มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]  (อ่าน 711150 ครั้ง)

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
 :pig4: :pig4: :pig4: ที่มาต่อจ้า   :mew4: :mew4: สงสารจ้อย

ออฟไลน์ ดาวลูกไก่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
โอ้โห ใจเราาาา แงงง ก็ว่าอยู่ว่าพี่สิงห์กับจ้อยนี่ดีจังน้าา  อุปสรรคหมดแล้วบวกกับเห็นคุณคนเขียนบอกว่าจะจบแล้ว เราก็คิดว่ายังไงก็คงไม่มีระเบิดลูกไหนถูกซ่อนไว้อีกแล้วล่ะ แต่กลับกลายเป็นตอนที่ไม่อ่อนโยนต่อใจเลยค่ะ อีกคู่นึงพอมีหวังแล้ว หลังจากอ่านใบทำนาย แต่อีกคู่นึงเหมือนฟ้าผ่าลงดื้อๆ เกียมผ้าซับน้ำตาสำหรับตอนหน้าพร้อมแล้วค่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ bojaemyboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มรสุมช่างหนักหน่วงเหมือนช่วงนี้เลย  :sad4:

ออฟไลน์ four4

  • รักนี้ชั่วนิรันด์
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
มาม่าชามใหญ่มากกกกกกกกก  จ้อยกับเลอมาน จะผ่านเรื่องนี้ไปได้ยังไง
ยังมีคนึง ที่เศร้าสุดอีกคนหนึ่ง ส่วนพี่สิงห์ถ้ารู้ความจริงจะเป็นยังไงนะ  :hao5:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ดราม่ายังคงไม่จบไม่สิ้น เสมอต้นเสมอปลายจริงๆค่ะสำหรับดราม่าเรื่องนี้ เรายังคิดไม่ออกเลยว่าเรื่องราวจะลงเอยยังไง รอไรท์กลับมาต่อนะคะ เพราะอยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องราวของอาจารย์คณึงกับหนูเล็กจะจบลงแบบไหน แต่สำหรับพี่สิงห์กับน้องจ้อยหวานมดขึ้นบ้านมาก แล้วอยู่ๆก็มีดราม่าพี่น้องเข้ามาอีก ไหนจะเรื่องยายช้อย พ่อกำนัน แม่กำไล คุณนายทรัพย์อีก กำลังจะเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว แอบหวังว่าจ้อยจะไม่ใช่ลูกของกำนันเสริมจริงๆด้วยเถอะ

ออฟไลน์ 30267

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :sad4: สงสารครูกับหนูเล็กมาก ๆ เลย เจ็บปวดเสมอ ๆ อยากให้แฮปปี้ / น้ำตานอง

ออฟไลน์ vassalord4822

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
สงสารยาย จ้อยคงรู้สึกผิด ครูน่าสงสาร สงสารทุกคนเลย

ออฟไลน์ miwmiwzaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอ๊ยยยยย ทำไมน่าสงสารทุกคนแบบนี้ ฮืออออ

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

ออฟไลน์ เพลิงพิษ ธิดาซาตาน

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอคุณดอกไม้มาต่อให้จบนานเหลือเกิน ขอบคุณคุณดอกไม้มากนะคะ ที่เขียนเรื่องราวที่สนุกวิจิตรงดงามได้ขนาดนี้ ส่วนตัวแอบชอบคู่ จินดา กับ ไอ่ลอยมาก รู้สึกมีเคมีแปลกๆ อยากอ่าน-ดอกฟ้าในมือโจร-แล้วเจ้าค่ะ ใจจะขาด เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปจนจบนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จะมีใรสมหวังบ้างไหมเนี่ย

ออฟไลน์ Gimlongdeep

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ดีใจมากกกกกกกกที่คุณดอกไม้มาต่อให้ รอคอยเรื่องนี้จริงๆแบบดีใจมากๆประทัับใจจริงๆยังคงชอบสำนวนการเขียนมากค่ะ รอลุ้นจริงๆทั้งที่มาขนาดนี้ จะร้องกับความรักของพวกเขามากกก :ling1:

ออฟไลน์ four4

  • รักนี้ชั่วนิรันด์
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
บทที่ ๓๗

คอย

(ครึ่งแรกจ้ะ :L2:)

แต่นี้คงคอยนานแสนจะนาน
เหตุเพราะมารมาขวางกางกั้น จากกันเป็นรอยอาลัย
แต่นี้คงเพียงแต่หวังรอคอย แต่นี้เป็นรอยติดตรึงหัวใจ
เหมือนตกอยู่ในอเวจี

โอ้ดวงใจเอ๋ย เคยชื่นฉ่ำ ลิขิตขีดนำเพียงนี้
ซากรักเตือนใจตราบจนชีวัน ไม่ขอลืมกันจวบจนชีวี
ฝากเพียงคำนี้ไปตามสายลม*


พิธีสวดพระอภิธรรมศพที่ตั้งอยู่บนศาลาดูยิ่งใหญ่อลังการประหนึ่งผู้ที่นอนอยู่ในหีบทองในสีขาวแกะลายพิกุลและเทพพนมฐานสามชั้นนั้นคือผู้สูงศักดิ์ เปี่ยมฐานะและลาภยศ ดอกไม้หน้าศพจัดทำพิเศษเป็นสวนน้ำตก ดอกไม้นานา ซ่อนกลิ่น กุหลาบ เบญจมาศ หน้าวัว กล้วยไม้ ตกแต่งประดับประดาสวยสด

“งานศพยายช้อยอลังการปานนี้เทียว” ผู้เฒ่าหนึ่งลากสังขารกระย่องกระแย่งขึ้นมาเห็นความตระการตาแล้วอดตั้งคำถามไม่ได้

“ไม่อลังการได้รึ” อีกผู้เฒ่าตอบพลางปาดน้ำหมาก “แม่ยายกำนันทั้งคนก็ต้องสมเกียรติกันหน่อย”
ใช้คำว่า ‘สมเกียรติ’ ไม่ได้ เพราะยายไม่ได้มีเกียรติอันใดให้ยกย่อง แค่หญิงชราชาวนายากไร้ธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ใช่ลูกหลานพระยานาหมื่นจากไหน

จ้อยในเครื่องแบบนักเรียนครูนั่งพับเพียบสงบนิ่งอยู่หน้าโลง สายตาทอดมองเพียงเปลวไฟตะเกียงระริกเร่าตรงหน้า เมื่อมีแขกมาก็ยกมือไหว้ จุดธูปส่งให้เหมือนหุ่นยนต์ ไม่พูดอะไรสักคำ

“เฮ้อ.. กว่ากำนันจะรู้ยายช้อยก็ลาโลกไปแล้ว”
“ยังดีกว่าไม่รู้เลย อย่างน้อยครูจะได้มีคนดูแล”
“ยายแกไปสบายแล้ว หักห้ามใจนะลูก”
“ปล่อยแม่ยายกะลูกลำบากมาเกือบยี่สิบปี กำนันเองก็คงเสียใจ”
“ก็เขาไม่รู้ แม่ทรัพย์น่ะซี้ สั่งให้ปิดไว้ทำไมกัน”
“จะอะไรเสียอีก หวงสมบัติไว้ให้ลูกตัวนั่นแหละ”

นานาสรรพเสียง บางคำพูดกับจ้อย บางคำหันไปพูดกันเอง ทุกคำผ่านไปเหมือนลมพัดผ่าน

จ้อยจำไม่ได้ว่าจ้อยพูดครั้งสุดท้ายเมื่อไร เมื่อวันที่น้าเวกไปตามจ้อยที่โรงสีพี่สิงห์นั่นละมั้ง จ้อยกับพี่ตามน้าเวกไปที่อนามัย ที่นั่น..จ้อยพบกำนันเสริม ป้าทรัพย์ รออยู่ก่อนแล้ว

และร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงนั่น ต่อให้มีผ้าขาวคลุมหัวจรดเท้า จ้อยก็ไม่มีวันลืม

ยายจ๋า...

หมออนามัยบอกว่ายายถูกงูกัด กว่าจะมีคนไปเจอกลางคันนาก็พบว่าเป็นศพไปแล้ว กำนันบอกว่าในมือยายกำบางสิ่งไว้แน่น แงะออกดูพบว่าเป็นแหวนทองสลักนามสกุลสีตลาที่แกเคยมอบให้แม่ของจ้อยเอาไว้ ป้าทรัพย์ร้องห่มร้องไห้ พร่ำขอโทษที่บังคับยายให้ปิดบังมาตลอดหลายปี ขอโทษที่เห็นแก่ตัว ขอโทษที่อิจฉา ขอโทษที่กลัวลูกแม่กำไลจะเป็นที่รักของกำนันเสริมมากกว่าลูกชายแก ป้าทรัพย์เข้ามากอดจ้อย พร่ำขอโทษทั้งน้ำตา ชาวบ้านแถวนั้นตบเข่าฉาด มีเสียงพึมพำว่านี่ละหนาซื้อหวยไม่ถูก ถึงว่าทำไมเมียกำนันถึงรังเกียจรังแกจ้อยเสียขนาดนั้น

พี่สิงห์เองก็นิ่งตะลึงไป แต่จ้อยไม่สนใจสิ่งใดเลย จ้อยโผเข้ากอดร่างเย็นเยียบของยาย เขย่าร่างไร้วิญญาณ ร่ำไห้ปานจะขาดใจ และเมื่อกำนันมากอดจ้อย เรียกจ้อยว่าลูก จ้อยอยากล้มลงสิ้นสติตรงนั้นแล้วตื่นขึ้นใหม่ในโลกที่ไม่มีใครทั้งนั้นนอกจากยายกับจ้อย

คำพูดสุดท้ายที่จ้อยพูดกับยาย.. จ้อยบอกยายว่าอะไร..

จ้อยบอกยายว่าอะไร..

“หนูเกลียดยาย!”

ไม่จริง..ไม่จริง.. หนูโกหก หนูไม่เคยเกลียดยาย หนูรักยาย หนูรักยายที่สุด พี่สิงห์เข้ามากอดจ้อย เช็ดน้ำตาให้จ้อยบอกจ้อยอย่าให้น้ำตาตกต้องร่างยาย ยายจะเป็นห่วง ยายจะไม่สงบ บอกจ้อยอย่างนั้นทั้งที่พี่เองก็น้ำตาไหล
แต่ต่อให้พร่ำเรียก พร่ำขอโทษ พร่ำบอกว่ารักยายอย่างไร ยายก็ไม่มีวันตื่นขึ้นมารับฟัง มือคู่นั้นไม่มีวันลูบหัวและยกโทษให้จ้อยอีกแล้ว 

หลังจากการตายของยาย เรื่องฉาวโฉ่ของกำนันเสริมและแม่กำไลของจ้อยมีอันถูกลากไส้ออกมาให้ชาวบ้านรู้กันจนหมดทั้งบาง เนื้อความก็คล้ายๆ ละครน้ำเน่าที่พวกผู้ใหญ่ชอบฟังกันทางวิทยุ เรื่องมีอยู่ว่าตอนพี่จินดายังเล็กแม่กำไลถูกเสือฝ้ายบ้านใต้มาดักฉุดไปกลางงานบุญประจำปี กำนันเสริมตามไปช่วยไว้ ยิงเสือฝ้ายตายโหงเป็นผีเฝ้าทุ่ง เข้าตำราวีรบุรุษกับสาวงาม กำนันหนุ่มกับแม่ค้าสาวรอนแรมมาด้วยกัน เห็นอกเห็นใจกัน ก็เกิดผูกสมัครรักใคร่เกิดสายสัมพันธ์กันขึ้น บางคนก็ว่าเขาหมายตากันมานานแต่ติดตรงกำนันมีเมียอยู่แล้วเลยทำอะไรไม่ได้

หลังจากนั้น ๙ เดือนแม่กำไลก็ให้กำเนิดจ้อย กำนันเสริมนึกเอะใจแต่เห็นแม่กำไลเงียบเฉยก็ปล่อยเลยตามเลย คนบางนี้ตราหน้าแม่ว่าสำส่อนอยู่แล้ว ดังนั้นใครจะเป็นพ่อของจ้อย จะรู้ไปใยมี และพอจ้อยตั้งไข่ได้ไม่ทันไร แม่ก็หนีหายไปกับพ่อค้าแตงโมจากบางปะหัน เป็นตายร้ายดีอย่างไรไม่ส่งข่าวคราว ทิ้งพี่จินดากับจ้อยไว้ให้ยายเลี้ยงตามลำพัง

ราวกับจะชดเชยความผิดบาปในใจ ทั้งกำนันและเมียบอกจ้อยว่าจะเป็นเจ้าภาพจัดงานศพยายอย่างดี ซึ่งก็.. ดีเกินกว่าที่จ้อยคิดด้วยซ้ำ

ไหนจะเตรียมสถานที่ตั้งโรงเลี้ยง โรงครัว เมื่อเริ่มงานก็มีการตกแต่งโลงอย่างวิจิตร ตอนกลางคืนมีสวดพระอภิธรรม กลางวันทำบุญถวายสังฆทาน เตรียมอาหารไว้จัดเลี้ยงผู้มาฟังสวดและนั่งเพื่อนศพ มีมหรสพตลอด ๓ คืน คณะหนังสดที่กำนันหามา เดินทางมาด้วยเรือเอี้ยมจุ๊น ล่องลงมาตามแม่น้ำเจ้าพระยาเลยทีเดียว ตัวแสดงมากมายทั้งพลยักษ์พลลิง บนศาลาหน้าวัดก็มีมโหรีปี่พาทย์ ร้องส่งกัน ประโคมกันทุกคืนดังกระหึ่ม ชาวบ้านแห่มาดูกันเนืองแน่น ราวกับงานศพของยายเป็นงานประจำปี การเลี้ยงอาหารตอนกลางคืนมีถั่วลิสงคั่วกับน้ำชา มีขนมแห้ง ขนมสด ข้าวต้ม เกี้ยมอี๋ กระเพาะปลา มีการล้มหมู ล้มวัว รองรับแขกที่จะมาเป็นจำนวนมากตามบารมีกำนันเสริม และคุณนายพูนทรัพย์ สีตลา

ทั้งคู่ยืนทักทายผู้มาร่วมงานอยู่หน้าศาลาการเปรียญ ในชุดสีดำสุภาพตัดจากผ้าไหมชั้นดี ในขณะที่ร่างที่นอนในโลงอยู่ในเสื้อผ้าฝ้ายสีหม่นและผ้าถุงผืนเก่า ชุดเก่งของยายที่นานทีปีหนจะเอาออกจากหีบมาใส่ทีเฉพาะเวลามีงานบุญที่วัด แขกเหรื่อที่น่าจะมีเพียงชาวบ้านที่นับถือยายช้อย,เพื่อนนักเรียนและอาจารย์ของจ้อยไม่กี่คน กลับกลายเป็นงานใหญ่ที่แม้แต่นายอำเภอและผู้ว่าฯยังต้องให้เกียรติมา

หากไม่ได้ภาพถ่ายของยายที่อาจารย์คนึงเอามาให้ บอกว่ากล้องของคุณชายเลอมานถ่ายภาพยายเอาไว้โขอยู่ ยายคงไม่มีรูปตั้งหน้าศพ และจ้อยคงสับสนว่าจ้อยนั่งอยู่ในงานศพใครกันแน่ กลางดึกคืนแรกจ้อยปูเสื่อนอนเฝ้ายาย ลมพัดแรงอื้ออึง บานเฟี้ยมหน้าต่างกระแทกกึงกัง จ้อยสะดุ้งตื่น แวบแรกนึกห่วงยาย ฝนมาฟ้าร้องยายจะอยู่คนเดียวอย่างไร จ้อยจะลงจากศาลาหากพี่สิงห์ที่นอนอยู่เคียงกันคว้ามือไว้ ถามจ้อยจะไปไหน จ้อยบอกจ้อยจะไปหายาย พี่ดึงจ้อยเข้าไปกอดแนบอก กระซิบเสียงเครือว่ายายนอนอยู่ที่นี่.. ตรงหน้าเรานี่..

อ้อ.. จ้อยจึงเพิ่งนึกได้.. ยายตายแล้ว.. ยายไม่อยู่กับจ้อยแล้ว..

มีเสียงโฆษกประกาศต้อนรับเชื้อเชิญแขกเข้าสู่โรงเลี้ยงเพื่อรับประทานอาหาร เหมือนงานศพผู้รากมากดีสักคน เหมือนไม่ใช่งานศพหญิงชาวนายากไร้ เหมือนร่างที่นอนอยู่ในหีบทองในแกะลายเทพพนมนั้นไม่ใช่ยายช้อยของจ้อย ไม่ใช่ยายที่ลุกมาจุดตะเกียงน้ำมันแต่เช้ามืด เดินเบากริบบนไม้ฟากออดแอด หุงข้าวส่งกลิ่นหอมอวลปลุกจ้อยให้ตื่น ลุกขึ้นช่วยยายห่อข้าวต้มผัด ห่อขนมกล้วย ปั้นขนมต้ม กลัดขนมใส่ไส้ เสร็จแล้วลำเลียงทุกอย่างลงเรือ สองคนยายหลานพายเรือกันไปตลาดตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เรือน้อยล่องไปตามคลอง สงบ ใสเย็น แสงเงินแสงทองฉาบทาขอบฟ้าทิศตะวันออกทีละนิด

กำนันเสริมไม่อายใครที่จะแนะนำกับทุกคนว่าจ้อยคือลูกชายคนเล็ก ทั้งสองให้คำมั่นว่าชีวิตจ้อยจากนี้จะไม่ลำบากอีก ทั้งสองจะรับจ้อยเป็นลูก จะให้จ้อยย้ายไปอยู่ร่วมชายคา ไม่ใช่ในฐานะเด็กรับใช้ขัดดอกเหมือนเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ในฐานะลูกชายคนเล็กของบ้าน จะดูแลส่งเสียจ้อยเป็นอย่างดี

หากสำหรับจ้อย ไม่มียาย..ก็ไม่มีอะไรดีทั้งนั้น..

*********************

หม่อมราชวงศ์เลอมานรับรู้ข่าวร้ายด้วยความตกตะลึง แก้วน้ำที่ถืออยู่แทบพลัดหลุดมือไป

เป็นไปได้อย่างไรกัน? เลอมานประท้วงอึงอลอยู่ในอกหมองไหม้ ครั้งล่าสุดที่พบกัน ยายยังแข็งแรงดีอยู่เลย
อาจารย์ปรีชาผู้แจ้งข่าวบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่ไม่คาดฝันและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และบอกว่าชีวิตก็เป็นเช่นนี้ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ ไม่มีใครหรือสิ่งใดคงอยู่กับเราตลอดไป เมื่อวานยังพูดคุยกันอยู่ วันรุ่งขึ้นกลับไม่ได้เห็นหน้ากันอีกตลอดกาล

แม้ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในกระท่อมน้อยนั้นช่างมีความหมาย เป็นช่วงเวลาที่เลอมานจะจดจำไว้เป็นคืนวันอันแสนสุขตราบชั่วชีวิต ยายช้อยใจดี มีเมตตา เล็กไม่มีวันลืมมืออบอุ่นที่เคยลูบหัว เคยแกะปลาให้กิน เคยไล้รอยคิ้วขมวดมุ่นให้คลาย มือที่เคยประคับประคองเล็กไว้ในวันที่ไม่มีแม้เรี่ยวแรงจะลุกขึ้นยืน

ยายจากไปกะทันหัน เล็กยังเสียใจขนาดนี้ แล้วหลานแท้ๆ ที่อยู่กับยายมาตลอดอย่างจ้อยเล่าจะขนาดไหน

กำหนดการพิธีนั้นช่างบีบคั้นหัวใจ เล็กได้รับรู้จากอาจารย์ปรีชาในวันนั้นเองว่าหลังจากวันเผาศพยาย เช้าวันรุ่งขึ้นเล็กต้องเดินทางกลับอังกฤษ เป็นวันที่หม่อมย่าและท่านพ่อกำหนดไว้แล้วอย่างไม่อาจเลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงได้เลย

ศพยายช้อยตั้งสวด ๓ คืน คืนนี้ก็คืนที่สองแล้ว หมายความว่าเล็กมีเวลาอีก ๒ วัน วันสวดคืนสุดท้าย และวันเผาเท่านั้นที่จะไปกราบลายาย กราบลาผู้มีพระคุณของเล็กเป็นครั้งสุดท้าย

“ย่าไม่อนุญาต!” หม่อมย่ายังทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพัศดี โดยมีเล็กเป็นนักโทษอุกฉกรรจ์ เล็กคิดไว้แล้วว่าต้องถูกปฏิเสธ แต่ที่คาดไม่ถึงว่าจะหล่นจากปากท่านคือประโยคถัดไป “กะอีแค่งานศพยายแก่ชาวนาจนๆ จะไปทำไม!”
เล็กมองหม่อมย่าอย่างตะลึงไป ยายจ๋า.. ย่าแท้ๆ ของเล็กเป็นสุภาพสตรีแบบที่คนในสังคมเรียกว่าหญิงสูงศักดิ์ เป็นภริยาอดีตแม่ทัพฟ้า เป็นลูกหลานเจ้าขุนมูลนาย มือไม่เคยด้านอย่างคนที่เคยทำงานหนักเหมือนยาย

เล็กไม่คิดเลยว่าย่าแท้ๆ ของเล็กจะใจดำเหมือนอีกา ‘ยายแก่ชาวนาจนๆ’ อย่างนั้นหรือ หากท่านทราบว่ายายแก่ชาวนาจนๆ อย่างยายเคยช่วยเล็กไว้มากแค่ไหน อยากรู้ว่าท่านจะปฏิเสธคำขอของเล็กได้ลงคอไหม ท่านไม่มีทางรู้หรอกว่าตลอดระยะเวลาเกือบปีที่เล็กอยู่ที่นี่ ทั้งยายและจ้อยมีความหมายต่อหัวใจของเล็กมากเพียงใด

นอกจากอยากไปกราบลายายเป็นครั้งสุดท้าย เล็กเป็นห่วงจ้อยเหลือเกิน เพื่อนรักของเล็ก.. ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง

“ร่ำร้องอยากไปขนาดนี้ ไม่ใช่อยากไปเจอไอ้ครูนั่นในงานหรอกหรือ” หม่อมย่าเบ้หน้าเดียดฉัน อย่างนี้นี่เอง เหตุผลแท้จริงที่ท่านไม่อยากให้เล็กไปหายาย “ฝันไปเถอะตาเล็กว่าย่าจะปล่อยเราไป!”

เล็กนิ่งขึงไป ในใจเหมือนมีเมฆหมอกหนาเคลือบคลุมลงมาเรื่อยๆ ย่าแท้ๆ ของเล็กใจดำอย่างร้ายกาจ หากจะกักขังกันเช่นนี้ทำไมไม่หาโซ่มาล่ามไว้เลยเล่า

เหลือเวลาอีกเพียง ๒ วัน เล็กจะต้องหาทางออกจากที่นี่ให้ได้!

****************************

ลมพัดมาจากทางใต้ คลองน้ำใสไหลรินเอื่อย ตะวันกำลังต่ำลงเรื่อยๆ อีกไม่นานก็จะเหลือแค่แสงขีดรอยบนแก้มฟ้า จ้อยมานั่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำเช่นนี้นานเท่าไรแล้วมิอาจรู้ได้ เสียงวงปี่พาทย์บรรเลงเพลงธรณีกันแสงแว่วมา ผู้คนเริ่มทยอยกันมาฟังสวดอภิธรรมเป็นคืนที่สาม

แต่หัวใจนักเรียนหนุ่มกลับลอยละเมอไปไกลแสนไกล ใบหน้าของยายวูบผ่านเข้ามา ..ไปเถิดจ้อยเอ๋ย ไปอยู่ดูแลพี่เขา พ่อสิงห์ยายฝากน้องด้วย.. ใบหน้าพี่สิงห์วูบผ่านเข้ามา จ้อยนึกถึงร่างกายที่กอดรัดกับพี่ชายพ่อเดียวกัน ใจเอยด้านชาลงทุกที

จ้อยอยากกลับไปเป็นจ้อยคนเก่า เด็กกะโปโลเนื้อตัวมอมแมม วิ่งเล่นตามท้องไร่ท้องนา น้ำมูกป้ายแก้มเกรอะกรัง ทว่า.. ชีวิตครั้งนั้นมันก็ดีกว่าตอนนี้

แม้จะลำบากตรากตรำ อดมื้อกินมื้อ เจ็บที่สุดก็แค่ตอนวิ่งเล่นตกท้องร่อง เสื้อนักเรียนที่มีอยู่ตัวเดียวเปรอะเปื้อนจนยายวิ่งไปรูดก้านมะยมฟาดน่อง เคยเบื่อยาย เคยเบื่อพี่ แต่จ้อยก็ยังไม่เคยผ่านประสบการณ์หลายๆ อย่างที่ร้าวทารุณตกค้างในก้นบึ้งใจ

น้ำตายังคงหยาดตกอย่างเยียบเย็น เนืองนองในอกที่เต้นช้าลงทุกขณะ ความมืดดำหนาหนักทอดทาบลงบนหัวใจ จนกระทั่งมาสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกได้ถึงรอยไล้แผ่วเบาบนแก้ม

“พี่เรียกอยู่นานแล้ว” จ้อยหันไปก็เห็นพี่ พี่ที่เมื่อ ๓ คืนก่อนยังอยู่ในอ้อมแขนกัน แสงอัสดงฉาบใบหน้าหล่อเหลาเป็นสีทอง “ไม่หันมาสักที” สายตาพี่ยามมองจ้อยยังเหมือนเดิมไม่แปรเปลี่ยน หากจะมีเพิ่มบ้างคือพี่สงสารจ้อยมากกว่าเก่า สงสารที่จ้อยต้องมาเสียยายไปอย่างกะทันหัน แต่นอกนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย พี่ถนอมจ้อยยิ่งกว่าเก่าด้วยซ้ำ ราวกับพี่ไม่รู้สึกอะไรเลยที่แท้จริงเราเป็นพี่น้องกัน

แต่ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว..

สิงห์แตะข้อมือน้อยเพื่อจูงน้องไปกินข้าว วันนี้พยายามเคี่ยวเข็นกันหลายหนแต่จ้อยก็แตะแค่แมวดม น้องกลับดึงมือออก แผ่วเบา.. ไม่ได้รุนแรงสักน้อย

แต่ไอ้สิงห์เห็นแววตานั้น เงียบงันเหมือนก้นน้ำบ่อลึกสุดหยั่ง กระทั่งไอ้สิงห์เองก็ยังเข้าไปไม่ถึง

เลอมานไม่มีทางรู้เลยว่าจ้อยทุกข์ระทมเพียงไหน แทบไม่มีใครได้ยินเสียงจ้อยเลยตั้งแต่ยายจากไป น้ำตาไม่ไหลสักหยด แต่ใครต่อใครดูก็รู้ว่ามันเนืองนองอยู่ภายใน ไอ้สิงห์ยังคงดูแลประคับประคองน้องตลอดเวลา ราวกับคำว่าพี่น้องพ่อเดียวกันไม่ได้มีผลอะไรทั้งสิ้น เพื่อนๆ ของจ้อย ทั้งสง่า สันติ ขลุกอยู่ที่วัด อาจารย์ปรีชา อาจารย์ประพนธ์ อาจารย์วิรัชก็มาหมด ยิ่งอาจารย์คนึงยิ่งอยู่ตลอด อยู่เหมือนเป็นญาติมากกว่าเป็นแขก และไม่เคยใส่เครื่องแบบข้าราชการเหมือนเพื่อนครูคนอื่นเลยทั้งเลี้ยงพระกลางวันและฟังสวดกลางคืน

คืนสุดท้ายแล้ว ผู้อำนวยการและคณะครูจากโรงเรียนฝึกหัดครูเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพ อดีตอาจารย์หนุ่มอยู่ในชุดสุภาพ เสื้อเชิ้ตขาวกางเกงสแล็คดำ เขาไม่มีโอกาสกลับไปสวมชุดสีกากีอีกแล้ว ครูคนึงถูกไล่ออก ชาวบ้านโจษจันกันทั่ว ชื่อของเขายังติดอยู่บนริมฝีปากที่ซุบซิบกัน แต่โชคดี หนนี้.. ไม่มีชื่อเลอมานอยู่ในคำติฉินนั้นแล้ว สายตาเดียดฉันท์ยังจ้องมองมา ชาวบ้านไม่อยากเสวนาด้วย แต่เขาต้องอดทน เขามาเพื่อยาย เพื่อจ้อย

และเพื่อความหวังว่าจะได้พบเลอมานเป็นครั้งสุดท้าย

อาจารย์ปรีชาบอกว่าหลังจากเสร็จพิธีฌาปนกิจยายช้อยในวันพรุ่งนี้ วันรุ่งขึ้นหลังจากนั้นหม่อมดาราจะพาคุณชายเล็กกลับอังกฤษแล้ว

หัวใจต้อยต่ำไหวสะท้าน แม้จะเจียมใจเจียมตนไว้แล้ว แต่เมื่อความเป็นจริงมาถึงมันช่างกะทันหันเกินตั้งรับ วันรุ่งขึ้นหลังจากเผายายช้อนงั้นหรือ เช่นนั้นก็หมายความว่าเขามีเวลาแค่วันพรุ่งนี้เพียงวันเดียวเท่านั้น

อย่างน้อย.. ขอให้พวกเขามีโอกาสได้กล่าวคำลากันสักครั้ง

****************************

ยังเช้าอยู่มาก ตะวันยังลอยดวงไม่พ้นขอบทุ่ง ทอแสงอ่อนโยนงดงามเมื่อมองผ่านม่านหมอกออกไป น้ำค้างยังเกาะพราวพรายอยู่ตามปลายหญ้าสนามหน้าโรงเรียนเหมือนไข่มุกสดใส ไก่สองสามตัวที่อาจารย์ปรีชาเลี้ยงไว้โผลงจากคอน เริ่มคุ้ยเขี่ยหากินอยู่บนพื้น นกเล็กๆ บินออกจากรังเพื่อหาอาหาร ละเมาะไม้ไกวโยกกิ่งก้านและดอกหญ้าโอนอ่อนกับกระแสลม ผีเสื้อหลากสีสันกระพือปีกบินว่อนอยู่เต็มท้องฟ้า

ทุกสิ่งสวยงามสมเป็นวันเดินทางไกลของหญิงชราผู้มีความหมายต่อหัวใจเลอมานเหลือเกิน

หม่อมราชวงศ์หนุ่มแต่งตัวแต่เช้าตรู่ เสื้อเชิ้ตขาวสะอาดกางเกงสีดำรีดเรียบกริบ ดวงตาสีน้ำตาลแน่วแน่ในกระจกมองกลับมา วันนี้เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วที่จะได้ไปกราบลายาย เป็นตายร้ายดีอย่างไรเขาจะต้องไปร่วมพิธีให้ได้

แน่นอนว่าไม่ง่าย แค่หม่อมย่าเข้ามาเห็นเขาแต่งตัวเรี่ยม ก็แทบแล่นมาฉีกอกเขาแล้ว

“พูดไม่รู้ฟังนะ!” ท่านชราแล้ว แต่เรี่ยวแรงยังเหลือเฟือ กระชากแขนเขาแทบหัก “ย่าบอกเรากี่ครั้งแล้ว บอกเรากี่ครั้งแล้วตาเล็ก!”

เสียงดังขนาดนี้ ใครกันจะกล้ายุ่ง บรรดาทหารรับใช้แค่เยี่ยมๆมองๆอยู่หน้าประตู มิมีใครกล้าเข้ามา ท้าวเธอยังโวยวายไม่หยุด แทบจะฟาดฝ่ามือลงสะโพกเขาอยู่แล้ว วุ่นวายจนเลอมานไม่ทันสังเกตว่าทหารที่เมื่อครู่ยังเฝ้าอยู่หน้าประตูพากันวิ่งกรูลงไปข้างล่างตั้งแต่เมื่อไร

จนกระทั่ง..

“ถ้าไปกับผมคงไม่เป็นไรมังครับหม่อมย่า”

เสียงทรงอำนาจดังขึ้นจากหน้าประตู หม่อมดาราชะงักมือที่เงื้อขึ้นเตรียมฟาดหลานรัก เลอมานหันไปตามต้นเสียง

“ท่านพ่อ!”


โปรดติดตามตอนต่อไป


แค่เนี้ยะ!  :a5:
แค่นี้ละจ้ะ มาก็น้อย แถมบทจะอัพก็อัพแบบไม่มีปี่มี่ขลุ่ย แฮร่
ครึ่งหลังจะมาต่อให้ยาววววๆ เลยค่ะ

รักคนอ่านนะ

ดอกไม้
๑๑ มี.ค. ๖๒

ออฟไลน์ adnrak

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
กรี๊ด  ไม่อยากเชื่อว่าจะได้อ่านต่อ

ขอบคุณมากที่กลับมา

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
คิดถึงมากๆเลยค่ะ TvT

ออฟไลน์ ดาวลูกไก่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
กลับมาแล้วววววววว คุณเล็กของบ่าว ถึงมาน้อยจนน่าใจหาแต่ดีใจที่มาค่ะ กลัวคุณคนเขียนจะทิ้งไปซะแล้ว ว่าแต่ท่านพ่อเป็นความหวังได้มั้ยคะเนี่ย

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คิดถึงคุณเล็กที่สุดเลยค่ะ สงสารจ้อยทุกเรื่องประเดประดังมาหาจ้อยหมดเลย  :กอด1:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ฮืออออ สงสารจ้อย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
จ้อยไม่ใช่ลูกกำนันแต่เป็นลูกเสือฝ้ายแม่กำไลกลับมายืนยันซิ กลับมา ๆๆ
ส่วนหม่อมย่านั้นไม่แช่งก็คงตายอยู่ดี แต่อย่าอยู่นานนัก

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
กรี๊ดกรี๊ดกรี๊ด มาต่อแล้ว :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
จ้อยต้องสู้ๆนะ พี่สิงห์ช่วยน้องด้วย
รอตอนต่อไปนะคะะะะ  :mew2:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
จ้อยเอ๋ยลูกโอ๋ :sad4:

ออฟไลน์ narongyut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1
คิดถึง​สุดหัวใจครับ

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
เศร้าค้างมาจากตอนที่แล้ว8เดือน
จะเศร้าอีกจะเป็นอารายยยยยย

ฮืออออออออ อาจารย์คนึง หนูเล็ก จ้อย พี่สิงห์
ทำไมชีวิตรันทดกันทุกคนเลย
เมื่อไหร่จะได้เจอความสุขกันสักที

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาต่อแต่ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม
สงสารรรรรรรร แงงงงงง :hao5:

อยากจะให้เรื่องคลายลงไวๆสักที เง้อ :m15:

ออฟไลน์ noina

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
คิดถึงเรื่องนี้มากเลยยย

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
กลับมาต่อแล้วคิดถึงมากๆ

ออฟไลน์ FrozenSnow2019

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
บีบหัวใจเหลือ นี่แอบเสียน้ำตาไปหลายซียเลยนะเนี่ย รักจริงๆเรื่องนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด