รอยรัก... จำหลักใจ [บทที่ 17 จบ] 6 พ.ย. 55 หน้า 15
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รอยรัก... จำหลักใจ [บทที่ 17 จบ] 6 พ.ย. 55 หน้า 15  (อ่าน 331609 ครั้ง)

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
เศร้าจัง....

 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พี่วิลจะไปจริงเหรอ จีอาการไม่ดีเลย
คงเพราะกดดันหลายอย่าง

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เศร้าจัง!!!!!!!
สงสารทั้งสองคนเลย
เมื่อไหร่จะได้เวลาเปิดใจกันหนอ

ออฟไลน์ @Iriz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-2
กราฟดิ่งลงเหวจริงๆค่ะตอนนี้ ทั้งความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ทั้งอาการของจี
พี่วินอย่างพึ่งโทษตัวเองแล้วหนีไปสิ อยู่ดูแลน้องก่อน :monkeysad:

edit - เจอคำผิดแต่ลืมแปะ พึ่งนึกขึ้นได้ 55
“... แต่นั่นมันเหมือนก่อน ตอนนี้...” > ต้องเป็น 'เมื่อก่อน' รึเปล่าคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-05-2012 15:56:20 โดย @Iriz »

ออฟไลน์ GAZESL

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
ง่า น่าสงสารจิรัฐ เป็นอะไรกันแน่อ่ะ
ภวิลอยู่ช่วยจีก่อน :dont2: อย่าเพิ่งปายยย 
ซูเชฟนี่แอบชอบพี่อาร์มแน่เลยใช่ม่ะ

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
แอบกดเปลี่ยนแท็บไปกรี๊ดส์ตอนคุณภวิลได้ยินไม่ครบด้วยแหละ 5555

ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว  วินไม่ลองถามจีก่อนอ่ะ ว่าอยากให้จากไปจริงๆรึเปล่า เหมือนเข้ามาตอนแรกความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี พอเริ่มจะดีขึ้น วินก็มาจากไป  ทิ้งจีทำไมๆๆๆ? แล้วก็ไม่รอฟังให้จบ ครึ่งๆกลางๆก็ได้ไม่เต็มประโยค คิดเองเออเอง

จีอาจเป็นโรคเหมือนคุณทวดก็ได้นะ ปล่อยให้เราหลอนตั้งนาน เดาว่าสาเหตุมาจากยู การศูญเสียเพื่อนครั้งนั้น ทำให้จีเป็นแบบนี้

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว
หวานกันได้ไม่เท่าไหร่เลย
ยังไม่คืบหน้าซะด้วยซ้ำ

เฮ้อออออออ   
รอตอนต่อไปจ้ะ


ออฟไลน์ tiktik9102

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :sad11:  เศร้า

Morethan

  • บุคคลทั่วไป
ชอบนิยายแนวนี้มากเลยค่ะ >-< รู้สึกแบบมันละมุนละไมดี แต่ตอนนี้ยังอ่านไม่จบเท่าที่ลงไว้นะคะ 555+ แต่อยากมาเม้นท์ให้ก่อน เพิ่งอ่านไปถึงตอนที่พี่วินกับจีเริ่มจะดีๆ กัน ไปกินก๊วยเตี๋ยวด้วยกันหลังจากตามหาเจ้าของบ้าน

อ่านตอนแรกๆ ก็รู้สึกเศร้าๆ บรรยากาศหม่นๆ สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับยูกันแน่ พอรู้สึกแล้วก็เหมือนปมคลายไปเปลาะหนึ่ง (แต่ยังค้างอีกเป็นปมใหญ่ๆ ฮา) อ่านไปก็รู้สึกอบอุ่นหวานๆ ความสัมพันธ์ค่อยพัฒนาไปช้าๆ แต่ก็แอบหลอนนิดนึง 555 บอกไม่ถูกสิคะ มันแบบเกี่ยวอะไรกับฝันของจีด้วยรึเปล่าง่ะ

ไว้เดี๋ยวไปอ่านต่อดีกว่าค่ะ

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ ภาษาสวยๆ นะคะ >_<


___________________________________________


มาเพิ่มเติมแบบว่าอ่านจบถึงตอนล่าสุดแล้วค่ะ
ตาแฉะกันไปข้าง (ความจริงต้องตาแห้งมากกว่าสินะ)
T^T อ่านไปก็ตบเข่าฉาด ว่าแล้วเชียวว่าพี่วินต้องฟังที่จีพูดไม่ครบชัวร์ๆ
จีก็เข้าใจเจตนาพี่วินไปอีกอย่าง แต่อย่างว่าแหละนะ
อารมณ์ความรู้สึกมันซับซ้อน ก็หวังว่าทั้งสองคนจะเข้าใจกันมากขึ้นว่ารู้สึก 'อย่างไร' ต่อกันละกันกันแน่ >w<

ส่วนอีกเรื่องคือปมของจี บ้านหลังนั้นที่ไปพร้อมกับยู เสียงแว่ว ดอกบัว คุณยายทวด 555
อ่านไปก็หลอนไปเป็นพักๆ ยิ่งตอนที่เห็นเงาตะคุ่มๆ ไฟดับมืดไปหมดนั่นอีก orz

สุดท้ายแล้ว หรือว่าเชฟจะชอบพี่อาร์ม ดูท่าเชฟก็น่าสงสัย 555 (หรือเราคิดไปเอง)
อีกคนที่อดคิดถึงไม่ได้ก็คือแม่ยู แต่รายนั้นคงไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยล่ะมั้ง

>_< มาต่อไวๆ นะคะ ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2012 15:51:58 โดย Morethan »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
พี่วินอย่าเพิ่งทิ้งน้องจีไปนะ
ตอนนี้น้องจีกำลังต้องการกำลังใจจากพี่วินอยู่นะ

gohong

  • บุคคลทั่วไป
อาการหลอนของจีได้มาจากคุณยายบัว ?
ภวิลอย่าทิ้งจีไปนะ อยากให้สองคนนี้คุยกันมากกว่าการคิดไปเองของแต่ละฝ่าย
ทั้งๆที่เริ่มมีใจให้กันแล้วแท้ๆ TT

ปล.ชอบรายการอาหารของทักษ์มากกกก อ่านไปหิวไป
     อ้อ ยังสงสัยเรื่องแม่ของยู กับ บ้านหลังนั้นอยู่ อีกไม่นานก็จะคลายปมแล้วใช่มั้ยค่ะ คุณเดหลี ??

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
โอ๊ยยย ไม่น้าาาาา ภวินอย่าไปเลย ไม่อยากให้เป็นแบบนี้อ่ะ
ถ้าเป็นเรื่องทางจิตใจ เดี๋ยวจีก็อาการแย่ลงหรอก

ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3
บทที่ 12

ห้องทำงานกรุกระจกใสมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาไกลลิบๆ เมื่อก่อนแค่เปิดหน้าต่างหรือเดินออกไปที่ระเบียงก็ได้ลมแม่น้ำแล้ว แต่ตอนนี้มีเพียงไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศแผ่กระจายในห้อง คนยืนเอามือไพล่หลังทอดสายตาออกนอกหน้าต่างด้วยสีหน้ายุ่งยากถอนใจหนักๆ

... ถึงจะออกมาแต่ภวิลไม่ได้หมดความสนใจ แค่จะรู้ว่าเจ้าของบ้านยังเข้าทำงานสม่ำเสมอหรือเปล่าท่าทางเป็นอย่างไรบ้างไม่เกินความสามารถเขา กระบวนการแปรสภาพให้เป็นบริษัทมหาชนก็เริ่มขึ้นแล้ว ขั้นแรกต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อลงมติ เมสเซนเจอร์เอาเอกสารมาให้เซ็นตั้งแต่วันก่อนแต่ทั้งหมดชะงักอยู่เพียงนั้นเพราะผู้บริหารอีกคนลาพักผ่อน

ประเด็นคือ คนจริงจังกับงานอย่างจิรัฐไม่น่าจะอยากพักร้อนตอนบริษัทกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญแบบนี้ ตอนแรกเขาไม่แน่ใจว่าเป็นการลาป่วยแต่ไม่อยากให้พนักงานรู้หรือเปล่า ปรากฎว่าจิรัฐก็ลาไปอยู่กับบ้านเฉยๆ ภวิลลงทุนตะล่อมคุณย่าพอรู้ว่าท่านโทรไปหาคุณอาบุณฑริกถามสารทุกข์สุขดิบ เป็นธรรมดาว่าต้องถามหาหลานอีกคนด้วย เลยแน่ใจ จิรัฐไม่ได้ไม่สบาย
 
นั่นแหละที่ทำให้กังวล ผิดวิสัย... เพราะเขารู้ว่าบ้านที่เป็นเรือนใจไม่ใช่บ้านเมืองนนท์ แต่เป็นบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา มารดาก็อาการดีขึ้นมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องหยุดงานติดต่อกันเพื่อดูแลเลย

แล้วทำไมถึงเก็บตัวเงียบราวตัดขาดจากทุกสิ่ง

หนึ่งวัน... สองวัน... สามวัน... ผ่านไปสี่วันแล้วก็ยังไม่ไปทำงาน

ความจริงยังนึกไม่ออกว่าจะมีเหตุผลอื่นใดที่ทำให้จิรัฐไม่อยากเข้าไปที่บ้าน ตอนนี้เมื่อไม่มีเขา... คนเป็นเจ้าของควรจะจัดการเรื่องต่างๆ ได้อย่างปลอดโปร่งสบายใจ ที่วางมือ เดินออกมา ก็ด้วยเหตุนี้

แต่ผิดคาด เรื่องกลับตาลปัตรไปหมด

พอล่วงเข้าวันที่ห้าภวิลก็หมดความอดทน ถ้าเขาตัดสินใจพลาดก็ขอให้รู้กันไป รีรออยู่แบบนี้คงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
 

จิรัฐวางช้อนลง แม่เลื่อนถ้วยกาแฟให้อย่างเอาใจ ปกติจิรัฐออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ แทบใช้ชีวิตที่ทำงาน อยู่บ้านทานข้าวกับแม่บ้างก็ดี... ถึงแม่ทำท่าเหมือนมีเรื่องจะถาม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ว่าอะไรที่จู่ๆ ลูกชายบอกว่าอยากหยุดพัก

เสียงหมาเห่ากันให้ขรมข้างล่าง คุณบุณฑริกลุกขึ้นชะโงกดูที่หน้าต่าง จิรัฐก็แปลกใจกับแขกที่มาเยือนแต่เช้า

“ใครมาครับ”

คำตอบมีให้เห็นหลังจากนั้นไม่ถึงสองนาทีเมื่อแขกโผล่พ้นบันไดบ้านขึ้นมา จิรัฐชะงัก ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่คิดว่าจะได้พบกันอีก ภวิลไหว้คุณบุณฑริกด้วยท่าทางปกติ เหมือนเคยมาอยู่แล้วเป็นประจำก็ไม่ปาน แม่เขาก็ไม่แพ้กัน เอ่ยชวนทานของเช้าด้วยอย่างสนิทสนม

ภวิลเหลือบมองเจ้าบ้านอีกคนเห็นทานเสร็จเรียบร้อยจึงบอกว่าไม่เป็นไร ขอบคุณแล้วก็เอ่ยต่อ

“พอดีผมผ่านมาแถวนี้...” เขาเริ่มแล้วก็หยุด ไม่รู้จะเกริ่นไปทำไมในเมื่อบ้านเขากับนนทบุรีมันไม่ได้ใกล้กันสักนิด แล้วจะมาทำธุระอะไรเช้าขนาดนี้ก็ไม่มีเหตุผลอีกเหมือนกัน เลยพูดตรงๆ “เห็นไม่ไปทำงานหลายวัน... ไม่แน่ใจว่า...”

เขาแลเลยไปหาคนที่ค่อยๆ วางถ้วยกาแฟลงกับจานรอง นึกคำพูดต่อไม่ออกเอาดื้อๆ ไม่แน่ใจ... อะไร? เท่าที่เห็นอีกฝ่ายก็ดูสบายดีจริงๆ อย่างที่เคยได้ข่าว อาจจะสบายดีกว่าเมื่อสี่ห้าวันก่อนตอนพบกันเป็นครั้งสุดท้ายที่บ้านด้วยซ้ำ

“จีลาไม่บอกพี่เขาหรือเนี่ย อะไรกัน” คุณบุณฑริกว่า ก่อนหันมาบอก “อยู่ๆ ก็บอกอยากหยุด... อายังว่าแปลก ปกติหายใจเข้าออกเป็นบ้านหลังนั้น แต่ก็เอา... ตามใจ”

“ผมไม่เคยได้ใช้วันหยุดเลย...” ลูกชายประท้วงเสียงเบา

“ใครไปว่าอะไร แม่อยากให้จีพักสมองบ้างจะตาย... แต่ใช้วันหยุดมาอยู่กับบ้านเฉยๆ อย่างนี้แม่ยังเบื่อแทน” คนเป็นแม่พูดยิ้มๆ “แม่ก็รอดูอยู่ว่าจะหยุดได้กี่วัน นี่จีก็โทรบอกอาร์มแล้วไม่ใช่หรือลูกว่าวันนี้จะเข้าไป”

ภวิลเม้มปาก ได้ยินอย่างนั้นเลยชักคิดว่าตัวเองกำลังยุ่งไม่เข้าเรื่องอยู่อีกหรือเปล่า ในเมื่อจิรัฐก็ตั้งใจจะเข้าไปอยู่แล้ว ทำงานต่อ เปลี่ยนผ่าน... เริ่มสิ่งใหม่ๆ แต่ตัวเขาเองนี่แหละที่เพิ่งรู้ จะปล่อยมือ... ทำยากกว่าพูดมากนัก

จิรัฐถอนใจ เขาบอกรุ่นพี่ไว้ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พอต้องไปจริงๆ กลับลังเล

ตอนแรกที่หยุดมาเพราะไม่แน่ใจตัวเอง กลัวจะตัดสินใจเรื่องต่างๆ ผิดพลาดไป ถ้าเขายังเห็นยังได้ยินอะไรแปลกๆ ก็ไม่แน่ว่าบ้านพระยาสมควรอยู่ในมือผู้บริหารอย่างเขาหรือเปล่า ที่บ้านนี้... เขาไม่เป็น ไม่เห็นภาพหลอน ไม่ได้ยินเสียงแว่ว

บ้านสวนสงบเงียบก็จริง แต่จิรัฐคิดถึงงาน

คนเคยทำงานทุกวันอยู่ๆ หยุดไปเฉยๆ ก็อดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้ เหมือนในอกมันว่างเปล่าลงไป... นิดหนึ่ง

คล้ายกับที่... เคยเห็นใครเกือบทุกวันแล้วไม่เห็น 

“โทรบอกว่าหยุดอีกสักวันก็ได้มังครับ”

คราวนี้ภวิลชักจะผิดสังเกตขึ้นมาจริงๆ เพราะเขาไม่คิดว่าจะมีวันที่จิรัฐผลัดการเข้าไปที่บ้าน ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนตอนอำนาจบริหารทั้งหมดเปลี่ยนมือ น่าจะอึดอัดขัดข้องกว่านี้โขก็ยังไปทุกวัน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่กันแน่

“หยุดต่อแล้วไปเดินใจลอยอยู่ในสวนไม่ก็นั่งมองหมาน่ะเหรอ” คุณบุณฑริกหัวเราะ “พอดีเลย... ลูกบอกว่าไม่ค่อยอยากขับรถนี่จ๊ะ”

ตอนแรกพูดกับแม่ไว้ว่าอย่างนั้นก็เพราะไม่ไว้ใจทั้งหูทั้งตาของตัวเองแล้ว หรืออาจจะระบบประสาททั้งหมดเลยก็ได้ แต่ถ้าต้องกวนอีกฝ่ายเขายอมไปพรุ่งนี้ไม่ก็ขับเองดีกว่า

“ไม่เป็นไรหรอกครับ” จิรัฐบอกแม่ “เอารถไปเองดีแล้ว ไม่งั้นขากลับต้องเรียกแท็กซี่อีก”

“รับแล้วก็ต้องส่งสิครับ” ภวิลว่า ตอบคุณบุณฑริกแต่ตามองอีกคน

มารดายิ้มอย่างไม่ติดใจ จิรัฐยังพยายามจะเลี่ยงแต่สองคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เห็นดีเห็นงามจนเขาหมดข้ออ้าง ต้องยอมไปขึ้นรถคันดำในที่สุด

ภวิลมองคนข้างๆ จิรัฐนั่งเฉยมองตรงไปข้างหน้า เขาเอ่ยถามเรื่องสำคัญที่สุดก่อน

“คุณ... เป็นอีกหรือเปล่า”

“เปล่าครับ”

“แน่ใจนะ”

จิรัฐขยับตัวนิดแล้วเหลือบมองเขาแวบ ท่าทางเหมือนจะบอกว่าทำไมต้องโกหกด้วย

คนถามถอนใจเบาๆ โล่งอกที่อาการแบบนั้นหายไป แต่ก็คิดไว้อยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาเขาทั้งบอกจะขายหุ้นออกและไม่ได้เจอหน้ากันเลย แสดงว่าจิรัฐอาจจะสบายใจกว่าจริงๆ

“ผมเซ็นเอกสารแล้ว อีกสองอาทิตย์ก็เรียกประชุมลงมติพิเศษได้”

“ครับ” อีกฝ่ายตอบแค่นั้น

ภวิลทำใจไว้แล้วว่าถามคำตอบคำอย่างนี้อาจจะเป็นไปจนถึงโรงแรม แต่ยังมีเรื่องหนึ่งที่เขาอยากรู้

“ที่ไม่เข้าไปหลายวัน... ไม่ได้มีเรื่องอื่นใช่มั้ย”

จิรัฐนิ่ง ไม่นึกว่าภวิลจะสนใจอะไรกับเรื่องนี้ ในเมื่ออีกไม่นานก็คงขายหุ้นออกในตลาด เขาจะไปทำงานหรือไม่ไป เป็นอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเกี่ยวข้องกันอีก ได้ยินคำถามย้ำ

“ผมออกมาแล้ว... ทำไมคุณถึงไม่ไปทำงาน”

“มันเกี่ยวอะไรกันล่ะครับ”

ภวิลมองคนตอบ หน้าตาเฉยเมยราวจะถามว่า ‘มันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะครับ’ มากกว่า เขากำพวงมาลัยแน่นขึ้น ไม่นับตอนเจอกันใหม่ๆ ก็ไม่เห็นท่าทางอย่างนี้มานานมากแล้ว ทุกอย่างดูจะย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้น แต่ความรู้สึกของคนที่ได้มีโอกาสคุ้นเคยกันมาย้อนกลับได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือเปล่า

พอถึงทางแยกเข้าเมืองกับไปทางโรงแรมคนถูกฝากให้นั่งมาด้วยก็ว่า

“จอดตรงนี้ก็ได้ ผมไปต่อเอง”

ภวิลเหนื่อยเกินจะยกเรื่องหุ้นที่มีอยู่และยังไม่ได้ขายขึ้นมาเป็นข้ออ้าง เขาพูดเรียบๆ “รู้แล้วว่าไม่อยากให้เข้าไป”

คราวนี้ผู้โดยสารหันมามองเต็มที่ ภวิลเห็นสายตานั้นเหมือนกัน เขาชะงัก

... เพราะได้ยินจิรัฐบอกรุ่นพี่กับหูมาจริงๆ แต่อีกฝ่ายทำหน้าเหมือนไม่เคยพูด ถ้าไม่รู้มาก่อน เขาจะคิดว่าจิรัฐไม่เคยนึกอย่างนั้น อย่างน้อยก็ไม่ใช่ระยะหลัง

ภวิลหักพวงมาลัยจอดข้างทาง จิรัฐขยับจะเปิดประตูแต่คนขับไม่ปลดล็อก       

เขาก็ไม่รู้ว่าภวิลพูดแบบนั้นเพราะอะไร คนพูดต่างหากที่อยากมาก็มา อยากไปก็ไป นี่เห็นกับตาว่าเขาไม่เป็นไรแล้วจะได้ไม่ต้องรู้สึกรับผิดชอบอีก แม่ฝากมาก็จริงแต่เขาไม่หวังให้ต้องไปส่งถึงที่ ภวิลจะได้เข้าบริษัทตัวเองไปทำงาน

“คุณภวิล ประตู...”

“ไม่ได้จอดให้ลง ขับไปพูดไปมันมองไม่เห็นหน้า” เขาหันมา จิรัฐยังนิ่งแต่สีหน้าสับสน ภวิลแตะแขนซ้ายก่อนจับไหล่เบาๆ รั้งให้เผชิญหน้า

“ถ้าไม่ใช่เพราะมีหุ้น เพราะคุณย่า หรือว่าเพราะยู จะไม่ต้อนรับกันจริงๆ?”   

“ในเมื่อคุณตั้งใจจะให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการเข้าตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว ก็แสดงว่าขายหุ้นทิ้งดีกว่าถือไว้ แล้วบ้านหลังนั้นยังมีอะไรสำคัญอีกหรือครับ” จิรัฐถามออกมาด้วยความอัดอั้นตันใจ “มันมีอะไรสำคัญถึงกับต้องกลับไปอีก”

ภวิลสบตาคนตรงหน้านิ่ง แววตาที่เต้นระริกอยู่นั่น... สงสัย ไม่เข้าใจ ไม่แน่ใจ... แต่ไม่ได้บ่งบอกถึงความเกลียดกลัวต้องการจะผลักไส เขาค่อยบอก

“... มี”

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น จิรัฐสะดุ้งน้อยๆ ภวิลถอนใจแล้วปล่อยมือ ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องรับ คงเป็นเรื่องงาน แล้วก็ใช่จริงๆ

แต่จิรัฐขมวดคิ้วมุ่นขึ้นทุกขณะ ท่าทางเป็นกังวลจนเขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่โรงแรมหรือเปล่า

“ตั้งแต่เมื่อไหร่... ตอนนี้ใครดูอยู่ โอเค จะเข้าไปเดี๋ยวนี้”

ไม่รอจนอีกฝ่ายวางหูภวิลก็ออกรถมุ่งตรงไปบ้านพระยา

รู้ว่าจิรัฐคงอยากไปที่นั่นให้เร็วที่สุด


ธรรมนูญเดินแทบจะเป็นวิ่งผ่านห้องอาหาร ถ้าไม่เกรงใจแขกเขาก็คงวิ่งแล้วจริงๆ

เพิ่งจะถึงที่ทำงานก็ได้เรื่อง ทางครัวโทรมาบอก เกิดเหตุวุ่นวาย... เบื้องหลังเสียงดังจนฟังไม่ได้ศัพท์แต่มันไม่เหมือนความอึกทึกที่เกิดขึ้นในครัวโดยทั่วไป เสียงทักษ์ตะโกนสั่งงานร่าเริงตามปกติก็ไม่มี

เขาผลักประตูเปิดออกโดยแรง แล้วก็ได้คำตอบ

หัวหน้าเชฟคนก่อนกำลังอาละวาด และมาเพื่อทำอย่างนั้นโดยเฉพาะ ไม่ได้เน้นทำลายข้าวของให้เสียหาย... แต่ก่นด่าทุกคน ทุกอย่างที่นี่ว่าเป็นเหตุให้ชีวิตพังพินาศในความคิด ธรรมนูญรีบบอกลูกมือในครัวคนหนึ่งที่ยังยืนอึ้งอยู่ข้างประตูให้ไปเรียกยาม เผื่อไว้... เพราะนอกจากด่าหยาบคายแล้วก็ดูเหมือนจะยังไม่ได้ทำอะไร แต่ยังไงคงต้องแยกออกมา หาไม่ในครัวจะทำงานไม่ได้กันหมด

อันที่จริงเขาก็พอเข้าใจว่าทำไมจึงไม่มีคนไปดึงรั้งจัดการ ในงานครัวหัวหน้าเชฟก็เหมือนแม่ทัพถือสิทธิขาด ทุกคนที่ทำงานตรงนี้เคยอยู่ใต้อาณัติมาก่อนทั้งสิ้น ไม่แปลกที่จะยังกลัวเกรงกันอยู่ ยิ่ง ‘แม่ทัพ’ คนใหม่ก็ยืนหน้าเผือดอยู่นั่น

แวบหนึ่งที่ธรรมนูญนึกประหวัดไปถึงเรื่องที่เขายังติดใจสงสัยตั้งแต่คุยกันครั้งที่แล้วกับทักษ์ ในฐานะผู้จัดการฝ่ายบุคคลและรุ่นพี่ของจิรัฐ เขาคิดว่าปล่อยผ่านเรื่องนี้โดยนิ่งนอนใจไม่ได้ เรื่องจะมีมูลหรือไม่แต่พูดกันไปก็ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ เขาไม่อยากให้พนักงานไม่ว่าจะใหม่หรือเก่าเกิดระแวงในการตัดสินใจของผู้บริหารขึ้นมา ด้วยเหตุที่ว่าเคยมีญาติสติวิปลาสในบั้นปลาย

การถามไถ่หาข้อมูลอย่างระวังไม่ให้คนถูกถามรู้ตัวนั้นยาก... แต่ธรรมนูญก็ทำสำเร็จ เขาไล่คุยกับคนเก่าคนแก่ แบบที่พ่อแม่เคยทำงานให้กับครอบครัวของจิรัฐมาตั้งแต่สมัยก่อนต้องย้ายออกไป ไม่มีใครเคยได้ยินข่าวลือนี้ จะคิดไปว่าเหล่าลุงๆ ป้าๆ ระวังไม่พูดให้เขารู้ก็ไม่น่าใช่ เพราะธรรมนูญถึงขนาดไปหาตัวคนที่เกษียณไปตั้งแต่ตอนเขายังไม่ทำงานที่นี่ ซึ่งไม่มีทางรู้ว่าเขาเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคล ก็พูดตรงกันกับคนที่ยังทำงานอยู่

แล้วทักษ์ไปเอาเรื่องคุณยายทวดจิรัฐวิปลาสมาจากไหน

... แต่เคลียร์เรื่องนี้ก่อนแล้วค่อยถามเรื่องนั้นแล้วกัน

เขาจับข้อศอกทักษ์ดึงให้มายืนข้าง แขกไม่ได้รับเชิญยังใช้คำผรุสวาทยาวเหยียดไม่ซ้ำจนธรรมนูญหาช่องแทรกไม่ได้ น่าสงสารคนโดนไปเต็มๆ ก่อนอย่างทักษ์ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดเจ้าตัวเลยที่ได้เลื่อนตำแหน่ง เห็นปกติชอบต่อปากต่อคำกับเขาแต่ให้ด่าแข่งกับอดีตหัวหน้ายังไงก็ไม่ไหว คำบางคำเขายังไม่เคยได้ยินเลย

ความจริงเรื่องเชฟคนเก่าเขานึกว่าจัดการเรียบร้อยไปแล้ว หลังจากผู้บริหารใหญ่ให้ออกธรรมนูญก็ทำหนังสือแจ้งเป็นทางการ ยังให้เข้ามาพบเพื่อรับเงินเดือนเดือนสุดท้าย ถึงจะไม่ใช่เงินชดเชยเพราะสัญญาจ้างสิ้นสุดลงโดยที่อีกฝ่ายก็ผิดข้อหาขาดงานติดต่อกันหลายครั้ง แต่จิรัฐยังบอกให้จ่ายเพิ่มไปอีกครึ่งเดือนด้วยซ้ำ ตอนนั้นอดีตลูกจ้างก็ดูพอใจดี ยังโอ่ว่าได้สัญญาใหม่จะย้ายไปทำร้านอาหารดังในโรงแรมห้าดาวที่มาเลเซีย

ปรากฎว่าผ่านไปไม่นานที่ทำงานใหม่ต้องการจดหมายรับรอง ธรรมนูญเห็นว่าไม่สมควรจะเขียนให้ เขาเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลดูเรื่องนี้โดยตรง ขืนรับรองก็พูดเท็จเปล่าๆ ยังไม่เลิกนิสัยเดิมจะพลอยเสียหายกันไปหมด รู้ว่าอดีตหัวหน้าเชฟคงเคืองอยู่ไม่น้อยแต่ก็เงียบไป

โรงแรมนั้นคงเข้มงวดไม่เบา เพราะจากที่จับใจความได้เมื่อไม่มีจดหมายรับรอง อดีตเชฟใหญ่เลยชวดงานนั้น กลับมาขุดคุ้ยด่าที่ทำงานเก่าอยู่นี่อย่างไร

พอผู้จัดการบุคคลมาถึง เป้าหมายจึงเปลี่ยนเป็นเขา ธรรมนูญพยายามใช้เหตุผลแต่คงไม่มีประโยชน์สำหรับคนกำลังโมโหหน้ามืด เขาเหลียวหายาม ไม่รู้พนักงานคนนั้นไปตามถึงไหน ถ้ายังพูดไม่ฟังกันในตอนนี้ก็เห็นทีต้องขอให้ออกไปสงบจิตใจนอกเขตรั้วโรงแรมก่อน

ประตูเปิดออก แต่คนก้าวเข้ามากลับเป็นจิรัฐ ส่วนคนยังยืนเยื้องอยู่เบื้องหลังเป็นคนที่ธรรมนูญไม่นึกว่าจะเห็น แต่สถานการณ์ฉุกเฉินเขาไม่มีเวลาจะมาข้องใจว่าภวิลเข้ามาที่นี่อีกทำไม เพราะอดีตหัวหน้าเชฟสาวเท้ามุ่งตรงไปยังจิรัฐ

ธรรมนูญใจหายวาบ คนมาหาเรื่องคงไม่รู้จักภวิล ไม่รู้ว่าความจริงแล้วคนที่ไล่ตัวเองออกคือผู้บริหารคนใหม่ ไม่ใช่จิรัฐ ตอนแรกยังไม่ใช้กำลัง แต่ตอนนี้เห็นวี่แววความบ้าเลือดแล้ว...

ภวิลก้าวออกมาบัง แต่อดีตเชฟยังไม่ทันถึงตัวทั้งคู่ก็คู้ตัวลงจนคุกเข่ากับพื้น หน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

พวกพนักงานที่ยืนออกันเสียงแซ่ดด้วยความประหลาดใจ อดีตหัวหน้าครวญคราง “ปวดท้อง... โอ๊ย...”

อาการเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน จิรัฐขยับจะเข้าหาแต่ภวิลยื่นมือกันไว้ก่อน เขาไม่แน่ใจว่าเป็นเล่ห์กลอะไรหรือไม่

อดีตเชฟใหญ่ตอนนี้ไม่เหลือเค้าความกร่างแล้ว ทำท่าพะอืดพะอมก่อนจะอาเจียนออกมา

“เฮ้ย... เป็นจริงเหรอเนี่ย”

“เมื่อก่อนเอะอะอะไรอ้างลาป่วย ไม่นึกว่าจะป่วยจริงๆ”

เสียงพนักงานซุบซิบกัน จิรัฐรีบบอกให้เรียกรถพยาบาล ภวิลเองก็แปลกใจ เขาว่า

“ถ้าต้องไปโรงพยาบาลเอารถโรงแรมออกเลยดีกว่า ตอนนี้รีบพาไปท่าน้ำก่อน ใครโทรบอกคนขับรถอีกฝั่งด้วย”

เหล่าพนักงานที่พอเห็นใจหัวหน้าเก่าอยู่บ้างพากันมาช่วยพยุงอดีตเชฟใหญ่ซึ่งตอนนี้ท่าทางสะโหลสะเหลหน้ามืดไปลงเรือ ภวิลเดินตามไปบอกให้พาไปโรงพยาบาลของมทนาซึ่งอยู่ไม่ไกล ก่อนเสียงร้องโวยวายและอาการดิ้นพล่านของเชฟจะทำให้ชะงัก

“โอ๊ย ทำไมมันมืดอย่างนี้ นั่นใคร ใคร... อย่า... อย่า กลัวแล้ว...”

ภวิลขมวดคิ้ว อาหารเป็นพิษเฉียบพลัน ปวดท้องอาเจียน เป็นลม ไม่แปลก แต่ไม่น่าจะส่งผลให้มีอาการแบบนี้แน่ๆ

อดีตหัวหน้าเชฟท่าทางลนลานเหมือนกลัวใครจะมาทำร้าย ดีที่แรงไม่ค่อยจะมีนักจากการอาเจียนอย่างหนักเมื่อครู่ทำให้ไม่ดิ้นจนตกเรือไปเสียก่อน เขายืนมองเรือออกจากท่า ยังสงสัยไม่คลาย


คนตั้งใจมาอาละวาดถูกหามส่งโรงพยาบาลกะทันหัน ในครัวทำความสะอาดเสร็จก็ทำงานกันได้เหมือนเดิม ผ่านไปพักใหญ่ๆ มทนาก็โทรศัพท์มาหาเขา

“หมัดดูคนไข้ที่วินส่งมาแล้วนะ แปลกมาก ไม่นึกว่าจะเจอ...”

ภวิลเหลียวหาจิรัฐ เห็นยืนคุยอยู่กับทักษ์ เลยเดินเลี่ยงออกมานิดแต่ยังอยู่ในระยะที่มองเห็นได้

“ตอนนี้เป็นไงบ้าง”

“ได้สติละ ก่อนหน้านั้นแทบต้องจับมัด นึกว่าจะส่งวอร์ดจิตเวช พอดีหมัดเอะใจให้เจาะเลือดดูเพิ่มอีก พอพูดกันรู้เรื่องก็ถามเขา บอกไม่เคยเป็นแบบนี้เลย แข็งแรงดีทุกอย่าง ท่าทางตกใจน่าดู... ก็ควรอยู่หรอก”

คลื่นไส้... ปวดท้อง ดูเหมือนอาการทั่วๆ ไป เป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่ก่อนหน้านี้เชฟคนเก่าก็ไม่เคยเป็น ตอนทำงานอยู่ไม่เป็น ออกไปแล้วก็ไม่เป็น จำเพาะมาเป็นหนักตอนกลับไปที่บ้านพระยาอีกครั้ง กับจิรัฐที่อยู่กับบ้านหลังนั้นมาตลอดตั้งแต่ต้น อาการเหมือนกัน... ถึงจะดูไม่หนักหนาเท่าก็จริง แต่ทำไมคนอื่นไม่เป็นไปด้วย

... พอพ่วงกับการเห็นภาพหลอนแล้ว... เรื่องนี้...

ตอนนั้นเองที่คนในครัวเอ่ยอะไรขึ้นบางอย่างที่จุดความสนใจเขา

“เดี๋ยวนะหมัด แป๊บนึง”

ภวิลแนบโทรศัพท์ไว้เหมือนเดิมแต่เงี่ยหูฟัง ระบายลมหายใจยาว

... อย่างนี้เอง

เขาบอกมทนาอย่างที่ได้ยิน “... ดีที่หมัดตรวจเลือดอีกไม่งั้นคงไม่รู้”

“ถ้าเป็นเรื่องนี้ไม่ต้องห่วง วินลืมแล้วเหรอ หมัดจบเฉพาะทางอะไรมา”

ภวิลพยักหน้ากับโทรศัพท์ เขาลืมจริงๆ ว่ามทนาไปเรียนต่ออะไร และเก่งถึงกับเป็นที่หนึ่งของชั้น จะว่าไปก็ประจวบเหมาะ

... ยังมีโชคดีอยู่ในโชคร้ายบ้าง

จิรัฐคุยกับหัวหน้าเชฟคนปัจจุบันเสร็จหันหลังจะกลับขึ้นห้องทำงาน ปรากฎว่าคนมาส่งยังรออยู่ปากประตู บอก

“ไปด้วยกัน”

“อะไรครับ... ยังไม่ได้ขึ้นไปดูงานเลย” จิรัฐว่า เขาหยุดไปสี่ห้าวันคงมีเรื่องให้ต้องจัดการอยู่มาก

“ไว้ก่อน เรื่องนี้สำคัญกว่า”

เพราะสีหน้าภวิลเคร่งเครียดร้อนใจ ถึงจิรัฐจะยังไม่ค่อยเข้าใจนักแต่ทุกครั้ง... ถ้าจะพอมีเวลาสังเกตตัวเองก็คงรู้ เขาปฏิเสธอีกฝ่ายไม่ได้มานานแล้ว

แต่รถคันดำกลับเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลที่เขาจำได้ว่าภวิลเคยพามาหาหมอมทนา จิรัฐหันมองหน้าคนขับ ทั้งไม่เข้าใจและออกจะเสียใจ นี่เขาคงกลายเป็นคนไม่เต็มในสายตาภวิลไปแล้ว

“คุณพาผมมาโรงพยาบาลทำไม ต้องตรวจอะไรกันอีก กลัวผมจะเป็นประสาทอีกหรือ” จิรัฐถาม เสียงสั่นน้อยๆ อย่างห้ามไม่อยู่ “... ก็บอกแล้วว่า...”

“ไม่ว่าเรื่องคุณยายทวดบัวจะจริงหรือเปล่า” ภวิลพูดช้าๆ “แต่ที่หลานของท่านเป็น... ทั้งหมดที่เกิดขึ้น... ไม่เกี่ยวกัน”

จิรัฐชะงัก ภวิลพูดด้วยความมั่นใจ และทำให้ความระแวงสงสัยทั้งหมดสงบลงได้อย่างประหลาด ก่อนหน้านี้เขาแคลงใจในตัวเอง หมดความมั่นใจไม่อยากจะทำงาน แต่ตอนนี้สายตาอีกฝ่ายกำลังบอกเขาว่า... อย่ากลัว

“จะไม่เป็นอีกแล้ว... พี่สัญญา”


ออฟไลน์ เดหลี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +254/-3

คุณ mild-dy ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่ะ

คุณ bulldog17 กราฟขึ้นมาละนิดนึง 55

คุณ yeyong ขอบคุณนะคะ สรุปว่ามันก็ไม่เชิงใช่ ฝากตอนต่อไปด้วยน้า

คุณ Pupay มาแล้วๆ อีกนิดเดียวนะ เรื่องนี้ใกล้จบละ ถ้าใกล้จบมันจะมีค้างไปบ้างก็ เพื่อพล็อตค่ะ อิอิ ฮีรีบไปก็รีบกลับมาแล้วล่ะ

คุณ chompoonut139 นิดนึงค่ะ แหะๆ

คุณ Giniz เค้าก็ต้องผจญดราม่ามาก่อนลงเอยกันบ้างไรบ้าง เนอะ

คุณ Jeyibee สรุปแล้วมัน... ไม่ผีละก็ไม่บ้าด้วยแหละ 55 พี่อาร์มเป็นพวกความรู้สึกช้า (ความจริงก็ช้ากันเกือบหมดเรื่องอะ เหอ) 55 คนแก่ คิดมาก ขอบคุณมากสำหรับการติดตามนะคะ

คุณ namngern ความคิดเองเออเองมันมาจากเพราะอารมณ์ความรู้สึกมันลงไปแล้วอะเนอะ คราวนี้คุณพระเอกไม่หายละค่ะ

คุณ uknowvry มาแล้วค่ะ ฝากตอนต่อไปด้วยน้า (เศร้าบ้างพอเป็นกระษัย)

คุณ iforgive บางทีมนุษย์ก็เป็นแบบนี้ เข้าใจไปเองแล้วก็ไม่พูดกัน... แต่ว่าเซนส์ถูกเดาถูกมาตั้งแต่ต้นเลยนะเนี่ย มีอาการ แต่ไม่ใช่จากทางจิตน่ะ

คุณ myd3ar จีน่าจะโอละ (น่าจะ?) คุณพระเอกก็มาละ 55

คุณ Guill ขอบคุณมากค่ะ

คุณ PetitDragon นิดนึงนะ แหะๆ ฝากตอนต่อไปด้วยค่า

คุณ malula ฮีแพ้ใจตัวเอง ละก็กลับมาเอง 55 จีกดดันจริง แต่ยังไม่ถึงกับจะบ้าหรอก...

คุณ ordkrub หวังว่าหลังจากนี้มันจะไม่เศร้าแบบนี้แล้วค่ะ เขยิบๆ กันไป

คุณ @Iriz แล้วกราฟก็จะขึ้นค่ะ (ขึ้นๆ ลงๆ 55) คุณพระเอกกลับมาแล้วและคงไม่ไปไหนแล้วละ ขอบคุณมากสำหรับคำผิด แก้แล้วนะคะ ตาลาย กร๊าก

คุณ GAZESL คุณภวิลกลับมาแล้ววว 55 ส่วนอีกคู่ก็ต้องฝากด้วย รักคนที่เขาไม่รู้ตัวนี่มันช่าง...

คุณ Mookkun จู่ๆ ก็อยากใช้มุขนี้ขึ้นมา กร๊าก 

คุณ berlyn อย่างนี้แหละนะคนเรา ยิ่งพระเอกเป็นพวกเชื่อมั่นในตัวเองสูง ก็จะคิดว่าตัวเองคิดถูกตามไปด้วย แต่ตอนนี้ฮีก็มา และถามแล้วด้วย (แต่จียังไม่ทันตอบ 55)

คุณ silverphoenix ขอบคุณมากนะคะ กลับมาพัฒนากันต่อละ ขอฝากตอนต่อไปด้วยค่า

คุณ tiktik9102 นิดนึงน้า ไม่เศร้านานหรอกน้า

คุณ Morethan ขอบคุณมากเลยค่ะที่แวะเข้ามาอ่าน ความจริงมันเป็นปมเดียวกันค่ะ เรื่องยู ยาวรวดมาตอนนี้ แต่ว่าแค่คุณพระเอกเคลียร์ว่าน้องตายยังไงก่อน แหะๆ อ่านยาวรวดเดียวเลย ขอบคุณมากนะคะ สองคนก็ค่อยเข้าใจกันไปช้าๆ เรื่องหลอนของจีเคลียร์แล้ว (และจะเคลียร์สุด ในบทหน้า) บ้านก็กำลังจะเคลียร์ค่ะ 55 มีคนน่าสงสัยหลายคนจริงๆ นะเรื่องนี้

คุณ bun ฮีกลับมาแล้วค่ะ ฝากตอนต่อไปด้วยน้า

คุณ gohong ฮีไม่คิดจะทิ้งจริงๆ หรอก แค่คิดว่าถ้าไปแล้วจีหายป่วยก็จะไป แต่ตอนนี้ถ้าไม่เกี่ยวฮีก็พร้อมกลับมา 55 ความจริงอิจฉาอาร์ม ถูกเรียกไปกินของอยู่เรื่อยเลย บ้านหลังนั้นจะคลายในบทต่อๆ ไปค่ะ ไม่ลืม อิอิ

คุณ cheyp ฮีกลับมาแล้วด้วยความรวดเร็ว ถ้ารู้ว่าอยู่แล้วดีกว่าใครจะไม่อยากอยู่เนอะ 55

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อยากขำคุณพระเอกมาก ไปแป๊บเดียวแจ้นกลับมาละ อะไรกั๊น

ขอบคุณคนอ่านทุกท่านมากๆ เช่นเคยนะคะ การเข้ามาอ่านและเมนต์ของพวกท่านเป็นกำลังใจกับการเขียนได้อย่างมากจริงๆ เลยค่ะ
  :กอด1:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ดีใจที่ได้อ่านต่อ555+
เรื่องคงเร่ิมคลี่คลายแล้ว
ว่าแต่คนทำทำเพราะเหตุอะไรเนอะ
ลุ้นต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2012 16:00:30 โดย ordkrub »

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
จำไม่ได้ว่าหมอหมัดเชี่ยวชาญด้านไหน
แต่โรคที่ว่านี่ตรวจเลือดก็เจอ เป็นพิษแบบไหนหนอ
โดนวางยา หรือสูดดมสารพิษจากดอกไม้ มั่วค่ะ

ออฟไลน์ Lovecartoon1996

  • ชอบกินมาม่า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
    • -
แฮ่ๆพึ่งเข้ามาอ่าน
อ่านเพลินดีหลอนๆด้วยอ่า
เรื่องนี้มีผีปล่าวเนี่ย :a5:!!!

ออฟไลน์ chompoonut139

  • สุดท้ายก็ไม่เหลือใคร
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ค้าง

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ชักจะลึกลับซับซ้อนเข้าไปเรื่อยๆ  o22

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






gohong

  • บุคคลทั่วไป
ตอนหน้าจะคลายปมแล้วสินะ พอได้อ่านตอนนี้ก็พอเริ่มเข้าใจเรื่องปมต่างๆขึ้นมาบ้าง 55555
อ่านเรื่องนี้ แล้วนึกถึงซีรีย์House ที่จะคลายปมปัญหาต่างๆ ด้วยความรู้ทางแพทย์ ชอบๆ

ปล.เมื่อกี้นั่งอ่านใหม่อีกรอบนึง(แบบว่าสงสัยว่าอ่านไรพลาดไปป่าว) จึงมีความคิดขึ้นมาว่า ทักษ์เป็นคนอยู่เบื้องหลังทั้งหมดรึเปล่า เพราะว่าจากอาการของเชฟเก่าและจีแล้ว มันจะเกิดเวลาหลังกินอะไรไปซักอย่าง อาจจะเปนอาหารผสมยาหลอน?? แล้วก็เรื่องที่ทักษ์บอกอาร์มว่าคุณยายบัววิปลาศ มันอาจจะไม่จิงก็ได้ และสงสัยเพิ่มอย่างว่าทักษ์อาจจะเคยชอบยูและคิดว่าจีเปนฆาตกรฆ่ายู เลยจะกลับมาแก้แค้น? เพราะทักษ์เข้ามาทำงานในเวลาไล่เลี่ยกับเวลาที่ยูเสียไปพอดี(จุดนี้เดาเอาเพราะคุณเดหลีเขียนคลุมเครือชวนให้สงสัย555555 อยู่ในช่วงตอนแรกๆ)
ปลล.อยากรู้เพิ่มจังเลยว่าภวิลได้ยินคนในครัวเค้าพูดอะไรกัน เพราะถ้ารู้ตรงนี้อาจจะคลายข้อสงสัยไปได้อีกเยอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2012 03:52:57 โดย gohong »

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
อัยยะห์.....ไมมันลุ้นงี้คับเนี่ย......ทำไม อะไร ยังไง ตื่นเต้นวุ้ย!!!!!

ออฟไลน์ PsychicLine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อ้ากกกกกกกกกกก................  ทำไมจบตรงนี้ อยากรู้รู้รู้รู้รู้รู้...............

อ่าห์  ระบายอารมณ์ผสมความมึน
ชอบอ่านเรื่องนี้มาก มีเคสแปลกๆ ให้ลุ้นตลอด หลอนเล็กๆ
แต่เสียดายเพื่อนยู นี่ขนาดเหลือแต่ชื่อยังน่ารักขนาดนี้
แต่งเรื่องผีเลยได้ไหม แล้วให้ยูโผล่ออกมา   บรึ๋ย ...คิดเองหลอนเอง
พูดเล่นนะ อย่าดีกว่า ถึงจะน่ารัก แต่แค่คิดก็ขนหัวลุกแล้วง่ะ

เหอๆ มาต่อเร็วๆนะ ^_^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2012 00:08:47 โดย PsychicLine »

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
จีโดยวางยาหรือเปล่า
เกี่ยวกับยาสมุนไพรที่กินเข้าไปไหม
พี่วินอย่าเพิ่งทิ้งน้องจีไปนะ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
เริ่มสงสัยทักษ์ล่ะ

ออฟไลน์ tiktik9102

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เรื่องราวจะคลี่คลายแบบไหนนะ   ลุ้นลุ้น

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
เกิดอะไรขึ้นล่ะน่ะ
ใครอยู่เบื้องหลังกันแน่หว่า
ชักไม่มั่นใจ 

คุณภวิลคะ  เป็นห่วงน้องจิอ่ะดิ้  อิอิ

chartbook

  • บุคคลทั่วไป
ชอบเรื่องนี้มาก ทำเหมือนจะไม่มีอะไรแต่จริงๆมีให้ลุ้นตลอด ชอบพี่ภวิลมากสมเป็นพระเอก ฉลาด สุขุม พึ่งพาได้ไม่งี่เง่า       เป็นผู้ชายเย็นๆที่อบอุ่น ส่วนจีก็ดูเป็นนายเอกที่ไม่ไร้สติ น่ารัก ชอบคำใบ้ของพี่ภวิลเมื่อตอนก่อนหน้านี้จัง ที่จีพูดถึงคุณย่าบัวว่างามหาใครเทียบได้ยาก แล้วพี่ภวิลก็พูดประมาณว่ารู้แล้ว(พูดตอนที่มีจีอยู่ตรงหน้าตัวเอง) คนอ่านตีความว่าพี่ภวิลก็เห็นว่า         จีงามใช่ไหมค่ะ ฮ่าฮ่า ก็ตอนแรกที่พี่ภวิลยังเคืองจีอยู่พี่ภวิลบอกว่าตัวเองไม่ชอบของสวยงาม สรุปตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วใช่ไหมเอ๋ย น่ารักค่ะคู่นี้ ชมผู้แต่งว่าแต่งเก่งจังค่ะเรื่องโรเเมนติกแบบไม่บุ๋มบ่ามอารมณ์ประมาณได้กลิ่นดอกชมนาด
คือหอมเย็นๆ แต่ในขณะเดียวกันอ่านไปก็กัดหมอนไปด้วยเพราะลุ้นปมของเรื่องค่ะ ขอบคุณค่ะกับการสร้างนิยายดีๆ แบบนี้ :pig4:

ออฟไลน์ GAZESL

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
ง่า ค้างงงง ความจริงใกล้เปิดเผยแล้ว ตื่นเต้นแทนจี55 จะได้รู้กันว่าใครเป็นต้นเหตุ

Morethan

  • บุคคลทั่วไป
>w< ดีใจจังค่ะ เรื่องนี้มาต่อแล้วววววววววววววววววววว
นึกว่าจะมาช้ากว่านี้ 555 แต่ดีแล้วที่มาต่อ ฮา
ต้องขอบคุณคนเขียนที่เขียนนิยายสนุกๆ ให้อ่านค่ะ  :กอด1:
เหมือนปมจะเริ่มคลายแล้วสินะ แต่ก็ยังไม่ค่อยเก็ทเท่าไหร่
สงสัยต้องรอตอนต่อไป แต่เท่าที่อ่าน เชฟดูจะเกี่ยวข้องจัง

ส่วนพี่วิน ฮั่นแน่ ถอยตัวออกห่างได้ไม่กี่วันก็กลับมาแล้ว ชอบค่ะ 555 ที่พี่แกทำตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ(?)รุกให้หนักๆ เลยนะคะ  :-[

"ถ้าจะพอมีเวลาสังเกตตัวเองก็คงรู้ เขาปฏิเสธอีกฝ่ายไม่ได้มานานแล้ว" ชอบประโยคนี้จังเลยค่ะ มันแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ของจีกับพี่วินว่าเป็นยังไงๆ ส่วนอีกอันก็ “จะไม่เป็นอีกแล้ว... พี่สัญญา”

ดาเมจกระจุยกระจาย  :o8:

รอตอนต่อไปนะคะ  :z2:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด