ตอนที่ 31ภายในห้องพักคนป่วยที่สมควรเป็นสถานที่เงียบสงบเพื่อการพักฟื้นของผู้ป่วย แต่บรรยากาศตอนนี้มันช่างห่างไกลจากสิ่งที่ควรจะเป็น เพราะเสียงหัวเราะรวมทั้งเสียงพูดคุยของคนเยี่ยมไข้ทั้งหลายและเสียงของคนเฝ้าไข้กิตติมศักดิ์ที่น่ารักของผมที่ต่างมีความสุขกับการวาดฝันว่าจะได้ไปเที่ยวทะเลโดยใช้เงินของผมที่นอนเป็นคนป่วยอยู่ตอนนี้
“คิกๆ จริงเหรอกัส มิคอย่างเห็นจัง ฟินๆ จะพามิคไปใช่มั้ย มิคอยากเห็นนีโมตัวเป็นๆอ่ะ”
ร่างนิ่มของคนรักที่มัวแต่คุยและสนใจกับภาพฟันของท้องทะเลถึงกับลืมตัว เมื่อผมจับเค้ามานั่งเบียดด้วยกันบนเตียงแบบที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยว่าแทบจะนั่งเกยตักคนป่วยแบบผมแล้วครับ
“ครับผม ฟินจะพามิคไปดูนีโมครับ” ผมยิ้มตอบสายตาพราวหวานที่จับจ้องผมอย่างต้องการคำตอบ เมื่อมิคได้คำตอบที่ถูกใจก็ยิ่งยิ้มกว้างตาปิดส่งมาให้
“มิคจ๊ะ งานนี้ฟินเค้าจะเป็นเจ้ามือพาพวกเราไปเที่ยวด้วยน้า” สาวเดียวในห้องพูดเสียงหวานให้เพื่อนแต่ส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ผมเหมือนย้ำว่านี่คือบทลงโทษที่แสนปราณีสำหรับผมและผมไม่มีสิทธิปฏิเสธ
“ครับงานนี้ฟินจัดเต็มเลย” ผมยิ้มให้มายก่อนหันมากระชับกอดคนตัวเล็กที่ยังตื่นเต้นดีใจและไม่ได้รู้ตัวว่าผมหากำไรจากตัวเค้าอยู่
“ฮึๆๆ / เนียนนะมึง”
เสียงพรายกระซิบจากสองเพื่อนซี้เข้าหูผมแต่ผมก็ไม่ได้สนใจมันสองคนหรอกครับ เพราะตอนนี้สายตาผมจับจ้องไปที่ใบหน้าด้านข้างของมิคที่ยังมีรอยยิ้มประดับหน้าไม่คลาย ปากแดงขยับพูดเจื้อยแจ้วกับเพื่อนตัวเล็กอีกสองคนทั้งสามไม่ได้สนใจผมและแฟนตัวเองเลยครับ มักเป็นแบบนี้ตลอดถ้าสามเพื่อนรักเค้าเจอกัน ผมลูบหัวทุยตรงหน้าเลื่อนมือมาที่ท้ายทอยและนวดคลึงเบาๆอย่างเพลินมือ ส่วนอีกมือก็โอบเอวเล็กเข้าประชิดตัวหลังผมก็เอนพิงพนักเตียงที่ถูกปรับตั้งขึ้นมา ทำให้เราสองคนนั่งอิงแอบแนบชิดกันอยู่สองคน ส่วนกัสกับมายก็นั่งที่โซฟาตัวข้างเตียงกับเพื่อนสนิทผม ไอ้สองคนนั่นมันก็นิสัยไม่ได้ต่างจากผมนักหรอกครับ เท่าที่เห็นไอ้วินก็โอบเอวแฟนมันไม่ปล่อยส่วนไอ้ปรัชนี่ร้ายกว่าเห็นนิ่งๆแบบนั้นคว้ามือหมอมายกุมไว้ซะแน่น ไอ้พวกนี้กลัวแฟนมันหายกันรึไงก็ไม่รู้
“ฟิน เมื่อไหร่ธีกับมนจะมาอ่ะ มิคหิวแล้ว”
ผมที่กำลังนวดคลึงท้ายทอยสวยเพลินมือก็ต้องชะงักเพราะกิริยาของคนรักที่เบี่ยงตัวมากระซิบข้างหู มิคคงอายที่จะให้คนอื่นได้ยินแต่ไอ้กิริยาใกล้ชิดแบบนี้ของมิคทำเอาผมขนลุกซู่ เพราะปากแดงแทบจะชิดแก้มและผมสัมผัสถึงลมผะแผ่วขณะที่มิคพูดกลิ่นหอมของแป้งเด็กจากคนที่เพิ่งอาบน้ำ ทำเอาเสียงผมที่ตอบกลับมันสั่นกว่าปกติ
“หะ หิวแล้วเหรอครับ ดะ เดี๋ยวฟินโทรตามไอ้ธีให้นะ”
ผมจ้องมิคตาปรอยอยากจับคนหิวข้าวมาชิมปากแดงๆช่างพูดที่อยู่ใกล้แสนใกล้ แต่ผมก็ทำไม่ได้เพราะเพื่อนอยู่กันเต็มห้อง ก็ได้แต่ตัดใจหันหน้าออกจากสิ่งยั่วยวนแต่มือยังโอบกระชับเอวบางไม่ปล่อย
“วิน มึงโทรตามไอ้ธีให้กูหน่อยว่ะ ว่ามันถึงไหนกันแล้วกูหิวแล้ว”
ผมยอมใช้ตัวเองเป็นข้ออ้างและหันไปใช้ไอ้เพื่อนตัวดีที่เป็นว่าที่เจ้าบ่าวต่ออีกทอด วินละสายตาจากคนของมันมามองหน้าผมแบบเซ็งๆแต่ก็ยอมควักมือถือโทรตามไอ้ธีให้ จากที่คุยดูท่าไอ้เพื่อนผมมันใกล้ถึงโรงพยาบาลแล้วล่ะครับ ผมก็หันมาสนใจคนตัวนิ่มแทน
“มิคหิวมากมั้ย เดี๋ยวธีกับมนก็มาแล้ว”
ผมกระซิบบอกมิคและลูบหัวคนหิวอย่างเป็นห่วง มิคก็ส่ายหน้ามาให้และบอกว่ารอได้ แต่ก่อนที่อาหารจะมาประตูห้องผมก็ถูกเคาะคนที่เปิดเข้ามาเป็นหมอผู้ชายสวมกราวด์ยาวและพยาบาลขุดขาวแต่เปลี่ยนหน้าจากคนเมื่อเช้า
“สวัสดีครับคุณชินกรณ์ เช้านี้อาการเป็นยังไงบ้างครับ แต่ดูท่าจะสบายดีนะครับ ฮึๆๆ”
หมอถามผมอย่างสุภาพและส่งรอยยิ้มกว้างมาให้ สายตาพราวนั่นหันไปมองคนในอ้อมกอดผมและหัวเราะในคอออกมา นั่นจึงทำให้กวางน้อยในอ้อมกอดผมเค้ารู้ตัวครับ ผมล่ะอดจะเคืองหมอหนุ่มคนนี้ไม่ได้ครับ เพราะมิครีบลุกจากเตียงและเดินก้มหน้าไปหาเพื่อนรักอีกสองคนที่โซฟา ทำให้ไอ้เพื่อนสนิทผมทั้งสองมันลุกออกมายืนข้างเตียงผมแทน และกระบวนการตรวจร่างกายก็เริ่มขึ้นมาพร้อมการซักถามอีกชุดใหญ่ ในที่สุดหมอตัวโตสรุปออกมา
“ร่างกายของคุณไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วครับ จริงๆจะกลับวันนี้เลยก็ได้แต่ผมขอดูอาการคุณอีกวันนะครับ พรุ่งนี้ถ้าไม่มีอะไรติดขัดก็กลับบ้านได้” หมอตัวโตใส่แว่นก็สรุปให้ผมฟังยิ้มๆและเมื่อไม่มีอะไรผมกับเพื่อนก็ขอบคุณ แต่ก่อนที่หมอจะเดินออกไปก็ต้องหยุดเพราะเสียงของกัสทักขึ้น
“ขอโทษนะครับ ใช่หมอภีมเพื่อนหมอจ๋ารึเปล่าครับ” หลังคำถามจากเสียงหวานหมอภีมก็ชะงักและหันไปมองทั้งสามเพื่อนสนิทที่จับกลุ่มยืนอยู่ที่โซฟา
“ครับผมภีม คุณรู้จักหมอจ๋าด้วยเหรอครับ”
มหกรรมระลึกความหลังก็เริ่มขึ้นเท่าที่ผมจับใจความได้ก็คือไอ้หมอภีมอะไรนี่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับสามเพื่อนซี้ก็เลยคุ้นๆหน้ากัน ด้วยความที่ว่าทั้งสองคณะนี้เค้ามีบางตัวต้องเรียนด้วยกันเลยทำให้คุ้นหน้าคุ้นตา ทั้งสี่คนคุยกันอย่างออกรสจนพยาบาลที่ตามมาด้วยขอตัวออกไปรอข้างนอก ส่วนผมและไอ้วินกับไอ้ปรัชเป็นบุคคลไร้ความหมายเพราะแฟนตัวเองสนใจแต่ไอ้หมอนั่น หมอภีมมีรูปร่างพอๆกับผมและไอ้วินผิวขาวแบบคนเป็นหมอที่ไม่เจอแดดใส่แว่นแบบเด็กเรียนหน้าตาก็พอดูได้ครับ แต่นั่นมันจะยิ้มให้แฟนผมบ่อยเกินไปแล้วแถมคนของผมก็ยิ้มซะแก้มปริ ใจผมเริ่มเดือดปุดร้อนรนไม่อยากให้มิคไปใกล้ชิดแบบนั้นกับผู้ชายอื่นเลย ผมที่เตรียมจะก้าวลงจากเตียงเพื่อไปรั้งมิคกลับคืนต้องชะงักกับเสียงเปิดประตูตามมาด้วยเสียงโวยวายของไอ้ธี
“มาแล้วพวกมึง ไอ้ฟินมึงนี่เร่งกูจังไอ้ที่ซื้อมานี่มึง กิน ให้หมด เลยด้วยยย ไอ้ๆๆ ไอ้แว่นนน มึงนี่เองมึงอยู่นี่ได้ไงวะ”
ไอ้ธีที่เข้ามายังไม่ได้วางของมันก็โวยวายตามนิสัยมันแต่มันชะงักพูดยานครางก่อนหันไปชี้นิ้วใส่หน้าหมอภีมก่อนใส่คำพูดเหมือนคนที่เคยมีเรื่องกัน ไอ้หมอภีมที่ตอนแรกยังมึนงงกับเสียงของไอ้ธีกลับเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างตาพราวส่งไปให้เพื่อนผม และหัวเราะเบาๆออกมากับท่าทางของไอ้ธีที่ยังไม่ยอมเอานิ้วชี้ลงส่วนมืออีกข้างก็หิ้วของพะรุงพะรังเต็มมือ พอไอ้ธีมันรู้ตัวว่าโดนหัวเราะใส่มันทำท่าจะเค้าไปมีเรื่องกับเค้าซะงั้น แต่มนที่อยู่ข้างกันก็รั้งแขนมันไว้
“ธี มึงหยุดก่อนใจเย็นดิวะ” เสียงเรียบของมนทำเอาไอ้ธียอมอยู่นิ่งแต่ตามันแทบจะกินเลือดกินเนื้อเค้าแล้วครับ ส่วนไอ้หมอภีมนั่นมันก็ยังยิ้มไม่ขยับตัวดูท่าทาง ถ้าไอ้ธีมันมีเรื่องกับหมอภีมมันแพ้เห็นๆครับก็รูปร่างนี่คนละรุ่นกันเลย
“เอ่อ ทุกคนนี่หมอภีมเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับพวกเราน่ะ” มิคแทรกขึ้นเพื่อต้องการเปลี่ยนเรื่อง
สายตาทุกคู่ในห้องจึงจับจ้องไปที่ไอ้หมอภีมและมิคก็แนะนำให้พวกเรารู้จักกันครับ ส่วนไอ้ธีเพื่อนผมมันยังหน้าบึ้งไม่มีท่าทางจะญาติดีกับไอ้หมอภีมง่ายๆ การแนะนำตัวจบลงหมอภีมก็ขอตัวออกไปตรวจคนไข้ห้องอื่นต่อแต่ทิ้งท้ายให้ไอ้ธีแทบเต้นเลยครับ
“ผมขอตัวก่อนนะครับช่วงเย็นเดี๋ยวผมมาตรวจคุณฟินอีกรอบ และเราคงได้ ‘ทำความรู้จักกันเพิ่มขึ้น’ ให้มากกว่านี้”
ตอนไอ้หมอภีมมันพูดสายตามันไม่เคลื่อนไปจากหน้าของไอ้ธีเพื่อนผมเลยครับ และดูจะเน้นท้ายประโยคใส่หน้าไอ้ธีอีกด้วยนะนั่น เมื่อพูดจบก็หันไปทางสามคนเพื่อนสนิทที่เป็นแฟนพวกผมและก้มหัวให้ก่อนเดินออกไป
“ไอ้หมอเวรเอ้ยยยย” ไอ้ธีมันตะโกนก้องแบบไม่กลัวว่าคนที่เพิ่งออกไปเค้าจะได้ยิน
ทุกสายตาส่งไปให้ไอ้ธีครับเพราะทุกคนก็คงสงสัยเหมือนผมว่าสองคนนี้เค้าไปรู้จักกันได้ยังไง และเหตุการณ์ที่ทั้งสองเจอกันก็พรั่งพรูออกมาจากคนที่กำลังอารมณ์เสีย สรุปคือทั้งสองไปเจอกันที่ผับแห่งหนึ่งเมื่ออาทิตย์ก่อนไอ้ธีที่กำลังจีบหญิงที่มันเล็งไว้ เห็นว่ากำลังเต้นสีหญิงอยู่ดีๆก็มีไอ้หมอภีมมันมาเต้นใกล้และคว้าหญิงสาวที่มันกำลังคั่วหลุดมือมันไปแบบหน้าตาเฉย แถมก่อนไปยังยิ้มยั่วโมโหให้มันด้วยมันเลยจำหน้าไอ้หมอนั่นได้ติดตาและแค้นฝั่งหุ่นไว้ และฟ้าก็ส่งทั้งคู่มาเจอกันวันนี้ครับและผลก็เป็นดั่งเหตุการณ์ที่ผ่านไป ไอ้ธีมันเล่าไปก็ตักโจ๊กที่มันซื้อมาจ้วงเข้าปากแบบโมโหไม่รู้ว่ามันโมโหหมอภีมหรือโมโหหิวกันแน่
“คิดดูดิพวกมึงกูจะได้สอยสาวหุ่นสะบึมอยู่แล้ว แม่งมันตัดหน้ากูซะงั้นที่สำคัญยิ้มเยาะให้กูอีก คอยดูนะมึงถ้ากูเจอมันอีกกูจะซัดให้คว่ำเลย” ไอ้ธีมันยังใส่อารมณ์มือก็ใช้ช้อนกวาดโจ๊กในชามคำสุดท้ายเข้าปาก
“ฮึๆ กูว่านะธีถ้ามึงมีเรื่องกับเค้าจะเป็นมึงนั่นแหละที่จะคว่ำก่อนน่ะ” สาวมนหัวเราะในคอและเตือนสติคนไม่เจียมเพราะดูก็รู้ว่าคนละรุ่นกัน
“มน ทำไมไม่ให้กำลังใจธีล่ะ มนเป็นเพื่อนธีรึเปล่าเนี่ย” ไอ้ธีหันไปกระเง้ากระงอดกับคู่ซี้ได้สาวแตกมากในสายตาผม
แต่มันก็ทำแบบนี้กับมนแค่คนเดียวนะครับกับพวกผมมันไม่มีทางทำท่าทางแบบนี้แน่ๆ เพราะคงกลัวโดนพวกผมถีบมันก่อนจะพูดจบประโยค ผมที่ได้ฟังก็ได้แต่ขำกับท่าทางของเพื่อนสนิทหันมาทางมิคที่นั่งง่วนกับการตักโจ๊กเข้าปากไม่พูดไม่จา จึงรินน้ำใส่แก้วไปให้คนหิวจัดข้างกาย มิคเงยหน้ามามองผมและยิ้มนิดๆแก้มตุ่ยจากการเคี้ยวก่อนรับแก้วไปจิบน้ำเมื่อหมดคำ ผมก็หยิบกระดาษทิชชู่ซับมุมปากที่เลอะน้ำให้ กิริยาของผมตอนนี้คนอื่นเห็นแล้วอาจจะว่าผมเอาใจใส่แฟนจนเกินไปแต่สำหรับผมมันเป็นความเคยชินไปแล้วครับ ก็การดูแลคนรักในเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้เป็นสิ่งที่คู่รักควรทำให้กันเพราะเป็นการทำให้เค้ารู้ว่าเราอยู่เคียงข้างเค้าและเราก็คอยดูแลเอาใจใส่เค้าเพราะเค้าอยู่ในสายตาเราตลอดเวลา ก่อนที่ผมจะสร้างโลกส่วนตัวไปมากกว่านี้ก็ต้องเงยหน้าไปสนใจสาวมายที่พูดสิ่งที่ทำให้สมองของเราทุกคนทำงานหนักขึ้นมาครับ
“ธีจ๊ะ ธีเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า คือหมอภีมไม่น่าไปแย่งผู้หญิงจากธีนะเพราะหมอภีมเค้าไม่ได้ชอบผู้หญิง หมอภีมเป็น ‘เกย์’ มีแฟนเป็นผู้ชายมาตลอด หมอจ๋าเค้าเป็นเพื่อนสนิทของมายตอนเรียนมัธยมเคยเล่าให้ฟัง และทั้งคู่ตอนเรียนหมอเค้าก็เป็นเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกัน”
สิ่งที่มายพูดมันเข้าสมองของทุกคนในห้องรวมทั้งผมด้วยและพอประมวลผลสิ่งที่รับรู้ หมอภีมเป็นเกย์ดังนั้นต้องไม่ชอบผู้หญิงและไม่คิดแย่งผู้หญิงกับไอ้ธี แต่กลับเอาตัวมาพัวพันกับมันแถมก่อนออกไปยังจ้องไอ้ธีเขม็งพร้อมเอ่ยสัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะทำความรู้จักกับไอ้ธีมากกว่านี้ งั้นก็หมายความว่าที่ไอ้หมอภีมมันเล็งไว้ที่ผับคืนนั้นไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นแต่เป็นไอ้ธีเพื่อนผมงั้นเหรอ ตอนนี้ทุกสายตาหันไปมองหน้าไอ้ธีตัวแสบมันทำหน้างงๆที่ทุกสายตามองมัน ไอ้ธีหันหน้ามองคนนั้นทีคนนี้ทีแบบไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเค้ามองมันทำไม
“พวกมึงมองหน้ากูทำไมวะ” ยังหน้ามึนคิ้วขมวดมุ่นยังไม่รู้ตัว
“เฮ้อออ เพื่อนกูไม่ได้รู้ตัวเลยว่าถูกหมอรูปหล่อสนใจ” สาวมนแกล้งถอนใจและพูดยิ้มๆบอกเพื่อนคู่ซี้นิ่มๆให้มันได้รู้ตัว
“ใคร มน กูเนี่ยนะ เฮ้ยยยย พวกมึงทุกคนหยุดคิดได้เลย แม่งงง กูขนลุกหมดเลย เชี้ยยย ไอ้วิน ไอ้ฟิน มึงหัวเราะอะไร”
ไอ้ธีคนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นที่หมายตาของหมอหนุ่มมันร้อนรนทำท่าจะเป็นจะตายกับสิ่งที่เพิ่งรู้ โวยวายให้เพื่อนๆหยุดคิดหยุดหัวเราะแต่ดูท่ามันจะสายไปแล้วเพราะทั้งห้องเค้าคิดได้ก่อนเจ้าตัวซะอีก แถมไม่มีใครกลัวมันเลยครับต่างหัวเราะมันแบบไม่เกรงใจมันที่ทำอะไรไม่ได้เดินเหวี่ยงหนีเข้าห้องน้ำไปเลยครับ ผมก็สงสารมันนะครับแต่อารมณ์ตอนนี้มันขำเพื่อนมากกว่าก็ไอ้ผู้ชายโคตรเจ้าชู้ฟันหญิงมาทั่วแบบมันมาเจอดีเป็นตอใหญ่แบบหมอภีมที่ไม่รู้ไอ้หมอนั่นมันคิดยังไงมาชอบเพื่อนผมคนนี้ได้ เพราะไอ้ธีมันไม่มีท่าทางที่ชอบผู้ชายด้วยกันเลยครับผมเป็นเพื่อนมันผมรู้ครับว่ามันเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิงไม่เหมือนผมกับไอ้วินครับที่ได้ทั้งหญิงและชาย แต่ใครจะรู้ล่ะครับเพราะถ้าฟ้าลิขิตคู่มาให้แล้วเราก็เลี่ยงไม่ได้หรอกครับ และผมคงต้องรอดูว่าไอ้ธีมันจะมี ‘เมีย’ หรือมันจะมี ‘สามี’ เป็นตัวเป็นตนกันแน่
....................................................................
ความสงบกลับมาสู่ห้องพักคนป่วยอย่างที่ควรจะเป็นเมื่อบรรดาเพื่อนๆผมกลับกันไปแล้ว และตอนนี้มิคก็กำลังคุยกับคุณตาที่โทรเข้าเครื่องผมแต่ขอสายคนรักผมซะงั้นไม่ยอมคุยกับหลานตัวเองแบบผมครับ ก็นั่นน่ะหลานรักคนใหม่เลยล่ะครับ ตอนที่ผมมีปัญหากับมิคท่านก็รู้นะครับแต่ไม่ได้รู้ถึงรายละเอียด ท่านไม่ได้ซักถามผมว่าเกิดอะไรขึ้นแค่เตือนสติและให้กำลังใจเท่านั้น มาตอนนี้เมื่อเราเข้าใจกันก็คงมีเรื่องต้องพูดกับหลานรักมากหน่อยเพราะทั้งสองคนไม่ได้เจอกันนาน จริงๆผมจะต้องพามิคไปหาท่านอย่างน้อยอาทิตย์ละสามครั้งครับ เนี่ยท่านก็ไม่ได้เจอมิคมาเป็นเดือนคงมีเรื่องต้องคุยกันมากหน่อย มิคก็ถูกผมจับมานั่งพิงอกระหว่างที่คุยกับคุณตา ส่วนผมก็เปิดทีวีดูภาพเป็นเพื่อนแต่เสียงทีวีแทบไม่ได้ยินเลยครับ ก็ผมน่ะได้ฟังเสียงใสๆที่อกก็พอแล้วครับ
“Rrrr Rrrrr.......” เสียงโทรศัพท์ของมิคที่อยู่ข้างเตียงดังขึ้น
ผมมองหน้าเจ้าของเครื่องที่เงยมาสบตาผมและส่งสัญญาณบุ้ยใบ้ให้ผมหยิบมาให้ ผมก็ตามใจที่รักหยิบมาเห็นชื่อคุ้นๆที่เหมือนเป็นของไอ้ผู้ชายที่เรียนคณะเดียวกับมิคน่ะครับ ผมจึงยื่นโทรศัพท์ไปให้เจ้าของเค้าเห็นว่าเป็นใครโทรมา มิคที่พอเห็นชื่อไอ้นี่ก็ตาโตรีบขอตัววางสายจากคุณตาและกดรับทันที ซึ่งกิริยาแบบนี้มันขัดใจผมมากเลยครับจนอยากแย่งโทรศัพท์จากมือขาวๆนั่นมากดสายทิ้งเลยแต่ผมก็ทำอย่างที่ใจคิดไม่ได้ ทำได้แต่เงี่ยหูฟังว่ามิคคุยอะไรกับไอ้หมอนั่นบ้าง
“มิคขอโทษต้นด้วย มิคลืมไปเลยว่านัดต้นไว้ คือมิคว่าเฝ้าคนป่วยน่ะ” มิคที่พิงอกผมก็เงยหน้ามามองและยิ้มนิดๆที่เห็นผมหน้าบึ้ง
“อืมๆ ขอโทษนะเดี๋ยวเราค่อยนัดกันใหม่แล้วกัน....ครับ ขอโทษอีกทีนะ...บาย” มิคกดว่างสายและเงยหน้ามายิ้มหวานให้ผมและซบหน้ากับอกผมแทนการอธิบาย
“มิคครับ มิคมีอะไรจะบอกฟินมั้ยครับ” ผมที่ทนไม่ได้จึงต้องเอ่ยปากกระตุ้นให้คนรักพูดออกมา
“ฟินต่างหากมีอะไรจะถามมิคก็ถามมา เคยบอกแล้วนะว่ามีอะไรให้ถาม” มิคเงยหน้ามายิ้มยักคิ้วให้ผม หน้าแบบนี้มันน่าฟัดมากกว่าน่าถามแล้วครับ แต่ผมต้องห้ามใจเพราะใจก็อยากรู้ว่ามิคไปนัดไอ้หมอนั่นทำไม
“ครับๆ ฟินยอมแล้ว ไอ้ต้นนั่นมันโทรมาทำไมแล้วนัดอะไรกันไว้ครับ” ผมพยายามทำเสียงเข้มถามให้คนน่ารักเค้ากลัวจะได้รีบตอบสิ่งที่ผมอยากรู้ออกมา
“ฮิๆๆ ก็แค่ถามออกมามิคไม่ปิดฟินหรอกที่มิคไม่บอกฟินเพราะคิดว่ามันไม่สำคัญไม่มีอะไรจริงๆเลยไม่บอก เฮ้ออ ต้นอยากให้มิคช่วยดูเรื่องสถิติของงานวิจัยน่ะวันนี้มิคนัดไว้ว่าจะไปช่วยดูให้ แต่มิคปฏิเสธไปแล้วล่ะว่าต้องเฝ้าไข้คนป่วยไปไม่ได้” พูดจบมิคก็เงยหน้ามาส่งยิ้มหวานให้ผมก่อนที่จะหันไปเร่งเสียงการ์ตูนเรื่องโปรดที่ฉายทางเคเบิล
ดูท่าหมอนั่นมันคงไม่สำคัญสำหรับมิคจริงๆครับเพราะเมื่อมิคพูดจบก็ซบอกผมดูการ์ตูนอย่างจดจ่อ ไม่สนใจคนที่พลีอกให้ซบแบบผมด้วยซ้ำ แต่ผมจะวางใจไม่ได้ผมต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อไม่ให้ไอ้ต้นนั่นมันมายุ่งกับมิคอีกหรืออย่างน้อยก็ให้รู้กันไปเลยว่ามิคมีผมเป็นเจ้าของตัวและหัวใจอยู่แล้วให้มันเลิกหวังลมๆแล้งๆซะที ให้มันอย่าได้คิดหวังในตัวมิคอีก
...............................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^3^
ตอนนี้ทั้งคู่หวานกันเบาๆให้คนอ่านอิจฉาเล่น ฮุๆๆ และฟินหวงมิคเป็นเรื่องปกติ^^
ส่วนเนื้อคู่นายธีก็ได้ออกโรงแล้วค่ะและคิดว่าจะแต่งคู่นี้แยกเรื่องออกมา(แต่ยังไม่ได้แต่ง)
ตอนหน้ามีฉากเรียกเลือดนิดหน่อยสำหรับคนที่รอคอย ^/////^ และคุณตามาตอนหน้า
มีเซอร์ไพรส์หลานสะใภ้ด้วยค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ
ปล.+1ให้ทุกเม้นแล้วจ้า เหมือนคนอ่านเดิมๆหายไปเนอะ TT^TT ฝากอ่านและเม้นท์ให้ด้วยนะคะ
เจอกันอีกทีวันปีใหม่ค่ะ ใครจะหนีเที่ยวรายงานตัวหน่อยจ้าและขอให้เที่ยวให้สนุกเที่ยวเผื่อกันบ้างนะคะ
Happy New Year ล่วงหน้าค่ะ