มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]  (อ่าน 711564 ครั้ง)

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
ไม่เคยอ่านเรื่องนี้เลย แต่ตามมาจากการชี้เป้าของพี่แป้งจี่ครับ เลยลองอ่านดู แล้วก็ค้นพบว่า...ภาษาสวยมาก! มากจริงๆ คุณดอกไม้ใช้สำนวนการ ‘เปรียบตรง’ ในการบรรยายอวัจนภาษา รวมถึงการพรรณนาสภาพแวดล้อมของท้องเรื่อง ทำให้ดูละเมียดละไม นับว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง

ประเด็นแรกที่เห็นได้ชัดเจนคือเรื่องเอกลักษณ์ความเป็นไทย ส่วนตัวผมคิดเห็นว่า เรื่องนี้เน้นเอกลักษณ์ความเป็นวัฒนธรรมไทยในสมัยโบราณได้อย่างชัดเจนมาก มีเหตุผลนุ่มลึก มีเสน่ห์ และน่าติดตาม สำหรับผม เป็นวรรณกรรมที่เหมาะสมให้ผู้อ่านสมัยใหม่ที่อยากเรียนรู้วัฒนธรรมไทย และละเมียดละไมกับความละเอียดอ่อนของสังคมสมัยก่อน ได้ลิ้มรสอย่างซาบซ่าน

อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เขียนมานานแล้ว (ตั้งแต่ปี 2011) และถ้าเป็นปัจจุบัน ผมเห็นว่าเรื่องนี้ค่อนข้างเหมาะสมกับผู้อ่านที่เป็นวัย ‘ผู้ใหญ่’ ระดับหนึ่ง เพราะว่าผู้อ่านในยุคสมัยใหม่นี้ (2015 เป็นต้นมา) ของประเทศไทย ค่อนข้างรับค่านิยมของต่างชาติมาค่อนข้างมาก จนทำให้มองเห็นคุณค่าวัฒนธรรม รวมถึงค่านิยมของไทยโบราณลดลง (และนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดลัทธิชังชาติ) มีความคิดเชิงเสรีนิยมมากขึ้น จนเห็นว่าความเคารพนับถือในระบบศักดินาเป็นเรื่องไร้สาระ การทำบุญด้วยสิ่งแปลกๆคือสิ่งที่รับไม่ได้ อาชีพที่ทำเงินได้น้อย เช่นครู คืออาชีพที่ควรถูกเหยียดหยาม ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมันขัดกับ ‘แก่น’ ของค่านิยมสมัยก่อน ดังนั้นแนวการบรรยายในเรื่องนี้ ที่ตีแผ่และให้ความสำคัญกับคุณค่าด้านประเพณี จึงเป็นสิ่งที่ผู้อ่านสมัยใหม่มักจะไม่ให้ความสำคัญ

ประเด็นที่สอง คือเรื่องของมิติวรรณกรรม เรื่องนี้เติมเต็มมิติของวรรณกรรมได้ครบทุกองค์ประกอบครับ ไม่ว่าจะเป็นการบรรยาย เค้าโครงเรื่อง หรือแม้แต่มิติของตัวละคร การเชื่อมโยงพื้นเพของตัวละครชาวบ้านถือว่าทำออกมาได้ดีมาก(สิงห์ จ้อย จินดา คะนึง) ขณะที่การบรรยายแตะพื้นเพของระบบศักดินามีให้เห็นน้อย (คุณชายเลอมาน) ผมเห็นแค่สองซีน คือซีนแรกที่คุณชายเลอมานมาถึงบ้านบางแพนี้ การบรรยายบ่งบอกตัวตนและพื้นเพระบบศักดินาได้ชัดเจน และซีนที่สองคือซีนที่หม่อมดาราและหม่อมเจ้าอาทิตย์ธวัชเข้ามาเยี่ยม ซึ่งการสนิทสนมของท่านชายกับพระสหายเป็นเรื่องดี แต่คำพูดคำจาคนเขียนอาจจะตั้งใจทำให้ท่านดู ‘ติดดิน’ มากไปเสียหน่อย

เค้าโครงเรื่องถือว่าสร้างออกมาได้ดีมาก ผมชอบคู่รองมากกว่านะครับโดยส่วนตัว สิงห์กับจ้อยนี่เป็นอะไรที่น่าสนใจ หนึ่งคือมันเห็นอนาคตมากกว่าคู่หลัก ไม่มีกำแพงกีดกั้นที่เป็นไปไม่ได้ยกเว้นเรื่องเพศสภาพ และสองคือเพราะเราไม่ค่อยเห็นพล็อตแนวนี้ในตลาดวรรณกรรมเลย (ส่วนมากมักตบจูบๆแล้วก็ไม่มีอะไรมารองรับ ได้ๆกันแล้วก็รักๆกัน งงพอสมควร) ผมคิดว่าพล็อตแบบคู่รองนี่แหละ ‘ถูกจริต’ ผมในระดับหนึ่งเลยทีเดียว อีกทั้งเค้าโครงเรื่องของคู่หลักแสดงออกชัดเจนมากว่าเล่นกับประเด็นศีลธรรมได้อย่างน่าหวาดเสียว คือหนึ่ง มาแนวศิษย์อาจารย์ จำได้ว่าอายุทั้งสองคนห่างกันเป็นรอบ (อย่างต่ำก็สิบสองปีล่ะ) สองคือด้วยฐานันดร หม่อมราชวงศ์(แถมเป็นลูกคนเดียว) กับประชาชนที่ไม่ติดยศศักดิ์ ในฐานะคู่รักเพศสภาพเดียวกัน และสามคือเอาทั้งสองข้อแรกไปใส่ในค่านิยมยุคอยุธยาต้นรัชกาลภูมิพล จะเห็นได้ว่ามันค่อนข้างหมื่นเหม่มากในการสร้างบทจบครับ

สำหรับเรื่องมิติของตัวละครแยกแต่ละตัว รวมถึงการเชื่อมโยงความสัมพันธ์เชิงความรู้สึก ทำออกได้ดีมากๆในบางคู่ แต่ในบางคู่ก็ค่อนข้างรวบรัดระดับหนึ่งเหมือนกัน อธิบายคือ ในคู่รอง สิงห์-จ้อย ตัวเค้าโครงแน่นมาก มีอดีตรำลึก มีการบรรยายความรู้สึกที่สับสน ลังเล หวนหา และการสำนึกได้ในความผิด มีการเท้าความ ตัวเส้นการดำเนินเรื่องแยกก็ทำออกมาได้ดีมาก เห็นความรู้สึกที่ลังเล เห็นความชัดเจนของสภาพสังคมที่มีผลต่อจิตใจเด็ก ที่จับใจมากคือ เราจะเห็นประเด็นเชิงจิตวิทยาหลากหลายมากจากคาแรกเตอร์รองในเรื่องนี้ครับ ไม่ว่าจะเป็น
- การ Social Bullying จากเหล่าเด็กๆในอาณัติ มีผลต่อความสัมพันธ์ของเด็กที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก (การกลั่นแกล้งนี้เป็นได้ทั้งการล้อ การไม่ยอมรับ หรือการทำร้ายร่างกาย)
- ความรู้สึกอยากเอาชนะต่อคนที่อยากกดขี่ (คุณแม่สิงห์ กับคุณแม่ของจ้อยที่คาดว่าน่าจะเป็นหญิงงามเมือง และพาลไปถึงจ้อย)
- ความมั่นคงในรักแม้ว่าจะมีนิสัยเป็นอันธพาลของลอย (ผมคิดว่าลอยชอบจินดามาก มากจนปักใจและรักแบบเทิดทูน) ลอยเป็นคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจมาก เพราะเขาอยู่ระหว่างเส้นบางๆของแสงสว่างที่จินดาส่องให้ กับความมืดดำของกิเลสโสมมที่เข้าไปเกลือกลั้ว การยึดติดกับจินดาของลอยเป็นอะไรที่รุนแรงและน่าเคารพมากในด้านความมั่นคงเชิงความรู้สึก
- ชาติกำเนิดของจ้อยที่ยังคงเป็นปริศนา และอาจนำพามายังความดราม่า

อย่างที่เห็นว่าเป้าหมายของเรื่องค่อนข้างชัดเจนมาก ตัวพล็อตไม่ซับซ้อนแต่ละเอียดและเจาะลึกในประเด็นสำคัญๆ เรียกได้ว่าพล็อตพื้นๆแต่มีมิติและสมจริงสูงมาก อีกทั้งด้านของท้องเรื่องและการบรรยายก็ทำให้เรียกผู้อ่านได้ดีด้วยครับ

ออฟไลน์ ZYSQ_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ถ้าตัดเรื่องปากหมาและขี้เสือกออกไป เราว่าไอ้ลอยมันก็คงจะน่ารักนะ แลดูนางก็รักจินดาดีอ่ะ

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1

บทที่ ๓๕

คนจะรักกัน

(ครึ่งแรกจ้ะ :L2:)

คนจะรักกันผูกพันหมายมั่นลงไป
จะบุกน้ำลุยไฟ ปล่อยให้เขาไปตามปรารถนา
คนเขารักกัน ใครจะกีดกันฉันทา
ต่อให้น้ำต่อให้ฟ้า กั้นขวางหน้าอย่าหวังห้ามได้

คนลงรักกัน กำแพงแข็งกั้นก็พัง
สุดจะฝืนยืนนั่ง สุดแรงพลังจะห้ามปรามไหว
คนเขารักกัน คงมั่นจากขั้วหัวใจ
บีบบังคับ ดับไม่ไหว ตราบสิ้นไร้ชีวัน*



ใบพัดเรือ!   

คนึงรีบดับเครื่องอย่างรวดเร็ว แต่ช้าไปเสียแล้ว ท่ามกลางเสียงชาวบ้านกรีดร้อง เกิดสีแดงฉาดฉานกระจายผุดขึ้น ปนเคล้าอยู่ในกระแสน้ำสีน้ำตาลลอยวน

“เล็ก!” เขาร้องสุดเสียง ใจหายเหมือนมีใครเอาฉมวกแทงทะลุอก ร่างสูงใหญ่โจนลงน้ำทั้งชุดข้าราชการครู พื้นน้ำแตกกระจายซ่านเซ็น

มีเสียงฮือฮาขึ้นเมื่อร่างใครคนหนึ่งทะลึ่งพรวดขึ้นเหนือผิวน้ำ

ไอ้ลอย!

เลือดแดงฉานอาบเต็มหน้า ย้อมน้ำคลองเป็นสีแดงขุ่นข้น ชายฉกรรจ์สองสามคนลงน้ำไปช่วยลากมันขึ้นฝั่ง และอีกสามสี่คนพุ่งลงน้ำช่วยคนึงตามหาอีกคนที่จมลงไปแล้วยังไม่โผล่ขึ้นมา 

อาจารย์หนุ่มควานเปะปะไปทั่ว สักพักก็โผล่ขึ้นสูดหายใจ ก่อนดำลงไปใหม่แทบจะทันที

แสงตะวันลาลับไปแล้ว ท้องฟ้าและผืนน้ำดำมืดยิ่งเป็นอุปสรรค เขาตะโกนเรียกเลอมานครั้งแล้วครั้งเล่า เรียกด้วยชื่ออันมีตัวเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์เรียก

ชาวบ้านที่มุงดูมองหน้ากัน มีเสียงซุบซิบแผ่วเบา เล็ก.. หนูเล็ก.. เล็กของครู.. คำเหล่านี้มันใช่คำที่ครูพึงเรียกศิษย์ ใช่คำที่ข้าราชการต่ำต้อยพึงเรียกราชนิกูลหรือ

นอกเสียจากว่า..

เขายังคงดำผุดดำโผล่อยู่อย่างนั้น อย่างสิ้นหวัง แต่ก็ไม่ยอมหยุด ทุกวินาทีที่ผ่านไป เฉือนเนื้อใจแหว่งวิ่นไปทีละนิดจนไม่เหลือแม้เศษเสี้ยว กี่นาทีแล้วที่เลอมานยังไม่โผล่ขึ้นมา เขาไม่ได้ดูนาฬิกา แต่ไม่ใช่ระยะเวลาที่คนร่างกายแข็งแรงทนกลั้นหายใจได้แน่ มันนานกว่านั้นไปเท่าไรแล้ว

คนที่ลงไปช่วยดำ พากันฉุดเขากลับขึ้นฝั่ง เขาสะบัดแขนแล้วมุดกลับลงไปอีก เมื่อหมดแรงที่จะกลั้นหายใจแม้สักเฮือกเล็กๆ เขาเกาะเรือซบหน้า ทั้งร่างอ่อนปวกเปียก เสื้อผ้าและเส้นผมชุ่มโชก

มีเสียงโหวกเหวกดังขึ้นห่างจากท่าออกไป คนึงหันมองตาม เห็นชายฉกรรจ์สองคนโบกมือเรียก แสงไฟและแสงตะเกียงวอมแวมจากฝั่งสะท้อนร่างขาวซีดที่เพิ่งงมขึ้นจากน้ำได้ คอพับร่องแร่ง กลุ่มผมสีอ่อนกระจายระผืนน้ำ

“เล็ก!!” เสียงตะโกนนั้นใครฟังก็รู้ว่าออกมาจากหัวใจแหลกสลาย อาจารย์หนุ่มว่ายน้ำเข้าไปคว้าร่างศิษย์รักไว้ในอ้อมแขน เนื้อตัวเย็นชืดเหมือนปลาตาย หัวใจเอ๋ยแทบขาดลงตรงนั้น

คนึงพาเลอมานกลับฝั่ง วางร่างอ่อนปวกเปียกลงกับพื้นดิน กดท้องให้น้ำทะลักออกปาก ผิวหน้าซีดเผือดแทบไร้สีเลือด เม็ดน้ำเกาะทั่วตัว

“ว่ายน้ำก็ไม่เป็น ซ้ำยังมาโดนตะคริวกินอีก”

“ขนาดคนว่ายน้ำแข็งยังแทบเอาตัวไม่รอด”

สรรพเสียงวิจารณ์กันขรม เขาใจหายเหมือนใครมาเด็ดออกจากขั้ว ตาแดงก่ำจ้องมองร่างบนพื้นดินแฉะซึ่งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้ยังเป็นคนรักของเขา เนื้อหนังยังอบอุ่น มีลมหายใจ มีเสียงหัวเราะ มีรอยยิ้ม เมื่อครู่ก่อนแยกกันที่โรงเรียนยังถ่ายรูปคู่กันอยู่ สุ้มเสียงยามเรียกชื่อเขาช่างอ่อนหวานนัก แต่บัดนี้อะไรเล่า.. ร่างเปียกปอนซีดขาวแน่นิ่ง ดวงตาคู่นั้นปิดสนิทราวกับจะไม่ลืมขึ้นมามองหน้ากันอีกแล้ว

เขายอมไม่ได้

“เล็ก..เล็ก..” เขาพร่ำเรียก มือแข็งแรงออกแรงกดลงหน้าอกคนรักซ้ำๆ

“มันตายแล้ว! สมน้ำหน้า!” เสียงแหบห้าวตะโกนขึ้น ไอ้ลอยโงนเงนยืนขึ้นเต็มความสูง ผ้าขาวม้าที่มีคนยื่นให้ซับเลือดชุ่มโชกแดงฉาน “ผีเมียเก่าเอาเมียใหม่มึงไปเป็นผีน้ำแน่ๆ สมน้ำหน้าพวกมึงทั้งคู่!”

ชาวบ้านฮือฮารุมล้อมกันเข้ามา คำพูดมันทำให้เขาฉุกคิด เหตุการณ์ที่ไม่อยู่ในความทรงจำนานแล้วกลับผุดขึ้นมา หญิงชราที่เคยทักว่าระวังผีน้ำจะมาเอาตัวเลอมานไป

จินดา.. จริงหรือ?

เขาคิดอยู่ในอกคลุ้มคลั่ง ขณะจับศีรษะเลอมานให้หงายเงย ครอบริมฝีปากลงไปบนปากเย็นชืดซ้ำๆ

หลายคนอุทานเอ็ดอึง บ้างเอามือทาบอก บ้างเบือนหน้าหนีภาพบัดสีลูกตา

“มันเกือบจมน้ำตายกี่ครั้งแล้ว! ใช่แน่ๆ” ไอ้ลอยยังไม่หยุดพล่าม เลือดชั่วไหลอาบเต็มหน้าจนแดงฉาน คนึงใจหายวาบ เลอมานเคยประสบอุบัติเหตุทางน้ำมากี่ครั้งแล้ว ไหนจะวันที่เขาพลาดทำระหัดตีหน้า วันนั้นที่พายุคะนองกระหน่ำ และวันก่อนที่ท่าหน้าบ้านยายช้อยอีก

จินดา.. จริงหรือ?

อาจารย์หนุ่มหอบหนัก เขาเพียรเป่าลมจนสุดลมหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทำไม.. หน้าอกเลอมานไม่ขยับสักนิด

จะจากครูไปแบบนี้จริงๆ หรือ..

“จินดา.. อย่าเอาเล็กไป..” เสียงกระซิบวิงวอนแหบพร่า น้ำตาเอ่อขึ้นกลบสองตา สองแขนที่ออกแรงกดหน้าอกเลอมานเริ่มอ่อนล้า ความหวังริบหรี่ลงไปทุกที..ทุกที..

ฝันร้ายในวันที่เขาได้ครอบครองเด็กคนนี้ทั้งตัวและใจกลับมาหลอกหลอน  ใบหน้าขาวเป็นกระดาษยังคงติดตา หรือจะเป็นอย่างที่โบราณบอก.. ว่าฝันเช้ามักเป็นจริงเสมอ

เขายอมไม่ได้!

สิงห์กับจ้อยแหวกฝูงคนเข้ามา ไอ้หมูเลิศขี่รถเครื่องไปบอกพวกเขาที่โรงสีว่าเกิดเรื่องที่ท้ายตลาด จ้อยนั้นพอรู้ว่าเลอมานจมน้ำก็ตกใจจนตำราร่วงจากมือ จากนั้นก็เร่งร้อนพากันมาดูให้เห็นกับตา

“มันตายแล้ว! มันตายแล้ว! มันตายโหง! วู้! สะใจโว้ย!” ไอ้คนชั่วหัวเราะเหมือนคนบ้า “จินดา! เอาไอ้เด็กนี่ไปเป็นผีเฝ้าคุ้งน้ำแทนมึงเลย!”

ไอ้สิงห์ทนไม่ไหวอีกต่อไป ปราดเข้าไปถีบอดีตลูกน้องล้มโครม ชาวบ้านหลายคนลุกฮือหมายมาร่วมรุมกระทืบ มันหนีกระเซอะกระเซิงเข้าไปในตลาด ทิ้งเสียงหัวเราะสะใจลอยแว่วมาตามลม

“ครูขอร้อง เอาครูไปแทนก็ได้ จะทำยังไงก็ได้” เสียงแหบพร่านั้นครวญขึ้นจากอกระโหยไห้ ริมฝีปากบิดเบี้ยวไม่เหลือเค้าคนเคยเข้มแข็ง หยดน้ำที่เกาะพราวเต็มหน้า ไม่มีใครแยกออกว่าหยดไหนน้ำคลอง หยดไหนน้ำตา

“อย่าเอาเล็กไป..”

ท้องฟ้าของครู สายน้ำของครู ดวงตะวันของครู ดอกไม้สดใสของครู ความหวังของครู ยอดดวงใจของครู อย่าจากครูไปแบบนี้!
เลอมานไม่เคยตัวรู้ว่าสำคัญกับเขามากแค่ไหน แม้แต่คำที่เจ้าตัวอยากได้ยินนักหนาเขาก็ไม่เคยปริปากให้ได้ยินสักครั้ง

“คืนเล็กให้ครู.. ”

ได้ยินอาจารย์พร่ำเรียกจินดา จ้อยวิ่งหายเข้าไปบ้านใครคนหนึ่งแล้วกลับออกมาพร้อมธูป จุดหนึ่งดอกพนมมือเหนือหัวแล้วปักไว้ริมตลิ่งด้วยดวงตาแดงก่ำ

“ให้ครูตายแทนก็ได้ อย่าเอาเล็กไป..” คนึงครอบริมฝีปากลงไปบนปากซีดเผือดของเลอมาน เงยหน้าขึ้นสูดอากาศ แล้วกดปากลงไป ทำเช่นนั้นอยู่ซ้ำๆ และโดยไม่มีใครคาดคิด ธูปยังไม่ทันหมดดอก ร่างเปียกโชกที่นอนแน่นิ่งจู่ๆ กระตุกตัวโยน สำลักน้ำพรวดออกปาก

อย่าให้เอ่ยเลยว่าอาจารย์หนุ่มดีใจเพียงใด  บอกไม่ได้ว่าแม้นคว้าแก้วมณีที่พลัดหล่นหายกลับคืนมาได้จะดีใจได้เท่านี้ไหม

เลอมานสำลักไอโขลกๆ ใบหน้าซีดขาวมีสีเลือดขึ้นทีละนิดจนแดงก่ำ คนึงพร่ำลูบหลังไหล่สั่นสะท้าน น้ำตาแห่งความดีใจหยดร่วง ความอบอุ่นเลิศล้ำแล่นปราดเข้าจับใจ ราชนิกูลหนุ่มสำลักเรียกชื่อเขากระท่อนกระแท่น ก่อนโผเข้าหาอ้อมอก เขารัดร่างเล็กไว้แน่น ราวกับจะให้ละลายไปกับอกกว้าง ตัดสรรพสิ่งรอบตัวออกราวกับทั้งโลกนี้มีเพียงพวกเขาเท่านั้น

เขาดีใจ ดีใจเหลือเกิน ดีใจจนเกือบ.. จูบแก้มขาวซีดที่เริ่มมีไออุ่นขึ้นทีละนิด

จ้อยแตะไหล่อาจารย์เรียกสติ อาจารย์หนุ่มเงยหน้าขึ้น ปะสายตาชาวบ้านรายล้อม สายตาทุกคู่ที่จ้องมองมา หลากหลายความรู้สึก มีทั้งรังเกียจ ขยะแขยง สมเพชเวทนา หดหู่ใจ อาจารย์หนุ่มกอดร่างศิษย์แนบอก โยกไปมาคล้ายจะเห่กล่อม อย่างหวงแหน อย่างปกป้องจากสายตาที่มุ่งประหัตประหาร รังเกียจเดียดฉัน

ทว่า.. เขาไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม เพราะลุแก่ใจ จากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่มีสิ่งใดเลวร้ายไปกว่าการสูญเสียเลอมานไปชั่วชีวิตอีกแล้ว

ร่างสูงใหญ่อุ้มศิษย์รักลงเรือแล้วขับออกไปด้วยสายตาว่างเปล่า สงบนิ่ง

ดั่งเหยื่อเคราะห์ร้ายที่พร้อมเผชิญชะตากรรม แม้ต้องถูกแขวนอย่างหมิ่นเหม่อยู่บนเส้นใยที่ซับซ้อนยุ่งเหยิงของจารีต

รอคอยหายนะอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้..

*******************************

(มีต่อจ้า :hao7:)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-11-2016 22:09:37 โดย ดอกไม้ »

ออฟไลน์ Pithchayoot

  • พิชญ์ชยุตม์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ไม่เศร้าได้มั้ยฮะ

อ่านแค่นี้ก็แน่นจนหายใจไม่ออกแล้ว

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
มาแล้ว วี้ดว้าย  :mc4: :mc4: :mc4:

หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ไหนๆ อาจารย์ก็ยอมสู้ดูสักตั้งแล้ว 


ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
หลังจากอุบัติเหตุที่ท่าน้ำกลางตลาดวันนั้น อาการเหมือนคนเสียสติของคนึงก็เป็นโจทก์ฟ้องตัวเอง ให้คนทั้งหลายเห็นว่าข่าวเลื่องลือที่ตนได้ยินมานั้นถูกต้องทุกประการ คนทั้งตลาดเป็นพยานรู้เห็นกันหมด

และเป็นธรรมดาของคนกลุ่มเล็กที่มีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิด เมื่อคนใดวิปลาสผิดปกติ คนหมู่มากในกลุ่มนั้นก็จะเริ่มตีตัวออกห่างเหมือนกับว่าจะคัดผู้ที่แตกต่างนั้นออกจากสังคม ยิ่งฝ่ายหนึ่งเป็นครูผู้ชาวบ้านทั้งบางเคารพนับถือ และอีกฝ่ายเป็นถึงหม่อมราชวงศ์ ผลลัพธ์จึงรุนแรงกว่าที่เคยเป็น

คนึงพาเลอมานกลับบ้านพักท้ายโรงเรียนทันทีในวันนั้น  เพราะอย่างน้อยในห้องน้อยก็ไม่มีเสียงก่นด่าสาปแช่งให้ได้ยิน  ไม่มีสายตาดูแคลนให้เห็น  โดยมีสิงห์กับจ้อยทยอยขนข้าวของที่กระท่อมยายช้อยกลับคืนมาให้

ราชนิกูลหนุ่มน้อยจับไข้นอนซมอยู่หลายวัน  อาจารย์ปรีชาอนุญาตให้ไม่ต้องไปสอนสักระยะจนกว่าจะแข็งแรงดี คนึงเฝ้าดูแลไม่ห่าง  ราวจะกางกั้นคนรักจากความวุ่นวายทั้งปวง

ความวุ่นวายที่มาเยือนถึงหน้าประตูโรงเรียน..

ถึงดวงตะวันจะเลยหัวไป ๓ วา แต่เปลวแดดยังแผดเปรี้ยงๆ ปานจะแผดเผาสรรพสิ่งให้วอดวายไปจากโลกา  เสียงอึงอลเกี่ยวกับข่าวคาวสองครูศิษย์ลักลอบได้เสียกันก็กระโจนไปไม่หยุดหย่อน

กลุ่มชาวบ้านทั้งหัวหงอกหัวดำร่วมสิบดาหน้ามาตามถนนโรยกรวด อุกอาจเหิมเกริมผ่านประตูโรงเรียนเข้ามาถึงหน้าเสาธง  ส่งเสียงกึกก้องราวจะขับไล่เสนียดจัญไรให้พ้นไปจากสถานศึกษาอันศักดิ์สิทธิ์

อาจารย์ปรีชาเห็นท่าไม่ดี รีบสั่งให้อาจารย์ประพนธ์กวาดต้อนเหล่านักเรียนครูที่อยากรู้อยากเห็นออกนอกหน้าขึ้นตึกไปให้หมดเพื่อความปลอดภัย

“พวกเราไม่ยอม! เรื่องแบบนี้ยอมไม่ได้โว้ย!” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งโวยวาย ชูกำปั้นขึ้นไปในอากาศ

คนึง วนาสัยกัดริมฝีปากแน่น คนพวกนี้แห่กันมาเพราะเขาเป็นเหตุแน่แท้ จึงมิได้คิดหลบหนี อาจารย์หนุ่มประจันหน้าดั่งจำเลยผู้ยอมจำนน

“มีอะไรกันพ่อแม่พี่น้อง” อาจารย์ปรีชาปรี่มาห้ามทัพ “แห่กันมาส่งเสียงดังในสถานศึกษาแบบนี้ทำไม”

“ผอ.คิดดูนะ” ป้าเจ้าของห้องแถวท้ายตลาดถลกผ้านุ่งจังก้า “โรงเรียนลูกหลานเราเราต้องรักษา ปล่อยให้มีครูบาอาจารย์ผิดศีลธรรมแบบนี้อยู่ได้ยังไง”

“ครูกับลูกศิษย์กอดกันกลมกลางตลาด แบบนี้มันผิดไหม!” ลุงคนหนึ่งโพล่งขึ้นบ้าง

“ผิด!” พวกที่เหลือเฮรับกันเป็นลูกคู่

แล้วนานาสรรพเสียงก็อึงอล เรียกเหล่านักเรียนครูโผล่หัวมาดูทางหน้าต่างแทบไม่เหลือที่ว่าง

“ถ้าครูดี ลูกศิษย์คงไม่เข้าหาแน่นอน!”

“มันก็ไม่แน่ ของอย่างนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดังร้อก”

“รู้เห็นเป็นใจกันน่ะซี้”

“แต่ไหนแต่ไรมา โรงเรียนนี้ไม่เคยเสื่อมเสีย พวกเรายอมไม่ได้!”

“การศึกษาจะฉิบหาย ก็เพราะครูเหี้ยๆ นี่แหละ!”

คนึงเคยบอกแก่ใจตน เขาจะต้องหนักแน่น ต้องอดทน เพื่อปกป้องดวงแก้วบริสุทธิ์ที่ถูกทำให้มัวหมองเพราะเขาทั้งสิ้น  เขาจะต้องหนักแน่น  ดั่งหินผาที่พร้อมเผชิญทุกความแปรปรวนวิปโยค พร้อมปกป้องคนที่ตนรัก

“มีครูเลวๆ อยู่ได้ ก็เพราะชาวบ้านอย่างพวกเราไม่สนใจ แต่มันถึงเวลาแล้ว เราต้องช่วยกัน!”

“ใช่ๆ ออกไปๆๆ” กลุ่มคนคลั่งโทสะกรูกันเข้ามา  ใครคนหนึ่งผลักเขาจนเซ เขาไม่ตอบโต้ ไม่แม้แต่จะปริปากแก้ต่างให้ตน

หินผาแตกระแหงลงทุกที ถ้อยผรุสวาทเหล่านั้นดั่งสายฟ้าลั่นเปรี้ยงระลอกแล้วระลอกเล่า ราวจะแผดเผาให้วายวอด ให้แตกดับลงเดี๋ยวนั้น

อาจารย์ปรีชาร้องห้ามลั่น พวกประพนธ์กับวิรัชก็ปราดเข้ามากันผู้คนออกไป ทุกสิ่งชุลมุนวุ่นวายเหมือนขุมนรก หินก้อนหนึ่งลอยหวือกระทบเข้าหน้าผากอย่างจังจนอาจารย์หนุ่มทรุดลงกับพื้น เครื่องแบบข้าราชการสีกากีเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นดินและหยดเลือดแดงฉานที่ไหลอาบหน้าย้อยหยดลงปลายคาง

เสียงตะโกนห้ามของเหล่าอาจารย์ไม่เข้าหัวสักนิด สิ่งเดียวที่ทะลุทะลวงโสตประสาทเข้ามามีแต่เสียงก่นด่า สาปแช่ง ขับไล่

“ถ้าครูดี ก็มีคนนับถือ เสียแรงพวกกูยกมือไหว้อยู่ตั้งนาน เสียมือจริงๆ ถุ้ย!” น้ำลายถ่มถุยเฉียดหัวไปนิดเดียว

“ไล่ออกไปซะ ครูแบบนี้อยู่ไม่ได้แล้ว ถ้ามันอยู่เราจะเอาลูกหลานเราออก ออกไปซะ!”

“ครูแบบนี้มันไม่ใช่ครู ออกไป!”

“ออกไปๆๆๆ!”

ภูผาแทบด่าวดิ้นเป็นผุยผง..

*******************************
   
หลังเหตุการณ์วุ่นวายผ่านพ้นไป อาจารย์ปรีชาเรียกคนึงไปพบเพื่อสอบสวนในเย็นวันนั้น 

อาจารย์หนุ่มไปตามเวลานัดหมาย ไปทั้งผ้าสำลียังแปะหน้าผากที่โดนปาหินใส่เมื่อเช้า ณ เรือนพักข้าราชการอันสมถะของผู้อำนวยการ ภรรยาท่านกำลังปูเสื่อจัดสำรับมือเย็นกับพื้นนอกชาน

“มาๆๆ กินข้าวกินปลากันก่อน” อาจารย์ใหญ่ชักชวนพร้อมรอยยิ้ม “ขืนคุยก่อนเดี๋ยวคุณกินข้าวไม่ลง” ว่าติดตลกแล้วก็หัวเราะเฮ่อฮ่า หมายจะให้เขาผ่อนคลาย

ผ่านมื้ออาหารอันเรียบง่ายแล้วก็ถึงเวลา ‘สอบสวน’

ห้องสอบสวนของคนึง คือนอกชานที่เพิ่งนั่งล้อมวงกินข้าวกันไปนั่นแหละ นอกชานที่อาจารย์ปรีชาชอบมานั่งผ่อนคลายหลังเลิกงาน มองดูนักเรียนอาจารย์เดินไปมา ร้องทักอย่างกันเอง บางวันก็ชวนเหล่าครูน้อยมานั่งล้อมวงสังสรรค์พร้อมเหล้าฝรั่งสักแบน บางวันก็กวักมือเรียกเขาไปแบ่งกับข้าวหรือขนมที่ภรรยาท่านทำเอาไปฝากเลอมาน

ใต้แสงไฟโคมพอสว่างเรื่อเรือง คนึงได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกมะลิที่ลอยอยู่ในขันสาคร

อาจารย์สูบบุหรี่กลีบบัวพันเอง หยิบมวนหนึ่งส่งให้เขา พร้อมจุดไม้ขีดให้เสร็จสรรพ

“ความจริงแล้ว..” คนึงเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ คลึงมวนสีชมพูหม่นในมือไปมา “พวกเรารักกันครับ”

คนอาบน้ำร้อนมาก่อนอัดควันนุ่มนวลเข้าปอด ก่อนพ่นออกมาเป็นสายคลุ้ง “รู้ตั้งนานแล้วล่ะ”

อาจารย์หนุ่มค้นพบว่าตัวเองไม่ได้ตกใจสักนิด ผู้บังคับบัญชาไม่ทำให้เขารู้สึกเหมือนเด็กทำความผิดแล้วถูกจับได้ ทุกอย่างสงบ.. เยือกเย็น.. เรียบง่าย.. เหมือนกำลังเปิดใจพูดกับคนในครอบครัวสักคน

“เล็กเขาบอกว่า..” ชื่อเรียกนั้นบอกความสนิทสนมเป็นที่ยิ่ง หากคล้ายคนพูดจะฉุกใจได้ “คุณชายเขาบอกว่าเขาจะไม่กลับอังกฤษ จะอยู่เป็นครูที่นี่”

“อืม..” ผู้มากวัยกว่าลูบปลายคาง ตีสีหน้าหนักใจ “เห็นทีจะยาก”

“ผมทราบครับ”

“ไอ้เจ้า.. เอ่อ.. ท่านชายอาทิตย์” ผู้อำนวยการหลุดปากเอ่ยคำแทนตัวที่บ่งบอกความสนิทสนมอย่างยิ่งเช่นกัน “รายนั้นไม่เท่าไร ที่น่าหนักใจคือหม่อมดารา หวังว่าเรื่องนี้คงไม่ไปถึงพระเนตรพระกรรณ”

ทุกอย่างตกอยู่ในความสงัด ยินเพียงเสียงลมหนาวและแมลงกลางคืนกรีดปีก

อาจารย์วัยกลางคนพ่นลมหายใจพรู “เฮ้อ.. เจอรุ่นลูกมาแล้วยังต้องมาเจอรุ่นหลานอีกหนอ..”

“ครับ?”

“เปล่าๆ ไม่มีอะไร” ท่านโบกไม้โบกมือ ดับบุหรี่ในมือกับที่เขี่ย ก่อนลุกขึ้นบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยขบ “รอให้ชายเล็กพ้นสภาพอาสาสมัครจากโครงการเสียก่อน พ้นสถานะครูศิษย์เมื่อไรแล้วค่อยว่ากัน แต่ด้วยเหตุผลทางวินัย ผมจำเป็นต้องทำทัณฑ์บนอาจารย์ไว้ก่อนนะ”

คนึงรับคำอย่างผู้ไม่ระย่อต่อชะตากรรมใดๆ อีกแล้ว

อาจารย์ปรีชามายืนส่งที่หัวบันได ดวงตาอย่างผู้กรำโลกมามากมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินลับหายไปในความมืดจนลับตา

“เฮ่อ ความรัก..” ข้าราชการวัยใกล้เกษียรเปรยไปกับลมฟ้า กับดวงดาวและหมู่เมฆที่เคลื่อนเข้าบดบังจันทร์ “มันเข้าใครออกใครที่ไหน” 

*******************************
   
เสียงสวดมนต์แว่วมาจากหอพักนักเรียนแล้วตอนที่คนึงกลับถึงห้อง  อาจารย์หนุ่มอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย  ชะล้างคราบฝุ่นดินที่ถูกผลักลงไปนอนวัดพื้นจนสะอาดเอี่ยม  กระทั่งชุดข้าราชการเปื้อนเลือดก็แอบเอาไปฝากประพนธ์ไว้ก่อน

เขาแค่ไม่อยากให้เลอมานเห็น

แต่ผ้าพันแผลที่คาหัวมันฟ้องอยู่ทนโท่

ทันทีที่เปิดประตู  กลิ่นหอมอ่อนๆ รวยริน  กลิ่นดอกมหาหงส์ปักหล่อน้ำไว้ในแก้วใส

“อาจารย์!” เลอมานยังรอเขาอยู่ เสียงใสบอกความประหลาดใจ “หน้าอาจารย์ไปโดนอะไรมา” ร่างบอบบางโผเผลงจากเตียงมาหา ชายหนุ่มปราดไปประคองไว้ในอ้อมแขน พิษไข้ตั้งแต่คืนวิปโยคนั้นยังไม่สร่างดีแท้ๆ 

“ครูหกล้ม”

คนฟังทำหน้าเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “ตอนสายๆ เล็กได้ยินเสียงดังมาจากหน้าโรงเรียน  เกิดอะไรขึ้นหรือครับ” ปากเล็กๆ ยิงคำถามเข้าใส่เป็นชุด “ตอนกลางวันจ้อยมากินข้าวเป็นเพื่อน เล็กถามก็ไม่ยอมตอบ”

คนึงไม่ตอบคำ ได้แต่ยิ้มอ่อนบาง

“ต้องมีอะไรแน่ๆ” หนุ่มน้อยยังไม่คลายกังขา “เล็กได้ยินอาจารย์วิรัชบ่น ว่าวันนี้มีผู้ปกครองมาพานักเรียนลาออกไปสองคน” 

“เด็กดื้อ..” อาจารย์ทิ้งตัวลงเตียงศิษย์  ตบที่นอนข้างตัวปุๆ “มานอนได้แล้ว”

ไฟโคมดับลง  หลงเหลือแสงที่ส่องจากภายนอกเลือนราง  หน้าต่างเปิดแง้มไว้เพียงเล็กน้อย  ปล่อยลมกลางคืนแผ่วผ่านเข้ามา หอม..หอมกลิ่นดอกมหาหงส์ กับความหอมนวลๆ ของคนในอ้อมอก

“อาจารย์..” เสียงเล็กกระซิบขึ้นกลางความเงียบงัน

“หือ”

“เราหนีไปด้วยกันไหม” ศิษย์ขยับขึ้นมาเกยคางบนอกกว้าง  แก้มนวลซับสีระเรื่อนั้นคล้ายแก้วเนื้อดี  ดวงตาบริสุทธิ์ สดใสดุจเด็กน้อย

อาจารย์หัวเราะในคอ “หนีไปไหนดีล่ะ”

“บ้านอาจารย์ที่สิงห์บุรี” ดวงตาสีอำพันเป็นประกายวาววาม “เล็กยังไม่เคยไปเลย”

ทุกค่ำคืน.. พวกเขานอนคุยกันอย่างนี้ คุยกันสัพเพเหระ ดินฟ้าอากาศก็คุย พระจันทร์ดวงดาวก็คุย คุยกันราวจะชดเชยช่วงเวลาที่เหินห่างกันไป ตระกองกอดกันไว้ในอ้อมแขนราวกับจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสกันอีก

“ไปอยู่กับครูต้องทำนานะ” มือใหญ่คว้ามือน้อยขึ้นมา กดจูบลงกลางฝ่ามือ  บอบบางนุ่มนิ่มเหลือเกิน “เล็กทำไหวหรือ”

“ถ้าอาจารย์สอนเดี๋ยวเล็กก็ทำได้”

“แล้วจากนั้นล่ะ.. อืม..” ชายหนุ่มนิ่วหน้าใช้ความคิด  ลูบผมสีสวยเพลินมือ “พอเล็กท้อง ครูก็อุ้มลูกพาเล็กไปขอขมาท่านพ่อกับหม่อมย่า” พูดไปแล้วก็ขำตัวเอง  เขาคงอ่านนิยายมากเกินไป

“อาจารย์ก็พูดเรื่อยเปื่อย” เลอมานซบลงกับอกกว้าง  ซ่อนใบหน้าแดงจัดเป็นลูกตำลึงสุก “เล็กเป็นผู้ชายจะท้องได้ยังไง”

สักอึดใจ.. เจ้าตัวแสบคว้ามือเขาวางลงบนท้องน้อยตน  รำพึงแผ่วหวิว “เฮ้อ.. อยากมีลูกกับอาจารย์จัง..” อยู่ดีๆ อกใจคนึงก็ป่วนปั่น  ป่วนปั่นจนต้องรัดร่างเล็กแทบจมหายลงไปกับอก

“ลูกเราถ้าเป็นผู้ชายต้องหล่อแน่ๆ เพราะเราหล่อทั้งคู่” เสียงทุ้มกลั้วหัวเราะ

..คนหลงตัวเอง.. ปากเล็กขมุบขมิบ

“ถ้าหม่อมย่าเห็นหลาน ขี้คร้านจะเอ็นดู”

“ไม่ๆๆ เล็กน่ะเป็นหลาน” อาจารย์แก้ให้ “ลูกของเล็กก็ต้องเป็นเหลนหม่อมย่า”

“อ้อ..” เลอมานพยักหน้าหงึก “แล้วหม่อมย่าก็จะยอมให้เราแต่งงานกัน”

“สินสอดจะแพงไหมน้อ” อาจารย์หนุ่มจูบคนรักเบาๆ ที่ขมับ “ครูขายที่ขายนาขายควายหมดแล้วไม่รู้จะพอค่าสินสอดเมียไหม”

เขารู้ตัวดี ต่ำต้อย ต่ำศักดิ์ ไร้สง่าราศี เป็นดั่งหมาวัด ดั่งควายไถนา จนมีดอกฟ้าเข้ามาในชีวิต มีแก่ใจโน้มกิ่งลงมาหา สักน้อยหนึ่งก็ไม่เคยรังเกียจ มีแต่เคารพเทิดทูน

อะไรสักอย่างเอ่อท้นขึ้นมาในอก คนึงรับรู้ว่าตัวเองเป็นที่รักมากมายเพียงใด แต่ไม่เคย..จะรู้สึกสั่นสะเทือนฉับพลันทันใดเท่าในครั้งนี้

ป่านนี้.. ทุกคนจะสาปแช่งอีกสักปานไหน

คนอย่างครูจะฝันจะหวังอะไรอีก

หัวใจรักที่ใสบริสุทธิ์ของเลอมาน หัวใจดวงนั้นถูกวางลงในมือเขา เป็นวาสนารักเท่าไรแล้ว การได้พบคนคนนี้ คือสิ่งสวยงามที่สุดในชีวิตแล้ว

จากนี้.. แม้ชีวิตจะพังภินท์ จะย่อยยับก็ปล่อยมันไป ขอแค่เพียงเลอมานยังผ่องแผ้วเฉกเช่นวันแรกที่ยังไม่ถูกเขาทำให้แปดเปื้อน

คนึงวางหัวใจต่ำต้อยลงฝ่ามือเล็กบางนั้น สาบานจะปกป้องจนกว่าชีวีจะหาไม่


*******************************

ติดตามต่อครึ่งหลังค่ะ :katai5:

ไม่ค่อยมีอารมณ์เขียนนิยายเลยค่ะ หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาแห่งการสูญเสียจริงๆ เฮ้อออ
ยังไงก็จะพยายามเขียนเรื่อยๆ ถึงจะสปีดหอยทากนะคะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นมากๆ เราอ่านและเซฟเก็บหมด ถึงจะไม่มีเวลาตอบ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

ดอกไม้

๑๔ พ.ย. ๕๙

ออฟไลน์ bojaemyboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ช่วงตอนที่เล็กคุยกับอาจารย์ เรืองพากันหนี ทำไมเราถึงน้ำตาซึมๆนะ สงสารทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ทั้งหวานทั้งเศร้าเคล้ากันไป
แต่ดีใจที่เลอมานยังอยู่

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
สงสารครูกับหนูเล็กจัง ไม่รู้จะทนต่อแรงกดดัน ขับไล่ ของชาวบ้านได้แค่ไหน

ออฟไลน์ Bellze12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
คิดถึงมากกก ในที่สุดก็มาแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ hunhan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
จุก555 คำเดียวที่พูดได้ตอนนี้ คุณดอกไม้บรรยายมาทำให้น้ำตาเราแทบไหล ทำไมใจคนมันดำถึงเพียงนี้ ทำไมกันนะ ความจริงคือรู้แหละว่าเรื่องแบบนี้สมัยนั้นมันค่อนข้างยากที่จะรับได้ แต่แค่เค้าสองคนรักกันมันผิดมากเลยหรอ ตอนที่ครูพูดว่าเล็กจะท้องนี้คือฉันร้อง สะทือนใจมากๆ สักวัน ฟ้าหลั่งฝนจะสดใสเสมอ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เค้ารักกัน คนอื่นไม่ต้องเห็นด้วยก็ได้ แต่แค่ให้เขาได้รักกันและอยู่ด้วยกันก็พอแล้ว ฮือๆๆ อินมากกก 
#ไอ้ลอยยยยยย ชั่วมาก

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ต่อไปก็ขุดหลุมฝัง แล้วเอาหินรุมปาจนตายแบบประเทศมุสลิมแล้วใช่ป่าวคะ ถ้าถึงเลเวลนั้นก็ไม่แปลกใจเเล้ว ดราม่าเรื่องนี้โหดตริมๆ

ปล. ตอนแรกเกลียดไอ้ลอยมาก ตอนนี้ฉุกใจคิดได้ เธอคงรักจินดามากนะ จนคุ้มคลั่งจากการสูญเสียอยู่ไม่สร่าง น่าเวทนาแท้

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
สงสารคุณครูกับเล็กจัง  :hao5: :hao5:

มาต่อไวๆๆๆน๊าาาาาา

ออฟไลน์ Thanking

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ
ขอบคุณผู้เขียนที่พาหนูเล็กกับอาจารย์กลับมาหาอีกครั้ง ขอส่งกำลังใจไปถึงผู้เขียนด้วยค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ขอบคุณคุณดอกไม้นะคะ ทีนำครู& หนูเล็กกลับมาให้อ่าน ซาบซึ้งไปกับเนื้อเรื่องมากๆ

ออฟไลน์ Motion_Lover

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮรืออ จะมีไหมคะวันที่อ่านเรื่องนี้แล้วแฮปปี้พร้อมกันทั้งสองคู่ วันนั้นแฟนอย่างเราๆ คงสุขน่าดู ตอนนี้จ้อยกับพี่สิงห์กำลังแฮปปี้ม๊ากกก แต่คู่ครูกับหนูเล็กนี่สิ กลัววใจครูยอมแพ้เป็นฝ่ายจากไปอีกก T^T ปล. เป็นกำลังใจให้คุณดอกไม้เสมอนะคะ

ออฟไลน์ waza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ชาวบ้านขี้เสือกมากอะ รำคาญ อิลอยก็โรคจิต มันจะมีคู่จริงๆเหรอ ผู้ร้ายชั่วๆแล้วชีวิตได้ดีนี่ยังจะมีอีกเหรอ ลำไย ชีวิตคุณเล็กก็ไม่รู้จะรันทดอะไรหนักหนา ทีสิงห์กับจ้อยยังไม่เห็นเป็นไรเลย :katai4:

ออฟไลน์ therappizdrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไอ้ลอยนี่ก็ดวงแข็งไปนะ

ดีใจกลับมาต่อแล้ววว ฮืออออ รอครึ่งหลังค่ะ

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
ขอกลับไปพักใจก่อนนะคะ ช่วงนี้รู้สึกว่าใจไม่ค่อยแข็งแรง ขนาดเรื่องนี้นานๆมาที อ่านกี่ทีก็หนักหน่วงบีบคั้นหัวใจเหลือเกินค่ะ :ling2:

ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao5: ทำไมต้องรังเกียจขนาดนั้นกันเนาะคนเรา แต่ก็ก็ออกจะชื่นชมอาจารย์กันซะเยอะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
 :hao5: :mew4: :hao5: :mew4:   ไม่สงสารกันเลยเหรอ เค้ารักกันนะ

ออฟไลน์ muio

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอและติดตามตลอดเลยค่ะคุณดอกไม้ เป็นกำลังใจนะคะ เป็นเรื่องที่ดีมากๆค่ะ

ออฟไลน์ Yforever

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เฮ้อออ ทำไมความรักของคู่นี้ถึงอุปสรรคเยอะจัง  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ 404notfound

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดไว้แล้วเชียวว่าอ.ปรีชากับคุณชายอาทิตย์นี้มีซัมติงกันมาก่อนใข่มั้ยค่ะ
ครูคนึงกับเลอมานจับมือกันไว้สู้ไปด้วยกันนะคะ
ขอให้ผ่านอุปสรรคทั้งหลายไปให้ได้
อย่ายอมแพ้หม่อมย่าค่ะ ความรักชนะทุกอย่าง :mew6:

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาอ่านนิยายเท่าไหร่ แต่พอได้กลับมาอ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกผ่อนคลาย (ทั้งๆที่เนื้อเรื่องยังลุ้นทุกตอน 5555) ที่รู้สึกผ่อนคลายเพราะได้อ่านนิยายภาษาสวยๆ บรรยายภาพได้ชัดเจน  ขอบคุณมากๆนะครับ

ออฟไลน์ Maree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สงสารเล็กกับครู ฮืออออออออออออ
รออ่านอยู่เสมอ และเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ

ออฟไลน์ DATAs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอให้จบแบบแฮบปี้นะ  ฮรือออออ  สงสารทั้งค่   :hao5:

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
ขอบคุณนะคะที่มาต่อ นิยายสนุกและงดงามเหมือนเดิม เป็นกำลังใจให้คุณดอกไม้นะคะ

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
สนุกและซาบซึ้งมากค่ะ
น้ำตาแทบไหล
เป็นวิจิตรวรรณกรรมชั้นดี
ที่เรายกนิ้วให้เลย
เลิฟฟฟ

ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ความรักทุกแบบเป็นสิ่งสวยงามหมดทั้งนั้น
อยากให้ชาวบ้านเข้าใจครูกับเล็กจัง TT

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด