ตอนที่ 20 part 2
ผมคิดว่าตอนนี้ผมกำลังฝัน...
เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆที่ผมจะกลับมาเห็นห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่และสารเสพติดอย่างกัญชาได้อีก
ผมกำลังฝันอยู่แหงๆ...!
'เกลวันนี้มีเพื่อนพี่มาสามคนนะ เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ'ผมละสายตาออกจากเพดานห้องแล้วหันกลับไปมองยังต้นเสียง ไอ้พี่เภกยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนที่ผมรู้มาตลอดตั้งแต่เริ่มคบกับมันว่ามันเสร้งทำ...
แต่เคยได้ยินไหม ความรักทำให้คนตาบอด ผมเองตอนนั้นก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน
'อืม...'
ผมหันกลับไปมองที่เตียงนอนกว้างที่ตนคุ้นเคยดี ภาพตัวเองในอดีตของผมนอนอยู่บนนั้นด้วยท่าทางราวกับหุ่นกระบอก...
'อีกครึ่งชั่วโมง เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ'รอยยิ้มอ่อนโยนนั้นฉีกกว้างขึ้นจนเกือบเรียกได้ว่าแสยะยิ้ม พอหมดธุระกับผมในตอนนั้นเภกก็ออกจากห้องไปโดยไม่ลืมที่จะล็อกห้องอย่างแน่นหนา...ไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าร่างที่นอนอยู่บนเตียงจะเป็นตายร้ายดียังไง
'ฮึก'ตัวผมในอดีตพลิกตัวนอนหงาย น้ำตาที่เพิ่งหยุดไหลไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนไหลออกมาอีกครั้งจากดวงตาบวมแดง ผมในตอนนั้นพยุงร่างผอมโซขึ้นจากเตียงที่เลอะเทอะไปด้วยคราบอะไรต่อมิอะไร...ของใคร..หลายๆคน
ผมมองเห็นคราบสีขาวกับสีชมพูบริเวณขาอ่อนของตัวเองได้อย่างชัดเจน สงสัยคงเป็นช่วงที่'เพื่อน'ของไอ้พี่เภกมาหา'ผม'ที่ห้องบ่อยๆ
เสียงน้ำจากในห้องอาบน้ำดังซู่ซ่าเพียงไม่นานร่างโซเซของผมก็เดินออกมาจากห้องน้ำเช็ดตัวลวกๆด้วยผ้าที่กองอยู่บนพื้นจากนั้นก็เดินไปกระชากผ้าปูเตียงที่โสมมออก
ร่างของผมเดินเอาผ้าปูที่นอนไปยัดใส่ถุงขยะก่อนจะนำมันไปทิ้งไว้ในตู้เก็บเสื้อผ้าที่มีเสื้อผ้าเพียงชุดเดียวอย่างลวกๆพร้อมหยิบผืนใหม่ออกมาปูเตียงขนาดคิงไซส์
ตัวของผมในตอนนั้นทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียงนุ่มเพื่อพักผ่อนครั้งสุดท้ายก่อนที่'เพื่อนๆ'พวกนั้นจะมากัน
มานั่งนึกตอนนี้ ผมก็แทบจะลืมแล้วจริงๆว่าความรักครั้งแรกของผมมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร จำได้คร่าวๆว่า ผมไปเรียนปริญญาตรีใบที่สองในมหาลัยรัฐแห่งหนึ่งตอนนั้นผมอายุได้สิบหกสิบเจ็ดเองมั้งเรียนๆไปแล้วเภกที่ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นรุ่นพี่ที่ป็อปปูล่าห์คนหนึ่งก็เข้ามาจีบ
เขาดีกับผมมาก ไปรับไปส่งระหว่างคอนโด(ที่ผมจะมาอยู่บ้างเมื่องานยุ่งๆปกติผมจะกลับไปที่บ้านใหญ่)คอยพาไปกินข้าว และที่สำคัญ...เขามอบรอยยิ้มอ่อนโยนให้ผมเสมอเขาเข้าใจผมเสมอไม่ว่าจะเรื่องอะไร สำหรับคนที่มีปมด้อยในเรื่องครอบครัวอย่างผมเรื่องพวกนี้จึงทำให้ผมใจอ่อนตกหลุมรักเขาเข้าจริงๆอย่างช่วยไม่ได้
ดังนั้นไม่นานเราก็คบกันเป็นแฟนและผมก็เสียซิงไปหลังจากนั้นเกือบปี พอผมตกเป็นของเขาทั้งตัวและหัวใจแล้ว ผมก็เริ่มพบว่าเภกไม่เหมือนเดิม...เขาเริ่มห่างเหินกับผม เริ่มไปมีคนอื่นเหมือนอย่างที่ใครหลายๆคนเคยเตือนผมด้วยความหวังดี เริ่มไม่ยิ้มให้ผม และเริ่มที่จะ...ข่มขู่ผมแบบเนิบๆ และนั่นเป็นช่วงเดียวกันกับที่ผมรู้สึกโดดเดี่ยวจนหนีออกจากบ้าน ตอนนั้นอายุ 18 ได้มั้ง
ด้วยความที่ผมยังเด็ก เป็นเหมือนนกในกรงทองที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไรมากนักพอเขาขู่เข้าว่าจะไม่รักถ้าไม่ทำตามที่เขาบอกก็กลัวจนยอมทำตามที่เขาต้องการทุกอย่าง
ตอนนั้นมีคนบอกผมว่าเงินไม่ได้ซื้อได้ทุกอย่าง
'ส่วนเซ็กซ์น่ะเหรอ!ยิ่งแล้วใหญ่! มันไม่สามารถแลกเปลี่ยนกับอะไรได้เลย นอกจากประวิงเวลาให้ยาวออกไป!'
ตอนนั้นผมก็ไม่เชื่อหรอก จนกระทั่งเขาเริ่มกระทำการ 'กักขังหน่วงเหนี่ยว'และ'ข่มขืน'
เภกเริ่มพาคนรู้จักมาหาความสุขจากร่างกายผมที่มันบอกว่า'เอาเท่าไหร่ก็ยังแน่น'ช่วงแรกๆก็มาทีละคน อาทิตย์ละครั้งสองครั้ง พอเห็นว่าผมยังไม่หลวมมันก็เริ่มพามาบ่อยขึ้นและเยอะคนมากขึ้น...มากที่สุดก็เกือบโหลเลยมั้ง นั่นเป็นช่วงที่ทำให้ผมเกิดอาการติดเซ็กซ์ ไม่มีไม่ได้จนเภกต้องหามาให้ผมทุกวัน แต่ถ้าถามว่าประโยชน์อยู่ที่ใคร...มันก็อยู่ที่ไอ้เภกนั่นแหละ นั่งนับเงินวันหนึ่งๆไม่ต่ำกว่าห้าหมื่น!!ส่วนผมข้าวยังกินไม่ครบสามมื้อด้วยซ้ำ!
นึกแล้วก็สมเพชตัวเองที่อ่อนแอยอมให้เขาหลอกเอาได้
ความเจ็บปวดจากอดีตรุกล้ำเข้ามาในจิตใจอย่างไม่อาจห้ามได้ น้ำตาแห่งความโศกเศร้าและเจ็บแค้นไหลออกมาอย่างหยุดไม่อยู่
'เกล...'
'เกล!!'
'ตื่นสิ!...เกล!!'
เสียงของใครคนหนึ่งเหมือนดังแว่วๆมาจากที่ไกลๆเสียงทุ้มๆเนิบๆติดจะร้อนรนที่สามารถทำให้น้ำตาของผมหยุดไหลไปได้
ผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นชนิดหนึ่งที่ผมไม่ได้สัมผัสมานานมากแล้วที่โอบอุ้มผมเอาไว้ ให้ความรู้สึกอบอุ่น..ปลอดภัยเหมือนเวลาที่แม่กอดผมตอนเด็กๆไม่มีผิด
"ฮัมมิ่ง..."
ชื่อของแม่ผม ฮัมมิ่งเบิร์ด ชื่อที่ผมไม่ได้เอ่ยมานานมาก...จนเกือบจะลืมไปแล้ว
'ตื่นได้แล้วเกล ตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายเถอะนะ...'ในขณะที่ผมตกอยู่ในภวังค์เสียงทุ้มเดิมก็ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมความอบอุ่นบางๆบนริมฝีปาก
ผมหลับตาลง ปิดเปลือกตามองภาพตนเองในอดีตเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่สติจะวูบไป
"เกล..."ผมลืมตา ตื่นขึ้นมาผมพร้อมน้ำเสียงโล่งอกของคุณศรที่กำลังโอบกอดผมเอาไว้"ฝันร้ายเหรอ"ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่าแต่น้ำเสียงของเขาดูจะอ่อนโยนกว่าปกติอยู่มาก
"ก็นิดหน่อยครับ"น้ำเสียงแหบแห้งที่เปล่งออกมาทำเอาผมแทบไม่เชื่อหูว่านี่คือเสียงของผมจริงๆ แถมไอ้อาการเจ็บคอและปวดเมื่อยตามตัวนี่อีก...อย่าบอกนะว่า...
"เธอเป็นไข้น่ะ"คุณศรเฉลยในสิ่งที่ผมสงสัย พร้อมขยับตัวปลดอ้อมแขนออกเมื่อเห็นว่าสติของผมกลับมาเต็มที่แล้ว
"หืม?"ไม่รู้ว่าผมคิดอะไร พอคุณศรกำลังจะถอยหลังกลับไปนั่งในอีกมุมหนึ่งเพื่อให้ผมได้เหยียดแขนขา มือของผมก็เหมือนกระตุก เอื้อมไปจับเสื้อเชิ้ตของคุณศรเอาไว้แน่นแถมยังไปมองเขาเหมือนจะอ้อนเมื่อเขาหันกลับมาด้วยความสงสัยอีกต่างหาก
ฉ่า!!
ผมรู้สึกได้เลยว่าอณุหภูมิบนใบหน้าเพิ่มขึ้นสูง...ไม่ใช่ว่าจากอาการไข้ แต่เป็นเพราะความเขินอายที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆต่างหาก!!
"หึ.."ไม่รู้ว่าผมตาฝาดไปรึเปล่า เมื่อกี้ผมแอบเห็นเขายิ้มขบขันใส่หน้าผมด้วย!!
"เอ่อ...จะว่าไปแล้ว คุณศรมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงล่ะครับ?"ด้วยความเขินผมจึงถามคำถามออกไปขัดตาทัพทันทีหลังจากคุณศรนั่งลงใกล้ๆผมแล้ว คุณศรหน้าเปลี่ยนไปแว๊บหนึ่งก่อนจะกลับมานิ่งอย่างเดิม
"กลับไปห้องปล้วใครบางคนดันไม่อยู่ที่ห้องน่ะสิ ข้าวต้มก็ไม่ได้กิน"ผมยังมุ่นหัวคิ้วแล้วมันเกี่ยวอะไรกับโดนเขาซ้อมแล้วจับโยนเข้ามาในนี้?
"ก็พอฉันรู้ว่าพี่ชายฉันเป็นคนบงการเรื่องนี้ ทางเดียวที่จะเข้ามาในเขตนี้ได้ก็คือให้'เจ้าถิ่น'เขาพาเข้ามายังไงล่ะ "คุณศรกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาลงทุนจริงๆเพื่อจะมาช่วยเลขาที่ถูกพี่ชายลักพาตัวไปนึกไม่ถึงว่าจะยอมเจ็บตัวจากการโดนซ้อมด้วย"แต่นึกไม่ถึงว่าเธอจะหนีมาอยู่ในนี้ด้วยเท่านั้นเอง"
ผมถอนหายใจ แปลกจริงทำไมผมต้องรู้สึกโล่งอกด้วยที่คุณศรไม่ได้เป็นคนสั่ง'จัดการ'กับผม
งานนี้ท่าทางยัยอริสาจะมีเอี่ยวด้วยไม่มากก็น้อย อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้ว อริสาสามารถ'สั่ง'การให้พี่ชายของคุณศรทำอะไรก็ได้ตามใจหล่อน
เล่นแรงจริงๆยัยนี่ สงสัยจะต้องจัดการขั้นเด็ดขาดเสียแล้วสิ...
"คิดอะไรอยู่หือ?"ผมสะดุ้งหันไปยิ้มบางๆให้กับคุณศร ถือโอกาสเอนตัวลงไปซบอกกว้างที่มีรอยช้ำม่วงเป็นจ้ำๆจากการโดนซ้อมตามที่ใจเรียกร้องให้เหตุผลกับตัวเองว่าที่ทำแบบนี้เพราะผมปวดหัวและอยากนอนมาก...
"ปวดหัวเหรอ?"ผมพยักหน้าหงึกๆบนแผงอกล่ำๆของคุณศรแอบแมยิ้มน้อยๆเมื่อมือหนาลูบเบาๆบนกลุ่มผมของผม"งั้นก็หลับเถอะ...อยู่ตรงนี้ไม่มีใครทำอะไรเธอได้แน่นอน"
ผมหลับตาลง ซึมซับความรู้สึกอบอุ่นเอาไว้ในใจและค่อยๆดิ่งลงสู่ห้วงนิทราอีกครั้งด้วยความเพลียจากพิษไข้
สงสัยจัง ว่าอกคนอื่นๆจะอุ่นเหมือนอกคุณศรรึเปล่านะ?
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ดราม่าเล็กน้อยแต่พอดีและตบท้ายด้วยการเติมน้ำตาลหนึ่งถังลงไปในมาม่าที่อืดได้ที่...
ตอนนี้อิงยังไม่ได้รีไรท์ค่ะ เพราะฉะนั้นสำนวนอาจจะแปลกๆไปบ้าง และอาจจะมีคำผิดเยอะ ถ้าเจออะไรแปลกๆก็บอกได้ค่า!
ตอนนี้หายงงกันไปบ้างรึยังจ๊ะว่าคุณศรมาได้ไง
ขอบคุณทุกๆคอมเมนท์ค่ะ!!