“มาทำไมอีกแล้ววะ!? มาได้ทุกวี่ทุกวัน ไม่เบื่อบ้างหรือไงวะ!?”เสียงของปาปี๊โวยวายดังจากหน้าบ้าน ผมก็รู้เลยว่าวันนี้ไอ้โซโล่มันมาที่บ้านของผมเหมือนเดิม ส่วนปาปี๊ก็โวยวายแบบนั้นทุกๆ วันไม่เบื่อบ้างหรือไงครับ? ผมที่นั่งชุมนุมกับพี่น้องก็รีบเดินออกไปหน้าบ้านทันที
“ใครให้แกออกมาเจ้าลูกบ้า!?”
“โธ่ พ่อ! จะปล่อยให้พี่โมโนยืนขาแข็งอยู่หน้าบ้านหรือไง?”ผมทำหน้าบูดใส่ปาปี๊แล้วหันไปหาพี่โมโนที่ยิ้มแห้งๆ มาให้ วันนี้พี่โมโนจะพาพี่นันไปลองชุดแต่งงานที่สั่งตัดเย็บไว้ไอ้โซโล่มันก็เลยถือโอกาสเกาะพี่มันมาที่บ้านผมเหมือนเดิม อีกสองวันก็เป็นวันงานของพี่นันกับพี่โมโนแล้วทุกคนก็มาช่วยงานกันที่บ้านของผมทำให้ผมกับไอ้โซโล่พลอยได้เจอกันทุกวัน
“โมโนเข้าไปได้แต่แกน่ะ มานี่!”ปาปี๊เดินไปคว้าคอไอ้โซโล่แล้วลากมันไปด้วย ไอ้โซโล่มองมาที่ผมอย่างเศร้าสร้อย แน่ล่ะ แต่ละวันที่มันมาที่บ้านของผมก็ถูกปาปี๊ลากไปใช้งานอย่างเคยแหละครับ เห็นหน้าผมแค่แป๊บเดียวเท่านั้น งานแต่ละอย่างที่ปาปี๊ให้มันทำน่ะนะเรียกว่าโคตรโหด ยัดเหยียดงานของคนงานให้ไอ้โซโล่ทำหน้าตาเฉย ใช้แรงงานกันชัดๆ! ผมก็ได้แต่โบกมือส่งมันพร้อมกับอวยพรให้โชคดี
“พรีสต์จะไปกับพวกพี่ไหม?”
“ไม่ล่ะครับ”
ไอ้โซโล่กำลังลำบากในฐานะภรรยาที่ดีผมจะทอดทิ้งมันได้ยังไงกัน พวกพี่ๆ ออกไปกันหมดเลือกผมคนเดียว ช่วงนี้ผมก็แอบย่องไปหาไอ้โซโล่มันครับ ไปเห็นไอ้โซโล่ยืนขุดอะไรบางอย่างกับพวกทหารฝึกที่หน้าบ้าน ปาปี๊! นี่มันจะใช้แรงงานเกินขอบเขตแล้วนะ ผมยืนมองไอ้โซโล่ที่พอขุดเสร็จก็โดนลากให้ไปล้างจานที่ท้ายครัว งานแบบนี้ก็ให้ทำหรือวะ? อะไรกันเนี่ย ผมแอบปาปี๊ที่โดนมามี๊ลากไปคุยเรื่องงานมาหาไอ้โซโล่สำเร็จ เห็นไอ้คุณชายกำลังนั่งล้างจานแบบซึมเศร้า มันทำไมน่าสงสารจังวะ
“โซโล่”ผมเดินมาแตะไหล่ของมันแล้วนั่งลงข้างๆ ไอ้โซโล่หันมามองผมด้วยใบหน้าเรียบตามปกติของมัน
“มึงโดนใช้แรงงานไปทั่วบ้านอีกแล้ว กูช่วยอะไรมึงไม่ได้เลย”
“ไม่เป็นไร กูชิน”ไอ้โซโล่พึมพำด้วยความปลงตกสุดๆ ผมหัวเราะแล้วลงมือช่วยไอ้โซโล่ล้างจานอีกแรง ให้ตายเถอะ นี่คนใช้เขาไปไหนกันหมดเนี่ย ทำไมไม่มาทำงานกันวะ ผมมองหาคนรับใช้ที่น่าจะอยู่ในห้องครัวแต่ก็ไม่เห็นใครเลย เป็นไปได้ยังไงวะ ไอ้โซโล่มองผมแล้วเอ่ยขึ้นเรียบๆ
“พ่อมึงไล่พวกเขาไปหมดแล้วหาไปก็ไม่มีหรอก”
นี่ปาปี๊ทำถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เฮ้อ
“พรีสต์!! ไม่ต้องไปช่วย เข้าไปกินขนมในบ้านนู้น ไป่!”
“พ่อบ้า~!”
ปาปี๊โผล่มาเห็นผมกำลังช่วยไอ้โซโล่ก็ไล่ผมเข้าไปในบ้าน ปาปี๊ทำเกินไปแล้วนะ! วันๆ เอาแต่แกล้งไอ้โซโล่ สนุกมากหรือยังไง? ผมลุกขึ้นแล้วล้างมือจับไอ้โซโล่ล้างด้วยแล้วดึงมันวิ่งออกมาก่อนที่ปาปี๊จะเดินเข้ามาถึง
“พรีสต์~!”ตามที่คาดไว้ปาปี๊ตะโกนเรียกผมไล่หลังมาผมหันตัวกลับไปแล้วแลบลิ้นให้กับปาปี๊ทันที ปาปี๊บ้า! ไม่กลับไปให้ใช้แรงงานหรอก!! ผมดึงไอ้โซโล่วิ่งออกมาพ้นจากปาปี๊แล้วหยุดพักหายใจหายคอ เฮ้อ ตั้งแต่เข้ามหาลัยเนี่ยผมไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ผมฟิตกว่านี้แน่ ไอ้โซโล่มองผมหอบแฮกๆ มันไม่เป็นอะไรเลยสักนิด ใช่ซีมันเป็นพ่อหนุ่มบ้าออกกำลังกายเนี่ยนะ แค่นี้คงจะไม่เหนื่อยหรอกเพราะงั้นนะ...ผมเงยหน้ามองไอ้โซโล่แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
มึงแบกกูเลย!!
“ย่าส์!”
“เฮ้ย! เล่นอะไรของมึงเนี่ย!?”
“เดินเลย เดินไปเลย!”ผมกระโดดขึ้นหลังมันแล้วโวยวายให้ไอ้โซโล่มันเดินออกไป ไอ้โซโล่มันบ่นพึมพำแล้วถอนหายใจยอมลดเลเวลของมันสมองลงมาเท่ากับผมตอนนี้ ฮ่าๆๆๆ ฮี่กับๆ! ไปเลยเจ้าม้า!! ผมกอดคอมันไว้แน่นเจ้านั้นก็จับขาของผมประคองเอาไว้แล้วเดินออกไป
“ไปไหน?”
“ทางนั้นๆ”ผมชี้ไปทางบ้านหลังข้างๆ อ่าฮะ คุณก็รู้ใช่ไหมว่าบ้านหลังนั้นเป็นบ้านของใคร ฮิๆ ใช่แล้วครับ มันเป็นบ้านของพี่ฮอยยิ้มนั้นแหละ! ผมไปกบดานอยู่บ้านพี่ยิ้มจนกว่าจะถึงตอนเย็นดีกว่า ไอ้โซโล่มันก็พาผมขี่หลังมาจนถึงหน้าบ้านของพี่ยิ้ม
“ถึงแล้ว จะลงได้หรือยัง?”
“ยัง~! จ่ายค่าโดยสารก่อน”ผมยังเกาะคอมันไว้เหนียวหนึบแล้วเอ่ยเสียงแอ๊บแบ๊ว อ่า นานๆ ทีน่า! ไม่ได้ปัญญาอ่อนบ่อยสักหน่อย ผมหัวเราะอย่างพอใจที่ไอ้โซโล่บ่นงึมงำเป็นหมี หนักล่ะซี~ ผมยกตัวขึ้นกอดคอไอ้โซโล่ไว้หลวมๆ แล้วเอียงหน้าจูบแก้มของมันทั้งสองข้างอย่างรวดเร็วก่อนจะกระโดดลงจากหลังของไอ้โซโล่
“...”ไอ้โซโล่ยืนนิ่งเลยครับ ผมก็ยิ้มอย่างถูกใจทันที ตะลึงๆ ตะลึงล่ะสิ! สักพักไอ้โซโล่ก็หันมามองผมพร้อมกับเอื้อมมือมาจับไหล่ของผมไว้มันเอ่ยน้ำเสียงเรียบ
“คุณผู้โดยสาร รับเงินทอนด้วยครับ”
“หือ...?”ผมยกคิ้วขึ้นสูงอย่างแปลกใจ ไอ้โซโล่มันก้มตัวลงมาแล้วจูบผมอย่างรวดเร็วปล่อยให้ผมยืนอึ้งมองมันยักคิ้วตอบกลับ ไอ้บ้าโซโล่!! ดันเล่นมุกนี้ต่ออีก แบบนี้เจ้าของมุกอย่างกูก็ตายสิวะ ผมยืนหน้าแดงอยู่คนเดียวส่วนไอ้คนหน้าด้านแบบมันน่ะเหรอจะมีอายกับเขา เหอะ!
ใช้เวลาอยู่ไม่นานนักผมถึงกลับมาเป็นปกติ เดินมากดออดหน้าบ้านของพี่ฮอยยิ้ม รอสักพักคนที่เดินมาเปิดประตูเป็นพี่เป๊ปซี่ภรรยาของพี่ยิ้มเองครับ อ่า แล้วข้างหลังที่เดินเตาะแตะตามมานั้นเป็นลูกชายของพี่ยิ้มเองครับ ชื่อว่าน้องโคล่า~ ผมชวนไอ้โซโล่เข้ามาในบ้านของพี่ฮอยยิ้มไอ้บ้านั่นก็ทำหน้าสงสัยยึกยักไม่ยอมเดินเข้ามา จะเข้าก็เข้ามาโว้ย อย่าลีลา! เดี๋ยวปั๊ดปิดประตูหนีบซะเลยนิ ผมดึงไอ้โซโล่เข้ามาในบ้านแล้วยกมือไหว้พี่เป๊ปซี่
“พี่เป๊บซี่~ หวัดดีคร้าบ!”
“สวัสดีจ้ะพรีสต์ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะ”
“นั้นสิน่ะครับ พี่เป๊ปซี่ยังสวยเหมือนเดิมเลย”
“ปากหวานอีกแล้วนะจ้ะ”พี่เป๊บซี่ยิ้มรับแล้วมองไอ้โซโล่ที่ทำเสียงแปลกๆ ในคอ อะไรของมึง? หึงอีกแหละ! กูแค่ชมเป็นมารยาทโว้ย พี่เป๊ปซี่หันมายิ้มให้กับพวกผมแล้วพาพวกเราเดินเข้ามาในบ้าน อ่า บ้านยังเหมือนเดิมเลยแฮะ ผมกับไอ้โซโล่เดินเข้ามาอย่างเกรงใจแล้วเจอพี่ยิ้มกับพี่บอสกำลังนั่งทำหน้าดำคล่ำเครียด เอิ่ก...ตูมาผิดเวลาหรือเปล่าหว่า?
“ใครมาเหรอ?”
“น้องพรีสต์น่ะ”
“อ้าว พรีสต์เองเหรอ? ขอโทษนะที่พี่ไม่ได้ไปช่วยงานที่บ้านเลย”พี่ยิ้มเห็นผมแล้วรีบยิ้มกลบเกลื่อนบรรยากาศอึมครึม ผมมองพี่ยิ้มแล้วส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรครับ ผมมารบกวนหรือเปล่า?”
“ไม่เลยๆ นั่งก่อนสิ”
“เดี๋ยวฉันไปเอาขนมมาให้พวกน้องๆ นะ”พี่เป๊ปซี่เดินแยกตัวออกไปปล่อยลูกชายเดินเตาะแตะตาม พี่ยิ้มก็ตบมือเรียกลูกชายของตัวเองมาหา ผมมองน้องโคล่าที่เดินไปหาพ่อแล้วอมยิ้ม น้องโคล่านี่คล้ายใครเน้อ หน้าตาเหมือนพ่อของตัวเองอยู่นิดหน่อยแต่โดยรวมแล้วผมว่าน้องโคล่าโตมาต้องหล่อมากแน่ๆ เลยครับ!
“ปีจาวๆ”
หือ? น้องโคล่าชี้มาที่ผมแล้วเรียกว่าปี่จาวๆ หมายความว่ายังไงหว่า? ผมทำหน้างงกับภาษาเด็กน้อยแต่ไอ้โซโล่เนี่ยปิดปากขำไปเรียบร้อยแล้วครับ อะร้ายยย!? ผมหันมาจ้องไอ้โซโล่เขม็ง อะไรของมึง!? หัวเราะอะไรฟะ พี่ยิ้มจุ๊ปากแล้วโบกมือไปมา
“ไม่ใช่ครับโคล่า ต้องพี่ชายไม่ใช่พี่สาวนะครับ”
ว่าไงนะ!? น้องโคล่าเห็นผมเป็นพี่สาวงั้นเหรอ!!?
สลดด้วยความเศร้าครับ ขนาดเด็กแม่งยังมองว่ากูแต๋ว! เดี๋ยวนี้พี่แมนแล้วนะครับน้อง แหกตาดูดีๆ สิครับ! พี่มีส่วนไหนที่เป็นพี่สาวกัน พี่ออกจะแมนแอนด์...แฮนด์ซั่ม ทำไมตูถึงพูดได้ไม่เต็มปากแบบนี้วะ เชอะ พี่ยิ้มก็ขอโทษผมใหญ่เลยครับที่น้องโคล่าเรียกผมว่าพี่สาวไม่หยุดแถมยังวิ่งมาหาผมอย่างชอบใจอีกต่างหาก ผมยิ้มแล้วบอกไม่เป็นไรก่อนจะก้มตัวอุ้มน้องโคล่าขึ้นมานั่งบนตัก น้องโคล่าตบมือแปะๆ อย่างดีใจฉีกยิ้มร่าเริงส่งเสียงดังอ้อแอ้ๆ เข้ามาซบอกของผม
“ปี่จาวๆ”
แปะ!
เอ่อ...น้องโคล่าครับ?
ทุกๆ คนนิ่งเลยครับ น้องโคล่ายกมือวางบนหน้าอกของผมแล้วหยุดชะงักเงยหน้ามองผมเบิกตากว้างแล้วยังตบหน้าอกของผมแปะๆ เหมือนไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง
“ปี่จาว?”
“...”พี่บอสกับพี่ยิ้มกลั้นหัวเราะร่วงไปกับพื้นแล้วแน่ะ ส่วนไอ้โซโล่ถลึงตาใส่เด็กเมื่อเด็กมันบีบหาหน้าอกของผม ให้ตาย น้องโคล่า~!!! พี่เป็นผู้ชายไม่มีหน้าอกแบบพี่สาวให้น้องซบเล่นหรอกครับ พูดแก้ตัวไปในใจอย่างเศร้า น้องโคล่าก็ทำหน้าหงิกแล้วดิ้นไปมาผมเลยต้องปล่อยน้องเขาลงพื้น น้องโคล่าก็รีบคลานไปหาแม่ของตัวเองที่เดินออกมาจากในครัว พี่เป๊ปซี่วางถาดขนมแล้วอุ้มลูกชายขึ้นมาอย่างแปลกใจเมื่อเห็นสภาพของคนในห้อง
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“เปล่าๆ ไม่มีอะไรๆ”พี่ยิ้มลุกขึ้นมาจากพื้นโบกมือปฏิเสธไปมาแต่ท่าทางน้ำหูน้ำเล็ดแบบนั้นมันเหมือนมีนะครับพี่ยิ้ม ผมมองพี่ทั้งสองด้วยสายตาว่างเปล่า มันน่าขำขนาดนั้นเลยหรือไงวะ พี่เป๊ปซี่มองพี่ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย
“หรือว่าเจอน้องฮักแล้วเหรอคะ?”
“โอ๊ะ เป๊ปซี่ ชู่ว~!”พี่ยิ้มกับพี่บอสรีบยกมือห้ามพี่เป๊ปซี่ไม่ให้พูดแต่ช้าไปนะครับผมได้ยินหมดแล้ว ผมหันไปมองพี่ยิ้มด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยคำถามส่วนไอ้โซโล่มันก็ทำหน้าแปลกใจ พี่เป๊ปซี่ทำหน้าตกใจรีบเอามือปิดปากของตัวเอง พี่เป๊ปซี่พูดแบบนั้นหมายความว่าไอ้ฮักมันหายตัวไปงั้นเหรอ? มิน่าเข้ามาตอนแรกสัมผัสถึงความตึงเครียดของพวกพี่ๆ
“พี่ยิ้มหมายความว่ายังไงครับ?”
“ไม่มีอะไรหรอกพรีสต์”พี่บอสรีบปฏิเสธทันที ผมก็ทำหน้าไม่เชื่อมองพี่ยิ้มรอคอยคำตอบที่เป็นความจริง พี่ยิ้มเหมือนไม่อยากจะพูดแต่แล้วพี่เขาก็ถอนหายใจยอมแพ้ ใบหน้าของพี่ทั้งสองเริ่มเข้าโหมดซีเรียส
“ฮักหายตัวไปน่ะ...”พี่ยิ้มเริ่มอธิบายด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและเหมือนกลัวว่าจะเกิดอะไรกับน้องชายของตัวเอง ผมนั่งฟังพี่ยิ้มเล่าไปเรื่อยๆ แล้วอ้าปากค้าง หมายความว่ายังไง!? ฮอยฮักถูกใครก็ไม่รู้ลักพาตัวไปหลายวันแล้วงั้นเหรอ!? เรื่องลักพาตัวหรือเรียกค่าไถ่มันไม่เคยเกิดขึ้นนานแล้วนี่น่าแล้วทำไมตอนนี้ถึง...โอ๊ะ? ทุกคนครับเหมือนผมจะรู้แล้วว่าใครมันเป็นคนร้าย เฮอะๆ ไอ้คนที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งท้ายคนนั้นนั่นไงครับ!! ผมหันมามองไอ้โซโล่มันก็มองผมอยู่ก่อนแล้ว มันคงจะบอกผมว่าคนร้ายคนนั้นเป็นคนที่ผมคิดไว้นั้นแหละ เรื่องมันสักจะใหญ่โตขึ้นทุกทีแล้วสิผมมองพี่ยิ้มไม่รู้จะพูดอะไรออกไป
“พี่ยิ้มเรื่องนี้พี่แจ้งความหรือยังครับ?”
“ยังหรอก ถ้าแจ้งความเรื่องนี้ต้องเป็นข่าวใหญ่แน่ๆ”
“ใช่ ทางบริษัทแจ้งว่าฮอยฮักพักเพราะได้รับบาดเจ็บจากการแสดงน่ะ”พี่บอสอธิบายต่อ ผมนี่ใจแฟบเลย ไอ้บ้าวินเซอร์มึงทำอะไรเนี่ยยย!!? ผมไม่รู้จะพูดยังไงดีก็เลยเงียบไปมองหน้าพี่ยิ้มกับพี่บอสที่กังวลและหงุดหงิดใจ ผมหันมามองไอ้โซโล่ที่มันเริ่มกดมือถือติดต่อใครสักคนผมว่าน่าจะเป็นไอ้วินเซอร์น่ะครับแต่มันก็ติดต่อไม่ได้ เอาล่ะเฮ้ย เรื่องใหญ่แล้ว!!
“เอ่อ...แล้วทางท่านคิง เอ่อ...คุณดีเซลล่ะครับ?”ผมเรียกท่านคิงแต่พี่ยิ้มทำหน้าไม่เข้าใจผมก็เลยเปลี่ยนไปเรียกชื่อแทน พี่ยิ้มก็เลยรู้ว่าผมหมายถึงใคร พี่เขาเอ่ยอย่างหัวเสีย
“กำลังสืบอยู่ ถ้าได้เบาะแสอะไรจะรีบโทรมาบอกน่ะ แต่นี่มันผ่านไปหลายวันแล้วยังไม่มีเบาะแสอะไรเลย คนร้ายมันวางแผนไว้อย่างดีแทบไม่ทิ้งล่องลอยไว้ตามตัวเลยน่ะสิ ชิบ! ถ้าเรียกค่าไถ่ก็น่าจะติดต่อมาแล้วแสดงว่าโดนลักพาตัวไปทำ...”พี่ยิ้มยิ่งพูดยิ่งหน้าซีดไม่อยากคิดสภาพของน้องชาย
“...”ผมกับไอ้โซโล่เงียบไร้ซึ่งคำพูดใดๆ ต่อสถานการณ์นี้
“พรีสต์พอจะรู้หรือเปล่าว่าฮักมีศัตรูที่ไหน หรือมีเรื่องกับใครอยู่?”พี่บอสหันมาถามผม
“เอ่อ...ไม่รู้เลยครับ”ผมส่ายหน้าปฏิเสธไปแต่ในใจนั้น...
บักวินเซอร์คร้าบ! มันเป็นคนทำแน่ๆ ฟันเฟิร์ม!!
“พรีสต์ พี่กูโทรตามให้กลับแล้ว”
“เหรอ? เอ่อ...พี่ยิ้มครับ ผมขอตัวก่อนนะครับถ้ามีข่าวอะไรคืบหน้าช่วยบอกผมด้วยนะครับ”ผมลุกยืนขึ้นแล้วก้มตัวขออนุญาตกลับ ผมมองพี่ยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินพาไอ้โซโล่ออกมาจากบ้านของพี่ยิ้ม เฮ้อ~ นี่มันอะไรกันวะ? ปวดหัวกับคู่นี้จริงๆ เลยวะ!
“อย่าไปห่วงเลยถ้าไอ้วินเซอร์มันวางแผนล่ะก็เดี๋ยวก็เรียบร้อย”
“มึงไปเอาความมั่นใจแบบนั้นมาจากไหนวะ?”ผมอดถามอย่างหมั่นไส้ไม่ได้ มึงจะมั่นใจเรื่องเพื่อนของมึงมากเกินไปแล้ว ไอ้โซโล่ยิ้มนิดๆ แล้วหันมามองผม
“ก็เรื่องกูกับมึงไง”
“ห๊ะ? เรื่องกูกับมึงไปเกี่ยวอะไรกับไอ้วินเซอร์วะ?”
“เพราะแผนของมันกูกับมึงถึงลงเอยกันยังไงล่ะ หึๆ”
“พูดอะไรไม่รู้เรื่อง”ผมทำหน้าบึ้งแล้วไอ้โซโล่มันก็เข้ามาคว้าไหล่ของผมไปกอดเอาไว้แล้วลากผมกลับมาที่บ้าน พอมาถึงบ้านก็เห็นปาปี๊ยืนทำหน้ายักษ์รออยู่ทางขึ้นบันได บ๊ะ ปาปี๊เนี่ยยังจะมาโวยวายอะไรอีก ปาปี๊ทำหน้าหงุดหงิดสะบัดหน้าเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่พูดอะไรใดๆ อะไรของปาปี๊เขาเนี่ย พวกผมเดินเข้าไปในบ้านมาที่ห้องรับแขกที่มีคนในครอบครัวของผมนั่งสลอนหน้าเหมือนเดิม
“อ้าว พรีสต์หายไปไหนมาน่ะ?”มามี๊เห็นผมก็ถามขึ้นมาทันที
“ไปบ้านพี่ยิ้มมาครับ”
“ทำไมไม่บอกก่อนล่ะ รู้ไหมปาปี๊เขาเป็นห่วงกลัวลูกจะหนีออกไปจากบ้าน”มามี๊พูดไปยิ้มไป ปาปี๊ที่นั่งข้างหันขวับมามองมามี๊อย่างไม่พอใจเท่าไรที่โดนเอามาแฉ ผมมองปาปี๊แล้วทำหน้าบึ้ง
“กลัวก็อย่าทำตั้งแต่แรกสิครับ”
“อะไร! ลูกเขยมีไว้ใช้งานก็ต้องใช้สิว่ะ!”ปาปี๊ไม่วายหันมาต่อว่าผม นั้นมันคติบ้านไหนล่ะครับ? ผมก็สวนกลับไปอย่างรวดเร็ว
“นี่พ่อยอมรับโซโล่เป็นลูกเขยแล้วเหรอครับ?”
“อ๊ะ...”ปาปี๊เหมือนหลุดปากออกไปรีบปิดปากแล้วส่งสายตามุ่งร้ายไปให้ไอ้โซโล่ แน่ะ พาลอีก
“เพราะแกคนเดียวเลยเจ้าบ้า!”
“ขอโทษครับคุณพ่อ”ไอ้โซโล่มันก็เล่นด้วยรีบรับเป็นความผิดของตัวเองทันที ปาปี๊เบิกตากว้างแล้วตวาดก้อง
“ใครพ่อแกวะ!!?”
“ก็ผมเป็นลูกเขยก็ต้องเรียกกว่าคุณพ่อสิครับ”ไอ้โซโล่มันพูดด้วยใบหน้านิ่งราวกับเป็นเรื่องธรรมดา ปาปี๊มองมันแล้วอ้าปากชี้หน้าไอ้โซโล่แต่ก็พูดอะไรไม่ออกจนต้องนั่งลงไปซบมามี๊เรียกความมั่นใจของตัวเอง ผมกับคนอื่นๆ หัวเราะขำกันเบาๆ เพราะกลัวปาปี๊จะลุกขึ้นมาว่า สงครามของพ่อตากับลูกเขยก็ถูกระงับไว้ชั่วคราวครับ พี่โมโนกับไอ้โซโล่ขอตัวกลับบ้าน ก่อนจะกลับไอ้โซโล่มันก็หันมายกมือขึ้นส่งสัญญาณว่าจะโทรมาหาผมก็พยักหน้ารับทันที
“อะไร เมื่อกี้พูดอะไรกัน?”ปาปี๊หันมาถามผมด้วยสายตาหาเรื่อง ปาปี๊ฟื้นตัวแล้วเหรอครับ? แต่มันก็ช้าไปน่า ผมส่ายหน้าไปมาแล้วออกตัวกระโดดตึ๋งๆ ขึ้นห้องของตัวเองไป เอ่อ จะว่าไปแล้วพี่เฮอร์มิตไม่อยู่เหรอ? ไปไหนของพี่เขานะ พี่รู้เรื่องของไอ้ฮักหรือยังเนี่ย? ผมเข้ามาในห้องของตัวเองนอนรอโทรศัพท์จากไอ้โซโล่ คิดถึงมันแล้วก็ยิ้มออกมาถึงปาปี๊ทำท่าทางแบบนั้นก็เถอะแต่คงจะชอบไอ้โซโล่อยู่ไม่น้อยเลยล่ะนะถึงเรียกใช้มันอยู่ตลอดแบบนั้น แบบนี้ชีวิตคู่ของผมกับมันก็ราบรื่นแล้วใช่ไหม? อ่า ดีจริงๆ เลยที่ตัดสินใจเปิดเผยให้ปาปี๊รู้
งานแต่งงานของพี่นันกับพี่โมโนก็ผ่านพ้นไปด้วยดีครับ ระหว่างปิดเทอมไอ้โซโล่ก็จะมาที่บ้านของผมแทบจะทุกวันมันบอกว่าช่วงนี้พี่โมโนไม่เรียกมันไปใช้งานที่บริษัทเพราะกำลังเห่อภรรยามันก็เลยมีเวลาว่างมาให้คุณพ่อตาใช้งาน พูดถึงปาปี๊ก็ยังเหมือนเดิมนั้นแหละใช้แรงงานไอ้โซโล่มันเหมือนเดิมแต่มามี๊ก็เข้ามาช่วยไอ้โซโล่เอาไว้ มันกับผมเลยมีเวลาไปเดตในตอนปิดเทอมกันได้
ส่วนเรื่องของไอ้ฮักนั้นก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยครับ พับผ่า! ถ้าไอ้เวรวินเซอร์มันคิดจะฆ่าใครก็คงจะไม่มีใครรู้สินะตกลงที่ผ่านมาผมทำตัวเสี่ยงให้ไอ้วินเซอร์คิดฆ่าหมกศพมาตลอดก็ยังอดรู้สึกเสียวสันหลังวูบๆ แน่ะครับ พวกพี่ๆ วุ่นวายตามหาไอ้ฮอยฮักกันใหญ่ พี่เฮอร์มิตก็เหมือนกันครับแต่ก็ไม่มีก้าวหน้าเลย
พักเรื่องของไอ้ฮอยฮักไว้เถอะครับ มาพูดเรื่องของผมดีกว่า ครอบครัวของผมกับครอบครัวของโซโล่เดี๋ยวนี้ทำอะไรก็จะเรียกอีกฝ่ายมาร่วมด้วยตลอดกลายเป็นครอบครัวใหญ่ไปเลยครับ และแน่นอนคนที่ผมกลัวที่สุดกลับเป็นคนที่น่ารักที่สุด!! ใครน่ะเหรอครับ?
ก็คุณย่าของไอ้โซโล่ไงล่ะ!
ตอนแรกผมก็เกร็งอยู่เหมือนกันแต่คุณย่าน่ะใจดีมากล่ะครับ ไม่เหมือนกับที่ผมวาดฝันเอาไว้เลยสักนิดแถมเดี๋ยวนี้ไอ้โซโล่กับพี่โมโนตกกระป๋องไปแล้วครับเพราะผมเข้ามายึดตำแหน่งหลานรักของคุณย่าไปเรียบร้อยแล้ว โฮะๆๆๆ ไอ้เรื่องประจบสอพลอ เอ๊ย เรื่องเอาใจใส่ผู้สูงอายุน่ะผมถนัดนักล่ะครับ ผมกับไอ้โซโล่บินไปเที่ยวใต้อาบแดดกันจนตัวเปลี่ยนสีแน่ะกลับมาจากเที่ยวก็เปิดเทอมพอดีครับ
“พรีสต์ ทำอะไรอยู่ กูเรียนเช้านะ”
“โธ่~! มึงเรียนเช้าแต่กูไม่นี่น่า”ผมวิ่งออกมาหน้าบ้านเถียงไอ้โซโล่ที่แต่งตัวเรียบร้อยยืนเก๊กทำเท่ ตอนนี้ผมกับไอ้โซโล่มาอยู่บ้านของเราเหมือนเดิมแล้วครับ ปาปี๊คัดค้านแทบตายแต่ก็สู้เสียงข้างมากไม่ได้ โฮะๆ บ้านผมประชาธิปไตยนะครับ ไม่ได้มาอยู่ตั้งนานทุกอย่างยังเหมือนเดิมเพราะป้าอรดูแลให้เป็นอย่างดีครับ
“วิ่งดีๆ หน่อยเดี๋ยวก็ปากเจ๋อก่อนไปเรียนหรอก”
“ก็มึงบอกให้กูรีบนี่”
เถียงกันตั้งแต่เช้าช่างเป็นวันที่ดีจริงๆ ครับ! ประชดนะประชดดด!! แล้วผมกับไอ้โซโล่ก็ขึ้นรถไปมอกัน พวกเพื่อนๆ ของผมน่ะเหรอครับ? เริ่มจากคู่รักปัญญาอ่อนไอ้บู๊ลิ้มกับไอ้สตางค์พวกมันบอกว่าเดี๋ยวนี้รับจ๊อบทำงานออกแบบทั่วไปเก็บตังค์สร้างเนื้อสร้างตัว ป๊าดดด! สาระจริงๆ! ไอ้โจ้ก็ออกแนวเดียวกันครับคิดถึงอนาคตจริงจังเพราะจะเก็บเงินไว้แต่งน้องลูกหว้า ส่วนไอ้แซมเหมือนช่วงปิดเทอมนี้จะมีคนมาดามใจเรียบร้อยแล้วแต่ผมไม่รู้หรอกนะว่าเป็นใคร ไอ้ฮอยฮักน่ะเหรอ? ปิดเทอมได้อาทิตย์หนึ่งแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของมันเลย ผมไม่ได้ตามข่าวด้วยแฮะก็ช่วงนี้ผมต้องเอาใจคุณย่าแล้วก็แฟนตัวเองจนไม่มีเวลาว่างเลยนี่น่า
ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงคณะของผมแล้วครับ ผมลงจากรถแต่ไอ้โซโล่มันเรียกผมไว้ก่อนแล้วมันก็ดึงผมเข้าไปจูบ ไอ้บ้า!! นี่มันหน้าคณะนะโว้ยถึงจะอยู่ในรถก็เถอะเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า! ผมผลักไอ้โซโล่ออกแล้วสะบัดตัวออกมาจากรถโบกมือลามันสักหน่อยไอ้โซโล่มันก็ขับรถออกไปทันที ผมยืนมองรถของไอ้โซโล่แล่นไปไกลแล้วจะเดินเข้าไปในตึกกลับต้องชะงักเพราะกองทัพของเพื่อนฝูงที่มายืนเสนอหน้ากันเป็นแถว วันนี้ทำไมพวกมันมาเช้าจังวะ!?
“โหหห~! สวีตกันไม่เกรงใจชาวบ้านเลยว่ะ”
“มึงอิจฉาเหรอวะไอ้แซม? ก็ไปลากคนที่ดามใจมึงมาสวีตสิวะ”ผมยอมรับหน้าตาบานชื่น ชิชะ ตอนนี้อย่ามาแซวเลยว่ะ กูด้านแล้ว! ผมเดินมาสมทบกับพวกเพื่อนๆ กำลังจะเดินเข้าไปในคณะแต่ไอ้โจ้มันดึงพวกผมเอาไว้ก่อนครับ
รถอัลฟาแล่นมาจอดที่หน้าคณะตรงตำแหน่งเดียวกันกับไอ้โซโล่ที่จอดเมื่อกี้เป๊ะ ประตูด้านหน้าของรถถูกเปิดพร้อมกันแถมคนในรถก็ก้าวออกมาพร้อมกันอีก พวกผมกระพริบตามองกันปริบๆ จะบอกว่าคนคุ้นเคยมันก็ใช่นะครับ สองคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ ก็เจ้าคนที่มันหายไปอย่างลึกลับไงล่ะ!!!
ไอ้ฮอยฮักที่อยู่ในสภาพแว่นจืดๆ ยืนทำหน้าเซ่อๆ อยู่หน้ารถนอกคันหรู เจ้าของรถที่แท้จริงหนุ่มผู้คลั่งไคล้การย้อมผมซึ่งตอนนี้สีผมของมันเป็นสีดำเข้มแต่กลับไม่ยักกะจะเย็นชาเหมือนตอนนั้น ไอ้วินเซอร์เดินอ้อมมาหาไอ้ฮอยฮักพวกมันพูดอะไรกันอยู่สองสามประโยคแล้วไอ้วินเซอร์มันก็ควงกุญแจรถในมือไปมาก่อนจะจับคอเสื้อของไอ้ฮอยฮักกระชากขึ้นไปจูบแลกลิ้นดูดดื่มไม่สนใจสายตาของประชาชีที่ยืนมองหน้าตาตื่น
จูบสะท้านโลกจบลงไปไอ้วินเซอร์มันก็เดินไปขึ้นรถฮัมเพลงอารมณ์ดีแล้วขับรถออกไป ไอ้ฮอยฮักยืนมองรถไปไกลมันถึงออกเดิน เจ้าแว่นจืดทำหน้าเหมือนเพิ่งเห็นพวกผมยืนทำหน้าเอ๋อแดก เมื่อกี้พวกมึงอยู่ในโลกสองเรานี่นะ! ไอ้สตางค์อาการหนักกว่าใครเพื่อนซบอกสามีร้องไห้ฟูมฟาย ส่วนไอ้บู๊ลิ้มก็ปลอบเมียไปยิ้มดีใจ(ที่กำจักศัตรูหัวใจไปได้) ไอ้ฮอยฮักเป็นที่จับตามองของคนเห็นเหตุการณ์จูบสุดช็อกแต่มันก็ไม่รับรู้อะไรใดๆ หันมามองพวกผมแล้วถามอย่างปกติ
“กูไม่ได้มาเรียนเป็นอาทิตย์อาจารย์สั่งงานอะไรหรือเปล่า?”
“อาจารย์ยังไม่สั่งเลยว่ะ แต่มีงานของสาขาเดือนนี้นะ...”ไอ้โจ้มันก็หันมาตอบด้วยสีหน้าเป็นปกติ ไอ้ห่าโจ้แม่งโคตรปรับตัวเร็วเลยว่ะแต่ที่ปรับเร็วจนน่ากลัวก็คือไอ้ฮักเนี่ยแหละจะว่ามันไม่แคร์ตั้งแต่แรกก็ว่าได้แฮะ พวกผมเดินตามไอ้โจ้และไอ้ฮอยฮักเข้าคณะไปอย่างมึนงง
แม่ง! ฮักมึงจะชิวเกินไปแล้ว!!
TBC.
เน็ตเน่าเพราะฝนตกหรือเปล่าน่า ก็เลยอัพช้าไปเลย เฮ้อ
ตอนหน้าเป็นตอนที่โซโล่โม้ไว้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มจีบ
ยังไงก็ต้องพาพรีสต์ไปลอยกระทงสวีตกันสองคนให้ได้!
ตอนหน้าจ้ะ~
ปล.ฟัง Drama CD แล้วเขินเป็นบ้า
ขนาดฟังญี่ปุ่นไม่ออกยังขนาดนี้...เสียงมันจะสมจริงไปไหน!!?