ตอนที่ 20 [part 1]
ไม่นึกเลยจริงๆว่าจะเจอกับคนคนนี้เอาในที่แบบนี้ได้...
ไม่นึกเลยจริงๆว่าตัวเองจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้...
ไม่นึกเลยจริงๆ...ว่าความรู้สึกแบบนี้จะยังหลงเหลืออยู่ด้วย....
"ขอโทษนะ"
ไม่นึกเลยจริงๆว่าเพียงแค่คำขอโทษสั้นๆแค่นี้กลับทำให้หัวใจได้พองโต...
"ต่อไปจะดูแลให้ดี...เพราะงั้น...หยุดร้องไห้เถอะนะ..."
ผมคง...บ้าไปแล้วใช่ไหม??
ครึ่งชั่วโมงก่อน
"อั่ก!"เสียงประตูเปิดและเสียงคนทำให้ผมกลั้นสะอื้นไว้ในลำคอลุกขึ้นให้ตัวเองอยู่ในที่ที่พร้อมที่จะหนีมากที่สุด ประสามหูและตาทำงานอย่างหนักในการจับการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย
บ้าจริง!ผมก็ลืมไปได้ว่ามันมีประตูหลังอีก เฮ้อ..
"ฉันเคยเตือนแกแล้วนะว่าอย่าคิดจะหักหน้าฉัน!"เสียงตวาดดังขึ้นทำเอาผมสะดุ้งรีบกลั้นลมหายใจอย่างรวดเร็วพร้อมเงี่ยหูฟังบทสนธนา
"..."
"บ้าเอ๊ย!ไม่คิดจะพูดอะไรเลยรึไง"
"..."
"แกมัน!! ฮึ่ม!"เสียงพูดหยุดลงพร้อมกับเสียงทำร้ายร่างกายที่ดังอย่างต่อเนื่อง ดังอยู่นาน...จนผมนึกผวาไอ้คนโดนซ้อมท่าทางจบงานนี้คงเจ็บหนัก
เสียงเท้ากระทบวัตถุที่ชื่อได้ว่ามนุษย์เริ่มเงียบลงท่าทางฝ่ายซ้อมจะเหนื่อยหรือไม่ก็ฝ่ายโดนซ้อมหมดสติ...จะแบบไหนก็ดีแต่ช่วยออกไปเร็วๆได้ไหมชาวบ้านจะหลับจะนอน
และแล้วความหวังของผมก็เป็นจริงเมื่อฝ่ายคนซ้อมฮึดฮัดปิดประตูดังโครมออกไปในที่สุดโดยท่าทางจะทิ้งคนที่โดนซ้อมปางตายเอาไว้ที่นี่...
รอบข้างตอนนี้มีเพียงความเงียบงันและเสียงอึงอลของพัดลมดูดอากาศ คนที่ถูกซ้อมก็เงียบเสียยิ่งกว่าอะไรดี เงียบราวกับไม่มีชีวิตแล้ว....
ปัง!!
ผมสะดุ้งเมื่อคนที่ผมนึกว่าไม่มีชีวิตแล้วทำเสียงดังขึ้นพร้อมสบถออกมาอย่างหงุดหงิด เอ๊ะ เสียงคุ้นๆแฮะ...
อืม...คนที่บาดเจ็บจากการซ้อมไม่น่าจะมีแรงมากพอจะต่อกรกับคนที่ร่างกายเกือบแข็งแรงแถมสมองปรอดโปร่งได้หรอกกระมัง หากผมเดินเข้าไปซัดเขาเค้นคอเขาว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนพร้อมทางออกอย่างละเอียดจากนั้นค่อยจัดให้ให้สลบ ลอกคราบ แล้วหนีออกไปท่าทางจะดี...
คิดได้ดังนั้นผมจึงก้าวขาออกไปช้าๆย่องเบาๆแบบกลัวอีกฝ่ายจะได้ยินไปตามทางที่มีเสียงการกระทบกระทั่งกันของสิ่งที่คาดว่าเป็นร่างกายมนุษย์กับคอนเทนเนอร์
แต่ยังไม่ทันจะเข้าใกล้จนสามารถจับทุ่มได้เสียงการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วก็พลอยทำให้ผมชะงักไปเสียก่อน
"ใคร!"
เสียงทุ้มดังอยู่เบื้องหน้าของผมพร้อมมือแข็งแรงที่บีบรัดคอจนแทบหายใจไม่ออก ผมเบิ่งตากว้างตกใจที่มีมนุษย์สามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วราวกับหายตัว...
ความมืดและเงาจากคอนเทนเนอร์ทำให้ผมมองเห็นหน้าของเขาไม่ชัดและเขาเองก็คงมองเห็นหน้าผมไม่ชัดเช่นกัน
ผมเริ่มสำลักด้วยแรงบีบที่มากขึ้นเรื่อยๆจนร่างกายตอบสนองอัตโนมัติโดยการพยายามดึงมือของอีกฝ่ายออก แต่ด้วยเรี่ยวแรงที่ต่างกันมาก...ทำให้มันไม่เกิดผลอะไรเลย
มือแข็งแรงข้างนั้นดันให้ผมเดินออกไปในส่วนที่มีแสงสว่างส่องลงมาบ้าง ผมเองก็ได้แต่เดินถอยหลังไปเรื่อยๆงุนงงเล็กน้อยที่จู่ๆแรงบีบที่มือก็คลายลง
แต่แล้วก็เข้าใจเมื่อใบหน้าของเจ้าของเรี่ยวแรงมหาศาลปรากฏตรงหน้า...
ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าคนอย่างเขาจะมาอยู่ที่นี่ได้...
"คุณศร?!"ผมรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงความเหนื่อยอ่อนเริ่มประดังโถมเข้าใส่ผมอีกครั้ง ความรู้สึกหวาดกลัวทั้งหลายถูกส่งออกมาเป็นน้ำตาไหลรินอาบแก้มผมอย่างเงียบงัน
วินาทีนี้ผมลืมความคิดแง่ร้ายเดิมๆทั้งหมดที่เคยคิดเอาไว้ก่อนหน้านี้ไปจนหมด โถมตัวเข้าหาที่พึ่งเพียงคนเดียวที่ผมไว้ใจมากที่สุดในที่นี้
ขอร้องไห้หน่อยเถอะ!ร้องให้พอ แล้วผมจะไม่ร้องอีก...จะกลับไปเข้มแข็งเหมือนเดิม เหมือนที่เคยเป็นตลอดมา...
ผมไม่อาจทราบได้ว่าผมร้องไห้ไปหนักขนาดไหนและหลับไปตอนไหน แต่แรงกอดที่อบอุ่นปลอบโยนที่โอบรัดผมอยู่นี้มันทำให้ผมสบายใจพอที่จะหลับลึกๆได้
คำพูดสุดท้ายที่ผมจำได้คือ
"ขอบคุณ...ที่ยังอยู่ตรงนี้"
ช่างเป็นคำพูดที่ตีความยากจริงๆ!
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>.
เนื่องจากอิงเพิ่งรู้ว่ามันมีอะไรตกๆหล่นๆเยอะ ดังนั้นจึงตัดสินใจแบ่งตอนที่ยี่สิบออกเป็นสองส่วนค่ะ!!
แต่รอกันนิดนะ ขอตัวไปปั่นงานก่อน พาร์ทหน้าจะได้รู้และว่าคุณศรแกมายังไง และอาจจะมีอดีตของเกล แต่เดี๋ยวต้องดูอีกที
ขอบคุณ kimmania ค่ะที่ช่วยเตือนว่าอิงลืมอะไรไป
ถ้างานเสร็จเร็วจะมาต่อให้ค่ะ