ตอนที่ 21หิวชะมัดเลย....
โครกกก
ผมกุมท้องที่ส่งเสียงประท้วงของตัวเองเอาไว้ทันทีหลังจากที่ตื่นขึ้นมาเพราะความแสบกระเพาะ ถ้าจำไม่ผิดผมไม่ได้กินข้าวครั้งสุดท้ายก็มื้อเย็นของเมื่อวันก่อน แถมกินไปไม่มากด้วยสิ
โครก....
"หิวเหรอ?"เสียงทุ้มดังขึ้นเหนือหัวพร้อมลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดลงมาที่ขมับ ผมหน้าม้าน ขยับซุกหน้าลงกับอกของคุณศร"งั้นสงสัยเราต้องรีบออกไปหน่อยแล้วล่ะมั้ง"เขาถอนหายใจ ขยับตัวลุกขึ้นพร้อมพยุงผมให้ลุกขึ้นด้วย"ไว้กลับไปแล้วจะอธิบายให้ฟัง"
ได้ข่าวว่าผมไม่ได้ถามเลยสักคำนะครับ....
เหมือนเขาอ่านสายตาผมออก ใบหน้านิ่งๆนั่นจึงส่งรอยยิ้มขำขันมาให้
"ก็ฉันดันลากเธอเข้ามาก็ต้องรับผิดชอบสิถูกมั๊ย?เพราะฉะนั้นเธอจำเป็นจะต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
ไม่รู้ทำไม แต่ผมรู้สึกเหมือนหัวใจมันฟีบลงนิดหน่อยพอได้ยินคำว่ารับผิดชอบ...
คุณศรเริ่มเดินออกไปทางประตูหน้าของโกดังที่ซึ่งผมเข้ามาก่อนจะล้วงโทรศัพท์กดส่งข้อความหาใครบางคน...
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ากุญแจของประตูหน้าถูกล็อกจากด้านใน และเริ่มคลายหัวคิ้วลงเมื่อเห็นตั่งหูคุ้นตาในสภาพบิดๆเบี้ยวๆนอนแอ้งแม้งอยู่บริเวณนั้น
เขาไม่แยแสต่อแม่กุญแจที่ล็อกอยู่ จัดการถีบแรงๆเปรี๊ยงเดียวประตูใหญ่ทั้งบานพร้อมแม่กุญแจก็เปิดอ้าออกอย่างง่ายดาย
ผมกลืนน้ำลาย คนอะไรมันจะแรงเยอะได้ขนาดนั้น....
ภายนอกโกดังที่มืดสนิทนั้นมีรถตู้นิรภัยคันใหญ่จอดอยู่เปิดแสงไฟส่องสว่างพร้อมที่จะออกเดินทางทุกเมื่อจอดอยู่เมื่อเห็นดังนั้นคุณศรก็ไม่รอช้าจัดการลากผมเข้าไปในรถตู้คันนั้นอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่ประตูปิดสนิทลง รถตู้ก็เริ่มแล่นออกจากที่และค่อยๆไต่ระดับความเร็วขึ้นเมื่อออกมาถนนใหญ่แล้วรู้สึกว่าขาออกมามันจะเรียบง่ายเสียเหลือเกิน...
"ช่วยดู'ทาง'ด้วยนะ ขอฉันนอนสักหน่อย"คุณศรเอ่ยเสียงงัวเงียๆก่อนจะพิงเบาะหลับไปอย่างรวดเร็ว ได้ข่าวว่าเพิ่งนอนไปไม่ใช่รึครับ ง่วงนอนขนาดนั้นเชียว??
แต่ก็นั่นแหละครับ ผมจะทำอะไรได้นอกจากทำตามคำสั่งของเขา อย่าลืมสิทุกคนผมเป็นลูกจ้างกึ่งทาสของเขานะ...
"เฮ้อ"เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ผมก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้
ชีวิตผมคงเรียบง่ายต่อไปเรื่อยๆหากผมไม่ตอบรับงานจากรัตน์ในวันนั้น ไม่น่าเลยจริงๆแฮะ...
ผมนั่งคิดเรื่อยเปื่อย เหม่อลอยอยู่สักครู่ก็มีอันต้องสะดุ้ง เมื่อบ่ารับรู้ถึงน้ำหนักที่กดทับลงมาพร้อมกับความจั๊กจี้ที่ต้นคอไม่ใช่อะไร หัวคุณศรนั่นเองครับดูท่าเขาจะเพลียมากอยู่เพราะหัวตกลงมาขนาดนี้ยังไม่รู้ตัว
ด้วยความปวดไหล่และเบาะที่ผมกับคุณศรนั่งอยู่มันเป็นเบาะยาวสามที่นั่ง ผมจึงค่อยๆพยุงหัวของคุณศรย้ายเอามาไว้บนตักที่มีเพียงปลายเสื้อเชิ้ตบางๆของผมแทนแล้วช่วยจัดท่าทางให้สบายมากขึ้น
ผมลอบสังเกตุคนขับรถไปพลางๆว่ามีท่าทีน่าสงสัยหรือไม่สลับกับการมองสำรวจนอกรถ มองหาความผิดปกติไม่แน่ว่าบางทีอาจจะมีพวกนั้นตามมาก็ได้ไม่เช่นนั้นคุณศรคงไม่บอกให้ผมคอยระวังตัวเอาไว้ในระหว่างที่เขางีบหรอก
และไม่นานผมก็พบครับ รถเก๋งสีดำติดฟิลม์ทึบแสงที่ผมสังเหตุมาได้ระยะหนึ่งแล้วว่าตามมาอย่างผิดสังเกตุด้วยระยะห่างเท่าเดิม ไม่มีการแซงแม้ถนนจะโล่ง
"คุณครับ ใต้เบาะมีอุปกรณ์ที่อาจจำเป็นต้องใช้อยู่ครับ"ผมพยักหน้ารับ แต่ก็ยังไม่หยิบอุปกรณ์ที่ว่านั่นขึ้นมาแต่เลือกที่จะนั่งเฉยๆสังเกตุการ์ณไปเรื่อยๆมากกว่า
เส้นทางบนถนนเริ่มเป็นส่วนที่ผมคุ้นเคยแล้วครับคาดว่าอีกไม่นานคงจะถึงคอนโดที่ผมพักอาศัยอยู่แน่นอนว่ามีการ์ดคุ้มกันอยู่พอตัว
แต่ก็นั่นแหละครับใช่ว่าพวกนี้มันจะไว้ใจได้ที่ไหน...ในเมื่อผมถูกจับตัวมาในขณะที่กำลังอยู่ในคอนโด
เจ็บแล้วจำคือคนเจ็บแล้วทนคือควายครับ...
ดูเหมือนคนขับรถคนนี้จะยังไม่โปรพอสินะ....
ผมลอบยิ้มมองกริยาที่ลอบมองผมพร้อมเหงื่อตกอย่างขำขัน ท่าทางจะถูกเขาบังคับจ้างมาอีกต่อหนึ่ง ใต้เบาะคงมีอะไนสักอย่าง ยาสลบ ยาพิษหรืออะไรก็ตามที่จะทำให้คนที่ได้รับมันหมดสติโดยง่าย แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือ ทำไมต้องใช้วิธีอ้อมค้อมแบบนี้ด้วยทั้งๆที่ความจริงงแล้วใช้กำลังเลยออกจะง่ายกว่า
แต่ก็นั่นแหละช่างมันก่อนตอนนี้ผมควรที่จะเตรียมตัวได้แล้วเพราะทันทีที่ลงจากรถความปลอดภัยจะกลายเป็นศูยน์ทันที!
ผมลอบสะกิดปลุกคุณศรเพื่อให้เขาเตรียมตัวซึ่งดูคุณศรจะเข้าใจความหมายที่ผมต้องการจะสื่อทางสายตาดี เขาจึงทำเป็นแกล้งหลับต่อ และรอให้ผมให้สัญญาณ
ท่าทางคุณศรจะตั้งใจแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วกระมัง ทำเป็นหลับลึกเพื่อให้อีกฝ่ายประมาทเพราะพวกเขาเข้าใจว่าคนที่อันตรายมีเพียงคนเดียวคือคุณศร โชคร้ายที่คิดผิดเพราะผมเองก็อันตรายไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยแม้แต่นิดเดียว!
"อ่ะ...ถึงแล้วครับ"ผมพยักหน้าแกล้งทำเป็นปลุกคุณศรอีกรอบก่อนจะดันคนตัวโตที่แกล้งทำเป็นงัวเงียได้อย่างสมจริงออกไปนอกรถตู้ จากนั้นพวกเราก็พากันเดินเข้าไปในคอนโดซึ่งบรรยากาศแปลกไปกว่าทุกวัน
แต่ผมแกล้งทำเป็นไม่สนใจบ่นอิดออดกับคุณศรว่าอยากพักผ่อนแล้วแล้วเดินขึ้นลิฟต์ไปทันที ผมที่แกล้งจับมือคุณศรไว้จนถึงตอนนี้สบตากันชั่วครู่ แล้วสะกิดนิ้วเป็นจังหวะส่งรหัสมอสไปเตรียมแผนการ
'เอาไงต่อครับ'
'เราจะไปอยู่ที่อื่นชั่วคราวก่อน ต้องแน่ใจว่าปลอดภัยจนกว่าจะจัดการทั้งหมดเรียบร้อย'
ผมพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงรับรู้และส่งซิกเนลไปอีก
'คิดเอาไว้หรือยังจะไปไหน'
'คิดแล้ว แต่ดูท่าคงใช้ไม่ได้แล้ว อันตรายเกินไป'
'งั้นไปที่ของผมแล้วกัน'
'อืม'
ผมถอนหายใจพลันในหัวก็นึกถึงคอนโดส่วนตัวบนพื้นที่ส่วนตัวของผมสถานที่ซึ่งปลอดภัยอย่างแน่นอน100%ไม่ค่อยอยากจะกลับไปเท่าไหร่แต่ก็คงจะไม่มีทางเลือก
ติ๊ง!
ผมกับคุณศรจูงมือกันเดินออกมานอกลิฟต์และกำลังเดินไปบนทางเดินยาวที่เงียบสงบจนน่าประหลาด ผมเหลือบสายตามองไปยังทางออกสู่ลานจอดรถซึ่งแอบเห็นบุคคลน่าสงสัยยืนเฝ้าอยู่สองคนพร้อมอาวุธ ในหัวก็พลันคิดคำนวนวิธีหลบหนีที่ดีที่สุดในตอนนี้ไปด้วย
อาวุธที่ผมมีอยู่ในมือตอนนี้คือมีดเล็กสองเล่มคมกริบที่คุณศรยื่นให้ในรถ ถ้าผืนร่างกายหน่อยก็น่าจะจัดการได้ไม่ยาก
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ผมก็สะกิดเตือนคุณศรซึ่งกำลังมองมาทางผมอยู่พอดี เขาขมวดคิ้วนิดหน่อย ส่งสายตาเป็นเชิงห้ามปรามอย่าเพิ่งให้ผมลงมือ
ผมกำลังจะส่งสายตาเป็นคำถามกลับไป แต่คุณศรก็ขยับเสียก่อน...
ร่างกายกำยำปล่อยมือออกจากมือผมพร้อมผผลักให้ลงไปหมอบก่อนจะเริ่มวิ่งเคลื่อนไหววูบวาบไปตามมุมต่างๆของคอนโดที่ผมเห็นว่ามีคนแอบซ่อนอยู่ผมกลืนน้ำลายช่างเป้นการเคลื่อนไหวที่ไร้ที่ติราวกับคนที่ถูกฝึกฝนมาให้เป็นมือสังหารมากกว่าที่จะเป็นนักธุรกิจ....
"ไป!"
ไม่มีเวลามานั่งฟุ้งซ่านมากนักผมหยัดตัวขึ้นยืน วิ่งตามร่างคุณศรซึ่งนำไปทางลานจอดรถให้ไวที่สุดโดยพยายามเลิกที่จะสนใจแอ่งเลือดที่เนืองนองอยู่บนพื้นพรมที่ผมเพิ่งจากมา...
คุณศรวิ่งตรงไปยังรถที่จอดอยู่ในมุมอับแห่งหนึ่งเป็นรถยุโรปสีบลอนด์ที่หาได้ทั่วไปตามท้องถนนจากนั้นก็ทาบมือลงบนพื้นที่ตรงกระจกมองข้างฝั่งคนขับ
แสงสีเขียวสว่างวาบขึ้นมาครั้งหนึ่งก่อนจะดับลงไปพร้อมๆกับเสียงล็อกของรถที่เด้งขึ้น คุณศรเปิดประตูและเข้าไปนั่งฝั่งคนขับทันทีผมจึงต้องเร่งวิ่งไปเข้าที่ประตูข้างคนขับ
พอผมเข้ามาในรถเรียบร้อยแล้วร่างสูงโปร่งก็เหยียบคันเร่งมิดพุ่งออกไปจากที่จอดแคบๆมืดๆอย่างรวดเร็ว
"ยังไม่ต้องถามอะไร เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง"ผมถอนหายใจคากเชฟตี้เบลท์ให้เรียบร้อยแล้วคอยบอกทางคุณศรเป็นระยะๆดูเหมือนว่าเราจะสลัดพวกที่ตามมาได้แล้ว...ถ้าไม่ถูกจับได้เสียก่อนที่จะเข้าไปในเขตของผมแล้วล่ะก็ยังไงก็ไม่มีปัญหา
"สัญญาแล้วนะครับ เล่าให้ผมฟังด้วย"ความจริงก็ไม่ได้อยากจะสอดรู้สอดเห็นอะไรหรอกครับ...
"อืม"
แต่...
ดูเหมือนผมจะเหยียบเข้ามายุ่งกบอะไรที่ไม่ควรยุ่งอย่างเต็มตัวเสียแล้วเนี่ยสิ...
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ตอนนี้ยังไม่ได้อีดิทเลยจ้า :laugh:ปั่นเสร็จก็รีบเอามาลงเลยอาจจะมีแปลกๆบ้างอย่าว่ากันนะ
เพิ่งจะมีโอกาสได้อัพอิงป่วยจ้าไม่สามารถลากสังขารและสมองอันเหนื่อยล้ามาอัพนิยายได้
วันนี้หายดีแล้วเลยรีบมานั่งแต่ง
ตอนนหน้าจะเข้าสู่เชฟเฮ้าส์ของน้องเกลกันแล้วจ๊ะ เฉลยซะทีว่าคุณศรนี่มันยังไงๆไหงโดนตามล่าได้
เพราะฉะนั้น...อย่าเพิ่งถามอะไร
'รออ่านตอนต่อไปแล้วจะรู้เองจ้า'
แต่ถ้างงอะไรก็ถามได้เลยนะ ถ้าไม่ลืมจะตอบให้จร้า
ขอบคุณทุกๆคอมเมนท์ค่า