พี่ครับ…ได้สักครั้งจะตั้งใจเรียน
ตอนที่31
ผมยังนั่งมองสายเรียกเข้าจากพี่เอ็มที่โทรมาไม่หยุดเหมือนเดิม มองด้วยสายตาเหม่อเลย มองแล้วทอดมองตัวเองไปในกระจก ผมปลดกระดุมเสื้อตัวเองทีละเม็ดจนหมด ถอดเสื้อตัวเองออกแล้วเอียงมองสีข้างของตัวเอง ถ้าสังเกตสักนิดที่เอวจะเห็นรอยขีดที่ได้รับจากมีด ใช่ผมเคยโดนแทงมาก่อน แทงจากการต่อสู้ ต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด บาดแผลที่เห็นเป็นแผลที่เกิดขึ้น แม้แผลมันจะจางลงเยอะจนแทบจะมองไม่เห็น แต่แผลเป็นก็ยังเป็นแผลเป็นอยู่วันยังค่ำ มันไม่มีวันจะลบหายไปได้ เหมือนกับแผลเป็นที่กรีดอยู่ที่ใจผมเหมือนกัน
ผมสแหยะยิ้มให้กับรอยแผลนั้นแล้วคิดถึงอดีต จากอดีตที่หวานชื่นกลายเป็นรสขมที่ยิ่งกว่าบอระเพ็ดซะอีก
หลังจากวันนั้นผมก็คบกับพี่เอสมาเรื่อยๆ เราสองคนเสมอต้นเสมอปลายต่อกัน พี่เอสยังน่ารัก คอยรับคอยส่งผมเหมือนเดิม แต่บางทีเมื่อช่วงโปรโมชั่นหมดลง อะไรๆก็คอยกลับสู่สภาพเดิม สภาพที่พี่เขาเป็นก่อนจะมาคบกับผม
“คืนนี้พี่ไปเที่ยวนะพี พีคงไม่ได้คุยโทรศัพท์ด้วยนะ”
พี่เอสโทรมาหาผม ผมยืนกำโทรศัพท์แน่น
“แต่พี่เอสเพิ่งไปมาเองนะ พี่เอสเที่ยวบ่อยไปรึเปล่า”
“พี่รู้ครับ แต่พี่ขอนะ วันนี้วันเกิดเพื่อนพี่”
“วันเกิดเพื่อนพี่อีกแล้ว เพื่อนพี่นี่เกิดกันทุกวันเลยนะ”
ผมอดที่จะประชดไม่ได้จริงๆ
“ไม่เอาหน่าเด็กดี อย่างอแงนะ”
พี่เอสพูดเสียงอ้อน แค่ผมได้ยินเสียงอ้อนๆก็อดใจอ่อนไม่ได้
“ก็ได้ แต่พี่เอสอย่ากลับดึกนะ แล้วก็ไม่เมาด้วย”
“ครับผม พี่จะไม่เมา”
เราคุยกันอีกไม่นานก็วางสาย
ผมอดที่จะคิดมากไม่ได้จริงๆ แม้จะรู้นะว่าพี่เขาไม่เคยจะนอกใจตลอด6เดือนที่คบกันมา แต่บางทีก็อดที่จะคิดถึงกิตติศัพท์ของพี่เขาไม่ได้ ว่าเจ้าชู้ขนาดไหน
ก็อกๆ
ผมหันไปมองที่ประตูแล้วเดินไปเปิดประตู
“พี่แพท”
“เห็นหน้าพี่ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น”
ผมพยายามยิ้มให้พี่แพท
“เปล่านะ พีแค่ตกใจว่าพี่แพทอยู่บ้านด้วย”
“ช่วงนี้ปิดเทอมนี่ พี่ก็กลับบ้านสิ”
ผมยิ้มให้พี่แพทไม่ตอบอะไร พี่แพทเลยคุยต่อ
“แล้วนี่ไม่คิดจะชวนพี่เข้าห้องบ้างเหรอ”
“ครับ”
ผมอดที่จะเลี่ยงให้พี่แพทเข้ามาในห้องไม่ได้ มาถึงผมก็รีบเก็บรูปที่ผมถ่ายคู่กับพี่เอสทันที
“พีทำอะไร”
“ปะ เปล่าครับ”
ผมพยายามยิ้มให้พี่แพทที่มองผมอย่างสงสัย
“พีแปลกๆไปนะ มีอะไรปิดบังพี่รึเปล่า”
“เปล่าครับ”
ผมพูดจบก็เปิดคอมแล้วหันหลังให้ทันที ไม่อยากจะโดนซักไปมากกว่านี้อีก
“พี่คิดถึงพีนะ ช่วงที่ผ่านมาพี่ยุ่งกับเรื่องเรียนไปหน่อยพี่เลย”
ยังไม่ทันพี่แพทจะพูดจบผมก็ขัดขึ้นทันที
“เหรอครับ พีคิดว่าพี่เที่ยวจนไม่มีเวลาว่างจะกลับบ้านซะอีก”
ผมหันไปประชันหน้ากับพี่แพท
“นี่พีประชดพี่”
พี่แพทเริ่มหน้าขึ้นสี ผมเลยพูดต่อ
“เปล่านะ พีพูดเรื่องจริงทั้งนั้น”
“ถึงพี่จะเที่ยวแต่พี่ก็ดูแลตัวเองได้ พี่โตแล้ว”
“ครับ พี่โตแล้ว”
ผมพูดอย่างประชดประชันแล้วเดินออกจากห้องทันที
ผมไม่ชอบที่พี่แพทมาทำท่าทางจับผิดผม ผมไม่เคยยุ่งเรื่องอะไรของพี่แพท แล้วทำไมพี่แพทต้องมายุ่งอะไรกับเรื่องของผมด้วย
ผมเดินออกมาหน้าบ้าน คืนนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่ไปงานเลี้ยงกลับดึก พี่เพลงก็เล่นเกมส์อยู่บนห้อง ผมไม่อยากอยู่บ้าน ผมเลยตัดสินใจโทรหาพี่เอส
“ว่าไงพี”
“พี่เอส คืนนี้พีไปเที่ยวด้วยได้ไหม”
“ห๊ะ พีจะไปเที่ยวด้วย”
“ใช่ พีอยากไปเที่ยวด้วย”
“แต่พี พี่ว่าจะดีเหรอ”
“ทำไม ไม่อยากให้พีไปพี่เอสซ่อนใครไว้ใช่ไหม”
ผมอดที่จะหงุดหงิดใส่พี่เขาไม่ได้ ยิ่งพี่เขาทำแบบนี้ผมยิ่งกลัว กลัวว่าพี่เขาจะทำเหมือนพี่แอล
“เปล่า พีใจเย็นๆสิ โอเค เดี๋ยวพี่ไปรับ”
“พี่เอสมารับพีหน้าปากซอยนะ พีจะรอ”
ผมไปยืนรอพี่เอสที่หน้าปากซอยไม่นานพี่เอสก็มารับ ผมหันไปมองพี่เขาที่แต่งตัวซะหน่อย แบบนี้จะไม่ให้ผมหวงได้ยังไง
“พีคิดยังไงถึงอยากไปเที่ยว”
พี่เอสหันมาถามผม
“ก็พีอยากรู้ว่าเที่ยวแล้วสนุกตรงไหน พี่ถึงไปได้เกือบทุกวัน”
“ฮ่าๆ ประชดพี่อีก อยากไปดูก็ไป แต่อย่ามางอแงขอกลับละกัน”
พี่เอสหันมายิ้มให้ผม ผมเลยยิ้มกลับ
“ครืน ครืน”
ผมก้มลงดูโทรศัพท์ที่สั่นเข้ามาเรื่อยๆตลอดทาง ทั้งจากพี่เพลง และพี่แพท ผมเลยตัดสินใจกดปิดเครื่อง
“ใครโทรมาเหรอพี”
“คนโทรผิดนะครับ”
ผมยิ้มให้พี่เขา พี่เอาเลยพยักหน้าไม่พูดอะไร
ผมก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้กับการไปเที่ยวกลางคืนครั้งแรกของตัวเอง มาถึงที่ผับแห่งหนึ่ง เสียงดนตรีเสียงดังออกมาถึงข้างนอก ผมลงรถมากับพี่เอส เราสองคนจับมือกันตลอดทาง ก่อนจะเข้าพี่เอสควักเงินให้การ์ดไป500 การ์ดถึงยอมให้ผมเข้ามาในร้านได้ มาถึงที่โต๊ะเพื่อนพี่เอสนั่งกันอยู่เต็มโต๊ะ
“วู้วววว วันนี้ไอ้เอสพกเมียมาด้วยเว้ย”
เพื่อนพี่เอสแซวผมขึ้น ผมเลยยิ้มให้กับพี่ๆเขา
“วันนี้วันเกิดพี่ พี่ดีใจนะที่น้องพีมางานวันเกิดพี่ด้วย”
พี่นัทหันมาพูดกับผม ผมเลยยิ้มให้พี่นัทแล้วอวยพร
“แฮปปี้เบิดเดย์นะพี่นัท มีความสุขมากๆ”
“ขอบคุณครับผม”
คืนนั้นเป็นคืนแรกที่ผมออกมาเที่ยว ผมรู้สึกสนุกไม่น้อย ทั้งเต้น ทั้งดื่มเหล้าครั้งแรก พี่เอสอยู่ข้างๆผมตลอดเวลา คอยโอบเอวผมไว้ เราสองคนเสียดสีกัน หอมแก้มกัน จูบกันอย่างไม่อายใคร เราไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวกันขนาดนี้มาก่อน มาสุดก็แค่จูบกันเบาๆ แต่ครั้งนี้เสียดสี ลูบไล้ ซุกไซร้ จูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม
“กูว่าถ้ามึงจะฟัดน้องพีขนาดนี้พากลับไปคอนโดเถอะ”
เพื่อนพี่เอสอดจะแซวเราสองคนไม่ได้
“กูว่าอีกไม่นานก็กลับละ”
พี่เอสพูดแล้วมองตาผมอย่างหวานเชื่อมเล่นเอาผมเขิน ผมเลยเข้าไปซุกอกพี่เอสแก้เขิน ไม่รู้ว่าเพราะเมา หรือบรรยากาศ หรืออะไรที่ทำให้ผมกล้าทำขนาดนั้น
“เออ โชคดี”
เพื่อนพี่เอสอวยพรเราสองคน ผมกับพี่เอสนั่งอีกไม่นานก็ตัดสินใจกลับ
“อื้อออ อ่าห์ จ๊วบบบบ”
มาถึงห้องพี่เอสเราสองคนก็เข้าหากัน จูบกันอย่างดูดดื่ม
“พีพร้อมแล้วใช่ไหม ถ้าพียังไม่พร้อมพี่ไม่บังคับก็ได้นะ”
พี่เอสผลอออกมามองหน้าผม เราสองคนจ้องตากัน ผมตัดสินใจกดจูบไปที่ริมฝีปากพี่เอาเบาๆแล้วพูดว่า
“พีพร้อมแล้ว”
ผมพร้อมแล้วที่จะเป็นของพี่เขาทั้งกายและใจ
พี่เอสได้ยินอย่างนั้นก็บดจูบมาอย่างเร่าร้อน พี่เอสค่อยๆเปลื้องเสื้อผ้าผมทีละชิ้นจนหมด รวมถึงของพี่เขาด้วยเหมือนกัน เราสองคนบดเบียดร่างเปลือยเปล่ากันอย่างเร่าร้อน ร่างกายพี่เขาช่างสมบูรณ์แบบ หุ่นดีแบบคนออกกำลังกาย แผ่นอกกว้าง กล้ามแขนสวยงาม กล้ามหน้าท้องพอดีไม่มากจากเกินไป พอเหมาะกับรูปร่างและหน้าหล่อๆ
“พีเซ็กซี่มากเลยรู้ไหม”
“พี่เอสก็เหมือนกัน”
เราสองคนไม่พูดอะไรต่อหลังจากนั้น พี่เอสซุกไซร้ไปทั่วตามร่างกายของผม ทิ้งร่องรอยสีกุหลาบไว้ทั่วร่าง พี่เขาลงลิ้นให้กับช่องทางของผมจนผมเสียวเกินจะบรรยาย พี่เขาใส่ถุงยางแล้วก็เอาท่อนลำที่ขนาดไม่น้อยเลยสอดใส่เขามา ผมรู้สึกเจ็บนิดๆ แต่พี่เขาเก่งที่ทำให้ผมผ่อนคลาย แล้วหลังจากนั้นพี่เขาก็เร่งเครื่องจนผมเสียวไปหมด
“ซี๊ดดดดด อ่าห์ อื้ออออออออออออออออ”
“อื้มมมมม อ่าห์ ”
เสียงครางของเราสองคนประสานกัน ผมได้แต่ปรือตามองพี่เขา พี่เอสเห็นอย่างนั้นจึงก้มลงมาจูบผมอย่างเร่าร้อน
แล้วคืนนั้นเราสองคนก็แทบจะไม่ได้นอนกันเลยทีเดียว
หลังจากเราสองคนมีอะไรกัน เราสองคนก็รักกันหวานชื่นยิ่งกว่าเดิม ผมมีอะไรกับพี่เอสบ่อยมาก ตอนนี้ผมเรียนม.4แล้ว ผมกับพี่เอสก็คบกันมาเกือบปีแล้วเหมือนกัน พี่เอสก็เข้ามหาลัยแล้ว พอเริ่มเข้ามหาลัยแรกๆก็ดี แต่หลังๆนี่สิ เริ่มมีอะไรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
“ช่วงนี้พี่รับน้องเหนื่อยมากเลย”
พี่เอสโทรหาผมในวันหนึ่ง ผมดีใจนะที่พี่เขาโทรหาผมทุกวัน แต่อาทิตย์นี่เราแทบจะไม่เจอกันเลย
“ครับ พี่เอสไม่ว่างเลยเหรอ”
“ใช่ครับ พี่ไม่ค่อยว่างเลย”
“ให้พีไปหาไหม”
“เอ่อ ไม่ต้องครับ ไว้พี่ว่างพี่ไปหาเองนะคนดี”
ผมมักจะใจอ่อนกับน้ำเสียงแบบนี้เสมอ แต่ประสบการณ์กับพี่แอลทำให้ผมไม่ไว้ใจนัก
“ครับ”
ผมตอบแค่นั้นไม่พูดอะไร พี่เอสไปเรียนมหาลัยใจกลางเองเลยซื้อคอนโดไว้ใกล้ๆมหาลัย นานๆจะกลับบ้าน บางครั้งพี่เขาก็ให้ผมไปหาที่คอนโดได้ แต่ตอนนี้ทำไม ผมยืนกำโทรศัพท์แน่น แล้วลงมาข้างล่างเจอพี่แพทนั่งกับเพื่อนพี่แพทอยู่
“พี จะไปไหน”
“พีไปทำธุระแปปนึงเดี๋ยวมา”
ผมพูดแค่นั้นแล้วรีบออกมาโบกแท็กซี่ไปคอนโดพี่เอสทันที ระหว่างทางผมหวั่นมาก กำมือตัวเองแน่น กลัว กลัวเหลือเกินว่าจะซ้ำรอยเดิมที่ผ่านมา ผมพยายามควบคุมน้ำตาไม่ให้ไหล พยายามควบคุมเมื่อตัวเองไม่ให้สั่น
เมื่อถึงคอนโดผมก็นั่งเนียนๆรอสักพัก เมื่อจะมีคนเข้าผมก็เดินไปพร้อมกับเขาเพราะผมไม่มีคีย์การ์ด ระหว่างลิฟต์เคลื่อนตัวไปที่ชั้นที่พี่เอสอยู่ผมก็กำโทรศัพท์แน่น
“กรี๊ง !!”
ผมยืนกดกริ่งหน้าห้องแล้วปิดตาแมวไว้
“ใครวะ”
ผมได้ยินเสียสบถหลังประตู แปลว่าพี่เขาอยู่ห้อง ผมเลยกดซ้ำๆจนพี่เขาทนม่ไหวเปิดจนได้
“พี !!”
พี่เอสตกใจหน้าซีดเมื่อเห็นผม พยายามจะดันผมออกแต่ผมกระแทกด้วยความโมโห สภาพพี่เขาเปลือยอกใส่กางเกงนอนขายาวตัวเดียว ผมเดินเข้ามามองหาไปทั่ว ผมเดินเข้าไปในห้องนอนก็เจอสิ่งที่ไม่คาดคิด ผมเจอผู้หญิงคนนึงนอนใส่เปลือยกายอยู่ใต้ผ้าห่ม ผมหันไปมองหน้าพี่เอสทันที
“พี่เอส !!”
ผมเรียกชื่อพี่เอสเสียงดัง พยายามพยุงตัวเองให้ยืนไหว
“พีใจเย็นๆนะคือพี่”
“พี่อะไร พี่นอกใจพี พี่ไม่ให้พีมาหา เพราะพี่มัวแต่กกอยู่กับอีนี้ใช่ไหม”
ผมตวาดเสียงดังแล้วเดินเข้าไปตบหน้าพี่เอส
“เพี๊ยะ !!”
“นี่แหล่ะนะที่เขาว่าลมปากผู้ชาย เคยพูดอะไรไว้จำได้ไหม แล้ววันี้ทำไมเป็นแบบนี้”
ผมพูดเสียงดังแล้วปาดน้ำตาที่กำลังจะไหล ผมรู้สึกหมดแรงจนต้องพิงกับตู้เสื้อผ้าไว้
“นี่เหรอแฟนน้องเอส ก็แค่เด็กกะโหลกกะลา”
ผู้หญิงคนนั้นหันมามองผมแล้วสะแหยะยิ้ม ผมเลยซัดขวดน้ำหอมใส้หน้า
“ก็ดีกว่ามึงแหล่ะอีกระหรี่”
“กรี๊ดดดดดดดดด อีเด็กบ้า”
ผู้หญิงคนนั้นหยิบเสื้อผ้าข้างเตียงมาใส่จะเดินเข้ามาตบผมแต่พี่เอสเหวี่ยงเธออกไปก่อน
“พี่กุ๊กกลับไปก่อน”
พี่เอสพูดเสียงเฉียบ ผมเลยเดินเข้าไปหาเธอแล้วตบหน้าเธอซะเอง
“เพี๊ยะ !!”
ผมตบอย่างแรงให้สมกับความเกลียด
“กรี๊ดดดดดดด ปล่อยพี่นะเอส ฉันจะตบแก”
ผมได้แต่ยืนกอดอกยิ้มมุมปากใส่ผู้หญิงคนนั้น พี่เอสเลยเหวี่ยงเธออกไปทางประตู
“ผมบอกให้พี่ออกไปก่อนไง”
“แต่พี่เป็นเมียเอสนะ”
“เมียผมคือพี ส่วนพี่ก็แค่แก้ขัด”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด ไอ้ผู้ชายเฮงซวย”
พี่กุ๊กได้แต่ยืนกรี๊ดไม่กล้าทำอะไร ผมเลยพูดเอง
“พี่เอส เราจบกันแค่นี้เถอะ”
ผมพูดจบพี่เอสหันมามองผมตาเขียวแล้วจับแขนผมแน่น
“พี่ไม่เลิก พี่เลือกพีอยู่แล้ว หญิงพวกนั้นก็แค่แก้ขัด”
“แต่พี่ไม่ใช่ของตายของใคร”
“ในเมื่อมันไม่เอาแล้วก็มาคบกับพี่เถอะเอส”
พี่กุ๊กสอดเข้ามา พี่เอสเลยหันไปด่า
“ผมบอกให้ออกไป หรือจะให้เอารปภมาลาก”
พี่กุ๊กมองเราสองคนอย่างหัวเสียแต่ยอมออกไปโดยดี
ผมสะบัดมือพี่เอสออกแต่ก็ไม่หลุดพี่เอสจับไว้แน่น
“พี่ไม่เลิกพีจำไว้ พีเป็นของพี่”
“หยุด พอกันสักที พีเกลียดพี่ พี่นอกใจพี พี่ทำร้ายจิตใจพี พี่โกหกพี พี่ลืมคำพูดที่เคยพูดไว้กับพี”
ผมพูดเสียงสั่งน้ำตาคลอ เหนื่อยแล้ว พอกันทีกับความรัก ทำไมมันเจ็บแบบนี้ เจ็บเหลือเกิน คนที่ไม่คิดว่าจะนอกใจยังทำกันได้ คนที่คิดว่าจะเป็นคนสุดท้ายยังทำกันลงคอ
“พี่ไม่เคยลืม พี่ยังรักพีเหมือนเดิม พีคือคนสุดท้ายของพี่ คนอื่นพี่ก็แค่เล่นๆ ไม่จริงจัง ไม่มีใครแทนที่พีได้”
พี่เอสพูดอย่างนิ่ง แต่ผมรวบรวมแรงผลักพี่เขาออกจากตัว
“หยุดเห็นแก้ตัวสักที ถ้าพีทำแบบพี่บ้างจะยอมไหม ห้ะ!!”
“พีอย่าแม้แต่จะคิด”
พี่เอสพูดเสียงเข้มมองผมตาเขียว
“เราจบกันแค่นี้ พอกันที”
ผมพูดแล้วจะเดินออกจากห้อง แต่กลับโดนพี่เอสกระชากจากด้านหลังลงบนเตียงซะก่อน
“ตุ๊บ”
“อย่าพูดคำว่าเลิก เพราะพี่ไม่มีวันเลิก”
“ไอ้เลว”
ผมพูดจบพี่เอสก็จูบปิดปาดทันที ผมพยายามดิ้นพยายามขัดขืนแต่ก็ไม่มีแรงสู้ไหว จืตใจผมแหลกไปหมดแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ
และคืนนั้นก็เป็นครั้งแรกที่ผมไม่ให้ความร่วมมือ เป็นครั้งแรกที่พี่เขารุนแรงจนเจ็บไปหมด เป็นครั้งแรกที่ผมโดนข่มขืนจากคนที่ผมรัก
และเป็นครั้งแรกที่ผมโดนอัดคลิปไว้
หลังจากวันนั้นผมกลายเป็นคนนิ่งเงียบ ไม่ค่อยพูดกับใคร จากเด็กที่สดใสกลายเป็บชอบเหม่อลอย กลับบ้านมาก็หมกตัวเองอยู่แต่ในห้อง พี่เอสจะขู่ผมทุกครั้งถ้าผมไม่สนใจเขา ไม่รับโทรศัพท์ ไม่มาหา เขาจะขู่ว่าจะปล่อยคลิปในคืนนั้น
“พีมีอะไรคุยกับแม่ได้นะลูก”
แม่นั่งลงข้างๆผมขณะที่ผมเอาแต่นั่งเหม่ออยู่แต่ในห้อง
“แม่ครับ พีเหนื่อย”
ผมพูดแล้วร้องไห้ออกมา กอดแม่เหมือนเด็ก ร้องไห้ออกมาให้หมด
“พีมีอะไรบอกแม่ได้ไหมครับ”
แม่พูดเสียงอ่อนโยนแล้วลูบหัวผมเบาๆ
“พีกลัว”
ผมพูดเสียงสั่น ผมกลัวพี่เอสจะปล่อยคลิป ถ้าปล่อยอนาคตผมจบแน่ เพื่อนอาจจะไม่คบ พ่อแม่ต้องอับอายเพราะมีลูกอย่างผม
“อะไรที่ทำให้พีกลัวบอกแม่ได้ไหม”
ผมได้แต่เงียบไม่พูดอะไรแล้วร้องไห้จนหลับไป
ผมตื่นมาอีกทีในตอนสายๆของวัน พี่เอสโทรมาหาให้ผมไปหาเขาเหมือนเดิม
“พีปวดหัว พีไม่ไปได้ไหมพี่เอส”
ผมรู้สึกหนักๆหัวอาจจะเพราะร้องไห้มากเกินไป
“อย่ามาโกหกพี่ หาเรื่องจะไปจากพี่ใช่ไหม มาหาพี่เดี๋ยวนี้”
“พี่เอส พีไม่สบายจริงๆนะ”
“พีเลือกเอาเองแล้วกัน ถ้าไม่มาหาพี่ภายใน15นาที คลิปพีว่อนเน็ตแน่”
ผมกำโทรศัพท์แน่นเมื่อพี่เอสพูดจบ ผมกดตัดสายแล้วปาโทรศัพท์ลงบนที่นอน
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก”
ผมได้แต่ร้องระบายออกมา เครียด เครียด เครียดหัวจะระเบิดหมดแล้ว
สุดท้ายผมก็ทำอะไรไม่ได้ต้องไปหาพี่เขาอยู่ดี ไปถึงที่คอนโดก็เจอพี่เอสนั่งอยู่กับเพื่อนพี่เขา ในนั้นมีพี่นัทด้วย บางคนก็เป็นเพื่อนตอนมหาลัย
“พี่เอสมีอะไรรึเปล่า”
ผมพูดเสียงเบาๆ รู้สึกปวดหัวไม่น้อย อีกอย่างผมไม่อยากจะเข้าใกล้พี่เอสมาก เพราะแค่เจอหน้าภาพที่พี่เขารุนแรง ภาพที่พี่เขาข่มขืนผมก็เข้ามาในหัว
“มานั่งนี่มา”
พี่เอสตบลงที่ตักตัวเอง ผมขัดขินจะไม่นั่งแต่พี่เขามองมดุๆจนผมต้องไปนั่งบนตักพี่เขา ผมตัวลั่นเล็กน้อยจนพี่เขาต้องพูด
“จะสั่นทำไม มากกว่านี้ก็เคยมาแล้วทั้งนั้น”
“ฮ่าๆ”
พี่เอสพูดจบเพื่อนพี่เขาก็หัวเราะลั่น ผมรู้อายจนทนไม่ไหว
“มึงทำอะไรน้องพีวะ น้องพีดูแปลกๆ”
พี่นัททักขึ้นมา พี่เอสมองหน้าผมก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนยิ้มเจ้าเล่ห์
“ทำในสิ่งที่เด็กดื้อคววรโดนไง”
พี่เอสพูดจบแล้วเป่าลมหายใจที่หูผม ทำให้ผมขนลุกเกรียว ไม่ใช่เสียวซ่าน แต่รู้สึกขยะแขยง
พี่ๆเขาก็นั่งพูดอะไรกันไปเรื่อยผมไม่ได้ฟังนัก เพรารู้สึกปวดหัว อยู่ดีดีเพื่อนพี่เขาคนนึงหน้าตาหล่อมากกก หล่อแบบเจ้าเล่ห์ แบดบอย ดูท่าทางเอาเรื่องไม่น้อยทีเดียว
“มึงจำเรื่องที่มึงติดกูได้ไหมไอ้เอส มึงติดพนันบอลโต๊ะกูอยู่10ล้านอะ”
“จำได้ดิไอ้ทาม รอหน่อยกูขอแม่กูอยู่”
“มึงเอาเมียมึงมาให้กูเอาหน่อยดิ ดอกทั้งหมดกูยกให้เลย เหลือแค่ต้น10ล้าน”
พี่ทามพูดจบผมตาโตมองหน้าพี่เอสทันที พี่เอสหันมามองหน้าผมแบบหนักใจก่อนตอบพี่ทามไป
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวอีก2วันกูให้เอง ครบทั้งต้นทั้งดอก”
“แต่กูจะเอาดอกตอนนี้”
พี่ทามเริ่มตีรวน มองหน้าพี่เอสแบบหาเรื่อง
“ดอกมึงเท่าไหร่วะ”
“5ล้าน มึงมีให้กูตอนนี้ไหมละ”
พี่เอสนิ่งเงียบไป ตอนนี้นิ่งเงียบไปทั้งวงเลย ผมกำมือแน่น พี่เอาจะเอาไงนะ
“กูมีไม่ถึงวะ สัก2ล้านก่อนได้ไหม”
พี่เอสพยายามไกล่เกลี่ย ผมเลยจับมือพี่เอสแล้วพูดขึ้นเบาๆ
“ไม่นะพี่เอส สงสารพีนะ”
พี่เอสมองหน้าผมอย่างหนักใจ พี่ทามที่เห็นปฏิกิริยาเราสองคนก็พูดขึ้น
“ไม่เอาวะ กูจะเอา5ล้าน ตอนนี้”
พี่ทามพูดแล้วมองผมหัวจรดปลายเท้า ทำเอาผมขนลุกกับสายตาพี่เขา
“ไอ้ทาม กูขอ”
“กูก็ขอเหมือนกัน ขอเมียมึงคืนเดียวเอง”
พี่ทามพูดจบเดินเข้ามาแล้วกระชากผมเข้าไปหา พี่เอสได้แต่มองหวั่นๆ
“มึงจะยอมดีดีไหม หรือจะให้กูต้องให้คนของกูไปจัดการธุรกิจบ้านมึงก่อน”
พี่ทามพูดจบพี่เอสมองหน้าผมอย่างอ่อนแรง แล้วก็พยักหน้า
“กูยอม”
พี่เอสพูดจบพี่นัทจะลุกขึ้นยืนแต่โดนเพื่อนคนอื่นห้ามไว้
“ก็ดี ไปเถอะน้องหนู”
พี่ทามกระชากผมเข้าไปในห้องแต่ผมฝืนตัวไว้
“อย่าเล่นตัวนักนะมึง”
ผมพยายามยื้อตัวไว้เอื้อมไปหยิบแจกันใกล้มือแล้วฟาดเข้าไปที่หัวพี่ทาม
“เพล้ง !!”
“เหี้ย มึงไม่ยอมใช้ไหมห้ะ”
พี่ทามหันมามองผมตาเขียว ผมตัวสั่นเดินหนี ผมกลัวพี่เขา
“เพี๊ยะ !!”
พี่ทามตบผมเต็มแรงจนล้มลงไป รู้สึกถึงเลือดปาก ผมหันไปมองพี่เอสที่เบื้อนหน้าหนีอย่างเจ็บใจแล้วหยีบมีดปอกผลไม้มา
“อย่าเข้ามานะ กูแทงมึงแน่”
พี่ทามที่มองผมแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“พยศแบบนี้สิกูชอบ ถึงใจดี”
ระหว่างที่ผมเผลอ พี่ทามก็มาจับมือผมไว้เราสงอคนยื้อกันไปมาจนมีดบังเอิญปาดเข้าที่สีข้างใกล้เอวของผม
“ซี๊ดดดดดดด”
ผมซี๊ดปากด้วยความเจ็บปวดแล้วล้มลง พี่ทามเลยทิ้งมีดแล้วจิกหัวผมขึ้นมามอง
“มึงทำตัวมึงเองนะ”
“กูว่าพอเถอะทาม”
เพื่อนพี่เขาในห้องพยายามห้าม พี่ทามเลยหันไปมองตาดุ
“หุบปากมึงไป ชีวิตกูมีแต่คนเข้าหา อีนี้เป็นใครกล้าเอาแจกันทุบหัวกู อีนี้เป็นใครขู่จะแทงกู ทำไมกูจะเอามึงไม่ได้”
ผมร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อาย ปล่อยให้น้ำตาไหลแล้วฟุบไปกับพื้น
“ใครจะเอาเด็กนี้กับกูมาเลย ตอนแรกว่าจะเอามันคนเดียว แต่ตอนนี้กูเปลี่ยนใจละ ขาวนักใช่ไหม สวยนักใช่ไหม เอ็กซ์นักใช่ไหม ใครสนใจบ้าง”
เพื่อนพี่เขาเริ่มสนใจ ผมกวาดสายตามองทุกคน พี่ทามเลยเข้ามาฉีกเสื้อผมออก
“ว่าไงสนใจไหมมึง”
ผมยิ่งคู้ตัวเองมากกว่าเดิม รู้สึกหนาวไปหมด หนาวกาย หนาวใจไปหมดแล้ว
“แต่น้องเขาเป็นแผลอยู่”
“แผลแค่นี้ไม่ตาย กูไม่สน กูจะเอา”
พี่ทามพูดจบ เพื่อนพี่เขาเริ่มมองผมอย่างหื่นกระหาย พี่ทามเลยอุ้มผมขึ้นแล้วทิ้งตัวผมลงบนเตีงอย่างแรง
“โอ๊ะ !!”
พี่ทามเอาผ้าก็อตมาซับเลือดตัวเองที่หัวแล้วมาติดให้ที่เอวผม
“นี่กูปราณีมึงละนะ”
พี่ทามพูดจบแล้วบีบหน้าผมอย่างแรง ผมได้มองพี่เขาน้ำตาไหล
“ร้องไปเลย ร้องให้ตายก็ไม่มีใครช่วยมึงได้”
ผมหันไปมองพี่เอสที่เข้ามาให้ห้อง พี่เอสมองผมแล้วเบื้อนหน้านี
“อย่านะ ไหนพี่เอสบอกว่ารักพีคนเดียวไง”
“เอาหน่าพี รักพี่ก็ยอมเพื่อนๆพี่มันไปเหอะ ไม่กี่คนเอง”
คำพูดของพี่เอสเหมือนฟ้าผ่ากลางใจ ผมเลยร้องไห้โฮออกมา
“ฮือออออออออ ฮืออออออออออออ อึก อึก”
“หุบปาก ถ้าไม่เงียบกูจะฆ่ามึงะ”
พี่ทามพูดจบก็กระชากเสื้อผ้าผมออก ได้แต่ตอนร้องไห้ไปเงียบๆ ไม่มีเสียงใดใด พยายามหลับตาไม่รับรู้อะไร
“แม่งน่าเอาฉิบ”
“กูมองมานานละขอหน่อยเถอะ”
“เอ็กซ์ฉิบหาย ขนาดร้องไห้ยังน่าเอา”
ผมไม่สนใจอะไรอีกแล้วคำพูดของใครต่อใคร
ผมหลับตาปล่อยให้ทุกอย่างไปเป็นตามที่พวกชั่วทั้งหลายต้องการ มันกระแทก กัด ดูดดึง กระชากรุนแรงขนาดไหนผมก็ไม่เถียง ไม่ร้อง ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ปล่อยให้ทุกอย่างด้านชา
แหลกหมดแล้วจิตใจผม
ร่างกายผม
ความเป็นคน
ศักดิ์ศรี
ไม่มีอะไรเหลือแล้ว
เหนื่อยแล้ว
เมื่อไหร่จะผ่านคืนนี้ไปสักที
________________________________________________________________________
ตอนนี้เป็นตอนที่เขียนยากที่สุดและยาวที่สุด พยายามจะไม่เข่นอารมณ์มากเพราะกลัวจะหดหู่ไป
เราจะไม่พูดอะไรมาก แต่กลังจากนี้การแก้แค้นจะเริ่มขึ้นแล้ว
มีอะไรติได้เลยนะครับ
ขอบคุณสำหรับทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ