ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เีดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 >>> เปิดจองรวมเล่มคู่กัดที่รัก <<<
หน้าปก
ของแถม(เฉพาะรอบเปิดจองนะจ้ะ)
สารบัญ...คู่กัดที่รัก
ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2 / ตอนที่ 3 และ ตอนที่ 4 / ตอนที่ 5 / ตอนที่ 6 / ตอนที่ 7 / ตอนที่ 8 / ตอนที่ 9 / ตอนที่ 10 / ตอนที่ 11 / ตอนที่ 12 / ตอนที่ 13
ตอนที่ 14(P.18) ตอนที่ 15(P.20) ตอนที่ 16(P.24/26) ตอนที่ 17(P.29/31) ตอนที่ 18 (P.37/41) ตอนที่ 19(P.48/51/54) ตอนที่ 20(P.56/58) ตอนที่ 21(P.60/63) ตอนที่ 22(P.65/67) ตอนที่ 23(P.71/73) ตอนที่ 24(P.75) ตอนที่ 25(P.78) ตอนที่ 26(P.82) ตอนที่ 27(P.88) ตอนที่ 28(P.91) ตอนที่ 29 (P.94/98) ตอนที่ 30(P.101/103) ตอนที่ 31(P.108/113) ตอนที่ 32(P.115/118) ตอนที่ 33(P.120/122) ตอนที่ 34(P.124/127) ตอนที่ 35(P.129/131) ตอนที่ 36(P.133/134) ตอนที่ 37(P.136/137) ตอนที่ 38(P.138/139) ตอนที่ 39(P.141/142) ตอนที่ 40(P.143/145)
ตอนพิเศษ[โซโล่ฉายเดี่ยว] (P.33/35) Love's Situation (P.39/45/84/151) ตอนพิเศษ : วิวาห์สุดระทึกใจ(P.148) ตอนพิเศษ : ฮันนีมูน(P.149)
ตอนที่ 1 แรกพบสบตาก็ชังน้ำหน้า!อาจจะแปลกใจกันสักหน่อยนะครับว่าทำไมผมถึงได้เปิดตัวมาพร้อมๆ กับสมุนฝูงหมาที่หน้าคณะแบบนี้ ตอนนี้เที่ยงวันตรงหัวเด๊ะครับ ผมจึงหอบสังขารมาให้ข้าวสมุนเหล่าหมาไร้เจ้าของจับจองที่มาชุมนุมยึดพื้นที่ตรงหน้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์แห่งนี้ มันเป็นเรื่องปกติกิจวัตรประจำวันของผมครับ ผมกลายเป็นพี่เลี้ยงเจ้าพวกนี้ยังไงก็งงตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ ผมต้องมาแต่เช้าให้อาหาร หลังกินข้าวเที่ยงก็มาประเคนให้อีก หนำซ้ำตอนเย็นก็มาส่งส่วยก่อนจะกลับบ้าน จนคนในคณะมันเรียกพวกนี้ว่าเป็นแฟมิลี่เดียวกันกับผมแล้ว!
“เฮ้ยๆ ไอ้แบรตพิตแบ่งให้ตัวอื่นกินบ้างสิวะ”
ผมนั่งบนเก้าอี้พังๆ ใกล้ๆ มองพวกมันกินข้าวกันอย่างมูมมาม ผมหมั่นไส้มันก็เลยดีดนิ้วเพชรใส่หน้าผากเจ้าตัวสีน้ำตาลทองๆ ชิชะ! ไอ้แบรตพิต ตะกละจริงนะมึง!
“เออ วันนี้น่ะพวกมึง กูโคตรอารมณ์เสียเลยว่ะ กูล่ะอยากเหยียบปากไอ้ฟายที่มันบังอาจมาทิ้งขยะใส่อเล็กซานเดอร์ลูกรักของกู โอ๊ยย~ มึง! กูน่ะเฝ้าทะนุถนอมลูกกูมานมนาน พวกเชี่ยที่ไหนมันมาทำกับลูกกูได้!”ผมกัดฟันกรอดอย่างโมโห ตอนที่ผมเดินผ่านอเล็กซานเดอร์ลูกรักแล้วแทบจะช็อกเพราะตรงโคนต้นมีแต่ขยะ ไอ้พวกมักง่ายเอ๊ย!!
บางครั้งบางคราวผมก็เอาเรื่องนู้นนี้นั้นมาเล่าให้พวกมันฟังครับ ถึงไม่รู้ว่าพวกมันรู้เรื่องด้วยหรือเปล่าเห็นแต่พวกมันก้มหน้ากินลูกเดียวไม่ได้สนใจเลยก็เถอะ แต่มันก็รู้สึกสบายขึ้นนิดหน่อยที่ได้ระบายให้คนอื่นฟังบ้าง ไม่งั้นมันจะอึดอัดอยู่ในใจแล้วยิ่งผมมันเป็นคนเก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่อีกด้วย เดี๋ยวจะไปโวยวายพาโลแล้วเกิดเรื่องขึ้นอีก ไม่เอ๊า! ผมไม่ชอบเรื่องต่อยตี ผมน่ะรักสงบ(จริงๆ นะ)
อ้อ! คุณอาจจะงงว่าอเล็กซานเดอร์คือใคร อเล็กซานเดอร์หรืออเล็กซ์ลูกรักของผม มันก็คือต้นดอกคูณข้างคณะนี่แหละครับ ไอ้ต้นดอกเหลืองๆ นั้นแหละครับ ไม่ใช่ดาวเรืองน่ะเฟ้ย อย่าเข้าใจผิดกันล่ะ ผมเฝ้าทะนุบำรุงบำเรอมันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง อู้ยยย~ คุณเอ๊ย! ไอ้อเล็กซ์เนี่ยตอนออกดอกมันงามมากเลยนะ เป็นหนุ่มรูปงามเชียวล่ะ เห็นมันเป็นต้นดอกคูณต้นเดียวในบริเวณนี้ผมก็สงสารมันครับ เนี่ยผมคิดจะหาคู่ให้มันสักหน่อย ลูกชายของผมมันก็ยังหนุ่มยังแน่น ถ้าปล่อยมันเปล่าเปลี่ยวอยู่เดียวดายก็น่าสงสาร เลี้ยงดูมันมาขนาดนี้แล้วจะหาคู่ให้มันจะเป็นอะไรไปแต่ผมยังไม่รู้จะหาคู่ให้มันยังไงดีนี่สิ คิดไม่ออกเลย! เคยถามไอ้พวกเพื่อนๆ พวกมันก็มองผมอย่างกับคนบ้า ดีหน่อยที่ไอ้สตางค์มันช่วยออกความเห็นจริงจัง มันบอกผมว่า
“เรื่องคู่นี่ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจสิวะ มึงไปจับคลุมถุงชนแบบนั้น เดี๋ยวไอ้อเล็กซ์มันจะเฉาตายนะโว้ย”
“เอ่อว่ะ กูไม่ทันได้คิดเรื่องนี้ กูไม่ควรบังคับใจมันสินะ”
“ก็ใช่สิวะ ใครที่ไหนมันจะชอบให้พ่อแม่เลือกเมียให้ หรือมึงชอบ?”
“กูก็ไม่ชอบ”
“นั้นไงล่ะ ปล่อยไปตามโชคชะตาเหอะมึง!”
ไอ้สตางค์มันว่าอย่างนั้นครับ เฮ้อ~ แต่ถ้าปล่อยไปตามยถากรรมล่ะก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไอ้ลูกรักของผมต้องแห้วทั้งปีทั้งชาติแน่ๆ ก็มันมีอยู่ต้นเดียวนี่หว่า หรือว่าผมจะสั่งให้เขาขนต้นดอกคูณมาปลูกอีกต้นดี? แล้วจะปลูกมันตรงไหนวะ สถานที่แม่งก็แทบจะไม่มีที่ให้ยืนหายใจเล่นแล้ว เฮ้อ~ เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อคนเลยครับ!
“เฮ้ พวกมึงช่วยกูคิดดิ ว่าจะหาคู่ให้ไอ้อเล็กซ์มันยังไง มันอยู่ต้นเดียวน่าสงสารมันนะโว้ย!”ผมหันมาถามพวกหมาๆ ที่นั่งมองหน้าผมสลอนเป็นแถว กินหมดแล้วสินะพวกมึง หึ แม่งแดกกันเร็ววายป่วง! ผมใช้เท้าเขี่ยเจ้าหมาสีดำที่นั่งใกล้เท้าสุด
“มึงคิดเลยไอ้ทาคุมิ ตัวมึงน่ะเชี่ยวเรื่องนี้นี่หว่า อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะโว้ย กูเห็นมึงเอาหมาคณะมนุษย์อยู่หน้าตึกน่ะ ฟาย! แรงได้อีกนะมึง”
พูดแหย่แล้วทำเป็นหลบหน้าเหรอวะ เขินเหรอมึง? หึหึหึ ผมล่ะอยากจะบรรจงถีบมันให้เต็มรักจริงๆ กระแดะได้ใจ ขนาดกลางฝูงชนที่เดินผ่านไปผ่านมามันยังกล้าแต่พอถูกแซวเท่านั้นแหละ ทำเป็นสะบัดค้อนใส่ โด่! ไอ้หมาเอ๊ย!!
ผมจะแนะนำให้รู้จักหนุ่มๆ ลูกสมุนของผมนะครับ พวกมันถูกเรียกว่ามะหมาโฟร์ ไอ้ตัวดำนั้น โกจุนโพ เอ๊ย ไอ้ทาคุมิครับ ไอ้ตัวทองๆ นั้นไอ้แบรตพิต ไอ้ตัวขาวนั้นฮีโร่ ไอ้ตัวสีน้ำตาลลายขาวนั้นไอ้เบิร์ด แต่ละตัวดังๆ ทั้งนั้นครับ วีรกรรมของพวกมันนะอย่าให้ผมสาธยายเล่าวันนี้จนถึงเดือนหน้าก็ยังไม่จบเล๊ย คนในมอเอือมพวกมันจะตายเกือบถูกเทศบาลจับไปเชือดก็หลายครั้ง โชคดีที่ผมตอนเข้าปีหนึ่งเคยช่วยพวกมันไว้ทำให้ต้องรับผิดชอบพวกมันจนถึงเดี๋ยวนี้! โชคร้ายหรือโชคดีกันวะ? แต่มีพวกมันอยู่ก็ดีเหมือนกันนะครับ
ดียังไงน่ะเหรอ? หึหึหึ
ผมอย่างกับนักเลงคุมซอย! มีบอดี้การ์ดเป็นหมาสี่ตัว (กูโคตรภูมิใจเลยวะ?) แถมพวกมันยังคุมหมาทั้งมหาวิทยาลัยอีก โคตรแนวเหอะ! เวลาผมไปเรียนคณะอื่นพวกมันก็จะเดินขบวนรายรอบเดินตามไปส่งอย่างกับขบวนแห่ คุณคิดดูสิ คนมองกันให้พรึบ ตอนแรกผมก็อายชิบหายอยากจะเอาหน้ามุดดินหนีอาย แต่หลังๆ มานี่หน้าหนาแล้วครับ ด้านไม่รู้สึกอะไรใดๆ เลย
คุยกันตั้งนานยังไม่ได้แนะนำตัวก่อนเลยเนอะ ผมก็ต้องขอโทษด้วย ช่วงนี้มีเรื่องให้คิดมากมายกายกอง อะแฮ่ม! สวัสดีครับ ผม พรีสต์ครับ พรีตส์ที่แปลว่านักบวช ครับนักบวช ไม่ใช่พีชสงบ หรือพรีสกรุณา พรีสต์นักบวชครับ คนที่ได้ฟังตอนแรกหัวเราะจนหงายหลัง (เพราะผมถีบมันเอง บังอาจมาหัวเราะกู ชิ!) ชื่อนักบวชแต่คนอื่นมักพูดว่าพ่อแม่ของผมหลับตาตั้งชื่อ เหอะ ก็ผมน่ะมันตรงกันข้ามกับคำว่าพรีสต์นักบวชนี่น่า น่าจะเป็นนักเลงมากกว่า!
ตอนนี้ผมก็เรียนอยู่ปีสามของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาตกแต่งภายใน อ่า! จริงๆ เลยน่า จะให้ผมเผยความลับกับคนแปลกหน้าได้ยังไงกัน เอาไว้ค่อยๆ รู้จักผมแล้วกันนะครับ! ตอนนี้ผมกำลังจ้องไอ้สตางค์ที่วิ่งหน้าตั้งมาทางผม อะไรของมัน หนีฝูงแรดมาเหรอวะ?
“ไอ้พรีสต์!”
“อะไรของมึง ใครตาย?”
“แย่แล้วว่ะไอ้พรีสต์!!”
“อะไร? ไอ้เวรม่อนไม่จ่ายหนี้กูอีกแล้วเหรอ? ไอ้เวรนี่วอนตายซะแล้ว!”ผมหักนิ้วดังกรอบๆ ไอ้ม่อนไอ้เวรยืมเงินกูไปตั้งเยอะแต่ไม่เคยคืนกูสักแดงเดียว หึๆ แถมยังเลยกำหนดก็ไม่จ่ายคืนมาสักที ได้! วันนี้เจ้าหนี้อย่างกูขอรับบทโหดสักวัน! ก่อนที่ผมจะทำหน้าเหี้ยมมากไปกว่านี้ ไอ้สตางค์ก็ส่ายหน้าหวือ อ้าว! แล้วมันเรื่องอะไรกันวะ?
“ไอ้พรีตส์ แย่แล้วโว้ย!”
“อะไร?”
“ละ...ลูกมึง! ลูกรักมึงโดนยำเละไม่เหลือซากหมดสวนเลยว่ะ!!”
“....”
ลูกรักกู? หือ?.............................................
....................................................
........................................
............................
.................
........
...
.
“ลูกกู?”
“มึงอย่าเพิ่งช็อกจนตายนะโว้ย!”ไอ้สตางค์มันมองผมอย่างหวาดๆ พร้อมเป็นห่วงไปด้วย หือ? ทำไมกูจะต้องช็อกจนตาย? ก็แค่เรื่องลูกรักกูตายหมดสวน? อืม...ตายหมดสวนเท่านั้นเอง เรื่องแค่นี้.....
เรื่องแค่นี้?
เรื่องแค่นี้ซะที่ไหนล่ะโว้ยยย!!?
ผมเหวี่ยงจานข้าวของไอ้พวกมะหมาลงพื้นอย่างโมโหสุดขีด ลูกรักกู!? ลูกที่กูอุตส่าห์ถนอมเลี้ยงดูอย่างระมัดระวัง เฝ้าคอยส่งปุ๋ยส่งน้ำ ถอนวัชพืช ไล่แมลงอย่างยากลำบาก! ผมรีบสตาร์ทวิ่งออกไปเต็มแรงสูบ ผมวิ่งมาที่หลังคณะ เมื่อก่อนมันเป็นพื้นที่ที่ไม่ใช้ผมเลยนำมาปลูกไม้ดอกไม้ประดับโดยได้รับอนุญาตจากท่านคณบดีแล้วด้วย แล้วดูสิ! พวกเราคณะสถาปัตย์อุตส่าห์ช่วยกันรักษามาตลอด แต่ตอนนี้...ตอนนี้มัน...กลายเป็น....
สุสานคนตายไปแล้ว!
โฮกกก~~~!!!
“นิวเยียร์!! เรนเดียร์!! แคทเธอรีน!! ลูกพ่อออ~”
สภาพศพ(?)ของลูกรักผมแทบไม่อยากจะมองซ้ำอีก แค่นี้ผมก็เจ็บปวดไปทั้งหัวใจ ใจสลายทั้งเป็นแล้วล่ะครับ ลูกพ่อ! โดนย่ำยีถึงเพียงนี้เลยเหรอนี่!!? ผมอยากจะร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือด โฮกกก!! แมรี่อา โรส มอร์แกน นิโคลัส!!! ขอโทษ พ่อขอโทษที่มาช้าเกินไป ไม่ทันได้ดูใจกันเลย ลูกพ่อ....
ร่างของผมสั่นสะท้านไปทุกอณูเซลล์แล้วครับตอนนี้ ผมหันหลังให้กับภาพโหดร้ายนั้นอย่างอาลัยแล้วพวกเพื่อนๆ ในคณะก็วิ่งเข้ามาหน้าตื่นกันใหญ่
“เกิดอะไรขึ้นวะ!?”
“เฮ้ยยย!!! สวนดอกไม้ของพริสตี้ทำไมมันเป็นแบบนี้วะ!!?”
“พริสตี้! โอเคเปล่าวะ!?”
พวกเพื่อนๆ พยายามเข้ามาถามไถ่ผมอย่างเป็นห่วง กูไม่รู้เรื่องอะไรแล้วว่ะ กูไม่อยากจะคุยกับใครทั้งนั้น ลูกของกูถูกไอ้พวกสันดานใจมารมันย่ำยีโดยที่กูไม่ได้มาช่วยเลยแม้แต่น้อย กูมันพ่อด๋อย กูมันไร้ความสามารถ!
“อย่าร้องไห้ดิวะพรีสต์”
“เดี๋ยวเราช่วยกันปลูกใหม่ก็ได้”
“เออๆ พวกเราช่วยกันปลูกใหม่ก็ได้ อย่าร้อง”
ไอ้พวกเพื่อนๆ มันเริ่มจะแตกตื่นเพราะผมดันเป่าปี่เป็นพระอภัยมณีไปซะได้ ทั้งๆ ที่ผมอยากจะเข้มแข็งต่อหน้าลูกๆ ที่ไม่เหลือซากพวกนั้น แต่ว่า...แต่ว่า...ลูกที่ผมกับเพื่อนๆ ช่วยกันปลูกกลายเป็นซากอะไรก็ไม่รู้ แม่งเอ๊ย! มันเจ็บอยู่ในอกของไอ้พรีสต์!!!
ผมก้มหน้าแล้วปาดน้ำตาออกจากตาแล้วเงยหน้าขึ้นมามองพวกเพื่อนๆ ที่ส่งสายตามาปลอบใจ ผมกวาดสายตามองทุกๆ คนแล้วถามเสียงคล้ายคำราม
“ใคร? ใครมันมาทำลูกกูเป็นแบบนี้!!”
“อ่า...”
“บอกกูมาไอ้สตางค์!”ผมหันไปไล่เบี้ยเอากับไอ้สตางค์ ไอ้เวรนี่มันก็ทำหน้าเหมือนอยากจะตาย
“ไหงกูเป็นคนที่ซวยล่ะหว่า คนตั้งเยอะตั้งแยะ”
“มึงไม่ใช่คน!”
“กูไม่ใช่คน กูเป็นมนุษย์!”
“มึงแค่ละมุดก็พอแล้ว บอกกูมาไอ้สตางค์!!!”
“แล้วทำไมต้องตะคอกใส่กูด้วย กูทำผิดอะไร?”ไอ้สตางค์แทบจะร้องไห้เมื่อผมถลึงตาใส่ มันสะบัดหน้าใส่ผมแล้วตอบเสียงเบาๆ ดังกว่านี้ไม่ได้หรือไงวะ? ถึงกูจะยังไม่แก่แต่อยากจะฟังให้แน่ใจโว้ย!
“อะไรนะ?”
“ไอ้พวกวิศวะมันยกพวกตีกันมาถึงนี้!”
“ใคร?”
ไอ้สตางค์สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ คนอื่นๆ ก็รอฟังคำตอบจากมันอยู่เหมือนกัน แต่ดูเหมือนไอ้เวรนี่ก็ไม่รู้สึกรู้สาทำเป็นลีลาท่ามาก ผมจัดถีบใส่พานประเคนให้มันอย่างหมั่นไส้
“กูถามว่าใคร!?”
“หัวโจกพวกมันชื่อว่าโซโล่”
“...” พอได้ชื่อผมก็หันหลังออกวิ่งไปทันที
“มึงอย่าไปยุ่งกับมันนะไอ้พรีสต์ ไอ้โซโล่น่ะมันโคตรเหี้ย...ไอ้พรีสต์!!!”
“พรีสต์!!?”พวกเพื่อนๆ ของผมเรียกอย่างวิตก
“มึงจะวิ่งไปตายเหรอไอ้พรีสต์!!?”
กูไม่ตายแต่ไอ้คนที่ทำลูกตายมันต้องตาย! ผมวิ่งเต็มสูบอีกครั้งเพื่อไปที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ที่อยู่ใกล้ๆ กันนี่เองครับ แต่ผมไม่เคยไป แน่นอนว่าที่ๆ อันตรายแบบนั้นผมหลีกเลี่ยงมานาน ผมไม่อยากจะมีเรื่องต่อยตีกับใครหน้าไหน เพราะฉะนั้นไม่เข้าไปในอาณาเขตเถื่อนๆ อย่างวิศวะนั้นถูกต้องแล้ว แต่วันนี้ผมโมโหจนฟิวส์ขาดไม่ได้คิดอะไรนอกจากเอาไอ้เวรนั้นมาขอโทษต่อหน้าซากศพลูกรักเท่านั้น!
ผมวิ่งมาถึงคณะวิศวะ ตึกแม่งก็เยอะชิบแล้วกูจะไปหาไอ้ที่ชื่อว่า...อะไรนะ? ไข่โต โซ่ตก? อะไรนั้นจากที่ไหนวะ!? ผมเหลียวซ้ายเหลียวขวาแล้วสาวเท้าเข้าไปถามคนที่นั่งๆ มองมาที่ผม อะไรกันวะ? ไอ้คนคณะนี้ทำไมมันจ้องกูแบบไม่เคยเห็นคน! พวกมึงไม่เคยเห็นคนหรือไง!!?
“โทษที รู้จักไอ้คนที่ชื่อ...”
ไข่โต?
โซ่ตก?
ไฮโลว์?
อะไรของมันวะ? ผมยิ่งเป็นพวกจำชื่อคนอื่นยากอยู่ เดี๋ยวนะ! ทำไมผมถึงไร้ความสามารถแบบนี้ ตอนที่ไอ้สตางค์มันพูดถึงก็ดันวิ่งออกมาก่อน เชี่ยแหละ! ไอ้เวรนั้นมันชื่ออะไรวะ?
“ชื่ออะไรเหรอครับ?”
ผมเหลือบไปมองหน้าไอ้คนที่ถามขึ้นมา ดูยิ้มมันสิ โคตรส่อเลยว่ะ! ยิ้มทีหนึ่งส่อถึงปัญญาเบื้องลึกว่ามันโคตรกามแค่ไหน ไอ้ยิ้มเหยิ้มๆ จนสยองแบบนี้ผมเพิ่งจะเจอเป็นครั้งแรกตอนนี้แหละ แต่ถ้ามองดีๆ แล้วไอ้พวกฝูงเชี่ยเนี่ยมันมองกูหื่นๆ ชอบกล หนังตาของผมกระตุกยิกๆ ใจเย็นไว้ไอ้พรีสต์มึงไม่อยากมีเรื่องกับพวกนี้หรอก!
“โซโล่!”
“อา...โซโล่? ไอ้โซโล่ อีกแล้วเหรอวะ”ผมโล่งใจเมื่อบอกชื่อไปถูกต้อง ไอ้ยิ้มกามนี้ก็บ่นพึมพำอะไรแล้วมันก็ส่ายหน้าอย่างเสียดายสุดจิต ก่อนจะบอกผมว่าไอ้...ไฮโลว์? มันอยู่ที่ไหน ผมขอบคุณมันแล้วรีบเดินออกไปทันที ไอ้เวรนั้นก็ตะโกนตามหลังผมมาติดๆ
“ถูกมันเบื่อเมื่อไรก็มาหาพี่ได้นะครับคนสวย!!”
ผมหันไปมองมันอย่างงุนงง มันพูดอะไรของมันวะ? แล้วมันหมายถึงใครน่ะ? ผมหันซ้ายหันขวา กูก็ไม่เห็นสาวที่ไหนนี่หว่า ไหนคนสวยของมึง!? กูงงชิบ! ผมสะบัดหน้าไปมาไม่สนใจแล้วรีบไปด้านหลังอาคารภูมิธาดาที่เป็นอาคารหลังที่อยู่ใกล้ป่าที่สุด บรรยากาศมันชวนหลอนจริงแฮะ ผมกำหมัดแล้วลุยเข้าไปอย่างไม่กลัวตาย ใครมันจะมากล้าฆ่ากันกลางวันแสกๆ แบบนี้ แล้วอีกอย่างผมไม่ได้มาหาเรื่อง ผมแค่มาหาคนรับผิดชอบเท่านั้น!
ผมเดินมาลึกพอสมควรแล้วก็เห็นกลุ่มคนที่นั่งจับเจ่ากันที่มุมโต๊ะหินอ่อน ต้องใช่กลุ่มนี้แน่ๆ ครับ เพราะหน้าตาของพวกมันมีบาดแผล นี่คือหลักฐานที่พวกมันไปย่ำยีลูกๆ ของผม! เห็นแบบนั้นผมยิ่งปรี๊ดแตก แม่งเอ๊ย! นี่ถ้า...นี่ถ้าเป็นผมเมื่อก่อนล่ะก็ป่านนี้ผมบ้าเลือดวิ่งเข้าไปลากพวกมันส่งนรกทีละคนนานแล้วแต่ตอนนี้มันไม่ใช่...ผมต้องใจเย็น ผมจะไม่มีเรื่องกับใครเด็ดขาด!! เดี๋ยวนะ...มันชื่ออะไรนะ? เออๆ ไอ้ไข่...เอ๊ย ไอ้โซโล่!!
“เฮ้ยยย!! ใครคือไอ้โซโล่!!?”
เฮ้ย!? เสียงแบบนี้มันเหมือนคนมาหาเรื่องต่อยเขาเลยนะ รู้สึกว่าผมจะพลาดซะแล้วล่ะครับ ด้วยอารมณ์ที่กรุ่นมานานอยากหาที่ระบายผมเลยบังคับเสียงตัวเองได้แค่นี้ ผมเดินเข้ามาใกล้กลุ่มของพวกมัน ไอ้พวกนั้นก็ชะงักตัวแล้วมองมาที่ผมอย่างงุนงงสักพักก็หันมากระซิบกัน ผมแทบอยากจะเข้าไปกระทืบหน้ากวนๆ อย่างนั้นจังเลย คิดถึงสมัยก่อนที่เคยเกเร ไอ้หน้ากวนๆ อย่างนั้นมันสมควรถูกส่งไปนรกก่อนเพื่อน!
“โซโล่? ไปฉี่”ไอ้หน้ากวนทีนเบอร์หนึ่งหันมาตอบผมแล้วยิ้มเยาะๆ ผมนี่แทบขันติแตก กูล่ะหมั่นไส้หน้าแบบนี้จริงๆ ผมจินตนาการว่ากำลังซ้อมไอ้เวรนี่อย่างเมามัน สักพักก็ถามขึ้นอีก
“มันไปยิงกระต่ายที่ไหน?”
“ในป่านู้นแต่อย่าตามไปเลย! ในป่าน่ะไม่มันหรอก”
ฆ่ากันในป่าน่ะมันสุดๆ เลยนะไอ้มะม่วง(กวนทีน) ผมจ้องมันเล็กน้อยแล้วไม่สนใจ ตอนนี้ผมโฟกัสอยู่ที่ไอ้โซโล่คนเดียว แล้วไอ้มะม่วงกวนมันก็ยักคิ้วให้กับผมอย่างมีนัยๆ
“แต่ถ้าเงี่ยนว้อนท์มาก ผมอาสารับจ้อบก็ได้น่า สนใจเปล่า?”
“โห! ใครจะสนใจมึงไอ้วะไอ้เหี้ย! หน้าอย่างมึงปลาหมึกยังไม่สน ผมว่างนะครับคนสวย”ไอ้กวนหน้าแข้งเบอร์สองลุกขึ้นมาผลักไอ้มะม่วงออกไปแล้วเดินมาหาผม มึงว่างแล้วไงวะ กูไม่สน! ไอ้เวรกวนแข้งนี่มันคว้าแขนผมมาจับไว้อย่างรวดเร็ว
ใจเย็นๆ ผมจะมีเรื่องไม่ได้!
ผมบิดแขนของตัวเองจากมือของมันแล้วคว้าข้อมือมันบีบออกแรงเล็กน้อย หน้าของมันเริ่มเหยเกหน้าซีดขึ้นเรื่อยๆ ผมค่อยๆ ยิ้มออกมาแล้วเอ่ยถามซ้ำอย่างใจเย็น
“กูถามว่าไอ้เวรโซโล่มันมุดหัวอยู่ที่ไหน?”
“...อะ...อะ...”
“เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้น!?”เสียงห้วนถามดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของกลุ่มคนร่างเปรตห้าคน ผมปล่อยข้อมือของไอ้บ้านี่แล้วหันไปมองพวกที่เข้ามาใหม่ แล้วไอ้พวกที่นั่งๆ อยู่รีบวิ่งหางจุกตูดไปกระจุกอยู่ด้านหลังของพวกที่มาใหม่ ผมมองพวกมาใหม่แล้วประเมินในใจ สงสัยจะเป็นหัวหน้า
ไอ้เวรโซโล่อาจจะเป็นหนึ่งในห้านี้ก็ได้ ผมมองพวกมันทีละคน แล้วหยุดตรงไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงกลาง สูงไม่พอ (อิจฉา) แถมยังหล่อโฮก ผิวขาว ปากสีส้ม โดยเฉพาะไอ้ดวงตาคมๆ นั้นดูสวยจนน่ากลัวกำลังจ้องผมเขม็ง ผะ...ผมรู้สึกเกลียดไอ้เวรนี่มากที่สุดแล้ว ไม่รู้ทำไมแต่ผมรู้สึกไม่ถูกชะตากับมันเลย ให้ตายสิ!
“มีอะไร?”ไอ้สูงเป็นเปรตที่ผมแอบเขม็งอยู่เอ่ยถามขึ้นเสียงทุ้มต่ำอย่างกับเสียงแวมไพร์ ผมขนลุกชู่ทันที ผมไม่ได้กลัว! มันล้วงมือเอาไปในกระเป๋ากางเกงยีนแล้วเอียงหน้าจ้องผมเย็นเฉียบ ผมกำหมัดแน่นคิดถึงสภาพลูกรักที่นอนตายอนาถ
“ผมมาหาคนที่ชื่อโซโล่”
สุภาพไว้ครับ สุภาพไว้ เดี๋ยวมันจะหาว่าผมมาหาเรื่องอีก
“กู โซโล่”มันตอบกลับมาเสียงเรียบนิ่งไม่มีแววแปลกใจ สงสัยหรืออะไรใดๆ ผมขมวดคิ้วเข้ามาทันที จ้องตามันเขม็ง กูว่าแล้ว ไอ้เปรตนี่ต้องเป็นฆาตกรฆ่าลูกรักกูแน่ๆ ลางสังหรณ์ของผมน่ะแม่นจะตาย ผมเหม็นขี้หน้ามันตั้งแต่สบตาแรกพบ แค่เจอกันไม่กี่วินาทีมันยังทำให้ผมเกลียดเข้าไส้ขนาดนี้ ถ้าขืนอยู่นานกว่านี้บางทีผมอาจจะเผลอแจกขนมตุ้บตั้บ!
“นายต้องรับผิดชอบ!”
“...” ไอ้เวรนั้นนิ่งไปแล้วขมวดคิ้วหน่อยๆ แล้วเหลียวมามองผมก่อนจะหันไปมองเพื่อนๆ ของมัน ไอ้เพื่อนของมันก็ยิ้ม บางคนก็กลั้นหัวเราะ อะไร! ชีวิตของลูกกูน่ะไม่น่าขำนะโว้ย!!!
“จำไม่ได้ว่าเคยทำอะไรกับมึงมาก่อน”
“ไอ้เวรโซโล่! ทำแล้วไม่รับผิดชอบ ไอ้หน้าด้าน หมายังดีกว่ามึงเลย!”ผมอารมณ์โมโหสุดๆ ไม่พูดสุพงสุภาพมันแล้วโว้ย ปฏิเสธหน้าตายจริงนะมึง มาทำลูกรักกูแล้วบอกว่าไม่ได้ทำอะไรแบบนี้!
“...เฮ้ โซโล่มึงไปทำเขาท้องเหรอวะ? ทำไมมาโวยวายบ้านแตกแบบนี้”ไอ้แว่นเตี้ยข้างๆ มันเอ่ยด้วยน้ำเสียงกวนๆ ไอ้โซโล่ก็ปฏิเสธเสียงแข็ง
“กู...ไม่เคยมีอะไรกับมัน!”
“อะไรนะไอ้สาด! ทำขนาดนั้นแล้วยังบอกว่าไม่ได้ทำงั้นเหรอ? อยากดูหลักฐานไหม!?”ผมชี้หน้าด่าเลยครับทีนี้ คิดว่าซุบซิบกันแล้วกูจะไม่ได้ยินหรือไง กูน่ะหูนรกนะโว้ย! ไอ้เวรไข่โตมันหันมามองผมเขม็ง พวกเพื่อนๆ ของมันก็เหมือนกันแล้วมันก็แสยะยิ้มอย่างรวดเร็วแล้วก้าวมาหาผม
“หลักฐาน? กูก็อยากดูเหมือนกันว่ากูเคยไปทำตอนไหน!?”
ว่าเสร็จไอ้เวรนี้ก็จับตัวผมไว้ทันที ผมมัวแต่ตกใจทำอะไรไม่ถูก ได้สติก็ตอนที่ผมถูกไซ้ซอกคอนี่แหละ อ๊ากกก!!! หมัดเห็บอย่างมึงบังอาจมาแตะต้องตัวกูได้ยังไง!? ผมพยายามใช้กลวิธีสะบัดมันออกแต่ไอ้เวรนี่มันยิ่งกว่าปลาหมึกสลัดไม่ออกสักที ผมชะงักตัวหน้าแล้วหน้าแดงแปร๊ดเพราะไอ้เวรนี่ดันมาขบหูจุดอ่อนไหวที่สุดของผมได้! ในขณะที่ผมมัวแต่อึ้ง ไอ้เวรสารเลวนี่ก็พ่นเสียงดูถูกกันสุดๆ
“กลิ่นแบบนี้กูจำไม่ได้ว่าเคย สงสัยต้องสำรวจภายในต่อถึงรู้แน่ชัด”
“...”
ผมเบิกตากว้างแล้วใช้อาวุธประจำตัว นั้นก็คือเข่านี่แหละครับแทงใส่มันอย่างไม่ทันได้คิด ไอ้เวรนั้นก็ไวปานลิงกระโดดหลบไปอย่างชิวๆ ผมหายใจเข้าออกแรงๆ แล้วกัดฟันกรอด แค้น แค้นมาก แค้นโว้ยยยย!!! ทั้งแค้น ทั้งอาย!!!
“ไอ้สัด!!!!! อย่างกูน่ะไม่สิ้นคิดให้มึงเอาหรอกโว้ย!! ให้เอากับปลาตายยังดีกว่าเอากับมึงเลย!!!”ผมโมโหหน้าดำหน้าแดงตะโกนออกไปสุดแรงเกิด ไอ้เวรโซโล่หรี่ตาลงสายตามันกระด้างขึ้นอย่างชัดเจน
“เหอะ ปากดี ได้ลองแล้วคร้านจะขอให้ทำอีก!”
“อ๊ากกกกก!!! ทำไมกูจะต้องลอง หน้ามึงก็บอกแล้วว่าไร้ประสิทธิภาพยิ่งกว่าปลาเกยตื้น!! ไอ้ไข่โต!!! ไอ้โซ่ตก!!! มึงกับกูเป็นศัตรูกันนับแต่จากนี้ไป ไอ้เวรเอ๊ยยย!!!”
ด่าเสร็จผมก็รวบรวมพละกำลังวิ่งชนพวกมันผ่าดงออกมาสุดแสนจะคับแค้นใจ นี่ถ้า...นี่ถ้า...ไม่เคยสัญญาไว้ว่าจะไม่มีเรื่องกับใครล่ะก็....
มึงตายยย ไอ้ไข่โต!!!
TBC.