พี่ครับ...ได้สักครั้งจะตั้งใจเรียน
ตอนที่28
หลังจากวันนั้นผมก็ออกจากโรงพยาบาล ชีวิตผมก็ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ช่วงนี้ผมพยายามไม่คิดถึงอะไรที่ทำให้ต้องเครียดอีก ถามถึงพี่เอ็ม กลังจากออกจากโรงพยาบาลมา พี่เขาก็ยังเหมือนเดิม มาหาผมทุกวันเอาดอกกุหลาบขาวมาให้ที่บ้านทุกวัน แม้ว่าผมจะออกมาพบหน้าบ้าง ไม่ออกมาพบหน้าบ้างก็ตาม แต่พี่เขาก็ไม่คิดท้อ
“เอ็มมาอีกแล้วลูก”
แม่เรียกผม ทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ความคิด ผมหันไปยิ้มให้แม่เล็กน้อย ตอนนี้เราสองคนอยู่ที่ร้านดอกไม้ของแม่
“พี”
พี่เอ็มเรียกผมเบาๆก่อนจะส่งดอกไม้ให้ผม ผมยืนมองพี่เขานิ่งๆแล้วก็รับดอกไม้มา นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่แกโรงพยาบาลมาได้สองอาทิตย์ที่ผมรับดอกไม้จากพี่เขา
พี่เอ็มยิ้มกว้างทันทีที่ผมรับดอกไม้จากพี่เขา
“ขอบใจนะพี่เอ็ม แต่ทีหลังไม่ต้องซื้อมาแล้วนะ”
“แต่พี่..”
“ถ้าพี่ซื้อมาอีก พีจะไม่คุยกับพี่แล้ว”
ผมพูดดักพี่เขาไว้ก่อน รู้สึกว่าจะเปลืองเงินเกินไปที่ซื้อมาทุกวัน
“พีก็พูดยังกับทุกวันนี้พีพูดกับพี่”
พี่เอ็มบ่นกับตัวเองเบาๆ ผมเลยส่ายหน้านิดนึงแล้วพูดต่อ
“บ่นอะไรพีได้ยินนะ”
“เปล่าน๊า”
พี่เอ็มรีบโบกมือปฎิเสธทันที
“พี่มีอะไร”
ผมตักบทแล้วกลับมานั่งจัดดอกไม้ข้างๆแม่ต่อ
“อีกไม่กี่วันมหาลัยจะเปิดแล้ว พี่เลยจะมารับพีไปซื้อชุดนักศึกษา”
“ไม่ต้องหรอกพี่เอ็ม พีซื้อแล้ว พี่แพทพาไปซื้อแล้ว”
“อ่างั้นไปซื้ออุปกรณ์การเรียนไหม”
“พีมีแล้วครับ”
ผมพูดจบแล้วหันไปยิ้มให้พี่เอ็มนิดนึง พี่เอ็มที่เริ่มขมวดคิ้วละตอนนี้ ทำหน้าแบบกูจะเอาไงต่อดีวะ
“พีเอ่อ...”
พี่เอ็มจะพูดต่อ แต่แม่ที่ยืนมองพวกเราสองคนอยู่ขัดขึ้นมาซะก่อน
“เอ็มจะชวนน้องไปข้างนอกเหรอจ้ะ แม่ว่าอย่าดีกว่า”
แม่พูดตัดบททำเอาพี่เอ็มเงียบ พี่เอ็มเลยหันไปมองแม่แล้วพูดขึ้น
“แม่ครับ แต่ผมแค่อยากจะพาพีไปเปิดหูเปิดตาบ้างเองครับ”
“งั้นเอ็มถามพีดูสิลูกว่าอยากไปหรือเปล่า ถ้าอยากไปแม่ก็ไม่ว่า แต่ถ้าน้องบอกว่าไม่ก็คือไม่นะจ้ะ”
แม่พูดเสียงเรียบแต่นิ่งๆ ทำเอาพีเอ็มแอบกลัวนิดๆนะผทว่า ฮ่าๆ
“พีว่าไง”
พี่เอ้มหันมามองผมแล้วทำตาละห้อย ผมเลยพยักหน้าให้พี่เขา
“ไปก็ได้ พี่อยากจะไปช้อปปิ้งเหมือนกัน ขาดแค่คนช่วยถือ”
เอาเถอะ สงสารพี่แกอุส่าตื้อผมอยู่สองเดือนละ ยอมไปเที่ยวด้วยสักครั้งคงไม่เป็นไร
“ได้ เดี๋ยวพี่จะช่วยถือเอง พร้อมเลี้ยงข้าวตามใจพีเลย”
พี่เอ็มยิ้มกว้างทำเอาผมหัวเราะออกมาเบาๆ
“งั้นเดี๋ยวพีไปเปลี่ยนชุดที่บ้านก่อน”
“ครับ”
พี่เอ้มพยักหน้าให้ผม ผมบอกให้พี่เอ็มไปรอที่รถก่อน ระหว่างที่พี่เอ็มออกไปแล้วแม่ก็เข้ามาจับมือผมไว้
“พีโอเคใช่ไหมลูก”
แม่มองผมอย่างห่วงใย ผมเลยยิ้มหวานให้แม่แล้วตอบ
“พีโอเคแล้วครับ พีจะไม่หนีปัญหาแล้ว พีพักผ่อนพอแล้ว”
“ดีแล้วลูก”
ผมยิ้มตอบผม ผมเลยเดินมาหาพี่เอ็มที่รถ แล้วกลับไปบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเราสองคนก็มากันที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง ผมเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขาสั้นสีดำ ขาสั้นที่สั้นพอสมควร โชว์ขาขาวๆหน่อย อิอิ เสื้อเชิร์ตแขนยาวตัวใหญ่ๆสีแดงที่คลุมกางเกงไว้หมิ่นเหม่ เซตผมเอาหน้าม้าลง พร้อมกับรองเท้าหุ้มส้นสีดำ ได้เวลากลับมาแซ่บแล้ว
“พี พี่ว่ากางเกงพีสั้นไปไหม”
พี่เอ็มที่เดินข้างๆผมถามขึ้น ผมเลยหันไปยิ้มให้แล้วตอบ
“ไม่สั้นไปหรอก สั้นปกติแหล่ะ ใครๆก็ใส่กัน”
“แต่พี่ไม่ชอบให้พีใส่สั้นๆเลย”
พี่เอ็มที่เริ่มหน้านิ่งพูดขึ้น ผมเลยยืนกอดอกมองพี่เอ็ม
“ทำไมละ”
“ก็พี่ไม่ชอบให้คนอื่นมองขาพี ขาพีสวยแถมยังขาวอีก คนอื่นมองพี่ไม่ชอบ”
“อยากมองก็มองไปสิ พีไม่สนใจ ยังไงก็เอาไปไม่ได้อยู่แล้ว”
ผมย้อนพี่เขาไป ทำเอาพี่เอ็มเริ่มขมวดคิ้วทันที
“แต่พี่ไม่ชอบ”
“นั้นมันเรื่องของพี่”
“พี !!”
พี่เอ็มรั้งแขนผมไว้ที่กำลังจะเดิน
“อะไรอีกพี่เอ็ม ถ้าไม่พอใจก็กลับไปได้นะ พีเดินคนเดียวได้”
“ไม่ใช่อย่างนั้นพี”
“แล้วมันยังไงละ”
“พี่หวงพี พี่ผิดเหรอ”
พี่เอ็มพูดเสียงอ่อย ผมเลยหันมาพูดกับพี่เขาตรงๆ
“พี่หวงพี เราเป็นอะไรกันละพี่เอ็ม ถ้าเราเป็นแฟนกันพี่หวงพี พีไม่ว่า แต่นี้ไม่ใช่ แล้วอีกอย่างถึงหวงจริงๆก็ควรจะเคารพการตัดสินใจกันบ้างปะ พี่บอกพี่อยากดูแลพี แต่เรื่องแค่นี้พี่ยังไม่เคารพการตัดสินใจของพีเลย การที่พีตัดสินใจใส่กางเกงตัวนี้ออกจากบ้าน”
“.....”
“ถ้าพี่บอกว่ารักพี อยากดูแลพีจริงๆ พี่ต้องรับสิ่งที่พีเป็นให้ได้ ถ้าพี่รับไม่ได้ก็อย่าดีกว่า”
“โอเคครับ พี่เข้าใจแล้ว”
“เข้าใจก็เข้าใจจริงๆ อย่าเข้าใจแต่ปาก”
ผมพูดแค่นั้นแล้วเดินต่อ พี่เอ็มเลยมาเดินข้างๆผม ผมเห็นหน้าหงอยๆของพี่เขาแล้วอยากจะแกล้งเลยหยุดแล้วกระซิบข้างหูพี่เขาเบาๆ
“อีกอย่างถ้าพี่เป็นแฟนพีแล้ว คนอื่นก็ได้แค่มอง แต่พี่ได้มากกว่ามองอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
ผมพูดจบก็รีบเดินทันที แอบเห็นผ่านหฃกระจกว่าพี่เอ็มยืนยิ้มหน้าหื่นอยู่ ฮ่าๆ
เราสองคนเดินดูเสื้อผ้าไปเรื่อยๆ พี่เอ็มซื้อให้ผมเยอะเหมือนกัน เดินซื้อกันจนเหนื่อย ตอนนี้เลยมาพักกินข้าวที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง
เราสองคนกินกันไปเงียบๆ มีบทสนทนาบ้างบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่เป็นพี่เขามากกว่าพี่ชวนคุย พี่เขาไม่ชวนคุยก็นั่งมองผมยิ้มๆ จนผมอดที่จะเอ่ยปากไม่ได้
“มองอะไรนักหนาพี่เอ็ม”
“ก็พี่ดีใจนี่ที่ได้มาเดินเที่ยวกับพี ได้มากินข้าวกับพี”
“เหรอ มาบ่อยๆเอาปะ เลี้ยงพีทุกรอบ หึหึ”
ผมแหย่พี่เขาไป แต่พี่เอ็มยิ้มร่าทันที
“ได้เลย พี่เลี้ยงเองทุกอย่าง อยากซื้อไรซื้อให้หมด พีคนเดียวพี่เลี้ยงได้อยู่แล้ว”
พี่เอ็มทำตาหวานใส่ผม ผมเลยแอบเบะปากใส่นิดนึง หึหึ อย่ามาปากหวาน ไม่หลงคารมง่ายๆหรอก
กินเสร็จผมก็บอกให้พี่เอ็มเอาของไปเก็บที่รถก่อน เพราะเราสองคนจะดูหนังกันต่อ ระหว่างที่ยืนรอพี่เขาที่หน้าโรงหนังก็บังเอิญเจอ
“พี !!”
ผมหันไปตามเสียงเรียกก็เจอพี่แอล
“พี่แอล”
ผมเอ่ยเสียงเบา ตกใจไม่น้อยที่เห็นพี่เขา ครั้งล่าสุดที่รู้ถึงข่าวคราวพี่เขาคือเรียนอยู่ต่างประเทศนี่ ผมพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้สั่นแล้วยิ้มให้พี่เขา
“พี่เป็นยังไงบ้าง ไม่คิดเลยว่าจะเจอพี”
พี่แอลพูดแล้วเดินเข้ามาใกล้ ผมสังเกตพี่เขาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า พี่เขาดูโตขึ้น หล่อขึ้น หุ่นดูสูงใหญ่ขึ้น แล้วท่าทางที่นุ่มนวลแบบคุณชายก็ยังมี ท่าทางที่ผมเคยหลงรัก
“พีสบายดีครับ”
ผมพยายามยืนนิ่งๆไม่ถอยห่าง ไม่อยากจะถอยอีกแล้ว พี่แอลยิ้มอ่อนโยนแบบที่เคยเป็นมาให้ผม มองผมแล้วพูดขึ้น
“พีดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะครับ”
“ก็เท่าที่เห็นแหล่ะครับ กาลเวลาเปลี่ยน พีก็ต้องเปลี่ยนตามกาลเวลาบ้าง”
“พีดูเซ็กซี่ขึ้นเนอะ เมื่อก่อนพีดูน่ารัก ใสใสแบบเด็ก แต่ตอนนี้ดูแซ่บขึ้นเยอะเลย ฮ่าๆ”
พี่แอลหัวเราะเบาๆ ผมเลยหัวเราะด้วยแล้วตอบ
“ก็ใสใสแล้วโดนหลอกไงครับ เลยต้องแซ่บบ้างเพื่อให้รู้ว่าฉันไม่โดนหลอกง่ายๆ”
ผมจิกพี่เขาไปนิดนึง พี่เขาเลยกระตุกเล็กน้อยแล้วพยายามยิ้มให้ผม
“พียังไม่ลืมเรื่องนั้นเหรอ พี่ขอโทษนะ จริงๆแล้วพี่ก็อยากจะอธิบายอะไรหลายๆอย่างให้พีฟัง แต่ไอ้แพทไม่ยอมให้พี่เข้าใกล้พีเลย”
“ไม่ต้องอธิบายอะไรหรอกครับ เพราะภาพที่พีเห็น เสียงที่พีได้ยินมันก็อธิบายทุกอย่างหมดแล้ว”
“แต่ตอนนั้นพี่เริ่มรักพีจริงๆแล้วนะ พี่ไม่ได้คิดว่ามันเป็นเกมส์”
พี่แอลพยายามเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น จะจับมือผมแต่ผมเลี่ยงไว้
“พอเถอะพี่แอล เรื่องมันผ่านมานานแล้ว พีลืมไปหมดละ”
“ครับ งั้นถ้าพี่จะเริ่มใหม่...”
ยังไม่ทันที่พี่แอลจะพูดจบพี่เอ็มก็เดินเข้ามาโอบเอวผมแล้วพูดทันที
“คงเริ่มใหม่ไม่ได้ พีเขาเริ่มกับผมแล้ว”
คำพูดของพี่เอ็มทำเอาพี่แอลชะงักแล้วมองหน้า ทั้งสองคนมองหน้ากันนิ่งๆ ผมเลยตัดบท
“พีขอตัวไปดูหนังกับคนของพีก่อนนะครับ”
ผมยิ้มหวานให้พี่แอลแล้วสะบัดหน้าใส่ทันที ควงแขนพี่เอ็มเดินมาซื้อตั๋วทันที ระหว่างนั้นเราสองคนก็แกล้งมุ้งมิ้งกันเบาๆ แล้วเดินเข้ามาในโซนโรงหนังลับตาพี่แอลผมก็เอามือออกทันที
“เอาออกทำไมละพี”
พี่เอ็มหันมาถามอย่างเสียดาย
“หมดเวลาของละครแล้วไงพี่เอ็ม”
“ถึงจะเป็นแค่ละครแต่พี่ก็ดีใจนะที่ได้เป็นคนของพี”
พี่เอ็มพูดพร้อมทำตาหวานใส่ผมเลยหันไปมองแล้วพูดขึ้น
“เพราะพี่อยู่ใกล้พีที่สุดหรอก ถ้ามีคนอื่น แค่ละครพี่ก็จะไม่ได้เป็นอะไรกับพีเลย”
ผมพูดเสร็จก็รีบเดินเข้าโรงหนังทันที ไม่สนใจพี่เอ็มที่หน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
ผมดูใจร้ายไปเหรอ
ผมดูเล่นตัวไปเหรอ
ผมแค่ป้องกันตัวเอง
ผมผิดเหรอ
_______________________________________________
พี่แอลกลับมาแล้ว จะเปิดเทอมแล้ว หลังจากนี้เข้มข้นแน่นอน
ชอบคอมเม้นต์คุณ Maxshu มากเลย ให้อารมณ์เหมือนเพื่อนสาวให้กำลังใจกัน
ใช่เลยเนอะ นางจะกลับมาเริ่ด มาแรดเหมือนเดิม แต่อาจจะได้อ่านนางในมุมอ่อนแอมากขึ้น
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์และทุกคนที่อ่านครับ