*** ฟังเพลงนี้ไปด้วยขณะอ่านเพื่ออรรถรส
http://www.youtube.com/watch?v=bmOuZKJAdmI ***
พี่ครับ...ได้สักครั้งจะตั้งใจเรียน
ตอนที่39
ผมกลับบ้านมาก็ขังตัวเองอยู่แต่บนห้อง ไม่ออกไปไหน ผมนั่งคิดแล้วเครียดอยู่กับตัวเอง ผมจะทำยังไงต่อดี พี่ทามต้องสงสัยแน่ๆ ผมต้องยิ่งเร่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้จบเร็วๆขึ้นๆ ผมเปิดตู้มือสั่นแล้วจะหยิบยาที่ซ่อนไว้มากิน แต่เกิดพลาดยาหล่นลงบนพื้น
“ตุ๊บ !!”
ผมพยายายามควบคุมตัวเองไม่ให้สั่น ควบคุมตัวเองให้ได้ ผมนั่งลงบนพื้นแล้วหยิบยาที่หล่นลงมากิน เดินไปหาขวดน้ำซัดเซโซเซ พยายามกรอกน้ำเข้าปาก ไม่สนว่าน้ำจะหกและไหลลงมาเลอะเสื้อไปหมด
“อ๊ะ”
ผมครางออกมาแผ่วเบา รู้สึกปวดหัว ปวดตัวไปหมด ผมล้มตัวลงนอนพื้นเตียงแล้วกรอกตาไปมา มองเพดานแล้วรู้สึกล่องลอย ในห้วงความคิดผมเห็น เห็นพวกเลวๆหกคนยืนอยู่รวมถึงพี่เอสด้วย พวกมันต้องได้รับการชดใช้อย่างสาสมที่สุด
เรื่องนี้ต้องจบโดยเร็วที่สุด
“พี”
เสียงดังขึ้นพร้อมแรงเขย่าผมอย่างแรงทำให้ผมได้สติ ผมค่อยๆปรือตามองคนตรงหน้า
“พี่เพลง”
ผมครางออกมาอย่างแผ่วเบา พี่เพลงมองผมด้วยสายตาเป็นห่วงแล้วดึงผมเข้ามากอดเต็มแรง
“พีเป็นอะไร อย่าทำแบบนี้อีกพี่ใจหายรู้ไหม”
“ทำไมเหรอ”
ผมเสียงเอ่ยเสียงแผ่วเบา รู้สึกแสบคอไปหมด
“พี่เข้ามาในห้องจะมาตามพีไปกินข้าว เคาะประตูอยู่ตั้งนานพีก็ไม่ตื่น จนพี่เปิดประตูเข้ามา เรียกตั้งนาน เขย่าอยู่ตั้งนานกว่าพีจะตื่น”
พี่เพลงผละออกมาแล้วมองผม ผมยิ้มให้น้อยๆแล้วหลบตาพี่เพลง
“พียังไม่หายใช่ไหม”
พี่เอ็มถามขึ้นแล้วเหลือบมองยาที่หล่นอยู่บนพื้น ผมแค่นยิ้มให้พี่เพลงแล้วเหม่อมองเพดาน
“มันจะหายได้ยังไงถ้าทุกอย่างยังวนเวียนๆอยู่รอบๆตัวพี”
ผมพูดจบพี่เพลงมองหน้าผมเครียด
“อย่าบอกนะว่าพีเจอไอ้พวกนั้นแล้ว”
“ใช่พี่เจอแล้ว เจอนานแล้วด้วย”
ผมตอบแล้วมองพี่เพลงก่อนจะลุกขึ้นแล้วเก็บยาที่หล่น ตอนลุกขึ้นผมรู้สึกเหมือนโลกเอียงแต่พยายามพยุงร่างกายตัวเองไว้ ผมจะอ่อนแอไม่ได้ ไม่งั้นผมจะทำการใหญ่ไม่ได้
“พวกมันทำอะไรพีรึเปล่า”
พี่เพลงพูดเสียงเครียดจนผมต้องหันหน้าไปมอง
“พวกมันเหรอจะทำอะไรพี พีต่างหากละ”
ผมพูดแล้วเบ้ปากแล้วเก็บยาเข้าในตู้ แล้วโดนพี่เพลงกระชากแขนจากด้านหลัง
“พีหมายความว่าไง”
พี่เพลงถามเสียงเครียด หน้าเครียด ผมเลยหันไปยิ้มให้แล้วพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องตลก
“พีพูดเล่นหน่าพี่เพลง อย่าคิดมากสิ”
ผมพยายามพูดเสียงร่างเริงสดใส แต่ดูเหมือนพี่เพลงจะไม่เคลิ้มตาม
“พี่ไม่รู้หรอกนะว่าพีจะทำอะไร แต่พี่อยากให้พีหยุด แล้วต่างคนต่างอยู่เถอะ”
“พีไม่ทำอะไรหรอกหน่า”
ผมพูดแล้วยิ้มให้พี่เพลง แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
ก่อนจะเข้าห้องน้ำผมเห็นพี่เพลงจ้องผมอย่างไม่วางตา ผมรู้ว่าพี่เพลงไม่เชื่อหรอก ผมไม่อยากจะบอกพี่เพลง เรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับผม ผมไม่อยากให้คนที่ผมรักต้องมามีผลไปด้วย ถ้าจะเกิดอะไรเลวร้ายจริงๆก็ขอให้เกิดกับผมคนเดียว
ผมยืนอยู่หน้าผับแห่งหนึ่ง ผมรู้จากพี่โอมมาว่าคืนนี้พวกเขาจะมากินกันที่นี้ ผมเลยย่องดำเนินแผนการต่อ ผมอย่างให้ทุกอย่างมันจบอย่างเร็วที่สุด ระหว่างเดินผมกระชับมีดพกในกระเป๋ากางเกงตัวเอง ผมมีมันแล้วรู้สึกอุ่นใจขึ้น
เข้ามาในผับก็เจอพวกพี่เขาที่นั่งดื่มกันอยู่ในมุมวีไอพีของร้าน ทุกคนทีสาวสวยอยู่ข้างกายไม่เว้นแม้แต่พี่โอม ผมเบ้ปากนิดนึงแล้วเดินไปหลบมุมอยู่ในผับ มุมที่เห็นคนพวกนั้นชัดเจน
ผมยืมมองอยู่แบบนั้นไปเรื่อยๆ ไม่นานพี่ฟาร์มก็ผละออกจากกลุ่มมาสูบบุหรี่กับพี่บันที่ด้านนอก ผมผุดยิ้มแล้วเดินตามมองห่างๆ สองคนนี้มีอะไรมากกว่าที่ผมคิดแน่
“ทำไมมึงชอบตามกูจังเลยวะบัน”
พี่ฟาร์มถามขึ้นน้ำเสียงอ้อแอ้คงจะเมาเต็มที่แล้วสินะ
“ทำไมวะ มึงอึดอัด”
พี่บันถามพร้อมกับปล่อยควันบุหรี่ออกมา
“เออใช่ มึงตามจนคนคิดหมดแล้วว่ามึงกับกูเป็นผัวเมียกัน”
พี่ฟาร์มพูดออกมาอย่างเหลืออดแล้วจ้องหน้าพี่บัน พี่บันก็จ้องกลับอย่างไม่ยอมแพ้แล้วทิ้งบุหรี่ลงบนพื้น
“ถ้ากูบอกว่าอยากเป็นผัวมึงละ”
พี่บันพูดจบพี่ฟาร์มต่อยทันที
“ผั๊วะ”
“ไอ้เหี้ย ไปไกลๆกูเลยนะสัส”
พี่ฟาร์มพูดออกมาแล้วพยายามพยุงตัวเอง เมาขนาดนั้นแล้วยังจะซ่าอีก
“เออ !!”
พี่บันกระแทกเสียงใส่พี่ฟาร์มแล้วเดินเข้าร้านไป พี่ฟาร์มนั่งลงบนม้านั่งอย่างหมดแรง ผมซ้ายขวาไม่เห็นใคร ตรงนี้ค่อนข้างหลบมุมหน่อยและไม่ค่อยมีใครเดินมาเพราะมันเปลี่ยวพอควร ผมหยิบขวดเบียร์เปล่าๆใกล้มาแล้วเดินไปด้านหลังพี่ฟาร์ม พี่ฟาร์มที่นั่งเซไปเซมาไม่ทันจะสังเกต ผมเลยฟาดขวดเบียร์เข้าไปที่ท้ายทอยเต็มแรง
“เพล้ง!!”
“โอ้ย!!”
พี่ฟาร์มอุทานออกมาแล้วฟุบลงไปกับโต๊ะ ผมสะแหยะยิ้มแล้วพยายามแบกพี่ฟาร์มที่รถผมจอดไว้
กว่าจะถึงรถเล่นเอาเหนื่อย ผมเอาผ้าขาวมาปูที่เบาะหลังเพื่อกันเลือดเปื้อนรถ ผมวางพี่ฟาร์มที่สลบไม่ได้สติบนเบาะหลัง ดีนะที่พี่ฟาร์มตัวไม่ใหญ่มาก ไม่งั้นละก็ผมแบกไม่รอดแน่ๆ
ก่อนจะไปขับรถผมเอาผ้าดำมาปิดตาและมัดมือมัดเท้าพี่ฟาร์มไว้
ผมขับรถมาเรื่อยๆตามทาง บนรถผมก็เปิดเพลงล่า ไปด้วย เพลงนี้ช่างกินใจผมจริงๆ ฟังแล้วคิดถึงละครเรื่องนี้
“บนหนทาง ที่ดูเดียวดาย
ในหัวใจ ก็ยังโหยหา
กับความรัก ที่เคยมีอยู่
แต่วันนี้ จากฉันไปไกลสุดตา
และความรัก ความรักที่มีคุณค่า
กับใจฉัน นั่นคือเธอ “
ผมเคาะพวงมาลัยตามจังหวะเพลงแล้วขับรถไปเรื่อยๆตามทาง ออกเมืองไปเรื่อยๆ
“ฟังซิฟัง ได้ยินฉันไหม
ใครนะใคร ที่ใจฉันเพ้อ
ได้ยินเสียงหัวใจฉันหรือเปล่า
ว่ามันเหงา อ้างว้างเมื่อฉันขาดเธอ
อยากเสาะหา ไขว่คว้าไปให้พบเจอ
เพื่อให้เธอกลับมา รักฉันดังเดิม”
ผมมองจากกระจกด้านหลังแล้วมองพี่ฟาร์มที่นอนอยู่ แล้วเอียงคอยิ้มหวาน
“จะตามหา ไม่ว่าเธออยู่ไหน
จะตามไป ให้ได้เธอคืนมา
จะตามหา ถึงแม้จะไกลสุดฟ้า
จะไขว่คว้า เธอมาแนบกาย”
ผมขับรถไปเรื่อยๆจนออกนอกเมืองไปแถวปทุมธานี เข้าตามซอกซอยมาจนถึงซอยหนึ่งที่บรรยากาศมืด นิ่งเงียบ อากาศเย็นๆรอบๆทำเอาผมขนลุก ผมจอดรถแล้ว เดินลงมาอ้อมาทางที่พี่ฟาร์มนอนอยู่ อากาศด้านนอกช่างเย็นและเงียบสงบจริงๆ ผมค่อยๆปลดกระดุมพี่ฟาร์มทีละเม็ดแล้วยิ้มหวาน แล้วกระชากกางเกงของพี่ฟาร์มออก ตอนนี้สภาพพี่ฟาร์มเปลือยเปล่า
“เจ็บ อะ”
พี่ฟาร์มครางออกมาแผ่วเบา ผมเลยกระชากพี่ฟาร์มออกมาเต็มแรงๆทั้งๆที่เปลือยเปล่า
“เจ็บ ปล่อย อ๊ะ กู”
พี่ฟาร์มพยายามพยายามสูผมแต่คงเจ็บและไม่มีแรง ยิ่งโดนมัดมือมัดเท้าอยู่ยิ่งทำอะไรไม่ได้
ผมกระชากผมพี่ฟาร์มเต็มแรงแล้วค่อยๆลากไปกับพื้น
“โอ้ย เจ็บ อ๊ะ อ๊ะ”
ร้างกายเปลือยเปล่าของพี่ฟาร์มครูดไปกับหินของถนนลูกรัง พี่ฟาร์มพยายามฝืนจะสู้ ผมเลยทุบเข้าไปที่ท้ายทอยที่พี่ฟาร์มเป็นแผลอยู่อย่างเต็มแรง
“โอ้ย !!!”
พี่ฟาร์มอุทานออกมาแล้วฟุบไปกับพื้น ผมค่อยๆจิกผมพี่ฟาร์มแล้วลากลงไปที่พื้นหญ้าด้านล้าง
บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัด มีแค่เสียงจันทร์เท่านั้นที่พอจะส่องแสงออกมา ผมยืนมองพี่ฟาร์มที่นอนหมดแรงอยู่ ผมกระชากขาพี่ฟาร์มแยกออกแล้วค่อยๆยัดมะเขือม่วงเข้าไปที่ทวารหนักของพี่ฟาร์ม
“โอ้ยยย อ๊ะ ซี๊ดดด เจ็บ”
ผมค่อยๆยัดเข้าไปแล้วสะแหยะยิ้ม พึมพำกับตัวเองเบาๆ
“เป็นไงละรสชาติของการโดนข่มขืน ฉันเวทนาแกแค่ไหนที่ให้แกได้กับมะเขือม่วงแทนจะเป็นคนจริงๆ”
ผมยัดเขาไปจนเกือบสุด ไม่สนใจพี่ฟาร์มที่ดิ้นอย่างทุรนทุรายอยู่
ผมยืนมองแล้วยิ้มหวานกับภาพที่พี่ฟาร์มสลบอ้าขากว้างมีมะเขือยาวยัดอยู่ระหว่างขา
“มึงจำได้ไหม มึงหัวเราะกูในวันที่โดนข่มขืน มึงเอาของปลอมมาเล่นกับกู มึงซาดิสกับกูขนาดไหนในคืนนั้นมึงจำได้ไหม”
ผมพูดออกมาเสียงแผ่วเบา เหม่อมองพระจันทร์น้ำตาเอ่อล้นแล้วคิดถึงวันนั้น
“อย่านะ ไม่เอา”
“เอาหน่าสักหน่อย ลองของปลอมว่าจะใหญ่ถึงใจน้องรึเปล่า”
“ขอละพี่ อย่าทำผมเลย”
“โดนของพวกพี่มาตั้ง6คนแล้วโนของปลอมอีกสักอันจะเป็นไรไป”
ผมปาดน้ำตาแล้วยิ้มมองผลงานตัวเอง ผมพยายามพยุงตัวเองเดินมาที่รถ เหนื่อย เหนื่อยจังเลย ผมกุมหน้าอกตัวเองแน่นหอบตัวโยน
“อ๊ะ”
ผมครางออกมาแล้วพยายามควบคุมมือไม่ให้สั่น หยิบยาที่พกมาในรถพยายามกรอกยาไป
กินจนเสร็จนั่งพักไม่นานอาการดีขึ้นผมก็ขับรถออกมา โดยไม่สนใจคนที่พามาด้วยอีกคน
ผมทำลายหลักฐานเอาผ้าที่ปูไว้ไปทิ้งก่อนที่จะถึงบ้าน มาถึงบ้านทุกคนหลับหมดแล้ว ผมเข้าห้องแล้วเปิดคอม เข้ากูเกิ้ลเสิร์ชหาบางอย่าง
“วิธีตัดสายเบรก”
ผมยิ้มหวานแล้วจ้องหน้าจอนิ่ง
ใกล้เวลาจบเกมส์นี้แล้ว
_________________________________________________________________________
ตอนนี้กดดันไม่รู้ว่าจะได้อาร์มแบบที่ตั้งใจหรือเปล่า
เรื่องนี้เป็นนิยายนะครับ อย่าคิดไปคิดอะไรมากละ (พยายามบอกตัวเอง)
ขอบคุณสำหรับทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ
