จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You
ตอนที่ 21. มันใช่เรื่องซะที่ไหน
เสียงฝนเงียบไปแล้ว แต้มงัวเงียตื่นมาในอ้อมกอดของยิ่งใหญ่อีกครั้ง ทั้งคู่นอนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ แต้มตกใจผละตัวเอง ลุกขึ้นบิดขี้เกียจก่อนจะปลุกเพื่อนที่กำลังนอน
“ใหญ่ จะทุ่มแล้ว ไปส่งบ้านหน่อย”
“นอนนี่ไม่ได้เหรอคืนนี้อะ” ยิ่งใหญ่ประท้วง คว้าตัวเพื่อนไปกอดด้วยความเคยชิน
“พอแล้วอึดอัด” แต้มเขยิบตัวหนี “ไม่ได้บอกแม่ เดี๋ยวเป็นห่วง”ไม่เคยชินกับการถูกกอดแบบนี้เลยจริงๆ
“โทรไปบอกป้านวลก็ได้นี่” ยิ่งใหญ่ยื่นข้อเสนอ ป้านวลเจ้าของร้านขายของชำหน้าปากซอยบ้าน
“ป่านนี้คงปิดบ้านเงียบกันหมดละ”
“ขี้เกียจขับรถอ่า” ยิ่งใหญ่บ่นอุบ หน้าซุกกับหมอนราวกับถูกดูดกลืนให้จมไปในนั้น
“เดี๋ยวเราชับเอง” แต้มยื่นข้อเสนอ “พรุ่งนี้วันเสาร์นะ เดี๋ยวพาไปตกปลาที่หนองหลวง”
ยิ่งใหญ่ลืมตา “จริงนะ”
“อืม” แต้มกอดอกด้วยความเบื่อ ต้องให้เอาอะไรแบบนี้มาล่อ “เปลี่ยนชุดได้แล้ว เดี๋ยวจะดึก”
***********************************************************************
ต้องตาเคาะห้องเจ้านาย เปิดเข้าไปโดยไม่ต้องรอคำตอบเนื่องจากอีกฝ่ายติดสายอยู่ หลังวางเอกสารลงที่โต๊ะ ยอดเยี่ยมก็ชี้มือมาที่หญิงสาวกับเก้าอี้ ให้นั่งรอก่อน ไม่นานเขาก็วางสายและทำหน้าเครียด
“ผมมีเรื่องไร้สาระให้คุณช่วย”
“อะไรคะ” ไร้สาระ ทำไมจะต้องถึงมือเรา...
“คือ” ยอดเยี่ยมถอนหายใจ “เอาไงดี มันไร้สาระจนไม่กล้าจะรบกวนคุณ แต่นอกจากคุณผมก็ไม่เห็นใครแล้ว”
“ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ตาก็ช่วยได้ค่ะ”
“คือ” เขาอ้ำอึ้ง และสุดท้ายก็ยอมเล่าให้ฟัง “ผมกับเพื่อนสนิทพนันกันไว้ ว่าภายในปีนี้จะต้องพาแฟนไปเปิดตัว ถ้าใครพาไปไม่ได้จะต้องเสียเงินห้าหมื่น”
“ห้าหมื่น!” วิถีคนรวยสินะ เงินเดือนของเธอยังไม่ถึงครึ่งของมันเลย... ต้องตากร่นด่าในใจ
“ใช่ครับ ห้าหมื่น ในกลุ่มมีอยู่แปดคน ถ้าไม่มีใครมีแฟนเลยก็รอดไป แต่เท่าที่ผมรู้ๆมา หลายคนมีแฟนแล้ว ยกเว้น...”
“ยกเว้นคุณเอง”
“ใช่” ยอดเยี่ยมยอมรับโดยดุษฎี
“แต่เงินแค่นี้ คุณยอดคงไม่สะเทือนมั้งคะ”
“ใครบอกว่าแค่นี้”
“คุณยอดบอก” ต้องตาโพล่งตอบ
“อ่อ ผมคงสื่อสารผิด ผมหมายถึง ถ้าใครไม่มีแฟน จะต้องจ่ายให้คนที่มีแฟนห้าหมื่นบาทต่อคน ถ้าในกลุ่มมีแฟนไปเจ็ด แต่ผมไม่มีอยู่คนเดียว เท่ากับว่าผมต้องจ่ายเงินสามแสนห้า”
“คุณพระ!”
ยอดเยี่ยมพยักหน้า “นี่เป็นเหตุผลที่ผมอยากขอความช่วยเหลือจากคุณ”
ต้องตาสบตาชายผู้อยู่ตรงหน้า “ทำไมคุณไปรับพนันอะไรบ้าๆแบบนี้คะ”
“ตอนนั้นผมยังเด็กไง ยังเรียนม.ปลายกันอยู่เลยมั้ง เพื่อนๆท้ากันสนุกปาก ไอ้ผมก็คิดว่าอีกตั้งนาน ถึงตอนนั้นคงมีแฟนไปแล้วล่ะ”
“แต่คุณก็ไม่มี” ต้องตาอมยิ้ม
“คุณกำลังเยาะผมอยู่รึเปล่าเนี่ย”
“เปล่าค่ะ ตาแค่ขำ อยากรู้จังอะไรที่ดลใจให้คุณรับปากแบบนั้น”
“ผมก็อยากรู้ตัวเองเหมือนกัน”
แล้วทั้งสองก็ตกอยู่ในความเงียบ
“ตกลงว่าคุณตารับปากหรือเปล่าครับ”
“ทำไมตาจะต้องรับปากคุณยอดด้วยคะ”
ยอดเยี่ยมหน้าเหวอ “ก็ผมขอร้องคุณไง พลีสสสส” เขาทำเสียงเหมือนเด็ก ไร้มาดเจ้านายอย่างสิ้นเชิง
“ไม่” ต้องตาตอบเสียงแข็ง
“ผมไม่ให้คุณเหนื่อยฟรี” ยอดเยี่ยมยื่นข้อเสนอ “50% ของเงินที่ได้จากเพื่อนที่โสด”
“คุณบอกเองว่าเพื่อนคุณมีแฟนหมดแล้ว” ต้องตาพูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง
“ถ้าทุกคนมีแฟนหมด คุณได้จากผมหมื่นนึง” ยอดเยี่ยมมองใบหน้าสวยของหญิงสาวที่เปื้อนรอยยิ้ม
“นี่คุณแกล้งผมสินะ”
“คุณเสนอให้ตาเอง ห้ามคืนคำนะคะ” หญิงสาวหัวเราะ ยอดเยี่ยมยิ้มและส่ายหัว เขาคงตามผู้หญิงคนนี้ไม่ทันจริงๆ
“ผมหิวแล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะ”
“แต่เอกสาร...”
ยอดเยี่ยมไม่ตอบ หยิบขึ้นมาอ่านอย่างละเอียดก่อนจรดปากกาลงไป สุดท้ายทั้งคู่ก็ออกมาจากห้องทำงานในสามสิบนาทีให้หลัง “คุณตาอยากทานอะไรครับ”
“ถ้าตาบอก คุณยอดจะทานได้เหรอคะ”
“ได้สิ ผมไม่ใช่คนเรื่องมาก”
“งั้นไปทานก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำของตากันเถอะ” ยอดเยี่ยมพยักหน้า ต้องตาพาเขาเดินออกมาจากโรงแรม เลาะเลียบตามถนนสีลม เข้าตรอกหนึ่งที่คนกำลังพลุกพล่าน ช่วงเวลาพักเที่ยงเลยไปนานแล้ว คนในร้านเลยบางตา ทั้งคู่สั่งก๋วยเตี๋ยว นั่งเงียบจนกระทั่งมันถูกนำมาเสิร์ฟ
“อร่อยจัง” ยอดเยี่ยมบอก
“ใช่ค่ะ ร้านนี้ถูกปากตามาก”
“ไม่ยักกะรู้ว่าแถวโรงแรมเรามีอะไรอร่อยๆแบบนี้ด้วย”
“รอบๆโรงแรมเรามีของอร่อยเยอะแยะค่ะ ไว้ว่างๆตาจะพามาทานอีก” ต้องตาเม้มปาก พลาดแล้ว
ยอดเยี่ยมส่งสายตาเจ้าชู้มาหาอย่างปิดไม่มิด “ออกปากแล้วห้ามคืนคำนะครับ”
***********************************************************************
หลังจากส่งสรุปรายงานการประชุมเรื่องโครงการใหม่ที่ไปสำรวจสถานที่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ต้องตาก็ว่างพอสมควร เนื่องจากงานของยอดเยี่ยมไม่ได้เต็มตารางเหมือนนายคนอื่นๆ คงเพราะเจ้านายเธออายุยังน้อย แถมยังมีญาติคนอื่นๆกุมบังเหียนอยู่อีกหลายทอด งานส่วนใหญ่จึงเป็นในส่วนระบบการทำงาน การขยายโอกาสทางการตลาด เน้นหนักไปที่งานขายและโปรโมชั่นมากกว่า
“คุณตา เข้ามาในห้องผมหน่อยครับ” ต้องตาปัดผม ก่อนลุกไปในห้องเจ้านาย
“ศุกร์นี้ อย่าลืมนะ” ยอดเยี่ยมย้ำ
“ค่ะ ตาจำได้”
“ดีแล้ว ก่อนไปเอานี่ไปอ่านก่อน”
“อะไรคะ” ต้องตาหยิบกระดาษ A4 ที่เขียนโดยลายมือโย้ๆของผู้เป็นนาย
“ประวัติของผม ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร” ยอดเยี่ยมยิ้ม นั่งบนโต๊ะทำงานของตัวเอง ปล่อยขายาวเหยียดแกว่งไกว
“ตาต้องทำของตาด้วยไหม”
“ไม่ต้องหรอก ผมมีคำถามอยู่แล้ว คุณตาบอกผมมาละกัน”
“คะ” ต้องตารู้สึกไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน
“อายุ” ยอดเยี่ยมโพล่ง
“น่าเกลียด มาถามอายุสุภาพสตรี” ต้องตาบ่นในใจ แต่เธอตอบความจริงไป “32 ค่ะ” พลางดูในกระดาษนั้น
“ห่างกันหกปี” ยอดเยี่ยมยิ้ม “การศึกษาล่ะครับ”
“บัญชี ม.เชียงใหม่ค่ะ”
“หืมมมมมม น้องชายผมก็อยากเรียนที่นั่น บัญชีนี่เป็นคณะเลยรึเปล่าครับ”
“เปล่าค่ะ บัญชีเป็นสาขาหนึ่งของคณะบริหารธุรกิจ”
“อ่อ” ยอดเยี่ยมจดยิกๆ ต้องตาอ่านคำตอบของอีกฝ่าย ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโทจากเท็กซัส อเมริกา
“ทำไมตรงนี้บอกว่า ดร็อปปี 4 ไว้ล่ะคะ”
“อ่อ” ยอดเยี่ยมอึกอัก “แม่ผมอยากให้เรียนน่ะครับ แต่ผมเรียนไม่ไหว”
“น่าเสียดายนะคะ อีก 2 ปีก็ได้เป็นนายแพทย์แล้ว” เธอบ่นแกมเสียดาย แต่ก็น่าทึ่งที่ยอดเยี่ยมเรียนปริญญาตรีสองที่พร้อมๆกันได้
“มีแฟนเป็นนักธุรกิจกับนายแพทย์ อันไหนเท่ห์กว่ากันอะครับ”
ต้องตาครุ่นคิด ยอดเยี่ยมรอลุ้นกับคำตอบ “แล้วทำไมตาต้องตอบคุณยอดด้วยคะ”
“โธ่ อุตส่าห์รอฟัง” เขาบ่น ก่อนเปลี่ยนคำถาม “เวลาว่างคุณตาชอบทำอะไรครับ”
“เอาความจริงใช่มั้ยคะ” ยอดเยี่ยมพยักหน้าแทนคำตอบ
“ตาไม่ค่อยมีเวลาว่างหรอก เลิกงานก็ไปทำขนมขายต่อ วันหยุดตาก็รับงานสอนพิเศษบ้าง”
ยอดเยี่ยมรู้สึกทึ่งในตัวของผู้หญิงคนนี้ขึ้นทุกที “ทำไมคุณตาต้องขยันขนาดนี้ด้วยล่ะครับ”
“ตาไม่ได้อยากขยันหรอกค่ะ แต่ตามีความจำเป็นของตา”
“ครับ” เขาเลือกที่จะไม่ถามต่อ พอนึกถึงการใช้เวลาว่างของตัวเองที่เขียนไปว่า “ร้องเพลง” ก็รู้สึกอายอย่างที่สุด
“คุณยอดชอบร้องเพลงอะไรคะ” ต้องตาถาม
ยอดเยี่ยมตั้งตัวไม่ติด “เผื่อเพื่อนๆคุณยอดถามตาจะได้ตอบได้”
“คุณตาตอบว่า ความลับละกันนะครับ”
***********************************************************************
จบตอน