พี่ครับ...ได้สักครั้งผมจะตั้งใจเรียน
ตอนที่34
ผมยืนอยู่หน้าบริษัทหนังสือพิมพ์ข่าวไทย วันนี้ผมแต่งตัวคล้ายผู้หญิง ใส่ชุดแซ็กสีขาว รับกับผมที่ยาวแบบซอยๆของผมทำให้ไม่แปลกนักที่หลายคนจะคิดว่าเป็นผู้หญิง ผมแต่งแบบนี้เพื่ออำพรางตัวเอง ผมทำเพื่อป้องกันตัวถ้าวันหนึ่งพี่ดลเกิดอยากรู้ตัวการณ์ขึ้นมา อีกอย่างผมยังใส่แว่นตาดำขนาดใหญ่เพื่ออำพรางใบหน้า
“คุณมาทำอะไรครับ”
ยามที่ยืนอยู่หน้าบริษัททักผมขึ้นมา ผมเลยส่งยิ้มไปให้แล้วตอบ
“ฉันเอาวีดิโอนี่มาให้บก คุณนิทัศน์นะคะ”
ผมพูดเสียงหวานเพื่อให้ยามเข้าใจว่าเป็นผู้หญิง
“เดี๋ยวคุณเชิญไปติดต่อที่ประชาสัมพันธ์เลยครับ”
“ไม่ดีกว่าคะ ดิฉันโทรบอกคุณนิทัศน์ไว้แล้ว คุณนิทัศน์บอกว่าให้ยามเอาขึ้นไปให้ ฝากคุณช่วยเอาไปให้ท่านหน่อยนะคะ เอกสารสำคัญมาก”
ผมพูดเสร็จก็ส่งแผ่นวีดิโอให้ยามแล้วรีบเดินออกมาทันที ยามไม่ทันจะปฎิเสธผม
ผมขึ้นแท็กซี่มาแล้วยิ้มมุมปาก ได้เวลาฉาวโฉ่แล้วละ
ก่อนกลับบ้านผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามนสวนสาธารณะแห่งหนึ่งแล้วทิ้งชุดที่ใส่เพื่อทำลายหลักฐาน เมื่อถึงบ้านผมนั่งเล่นได้ไม่นานก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ฮัลโหลพี่เอส”
พี่เอสเองที่โทรมา
“พีอยู่ไหน เดี๋ยวพี่ไปรับมาเที่ยวนะ”
“พี่เบื่อ พี่อยากอยู่บ้าน”
“วันเสาร์ทั้งทีออกไปเที่ยวหน่อยสิ”
“พี่เอสจะพาพีไปไหน”
“ไปเที่ยวแถวนี้แหล่ะ ไปเถอะนะ”
“พีจะไว้ใจพี่เอสได้ใช่ไหม ว่าจะไม่พาพีไปเจออะไรอีก”
ผมพูดจบแล้วยิ้มมุมปาก ผมพยายามย้ำ ย้ำเพื่อให้พี่เขาเกิดการละอายใจ
“พี เอ่อ พีเชื่อใจพี่นะ พีจะไม่เจออะไรแบบนั้นแล้ว”
“ถ้าพีต้องเจออะไรแบบนั้นอีกเพราะพี่ละ”
“พี่จะเป็นคนโดนแทนพีเอง”
พี่เอสพูดจบผมตาพราวเป็นประกาย
“ก็ได้ แล้วเจอกันที่ปากซอย”
ผมพูดจบก็แต่งตัวออกไปหาพี่เขาที่หน้าปากซอย
พี่เอสไม่ได้เป็นคนเลวขนาดนั้น พี่เขาพี่ความละอายใจพอสมควร ผมเชื่ออย่างนั้น
“เราจะไปไหนกันพี่เอส”
“ไปดูหนัง พี่อยากดูเรื่องQQ”
พี่เอสหันมาตอบผมระหว่างที่พี่เขากำลังขับรถไปห้างแห่งหนึ่ง ผมพยักหน้าให้พี่เขาไม่ตอบอะไร
เมื่อถึงห้างเราสองคนก็เดินไปที่โรงหนังจองตั๋วอะไรเสร็จบังเอิญเจอพี่นัทที่มาเดินห้างกับผู้หญิงคนหนึ่ง
“เอ้า ไอ้นัท”
พี่เอสหันไปทักพี่นัท ผมเลยส่งยิ้มไปให้พี่นัทและผู้หญิงข้างๆพี่นัท
“ไอ้เอส มาทำไรวะ”
“มาดูหนังดิ ถามได้”
“เออวะ”
พี่นัทตอบแล้วหันมามองผม แล้วพูดต่อ
“มาดูกับน้องพีเหรอวะ รีเทิร์นเหรอไง”
พี่นัทยิ้มล้อๆมองผม ผมเลยรีบปฎิเสธ
“เปล่านะพี่นัท พีแค่มาในฐานะน้อง”
ผมพูดจบพี่ผู้หญิงที่ยืนข้างพี่นัทก็พูดขึ้น
“แฟนเก่าเอสเหรอ”
“ใช่แล้วแนน ที่แหล่ะแฟนเก่าไอ้เอสที่ไอ้เอสรักนักรักหนา”
พี่นัทตอบพี่แนนแล้วโฮบเอวพี่แนน ผมเลยยิ้มไปให้พี่แนน
“หน้าตาน่ารักแบบนี้นี่เอง”
พี่แนนพูดเสร็จผมก็ยิ้มเขินแล้วตอบ
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ”
พี่แนนเป็นผู้หญิงที่น่ารักนะ ดูเป็นตัวเองของตัวเอง มีความมั่นใจในตัวเองดี
“พอๆเลยทั้งแนน และไอ้นัท กูขอตัวละ”
พี่เอสพูดจบก็ดึงมือผมไปทางอื่น ผมเลยได้แต่ยิ้มให้พี่แนนไปแล้วมองหน้าพี่นัทนิดนึงก่อนจะยิ้มให้
ระหว่างที่ผมกับพี่เอสนั่งรอเข้าโรงหนังอยู่ ผมเลยชวนพี่เอสคุยถึงในสิ่งที่ผมอยากรู้
“พี่แนนกับพี่นัทนี่เขาคบกันนานยัง”
“ก็ตั้งแต่ปี1อะ”
พี่เอสตอบแล้วกินป็อปคอร์นต่อ ไม่สนใจผมนัก
“นานแล้วสิ คนนี้พี่นัทรักจริงเหรอไง”
“รักจริงและรักมากด้วย”
พี่เอสพูดจบผมแอบเบะปากกับคำตอบเบาๆ
“แล้วทำไมวันนี้ที่ผับพียังเห็นพี่นัทนั่งซุกไซร้กับผู้หญิงคนอื่นอยู่เลย”
“คนเรานะพี ถึงเจ้าชู้แต่ก็รู้ว่าใครสำคัญ ใครคือที่หนึ่ง”
พี่เอสหยุดกินแล้วมองหน้าผมอย่างมีความหมาย ผมมองตากลับนิ่งๆ
“พีว่ามันก็แค่เหตุผลของผู้ชายเห็นแก่ตัวมากกว่า”
ผมพูดจบก็เดินเข้าโรงหนังทันที เกลียดเหตุผลของผู้ชายเจ้าชู้ หึหึ เลว !!
เช้าวันต่อมาก็เป็นไปตามที่คาด ผมตื่นแต่เช้ามาดูหนังสือพิมพ์ของข่าวไทย พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งใหญ่มาก
** คลิปหลุดลูกชายนายทหารชื่อดัง จูบกับผู้ชายกลางห้าง **
ผมอมยิ้มตาเป็นประกายทันทีที่เห็น ผมวางหนังสือพิมพ์แล้วขึ้นไปบนห้องเปิดคอมดูในเว็บชื่อดังเว็บหนึ่งที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์คลิปนี่อยู่ แถมตอนนี้ก็โดนโหลดโดนแชร์ไปเยอะเลยทีเดียว ถือเป็นเรื่องดัง ผมยิ้มสะใจแล้วเปิดทีวีดูก็เจอข่าวทันที
“ตอนนี้นายทหารชื่อดังที่ลุกชายมีคลิปหลุดอยู่ตอนนี้เลือกที่จะปฎิเสธการให้สัมภาษณ์คะ”
นักข่าวสาวพูดไปในขณะที่เป็นภาพของนายทหารรุ่นใหญ่รีบเดินขึ้นรถตู้ทันที
ดี!! ได้อับอายกันบ้าง เลือกที่จะใช่อำนาจใหญ่มาทำให้เรื่องคาวโลกีย์ของลูกชายตัวเองจบ ตอนนี้แหล่ะฉันจะใช่อำนาจมืดให้พวกแกอับอายบ้าง
เหตุการณ์นี้ทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวในอดีตอีก
“อึก อึก ฮืออออออ ปล่อยกู ฮือออออออ”
ผมตื่นมาในตอนเช้าหลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมา ผมลืมตาแล้วร้องไห้โฮ มองไปรอบห้องก็เจอผู้ชายหกคนนอนอยู่ ผมปิดปากเพื่อให้ตัวเองเงียบไม่อยากให้พวกเลวนี่ตื่น ผมรีบแต่งตัวแต่ร่างกายไม่เอื้ออำนวยเพราะปวดร้าวไปทั้งตัว แต่งตัวจนเสร็จพยายามพยุงตัวตัวเองอกมาก็เจอพี่เอสที่นั่งอยู่แล้วหันมามองหน้าผม
“พี เอ่อ เป็นไงบ้าง”
พี่เอสเดินเข้ามาหาผมด้วยสายตาสงสาร ผมเบะปากให้พี่เขามองพี่เขาน้ำตาคลอ
“คนที่โดนข่มขืนเพราะแฟนตัวเองต้องเป็นไงละ”
ผมพูดจบก็หยิบแจกันมาฟาดหัวพี่เขา
“เพล้ง !!”
“ตุ๊บ”
พี่เอสหล่นลงไปกับพื้นทันที พี่เอสมองหน้าแล้วจับหัวตัวเองไว้
“ที่พี่โดน ที่พี่เจ็บยังน้อยกว่าพีเยอะ”
ผมพูดแค่นั้นแล้วพยายามเดินออกจากห้อง โดยไม่หันไปสนจพี่เอสอีกแม้ว่าพี่เขาจะพยายามเรียกแค่ไหนก็ตาม
เมื่อถึงบ้านผมยืนหน้าบ้านแล้วน้ำตาคลอ รุ้สึกเจ็บไปหมด ปวดไปหมด หมดแล้วทุกสิ่งทุกอย่างศักดิ์ศรี ความเป็นคน หมดแล้ว
“พี ไปโดนอะไรมาลูก”
แม่ออกมาหน้าบ้านพอดี แม่คือภาพสุดท้ายที่ผมเห็น อยู่ดีดีทุกอย่างก็เลือนรางแล้วผมก็ฟุบลงไปที่พื้นหน้าบ้าน
“อึก อึก ฮือออออ ลูกจะเป็นอะไรไหมคุณ”
เสียงของแม่ ผมได้ยินเสียงของแม่ ผมได้ยินแม่ร้องไห้ แต่ทำไมผมถึงลืมตาไม่ได้ ขยับไม่ได้เลย
“ลูกต้องไม่เป็นอะไร คุณเชื่อผมนะ”
พ่อ พ่อได้ยินพีไหม ทำไมผมถึงรับรุ้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ตอบโต้ไม่ได้เลย
“น้องนอนแบบนี้มาสามวันแล้วนะครับ”
พี่เพลง ทำไมพี่เพลงเสียงเศร้าแบบนั้น พีคิดถึงพี่เพลง
“ความผิดของผมเอง ผมไม่สนใจน้อง ผมเอาแต่เที่ยว ผมทะเลาะกับน้องทำให้น้องเจอกับไอ้นั้น”
พี่แพท พีอยากบอกว่าพี่แพทไม่ผิด พีผิดเองที่ไปรักผู้ชายเลวๆแบบนั้น
“ถ้าพี่ผิด เพลงก็ผิด ที่รู้ทั้งรู้ว่าน้องคบกับมันแต่ไม่ห้าม”
ไม่ !! ไม่มีใครผิด พีผิดเองงงงงงงงงงงง !!!
อยู่ดีดีทุกอย่างก็กระตุกแล้วผมก็ไม่ได้ยินอะไรอีก
“น้องตื่นแล้วครับ”
ผมพยายามเปิดตาแสงที่เข้ามาทำให้ผผมแสบตาเล็กน้อย ผมพยายามจับโฟกัสแล้วเห็นพ่อ แม่ พี่เพลง พี่แพท ยืนล้อมกันอยู่
“พีหิวน้ำไหมลูก”
แม่ถามผมแล้วพยายามยิ้มให้ผม ผมพยักหน้าให้ พี่แพทเลยช่วยประคองให้ผมนั่งแล้วดื่มน้ำ หลังจากดื่มน้ำเสร็จ คุณหมอก็มา
หมอตรวจของหมอไปจนเสร็จแล้วถามผม
“คุณจำได้ไหมคุณชื่ออะไร”
“พีครับ”
“คุณรู้จักคนทั้งสี่คนนี่ใช่ไหม”
“รู้จักครับ”
หมอพยักหน้าแล้วจดที่ชาร์จตัวเอง ผมกวาดตามองพ่อ แม่ พี่แพท พี่เพลงแล้วพยายามยิ้มให้ ไม่นานตำรวจก็เปิดประตูเข้ามา
“คนไข้ฟื้นแล้วใช่ไหมครับ ผมอยากถามถึงคดีหน่อย”
คุณตำรวจมายืนข้างๆผม ผมสั่นทันทีที่ผู้ชายแปลกหน้าเข้ามาใกล้
“เดี๋ยวครับคุณตำรวจ คนไข้เพิ่งจะฟื้น”
ฟื้น ตำรวจ เกิดอะไรขึ้นกับผม ภาพทุกอย่างมันค่อยๆทะลอยเข้ามาในสองผม ภาพที่ผมโดนตบ ภาพที่ผมโดนลาก ภาพที่ผมโดนกระชาก ภาพที่ผมโดนข่มขืน
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
ผมกระชากหมอแล้วปาใส่ทุกคน ผมซัดทุกอย่างที่อยู่ใกล้ๆใส่คนข้างหน้า ไม่ !! ไม่ !! อย่าเข้ามาทำอะไรกู ออกไป !!!!!!
“ใจเย็นๆนะครับ”
เสียงหมอพยายามห้ามแต่ผมไม่สนใจ ผมกระชากสายตาน้ำเกลืออก เจ็บจนเลือดไหล แล้วผลักเสาน้ำเกลือ ผลักแจกกัน ผลักอย่างให้หมด
“เพล้ง !!!”
“พีลูก”
ผมรู้สึกตัวอีกทีเมื่อโดนกดกับเตียง ผมตาปรือมองทุกอย่างไม่ชัดเจน เห็นแม่ยืนปิดตาร้องไห้ เห็นพ่อยืนนิ่งมองผม เห็นพี่แพทที่ยืนร้องไห้ เห็นพี่เพลงที่ฟุบไปบนมือตัวงเอง
ผมเห็นตัวเองกำลังนอนร้องไห้
ผมเสียใจ ผมไม่อยากให้ผมเป็นแบบนี้เลย
ผมมองตัวเองในกระจกนั่งร้องไห้อยู่ ผมปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบกระปุกยามือสั่นไปหมด
ผมไม่อยากจะกินมันแต่ผมจำเป็นต้องกิน
เพราะผมอยากให้ทุกคนรู้ว่าผมยังปกติดี
________________________________________________________________
มาต่อให้แล้วครับ หมดมืดเทอมแล้ว หลังจากนี้คงมาเร็วขึ้น อิอิ
คุณที่ขอตอนพิเศษพี่เอ็มมา เห็นนะครับ แต่ขอหลังจากเรื่องคลี่คลายแล้วนะครับ ตอนนี้อยากโฟกัสที่พีก่อน
ตอนพี่เอ็มมีแน่ แต่รอหน่อยเด้อ
ดีใจมากที่มีคนโหวตนิยายเรื่องนี้ในเล้าเป็นอวอร์ดด้วย ดีใจมากๆตอนที่เห็น เพราะไม่คิดว่าจะมีคนเสนอชื่อ ผมยังเป็นนักเขียนน้องใหม่ ฝีมือยังไม่ดีนัก แต่ก็พยายามฝึกฝน พร้อมรับทุกคำติชม
แต่โดนโหวตในนิยายเศร้าแห่งปีนี่สิ เรื่องนี้เศร้าเหรอ
ในเมื่อมีคนโหวตแบบนั้นตอนนี้เลยแอบเอาดราม่ามาเสิร์ฟ
มีคนโหวตนักเขียนหน้าใหม่ให้ด้วย ขอบคุณมากครับ
ดีใจมาก
และขอบคุณสำหรับท่านที่โหวตนิยายเร่ฃื่องวัสวาทด้วยเรื่องแรกของคนเขียน เดี๋ยวจะต่อตอนพิเศษให้ อิอิ
สุดท้ายขอบคุณสำหรับทุกคนที่ติดตาม ทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ