ระโนด <by ต้นคุง>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ระโนด <by ต้นคุง>  (อ่าน 220354 ครั้ง)

ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 27=
«ตอบ #330 เมื่อ08-09-2009 01:52:47 »

หนุ่ย...ความรู้สึกทำไมไม่มีแสดงออกมาหน่อยมาชอบใคร์ ลุ้นน่ะโว้ย

ปล.เป็นกำลังใจให้คนโพส คนเขียนครับ

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 27=
«ตอบ #331 เมื่อ08-09-2009 03:47:05 »

เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
ตัวแปรเริ่มเยอะึขึ้นทั้งจากคนและเหตุการณ์
ดูไม่ออกเลยว่า หนุ่ยจะเป็นตัวละครเอกคู่กับใคร
แถมยังมี ป้อ กับ อ้น ที่เริ่มมามีบทบาทเพิ่มอีก
ท่าทางจะอีกยาว
บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ tutu

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 27=
«ตอบ #332 เมื่อ08-09-2009 20:35:15 »

อึมครึมในอารมณ์มาก  รอต่อไป

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 27=
«ตอบ #333 เมื่อ09-09-2009 03:53:53 »

28 รีสอร์ทแสนเศร้า

          เด็กหนุ่มทั้งสองคุยกันมาเรื่อยจนรถวิ่งเข้ามาสู่ตัวเมืองกาญจน์ เด็กๆเช่าสองแถวไปที่พักทันที ห้องพักที่จัดไว้ให้เป็นห้องนอนรวม นอนได้ประมาณหกคน ซึ่งไม่พอดีกับเด็กๆทั้งหมดซึ่งมากัน 7 คน ต้องมีสองคนนอนด้วยกัน

“หนุ่ยนอนที่พื้นก็ได้...น่านนอนเถอะ” หนุ่ยขยับตัวลง
“ไม่ต้องหรอก...เดี๋ยวน่านไปนอนกับป้อก็ได้” น่านบอก
“เออ...น่านมานอนนี่เถอะ” ป้อร้องบอกมาจากเตียงที่อยู่ริมห้อง
“น่านนอนข้างในนะ...เดี๋ยวป้อจะนอนริมด้านนอกเอง...” ป้อบอกพลางขยับที่ให้น่าน
“ขอบคุณนะป้อ” น่านยิ้มให้ป้อ แค่นี้ก็ทำเอาหัวใจเด็กหนุ่มสะท้านไปถึงไหนๆแล้ว

“แล้วเราจะทำอะไรกันมั่ง...” อ้นถาม
“คอยโทรศัพท์ไง...ให้เบอร์เค้าไปแล้วไม่ใช่เหรอมึง” ทีมพูด
“ไอ้เชี่ย...ใครวะจะบ้าขนาดนั้น...ให้ไปแป๊บเดียวเอง...เค้าไม่กล้าหรอก...กูว่าเค้าดูขี้อายยังไงไม่รู้” อ้นยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู แล้วทำคิ้วขมวด “ใครยิงเข้ามาวะ...” มีเบอร์โชว์มา อ้นกดโทรศัพท์ออกไปตามเบอร์ที่เรียกเข้ามาทันที

“สวัสดีครับ...เมื่อกี้นี้ไม่ทราบว่าใครโทรมาเบอร์ผมครับ” อ้นกรอกเสียงลงไป
“เอ่อ...ให้เบอร์ใครไปล่ะคะ” เสียงหวานๆของน้องเสื้อส้มแน่เลย ทีมกระโดดจากเตียงตัวเองลงมาที่เตียงอ้น แทบจะทับไข่กันเลยทีเดียว
“ใช่รึป่าววะ” ทีมทำเสียงกระซิบ อ้นพยักหน้าบอกว่าใช่แล้วคุยต่อ
“เอ่อ...ครับผมชื่ออ้นครับ”
“ทราบแล้วค่ะ”
“ทราบได้ยังไงครับ”
“อ่อ...เพื่อนบอกค่ะ”
“อืม...คุณชื่ออะไรครับ”
“ส้มค่ะ”
“โหยย...ชื่อเดียวกับสีเสื้อเลย” อ้นหน้าแดงแป๊ด...ทีมเงี่ยหูฟังข้างๆด้วยใจอันจดจ่อ

“อ้น...”
“ครับ”
“เสาร์หน้าว่างมั๊ย”
“ว่างครับ”
“อยากเจอจังเลย”
“ที่ไหนดี” อ้นหน้าแดง ซาบซ่านไปหมดทั้งตัวทั้งใจ
“สยามก็ได้”
“ได้ได้...แล้วโทรมาหานะ...นี่เบอร์ส้ม”
“คร๊าบบบ” อ้นวางหู เอาโทรศัพท์แนบอก ถอนหายใจรุนแรงหนักหน่วง...ความรักวิ่งเข้าชนเต็มประตูเลย คิดถึงอาทิตย์หน้า...จะแต่งตัวยังไง เสื้อสีส้มดีกว่า เพราะถ้าส้มถามจะได้บอกว่ามีแต่ส้มทั้งตัวทั้งหัวใจ.... (สำนวนบ้านนอกได้อีก) คิดแล้วมีความสุข...โหยยย...ไม่คิดว่าจะเจอกามเทพแผลงศรให้ขนาดนี้...หัวใจมันอิ่มเอม...

“ไอ้อ้น...เป็นเชี่ยอะไรมึง...นอนยิ้มอยู่ได้...ชาวบ้านเค้าออกไปข้างนอกกันหมดแล้ว” เสียงทีมเรียกยังไม่ทำให้สะดุ้งเท่าแรงถีบที่กระแทกลงมาที่สีข้าง...”พลั่ก”...
“อูยยย...ไอ้บ้านี่...ไอ้ทีมมึงถีบกูทำไม...สาดดดนี่....กูเจ็บนะเมิง” อ้นลงไปนอนแอ้งแม้ง แต่ยิ้มเผล่อยู่ข้างเตียง
“นอนฝันกลางวันอยู่ได้...คนอื่นมันไปเล่นน้ำกันหมดแล้ว...กูมาปลุกมึงเนี่ย...จะไปด้วยกันรึเปล่า” ทีมเสียงดังพลางคุ้ยหากางเกงว่ายน้ำในกระเป๋า
“เล่นน้ำสระเหรอ...” อ้นถาม
“เออ...เล่นที่แม่น้ำเดี๋ยวได้จมตาย” ทีมถอดกางเกงนอก กางเกงในแล้วใส่กางเกงว่ายน้ำอย่างรวดเร็ว พลางเดินออกจากห้อง
“ไปด้วยดิ...กูไม่มีกางเกงว่ายน้ำเค้าให้ลงป่าววะ” อ้นถอดกางเกงขายาวลงมาสะบัดออกอย่างรวดเร็วเหลือแค่บ๊อกเซอร์ตัวเดียว “ไปทั้งอย่างนี้แหละวะ”
“รอด้วย...” อ้นวิ่งออกจากห้องตามทีมไป

          ที่สระว่ายน้ำเด็กหนุ่มทั้งเจ็ดคนเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน อ้นกับทีมตามมาทีหลังวิ่งมาแต่ไกลแล้วกระโดดลงน้ำพร้อมกัน ทีมใส่กางเกงว่ายน้ำสีดำรัดเปรี๊ยะ แต่อ้นกระโดดลงไปทั้งบ๊อกเซอร์ น้ำกระจายขึ้นมาที่ขอบสระเปียกไปหมด เด็กๆเล่นลิงชิงบอลกัน แน่นอนคนที่ตัวเล็กอย่างน่านกับป้อเป็นลิงอยู่บ่อยๆ จนเหนื่อย...ทั้งสองเหนื่อยกว่าใครๆ จนเกือบค่ำทั้งหมดจึงขึ้นมาจากน้ำแล้วก็ไปทานอาหารกันที่ห้องอาหารของทางรีสอร์ท  แคนให้จัดอาหารไว้แล้ว หลังจากทานอาหารเย็นแล้วทั้งหมดมานั่งคุยนั่งเล่นกันที่หน้าบ้านพัก

          ธรรมชาติตอนเย็นย่ำค่ำลง ลมพัดมาแผ่วๆใบไม้พลิ้วไหวล้อลมอยู่ ทีมเอากีต้าร์ออกมาเกาเพลงเบาๆ เรื่องถนัดมันอยู่แล้ว ทีมเป็นนักดนตรี พ่อมันชอบเล่นดนตรี ส่วนปรีย์นั่งข้างๆร้องตาม หนุ่ยกำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับธีร์

“ครับพี่...ไม่มีปัญหาครับ”
“..........”
“ขอบคุณครับ...” หนุ่ยวางหูไปแล้วเดินเข้ามาร่วมวงร้องเพลงกับเพื่อน
“พี่ธีร์โทรมาเหรอ” น่านถามพลางเช็ดผมด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กๆ เสื้อตัวโคร่งของหนุ่ย กางเกงขาสั้นของป้อ เพื่อนเอาเสื้อผ้ามาแบ่งให้ใส่ ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่มานั้นเอาไว้ใส่กลับ
“อืม...พี่ธีร์ถามว่าขาดเหลืออะไรให้บอก”
“บอกยังไง...” น่านถาม
“ก็พี่เค้าจะให้ลูกน้องซื้อเข้ามาให้” หนุ่ยบอก
“ไอ้ทีม...กูว่ามึงน่าจะเอากลองชุดมาด้วย”ปรีย์พูดพลางกระดกเบียร์
“เอามาให้พ่อมึงตีเหรอ...แค่นี้ก็ขนกันเหมือนกับจะย้ายบ้านอยู่แล้ว...ไหนจะน้ำเปล่าหกขวดที่ขนมาจากสายใต้อีก...” ทีมด่าเป็นชุดแถมกัดปรีย์อีกหนึ่งดอก
“ด่ากูอีก...เดี๋ยวกูจะเอาไปอาบให้หมดเลย” ปรีย์พูดงอนๆ
“ไม่ต้องกัดกัน...น้ำแค่หกขวด...ล้างKก็หมดแล้ว” อ้นพูด
“Kมึงใหญ่ขนาดนั้นเลยไอ้อ้น...ไหนกูดูสิ” ปรีย์กำลังจะเอื้อมมือไปจับเป้ากางเกงอ้น แต่ไม่ทันไอ้อ้นถกกางเกงลงมาให้ดูซะก่อน หัวห้อยออกมาเหี่ยวๆ ขาวๆเหมือนตัวมัน...
“แค่เนี้ยทำคุย...” ปรีย์พูดทำปากเบะๆเล็กน้อย
“อ่ะ...” แคนยื่นเบียร์มาให้หนุ่ย
“ขอบใจว่ะ” หนุ่ยรับมาดื่มแบบจิบๆ เพราะเพิ่งเริ่มดื่ม เขาเองก็ดื่มไม่เก่ง เคยแอบย่ากินตอนงานวันเกิดเพื่อนที่ระโนดและดื่มกับพี่ธีร์บ้าง...พี่ธีร์บอก ”หัดไว้บ้างเผื่อเข้าสังคม” หนุ่ยจำขึ้นใจ เลยซัดอักๆลงคอไปอีก เสียงกีต้าร์เล่นเพลงที่มันขึ้นเรื่อยๆประกอบกับเบียร์ที่พร่องลงไป เด็กๆสนุกสนานกันมาก จะทำอะไรไม่มีใครว่า ถึงจะนอกหูนอกตาผู้ใหญ่แต่ก็ไม่มีใครออกนอกร่องนอกรอยเลย แค่เบียร์กับสปายอย่างเดียวเขาก็รู้สึกว่ามันมากเกินไปแล้ว

“ป้อ...หน้าแดงเชียว...” น่านทักป้อ แต่ตัวเองก็จิบสปายเรด หน้าขาวใสแดงแป๊ดเหมือนกัน
“น่านก็แดง...เขินเหรอ...” ป้อถามพลางลงมานั่งข้างๆ กลิ่นหอมของยาสระผมบนหัวของน่าน ทำเอาเด็กหนุ่มเคลิ้ม เบียร์นิดหน่อยก็ทำให้ป้อกล้าขึ้นมาบ้าง...อย่างน้อยก็กล้าที่จะคุย
“หอมอะไรอ่ะน่าน” ป้อแกล้งถาม
“หอมอะไรเหรอ...” น่านหันหน้ามาถาม
“ไม่รู้สิ” กลิ่นเหมือนกับ ป้อทำจมูกฟุดฟิดแล้วไล่ดมไปจนถึงเส้นผมบางสลวยของน่าน ป้อดมที่เส้นผมของน่าน
“กลิ่นผมน่านนี่เอง” ป้อสูดลหายใจเอากลิ่นผมของน่านซะเต็มปอด
“ป้อ...ทำอะไร...อายเพื่อน...” น่านหน้าแดงแล้วเดินหนี
“ไปไหนล่ะ” ป้อถามกำลังจะตามไป แต่ไอ้อ้นดึงมือไว้ให้ร้องเพลงกับมัน

          น่านเดินปลีกไปที่ริมแม่น้ำ ทางเดินที่เป็นปูนคดเคี้ยวไปตามละเมาะไม้ สนามหญ้าสว่างไปด้วยไฟแสงจันทร์ น่านเดินออกมาจากวงเพื่อน มือถือสปายเรดขวดเดิม เด็กหนุ่มขยับขวดขึ้นดื่ม มันไม่เหลือแล้ว ไวน์หยดสุดท้ายไหลลงคอไป...น่านโยนขวดลงถังขยะข้างทาง น่านเดินมาสุดทาง สายน้ำเบื้องหน้าสีดำสนิท เงื้อมเงาของขุนเขาแทบจะบดบังท้องฟ้าเสียสนิท น้ำไหลเร็วและแรง เสียงหรีดหริ่งเรไรดังก้องป่า น่านมายืนอยู่ที่ระเบียงริมน้ำ ตลิ่งที่สูงปกคลุมด้วยกอหญ้าและไม้ดอกต้นเล็กที่ตอนนี้มันหลับใหลในราตรีกาล มันคอยเวลาแห่งแสงแรกในวันพรุ่ง แต่ใจคนสิ...จะมีใครรู้...ว่ามันก็รอแสงตะวันเฉกเช่นดอกไม้เหมือนกัน “วัช”หายไปเป็นเดือนๆแล้ว ไม่ออนเอ็มเหมือนก่อน ไม่โทรมาหา แถมน่านโทรไปก็มีสัญญาณติดต่อไม่ได้อีก ที่เคยบอกว่าจะทำงานเก็บเงินซื้อตั๋วเครื่องบินมาให้... หรือสัญญาเป็นเพียงแค่ลมปาก เขาก้มหน้านิ่ง ปัญหาหัวใจ ปัญหาเศรษฐกิจทางบ้านที่รุมเร้า น่านเดินลงไปที่ท่าน้ำ แล้วนั่งลงที่ริมโป๊ะ เท้าเปลือยเปล่าห้อยลงระสายน้ำเย็นเฉียบ ก้อนสะอื้นจุกที่คอ...เนื้อตัวสั่นด้วยความหนาว มันหนาวเข้าไปถึงขั้วหัวใจ ด้วยความเหงาอย่างที่สุด ความเหงานี่มันร้ายกาจนัก... เสียงเพลงแว่วมาจากเรือหางยาวที่รับนักท่องเที่ยว เสียงนี้ทำให้น้ำตาน่านไหลออกมา...มันควบคุมไม่ได้

 

คำว่ารักมันกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว
อะไรที่หวัง ก็พังไปตั้งนานแล้ว
แต่ชีวิตไม่รู้ทำไม มันยังคงค้างคาใจ
ไม่มีวันใดที่ฉันไม่จดจำ

ก็คำว่ารักยังจำได้อยู่เสมอ
หลับตาทุกครั้งยังเจอเธออยู่ตรงนี้
ความเข้มแข็งที่ฉันเข้าใจ อ่อนแอลงทุกนาที
อยู่ดีๆ ใจก็ร้องไห้อีกครั้ง

ยังคิดถึงเธอเหลือเกิน ได้ยินมั้ย
เธอยังอยู่ในหัวใจ ของฉัน
ข่มตานอนทุกคืน ยังฝันยังเห็นว่าเรารักกัน
เธออยู่ที่ไหน คิดถึงเธอ
ชาตินี้ไม่มีสิทธิ์เจอ จบแล้วก็เข้าใจ
แต่จะให้ทำยังไง เมื่อในหัวใจยังจดจำ

คำว่ารักยังพอให้ต่อชีวิต
ยังทำให้คิดถึงวันเก่าๆ เหล่านั้น
ได้แต่หวังลึกๆ ในใจ จะมีบ้างไหมสักวัน
สิ่งที่ดีๆ เหล่านั้นจะกลับมา

ยังคิดถึงเธอเหลือเกิน ได้ยินมั้ย
เธอยังอยู่ในหัวใจ ของฉัน
ข่มตานอนทุกคืน ยังฝันยังเห็นว่าเรารักกัน
เธออยู่ที่ไหน คิดถึงเธอ
ชาตินี้ไม่มีสิทธิ์เจอ จบแล้ว ก็เข้าใจ
แต่จะให้ทำยังไง เมื่อในหัวใจมีแต่เธอ

“น่าน...มานั่งทำอะไรตรงนี้...”เสียงคุ้นๆทำเอาเด็กหนุ่มต้องหันมามอง

“...ป้อ...”น่านครางออกมาเมื่อป้อนั่งลงข้างๆ
  ...


ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 28=
«ตอบ #334 เมื่อ09-09-2009 08:15:20 »

เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 28=
«ตอบ #335 เมื่อ09-09-2009 09:32:37 »

เป็นกำลังใจให้ด้วยคนค่ะ :3123:

wichit14

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 28=
«ตอบ #336 เมื่อ09-09-2009 10:29:32 »

ไม่รู้จะเชียร์ใครดี ตกลงน้องน่านจะได้กันทั้งกลุ่มป่าว อิอิ (ล้อเล่น) หวนนึกถึงตอนเรียน มัธยมปลาย ก็ไปเที่ยวแบบนี้หล่ะ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 28=
«ตอบ #337 เมื่อ09-09-2009 11:14:47 »

น่านนี้ดวงอาภัพมากๆ

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 28=
«ตอบ #338 เมื่อ09-09-2009 16:52:34 »

คิดถึงเขาข้างเดียวก้อยังนี้แหละ

 :z2:   :z2:

ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 28=
«ตอบ #339 เมื่อ09-09-2009 18:12:00 »

วัชหายไปไหนอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 28=
« ตอบ #339 เมื่อ: 09-09-2009 18:12:00 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 28=
«ตอบ #340 เมื่อ09-09-2009 21:05:38 »

น่านน่าสงสารจัง

วัชไม่ได้ติดต่อมาเลยเหรอ


ป้อจะจีบน่านจิงเหรอเนี่ย

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 28=
«ตอบ #341 เมื่อ09-09-2009 23:50:16 »

 :z2: :z2: :z2:
หนึ่งสิ่งที่อยากถาม
หนึ่งถ้อยความที่อยากตอบ
คือ ฉันลำบากใจ 555+
ยิ่งอ่านยิ่งลำบากใจ เหนื่อย ลุ้น เครียดไปกับตัวละครในเรื่อง
ตัดสินใจยากมากไม่รู้ว่าจะเลือกใครดีน๊า
นิว(LOVEis)

ออฟไลน์ tutu

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 28=
«ตอบ #342 เมื่อ10-09-2009 00:01:25 »

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

sad!!

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 28=
«ตอบ #343 เมื่อ10-09-2009 05:34:08 »

29 แม่น้ำแคว

“ป้อ” น่านครางออกมาเมื่อป้อนั่งลงข้างๆ
“อ่ะ...ป้อเอามาให้” ป้อส่งสปายเย็นเจี๊ยบขวดใหม่ให้น่าน

“น่าน...เป็นอะไรรึเปล่า...” ป้อพูดพลางเอามือเกาะกุมมือของน่านเอาไว้ จะด้วยฤทธิ์ของอัลกอฮอล์หรือความรักความห่วงใยที่มันสุมในใจมานาน ทุกสิ่งที่ป้อแสดงออกมาทำให้น่านตกใจมาก
“ป้อ...ป้อ...” น่านเรียกชื่อเพื่อนเบาๆ
“น่าน...ป้อเป็นห่วงน่านมากรู้มั้ย...เป็นห่วงมานานแล้ว...” ป้อใช้คำว่าห่วงแทนคำว่า”รัก”ยังไงเขาก็ยังไม่กล้าพอ
“ป้อ...”น่านตกใจและแปลกใจเอามากๆที่ทำไมอยู่ๆป้อถึงมีอาการแบบนี้

“................” ความเงียบเข้ามาเกาะกุมหัวใจของเด็กหนุ่มทั้งสอง หัวใจที่เต้นระรัวของทั้งน่านและป้อ มันคอยอะไรอยู่...สายน้ำเบื้องหน้าที่กำลังไหลผ่านไป...ไม่มีทีท่าว่าจะไหลกลับ...เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนในที่สุด

 

ในที่สุด...ป้อก็ไม่คอย...

เพราะสายน้ำคงไม่ไหลย้อนกลับมา

เด็กหนุ่มรวบรวมความกล้าทั้งหมด


 

“น่าน...ป้อรักน่าน...” เสียงแหบเครืออยู่ในลำคอ แม้จะได้ยินไม่ชัดนัก...แต่ทว่ามันสะท้อนก้องอยู่ในหัวใจของน่าน...สะท้อนไปสะท้อนมาอยู่หลายครั้ง...จนน่านแน่ใจ...แน่ใจว่า...มันออกมาจาก...คนที่นั่งใกล้ๆ ...คนที่นั่งกุมมือเขาอยู่

“...ป้อ...” น่านพูดได้แค่นั้น
“จริงๆนะน่าน...ป้อแอบ”รัก”น่านมานานแล้ว...” ป้อยกมือที่กุมอยู่ขึ้นมาหอม...แล้วอิงไปที่แก้มนิ่มๆของตัวเอง...

“................” น่านน้ำตาไหลออกมา... มากมาย...เสียงสะอื้นไห้...น่านกอดป้อเอาไว้ในอ้อมแขน...

“ทำไม...ทำไมล่ะป้อ...ทำไมเพิ่งจะมาบอก...ทำไม...” กำปั้นน้อยๆของน่านรัวทุบใส่หัวไหล่ของป้อ
“ทำไมป้อเพิ่งมาบอกเอาตอนนี้...ป้อ...” น่านสะอื้นไห้ออกมามากมาย ป้อนั่งก้มหน้านิ่ง
“ป้อไม่กล้า...ป้อกลัว...” เด็กหนุ่มก้มหน้าสะอื้นไห้...น้ำตาของความโล่งอก...รู้สึกโล่ง...ที่ได้พูดออกไป ไม่ว่าจะเป็นยังไงต่อ ป้อรับได้
“ป้อกลัวน่านจะไม่รักป้อ...อีกอย่าง...” เสียงป้อสะดุดหยุดลงตรงนี้ ก้อนสะอื้นทำให้เขาพูดไม่ออก มันรู้อยู่เต็มอกว่าน่านไม่ได้รักเขาเลย...น่านรักวัช...น่านรักวัช...เต็มหัวใจ

“อะไรล่ะ...อีกอย่างอะไร...” น่านเร่ง...น่านอยากรู้เหลือเกินอะไรที่ทำให้”เพื่อน”ต้องกลายมาเป็นแบบนี้
“น่านมีวัชอยู่แล้ว...ป้อเลยต้องทำใจ...ยอมรับ” ป้อก้มหน้าซบกับหัวเข่า ร่างบางๆสั่นสะท้านไปด้วยความหนาว หนาวไปถึงกระดูก หนาวไปถึงขั้วหัวใจ เด็กหนุ่มเฝ้ารอ...คำตัดสินจาก”น่าน” ความเงียบย่างกรายเข้ามา...คล้ายสายหมอกบางๆ...ค่อยลอยหายไป...

“ป้อ...ป้อคอยได้มั้ย...น่านไม่แน่ใจ...ว่า...”  น่านหยุดพูดแค่นั้นแล้วเด็กหนุ่มก็สวมกอด”คนที่เพิ่งบอกรัก”หมาดๆจนแน่น
“ป้อคอยได้...ให้โอกาสป้อนะน่าน...ให้ป้อได้คอย...” ป้อกระซิบข้างหูน่าน
“น่านขอเวลาสักพักนะ...”  น่านจับใบหน้าของ”เพื่อนสนิท”เข้ามาแนบชิด...จนลมหายใจรินรดกัน
“ให้โอกาสป้อนะ...แค่ได้”คอย”ก็ยังดี...” ป้อจรดปากบางๆลงกับปากของ”น่าน” มันแผ่วเบา อบอุ่น ซาบซึ้ง สองแขนกระหวัดเกี่ยวรัดกันไว้ ร่างบางๆสั่นสะท้านด้วยความหนาว อย่างนี้หรือที่เรียกว่า”หนาวเหน็บเจ็บขั้วหัวใจ”ความทรงจำในอดีตผุดพรายเต็มฟากฟ้าที่ไร้ดาว

          น่านเป็นหัวหน้าห้องโดยการเลือกตั้ง ป้อก็เข้ามาเสนอตัวเพื่อช่วย”หัวหน้าห้องที่รัก” ในตำแหน่งรองหัวหน้า งานเยอะแค่ไหนป้อช่วยโดยไม่ปริปากบ่น วันที่น่านหายไปกับวัชแบบข้ามวันข้ามคืน...ใครล่ะทำงานแทน ใครส่งการบ้านให้ แม้แต่วันนั้น...วันที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต...เด็กหนุ่มมายืนคอยเพื่อเอารายงานของน่านกับวัชที่หน้าประตู เขาถามถึง”น่านและวัช”กับเด็กรับใช้  “คุณวัชอยู่กับคุณน่านในห้องตั้งแต่เมื่อวานไม่ออกไปไหนเลย...สงสัยไม่สบาย” เด็กรับใช้ที่เอารายงานมาส่งพูดซื่อๆ

          ป้อเดินคอตกเข้าไปในโรงเรียน เขารู้สึกเสียใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนมีหอกดาบนับพันเล่ม ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจ ป้ำๆเป๋อๆเดินไม่ถูกทาง...ราวกับว่าสิ่งที่เห็น สิ่งที่รับรู้มันไม่มีอยู่จริง...ป้อเฝ้าเพียรถามกับตัวเองว่า มันไม่จริงใช่มั้ย...ยิ่งเวลาเห็นน่านกับวัชอยู่ด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน กลับบ้านพร้อมกัน เท่านี้ป้อก็เจ็บจะแย่...มันเจ็บเจียนตายเลยทีเดียว ป้อเจ็บแบบนี้มาเป็นเวลานานแค่ไหนแล้ว...

“ป้อคอยมานานแล้ว...ถ้าจะให้คอยอีก...นานแค่ไหน...ป้อก็จะคอย” ป้อถอนปากบางออกจากปากน่าน ริมฝีปากอบอุ่นยังคงกรุ่นๆอยู่ รสหอมหวานจากรอยจูบยังอวลอยู่ในโพรงปาก
“ป้อ...ให้เวลาน่านสักพักนะ...น่านสัญญา” น่านประกบปากป้ออีกครั้ง คราวนี้ทั้งร้อนแรงและรวดเร็ว ลิ้นสอดกระหวัดรัดเกี่ยวกันไปมา
“สัญญานะ...น่านจะ...รัก...หรือ...ไม่รักป้อ...ก็ไม่เป็นไรนะ...ขออย่างเดียว...ขอให้บอกกัน...ป้อจะคอยคำตอบ” ป้อพูดจบก็ดึงน่านให้ลุกขึ้น
“ไปเถอะ...เดี๋ยวเพื่อนเป็นห่วง...ขวดสปายล่ะ...ป้อถือให้” ป้อก้มลงไปหยิบขวดสปายมาถือแล้วสองหนุ่มก็ออกเดินขึ้นจากโป๊ะริมน้ำ
“น่าน...เมื่อกี้นี้เรียกว่า”จูบมัดจำ”รึเปล่า”  ป้อถามแล้วดันหลังน่านให้เดินนำขึ้นไปก่อน
“เรียกอย่างนั้นเลยเหรอ...”  น่านหัวเราะร่าเริง น้ำเสียงดูสดใส....แต่ภายในใจกำลังคิดอย่างหนัก

          สองหนุ่มเดินคุยกันมาเรื่อยๆจนถึงบ้านพัก เพื่อนต่างหันมามอง ทุกคนสงสัยว่าไอ้สองคนมันหายไปไหนกันมา มีแต่หนุ่ยคนเดียวเท่านั้นที่ไม่แสดงท่าทีอะไร ยังคงร้องเพลงต่อ ทุกอย่างเป็นอย่างที่หนุ่ยคิดไว้ไม่ผิด...

“ไอ้ป้อ...มาร้องเพลงเร็ว...หายไปเลยเมิง” อ้นพูดเสียงรัว ท่าจะเมา
“ไม่เอากูขี้เกียจร้อง” ป้อไม่ยอม
“โห...ไม่ร้องได้ไงเร็วๆ...กูอยากเล่นกีต้าร์ให้ระดับเทพอย่างมึงร้องจะแย่แล้ว” เสียงทีมเร่งเร้าอีก
“เดี๋ยวกูไปสะบัดเส้นเสียงก่อน...” ป้อลุกขึ้นเดิน เข้าบ้านพักเพื่อจะเข้าไปเยี่ยว ระหว่างนั้นป้อสวนกับน่านที่หน้าประตูห้องน้ำพอดี
“ขอหอมมัดจำอีกทีได้มั้ย” ป้อดึงมือน่านเข้าห้องน้ำ
“ไม่เอา...ป้อ...” น่านทำตาดุ
“โธ่...หอมทีเดียว...” ป้อเซ้าซี้
“ร้องเพลงให้ฟังก่อนสิ...” น่านเองก็ชอบเสียงป้อ เวลาร้องเพลง แหบๆแบบมีเสน่ห์
“ได้เลย เดี๋ยวเยี่ยวก่อนนะ” ป้อเดินเข้าห้องน้ำไป

“ทำห่าอะไรกันวะ...จุ๊กจิ๊กกันจัง...” ปรีย์ปากหมาพูด น่านหน้าแดงด้วยความเขิน
“ไอ้ป้อล่ะ...สะบัดเส้นเสียงเสร็จรึยัง...” เสียงอ้นพูด
“ไอ้ป้อชักว่าวเหรอเมิง” แคนเอาบ้าง

“มาแล้ว...พวกมึงนี่...ปากหมาแทบทุกตัวเลย...ไม่ร้องแล้ว...อยากฟังหมาเห่ามากกว่า” ป้อเล่นลิ้น
“รีบๆร้องเลยมึง...มีคนคอยฟังอยู่” หนุ่ยยิ้มให้ป้อ...บอกแล้วทุกอย่างอยู่ในสายตาหนุ่ยทั้งนั้น
“เพลงนี้มอบให้....เอ่อ...คนแถวๆเนี่ย...” ทีมพูดออกมาแล้วก็ยักคิ้วให้หนุ่ย...ทำเอาป้อหน้าแดงซ่านไปถึงหู


“เพลง....ปาฏิหาริย์ที่รอคอย”

เคย แอบมองเธออย่างนั้น
เคย เก็บไปฝันเดียวดาย
เคย โกรธดวงดาวแสนไกล
ที่ไม่ดลใจ เธอเลยสักครั้ง
รู้ ว่าเป็นเพียงแค่ฝัน
รู้ ว่าตัวฉันเป็นใคร
ก็รู้ แต่ไม่อาจห้ามใจ
ก็ยังฝันไกล หวังไปเลื่อนลอย
เผื่อจะมีสักคืน
เผื่อจะมีสักวัน
ที่มีปาฏิหาริย์
ช่วยทำให้ฝันจริงขึ้นมา
ได้เป็นคนรักเธอ
ได้เป็นคนพิเศษในสายตา
แม้ตื่นมาทุกอย่างจะหาย
และกลับไปเหมือนวันเก่า
ยอม หากจะต้องผิดหวัง
ยอม กลับไปเหงาดังเดิม
และยอม ถูกความจริงซ้ำเติม
แลกกับคืนหนึ่ง
ให้ใจนอนฝันดี
เผื่อจะมีสักคืน
เผื่อจะมีสักวัน
ที่มีปาฏิหาริย์
ช่วยทำให้ฝันจริงขึ้นมา
ได้เป็นคนรักเธอ
ได้เป็นคนพิเศษในสายตา
แม้ตื่นมาทุกอย่างจะหาย
และกลับไปเหมือนวันนั้น
ยอม หากจะต้องผิดหวัง
ยอม กลับไปเหงาดังเดิม
และยอม ถูกความจริงซ้ำเติม
แลกกับคืนหนึ่ง
ให้ใจนอนฝันดี
และยอม ถูกความจริงซ้ำเติม
แลกกับคืนหนึ่ง
ที่เป็นคนรักเธอ

ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 29=
«ตอบ #344 เมื่อ10-09-2009 06:54:40 »

วัชหายไปไหน

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 29=
«ตอบ #345 เมื่อ10-09-2009 08:45:44 »

เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 29=
«ตอบ #346 เมื่อ10-09-2009 08:51:35 »

  :a1:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 29=
«ตอบ #347 เมื่อ10-09-2009 11:27:40 »

หนุ่ยน่ารักนะ

สนใจเพื่อนๆทุกคน

โดยเฉพาะ น่าน+ป้อ

ออฟไลน์ viky_mama

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 29=
«ตอบ #348 เมื่อ10-09-2009 16:11:48 »

ไม่น้าา วัชหายไปไหนอ่ะ น่านอย่าใจอ่อนโดยเด็ดขาด สงสารวัช เราคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่นอน วัชรีบโทรกลับมาด่วน

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 29=
«ตอบ #349 เมื่อ10-09-2009 17:13:28 »

การรอคอยของน่านจะเป็นอย่างไรนะ

ความสับสนกำลังทำให้น่านยิ่งเศร้าหรือเปล่านะ

 :z2:   :z2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 29=
« ตอบ #349 เมื่อ: 10-09-2009 17:13:28 »





ออฟไลน์ kikipanda

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 29=
«ตอบ #350 เมื่อ10-09-2009 18:27:08 »

โอยยยย เรื่องพลิกผันตลอด เดาทาง เดาคู่ไม่ถูกแล้วค่ะคุณต้นคุง/คุณองค์หญิง   :a5:

แต่ขออย่างเดียวขอพี่ธีร์คู่น้องหนุ่ยนะค่ะ พลีสสสสสสส  :impress2:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 29=
«ตอบ #351 เมื่อ11-09-2009 00:45:21 »

ป้อบอกรักแล้ว
น่านก็ขอเวลา
แล้วต่อไปจะยุ่งเหยิงกันขนาดไหนเนี่ย
วัชหายไปแบบนี้ ดีหรือร้าย จะยอมง่ายๆเหรอถ้าน่านจะไม่รอ
บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 29=
«ตอบ #352 เมื่อ11-09-2009 02:17:44 »

แล้ววัชล่ะน่าน



เง้อหรือจะรักแท้แพ้ใกล้ชิด



เอะหรือที่น่านคบวัชเพราะสงสารกันแน่อ่ะ




รออ่านตอนต่อไปค้าบ

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 29=
«ตอบ #353 เมื่อ11-09-2009 05:39:50 »

30 เรื่องเล่าริมน้ำ

          คืนนั้นเด็กๆทั้งเจ็ดคนเข้านอนกันดึกพอสมควร หนุ่ยนอนไม่หลับ เขากระสับกระส่ายทั้งๆที่ง่วงแสนง่วง สมองมันคิดกลับไปกลับมา วนไปวนมา ไม่นิ่งสักที ผิดกับเพื่อนคนอื่นซึ่งนอนหลับสนิทกันหมด เขามองไปทางเตียงที่ป้อและน่านนอนกันอยู่ ทั้งสองนิ่งเงียบไม่ไหวติง คงจะเพลียจากการเล่นน้ำเมื่อเย็นนี้ หนุ่ยจึงลุกออกมาจากที่นอน เด็กหนุ่มเปิดประตูห้องออกมา อากาศภายนอกเย็นชื้นด้วยกระไอหมอก ที่ลอยเป็นควันบางๆไปทั่วบริเวณ หนุ่ยกระชับเสื้อยืดแขนยาวเข้ากับตัว ลานไม้ที่นั่งเมื่อหัวค่ำเปียกชื้นไปหมดด้วยน้ำค้างที่ลงหนัก เด็กหนุ่มหาผ้ามาเช็ดที่เก้าอี้แล้วนั่งทอดอารมณ์อยู่เงียบๆ เขาคิดไปถึงเรื่องของเพื่อนรักทั้งสองคน...วันนี้ ทั้งน่านและป้อ...ทั้งสองคนเป็นผู้ชาย...เป็นเพื่อนกัน...และได้บอก”รัก”กัน เขาแน่ใจ...แน่ใจว่าทั้งสองรักกัน ไม่ใช่แค่สิ่งที่เขาได้เห็น ที่ท่าน้ำเท่านั้น เขาแน่ใจว่า  ”ป้อ”สามารถจะดูแล”น่าน”ได้และดูแลได้ดีกว่า”วัช”ด้วยซ้ำ...

“หนุ่ย...ไม่ง่วงเหรอ” เสียงคุ้นเคย...เอ่ยทักเบาๆ
“อืม...น่านออกมาทำไม...อากาศมันเย็นนะ” หนุ่ยเห็นน่านยืนสั่นๆอยู่ข้างหลัง
“เห็นหนุ่ยลุกออกมา...น่าน...เอ่อ...อยากคุยด้วยน่ะ” น่านนั่งลงกับพื้นตรงข้ามกับหนุ่ย
“เรื่องอะไรล่ะ” หนุ่ยถาม
“ก็เรื่อง...เอ่อ...” น่านอึกอัก
“เรื่องป้อน่ะเหรอ” หนุ่ยถาม
“เปล่า...เรื่องวัชน่ะ” น่านพูดออกมาอย่างนี้ทำให้หนุ่ยแปลกใจไปใหญ่
“มีอะไรเหรอ...” หนุ่ยคิ้วขมวด
“วัชน่ะ...หายไปเลย...เราไม่ได้คุยกันมาเป็นเดือนๆแล้ว...ไม่ออนเอ็ม...ไม่โทรมา...น่านโทรไปหาก็ไม่รับ...บางทีก็ติดต่อไม่ได้...น่านเป็นห่วง...กลัว...ว่า...วัชจะ” น่านหยุดแค่นี้ แล้วก้มหน้าซบลงกับเข่า น้ำตาไหลออกมาเช็ดหัวเข่า

“ดูน่านรักวัชมากๆเลยนะ...” หนุ่ยพูดออกมาเบาๆ
“อืม...น่านไม่เคยมีใครนี่...แล้ววัชก็เป็นคนแรก...ที่...เอ่อ...” น่านหยุดพูดแค่นี้
“หนุ่ยเข้าใจ...แล้วน่านจะทำยังไงต่อไป...ในเมื่อวัชมันหายไปแบบนี้”
“ไม่รู้เหมือนกัน...” น่านส่ายหัว น้ำตาไหลรินออกมาอีก เด็กหนุ่มสั่นสะท้านไปทั้งตัว

“น่าน...แล้วป้อล่ะ...” หนุ่ยอยากรู้เหลือเกินว่าน่านคิดยังไงกับป้อบ้าง
“ป้อเป็นเพื่อนที่ดี...ป้อเป็นคนดีมาก...” น่านพูดได้แค่นั้น
“แล้วไง...” หนุ่ยพยายามจะเปิดใจน่านออกมาให้ได้
“น่านบอกป้อว่า...ขอเวลาน่านสักพัก...” น่านก้มหน้า ตอนนี้เขาไม่กล้าสบตากับหนุ่ยอีกแล้ว ความรู้สึกที่มีตอนนี้ราวกับต้องเลือกที่จะเดิน...ไม่หนทางใดก็ทางหนึ่ง...ถ้าเดินไปกับป้อ...น่านก็จะกลายเป็นคนที่ไม่รักษาสัญญา จับจด ไม่มั่นคงในรัก เห็นแก่ตัว แต่ถ้าคอยวัช...น่านก็ยังไม่เห็นหนทางที่ทั้งสองจะครองรักกันได้เลย...เสียงถอนหายใจอย่างหนักหน่วงดังออกมาจากน่าน...

“ป้อมันว่ายังไง” หนุ่ยถาม
“ป้อบอกว่าป้อจะคอย...”
“คอยอะไร...คอยคำตอบหรือคอยน่าน...” หนุ่ยรุกน่านด้วยคำถามที่ทำให้น่านสะอึก
“น่านบอกให้ป้อคอยคำตอบ...จากน่าน...” น่านพูดเบา เสียงแผ่วๆเบาโหวง
“อือ...น่าน...หนุ่ยถามหน่อยสิ...น่านจะให้ป้อมันคอยนานแค่ไหน...”
“ไม่รู้สิ...”
“...........”

“จนกว่าน่านจะติดต่อวัชได้มั้ง...หรือจนกว่าวัชจะติดต่อกลับมา” น่านพูด

“.........” หนุ่ยเงียบ เอามือขึ้นมากุมขมับด้วยความเครียดและรู้สึกสงสารป้อ...จับใจ

“น่านจะตัดสินใจยังไงมันก็แล้วแต่น่านนะ...แต่หนุ่ยขอพูดอย่างนึงเถอะ...”
“............” น่านเงียบ เหมือนรอคอยคำพูดของหนุ่ย
“ป้อน่ะ...มันคอยน่านมานานแล้วนะ...อย่าให้มันคอยนานนักก็แล้วกัน”  หนุ่ยพูดจบก็เดินเข้าห้อง จิตใจว้าวุ่นกว่าเมื่อตอนที่นอนไม่หลับอีก “รู้อย่างนี้ข่มตาให้หลับลงไปเลยดีกว่า”หนุ่ยคิดในใจ เด็กหนุ่มเดินไปที่เตียงของป้อเพื่อนรักกำลังนอนหลับอยู่ ร่างเล็กๆขดตัวอยู่ด้วยความหนาว...ป้อถีบผ้าห่มผืนเล็กหล่นจากเตียง...จนตัวเองนอนหนาว หนุ่ยดึงเอาผ้าขึ้นมาห่มให้ “ป้อเอ้ย...กูเห็นใจมึงจริงๆเลยว่ะ”หนุ่ยส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วเดินกลับไปที่เตียงของตัวเอง

          รุ่งเช้าอากาศสดใส แม้ว่าเมื่อคืนจะนอนไม่หลับแต่หนุ่ยก็ตื่นแต่เช้า เด็กหนุ่มเดินออกมาข้างนอกห้อง สายหมอกบางเบาปกคลุมทั่วบริเวณ หนุ่ยเดินออกจากบ้านพักตรงไปยังท่าน้ำ เขาชอบแม่น้ำและขุนเขา แม้จะชอบน้อยกว่าทะเล แต่หนุ่ยก็รู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากกว่าการอยู่ในสังคมเมือง หนุ่ยเดินไปสุดทางแล้วเดินลงบันไดไปที่ท่าน้ำ ที่นั่นมีเก้าอี้นั่ง ที่สามารถเอนหลังได้ หนุ่ยดึงพลาสติกที่คลุมอยู่ออกแล้วนั่งเหยียดแขนขา ทอดอารมณ์อย่างสบายใจ สายหมอกลอยเรี่ยผิวน้ำที่ไหลแรง น้ำใสๆไหลซอนเซาะไปตามขุนเขาลูกแล้วลูกเล่า สายน้ำมันไหลเพื่อหาทางออกสู่ทะเล ใจคนก็คงเหมือนกัน ยามที่ชีวิตต้องดิ้นรนเพื่อหาทางไป ชีวิตของหนุ่ยผ่านอะไรมาเยอะมาก มากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน มีทั้งผิดหวังและสมหวัง แต่ดูๆแล้วน้อยครั้งที่จะสมหวัง แม้ชีวิตตอนนี้จะดีกว่าแต่ก่อน...แต่เขาเองก็หยุดไม่ได้...ต้องดิ้นกันต่อไป...เหมือนสายน้ำที่ต้องไหลแรงเมื่อเริ่มต้น...แต่มันจะค่อยๆแผ่วลงไปเมื่อใกล้ปลายน้ำ...จนกว่าจะออกทะเลนั่นแหละ...ชีวิตถึงจะสะดุดหยุดลง...คลื่นในทะเลจะซัดกลับเข้าหาฝั่ง...คล้ายชีวิตคน...

“มานั่งทำอะไรวะหนุ่ย...” ทีมเอ่ยทักขึ้นมา
“อาบน้ำแล้วเหรอ...” หนุ่ยทักเมื่อเห็นทีมเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดนอนเป็นชุดเดินทาง
“อืม...ไอ้ป้อนอนกอดไอ้น่านกลมดิ๊กไปเลย” ทีมพูดแล้วก็หัวเราะออกมา เหมือนกับทีมจะเชียร์ป้ออีกคน
“มึงดูรู้เหรอ” หนุ่ยถาม
“ไม่รู้ได้ไง...ไอ้ป้อแม่งออกอาการมานานแล้ว...” ทีมพูดเหมือนรู้มากกว่านั้น
“มึงรู้นานแล้ว...” หนุ่ยถาม
“เออ...กูรู้มาตั้งนานแล้ว” ทีมพูด
“.................”

“ไหนมึงเล่าให้กูฟังทีสิ” หนุ่ยพูดสีหน้าจริงจัง
“มีอยู่วันกูไปส่งมันที่บ้าน มึงเชื่อมั้ยในห้องมัน...มีแต่รูปวิว...ที่ไหนไม่รู้บางที่ก็สวย...บางที่ก็งั้นๆแหละ...กูถามมันว่าที่ไหน...มันบอกว่า จังหวัดน่าน...” ทีมหยุดพูดเมื่อเห็นหนุ่ยทำท่าเหมือนไม่เชื่อ
“อย่าเพิ่งอึ้งแดก...มีมากกว่านั้นอีก...มันบอกว่ามันไปตระเวนถ่ายรูปพวกนี้เอง...มันบอกให้พ่อแม่มันพาไปบ้านญาติที่เชียงราย... แล้วมันก็ชวนลูกพี่ลูกน้องมัน หนีพ่อแม่มันไปจังหวัดน่าน... ไปถ่ายรูปพวกนี้มาติดห้อง มันอยากให้ไอ้น่านไปที่ห้องมัน มันจะให้ดูรูปพวกนี้ แต่ไอ้น่านก็...เฮ้อ...อยู่แต่กับไอ้วัช...” ทีมพูดแล้วก็ส่ายหน้า
“รูปที่มันถ่ายมาแปะที่ห้องมัน...ไม่ใช่ขี้ๆนะมึง...แม่งอัดด้วยกระดาษสีอย่างดี ติดเป็นวอลเปเปอร์เลย... ผนังฝั่งปลายเตียงมันเป็นรูปพวกนี้ทั้งหมด หัวนอนมันมีรูปไอ้น่านวางไว้ด้วย...” ทีมเล่าอย่างออกรส
“เป็นเอามากนะเพื่อนกู” หนุ่ยครางออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ของที่ไอ้น่านให้มัน...แม่งเก็บไว้หมด...กูเห็นแล้วก็อึ้ง” ทีมเม้าท์เพื่อนไม่หยุด
“ปกติมันไม่เคยชวนใครไปบ้านมันนี่หว่า” หนุ่ยตั้งข้อสังเกต
“อืม...ก็ใช่...แต่วันนั้น...วันที่กูไปน่ะ...จริงๆแล้วกูไม่ได้ตั้งใจจะไปหรอก” ทีมอึกอัก
“อ้าว...”
“วันนั้นมันโทรมาหากู...มันบอกว่ามันนั่งแดกเหล้าอยู่คนเดียว...ให้กูมาหามันหน่อย...” ทีมเล่า
“ไอ้ป้อน่ะนะ...แดกเหล้า...” หนุ่ยแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“เออ...กูไปหามันที่ร้านลาบแถวบ้านมัน...แม่งนั่งเมาหน้าแดงแป๊ดเลย กูเลยต้องแดกเป็นเพื่อนมันจากนั้นมันก็เล่าให้กูฟัง...หมดเปลือก...” ทีมเล่าไปก็เอาเศษลูกไม้เขวี้ยงลงน้ำ
“มันบอกว่าไอ้วัชกับไอ้น่านไม่มาเรียน...โทรมาฝากมันส่งรายงาน...มันถามคนที่เอามาส่ง...ไอ้นั่นดันบอกว่าไอ้สองคนอยู่ในห้องกันตั้งแต่เมื่อวาน...มันบอกว่ามันอกหัก...”มันรักไอ้น่าน”...กูแทบหงายท้อง ไม่คิดว่ามันจะเป็นเกย์ พอเมามากๆมันก็นั่งร้องไห้...กูละโคตรสงสารมันเลย...แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ได้แต่ปลอบใจกันไป” ทีมพูดเสียงอ่อยด้วยความสงสารเพื่อน

“...เฮ้อ...” หนุ่ยถอนหายใจ
“กลับเถอะ...แม่งตื่นกันหมดรึยังวะ...” ทีมลุกจากพื้น
“ไอ้ทีม...มึงอย่าไปเล่าให้ใครฟังนะ...กูกลัวไอ้ป้อมันอายว่ะ” หนุ่ยบอกเพื่อนพลางกอดคอแล้วพากันเดินกลับบ้าน
“เออ...กูรู้น่า...เนี่ยถ้ามึงไม่ระแคะระคายพวกมันสองคนนะ...กูก็ไม่เล่าให้มึงฟังหรอก” ทีมหัวเราะเบาๆ  .....

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 30=
«ตอบ #354 เมื่อ11-09-2009 08:52:16 »

+เป็นกำลังใจให้ครับ+

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 30=
«ตอบ #355 เมื่อ11-09-2009 11:08:41 »

วุ่นเนอะ

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 30=
«ตอบ #356 เมื่อ11-09-2009 13:50:48 »

สรุปว่าคนที่ส่าสงสารมากที่สุดคือ...ป้อ   :เฮ้อ:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 30=
«ตอบ #357 เมื่อ11-09-2009 14:05:07 »

น่านก็แสนจะสับสน
หนุ่ยก็เหมือนจิตใจไม่สบาย
หลายๆคนมีเรื่องในใจ
เรื่องราวต่างๆ จะดำเนินไปทางไหนนะ รอคอยต่อไป
ขอบคุณมากค่ะ

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 30=
«ตอบ #358 เมื่อ11-09-2009 14:32:31 »

จะต้องให้รออีกนานแค่ไหนนะ

เมื่อไหร่จะได้เห็นชีวิตที่ดีของแต่ละคนนะ

 :z2:   :z2:

ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 30=
«ตอบ #359 เมื่อ11-09-2009 15:37:41 »

วัชหายไปไหนอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด