KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)  (อ่าน 26771 ครั้ง)

ออฟไลน์ cybershot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
แล้วผมกับพี่เขมก็รีบวิ่งลงไปที่ห้อง พี่เขมรีบอาบน้ำแต่งตัวไปบินครับ ผมจัดกระเป๋าให้พี่เขมแล้วก็ไม่ลืมที่จะหยิบหมวกนักบินพี่เขมมาเตรียมไว้ให้ด้วยครับ ผมแอบเห็นรูปในหมวกของพี่เขมครับ ในหมวกนั้นโดยปกติที่ผมเห็นจะเป็นรูปที่พี่เขมฝึกบินเดี่ยวครั้งแรกครับ เป็นรูปน่าจะเกือบ 10 ปีก่อนแล้ว แต่ตอนนี้รูปได้ถูกเปลี่ยนไปแล้ว มันเป็นรูปที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ในรูปประกอบไปด้วยป๊า แม่ พี่เขม แล้วก็ผม ใส่ชุดยูกาตะแล้วถ่ายรูปด้วยกัน ผมแอบดึงรูปนั้นออกมาแล้วเขียนกะว่าจะเขียนข้อความไว้ด้านหลังรูปซะหน่อย แต่ผมก็เห็นข้อความที่เขียนว่า “Family trip with my Boo” แค่ผมเห็นข้อความนี้ผมก็แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวแล้วครับ... ผมรีบจับรูปยัดใส่ที่เดิม แล้วเร่งพี่เขม

บี : พี่เขม อีก 15 นาทีแล้วนะพี่ ออกจากห้องน้ำได้แล้ว

พี่เขม : อย่าเร่งดิ...นี่ก็รีบที่สุดแล้วเนี่ย

พี่เขมวิ่งออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพลูกหมาตกน้ำมากครับ...น้ำเต็มตัวไปหมด ผมเลยเอาผ้าขนหนูมาเช็ดหัวให้พี่เขมก็เช็ดตัวไปเรื่อย ๆ พอเช็ดตัวเสร็จผมจับพี่เขมนั่งลงแล้วเป่าผมให้ พี่เขมก็บ่นออกมา

พี่เขม : บีครับ...จะไม่ทันก็ตอนนี้แหละ

บี : ก็ผมไม่แห้งเด๋วไม่สบายอ่ะ อ่า ๆ เสร็จแล้วขอทาครีมหน่อย

พี่เขม : ยังจะทาอีกกกกกกก

บี : ซื้อมาให้เนี่ยเคยใช้เองบ้างไม๊ ถ้าผมไม่ทาให้มันก็คงจะหมดอายุคากระเป๋าเลยใช่มะเนี่ย....โดนแดดก็แรงกว่าชาวบ้านแล้ว ทาหน่อยนะ คนซื้อจะได้ดีใจ

พี่เขม : ค๊าบบบบ...เสร็จยังเนี่ย

บี : อ่าแต่งตัวได้

พี่เขมรีบแต่งตัวอย่างเร็ว ดีนะครับที่นักบินไม่ต้องทำผม แค่ใส่ทุกอย่างให้ครบก็พอ หลังจากแต่งตัวเสร็จพี่แกก็ติดเกียร์หมาวิ่งลงไปทันทีเลยครับ เรื่องเวลาสำหรับอาชีพทำงานบนฟ้าอย่างผมกับพี่เขมเนี่ยถือเป็นสิ่งสำคัญมากเลยครับ การตรงต่อเวลาของพวกเราเนี่ยแทบจะนับกันเป็นนาทีเลยนะครับ บ่อยครั้งที่ลูกเรือและนักบินจะนัดกันเวลารถออก จะใช้คำว่า ล้อหมุนครับ คือถ้านัดกันจะนัดกันอย่างเช่นว่า เด๋วล้อหมุน 07:35 นะ นาที 35 ล้อหมุนใครไม่มา ไม่รอ เป็นต้นครับ มันเลยทำให้อาชีพของพวกเราเคร่งครัดเรื่องเวลาเป็นที่สุดครับ

พอพี่เขมออกจากห้องไปผมก็เก็บข้าวของทุกอย่างแล้วก็ไปหาป๊ากับแม่ที่ห้องครับ ป๊ายิ่งคำถามแรกเลยครับเมื่อเห็นหน้าผม

ป๊า : เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนเหรอลูก เล่าให้ป๊าฟังได้ไม๊

แม่ : นั่นสิลูก...ทะเลาะกันเหรอลูก

บี : ป่าวหรอกคับแม่ ป๊า พี่เขมงอแงนิดหน่อยอ่ะครับ ไม่อยากให้ผมไปเรียนต่อ

ป๊า : ไอ้เขมเนี่ยนะ...มันมานั่งร้องไห้เพราะบีไปเรียนต่อ

แม่ : ดูไม่ใช่เขมเลยนะป๊า

ป๊า : มันทำอย่างกับจะต้องเลิกกันงั้นแหละ

ผมไม่ได้ตอบอะไรป๊ากับแม่ไปครับ...ผมกลัวว่าเรื่องจะไปกันใหญ่ พี่เขมก็น่าจะยังไม่ได้บอกป๊ากับแม่ว่าผมจะเลิกกับพี่เขม ถ้าผมไปเรียนต่อ ป๊ากับแม่คงจะต้องเกลียดผมเป็นแน่ถ้ารู้ว่าผมไปหักอกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเค้า

ในช่วงเช้าผมพาป๊าและแม่ไปจิบกาแฟแล้วก็กินติ่มซำเป็นอาหารเช้าครับ แล้วเราก็พากันกลับกทม. ในตอนสาย ๆ พอถึงสนามบินป๊ากับแม่ก็ขับรถมาส่งผมที่คอนโดครับ แล้วป๊ากับแม่ก็กลับบ้านไป ผมกลับเข้ามาในคอนโดแล้วก็พบกับความว่างเปล่า ผมรู้สึกใจหายทุกครั้งที่กลับมาที่ห้องผมแล้วห้องโล่งจนผิดหูผิดตา ผมนั่งลงบนโซฟาแล้วก็มองสำรวจห้องผมไปรอบ ๆ ในหัวผมคิดแค่สองเรื่องครับตอนนี้ คือเรื่องพี่เขมและเรื่องของคอนโด ส่วนเรื่องอนาคตของการที่จะไปออสเตเรียในอีกไม่กี่สัปดาห์นั้น ผมปล่อยให้มันเป็นไปตามยถากรรมครับ ผมนึกขึ้นได้ว่าอีกไม่กี่วันก็จะวาเลนไทน์แล้ว ผมยังไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรให้กับพี่เขมเลยครับ ผมจึงจะออกไปห้างเพื่อหาซื้ออะไรให้กับพี่เขมในวันสำคัญนี้ซักหน่อย แต่ก่อนที่ผมจะออกห้องไปนั้นโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นครับ พี่เก่งโทรหาผม

พี่เก่ง : ไอ้หนูน้อย พี่เก่งนะ ทำไรอยู่เมิง

บี : สวัสดีครับพี่เก่ง ผมเพิ่งกลับมาจากภูเก็ตครับพี่

พี่เก่ง : วันที่ 14 นี้ไปเดทกับไอ้เขมที่ไหนป่าว ร้านที่พี่เล่นอยู่เค้ามีปาตี้ มาป่าว ๆ

บี : แหนะ...ขาดมือกลองสินะเลยอยากให้ผมพาพี่เขมไปด้วยอ่ะ

พี่เก่ง : ทำมาเป็นรู้ทัน....เออกรูยอมรับก็ได้

บี : แล้วทำไมรับงานวันวาเลนไทน์อ่ะพี่

พี่เก่ง : ก็กรูโสดนี่หว่า...

บี : แล้วเพื่อน ๆ พี่ไม่ว่ากันเหรอ ไอ้พี่เขมโวยวายแน่ถ้าต้องไปเล่นดนตรีวันนี้อ่ะ

พี่เก่ง : ก็นี่ไงกรูเลยต้องใช้แผนนี้

บี : แล้วคนอื่นหละพี่ยอมไปเหรอ

พี่เก่ง : กรูก็ให้มันพาแฟนมากินข้าวที่ร้านไง แล้วก็ให้มันเล่นเพลงให้แฟนมันฟัง โรแมนติกจะตายเห็นมะ...กรูช่วยคิดเซอร์ไพรส์แฟนให้พวกมัน

บี : เฮ้ยพี่...พี่ช่วยผมเซอร์ไพรส์พี่เขมหน่อยดิ

พี่เก่ง : อยากได้ยังไงไอ้หนูน้อย เด๋วพี่จัดให้

บี : ผมร้องเพลงคงจะพังมาก อ่ะพี่ ทำไรดีหละ

พี่เก่ง : แล้วเมิงทำไรได้บ้างหละ ฟ้อนชาวเหนือไม๊

บี : ไอ้พี่เก่งบ้า...จะฟ้อนได้ไงฟระ

พี่เก่ง : อ่าวก็เห็นอยู่เชียงใหม่ ก็ต้องฟ้อนได้ดิ

บี : เอาดี ๆ ดิพี่ ช่วยผมคิดหน่อย

พี่เก่ง : งั้นไปคุยกะไอ้มิ่ง ให้มันช่วยสอนร้องเพลงหรือคุมเสียงให้ไม๊หละ จะทันไม๊เนี่ย

บี : พี่เก่ง มันจะล่มป่าวฟระ...ให้ผมไปร้องเพลงเนี่ย

พี่เก่ง : แล้วคิดอะไรมากกว่านี้ออกไม๊หละ

บี : หึ...คิดไม่ออกเลยพี่

พี่เก่ง : มีเบอร์ไอ้มิ่งไม๊

บี : ไม่มีครับพี่ขอหน่อย ๆ

พี่เก่ง : เด๋วส่งให้ทางไลน์ละกัน แล้วก็รีบไปฝึกซะหละ แล้วรู้รึยังอยากได้เพลงอะไร

บี : ผมมีในใจอยู่แล้วครับพี่

พี่เก่ง : ไอ้หนูน้อย...เมิงนี่มันร้ายเหมือนกันนะเนี่ย

บี : แหม่...พี่เก่ง ทำให้พี่เขมทั้งที ผมก็อยากให้พี่เขมเซอร์ไพรส์หนิคับ

พี่เก่ง : เมิง 2 คนเนี่ย รักกันขนาดนี้ แล้วเมิงยังจะไปเรียนต่อไกล ๆ อีกเหรอฟระ

บี : ผมต้องทำครับพี่เก่ง

พี่เก่ง : เมิงนี่มัน...มีความคิดไม่เหมือนชาวบ้านเลยจริง ๆ นะ ไม่เคยจะมีใครเดาถูกเลย...ถึงว่าไอ้เขมมันถึงได้หลงเมิงนัก

บี : แหม่พี่...ไม่ใช่แค่พี่เขมนะ...พี่ก็หลงผมแล้วด้วยใช่ป่ะ....(ผมกวนตีนไอ้พี่เก่งบ้าง)

พี่เก่ง : ให้มันน้อย ๆ หน่อย กรูชอบผู้หญิงมีนมเว้ย...

บี : เออผมรู้หน่า....พี่เก่ง...ยังไงผมก็รักพี่เหมือนพี่จริง ๆของผมเลยนะ ถ้าพี่มีอะไรไม่สบายใจ คุยกับผมได้ทุกเรื่องเลยนะพี่

พี่เก่ง : อย่ามาอ่อยกรูซะให้ยาก...

บี : เฮ้ย..ผมพูดจริงจังเว้ย

พี่เก่ง : เออ....กรูรู้แล้วหน่า จะให้กรูคุยกะเมิงได้ไงอีกหละ เมิงจะไปเรียนต่อแล้ว

บี : ที่ออสเตเรียมีโทรศัพท์เหมือนที่ไทยนะพี่ รู้ยัง

พี่เก่ง : ไอ้สัสนี่....กรูรู้แล้ว กวนตีนนักนะเมิง เด๋วไม่ช่วยเลยหนิ

บี : ขอโทษค๊าบบบบบบบบบ

พอวางสายจากพี่เก่ง ผมก็รีบเปิดไลน์เพื่อเอาเบอร์โทรศัพท์โทรหาพี่มิ่งทันที ผมเนี่ยไม่ได้สนิทอะไรมากมายกับพี่มิ่งเลยครับ แค่เคยไปกินเหล้าเม้ามอยด้วยกัน 2-3 ครั้งแค่นั้นเอง ผมก็แอบเกรงใจอยู่หน่อย ๆ แต่ตอนนี้ ไม่ได้ละครับ ต้องทำให้ได้แล้วครับ  ผมโทรไปคุยกับพี่มิ่งเรื่องเพลงที่ผมอยากจะร้องให้พี่เขมในวาเลนไทน์ ซึ่งพี่มิ่งก็เห็นด้วยครับกับเรื่องเพลงนี้ พี่ ๆ ปรับโน๊ตต่าง ๆ ให้ผมได้ร้องเพลงง่ายขึ้น พูดง่าย ๆ ว่าน่าจะปรับลงอย่างน้อย ๆ 1 อ็อกเทฟครับ ผมไปฝึกที่ร้านที่พี่ ๆ เค้าชอบไปฝึกดนตรีกันครับ มีพี่มิ่งกับพี่เก่งมาช่วย เราไปฝึกกันตอนหลังจากที่พี่ ๆ เค้าเลิกงานครับ ผมกับพี่ ๆ เค้าฝึกจนค่ำแล้วผมก็ขอตัวกลับเพื่อไปอ้อนพี่เขมต่อ เด๋วจะว่าผมหายไป

พอฝึกเสร็จผมก็รีบโทรหาพี่เขมทันทีเลยครับ แล้วพี่แกก็ไม่รับโทรศัพท์ ผมเปิดดูในไลน์ก็ไม่มีการติดต่อใด ๆ จากพี่เขมครับ...มันเลยทำให้ผมเริ่มจะกังวลใจแล้วครับ พี่แกไปบินตั้งแต่เช้า น่าจะแลนมาบ่าย ๆ แล้วแต่ตอนนี้มัน 2 ทุ่มกว่า ๆ แล้วทำไมไม่มีการติดต่อจากพี่เขมเลย แล้วทันใดนั้นแม่พี่เขมก็โทรมาครับ

แม่พี่เขม : บีก๋าลูก...

บี : ครับแม่...สวัสดีครับ

แม่พี่เขม : อันนนนน.....อ้ายเขมบะสบายอ่ะลูก แม่ว่าจะปาอ้ายเขมไปโรงพยาบาลเหี่ยน้อย แม่เลยโทรมาบอกลูกบีก่อน(เออออ...พี่เขมไม่สบายอ่ะลูก...แม่ว่าจะพาพี่เขมไปโรงพยาบาลหน่อย...แม่เลยโทรมาบอกลูกบีก่อน)

บี : แล้วมะเด่วนี้อยู่ไหนกั๋นคับ(แล้วตอนนี้แม่อยู่ไหนกันครับ)

แม่พี่เขม : มีบ้านกั๋นเนี่ยกะ ป๊าออกไปตางนอกยังบ่ปิ๊กมาเลยลูก (อยู่บ้านเนี่ยแหละ ป๊าออกไปข้างนอกยังไม่กลับมาเลยลูก)

บี : อั้นฮื้อผมไปส่งอ้ายเขมบ๋อคับ ผมอยู่บะไกล๋จากบ้านแม่นักคับ (งั้นให้ผมไปส่งพี่เขมไม๊ครับ ผมอยู่ไม่ไกลจากบ้านแม่ครับ)

แม่พี่เขม : อั้นซั่มดีกะลูก...ค่ำละแม่ต๋าบะก่อยดีหันบะก่อยถี่ (ยิ่งดีสิลูก..ค่ำแล้วแม่ตาไม่ค่อยจะดี มองไม่ค่อยจะเห็นทาง)

บี : ได้คับแม่ เด่วผมฟั่งไปนะคับ (ได้ครับแม่ เดี๋ยวผมรีบไปครับ)

ผมรีบขับรถไปที่บ้านพี่เขมทันที...คงจะเพราะเมื่อคืนพี่แกดราม่าหนักไปหน่อยแล้วก็ไม่ค่อยได้นอนแล้วไปบินอีก เจออากาศร้อน ๆ เย็น ๆ แล้วเมื่อคืนก็ไปนอนดูดาวตากน้ำค้างอีก สงสัยพี่เขมคงจะเหนื่อยทั้งกายและเหนื่อยทั้งใจแหละครับ...ผมนี่สงสารแฟนผมจับใจ พอผมขับรถไปถึงบ้าน ผมก็พาพี่เขมขึ้นรถไปในทันที ตัวพี่เขมร้อนหน่อย ๆ ครับ น่าจะมีไข้ ผมถามแม่ว่าพี่เขมกินยาไปบ้างรึยัง แม่บอกว่ากินพาราไปแล้วแต่ก็นอนอย่างเดียวตั้งแต่กลับมาจากไปบิน

พอมาถึงโรงพยาบาล ก็พบหมอตามปกติครับ แต่วันนี้โชคดีไม่เจอหมอคิตแล้ว น่าจะออกเวรไปแล้วครับ หมอสอบถามอาการจากพี่เขมแล้วก็กำลังจะจ่ายยาครับ แต่พี่เขมขัดเอาไว้ก่อน

พี่เขม : หมอครับ ผมไม่อยากกินยาอ่ะครับ

หมอ : อ่าวไม่กินแล้วจะหายได้ไงหละคุณคนไข้

พี่เขม : ฉีดยาได้ไม๊ครับหมอผมอยากหายเร็ว ๆ

บี : เฮ้ย...พี่เขม เอาจริงดิ ไหนบอกกลัวเข็มไง

หมอ : ฉีดก็ได้นะครับ ถ้าฉีดวันพรุ่งนี้ก็วิ่งได้เลย

พี่เขม : งั้นผมขอฉีดยานะครับหมอ ผมกลัวไปฉลองวาเลนไทน์กับแฟนไม่ได้ (แล้วพี่เขมก็ยื่นมือมากุมมือผมไว้)

ผมนี่อายม้วนหน้าหนีหมอทันทีเลยครับ ไอ้คนป่วยที่จับมือผมเนี่ยทำหน้าตายใส่หมอมาก หมอทำหน้าตกใจนิดหน่อยแล้วก็ขำออกมา

หมอ : เออ...อีก 2 วันก็วาเลนไทน์แล้วหนิเนอะ

พี่เขม : นะครับหมอ...ผมขอฉีดเถอะ

หมอ : งั้นก็ตามใจครับ แต่ถ้าอีก 2 วันไม่ดีขึ้นต้องกลับมาให้หมอตรวจใหม่นะครับ

พี่เขม : ไม่มีปัญหาครับหมอ

แล้วหมอก็จัดแจงเรียกพยาบาลมาฉีดยาให้พี่เขมครับ

พยาบาล : เออ...ญาติคนไข้รอข้างนอกก็ได้นะคะ เด๋วจะฉีดยาให้กับคนไข้แล้วค่ะ

พี่เขม : แฟนผมครับคุณพยาบาล...ขอให้แฟนผมอยู่ด้วยได้ไม๊

พยาบาล : เด๋วฉีดที่ก้นนะคะ

พี่เขม : ไม่เป็นไรครับ...ผมขอแค่แฟนผมอยู่ใกล้ ๆ ก็พอ ผมกลัวเข็มอะครับ

บี : นะคับคุณพยาบาล...

พยาบาล : ค่ะ ๆ ก็ได้ค่ะ

พี่เขมนอนคว่ำลงแล้วก็ปลดกางเกงลงไปเพื่อจะให้พยาบาลฉีดได้ พี่เขมดึงมือผมไว้แล้วก็ส่งสายตาเหมือนจะขึ้นแท่นโดนเชือด

พี่เขม : พี่ขอกัดหน่อยนะ...

ผมพยักหน้าเป็นการตอบรับ พี่เขมกัดมือผมเบา ๆ เหมือนกับครั้งที่แล้วที่โดนฉีดยาตอนพี่เขมเจ็บหลัง แล้วพยาบาลก็ให้นอนพักในห้องนั้นก่อน 15 นาทีเพื่อดูอาการว่ามีอาการแพ้หรือผลข้างเคียงใด ๆ รึเปล่า ระหว่างที่เรารอนั้นพี่เขมก็ถามผมขึ้นมา

พี่เขม : บีครับไปไหนมา พี่แลนตั้งนานแล้วไม่เห็นโทรหาพี่เลย

บี : ไปทำธุระเรื่องคอนโดนิดหน่อยอ่ะพี่ แล้วก็กินข้าว

พี่เขม : หนิดูดิ...ถ้าไปเรียนต่อแล้วใครจะดูแลพี่ได้ดีอย่างนี้อีกเนี่ย

บี : แหม่ๆ ๆ อ้อนจังนะเรา

พี่เขม : ใครจะยอมให้พี่กัดตอนพี่ฉีดยาเนี่ย

บี : แล้วทำไมวันนี้ถึงยอมฉีดยาได้หละ

พี่เขม : ก็ถ้าฉีดยาแล้วจะได้หายเร็ว ๆ หาเรื่องซิกวันพรุ่งนี้ด้วยไง

บี : เหย....ทุ่มทุนขนาดนั้นเลย

พี่เขม : บีครับ วันวาเลนไทน์ อยากไปไหนรึป่าว

บี : ไปกินข้าวร้านที่พี่เล่นดนตรีประจำกันไม๊พี่ พี่เก่งชวนมา

พี่เขม : ไม่อยากอยู่ด้วยกัน 2 คนเหรอ

บี : แหม่ ๆ ๆพี่เขม เราก็อยู่ด้วยกันทุกวันไง มะวานผมก็ไปหาพี่ที่ภูเก็ตละนะ

พี่เขม : น่ารักอ่ะ...พี่ดีใจสุด ๆ ไปเลยนะรู้ไม๊ ป๊ากับแม่ถึงจะเหนื่อยแต่ป๊าก็บอกว่าสนุกดีนะ แม่ก็บอกว่าชอบ

บี : เออ...พาป๊ากับแม่ไปยากลำบากกลัวโดนด่าจริง ๆ เลยพี่

พี่เขม : ไม่หรอก...ป๊ากับแม่ชอบเที่ยวจะตาย

บี : งั้นไปร้านนั้นกันนะพี่

พี่เขม : ก็ได้ครับที่รัก...ว่าแต่...ไอ้เก่งต้องใช้พี่ไปเล่นดนตรีแน่เลย

บี : จะรอดเหรอ

พี่เขม : แต่พี่ป่วยอยู่นะ...เล่นดนตรีไม่ได้

บี : ไปเคลียกันเอง...เรื่องนี้ บี จะ ไม่ ยุ่ง

แล้วผมก็พาพี่เขมกลับบ้านครับ แม่กับป๊าดูโล่งใจมากเพราะพี่เขมกลับมาบ้านแล้ว กระปี้กระเป่ามาก...มีความดีดอยู่สูง เหมือนพี่แกจะได้นอนตอนบ่าย ๆ มาเยอะ กว่าเราจะกลับมาถึงบ้านก็ 4 ทุ่มกว่า ๆ แล้วครับ พี่เขมก็บ่นว่าหิวข้าว วันนี้ผมไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามานอนกับพี่เขมซะด้วยสิครับ ป๊ากับแม่ก็กำลังจะขึ้นไปนอนแล้ว พี่เขมก็เลยชวนผมให้ไปนอนที่คอนโดพี่เขมแทน ป๊ากับแม่ก็ไม่ว่าอะไรครับ ระหว่างทางผมก็ถาม

บี : พี่อยากกินอะไร

พี่เขม : อะไรก็ได้ที่บีทำ

บี : โหย มันดึกแล้วนะเนี่ย หาอะไรกินง่าย ๆ แถวคอนโดเอาไม๊พี่

พี่เขม : ไม่เอา...พี่อยากกินที่บีทำ

บี : ที่ห้องก็ไม่น่าจะมีอะไร แล้วไปซื้อตอนนี้ตลาดไหนจะมีของสดขายเนี่ย

พี่เขม : พี่ป่วยอยู่นะ แฟนก็ต้องตามใจดิ

บี : อ่าๆ ๆ ๆ แล้วไปหาของสดได้ที่ไหนเนี่ย

พี่เขม : ก่อนถึงทองหล่อมี foodland อ่ะ ที่นั่นได้มะ

บี : ก็ได้แต่ของแม่งแพงง่ะ

พี่เขม : นะนะนะนะ ตามใจพี่หน่อย

บี : อ่าๆ ๆ แล้วอยากกินไรหละคับ ผมจะได้ลงไปซื้อของถูก

พี่เขม : เห็นตอนเช้าพาป๊ากะแม่ไปกินติ่มซำเหรอ

บี : อย่าบอกนะว่าอยากกินบ้างอ่ะ

พี่เขม : บีทำเป็นไม๊อ่า...พี่อยากกิน

บี : ไปกินโชคดีติ่มซำแทนไม๊

พี่เขม : ไม่เอาาาาาาา...บีทำเป็นไม๊

บี : เอาหน้าเดียวละกันนะจะได้ซื้อของไม่เยอะ...เอาไรปู หรือกุ้ง

พี่เขม : ขอกินขนมจีบกุ้งแน่น ๆ เลยนะ ขอบคุณคับที่รัก

บี : อ่าๆๆ  รอหน่อยละกันมันไม่ได้ทำแป๊ปเดียวเสร็จนะ

พี่เขม : นานเท่าไหรพี่ก็จะรอ....ต่อให้หิวตายก็ยอม

บี : งั้นพี่รอในรถนี่แหละเด๋วผมลงไปซื้อของแป๊ปนึงเด๋วมา...อยากกินไรไม๊ตอนเช้าจะได้ซื้อทีเดียวเลย

พี่เขม : อะไรก็ได้แล้ว กินขนมจีบตอนเช้าอีกก็ได้นะ พี่ชอบกิน

บี : เออดี...จะได้ทำทีเดียวเด๋วตอนเช้าต้มโจ๊กให้กินอีกอย่างก็พอละเนอะ

พี่เขม : เย้ ๆ แฟนน่ารักที่สุดเลย

บี : อ้อนเป็นเด็กเลยนะ...ไอ้เด็กโข่ง

ผมลงไปซื้อข้าวของเตรียมให้พี่เขมครับ โหย ๆ ๆ ของแพงกว่าตลาดเยอะเลยครับ ผมนี่ลมแทบจับคือถ้าไปกินขนมจีบน่าจะเข่งละไม่เกิน 30 บาท แต่นี่แม่งมันต้องซื้อทุกอย่างทำใหม่หมดเลยเพราะผมก็ไม่รู้ว่าห้องพี่เขมมีไอ้ที่ผมต้องการด้วยรึป่าวผมเลยต้องซื้อทุกอย่างให้ครบ มันเลยยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วครับ ผมเลยซื้อมาชุดใหญ่เลย เด๋วพรุ่งนี้ทำให้ไปเผื่อคนอื่น ๆ ด้วยเลย เผื่อป๊าเผื่อแม่ เผื่อเพื่อน ๆ พี่เขม เด๋วใช้พี่เขมนั่งปั้นขนมจีบตอนเช้า ทำเป็นโรงงานนรกแม่งเลย
กว่าจะกลับมาถึงห้องปาเข้าไปก็เกือบ 5 ทุ่มแล้วครับ ผมก็ต้องมาทำไส้ขนมจีบทำน้ำจิ้มสูตรเด็ดของผมอีก ผมรีบทำที่สุดเท่าที่จะทำได้กว่าจะเสร็จก็ปาไปจะเที่ยงคืนกว่า ๆ แล้วครับ ส่วนพี่เขมทำอะไรรู้ไม๊ครับ....นางนั่งเล่นเกมมือถือ ตี ROV รอผมครับ ไม่หลับไม่นอน...เล่นเกมสบายใจเฉิบ ปล่อยให้ผมที่ตื่นเช้าพอ ๆ กับมันแล้วก็พาป๊ากับแม่กลับมากทม. ไปซ้อมร้องเพลงแล้วก็ต้องมาทำอาหารตามบัญชาของพี่แกไปอีก ตาผมก็จะปิดแล้วครับ พอทำเสร็จ ผมมีความภาคภูมิใจมาก เพราะผมเริ่มทำทุกอย่างจากวัตถุดิบเลยครับ ไม่มีอะไรซื้อมาแบบสำเร็จซักกะอย่างเดียว นอกซะจากแผ่นเกี๊ยวห่อขนมจีบ ที่เหลือผมทำเองหมดแม้แต่น้ำจิ้ม พอทำเสร็จผมยกไปให้พี่เขมกินด้วยสภาพผมที่พังมาก ๆ แต่หน้าตาของขนมจีบออกมาดีมาก ๆ ครับ ผมหั่นขนมจีบออกแบ่งครึ่งแล้วเป่าให้หายร้อน บรรจงป้อนไอ้เด็กโข่งที่กำลังตี ROV อย่างไม่สนใจแฟนมันเลย แต่พอมันเข้าปากไปเท่านั้นแหละครับ...ไอ้เด็กโข่งวางมือถือทันทีแล้วก็ส่งสายตาเป็นประกาย โอมายคอมบุ(การ์ตูนบอกอายุอีกแล้วครับ) ให้กับผมทันที พี่เขมกินไม่หยุด ชมไม่หยุดปาก ทั้งน้ำจิ้มที่มีพริกและขิงดองลอยอยู่ให้รสชาติที่แปลกไปกว่าน้ำจิ้มขนมจีบอื่น ๆ ครับ

พี่เขม : บี...พี่พูดจริง ๆ นะ ไม่ต้องไปเรียนละเหอะ airline business อ่ะ ทำอาหารขายเหอะ หรือไม่ก็ไปเรียนทำอาหารให้มันจริงจังไปเลย

บี : ไม่ได้หรอกพี่....มันไม่ใช่ความฝันผม

พี่เขม : แต่แม่งอร่อยมากอ่ะ...นี่ทำได้ไงเนี่ย

บี : ความฝันผมคือผมอยากทำให้แฟนกินเท่านั้นครับ ไม่เอาไปขายให้คนอื่นกิน

พี่เขม : หวานก็เป็นนะเนี่ยเรา....ช่วงนี้ดูรักพี่จังเนอะ

บี : ผมก็รักพี่ตลอดแหละ...แต่ช่วงนี้มีคนงอแงหนักไปหน่อยเลยต้องเอาใจมาก ๆ

พี่เขม : เบื่อพี่ไม๊...พี่งี่เง่าไปหน่อย พี่ขอโทษนะ

บี : ผมเต็มใจทำให้พี่ทุกอย่างนะพี่เขม....ไม่มีวันไหนที่ผมอยู่กับพี่แล้วผมไม่มีความสุข....

พี่เขม : อย่าพูดอย่างงี้ดิ...พี่จะร้องไห้อีกแล้วนะ

บี : โอ๋ๆ  ๆ ๆ ๆ ก็ผมอยากจะทำเวลาที่เรามีอยู่ให้มีค่าที่สุดไงครับพี่

พี่เขม : พี่ไม่ได้ทำอะไรให้บีเลยอ่ะ...

บี : แค่พี่อยู่กับผมตอนนี้ก็พอแล้วครับพี่

พี่เขม : จริงง่ะ....อยากให้พี่ตอบแทนเป็นอย่างอื่นแทนรึเปล่า..(พี่เขมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมแล้วก็เริ่มเอื้อมมือมาปลดกระดูมเสื้อผมเม็ดบนสุดออก)

บี : พี่เขมนี่หมอให้ยาผิดป่ะหนิ...ทำไมดีดจัง...(แล้วผมก็ปัดมือพี่เขมออก)

พี่เขม : ไม่รู้ดิ...แต่แบบว่า...เครื่องกำลังจะติดละนะ

บี : พอเลย ๆ ไม่สบาย เด๋วผมติดไปด้วย วันนี้นอนเอาหมอข้างมากั้นไว้เลย ผมเหนื่อยแล้วง่วงแล้วด้วย จะไปอาบน้ำนอนละ

พี่เขม : โหยยยยย...แค่นอนกอดก็ไม่ได้เหรอ

บี : ไม่ได้ ห้ามแตะตัวกัน...เด๋วเชื้อโรคซึมผ่านผิวหนังมาได้

พี่เขม : ทำไมเชื้อโรคสมัยนี้มันเก่งจังฟระ...ซึมผ่านผิวได้ด้วย

แล้วผมก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวนอนครับ...ถึงผมจะเอาหมอนข้างมากั้นไว้แต่คิดเหรอครับว่าพี่เขมจะยอมที่นอนแล้วตัวผมจะไม่ไปอยู่ในอ้อมแขนของพี่เขม ถ้าใครคิดว่าพี่เขมจะยอม แปลว่าคุณรู้จักไอ้พี่เขมน้อยไปครับ คืนนั้นผมก็ต้องยอมให้ไอ้พี่เขมนอนกอดผมไว้แล้วผมก็หลับไปทันทีที่หัวผมอยู่บนแขนพี่เขมครับ พี่เขมลูบหัวผมเบา ๆ แล้วผมรู้สึกตัวอีกทีก็คือเช้าวันต่อมาเลย


To be continued…


ป.ล. ลงตอนผิดครับ ผมผิดเอง ลืมเปลี่ยนตอนที่หัวเรื่อง เลยมาลงตาม ขออภัยทุกท่านจริง  ๆครับ

ป.ล. 2 ขอบพระคุณ คุณ Billie ท่ีเตือนนะครับ ผมทำผิดแล้ว 2 รอบ ด้วยความเร่งรีบและเบลอ ๆ  งง ๆ ของผมเองครับ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
หูวววหิวเลยอะ ชอบกินหนมจีบ

ออฟไลน์ love boy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอจบแบบมีความสุข ไม่เอามาม่านะ แงงง :mew4:

ออฟไลน์ cybershot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ตอนที่ 36 A book of KEM

ตอนเช้าผมก็ตื่นก่อนพี่เขมครับ...ทำไมช่วงนี้ตัวผมนั้นมีความแม่บ้านสูงจังฟระ ผมตื่นมาทำการล้างถ้วยจานที่เมื่อคืนทำขนมจีบไว้ครับแล้วผมก็ตื่นมาต้มโจ๊กให้พี่เขมกิน และก็นึ่งขนมจีบเพิ่มไปอีกหน่อย แต่เช้านี้ผมทำน้ำผึ้งมะนาวไว้ให้พี่แกจิบหลังจากกินข้าวเสร็จด้วยเพราะดูเหมือนมะวานพี่เขมจะเริ่มเจ็บคอหน่อย ๆ ละครับ พอผมทำทุกอย่างใกล้เสร็จ พี่เขมก็ลอยออกมาจากห้อง ลอยมาตามกลิ่นโจ๊กเลยนั่นแหละครับ มาถึงก็มานั่งรอกินด้วยสายตาเป็นประกาย...ช่วงนี้พี่แกเหมือนจะอ่อนแอเป็นพิเศษ ผมว่าตอนนี้เป็นความสำออยล้วน ๆ แล้วหละครับ แต่ถ้าถามว่าผมรำคาญไม๊ ไม่เลยแม้แต่นิดเดียวครับ ยิ่งเห็นพี่เขมนอนน้ำตาไหลทั้ง ๆ ที่มีผมอยู่ข้าง ๆ ทำเอาหัวใจผมแทบสลายไปทันทีเลย ผมเลยตามใจพี่เขมเป็นพิเศษ แล้วพี่แกก็เหมือนจะรู้ดี ช่วงนี้ก็อ้อนผมจังง่ะ นี่ถ้าไม่ติดว่ายังพูดรู้เรื่องนี่ผมนึกว่าเป็นง่อยไปแล้วนะครับ...(ระบายอารมณ์ด่าแฟนตัวเองให้ชาวบ้านฟัง)

วันนี้เป็นวันที่ 13 กุมภาครับ ก่อนวาเลนไทน์ 1 วัน เราพูดคุยหยอกล้อกันไม่นานไอ้พี่เก่งจอมวางแผนก็โทรหาพี่เขมครับ พี่เขมรับโทรศัพท์ซักพักแล้วก็ออกไปคุยที่ระเบียบ ผมรู้ทันทีว่าไอ้พี่เก่งมันต้องเตรียมแผนอะไรไว้ให้พี่เขมทำซักอย่างแน่นอน ผมเริ่มสงสัยกลัวว่าจะโดนแผนซ้อนแผน ผมเลยกะว่าจะปลีกตัวออกจากพี่เขมก่อนครับวันนี้ ไปเตรียมแผนสำรองเอาไว้ เผื่อแม่งโดนพี่เก่งหักหลัง จะได้มีแผนสำรองเอาไว้กู้หน้า

พอพี่เขมคุยโทรศัพท์เสร็จผมก็ออกตัวล้อฟรีก่อนเลยครับว่าผมจะกลับไปเคลียเรื่องคอนโดหน่อย เด๋วเย็น ๆ จะมาหาพี่เขมใหม่ พี่เขมดูไม่เดือดร้อนเลยครับ ผมว่ามันต้องมีแผนอะไรซักอย่างกันแน่ ๆ ครับ ถ้าไม่งั้นพี่เขมต้องงอแงเป็นแน่ ตอนนี้เวลาประมาณ 9 โมงแล้วครับ ผมทำการเตรียมขนมจีบอันมากมายที่ผมตื่นเช้ามานั่งปั้นตั้งแต่ 7 โมงแล้วก็ทำการนึ่งจนหมดแบ่งใส่กล่องไว้ 4 กล่องครับ

บี : พี่เขม ผมนึ่งขนมจีบไว้ให้ 4 กล่องละนะ เอาไปฝากป๊ากับแม่ด้วย 2 กล่องแล้วอีก 2 กล่องพี่จะเก็บไว้กินเองหรือแบ่งเพื่อนก็แล้วแต่นะครับ ผมจะไปทำเรื่องคอนโดก่อนละนะ

พี่เขม : ได้เลยเด๋วพี่ออกไปพร้อมกับบีเลย เอาไปให้ป๊ากับแม่ก่อน จะได้ร้อน ๆ อยู่

บี : แล้วอีก 2 กล่องหละคับ

พี่เขม : เด๋วพี่เอาไปอวดไอ้พวกไอ้เก่งไอ้มิ่งไอ้โด่ง รับรองมีร้องอ่ะได้กินเข้าไป

บี : แน่นอนดิพี่...ขนมจีบทำด้วยใจนะ

พี่เขม : งั้นไม่ให้ละเด๋วพวกมันจะมาขอแบ่งใจไป

บี : อย่ามาเวอร์ ๆ งั้นเด๋วผมทำธุระเสร็จแล้วผมโทรหาพี่นะ ไม่งอนเนอะ

พี่เขม : ไม่เลย ๆ ไปทำนาน ๆ เลยก็ได้ เด๋วพี่อยู่กับพวกไอ้เก่งเนี่ยแหละ เสร็จเมื่อไหร ก็แวะมาหาพี่นะ

บี : แหม่ ๆ วันนี้มีเพื่อนแล้ว ถีบหัวส่งเนอะ ปกติจะเป็นจะตาย

พี่เขม : รีบไป ๆ ๆ อย่ามาลีลา

บี : ค๊าบบบ ก่อนไปขอกอดหน่อย

พี่เขม : พี่ขอจุ๊บหน่อย

บี : นี่หายป่วยแล้วใช่ไม๊เนี่ย...แต่ดูจากสภาพ น่าจะป่วยแต่ทางจิตอย่างเดียวแล้วนะ

พี่เขมเขกกะบาลผม 1 ที แล้วก็ทำหน้าดุใส่

พี่เขม : ทำไม...ป่วยทางจิตแล้วจะไม่รักรึไง

บี : โอ๋ ๆ ๆรักกัน ๆ แซวหน่อยเดียวทำโกรธไปได้

พี่เขม : ไปเลยรีบไปเลย

ผมเดินออกจากห้องไปหลังจากปล่อยพี่เขมออกจากอ้อมกอดครับ...ผมไปยืนรอหน้าลิฟท์ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงคนวิ่งมา พี่เขมวิ่งมาหาผมครับ ผมก็รีบสำรวจว่าผมลืมอะไรรึป่าว พอพี่เขมวิ่งมาถึงผม พี่เขมก็กอดผมอีก 1 ที

พี่เขม : พี่ขอกอดนานอีกนิดนะ อย่าไปนานหละ พี่คิดถึงแล้ว

บี : แหม่ ๆ ๆมะกี้ยังไล่อยู่เลย

พี่เขม : ก็มะกี้กะตอนนี้ไม่เหมือนกันนี่นา

บี : ผมว่าพี่เป็น ไบโพล่า ละนะพี่เขม

พี่เขม : พี่เป็นก็เพราะใครหละ ลิฟท์มาละ....ฟอดดดดด (พี่เขมหอมแก้มผมฟอดใหญ่สูดแก้มผมแทบจะหายเข้าไปในรูจมูกของพี่แก)


ผมขับรถกลับมาที่คอนโดครับ ทำการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซักหน่อยแล้วผมก็ไปติดต่อเรื่องขายคอนโดผมอีก แต่ว่าระยะนี้ไม่ค่อยมีคนคิดจะซื้อเลยครับ มีแต่คนคิดจะเช่าเท่านั้นเอง ผมก็เลยไปคุยเรื่องเงื่อนไขการเช่าต่าง ๆ มันเป็นเรื่องที่ผมไม่มีความรู้ใด ๆ เลยครับว่าการทำการเช่าคอนโดจะต้องทำอะไรบ้าง เอกสารก็มีมากมาย เพราะผมให้เช่าแบบที่คอนโดผมครบครันมาก แค่หิ้วกระเป๋าก็มาอยู่ได้เลย ทำให้ต้องมีค่าประกันเกี่ยวกับของใช้ต่าง ๆ อีก

พอบ่ายโมงกว่า ๆ ผมก็ไปเดินห้างครับ เผื่อว่าจะเจอของอะไรที่ผมอยากจะซื้อให้พี่เขม ผมเดินวนอยู่ 2 รอบก็คิดไม่ออกว่าอยากจะซื้ออะไรให้พี่เขมดี คือด้วยตัวพี่เขม เป็นนักบิน แล้วที่บ้านก็รวยอยู่แล้วมันเลยทำให้ข้าวของพี่เขมมีค่อนข้างจะครบหมดแล้วครับ ผมก็คิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรให้พี่แกดี ผมเดินมาเรื่อย ๆ จนหยุดอยู่ที่ร้าน B2S ครับผมก็เลยเดินเข้าไปดูซักหน่อยเผื่อว่าจะหาอะไร ๆ ดี ๆ ให้กับพี่แกได้ แล้วผมก็เจอครับ ผมเห็นสมุดไดอารี่เล่มนึง แค่ผมเห็นสมุดเล่มนี้ผมก็นึกถึงพี่เขมทันทีเลยครับ ไม่รู้ว่าทำไม มันเป็นสมุดธรรมดา ๆ อันนึงหน้าปกสีน้ำเงินกรมท่า แถมราคาย่อมเยาว์มากด้วยผมเลยทำการซื้อมาทันที แล้วผมก็คิดอะไรออก ว่าผมจะเอารูปต่าง ๆ ที่ผมเคยถ่ายไว้กับพี่เขม มาใส่ไว้ไดอารี่เล่มนี้ พอผมซื้อเสร็จผมก็ตรงไปร้านอัดรูปต่อเลยครับ คัดเลือกรูปต่าง ๆ มาใส่ไว้ในไดอารี่ของพี่เขม ผมกลับห้องไปทำสิ่งนี้ให้พี่เขมจนเย็น จนผมแทบจะลืมพี่เขมไปเลยครับ...ความแย่ของผมอีกอย่างนึงก็คือเวลาตั้งใจทำอะไรซักอย่างแล้ว ลืมเวลาไปหมดเลยครับ พ่อแม่ผมนี่ชินละครับ ว่าเวลามันตั้งใจทำอะไรซักอย่างในชีวิตนะครับ ผมเหมือนเปิดโหมดโลกส่วนตัวสูงแล้วละทิ้งทุกอย่างแล้วตั้งใจทำมันให้เสร็จทันที

ตอนนี้ 5 โมงเย็นแล้วครับ เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นมา แน่นอนครับว่าพี่เขมเป็นคนโทรหาผม

พี่เขม : ทำไรอยู่อะบี...ไม่สนใจพี่เลยนะวันนี้

บี : ขอโทษครับพี่เขม ผมกำลังอ่านเรื่องสัญญาเช่าห้องอยู่ครับ

พี่เขม : อ่าวไม่ขายแล้วเหรอบี...ก็ไหนบอกว่าจะขายไง

บี : ตอนนี้ไม่ค่อยมีคนซื้ออะครับ พี่เค้าเลยบอกว่าให้ปล่อยเช่าไปก่อนเลย

พี่เขม : ก็ดีจะได้ไม่เป็นภาระมาก

บี : ครับพี่...แล้วพี่เขมอยู่ไหนแล้วเนี่ย

พี่เขม : พี่ซ้อมดนตรีเสร็จแล่ว วันนี้ไอ้พวกนี้โดดงานมาซ้อมดนตรีกันช่วงบ่าย

บี : เหยๆ ๆ จริงจังแค่ไหน แค่ไหนเรียกจริงจัง

พี่เขม : ขนมจีบหมดในพริบตา...พี่ได้กินลูกเดียวเองง่ะ ไอ้พวกนี้กินทีเดียวหมดเลย แถมยังทะเลาะกันแย่งขนมจีบด้วยนะ

บี : อร่อยอ่าดิ๊...

พี่เขม : อร่อยมากคับที่รัก...ไอ้พวกนี้หลงเสน่ห์หมดแล้วเนี่ย ไอ้มิ่งฝากบอกว่าทำมาให้มันกินอีกด้วย

บี : แล้วตอนนี้พี่จะไปไหนต่อเนี่ย

พี่เขม : ตอนนี้ขับรถกลับบ้านอยู่ เด๋วนัดกับไอ้พวกนั่งแถวคอนโดพี่

บี : แล้วพี่เขมหายดียัง ไม่ป่วยละเนอะ

พี่เขม : หายดีแล้วครับแฟนนนนน....ตอนนี้วิ่งได้ละ ฟิตปั๋งเลย คืนนี้ไม่รอดแน่

บี : ใครบอกว่าจะไปหา

พี่เขม : งั้นเด๋วพี่ไปหา...ยังไงก็ไม่รอด   55555

บี : ไอ้พี่เขมบ้ากาม

พี่เขม : พี่บ้ากะแค่คนเดียวแหละ

บี : แล้วป๊ากับแม่ว่าไงบ้าง

พี่เขม : เอ้อ...ป๊ากับแม่ให้โทรหาด้วยนะ

บี : ทำไมเหรอพี่....มีอะไรรึเปล่า

พี่เขม : คงอยากจะชมให้ฟังมั้ง

บี : อ่า ๆ เด๋วผมโทรหาป๊ากะแม่ก่อนนะ

พี่เขม : เอางี้อยู่คอนโดนั่นแหละเด๋วพี่ไปรับ ไอ้เก่งเรียกร้องใหญ่ละเนี่ย พริ้งกะตาลกำลังตามมา

บี : ให้ไปนอนคอนโดพี่อีกแล้วเหรอ

พี่เขม : นะนะนะนะนะ....

บี : ผมไม่ได้นอนที่ห้องผมเลยเนี่ย

พี่เขม : ก็พี่อยากให้บีมานอนกับพี่เยอะ ๆ หนิ

บี : ครับได้ครับแฟนนนนน....พ่อทูลหัว

พี่เขม : เย้ ๆ เด๋วพี่อาบน้ำก่อนนะจะถึงบ้านละ

บี : อ่าเค ๆ ผมโทรหาป๊ากับแม่ก่อน

ผมรีบโทรหาแม่พี่เขมทันที...ปกติแม่พี่เขมจะโทรมาหาผมเป็นปกติอยู่แล้วนะครับ แต่ครั้งนี้ประหลาด ทำไมต้องรอให้ผมโทรหาด้วย

แม่พี่เขม : บีก๋าลูก...ขนมจีบต๋อนตะเจ้าลำขนาดเลยลูก (บีเหรอลูก...ขนมจีบต้อนเช้าอร่อยมาก ๆ เลยลูก)

บี : สวัสดีครับแม่ กินหมดเลยก่อคับ

ป๊าพี่เขม : ไม่เหลือแม๊แต่น้ำจิ้มเลยลูกเอ้ยยยย...

บี : แล้วมีอะหยังก่อคับแม่ฮื้อผมโทรหา (แล้วมีอะไรรึเปล่าครับ แม่ ให้ผมโทรหา)

แม่พี่เขม : บีลูก...อ้ายเขมเป๋นใดพ่อง (บีลูก...พี่เขมเป็นไงบ้าง)

บี : หายดีละครับตะกี้ก้าหาอู้กะอ้ายเขม อ้ายเขมกะลังจะถึงบ้านละครับ(หายดีแล้วครับ มะกี้เพิ่งพูดกับพี่เขม พี่เขมกำลังจะถึงบ้านแล้วครับ)

แม่พี่เขม : ก๋าลูก....ลูกบีแม่ถามลูกได้ก่อว่าเกิดอะหยังขึ้น อ้ายเขมนอนไห้ตี้ภูเก็ตอ่ะ(เหรอลูก...ลูกบี แม่ถามลูกได้รึเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้นที่พี่เขมนอนร้องไห้ที่ภูเก็ต)

บี : คุณแม่ครับ ผมจะไปเฮียนต่อผมก็เลยบอกอ้ายเขมว่า(คุณแม่ครับ ผมจะไปเรียนต่อผมเลยบอกพี่เขมว่า)

ป๊าพี่เขม : เด๋ว ๆ นะลูกก่อนจะเล่าอะไร ขอภาษากลางเนอะ ป๊าจะได้เข้าใจเหมือนกัน

บี : คับป๊า คือว่า ผมไม่อยากให้พี่เขมรอผมตอนที่ผมจะไปเรียนเมืองนอกอ่ะครับ

แม่พี่เขม : หมายความว่า.....

ป๊าพี่เขม : ลูกจะเลิกกับพี่เขมเหรอลูก

บี : ครับป๊า...ผมไม่อยากให้พี่เขมรอ ผมรู้ว่าการรอคอยมันยาก

แม่พี่เขม : ทำไมต้องเลิกกันด้วยหละลูก...แม่ไม่เข้าใจเลย

บี : แม่ครับ ป๊าครับ ผมไม่อยากให้พี่เขมลำบาก คำสัญญามันยาวนานเกินไป

ป๊าพี่เขม : ลูกไม่ไว้ใจเขมเหรอลูก

บี : ป่าวครับป๊า...ที่ผมไม่ไว้ใจคือเวลาต่างหากครับ เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน พี่เขมอาจจะได้เจอใครที่ดีกว่าผม พร้อมกว่าผม เหมาะสมมากกว่าผม

แม่พี่เขม : ทำไมคิดอย่างนั้นหละลูก

บี : แม่ครับ ป๊าครับ ที่พี่เขมไม่ได้กัปตันเรื่องทั้งหมดมันอาจจะเป็นเพราะผม

ป๊าพี่เขม : ป๊ากับแม่รู้ละลูก...เพราะเขมบอกเรื่องนี้กับป๊าและแม่แล้ว

บี : ยังไงผมก็รู้สึกผิดอยู่ดีครับป๊า ผมเหมือนเป็นตัวขัดขวางอนาคตพี่เขม

แม่พี่เขม : อย่างคิดอย่างนั้นสิลูก

ป๊าพี่เขม : ไอ้เขมมันมาอธิบายให้ป๊าฟังแล้ว มันบอกป๊าว่า ถ้ามันได้เป็นกัปตันแล้วไม่มีบีอยู่ข้าง ๆ มันก็ไม่อยากเป็น เพราะมันอยากจะเป็นเพราะบีนะลูก

บี : แล้วใคร ๆ ในบริษัทก็คิดว่าผมไม่เหมาะกับพี่เขมครับ

แม่พี่เขม : แล้วจะไปสนใจอะไรหละลูก

บี : ผมอยากจะทำตัวเองให้ดีพอเพื่อจะได้ไม่มีใครมาว่าได้ครับ พี่เขมมีหน้าตาในสังคม ผมก็อยากจะทำตัวเองให้มีค่าและเหมาะสมกับพี่เขม

ป๊าพี่เขม : อย่าบอกป๊านะว่าที่ไปเรียนเนี่ยก็เพราะไอ้เขม

บี : ใช่ครับ...ป๊า ผมอยากจะทำตัวเองให้ดีพอเพื่อพี่เขมครับ

แม่พี่เขม : ลูกเอ้ยลูกข้า...แม่เข้าใจลูกบีแล้วหละ....แม่ก็เคยเป็นอย่างนั้นตอนที่ป๊ามาจีบแม่

ป๊าพี่เขม : พูดจิงดิคุณ

แม่พี่เขม : จริงสิคุณ....สมัยก่อนคุณมีทุกอย่าง ฉันไม่มีซักอย่าง ใครๆ  ก็จะบอกว่าฉันมาเกาะคุณกิน...ฉันต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวฉันดีพอ เหมาะสมพอ

ป๊าพี่เขม : ผมไม่รู้มาก่อนเลยนะคุณ

บี : แม่เข้าใจผมแลว้ใช่ไม๊ครับ

แม่พี่เขม : แม่เข้าใจแล้วลูก...ลูกแม่ ลูกบี แม่จะเอาใจช่วยนะ

ป๊าพี่เขม : ป๊าไม่เข้าใจ...แล้วจะเลิกกันทำไมหละลูก

บี : ผมจะไม่อ้อมค้อมนะครับป๊า ถ้าพี่เขมเกิดนอกใจผมขึ้นมาในเวลาที่ผมเรียนต่อ ผมคงจะเรียนไม่จบแน่ ๆ ครับ แต่ถ้าผมปล่อยให้พี่เขมเป็นอิสระ

ป๊าพี่เขม : แต่ลูกจะทนได้เหรอลูกบี ให้เขมไปมีคนอื่นได้ก่อน

บี : ให้มันเป็นเรื่องของอนาคตครับป๊า ตอนนี้ผมกับพี่เขมอาจจะเจ็บหน่อย แต่เพื่อที่เรากลับมาแล้วถ้าทุกอย่างมันยังเหมือนเดิม ผมก็คงจะกลับมาแล้วยอมทำทุกอย่างให้พี่เขมรักผมได้อีกครั้ง

แม่พี่เขม : แม่เอ็นดูลูกขนาดเลยมะเด่วนี้....แม่บะเกยกึ๊ดเลยนาว่า แม่กะลูกจะยะสิ่งเดียวกั๋นเพื่อความฮักขนาดนี้ (แม่สงสารลูกมากเลยตอนนี้...แม่ไม่เคยคิดเลยนะว่าแม่กะลูกจะทำสิ่งเดียวกันเพื่อความรักขนาดดนี้)

ป๊าพี่เขม : แม่พูดว่าอะไรอ่ะป๊าไม่เข้าใจ

บี : ขอบคุณครับแม่ ขอบคุณครับป๊า ที่เข้าใจผม หลังจากผมไปแล้วผมอาจจะไม่ได้ดูแลพี่เขมอีก...ผมขอโทษด้วยนะครับป๊ากับแม่ที่ทำให้ต้องลำบากใจ

ป๊าพี่เขม : ถ้าลูกทำเพื่อไอ้เขมมัน ถ้ามันรู้มันคงจะดีใจ

แม่พี่เขม : จริงป๊า...แล้วลูกบีได้บอกเรื่องนี้กับพี่เขมรึยังลูก

บี : ผมไม่บอกเรื่องนี้กับพี่เขมหรอกครับ ผมอยากจะทำให้ตัวเองดีพอ เพื่อพี่เขมครับ

ป๊าพี่เขม : ลูกเอ้ย....ป๊าเอาใจช่วยละกันนะ ป๊าคงจะทำอะไรไม่ได้

บี : ผมขอป๊ากับแม่นะครับว่าอย่าไปบอกพี่เขม....ผมอยากให้พี่เขมมีความสุข ไม่ต้องทนทุกข์กับเวลาที่ต้องมารอผม

แม่พี่เขม : แม่เข้าใจดีลูก เอาเป็นว่าแม่เอาใจช่วยนะ

ป๊าพี่เขม : ป๊าก็ด้วยลูก ขอให้ลูกรักกันนาน ๆ


หลังจากนั้น ผมก็เก็บข้าวของแล้วทำการเตรียมตัวเพื่อไปนอนกับพี่เขมที่คอนโดครับ ผมรู้ดีครับว่าสิ่งที่ผมตัดสินใจทำนั้นมันทำให้พี่เขมและผมเจ็บไม่น้อยครับ ผมนั่งเหม่อลอยไปรอเวลาให้พี่เขมมารับที่คอนโดครับ พี่เขมเมื่อเจอหน้าผมก็โดดกอดคอผมทันทีครับ...แต่เป็นตัวผมเองที่ดูเศร้าไปในทันที ผมอยากจะเก็บเวลาทั้งหมดไว้ในความทรงจำของผมให้ได้มากที่สุด เพราะเวลาหลังจากกลับมานั้น ไม่มีใครรู้หรอกครับว่า อะไรมันจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ผมนั่งจับมือกับพี่เขมแล้วก็ไปเจอกับพี่ ๆ ที่ทองหล่อครับ วันนี้ในรถเงียบเป็นพิเศษ พี่เขมก็ไม่พูดคุยกับผมแล้วผมก็ไม่ได้พูดคุยกับพี่เขมเลยครับ เราทั้งสองคนนั่งฟังเพลงแล้วก็ขับรถไปเรื่อย ๆ แต่มันเป็นความเงียบที่ไม่มีความอึดอัดอยู่เลยครับ ก่อนถึงทองหล่อ ผมเอาหัวผมไปอิงบนไหล่ของพี่เขม พี่เขมเอ่ยขึ้น

พี่เขม : คิดถึงพี่อ่าดิ๊....เงียบขนาดนี้

บี : คับ...คิดถึงมาก

พี่เขม : พี่ก็อยู่ตรงนี้แล้วไง

บี : พี่เขมครับ...ผมขอโทษนะที่ต้องไปเรียนต่อ

พี่เขม : วันนี้มาแปลกจัง...เห็นเงียบตั้งแต่ขึ้นรถมาแล้ว

บี : ไม่รู้ดิพี่...ผมว่าผมกำลังจะเป็นไบโพล่าเหมือนพี่ละ

พี่เขม : เด๋ว ๆ ไบโพล่าไม่ใช่โรคติดต่ออย่ามโน

บี : เออนั่นดิ...หิวเบียร์แล้ว ๆ ๆ ๆขับเร็ว ๆ เลย

คืนนั้นพวกเราก็นั่งกินเบียร์กันอย่างปกติครับ ผมก็โดนทุกคนแกล้งตามปกติ แล้วตอนนี้คนที่แกล้งผมมากกว่าใคร ๆ ไม่ใช่พี่เก่งแล้วครับ แต่เป็นพี่มิ่งแทน ตั้งแต่ผมไปซ้อมร้องเพลงกับพี่มิ่งมานั้น พี่มิ่งก็ดูจะชอบแกล้งผมขึ้นมาพอ ๆ กับพี่เก่งเลยครับ พวกพี่สองคนนี่เอาเรื่องที่ผมจะเซอร์ไพรส์มาขู่ตลอดเวลาว่าจะบอกพี่เขม ผมเลยต้องทำตามพี่เค้าทุกอย่างในคืนนี้ หลังจากนั้นผมกับพี่เขมก็กลับไปนอนที่คอนโดพี่เขมครับ

วันรุ่งขึ้นพี่เขมตื่นก่อนผมเป็นวันแรกที่ผมงงมากเลยครับว่าพี่เขมตื่นก่อน พอผมลืมตาขึ้น ผมก็ไม่เห็นพี่เขมอยู่ในห้องนอนแล้วครับ ตอนนี้มัน 7 โมงกว่า ๆ โดยปกติเนี่ยพี่เขมตื่นแบบ 9 โมง แต่วันนี้มาแปลก ผมเดินไปล้างหน้าล้างตาแล้วออกจากห้องนอนครับ พี่เขมเข้าครัว คุณพระ!!!! ผมแทบจะไม่เชื่อสายตา พี่เขมทอดไข่เละ ๆ ให้ผมกิน 3 ฟองแล้วก็มีขนมปังปิ้งแล้วก็ชาร้อนครับ

พี่เขม : ตื่นแล้วเหรอบีคับ....พี่ทำอาหารเช้าให้กิน

บี : ผีอะไรเข้าสิงอ่ะพี่...ตื่นมาทำให้ผมกินได้

พี่เขม : ถึงพี่จะไม่เคยเข้าครัวทำอะไรให้ใครกิน แต่พี่ก็อยากทำให้แฟนพี่กินนะ พี่อยากจะดูแลบีบ้าง

บี : โหย ไข่ดาวตั้ง 3 ฟอง ฟอง ฟอง ฟอง....(ทำเป็นเสียงเอคโค่ๆๆๆ)

พี่เขม : ขอโทษนะพี่ทำมันเละไปหน่อย

บี : เหยกินได้...ไม่เป็นไรเลย ขอแค่ไม่มีเปลือกไข่ก็พอ

พี่เขม : กินดิ ๆ พี่ตั้งใจทำให้เลยนะฉลองวันวาเลนไทน์

บี : แค่พี่ทำให้ผม ผมก็ดีใจแล้วครับพี่เขม...แล้วของพี่หละ

พี่เขม : พี่กินแล้วอ่ะ บีกินเลย

บี : ไม่เอาดิมากินด้วยกันนะ

พี่เขม : เด๋วบีไม่อิ่ม

บี : ไม่เป็นไร ไม่อิ่มเด๋วบีทำให้กินใหม่เนอะ

พี่เขม : คือแบบว่า...

บี : มากินเร็ว ๆ อ่าผมป้อนก่อนเลย

พี่เขม : ทำไมต้องคิดถึงพี่ก่อนคิดถึงตัวเองด้วยบี

บี : ก็ผมเป็นแฟนพี่นะ...จะให้คิดถึงแค่ตัวผมได้ไงหละ

พี่เขม : ก็มันน่ารักอย่างงี้ไง....จะให้พี่ไปหาที่ไหนอีกเนี่ย....

บี : อ่าๆ  ๆกินเร็ว ๆ ไม่พอเด๋วผมทำให้ใหม่

พี่เขม : เออ....ไข่หมดแล่ว

บี : เหย...หมดได้ไง ผมเพิ่งซื้อมาให้เมื่อวันก่อนเอง

พี่เขม : แหะ ๆ ๆพี่ทอดไข่พังเองแหละ

บี : เอ๋า....มี 10 ฟองกินได้ 3 ฟองเองเหรอแล้วไปทำไงให้พังหละ

พี่เขม : ก็ตอนแรกจะทำไข่เจียวใช่ป่ะ ทำเสร็จ กลับไข่มา พัง แถมเค็มอีก ทิ้ง แม่ง...แล้วก็เปลี่ยนมาทำไข่ลวก ต้มไปแป๊ปนึงพี่ก็คิดว่าได้ละลองตอกออกมาดู สุกครึ่งเดียวไข่แดงนี่ยังเหมือนไม่โดนความร้อนเลย ก็เลยว่าจะเอามาเจียวต่อแต่ไข่ขาวมันสุกไปแล้วง่ะ ก็เลยเอาทิ้ง สุดท้ายก้เลยทำไข่ดาวเนี่ยแหละ ตอกไข่ลงกระทะปุ๊ป เปลือกก็ดันลงไปด้วย พี่แงะตั้งนานนะกว่าจะเอาเปลือกออกหมด ไข่มันถึงได้เละหน่อย ๆ

บี : โอ๋ๆ ๆ วันหลังให้ผมทำให้กินเนอะ จะได้ไม่เปลือง

พี่เขม : พี่ก็อยากจะดูแลบ้างหนิ หลัง ๆ มานี่พี่เหมือนจะไม่ได้ดูแลบีเลยอ่ะ

บี : ก็พี่บินเยอะหนิเมื่อก่อนพี่ไปทำความสะอาดห้องให้ผมออกจะบ่อย ผมรู้นะว่าพี่แอบเอาผ้าไปซักให้ผมหลายรอบเลย ของกินในตู้เย็นผมพี่ก็เติมไม่เคยขาด ยิ่งตอนสิ้นเดือนนะ ผมจำได้เลยว่าพี่แอบเอาตังมาใส่ให้ผมด้วย

พี่เขม : อ่าวรู้ด้วยเหรอ

บี : รู้ดิผมไม่เคยกดเงินเกินครั้งละ 900 เพราะผมไม่ชอบแบงค์พัน สงสารแม่ค้าเวลาทอนเงิน

พี่เขม : ตายห่า...งี้ก็รู้ทุกครั้งเลยอ่ะดิ

บี : รู้ดิพี่...แล้วผมก้เอาตังที่พี่ให้เนี่ยไปซื้อของเข้าห้องพี่แทนไง ห้องตัวเองไม่รู้จักซื้อเข้าให้ซื้อให้แต่ห้องผม....

พี่เขม : ก็ถ้าไม่มีบี พี่ก็ไม่ทำอะไรกินเองไง คนทำก็มีอยู่คนเดียว

บี : อ่าๆ ๆ  ไม่เถียงด้วยแล่ว พี่ ผมอยากไปทำบุญ ไปมะ

พี่เขม : วันวาเลนไทน์ ไปทำบุญ มีอะไรแปลกว่านี้อีกไม๊

บี : นะ ๆ ๆ ๆ นาน ๆ เข้าวัดที ผิดศีลมาเยอะแล่ว

พี่เขม : อ่าๆ ๆ ได้ๆ  ๆ ไปวัดไหนดีหละ

บี : ไปอยุธยาไม๊พี่....ผมไม่เคยไปเลย

พี่เขม : เหยพูดจริง...บ้านพี่ไปบ่อยมากเลยนะ

บี : งั้นพาไปหน่อย....

พี่เขม : ได้เลยคับแฟนนนนนน...ป่ะอาบน้ำด้วยกัน

บี : จะเสร็จกี่โมงเนี่ยอาบน้ำพร้อมกันเนี่ย

พี่เขม : หลักสูตรเร่งรัดแป๊ปเดียวเสร็จ

บี : อ่าจ๊ะๆ ๆ

พี่เขม : รีบกินป่ะ รีบไปเหอะเด๋วร้อน แล้วตอนเย็นต้องไปที่ร้านอีกนะ

บี : เออจริงด้วย...

ผมกับพี่เขมขับรถไปอยุธยาครับ ไม่น่าเชื่อเลยครับว่ามันไม่ได้ไกลจากกทม.ซักเท่าไหร ตอนแรกผมคิดว่าน่าจะเกือบ ๆ 2 ชม. แต่พี่เขมอาจจะเหาะมา มันเลยเป็นแค่ ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้นเอง แล้วพี่เขมก็พาผมไปทัวร์วัดรอบ ๆ ไปวัดพนัญเชิงไปถวายผ้าก่อนเลยครับ แล้วก็พาไปวัดใหญ่ชัยมงคล หลังจากนั้นก็พาผมไปกินกุ้งตัวใหญ่กว่าหัวผมอีกครับ...ผมนี่ฟินมากเลย หลังเที่ยงนิด ๆ พี่เขมก็พากันกลับมาที่คอนโดครับ เวลานี้ออกไปไหนไม่ได้แล้วครับ ร้อนและง่วงมาก อาจจะเป็นเพราะกินมาโคตรอิ่ม ผมกับพี่เขมก็เลยพากันมานอนที่คอนโด ตื่นเอาอีกทีบ่าย 3 นี่วันนี้เราแทบจะเรียกว่า sleeping beauty กันมากเลยนะครับ พอผมตื่นมาผมก็เดินไปที่กระเป๋าผมแล้วหยิบเอาของขวัญที่ผมเตรียมจะให้พี่เขมเอามาไว้เพื่อจะมอบให้พี่เขมครับ ถึงมันจะไม่ได้มีราคามากมายแต่ผมก็ตั้งใจทำให้พี่เขมครับ ผมมานั่งรอพี่เขมตื่นอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ไม่นานพี่เขมก็เดินออกมาจากห้องด้วยท่าทางงัวเงีย พี่เขมนั่งลงข้างตัวผมแล้วผมก็ยื่นของขวัญให้กับพี่เขม

บี : สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับพี่เขม

พี่เขม : อะไรอ่ะ ของขวัญให้พี่เหรอ

บี : ใช่คับ ขอบคุณนะครับพี่เขม ที่เป็นแฟนผม ถึงมันจะเป็นเวลาไม่นาน แต่ผมก็มีความสุขทุกครั้งที่ผมอยู่กับพี่

พี่เขม : ซึ้งอ่ะ...แกะดูได้เลยป่ะ

บี : แกะดิ ๆ อยากให้เห็น

พี่เขม : อยากรู้จัง บีจะซื้ออะไรให้พี่เนี่ย

พี่เขม : สมุดโน๊ต มีชื่อพี่อยู่ด้วย A book of KEM เฮ้ย ชื่อน่ารักดีอ่ะ

พี่เขมเปิดสมุดโน๊ตดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน และแน่นอนครับมีรูปที่พวกเราได้ถ่ายรูปร่วมกันในทุก ๆ ที่ ๆ ไป ตัวผมเนี่ยเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูปครับ แต่พี่เขมเนี่ย...ชอบถ่ายสุด ๆ แต่พี่เขมเป็นคนชอบถ่ายรูปที่เค้าเรียกว่า แคนดิด อ่ะครับ พี่แกชอบถ่ายรูปที่เน้นเป็นส่วน ๆ รูปอาหาร รูปของผม รูปของวิว ก็จะออกมาแนว ๆ เลยครับ ผมก็ไม่ค่อยจะเข้าใจในมุมมองของพี่แกซักเท่าไหร แต่พอมันดูไปเรื่อย ๆ มันก็เพลินดีนะครับ
ผมเลือกมาแต่ภาพที่มีสีขาวดำครับ เพราะผมเป็นคนชอบภาพขาวดำมาก มันดู คลาสสิคดีครับ อาจจะดูอึน ๆ พี่เขมเปิดดูไปเรื่อย ๆ ผมนอนผมซบบนไหล่พี่เขมขณะที่พี่เขมเปิดไปผ่าน ๆ พี่แกไม่พูดอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวครับ จากที่ห้องมีแต่เสียงพวกเราคุยกัน แต่ตอนนี้ผมได้ยินแต่เสียงแอร์เท่านั้นแล้วครับ ไม่นานน้ำตาพี่เขมก็หยดลงที่สมุดครับ ผมตกใจรีบมองหน้าพี่เขมทันที

บี : พี่เขม...ร้องไห้ทำไมเนี่ย

พี่เขม : พี่ซึ้งง่ะ.....ทำไมต้องดีกับพี่ขนาดนี้ด้วย

บี : เห้ย....ทำไมช่วงนี้เซ้นสิทีฟจังฟระ โอ๋ ๆ ๆมา ๆ ไม่ร้องน้าาา

พี่เขม : ปกติพี่ก็ไม่ค่อยเป็นนะ...แต่ช่วงนี้เป็นเมนมั้ง

บี : เห้ย...เด๋วก็ท้องพอดีนับหน้าเจ็ดหลังเจ็ดด้วยนะ

พี่เขม : ไอ้บ้า....ไม่คิดจะแก้ให้เลยเหรอ

บี : แหม่ๆ ชอบไม๊พี่ ใช้มันด้วยนะ

พี่เขม : แน่นอนครับพี่จะเขียนมันทุกวัน เขียนมันคู่ไปกับ flight log เลยดีมะ

บี : ให้มันจริงเหอะ

พี่เขม : พี่ไม่มีอะไรให้เลยอ่ะ พี่บินตลอดเลยอ่ะ

บี : ไม่เป็นไรคับพี่ แค่น้อยใจเท่านั้นเอง

ผมนั่งกอดเข่ามุดหน้าลงไปเพื่อไม่ให้พี่เขมเห็นหน้าผม...ผมกำลังแกล้งงอนพี่เขมอยู่ครับ แหม่ ๆ ผมก็รู้หรอกน่าว่าพี่เขมช่วงนี้บินหนักอย่างกะอะไรดี ไม่เห็นเคยจะว่าเลยวันหยุดก็มาขลุกอยู่กับผมทั้งวัน แล้วจะเอาเวลาไหนมาหาซื้อของให้ผมหละ แล้วพี่เขมก็พยายามเขี่ย ๆ จิ้ม ๆ เอวผม จนผมขำออกมา

พี่เขม : แกล้งพี่เหรอ...เด๋วจะโดน

บี : แหม่ ๆ นิดหน่อยหน่า...ผมรู้อยู่แล้วน่าว่าพี่อ่ะ มีเวลาว่างก็มาอยู่แต่กับผม จะเอาเวลาไหนไปหาซื้ออะไรมาให้ผมหละ

พี่เขม : พี่ขอโทษนะ...

บี : เด๋วจะร้องไห้อีกไม๊เนี่ย...เด๋วนี่ขี้แยจังนะเรา

พี่เขม : ก็พี่รักของพี่มากไง พี่ก็เลย...

บี : ค๊าบบบบ เอาหน่าวันนี้วันวาเลนไทน์นะ จะร้องไห้ได้ไง

พี่เขม : ป่ะ ๆ ไปที่ร้านกันเหอะ มันบอกให้ไปเร็วหน่อย ตอนแรกพี่ว่าจะไปซักทุ่มนึงแต่ไอ้เก่งส่งไลน์มาบอกว่าให้ไปซัก 5 โมง

บี : ได้เลยพี่ ไปอาบน้ำก่อนป่ะ

พี่เขม : อาบด้วยกันดิ

บี : จะเอาอีกแล้วเหรอ ไม่เหนื่อยบ้างรึไง

พี่เขม : พี่กำลังเก็บแต้มอยู่

บี : ไอ้พี่เขมบ้า

เราออกจากคอนโดเวลา 5 โมงกว่า ๆ แล้วครับ เพราะว่าพี่แกมัวแต่แต่งหล่ออยู่ครับ วันนี้พี่เขมแต่งตัวหล่อเป็นพิเศษเลย ผมไม่เคยเห็นพี่แกแต่ตัวดีขนาดนี้มาก่อนเลยครับ นอกซะจากงานแต่งสมัยก่อนโน่น เอาเข้าจริง  ๆแฟนผมเนี่ย มันหล่อเอาการอยู่นะครับ ถึงพี่แกจะสามสิบห้าแล้วแต่ หุ่นพี่เขมยังแน่นทั้งตัว ไม่รู้ไปฟิตมาตอนไหน แล้วยิ่งมาใส่กางเกงขาเดฟแล้วใส่เสื้อเชิ้ต รอยยิ้มกว้าง แล้วก็ตาหยี ๆ ของพี่เขม มันยิ่งทำให้ผมหลงรักเขาหมดใจ แต่กลับมาดูที่ผมครับ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ขาด ๆ  แล้วก็.... จบละครับ แต่งตัวเมื่อเทียบกับพี่เขม ผมเป็นเด็กยกกระเป๋าเลยทันที พี่แกเล่นมาซะเต็ม เสื้อผ้าดี ๆ ส่วนใหญ่ของผมก็ส่งไปที่บ้านไม่ก็ที่ออสเตเรียหมดแล้วครับ ผมเหลือแต่เสื้อผ้าใส่แบบขำ ๆ พอลงจากรถ ผมยิ่งเป็นเหมือนเด็กรับใช้ในกลุ่มวงดนตรีเกาหลีเลยครับ แม่ง พี่ ๆ แต่งตัวจัดเต็มแถมมีสูทมาใส่อีก พี่เก่งเดินเอาสูทมาให้พี่เขม ผมตายอย่างเขียดเลยครับ ผมนี่อยากจะเดินไปกินส้มตำคอหมูย่างที่ปิ้งอยู่ข้างทางเลยทีเดียว ไม่กงไม่กินแม่งละดินเนอร์ ไม่นานพี่พริ้งกับพี่ตาลก็มาพร้อมกับแฟนครับ โหย....แต่ละคนแต่งตัวมาจัดเต็มกันหมด ปกติพี่พริ้งกับพี่ตาลก็ไม่ค่อยแต่งหน้าครับเวลาไปบิน เพราะพี่เค้าเป็นนักบิน แต่พอผมเจอหน้าวันนี้ พี่ ๆ แต่งมาเต็มมากครับ พร้อมกับชุดเดรสสวย ดูเป็นผู้หญิงหวาน ๆ เลยทีเดียว พอทุกคนรวมตัวแล้วก็แยกไปนั่งโต๊ะที่ถูกจัดไว้โต๊ะละ 2 ที่ครับ ซึ่งแน่นอนเป็นโต๊ะที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน อาหารเย็นถูกเสริฟในเวลา 6 โมงเย็นครับ อาหารเป็นอาหารที่อร่อยมากเลยครับ ถูกจัดจานสวย และขนมหวานเป็นเค้ก red vivet ที่เสริฟเพียงโต๊ะละ 1 ชิ้นให้กินด้วยกันครับ และตามด้วยแชมเปญ พี่เขมนั่งจับมือผมตลอดเวลาเลยครับ เราเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวของเราสองคน ไม่นานหลังจากทานของหวานเสร็จพี่เขมก็กระซิบบอกผมครับว่า

พี่เขม : บีครับ...ของขวัญวาเลนไทน์ที่พี่อยากจะให้บี มันกำลังจะเริ่มขึ้นต่างหากคับ

ผมทำหน้าเหวอไปเลย




To be continued…

ออฟไลน์ cybershot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 36 A book of KEM P.6 ( 17-11-2017)
«ตอบ #156 เมื่อ18-11-2017 22:00:34 »

ตอนที่ 37 แผนซ้อนแผน

ไม่ทันไรพี่เก่งก็ขึ้นไปบนเวทีครับ...พี่เก่งทำหน้าที่เป็นเหมือนดีเจบวกกะพิธีกรในวันนี้ บรรยากาศในร้านเป็นไปอย่างกันเองครับ เพราะด้วยความที่ตัวร้านไม่ได้ใหญ่มากและพวกเรามาก็ 6 คู่แล้วครับ เพราะฉะนั้น คนที่เหลืออื่น ๆ ก็เป็นพวกเพื่อน ๆ ของพี่ๆ ในวงกันเนี่ยแหละครับ คือพูดง่าย ๆ ว่าจัดปาตี้แต่ทุกคนมาเป็นคู่ ๆ กันครับ แล้วก็มีโต๊ะของเจ้าของร้านและภรรเมียของท่าน นั่งอยู่ในโซน วีไอพี แล้วก็พวก ๆ ของพี่เจ้าของร้าน ก็นั่งอยู่ในโซนนั้นกันหมดครับ ร้านนี้ก็เลยเหมือนเป็นไพรเวตปาตี้ไปเบาๆ
ไม่นานพี่เก่งก็ประกาศเรียกชื่อของพวกพี่ ๆ ในวงให้ขึ้นไปทำมาหากินครับ

พี่เก่ง : กระผมขอเรียนเชิญคุณนักร้องและนักดนตรีขึ้นมาทำมาหาแดกกันก่อนนะครับเด๋วจะไม่มีตั้งซื้อของฉลองวาเลนไทน์ให้แฟน ๆ กันครับ

เสียงโห่ร้องดังกันทั้งร้านเลยครับไม่นานพี่เขมก็ละมือที่จับมือผมไว้ออกแล้วกระซิบข้างหูผมว่า... “รอพี่หน่อยนะ....แล้วก็....ทิชชู่อยู่นี่...อย่าซึ้งน้ำตาไหลจนท่วมร้านหละ”

   ผมได้แต่มองหน้าพี่เขมแล้วปล่อยให้พี่เขมขึ้นเวทีไปครับ เพลงส่วนใหญ่ในวันนี้ก็เป็นเพลงที่คนในร้านเนี่ยแหละครับ ขอให้แฟนของเค้า เป็นเพลงรักที่ฟังสบายความหมายดี แล้วตอนนี้โต๊ะผมก็ว่าง พี่ๆ  แฟนของพี่มิ่งและพี่โด่งก็เลยมาชวนผมไปนั่งคุยด้วยครับ...
   ตอนนี้พี่ ๆ ทุกคนประจำตำแหน่งพร้อมขับร้อง เพลงรักให้พวกเราฟังแล้วครับ ดู ๆ ไปก็เหมือนวงบอยแบน หนุ่มเกาหลีเหมือนกันนะครับ เพราะทุกคนแต่งตัวกันเต็มหมดเลย พี่ ๆ ทุกคนแต่งตัวด้วยสูทสีดำ และเสื้อเชิ๊ตด้านในก็สีดำ แถมยังผูกไทด์กันอีก หล่อไปไหน ผมนี่นั่งมองจนเคลิ้มเลยครับ
   พี่เขมเนี่ย...หลังจากที่ผมชอบไปยุ่งเรื่องการแต่งตัวของพี่เขมมากขึ้น พี่แกก็แต่งตัวดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาเลยครับ อาจจะเพราะผมสอนมาดี... (แหะ ๆ เข้าข้างตัวเอง) หรืออาจจะเพราะเสื้อผ้าหลัง ๆ ที่ซื้อใส่เนี่ย...ผมจะเป็นคนไปซื้อแล้วเลือกให้พี่เค้าเอง มันก็เลยทำให้พี่เขมหล่อกว่าปกติ 15% แค่นี้ผมก็เคลิ้มจะแย่ละครับ
   ผ่านไป 1 ชม. กลุ่มของนักดนตรีก็กลับลงมาครับ ตอนนี้โต๊ะของพวกเราได้โดนรวมกันโดยปริยายไปแล้วครับ พี่ตาลกับพี่พริ้งก็ไปลากแฟนของพี่เค้าเข้ามาร่วมวงกันด้วย พอวงสนทนามันใหญ่ขึ้นเสียงก็ดังตามขึ้นเป็นลำดับครับ บวกกันการดื่มของพวกเราแล้วนั้น ยิ่งทำให้ เสียงดังจนน่ารำคาญ พี่เจ้าของร้านเลยเดินมาหากลุ่มพวกเรา

พี่เจ้าของร้าน : เก่ง...พี่ว่าพวกเราเสียงดังกันไปละนะ รบกวนคู่อื่นเค้าเด๋วเราย้ายไปนั่งโซนด้านในกับพี่ดีกว่า

พี่เก่ง : เฮ้ยพี่ผมขอโทษครับ...เด๋วผมบอกให้เพื่อน ๆ เบาเสียงลงก็ได้นะครับพี่ ไม่อยากไปเกรงใจ

พี่เจ้าของร้าน : ไปเถอะ ที่ตรงโน้นตั้งกว้างไม่มีใครมานั่งหรอก เด๋วตรงนี้จะได้ให้ลูกค้าคนอื่นมานั่งด้วย

พี่เก่ง : งั้นก็ได้ครับพี่ ขอบคุณพี่มากครับ

พวกเราย้ายไปนั่งอีกมุมนึงของร้านครับ มุมนี้วิวดีมากครับ คือจะเป็นอีกขั้นที่สูงขึ้น และอยู่ด้านข้างของเวที ทำให้ผมเห็นเวทีชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก เพราะตอนแรกเวทีมันออกจะสูงหน่อย ๆ แล้วโต๊ะกินข้าวก็อยู่ระดับตำ่กว่าเวทีทำให้ผมไม่เห็นพี่เขมเล่น กลองเลยครับ แต่ตอนนี้ถ้าพี่เขมกลับไปเล่นอีกที...ผมมองชัดเจนเลยคับ

พี่เขมเดินกลับมาเพราะกับกล่องสองใบครับ เป็นกล่องใบเล็ก ๆ แล้วพี่เขมก็ตั้งมันไว้บนโต๊ะตรงหน้าผม

บี : อะไรอ่ะพี่

พี่เขม : ของขวัญวาเลนไทน์ไง

บี : ทำไมมีสองกล่องหละ

พี่เขม : พี่ให้เลือก  1 กล่อง

บี : แล้วอีกกล่องให้ใครหละ

พี่เขม : อีกกล่องของพี่ไง

บี : งั้นผมเอากล่องนี้....(ผมหยิบกล่องที่อยู่ใกล้ตัวพี่เขม)

พี่เขม : ว่าแล้วต้องเอาอันนี้

บี : งั้นผมเอาอีกกล่องแทน...ผมเปลี่ยนใจละ

พี่เขม : ว่าแล้วต้องเปลี่ยนถ้าพูดแบบนี้

บี : งั้นผมไม่เปลี่ยนละ

พี่เขม : ว่าแล้วว่าต้องหยุด

บี : เออ....ยอมมมมมมมมมม

พี่เขม : แกะดิ...ชอบไม๊

ผมแกะกล่องที่ผมเลือกไว้อันแรก มันเป็นนาฬิกาครับ issey miyaki สายหนังสีดำ กรอบสีดำหน้าปัดสีขาว พี่เขมก็ทำการใส่นาฬิกาไว้ให้ผม แล้วพี่แกก็เปิดอีกกล่องออกมา มันเป็นนาฬิการุ่นเดียวกันแบบเดียวกันแต่กรอบคนละสีเท่านั้นครับ ของพี่เขมกรอบสีเงินครับ

บี : อ่าวไมบีได้กรอบดำหละ

พี่เขม : ก็บีเลือกเองหนิ

บี : แล้วถ้าบีอยากได้กรอบเงินหละ

พี่เขม : กรอบดำแหละดีแล้ว...คนขาวใส่กรอบดำ แล้วคนดำใส่กรอบขาว เข้าใจยัง?

บี : อ๋ออออ....ดำคนนึงขาวคนนึงดีเนอะ ผมเอาตัวหันหลังแล้วลงไปอิงพี่เขมไว้

พี่เขม : พี่ขอถ่ายรูปก่อน

แล้วพี่เขมก็ถ่ายรูปเราครับ แต่เป็นแค่ข้อมือและนาฬิกาที่ใส่ไว้เท่านั้น พี่แกเป็นคนชอบถ่ายรูปแนวนี้ครับ...คือถ่ายเป็นส่วน ๆ แล้วก็เก็บไว้ ไม่โพส แต่แปลกที่วันนี้ถ่ายเสร็จแล้วโพสทันที แล้วก็แท็กผมมาด้วยนะ ผมนี่งงไปหมด

พี่เขม : เน่ บี....ลงรูปเดียวกันสิ แล้วแท็กพี่ด้วย

บี : นี่บังคับกันให้ลงรูปแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

พี่เขม : ก็ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปแหละ...ต้องลงรูปด้วยกันทุกวันเข้าใจไม๊

บี : ทำไมอ่ะพี่...ปกติไม่เห็นเป็น

พี่เขม : พี่มีเวลาอยู่กับบีไม่มากแล้วไง...พี่เลยอยากเก็บไว้ในนี้

บี : เวอร์  ๆ ๆๆ ไปไม๊พี่เขม อ่า ๆ ๆลงก็ลง

พี่เขม : ดีมาก...น่ารักจังเลย ชอบไม๊?

บี : ชอบครับ....มันดู minimal

พี่เขม : ต้องใส่ทุกวันนะ ใส่คู่กับพี่

บี : คู่รักเกาหลีไปอีกกกกก

พี่เขม : แล้วรู้ไม๊ว่าทำไมต้อง issey

บี : ไม่รู้ครับพี่...มันทำไมเหรอ

พี่เขม : เพราะว่าถ้าถ่านหมดจะต้องมาเปลี่ยนที่ shop ที่ไทยเท่านั้น เพราะออสเตเรียไม่มี

บี : แหม่ ๆ ๆไปร้านนาฬิกาทั่วไปก็ได้เหอะ

พี่เขม : มันแงะไม่ได้โว้ยยยยย....ต้องกลับมาหาพี่เท่านั้นเข้าใจไม๊

บี : คับพี่เขม...ผมจะกลับมาหาพี่ครับ

พี่เขม : ดีมาก...(แล้วพี่เขมก็ขยี้หัวผม 1 ที)

ตอนนี้เป็นเวลากว่า 3 ทุ่มแล้วครับ ลูกค้าบางส่วนทะยอยกลับกันแล้วมีแต่พวกเราที่ยังคงนั่งเม้ามอยกันอยู่ แล้วอยู่ดีๆ  พี่เก่งก็ขึ้นไปบนเวทีอีกรอบ

พี่เก่ง : ขอรบกวนเวลาซักครู่นะครับ พอดีวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ เพื่อนผมคนนึงมันก็พาแฟนมันมาฉลองเหมือนทุกคนเนี่ยแหละครับ เพื่อนผมคนนี้ไม่เคยร้องเพลงให้ใครเลยในชีวิตมัน แต่วันนี้ แฟนของเพื่อนผมคนนี้ กำลังจะไปเรียนต่อในอีกไม่กี่วันครับ มันเลยจะขอมาร้องเพลงครั้งแรกในชีวิตของมัน เพื่อคน คนนั้นครับ

เสียงปรบมือก้องไปทั่วร้านเลยครับ ผมรู้ตัวอีกทีพี่เขมก็หายไปโผล่ที่บนเวทีข้าง ๆ พี่เก่งแล้วครับ ผมนั่งยิ้มแก้มปริ หุบไม่ได้เลยครับ เขินก็เขิน แม่งเอ้ย ไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้ให้มาก่อนเลย แถมต่อหน้าประชาชีอีก ผมนี่ม้วนเลยครับ พี่ ๆ ในโต๊ะก็แซวกันใหญ่

พี่เขมพูดออกไมค์ : แหม่ คุณเพื่อนเก่งครับ แย่งซีนผมพูดหมดแล้ว ผมจะเอาอะไรไปซึ้งกับแฟนหละครับ

เออ...แฟนผม...เหมือนขึ้นไปเล่นตลกคาเฟ่ครับตอนนี้ พี่เขมนั่งลงบนเก้าอีกสูงของนักร้องแล้วพี่มิ่งก็นั่งประกบข้างครับ ยิ่งทำให้เหมือนวงนักร้องเกาหลีเข้าไปอีก

พี่เขม : เอาเป็นว่า ผมขอมอบเพลงนี้ ให้กับคนที่กุ่มหัวใจของผมไว้ ตลอดมา......................และตลอดไปครับ

เสียงหวีดร้องจากคนในร้านดังลั่น...พี่ ๆ ในโต๊ะต่างพากันกรี๊ดอย่างสุดเสียง ผมก็ตะโกนเชียร์แฟนยิ้มแก้มแทบจะแตก แค่นี้น้ำตาผมก็เริ่มจะไหลลงมาแล้วครับ ผมสังเกตได้เลยครับว่ามือพี่เขมสั่นมากตอนนี้ พี่เขมมองตรงมาที่ผมแล้วทำการยักคิ้วให้ ผมนี่ละลายตายไปเลยครับ

รู้ไหมว่าเราเจอกันครั้งแรกตอนไหน
ความทรงจำเกิดขึ้นเมื่อไหร่
เมื่อไหร่ที่ทำให้เราสองคนเริ่มหวั่นไหว
หรือจะเป็นในตอนที่คุณต้องนอนเสียใจ
หรือว่าตอนที่เราต้องไกล
มันทำผมได้รู้ว่าคิดถึงแต่คุณ

และในตอนนี้ ในเวลานี้
ล่วงเลยมานานเป็นปี
ให้ดวงดาวนั้นเป็นเหมือนพยานรัก

ขอสัญญาว่าจะรักเพียงคุณ
ว่าจะรักแค่คุณ ว่าจะรักแค่คุณ เท่านั้น
นานแสนนานก็จะรักเพียงคุณ
ก็จะรักแค่คุณ อยากจะมีแค่คุณคนเดียว

แค่คุณ - Musketeers

เสียงทุ้มของพี่เขมถูกขับร้องออกมาได้น่าฟังมากทีเดียวเลยครับ ถึงแม้จะไม่ได้เพราะขนาดนักร้องอย่างพี่มิ่ง แต่มันก็แฝงไปด้วยความอบอุ่น ความรัก และคำสัญญา ที่พี่เค้าต้องการจะสื่อให้ผมครับ
ผมบอกได้เลยครับว่าตอนนี้ ทิชชู่ในโต๊ะผมหมดแล้วครับ...ที่ผมพยายามพร่ำบอกพี่เขมไปว่าไม่ต้องรอผม...แต่ตอนนี้ พี่เขมเหมือนจะทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม มันยิ่งทำให้ผมหนักใจเข้าไปอีก หรือว่าตอนนี้การที่เรารู้ว่าเราเหลือเวลายิ่งน้อยไปเท่าไหร่ มันยิ่งทำให้เรารักกันมากขึ้นไปเท่านั้น เพลงนี้มันทำให้ผมทั้งดีใจที่พี่เขมบอกว่าจะรอผมและก็ทำให้ผมเสียใจ ที่พี่เขมคิดจะรอผมในเวลาเดียวกัน ผมสูดหายใจลึก ๆ หลังจากจบเพลง พี่ ๆ เห็นผมในสภาพนี้ต่างขำกันใหญ่ แล้วเจ้าตัวคนร้องเพลงก็ปรากฎกายอยู่ข้างผมครับ ความพีคมันอยู่ที่ มันเดินตรงลงมากจากเวทีแล้วก็วิ่งเข้ามาหาผมทันที...ทำให้คนทั้งร้านมองผมกับพี่เขมเป็นสายตาเดียวกัน แล้วพี่เขมก็ประกบปากพี่เขมลงบนปากผมต่อหน้าสาธารณะชน คนทั้งร้านผมเชื่อว่า ทั้ง อึ้ง ทึ่ง เสียว กันไปหมดแน่นอน เหมือนตอนนี้ผมได้ยินแค่เสียงหัวใจตัวเองที่เต้นแทบจะไม่เป็นจังหวะ และเสียงแอร์ที่ดังอยู่ ผ่านไปไม่ถึง 2 วินาที เสียงกรี๊ดร้องจากคนทั้งร้านก็ดังกระหึ่มเลยครับ ผมไม่รู้จะเอาหน้าไปแทรกไว้ที่ไหน พี่เขมปล่อยมือจากหน้าผม แล้วก็หันไปส่งยิ้มให้กับทุกคน....แหม่ๆ ๆ ผมนี่งงๆ ไปหมด แล้วเสียงช่วยชีวิตของผมก็พูดขึ้นมากครับ

พี่เก่ง : ว่าไงครับน้อง...เพื่อนพี่ทุ่มให้ขนาดนี้แล้ว มีอะไรมาสู้ไม๊

ผมโบกมือส่ายหัวยิก ๆ เป็นการบอกว่าไม่พร้อมที่จะร้องเพลงที่เตรียมเซอร์ไพรส์ให้กับพี่เขมตอนนี้อย่างแรง เพราะตอนนี้ เนื้อเพลงซักท่อนในหัวผมยังจำไม่ได้เลยครับ

ไม่นานเสียงและฝูงชนของในร้านก็สงบลงครับ ผมนี่โล่งใจมาก กว่าจะทำตัวเองให้กลับไปอยู่ในโหมดปกติได้

มีต่อครับ

ออฟไลน์ cybershot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 36 A book of KEM P.6 ( 17-11-2017)
«ตอบ #157 เมื่อ18-11-2017 22:01:25 »

พี่เขม : เป็นไงหละ ของขวัญวาเลนไทน์พี่

บี : ใจกล้าหน้าด้านได้อีกเนอะพี่เนี่ย

พี่เขม : อ่าวทำไมหละ...หรือไม่ชอบ

ผมพยักหน้าเป็นการตอบแล้วเอาตัวเข้าไปอิงที่อกพี่เขม

พี่เก่ง : ไอ้หนูน้อย...อ้อนให้มันน้อย ๆ หน่อย กรูโสดอยู่ค๊าบบบบบบ พวกเมิงสองคนเนี่ย เกิดมาเพื่อฆ่าคนโสดอย่างกรูจริง ๆ เลย

พี่มิ่ง : ไม่ได้แค่ฆ่าคนโสดนะ เมียกรูจะงอนแล้วเนี่ย ไม่ยอมทำอะไรแบบนี้ให้บ้าง

พี่เขม : ไอ้มิ่ง เมิงเป็นนักร้องนะ เมิงไม่ร้องเพลงให้เมียเมิงฟังแล้วเมิงทำห่าอะไรอยู่ฟระ กรูไม่เข้าใจ

พี่มิ่ง : ไอ้ห่าเขม...เมิงวางยากรูนะ รู้งี้แม่งไม่ช่วยคิดเพลงให้หรอก

บี : นี่พี่ไปซ้อมกันตอนไหนเนี่ย

พี่เขม : ก็วันที่บีไม่อยู่ไง

พี่มิ่ง : อ่าๆ  ๆเด๋วกรูไปร้องเพลงให้แฟนกรูก่อนนะ เด่วจะงอน

พี่เก่ง : มา ๆ เด๋วกรูไปช่วยเซ็ต

บี : งั้นผมขอไปเข้าห้องน้ำด้วยพี่

แล้วแผนของพวกเราก็เริ่มขึ้นครับ แผนชั่วหักหลังพี่เขม โดยที่พี่มิ่งนั้นจะทำทีขึ้นไปร้องเพลงก่อนแล้วผมก็เข้าไปร่วมด้วยทีหลัง คือจะให้ผมร้องเพลงคนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบแม่งก็คงจะไปไม่รอด พี่มิ่งเลยให้ไปฝึกเคาะไอ้กาฮองมา แล้วมาร้องช่วยพี่เค้า ไปเลยเพราะเสียงผมต่ำกว่าแล้วเดียวพี่เค้าจะช่วยร้องให้มันโอเคขึ้นเอง พี่มิ่งบอกว่าอย่างนั้น ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันออกมาเป็นยังไง พี่เก่งเตรียมสูทของไอ้พี่เขมเอาไว้ให้ผมใส่ทับเสื้อผ้าผมครับเพราะว่าจะขึ้นไปสภาพนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นเด็กเช็ดกลองไปหน่อย

แล้วพี่เก่งก็เริ่มเพลงให้ก่อนเลยครับตอนนี้ทั้งเวทียังไม่มีไฟ พี่เก่งทำการโซโล่คีย์บอร์ด ตอนนี้ผมบอกเลยครับว่าพี่เก่งแม่งโคตรหล่อโคตรเท่ห์อ่ะครับ แล้วไฟก็เริ่มจะสว่างที่พี่เก่งขึ้น  เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพี่เค้าเล่นแล้วตั้งใจขนาดนี้ ไม่มีมาดกวน ๆ เลยครับ คือพูดง่าย ๆ โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ ที่ว่าโคตรหล่อเวลาเล่นเปียนโน...เจอพี่เก่งเค้าไปนะครับ มีร้องอ่ะครับ

พี่เก่งร้อง :

มีให้แค่เท่านี้ มีเพียงแค่เท่านี้
ไม่มีมากมายดังใครเขามี
มีให้เพียงนิดน้อย แต่ให้ไปเกินร้อย
ไม่มีเงินตรา มงกุฏชฎาแม่เนื้อกลอย

แล้วพี่เก่งก็ส่งเนื้อต่อให้พี่มิ่งเป็นคนร้องครับ พี่มิ่งอยู่อีกด้านของเวทีแล้วก็เล่นกีต้าร์ไฟฟ้า แล้วก็รับร้องท่อนต่อไป คือด้วยความที่พี่มิ่งแม่งเป็นนักร้องน้ำอยู่แล้ว เสียงพี่แกก็นุ่มซะจนชวนฝันหวาน

พี่มิ่งร้อง :
ไม่มีรถเก๋ง แอร์เย็นอย่างใครเขา
มีไมตี้เอ็กซ์ท่อดังและคันเก่า
พี่ไร้หน้าตาในสังคมไฮโซ
และจะเจอพี่ได้ ก็แค่วงไฮโล
.
.
.
.
.
ตอนนี้ผมแอบหลบอยู่ด้านหลังของกลองครับแล้วผมก็เคาะกาฮอง รอท่อนของผมที่จะขึ้น และก็แน่นอนคนเสียงดี ๆ อย่างผมท่อนที่จะได้ร้องก็ต้องไม่พ้น ท่อนแร็พแน่นอนครับ คืออย่าว่าผมเลยครับ คือผมเนี่ย พยายามแล้วเลือกเพลงแต่ละเพลง ตอนแรกก็อยากจะให้พี่เขมแม่งซึ้งน้ำตาไหลไปอยู่เหมือนกัน แต่ผมเดา ๆ แล้วครับว่ายังไงซะก็ต้องมีคนขึ้นไปร้องเพลงสาระภาพรักให้แฟนแน่ ๆ ในวันนี้แล้วก็จริงครับ ก็พี่เขมไงจะใครเล่า.... ผมก็เลยต้องหาลูกเล่นอย่างอื่น เพื่อกระชากความหวานซึ้งออกไปให้หมด 555555
ผมโผล่ออกมาจากด้านหลังเวทีแล้วก็ออกมาแร็พ...

เริ่มจากเราสอง มันเริ่มจากคนสองคน
มีกามเทพสองตน ละแผลงศรอยู่สองคม
ชะตาฟ้าลิขิตหรือจะสู้มานะ
อยู่กะฉันและร่วมฝันละให้ชนะความจน
อดทนอีกนิด รับพินิจไปติดจาน
น้องบี คนนี้ไม่ใช่ข้าราชการ
ถึง บี จะจน แต่ บี ก็ทนไม่เคยอาย
จะรักพี่เขมไป ไม่ทอดทิ้งจนวันตาย

อยู่กับฉันได้ไม๊ แก่เฒ่าเป็นตายายในบั้นปลายสุดท้ายของดวงชีวัน
อยู่เคียงคู่กับแบบนี้ ร่วงโรยเป็นธุลี กลับสู่ธรณีฝั่งร่างนี้ไปพร้อมกันนนนนน

ตอนที่ผมออกมาแร็พนี้พี่ ๆ ตาลกับพี่พริ้งพากันกรี๊ดสุดเสียงเลยครับ ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ากรี๊ดชอบหรือกรี๊ดไล่...คนในร้านก็เริ่มลุกขึ้นเต้นตั้งแต่ท่อนเร็ว ๆ ตอนกลาง ๆ เพลงแล้วครับ แต่พอท่อนที่ผมออกมาร้องเท่านั้นแหละ เสียงกระหึ่มเลย ไม่รู้ว่าผมไปทำลายบรรยากาศความหวานซึ้งโรแมนติกของคู่รักคู่อื่น ๆ รึเปล่า แต่เนี่ยแหละครับ เพลงที่เหมาะกันผมแล้วจะไม่ทำให้ผมขายหน้า... 55555

พอผมร้องเสร็จผมก็เดินไปหาพี่เขมที่ยืนอึ้ง ปรบมือให้ผมอยู่ ผมเดินเข้าไปกระซิบข้างหู

บี : ผมรักพี่เขมนะครับ  Happy V day ครับ

พี่เขมกอดผมไว้แน่น....แล้วก็ยกตัวผมขึ้นสูง

พี่เขม : ไอ้เก่ง ไอ้มิ่ง...เมิงพาแฟนกรูไปซ้อมมาตั้งแต่เมื่อไหร

พี่เก่ง : 55555 เค้าเรียกว่าแผนซ้อนแผนเว้ย

พี่มิ่ง : กรูไม่เกี่ยวนะ....

พี่เขม : แล้วทำไม...ให้แฟนกรูร้องเพลงนี้...แม่งออกมาอย่างเท่ห์เลย

พี่เก่ง : กรูไม่ได้เลือก โน่น ไอ้หนูน้อยเลือกเองเลย

บี : ผมเลือกเองครับพี่เขม....จะให้ผมร้องเพลงซึ้ง ๆ บอกพี่ คงจะล่ม

พี่เขม : ทำไมออกมาอย่างเท่ห์เลยอ่าาาาาาา เพลงพี่เลยดูรักใส ๆ หัวใจ 4 ดวงไปเลย

บี : แหม่ ๆ จะแข่งกับขาแร็พอย่างพี่คงจะช้าไป 10 ปีนะน้อง...(ผมทำท่าโยก ๆ กวน ๆ )

พี่ตาล : บี....เห้ย....หล่อเลยอ่ะ....คือแบบ...เปลี่ยนลุ๊คเลยอ่ะ

พี่พริ้ง : บี....พี่ขอจีบได้ป่ะ...คือแบบ เฮ้ย ไม่เคยคิดว่าน้องแม่งจะเท่ห์ขนาดนี้อ่ะ

พี่ตาล : พูดอะไรเกรงใจผัวด้วย...ผัวอยู่ด้านหลังอิพริ้ง

พี่มิ่ง : ตอนแรกที่มันมาบอกกรูว่าจะร้องเพลงนี้กรูก็งง...อะไรของแม่งฟระ

พี่เก่ง : เออจริง...คือมันบอกว่าคิดไว้แล้วว่าจะร้องเพลงอะไรให้ไอ้อ้วน กรูนึกแบบ เพลงหวาน ๆ ใส ๆ แน่นอน แต่พอแม่งบอกว่าจะร้องเพลงนี้แล้วจะร้องท่อนนี้นะ กรูอึ้งเลยค๊าบบบบบบบ

พี่มิ่ง : มันมีความคิดดีนะ มันออกแบบมาหมดเลยว่าให้ใครร้องอะไรตรงไหน

บี : แหม่ ๆ พี่ๆ  ก็ชมเกินไป

พี่เขม : วันหลังเด๋วกรูพาไปซ้อมด้วยบ่อย ๆ

พี่เก่ง : จะวันหลังห่าอะไรอีกหละ...มันจะไปอีก 2 อาทิตย์แล้วไม่ใช่เหรอ

พี่พริ้ง : อิห่าเก่ง แล้วเมิงจะย้ำเพื่อ???

หน้าของพี่เขมดูเศร้าไปเลยในทันตา ผมเดินไปจับมือพี่เขมไว้แล้วเอาขึ้นมาถูหัวผม

พี่เก่ง : ไอ้สัสเอ้ย...ไปอ้อนกันไกล ๆ กรูหน่อยก็ไม่ได้ กรูโสดเห็นใจกรูด้วย

พี่เขมพยักหน้ายิ้ม ๆ เป็นการตอบรับแทน ผมเข้าใจดีครับว่าเวลาที่เราสองคนจะมีอยู่ด้วยกันมันเหลือน้อยลงไปทุกวัน ผมยอมรับเลยว่า ใจหายเหมือนกัน ไม่คิดเลยว่าเวลา 1 เดือนที่ตอนแรกเหมือนจะนานมากพอ แต่พอตอนนี้ มันเหมือนจะไม่พอเอาซะแล้ว

หลังจากงานพวกเราก็แยกย้ายกันครับ...ผมเดินจุงมือมากับพี่เขมที่รถ พี่เขมหยุดเดินก่อนถึงรถของพี่เขมนิดนึง

พี่เขม : บีครับ...พี่รู้นะว่า ถึงพี่จะพูดยังไง คำตอบก็ออกมาเป็นเหมือนเดิมอยู่ดี

บี : อะไรครับพี่...(ในใจผมคิดว่าพี่เขมต้องงอแงเรื่องเลิกกันตอนผมไปแน่ ๆ )

พี่เขม : ไม่ไปเรียนต่อได้ไม๊

บี : พี่เขม...ไม่ได้ดิ...พ่อแม่แหกอกแน่

พี่เขม : แล้วไปเรียนต่อแล้วกลับมาจะกลับมาอยู่ที่บริษัทเดิมไม๊อ่ะ

บี : แม่ว่าให้ลาออกเลยอ่ะพี่แล้วค่อยกลับมาสมัครใหม่

พี่เขม : อืม ๆ ๆเร็วเหมือนกันเนอะ...เหลืออีกไม่กี่วันแล้วเนี่ย

บี : พี่เขมครับ...(ผมจับมือพี่เขมไว้ทั้ง 2  ข้างแล้วก็จ้องหน้าพี่เขม)...

พี่เขม : พี่ก็แค่...ไม่อยากให้บีไปเลย

บี : ไม่เอาหน่า....วันวาเลนไทน์นะ ต้องบอกรักกันดิ ห้ามงอแง

พี่เขมพยักหน้าเป็นการตอบรับ....เราพากันขึ้นรถแล้วกลับไปนอนที่คอนโดพี่เขมครับ วันนี้เราแค่นอนกอดกันเฉย  ๆ แต่แปลกที่หัวใจของผมมันกระวนกระวายผิดปกติ ผมนอนแทบจะไม่หลับเลยครับ...ในหัวผมคิดวนไปวนมาเกี่ยวกับคำพูดของพี่เขม แต่ที่ผมไปเรียนต่อก็เพราะพี่เขมเพื่อให้ตัวผมดีพอ จะได้ไม่เป็นที่ครหาได้อีกว่าไม่คู่ควรกับพี่เค้า และก็ไปเรียนเพื่อจะได้ให้พ่อแม่ภูมิใจในตัวผม ผมเผลอถอนหายใจออกมาเบรา ๆ

พี่เขม : นอนไม่หลับเหรอ

บี : คับพี่....

พี่เขม : คิดมากเรื่องอะไรหละ

บี : รวม ๆ กันหลาย ๆ เรื่องอะครับ

พี่เขม : อยากเล่าอะไรให้พี่ฟังไม๊

บี : ไม่มีอะครับ....เป็นเรื่องเดิม ๆ คิดวนไปวนมาแหละ

พี่เขม : เล่าออกมาแล้วมันอาจจะดีขึ้นก็ได้นะ....

บี : ครับพี่...ผมก็คิดถึงเรื่องเรียน เรื่องพี่ เรื่องพ่อแม่แหละครับ ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป

พี่เขม : ทำไมบีไม่คิดถึงตัวเองก่อนบ้างหละ ว่าชอบไม๊ที่กำลังจะไปเรียนเนี่ย

บี : ก็โอนะพี่...ผมไม่ได้จบมาด้านนี้ก็จริง แต่ผมก็ทำงานมาด้านนี้แล้วอ่ะ ก็ต่อยอดดีกว่าไม๊...หรือพี่ว่าไง

พี่เขม : แล้วบีชอบมันไม๊หละ?

บี : ก็ชอบนะพี่ ท้าทายดี เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยเรียน แต่ทำงานด้านนี้มาแล้ว อาจจะเปิดโลกอีกด้านนึง

พี่เขม : งั้นก็ไม่มีอะไรต้องเครียดรื่องเรียนแล้ว...แล้วเรื่องพ่อแม่หละเครียดเรื่องไร

บี : ก็ผมห่างจากบ้านอีกแล้วอ่ะพี่...มันไม่เหมือน กทม. เชียงใหม่นะ ที่ห่างกัน 1 ชม. บินไปหาได้ตลอดเวลา แล้วพ่อกะแม่ก็แก่แล้วด้วย....ผมก็เป็นห่วงแหละ

พี่เขม : ไม่เป็นไรนะ...มีอะไรเด๋วพี่คอยดูแลให้

บี : แล้วพี่จะไปบ้านผม...ยังไง แล้วจะบอกพ่อแม่ผมยังไงหละ

พี่เขม : ก็บอกว่าเป็นพี่น้องไง...จริงไม๊?

บี : อืม ๆๆ

พี่เขม : แล้วเรื่องพี่หละ..เครียดเรื่องอะไร

ผมถอนหายใจยาวเลยครับ...ไอ้เรื่องพี่เขมเนี่ยไม่รู้จะอธิบายมันยังไง คือมันมีทั้งความไม่อยากจากไป และก็มีทั้งความอยากจะรีบ ๆ ไปแล้วรีบกลับมา ความอาลัยอาวร ความกลัวว่าพี่เขมจะไม่เหมือนเดิม ความที่เวลาเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน หรือแม้กระทั่ง ความไม่แน่นอนของชีวิต มันผสมปนเปกันไปหมดยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำได้

บี : ผมคิดถึงพี่เขมครับ....(ผมมันออกมาได้มาแค่คำสั้น ๆ แค่นี้)

พี่เขมหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ..... “แล้วคิดว่าพี่จะไม่คิดถึงบีเหรอ...ไอ้ตัวแสบของพี่”

เรานอนกอดกันไปซักพัก...ตอนนี้ในใจผมมันเริ่มสงบลงไปบ้างแล้วไม่นานผมก็หลับไปในอ้อมแขนของพี่เขม

เช้ามาแม่ผมโทรมาหาผมในตอนเช้าครับ....แม่ถามว่าจะได้กลับบ้านก่อนไปเรียนต่อรึเปล่า เพราะผมก็ยังไม่ได้ลาพ่ออย่างเป็นจริงจังเลย พอวางโทรศัพท์จากแม่ ผมก็ถามพี่เขมครับว่าผมอาจจะต้องกลับบ้านไปซัก 2-3 วันแล้วเด๋วจะกลับมาใหม่ พี่แกทำหน้ามุ่ยใส่ผมทันทีแต่ก็ยอมให้ผมกลับบ้านแต่โดยดีครับ ผมวางแผนว่าจะกลับบ้านศุกร์เช้าแล้วก็กลับมา กทม. อาทิตย์เช้าครับ จะได้อยู่กับพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกบ้าง ซึ่งวันศุกร์คือวันพรุ่งนี้ครับ พี่เขมมีบินในตอนบ่ายวันนี้และค้างกลับมาอีกทีวันเสาร์เย็น ๆ ครับ ผมก็เลยได้ทีหนีกลับบ้านไปเลย

.
.
.
.
.
เวลาช่างผ่านไปเร็วจริง ๆ ครับ หลังจากผมกลับบ้านมา 3 วันแล้วก็กลับมากทม. ผมก็โชคดีมีคนมาเช่าคอนโดผมพอดี ผมเลยลงไปทำเรื่องการเช่าคอนโดผมให้เสร็จครับแต่โชคร้ายที่ผมไม่ได้เจอกับคนที่จะมาเช่าห้องผมเลยครับ ผมเจอแต่คนที่เค้ามอบอำนาจมาให้ ผมก็เลยหยวน ๆ คือผมก็กลัวห้องผมจะเสียหายเพราะเฟอร์ส่วนใหญ่เป็นเฟอร์จาก อิเกียครับ มันก็เลยไม่ได้แข็งแรงทนทานขนาดนั้น ผมเลยอดแสกนกรรมของคนที่จะเช่าห้องผมต่อเลยครับ...แต่ผมก็ฝากเรื่องไว้กับเปรี้ยวครับ บอกให้มันช่วยสแกนกรรมให้หน่อยว่าคนเช่าเป็นใครดูแลห้องเป็นยังไงบ้าง

วันที่ 25 ผมก็มีเลี้ยงกับเพื่อน ๆ ที่เป็นลูกเรือรุ่นผมครับ พี่เขมเป็นคนจัดให้ พี่แกทุ่มทุนให้เลยครับ ปิดร้านอาหารเลี้ยงเลย แล้วพี่เขมก็ชวนพวกพี่ ๆ ของวงพี่แกมาเล่นดนตรีให้ด้วย ยิ่งทำให้เหมือนเป็นพวก ไพรเวตปาตี้พวกดาราจัดกันเลยครับ แล้วพวกเพื่อนๆ  ชะนีน้อยของผมก็อดใจไม่ได้ที่จะแทะโลมพี่เก่งครับ....แล้วด้วยความที่พี่เก่งตอนนี้โสดแล้วด้วย...ยิ่งทำให้พี่แกฮ๊อตหนักเข้าไปอีก แก้งสาวโสดเพื่อน ๆ ของผมมองพี่เก่งตาหยาดเย้มกันหมดเลยครับ เด็กขายดอกไม้ที่เดินมาขายในร้านนี่ยิ้มแป้นเลยครับ ดอกไม้โดนเหมาหมดแล้วเอาไปกราบไหว้บูชาพี่เก่ง ไม่เพียงแค่ดอกไม้นะครับ ป้าที่มาขายถั่วและผลไม้ยังขายหมดเลยครับ พวกแก้งสาวโสดเพื่อน ๆ ผมน่าจะเป็นพวกสายเปย์ครับ คือสวยและรวยมาก เลี้ยงผู้ชายได้ 55555

ไม่นานพี่เก่งก็รีบวิ่งมาตามผมให้ไปกันท่าให้ครับ เพราะพี่เก่งจากที่ตัวเองรู้สึกว่าฮอตมากแต่ตอนนี้ รู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาแล้วครับ 5555 เหมือนจะโดนชะนีรุม ผมไปกันเพื่อน ๆ ผมออกจากพี่เก่ง แล้วให้พี่เก่งมานั่งอยู่กลางวงของโต๊ะพี่เขมครับ เลยไม่มีใครกล้ามายุ่งอีก ปาตี้ผ่านไปได้ด้วยดีครับแล้วมันก็เหลืออีกแค่ 3 วันเท่านั้นที่ผมจะต้องจากไป




To be continued…


ป.ล. ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดเลยว่าไม๊ครับ

ออฟไลน์ Fahsaizzz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เป็นกำลังใจให้พี่เขมและน้องบีค่ะ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ใจหายเลย ยังไงต่อน้อออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: KISS AND FLY ตอนที่ 37 แผนซ้อนแผน P.6 ( 18-11-2017)
« ตอบ #159 เมื่อ: 19-11-2017 00:50:27 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cybershot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ตอนที่ 38 ตอนจบ

วันนี้เป็นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ครับ เป็นวันที่ผมจะต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ออสเตเรียครับ ผมได้จัดการเรื่องทุกสิ่งเรียบร้อยหมดแล้วและไฟล์ที่ผมจะเดินทางไปนั้นเวลาประมาณ 6 โมงเย็นครับ

ผมตื่นเช้าเพื่อจะทำการจัดกระเป๋าอีกครั้งแล้วเช็คเอกสารทั้งหมดว่าพร้อมแล้ว ผมโทรหาป้าผมที่อยู่ออสเตเรีย คอนเฟิมกับป้าผมว่าเวลาที่ผมจะถึงกี่โมงแล้วจะเจอกันตรงไหน

ส่วนตัวผมเคยไปอยู่ที่ออสเตเรียมาก่อนแล้วครับ แต่ไปทำงานไม่ได้ไปเรียน แต่ครั้งนี้จะต้องไปเรียนและเป็นการเรียนต่อโทซะด้วย จริงจังไปอีก ผมตื่นเต้นมากเพราะว่าหลังจากการเรียนป.ตรี ผมก็ไม่ได้แตะหนังสือ และเข้าห้องเรียนอีกเลย มันยิ่งทำให้ผมตื่นเต้นและยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นการไปเรียนต่างประเทศของผมคร้ังแรก ผมกลัวและกังวลเรื่องของเพื่อนมากครับว่าจะออกมาเป็นแนวไหน

ผมบอกกับทุก ๆ คนว่าไม่ต้องไปส่งผมที่สนามบินครับ รวมไปถึงพี่เขมและเพื่อนสนิททุกคนด้วย เพราะผมรู้ดีว่า ถ้าผมเจอใครเข้าซักคน บ่อน้ำตาของผมต้องแตกแน่ ๆ และที่ร้ายไปกว่านั้นคือ ผมก็ไม่บอกเรื่องเกี่ยวกับตั๋วผมให้ใครรู้เลยว่าผมจะเดินทางกี่โมงอะไรยังไง เพราะผมกลัวแม่งพวกเพื่อน  ๆ หรือพี่เขมจะไปดักรอแล้วเซอร์ไพรส์ผม

สาย ๆ หน่อยผมก็ออกจากคอนโดไปทำเรื่องธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดและทำการระงับเบอร์โทรศัพท์มือถือของผมครับ บอกไปว่าจะระงับตอน 2 ทุ่มของวันนี้ซึ่งพี่พนักงานคนสวยก็ทำให้อย่างเสร็จสรรพครับ ตกบ่ายผมก็ไปหาข้าวทานแล้วก็เอากุญแจไปฝากอีเปรี้ยวเอาไว้เพื่อให้คนที่จะเช่ามารับกุญแจห้องผมและคีย์การ์ดจากเปรี้ยวครับ

เปรี้ยว : เมิงจะไม่ไปหาพี่เขมก่อนซะหน่อยเหรอฟระ

บี : ไม่อ่า...กรูไม่อยากจะพังก่อนไป เมิงจำได้ไม๊สมัยก่อนที่กรูไปทำงานที่ออสอ่ะ เมิงเองก็ไปส่งกรู

เปรี้ยว : อิห่า จำได้ดิฟระ

บี : ตอนนั้นกรูจะได้เมิงไปยืนหลบอยู่หลังยักษ์ แล้วร้องไห้กอดกันกับอิอีฟ แล้วก็แอบกรู กรูก็หาตั้งนานว่าหายไปไหนกัน สรุปร้องไห้กันจ้าาาาา

เปรี้ยว : อิห่าก็กรูเศร้าอ่ะ ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้เป็นลูกเรือกันเลยนะเว้ย แต่ตอนนี้กรูบินไปหาเมิงได้กรูไม่เศร้าแล้ว

บี : เออดีละ...มาหากรูด้วยหละ

เปรี้ยว : แล้วเมิงจะไม่ให้ที่อยู่เบอร์โทร หรือการติดต่ออะไรกับพี่เขมเลยจริงเหรอฟระ

บี : จริงดิเมิง... กรูต้องทำให้ได้ กรูต้องปล่อยพี่เขมไป

เปรี้ยว : มันดีที่สุดแล้วจริงเหรอวะวิธีนี้

บี : เมิง...ถ้าเป็นเมิง...เมิงอาจจะขอให้พี่เค้ารอเมิง แล้วถ้าพี่เค้ารอเมิงไม่ได้หละ มึงจะพังไม๊ แล้วมึงจะมองหน้าพี่เค้าต่อไปได้ไม๊ แล้วสุดท้ายเราก็คงต้องกลายเป็นคนที่เกลียดกัน หรือคนที่ไม่รู้จักกันไปอีกตลอดไป

เปรี้ยว : ถ้ามันเกิดขึ้นอย่างนั้นมันก็จริงนะ...แต่ถ้ามันไม่เกิดขึ้นหละเมิง

บี : ถ้าพี่เค้ารอกรูได้จริง...กรูกลับมากรูก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้พี่เค้ารักกรูอีกครั้งไง

เปรี้ยว : เสี่ยวเวอร์ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

บี : เมิงแต่ถ้าเค้าเจอคนที่ดีกว่า ดูแลเค้าได้ในยามที่เค้าต้องการ กรูก็อยากให้เค้าไปนะ เพราะว่ากรูก็ไม่รู้ว่ากรูจะกลับมาเมื่อไหร อาจจะปีหน้า หรือ 2 ปี หรือ 3 ปี แล้วเวลาที่กรูห่างเค้าไปหละ ใครจะดูแลเค้า เค้าควรมีโอกาสได้เจอคนที่ใช่ และในเวลาที่ใช่จริงไม๊

เปรี้ยว : เมิง...กรูว่า เมิงไม่ต้องไปเรียนละ...เมิงไปบวชไม๊

บี : อิห่า....ความรักของกรูมันก็เป็นอย่างนี้แหละ

เปรี้ยว : เพราะเมิงคิดถึงเค้าก่อนจะคิดถึงตัวเองเสมอหละสิ

บี : ก็จริง....กรูยอมที่จะเจ็บเองดีกว่าให้เค้ามาทนทรมานเพื่อกรูนะ

เปรี้ยว : จริง ๆ เมิงอ่ะก็เป็นอย่างนี้กับทุกคนนะ เมิงจะเป็นห่วงคนรอบ ๆ ตัวเมิงก่อนเสมอ...กรูถึงได้รักเมิงไง

บี : นี่...เสี่ยวกว่ากรูก็เมิงเนี่ยแหละ...

เปรี้ยว : งั้นกรูจะเป็นเพื่อนเมิงมาได้ตั้ง 10 กว่าปีเหรอ

ผมนั่งเล่นที่ห้องเปรี้ยวอีกซักพักแล้วผมก็จะทำการเรียกรถแท็กซี่ออกไปสนามบินแล้วครับ ผมชอบไปถึงสนามบินก่อนนาน ๆ เพราะสนามบินเป็นที่ ๆ  ผมหลงไหลครับ ผมเรียนจบมาทางด้านวิทยาศาสตร์ ผมลองไปทำงานให้มันตรงกับที่เรียนมาแล้วนะครับแต่ก็ไปไม่รอด ผมไม่ชอบการทำงานที่ไม่ได้เจอคนครับ ผมว่าทำงานกับคนมันสนุกดี บางคนอาจจะคิดว่าผมบ้าง ทำงานกับคนยุ่งจะตาย ยิ่งต้องทำงานบริการคน หลากหลายเชื้อชาติ ศาสนา ยิ่งทำให้เราเดาทางไม่ถูกว่าเราต้องทำอย่างไรให้เค้าพอใจ และเนี่ยแหละครับเป็นสิ่งที่ท้าทายผม

ผมเป็นคนไม่ชอบสิ่งที่จำเจครับ การทำงานเอกสาร คือทำผิดก็ลบแก้ใหม่ก็จบ มันมีแค่ถูกกับผิดครับ แต่ทำงานกับคน มันจะมี อารมณ์ การตอบสนอง ปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เราต้องคิดและวางแผนล่วงหน้าก่อนที่จะรับมือกับคน 1 คนครับ ผมเลยเบนเข็มมาทำงานด้านบริการ ซึ่งการเป็นลูกเรือก็เป็นด้านที่ผมชอบ และที่มากไปกว่านั้น สิ่งที่ผมชอบที่สุดก็คือ เครื่องบินและสนามบินครับ

สนามบินเป็นที่ที่ รวมรวมทั้งความสุขของการได้เจอ การได้เที่ยว การได้เปิดโลกสิ่งใหม่ ๆ เป็นที่แรกเวลาที่เราจะต้องบินไปในประเทศต่าง ๆ ที่เราจะต้องไปถึงและจะเห็นได้ว่าบ้านเมืองเค้าแตกต่างจากบ้านเมืองเราอย่างไร และก็ยังเป็นศูนย์รวมความเสียใจ การจากลาอีกด้วยเช่นกัน เราจะสามารถเห็นน้ำตาแห่งความยินดี และ น้ำตาแห่งการจากลาได้จากที่นี่ที่เดียวครับ มันทำให้ผมหลงรักสนามบินทุกครั้งที่ผมไป ผมชอบแอบมองคนที่ส่งจูบกันก่อนจะส่งคนรักของเขาให้ไปต่างประเทศ และการต้อนรับกลับมาด้วยการจูบ มันเป็นภาพที่บ่งบอกถึงความรักและความห่วงใย ที่ทุกคนทุกเพศ ทุกวัยจะแสดงต่อกัน

ผมเลยเลือกที่จะมาทำงานให้ใกล้กับเครื่องบินและสนามบินให้มากที่สุด เพราะความน่าหลงไหลของทั้งสถานที่และตัวของเครื่องบินเอง และตอนนี้ผมจะต้องจากงานอันเป็นที่รักเพื่อก้าวที่ใหญ่ขึ้นอีกต่อไปและเพื่อทำให้ตัวเอง ดีพอ ที่จะเหมาะสมและคู่ควรกับคนที่ผมรักในตอนนี้

ผมเดินทางไปถึงสนามบินประมาณ 3 โมงครับ โดยเฉลี่ยก็คือ 3 ชม. ก่อนเวลาบินจริง เพื่อทำการเช็คอินโหลดกระเป๋าและเลือกที่นั่งเป็นคนแรก ๆ ผมจะชอบนั่งบริเวณทางออกฉุกเฉินครับ เพราะผมเป็นลูกเรือ ถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น ผมอาจจะช่วยในการเปิดประตูทางออกฉุกเฉิกได้ และที่สำคัญคือ มันจะมีพื้นที่ให้ยืดขาได้มากกว่าปกติครับ 5555

พอผมเช็คอินโหลดกระเป๋าเสร็จ ผมก็มานั่งอยู่หน้ายักษ์ตัวหนึ่งในสนามบินสุวรรณภูมิครับ ผมถ่ายรูปแล้วก็โพสลงในเฟส และไอจี ก่อนที่ผมจะผ่านตม. เข้าไปครับ ผมเปิดเฟสขึ้นมาแล้วก็มีข้อความจากเฟสเด้งขึ้น ผมกดดูมันคือข้อความจากพี่เขมครับ เป็นข้อความเสียง ผมกดโหลดแล้วส่งโทรศัพท์ผมเข้าเครื่องแสกนไป

พอผ่านเอ็กเรย์ ผมก็ได้กดฟังข้อความเสียงของพี่เขมครับ พี่เขมส่งเพลงมาให้ผม 1 เพลง เป็นเสียงของพี่เขมที่เล่นละร้องเพลงนี้ครับ ผมฟังได้นิดหน่อยผมก็เดินไปชนกับเสาก่อนลงบันไดเลื่อนครับ เจ็บมากผมเลยหยุดเล่นมือถือก่อนจะลงบันไดเลื่อนไป พอผ่านตม. เสร็จทุกอย่างผมก็คว้ามือถือขึ้นมาถ่ายรูปที่รูปปั้น เกษียณสมุทร ครับ ทุกครั้งที่ผมได้บินไปต่างประเทศ เราจะได้เจอรูปปั้นนี้ทุกครั้ง มันเป็นรูปปั้นที่สวยงามมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ผมหยุดและถ่ายรูปเจ้ารูปปั้นนี้ แล้วผมก็ลืมไปเลยครับว่าผมจะต้องฟังคลิปเสียงของพี่เขมที่ส่งมาให้ทางเฟส แล้วผมก็เปลี่ยนไปอัพรูปเพิ่ม...ผมเดินไปเรื่อย ๆ ดูของต่าง ๆ เสร็จก็ไปที่เล้าจ์ครับ ไปนั่งพักนิดหน่อยก่อนที่จะไปขึ้นเครื่อง ผมคว้ามือถือขึ้นมาแล้วก็โพสเพลง 1 เพลง แล้วแท็กชื่อพี่เขมครับ มันเป็นเพลงที่ผมอยากจะใช้แทนคำอำลาของผม ผมนั่งฟังเพลงนี้อยู่นานก่อนที่ผมจะกดโพสเพลงนี้ไป แล้วโทรศัพท์เจ้ากรรมก็ดันโดนตัดซะอย่างงั้น...ผมบอกให้เค้าปิดสัญญาณตอน สองทุ่ม แต่ตอนนี้เพิ่งจะ 4 โมงครึ่ง สัญญาญผมถูกตัดไปแล้ว ก่อนที่ผมจะโพสเพลงนั้นได้....

ผมเดินออกมาจากเล้าจ์แล้วใช้ตู้โทรศัพท์โทรหาพี่เขม

บี : พี่เขมครับ...นี่บีนะ

พี่เขม : อื้ม...อยู่ไหนแล้วครับ

บี : ผมอยู่ในสนามบินแล้ว

พี่เขม : อืม....เร็วจังงงงง

บี : พี่เขม....ผมขอโทษนะ ที่ผมไม่ให้พี่มาส่ง

พี่เขม : ครับบี...พี่เข้าใจ

บี : ถ้าพี่มาผมคงจะก้าวไม่ออกเลย....(ตอนนี้น้ำตาผมมันเอ่อล้นออกมาแล้วครับ)

พี่เขม : ครับ...ดีแล้วแหละ ถ้าพี่ไป พี่ก็คงจะกอดรั้งบีเอาไว้ไม่ให้บีไปเหมือนกัน

ผมขำออกมาเบา ๆ ผมรู้ได้เลยครับว่าเสียงพี่เขมตอนนี้พยายามทำให้นิ่งที่สุด

บี : พี่เขม...ผมมีเพลงนึงอยากจะให้พี่ก่อนผมไป แต่มือถือผมดันโดนตัดไปแล้วอ่ะ

พี่เขม : แล้วได้ฟังเพลงที่พี่ส่งไปให้รึยัง...

บี : เออ...ลืม...กดฟังละนะ มะกี้เดินชนเสา เลยหยุดเล่นก่อน

พี่เขม : มันก็เป็นซะอย่างเนี่ย....แล้วจะได้ฟังไม๊เนี่ย

บี : แต่พี่เป็นคนร้องเองหนิใช่ป่ะ...ร้องให้ผมฟังได้ไม๊

พี่เขม : เรื่องอะไร บีร้องเพลงที่บีอยากจะให้พี่ฟังมาก่อนดิ

บี : ได้เลย...แต่อาจจะไม่เป็นคำนะ

พี่เขม : ครับ พี่จะต้ังใจฟัง

บี :    อย่าให้ฉันรั้ง เธอไว้เลย
   จากตรงนี้ยังอีกไกล ยังมีฝันที่เธอต้องไขว่ ต้องคว้า
   อย่าจมอยู่กับฉันเลย จากตรงนี้ ไม่มีฉันมันคงดีกว่า
   และวันนี้ฉันเดินมาส่ง ด้วยน้ำตาฉันเดินมาส่ง
   ให้เธอเจอทางที่ดี ฉันจะคอยมองจากตรงนี้
(มาถึงครึ่งทางแรก ผมสามารถร้องเพลงได้เป็นคำพอที่จะฟังรู้เรื่อง แต่พอเริ่มขึ้นท่อนต่อไป พี่เขมก็ช่วยผมร้องเพลงนี้) 

   ที่เธอเห็นแค่ฝุ่นมันเข้าตา ฉันไม่ได้ร้องไห้
   อย่ามองกลับมา อย่าห่วงว่าฉันจะเสียใจ
   ที่ผ่านมาได้รักกัน เท่านั้นก็ดีแค่ไหน
   อย่ากังวลฉันไม่เป็นไร แค่ขอให้เธอไปได้ดีกับทางของเธอ

พอผมร้องเพลงจบ...ซึ่งแทบจำไม่เป็นคำเลย ผมวางหูทันทีที่ผมร้องจบ ผมนั่งลงข้าง ๆ ตู้โทรศัพท์นั้นเพื่อร้องไห้ออกมาให้พอ...ผมรู้ครับว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมรักพี่เค้ามากแค่ไหน แต่ผมก็ต้องปล่อยไป เพื่อให้เค้าไปเจอกับสิ่งที่ดีกว่า...นั่นคือทางของผมจริง ๆ ผมคิดได้แค่นี้....ผมถอนหายใจยาวแล้วลบคราบน้ำตาทั้งหมด ผมเดินผมหาประชาสัมพันธ์เพื่อขอรหัสอินเตอร์เน็ทของสนามบิน และผมก็จะได้โพสเพลงที่ผมอยากจะให้พี่เขมฟังแต่เป็นท่อนที่ผมไม่ได้ร้อง


“แค่ขอให้เธอไปได้ดีกับทางของเธอ ให้ได้เจอกับสิ่งที่เธอเคยฝัน
ฉันคนนี้มีไม่พอที่จะพาเธอไปตรงนั้น ฉันจะยอมปล่อยไป ไม่เป็นไรอย่าห่วงเลย”

@KEM

ผมโพสไปเพื่อให้พี่เขมได้รับรู้แล้วผมก็กดฟังเสียงของพี่เขมที่ส่งมาให้ผม

“ขอบคุณที่เธออยู่ ขอบคุณที่ไม่ห่าง
ไม่รู้ที่เป็นอย่างนี้ เพราะว่าในวันนั้น
ฉันขอเธอไว้หรือเปล่า
 
ขอบคุณที่เธอจูบ ขอบคุณที่เธอกอด
ไม่รู้ว่ารอยจูบนี้ ไม่รู้ว่าอ้อมกอดมี
เพราะฉันขอหรือเปล่า
 
ฉันขอเธอมากมายที่ผ่านมา จนได้รู้ว่าเรื่องนี้
 
ไม่ใช่เรื่องที่จะขอกันฉันเข้าใจ
ไม่ใช่เรื่องที่จะขอแล้วให้กันได้
ฉันคงไม่อาจรั้งเธอ
ถ้าสุดท้ายเธอต้องการจะไป
แค่ครั้งหนึ่งได้มีเธออย่างที่เคยมี
ก็มากเกินกว่าจะขออะไรมากกว่านี้
เพียงเรื่องเดียวที่จะขอเธอในวันนี้
คือทบทวนดูอีกทีก่อนจะไป”

ผมนั่งร้องไห้อยู่ข้างตู้โทรศัพท์และถังขยะ...ที่เต็มไปด้วยทิชชู่ของผม คนเดินผ่านไปมาคงจะเห็นผมแล้วงงว่า...ถ้าจะเศร้าขนาดนี้ จะไปทำไม? ผมนั่งสงบสติอารมณ์อยู่ตรงนั้นนานพอควรครับ จนตอนนี้ประตูเกทน่าจะเปิดแล้ว...ผมค่อย ๆ ๆเดินไปอย่างช้า ๆ คิดทบทวนในคำพูดที่ผมอยากจะบอกพี่เขมว่าได้บอกไปหมดรึยัง ก่อนที่อะไร อะไร มันอาจจะกลับมาแก้ไขต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ผมเดินมาถึงหน้าเกทของผมก็พบว่าเกทโดนย้ายครับ โดนย้ายไปอีกฝั่งนึงซึ่งทำให้ผมต้องเดินย้อนกลับไปไกลอยู่ และเวลาก็เริ่มจะเหลือน้อยลงทุกที ผมเริ่มออกวิ่งเพราะกลัวว่าจะตกเครื่องและผมก็วิ่งผ่านโทรศัพท์ตู้เดิม ผมลังเลใจอยู่ว่าจะโทรกลับไปหาพี่เขมอีกรอบดีหรือไม่ ผมออกวิ่งต่อไปเพื่อที่จะวิ่งไปให้ถึงเกทก่อนเวลาประตูปิด พอผมถึงที่ประตูพนักงานก็หยิบ บอร์ดดิ่งพาสของผมไปแล้วก็ทำการเช็ค ผมเห็นว่าเครื่องบินเพิ่งจะเข้าจอด ผมจึงถามคุณกราวน์ไปว่า

บี : พี่ครับ ผมรบกวนหน่อยครับ อีกนานไม๊ครับกว่าจะบอร์ด

พี่กราวน์ : ไม่นานหรอกค่ะ นั่งรอก่อนนะคะ

บี : พอดีผมอยากจะไปโทรศัพท์ บอกแฟนผมก่อนไปหน่อยครับ

พี่กราวน์ทำหน้างง ๆ แล้วก็ถามออกมา “โทรมือถือไม่ได้เหรอคะ”

บี : คือผมปิดสัญญาณไปแล้วอ่ะครับพี่....

พี่กราวน์ : คือถ้าออกไปแล้วกลับมาไม่ทัน พี่ก็ต้องออฟโหลดนะคะ

บี : ครับพี่...นี่ประตูเครื่องยังไม่เปิดเลยใช่ไม๊ครับ ผู้โดยสารยังไม่ลงจากเครื่องเลยใช่ไม๊ครับ ผมพอมีเวลาซัก 10 นาทีได้ไม๊ครับ

พี่กราวน์ทำหน้าสงสัยไอ้นี่รู้มากจัง.... “ค่ะ ๆ แค่ 10 นาทีนะคะ อย่ามาสายนะคะ”

บี : ครับพี่...ผมจะรีบวิ่งไปวิ่งกลับมาครับ

ผมรีบวิ่งออกไปทันที ผมคิดออกแล้วครับว่าผมไม่ได้บอกอะไรพี่เขมไป เป็นสิ่งที่สำคัญมากผมลืมไปได้ยังไงเนี่ย....ผมวิ่งมาแล้วก็คว้าโทรศัพท์แต่ไม่มีเหรียญ...ตายห่า จะทันไม๊เนี่ย 10 นาที วิ่งมาก็ 4 นาทีไปแล้ว ผมรีบมองหาตัวช่วยแถว ๆ นั้นผมเห็นแม่บ้านทำความสะอาด ผมพุ่งตรงไปทันทีเพื่อขอแลกเศษเหรียญ

บี : พี่ครับ พอมีเศษเหรียญให้ผมแลกไม๊ครับ ผมจะโทรศัพท์ครับ

พี่แม่บ้าน : มี ๆ ลูก ป้ามี 10 บาทพอไม๊ลูก

บี : พอครับ ๆ ผมของแลกหน่อยได้ไม๊ครับ ผมมี แบงค์ 100 ตายห่าน

พี่แม่บ้าน : ไม่เป็นไรลูก ป้าเพิ่งเก็บได้มาเองเอาให้คนที่ต้องการก็เหมือนคนทำบุญเนอะ

ผมน้ำตาแทบจะไหล...ยกมือไหว้ป้ารัว ๆ แล้วก็รีบวิ่งไปกดโทรศัพท์

บี : พี่เขม!!!! รีบซี่ ๆ ๆ ๆ ๆๆ ๆ  ๆ รับซี่ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

ครั้งแรกโทรไปไม่มีคนรับ ความหวังผมริบหรี่มากละครับตอนนี้ ผมยกมือไหว้ตู้โทรศัพท์แล้วภาวนาให้อะไรก็ตามที่สิงอยู่ช่วยดลบันดาลให้พี่เขมรับโทรศัพท์ทีเถอะ แล้วพี่เขมก็กดรับจริงๆ

พี่เขม : บีเหรอ....ทำไมวางหูใส่พี่อย่างนี้หละ พี่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย...พี่เขมใส่มาเป็นชุด

บี : พี่เขมหยุด...ฟังผมพูดให้จบก่อน ผมมีเวลาน้อยมาแล้ว

พี่เขม : .........

บี : พี่เขมครับ....ผม รัก พี่ เขม มาก นะ ครับ จะรักพี่อย่างนี้........... ตุ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆๆ

ห่านจิก โทรศัพท์ทำพิษ แดกเหรียญกรูแล้วก็สัญญาณก็โดนตัดไปครับ ผมไม่มีเวลาแล้วครับผมต้องออกวิ่งไปเพื่อที่จะต้องไปขึ้นเครื่องแล้ว แต่อย่างน้อย ๆ ผมก็ได้บอกในสิ่งที่ผมต้องการกับพี่เขมไปจนหมดแล้ว ต่อจากนี้ไป จะเกิดอะไรขึ้น ก็ให้มันเป็นเรื่องของอนาคตแล้วหละครับ


THE END….
ป.ล. จบตอนของบีแต่เพียงเท่านี้นะครับ ติดตามตอนของพี่เขมอีกนิดหน่อยนะครับ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
«ตอบ #161 เมื่อ20-11-2017 22:43:06 »

 :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ Fahsaizzz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
«ตอบ #162 เมื่อ20-11-2017 22:57:33 »

จบแล้วหรอคะ รอตอนพี่เขมค่ะ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
«ตอบ #163 เมื่อ20-11-2017 23:27:13 »

5555 the end??????

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
«ตอบ #164 เมื่อ20-11-2017 23:43:38 »

ค้าง!!!  :z3:

รอตอนพี่เขม  :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
«ตอบ #165 เมื่อ21-11-2017 01:07:01 »

 :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
«ตอบ #166 เมื่อ21-11-2017 11:31:55 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ cybershot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
«ตอบ #167 เมื่อ22-11-2017 08:39:57 »

ตอนพิเศษ 39.99 ความวิ้ง

Part ของพี่เขม

ในวันประกาศผลของไอ้ตัวแสบ ผมได้รับข่าวจากเพื่อนๆผมแทนเพราะตอนนั้นผมเพิ่งบินกลับมาตอนเช้าครับ ผมเลยต้องนอนก่อนผมตื่นมาเกือบบ่ายโมงคับ เพราะความหิวและไอ้ตาลก็เป็นคนไลน์มาบอกผมว่าผลของไอ้ตัวแสบออกแล้ว และให้ผมรีบติดต่อมันทันที แต่ไม่ทันที่ผมจะติดต่อไอ้ตัวแสบไอ้พริ้งก็โทรสายตรงมาหาผมทันทีครับ

พริ้ง : เมิง ทำใจดีๆไว้นะ 

เขม : เออ กรูรู้แล้ว 

พริ้ง : เมิงโอเคป่าว แล้วบีโอเคป่าว

เขม : กรูเพิ่งบินกลับมาตอนเช้า ยังไม่ได้เจอบีเลย 

พริ้ง : เออเรื่องผลของน้องบีแม่ง กรูก็สงสาร แล้วเมิงหละ โอเคไม๊ กรูตกใจมากเลยนะที่มึงไม่ได่อ่ะ

เขม : เด่วๆ กรูไม่ได้อะไร เมิงพูดอะไรเนี่ย

พริ้ง : อ่าว แปลว่าเมิงยังไม่รู้อ่ะดิ ผลกัปตันออกแล้วนะ 

เขม : เชี่ยยยยย.....คือยังไงนะ กรูไม่ได้เหรอ

พริ้ง : อืมๆ เพิ่งออกตะกี้เลย กรูขอโทษนะเมิง เมิงโอเคไม๊อ่ะ

เขม : สัส...กรูก็เผื่อใจไว้ประมาณนึงละหละ เพราะช่วงนั้นกรูทำอย่างอื่นอยู่

พริ้ง : เมิงน้องบีก็ไม่ผ่านนะ 

เขม : กรูสงสารบีหวะ แม่งเป็นเพราะกรูแน่เลย กรูรู้สึกผิดกะน้องหวะ

พริ้ง : เขม แต่เมิงก็ไม่ได้นะ เมิงไม่เสียใจเลยเหรอ

เขม : ถ้ากรูได้แต่กรูง้อไอ้บีกลับมาไม่ได้ กรูก็ไม่อยากเป็นหวะ เอาจริงๆ

พริ้ง : เออๆๆๆ ดูแลน้องด้วยละกัน กรูได้ยินเมิงพูดอย่างนี้กรูก็สบายใจละ

เขม : อืมๆ ขอบใจมากนะเมิง

พอผมลุกไปล้างหน้าเสร็จผมก็เช็คว่าไอ้ตัวแสบไลน์อะไรมาบ้างรึเปล่า ปรากฎว่าไม่มีการติดต่อใดๆจากไอ้ตัวแสบเลย ผมก็เริ่มจะใจคอไม่ดีละครับ ผมเลยรีบกดโทรศัพท์หาไอ้ตัวแสบทันทีแต่ก็ติดต่อไม่ได้ ผมยิ่งเริ่มกระวนกระวายใจ ตอนนี้ผมอยู่คอนโดผมครับ ผมเลยรีบขับรถไปหาไอ้ตัวแสบที่คอนโดของมันทันที

ผมถึงคอนโดมันแต่ก็ไม่เห็นรถมันครับ ผมยิ่งกลัวว่ามันจะคิดอะไรไม่ดี ผมรีบโทหาไอ้ตัวแสบอีกครั้งทันที เพราะหลังจากที่เราทะเลาะกันคราวก่อน ผมก็ไม่กล้าขอกุญแจห้องไอ้ตัวแสบมาเก็บไว้อีกเลยครับ แล้วคราวนี้ก็โทรติด ผมโล่งใจเป็นอย่างมาก พอไอ้ตัวแสบรับสาย ผมก็โล่งอกไปนิดนึงครับ พอถามไปเรื่อยๆ ก็รู้ได้ว่ามันได้หนีกลับไปเชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว ผมก็เลยเฟลๆนิดหน่อย เพราะตอนนี้คนที่ผมอยากกอดและขอดูดพลังงานชีวิตซักหน่อย ได้อยู่ห่างจากผมเกือบ 1000 กิโลแล้วครับ 

พอผมคุยกับไอ้ตัวแสบเสร็จผมก็ขับรถกลับบ้านไปครับ ตอนนี้ไอ้ตัวแสบรู้แล้วว่าผมก็สอบไม่ได้เหมือนกับมัน ตอนนี้เราทั้งสองก็คงต้องไปนอนอ้อนแม่ก่อนแล้วหละครับ
 ผมกลับบ้านมา ผมก็พุ่งตรงไปกอดแม่ก่อนเลยครับ แม่นั่งเย็บปลอกหมอนอยู่ที่ห้องนั่งเลนหน้าทีวี

เขม : แม่.....( ผมพุ่งเข้าไปกอดแม่เอาไว้แน่น)

แม่ : เป็นอะไรลูก....

เขม : ผลสอบออกแล้วนะแม่ ลูกขอโทษ ลูกสอบไม่ได้

แม่ : ไม่เป็นไรเลยลูก ไม่ได้ครั้งนี้ครั้งหน้าก็เอาใหม่เนอะ

เขม : ครับแม่ แล้วก็ บีก็สอบไม่ผ่านเหมือนกันอ่ะ...เขมสงสารบีจังคับ

แม่ : ตายละๆๆๆ แล้วลูกบีอยู่ไหนเนี่ย ไปหาน้องเร็ว พาน้องมาอยู่ด้วยเร็ว แม่ไม่อยากให้ลูกบีเศร้าอยู่คนเดียว

เขม : มันหนีกลับบ้านไปที่เชียงใหม่แล่ว

แม่ : อืม ๆ ก็ดีละไปอยู่กะแม่เค้าบ้างเนอะ

เขม : มันเป็นเพราะเขมแน่เลยอ่ะแม่ ลูกรู้สึกผิดอ่ะ

แม่ : ไม่หรอกลูก แม่เชื่อว่าลูกบีต้องไม่โทษตัวเขมหรอก

เขม : จริงเหรอแม่ มันหนีกลับบ้านไปเลยนะไม่บอกผมซักคำ

แม่ : ลูกบีอาจจะอยากกลับไปหาแม่รึเปล่า

เขม : อืมๆ ไอ้บีก็บอกอย่างนั้น

ผมนอนตักแม่ อ้อนแม่ซักพักแล้วก็เดินขึ้นห้องไปครับ ตอนนี้ผมไม่ได้เสียใจเลยที่ผมสอบกัปตันไม่ได้ แต่ที่ผมเสียใจคือ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างก่อนการสอบของเราทั้งสองคนมากกว่า มันอาจจะเป็นเหตุผลหลัก ๆ เลยก็ได้ครับที่ทำให้บีเสียสมาธิไปก่อนการสอบแล้ว ผมก็กลับไม่ได้แก้ไขมันให้ทันเวลา มันถึงทำให้เราทั้งสองคนพัง ผมนอนอยู่ด้านบนแล้วก็โทษตัวเอง ตอนนี้ไลน์ผมเด้งแทบจะไม่หยุด มีหลาย ๆ คนครับ ส่งข้อความมาให้กำลังใจผม และก็มีบางข้อความ พูดถึงเรื่องบี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะดีเลยครับ มีพี่กัปตันหลายคนพูดเรื่องผมในกลุ่มของนักบินครับ ว่ามาเสียสมาธิไปกับการสอบนี้มาก เป็นเพราะแฟนผม ที่งี่เง่า แยกแยะเรื่องงานกับความรักและเรื่องส่วนตัวไม่ออก ได้อ่านเข้าผมก็รีบแก้ข่าวทันทีครับ ว่าบีเนี่ยไม่ได้ทำอะไรเลย ผมเลือกเองต่างหากที่จะไป ปรับความเข้าใจกับแฟนของผม แต่พี่กัปตันส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ฟังครับ เพราะเค้าไม่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้น และหลาย ๆ คนก็พากันบอกว่าผมเนี่ยไม่ต้องไปง้อแฟนผมแล้ว ทิ้ง ๆ ไปเถอะ หาคนใหม่ คนนี้ไม่คู่ควรกับผม ผมได้แต่นั่งกลุ้มใจครับ เพราะผมรู้ทันทีว่า หลาย ๆ คนที่ไม่เคยได้บินกับบีและไม่เคยได้รู้จักไอ้ตัวแสบของผม คงจะตัดสินไปแล้วว่า มันเป็นคนอย่างไร ซึ่ง มันส่งผลกระทบที่กว้างมากครับ เพราะนักบิน ตำแหน่งสูงกว่าลูกเรือเยอะครับ ยิ่งเป็นกัปตันด้วยแล้ว....เรื่องใหญ่เลยครับทีนี้ ผมก็ไม่รู้จะอธิบายให้กับทุกคนอย่างไร เพราะทั้งหมดเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของผม จะให้ผมไปเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ทุกคนฟังมันก็ดูไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเล่า

แล้วพี่กัปตันคนที่สนิทกับผมก็โทรสายตรงมาหาผมในทันทีที่กลุ่มไลน์นักบินเดือดเป็นไฟ เรื่องที่ผมสอบไม่ได้กัปตันครับ พี่กัปตันคนนี้รู้จักไอ้ตัวแสบของผมครับ เพราะเคยไปกินเหล้ารับน้องมัน ตอนที่พวกเราอ้างว่าเดินตกท่อครับ

พี่กัปตัน : ไอ้เขม...มันเกิดอะไรขึ้นวะ...ทำไมมึงไม่ได้

เขม : พี่ เรื่องมันยาวมากคับ เอาเป็นว่า บี ไม่ผิดเลยนะพี่ เชื่อผม

พี่กัปตัน : แล้วทำไมในกรุ๊ปแม่งรุมด่าน้องขนาดนั้นฟระ...กรูอ่านกรูยังงงเลย

เขม : คือผมทะเลาะกับบีนิดหน่อยอ่ะพี่ แล้วก็เป็นช่วงก่อนสอบพอดี เคลียกันยาวเลยตอนนั้น มันเลยทำให้ทั้งผมและบีพังคับ

พี่กัปตัน : พวกมึงก็เลือกเวลาทะเลาะกันได้ดีเนอะ

เขม : จริง ๆ แล้วผมผิดเองเลยคับพี่

พี่กัปตัน : อ่าว เมิงไปนอกใจน้องเค้าเหรอ นิสัยนี่แก้ไม่เคยหายนะเมิง

เขม : ไม่ใช่คับพี่...มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด แต่ก็มันคนอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยแหละครับ

พี่กัปตัน : แล้วทำไม ไม่รีบเคลีย ๆ ให้เสร็จฟระ ปล่อยมาได้ไงเนี่ย

เขม : นั่นแหละครับ ที่ผมผิดเอง ผมไม่รีบเคลีย ๆ ให้เสร็จ เลยเรื่องยาวเลย

พี่กัปตัน : แล้วตอนนี้ดีกันแล้วใช่ป่ะ

เขม : ใช่ครับพี่...ผมเลือกที่จะง้อน้องเค้าครับ ผมเลยไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ

พี่กัปตัน : แล้วไอ้เด็กเวรนี้ก็เสือก เรื่องมาก ใจแข็ง ง้อยากว่างั้น

เขม : ก็ประมาณนั้นแหละครับ...

พี่กัปตัน : ไอ้เขมเอ้ย...จริง ๆ มึงเนี่ยตัวเต็งเลยนะ ผลงานก็มี ความรู้มึงก็ไม่ได้ด้อย กรูหละเสียดายโอกาสมึงจริง ๆ เลย เป็นเพราะแฟนมึงคนเดียวเลย

เขม : เป็นเพราะผมมากกว่าครับพี่...ถ้าผมรีบเคลียกับน้องเค้าให้เร็ว มันก็คงไม่แย่กันหมดอย่างนี้

พี่กัปตัน : แล้วไอ้เด็กนั่นแย่ยังไง

เขม : น้องเค้าก็สอบไม่ได้เพอร์เหมือนกันครับ

พี่กัปตัน : สมน้ำหน้ามัน สมน้ำหน้ามึงทั้งคู่เลย เสือกทะเลาะกันผิดเวลา

เขม : พี่....น้องเค้าไม่ผิด ผมผิดเองพี่

พี่กัปตัน : เออ....กรูรู้แล้ว ไม่ต้องปกป้องมันหรอก แล้วทีนี้จะทำยังไง กรูว่า ไอ้บี ไม่รอดชัวร์ โดนเล่นเละแน่เวลาไปบิน แล้วสมัครรอบต่อไปจะผ่านได้ไงฟระ โดนหมายหัวแน่

เขม : ผมก็เครียดอยู่ครับพี่...ผมสงสารน้องเลย

พี่กัปตัน : เมิงก็ต้องรีบ ๆ เป็นกัปตันให้ได้นะ จะได้ปกป้องน้องได้ เรื่องพวกนี้ไม่น่าจะเม้ากันนาน แต่ช่วงนี้ ไอ้บีก็คงจะโดนเล่นงานหนักหน่อย

เขม : เด๋วผมคงจะแลกไปบินกับน้องเค้าเยอะ ๆ หน่อยครับ เผื่อจะได้ปกป้องได้บ้าง

พี่กัปตัน : เอออ....ดูแลกันดี ๆ ละกัน กรูว่าไอ้บีเนี่ย คงจะอยู่ยากละ

เขม : ครับ...เด๋วผมดูแลน้องเองครับ ขอบคุณพี่มากนะครับที่เป็นห่วง

พี่กัปตัน : เด๋วกรูจะไปช่วยห้ามทัพอีกแรง ถ้านักบินเค้ายังฟังกรูอยู่บ้างนะ

เขม : ขอบคุณมากครับพี่

หลังจากวางหูโทรศัพท์จากพี่กัปตัน ผมก็รู้ทันทีว่าข่าวเรื่องนี้มันคงจะแพร่กระจายเร็วยิ่งกว่าเชื้อโรคระบาดแน่นอน ไม่นานไอ้ตาลก็ยิ่งสายตรงมาหาผม ปรึกษากันเรื่องน้องบีเลยทันทีครับ ไอ้ตาลดูเครียดมาก เพราะในกลุ่มนักบิน ไอ้ตัวแสบโดนเละเลยครับ แล้วข่าวนี้ไม่นานก็น่าจะถึงหูไอ้ตัวแสบของผม ผมจึงปรึกษาไอ้ตาลว่าจะขึ้นไปหาไอ้ตัวแสบที่เชียงใหม่ ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูไอ้ตัวแสบเมื่อไหร ผมอยากจะอยู่ข้าง ๆ มันเพื่อบอกมันว่า ตัวผมไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นและตัวผมจะปกป้องมันเอง

ผมทำการประชุมสายกับไอ้ตาลแล้วก็ไอ้พริ้ง ปรึกษาเรื่องที่จะขึ้นไปเชียงใหม่ในวันรุ่งขึ้น แล้วผมก็ชวนไอ้เก่งไปด้วยครับ ทุกคนว่างหมดยกเว้นผมที่จะต้องไปธุระตอนเช้ากับป๊าครับ ผมเลยบอกให้พวกมันไปก่อนเลย เพราะผมอยากให้พวกมันไปดูแลบีก่อน ไอ้เก่งดีใจใหญ่เลยครับพี่จะมีเรื่องโด่ดงานไปเที่ยวเชียงใหม่ ไอ้นี่มันลูกคนกรุงครับ ไม่ค่อยจะได้ไปเที่ยวไหนหรอกนอกจากทะเล แล้วมันก็เป็นทนายครับ ทำงานหนักอย่างกะอะไรดี ผมเห็นมันต้องทำงานเช้าถึงเย็น ตอนเล่นดนตรี บางทีมันยังต้องพาลูกค้าไปคุยต่ออีก จะดึกดื่นแค่ไหน มันก็ต้องทำงานครับ แล้วเป็นงานด้านเอกสารทางกฎหมายอีก คือมันไม่ใช่แผ่นสองแผ่นครับ เป็นปึก ๆ ที่มันแบกไปไหนมาไหน แล้วหลังรถมันนะครับก็มีแต่เอกสารเต็มไปหมด ผมเคยบอกมันว่าเปลี่ยนจากขับรถเก่งไปขับรถบรรทุกเถอะ ถ้าเอกสารมันจะเยอะขนาดนี้
.
.
.
.
พอผมถึงเชียงใหม่ ผมก็รีบไปแย่งตัวไอ้ตัวแสบมาอยู่ข้างกายผมทันทีครับ เพราะไอ้เก่งเนี่ย แทบจะสิงไอ้ตัวแสบของผมอยู่ละ ปล่อยไว้ครึ่งวันกับแฟนกรู เมิงจะแทงข้างหลังเพื่อนแล้วครับ ไอ้เก่งตัวดีมันก็ไม่ยอมให้ผมนั่งข้างหน้ากับแฟนผมครับ มันผลักผมให้ไปนั่งด้านหลัง ผมเลยทำการกอดไอ้ตัวแสบจากด้านหลังแล้วก็คอยปัดมือไอ้เก่งออกจากตัวของไอ้ตัวแสบ ไอ้เก่งช่วงนี้มันเป็นเอามากครับ อาจจะเพราะมันเพิ่งเลิกกับต้ามาไม่นาน ผมก็สงสารมันนะ แต่ตอนนี้ ตัวผมเอง ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะปลอบใครได้เลย คนที่ผมสงสารจับใจก็คือไอ้ตัวแสบของผมเนี่ยแหละครับ เพราะตอนนี้อนาคตมันจะเป็นยังไงถ้าโดนนักบินเล่นงานมัน

เรากลับมาถึงที่โรงแรมแล้วเราก็ตัดสินใจว่าจะไปบ้านว่าที่แม่ยายผมครับ ไปรับประทานอาหารค่ำสไตล์ เจ้าชาวเหนือที่แท้ทรู ผมบอกได้คำเดียวเลยครับว่า ที่ไอ้ตัวแสบทำผมหลงมันหัวปักหัวปำเนี่ย 1 ในข้อที่ผมรักมันแล้วก็คิดที่จะจริงจังกับมันเลยเนี่ยคือ ฝีมือการทำอาหารของมันครับ ผมไม่เคยเบื่อเลยที่จะกินอาหารที่แฟนผมทำ แต่มากไปกว่านั้น ผมกลับเสพติดรสมือของมันซะด้วยซ้ำ จนบางทีผมไม่อยากออกไปกินข้าวนอกบ้านเลย คือบ้านผมก็มีแม่บ้านทำกับข้าว และแม่ก็ทำบ้างในบางครั้งอยู่แล้ว เพราะ ป๊าครับ น้อยครั้งมากที่ป๊าจะพาพวกผมออกไปกินข้าวนอกบ้านเพราะป๊า ไม่ชอบกินข้าวนอกบ้าน ป๊าบอกว่า อาหารที่บ้านเราทำออกมาถึงมันจะรสชาติไม่ได้อร่อยเท่ากับบางร้านแต่เราก็แน่ใจได้ว่า อาหารที่กินสะอาดและคุณค่าทางใจ ป๊าจะออกไปกินข้าวนอกบ้านเฉพาะวันสำคัญเท่านั้นและการไปเที่ยวเท่านั้นครับ ที่เหลือ จะกินข้าวที่บ้านตลอด หรือถ้าอยากกินจริง ๆ ก็จะให้คนอื่นไปซื้อมาแล้วกินที่บ้านครับ และนี่อาจจะเป็นอีก 1 เหตุผลที่ผมติดการกินข้าวไอ้ตัวแสบมาก มันเหมือนเป็นคนที่ดูแลเรื่องอาหารการกินของผมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหารมื้อไหน มันจะต้องหาผักที่ผมกินได้อย่างน้อย ๆ 1 อย่าง มาให้ผมกินด้วย เพราะผมไม่ชอบกินผักครับ แต่ที่ร่ายมาทั้งหมดอีกอย่างก็คือ แม่ของไอ้ตัวแสบครับ ทำอาหารได้เลิศรสกว่าไอ้ตัวแสบไปอีก 100 เลเวล ผมนี่อยากจะกราบแม่เลยครับทุกครั้งที่ผมได้กินอาหารฝีมือว่าที่แม่ยายของผม

ไอ้คนที่ตื่นเต้นที่สุดก็จะเป็นใครไปไม่ได้ครับ คือไอ้เก่ง ไอ้เพื่อนเวรนี่แหละครับ ทำกระแดะบอกว่ากินอาหารเหนือไม่ค่อยได้ เพราะเคยกินตอนเด็ก ๆ แล้วไม่อร่อย มันเลยไม่กินอาหารเหนือ มันกลัวว่าแม่ไอ้ตัวแสบจะด่ามันเอา มันจะแกล้งป่วยแล้วกินน้อย ๆ เพื่อให้แม่ไอ้ตัวแสบ ไม่เสียใจที่มันไม่กินอาหารเหนือ แต่ที่ไหนได้ ไอ้ห่านนี่แทบจะเอาข้าวลงไปคลุกกับแกงฮังเลของแม่ไอ้ตัวแสบแล้วกินครับ มันแทบจะเลียหม้อ แล้วที่สำคัญ มันแดกเยอะที่สุดเลยครับ แม่ยายของผมชอบมันใหญ่เลยครับ ด้วยลูกอ้อนของมัน แล้วก็การกินแบบตะกละตะกลาม แม่ยายผมยิ่งปลื้มมันเข้าไปให้ ไหนจะวิธีการอ้อนของมัน หน้าหล่อ ๆ ของมัน ทำเอาแม่ยายผมเทใจให้มันหมดเลยครับ ผมเลยยอมไม่ได้เด๋วแม่ยายผมยกไอ้ตัวแสบของผมให้มันไปจะทำยังไง มันยิ่งเล็ง ๆ และก็โสดอยู่

สุดท้ายก่อนกลับแม่ไอ้ตัวแสบก็ยกเค้กออกมา ผมตกใจมากนึกว่าวันเกิดไอ้ตัวแสบ แต่เอาจริง ๆ ตั้งแต่คบกับมันมาผมยังไม่รู้เลยครับว่าวันเกิดของมันเป็นวันที่เท่าไหรเดือนไหนแล้วจริง ๆ แล้วไอ้ตัวแสบอายุเท่าไหรกันแน่ ผมลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไร หัวใจผมตอนนั้นตกไปที่ตาตุ่มเลยครับ แล้วถ้าวันนี้เป็นวันเกิดของมันจริง ๆ ผมจะกลายเป็นแฟนที่แย่มากเลยนะครับ ของขวัญซักชิ้นก็ไม่ได้เตรียม แต่ที่แย่ไปกว่านั้นและทำให้หัวใจผมที่ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้วแตกสลายก็คือ แม่ไอ้ตัวแสบมาบอกว่าไอ้ตัวแสบจะไปเรียนต่อครับ

คุณเคยรู้จักความวิ้งไม๊ครับ ความวิ้ง ในหัวผม คือ การได้ยินมันวิ้ง ๆ หูผมมันวิ้ง ๆ คือได้ยินคำว่าไอ้ตัวแสบจะไปเรียนต่อ ผมแทบจะล้มทั้งยืน ผมอธิบายอาการแบบนี้ไม่ถูกแต่สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นกับผม และมันทำให้ผมเสียสติไปในทันที ไอ้ตัวแสบพาผมมาเดินรอบ ๆ หมู่บ้านของมัน ผมพูดอะไรไม่ออกเลยครับ ผมไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มตรงไหน ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร และผมไม่พร้อมเลยที่ไอ้ตัวแสบต้องจากผมไปในที่ที่ไกลแสนไกล แล้วสิ่งที่ยิ่งบีบหัวใจผมไปอีกก็คือ คำบอกเลิก ของไอ้ตัวแสบครับ แค่ผมได้ยินผมก็แทบหายใจไม่ออก เหมือนจะเป็น hyper สติที่มีอยู่น้อยนิดอยู่แล้วยิ่งทำให้ผมแทบจะวิญญาณออกจากร่างครับ ผมอยากจะหายไปจากตรงนี้ ผมอยากจะให้มันเป็นเพียงแค่ฝันไป

ไอ้ตัวแสบพาร่างอันไร้วิญญาณของผมกลับมาที่โรงแรมครับ ในรถเราพูดคุยกันนิดหน่อย พอรถจอดสนิทปุ๊ป ผมวิ่งลงจากรถทันที...ผมไม่รู้ครับว่าผมต้องไปไหน ผมแค่อยากไปให้ไกลจากไอ้คนที่ทำร้ายหัวใจของผมอย่างหนักในตอนนี้ ผมไม่รู้ว่าจะต้องจัดการมันยังไง และผมก็กลั้นน้ำตาไว้แทบจะไม่อยู่

ไม่นานไอ้ตัวแสบก็คว้าแขนผมไว้ได้ ผมสะบัดมันออกด้วยสัญชาตญาณครับ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นที่ผมเห็นก็เหมือนเป็นภาพสะโลโมชั่น ไอ้ตัวแสบจากที่วิ่งตามผมแล้วผมสะบัดมัน มันก็เสียหลักแล้วล้มลงต่อหน้าผม ตอนนี้ผมรู้อย่างเดียวในหัวคือ ชิบหายครับ ผมทำร้ายคนที่ผมรักที่สุดได้ยังไง ผมรีบประครองมันขึ้นมา ผมตกใจสุดขีดเมื่อเห็นเลือดไอ้ตัวแสบ ไอ้ตัวแสบทำหน้ามุ่ย ผมรีบบัดตัวให้มัน ตอนนี้สติผมแตกหนักกว่าเดิมอีกครับ ผมลนไปหมด ไม่รู้ว่าจะต้องจัดการอย่างไร ผมนึกออกอย่างเดียวคือ ต้องไปหากำลังเสริมครับ แต่ไอ้ตัวแสบกลับพาผมไป 7-11

และนี่เป็นครั้งแรกและเป็นบทเรียนแรกที่ผมได้เรียนรู้ในการดูแลคนอื่นครับ ผมเป็นลูกคนเดียวและป๊ากับแม่ผมก็ทำแทบจะทุกอย่างให้ผมมาโดยตลอด เลยทำให้การความสามารถในการดูแลคนอื่นของผมค่อนข้างน้อยครับ ผมยอมรับเลยว่าผมไม่เคยทำแผลให้ใครมาก่อน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องซื้ออะไรที่จะทำการปฐมพยาบาลให้กับไอ้ตัวแสบ ผมคิดออกแค่พามันไปโรงพยาบาล หรือคลีนิก หรือเภสัช หรือใครก็ได้ทางการแพทย์ ไอ้ตัวแสบติผมต่อหน้าพนักงาน 7-11 ว่าเลือกซื้ออะไรมากมาย ทำให้ผมได้เรียนรู้เลยครับว่า นี่เป็นสิ่งจำเป็นมาก การปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือถ้าคนที่ผมรักเกิดเป็นอะไรขึ้นมาสิ่งที่ผมทำได้อย่างน้อย ๆ คือสิ่งนี้ครับ และทั้ง ๆ ที่ไอ้ตัวแสบก็เป็นลูกคนเดียวเหมือนกัน แต่ไอ้ตัวแสบทำได้แทบจะทุกอย่างและดูแล ผมได้แทบจะทุกอย่าง ผมนี่รู้สึกว่าตัวเองยิ่งด้อยค่าลงไปทันที

และอีก 1 อย่างที่ผมต้องยอมรับกับไอ้ตัวแสบของผมเลยก็คือ มันเป็นคนเดียว และเป็นคนแรกเลยครับในชีวิตผม ที่ทำให้ผม ทั้งร้องไห้ และ หัวเราะได้ในเวลาเดียวกัน ผมยอมคุยกับมันดีๆ หลังจากที่เห็นเลือดของมันครับ ผมรู้แค่ว่า มันจะขอเลิกกับผมเพราะมันจะไปเรียนต่อ แม่งโคตรจะไม่มีเหตุผลเลย ผมนี่รับไม่ได้เลยจริง ๆ ไปเรียนก็เรียนไปดิ เกี่ยวอะไรกับความรักของเรา มันตอบกลับมาแค่ว่า มันไม่อยากให้ผมเสียเวลารอมัน ดูดิครับ แม่งเอาเหตุผลโคตรน้ำเน่ามาอ้าง ผมนี่ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งหัวเสีย มันเหมือนกับว่าความรักที่เรามีให้กันตอนนี้มันเป็นเรื่องเล็ก ๆ สำหรับมันมากเลย แต่ยังไงผมก็ยังจะยืนยันครับว่า สิ่งที่มันจะทำมันทำไม่ได้หรอก ยังไงผมก็จะรอมัน ให้มันรู้กันไปเลยว่าไอ้เขมเนี่ยแหละ มันมีความมุ่งมั่นและตั้งใจกับความรักครั้งนี้แค่ไหน ต่อให้ไอ้ตัวแสบจะพูดยังไงในใจผมก็มีคำตอบให้กับมันแค่อย่างเดียวคือ “ไม่” ครับ

มีต่อครับ

ออฟไลน์ cybershot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
«ตอบ #168 เมื่อ22-11-2017 08:40:45 »

เรากลับไปที่ห้อง ทำการปาตี้กันอย่างเงียบ ๆ บรรยกาศดูมีความซึมเศร้าหน่อย ๆ ครับ ทุกคนดูเสียใจที่ไอ้ตัวแสบของผมต้องไปเรียนต่อ โดยเฉพาะไอ้เก่ง ผมไม่รู้นะครับว่ามันไปสนิทมากมายกับไอ้เก่งตอนไหน แล้วไอ้เก่งเพื่อนรักของผมเนี่ย ไปถูกใจอะไรไอ้ตัวแสบของผมนักหนา เพราะอย่างที่ไอ้เก่งเคยบอกเลยคือ แฟนผมแต่ละคนเนี่ย ไอ้เก่งแทบจะไม่อยากมาคลุกคลีด้วยเลยครับ เนื่องจากมันไม่ให้ผ่าน เพราะเวลามันไปอ่อยว่าที่แฟนใหม่ผม ไอ้พวกนั้นก็จะคล้อยตามไอ้เก่งไปแทบจะทุกคนผมมีโอกาสได้คุยกับไอ้เก่งตอนไอ้เก่งชวนผมไปดูดบุหรี่ครับ...คือผมเนี่ยไม่ได้ดูด นะไอ้เก่งดูด แต่ไอ้เก่งเนี่ยจะดูด ก็ต่อเมื่อมีเรื่องเครียด ๆ ในชีวิต

เก่ง : ไอ้เขม...เมิงจะว่าไง เรื่องไอ้หนูน้อยเนี่ย

เขม : แม่ง...กรูไม่รู้เลยหวะ มึงรู้ไม๊ว่าไอ้ตัวแสบ มันบอกกรูว่าไง

เก่ง : ว่าไงฟระ....ยังจะมีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกเหรอ

เขม : มันบอกว่า มันไม่อยากให้กรูรอ

เก่ง : มันหมายความว่าไงฟระ....

เขม : ก็หมายความว่า ขอเลิกกับกรูไง

เก่ง : เชี่ยยยยยยย.....ไอ้หนูน้อย แม่งเอาห่าอะไรมาคิดฟระ

เขม : เอออ...ก็นั่นดิ....สัส....กรูถึงจะเป็นบ้าอยู่นี่ไง

เก่ง : แล้วมึงหายไปตั้งนานกรูก็นึกว่าคุยกันรู้เรื่องแล้ว

เขม : จะรู้เรื่องได้ไงหละ....กรูแม่งเสือกทำมันล้ม...แล้วสติที่มีน้อย ๆ ของกรูก็แทบจะไม่เหลือเลยค๊าบบบบ.....

เก่ง : แล้วมึงจะทำไง

เขม : ไอ้ห่า....มึง กรูยังไม่รู้เลยว่ากรูต้องรู้สึกยังไงตอนนี้

เก่ง : เมิง....อย่าปล่อยไอ้หนูน้อยไปนะเว้ย

เขม : ถ้ากรูทำได้กรูอยากจะมัดมันไว้ ขังแม่งไว้ที่คอนโดกรูเลยสัส

เก่ง : ความคิดดี...เด๋วกรูช่วยจับ

เขม : ไอ้ห่า....

เก่ง : มึง....กรูไม่รู้นะว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป...แต่ที่กรูรู้ ๆ คือ ความรักมันไม่ง่ายหวะ

เขม : เชี่ยยยยย.....ดราม่ากว่ากรู ก็เมิงเนี่ยแหละ

เก่ง : เออ....กรูก็แค่ อยากเห็นเพื่อนกรูมีความสุข กับคนที่เมิงเลือกและรัก

เขม : คือตอนนี้...มันไม่ใช่แค่กรูกับมันแล้วไง มันรวมไปถึง ป๊า แม่ แล้วก็ พ่อแม่มันอีก

เก่ง : นั่นแหละที่ยิ่งยาก...กรูว่ากรูกับต้าก็โอเคดีนะเว้ย แต่ดูตอนนี้ดิ ในเมื่อพ่อแม่เค้าไม่โอเคกับกรู...แล้วจะให้กรูทำไง จะให้กรูไปต่อยังไง

เขม : ไอ้เก่งเอ้ย...กรูกะเมิงนี่มันเป็นเพื่อนรักกันจริง ๆ

เก่ง : ยังไงฟระ

เขม : มึงเลิก....กรูก็อาจจะต้องเลิกตาม

เก่ง : มึงต้องสู้ดิเขม....กรูไปไม่รอดไม่ได้หมายถึงมึงจะต้องไปไม่รอดด้วยนะเว้ย

เขม : ตอนนี้กรูคงเลือกอะไรได้ไม่มาก

เก่ง : ทำไมฟระ

เขม : เมิงไม่รู้จักบีดีพอหละสิ....ถ้ามันตัดสินใจแล้วนะ....ใครก็เปลี่ยนไม่ได้

เก่ง : จริงเหรอฟระ....เห็นมันออกจะตามใจเมิง แล้วก็ดูหัวอ่อน ฟังที่เมิงพูดออก

เขม : นั่นมันเรื่องทั่วไป...ใช่เลย มันตามใจกรูมาก แต่ถ้าเป็นเรื่องอนาคตนะ มันซีเรียสมากเลยเว้ย

เก่ง : ยังไงฟระ...

เขม : กรูเคยเล่าให้เมิงฟังใช่ป่ะว่า ถ้ากรูได้กัปตันแล้วกรูจะซื้อบ้านอยู่กับบีแบบจริงจัง

เก่ง : เออใช่ ๆ กรูจำได้....กรูยังแซวเมิงอยู่เลยว่าเมิงจะได้แต่งงานคนแรกในกลุ่ม 555

เขม : เมิงรู้ไม๊ว่าบีตอบมาว่าไง

เก่ง : ว่า?

เขม : มันเร็วไปสำหรับกรูกะมัน

เก่ง : เชี่ยยยยยยย......แต่ ก็จริงที่มันว่านะเว้ย

เขม : เมิงคิดดิถ้ากรูมีแฟนแบบ ทั่ว ๆ ไปเลยนะ ถ้าบอกว่าจะซื้อบ้านแล้วให้มาอยู่ด้วยกัน มึงคิดดิว่า คนทั่ว ๆ ไปจะตอบว่าไง

เก่ง : ก็คงเล่นตัวนิดหน่อยแล้วก็อีกไม่เกินอาทิตย์คงจุงมือกันไปเลือกบ้านอ่ะ

เขม : เห็นมะ...ตอนแรกกรูก็คิดว่าอย่างนั้น แต่แม่ง หายไปเลยเว้ย ไม่มีพูดเรื่องนี้อีกเลย

เก่ง : แสสสสสสสส....ไอ้นี่มันไม่เหมือนใครจริง ๆ นะ

เขม : ขนาดตอนนี้กรูยังไม่กล้าที่จะขอกุญแจคอนโดของมันเลยนะ

เก่ง : มึง...รับมือยากระ

เขม : กรูก็คงทำได้เท่าที่กรูทำได้แหละ แต่กรูกลัวจริง ๆ นะ ว่าวันนึง กรูจะเสียมันไป

เก่ง : อย่าว่าแต่เมิงเลย...กรูยังไม่อยากให้มันไปเลย

เขม : ขนาดคนอย่างมึง....มึงยังรู้สึกเลย...แล้วกรูหละ กรูไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงต่อไป

เก่ง : กรูบอกเลยนะว่า ไอ้หนูน้อยเนี่ย...แม่งเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วแม่งสบายใจสุด ๆ ไปเลย กรูบอกเลยนะกรูเครียดเรื่องไอ้ต้ามาเป็นเดือน กรูพูดตรง ๆ เมิงหรือไอ้ห่าตัวไหนก็ตามไม่เคยถามกรูเลยซักคำ ว่ากรูเป็นยังไงบ้าง แค่ไอ้หนูน้อยถามกรูคำเดียว กรูเล่าหมดเปลือกแล้วที่สำคัญ มันทำให้กรูไม่โกรธพวกเมิงเลยแม้แต่น้อย แต่เหมือนกับกรูได้เพื่อนใหม่ที่พร้อมจะฟังกรูทุกอย่างเพิ่มมาอีก 1 คน

เขม : เห็นมะ นี่กรูปล่อยไอ้ตัวแสบของกรูอยู่กะเมิงแค่ครึ่งวันนะ แล้วมึงเล่าอย่างนี้ กรูยังรู้สึกหึงเลย....แสสสสสสส

เก่ง : ไอ้สัส...เมียเมิงก็เหมือนเมียกรูแหละ....คิดมากหน่า

เขม : ไม่คุยกะเมิงละสัส ไม่ได้เฮี้ยไรไม่พอ...อารมณ์เสียอีกต่างหาก

หลังจากที่คุยกะไอ้เก่งแล้วผมก็พาไอ้ตัวแสบออกจากห้อง เราพากันไปทำเรื่องอย่างว่ากันในที่ ๆ ไม่สมควรอย่างยิ่งครับ แต่ตอนนั้นมันไม่ไหวจะเคลียจริง ๆ ครับ ผมอยากจะเปิดห้องใหม่ก็ดันเต็ม แล้วเราก็พากันไปจบที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างสระน้ำครับ หลังจากนั้นเราก็นอนอยู่ด้วยกันข้างสระน้ำ เพราะตอนนี้ผมไม่อยากที่เสียเวลาไปแม้แต่วินาทีเดียว ผมอยากจะใช้ทุกวินาทีนั้นอยู่กับไอ้ตัวแสบของผมให้ได้นานที่สุด
.
.

หลังจากกลับมาจากเชียงใหม่
.
.
พอผมรู้ว่าตารางบินเราออกครับ ผมกดดูตารางบินของไอ้ตัวแสบก่อนเลยแล้วผมก็ลมแทบจับ ไอ้ตัวแสบมีบินน้อยมากแล้วก็ไม่ได้บินกับผมเลย ผมโทรไปหาเพื่อนที่เป็นคนจัดตารางบินก่อนตารางออกแล้วแต่เพื่อนก็ช่วยไม่ได้ครับ การจะจับให้ใครบินกับใครเป็นเรื่องยากครับ แต่ถ้าจะขอให้หยุดพร้อม ๆ ก็ทำพอได้ครับ แต่ตอนนี้ใจผมแป้วมากเลย ไม่เพียงแต่ไม่ได้บินกับไอ้ตัวแสบนะครับ แต่ผมยังโดนยัดไฟล์มาเพียบเลยครับ ทำให้ผมกับแทบจะไม่ได้อยู่กทม. เลย ไปบิน ไปค้างตลอด ผมได้ขอไอ้ตัวแสบให้ไปค้างเป็นเพื่อนผมถ้ามันทำได้ แต่มันก็มีภาระกิจเรื่องการเรียนต่อของมันที่ต้องดูแล และทำให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนนี้ครับ ผมก็ได้แต่ภาวนาให้มันได้ไปค้างกับผมบ้าง

ในอาทิตย์แรกเราทั้งสองคนแทบจะไม่ได้เจอกันเลยครับ แล้วหลังจากผ่านไปไอ้ตัวแสบก็ยังต้องกลับบ้านไปอีก ผมนี่แทบจะเป็นบ้า คือคุยกันทุกวันก็จริงนะครับ แต่ก็อย่างว่าแหละครับ...เวลาการนับถอยหลังของพวกเรามันเหลือน้อยเต็มที่ ผมก็งอแงงสุด ๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่สิ่งที่ผมตกใจสุด ๆ ก็คือ ไอ้ตัวแสบมันทำเซอร์ไพรส์ให้กับผม มันพาป๊ากับแม่ผมมาหาผมในวันที่ผมค้างภูเก็ตครับ ผมตกใจมากในวันนี้ที่เจอมัน มันทำให้ผมร้องไห้แทบจะไม่หยุด แล้วมันยังเซอร์ไพรส์ผมไม่พอ ยังจัดงานวันเกิดย้อนหลังให้ผมอีก จริง ๆ ผมเกิดเดือนพฤษภาคมครับ แต่ตอนนี้มันเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักไปแล้ว แต่ไอ้ตัวแสบของผมก็ยังจะอยากจัดงานให้ผมย้อนหลัง ป๊าให้เหตุผลว่า เพราะงานปีนี้ไม่มีไอ้ตัวแสบอยู่ก็เลยจัดให้อีกรอบ

ผมเหมือนเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกเลยครับ แฟนของผม รักผมและรักครอบครัวของผม แล้วยกโขยงพากันมาที่ภูเก็ต ป๊ากับแม่ก็ยอมเล่นกะไอ้ตัวแสบมันด้วยครับ ไอ้ตัวแสบของผมมันจัดเตรียมทุกอย่าง ทั้งแผน จองห้อง เช่ารถ แล้วยังขับรถพาผมไปกินข้าวตอนเย็นอีก ผมเหนื่อยมากจาบินเพราะวันนี้อากาศไม่ค่อยจะดีเลยครับ บินวน ๆ ไป ขับหลบเมฆเลื่อยเป็นงูเลยครับ แล้วที่สนามบินตอนจะลงฝนก็ดันตกอีก เกือบ go around ไปอีก ผมยื่นมือไปจับมือไอ้ตัวแสบไว้ตลอดทางเลยครับแล้วผมก็หลับไป ป๊ากับแม่ก็ไม่ว่าอะไรครับ

แต่จุดที่ผมต้องยอมรับเลยครับว่า ผมทนไม่ได้จริง ๆ ที่มันจะต้องจากผมไป คือเมื่อมันนอนหลับไปครับ โดยปกติไอ้ตัวแสบกับผมจะนอนกอดกันซักพักก่อนแล้วก็พอเริ่มหลับจริงจัง ตัวของไอ้ตัวแสบก็จะดีดออกจากตัวผมไปครับ เพราะมันเป็นคนนอนดิ้น นอนในอ้อมกอดผมได้ซักแป๊ป มันก็จะออกจากอ้อมกอดผมไปนอนดิ้น ๆ ของมันไป ผมตื่นมา กลางคืนบ่อยครั้งครับ แล้วก็ไปห่มผ้าให้มัน เพราะมันเป็นคนขี้หนาว และเมื่อไหรก็ตามที่มันถีบผ้าห่มออก ซักแป๊ปมันก็จะนอนขดเป็นกุ้งครับ พอผมรู้ตัวผมก็จะไปห่มผ้าให้กับมัน แต่เมื่อไหรก็ตามที่มันหนาวแล้วส่วนใดส่วนหนึ่งของมาไปโดนมันนะครับ มันจะรีบคว้าผมไว้ทันทีแล้วก็เกาะหนึบไม่หลุดง่าย ๆ เลยครับ เพราะตัวผมเป็นคนตัวร้อนครับตัวไอ้ตัวแสบเป็นคนตัวเย็น ผมจึงชอบไปนอนกอดมัน

คืนนั้นแค่นอนได้ไม่ถึง 5 นาทีไอ้ตัวแสบก็หลับปุ๋ยเลยครับ ไม่นานมันก็ดีดออกจากตัวผมไป ผมนั่งดูมันนอนอยู่ข้าง ๆ แล้วน้ำตาของผมมันก็ไหลออกมาครับ ผมแค่เริ่มคิดว่าถ้าวันพรุ่งนี้จะไม่มีมันนอนข้าง ๆ ผม ไม่มีใครคอยนอนกอด ไม่มีมือขาว ๆ ของไอ้ตัวแสบให้กุมเวลาขับรถ ผมก็เศร้าจนแทบจะทนไม่ได้ ผมกลัวไอ้ตัวแสบตื่น ผมเลยขึ้นไปหาป๊ากับแม่ครับ ผมบอกให้ป๊ากับแม่นอนไปก่อนเลยผมขอนอนตรงโซฟาที่ห้องนั่งเล่น แต่แม่ก็เข้ามากอดผมแล้วผมก็นอนที่ตักแม่ครับ

แม่ : เป็นอะไรอ่ะลูก ทะเลาะกับลูกบีเหรอลูก

เขม : เปล่าครับแม่...ผมแค่....

แม่ : ลูกเอ้ย....แม่รู้นะว่าลูกกำลังทำใจไม่ได้

ผมได้แต่นอนให้น้ำตามันไหลออกไป เผื่อว่าความเศร้าในใจผมมันจะถูกระบายออกไปบ้าง

เขม : แม่ครับ....ถ้าแม่เป็นเขมแม่จะทำยังไง

แม่ : แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันลูกเอ้ย....

เขม : แม่ครับ....เขมรักมันมาก เขมไม่อยากให้มันไปเลย

แม่ : แต่ละคนก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเองอ่ะนะลูก เราจะไปกะเกณฑ์ใครให้ทำอะไรตามที่ใจเราต้องการมันก็ไม่ได้หรอกลูก

เขม :........

ผมไม่กล้าถามอะไรกับแม่มากมายไปกว่านี้อีกครับ ยิ่งผมถามออกไปก็จะยิ่งทำให้แม่หนักใจมากขึ้น ผมจึงบอกให้แม่ไปนอนแล้วผมนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นคนเดียวครับ ผมปิดไฟแล้วทำท่าเหมือนจะนอนแต่ผมก็นอนไม่หลับ....ในวันนี้มันเป็นวันที่ผมมีความสุขมากเหลือเกิน ไอ้ตัวแสบของผมมันทำให้ผมและป๊ากับแม่มีความสุขอย่างมาก แต่พอผมมาคิดถึงเรื่องที่มันจะต้องไปเรียนต่อ มันก็ทำให้ผมเศร้ามากในเวลาเดียวกัน ผมนอนลืมตาอยู่ตรงนั้นจนเกือบเช้าแล้วป๊าก็ออกมาจากห้องครับ พอป๊าเห็นผมป๊าก็ทำอะไรไม่ถูก ป๊าเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรกับผม ไม่นานแม่ก็เดินมาหาผม

แม่ : ได้นอนบ้างไม๊ลูก

เขม : นอนไม่หลับเลยครับแม่

แม่ : แล้วต้องไปบินกี่โมงเนี่ยลูก

เขม : อีกไม่เกิน 15 นาที เขมก็ต้องเริ่มแต่งตัวแล้วครับ

แม่ : งั้นแม่ไปเอาเสื้อผ้าลูกมาให้นะ

เขม : ขอบคุณครับแม่.....

ผมนั่งน้ำตาไหลอยู่ที่เดิมมองออกไปนอกหน้าต่างซักพักผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้าให้มา ในใจผมก็คิดว่าเป็นแม่ แน่นอนอยู่แล้วครับ แต่กลับกัน ไอ้ตัวแสบเข้ามานั่งอยู่ข้าง ๆ ผม ผมรู้เลยครับว่า ผมไม่อยากให้ไอ้ตัวแสบเห็นผมในสภาพนี้เลย ทั้ง ๆ ที่มันทำเพื่อให้ผมมีความสุขทุกอย่าง แต่สิ่งที่ผมทำอยู่ตอนนี้คือคิดถึงเรื่องที่เต็มไปด้วยความทุกข์ที่ยังมาไม่ถึง ผมรู้ทันทีครับว่าไอ้ตัวแสบต้องเสียใจมากแน่ ๆ ที่เห็นผมอยู่ในสภาพแบบนี้ แล้วไอ้ตัวแสบก็ยังคงเป็นไอ้ตัวแสบของผมคนเดิม มันสามารถสลัดความโศกเศร้าเสียใจของผมไปได้หมดเพียงคำพูดไม่กี่ประโยคของมัน ผมเหมือนโดนคลายมนต์สะกดทำให้ความโศกเศร้าถูกปัดออกไปอย่างสิ้นเชิง
.
.
.
.
ผมกลับมาบ้านตอนบ่าย ๆ พร้อมกับความปวดหัวและมีไข้ครับเนื่องจากเมื่อคืนไม่ได้นอนแล้วอากาศก็ร้อน ๆ หนาว ๆ แถมกับสภาพจิตใจที่ไม่ปกติเอาซะเลยครับ พอถึงบ้านผมจึงพุ่งตรงไปที่ห้องนอนของผมทันที ผมนอนหลับทันทีที่หัวของผมถึงหมอนเน่าครับ

ในฝัน....ผมไปสิ่งไอ้ตัวแสบที่สนามบิน ผมรู้สึกใจหายทันทีที่วันนี้จะไม่มีไอ้ตัวแสบอยู่ด้วยแล้ว มันเร็วไปครับ...ผมทำใจไม่ได้จริง ๆ ผมทั้งร้องไห้ ฟูมฟาย ทำทุกอย่างเพื่อให้ไอ้ตัวแสบยกเลิกการไปเรียน ผมทั้งคุกเข่าขอร้อง แต่ก็เหมือนจะไม่เป็นผล ไอ้ตัวแสบของผมทำหน้านิ่ง ไม่พูดคุยกับผมแล้วก็เดินจากผมไปอย่างไร้เยื่อใย ผมนั่งร้องไห้คนเดียวอยู่ที่สนามบิน แล้วภาพก็ตัดมาที่เครื่องบินครับ ผมเห็นเครื่องบินที่ทะยานออกไป แล้วก็มีไอ้ตัวแสบอยู่ในนั้น ผมภาวนาให้เครื่องบินที่มันบินไปมีปัญหาแล้วบินกลับมาที่เดิม แล้วเครื่องบินก็มีปัญหาจริง ๆ ครับ มีกลุ่มควันสีดำลอยออกมาจากเครื่องยนต์ด้านขวา ผมเห็นอย่างนั้นผมก็คิดผิดทันทีครับที่ภาวนาให้เครื่องไอ้ตัวแสบที่กำลัง take off ออกไปมีปัญหา เพราะหัวใจผมตอนนี้มันกำลังจะสลาย คุณรู้หรือไม่ครับว่า เครื่องบินช่วงที่น่ากลัวที่สุดคือช่วงไหน คำตอบก็คือ ช่วง take off และ landing นั่นแหละครับ

ช่วง take off เป็นช่วงที่เครื่องบินเร่งสุดเต็มพลังเพื่อจะทำให้วิ่งให้เร็วแล้วมีแรงยกมากพอที่จะยกเครื่องบินให้บินขึ้นได้ และด้วยความหนัก ไม่เฉพาะตัวของเครื่องบินแต่เป็นตัวของน้ำมันที่บรรทุกเป็นตัน ๆ พร้อมที่จะเกิดระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อถ้าเครื่องเกิดปัญหาอะไรขึ้นแล้วมีเพียงประกายไฟเล็ก ๆ เพราะฉะนั้นในช่วงนี้หลาย ๆ สายการบินจึงมีการเข้มงวดในเรื่องของการรัดเข็มขัด เปิดม่านหน้าต่าง หรือปิดอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อทำให้ผู้โดยสารทุกคนช่วยสอดส่องดูแลความเป็นไป ถ้าเกิดมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น จะได้แจ้งให้กับลูกเรือและนักบินให้ช่วยทำการแก้ปัญหาได้เร็วที่สุด และอีกอย่าง...รู้หมือไร่ครับว่า ผู้โดยสารมักจะเป็นคนเห็นว่าเครื่องยนต์มีประกายไฟ หรือไฟไหม้ เพราะนักบินไม่มีกระจกหลังหรือกระจกข้าง และที่นั่งของลูกเรือส่วนใหญ่จะอยู่ตามประตูมากกว่าจะอยู่ใกล้ ๆ เครื่องยนต์ครับ ทำให้การเปิดม่านหน้าต่างเวลา take off and landing นั้นสำคัญมาก

ในฝันผมวิ่งตามเครื่องบินไปเพื่อจะไปบอกกัปตันว่าให้นำเครื่องลงให้เร็วที่สุด และเครื่องก็ลงมาพร้อมกับไฟที่ไหม้อยู่ที่เครื่องยนต์ด้านขวา ผมวิ่งไปเพื่อพยายามจะหาไอ้ตัวแสบ แต่ไอ้ตัวแสบยืนอยู่ในเครื่องบินเพื่อช่วยคนอื่นในการออกจากเครื่องบินอยู่ ไอ้ตัวแสบดูไม่ได้ห่วงตัวของมันเลยครับ มันห่วงแต่คนรอบข้างของมัน ผมพยายามตะโกนเท่าไหร มันก็ไม่ได้ยิน แล้วเครื่องก็เกิดระเบิดขึ้น ผมสะดุ้งตื่นทันที

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความฝัน แต่เป็นฝันที่ผมกำลังจะเสียไอ้ตัวแสบไปแบบถาวร ผมพยายามลุกขึ้นนั่งแต่หัวของผมก็หนักอึ้ง ตอนนี้แม่บ้านได้เดินเข้ามาให้ห้องผมครับ ผมบอกพี่แม่บ้านให้ไปเรียกแม่ผมมาหน่อย ผมคิดว่าผมน่าจะต้องไปโรงพยาบาล มันเป็นสิ่งเดียวที่ผมคิดออกตอนนี้ครับ เพราะว่าผมกลัวว่าผมจะไม่สบายหนักและเสียเวลาที่มีค่า ที่จะไม่ได้อยู่กับไอ้ตัวแสบของผม

และแม่ก็ตามไอ้ตัวแสบมารับตัวของผมไปส่งที่โรงพยาบาลครับ ไอ้ตัวแสบดูแลผมตลอด หมอบอกว่าอาจจะเป็นไข้หวัด หมอจะจ่ายยาให้แต่ผมปฏิเสธ แต่เลือกที่จะฉีดยาเองเพราะอีกไม่กี่วัน ก็เป็นวาเลนไทน์แล้วครับ ผมไม่อยากป่วย ผมอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่กับไอ้ตัวแสบให้มีค่า และความทรงจำที่ดีมากที่สุด วันต่อมาผมหายป่วยเป็นปลิดทิ้ง ผมนัดพวกเพื่อนในวงเพื่อซ้อมแล้วผมก็นัดแน่ให้ทุกคนแต่งตัวดีงามและก็ซ้อมเพลงที่ผมอยากจะเล่น และร้องให้กับไอ้ตัวแสบในวันนั้น ผมตัดสินใจที่จะร้องเพลงครับ ผมไม่เคยร้องเพลงให้ใครมาก่อน ไม่เคยขึ้นเวทีในฐานะนักร้อง ครั้งนี้ก็เหมือนผมจะตื่นเวทีเบา  ๆ ครับ แต่ทั้งหมดที่ผมทำไปมันก็เพื่ออยากจะให้ไอ้ตัวแสบของผมรับรู้ถึงความรู้สึกของผม อย่างน้อย ๆ ผมก็อยากจะบอกมันว่า ความรักที่ผมมีให้มันในตอนนี้ มันมีอยู่จริง และมันจะมีอยู่อย่างนี้ตลอดไป


มีต่อครับ

ออฟไลน์ cybershot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
«ตอบ #169 เมื่อ22-11-2017 08:41:36 »

ผมเคยยอมรับกับทุกคนแล้วนะครับว่าผมเนี่ยเป็นคนที่หื่นมากประมาณนึง มีอารมณ์แทบจะตลอดเวลาที่อยู่กะไอ้ตัวแสบของผมเลยก็ว่าได้ ผมแพ้ความขาวของมันแล้วก็ความขี้อ้อนคลอเคลียของมันอยู่ตลอด ๆ แต่วันนี้เป็นวันแห่งความรัก ผมกลับแค่อยากจะนอนกอดไอ้ตัวแสบไว้ให้นานที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้

คุณเคยรู้สึกอย่างนี้กับใครบ้างไม๊ครับ เราไม่ได้แค่ต้องการจะมีอะไรกับเค้า แต่เราต้องการแค่อยากจะให้เค้า อยู่กับเราอย่างนี้เรื่อยไป นานเท่าที่จะนานได้ ตั้งแต่เด็ก ๆ ผมก็เจอความรักมาหลายรู้แบบครับ แต่ผมเพิ่งจะมีเรียนรู้ความรักรูปแบบนี้ก็ครั้งนี้เองหละครับ ผมเป็นพ่อบุญทุ่มครับ มีอะไร รักใคร ยกให้หมด ขอแค่เค้ามีความสุข และส่วนใหญ่สิ่งที่ผมจะใช้แลกกับความสุขของคนที่ผมรักก็คือ ตัวเงินครับ บ่อยครั้งที่ผมใช้เงินซื้อความสุขให้กับคนที่ผมรัก ซึ่งตรงจุดนี้ผมก็รู้ดีครับว่า บางคนที่เข้ามาในชีวิตเราก็อาจจะหวังแค่เพียงสิ่งเหล่านี้ แต่อีกหลาย ๆ คนก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นครับ และไอ้ตัวแสบเป็นคนที่ตัวเงินซื้อไม่ได้เลยครับ ถ้าผมอยากจะทำอะไรให้มันมีความสุข ผมต้องลงมือทำเอง นั่นคือครั้งแรกที่ทำให้ผมได้รู้จักคำว่า ดูแลคนที่เรารักจริง ๆ ครับ พูดไปผมอาจจะดูแย่ เกิดมาตั้ง 30กว่าปีแล้วทำไมยังดูแลคนอื่นไม่ได้อีก ผมยอมรับครับว่าที่บ้านเลี้ยงผมมาแบบไข่ในหิน แล้วตอนนี้ไอ้ตัวแสบของผมก็สอนให้ผมรู้ว่า การที่จะมีความรักมันไม่ใช่แค่รัก แต่มันยังต้องห่วงใย ดูแล เอาใจใส่ มันมีหลายองค์ประกอบมากไปกว่าแค่ การ ได้เสียกัน
.
.
.
.
.
วันที่ 25 กุมภาพันธ์

ผมจัดปาตี้ให้กับเพื่อน ๆ ของไอ้ตัวแสบบ้างครับ คือไอ้ตัวแสบของผมเนี่ยเป็นคนเพื่อนเยอะมาก ๆ ครับ ลูกเรือรุ่นมันก็ปาไปเกือบจะ  20 คนแล้วครับ แล้วทุกคนมันก็สนิทหมด ผมเลยต้องปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ที่รสชาติโอเค แล้วก็เสียงดังได้เพื่อจะทำการฉลองให้กับไอ้ตัวแสบครับ เพื่อน ๆ ของไอ้ตัวแสบเนี่ยก็คือลูกเรือรุ่นมันแหละครับ ไอ้ตัวแสบบอกว่าไม่อยากชวนมาเยอะเด๋วผมเสียตังเยอะ ซึ่งอย่างที่บอกเรื่องของตัวเงินเนี่ยผมไม่เคยซีเรียสเลยนะครับ แต่ไอ้ตัวแสบดิครับ มันไม่ยอมเลยถ้าผมจะต้องเสียตังเยอะเกินกว่าความจำเป็น

ทุกคนต่างดูมีความสุขและความเศร้าปะปนกันไปครับ บ้างก็ยินดี ดีใจที่ไอ้ตัวแสบได้ไปเรียนต่อ ได้ทำในสิ่งที่มันควรจะทำ เพื่อต่อยอดให้กับอนาคตของมัน บ้างก็เสียใจแหละครับ เพื่อนลาออกแล้วไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจะได้กลับมาเจอกันอีก

ผมนั่งกินอยู่กับแก้งค์เพื่อน ๆ ผมครับแล้วก็มีน้องปืนคนที่ผมเคยชอบ มันเดินเข้ามาคุยกับผมครับ

ปืน : พี่เขม....ปืนขอโทษ

พี่เขม : เรื่องอะไรปืน....

ปืน : ปืนเป็นคนเจอพี่กินเหล้ากะน้องเจเองแหละ

พี่เขม : โหย....เรื่องนานมาแล้ว แล้วก็ไม่ใช่ความผิดของปืนหรอก

ปืน : ปืนเหมือนทำให้ทุกอย่างมันแย่ลง

พี่เขม : ไม่หรอกปืน...พี่ต่างหากที่ทำ

ปืน : พี่เขม....ไอ้บีจะไปเรียนต่อ พี่ทนได้หรอ?

พี่เขม : พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันหวะ....บอกตรง ๆ เลยนะว่าพี่ยังทำใจไม่ได้เลย

ปืน : ขนาดผมเป็นเพื่อนมันนะพี่...ผมยังใจหายเลย

พี่เขม : อืม...เนอะ ชีวิตคนเราก็งี้แหละ มีพบก็ต้องมีจาก

ปืน : พี่เขม....พี่ดูไม่เหมือนเมื่อก่อนเลยนะ

พี่เขม : ยังไง...?

ปืน : พี่เขมที่ผมเคยรู้จักตอนก่อนที่พี่จะคบกับไอ้บี....มันดู...แบบว่า

พี่เขม : เลวกว่านี้ใช่มะ

ปืน : เฮ้ยไม่ใช่พี่...ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น

พี่เขม : แล้วยังไงหละ

ปืน : มันดู ไม่จริงจังกับอะไรเท่าตอนนี้อ่ะ เมื่อก่อนพี่เหมือนลอยไปหาคนโน้นทีคนนั้นที แต่พอมาตอนนี้ พี่ดูเหมือนว่ารักไอ้บีมันเข้ามาก ๆ แล้วก็ดูคิดเยอะกว่าเมื่อก่อนอ่ะ

พี่เขม : ทำไมอ่ะ...ตะก่อนพี่ดูคิดน้อยเหรอ

ปืน : อืม....ดูเหมือนพี่ไม่ค่อยจะใส่ใจอะไรเท่าไหร่...ขนาดตอนนั้นที่พี่จีบผมนะ ผมยังรู้สึกเลยว่า...พี่แม่ง...มาเล่น ๆ ใครจะไปกล้าคบด้วยฟระ ไม่ชัดเจนขนาดนี้

พี่เขม : แล้วตอนนี้หละ...

ปืน : พี่ดูเป็นผู้ใหญ่มากอ่ะ...ดูพึ่งพิงได้ ดูเหมือนว่าจะดูแลคนอื่นได้จริง ๆ

พี่เขม : ก็เพราะเพื่อนปืนนั่นแหละ....มันทำให้พี่มองทุกอย่างเปลี่ยนไป

ปืน : ไอ้บีมันมีอธิพลกับพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ....

พี่เขม : ไอ้บี...มันคือ รักที่พี่ตามหามานาน พี่คิดว่านะ

ปืน : เชี่ยยยยยย....ขนลุก

พี่เขม : เป็นห่าอะไร ผีเดินผ่านเหรอ

ปืน : ไม่คิดว่าคำอย่างนี้จะออกมาจากปากพี่เขม เดอะ เพลย์ บอย

พี่เขม : ก็ว่าไป ตอนนี้ถอดเขี้ยวถอดเล็บแล้วค๊าบบบบบ

ปืน : โดนถอดหรือถอดเองหละ

พี่เขม : คิดว่าไงหละ....ใครจะกล้ามาถอดของพี่

ปืน : ก็จริง...ไอ้บีนี่มันเก่งเนอะ

พี่เขม : ไม่หรอก...บีก็แค่เป็นตัวของบี แล้วทำให้พี่เห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง

ปืน : ผมไประ...พี่เริ่มหวานซะหยดย้อยละ...ผมไปตามไอ้บีมาให้พี่ดีกว่า

พี่เขม : ไม่ต้องหรอก....ให้เค้าสนุกกับเพื่อนๆ  เถอะ....พี่ยังไงก็รอได้

ปืน : หวานไปอีกกกกกกก

ผมบอกไอ้เก่งว่าผมอยากร้องเพลงอีกครับ แต่ไอ้เก่งเนี่ย ไม่กล้าออกจากวงเหล้าเลยครับเพราะมันโดนแก้งค์ชะนีน้อยเพื่อน ๆ ของไอ้ตัวแสบรุมครับ แล้วไอ้พวกแอร์ชะนีน้อยนี่ก็สายเปย์นะจ๊ะ....ไอ้เก่งแทบจะวิ่งหนีกลับมาแทบไม่ทัน

ผมกับไอ้มิ่งไปเซ็ตเครื่องเสียงเพื่อจะร้องเพลงครับแล้วไอ้เก่งก็เอาเครื่อง DJ ของมันออกมาครับ เป็นเครื่องเล็ก ๆ ไม่ใหญ่มันตั้งชื่อให้ว่า น้องซาร่าครับ เป็นลูกสาวของเล่นใหม่ของมัน ไอ้เก่งนี่มีความสามารถในการทำด้านเกี่ยวกับดนตรีมากครับ แล้วผมกะไอ้มิ่งก็เริ่มร้องเพลง โดยที่เด็ก ๆ และไอ้ตัวแสบยังคงเม้ามอยเล่นกันอยู่ พอเสียงดนตรีเริ่มขึ้นเท่านั้นแหละครับ ทุกคนหยุดแล้วหันมามองผมเป็นสายตาเดียวกันหมดเลย
ผมเริ่มจากเพลง เพราะ ๆ ที่ทุกคนน่าจะร้องได้ จนไปถึงเพลงที่ผมอยากจะให้ไอ้ตัวแสบของผมมากที่สุดครับ

เขม : สำหรับเพลงสุดท้ายนี้ พี่ขอมอบให้กับแฟนของพี่ คนเดียวนะครับ

เสียงแอร์ชะนีน้อยและเพื่อนผมกรีดร้องกันใหญ่....ทุกคนแทบจะม้วนยิ้มตามเลยครับ ไอ้ตัวแสบของผมสิครับ มันทำหน้าเหวอแล้วก็ชี้ที่หน้าของมันเอง เพื่อนๆ  ต่างดันตัวของไอ้ตัวแสบมาไว้ด้านหน้าครับ แล้วมันก็เดินลงมานั่งข้าง ๆ ผม แล้วก็ ฟอดดดดดดดดดด
หอมแก้มผมเข้าให้ อาจจะเพราะด้วยความเมาของไอ้ตัวแสบ มันเลยกล้าทำ ปกติ ไอ้ตัวแสบนะครับ ถ้ามีคนมากกว่าผมกะมัน มันแทบจะไม่แต่ตัวผมเลย นอกซะจากมันเมาครับ 55555

พอไอ้ตัวแสบหอมแก้มผมกลางงานแล้วไอ้ผมเองเนี่ยแหละครับที่เขิน อาย ม้วนเลยครับ คือโดยปกติ ผมเนี่ยจะเป็นคนทำให้ไอ้ตัวแสบมันเขินและแกล้งมันอยู่ตลอด เอาง่าย ๆ ว่าหน้าผมด้านมากครับ แต่พอไอ้ตัวแสบมาทำผมคืน ผมแทบจะลืมโน้ตทุกตัว เนื้อเพลงทุกตอนไปเลยครับ ผมยิ้มออกมาแล้วหน้าผมก็แดงขึ้นเรื่อย ๆ นี่แทบจะเป็นครั้งแรก ๆ เลยมั่งครับที่ไอ้ตัวแสบมันทำให้หน้าผมร้อนผ่าว ๆ ขนาดนี้ ผมโอบตัวมันเข้ามาให้นั่งใกล้ผมมาขึ้น มาเอนหัวของมันมาซบที่ไหล่ของผม ตอนนี้ผมบอกได้เลยครับว่า สติผมกระเจิงหมดไอ้เก่งเริ่มที่คีบอร์ดและsound ของมัน แล้วไอ้มิ่งก็เริ่มร้องนำให้ก่อนครับ

มิ่งร้อง :

เธอคือทุกสิ่ง ในความจริงในความฝัน
คือทุกอย่างเหมือนใจต้องการ
เธอเป็นนิทาน ที่ฉันอ่าน ก่อนหลับตาและนอนฝัน

เก่งร้อง :

เธอคือหัวใจ ไม่ว่าใครไม่อาจเทียมเทียบเท่าเธอ
ช่างโชคดีที่เจอ ได้ตกหลุมรักเธอ
ได้มีเธอ เคียงข้างกัน

เขมร้อง :

คงจะมีเพียงเธอทำให้โลกนั้นหยุดหมุน เพียงเธอสบตาฉัน
คงจะมีเพียงเธอที่หยุดหัวใจของฉันไว้ตรงนี้ ตรงที่เธอ




แล้วไอ้ตัวแสบของผมก็แย่งไมค์ผมไปร้องหน้าตาเฉย

บีร้อง :
เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอที่ต้องการ
ฉันจะทำทุกๆ ทางด้วยวิญญาณและหัวใจ
นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด
ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียงคนเดียว

ทุกคนกรีดร้องกันหมดครับ....โห่ไอ้ตัวแสบของผมที่แย่งซีนของผมเลยทีเดียว แล้วไอ้ตัวแสบก็ยื่นมือมาจับไว้ที่มือผมครับ..มันรู้สึกถึงความอบอุ่น ถึงความรัก ที่เรามีให้ต่อกัน มันทำให้น้ำตาของผมมันเริ่มไหลลงมาทันทีครับ....ไอ้ตัวแสบเห็นแล้วก็ปล่อยมือผมมาปาดน้ำตาให้กับผมครับ ยิ่งทำให้ทุกคนโห่ร้องไม่หยุด

หลังจากงาน ผมก็ไปนอนที่คอนโดของไอ้ตัวแสบครับ...ผมบอกได้เลยว่าเข้าห้องมันมาเราไม่ทำอะไรครับนอกซะจาก “ถอดเสื้อผ้าให้กันครับ” ด้วยความที่ไอ้ตัวแสบมันเมาประมาณนึง เวลาไอ้ตัวแสบมันเมาเนี่ย ความหื่นของมันก็เข้าครอบงำทันที มันทั้งจูบผมอย่างรุนแรง ดูดคอผมแล้วก็ไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนตัวผมเป็นรอยเต็มไปหมดครับ พอพวกเราต่อสู้กันซักพัก ผมก็พร้อมรบแล้วครับ ครั้งนี้ผมเริ่มตั้งแต่ที่ประตู ไอ้ตัวแสบปลุกเขมน้อยของผมขึ้นมาด้วยปากของมันครับ แล้วผมก็พามานอนฟัดกันที่โซฟา ผมเริ่มที่จะจู่โจมไอ้ตัวแสบแล้วครับ ผมนำทางเข้าไปก่อนด้วยนิ้วเหมือนทุกครั้ง แต่ไอ้ตัวแสบเหมือนจะพร้อมมากเลยครับ ไอ้ตัวแสบคร่อมตัวผมไว้แล้วก็ค่อย ๆ นั่งทับลงไปอย่างช้า ๆ ตอนนี้เขมน้อยของผมเริ่มเข้าไปอยู่ในตัวของไอ้ตัวแสบลึกขึ้นเรื่อย ๆ แล้วครับ ไอ้ตัวแสบเริ่มร้องออกมา

ไอ้ตัวแสบ : พี่เขมครับ....โอยยยย....พี่เขมเสียวไม๊

เขม : บีครับ...ค่อย ๆ นะเด๋วเจ็บตัว

ไอ้ตัวแสบ : ไม่ทันแล้วหละพี่ ผมเจ็บตัวมาเยอะแล้ว

เขม : งั้นคืนนี้...เจ็บบ่อย ๆ ค่อย ๆ ชินละกันนะ

ไอ้ตัวแสบค่อย ๆ กดลงจนมิดแล้วก็นั่งซักแป๊ปเพื่อปรับท่านั่งครับ มันค่อย ๆ บดทำให้ผมเนี่ยเสียวอย่างมาก

ไอ้ตัวแสบ : พี่ชอบท่านี้ไม๊พี่....ดูพี่เสียวนะ

เขม : เสียวมากครับบี....โอยยยยย อย่าทำนานเด๋วแตกก่อนนะ

ไอ้ตัวแสบ : ก็ไหนบอกอยากจะได้หลายรอบไม่ใช่เหรอ
เขม : งั้นจัดเลยที่รัก....พี่เสียวมาก

ไอ้ตัวแสบโยกอย่างไม่หยุดยั้ง มันบรรจงจูบผมแล้วก็โยกไปด้วย ยิ่งทำให้ผมสติกระเจิง ผมทนไม่ไหวที่จะให้มันคุมเกมอยู่ฝ่ายเดียวครับ ผมจับตัวมันยกขึ้นเล็กน้อยแล้วกระทุ้งไปอย่างไม่คิดชีวิตเลยครับ ไอ้ตัวแสบร้องออกมาแทบจะไม่เป็นคำ

เขม : ที่รัก...พี่เสียว....ไม่ไหวแล้ว....โอยยยย

ไอ้ตัวแสบ : พี่เขมครับ...ผมรักพี่คับ....แตกเลยคับพี่ โอยย ผมก็เสียว

ผมก็ปลดปล่อยเต็มที่เลยครับ ไอ้ตัวแสบนั่งหอบอยู่บนตัวผม เราจับมือกันเดินไปล้างตัวในห้องน้ำ

ตอนนี้ผมเนี่ยเสร็จไปแล้วครับแต่ไอ้ตัวแสบของผมยังไม่ยอมเสร็จ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกเลยนะครับที่ผมเสร็จก่อนไอ้ตัวแสบ...ผมรู้สึกแปลก ๆ และขาดทุนยังไงก็ไม่รู้
ไอ้ตัวแสบเดินมากอดผมจากด้านหลังแล้วก็เอาคางมาเกยไว้ที่ไหลของผมเหมือนทุกครั้ง พี่เขม....พี่เป็นทุกอย่างของผมนะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนที่ผมจะรักพี่น้อยลง และผมก็จะรักพี่ต่อไป ไอ้ตัวแสบหลบสายตาผมที่ผมมองสะท้อนไปจากกระจก แล้วมันก็เอาหน้าของมันหลบไปที่หลังผม มันเริ่มร้องไห้ออกมาครับ เวลาช่วงนี้ช่างเป็นเวลาที่บีบหัวใจผมและไอ้ตัวแสบเสียเหลือเกินครับ ผมไม่รู้จะปลอบมันยังไง เพราะตัวผมก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาอยู่ได้เหมือนกัน ผมหันไปแล้วจับหน้าของมันขึ้นมาแล้วจูบลงบนปากที่อาบไปด้วยน้ำตาของมัน

ผมอยากจะทำเรื่องอย่าว่าต่อให้ไอ้ตัวแสบเสร็จและปลดปล่อยแต่มันก็เข็นไม่ขึ้นแล้วครับ ตอนนี้เราแค่นอนกอดกันเฉย ๆ แล้วมองที่เพดานครับ...มันทำให้ผมเห็นค่าของเวลามากขึ้นทุกวัน เพราะผมไม่อยากจะนอนหลับไปแล้วตื่นมาอีกทีก็เหลือเวลาอีก 2 วัน



To be continued..


ป.ล. เหลืออีก 1 ติ่งเล็ก ๆ นะครับแล้วก็จะจบแล้วครับ ขอบคุณที่ติดตามเสมอมานะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
« ตอบ #169 เมื่อ: 22-11-2017 08:41:36 »





ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
«ตอบ #170 เมื่อ21-12-2017 06:32:35 »

สนุกมากรู้สึกแบบไม่อยากให้จบ

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
«ตอบ #171 เมื่อ25-12-2017 22:43:56 »

ไม่อยากให้จบเลย จะเอาอีกกกกก

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
«ตอบ #172 เมื่อ29-12-2017 20:23:39 »

เรื่องสนุกดี บีกับเขมและเพื่อนๆก็น่ารัก (แอบปิ๊งเก่งด้วย 555) แถมได้รู้เรื่องในแวดวงนักบินกับสจ๊วตด้วย
ชอบมากค่ะ ^^
บวกๆค่ะ

ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 735
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
Re: KISS AND FLY ตอนที่ 38 ตอนจบ P.6 ( 20-11-2017)
«ตอบ #173 เมื่อ17-01-2018 00:51:51 »

จบแล้ว???
เหลือพาร์ทของพี่เขมสินะ
จะจบยังไงล่ะเนี่ย
จบแค่จะขึ้นเครื่องเหมือนบีไหม?
รอตอนต่อไปค่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด