Only You :: จะรักนาย เท่าชีวิต (Y) – ตอนที่ 60 จบภาค 1 (UP:: 09/06/62) #หน้า 10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Only You :: จะรักนาย เท่าชีวิต (Y) – ตอนที่ 60 จบภาค 1 (UP:: 09/06/62) #หน้า 10  (อ่าน 69353 ครั้ง)

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 24. เกิดเรื่อง



“แต้มมมมมมม”

“อะไรวะ” แต้มงุนงงที่วันนี้ยิ่งใหญ่มาดักรอที่หน้าโรงเรียนแต่เช้า พวกเขาอยู่ด้วยกันตลอดเสาร์อาทิตย์ที่บ้าน

ก่อนยิ่งใหญ่จะถูกเตะกลับมาที่หอเพื่อซักผ้าเตรียมตัวไปโรงเรียน “เรียกยังกะไม่เจอมานานงั้นแหละ”

“ลอกการบ้านหน่อย”

แต้มส่งสายตาเอือมระอาไปให้ “แล้วทำไมไม่ทำตอนที่บอกให้ทำ” เสียงนั้นบ่นอุบ

“ก็เรานวดให้พ่อนายอยู่ไง” ยิ่งใหญ่แถ

ไม่ว่าจะบ่นแค่ไหน แต้มก็หยิบสมุดของตัวเองออกมาจากเป้ให้อีกฝ่ายอยู่ดี

“ปะๆๆๆไปที่ห้องเร็วๆ จะได้รีบลอก รีบกินข้าวที่โรงอาหาร”

“ไม่ต้อง วันนี้แม่ซื้อข้าวผัดมาเผื่อด้วยอยู่ในเป้”

“เจ๋ง” สายตาของยิ่งใหญ่เป็นประกาย

“ทำการบ้านให้เสร็จก่อน ไม่เสร็จไม่ต้องกินข้าว” แต้มยื่นคำขาด

“โหย ไหงเป็นแบบนี้ไปได้”

“หยุดงอแงวอแวได้ละ จะทำไม่ทำการบ้านน่ะ ไม่ทำอดกินนะ”

“เออๆ ทำ” ยิ่งใหญ่ส่งเสียงตัดพ้อ “น่าฟ้องแม่จังเลยคนอะไร”

“บ่นไร ได้ยินนะ”

“เปล๊า” อีกฝ่ายส่งเสียงสูง ก่อนจับที่สายเป้ที่พาดที่หน้าอกแต้มและจูงไปที่ห้องโดยไม่แคร์สายตาสาวๆที่มองมายังทั้งคู่อย่างน่าอิจฉา ยิ่งใหญ่ตั้งใจลอกการบ้านจนเสร็จ บิดตัวอย่างขี้เกียจ

“ทำไมตอนเรียนไม่ตั้งใจแบบนี้บ้าง”

“นายนี่ขี้บ่นจัง ไหนอะข้าวผัด” แต้มหยิบถึงข้าวผัดให้ พลางควานหาช้อนที่อยู่ในเป้ ยิ่งใหญ่ตักกินอย่าหิวโหย รสชาติที่คุ้นเคย ถึงแม้ไม่ใช่ฝีมือแม่ของแต้ม แต่ก็ทำให้เขาเจริญอาหารได้เช่นกัน

“เย็นนี้ไปไหนปะ” ยิ่งใหญ่ถามทั้งๆที่ข้าวเต็มปาก

“กินเสร็จค่อยถามก็ได้มั้ย” แต้มบ่น

“อายอี้อั๊กอะเอื๋อนอ้อเอาไออุ๊กอันอะอ๊ะ” (นายนี่ชักจะเหมือนพ่อเราไปทุกวันละนะ) แต้มกรอกตาเพราะฟังไม่ออก

“กลับบ้านแหละ นายล่ะ”

“ไปซ้อม” ยิ่งใหญ่ตอบเป็นภาษาคนแล้ว หลังจากกำจัดข้าวผัดไปได้ภายในไม่กี่นาที

“เลิกดึกเลยสิ จะแข่งวันไหน” ยิ่งใหญ่เป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอลของโรงเรียน ชายคนนี้เก่งกีฬาทุกอย่างยกเว้นลูกบาส ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาไม่ชอบเสียงลูกบาสกระทบพื้นเวลาเลี้ยงมัน แต่ก็ขี้เกียจเกินกว่าจะวิ่งไล่ลูกบอล และการตีปิงปองก็น่าเบื่อเกินไป สุดท้ายก็จบด้วยวอลเล่ย์บอล โดยที่แต้มเองไม่ได้เลือกอะไรทั้งนั้นเพราะบ้านอยู่ไกล ถึงแม้บ้านเขาจะไม่ไกล ก็ไม่มีเวลามาซ้อมอยู่ดี

“ก่อนสอบสองวัน”

“เห้ย” แต้มทำหน้าตกใจ

“จริง” ยิ่งใหญ่พับสมุดนำไปวางไว้ที่โต๊ะครูหน้าห้องรอหัหน้าชั้นรวบรวมไปส่งและกลับมาที่เดิม

“แล้วจะอ่านหนังสือทันเหรอ”

“นั่นสิ” น้ำเสียงนั้นกังวล

“ถ้าไม่ทันจะทำยังไง สอบลางภาคก็สำคัญนะ” แต้มคิดอย่างร้อนรน

“นายก็ติวให้เราสิ”

“อืม แต่นายซ้อมกีฬาเลิกดึกนี่นา”

“นายก็ขอแม่มานอนหอเราได้นิ แม่ไม่ว่าหรอกมาอ่านหนังสือ”

“เออ ไอเดียนายก็เข้าท่าดีนะ”

“ตกลงตามนี้นะ” ยิ่งใหญ่ยิ้มกว้าง แต้มมองใบหน้าที่มีความสุขจนปิดไม่มิดนั้นพลางหลับตาและส่ายหัว

“นี่ นาย จง ใจ หลอก ล่อ ให้ เรา รับ ปาก ว่า จะ มา ค้าง หอ นาย เหรอ” แต้มพูดช้าๆเน้นทีละคำ

“เปล๊า” ยิ่งใหญ่ตอบ แต่น้ำเสียงนั้นยังร่าเริงปิดไม่มิด

“นายนี่มัน” แต้มรู้สึกพลาดอีกครั้ง “โอ๊ย ไอ้หมาจิ้งจอก”

ยิ่งใหญ่ไม่ตอบ ได้แต่ขยับปากแบบไร้เสียงว่า “นายรับปากแล้วนะ”

***********************************************************************

               ต้องตานับเงินส่วนแบ่งอย่างดีใจ ห้าหมื่นบาท... แค่คิดจิตใจเธอก็โลดเต้นไปไกลแล้ว เงินมากขนาดนี้สามารถเอาไปทำอะไรได้หลายๆอย่าง หลังจากฝากเข้าธนาคารตัวเองส่วนหนึ่งและไปซื้อโทรศัพท์มือถือ เธอก็รีบกลับมาทำงานเงินสดบางส่วนที่ยังไม่ได้ส่งให้ที่บ้านก็ถูกเก็บไว้ในกระเป๋า ที่บ้านไม่มีบัญชีธนาคาร การส่งเงินไปต่างจังหวัดต้องอาศัยการส่งธนาณัติทางไปรษณีย์ ใช้เวลาไม่นานก็ถึงปลายทาง ปลอดภัยและไว้ใจได้ โทรศัพท์มือถือที่ซื้อมาในราคาแพง ก็เพื่อต้องการให้การติดต่อกับแม่กับพ่อนั้นสะดวกยิ่งขึ้น

เธอตอกบัตรเลิกงานอย่างอิ่มเอมใจ เดินออกทางหลังโรงแรมด้วยความปิติ วันนี้เธอฮัมเพลงทั้งวันจนเจ้านายยังแปลกใจ การก่อกวนของเขาไม่สามารถลบล้างความดีใจที่ได้เงินส่วนแบ่งของเธอได้ จังหวะที่เธอกระโดดโลดเต้นนั้นเอง ใครคนหนึ่งกระชากกระเป๋าเธออย่างแรงจนมันขาด หญิงสาวกรีดร้องอย่างตกใจ เวลาค่ำมืดเช่นนี้ทำให้มองเห็นคนร้ายไม่ถนัด ต้องตาวิ่งตามคนร้ายด้วยความเสียดายของที่อยู่ในนั้น และที่สำคัญ เงินสดส่วนหนึ่งที่เธอคิดว่าจะเอาไปส่งให้ที่บ้านถูกใครก็ไม่รู้ฉกเอาไปหน้าตาเฉย

“ช่วยด้วยค่ะ ขโมย” ต้องตาตะโกนเรียกเสียงดังไปทั่ว รองเท้าส้นสูงวิ่งกระแทกพื้นคอนกรีตจส้นหักจนล้มหน้าคว่ำ รปภ.วิ่งกรูมาแต่ก็ไม่สามารถจับใครได้

“เป็นอะไรมั้ยครับ” ต้องตารู้สึกว่าหน้าเธอชาเล็กน้อยจากแรงกระแทก คลำแล้วไม่มีเลือดแสดงว่าไม่มีบาดแผล นอกจากขาจะเคล็ดก็ไม่มีอะไรน่าเจ็บใจไปกว่าการที่ถูกฉกเงินไปไม่น้อย

               สุดท้ายต้องตาก็ถูกพาตัวมาที่โรงพัก แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ข้อเท้าซ้ายบวมช้ำตอนหกล้มส่งถ่ายความเจ็บแปลบขึ้นมาเรื่อยๆ ยอดเยี่ยมวิ่งหน้าตื่นเข้ามาทันทีหลังจากได้รับข่าว

“คุณตาเป็นยังไงบ้างครับ”

“ตาไม่เป็นไรค่ะ” ต้องตาตอบด้วยเสียงเรียบเฉย แต่ในใจยังเต้นรัวราวกับมีคนบรรเลงกลองชุดในนั้น

ยอดเยี่ยมสำรวจหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าสวยนั้นซีดเผือดด้วยความตกใจ เท้าซ้ายเปลือยเปล่า ผิดกับเท้าขวาที่มีรองเท้าส้นสูงอยู่ “ผมพาไปส่งที่บ้านนะครับ”

“...”

“ไม่ต้องค้านนะครับ ไปเถอะ” ชายหนุ่มถือวิสาสะจับมือที่เย็บเฉียบนั้นให้เดินหน้า

“อุ๊ย”

“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ”

ต้องตาไม่ตอบ แต่ขาที่กระเผลกก็ทำให้อีกฝ่ายรู้

“งั้น” ยอดเยี่ยมถกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้น “ผมขออนุญาตนะครับคุณตา”

หญิงสาวตาเบิกโพลงก่อนที่จะถูกชายหนุ่มอุ้มขึ้นราวกับเป็นเด็กทารก ยอดเยี่ยมยิ้มกว้าง ส่งถ่ายความเจ้าชู้มาอย่างร้ายกาจ ต้องตาเรียบเรียงสติยังไม่เข้าที่ จึงไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับอย่างไรดี พอรู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในรถ ถูกพามาที่โรงพยาบาล ทำแผลจนเสร็จแล้ว

“แค่ข้อเท้าเคล็ดน่ะค่ะ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทายาและทานยาให้ครบ ไม่กี่วันก็จะดีขึ้น อ้อ ช่วงนี้อย่าให้แฟนใส่ส้นสูงนะคะ” คุณหมอบอกกับยอดเยี่ยม ที่ตอนนี้นั่งอยู่ข้างๆ

“อะ คะ” ต้องตารู้สึกว่าสติของตัวเองเริ่มจะกลับมาแล้ว

“คุณหมอบอกให้ผมดูแลแฟนให้ดี อย่าให้ใส่ส้นสูงนะช่วงนี้”

“หืม” ต้องตามองไปที่คนพูด ก่อนที่จะถูกพามานั่งที่รถเข็น นี่เธอต้องถูกทำให้ตกใจอีกกี่รอบกันแน่วันนี้....

***********************************************************************

จบตอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-01-2018 14:46:47 โดย จากต้นจนอวสาน »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

สุดท้ายต้องตาก็ถูกพาตัวมาที่โรงพัก แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ข้อเท้าซ้ายบวมช้ำตอนหกล้มส่งถ่ายความเจ็บแปลบขึ้นมาเรื่อยๆ ยิ่งใหญ่วิ่งหน้าตื่นเข้ามาทันทีหลังจากได้รับข่าว

น่าจะเป็น  ยอดเยี่ยม  หรือเปล่า?

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:pig4: :pig4: :pig4:

สุดท้ายต้องตาก็ถูกพาตัวมาที่โรงพัก แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ข้อเท้าซ้ายบวมช้ำตอนหกล้มส่งถ่ายความเจ็บแปลบขึ้นมาเรื่อยๆ ยิ่งใหญ่วิ่งหน้าตื่นเข้ามาทันทีหลังจากได้รับข่าว

น่าจะเป็น  ยอดเยี่ยม  หรือเปล่า?

อุ๊ย ขอบคุณมากครับ

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
มารอๆๆ

รอแป๊บนะครับ อิอิอิิ

รอเช่นกันครับ

ว่าแต่.....แป๊ปเนี่ย นานเท่าไรครับ  อิอิ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
​​

จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 25. ความอ่อนแอ

 

ยอดเยี่ยมจอดรถใต้อพาร์ตเมนต์เก่าและโทรมย่านประดิพัทธ์ หญิงสาวหลับด้วยความอ่อนเพลีย ใบหน้าซีดนั้นนอนนิ่งราวกับไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆเกิดขึ้น เขาแตะตัวคนข้างๆแผ่วเบา แต่หญิงสาวกลับสะดุ้งตื่นพลางกรีดร้อง

“ใจเย็นๆครับคุณตา ผมเอง” ยอดเยี่ยมคุมน้ำเสียง “ผมเอง”

“เอ่อ ตาขอโทษค่ะ พอดีฝันร้าย” ต้องตาใช้สองมือลูบใบหน้าและสางไปที่ผมอันแสนยุ่งเหยิง สายตาจับจ้องไปนอกรถ “ถึงแล้วเหรอคะ”

“ใช่ครับ”

“ทำไมคุณไม่รีบปลุกตาล่ะ”

“ผมเห็นคุณหลับอยู่ ก็เลย...”

“ขอบคุณค่ะ” ต้องตาพูดเสียงอ่อนก่อนถอนหายใจแผ่วเบา

“คุณตา” ยอดเยี่ยมกลั่นกรองถ้อยคำ

“ตาไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวออกรับ “ตาสบายดี...ฮึก!” น้ำตาหยดใหญ่ไหลรินอย่างเหลืออด ความอ่อนแอถาโถมอย่างหนักหน่วง เคราะห์ดีที่โทรศัพท์มือถือถูกทิ้งไว้ที่โต๊ะทำงานรอการส่งพรุ่งนี้พร้อมกับเงินสด แต่กลับถูกใครก็ไม่รู้ฉกไปอย่างง่ายดาย

 ยอดเยี่ยมพินิจร่างบางนั้นอย่างน่าสงสาร ชายหนุ่มร้อนรนจนนั่งไม่ติดเมื่อเห็นความปวดร้าวและอ่อนแอฉายแววโรจน์ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปแตะที่ไหล่อย่างเก้ๆกังๆด้วยความเกรงใจ หญิงสาวสะอื้นไห้หอบโยน ก่อนที่เขาตัดสินใจโน้มตัวไปใกล้ยิ่งขึ้น และดึงร่างน้อยมากอดอย่างแผ่วเบา “ไม่เป็นไรนะครับ” แค่คำพูดนี้ หญิงสาวกลับร้องไห้ออกมาอย่างท่วมท้นอีกครา

 เมื่อเสียงสะอื้นหยุดไป ยอดเยี่ยมก็พบว่าหญิงสาวในอ้อมอกหลับตาพริ้มด้วยความอ่อนเพลีย เสื้อเชิ้ตของเขาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาแห่งความอัดอั้นตันใจ ชายหนุ่มพลิกตัวหญิงสาวให้นอนพิงเบาะรถอย่างเบามือ เนื้อตัวของคนร่างบางอุ่นกว่าปกติจากพิษไข้ ชายหนุ่มมองไปที่อพาร์ตเมนต์เก่ากลางซอย ราคาเช่าคงไม่แพงเมื่อเทียบกับส่วนอื่นของกรุงเทพ แต่ความเสื่อมโทรมนั้นกลับไม่น่าอยู่อย่างร้ายกาจ เขาครุ่นคิดวิธีการที่จะพาหญิงสาวไปที่ห้อง ก่อนพบว่าไม่มีข้อมูลว่าเธออยู่ห้องไหน อีกทั้งกระเป๋าก็ถูกกระชากไป กุญแจห้องก็คงอยู่ในนั้นเช่นกัน

ชายหนุ่มตัดสินใจเลื่อนรถออก การปล่อยให้เธออยู่คนเดียวตอนนี้ ในสถานที่แห่งนี้ ถึงแม้มันจะเป็นที่อยู่ประจำของเจ้าตัวเองก็ตาม มันก็น่าเป็นห่วงเกินไป รถหรูเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ โดยมิได้สนใจเงาตะคุ่มที่ซ่อนอยู่ในซอกหลืบที่รอคอยบางอย่างอย่างหงุดหงิดใจ

***********************************************************************

แต้มนอนทำการบ้านอยู่ด้านนอก อากาศหนาวเนื่องจากฝนตกหนักทำให้ต้องห่มผ้าบางๆ แสงไฟสลัวให้ความสว่างพอประมาณ แต่ก็ไม่ทำให้เด็กหนุ่มขุ่นมัวเท่ากับยุงที่กำลังรุมกัดเขาอย่างบ้าคลั่ง

การจุดยากันยุงนั้นทำได้ แต่ไม่เหมาะกับสุขภาพของคนป่วยในห้อง เนื่องจากบริเวณบ้านไม่มีประตูหรือผนังที่แน่นหนา มีเพียงผ้าม่านบางๆและตู้เสื้อผ้าเท่านั้นกั้นเป็นห้อง หากเขาจุดยากันยุงตอนนี้กลิ่นของมันจะคลุ้งลอยวนเข้าไปด้านในอย่างเลี่ยงไม่ได้

“กางมุ้งมั้ย เดี๋ยวแม่กางให้”

“ไม่ต้องหรอกแม่ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”

“หึ คราวที่แล้วก็พูดแบบนี้แหละ เป็นไงล่ะตีหนึ่งเลยไม่ใช่เหรอ” แม่แซวอย่างรู้ทัน

“งั้นเดี๋ยวแต้มกางเอง แม่ไปนอนเถอะ ยุงเยอะ อากาศเย็นแล้วด้วย”

“ไม่ต้องหรอก ทำการบ้านไป แม่กางให้ ไม่ยากซะหน่อย” แต้มมองแม่ใช้สายมุ้งมัดกับตะปูที่ถูกตอกไว้กับเสาปูนเมื่อนานมาแล้วอย่างคล่องแคล่ว ทุกอย่างเสร็จภายในสองนาที

“ขอบคุณครับแม่”

แม่ไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มและนั่งลงข้างๆในมุ้งเดียวกัน “พรุ่งนี้อยากกินอะไร ข้าวผัดอีกมั้ย”

“ไม่ต้องก็ได้แม่ ใหญ่มันบอกจะเลี้ยงข้าว”

“อุ๊ย จะกินของเค้าทำไม ใหญ่มันก็ยังหาตังเองไม่ได้ ไม่ต้องไปกวนใหญ่หรอก”

“กวนอะไรล่ะแม่ มันบอกเองว่าจะพาไปกินข้าวที่โรงอาหารตอนเช้า”

“แล้วตอนเที่ยง แต้มจะห่ออะไรไปมั้ย”

เขาส่ายหัว “ไม่ต้องก็ได้ครับ ใหญ่มันบอกว่าพรุ่งนี้มันจัดการเอง”

“เออ แม่ครับ”

“ว่าไง” ผู้เป็นแม่ลูบหัวเด็กหนุ่มอย่างรักใคร่

“เดี๋ยวแต้มจะขอไปนอนติวหนังสือที่หอใหญ่นะครับ”

“เอาสิ”

“ทำไมแม่ตอบไวจัง” แต้มถาม

“ก็ลูกไปติวกับใหญ่ แม่จะห้ามทำไม เด็กคนนั้นนิสัยดีจะตาย แม่ชอบ” แต้มมองไปอีกทาง รู้สึกค้านใจในแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา “ติวให้ใหญ่มันด้วยนะลูก วันก่อนเห็นบ่นๆว่าคะแนนไม่ค่อยดีไม่ใช่เหรอ”

“ดูแม่จะห่วงเจ้าใหญ่มากกว่าลูกตัวเองซะอีกนะเนี่ย”

“ว่าไปเจ้าเด็กคนนี้” เสียงนั้นเปื้อนความสุข “ลูกแม่แม่ก็รักแหละ แต่เจ้าใหญ่มันก็น่ารัก ช่างพูด ช่างเข้าหาผู้ใหญ่..”

“นี่แม่หมายถึงใหญ่ไหนเนี่ย” แต้มขัด ราวกับกำลังฟังเรื่องของคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนของตัวเอง

ยิ่งใหญ่จามอย่างหนักก่อนที่จะใช้ผ้าขนหนูผืนบางเช็ดเหงื่อที่ไหลย้อย

“ไม่สบายเหรอใหญ่” เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งถาม

“เปล่า คงเพราะตากฝนเมื่อกี้แหละ”

“ใครใช้ให้มาซะค่ำเลยล่ะ” เพื่อนคนอื่นแซว

“ใครจะไปรู้ว่าจะเปลี่ยนที่ซ้อมวะ ไม่มีใครบอกซักคน” ใหญ่บ่น

“สมน้ำหน้า มัวแต่ไปยืนส่งเพื่อนขึ้นรถตู้กลับบ้าน เพื่อนหรือแฟนวะ สาวคนไหน ห้องไหนเนี่ย” เสียงหลายคนแซวมา วันนี้เขาไปยืนส่งแต้มขึ้นรถเพราะลืมไปว่าโค้ชนัดคุยหลังเลิกเรียน จนเป็นเหตุให้พลาดเรื่องการเปลี่ยนสถานที่ซ้อม กว่าเขาจะรู้เรื่องก็ปาเข้าไปเกือบค่ำ ยังโชคดีที่มีคนส่งข้อความมาให้

“ฮ่าๆๆ ไม่มีใครหรอก แค่เดินผ่านแถวนั้น” ใหญ่ตอบแกนๆ “ฮัด เช้ยยย” ก่อนที่จะจามอีกครั้ง

“แหม่ เจ้าลูกชายขี้อิจฉา แม่จะรู้จักคนชื่อยิ่งใหญ่สักกี่คนเชียว แล้วนี่การบ้านเหลืออีกเยอะมั้ย”

“ไม่เยอะละครับ อีกสองวิชาก็เสร็จแล้ว”

“การบ้านเยอะขนาดนี้ ยังบอกไม่เยอะอีก คราวหน้ากลับมาถึงบ้านก็ทำการบ้านก่อนเลยนะ งานบ้านเดี๋ยวแม่ทำเอง”

“ไม่เป็นไรครับแม่ สบายมาก แม่จะได้ไม่เหนื่อย”

“เหนื่อยอะไรกันเชียว”

“แค่แม่ออกไปรับจ้างก็เหนื่อยแล้วนะครับ พวกงานบ้านแม่ไม่ต้องทำหรอก ตักน้ำใส่ตุ่ม ซักผ้า เนี่ยงานสบาย” บ้านของแต้มไม่มีปั๊มน้ำ พวกเขาต้องตักน้ำจากบ่อใส่ตุ่มสำรองไว้วันต่อวัน เสื้อผ้าต้องซักเพราะไม่มีเครื่องซักผ้า ฝนตกทุกวันแบบนี้ยิ่งต้องรีบซักและผึ่งไว้รอวันแห้ง ถ้าหมักหมมไว้หลายวันจะทำให้แห้งไม่ทันใช้  “แล้วถ้าแต้มไปนอนหอใหญ่ แม่ก็เหนื่อยอีก ช่วงนี้ก็ให้แต้มทำไปก่อนก็ได้”

“อะ ตามใจ” ผู้เป็นแม่ไม่เถียง เพราะรู้ว่าลูกชายคงไม่ยอม “แล้วอย่านอนดึกนักล่ะ รีบทำรีบนอนซะ แม่ไม่กวนละ”   

“ครับ” แต้มรับคำ

“ถ้าไม่ทัน ก็เอาไปทำที่โรงเรียนพรุ่งนี้ก็ได้นะ” แม่แนะนำ

“ทันครับแม่” แต้มตอบ มันต้องทัน... เขาคิดในใจ เพราะไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้ยิ่งใหญ่จะไม่มีอะไรให้ลอกตอนเช้า...

***********************************************************************


จบตอน

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
ตัวละครปริศนานี้คือใครหว่า?

"...เงาตะคุ่มที่ซ่อนอยู่ในซอกหลืบที่รอคอยบางอย่างอย่างหงุดหงิดใจ"

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nut2557

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รออยู่นะครับ  :mew2:

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 26. ติว



เช้านี้แต้มต้องเอาของมาเก็บไว้ที่ห้องของยิ่งใหญ่ก่อน ถึงแม้จะมีน้อยชิ้นเพราะเจ้าตัวคิดว่าจะทะยอยซักเอา แต่เมื่อมารวมๆกันก็ทำให้เป้ตุงอย่างผิดสังเกตได้เหมือนกัน เจ้าของห้องกำลังแต่งตัวอยู่ตอนที่แต้มมาถึง

“หืม นี่นายเหม็นถึงขั้นต้องรมน้ำหอมเยอะขนาดนี้เลยเหรอ” แต้มทักคนที่ยังไม่ได้ใส่เสื้ออยู่หน้ากระจก

“นายก็รู้ว่าเราไม่มีกลิ่นตัว ดมออกบ่อยจำไม่ได้เหรอ” ยิ่งใหญ่ชูรักแร้ขึ้นเอามาแนบใบหน้าแต้มจนต้องเบือนหนี

“หึ” แต้มเค้นคำตอบ แต่ก็เปล่าประโยชน์ เพราะที่ผ่านมายิ่งใหญ่ก็เข้ามาใกล้เขาแทบทุกระยะอยู่แล้ว “จะเสร็จยัง หิวแล้ว”

“เสร็จแล้วๆๆๆ” ยิ่งใหญ่หวีผม

“เหอะ ผมก็สั้นเต่อทรงรด. จะหวีเพื่อ” แต้มส่งเสียงหงุดหงิดใส่

ยิ่งใหญ่ยิ้มเจื่อนๆ “เคยชินน่ะ”

                แล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่อทั้งสองคนเดินไปที่โรงเรียน ทุกสายตาต่างจับจ้องมาอย่างเปิดเผย

แต่ก็ไม่รู้ว่าแต่ละสายตานั้นมีความคิดอย่างไรบ้าง

เพราะวันนี้ฝนตก และสองหนุ่มเดินมาอย่างอ้อยอิ่ง อยู่ใต้ร่มคันเดียวกัน

“ใครใช้ให้นายลืมเอาร่มมาล่ะ” ยิ่งใหญ่บ่นเมื่อเห็นแต้มมีท่าทางอึดอัดเพราะถูกสายตาจับจ้อง

“เค้าคงคิดว่านายเป็นแฟนเราแน่ๆ”

“ไม่ตลก” แต้มตอบสั้นๆ รู้สึกหวิวใจอย่างประหลาด

“กินอะไรดีวันนี้” สองคนเดินมาถึงโรงอาหาร ยิ่งใหญ่สะบัดร่มให้น้ำฝนกระเด็นออกก่อนพับมันและหิ้วไปด้วย

“โห ของขายเยอะจัง” แต้มรู้สึกตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้ามาเรียนที่นี่ที่ตัวเขามากินข้าวที่โรงอาหารตอนเช้า เพราะปกติจะห่อข้าวมาจากบ้าน ไม่มาซื้อขนมกินตอนพักเที่ยง นักเรียนทุกระดับชั้นขวักไขว่ โต๊ะนั่งถูกจับจองแทบทุกตัว นักเรียนจับกลุ่มกันอยู่ที่ใครที่มัน พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ถึงแม้บรรยากาศภายนอกจะชื้นแฉะ แต่ในนี้กลับร้อนอบอ้าวเพราะไออุ่นจากร่างกายผสานกับเสียงหัวเราะร่วน บ้างก็เสียงโหวกเหวกโวยวายเพราะแกล้งกัน

  แต้มเดินไล่ดูทีละร้าน และมาจบที่ร้านข้าวแกง เขาสั่งอาหารง่ายๆและไปหายิ่งใหญ่ที่โต๊ะ น่าแปลกที่มีโต๊ะนั่งในช่วงคนที่เยอะขนาดนี้ แต่แต้มก็เลิกแปลกใจ เพราะว่าตรงนั้นมีกลุ่มเพื่อนในห้องหลายคน ยิ่งใหญ่เป็นคนดังอยู่แล้ว หน้าตาที่หล่อเหลายิ่งทำให้มีคนอยากเข้าหา การที่เราคบกับคนระดับนี้ก็เท่ากับยกระดับของตัวเองอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อแต้มเดินไป ที่นั่งก็ถูกปล่อยว่างอย่างอัตโนมัติ

“หวัดดีแต้ม” เพื่อนคนหนึ่งส่งเสียงทัก แต้มยิ้มแหยๆตอบไปด้วยความไม่ชิน

“หวัดดี”

“เพิ่งเคยเห็นแต้มมากินข้าวเช้านะเนี่ย” เพื่อนอีกคนทัก

“ใช่ๆ ปกติเห็นแต่ใหญ่”

“เอ่อ ปกติเรากินข้าวเช้ามาจากบ้านน่ะ”

“อ้าว แล้วทำไมวันนี้มาที่นี่ได้ล่ะ” อาร์ทถาม แต้มเพิ่งสังเกตเห็นเพราะมัวแต่ก้มหน้างุดด้วยความไม่คุ้นชิน

“อ่อ พอดีเราบอกจะเลี้ยงข้าวน่ะ” ยิ่งใหญ่ตอบแทน วางจานและนั่งแหมะลงข้างๆ

แต้มตักข้าวเข้าปากอย่างเงียบๆ ตอบคำถามเพื่อนสั้นๆตามนิสัย ได้แต่คิดในใจว่าถ้าเขาไม่ใช่เพื่อนกับยิ่งใหญ่ จะมีคนอยากเข้าหาตนแบบนี้ไหม “แต้มขอการบ้านหน่อย”

“อยู่ในเป้ เปิดเอา” แต้มยื่นเป้ให้ ยิ่งใหญ่จ้วงอาหารอย่างว่องไวและเปิดกระเป๋าเพื่อน หยิบสมุดการบ้านขึ้นมาอย่างคล่องแคล่ว

“นี่นายรู้เลยเหรอว่าสมุดเล่มไหนวิชาอะไร” เพื่อนคนอื่นถามด้วยความงุนงง

“รู้สิ ลอกทุกวัน” ยิ่งใหญ่ตอบด้วยเสียงที่ฟังดูปกติสำหรับตัวเอง แต่คนอื่นได้แต่อึ้ง เพราะคิดว่ายิงใหญ่จะทำการบ้านเองกันหมด “แถมแต้มนะ จะใช้สมุดต่างสีกันในแต่ละวิชา เช่นสีเหลืองเล่มนี้ สำหรับครูจิ สีเขียววิชาภาษาอังกฤษ น้ำเงินวิชาสังคม”

“อุ๊ย แบบนี้ไม่ต้องใช้สมุดสิบกว่าสีเลยเหรอเนี่ย”

“อื้อ” แต้มตอบง่ายๆ “ก็ตอนซื้อสมุดโรงเรียนมันมีเป็นสีๆให้เลือก เลยคิดไอเดียนี้น่ะ”

“เออ เข้าท่าดีนะ” อาร์ทเสริม

“ดีกับเรามากเลยล่ะ” ยิ่งใหญ่พูดแต่สายตาจับจ้องไปที่การบ้าน “พวกนายทำการบ้านเสร็จละเหรอ”

“เออยังว่ะ” หลายเสียงตอบ

“วิชาแรกครูจินะ ไม่รีบทำเดี๋ยวไม่มีส่งนะเว้ย” ยิ่งใหญ่กระตุ้น

“งั้น แต้ม พวกเราขอลอกของนายด้วยได้มั้ย บทนี้มันยากอะ เราทำไม่ได้”

แต้มไม่ตอบ เพราะสมุดการบ้านของเขาถูกกระจายไปในกลุ่มหมดแล้ว

***********************************************************************

ยิ่งใหญ่ซ้อมวอลเลย์บอลตั้งแตหกโมงเย็น เลิกประมาณสองถึงสามทุ่ม หลังจากนั้นก็จะโดนแต้มลากตัวมาติวก่อนโดยเฉพาะวิชาคณิศาสตร์ที่ดูเหมือนจะไม่เข้าหัวเป็นอย่างมาก ยิ่งใหญ่โอดครวญทุกครั้งที่แต้มให้ลองแก้โจทย์ พยายามบ่ายเบี่ยงแต่สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนเพราะสายตาของแต้มไม่ได้เป็นมิตรเท่าไรนัก

“ทำไมนายต้องเคี่ยวเข็นเราด้วยล่ะ ก็มันยากนี่”

“ถ้านายไม่ทำโจทย์แล้วเจอข้อสอบจริงจะคิดออกมั้ย” แต้มถามดัก

ยิ่งใหญ่ไม่ตอบโต้ เพราะรู้ว่าไม่มีทางเถียงชนะ หันไปหยิบข้อสอบวิชาอื่นมาแทน รู้สึกว่าวิชาเลขมันตีกันในหัวจนมึนงงไปหมด

“นี่ๆโจทย์ข้อนี้คิดยังไงอะ ‘ครอบครัวหนึ่งผู้เป็นพ่อเลือดกรุ๊ปเอบี แม่เลือดกรุ๊ปโอ ลูกออกมามีความเป็นไปได้กี่เปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นคนเลือดกรุ๊ปโอ’”

“นายตอบข้อไหน” แต้มถาม

“ค.ควาย 50%”

“หืมมมมมม ทำไมตอบข้อนี้ล่ะ”

“ก็พ่อเอบี แม่โอ อย่างละครึ่งไง ลูกออกมาก็มีสิทธิ์กรุ๊ปโอห้าสิบเดะ”

แต้มกุมขมับ กางหนังสือและอธิบาย “นี่เลือดคนเราน่ะ จะมี 4 กรุ๊ป คือ เอ บี เอบีและโอ สามกลุ่มแรกจะเป็นเลือดกลุ่มเด่น” เขาพยายามใช้คำที่ทำให้อีกฝ่ายเข้าใจง่ายที่สุด

“ส่วนที่เหลือคือโอ มันเป็นพวกกลุ่มด้อย”

“ด้อยยังไง”

“ด้อยยังไง เดี๋ยวบอก” แต้มอธิบายต่อ “ทีนี้ จำได้มั้ยว่าคนเรามีโครโมโซมจับกันเป็นคู่ๆ ที่แยกเพศก็เป็นคู่สุดท้ายเอ็กซ์เอ็กซ์ กับ เอ็กซ์วาย”

“จำได้ โครโมโซมอยู่เป็นคู่ๆ”

“นั่นแหละ เลือดก็เหมือนกัน มันอยูกันเป็นคู่ๆ”

ยิ่งใหญ่คิดตาม

“บางคน เลือดกรุ๊ปเอ หมายถึง ในตัวมีเลือดคู่เป็นแบบ เอเอ หรือ เอโอ”

“แล้วทำไมไม่เรียกว่าเอโอล่ะ ทำไมต้องเออย่างเดียว”

“นั่นแหละ เพราะโอมันเป็นกลุ่มด้อยไง ด้อยจะโดนเด่นกลบ จำง่ายๆแบบนี้”

“อ๋อออออออออ”

“ทีนี้ กลับมาที่โจทย์ ถ้าพ่อเลือดเอบี แม่โอ เลือดพ่อเป็นคู่เด่น ทั้งเอทั้งบีเห็นปะ เลยไม่มีใครกลบใคร แต่แม่จะเป็นกลุ่มด้อย จับคู่กับเองคือ โอโอ”

ยิ่งใหญ่มองแต้มเขียนชาร์ต “นี่เขียนออกมาตามนี้ เอาเลือดแต่ละตัวจับกันเป็นคู่ๆจากฝั่งพ่อกับแม่”

พ่อ           แม่

AB          OO

ลูก AO AO BO BO

“เห็นยังว่าลูกมีกลุ่มโอกี่คน” แต้มถาม

ยิ่งใหญ่ก้มมองข้อสอบเก่าและมองชาร์ตที่แต้มเขียนไป “ข้อนี้ตอบ ก.ไก่สินะ ศูนย์เปอร์เซ็นต์”

“ถูกต้อง”

“นายนี่เก่งชะมัด”

“ยังไม่ชินอีกเหรอ”

ยิ่งใหญ่ไม่ตอบ ได้แต่นั่งทำโจทย์ข้ออื่นต่อด้วยรอยยิ้ม

“แต้ม นายเลือดกรุ๊ปอะไรอะ”

“หืม โอ”

“เราบีนะ”

“เราไปถามนายตอนไหน”

“ไม่ถาม ก็แค่อยากบอก” แต้มส่ายหัว นั่งอ่านหนังสือต่อด้วยอาการเหม่อลอย

“พรุ่งนี้นายแข่งกี่โมง”

“สายๆอะ มีหลายโรงเรียนมาแข่ง”

“วันเดียวเลยเหรอ”

“ใช่” ยิ่งใหญ่ตอบและพยักหน้าไปพร้อมกัน จิตใจจดจ่อกับโจทย์วิชาวิทยากาพชีวะภาพ

“ทำไมโหดจัง”

“ขำๆ เล่น 15 แต้มเอง สามเซ็ต” ยิ่งใหญ่ตอบ การแข่งวอลเล่ย์บอลจะใช้กติกาคือ นับแต้มจากฝ่ายผู้เสิร์ฟ ใครได้ 15 คะแนนก่อนได้เซ็ตนั้นไป จะไม่นับคะแนนแบบไหลที่นับจากฝั่งที่ไม่ได้เสิร์ฟที่เป็นบอลดี

“ไม่เหนื่อยเหรอ”

“อึ๊” ยิ่งใหญ่ทำเสียงสูง “นายเชียร์ด้วย ไม่เหนื่อยหรอก”

แต้มไม่ตอบ ยิ่งใหญ่นอนแผ่หราที่พื้นอย่างขี้เกียจ “โอ๊ย อ่านหนังสือจนปวดหัวละเนี่ย”

“อย่าบ่นน่า ใครใช้ให้นายอ่องออน้อยเอง” อ่องออ หมายถึง สมอง เป็นภาษาเหนือ

“ว่าใคร” ยิ่งใหญ่ผุดนั่ง “อ่องออน้อย แต่หล่อมากนะคร้าบบบบบบบบ”

แต้มครางหึ ไม่รู้จะต่อล้อต่อเถียงอย่างไรดี

“พรุ่งนี้ สู้ๆนะ” แต้มบอกเสียงค่อย

“หืม อะไรนะ ไม่ได้ยินอะ” ยิ่งใหญ่ยื่นหน้าเข้าใกล้ เงี่ยหูไปหา

แต้มเบ้ปาก ขยับหน้าออกมา เท้าคางไว้กับโต๊ะญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยกองสมุดและหนังสือ

“บอกอีกทีนะนะ”

“บอกไร ยุ่งจริง จะอ่านหนังสือ” แต้มทำเสียงเข้ม

“งั้นไม่ต้องอ่าน” ยิ่งใหญ่กวนเป็นเด็กโดยการดึงหนังสือออก กวาดของบนโต๊ะญี่ปุ่นโยนไปที่เตียง

“ทำไมงอแงแบบนี้ เป็นเด็กแปดขวบรึไง” แต้มบ่น เดินไปที่เตียง เกลี่ยหนังสือวางไว้ที่หัวเตียงก่อนจะนอนคว่ำอ่านหนังสือ เพราะตรงนี้โล่งกว่าข้างล่างนั้นเยอะ

“สิบหกเหอะ จะสิบเจ็ดแล้ว” ยิ่งใหญ่ยังไม่เลิกป่วน น้ำเสียงน่ารักผิดปกติบวกกับแววตาที่เสแสร้งเป็นออดอ้อนไม่ได้ช่วยให้แต้มรู้สึกสงสารเลยแม้แต่น้อย แต้มทำหูทวนลม เพื่อที่จะแกล้งคนเอาแต่ใจที่กำลังงอแงเป็นเด็ก เขาทำท่าทีตั้งใจอ่านหนังสือแต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบยิ้มที่มุมปาก

“บอกอีกทีนะๆ เมื่อกี้เสียงมันเบาไปอะ”

“นายนี่ตื๊อไม่เลิกจริงๆ”

“นะนะนะ ถ้าบอกเสียงดังๆคืนนี้จะไม่นอนกอด”

“จริงนะ” แต้มตาลุกวาว แบบนี้ก็ไม่ต้องทนอึดอัดตอนนอนอีกแล้ว

“อื้อ”

“พรุ่งนี้สู้ๆนะ” แต้มบอกเต็มเสียง คนฟังยิ้มแป้น

“ไม่กอดนะคืนนี้” แต้มถามย้ำ

“อื้อ” ยิ่งใหญ่รับคำหนักแน่น

คืนนั้นเอง เมื่อแต้มหลับสนิท ลมหายใจราบเรียบสม่ำเสมอ มือหนึ่งค่อยๆซุกไปใต้คอดึงร่างผอมแห้งมาระยะประชิดอย่างแผ่วเบา เพราะเขารู้ดีว่า คนที่นอนในอ้อมกอดตอนนี้ เป็นคนที่หลับง่ายและพอได้นอนแล้วจะหลับลึกตื่นยากที่สุด เมื่อจัดท่าที่ถูกใจที่สุดแล้ว เขาก็กดจมูกลงที่แผ่นหลังแคบนั้นและหลับไหลไปด้วยความอิ่มเอม

 ***********************************************************************




จบตอน...

#ทีมยิ่งใหญ่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2018 09:31:10 โดย จากต้นจนอวสาน »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 27. วันแข่ง



และแล้ววันแข่งมาก็ถึง ยิ่งใหญ่ใส่เสื้อกีฬาสีขาวแขนสีน้ำเงินเบอร์เก้า ซึ่งเป็นเลขที่แต้มชอบ กางเกงสีขาวเข้าชุดกันดูสั้นเต่อ สายรัดข้อมือทำจากผ้าสีเหลืองแทนสีของโรงเรียนคาดไว้ มีจุกหรืออะไรก็ไม่รู้เหมือนยางรัดผมพันไว้ที่ข้อนิ้วเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ พอแต่งครบชุดแบบนี้ยิ่งใหญ่ยิ่งดูมีเสน่ห์ สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงรายเหงาหงอย เนื่องจากไม่ใช่ฤดูกาลแข่งกีฬา ไม่มีงานรื่นเริงอะไรจัดช่วงนี้ มิหนำซ้ำยังเป็นช่วงที่นักเรียนใกล้สอบ ยิ่งทำให้บรรยากาศรอบๆอัฒจันทร์วังเวงไปกันใหญ่

 เมื่อแต้มไปถึงพร้อมยิ่งใหญ่ ทุกคนในทีมต่างก็มองเขาแบบแปลกๆ เนื่องจากยิ่งใหญ่เป็นคนดัง ปกติแต้มก็ไม่เคยตามไปดูตอนที่ยิ่งใหญ่ซ้อมมาก่อน เพราะต้องทำการบ้านและทบทวนบทเรียนรอติวตอนดึกหลังซ้อมเสร็จ คนในทีมจึงไม่คิดว่าแต้มจะมาดูวันนี้ ถึงแม้จะมีบางคนที่รู้ว่ายิ่งใหญ่กับแต้มสนิทกันก็ตามที

“อ้าวใหญ่ มาๆโค้ชกำลังบรี๊ฟ” เพื่อนร่วมทีมบอก ยิ่งใหญ่ฝากกระเป๋าสะพายใส่ของส่วนตัวไว้กับแต้มที่มานั่งมองปริบๆอยู่นอกสนาม ยิ่งใหญ่เวลาพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมดูขึงขังจริงจัง ผิดกับตอนที่ติวหนังสือกันสองคนลิบลับ

ไม่นานนักก็มีเสียงโหวกเหวก ก่อนตามมาด้วยกลุ่มกองเชียร์ที่แต้มคุ้นหน้าคุ้นตาประมาณสิบกว่าคน ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนร่วมห้องที่ชื่นชอบยิ่งใหญ่ บางส่วนที่มาเพิ่มภายหลังเป็นรุ่นน้องม.ต้นที่มากันมาโดยมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนคือ ดูยิ่งใหญ่แข่ง

“เดี๋ยวแข่งเสร็จ จะพาไปกินไอติมนะ” ยิ่งใหญ่บอก ด้วยใบหน้าที่ยิ้มกว้าง โรงเรียนเขาแข่งเป็นคู่แรก ถ้าแพ้ก็ตกรอบไปเลยไม่ต้องรอเจอทีมอื่นอีก

“ไม่เอา เปลือง รีบกลับไปอ่านหนังสือดีกว่า”

“นายนี่ทำไมชอบขัด” ยิ่งใหญ่บ่น “จะแข่งแล้วนะ ขอกำลังใจหน่อย”

“พูดอะไรเนี่ย” แต้มดุ “กำลังใจอะไร”

“ก็เหมือนเมื่อคืนไง ที่บอกว่าสู้ๆน่ะ” ยิ่งใหญ่ทำหน้าเว้าวอน

“ไม่” แต้มเสียงเข้ม “นายผิดคำพูดแอบมากอดเราตอนดึก”

“เปล่าน้า นายนั่นแหละนอนดิ้นมาซุกเราเอง”

แต้มส่ายหัว ไม่กล้าตอบโต้เพราะไม่รู้ว่าตัวเองทำแบบนั้นจริงหรือเปล่า “ไปแข่งได้แล้ว”

“ไม่ ขอกำลังใจก่อน”

แต้มมองยิ่งใหญ่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แต่อีกฝ่ายกลับส่งยิ้มและใบหน้าออดอ้อนที่แสนจะขัดกับรูปร่างมาให้

สุดท้าย แต้มก็ต้องยอมแพ้ “สู้ๆนะ”แล้วพยักหน้าให้เพื่อแทนคำว่า.... ดูอยู่ตรงนี้

ยิ่งใหญ่ไม่ตอบ ยิ้มที่มียิ่งฉีกกว้างขึ้นก่อนที่ร่างสูงจะวิ่งไปรวมกับคนในทีม



                 ***********************************************************************

เสียงนกหวีดในสนามดังขึ้นพร้อมกับเสียงเชียร์ข้างสนาม แต้มเขยิบไปด้านบนอีกชั้นหนึ่งเพื่อดูการแข่งขันให้ทั่วถึงมากขึ้น นักกีฬาสองทีมต่างผลัดกันทำคะแนนกันอย่างน่าสนุก เมื่อยิ่งใหญ่เสิร์ฟ เสียงเชียร์จากสาวๆก็ดังขึ้น ยิ่งตอนที่เขาเป็นคนตบลูกกลมๆตกลงในพื้นที่คู่แข่ง จังหวะลอยตัวสูงตบลูกวอลเลย์เฉียดบล็อกของอีกฝั่งดูสวยงามไม่แพ้กับใบหน้านั้น ถึงแม้จะดูขึงขัง แต่กลับชวนมองและน่าหลงไหล

“เก่งจังเนอะ” แต้มมองไปตามเสียงที่พูด

“อื้อช่าย มาตอนไหน”

“มาสักพักละ เห็นนายนั่งอยู่คนเดียวเลยมานั่งด้วย”

“...” แต้มไม่ตอบ เพราะว่ากำลังเทความสนใจไปที่สนาม

“อ่านหนังสือจบแล้วเหรอ”

“ยังอะ อีกหลายวิชาเลย นายล่ะอาร์ท”

“จบไปรอบนึงละ แต่ไม่ค่อยเข้าหัว” อาร์ทในชุดอยู่บ้านธรรมดาดูผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อได้คุยกับแต้ม

ที่เคยคิดว่าแต้มเป็นคนเข้าถึงยากนั้นไม่เป็นความจริงเสียทีเดียว

ใช่ แต้มเป็นคนเงียบๆ แต่ความเงียบนั้นน่าจะมาจากที่คนๆนี้เป็นคนขี้อายมากกว่าจะเป็นเพราะเย่อหยิ่ง

เห็นได้จากความสนิทสนมระหว่างแต้มกับยิ่งใหญ่ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาก็สัมผัสได้ว่าที่จริงแล้วแต้มเป็นคนที่น่าคบมากคนหนึ่ง เวลาที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน เสียงหัวเราะลั่นของยิ่งใหญ่จากโต๊ะหลังห้องทำให้พวกเขายิ่งมีเสน่ห์ แต้มไม่ใช่คนที่หล่อเหลา แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเวลาที่แต้มนิ่งๆด้วยใบหน้าเรียบเฉยนั้นน่าดึงดูดมากแค่ไหน

“นายเรียนเก่งอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก” แต้มพูดให้กำลังใจ

“อย่าพูดแบบนี้สิ ยิ่งพูดยิ่งกดดัน” อาร์ทสารภาพ “มีแต่คนกดดันเราก็ยิ่งไม่มั่นใจ”

แต้มหันไปมองเพื่อนที่สนทนาด้วยสลับกับการแข่งในสนาม ยิ่งใหญ่หันมองแต้มเป็นระยะ สายตาทั้งคู่สบตากันก่อนที่แต้มจะส่งท่าทางไปบอกว่าให้ตั้งใจกับการแข่งมากกว่านี้ ยิ่งใหญ่นิ่งหน้าตาไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

“นายทำได้ เรามั่นใจ” แต้มยืนยัน

“เรากลัวว่าถ้าคะแนนไม่ดี เราจะโดนย้ายห้องอะ”

“ไม่หรอก เชื่อเถอะ นายไม่น่าเป็นห่วงเท่าใหญ่หรอก” แต้มตอบ สิ่งที่กวนใจแต้มคือกฎของโรงเรียนที่จะต้องมีการย้ายเด็กเก่งกับไม่เก่งออกจากกัน ถ้าพ้นหนึ่งปีการศึกษาแล้วใครได้เกรดเฉลี่ยไม่ถึง 2.75 จะต้องถูกย้ายไปอยู่ห้องที่ระดับล่างกว่า มันไม่ยุติธรรมเท่าไรนักในความคิดของแต้ม แต่เจตนาของโรงเรียนก็เพื่อให้เด็กที่มีระดับการรับรู้ที่เท่ากันอยู่ด้วยกัน การสอนจะทำได้ง่ายกว่า เพราะถ้าเด็กหัวไวอยู่กับเด็กที่เข้าใจอะไรได้ช้า จะทำให้ครูไม่รู้ว่าเด็กที่หัวช้าจะเข้าใจเทียบเท่ากับคนหัวไวเพียงไหน

“ใหญ่เนี่ยนะ” อาร์ทถามแบบไม่เชื่อ

“ใช่ นายยิ่งใหญ่นี่แหละ น่าเป็นห่วง”

“แต่เรารู้มาว่า ตอนสอบเข้าม.ปลาย คะแนนของใหญ่อยู่อันดับต้นๆเลยนะ”

“ห๊ะ” แต้มตกใจ “นายว่าอะไรนะ”

“เราว่า คะแนนสอบเข้าม.ปลายของโรงเรียนมันมีประกาศแปะบอร์ดหน้าโรงเรียนด้วยไง คนที่สอบได้จะเรียงตามคะแนนนะ ไม่ใช่ตามรายชื่อหรือตามหมายเลขผู้สอบ”

แต้มจำได้ เขามีชื่อเป็นคนที่สามจากด้านบนของสายการเรียนนี้

“นายแน่ใจนะ”

“เรามั่นใจกว่าเรื่องสอบอีก”

แต้มเก็บความคาใจไว้เท่านี้ ก่อนที่จะพาอาร์ทเปลี่ยนเรื่องไปดูการแข่งที่สนาม ไม่นานก็จบเกม โรงเรียนเขาแพ้ไปด้วยคะแนน 9 ต่อ 15

                 ***********************************************************************

สุดท้ายโรงเรียนของเขาก็แพ้ไปหนึ่งต่อสองเซ็ต ยิ่งใหญ่ไม่เปลี่ยนชุดในขณะเดินออกไปข้างสนาม เด็กผู้หญิงที่ตั้งตัวเองเป็นแฟนคลับยิ่งใหญ่ก็รายล้อมหยิบยื่นทั้งขนมและผ้าเช็ดหน้ามาให้ แต้มนั่งอยู่ที่เดิมมองภาพนั้นอย่างไร้ความรู้สึก อาร์ทขอตัวกลับไปก่อนหน้านี้สักพัก ภาพแฟนคลับกำลังห้อมล้อมยิ่งใหญ่ทำเอาแต้มขัน ไม่น่าเชื่อว่าคนแบบนายยิ่งใหญ่จะมีคนชื่นชอบมากเพียงนี้ ถ้าตัดเรื่องหน้าตาออกใบ ยิ่งใหญ่ก็แค่เด็กติดบุหรี่ ขี้เกียจ หัวช้า ไม่ชอบทำการบ้าน กินจุ ชอบนอดเบียดคนหนึ่งเท่านั้น

“คิดอะไร ดูเพลิน” แต้มสะดุ้งหลังจากที่ยิ่งใหญ่ทักมา

“มาตอนไหน”

“ตอนที่นายทำหน้าพริ้มๆเหมือนคิดอะไรลามกในหัวแหละ”

“เห้ย ไม่มี” แต้มปฎิเสธเสียงแข็ง “ใครจะหมกมุ่นแบบนาย นี่กลางสนามกีฬานะ”

“ฮ่าๆๆ ใครจะไปรู้ เห็นทำหน้าเจ้าเล่ห์ ยิ้มแก้มปริจนตาหายไปหมด”

“อะไร ยิ้มตอนไหน” แต้มเอามือลูบหน้า ขยี้ตา “เกิดมาตาเล็กผิดตรงไหน” อันที่จริงแต้มไม่ใช่คนตาเล็ก แต่ตาของเขามักจะปรือเหมือนคนง่วงตลอดเวลา จนมันเหมือนคนตาหยีต่างหาก

“ปะ ไปยัง อยากกินไอติม”

“เดี๋ยว” แต้มรั้ง “พาไปอีกที่นึงก่อน”

“ที่ไหน” แต้มไม่ตอบ ลากยิ่งใหญ่ไปที่รถและอาสาขี่ออกไปจนถึงที่หมายในอีกยี่สิบนาทีต่อมา

“นายพาโรงเรียนทำไมเนี่ย” ยิ่งใหญ่ถามหลังจากปลดหมวกกันน็อกออก

“มาค้นหาความจริง” แต้มตอบ รถมอเตอร์ไซค์ถูกจอดทิ้งไว้ที่ริมฟุตบาทหน้าโรงเรียนที่เงียบเชียบเพราะหยุดให้นักเรียนพักอ่านหนังสือ ร้านถ่ายเอกสารหน้าโรงเรียนยังเปิดอยู่ แต่ก็ร้างไม่ผิดกับบรรยากาศของโรงเรียนแม้แต่น้อย

แต้มเดินเข้าไปในโรงเรียน ยิ่งใหญ่เดินตามด้วยความงุนงง พวกเขาเดินผ่านป้อมยาม ศาลพระภูมิ โรงอาหารก่อนที่แต้มจะหยุดที่บอร์ดหน้าห้องกิจกรรม เขากวาดตาดูประกาศ ก่อนจะหยุดสายตาไว้ที่กระดาษขนาดเอสี่แผ่นหนึ่ง

“ไหนอธิบายมาซิคุณยิ่งใหญ่ ว่าทำไมคนที่สอบติดเป็นอันดับที่สี่ ถึงได้บอกว่าเรียนอะไรก็ไม่เข้าหัว”

ยิ่งใหญ่สะอึก ใช้แววตาลูกแมวมองไปที่อีกฝ่ายที่จ้องมาราวกับจะฉีกเนื้อออกเป็นชิ้นๆ

“ไปกินไอติมกันเถอะ” ยิ่งใหญ่เฉไฉ

“เดี๋ยว ตอบคำถามก่อน” แต้มไม่ละความพยายาม

“อะไร ฟลุ๊ก”

“โกหก”

“เอาน่า เดี๋ยวเลี้ยงไอติม”

“เหอะ”

“เดี๋ยวเลี้ยงเคเอฟซีด้วยอะ”

“อย่าเอาของกินมาล่อนะ ไม่ได้ผลหรอก”

“ตามด้วยบัวลอยไนท์ น้ำเต้าหู้เจ็ดยอด”

แต้มชอบบัวลอยที่ขายตรงไนท์บาซ่าร์มากๆ ถ้ามีโอกาสเขาจะต้องไปกินตลอด

“ไม่” แต้มยืนยันเสียงแข็ง

“พรุ่งนี้พาไปกินน้ำเงี้ยวหนองบัวด้วย”

แต้มมองหน้ายิ่งใหญ่อย่างเหลือเชื่อ นอกจากจะไม่ได้อะไรกลับมาแล้วยังชวนปวดหัวอีกต่างหาก

“น้ำเงี้ยวหนองบัวของโปรดนายนะ เลี้ยงอาทิตย์นึงเลยก็ได้”

แต้มไม่ตอบ ก่อนจะลากคอเสื้อของเพื่อนรักกลับไปที่รถ

“งั้นไปกินน้ำเงี้ยวกัน” แต้มยื่นกุญแจให้เจ้าของรถ รู้สึกเกลียดตัวเองที่พ่ายแพ้แก่ของอร่อย



***********************************************************************




จบตอน

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:pig4: :pig4: :pig4:

แผนสูงเนอะ

มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
:pig4: :pig4: :pig4:

แผนสูงเนอะ

มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


ทำให้นึกถึง  กู้ไห่ ไป่ลั่วอิน

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน
:pig4: :pig4: :pig4:

แผนสูงเนอะ

มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


ทำให้นึกถึง  กู้ไห่ ไป่ลั่วอิน


เรื่องนั้นขึ้นหิ้งเลยครับ ไม่กล้าเทียบเลยอะ อิอิ

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน


จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You

ตอนที่ 28. สอบวันสุดท้าย



ช่วงสอบเป็นช่วงที่สาหัสของนักเรียนทุกระดับชั้น บางชั้นสอบสามวันติด บางชั้นสอบวันเว้นวัน ในแต่ละวันสอบกันสามถึงสี่วิชาจนอ่านหนังสือกันแทบไม่ไหว กว่าจะผ่านวันสอบมาได้ยิ่งใหญ่กับแต้มก็สะบักสะบอมจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดเช่นกัน

“สาวๆอ่านอะไรกัน” ยิ่งใหญ่สอบเสร็จก่อนเลยลงมารอแต้มตรงม้าหินอ่อนด้านล่างที่คราคร่ำไปด้วยนักเรียนที่สอบเสร็จแล้ว บางส่วนก็รอสอบวิชาต่อไป เพราะแต่ละระดับชั้น แต่ละแผนการเรียนมีตารางสอบที่ไม่เหมือนกัน

“อ่านข่าวนี่ไงกำลังดังเลย” ยิ่งใหญ่ถือวิสาสะนั่งลงที่โต๊ะของเพื่อนร่วมห้อง ด้วยความที่เป็นเขา จึงสามารถเข้ากับคนอื่นได้ไม่ยาก

“ข่าวอะไรอะ” ยิ่งใหญ่ถาม เพื่อนคนเดิมส่งนิตยสารบันเทิงมาให้

“ข่าวแพทย์หญิงน่าไม่อายย่องเงียบเข้าไปกินพี่ภัทรพระเอกช่องหก” หนึ่งในนั้นตอบ

“เออ ช่าย น่าเกลียดมากเป็นผู้หญิงแท้ๆน่าไม่อาย” อีกคนสมทบ

“นั่นสิ พี่ภัทรของพวกเรา ไม่สบายแท้ๆยังไม่วาย” ยิ่งใหญ่มองเพื่อนแบบระอาแก่ใจ พวกเธอตั้งใจเรียนแบบนี้กันมั้ยเนี่ย

“แล้วนักข่าวรู้เรื่องได้ไงนิ” ยิ่งใหญ่ถามแบบขอไปที

“ไม่รู้นักข่าวเหมือนกัน แต่...” ก่อนที่บทสนทนาจะออกรสไปกว่านี้ แต้มก็เดินมาแต่ไกล ยิ่งใหญ่รีบขอตัวและพุ่งไปหาแทบจะทันที ปล่อยให้เพื่อนที่กำลังคุยออกรสทำหน้าเก้อ

“นายว่าเกรดเทอมนี้จะได้เท่าไหร่” ยิ่งใหญ่ถามตอนที่เดินไปถึง

“ไม่รู้” แต้มตอบตามประสา

“นายนี่รู้อะไรบ้างเนี่ย”

“รู้แค่ว่าคนแถวนี้จะพาไปกินบะหมี่เชียงราย”

“ทีงี้จำแม่นจังนะ”

“หึ” แต้มตอบด้วยเสียงเจ้าเล่ห์ “เรื่องที่นายปกปิดว่าตัวเองเรียนเก่งยังไม่จบง่ายๆหรอกนะ”

“กินเสร็จแล้วนายรีบกลับบ้านปะ” ยิ่งใหญ่ถามไม่ได้มีท่าทีสลดแม้แต่น้อย

แต้มไม่ได้กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วเพราะเตรียมตัวสอบ “ไม่รีบนะ ทำไมเหรอ”

ยิ่งใหญ่ไม่ตอบ พวกเขาไปกินบะหมี่ที่ร้านบะหมี่เชียงราย ซึ่งเป็นร้านชื่อดังและเก่าแก่ของจังหวัดตั้งอยู่แถววงเวียนนาฬิกา ใช้เวลาไม่นานก็กลับไปที่หอ ยิ่งใหญ่บอกให้แต้มเก็บเสื้อผ้า เขาก็ทำเช่นกัน

“อ้าว ไม่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปเหรอ” แต้มถามเมื่อเห็นยิ่งใหญ่หอบกระเป๋าใบใหญ่ลงมาและเมินรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดใกล้ๆ

“ไม่อะ เอารถยนต์ไป” รถเก๋งฮอนด้ารุ่นเก่าครางเสียงดังเมื่อถูกสตาร์ทเครื่อง ยิ่งใหญ่เข้าเกียร์อย่างชำนาญพาเจ้าเหล็กนี้ออกไปถนนใหญ่ แต้มคิดจะอ้าปากถามเมื่อรถไม่ได้เลี้ยวไปทางกลับบ้าน แต่ก็เงียบไป

“ต้องซื้อของเข้าไปหน่อยนะ”

“อื้อ” แต้มรับคำ พวกเขาแวะบิ๊กซีซื้อของสดสองสามอย่างไม่ลืมน้ำอัดลมและขนมขบเคี้ยว

“นายไม่ยักกะถามว่าเราจะไปไหนกัน”

“ต้องถามเหรอ” แต้มย้อนถาม

“นายไม่คิดจะอยากรู้อะไรสักหน่อยเหรอ ถ้าเราพานายไปฆ่าหมกป่าจะทำไง”

“นายไม่ทำหรอก”

“...” ยิ่งใหญ่หมดคำจะเถียง



ยิ่งใหญ่ขับรถอย่างนิ่มนวลออกจากถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ ก่อนเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 118 ที่สามแยกอ.แม่สรวย – เชียงใหม่ รถส่งเสียงครางเมื่อขึ้นเนินและเข้าโค้ง วิวสองข้างทางเขียวชะอุ่มปะปนกับต้นไม้แห้งเฉา ทางเริ่มคดเคี้ยวเรื่อยๆจนแต้มรู้สึกเวียนหัว ยิ่งใหญ่เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท

“โอ๊ย บ้านนอกจัง นั่งรถแค่นี้เวียนหัว”

แต้มไม่ตอบโต้ ได้แต่ถลึงตาใส่ สายตาจ้องเขม็งไปที่กระจกหน้ารถ ไม่วอกแวกมองข้างทางเหมือนที่ทำมา ยิ่งใหญ่ยิ้มเยาะก่อนที่จะพารถเดินทางไปอีกไม่นาน บ้านของยิ่งใหญ่อยู่ต.แม่พริก อ.แม่สรวย แต้มรู้เพราะยิ่งใหญ่เคยเล่าให้ฟังมาบ้าง แต่ไม่เคยมาเยือนสักทีจนกระทั่งวันนี้



 บ้านของยิ่งใหญ่จะอยู่เลยออกจากตัวอำเภอแม่สรวยประมาณ 7-8 กิโลเมตร ทางเข้าไม่งุนงงแต่ซอยค่อนข้างแคบ รั้วใหญ่ทำจากซีเมนต์สูงกว่าระยะสายตาทำให้ยากจะเห็นว่าภายในเป็นอย่างไร ประตูรั้วทำจากเหล็กกล้า เจ้าของบ้านลงไปเปิดและพารถเข้าไปข้างใน บ้านของยิ่งใหญ่ใหญ่สมชื่อ เป็นบ้านปูนสองชั้นตามแบบฉบับคนมีเงิน ตัวบ้านซีดเซียวตามกาลเวลา ระเบียงชั้นสองผุกร่อนมีเศษปูนลอกร่อน น้ำพุหน้าบ้านแห้งกรัง บ้านเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอาศัยอยู่ ยิ่งใหญ่จอดรถที่โรงรถขนาดพอดีกับสามคัน อาณาเขตบ้านกว้างประมาณสองไร่ ข้างหลังปลูกต้นไม้ร่มรื่น แต้มเห็นทั้งมะม่วง ลำไย มะละกอ กล้วย แก้วมังกรและแม้กระทั่งต้นมะนาวปลูกสะเปะสะปะ เขาลงจากรถและเดินตามเข้าไปข้างใน

 สัมผัสแรกคือความว่างเปล่า บ้านไม่มีกลิ่นอับ แต่กลิ่นความเหงาอบอวลไปหมด นี่สินะบ้านที่ยิ่งใหญ่เติบโตมา แต้มมองภาพถ่ายครอบครัวที่วางบนตู้เก็บของ พ่อแม่และลูกชายทั้งสามคน ยิ่งใหญ่หน้าเหมือนแม่ราวกับแกะ แต่พี่ทั้งสองหน้าตาค่อนไปทางผู้เป็นพ่อมากกว่า รอยยิ้มสดใส แต่นั่นก็เป็นภาพที่เก่ามาก เพราะยิ่งใหญ่ยังเด็กมากเมื่อเทียบกับตอนนี้

 รูปของผู้เป็นพ่อแขวนที่ผนัง ตามด้วยรูปรับปริญญาของพี่ชาย แต้มเดาว่าเป็นคนโต “คณะแพทยศาสตร์” แต้มอ่านตัวอักษรที่แกะสลักใต้ภาพ เขาไม่แปลกใจแม้แต่น้อยเพราะรูปถัดไปที่เห็นคือรูปพ่อของยิ่งใหญ่แต่งชุดทำงานเต็มยศ

“นายแพทย์ยิ่งยง” แต้มอ่านที่ป้ายชื่อจากในรูป ถึงแม้มันดูเลือนลาง แต่ก็พอจะอ่านออก

“นศ.แพทย์ ยิ่งยศ” แต้มอ่านชื่อจากรูปพี่ชายคนโตที่ยิ้มร่าในชุดนักศึกษา โชว์ฟันขาวกับสีผิวที่ขาวจัดจนซีด แววตาขี้เล่นไว้ผมแสกกลางตามสมัยนิยมดูหล่อเหลา บ้านนี้ลูกชายหน้าตาดีเสียทุกคน แต่แต้มเข้าข้างเพื่อนตัวเองว่าดูดีที่สุดในบรรดาลูกชายทั้งสามคน

“เราหล่อสุดว่าปะ” เสียงนั้นดูมั่นใจ แต่กลับแฝงไปด้วยความหงอยเหงา

“บ้านนายน่าอยู่ดีนะ”

“ไม่เท่าบ้านนายหรอก” ยิ่งใหญ่ตอบ “ทางนี้ ชั้นสอง”

แต้มเดินตามเจ้าของบ้านไปหยุดที่ห้องหนึ่ง ก่อนเดินเข้าไปในอาณาจักรของยิ่งใหญ่ เตียงขนาดสามฟุตชิดติดขอบผนังทางใน มีโต๊ะอ่านหนังสือที่มีหนังสือการ์ตูนวางทับกันไว้บนนั้น พื้นห้องเป็นแบบหินอ่อนลายไม้เก่าตามสภาพแต่สะอาดวับ ตู้เสื้อผ้าสองตู้ติดผนังใกล้ห้องน้ำ ชั้นหนังสือเต็มไปด้วยหนังสือการ์ตูนที่เจ้าตัวน่าจะอ่านหลายรอบแล้ว กีตาร์ตัวเก่าวางไว้ที่หัวเตียง กรอบรูปเล็กๆวางไว้ที่โต๊ะหนังสือ ไม่มีโปสเตอร์ดาราหรือหนังเหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆ ในห้องมีกลิ่นอับกว่าด้านนอก แต้มรู้ได้ทันทีว่าไม่มีใครอาศัยอยู่ในนี้มานานมากแล้ว

“ห้องน่าอยู่จัง”

“นายว่าเราจะเชื่อคำพูดเมื่อกี้มั้ยเนี่ย”

แต้มก้มตัวลงนอน “นายไม่กลับมาบ้านนานแค่ไหนแล้วเนี่ย”

“ตั้งแต่เปิดเทอม” ยิ่งใหญ่นั่งลงข้างๆ ใช้มือลูบหัวแต้มที่กำลังนอนอยู่

“ไม่มีใครอยู่บ้านเลยเหรอ”

“มีลุงมั่นกับป้ามีเฝ้าบ้านให้ ส่วนพ่อเราก็ทำงานที่เชียงใหม่ นานๆจะกลับมาที”

“แล้วพี่ชาย...”

“พี่ๆอยู่กรุงเทพ” เสียงยิ่งใหญ่ดูหงอย แต้มลุกขึ้นนั่ง เข้าใจหัวอกคนที่นั่งข้างๆว่าจะเหงาเพียงไหน ไม่แปลกใจเลยที่ยิ่งใหญ่จะคุยกับคนโน้นทีคนนี้ เพราะเขาไม่อยากให้ตัวเองต้องทนเหงาแบบที่อยู่บ้านนี้

“ทำอะไรกินกันดีกว่ามั้ย หิวละ” แต้มชวน “เราอยากกลับบ้านแล้วอะ พรุ่งนี้ไปนอนบ้านเรากัน”

ยิ่งใหญ่หันมองแต้ม รู้สึกตื้นตันที่ใครคนหนึ่งจะรู้ใจได้มากขนาดนี้ เขาฉีกรอยยิ้มกว้างแผ่เต็มใบหน้าแทนคำว่าตกลงและขอบคุณ



***********************************************************************




จบตอน



#แต้มน่ารักจัง >_<


ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ จากต้นจนอวสาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-3
    • จากต้นจนอวสาน

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
แต้มน่ารัก เป็นเด็กมองโลกในทางบวก ดีจัง

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด