The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018  (อ่าน 444736 ครั้ง)

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ถึงคุณ normiechan : กฏบ้านคืออะไรหรอครับ ใช่กฏที่เล้าบังคับให้ลงตอนแรกที่มันยาวๆป่าวครับ ผมทำอะไรผิดหรือเปล่าฮะ จะได้แก้ไขๆๆๆ

^
^
^
ก็กฎเล้านั่นแหละจ๊ะ แต่ไม่จำเป็นต้องลงทุกตอนที่อัพ ลงเฉพาะหไน้าแรกหรือตอนแรกที่ลงเรื่องก็ได้

***************************

สุดท้ายคีย์การ์ดของปัญหานี้ก็คือ การเสียสละและศรัทธาในรักสินะ

เหมาะแล้วที่ปันจะได้ แล้วก็ขอให้ปันสมหวังด้วยนะ

ว่าแต่เมื่อไหร่แทนมันหายโง่ซะทีจะได้แฮปปี้ๆกัน


ปล.อย่าเพิ่งน้อยใจไป ยังไงเราก็ตามอ่านไม่หนีหายไปไหนหรอก :mew1:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 71 Inn

   ผู้ใหญ่บ้านที่กำลังนั่งพักอยู่ใต้ร่มไม้ที่ไม่ห่างออกไปนักถึงกับลุกขึ้นอย่างตื่นตะลึง เมื่อได้ยินเสียงระฆังศักดิ์สิทธิ์ที่ตัวเขาเองก็จำไม่ได้ว่าได้ยินครั้งล่าสุดเมื่อไหร่กันนั้น ลอซูจ้องไปที่ชายหนุ่มผิวขาวที่ขณะนี้ยืนนิ่งอยู่หน้าระฆังใบนั้นอย่างเก็บความปีติไว้ไม่มิด ดวงตาของชายชราคลอไปด้วยหยาดน้ำใสๆ แห่งความยินดี ถึงเวลาแล้วที่หมู่บ้านวาเลนไทน์จะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง

   ไม้เลื้อยที่เกาะกินระฆังนั้นค่อยๆ หลอมละลายหายไปราวกับมีใครมาจุดไฟเผาให้สิ้นซากไปฉะนั้น เพียงชั่วไม่นานระฆังที่เคยถูกกลืนกินไปด้วยวัตถุที่แกร่งดังหินนั่นก็กลายสภาพกลับมาเป็นวัตถุเนื้อโลหะที่ดูสุกสว่างและพร้อมจะทำงานได้ตามปรกติอีกครั้ง

   เฟี๊ยตและแทนวิ่งตรงเข้าไปกอดคอเพื่อนผู้พิชิตการ์ดสูงสุดได้อย่างยินดีในความสำเร็จ เช่นเดียวกับลอซูที่ตรงมาที่ปันที่ขณะนี้ดูจะกลายเป็นวีรบุรุษในสายตาตาเฒ่านั่นเสียแล้ว ลอซูคุกเข่าคงละล่ำละลักกล่าวขอบคุณอย่างหมดท่าทีหยิ่งทระนงที่เคยแฝงไว้ในตอนแรกที่พบกัน

   “ขอบคุณ ข้าขอบคุณท่านมากจริงๆ คืนนี้ข้าจะจัดงานเฉลิมฉลองที่พวกเราชาววาเลนไทน์จะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง พวกท่านช่วยเป็นเกียรติมาร่วมงานบ้านป่าของพวกเราด้วย โดยเฉพาะท่าน ที่เปรียบเสมือนเป็นวีรบุรุษของพวกเรา” ลอซูกล่าวพลางคุกเข่าอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มผู้ลั่นระฆังได้สำเร็จ

   “ตกลง ลอซู ตกลง ลุกขึ้นเถิด ท่านกลับไปรอต้อนรับลูกบ้านของท่านที่กำลังจะเดินทางกลับมากันในวันนี้ดีกว่า ส่วนคืนนี้ เมื่อได้เวลาเริ่มงาน ท่านส่งคนมาเชิญพวกเราที่ที่พัก พวกเราจะไปร่วมงานของพวกท่านด้วยความยินดี” ปันพูดพร้อมกับจับมือเพื่อที่จะดึงให้ผู้ใหญ่บ้านชรานั่นลุกขึ้นจากการคุกเข่านั้น และหลังจากตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลอซูก็ได้พาพวกเขามาส่งที่บ้านพัก ก่อนจะขอตัวไปบอกข่าวกับชาวบ้านคนอื่น โดยปล่อยให้พวกเขาพักผ่อนกันตามอัธยาศัยเพื่อรอเวลาแห่งการเฉลิมฉลองในค่ำคืนนี้


   ทีมมายาทั้งสามคนกลับไปถึงที่พักตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงๆ เท่านั้น พวกเขากินอาหารสำรับใหญ่ที่ลอซูจัดไว้ให้ก่อนจะแยกไปทำธุระของตน หลังจากพวกเขากินจนอิ่มก็ตัดสินใจที่จะนอนเอกเขนกเล่นอยู่ในห้องนั้นเอง สารพัดความลำบากและตึงเครียดทำให้พวกเขารู้สึกว่าอยากปล่อยให้เวลาเดินผ่านไปช้าๆ ดูบ้าง ช่วงบ่ายของวันนั้นจึงเป็นเวลาสบายๆ ของพวกเขาไปโดยปริยาย

   แทนเรียกปืนคู่ใจออกมา ก่อนจะทำการแกะชิ้นส่วน และค่อยๆ นำออกมาล้างและเช็ดไปทีละชิ้นๆ เฟี๊ยตถึงกับถามออกมาด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่าแทนทำความสะอาดอุปกรณ์ที่เรียกออกมาจากการ์ดด้วย ซึ่งมันดูขัดกับความเข้าใจเขาอยู่ไม่น้อย แต่แทนก็อธิบายให้ฟังว่า เขาทำเป็นงานอดิเรกมากกว่า เวลาที่เขาได้ทำความสะอาดอุปกรณ์ยิงปืนแล้วมันสบายใจดี เมื่อเฟี๊ยตฟังดังนั้นก็นึกไปถึงงานอดิเรกของตนเองบ้าง เภสัชกรหนุ่มตัดสินใจเรียกใช้หนังสือปรุงยาที่ได้มาจากอาจารย์ย้งตั้งแต่ตอนต้นเกมเพื่อนำมาอ่านทบทวนอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะจำได้แทบทุกตัวอักษรในเล่มนั้นแล้วก็ตาม แต่การนั่งกวาดสายตาอ่านในเรื่องที่เขาโปรดปรานมันก็ทำให้มีความสุขอยู่ไม่น้อย

   เมื่อปันเห็นเพื่อนทั้งสองทำงานอดิเรกกันจึงอยากจะหาอะไรทำดูบ้าง ตอนแรกปันเข้าไปยืมหนังสือจากเฟี๊ยต แต่ก็พบว่าเฟี๊ยตมีหนังสือปรุงยาเพียงเล่มเดียว แต่ช่วงเวลาอึดใจเดียว เฟี๊ยตก็คิดวิธีดีๆ ออก ชายหนุ่มให้ปันยืมหนังสือปรุงยาของตนไปอ่าน ในขณะที่ตัวเองเรียกใช้ไบเบิ้ลมาอ่านแทน เนื่องจากไบเบิ้ลจะต้องมีข้อมูลทุกอย่างในเกมอยู่แล้ว จากที่ตั้งใจจะทบทวนเฉพาะเนื้อหาความรู้เก่าๆ ก็กลายเป็นว่าเฟี๊ยตค้นพบความรู้ใหม่ๆ ที่อยู่ในไบเบิ้ลอีกมากมาย จนเขาอดรนทนไม่ไหว เรียกห้องแลปจำลองออกมาปรุงยาตำรับใหม่ด้วยความตื่นเต้น กว่าจะล่วงเข้าเวลาเย็น เภสัชกรหนุ่มก็ได้ยาตำรับใหม่ๆ มาอีกหลายขนานเลยทีเดียว


   “ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

   เสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังขึ้นมาเข้าหูของพวกเขาทั้งสามคน ทีมมายามองหน้ากันอย่างครุ่นคิดเพียงชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะสั่งเก็บการ์ดทั้งหมดที่เรียกใช้อยู่เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมในการต่อสู้ และเรียกใช้สมุดคู่ใจอย่างเตรียมพร้อม   

   “The Defensive Golem RELEASE!”

   เฟี๊ยตตะโกนสั่งพลางชี้นิ้วไปทางนอกหน้าต่างนั่น มวลทรายมหาศาลพุ่งตรงออกไปนอกหน้าต่างอย่างที่เขาต้องการไม่มีผิดเพี้ยน เฟี๊ยตพยักหน้าเป็นสัญญานให้เพื่อนทั้งสอง ก่อนที่ตัวเองจะพุ่งตัวออกจากหน้าต่างนั้นเป็นคนแรก จิตของเขาสั่งการให้ทรายนั้นก่อตัวเป็นมอนสเตอร์ที่เตรียมตัวรองรับเขาเอาไว้ และเมื่อเพื่อนทั้งสองของเขากระโดดตามออกมา ปีศาจทรายก็กลายสภาพอย่างสมบูรณ์ มันใช้มือทั้งสองรองรับแทนและปันไว้ ในขณะที่เฟี๊ยตนั่งอยู่บนไหล่โดยมีทรายมาตั้งเป็นที่นั่งไว้ป้องกันการตกลงไปขณะเคลื่อนที่ เพียงวูบเดียวเท่านั้นที่เจ้ายักษ์นั่นกระโดดออกจากหน้าบ้านพัก และมาทิ้งตัวลงที่ต้นกำเนิดของเสียงร้องนั่นในเวลาเพียงชั่วพริบตา มันสลายร่างอย่างรวดเร็วเพื่อวางนายทั้งสามของมันลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย ก่อนจะรวมตัวอีกครั้งกลายเป็นปีศาจทรายขนาดใหญ่ยืนคุมเชิงอยู่หลังพวกเขาทั้งสามคน


   “อิน อิน อิน! ทำไมอินเป็นอย่างนี้” หญิงสาวเจ้าของเสียงร้องนั่นละล่ำละลักร้องไห้อย่างน่าอนาถใจยิ่งนัก ตรงหน้าของหญิงสาวผู้นั้นเป็นชายคนหนึ่งที่มีรูปร่างกำยำสูงใหญ่ แต่ติดตรงที่ว่า ร่างกายของเขาดำสนิทราวกับถูกเคลือบไว้ด้วยน้ำมันดิบอย่างใดอย่างนั้น อวัยวะบางอย่างบิดเบี้ยวไปอย่างผิดรูปราวกับว่าเขากำลังจะกลายร่าง เสียงที่หลุดออกมาจากปากก็ฟังไม่ได้ภาษา แถมยังมีท่าทีคุกคาม ราวกับว่ากระหายการต่อสู้อีกเสียด้วย หรือว่าพวกเขาจะมาพบเข้ากับมนุษย์กลายพันธุ์เสียแล้ว!


   “เอาไงดี จัดการเลยดีไหม” แทนเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรนเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีนัก ชายหนุ่มผิวแทนสะบัดปืนคู่ใจเตรียมพร้อมอยู่บนไหล่อยู่แล้ว เพราะตอนนี้ เจ้าสิ่งมีชีวิตที่เหลือเค้าความเป็นมนุษย์อยู่น้อยนิดนั่นทำท่าจะบุกเข้ามาเสียแล้ว

   “อย่าเพิ่ง แทน นี่น่าจะเป็นคนในหมู่บ้าน ถ้าเราฆ่าเขาเราอาจจะมีปัญหากับคนทั้งหมู่บ้านได้ จับเป็นเท่านั้น อย่าทำอะไรรุนแรงเด็ดขาด” เสียงปันเอ่ยอย่างเคร่งเครียด มือของเขากุมคทาไพลินไว้แน่นอย่างเตรียมพร้อม

   
   “อิน อินเป็นอะไร อินจำหยงไม่ได้แล้วหรอ” แต่ขณะที่พวกเขายังตัดสินใจไม่ได้ดีนัก หญิงสาวที่ดูน่าจะมีความสัมพันธ์กับกึ่งมนุษย์ตนนั้นก็วิ่งเข้าไปหมายจะทำให้มันคืนร่างกลับมาได้ หยงอ้าแขนกว้างหมายจะกอดมันเพื่อเรียกสติให้กลับคืนมา

   “ระวัง!” เสียงของปันตะโกนออกไปอย่างตกใจ และช่วงเสี้ยววินาทีนั้นเอง ที่เจ้าอมุษย์นั่นหันมาที่หญิงสาว พลางเงื้อมมือที่ขณะนี้กลายสภาพจนคล้ายอาวุธอะไรสักอย่างที่ดูแหลมคมน่ากลัวไปเสียแล้ว ท่าทางของมันหมายจะทำร้ายหญิงสาวนั่นแน่นอนอย่างไม่มีผิดเพี้ยน

   “Golem!” เฟี๊ยตตะโกนเสียงดัง พร้อมกับชี้นิ้วไปที่หญิงสาวที่ขณะนี้ร้องไห้ฟูมฟายไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ อีกแล้ว เจ้าปีศาจยักษ์นั่นเอื้อมมือที่ประดิษฐ์จากทรายนั่นคว้าไปที่หยงอย่างหวุดหวิด เพียงชั่วอึดใจเดียวที่โกเลมนั่นลักพาตัวหญิงสาวมาได้ แขนยักษ์ที่ดำมะเมื่อมของอมนุษย์นั่นก็ฟาดลงที่พื้นที่หยงเคยยืนอยู่ จนเฟี๊ยตแทบไม่อยากจะจินตนาการว่าถ้าเขาสั่งการช้าไปกว่านี้อีกสักวินาทีเดียว สภาพร่างของหญิงสาวนั่นจะเป็นอย่างไร

   “Watery!” เสียงของปันดังลั่นขึ้นพร้อมกับมือที่สะบัดคทาไพลินขึ้นอย่างแรง ทันทีที่เสียงคำสั่งนั่นสิ้นสุดลง กำแพงน้ำขนาดใหญ่ก็พุ่งขึึ้นตระหง่านล้อมรอบเจ้าอมนุษย์นั่นทุกทิศทาง มันแสดงอาการเกรี้ยวกราดอย่างเห็นได้ชัด มันใช้อวัยวะต่างๆ ในร่างกายของมันที่แปรสภาพไปจากความเป็นมนุษย์จนแทบจำไม่ได้นั่นฟาดไปที่กำแพงน้ำเหล่านั้นหมายจะทำลายให้สิ้นซาก แต่ด้วยความเป็นของเหลวที่ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะใช้แรงเท่าไหร่ก็ไม่อาจจะทำลายให้พังลงได้ มันแสดงความหงุดหงิดงุ่นง่านขึ้นอย่างทวีคูณ พลางร้องด้วยเสียงที่ไม่เหลือเค้าความเป็นคนอีกเลย เสียงคำรามนั่นปั่นประสาทพวกเขาอยู่ไม่น้อย พวกเขาสามคนมองหน้ากันอย่างเครียดหนัก เพราะดูเหมือนว่าจะไม่รู้จะจับเป็นเจ้าอมนุษย์ตรงหน้านี้อย่างไรดีให้ไม่มีปัญหากับลอซูและลูกบ้านในภายหลัง

   หญิงสาวที่อยู่ในอุ้งมือของโกเลมทรายนั่นยังคงร้องไห้ไม่หยุดจนดูเหมือนจะไร้สติไปเสียแล้ว แต่แล้วเสียงกรีดร้องของหยงก็ดังขึ้นไปอีกเมื่อเห็นชายที่ชื่อว่าอินกุมที่หัวแล้วแสดงอาการราวกับทรมานอย่างหนัก เสียงของมันร้องโหยหวนดังขึ้นทุกทีๆ ยิ่งเสียงของอินแสดงถึงความเจ็บปวดมากเท่าไหร่ เสียงร้องไห้ของหยงก็จะดูปวดร้าวกรีดไปถึงอารมณ์ของคนที่ได้ยินตามไปด้วยฉะนั้น

   “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

   เสียงโหยหวนสุดท้ายของหยงดังขึ้นอย่างแทบขาดใจ เมื่อเห็นบุรุษที่ชื่อว่าอินตนนั้นเอามือทั้งสองข้างกุมหน้าอกอย่างถึงขีดสุด ก่อนที่ร่างที่ดำสนิทราวกับถ่านหินนั่นจะระเบิดออกราวกับโดยแรงกดดันมหาศาลอย่างใดอย่างนั้น ดินโคลนดำสนิทกระจัดกระจายไปทั่วกำแพงนั้นอย่างน่าอเนจอนาถ หญิงสาวนามว่าหยงนั่นถึงกับหมดสติอย่างฉับพลัน เมื่อเห็นชายคนนั้นแตกสลายไปต่อหน้าต่อตา

   
จากผู้แต่ง : ตอนแรกวันนี้เกือบจะไม่ได้ลงแล้ว เพราะเหนื่อยๆ อยากนอน แต่กลัวคนอ่านจะรอ ก็เลย ฮึ้บบบบ รวมพลังปั่นมาได้เท่านี้แล ห้าห้า มาน้อยยังดีกว่าไม่มาน้าาา

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
ถึง naneku : เรื่องรักๆ ของเฟี๊ยตน่าจะได้เผยให้เห็นแวบๆ ช่วงฮัลโลวีนพอดีน้า น่าจะบังเอิญป๊ะกันพอดี ห้าห้า

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
โหยยย มีเรื่องเข้ามาท้าทายแกงค์มายาาตลอดๆๆ o13

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ฉากต่อสู้มาแล้วววววววววววววววว

คนกลับมาจากข้างนอก ระเบิดตัวเองแบบนี้ แล้วคนอื่นที่กลับมาจะไล่ระเบิดรึเปล่าเนี่ย

ออฟไลน์ hotoil

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คราวนี้เป็นฉากบู๊แล้ว หลังจากที่เราแสดงความฉลาด(อันน้อยนิด)
เฟี๊ยต ปัน แทน จะเจอกับอะไรกันอีกนะ
แล้วไอ่ตัวดำๆนั้นเกิดจากอะไร ทำไมถึงกลายพันธุ์?

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
โอ๋เอ๋ๆ พี่คนเขียนอย่างอนอย่าน้อยใจเลยน้า
ถึงนิยายของพี่คนเขียนจะไม่เหมือนแนวที่หลายๆคนชอบ
 แต่เราก็ชอบนิยายของพี่คนเขียนน้า บางทีพล็อตนิยายมันก็ซ้ำๆ
แต่งกันออกมาเพียบคนที่อ่านบ่อยๆก็จะเดาเรื่องออก
พอเดาเรื่องออกก็นิยายไม่สนุกแล้วอ่ะ จริงมะๆ
พี่คนเขียนอย่าท้อเลยน้า ถึงยังไงนิยายของพี่คนเขียนก็สนุกทุกตอน
แถมมีความรู้ดีๆให้ระหว่างอ่านด้วย ไม่มีฉากหวืหวา
ไม่มีตบตีแย่งกันแบบละครไทย(ขอแซะละครนิสนึง)
มีปริศนาให้คิดทำให้นอกจากเราจะคิดปริศนาไม่เคยถูก
แล้วยังเดาเนื้อเรื่องของพี่ไม่เคยออกอีก5555
นิยายพี่คนเขียนครีเอทิฟสุดๆเลย
ต้องขอคาระวะ อิอิ เพราะงี้แหละที่ทำให้ลุ้นสุดๆว่าตอนต่อไป
จะเป็นยังไงน่าติดตาม ตัวละครมีออกมาตอนนี้ก็ยังไม่มาก
แต่ก็ยังดำเนินเรื่องให้น่าติดตามได้ขนาดนี้ เก่งจังเลย
เราบอกพี่คนเขียนเลยนะ เราชอบพี่เฟี๊ยตอ่ะ นี่บอกเลย
อยากรู้จังใครจะคู่กับพี่เฟี๊ยต >.<
แถมตอนแรกเรานึกว่าไบเบิ้ลจะเป็นแค่หนังสือที่ไรความรู้สึกนึกคิดเหมือนโปรแกรมคอมไรงี้
แต่อ่านๆไปแล้วก็เอ๊ะยังไง? ดูไบเบิ้ลจะแอบมีความรู้สึกแถมยังมีน้อยใจตอนพี่เฟี๊ยตไม่นึกถึง
แล้วก็เสียใจที่ช่วยพี่เฟี๊ยตไม่ได้อีก เอ....ชักยังไงๆละ
แต่เราก็ชอบที่ไบเบิ้ลเป็นแบบนี้นะ น่ารักดี เหมือนพี่เฟี๊ยตมีเพื่อนคู่ใจอีกคนเลย~
ตอนนี้แก๊งค์มายาก็เป็นฮีโร่ของหมู่บ้านวาเลมไทน์แล้ว!!! ด้วยความรักของพี่ปันแท้ๆเลย
อ่านแล้วแอบสงสารพี่ปันนะ มันเหมือน"แอบหลงรักเธออยู่ แต่เธอคงดูไม่ออก
ซ่อนความรักไม่กล้าบอกกลัวเธอจะเปลี่ยนไป ห้ามใจยังไงให้ไหว?เมื่อเธอน่ารักเกินกว่าใคร
 ปฏิเสธอย่างไรเมื่อรักเธอจนไม่อาจจะถอนตัว~"(ร้องเป็นเพลงนะ)
แถมพี่แทนก็ดูคิดกับพี่ปันแค่เพื่อนอ่ะ มันน่าน้อยใจจริงๆอ่ะ
ขอร้องอีกเพลงละกัน "ห่างแค่เพียงเอื้อมมือแต่มันก็แสนไกล
ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท ยิ่งไม่มีสิทธจะบอกไป ว่ารักเธอ~"
น่าเศร้าใจจัง~ พิมพ์ไรไม่รู้เยอะแยะแต่พี่คนเขียนต้องอ่านให้จบนะ
 อ่านไม่จบโกรธจริงๆด้วย -3- ถึงมันจะดูไร้สาระ
แต่มันออกมาจากใจดวงน้อยๆของเราเลยนะ *_* (เสี่ยวเนอะ555)
ช่วงนี้พี่คนดูป่วยบ่อยจังเลย เราเป็นห่วงน้า ก็ไม่รู้จะทำยังไง
ก็ขอให้พี่คนเขียนแข็งแรงๆ หายป่วยหายไข้ ทำงานก็อย่าเครียด
พักผ่อนเยอะๆหายแล้วจะได้มีแรงแต่งต่อได้อย่างเต็มที่ >_<d
ตอนนี้คนหนุ่มสาวกลับหมู่บ้านวสาเลนไทน์ได้แล้ว แต่ก็มีตัวประหลาดมาอีก
เหล่า3สหายก็คงต้องมาหาทางช่วยแน่ๆเลย อยากอ่านต่อจัง
พี่คนเขีบนสู้ๆน้า มาอัพแล้วเราจะได้อ่านต่อ วันจันทร์เราก็จะเปิดเทอมแล้ว
เซ็งจังเลย กว่าจะได้อ่านนิยายของพี่คนเขียนก็ตั้งวันศุกร์แนะ
ฮือออๆ เศร้า แต่เราสัญญาว่าเราจะตามอ่านแล้วเม้นให้เป็นกำลังใจพี่คนเขียนน้า สู้ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ zylph_z

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เกิดปัญหาใหญ่แล้วล่ะซิเนี่ย พวกเฟี๊ยตจะโดนหาว่าเป็นคนทำหรือเปล่านะ รอตอนต่อไปจ้า ^^

ออฟไลน์ naneku

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
เง่อออออออ



ทำไมตัวแตกตาย -0-



เป็นเรานี่เราช็อคตายยยยย



ใครทำาาาาาา แงงง



พี่คนเขียรอย่าลืมรีเควสเราน้าาาา ยากได้ตอนพิเศษ ><

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
ปัญหาใหม่มาอีกแล้ว คราวนี้อะไรอีกล่ะเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
คือแบบ มันนิยายแฟนตาซี มันก็ต้องมีบ้างแหละน้ออออ :m29:

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
ปันตีระฆังสำเร็จนี่ แทนไม่สงสัยเลยเหรอว่าปันมีความรักกับใครน่ะ
มีปัญหาซะแล้ว ทำไมอินเป็นแบบนี้ แล้วจะรวมร่างคืนได้ไหม

normiechan

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeysad: ตายแล้วเราทำให้คนเขียนคิดมากเลย ใช่แล้วค่ะเราหมายถึงกฎยาวๆหน้าแรกแบบนั้นล่ะค่ะ เพราะอ่านเรื่องอื่น
จะเห็นได้เลยคนเขียนคนอื่นๆจะเอากฏมาใส่กันเกือบทุกหน้าทำให้กินพื้นที่ได้ดี เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมากที่เราบอกนะคะ ขอโทษจริงๆ
เพราะเนื้อเรื่องสนุก มีความรู้ด้วย ติดตามๆต่อไปค่ะ ขอโทษน๊า อย่าคิดมาก ชอบงานเขียนของคุณจริงๆ :mew6:

ออฟไลน์ infinitez123

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
มาเม้นให้กำลังใจจ้า ชอบอ่านแนวนี้เหมือนกัน

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
คงไม่ใช่บทลงโทษของคนที่ทำผิดกฎหรอกใช่ไหม

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 72 Let’s Celebrate

 

            “เกิดอะไรขึ้น!” เสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งดังขึ้นมาอย่างร้อนรนมาจากทางด้านหลังของพวกเขาทั้งสามคน เมื่อหันกลับไปก็พบว่าเสียงดังกล่าวดังมาจากลอซูที่กำลังนำลูกบ้านประมาณสี่ห้าคนวิ่งมาอย่างกระหืดกระหอบที่จุดเกิดเหตุที่พวกเขากำลังยืนอยู่นั่นเอง

 

            “มอนสเตอร์ตัวหนึ่งพยายามจะทำร้ายพวกเราและลูกบ้านของท่าน เราพยายามจับเป็น แต่สุดท้ายมันก็เกิดระเบิดตัวเองตายไปเสียก่อน” ปันพูดพร้อมกับชี้ไปทางร่องรอยโคลนดำเปรอะเปื้อน ก่อนจะผายมือไปยังหยงที่กำลังนอนหมดสติอยู่ภายใต้การดูแลของเฟี๊ยตอยู่

 

            เฟี๊ยตขณะนี้ปล่อยหน้าที่การเจรจาให้เป็นของปันไปโดยสิทธิ์ขาด เพราะในเวลานี้ ปันก็กลายเป็นวีรบุรุษของหมู่บ้านนี้ไปแล้ว การให้ปันเป็นคนกลางน่าจะเหมาะสมที่สุด เขาจึงเลือกที่จะรับหน้าที่ปฐมพยาบาลหญิงสาวผู้หมดสติเอง เขาค่อยๆ ใช้ยาดมเรียกสติของหยงคืนมา และเมื่อหญิงสาวพอรู้ตัวขึ้นมาบ้าง เฟี๊ยตก็ให้เธอกินยาที่ทำมาจากต้นเทียนชนิดหนึ่ง เพื่อกระตุ้นระบบประสาทให้กลับมาทำงานได้อีกครั้ง

 

            “อิน!” ทันทีที่ฟื้นสติอีกครั้ง หญิงสาวนามว่าหยงโผเข้ากอดที่เฟี๊ยตอย่างหาที่พักพิงฉะนั้น เธอร้องไห้พลางพร่ำพรรณนาถึงชายที่ชื่อว่าอินอย่างน่าเวทนายิ่งนัก เฟี๊ยตจึงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการให้หญิงสาวชาวป่ายืมไหล่พักพิงในวันที่ใจเธอแทบจะขาดเช่นวันนี้

 

            หลังจากเฟี๊ยตและเพื่อนได้ฟังเรื่องราวจากปากของหยงที่ถ่ายทอดปนกับน้ำเสียงสะอื้นนั่นแล้วนั้น เขาก็พอสรุปความได้คร่าวๆ ว่า หยงและอินเป็นแฟนกันตั้งแต่อยู่ในหมู่บ้านวาเลนไทน์ แต่ด้วยวิกฤตการณ์ขาดแคลนอาหารที่ทำให้ทั้งสองคนต้องระหกระเหินออกจากหมู่บ้านไป ระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนั้น อยู่ดีๆ อินก็เริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจนรู้สึกได้ ชายหนุ่มดูมีท่าทางหวาดกลัว สับสน และเกรี้ยวกราดอยู่ในที จนวันหนึ่ง อินก็หนีเตลิดไปจากหยงอย่างไม่มีสาเหตุ หยงเฝ้ารักษาตัวรักษาใจภายใต้ภยันตรายของป่าลึก เพื่อรอคอยวันที่จะได้กลับมาพบเจอกับอินอีกครั้ง ในวันที่ระฆังวาเลนไทน์คืนชีพกลับมา

 

            และหยงทำนายไว้ไม่ผิดเลย หญิงสาวพบกับชายหนุ่มที่ตัวเองเฝ้ารอมาตลอดเวลาตอนทางแยกตรงทางเข้าหมู่บ้านนั่นเอง เมื่อหยงเข้าไปทักอินด้วยความดีใจจนถึงที่สุดนั้น เธอกลับถูกสะบัดจนล้มไปกองที่พื้นอย่างรุนแรง แถมอินยังมีท่าทีจะเข้ามาทำร้ายเธอซ้ำอีกด้วย นั่นก็เป็นต้นเหตุของเสียงร้องของความช่วยเหลือที่นำพาพวกเขามาที่นี่ และเรื่องราวก็มาปะติดปะต่อจนถึงปัจจุบันที่พวกเขาประสบกับตาตัวเองนั่นเอง

 

            “การ์ดอะไรถึงจะเปลี่ยนคนให้กลายเป็นอมนุษย์ได้นะ” เสียงของเฟี๊ยตเปรยขึ้นอย่างชวนครุ่นคิด หากแต่ไม่มีผู้ใดให้คำตอบเขาออกมาได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทีม หรือแม้กระทั่งชาวบ้านในหมู่บ้านลึกลับแห่งนั้น หากแต่ก็มีเสียงหนึ่งที่ไม่เคยทำให้เขาผิดหวังดังขึ้นมาอย่างคุ้นเคย

 

            “อมนุษย์ที่ท่านพบไม่ได้เป็นผลพวงมาจากการ์ดใดๆ นายท่าน เพราะถ้าหากเป็นผลจากไพ่แล้ว เมื่อท่านเอาชนะ ท่านจะต้องได้รับไพ่ด้วยเสมอ ดูเหมือนนี่จะเป็นข้อบกพร่องที่ยังไม่ทราบสาเหตุของเกมมากกว่า การตายในลักษณะนี้น่าจะเกิดมาจากการไม่สภาพรักษาสภาพของตัวละครไว้ได้ ซึ่งนั่นเป็นหน้าที่ของเกมมาสเตอร์ที่จะต้องหาสาเหตุและแก้ไขต่อไป ถ้านายท่านยังอยู่ในหมู่บ้านนี้ต่ออีกสักพัก ท่านอาจจะได้พบกับเกมมาสเตอร์ที่อาจจะแวะมาตรวจสอบเหตุการณ์ผิดปรกติที่นี่ก็ได้” เสียงของไบเบิ้ลดังขึ้นมาที่ข้างหูเขา

 

            ‘ขอบคุณ ไบเบิ้ล’

 

            “ปล่อยให้เป็นหน้าที่พวกเราในการสืบหาความจริงต่อไปเถิด บัดนี้ ขอเชิญพวกท่านเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองของพวกเราชาววาเลนไทน์ดีกว่า งานรื่นเริงตามฉบับบ้านป่าได้ถูกจัดไว้ต้อนรับพวกท่านทุกคนแล้ว” ลอซูเอ่ยขึ้นพลางผายมือไปทางลานกว้างใกล้ๆ กับระฆังศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้านที่บัดนี้ เฟี๊ยตเริ่มจะเห็นแสงไฟสุกสว่างขึ้นหยอกล้อกับบรรยากาศอึมครึมของยามเย็นเสียแล้ว นี่เขาไปร่วมงานปาร์ตี้ครั้งสุดท้าย เมื่อไหร่กันนะ

 

 

            งานเฉลิมฉลองสไตล์บ้านป่าตามที่ลอซูได้โฆษณาไว้นั้นจัดขึ้นที่ลานว่างๆ แห่งหนึ่งที่อยู่ก่อนถึงระฆังวาเลนไทน์เพียงนิดเดียวเท่านั้น กองไฟขนาดใหญ่ลุกโชติช่วงท่ามกลางบรรยากาศแห่งป่าดงพงไพรที่บัดนี้ดูจะไม่วังเวงอีกแล้ว กวาดตาไปในขณะนี้ก็พบว่าลูกบ้านของลอซูที่เคยมีจำนวนไม่กี่สิบคนได้เพิ่มจำนวนไปไม่ต่ำกว่าครึ่งร้อยแล้ว หนุ่มสาวในวัยฉกรรจ์แปลกหน้าแปลกตาปรากฏอยู่เต็มไปหมด เหล้ายาปลาปิ้งถูกแจกจ่ายกันไปทั่วอย่างไม่ขาดสาย ผลหมากรากไม้รวมไปถึงเนื้อสัตว์ที่ถูกปรุงรสในแบบต่างๆ หมุนเวียนมาให้พวกเขาชิมอย่างต่อเนื่อง ลอซูแนะนำให้เขาลองเหล้าป่าที่ตาเฒ่าต้มเองกับมือครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เฟี๊ยตก็ปฏิเสธไปด้วยกลัวอันตรายจากแอลกอฮอล์ที่เป็นผลพลอยได้มาจากการผลิตแบบง่ายๆ นั่น เฟี๊ยตพยายามบอกให้แทนและปันเข้าใจว่าการต้มเหล้าเองนี้อาจจะทำให้มีแอลกอฮอล์บางชนิดถูกผลิตออกมาด้วย ซึ่งมันมีอันตรายต่อการมองเห็น แต่แทนซึ่งในเวลานั้นกินไปหลายแก้วแล้วก่อนที่เขาจะเตือนได้ทันก็ไม่แสดงอาการยี่หระแต่อย่างใด ด้วยบอกว่าชาวบ้านเหล่านี้ก็กินกันทุกคน ถ้ามีอันตรายอะไร ชาวบ้านก็น่าจะเป็นไปก่อนแล้ว เฟี๊ยตจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลยไป เพราะเห็นว่าคงห้ามไม่ได้แน่นอน

 

            ปันซึ่งเชื่อในคำเตือนของเขาอย่างเต็มเปี่ยมก็นั่งกินอาหารป่าอยู่ข้างๆ เขา โดยปฏิเสธเหล้าที่ชาวบ้านแวะเวียนกันมาให้ชิมอย่างไม่ขาดสายเช่นเดียวกับเขา แต่สุดท้าย ปันก็กระดกเหล้าเข้าปากไปในที่สุด เพราะว่าเจ้าเพื่อนซี้ที่ออกตัวเมาไปก่อนแล้วมาเซ้าซี้ให้ปันกินเป็นเพื่อนไม่หยุด จนปันเผลอกินเข้าไปแก้วหนึ่ง ซึ่งดีกรีที่สูงมากก็ทำให้แก้วต่อๆ ไปถูกยกเข้าปากไปอย่างไม่ยากเย็น เฟี๊ยตในเวลานี้ได้แต่หัวเราะในความบ้าของเพื่อนทั้งสองที่เริ่มออกอาการเมื่อกินน้ำเมาเข้าไปไม่หยุด แต่ถึงอย่างไร ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะทดลองเหล้าฝีมือตาเฒ่าลอซูนั่นอยู่ดี เขาจึงทำหน้าที่เป็นหน่วยรักษาการณ์เตรียมตัวเก็บซากของเพื่อนทั้งสองที่น่าจะเมาจนไม่รู้เรื่องในอีกไม่ช้านี้เอง

 

 

            “งานบ้านป่าคงสนุกไม่ถูกใจท่าน ท่านจึงปล่อยให้ตัวเองเงียบเหงาคนเดียวอยู่เช่นนี้ ไม่ออกไปร่าเริงเต้นรำเหมือนกันเพื่อนของท่านอีกสองคน” ลอซูที่เดินมาจากทางใดก็ไม่ทราบพูดกับเภสัชกรหนุ่ม ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ เขาที่นั่งห่างออกมาจากวงสังสรรค์นั่นเอง

 

            “ใช่ที่ไหน ลอซู งานนี้สนุกมาก แต่เราไม่ชอบของมึนเมาเท่าไหร่ เราจึงขอเฝ้าดูความสนุกสนานนี่ด้วยสายตาอย่างเงียบๆ ดีกว่า” เฟี๊ยตหันมายิ้มให้กับชายชราแห่งวาเลนไทน์ ก่อนจะหันกลับไปมองที่เปลวไฟใหญ่ที่ลุกโชนอยู่กลางชาวไพรเหล่านั้น

 

            “ไหนๆ ท่านก็ว่างอยู่แล้ว ท่านน่าจะลองไปที่บ่อน้ำแห่งการให้อภัยดูนะ บรรยากาศที่นั่นสวยงามจับใจมากในยามกลางคืนเช่นนี้ หรือไม่ ท่านอาจจะลองสารภาพความผิดของท่านดู บางที มันอาจจะทำให้ท่านสบายใจขึ้นได้ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่หลังจากระฆังแห่งวาเลนไทน์เข้าไป เดินผ่านทางเดินเล็กๆ ไป ชั่วไม่ถึง 5 นาทีก็พบแล้ว บ่อน้ำแห่งการให้อภัยมีมนต์ขลังที่น่าหลงใหล ข้ารับประกันได้เลย” ลอซูยิ้มให้เขาและลุกยืนขึ้น หลังจากพูดจบ ผู้ใหญ่บ้านแห่งวาเลนไทน์เดินกลับไปที่วงสังสรรค์อีกครั้งโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาได้มีคำถามอะไรได้เลย

 

 

            เฟี๊ยตก้าวเท้ายาวมาตามทางเดินแคบๆ นั่น โดยที่ตัวเขาเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้เขาบ้าจี้มาตามคำแนะนำของลอซูอย่างนี้ แต่คำว่ามนต์เสน่ห์น่าหลงใหลนั่นก็ทำให้เขาอยากจะเห็นด้วยตาตัวเองอยู่ไม่ใช่น้อย ท้องฟ้าในคืนนี้มืดสนิทจากแสงดาวทั้งสิ้น เพราะมีพระจันทร์ดวงเด่นที่สาดแสงกลบทุกแสงสว่างอื่นให้ดับด้อยไป เขาไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฉายนำทางแม้แต่น้อย เพราะแสงสว่างของพระจันทร์ในคืนนี้เจิดจ้าไปหมดทุกแห่งหน เฟี๊ยตเรียกใช้การ์ดยุงรำคาญตั้งแต่เริ่มออกเดินทางไปตามคำบอกของลอซูนั่น เพื่อจะได้เตรียมตัวตั้งรับกับแขกไม่ได้รับเชิญเสียก่อน หากว่ามีใครต้องการจะมาเยี่ยมเยียนเขาในคืนนี้ แต่ก็ไร้ร่องรอยโดยสิ้นเชิง ฝูงยุงเหล่านั้นตรวจพบแต่สัตว์เล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่น่าจะมีอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น สองเท้าจึงก้าวไปอย่างสบายใจในความปลอดภัยอยู่พอสมควร

 

            บ่อน้ำแห่งการให้อภัยไม่ได้ด้อยไปกว่าคำบอกเล่าของลอซูเลย บ่อน้ำเล็กๆ ที่ล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศของป่าใหญ่ดูลึกลับและน่าค้นหา น้ำในบ่อเล็กๆ นั่นสะท้อนแสงจันทร์ระยิบระยับราวกับจะทักทายผู้มาเยือนเช่นเขา เฟี๊ยตยืนนิ่งจ้องไปที่บ่อน้ำอย่างครุ่นคิดก่อนจะค่อยๆ เดินสำรวจไปโดยรอบ จนในที่สุด เขาก็เลือกหย่อนตัวลงที่ก้อนหินใหญ่ที่อยู่ติดกับบ่อน้ำนั่นเอง เขาในตอนนี้นั่งแหงนหน้ามองพระจันทร์เต็มดวงนั่นอย่างต้องการซึมซับความงามของธรรมชาตินั้น โดยมีก้อนหินขนาดยักษ์กั้นเขาเอาไว้จากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นั่น เฟี๊ยตรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรจะสารภาพผิดสักอย่างในตอนนี้ เขาจึงเลือกจะนั่งมองท้องฟ้าในคืนที่ฟ้าเป็นใจอย่างนี้มากกว่า

 

 

            ‘โอ๊ย!’ เฟี๊ยตสบถขึ้นในใจเมื่อรู้สึกได้ว่ามีแมลงอะไรสักอย่างมากัดที่บริเวณหลังมือของเขา ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์หลังจากที่เผลอหลับไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ เมื่อกวาดตามองให้ชัด เขาก็พบว่าแมลงที่กัดเขาก็คือยุงรำคาญของเขานั่นเอง

 

            ‘มีอะไรกำลังมาที่นี่?’ เขาเอ่ยถามขึ้นในใจ

 

            “Punnawutt!” เสียงของเฟี๊ยตเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา เมื่ออ่านตัวอักษรที่ยุงเหล่านั้นเรียงตัวขึ้นตอบเขาจบแล้ว แต่ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบที่ทำให้เขาตัดสินใจไม่ออกไปทักเพื่อนในทีมในเวลานั้น เฟี๊ยตเลือกที่จะนั่งอยู่เงียบๆ หลังหินก้อนนั้นราวกับต้องมนต์สะกดบางอย่าง

 

 

            “บ่อน้ำ นี่ใช่ไหมบ่อน้ำแห่งการให้อภัย ที่ที่คนเขามาสารภาพผิดกันใช่ไหม ดี งั้นฟังนะ ฟังผมสารภาพความผิดให้ดี ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงสั่นระฆังนั่นได้ ผมไม่ใช่วีรบุรุษ ผมไม่ใช่คนเสียสละเพื่อความรัก แต่ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวที่สุดต่างหาก” เสียงนั่นหยุดไปชั่วครู่หนึ่ง

 

             “ผมผิดใช่ไหมที่ผมรักเขามากขนาดนี้ ผมผิดใช่ไหมที่ผมอยากเก็บเขาไว้คนเดียว ผมไม่อยากให้เขาได้เจอคนอื่น ผมกลัวว่าเขาจะปล่อยใจให้กับใครที่มาทีหลังผม ถึงแม้ว่าคนนั้นจะเป็นเพื่อนที่ดีมากแค่ไหนก็ตาม แต่ผมกลัวใจตัวเอง ผมกลัวความรู้สึกตัวเอง ผมผิดใช่ไหม ผมมันเป็นคนเห็นแก่ตัวใช่ไหม ผมแค่อยากให้เรามีแค่เราเพียงสองคนเหมือนเดิม ฮืออ ผมมันเป็นคนเห็นแก่ตัวที่สุด ฮืออ ผมเกลียดตัวเองที่สุดเลย” เสียงที่ดังมาจากผู้ที่มาใหม่นั่นก้องกังวานไปทั้งใจของคนที่ผู้พูดไม่รู้ว่าก่อนว่าได้นั่งอยู่หลังก้อนหินก้อนนั้นอยู่ก่อนแล้ว เฟี๊ยตเองตอบไม่ถูกเหมือนกันว่า ณ ขณะนั้นเขารู้สึกอย่างไร เสียงสะอื้นอันแสนจะน่าสงสารนั่นทำให้ความรู้สึกของเขาแห้งผากไปทั้งหัวใจ!




จากผู้แต่ง : วันนี้ทั้งวันได้สองตอน ไหวไหม แต่งยังไงก็ไม่เคยทัน 555

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
ถึงคุณ rinny : ไม่มีอะไรจะบอกนอกจากคำว่า ขอบคุณ จริงๆครับ คอมเมนท์ของคุณทำให้ผมยิ้มกว้างมากๆเลย ขอบคุณมากๆ จริงๆ ครับ ว่างเมื่อไหร่กลับมาอ่านนะครับ คงได้อ่านจุใจเลย :)

ถึงคุณ naneku : ไม่รับปากน้าว่าจะแต่งตอนพิเศษไหวป่าววววว นี่แค่แต่งลงธรรมดายังแทบไม่ทันเลย แต่ใกล้ถึงไคลแมกซ์แล้ว อดใจรอหน่อยนะ จิ๊ดเดียววววว

ออฟไลน์ sowza3366

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่านมาจนถึงตอนนี้ อยากรู้อยู่อย่าง เมื่อไรพระเอกหรือนายเอกจะโผล่ซะที  :mew5:

ออฟไลน์ Umiko

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
หรือว่าจะเป็นปันที่ไปสารภาพที่บอศักดิ์สิทธิ์

กำลังคิดเลยว่าพระเอกอาจจะเป็นไบเบิ้ลหรือเปล่า.....อาจจะจำเสียงกันได้ในโลกจริงก็ได้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-10-2013 20:58:49 โดย Umiko »

ออฟไลน์ naneku

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
นี่นั่งรอพี่คนเขรยนอัพทุกวันเลยนะ 555555



พูดจริงๆเดี๋ยวจะหาว่าโม้ คึคึ :hao6:



ถ้าแต่งไม่ทันก็ไม่เป็นไรน้าาาาา แต่ถ้าได้ก็ดีค่าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เฟี๊ยตได้ยินความลับของปันแล้ว จะทำยังไงต่อล่ะทีนี้

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
ปันน่าสงสารน่ะ เฟี๊ยตก็น่ะไม่รู้โชคดีหรือร้ายกันแน่ที่มาได้ยินความในใจของปันโดยบังเอิญ
คนสบายสุดก็แทนล่ะ ชักไม่อยากให้ปันรักแทนซะแล้วคนอะไรไม่รู้สึกบ้างเลยหรือไงว่ามีคนแอบรักน่ะ
 :mew6:

ออฟไลน์ mildmint0

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ขอโทษคนแต่งจริงๆ นะครับ
คือติดตามอ่านมาตลอดทุกตอนแต่ไม่ค่อยได้เม้นต์เท่าไหร่
คืออยากจะเม้นต์ทุกๆตอนนะครับ แต่ว่า 1 ตอน เวลามาลง เนื้อเรื่องมันจะยังไม่คืบเท่าไหร่
เลยกะรอ 2-3 ตอนก่อนจะได้เม้นต์ทีเดียวเลยนะคับ
ตามอ่านมา ชอบนิยายแนวนี้มากๆ ยังคงเป็นกำลังใจให้ผู้แต่งนั้น แต่งเรื่องนี้ต่อไป
เฟี๊ยตเป็นคนที่ฉลาดมาก ไหวพริบดีเยี่ยม ยิ่งการ์ดประจำตัวคือไบเบิ้ล ยิ่งถือว่าได้เปรียบใหญ่
แต่การ์ดสูงสุดบางใบก็ดูท่าจะเก็บยากเอาการ แค่คิดว่า ถ้าสมมุติเฟี๊ยตตัวคนเดียวจริงๆ
เฟี๊ยตคงผ่านวิหารกุมภาได้ยากมากๆ หรือไม่ก็อาจจะผ่านไม่ได้
แล้วการ์ด St.Valentine เป็นไปได้ยากมากที่เฟี๊ยตจะได้ เพราะไม่รู้เทคนิคในการเอาการ์ดมา
โดยรวม สนุกๆมากเลยครับ จริงๆอยากรู้เนื้อคู่เฟี๊ยตแล้ว หรือจะเป็นผู้ร่วมเดินทางคนที่ 4
ปันจะได้ไม่ลำบากใจด้วย อยากให้คู่ปันแทนดำเนินไวๆ แทนดูโง่เกิน ฮ่าๆๆๆ

ปล.แอบสงสัยบ่อน้ำ กับเหล้า ดูคนเขียนเขียนแบบมีเงื่อนงำ เรื่องเหล้าแบบชวนสงสัย
ว่าอาจจะโดนตลบหลัง แต่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ก็แอบทายไว้ ว่าอาจจะมีการ์ดสารภาพบาปรึป่าว ?
ไม่รู้สิ ฮ่าๆๆๆ ทายเล่นๆ ถ้าได้การ์ดอีกก็ดีสิ

ปล.2.อยากถามคนแต่งว่า เหมือนการ์ด St.Vale เป็นการ์ดใบที่ 48 ใช่ม่ะคับ
งั้นก้ต้องมี 48 ใบ การ์ดนี้ปันได้มาตอนที่มันยังมีเถาวัลย์ อยู่ ตอนได้การ์ดมาเถาวัลย์ก้หายไป
ดังนั้นถ้าจะเอาการ์ดอีก โดยให้ปันใช้ความรู้สึกอีก ก็ต้องให้ระฆังกลับไปในสภาพเดิมรึป่าว ?
งั้นถ้า จะเข้ามาในหมู่บ้านวาเลนไทน์ใหม่อีกครั้ง ก็ต้องผ่านวิหารกุมภาอีกครั้งรึป่าวว
อ่านๆแล้วเหมือนเชื่อมกัน ว่า ลอซูจะมาเชิญเฉพาะคนที่ผ่านวิหารกุมภาเท่านั้น
ดังนั้น การ์ดในวิหาร ซึ่งมี แค่ 8 ใบ แต่มาเอาได้แค่ 8 ครั้ง
งั้นก็ไปหมู่บ้านวาเลนไทน์เพื่อเอาการ์ด เซนต์วาเลน ได้แค่ 8 ใบเองสิครับ

ปล.3 ขอโทษนะครับที่ถามมาก บางทีคนแต่งอาจจะแต่งไปตามจินตนาการ
ผมชอบคิดแหวก ฮ๋าๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ zylph_z

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เอาละซิ เฟี๊ยตดันไปได้ยินปันสารภาพบาปเข้า แล้วอย่างนี้จะมองหน้ากันติดมั้ยเนี่ย ปันเองก็คงไม่ตั้งใจคิดแบบนั้นหรอกมั้ง แต่บางทีมันก็อดหึงหวงเล็กๆไม่ได้ สบายสุดก็นายแทน ไม่รับรู้เรื่องราวอะไรกับเค้ากันเลยนี่ซิ หนักใจแทนละ ทีมมายาจะแยกวงกันหรือเปล่านะ

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
ตสงสารปันจัง คู่ของเฟีตสอยุ่ไหนนะ

ออฟไลน์ maxiyorka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ว้าว นิยาย yaoi แนวเกมออนไลน์ที่หามานานในที่สุดก็เจอ
ขอบคุณมากค่ะที่แต่งให้อ่านกัน

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
หรือว่าเกมมาสเตอร์ที่จะมาตรวจสอบความผิดปกติจะเป็นพระเอก

ฮืออออออออออ ไม่มีผู้เล่นโผล่มาให้เราลุ้นเลยเหรอค่ะ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2

ปล.2.อยากถามคนแต่งว่า เหมือนการ์ด St.Vale เป็นการ์ดใบที่ 48 ใช่ม่ะคับ
งั้นก้ต้องมี 48 ใบ การ์ดนี้ปันได้มาตอนที่มันยังมีเถาวัลย์ อยู่ ตอนได้การ์ดมาเถาวัลย์ก้หายไป
ดังนั้นถ้าจะเอาการ์ดอีก โดยให้ปันใช้ความรู้สึกอีก ก็ต้องให้ระฆังกลับไปในสภาพเดิมรึป่าว ?
งั้นถ้า จะเข้ามาในหมู่บ้านวาเลนไทน์ใหม่อีกครั้ง ก็ต้องผ่านวิหารกุมภาอีกครั้งรึป่าวว
อ่านๆแล้วเหมือนเชื่อมกัน ว่า ลอซูจะมาเชิญเฉพาะคนที่ผ่านวิหารกุมภาเท่านั้น
ดังนั้น การ์ดในวิหาร ซึ่งมี แค่ 8 ใบ แต่มาเอาได้แค่ 8 ครั้ง
งั้นก็ไปหมู่บ้านวาเลนไทน์เพื่อเอาการ์ด เซนต์วาเลน ได้แค่ 8 ใบเองสิครับ


มาตอบแทนก่อนนะครับ :oni1:
การ์ดแต่ละใบเนี่ย ไม่สามารถหาได้โดยวิธีเดิมโดยผู้เล่นคนเดิม อ้างจาก
อ้างถึง
   “ผมสงสัยนิดนึงครับ สมมติว่าผมมีไพ่สูงสุด สมมติว่าเป็นไพ่หมายเลข 10 ถ้าผมขายให้กับทางร้าน อย่างนี้ก็แปลว่าในเกมจะเหลือไพ่หมายเลข 10 แค่ 9 ใบหรือเปล่าครับ เพราะการ์ดอยู่ที่ร้านอีกใบนึง”

   “ไม่ใช่ค่ะ ทันทีที่คุณขายการ์ดให้กับทางร้าน การ์ดจะถูกรีเซ็ตใหม่ให้กับระบบค่ะ การ์ดจะกลับเข้าไปอยู่ในเกมเหมือนเดิมค่ะ โดยคุณสามารถกลับไปตามหาการ์ดได้อีกครั้ง แต่โดยปรกติแล้ว เมื่อคนๆเดิมกลับไปหาการ์ดเดิม เงื่อนไขการได้การ์ดมักจะเปลี่ยนไปค่ะ เพื่อป้องกันการขายแล้วกลับไปผนึกซ้ำ” หญิงสาวเจ้าของร้านยิ้มน้อยๆ เหมือนเป็นการแสดงออกว่ารู้ทันความคิดแกมโกงของเขา
จากตอนที่ 10 ครับ :teach:

อู้อ้า เฟี๊ยตเผลอไปรู้เรื่องของปันซะแล้วซี ก็ว่าสิน้า ปันเค้าเมานี่นา เผลอพูดอะไรไปก็ทำเป็นลืมๆมันเถอะน้าเฟี๊ยตตตต



ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 73 The Well of Confession

 

            “ผมเป็นคนเลวมาตลอดชีวิต เลวเพราะว่ารักมันมาโดยตลอด รู้ไหม ผมใช้ความเห็นแก่ตัวกีดกันใครต่อใครออกไปจากชีวิตมันตั้งมากมาย โดยที่มันไม่เคยรู้ตัวสักครั้งเดียว หึ ผมมันเป็นคนเลวมากใช่ไหม” เสียงนั่นยังคงดังต่อไปด้วยน้ำเสียงที่ราวกับกำลังเย้ยหยันตัวเองอยู่อย่างนั้น

 

            “ทุกคนมีนิสัยแย่ๆ ที่ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจที่จะไล่พวกเขาออกไปจากชีวิตมันสักครั้งเดียว เจ้าชู้บ้างหละ คบเผื่อเลือกบ้างหละ เป็นแฟนมันเพราะว่าเห็นแค่ว่ามันเป็นคนมีชื่อเสียงบ้างหละ คนเหล่านั้นกระเด็นออกไปจากชีวิตมันอย่างที่มันก็ไม่เคยรู้ตัวว่าทำไม” เฟี๊ยตได้แต่นั่งฟังเสียงรำพันนั่นอยู่เงียบๆ เขาไม่กล้าแม้แต่เขยิบตัวแม้แต่น้อย เพราะกลัวว่าถ้าอีกคนที่กำลังระบายอะไรในใจออกมาไม่หยุดนั่นรู้ว่าเขานั่งฟังอยู่ตรงนี้นั้น เรื่องราวจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เขาไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการเลย

 

            “แต่กับคนนี้มันไม่ใช่เลย เขาไม่มีความผิดแม้แต่น้อย เขาเป็นคนดีทุกอย่าง แต่เข้าใจไหม เรื่องแบบนี้มันห้ามความรู้สึกกันไม่ได้ มันโคตรเหนื่อย ทุกครั้งที่เขาใกล้ชิดกัน คนเจ็บมันอยู่ตรงนี้ หัวใจมันจะไม่ไหวแล้ว รู้ไหม การที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเลวนี่มันแย่ขนาดไหน มันเป็นผมใช่ไหมที่ควรจะเดินออกไปเพื่อความถูกต้องเสียเอง ฮืออ” เสียงสะอื้นดังมาจากคนนั้นอีกครั้ง เฟี๊ยตทิ้งตัวพิงกับก้อนหินนั่นอย่างหมดแรง ไม่เลย เขาไม่เคยรับรู้อะไรมาก่อนเลย อาจจะมีระแคะระคายมาบ้าง แต่ก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นความรู้สึกหวงเพื่อนแบบเพื่อนสนิทที่คบกันมานานมากกว่า แต่นี่มันไม่ใช่เลย เหตุนี้สินะที่ทำให้ระฆังนั่นคืนชีพได้อีกครั้ง

 

            “เขาไม่ผิด เพราะเขาไม่ได้มารับรู้เรื่องบัดซบๆ นี่ด้วยแม้แต่น้อย มันก็ไม่ผิด เพราะมันก็ไม่เคยรู้เรื่องบัดซบๆ นี่ด้วยเหมือนกัน คนที่ผิดคือผมเอง ผมคนเดียว ฮืออ” และนั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่เฟี๊ยตได้ยินจากปากของปันในค่ำคืนนั้น เสียงเงียบลงไปช่วงเวลาหนึ่ง จนเฟี๊ยตตัดสินใจก้าวออกมาจากที่หลบซ่อนและพบว่าปันร้องไห้จนหลับไปเสียแล้ว ผู้ชายที่เขาเห็นตรงหน้านี่ไม่เหลือเค้ารางแห่งความไว้ตัวที่ประกอบขึ้นตั้งแต่พบกันแรกๆ นั่น ไม่เหลือแล้วมาดคุณชายที่แฝงอยู่ในทุกอิริยาบถโดยที่เจ้าตัวเองก็คงไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน เบื้องหน้าของเฟี๊ยตในเวลานี้ คือ ผู้ชายคนที่ที่พ่ายแพ้ให้กับคำว่ารักอย่างสิ้นเชิง หัวใจของชายตรงหน้านี้คงผุกร่อนมาไม่น้อย กี่ปีไม่รู้ที่ปันเฝ้าเก็บงำความลับของหัวใจนี่มาคนเดียวตลอด และก็ไม่รู้อีกนานแค่ไหนที่มันจะยังคงเป็นความลับไปอย่างนี้ เฟี๊ยตถอนหายใจยาวอย่างคิดหนัก สภาพของปันเวลานี้อยู่ในข่ายน่าสงสารมากจริงๆ บางที เขาอาจจะต้องทบทวนอะไรบางอย่างเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งที่ทำให้เพื่อนคนนี้ของเขามาร้องไห้ฟูมฟายอยู่อย่างนี้ก็เป็นเพราะตัวเขานั่นเอง ถึงแม้ว่า มันจะเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งก็ตาม

 

            เฟี๊ยตค่อยๆ พาตัวเองออกไปจากบ่อน้ำนั้นเงียบๆ โดยทิ้งเพื่อนร่วมทีมให้นอนสลบอยู่อย่างนั้น เขาสั่งให้การ์ดยุงรำคาญคอยเฝ้าปันไว้ไม่ให้คลาดสายตา ในกรณีที่มีอันตรายใดๆ เขาจะได้รีบมาช่วยเหลือได้ทัน เขาเองไม่ได้บอกใครสักคนว่าปันมานอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ที่บ่อน้ำแห่งการให้อภัยนี่ เพราะคิดว่าหากถ้าตนตัดสินใจบอกใครให้มาพาตัวปันกลับไปแล้ว เมื่อสืบสาวราวเรื่องไปอาจจะพบได้ว่าเขาเองมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ต้น ซึ่งอาจจะทำให้ปันรู้สึกแย่กว่าการนอนคนเดียวทั้งคืนนี่เสียอีก

 

            ค่ำคืนนั้นเฟี๊ยตตัดสินใจที่จะไปนอนที่บ้านพักของหยง โดยนอนรวมกับๆ น้องชายและน้องสาวตัวเล็กๆ ของหยงอีกสามคน ด้วยเหตุผลที่เขาบอกทุกคนว่า เขาต้องการมาเฝ้าอาการของหยงให้แน่ใจเสียก่อนว่าจะปลอดภัยดีและไม่มีการกำเริบขึ้นอีก แต่ในใจส่วนลึกของเขาเองนั้นรู้ดี ว่ามันก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้างของเขาเท่านั้นเอง

 

 

            เช้าที่แสนขมุกขมัวไปด้วยความรู้สึกอันบอกไม่ถูกนั่นเริ่มต้นใหม่ที่บ้านพักของลอซู ผู้ใหญ่บ้านเชิญพวกเขามาพบด้วยบอกว่าจะหารืออะไรบางอย่าง เฟี๊ยตเดินทางมาจากบ้านของครอบครัวหยง แทนน่าจะเดินทางมาจากที่พักของพวกเขาทั้งสามคน ส่วนปันมาจากไหน เขาเองก็ไม่ทราบ เพราะเขาเองก็ไม่อยากถามคำใดให้ผิดสังเกตไป

 

            พวกเขากินข้าวกันอย่างเงียบๆ บรรยากาศในตอนนั้นดูหม่นๆ คล้ายกับหมู่บ้านวาเลนไทน์ที่อุดมไปด้วยหมอกในเวลานี้ไม่มีผิด แทนที่เคยสดใสร่าเริงในขณะนี้ดูเหมือนจะยังแฮงค์จากเมื่อคืนไม่หาย ในขณะที่ปันก็มีท่าทีเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็อึกอักๆ อยู่ตลอดเวลา ส่วนเฟี๊ยตในเวลานี้ก็ยังไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่าเริงอยู่เท่าใดนัก ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนั้นจึงทำให้วงสนทนายามเช้านั้นเงียบเชียบไปโดยปริยาย

           

 

            “ข้า ลอซู ในฐานะตัวแทนของชาววาเลนไทน์ทุกคนไม่มีสิ่งใดจะบอกพวกเจ้านอกไปจากคำว่า ขอบคุณ จากใจของพวกข้าทุกคน ชื่อของพวกท่านจะถูกบอกเล่าไปจนชั่วลูกสืบหลานว่าท่านทั้งสามเป็นวีรบุรุษของพวกเรา” ลอซูพูดขึ้นหลังจากที่พวกเขาจัดการอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ชายชราลุกยืนขึ้นพร้อมโค้งคำนับพวกเขาอย่างแสดงความขอบคุณถึงขีดสุด จนพวกเขาลุกขึ้นตามแทบไม่ทัน น้ำตาของเฟี๊ยตรื้นๆ ตรงหางตาน้อยๆ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นฉากหนึ่งในเกม แต่สายสัมพันธ์ของคนในหมู่บ้านนี้ก็ดูจริงจนเขารู้สึกได้ พวกเขาต่างโค้งคำนับการขอบคุณจากผู้ใหญ่บ้านเฒ่าด้วยความรู้สึกตื้นตันจนบอกไม่ถูกเลย

 

            “ข้าขอมอบเสบียงอาหารเหล่านี้ให้พวกท่านเป็นของตอบแทนเท่าที่ชาวบ้านป่าอย่างพวกข้าจะหามาให้พวกท่านได้” ลอซูพูดพลางยื่นการ์ดจำพวกอาหารและของป่าให้กับพวกเขาคนละปึกใหญ่

 

            “จะดีหรือ ลอซู หมู่บ้านของท่านขาดแคลนเสบียงอยู่ไม่ใช่หรอ พวกเราคงรับไว้ไม่ได้” ปันพูดแย้งลอซูออกมาด้วยความหวังดี

 

            “ไม่เป็นไรหรอก ระฆังศักดิ์สิทธิ์ได้เปิดทางเข้าออกระหว่างป่านอกป่าในเรียบร้อยแล้ว ต่อไปนี้เสบียงอาหารจะไม่เป็นปัญหาสำหรับวาเลนไทน์อีกต่อไป พวกท่านได้โปรดให้พวกเราแสดงน้ำใจด้วยเถิด” ลอซูยื่นการ์ดเหล่านั้นมาให้พวกเขาอีกครั้ง พวกเขาจึงรับไว้แต่โดยดี

 

            “สุดท้ายนี้ข้าขอมอบของป่าที่เป็นของหายากที่สุดในท่านคนละชิ้นเป็นที่ระลึก เพื่อแสดงน้ำใจที่จะตอบแทนพวกท่านเท่าที่เราชาวป่าจะทำให้ได้” ลอซูกล่าวขึ้นต่อหลังจากที่พวกเขาเก็บการ์ดเสบียงอาหารต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

            “ข้าขอมอบหน่อไม้แดงสำหรับเพิ่มพลังให้กับนักสู้ให้กับท่าน ชายผิวแทนผู้เป็นฝ่ายบู๊ประจำทีม หน่อไม้แดงนี่จะทำให้ท่านเพิ่มพละกำลังอย่างมหาศาล แลกกับแรงใจของท่านที่จะหมดลงอย่างรวดเร็วกว่าปรกติ” ลอซูยื่นหน่อไม้สีแดงสดหน่อหนึ่งให้กับแทน เขาเอื้อมมือไปรับอย่างงงๆ และทันทีที่เขาสัมผัสเจ้าต้นนั่น มันก็ระเบิดเบาๆ กลายสภาพเป็นการ์ดมาอยู่ในมือเขา

 

 

            “ชื่อ Red Bamboo (หน่อไม้แดง) ประเภท TC (ไพ่พรสวรรค์) ระดับ 7 ความสามารถ ใช้เพิ่มพลังกายของเจ้าของ แลกกับพลังจิตของเจ้าของที่ลดลง ปริมาณพลังกายที่เพิ่มขึ้นและพลังจิตที่ลดลงขึ้นอยู่กับปริมาณหน่อไม้ที่กินเข้าไป”

 

 

            “ส่วนท่านผู้เป็นสติปัญญาแห่งทีมนี้ ข้าขอมอบสัตว์ที่มีพลังวิเศษอันแก่กล้าเป็นของขวัญ ไพ่ที่ต้องใช้ความคิดไตร่ตรองในการใช้มาก ย่อมเหมาะกับผู้ที่คู่ควร” ลอซูเดินออกไปจากห้องชั่วจังหวะหนึ่งหลังพูดจบ ก่อนจะกลับมาพร้อมกับลูกหมีสีขาวดำตัวน้อยที่น้ำหนักดูจะไม่น้อยตามขนาดเลย แพนด้า เขาได้ลูกแพนด้าเป็นของขวัญ และทันทีที่เขาเอื้อมไปแตะมัน การ์ดใบหนึ่งก็มาปรากฏอยู่ในมือของเขา

 

 

            “ชื่อ The Panda of Clone (แพนด้าจอมคัดลอกพันธุกรรม) ประเภท TC (ไพ่พรสวรรค์) ระดับ 7 ความสามารถ ใช้เพื่อเลียนแบบไพ่สูงสุดได้หนึ่งครั้งต่อไพ่สูงสุดหนึ่งใบ โดยเมื่อไพ่เลียนแบบที่ได้จะใช้ได้เพียงครั้งเดียวและไม่สามารถขายหรือแลกเปลี่ยนได้ ความสามารถดังกล่าวสามารถเลียนแบบไพ่สูงสุดได้เพียงวันละ 1 ใบเท่านั้น”

 

 

            “ส่วนท่านที่เปรียบเสมือนวีรบุรุษของพวกเราชาววาเลนไทน์ทุกคน ข้าขอมอบสิ่งที่เปรียบเสมือนสิ่งล้ำค่าที่สุดของพวกเราให้กับท่าน ขวดน้ำนี้บรรจุไว้ด้วยน้ำที่มาจากบ่อน้ำแห่งการให้อภัย ที่เปรียบเสมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราชาววาเลนไทน์ทุกคน” ลอซูยื่นขวดที่บรรจุน้ำใสบริสุทธิ์ให้กับปันเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่มันจะกลายมาเป็นการ์ดดังเช่นเพื่อนร่วมทีมอีกสองคน

 

 

            “ชื่อ The Water of The Earth (น้ำแห่งแผ่นดิน) ประเภท TC (ไพ่พรสวรรค์) ระดับ 7 ความสามารถ ใช้เพื่อเรียกมวลน้ำจากแหล่งน้ำใดจากพื้นโลกก็ได้ รวมไปถึงปรากฏการณ์เกี่ยวกับน้ำทุกชนิดบนโลกด้วยเช่นกัน”

 

 

            “ขอบคุณมาก ลอซู ขอบคุณมาก พวกเราดีใจจนบอกไม่ถูกเลย” ปันพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นที่สุด พลางเขย่ามาผู้ใหญ่บ้านเฒ่าเป็นการขอบคุณอยู่อย่างนั้น พวกเขาทุกคนดีใจมากที่ได้รับไพ่พรสวรรค์มาเพิ่มแบบไม่ได้คาดฝันมาก่อนเช่นนี้ โดยส่วนตัว เฟี๊ยตคิดว่าไพ่ที่เขาได้รับนั้นมีประโยชน์มากถึงที่สุด ซึ่งเขาจะต้องวางแผนการใช้ให้รัดกุมที่สุด เพราะว่าเงื่อนไขการใช้ออกจะจุกจิกไปเสียหน่อย แต่เขาพูดได้เลยว่าการแวะมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ช่างคุ้มค่าเหลือเกิน

 

 

            “หมู่บ้านวาเลนไทน์มีทางลับออกไปสู่หมู่บ้านภายนอกได้ 3 ทางด้วยกัน ได้แก่ เมืองมกราคมแห่งการเริ่มต้น เมืองกุมภาพันธ์แห่งความหวัง และเมืองพฤษภาคมแห่งสายลม ข้ายินดีจะไปส่งพวกท่านจะถึงทางออกที่เชื่อมเข้าสู่เมืองดังกล่าวได้ใกล้ที่สุด เพื่อที่พวกท่านจะได้ไม่ต้องลำบากลำบนกันในป่าทิวสนอีกต่อไป พวกท่านช่วยเลือกจุดหมายปลายทางที่ท่านจะไปด้วย” ลอซูบอกข่าวดีกับพวกเขาอีกอย่าง พวกเขาไม่จำเป็นต้องตกระกำลำบากในป่าอีกต่อไปแล้ว เพียงแค่บอก พวกเขาก็จะทะลุไปยังเมืองที่ต้องการได้เลย ในความคิดของเฟี๊ยต นี่ไม่น่าจะเป็นทางลับหรอก หากแต่คงจะเป็นระบบวาร์ปของเกมมากกว่า เพราะวาเลนไทน์นี่เป็นเมืองที่หลุดมาจะไกลสุดของแผนที่แล้ว มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะที่ทางเชื่อมเข้าสู่เมืองตามคำกล่าวของลอซู

 

            “เมืองพฤษภาคม คือ จุดหมายที่พวกเราต้องการ ลอซู” แทนเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว แทนตอบไปตามอย่างที่แทนเคยบอกเขาไว้ไม่มีผิดเพี้ยน แทนกับปันเคลียร์เมืองกุมภาพันธ์จนเรียบร้อยหมดแล้ว เมืองทางเหนือจึงเป็นเมืองต่อไปที่ชายหนุ่มต้องการจะมุ่งหน้าไป

 

            “แต่เราจะไปเมืองกุมภาพันธ์แห่งความหวัง ท่านช่วยแยกไปส่งเราอีกทางหนึ่งได้ไหม ลอซู” เฟี๊ยตเอ่ยขึ้นมาอีกเสียงอย่างเด็ดเดี่ยวด้วยเช่นกัน!

 

 

 จากผู้แต่ง : ความรักของเฟี๊ยตใกล้มาถึงปมสำคัญแล้วครับ อดใจรอนิดเดียว อย่าเร่งคนแต่งเลย ผมตั้งใจแต่งเป็นนิยายแฟนตาซีอ่า ไม่ใช่นิยายรัก ลองคิดว่าเหมือนอ่านโปเกมอนอ่าครับ อารมณ์นั้น คือโฟกัสไปที่การผจญภัยมากกว่า แต่ก็มีความรักครับ แต่อาจจะมาช้าหน่อยเท่านั้นเอง อย่าเร่งเลยนะ ห้าห้า

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
ถึงคุณ mildmint0 : เป็นไปตามที่คุณ mesomeo2 บอกเลยครับ คนๆ เดิมจะกลับไปเก็บการ์ดเดิมๆ ด้วยวิธีการเดิมๆ ไม่ได้อีก ยกตัวอย่าง เช่น หมู่บ้านวาเลนไทน์อาจจะไม่เกิดปัญหาอีกในช่วงที่ทีมมายายังอยู่แถวนี้ หรือถึงแม้ว่าทีมมายาจะไปบอกคนอื่นให้มาเก็บการ์ดที่นี่ ก็อาจจะเจอกับปัญหาใหม่ เงื่อนไขใหม่ครับ ส่วนเรื่องการเชื่อมต่อระหว่างวิหารกับหมู่บ้านนั้น ไม่จำเป็นครับ ตัวละครในเกมประมวลความคิดด้วยระบบสถิติไม่ใช่ตั้งโปรแกรมไว้ครับ ลอซูอาจจะไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นก็ได้ในครั้งหน้า ถ้าเขาประมวลผลแล้วว่าคนๆ นั้นน่าจะฉลาดพอหนะครับ งงไหม ห้าห้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด