Only You :: จะรักนาย เท่าชีวิต (Y) – ตอนที่ 60 จบภาค 1 (UP:: 09/06/62) #หน้า 10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Only You :: จะรักนาย เท่าชีวิต (Y) – ตอนที่ 60 จบภาค 1 (UP:: 09/06/62) #หน้า 10  (อ่าน 69381 ครั้ง)

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:pig4: :pig4: :pig4:

เจ้าเล่ห์ทันกันทั้งคู่  วางเหยื่อตกเจ้าอาร์มเข้าทีมบาส

เข้าขากันดีจนน่ากลัวนะคู่นี้ อิอิ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
แต้มซึมซับนิสัยใหญ่มาแล้วสิ รึว่ามันคือนิสัยเจ้าเล่ห์ที่มีอยู่แล้วถูกใหญ่ปลดปล่อยออกมา

สงสัยเจ้าใหญ่จะสอนมาดีครับ  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
ไรท์ มาต่อแล้ว เย้ๆๆ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ยิ่งใหญ่ เจ้าเล่ห์  o18
เนียนเอาเปรียบแต้มตลอด  :-[
ใหญ่  แต้ม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ขอโทษที่หายไปนานครับ ช่วงนี้ไนต์เดินทางเยอะ + ติดซีรี่ย์ด้วย อิอิ
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เจ้าเล่ห์

จริงๆเด็กพวกนี้

ยอมใจ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
​จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 54. กีฬาสี



งานกีฬาสีของโรงเรียนเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ ยิ่งใหญ่ต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาแต่งหน้าแต่งตัวและซ้อมควงคฑาเป็นครั้งสุดท้ายโดยมีแต้มพ่วงมานอนสัปหงกอยู่ไม่ห่างเพราะโดนหางเลขให้มาถือป้ายเปิดงาน สนามกีฬาของโรงเรียนคลาคล่ำไปด้วยนักเรียนที่แต่งตัวตามสีของตน กองเชียร์ถูกเกณฑ์ขึ้นบนอัฒจรรย์จนไม่เหลือที่ว่าง กองเชียร์ส่งเสียงเชียร์คึกคักดังแข่งกับเพลงจากเครื่องขยายเสียงของโรงเรียนที่มีรุ่นพี่ชั้นม.5 คอยกำกับ

เมื่อเวลาคล้อยสาย ขบวนนักกีฬาและตัวแทนของแต่ละสีเข้าแถวเดินขบวนตั้งแต่ถนนหน้าโรงเรียนที่นำหน้าด้วยยิ่งใหญ่เดินควงคฑาอย่างสง่าผ่าเผย ตามด้วยขบวนของวงดุริยางค์ของโรงเรียนที่แต่งตัวกันครบชุด มองแล้วน่าเห็นใจนักดนตรีเป็นอย่างยิ่งที่ต้องประคองและบรรเลงเครื่องเล่นของตนไปตามทาง รอบด้านรายล้อมด้วยผู้คนละแวกใกล้เคียง บ้างก็เป็นผู้ปกครองที่พยายามถ่ายภาพบุตรหลานของตนขณะที่เดินขบวน เมื่อเข้าเขตรั้วโรงเรียน ผู้ชมจากภายนอกก็ไม่สามารถเข้ามาด้านในได้ด้วยเหตุผลของความปลอดภัย

ยิ่งใหญ่อยู่ในชุดสีสันสดใส ขับผิวขาวให้ดูหล่อเหลาเป็นที่สะดุดตาต่อผู้พบเห็น ใบหน้าถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางค์ของรุ่นพี่ที่ตั้งใจแต่งอย่างสุดฝีมือ ยิ่งทำให้ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นมีเสน่ห์ รอยยิ้มกว้างฉาบใบหน้าผสานอย่างลงตัวให้ยิ่งหล่อเหลาราวเทพบุตร เสียงเชียร์ดังกระหึ่มเมื่อเขานำขบวนพาเหรดเดินผ่านอัฒจรรย์ของแต่ละสี จังหวะควงคฑาไม่มีพลาด หนักแน่นและสวยงามในคราเดียวกัน เสียงกองเชียร์หวีดร้องเมื่อคฑาถูกโยนขึ้นฟ้าและตกมาที่ฝ่ามืออย่างสวยงาม ยิ่งใหญ่ทำอย่างนี้อีกสองครั้ง เสียงกรีดร้องของกองเชียร์ผู้หญิงและเพศที่สามดังขึ้นจนพิธีกรในสนามต้องแซวเป็นการใหญ่ เขาหยุดการควงและยกไม้ขึ้นเมื่อผ่านประธานในพิธี เมื่อจัดขบวนที่กลางสนามเป็นที่เรียบร้อยก็เป็นการเปิดงาน และงานกีฬาก็ได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ



                ***********************************************************************



ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียหลังกลับจากกองถ่ายเมื่อคืน ก่อนหน้านี้ภัทรไม่เคยเป็นคนขี้เซามาก่อน แต่เมื่อโหมรับงานแสดงเจ็ดวันติดก็ย่อมหมดแรงเป็นธรรมดา หลังจากสลัดความง่วงงันจนสิ้นก็ลุกขึ้นมาสูบบุหรี่ ทั้งบ้านเงียบเชียบราวกับไม่มีใครอาศัยมานานแล้ว พี่ชายของเขาคงไปทำงานแต่เช้าตรู่ พวกเขาไม่ค่อยได้สนทนากันเลยเป็นอาทิตย์เนื่องจากเวลาการทำงานไม่ตรงกัน ภัทรดับบุหรี่และคว้าผ้าเช็ดตัว หลังจากอาบน้ำเสร็จชายหนุ่มจึงเก็บของและเดินทางไปที่สนามบิน ปลายทางคือจังหวัดเชียงใหม่

บั๊มพ์เปิดกระบะท้ายรถเพื่อจะเก็บของ แต่เมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนพกสมบัติติดตัวมาน้อยชิ้นจึงต้องปิดมันอย่างเบื่อหน่าย อากาศยามนี้ร้อนเหมือนไม่ใช่ฤดูหนาว ทั้งที่ตอนเช้าหมอกยังลงจัดและอากาศเย็นอยู่มาก เขาใช้เวลาขับรถจากร้านมาที่สนามบินเพียง 10 นาที เนื่องจากมีบัตรผ่านกองบินที่อยู่ใกล้กัน

“นึกยังไงมาปุบปับ”

“คิดถึงนาย” ภัทรตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย หลังจากลงเครื่องก็มีแฟนคลับมาขอลายเซ็นอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงจึงปลีกตัวมาได้ ยังดีที่เครื่องบินไม่ดีเลย์ ไม่อย่างนั้นบั๊มพ์คงบ่นไม่ขาดปาก

“คิดถึงก็โทรมาก็ได้ ไม่เห็นต้องลงทุนนั่งเครื่องมาหาเลย”

“ก็เราอยากมานี่นา ใครใช้ให้นายน่ารักน่าคิดถึงขนาดนี้ล่ะ” ภัทรพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าชู้ อีกฝ่ายไม่ตอบทันทีแต่มีใบหน้าเขินอายและรีบเข้าไปนั่งในรถ

“พูดอะไรไม่ระวัง เดี๋ยวมีคนได้ยินนายจะซวยอีก”

“ช่างเถอะ ว่าแต่ไอ้ตัวเล็กกลับมายัง”

“ใคร ไบรต์เหรอ ยังหรอก พ่ออยากให้เรียนภาษาที่โน่นสักสามเดือน”

“ใจคอจะให้เรียนตั้งแต่เด็กเลยรึไง”

“ก็เห็นว่างั้น เค้าว่าเรียนตั้งแต่อายุน้อยๆ เด็กจะเรียนรู้ได้ไวกว่าเรียนตอนโตนะ” บั๊มพ์คาดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะเคลื่อนรถออกจากลานจอด เขาต้องเสียเงินค่าที่จอดรถแพงพอสมควรเพราะมารอค่อนข้างนาน เดิมทีตั้งใจจะบ่น แต่เมื่อเห็นใบหน้าอิดโรยของคนที่นั่งอยู่ด้านข้างก็เปลี่ยนใจ “นายอยากไปไหนปะ”

“ตอนนี้น่ะเหรอ กินข้าว”

“นายไม่กินบนเครื่องมารึไง”

“เปล่า รอกินอาหารฝีมือนาย”

“เสียใจด้วย วันนี้ร้านปิด ไม่ได้ลงของไว้ด้วย”

“โห เสียใจนะเนี่ย” ภัทรทำหน้าบูด แต่อีกฝ่ายกำลังขำ “หัวเราะทำไม”

“ก็ใครใช้ให้นายมาปุบปับล่ะ เมื่อคืนกว่าจะเลิกกองก็ดึกไม่ใช่เหรอ แทนที่จะพักผ่อน”

“มาหานายก็คือการพักผ่อนอย่างนึงนะ” ภัทรจับมือของแฟนหนุ่มมาจุมพิตก่อนถูกดึงกลับ “งั้นกินนายแทนได้มั้ย”

“อย่ารุ่มร่าม กระจกรถใสแจ๋วขนาดนี้เดี๋ยวก็เป็นเรื่อง”

“เห้อ โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้” ภัทรบ่นตามเรื่อง

“นี่” บั๊มพ์เอื้อมมือมาจับที่ต้นขาแน่นที่อยู่ใต้กางเกงยีนส์สีซีด รอยขาดที่หัวเข่าเหมือนกับจงใจให้ดูเป็นแฟชั่น แต่สำหรับเขามองว่าเป็นการฟุ่มเฟือยที่ต้องแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าขาดวิ่นเช่นนี้ “เดี๋ยวถึงบ้านก่อน นายอยากทำอะไรก็ตามสบาย”

“จริงนะ” ภัทรยิ้มกว้าง ดวงตาหยีเล็กจนแทบไม่เห็นแววตาเปี่ยมสุข คนขับรถไม่ตอบ ได้แต่อมยิ้มและขับรถต่อโดยไม่พูดอะไรออกมา



***********************************************************************



แต้มนั่งอยู่ข้างสนามเป็นตัวสำรองของทีมในการแข่งฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ เขามาไม่ทันตอนที่ผู้จัดการขานชื่อเป็นตัวจริงเนื่องจากติดแข่งบาสเก็ตบอล ผลคือทีมได้ที่สามเพราะยิ่งใหญ่และอาร์ทต้องออกจากการแข่งขันก่อนเนื่องจากต้องรีบมาจัดแจงเรื่องการแข่งรอบนี้  แต้มที่ต้องแบกทีมไว้ทำได้ดีที่สุดแค่ 15 แต้มก่อนจะแพ้ไปแค่สี่คะแนน ตารางการแข่งขันติดกันจนกลายเป็นว่าเขาและยิ่งใหญ่ต้องวิ่งกันหัวหมุน หลังจากจบฟุตบอลก็จะมีการแข่งวิ่งผลัด 4x100 ที่ยิ่งใหญ่เพิ่งมาบอกเมื่อสิบห้านาทีที่แล้วว่านักกีฬาตัวจริงบาดเจ็บจากการวิ่งหนึ่งพันห้าร้อยเมตร

เสียงกองเชียร์ดังกระหึ่มเมื่อกรรมการเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขัน ยิ่งใหญ่สวมเสื้อหมายเลข 6 ซึ่งเป็นเลขโปรดของเจ้าตัววิ่งวอร์มในสนามและตัดบอลเร่งทำเกม อีกฝ่ายก็มีฝีมือไม่ต่างกันเพราะเป็นทีมนักกีฬาของโรงเรียนแทบจะยกทีม แม้จะวิ่งไปมาและส่งบอลด้วยจังหวะที่ดีแค่ไหนก็ตาม คู่ต่อสู้ก็เหมือนอ่านเกมได้เก่งกว่าวิ่งเข้ามาตัดบอลไปได้เสียทุกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปจนหมดครึ่งแรก ทีมของเขาที่เหมือนไก่รองบ่อนก็ยังรักษาประตูไว้ได้

“แต้ม เดี๋ยวนายลงครึ่งหลังนะให้ไผ่พักก่อน เกมนี้หินพอดู” อาร์ทกำลังซักซ้อนแผนสำหรับครึ่งหลัง แต้มสวมเสื้อเบอร์ 10 กำลังอบอุ่นร่างกายข้างสนามโดยมียิ่งใหญ่กำกับอยู่ไม่ห่าง

“นายคิดว่าเราจะชนะเกมนี้มั้ย” แต้มเป็นคนถาม

“ชนะสิ พนันกันมั้ยล่ะ”

“หึ นายพนันว่าเราชนะ ให้เราพนันว่าทีมตัวเองแพ้ เหมือนให้เราแช่งทีมตัวเองเลยนะ” แต้มต่อรอง

“หรือนายคิดว่าจะพนันว่าทีมเราชนะ” ยิ่งใหญ่ถามกลับ “ให้นายเลือกก่อนก็ได้นะ”

“พนันแล้วได้อะไร” แต้มบิดตัวไปมาถามเพื่อนรัก

“ตกลงนายพนันฝั่งไหน”

“บอกมาก่อนสิว่าคนชนะจะได้อะไร”

ยิ่งใหญ่เงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบออกมา “อะไรก็ได้ที่อยากได้ โอเคมั้ย”

“อะไรก็ได้ที่อยากได้นี่อะไรล่ะ” แต้มถามด้วยความงุนงง

“ก็อะไรก็ได้ที่นายอยากให้เราทำ เช่น แขวนผ้าขนหนูเป็นที่ ไม่ใส่เจลก่อนออกจากห้อง หรือไม่ทำห้องรก”

“อะไรก็ได้จริงดิ” แต้มถามย้ำอีกครั้ง

“จริง” ยิ่งใหญ่รับคำ “นายพนันฝั่งไหนล่ะ”



***********************************************************************



ภัทรแทบจะอุ้มอีกฝ่ายลงจากรถ แต่ต้องหยุดความคิดเมื่อคนรักรีบวิ่งเข้าไปในบ้านก่อนที่เขาจะไปถึงตัวเสียอีก

“เจ้าเล่ห์นักนะ” ภัทรวิ่งตามไปในระยะกระชั้นชิดก่อนจะพุ่งไปโอบตัวจากด้านหลัง ซุกจมูกโด่งที่ลำคอหอมกรุ่นที่คุ้นเคยอย่างมูมมาม

“เบาๆก็ได้ ไม่หนีไปไหนหรอกน่า”

“ขนาดไม่หนี นายยังวิ่งยังกับนักกีฬาโอลิมปิคเลยนะ”

“ขืนอยู่รอหน้าบ้านนายคงอุ้มเราขึ้นมาแล้วล่ะสิ”

“ไม่ให้อุ้มงั้นเหรอ”

“ไม่ เดี๋ยวชาวบ้านมาเห็น”

ภัทรยิ้มกับคำตอบที่ได้ฟัง ชายคนนี้เป็นห่วงเขาก่อนตัวเองเสมอ ใบหน้าหล่อเหลาที่ถูกรุกรานด้วยริมฝีปากอวบอิ่มนั้นระทวยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เสื้อยืดสีซีดถูกถกขึ้นจนเผยราวนมและแผงกล้ามหน้าอกสวยงามราวกับรูปสลัก ภัทรจุมพิตที่ไหปลาร้าอย่างแผ่วเบาพลางไล้มือใหญ่ตั้งแต่รักแร้เรื่อยลงมาที่เอวหนา กล้ามหน้าท้องกระเพื่อมอย่างหนักหน่วงเมื่อถูกดูดดุนที่หน้าอก ลิ้นสากเลียวนที่หัวนมสีน้ำตาลอ่อน บั๊มพ์สบตาอย่างมีความหมายก่อนจะถอดเสื้อของภัทรอย่างรวดเร็ว ผิวเนื้อขาวเต็มไปด้วยมัดกล้ามแกร่งของสองหนุ่มแนบประสานจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกันก่ายกอดนัวเนียด้วยรสจูบที่หอมหวานและรุนแรง ภัทรดึงกางเกงขาสั้นสีกรมท่าให้เผยจุดซ่อนเร้นที่ถูกกระตุ้นจนอารมณ์เตลิดก่อนดอมดมอย่างไม่รังเกียจและซอกไซร้มันอย่างโหยหา เสียงครางกระเส่าของอีกฝ่ายสั่นเครืออย่างเป็นใจ บั้นท้ายแกร่งเปิดทางพร้อมรับกับบทรักที่ถาโถม ภัทรเปิดทางและดุนดันตัวเองเข้าไป แรงดันกดแทรกลึกลงไปอย่างไม่รีบร้อนกระตุ้นเสียงกรีดร้องอย่างสุขสมของเจ้าของบ้าน บทรักที่หอมหวานเร่งเร้าโรมรันจนพาทั้งคู่ไปสู่ความสุขสมท้ายที่สุด...



***********************************************************************



นักกีฬาฟุตบอลยืนกลางสนามหลังจบการแข่งขัน ยิ่งใหญ่แลกเสื้อกับเพื่อนต่างสี จังหวะที่ถอดเสื้อออกนั้นเสียงกรี๊ดจากกองเชียร์ดังลั่นจนแทบจะกลบทุกสรรพเสียง แต้มก็แลกเสื้อกับนักกีฬาเบอร์เดียวกัน กลิ่นฉุนของเสื้อตัวนั้นแรงจนเขาไม่กล้าใส่ ต้องเอามาพาดไว้ที่ไหล่เช่นเดียวกับเพื่อนสนิท อาร์ทวิ่งเข้ามาหาทั้งคู่ด้วยความยินดี

“นายสุดยอดมากอะใหญ่ ลูกสุดท้ายในตำนาน”

“ไม่บอกก็รู้ เรามันเก่ง”

“ถ่อมตัวบ้างก็ได้เหอะ” แต้มห้ามเพื่อน

“นายไม่ดีใจเหรอที่เรายิงลูกโทษให้ทีมเราชนะน่ะ”

“ดีใจสิ ไม่ดีใจได้ไง”

“พวกนายจะไปแข่งอะไรต่ออีกมั้ย”

“ไม่ล่ะ” แต้มพูด พวกเขาไม่มีเวลาไปรายงานตัวในการวิ่งผลัดจึงต้องให้คนอื่นไปแทน

“ไม่อะไร เหลือวอลเลย์บอลอีกนะ”

“หา ไหนบอกว่าแข่งไปแล้ว” แต้มอุทาน

“แข่งรอบคัดเลือกแล้ว ตอนนี้เหลือแข่งที่สาม”

“นายอย่าบอกนะว่านายจะลงแข่งด้วย”

“แหงสิ เราเป็นนักกีฬาโรงเรียนนะ ไม่ลงคงโดนด่า”

“นายเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน”

“นายยังไม่ชินอีกเหรอ”

แต้มนิ่วหน้า มองคนที่เดินข้างๆอย่างไม่เชื่อสายตาและหูตัวเอง หลังจากบาส ฟุตบอล ยังมีวอลเลย์บอลอีก ไม่นับพวกปิงปอง กระโดดไกลที่ตกรอบไปแล้ว ยิ่งใหญ่ยังเหลือเรี่ยวแรงลงแข่งได้อีก “ชินไม่ลงจริงๆ”

“นายไปไหนต่อล่ะอาร์ท”

“ไปที่สแตนเชียร์สิ เดี๋ยวพวกหลีดจะเต้นแล้วหลังจากที่เราพลิกล็อกชนะทีมนักกีฬาโรงเรียน”

“เออ เดี๋ยวเจอกัน เราไปเปลี่ยนชุดก่อน แต้มมานี่” ยิ่งใหญ่ลากแขนแต้มที่กำลังจะเดินไปทางเดียวกับอาร์ทไว้

“เดี๋ยวๆๆๆ จะพาเราไปไหน”

“ไปเชียร์เราแข่งไง”

“เหย พอก่อนมั้ย ขอพักแป๊บ”

“ไปดูเฉยๆไม่ได้ออกแรง นายจะพักทำไม” ยิ่งใหญ่ยียวน แต้มต้องเดินตามไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ระหว่างทางก็มีรุ่นพี่รุ่นน้องแวะมารุมขอถ่ายรูปกับยิ่งใหญ่ไม่ขาดสาย จังหวะนี้ยิ่งดีใหญ่ เพราะเขาไม่ได้ใส่เสื้อ เผยให้เห็นกล้ามเนื้อและผิวพรรณที่ขาวผ่องจนเป็นที่น่าอิจฉา แต้มเดินตามอย่างเงียบๆ นึกในใจว่าจะเอาอย่างไรดีกับของรางวัลที่พนันกันไว้...

จบตอน...

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ใหญ่ นักกีฬา ตัวจริง แมนมาก ...........  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ลงแข่งทุกประเภทซะ....คนอ่านเหนื่อยแทนเลย  :เฮ้อ:

ภัทร  บัมพ์  :กอด1:

ใหญ่  แต้ม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เสร็จแน่เจ้าแต้ม

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 55. ของขวัญวาเลนไทน์



ช่วงเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วหลังจากงานกีฬาสี บรรยากาศในโรงเรียนที่อึมครึมเนื่องจากเป็นช่วงเตรียมสอบของนักเรียนทุกระดับชั้นยังรวมไปถึงการเตรียมตัวสอบเอ็นทรานซ์ของรุ่นพี่ชั้นม.6 อีกด้วยกลับดูสดใสและมีชีวิตชีวาเพราะวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์



ที่ฟุตบาททั้งด้านหน้าและด้านข้างโรงเรียนต่างมีพ่อค้าแม่ค้าขาจรมาจับจองพื้นที่กันจนแน่นขนัด แต่ละร้านจะมีตะกร้าใส่ดอกไม้หลากชนิด แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงจะหนีไม่พ้นดอกกุหลาบสีแดงที่เป็นนางเอกของเทศกาลนี้ ร้านขายของกิ๊ฟต์ช็อปต่างประดับด้วยกระดาษเขียนจดหมายสีหวาน มีการกักตุนสติกเกอร์รูปหัวใจแผ่นบางเอาไว้เพื่อวันนี้โดยเฉพาะออกมาขาย ก่อนที่โรงเรียนจะมีการเข้าแถว บรรดานักเรียนทุกระดับชั้นต่างก็มาเดินจับจ่ายเลือกซื้อของกันดูอลหม่าน



เด็กนักเรียนทั้งชายหญิงต่างหอบดอกไม้และของขวัญพะรุงพะรัง มีสติกเกอร์รูปหัวใจหลากสีแปะไว้ที่ชุดนักเรียนคล้ายเป็นลวดลายใหม่ที่สร้างสรรค์มาเพื่อช่วงนี้โดยเฉพาะ ห้องเรียนชั้น ม.4/8 คลาคล่ำไปด้วยบรรดาสาวๆตั้งแต่ชั้นม.1 จนถึงม.6 ที่ต่างแวะเวียนนำของขวัญและจดหมายรักที่เขียนจากกระดาษสีสันสดใส บ้างก็เป็นกระดาษพร้อมกลิ่นหอม บ้างก็เทแป้งฝุ่นกลิ่นพิเศษไว้ข้างใน บ้างก็ใช้ปากกาที่มีกลิ่นเขียน แทบทุกแผ่นจะมีลายมือใกล้เคียงกันเนื่องจากตัวอักษรวัยรุ่นที่กำลังนิยมอยู่จะเขียนโดยให้หัวของพยัญชนะเป็นรูปตัวโอ(หรือเลขศูนย์)กลมใหญ่กว่าส่วนอื่น บทกลอนจากหนังสือกลอนของสำนักพิมพ์ต่างๆขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เนื่องจากเด็กหญิงที่ไม่สันทัดเรื่องนี้ก็จะนิยมอ่านและคัดลอกลงจดหมายรักของตนเอง มาวางไว้ที่โต๊ะเรียนหลังห้อง



เมื่อยิ่งใหญ่เดินมาที่ห้องก่อนเวลาเคารพธงชาติก็ตกใจไม่น้อยเนื่องจากโต๊ะเรียนของตนเต็มไปด้วยกล่องของขวัญ จดหมายและดอกกุหลาบสีแดงหลายขนาด บ้างก็เป็นช่อ บ้างก็เป็นดอกสีแดงสดดอกเดียวในช่อพลาสติกสีหวาน ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวขนาดความสูงจากพื้นถึงเข่ามานั่งที่เก้าอี้อยู่อย่างโดดเด่น



“โห ทำไมนายได้ของขวัญเยอะขนาดนี้อะ” แต้มแกล้งทำหน้าตาตกใจราวกับนักแสดงละครมืออาชีพ



“เว่อไป” ยิ่งใหญ่มองของเหล่านั้นอย่างหนักใจ ทั้งขนมเอย ของขวัญเอย เขาจะหอบหิ้วกลับอย่างไรไหว ถ้าเอาไปทิ้งเลยก็เกรงว่าจะเป็นการทำร้ายจิตใจของคนที่เอามาให้ตั้งแต่เช้า ยังไม่รวมเสื้อนักเรียนของเขาที่โดนแปะสติกเกอร์จนเต็มตัวไปหมดแล้วระหว่างทางที่เดินมา



“นายช่วยเราขนกลับหน่อยนะแต้ม”

“ขนยังไงล่ะทีนี้ นายกลับไปเอารถยนต์มาใส่มั้ย”

“เออ ความคิดนี้เข้าท่าดี”

“เราประชดมั้ย” แต้มนั่งลงที่เก้าอี้ของตน มันว่างเปล่าแตกต่างจากคนข้างๆอย่างสิ้นเชิง



“โห ใหญ่ ทำไมได้เยอะขนาดนี้เนี่ย” อาร์ทเป็นอีกคนที่เข้ามาทัก ตอนนี้เขาย้ายมานั่งด้านหน้าของทั้งคู่แล้วเนื่องจากตัวสูงขึ้น และรู้สึกสนิทชิดเชื้อกับทั้งยิ่งใหญ่และแต้มมากกว่าเดิม



“ปกติของคนหล่อ”

“ถ่อมตัวบ้างก็ได้เถอะ” อาร์ทแซว แต้มพยักหน้าเห็นด้วย มีแต่ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่กำลังหาที่ทางวางตุ๊กตาตัวใหญ่ไม่ให้เปื้อน



“นั่นของขวัญจากใครเหรอ” ยิ่งใหญ่แซวอาร์ทกลับเมื่อเห็นเขาถือของขวัญในมืออย่างทะนุถนอม คนถูกถามอายจนหน้าแดงแม้แต่แต้มที่ไม่ค่อยจะสังเกตยังมองเห็น

“หืม มีเลศนัยนะเนี่ย”

“เลศนัยอะไร แหม่” อาร์ทเขินจนเก็บอาการไม่ได้แล้วตอนนี้

“เห้ยทุกคน ไอ้อาร์ทได้ของขวัญจากสาวไหนก็ไม่รู้”

“เบาๆสิวะไอ้ใหญ่” อาร์ทลุกลี้ลุกลนจนเพื่อนร่วมชั้นหันมองและมีบางส่วนกรูเข้ามา

“เห้ย นี่มันคุ้นๆว่ะ” เพื่อนคนหนึ่งคว้ากล่องของขวัญไปและตั้งข้อสังเกต

“คุ้นยังไงวะ” เพื่อนอีกคนถาม

“ก็เมื่อเช้าเราเห็นก้อยห้องสี่ถือกล่องนี้มาด้วย”

“จริงดิ นายไปเห็นได้ไง”

“เราขึ้นรถคันเดียวกับก้อยนะ เมื่อเช้าเรายังทักอยู่เลย”



“แหมๆๆๆๆ ร้ายนะอาร์ท” เสียงเพื่อนๆโห่แซวอาร์ทที่ตอนนี้หน้าแดงจนถึงใบหู เขาคว้ากล่องของขวัญจากเพื่อนคนนั้นมากอดไว้แนบอกอย่างหวงแหนพลางส่งสายตาเกรี้ยวกราดไปยังไอ้ตัวต้นเรื่องชื่อยิ่งใหญ่ เช้านี้มีแต่คนแซวอาร์ทจนไม่มีเวลาเปิดดูว่าข้างในเป็นอะไร อีกทั้งยังมีผู้หญิงและผู้ชายต่างห้องแวะเวียนมาติดสติกเกอร์กันจนเสียงกริ่งเข้าแถวดังขึ้น



***********************************************************************



“นายว่าอาร์ทกับก้อยจะเป็นแฟนกันยัง” แต้มเป็นคนสะกิดถามยิ่งใหญ่ตอนที่เดินจากสนามหญ้าหน้าเสาธงมาที่ห้องเรียน

“มีความเป็นไปได้สูง”

“คืบหน้าไวจังแฮะ”

“ไม่คืบสิแปลก มันเทียวไปเทียวมาซะขนาดนั้น แถมยังขอให้นายเขียนจดหมายอีกไม่ใช่เหรอ”

“ก็จริงของนายนะ อาร์ทนี่ลงทุนน่าดู”

“นี่พวกนาย ถ้าจะนินทาเราก็อย่าให้เราได้ยินได้มั้ย” อาร์ทที่เดินอยู่ข้างหน้าแต้มส่งเสียงมา

“อ้าว ได้ยินด้วยเหรอ ฮ่าๆๆๆ” ยิ่งใหญ่แซว อาร์ทหน้าแดงอีกครั้ง

“เออสิ ไปๆนั่งที่”

“คาบแรกอะไรนะ” ยิ่งใหญ่ถามแต้มที่ปกติจะจัดหนังสือเผื่ออยู่เสมอ

“อังกฤษสองคาบรวด”

“โอยตาย ทำไมเช้าวันจันทร์มันช่างโหดร้ายเช่นนี้” อาร์ทบ่นอุบ แต้มไม่สนใจเสียงของเพื่อนพลางหยิบหนังสือออกมาจากใต้โต๊ะ

จดหมายรักฉบับหนึ่งตกลงพื้นพร้อมกับช็อกโกแล็ตกล่องขนาดฝ่ามือ แต้มโน้มตัวไปหยิบพลางวางไว้ที่กองของขวัญของยิ่งใหญ่

“อ้าว ของเราเหรอ” ยิ่งใหญ่ผู้เห็นเหตุการณ์ถาม

“มั้ง สงสัยเจ้าของจะส่งผิดโต๊ะ” ยิ่งใหญ่ไม่ตอบ แต่เอื้อมมือไปแกะจดหมายที่แต้มเพิ่งวางรวมกับจดหมายฉบับอื่นๆ

“แต้ม”

“หืม” แต้มกำลังตั้งใจอ่านเนื้อหาที่จะเรียนล่วงหน้า

“ไอ้ของขวัญเมื่อกี้น่ะ...” ยิ่งใหญ่เว้นวรรค

“นายจะพูดก็พูดให้จบสิ ฟังอยู่” แต้มบ่น

“คือ ของขวัญนี้” ยิ่งใหญ่หยิบมาวางที่หนังสือภาษาอังกฤษของแต้ม “ของนาย”

“หะ”

“จดหมายนี่ด้วย” ยิ่งใหญ่วางกระดาษแผ่นน้อยบนโต๊ะเสียงฝ่ามือกระทบโต๊ะดังปัง

“มีอะไรกัน” อาร์ทหันมาถามเมื่อได้ยินเสียง

“เปล่า” ยิ่งใหญ่ตอบเสียงเข้ม ก่อนที่จะนั่งเงียบไปตลอดคาบเรียน



 ***********************************************************************

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ใครให้ของขวัญแต้มอ่ะ   ส่งผลให้ยิ่งใหญ่ออกอาการลมเพชรหึงขึ้นหน้าเลย  อิอิ

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
จบตอนแบบนี้เลย....T^T

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
​จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 56. เจ้าของจดหมายรักที่ส่งถึงแต้ม



ต้องตาถึงที่ทำงานตั้งแต่เช้า เนื่องจากมีประชุมประจำเดือนในวันนี้ ทำให้ยอดเยี่ยมไม่ได้ไปรับที่คอนโดเหมือนเช่นเคย หญิงสาวเดินเข้าประตูด้านหลังออฟฟิศอย่างคุ้นเคย ถึงแม้ไม่มีล็อกเกอร์ส่วนตัวเหมือนพนักงานคนอื่นแล้ว แต่เธอก็ยังคงแวะเวียนมาที่ห้องพักพนักงานเสมอ ครัวของโรงแรมจัดเตรียมอาหารเช้าสำหรับลูกค้าที่มาพักรวมไปถึงสำหรับพนักงานที่เข้ากะดึกและกะเช้าด้วย วันไหนที่ต้องมาคนเดียว ต้องตาจะต้องแวะมาทานข้าวกับเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันเสมอ

“โหย วันนี้แม่นางฟ้ามาได้เว้ย”

“โอยพี่จ๋า อย่าแซวกันเองสิ” ต้องตานั่งเก้าอี้ว่างติดกับเพื่อนรุ่นพี่ชื่อจ๋า

“คุณยอดประชุมเช้าใช่ปะ”

“ใช่ค่ะ” ต้องตาตอบอย่างสุภาพ บนโต๊ะมีพนักงานอีกสองสามคน ที่สนิทกับเธอที่สุดคือพี่จ๋า และอีกคนหนึ่งชื่ออร ซึ่งเพิ่งออกกะไป

“ยัยอรบ่นอุบเลยว่าไม่ค่อยได้เจอเรา”

“หนูงานยุ่งมากเลยพี่ วันๆมีแต่ประชุม รายการและตัวเลข” ต้องตาตั้งต้นสาธยาย “ไหนจะเรื่องงบประมาณ กำไรขาดทุน เรื่องเงินเดือนค่าจ้างต่างๆ ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์อีก...”

“โอย พอๆ แค่ฟังก็เหนื่อยละ เป็นเลขาเจ้านายนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ” ต้องตาพยักหน้าเห็นด้วย “ว่าแต่...” พี่จ๋าฉีกยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนกระซิบถาม “คุณยอดให้ของขวัญวาเลนไทน์รึยัง”

ต้องตาเงียบอย่างเขินอาย ความสัมพันธ์ของเธอกับผู้บริหารหนุ่มนั้นยังไม่ได้เปิดเผยกับคนอื่นสักเท่าไรเนื่องจากต้องการจะรักษาวัฒนธรรมการทำงานอันดีไว้ อีกทั้งเพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกหรือหน่วยงานอื่นมีข้อครหาว่าการได้มาซึ่งตำแหน่งของเธอนั้นโดยวิธี “เต้าไต่”

“วันนี้วันวาเลนน์เหรอ” หญิงสาวถาม

“อื้อ ใช่สิ อย่าบอกนะว่าแกไม่รู้”

หญิงสาวส่ายหน้า “โอย ยัยตาเอ๊ย” พี่จ๋าทำท่าปวดหัวก่อนจะปล่อยให้เธอไปตักอาหารเช้ามานั่งทานด้วยกันที่โต๊ะ

***********************************************************************

วันนี้ทั้งวันยิ่งใหญ่เงียบจนน่ากลัว เนื่องจากปกติเขาเป็นคนที่ร่าเริงและเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนทั้งห้อง อาการเงียบที่ชวนวังเวงนี้ทำให้หลายคนไม่กล้าจะเข้ามาใกล้มากนัก แม้กระทั่งอาร์ทเองก็ตามที มีแต่แต้มที่ยังเดินไปไหนมาไหนด้วยกันและยังไม่ทันสังเกตว่าเพื่อนรักอารมณ์บูดอย่างไม่มีสาเหตุ

“แต้ม ใหญ่เป็นอะไรอะ” อาร์ทสะกิดถามด้วยเสียงค่อนข้างเบาตอนที่แต้มมาลบกระดานระหว่างช่วงพักระหว่างคาบเรียน

“เป็นไรเหรอ ไม่นี่”

“ไม่จริงนะ ดูเงียบๆแถมทำตาขวางตลอดเวลาด้วย” แต้มหันไปมองใบหน้าเรียบเฉยนั้นก่อนจะตอบกลับไป

“ปกตินี่”

“ไม่ปกติ นายดูดีๆสิ” อาร์ทเป็นอีกคนที่มายืนยัน เนื่องจากมีผู้หญิงหลายคนพูดกันว่ายิ่งใหญ่ไม่รับของขวัญแถมยังบึ้งตึงใส่คนที่เข้าใกล้เพื่อมาแปะสติกเกอร์อีกด้วย

“พวกนายคิดมากน่า” แต้มลบกระดานต่อโดยไม่เก็บคำพูดของบรรดาเพื่อนร่วมชั้นมาคิด อย่างใหญ่น่ะเหรอจะมีเรื่องอะไรให้โมโห

“นายนี่น้า” อาร์ทหมดคำพูดก่อนกลับไปนั่งที่ของตัวเอง แต้มตามหลังมานั่งและเอาหน้าทาบกับโต๊ะเรียนอย่างง่วงงันโดยไม่สนใจอาการนิ่งเงียบของเพื่อนสนิทแม้แต่น้อย

***********************************************************************

ยิ่งใหญ่ใช้เวลาที่นั่งเงียบไปกับการอ่านจดหมายที่แฟนคลับส่งมาให้ ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจอ่านแต่ก็ต้องใช้เวลาร่วมชั่วโมงสำหรับทั้งหมดที่ได้รับ นอกจากนั้นยังต้องคัดแยกของขวัญที่ได้มาให้เป็นหมวดหมู่ ได้แก่ จดหมาย ช็อกโกแล็ต ดอกไม้ ตุ๊กตา เสื้อผ้าและอื่นๆ เขาต้องไปขอซื้อกล่องกระดาษจากร้านขายของชำหน้าโรงเรียนเพื่อเอามาใส่ของพวกนี้ และต้องใช้ถึง 3 กล่องจึงจะบรรจุของทั้งหมดได้ ยกเว้นแต่ตุ๊กตาตัวใหญ่ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนให้มาที่ไม่รู้ว่าจะเก็บอย่างไรดี

“เย็นนี้กินอะไร” แต้มเป็นคนยิงคำถามกับยิ่งใหญ่ที่นั่งหลับตาเอนหลังกับพนักพิงเก้าอี้

“....”

“ไม่ตอบงั้นเราเลือกเองนะ”

“....”

“หืม ไม่สบายเหรอ” แต้มใช้มือแตะแขนเพื่อน “ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา”

ยิ่งใหญ่เปรยตามองคนถามและไม่มีคำตอบอะไร

“นี่ เรื่องที่พนันกันไว้ตอนงานกีฬาสีอะ” แต้มเป็นคนเอ่ย ยิ่งใหญ่หันมามองเพื่อนรักอีกครั้ง

“เอาไว้ก่อน” ยิ่งใหญ่ตอบสั้นๆ

“ปะ กลับบ้านกัน”

“วันนี้มีซ้อม”

“ก็เอาของไปเก็บก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมา” แต้มเก็บกระเป๋าและหอบกล่องกระดาษสองกล่องซ้อนกันเดินออกไปโดยไม่สนใจคนที่นั่งหน้าบูดอยู่กับที่

ตลอดทางเดินกลับ บรรดานักเรียนทั้งหญิงและชายต่างก็มองที่ยิ่งใหญ่อย่างพร้อมเพรียงกัน เพราะนอกจากจะต้องถือกล่องกระดาษที่เต็มไปด้วยช่อดอกไม้แล้ว ยังมีตุ๊กตาหมีตัวใหญ่โดดเด่นอยู่ในอ้อมกอด ยิ่งใหญ่รู้สึกแปลกๆเพราะไม่รู้ว่าควรจะต้องรู้สึกอย่างไร โดยปกติแล้วเขาไม่ชอบเป็นที่ถูกมองอยู่แล้ว แต่เพราะบุคลิกหรือองค์ประกอบหลายๆอย่างทำให้เลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นเป้าสายตาของคนอื่น แต่ตอนนี้ยังมีไอ้ตุ๊กตาที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอามาให้มาเป็นจุดเด่นเพิ่มขึ้น นอกจากจะเขินแล้วยังหงุดหงิดใจเป็นอย่างมากเรื่องของขวัญและจดหมายที่แต้มได้รับจนไม่อยากจะพูดคุยกับใครเลยทั้งวัน

ก่อนที่จะเดินออกประตูด้านข้างโรงเรียน ยิ่งใหญ่ก็ยังโดนแฟนคลับนำของขวัญมาใส่ในกล่องที่เขาถือเพิ่มเติมอีกเป็นระยะ ทำให้แต้มต้องเดินนำไปก่อนเนื่องจากถือของหนักกว่า ระยะทางที่เคยคิดว่าไม่ไกลแต่กลับเดินแล้วเหนื่อยกว่าเดิมเป็นเท่าตัว นักเรียนชายหญิงแทบทุกระดับชั้นที่ยังไม่กลับบ้านต่างก็มาเล่นกีฬากันคับคั่ง บ้างก็จับกลุ่มคุยกัน ติวบทเรียนกัน มีส่วนหนึ่งที่เดินจับคู่กันและเปิดตัวในวันวาเลนไทน์นี้คุยกันอย่างออกรส แต้มหลบออกมาจากฝูงชนที่กรูกันเพื่อจะซื้อขนมจากรถเข็นข้างทางเพื่อตรงไปที่หอพัก ก่อนได้ยินเสียงหนึ่งเรียกมาแต่ไกล

“แต้ม” คนถูกเรียกหันไปมองร่างผอมบางนั้นอย่างคุ้นตา เด็กหนุ่มยิ้มให้อย่างอายๆ

“สวัสดี”

“แหม อุตส่าห์ได้เจอกันพูดแค่นี้อะนะ” ฝ่ายหญิงชวนคุยราวกับสนิทสนมกันมานาน

“คือ” แต้มรู้สึกเหงื่อออกไปทั้วตัว ใจสั่นและหายใจไม่ทั่วท้อง

“เราแซวเล่น” ฝ่ายหญิงใบหน้าสวยหวาน ผมดำขลับยาวประบ่าปลิวตามแรงลมหนาวที่ปะทะช่างน่าจับจ้อง ดวงตากลมที่เหมาะเจาะกับรูปหน้าถูกขับให้ดูเด่นขึ้นด้วยผิวพรรณที่ขาวผ่องตามแบบฉบับเด็กเหนือ “กลับแล้วเหรอ”

“ใช่ครับ”

“ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้” หญิงสาวหัวเราะคิกคักจนแต้มรู้สึกเขินอายมากกว่าเดิม

“คือ..” แต้มอยากจะวางกล่องลงแล้วเกาหัวแกรกๆ แต่ก็ทำไม่ได้

“ได้รับจดหมายจากเราแล้วใช่มั้ย”

“ดะ ได้รับแล้ว ขอบคุณนะ” แต้มนึกถึงจดหมายและขนมที่เจอใต้โต๊ะและนึกออกทันที

“ได้รับก็ดีแล้วล่ะ เราตั้งใจเขียนสุดฝีมือเลยนะ” หญิงสาวยิ้มจนแต้มรู้สึกมวนท้อง ใบหน้าหวานนั้นยิ่งน่ามองเข้าไปอีก “อุ๊ย ขอโทษทีแต้มน่าจะหนัก เราไม่กวนแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะ”

ผู้หญิงคนนั้นเดินเข้าไปในโรงเรียนแทนที่จะเดินออกไปทางอื่น แต้มยืนนิ่งอยู่สักพักก่อนจะดึงสติกลับมาและหอบร่างที่เหมือนไร้ความรู้สึกไปที่ห้องพัก เวลาผ่านไปสี่สิบห้านาทีหลังจากที่เขาถึงห้องยังไร้วี่แววของเพื่อนรักที่ปกติจะต้องเดินมาด้วยกันเสมอ แต้มหยิบมือถือขึ้นมากดโทรเบอร์ที่ประวัติการโทร 9 จาก 10 สายเป็นของเบอร์นี้ ปลายสายดังอยู่นานจนตัดไปเนื่องจากไม่มีคนรับสาย หลังจกพยายามโทรอีกสองครั้งก็ไม่มีคนรับ แต้มจึงตัดสินใจปีนขึ้นเตียงและหลับไปอย่างอ่อนเพลีย

ยิ่งใหญ่เดินหอบข้าวของออกมาจากวงล้อมแฟนคลับและพยายามเดินตามเพื่อนสนิทให้ทัน แต่เมื่อใกล้ถึงตัว กลับเห็นภาพที่ทำให้ยิ่งรู้สึกกระอักกระอ่วนยิ่งขึ้น มือข้างที่ถือตุ๊กตาหนีบมันแน่นเพื่อระบายความอัดอั้นที่ไม่สามารถตะโกนร้องในตอนนี้ ดวงตาแดงก่ำราวกับเด็กถูกขัดใจร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่อยู่ แผ่นหลังที่คุ้นเคยยืนนิ่งอยู่พักใหญ่ก่อนเดินไปในทิศทางเดิมที่คุ้นเคย ยิ่งใหญ่มองแผ่นหลังนั้นด้วยความหวีดหวิวในใจ และมองคนที่เดินมาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

“สวัสดี เจอกันอีกแล้วนะใหญ่” หญิงสาวใบหน้าสวยหวานนั้นทักทายอย่างสนิทสนม เมื่อทั้งคู่ยืนด้วยกันยิ่งเป็นคู่ที่โดดเด่น สายตาหลายคู่ต่างมองมาที่ทั้งสองคนอย่างประหลาดใจ

“เธอๆดูนั่นสิ แฟนใหญ่รึเปล่า” บรรดานักเรียนมุงต่างพากันกระซิบกระซาบ

“ไหนๆ ต๊าย ใครอะไม่คุ้นหน้า”

“น่าจะมาจากโรงเรียนอื่น แต่สวยนะ” ผู้ชายคนหนึ่งชม

“นี่ อย่าชมสิ สวยตรงไหน ธรรมดาจะตาย”

“แต่พอยืนด้วยกัน สมกันจังเลย” นักเรียนหญิงเนิร์ดสวมแว่นตาหนาเตอะออกความเห็น

“นังนี่ ชั้นบอกว่าห้ามชม”

“แต่ชั้นเห็นผู้หญิงคนนี้คุยกับแต้มก่อนหน้านี้นะ” ใครบางคนพูดออกมา

“นั่นไง แสดงว่าเป็นแฟนใหญ่แน่ๆ ไม่งั้นไม่รู้จักกับแต้มหรอก”

“แต้มไหนอะ” นักเรียนหญิงเนิร์ดคนเดิมถาม

“โหยยยยย ไปอยู่ไหนมายะหล่อน”

“อย่าไปสนใจมันเลย โอย ชั้นอกหักเหรอเนี่ย ยิ่งใหญ่มีแฟนแล้ว” เสียงผู้ชายกระตุ้งกระติ้งคนหนึ่งโอดครวญอย่างน่าขันดังขึ้นมา

เสียงซุบซิบจากบรรดาแฟนคลับและคนที่เดินผ่านไปมาแผ่วเบาจนผู้ถูกเอ่ยถึงไม่อาจรู้ได้ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นสาเหตุให้เด็กหนุ่มร่างสูงใบหน้าหล่อเหลากำลังตัวสั่นอย่างอัดอั้น สองตาจับจ้องร่างบางนั้นอย่างไม่เป็นมิตรเนื่องจากภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ “มาทำอะไร”

“โหย อย่าทำเสียงเข้มแบบนี้สิ เรากลัวนะ”

“เราถามว่ามาทำอะไร”

“ใจเย็นๆสิ เราก็แค่มาทักทาย”

“ทักทายเหรอ แล้วเมื่อกี้คุยอะไรกับแต้ม”

“เปล่านี่” ฝ่ายหญิงฉีกยิ้มกว้าง ใบหน้าสละสวยนั้นดูเป็นมิตรแต่กลับเพิ่มระดับความโกรธให้อีกฝ่าย “แค่มาถามว่า...”

“ถามอะไร” ยิ่งใหญ่เพิ่มระดับเสียงแทบจะกลายเป็นตะโกน อีกฝ่ายยังยิ้มหวานให้ไม่เปลี่ยนแปลง

“แหม อย่าโกรธสิ เราไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แค่มาถามแต้มว่าได้รับจดหมายจากเรารึยัง”

“จดหมาย” ยิ่งใหญ่นึกทบทวน “จดหมายอะไร”

“ก็จดหมายที่เราเขียนถึงแต้มวันนี้ไง” ยิ่งใหญ่แทบคลั่งเมื่อได้ยินเสียงหวานนั้นพูด ชายหนุ่มแทบจะพุ่งตัวไปชนผู้หญิงคนนี้ให้ล้มไม่เป็นท่า แต่ต้องยืนนิ่งสูดลมหายใจเพื่อผ่อนความคับข้องใจ

“เธอทำแบบนี้ทำไม”

“ทำอะไรเหรอ”

“ก็เขียนจดหมายให้แต้ม”

“ทำไม หึงงั้นเหรอ” ฝ่ายหญิงฉีกยิ้มยิ่งกว่าเดิม “ถ้าหึงก็กลับมาคบกันสิ”

ยิ่งใหญ่มองใบหน้านั้นอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง ความสับสนพวยพุ่งตบตีกันในสมองของเขาอย่างหนัก ข้อเสนอที่ไม่คาดคิดนี้กลับมากวนใจเขาอีกระลอกทั้งๆที่ไม่คิดถึงมานานแล้ว หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะตอบไปได้ในทันที







“ทำไมเราจะต้องกลับไปคบเธอด้วยล่ะ...เบล”



จบตอน...

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
จบตอนแบบนี้เลย....T^T

โอ๋ๆ มาต่อแล้วจ้า....  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:pig4: :pig4: :pig4:

ใครให้ของขวัญแต้มอ่ะ   ส่งผลให้ยิ่งใหญ่ออกอาการลมเพชรหึงขึ้นหน้าเลย  อิอิ

เฉลยไปแล้วนะครับ อิอิอิ

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่อ...ยัยเบลนี่เอง

แต่ไอ้ที่ยัยเบลเข้าใจว่าหึงอ่ะนะ  ยิ่งใหญ่มันหึงจริงแต่มันหึงแต้มนะ  ไม่ใช่หึงแกยัยเบลอย่าสำคัญตัวผิด  อิอิ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
:pig4: :pig4: :pig4:

อ่อ...ยัยเบลนี่เอง

แต่ไอ้ที่ยัยเบลเข้าใจว่าหึงอ่ะนะ  ยิ่งใหญ่มันหึงจริงแต่มันหึงแต้มนะ  ไม่ใช่หึงแกยัยเบลอย่าสำคัญตัวผิด  อิอิ

ใช่เลย...........  :m20:
ใหญ่ โมโหแต้มที่ได้รับจดหมาย
แล้วที่ตัวเองได้รับของเป็นสามหอบ สี่หอบล่ะ   :เฮ้อ: :really2: o22
พูดให้ชัดเจนทั้งเบล ทั้งแต้มไปเลยสิ จะได้ไม่โมโหหึงอยู่คนเดียว   o18
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:pig4: :pig4: :pig4:

อ่อ...ยัยเบลนี่เอง

แต่ไอ้ที่ยัยเบลเข้าใจว่าหึงอ่ะนะ  ยิ่งใหญ่มันหึงจริงแต่มันหึงแต้มนะ  ไม่ใช่หึงแกยัยเบลอย่าสำคัญตัวผิด  อิอิ


ฮ่าๆๆๆ ท่าจะจริง

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:pig4: :pig4: :pig4:

อ่อ...ยัยเบลนี่เอง

แต่ไอ้ที่ยัยเบลเข้าใจว่าหึงอ่ะนะ  ยิ่งใหญ่มันหึงจริงแต่มันหึงแต้มนะ  ไม่ใช่หึงแกยัยเบลอย่าสำคัญตัวผิด  อิอิ



นายใหญ่คงมีเหตุผลน่ะครับ

ใช่เลย...........  :m20:
ใหญ่ โมโหแต้มที่ได้รับจดหมาย
แล้วที่ตัวเองได้รับของเป็นสามหอบ สี่หอบล่ะ   :เฮ้อ: :really2: o22
พูดให้ชัดเจนทั้งเบล ทั้งแต้มไปเลยสิ จะได้ไม่โมโหหึงอยู่คนเดียว   o18
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You
ตอนที่ 57. การตัดสินใจของยิ่งใหญ่
   ยิ่งใหญ่ยืนนิ่งหน้าประตูห้องอยู่อย่างนั้น ไม่รับแม้กระทั่งเบอร์ที่โทรเข้ามา เด็กหนุ่มนั่งพิงผนังห้องอยู่พักใหญ่ก่อนจะเดินออกมาสูดอากาศข้างนอก นึกถึงคำตอบที่ได้รับจากคนที่รู้จักกันมานานอย่างหนักใจ
“ก็ถ้าใหญ่ไม่คบกับเรา เราก็จะจีบแต้มต่อ”
“แต่เธอไม่ได้ชอบแต้มนี่”
“แล้วไงล่ะ” เบลส่งยิ้มหวานที่ชวนคลื่นไส้มาอีกครั้ง “อยู่ที่เธอแล้วล่ะว่าจะเอายังไง”
   เสียงโทรศัพท์ปลุกแต้มให้ตื่นขึ้นมาอย่างง่วงงัน รู้สึกปวดศีรษะไปหมดเนื่องจากการนอนหลับในช่วงเย็นเช่นนี้ เขากดรับสายด้วยน้ำเสียงชวนง่วง ก่อนที่จะลืมตาโพลงในความมืด “ไม่นะครับ ยังไม่กลับมาเลย นึกว่าไปซ้อม”
“ไม่นะ เรานึกว่าอยู่ด้วยกัน” คำตอบชวนให้เป็นกังวลจนแต้มตื่นเต็มตาแล้วตอนนี้
“เดี๋ยวเราโทรให้นะ” แต้มกดวางสายและกดเบอร์คุ้นเคยอีกครั้ง เพื่อนร่วมทีมของยิ่งใหญ่โทรมาหาเนื่องจากตัวต้นเรื่องไม่ไปซ้อมวันนี้ เมื่อไม่มีคนรับสาย แต้มจึงลุกจากที่นอนก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดลำลองแล้วเดินออกไปและพบกล่องของขวัญและตุ๊กตาตัวใหญ่วางอยู่หน้าห้อง ไปไหนนะ ทำไมไม่เข้าห้อง เด็กหนุ่มคิดก่อนจะหอบหิ้วข้าวของทุกอย่างเข้าไปวางที่โต๊ะญี่ปุ่น มองตุ๊กตาตัวใหญ่นั้นอย่างกังวลใจ
   ยิ่งใหญ่ไม่ได้บอกใครเลยว่าจะไปไหน ได้แต่เดินเท้าตั้งแต่หอพักตามทางมาเรื่อยเปื่อย สองข้างทางเริ่มมืดมิด ถึงแม้ลมหนาวจะเริ่มเบาบางแต่ก็ยังทำให้รู้สึกเย็นเยือกได้ บุหรี่มวนแล้วมวนเล่าจุดจนมอดไหม้คล้ายกับเป็นยาระบายความเครียด แต่หากมันแค่ช่วยได้เพียงชั่วครู่ เมื่อสูบไปจนหมดมวนแล้ว ความหนักอึ้งในใจก็ยังไม่หายไปไหน มันลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอกคล้ายกับเป็นหนามตำใจให้ต้องจุดบุหรี่มวนต่อไป
   แต้มหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์และพุ่งตัวออกจากห้องอย่างไร้จุดหมาย หากในยามปกติ เขากดโทรยังไม่ทันจะได้ยินเสียงตื๊ดแรกในโทรศัพท์ยิ่งใหญ่ก็ชิงรับสายก่อนแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ว่าจะติดต่อไปกี่ครั้งก็ไม่รับ นับว่าผิดวิสัยจนน่าเป็นห่วง แต้มรีบจนลืมหยิบเสื้อกันหนาวออกมา เด็กหนุ่มไม่มีเวลามากพอที่จะพะวงเรื่องอื่นนอกจากการหาตัวคนเจ้าปัญหาคนนี้ให้เจอเสียก่อน
      ***********************************************************************
   ต้องตาสะดุ้งตื่นทันทีที่เครื่องบินแตะพื้นรันเวย์จนกระเทือนไปทั้งลำ ตัวเครื่องสั่นอย่างแรงพร้อมกับเสียงลมหวีดหวิวปะทะกับแรงเบรคของเครื่องยนต์ที่กำลังทำงานอยู่ วิสัยทัศน์ค่อนข้างแย่จากหมอกที่ก่อตัวหนาในยามนี้ เครื่องบินหยุดสั่นก่อนจะวิ่งบนรันเวย์อย่างเชื่องช้าเพื่อเข้าจอด หญิงสาวใช้มือปิดปากตอนที่กำลังหาวอย่างง่วนงัน ชายหนุ่มที่นั่งติดกันยิ้มให้อย่างอบอุ่นใจ ทั้งคู่รอเวลาไม่นานหลังจากเครื่องบินจอดสนิทและประตูเปิดให้สามารถออกจากเครื่องบินได้
“เหนื่อยมั้ยครับคุณตา” ยอดเยี่ยมถามแฟนสาวอย่างรักใคร่ น้ำเสียงนั้นอ่อนหวาน
“ไม่เหนื่อยค่ะ “ ต้องตาไม่ได้ตอบความจริง แต่คงไม่จำเป็น เพราะอีกฝ่ายคงรู้อยู่แล้วจากที่เธอหลับสนิทตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนถึงตอนนี้
“ความจริงมาพรุ่งนี้ก็ได้นะครับ ไม่น่ารีบมาเลย”
“ไม่ได้หรอกค่ะ พรุ่งนี้มีประชุมตั้งแต่เช้า ตากลัวจะฉุกละหุก”
“ครับ” ยอดเยี่ยมไม่รู้จะสรรหาคำใดมาพูด เขามีประชุมที่เชียงใหม่จึงพาต้องตามาด้วยในฐานะเลขาส่วนตัว แต่อีกใจหนึ่งเขาอยากจะขอลาหยุดสักสองวันและพาเธอไปเที่ยวตามประสาคนรักมากกว่า
“แล้วเราจะไปยังไงคะ คุณยอดไม่ให้ตาเช่ารถไว้ก่อน”
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวมีคนมารับ” หญิงสาวไม่ทันตอบอะไรก็ถูกชายหนุ่มโอบเอวบางอย่างหวงแหนจนลืมไปแล้วคำที่จะพูด ยิ่งตอนที่เดินออกไปด้านนอก เอวบางก็ถูกกระชับแน่นจนน่าแปลกใจที่ยอดเยี่ยมมีอาการเช่นนี้
“คุณยอด จะกอดอะไรตาขนาดนี้คะ”
“ไม่กอดได้ไง แฟนผมสวย มีแต่คนมองเต็มไปหมดเลยดูสิ” ต้องตามองไปรอบๆ สายตาที่เคยจับจ้องมาทางตนหลุบต่ำจนเข้าใจได้ว่าทำไมยอดเยี่ยมถึงได้ออกอาการเช่นนี้
“พอแล้ว ตาเขิน”
“ไม่ได้ ขืนปล่อยคุณไปมีหวังมีแต่คนมารุมจีบคุณน่ะสิ” ยอดเยี่ยมตอบอย่างไม่เคอะเขินด้วยท่าทางทีเล่นทีจริง หญิงสาวหน้าแดงเนื่องจากความหล่อเหลาอของยอดเยี่ยมนั้นก็ไม่เป็นรองใคร เมื่อทั้งคู่อยู่ด้วยกันก็ยิ่งเพิ่มความโดดเด่นจนเป็นที่จับจ้องของคนทั่วไป เมื่อห้ามไม่ได้ เธอจึงปล่อยเลยตามเลย...
   อากาศของเชียงใหม่กลับร้อน ผิดกับหมอกที่ลงหนาจัด ความเย็นภายในอาคารผู้โดยสารแตกต่างกับบรรยากาศด้านนอกลิบลับ ชายหนุ่มจับมือแฟนสาวไว้อย่างหวงแหนโดยมือข้างที่เหลือลากกระเป๋าเดินทางขนาดย่อมไปด้วย ต้องตาเป็นผู้หญิงที่แปลกและสามารถทำให้ชายหนุ่มประหลาดใจได้เสมอ เพราะข้าวของที่เธอเตรียมมานั้นน้อยนิดไม่เหมือนกับแม่หรือญาติๆที่เป็นผู้หญิงของเขา ที่ต้องขนกระเป๋าไม่ต่ำกว่า 2 ใบสำหรับการออกเดินทางที่แม้จะใช้เป็นทริปสองวันหนึ่งคืนก็ตามที
“คันนี้แหละ” ยอดเยี่ยมปล่อยมือจากหญิงสาวเคาะกระจกรถ ต้องตาสงสัยมาตั้งแต่ยอดเยี่ยมพาเธอเดินออกมาที่ลานจอดรถมากกว่าจะรอภายในอาคาร ว่าทำไมคนที่มารับจะต้องทำตัวลึกลับขนาดนี้ และเมื่อกระจกรถลดระดับลงมา เธอก็เข้าใจในทันที
“คุณภัทร”
“สวัสดีครับคุณต้องตา ขอโทษด้วยนะครับที่ต้องให้ลำบากเดินมา”
“ไม่เป็นไรค่ะ ตาต่างหากที่ทำให้คุณต้องลำบากมารับ”
“โอ๊ย มันไม่ลำบากหรอกครับคุณตา” ยอดเยี่ยมเดินมาสมทบหลังจากเก็บกระเป๋าที่กระบะท้ายรถ “ให้มันทำงานบ้างเถอะครับ ช่วงนี้ยิ่งไม่มีงานอยู่”
“บ้าน่าคุณยอด ละครคุณภัทรยังฉายอยู่เลย” ยอดเยี่ยมเปิดประตูหลังฝั่งคนขับให้หญิงสาวเข้าไปนั่งก่อนจะวิ่งอ้อมมาเปิดประตูอีกฝั่งเพื่อมานั่งติดกัน ต้องตาไม่ได้สังเกตว่าในรถมีคนอื่นนอกจากดาราหนุ่มหล่อด้วยตั้งแต่แรก เมื่อเธอมองใบหน้าที่หล่อเหลา ลักษณะคล้ายคนจีนมากจนเป็นเอกลักษณ์ แต่กลับมีเสน่ห์ยิ่งกว่ายอดเยี่ยมเสียอีก
“อุ๊ย คุณบั๊มพ์ สวัสดีค่ะ ขอโทษทีนะคะเมื่อกี้ตาไม่ทันสังเกต”
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรครับ เมื่อกี้ผมเอนหลังนอนครับ” ชายหนุ่มตอบรับอย่างเป็นกันเอง “เหนื่อยมั้ยครับวันนี้”
“คงเหนื่อยแหละ ไอ้ยอดไม่ยอมปล่อยให้ว่างแน่ๆ” ดาราหนุ่มแซวอย่างทะเล้น จนต้องตาอายหน้าแดงอีกครั้ง เพราะคำพูดนี้มันสามารถตีความเป็นอย่างอื่นได้อีก
“นี่ๆ น้อยๆหน่อย ให้เกียรติแฟนกูบ้าง”
“คร้าบบบบ คุณพ่อ แหม่ หวงจริงๆ” ภัทรตอบแบบไม่สำนึกผิด แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ถือโทษแต่อย่างใด กลับอบอุ่นใจมากกว่า หากเธอรู้ว่าใครเป็นคนมารับ คงจะแต่งตัวให้สวยกว่านี้
   การเดินทางจากสนามบินมาที่บ้านของบั๊มพ์ใช้เวลาไม่นานนัก หญิงสาวรู้สึกหิวจนท้องกิ่วแต่ก็สงวนท่าทีไว้ หากไม่เหนื่อยจนหลับตลอดทางเธอคงได้ทานอะไรสักอย่างบนเครื่องบินมาแล้ว แต่จากการทำงานและต้องเดินทางมันก็ค่อนข้างหนักหนาสำหรับผู้หญิงตัวเล็กอยู่ไม่น้อย เจ้าของบ้านนำทางไปที่ห้องพักที่อยู่ด้านบน ห้องหับที่ทำมาจากไม้ทาแล็กเกอร์เงาแปลบออกแบบมาในสไตล์ล้านนาผสมผสานแนวโมเดิร์นดูลงตัว ภายในห้องฉาบปูนมิดชิดผิดจากรูปลักษณ์ภายนอกอย่างสิ้นเชิง เตียงใหญ่ขนาดห้าฟุตวางเด่นอยู่กลางห้อง พื้นปูด้วยกระเบื้องสีน้ำตาลคล้ายกับเป็นพื้นไม้เย็นเฉียบจากแอร์ที่น่าจะเปิดทิ้งไว้ก่อนที่ชายหนุ่มจะออกไปรับทั้งคู่ที่สนามบิน
“ห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกเดินออกไปแล้วซ้ายนะครับ คุณตาอาบน้ำก่อนแล้วค่อยไปทานข้าวกัน วันนี้ผมขอให้แม่ครัวทำกับข้าวหลายอย่างเลย”
“ขอบคุณมากนะคะ ไม่น่าลำบากเลยวันหยุดของร้านแท้ๆ...” หญิงสาวพยายามพูดต่อ แต่เจ้าของบ้านก็ชิงตัดหน้าเสียก่อน
“ไม่ต้องเหรงใจนะครับคุณตา คิดเสียว่าเป็นบ้านคุณตานะครับ ขาดเหลืออะไรก็บอกไอ้ยอดมันได้”
“ขอบคุณค่ะ” ต้องตายิ้มกว้าง มองแผ่นหลังใหญ่เดินออกจากห้องไป ยอดเยี่ยมกระโจนบนเตียงกว้างแผ่หราอย่างไม่เกรงใจสายตาเธอแม้แต่น้อย “นี่คุณยอด จะนอนเลยไม่ได้นะคะ มาเก็บของก่อน” หญิงสาวเปิดกระเป๋าเดินทางเพื่อนำข้าวของออกมาจัดแจงเข้าที่
“ยังไม่ต้องหรอก” ยอดเยี่ยมลุกขึ้นมาอย่างเกียจคร้าน “มาให้ผมกอดก่อน” ร่างใหญ่ฉุดหญิงสาวให้เดินมาที่เตียงอย่างไม่ขัดขืนก่อนจะล้มตัวลงกอดกันกลม “อุ่นจัง” ชายหนุ่มพูดอย่างอารมณ์ดี
“ขี้อ้อนจังนะคะ” ต้องตาแซว
“ผมก็อ้อนแฟนผมคนเดียวนี่แหละ” มือใหญ่ที่กอดกุมเรือนร่างบอบบางกระชับความอบอุ่นให้แนบแน่นกว่าเดิม
“ใครจะเชื่อว่าผู้บริหารหนุ่มจะอ้อนแฟนอย่างกับเด็กน้อย”
“ใครใช้ให้คุณตาน่ารักขนาดนี้ล่ะครับ” ชายหนุ่มใช้จมูกโด่งหอมที่ท้ายทอยของหญิงสาวก่อนจะส่ายหน้าไปมาเพื่อสูดกลิ่นที่หอมหวานให้หนำใจ หญิงสาวหัวเราะคิกเนื่องจากจั๊กจี้ แต่กลับรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างที่สุดเช่นกัน
      ***********************************************************************
   ยิ่งใหญ่นั่งเหม่อบนฟุตบาทอย่างไร้จุดหมาย หลังจากครุ่นคิดจนบุหรี่ซองที่สองเกือบจะหมดซองก็ตกลงใจได้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป แม้ว่ามันเป็นเรื่องที่ชวนให้ลำบากใจอยู่ไม่น้อย แต่มันก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เมื่อเบลได้เดินกลับเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้ง มันก็ยิ่งตอกย้ำอะไรหลายๆอย่างที่ผ่านมา ยิ่งใหญ่เคยคิดว่าการที่ตนย้ายมาเรียนที่เชียงรายนั้นจะทำให้เรื่องราวเก่าๆที่เคยเกิดขึ้นเป็นแค่อดีต ไม่นานก็ลืมเลือนไปได้ แต่วันนี้มันไม่เป็นอย่างที่คิดไว้แล้วเพราะการที่เบลเข้ามาใกล้เขาได้ขนาดนี้คงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไรนัก
   เด็กหนุ่มร่างสูงนั่งริมฟุตบาทเลิกมองเหม่อไปที่ท้องฟ้ามืดนั้นแล้ว เขาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กเท่าฝ่ามือออกมากดเบอร์โทรที่เขาจำได้ขึ้นใจ 053xxxxxx
   เสียงตื๊ดดังอยู่หลายครั้ง ยิ่งนานเท่าไรจิตใจของเขาก็ยิ่งเต้นโครมครามอย่างห้ามไม่ได้ นานเท่าไรแล้วหนอที่เขาไม่ได้โทรไปที่หมายเลขนี้ ครั้งสุดท้ายที่คุยกันมันเมื่อไรกันนะ ... แล้ววันนี้เขาจะต้องเริ่มต้นอย่างไรดีหากคนทางโน้นรับสาย
แกร็ก
“สวัสดีค่ะ ต้องการพูดกับใครคะ” เสียงเด็กหญิงที่โตขึ้นตามลำดับทำให้เขายิ่งคิดถึงวันวานที่จากมา ยิ่งใหญ่กระแอมก่อนจะตอบไปอย่างคุ้นเคย
“น้องชัญญ่าเหรอ พี่ใหญ่เอง พี่ชัดอยู่มั้ยคะ”

จบตอน...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ชัญญ่าคือลูกสาวของยิ่งใหญ่กับเบล?

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ต้องย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าด่วนๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ยังไงๆ.......  :z3:
ใหญ่เอ๋อและ  :really2: :เฮ้อ: :serius2:
ตัดนังเลวเบลทิ้งไปเลย  :z6:
จะกลับมาคบกับใหญ่แบบมีเงี่ยน ....เอ๊ยเงื่อนไข  เลววววววว   :m16: :fire: :angry2:
รู้ใจตัวแล้วนี่ว่าชอบใคร รักใคร หึงใคร  :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 58. การตัดสินใจของยิ่งใหญ่ (2)



              มันไม่ง่ายเลยสำหรับเด็กหนุ่มที่ตัดสินใจทำอย่างนี้ แต่หากไม่ทำ สิ่งที่เขากังวลจะเป็นจริงเหมือนที่มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว แววตาและใบหน้าที่สดใสของเด็กสาวที่ชื่อเบลนั้นช่างขัดกับนิสัยอย่างลิบลับ ทั้งสองคนเติบโตจากครอบครัวที่คล้ายคลึงกัน บ้านของทั้งคู่อยู่ใกล้กันเมื่อตอนที่เขาย้ายไปเชียงใหม่ช่วงแรก พ่อของเขาเป็นหมอ แม่ของเบลก็เป็นหมอ ต่างฝ่ายต่างเป็นคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เด็กทั้งสองจึงใช้เวลาอยู่ด้วยกันมานานตั้งแต่นั้น ความสนิทสนมก่อให้เกิดเป็นสายสัมพันธ์ที่แนบแน่น เมื่อเติบโตขึ้น ยิ่งใหญ่กลับพบว่าทั้งเขาและเบลต่างมีความบิดเบี้ยวที่ไม่อาจเข้ากันได้



              เบลนั้นเติบโตเป็นเด็กสาวหน้าตาดี แต่เป็นคนที่ยึดติดอยู่กับสิ่งที่เคยมี เคยได้ เนื่องจากผู้เป็นแม่ไม่ค่อยมีเวลาให้ เธอจึงเป็นคนที่หวงแหนทุกอย่างที่ตนมีและไม่ยอมปล่อยให้ไปไหนเพียงเพราะไม่อยากกลายเป็นคนอ้างว้างและเปล่าเปลี่ยว และกับยิ่งใหญ่ เด็กหนุ่มที่เติบโตด้วยกันมาก็ยิ่งเปรียบเสมือนของรักของหวงที่เธอไม่ยอมมอบให้ใครอย่างเด็ดขาด



              ยิ่งใหญ่นั้นเติบโตมาอย่างบิดเบี้ยว แต่ไม่ใช่ทางอารมณ์และความรู้สึกเฉกเช่นเพื่อนสนิทคนนั้น ความรู้สึกที่ถูกครอบครองราวกับเป็นสิ่งของทำให้เขาหันไปเข้ากลุ่มเพื่อนผู้ชายในห้องมากขึ้น เลิกขลุกตัวอยู่กับเด็กสาวที่เรียกร้องเอาเวลาจากตนอยู่เสมอนั้นเสีย รอยร้าวที่เพิ่มพูนขึ้นนั้นเองทำให้ความรู้สึกที่ดีแปรเปลี่ยนไป หากครอบครองไม่ได้...ก็ไม่ควรมีใครได้ไปเช่นกัน



แกร็ก

“สวัสดีค่ะ ต้องการพูดกับใครคะ” เสียงเด็กหญิงที่โตขึ้นตามลำดับทำให้เขายิ่งคิดถึงวันวานที่จากมา ยิ่งใหญ่กระแอมก่อนจะตอบไปอย่างคุ้นเคย



“น้องชัญญ่าเหรอ พี่ใหญ่เอง พี่ชัดอยู่มั้ยคะ”



“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่เหรอ พี่ใหญ่อยู่ไหน ไม่มาเล่นกับหนูเลย” เด็กหญิงร้องถามอย่างน้อยใจ ก่อนที่จะถูกแย่งโทรศัพท์ไปจากชายคนหนึ่งแทน



“ใหญ่ นายเหรอ” เสียงนุ่มทุ้มนั้นดังเข้ามาอีกครั้ง ยิ่งใหญ่สะกดความตื่นเต้นเอาไว้อย่างเงียบเชียบ

“ใช่ เราเอง พอดีเรามีเรื่อง...”

“เบลใช่มั้ย” ปลายสายเอ่ยชื่อนี้ทันทีราวกับว่ารู้เรื่องมาก่อนหน้านี้แล้ว



“อืม”



“ใหญ่ นายอยู่ไหน นายมาคุยกับเราได้ไหม”

“เรายังไม่สะดวกน่ะ” ยิ่งใหญ่สูดควันพิษเข้าปอดอย่างไม่รีบร้อน “นายสบายดีนะ”

“เราสบายดี ชัญญ่าก็สบายดีถามหานายใหญ่เลย”



“...”



“ใหญ่ นาย...”

“เราโอเค” เขาตอบอย่างไม่เชื่อคำพูดของตนเท่าไรนัก

“ไม่จริงหรอก ถ้านายโอเคจริงๆนายจะโทรมาหาเราทำไม”

“คงงั้น” ยิ่งใหญ่สารภาพ “เราไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง”

“เรากับเบลเลิกกันแล้วนะ” อีกฝ่ายหนึ่งพูดทำลายความเงียบที่เกิดขึ้น

“เรารู้แล้ว” ยิ่งใหญ่ไม่หยุดประโยคที่คิดว่า ไม่อย่างนั้นคงไม่มาหาเราหรอก เอาไว้



“เราถามไปถามพ่อนายว่านายไปที่ไหน”

“นายทำอย่างนั้นเหรอ” ยิ่งใหญ่ดูดบุหรี่เฮือกใหญ่ “นายทำแบบนั้นทำไม”



“เรา” เด็กหนุ่มที่ชื่อชัดกำลังกลั้นลมหายใจ ความอึดอัดของการสนทนาทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ “เราแค่อยากบอกนาย”

ยิ่งใหญ่ไม่ตอบ ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรกับเรื่องนี้ ภาพความหลังมันชัดเจนเสียจนรับไม่ไหว “อือฮึ”



“ตอนนั้น เราไม่ได้ตั้งใจ” ชัดคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติอย่างยากลำบาก “เราไม่พูดนะว่าเราแย่งเบลมา แต่เราก็ไม่คิดว่า...”

“พอเถอะ” ยิ่งใหญ่ตัดบท “มันไม่มีประโยชน์หรอกที่จะพูดมันอีก”

“แต่เราทำให้นายเสียใจ”

“ช่างมันเถอะ”

“เราไม่น่าเลย ไม่น่าคบกับเบลเลย”

“เราบอกว่าพอเถอะไง!” ยิ่งใหญ่ตวาดดังลั่น “พูดไปมันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา”



“ถ้าไม่ได้อะไรขึ้นมา นายจะโทรหาเราอีกทำไม”

“อย่างน้อยเราก็เคยเป็นเพื่อนกันไง” ยิ่งใหญ่ใช้คำว่า เคย



“เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่...” ชัดพูดด้วยน้ำเสียงลังเล “ไม่ใช่เหรอ”



ปี๊น ปี๊น ปี๊น



              เสียงแตรรถมอเตอร์ไซค์ดังมาจากด้านซ้าย แสงไฟสาดส่องมาจนแสบตา ยิ่งใหญ่ลุกขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองก่อนสลัดความรู้สึกกระอักกระอ่วนในตอนนี้ทิ้งไปจนเกลี้ยง เขากดวางสายแทบจะทันทีที่รถคันนี้มาจอดเทียบ



“นายรู้ได้ไงว่าเราอยู่ที่นี่”



“...” ไม่มีคำตอบใดๆออกมาจากคนที่จับแฮนด์รถมอเตอร์ไซค์นอกจากสายตาที่ดูไม่เป็นมิตรอย่างเห็นได้ชัด

“เอ่อ คือ” ยิ่งใหญ่ทิ้งก้นบุหรี่ในมือ ใช้เท้าขยี้มันจนดับ เป็นครั้งแรกที่เขาสังเกตว่าก้นกรองบุหรี่สุมเป็นกองใหญ่กับพื้น

“ขึ้นรถ” ยิ่งใหญ่เก้ๆกังๆ เพราะแต้มนั้นมีท่าทีไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “ขึ้น..”



“โอเคๆขึ้นแล้ว” เด็กหนุ่มกระโจนนั่งเบาะหลังอย่างว่าง่าย แต้มขี่ไปตามถนนอย่างคุ้นเคย ตลอดทางกลับนั้นเงียบเชียบและน่าอึดอัด ยิ่งใหญ่รู้สึกว่าควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้สถานะการณ์ตอนนี้คลี่คลาย แต่ก็ไม่อาจคิดคำพูดที่จะทำให้แต้มใจเย็นลงได้ ความรู้สึกหนักอึ้งนี้มากกว่าตอนที่คุยโทรศัพท์เมื่อครู่เสียอีก



              แต้มเดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบงัน ถึงแม้จะเป็นบุคลิกที่คุ้นเคยกันอย่างดี แต่มันกลับมีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิมจนรับรู้ได้ ยิ่งใหญ่ยืนอยู่กลางห้องมองข้าวของที่ถูกเก็บมาอย่างไร้ความหมาย แต้มนั่งหันหลังที่โต๊ะเรียนท่าทางง่วนกับการบ้านที่ทำเสร็จไปแล้วตั้งแต่บ่าย ยิ่งใหญ่รู้ดีว่านี่คือการแสดงออกว่าอีกฝ่ายกำลังไม่พอใจ



“นี่ ของโปรดนายเลยนะ” ยิ่งใหญ่หยิบช็อกโกแล็ตแท่งยี่ห้อโปรดของเพื่อนสนิทและทำหน้าทะเล้น แต่ไม่เป็นผล

“แต้มมมมม ดูนี่ นายน่าจะชอบ” หนังสือเพลงเล่มใหม่ล่าสุดที่แต้มบ่นอยากได้ หนึ่งในของขวัญวาเลนไทน์จากแฟนคลับ

อีกฝ่ายเมินเฉย...

“นี่ๆๆๆ บัตรเล่นเกม มีคนรู้ด้วยว่าเราชอบ” ท่าทางทะเล้นของยิ่งใหญ่ถูกมองด้วยหางตาจนเก้อเขิน

“แต้ม” ยิ่งใหญ่นั่งลงบนเตียงที่อยู่ติดกันพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง “นายอย่าเป็นแบบนี้สิ”



“...”



“นะ”



“เราไม่ได้คิดอะไรกับเบล” แต้มพูดเสียงค่อย



“อะไรนะ”



“เรา เอ่อ” แต้มฟุบหน้าลงกับโต๊ะ “เราไม่ได้คิดอะไรกับเบล เราไม่คิดจะแย่งเบลมาจากนาย”



              ยิ่งใหญ่อ้าปากหวอกับคำพูดที่ได้ยิน ที่เขาคิดว่าแต้มโกรธที่ตนหายไปนั้นผิดถนัด กลับกลายเป็นว่าแต้มรู้สึกผิดที่เบลเข้าหาจนไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรมากกว่า “นายอย่าคิดมากสิ” ยิ่งใหญ่กลับเป็นคนปลอบใจเสียเอง



“เห้ย เรารู้สึกไม่ดีจริงๆนะ เราไม่รู้ด้วยว่า...”

“แต้ม หยุดก่อน” ยิ่งใหญ่ห้าม “ใจเย็นๆ ไม่ต้องคิดมาก เราเข้าใจ”

“นายเข้าใจ จริงๆนะ” แต้มหันมาสบตาด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความโล่งอกอย่างชัดเจน



ยิ่งใหญ่มองใบหน้านั้นอย่างอิ่มเอมใจ ความหนักใจเรื่องผู้หญิงคนนั้นบางเบาจนกลายเป็นเม็ดฝุ่นที่ปลิดปลิวไปตามลม ความกังวลที่เกาะกินใจก่อนหน้านี้เลือนหายไปจนหมดสิ้น “จริง”



“เราไม่ได้ตั้งใจทำให้นายคิดมาก” แต้มพูดย้ำอีก

“เรารู้”

“เราไม่คิดจะจีบเบลเลยนะ เราไม่แย่ง...”



“เออ พอแล้ว เรารู้” ยิ่งใหญ่รู้สึกชื่นชอบแต้มเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว “แค่นายยืนยันแบบนี้เราก็เชื่อใจนายแล้ว”

“จริง เรายืนยัน” แต้มพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ถ้าเรื่องนี้ทำให้นายคิดมากจนหนีไปเหมือนเมื่อกี้เราก็ขอโทษนะ”

“เห้ย ไม่เกี่ยวกับนายหรอก” ยิ่งใหญ่พยายามตอบความจริง แต่ดูเหมือนแต้มจะไม่เข้าใจอย่างนั้น



“ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้ นายจะหายไปไม่บอกแบบนี้เหรอ”



“ไม่ใช่เรื่องนี้ จริงๆ” ยิ่งใหญ่ยืนยัน แต่แต้มดูเหมือนไม่เชื่อเท่าไร



“ทีหลังจะไปไหนบอกกันด้วยนะเว้ย หายไปเฉยๆแบบนี้มันไม่ดี”

“ทำไม นายเป็นห่วงรึไง” ยิ่งใหญ่ถามยั่ว

“เออสิ ไม่ห่วงจะออกไปตามหามั้ย”

“แล้วนายรู้ได้ไงว่าเราอยู่ที่นั่น”



แต้มจ้องหน้าคนที่ถามอย่างเต็มตาเป็นครั้งแรก “ก็มันเป็นที่ที่นายร้องไห้กับเรา”



“โคะ นายยังจำได้อีกเหรอ” คำว่า โคะ เป็นคำอุทานเวลาที่ตกใจมากๆของคนเหนือ มักจะใช้กันทั่วไป บางทีก็ออกเสียงว่า โคว้ ตามสำเนียงและบริบทการใช้



แต้มพยักหน้าแทนคำตอบ...

“นายจะรู้ทันเราขนาดนี้ไม่ได้” ยิ่งใหญ่พูดทีเล่นที่จริง

“ทำไมจะไม่ได้ นายน่ะอ่านง่ายจะตาย”

“หืม จริงดิ” ยิ่งใหญ่ถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ถึงแม้บุคลิกของตนจะดูเข้าถึงง่าย แต่ก็ไม่เคยมีใครพูดว่าเขาเป็นคนที่อ่านง่ายมาก่อน “ไหนนายลองอ่านเราให้ฟังหน่อยสิ”



“นายมันคนขี้ใจอ่อน ขี้แย เจ้าเล่ห์ มีอะไรชอบไม่ปรึกษา บางทีก็ทำเหมือนเฮฮา แต่จริงๆคิดมาก”



“เดี๋ยวๆ ไอ้คนที่นายพูดถึงมันเป็นใคร”

“ให้บอกชื่อจริงๆเหรอ” แต้มถามกลับ



“ไม่ต้องก็ได้” ยิ่งใหญ่รู้สึกจนมุม เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าแต้มให้ความสำคัญกับตนไม่น้อยไปกว่าที่เขาทำ ยิ่งใหญ่ล้มตัวลงนอนบนตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่ได้เป็นของขวัญในวันนี้ เขากอดมันแน่นและจับมันมาฟัดอย่างสุขใจก่อนจะสังเกตเห็นว่ามันมีการ์ดแผ่นเล็กติดอย่างแน่นหนาที่ก้นตุ๊กตา



แต้มคว้าการ์ดแผ่นนั้นก่อนที่เขาจะได้อ่าน “เห้ย เอามา”



“เอาไปทำไม” แต้มถามกวนๆพลางกำกระดาษแผ่นน้อยนั้นแน่น ยิ่งใหญ่ต้องใช้เวลาคลุกวงในไม่น้อยเพื่อยื้อแย่งกลับมา หากแต้มไม่ออกอาการขนาดนี้เขาคงไม่อยากรู้เท่าไรว่ามาจากไหน การที่อีกฝ่ายปกปิดแสดงว่าต้องรู้แน่ๆว่าใครเป็นคนส่งตุ๊กตาหมีตัวนี้มา และยิ่งใหญ่จะต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมแต้มจะต้องไม่อยากให้เขารู้



“เอามา” ยิ่งใหญ่ดึงขอบกางเกงแต้มที่กำลังวิ่งหนี แรงปะทะลากร่างคว่ำลงกับเตียง วินาทีนั้นยิ่งใหญ่ใช้สองมือจี้ที่รักแร้ของเพื่อนสนิทจนหัวเราะลั่น แต้มจะบ้าจี้หรือมีอาการเช่นนี้ในเวลาที่มีความผิดอะไรบางอย่าง แต้มบิดตัวพลิกนอนหงายพยายามดิ้นให้หลุดจากแรงจี้จากนิ้วมือ ยิ่งใหญ่นั่งทับหน้าท้อง ละมือจากบั้นเอวมายื้อแย่งกระดาษในมือ แต้มบีบมือแน่น แต่แรงงัดของอีกคนก็มีไม่น้อย



   ในที่สุดยิ่งใหญ่ก็ได้กระดาษแผ่นน้อยนั้นมา แต้มนอนแผ่หรายอมแพ้โดยมียิ่งใหญ่นั่งบนตัว ทั้งคู่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แรงปลุกปล้ำทำให้เหนื่อยหอบจนตัวโยน ยิ่งใหญ่เปิดการ์ดที่ยับย่นอย่างรวดเร็ว ลายมือโย้เย้นั้นเขียนแค่ประโยคสั้นๆประโยคเดียว



สุขสันต์วันเกิด

 

 

 

จบตอน

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่าว  วิเคราะห์ผิด   ชัญญ่าไม่ใช่ลูกใหญ่

แต่ยัยเบล  มีลูกจนโตแล้ว  อุต้ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แต้ม พูดให้ใหญ่ฟังว่า ไม่คิดอะไรกับเบล.....
เพราะคิดว่าใหญ่คิดมากเรื่องเบลจีบตัวเอง แล้วตัวเองจะชอบเบลตอบ  :เฮ้อ:
แต้มให้ความสำคัญกับใหญ่ขนาดนี้  :z3:
ใหญ่มีอะไร คิดอะไร ทำไมไม่พูดไปสักที  :mew2:
อ้ำๆอึ้งๆ อยู่นั่นแหละ ไม่ได้อย่างใจเล้ย    :m16: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:pig4: :pig4: :pig4:

อ่าว  วิเคราะห์ผิด   ชัญญ่าไม่ใช่ลูกใหญ่

แต่ยัยเบล  มีลูกจนโตแล้ว  อุต้ะ

รอติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะ  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
แต้ม พูดให้ใหญ่ฟังว่า ไม่คิดอะไรกับเบล.....
เพราะคิดว่าใหญ่คิดมากเรื่องเบลจีบตัวเอง แล้วตัวเองจะชอบเบลตอบ  :เฮ้อ:
แต้มให้ความสำคัญกับใหญ่ขนาดนี้  :z3:
ใหญ่มีอะไร คิดอะไร ทำไมไม่พูดไปสักที  :mew2:
อ้ำๆอึ้งๆ อยู่นั่นแหละ ไม่ได้อย่างใจเล้ย    :m16: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


เจ้าใหญ่มันคนป๊อด อิอิ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You
ตอนที่ 59. ผู้ร้ายปากแข็ง

   ต้องตากลายเป็นแม่ครัวจำเป็นเมื่อแม่ครัวหลักของร้านถูกมีดบาดเป็นแผลลึกและต้องเข้าโรงพยาบาลกระทันหัน บั๊มพ์ต้องรีบขับรถออกไปส่งโดยทิ้งภาระไว้ข้างหลัง นั่นคือ ยอดเยี่ยม ภัทร และอาหารที่ยังไม่ได้ทำ ยังโชคดีที่มีการตระเตรียมวัตถุดิบไว้หมดแล้ว หญิงสาวจึงไม่ลำบากมากนักในการทำทุกอย่างภายในเวลาสองชั่วโมง หลังจากเจ้าของบ้านกลับมาจากโรงพยาบาลก็ได้เวลามื้อค่ำพอดี

“โห กลิ่นหอมฉุยเลยครับคุณตา” ภัทร ดาราหนุ่มรูปหล่อนั่งเป็นคนแรก แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น
“ต้องลำบากคุณตาเลย ขอโทษด้วยนะครับ” บั๊มพ์พูดอย่างเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ลองทานดูนะคะไม่รู้ว่าจะทานได้หรือเปล่า” ต้องตาถ่อมตัว “คุณภัทรบอกว่าคุณบั๊มพ์ไม่ทานมะระ คุณภัทรไม่ทานอาหารมันๆ ตาเลยทำเมนูพวกนี้แทน หวังว่าจะพอทานได้นะคะ”
“อร่อยครับ ใครบอกไม่อร่อยเดี๋ยวผมจัดการเอง” ยอดเยี่ยมพูดขึ้นก่อนที่จะตักอาหารเข้าปากเสียอีก

   บนโต๊ะกับข้าวเป็นเมนูที่ต้องตาทำเองทั้งหมด นอกจากทำขนมแล้ว หญิงสาวก็พอมีฝีมือทางด้านทำอาหารคาวอยู่บ้าง วันนี้แม่ครัวเตรียมพวกชะอมและอาหารทะเลไว้ เธอจึงทำแกงส้มชะอมกุ้งรสเปรี้ยวหวานตามด้วยเผ็ด ตัดเลี่ยนด้วยเมนูปลากระพงนึ่งมะนาว ซึ่งยอดเยี่ยมบอกว่าอยากทานเป็นแบบทอดน้ำปลามากกว่า แต่ก็แพ้ภัทรที่ยืนกรานว่าไม่อยากทานของมันเกินพิกัด อีกสองเมนูคือผัดคะน้ากุ้งที่ใช้น้ำมันมะกอกแทนน้ำมันพืช ต้องตาจึงไม่มั่นใจว่ารสชาติมันจะออกมาแบบไหน แต่ก็เพราะเสียงเรียกร้องจากดาราหนุ่มเช่นเคย แต่เมนูสุดท้ายยอดเยี่ยมต้องบังคับให้ภัทรเงียบปากไปก่อน เพราะเขาอยากทานหมูแดดเดียวทอดกระเทียม

“หืม อร่อยมากเลยครับ” ภัทรตักปลากระพงเข้าปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
“ใช่ครับ อร่อยมาก” บั๊มพ์ชมไม่ขาดปาก “อร่อยกว่าป้าแม่ครัวของร้านทำซะอีก”
“แหมคุณบั๊มพ์ก็ชมเกินไป” ต้องตาเขิน
“ไม่เกินไปนะครับ ผมเป็นพยานได้ อร่อยจริงๆ มิน่าไอ้ยอดมันถึงอ้วนเอาๆ” ภัทรชมอีกเสียง ต้องตามองใบหน้าหล่อเหลาอย่างเขินอาย ไม่ชินเสียทีกับการนั่งร่วมโต๊ะกับคนมีชื่อเสียงที่เธอดูทุกคืนผ่านโทรทัศน์ ยอดเยี่ยมนั่งยักคิ้วให้เพื่อนอย่างน่าหมั่นไส้
“ชมแบบนี้ตาก็เขินแย่สิคะ”
“ถ้าเบื่อไอ้ยอดเมื่อไหร่ มาสมัครเป็นแม่ครัวร้านผมได้นะครับ”
“นี่ไอ้บั๊มพ์ กูนั่งหัวโด่อยู่นี่”
“แล้วไงวะ มึงจะครอบครองคุณตาไว้คนเดียวไม่ได้ ฝีมือการทำอาหารระดับนี้”

“ระดับไหนก็ไม่ได้ คนนี้กูหวง” เสียงหัวเราะดังครืนจากผู้ร่วมโต๊ะกับท่าทีหึงหวงของยอดเยี่ยม ต้องตาพอจะเข้าใจได้ถึงความสัมพันธ์ของดาราหนุ่มกับเจ้าของบ้าน แต่ดูเหมือนยอดเยี่ยมจะยังไม่เข้าใจและคิดว่าตนกำลังถูกเกี้ยวพา
“พอเถอะค่ะคุณยอด ทานหมูทอดดีกว่านะคะ ตาทำสุดฝีมือเลย” ภัทรทำท่าเหมือนคนจะอาเจียนเมื่อเห็นท่าทีอ่อนลงของยอดเยี่ยม ฝ่ายที่โดนล้อไม่พอใจเท่าไรนักจึงขว้างหัวกุ้งที่แกะแล้วเข้าใส่ อาหารมื้อนี้นับว่าเป็นมื้อที่ดีที่สุดอีกมื้อหนึ่งสำหรับทุกคน

      ***********************************************************************

“สุขสันต์วันเกิดเหรอ” ยิ่งใหญ่อ่านการ์ดนั้นซ้ำอีกรอบ “แสดงว่าตุ๊กตาตัวนี้” นิ้วชี้จิ้มไปที่พุงของตุ๊กตาหมีตัวใหญ่
“...” แต้มไม่ตอบ ได้แต่หอบหายใจหนักจากความเหนื่อย “ลงไป หนัก”
“ไม่ลง” ยิ่งใหญ่สบตาคนที่นอนอยู่เบื้องล่าง “นายไปซื้อตุ๊กตาตัวนี้ตอนไหน”
“เราไม่ได้ซื้อ” แต้มตอบเสียงดังฟังชัด แต่เหมือนอีกฝ่ายไม่ปักใจเชื่อ
“โกหก ถ้านายไม่ได้ซื้อใครจะซื้อ ไม่มีใครรู้นะว่าเราเกิดวันนี้”
“เราก็ไม่รู้” แต้มโกหก
“หึ” ยิ่งใหญ่เขกที่หน้าผากแต้มดัง โป๊ก “นายโกหกไม่เนียนนะ นายก็รู้”
“จะยังไงก็ช่าง ลงไป มันหนัก”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง” ยิ่งใหญ่ไม่ยอมลงจากตัวเพื่อน สีหน้าและแววตายังคาดคั้นความจริง “ตอบคำถามมาเดี๋ยวนี้”
“ตอบอะไรอี๊ก” แต้มเสียงสูง พยายามดิ้นให้คนที่นั่งทับร่วงลงมา ยิ่งใหญ่จึงกดน้ำหนักตัวลงไปอีก พร้อมทั้งตรึงสองแขนของแต้มไว้ด้วยแขนของตัวเอง
“นายนี่มัน” แต้มพูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย ผิดกับอีกคนที่กำลังสนุกในการยั่วยุ
“เราทำไม” แต้มไม่ยอมละสายตาที่โดนจับจ้อง ยิ่งใหญ่ก็เช่นกัน
“ปากแข็ง”
“เรื่องอะไร”
“เรื่องตุ๊กตา” ยิ่งใหญ่ย้ำ
“ก็เราไม่ได้ซื้อ” แต้มยืนยัน
“งั้นใครซื้อล่ะ” ยิ่งใหญ่ถามอีกครั้ง
“ฝากอาร์ทซื้อ” แต้มทำหน้าเจื่อนเมื่อรู้ว่าตัวเองหลุดปาก
“ไอ้อาร์ทก็รู้ด้วยเรอะ”
แต้มพยักหน้าอย่างจำนน “ลงไปได้แล้ว หนัก”
“เดี๋ยวสิ แล้วที่มันพยายามแซวคืออะไร” ยิ่งใหญ่ยังไม่ยอมเลิกรา พวกนี้รวมหัวกันตอนไหนกันนะ
“เราบอกว่ามีสาวฝากเงินมาให้ไปซื้อ แต่เราไม่มีเวลาไปซื้อ” แต้มตอบ
“แล้วทำไมนายไม่บอกไปล่ะว่าเงินนั้นเป็นของนาย” ยิ่งใหญ่ยังคาดคั้นไม่เลิก
“บอกไปจะได้อะไร ถ้าผู้ชายให้ตุ๊กตาหมีกับนาย นายจะรับเหรอ”
“แล้วทำไมต้องตุ๊กตาหมีล่ะ”
“ลงไปก่อน หนัก” แต้มดิ้น
“ตอบมาก่อน” ยิ่งใหญ่ยังตรึงกำลังไว้แน่น “ไม่งั้นเราจะจี้รักแร้นายนะ”
“นายก็ตอบเรามาก่อนสิ ว่านายจะรับตุ๊กตาหมีจากผู้ชายเหรอ” แต้มถามกลับเป็นคำตอบ
“ไม่” ยิ่งใหญ่ตอบทันที “แต่ถ้าจากนาย เราจะรับ”
“ลงไป”
“ไม่ลง” ยิ่งใหญ่โวยวาย “แล้วทำไมต้องตุ๊กตาหมีล่ะ ตัวไม่ใช่เล็กๆ”
“ลงป๊าย” แต้มดิ้นพล่านจนยิ่งใหญ่ต้องตรึงไว้แน่นกว่าเดิม
“ตอบมาเดี๋ยวนี้” สายตาของทั้งคู่จับจ้องกันอย่างไม่ลดละ คราวนี้แต้มต้องเป็นคนหลบสายตาเนื่องจากแววตาที่ส่งมานั้นมันทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง มันไม่ใช่สายตาของเพื่อนที่มองกัน ไม่ใช่สายตาแบบเดิมที่เคยรู้จัก
“ก็แค่อยากแกล้ง” แต้มสารภาพ
“ห๊ะ”
“เออ ก็แค่อยากแกล้งไง” แต้มตอบความจริง “ก็แค่อยากให้นายเขินเวลาอุ้มตุ๊กตาตัวใหญ่ขนาดนี้เดินไปมาในโรงเรียน”
“นายนี่มัน” ยิ่งใหญ่ถอนหายใจฟึดฟัดอย่างไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดี ระหว่างโกรธกับขำ
“ลงไปได้ยัง หนัก” แต้มโอดครวญ
“ยัง จนกว่านายจะอวยพรวันเกิดให้เรา”
“ก็อวยไปแล้วไง”
“ตอนไหน” แต้มพยักหน้าเป็นนัยว่าที่การ์ดยับย่นแผ่นนั้น “ไม่นับ”

“นี่นายเป็นเด็กสิบขวบรึไง ลงไป๊ หนัก”

“ไม่” ยิ่งใหญ่โน้มใบหน้าลงมาทีละนิด แววตาทั้งสองต่างมองสลับไปมาอย่างขาดความมั่นใจ ลมหายใจที่ร้อนระอุประสานกันอย่างหนักหน่วง จมูกโด่งแทบจะแตะใบหน้าของคนที่นอนอยู่เบื้องล่าง ทั้งคู่กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก สายตาประสานกันอย่างมีความหมาย ยิ่งใหญ่ใจเต้นโครมคราม ใจหนึ่งเขาอยากจะบดริมฝีปากลงไปใจจะขาด แต่อีกใจหนึ่งก็ห้ามไว้ เพราะคนเบื้องหน้าคือผู้ชายคนหนึ่ง ที่ไม่มีใจให้เขานอกจากแค่ความเป็นเพื่อนเท่านั้น

“นายจะไม่ลงจริงดิ จะอยู่ท่านี้จริงๆดิ” แต้มถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ขออยู่ท่านี้อีกแป๊บได้มั้ย”
“...” แต้มไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
“แต้ม”
“หืม”
“ที่เราพนันกันตอนงานกีฬาสีน่ะ นายจะได้ใช่ปะ”
“อืม จำได้”
“ถ้าเราจะขอใช้ตอนนี้ ได้ไหม”

“นายจะขออะไร”แต้มสบตาคู่นั้นอย่างเดาความคิดของอีกฝ่ายไม่ออก เขาไม่เคยมีช่วงเวลาแบบนี้ หรือมีใคร หรือมีเพื่อนผู้ชายมานั่งทับบนหน้าท้องและใช้สองมือจับข้อมือของตนไว้ให้ดิ้นไม่หลุดเช่นนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

จบตอน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด