The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Lost World มหัศจรรย์ดินแดนสาบสูญ EP204 + ประกาศอัพเดต 23/05/2018  (อ่าน 444011 ครั้ง)

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
จากบทความนี้

"อะไรเอ่ย ดั่งระฆัง กังวานก้อง

ทั้งสี่พ้อง ร้องทักทั่ว ทุกทิศา

เตือนสติ จากความหลง องค์อัตตา

หยั่งรู้พ้น อวิชชา กว่ากำเกวียน”


เราขอเดาความหมายว่ามันคือ "ปัญญา"  (มั้ง ==!) แบบเราถอดความหมายออกมาได้ว่า

*อะไรสักอย่างที่คอยเตือนสติให้เราไม่ลุ่มหลงไปกับตัวตนที่ไม่แน่นอน

ทำให้หลีกหนีพ้นพวกกิเลสหรือสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย*

ประมาณนี้แหละ หรือมันจะหมายถึงหลักธรรมะก็ไม่รู้เหมือนกัน คิดแล้วก็มึนรอมาเฉลยดีกว่า :mew5:

ปันผู้น่าสงสารและแทนผู้ไม่รู้อะไรเลย สุดท้่ายเฟี๊ยตผู้อยู่กึ่งกลางไม่รู้จะทำยังดี

เฮ้อ........เฟี๊ยตไม่น่าโดนดึงเข้าไปในความรู้สึกอันชวนอึดอัดนั่นเลย


ปล.เที่ยวให้สนุกนะจ๊ะ ว่าแต่ไปยังเนี่ยทำไมยังได้อัพอยู่จ๊า  :mew1:




เราขอยืนยันคำตอบเดิม และ....เพิ่มนิดหน่อย  ขอตอบเพิ่มว่ามันคือ .........

.........."แสงแห่งธรรม".................

อะจ๊ากกกกกกก  (มึงเดาได้มั่วมาก ==!!!)

เอาน่าไม่ว่ายังเราเชื่อว่าทุกปัญหาย่อมมีทางออก เฟี๊ยตและปัน-แทน สู้ๆน้า

แล้วก็ไอ้เรื่อง Restart อ่ะ ไม่ต้องไปคิดนะเพราะมันคงไม่ใช่ทางออกที่ดี อีกอย่างเราสงสาร ไบเบิล อ่า

แก้ปัญหาให้ได้นะเฟี๊ยต ฮูเร่ๆๆๆๆๆๆ


ปล.จุดพลุฉลอง 30 หน้า ดีใจๆๆๆๆๆ

ปล.2 ไปเที่ยวให้สนุกนะแล้วมาเฉลยปริศนาที อยากรู้ตอนต่อไปมากๆ

ปล.3 เม้นท์นี้เรารู้สึกว่าตัวเองเพี้ยนๆไงไม่รู้แฮะ (นี่เอ็งเพิ่งรู้ตัวเรอะ) ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ  บะบาย ^3^

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
แย่เลยไม่มีทางอื่นแก้ไข้เลยหรอเนี่ย  ถึงผู้แต่งสู้ๆเป็นกำลังใจเวมอขอบคุณสำหรับนิยายดีๆแบบยี้หวังว่าจะหาแรงบันดาลใจละกลับมาแต่งให้อ่านกันไวๆๆนะคับ

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ไม่รู้ว่าคำตอบคืออะไร แต่ก็เอาใจช่วยนะคับ  อย่าฆ่ากันตายเลย..มันเหมือนเกมส์จบเลยอ่ะ  นิยายก็จะจบด้วยนะ

แบบนี้ ไม่ไหวๆ

ออฟไลน์ hotoil

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เฮ้อ...จะตีกันตายไหมเนี่ย?
ปัน แทน ถอดใจซะแล้ว
เฟี๊ยตอย่าเลือกเล่นเกมใหม่นะ มันต้องมีทางออกเสมอ...
แล้วจะทำยังไงต่อล่ะทีนี้ ออกไม่ได้ มีทางเดียวแก้ด่านนี้ให้ได้...
ปล. เดียวไปลองแก้ปัญหานี้ดู แล้วจะมาตอบต่อ.. (ขอเวลาแปป)

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
3 วันแล้วที่ไม่ได้อ่านคิดถึงจัง

ออฟไลน์ saiiisai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ยิ่งอ่านยิ่งฟินครับ
ขอบคุณมาก

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เย้ๆๆ พี่คนเขียนมาแล้ว >.< นิยายของพี่คนเขียนนี่ไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย
ทุกตอนที่อ่านทำให้เราต้องนั่งคิด นั่งลุ้นว่าทั้ง3คนจะต้องเจออะไรต่อ จะแก้ปัญหากันยังไง
จะแอบมีความไม่ลงรอยกันรึป่าว ปันจะกล้าบอกความในใจให้คนที่ปันแอบชอบรึป่าว
(ซึ่งเราขอคิดเข้าข้างตัวเองว่าปันชอบแทนนะพี่คนเขียน>.<)
แล้วเฟี๊ยก็เก่งเวอร์สติปัญญาเป็นเลิศ หาแก้ปัญหาได้ตลอด แทนก็แข็งแรง
แถมยังเป็นคนสบายๆช่วยเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ 3คนนี้เป็นทีมที่เลิศแท้ ^_^
อ่านไปอ่านมาแล้วอินเหมือนจะหลุดไปอยู่ในเรื่องด้วยเลยแหละ 555
แต่ละเกมส์แต่ละคำถามของพี่คนเขียนทำให้เรานั่งคิดตามเลยนะ
แบบหยุดอ่านไปนั่งคิดคำตอบเลยแหละ บางทีคิดไม่ออกก็มาเปิดอ่านต่อดูเฉลย55
ทั้ง3คนก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ปํญหาจนได้เสมอ
แต่ที่อ่านตอน64 ดูแล้วทั้ง3คนจะหมดหนทางจริงๆ เฟี๊ยตก็คิดปัญหาไม่ออก
แล้วยังมีกระทบกระทั่งกันเองอีก จนถึงขั้นต้องให้ไบเบิ้ลบอกวิธีรีสตาร์ท
เราว่าไม่คุ้มนะพี่เฟี๊ยต ToT ถ้ารีเกมส์ก็จะได้หลุดออกจสกที่นี่ก็จริง
แต่ก็จะไม่มีเพื่อนคู่ใจแบบไบเบิ้ลแถมอาจจะไม่ได้เจอปันก็แทนอีก
แบบนี้ไม่เอานะ ฮือออ แอบน้อยใจแทนไบเบิ้ลจังเลย
ถ้าไบเบิ้ลแปลงเป็นคนได้เราจะจิ้น ไบเบิ้ลเฟี๊ยตให้สะใจเลย เอาแบบ...........
แบบเมะขรึมๆแต่ห่วงเคะมากๆแล้วก็คอยดูแลใกล้ๆเท่าทีจะทำได้ มีน้อยใจหน่อยๆตอนที่เคะไม่สนใจ
กับเคะน่ารักสุดฉลาด แสนมั่นใจในตัวเองจนบางครั้งก็หลงลืมคนข้างๆตัวไป โอ้ย~ คิดแล้วฟิน~~~~~
(///หลบกระถางต้นไม้กับขวดน้ำที่พี่คนเขียนกับคุณคนอ่านคนอื่นปามา) 555
เราว่ามันต้องมีทางแก้แหละเนอะ ยังไงพี่คนเขียนคงไม่ใจร้ายให้ทั้ง3คนรีเกมส์ใช่ม้า >.<
งั้นให้เราลองเดาดูบ้างดีกว่า“ อะไรเอ่ย ดั่งระฆัง กังวานก้อง” ก็แปลว่าสิ่งที่เค้าถามนั้นโด่งดัง
หรือเป็นที่รู้จักกันทั่วเหมือนเสียงระฆังที่ดังกังวานไปทั่วทุกทิศ
 “ทั้งสี่พ้อง ร้องทักทั่ว ทุกทิศา” ก็น่าจะแปลว่าทั้ง4ต่างร้องทักทั่วทิศ น่าจะหมายถึงท้าวจตุโลกบาลทั้ง4
ที่ประจำอยู่ทุกทิศเพื่อปกป้องดูแลคุ้มครองพระพุทธศาสนาและโลกมนุษย์
“เตือนสติ จากความหลง องค์อัตตา” อัตตา คือ สิ่งที่เป็นตัวตนของกิเลสที่ติดยึดว่าเป็นเรา
แล้วเราก็พอใจเสพสมสุขสมกับสิ่งที่ได้มาสมใจนั้นๆ เช่น เงินทอง ถ้าเตือนสติไม่ให้หลงไปในกิเลศ
“หยั่งรู้พ้น อวิชชา กว่ากำเกวียน” อวิชชาแปลตามศัพท์ว่าความไม่รู้ ความว่าไม่รู้ในอริยสัจจ์ ๔
กำหรือกำเกวียน คือ ซี่ล้อเกวียน ในบทนี้ก็น่าจะหมายถึงธรรมจักร ที่เป็นสัญลักษณ์ของศาสนาพุทร
ทั้งประโยคนี้ก็น่าจะแปลว่าทำให้เรารู้ซึ้งถึงอริยสัจ4 หรือพ้นจากการไม่รู้ในศาสนาพุทธ
สรุปแล้วคำตอบมันคืออะไรอ่ะ เราขอลองตอบหลายคำถามได้ม้า พี่คนเขียนห้ามว่าเรานะ อิอิ
เราขอตอบ 1.การตรัศรู้ 2.นิพพาน 3.สติปัญญา 4. ไตรลักษณ์ 5.พระรัตนตรัย
คิดๆแล้วก็งง ยิ่งคิดก็ยิ่งงง คำถามพี่คนเขียนยากจังเลย มิน่าล่ะ พี่เฟี๊ยตของเราถึงคิดหนักก็คิดไม่ออก
พี่คนเขียนไปพัก ก็อย่าลืมพักเยอะๆ ไปหาแรงบันดาลใจให้กำลังใจเต็มเปี่ยมเลยน้า
ส่วนเราจะเป็นกำลังใจเล็กๆให้อยู่ตรงนี้ รอพี่คนเขียนกลับมาแต่งต่อน้า
เลิฟพี่คนเขียน >_< ไฟต์ติ่งค่า~~~

:mew1: :katai2-1: :pig4: :impress3:

ออฟไลน์ Umiko

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

สนุกมาก ๆ เลย

เป็นกำลังใจให้....


ออฟไลน์ keniji01

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :jul1: :z3: :z3: มาเขียนต่อได้แล้ว 555 อืมถ้าบอกว่าคำตอบคือปัญญาความรอบรู้ ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะต้องใช้ไบเบิ้ลเป็นตัวเปิดทางแต่ว่าจะใช้ยังไง ใส่ในหีบเหรอ5555 มั่วแล้วตรู
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

Wednesday

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งสอบเสร็จ...เข้ามาอ่าน เครียดกว่าตอนสอบอีก  :z3:  :z3:


แง๊ๆไม่เอารีนะ   :ling1:  :ling1:

ถ้ารีเค้าจะ  :z6:  พี่คนเขียน :m16:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ keniji01

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1: :katai1: :katai1: รอเธอมานานแสนนาน ทรมานวิญญาณหนักหนา ระทมอยู่ในอุรา แก้วกานดา ฉันรอเธอผู้เดียว :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 65 Answer

   เฟี๊ยตทิ้งกายลงอย่างหมดแรง แค่ได้ฟังว่าจะต้องตายจริงๆ ใจของเขามันก็หวิวอย่างบอกไม่ถูก เขานั่งกอดเข่าพลางเอาหน้าซบลงกับหัวเข่าอย่างสิ้นหวัง ชายหนุ่มได้แต่ปล่อยความคิดให้ล่องลอยออกไปไกลอย่างช้าๆ บางที เขาก็ไม่อยากรับรู้อะไรสักพักหนึ่ง เฟี๊ยตปิดดวงตาคู่นั่นลงอย่างเหนื่อยอ่อน เขาได้ยินถึงเสียงทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ จากเพื่อนร่วมทีมทั้งสองคนที่ดังขึ้นราวกับมาจากที่ที่ไกลแสนไกล และเพียงชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น เภสัชกรหนุ่มก็ตกลงสู่ห้วงภวังค์อย่างไม่ทันรู้สึกตัว


   ‘ไบเบิ้ล เฟี๊ยตไม่อยากตาย ไบเบิ้ลพอจะมีเบาะแสอะไรอีกไหม ที่จะช่วยให้คิดคำตอบนี่ได้’ เสียงของเฟี๊ยตร้องดังขึ้นในใจ ดูเหมือนว่าตอนนี้ไบเบิ้ลคือสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวของเขา เพราะว่าเพื่อนทั้งสองคนดูเหมือนจะถอดใจกันไปหมดแล้ว ทันทีที่เฟี๊ยตรู้สึกตัว คนแรกที่เฟี๊ยตเลือกจะปรึกษาจึงเป็นไบเบิ้ลที่จนถึงบัดนี้ เขาก็ยังไม่รู้เลยว่ามันเป็นเพียงวัตถุชิ้นหนึ่ง หรือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกนึกคิดเช่นเดียวกันกับเขา

   “อยากได้ข้อมูลด้านไหน นายท่าน” ไบเบิ้ลตอบเขากลับมาอย่างรวดเร็ว

   “อะไรก็ได้ที่มีประโยชน์ ไบเบิ้ล อะไรก็ได้” เฟี๊ยตพูดออกมา โดยที่สายตาจับจ้องไปที่ช่องบนเพดานที่มีแสงสว่างลอดลงมานั่นอย่างเลื่อนลอย

   “ขอเวลาสักครู่ นายท่าน”


   “ไบเบิ้ลสงสัยมานานแล้วเรื่องวิธีการตอบคำถามของปริศนานี่ นายท่าน ไบเบิ้ลลองเจาะเข้าไปในระบบวิศวกรรมของวิหารนี่ แล้วก็พบว่าพื้นผนังรอบข้างเราที่เป็นรูปผู้คนในอิริยาบถต่างๆ นี่สามารถถูกกดให้ยุบตัวลงไปได้ ทั้งๆ ที่ผนังส่วนอื่นในวิหารนี่ไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวเลย ไบเบิ้ลสันนิษฐานว่า จริงๆ แล้ววิธีการตอบคำถามนี่ ไม่ใช่การตอบโดยคำพูด แต่น่าจะเป็นการตอบโดยการกดสัมผัสมากกว่า” การ์ดคู่ใจของเขาสันนิษฐานออกมาอย่างน่าสนใจ

   ‘หืมม แล้วพอจะมีข้อมูลเรื่องลวดลายบนฝาผนังพวกนี้บ้างไหม’ เฟี๊ยตที่ขณะนี้ตื่นเต็มตาเป็นที่เรียบร้อยเริ่มถามต่ออย่างมีความหวัง

   “ลวดลายบนฝาหนังนี่ถูกสร้างขึ้นเลียนแบบประติมากรรมฝาผนังจากวัดสุวรรณดาราราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ถูกดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยโดยการแต่งเติมเรื่องราวในโลกปัจจุบันเข้าไป แต่ยังยึดถือใจความสำคัญไว้เช่นเดิม” ไบเบิ้ลตอบ

   ‘ใจความสำคัญ ใจความสำคัญเรื่องอะไรหรอไบเบิ้ล’ ความคิดของเฟี๊ยตแล่นไปอย่างรวดเร็ว

   “พุทธประวัติ นายท่าน” ไบเบิ้ลตอบขึ้นตรงกับสิ่งที่ชายหนุ่มคิดไว้อยู่แล้วอย่างไม่มีผิดเพี้ยน

   ‘แปลว่าคำตอบนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติอย่างนั้น ใช่หรือเปล่า’ เฟี๊ยตถามขึ้นอย่างยินดี เขาพอจะมีเค้ารางแห่งความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

   “ตามข้อสันนิษฐานของไบเบิ้ลนะ นายท่าน” เสียงนั่นดังขึ้นอย่างราบเรียบแต่มั่นคง


   “อะไรเอ่ยเหมือนกับระฆังทั้ง 4 ที่ทำให้ผู้คนออกจากความไม่รู้” เฟี๊ยตเอ่ยพึมพำกับตนเองอยู่อย่างนั้น เขาแปลความหมายจากบทกวีดังกล่าวคร่าวๆ ได้ดังนี้ หลายสิ่งหลายอย่างผ่านเข้ามาในสมองเขา เขาเริ่มทบทวนกลับไปที่คำตอบต่างๆ ที่เขาเคยเอ่ยตอบไปหมดแล้วทั้งสิ้นนั้น ด้วยคิดว่า ความจริงแล้วเขาอาจจะเคยตอบคำตอบที่ถูกต้องไปแล้วก็ได้ เพียงแต่วิธีการตอบของเขาอาจจะผิดตามที่ไบเบิ้ลว่า จึงทำให้เขาหลุดออกไปจากที่แห่งนี้ไม่ได้สักที

    คำตอบแรกที่เขาตอบไปคือการศึกษา เพราะเขาคิดว่าวิธีการขจัดความไม่รู้ คือการทำให้รู้ นั่นก็คือการเรียนรู้หรือการศึกษานั่นเอง หลังจากที่คำตอบนี้ผิด เขาก็คิดถึงปัญญา เพราะปัญญาก็เป็นสิ่งที่ทำให้ความไม่รู้หายไปได้ แต่คำตอบนี้ก็ยังคงเป็นคำตอบที่ผิดอยู่ดี

   ปันเคยเอ่ยถามเขาถึงคำแปลของความหมายของคำว่าอัตตา ซึ่งเขาก็ตอบออกไปว่า มันหมายถึงความเป็นตัวตน ปันในขณะนั้นก็บ่นกับเขาว่าไม่เคยได้ยินศัพท์คำนี้มาก่อนเลย และนั่นทำให้เขาจับสังเกตได้ว่า คำดังกล่าวมักจะใช้ในทางพุทธศาสนาเท่านั้น เบาะแสดังกล่าวทำให้เขาคิดหนักว่าคำตอบที่เขาตามหาน่าจะเกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ และเมื่อพูดถึงการกำจัดความไม่รู้ ใจเขาก็คิดถึงการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดเป็นอย่างแรก นั่นหมายถึง อริยสัจ 4 ยิ่งคำตอบดังกล่าวไปพ้องตรงกับคำว่าทั้ง 4 ในบทกวีด้วยแล้ว เขายิ่งมั่นใจมากขึ้นไปอีก แต่สุดท้าย คำตอบเหล่านั้นก็เป็นคำตอบที่ผิดอยู่ดี

   เมื่อไบเบิ้ลชี้เบาะแสให้เห็นถึงการตอบปัญหาอีกวิธีแล้ว ใจเขาก็หวนกลับไปคิดถึงคำตอบเหล่านั้นทันที การศึกษา ปัญญา และอริยสัจ 4 แต่ดูเหมือนคำตอบเหล่านั้นจะเป็นนามธรรมเสียมากกว่า จนเขาไม่รู้จะเชื่อมโยงเรื่องราวบนผนังกำแพงนี่ให้เข้ากับคำตอบได้อย่างไร


   ‘ไบเบิ้ลมีอะไรแนะนำไหม’ เขาเอ่ยถามเพื่อนคู่ใจอย่างต้องการความคิดเห็น

   “ไบเบิ้ลลุ้นอยู่ตั้งนาน นึกว่านายท่านจะไม่ถามเสียแล้ว” เสียงนั่นตอบกลับมาราวกับว่าโล่งใจที่เขาถามออกมาจนได้

   ‘ทำไมหรอไบเบิ้ล มีอะไรสำคัญที่เรายังไม่รู้หรือเปล่า’ เฟี๊ยตถามต่ออย่างรัวเร็ว

   “ไบเบิ้ลคิดว่านายท่านแปลความหมายตกไปบางช่วงนะนายท่าน บทกวีบอกว่าระฆังดังเตือนสติไม่ใช่หรอนายท่าน ไม่ใช่ดังจนทำให้ผู้คนออกจากความไม่รู้” ไบเบิ้ลเอ่ย

   ‘เอ๊ะ ต่างกันยังไงหรอไบเบิ้ล’ ผู้เป็นนายถามต่อมาอย่างฉงน

   “ต่างสินายท่าน เตือนให้ออกจากความไม่รู้ กับทำให้ออกจากความไม่รู้ ต่างกันมากนะนายท่าน ตามบทกวีนี่ ระฆังทั้ง 4 ไม่ได้ทำให้หลุดพ้นจากอวิชชาได้ เพียงแต่ช่วยร้องเตือนให้ผู้คนมีสติเฉยๆ”  ไบเบิ้ลอธิบาย

   ‘เดี๋ยวก่อนนะ ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่บอกเราตั้งแต่ต้น ปล่อยให้เราหลงงมอย่างไม่มีทิศทางมาตั้งหลายวันหลายคืนนะ ไบเบิ้ล’ เขาเอ่ยขึ้นอย่างตัดพ้อน้อยๆ

   “นายท่านไม่เคยเรียบเรียงคำแปลที่นายท่านคิดแม้แต่ครั้งเดียว ไบเบิ้ลจึงไม่อาจรู้ได้ว่านายท่านกำลังสันนิษฐานสิ่งใดอยู่ แต่ถ้าหากนั่นเป็นความผิดของไบเบิ้ล ไบเบิ้ลขออภัย”

   “ช่างมันเถอะ เราผิดเอง อย่าคิดมากเลย”


   เฟี๊ยตลงขึ้นจากบริเวณที่เผลอนั่งฟุบหลับไปเมื่อกี้อย่างมุ่งมั่น พลางเดินสำรวจไปรอบๆ ห้องที่ไม่เล็กไม่ใหญ่นั้น สายตาของเขากวาดไปตามฝาผนังนั่นอย่างครุ่นคิด ทันทีที่เขาลุกขึ้นนั้น เพื่อนทั้งสองก็หันมาที่เขาอย่างสงสัย ก่อนจะลุกขึ้นมาสมทบที่เขา เฟี๊ยตเล่าเรื่องข้อสันนิษฐานของไบเบิ้ลให้ปันกับแทนฟัง ทั้งคู่ยิ้มขึ้นอย่างมีความหวังทันทีที่ฟังจบ พร้อมกับช่วยกันคาดเดาถึงคำตอบที่น่าจะเป็นไปได้ที่จะถูกแกะสลักไว้บนหินแกร่งเหล่านี้

   “ขอเราทดสอบอะไรหน่อยนะ” เฟี๊ยตหันไปพูดกับเพื่อนทั้งสองที่พยายามช่วยกันคิดคำตอบออกมากกันให้มากที่สุด เพื่อนทั้งสองไม่พูดอะไรขึ้นอีก ปันและแทนหันมายิ้มกว้างให้กับเขาอย่างเชื่อใจ เฟี๊ยตมองรอยยิ้มเหล่านั้นอย่างรู้สึกดี เขาเล่าเรื่องที่เขาแปลความหมายบทกวีผิด จนเดาคำตอบกันไปผิดทางกันไปหมด แต่ก็ไม่มีคำตำหนิใดๆ หลุดออกมาจากปากของเพื่อนทั้งสองเลย ยิ่งนับวันความผูกพันระหว่างพวกเขาก็ก่อตัวขึ้นจนดูจะไกลเกินกว่าแค่เพื่อนในเกมจะมีมิตรภาพให้กันและกันได้ พวกเขารู้สึกราวกับว่ารู้จักกันมานานแสนนาน

   เฟี๊ยตค่อยๆ เดินไปรอบห้องๆ เลียบไปตามกำแพงดังที่ได้หมายตาไว้ ก่อนจะกดลงไปที่บริเวณที่คาดเดาไว้ว่าจะเป็นคำตอบของคำถามที่ว่านี้ ทันทีที่มือของเขากดลงที่ภาพดังกล่าว มันก็ยุบตัวลงเข้าไปในพื้นผนังราวกับว่ามีกลไกรองรับอยู่ฉะนั้น

   ภาพแรก ภาพของชายชราที่นั่งอยู่เดียวดายภายในคฤหาสน์ที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยทรัพย์ศฤงคารอันมากมายจนนับไม่ถ้วน ภาพที่สอง ภาพของผู้ป่วยโรคระบาดที่เน่าเฟะไปด้วยแผลพุพองอันน่ารังเกียจ ภาพที่สาม ภาพของงานฌาปนกิจแด่ผู้ที่ล่วงลับที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของผู้ที่ยังคงอยู่ และภาพสุดท้าย ภาพของสมณเพศผู้บำเพ็ญทุกขกิริยาที่ผ่ายผอมจนดูเหมือนหนังแห้งๆ ที่หุ้มกระดูกไว้อย่างใดอย่างนั้น

   “ความแก่ ความเจ็บ ความตาย และสมณะ เทวทูตทั้ง 4 ตามหลักพระพุทธศาสนา เทวทูตที่มีหน้าที่ตักเตือนให้มนุษย์รู้จักถึงความไม่แน่นอนของชีวิต เพื่อที่จะได้เร่งเจริญสติภาวนาให้ได้หลุดพ้นจากความไม่รู้ หลุดพ้นจากสังสารวัฏแห่งการเวียนว่ายตายเกิด!”

เมื่อภาพสุดท้ายเลื่อนลงไปตามแรงกดของเขาสำเร็จ ปาฏิหาริย์ที่พวกเขารอคอยก็ปรากฏชัดขึ้นในดินแดนแห่งความสิ้นหวังแห่งนั้น หีบปริศนาลอยตัวสูงขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะเปล่งประกายสีทองบริสุทธิ์ขึ้นเจิดจรัสไปทั่วห้องแคบๆ แห่งนั้น พวกเขาเดินตรงไปที่วัตถุนั่นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย เฟี๊ยตกอดคอเพื่อนทั้งสองไว้ด้วยความยินดีจนถึงขีดสุด วันคืนที่แสนจะไร้ซึ่งความหวังที่ผ่านมา บัดนี้ มันได้จบลงแล้ว เขาไม่ต้องทนอยู่ในคุกแคบๆ นี่อีกต่อไป

หีบสีทองอร่ามนั่นค่อยๆ เผยอส่วนของฝาที่ปิดเอาไว้ ช่องแคบที่ค่อยๆ กว้างขึ้นนั้นเผยแสงสีทองอร่ามจากภายในที่บัดนี้ออกมาสาดส่องไปทั่วห้องลับของวิหารแห่งนั้น และเมื่อฝาของภาชนะนั่นเปิดกว้างออกจนสุด วัตถุที่ส่องประกายระยิบระยับชิ้นหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาในสายตาของพวกเขาทั้งสาม มันเป็นสร้อยคอเส้นหนึ่งที่เปล่งประกายแวววาวไปด้วยอัญมณีล้ำค่าที่ตรึงตาคนที่มองดูอยู่ได้อย่างชะงัดนัก เฟี๊ยตได้แต่บอกตัวเองว่า ตั้งแต่เกิดมาเขาก็เคยมีโอกาสได้พบเห็นเครื่องประดับล้ำค่ามาบ้างอยู่ไม่น้อย แต่นี่ถือได้ว่าเป็นชิ้นที่ตระการตาเขามากที่สุด งดงามที่สุด และมีค่าทางความรู้สึกของเขามากที่สุด เพราะมันต้องแลกมาด้วยกับความรู้สึกที่ไม่อาจประเมินค่าได้เลย



จากผู้แต่ง : หายไปสิบวัน เที่ยวต่างจังหวัด 3 วัน ประชุมนอกสถานที่ 3 วัน คอนเสิดอีก 1 วัน สังสรรค์กับเพื่อนอีก 3 วัน

กลับมาแล้วครับผมมมม คิดถึงกันบ้างไหมมม ผจญภัยกันต่อเลยครับบบบบ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
ไว้เดี๋ยวจะทยอยมาตอบคำถามต่างๆวันพรุ่งนี้นะครับ คืนนี้ขอแวบไปเล่นเกมก่อน อิอิ

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ igaga

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เย่ๆๆๆๆๆๆๆ
คนเขียนกลับมาแย้วๆๆๆๆ

ครังนี้ได้คนแรกปะ อิอิ

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
เฟี๊ยตเก่งมากๆๆ ล้ำเลิศ ลึกล้ำฝุดๆๆ  o13

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ปริศนาข้อนี้ช่างล้ำลึก
เราชอบการตีความนะเนี่ย
ฮิ้ววววววววววววว


อีกอย่างนึง เราอ่านจนบัดนี้แล้วพึ่งตอบได้ว่า เราชอบเรื่องผจญภัยของเฟี๊ยตมากกว่าเรื่องรักของเฟี๊ยตอีก
คือ แอบรำคาญเรื่องรักของแทนกับปันหน่อยๆ ด้วย

อย่าโกรธเรานะ

premkoe

  • บุคคลทั่วไป
อยากให้แทนคู่กับปันอ่ะดีแล้ว แล้ว มีตัวระครลึกลับมาคู่กับ เฟี๊ยต แทน เป็นตัวแท๊งก้อได้ ตี้นี้ขาดไป ซัพพอตมี เวทมี โจมตีระยะไกลมี ขาดตัวชน 555

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
เฟี๊ยตหาคำตอบได้แล้ว
คำถาม ว่ายากแล้ว
 คำตอบยิ่งสุดยอดมากไปอีก
รอดูว่าทั้งสามคนจะได้รางวัลระดับไหน

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
สุดยอดมากเลยค่ะ
รอการผจญภัยต่อ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ไบเบิ้ลเก่งที่สุดเลย เอ๊ะ? หรือว่าคนเขียนเก่งกว่าหว่า ฮ่าๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ hotoil

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คิดถึงมากเลยค่ะ...ยอมรับว่าบางวันเปิดเข้ามานึกขึ้นได้ คนเขียนไปพักผ่อน ฮ่าๆ
เฟี๊ยตกับใบเบิ้ลจิ้นคู่นี้ดีไหม ฮ่าๆ ใบเบิ้ลเป็นห่วงเจ้านายมากเลย
เฟี๊ยตต่อไปให้ความสำคัญกับใบเบิ้ลมากๆนะ ทุกปัญหาย่อมมีทางออก
ปล. เราแปลความหมายของกลองไม่ออก มันมึนๆยังไงไม่รู้ ฮ่าๆ

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
ไบเบิ้ลสุดยอด

ออฟไลน์ naneku

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
คิดถึงงงงงงงงงงงง..... เฟี๊ยต คิดถึงพี่คนเขียน คึคึ






เที่ยวสนุกไหมๆๆๆ



เฟี๊ยตกับเพื่อนรอดแล้วใช่ไหมอ่าาาา ออกจากวิหารได้แล้วใช่ป่าววว

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
กลับมาแล้ววววเย้ดีใจมากก

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
เฟี๊ยตไม่ตายแล้ว ไบเบิ้ลนี่สุดยอดที่สุดแล้ว
อยากให้ไบเบิ้ลก็เป็นหนึ่งในคนที่เข้ามาเล่นเกมส์ด้วยจังเลย
จะได้คู่กับเฟี๊ยต

บล.ยินดีต้อนรับการกลับมาค่ะ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เดาคำตอบมาถูกทางแต่ไม่ถูกคำ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ยอมรับว่ายากแบบคาดไม่ถึงจริงๆ

หนูเก่งมากที่แก้ปัญหาได้นะเฟี๊ยต แต่ที่เก่งกว่าก็คงต้องเป็นคนแต่ง

เอาละสุดท้ายยินดีต้อนรับกลับบ้านนะจ๊ะคนแต่ง หวังว่าการไปพักผ่อนจะทำให้้ผ่อนคลายมากขึ้น



ปล.อยากตั้งแฟนคลับไบเบิ้้ลจังจะมีคนเห็นด้วยไหมเนี่ย?

ปล.2 หายเหนื่อยเมื่อไหร่ก็มาต่อนะจ๊ะ :กอด1: :mew1:

ออฟไลน์ zylph_z

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เย้ๆๆ คนแต่งกลับมาแล้ว ดีใจจังเลยได้อ่านแล้ว พออ่านตอนนี้แล้วจิ้นไบเบิ้ลกะเฟี๊ยตอีกรอบละ 555+
เหมาะสมกันดีนะ ช่วยเหลือกันยามลำบาก อร๊ายยย ฟินสุดๆ >///<

หีบเปิดแล้วๆ ข้างในเป็นเครื่องประดับล้ำค่าหรอกเหรอ คิดว่าเป็นการ์ดสูงสุดที่อยู่ลำดับแรกๆซะอีกนะเนี่ย

ปล.ทายปริศนาผิดไป 555+
รอตอนต่อไปจ้า
ปอลอ2.เห็นด้วยกะรีบนจ้า เรามาเป็นแฟนคลับไบเบิ้ลกันเถอะ >.<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2013 16:15:51 โดย zylph_z »

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
บทที่ 66 The Necklace

 

ปันที่บัดนี้อยู่ในอ้อมแขนของเขา ค่อยๆ ใช้มือจับแขนเขาออกบ่าของตน พลางนำมือของเขาตั้งขึ้นให้ยื่นไปเบื้องหน้าตรงสร้อยคอเส้นนั้น เพื่อนผิวขาวของเขายิ้มให้เขาอย่างยินดี การกระทำของชายหนุ่มบ่งบอกว่า ปันเต็มใจเป็นอย่างยิ่งที่จะให้เขาคว้าสร้อยคอเส้นนั้นด้วยมือของเขาเอง และเมื่อเขาเบนสายตาไปทางเพื่อนอีกคน แทนก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างยินดีด้วยเช่นกัน ดวงตาคู่นั้นส่องประกายออกมาอย่างระยิบระยับ เพื่อนผิวเข้มของเขาค่อยๆ ยกแขนของเขาที่พาดไว้ที่ไหล่ให้ยื่นไปสู่เบื้องหน้า แทนบีบมือเขาแสดงความยินดีด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยม ชายหนุ่มเอียงศีรษะน้อยๆ ราวกับจะเป็นสัญญาณให้เขารับรางวัลแห่งชัยชนะนั่นไว้ด้วยตนเอง

 

เฟี๊ยตค่อยๆ เอื้อมมือทั้งสองข้างออกไปยังสร้อยคอที่ลอยเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงอากาศเบื้องหน้านั่น เขาใช้อุ้งมือช้อนไปที่อัญมณี นั่นอย่างระมัดระวัง มันสวยงามจนเขากลัวว่ามือของมนุษย์อันด้อยค่าจะไปทำให้วัตถุที่งดงามราวกับว่ามาจากสรวงสรรค์นั่นมัวหมองลง ทันทีที่มือของเขาสัมผัสกับสร้อยคอเส้นนั้น มันก็สลายรูปร่างกลายเป็นการ์ดสีทองอร่ามมาอยู่ในมือเขาโดยภาพในไพ่นั่นยังคงเป็นประกายหยอกล้อสายตาของเขาราวกับว่ามันถูกทำขึ้นด้วยอัญมณีจริงๆ อย่างใดอย่างนั้น

 

 

ชื่อ The Athena’s Necklace (สร้อยคอแห่งเอเธน่า) ประเภท Principal Card (ไพ่สูงสุด) ลำดับที่ 8 ความสามารถ ควบคุมการทำงานของอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งได้อย่างอิสระ

 

 

“ลำดับ 8 ไพ่ลำดับ 8 ปัน แทน พวกเราได้ไพ่ลำดับ 8 มาแล้ว มีแค่ 8 คนในเกมที่จะมีไพ่ใบนี้ และพวกเราเป็นหนึ่งในนั้น ฮ่าฮ่าฮ่า” เฟี๊ยตพูดออกมาอย่างดีใจสุดๆ เขากอดคอเพื่อนทั้งสองเขย่าไปมาอย่างภูมิใจในความสำเร็จ

 

“ไม่แน่อาจจะเป็นคนเดียวต่างหากที่มีไพ่ใบนี้ เฟี๊ยต อย่าลืมนะว่าเราเป็นทีมแรกที่เข้ามายังวิหารนี่สำเร็จ ถ้าการ์ดนี้เก็บได้จากวิหารนี้เท่านั้น นั่นแปลว่าพวกเราย่อมเป็นกลุ่มเดียวที่มีการ์ดนี้นะ” ปันเสนอสมมติฐานมา ซึ่งยิ่งทำให้เฟี๊ยตยิ้มกว่าขึ้นไปอีก

 

“สำเร็จแล้ว ปัน แทน สำเร็จแล้ว” เฟี๊ยตพูดขึ้นอย่างไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกออกเป็นคำพูดอย่างไรดี ช่วงเวลาที่ติดอยู่ในห้องลับนั่นบั่นทอนความรู้สึกของเขาไปมาก เขาทั้งภูมิใจที่พิชิตปริศนาได้ด้วยตนเอง และเขาก็รู้สึกดีใจที่ช่วงเวลาเลวร้ายนั่นจบลงเสียที

 

“นี่ ปัน เฟี๊ยต ถ้าพวกเราออกไปนอกวิหาร แล้วกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง เราจะมาเก็บสร้อยคอนี่ได้อีกไหม” แทนเอ่ยขึ้นอย่างน่าสนใจ

 

“จริงสินะ ถ้าพวกเรายอมเสียเวลาเข้ามาที่นี่อีก 7 ครั้ง เพื่อเก็บการ์ด นั่นก็แปลว่าพวกเราจะเก็บการ์ดสร้อยคอนี่ไว้ครอบครองเพียงกลุ่มเดียว ถูกไหม” ปันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

 

“จริงสิ แต่เดี๋ยวนะ ขอถามไบเบิ้ลแปบ” เฟี๊ยตเอ่ยขึ้น ก่อนจะเอ่ยถามไบเบิ้ลตามที่พวกเขากำลังสงสัยกัน ไบเบิ้ลก็ตอบเขามาแทบจะทันทีเช่นกัน ราวกับว่าเตรียมคำตอบไว้รออยู่ก่อนแล้ว

 

“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ปัน แทน ไบเบิ้ลบอกว่าการ์ดใบเดิม จะไม่สามารถเก็บได้ด้วยวิธีการเดิม โดยคนกลุ่มเดิมได้ ถ้าพวกเราออกไป เราอาจจะหาวิหารนี่ไม่เจออีก หรือถ้าเจอ ปริศนาก็จะเปลี่ยนไปตามกติกาของเกมที่ป้องกันการเก็บการ์ดซ้ำของผู้เล่น” เฟี๊ยตตอบเพื่อนทั้งสอง น้ำเสียงของเขาเองก็ปนความเสียดายอยู่ไม่น้อย

 

“ช่างเถอะ ได้มาใบนึงก็โอเคและเนอะ” แทนพูดอย่างไม่สนใจอีก พร้อมกับยิ้มให้เพื่อนทั้งสอง บรรยากาศเต็มไปด้วยความยินดีในความสำเร็จ

 

“ใช่สิ ได้การ์ดมาแค่ใบเดียว คราวนี้จะแบ่งกันยังไงนี่ พวกเรามีสามคน แถมการ์ดที่ได้ก็ได้พร้อมกันสามคนคนละใบมาตลอด ได้มาใบเดียวแบบนี้จะแบ่งกันอย่างไรดี” เฟี๊ยตเอ่ยขึ้นพร้อมกับชูมือที่ถือไพ่ใบดังกล่าวขึ้น พลางหันไปมองเพื่อนทั้งสองคนเป็นเชิงปรึกษา

 

“เฟี๊ยต ไพ่ใบนี้มันควรเป็นของเฟี๊ยต เฟี๊ยตคู่ควรกับมันที่สุด พวกเราแทบจะไม่มีส่วนช่วยในการแก้ปริศนานี่เลย พวกเราต่างหากที่ต้องขอบคุณเฟี๊ยตที่พาพวกเราออกไปจากที่นี่จนได้ พวกเรารับไว้ไม่ได้หรอก เฟี๊ยตเก็บมันไว้นั่นแหละดีแล้ว” ชายผิวขาวเอ่ยขึ้นโดยไม่มีวี่แววของความลังเลแม้แต่น้อย

 

“ใช่เลยเฟี๊ยต พวกเรามาติดอยู่ในวิหารลึกลับนี่ จะเรียกใครมาช่วยก็เรียกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเบาะแสการมาให้ถึงวิหารก็น้อยจนเรียกได้ว่าแทบไม่มี พวกเรามาถึงวิหารนี่ได้ก็เพราะเฟี๊ยต ความสามารถของเฟี๊ยตล้วนๆ แถมพอมาติดอยู่ในห้องลับนี่ ก็ยังเป็นเฟี๊ยตที่ช่วยให้พวกเราออกไปได้ การ์ดใบนี้คู่ควรกับเฟี๊ยตที่สุดแล้ว” เพื่อนอีกคนเอ่ยขึ้นมาอย่างมั่นคงด้วยเช่นกัน

 

“แต่พวกเรามีกันสามคน พวกเราควรจะแบ่งกัน” เฟี๊ยตยังคงเอ่ยขึ้นอย่างลังเล

 

“อย่าคิดมากสิเฟี๊ยต ไม่เอาน่า เราทีมด้วยกัน ยังไงเคลียร์เกมก็ต้องเคลียร์ด้วยกันอยู่แล้ว จะคิดมากไปทำไม ไพ่หนะ มีแค่ใบเดียวก็เกินพอแล้ว” ปันเอ่ยขึ้นพร้อมยิ้มอย่างจริงใจ ในขณะที่แทนก็ตบไหล่เขาเบาๆ ราวกับว่าจะบอกให้เขาเลิกคิดมากเสีย เฟี๊ยตได้แต่หันไปมองเพื่อนทั้งสอง ก่อนจะตัดสินใจเก็บการ์ดลงสมุดตามการตัดสินใจของเพื่อนร่วมทีมอีกสองคน

 

 

แต่แล้วบทสนทนาของพวกเขาก็ต้องสิ้นสุดลงเมื่อเกิดสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นในห้องที่พวกเขายืนอยู่นั้น ห้องดังกล่าวสั่นด้วยความแรงไม่มากนักแต่ก็มากพอจะทำให้พวกเขารู้สึกได้ ชายหนุ่มสามคนหันมามองหน้ากันอย่างเคลือบแคลงในสถานการณ์ ก่อนจะตัดสินใจหันหลังเข้าหากันเพื่อเตรียมมือรับกับอันตรายที่อาจจะเข้ามาเยี่ยมเยียนพวกเขาได้ทุกเมื่อ แสงสว่างที่ทองที่พวกเขาเคยเห็นมันฉายแสงออกมาจากหีบปริศนานั่น บัดนี้ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับมาจากลวดลายตามฝาผนังนั่น โดยค่อยๆ ไล่ไปตามลายเส้นพวกนั้นราวกับว่ามีจิตรกรที่พวกเขามองไม่เห็นค่อยๆ ลากลายเส้นไปฉะนั้น ความวิจิตรตระการตาเบื้องหน้าสะกดสายตาพวกเขาไว้จนลืมความตระหนกที่เคยมีอยู่ก่อนหน้านี้ ลายเส้นสีทองค่อยๆ ลากไล่ไปตามผนังห้องนั้นจนกลับมาบรรจบครบรอบกับจุดเริ่มต้น บัดนี้ ลวดลายดังกล่าวส่องแสงสว่างไปด้วยสีทองทุกบริเวณจนละลานสายตาไปหมด

 

ห้องลับนั่นสั่นขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้รุนแรงกว่าครั้งแรกจนรู้สึกได้ พวกเขาเบียดชิดกันอย่างหวั่นเกรงในสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ แต่แล้วสิ่งที่เขาคาดการณ์ไม่ถึงก็เกิดขึ้น ผนังห้องที่เคยมีลักษณะเป็นกำแพงแกร่งนั้นแยกตัวออกจากกันราวกับกลีบดอกไม้ที่คลี่ออกรับแสงอรุณฉะนั้น กำแพงและเพดานแยกตัวออกจากกันทำให้เกิดพื้นที่โล่งกว้างทั้งในแนวราบและส่วนเบื้องบนที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป วิหารภายนอกที่ควรจะมีทางเชื่อมเข้ามาสู่ห้องแห่งนี้ตามที่พวกเขาเข้าใจก็หายไปเสียแล้ว ห้องลับนั้นคลี่ตัวออกราวกับว่าเป็นพื้นที่ของมิติที่ไม่ขึ้นกับใครทั้งสิ้น แสงสีทองส่องสว่างไปทั่วบริเวณจนพวกเขาไม่อาจคาดคะเนขนาดของพื้นที่ดังกล่าวได้ คุกที่เคยคุมขังพวกเขาอยู่นั้นบัดนี้ได้กลายสภาพไปเป็นดอกไม้ขนาดยักษ์อย่างสมบูรณ์ แต่พวกเขาก็มีโอกาสได้ตื่นตระหนกอยู่เพียงชั่วครู่เท่านั้น เพราะในตอนนี้ พวกเขารู้สึกเหมือนมิติกำลังบิดเบี้ยวขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะหายวับไปจากคลองจักษุ พวกเขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกเคลื่อนย้ายไปสถานที่แห่งใหม่เหมือนกับตอนที่หลุดเข้ามาในวิหารนี่อีกครั้ง

 

ชั่วอึดใจเดียว พวกเขาก็กลับมานั่งอยู่บนพื้นหญ้าในป่าทิวสนอีกครั้ง และเมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็พบว่ามันคือสถานที่ที่พวกเขาเดินทางมาถึงก่อนจะหลุดเข้าไปในวิหารกุมภาพันธ์นั่นเอง ต่างไปเพียงอย่างเดียวก็ตรงที่ว่า สิ่งก่อสร้างที่มีหน้าตาเหมือนต้นสนนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้ว!

 

 

“พวกท่านคือผู้พิชิตวิหารกุมภาพันธ์ใช่หรือไม่” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นจากระยะที่ไม่ห่างจากพวกเขาไปนัก พวกเขาทั้งสามคนรีบหันไปทางต้นเสียงอย่างระวังภัย

 

“Book!” เสียงทั้งสามดังขึ้นเกือบจะพร้อมเพรียงกันในการเรียกสมุดคู่ใจออกมาเผื่อไว้เมื่อจะได้เจอกับอาคันตุกะที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และเมื่อมองอย่างเต็มตา เจ้าของเสียงนั้นเป็นชายแก่คนหนึ่งที่อายุน่าจะอยู่เลยวัยเกษียณไปแล้ว การแต่งกายประกอบไปด้วยผ้าดิบสีเขียวหม่นที่พันห่อร่างกายไว้เรียบง่ายแต่รัดกุมราวกับคนป่าที่อยู่ห่างไกลดินแดนแห่งอารยธรรมฉะนั้น

 

“ใช่” เสียงของแทนเอ่ยขึ้นอย่างสั้นและห้วน อย่างไม่มั่นใจในสถานการณ์มากนัก

 

“ข้ามาดี ไม่ได้มาร้ายอย่างที่พวกท่านคิด ข้าต้องการความช่วยเหลือจากพวกท่านทั้งสามคน” ชายผู้นั้นไม่มีท่าทางคุกคามหรือเลวร้ายแต่อย่างใด ออกจะติดไปทางนอบน้อมเสียมากกว่า หากแต่สายตาคู่นั้นก็ฉายแววแห่งความมั่นคง ถ้าจะเป็นชาวป่าชาวดงจริง ชายคนนี้ก็คงมีการศึกษาอยู่บ้างไม่มากก็น้อย

 

“ความช่วยเหลือ?” ปันเอ่ยทวนความขึ้นอย่างเป็นคำถาม

 

“ใช่ หมู่บ้านวาเลนไทน์ต้องการความช่วยเหลือจากพวกท่านทั้งสามคน!”

 


จากผู้แต่ง : กลับมาได้แค่สองวัน ก็กลับมาตกอยู่ในภาวะแต่งตอนชนตอนอีกแล้ว ห้าห้า งานหนักมากเลย ได้ขึ้นเงินเดือนเป็นสมการเส้นตรง แต่งานเพิ่มขึ้นแบบเอกโพเนนเชียลลล ไหวไหมมม จะบ้าตาย 555

ออฟไลน์ lukkeng

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-0
กลับมานั่งอ่านคอมเมนท์ครบหมดแล้วนะครับ

มีคนทายปริศนาเข้ามาเยอะมากกว่าที่คิดเยอะเลย

แอบดีใจ

แต่ยังไม่มีใครถูกน้า

อิอิ

รอดตัวไป ไม่ต้องแต่งตอนพิเศษ ห้าห้า

ปูลู หลังจากนี้คงไม่ได้ตอบเมนท์รายคนแล้วนะครับ

ช่วงดึกๆ ผมต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบภาษาอังกฤษ

โฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

เหนื่อยมาก

งานหลวงก็มากงานราษฎร์ก็แยะ

ไว้เดี๋ยวก่อนวันสอบจะมาแอบขอกำลังใจน้า

รักคนอ่านทุกคนเลยครับ

นิยายเราคนอ่านไม่มาก แต่อบอุ่นนะ อิอิ

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
ปริศนาต่อไปออกมาแล้ว กลุ่มมายาสู้ๆๆ  o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด