จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You
เรื่องราวความผูกพันของคนสองคนที่ถักถอสายใยอย่างช้าๆแต่มั่นคง
มันคงจะไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ ถ้าไม่ใช่เพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้ชาย!
คนหนึ่งก็ผู้ชายหน้าตาดีเบอร์หนึ่งของโรงเรียน
อีกคนก็ผู้ชายหน้าตาไม่ติดอันดับ ไม่มีใครพูดถึง
ยิ่งใหญ่...ชายหนุ่มที่เป็นที่หมายหมองของสาวๆทั้งโรงเรียน
ผู้ที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและฐานะ ไปไหนมาไหนมีแต่คนรู้จัก
กลับมาถูกชะตากับผู้ชายที่สุดแสนจะธรรมดา
แต่งตัวมอซอและชอบทำตัวประหลาดไปเสียได้
แต่ยิ่งเข้าไปใกล้ชิด ก็ยิ่งพบว่าเพื่อนสนิทที่ชื่อ แต้ม
กลับมีแรงดึงดูดมหาศาลจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียอย่างนั้น
จะไม่ให้หลงไหลได้อย่างไรล่ะ
ในเมื่อนายแต้มนั้นช่างซื่อบื้อ ติดดิน ขี้บ่นเป็นบางครั้ง ฐานะก็ยากจน
แต่กลับเผื่อแผ่ความอบอุ่นมาให้คนข้างๆจนความเหงาหายไป
แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่ยากจะสะกัดกั้น ก่อร่างสร้างตัวทีละน้อย...
(http://image.noelshack.com/fichiers/2018/01/3/1514969622-photogrid-1514967755983-ad.jpg)
ในชีวิตหนึ่งนั้น เราจะรักคนอื่นได้สักกี่คน...?
และจะแปลกไหม ถ้าคนๆหนึ่ง จะรักใครอีกคนได้เพียงแค่คนเดียว
ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนก็ตาม
ขอเชิญทุกท่านมาสัมผัสเรื่องราวของสองเพื่อนสนิท ที่รู้จักกันตั้งแต่เปิดเทอมใหม่
เวลาที่ผ่านไปแต่ละนาที ทำให้รู้ว่าการมีอยู่ของใครคนหนึ่ง
กลายเป็นสิ่งเติมเต็มความอบอุ่นในใจของอีกฝ่ายช้าๆ
สารบัญ
ตอน 1-12 หน้า 1
ตอน 13-18 หน้า 2
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.30
ตอน 19 - 23 หน้า 3
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.60
ตอน 24 - 28 หน้า 4
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.90
ตอน 29 - 36 หน้า 5
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.120
ตอนที่ 37 - 44 หน้า 6
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.150
ตอนที่ 45 - 50 หน้า 7
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.180
ตอนที่ 51 - 53 หน้า 8
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.210
ตอนที่ 54 - 59 หน้า 9
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.240
ตอนที่ 60 (ตอนจบ) - หน้า 10
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.270
ผลงานของ Writer
1. สัญญาธนาการ (Eternity bondage) -
จบแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=52913.0)
2. อยากให้ลมหนาวพัดมาอีกครั้ง... -
จบแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54100.0)
3. Only You :: จะรักนาย เท่าชีวิต (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=64729.0)
4. One More Night : บังเอิญรัก โดยตั้งใจ - จบแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65595.0)
ติดตามเพจได้ที่
https://www.facebook.com/Begintillanend/
ตัวแสดง...
ยิ่งใหญ่ (ใหญ่)
(https://scontent.fbkk5-8.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/48997533_2000590273321989_3379381299008503808_n.jpg?_nc_cat=106&_nc_eui2=AeFH4RedGvPB7X4i7eALWvydqSAU9uWy0KpO-PKeo8BvjnRwuu8VXUzphDe7cAXeCE00HvUFJRUyBxqZRL9UY7zt7q-SMqu9Cf-uqkZHdzD3JQ&_nc_ht=scontent.fbkk5-8.fna&oh=148d82cf6ee250fa6cb6c0fc89d0f60a&oe=5C8B3079)
วินาทีที่ยิ่งใหญ่เดินผ่าน ทุกคนต่างสะกดกลั้นลมหายใจเหมือนกับโลกหยุดหมุน ด้วยความสูงเกือบ 180 เซ็นติเมตรของเด็กหนุ่มที่อายุยังไม่ถึง 17 ปี บวกกับใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับลูกครึ่ง ยิ่งสะกดสายตาของคนอื่นได้ไม่ยาก และยิ่งในสถานที่คับแคบนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะกลายเป็นจุดเด่นไปโดยปริยาย...เสียงกระซิบกระซาบของนักเรียนหญิงดังขึ้น โดยที่เจ้าตัวไม่ได้สนใจเลยสักนิด แท้ที่จริงแล้วเขาไม่เคยสนใจต่างหากว่าจะมีใครพูดอย่างไร การที่เขาหน้าตาน่าดึงดูดหรือมีรูปร่างที่สูงกว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันมาตั้งแต่เด็ก มันเหมือนปมด้อยมากกว่าจะเป็นปมเด่น
กรฤต (แต้ม)
(https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/48921977_2000594439988239_8983695750588268544_n.jpg?_nc_cat=111&_nc_eui2=AeFYkYo4mR6uUrrKghrnzr4xmMloy7NWh2YDZNEsaJ2Nvfg1XlWqRgLxrE7VNHvwLqrmAQMWhyib5Ci40W85PiSftw_F1sALOI6Acw7b0xIgEg&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.fna&oh=119b1c0d83f3005d1d760ae1b7953e13&oe=5C910A44)
ยิ่งใหญ่มองใบหน้าที่ดูหยาบกร้านของคนที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยความสงสัย ทำไมเพื่อนร่วมชั้นคนนี้ถึงได้มีท่าทีเงียบขรึมเพียงนี้ สองมือใหญ่ที่ดูแห้งขาดการดูแล รอยลอกตามขอบเล็บทำให้เขารู้สึกเจ็บแทนเสื้อผ้าใหม่แต่ตัวหลวมโพรก บ่งบอกให้รู้ว่าซื้อมาเผื่อไซส์ ยิ่งใหญ่คิดว่าคนแบบนี้คงไม่ตัวโตพรวดพราดภายในเทอมนี้หรอก ขนตาของคนข้างๆงอนยาว มีจุดเล็กๆคล้ายไฝหรือกระก็ไม่รู้ได้อยู่ขอบล่างซ้ายของตาซ้ายทำให้ใบหน้ายิ่งดูแปลก ดวงตาที่ปรือตลอดเวลาราวกับง่วงงุนนั้นชวนให้เขาอยากนอนเสียตรงนี้ ริมฝีปากบางประกบเรียวพอๆกับขนมปังหนึ่งแผ่นเท่านั้น แต่ใบหน้านี้กลับสะกดใจเขาได้อย่างประหลาด...
(http://cdn-th.tunwalai.net/files/member/971823/538376699-member.jpg)
จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You
ตอนที่ 16. สุนัขจิ้งจอก
คาบสุดท้ายเป็นวิชาแนะแนวที่อาจารย์ไม่ค่อยเข้าสอนอยู่แล้ว แต้มดูเวลาว่าผ่านไปครึ่งทางเมื่อไม่มีอาจารย์มาก็เก็บของใส่กระเป๋าและเดินออกไปอย่างเงียบเชียบ ข้อดีของการไม่เป็นจุดสนใจของเพื่อนๆคือ ไม่มีใครมามองหรือตั้งคำถามว่าเขาจะไปไหน ทำอะไร เขาเดินลงจากชั้นสี่สังเกตว่าแทบทุกชั้นเรียนกำลังอยู่ระหว่างการเรียนการสอน ช่วงนี้ประตูโรงเรียนเปิดแล้ว เพราะเด็กชั้นม.ต้นเลิกตั้งแต่บ่ายสามครึ่ง ผู้ปกครองที่มีเวลามารับบุตรหลานไปบางส่วน รถขายลูกชิ้นทอด น้ำหวาน ขนมต่างกรูกันเปิดขายเรียงไปตับเลาะตามถนนที่ข้างโรงเรียน เขาลัดไปทางประตูนั้น มองโรงอาหารที่อยู่ด้านซ้ายมือกำลังคลาคล่ำไปด้วยเด็กนักเรียนหลายระดับชั้น เสียงหัวเราะ พูดคุยดังอื้ออึงรอบทิศ เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะจะเดินออกมาโดยที่รปภ.ไม่ถามและอาจารย์เวรไม่ตรวจตราขอใบอนุญาตออกก่อนเวลา
เมื่อเลี้ยวขวาออกจากประตู แต้มก็เดินมาเรื่อยๆประมาณสี่ร้อยก้าว อพาร์ตเม้นหรูก็ตั้งตระหง่านอยู่ฝั่งตรงข้าม มันอยู่ใกล้โรงเรียนจนแทบไม่มีความจำเป็นจะต้องมาสาย หรือขาดเรียนโดยไม่มีใบลาแบบนี้ เขามองซ้ายมองขวา พอถนนโล่งก็เดินข้ามฝั่งและตรงเข้าไปในตึก
โชคดีที่คนเฝ้าตึกเป็นผู้ชายวัยกลางคนที่ไม่เรื่องมาก เขาแค่บอกว่ามาหาใครเพื่อจะเอาของมาให้เพราะขาดเรียน คุณลุงคนนั้นก็บอกเลขห้องเสร็จสรรพ แถมยังเปิดประตูใหญ่ให้อีกด้วย คงเพราะเห็นการแต่งตัวในชุดนักเรียนกระมัง เลยไม่ต้องกังวลให้มากมายเรื่องมิจฉาชีพ อันที่จริงเชียงรายก็เป็นเมืองที่มีอัตราการโจรกรรมต่ำอยู่แล้ว ทำให้คนที่นี่ไม่ค่อยกังวลกันเท่าไร
แต้มเดินอย่างช้าๆแทนการใช้ลิฟต์ นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาที่ห้องของยิ่งใหญ่ ยิ่งคิดยิ่งประหลาดใจในตัวเองว่าทำไมมาจับพลัดจับผลูสนิทกับผู้ชายคนนี้เสียได้ อาจเป็นเพราะพวกเขาเป็นเด็กใหม่กันทั้งคู่ ต่างมารู้จักกันที่นี่เป็นครั้งแรก แต่ด้วยนิสัยแบบเขา ที่สนิทกับผู้คนค่อนข้างยากแล้ว การที่ปล่อยให้ยิ่งใหญ่ไปค้างที่บ้าน หรือการมาหายิ่งใหญ่ถึงที่นี่ มันผิดวิสัยอย่างที่สุดเช่นกัน
แต้มเคาะประตูอยู่นาน ไม่มีเสียงใดๆตอบรับ ระหว่างยืนคิดว่าจะทำอย่างไรต่ออยู่เงียบๆเพราะจำเบอร์เพจเจอร์ของอีกฝ่ายไม่ได้ เขาลองจับลูกบิดประตู ก่อนจะพบว่ามันไม่ได้ล็อค
“ใหญ่” แต้มเรียกด้วยเสียงที่คิดว่าไม่ดังจนเกินไป แต่ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจนต้องดันประตูและพาตัวเองเข้าไปในนั้น
ห้องนอนของยิ่งใหญ่กว้างกว่าห้องนอนบ้านของเขาเสียอีก ภายในห้องมืดสนิทด้วยผ้าม่านสีทึบหนา ความอบอ้าวปกคลุมไปทั่วจนแต้มอึดอัด คนขี้ร้อนแบบยิ่งใหญ่ทนอยู่ได้อย่างไรกับสภาพห้องแบบนี้ เมื่อไม่มีสัญญาณสิ่งมีชีวิตตอบรับ เขาเลยตัดสินใจเดินเข้ามาในห้อง ที่นั่นเองแต้มได้เห็นร่างของผู้ชายคนหนึ่งนอนตัวงอภายใต้ผ้าห่มหนา แค่เห็นแต้มถึงกับเหงื่อย้อยแทน เพราะอากาศด้านนอกมันร้อนแสนสาหัส สงสัยว่าคืนนี้ฝนคงจะเทลงมาอย่างหนักแน่ๆ
“ใหญ่” แต้มนั่งลงข้างเตียง ใช้มือเขย่าที่แขน มีแต่เสียง อือ อือ ตอบรับมาเท่านั้น พอแตะที่คอก็พบว่ายิ่งใหญ่ยังตัวร้อนอยู่
แต้มเปิดโคมไฟที่โต๊ะญี่ปุ่นที่วางกลางห้อง คงจะเป็นที่นั่งทำการบ้านของคนป่วย แสงไฟสลัวพอให้มองอะไรได้บ้าง ก่อนจะหาอุปกรณ์ที่ต้องการและกลับมาที่เตียง ถ้านี่เป็นฉากในละคร คงเป็นละครที่สุดแสนโรแมนติก แต่อาจจะดูผิดที่ผิดทางไปหน่อยที่ตัวเองเป็นผู้ชายทั้งคู่ แต้มกำลังใช้ผ้าขนหนูซับน้ำเย็นเช็ดใบหน้า และตามคอของยิ่งใหญ่ อีกฝ่ายตัวสั่นร้องครวญครางว่าหนาว หนาว ไม่ขาดปาก
“อดทนหน่อยนะ นายตัวร้อนมาก” แต้มเช็ดต่อ เมื่อเริ่มคุ้นกับความมืดในห้องนี้แล้ว ก็สังเกตได้ว่ายิ่งใหญ่เป็นคนค่อนข้างมีระเบียบ ถุงยาที่ซื้อมาวันก่อนถูกวางไว้บนหัวเตียง แต่ยังไม่พร่องลงไปเลย “กินยาหน่อยนะ ไข้จะได้ลด”
“ม่าย” ยิ่งใหญ่ตอบทั้งๆที่ไม่ได้สติ กลิ่นความเจ็บป่วยโชยหึ่ง แต้มต้องบีบกระพุ้งแก้มให้อีกฝ่ายเผยอปาก ยัดยาก่อนจะกรอกน้ำลงไป
“แค่ก แค่ก” ยิ่งใหญ่สำลัก แต่ก็กลืนยาลงคอไปอย่างยากลำบาก แล้วบ่นงึมงำฟังไม่ออกและนอนหลับต่อ
แต้มถือวิสาสะเปิดไฟดวงใหญ่ เพื่อเช็คว่าน้ำดื่มไม่ได้หกตามที่นอน เขาเช็ดตัวเพื่อนอีกรอบหนึ่ง คราวนี้ด้วยน้ำอุ่น แต่อีกฝ่ายยังคงบ่นหนาวไม่ขาดปาก แต้มนั่งลงกับพื้นปิดไฟให้เหลือแต่แสงสลัว พิงตัวติดกับเตียง มองคนป่วยที่หลับไปอย่างไม่ได้สติ ยิ่งใหญ่หล่อมากจนเขายังรู้สึกอิจฉา แม้แต่ในสภาพที่โทรมที่สุดเช่นตอนนี้ รังสีความโดดเด่นยังไม่จางไปด้วยซ้ำ
ยิ่งใหญ่ตื่นขึ้นมาด้วยความปวดเมื่อย รู้สึกหิวจนแสบไส้ ไม่รู้ว่าตัวเองนอนหลับไปนานเท่าไร รู้แค่เพียงเขาหนักหัวมากจนลุกไม่ไหวหลังจากกลับมาจากบ้านแต้ม เมื่อดันตัวเองขึ้นก็พบว่ามีใครก็ไม่รู้นอนฟุบอยู่ข้างเตียง
“หืม ตื่นแล้วเหรอ เป็นไงบ้าง” แต้มสะดุ้งตื่นเพราะแรงขยับบนเตียง เขาเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
“นายมาไงเนี่ย” ถึงแม้จะป่วย แต่แววตานั้นดูดีใจจนปิดไม่มิด
“ก็เดินมา”
“ขอบใจนะที่ยังตอบ” ยิ่งใหญ่พูดด้วยเสียงขัดใจ พ่นลมหายใจฟึดฟัด อีกฝ่ายไม่สนใจ แต่เอามือมาแตะๆตามตัว
“ไข้ลดแล้วนี่นา รู้สึกไงบ้าง”
ยิ่งใหญ่โยกหัวซ้ายขวา เสียงลั่นเปรี๊ยะบอกว่านอนมานานมากแล้ว “หิว” เขาบอกตามตรง
“งั้นเดี๋ยวเราไปซื้ออะไรมาให้กินนะ” แต้มกุลีกุจอ
“ไปด้วยกันดิ”
“ได้ไง นายป่วยอยู่นะ”
“หายแล้ว” ยิ่งใหญ่ทำท่าเบ่งกล้าม “สบายมากแล้วด้วย”
“เหอะ”
“เราหิวมากอ่า ออกไปหาอะไรกินเถอะ กว่านายจะไป กว่านายจะมาเราหิวตายพอดี”
แต้มไม่ตอบโต้ เพราะเสียงท้องของตัวเองก็ร้องออกมาเช่นกัน เขาดูเวลาจากนาฬิกาตั้งโต๊ะ ทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว ... นี่เขาพลาดรถเที่ยวสุดท้ายอีกแล้วสินะ “ได้ นายอยากกินอะไร”
“ก๋วยเตี๋ยว”
“กินหนักขนาดนี้ได้ไง นายยังป่วยอยู่นะ”
“ก็เราหิวนี่นา” ยิ่งใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนลูกแมว “นะนะนะ หิวละ ไปเถอะ”
ครั้งนี้แต้มเป็นคนขับ ด้วยความที่ไม่ชำนาญถนนหนทางเพราะไม่ใช่คนในเมือง ที่ผ่านมาเขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้าน ไปไร่ไปนาหรือไม่ก็ดูแลพ่อที่ป่วย เวลาที่จะเข้ามาในเมืองจะต้องมีธุระปะปังเช่น พาพ่อมาตรวจร่างกาย หรือไม่ก็มาเรียนหนังสือ ยิ่งใหญ่เลยเป็นคนบอกว่าจะทางให้ แต้มขับช้าๆลัดเลาะไปเรื่อยๆแต่ก็ยังไม่ถึงร้านเสียที
“ร้านอยู่ไหนเนี่ย ทำไมไกลจัง” เขาถามเสียงดังแข่งกับเสียงลม
“จะถึงแล้ว” ยิ่งใหญ่ตอบ พลางขยับตัวมาใกล้จนแต้มรู้สึกถึงแผ่นอกร้อนผ่าวที่แนบชิด
“ขยับไป อย่าเบียด” แต้มบ่น แต่เหมือนคนซ้อนจะไม่สนใจ แถมยังเอาคางมาเกยที่ไหล่จนเขาสะดุ้ง “ทำไรเนี่ย”
“ขอเกาะหน่อย รู้สึกเพลีย” คนซ้อนทำเสียงอ่อย จนคนขับต้องใจอ่อน
“เห้อ รู้ว่าไม่สบายจะลากสังขารมาทำไมวะ” แต้มบ่นอุบ
“ก็มันอยากมาอะ” ยิ่งใหญ่ตอบด้วยเสียงชวนน่าสงสาร แต่ใบหน้ากลับยิ้มแพรวพราวอย่างน่าหมั่นไส้ “นอนอุดอู้อยู่แต่ในห้องมันน่าเบื่อนี่นา”
แต้มไม่รู้จะเถียงยังไง ได้แต่ตั้งใจขับ ใครเห็นภาพตอนนี้คงแปลกตา วัยรุ่นชายในชุดนักเรียนเต็มยศขี่มอเตอร์ไซค์มีคนซ้อนท้ายเป็นผู้ชายตัวสูงนั่งตัวชิดติดกันแถมยังเอาคางมาเกยไว้ที่ไหล่ซ้าย “ใกล้ถึงยังเนี่ย”
“จะถึงแล้ว เลี้ยวซ้ายนี้ก็ถึงละ” แต้มเลี้ยวซ้าย ร้านก๋วยเตี๋ยวไฟสว่าง
“นี่มันร้านถัดจากหอนายนี่” แต้มส่งสายตาพร้อมกับคำถาม “ให้เราขับวนตั้งไกลทำไม”
“เหย อย่าทำหน้าดุสิ ก็เราป่วยอยู่อะ สมองเลยเลอะเลือนชั่วคราว”
“นายนี่มันเชื่อไม่ได้จริงๆ” แต้มบ่นอุบ มองผู้ชายตัวโตกว่าเดินจ๋อยเข้าร้านไป แต่ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มราวกับจิ้งจอกจอมวางแผน
***********************************************************************
คุยกับไรต์
สวัสดีแฟนๆ Only You ทุกท่านนะครับ ก็มาถึงตอน 19 กันแล้วสำหรับนิยายเร่ืองนี้
บอกได้เลยว่า ถึงแม้จะตอนสั้นๆ แต่ไรต์ก็อัดความน่ารักของสองหนุ่ม แต้มกับยิ่งใหญ่เต็มเปี่ยมแน่นอน
เรื่องนี้ยังมีปมสองสามปมที่รอคลี่คลาย ...
ทุกคนคงสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างแต้มกับต้องตา และ ยิ่งใหญ่กับยอดเยี่ยม ใช่มั้ยครับ
อีกไม่นานเกินรอแน่นอนครับ
อย่างไรแล้ว ก็ขอให้ทุกคนติดตามจนสองหนุ่มนี้จบม. 6 กันด้วยนะครับ
หากรักหรือชอบเรื่องนี้ ขอกำลังใจกด + กด LIKE หรือคอมเม้นต์เป็นเพื่อนไรต์หน่อยนะครับ
อ้อ... อย่าลืมติดตามผลงานเรื่องอื่นๆของไรต์ด้วยน้าาาาาาาาาา มีหลายแนวเลยล่ะ อิอิ
***********************************************************************
จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You
ตอนที่ 19. กลั่นแกล้ง
“ไปยัง” ยิ่งใหญ่ถาม แต้มกำลังปั่นการบ้านยิกๆ
“อีกนิด จะเสร็จแล้ว”
“นายค่อยกลับมาทำหลังเลิกเรียนได้มะ”
“โอย นายจะรีบไปไหน นี่ยังไม่บ่ายโมงเลย”
“รีบสิ หิว” ยิ่งใหญ่ดึงสมุดแต้มออก “คนอื่นไปกันหมดแล้วนะ เหลือแต่เรานี่แหละ เร้ว”
“อะไรฟะ” แต้มหงุดหงิด อากาศร้อนแถมโดนยิ่งใหญ่กวนอีก ชุดรด.ก็หนาน่าอึดอัด
“ไป ช้าเดี๋ยวโดนซ่อมอีกนะ” ยิ่งใหญ่เดินนำแต้มไปที่ลานจอดรถข้างโรงเรียน เด็กนักเรียนต่างมองตามกันเป็นแถว แต้มเดินตามอย่างอึดอัด นี่เขากำลังเดินกับหนุ่มฮ็อตตัวท็อปของโรงเรียนเชียวนะ
“พี่แต้มคะ” เสียงหนึ่งทัก
“ครับ” เขามองแล้วน่าจะไม่เกินม. 2
“ฝากจดหมายให้พี่ใหญ่ด้วยนะคะ” อีกฝ่ายทำหน้าเขินอาย แต้มรับมาแบบเสียไม่ได้ เด็กคนนี้คงรอจังหวะที่ยิ่งใหญ่จ้ำไปที่รถก่อนถึงมาหาเขา การที่เขาเป็นเพื่อนสนิทของคนดังและหล่อที่สุดในโรงเรียนด้วยแล้ว ชื่อของแต้มก็เลยเป็นที่รู้จักของเด็กผู้หญิงทั้งโรงเรียนอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ช้าจังวะ” ยิ่งใหญ่บ่น
“อะ ของนาย” แต้มยิ่นจดหมายรักให้
“นายเขียนเองเหรอ”
แต้มมองหน้าคนพูดด้วยอารมณ์สุดกลั้น “หึ ไม่มีทาง”
“โหย นึกว่านายเขียนให้”
“เลิกเพ้อซะที” แต้มดุ “จะอ่านก่อนหรือจะไปเลย”
“ไปเลยก็ได้” ยิ่งใหญ่ยัดจดหมายนั้นที่กระเป๋าเสื้อโดยไม่หยิบมาอ่านเลยแม้แต่น้อย มันไม่ใช่จดหมายฉบับแรกที่เขาได้รับ และไม่ใช่ฉบับสุดท้ายแน่นอน กระดาษสีหวานแหวว มีกลิ่นหอมมาพร้อมบทกลอนเลี่ยนๆกับตัวหนังสือวัยรุ่นที่กำลังนิยม หัวโต ตัวอักษรโย้ๆ ... เขาทิ้งจดหมายพวกนั้นอย่างไม่ใยดีสักฉบับ
สุดท้ายพวกเขาก็ไปสาย เพราะกว่าจะกินข้าว กว่าจะเอาของไปเก็บ รอบนี้มีคนไปสายสี่ห้าคน เป็นนศ.วิชาทหารของโรงเรียนเขาทั้งนั้น
“มาแล้วเรอะ” ครูฝึกเสียงเข้ม “นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว...” หลังจากนั้นพวกเขาก็โดนร่ายยาว ก่อนที่จะถูกซ่อมโดยวิ่งรอบสนาม และปิดท้ายที่ดันพื้น
“นายก็มาสายเหมือนกันเหรอ” อาร์ทถามแต้ม พอไม่มีเรื่องหมางใจหรือเข้าใจผิด อาร์ทก็เป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง
“ช่ายยย รอคุณชายน่ะสิ” แต้มโบ้ยไปทางยิ่งใหญ่ที่วิ่งเหยาะๆอยู่ข้างกัน
“พวกนายนี่สนิทกันจังเนอะ” อาร์ทพูด “ถ้าไม่บอกว่าเพิ่งย้ายมา เราคงคิดว่าโตมาด้วยกัน”
ยิ่งใหญ่ยิ้มกริ่ม “มันแน่นอนอยู่แล้ว” ประโยคนี้เขาตอบทุกคนในใจ
“ไม่ได้อยากสนิทเลย” แต้มพูด
ผลัก! ยิ่งใหญ่เตะเข้าที่ตูดของคนพูด “หรา” เขาลากเสียงดุๆและวิ่งนำไป
“ฮ่าๆๆ สงสัยงอน” อาร์ทตั้งข้อสังเกต
“ปล่อยไปก่อน เดี๋ยวก็หาย รีบไปเถอะ เดี๋ยวมีดันพื้นต่อ”
กลุ่มนักศึกษาที่มาสายต่างเข้าแถว พวกเขาโดนครูฝึกสั่งให้ตะโกนดังๆเรื่องวินัยและรับโทษ “ดันพื้น 50 ที ปฏิบัติ!” แล้วทุกคนก็ดันพื้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งใหญ่ดันพื้นรัวๆ แต้มเหลือบมองเพื่อนอย่างสงสัย ว่าทำไมต้องรีบอะไรขนาดนี้ ก่อนที่จะได้ทักอะไรไป ของบางอย่างก็กระเด็นออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“นี่อะไร” ครูฝึกหยิบมันขึ้นมาดู
“เอ่อ” ยิ่งใหญ่อึกอัก เขาลืมไปเสียสนิทว่ามีจดหมายรักอยู่ในกระเป๋า
“นาย ออกมานี่” ยิ่งใหญ่เดินออกมาช้าๆ ไม่เหลือมาดขึงขัง บริเวณที่พวกเขาซ่อมนั้นเป็นสนามหญ้า ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยนักศึกษาวิชาทหารครบทุกนายของชั้นปีที่ 1
“ที่มาสาย เพราะมัวไปจีบสาวงั้นรึ” ครูฝึกเสียงดุ แต่คนที่เหลือหัวเราะครืน ยิ่งใหญ่กำลังโดนแกล้ง
“ไหน นาย” ครูฝึกชี้มาที่แต้ม “มาอ่านให้เพื่อนฟังซิ”
ทำไมต้องกูวะ ... แต้มคิดในใจ มองไปที่ยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มเยาะ แต้มอ่านปากที่ขยับแบบไม่มีเสียงได้ว่า สมน้ำหน้า
“ถึงพี่ยิ่งใหญ่” เสียงโห่ร้องเริ่มมา นอกจากทุกคนจะมองว่ายิ่งใหญ่กับแต้มเป็นเพื่อนที่สนิทกันแล้ว บางส่วนก็ยังคิดว่าพวกเขาเป็นคู่จิ้นกันอีกด้วย
“มองดาวบนฟ้าแล้วคิดถึง
จากคนหนึ่งซึ่งเธอไม่รู้จัก
แค่อยากบอกให้รู้ว่าเธอเป็นที่รัก
อยากรู้จักให้มากขึ้นทุกคืนวัน”
แต้มอ่านกลอนที่คิดว่าน้องผู้หญิงคนนั้นคงแต่งเองอย่างสุดฝีมือ แต่มันกลับเลี่ยน เอียนและไม่เพราะเอาเสียเลยในความรู้สึก เสียงโห่ ผิวปากและแซวดังก้อง ครูฝึกช่างเลือกคนอ่านได้พอเหมาะจริงๆ
“แหม่ นี่ถ้าไม่คิดว่าเป็นผู้ชายจะคิดว่านายสองคนนี่กำลังจีบกันนะ” ครูฝึกแซว เสียงโห่ดังขึ้นอีก
“ครู คู่นี้เค้าเป็นแฟนกันครับ” เสียงแซวดังมาแต่ไกล
“เห้ย ไม่ใช่” แต้มปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ยิ่งใหญ่กลับลอยหน้าลอยตาอย่างอารมณ์ดี
นี่แต้มอายจนไม่รู้จะต้องทำหน้ายังไงแล้วจริงๆ ส่วนยิ่งใหญ่ก็รีบฉกจดหมายฉบับนั้นคืน หลังจากนั้นเขาก็เอาไปใส่กรอบอย่างดีวางไว้ที่ห้องนอนของตน
***********************************************************************
สุดท้ายแล้ว ครูฝึกก็ปล่อยกลับบ้านตอนบ่ายสาม เพราะวันนี้ไม่มีฝึกอะไรนอกจากเช็คชื่อ อากาศร้อนน่าหงุดหงิดจนยิ่งใหญ่แดงไปทั้งตัว แต้มมองอีกฝ่ายอย่างสงสารแกมสมน้ำหน้า เพราะจดหมายนั่นทำให้โดนใครต่อใครล้อไม่ขาดปาก ยิ่งตอกย้ำกระแสคู่รักของพวกเขาเข้าไปอีกขั้น พรุ่งนี้คงดังไปทั้งระดับชั้นแน่ๆ แค่คิดก็อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปตั้งไว้ที่ไหนละ
“ไปเปลี่ยนชุดมั้ย” แต้มชวนยิ่งใหญ่กลับ
“แล้วนายล่ะ”
“ก็ให้นายไปส่งที่ท่ารถ เดี๋ยวกลับเอง”
“ไม่เอา วันนี้วันศุกร์ เดี๋ยวพาเที่ยวก่อน”
“ได้ไง จะรีบไปดูพ่อ” ยิ่งใหญ่ฟังแล้วไม่ตอบ เหตุผลนี้มันหนักแน่นจนไม่มีอะไรมาหักล้างได้
“ได้ รอแป๊บ เข้าห้องน้ำก่อน” แต้มมองร่างสูงเดินไป เดินนั่งในชั้นเรียนรอ
“ยังไม่กลับเหรอแต้ม”
“จะไปละ รอใหญ่ก่อน” แต้มตอบ
“อ๋ออออ ไปไหนกันต่อมั้ยละ”
“ไม่อะ จะรีบกลับบ้าน นายล่ะอาร์ท”
“ว่าจะไปเที่ยวพัทยาน้อยซะหน่อย” อาร์ทตอบ “ไปด้วยกันมั้ย”
“หืม น้ำไม่ล้นเหรอตอนนี้เหรอ”
“ไม่รู้เหมือนกัน มันไม่มีอะไรทำไงเลยหาที่เที่ยวซะหน่อย” อาร์ทตอบ
“อ๋อ” แต้มรับคำ พัทยาน้อย เป็นชื่อที่คนท้องถิ่นใช้เรียก หาดเชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด ซึ่งไม่ใช่หาดทรายจากทะเลจริงๆ แต่เป็นหาดทรายของแม่น้ำกกที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับทะเล เนื่องจากเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศ การไปพักผ่อนที่พัทยาน้อย ก็ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการไปเที่ยวทะเลได้เหมือนกัน
“นายนี่สนิทกับยิ่งใหญ่จังเลยเนอะ” อาร์ทพูดประโยคเดิมเป็นครั้งที่สองของวันนี้
“ฮ่าๆๆ” แต้มได้แต่หัวเราะแก้เก้อ ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร จากที่โดนครูฝึกแกล้งวันนี้ก็มากพอแล้ว
“จริงๆนะ ตอนแรกที่เห็นนาย นายเงียบ ไม่ค่อยพูด มีแต่คนคิดว่านายแปลก”
แต้มเลิกคิ้ว “ก็คงงั้นแหละ”
“ไม่เลย” อาร์ทพูด “นายน่ะสดใสขึ้นมากนะแต้ม ยิ่งช่วงที่อยู่กับใหญ่ นายดูมีชีวิตชีวายังกะไม่ใช่แต้มคนที่เราเคยเห็นตอนแรกเลย”
“เพราะออร่าของเรามันแรงไง” ยิ่งใหญ่ตอบแทน “รัศมีความหล่อของเรามันแผ่ขจรขจาย”
“หลงตัวเอง” แต้มโพล่ง
“เออใหญ่ ไปเที่ยวพัทยาน้อยกันมั้ย” อาร์ทเป็นฝ่ายชวนแทน หลังจากเหตุการณ์เมื่อตอนเปิดเทอม ยิ่งใหญ่ดูท่าจะไม่ชอบอาร์ทอย่างชัดเจน ผิดกับแต้มที่ไม่เก็บเรื่องนั้นมาเป็นกังวลอีก
“ถ้าแต้มไป เราก็ไป” อ้าว...ไหงโยนมาให้กันแบบนี้ล่ะ
“แต้ม ไปนะ ไปด้วยกัน นี่ไปกันหลายคนเลย” แต้มรู้สึกว่ากำลังถูกกดดัน มองไปที่ยิ่งใหญ่ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์รู้นิสัยเขาดีว่าลึกๆแล้วแต้มเป็นคนที่ขี้เกรงใจ
สุดท้ายพวกเขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์กันไปที่พัทยาน้อย โดยที่แต้มยังงุนงงกับตัวเองไม่หาย
***********************************************************************
ตอนนี้จะดราม่าหน่อยๆ แฟนๆยิ่งใหญ่กับแต้มเอาใจช่วยด้วยนะครับ
เหมือนเดิมครับ โดนใจก็เม้นต์ กดบวกถ้าถูกใจ กดไลค์ถ้าชื่นชอบนะครับ
***********************************************************************
จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You
ตอนที่ 20. น้ำตา
พัทยาน้อยน้ำเยอะเนื่องจากฝนตกไม่ขาดสาย ชายหาดที่เคยคลาคล่ำด้วยผู้คนเฉกเช่นช่วงสงกรานต์หายวับไปกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราด อยู่ได้ครู่เดียวฝนก็ทำท่าจะตก ทุกคนต้องรีบแยกย้ายกันกลับ ยิ่งใหญ่พาแต้มไปที่หอ เปลี่ยนชุดและเก็บข้าวของไปนอนบ้านแต้มด้วยความเคยชิน ก่อนที่จะขับเลาะมาเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงฟ้าร้องดังมาแต่ไกล เมื่อถึงฝั่งตรงข้ามกับบิ๊กซีเชียงราย ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ยิ่งใหญ่ต้องกลับรถเข้าในนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
“กินเคเอฟซีมะ” ยิ่งใหญ่ชวน
“อยากกินไอติม” แต้มเป็นคนออกปาก
“ได้เลย เดี๋ยวป๋าจัดให้” ยิ่งใหญ่จอดรถไว้ในร่ม พากันเดินเข้าไปด้านใน แต้มเดินตามยิ่งใหญ่ที่กำลังแวะร้านเสื้อผ้าทีละร้านอย่างใจเย็น รายนั้นเอาเสื้อมาทาบๆที่ตัวแต้มก่อนที่จะถามว่าเอาไหม และแต้มก็ตอบชัดเจนว่าไม่
พวกเขากินเคเอฟซีอย่างหิวจัด ก่อนที่จะเปลี่ยนร้านไปกินไอติมตามที่แต้มเสนอ ข้าวของที่ห้องไม่ขาด พวกเขาเลยเดินเล่นฆ่าเวลาอย่างเรื่อยเปื่อยเพราะสายฝนยังเทกระหน่ำ เมื่อเดินดูของทั่วบิ๊กซีแล้วฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ทั้งคู่จึงมาเดินด้านล่างที่จัดเป็นโซนขายเสื้อผ้า มือถือและร้านจิปาถะ ยิ่งใหญ่เดินไปอีกไม่นาน ก็หยุดชะงัก แต้มหยุดกึกด้วยความสงสัย “แม่”
“ใหญ่” หญิงวัยกลางคนมีท่าทางตกใจไม่น้อยที่เจอลูกชายคนเล็กโดยบังเอิญที่นี่ วันนี้
“แม่มาได้ไง” ยิ่งใหญ่ทักอย่างห่างเหิน แต้มยกมือไหว้ก่อนที่จะขอตัวไปที่อื่น
“ลูกสบายดีมั้ย”
“แม่อยากรู้ด้วยเหรอว่าผมสบายดีจริงๆไหม” ยิ่งใหญ่เสียงกร้าว “แม่ทิ้งผมไปสิบกว่าปี แล้ววันนี้เกิดอยากรู้ว่าผมสบายดีงั้นเหรอ” เด็กหนุ่มตอบอย่างปวดร้าว นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เจอผู้เป็นแม่ นอกจากจะไม่เคยห่วงหาอาทรลูกคนนี้แล้ว แม่ก็ดูสุขสบายดี
“ใหญ่ อย่าเข้าใจแม่ผิดสิ” เธอพูดอย่างปวดร้าว นึกเสียใจที่ลูกชายไม่มีท่าทีอ่อนให้แม้แต่น้อย
“เข้าใจผิดเหรอ แม่ทิ้งพ่อ ทิ้งพี่ ทิ้งผมและหายไปเป็นสิบๆปี แม่โผล่มาวันนี้แล้วมาถามว่าผมสบายดีไหม งั้นเหรอ” ยิ่งใหญ่ตวาดโดยไม่แคร์ว่าเสียงเขาดังลั่นจนทุกคนหันมามอง
“ใหญ่ เป็นอะไร” แต้มเดินมาจับตัวเพื่อนไว้
“ไม่มีอะไร” ยิ่งใหญ่ตอบด้วยเสียงกระด้าง แต่สงบกว่าตอนพูดกับผู้เป็นแม่
“ใหญ่ ค่อยๆคุยกัน คุยกันดีๆก่อน” ผู้เป็นแม่ร่ำร้อง แต่กลับเปล่าประโยชน์
“ไม่” ยิ่งใหญ่ตอบด้วยเสียงเย็นชา “ผมไม่มีทางคุยกับแม่ดีๆแน่ ถือว่าวันนี้เราไม่ได้เจอกันละกัน”
แต้มกำลังจะอ้าปากพูด แต่ถูกอีกฝ่ายกระชากแขนให้เดินจ้ำอ้าวออกมาอย่างงุนงง ยิ่งใหญ่สตาร์ทรถ เขากระโจนนั่งซ้อนท้ายอย่างเสียไม่ได้ ทั้งคู่บึ่งออกจากบิ๊กซีโดยไม่สนใจว่าฝนกำลังเทกระหน่ำ
“แม่ เป็นอะไรครับ”
“ไม่มีอะไรลูก” ผู้เป็นแม่ตอบลูกชายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง
“ไม่เป็นไรได้ไง แม่หน้าซีดขนาดนี้”
“แม่...” เธอกำลังประมวลผลว่าควรจะพูดดีหรือไม่ และในที่สุด “แม่เจอกับตาใหญ่”
“หะ จริงเหรอครับ น้องไปไหนละ”
“ไปแล้ว” หญิงแก่นัยน์ตาแดงก่ำ “ไปแล้ว”
“แม่” ชายหนุ่มโอบไหล่ผู้เป็นแม่ “สักวันน้องจะเข้าใจ”
“แม่ก็หวังอย่างนั้น”
“เราหนีความจริงไม่ได้หรอกครับ” ชายหนุ่มพูด ราวกับว่าไม่ได้พูดกับคนที่อยู่ข้างๆเลยแม้แต่น้อย
“กลับกันเถอะ แม่อยากพักผ่อน”
“ครับ” ชายหนุ่มพาผู้เป็นแม่เดินไปช้าๆ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอัดอั้น และรู้สึกย่ำแย่ไม่ต่างกัน
“กลับโรงแรมครับ” เขาส่งเสียงบอกคนขับรถ ก่อนจะปิดปากเงียบตลอดทาง
***********************************************************************
สุดท้ายพวกเขาก็กลับมาที่หอพักด้วยสภาพเปียกปอน ยิ่งใหญ่ดูย่ำแย่มากกว่าแค่เปียกฝน แต้มโยนผ้าเช็ดตัวให้ แต่อีกฝ่ายนิ่งงัน “เช็ดตัวก่อนสิ” แต้มถือวิสาสะเปลี่ยนชุดโดยใส่ชุดลำลองของเจ้าของห้อง “เดี๋ยวจะป่วยอีกนะ”
“...” ยิ่งใหญ่เงียบ ซึ่งผิดวิสัยอย่างที่สุด
แต้มถอนหายใจ ไม่รู้ว่าระหว่างยิ่งใหญ่กับผู้หญิงคนนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่พอจะเดาได้ลางๆว่านั่นคือแม่ของเพื่อนคนนี้ เพราะด้วยหน้าตาที่สละสวยราวกับยิ่งใหญ่โขลกมาจากพิมพ์เดียวกับเธอไม่ผิดเพี้ยน
สุดท้าย ยิ่งใหญ่ยังนิ่งเงียบ แต้มเลยต้องเช็ดหัวให้ จนเกือบแห้งสนิท มองดูอีกฝ่ายถอดเสื้อผ้าออกอย่างช้าๆราวกับซากศพ “หิวมั้ย” แต้มถามเพราะไม่รู้จะปลอบอย่างไร “เดี๋ยวเราไปซื้อข้าวมาให้ เอาหมูกระเทียมไข่เจียวของโปรดนายมั้ย” แต้มทำท่าจะออกไปข้างนอก แต่กลับถูกอีกฝ่ายจับไว้
“อย่าไป” ยิ่งใหญ่พูดเสียค่อย นัยน์ตาแดงก่ำ ใบหน้าบิดเบี้ยวราวกับกำลังจะสะกดกลั้นอะไรบางอย่างไว้
“เราไปไม่นานหรอก เดี๋ยวก็มา”
“อย่าไป” ยิ่งใหญ่พูดซ้ำ น้ำตาไหลอาบแก้ม แต้มมองด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะอ่อนแอได้เพียงนี้
ยิ่งใหญ่ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น เสียงสะอื้นไห้ดังโอดโอยน่าสังเวช แต้มทรุดตัวลงอย่างไม่รู้จะพูดอย่างไร จะปลอบอย่างไร ได้แต่ใช้ฝ่ามือแตะที่หลังเบาๆ ปล่อยให้อีกฝ่ายสะอื้นไห้ออกมาอย่างทะลักทะลาย คุณชายที่ดูมีความสุขตลอดเวลา คุณชายที่ทุกคนต่างอยากอยู่ใกล้เพราะรอบๆตัวมีแต่รัศมีแห่งความสุข ตอนนี้กำลังปลดเปลื้องความเศร้าโศกราวกับว่าชีวิตหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง “อย่าไปนะ” ยิ่งใหญ่พูดคำเดิม แต้มนั่งพิงกับเตียง มือยังแตะที่หลังของยิ่งใหญ่อย่างแผ่วเบา อีกฝ่ายซุกใบหน้าที่เข่าและร้องไห้จนเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้....
“แม่ทิ้งเราไปตั้งแต่เราอยู่ชั้นอนุบาล” ยิ่งใหญ่ตั้งต้นเล่า “อยู่ๆแม่ก็ไป พ่อก็ไม่พูดอะไร แม่พาพี่ชายเราไปคนนึง แค่นั้น สั้นๆง่ายๆ เราตื่นมาอีกทีแม่ก็ไม่อยู่แล้ว เราได้แต่คิดว่าทำไมแม่ต้องไป ทำไมแม่ไม่เอาเราไปด้วย ทำไมพ่อถึงยอมให้แม่ไป ทำไมเราต้องถูกแม่ทอดทิ้ง”
“แม่นายอาจจะมีเหตุผลก็ได้นะ”
“เหตุผลงั้นเหรอ เหตุผลอะไรล่ะ อะไรมีเหตุผลมากมายซะจนแม่ทอดทิ้งลูกอย่างเราไปได้ล่ะ” ยิ่งใหญ่สูดน้ำมูก
แต้มจนปัญญา ไม่รู้จะตอบอย่างไรเหมือนกัน “ตอนที่พ่อเราล้มนะ เราเพิ่งหกขวบเอง”
ยิ่งใหญ่หันมามองเพื่อน “ตอนนั้นเราไม่รู้เรื่องอะไรหรอก รู้แต่ว่าพ่อป่วย ต้องนอนโรงพยาบาล ยายพาเราไปเยี่ยม เราก็ยังเล่นอยู่ข้างๆเตียงพ่อ ดูพ่อที่หัวยุบนอนไม่ได้สติ แต่เราก็ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก คิดว่าอีกไม่นานพ่อก็คงหาย แล้วพ่อจะให้เราขี่คอ พาเราไปตกปลาที่หนองหลวง*แบบที่เคยทำ”
ยิ่งใหญ่เช็ดคราบน้ำตาของตัวเอง “แต่พ่อก็ไม่ดีขึ้น จากวันนั้นถึงวันนี้ สิบเอ็ดปีแล้ว แต่เราก็ยังหวังนะ ยังอยากให้พ่อกลับมาเป็นพ่อคนเดิม มานั่งคุยกับเรา พาเราไปเตะบอล พาเราไปเที่ยวเล่นได้เหมือนเดิม” ยิ่งใหญ่เปลี่ยนมานั่งข้างเตียง ตัวติดกับแต้มโดยมีหัวไหล่ชนกัน
“นายยังโชคดีนะใหญ่ อย่างน้อยพ่อกับแม่นายก็ยังเดินได้ ยังคุยได้” แต้มเสียงอ่อนระโหย “ถ้านายคิดว่านายไม่เหลือใคร นายดูเราสิ” แต้มชี้ที่ตัวเอง “เรามีทุกคนก็จริง” เสียงนั้นเริ่มสั่นเครือ “แต่เราก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้”
ยิ่งใหญ่สะท้อนใจที่มัวแต่จมอยู่กับความเศร้าของตัวเอง จนลืมมองว่าคนข้างๆก็มีความทุกข์มากกว่าเขามากมายนัก
“นายยังมีเรานะ” ยิ่งใหญ่พูด
“นายก็ยังมีเราเหมือนกัน” แต้มพูด ทั้งคู่มองหน้ากัน ใบหน้าเปื้อนไปด้วยความเศร้าแปรเป็นรอยยิ้ม ยิ่งใหญ่ยกแขนขึ้นมากอดไหล่แต้ม อีกฝ่ายก็ทำเช่นเดียวกัน พวกเขานั่งพิงกับเตียงติดกันโดยมีแขนของแต่ละคนกระชับที่ไหล่ของอีกฝ่ายไว้แน่น ราวกับว่ากลัวว่าใครคนหนึ่งจะจากไป
“ขอบใจนะ ไอ้ขี้แย” แต้มพูดก่อน
“ไหน ใครขี้แย” ยิ่งใหญ่ตอบ
“หึ” แต้มพูด สายตามองไปที่ประตูห้อง “ไม่คิดเลยนะว่าเรากับนายจะสนิทกัน”
“เราคิด”
“หืม”
“จำได้มั้ย วันแรกที่เราทักนายตอนเปิดเทอม”
“โห ต้องย้อนไปไกลเลย”
“นั่นแหละ เราทักนายเรื่องของแม่”
แต้มพยักหน้า นึกขึ้นได้ทันที
“เราเจอนายตอนวันลงทะเบียน เราเห็นนายดูแลแม่ ไม่แคร์สายตาคนอื่นที่มองเลย”
“แคร์ทำไม นั่นแม่เรา”
“ใช่” ยิ่งใหญ่ขยับเลื่อนตัวให้สูงขึ้น แผ่นหลังยังติดกับเตียง แต่ตอนนี้ไหล่สองข้างของคนสองคนแนบชิดมากกว่าเดิม “ตอนนั้นเราชื่นชมนาย เราอิจฉานาย”
“อิจฉา” แต้มทวนคำราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“ใช่ เราอิจฉาที่นายมีแม่ที่รักนาย ถึงแม้พวกนายจะ...”
“จะแต่งตัวมอซอ”
“ตอนนั้นพวกนายดูร่ำรวยมากเลยนะแต้ม” ยิ่งใหญ่กระแอม “นายร่ำรวยความรักจนเราอิจฉา”
แต้มถึงบางอ้อ
“และ...” ยิ่งใหญ่กระชับวงแขน “เราก็อยากรู้จักกับนายตั้งแต่วันนั้น”
“สมมุตินะ” แต้มพูดขึ้น “ถ้าเราไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน นายจะมารู้จักกับเราได้ยังไง”
ยิ่งใหญ่เข้าใจในคำถาม แต้มหมายความว่า ถ้าอยู่คนละห้อง แต้มก็ยังคงเป็นนายเย็นชา ไม่สนใจคนรอบข้างแล้วยิ่งใหญ่จะเข้าหาได้อย่างไร
“เอ่อ...” ยิ่งใหญ่ตอบ “เอาจริงๆไม่ได้คิดว่ะ”
แต้มถอนหายใจ
“แต่เราก็อยู่ห้องเดียวกันนี่นา” ยิ่งใหญ่พูดต่อ
“ซวยจริงๆ” แต้มพูด
“อะไร” ยิ่งใหญ่ถามเสียงแข็ง
“เปล๊าาาาาาาาา” แต้มลากเสียง
ทั้งคู่มองหน้ากัน ไม่พูดอะไร ก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะ จนลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้ต่างก็มีน้ำตา....
***********************************************************************
* หนองหลวง อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงราย มีพื้นที่ประมาณเก้าพันไร่ ตั้งอยู่ในเขตของอำเภอเวียงชัย และอำเภอเมือง โดยทั่วไปจะเป็นที่เก็บน้ำเพื่อทำการเกษตรของประชาชนในพื้นที่ และใช้ประโยชน์สำหรับเป็นที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ บ้างก็มาตกปลา แต่ปัจจุบันหนองหลวงทรุดโทรมลงไปมากเนื่องจากขาดการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างจริงจังจากส่วนท้องถิ่น
***********************************************************************
คุยกันก่อน...
ก่อนอื่น ผมขอขอบคุณทุกคนมากนะครับที่ติดตามผลงานเรื่องนี้
เป็นเรื่องราวที่ผมค่อนข้างจะชื่นชอบเป็นพิเศษ เนื่องจากมันเป็นเรื่องราวที่น่ารัก
ซึ่งตอนนี้ ผมขอตัดจบภาค 1 ก่อนนะครับ
ไม่ต้องห่วง ผมกำลังร่างพล็ตอภาค 2 และจะเอามาให้อ่านกันเร็วๆนี้
ยังไงแล้ว ก็ฝากติดตามผลงานเรื่อง จะรักนายเท่าชีวิต ภาค 2 กันด้วยนะครับ
ผมจะเปิดกระทู้ใหม่เพื่อภาคต่อไปเลย...
ขอบคุณทุกกำลังใจที่ติดตามกันมาโดยตลอดครับ
#จากต้นจนอวสาน
***********************************************************************
จะรักนาย เท่าชีวิต – Only You
ตอนที่ 60. เรื่องที่จะขอ
คืนนี้พระจันทร์เกือบจะเต็มดวงทอแสงสว่างทั่วท้องฟ้าจนแทบมองไม่เห็นหมู่ดาวน้อยใหญ่ ท้องฟ้าโปร่งใสราวกับทั้งผืนฟ้าเป็นของดวงจันทร์แต่ผู้เดียว อากาศข้างนอกยังหนาว มีลมหนาวพดกรูเป็นระลอก ถึงแม้จะอยู่ใต้ชายคาบ้านก็ไม่อาจต้านลมที่พัดแผ่วเย็นได้เลย สองหนุ่มถือโอกาสเข้าไปล้างจานและเก็บโต๊ะ เหลือแต่คู่รักหนุ่มสาวที่ยืนมองแสงจันทร์อยู่ที่ระเบียงบ้านยามนี้
“คุณตาคิดอะไรอยู่เหรอครับ” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงรักใคร่ แม้แสงไฟจะไม่อาจสาดส่องให้เห็นชัดเจน แต่ใบหน้าที่ยืนกอดอกอยู่ไม่ไกลกลับสวยราวกับภาพเขียนชั้นเอก หญิงสาวลูบแขนไปมาด้วยความหนาวเย็น เสื้อแขนสั้นสำหรับใส่นอนบางเกินกว่าจะให้ความอบอุ่น
“เปล่าค่ะ คิดไปเรื่อยเปื่อย” หญิงสาวไม่ตอบความจริง มีควันสีขุ่นพวยพุ่งออกจากปาก
“คิดเรื่องคุณพ่อผมอยู่หรือเปล่าครับ” ยอดเยี่ยมชิงถามเสียก่อน หลังมื้อเย็นไม่นานนายแพทย์ยิ่งยงก็แวะมาทักทาย ระหว่างการรักษาตัวของผู้เป็นแม่นั้นน้อยครั้งที่พ่อจะว่าง ต้องตาก็เป็นอีกคนที่มักจะคลาดกับนายแพทย์รูปร่างสูงใหญ่คนนี้ การมาเยี่ยมของเขา จึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจไม่ใช่น้อย
“ปะ เปล่าค่ะ” ต้องตาไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร แต่ระหว่างที่ได้สนทนากัน ฝ่ายที่มาเยี่ยมมีท่าทางที่หนักใจจนเห็นได้ชัด ราวกับว่าไม่พอใจที่เธอและบุตรชายคบหาดูใจกัน
“อย่าคิดมากเลยนะครับ คุณพ่อเป็นคนพูดน้อย มาดนิ่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำ แต่ก็ยังไม่อาจสลัดความกังวลใจไปได้
“ท่านจะต้องชอบคุณ เหมือนที่คุณแม่ชอบ”
“คุณยอดคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอคะ” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงประหม่า ชายหนุ่มยิ้มพลางขยับตัวมาใกล้ยิ่งขึ้น สองแขนล่ำโอบกอดร่างบาง กรุ่นกลิ่นละมุนกระทบจมูกอย่างยวนเย้า ลำคอเนียนสวยน่าจูบทำให้บุรุษหนุ่มต้องกลืนน้ำลายก่อนตอบคำถาม
“ผมมั่นใจ” ถึงแม้ต้องตาจะรู้ว่าคำตอบนี้มันไม่จริง แต่เธอก็เลือกที่จะเชื่อชายคนนี้อย่างหมดใจ หญิงสาวเงยใบหน้ามองสันกรามที่เต็มไปด้วยเคราจางๆก่อนจะจุมพิตริมฝีปากลงบนนั้นอย่างแผ่วเบา
***********************************************************************
ยิ่งยงขับรถเร็วกว่าปกติด้วยอาการร้อนใจ ทุกอย่างมันคือความบังเอิญอย่างนั้นหรือ การที่ลูกชายคนรองคบกับผู้หญิงคนนั้น และลูกชายคนเล็กเป็นเพื่อนสนิทกับเด็กหนุ่มนั่นอีก มันไม่น่าเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย หากทุกคนรู้ความจริงขึ้นมา ความสัมพันธ์ทั้งหมดนั้นจะเป็นอย่างไร มันต้องมีคนที่เจ็บปวดอย่างแน่แท้ เขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้สิ่งที่คิดเป็นจริงในสักวัน
“มีอะไรคะคุณโทรมาดึกดื่นป่านนี้”
“คุณมล คุณรู้เรื่องตายอดกับหนูต้องตามาตั้งแต่เมื่อไหร่” ยิ่งยงเข้าประเด็นทันที ปลายสายเงียบเสียงไปราวกับกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
“คุณ...”
“ผมไม่รู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่นะคุณมล แต่การที่คุณยอมให้ยอดเยี่ยมคบกับแม่หนูต้องตานั้นไม่ใช่สิ่งที่เราจะต้องสนับสนุนนะ”
“ก็เด็กมันรักกัน ชั้นก็แค่...”
“คุณอย่าลืมสิคุณมล ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และถ้าหนูต้องตารู้ความจริงขึ้นมา คนที่เจ็บก็คือตายอดลูกชายเรานะ”
“แล้วคุณจะให้ชั้นทำยังไง” มลฤดีถามเสียงแหลม เธอก็ไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น แต่ความดีของหญิงสาวและความรักของลูกชายที่มีให้มันทำให้เธอใจอ่อน
“คุณเป็นคนก่อเรื่อง คุณต้องจัดการต่อให้มันจบ”
“ชั้นไม่รู้ว่าชั้นจะทำได้หรือเปล่า” ปลายสายตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า
“เราต้องตัดไฟแต่ต้นลม”
“ทำไมคุณถึงยกเรื่องนี้มาคุยกับชั้นวันนี้ล่ะ” มลฤดีถามอดีตสามีที่ร้อยวันพันปีไม่เคยพูดถึง
“วันนี้ผมไปหาตายอดมา” ยิ่งยงนึกถึงภาพของทั้งสามคนนั่งคุยกันอย่างน่าอึดอัด ยอดเยี่ยมกุมมือหญิงสาวยิ้มร่าเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่ล้นใจ ต้องตาผู้แสนอ่อนหวานนั่งอยู่ข้างกายดูสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก นั่นยิ่งทำให้ยิ่งยงหนักใจกว่าเดิม ชายแก่ถอนหายใจ ความหนักหน่วงถาโถมจนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป
“ตายอดบอกว่าจะแต่งงานกับต้องตา”
***********************************************************************
สองหนุ่มออกมาสูบบุหรี่ในมุมมืดของบริเวณรั้วบ้านเนื่องจากไม่ต้องการไปขัดจังหวะของเพื่อนและคนรักที่กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศ แสงจันทร์นวลเกือบจะเต็มดวงส่องสว่างไปทั่วบวกบรรยากาศหนาวเหน็บของค่ำคืนนี้ยิ่งทำให้คนที่หัวใจมีรักอิ่มเอมและอยากจะตักตวงช่วงเวลาที่สุดแสนโรแมนติกเช่นนี้ บั๊มพ์แหงนมองฟ้าอย่างไร้จุดหมาย พ่นควันออกจากปากอย่างไม่อาจแยกออกได้ว่านี่คือควันบุหรี่ คือควันจากร่างกายของตนกันแน่
“โห นายพลาดจังหวะดีๆแล้วนะบั๊มพ์” ภัทรสะกิดที่หลังพลางชี้ไปตรงระเบียงบนบ้าน
“หืม ทำไมรึ” ชายหนุ่มหันขวับไปตามเสียงก่อนจะหันไปตามนิ้วที่ชี้ ร่างของคนสองคนกอดกันแนบชิดก่อนที่ริมฝีปากจะประกบพรมจูบอย่างอ่อนหวาน
“น่าอิจฉาเนอะ” ภัทรเป็นคนพูด
“นายจะอิจฉาทำไมล่ะ” อีกฝ่ายถามอย่างสงสัย
“ก็อิจฉาที่คู่นี้ใกล้จะร่วมหอกันแล้วไง ไม่น่าเชื่อว่าไอ้ยอดจะยอมหยุดที่ผู้หญิงคนนี้จริงๆ”
“เราควรดีใจกับทั้งคู่ต่างหาก หรือนายไม่ดีใจ”
“ดีใจสิ แค่ความอิจฉามันมากกว่า”
“โอย นายจะอิจฉาเค้าทำไม” บั๊มพ์ทำน้ำเสียงหงุดหงิดเพื่อบังคับให้อีกฝ่ายหยุดพูด
“ก็คนมันอิจฉาอะ อยากแต่งงานบ้าง” สองหนุ่มหันมาสบตากันแทบจะทันที่ที่ภัทรพูดจบ ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากทั้งสองคนอีก มันช่างยากเหลือเกินที่จะมีวันนั้นสำหรับทั้งคู่ได้ คนหนึ่งเป็นดาราที่มีชื่อเสียง อีกคนหนึ่งก็มีครอบครัวที่ไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้ ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้เลย
“หนาวแล้ว ขึ้นข้างบนกัน” บั๊มพ์เปลี่ยนเรื่อง แต่ถูกมือใหญ่ฉุดแขนไว้
“เดี๋ยวสิ” ภัทรส่งเสียงสั่นเครือ “ขออยู่แบบนี้อีกแป๊บก่อนได้ไหม” ร่างใหญ่โอบสองแขนเกี่ยวกันอย่างแนบแน่น ความอบอุ่นส่งผ่านวนเวียน เสียงหัวใจเต้นโครมครามบ่งบอกว่าพวกเขายังมีกันและกันอยู่เสมอ
“ไม่ต้องแต่งงานก็ได้ แค่มีนายแค่นี้เราก็พอใจแล้ว” ภัทรพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่บั๊มพ์ได้ยินชัดเจน ชายหนุ่มเชื่อว่าคำพูดนี้มันจะเป็นจริงเหมือนกับความอบอุ่นจากอ้อมกอด ณ ตอนนี้
***********************************************************************
ยิ่งใหญ่ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นโครมครามเสียงดังผิกปกติ ถ้าเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆคงจะหัวใจวายเป็นแน่ แต่มันก็เป็นการยากที่จะห้ามหัวใจตัวเองหรือทำให้มันเต้นช้าลง เมื่อคนที่นอนอยู่เบื้องล่างส่งสายตาที่คาดเดาไม่ออกมาให้ ท่าทางที่ขัดขืนนั้นมันช่างขัดแย้งกับเรี่ยวแรงที่มี ทั้งคู่เคยเล่นกันแรงกว่านี้ ถึงแม้โดยส่วนใหญ่แต้มจะเป็นคนออมแรง แต่เรี่ยวแรงมันก็เยอะกว่าครั้งนี้ เด็กหนุ่มไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ท่าทีที่เห็นมันก็ชวนให้คิดอยู่ไม่น้อย
“นายจะขออะไร” แต้มถามย้ำ ยิ่งใหญ่ไม่ตอบ แต่ใจเต้นรัวเป็นจังหวะกลองแล้วตอนนี้
“ก่อนจะขอ นายตอบคำถามเรามาก่อน” เขาเล่นตัว
แต้มถอนหายใจ ก่อนถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “อะไรอีก”
ยิ่งใหญ่ยิ้มกว้างเมื่อแต้มเปิดทาง “นายไม่ได้ชอบ เอ่อ เบลจริงใช่ไหม”
“อื้อ” แต้มตอบด้วยเสียงในลำคอ ใบหน้ายิ่งใหญ่ยิ่งแป้นแล้นจากรอยยิ้มยิ่งกว่าเดิม ลมหายใจหอบแรง
“ละ แล้ว นายมีคนที่ชอบรึยัง”
แต้มนิ่งไปครู่หนึ่ง แววตาจับจ้องร่างใหญ่ที่คร่อมร่างตนไว้ก่อนเอ่ยออกไป “ยังไม่มี”
“ยังไม่มี” ยิ่งใหญ่ทวนคำ นึกเสียใจกับคำตอบที่ได้รับ
“อื้อ ยังไม่มีผู้หญิงที่ชอบ” แต้มตอบอีกครั้ง
“ที่ผ่านมาล่ะ นายเคยมีแฟนไหม”
“ไม่เคย” แต้มตอบทันที ช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นเวลาที่ลำบากของชีวิต เด็กหนุ่มจึงไม่สนใจจะหาความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับใคร
“แสดงว่า นายยังไม่เคย” ยิ่งใหญ่เงียบเสียง สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะถาม “ยังไม่เคยจูบกับใครใช่ไหม”
“นายถามทำไมเนี่ย” แต้มหน้าแดงเพราะโดนจี้ใจ ที่ผ่านมานอกจากไม่เคยมีแฟนแล้ว เขาก็ยังไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว (ถ้าไม่นับกับพี่ตา แม่ หรือหลานๆ) “อย่าบอกนะว่านายจะขอ...” แต้มทำหน้าตกใจ และพยายามดิ้นหนี แต่ยังเพลี่ยงพล้ำให้อีกฝ่ายอยู่ดี
“หยุด” แต้มส่งเสียงห้ามเมื่อยิ่งใหญ่เลื่อนใบหน้ามาระยะประชิด
“เรายังไม่ได้ขออะไรนายเลยนะ นายคิดอะไรน่ะ” ยิ่งใหญ่ยิ้มกวน
“บอกคำขอของนายมาแล้วก็รีบๆลงจากตัวเราได้แล้ว” แต้มพยายามดิ้น
“แล้วทำไมนายต้องทำท่ากลัวเราด้วยล่ะ” ยิ่งใหญ่กวนอีก แต่ลึกลงไปในใจคือเจ็บจี๊ด
“”ก็ดูนายสิ อยู่ๆก็ถามเรื่องจูบ แถมยังมาตรึงเราไว้อีก แล้วก็เลื่อนหน้ามาอีก” แต้มตอบด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น
“นายกลัวเราจูบนายจริงๆเหรอ” น้ำเสียงนั้นแฝงไว้ด้วยความน้อยใจ แต่แววตาที่ส่งไปนั้นกลับเต็มไปด้วยความนัย แต้มที่เป็นคนซื่อกลับไม่สามารถอ่านได้ว่ามันหมายความว่าอะไร
“เออสิ เกิดมายังไม่เคยจูบใคร แต่จะโดนนายจูบเนี่ยนะ”
“นี่” ยิ่งใหญ่ยิ้มยั่ว “เรายังไม่ได้บอกเลยนะว่าจะขอจูบนาย”
“แล้วนายจะขออะไรล่ะ” แต้มดิ้นพล่าน “แล้วก็เลิกทับได้แล้ว หนัก” เด็กหนุ่มรู้สึกเสียหน้าที่ทึกทักไปเองว่าอีกคนจะจูบเขา
“นายอยากรู้จริงๆอะ”
“เออสิ” แต้มหงุดหงิด แต่ยิ่งใหญ่กลับยิ้มกว้างยิ่งขึ้นเมื่อเห็นท่าทางที่ไร้ที่ไร้ทางสู้ของอีกคน
“แต้ม” อยู่ๆยิ่งใหญ่ก็เรียกชื่อนี้ขึ้นมา
“อะไร” แต้มรับคำเสียงขุ่นเข้ม
“เรารู้จักกันมานานแค่ไหนแล้ว”
“ตั้งแต่วันรายงานตัว ก็เกือบปีแล้วล่ะ”
“ที่ผ่านมา นายมีความสุขมั้ยที่อยู่กับเรา”
“อยู่กับนายเหรอ ก็ดีนะ ถ้านายไม่ขี้เกียจ ไม่โยเย ไม่เรื่องเยอะ”
“นี่ ตอบดีๆก็ได้ ไม่ต้องขุด”
“อ้าว ก็นายถามนี่”
“ตอบมา” ยิ่งใหญ่ลากเสียง
แต้มนึกย้อนไปในวันแรกที่ได้เจอกัน วันแรกที่ยิ่งใหญ่มานั่งกับตนในห้องเรียน วันแรกที่พายิ่งใหญ่ไปที่บ้าน และวันแรกของอีกหลายๆเหตุการณ์ เป็นช่วงเวลาที่ดี “อืม ก็ดี”
“นายสัญญาได้ไหมว่าถ้าเราขอนายไปแล้ว นายจะไม่ว่าไม่เกลียดเรา”
“ถ้าไม่ใช่จูบ ก็คงได้”
“ต้องได้”
“เออ ได้ก็ได้” แต้มดิ้น แต่ก็ไม่เป็นผล “แล้วนายจะขออะไร”
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเบล และก็เราด้วยนะ”
“หืม เกี่ยวกับเบลด้วยเหรอ” แต้มงงหนัก
“ใช่” ยิ่งใหญ่หม่ยิ้มแล้ว “สมัยก่อนเรากับเบลสนิทกันมาก”
“สนิทกัน คือเป็นแฟนกันเหรอ”
“เปล่า” ยิ่งใหญ่หลับตา มีแต่แต้มที่ยังปะติดปะต่อเรื่องไม่ได้
“ทำไมล่ะ เบลออกจะเป็นคนสวยขนาดนั้น”
“ตกลงนายอยากรู้เรื่องไหน เรื่องที่เราจะขอ หรือเรื่องเรากับเบล” ยิ่งใหญ่ถามอีกครั้ง
“เอ่อ” แต้มลังเล เพราะโดนจุดชนวนความอยากรู้ทั้งสองอย่างไปแล้ว “ทั้งคู่”
“เอาเรื่องไหนก่อน”
“เรื่องที่สั้นที่สุดก่อนละกัน นายจะได้ลงไปจากตัวเราซะที” แต้มโวยวาย
“งั้นก็เป็นเรื่องที่เราจะขอนายละกัน”
“ว่ามา ลีลาเยอะ ยึกยักเล่นตัว” แต้มบ่น
“แต้ม” ยิ่งใหญ่ลืมตาขึ้น
“หืม” ทั้งคู่สบตากันอีกครั้ง
“นายจะให้เราทุกอย่างที่เราขอใช่ไหม”
“ถ้าเราทำได้หรือให้ได้ แน่นอน” แต้มรับคำ
“เรื่องนี้นายให้ได้แน่นอน” ยิ่งใหญ่ปัดความกังวลทั้งหมดทิ้งไปเหลือเพียงรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าและแววตาที่ไม่มั่นใจ
“ว่ามา” ทุกอย่างดูเงียบสงบ แม้แต่เสียงหัวใจของยิ่งใหญ่ เวลามันเดินช้าราวกับโลกหยุดหมุนไปแล้ว เด็กหนุ่มกลั้นลมหายใจ ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ดูง่ายๆ แต่การขอออกไปมันช่างยากกว่าที่คิดไว้มากมายนัก
“นายรู้ใช่มั้ยว่าเราทำดีกับนาย สนิทกับนายที่สุด” แต้มพยักหน้าแทนคำว่า รู้
“นายรู้เหตุผลมั้ย ว่าทำไม”
“นายบอกว่านายประทับใจที่เห็นเราแสดงออกกับแม่”
“ใช่ แต่มันมีเหตุผลอื่นด้วย”
“เหตุผลอะไร” แต้มถามด้วยความไม่มั่นใจเช่นกัน
“เรา เอ่อ” น้ำเสียงนั้นตะกุกตะกักและแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“เราชอบนายแต้ม ชอบมาก ยิ่งเห็นตอนที่เบลมาเกาะแกะนายเราก็ยิ่งรู้ใจตัวเองมากขึ้นว่าเราชอบนาย” ยิ่งใหญ่มองใบหน้าของแต้มที่เหมือนจะตกใจไม่น้อย
“นายจะให้เราได้มั้ยถ้า...” เขาเว้นช่องว่าง แต้มนั้นสบตาเพื่อนรักอย่างไม่อาจบอกได้ว่ารู้สึกอย่างไร ก่อนจะได้ยินเรื่องที่ขอของเพื่อนสนิทคนนี้
“...เราจะขอให้เราชอบนายแบบนี้ไปเรื่อยๆได้ไหม”
จบ ภาค 1