Only You :: จะรักนาย เท่าชีวิต (Y) – ตอนที่ 60 จบภาค 1 (UP:: 09/06/62) #หน้า 10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Only You :: จะรักนาย เท่าชีวิต (Y) – ตอนที่ 60 จบภาค 1 (UP:: 09/06/62) #หน้า 10  (อ่าน 77448 ครั้ง)

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
รู้สึกตะหงิด ๆ ว่า  ยอดเยี่ยมกับยิ่งใหญ่  น่าจะเป็นพี่น้องกัน  จากข้อมูลที่ว่ายิ่งใหญ่มีพี่ชาย 2 คน  แต่สำหรับต้องตากับแต้ม ก็อาจจะเป็นพี่น้องกันก็ได้ แต่ก็ยังไร้ซึ่งข้อมูลสนับสนุนอยู่

รอตอนต่อ ๆ ไปดีกว่า



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
จัดไปครับ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
คุยกับไรต์

สวัสดีแฟนๆ Only You ทุกท่านนะครับ ก็มาถึงตอน 19 กันแล้วสำหรับนิยายเร่ืองนี้

บอกได้เลยว่า ถึงแม้จะตอนสั้นๆ แต่ไรต์ก็อัดความน่ารักของสองหนุ่ม แต้มกับยิ่งใหญ่เต็มเปี่ยมแน่นอน

เรื่องนี้ยังมีปมสองสามปมที่รอคลี่คลาย ...

ทุกคนคงสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างแต้มกับต้องตา และ ยิ่งใหญ่กับยอดเยี่ยม ใช่มั้ยครับ

อีกไม่นานเกินรอแน่นอนครับ



อย่างไรแล้ว ก็ขอให้ทุกคนติดตามจนสองหนุ่มนี้จบม. 6 กันด้วยนะครับ

หากรักหรือชอบเรื่องนี้ ขอกำลังใจกด + กด LIKE หรือคอมเม้นต์เป็นเพื่อนไรต์หน่อยนะครับ

อ้อ... อย่าลืมติดตามผลงานเรื่องอื่นๆของไรต์ด้วยน้าาาาาาาาาา มีหลายแนวเลยล่ะ อิอิ

***********************************************************************


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 19. กลั่นแกล้ง



“ไปยัง” ยิ่งใหญ่ถาม แต้มกำลังปั่นการบ้านยิกๆ

“อีกนิด จะเสร็จแล้ว”

“นายค่อยกลับมาทำหลังเลิกเรียนได้มะ”

“โอย นายจะรีบไปไหน นี่ยังไม่บ่ายโมงเลย”

“รีบสิ หิว” ยิ่งใหญ่ดึงสมุดแต้มออก “คนอื่นไปกันหมดแล้วนะ เหลือแต่เรานี่แหละ เร้ว”

“อะไรฟะ” แต้มหงุดหงิด อากาศร้อนแถมโดนยิ่งใหญ่กวนอีก ชุดรด.ก็หนาน่าอึดอัด

“ไป ช้าเดี๋ยวโดนซ่อมอีกนะ” ยิ่งใหญ่เดินนำแต้มไปที่ลานจอดรถข้างโรงเรียน เด็กนักเรียนต่างมองตามกันเป็นแถว แต้มเดินตามอย่างอึดอัด นี่เขากำลังเดินกับหนุ่มฮ็อตตัวท็อปของโรงเรียนเชียวนะ

“พี่แต้มคะ” เสียงหนึ่งทัก

“ครับ” เขามองแล้วน่าจะไม่เกินม. 2

“ฝากจดหมายให้พี่ใหญ่ด้วยนะคะ” อีกฝ่ายทำหน้าเขินอาย แต้มรับมาแบบเสียไม่ได้ เด็กคนนี้คงรอจังหวะที่ยิ่งใหญ่จ้ำไปที่รถก่อนถึงมาหาเขา การที่เขาเป็นเพื่อนสนิทของคนดังและหล่อที่สุดในโรงเรียนด้วยแล้ว ชื่อของแต้มก็เลยเป็นที่รู้จักของเด็กผู้หญิงทั้งโรงเรียนอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ช้าจังวะ” ยิ่งใหญ่บ่น

“อะ ของนาย” แต้มยิ่นจดหมายรักให้

“นายเขียนเองเหรอ”

แต้มมองหน้าคนพูดด้วยอารมณ์สุดกลั้น “หึ ไม่มีทาง”

“โหย นึกว่านายเขียนให้”

“เลิกเพ้อซะที” แต้มดุ “จะอ่านก่อนหรือจะไปเลย”

“ไปเลยก็ได้” ยิ่งใหญ่ยัดจดหมายนั้นที่กระเป๋าเสื้อโดยไม่หยิบมาอ่านเลยแม้แต่น้อย มันไม่ใช่จดหมายฉบับแรกที่เขาได้รับ และไม่ใช่ฉบับสุดท้ายแน่นอน กระดาษสีหวานแหวว มีกลิ่นหอมมาพร้อมบทกลอนเลี่ยนๆกับตัวหนังสือวัยรุ่นที่กำลังนิยม หัวโต ตัวอักษรโย้ๆ ... เขาทิ้งจดหมายพวกนั้นอย่างไม่ใยดีสักฉบับ

                สุดท้ายพวกเขาก็ไปสาย เพราะกว่าจะกินข้าว กว่าจะเอาของไปเก็บ รอบนี้มีคนไปสายสี่ห้าคน เป็นนศ.วิชาทหารของโรงเรียนเขาทั้งนั้น

“มาแล้วเรอะ” ครูฝึกเสียงเข้ม “นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว...” หลังจากนั้นพวกเขาก็โดนร่ายยาว ก่อนที่จะถูกซ่อมโดยวิ่งรอบสนาม และปิดท้ายที่ดันพื้น

“นายก็มาสายเหมือนกันเหรอ” อาร์ทถามแต้ม พอไม่มีเรื่องหมางใจหรือเข้าใจผิด อาร์ทก็เป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง

“ช่ายยย รอคุณชายน่ะสิ” แต้มโบ้ยไปทางยิ่งใหญ่ที่วิ่งเหยาะๆอยู่ข้างกัน

“พวกนายนี่สนิทกันจังเนอะ” อาร์ทพูด “ถ้าไม่บอกว่าเพิ่งย้ายมา เราคงคิดว่าโตมาด้วยกัน”

ยิ่งใหญ่ยิ้มกริ่ม “มันแน่นอนอยู่แล้ว” ประโยคนี้เขาตอบทุกคนในใจ

“ไม่ได้อยากสนิทเลย” แต้มพูด

ผลัก! ยิ่งใหญ่เตะเข้าที่ตูดของคนพูด “หรา” เขาลากเสียงดุๆและวิ่งนำไป

“ฮ่าๆๆ สงสัยงอน” อาร์ทตั้งข้อสังเกต

“ปล่อยไปก่อน เดี๋ยวก็หาย รีบไปเถอะ เดี๋ยวมีดันพื้นต่อ”

                กลุ่มนักศึกษาที่มาสายต่างเข้าแถว พวกเขาโดนครูฝึกสั่งให้ตะโกนดังๆเรื่องวินัยและรับโทษ “ดันพื้น 50 ที ปฏิบัติ!” แล้วทุกคนก็ดันพื้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งใหญ่ดันพื้นรัวๆ แต้มเหลือบมองเพื่อนอย่างสงสัย ว่าทำไมต้องรีบอะไรขนาดนี้ ก่อนที่จะได้ทักอะไรไป ของบางอย่างก็กระเด็นออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

“นี่อะไร” ครูฝึกหยิบมันขึ้นมาดู

“เอ่อ” ยิ่งใหญ่อึกอัก เขาลืมไปเสียสนิทว่ามีจดหมายรักอยู่ในกระเป๋า

“นาย ออกมานี่” ยิ่งใหญ่เดินออกมาช้าๆ ไม่เหลือมาดขึงขัง บริเวณที่พวกเขาซ่อมนั้นเป็นสนามหญ้า ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยนักศึกษาวิชาทหารครบทุกนายของชั้นปีที่ 1

“ที่มาสาย เพราะมัวไปจีบสาวงั้นรึ” ครูฝึกเสียงดุ แต่คนที่เหลือหัวเราะครืน ยิ่งใหญ่กำลังโดนแกล้ง

“ไหน นาย” ครูฝึกชี้มาที่แต้ม “มาอ่านให้เพื่อนฟังซิ”

ทำไมต้องกูวะ ... แต้มคิดในใจ มองไปที่ยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มเยาะ แต้มอ่านปากที่ขยับแบบไม่มีเสียงได้ว่า สมน้ำหน้า

“ถึงพี่ยิ่งใหญ่” เสียงโห่ร้องเริ่มมา นอกจากทุกคนจะมองว่ายิ่งใหญ่กับแต้มเป็นเพื่อนที่สนิทกันแล้ว บางส่วนก็ยังคิดว่าพวกเขาเป็นคู่จิ้นกันอีกด้วย

“มองดาวบนฟ้าแล้วคิดถึง

จากคนหนึ่งซึ่งเธอไม่รู้จัก

แค่อยากบอกให้รู้ว่าเธอเป็นที่รัก

อยากรู้จักให้มากขึ้นทุกคืนวัน”

                แต้มอ่านกลอนที่คิดว่าน้องผู้หญิงคนนั้นคงแต่งเองอย่างสุดฝีมือ แต่มันกลับเลี่ยน เอียนและไม่เพราะเอาเสียเลยในความรู้สึก เสียงโห่ ผิวปากและแซวดังก้อง ครูฝึกช่างเลือกคนอ่านได้พอเหมาะจริงๆ

“แหม่ นี่ถ้าไม่คิดว่าเป็นผู้ชายจะคิดว่านายสองคนนี่กำลังจีบกันนะ” ครูฝึกแซว เสียงโห่ดังขึ้นอีก

“ครู คู่นี้เค้าเป็นแฟนกันครับ” เสียงแซวดังมาแต่ไกล

“เห้ย ไม่ใช่” แต้มปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ยิ่งใหญ่กลับลอยหน้าลอยตาอย่างอารมณ์ดี

นี่แต้มอายจนไม่รู้จะต้องทำหน้ายังไงแล้วจริงๆ ส่วนยิ่งใหญ่ก็รีบฉกจดหมายฉบับนั้นคืน หลังจากนั้นเขาก็เอาไปใส่กรอบอย่างดีวางไว้ที่ห้องนอนของตน

***********************************************************************

                สุดท้ายแล้ว ครูฝึกก็ปล่อยกลับบ้านตอนบ่ายสาม เพราะวันนี้ไม่มีฝึกอะไรนอกจากเช็คชื่อ อากาศร้อนน่าหงุดหงิดจนยิ่งใหญ่แดงไปทั้งตัว แต้มมองอีกฝ่ายอย่างสงสารแกมสมน้ำหน้า เพราะจดหมายนั่นทำให้โดนใครต่อใครล้อไม่ขาดปาก ยิ่งตอกย้ำกระแสคู่รักของพวกเขาเข้าไปอีกขั้น พรุ่งนี้คงดังไปทั้งระดับชั้นแน่ๆ แค่คิดก็อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปตั้งไว้ที่ไหนละ

“ไปเปลี่ยนชุดมั้ย” แต้มชวนยิ่งใหญ่กลับ

“แล้วนายล่ะ”

“ก็ให้นายไปส่งที่ท่ารถ เดี๋ยวกลับเอง”

“ไม่เอา วันนี้วันศุกร์ เดี๋ยวพาเที่ยวก่อน”

“ได้ไง จะรีบไปดูพ่อ” ยิ่งใหญ่ฟังแล้วไม่ตอบ เหตุผลนี้มันหนักแน่นจนไม่มีอะไรมาหักล้างได้

“ได้ รอแป๊บ เข้าห้องน้ำก่อน” แต้มมองร่างสูงเดินไป เดินนั่งในชั้นเรียนรอ

“ยังไม่กลับเหรอแต้ม”

“จะไปละ รอใหญ่ก่อน” แต้มตอบ

“อ๋ออออ ไปไหนกันต่อมั้ยละ”

“ไม่อะ จะรีบกลับบ้าน นายล่ะอาร์ท”

“ว่าจะไปเที่ยวพัทยาน้อยซะหน่อย” อาร์ทตอบ “ไปด้วยกันมั้ย”

“หืม น้ำไม่ล้นเหรอตอนนี้เหรอ”

“ไม่รู้เหมือนกัน มันไม่มีอะไรทำไงเลยหาที่เที่ยวซะหน่อย” อาร์ทตอบ

“อ๋อ” แต้มรับคำ พัทยาน้อย เป็นชื่อที่คนท้องถิ่นใช้เรียก หาดเชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด ซึ่งไม่ใช่หาดทรายจากทะเลจริงๆ แต่เป็นหาดทรายของแม่น้ำกกที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับทะเล เนื่องจากเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศ การไปพักผ่อนที่พัทยาน้อย ก็ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการไปเที่ยวทะเลได้เหมือนกัน

“นายนี่สนิทกับยิ่งใหญ่จังเลยเนอะ” อาร์ทพูดประโยคเดิมเป็นครั้งที่สองของวันนี้

“ฮ่าๆๆ” แต้มได้แต่หัวเราะแก้เก้อ ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร จากที่โดนครูฝึกแกล้งวันนี้ก็มากพอแล้ว

“จริงๆนะ ตอนแรกที่เห็นนาย นายเงียบ ไม่ค่อยพูด มีแต่คนคิดว่านายแปลก”

แต้มเลิกคิ้ว “ก็คงงั้นแหละ”

“ไม่เลย” อาร์ทพูด “นายน่ะสดใสขึ้นมากนะแต้ม ยิ่งช่วงที่อยู่กับใหญ่ นายดูมีชีวิตชีวายังกะไม่ใช่แต้มคนที่เราเคยเห็นตอนแรกเลย”

“เพราะออร่าของเรามันแรงไง” ยิ่งใหญ่ตอบแทน “รัศมีความหล่อของเรามันแผ่ขจรขจาย”

“หลงตัวเอง” แต้มโพล่ง

“เออใหญ่ ไปเที่ยวพัทยาน้อยกันมั้ย” อาร์ทเป็นฝ่ายชวนแทน หลังจากเหตุการณ์เมื่อตอนเปิดเทอม ยิ่งใหญ่ดูท่าจะไม่ชอบอาร์ทอย่างชัดเจน ผิดกับแต้มที่ไม่เก็บเรื่องนั้นมาเป็นกังวลอีก

“ถ้าแต้มไป เราก็ไป” อ้าว...ไหงโยนมาให้กันแบบนี้ล่ะ

“แต้ม ไปนะ ไปด้วยกัน นี่ไปกันหลายคนเลย” แต้มรู้สึกว่ากำลังถูกกดดัน มองไปที่ยิ่งใหญ่ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์รู้นิสัยเขาดีว่าลึกๆแล้วแต้มเป็นคนที่ขี้เกรงใจ

สุดท้ายพวกเขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์กันไปที่พัทยาน้อย โดยที่แต้มยังงุนงงกับตัวเองไม่หาย

***********************************************************************

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
ขอบคุณครับ

ถึงจะมาสั้น ๆ แต่มาบ่อย ๆ ก็โอเคแล้วคับ

ดีกว่ามายาว ๆ แต่ต้องรอคอยเป็นชาติ  อันนี้ไม่ไหว

อิอิ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ เย้ๆ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ใหญ่น่ารัก หยอดเข้าไปซักวันแต้มต้องตกหลุมที่ใหญ่ขุดไว้แน่นอน

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
ขอบคุณครับ

ถึงจะมาสั้น ๆ แต่มาบ่อย ๆ ก็โอเคแล้วคับ

ดีกว่ามายาว ๆ แต่ต้องรอคอยเป็นชาติ  อันนี้ไม่ไหว

อิอิ



ฮ่าๆๆ ครับ จะมาบ่อยๆ กลัวแฟนๆคิดถึง

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:L2: :pig4:

ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ เย้ๆ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านเช่นกันครับ อิอิ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ magic-moon

  • mgKapleGD
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Pretty Girls from your city for night
สนุกดีค่ะ รอตอนต่อไป :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
ใหญ่น่ารัก หยอดเข้าไปซักวันแต้มต้องตกหลุมที่ใหญ่ขุดไว้แน่นอน

มาล้นให้ถึงวันนั้นกันนะครับ อิอิ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
สนุกดีค่ะ รอตอนต่อไป :katai2-1:

ขอบคุณมากครับ อิอิ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
​ตอนนี้จะดราม่าหน่อยๆ แฟนๆยิ่งใหญ่กับแต้มเอาใจช่วยด้วยนะครับ

เหมือนเดิมครับ โดนใจก็เม้นต์ กดบวกถ้าถูกใจ กดไลค์ถ้าชื่นชอบนะครับ

***********************************************************************

จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 20. น้ำตา





พัทยาน้อยน้ำเยอะเนื่องจากฝนตกไม่ขาดสาย ชายหาดที่เคยคลาคล่ำด้วยผู้คนเฉกเช่นช่วงสงกรานต์หายวับไปกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราด อยู่ได้ครู่เดียวฝนก็ทำท่าจะตก ทุกคนต้องรีบแยกย้ายกันกลับ ยิ่งใหญ่พาแต้มไปที่หอ เปลี่ยนชุดและเก็บข้าวของไปนอนบ้านแต้มด้วยความเคยชิน ก่อนที่จะขับเลาะมาเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงฟ้าร้องดังมาแต่ไกล เมื่อถึงฝั่งตรงข้ามกับบิ๊กซีเชียงราย ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ยิ่งใหญ่ต้องกลับรถเข้าในนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

“กินเคเอฟซีมะ” ยิ่งใหญ่ชวน

“อยากกินไอติม” แต้มเป็นคนออกปาก

“ได้เลย เดี๋ยวป๋าจัดให้” ยิ่งใหญ่จอดรถไว้ในร่ม พากันเดินเข้าไปด้านใน แต้มเดินตามยิ่งใหญ่ที่กำลังแวะร้านเสื้อผ้าทีละร้านอย่างใจเย็น รายนั้นเอาเสื้อมาทาบๆที่ตัวแต้มก่อนที่จะถามว่าเอาไหม และแต้มก็ตอบชัดเจนว่าไม่

 พวกเขากินเคเอฟซีอย่างหิวจัด ก่อนที่จะเปลี่ยนร้านไปกินไอติมตามที่แต้มเสนอ ข้าวของที่ห้องไม่ขาด พวกเขาเลยเดินเล่นฆ่าเวลาอย่างเรื่อยเปื่อยเพราะสายฝนยังเทกระหน่ำ เมื่อเดินดูของทั่วบิ๊กซีแล้วฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ทั้งคู่จึงมาเดินด้านล่างที่จัดเป็นโซนขายเสื้อผ้า มือถือและร้านจิปาถะ ยิ่งใหญ่เดินไปอีกไม่นาน ก็หยุดชะงัก แต้มหยุดกึกด้วยความสงสัย “แม่”

“ใหญ่” หญิงวัยกลางคนมีท่าทางตกใจไม่น้อยที่เจอลูกชายคนเล็กโดยบังเอิญที่นี่ วันนี้

“แม่มาได้ไง” ยิ่งใหญ่ทักอย่างห่างเหิน แต้มยกมือไหว้ก่อนที่จะขอตัวไปที่อื่น

 “ลูกสบายดีมั้ย”

“แม่อยากรู้ด้วยเหรอว่าผมสบายดีจริงๆไหม” ยิ่งใหญ่เสียงกร้าว “แม่ทิ้งผมไปสิบกว่าปี แล้ววันนี้เกิดอยากรู้ว่าผมสบายดีงั้นเหรอ” เด็กหนุ่มตอบอย่างปวดร้าว นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เจอผู้เป็นแม่ นอกจากจะไม่เคยห่วงหาอาทรลูกคนนี้แล้ว แม่ก็ดูสุขสบายดี

“ใหญ่ อย่าเข้าใจแม่ผิดสิ” เธอพูดอย่างปวดร้าว นึกเสียใจที่ลูกชายไม่มีท่าทีอ่อนให้แม้แต่น้อย

“เข้าใจผิดเหรอ แม่ทิ้งพ่อ ทิ้งพี่ ทิ้งผมและหายไปเป็นสิบๆปี แม่โผล่มาวันนี้แล้วมาถามว่าผมสบายดีไหม งั้นเหรอ” ยิ่งใหญ่ตวาดโดยไม่แคร์ว่าเสียงเขาดังลั่นจนทุกคนหันมามอง

“ใหญ่ เป็นอะไร” แต้มเดินมาจับตัวเพื่อนไว้

“ไม่มีอะไร” ยิ่งใหญ่ตอบด้วยเสียงกระด้าง แต่สงบกว่าตอนพูดกับผู้เป็นแม่

“ใหญ่ ค่อยๆคุยกัน คุยกันดีๆก่อน” ผู้เป็นแม่ร่ำร้อง แต่กลับเปล่าประโยชน์

“ไม่” ยิ่งใหญ่ตอบด้วยเสียงเย็นชา “ผมไม่มีทางคุยกับแม่ดีๆแน่ ถือว่าวันนี้เราไม่ได้เจอกันละกัน”

แต้มกำลังจะอ้าปากพูด แต่ถูกอีกฝ่ายกระชากแขนให้เดินจ้ำอ้าวออกมาอย่างงุนงง ยิ่งใหญ่สตาร์ทรถ เขากระโจนนั่งซ้อนท้ายอย่างเสียไม่ได้ ทั้งคู่บึ่งออกจากบิ๊กซีโดยไม่สนใจว่าฝนกำลังเทกระหน่ำ

“แม่ เป็นอะไรครับ”

“ไม่มีอะไรลูก” ผู้เป็นแม่ตอบลูกชายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง

“ไม่เป็นไรได้ไง แม่หน้าซีดขนาดนี้”

“แม่...” เธอกำลังประมวลผลว่าควรจะพูดดีหรือไม่ และในที่สุด “แม่เจอกับตาใหญ่”

“หะ จริงเหรอครับ น้องไปไหนละ”

“ไปแล้ว” หญิงแก่นัยน์ตาแดงก่ำ “ไปแล้ว”

“แม่” ชายหนุ่มโอบไหล่ผู้เป็นแม่ “สักวันน้องจะเข้าใจ”

“แม่ก็หวังอย่างนั้น”

“เราหนีความจริงไม่ได้หรอกครับ” ชายหนุ่มพูด ราวกับว่าไม่ได้พูดกับคนที่อยู่ข้างๆเลยแม้แต่น้อย

“กลับกันเถอะ แม่อยากพักผ่อน”

“ครับ” ชายหนุ่มพาผู้เป็นแม่เดินไปช้าๆ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอัดอั้น และรู้สึกย่ำแย่ไม่ต่างกัน

“กลับโรงแรมครับ” เขาส่งเสียงบอกคนขับรถ ก่อนจะปิดปากเงียบตลอดทาง

***********************************************************************

สุดท้ายพวกเขาก็กลับมาที่หอพักด้วยสภาพเปียกปอน ยิ่งใหญ่ดูย่ำแย่มากกว่าแค่เปียกฝน แต้มโยนผ้าเช็ดตัวให้ แต่อีกฝ่ายนิ่งงัน “เช็ดตัวก่อนสิ” แต้มถือวิสาสะเปลี่ยนชุดโดยใส่ชุดลำลองของเจ้าของห้อง “เดี๋ยวจะป่วยอีกนะ”

“...” ยิ่งใหญ่เงียบ ซึ่งผิดวิสัยอย่างที่สุด

แต้มถอนหายใจ ไม่รู้ว่าระหว่างยิ่งใหญ่กับผู้หญิงคนนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่พอจะเดาได้ลางๆว่านั่นคือแม่ของเพื่อนคนนี้ เพราะด้วยหน้าตาที่สละสวยราวกับยิ่งใหญ่โขลกมาจากพิมพ์เดียวกับเธอไม่ผิดเพี้ยน

 สุดท้าย ยิ่งใหญ่ยังนิ่งเงียบ แต้มเลยต้องเช็ดหัวให้ จนเกือบแห้งสนิท มองดูอีกฝ่ายถอดเสื้อผ้าออกอย่างช้าๆราวกับซากศพ “หิวมั้ย” แต้มถามเพราะไม่รู้จะปลอบอย่างไร “เดี๋ยวเราไปซื้อข้าวมาให้ เอาหมูกระเทียมไข่เจียวของโปรดนายมั้ย” แต้มทำท่าจะออกไปข้างนอก แต่กลับถูกอีกฝ่ายจับไว้

“อย่าไป” ยิ่งใหญ่พูดเสียค่อย นัยน์ตาแดงก่ำ ใบหน้าบิดเบี้ยวราวกับกำลังจะสะกดกลั้นอะไรบางอย่างไว้

“เราไปไม่นานหรอก เดี๋ยวก็มา”

“อย่าไป” ยิ่งใหญ่พูดซ้ำ น้ำตาไหลอาบแก้ม แต้มมองด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะอ่อนแอได้เพียงนี้

ยิ่งใหญ่ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น เสียงสะอื้นไห้ดังโอดโอยน่าสังเวช แต้มทรุดตัวลงอย่างไม่รู้จะพูดอย่างไร จะปลอบอย่างไร ได้แต่ใช้ฝ่ามือแตะที่หลังเบาๆ ปล่อยให้อีกฝ่ายสะอื้นไห้ออกมาอย่างทะลักทะลาย คุณชายที่ดูมีความสุขตลอดเวลา คุณชายที่ทุกคนต่างอยากอยู่ใกล้เพราะรอบๆตัวมีแต่รัศมีแห่งความสุข ตอนนี้กำลังปลดเปลื้องความเศร้าโศกราวกับว่าชีวิตหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง “อย่าไปนะ” ยิ่งใหญ่พูดคำเดิม แต้มนั่งพิงกับเตียง มือยังแตะที่หลังของยิ่งใหญ่อย่างแผ่วเบา อีกฝ่ายซุกใบหน้าที่เข่าและร้องไห้จนเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้....

“แม่ทิ้งเราไปตั้งแต่เราอยู่ชั้นอนุบาล” ยิ่งใหญ่ตั้งต้นเล่า “อยู่ๆแม่ก็ไป พ่อก็ไม่พูดอะไร แม่พาพี่ชายเราไปคนนึง แค่นั้น สั้นๆง่ายๆ เราตื่นมาอีกทีแม่ก็ไม่อยู่แล้ว เราได้แต่คิดว่าทำไมแม่ต้องไป ทำไมแม่ไม่เอาเราไปด้วย ทำไมพ่อถึงยอมให้แม่ไป ทำไมเราต้องถูกแม่ทอดทิ้ง”

“แม่นายอาจจะมีเหตุผลก็ได้นะ”

“เหตุผลงั้นเหรอ เหตุผลอะไรล่ะ อะไรมีเหตุผลมากมายซะจนแม่ทอดทิ้งลูกอย่างเราไปได้ล่ะ” ยิ่งใหญ่สูดน้ำมูก

แต้มจนปัญญา ไม่รู้จะตอบอย่างไรเหมือนกัน “ตอนที่พ่อเราล้มนะ เราเพิ่งหกขวบเอง”

ยิ่งใหญ่หันมามองเพื่อน “ตอนนั้นเราไม่รู้เรื่องอะไรหรอก รู้แต่ว่าพ่อป่วย ต้องนอนโรงพยาบาล ยายพาเราไปเยี่ยม เราก็ยังเล่นอยู่ข้างๆเตียงพ่อ ดูพ่อที่หัวยุบนอนไม่ได้สติ แต่เราก็ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก คิดว่าอีกไม่นานพ่อก็คงหาย แล้วพ่อจะให้เราขี่คอ พาเราไปตกปลาที่หนองหลวง*แบบที่เคยทำ”

ยิ่งใหญ่เช็ดคราบน้ำตาของตัวเอง “แต่พ่อก็ไม่ดีขึ้น จากวันนั้นถึงวันนี้ สิบเอ็ดปีแล้ว แต่เราก็ยังหวังนะ ยังอยากให้พ่อกลับมาเป็นพ่อคนเดิม มานั่งคุยกับเรา พาเราไปเตะบอล พาเราไปเที่ยวเล่นได้เหมือนเดิม” ยิ่งใหญ่เปลี่ยนมานั่งข้างเตียง ตัวติดกับแต้มโดยมีหัวไหล่ชนกัน

“นายยังโชคดีนะใหญ่ อย่างน้อยพ่อกับแม่นายก็ยังเดินได้ ยังคุยได้” แต้มเสียงอ่อนระโหย “ถ้านายคิดว่านายไม่เหลือใคร นายดูเราสิ” แต้มชี้ที่ตัวเอง “เรามีทุกคนก็จริง” เสียงนั้นเริ่มสั่นเครือ “แต่เราก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้”

ยิ่งใหญ่สะท้อนใจที่มัวแต่จมอยู่กับความเศร้าของตัวเอง จนลืมมองว่าคนข้างๆก็มีความทุกข์มากกว่าเขามากมายนัก

“นายยังมีเรานะ” ยิ่งใหญ่พูด

“นายก็ยังมีเราเหมือนกัน” แต้มพูด ทั้งคู่มองหน้ากัน ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความเศร้าแปรเป็นรอยยิ้ม ยิ่งใหญ่ยกแขนขึ้นมากอดไหล่แต้ม อีกฝ่ายก็ทำเช่นเดียวกัน พวกเขานั่งพิงกับเตียงติดกันโดยมีแขนของแต่ละคนกระชับที่ไหล่ของอีกฝ่ายไว้แน่น ราวกับว่ากลัวว่าใครคนหนึ่งจะจากไป

“ขอบใจนะ ไอ้ขี้แย” แต้มพูดก่อน

“ไหน ใครขี้แย” ยิ่งใหญ่ตอบ

“หึ” แต้มพูด สายตามองไปที่ประตูห้อง “ไม่คิดเลยนะว่าเรากับนายจะสนิทกัน”

“เราคิด”

“หืม”

“จำได้มั้ย วันแรกที่เราทักนายตอนเปิดเทอม”

“โห ต้องย้อนไปไกลเลย”

“นั่นแหละ เราทักนายเรื่องของแม่”

แต้มพยักหน้า นึกขึ้นได้ทันที

“เราเจอนายตอนวันลงทะเบียน เราเห็นนายดูแลแม่ ไม่แคร์สายตาคนอื่นที่มองเลย”

“แคร์ทำไม นั่นแม่เรา”

“ใช่” ยิ่งใหญ่ขยับเลื่อนตัวให้สูงขึ้น แผ่นหลังยังติดกับเตียง แต่ตอนนี้ไหล่สองข้างของคนสองคนแนบชิดมากกว่าเดิม “ตอนนั้นเราชื่นชมนาย เราอิจฉานาย”

“อิจฉา” แต้มทวนคำราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

“ใช่ เราอิจฉาที่นายมีแม่ที่รักนาย ถึงแม้พวกนายจะ...”

“จะแต่งตัวมอซอ”

“ตอนนั้นพวกนายดูร่ำรวยมากเลยนะแต้ม” ยิ่งใหญ่กระแอม “นายร่ำรวยความรักจนเราอิจฉา”

แต้มถึงบางอ้อ

“และ...” ยิ่งใหญ่กระชับวงแขน “เราก็อยากรู้จักกับนายตั้งแต่วันนั้น”

“สมมุตินะ” แต้มพูดขึ้น “ถ้าเราไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน นายจะมารู้จักกับเราได้ยังไง”

ยิ่งใหญ่เข้าใจในคำถาม แต้มหมายความว่า ถ้าอยู่คนละห้อง แต้มก็ยังคงเป็นนายเย็นชา ไม่สนใจคนรอบข้างแล้วยิ่งใหญ่จะเข้าหาได้อย่างไร

“เอ่อ...” ยิ่งใหญ่ตอบ “เอาจริงๆไม่ได้คิดว่ะ”

แต้มถอนหายใจ

“แต่เราก็อยู่ห้องเดียวกันนี่นา” ยิ่งใหญ่พูดต่อ

“ซวยจริงๆ” แต้มพูด

“อะไร” ยิ่งใหญ่ถามเสียงแข็ง

“เปล๊าาาาาาาาา” แต้มลากเสียง

ทั้งคู่มองหน้ากัน ไม่พูดอะไร ก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะ จนลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้ต่างก็มีน้ำตา....

***********************************************************************

* หนองหลวง อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงราย มีพื้นที่ประมาณเก้าพันไร่ ตั้งอยู่ในเขตของอำเภอเวียงชัย และอำเภอเมือง โดยทั่วไปจะเป็นที่เก็บน้ำเพื่อทำการเกษตรของประชาชนในพื้นที่ และใช้ประโยชน์สำหรับเป็นที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ บ้างก็มาตกปลา แต่ปัจจุบันหนองหลวงทรุดโทรมลงไปมากเนื่องจากขาดการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างจริงจังจากส่วนท้องถิ่น

***********************************************************************

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 21. มันใช่เรื่องซะที่ไหน



 เสียงฝนเงียบไปแล้ว แต้มงัวเงียตื่นมาในอ้อมกอดของยิ่งใหญ่อีกครั้ง ทั้งคู่นอนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ แต้มตกใจผละตัวเอง ลุกขึ้นบิดขี้เกียจก่อนจะปลุกเพื่อนที่กำลังนอน

“ใหญ่ จะทุ่มแล้ว ไปส่งบ้านหน่อย”

“นอนนี่ไม่ได้เหรอคืนนี้อะ” ยิ่งใหญ่ประท้วง คว้าตัวเพื่อนไปกอดด้วยความเคยชิน

“พอแล้วอึดอัด” แต้มเขยิบตัวหนี “ไม่ได้บอกแม่ เดี๋ยวเป็นห่วง”ไม่เคยชินกับการถูกกอดแบบนี้เลยจริงๆ

“โทรไปบอกป้านวลก็ได้นี่” ยิ่งใหญ่ยื่นข้อเสนอ ป้านวลเจ้าของร้านขายของชำหน้าปากซอยบ้าน

“ป่านนี้คงปิดบ้านเงียบกันหมดละ”

“ขี้เกียจขับรถอ่า” ยิ่งใหญ่บ่นอุบ หน้าซุกกับหมอนราวกับถูกดูดกลืนให้จมไปในนั้น

“เดี๋ยวเราชับเอง” แต้มยื่นข้อเสนอ “พรุ่งนี้วันเสาร์นะ เดี๋ยวพาไปตกปลาที่หนองหลวง”

ยิ่งใหญ่ลืมตา “จริงนะ”

“อืม” แต้มกอดอกด้วยความเบื่อ ต้องให้เอาอะไรแบบนี้มาล่อ “เปลี่ยนชุดได้แล้ว เดี๋ยวจะดึก”

***********************************************************************

ต้องตาเคาะห้องเจ้านาย เปิดเข้าไปโดยไม่ต้องรอคำตอบเนื่องจากอีกฝ่ายติดสายอยู่ หลังวางเอกสารลงที่โต๊ะ ยอดเยี่ยมก็ชี้มือมาที่หญิงสาวกับเก้าอี้ ให้นั่งรอก่อน ไม่นานเขาก็วางสายและทำหน้าเครียด

“ผมมีเรื่องไร้สาระให้คุณช่วย”

“อะไรคะ” ไร้สาระ ทำไมจะต้องถึงมือเรา...

“คือ” ยอดเยี่ยมถอนหายใจ “เอาไงดี มันไร้สาระจนไม่กล้าจะรบกวนคุณ แต่นอกจากคุณผมก็ไม่เห็นใครแล้ว”

“ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ตาก็ช่วยได้ค่ะ”

“คือ” เขาอ้ำอึ้ง และสุดท้ายก็ยอมเล่าให้ฟัง “ผมกับเพื่อนสนิทพนันกันไว้ ว่าภายในปีนี้จะต้องพาแฟนไปเปิดตัว ถ้าใครพาไปไม่ได้จะต้องเสียเงินห้าหมื่น”

“ห้าหมื่น!” วิถีคนรวยสินะ เงินเดือนของเธอยังไม่ถึงครึ่งของมันเลย... ต้องตากร่นด่าในใจ

“ใช่ครับ ห้าหมื่น ในกลุ่มมีอยู่แปดคน ถ้าไม่มีใครมีแฟนเลยก็รอดไป แต่เท่าที่ผมรู้ๆมา หลายคนมีแฟนแล้ว ยกเว้น...”

“ยกเว้นคุณเอง”

“ใช่” ยอดเยี่ยมยอมรับโดยดุษฎี

“แต่เงินแค่นี้ คุณยอดคงไม่สะเทือนมั้งคะ”

“ใครบอกว่าแค่นี้”

“คุณยอดบอก” ต้องตาโพล่งตอบ

“อ่อ ผมคงสื่อสารผิด ผมหมายถึง ถ้าใครไม่มีแฟน จะต้องจ่ายให้คนที่มีแฟนห้าหมื่นบาทต่อคน ถ้าในกลุ่มมีแฟนไปเจ็ด แต่ผมไม่มีอยู่คนเดียว เท่ากับว่าผมต้องจ่ายเงินสามแสนห้า”

“คุณพระ!”

ยอดเยี่ยมพยักหน้า “นี่เป็นเหตุผลที่ผมอยากขอความช่วยเหลือจากคุณ”

ต้องตาสบตาชายผู้อยู่ตรงหน้า “ทำไมคุณไปรับพนันอะไรบ้าๆแบบนี้คะ”

“ตอนนั้นผมยังเด็กไง ยังเรียนม.ปลายกันอยู่เลยมั้ง เพื่อนๆท้ากันสนุกปาก ไอ้ผมก็คิดว่าอีกตั้งนาน ถึงตอนนั้นคงมีแฟนไปแล้วล่ะ”

“แต่คุณก็ไม่มี” ต้องตาอมยิ้ม

“คุณกำลังเยาะผมอยู่รึเปล่าเนี่ย”

“เปล่าค่ะ ตาแค่ขำ อยากรู้จังอะไรที่ดลใจให้คุณรับปากแบบนั้น”

“ผมก็อยากรู้ตัวเองเหมือนกัน”

แล้วทั้งสองก็ตกอยู่ในความเงียบ

“ตกลงว่าคุณตารับปากหรือเปล่าครับ”

“ทำไมตาจะต้องรับปากคุณยอดด้วยคะ”

ยอดเยี่ยมหน้าเหวอ “ก็ผมขอร้องคุณไง พลีสสสส” เขาทำเสียงเหมือนเด็ก ไร้มาดเจ้านายอย่างสิ้นเชิง

“ไม่” ต้องตาตอบเสียงแข็ง

“ผมไม่ให้คุณเหนื่อยฟรี” ยอดเยี่ยมยื่นข้อเสนอ “50% ของเงินที่ได้จากเพื่อนที่โสด”

“คุณบอกเองว่าเพื่อนคุณมีแฟนหมดแล้ว” ต้องตาพูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง

“ถ้าทุกคนมีแฟนหมด คุณได้จากผมหมื่นนึง” ยอดเยี่ยมมองใบหน้าสวยของหญิงสาวที่เปื้อนรอยยิ้ม

“นี่คุณแกล้งผมสินะ”

“คุณเสนอให้ตาเอง ห้ามคืนคำนะคะ” หญิงสาวหัวเราะ ยอดเยี่ยมยิ้มและส่ายหัว เขาคงตามผู้หญิงคนนี้ไม่ทันจริงๆ

“ผมหิวแล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะ”

“แต่เอกสาร...”

ยอดเยี่ยมไม่ตอบ หยิบขึ้นมาอ่านอย่างละเอียดก่อนจรดปากกาลงไป สุดท้ายทั้งคู่ก็ออกมาจากห้องทำงานในสามสิบนาทีให้หลัง “คุณตาอยากทานอะไรครับ”

“ถ้าตาบอก คุณยอดจะทานได้เหรอคะ”

“ได้สิ ผมไม่ใช่คนเรื่องมาก”

“งั้นไปทานก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำของตากันเถอะ” ยอดเยี่ยมพยักหน้า ต้องตาพาเขาเดินออกมาจากโรงแรม เลาะเลียบตามถนนสีลม เข้าตรอกหนึ่งที่คนกำลังพลุกพล่าน ช่วงเวลาพักเที่ยงเลยไปนานแล้ว คนในร้านเลยบางตา ทั้งคู่สั่งก๋วยเตี๋ยว นั่งเงียบจนกระทั่งมันถูกนำมาเสิร์ฟ

“อร่อยจัง” ยอดเยี่ยมบอก

“ใช่ค่ะ ร้านนี้ถูกปากตามาก”

“ไม่ยักกะรู้ว่าแถวโรงแรมเรามีอะไรอร่อยๆแบบนี้ด้วย”

“รอบๆโรงแรมเรามีของอร่อยเยอะแยะค่ะ ไว้ว่างๆตาจะพามาทานอีก” ต้องตาเม้มปาก พลาดแล้ว

ยอดเยี่ยมส่งสายตาเจ้าชู้มาหาอย่างปิดไม่มิด “ออกปากแล้วห้ามคืนคำนะครับ”

***********************************************************************

หลังจากส่งสรุปรายงานการประชุมเรื่องโครงการใหม่ที่ไปสำรวจสถานที่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ต้องตาก็ว่างพอสมควร เนื่องจากงานของยอดเยี่ยมไม่ได้เต็มตารางเหมือนนายคนอื่นๆ คงเพราะเจ้านายเธออายุยังน้อย แถมยังมีญาติคนอื่นๆกุมบังเหียนอยู่อีกหลายทอด งานส่วนใหญ่จึงเป็นในส่วนระบบการทำงาน การขยายโอกาสทางการตลาด เน้นหนักไปที่งานขายและโปรโมชั่นมากกว่า

“คุณตา เข้ามาในห้องผมหน่อยครับ” ต้องตาปัดผม ก่อนลุกไปในห้องเจ้านาย

“ศุกร์นี้ อย่าลืมนะ” ยอดเยี่ยมย้ำ

“ค่ะ ตาจำได้”

“ดีแล้ว ก่อนไปเอานี่ไปอ่านก่อน”

“อะไรคะ” ต้องตาหยิบกระดาษ A4 ที่เขียนโดยลายมือโย้ๆของผู้เป็นนาย

“ประวัติของผม ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร” ยอดเยี่ยมยิ้ม นั่งบนโต๊ะทำงานของตัวเอง ปล่อยขายาวเหยียดแกว่งไกว

“ตาต้องทำของตาด้วยไหม”

“ไม่ต้องหรอก ผมมีคำถามอยู่แล้ว คุณตาบอกผมมาละกัน”

“คะ” ต้องตารู้สึกไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน

“อายุ” ยอดเยี่ยมโพล่ง

“น่าเกลียด มาถามอายุสุภาพสตรี” ต้องตาบ่นในใจ แต่เธอตอบความจริงไป “32 ค่ะ” พลางดูในกระดาษนั้น

“ห่างกันหกปี” ยอดเยี่ยมยิ้ม “การศึกษาล่ะครับ”

“บัญชี ม.เชียงใหม่ค่ะ”

“หืมมมมมม น้องชายผมก็อยากเรียนที่นั่น บัญชีนี่เป็นคณะเลยรึเปล่าครับ”

“เปล่าค่ะ บัญชีเป็นสาขาหนึ่งของคณะบริหารธุรกิจ”

“อ่อ” ยอดเยี่ยมจดยิกๆ ต้องตาอ่านคำตอบของอีกฝ่าย ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโทจากเท็กซัส อเมริกา

“ทำไมตรงนี้บอกว่า ดร็อปปี 4 ไว้ล่ะคะ”

“อ่อ” ยอดเยี่ยมอึกอัก “แม่ผมอยากให้เรียนน่ะครับ แต่ผมเรียนไม่ไหว”

“น่าเสียดายนะคะ อีก 2 ปีก็ได้เป็นนายแพทย์แล้ว” เธอบ่นแกมเสียดาย แต่ก็น่าทึ่งที่ยอดเยี่ยมเรียนปริญญาตรีสองที่พร้อมๆกันได้

“มีแฟนเป็นนักธุรกิจกับนายแพทย์ อันไหนเท่ห์กว่ากันอะครับ”

ต้องตาครุ่นคิด ยอดเยี่ยมรอลุ้นกับคำตอบ “แล้วทำไมตาต้องตอบคุณยอดด้วยคะ”

“โธ่ อุตส่าห์รอฟัง” เขาบ่น ก่อนเปลี่ยนคำถาม “เวลาว่างคุณตาชอบทำอะไรครับ”

“เอาความจริงใช่มั้ยคะ” ยอดเยี่ยมพยักหน้าแทนคำตอบ

“ตาไม่ค่อยมีเวลาว่างหรอก เลิกงานก็ไปทำขนมขายต่อ วันหยุดตาก็รับงานสอนพิเศษบ้าง”

ยอดเยี่ยมรู้สึกทึ่งในตัวของผู้หญิงคนนี้ขึ้นทุกที “ทำไมคุณตาต้องขยันขนาดนี้ด้วยล่ะครับ”

“ตาไม่ได้อยากขยันหรอกค่ะ แต่ตามีความจำเป็นของตา”

“ครับ” เขาเลือกที่จะไม่ถามต่อ พอนึกถึงการใช้เวลาว่างของตัวเองที่เขียนไปว่า “ร้องเพลง” ก็รู้สึกอายอย่างที่สุด

“คุณยอดชอบร้องเพลงอะไรคะ” ต้องตาถาม

ยอดเยี่ยมตั้งตัวไม่ติด “เผื่อเพื่อนๆคุณยอดถามตาจะได้ตอบได้”

“คุณตาตอบว่า ความลับละกันนะครับ”

***********************************************************************



จบตอน

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:L2: :pig4:

รอตอนต่อไปแป๊ปนะครับ ไม่นานแน่นอน...

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
​จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 22. งานปาร์ตี้เล็กๆ



แต้มนั่งจากจนตรอกที่ห้องกิจกรรมของโรงเรียน สาเหตุก็เพราะอาจารย์ภาคกิจกรรม ต้องการนักแสดงประกอบแสงสีเสียงของโรงเรียน ซึ่ง...ซึ่ง...ซึ่ง...คนที่ถูกเลือกคือ นายยิ่งใหญ่ นั่นเอง แต่วิบากกรรมกลับมาตกอยู่กับแต้ม เมื่อกิจกรรมที่ต้องแสดง มีนักแสดงชายตัวหลัก 2 คน

คุณรู้ใช่ไหม ว่ายิ่งใหญ่จะเสนอใคร “หน่วยก้านไม่เลวนะ ถึงจะไม่สูงเท่าใหญ่ แต่ยืนคู่กันก็ไม่มีปัญหาอะไร”

แต้มพยายามอ้าปากจะค้าน “เห็นมั้ยครับจารย์ ผมบอกแล้วว่าเพื่อนผมหน่วยก้านดี”

“กรฤต ถือว่าครูขอร้องนะ งานนี้เป็นหน้าเป็นตาของโรงเรียนเลย ทั้งจังหวัดเรามีแค่โรงเรียนเราเท่านั้นที่ได้รับเลือก”

“เอ่อ” แต้มจนปัญญา หนึ่ง....เขาปฏิเสธคนไม่เป็น สอง...เขาไม่กล้าแสดงออก สมองครุ่นคิดอยู่นาน ทั้งห้องกิจกรรมเงียบกริบ มีเพียงเสียงลมหายใจของคนที่กำลังลุ้นอยู่ดังสอดแทรกมาเท่านั้น

“ก็ได้ครับอาจารย์”

“ต้องอย่างนี้สิ” อาจารย์ภาคกิจกรรมปรบมือเกรียว หลังจากที่ทาบทามนักเรียนชายระดับชั้นม.ปลายไปหลายคนก็ได้รับคำตอบว่าไม่สะดวกจนแทบจะถอดใจ “เอาเป็นว่าครูจะออกจดหมายขออนุญาตผู้ปกครองให้ เริ่มซ้อมตอนเปิดเทอมสองนะครับ หลังเลิกเรียนถึงสองทุ่ม”

สองทุ่ม! แล้วเขาจะไปนอนที่ไหน.... แต้มหันหน้าไปมองที่เพื่อนสนิท ส่งสายตาดุดันเป็นคำถามว่า “นาย จง ใจ ให้ เรา ตก ลง เพราะ แบบ นี้ ใช่ ไหม” สิ่งที่ได้รับกลับมาคือหน้าตาที่แสนทะเล้นของยิ่งใหญ่

“เอาล่ะ ไปเรียนได้ละ ขอบใจมากนะกรฤต”

แต้มอยากจะบอกว่าสาเหตุที่ตนเองตกปากรับคำเพราะว่าอาจารย์ท่านนี้เรียกชื่อเขาถูกเป็นคนแรก

“นี่มันแผนของนายใช่ปะ”

“เปล๊า” ยิ่งใหญ่ผิวปาก พวกเขาเดินออกจาประตูห้องกิจกรรมก่อนมาหยุดที่แป้นบาส

“เล่นบาสมั้ย” แต้มชวน

“เราไม่ชอบบาส นายก็รู้”

“มา เดี๋ยวสอน”

“ไม่เอา ไปเตะบอลดีกว่า”

“โหย ขี้เกียจวิ่ง”

“ไปเตะบอลๆๆๆ” ยิ่งใหญ่ดึงแขนแต้ม อีกฝ่ายวิ่งเหยาะๆตามไปที่สนาม “เล่นด้วยยย” ยิ่งใหญ่ตะโกน นอกจากกลุ่มสาวๆแล้ว ยิ่งใหญ่ก็โด่งดังในหมู่นักเรียนชายไม่น้อย

“มาๆ กำลังจะเริ่มเกมใหม่” เพื่อนคนหนึ่งพูด “ประตูแรกนะ โดนยิงถอดเสื้อ”

นักฟุตบอลทุกคนใส่ชุดนักเรียน บ้างก็ใส่ชุดพละ เกมนี้มีแต่ม.ปลาย เพราะระดับม.ต้นพักเที่ยงก่อนครึ่งชั่วโมง และตอนนี้ต่างก็ทะยอยเข้าห้องเรียนไปหมดแล้ว นักเรียนหญิงชี้ชวนกันมานั่งเกาะขอบสนามตามใต้ต้นไม้และม้าหินอ่อน

“แก ยิ่งใหญ่เตะบอล แอร๊ย หล๊อหล่อ” เสียงกรี๊ดกร๊าดนั้นปิดไม่มิด เกมในสนามกำลังเริ่ม ก่อนที่ทีมของแต้มกับยิ่งใหญ่ถูกยิงประตูนำไปก่อน

“แกๆๆๆ ถอดเสื้อแล้ว” นักเรียนหญิงกรีดร้อง “หูย หุ่นดีอะ” ทุกคนต่างพยักเพยิดไปมองหุ่นของยิ่งใหญ่ “ขาวมาก”

               ยิ่งใหญ่รับบอลต่อจากเพื่อนในทีม ส่งมันไปยังแต้มที่รออยู่ ทั้งสองต่อบอลกันไปมาราวอย่างคล่องแคล่วกับซ้อมกันมาก่อน “แกๆคนนั้นใครอะ”

“คนไหน”

“นั่นไง ที่เข้มๆ ต่อบอลกับใหญ่น่ะ”

“อ่อ แต้ม เพื่อนสนิทของใหญ่ไง ไม่รู้จักเหรอ”

“อุ๊ย แต้มคนนั้นอะนะ” นักเรียนหญิงนึกได้ “ทำไมตอนนี้ดูดีกว่าอยู่ในห้องอะ”

“จริงด้วยนะแก ชั้นว่าเค้ามีเสน่ห์มากเลยนะ หุ่นก็ดี กีฬาก็ได้ แถมนิ่งๆเงียบๆอีก”

“พอๆๆๆๆ สรุปพวกแกจะดูบอลหรือดูผู้ชาย”

“แกจะถามทำไมยะ” เสียงตุ๊ดคนหนึ่งตอบ “ต้องผู้ชายอยู่แล้วเสะ”

“แต้ม” ยิ่งใหญ่ส่งเสียงเรียก เดาะบอลขึ้น เตะโด่งไปที่คนถูกเรียกที่กำลังยกมืออยู่ ฝั่งตรงข้ามสะกัดแต่วืดถึงแม้แต้มโดนบังแต่ก็เอี้ยวตัวรับบอลที่เพิ่งส่งมาได้ ก่อนส่งต่อไปที่เพื่อนที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างเหมาะเหม็ง ยิ่งใหญ่พลิกข้อเท้าตวัดลูกกลมๆนั้นเต็มแรงก่อนที่มันจะลอยเข้าไปตุงตาข่าย

“กรี๊ดดดดดด” เสียงกรี๊ดดังสนั่นเมื่อยิ่งใหญ่ทำประตูตีเสมอได้

“เจ๋ง” ยิ่งใหญ่วิ่งวนมายังแต้ม กอดคออีกฝ่ายอย่างดีใจ เพื่อนร่วมทีมต่างกรูมากอดก่าย

“เชี่ย อึดอัด” แต้มบ่นกับยิ่งใหญ่

“เห้ยๆ พวกนายปล่อยๆ ใครให้มากอดแต้ม” ยิ่งใหญ่เสียงดุ แต้มกรอกตา เพราะเขาหมายถึงยิ่งใหญ่ ไม่ได้หมายถึงคนอื่น

“ไอ้เชี่ย หวงแฟนเหรอวะ” เพื่อนที่เรียนวิชารด.ด้วยกันแซว ตามด้วยเสียงหัวเราะร่วน แต้มกับยิ่งใหญ่หัวเราะตาม มองว่าเป็นเรื่องน่าขันมากกว่าจะจริงจังกับแค่คำแซว

***********************************************************************

               หญิงสาวรู้สึกประหม่า และตื่นเต้นตลอดทางตั้งแต่ที่ทำงานจนถึงคอนโดหรูส่วนตัวแถวสุขุมวิทของยอดเยี่ยม เธอแต่งกายกึ่งลำลอง เนื่องจากเขาบอกเองว่าไม่ต้องมากพิธี เนื่องจากเป็นปาร์ตี้ส่วนตัว มีแต่เพื่อนๆคนสนิท เลยตัดสินใจสวมเดรสสั้นสีพีช ขับผิวสีน้ำผึ้งของเธอให้ดูสวยยิ่งขึ้น ต้องตาไม่เคยหวั่นเรื่องใช้สีอ่อนกับผิวสีเข้มของตัวเอง แต่กลับมั่นใจมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะมันยิ่งทำให้ตัวเองเป็นที่จับตามองมากยิ่งขึ้น

               แต่ใครจะคิดว่า มันเป็นปาร์ตี้ที่หรูหราเสียเหลือเกิน และไม่ได้มีแค่กลุ่มเพื่อนสนิทของยอดเยี่ยมเท่านั้น สระว่ายน้ำของคอนโดถูกเนรมิตให้เป็นผับเฉพาะกิจ บูธดีเจตั้งตระหง่าน มีดีเจชาวต่างชาติ หัวฟูสีทองถอดเสื้อโชว์รอยสักและแผงอกล่ำบรรเลงแผ่นเสียงอย่างเอาเป็นเอาตาย งานเลี้ยงเริ่มตั้งแต่หนึ่งทุ่ม เมื่อเธอมาถึง ทุกคนดูจะเมาได้ที่กันหมดแล้ว

“ไหนคุณบอกว่าเป็นงานเล็กๆ” ต้องตาตาเขียวปั๊ด

“นี่เล็กละนะ” ยอดเยี่ยมแก้ตัว ก่อนจับมือหญิงสาวคล้องแขน เดินควงเข้างาน

“ขอเสียงปรบมือให้กับเจ้าภาพหน่อยครับ” ดีเจหน้าฝรั่งแต่พูดไทยชัดแจ๋วส่งเสียงผ่านไมโครโฟน แขกในงานปรบมือส่งเสียงเกรียวกราว ต้องตารู้สึกว่าทุกสายตาจับจ้องมาที่เธออย่างประหลาดใจ แสงแฟลชสาดมาที่ทั้งคู่ ผู้หญิงหลายคนจับจ้องมาที่เธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“คุณสร้างศัตรูให้ตาทั้งเมืองแล้วนะคะ” ต้องตาใช้มือข้างที่ควงบีบแขนชายหนุ่มอย่างแรงไปหนึ่งที

“หืม ยังไงอะครับ” ยอดเยี่ยมถาม

“ก็ดูสายตาสาวๆพวกนั้นสิ จ้องตาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ”

“ฮ่าๆๆๆ พวกเค้าคงอิจฉาคุณมั้ง ที่เป็นแฟนผม”

“คุณนี่ ขี้ตู่” ต้องตาตีแขนล่ำ “นี่เป็นแผนการของคุณใช่มั้ย”

“แผนอะไร” ยอดเยี่ยมแสร้งทำหน้าซื่อ

“ก็แผนการพาตามางานเลี้ยง เล็กๆ” ต้องตาเน้นคำว่าเล็กๆ “แต่มีนักข่าวสังคมมาถ่ายรูป มีดาราชื่อดังรูปหล่อนั่งอยู่ตรงนั้น มีนางแบบ และคนดังมากันเพียบขนาดนี้”

“เปล๊า”

“คุณยอด” คราวนี้เธอหยิก

“โอ๊ย ทำไมคุณรู้ทันผมหมดเลยเนี่ย” ยอดเยี่ยมโอยครวญยอดแพ้

“ทำไมตาจะต้องแกล้งโง่ด้วยล่ะคะ”

“ก็เพราะคุณเป็นแบบนี้ไง ผมถึงอยากจีบคุณ”

ต้องตารู้สึกว่าตัวเองต้องไปเข้าคอร์สแกล้งโง่ในเร็ววันนี้

“ว่าไงไอ้เสือ” เพื่อในกลุ่มยอดเยี่ยมทัก “สวัสดีครับ นี่คงเป็นคุณต้องตาแฟนไอ้เสือยอด ผมมิกซ์นะครับ”

ต้องตายิ้มหวาน มิกซ์เป็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง ไว้ผมยาวเป็นลอนสีดำสนิทประบ่า สวมเสื้อลายตารางสีเขียวสลับแดง กางเกงขาสั้นยาวเหนือเข่าสีน้ำเงินเหมือนนักเรียนม.ปลาย สวมหมวกสีเทาอ่อนดูไม่เข้ากันอย่างแปลกๆ นัยน์ตาเป็นประกายขี้เล่น ส่อแววเจ้าชู้ “สวัสดีค่ะคุณมิกซ์ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”ต้องตาเดาว่ายอดเยี่ยมคงเล่าเรื่องเธอให้เพื่อนในกลุ่มไปแล้ว ไม่มากก็น้อย

“ให้ผมแนะนำตัวทีละคนให้นะครับ” มิกซ์อาสา “เห้ยทุกคน นี่คุณต้องตา แฟนไอ้เสือยอดมัน”

“สวัสดีค่ะ เรียกตาเฉยๆก็ได้” เธอโบกมือแก้เก้อ ในกลุ่มมีแต่เด็กๆอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้านายของตน

“คนที่นั่งข้างผม ตัวอ้วนๆนี่ไอ้เม้ง” เม้งแต่งตัวธรรมดาค่อนไปทางเชยเฉิ่มด้วยกางเกงยีนส์ตัวหลวม เสื้อโปโลสีซีดเก่า ไม่เข้ากับงานอย่างร้ายกาจ “เจ้าของร้านทองแถวเยาวราช” ยอดเยี่ยมกระซิบ

“ส่วนถัดจากไอ้เม้ง คือไอ้สัน” ต้องตามองคนชื่อสันต์ เขาใส่ยีนส์ทั้งชุด ผมหยักศกยาวชี้ฟูไม่มีทิศทางที่แน่นอนลู่ถึงกลางหลัง สำหรับผู้หญิงแบบเธอแล้ว ช่างน่าอิจฉาคนที่ไว้ผมยาวได้ขนาดนี้เสียจัง “ไอ้นี่พ่อเป็นทหาร เปิดร้านซ่อมรถ งานอดิเรกคือเป็นนักร้องตามผับ โคตรอินดี้”

“คนนี้” ต้องตาเบิกตาโพลง “คุณตาคงรู้จักอยู่แล้ว ไอ้ภัทรดาราหนุ่มชื่อดังของเมืองไทย”

“ไม่ต้องบอกค่ะ คนนี้ตารู้จัก” ยอดเยี่ยมค้อนหญิงสาว

“ถัดจากไอ้ภัทร คือ เอ้ หญิงสาวคนเดียวของกลุ่ม”

“สวัสดีค่ะ” ทั้งคู่ทักทายอย่างเป็นกันเอง

“ไอ้เสือยอด ตาถึงมาก สวยมาก” เอ้ชม ต้องตามองไม่เห็นแววร่องรอยแห่งความเสแสร้ง “เอ้เป็นเออีบริษัทโฆษณา ที่พ่อเป็นเจ้าของ ตัวจริงเป็นคนตรง ปากแรง”

“งั้นที่ชมว่าตาสวย ก็จริงสินะ” ยอดเยี่ยมไม่ตอบ เพราะยังงอนที่ต้องตาจ้องไอ้ภัทรตาเป็นมัน

“อีกคนตรงนี้” มิกซ์ผายมือไป “เห้ย ไอ้กานต์หยุดหม้อก่อน นี่คุณตาแฟนไอ้เสือยอดมัน”

“ไอ้กานต์เพิ่งกลับไทย มันไปเรียนที่ออสมา” ต้องตาร้องอ๋อ

“มีมิกซ์ เม้ง สัน คุณภัทร เอ้ กานต์ ยอด” ต้องตานับใจใน รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อทวนชื่อดาราหนุ่ม

“หายไปไหนคนนึงคะคุณมิกซ์ เห็นคุณยอดบอกว่าเพื่อนสนิทในกลุ่มมี 8 คน”

“อ๋อ เจ้านั่นน่ะเหรอ สายตลอดอยู่แล้วครับ” มิกซ์ตอบอย่างอารมณ์ดี “นั่นไงมาโน่นละ”

ต้องตาจับไปที่ร่างสูงในชุดสูทสีขาวเดินเข้ามาราวกับดาราอีกคนหนึ่ง ใบหน้านั้นหล่อเหลาราวกับเทพบุตร ยอดเยี่ยมที่ว่าหน้าตาดี ยังไม่ได้ครึ่งของเขา ความหล่อนั้นไม่เป็นรองดาราดังอย่างภัทรเลย ต้องตาลอบมองสลับไปที่ดาราหนุ่มที่กำลังทำหน้าอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด

“ไงมึง มาช้าตลอด” เพื่อนๆในกลุ่มทัก

“เออ ขอโทษทีเพิ่งลงเครื่อง รีบบึ่งจากสนามบินมาสุดๆแล้วนะ”

“มาก็ดีแล้ว รู้จักนี่ไว้ คุณต้องตา แฟนไอ้เสือยอด” หนุ่มหล่อมองเธอราวกับประเมิน ก่อนจะยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง   

“สวัสดีครับคุณตา ผมบั๊มพ์นะครับ” ชายหนุ่มส่งยิ้มชวนใจละลายมาให้ ต้องตาตอบรับอย่างเคอะเขิน

“คนนี้เป็นเจ้าของร้านอาหารที่เชียงใหม่ น่าจะเพิ่งบินมาวันนี้”

“ไหน ใครพาแฟนมาเปิดตัวอีกบ้าง” ยอดเยี่ยมถาม

“เรา” เอ้ยกมือ “แฟนเราเป็นดีเจอยู่โน่น งานนี้ดิชั้นสนับสนุนเสียงเพลงค่า”

อดไปแล้วสองหมื่นห้า... ต้องตาคิดในใจ

“กูไม่มีว่ะ” เสี่ยเม้งตอบเสี่ยงอ่อย

“เห้ย อย่าคิดมาก กูก็ไม่มี” มิกซ์ทำเสียงอ่อยแกมทะเล้น

“ส่วนแฟนกู” บั๊มพ์พูดขึ้นมาชำเลืองสายตาไปยังเพื่อนคนหนึ่ง “ไม่มีว่ะ”

“กูก็ไม่มีเหมือนกัน” ดาราหนุ่มตอบ “ที่คนกูรัก เค้าไม่ได้รักกูนี่หว่า”

“มึงรู้ได้ไงว่าเค้าไม่รักมึง” มิกซ์ถาม “ดาราหนุ่มรูปหล่อแบบมึงใครจะไม่สนวะ”

“มีดิ” ภัทรยกไวน์มาจิบ “ช่างแม่งเหอะ ดื่มๆๆๆ”

“เออ ชนแก้ว” บั๊มพ์พูด ก่อนลุกพรวดออกไป

 “เป็นไรวะไอ่บั๊มพ์ ใจร้อนจริง” เพื่อนๆในกลุ่มบ่นราวกับเคยชินกับอาการนี้

“มึงไปตามเมียมึงซิไอ้ภัทร”

“เมียพ่อง” ภัทรด่า แต่ก็เดินตามออกไป ทิ้งให้ต้องตางงเป็นไก่ตาแตกอยู่อย่างนั้น

“อันนี้ผมไม่รู้” ยอดเยี่ยมตอบโดยที่ไม่ต้องให้เธอถาม

“แล้วมึงล่ะสัน”

“ตอบยากว่ะ” พิสันต์พูด “มีเหมือนไม่มีนี่นับว่ามีปะวะ”

“มึงแอบไปมีแฟนตอนไหน” เสียงเพื่อนๆในกล่มฮือฮา

“เห้ย กูมีแฟนแปลกตรงไหนวะ”

“คนอย่างพิสันต์ ผู้ชายอินดี้ผีเข้าผีออกเนี่ยนะจะมีแฟนได้” เสียงมิกซ์คาดคั้น

“ก็บอกแล้วว่ามีเหมือนไม่มี พวกมึงนับว่ามีปะล่ะ”

“เออๆ กูหยวนให้ก็ได้” เอ้พูด “คนอื่นว่าไง ตามนี้มั้ย ถ้าไม่มีใครค้าน งานนี้ไอ้มิกซ์ ไอ้เม้ง ภัทร บั๊มพ์ กานต์ ห้าคนนะ”

“เห้ยๆๆๆ เดี๋ยว กูมีแฟนแล้ว” กานต์รีบผละจากนางแบบสาวมาโวยวาย “แล้วที่กูมาวันนี้” เขาโชว์แหวนที่นิ้วก้อย

“เห้ย” เพื่อนๆร้องเสียงหลง “อะไร ยังไงวะ ทำไมอยู่ๆ”

“กูว่าท้อง ไม่งั้นไม่รีบหมั้นขนาดนี้เพิ่งกลับไทยแท้ๆ” มิกซ์โพล่งขึ้นมา

“กูเห็นด้วยกะไอ้มิกซ์”

“แล้วไหนแฟนมึงวะ”

“ใจเย็นๆครับคุณพวกมึง ทีละคน ทีละคำถาม ยิงมาเป็นชุดแบบนี้กูตอบไม่ทันครับ” กานต์นั่งที่โต๊ะ หยิบแก้วไวน์ของตัวเองมาจิบอย่างมีความสุข ก่อนที่หญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งจะเดินมาข้างๆและถูกแนะนำว่าเป็นว่าที่ภรรยาของตัวเอง

 ต้องตานั่งฟังทุกคนคุยกันอย่างออกรสและกระหยิ่มยิ้มย่องกับผลตอบแทนที่จะได้รับ ถึงแม้จะต้องแกล้งเป็นแฟนกับเจ้านายก็ตาม เงินครึ่งแสนที่เป็นส่วนแบ่งมันเป็นเงินที่ไม่น้อย นับจากวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อสองปีที่แล้ว การหาเงินยิ่งฝืดเคืองไปทุกวัน เธอมองไปที่วงสนทนา เพื่อนของยอดเยี่ยมอัธยาศัยดีแทบทั้งนั้น แต่ละคนพื้นเพต่างกัน แต่กลับสนิทกันอย่างเหลือเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาราหนุ่มชื่อภัทร ที่เธอพยายามชะเง้อหา เพราะว่าหายออกไปนานเกินไปแล้ว

***********************************************************************



จบตอน

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 23. ไม่ต่างกัน



 บั๊มพ์หลบมาที่มุมเงียบๆของงาน ดาดฟ้าคอนโดหรูมีกระจกกั้นระหว่างดาดฟ้าที่ว่ายน้ำกับด้านนอกแค่คอเท่านั้น ทำให้สามารถมองเห็นวิวกรุงเทพที่สว่างไสวในความมืดอย่างเด่นชัด เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด แค่อึกเดียว บุหรี่นั้นก็ถูกฉกไปโดยชายคนหนึ่ง “ทำไมมาหลบมุมตรงนี้วะ”

“เรื่องของกู”บั๊มพ์ตอบกวนๆ

“งอนกูเหรอ”

“เปล่า” บั๊มพ์ไม่ตอบ ดึงบุหรี่ที่อยู่ในปากนั้นมาสูบ

“แบบนี้ถือว่าจูบทางอ้อมปะ”

บั๊มพ์ชะงัก “เชี่ย พูดอะไรเนี่ย”

“กูคิดถึงมึงนะ” ความเงียบปกคลุมทั้งคู่อย่างกระทันหัน ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย นอกจากหยิบยื่นบุหรี่สลับกันสูบจนหมดมวน

“อย่าทำแบบนี้สิ” บั๊มพ์พูดในที่สุด “มันเป็นไปไม่ได้มึงก็รู้”

“อือ กูรู้” บั๊มพ์สบตาคนที่กำลังพูด สายตาหวานเยิ้มส่งผ่านความรู้สึกอย่างแท้จริง ราวกับที่ตรงนี้มีเพียงพวกเขาภายใต้ความมืดของกรุงเทพ “แต่กูก็ยัง...”

“ภัทร” บั๊มพ์ขัดจังหวะ ราวกับกลัวคำพูดถัดไปจะทำให้ใจอ่อน “มึงเป็นดารา ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นคนของประชาชน มึงก็รู้ว่าเรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้”

“แล้วมึงจะให้กูทำยังไง” ภัทรถามกลับด้วยน้ำเสียงปวดร้าว “มึงก็รู้ว่ากูรักมึง”

“กูก็รักมึง” บั๊มพ์ตอบผู้ชายตรงหน้าในใจ ความเจ็บปวดนี้ร้าวลึกไม่ต่างกัน

“กูขอโทษภัทร” เขากลับตอบออกไปได้เพียงแค่นี้

“นี่เป็นเหตุผลให้มึงย้ายไปเชียงใหม่ใช่มั้ย เพื่อไปให้ไกลจากกู” ภัทรถามคำถามที่ค้างคาใจมานาน ผู้ถูกถามไม่ตอบ มีแต่ความนิ่งงั้นอย่างน่าเศร้า

 ภัทร ดาราหนุ่มหล่ออนาคตไกลของวงการบันเทิงไทยวัยยี่สิบหกปี ความหล่อเหลาและความสามารถทางการแสดงผลักดันให้ดังเป็นพลุตั้งแต่ละครเรื่องแรกจวบจนทุกวันนี้ ดาราสาว เซเลปหรือผู้หญิงมากหน้าหลายตาต่างจับจ้องที่จะได้เขาเป็นคนรัก ที่ผ่านมา เขาไม่มีใครเลย นอกจากผู้ชายคนที่อยู่ตรงหน้า ภัทรกลั้นความรู้สึก มองใบหน้าหล่อเหลาที่แสนรักนั้นอย่างโหยหา ป้องเป็นรักเดียวในชีวิตที่เขาจะมอบความรู้สึกนี้ให้ใครได้ พวกเขาทั้งคู่ต่างรู้ดีว่าต่างรู้สึกอย่างไรต่อกัน แต่เมื่อเขามายืนตรงจุดนี้ ความเป็นไปได้ที่จะมีความรักอย่างเปิดเผยลดน้อยจนกลายเป็นติดลบ

“เห้ย” บั๊มพ์สะดุ้งเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายโผเข้ามากอด “อย่าทำแบบนี้ นักข่าวเต็มเลยนะ”

“ขอกูอยู่แบบนี้สักพัก” ภัทรพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “กูคิดถึงมึง คิดถึงมาก”

บั๊มพ์อยากจะบอกเหลือเกินว่าเขาก็รู้สึกไม่ต่างกัน

ทั้งภัทรและบั๊มพ์ รู้จักกันครั้งแรกตอนม.ปลาย ภัทรเป็นคนหล่อประจำโรงเรียน แต่พอบั๊มพ์ย้ายมาอย่างกระทันหันเมื่อตอนม.ห้า สาวๆก็เกิดอาการเสียงแตก ว่าใครจะหล่อกว่ากัน ทั้งคู่หล่อที่เรียกได้ว่าเป็นเทพบุตรของโรงเรียนเลยก็ว่าได้ ในกลุ่มเพื่อนแปดคนนั้น จะมีจตุรเทพหน้าตาหล่อเหลาที่สุดสี่คนได้แก่บั๊มพ์ ภัทร สันและยอด ที่ต่างเป็นที่หมายปองของสาวๆ

แต่ทั้งภัทรและบั๊มพ์ ต่างไม่ถูกใจใครเลย พวกเขาทั้งคู่สนุกสนานโลดแล่นไปกับกิจกรรมของโรงเรียน การเจอกันตอนวันหยุด และสุดท้ายมันก็จบที่พวกเขารักกัน ... ความรู้สึกมันง่าย แต่การซื่อตรงต่อความรู้สึกที่มีมันช่างยากเหลือเกิน

“ภัทร พอเถอะ” บั๊มพ์ใช้สองแขนดันผู้ชายคนนี้ออก ภัทรปล่อยตัวเขาอย่างง่ายดายราวกับเตรียมใจไว้แล้ว

“มึงคิดถึงกูบ้างปะวะ”

“มึงอยากรู้ไปทำไมวะ” บั๊มพ์แกล้งถาม มองไปที่อีกฝ่ายที่ส่งสายตาที่ปวดร้าวมาให้

“กูแค่อยากรู้ว่ามึงยังเป็นบั๊มพ์คนเดิมของกูรึเปล่า”

“กู” บั๊มพ์นิ่งงัน เขาอยากตอบเหลือเกินว่าเขาไม่เคยเปลี่ยนไป แต่ก็กลัวเหลือเกินว่าจะเป็นการฉุดรั้งอีกฝ่ายไว้

“ขอร้อง พูดความจริงกับกูเถอะ” ภัทรสะกิดใจเขา “มึงไม่ต้องคิดมากว่าจะเป็นตัวถ่วงชีวิตกูหรอก ถึงมึงบอกว่าไม่ ยังไงกูก็คิดกับมึงเหมือนเดิมอยู่ดี”

ก่อนจบม.หก ภัทรเอาสมุดมาให้บั๊มพ์เขียนเป็นคนสุดท้าย เขาเปิดอ่านของคนอื่นที่เขียนไว้อย่างมากมาย และใช้เวลากลั่นกรองถ้อยคำต่างๆถึงสามวันกว่าจะเขียนมันเสร็จ “ทำไมนานจังวะ” ภัทรถาม เมื่อวันที่ได้รับสมุดเฟรนด์ชิพคือวันสุดท้ายของการจบการศึกษา

“มึงจะได้รู้ไง ว่าการรออะไรบางอย่างมันเย้ายวนแค่ไหน”

“พูดยังกะคนแก่” ภัทรพูด ก่อนเปิดสมุด

“อย่าเพิ่ง” บั๊มพ์ปิดและจับมันใส่ในกระเป๋าสะพายของภัทร “เอาไปอ่านที่บ้านนะ”

“เออ” ภัทรตอบแบบงงๆ ก่อนที่ทุกคนจะไปรวมตัวในพิธีปัจฉิมนิเทศน์

ค่ำคืนนั้นเองที่ภัทรหยิบสมุดเฟรนด์ชิพของเพื่อนๆขึ้นมาอ่าน เขาเก็บหน้าสุดท้ายไว้ให้ป้องโดยการเขียนว่า “จอง” ตัวใหญ่เบิ้มด้วยดินสอไว้ ภัทรบรรจงอ่านถ้อยคำของเพื่อนที่เขียนอำลาอย่างมีความสุข จนสุดท้ายมาถึงหน้าที่เขาเก็บไว้อ่านทีหลังสุด

 มันถูกเขียนด้วยลายมือที่สวยที่สุดที่ใครคนหนึ่งจะเขียนได้ เขาอ่านทวนซ้ำๆจนจำขึ้นใจ

“ภัทร

มิตรภาพของกูกับมึงมันคือสิ่งมีค่า มึงคือเพื่อนที่กูรักมากที่สุด

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม มึงคือคนที่กูรักที่สุด

บั๊มพ์”

“ภัทร” บั๊มพ์เรียกโดยที่สายตาจับจ้องไปที่ความมืดด้านนอก

“หืม” ภัทรจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ พ่นควันอย่างไม่กลัวว่าจะมีนักข่าวมาดักถ่ายรูปเอาไปลงหนังสือพิมพ์

“มึงกับกูรู้จักกันมานานแค่ไหนแล้ววะ”

“ตั้งแต่ม.ห้า” ภัทรยื่นบุหรี่ให้อีกฝ่าย “แปดเก้าปีแล้วมั้ง”

“แล้ว” บั๊มพ์พ่นควันบุหรี่ไปในความมืด “มึงคิดว่ากูเป็นคนยังไง”

“สำหรับกู” ภัทรพิงตัวหันหลังให้วิวกรุงเทพ สายตาจังจ้องไปยังคนใส่สูทขาว “มึงคือคนที่จริงจัง จริงใจ”

“อืม” บั๊มพ์ตอบสั้นๆ “แล้วไงอีก”

“ไม่มีแล้ว”

“กูคิดว่าจะมีเยอะกว่านี้ซะอีก”

“มึงคิดถึงกูไหม” ภัทรทวงถาม “มึงอย่าเปลี่ยนเรื่องสิ”

“กูเปล่าเปลี่ยนเรื่อง” บั๊มพ์ตอบ “กูแค่อยากรู้ว่ามึงรู้จักกูดีแค่ไหน”

“การที่มึงคิดถึงหรือไม่คิดถึงกูมันเกี่ยวอะไรกับการที่กูรู้จักมึงดีหรือเปล่าด้วยวะ” ภัทรถามอย่างงุนงง

“เพราะ” บั๊มพ์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนและจริงใจ “ถ้ามึงรู้จักกูดี มึงจะรู้ว่าข้อความที่กูเคยเขียน มันคือความจริงตลอดไป”

ภัทรนิ่งงัน ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความตื่นตันใจ “ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม มึงคือคนที่กูรักที่สุด” เขาพูดประโยคนี้ที่ยังจดจำไม่เสื่อมคลาย

“ใช่” บั๊มพ์หันมาสบตา ส่งยิ้มที่ดูเปราะบางมาให้ ภัทรน้ำตาเอ่อ ที่ผ่านมาเขาต้องอยู่บนทางที่ “ประชาชน” หรือ “แฟนคลับ” ต้องการอยากให้เขาเป็นมาโดยตลอด มันเป็นเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ที่ความอ้างว้างทิ่มแทงเท้าของเขาราวกับหนามของดอกไม้ที่ถูกปูทางให้เดิน “อย่าขี้แยสิวะ มึงเป็นดาราดังนะเห้ย”

“ขอบคุณนะ” ภัทรส่งยิ้ม

“ขอบคุณกูทำไมวะ”

“ขอบคุณที่ทำให้กูยังรู้สึกว่าตัวเองมีค่า”

“มึงมีค่าที่สุดสำหรับกูอยู่แล้วเว้ยภัทร” บั๊มพ์ตอบอย่างไม่ปิดกั้นความรู้สึกของตัวเอง “ไม่ว่ามึงจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร ถึงแม้พวกเราจะอยู่ห่างไกลกัน แต่มึงรู้ไว้นะ ว่ากูคือบั๊มพ์ คนเดิมตลอดไป”

 ทั้งคู่ไม่มีใครส่งเสียงใดๆอีก มีเพียงสายตา รอยยิ้ม ความเจ็บปวด ความเหงาและความโดดเดี่ยวส่งผ่านสลับไปมาภายใต้ค่ำคืนไร้ดาวนี้ ไม่รู้ว่านานเท่าไร แต่พวกเขายินดีที่จะอยู่แบบนี้ ราวกับมีกันแค่สองคน...

***********************************************************************

จบตอน

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ beedy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
  :z10: อ่านแบบไหลลื่นมากเลย

ขอบคุณนักแต่งมากครับ  จิ้ม  :z13:

ติดตามและขอเป็น FC นะคับ  ปูเสื่อรอ


ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
  :z10: อ่านแบบไหลลื่นมากเลย

ขอบคุณนักแต่งมากครับ  จิ้ม  :z13:

ติดตามและขอเป็น FC นะคับ  ปูเสื่อรอ

ขอบคุณมากครับ กำลังจะเอาตอนใหม่ลง
อย่าลืมติดตามอ่านนะครับ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด