สองมือของธิวาจับปกคอเสื้อรัตติกาลดึงตัวขึ้นมาจากม้านั่ง ก่อนจะออกหมัดชกไปเต็มแรง เลือดสีแดงไหลซึมออกมาที่มุมปากของรัตติกาล ชัยทำท่าจะเข้ามาช่วยเจ้านายแต่รัตติกาลยกมือห้ามไว้ก่อน


“มึงจำคำกูไว้นะ ถ้าน้องตาย มึงต้องตายอย่างทรมานมากกว่าน้องร้อยเท่า พันเท่า กูสาบาน!!!”ธิวาตะโกนด่าเสียงดังลั่น


“มึงมันก็แค่เศษเดนมนุษย์ ดีแต่สร้างบาดแผลให้น้อง เรื่องเหี้ยๆที่มึงสั่งให้คนข่มขืนน้องต่อหน้าลูกน้อง มันเป็นแผลในใจน้องที่ไม่มีใครลบได้ มึงมันเลวระยำยิ่งกว่าหมา”


“เด็กบริสุทธิ์คนนึงต้องมาแปดเปื้อนก็เพราะมึง”


“มึงมันไอ้ ฆ า ต ก ร”


ริตติกาลนิ่งคิดหลังจากได้ยินคำว่า ‘ฆาตกร’ จากปากธิวาอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้มันทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาว่าเป็นเขาเองจริงๆเหรอที่ทำให้เด็กคนนั้นเปราะบางจนคิดฆ่าตัวตาย เขาสมควรแก่การได้รับการตราหน้าว่าเป็น ‘ฆาตกร’ จริงๆเหรอ


เขาไม่เคยมีเจตนาไม่ดีต่อเด็กคนนี้ ก็แค่อยากรับมาเลี้ยง ตั้งใจจะให้ที่อยู่อาศัย ให้การศึกษาที่ดี แลกกับความสุขชั่วครั้งชั่วคราวเล็กๆน้อยๆเป็นการตอบแทน ช่วงที่ป่วย…เขายังเมตตาไม่ใช้บริการเลย อุตส่าห์เรียกเพื่อนเก่ามากินที่ห้องแทน
เขาผิดตรงไหน?
สิ่งที่ทำให้เท่านี้ก็ถือว่าเมตตามากแล้วด้วยซ้ำ


“อย่ามาโยนความผิดให้กู เด็กนั่นมันก็แค่สิ้นคิด ไร้สมองถึงได้คิดฆ่าตัวตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า”


“น้องมันป่วย มึงเข้าใจไหมรัตติกาล มึงเคยรู้…เคยใส่ใจบ้างไหมว่าน้องมีอาการทางจิตเพราะการกระทำเหี้ยๆของมึงเป็นจุดเริ่มต้น”ธิวาตะโกนด่าเสียงดังลั่นโรงพยาบาล เขาลืมเสียแล้วว่าในโรงพยาบาลห้ามใช้เสียงดัง ความอดทนเขาหมดลงแล้วกับคนเหี้ยๆคนนี้


“มึงอย่ามาพูด…”รัตติกาลทำท่าจะแย้ง


“หุบปาก!”ธิวาตวาดเสียงดัง เขาไม่พร้อมจะรับฟังอะไรจากใครตอนนี้ทั้งนั้น สิ่งที่เขาต้องการได้ยินเพียงสิ่งเดียวคือคำว่า ‘น้องปลอดภัย’ จากคุณหมอเจ้าของไข้เพียงเท่านั้น


“ช่วยไสหัวมึงไปไกลๆตีนกูหน่อยเถอะ ก่อนที่กูจะทนไม่ไหว”ธิวาหันมาคำรามใส่รัตติกาลอีกครั้ง ตอนนี้เขาเหมือน ‘หมาบ้า’ เต็มขั้นที่พร้อมจะแว้งกัดทุกคนที่เข้าใกล้


รัตติกาลยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเอง ทั้งๆที่ใจพยายามบอกว่าเด็กนั่นเป็นแค่เด็กไร้ค่าไร้ราคาที่เก็บได้จากข้างถนน แต่ทำไมเขายังยอมนั่งรอหลังขดหลังแข็งเฝ้ารออยู่หน้าห้องผ่าตัด ทั้งๆที่เขาเองก็เหนื่อยจากการเดินทางด้วยเครื่องบินติดต่อกันหลายชั่วโมง


ทั้งๆที่โดนไล่ขนาดนี้แล้วแท้ๆ ทำไมเขาถึงยังไม่อยากไปจากที่นี่กันนะ


เข็มนาฬิกาหมุนไปจนครบรอบชั่วโมงที่สาม และแล้ววินาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง…คุณหมอในชุดสีเขียวเดินออกมาจากห้องผ่าตัด ทันทีที่เห็นคุณหมอปรากฎในคลองสายตา ธิวารีบวิ่งไปหาแล้วถามคำถามที่ทุกคนอยากรู้ที่สุดในช่วงเวลานี้ “ปลอดภัยรึยังครับ”


“คนไข้เสียเลือดมาก ตอนนี้เราทำการต่อเส้นเลือดและหยิบปิดแผลแล้ว แต่คนไข้อาจมีภาวะช็อคเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หมอขอดูอาการก่อนนะครับ”


“ขอบคุณครับ”หลังจากได้ยินคำตอบของคุณหมอไปในแนวทางที่เขากลัว หยาดน้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลคลอออกมา ธิวาเงยหน้าขึ้นหวังให้น้ำตาไหลย้อนกลับไป เขาไม่อยากอ่อนแอ ไม่อยากเสียน้ำตาให้ใครเห็น


เขาไม่เคยคาดคิดว่าเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ความผูกพันธ์ระหว่างเขากับน้องจะถักทอและสานสายใยประสานใจเขากับน้องไว้หนาแน่นถึงเพียงนี้


จากจุดเริ่มต้นเล็กๆที่เขาเพียงแค่เห็นใจในโชคชะตาอันโหดร้ายที่น้องต้องเผชิญและสงสารที่น้องมีอาการป่วยทางจิต


เขาไม่คิดว่ามันจะพัฒนาจนเป็นความสัมพันธ์ที่เขากล้าพูดว่า ‘รัก’


เขาได้แต่ภาวนาขอให้พระเจ้าเมตตาเขาอีกสักครั้ง ได้โปรดคืนชีวิตน้องกลับมา อย่าพึ่งรับน้องไปอยู่ในอาณาจักรอันเป็นนิรันดร์ของพระองค์เลย เพราะเขาคงทนไม่ได้ถ้าต้องเสียน้องไป


รัตติกาลมองหยาดน้ำตาที่ไหลซึมออกมาที่หางตาของธิวาด้วยความรู้สึกหน่วงๆ เขาไม่เคยคิดว่าวิทยาการที่ล้ำหน้าทางการแพทย์จะไม่สามารถยื้อชีวิตเด็กคนนึงที่กรีดข้อมือตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย


เด็กนั่น…ไม่มีทางตายหรอก


ตราบใดที่เขาไม่ปล่อยมือ ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิมาเอาชีวิตเด็กนั่นไป
แม้แต่ยมบาลเองก็เถอะ ถ้าเขาไม่อนุญาต…ก็ไม่มีสิทธิ


“คุณท่านครับ กลับไปพักเถอะครับ ผมจะเฝ้าให้เอง”รัตติกาลส่ายหน้าปฏิเสธชัย


“เอาหน้ามึงไปไกลๆตีนกูสักทีเถอะ กูขอ”ธิวาหันมาด่ากราดด้วยความรำคาญใจ ยิ่งเขาเห็นหน้ารัตติกาลเขาก็ยิ่งรำคาญใจ


“ไม่”


“แต่กูสั่งให้มึงไป ยิ่งมึงอยู่ใกล้ๆกูยิ่งหายใจไม่ออก มึงเข้าใจไหม ไอ้ฆาตกร”คนถูกตราหน้าว่า ‘ฆาตกร’ หน้าชาไปชั่วครู่ จากตอนแรกที่ไม่รู้สึกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมีตัวเองมีส่วนร่วม กลับฉุกใจคิดถึงสิ่งเลวร้ายที่เคยทำกับพริ้ม


“กลับไปพักเถอะครับ”ชัยเอ่ยปากขอร้องอีกรอบ ขืนปล่อยให้อยู่ด้วยกันทั้งสองคน มีหวังได้ลุกมาซัดกันนัวอีกสักรอบ


“ฝากด้วย”

.
.
.

รัตติกาลกลับจากโรงพยายาบมานั่งจิบไวน์อยู่ริมสระน้ำ
ภาพเหตุการณ์ที่เขาเคยฝึกว่ายน้ำให้พริ้มย้อนกลับมาในความคิด
คิดไปคิดมา…ตอนนั้นเขาก็บ้าจริงๆนั่นแหละที่โยนเด็กว่ายน้ำไม่เป็นลงไปในสระลึก แถมยังทิ้งไว้กลางสระนอกจากนั้นยังบังคับให้เด็กที่กลัวน้ำขึ้นสมองดำน้ำตั้งหลายนาที ถ้าเป็นคนอื่นคงร้องไห้ขี้โป่งขอยอมแพ้ไปแล้ว


รัตติกาลกระดกไวน์ในแก้วเข้าปาก ลิ้นเขาไม่รับรู้รส Romanee Conti ไวน์ขวดโปรดที่ใครต่อใครต่างก็ขนานนามว่ามันคือไวน์ที่มีรสชาติดีที่สุดในโลก


สายตาคมดุจเหยี่ยวเหลือบมองเรือนกระจกที่ปิดไฟมืดมิดด้วยความไม่คุ้นเคย นั่นสินะ เรือนกระจกนั่นปิดไฟมืดไว้แบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ปกติถ้าเด็กนั่นอยู่จะต้องเปิดไฟทิ้งไว้ทั้งคืน


เปิดไฟทิ้งไว้อย่างนั้นเหรอ…เป็นเพราะกลัวความมืดจากการบังคับขืนใจในวันนั้นสินะ


แวววตาของรัตติกาลฉายแววสับสน ฝ่ามือหนายกขวดไวน์ขึ้นกรอกปาก ไวน์สีแดงไหลลงคออย่างรวดเร็ว บางส่วนไหลเจิ่งนองลงบนพื้น จากไวน์ราคาแพงในขวดแก้วสีดำหรูกลายเป็นแค่ไวน์ไร้ค่าไร้ราคาที่ไหลเจิ่งนองอยู่บนพื้น


รัตติกาลเดินเข้าไปในเรือนกระจก...ที่ที่เด็กคนนั้นเคยอยู่
ต้นแคคตัสที่เขาชอบยังคงผลิดดอกสวยงามเหมือนเช่นเคย ข้าวของในห้องถูกจัดไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดสะอ้านเหมือนเดิม ไม่เว้นแม้กระทั่งเจ้าหมีตัวโตที่เจ้าของห้องชอบนักชอบหนาก็ถูกห่อเก็บไว้ในถุงพลาสติกอย่างดี


ยิ่งมองหน้าเจ้าหมีหน้าเศร้านี่ทีไร ก็ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดใจ…หงุดหงิดที่เด็กนั่นชอบหมีตัวนี้มาก ถึงขนาดเคยทะเลาะกับเขา เพราะเขาดันไปถีบหน้าเจ้าหมีหน้าโง่นี่


บางทีปากเขาก็ไม่ตรงกับใจนักหรอก เขาแค่หมั่นไส้ไอ้เด็กตัวโข่งที่เอาแต่กอดตุ๊กตาหมีเป็นเด็กๆ ตุ๊กตาหมีที่ลูกน้องคนสนิทเขาเอาอุปกรณ์มาให้เย็บ เขาเกลียดมัน…เกลียดสิ่งของที่มาจากผู้ชายคนอื่น เกลียดที่เด็กนั่นเอาแต่กกกอดและปกป้องมันอย่างถนุถนอม


บางเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆที่เขาทำตัวร้ายๆ แต่พอมองย้อนกลับไป พริ้มในวันแรกที่เขาเจอที่โรงแรมกับพริ้มในวันนั้นที่ยืนกอดตุ๊กตาหมีเป็นเด็กๆ เหมือนคนละคนกันจริงๆด้วย เด็กนั่นเปราะบางลงเหมือนแก้วที่พร้อมจะแตกหักได้ตลอดเวลา


ทำไมก่อนหน้านี้…เขาถึงไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเด็กนั่นเลยนะ
หรือจริงๆแล้วมันเป็นเพราะความไม่ใส่ใจของเขา


ตื่นขึ้นมาสิพริ้ม
ฟื้นขึ้นมา
แล้วชั้นจะชดใช้ให้ในสิ่งที่ชั้นเคยทำพลาดไป

.
.
.

วันรุ่งขึ้นในห้องทำงานของรัตติกาล


“คุณท่านครับ”


รัตติกาลคลายเนคไทด์ออก เขารู้สึกอึดอัดเหมือนหายใจไม่ออกอย่างที่เคยไม่เป็นมาก่อน “ว่ามา” คนตัวสูงเหยียดขายาวแล้วหลับตาเพื่อพักสายตาชั่วขณะ การประชุมยาวนานตลอดสามชั่วโมงที่ผ่านมาในช่วงเช้าทำให้เขาปวดหัวไม่น้อย


“คุณพริ้มช็อคครับ”


“ว่าไงนะ”


“อาการเป็นตาย 30:70 ครับ”


“ส่งฮอล์พยาบาลไปรับแล้วย้ายไปโรงพยาบาลของเราให้เร็วที่สุด เรียกหมอที่เก่งที่สุดในเครือของเรามาดูแล”ชัยส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับการแก้ปัญหาโดยการใช้เงินของเจ้านาย เรื่องบางเรื่องเงินก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้


“อาการคุณพริ้มอยู่ในขีดอันตรายมากนะครับ ไม่เหมาะสมจะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไม่ว่าในกรณีใดๆทั้งสิ้น”


รัตติกาลขบกรามแน่นพยายามจะระงับอารมณ์ “ทำยังไงก็ได้ ยื้อชีวิตเด็กนั่นไว้ให้ได้ ถ้าเด็กนั่นเป็นอะไรไป ชั้นฟ้องโรงพยาบาลนั่นให้ล้มละลายหมดตัวแน่”


“ครับ”ชัยได้แต่รับปากแล้วแอบลอบถอนหายใจ


ถ้าดวงมันถึงฆาต มัจจุราชก็ต้องมาเอาไป



ฝาก  #พริ้มกับdaddy ด้วยนะ

ขอบคุณที่ยังรอติดตามกันนะคะ


หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 13-09-2018 20:54:28
นี่ฉันควรจะเชียร์ให้น้องตายหรืฟื้นขึ้นมาดี  โอ้ยยยย...อ่านแล้วสับสน 

งื้อออออ....อินจัง
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: Khanomni ที่ 13-09-2018 21:03:52
ตอนแรกก็อยากให้น้องไปอ่ะ ไม่อยากให้น้องต้องมาทนแล้ว แต่ตอนนี้คืออยากให้รัตติกาลได้ชดใช้มั่งงง  โอ้ยยยลุ้นนนน :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-09-2018 21:53:58
ลุ้นๆๆๆ............ :z3: :z3: :z3:

รัตติกาล สำนึกซะมั่ง  :fire: :angry2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 13-09-2018 22:32:43
ถ้าพริ้มตายจริงๆ กาลจะรู้สึกอะไรบ้างมั้ย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-09-2018 22:58:22
 :L2: :pig4:

 :m15: สงสารน้อง แผลในใจร้ายแรงขนากนั้นตัวกลับมาได้ ใจจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 13-09-2018 23:51:35
โอ้ยยๆ หน่วงไปอี๊ก คุณท่านของพริ้มนี่ก็เหลือเกิน

ห่วงน้อง นี่คิดว่าถ้าน้องไปจะมีความสุขมากกว่ากลับมาไหม :z3:

เห้ออออออออ พริ้มนะพริ้ม

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ รอตอนต่อไปเน้ออ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-09-2018 01:33:02
ถ้ามันแย่ มันเหนื่อยมากนัก พริ้มก็ไปได้เลยนะลูก อยากไปที่ไหน ไปได้เลยนะพริ้ม  :hao5:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 14-09-2018 07:26:53
พึ่งจะมาเริ่มคิดได้นะคุณท่าน
สงสารพี่ธามสุดๆ พี่ต้องมีสตินะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 14-09-2018 14:28:52
น่าจะเอาขวดไวย์ตีหัวตัวเองไปเลย พริ้มยังไม่ต้องฟื้นนะเอาให้คนมันทุรนทุรายไปเลย แต่สงสารธิวาอ่า :katai1:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: btoey ที่ 14-09-2018 16:36:42
คนเรากว่าจะรู้สึกตัวว่าคนคนนึงมีค่ากับเรามากแค่ไหนก็ตอนที่กำลังเสียมันไป 
มีเงินมหาศาลก็ไม่สามารถซื้อชีวิตคนได้นะคุณท่าน

      คุณท่านควรถามชัยอะว่าพริ้มเป็นไงนี้คิดว่าชัยรู้เรื่องพริ้มสุดละกับป้าแม่บ้านจำชื่อไม่ได้ละ555
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-09-2018 20:08:22
รอๆ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: Mynun ที่ 15-09-2018 00:30:32
ตายเลยยยย ใจร้ายไปไหม 555555
รู้ค่าเมื่อสายไป ชาติหน้าค่อยทำดี  :hao7:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 15-09-2018 14:58:11
 :L2:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 15-09-2018 19:21:52
 :mew3: ลุ้นทุกตอนนน
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 15-09-2018 22:19:37
รอตอนต่อไปค่ะ ลุ้นมากอยากให้พริ้มรอด
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 16-09-2018 00:25:29
เชียร์ให้น้องรอด พี่ไทม์รออยู่ :hao5:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: Tukta3039 ที่ 16-09-2018 00:42:53
 :o12: สงสารพริ้ม เมื่อไหร่จะมีความสุขเป็นของตัวเองสักที
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 18-09-2018 17:54:57
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 23 P.14 13.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-09-2018 18:45:38
ทั้งน้องชาย ทั้งรติกาล   เปลี่ยนให้จิตใจพริ้มมืดมน สงสารพริ้ม ทางเลือกไม่ได้มีมากมาย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 24 P.15 19.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 19-09-2018 20:00:51
ตอนที่ 24

Another week just passed…


“นอนนานไปแล้วนะครับคนดี ตื่นได้แล้วนะ”เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยเรียกใครสักคนด้วยความอ่อนโยน ผมได้ยินเสียงเขาทุกวันตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา คนดีของเขาคือใครกันนะ โชคดีจังที่มีคนคอยห่วงใย


“เลิกนอนสักที บวมน้ำเกลือจะตายแล้ว”ผมขมวดคิ้วกับอีกเสียงเกรี้ยวกราดที่ได้ยิน เสียงนี้ก็เหมือนกัน…ได้ยินทุกวัน ใครกันที่เขาเอ่ยถึง โชคร้ายจริงๆ


“คนดี ตื่นเถอะนะครับ ไม่อยากตื่นมากินไอติมเหรอ”


“ตื่นมากินเค้กที่ชั้นซื้อให้ดีกว่า อร่อยกว่าตั้งเยอะ”


“รัตติกาล นายจะไม่เถียงชั้นสักวัน มันจะตายไหม”เอาอีกแล้ว ทะเลาะกันอีกแล้ว ทะเลาะกันเหมือนทุกๆวัน


ผู้ชายสองคนนี้รอใครกันนะ เขาทะเลาะกันให้ผมได้ยินทุกวันเลย แต่แปลกจังที่ผมไม่รู้สึกรำคาญใจ ในทางกลับกัน ผมกลับอิจฉาคนที่ผู้ชายสองคนนี้กำลังรอคอย


สำหรับผม…คนที่ไม่มีใครรอคอยให้กลับไป
ความตาย…อาจเป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่สุดแล้ว


สัมผัสนุ่มหยุ่นประทับลงตรงกลางหน้าผาก เอ๊ะ! ทำไมถึงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนเอาเปรียบ “ตื่นได้แล้วไอ้เด็กแสบ นอนอ้วนอืดเป็นหมู เดี๋ยวจะเก็บดอกเบี้ยค่าห้องพิเศษ”


“กาล ชีวิตนายเป็นเงินเป็นทองทุกลมหายใจเลยรึไง”


“แน่นอน ชั้นเป็นนักธุรกิจ ไม่ทำอะไรที่ขาดทุนหรอก ถ้าตื่นมานะ จะเก็บคืนทั้งต้นทั้งดอกให้คุ้มเลย”


“ไปๆ ไปให้พ้นหน้าชั้นสักที น้องจะไม่ตื่นก็เพราะนายนี่แหละ”น้องเหรอ…คุ้นจัง เหมือนเคยมีคนเรียกผมด้วยน้ำเสียงอบอุ่นแบบนี้ว่า ‘น้อง’


“รักนะครับ คนดี”สัมผัสอบอุ่นแผ่วเบาที่ข้างแก้มทำให้ผมอยากลืมตาตื่น อยากเห็นจังว่าใครกันที่แอบขโมยหอมแก้มผม


เดี๋ยวสิ! อย่าพึ่งไป อย่าปล่อยมือผม ขอเห็นหน้าก่อนได้ไหม


“กาล ไอ้เหี้ยกาล”


“อะไร!”


“น้องขยับมือ น้องขยับมือ”


“คุณมึงเป็นหมอภาษาอะไรครับ เด็กมันฟื้นก็กดออดเรียกพยาบาลสิ”


การถกเถียงกันแบบนี้มันช่างเป็นเรื่องที่คุ้นเคยจริงๆ

.
.
.

การลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากก้าวข้ามผ่านความตายแบบเส้นยาแดงผ่าแปดมาได้อย่างมหัศจรรย์ ทำให้ผมเริ่มตกตะกอนกับชีวิตตัวเอง ผมเฝ้าถามตัวเองว่าการฟื้นกลับมามีชีวิตอีกครั้งมันดีจริงๆเหรอ โลกใบเดิมที่แสนโหดร้ายทารุณยังต้องการให้ผมมีชีวิตอยู่จริงๆเหรอ


ยิ่งคิดทบทวนตัวเอง ผมก็ยิ่งโกรธ…โกรธที่ตัวเองอ่อนแอ ทำร้ายตัวเองเพียงเพราะคำพูดของคนอื่น
โกรธพี่ธิวาที่ยื้อชีวิตผมกลับมา ทั้งๆที่ผมไม่ต้องการมันแล้ว


“พริ้มครับ ดื่มน้ำหน่อยนะครับ”ผมเบือนหน้าหนีพี่ธิวา เอาจริงๆผมแทบไม่อยากเห็นหน้าเขาด้วยซ้ำ เห็นหน้าเขาทีไร คำพูดของคุณพ่อเขาในวันนั้นก็ตามมาหลอกหลอนผมทุกที


“พริ้ม…”ผมดึงมือของตัวเองออกจากสัมผัสเกาะกุมของพี่ธิวาแล้วพลิกตัวหนีไปอีกทาง


“นี่ชั้นทำอะไรผิด”พี่ธิวาหันไปถามคุณท่านด้วยความงงงวย


“เป็นอะไร”คุณท่านเลิกคิ้วถามผม ผมเบื่อหน่ายคำถามที่ได้รับเหลือเกิน จึงเลี่ยงการตอบคำถามด้วยการหลับตาหนี


“พริ้ม…”พี่ธิวายังคงไม่ละความพยายามจะเค้นหาคำตอบ


“พอเถอะไทม์ เด็กมันพึ่งฟื้นก็ให้มันพักก่อน นายเองก็เหนื่อยมาหลายวัน กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ”


“แต่…”


“เดี๋ยวชั้นจัดการเอง”


สุดท้ายก็เป็นพี่ธิวาที่ยอมเลิกรากลับบ้านไป ผมรู้ดีว่าตัวเองกำลังทำตัวเป็นเด็กที่แยกแยะไม่ออก ไม่ใช่ว่าผมไม่พยายามจะทำ แต่มันทำไม่ได้จริงๆ


ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงปิดประตู…ดีแล้วที่พี่ธิวาออกไป ผมไม่อยากทำตัวแย่ๆใส่เขามากกว่านี้ให้เป็นความทรงจำที่ไม่ดีระหว่างเรา แต่จะทำไงได้…ยิ่งครอบครัวเขารังเกียจผมมากเท่าไหร่ ระยะห่างระหว่างเรายิ่งไกลออกไปมากขึ้นเท่านั้น


“ช่วยบอกเหตุผลดีๆที่เธอก่อเรื่องให้ชั้นฟังที แต่ถ้ามันดีไม่พอ คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”คุณท่านลุกขึ้นยืนกอดอกแล้วกดเสียงต่ำถามผม ผมรู้สึกเหมือนกำลังถูกข่มขู่


“ไม่ว่าผมจะพูดอะไร เหตุผลที่ผมพูดไปมันก็ไม่ดีสำหรับคุณทั้งนั้นแหละ”


“ปากดี”คุณท่านคำรามเสียงต่ำ เดินเข้ามาใกล้ผม ผมรีบลุกลงจากเตียงแต่ด้วยความไม่ระวังทำให้ผมเกือบทำที่แขวนน้ำเกลือล้มลงบนพื้น ดีที่คุณท่านคว้ามันไว้ได้ทัน


“ตื่นมาก็ก่อเรื่อง”


ผมเม้มปากมองคุณท่านตาขวาง อะไรก็ดีแต่โทษผม ทำไมไม่เคยมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของตัวเองบ้าง ถ้าคุณท่านไม่เดินเข้ามาหาผมด้วยท่าทีคุกคาม ผมจะหนีทำไม


“อย่ามองชั้นด้วยสายตาแบบนั้นนะพริ้ม”


“ต้องให้ผมมองแบบนี้เหรอครับ”ผมปั้นหน้ายิ้มหวานใส่เขาด้วยสายตาหวานเชื่อม


“ฟื้นขึ้นมาเป็นแบบนี้มันน่าปล่อยให้ตายไปให้รู้แล้วรู้รอดเลยดีไหม”คุณท่านถอนหายใจใส่หน้าแล้วนั่งลงข้างผมบนเตียงผู้ป่วย


“ผมไม่ได้ขอให้คุณยื้อชีวิตผมไว้สักหน่อย”


“หนี้สิบล้านยังไม่ได้ใช้สักบาท คิดว่าจะหนีหนี้ตายไปง่ายๆแบบนี้รึไง”ผมสะอึกไปกับคำพูดที่เขาต่อว่า นั่นสินะ ‘บุญคุณต้องทดแทน หนี้สินต้องชำระ’


ผมดึงเชือกที่ผูกมัดปมเสื้อคนไข้ออก “จ่ายตั้งแต่ตอนนี้เลยดีไหมครับ”


“พริ้ม!!!”คุณท่านตวาดใส่ผมเสียงดังด้วยความไม่พอใจ สองมือของคุณท่านเท้าแขนลงบนเตียงกักผมไว้ไม่ให้หลุดรอดออกจากวงแขน


“จะรออะไรละครับ ร่างกายผมมันพร้อมใช้หนี้จะแย่”ผมดึงคอคุณท่านลงมาใกล้ บดริมฝีปากลงไปเบาๆ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือคาวเลือดจากรสจูบรุนแรงที่ต้องการสั่งสอนเด็กปากดีอย่างผม


“ชั้นเกลียดเด็กขี้ประชดประชันแบบเธอที่สุด”ผมหันหน้าหนีคุณท่าน ต่อให้ผมไม่ใช่เด็กขี้ประชด คุณท่านก็เกลียดผมอยู่ดีนั่นแหละ


“ชั้นมีประชุมตอนบ่าย เดี๋ยวจะเรียกชัยมาเฝ้าแล้วอย่าก่อเรื่องอีก”คุณท่านชี้หน้าคาดโทษผม


ผมพลิกตัวหันหลังหนีหน้าคนใจยักษ์ ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงให้มากความ หมดพลังแล้ว

.
.
.

ช่วงเย็นในวันนั้น


“พริ้ม ทานข้าวหน่อยนะ นะครับนะ พี่ป้อน”ผมเบือนหน้าหนีช้อนข้าวต้มคำโตของพี่ธิวา แค่เห็นหน้าเขาก็อิ่มจนจุกไปทั้งอก


“พริ้ม อย่าเรื่องมาก กินข้าว!”คุณท่านเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุเมื่อผมไม่ยอมกินข้าวเย็นที่พี่ธิวาป้อน


“ไม่กิน”

“เด็กที่ดื้อกับชั้นชีวิตมันจบไม่สวยนักหรอกนะพริ้ม”คุณท่านก้าวเท้าเพียงช่วงเท้าเดียวก็ถึงตัวผมที่นอนอยู่บนเตียง


“ทำไมไม่กินข้าว จะต่อต้านธิวามันทำไมนักหนา”ผมสบัดหน้าหนีคุณท่าน ล้มตัวดึงผ้าห่มมาคลุมโปงหนี


“พริ้ม!!!”เสียงตะโกนของคุณท่านดังลั่นไปทั้งห้อง ผมที่ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มสะดุ้งจนหัวใจแทบวาย ผมค่อยๆเลื่อนผ้าห่มลงแล้วหันไปมองคนที่ยืนโกรธหน้าดำหน้าแดงอยู่ข้างเตียง


“ถ้าชั้นนับจนถึง 10 แล้วข้ามต้มในชามนี้ยังไม่หมด คราวนี้เธอได้รู้จักนรกบนดินแน่ๆพริ้ม”


“1”


ผมยังคงนิ่ง ข่มขู่ผมอีกแล้ว เกลียดที่สุด


“2”


“3”


ปัง!
ผมสะดุ้งตกใจกับเสียงปิดประตูห้องจากฝีมือของพี่ธิวา ภาพคนตัวสูงที่ออกไปยืนพ่นควันพิษอยู่ที่ระเบียงทำให้ผมปวดใจ บุหรี่ที่พี่ธิวาเคยขอไม่ให้ผมสูบในวันนั้นกลับถูกใช้เพื่อคลายความเครียดด้วยเจ้าตัวเองในวันนี้


“4”


“คุณท่านหยุดนับสักทีได้ไหม”


“เดี๋ยวนี้กล้าสั่งชั้นเหรอพริ้ม”


“ขอร้องก็ได้”


“กินข้าวซะ ชั้นจะออกไปคุยกับธิวา”


ผมกินข้าวไปพลางเหลือบตามองออกไปนอกระเบียงที่พี่ธิวาเริ่มจุดบุหรี่มวนที่สามติดต่อกัน ไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย ผมรู้สึกผิดที่ทำให้พี่ธิวาสูบบุหรี่จนใจมันเจ็บจวนจะระเบิดอยู่แล้ว


ถึงแม้ว่าผมจะกินข้าวต้มจนหมดถ้วย เขาทั้งคู่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเดินเข้ามา ผมก้าวลงจากเตียงด้วยความระมัดระวัง ค่อยๆลากสายน้ำเกลือระโยงระยางน่ารำคาญออกไปหาพี่ธิวาที่นอกระเบียง


ผมดึงชายเสื้อเชิ้ตเขา “พี่ครับ…” 


“พี่ธิวา…”


“เข้าไปข้างในเถอะ ด้านนอกลมเย็นเดี๋ยวเราจะป่วยอีก”พูดจบเพียงเท่านั้น คนตัวสูงแสนอบอุ่นก็ดึงมือผมออกจากเสื้อเขาแล้วเดินออกไปจากห้อง


ผมยืนนิ่งอยู่ที่เดิม รู้สึกเหมือนเหตุการณ์นี้มันเคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วแต่แค่เปลี่ยนคนโดนกระทำ พึ่งเข้าใจว่าเวลาโดนปฏิเสธจากคนที่เรารักมันเจ็บแบบนี้เองสินะ


“วันนั้นคุณพ่อมาพูดอะไรบ้าง”ผมเริ่มปวดหัวกับความสัมพันธ์อันซับซ้อนของเขาสองคนแล้วนะ ตกลงพ่อใครกันแน่


ด้วยความที่ผมทำหน้าสงสัย คุณท่านเลยยอมเอ่ยขยายความ “พ่อธิวาก็เหมือนพ่อชั้น วันนั้นท่านมาพูดอะไรบ้าง”ถึงผมจะยังสงสัยว่าพ่อธิวาจะเป็นพ่อคุณท่านได้อย่างไร แต่ยังมีเรื่องอื่นที่น่าสงสัยมากกว่า


“คุณรู้ได้ยังไงว่าวันนั้นใครมาหาผม”


“ไม่มีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับเธอที่ชั้นอยากรู้แล้วจะไม่รู้”


“ถ้าคุณรู้ทุกอย่างแล้วจะมาถามผมทำไม”


“เพราะชั้นอยากได้ยินจากปากเธอไง”ผมเงยหน้าสบตาคุณท่าน ประเมินความจริงใจของคำพูดเขาด้วยแววตา


“เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านเลยไปเถอะครับ”


“ชั้นไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะเป็นพวกขี้ขลาด ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง”


“ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ครั้งหนึ่งผมก็เกือบตายเพราะคำพูดของพ่อพวกคุณเหมือนกัน แล้วผมก็ไม่อยากจะรื้อฟื้นอีก”


“เอาเถอะ เรื่องคุณพ่อชั้นกับธิวาจะจัดการเอง”

.
.
.

ในยามค่ำคืนที่ท้องฟ้ามืดมัวด้วยพายุฝน วันนี้จึงนับเป็นอีกหนึ่งคืนดีๆที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการ...ตีป้อม


“คุณชัย ROV กัน”ผมชวนคุณชัยเล่นเกมส์เสียงใส


“ไม่เอา ผมจะดูบอล”คุณชัยปฏิเสธพร้อมเปลี่ยนช่องทีวีเลื่อนหาช่องที่จะถ่ายทอดสดบอลโลก


“ไม่เห็นน่าสนุกเลย ลูกบอลลูกเดียวแย่งกันได้ตั้งสิบกว่าคน”ผมบ่นออกมาเมื่อคุณชัยไม่สนใจ


“ไม่สนุกก็ไม่ต้องดูสิครับ นี่เที่ยงคืนกว่าคุณควรนอนได้แล้ว”


“ไม่เอา ผมนอนมาหลายวันแล้ว เบื่อจะแย่”


“โอ้วๆ เลี้ยงไปๆ อย่างงั้นแหละ เฮ้ย! ระวัง ปัดโธ่เอ๊ย ปล่อยให้แย่งไปได้ไง”ผมมองคุณชัยที่ตั้งหน้าตั้งตาเชียร์บอลอย่างเมามัน ผมไม่เคยมีเวลาว่างมานั่งดูบอลแบบนี้หรอกครับ เพราะปกติในเวลานี้ผมกำลังรับแขกอยู่


สุดท้ายเมื่อผมชวนคุณชัยตีป้อมไม่สำเร็จ ผมเลยเปลี่ยนใจมานั่งดูบอลกับคุณชัยแทน ดูไปดูมา มันก็สนุกดีเหมือนกัน


“โหยคุณชัย ทำไมวันนี้เยอรมันเล่นห่วยงี้อะ ฟอร์มแย่แบบนี้ทุกวันปะ”ผมถามคุณชัยด้วยความสงสัยหลังจบเกมส์


“ปกติก็ไม่นะคุณ เยอรมันนี่ทีมเต็งแชมป์เลย”


“จริงเหรอคุณชัย แล้วมีทีมไหนเป็นตัวเต็งอีกบ้าง”ผมถามคุณชัยด้วยความสงสัย ส่วนคุณชัยก็ตั้งใจเล่าประวัติของแต่ละทีมที่มาแข่งบอลโลกให้ฟัง ผมนี่ฟังจนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้

.
.
.

ผมยกมือขึ้นบังแสงแดดที่ส่องเข้ามาในห้องทันทีที่คุณพยาบาลรูดม่านเปิด รู้สึกเหมือนพึ่งนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมง ยังรู้สึกเพลียอยู่เลย


“เมื่อคืนหลับสบายไหมคะ”คุณพยาบาลเดินเอ่ยทักทายผมตามปกติทุกวัน


“ก็ดีครับ”แต่จะดีกว่านี้ถ้าคุณพยาบาลไม่เข้ามาปลุกผม


“คุณต้องพักผ่อนเยอะๆรู้ไหมคะ ไม่ใช่ว่าตีสองแล้วยังเชียร์บอลเสียงดังลั่น”


“ขอโทษครับ”ผมขอโทษด้วยความเกรงใจ ลืมซะสนิทว่าชั้นนี้ยังมีห้องพักผู้ป่วยห้องอื่นอีก


“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ โชคดีที่ห้อง Premium ของเราเมื่อวานไม่มีคนไข้ท่านอื่นอีก”


“วันนี้ผมออกจากโรงพยาบาลได้รึยังครับ”ผมถามด้วยความเบื่อโรงพยาบาลเต็มทน


“ยังไม่ได้หรอกค่ะ ญาติคนไข้แจ้งคุณหมอว่าอยากให้นอนโรงพยาบาลดูอาการต่ออีกสักอาทิตย์”ได้ยินคำตอบจากคุณพยาบาลแล้วผมก็ลงไปนอนแผ่บนเตียงด้วยความเศร้าใจ


นี่อยู่โรงพยาบาลมากี่อาทิตย์แล้วนะ
ขาดเรียนนานขนาดนี้ เวลาเรียนจะพอได้ยังไง…


“คุณชัย ผมอยากคุยกับคุณท่าน”ผมหันไปขอร้องคุณชัยที่เดินออกจากห้องน้ำมาด้วยความสดชื่น


“รอเย็นนี้ดีกว่าครับ คุณท่านกับคุณธิวาน่าจะเข้ามา น่าจะได้คุยกันยาวววว…”ฟังคำว่ายาวของคุณชัยที่ลากเสียงยาวแปลกๆแล้วได้แต่ละเหี่ยใจ ไม่รู้จะยาวในแง่ไหน…บวกหรือลบก็สุดยากแท้หยั่งถึง




ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันมาทุกตอนเลยน้าาาาา :)

อยู่อ่านกันไปแบบนี้จนจบเลยน้า

ช่วงนี้ชีวิตเราไม่ค่อยดีเลย มีแต่เรื่องปวดหัวตลอด ไม่อยากจะคิดเลยว่าเกี่ยวกับเบญจเพสไหม

ใครเคยผ่านช่วงเวลานั้นมาแล้วบ้างคะ เป็นไงกันบ้าง


หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 24 P.15 19.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 19-09-2018 22:38:27
พ่อพี่ทิวานี่แหละน่าจัดการที่สุด
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 24 P.15 19.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 19-09-2018 23:18:33
พริ้มฟื้นแล้ว เย่ เป็นยังไงคงต้องลุ้นต่อ

สู้ๆนะคะ จะรออ่านเสมอค่ะ ส่วน25 นี่ไม่รู้เลย เป็นวัยเปลี่ยนแปลงต่างๆรึเปล่าคะ ไม่แน่ใจ ยังไงก็สู้ๆค่าาาา o13
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 24 P.15 19.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-09-2018 03:44:58
พริ้มเอย แข็งกับกาลได้ไม่ตลอดเลยนะ แพ้ทางทุกทีเลย  :hao4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 24 P.15 19.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-09-2018 06:33:32
ธิวา  อายุก็ไม่ใช่วัยรุ่น ไม่รู้ความ หน้าที่การงานรับผิดชอบขนาดนี้แล้ว
พ่อยังมาวุ่นวาย กลัวลูกจะถูกหลอก คิดได้ไง  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เป็นพ่อที่คอยทำลาย รังควานความสุขของลูกชัดๆ

กาล  ธิวา  รู้สาเหตุที่ทำให้พริ้มเป็นแบบนี้แล้ว จัดการเลย  :fire: :angry2: :fire:
กาล ธิวา พริ้ม    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 24 P.15 19.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 20-09-2018 13:20:34
เคลียร์ให้จบๆนะพริ้มจะได้มีความสุขสักที
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 24 P.15 19.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 20-09-2018 14:11:01
ตอนนี้สงสารธิวา โดนลูกหลงจากพ่อ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 24 P.15 19.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 22-09-2018 01:23:09
สงสารพี่ธิวา พริ้มน่าจะแยกแยะหน่อย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 24 P.15 19.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 23-09-2018 17:20:32
น้องไม่รู้ววว น้องยังไม่แก่55555. ล้อเล่น
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 24 P.15 19.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 26-09-2018 10:06:41
ฟื้นมาแล้ว ก็ให้เจอแต่เรื่องดีๆนะพริ้ม
คุยกับคุณท่านแล้วก็พี่ธิวาให้เคลียร์
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 24 P.15 19.09.61
เริ่มหัวข้อโดย: Panizzz3838 ที่ 30-09-2018 16:52:40
 :z6: :z6: :serius2:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 25 P.15 03.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 03-10-2018 16:46:49
ตอนที่ 25


การตั้งหน้าตั้งตารอคอยอะไรบางอย่างมันทรมานเสมอ โดยเฉพาะการรอคอยการมาของใครบางคน ผมชะเง้อจนคอจะยาวเป็นยีราฟทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเปิดประตู กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังไม่มีวี่แววการมาถึงของใครสักคน จนสุดท้ายเป็นผมเองที่ถอดใจล้มตัวลงนอน


คืนนี้ต้องนอนคนเดียวเพราะคุณชัยกลับบ้าน บ่นอุบใหญ่เลยว่าลูกคิดถึงใจจะขาด ผมเองก็ไม่อยากทำบาปโดยการพรากพ่อพรากลูกเขาเลยให้คุณชัยกลับไป


ในระหว่างที่ตากำลังจะปิดด้วยฤทธิ์ของความง่วง สัมผัสยวบที่ข้างเตียงทำให้ผมตกใจลืมตาตื่น “พี่ทำให้ตื่นเหรอครับ”ลมหายใจที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆลอยมาแตะจมูกผมทันทีที่เขาพูด


“พี่ธิวาดื่มมาเหรอครับ”ผมพลิกตัวหันไปมองหน้าพี่ธิวาที่ตอนนี้แดงก่ำด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์


“ดื่มนิดหน่อย ไม่เมาหรอก ระดับนี้แล้ว”แต่จากสายตาของผมที่เห็นคนเมามาเยอะ บอกได้เลยว่าเขาเมาแน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์


“เมาแล้วก็กลับไปอาบน้ำนอนที่บ้านดีๆเถอะครับ อย่ามานอนเบียดกันบนเตียงคนไข้เลยครับ อึดอัดเปล่าๆ”


“หึ! แม้แต่พริ้มก็ขับไล่ไสส่งพี่ จะให้พี่ไปไหนละ พี่ไม่มีบ้านแล้วนะ”ผมขมวดคิ้วที่พี่ธิวาเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง ไม่มีบ้านอะไร?


“พี่นอนอยู่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวผมมา”ผมลุกจากเตียงจะไปหยิบผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้คนปากแข็งที่อ้างว่าตัวเองไม่เมา แต่เขากลับดึงรั้งผมไว้ไม่ให้ไป


“ทำไม พอพี่ไม่เหลืออะไรแล้วพริ้มเลยเฉดหัวพี่ทิ้งเลยรึไง”


“พี่ธิวา…”ผมเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ เมาแล้วดราม่าก็ได้เนอะคนเรา


“แม้แต่ที่จะซุกหัวนอนยังไม่มี พี่มันคนไม่มีที่ไป ไม่มีใครต้องการ ใช่สิ! พอเราเป็นคนไม่เหลืออะไร ใครจะต้องการ”ผมขมวดคิ้วกับคำพูดที่เขาพร่ำเพ้อออกมา อย่าบอกนะว่าที่หายไปคือไปทะเลาะกับคุณพ่อมาแล้วโดนตัดออกจากกองมรดกเหมือนในละครหลังข่าว


บ้าหน่า…นี่มันปี 2018 แล้วนะ


“รอพริ้มก่อนนะครับ แปปเดียว เดี๋ยวพริ้มมา”ผมดึงแขนตัวเองออกจากการเกาะกุมของเขา ไปหยิบผ้ามาเช็ดตัวให้ ระหว่างที่เช็ดตัวเขาก็เอาแต่ละเมอเพ้ออะไรต่างๆมากมายออกมา จับประเด็นแทบไม่ได้


ความสงสัยมากมายคั่งค้างในใจจนแทบอยากจะโทรถามคุณท่านให้เข้าใจ แต่รู้ดีว่าขืนโทรไปเวลานี้มีหวังได้โดนสั่งเก็บโทษฐานขัดขวางเวลานอนแน่


หลังจากเช็ดตัวจนคนเมาสบายเนื้อสบายตัว เขาก็เริ่มสงบลงจนหลับไปในที่สุด ผมมองสภาพพี่ธิวาที่ดูไม่จืดในสายตาด้วยความไม่อยากเชื่อ ไม่เคยคิดว่าเขาจะปล่อยให้ตัวเองเมามายจนขาดสติขนาดนี้


ภาพคุณหมอสุดเนี้ยบที่เคยจินตนาการไว้นี่ลบไปได้เลยครับ


“พริ้ม…พริ้ม…”ผมดึงมือคนเมามากุม “อยู่นี่ครับ พริ้มอยู่นี่ไง พี่นอนได้แล้วนะ”


ผมนั่งมองแก้มแดงๆของพี่ธิวาแล้วก็อดหมั่นเขี้ยวไม่ได้ ขอแอบดึงแก้มเล่นหน่อยสิ


“พี่ครับ ขอโทษนะที่ตั้งแต่ฟื้นมาก็เอาแต่ทำตัวแย่ๆใส่ ทั้งๆที่พี่อาจจะเป็นคนเดียวด้วยซ้ำที่รอพริ้มกลับมา”


ผมลูบแก้มอุ่นๆของพี่ธิวาเล่น “ขอให้พรุ่งนี้ไม่มีโชคร้าย ขอให้พี่ยกโทษให้พริ้มด้วยเถอะนะ”

.
.
.

เคยมีใครบอกไหมครับว่า…สิ่งที่เราคาดหวังมักตรงข้ามกับความจริงเสมอ


ความหวังของผมมันแห้งแล้งเหมือนโอเอซิสกลางทะเลทราย ผมแค่วาดหวังว่าจะได้ตื่นมาตอนเช้าในอ้อมกอดอบอุ่นของผู้ชายที่ผมรักดังเช่นทุกวัน หวังให้เขาให้อภัยผม แต่ในความเป็นจริงนั้น เขาได้จากไปแล้ว ทิ้งไว้แต่เพียงร่องรอยยับย่นของผ้าปูเตียงและสัมผัสเย็นเยียบของมัน


ผมซุกหน้าลงกับปลอกหมอนที่พี่ธิวานอนเมื่อคืนด้วยความคิดถึง กลิ่นกายเขายังไม่จางหาย แต่ทำไมถึงใจร้ายทิ้งผมไว้คนเดียว


ด้วยความเป็นกังวลทำให้ผมรีบหยิบมือถือมาโทรติดต่อหาพี่ธิวา แต่เสียงปลายสายที่ตอบกลับมายิ่งทำให้ผมเป็นห่วง ‘หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ The number you have…’


“อรุณสวัสดิ์ครับคุณพริ้ม ทำไมวันนี้ตื่นเช้าละครับ”ผมไม่สนใจจะตอบคำถามคุณชัย แต่มีคำถามที่อยากถามเขากลับมากกว่า “ขอผมโทรหาคุณท่านได้ไหมครับ”


“ตอนเจ็ดโมงเช้านี่นะครับ?”คุณชัยเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย


“ทำไมละครับ ปกติคุณท่านก็ตื่นเช้าอยู่แล้วนี่”


“ตามใจคุณเถอะครับ”คุณชัยกดโทรหาคุณท่านแล้วยื่นมือถือให้ผม รอเพียงไม่กี่อึดใจคุณท่านก็รับ คุณชัยทำท่าชี้ไม้ชี้มือไปที่ถุงโจ๊กที่ซื้อมาทำนองว่าจะขอตัวไปทานข้าว ผมพยักหน้ารับรู้


“ว่าไงชัย”


“ผมเองนะครับคุณท่าน”


“มีอะไรแต่เช้า”


“เมื่อวานพี่ธิวามาหาผมที่โรงพยาบาล เขาเมามาก เอาแต่เพ้อแล้วพูดเรื่องที่ผมไม่เข้าใจ คุณท่านรู้หรือเปล่าครับว่าพี่ธิวาเป็นอะไร”


“นี่เธอให้ชัยโทรหาชั้นตอนเจ็ดโมงเช้าเพื่อถามเรื่องผู้ชายคนอื่นนี่นะ”


“พี่ธิวาไม่ใช่คนอื่นสักหน่อย”


“ถ้าไม่ใช่คนอื่นก็โทรไปถามกันเองแล้วกัน”พูดจบประโยคแล้วสายก็ตัดไป อะไรของเขา อยู่ดีๆก็โมโห ขนาดผมอยู่ในช่วงวัยรุ่นอารมณ์ร้อน ผมยังตามอารมณ์คุณท่านไม่ทันเลย


ผมเดินลากสายน้ำเกลือไปหาคุณชัยที่ทานข้าวอยู่ในห้องรับแขกที่อยู่ติดกัน “ขอบคุณครับ”ผมพูดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์คืน


“ไม่มีโจ๊กของผมบ้างเหรอคุณชัย”ผมนั่งมองคุณชัยที่กำลังตักโจ๊กกุ้งเข้าปากด้วยความหิว


“คุณก็มีอาหารโรงพยาบาล จะมาจ้องโจ้กผมทำไม”


“ก็มันไม่อร่อยนี่ครับ”


“กินเพื่ออยู่ ไม่ใช่อยู่เพื่อกินนะคุณ”


“โธ่คุณชัย แต่ร่างกายคนป่วยต้องการอาหารรสชาติดีๆเพื่อเสริมสร้างความอยากอาหารนะครับ”


“ใช่เหรอคุณ ผมเคยได้ยินแต่คนป่วยต้องการอาหารที่มีประโยชน์”


“โธ่! คุณชัย”


“ไม่ต้องมาทำหน้ามุ่ยเลยครับ ผมซื้อมาให้คุณอีกถุงนึง”ผมยิ้มกว้างแล้วหยิบโจ๊กอีกถุงนึงที่เหลือมาเทใส่ชาม “คุณชัยนี่ใจดีที่สุดในโลกเลยไม่เหมือนคุณท่าน อยู่ดีๆก็อารมณ์เสียใส่ผมเฉยเลย”


“สมควร”ผมมองหน้าคุณชัยด้วยความไม่เข้าใจ แต่ก็เหนื่อยเกินกว่าที่จะถามต่อเพื่อทำความเข้าใจ


ผมกินโจ๊กหมูทรงเครื่องด้วยความอร่อยจนเกือบจะหมด ในระหว่างนั้นก็ครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ในเมื่อคุณท่านไม่ให้คำตอบผม คุณชัยก็เป็นอีกหนึ่งความหวัง


“คุณชัย”


“ว่าไงครับ”


“เมื่อคืนพี่ธิวาเมามาหาผม เอาแต่เพ้ออะไรก็ไม่รู้ พูดว่าไม่เหลืออะไรแล้ว หาว่าผมจะทิ้งเขา ผมไม่เข้าใจ”


“สมควรจริงๆที่คุณจะโดนคุณท่านโกรธ”ผมเงยหน้าสบตาคุณชัยด้วยความสงสัย แค่ถามเรื่องพี่ธิวานี่ต้องโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลยเหรอ


“แค่โทรถามเรื่องพี่ธิวาตอนเช้านี่มันน่าโกรธขนาดนั้นเลยรึไง คนแก่นี่เข้าใจยากจริงๆ”คุณชัยถอนหายใจใส่หน้าผมแล้วลุกเดินหนีไปพร้อมกับแก้วกาแฟ เอ้า! นี่ก็อีกคน ตกลงผมทำอะไรผิดเนี่ย


กิจวัตรประจำวันอันแสนน่าเบื่อในโรงพยาบาลเป็นเหมือนเดิมเช่นเดียวกับทุกๆวัน จะดีกว่าหน่อยนึงก็ตรงที่เย็นวันนี้คุณท่านแวะมาหาผมแทนเมื่อวานที่เบี้ยว


“เป็นไงบ้าง”ถุงขนมเค้กถูกนำมาวางไว้ตรงหน้าพร้อมกับคำถามเดิมๆ


“ดีขึ้นเยอะแล้วครับ แต่ยังเจ็บแผลแปลบๆอยู่บ้าง ผมอยากกลับบ้านแล้ว”


“ไม่ได้ กลับบ้านไปใครจะคอยดูแลทำแผลให้เธอ อยู่โรงพยาบาลนี่ละดีแล้ว”


“ผมทำเองได้ ไม่เห็นต้องพึ่งคนอื่นเลย”


“ดื้อ!”


“ผมไม่ได้ดื้อสักหน่อย”


“ชอบเถียง”


“ผมไม่ได้เถียง ผมแค่อธิบาย อื้อ…คุณท่าน”ผมโวยวายประท้วงที่คุณท่านจับริมฝีปากผมปิดแล้วดึงมันยื่นออกมาเหมือนปากเป็ด


ผมมองคุณท่านตาขวาง “ผมเจ็บนะ”


“ก็ทำให้เจ็บหนะสิ จะได้หยุดงอแง”


ผมล้มตัวลงนอนแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมหน้า เบื่อคุณท่าน ชอบทำผมเจ็บๆ


“ทำไมชอบงอนเป็นเด็ก”


“ผมไม่ได้งอน แต่ผมโกรธคุณเพราะคุณชอบทำผมเจ็บๆ”


“งั้นนี่พอจะช่วยให้เธอหายโกรธได้ไหม”คุณท่านยื่นแฟ้มสีดำเล่มโตมาให้ผม “อะไรครับ”


“แบบบ้าน ที่เคยสัญญาว่าจะซื้อให้”


ผมหยิบแฟ้มมาเปิดผ่านๆ แล้วชี้นิ้วมั่วๆไปที่แบบบ้านในหน้าสุดท้ายซึ่งเป็นบ้านที่ราคาแพงที่สุด ชอบเอาเงินฟาดหัวคนอื่นดีนัก จะให้จ่ายจนขนหน้าแข้งร่วงไม่เหลืออะไรเลย “ผมจะเอาหลังนี้”


“เอาสิ ชั้นซื้อให้ แต่จะโอนให้ก็ต่อเมื่อเธอเรียนจบแล้วเท่านั้น ระหว่างนั้นเธอก็มีหน้าที่หาเงินมาจ่ายค่าเช่าบ้านชั้นทุกเดือน”


“บ้านราคาเป็นร้อยล้าน ผมจะไปหาเงินมาจากไหนถึงจะพอจ่ายค่าเช่าบ้าน”


“ไม่ได้ขอให้จ่ายเป็นเงินนี่”


“คุณท่าน”คนตัวสูงหัวเราะหึๆแล้วจัดการโทรหาคุณชนะให้จัดการเรื่องซื้อขายบ้านให้เรียบร้อยภายในวันพรุ่งนี้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนผมตั้งตัวไม่ทัน


“คุณท่าน ซื้อจริงเหรอครับ”ผมถามย้ำด้วยความไม่แน่ใจ เริ่มรู้สึกผิดเล็กๆที่คิดจะแกล้งเขา


“จริงสิ ตอนแรกก็ตั้งใจจะซื้อหลังนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ธิวามันจะได้มาอยู่ด้วย”


“พี่ธิวาจะมาอยู่กับคุณทำไม บ้านเขาเองก็มี”


“พริ้มถ้าเธอใช้สมองคิดสักนิดเธอจะไม่ถามคำถามนี้กับชั้น”


“ถ้าคุณไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก เลิกด่า เลิกว่าผมสักที”ผมล้มตัวลงนอน หันหลังให้คุณท่าน แต่เขายังตามลงมานอนข้างผม ลำแขนแกร่งดึงตัวผมพลิกกลับมาหา


“ทำไมเดี๋ยวนี้งอแง”


“ผมไม่ได้งอแง ผมแค่ไม่อยากถูกคุณด่าว่า ผมเป็นคน ผมก็มีความรู้สึกเหมือนกันนะ”คุณท่านลูบหัวผมเบาๆ ฝ่ามือแกร่งเชยคางผมขึ้นก่อนจะประทับริมฝีปากลงมาแนบแน่น ขบกัดเบาๆก่อนจะสอดลิ้นเข้ามาทักทายสำรวจ ผมเอียงคอรับรสจูบที่คุ้นเคย ยกมือขึ้นโอบรอบคอคุณท่าน ไล้มือเบาๆที่ท้ายทอย


ต่อให้พยายามทำตัวเก่งแค่ไหน สุดท้ายผมก็แพ้คุณท่านอยู่ดี…แพ้ทุกทางไม่ว่าจะเป็นทางวาจาหรือทางกาย


“...”ผมซบหน้าลงกับบ่าคุณท่าน นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้กอดกันแบบนี้


“ขอโทษ”ผมเหลือบตามองคุณท่านที่อยู่ดีๆก็เอ่ยคำนั้นออกมา คำพูดที่ผมคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้ยินจากปากเขา


“เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ช่างมันเถอะครับ”ริมฝีปากหนาประทับลงมาที่ข้างขมับแทนคำขอบคุณ “เด็กดีของชั้น”


ผมยืดตัวขึ้นเพื่อจูบเบาๆที่ปลายคาง แต่คุณท่านคนไม่รู้จักพอ ดึงตัวผมขึ้นไปมอบรสจูบลึกซึ้งแสนหวานให้อีกหลายครั้งจนริมฝีปากของผมบวมเจ่อ


“งรื้อ! พอแล้วครับ”


“ทำไมละ ชั้นยังไม่รู้สึกพอเลยนะ”ริมฝีปากหนาที่คลอเคลียอยู่ข้างแก้มเลื่อนไปงับเบาๆที่ใบหู ส่วนมือหนาก็เค้นคลึงสะโพกผมไม่หยุด


“คุณท่าน อื้อ…”ผมประท้วงออกมาด้วยน้ำเสียงไร้ความหนักแน่น “แข็งขนาดนี้แล้วยังปากแข็งอยู่อีก”ผมซบหน้าลงบนแผงอกแกร่งหนีความจริงที่เจ้าลูกชายผมมันแข็งสู้มือคุณท่านแค่เราจูบกัน


“ไม่คิดถึงชั้นเหรอพริ้ม หื้ม…แต่ถึงปากเธอบอกไม่คิดถึง แต่ตรงนี้ของเธอ มันจำชั้นไม่เคยลืม”พูดจบเขาก็สอดปลายนิ้วเข้ามาในช่องทางอ่อนนุ่มทีเดียวสามนิ้วรวดจนผมจุกและอึดอัดไปหมด


“คุณท่าน พริ้มอึดอัด งรื้อ…”ยังไม่ทันจะอ้าปากบ่น นิ้วเจ้ากรรมก็หมุนวนคว้านในช่องทางรักจนเจอจุดเสียวกระสันต์ คุณท่านขยับนิ้วเข้าออกด้วยความรวดเร็ว แทงเข้าแทงออกจนผมจุกอก


“อ๊ะ…อื้อออ…”


“ครางดังขนาดนี้จะเรียกพยาบาลข้างนอกเข้ามาร่วมวงด้วยรึไง”ผมมองค้อนคุณท่าน


“ถอดกางเกงให้ชั้น”ผมทำตามอย่างว่าง่าย ลุกขึ้นมาถอดกางเกงคุณท่านโดยการรูดซิปแล้วดึงเจ้าลูกชายเขาออกมา


“จัดการสิ”ผมก้มหน้าลงไปใช้ปากให้เขา ส่วนมือก็จับไว้ที่ต้นขากันไม่ให้เขาขยับสะโพกเองตามใจชอบ เพราะถ้าเขาขยับเองทีไร ลูกชายอันใหญ่โตของเขามักจะแทงทะลุถึงคอหอยผมทุกที


ในระหว่างที่ผมกำลังไล้เลียไอศกรีมแท่งเก่าที่ไม่ได้กินมานาน คุณท่านก็พลิกตัวผมให้หันสะโพกไปหา นิ้วเรียวถูกส่งเข้ามาในช่องทางรักอีกครั้ง


“อ่อก…อื้อ…บ๊วบ”ผมแทบสำลักเจ้าท่อนลำที่ค้างอยู่ในปากเมื่อเขาเริ่มเร่งจังหวะ ยิ่งเขาเร่งจังหวะนิ้วมากเท่าไหร่ สะโพกของเขาก็ยิ่งขยับตามมากเท่านั้น มากจนผมต้านทานแรงเขาไม่ได้ ต้องปล่อยให้ท่อนลำยักษ์ไหลลื่นเข้าไปจนสุดคอหอย อึดอัดจนน้ำตาคลอหน่วย


“อึ่ก…อื้อ”เขาเร่งจังหวะจนแทบเสร็จแล้วดึงไหล่ผมกลับไปหา น้ำลายใสลากยาวจากส่วนปลายบานแดงก่ำออกมาติดริมฝีปากผม ผมถูกดึงไปจูบแรงๆพร้อมกับที่เขาดันเจ้าลูกชายเข้ามาในช่องทางคับแน่น


“คุณท่าน ไม่เอา”ผมรีบผลักเขาออกเมื่อเขากำลังจะ ‘สด’ กับผม


“ทำไม”


“ไม่สด”


“อย่ามาเรื่องมากตอนนี้ได้ไหม”


“ไม่ได้ คุณก็รู้ว่าผมไม่ได้มีคุณคนเดียว”ดวงตาคุณท่านฉายแววว่างเปล่าขึ้นมาทันทีที่ผมกำลังเอ่ยถึงใครอีกคน “ถ้าไม่อยากติดโรคก็ใส่ถุงเถอะครับ เซฟทั้งคุณ เซฟทั้งผม เพราะคุณก็คงไม่ได้มีผมคนเดียวเหมือนกัน”


“ชั้นจะสด ถ้าธิวามันจะเอาก็บอกให้มันใส่ถุงแล้วกัน”พูดจบด้วยความเอาแต่ใจ เขาก็ฝังเจ้าลูกชายเข้ามาในตัวผมทีเดียวจนมิดลำ เขาจับต้นขาผมให้อ้ากว้างมากขึ้นเพื่อให้สะดวกต่อการขยับสะโพก


แผ่นหลังของผมแนบสนิทกับอกอุ่นของเขา ริมฝีปากหนาขบกัดที่ข้างลำคอจนขึ้นรอยเหมือนต้องการลงโทษ “ชั้นสดกับเธอได้คนเดียว จำไว้”


“ไม่เอา อื้อ…ผมไม่อยากได้โรคจากเด็กคุณ”


“ไม่มี”


“ผมไม่เชื่อหรอกว่าเด็กคุณจะ โอ้วววว…อา ไม่มีโรค”


“ไม่ใช่ไม่มีโรค แต่ชั้นจะไม่มีเด็กคนอื่นนอกจากเธออีก”คุณท่านครางต่ำในลำคอ “รับชั้นให้ไหวแล้วกัน”


“ไม่ อึก…อ๊ะ”


ผมไม่รู้จริงๆว่าจากตอนแรกที่ผมโกรธ สุดท้ายแล้วเรามาจบลงด้วยเรื่องบนเตียงได้อย่างไร แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ผมปฏิเสธไม่ได้ คือ ร่างกายผมจดจำทุกสัมผัสของคุณท่านได้ และที่น่าอายไปมากกว่านั้นคือ ร่างกายไม่รักดีของผมพร้อมตอบสนองคุณท่านตลอดเวลาแม้ถูกกระตุ้นเพียงน้อยนิด


ผมเกลียดตัวเองที่นอกจากจะเอาชนะเขาไม่ได้แล้ว นับวันๆยิ่งตกเป็นทาสของเขา…ทาสทางกามารมณ์




มาตามสัญญาที่มีคนไปตามในทวิตแล้วนะ

อาจจะมาไม่บ่อย แต่มาต่อแน่นอน

รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ช่วงนี้เรากับคนรอบตัวป่วยกันเยอะมากเลยค่ะ

ขอบคุณนะคะที่ยังรอติดตามอ่านกัน

ตามตัวได้ในแท็กเลยน้า #พริ้มกับdaddy




หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 25 P.15 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 03-10-2018 17:12:55
รอตอนต่อไป......
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 25 P.15 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 03-10-2018 19:36:47
กรี๊ดมันเริ่มดีแล้วใช่ไหมมมม :impress2:

รึว่าต้องเตรียมต้มน้ำรอ  คงไม่นะ ชีวิตรันทดเหลือเกินพริ้ม

อยากให้พริ้มสบายๆ 

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ กำลังรอเลย :katai2-1:  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 25 P.15 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 03-10-2018 19:47:33
แล้วจะอยู่กัน 3 คนหรือเปล่าเนี้ยะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 25 P.15 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-10-2018 19:51:17
เกิดอะไรกับพี่ธิวา
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 25 P.15 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-10-2018 20:21:43
อีคุณท่านหื่นไม่เลือกสถานที่เลยนะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 25 P.15 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 03-10-2018 20:22:41
ขนาดป่วยอยู่ก็ยังไม่เว้นนะคุณท่าน ธิวารีบเคลียร์ให้จบนะก่อนที่รันติกาลจะกินไม่เหลือมันจะดีขึ้นใช่ไหม?
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 25 P.15 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 03-10-2018 20:36:09
พี่ธิวา น่าสงสารอ่า
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 25 P.15 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-10-2018 23:29:37
โอ๊ะโอ...........พ่อพี่ธิวา ยึดทรัพย์หมดเลย   o22 o22 o22
แสดงว่าเงินทองของพี่ธิวา พ่อสามารถถ่ายโอนเข้าบัญชีตัวเองได้
เพราะลูกขัดใจ นี่ลูกยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอ   :really2: :serius2: :mew2:

คุณท่าน บอกเลิกเด็กเลี้ยงหมดแล้ว OMG   o22 :a5:
มีแต่พริ้มคนเดียว รักพริ้มคนเดียวเหรอ   o18
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 25 P.15 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 07-10-2018 00:07:21
พี่ธิวาโดนอะไร :sad4:
ไม่อยากมีมาม่าเลยฮรือออ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 25 P.15 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 13-10-2018 15:40:32
ไม่รู้ว่าจะดีใจที่คุณท่านเริ่มคิดด้หรือเสียใจที่ตื่นมาไม่เจอพี่ธิวาก่อนดี รอติดตามอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 25 P.15 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 13-10-2018 22:31:04
ซ้ำซากมากจริงๆ ชีวิตน่าสงสารเกินไปแล้ว
ธิวาคือคนทั่วไป ไม่ดีมาก แต่ไม่แย่
แต่รัตติกาล คือความตรงข้ามทุกอณู
ซื้อน้องมาแล้วยังไง จะย่ำยีแบบไหนก็ได้หรอ

พร้ิมต้องเสียสละทุกอย่างให้ชีวิตหมดแล้ว
จะมีอะไรร้ายแรงกว่านี้อีกไหมล่ะ น้ำตาไหลเลยค่ะ

หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 25 P.15 3.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 14-10-2018 03:54:58
เหนื่อยใจกับความเจ็บซ้ำซากของพริ้ม  :เฮ้อ:
ส่วนธิวาบอกไม่ได้ว่าเป็นยังใงมันบางเบากับความรู้สึกของเรายังไม่หนักแน่นพอที่จะเชียร์ให้อยู่กับพริ้ม  :ruready
ส่วนรัตติกาลคนๆนี้ควรได้รับความเจ็บปวดแล้วหายไปจากชีวิตพริ้มซะ  :m16:
คนที่มีตัวตนสำเราอีกคนคือชัยนะ  :z1:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 14-10-2018 16:38:29
ตอนที่ 26
 

ถ้ามีการจัดเก็บข้อมูลเพื่อทำสถิติเมืองที่รถติดที่สุดในโลก ผมว่ากรุงเทพมหานครต้องติดอันดับ 1 ใน 10 แน่นอน นี่ขนาดเป็นเช้าวันเสาร์ รถในซอยยังติดเลย


ผมหันไปมองคุณท่านที่วันนี้นั่งร้องเพลงอย่างอารมณ์ดีผิดปกติแล้วก็ได้แต่แปลกใจ ปกติถ้าขับรถเองแล้วรถติดแบบนี้ ถนนคงลุกเป็นไฟไปนานแล้ว


“จ้องหน้าชั้นทำไม”คนใจยักษ์หันมาถามผม


“เปล่าครับ”


“เป็นเด็กเลี้ยงแกะเหรอพริ้ม ทำไมเดี๋ยวนี้ชอบโกหก”


ผมหันหน้าหนีตัดปัญหา ขี้เกียจรำคาญต่อล้อต่อเถียงด้วย
คิดถึงพี่ธิวาจัง ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นตายร้ายดียังไง…โทรหาก็ปิดเครื่อง ไลน์ไปก็ไม่ตอบกลับ


“พริ้ม”


“พริ้ม!”


“พริ้ม!!! ลงจากรถ”ผมสะดุ้งออกจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงคุณท่านตะโกนใส่หูด้วยความเกรี้ยวกราด คิ้วบนใบหน้าของคนใจยักษ์เริ่มขมวดชิดติดกัน โมโหอีกแล้ว…อยู่ดีๆก็โมโหขึ้นมาซะอย่างนั้น


ผมถอดเบลท์แล้วรีบวิ่งตามหลังคุณท่านที่เดินนำไปไกลแล้ว ยิ่งผมวิ่งตามเขาก็ยิ่งก้าวเท้ายาวหนีผมด้วยอารมณ์โกรธ ผมโอบเอวคนตัวโตไว้จากางด้านหลังหลวมๆ “โกรธอีกแล้ว”


“แล้วมันน่าโกรธไหม”


“…”นี่โดนโกรธเรื่องอะไรยังไม่เข้าใจเลย


“ถ้าไม่เต็มใจอยากมาอยู่ด้วยกันก็ไม่ต้องมา ชั้นไม่อยากบังคับฝืนใจใคร”ผมเงยหน้ามองคุณท่านที่กำลังเอ่ยวาจาตัดพ้อต่อว่าด้วยความสงสัยว่าตัวเองทำอะไรให้คุณท่านเข้าใจผิดไปในทางนั้น


“ทำไมคุณพูดแบบนี้”


“ช่างเถอะ”พูดจบคุณท่านก็ดึงมือผมออกแล้วเดินไปสแกนม่านตาและใบหน้าเพื่อเปิดประตูเข้าบ้าน ทิ้งให้ผมยืนงงอยู่ที่เดิม อ้าววววว….ทิ้งกันเฉย


ผมเลือกที่จะเดินสำรวจรอบๆบ้านแทนการเคาะประตูขอให้เขาเปิดรับผมเข้าไปด้วย อารมณ์ไม่ดีแบบนี้ควรปล่อยให้ไปสงบสติอารมณ์คนเดียวจะดีที่สุด ขืนผมเข้าไปตอนนี้มีหวังได้ฟาดงวงฟาดงาใส่ผมอีก


ผมเงยหน้ามองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา บ้านเดี่ยว 3 ชั้นภายใต้อาณาเขตเกือบ 1 ไร่ใจกลางกรุง ไม่อยากจะคิดเลยว่ามูลค่ามันจะมากมายมหาศาลขนาดไหน ทำไมคุณท่านถึงได้ใจปล้ำกล้าซื้อบ้านหลังนี้ให้ผม แต่ก็นะ เขาคงรวยจนไม่มีที่เก็บเงินเลยต้องเอาเศษเงินมาโปรยเล่นบ้าง


ผมเดินดูรอบๆบ้านที่มีอาณาเขตเกือบ 1 ไร่ด้วยความตื่นตาตื่นใจ ตัวบ้านถูกสร้างแบบ modern โครงสร้างของบ้านมีทั้งหมด 3 ชั้น ผนังบ้านแบบเดิมๆที่เป็นคอนกรีตถูกแทนที่ด้วยกระจกใสให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย


ผมเดินไปเคาะผนังเคาะจกเล่นเพื่อดูความหนาของมัน คนระดับคุณท่าน...กระจกพวกนี้คงเป็นกระจกนิรภัยอย่างดีแน่นอน


เมื่อมองเข้าไปภายในตัวบ้าน ภายในมีการตกแต่งแบบเรียบง่าย เน้นวัตถุประสงค์ของการใช้งานมากกว่าความหรูหรา โทนสีที่ใช้ก็เป็นโทนเดิมๆตามที่คุณท่านชอบ คือ สีขาวและสีดำ


ดูไปดูมาแล้วก็ยิ่งสงสัย ตกลงนี่ซื้อบ้านให้ผมจริงหรือเปล่าเนี่ย ทำไมถึงตกแต่งในแบบที่ตัวเองชอบทั้งนั้น


ผมเดินดูสวนรอบๆบ้านที่จัดตกแต่งใหม่ในสไตล์อังกฤษจนพอใจ เริ่มรู้สึกว่าแดดกำลังจะเผาผิวของผมจนแสบร้อน ผมเลยไปเคาะกระจกขอให้คุณท่านเปิดประตูให้


“ขอบคุณครับ”ผมเอ่ยขอบคุณแล้วรีบแทรกตัวเข้ามาในบ้าน 


“จะขึ้นไปดูชั้นบนไหม”ผมพยักหน้าตอบรับและเดินตามคุณท่านขึ้นไปด้านบน หน้าตาเขาดูอารมณ์ดีขึ้นเยอะแล้ว บุญหัวของผมจริงๆที่ไม่ต้องรองรับอารมณ์โกรธของเขา


ในส่วนชั้น 2 ของตัวบ้านมีห้องนอนทั้งหมด 2 ห้องคือห้องของคุณท่านที่ตกแต่งเรียบร้อยแล้วด้วยเฟอร์นิเจอร์สีดำทั้งห้อง กับอีกห้องหนึ่งที่ผมเดาว่าน่าจะเป็นห้องนอนของพี่ธิวาที่บัดนี้มีแต่เพียงความว่างเปล่า ห้องนอนทั้งสองห้องเชื่อมต่อกับห้องแต่งตัวที่ออกแบบเป็น walk-in closet


เสื้อผ้า นาฬิกา รองเท้าของคุณท่านถูกจัดเก็บไว้เป็นระเบียบ มีการเรียงแบบ เรียงสีไว้เรียบร้อย ผมแอบชะโงกมองนาฬิกาหลายสิบเรือนที่อยู่ในตู้กระจกด้วยความสนใจ ตัวเรือนแต่ละเรือนดูก็รู้ว่าได้รับการออกแบบมาอย่างดีและผลิตด้วยวัสดุราคาแพง


“อยากได้?”ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ของแพงแบบนี้ได้มาก็ไม่ใส่อยู่ดี จะซื้อมาเก็บไว้บูชาทำไม


“ไม่เอาครับ ผมไม่ชอบใส่นาฬิกา ใส่ทีไร หน้าปัดเป็นรอยทุกที”


“ก็เธอเป็นคนไม่ระวัง”


“ใครว่า”


“ชั้นว่า”พูดจบคุณท่านก็บิดปลายจมูกผม เจ็บจนน้ำตาแทบไหล “คุณเอาอีกแล้วนะ!”คุณท่านไม่ได้ใส่ใจที่ผมโวยวาย เอาแต่หัวเราะหึๆแล้วเดินออกจากห้องแต่งตัว


“คุณท่าน ไม่มีห้องผมเหรอครับ”ผมถามด้วยความสงสัย แอบหวังลึกๆที่จะมีห้องส่วนตัวเป็นของตัวเอง


“เธอต้องนอนกับชั้น”ฝันผมสลายหายไปในพริบตาด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำของคุณท่าน ผมแอบแลบลิ้นใส่แผ่นหลังเขาด้วยความหมั่นไส้ในขณะที่เขาหันหลังขึ้นไดต่อไปที่ชั้นสามของบ้าน


ในส่วนชั้น 3 ของบ้านถูกออกแบบให้มีลักษณะเหมือนห้องใต้หลังคา ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นห้องดูหนัง แต่ไม่รู้ว่าคนออกแบบจะโรแมนติกไปไหน ถึงได้มีการทำหลังคาส่วนหนึ่งให้เป็นกระจก สามารถมองออกไปเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีดวงดาวระยิบระยับได้


คนอื่นอาจจะมองว่ามันสวย แต่สำหรับผมที่ยังไม่ค่อยถูกโรคกับความมืดสักเท่าไหร่ เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีกับบ้านหลังนี้ที่เป็นกระจกทั้งหมด ตอนกลางวันมันก็สวยดีหรอก แต่ถ้ากลางคืนคงหว้าเหว่พิลึก สรุปแล้วการซื้อบ้านหลังนี้ไม่รู้ว่ามันเป็นการแกล้งคุณท่านให้เสียเงินเล่น หรือแกล้งตัวผมเองกันแน่


“คุณท่าน ผมไม่อยู่ที่นี่ได้ไหม”


“ทำไม”ผมมองสายตาคาดคั้นเอาคำตอบของคุณท่านอย่างกลัวๆ ไม่อยากจะเอ่ยความรู้สึกของตัวเองออกไปในเมื่อผมเป็นคนบอกให้เขาซื้อบ้านหลังนี้เอง


“พริ้ม ชั้นถามว่า ทำ-ไม?”คุณท่านถามผมเสียงดุ ยิ่งตอนเน้นคำว่าทำไมยิ่งดุ


“ถือว่าผมไม่ได้พูดอะไรออกไปแล้วกันนะครับ”ผมตัดปัญหาด้วยการไม่ตอบคำถามและหนีลงไปข้างล่าง ท่าทีของคุณท่านในตอนนี้เริ่มฉายแววของความไม่พอใจ
 

“พริ้ม เราต้องคุยกัน”คุณท่านเดินมานั่งข้างผมบนโซฟาตัวนุ่มในห้องรับแขก


“คุณจะคุยเรื่องอะไร”ผมถามในขณะที่กำลังลูบข้อมือตัวเองซึ่งตอนนี้แผลปิดสนิทแล้ว ทิ้งไว้เพียงแต่รอยแผลเป็นเอาไว้เตือนใจให้ผมไม่ให้คิดสั้นอีกในอนาคต


คุณท่านนิ่งไปไม่ตอบคำถามแล้วดึงข้อมือผมไปดู เรายื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่นานจนสุดท้ายผมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ต้องยอมปล่อยให้เขาเอาแผลไปดู


“อย่าทำแบบนี้อีก”


“พริ้ม”ผมเงยหน้าสบตากับเขา “ชั้นบอกว่าอย่าทำแบบนี้อีก”


“คำสั่งเหรอครับ”


“ไม่ใช่ คำขอร้อง”ผมเลือกที่จะหลับตาลงแล้วเอนกายซบบ่าเขา “ช่วยมีชีวิตอยู่ต่อ…”คุณท่านพูดแล้วเว้นวรรคไปนานจนผมลืมตาขึ้นมองหน้าเขา


เขาลังเลไปชั่วครู่เหมือนคนกำลังใช้ความคิดว่าจะพูดสิ่งที่อยู่ในความคิดออกมาดีหรือไม่ สุดท้ายเขาก็ไม่พูดออกมาแต่เลี่ยงที่จะพูดอย่างอื่นแทน


“อยากได้อะไรก็ขอให้บอก ชั้นจะชดเชยให้”ชดเชยความผิดที่ผ่านมาของคุณด้วยเงินอย่างนั้นเหรอ “ผมไม่ต้องการ”


เราหันมาสบตากัน “แล้วเธอต้องการอะไร”


“ผมต้องการความรัก ความอบอุ่น ต้องการการดูแลเอาใจใส่ ต้องการครอบครัว…เห็นไหม คุณให้ผมไม่ได้สักอย่าง”


“ใครบอกว่าชั้นให้เธอไม่ได้”


“คุณท่าน!”


“เรียกชั้นว่า ‘แด๊ด’ สิแล้วชั้นจะเป็นพ่อทูนหัวของเธอให้”พูดจบเขาก็ดันผมให้นอนลงบนโซฟา สองตาของเราสองจ้องมองกัน ลมปากจากคนแบบคุณท่านมันเชื่อได้สักแค่ไหนกันเชียว


นิ้วมือของเราสองคนสอดประสานกัน “แด๊ด อื้อ…”จบคำเรียกขาน สองแขนของผมก็ถูกตรึงไว้เหนือหัว ริมฝีปากร้ายก้มลงมาแนบชิด ดูดกลืนสิ่งทุกอย่าง แม้แต่จิตวิญญาณและความรู้สึกที่ผมเคยสั่งตัวเองให้เกลียดเขา


“เชื่อชั้น อีกสักครั้ง”ผมสบตาดวงตาที่มีแต่ความแน่วแน่ของเขา ผมอยากจะลองเปิดใจให้เขาอีกสักครั้ง


“แด๊ด ผมเชื่อคุณ”

.
.
.

อาทิตย์ที่ผ่านมาถ้าผมเอ่ยคำพูดอะไรออกไป ขอให้คุณเชื่อเถอะครับว่ามันคือคำพูดของคนบ้า สมองฟั่นเฟือน สติไม่สมประกอบ ขอให้ลืมคำพูดพวกนั้นไป
 

ตอนนี้ผมกำลังจะเป็นบ้าตาย ถึงผมจะเคยรับมือกับร่าง ‘คุณท่าน’ ได้(บ้าง)ก็จริง แต่ผมรับมือกับร่าง ‘แด๊ด’ ของเขาไม่ไหวจริงๆ


“พริ้ม มานั่งนี่”พูดจบคุณท่านก็ตบตักตัวเองเป็นเชิงเรียกให้ผมไปนั่งตัก


“คุณท่าน!”ผมเริ่มขึ้นเสียงอารมณ์เสียใส่เขา คนอะไรจะให้นั่งตักตัวติดกันตลอดเวลา


“ก็พริ้มต้องการความอบอุ่นนี่ ชั้นก็จะให้ไง”


“คุณทำอะไรก็ให้มันมีความพอดีบ้างเถอะครับ ให้เวลาชีวิตส่วนตัวผมบ้าง”


“ชั้นอยู่ด้วยแล้วมันไม่ส่วนตัวตรงไหน”พูดจบคนเอาแต่ใจก็เดินมาหาแล้วยกผมขึ้นจากเก้าอี้สอดตัวเองมานั่งแทนแล้วให้ผมนั่งซ้อนตัก


“คุณเคยบ่นว่าผมหนัก”ผมหันไปพูดด้วยใบหน้าเหนื่อยหน่าย


“ตอนนี้ก็ยังหนักอยู่”ตูละเพลียใจ “แต่ชั้นไปยกเวทเพิ่มพลังต้นขามาละ ต่อให้เธอหนักกว่านี้อีกสักสิบกิโลก็ไม่เป็นไร”ผมยกมือตบหน้าผากตัวเองด้วยความจนปัญญาจะเถียง แล้วหันมาสนใจกับสิ่งที่อยู่ในจอคอมพิวเตอร์แทน


“พริ้มดูอะไร เว็บโป๊เหรอ ไม่เห็นต้องดูเลย เธอก็เป็นนายเอกหนังอยู่ทุกคืน”โว้ยยยยยยย!...


“ฮรื่อออ…คุณอย่ายุ่ง”ผมดึงแม็คบุ๊คกลับ ไม่ยอมให้เขาแย่งไป


“ให้ชั้นดูด้วยไม่ได้รึไง”หมีควายตัวโตทำหน้างอเป็นเด็กสามขวบโดนแย่งอมยิ้ม ผมละเพลียใจ กลับไปเป็นเหมือนเดิมก็ได้นะ เป็นแบบนี้แล้วรับมือไม่ถูก


“ผมกำลังหาหลักสูตรเรียนต่ออยู่ คุณอย่าพึ่งกวนได้ไหม”


“อยากไปเรียนต่างประเทศเหรอ”ริมฝีปากของตัวกวนคลอเคลียอยู่ข้างใบหูผมไม่ห่าง


“อื้อ เบื่อหมีแถวนี้”เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะกดจมูกลงที่กลุ่มผมนุ่มข้างขมับ “คุณ! ไม่เอา ผมยังไม่ได้สระผมเลย”ผมร้องประท้วงเมื่อริมฝีปากหยุ่นงับเบาๆที่ข้างลำคอ


“ก็ยังหอมนี่”เขาว่าแล้วก็จัดการเปลี่ยนเว็บไซต์ “สนใจเรียนที่นี่ไหม ชั้นก็จบที่นี่”ผมส่ายหน้าปฏิเสธ รู้ว่าตัวเองเข้าเรียนต่อที่เดียวกับคุณท่านไม่ได้แน่ๆ มหาลัยติดอันดับท็อปทรีของอเมริกาไม่ได้เข้ากันได้ง่ายๆ


“ทำไมละ?”


“ผมไม่ได้เก่งขนาดนั้น”


“เธอยังไม่ได้ลองพยายามดูเลย ทำไมถอยแล้ว…ถอยทั้งๆที่ยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ”


“คุณท่าน…”คุณท่านปัดลูกผมที่ตกลงมาปรกหน้าปรกตาออกให้ผมก่อนจะลูบหัวเบาๆ “ลองดูก่อนสิ ถ้าสำเร็จก็กำไร ไม่สำเร็จก็เท่าทุน ไม่มีทางไหนขาดทุนเลยสักนิด”


“มองอะไรเป็นขาดทุนกำไรตลอด”


“แต่เลี้ยงเด็กคนนี้ขนาดทุนทุกทางเลยรู้ไหม”ผมมองเขาหน้าง้ำ


“คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ พริ้มอาจเริ่มมาจากติดลบ มีทุกอย่างเพราะชั้นให้ แต่ถ้าสุดท้ายพริ้มพิสูจน์ตัวเองได้ว่าเป็นคนคุณภาพคนหนึ่งของสังคม พริ้มจะภูมิใจในตัวเอง”ผมรู้ว่าคุณท่านต้องการสื่ออะไร ในวันนี้ผมอาจจะเป็นอีตัวในมุมมองของคนอื่น เป็นเด็กที่ไม่มีความสมบรูณ์พร้อมในสักด้าน แต่ถ้าวันหนึ่งผมสามารถเปลี่ยนตัวเองใหม่ เป็นเด็กที่มีความรู้ ความสามารถ วันนั้นก็จะไม่มีใครดูถูกผมได้อีก


คุณท่านให้คำแนะนำ ให้เงินทุนการศึกษาได้ แต่เขาให้ใบปริญญาบัตรไม่ได้ สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ผมต้องไขว่คว้ามาด้วยความพยายามของตัวเอง


จุดนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆของเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีก็เป็นได้ การตั้งเป้าหมายในชีวิตให้ตัวเองสักอย่างคงทำให้ผมดำเนินชีวิตในแต่วันผ่านไปได้อย่างมีคุณค่าและมีความสุข


“ผมจะพยายาม”คุณท่านยิ้มให้ผม เป็นรอยยิ้มที่ผมไม่คิดว่าจะได้รับจากเขา ผมโผเข้ากอดเขาแล้วอดน้ำตาซึมออกมาไม่ได้


“ร้องไห้ทำไมหื้ม? ชั้นกดดันพริ้มเกินไปรึเปล่า”ผมส่ายหน้าแล้วกอดเขาแน่นขึ้น ใจมันพองฟูจนน้ำตาไหลออกมาเอง ไม่คิดว่าจะมีวันนี้…วันที่เขาดูแลผมด้วยใจ


“คนเก่ง ไม่ร้องหน่า ฮึบไว้ เร็วๆ เป็นเด็กดีของชั้นต้องไม่ร้องรู้ไหม”


“ฮือ…”ยิ่งโอ๋ยิ่งร้องอะบอกเลย


คุณท่านปลอบผมอยู่นาน จนสุดท้ายผมเลิกร้องได้เพราะเสียงท้องร้อง


“น่าเกลียดจริงๆเลยเรา อยากทานอะไร ชั้นจะโทรสั่งโรงแรม”


ผมยกมือขึ้นคล้องโอบรอบคอเขาก่อนจะขอร้อง “อยากทานอาหารฝีมือแด๊ดได้ไหมครับ” มื้อสุดท้ายที่ผมได้ทานกับข้าวฝีมือเขามันนานจนจำแทบไม่ได้แล้ว


“พริ้มอยากทานอะไรครับ”


“ปลากระพงนึ่งมะขาว ไก่ผัดมะม่วงหิมพานต์ ปูผัดผงกะหรี่”


“ยากขนาดนี้ โทรสั่งโรงแรมดีกว่ามั้ง”


“งรื้อออ…”ผมร้องประท้วงอย่างขัดใจ


“ต้องทำกับข้าวให้ทานตั้งหลายอย่าง แด๊ดต้องเหนื่อยแน่เลย ต้องออกไปซื้อของอีก…”ผมนั่งฟังหมีตัวโตบ่นเป็นหมีกินผึ้งแล้วรำคาญ บ่นแบบนี้รู้เลยว่าต้องการอะไร


ผมเอียงหน้าเข้าหาเขาก่อนจะประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากหยุ่น ขบเม้มก่อนจะสอดปลายลิ้มเข้าไปทักทาย เขาโอบกระชับตัวผมแน่นขึ้นก่อนจะตอบรับกลับมาด้วยรสจูบร้อนแรง เอาแต่ใจ


เราจูบกันจนริมฝีปากผมแดงก่ำ เขาผละออกจากผมแล้วก็จริง แต่ริมฝีปากเขายังคงคลอเคลียอยู่แถวต้นคอผมไม่ห่าง เสื้อยืดสีฟ้าของผมถูกถอดออกก่อนที่ริมฝีปากอุ่นจะประทับรอยจูบลงมาตามแนวไหปลาร้า


“มัดจำไว้ก่อน”เขากระซิบริมกกหูของผมเสียงพร่า ดันตัวผมยกสูงขึ้นก่อนจะกลืนกินเม็ดบัวเข้าไปจนมันแข็งเป็นไต ผมแอ่นตัวรับสัมผัสจากเขา อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นเหมือนตัณหาราคะที่ร้อนรุ่ม


มากกว่านี้…ต้องการมากว่านี้


เขาจับลำตัวผมพลิกไปหาโต๊ะ ผมเกาะขอบโต๊ะแน่นในขณะที่เขาประทับรอยจูบลงมาตั้งแต่ต้นคอไล่เรื่อยลงมาตามแนวกระดูกสันหลัง


กางเกงบอลสีดำตัวเก่งถูกรูดรั้งลงไปกองที่ข้อเท้าก่อนที่ชั้นในสีขาวจะตามลงไป


“อ้าขาให้แด๊ดหน่อยสิครับ”


“อย่าพูดลามก อื้อออ…”ผมร้องประท้วงแต่ก็ยอมอ้าขาให้เขาแต่โดยดี


“แอ่นสะโพกสูงขึ้นหน่อยสิครับ”ผมซบหน้าลงบนโต๊ะด้วยความอาย บ้าไปแล้ว ท่านี้มันน่าอายเกินไป


ผมหลับตาปี๋รับสัมผัสเปียกชื้นที่ช่องทางด้านหลัง “คุณท่าน ไม่เอา สก…ปรก งรื้อออ…”ผมครางประท้วงเมื่อลิ้นร้อนสอดเข้ามาทักทายในช่องทางรัก เขาไม่เคยทำให้ผมขนาดนี้ ไม่ไหว…แบบนี้ไม่ไหว


แขนขาผมแทบอ่อนแรง สมองขาวโพลนไปหมด “อื้อ…คุณท่าน”ผมแทบขาดอากาศหายใจเมื่อลิ้นร้อนหมุนคว้านในช่องทางรัก


“ได้โปรด…”


“ครางชื่อชั้นสิ”


“รัตติ…กาล…อา ช่วยเข้ามาเติมเต็มผมที”พูดจบแล้วก็ได้แต่อายตัวเอง แค่เพียงปลายลิ้นของเขาเท่านั้นที่กระตุ้นให้ผมเป็นถึงขนาดนี้ ไหนว่ามัดจำไว้ก่อนไง


“อึก…”ผมกัดริมฝีปากตัวเองเมื่อท่อนลำขนาดใหญ่แทรกเข้ามาในร่าง มันคับแน่นจนจุกไปหมด


“ผ่อนคลายหน่อย เด็กดี”เขาทาบทับลงมาบนลำตัวผม พร้อมบดขยี้เม็ดบัวจนส่วนกลางลำตัวผมแข็งชูชัน


“อื้อ…ดี”คุณท่านครางต่ำข้างใบหูผม เขาดึงผมไปจูบพร้อมกับขยับสะโพกเข้าออก


“อึก…อื้อ…”สะโพกแกร่งหมุนวนในช่องทางรัก ก่อนจะเพิ่มจังหวะขยับเข้าออกรัวเร็วมากขึ้น


“อื้อ…อ๊ะ…อ๊า”สองแขนของผมถูกรวบไว้ด้วยมือข้างเดียวของเขา ลำตัวผมถูกดึงขึ้นในแนบกับอกอุ่นของเขา แต่ถึงจะมีการเปลี่ยนท่ายังไง สะโพกเขาก็ยังคงทำงานต่อไป


“ผมไม่ไหวแล้ว งรื้อ…”


คุณท่านอุ้มผมด้วยท่าเจ้าสาวขึ้นไปบนห้องนอน เขาวางผมลงบนเตียงด้วยท่าทีนิ่มนวลแบบที่ผมไม่เคยได้รับ


“นอนครางชื่อชั้นอย่างเดียวก็พอ”

.
.
.

ถึงปากคุณท่านจะบอกว่าเขาจัดการเอง แต่สุดท้ายผมก็เหนื่อยอยู่ดี เวลามีอะไรกันใครจะมานอนนิ่งเป็นขอนไม้ได้เล่า


ผมทุบอกเขาเบาๆด้วยความหมั่นไส้ ปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมดกว่าเขาจะหยุดได้
เกลียดนัก...พ่อคนร้อยท่า


“เป็นอะไร หื้มมม?”


“เซ็กส์จัด”คุณท่านหัวเราะแล้วยิ้มกว้างอย่างคนอารมณ์ดี “เคยบอกไปแล้วไงว่ารับให้ไหวแล้วกัน”


ผมเกลี่ยแผงอกแน่นๆของคุณท่านเล่น “เพราะแบบนี้รึเปล่า คุณถึงมีเด็กไปทั่ว”


“ใช่ ชั้นเป็นคนเซ็กส์จัด เสพติดความรุนแรงจากเซ็กส์ ไม่เคยมีใครรับชั้นได้นาน ดังนั้นถ้ามันเป็นความสัมพันธ์วินวินๆแบบเงินแลกเซ็กส์ก็น่าจะดีกว่า”


“ผมไม่อยากเป็นแบบนั้น” นิยาม ‘ได้คืบจะเอาศอก’ คงเหมาะกับผมในตอนนี้


“แยกไม่ออกรึไงว่า sex กับ make love มันต่างกันยังไง”


“คุณท่าน…”คุณท่านลูบแก้มผม “ถ้าชั้นยอมรับว่าเธอพิเศษต่างจากใครตั้งแต่แรก ชั้นคงไม่มีทางยกเธอให้คนอื่น"ไม่ว่าคุณท่านจะพูดยังไง ความจริงก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่ดี


“อย่าทำให้ชั้นสำคัญน้อยกว่าใคร”





ขอบคุณคอมเม้นท์และสกรีมแท็ก #พริ้มกับdaddy นะคะ

9 เดือนผ่านไป เราก็เดินทางมาถึงประมาณครึ่งเรื่องกันแล้วเนอะ

ขอบคุณที่ยังคอยติดตามอ่านกันเสมอมา



รักนักอ่านทุกคน
ขอบคุณจริงๆค่ะ



หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 14-10-2018 17:36:08
โอยเพิ่งผ่านไปครึ่งเรื่องแล้วจะมีพายุอีกกี่ลูกกันอ่านไปก็หวาดระแวงไปกังวลแทนพริ้มไปหมด  :katai1:
แต่ยังใงเราก็มองไม่เห็นความรักจากคุณท่านเลยรู้สึกได้แต่เป็นคนหวงของอยากเป็นเจ้าของเท่านั้นเองเราอยากให้คุณท่านได้เจอกับเรื่องราวที่ทำให้สำนึกได้มากกว่านี้อะแล้วธิวาหายไปใหน
แล้วฟ้าครามละเขาทำผิดอะไรถ้าต้องโดนทิ้ง หรือว่าถ้าฟ้าครามเรียนจบแล้วกลับมาคนที่โดนทิ้งจะเป็นพริ้มอีกคิดแล้วปวดตับ
เราอยากให้พริ้มมีความหนักแน่นเป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้ไม่ใช่พร้อมจะเอนเอียงเข้าหาคนที่เขาทำดีด้วยตลอดเวลา  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-10-2018 18:16:20
ลืมใครไปหรือเปล่า พริ้ม  :hao4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-10-2018 18:34:22
พี่ธิวาล่ะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 14-10-2018 18:50:18
เริ่มหวานกันแล้วววว เข้นแทนพริ้มเลย

 อ๊ากก แดดดี้
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 14-10-2018 21:46:52
อ่านตอนนี้ละรู้สึกว่าพริ้มงี่เง่ามากกกกกกกๆ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 14-10-2018 21:51:06
คงไม่มีดราม่าอีกนะคะ สงสารพริ้มมาก
คือรอดมาได้ ก็โชคดีที่คิดได้ว่าจะไม่ทำอีก

พริ้มคนบ้าบอ อ้อนได้ก็อ้อนหนักเลยนะ
กาลคือตัวร้ายที่แท้จริง รู้ตัวสักทีนะ ทำพลาดไปเยอะ
ธิวาหายไปไหนนะ กลับมาเหอะ เป็นห่วงแล้ว
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-10-2018 01:55:32
พี่ธิวาไปไสน้ออออ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 15-10-2018 02:36:41
พี่ธิวาของน้องไปไหนแล้วววว
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-10-2018 00:41:04
รอๆ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-10-2018 16:27:20
โอยเพิ่งผ่านไปครึ่งเรื่องแล้วจะมีพายุอีกกี่ลูกกันอ่านไปก็หวาดระแวงไปกังวลแทนพริ้มไปหมด  :katai1:
แต่ยังใงเราก็มองไม่เห็นความรักจากคุณท่านเลยรู้สึกได้แต่เป็นคนหวงของอยากเป็นเจ้าของเท่านั้นเองเราอยากให้คุณท่านได้เจอกับเรื่องราวที่ทำให้สำนึกได้มากกว่านี้อะแล้วธิวาหายไปใหน
แล้วฟ้าครามละเขาทำผิดอะไรถ้าต้องโดนทิ้ง หรือว่าถ้าฟ้าครามเรียนจบแล้วกลับมาคนที่โดนทิ้งจะเป็นพริ้มอีกคิดแล้วปวดตับ
เราอยากให้พริ้มมีความหนักแน่นเป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้ไม่ใช่พร้อมจะเอนเอียงเข้าหาคนที่เขาทำดีด้วยตลอดเวลา  :เฮ้อ:

คิดเหมือนอ่ะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 16-10-2018 18:55:26
ตอนนี้คือจะทำให้คนอ่านตายใจว่าทุกอย่างมันกำลังจะดีขึ้นเหรอ? ยังไงก็ยังคิดถึงธิวาอยู่ดีมาสักทีสิคนเขียนลืมจ่ายค่าตัวเหรอกลับมาทวงตำแหน่ง"แด๊ดดี้"ได้แล้ว
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: euphony19 ที่ 17-10-2018 00:31:45
เพิ่งมาอ่าน เลยอ่านรวดเดียวเลย
อ่านแล้วติด แต่หน่วงมากเลยสงสารน้อง :o12:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 17-10-2018 13:39:16
ธิวาหายไปเลย ตอนนี้กาลทำคะแนนสุดๆ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 20-10-2018 02:59:51
แล้วทิวาหล่ะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 20-10-2018 14:26:03
 :katai1:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 26 P.16 14.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 21-10-2018 00:15:40
พี่ธิวาของน้องไปไหน ฮือ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 21-10-2018 12:41:59
ตอนที่ 27

แสงแดดอ่อนๆในยามเย็นสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ผ้าม่านสีขาวพริ้วไหวไปตามแรงลม ส่วนผมกำลังนอนกอดหนังสือหลับอยู่บนโซฟา เอาจริงๆผมรู้สึกตัวตื่นสักพักใหญ่ๆแล้วตั้งแต่คุณท่านกลับมาถึงบ้าน เพียงแต่ความขี้เกียจทำให้ผมยังคงหลับตานิ่งอยู่ที่เดิม


เมื่อได้ยินเสียงล้อกระเป๋ากระทบบันได ผมจึงลืมตาตื่นขึ้นมองคุณท่านที่กำลังยกกระเป๋าเดินทางลงมาจากชั้นสอง “ชั้นทำให้ตื่นรึเปล่า”


“เปล่าครับ คุณจะไปไหน”


“มีประชุมด่วนที่สิงคโปร์”


“เดินทางปลอดภัยนะครับ”ผมลุกจากโซฟาเดินออกไปส่งเขาที่หน้าบ้าน คุณท่านทำท่าลังเลหันมามองผมหลายครั้งขณะที่ยกกระเป๋าขึ้นรถ


“คุณลืมอะไรรึเปล่าครับ ให้ผมไปเอาให้ไหม”


“ลืมเอาเธอไปด้วย”ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธอย่างรวดเร็ว คุณท่านไปทำงาน ไม่รู้จะตามไปทำไม


“ไม่เอาดีกว่าครับ ผมไปก็เป็นภาระเปล่าๆ”


“ชั้นไม่อยากทิ้งให้เธออยู่บ้านคนเดียว ชั้นเป็นห่วง”


“คุณไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ เดี๋ยววันเสาร์อาทิตย์ผมไปเล่นกับแฝดก็ได้”เสาร์อาทิตย์นี้ชวนคุณชัยพาแฝดไปสวนสนุกดีกว่า


“ไม่ได้!”คุณท่านปฏิเสธทันทีแบบไม่ต้องคิด เดี๋ยวนี้หวงผมแม้กระทั่งกับเด็ก “ชั้นให้เวลา 5 นาทีไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ชั้นจะรอที่รถ”


สิ้นคำสั่งประกาศิตของคนเอาแต่ใจ สุดท้ายผมก็ตกกระไดพลอยโจนมานั่งอยู่บนเครื่องบินส่วนตัวเหนือน่านฟ้าประเทศสิงคโปร์จนได้ ผมเกาะขอบหน้าต่างมองแสงไฟที่ส่องระยิบระยับจากภาคพื้นดินด้วยความตื่นเต้น ความสวยงามของแสงไฟยามค่ำคืนเหมือนดวงดาราที่ส่องประกายบนพื้นดิน


“ไม่กลัวความมืดแล้วเหรอ”ผมสั่นหัวปฏิเสธ ตั้งแต่กินยาตามที่คุณหมอสั่งและไปทำจิตบำบัดเป็นประจำ อาการผมก็ดีขึ้น แต่คุณหมอสั่งว่าห้ามหยุดยาเองเด็ดขาดถึงแม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม ต้องกินยาต่อเนื่องอีกเป็นปี สารเคมีในสมองถึงจะกลับมาเป็นปกติ


“สงสัยจะหายกลัวเพราะคุณซื้อบ้านที่มีแต่กระจก ตอนกลางคืนนี่วิวดี๊ดี ดำมืดไปหมด”ผมหันไปพูดหยอกคุณท่าน แต่ดูเหมือนคนตัวสูงจะไม่เล่นด้วยกับผม สีหน้าเขาฉายแววกังวลอย่างชัดเจน


ฝ่ามือหนาลูบบนศรีษะผมอย่างแผ่วเบา “ชั้นลืมคิดเรื่องนี้ไป ชั้นขอโทษ เธอหายกลัวแล้วจริงๆรึเปล่า”


“ผมไม่ค่อยกลัวแล้วจริงๆครับ”คุณท่านดึงผมไปกอดแนบอก เกยคางไว้บนศรีษะผม “ถ้าไม่สบายหรือรู้สึกไม่ดี พริ้มต้องรีบบอกชั้นรู้ไหม ห้ามเก็บไว้คนเดียวเด็ดขาดเลยรู้ไหม”


“ครับ”ผมรับคำอย่างว่าง่าย คุณท่านประทับจูบลงมาที่ข้างขมับแทนของขวัญเด็กดีที่เชื่อฟัง


“หิวไหม มื้อเย็นอยากทานอะไร”


ตาผมเริ่มเป็นประกายขึ้นมาเมื่อนึกถึงมื้อเย็น มีอาหารอย่างหนึ่งที่ผมอยากกินแต่ไม่รู้ว่าคุณท่านจะพาไปกินรึเปล่า


“ว่าไงครับ อยากทานอะไร”


“ข้าวมันไก่สิงคโปร์”คุณท่านหัวเราะขำพร้อมกับลูบศรีษะผมอย่างอารมณ์ดีหลังจากฟังคำตอบ


“มาตั้งไกล อยากทานแค่ข้าวมันไก่เนี่ยนะ?”


“งรื้อ คุณท่านอย่ามาขำผมนะ ก็วันก่อนที่เราดูรายการเที่ยวสิงคโปร์ด้วยกัน เขาพาไปทานข้าวมันไก่ มันดูน่าทานมากเลยนี่ครับ”


“ตามใจ”


“คุณหมีน่ารักจังเลยน้า”ผมซบหน้าลงกับบ่าคุณท่าน


“ว่าอะไรนะ”


“ฮื่อ ผมเปล่าพูดอะไรสักหน่อย”


ใช้เวลาบินชั่วโมงกว่าๆ ล้อเครื่องบินก็แตะรันเวย์สนามบินนานาชาติชางงีในที่สุด
ทันทีที่ก้าวลงจากเครื่อง รถลีมูซีนคันหรูก็จอดรออยู่แล้ว คุณท่านให้รถลีมูซีนไปส่งที่โรงแรม หลังจากเก็บของเสร็จ เราสองคนก็สละเรือ ไม่ใช่ละ สละรถลีมูซีนจอดทิ้งไว้ที่โรงแรม แล้วเลือกเดินมากินข้าวมันไก่ร้านดังซึ่งอยู่บน food court ในห้างที่ไม่ไกลจากโรงแรม


ผมเดินมองสองข้างทางไปเรื่อยเปื่อยแบบเด็กที่ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่ไม่เคยพบเคยเจอ “พริ้ม! ระวังรถ!”คุณท่านตะโกนเรียกชื่อผมเสียงดังพร้อมกับวิ่งมาดึงแขนผมไว้ไม่ให้โดนรถชน ผมว่าเมื่อกี้ตอนผมข้ามถนนไฟก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้วนะ


“เดินระวังหน่อยสิ ถ้าโดนรถชนขึ้นมา ชั้นจะทำยังไง”ผมหันไปมองหน้าคุณท่านที่กำลังดุผมอยู่อย่างงงๆ ถ้าผมโดนรถชนก็พาไปโรงพยาบาลไง ทำไมจะต้องถามว่าทำยังไง คนแก่นี่งงจริงๆ


หน้าตาหมีดุกับคิ้วที่ขมวดจนผูกเป็นโบว์แบบนี้ ท่าจะไม่ดีแล้ว…เหมือนพายุใหญ่กำลังจะก่อตัวเป็นเฮอริเคน “ขอโทษครับ งั้นเราเดินด้วยกันดีกว่าเนอะ”ผมคว้ามือคุณท่านมากุมแล้วดึงแขนเขาให้เดินไปข้างหน้าพร้อมกัน คุณท่านยอมเดินตามผมมา นิ้วของเราสอดประสานกันไว้เหมือนกับจังหวะก้าวเดินของเราที่เป็นจังหวะเดียวกัน


ผมหันไปยิ้มให้คุณท่านที่มีใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่จางๆ
โชคดีแค่ไหนที่อ้อนแล้วเขาหายโกรธ
ผมหลงรักช่วงเวลาแบบนี้


ร้านข้าวมันไก่สิงคโปร์เจ้าดังมีคนต่อคิวยาวเหยียด เรายืนรอนานมาก ผมบอกให้คุณท่านไปนั่งรอที่โต๊ะก่อน เดี๋ยวผมเข้าคิวซื้อให้เขาก็ไม่ยอม ระหว่างรอก็แอบกังวลนิดๆว่าเขาจะหมดความอดทนเมื่อไหร่


“มองหน้าชั้นหลายรอบแล้วนะ”


“ก็ผมกลัวคุณโมโหที่รอนานนี่”


“ตอนนี้ยังนะ”


“แต่อีกสิบนาทีก็ไม่แน่ใช่ไหมครับ”คุณท่านหัวเราะเสียงดังทันทีที่ผมพูดจบประโยค เหมือนครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่เขาดูผ่อนคลายเวลาอยู่กับผม


“กินชานมไข่มุกไหม ชั้นจะไปซื้อให้”ผมมองหน้าคนที่เอื้อนเอ่ยวาจาเสนอด้วยความแปลกใจ ผีตัวไหนเข้าสิงเขากัน


“รบกวนคุณเปล่าๆ”


“ไม่ต้องห่วง ชั้นคิดค่าจ้างสมราคาแน่”ผมได้แต่ถอดถอนหายใจ ‘ค่าจ้าง’ที่ว่าคงทำให้ผมฟ้าเหลืองทั้งคืนแน่


หลังจากคุณท่านไปซื้อชานมไม่นานก็ถึงคิวสั่งอาหารของเรา ผมสั่งไก่มาจานนึง ข้าวมันสองจานและซุปไก่ตุ๋นอีกหนึ่งอย่าง อิ่มกลิ้งตายกันไปข้าง


ผมเลือกที่จะนั่งรอเขาอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง นั่งมองผู้คนมากมายเดินเบียดเสียดกันบนถนน ชีวิตของคนที่นี่ดูวุ่นวายไม่ต่างอะไรไปจากกรุงเทพเลยสักนิด


ผมนั่งรออยู่นานจนควันร้อนของซุปไก่เริ่มจางลง คุณท่านถึงกลับมาพร้อมชานมไข่มุกมันม่วง เครื่องดื่มยอดฮิตในเวลานี้ “ทำไมไม่ทานก่อนละ”


“ผมรอคุณ”คุณท่านยิ้มเอ็นดู


“ถ้าวันหลังหิวก็ทานก่อนเลย ไม่ต้องรอ”เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยนจริงๆ ทีเมื่อก่อนผมกินขนมก่อนกินข้าวยังไม่ได้เลย ต้องรอกินพร้อมเขา


“ขอบคุณนะครับ”ผมเอ่ยขอบคุณแล้วหยิบแก้วชานมมาดื่ม ส่วนเครื่องดื่มของคุณท่านหนะเหรอครับ อย่าได้คิดเชียวว่าผู้ชายแบบเขาจะมาดื่มเครื่องดื่มหวานๆแบบนี้ อเมริกาโน่จากแม่เงือกเท่านั้นแหละที่เขาเลือก


“อร่อยไหม”


“อร่อย คุณชิมไหม”คุณท่านส่ายหน้าปฏิเสธแล้วเริ่มทานข้าว ผมตักไก่ใส่จานให้เขาก่อนจะเริ่มทานข้าวของตัวเอง เหมือนคุณท่านจะชะงักไปแต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยอะไรให้มากความ ผลเลยปล่อยเบลอไม่ถามอะไรแล้วตั้งใจกินข้าวของตัวเอง


กินจนอิ่มจุกแทบกลิ้งได้ ไก่ในจานก็ยังไม่หมด “คุณท่าน ใส่ห่อกลับบ้านดีไหม”


“ไม่ดี ชั้นไม่อยากให้เธอกินของค้างคืน”


“แต่…”


“ไม่มีแต่”จบประเด็น เลิกเถียงได้ ผมลุกจากโต๊ะด้วยความอาลัยอาวรณ์ ไก่จ๋า…พี่พริ้มลาก่อยยยยย


เราออกมาเดินย่อยอาหารกันที่ถนนสายชอปปิ้งสายหลักของสิงคโปร์ ข้าวที่ทานไปยังไม่ทันเรียงเม็ด คุณท่านก็ลากผมไปชอปปิ้ง เข้าร้านนั้นออกร้านนี้จนบรรดาถุงเสื้อผ้ารองเท้าจากแบรนด์ดังมากมายล้นมือจนผมถือไม่ไหว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเขาจะหยุดซื้อ


ผมหิ้วข้าวของมากมายที่เขารูดบัตรซื้อไปจนปวดนิ้วไปหมด สุดท้ายผมยอมพ่ายแพ้เอ่ยขอร้องเขา “คุณ วันนี้ซื้อแค่นี้ก่อนได้ไหม พรุ่งนี้ค่อยมาซื้อใหม่”


“อีกร้านนึง”เขาพูดจบก็เดินลิ่วไปเข้าร้านนาฬิกาแบรนด์ดังจากฝั่งยุโรป ผมนี่รีบวิ่งตามแทบไม่ทัน ถ้าไม่เสียดายเงินแทนคุณท่านนี่ผมแทบจะอยากเอาของทั้งหมดทิ้งไว้ตรงนี้แล้วเดินกลับโรงแรมคนเดียว


ผมเดินตามหลังคุณท่านเข้ามาในร้านนาฬิกา เลือกมุมสงบในการนั่งรอ ด้วยสภาพอากาศเย็นๆและความเหนื่อยล้าจากการเดินทางทำผมเกือบเคลิ้มหลับ แต่ในขณะที่กำลังเคลิ้มหลับ สัมผัสเย็นเยียบที่ข้อมือทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาซะก่อน


“ชอบไหม”ผมมองนาฬิกาสีเงินเรือนหรูที่มีหน้าปัดประดับเพชรด้วยความรู้สึกงุนงง สงสัยคุณท่านไม่อยากลองเองเลยให้ผมลองแทน “เหมาะกับคุณดีนะครับ”


“เหมาะกับชั้นเหรอ”ผมพยักหน้า ไม่เหมาะคุณท่านจะเหมาะกับใคร ดูก็รู้ว่านาฬิกาเรือนสีเงินเรือนนี้ วัสดุไม่น่าจะทำจากเงินแน่ๆ แต่น่าจะทำจากสิ่งที่แพงกว่านั้น อย่างเช่นแพลตตินัม


“I would like to have a big one also”หลังจากที่คุณท่านสั่งพนักงาน นาฬิกาอีกเรือนที่ดีไซน์เหมือนกันแต่หน้าปัดขนาดใหญ่กว่าก็มาปรากฎบนข้อมือคุณท่าน


ผมว่าผมเดาได้แล้วละ“คุณ ผมไม่เอานะ มันแพงเกินไป”


“ไม่เอาก็โยนทิ้ง”


“จะโยนทิ้งทำไมละคุณ ยังไม่ได้จ่ายเงินเลย คืนเขาก็ได้”


“ไม่ได้”ผมมองหน้าเขาด้วยความไม่เข้าใจ นาฬิกาบ้าอะไรแค่เอามาลองถึงกับคืนไม่ได้ แต่ก่อนจะโวยวายไปมากกว่านั้น ผมเลือกที่จะหันมาพินิจพิจารณาดูนาฬิกาบนข้อมือตัวเองอีกทีถึงได้เข้าใจว่าทำไมคืนไม่ได้


นาฬิกาที่สลักชื่อผู้ซื้อแล้ว ร้านไหนเขาก็ไม่รับคืนทั้งนั้นแหละ ขายต่อก็ไม่ได้เพราะคงไม่มีใครอยากใส่นาฬิกาที่มีชื่อคนอื่นอยู่บนตัวเรือน ถ้าผมไม่เอา ทางออกเดียวของนาฬิกาเรือนนี้คงเป็น ‘โยนทิ้ง’ แบบคุณท่านว่า


“ขอบคุณครับ”ผมยกมือไหว้ขอบคุณเขาอย่างยอมจำนน


“ซื้อให้แล้วก็ต้องใส่รู้ไหม หน้าปัดนาฬิกาทำจาก sapphire ใส่ให้ตายยังไงก็ไม่มีรอยขีดข่วน”ยิ่งฟังเขาพูดแล้วผมยิ่งรู้สึกผิด เพราะคำพูดของผมแท้ๆที่ทำให้เขาต้องเสียเงินซื้อนาฬิกาแพงๆให้


“ชั้นให้เพราะอยากให้ ไม่ได้คิดว่ามันมีมูลค่าเท่าไหร่”เขาพูดจบแล้วจูงมือผมออกจากร้าน


มือขวาของเราสองคนใส่นาฬิกาแบบเดียวกัน รุ่นเดียวกัน ต่างกันแค่ขนาดหน้าปัดนาฬิกา ผมแอบได้ยินพนักงานกระซิบกันว่านาฬิกาเรือนของผมเป็นนาฬิกาที่ถูกสั่งทำขึ้นพิเศษตามความต้องการของลูกค้า ส่วนเรือนของคุณท่านเป็นเรือนที่ทางบริษัทผลิตเพิ่มเพื่อให้ลูกค้าเลือกว่าชอบขนาดหน้าปัดนาฬิกาแบบไหนมากกว่ากัน


จริงๆตอนแรกคุณท่านคงตั้งใจแค่มารับนาฬิกาเรือนของผม แต่พอผมบอกว่ามันเข้ากับเขา เขาถึงยอมซื้ออีกเรือนกลับมาด้วย


นาฬิกาที่มีคู่เดียวบนโลก…นาฬิกาของเรา

.
.
.

“อื้อ…”ผมลุกจากเตียงด้วยความงัวเงียที่ถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่เช้าทั้งๆที่เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบรุ่งสางแล้ว คุณท่านที่กำลังผูกเนคไทด์ด้วยความเร่งรีบเดินมาหาผม “ชั้นมีประชุมทั้งวัน บัตรเครดิตกับเงินวางไว้ให้ที่หน้าทีวีแล้ว จะไปไหนก็ระวังตัวรู้ไหม ห้าโมงเย็นเจอกันที่โรงแรม”พูดจบเขาก็หอมแก้มผมหนึ่งทีก่อนจะคว้ากระเป๋าเอกสารเดินออกไป


ผมที่สติยังไม่เข้าร่างล้มตัวลงนอนต่อจนกระทั่งพระอาทิตย์เลยหัวไปถึงได้ตื่นขึ้นมา หลังจากอาบน้ำแล้ว ผมพึ่งสำเหนียกได้ว่าตัวเองไม่มีเสื้อผ้าใส่เลยสักชุด เมื่อคืนก็ไม่ได้ใส่ เวรกรรมแล้วทีนี้


ก่อนที่จะสติแตกไปมากกว่านั้น สายตาผมก็เหลือบไปเห็นถุงชอปปิ้งเมื่อวานที่วางเรียงเป็นตับของคุณท่าน ขอยืมใส่ก่อนสักชุดนึงแล้วกัน ผมเล่นจ้ำจี้มะเขือเปราะแปะเหมือนตอนเด็กๆเพื่อเลือกถุงที่จะขโมยมาใส่แล้วโดนโกรธน้อยที่สุด


“จ้ำจี้มะเขือเปราะแปะ กะเทาะหน้าแว่น พายเรืออกแอ่น อาบน้ำท่าไหน อาบน้ำท่าวัด เอาแป้งที่ไหนผัด เอากระจกที่ไหนส่อง เยี่ยมๆ มองๆ นกขุนทองร้องวู้ววว~”เอาเลย เอาถุงนี้นี่แหละ


หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้ว ผมก็ออกไปหาอะไรทานแถวโรงแรม โรงแรมที่ผมพักตั้งอยู่ใจกลางเมืองในย่านเศรษฐกิจ มีศูนย์การค้ามากมายล้อมรอบ


ผมเลือกที่จะเดินไปเรื่อยๆเพื่อหาร้านอาหาร ในระหว่างทางที่เดินผมเหลือบไปเห็นร้านติ่มซำข้างทางที่มีพนักงานออฟฟิศต่อแถวเข้าคิวค่อนข้างยาว ต้องเป็นร้านนี้แหละที่อร่อย พนักงานออฟฟิศมักจะมีความสามารถในการหาร้านอาหารที่ราคาไม่แพงมากแต่รสชาติดี


ระหว่างที่สั่งอาหารผมก็อดนึกถึงคุณท่านไม่ได้ ทานข้าวคนเดียวไม่เห็นอร่อยเลย


หลังจากทานอาหารกลางวันอิ่มตอนเวลาเกือบบ่ายสอง ผมก็เดินไปเรื่อยๆจนถึงริมอ่าวมาริน่า ผมใช้เวลาที่ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจมองครอบครัวที่พ่อแม่พาลูกมาปิคนิค คิดแล้วก็อดนึกถึงครอบครัวที่เหลืออยู่คนเดียวของผมไม่ได้


ไม่รู้ว่าตอนนี้น้องจะเป็นยังไงบ้าง กำลังทำงานหนักอยู่หรือเปล่า ได้นอนพักผ่อนบ้างไหม มีอาหารดีๆกินหรือเปล่า


นับตั้งแต่วันนั้นที่เราทะเลาะกันถึงขั้นที่ผมปฏิญาณว่าจะตัดขาดความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้อง สุดท้ายผมก็ทำไม่ได้ตามที่ลั่นวาจาไว้ ผมยังคงโอนเงินให้น้องทุกเดือนเหมือนที่ผ่านมา เพียงแต่ลดจำนวนลงให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของเด็กมหาลัยทั่วไป ถ้าเขาใช้เงินอย่างรู้คุณค่า เขาก็จะสามารถอยู่ได้จนถึงสิ้นเดือนได้สบายๆ


คิดแล้วก็แอบน้อยใจไม่ได้ ให้ไปเท่าไหร่เขาก็ไม่เคยรับรู้ พี่ชายคนนี้คงเป็นได้แค่ตู้เอทีเอ็มเคลื่อนที่


ผมนั่งมองผู้คนรอบตัวไปเรื่อยๆ จนกระทั่งฟ้าเริ่มมืดถึงได้รู้สึกตัว พอเหลือบมองนาฬิกาก็อดตกใจไม่ได้ หกโมงกว่าแล้ว...ถ้าคุณท่านกลับมาแล้วไม่เจอผมนี่เรื่องยาวแน่


ผมรีบวิ่งกลับโรงแรมแบบไม่คิดชีวิต เสื้อเชิ้ตสีครีมที่แอบยืมคุณท่านมาใส่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ทันทีก้าวเข้ามาในโรงแรม พนักงานต้อนรับหน้าประตูก็มองหน้าผมอย่างพิจารณาก่อนจะยกวิทยุสื่อสารขึ้นพูดอะไรกับใครสักคนซึ่งผมไม่มีเวลาจะสนใจฟัง ผมรีบวิ่งไปแสกนคีย์การ์ดเพื่อกดลิฟท์ขึ้นไปหาคุณท่านที่ห้อง แต่ดูเหมือนว่าลิฟท์จะไม่เป็นใจ รอนานแล้วก็ยังไม่มาสักที


ในระหว่างที่รอ ผมได้ยินเสียงฝีเท้ากระทบพื้นหนักๆ พอหันไปมองก็พบว่าเป็นคุณท่านที่รีบวิ่งมาด้วยท่าทีกระหืดกระหอบ เนคไทด์ที่ผูกไว้อย่างดีเมื่อเช้าถูกเหวี่ยงหายไปไหนไม่รู้ เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่ถูกรีดไว้เรียบกริบมีร่องรอยยับย่น ส่วนกระดุมเสื้อก็ถูกปลดออกเช่นกัน


“คุณท่านผมขอ…”ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยคำขอโทษจบ ร่างทั้งร่างของผมก็ถูกรวบเข้าไปจนจมอก


“อย่าหายไปแบบนี้”ผมลูบหลังคุณท่านเบาๆ เสียงหัวใจที่เต้นระรัวจากอกข้างซ้ายของคุณท่านดังออกมาจนแทบทะลุอก


“ผมขอโทษ”


คุณท่านไม่พูดไม่จากับผม หันไปขอบคุณพนักงานของโรงแรมแล้วก็พาผมขึ้นห้อง


ผมมองมือตัวเองที่ถูกคุณท่านกุมไว้ไม่ยอมปล่อยด้วยความแปลกใจ อะไรทำให้เขากุมมือผมแน่นขนาดนี้ ทำเหมือนว่าถ้าปล่อยมือแล้วผมจะหายไปเหมือนฟองอากาศ แต่ในที่สุดเขาก็ยอมปล่อยมือเมื่อเข้ามาในห้อง


คุณท่านยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเหมือนคนกำลังระงับอารมณ์แล้วเขาก็เดินเข้าห้องนอนไปทิ้งให้ผมยืนนิ่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นด้านนอก


ถูกโกรธอีกแล้ว…แต่ครั้งนี้ความผิดผมเต็มๆ
ถ้าไม่นั่งเหม่อจนลืมเวลา คงไม่ทำให้เขาต้องวุ่นวายตามหา


ผมออกไปนั่งริมระเบียงมองวิวยามค่ำคืนของประเทศสิงคโปร์ เหมือนกรุงเทพเลย…ช่างเป็นเมืองที่วุ่นวาย ในขณะที่ผมกำลังเหม่อมองวิว คุณท่านเข้ามาสวมกอดจากทางข้างหลัง


ผมยกมือขึ้นจับแขนเขาที่โอบเอวผมไว้ไม่ยอมปล่อย เขาไม่ยอมเอื้อนเอ่ยคำใดออกมา เอาแต่นิ่งเงียบ “ผมขอโทษที่หายไปโดยไม่บอก ขอโทษที่ทำให้คุณวุ่นวายตามหาผม”


“อย่าหายไปแบบนี้อีก”น้ำเสียงของเขาสั่นไหวเหลือเกิน คงไม่ได้คิดว่าผมหายไปเพราะหนีไปฆ่าตัวตายในต่างแดนหรอกนะ ผมดึงแขนเขาออกแล้วหมุนตัวกลับไปจ้องมองเขา


ดวงตาสีสวยที่ผมเคยชอบสั่นไหวจนน่ากลัว บางทีเขาอาจจะคิดแบบนั้นจริงๆ คิดว่าผมหายไปและจะไม่มีวันได้ผมกลับคืนมา


“สัญญาว่าจะไม่หายไปจนกว่าคุณจะเป็นฝ่ายไล่…”ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยจนจบประโยค เขาก็ก้มลงมาปิดปากผมด้วยรสจูบร้อนแรง แรงจนเป็นปากแตกเหมือนต้องการลงโทษ คุณท่านไล้เลียรอยเลือดบนริมฝีปากแล้วประทับริมฝีปากค้างไว้เนิ่นนาน ไม่ยอมผละออก


เขาเริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงทำร้ายกันไม่ยั้งมือ “ขอบคุณที่ไม่ทำร้ายผม”


“ใครว่า…เด็กไม่ดีต้องโดนลงโทษ”

.
.
.

คุณเคยมีแฟนไหมครับ? คำถามนี้อาจจะดูเจ็บปวดไปสักนิด แต่ถ้าคุณไม่เคยมีแฟน คุณคงไม่เข้าใจคำว่าสะโพกคราก ฟ้าเหลืองมันเป็นยังไง


ผมตื่นขึ้นมาตอนเที่ยงของอีกวันด้วยอาการปวดเมื่อยเนื้อตัวไปทั้งร่าง ‘เอาไม่อยู่’ จริงๆกับผู้ชายคนนี้


“ตื่นแล้วเหรอ”ลืมตาขนาดนี้คงยังไม่ตื่นมั้ง “ไม่ต้องมามองตาขวางเลย เด็กดื้อก็ต้องได้รับบทเรียนซะบ้าง”


“หึ!”ผมอดทำเสียงประชดไม่ได้ กลั้นใจคลานเข่าลงจากเตียง “โทษทีที่ของชั้นใหญ่ เดินขาถ่างเลยนะ”ถ้าเป็นคนอื่น ผมคงหันหลังไปชูนิ้วกลางใส่หน้า แต่นี่เป็นคุณท่านไงเลยทำไม่ได้


ผมมองสภาพร่างตัวเองในกระจกที่ดูไม่จืด มีแต่รอยจูบประพรมทั่วทั้งร่าง แม้แต่โคนขาด้านในก็ไม่เว้น แถมสิ่งที่น่าเกลียดที่สุดคือการที่เขาปล่อยเจ้าลูกชายหลายพันล้านตัวไว้ในร่างผมจนมันหยดย้อยเป็นคราบสีขาวขุ่นตามโคนขา


ไอ้คนแก่ลามก! เห็นทีจะต้องเห็นดีกันวันนี้แหละ


“นี่คุณ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”ผมออกไปยืนกอดอกต่อหน้าคุณท่านในร่างที่ยืมชุดเขามาใส่อีกนั่นแหละ


“เรื่องอะไร”


“คุณสดกับผมอีกแล้วนะ”


“เรื่องนี้เราเคยคุยกันไปแล้วนี่”


“แต่คุณกับผมยังไม่เคยตรวจเลือด”


“ใครว่า”พูดจบเขาก็หยิบผลเลือดจากในโทรศัพท์มาเปิดให้ดู ใบผลเลือดมาจากโรงพยาบาลที่ผมพักฟื้นรักษาตัวหลังจากกรีดข้อมือตัวเอง ผลบอกว่าผลเลือดเราเป็นลบทั้งคู่ นี่แอบเจาะเลือดผมไปตรวจตั้งแต่เมื่อไหร่


“นี่คุณ!”ผมโกรธเขาจนหมดคำจะพูด ทำแบบนี้มันริดรอนสิทธิส่วนตัวกันชัดๆ


“มานี่มา”ไม่ว่าผมจะโกรธเขายังไง สุดท้ายผมก็ยอมเดินไปนั่งข้างเขาอยู่ดี


“หน้างอคอหักเป็นปลาทูเลย”


“คุณนี่มัน…”     


“ผัวเธอไง”


“หยาบคาย”คุณท่านหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี และในระหว่างนั้นเสียงท้องของผมก็ร้องดังขึ้นประหนึ่งพสุธากัมปนาทเลยทีเดียว ข้าวเย็นเมื่อวานก็ไม่ได้กิน ข้าวเช้า ข้าวเที่ยงของวันนี้ก็เช่นกัน


“Chilli crab ร้านนี้น่าทานจังเลย เนอะ”ไม่อยากจะเนอะด้วยหรอก เกลียดการที่คนเจ้าเล่ห์หยิบมือถือมาไถอวดรูปอาหารขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของประเทศสิงคโปร์หลังจากที่ผมท้องร้อง


โกรธก็โกรธ หิวก็หิว


“ไม่อยากไปทานเหรอครับ ว้า…นี่ชั้นกะจะพาไปทานร้านดังติดอันดับหนึ่งเลยน้า น่าเสียดายจังที่เด็กแถวนี้ไม่อยากไป”


“งรื้อออ…”ผมหันไปร้องประท้วง เห็นวี่แววว่าจะแพ้เขาอีกแล้ว


“อยากไปทานเหรอครับ อยากไปต้องทำไง”คนเจ้าเล่ห์แตะนิ้วชี้เบาๆที่ข้างแก้มในเชิงเรียกร้อง ทำขนาดนี้ไม่รู้เลยว่าต้องการอะไร


“คุณมันคนขี้เอาเปรียบ”


“เห็นด้วยนะ ทำไงได้ละมีผัวขี้เอา”


“นี่คุณ!!!”คุณท่านหัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่เห็นผมโมโห เบื่อคนแก่ที่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นจริงๆ


“ไปครับไป ไปทานข้าวกัน อย่าพึ่งโมโหหิว”

.
.
.

ร้านอาหารหรูริมทะเลเป็นจุดหมายของเราสองคนในวันนี้ ผมนั่งมองแสงสีเสียงริมอ่าวอย่างตื่นตาตื่นใจระหว่างรอสั่งอาหาร


“พริ้มอยากทานอะไรครับ”


“อะไรก็ได้ คุณสั่งเลย”คุณท่านหันไปสั่งอาหารสองสามอย่างพร้อมกับสั่งบริกรให้เปิดแชมเปญมาขวดนึง


“ห้ามเมานะคุณ ผมแบกคุณกลับโรงแรมไม่ไหวนะ”


“ระดับนี้แล้วใครเขาเมากัน”ไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากเถียงคุณท่านต่อ เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนา


“ว่าไง”


“อยู่สิงคโปร์”


“ก็นั่งอยู่ด้วยกัน”หื้ม? ใครโทรมาถามถึงผมนะ พี่ธิวาใช่หรือเปล่า


“เออหน่า จัดการปัญหาชีวิตมึงให้เรียบร้อยก่อนเถอะ”


ผมเงยหน้าสบตาคุณท่าน อยากถามใจจะขาด แต่คิดว่าไม่ถามคงดีกว่า แค่รู้ว่าพี่ธิวายังมีลมหายใจไม่ได้ล้มหายตายจากไปไหนก็พอแล้ว


“ไม่อยากรู้รึไง”คุณท่านถามเหมือนต้องการจะหยั่งเชิงผม


“ถ้าคุณอยากให้รู้เดี๋ยวคุณก็บอกเอง”


“ดื่มสิ”ผมหยิบแก้วแชมเปญที่คุณท่านรินให้มาดื่มอย่างว่าง่าย รสชาติแชมเปญชั้นดีมีความหวานละมุ่นนุ่มลิ้น ต่างไปจากเหล้าราคาถูกที่ผมเคยดื่มเพื่อเก็บจำนวนดริ๊ง


“เมื่อกี้ธิวามันโทรมา ตอนนี้มันบินไปเคลียร์ธุรกิจใหม่ที่ทำกับเพื่อนที่อเมริกา คงต้องอยู่ยาวจนกว่าบริษัทจะเป็นรูปเป็นร่าง ส่วนเรื่องคุณพ่อเธอไม่ต้องเป็นกังวลเพราะมันทะเลาะกับคุณพ่อจนบ้านแตกไปแล้ว”


“บ้านแตกแล้วไม่ต้องกังวลนี่นะครับ?”ผมถามคุณท่านที่เริ่มมีตรรกะผิดเพี้ยน นี่คุณเมารึเปล่าเนี่ย


“ดีจะตาย ได้ทำอะไรอิสระตามใจ ไม่ต้องคอยกังวลว่าครอบครัวจะคิดยังไง”ระหว่างเล่าคุณท่านก็จิบแชมเปญไปด้วยท่าทีสบายๆ


“พี่ธิวาโอเคจริงๆเหรอครับ”รู้สึกไม่ดีเลยที่ทำให้พี่ธิวาต้องทะเลาะกับครอบครัวเพราะผม


“กังวลแทนมันเรื่องอะไรละ? เรื่องเงิน? เรื่องบ้าน? เรื่องมรดก?”


“คุณท่าน! คุณก็รู้ว่าผมไม่ได้กังวลเรื่องของนอกกายพวกนั้น”ที่ผมห่วงมากที่สุดตอนนี้คือ ความรู้สึกของพี่ธิวาตังหาก


“ตอนพวกชั้นจบม.ปลาย เราได้เงินขวัญถุงกันคนละก้อน จำนวนมันไม่มากแต่ก็ไม่น้อย เพียงพอให้คนๆหนึ่งตั้งตัวได้ ธิวามันเลือกเอาไปลงทุนซื้อหุ้นสายการบิน ทำให้ตอนนั้นมันกลายเป็นผู้บริหารสายการบินที่เด็กที่สุดในโลก  ดังนั้นเธอไม่ต้องห่วงว่ามันจะไม่มีกิน ตอนนี้มันก็แค่ขาดความสบายบางอย่างที่ครอบครัวเคยซัพพอร์ตให้เท่านั้นเอง”


“ที่โดนยึดบ้านก็เพราะเหตุผลนี้เหรอครับ”


“ไร้สาระ!”เอ้า! ถามแค่นี้ก็โดนดุ


“ชั้นถามจริง เธอไม่รู้จริงๆเหรอว่าทำไมมันต้องขายบ้าน”ผมนั่งนิ่งเงียบ ผมจะไปรู้ได้ไง ผมไม่ใช่พี่ธิวาสักหน่อย ตกลงพี่ธิวาขายบ้านไม่ใช่โดนยึดบ้านงั้นเหรอ


“ธิวามันสั่งห้ามชั้นพูด แต่ดูเธออยากจะรู้เหลือเกิน ชั้นจะบอกให้ก็ได้ ไม่มีใครทนอยู่ในบ้านหลังที่เคยมีคนฆ่าตัวตายได้หรอก แค่เดินเข้าบ้าน ภาพเลือดที่เจิ่งนองอยู่เต็มห้องน้ำก็วนเวียนกลับมาหลอกหลอนแล้ว”


“คุณพูดเหมือนเห็นภาพนั้นเองกับตา”


“แล้วเธอคิดว่าชั้นจะเห็นไหมละ”ไม่ต้องถามต่อให้มากความ คนแบบคุณท่านรู้ทุกเรื่องที่อยากรู้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเขาจะเก็บเรื่องพวกนั้นมาใส่ใจรึเปล่า


“ไม่ต้องมาทำหน้าหมาหงอย ก็เป็นซะแบบนี้ถึงไม่อยากบอก”


“ผมทำพี่ธิวาเดือดร้อน”


“หยุดโทษตัวเองเดี๋ยวนี้เลยนะพริ้ม ไม่งั้นชั้นจะจับเธอมาตีให้ก้นลายกลางร้านอาหารนี่เลย”


“คุณท่าน!”


“Excuse me,sir Would you mind me serving the food?”


“No,please”


ผมนั่งมองอาหารตรงหน้าด้วยความรู้สึกอิ่มจนจุก ไม่มีความอยากอาหารเลยสักนิด


“พริ้มมานั่งนี่”คุณท่านคงเห็นผมท่าทางไม่ดีเลยเรียกผมไปนั่งข้างๆ ผมซบหน้าลงกับต้นแขนเขา ปล่อยให้น้ำตาไหลรินลงมา ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ผมรู้สึกเสียใจ เสียใจที่การกระทำโง่ๆของผมส่งผลให้คนอื่นเดือดร้อนกันเป็นวงกว้าง


ถ้าจิตใจผมไม่อ่อนแอ…คำพูดของคุณพ่อพี่ธิวาคงไม่กระทบใจผม
ถ้าผมใช้สมองสักนิด…ผมคงไม่เลือกแก้ปัญหาด้วยการทำร้ายตัวเอง
แต่เหนือสิ่งอื่นใด การเลือกจบชีวิตตัวเองลงคือทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับผมในวันนั้น


คุณท่านปล่อยให้ผมร้องไห้เท่าที่ผมต้องการ ไม่มีคำถาม ไม่มีถ้อยคำปลอบใจออกมาให้รำคาญ


“ขอผ้าเช็ดหน้าหน่อย”ผมชี้นิ้วไปที่กระเป๋าเสื้อของคุณท่าน


“ไม่รู้จักพก”คุณท่านบ่นผมแต่ก็หยิบผ้าเช็ดหน้าให้ ผมแบมือขออยู่นานเขาก็ไม่ส่งให้


“เงยหน้ามองชั้น”และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คุณท่านบรรจงใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้ผม โดนดูแลแบบนี้มันก็ซึ้งอยู่หรอก แต่เช็ดแบบนี้มันสั่งน้ำมูกไม่ได้ ผมดึงผ้าเช็ดหน้าในมือคุณท่านมาแล้วจัดการสั่งน้ำมูกให้โล่งจมูก


“สกปรก!”ผมยิ้มขำกับท่าทางรังเกียจของคุณท่านเลยแกล้งเขาโดนการเอาจมูกไปถูไถที่ต้นแขน


“ออกไปไกลๆเลย”คุณท่านใช้นิ้วชี้ดันหน้าผากผมให้ถอยห่าง พอเป็นน้ำมูกละมาทำรังเกียจ ทีเมื่อคืนยังทำมากกว่านี้เลย


“อาหารเย็นชืดหมดแล้วเนี่ย”บ่นจบคุณท่านก็เรียกบริกรให้มาเอาอาหารไปอุ่นอีกรอบ


“คุณท่าน”


“อะไร”คุณท่านตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงรำคาญ แต่ผมไม่กลัวหรอก


“ขอบคุณนะครับ”


“อื้อ”


ผมแอบมองคุณท่านด้วยความขอบคุณ
โชคดีที่มีเขาเคียงข้างในวันนี้…ผมเลยก้ามข้ามความอ่อนแอได้ไม่ยากจนเกินไป




ตอนนี้เป็นตอนที่ยาวมากจริงๆ

เหมือนทุกอย่างจะดำเนินไปในทิศทางที่ดี (เหรอ)

5555555555

เราไม่ควรทำให้นักอ่านทุกคนหวาดผวาไปมากกว่านี้ เดี๋ยวจะเป็นไบโพล่ากันก่อนที่นิยายจะจบ

ฝาก #พริ้มกับdaddy ด้วยค่ะ



หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-10-2018 13:36:05
อีกแล้วววว.........
ไรท์ ทำให้หวาดผวาอีกและ   :serius2:
ก็เหมือนจะไปในทิศทางที่ดี แต่เหรอ ตามมานี่สิ   :z3: :z3: :z3:

คุณท่านทำตัวดีมากๆ  :mew1:
พี่ธิวา ก็กำลังไปได้ด้วยดี   :mew1:
ไรท์อย่าหลอกนะ ฮือ......  :sad4:

คุณท่าน -----> พริ้ม <----- พี่ธิวา   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 21-10-2018 14:08:22
คุณท่านแลดูซอฟท์
ปล.พี่ธิวาค่าตัวแพงจัง อิอิ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-10-2018 14:16:10
เป็นตอนแรกที่อ่านแล้วสบายใจที่สุด
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 21-10-2018 14:17:43
มันต้องดีขึ้นเรื่อยๆ สินะอจริงไหม
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 21-10-2018 16:02:10
เขาหวานมาหน่อย พอให้เราชื่นใจ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 21-10-2018 19:47:59
ใช่ค่ะอย่าให้เราต้องหวาดผวา ว่าจะมีเหตูการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นอีกเลยนะคะ  :call:
และหวังว่าสิ่งที่คุณท่านกำลังทำอยู่ในตอนนี้มันจะมาจากความรู้สึกรักพริ้มบ้างไม่ใช่มาจากการตามใจหรือเอาใจเพราะกลัวพริ้มจะคิดสั้นอีก  :hao4:
ส่วนธิวารีบกลับมาเด้อเดี๋ยวคุณท่านจะทำคะแนนน้ำหน้าไปไกล  :z1:
ป.ล.ฟ้าครามในตอนนี้กับคุณท่านแล้วคืออะไรหรือเคลียร์กันแล้วตั้งแต่ไปหาคราวก่อน แต่เราว่ายังอะคุณท่านคงปล่อยเบลอแน่เลย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 21-10-2018 20:51:19
กาลดีขึ้นเยอะเลย มีความแดดดี้ที่แท้จริง

พริ้มน่าตีเยอะขึ้น แต่ก็ดีนะ มีอารมณ์ มีส่วนร่วม
จิตใจเข้มแข็งขึ้นเยอะเลย จากที่ต้องเจอเรื่องร้ายมา

ธิวาก็เป็นห่วงอะเนาะ คนของเค้าเหมือนกัน
แอบสงสารธิวา ที่บ้านต้องตัดขาดกันเลยหรอ

หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 21-10-2018 21:06:37
งื้ออออออ.....ทำไมละมุนเหมือนไม่ใชุคุณท่านกับพริ้ม แต่เป็นแด๊ดดี้กับเจ้าหนูของเขา 55555


ปล. รอวัน ทู ทรีซะ.....ซั้ม.....  อิอิ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-10-2018 01:09:55
อะไรกันเนี่ย พฤติกรรมแบบนี้ของคุณท่าน กินยาแล้วลืมเขย่าขวดหรือเปล่า หรือกินยาไม่ครบ  :z3:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 22-10-2018 01:38:10
อย่าหลอกกันนะคะ เรื่องที่ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น :monkeysad: :m15:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 22-10-2018 01:40:07
คุณท่านนิสัยดีขึ้นมากๆ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-10-2018 01:40:22
ไรท์เพิ่งรู้เรอะ!!! เราว่าเรามีอาการจิตอ่อนๆจากเรื่องนี้แหละ555
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 22-10-2018 10:33:57
กังวลใจ กลัวดราม่า พริ้ม ขอให้ชีวิตต่อจากนี้ มีแต่ความสุข จิตใจเข้มแข็ง
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 22-10-2018 12:52:32
ตอนนี้หวานได้อีก ธิวามาแค่ชื่อเองรีบกลับมานะคนอ่านคิดถึง
หวังว่าพอคนชื่อฟ้ากลับมาคงไม่ต้องกินมาม่ากันเป็นกล่องนะ อยากกินผัดเผ็ดไม่อยากกินมาม่าเลย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 22-10-2018 17:21:54
นี่ส่วนตัวก็คิดว่าพริ้มเป็นคนพิเศษของคุณท่าน มาตั้งแต่แรกแล้ว  ที่แหวกกฎความชอบทุกสเปคของคุณท่านมาได้.. คุณชัยก็เคยพูดเป็นนัยๆว่าพริ้มนี่พิเศษ... แต่จะด้วยความที่คุณท่านไม่เคยเป็นสองและกลัวถูกหาว่ายึดติดกับพริ้ม(ในตอนนั้น) ทำให้เกิดการไม่แยแสเมื่อรู้สึกว่ากลัวจะติดพริ้ม(ตอนที่พริ้มถูกเอาไปเปรียบกับฟ้าคราม)  เลยยกพริ้มให้นอนกับธิวา  แล้วโมโหขึ้นไปอีกจนเอาพริ้มไปโยนทิ้งที่หน้าบ้านธิวา   ทั้งที่ตอนนั้นคุณชัยพูดนัยๆเหมือนพริ้มมีความสำคัญอะไรบางอย่าง....


เข้าใจอยู่ว่าตอนนี้เพิ่งครึ่งทาง   
เพราะยังมีบทไม่ครบความ3P   
และยังต้องมีบทพิสูจน์ความเชื่อใจ/ความหนักแน่นสุดท้ายของคุณท่านที่มีต่อพริ้มเมื่อฟ้าครามกลับมา

เอาจริงถ้าจะ3Pนี่  เท่าที่อ่านมา  พริ้มรับมือคุณท่านไม่อยู่
จะ3 Pไหวรึเปล่า
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-10-2018 09:00:49
รอๆ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 27 P.16 21.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Quatree ที่ 27-10-2018 14:51:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.17 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 28-10-2018 14:48:22
ตอนที่ 28

ณ ชั้นสูงสุดของโรงแรมที่มีชื่อเรียกห้องอาหารเก๋ๆว่า ‘Aqua shard’ เป็นห้องอาหารที่ติดกับสระว่ายน้ำซึ่งมีผนังกั้นเป็นกระจกให้ความรู้สึกเหมือน Infinity pool


“พริ้ม อยากได้อะไรอีกไหม”ผมที่กำลังทานข้าวพร้อมกับอ่านรีวิวท่องเที่ยวหันไปมองคุณท่านงงๆกับคำถามที่ได้รับ ‘อะไร’ ที่คุณท่านเอ่ยถึง นี่หมายถึงอาหารใช่ไหม


“ไม่แล้วครับ ผมอิ่มแล้ว”


คุณท่านถอนหายใจแรง “ชั้นไม่ได้หมายถึงอาหาร ชั้นหมายความว่าเธออยากซื้ออะไรอีกไหม”หรือคุณท่านจะคิดว่าผมอยากได้เสื้อผ้าแบรนด์เนมเพราะผมขโมยของเขามาใส่ โธ่! เข้าใจผิดกันไปใหญ่ ที่แอบเอามาใส่เพราะไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาด้วยตังหาก


“ไม่เอาหรอกครับ แค่ที่แอบขโมยของคุณมาใส่ ผมก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้คืนแล้ว”


“เด็กโง่ นั่นมันของๆเธอ ไม่ใช่ของชั้น”


“ของผม? ทั้งหมดเหรอครับ”ผมถามด้วยความไม่แน่ใจ แต่พอนึกย้อนกลับไปแล้วก็คงเป็นอย่างที่คุณท่านพูด ถ้าเสื้อผ้าพวกนั้นเป็นของคุณท่านผมคงใส่ไม่พอดีสักชุด


คุณท่านถอนหายใจด้วยท่าทีรำคาญใจ “ชั้นละเหนื่อยใจ”


“เราซื้อมายังไม่เกิน 7 วันผมว่าน่าจะเอากลับไปคืนแล้วเปลี่ยนเป็นไซส์คุณได้อยู่นะครับ”


“พริ้ม! ผู้ใหญ่ให้ของต้องทำยังไง”


“ขอบคุณครับ”ผมยกมือขึ้นไหว้เขาเพื่อขอบคุณ แต่ยกสูงไปหน่อยจนดูเหมือนคนกำลังไหว้เจ้า


“ทะลึ่งตึงตัง ทำตัวเป็นลิงเป็นค่าง”


นั่นละครับ แล้วมื้อเช้าของเราก็ผ่านไป ภารกิจต่อไปก็คือการลากคุณท่านไปปิคนิคริมอ่าวมาริน่า ระหว่างทางที่เราเดินไป ผมชวนคุณท่านแวะร้านแม่เหงือกเพื่อซื้อเครื่องดื่มกับขนม


“ผมอยากกินเค้ก”ผมดึงชายเสื้อคุณท่านเบาๆเป็นเชิงขอร้อง


“เลือกมาสิ ให้ชิ้นนึง”


“พริ้มขอสอง”ผมขอร้องตาปริบๆพร้อมกับชูสองนิ้ว


คุณท่านหันมายิ้มร้าย “เดี๋ยวพริ้มจะได้ศูนย์” พอโดนขู่ผมก็รีบเลือกอย่างรวดเร็ว เรื่องมากเดี๋ยวจะอด ไม่ได้สักชิ้น “ผมเอา Red velvetแล้วกัน”


“เครื่องดื่มละ”


“ขอนมวนิลลาร้อนครับ”


หลังจากได้ขนมแล้วเราก็เดินต่อไปที่หมาย ระหว่างทางผมก็ถามนู้นถามนี่เกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์ไปเรื่อยเปื่อย จนคุณท่านเริ่มรำคาญดึงไหล่ผมมาโอบแล้วปิดปากไว้


“พูดมาก”


“งรื้อ…”ผมร้องประท้วง สุดท้ายคุณท่านก็ยอมปล่อยมือแต่ยังทิ้งแขนไว้โอบไหล่เช่นเดิม


เราเดินไปเรื่อยๆจนในที่สุดก็มาถึงสวนสาธารณะที่สามารถมองเห็นวิวของสิงคโปร์ได้เกือบทั้งเกาะ บริเวณสวนสาธารณะค่อนข้างกว้างขวาง สามารถมองเห็นตึกที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปเรือซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของประเทศสิงคโปร์ และนอกจากนั้นยังมองเห็นชิงช้าสวรรค์อีกด้วย


“วันนั้นหายมาที่นี่ใช่ไหม”คุณท่านถามในขณะที่ปูผ้าเช็ดหน้าลงที่พื้นก่อนจะนั่งลง โถวพ่อคุณ กลัวกางเกงจะเลอะแต่ไม่กลัวผ้าเช็ดหน้าเลอะเลยเนอะ


“คุณรู้ได้ยังไง”


“เบื่อจะตอบคำถามเด็กโง่ละ”ผมเบ้ปากมองบนแล้วหยิบกล่องขนมเค้กมาแกะกิน แต่พอแกะกล่องขนมออกเท่านั้นแหละ สิ่งที่อยู่ภายในก็ทำให้ผมยิ้มกว้างตาเป็นประกายได้


“ไหนว่าคุณซื้อให้ผมชิ้นเดียวไง”


“Chocolate signature อีกชิ้นของชั้นไง”


“คุณไม่ชอบกินเค้ก อย่ามาขี้ตู่”


“รู้ดีอยู่แล้ว ยังจะถามมากอีก”ผมวางกล่องขนมเค้กลงข้างตัว แล้วเขยิบกายไปใกล้ชิดกับคุณท่าน แอบมองซ้ายมองขวาว่าไม่มีใครสนใจเรา ก่อนจะยืดตัวสูงขึ้นแล้วจุ๊บแก้มเขาแทนคำขอบคุณ แต่คนไม่รู้จักพอ เชยคางผมค้างไว้แล้วก้มลงมาจูบผมแทน


“ที่ไม่ซื้อให้เยอะ ไม่ใช่เพราะหวง แต่ไม่อยากให้ทานเยอะเพราะมันไม่ดีกับสุขภาพรู้ไหม”


“รู้แล้วคร้าบคุณพ่อ”คุณท่านโยกหัวผมเบาๆ


“คุณทานไหม”ผมตักเค้กถามเขาพอเป็นพิธี รู้ดีว่ายังไงเขาก็ไม่กิน


“พริ้มทานเลยครับ”


ผมนั่งละเลียดเค้กอย่างมีความสุขอยู่ข้างๆคุณท่านที่กำลังจิบกาแฟร้อน การใช้เวลานั่งมองทะเลไปเรื่อยเปื่อยแบบนี้ก็มีความสุขไปอีกแบบ


“พริ้มรู้ไหมว่าเวลาของชั้นไม่ได้หยุดเดินมานานแล้ว”ผมใช้เวลาประมวลผลในสมองสักพักถึงเข้าใจว่าเขาต้องการสื่อว่าอะไร


คำว่า ‘เวลาหยุดเดิน’ ในความหมายของเขาไม่ได้หมายถึงนาฬิกาตาย แต่หมายถึง การไม่ได้หยุดอยู่นิ่งๆเพื่อมองการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ที่ผ่านมาเขาคงเป็นคนที่ ‘วิ่ง’ มาโดยตลอด


“แล้วคุณชอบไหม”


“ก็ดี สบายใจดี”ผมยิ้มกว้างกับคำตอบที่ได้รับ อย่างน้อยตอนนี้ผมก็เป็นคนที่เขาสบายใจที่จะอยู่ด้วย


“พริ้ม”


“ว่าไงครับ”


“รักษาสัญญาด้วยนะ”สัญญาที่เขาพูดถึง คงหมายถึงสัญญาในวันนั้นที่ผมได้เอื้อนเอ่ยวาจาออกไปว่าผมจะไม่มีทางจากเขาไป ถ้าเขาไม่เป็นคนเอ่ยปากไล่ผม


“ถ้าวันนั้นมาถึง…”วันที่ผมไม่มีค่าพอที่จะอยู่ในชีวิตคุณอีกต่อไป “บอกผมดีๆได้ไหม ผมจะจากไปเอง แต่อย่าทำร้ายจิตใจกัน”


“ชั้นสัญญา”สำหรับผมคำพูดอย่างเดียวคงไม่พอเพราะการกระทำสำคัญกว่า คงต้องรอดูต่อไปเรื่อยๆว่าใครกันแน่ที่จะผิดสัญญาก่อน

.
.
.

การไปสิงคโปร์กับคุณท่านเหมือนเป็นของขวัญที่พ่อแม่พาไปเที่ยวระหว่างปิดภาคเรียน เพราะหลังจากกลับมา ตารางชีวิตผมก็ไม่รู้จักกับคำว่า ‘ว่าง’ อีกต่อไป


คุณท่านจัดตารางอ่านหนังสือให้ผมจนแทบไม่มีช่องว่างให้หายใจ ทุกวันผมจะถูกหนีบมาที่ทำงานของคุณท่านด้วย ผมมีที่อ่านหนังสือประจำก็คือโต๊ะเล็กๆข้างๆโต๊ะทำงานของเขา เพราะฉะนั้นอย่าได้คิดว่าผมจะมีเวลาอู้เชียว


ตามตารางวันนี้ผมต้องทำแบบทดสอบระดับภาษาอังกฤษ ผมแอบยิ้มกับคะแนนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทุกครั้งที่ทำ แต่สงสัยจะยิ้มกว้างเกินกว่าเหตุไปหน่อยทำให้กลายเป็นจุดสนใจของคุณท่าน “ไหนดูสิว่าได้กี่คะแนน”


“ไม่ให้ดู”ผมส่ายหน้าแล้วยัดใบคะแนนลงไปในเสื้อเชิ้ต


คุณท่านแบมือทำหน้าดุ “เอามาดู”


“ไม่ให้”


“พริ้ม นับ1”เอาอีกแล้ว ชอบบังคับผมจริงๆ เอะอะก็นับตลอด ทำเหมือนผมเป็นเด็กตัวเล็กๆ


“พริ้ม นับ2”


“พริ้ม นับ…”ก่อนที่จะนับครบสามแล้วผมจะถูกลงโทษ สุดท้ายผมก็ต้องยอมจำนนดึงข้อสอบออกจากเสื้อยื่นให้คุณท่านดู


“ก็แค่นั้น”


คุณครูจำเป็นหยิบแบบทดสอบไปเปิดผ่านๆ “คะแนนแย่กว่าชั้นตอนทำครั้งแรกอีก”ผมเบ้ปากใส่เขาด้วยความเซ็ง คะแนนระดับนี้เท่าที่ผมอ่านรีวิวมาในอินเตอร์เน็ตก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ผ่านแล้ว


“ถ้าอยากจะเรียนที่เดียวกับชั้น ความสามารถเธอจะแค่เทียบเท่าค่าเฉลี่ยของคนทั้วไปไม่ได้ คะแนนเธอต้องโดดเด่นติดอันดับท็อป ถ้าเรื่องกิจกรรมเธอไม่เด่น เราก็ต้องดึงคะแนนช่วย”ผมนั่งหน้าหงอยหลังจากโดนดุ


“รู้ไหมว่า acceptance rate มหาวิทยาลัยชั้นกี่เปอร์เซ็นต์”


“ไม่ทราบครับ”


“6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นพริ้ม ถ้าเธออยากจะเข้าเรียนจริงๆ เธอต้องเป็นคนที่ extraordinary ขึ้นมา จะมาทำตัวอยู่ในระดับ average ไม่ได้”ผมดึงแบบทดสอบคืนมาด้วยใจห่อเหี่ยว


“ไม่ได้พูดเพื่อให้เสียกำลังใจ แต่พูดเพื่อให้พยายามมากขึ้น เธอจะได้รู้ว่าจุดหมายของเธอควรอยู่ตรงไหน”


“ครับ”


“เดี๋ยวชั้นจะสั่งหนังสือมาให้เธออ่านเพิ่ม”


“แต่เท่าที่มีอยู่ก็เยอะแล้วนะครับ”ผมท้วงคุณท่านเพราะตอนนี้หนังสือที่มีที่บ้านก็กองจนแทบท่วมหัวผมแล้ว อีกอย่างหนังสือแต่ละเล่มที่คุณท่านเลือกใช่ว่าจะราคาถูก หลายๆเล่มต้องสั่งจากต่างประเทศด้วยซ้ำ


คุณท่านกดสายตาดุมองผม “ครับๆก็ได้ครับ คุณพ่อ”ดุกว่าหมาข้างบ้านก็คนนี้แหละ


เมื่อการต่อรองไม่มีผล การอ่านหนังสือเยี่ยงทาสจึงเป็นทางออกของปัญหานี้
ถ้ารู้นะว่าต้องอ่านหนังสือโหดขนาดนี้ ไม่ยอมตกลงง่ายๆแน่ว่าจะสอบเข้ามหาลัยเดียวกับคุณท่านให้ได้


แต่ถึงอย่างไร ถึงแม้ว่าสมองจะสั่งให้ผมอ่านหนังสือ แต่พอหนังท้องตึง หนังตาผมก็เริ่มหย่อน
หัวผมเริ่มโยกเยกไปตามแรงโน้มถ่วงด้วยความง่วง สุดท้ายเมื่อร่างกายทานทนความง่วงไม่ได้อีกต่อไป หัวผมก็ฟาดลงกับโต๊ะจนหน้าผากเป็นรอยแดง


คุณท่านส่ายหน้ายิ้มขำแต่ไม่เดินมาปลอบ ปล่อยให้ผมลูบหน้าผากตัวเองที่บวมปูด


“ชั้นมีประชุมถึงสี่โมง อย่าซนละ”เขาทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไปเข้าประชุม


แมวไม่อยู่…หนูก็นอนสิครับ
ผมล้มตัวนอนลงบนโซฟาด้วยความง่วง ขอพักสายตาสักพักละกันเนอะ


ความง่วงไม่เคยปราณีใคร สุดท้ายผมก็นอนพักนานเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ท้องฟ้าด้านนอกก็เป็นสีส้มแดงซะแล้ว


ผมลุกขึ้นจากโซฟาด้วยอาการงัวเงีย สอดสายตามองหาคุณท่านแต่ก็ไม่พบ พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว ทำไมคุณท่านยังไม่กลับมา อย่าบอกนะว่าลืมผมแล้วทิ้งผมกลับบ้านไปแล้ว


ผมเดินออกไปดูด้านนอกห้อง ไฟทุกดวงถูกปิดไว้มืดสนิท แม้แต่ไฟทางเดินก็ไม่เหลือเปิดทิ้งไว้สักดวง ขนาดเวลากลางวันชั้นผู้บริหารยังไม่ค่อยมีคน นับประสาอะไรกับเวลาเย็นย่ำแบบนี้


บรรยากาศมันวังเวงจนผมขนลุก สิ่งที่ได้ยินมีแต่เพียงเสียงแอร์เบาๆ ผมรีบวิ่งกลับเข้ามาในห้องคุณท่าน ดึงเสื้อสูทคุณท่านมาคลุมตัวแล้วนั่งหลบมุม


ผมไม่ชอบการถูกทิ้งไว้คนเดียวในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้เลย ยิ่งช่วงเวลาโพล้เพล้แบบนี้ ผมยิ่งไม่ชอบ ผมดึงเสื้อสูทคุณท่านให้คลุมกายแน่นมากขึ้น พยายามสูดกลิ่นกายคุณท่านจากเสื้อคลุมแล้วบอกตัวเองว่า ‘ไม่เป็นไร คุณท่านอยู่กับผม’


ผมนั่งรอคุณท่านอยู่นานก็ยังไม่มีวี่แววว่าเขาจะกลับมา สงสัยจะลืมผมทิ้งไว้ที่นี่แล้วจริงๆ ผมพยายามใจกล้าหยิบมือถือมาเปิดไฟฉายเพื่อใช้แสงสว่างเพียงน้อยนิดนำทางออกนอกห้อง ในขณะที่กำลังจะก้าวเท้าออกจากห้อง แสงไฟจากลิฟท์ที่กำลังเปิดก็สว่างขึ้น ผมรีบใส่เกียร์หมาวิ่งไปเข้าลิฟท์ พอเห็นเป็นคุณท่านกำลังจะก้าวเดินออกมา ผมก็ไม่รอช้าที่จะกระโดดกอดคอเขาเป็นลูกลิง


“พริ้มเป็นอะไร”ผมกอดคอซุกหน้าลงที่บ่าคุณท่านแน่น “กลับบ้าน กลับบ้านกันนะ”


คุณท่านลูบหลังผมที่กำลังตัวสั่นเป็นลูกนก “พริ้ม ปล่อยชั้นก่อน”


“ไม่ปล่อย กลับบ้านเรากันเถอะนะคุณ นะๆ”ผมกำเสื้อสูทเขาแน่นด้วยความกลัว ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว


“ไม่เป็นไร ชั้นอยู่นี่แล้วไง”


“กลับบ้าน”ผมขอร้องเขาด้วยเสียงระโหยโรยแรง


“เฮ้อ! กลับก็กลับ”


“ชัย ฝากจัดการที่เหลือด้วยนะ”

.
.
.

ผมนั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆคุณท่านในขณะที่รถติดไฟแดง คนตัวสูงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเหงื่อที่ซึมบริเวณไรผมให้


“พริ้มกลัวอะไรครับ”


“มันมืด ผมไม่คุ้นสถานที่”


“โทษที ชั้นติดประชุมยาว ลืมให้ชัยโทรบอกด้วย”


“ผมคิดว่าคุณลืมผมแล้วทิ้งผมกลับบ้านไปแล้วซะอีก”


“ตัวโตขนาดนี้จะลืมได้ไง”


“ที่ผ่านมาคุณก็ลืมตลอด”โดยเฉพาะวันไหนที่ผมอยู่โรงพยาบาลแล้วคุณชัยบอกว่าวันนั้นคุณท่านจะมาหา แสดงว่าวันนั้นคุณท่านจะไม่มา ลืมผมตลอด…


“งอแง”


ผมนั่งมองข้างทางไปเรื่อยเปื่อยจนสุดท้ายเราก็ฝ่ารถติดมาถึงบ้านสักที ผมรีบเปิดประตูลงจากรถแล้ววิ่งเข้าบ้าน การได้เข้าบ้านเหมือนได้เข้าหลุมหลบภัย ไม่รู้ทำไมแต่ผมสบายใจ


คุณท่านเดินตามเข้ามานั่งยองๆลงตรงหน้าผม “หายกลัวรึยัง”


“หายแล้ว”


“แน่นะ ห้ามโกหกนะ”


“หายแล้วจริงๆ”คุณท่านดึงผมไปกอดแล้วลูบหลังผมเบาๆอย่างปลอบประโลม ผมซบหน้าลงกับไหล่กว้าง รู้สึกอบอุ่นจนไม่อยากปล่อย 


“คุณ”คุณท่านผละออกจากอ้อมกอด “ว่าไงครับเด็กดี”


“อย่าทิ้งผมอีกนะ”


คุณท่านยิ้มจาง “ห้ามทิ้งนะ ห้ามทิ้ง ห้าม!”ผมปีนลงจากโซฟาไปนั่งคร่อมตักเขา รู้ว่าตัวเองไม่ได้ตัวเล็ก แต่อยากอ้อนอะ จะทำไม


“งอแงนะเราเดี๋ยวนี้”ผมเกี่ยวขากับเอวสอบแล้วโอบแขนรอบคอเขา


“ไม่ได้เหรอครับ”


“ไม่ได้”


“ขอโทษครับ”ผมปล่อยมือจากตัวเขาแล้วรีบลุกหนีแต่โดยดีก่อนที่จะโดนทำโทษ


“นอกจากงอแง เอาแต่ใจแล้วยังขี้งอนมากด้วย รู้ตัวไหม”


“ขอโทษครับ ต่อไปผมจะระวังมากกว่านี้ ขอโทษที่ไม่รู้หน้าที่ของตัวเอง”


“แล้วหน้าที่ของเธอคืออะไร”ผมมองเขาน้ำตาคลอด้วยความน้อยใจ รู้อยู่แก่ใจทำไมต้องย้ำกันด้วย กลัวผมจะหลงลืมตัวรึไงว่าผมอยู่ในสถานะไหนสำหรับเขา


ผมปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดจนหมดด้วยการตั้งใจประชด อยากจะให้ทำหน้าที่ดีนัก เดี๋ยวจะบริการให้ถึงใจจนตายคาอกกันไปข้างหนึ่งเลย


เข็มขัดยี่ห้อดังถูกผมถอดเหวี่ยงลงพื้น ตามด้วยกางเกงแสล็คสีเทา จนตอนนี้ผมเหลือเพียงชั้นในสีขาวไว้คลุมกาย


“นี่คือหน้าที่ของผมไงครับ คุณจะรับบริการเลยไหม”


คุณท่านยิ้มขำแล้วตบบ่าผม “หน้าที่ที่แท้จริงของเธอก็คือเก็บเสื้อผ้าที่ถอดเรี่ยราดนี่ให้เรียบร้อยแล้วไปอาบน้ำนอน ชั้นจะไปทำงานต่อ”


ผมมองคุณท่านที่เดินหนีไปทำงานด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม อะไรของเขา มีความสุขมากนักรึไงที่แกล้งผมได้ คนแก่ใจร้าย!


“อ้อ! คืนนี้นอนได้เลย ไม่ต้องรอ เพราะนับตั้งแต่วันนี้ชั้นจะแลก ‘มัน’ มาด้วยความรู้สึกเท่านั้น”เขาหันหลังกลับมาพูดแล้วขยิบตาข้างเดียวใส่ผม


พูดอะไรของเขา ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ช่วยพูดอะไรที่ผมเข้าใจหน่อยไม่ได้รึไง
จิตใจคนแก่ยากแท้หยั่งถึงจริงๆ



 



พบเด็กซึนที่โดนแกล้ง 1 อัตราแหละทุกคน

พรุ่งนี้เราสอบแต่ก็แอบแวบมาอัพน้อง #พริ้มกับdaddy

รู้สึกเหมือนนิยายดราม่ามากจนคนอ่านหนีไปพักใจกันหลายคนเลย

อย่าพึ่งไปไหนน้าาาาาา


หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: naezapril ที่ 28-10-2018 15:36:53
พริ้มน่ารักกกก​ ทำไมคุณท่านมุ้งมิ้งขนาดนี้
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 28-10-2018 16:44:14
เด็กโข่งน้อยใจเก่ง
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 28-10-2018 19:16:17
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 28-10-2018 19:27:43
เราชอบมาม่า แต่คุณท่านใจดีก็ดีต่อใจเราเหมือนกัน :o8:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-10-2018 19:47:57
ขอให้พริ้มสุขแบบนี้ไปนานๆ นะคุณท่าน  :hao5:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 28-10-2018 21:51:13
เรื่องราวจะดราม่าอีกไหมเนี่ย อยากให้พริ้มมีความสุขนานๆหน่อย ไม่ใช่แปบๆเครียดอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Quatree ที่ 28-10-2018 22:37:39
เมื่อไรธิวาจะกลับมา??
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 29-10-2018 00:41:54
ทิวาหาย........
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 29-10-2018 01:35:26
บรรยากาศแบบนี้คือกำลังดีอ่ะ สบายๆไม่มากไป ไม่น้อยไป รอพี่ธิวากลับมาช่วยกันเติมเต็มความรู้สึกให้แน่นขึ้นนะคะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-10-2018 04:31:07
เด็กขี้งอน
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 29-10-2018 06:58:27
คุณท่านอ่อนโยนขึ้น //รอพี่ธิวา
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: anythinginitt ที่ 29-10-2018 08:20:41
พี่ธิวาหายไปนานเลย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 29-10-2018 09:09:40
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 30-10-2018 15:23:38
พริ้มเด็กขี้งอนอยากให้บรรยากาศแบบนี้ไปอีกนานๆแต่จะดีกว่านี้ถ้าธิวากลับมา
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-10-2018 22:19:01
เหมือนจะดีนะ แต่กลัวๆอ่ะ.............   :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 01-11-2018 00:54:53
คุณท่านน่ารักขึ้น
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-11-2018 04:31:48
กาลดีขึ้นเยอะ พัฒนาไปมาก คงหลอนพริ้มทำอีก
บางทีก็ดี จะได้รู้บ้างว่าคนเค้าเจ็บเป็น เสียใจเป็น
และโชคดีมากที่พริ้มปลอดภัยมาให้ดูแล

พริ้มเป็นคนตลก งอแง ขี้อ้อน มีมุมเด็กเยอะอยู่
สงสารพริ้มนะ ที่บางอย่างน้องยังฝังใจ
กาลก็เทคแคร์มากขึ้น ใส่ใจเยอะขึ้น ต้องพกไปด้วย



หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: kawaiineko ที่ 07-12-2018 07:55:27
 :z13: จิ้มคนเขียน รออยู่นะ~
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Pangpang2535 ที่ 28-12-2018 19:16:58
รออยู่ค้าา
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 28-12-2018 19:42:34
หายไปนานจังเลย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-12-2018 11:24:49
หายไปสองเดือนแล้วนะไรท์   :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 29-12-2018 13:12:05
ตาลาย  นึกว่าอัพใหม่ 28ธันวา
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 28 P.18 28.10.61
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 29-12-2018 17:53:27
อ่านไปพร้อมกับ .????????ในหัวตลอดเวลา เอาจริงคือยังหาความสมเหตุสมผลของการกระทำของแต่ละคนไม่ได้ เดาได้อย่างเดียวคือทุกคนไม่ปกติอ่ะ ไอ้ที่หวานๆตอนนี้ก็ระแวงๆจะยังไง 3pนี่จะมาครบตอนไหน
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 30-12-2018 17:25:25
ตอนที่ 29

ช่วงรอยต่อระหว่างฤดูฝนและฤดูหนาวเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย น่านอนเป็นที่สุด ในขณะที่ฝนกำลังโปรยปรายก็ยังคงมีร่างๆหนึ่งนอนหลับฝันดีอยู่บนเตียงทั้งๆที่ตอนนี้นาฬิกาบอกเวลาเกือบสิบโมงเช้าแล้ว


อ้อมกอดอุ่นจากคนคุ้นเคยที่ห่างหายกันไปนานนับเดือนทำให้คนบนเตียงเอียงหน้าซุกเข้ากับแผงอกอุ่น ริมฝีปากนุ่มหยุ่นจูบเบาๆที่กลางหน้าผากด้วยความคิดถึง คนห่างไปไกลลูบศรีษะเด็กตัวโตในอ้อมกอดด้วยความเอ็นดู แค่เห็นหน้าก็หายเหนื่อยแล้ว


“งรื้อ…”เด็กโข่งตัวโตโอบกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ถูไถแก้มกับอกคนคุ้นเคยเพราะคิดว่าเป็นหมอนข้าง


สัมผัสอุ่นชื้นแนบประทับลงกลางหน้าผากอีกครั้ง ประทับค้างไว้เนิ่นนานจนคนที่โมเมว่าสิ่งที่ตัวเองกอดเป็นหมอนข้างลืมตาตื่น


“พี่ธิวา…”เด็กน้อยเรียกชื่อคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความไม่อยากเชื่อสายตา


ใช่เขาจริงๆรึเปล่า เป็นเขาที่มาอยู่ตรงหน้าผมจริงๆใช่ไหม หรือผมจะคิดถึงเขามากไปจนเกิดภาพหลอน


น้ำตาใสไหลเอ่อคลอในดวงตาด้วยความคิดถึง “ผมขอโทษ” ถ้อยคำที่ถูกเก็บค้างไว้ในใจกว่าหนึ่งเดือนถูกเอ่ยออกมาเป็นคำแรกตามที่เจ้าตัวตั้งใจไว้


“พี่เข้าใจ”แจ๊คเก็ตยีนส์สีเข้มถูกใช้แทนผ้าเช็ดหน้าเพื่อซับน้ำตาของเด็กขี้แย


“ร้องไห้โยเยเป็นเด็กไปได้ ไม่โตขึ้นเลยนะเรา”ถึงปากจะบ่นแต่มือก็คอยซับน้ำตาให้น้อง


“ก็พี่หายไปเป็นเดือน ติดต่อก็ไม่ได้ ผมคิดว่าพี่เกลียดผมไปแล้ว พี่รู้ไหมว่าผมคิดถึงพี่…อื้อ”ถ้อยคำมากมายที่พรั่งพรูออกมาถูกดูดกลืนด้วยริมฝีปากนุ่ม คนสองคนแลกเปลี่ยนสัมผัสกันด้วยความคิดถึง


“พี่ครับ ผมขอโทษจริงๆนะ”เด็กน้อยที่ได้มีเวลาทบทวนความคิดตัวเองเอ่ยขอโทษคนโตกว่าอีกครั้งด้วยความรู้สึกผิด


“พี่ต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษเรา ขอโทษแทนคุณพ่อพี่ด้วยนะที่พูดไม่ดีกับเรา”


“ไม่ใช่ความผิดท่านหรอกครับ พ่อแม่ทุกคนก็รักและเป็นห่วงลูกทั้งนั้น ผมเข้าใจ”


“ช่างเถอะ เลิกคุยเรื่องนี้กันได้แล้ว”


“พี่ธิวาปรับความเข้าใจกับคุณพ่อรึยังครับ ผมขอโทษจริงๆที่ทำให้พี่ทะเลาะกับครอบครัว”


“พริ้ม! ถ้ายังไม่หยุดขอโทษ พี่จะโกรธเราจริงๆแล้วนะ” ผมเม้มปากแน่นเอ่ยคำขอโทษอีกครั้งด้วยเสียงอ่อน “ผมขอโทษ” สิ้นเสียงคำขอโทษ พี่ธิวาก็ลุกออกจากเตียง เดินหนีผมไปแบบไม่เหลียวหลัง ผมรีบวิ่งลงบันไดตามเขาแทบไม่ทัน


นิ้วสองนิ้วของผมจับชายเสื้อเขาดึงไว้เบาๆ “ผมรู้ว่าการขอโทษมันทำให้พี่รำคาญ แต่ผมรู้สึกผิดที่ทำตัวไม่น่ารักกับพี่ทั้งๆที่พี่เป็นคนช่วยชีวิตผม”


“ผมเสียใจ ผมไม่อยากเป็นตัวซวยที่เข้ามาทำให้ชีวิตพี่พัง ผมเสียใจที่ทำให้พี่ต้องขายบ้านที่พี่รัก เสียใจที่ผมเป็นจุดเริ่มต้นทำให้พี่ทะเลาะกับคุณพ่อ” ผมพยายามกลั้นก้อนสะอื้นลงคอแล้วพูดความในใจต่อให้จบ “สุดท้าย ผมอยากขอโทษที่ทำให้พี่เสียใจ”


ผมสวมกอดเขาจากทางด้านหลังเบาๆ แนบหน้ากับแผ่นหลังอุ่นที่คุ้นเคย ปล่อยให้รอยน้ำตาเปรอะเปื้อนแจ็คเก็ตยีนส์ของพี่ธิวา “ยกโทษให้ผมนะครับ”


พี่ธิวาดึงมือผมออกจากเอว “พี่ไม่ยกโทษให้” น้ำตาที่ไหลอาบแก้มอยู่แล้วยิ่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่องไม่ยอมหยุดเมื่อได้ฟังถ้อยคำโหดร้ายจากปากคนที่รอคอย


“พี่ไม่ยกโทษให้…เพราะพี่ไม่เคยโกรธเรา”


“พี่ครับ…”


“เด็กดี”ผมโผเข้าไปซบอกอุ่นที่คุ้นเคย ฝ่ามือนุ่มลูบหลังผมเบาๆ “หยุดร้องได้แล้ว”


ผมเงยหน้าสบตากับพี่ธิวาด้วยตาแดงก่ำ คนตัวสูงกว่าโอบเอวผมไว้หลวมๆ “คิดถึง”


“พี่ก็คิดถึงเราเหมือนกัน”


“โกหก”


“เป็นเด็กเป็นเล็กมาหาว่าพี่โกหก”


“คนคิดถึงกันที่ไหนจะหายไปเป็นเดือน ติดต่อก็ไม่ได้”


“หึ!”พี่ธิวายิ้มขำ ปาดน้ำตาบริเวณข้างแก้มออกให้ผม “พี่ไม่อยู่นี่กาลซื้อเค้กให้กินทุกวันเลยใช่ไหม”


“พี่ธิวาอย่ามานอกเรื่อง!”


“ก็อ้วนขึ้นจริงๆนี่ แก้มยุ้ย พุงก็เริ่มย้วยแล้วรู้ไหม ห่วงยางก็กำลังมาแล้วนะพริ้ม”


“งรื้อออ…อย่าแกล้งผม คิกๆ”ผมพยายามขืนตัวหนีจากพี่ธิวาที่พยายามจี้เอวผมอยู่ ถึงจะเริ่มมีห่วงยางเหมือนเขาว่าแต่ผมก็ยังบ้าจี้อยู่นะ


“พี่ธิวาไม่เอา ฮ่าๆๆๆ โอ๊ย…”ผมโดนจี้จนลงไปนอนกองกับพื้น แต่พี่ธิวาก็ยังไม่ลดละตามลงมาแกล้งต่อจนสุดท้ายผมถูกพี่ธิวาคร่อมทับอยู่บนพื้น ข้อมือสองข้างถูกเขารวบไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียว


“คิดถึง…”ถ้อยคำต่อจากคำว่า ‘คิดถึง’ ของผมถูกดูดกลืนด้วยริมฝีปากร้อนของคนที่คร่อมทับอยู่ด้านบน คนที่ห่างเหินกันไปนานมอบรสจูบที่แฝงด้วยความคิดถึงส่งผ่านมาให้เช่นเดียวกัน ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน ดุดันและรุนแรง


กระดุมชุดนอนถูกแกะออกด้วยปลายนิ้วของคนตัวสูง ริมฝีปากร้อนขบเม้มผิวกายอุ่นของคนใต้ร่าง ฝากรอยประทับความเป็นเจ้าของไว้ทั่วทุกพื้นที่ที่ริมฝีปากลากผ่าน


ลิ้นร้อนลากวนเหนือแอ่งสะดือ ฝ่ามือนุ่มบีบเค้นบริเวณโคนขาด้านในขณะที่ริมฝีปากร้อนเองก็ไม่หยุดทำงาน ขบเม้มทักทายเจ้าเด็กน้อยที่อยู่ภายใต้กางเกงนอนจนมันแข็งโด่ชูชันขึ้นมา


“พี่…อื้อ…”เด็กน้อยอ่อนประสบการณ์แลบลิ้นเลียริมฝีปากด้วยความอยาก คนตัวสูงเห็นดังนั้นก็ยิ้มมุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์ ฝ่ามือหนาดึงร่างที่นอนอยู่ข้างใต้ให้ลุกขึ้นมานั่งทับบนตัก


ลิ้นร้อนของเด็กน้อยไล้เลียที่ริมฝีปากของคนตัวสูงอย่างกระเซ้าเย้าแหย่ก่อนจะสอดปลายลิ้นเข้าไปทักทาย สองลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันด้วยความคิดถึงเป็นท่วงทำนองเดียวกันกับสะโพกแน่นที่ขยับบดบี้ขยี้เจ้ามังกรให้ผงาดชี้ฟ้า


“ฮ้า…”คนบนตักดูดนิ้วตัวเองด้วยความเสียวกระสันต์ คนตัวสูงเห็นดังนั้นจึงผลักไหล่ให้เลื่อนตัวลงไปด้านล่าง


ผมกัดปลายซิปกางเกงยีนส์ของพี่ธิวาแล้วรูดลงช้าๆ อาศัยจังหวะที่เขายกสะโพก รูดรั้งกางเกงยีนส์ออกจากสะโพกแกร่ง เผยให้เห็นชั้นในสีแดงสดสกรีนยี่ห้อแบรนด์ดังปรากฎออกมา ผมเงยหน้าสบตาพี่ธิวาขณะที่พยายามกลืนกินเจ้ามังกรยักษ์ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้กางเกงชั้นใน


“อื้อ…ดี”ฝ่ามืออุ่นลูบเบาๆที่ท้ายทอยผม เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มมีอารมณ์ ผมจึงแหวกชั้นในออก เผยให้เห็นมังกรขนาดยักษ์ที่พร้อมพ่นพิษดีดตัวออกมา


ริมฝีปากอุ่นร้อนของผมครอบครองมันเข้ามาไว้ในปากทั้งหมดอย่างรู้งาน “อื้อ เก่งมาก เด็กดี”ผมดูดริมฝีปากจนแก้มตอบเพื่อทำรักให้เขา ขยับริมฝีปากเข้าออกจนมันแดงช้ำจากการเสียดสี



เมื่อใกล้ปลดปล่อย คนตัวสูงดึงไหล่ผมขึ้นมาจูบ รูดรั้งกางเกงนอนและปราการด่านสุดท้ายออกไปให้พ้นตา ผมรีบเอามือปิดเจ้าเด็กน้อยที่เริ่มหลั่งน้ำขาวขุ่นออกมาเพียงเพราะทำรักให้เขาด้วยปาก


คนเจ้าเล่ห์ใช้นิ้วเขี่ยวนที่ปากทางน้ำรัก เขาจับมันดีดเล่นอย่างคนขี้แกล้ง “เป็นเด็กไม่ดีเลยน้า แค่นี้ก็…” เขายิ้มร้ายแล้วรูดรั้งแรงๆโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ผมเสียวสะดุ้งสุดตัวจนต้องซี้ดปาก “ซี้ด…อา”


“ร้อยคำหวานก็ไม่เท่าภาษากายที่ตอบรับ พริ้มรู้ไหมครับ”พูดจบเขาก็กระทำย่ำยีเจ้าเด็กน้อยจนมันสิ้นฤทธิ์ปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมา ผมที่เสียวจนหมดแรงลงไปนอนแผ่อยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพ


“พี่ธิวาไม่ได้…อ๊ะ”ผมซี้ดปากตัวเองกลั้นเสียงครางเมื่อยังคงขยำขยี้ที่ส่วนปลายหลังผมสุขสม “ผม…อา ขอร้อง ผม…ซี้ด…เสียว”ช่วงเวลาหลังสุขสมเป็นช่วงที่ผมรับแรงกระตุ้นต่อไม่ไหวจริงๆ ผมเสียวจนสมองขาวโพลนไปหมด


“เสียวขนาดนั้นเลยเหรอครับ”เขาจับผมพลิกตัวคว่ำ หน้าผมแนบพื้น ฝ่ามือร้อนปล่อยเจ้าเด็กน้อยให้เป็นอิสระ


“อ้าขากว้างๆให้พี่หน่อยสิครับ”ผมหลับตาด้วยความอายแต่ก็ยอมอ้าขาให้เขา


“แอ่นสะโพกแล้วขยายรูให้พี่หน่อยสิครับ ห่างกันไปนานเดี๋ยวเราจะเจ็บ”คนใจร้ายพูดจาลามกจนผมอายแทบแทรกแผ่นดินหนี แต่ผมที่กำลังตกเป็นทาสทางกามารมณ์ของเขาลึกเกินกว่าจะหนีพ้น


เขาจับเจ้าก้อนเนื้อแน่นสองข้างแยกออกจากกัน เผยเห็นรอยพับจีบซึ่งเป็นปากทางของช่องทางรักชัดขึ้น ผมดูดนิ้วตัวเองให้มีสารหล่อลื่นเคลือบก่อนจะส่งนิ้วเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่ม จากหนึ่งเพิ่มเป็นสองจนเป็นสามในที่สุด “พี่…อื้อ ผมอึดอัด”


เพี้ยะ!
ฝ่ามือร้อนฟาดลงมาบนเนื้อสะโพกแน่น “ขยับสิครับเด็กดี ค้างไว้เฉยๆรูมันจะขยายได้ไงครับ”ผมกัดฟันแน่นด้วยความอายแต่ก็ยอมขยับนิ้วเข้าออก แต่ดูเหมือนจะไม่ทันใจเขา


นิ้วร้อนสอดเพิ่มเข้ามาในช่องทางรัก ผมเจ็บจี๊ดกับความคับแน่นที่ไม่เคยพบเจอ เจ็บจนเหมือนหูดับไปชั่วขณะ แต่ก็ยังมีสติรับรู้ถึงเสียงรถที่กำลังขับเข้ามาจอด


หวังว่าจะไม่ใช่คุณท่านที่กลับมาหรอกนะ นี่มันยังไม่เที่ยงด้วยซ้ำ! เขาจะกลับมาได้ยังไง? แต่เมื่อยืดตัวขึ้นมอง สิ่งที่ภาวนาไว้กลับไม่เป็นดังที่คิด


“พี่ธิวา ไม่เอาครับ คุณท่านกลับมาแล้ว”


“ทำไมละ? มันกลับมาแล้วทำไม”


“พี่ธิวา ผมขอ”


คนตัวสูงยิ้มร้าย “ได้สิครับ พริ้มขอทั้งที พี่จะไม่จัดให้ได้ยังไง”พูดยังไม่ทันขาดคำ ท่อนลำใหญ่โตก็สอดแทรกเข้ามาในช่องทางอ่อนนุ่มแทนนิ้วทั้งสี่


“พี่ธิวา พอเถอะครับ นะครับ”ผมยกมือไหว้ขอร้องพี่ธิวาเหมือนหมาจนตรอก ถ้าปล่อยให้คุณท่านกลับมาเห็นผมกำลังมีอะไรกับพี่ธิวา ศพผมไม่สวยแน่


“พี่…อ๊ะ ผมขอ…ร้อง”ผมขอร้องเขาด้วยเสียงอ่อนระโหยโรยแรงแต่เขาก็ยังไม่ยอมถอดถอนสะโพกออก แถมยังแกล้งผมเพิ่มมากขึ้นด้วยการหมุนวนสะโพกเพื่อหาจุดเสียวกระสันต์


“พี่…อึก…ผมขอ”ผมขอร้องเขาเสียงสั่น น้ำตาเริ่มไหลคลอด้วยความหวาดผวา


“ได้สิ แต่เราต้องทำตามที่พี่ขอ 1 อย่างแลกกัน”


“ครับ”


พี่ธิวาทาบทับกายผมแนบแน่นจนเหมือนเราหลอมรวมเป็นร่างเดียวกัน เขาดูดดึงเนื้อนิ่มบริเวณซอกคอจนเป็นรอยแดง แต่แค่นั้นยังไม่สาแก่ใจเขาเมื่อเขางับมันอีกครั้งจนเป็นรอยฟัน “พี่…อึก ผมเจ็บ”


“รอยจูบประทับสัญญา ถ้าพริ้มผิดสัญญาแล้วรู้กัน” ผมจับข้างลำคอที่เริ่มเจ็บๆแสบๆแล้วรีบกวาดเสื้อผ้าที่ถูกถอดเหวี่ยงทิ้งเรี่ยราดบนพื้นแล้ววิ่งขึ้นห้องนอนก่อนที่คุณท่านจะเปิดประตูเข้าบ้าน


เมื่อเข้ามาในห้องนอนซึ่งเป็นสถานที่ปลอดภัยแล้ว ผมรีบวิ่งไปอาบน้ำด้วยความเร็วแสง หลังจากแต่งตัวเสร็จ สายตาซุกซนของผมก็เหลือบไปเห็นคุณท่านกับพี่ธิวานั่งคุยกันอยู่ที่สวนด้านนอกบ้าน แอบฟังผู้ใหญ่คุยกันสักคำสองคำคงไม่เป็นอะไรหรอก (มั้ง)


ผมนั่งลงริมระเบียงแล้วเช็ดผมตัวเองไปด้วย


“ชั้นกลับจากอเมริกาทั้งที นายไม่คิดจะถามถึงฟ้าครามบ้างรึไง”พี่ธิวาถามคุณท่านด้วยท่าทีสบายๆ แต่ผมรู้สึกว่าคุณท่านเริ่มหน้าตึงเมื่อพี่ธิวาเอ่ยถึงคุณฟ้าคราม เหมือนชื่อนี้เป็นชื่อต้องห้ามที่ไม่ควรออกจากปากเขา


“ทำไมชั้นต้องถามถึงคนรักของตัวเองจากคนอื่น”


“หึ! คนอื่นงั้นเหรอ คบเขาแบบทิ้งๆขว้างๆ ระวังจะได้เปลี่ยนสถานะเป็นคนอื่นซะเอง”


“ไม่ใช่เรื่องของคนนอก”พี่ธิวายักไหล่ไม่แคร์ “ไม่พูดถึงฟ้าครามก็ได้ เพราะสำหรับเขาชั้นคงเป็นแค่คนอื่น แต่สำหรับพริ้ม มันไม่ใช่”


“จะเอาอะไร”คุณท่านถามกลับเสียงเย็น ผมแอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความเสียวสันหลัง


“อีกสองอาทิตย์ ชั้นต้องกลับไปอเมริกา ชั้นจะเอาน้องไปอยู่ด้วย”


“ชั้นไม่ให้”คุณท่านตอบกลับสวนพี่ธิวาไปทันทีโดยไม่ต้องคิดราวกลับคำว่าคำตอบนั้นถูกกลั่นกรองออกมาจาก Spinal cord แทนที่จะเป็นสมอง


“ชั้นไม่ได้ขออนุญาต มันเป็นแค่ประโยคบอกเล่า”


“ชั้น-ไม่-ให้-ไป”คุณท่านพูดย้ำทีละพยางค์เสียงดังฟังชัด ผมเริ่มถอยตัวจากระเบียงเข้าห้อง สภาวะกรุ่นโกรธทางอารมณ์ที่เริ่มปะทุแบบนี้ควรถอยหนีเป็นที่สุด


“เอาสิทธิอะไรมาห้ามน้องไม่ทราบ”


“ผัว”


พี่ธิวาเหยียดยิ้มเย้ยด้วยความร้ายกาจ “โทษทีวะ แต่กูก็ผัวน้องเหมือนกัน ถ้ามึงกลับมาช้ากว่านี้อีกนิด เราอาจจะได้เป็นผัวเมียกันอีกสักรอบ”


คุณท่านหันไปกระชากคอเสื้อพี่ธิวาจนตัวลอยจากเก้าอี้ “FUCK YOU!”


พี่ธิวายิ้มเย็น แกะมือคุณท่านที่ดึงคอเสื้อพี่ธิวาอย่างแรงจนผ้าแทบขาด “ไม่เอาหน่า โตแล้ว อย่าใช้กำลังแก้ไขปัญหาสิ สมองไม่ได้มีไว้แค่ประดับตกแต่งนะจะบอกให้”


“ถ้าชั้นไม่ให้ไปก็อย่าหวังว่าหมาหน้าไหนมันจะคาบไปแดกได้”คุณท่านผลักพี่ธิวาอย่างแรงจนหน้าแทบคว่ำ แววตาเขาวาวโรจน์เหมือนเสือที่จ้องจะฉีกเหยื่อเป็นชิ้นๆ


ผมรีบเขยิบมาหลบหลังผ้าม่านกลัวคุณท่านจะเงยหน้าขึ้นมาเห็น จะตีกันก็ตีกันไปเถอะครับ อย่าลากผมลงไปร่วมวงด้วยเป็นพอ


เมื่อได้นั่งครุ่นคิดแล้วก็ได้แต่สงสัย ทำไมพี่ธิวาถึงอยากให้ผมไปอเมริกาด้วยนะ เอาผมไปก็เป็นภาระเปล่าๆ แต่ช่างเถอะ ยังไงผมก็ไม่มีสิทธิตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตตัวเองอยู่แล้วนี่


เมื่อเช็ดผมจนมั่นใจว่าแห้งดีพอที่จะไม่โดนคุณท่านดุ ผมจึงลงไปด้านล่าง หวังใจว่าสงครามจะสงบดีแล้ว


“มานั่งนี่สิ”ผมเดินไปนั่งข้างๆคุณท่านที่นั่งไขว้ห้างรออยู่ที่โซฟา


ผมเงยหน้าสบตากับเขา คุณท่านหรี่ตามองผมเหมือนต้องการจะสำรวจ “พี่ธิวากลับไปแล้วเหรอครับ”


เขาไม่ตอบคำถามผมแต่ผลักผมนอนลงบนโซฟาแทน “เมื่อกี้ปล่อยให้มันทำอะไรบ้าง” ผมไม่ชอบใจคำพูดเขาเลย ทำไมต้องหาว่าผมปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ผู้ชายคนอื่นด้วย ไม่คิดบ้างรึไงว่าจะเขาจะบังคับผม


“คุณท่าน…”


“ไม่ต้องมาทำเสียงออดอ้อน บอกชั้นมาให้หมดว่ามันย่ำยีเธอตรงไหนบ้าง”ผมมองเขาที่เริ่มกลายร่างเป็นสัตว์ป่าพร้อมจะออกล่าเหยื่ออีกครั้งด้วยความหวาดกลัว


“จะบอกชั้นดีๆ หรือให้ชั้นหาเอง”ผมกลืนน้ำลายลงคอด้วยความกลัว กลั้นใจชี้ที่ปากตัวเอง เมื่อเขาได้รับคำตอบ คุณท่านทาบทับลงมาจนร่างของสองเราแนบชิด ริมฝีปากล่างของผมถูกดูดดึงขบกัดอย่างเอาแต่ใจ เสียงดูดปากแลกลิ้นดัง จุ๊บ อย่างน่าเกลียด


“ตรงไหนอีก”เขาถามต่อในขณะที่ริมฝีปากของเราสองแนบชิดติดกัน


ผมเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเองแล้วชี้ไปที่ลำคอ เรี่ยวแรงมากมายของคนโมโหที่พยายามใจเย็นกระชากเสื้อผมทีเดียวจนกระดุมหลุดกระจายไปคนละทิศละทาง


ลำคอที่มีรอยคิสมาร์กสีแดงช้ำเป็นหลักฐานชั้นดีว่าผมถูกกระทำย่ำยีมา ผมเบี่ยงลำคอหนีเมื่อคุณท่านลงลิ้นที่รอยแดง “อื้อ…”ผมสะดุ้งจนตัวแทบไม่ติดกับโซฟาเมื่อเขาฝังคมเขี้ยวลงมาทับรอยเดิม และสร้างรอยใหม่เรื่อยไปจนถึงเนินอก


รอยจูบสีแดงช้ำถูกสร้างเป็นตราประทับไว้ทั่วแผ่นอกเพื่อเป็นการตีตราจองแสดงความเป็นเจ้าของ


“ตรงไหนอีก”ยังไม่ทันที่ผมจะตอบคำถาม เม็ดบัวเม็ดน้อยก็ถูกเค้นคลึงจนผมแอ่นอกไม่ติดโซฟา กายร้อนเริ่มบิดเร่าด้วยเสียวกระสันต์ “อา…อื้อ…อึก”ผมพยายามกัดริมฝีปากตัวเองไม่ให้ครวญครางเสียงดัง ยิ่งผมพยายามทรมานตัวเองด้วยการกลั้นเสียงคราง เขาก็ยิ่งเร่งเร้า ยอดอกอีกข้างถูกเขาครอบครองด้วยริมฝีปากร้อน เขาดูดดึงมันเหมือนทารกกำลังดูดนมมารดา


“โอ้ว..อา..”ผมพยายามดันหัวเขาออกจนเกิดเสียงจุ๊บเมื่อเขาปล่อยลิ้น แบบนี้มันน่าอายเกินไปแล้ว


“ตรงไหนอีก ชั้นถามว่าตรงไหนอีก”ผมชี้นิ้วลงต่ำกว่าใต้สะดือ คุณท่านเลื่อนตัวขึ้นมาดูดปากสั่งสอนผมจนบวมเจ่อ “มันกลับมาแปปเดียวก็อ้าขาให้มันเลยนะพริ้ม”


“คุณท่าน…ไม่ อื้อ…”ผมพยายามขยับกายหนีเมื่อเขาจับลำตัวผมพาดกับโซฟา กางเกงถูกดึงไปกองที่ข้อพับเข่าพร้อมกับชั้นใน


นิ้วร้อนสอดเข้ามาทีเดียวสามนิ้ว “หลวมเชียวนะ” ผมที่ห้อยหัวอยู่ที่โซฟารู้สึกเหมือนกำลังจะหน้ามืดเพราะถูกจับให้อยู่ในท่าตีลังกา


“หมาที่มันอ้าขาให้ตัวผู้ตัวอื่น มันต้องถูกลงโทษ รู้ไหม”ไม่ทันได้ตั้งตัว ขาผมสองข้างถูกจับฉีกออกจากกันแล้วเขาก็ดันท่อนเนื้อขนาดมหึมาเข้ามาโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว


“คุณ…อา ซี้ด…”ผมครางแทบไม่เป็นภาษาเมื่อเขารัวสะโพกในจังหวะที่รุนแรงมากขึ้น ลำตัวของผมบิดเร่าตามแรงเร้า ยอดอกเสียดสีกับโซฟาจนเจ็บไปหมด


“โอว…อึก…”ผมกัดปากสั่นๆของตัวเองแน่นด้วยความเสียวเมื่อเขางัดสะโพกกระแทกจุดกระสันต์


“จะอ้าขาให้มันอีกไหม”คุณท่านหมุนควงสะโพกจนผมน้ำตาซึม อึดอัดทรมานเหลือเกิน


“ผม…ไม่ อึก…รู้”


“ร่านอย่างซื่อสัตย์ดี สัตว์เลี้ยงของฉัน”พูดจบเขาก็กระแทกกระทั้นจนตัวผมสั่นไหวไปตามแรงอัด


“คุณท่าน โอว…แรงอีก แรง…อา”ผมเด้งสะโพกรับกับแรงกระแทกของเขา ตอนนี้ในหัวคิดอะไรไม่ออก มีแต่ความต้องการที่อัดแน่นจนสมองขาวโพลนไปหมด


“คุณ ผมจะ…ไป”ความทรมานด้วยความเสียวจบลงเพียงเพราะคำพูดประโยคเดียว คุณท่านถอนกายออกโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ผมหันหลังมองเขาน้ำตาคลอ ความรู้สึกถูกกระชากตกสวรรค์มันทรมานเหลือเกิน


“อยากมากไหม”ผมเกลียดรอยยิ้มร้ายกาจของเขาที่สุด


“ถ้าอยากมากก็ช่วยตัวเองสิ”พูดจบเขาก็เปิดลิ้นชักใต้โซฟาหยิบบรรดาของเล่นออกมาโยนใส่ผม


ผมส่ายหน้ายกมือไหว้ขอร้องเขา “คุณ ไม่เอา ผมกลัว”


“ไม่มีอะไรบนโลกที่น่ากลัวกว่าชั้นแล้วพริ้ม”


“ฮึก คุณ ไม่เล่นแบบนี้”


“จะทำเองหรือให้ชั้นทำให้”ผมมองหน้าเขาน้ำตาคลอ จำใจคลานลงจากโซฟาไปหยิบของเล่นที่เล็กที่สุด ผมแกะมันออกจากซองพลาสติกด้วยมือที่สั่นไหว “คุณ ฮึก…ไม่เล่นอันนี้ได้ไหม”


“ไม่ได้! เด็กไม่ดีต้องถูกลงโทษจะได้หราบจำ”


“ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ฮึก…ทำไมคุณไม่ไปว่าเขาบ้าง”ความสัมพันธ์แบบเราสองสามคนแบบนี้ใช่ผมที่เรียกร้องให้เกิดที่ไหน คุณท่านนั่นแหละที่สร้างมันมากับมือ แล้วเขาจะมาโทษผมได้อย่างไร


คุณท่านดึงผมให้ลุกขึ้นยืน เขาคล้องเอวผมไว้แล้วเค้นคลึงที่สะโพกแน่น “ถ้าเธอไม่อ้าขา มันจะสอดเข้ารูได้ยังไง”ความผิดผมคนเดียวเลยสินะ


ผมเงยหน้ามองเขาน้ำตาคลอ กลัวของเล่นก็กลัว แต่กลัวเขามากกว่า เกิดผมขัดขืนแล้วเขาลุกขึ้นมาเฆี่ยนผมด้วยแส้เหมือนครั้งก่อนจะทำยังไง


“ถ้าใส่เข้ามาแล้วผมไม่ไหว คุณต้องหยุดนะ”แค่เห็นของเล่นก็นึกถึงวีแล้ว ผมกลัวว่าผมจะไม่ไหวเกิดประสาทหลอนเหมือนคนบ้าขึ้นมาอีก


“เชื่อใจชั้นสิ”คุณท่านอุ้มผมขึ้นมาจากพื้น ผมโอบรอบคอแล้วเกี่ยวเอวเขาไว้กันร่วง ริมฝีปากเขาและผมแลกเปลี่ยนรสรักกันไม่ห่าง ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราขึ้นมาถึงห้องนอนตั้งแต่เมื่อไหร่


คุณท่านวางผมลงบนเตียงนอนอย่างนุ่มนวล เขาหยิบวัตถุสีชมพูที่มีรูปร่างเหมือนไข่ขึ้นมาให้ผมดู “จับมันสิ”ผมใช้มือสัมผัสมัน สัมผัสของมันเรียบลื่นและเย็น คุณท่านค่อยๆเพิ่มระดับการสั่นจนถึงระดับสูงสุด “มันไม่ได้น่ากลัวเลยเด็กดี”


“คุณ…”ผมร้องประท้วง รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กที่กำลังถูกหลอกล่อด้วยของเล่น


“อ้าปากสิครับ”ผมมองหน้าเขาอย่างชั่งใจ หวาดกลัวสีหน้าท่าทางแบบนี้ของเขาเป็นบ้า ผมเปิดปากตามคำสั่งเขาแล้วรับเจ้าของเล่นเข้ามาไว้ในปาก ความรู้สึกแรกที่ร่างกายต่อต้านมันเหมือนจะอ้วก คุณท่านรีบดึงมันออกแล้วดึงผมไปจูบ


“หายใจเข้าออกลึกๆเด็กดี อย่าไปกลัว คิดว่ามันเป็นของชั้น”ผมมองเขาน้ำตาคลอด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ยอมเปิดปากรับมันเข้ามาอีกครั้ง


เขาค่อยๆวางมันแตะที่ปลายลิ้นผม แล้วเพิ่มระดับสั่นมากขึ้นเรื่อยๆ “ลองอมดูสิพริ้ม” ผมทำตามคำสั่งเขา อมมันไว้ทั้งหมดในช่องปาก รู้สึกกลัวจนหายใจไม่ออก


“อย่ากลั้นหายใจเด็กดี”คุณท่านปลอบประโลมผมด้วยการเค้นคลึงยอดอก “หายใจเข้าออกลึกๆ”ผมสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดแล้วค่อยผ่อนออกช้าๆ สุดท้ายผมก็ค่อยๆปรับตัวรับกับมันได้


“ชันขาขึ้นสิ”ผมหลับตาเอียงหน้าซุกลงกับเตียงด้วยความอาย กลั้นใจชันขาขึ้นเป็นรูปตัวเอ็มตามที่เขาสั่ง คุณท่านค่อยๆเคลื่อนกายลงไปด้านล่างจนผมต้องสะดุ้งลืมตามองเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสเปียกชื้นที่ช่องทางด้านหลัง


“คุณ อย่า…มันสกปรก”


“คุณ งรื้อออ…”ผมบิดกายเร่าด้วยความเสียว ทุกครั้งที่โดนลงลิ้นที่ช่องทางรักมันปั่นป่วนไปทั่วร่าง


ลิ้นร้อนไล้เลียปากทางเข้าอย่างทักทาย ก่อนที่ฝ่ามือหนาจับขาแยกกว้างขึ้นแล้วส่งลิ้นเข้ามาในช่องทางอ่อนนุ่ม สัมผัสเปียกชื้นในช่องทางรักให้ความรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อนับร้อยตัวบินวนอยู่ในท้องน้อย


ในขณะที่ผมกำลังเคลิบเคลิ้ม เจ้าไข่สั่นถูกดันเข้ามาในร่างผมทีละนิด “คุณ ไม่…อื้อ”คุณท่านหยัดกายขึ้นมานอนในระดับเดียวกับผม เขาคว้าคอผมไปจูบจนไม่มีช่องว่างให้ร้องอุธรณ์


“คุณ…”ผมมองเขาน้ำตาคลอเมื่อเจ้าไข่สีชมพูถูกช่องทางคับแน่นของผมกลืนกินไปจนหมด


“เดี๋ยวมันจะดีเอง”เขาพูดปลอบประโลมในขณะที่เพิ่มระดับสั่นจนถึงระดับสูงสุด


“คุณ ไม่…ไหว อืออ…”คุณท่านดึงความสนใจของผมด้วยการดึงไปจูบและจับผมพลิกลำตัวไปที่ปลายเท้าเขา “ช่วยชั้นหน่อยสิ เด็กดี”ผมอ้าปากรับเจ้าลูกชายเขาเข้าปากทั้งน้ำตา


“โอว คุณ…ผมทรมาน อา…”ผมครางอย่างหมดท่า ซบหน้าลงกับต้นขาแกร่งของเขาเมื่อกระตุ้นน้องน้อยของผมพร้อมกับขยับไข่สั่นเข้าออก


“อือ…อา ซี้ด…”ผมปล่อยให้แก่นกายกลางลำตัวของคุณท่านเสียดสีบริเวณใบหน้าอย่างหมดสภาพ ผมไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะปรนเปรอเขาอีกต่อไป


ขาของผมสั่นด้วยความเสียวจนต้องล้มตัวลงนอนทาบทับต้นขาเขา เจ้าไข่สั่นถูกดันเข้าออกครูดกับผนังช่องทางรัก มันแหวกว่ายไปมาเหมือนลูกอ๊อดที่แหวกว่ายอยู่ในธารน้ำ โดยเฉพาะเวลาที่เจอจุดกระสันต์มันก็เอาแต่พุ่งชนย้ำสัมผัส จนสะโพกผมบิดเร่า


น้ำกามสีขาวขุ่นไหลปริ่มๆที่ส่วนปลายจากการโดนกระตุ้นพร้อมกันทั้งสองทาง


“คุณ อื้อ ผมจะไป…”ผมปลดปล่อยออกมาอย่างหมดสภาพ คุณท่านดึงตัวผมขึ้นไปนอนแนบอก เขาปรนเปรอจูบให้ผมจนน้ำลายใสไหลเยิ้มที่มุมปาก


จุ๊บ
เขาจุ๊บเบาๆที่ข้างแก้มผมเป็นรางวัลเด็กดี การถูกกระตุ้นด้วยของเล่นและการช่วยของคุณท่านมันทำให้ผมเสียวสะท้านไปทั้งตัว เหนื่อยเหมือนพึ่งไปออกสนามรบ


คุณท่านลูบใบหน้าที่ชื้นเหงื่อของผม “เด็กดี”


“คุณ ผมไม่ไหวแล้วนะ เอามันออกไป”


“แต่ชั้นยังไม่ได้ปลดปล่อยเลยนี่ เธอจะมานอนตัวเบาคนเดียวได้ไง”


“คุณ…อื้อ…มะ…ม่าย”


เขางับเบาๆที่ติ่งหูผม “ยังมีของเล่นอีกหลายอย่างที่เรายังไม่ได้ลองกันเลยนะ”













หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 30-12-2018 17:30:16
หายไป 2 เดือนเลยกับการที่ไม่ได้ลงนิยายอย่างต่อเนื่อง

ชีวิตช่วงที่ผ่านมาเหนื่อยหัวหมุนมากจริงๆค่ะ

ช่วยภาวนาให้อีก 3 เดือนที่เหลือของปีการศึกษานี้ผ่านไปได้ด้วยความราบรื่นเหมือนกลีบกุหลาบปูทางด้วยเถอะนะคะ

อยากจะสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าทุกคน แต่ก็แอบคิดว่าจะแวบมาลงอีกสักตอนในวันส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่เป็นของขวัญให้นักอ่านที่ยังคงรอติดตามกันอย่างเหนียวแน่น

ขอบคุณสำหรับการรอคอยของทุกคนนะคะ

เราตั้งใจว่าอยากให้นิยายเรื่องนี้จบในปีหน้า ไม่รู้จะทำได้ไหม


ฝาก #พริ้มกับdaddy ด้วยค่ะ


 :L2:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-12-2018 18:36:34
ดีใจ ไรท์มาลง  :mew1: :mew1: :mew1:

สามคน แต่คนที่อลเวงเป็นพริ้มคนเดียวน่ะสิ  :z3: :z3: :z3:
คุณท่านนะคุณท่าน ที่มันสามคนอลเวงก็มาจากคุณท่านอนุญาติแท้ทรู
แล้วมาโมโหโทโสใส่พริ้มทำอะหยัง เฮ้อ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

แต่ฟ้าครามล่ะ คุณท่านก็ยังหวง พริ้มก็ไม่ปล่อย
จะกอดซ้าย กอดขวาให้ได้งั้นสิ  :really2: :angry2: :เฮ้อ:

คุณท่าน ---->  พริ้ม <----- พี่ทิวา   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-12-2018 18:38:38
 :z1: :m25:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 30-12-2018 18:45:42
เรายังมองไม่เห็นความรักจากคุณท่านเลยแม้กระทั่งธิวาก็เริ่มเบาบางลงแล้วแล้วหนทาง3Pอีกแทบมองไม่เห็นความเป็นไปได้เลย ปล่อยพริ้มไปตามทางของเขาดีกว่าไหม
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 30-12-2018 19:33:45
กรี๊ด มาอัพแล้ว เย่ๆ

ถ้าตกลงกันไม่ได้ ขอ3p ก็ได้นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: Majariga ที่ 30-12-2018 19:35:54
โอ่ยยย หัวใจจะวาย ความสัมพันธ์ซับซ้อน  :sad4:

คุณกาลก็ดี คุณทิวาก็ดี อ่ะถ้าสองคนนี้รักพริ้มจริงๆทั้งคู่ คุณฟ้าล่ะ โอ้ววว เฮดเอ้กเด้อ :hao7:

นับวันรอ 3P เด้อ ถ้าเป็น กาล+พริ้ม+ทิวา โอ้ววว นี่ฟินเด้อออออ :-[
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 30-12-2018 22:29:03
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 31-12-2018 02:25:13
คุณท่านเล่นบทมิสเตอร์เกรย์ด้วย
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 31-12-2018 04:17:15
กลับมาแล้ววว สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 31-12-2018 10:06:03
ยังไงก็ผ่านไปได้แน่นอนค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

โอยยยย บางทีก็เบื่อกาล จะอะไรของเค้า
หวงก็เข้าใจ ห่วงก็เข้าใจ แต่ชอบรังแกพริ้มอยู่เรื่อย
คงไม่หนักข้อไปทุกวันหรอกนะ สงสารพริ้ม
เกือบไม่รอดไปรอบแล้ว

ธิวาโผล่มาแบบมาไวไปไวมากไง
จะมารับน้องไปอยู่ด้วยแล้วจ้า
แต่จะพาไปยังไงนี่น่ะสิ มีคนขวางขนาดนี้

พริ้มก็เปรมไปเลยจ้า ดีที่กาลกลับมาไว
ไม่งั้นธิวาสมใจไปแล้ว
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 01-01-2019 08:43:31
ทำไมเหมือนสงสารพริ้ม เฮ้อ .. ทำไงดีอะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: btoey ที่ 01-01-2019 10:29:11
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 16-05-2020 20:42:04
 :pig4:
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 24-05-2020 03:01:18
รอพี่ธิวากลับมาเคลียร์กันดีๆ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy ตอนที่ 29 P.18 30.12.61
เริ่มหัวข้อโดย: NooW ที่ 19-06-2020 16:29:50
 :katai1: รอแล้ว กาลยังมีปัญหาแฟน กับพริ้มก็ยังหวง ธิวา กาลทำไมเป็นคนแบบนี้   อ้าาาาาาาาา  รอคะ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: แม่พิเสือ ที่ 30-07-2020 16:14:21
ถึงผู้อ่านที่ยังคงรองานเขียนเรื่องนี้อยู่ ผู้เขียนอยากแจ้งข่าวว่าผู้เขียนตั้งใจที่จะเขียนเรื่องนี้ให้จบ แร่อาจมีการปรับโครงสร้างของเนื้อเรื่อง

เนื่องจากนิยายเรื่องนี้ไม่ได้เขียนติดต่อกันมานานประมาณ 2 ปี mindset อะไรบางอย่างก็เปลี่ยนไป

ถ้าใครยังติดตามอยู่ก็รอกันหน่อยนะคะ อาจมีการย้ายบ้านใหม่ไปอยู่ RAW ด้วย

ส่วนนิยายในบอร์ดนี้อาจจะต้องขอลบไปก่อน



ด้วยรักและคิดถึง
แม่พิเสือ
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 30-07-2020 20:46:32
อย่าลบนิยายเลยครับ
บ้านนี้อบอุ่นนะครับ
นิยายที่แต่งผมชอบมาก
สนุกครับ
มีอะไรคุยกับโมที่นี้ นะครับ
เขาใจดีออก


              :amen: :110011: :z7: :amen:
หัวข้อ: Re: [3P] Sugar daddy ❤️ #พริ้มกับdaddy แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 31-07-2020 19:48:26
อยากให้มาอยู่ร่วมกัน3คนแล้ว