รักปอนๆ -----chapter 25--END <22/05/2560>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักปอนๆ -----chapter 25--END <22/05/2560>  (อ่าน 26349 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: รักปอนๆ -----chapter 24--100%-- <03/10/2559>
«ตอบ #150 เมื่อ03-10-2016 09:11:41 »

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 มาม่าเหรอ


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ windowbroken

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: รักปอนๆ -----chapter 25--END <22/05/2560>
«ตอบ #151 เมื่อ22-05-2017 01:53:30 »


“คุณคินตาครับ มีใครเห็น หนังสือของผมบ้างรึเปล่า”  มหาที่กำลังนั่งง่วนอยู่กับการมองหาหนังสือเรียนท่ามกองหนังสือและชีท

เรียนมากมาย และกลุ่มเพื่อนๆที่ก่ายกองกันอยู่ทั่วห้องแทบเรียกได้ว่าเป็นกองทัพซอมบี้กันเลยทีเดียว


“โอ้ย  ไม่ไหวแล้วนะเว้ย” เกรซบ่นในขณะที่มือชีทแต่ดวงตานั้นใกล้จะปิดเต็มที่

“ไอ้คินตาเมื่อไรคุณมึงจะลุกออกจากตัวสักทีว่ะครับ” เทย์ถามคินตาที่นอนหนุนตักเขาอยู่โดยที่เขาเองก็นั่งพิงตัวอยู่ขอบเตียง

นอน

“อื้อ” คินตาแค่อตอบกลับด้วยเสียงเหนื่อยอ่อนแต่ก็ไม่ได้ขยับตัวแต่อย่างใด

“อิมหา! อิเด๋อ” เสียงมดที่อู้อี้เพราะมีของกินเต็มปากลอดผ่านมาจากห้องครัว “ นี่แกเบลอหนักขนาดที่เอาหนังสือมาแช่ตู้เย็นเลย
รึไง”

ปึก มดโยนหนังสือของมหาลงพื้นพร้อมทั้งนั่งลงอย่างรุนแรงด้วยสภาพที่เรียกว่าดูไม่ได้ขั้นสุด

“นี่ทุกคนนอนกันเถอะ ฉันไม่ไหวแล้วนะพวกแกจะเอาเกรดไปทำไรวะ ต้มกินเหมือนของกินได้ไหม ฮืออออ” มดคร่ำเอาชีท

ครวญปิดหน้าตัวเองแล้วก็หลับไปเลย แน่นอนว่าบรรยากาศแบบนี้สำหรับเด็กมหาวิทยาลัยหลายคนคงรู้แล้วว่ามันคือช่วง

โศกนาฏกรรมอะไร แน่นอนว่ามันก็คือการสอบนั่นเอง คนส่วนใหญ่มักจะจับกลุ่มติวกันและอยู่อ่านหนังสือดึกดื่น อดตาหลับขับตา

นอนเพื่อให้มันสมองน้อยๆนั้นเตรียมพร้อมสู้รบรบกับวิชาอันมหาโหด  จนตอนนี้ภายในห้องนั้นเหลือผู้รอดอยู่แค่ควีนและเทย์ที่ยัง

คงอ่านหนังสือต่อไป แม้ว่าควีนเองจะพยายามโฟกัสที่หนังสือเรียนมากแค่ไหนแต่จิตใจเขาก็มักจะหลุดออกไปหาเรื่องอื่นอยู่

บ่อยๆจนเทย์เองก็จับผิดความผิดปกตินี้ได้


“คินตา”


“หืม” คววีนเงยหน้าจากหนังสือขึ้นไปมองหน้าเทย์

“กูรู้ว่ามึงเก่ง”

“แล้ว”

“มึงหยุดอ่านสักทีเถอะ เชี่ยนี่จะกดดันกูเหรอ กูอยากนอนแล้วนะเว้ย”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”  ควีนระเบิดหัวเราะแม้ว่าเสียงจะแหบแห้งเพราะว่าร่างกายขาดการผักผ่อนอย่างหนักก็ตาม “แล้วมึงจะมาขึ้นอยู่กับกู
ทำไม ก็ไปนอนสิ”

“นอนได้ไงละ เดี๋ยวมึงคะแนนดีกว่ากู กูไม่ยอมอ่ะ”

อืมๆๆ นอนก็นอนแต่ขออีกครึ่งเล่มนะ”

“คินตา” เทย์กดเสียงต่ำด้วยความเหนื่อยใจ จริงๆแล้วเทย์ไม่ได้กลัวควีนจะได้คะแนนเยอะกว่าหรืออะไรเขาแค่ยังยังเป็นเพื่อนคิน

ตาอ่านหนังสือเท่านั้น นั่นจึงทำให้คินตาอมยิ้มอย่างเอ็นดูเพื่อนสนิทตัวเองที่ชอบทำอะไรที่ขัดกับหน้าตาอย่างแรง

“อะๆ ยอมก็ได้ งั้นเดี๋ยวอีกสองบท”

“คินตา” เทย์กดเสียงต่ำยิ่งกว่าเดิมและมองแรงควีนด้วยความขัดใจ นั่นจึงทำให้คนที่นอนตักอยู่อมยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้แกล้ง
เพื่อนตัวเอง



เมื่อวันวันสอบวันสุดท้ายมาถึงทุกคนต่างทยอยออกมาจากห้องสอบด้วยสภาพที่ไม่ต่างจากศพเดินได้เลย แต่ก็มีบรรยากาศอัน

แสนโล่งใจปะปนอยู่ด้วยเพราะกิจกรรมอันหฤโหดมันได้ผ่านพ้นไปแล้

 “โอ้ยยยยย เสร็จสักทีอีเหี้ย” มดตะโกนเสียงดังทันทีที่เดินออกมาจากห้องสอบ

“ไปฉลองกันเว้ยยยยยยยยยยยย” ตามมาด้วยเกรซ

“วู้หู้” แม้แต่มหาเองก็หันไปไฮไฟวกับมดด้วยอารมณ์ร่าเริง

“ว่าไงมึง” เทย์หันไปถามควีนที่ยื่นอยู่ข้างๆ “ฉลองกะเพื่อนหรือผัวดี”

“ถามมาได้ เห็นกูเป็นคนยังไง” ควีนตอบ

“ฮึๆ ก็แค่คนเหี้ยคนหนึ่ง”

“เออ กูมันเหี้ย งั้นไปละ” ควีนหันโบกมือลาเพื่อน  ก่อนจะยักคิ้วให้เทย์

“นี่แนะ” เทย์ผลักหัวควีนด้วยความหมั่นไส้ “ให้มันได้เรื่องนะมึง จะทำไรก็ทำ ถ้ายังจะทำตัวอย่างนี้เป็นแม่หม้ายผัวตายกูก็ไม่สน
แล้วนะจะบอกให้”

  “อือ” ควีนตาผลักหัวเทย์กลับคืนก่อนจะยิ้มให้ก่อนลา “ไปละ”

ควีนเดินมาจากอาคารที่ตนสอบมายังอาคารที่อยู่ใกล้กัน เขายืนรอใครบ้างที่ไม่ได้เจอหน้ามาสองอาทิตย์เต็ม คนที่เขาเลี่ยงความ

รู้สึกของตัวเองต่อเขา คนที่ไม่ว่าเขาพยายามคิดทบทวนมากแค่ไหนก็ยากที่จะตัดสินใจได้ คนที่เขาคิดว่าถ้าหากตัดเขาออกไป

แล้วจริงตัวเขาเองนั้นจะเป็นเช่นไร จะทำได้จริงๆหรือไหมเพราะทุกครั้งที่บอกว่าได้ภายในจิตใจมันก็จะย้อนแย้งกันเสมอว่าไม่ใช่

จนวันนี้เองที่เขาไม่อยากจะปล่อยในความคิดอันย้องแย้งต้องมทาทำให้เขาสับสนอยู่แบบนี้ เขาจึงตัดสินใจมายืนอยู่ ณ ที่ตรงนี้

ควีนยืนไปได้สักพักเสียงเจี้ยวจ้าวของเหล่าบรรดานักศึกษาที่เพิ่งออกจากห้องสอบมาในสภาพเดียวกันที่กลุ่มเพื่อนๆของควีนเอง

ก็เป็น ก่อนที่ใครบางคนของควีนจะปรากฏตัวขึ้นสู่สายตาของเขา ใบหน้าของร่างกายแกร่งนั้นเริ่มชัดเจนมากขึ้นจนในที่สุดเขาก็

รู้ตัวว่ากำลังอยู่ในสายตาของใครอีกคน ควีนไม่ได้เดินเข้าหาเพียงแค่อยู่จุดเดิม ร่างกายแกร่งยังยืนพูดคุยและห้อมล้อมไปด้วย

เพื่อนๆแต่สายตาของเขากลับกำลังมองมาที่ควีนเช่นกัน ดูเหมือนทั้งสองคนจะเพียงแค่ยืนมองหน้ากันๆปอีกสักพักใหญ่ถ้าหาก

เพียงแต่ควีนไม่ส่งยิ้มไปให้ นั่นจึงทำให้เขาเลือกที่จะปฏิเสธคำเชิยชวนของเพื่อนที่จะไปฉลองกันหลังสอบเสร็จและเดินตรงมา

หาควีน


“เฮ้ย ไอ้คิงทำไมทำงี่วะ”


“เฮ้ย จะไปไหนวะ คิง! กลับมาก่อน”

“แม่ง รีบไปตายที่ไหนวะไอ้คิง” เสียงตะโกนแสดงความไม่พอใจและงงงวยของเหล่าเพื่อนๆตามร่างแกร่งมาไม่ขาดสายแต่คิง
เองหาได้สนใจมั้ง

“ไหน” คิงหยุดอยู่ที่ตรงหน้าควีนไม่ไกลนัก

“อะไร” ควีนตอบ

“คำขอโทษ”

“ไม่มี”

“ฮึ” คิงแค่นหัวเราะกับคำตอบที่ได้

“ไปกันเถอะ” ควีนหาได้สนใจกับปฏิกิริยาของชายตรงหน้าไหมเขาเพียงแค่เดินไปจับมือให้ร่างแกร่งเดินตามก็เท่านั้น จนกระทั่งทั้งคู่มาหยุดยืนที่หน้าคณะแพทยศาสตร์ คิงเลิกคิ้วใส่ควีนด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาที่นี่

“ขอโทรศัพท์หน่อย” คิงไม่ได้ตอบอะไรแค่หยิบโทรศัพท์อกมาจากกระเป๋ากางเกงให้ควีน จากนั้นร่างโปร่งก็กดโทรหาใครบ้าง
คน

“พี่พากย์ ขอยืมรถหน่อยได้ไหม........อืม............อยู่หน้าคณะ.....ไปกับคิง...........อื้อ ขอบคุณครับ” เมื่อคุยเสร็จเขาก็วางสาย

แล้วยื่นโทรศัพท์คืนคิง

“ไปไหน” คิงถามและเปลี่ยนจะโดนจับมือมาเป็นกุมมือควีนเอาไว้ ควีนแค่ยิ้มบอกผ่านความรู้สึกส่งผ่านไปให้คิงเท่านั้นไม่ได้พูด
อะไร เขารอจนกระทั่งพากย์เดินลงมาจากตึกคณะ

“อะ ขอให้ฟ้าเหลือง” พากย์โยนกุญแจรถให้ควีนจากนั้นก็ยักคิ้วให้คิงทีก่อนจะเดินกลับขึ้นตึกไปโดยที่ไม่ได้ทักทายหรืออะไรทั้ง
คู่เลย มีเพียงแค่ประโยคเดียวที่ก็ทำเอาคิงหลุดขำออกมาได้เล็กน้อย

“จะขับ?” คิงถามเมื่อเห็นควีนเก็บกุญแจไว้ที่ตน

“อือ”

“ขับเป็น?”

“อือ ถามมาเถอะ วันนี้พี่จะพาแว้นเอง” ควีนพูดติดตลกก่อนจะเดินนำร่างแกร่งไปยังลานจอดรถและขึ้นคร่อมด้วยท่าทาง
คล่องแคล่วก่อนจะพยักหน้าให้คิงมาซ้อนท้ายก่อนที่ทั้งคู่จะสตาร์ทรถวิ่งออกไปสู่ถนนใหญ่ภายใต้มือหน้าที่กอบกุมมือตัวเองไว้ที่หน้าท้องของควีน




คิงไม่รู้เลยว่าร่างโปร่งที่เขาโอบกอดอยู่ตอนนี้จะพาขาไปไหน แต่ไม่ว่าควีนจะพาเขาไปสถานที่ใดเขาก็ไม่ปฏิเสธหรอกเพราะว่า

ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาก็รอควีนมาหาอยู่แล้ว ได้แต่กอดร่างโปร่งให้แน่นขึ้นทดแทนความรู้สึกที่ไม่ได้เจอกันส่งผ่านไปให้

เขานึกถึงบทสนทาเมื่อครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองคนคุยกันอันเป็นต้นเหตุให้พวกเขาหายไปจากวงโคจรชีวิตของกันและกัน

‘พี่คิง’ ควีนจ้องหน้าคิงในขณะที่ทั้งสองนั่งเล่นกันที่ห้องโดยทั้งควีนเบียดคิงแทบจะเป็นนั่งตักได้

‘หืม’ คิงคานรับและยิ้มบางๆให้

‘หยุดเจอกันสักสองอาทิตย์ได้ไหม จากนี้ไปจนถึงสอบเสร็จ’


‘ทำไม’

‘ถือว่าขอ’

‘……..’ คิงได้แต่จ้องควีนด้วความไม่แน่ใจแต่เจ้าตัวก็สงบนิ่งเกินกว่าที่เขาจะคาดเดาได้เองว่าทำไมจนเวลาผ่านไปนานหลาย
นาทีเขาถึงตอบกลับ ‘อืม’

บทสนทนาสั้นๆที่คิงเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมแต่เหมือนอะไรก็เป็นใจให้ทุกอย่างเป็นไปตามคำขอของควีน คิงเองไม่ได้จะ

พยายามหลบหลีกหรืออีกฝ่ายจะพยายามหลบหน้า ทั้งสองใช้ชีวิตปกติแต่ด้วยเนื่องว่าอยู่ในช่วงสอบต่างคนก็ต่างยุ่งเกินกว่าจะมี

เวลามาสนใจซึ่งกันและกัน แม้ว่าทั้งสองจะกลับมาที่หอแต่ก็ไม่ยักจะกลับมาตรงกันสักครั้งและส่วนมากควีนก็จะไปติวที่ห้องของ

เทย์หรือ ไม่คิงก็ไปนอนที่หอเพื่อน เวลาไปมหาลัยก็ไม่ได้เจอหรือเดินผ่านกันโดยบังเอิญสักครั้งเดียว นั่นจึงอะไรที่เขาทั้งสองก็

อดจะแปลกใจไม่ได้แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีสำหรับควีนแต่อาจจะเป็นเรื่องที่คันหัวใจของใครที่ต้องรออย่างคิงนิดหน่อย ถนนเล็กสู่

ถนนใหญ่บรรยากาศสองข้างทางเริ่มเป็นที่ๆคุ้นเคยสำหรับคิง ต้นไม้น้อยใหญ่เขียวขจีที่แอบมาซ่อนหลบอยู่ไม่ไกลจากเมืองกรุง

อันแสนวุ่นวาย ก่อนที่สถานที่ที่คิงคุ้นเคยเป็นอย่างจะโผล่พ้นขอบอุโมงค์เผยให้เห็นสวรรค์เล็กๆอีกมุมหนึ่งที่ทั้งสองเคยมาด้วย

กันเมื่อครั้งก่อน  คิงมองคนด้านหน้าก่อนจะกระชับก่อนเอวบางพร้อมกับระบายยิ้มหน่อยๆให้กับความน่ารักของคนตรงหน้าจนทั้ง

สองเลี้ยวเข้ามาจอดตรงต้นไม้ใหญ่หน้าทางเข้าบ้านพักเพราะไม่มีกุญแจเข้าเขตตัวบ้าน


“ทำไมไม่บอกก่อนละ จะเอากุญแจมาด้วย” คิงหันไปถามควีนพร้อมกับยื่นรับหมวกกันน้อคของควีนวางไว้บนตัวรถ

“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้จะเข้าไปในนั้นแค่อยากพามาดูดอกไม้”

“ฮึ” คิงยกยิ้มน้อยๆด้วยความขันก่อนจะหันไปมองวิวตรงหน้าที่ยังคงสวยงามไม่ว่าฤดูไหน  ธรรมชาติไม่ว่าจะเขียวขจีไปด้วยไม้

ผลิใบหรือดอกไม้หลากสีในยามหน้าหนาว ก็ทำให้จิตใจคนเราสงบได้เสมอ สายลมเย็นเบาๆพัดผ่านผมของทั้งสองปลิวไหวเบาๆ

พอๆกับการที่มันทำให้ความรู้สึกของคิงปลิวไหวตามไปด้วย เขาสูดลมหายใจเข้าเบาๆด้วยความสบายใจ ก่อนจะรับรู้ได้แรง

สัมผัสทางด้านหลังและมือที่สวมกอดเขาไว้

“คิดถึงจัง” คำพูดเบาๆแต่หนักแน่นของควีนทำให้คิงได้แต่ระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนที่เขาจะกุมมือของอีกฝ่ายที่สวมกอดเขาอยู่

“อืม” 

ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรกันหลายนาทีเหมือนต้องการที่จะซึมซับความรู้สึกระหว่างกันและกัน ให้ความรู้สึกนั้นสื่อสารกันภายใน

โดยที่ทั้งสองไม่ได้พูดอะไร เพราะความรู้สึกที่คิดถึงอีกฝ่ายมันถูกเก็บไว้ในใจมานาน ปล่อยให้มันได้สื่อสารกันเองจะดีกว่า

“ไหน” คิงหันหน้ากลับไปมองควีนเล็กน้อยก่อนจะถามควีน

“อะไร”

“คำขอโทษ”

“ถ้าบอกว่าไม่มีละ” ควีนถามเหมือนยั่งเชิงแต่คิงกับหันกลับไปไม่มองหน้าควีนอีก  “ขอโทษ”ควีนเอ่ยเบาๆก่อนจูบลงบนไหล่

กว้างเบาๆด้วยความรู้สึกจากใจจริง ขอโทษในทุกสิ่งที่เขาทำตัวงี่เง่า

“อืม” เป็นอีกครั้งที่คิงไปกลับแค่สั้นๆ

“แค่นี้เหรอ” ควีนถามด้วยความแปลกใจพร้อมทั้งชะโงกหน้าไปมองคิง

“อื้ม” คิงพยักหน้า

“จะไม่ถามอะไรเหรอ”

“ไม่อะ” คิงหันหน้ากลับมาตอบพร้อมยิ้มให้ควีน “แต่จะรอฟังอยู่เสมอ”

“น่ารักนะเรา” ควีนยิ้มตอบอย่างมีความสุข เขารู้สึกเหมือนกำแพงที่สร้างไว้มันพังทลายไม่มีชิ้นดีเลย คนตรงหน้าเขาคนนี้ทำได้

ยังไงกันนะ  ความกลัวที่เขากลัวมาตลอดมันหายจนหมดสิ้นเลย ในใจเขามันรู้สึกอบอุ่นชะมัด

คิงปล่อยมือที่กุมไว้ออกก่อนจะดึงในควีนมาอยู่ในอ้อมแขนแทน

“คิดถึงเหมือนกัน” เขาจูบหน้าผากควีนเบาๆ แทนความรู้สึกทั้งหมด ทั้งสองยิ้มให้กันก่อนจะหันไปมองภาพบรรยากาศตรงหน้า

สวนดอกไม้อันแสนสวยความทรงจำเมื่อครั้งที่ทั้งสองได้มาด้วยกันฉายทับซ้อนอยู่บนสถานที่แห่งนี้ ภาพที่ทั้งสองนั่งมอง

ธรรมชาติด้วยความรู้สึกอันอบอุ่น ความรู้สึกดีๆที่อีกฝ่ายมีให้กันและเริ่มแสดงออกมาชัดเจนผ่านสัมผัสทางจิตใจของทั้งสอง แต่ก็

คงจะไม่ชัดเจนเท่าครั้งไหนๆเหมือนครั้งนี้  ความรู้สึกที่มีให้กันและกันมันกำลังประสานเชื่อมโยงเข้าด้วยกันแล้ว พวกเขารับรู้ได้

โดยไม่ต้องพูดอะไรมากมายแค่สายตาที่อีกฝ่ายมีกันและกันอยู่ในนั้น คำพูดสั้นๆคงเพียงพอแล้ว


“อืม”
























ออฟไลน์ windowbroken

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: รักปอนๆ -----chapter 25--END <22/05/2560>
«ตอบ #152 เมื่อ22-05-2017 02:07:15 »

ในที่สุดก็จบ!!!!!!!  :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
เย้ๆๆๆๆ ขอบคุณที่ติดตามผลงานเรามากๆนะ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่งานเขียนที่ดีอะไร แต่ก็อยากขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะ ขอบคุณค้อมเม้นทุกคนด้วยคะ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าแม้เราจะไม่มีพรสรรค์ด้านนี้เลยแต่อย่างน้อยก็ยังมีคนอ่านมันอยู่ ดีใจมากๆเลย แ]tขอบคุณที่อดทนอ่านนิยายเรื่องนี้แม้ว่ามันจะใช้เวลาเป็นปีๆกับตัวหหนังสือแค่ไม่กี่บทก็เถอะ55555555 ตอนแรกนึกว่าเรื่องนี้จะไม่จบด้วยซ้ำไป ด้วยความที่นักเขียนอยากเขียนอะไรก็เขียนเนื้อเรื่องมันก็เลยดูสะเปะสะปะไปหมด บางอย่างอาจจะไม่ดูสมเหตสมผลเท่าไหร่แต่ก็อยากให้ทุกคนรู้ไว้นะคะว่า เออ มันไม่มีเหตุผลจริงๆ55555 อาจจะจบแบบตัดบท แบบดิ้อๆก็อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเราอยากทำให้มันจบจริงๆ จะได้รู้สึกว่าอย่างน้อยกูก็เขียนนิยายจบเป็นเรื่องละวะ 5555 แต่สำหรับเราความรู้สึกของตัวละครมันสามารถบอกได้นะว่ามันดำเนินมายาวนานมากขนาดไหนอย่างน้อยก็ในใจของนักเขียนเอง มันนานมากพอที่จะบอกว่ามันเียนจบได้แล้วจริงๆ สุดท้ายนี้ก็ไม่มีอะไรนอกจากถ้าฟ้าเบื้องบนเป็นใจ เราก็คงได้พบกันใหม่ละเนอะ รักนะคะ  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
นิยายเราจบแล้วนะ  ขอย้ำอีกรอบ :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
กูเขียนจบแล้วโว้ยยย   :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: รักปอนๆ -----chapter 25--END <22/05/2560>
«ตอบ #153 เมื่อ15-01-2018 10:58:20 »

 :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด