Only You :: จะรักนาย เท่าชีวิต (Y) – ตอนที่ 60 จบภาค 1 (UP:: 09/06/62) #หน้า 10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Only You :: จะรักนาย เท่าชีวิต (Y) – ตอนที่ 60 จบภาค 1 (UP:: 09/06/62) #หน้า 10  (อ่าน 77447 ครั้ง)

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

เรื่องราวความผูกพันของคนสองคนที่ถักถอสายใยอย่างช้าๆแต่มั่นคง
มันคงจะไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ ถ้าไม่ใช่เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้ชาย!
คนหนึ่งก็ผู้ชายหน้าตาดีเบอร์หนึ่งของโรงเรียน
อีกคนก็ผู้ชายหน้าตาไม่ติดอันดับ ไม่มีใครพูดถึง

ยิ่งใหญ่...ชายหนุ่มที่เป็นที่หมายหมองของสาวๆทั้งโรงเรียน
ผู้ที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและฐานะ ไปไหนมาไหนมีแต่คนรู้จัก
กลับมาถูกชะตากับผู้ชายที่สุดแสนจะธรรมดา
แต่งตัวมอซอและชอบทำตัวประหลาดไปเสียได้

แต่ยิ่งเข้าไปใกล้ชิด ก็ยิ่งพบว่าเพื่อนสนิทที่ชื่อ แต้ม
กลับมีแรงดึงดูดมหาศาลจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียอย่างนั้น

จะไม่ให้หลงไหลได้อย่างไรล่ะ

ในเมื่อนายแต้มนั้นช่างซื่อบื้อ ติดดิน ขี้บ่นเป็นบางครั้ง ฐานะก็ยากจน
 แต่กลับเผื่อแผ่ความอบอุ่นมาให้คนข้างๆจนความเหงาหายไป


แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่ยากจะสะกัดกั้น ก่อร่างสร้างตัวทีละน้อย...




       
ในชีวิตหนึ่งนั้น เราจะรักคนอื่นได้สักกี่คน...?

และจะแปลกไหม ถ้าคนๆหนึ่ง จะรักใครอีกคนได้เพียงแค่คนเดียว

ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนก็ตาม

 

      ขอเชิญทุกท่านมาสัมผัสเรื่องราวของสองเพื่อนสนิท ที่รู้จักกันตั้งแต่เปิดเทอมใหม่

เวลาที่ผ่านไปแต่ละนาที ทำให้รู้ว่าการมีอยู่ของใครคนหนึ่ง

กลายเป็นสิ่งเติมเต็มความอบอุ่นในใจของอีกฝ่ายช้าๆ


สารบัญ

ตอน 1-12 หน้า 1
ตอน 13-18 หน้า 2
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.30

ตอน 19 - 23 หน้า 3
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.60

ตอน 24 - 28 หน้า 4
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.90

ตอน 29 - 36 หน้า 5
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.120

ตอนที่ 37 - 44 หน้า 6
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.150


ตอนที่ 45 - 50 หน้า 7
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.180


ตอนที่ 51 - 53 หน้า 8
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.210


ตอนที่ 54 - 59 หน้า 9
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.240


ตอนที่ 60 (ตอนจบ) - หน้า 10
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.270






ตัวแสดง...

ยิ่งใหญ่ (ใหญ่)




 

วินาทีที่ยิ่งใหญ่เดินผ่าน ทุกคนต่างสะกดกลั้นลมหายใจเหมือนกับโลกหยุดหมุน ด้วยความสูงเกือบ 180 เซ็นติเมตรของเด็กหนุ่มที่อายุยังไม่ถึง 17 ปี บวกกับใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับลูกครึ่ง ยิ่งสะกดสายตาของคนอื่นได้ไม่ยาก และยิ่งในสถานที่คับแคบนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะกลายเป็นจุดเด่นไปโดยปริยาย...เสียงกระซิบกระซาบของนักเรียนหญิงดังขึ้น โดยที่เจ้าตัวไม่ได้สนใจเลยสักนิด แท้ที่จริงแล้วเขาไม่เคยสนใจต่างหากว่าจะมีใครพูดอย่างไร การที่เขาหน้าตาน่าดึงดูดหรือมีรูปร่างที่สูงกว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันมาตั้งแต่เด็ก มันเหมือนปมด้อยมากกว่าจะเป็นปมเด่น

 

 

กรฤต (แต้ม)

 


ยิ่งใหญ่มองใบหน้าที่ดูหยาบกร้านของคนที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยความสงสัย ทำไมเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ถึงได้มีท่าทีเงียบขรึมเพียงนี้ สองมือใหญ่ที่ดูแห้งขาดการดูแล รอยลอกตามขอบเล็บทำให้เขารู้สึกเจ็บแทนเสื้อผ้าใหม่แต่ตัวหลวมโพรก บ่งบอกให้รู้ว่าซื้อมาเผื่อไซส์ ยิ่งใหญ่คิดว่าคนแบบนี้คงไม่ตัวโตพรวดพราดภายในเทอมนี้หรอก ขนตาของคนข้างๆงอนยาว มีจุดเล็กๆคล้ายไฝหรือกระก็ไม่รู้ได้อยู่ขอบล่างซ้ายของตาซ้ายทำให้ใบหน้ายิ่งดูแปลก ดวงตาที่ปรือตลอดเวลาราวกับง่วงงุนนั้นชวนให้เขาอยากนอนเสียตรงนี้ ริมฝีปากบางประกบเรียวพอๆกับขนมปังหนึ่งแผ่นเท่านั้น แต่ใบหน้านี้กลับสะกดใจเขาได้อย่างประหลาด...
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2019 14:28:31 โดย จากต้นจนอวสาน »

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

********************************************


 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-01-2019 15:25:05 โดย จากต้นจนอวสาน »

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 1. เปิดเทอมวันแรก



               เสียงอื้ออึงดังไปทั่ว นักเรียนชั้นม.ปลายต่างทักทายกันยกใหญ่ กับศิษย์เก่าที่ได้สิทธิ์เรียนที่เดิมต่างทักทายกันด้วยคำพูดทะลึ่งตึงตังด้วยความสนิทสนม แต่อีกส่วนหนึ่งทำได้เพียงแนะนำตัวกับเพื่อนใหม่ พวกเขากำลังเข้าแถวลงทะเบียนในวันเปิดภาคเรียน นักเรียนร่วม 600 ชีวิตแออัดกันอยู่ที่ชั้นล่างของหอสมุดที่เป็นส่วนของโรงอาหารทำให้บรรยากาศดูเบียดเสียดไม่น้อย หลังจากเข้าแถวรับสมุดและชำระค่าเทอมก็ต้องขึ้นไปด้านบนที่เป็นส่วนของห้องประชุมต่อ เพื่อพบกับผู้ปกครองที่รออยู่แล้ว



วินาทีที่ยิ่งใหญ่เดินผ่าน ทุกคนต่างสะกดกลั้นลมหายใจเหมือนกับโลกหยุดหมุน ด้วยความสูงเกือบ 180 เซ็นติเมตรของเด็กหนุ่มที่อายุยังไม่ถึง 17 ปี บวกกับใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับลูกครึ่ง ยิ่งสะกดสายตาของคนอื่นได้ไม่ยาก และยิ่งในสถานที่คับแคบนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะกลายเป็นจุดเด่นไปโดยปริยาย...เสียงกระซิบกระซาบของนักเรียนหญิงดังขึ้น โดยที่เจ้าตัวไม่ได้สนใจเลยสักนิด แท้ที่จริงแล้วเขาไม่เคยสนใจต่างหากว่าจะมีใครพูดอย่างไร การที่เขาหน้าตาน่าดึงดูดหรือมีรูปร่างที่สูงกว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันมาตั้งแต่เด็ก มันเหมือนปมด้อยมากกว่าจะเป็นปมเด่น



สายตาคมกริบของเขากวาดไปโดยรอบ ภายในโรงอาหารคนแน่นแทบจะเดินเบียดเสียด มีแต่รอบๆตัวเขาเท่านั้นที่ดูเหมือนว่าทุกคนพร้อมใจกันหลีกทางให้ราวกับเป็นบุคคลสำคัญ ยิ่งใหญ่เลือกนั่งที่โต๊ะหินอ่อนข้างโรงอาหาร ใช้เอกสารพัดด้วยความรู้สึกร้อนที่แสนหงุดหงิด กวาดสายตามองไปด้านนอก ถนนสายเล็กๆจากประตูทางเข้ามีนักเรียนหลายคนมาพร้อมกับผู้ปกครองไม่ขาดสาย วันเปิดเทอมวันแรกที่แสนร้อนและน่าเบื่อหน่าย เดือนพฤษภาคมไม่ใช่ฤดูฝนที่แท้จริง



เขาจ้องไปที่คนคู่หนึ่งอย่างไม่รู้ตัวว่านานแค่ไหน เด็กหนุ่มที่มาพร้อมกับหญิงสูงวัยท่าทางซอมซ่อ คะเนว่าเป็นแม่ลูกเดินเข้ามาช้าๆ ฝ่ายผู้เป็นแม่มีท่าทางไม่มั่นใจ เธอสวมเสื้อผ้าเก่าๆดูมอซอกว่าผ้าเช็ดโต๊ะที่บ้านเขาด้วยซ้ำ ผู้เป็นลูกกลับประคองเธอมาอย่างไม่อาย ผู้คนโดยรอบดูคล้ายจะเดินเลี่ยงแม่ลูกคู่นี้ สายตาบางคู่มองเหยียดราวกับว่าพวกเขามาผิดที่เสียอย่างนั้น เขาเคยเห็นเพื่อนหลายคนที่อับอายเวลาที่พ่อหรือแม่ของตัวเองแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเก่าๆและพยายามจะหลบเลี่ยงไม่บอกใครว่านี่คือพ่อหรือแม่ แต่กลับคนข้างหน้า กลับมีท่าทีตรงกันข้าม ยิ่งใหญ่มองคู่นี้เดินขึ้นบันไดจนลับตา ก่อนที่จะก้มดูเวลาว่าเขามองไปนานแค่ไหนแล้ว



***********************************************************************



ปัง!



เสียงวางหนังสือราวกับฟาดลงโต๊ะตัวที่ว่างไม่ทำให้อีกฝ่ายสะดุ้ง ยิ่งใหญ่เลิกคิ้วมองราวกับว่าคนๆนี้หูหนวก สายตาของอีกฝ่ายมองมาช้าๆ



“ขอนั่งด้วยคนนะ พอดีที่อื่นเต็มหมดแล้ว” ยิ่งใหญ่พูด และนั่งลงอย่างไม่รอคำตอบ ในห้องเรียนรูปสี่เหลี่ยม โต๊ะนั่งถูกจัดให้อยู่เป็นคู่ๆ พวกเขาเป็นคู่ที่อยู่มุมท้ายสุดของห้อง ถึงแม้มันพอจะมีที่ว่างอยู่บ้างตรงด้านหน้า แต่ด้วยความที่เขาตัวสูง และไม่รู้อะไรดลใจ ยิ่งใหญ่กลับเลือกที่จะมานั่งตรงนี้เสียมากกว่า



“เราชื่อใหญ่นะ เพิ่งย้ายมา นายล่ะ” เมื่ออีกฝ่ายไม่พูดอะไร กลายเป็นเขาที่ต้องออกปากเสียเอง



“ดี” คนข้างๆตอบสั้นๆ และไม่สนใจเขาอีก



ยิ่งใหญ่มองใบหน้าที่ดูหยาบกร้านของคนที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยความสงสัย ทำไมเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ถึงได้มีท่าทีเงียบขรึมเพียงนี้ สองมือใหญ่ที่ดูแห้งขาดการดูแล รอยลอกตามขอบเล็บทำให้เขารู้สึกเจ็บแทน เสื้อผ้าใหม่แต่ตัวหลวมโพรก บ่งบอกให้รู้ว่าซื้อมาเผื่อไซส์ ยิ่งใหญ่คิดว่าคนแบบนี้คงไม่ตัวโตพรวดพราดภายในเทอมนี้หรอก ขนตาของคนข้างๆงอนยาว มีจุดเล็กๆคล้ายไฝหรือกระก็ไม่รู้ได้อยู่ขอบล่างซ้ายของตาซ้ายทำให้ใบหน้ายิ่งดูแปลก ดวงตาที่ปรือตลอดเวลาราวกับง่วงงุนนั้นชวนให้เขาอยากนอนเสียตรงนี้ ริมฝีปากบางประกบเรียวพอๆกับขนมปังหนึ่งแผ่นเท่านั้น แต่ใบหน้านี้กลับสะกดใจเขาได้อย่างประหลาด...



เขาสะกิดเก้าอี้ “เห้ย เราคุยกับนายอยู่นะ”



ใบหน้าของคนข้างๆไม่ได้บอกอารมณ์ใดๆ ยิ่งใหญ่ต้องพูดซ้ำ และมันยิ่งทำให้เขาหัวเสีย



“นายอย่าคุยกับเราดีกว่า” เสียงนั้นดูแข็งกระด้าง แต่ฟังแล้วเหมือนกับน้อยใจมากกว่าจะหาเรื่อง



“...” ยิ่งใหญ่งุนงง ไปไม่เป็นกับคำพูดนี้ ทั้งโรงเรียนมีแต่คนอยากคุยกับเขา แต่คนข้างๆกลับเมินเฉยราวกับเขาไร้ตัวตน เมื่อได้รับการตอบกลับที่แสนจะเย็นชา ยิ่งใหญ่เลยนั่งเฉยๆ ไม่ได้ทักอะไรอีกต่อไป...



พอเสียงออดพักเที่ยงดังขึ้น คนๆนี้ก็วิ่งออกห้องไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งใหญ่เดินตามมาดูที่ระเบียง ห้อง ม.4/8 อยู่ตรงมุมของตึกทางทิศเหนือ สามารถมองเห็นสนามฟุตบอลได้ชัดเจน และตรงทิศตะวันออกเฉียงเหนือ คือโรงอาหารที่ตอนนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้ปกครองที่กำลังทะยอยเดินลงมาจากห้องประชุม ยิ่งใหญ่เห็นเพื่อนข้างโต๊ะของเขาวิ่งไปและรอใครสักคนที่จุดนั้น



“อย่างน้อยนายก็ไม่ได้เย็นชานี่นา” ยิ่งใหญ่ถือวิสาสะหยิบสมุดที่โต๊ะว่างข้างๆมา เขาดูที่ปก ลายมือสวยราวกับกำลังคัดไทย เขียนไว้ว่า ‘นายกรฤต สืบใจ’



***********************************************************************

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 2. คนประหลาด



“ใหญ่ นายย้ายไปนั่งข้างๆเราก็ได้นะ อยู่ตรงกลางๆหน่อย ไม่มีใครบ่นหรอกถ้านายจะบังนิดๆหน่อย” เพื่อนผู้หญิงร่วมชั้นนั่งโต๊ะข้างๆโดยไม่มีใครออกปากชวน กำลังเชื้อเชิญให้เขาย้ายที่ “นั่งตรงนี้ไม่อึดอัดเหรอ นายกอระกิดนี่มันคนประหลาดชัดๆ พักเที่ยงก็ไม่ยอมไปกินข้าวกับใคร ตอนเรียนถ้าอาจารย์ไม่เรียกก็ไม่พูด อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์เค้าไม่คุยกับนายเลยไม่ใช่เหรอ”



ถ้าคนไม่สังเกตเขาขนาดนี้ จะไม่มีทางรู้ว่าคนข้างๆไม่คุยกับเขาเลยจริงๆ เธอกำลังทำให้เขาเบื่อหน่าย บางทีการอยู่เงียบๆแบบนี้มันทำให้เขาสบายใจกว่าตอนนี้ก็ได้ “กอ ระ ริด”



“หืม นายว่าไงนะ”



“คนข้างๆเราเนี่ย ชื่อ กอ ระ ริด”



“โอ๊ย จะชื่ออะไรก็ช่างเถอะ เราเห็นนะว่าเค้าไม่ได้สนใจนายเลย แม้กระทั่งคนอื่นๆยังรู้ ว่าคนๆนี้ไม่น่าคบ” ผู้หญิงคนนี้ทำตัวน่ารำคาญ “นายจะไปไหน” เธอถามเมื่อเห็นว่าอยู่ๆเขาก็ลุกออกไป



“ไปเข้าห้องน้ำ” บางทีการมาห้องน้ำตอนพักเที่ยง อาจทำให้เขาสบายหูกว่าอยู่ตรงนั้นก็ได้



“นายมาทำอะไรตรงนี้” ยิ่งใหญ่ถาม “กินข้าวเสร็จแล้วเหรอ” อีกฝ่ายยังคงปิดปากนิ่ง ห้องน้ำของโรงเรียนมีอยู่สามสี่ที่ แต่มุมนี้เป็นจุดที่อาจารย์เดินมาตรวจน้อยที่สุด ยิ่งใหญ่ไม่รอคำตอบ เขาควักบุหรี่ขึ้นมาจุดไฟ



“ไปสูบที่อื่น”



“นายว่าไงนะ”ถึงแม้เสียงนั้นจะเบาบาง แต่เขาก็ได้ยินแล้ว แต่การถามย้ำ เพราะเขาอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะต่อบทสนทนาอีกหรือเปล่า



ไม่มีการตอบกลับใดๆจากคนๆนั้น ก่อนที่เขาจะออกจากห้องน้ำไป ยิ่งใหญ่ดับบุหรี่ ใช้น้ำหอมพ่นตามตัว ก่อนตามออกไป



“เฮ้ กรฤต” อีกฝ่ายหยุดนิ่ง ตั้งแต่วันเปิดเทอมจนถึงตอนนี้ เขายังไม่รู้จักชื่อเล่นของอีกคนเลยจริงๆ



“นายตามฉันมาทำไม”



“เอ่อ คือ...” เด็กหนุ่มอ้ำอึ้งไปชั่วขณะ เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องรีบตามออกมา



กรฤตหันกลับและเดินออกไป “อย่าเพิ่งไป” ยิ่งใหญ่คว้าแขน จังหวะนั้นเองเขาถึงได้รู้ว่าเพื่อนที่นั่งโต๊ะข้างๆไม่ใช่คนผอมบางขี้โรค แต่เป็นคนที่ทำงานหนักจนกล้ามเนื้ออัดแน่น



“นายมีอะไร”



“เอ่อ...” ยิ่งใหญ่หาเหตุผลร้อยแปดเพื่อตอบการกระทำของตัวเอง มือของเขาโดนแกะออก สายตาดุนั้นจับจ้องอย่างคาดคั้น “นายกิน...เอ่อ ผู้หญิงที่มากับนายตอนวันลงทะเบียนน่ะ แม่เหรอ” ยิ่งใหญ่อยากจะทุบหัวตัวเอง ไม่รู้อะไรดลใจให้ไปถามถึงผู้หญิงคนนั้น สายตาของอีกฝ่ายหลุบต่ำ ก่อนพลิกกลับมาจ้องเขม็ง



“ทำไม เป็นแม่ของชั้นแล้วนายจะทำไม” น้ำเสียงที่หาเรื่อง และดวงตาที่เจ็บปวดทำให้ยิ่งใหญ่รู้สึกแย่ ผู้หญิงคนนั้นและผู้ชายคนนี้คงถูกดูถูกมานักต่อนัก โดยเฉพาะที่นี่ โรงเรียนประจำจังหวัดที่ค่าเทอมแสนแพง มีแต่ลูกหลานของคนมีอันจะกินเท่านั้นที่จะเข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไม่ลำบาก



“เฮ้ เราไม่ได้จะดูถูกนายนะ” ยิ่งใหญ่ระมัดระวังมากขึ้นในเรื่องคำพูด สายตาฝั่งตรงข้ามยังไม่หยุดจ้องแบบจะกินเลือดกินเนื้อ



“เราบังเอิญเห็นนายกับแม่นายเดินเข้ามา” ยิ่งใหญ่ยิ้ม เขาคิดว่ามันจำเป็นแม้กระทั่งยามนี้ ถึงแม้มันจะช่วยแก้ไขสถานะการณ์ได้ไม่มาก แต่เขากำลังฉีกยิ้มที่คิดว่าจริงใจที่สุด “เราประทับใจมาก ที่เห็นนายดูแลแม่อย่างดี ไม่มีท่าทีอับอายเลย”



               เป็นปกติของวัยรุ่นทั่วไปอยู่แล้ว ที่จะปกปิดว่าพ่อแม่ของตนคือใคร ชื่ออะไร แต่งตัวยังไง เพราะการล้อชื่อ หรือดูถูกเหยียดหยาม ไม่ใช่เรื่องใหม่ภายในรั้วโรงเรียน เด็กๆหลายคนจึงแสดงออกอย่างง่ายดายว่าไม่ต้องการผู้ใหญ่มาเดินข้างๆเหมือนตัวเองเป็นลูกแหง่ โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย ยิ่งหนักกว่าเด็กผู้หญิงหลายเท่า



“อายทำไม ก็นั่นแม่เรา” อีกฝ่ายตอบเรียบๆ แต่มันเป็นคำตอบที่กินใจอย่างที่สุดสำหรับยิ่งใหญ่



“นายมาทำอะไรตรงนี้ ตอนพักเที่ยง ไม่ไปกินข้าวเหรอ” ยิ่งใหญ่เปลี่ยนเรื่อง เขามองคนตรงหน้าที่สวมเสื้อผ้าตัวหลวม ปกปิดความแข็งแรงตามวัยไปเสียหมด



อีกฝ่ายไม่ตอบอะไร และมีท่าทีจะเดินจากไป



“แต้ม”



“หืม”



“เราชื่อแต้ม” ว่าแล้ว แต้มก็เดินจากไป



ยิ่งใหญ่มองแผ่นหลังนั้น “นายนี่ประหลาดเหมือนคนอื่นว่าจริงๆนะ” เขายิ้มกับตัวเองก่อนที่จะกลับเข้าไปสูบบุหรี่ในห้องน้ำ



***********************************************************************

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 3. ปกป้อง



อาทิตย์หนึ่งผ่านไปไวราวกับโกหก ยิ่งใหญ่ไม่ได้ย้ายไปนั่งที่อื่น เขาพอใจที่จะนั่งตรงนี้กับคนประหลาดชื่อแต้ม ช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต้มพูดกับเขามากขึ้น แต่ก็ไม่มากพอเหมือนที่เขาส่งคำถามไป



คำถามที่ยังรอคำตอบอยู่ ก็อย่างเช่น นายมาจากอำเภอไหน นายจบจากที่ไหน ทำไมนายเลือกเรียนสายนี้ และอื่นๆอีกมากมายนับไม่ถ้วนที่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ แม้แต่คนถามยังแปลกใจตัวเองเลยว่า ทำไมเขาถึงกลายเป็นคนน่ารำคาญได้ขนาดนี้



               อีกแค่สิบนาทีก็จะเริ่มคาบบ่ายที่แสนจะง่วงนอน ยิ่งใหญ่เห็นแต้มนอนนิ่งๆอยู่ที่โต๊ะ ก่อนที่กลุ่มคนจะเข้าไปหา ท่าทางโกรธขึ้งและมีเสียงดัง แต้มมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด



“มีอะไรกัน” ยิ่งใหญ่รีบเดินเข้าไปยังกลุ่มคนที่ล้อมโต๊ะเรียนเขาไว้



“มือถือเราหาย เราสงสัยว่าแต้มเอาไป” คนในกลุ่มนั้นตอบ



“เห้ย นายมีหลักฐานอะไรมากล่าวหาว่าเค้าทำ” ยิ่งใหญ่โกรธจัด



แต้มได้แต่นิ่งและตอบว่าเขาไม่ได้เอาไป แต่ดูเหมือนไม่มีใครใส่ใจคำตอบนั้น



“เราวางไว้ที่โต๊ะตอนพักเที่ยง พอกลับมามันก็หายไป ทั้งห้องมีแต่นายกอระกิดคนเดียวที่ไม่ออกไปไหน ถ้าไม่ใช่เค้า แล้วจะเป็นใคร” เจ้าของมือถือเสียงสั่นเครือ มีท่าทางเสียใจมากกว่าจะโกรธเกรี้ยว มือถือเครื่องหนึ่งตั้งหลายหมื่น ถ้าพ่อรู้เขาคงโดนด่าไม่น้อยแน่ๆ



“นายหาดีรึยัง” ยิ่งใหญ่ถาม กลุ่มคนสามสี่คนตรงหน้าพยักหน้าตรงกัน



“แต้ม” ยิ่งใหญ่หันมาเผชิญหน้า แต้มจ้องตาเขาอย่างหนักแน่น ราวกับรู้ในคำตอบ ยิ่งใหญ่เชื่อใจคนข้างหน้าอย่างหาเหตุผลรองรับไม่ได้ “ให้เขาค้นโต๊ะนายได้มั้ย เพื่อพิสูจน์” ยิ่งใหญ่ใช้น้ำเสียงขอร้อง แต้มยืนนิ่งไม่นานก็ถอยออกเสียงลากเก้าอี้ครืดพื้นห้องดังสนั่น



เจ้าของมือถือค้นโต๊ะและกระเป๋าของแต้มอย่างบ้าคลั่ง ผ่านไปสองรอบหน้าเขาก็ซีดเผือดยิ่งขึ้น



“ไม่มี”



“เราไม่ได้เอาไป” แต้มพูดสั้นๆด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าทุกครั้ง ก่อนที่จะนั่งลงไปและไม่สนใจคนอื่นๆอีก



“นักเรียน นั่งโต๊ะค่ะ คุณครูจะมาแล้ว” เสียงหัวหน้าชั้นพูดขึ้น เพื่อนร่วมชั้นกรูไปนั่งโต๊ะอย่างรีบร้อน “อ่อ อาร์ท นายลืมมือถือไว้ที่โต๊ะปะ เรากลัวหายเลยเก็บไว้ให้” หัวหน้าห้องยื่นมือถือให้คนชื่ออาร์ท ที่ตอนนี้ใบหน้ากำลังดีใจสุดขีด



ทั้งสี่คนกำลังเดินไป



“เดี๋ยว” เสียงหนึ่งทัก “นายจะไม่ขอโทษเพื่อนหน่อยเหรอ”



แต้มหันไปมองคนข้างๆ เขาไม่ต้องการให้เป็นเรื่องใหญ่ ชีวิตของเขาต้องการแค่ความเงียบและความสงบ “ไม่เป็นไรหรอก”



“ไม่เป็นไรได้ไง พวกนั้นกล่าวหานายนะ” ยิ่งใหญ่เน้นคำว่า “กล่าวหา” ราวกับว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย



“ไม่เป็นไรน่า” แต้มยืนกราน ก่อนที่ทั้งสี่คนจะก้าวขา



“เห้ย” ยิ่งใหญ่คว้าแขนอาร์ทไว้ อีกฝ่ายที่กำลังดีใจที่ได้มือถือคืนสะดุ้งจนมันเกือบจะร่วงลงพื้น



“ก็กอระกิดบอกว่าไม่เป็นไรไง นายจะเดือดร้อนทำไม” หนึ่งในสี่พูดขึ้น



“ใช่ๆ” สองสามคนที่เหลือตอบรับ “เรื่องแค่นี้เอง”



สิ้นคำพูดนั้น ยิ่งใหญ่เหมือนคนสติหลุด เขาเหวี่ยงตัวอาร์ทจนล้มลงกับพื้นดังโครม



จังหวะเดียวกับที่ครูเข้ามาในห้องพอดี....



***********************************************************************



               กว่าที่พวกเขาจะออกมาจากห้องปกครองก็เป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว โชคยังดีที่อาจารย์ฝ่ายปกครองรับฟังเรื่องราวอย่างดีและไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อาร์ทต้องขอโทษแต้มและโดนริบมือถือหนึ่งเดือนเต็ม ส่วนยิ่งใหญ่ โดนตักเตือนด้วยวาจา และต้องทำงานสาธารณะประโยชน์ให้โรงเรียน 18 ชั่วโมง



ส่วนแต้ม ไม่ถูกลงโทษอะไรทั้งนั้น



“บ้าชิบ” อาร์ทบ่น “เพราะนายคนเดียว” เขาโบ้ยความผิดมาที่ยิ่งใหญ่



“เชี่ยอะไรของมึง” อาร์ทตกตะลึง ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเรียกเขาแบบนี้ ถึงแม้จะเปิดเทอมมาครึ่งเดือนแล้ว แต่พวกเขาไม่ได้สนิทสนมถึงขั้นนี้ อีกอย่าง ด้วยใบหน้าท่าทางราวกับราชนิกูลของยิ่งใหญ่ด้วยแล้ว ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้ที่จะหลุดพูดคำไม่ดีออกมา



“ใจเย็นๆน่าใหญ่” เสียงหนึ่งพูดเรียบๆ ก่อนเดินจากไป อาร์ทมองยิ่งใหญ่ที่ลดความบ้าคลั่งลง และเดินตามไปอย่างเงียบๆด้วยความสงสัย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ทำท่าทางราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แค่ประโยคสั้นๆประโยคเดียว ทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้ได้เชียวหรือ



 ‘กอระกิดมันมีอะไรดี ถึงได้ปราบนายยิ่งใหญ่อยู่หมัดขนาดนี้นะ’



 ***********************************************************************

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 4. ความบังเอิญ



               กว่ายิ่งใหญ่จะเคลียร์การบ้านได้ก็เย็นมากแล้ว เขามองวิวที่ระเบียงหลังห้องพบว่าภายนอกเริ่มสลัว มีแสงไฟลิบๆเล็ดลอดมา พร้อมๆกับเสียงท้องที่ร้องอย่างหนัก เขาลุกขึ้น บิดขี้เกียจและเปิดตู้เย็นออก ชีวิตเด็กหอที่ไม่ได้สนใจเรื่องอาหารการกินทำให้ตู้เย็นนั้นว่างเปล่า แม้กระทั่งมาม่าก็ไม่หลงเหลือ



               สุดท้ายความหิวก็ชนะความขี้เกียจ ยิ่งใหญ่ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปหาของกินแถวไนท์บาซ่า ตอนนี้อากาศค่อนข้างร้อน ฝนไม่ตกเลยตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ ตอนนี้ต้นเดือนมิถุนายน แต่ก็ยังอบอ้าว เขาได้แต่หวังว่าจะมีฝนตกลงมาบ้าง อย่างน้อยสักนิดก็ยังดี



               เขาจอดรถไว้ด้านข้าง ก่อนเดินทะลุเข้ามาในไนท์บาซ่าร์ที่ขายของพื้นเมืองหลากหลาย เสื้อม่อฮ่อม เครื่องเงินทำมือ แม้กระทั่งสบู่หลากสีวางเกลื่อน นักท่องเที่ยวไม่มากนักเพราะเป็นวันธรรมดา ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ที่กำลังต่อรองสินค้าอย่างเอาเป็นเอาตาย



หลังกินเสร็จ เขาเดินเล่นฆ่าเวลาเพราะไม่รู้ว่าจะไปไหน เชียงรายไนท์บาซ่าอยู่ติดกับสถานีขนส่ง ที่ตอนนี้ต่างก็ปิดเงียบเพราะหมดเวลาวิ่ง รถเมล์เก่าจอดนิ่งราวกับเศษเหล็ก เขานึกแปลกใจเสียเหลือเกินว่าทำไมมันยังวิ่งได้ แต่แปลกใจยิ่งกว่าว่าทำไมชาวบ้านถึงได้ยอมเสี่ยงชีวิตนั่งเจ้าเศษเหล็กนั้นไปจนถึงที่หมาย



พอคิดว่าจะควรจะกลับห้อง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร ยิ่งใหญ่เดินไปเรื่อยๆ เมื่อผ่านชานชาลาไปสักหน่อย จะมีศาลาที่คล้ายเพิงหมาแหงน สำหรับผู้โดยสารรอรถสาธารณะระยะไม่ไกลมาก ลักษณะดูไม่น่าพิศมัยเพราะมีแค่เสาไม้สี่ต้น มุงด้วยสังกะสี และมีไม้พาดระหว่างเสาสามด้านใช้เป็นที่นั่งอย่างหยาบๆระหว่างรอรถโดยสารที่ทำมาจากรถกระบะ มุงหลังคา และวางเก้าอี้ไม้พาดสองฝั่ง ทาสีแดงและปล่อยให้มันกรุกร่อนไปตามกาลเวลา ใช่...มันเหมือนรถแดงเชียงใหม่ไม่ผิดเพี้ยน เพียงแต่ของที่นี่ จะเป็นรถโดยสารสาธารณะที่เอาไว้วิ่งต่างอำเภอ ยิ่งใหญ่สะดุ้งเงาตะคุ่มในศาลานั้น ก่อนจะพบว่าเป็นมนุษย์



เขาเดินอ้อม แต่กลับสะดุดตากับคนๆหนึ่งในศาลานั้นแทน



“แต้ม” ยิ่งใหญ่ทัก อีกฝ่ายหันมามองด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา “ทำไมนายยังไม่กลับบ้าน”



“เรามาไม่ทันรถรอบสุดท้าย” อีกฝ่ายตอบง่ายๆ



“แล้วทำไมนายไม่ให้คนที่บ้านมารับล่ะ”



แต้มไม่ตอบ ยิ่งใหญ่นั่งลงข้างๆ ก่อนคิดย้อนไปว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ให้แต้มต้องช้า



“เพราะโดนเข้าห้องปกครองวันนี้เหรอ นายเลยไม่ทันรถ” แต้มไม่ตอบ



มันเป็นการยอมรับอย่างเงียบๆ.... จนยิ่งใหญ่สำนึกผิดเสียเอง



“แต่ นายก็โทรศัพท์ให้คนที่บ้านมารับได้ไม่ใช่เหรอ”



อีกฝ่ายนิ่งเงียบ



“แล้วนายกินอะไรยัง”



ไม่มีสัญญาณตอบรับจากบุคคลที่ท่านเรียก....



“แล้วนายจะกลับยังไง”



ไม่ว่าจะยิงไปกี่คำถาม คนประหลาดก็ไม่ปริปาก ราวกับว่ากำลังพะวงเรื่องอื่นจนไม่สนใจคำถามเหล่านั้น



“แต้ม!” ยิ่งใหญ่เสียงดังขึ้น จนอีกฝ่ายหันมาสบตา “บ้านนายอยู่ไหน”



แต้มไม่หลบตา อย่างน้อยความมืดก็ช่วยซ่อนความรู้สึกไปเยอะ “ทำไมเหรอ?”



“เราไปส่งนายที่บ้านเอง”



ไม่ต้องร้องขอ ไม่ต้องเอ่ยปาก ไม่ต้องตอบคำถาม แต่น่าแปลกใจที่ยิ่งใหญ่เหมือนจะอ่านออกว่าอีกฝ่ายกำลังต้องการอะไร



“ไม่ใช่ความผิดนายหรอก นายไม่ต้องรู้สึกแย่ก็ได้ เราโอเค”



นี่เป็นประโยคแรกที่ยาวที่สุดที่แต้มพูดกับเขา....

“เห้ย ให้เราไปส่งได้ นายคงไม่คิดว่ารถมันจะวนกลับมารับนายหรอกนะ นี่ก็จะสองทุ่มแล้ว”



“สองทุ่มแล้วเหรอ” แต้มรู้สึกปั่นป่วนในท้อง ภายในสมองกำลังวิเคราะห์ทางเลือกอย่างหนักหน่วง



“เออ เอางี้มั้ย นายนอนที่ห้องกับเราก็ได้ แล้วค่อยโทรไปบอกที่บ้านว่าวันนี้นอนค้างกับเพื่อน”



“รถนายจอดที่ไหน เดี๋ยวเราบอกทางให้เอง”



ยิ่งใหญ่รู้สึกว่าแต้มตอบโดยไม่ทันใช้ความคิดเลยสักนิด...



***********************************************************************

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 5. ทางกลับบ้าน





               ในช่วงแรกของทางกลับบ้าน ไม่มีใครพูดจาใดๆกันทั้งสิ้น ยิ่งใหญยืนยันจะขับเอง ถึงแม้ว่าแต้มจะบอกว่าสามารถขับได้และรู้ทางดีกว่าเจ้าของรถ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะยิ่งใหญ่ดื้อดึงเกินกว่าจะทัดทาน



               ระยะห่างจากตัวเมืองไปที่บ้านของแต้มนั้นราวสามสิบกิโลเมตร สองข้างทางมืดสนิทถึงแม้จะไม่ใช่หน้าหนาว ลมเย็นปะทะเป็นระลอก เสียงฟ้าครืนๆแต่ไกลจากทางทิศเหนือ แต้มบอกตัวเองว่าโชคดีที่บ้านของเขาไปทางทิศตะวันออก



“ปกตินายขึ้นรถโดยสารไปโรงเรียนทุกวันเหรอ” ยิ่งใหญ่ตะโกนแข่งกับเสียงลม มือทั้งสองจับแฮนด์รถอย่างแน่นหนา แม้จะตะเบ็งไปแล้ว แต่เสียงนั้นเบาหวิวจนแต้มต้องเอาหน้ามาแนบใกล้ๆ



“นายว่าอะไรนะ” เป็นครั้งแรกที่ยิ่งใหญ่เห็นว่าแต้มก็พูดเสียงดังได้ ใบหน้าด้านข้างของยิ่งใหญ่ร้อนผ่าว เสียงลมหวีดหวิวไม่ช่วยให้ความร้อนนี้เจือจางไป กลิ่นดินชื้นแตะปลายจมูก รู้สึกสดชื่นราวกับเพิ่งอาบน้ำ



“เราถามนายว่า นายขึ้นรถโดยสารไปโรงเรียนทุกวันเหรอ”



แต้มส่ายหน้าด้วยความเคยชิน แต่ต้องกลับมาตอบคำถาม เมื่อคิดขึ้นได้ว่าตัวเองซ้อนรถมอเตอร์ไซค์อยู่ “เปล่า ปกติขึ้นรถตู้”



ยิ่งใหญ่เข้าใจในทันที เพื่อนนักเรียนในเขตรอบนอกส่วนใหญ่จะเดินทางมาโรงเรียนโดยรถตู้เก่าๆที่ดัดแปลงที่นั่งคล้ายๆกับรถแดง รับนักเรียนหลายๆโรงเรียนที่อาศัยอยู่ละแวกเดียวกันในตอนเช้า และรับมาส่งหน้าบ้านในตอนเย็น ปกติโรงเรียนเลิก 16.30 น. รถจะมารับประมาณ 17.00 น.เพื่อไปรับที่อื่นต่อก่อนมุ่งตรงกลับบ้าน หากวันไหนไม่ทัน เด็กนักเรียนจะต้องมาที่สถานีขนส่งเพื่อนั่งรถเที่ยวสุดท้าย แต่วันนี้...แต้มดันมาช้าเพราะติดพันเรื่องที่โดนเข้าห้องปกครอง ยิ่งคิด ยิ่งใหญ่ก็รู้สึกแย่ที่ตัวเองใจร้อน



เสียงลมหวีดหวิวมาแต่ไกล ยิ่งใหญ่เร่งเครื่องขับตามทางมืดๆมาเกือบชั่วโมงแล้ว หากเวลากลางวัน ไม่เกินสี่สิบห้านาทีก็ถึง แต่ตอนนี้ชั่วโมงหนึ่งผ่านไป และกว่าจะถึงบ้าน ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก



***********************************************************************



สามทุ่ม.... ต้องตาเพิ่งตอกบัตรออกจากงาน ช่วงนี้ต้องทำโอทีเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยวก็ตาม กรุงเทพยามค่ำคืนไม่เคยหลับ แต่เธอรู้สึกง่วงงันจนตาจะปิดเสียแล้ว งานโรงแรมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันก็ไม่ยากเกินความสามารถ ตั้งแต่เรียนจบมาเธอเปลี่ยนมาแล้วหลายงาน ส่วนใหญ่จะมาจากเรื่องชู้สาว เพราะความสละสวยเป็นพิษแท้ๆ ทำให้เธอรู้สึกลำบาก



“กลับละเหรอตา เดินทางดีๆล่ะ”



“ขอบคุณค่ะพี่จ๋า เจอกันพรุ่งนี้นะคะ” ต้องตาตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ถึงแม้งานโรงแรมยังหนีไม่พ้นเรื่องคนมาจีบ แต่การที่เธออยู่แผนกต้อนรับทำให้เบาใจว่าอย่างน้อยก็ไม่มีใครลอบมาหา



“กลับรถบริษัทมั้ย หรือว่าจะกลับเอง”



“กลับเองค่ะพี่ บ้านตาอยู่ใกล้ๆนี้เอง”



“ไม่ได้นะตา สมัยนี้ไว้ใจใครได้ที่ไหน รถบริษัทก็มี อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยง วันก่อนจำไม่ได้เหรอว่าพนักงานของเราโดนคนโรคจิตลวนลาม...” ต้องตาฟังพี่จ๋าร่าย เธอจำเหตุการณ์นี้ได้ดี เพื่อนรุ่นน้องโดนผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้จับบั้นท้าย และวิ่งหนีไป จนป่านนี้ก็ยังจับตัวไม่ได้



“ขอบคุณค่ะพี่จ๋า ตาจะระวังตัว”



               ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำพูดของพี่จ๋าเมื่อครู่ หรือเพราะใกล้ตัวเจอเรื่องแบบนี้ ต้องตารู้สึกราวกับว่ามีคนตามเธอออกมาตั้งแต่ห้องตอกบัตร



“ไม่มีใครนี่นา” ต้องตาถอนหายใจ ย่ำฝีเท้าเดินออกมาจากด้านหลังโรงแรมอย่างระแวง ตึกสูงของโรงแรมบังทางเดินเข้าออก จนทำให้รู้สึกว่าไฟแถวนี้ไม่ค่อยสว่างสักเท่าไหร่ ต้องตาก้าวเท้ายาวๆ ก่อนที่จะหยุดเพราะรู้สึกว่ามีใครสักคนตามมา พอหยุดเดิน ก็มีคนชนเธอโครมใหญ่ หญิงสาวหวีดร้องด้วยความตระหนก ยกกระเป๋าถือขึ้นมาฟาดคนที่มาชนเธอไม่ยั้ง เสียงเอะอะดังลั่นจนพนักงานคนอื่นๆออกมาดู



“ต้องตา เป็นอะไร” ต้องตาโผไปหาพี่จ๋าที่เดินมาพร้อมกับคนอื่นๆ



“นายคนนี้ค่ะ เค้ามาทำลับๆล่อๆอะไรไม่รู้แถวนี้”



“ไหน นายคนไหน”



“คนนี้ไงคะ” ต้องตาชี้ไปทางผู้ชายที่ยืนนิ่งตั้งแต่โดนเธอใช้กระเป๋าฟาด เพื่อนร่วมงานคนอื่นส่งเสียงฮือฮาราวกับไม่เชื่อสิ่งที่เธอพูด จนเธอต้องหันมา



“คุณยอด!” ต้องตาอุทานเสียงหลง ชายหนุ่มยิ้มกว้างก่อนจะตอบสั้นๆว่า “ครับ ผมเอง”



               คืนนั้นต้องตาต้องขอโทษคุณยอดเยี่ยมเสียยกใหญ่ที่เธอเข้าใจผิด ชายหนุ่มไม่ติดใจเอาความ เพราะว่าเขาเองก็มีส่วนผิดด้วยเหมือนกันที่มาทำลับๆล่อๆหลังโรงแรมแบบนี้ ตั้งแต่เขาเข้ามาบริหารงาน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเดินสำรวจในยามค่ำคืน และก็เป็นครั้งแรก ที่โดนผู้หญิงคนหนึ่งใช้กระเป๋าฟาดแบบไม่ยั้ง



 ***********************************************************************

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 6. เข้าใจมากขึ้น





               ยิ่งใหญ่แทบจะขยี้ตาที่เห็นบ้านของแต้มเป็นครั้งแรก ถึงแม้บรรยากาศรายล้อมจะมืดมิด แต่ก็ไม่สามารถปิดบังความทรุดโทรมของมันได้ เขาแทบไม่อยากจะเรียกมันว่าบ้านเสียด้วยซ้ำ เพราะมันเหมือนเพิงพักชั่วคราวมากกว่า



               สายฝนกระหน่ำทันทีที่พวกเขาเข้ามาด้านใน บ้านหลังนี้มีหลังคาเป็นพื้นปูนที่เทราดบนเสาเปล่าที่คาดว่าจะใช้เป็น “ชั้นสอง” ของบ้านเมื่อสร้างเสร็จ แต่สภาพตอนนี้มีแต่เสานับสิบที่ถูกฝังตั้งตระหง่านจากพื้น มีเพียงส่วนนี้เท่านั้นที่มีการก่อสร้างมาบ้าง แต่คงจะเป็นเรื่องที่นานมาแล้ว เมื่อดูจากสภาพของเสาภายใน



“แคบหน่อยนะ” แต้มเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่คนฟังไม่อาจแน่ใจว่ามันคือความเกรงใจ ความอับอายหรือชอกช้ำในโชคชะตา



“เหย สบายมาก” ยิ่งใหญ่ตอบด้วยรอยยิ้ม



“กลับมาแล้วเหรอลูก ทำไมกลับค่ำๆมืดๆขนาดนี้” เสียงผู้หญิงคนที่เขาเห็นในวันเปิดเทอมดังขึ้น ยิ่งใหญ่ยกมือไหว้เมื่อเธอเดินออกมาจากด้านใน



“อ้าว พาเพื่อนมาด้วยเหรอ ตามสบายนะลูก นี่กินอะไรมารึยัง” น้ำเสียงนั้นดูเป็นห่วงอย่างจริงใจ ยิ่งใหญ่ระบายยิ้มเปื้อนทั่วหน้า ‘ลูก’ อย่างนั้นเหรอ..



อา... ช่างรู้สึกดีเสียจริง



“บ้านแม่คับแคบหน่อยนะ คืนนี้ฝนตกอย่าเพิ่งรีบกลับล่ะ ค้างที่นี่ก็ได้ ฝนห่าแรกซะด้วย จะหยุดรึเปล่ายังไม่รู้เลยคืนนี้”



“ขอบคุณครับแม่” ยิ่งใหญ่พูด แต้มไม่พูดอะไร มีแค่สีหน้าที่ดูไม่ออกเท่านั้นที่แสดงออกมา



“พาเพื่อนไปอาบน้ำสิ อย่าลืมพกร่มไปล่ะ” สิ้นคำแม่ แต้มก็รื้อเสื้อผ้าและหยิบผ้าเช็ดตัวเดินออกมาจากในห้องก่อนยื่นร่มสภาพดีคันหนึ่งมาให้



“ทางนี้ นายอาบก่อน” แต้มกางร่มของตัวเอง มันผุพังจนแทบจะใช้การไม่ได้



“นายเอาของเราไป” พูดเสร็จยิ่งใหญ่ก็คว้าร่มในมืออีกฝ่ายมาโดยไม่ทันให้ตั้งตัว “ไม่ต้องพูดอะไรหรอก เดี๋ยวเราก็อาบน้ำแล้ว ยังไงก็ต้องเปียกอยู่ดี” แต้มไม่พูด เพราะคิดว่าเถียงไปก็เท่านั้น เขาเดินเลาะตัวบ้านที่ปิดตัวไม้แบบหยาบๆมาทางห้องน้ำด้านหลัง สภาพของห้องน้ำดีกว่าตัวบ้านมากนัก แต่ก็มีอายุการใช้งานมาพอสมควร ไฟเปิดสว่างไม่น่ากลัว



“บ้านเราไม่มีน้ำอุ่นนะ อาบได้ใช่มั้ย”



“ไม่มีปัญหา” ยิ่งใหญ่วางของไว้ในห้องน้ำ



“ให้เรารอ...”



“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเสร็จแล้วเราเดินไปหาที่บ้านเอง” เขาไม่รอจนอีกฝ่ายพูดจบ เมื่อร่างนั้นออกจากห้องน้ำไป เขาก็ลงมืออาบน้ำทันที ฝนห่าแรก กับน้ำในถังน้ำขนาดใหญ่



ยิ่งใหญ่ขนลุกเกรียวกราวด้วยความเย็นจัดของมัน....



***********************************************************************



               เมื่อกลับเข้าบ้าน เขาก็เห็นที่นอนปูไว้ที่กลางห้องด้านนอก มีมุ้งมากางไว้อย่างดี บ้านของแต้มมีขนาดเท่ากับห้องนอนขนาดประมาณ 24-25 ตารางเมตร สองห้องต่อกันภายใต้พื้นซีเมนส์ที่ราดไว้ด้านบน เขาคิดว่าขนาดเท่านี้เพราะมันมีจำนวนแค่สองห้องพอดี ถัดจากที่นอนที่เพิ่งปูก็เป็นผนังไม้อัดที่ปิดไว้หยาบๆ ภายในมีอีกห้องหนึ่งที่เขาไม่เห็นว่ามีอะไรข้างในนั้นบ้าง เมื่อมาถึง แต้มก็วางวิทยุและหูฟังไว้ให้ ก่อนที่เจ้าตัวจะไปอาบน้ำ



               เสียงครางอือๆดังออกมาจากห้องในจังหวะที่แต้มกลับมาถึง อาการรีบร้อนพุ่งตัวเข้าไปด้านในของเจ้าของบ้านทำให้ยิ่งใหญ่เกิดความอยากรู้ว่าเป็นเสียงอะไร เขาไม่ได้ฟังวิทยุ เพราะแม่ของแต้มบอกว่าให้ระวังฟ้าฝน เสียงที่เล็ดลอดมาเลยไม่หลุดพ้นจากโสตประสาทเขา



               แต้มหายไปครึ่งชั่วโมง ก่อนกลับออกมาอีกครั้ง ตอนนี้เกือบๆจะห้าทุ่มแล้ว ทั้งสองคนนอนอยู่บนฟูกขนาดสามเมตรสองผืนกลางบ้าน “เสียงที่ได้ยินเมื่อกี้เสียงอะไรอะ” ยิ่งใหญ่ถามด้วยเสียงกระซิบ แต้มที่นอนหงายอยู่หันหน้ามาทางเขา นัยน์ตาสีดำทอประกายในความมืดราวกับมีแสงตกกระทบ



“เสียงพ่อเราเองแหละ” ได้ฟังคำตอบก็ยิ่งประหลาดใจ เพราะเสียงนั้นมันดูทรมาน มากกว่าจะเป็นเสียงละเมอ



“ถ้านายไม่อยากเล่า ก็ไม่เป็นไร” ยิ่งใหญ่พูดดัก เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองอ่านใจคนข้างๆออก



แต้มนิ่งอยู่นาน เขาหันหน้าไปมองความมืดบนเพดาน ปล่อยให้เสียงลมหายใจของคนข้างๆราบเรียบสม่ำเสมอ ก่อนพูดว่า



“พ่อของเราเป็นผู้ป่วยติดเตียงน่ะ เวลาอากาศเย็นจัดๆหรือร้อนจัดๆอาการปวดตามตัวจะกำเริบ พวกเราต้องไปบีบนวด”



ยิ่งใหญ่ขยับตัว เขาไม่ได้หลับเหมือนที่แต้มคิด “นาย...” เขาหยุดคำพูดไว้แค่นี้ เพราะไม่แน่ใจว่าควรจะถามดีหรือไม่



“พ่อของเราเป็นผู้รับเหมาติดตั้งเพดานหรือไฟฟ้าตามบ้านน่ะ” แต้มเล่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด



“แต่พ่อประสบอุบัติเหตุและกลายเป็นอัมพาตมาได้ 11 ปีละ” นั่นหมายความว่ายิ่งใหญ่เพิ่งอายุได้แค่ 5 ขวบเท่านั้น เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดว่าอะไร ไม่รู้จะถามอะไร นอกจากแค่เอื้อมมือแตะบ่าของคนที่นอนข้างๆสองสามครั้งเบาๆ



“นอนเถอะ ขอโทษนะที่นายต้องมาเจออะไรแบบนี้”



หลังคำพูดนั้นเอง ยิ่งใหญ่ถึงได้รับรู้ว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ดูเจ็บปวดตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาพบเจอ

ออฟไลน์ ก้มหน้าก้มตา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ท่าทางน่าสนุกค่ะ
ล้อกอินมาเม้นให้คุฯเลย

แต่งต่อนะคะ
จะตามเรื่อยๆเลยคร้า
 :katai2-1:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 7. เสียงเพลงบนรถ



               ตอนเช้า รถมอเตอร์ไซค์ของยิ่งใหญ่ดับอนาถ สตาร์ทไม่ติด กว่าร้านซ่อมรถจะเปิดก็แปดโมงเช้า พวกเขาไม่มีเวลารอขนาดนั้น “สงสัยหัวเทียนบอด” แต้มใช้ไขควงงัดหัวเทียนออกมาเช็ดและเป่าก่อนใส่กลับเข้าไปอย่างคล่องแคล่ว ยิ่งใหญ่มองทุกท่วงท่าอย่างน่าพิศวง คนๆนี้ทำให้เขาประหลาดใจได้เรื่อยๆเสียจริง



“มองอะไร ลองสตาร์ทสิ” ยิ่งใหญ่ดึงสติ หัวเทียนเมื่อครู่อยู่ในที่ของมันแล้ว เขาสตาร์ทมันอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่ติด



“งั้นทิ้งไว้นี่แหละ ไปกินข้าวเถอะ เดี๋ยวไปรถตู้กัน”



“หืม จะดีเหรอ” เขาหมายถึง จะมีที่นั่งพอสำหรับคนนอกเหรอ



“ที่นั่งเหลือ ไม่ต้องห่วง” ราวกับว่าไม่ได้มียิ่งใหญ่ฝ่ายเดียวที่เข้าใจอีกฝ่าย



               มื้อเช้าวันนี้เป็นข้าวผัด แม่ของแต้มตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อไปตลาดขณะที่ทั้งคู่เพิ่งงัวเงียตื่น ยิ่งใหญ่รู้สึกเมื่อยไปทั่วทั้งตัวเพราะไม่ชินกับที่นอนแบบนี้ แต้มเอาชุดนักเรียนของยิ่งใหญ่มาให้ เขารับมาอย่างประหลาดใจเพราะไม่รู้ว่ามันถูกซักตอนไหน



“เมื่อคืนแม่ซักให้น่ะ” ได้ฟังแล้วเขาแทบอยากจะกราบขอบคุณ “รีบกิน เดี๋ยวสาย”



               อาหารง่ายๆ รสชาติออกจะเค็มจนเลี่ยน แต่ยิ่งใหญ่กลับกินจนไม่เหลือข้าวสักเม็ด ก่อนออกจากบ้านแม่เดินมาพร้อมกับกล่องพลาสติก “ข้าวกลางวัน เอาไว้กินตอนเที่ยงนะ” ถึงตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมไม่เคยเห็นแต้มลงไปที่โรงอาหารเลยสักวัน



“ผมไปก่อนนะครับแม่ หวัดดีครับ ไม่ต้องเอาเงินให้ผมหรอก ผมไม่กินหนม” แต้มพูดเยอะกว่าที่คิดไว้มาก ยิ่งใหญ่ไหว้ลาและเดินตามออกไปหน้าปากซอย วันนี้ฝนปรอยๆ สองคนเดินเบียดในร่มคันใหญ่และรอรถตู้มารับ



หกโมงสามสิบเจ็ดนาที... พวกเขาก็ขึ้นรถ



               แว้บแรก... ทุกคนบนรถมองยิ่งใหญ่ด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สายตาจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น แต้มไม่ได้สังเกตเลยว่ายิ่งใหญ่เป็นคนหล่อจัด ผิวขาวไปทั่วอณูราวกับมีรังสีเปล่งประกาย คิ้วหนาเข้มกับแผงขนตาปกคลุมเปลือกตาสองชั้น นัยน์ตาของผู้ชายคนนี้ดูดุดัน แต่กลับรับกับจมูกโด่งได้รูป ปลายจมูกเหมือนเป็นลายหยดน้ำรับริมฝีปากกระจับ โหนกแก้มสูง แต่รับกับทรงหน้าเรียวยาว ถึงแม้สาวๆจะบอกว่าหน้าตาแบบนี้ไม่ใช่คนในสเป้ก ก็ยังต้องบอกว่ายิ่งใหญ่หน้าตาดี “นั่งตรงนี้” แต้มบอกหลังจากที่ดึงสติได้



               ที่นั่งประจำของแต้ม คือติดประตูรถฝั่งซ้ายมือ ม้านั่งไม้บุฟูกพลาสติกพาดยาวตั้งแต่ประตูไปจนสุดด้านหลัง เขาเปิดหน้าต่างแง้มไว้ให้ลมพัดเข้ามา คนในรถเป็นนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงระดับม.หก หลายคนอยู่โรงเรียนเดียวกัน คนในรถชวนแต้มและเขาคุยอย่างออกรส ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเพื่อนร่วมชั้นทำให้ยิ่งใหญ่ตกใจยิ่งกว่าตอนที่เจอกันเมื่อคืนเสียอีก นั่นเองทำให้ยิ่งใหญ่รู้ว่า แต้มไม่ใช่คนที่เงียบขรึมเสียทีเดียว เขาก็แค่เด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่งที่กำลังปรับตัวกับโรงเรียนใหม่ กำลังวิเคราะห์เพื่อนใหม่อย่างระแวดระวัง เพราะเขาไม่รู้ว่าคนไหนจะแสดงออกว่าเขามีความ “แปลกแยก” หรือ “ประหลาด” อีกไหม



“วันนี้พี่แต้มเอาเพลงมามั้ย” เสียงน้องคนหนึ่งในรถทัก เด็กหญิงผมเปียหน้าม้าน่าจะอยู่แค่ชั้นประถม



“เพลงอะไรวะ” ยิ่งใหญ่กระซิบถาม แต้มไม่ตอบ ก่อนล้วงกระเป๋าควักเทปตลับหนึ่งออกมายื่นให้คนขับ



“เอามาแน่นอน มิกซ์***เองกับมือ” เสียงเพลงดังขึ้นมา หลายๆเพลงไม่น่าจะอยู่ด้วยกันได้ เพลงหนึ่งเพิ่งเล่นได้แค่สามสิบวินาทีก่อนจะมีอีกเพลงมาแทรก ฟังแล้วแปร่งๆ แต่กลับกลายเป็นว่ามันลงตัวเสียอย่างนั้น



“เพลงมิกซ์น่ะ อัดจากวิทยุ” แต้มตอบ ยิ่งใหญ่เบิกตากว้างแทนคำถามที่ว่า นายทำไปได้ยังไง



***********************************************************************



               ต้องตาตอกบัตรเข้างานตรงเวลาเป๊ะ ทั้งๆที่ปกติเธอจะมาก่อนเวลางานร่วมชั่วโมงเพื่อจัดการมื้อเช้าฟรีที่โรงแรม แต่งหน้าและแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนเข้างาน แต่วันนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้นเพราะเหตุการณ์เมื่อคืนทำเธอคิดมากจนไม่อยากตื่น แต่เพราะหน้าที่ ถึงแม้จะหวาดหวั่นใจเพียงไหนก็ตาม ความรับผิดชอบก็มาก่อน...



แต่ถึงกระนั้น เธอยังมีแววตาหวาดหวั่นแบบปิดไม่มิดอยู่ดี



“สวัสดีค่ะพี่จ๋า ออกเวรแล้วเหรอคะ” ต้องตาถามเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ที่เดินสวนกัน



“ใช่จ้ะ” พี่จ๋าเดินผ่านไป ก่อนจะหยุดเพราะคิดอะไรออกบางอย่าง “อ้อ ตา”



“คะ”



“คุณยอดถามหาน่ะจ้ะ บอกว่าถ้ามาถึงแล้วให้ไปพบที่ห้องด้วย” ต้องตารู้สึกแข้งขาไร้เรี่ยวแรง ปวดบิดมวนท้องไปทั่ว นี่ฉันต้องเจออะไรอีกแต่เช้าเนี่ย...



***********************************************************************



“ใหญ่ ตอนเย็นนี้นายจะไปเอารถที่บ้านเรามั้ย” แต้มถามตอนเลิกเรียน วันนี้อาจารย์ปล่อยช้าเกือบสิบห้านาที รถรับส่งใกล้จะมาแล้ว เขาต้องรีบมากกว่าเดิมเท่าตัว



“ยังดีกว่า มีนัดเตะบอลกับเพื่อนๆน่ะ หอเราก็ใกล้แค่นี้เอง เดินมาก็ได้.. อีกอย่าง มะรืนก็วันเสาร์ละ เราค่อยไปวันนั้นละกัน”



“หืม ใครบอกจะให้นายไป”



“แล้วใครถามล่ะเมื่อกี้ ว่าวันนี้เราจะไปเอารถที่บ้านหรือเปล่า” ยิ่งใหญ่ยิ้มกวนๆ “ถือว่านายชวนแล้วนะ”



ว่าแล้วยิ่งใหญ่ก็วิ่งไปที่สนามฟุตบอล ปล่อยให้แต้มเก็บกระเป๋าและเดินออกไปรอรถตู้ที่ข้างโรงเรียนอย่างรีบร้อน



***********************************************************************




หมายเหตุ::

****การมิกซ์เทป คือการอัดเพลงลงเทปเปล่า หรืออัดทัปเทปเก่าจากวิทยุหรือเครื่องอัดที่อัดได้

การมิกซ์เพลงของแต้ม จะทำผ่านวิทยุ โดยกดบันทึกเพลงจากสถานีวิทยุต่างๆ พอได้สักครึ่งเพลงหรือจนพอใจแล้วก็จะหยุดชั่วคราว (pause) เพื่อรอว่าจะมีเพลงไหนโดนใจ หรือเป็นเพลงแนวเดียวกันเอามาอีดต่อกันได้อีกบ้าง

ซึ่งแต่ละเพลง อาจจะมาจากต่างศิลปิน ต่างค่าย แต่เอามายำรวมๆกันในเทปหนึ่งม้วน เหมือนการมิกซ์โดยใช้อุปกรณ์และแผ่นเสียงของดีเจในปัจจุบัน


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 8. สะสาง



                ต้องตารู้สึกว่าทางเดินมันสั้นกว่าปกติ ทั้งๆที่ตัวเองพยายามเดินอย่างช้าๆเพื่อยืดเวลาให้ถึงที่หมาย ห้องทำงานของคุณยอดเยี่ยม ผู้บริหารอนาคตไกลของโรงแรมอยู่ชั้นสามปีกตะวันออกทางซ้ายมือด้านในสุด หน้าห้องมีเขียนไว้แค่ว่า ยินดีต้อนรับ



ฉันไม่ได้อยากให้คุณต้อนรับเลยนะ...ต้องตาคิดในใจ พยายามทำหน้าตาให้ดูสงบที่สุด แต่ดูเหมือนฝ่ามือของเธอจะไม่ให้ความร่วมมือด้วย เหงื่อเหนียวเหนอะหนะไม่รู้ว่ามาจากไหนเต็มไปหมด รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำทั้งที่ๆเธอแวะมาแล้วสามครั้งตั้งแต่เดินมา



“มาพบคุณยอดเหรอคะ” เสียงเลขาส่วนตัวของเจ้านายทัก ต้องตาชะงัก พยายามเก็บอาการลุกลี้ลุกลน “เข้าไปได้เลยค่ะ คุณยอดรออยู่แล้ว” ต้องตากลืนน้ำลายอึกใหญ่ ทำไมคนอย่างคุณยอดเยี่ยมต้องมารอเธอด้วย ต้องตามองเลขาที่อายุน้อยกว่าอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะตีความไม่ออก มีเพียงรอยยิ้มที่บอกว่า ขอให้โชคดีนะ ฉายเต็มใบหน้า



ต้องตาฮึดสู้ สูดลมหายใจลึกๆ คิดถึงพ่อแก้วแม่แก้ว เคาะประตูแล้วเดินเข้าไปในห้อง



                ห้องทำงานของยอดเยี่ยมไม่ได้หรูหราแบบที่คิดไว้ พรมนุ่มๆระบุที่มาไม่ได้ไร้กลิ่นอับ สีของพรมให้ความรู้สึกว่าเธอหลงอยู่ในเมืองบาดาลเพราะสีของมันไม่เข้ากับผนังห้องที่เป็นกระจกเลยแม้แต่น้อย โต๊ะไม้ขนาดใหญ่ตั้งหันหลังให้กระจกที่เปิดมูลี่ไว้ เก้าอี้สีดำหนาพิเศษมีชายคนหนึ่งก้มอ่านเอกสารอย่างเอาเป็นเอาตายไม่เงยหน้ามามองจนกระทั่งเธอเดินมาใกล้ๆ



“นั่งก่อนนะ ผมขอเวลาห้านาที” ต้องตาไม่ตอบ ลอบมองเจ้านายของเธออย่างหวาดๆ เมื่อความเงียบเข้ามาปกคลุม ความหวาดระแวงก็กลับเข้ามาอีกครั้ง นิ้วมือเรียวยาวแตะไปที่กระดาษอย่างหนักแน่น พลิกไปทีละหน้า สายตาดุดันกวาดไปทั่วแผ่นกระดาษราวกับดูดซึมตัวอักษรให้หายวับ ใบหน้าจริงจังทำให้ต้องตาอดที่จะจับจ้องไม่ได้ พอรู้สึกตัวก็ละสายตามองไปที่วิวด้านหลังแทน ในห้องนี้ไม่มีตู้เอกสาร นอกจากรูปผู้บริหารคนเก่าแขวนไว้ที่ผนังทึบซ้ายขวาแบบไร้รสนิยมดูจืดชืด ทั้งๆที่เจ้าของห้องออกจะหล่อเหลาและแต่งตัวดี แต่การตกแต่งห้องไม่สะท้อนความเป็นตัวตนของเขาเลยแม้แต่น้อย...



“ขอโทษที ที่เรียกมากระทันหัน คุณตาใช่ไหมครับ”



“ใช่ค่ะ” ต้องตาตอบ เขาดูสุภาพมากกว่าที่เธอคิดไว้



“คุณตาคงแปลกใจที่อยู่ๆโดนเรียกตัวมา” พูดราวกับรู้ใจเธอแน่ะ



“คุณยอดมีอะไรให้ดิชั้นรับใช้หรือเปล่าคะ” ต้องตากำลังคิดว่าตัวเองใช้ภาษาได้โบราณมาก



ชายหนุ่มยิ้ม ใบหน้าสดใสราวกับกำลังหัวเราะ ในใจนึกขบขันท่าทางของหญิงสาวที่นั่งตัวเกร็งอยู่ตรงหน้า เธอคงคิดไปสะระตะว่าทำไมเขาถึงต้องการพบเธอปัจจุบันทันด่วน ชายหนุ่มวางมาดให้เคร่งขรึมขึ้น กระแอมไอจนอีกฝ่ายสะดุ้ง ริมฝีปากบางทาลิปสติกสีชมพูระเรื่อบิดตัวชั่วขณะก่อนกลับมาประกบกันเป็นปกติภายในเสี้ยววิ แต่นั่นก็ไม่รอดพ้นสายตาชายหนุ่มได้



                ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ยอดเยี่ยมพยายามสลัดภาพของหญิงสาวให้หลุดจากความคิด แต่ยิ่งพยายามเท่าไรก็ยิ่งเด่นชัด มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะคาดเดาได้ โลกนี้มีผู้หญิงอยู่ไม่กี่คนที่กล้าตีเขา คนแรกคือแม่ คนที่สองก็คือผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนี้ ส่วนคนอื่นๆที่เหลือ พยายามดึงเขาเข้าไปทำมิดีมิร้ายมากกว่าจะฟาดด้วยกระเป๋าสะพายราคาถูก



“เรื่องเมื่อคืน รึเปล่าคะ” ต้องตาเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ เธอทนจมอยู่กับความอึดอัดไม่ไหว “ถ้าเป็นเรื่องนั้นดิชั้นต้องโทษจริงๆ มันเป็นเรื่องสุดวิสัย ช่วงก่อนหน้านี้มีพนักงานของเราโดนใครก็ไม่รู้ลวนลาม แถมเมื่อคืนดิชั้นก็เลิกดึก ทางเดินก็เปลี่ยว พอเห็นเงาตะคุ่มๆก็คิดว่าจะเป็นคนโรคจิต ใครจะคิดว่าเป็นคุณล่ะคะ” ต้องตาร่ายยาวด้วยความประหม่า พอพูดจบก็นึกเจ็บใจว่าทำไมต้องสาธยายไปขนาดนั้น



“ผมเรียกคุณมาเพราะเรื่องเมื่อคืนจริงๆนั่นแหละ” นั่นไง ว่าละ ต้องตาคิดภาพตอนตัวเองกำลังเก็บข้าวออกเดินออกไปจากโรงแรมเพราะถูกไล่ออก ที่อื่นๆเธอสมัครใจลาออกเองเพราะไม่อยากให้เรื่องราวอื้อฉาว ทั้งๆที่เธอไม่ได้เป็นฝ่ายผิด พวกผู้ชายเหล่านั้นเดินตามก้นเธอเสียมากกว่า จนบรรดาแฟนหรือภรรยามาอาละวาดถึงที่ทำงาน ในขณะที่เธอไม่เคยแม้แต่จะไปพูดจาให้ท่าคนพวกนั้น



                ยอดเยี่ยมมองริมฝีปากที่บิดเกร็ง หญิงสาวกำลังครุ่นคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเองกันแน่หนอ ใบหน้าสวยก้มต่ำราวกับเด็กโดนจับได้ว่าแอบกินขนมที่ถูกห้ามไว้ ความประหม่า หวาดกลัวแผ่รังสีออกมาจนชายหนุ่มสัมผัสได้ เขาไม่ได้สงสาร แต่กำลังขบขัน... “คือผมจะบอกว่าผมประทับใจในตัวคุณมาก”



ห๊ะ... ว่าไงนะ ต้องตาเลิกคิ้ว นัยน์ตาเบิกโพลงเต็มไปด้วยคำถาม



“คือ ยังไงดี” ชายหนุ่มหลุดจากท่าเคร่งขรึม ท่าทางดูผ่อนคลายและเหนียมอายราวกับเด็กชายเพิ่งมีความรัก



“คุณจะรังเกียจไหมถ้าผมจะขอ... เอิ่ม...ผมคิดว่า ผมอยากรู้จักคุณมากกว่านี้” ชายหนุ่มหน้าแดง แต่ต้องตากำลังอ้าปากค้าง



“...”



“ผมรู้ว่าผมทำคุณตกใจ ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ผมไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติก ผมพูดไม่เป็น ผมจีบผู้หญิงไม่เก่ง แต่...” ยอดเยี่ยมโน้มตัวมาใกล้หญิงสาว กลิ่นกายหอมบางเบาลอยในอากาศ เขาแอบสูดกลิ่นจนเต็มปอดราวกับเป็นคนโรคจิต



“แต่ผมคิดว่าผมชอบคุณ”



ต้องตาคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป หรือไม่โชคชะตากำลังเล่นตลก....



***********************************************************************


ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 9. ซ่อมรถ



                มันเป็นวันเสาร์ที่ยิ่งใหญ่ตื่นเช้าที่สุดในชีวิต เขานั่งรถเมล์เก่าคร่ำครึที่เคยด่าไว้ว่าทำไมยังกล้าเอามาให้บริการ (และเคยสงสัยว่าทำไมยังมีคนกล้าใช้บริการมันอีกด้วยหรือ) รถเมล์รอบเช้าสุดที่ผ่านหน้าบ้านของแต้มคือเจ็ดโมงครึ่ง แต่กว่าจะไปถึงจริงๆก็เกือบจะเก้าโมง เพราะว่ามันจอดรับส่งคนเป็นว่าเล่นเลยทีเดียว



                แต้มออกมายืนรอที่หน้าปากซอยแล้ว วันนี้ฝนไม่ตก แต่พื้นถนนก็เปียกหนักหนาเอาการเพราะพายุกระหน่ำไปเมื่อคืนก่อน ยิ่งใหญ่ยิ้มให้ทันทีที่เห็นอีกฝ่ายมายืนรออยู่แล้ว “ช้าชิบ” แต้มบ่น ก่อนเดินนำเข้าซอย



“ใครจะไปรู้ว่ามันจะจอดเยอะขนาดนี้” ยิ่งใหญ่ออกตัว เขาคว้าคอคนข้างๆมากอด แต้มสะบัดมือออก เสื้อยืดคอกลมสีขาวหม่นกระเพื่อมตามแรงสะบัด กางเกงกีฬาสีดำดูหลวมปลิวตามแรงขยับขา รองเท้าแตะที่แสนธรรมดาก็ทำให้จังหวะการเดินนั้นชวนมอง “นายทำไรรึเปล่าวันนี้” คนมาเยือนถามต่อ



“อืม ทีแรกว่าจะไปนา แต่นายมาช้าเลยได้เฝ้าพ่อแทน”



“อ้าว แล้วปกติใครเฝ้าอะ”



“แม่” แต้มตอบสั้นๆก่อนเดินเข้าไปดูอาการผู้เป็นพ่อในห้อง ยิ่งใหญ่ลองสตาร์ทรถ ยังไม่ติด



“ตอนนายไปเรียนล่ะ แม่นายไปนาแบบนี้ใครจะดู” ยิ่งใหญ่ถามตอนที่แต้มเดินเอาน้ำมาให้



“ตากะยาย หรือไม่ก็ปู่กับย่า ผลัดกัน” ยิ่งใหญ่ไม่กล้าจะถามอะไรต่อ เขาพยายามเข็นให้รถตัวเองติด



“รอแป๊บ” แต้มเดินไปข้างในดูอาการพ่ออีกรอบ ก่อนเดินออกมา “เข็นมา เดี๋ยวพาไปซ่อมที่ร้าน”



“อ้าว แล้วพ่อนายล่ะ บอกมาก็ได้ว่าอยู่ที่ไหน เราไปเอง”



“พ่อไม่เป็นไรหรอก ไม่นานเราบอกพ่อแล้ว วันนี้ยายว่าจะมา อีกสักพักคงถึง” ยิ่งใหญ่พยักหน้า เข็นรถออกมาจากบ้าน



                โชคดีที่มีแต้มมาช่วย เพราะระยะทางจากบ้านมาที่ร้านซ่อมนั้นเกือบสองกิโลเมตร ถึงแม้จะเป็นวัยรุ่น แต่ต้องเข็นรถมอเตอร์ไซค์เดินไกลขนาดนี้ก็หอบได้เหมือนกัน



“นายยื่นใบสมัครรด.รึยัง”



“เรียบร้อย นายล่ะ”



“เหมือนกัน” ยิ่งใหญ่พยักหน้า เหงื่อแตกท่วมตัว เขาเป็นคนเกลียดความร้อน



“เรียบร้อยแล้วน้อง”



“เท่าไหร่ครับ”



“ห้าสิบ”



“โห น้า ค่าเปลี่ยนหัวเทียนห้าสิบบาทเลยเหรอ” แต้มท้วง ทั้งๆที่ยิ่งใหญ่กำลังยื่นเงินไปให้



“ให้ค่าแรงน้าบ้างเถ้อ ไอ้แต้ม วันนี้ไม่ไปนาเหรอ” เจ้าของร้านซ่อมถาม



“ว่าจะไปตอนบ่าย รอเพื่อนกลับก่อน” แต้มเพยิดหน้ามาทางยิ่งใหญ่



“ใครบอกเราจะกลับ ไม่เห็นเป้เหรอ เราจะมานอนนี่”



“เห้ย...เราไปชวนนายตอนไหน”



“จำเป็นต้องชวนด้วยเหรอ เราแค่อยากนอนที่นี่”



“กลับบ้านเลย รถซ่อมเสร็จแล้ว”



“ไม่”



“...”



“ไปนานายกันมั้ย” ยิ่งใหญ่เปลี่ยนเรื่อง “รถดีแล้ว ไปตอนนี้ก็คงพอจะทำอะไรได้บ้าง”



แต้มเกาหัว ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ต้องการอะไร ทำไมถึงอยากมาที่บ้านเขานัก แต่ท่าทางดูเป็นมิตร บวกกับนิสัยใจดีที่ดูเปิดเผยทำให้เขารู้สึกไม่อึดอัดเวลาที่อยู่ด้วย ถึงแม้จะมีรำคาญบ้าง แต่ก็ไม่หนักหนาอะไร



“นายอยากไปเหรอ มันร้อนนะ” แต้มมองเหงื่อที่ไหลท่วมตัวเพื่อน เขาสังเกตมาสังพักแล้วว่ายิ่งใหญ่ไม่สบายตัวเท่าไรนัก



“จิ๊บ จิ๊บ”



“เสียงนกร้องเหรอ”



“เหยยยยยยยยยยยยยยยยยยย นี่นายก็เป็นคนตลกเหมือนกันเหรอวะแต้ม” ยิ่งใหญ่หัวเราะ กลายเป็นแต้มที่ต้องหุบยิ้ม



“ทำไมวะ ไม่ขำเหรอ” แต้มทำหน้าเหรอหรา ตัวประหลาดของห้อง 4/8 กลับมาอีกครั้ง



ยิ่งใหญ่ไม่ตอบ ได้แต่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเพราะท่าทางที่แสนตลกของแต้ม



***********************************************************************

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 10. ไปนา...



                ไปนา...คือคำสั้นๆที่ชินปากของคนละแวกบ้านแต้ม คำว่าไปนา แปลตรงตัวเลยคือ ไปทุ่งนา หรือไปทำนานั่นเอง แต่ก่อนที่จะได้นั้น แต้มบอกให้ใหญ่ขับรถมาที่บ้าน ก่อนจัดแจงเอาใส่เชิ้ตแขนยาวตัวเก่าลายหมากรุกมาให้สวม สวมหมวกสานปีกกว้างและให้เปลี่ยนเป็นกางเกงทรงสแล็กขาใหญ่หลวมที่ใช้ยางรัดมัดที่ข้อเท้าไว้ไม่ให้มันหลุด



ไม่แค่นั้น... ยิ่งใหญ่โดนบังคับให้สวมร้องเท้าบู๊ทหุ้มส้นสีดำทรงสูงอีกด้วย



“คราวนี้นายดูเหมือนชาวนาจริงๆละนะ” แต้มยิ้มด้วยอาการพึงพอใจจนยิ่งใหญ่ต้องรีบเข้าไปดูตัวเองในกระจก



“เออ แปลกจริงๆด้วย” เขาไม่เคยเห็นตัวเองในมุมนี้มาก่อน ยิ่งดูแล้วยิ่งน่าขำ



“พร้อมยัง” แต้มแต่งตัวเหมือนกัน ต่างกันที่สีเสื้อเชิ้ตเท่านั้น เขาหยิบย่าม ไซดักปลา และข้องใส่ปลาติดตัวมาด้วย

“นายถือพวกนี้นะ เดี๋ยวเราขับเอง” ไม่พูดเปล่า แต้มกระโดดไปนั่งที่คนขับ สตาร์ทรถและพร้อมออกตัว



“อะไรวะ ทีเผลอนี่หว่า” ยิ่งใหญ่รับของมาแบบงงๆและนั่งซ้อนท้ายไปแบบงงๆเช่นกัน



“ยาย ฝากดูพ่อด้วยนะ เดี๋ยวมา” แต้มตะโกนใส่หญิงชราอย่างเป็นกันเอง ผู้เป็นยายโบกมือหยอยๆ ยิ่งใหญ่ไม่รู้จะไหว้อย่างไร จึงได้แต่ยิ้มแหยๆพยักหน้าให้ก่อนที่รถจะผ่านคุณยายไป



                ระยะทางจากบ้าน มาที่ทุ่งนาไม่ไกลมาก แต่ทางค่อนข้างกันดารและขรุขระ ทางแยกเล็กๆเต็มไปด้วยหลุมและบ่อ มีน้ำขังเป็นระยะๆ ต้องอาศัยความชำนาญทางพอสมควรในการขับมา ไม่อย่างนั้นรถอาจจะติดโคลน หรือล้อรถอาจลื่นจนสะบัดล้มได้ ยิ่งใหญ่เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาจึงเป็นคนซ้อน มองดูทักษะการบังคับแฮนด์รถของแต้มด้วยความทึ่ง ช้างดูแตกต่างจากคนที่อยู่ด้วยกันตอนเรียนลิบลับ ราวกับว่าที่แห่งนี้คือที่ของเขา มากกว่าจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมนั้น



เมื่อมาถึงสุดทาง ข้างหน้าเป็นแม่น้ำขนาดย่อม กว้างประมาณสามเมตร พวกเราต้องจอดรถทิ้งไว้ที่ต้นไม้ข้างแม่น้ำ แล้วเดินต่อไปอีกหน่อย ยิ่งใหญ่ลงจากรถ รู้สึกคันตามตัวเพราะความร้อน แต้มจอดรถไว้ใกล้กับคันอื่นๆที่จอดอยู่ก่อนหน้า คว้าของในมือยิ่งใหญ่ไปบางส่วน และพาเขาเดินข้ามสะพานที่มีความกว้างขนาดหนึ่งไม้บรรทัด



(-_-)’  >>> หน้าของยิ่งใหญ่ตอนเห็นสะพานครั้งแรก



                ก้าวแรกว่าหวาดเสียวแล้ว แต่ก้าวต่อๆมาตอนอยู่กลางแม่น้ำยิ่งน่าหวาดเสียวยิ่งกว่า น้ำในแม่น้ำสีขุ่นข้นไหลเชี่ยวเพราะสายฝนที่ตกลงมาติดต่อกันหลายวัน ถึงแม้วันนี้แดดจะเปรี้ยง แต่คืนนี้ก็คงตกอีกเป็นแน่แท้



“เดินดีๆล่ะ อย่าซ่า ตกลงไปไม่มีใครช่วยนะ น้ำเชี่ยวขนาดนี้” แต้มบอก ยิ่งใหญ่หุบยิ้ม



“นอกจากไม่ให้กำลังใจแล้วยังแช่งอีกนะ” ยิ่งใหญ่บ่นอุบ



“ใครใช้ให้นายตามมาล่ะ” แต้มตอบซื่อๆ



ยิ่งใหญ่ใช้เท้ายันบั้นท้ายคนข้างหน้าที่กำลังถึงฝั่งด้วยความหมั่นไส้ แต้มสะดุ้งตัวโยนก่อนจับขาเขาค้างไว้ไม่ให้เดินต่อ



ข้างหลังเป็นแม่น้ำ ข้างหน้าเป็นตลิ่ง แต่ข้างล่างคือสะพานคอนกรีตที่กว้างแค่สามสิบเซ็นติเมตร



“ปล๊อยยยยยยยยยยยยย” ยิ่งใหญ่ร้องเสียงหลง แต้มดึงขากระชากเข้าไปก่อนที่จะหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง



“ดูหน้านายสิ กลัวหรา โอ๋ๆๆๆเด็กน้อย ไม่ร้องนะไม่ร้อง”



ยิ่งใหญ่รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความอาย “ไอ้...” เขาพยายามหาคำด่า แต่พอเห็นคนที่ใครๆคิดว่าเป็นตัวประหลาดกำลังหัวเราะ เขาก็ด่าไม่ออก “ตลกนะ... ชิ” ทำได้แค่นี้จริงๆ



                แต้มยังไม่หยุดขำตอนที่เดินกันอีกหน่อยตามคันนาดินที่กำลังชุ่มน้ำ ผืนนาเต็มไปด้วยหญ้า บ้างก็มีการไถรอบแรกไปแล้ว บ้างก็ปั่นละเอียดไปแล้ว สองข้างทางมีแต่ธรรมชาติ ท่งนาอยู่ตรงกลาง ขนาบด้วยหุบเขาขนาดย่อมอยู่ไกลลิบๆราวกับว่าอยู่แสนไกล แต่มันก็ตระหง่านอยู่ตรงนั้น มองไปซ้ายขวามีที่ดินทำไร่อยู่ พืชไร่ที่เขามองไม่เห็นว่ามันมีอะไรบ้างยืนต้นแตกใบเขียวชะอุ่ม เสียงแมลง และลมกระซิบข้างหูราวกับเป็นยาชั้นดีที่รักษาจิตใจที่แสนห่อเหี่ยวให้สดชื่นได้อีกครั้ง ยิ่งใหญ่ลืมความร้อนเหนี่ยวเหนอะไปชั่วขณะ เขากำลังโลดเต้นไปกับธรรมชาติแวดล้อม ที่ไม่ต้องเสียเงินสักบาทให้ได้สัมผัส



“อ้าวแต้มมาแล้วเหรอ หวัดดีครับใหญ่” แม่รับไหว้อยู่ข้างคันนาดิน ตอนนี้แม่กำลังใช้จอบถางหญ้ารอบๆคัน ช่วงไหนที่คันนาแตกหรือมีรอยแยกให้น้ำไหลรั่ว แม่จะใช้มือหรือจอบขุดดินมาโปะปิดรอยนั้นไว้ ยิ่งใหญ่เข้าใจว่าที่ทำแบบนี้เพื่อกักน้ำไม่ให้ไหลออกจากทุ่ง



“แม่มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ” ยิ่งใหญ่ออกตัว ผู้เป็นแม่ยิ้มให้ เหงื่อท่วมใบหน้าเห็นได้ชัดแม้จะอยู่ภายใต้หมวกสานใบใหญ่เหมือนที่เขาใส่ก็ตาม



“ไปช่วยแต้มจับปลาเถอะ คืนนี้แม่จะแกงส้มให้กิน”



                ยิ่งใหญ่ตามแต้มไปที่ท้ายรถไถขนาดเล็กที่กำลังปั่นนา น้ำโคลนสาดกระเด็นไปรอบๆตามจังหวะการปั่นของโรตารี่ขนาดเล็ก แต้มโยนไซดักปลามาให้ “นายเอาไซมาให้เราทำไม”



แต้มมองด้วยความสงสัย “ไหนไซ” ยิ่งใหญ่ยื่นของที่อยู่ในมือให้แต้มดู “โอ๊ย นี่เค้าเรียกสุ่ม สุ่มดักปลา ไม่ใช่ไซ” แต้มส่ายหัว แต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ นี่เขาอยู่กับมนุษย์จากดาวไหนกันเนี่ย



“ดูนี่” แต้มสาธิตการจับปลา “นายดูนะ เวลาที่รถไถกำลังปั่น จะมีพวกปลาดิ้นๆอยู่ในน้ำแบบนั้น” ว่าแล้วแต้มก็วางสุ่มตัวเองด้วยความรวดเร็ว เขาใช้มือเปล่างมๆในสุ่มก่อนจับเจ้าปลาผู้เคราะห์ร้ายออกมา “ปลาช่อน กำลังดีเลย” แต้มยิ้ม



ยิ่งใหญ่ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องยิ้มตามไปด้วย....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-12-2017 22:30:16 โดย จากต้นจนอวสาน »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
น่าติดตามค่ะ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
น่าติดตามค่ะ


ขอบคุณครับ ต้องติดตามต่อไปนะครับ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
ท่าทางน่าสนุกค่ะ
ล้อกอินมาเม้นให้คุฯเลย

แต่งต่อนะคะ
จะตามเรื่อยๆเลยคร้า
 :katai2-1:


ขอบคุณครับ อ่านแล้วปลื้มมากๆ อิอิ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:L2: :pig4:


ขอบคุณที่มาอยู่เป็นเพื่อนครับ  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
รออ่านต่อด้วยคนจ้า นี่น่าจะพึ่งต้นเรื่องเอง น่าจะอีกยาวเลย อัพไวๆ น๊า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 11. จับปลา



“ทำไมนายช้าแบบนี้ ดูดิมันหนีไปละ” แต้มบ่นอุบ ยิ่งใหญ่รู้สึกงุ่นง่านในความช้าของตัวเอง เขาร้อนจนต้องถอดหมวดและวางไว้ที่คันนาก่อนกระโจนกลับมาจับปลาต่อ



“ถ้านานี้ไม่ได้ มีอีกนานึงนะ” แต้มพูด เลิกคิ้วสูง



“นายดูถูกเราเรอะ” ยิ่งใหญ่ขมวดคิ้ว เบ้ริมฝีปาก



“เปล๊า” แต้มเสียงหลง ยิ่งใหญ่ถีบเข้าที่ต้นขา “โอ๊ย ทำร้ายเหรอวะ” แต้มหัวเราะ เขาไม่ได้โกรธ แต่กำลังมีความสุขและขบขันอาการของเพื่อนที่ดูจะหัวเสียขึ้นตามลำดับ



“มันต้องได้สิน่า” ยิ่งใหญ่ไม่ยอมแพ้



“ไอ้น้อง หูตามือไม้ให้ไวกว่านี้” พี่คนขับรถไถตะโกนบอก เขาจับคันไถไปด้วยพร้อมมือข้างหนึ่งสูบบุหรี่ ยิ่งใหญ่อ้าปากคล้ายจะพูดอะไรบางอย่าง



“อย่า... ขอร้อง” แต้มบอก เหมือนเขารู้ว่ายิ่งใหญ่กำลังจะทำอะไร “อยู่บ้านนี้อย่าเพิ่งสูบ ได้ไหม”



ยิ่งใหญ่หยุดความคิดที่จะขอบุหรี่พี่เขามาสูบ เขารู้สึกหงุดหงิดจนคิดจะใช้นิโคตินเข้าช่วย “ได้ จับปลาต่อเถอะ”



แต้มยิ้ม “ให้มันได้อย่างนี้สิเพื่อนรัก”



เพื่อนรัก! ยิ่งใหญ่หน้าบานจนไม่รู้จะหุบมันลงยังไงล่ะ



“มัวแต่ยิ้ม ปลาหลุดไปละ” แต้มด่า น้ำเสียงไม่ได้จริงจังนัก ปลาที่ชะตายังไม่ขาดว่ายแหวกหายไปตามน้ำโคลน



“บ่นอยู่ได้” ยิ่งใหญ่เถียง สายตาจับจ้องไปที่ผืนน้ำสีขุ่นข้น รอจังหวะเคลื่อนไหว ก่อนจะปักสุ่มดักปลาลงไป



“ได้แล้ว!” เขาร้องดีใจ เมื่อความเคลื่อนไหวยังอยู่ภายในสุ่มนั้น



“ตัวยาวแบบนี้ ปลาไหลแน่ๆ” แต้มพูด “หยิบมาเลย”



ยิ่งใหญ่เลียลิ้น ฉีกยิ้มด้วยความสุข ปลาตัวแรกที่ได้ ปลาไหลเชียวนะ จะลื่นแค่ไหนเนี่ย ... เขาคิดและใช้มือล้วงไป จังหวะที่จับนั้นปลาไม่ได้ลื่น มีแต่บีบรัดนิดหน่อย เขาดึงมือขึ้นมา จ้องดูปลาในนั้น



“งู๊!!!!” ยิ่งใหญ่ตะโกนดังลั่น สะบัดมือจนเจ้างูตัวน้อยตกลงไปในน้ำ จังหวะนั้นเองที่เขาทรงตัวไม่อยู่หล่นโครมลงไปในโคลน



แต้มระเบิดหัวเราะลั่นทุ่งจนผู้เป็นแม่ต้องหยุดกิจกรรมของตัวเองและเงยหน้ามาดู “ใหญ่มันตกใจงูเขียวน่ะแม่” แต้มตะโกนบอกแม่ เสียงดังแข่งกับเสียงรถไถ พี่คนคุมรถก็หัวเราะด้วยความขบขัน ยิ่งใหญ่รู้สึกอาย หมดสภาพของหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆของโรงเรียน แต่ความรู้สึกนั้นเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว เขากำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่งกับอาการของตัวเอง



                รถไถนาเสร็จตอนเกือบเที่ยง ผืนนาของแม่มีแปลงเดียว ขนาดสามไร่ มีด้านยาวพาดจากทิศตะวันตกไปตะวันออก ถูกซอยย่อยให้เป็น 8 แปลง เพราะแต่ละแปลงความสูงต่ำไม่เท่ากัน ต้องแบ่งให้เหมาะเพื่อการกักเก็บน้ำ



“ดูหน้านายสิ” แต้มชี้ “เลอะหมดเลย”



ยิ่งใหญ่ไม่ตอบ ใช้มือลูบๆใบหน้า โคลนแห้งๆหลุดลอกออกมา กลิ่นดินแตะจมูก เขาหน้ามุ่ยที่เห็นแต้มหัวเราะ “ขำ”



“ฮ่าๆๆๆ ขอโทษที มาล้างหน้าตรงนี้” แต้มพาเขาไปที่ลำธารริมไร่ มันเป็นลำธารเล็กๆที่ไม่รู้ที่มา แต่คาดว่าน่าจะไหลมาจากภูเขาขนาดย่อม เลื้อยตามซอกมาเรื่อยๆจนบรรจบที่แม่น้ำ “ล้างได้ ไม่ต้องห่วง” แต้มวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าเป็นการสาธิต ยิ่งใหญ่นั่งลงข้างกันส่องดูใบหน้าตัวเองในน้ำ แรงกระเพื่อมทำให้เขาเห็นตัวเองไม่ชัด แต่พอจะเห็นลางๆว่าเลอะพอดู



“หิวยัง” แต้มถาม



“นิดหน่อย” ยิ่งใหญ่ตอบตามจริง



“คงเที่ยงแล้วล่ะ แม่คงทำอะไรรอแล้ว” แต้มลุกขึ้น เดินนำเพื่อนตัวเองไปที่กระท่อมในไร่ที่อยู่ไม่ไกล



“นี่ไร่นายเหรอ” เขาถามเมื่อมาถึง สะบัดเสื้อผ้าที่เปียกชื้น ก่อนถอดเสื้อลายตาราง วางผึ่งไว้ที่กิ่งไม้แถวนั้นตามที่แต้มทำให้ดู



“ใช่”



“แล้วนี่ปลูกอะไรอะ”



“ปีนี้เหรอ มันสำปะหลัง”



ยิ่งใหญ่ไม่ถามต่อ เขาได้แต่จับจ้องไปที่ปล้องมันสำปะหลังที่แตกใบเขียวชะอุ่ม เดินไม่ถึงร้อยก้าวก็มาถึงกระท่อม ผู้เป็นแม่กำลังวางสำรับ มีแกงหน่อไม้จากเมื่อวานตอนเย็น ปลาย่างจากเมื่อเช้า และส้มตำที่เพิ่งทำกันสดๆ



“น้องกินเป็นมั้ย” พี่คนขับรถไถถาม “ปลาร้าน่ะ” เขายกปลาตัวหนึ่งมาส่งเข้าปาก มันเหมือนปลาขาดเลือด สีซีดและส่งกลิ่น ยิ่งใหญ่หยิบมาดมๆ ยิ้มแหยๆ



“ไม่เคยกินล่ะสิ” แม่ถาม



“ใช่ครับ”



“ไหวมั้ย” พี่คนขับรถไถถาม



ยิ่งใหญ่ไม่แน่ใจ เมื่อกี้งู ตอนนี้ปลาร้า



แต้มไม่สนใจตัวเขาเท่าไรนักเมื่อพยายามส่งสายตาไปขอความเห็น รายนั้นจ้วงส้มตำราวกับว่าเป็นอาหารชั้นยอด



“สบายมากพี่” ยิ่งใหญ่ตอบ จกข้าวเหนียวมาปั้น จิ้มไปที่ส้มตำ พยายามเลี่ยงส่วนปลาร้า และจับยัดเข้าปากไป



***********************************************************************

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มาให้กำลังใจ

ชอบอิมเมจนายเอกมากๆ


ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ขอบคุณสำหรับตอนใหม่

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
มาให้กำลังใจ

ชอบอิมเมจนายเอกมากๆ


ขอบคุณที่ติดตามครับ  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:L2: :pig4:

ขอบคุณสำหรับตอนใหม่


ยินดีครับ  :pig2: :pig2: :pig2:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 12. ถือว่าเป็นโชคของนาย



                ยิ่งใหญ่นอนลูบพุงตัวเองอย่างช้าๆ มื้อนี้เขากินเยอะจนแทบจะคลานเลยทีเดียว หลังล้างจาน ทุกคนก็ล้มตัวลงนอนบนพื้นไม้แข็งเนื้อหยาบในกระท่อม พี่คนขับรถไถกรนก่อน แม่ปิดตาและลมหายใจราบเรียบไปแล้ว เขากับแต้มนอนใกล้ๆกัน เพราะพื้นที่ไม่ได้กว้างเท่าไรนัก เสียงนกร้องกระซิบกระซาบแต่ไกล ลมอุ่นพัดไปมา แต้มมองหน้าเขาแต่ไม่พูดอะไรก่อนจะยิ้มให้และปิดเปลือกตาลง


                ยิ่งใหญ่กำลังฝันประหลาด เขาฝันเห็นงูตัวหนึ่งไล่เลื้อยพันแข้งขา ก่อนที่จะรัดตัวแน่นจนหายใจไม่ออก งูตัวเล็กสีเขียวสดกับนัยน์ตาไร้ประกายค่อยๆขยายร่างใหญ่ขึ้นจนใหญ่กว่าท่อนขาเขา ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัดแน่นจนลมหายใจติดขัด เขาพยายามอ้าปากเพื่อสูดอากาศ แต่ยิ่งทำให้ตัวเองขยับไปไหนไม่ได้ไปกันใหญ่ ก่อนสิ้นสติ เขารู้สึกโลกกำลังเอียงราวกับตกจากที่สูงโดยมีงูตัวเดิมพันไว้ มันกำลังขยายขนาดตัวเองไปเรื่อยๆทั้งๆที่กำลังลอยเคว้งตกลงไปที่ไหนสักที่


                เสียงเนื้อกระทบพื้นดัง โพล๊ะ! ยิ่งใหญ่ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด แต่เห็นแววตาของงูตัวนั้นกำลังจับจ้องมาที่เขา เลือดสีแดงฉานไหลย้อยมาอาบท่วมตัว นัยน์ตาที่บ่งบอกความเจ็บปวดสื่อสารมาอย่างเต็มที่ ตอนนี้เองที่เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังหวาดกลัว ราวกับว่าความฝันนี้มันคือความจริง ศีรษะของงูดิ้นไปมา นัยน์ตาเหลือกกระเสือกกระสน เขาได้ยินมันพูดว่า “ช่วยด้วย” ก่อนที่จะสะดุ้งตื่น


“ฝันร้ายเหรอใหญ่” แม่ของแต้มถาม พลางยื่นแก้วน้ำมาให้ “ดิ้นใหญ่เลย ดูสิเหงื่อท่วมเชียว”


ยิ่งใหญ่ยกมือไหว้และรับน้ำมาดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว ลำคอที่แห้งผากกลับมามีชีวิตอีกครั้ง “ขอบคุณครับแม่”


“แต้มเอ๊ย พาเพื่อนกลับบ้านก่อน” ผู้เป็นแม่ยิ้มให้เขาและปลุกลูกชายตัวเองที่นอนขดอุตุ แต้มงัวเงียขยี้ตาลุกขึ้นมา   


“กี่โมงแล้วอะแม่”


“ไม่รู้เหมือนกัน” แม่ตอบง่ายๆ เวลามาที่ทุ่งนาพวกเขาจะมีกิจกรรมนอนกลางวันกันเสมอ เมื่อได้ที่แล้วถึงจะตื่นมาทำงานต่อ แต่ถ้าไม่มีงานอะไรก็จะออกไปหาของป่า “ถ้าไม่อยากกลับ ก็พาใหญ่ไปหาหน่อไม้สิ ถ้ามีหน่อหวานแม่จะทำยำหน่อไม้ให้กิน”


แต้มนัยน์ตาเป็นประกาย หนึ่งในอาหารโปรดของเขาคือยำหน่อไม้สด “แต่แม่จะแกงปลาไม่ใช่เหรอเย็นนี้” แต้มท้วง


“ทำหลายๆอย่างไม่ได้รึไง เผื่อใหญ่มันด้วย” แม่ยิ้มมาทางเขา “คืนนี้ก็นอนนี่นะลูก กินข้าวกันก่อน”


ยิ่งใหญ่ยิ้มร่ารับคำ พยักหน้าและยักคิ้วไปทางแต้มที่กำลังกรอกตา เหมือนกำลังบอกว่า “ถึงนายไม่ชวน แต่แม่นายชวนแล้วนะ”


                มื้อเย็นวันนี้ มีแกงส้มปลาฉบับคนเหนือ ยำหน่อไม้ใส่น้ำปูสีดำมืดและปลาทอดกรอบ ทุกอย่างล้วนได้มาจากแรงงานของแต้มที่พายิ่งใหญ่เข้าป่าไผ่ ขุดหน่อไม้ที่กำลังแตกหน่อออกช่อทะลุผืนดินมา ฤดูฝนเข้ามาแล้วอย่างเต็มที่ เพราะหลังจากที่กินข้าวเสร็จ ฝนก็กระหน่ำทันทีราวกับฟ้ารั่ว ครั้งนี้ยิ่งใหญ่ถอดหัวเทียนรถของเขาออก เพราะเกรงว่าจะสตาร์ทไม่ติดอีก ที่นอนยัดนุ่นขนาดสามฟุตสองผืนถูกปูวางติดกัน กับเด็กหนุ่มสองคนที่ล้มตัวลงอย่างเมื่อยล้า เสียงฝนเทกระหน่ำจนกลบทุกสรรพเสียง พวกเขาคุยกันงึมงำๆในความมืดมิด


“สนุกจัง” ยิ่งใหญ่พูด เขาเหยียดตัวจนเต็มที่นอน


“จริงดิ” แต้มหัวเราะ “ดีใจที่นายชอบ ทีแรกเรานึกว่าคุณชายแบบนายจะทนไม่ได้ซะอีก”


“ใครคุณชาย” ยิ่งใหญ่ทำเสียงฟึดฟัด “นายนี่ขี้ประชดเหมือนกันนะ”


“ไม่ได้ประโช้ดดดด” แต้มลากเสียง “แค่พูดตามที่เห็น”


“เห็นอะไร”


“ก็นายน่ะ รูปร่างหน้าตาผิวพรรณยังกับคุณหนู” แต้มพูดด้วยเสียงราบเรียบ “ใครจะคิดว่านายจะมาผจญภัยที่นาเราได้”


“เหอะ” ยิ่งใหญ่ส่งเสียง


“นายสนุกก็ดีแล้ว” แต้มบอก ยิ่งใหญ่หันไปมองคนที่นอนข้างๆ แทนการมองเพดาน


“ขอบใจนะที่ชวนเรามาวันนี้”


“เราเปล่าชวน” แต้มบอก ยิ่งใหญ่ทำเสียงไม่พอใจ


“ถือว่านายชวนละกันน่าอย่าขัดสิ” แต้มหัวเราะ “นายก็หัวเราะเป็นนี่นา นึกว่าจะหัวเราะไม่เป็นซะอีก”


“นายประชดเราปะ” แต้มถาม เขาไม่ได้หมายความตามคำพูดนี้แม้แต่น้อย


“ประชดมั้ง” ยิ่งใหญ่ตอบ “ใครจะคิดว่าจะเจอนายมุมนี้” เขาพูดตามที่รู้สึก


“ถือว่าเป็นโชคของนาย” แต้มย้อน


“ขอรับกระผม” ยิ่งใหญ่ลากเสียง “ยิ้มเยอะๆนะ เวลานายยิ้มหรือหัวเราะ เราว่านายดูสดใสกว่าตอนปกติซะอีก”


แต้มเลิกคิ้ว ใครบ้างที่หัวเราะแล้วโลกไม่สดใส “หัวเราะไปเรื่อยคนเขาก็ว่าเราบ้าน่ะสิ”


ยิ่งใหญ่ถอนหายใจ “หรือว่านายบ้าจริงๆวะเนี่ย”


“นายโชคดีนะ ที่ได้เห็นเราบ้า” ว่าแล้วแต้มก็หัวเราะอีกครั้ง ในขณะที่อีกคนกำลังทำหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆกาย


***********************************************************************




From Writer

ขอถือโอกาสนี้ กล่าวสวัสดีปีใหม่กับนักอ่านทุกท่านนะครับ

ขอให้มีแต่ความสุข สมหวัง ร่างกายแข็งแรง

พบพานกับความรักทีดี มีโชคลาภ ร่ำรวย 

ที่สำคัญ ขอให้พบเจอแต่เรื่องดีๆตลอดปี 2018 และตลอดไป

อย่าเจ็บ อย่าจน

HNY 2018

**อ่านแล้วอย่าลืมเม้นต์ให้กำลังใจกันด้วยนะครับ ^_^



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2018 21:14:10 โดย จากต้นจนอวสาน »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด