ระโนด <by ต้นคุง>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ระโนด <by ต้นคุง>  (อ่าน 184273 ครั้ง)

ออฟไลน์ viky_mama

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 37=
«ตอบ #420 เมื่อ17-09-2009 04:46:39 »

สงสารป้อจังเลยค่ะ ขอให้หายไวๆ นะ

ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 37=
«ตอบ #421 เมื่อ17-09-2009 07:08:10 »

เมื่อไรจาถึงคิว หนุ่ยธีย์อะ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 37=
«ตอบ #422 เมื่อ17-09-2009 09:40:21 »

รอฉากหวานของหนุ่มกับธีร์อยู่นะคับ

wichit14

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 37=
«ตอบ #423 เมื่อ17-09-2009 10:33:43 »

ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ในความคุ้นเคยกันอยู่ มันแฝงอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น อิอิอิ ชอบ ชอบ ชอบ จินตนาการตาม นึกแล้วขนลุกซู่ 555555555+ รอตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 37=
«ตอบ #424 เมื่อ17-09-2009 10:34:55 »

พี่น้องน่ารักกันจัง

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 37=
«ตอบ #425 เมื่อ17-09-2009 11:32:33 »

น่ารักโหะ ๆ
 :o8:

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 37=
«ตอบ #426 เมื่อ18-09-2009 03:12:35 »

38 ความรักของป้อ

          หนุ่ยตื่นขึ้นมาแต่เช้า เขาออกไปวิ่งอย่างที่ทำเป็นประจำ ระยะหลังที่ต้องไปเรียนแต่เช้า หนุ่ยไม่ค่อยได้ออกไปวิ่งเท่าไหร่ เสาร์-อาทิตย์จึงวิ่งมากกว่าปกติ หนุ่ยกลับมาถึงบ้าน ธีร์ยังไม่ตื่น เขาเลยขึ้นไปดูที่ห้อง ปรากฏว่าห้องยังล็อกอยู่ ไม่อยากจะปลุกธีร์ อยากให้พี่ชายนอนต่ออีกสักพัก เด็กหนุ่มจึงถอดเสื้อออกแล้วกลับไปที่ห้องตัวเอง กางเกงวอร์มและกางเกงในสีขาวถูกถอดผึ่งไว้ที่ราวตากผ้าในห้อง ผ้าขนหนูถูกพาดไว้ที่บ่ากว้าง เด็กหนุ่มเดินเข้าห้องน้ำด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า สายน้ำเย็นๆที่ไหลสาดไปทั่วร่าง ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกสดชื่นและตื่นตัว...
          หนุ่ยแต่งตัวอย่างไม่เร่งรีบ อารมณ์ที่คุกรุ่นด้วยความกำหนัดเมื่อครู่ ถูกระบายออกไปแล้ว เหลือแต่ความสดใส หน้าตารูปร่างงามสง่าของเด็กหนุ่มวัยสิบเก้าปี หล่อสมาร์ทเดินออกมาจากห้อง น้ำหอมที่ถูกฉีดพรมส่งกลิ่นหอม หนุ่ยเดินลงไปคอยธีร์ที่โต๊ะอาหารด้านล่าง จนธีร์ลงมาจากห้องเกือบสิบเอ็ดโมง
“เสร็จแล้วเหรอ...โอ้โห...หล่อจังเลยน้องพี่” ธีร์เอ่ยชมหนุ่ยด้วยใจจริง
“ป้าจิตมีอะไรทานบ้างครับ...” ชายหนุ่มร้องเรียกแม่บ้าน
“พี่ธีร์นอนตีเท่าไหร่...”
“พี่นอนตีสาม...แต่ก็ยังดีนะ...งานเสร็จเรียบร้อย...สงสัยได้กาแฟที่หนุ่ยชงให้นั่นแหละ” ธีร์ยิ้มสดใส
“ไหวรึเปล่าพี่...”
“ไหวสิ...แต่หนุ่ยขับนะ”
“ได้ครับ...เราทานอะไรกันก่อนเถอะ...” หนุ่ยบอก
“อ้าวหนุ่ยยังไม่ได้ทานเหรอ...”
“คอยพี่อยู่น่ะครับ” หนุ่ยยิ้มอารมณ์ดี
“ไม่เอานะทีหลัง...ถ้าหนุ่ยหิวก็ทานไปก่อนเลยไม่ต้องคอยพี่” ธีร์พูดไปอย่างนั้น แต่ในใจรู้สึกดีที่มีคนคอยทานอาหารด้วย ไม่ต้องนั่งทานคนเดียวเหมือนที่เป็นอยู่ประจำ

          สองหนุ่มออกจากบ้านแล้วขึ้นทางด่วนวิ่งไปออกพระราม๙ แล้ววิ่งเข้ามอเตอร์เวย์เพื่อตรงเข้าสู่แปดริ้ว หนุ่ยใช้ความเร็วไม่มากแต่ก็มาถึงวัดโสธรฯได้ในเวลาแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น
“พี่ธีร์ครับเราปิดทองไหว้พระแล้วซื้ออะไรกลับไปฝากป้อสักหน่อยดีมั้ย...” หนุ่ยว่า
“ดีเหมือนกันนะ...เมื่อกี้นี้ผ่านร้านกระยาสารท...เดี๋ยวเราแวะที่นั่นดีกว่า” ธีร์เคยมาที่ร้านนี้หลายครั้ง ที่ร้านขายขนมไทยหลายอย่างที่ขึ้นชื่อของแปดริ้วคือกระยาสารท
“ป้อชอบกินกระยาสารทพอดีเลยพี่”
          ทั้งสองไหว้พระเรียบร้อยก็ขับรถย้อนกลับเข้ามาที่ร้านขนมที่ธีร์พูดถึง หนุ่ยเลือกกระยาสารทหลายอย่างและหลายกล่องเพื่อเอาไปฝากป้อและฝากที่บ้านด้วย จนบ่ายสองโมงกว่าทั้งสองจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯเพื่อเข้าไปเยี่ยมป้อที่ศิริราช

“ป้อ...เป็นไงบ้าง...” หนุ่ยก้มลงไปพูดกับป้อที่นอนนิ่งไม่ไหวติง อาการเริ่มไม่ดีขึ้นมาอีก
“อืม...”
“ป้อ...หนุ่ยซื้อกระยาสารทมาฝาก...เจ้าอร่อยจากแปดริ้วเชียวนะ” หนุ่ยพูดกระซิบเบาๆที่ข้างหู
“อืม...ขอบใจ” ป้อลืมตามองมาที่เพื่อน

          ธีร์คุยกับวิภาพรพลางหันมาดูป้อ วิภาพรเล่าถึงอาการที่ไม่ค่อยดีของป้อให้ฟังว่า หมอต้องให้คีโมอีกครั้งในวันสองวันนี้แต่ห่วงอยู่ที่อาการหลังจากนั้น
“สงสารลูก” วิภาพรเช็ดน้ำตา
“อืม...” ธีร์ส่ายหน้า
“ป้อคงจะทรมานมาก” นางร้องไห้ออกมาอีก หลายวันมานี่ อาการของป้อทรงๆทรุดๆไม่เหมือนเมื่อให้คีโมครั้งแรก
“ป้อต้องอดทนนะ...” หนุ่ยจับมือแล้วบีบเบา
“อืม...อยากกินกระยาสารท...” ป้อร้องขอเบาๆ
“อ่ะ...” หนุ่ยเอากระยาสารทออกมาป้อนให้ป้อ ป้อกินกระยาสารทได้เพียงสามสี่คำก็ไม่ไหวเพราะความแข็ง มันทำให้ป้อเจ็บปากมากเกิน
“แล้วคุณพ่อล่ะครับ...” ธีร์ถาม
“พรุ่งนี้ก็จะกลับค่ะ...”
          หลังจากที่เฝ้าดูอาการเพื่อนอีกสักพัก หนุ่ยกับธีร์ก็ขอตัวกลับก่อน โดยบอกว่าพรุ่งนี้จะมาเยี่ยมอีกครั้งกับเพื่อนๆ หนุ่ยดูอาการของป้อแล้ว อยากนัดเพื่อนมาให้กำลังใจป้อ หนุ่ยอยากให้เพื่อนๆมากันเยอะๆ เย็นนั้นหนุ่ยโทรนัดเพื่อนให้ไปพบกันที่โรงพยาบาล

          ในตอนเที่ยงๆของวันรุ่งขึ้นเด็กมาเยี่ยมป้อที่โรงพยาบาลกันพร้อมหน้า ยกเว้นทีมที่มาเฝ้าตั้งแต่เมื่อคืน เสียงเอะอะเจี๊ยวจ๊าวดังลั่นห้องไปหมด ป้อนั่งอยู่เงียบๆบนเตียงและพยายามกินกระยาสารทที่หนุ่ยซื้อมาตั้งแต่เมื่อวานนี้อีกครั้ง
“ไม่ไหวก็ไม่ต้องกินนะป้อ...” ทีมป้อนกระยาสารทใส่ปาก
“อืม...ขอบใจนะ” ป้อเมินหน้าไม่รับกระยาสารทอีก
“เป็นไงบ้างวะป้อ...” แคนเกาะขอบเตียงถาม
“ไม่เป็นไร...” ป้อพูดเบาๆ
          หลังจากนั้นในตลอดบ่าย ป้อเป็นฝ่ายที่หลับไปซะมากกว่า ที่จะคุยกับเพื่อนๆ ร่างกายที่อ่อนล้าของเด็กหนุ่มไม่สามารถแม้จะพูดคุยกับเพื่อนๆได้ทั้งที่อยากจะคุยใจจะขาด แต่เพื่อนๆไม่ได้หนีกลับไปไหน ต่างอยู่กันครบทุกคนจนมืดค่ำ จึงได้ขยับขยายกลับบ้าน พรุ่งนี้ป้อจะต้องให้คีโมอีกครั้ง...

“หนุ่ย...ป้ออาการไม่ดีเลยว่ะ...” ทีมน้ำเสียงร้อนรน
“เหรอ...กูจะรีบไปนะ...มึงบอกใครไปแล้วบ้าง” หนุ่ยน้ำเสียงร้อนรนไม่แพ้กัน เขากำลังจะเข้าเรียนแต่วันนี้สงสัยต้องให้เพื่อนเช็คชื่อให้ละ
“กูบอกไอ้แคน ไอ้น่านไปแล้ว...ที่เหลือกูฝากมึงหน่อยนะ...ตอนนี้ป้ออยู่ในห้องไอซียูว่ะ” หนุ่ยกระโดดขึ้นแท็กซี่จากมหาวิทยาลัยมาที่โรงพยาบาลทันที
“ป้ออย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ...กูกำลังไปหามึงอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว” หนุ่ยยกมือท่วมหัวภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยไม่ให้ป้อต้องเป็นอะไรเลย
“พี่ธีร์ครับ...ป้ออาการไม่ดีเลยครับ...ผมจะไปโรงบาลนะพี่” หนุ่ยพูดกับธีร์ทางโทรศัพท์
“อืม...มีอะไรโทรบอกพี่ได้นะ...เดี๋ยวพี่ขอคุยงานกับพี่เต้ก่อน” ธีร์บอกแล้ววางหูไป
“ครับ...”

          เวลาไม่นานนักหนุ่ยเดินทางมาถึงโรงพยาบาลแต่ก็ยังช้ากว่าเพื่อนๆ ทุกคนออกันอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ไม่ไปไหนรอเวลาที่ป้อจะกลับออกมา
“พวกเราเดินไปไหว้พระอนุสาวรีย์กันดีกว่า...” อ้นชวนเพื่อนๆ
“ไปสิ...” กลุ่มเพื่อนๆเดินกันออกมาที่พระอนุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมแล้วจุดธูปเทียนเพื่อถวายสักการะ ต่างคนต่างอธิษฐานขอให้ป้อปลอดภัยจากอาการที่เป็นและหายป่วยเร็วๆด้วย ทีมก้มลงกราบกับพื้นแล้วทรุดลงอยู่ตรงนั้น ทีมร้องไห้ออกมาเพื่อนๆต้องเข้าไปประคอง เด็กๆตัดสินใจที่จะอยู่เป็นเพื่อนป้อให้ดึกที่สุดและพากันจับกลุ่มนั่งคุยอยู่บริเวณนั้น มันร่มรื่นด้วยพรรณไม้ ผู้คนหลากหลายพากันมากราบไหว้และขอพรให้คนที่รักและญาติของตนหายป่วยจากโรคร้าย พวกเขาก็เช่นเดียวกัน...ไม่แตกต่าง ความเจ็บความไข้มักมีกันถ้วนทั่วทุกคน...สิ่งเหล่านี้หรือที่เรียกว่า”อนิจจัง”

“ป้อจะเป็นอะไรมากมั้ยวะทีม...” อ้นน้ำตาซึม เริ่มถามอาการของป้อจากทีมที่มาเฝ้าเพื่อนอยู่เมื่อคืน
“เมื่อเช้าหลังให้คีโมแล้วอาการไม่ดีเลย...ทรุดลงเรื่อยๆ...จนเข้าไอซียู” ทีมพูดพลางเช็ดน้ำตา
“กูว่าป้อ...มันต้องหาย...” แคนบอกพลางจับมือให้กำลังใจเพื่อน
“ญาติป้อมากันหลายคนเลย...กูกลัวว่าป้อมันจะ....” ทีมพูดออกมาเบาๆพลางเอาหลังมือป้ายน้ำตา
“ไม่หรอกน่า...ป้อต้องปลอดภัย” หนุ่ยบอก
“ไปเราไปเฝ้าป้อกันเถอะ” ปรีย์เอ่ยปากทำให้ทุกคนลุกออกมาจากที่ตรงนั้น...แทบไม่มีใครสนใจจะหาอะไรกินในมื้อเย็นกันเลย

          คืนนั้นเด็กๆกลับบ้านกันค่อนข้างดึก หลายคนอยากอยู่ต่อ แต่ก็เฝ้าป้อไม่ได้เนื่องจากเป็นห้องไอซียู จนเช้าวันรุ่งขึ้นขณะที่แต่ละคนไปเรียนหนังสือกันนั้น อาการเจ็บป่วยที่เรื้อรังมานาน ความที่ร่างกายต้องสู้ทนกับความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ดวงวิญญาณที่แสนบริสุทธิ์ดวงหนึ่งได้หลุดลอยออกจากร่าง...ป้อได้ลาจากพ่อ แม่ ญาติพี่น้องและเพื่อนๆไปอย่างไม่มีวันกลับ ป้อทิ้งไว้เพียงความทรงจำที่ดีให้กับเพื่อนได้จดจำ...ความเป็น”เพื่อน”ความมีน้ำจิตน้ำใจ ความเป็นผู้นำ ความเป็นคนรักเพื่อนฝูง...และที่สำคัญความอ่อนไหวในจิตใจที่แสนบอบบาง...แต่แฝงไว้ด้วย”ความมั่นคง...ในรักไม่เสื่อมคลาย”ของป้อ...มันเป็นบทพิสูจน์ในความมีรักแท้...”รักของป้อ”รักที่ไม่เคยได้ครอบครอง...


ออฟไลน์ wowhaha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
«ตอบ #427 เมื่อ18-09-2009 03:19:44 »

ไม่มีอะไรจะพูด  :m15:

patz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
«ตอบ #428 เมื่อ18-09-2009 03:48:08 »

ยิ่งอ่าน ยิ่งสงสารป้ออะ


แต่ชื่นชมความรักกันในกลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้จังเลย

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
«ตอบ #429 เมื่อ18-09-2009 04:40:08 »

 :m15: ตอนนี้มีแต่เศร้า แล้วก้อน้ำตา

สงสารป้อจังเลย ไม่น่า..... :m15:   :m15:

 :z2:   :z2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
« ตอบ #429 เมื่อ: 18-09-2009 04:40:08 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
«ตอบ #430 เมื่อ18-09-2009 06:54:28 »

เศร้ามากมาย

ออฟไลน์ kikipanda

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
«ตอบ #431 เมื่อ18-09-2009 09:31:38 »

น้ำตาซึมแต่หัววันเลยค่ะ

หลับให้สบายนะจ๊ะน้องป้อ  :sad11:

wichit14

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
«ตอบ #432 เมื่อ18-09-2009 11:27:35 »

ตกลงมันแนวดราม่าเหรอ เรื่องนี้อ่ะ คิดว่าจะเป็นตลกขบขัน โอ้ยสงสารป้อจัง

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
«ตอบ #433 เมื่อ18-09-2009 14:37:14 »

 :m15:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
«ตอบ #434 เมื่อ18-09-2009 14:47:04 »

 :sad11:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
«ตอบ #435 เมื่อ18-09-2009 19:17:52 »

สงสารป้อ และพ่อแม่
เพื่อนๆก็เสียใจไม่น้อยเลย  :monkeysad:

บวก 1 แต้ม ขอบคุณมากค่ะ


ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
«ตอบ #436 เมื่อ18-09-2009 20:22:33 »

เข้ามาไว้อาลัย :m15:

/เช็ดน้ำตาแล้วเดินออกจากกระทู้

ออฟไลน์ CHOKUN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
«ตอบ #437 เมื่อ18-09-2009 23:12:28 »

 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

ออฟไลน์ 0nePiece

  • ++..ชีวิตไร้รัก..++
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
«ตอบ #438 เมื่อ18-09-2009 23:13:48 »

อ่านตอนนี้แล้ว น้ำตาร่วงเลย
 :monkeysad:

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
«ตอบ #439 เมื่อ19-09-2009 05:19:23 »

39 ศาลาสวดศพ

“หนุ่ย...ป้อเสียแล้ว....” เสียงสะอึกสะอื้นของทีมส่งมาตามสาย
“ป้อไหนวะ...ไอ้ทีมมึงว่าไงนะ...พูดอีกทีสิ” หนุ่ยแทบไม่เชื่อหูตัวเอง อีกใจก็นึกว่ามันไม่ใช่”ป้อ”...เพื่อนของเขาแน่นอน...ต้องเป็น   ”ป้อ”อื่น...”ป้อ”ที่ไม่ใช่คนเดียวกับเพื่อนเขา...แต่ความเป็นจริงแล้ว...มันจะเป็นป้อไหนล่ะ
“ไอ้หนุ่ย”ป้อ”เสียแล้ว...เมื่อเช้านี้เอง...หนุ่ย...ฮือ...ฮือ...ฮือ...กูสงสารมัน...หนุ่ย...มาหากูเร็วๆ...ฮือ...ฮือออ...” เสียงคร่ำครวญปานจะขาดใจของทีมทำเอาหนุ่ยกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้...หนุ่ยเอามือปาดน้ำตาที่เอ่อไหลออกมา...นี่เพื่อนเขา...นี่คือ”ป้อ”จริงๆหรือนี่...”ป้อ”จากพวกเราไปแล้วจริงๆเหรอ

          เสียงโทรศัพท์ดังอย่างถี่ยิบจากเพื่อนๆในกลุ่มและเพื่อนในห้องที่ทราบข่าว...หนุ่ยแจ้งข่าวเท่าที่รู้มาจากทีมให้เพื่อนได้รู้แล้วหนุ่ยก็รีบกดโทรศัพท์หาธีร์ทันที...
“พี่ธีร์...ป้อเสียแล้วนะพี่..เมื่อเช้านี้เอง...” หนุ่ยสูดน้ำมูกพร้อมกับเช็ดน้ำตาที่มันไหลออกมา
“อืม...เดี๋ยวพี่ไปนะ...ที่โรงพยาบาลใช่ไหม” ธีร์พูด
“ครับพี่...ผมกำลังไปโรงพยาบาล...ตอนนี้ผมออกจากมหาลัยแล้ว”
“ขับรถดีๆนะ...ไม่ต้องรีบ...” ธีร์กำชับ...แต่ไม่เป็นผล...จรวดทางเรียบบึ่งมาถึงโรงพยาบาลภายในเวลาไม่เกินชั่วโมง
          ที่นั่นเพื่อนๆหลายคนมากันแล้วยกเว้นอ้นซึ่งกำลังเดินทางมา...ทั้งหมดยืนอออยู่ที่หน้าห้องเก็บศพจนเจ้าหน้าที่เข็นรถที่มีร่างอันไร้วิญญาณของ”ป้อ”ออกมา ทีมกับน่านรีบเดินเข้ามาที่รถ ใบหน้าขาวซีดเจือด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ปากบางๆของป้อปิดสนิท ดวงตาหลับพริ้ม ป้อเหมือนคนนอนหลับ...มีเพียงรูจมูกเท่านั้นที่ถูกแพคด้วยก้อนสำลีเล็กๆ...ป้อสวมหมวกไหมพรม...มีตราสโมสรฟุตบอลทีมโปรด...น่านซื้อมาให้...ป้อสวมมันไว้จนวันสุดท้ายของชีวิต ป้อพูดกับน่านหลังจากที่น่านใส่หมวกใบนี้ให้ว่า”เหมือนมีมือที่อบอุ่นของน่านจับไว้ที่หัวตลอดเวลา”

“ป้อ...ป้อ...กูรักมึงนะ...ป้อ...ฮืออ...ฮือ...” ทีมร้องโฮออกมาพลางเข้าไปกอดร่างของเพื่อนรัก..ทีมร่ำไห้ปริ่มว่าจะขาดใจ
“ทีม...ป้อไปสบายแล้วทีม...” หนุ่ยรั้งตัวทีมเอาไว้...พลางยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตา หนุ่ยกลัวว่าน้ำตาทีมจะไปโดนป้อ...หนุ่ยเคยเชื่อตามผู้ใหญ่ว่าจะทำให้ป้อกังวล...ดวงวิญญาณไม่สงบสุข
“ป้อ...ทำไมป้อ...ทำไมต้องเป็นป้อ...ฮือ...ฮือ...” น่านร้องโฮออกมาอีกคน ครั้งนี้แคนและปรีย์เดินออกจากรถเข็น ทั้งสองก็ทนไม่ได้เหมือนกันที่เห็นเพื่อนที่เป็นที่รักต้องจากไป...ทั้งทีมและน่านต่างร้องไห้สะอึกสะอื้นกันอยู่ ทำเอาผู้ที่อยู่ใกล้ๆรวมทั้งพ่อแม่และญาติๆของป้อร้องไห้กันระงม...

          ร่างของป้อถูกนำไปที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ย่านบางเขน บ่ายนั้นมีการรดน้ำศพ ป้อแต่งตัวหล่อในชุดนักศึกษา ป้อผูกเนคไท...มันเป็นสัญลักษณ์ของเฟรชชี่...น้องใหม่...ที่ยังไม่เคยได้เรียน... เพื่อนๆมาที่วัดครบทุกคน อ้นตามมากับน้องส้มแฟนสาวที่ยังคบกันอยู่
          เด็กหนุ่มทั้งหกคนเรียงแถวเข้ารดน้ำศพเพื่อนด้วยความอาลัยรักอย่างที่สุด...ทีมก้มลงไปกอดร่างอันไร้วิญญาณของเพื่อนแล้วสะอื้นออกมาอีกครั้ง... คนทั้งศาลาต่างร้องไห้ด้วยความสงสารในชะตากรรมของ”ป้อ”หลังจากที่เพื่อนๆรดน้ำจนหมดแล้ว คนสุดท้ายคือหนุ่ยที่เดินเข้ามาพร้อมกับธีร์ที่เพิ่งเดินทางมาถึง
“ป้อ...ขอให้ป้อไปสู่สุขคตินะ..เกิดชาติหน้าฉันใดขอให้เป็นเพื่อนกันอย่างนี้ทุกชาติไป...” หนุ่ยยกมือจรดแล้วรดน้ำจากขันเงินใบเล็กๆลงสู่ฝ่ามือของเพื่อนรัก สายน้ำใสกับกลีบดอกไม้ที่ไหลรินลงสู่มือของป้อนั้น...ทำให้หนุ่ยถึงกับสะอื้นออกมาอีกครั้ง เด็กหนุ่มก้มลงจับมือเย็นเฉียบและเริ่มแข็งซีดแล้วของป้อ...จนธีร์ต้องตามมาโอบหนุ่ยให้ห่างออกมาจากบริเวณนั้น เด็กๆเดินออกมารวมตัวกันอยู่ที่โคนต้นไม้ด้านนอกศาลา ทุกคนนั่งซึมเหม่อมองไปที่ร่างของ”ป้อ”ที่นอนนิ่ง ไม่มีเสียงพูดคุยออกมาจากปากของใคร...ทุกคนต่างก็อยู่ในอาการโศกเศร้า


“เป็นไงบ้าง...หนุ่ย...กินอะไรรึยัง..” ธีร์เอ่ยปากถามเมื่อเห็นหนุ่ยหน้าซีดๆ
“ยังครับพี่...ผมทานอะไรไม่ลง” หนุ่ยก้มหน้า พลางขยับแว่นกันแดด
“กินอะไรกันมั้ยเด็กๆ...พี่เดินออกไปซื้อมาให้” ธีร์เอ่ยปากถามแต่ไม่มีใครพูดอะไรนอกจากปรีย์
“ไปพี่ธีร์...ผมไปด้วย...” ปรีย์เดินไปจับมือธีร์แล้วจูงออกมาจากตรงนั้น
“เซเว่นดีกว่าพี่...” ปรีย์เดินออกไปกับธีร์

          ของกินทั้งนมกล่อง ซาลาเปา ขนมจีบ มากมายถูกวางลงตรงหน้าเด็กๆ ไอ้ที่บอกไม่หิวแต่แรก...ทุกคนหยิบกันคนละหนุบคนละหนับเพียงครู่เดียวก็หมด...ปรีย์แอบยิ้มให้ธีร์
“ทีแรกบอกไม่หิว...พวกมึงนี่จริงๆเลย” ปรีย์บ่นเบาๆแล้วเก็บขยะไปทิ้ง
“ไปเอาน้ำให้กินหน่อยสิ...ไอ้ปรีย์” อ้นพูด
“ได้ครับเจ้านาย...” ปรีย์กำลังเดินเข้าไปหลังศาลา
“ไปด้วย...” หนุ่ยอาสาขึ้นมาแล้วเดินตามปรีย์ไปเพื่อช่วยกันเอาน้ำมาให้เพื่อนๆ

          วันแรกของงานสวดศพผ่านไปอย่างเชื่องช้าและเงียบเหงา มีเพียงพ่อแม่และญาติสนิทรวมทั้งเพื่อนๆในห้องเท่านั้น เด็กๆวิ่งรับพวงหรีดเอาไปให้เจ้าหน้าที่ของวัดแขวนในศาลาสวดศพ ทำให้มีกิจกรรมทำจะได้ไม่เงียบเหงาเกินไป หลังจากสวดแล้วศาลาก็ปิดลงเด็กๆกลับบ้านโดยมีรถของธีร์ที่เป็นรถประจำตำแหน่งคันหนึ่งและรถของหนุ่ยที่ขับมาอีกคัน...หนุ่ยตะเวนส่งเพื่อนจนครบทุกคนแล้วกลับบ้าน...ที่บ้านธีร์กลับมาคอยก่อนแล้ว...
“ถึงนานแล้วเหรอพี่” หนุ่ยเดินตาแดงช้ำเข้าไปหาธีร์ที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่
“แป๊บเดียวเองครับ...หนุ่ยหิวมั้ย...” ธีร์ถามด้วยความห่วงใย
“ก็หิวเหมือนกันครับ...แต่ไม่ทานอะไรดีกว่า...เกรงใจป้าจิต...” หนุ่ยกำลังจะเดินขึ้นห้อง
“เดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรกินเอามั้ย...” ธีร์ถาม
“ไม่ดีกว่าพี่...พรุ่งนี้ไปเรียนแต่เช้า...ผมนอนดีกว่า” หนุ่ยเดินขึ้นห้อง

          ธีร์เดินเข้าไปในครัวเรียกป้าจิตให้อุ่นนมให้ร้อน แล้วเขาก็เอาขึ้นไปให้เด็กหนุ่มบนห้องด้วยตัวเอง ธีร์เคาะประตูเบาๆสักพักประตูก็เปิดออกมา
“ดื่มนมอุ่นๆสักหน่อยนะหนุ่ย...เดี๋ยวหิวแย่...” ธีร์ส่งนมอุ่นๆแก้วใหญ่ให้หนุ่ยรับเอาไป
“พี่ธีร์ง่วงรึยังครับ...”
“ทำไมเหรอ...” ธีร์เดินเข้าไปในห้องเมื่อหนุ่ยเปิดประตูกว้างขึ้น เหมือนกับจะเชิญเขาเข้ามา หนุ่ยคงอยากจะคุยอะไรด้วยแน่ๆ
“หนุ่ยมีอะไรรึเปล่า” ธีร์นั่งลงบนเตียง
“พี่ธีร์เมื่อกี้นี้ตอนที่ผมกลับมากับเพื่อนๆ...พวกเราคุยกันว่าจะเป็นเจ้าภาพสวดศพป้อสักคืน...พี่ธีร์มีความเห็นยังไง” หนุ่ยถาม
“ก็ดีนะ...เมื่อไหร่ดีล่ะ...”
“ต้องคุยกันก่อน...แล้วผมต้องทำยังไงกันบ้างล่ะ” หนุ่ยไม่รู้จริงๆ
“ก็ไม่มีอะไรมากนี่...เราก็ช่วยเงินเค้าไป...แล้วทางวัดเขาก็จัดให้เองนั่นแหละ...แต่หนุ่ยต้องบอกพ่อกับแม่เค้าก่อนนะ” ธีร์พูด
“ครับ...เดี๋ยวคุยกับเพื่อนก่อน” หนุ่ยว่าแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำ

          คืนนั้นหนุ่ยนอนไม่หลับ...ไม่รู้เป็นเพราะอะไรทั้งๆที่เหนื่อยแสนเหนื่อย...เพลียแสนเพลีย...ใบหน้าของป้อมาลอยไปมาอยู่เต็มไปหมด... ทั้งฝัน ทั้งคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อย...เรื่องราวของป้อสมัยที่ยังมีชีวิต...ทุกคำพูด ทุกการกระทำของป้อ...วนไปวนมา...ในความฝัน...กว่าหนุ่ยจะหลับลง...ก็เกือบเช้า  .....


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 38=
« ตอบ #439 เมื่อ: 19-09-2009 05:19:23 »





ออฟไลน์ Nichdia

  • สักวันผมจะเจอ...
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 39=
«ตอบ #440 เมื่อ19-09-2009 06:35:04 »

คือวัดตรงบางเขนเนี่ย

ชื่อวัดพระศรีมหาธาตุนะครับ

ไม่ใช่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ นะคับ

แหะๆ

ผิดนิดนึง โรงเรียนผมเอง ฮ่าๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-09-2009 06:38:08 โดย SainTDiA »

patz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 39=
«ตอบ #441 เมื่อ19-09-2009 07:53:10 »

สงสารป้อ และพ่อแม่ของป้อจังเลย
แต่ก็คิดเสียว่า ป้อไปดีแล้ว พ้นกรรมไปแล้วละกัน



จะว่าไป ผมแอบติดใจตรงที่ ทำไมปรีย์ต้องจับมือพี่ธีร์ด้วยอะ ตอนจะเดินไปซื้อของกันเนี่ย คือสงสัยตั้งแต่ตามอ่านที่ gbs แล้ว แต่ก็ไม่ได้ถามคุณต้นคุงอะ สงสัยผมจะคิดมากไปคนเดียวมั้งเนาะ

paulla

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 39=
«ตอบ #442 เมื่อ19-09-2009 11:12:28 »

หวับให้สบายนะคับ น้องป้อ :sad4:

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 39=
«ตอบ #443 เมื่อ19-09-2009 11:39:38 »

น้ำตาไหลเลยอ่ะ


เศร้ามากครับ

 :monkeysad:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 39=
«ตอบ #444 เมื่อ19-09-2009 12:48:50 »

ซึ้งในน้ำใจของเพื่อนป้อทุกคน

นี่แหละเพื่อนแท้...... :sad11:

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 39=
«ตอบ #445 เมื่อ19-09-2009 15:01:49 »

 :sad11:    :sad11:    :sad11:

ก็มีแต่    :m15:    :m15:   :m15:

ออฟไลน์ 0nePiece

  • ++..ชีวิตไร้รัก..++
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 39=
«ตอบ #446 เมื่อ19-09-2009 17:30:52 »

ป้อ เค้าไปสบายแล้วอ่ะนะ
คนเป็นมะเร็งนี่มันทรมานมากจริงๆๆเลยนะ
เรารู้ดี


เพราะ

พ่อเรา

ก็เสียด้วยโรคมะเร็ง

อ่านแล้วร้องทุกรอบเลย :monkeysad: :sad11:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 39=
«ตอบ #447 เมื่อ19-09-2009 18:31:16 »

มันผ่านไปเร็วนะเรื่องแบบนี้ ไม่ทันได้สังเกตเลยด้วย  :m15:
อ่านแล้วเศร้าตามไปอินไปกับเรื่องของคุณที่นำมาลงให้อ่าน
อ่านแล้วชวนนึกถึงเพื่อนที่เสียไปแล้วเหมือนกัน
นิว(งามอย่างผู้ดี)

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 39=
«ตอบ #448 เมื่อ19-09-2009 18:50:43 »

น้ำตาหยดติ๋งๆ อ่านแล้วนึกถึงเพื่อนที่จากไป
ความรักความผูกพันระหว่างเพื่อนเป็นสิ่งที่งดงามจริงๆ
RIP นะป้อ

/ยืนไว้อาลัย ๑ นาที

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 39=
«ตอบ #449 เมื่อ20-09-2009 01:58:42 »

ป้อจากไปแล้ว
ตอนนี้มีแต่ความเศร้า

คิดเหมือนรีบนโน้น (คุณ patz) ว่า ทำไมปรีย์ต้องจับมือพี่ธีร์ตอนออกไปซื้อของกินด้วยล่ะ
หรือว่าไม่มีอะไรในกอไผ่

บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด