25 ทะเลสาบสงขลา
ธีร์วนรถกลับใต้สะพานเพื่อกลับไปยังร้านอาหารริมทะเล บรรยากาศของร้านน่านั่งมากเพราะเงียบสงบ สองหนุ่มเดินเงียบๆไปที่โต๊ะตัวที่ติดทะเล ลมพัดมาเบาๆ หอมกลิ่นทะเลโชยมา
“จะทานอะไรครับ...” ธีร์ถามหนุ่ย
“พี่ธีร์สั่งเลย” หนุ่ยมองออกไปในทะเล
“พี่สั่งให้นะ”
ชายหนุ่มสั่งอาหารเสร็จแล้วก็มองหน้าเด็กหนุ่มที่ยังคงเหม่อมองออกไปข้างนอก แว่นกันแดดที่ปกปิดแววตาของเด็กหนุ่ม ทำให้ธีร์ไม่รู้เลยว่าหนุ่ยคิดอะไร ถึงแม้ว่าจะมองเห็นธีร์ยังไม่รู้เลยว่า เขาจะอ่านตาของหนุ่ยออกหรือไม่ อาหารมาเสิร์ฟเร็วมาก ธีร์ตักอาหารที่หนุ่ยชอบวางลงบนจาน แต่หนุ่ยก็แค่ยกน้ำขึ้นจิบเท่านั้น
“ทานอะไรหน่อยนะ...หนุ่ย” ธีร์เรียก
“ครับพี่...” หนุ่ยตัดปลาชิ้นเล็กๆใส่ปาก เขาเคี้ยวอย่างเชื่องช้า เหมือนกับมันไม่มีรสชาติอะไรเลย
“ทำไมหนุ่ยถึงอยากมาที่เกาะยอ” ธีร์ถาม
“ผมคิดถึงวันที่มาเที่ยวกับแต้วครั้งแรก”
“เรามาเที่ยวเกาะยอกัน...สถาบันทักษิณน่ะพี่...แต้วอยากมา...” หนุ่ยก้มหน้าลงมองพื้น...สักพักเด็กหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าธีร์
“พี่ธีร์ครับ...อย่างนี้เรียกว่าอกหักรึเปล่าครับ” หนุ่ยถอดแว่นกันแดดออกมา ตาแดงก่ำของเด็กหนุ่มทำเอาธีร์ใจหาย
“หนุ่ยร้องไห้...” ธีร์พูดได้แค่นั้นก็ขยับตัวย้ายมานั่งข้างๆหนุ่ย
“พี่ธีร์...ผมเสียใจ...” หนุ่ยน้ำตาซึมออกมา
“หนุ่ย...ไม่ต้องร้องนะ...” ธีร์โอบไหล่หนุ่ยให้เข้ามาซบที่ไหล่ของเขา น้ำอุ่นๆเริ่มเปียกชุ่มที่เนื้อผ้า
“ขอร้องแค่นี้ละครับ...ต่อไปผมจะไม่ร้องไห้ด้วยเรื่องนี้อีกแล้ว” หนุ่ยบอกธีร์แล้วสูดน้ำมูก
“ดีแล้ว...ต้องเข้มแข็งนะ...ถือซะว่าเป็นวัคซีน...เราจะได้มีภูมิคุ้มกัน” ธีร์บอกหนุ่ย ย้อนนึกไปถึงตัวเองที่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน
“ครับ...ผมเชื่อพี่...” หนุ่ยเช็ดน้ำตาแล้วดึงกระดาษทิชชู่มาสั่งน้ำมูกดังปื๊ด
“ผมขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ...” หนุ่ยลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำ
สักพักหนุ่ยจึงออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย คงไว้แต่รอยแดงช้ำที่ดวงตาเท่านั้น ธีร์ย้ายกลับมานั่งที่นั่งตัวเองแล้ว หนุ่ยมาถึงก็ดื่มน้ำในแก้วรวดเดียวหมด ก่อนส่งแก้วให้เด็กเสิร์ฟรินให้ใหม่
“เสียน้ำตาเมื่อกี้นี้...ต้องหาน้ำเข้าไปทดแทน” หนุ่ยพูดติดตลก
“ดีขึ้นใช่มั้ย” ธีร์ถามด้วยความโล่งใจไปอีกเปลาะหนึ่ง
“ครับพี่...ทานข้าวกันเถอะ...” หนุ่ยตักอาหารในจานที่ธีร์ตักไว้ให้ส่งเข้าปากเรื่อยๆ
“ทานอะไรอีกมั้ย...สั่งเลยนะ” ธีร์บอกพลางเรียกเมนูจากพนักงาน
“ไม่แล้วพี่...เดี๋ยวเย็นๆไปทานที่หาดใหญ่ดีกว่า...” หนุ่ยจ้วงข้าวในจานจนหมด
“อร่อยดีนะ...พี่อิ่มแล้วเหรอ” หนุ่ยถามพลางยกน้ำขึ้นดื่ม
“อืม...เห็นน้องชายคนเดิมของพี่กลับมา...พี่ก็ดีใจละ” ธีร์บอกแล้วยิ้มให้
“เอาทิ้งไว้ที่นี่แหละ...ทิ้งรักไว้ที่ทะเลสาบสงขลา...เท่ห์มั้ยพี่” หนุ่ยหยิบแว่นกันแดดมาใส่ตามเดิมแล้วยิ้มให้ธีร์
“เท่ห์สิ...น้องพี่ทั้งหล่อทั้งเท่ห์เลย” หนุ่ยยิ้มกว้าง หน้าคมสันกับผิวเข้มราวอาบน้ำผึ้งรับกับแว่นกันแดดสีดำสนิท
สองหนุ่มเดินทางต่อเพื่อเข้าสู่หาดใหญ่ ธีร์เล่าให้ฟังถึงเรื่องที่เที่ยวที่กินมากมาย ทั้งร้านไก่ทอดเดชา ชาชักร้าน”กู” ร้านตาเจิม จนมาถึงร้านในรูที่ตลาดกิมหยง เด็กหนุ่มสะดุดกับชื่อเรียก
“ชื่ออะไรนะพี่...” หนุ่ยถาม
“จริงๆแล้วชื่ออะไรก็ไม่รู้...แต่เห็นเรียกกันอย่างนี้” ธีร์อธิบายให้ฟัง
“ผมน่ะเด็กจังหวัดสงขลาแท้ๆ...ยังไม่รู้เลย” หนุ่ยบอก
“เด็กระโนดน่ะไม่ว่า...เคยไปหาดใหญ่กี่ครั้ง” ธีร์หันมาถาม
“เท่าที่จำได้...ก็ไม่กี่ครั้ง...นอกจากงานวิชาการที่มอ.แล้วผมไปกิมหยงแค่สองครั้งเอง” หนุ่ยหัวเราะกับความเป็นเด็กบ้านๆของตัวเอง
“นั่นสิ...จะรู้จักได้ยังไง...เด็กหาดใหญ่บางคนยังไม่รู้เลย” ธีร์บอก
“เย็นนี้นะพี่...ผมอยากไปร้านในรู” หนุ่ยอ้อนได้ผลเสมอ...ไม่ต้องอ้อนหรอก...แค่บอกอย่างเดียวธีร์ก็พาไปแล้ว
“ได้สิ...เป็นอาหารจีนแบบบ้านๆน่ะ...แต่อร่อยมาก มีน้ำอ้อยเย็นเจี๊ยบด้วย” ธีร์นึกแล้วน้ำลายสอ เขาไม่ได้กินร้านนี้มานานมากแล้ว
“มาเที่ยวกับพี่ธีร์...ผมอ้วนแน่ๆเลย” หนุ่ยคงจะเห็นว่าที่ไหนที่ไหน..ธีร์ก็รู้จักที่กินไปทั่วแล้วก็อร่อยจริงๆซะด้วยสิ
“นี่ถ้าอยู่หลายๆวันจะพากินทุกวันเลย”ธีร์บอก
“หนุ่ย...แล้วไปคุยกับไข่ยังไง...เค้าถึงได้เดินมาขอโทษพี่เมื่อเช้า” ธีร์ถามข้อข้องใจเรื่องไข่
“ไม่มีอะไรหรอก...ผมก็เข้าไปคุยเฉยๆ...เราสองคนทะเลาะกันประจำแหละ...ไอ้ไข่นี่มันประเภทชอบเจ็บแค้นแทนเพื่อน...เชื่ออะไรก็แบบหัวปักหัวปำ ไม่รู้หรอกว่าใครๆเขาไปถึงไหนๆกันแล้ว” หนุ่ยวิเคราะห์เพื่อนตัวเอง
“ผมก็เอาของไปให้มันในห้องแล้วก็ขอโทษมัน...พ่อมันถามว่ามีอะไรกันเพราะเห็นปากมันเจ่อ...ผมเลยเล่าให้พ่อมันฟัง...พ่อมันจะซ้ำมันด้วยกิ่งสน...ผมต้องห้ามไว้แล้วก็บอกว่าจะพาไปขอโทษพี่...แกถึงยอม” หนุ่ยเล่าไปหัวเราะไป
“ลุงผู้ใหญ่แกดีมากเลยนะ...แกไม่เคยเข้าข้างลูกแกเลย...ขนาดพี่ชายไอ้ไข่พาพวกมาเล่นไพ่ที่หลังวัดนะ...แกยังตามตำรวจมาจับซะเลย” หนุ่ยหัวเราะร่าเริง
“อือ...แล้วโดนจับมั้ย...” ธีร์ถาม
“โดนสิพี่...แถมแจ้งตำรวจมาจับวันศุกร์ตอนเย็นๆด้วยนะ...สารวัตรไม่อยู่เลยประกันตัวไม่ได้...ติดตารางอยู่สองวัน...แสบมั้ยล่ะพี่” ความร่าเริงกลับมาอีกครั้ง ธีร์รู้สึกทึ่งเอามากๆกับการจัดการหัวใจ ของหนุ่ย...เมื่อเทียบกับเขาเมื่อหลายปีก่อน... ธีร์ร้องไห้อยู่หลายวัน...ซึมอยู่หลายเดือน กว่าจะทำใจได้...แค่คิดก็เงียบลงอีก...ชายหนุ่มรู้สึกคิดถึง”เขา”ขึ้นมาจับใจ
“เราอยู่หาดใหญ่สักกี่วันดี” ธีร์ถามหนุ่ย
“แล้วแต่พี่...ผมยังไงก็ได้...พี่ทำงานเมื่อไหร่ล่ะครับ...”
“วันจันทร์หน้า”
“นี่วันพฤหัสแล้ว...ผมว่าเรากลับพรุ่งนี้ก็ได้นะ” หนุ่ยอยากให้ธีร์ได้พักผ่อนสักวันหรือสองวัน ก่อนจะเริ่มงาน
“ก็ได้...เรากลับพรุ่งนี้เลยก็ดี” ธีร์บอก
“หรือเราจะแวะชุมพรก่อนสักคืนนึงดี...พี่อยากไหว้ศาลกรมหลวง” ธีร์เสนอ
“ก็ได้ครับ...ผมน่ะสบายอยู่แล้ว...ผมไม่เคยไปเหมือนกัน...ศักดิ์สิทธิ์มากเหรอพี่” หนุ่ยถาม
“ก็แล้วแต่นะ...แต่สำหรับพี่แล้ว...เคยมาไหว้แล้วรู้สึกดีแล้วก็สบายใจ...พี่เลยอยากไปอีก” ธีร์บอก
“ผมอยากจะขออะไรบางอย่าง” หนุ่ยพูด
“จะขออะไร”
“ไม่บอก” หนุ่ยพูดแล้วก็อมยิ้ม...ในตาที่มีแววของความซุกซนฉายประกายเจิดจ้า
“แค่นี้ก็บอกไม่ได้...ไม่อยากรู้ละ” ธีร์ดึงคอเด็กหนุ่มเข้ามากอดไว้ แล้วทั้งสองหนุ่มก็เดินไปที่เคาน์เตอร์เช็คอินของโรงแรม ...