บทที่ 111 Thyrotoxicosis
“ช่วยด้วยย”
เสียงของชายผู้หนึ่งดังมาอย่างแผ่วอ่อนจากทิศทางที่ไม่ห่างไปจากเฟี๊ยตมากนัก เขารีบสาวเท้าตามร่องรอยของเสียงนั่นไปอย่างรวดเร็ว และทันทีที่เขาหักเลี้ยวโค้งจากหินใหญ่ก้อนหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางทางเดินในป่าทิวสนแห่งนั้นได้ สายตาของเขาก็ปะทะเข้ากับชายชราคนหนึ่งที่มีอากาศอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาภายใต้กรอบตาที่โทรมลึกนั่นล่องลอย ชายผู้นั้นดูจะครองสติไว้ได้ยากเต็มทน
“ช่วยด้วยย”
เสียงร้องขอความช่วยเหลือที่แผ่วเบาลงไปอีกเร่งให้เขาก้าวเท้าเข้าไปหาชายคนนั้นขึ้นไปอีก เพียงชั่วเดียวที่เขาตรงเข้าประคองร่างนั่น เขาก็รู้สึกถึงความผิดปรกติได้ทันที
นิ้วชี้และนิ้วกลางของเฟี๊ยตเลื่อนไปแตะที่บริเวณข้อมือของคนป่วยตามสันชาตญาน ก่อนจะพบว่ามันเต้นเร็วเหลือเกิน ขัดกับความน่าจะเป็นที่คนอายุขนาดนี้ควรจะมี ระดับชีพจรนั่นทำให้เฟี๊ยตหวั่นใจไม่ใช่น้อย ชายตรงหน้านี้ดู “ป่วย” มากกว่าจะ “เจ็บ” มากนัก เจ้าของผมสีดอกเลานี่ดูจะกำลังเผชิญกับปัญหาที่แก้กันไม่ได้ง่ายๆ เลย
นอกจากชีพจรที่เฟี๊ยตตรวจพบแล้ว การสัมผัสลงบนตัวคนป่วยคนนั้นก็บอกอะไรหลายอย่างกับตัวเขา อย่างแรกคือ ร่างกายของคนตรงหน้านี่ร้อนกว่าปรกติจนรู้สึกได้ จะบอกว่าเกิดจากอากาศในยามสายนี่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ อากาศในเวลานี้ติดจะหนาวอยู่หน่อยๆ เสียด้วยซ้ำ ในขณะที่อีกสิ่งที่เขาพบอย่างไม่ได้ตั้งใจคือ เหงื่อ ชายชราคนนี้มีเหงื่อออกมากกว่าปรกติจริงๆ
เฟี๊ยตมองพินิจลงไปในดวงตาที่กำลังเหม่อลอยภายใต้กรอบเบ้าตาที่โปนลึกนั่น ระบบความคิดประมวลผลของเขาแล่นไปอย่างรวดเร็ว ทุกวินาทีในตอนนี้หมายถึงชีวิตอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย
“ลุงมีโรคประจำตัวใช่ไหม”
เฟี๊ยตเอ่ยถามออกไป ความจริงเขาพอจะรู้แล้วว่าอาการแสดงที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นผลพวงมาจากโรคอะไร หากแต่เขาต้องการรู้ว่าคนตรงหน้านี้รู้ดีเกี่ยวกับอาการของตนมากแค่ไหน
“ไทรอยด์”
คำตอบจากชายชราสั้นๆ นั่นตรงกับข้อสันนิษฐานในใจของเขาอย่างไม่มีผิดเพี้ยน อย่างน้อย คนตรงหน้านี่ก็น่าจะรู้จักความเจ็บป่วยของตัวเองดี มิหนำซ้ำอาจจะรู้วิธีแก้ที่ตรงจุดอีกด้วย
“รอเดี๋ยวนะลุง เดี๋ยวใช้การ์ดรักษาให้”
แน่นอนว่าโรคไทรอยด์นี่ดูจะเกินความสามารถของสมุนไพรของเขาไปพอสมควร การเลือกใช้การ์ดที่รักษาสารพัดโรคของเกมดูจะมีประโยชน์มากกว่าในสถานการณ์นี้
“ใช้ไม่ได้หรอก โรคนี้ไม่ได้อยู่ในระบบของเกม มันไม่สามารถรักษาได้ เพราะมันไม่ได้ถูกติดตั้งไว้ในคำสั่งตั้งแต่ต้น ยกเว้นแต่เจ้าจะมีไพ่สูงสุดที่เอาไว้รักษาโรคได้ทุกชนิด”
ชายชราเอ่ยขัดขึ้นมาอย่างตะกุกตะกัก เขาใช้ความพยายามอย่างมากในการเรียบเรียงคำพูดให้เป็นประโยค มือที่เต็มไปด้วยริ้วรอยนั่นกุมหน้าอกข้างซ้ายไว้ตลอดเวลา หัวใจในอกนั่นกำลังแผลงฤทธิ์อย่างหนักแน่นอน ร่างกายของชายชรานั่นกำลังจะฆ่าตัวเขาเองทั้งเป็น
“ลุงมียาไหม ยาเฉพาะโรคของลุง”
เฟี๊ยตเอ่ยถามอย่างรีบร้อน อาการของคนตรงหน้าดูหนักหนาอยู่ไม่ใช่น้อย เขากำลังพยายามค้นหาวิธีที่ดีที่สุด แต่ท่าทางว่ามันจะหาได้ไม่ง่ายเลย
“เพื่อนข้ากำลังไปซื้ออยู่ ร้านขายยาที่มียาที่ข้าต้องการอยู่ไกลมาก ข้าเดาว่าไม่น่าจะกลับมาทัน”
“เอาไงดีลุง ผมไม่รู้จะช่วยลุงยังไงดี ยาผมก็ไม่มี” เฟี๊ยตเอ่ยถามอย่างจนปัญญา
“เจ้าเคยพบกับเกมมาสเตอร์ไหม ข้าจำเป็นต้องรีบออกจากเกมกะทันหัน อาการของข้ากำเริบแบบนี้ แปลว่าตัวข้าในชีวิตจริงนั้นก็คงอาการกำเริบอยู่ด้วย ถ้าข้าไม่รีบตื่น มันอาจจะสายเกินไป”
ชายชราพูดออกมาด้วยเนื้อความที่ไม่ค่อยดีนัก ประโยคเหล่านั้นบอกเป็นนัยๆ ว่าความเจ็บป่วยตรงหน้านี้ไม่ได้หมายความแค่ในความฝันเสียแล้ว หากแต่มันกำลังเกี่ยวโยงกับความจริงอยู่ด้วย ถ้าเขาช่วยคนตรงหน้านี้ไม่ได้ มันไม่ได้หมายความถึงการเริ่มเกมใหม่อีกแล้ว มันคือความตายของจริง!
“ลุงเคยกินไอโอไดด์หรือเปล่า” เฟี๊ยตถามคำถามถึงธาตุชนิดหนึ่งที่สามารถช่วยรักษาอาการกำเริบของโรคไทรอยด์ได้ หลังจากที่ได้แต่ส่ายหัวเป็นคำตอบของคำถามของชายชราคนนั้น
“เคย เจ้ามีหรอ ใช้ไอโอไดด์ก็ได้ ข้าเคยใช้” เสียงนั่นมีความหวังขึ้นอย่างรู้สึกได้ มือที่เหี่ยวย่นนั่นเอื้อมมากุมมือเขาไว้อย่างยินดี
“แปบนะลุง ผมมีไพ่อยู่ใบหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าใช้ได้เปล่า”
เฟี๊ยตค่อยประคองชายชราคนนั้นให้พิงที่ต้นไม้ใหญ่อีกครั้ง ก่อนจะรื้อไพ่ที่อยู่ในสมุดของตนออกมา เขาเคยได้รับไพ่จากธันมาใบหนึ่ง เพราะตอนแรกตั้งใจจะใช้เปลี่ยนเป็นสารหนูเพื่อใช้เป็นยาพิษในศึกสุดท้ายของการประลองที่ผ่านมา แต่ด้วยข้อจำกัดของจำนวนการ์ดก็ทำให้เขาไม่สามารถใช้มันได้ การ์ดใบนั้นจึงยังคงติดอยู่ในสมุดของเขาตลอดมาจนถึงบัดนี้ เฟี๊ยตไล่หนังสือไปแต่ละหน้าอย่างรวดเร็ว ในใจก็ภาวนาให้มันสามารถประยุกต์ในสถานการณ์คับขันตรงหน้านี้ได้ด้วยเถิด
“Mystery Element RELEASE!”
“Iodide!”
เฟี๊ยตเรียกสั่งใช้การ์ดอย่างรวดเร็วหลังจากที่ค้นเจอไพ่ใบดังกล่าว พร้อมกับสั่งให้มันกลายสภาพเป็นสารที่ต้องการ ไพ่ใบดังกล่าวระเบิดขึ้นน้อยๆ ก่อนจะกลายสภาพเป็นขวดรูปชมพู่ขวดหนึ่งที่ภายในบรรจุของเหลวสีม่วงเข้มไว้อยู่เกือบเต็มภาชนะ
“บัดซบเอ๊ย!”
เฟี๊ยตสบถออกมาด้วยเสียงไม่เบานักอย่างขัดใจ สารที่เขาได้มาเป็นไอโอดีนไม่ใช่ไอโอไดด์ ไอโอดีนคือสารที่อยู่ในรูปอะตอมคู่ ธรรมชาติของมันมีสีม่วงเข้มอย่างที่เห็นอยู่นี่ ในขณะที่ไอโอไดด์ที่เขาต้องการนั้นเป็นสารไอโอดีนที่อยู่ในรูปอะตอมเดี่ยว มันจะสามารถละลายในน้ำ และไม่มีสี
เฟี๊ยตมองขวดรูปชมพู่ที่อยู่ในมืออย่างขัดใจ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสารที่ประกอบขึ้นด้วยอะตอมเดียวกัน แต่คุณสมบัติมันก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง มันจะง่ายมากว่าถ้าตอนนี้เขากำลังอยู่ในห้องแลปที่ครบครันไปด้วยสารเคมีต่างๆ เขาแทบจะเสกให้ไอโอดีนกลายเป็นไอโอไดด์ได้ในชั่วพริบตา โดยอาศัยรีดิวซิ่งเอเจนท์ดีๆ สักตัวหนึ่ง แต่นี่มันกลางป่า เขาจะไปสรรหาสารเคมีแบบนั้นได้จากที่ไหน เขากำมือแน่นอย่างเจ็บใจ ชายหนุ่มจะไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ไปตลอดชีวิตแน่ๆ ถ้ามีคนไข้มาตายไปต่อหน้าต่อตาเขาแบบนี้
“อุทุมพร ฉันรักเธอนะ เธอยังจำวันแรกที่เราพบกันได้ไหม ที่ตลาดรถไฟโบราณนั่นไง เธอกำลังไปตากอากาศกับครอบครัวเธอ ฉันกำลังไปตากอากาศกับครอบครัวฉัน...”
เฟี๊ยตหันไปที่ชายชราอีกครั้งหลังจากที่มัวแต่สนใจกับไอโอดีนในมืออยู่ชั่วเวลาหนึ่ง และเขาก็คาดการณ์ไม่ผิดไปจริงๆ เหตุการณ์เข้าขั้นวิกฤตเสียแล้ว คนไข้ของเขากำลังแสดงอาการทางสมอง ไทรอยด์กระตุ้นให้ร่างกายทำงานอย่างหนัก และแน่นอน มันส่งผลถึงสมองด้วย ตอนนี้สมองของชายชรานี่เริ่มอาการประท้วงขึ้นเสียแล้ว ชายคนนั้นเริ่มแสดงการรับรู้ที่ผิดปรกติไป อาการนี่บ่งบอกถึงความหนักหนาได้อย่างชัดเจน เขาเกรงว่าเวลาของชายตรงหน้านี่จะเหลืออีกไม่มากนัก ถ้าเขาไม่อาจทำอะไรสักอย่างที่มันสำเร็จลงไปได้
“คิดสิคิด รัฐกิจ มึงต้องคิดให้ออก แค่เปลี่ยนไอโอดีนเป็นไอโอไดด์ มันต้องมีวิธีการสิวะ สารเคมีก็มีอยู่ตั้งหลายอย่าง มึงต้องคิดให้ออก มึงจะปล่อยให้คนตายไปต่อหน้าต่อตาได้ยังไงวะ มึงเก่ง รัฐกิจ มึงเก่ง เรื่องแค่นี้ไม่เกินความสามารถของมึงหรอก คิดให้ออกสิโว๊ย”
เฟี๊ยตบ่นโวยวายเสียงดังกับตัวเองเพื่อข่มความลนลานในจิตใจของเขา มือของเขาเริ่มสั่นน้อยๆ ขณะที่กำลังเปิดไปตามสมุดไพ่เพื่อค้นหาวิธีที่จะเปลี่ยนไอโอดีนให้เป็นไอโอไดด์อย่างใจคิด อาการของคนตรงหน้าที่เฉียดเข้าใกล้กับคำว่าโคม่าเต็มทน มโนสติเขาเริ่มเห็นชายชุดดำร่างยักษ์ถือเคียวยักษ์มาจ่ออยู่ที่คอชายชราตรงหน้านี้เสียแล้ว เขาเป็นเพียงความหวังหนึ่งเดียวที่ยังส่องสว่างอยู่ในชีวิตชายชรานี่ และแน่นอน เขาจะไม่ปล่อยให้มันดับลง!
“อุทุมพร เธอยังจำพระราชวังมฤคทายวันที่เราไปด้วยกันครั้งนั้นได้ไหม เราหนีไปเที่ยวต่างจังหวัดกันสองคนโดยไม่บอกให้ที่บ้านทราบ โชคไม่ดีที่คุณพ่อของเธอจับได้และตามไปรับตัวเธอกลับ แต่นั่นก็เป็นโอกาสที่ทำให้ฉันได้แสดงความรักที่มีต่อเธอ เธอยังจำวินาทีที่คุณพ่อเธอยกเธอให้มาอยู่ในอ้อมอกฉันได้ไหม วินาทีนั้นฉันยังจำได้อยู่เลยว่า ฉันเองนั้นเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดบนโลกใบนี้เลย อุทุมพร”
จากผู้แต่ง : ตอบคำถามเรื่องเฟี๊ยตเปลี่ยนไป >>> เฟี๊ยตเปลี่ยนไปจริงๆ ครับ มันเป็นพัฒนาการของตัวละครและเรื่องราวครับ
เนื้อเรื่องเอื่อยฝุดๆ >>> นี่มันเพิ่งต้นเรื่องของนิยายผมเองครับ ฮ่าฮ่า เพิ่งอยู่เมืองสองเอง ใจเย็นนะครับ
นิยายไม่สนุก >>> อ่อยยย นิยายเรื่องแรกครับ ทำใจนะ คนแต่งมือใหม่ ยังซิ่งไม่ออก ฮ่าฮ่า
