พี่ครับ...ได้สักครั้งจะตั้งใจเรียน
ตอนที่27
ผมลืมตาขึ้นมาก็เจอเพดานสีขาว แค่กลิ่นก็พอจะรู้ว่าพออยู่ที่โรงพยาบาล เมื่อวานผมคงจะคลุ้มคลั่งจนเข้าโรงพยาบาลสินะ คิดแล้วก็ได้แต่ยิ้มแล้วสมเพชตัวเอง สุดท้ายผมยังลืมมันไม่ได้ สุดท้ายผมก็ยังอ่อนแอเหมือนเดิม ทุกอย่างที่แสดงออกมามันก็เป็นแค่เปลือกสินะ
“พี ฟื้นแล้วเหรอลูก”
แม่เดินเข้ามาหาผมทันทีที่เห็นว่าผมลืมตา
“ครับแม่”
ผมพยายามยิ้มให้กับแม่ แม้ว่าผมจะรู้ดีว่ารอยยิ้มนั้นดูเหนื่อยก็ตาม แม่มองผมน้ำตาซึมแล้วลูบศีรษะผมเบาๆ
“พีหิวไหม พีสลบไปสองวันเต็มๆเลย แม่เป็นห่วงมากเลยรู้ไหม”
“หิวนิดๆครับ”
แม่พยักหน้าให้ผมแล้วเอาน้ำมาให้ผมค่อยๆจิบ
“พี !!”
เสียงเรียกจากหน้าประตูทำให้ผมหันหน้าไปมอง เจอพี่เพลง พี่แพทยืนอยู่
“พีฟื้นแล้วพี่ดีใจมากเลย”
ผมวางแก้วน้ำลง ไม่นานพี่แพทก็เข้ามากอดผมเต็มแรง
“โอ้ย พี่แพท”
“ขอโทษพี พี่ดีใจไปหน่อย พี่เป็นห่วงพีมากเลยรู้ไหม”
พี่แพทพูดแล้วกอดผมแน่น ผมเลยกอดพี่แพทตอบ ผมหันไปมองพี่เพลงที่ยืนอยู่ข้างๆ แค่สายตาก็รู้ว่าพี่เพลงดีใจแค่ไหน
“ไม่อยากจะกอดน้องบ้างเหรอตาเพลง”
แม่หันไปแซวพี่เพลงทันที
“อยากกอดนะแม่ แต่ดูพี่แพทดิไม่ยอมปล่อยเลย”
พี่แพทได้ยินอย่างนั้นเลยยอมปล่อยผมออก พี่เพลงเลยเข้ามากอดผมเบาๆแล้วพูดขึ้น
“อย่าเป็นแบบนี้อีกรู้ไหม พี่รู้สึกไม่ดีเลย”
คำพูดของพี่เพลงทำเอาทั้งห้องเงียบสงัด ผมผละออกจากพี่เพลงแล้วยิ้มให้กับพี่เพลง
“พีจะพยายามครับ”
ผมไม่สัญญาหรอกว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่ผมจะพยายามไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก
หลังจากนั้นพวกเราก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีก ทุกๆพยายามทำให้ผมลืมไปว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งสำหรับผมผมคิดว่ามันดีแล้ว
“หมอมาแล้วลูก”
แม่เรียกให้ผมสนใจหมอที่เดินเข้ามา พี่แพท พี่เพลงที่นั่งข้างๆชวนผมคุยอยู่ก็ไปยืนข้างๆแม่
หมอก็ตรวจร่างกายผมไปเรื่อยๆ แล้วพูดขึ้น
“หมอไม่อยากให้คนไข้เครียดอีกนะครับ คนไข้เคยหายจากอาการพวกนี้แล้ว ถ้ามันกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก มันก็ยากนะครับที่จะหาย”
หมอพูดแล้วมองหน้าผม หมอคนตรงหน้าไม่ใช่หมอคนเดิมที่เคยดูแลอาการของผม แต่ทำไมเขาถึงรู้ประวัติของผม
“หมอรู้เรื่องของผมได้ยังไง”
คำถามของผมทำเอาหมอหนุ่มคนข้างหน้าคลี่ยิ้มออกมาแล้วดันแว่นที่จมูกขึ้น เราสองคนสบตากันตรงๆ หมอคนนี้หล่อเลยทีเดียว หล่อ ดูดี ดูสุขุม ใจเย็น และดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ
“หมอรับดูแลคนไข้ต่อจากคุณหมอเจ้าของไข้คนเดิมครับ”
“อ่อครับ”
ผมพยักหน้าแค่นั้น หมอเลยพูดถึงอาการของผมต่อ
“หมออยากให้คนไข้อยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลอีกสักคืนสองคืนนะครับ”
“ได้คะคุณหมอ ว่าแต่ลูกฉันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม”
แม่ผมตอบคุณหมอแทน แล้วถามถึงผม
“เรื่องนี้อยู่ที่คนไข้ครับ ถ้าคนไข้เลือกที่จะคิดถึงแต่อดีต อาการเก่าๆก็จะกลับขึ้นมาอีก หมออยากให้คนไข้เลิกคิดถึงเรื่องที่ทำให้ตัวเองเจ็บปวด”
“คะ ขอบคุณมากนะครับหมอ”
หมอยิ้มรับแล้วเดินออกจากห้องไป ผมหันมามองแม่แล้วยิ้มให้
“พีจะพยามไม่คิดถึงมันอีกครับ พีไม่อยากจะทรมานเหมือนในอตีดอีกแล้ว พี่ไม่อยากจะระแวง คลุ้มคลั่ง ไม่อยากจะปวดหัวเหมือนเดิมอีกแล้ว”
ผมพูดจบทุกคนยิ้มให้กำลังใจผม
“พีฟื้นแล้วเหรอครับ”
เสียงจากหน้าประตูทำให้ผมหันไปมอง เจอพี่เอ็มยืนถือดอกกุหลาบขาวช่อใหญ่อยู่
“มึงมาทำไม”
พี่แพทเดินเข้าไปหาพี่เอ็มเสียงแข็งทันที แม่เลยต้องปรามพี่แพท
“ตาแพทใจเย็นๆ นี่โรงพยาบาลอย่าเสียงดัง”
“มึงมาทำไมไอ้เอ็ม”
พี่แพทหันไปถามพี่เอ็มต่อ พี่เอ้มเลยเดินเข้ามาอย่างไม่สนใจท่าทีของพี่แพท พี่เอ้มเดินเอาดอกกุหลาบมาให้ผม
“พี่ดีใจนะที่พีฟื้นแล้ว”
พี่เอ็มพูดแล้วยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน อ่อนโยนแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ผมยิ้มให้นิดแล้วรับดอกกุหลาบมาไม่ตอบอะไร
“ไอ้เอ็มมึงกลับไปเถอะ มึงจะมาทำร้ายน้องกูอีกทำไม ผลที่มึงเห็นยังไม่สะใจพอใช่ไหม”
พี่เพลงพูดขึ้นเสียงแข็ง
“ใจเย็นๆสิเพลง แพท เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเอ็มนะลูก”
แม่พยายามขัดพี่เพลง แต่พี่เพลงก็พูดต่อ
“แม่ครับ แม่ก็น่าจะรู้ว่าเป็นเพราะไอ้เอ็มเข้ามาในชีวิตพีถึงทำให้พีคิดถึงอดีต เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากให้พีคิดมากอีก เราก็ต้องกันไม่ให้ไอ้เอ็มเข้าใกล้พีอีก”
“แม่...”
ไม่ทันที่แม่จะพูดต่อพี่เอ็มก็พูดขัดขึ้น
“แม่ไม่ต้องพูดอะไรหรอกครับ ถึงแม่จะห้าม หรือใครๆจะห้ามไม่ให้ผมยุ่งกับพี ผมก็ยังจะจีบพีต่อไป”
คำพูดของพี่เอ็มทำเอาพี่เพลง พี่แพท ยืนไม่ติดเลยทีเดียว
“เลิกยุ่งกับน้องกูซะ ถ้ามึงยังเห็นว่ากูเป็นเพื่อน”
คำพูดของพี่เพลงทำเอาทุกคนตกใจ พี่เอ็มหันไปมองหน้าพี่เพลงแล้วพูดขึ้น
“มึงจะตัดเพื่อนกับกูเลยเหรอ แค่กูอยากจะเป็นแฟนน้องมึง อยากจะดูแลน้องมึงจริงๆ”
“หึหึ ถ้าเป็นเมื่อก่อนกูจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ กูจะให้น้องกูตัดสินใจเอง แต่คราวนี้ไม่ได้แล้ววะ เพราะมันร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆถึงขนาดน้องกูช็อกเข้าโรงพยาบาล กูต้องเข้ามายุ่ง เพราะกูไม่อยากให้น้องกูเจ็บแบบเดิมอีกแล้ว”
“กูจริงใจกับน้องมึงนะ กูอยากจะดูแลน้องมึง ยิ่งกูเห็นแบบนี้กูยิ่งอยากจะดูแล”
“กูไม่เชื่อมึงวะ เสืออย่างมึงจะหยุดนะเหรอ”
พี่แพทแทรกขึ้นมาแล้วไปยืนข้างๆพี่เพลง
“ผมก็พิสูจน์ให้พี่เห็นแล้วนิครับ ตั้งแต่หลังจากที่ผมรู้ใจตัวเอง ผมก็ไม่ยุ่งกับใครอีก”
“เวลาแค่นี้มันไม่พอหรอกวะ กูไม่อยากให้น้องกูเจ็บอีกแล้ว”
ผมนั่งฟังทุกคนเถียงกันแล้วหลับตาก่อนจะพูดขึ้น
“พอสักทีเถอะ หยุดเถียงกันสักที”
ทุกคนเงียบแล้วหันมามองผม
“พี่เอ็ม ถือว่าพีขอ ขอให้เรื่องของเราสองคนจบได้ไหม อย่ามายุ่ง อย่ามาวุ่นวายอะไรกับพีอีก ถือว่าเห็นแก่พีเถอะ”
ผมพูดกับพี่เขาดีๆ ไม่ใส่อารมณ์
“ไม่พี ไม่..”
“มึงอออกไปจากห้องซะ ได้ยินแล้วใช่ไหมว่าน้องกูไม่อยากจะยุ่งกับมึงแล้ว”
พี่แพทพูดแล้วดึงแขนพี่เอ็มให้ออกจากห้องไป พี่เอ็มขืนตัวไว้ไม่อยอมออกจากห้อง
“ไม่ พี่จะยังเหมือนเดิม พี่จะพิสูจน์ให้พีเห็นว่าพี่อยากจะดูแลพี อยากจะลบรอยแผลในอดีตของพี”
พี่เอ้มมองผมด้วยสายตาอ่อนโยนจนผมรู้สึกบอกไม่ถูก ผมจ้องตาพี่เขาแล้วพูดขึ้น
“อย่ามาสงสารหรือสมเพชพีเลย”
ผมยิ้มให้ตัวเองอย่างอ่อนใจ ผมไม่อยากให้ใครมารู้สึกสงสารหรือสมเพชผมเลย
“พี่ไม่ได้สงสารหรืออะไรทั้งนั้น แต่พี่รู้สึกดีกับพี รู้สึกดีมากจริงๆ”
“เหรอครับ”
“แล้วอีกอย่างพี่ไม่สนใจอดีตของพีด้วย ไม่ว่าพีจะโดนอะไรมา พีจะเจออะไรมาพี่ก็ไม่สนใจ เพราะพี่ก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากมาย พี่ยอมเปิดใจ ไม่สนใจอดีตของพีแล้ว แล้วพีละจะยอมเปิดใจให้พี่ได้รึเปล่า ไม่สนใจอดีตของพี่ได้ไหม พี่รู้ว่าเมื่อก่อนพี่อาจจะเจ้าชู้ ดูเป็นคนไม่จริงใจกับใคร แต่พี่กล้าพูดว่าวันนี้พี่พร้อม พร้อมที่จะหยุดและพร้อมที่จะดูแลพีจริงๆ”
พี่เอ็มพูดแล้วสะบัดแขนออกจากการโนพี่แพทจับ มาจับมือผมแล้วมองผมด้วยสายตาอ้อนวอน
“หลังจากนี้พี่จะดูแลพี ให้พี่ปกป้องพีจากอดีตได้ไหม”
ผมพยายามยิ้มให้พี่เอ็มแล้วตอบ
“ไม่เป็นไรครับ พีมีพี่เพลง พี่แพทคอยดูแลอยู่แล้ว”
“แต่พี่...”
“พีขอตัว พีรู้สึกปวดหัว พี่เอ็มช่วยออกไปได้ไหม”
ผมพูดขัดขึ้น พี่เอ้มเลยมองหน้าผมอย่างอ่อนใจแล้วยอมปล่อยมือแล้วพูดขึ้น
“วันนี้พี่ยอมไปก่อนก็ได้ แต่พี่ไม่หยุด ไม่ท้อแค่นี้หรอก”
พี่เอ็มพูดจบผมก็นอนแล้วหันหลังให้พี่เขาทันที ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงปิดประตู
“แพทออกข้างนอกนะครับแม่”
“เพลงด้วยครับ”
พี่แพทกับพี่เพลงบอกแม่แล้วก็เดินออกไป ผมยังนอนอยู่ท่าเดิมไม่นานแม่ก็พูดขึ้นมา
“พีรู้ไหม พี่เอ็มมาหาพีทุกวันเลยนะ ซื้อดอกกุหลาบขาวมาให้ทุกวัน แต่ดอกกุหลาบก็โดนพี่แพทกับพี่เพลงทิ้งหมด”
ผมนอนฟังเงียบๆไม่พูดอะไร
“ที่แม่พูดขึ้นแม่ไม่ได้จะชอบพี่เอ็มหรอกนะ แม่ก็ไม่อยากให้พี่เขาใกล้พี ถ้าเขาทำให้พีคิดถึงอดีต แต่แม่แค่อยากจะบอกในสิ่งที่พีไม่รู้ และคิดว่าพีควรจะรู้”
แม่พูดจบก็ไปนั่งที่โซฟา
ผมเลยเหม่อมองไปข้างหน้าแล้วรู้สึกร้อนๆที่กระบอกตา รู้สึกอยากร้องไห้ ผมไม่รู้หรอกนะว่าผมร้องไห้ทำไม ผมรู้แค่ผมอยากจะร้อง ผมหลับตาปล่อยให้น้ำตาไหล
ตื่นมาแล้วต้องเจออะไรเหนื่อยๆแบบนี้ ไม่ตื่นมายังดีซะกว่า
______________________________________________________________
ตอนนี้อาจจะเขียนไม่ดีนัก เพราะคนเขียนดูทรายสีเพลิงไปด้วยก็ขออภัยนะครับ
ขอบคุณสำหรับทุกคนที่อ่านและทุกๆคอมเม้นต์ครับ