ระโนด <by ต้นคุง>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ระโนด <by ต้นคุง>  (อ่าน 179933 ครั้ง)

ออฟไลน์ MonkeYMauS

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 9=
«ตอบ #120 เมื่อ19-08-2009 20:53:34 »

แวะมารอตอนต่อไปคร๊าบบบบ

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 9=
«ตอบ #121 เมื่อ19-08-2009 23:04:07 »

สวัสดีครับเพื่อนๆวันนี้ขอตอบข้อข้องใจที่ถามกันมา
-เรื่องที่ถามว่าทำไมธีร์ต้องเป็นผู้แทนยา-เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง
-เรื่องนี้เกิดที่ระโนด...-เป็นเรื่องราวที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง...เหตุเกิดจริงๆครับ
-ผมเป็นคนระโนดรึเปล่า-ตอบว่าไม่ได้เป็นครับ ไม่ได้เป็นคนใต้ด้วย...แต่มาภาคใต้บ่อยมาก...ทั้งมาทำงานและมาเที่ยว
-เหตุเกิดบนถนนสาย  นครศรีฯ - สงขลา ช่วงนั้นมีทั้งถนนสี่เลนและสองเลน ช่วงเย็นๆจะขับรถยากมากเพราะชาวบ้านเยอะขับรถกันขวักไขว่
-เรืองเครื่องจัมโบ้ 737-200 นั้นผิดพลาดเรื่องข้อมูลครับ ผมจะพยายามไม่ให้เกิดขึ้นอีก...ขอบคุณครับ
-หนุ่ยเด็กระโนด  เมื่อนึกถึงฝีมือย่า  ควรจะใช้คำว่า  "แกงส้ม" สำหรับข้อนี้...ผมมีเพื่อนเป็นคนใต้มากมาย...เวลาเค้าเรียก"แกงส้ม"บางทีเค้าก็เรียกแทนผมว่า"แกงเหลือง"ซะงั้น...อาจจะทำให้ผมสับสนไปเอง...ขอโทษด้วยครับที่รายละเอียดเล็กๆน้อยๆทำให้เพื่อนๆต้องติติงมา...จะทำการบ้านให้มากขึ้นครับและจะไม่สับสนครับ
-ขอบคุณสำหรับแรงเชียร์และกำลังใจ...อีกอย่างขอบคุณมากๆสำหรับคนที่สมัครเป็นแฟนคลับของเรื่องนี้
อย่างไรก็ดีกำลังใจในการเขียนเรื่องนี้มาจาก"คอมเม้นต์"ครับ
ขอบคุณ"องค์หญิง"ของผมอีกครั้ง
ต้นคุง

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 9=
«ตอบ #122 เมื่อ19-08-2009 23:13:08 »

10 โรงอาหาร

“พี่ธีร์ครับ...พี่ธีร์...”หนุ่ยเคาะประตูเรียกอยู่พักใหญ่ก่อนที่ธีร์จะเดินออกมาเปิดประตูให้แล้วกำลังจะเดินกลับไปล้มตัวบนเตียงอีกครั้ง
“เรียกแต่เช้าเลย...พี่อยากนอนต่ออีกหน่อย”ธีร์เริ่มมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มอีกครั้ง
“ตื่นเถอะพี่...เกือบเที่ยงแล้วนะ”
          ธีร์เหลือบมองนาฬิกา ช่างเถอะ...วันอาทิตย์ควรจะพักผ่อน...พรุ่งนี้ต้องทำงานอีกแล้ว...เหมือนคนทำงานทุกคนคิด...เป็นแบบนี้กันหมด
“พี่ธีร์จะทานอาหารใต้ไม่ใช่เหรอ...”หนุ่ยเขย่าตัวธีร์
“เดี๋ยวก็ได้...ทานกันมื้อเย็นไม่ใช่เหรอ”ธีร์ต่อรองไปเรื่อยๆ หนุ่ยกระโดดขึ้นมานอนบนเตียงชายหนุ่มแล้วแกล้งด้วยการเขย่าตัวธีร์ไปมา หนุ่ยไม่รู้หรอกว่าหนุ่ยเป็นคนเดียวที่ได้ขึ้นมาเล่นบนเตียงของชายหนุ่ม...ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่...ป่านนี้โดนถีบตกเตียงไปนานแล้ว
“ไปซื้อกับข้าวกับผมหน่อยนะ”เด็กหนุ่มออดอ้อน...แล้วมันก็ได้ผล
“ไปก็ไป...เดี๋ยวให้พี่อาบน้ำก่อนนะ”
“ครับพี่ธีร์...”
“จะทำอะไรให้พี่กินล่ะ...หา...”
“ก็มีปลาทอดขมิ้น...แกงเหลือง...แกงพริกกระดูกหมู...พอมั้ยครับพี่ชาย”หนุ่ยสาธยายออกมาทำเอาชายหนุ่มน้ำลายสอ ไม่ได้ทานอาหารใต้มานานแค่ไหนแล้ว...นึกไม่ออกจริงๆ
“ทำเป็นทุกอย่างเลยเหรอ...”ธีร์ยังไม่เชื่อ
“ก็...ก็...ป้าจิตบอกจะทำให้บางอย่าง...”
“เช่น...”ธีร์ซักไซ้ไล่เรียง
“ก็...แกงเหลืองกับแกงพริกกระดูกหมู”
“แล้วหนุ่ยล่ะ...”
“ผมทอดปลาให้ได้นะ...”หนุ่ยยิ้มทำหน้าทะเล้น
“ขี้โกงนี่...ทำเองไม่ได้เลยซักอย่าง...”ธีร์เอามือขยี้หัวเด็กหนุ่มด้วยความเอ็นดู
“เราจะต้องไปซื้อของให้ได้ตามที่ป้าจิตสั่ง”หนุ่ยชูโพยที่ป้าจิตจดให้
“เอ้า...เอาก็เอา...เชื่อเด็กสักครั้ง...”ธีร์พูดแล้วก็ยิ้มเห็นฟันขาว
“โธ่พี่ธีร์...เชื่อใจผมได้เลย...”หนุ่ยส่งสายตาเป็นประกายมุ่งมั่น

          หนุ่ยเดินออกมาข้างนอกปล่อยให้ธีร์จัดการกับตัวเอง พักใหญ่กว่าจะเสร็จ...หนุ่ยลงมาคอยชายหนุ่มที่ห้องนั่งเล่นข้างล่าง พอดีกับที่ภาณีกำลังจะออกไปข้างนอก
“เมื่อวานนี้สองพี่น้องไปอัมพวาได้อะไรมาฝากแม่บ้าง”ภาณีทักทายเสียงสดชื่น
“ได้หลายอย่างครับ...ของกินทั้งนั้นเลย...ผมซื้อฝรั่งกิมจูมาฝากคุณป้าด้วย”หนุ่ยบอก
“เรียก”แม่”สิลูก” ภาณีเดินเข้ามากอดหนุ่ย...เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่น...เหมือนเมื่อหลายปีก่อน...ในวันที่เผาศพปู่...ภาณีเคยกอดเขาแบบนี้
“ครับแม่”เด็กหนุ่มน้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม ชีวิตนี้เขาไม่มีใครอีกแล้ว ความรักความห่วงใยที่ภาณีมีให้ตั้งแต่วันแรกที่เขาเหยียบย่างเข้ามาในบ้านหลังนี้...มันทำให้น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอีกครั้ง...ครั้งหลังสุดที่เขาร้องไห้เขาจำได้ว่าเขากอด ”ย่า”แล้วร้องโฮออกมา...ผิดแต่วันนั้นเขาร้องไห้ด้วยความทุกข์...เขาร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดหัวใจ...เขาร้องไห้กับย่าด้วยความคิดถึงปู่...วันนี้ความอิ่มเอิบมันอาบซ่านรินรดหัวใจ...เขาร้องไห้ด้วยพลังแห่งความรัก....

“แม่ไปข้างนอกหน่อยนะ...ไปดูร้านสักพักนึง...เย็นๆจะกลับมา...เห็นแม่จิตเค้าบอกว่าหนุ่ยจะทำอาหารใต้ให้พี่ธีร์ทานไม่ใช่เหรอลูก”นอกจากงานบริษัทแล้วภาณียังมีธุรกิจที่ทำเสริมรายได้อีกอย่างคือร้านอาหารญี่ปุ่น ภาณีหุ้นกับเพื่อนอยู่...รายได้น่าจะดีกว่างานประจำที่ทำอยู่ซะอีก
“ครับ...แต่ส่วนมากป้าจิตจะเป็นคนทำซะมากกว่า...ผมทำไม่ค่อยเป็นหรอกครับ”หนุ่ยยิ้มแหย่ๆ
“เย็นๆแม่จะกลับมาทานด้วย”ภาณีกอดหนุ่ยกระชับแน่นอีกครั้งแล้วเดินออกไป

          หลังจากอาหารเช้าเบาๆแล้วธีร์กับหนุ่ยก็ออกไปซื้อกับข้าวตามที่ป้าจิตสั่ง ธีร์เลือกจะไปเดินซื้อที่ฟู๊ดแลนด์ แถวๆซอยนานา เพราะว่าเขาไม่ชอบตลาดสดที่เฉอะแฉะ ทั้งสองเลือกซื้อปลากระบอกมาได้หลายตัว อีกทั้งปลาทะเลสำหรับทำแกงเหลือง รวมทั้งกระดูกหมูอ่อนที่จะเอามาทำแกงพริกกระดูกหมู พริกแกงใต้นั้นหาได้ไม่ยากเพราะเดี๋ยวนี้มีแบบสำเร็จรูปขายกันดาษดื่น

          ธีร์ช่วยหนุ่ยและป้าจิตทำกับข้าวอยู่ในครัวด้วย บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานมาก หนุ่ยมีลูกเล่นลูกฮามากมาย จนป้าจิตถึงกับหัวเราะได้ไม่เว้นวรรค ธีร์เองก็รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่สดใสและสนุกสนานอีกวันหนึ่งเลยทีเดียว จนเย็นย่ำค่ำลงอาหารใต้ฝีมือของทั้งสามก็เสร็จสมบูรณ์ ถึงรสชาติจะไม่จัดจ้านอย่างที่หนุ่ยเคยกิน แต่ก็ทำให้คลายความอยากลงไปได้มากทีเดียว
“อร่อยจริงๆ...ฝีมือดีเลยนะเนี่ย” ภาณีชม
“แค่ปลากระบอกทอดขมิ้นน่ะครับคุณแม่” ธีร์มองมาทางหนุ่ยแล้วยิ้มเยาะ
“ครับ...ที่เหลือพี่ธีร์ทำทั้งหมดเลย”หนุ่ยพูดบ้าง
“แต่ทำให้วุ่นวายนะครับ...”หนุ่ยพูดแล้วก็หัวเราะออกมา ทำให้ภาณีอดหัวเราะไปด้วยไม่ได้
“เรานี่เหลือเกินนะ...ไปว่าพี่เค้า”ภาณีพูด...นางมองดูหนุ่ยไม่ต่างไปจากมองดูธีร์สมัยเป็นเด็กๆ
.......................................................


“ใครให้มึงมานั่งที่กูหึ...ไอ้บ้านนอก” เสียงใหญ่ๆห้าวทำเอาหนุ่ยถึงกับสะดุ้ง อาจารย์ที่กำลังพูดอยู่หน้าห้องมองมาทางต้นเสียง
“อะไรกัน...นายศิวัช...” เสียงอาจารย์ที่ปรึกษาพูดออกมาทำให้ไอ้เจ้าของเสียงสะดุดหยุดลง
“ที่นั่งผม...อาจารย์ให้ใครมานั่งล่ะครับ” น้ำเสียงที่ไม่มีทีท่าจะเคารพครูอาจารย์สวนขึ้นทันที
“เมื่อวันก่อนศิลปินเค้าไม่มีที่นั่ง...ครูเลยให้นั่งที่เธอไปก่อน...เธอย้ายไปนั่งตรงนู้นแล้วกัน หรือเธอจะมีปัญหา”เสียงที่ทรงอำนาจทำให้ไอ้เถื่อนหยุดลงฉับพลัน
“เดี๋ยวเธอไปพบครูที่ห้องพักครูด้วย...”อาจารย์สมเกียรติพูดแล้วเดินออกจากห้องไป

          ศิวัชย่างสามขุมเข้ามาหาหนุ่ยแล้วกระชากคอเสื้อจนกระดุมเม็ดบนขาดกระเด็น มันผลักอกหนุ่ยจนเซไปชนโต๊ะเรียน มันชี้หน้าหนุ่ยพร้อมกับพูดว่า”มึงเจอกับกูแน่ไอ้สัตว์” หนุ่ยก้มลงหยิบกระดุมที่ขาดกระเด็นนั้นเก็บใส่กระเป๋าเสื้อไว้แล้วปัดเนื้อตัวเล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงที่เดิม เขาไม่เปลี่ยนที่นั่ง...อยากจะเจอเหมือนกัน...ใครที่ว่าแน่
“เราว่านายไปนั่งตรงนู้นเถอะ...”ไอ้ปรีย์พูดออกมาเบาๆราวกับกลัวว่าไอ้วัชจะมาได้ยินเข้า
“ไม่เป็นไรหรอก...อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะทำอะไรเรา”หนุ่ยพูด เขาไม่กลัวคนอยู่แล้ว...ใครดีกับเขา...เขาจะดีด้วย...ใครที่มาร้ายกับเขาก่อน...มันจะได้รับบทเรียนอันเจ็บปวดกลับไปเหมือนกัน...
“เย็นนี้มึงไปเจอกับกูหลังโรงเรียน...ไอ้บ้านนอก”ไอ้วัชกลับมาพร้อมกับหมายกำหนดการปะฉะดะ หนุ่ยนึกไม่ถึงว่ามันจะเร็วถึงเพียงนี้ แค่การนั่งทับที่มันเท่านั้นเหรอ...หนุ่ยนั่งก้มหน้านิ่งไม่ได้ยอมรับ...และไม่ได้ปฏิเสธ แต่เขาเลือกที่จะไม่พูดกับคนนิสัยอันธพาลแบบนี้ แต่การไม่พูดมันยิ่งทำให้ศิวัชถึงกับเดือดมากขึ้นเมื่อถึงตอนพักกลางวัน

          ที่โรงอาหารระหว่างที่หนุ่ยกำลังทานข้าวกับเพื่อนๆอีก4-5 คนมี ปรีย์ แคน ป้อ อ้นและทีม มีแก้วน้ำใบหนึ่งลอยลงมากลางวงตรงที่เขานั่งพอดี จานข้าวแตกกระจายเต็มโต๊ะ เสื้อผ้าของแต่ละคนเปรอะเปื้อนไปด้วยเศษอาหารที่หกเลอะเต็มโต๊ะ มันทำให้เลือดหนุ่มฉีดพล่านทันที เขาเงยหน้าขึ้นไปเห็นไอ้วัชและกลุ่มเพื่อนของมันอีก2-3 คนซึ่งเป็นเพื่อนต่างห้องทั้งนั้น แต่ถ้าหนุ่ยสังเกตเห็นว่าห่างไปอีกเล็กน้อย”น่าน”ก็นั่งอยู่ใกล้ๆด้วย 

“มองเหี้ยไร...ไอ้ทองแดง...”เสียงเพื่อนมันในกลุ่มดังลั่นขึ้นมา ทำเอานักเรียนรุ่นน้องรอบๆแตกกระจายออกเป็นวง ทีมกับป้อเดินตามหนุ่ยออกมา ตามมาด้วยแคน ปรีย์ อ้น ทั้งหมดพร้อมที่จะช่วยหนุ่ยเมื่อมีการตะลุมบอนเกิดขึ้น
“กูไปทำอะไรให้พวกมึง”หนุ่ยชี้หน้าพวกมันเรียงตัวแล้วเอ่ยถาม
“กูไม่ชอบขี้หน้าไอ้เหี้ยนี่ว่ะ...”เสียงไอ้วัช หัวโจกในกลุ่มพูดออกมา เพื่อนมันอีก 2 คนลุกขึ้นมา 1 ใน 2 ถือขวดน้ำอัดลมอยู่ในมือ ขณะนั้นหนุ่ยเห็น”น่าน”เริ่มขยับตัวออกจากกลุ่มแล้ว
“กูถามว่ากูไปทำอะไรให้พวกมึง...”หนุ่ยย่างเท้าเข้าไปหามันอีก มันเริ่มมองหน้ากัน...ในสายตาของหนุ่ย...เด็กหนุ่มมองว่ามันเริ่มไม่มั่นใจกันเองแล้ว...
“...กูขอโทษว่ะ...กูคิดว่าตรงนั้นมันเป็นถังขยะ...มีอะไรมั๊ย...กูทิ้งขยะมันผิดเหรอวะ...ฮาฮาฮา”ไอ้วัชหัวเราะลั่น สมุนมันหัวเราะตามไปด้วย หนุ่ยเดินเข้าไปหาทันที สมุนทั้งสองของมันรีบออกมาขวาง
“อย่าเสือก...ถ้ามึงไม่อยากเจ็บตัว”ไอ้นั่นชะงักทันที...มันยังไม่เคยเจอคนจริงอย่างนี้มาก่อน...เลยคิดว่าในโรงเรียนนี้มันแน่สุด...ขณะที่หนุ่ยชี้หน้าไอ้หน้าอ่อนนั่นอยู่ สมุนของไอ้วัชอีกคนกำลังจะฟาดขวดน้ำอัดลมลงมา เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น หนุ่ยจับแขนล๊อกไว้แล้วปล่อยหมัดตรงเข้าที่ปลายคางมันทันที...ผลคือไอ้สมุนจอมวายร้ายลงไปนอนหมดสติอยู่บนพื้น ทำเอาไอ้อีกคนที่กำลังถูกชี้หน้าต้องก้มหน้าแล้ววิ่งออกไปทันที
“อ้าว...ไอ้จอน...ไอ้เหี้ย..ทิ้งกูนะมึง”เสียงไอ้วัชไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันลนลานชอบกล หนุ่ยย่างเท้าเข้าไปดวงตาจ้องมองไปที่ไอ้วัชอย่างเอาเรื่อง หนุ่ยเดินไปถึงเก้าอี้ที่มันนั่งอยู่ ก่อนจะหยิบชามก๋วยเตี๋ยว ที่มันกินไปได้ครึ่งชามราดรดลงบนหัวมัน
“นี่คือการชดเชยสำหรับที่มึงทำกับเพื่อนกู...”ไอ้วัชก้มหน้างุดๆหมดสภาพนักเลงโตประจำโรงเรียน น้ำก๋วยเตี๋ยวเข้าหน้าเข้าตาจนมันร้องลั่นเพราะแสบตา เด็กรุ่นน้องยืนหัวเราะกันลั่น ทุกคนต่างสมน้ำหน้าไอ้วัชเป็นแถว
“และนี่สำหรับเมื่อเช้าที่มึงผลักอกกู”หนุ่ยต่อยเปรี้ยงเข้าไปที่เบ้าตา ไอ้วัชทรุดลงไปนั่งจ้ำเบ้ากับพื้นก่อนจะวิ่งหนีออกไปหลังโรงอาหารด้วยความอับอาย...ปล่อยให้เพื่อนมันอีกคนนอนหมดสติอยู่ตรงนั้น แวบเดียวจริงๆที่เขาเห็น”น่าน”วิ่งตามไอ้วัชไปทางห้องน้ำ หนุ่ยคลางแคลงใจเอามากๆที่”น่าน”ซึ่งเป็นหัวหน้าห้องแท้ๆ กลับไม่เข้ามาห้ามเลยสักนิด ปล่อยให้ไอ้วัชมาแกล้งคนอื่นก่อน ซ้ำยังหลบหน้าหลบตาหนีหายไปอีก เขาอยากจะคุยกับ”น่าน”จริงๆว่ามันเรื่องอะไรกัน ...


ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
«ตอบ #123 เมื่อ19-08-2009 23:20:35 »

มาจิ้มตอนเกือบดึกจ้า

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
«ตอบ #124 เมื่อ19-08-2009 23:43:29 »

หนุ่ย นายเยี่ยมมาก  o13

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
«ตอบ #125 เมื่อ20-08-2009 00:19:36 »

แมนนๆแบบนี้อยากได้จังอิๆ

ออฟไลน์ MonkeYMauS

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
«ตอบ #126 เมื่อ20-08-2009 01:29:17 »

สุดยอดเลย

หนุ่ยสู้ๆ


DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
«ตอบ #127 เมื่อ20-08-2009 02:05:31 »

เด็กใต้ แรงได้ใจจริง 


ถือคติที่ว่า ฆ่าได้ แต่หยามไม่ได้   o18


 :z2:   :z2:

nithiwz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
«ตอบ #128 เมื่อ20-08-2009 02:58:22 »

หนุ่ยแรงนะเรา  ทำเอานายวัชง้อไปเลย
เอ...วัช กับ น่าน จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตหนุ่ยหนอ
ลุ้นๆๆๆ

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
«ตอบ #129 เมื่อ20-08-2009 03:08:19 »

ความใกล้ชิดสนิทสนมระหว่างธีร์กับหนุ่ยเป็นไปอย่างรวดเร็วมากจริงๆ

น่านกะวัช มีซัมธิงรองกันเปล่า
แต่ถึงแม้คราวนี้หนุ่ยจะทำได้แบบนี้ แต่มีศัตรูแน่นอนเลย

ตอนนี้มีพิมพ์ผิดเล็กน้อย แต่ภาษายังอ่านสบายๆเหมือนเดิม
บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
« ตอบ #129 เมื่อ: 20-08-2009 03:08:19 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
«ตอบ #130 เมื่อ20-08-2009 03:27:30 »

 :z2: :z2: :z2:
เข้ามาอ่านเพราะ ธีร์เลยนะเนี่ย 555+
หลงละคนนี้ชอบอะ อ่านแล้วสบายๆไม่เครียดเหมือนเคยนะ
แล้วจะมารออ่านต่อตอนหน้า

นิว

wiwanana

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
«ตอบ #131 เมื่อ20-08-2009 18:42:08 »

น่านกับนายวัชต้องมีอะไรบางอย่างแน่เลยอ่ะ

ลุ้นๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
«ตอบ #132 เมื่อ20-08-2009 22:27:22 »

 o13 สุดยอดเลยน้องหนุ่ย


ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
«ตอบ #133 เมื่อ20-08-2009 23:16:25 »

หนุ่ยร้ายไม่ใช่เล่น



วู้เก่งจิงๆๆๆเลย




ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
«ตอบ #134 เมื่อ21-08-2009 08:46:40 »

เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ kikipanda

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
«ตอบ #135 เมื่อ21-08-2009 13:36:28 »

ว่าแล้ว...น่านดูแปลกๆ พิกล

แต่ตอนนี้หนุ่ยแร๊งงงงงง ได้ใจป้ามาก ตอนเอาก๋วยเตี๋ยวราดวัชนี่ นึกภาพตอนอ้อนธีร์ไม่ออกเลยค่ะ

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 10=
«ตอบ #136 เมื่อ21-08-2009 22:35:36 »

11 โรงพยาบาล

          ช่วงบ่ายหลังจากเกิดเรื่องแล้วศิวัชไม่ได้โผล่มาเรียนอีกเลย “น่าน”ก็พลอยหายไปด้วย ป้อซึ่งเป็นรองหัวหน้าต้องทำหน้าที่แทน อาจารย์เรียกหนุ่ยและเพื่อนทั้งหมดไปสอบสวนแต่ยังไม่มีการลงโทษอะไรกับหนุ่ย เพราะต้องให้ผู้ปกครองมาคุยด้วย ทางคนเจ็บที่ชื่อ “ไอ้ปิง”นั้นแม่มารับไปโรงพยาบาลแล้วพร้อมประกาศจะเอาเรื่องทั้งหนุ่ยและศิวัช อาจารย์สมเกียรติบ่นเรื่องน่านและศิวัชที่หายไปไม่มาพบที่ห้องปกครอง

“ไอ้หนุ่ยกูว่าพวกกูไปส่งมึงที่บ้านดีกว่า...กูว่าไอ้พวกนั้นกลับมาเล่นมึงแน่”ปรีย์มีสัญชาตญาณไวเหมือนสัตว์บางชนิด
“ไม่ต้องหรอก...กูกลับเองได้...พวกมึงกลับไปเถอะ...ขอบใจมากว่ะ”หนุ่ยบอกเพื่อนๆก่อนจะเดินขึ้นรถไฟฟ้า

          จริงดังที่ปรีย์คาดไว้ไม่มีผิด ระหว่างทางเดินเข้าซอยกลุ่มวัยรุ่นท่าทางเกเร 4 คนเดินออกมาจากมุมบ้านร้างข้างทาง หนุ่ยเห็นแล้วแต่ก็เดินเข้าไปเพราะเขาไม่กลัว หนึ่งในสี่มีไม้เบสบอลอยู่ด้วย ขณะนั้นเองกลุ่มเพื่อนๆที่นำโดยทีม ป้อ แคน อ้นและปรีย์ก็เดินตามเข้าซอยมา เพื่อนๆไม่ยอมทิ้งให้หนุ่ยกลับคนเดียวอยู่แล้วเลยตามมาด้วย แต่ทั้งหมดก็ตามมาห่างๆโดยไม่ให้หนุ่ยรู้ตัว เมื่อเห็นหนุ่ยกำลังโดนล้อมกรอบ ทั้งหมดก็วิ่งเข้าตะลุมบอนกัน หนุ่ยพลาดท่าในจังหวะที่เอาตัวเข้าบัง”ป้อ”จากไม้เบสบอล ทำให้ไม้เบสบอลฟาดเข้าที่ท่อนแขน เด็กหนุ่มร้องลั่นขึ้นมาทันที
“โอ๊ย...”หนุ่ยกลิ้งลงไปนอนที่พื้น
“ปี๊น...ปี๊น...ปี๊น...”เสียงบีบแตรดังลั่นถนนทำเอาพวกเด็กอันธพาลพวกนั้นกระเจิงหายไปหมด คนที่วิ่งลงมาถึงหนุ่ยก่อนคือธีร์
“หนุ่ย...หนุ่ย...เป็นอะไรมั๊ย...หนุ่ย...หนุ่ย...”ธีร์ร้องเรียกหนุ่ยเสียงสั่นไปหมดและรีบเข้ามาประคองหนุ่ยขึ้นมาในอ้อมแขน โชคดีที่ธีร์กลับมาพอดี ไม่งั้นเด็กๆอาจจะเจ็บตัวกันมากกว่านี้
“ไม่เป็นไรครับพี่...”หนุ่ยกุมแขนที่โดนฟาดด้วยไม้เบสบอลเมื่อกี้ เขาปวดมากจนร้องออกมาอีกครั้ง
“โอ๊ย...ปวดแขนอ่ะพี่ธีร์...ผมปวดแขน...”หนุ่ยร้องเอามือกุมท่อนแขนไว้ เพื่อนๆรุมกันเข้ามา
“แขนหักแน่เลย...เมื่อกี้ไอ้นั่นมันเอาไม้เบสบอลฟาดลงมา”ป้อพูดเสียงระรัว...เป็นห่วงเพื่อนหนักหนา ถ้าหนุ่ยไม่เอาท่อนแขนมาบังไว้ป้ออาจจะถูกตีที่หัวก็ได้
“ไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ”ธีร์บอกแล้วเข้าประคองหนุ่ยไปนั่งข้างหน้า
“เอ้าเด็กๆขึ้นรถ”พวกเพื่อนๆยกโขยงพากันไปโรงพยาบาลทั้งหมด
“ไหนเล่าให้พี่ฟังสิว่าเกิดอะไรขึ้น”ธีร์เริ่มสอบสวนขณะที่ขับรถฝ่าการจราจรที่ติดอย่างสาหัสไปโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เพราะว่าใกล้ที่สุดแล้ว
          แคนเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ธีร์ฟัง ตั้งแต่วันที่หนุ่ยเข้าไปเรียนวันแรกจนถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ ธีร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“หนุ่ยเอ้ย...เวรกรรมจริงๆ”ธีร์ลูบหัวน้องชายด้วยความเป็นห่วงแล้วหยิบโทรศัพท์รายงานแม่เขาทันที
“ครับแม่...ได้ครับ”ธีร์วางหู
“คุณแม่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด...”ธีร์หันมาบอกกับหนุ่ย
“อย่าเลยพี่ธีร์...พอเถอะครับ...แค่นี้ก็หายกันแล้ว...ผมไปต่อยเพื่อนมันซะสลบไปเลย”หนุ่ยร้องขอไม่ให้เอาเรื่อง เขากลัวเรื่องจะยาวไม่จบ
“เดี๋ยวคุณแม่จะมาที่โรงพยาบาล...หนุ่ยคุยกับท่านเองแล้วกัน”
“ครับพี่...ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้นะพี่...ผมขอโทษครับ..”หนุ่ยก้มหน้า...พลางกุมแขนแล้วครางออกมาด้วยความเจ็บปวด
“เป็นไงบ้าง...ปวดเหรอ...”ธีร์ห่วงใยอย่างที่สุด ถ้าความเจ็บปวดของหนุ่ยครั้งนี้เขาเจ็บแทนได้เขาเต็มใจที่จะรับเอาไว้เอง
“หนุ่ย...มึงปวดมากมั๊ย...มึงอย่าหลับนะ”ปรีย์เอ่ยขึ้นมา
“โป๊ก...”ทีมเขกหัวปรีย์เสียงดัง
“ไอ้เหี้ยทีม...มึงเขกหัวกูทำไมอ่า”
“ไอ้ควายเอ้ย...ไอ้หนุ่ยมันไม่ได้โดนงูกัดซะหน่อย...ให้มันหลับไปเถอะ...”ไอ้ทีมพูด ทุกคนหัวเราะออกมาไม่เว้นแม้แต่หนุ่ยซึ่งแทบจะหัวเราะทั้งน้ำตาทีเดียว ปวดก็ปวด ขำก็ขำ
“หลับให้สบายนะไอ้หนุ่ย...”ไอ้ปรีย์พูดออกมาอีก
“โป๊ก...”ไอ้แคนตบหัวไอ้ปรีย์อีก
“ไอ้แคนตบหัวกูทำไม...สาดดด...เจ็บนะเว้ย”ปรีย์คลำหัวป้อยๆ
“ไอ้หนุ่ยมันยังไม่ตาย...พูดอย่างกับจะให้มันตาย...ถึงโรงบาลแล้ว...หนุ่ยมึงไม่ต้องหลับแล้ว...พวกมึงลงๆๆ”แคนไล่เพื่อนลงจากรถ เจ้าหน้าที่รีบเอารถเข็นมารับตัวหนุ่ยแล้วเข็นเข้าห้องฉุกเฉินทันที ธีร์และเด็กๆทั้งหมดรีบเดินตามเข้าไปด้วยแต่โดนกันออกมาก่อน ถ้าขืนให้เข้าไปอาจจะวุ่นวายมากกว่านี้
“หนุ่ยจะเป็นอันตรายมั๊ยวะ”ปรีย์ถามขึ้นมา
“ถึงโรงบาลแล้ว...ไม่มีอะไรมากแล้วละ”อ้นซึ่งเงียบมานานพูดขึ้นมาบ้าง
“มันจะโดนตัดแขนมั๊ยวะ...”ไม่มีใคร...ไอ้ปรีย์คนเดิม
“ไอ้สาดดด...ไอ้หนุ่ยมันแค่กระดูกหัก...เอาไว้แขนมึงหักก่อนนะกูจะบอกหมอให้ตัดแขนมึงเอง”ป้อหันมาด่าไอ้ (ปากอับ)ปรีย์...
“สมฉายามึงจริงๆ...ไอ้ปากอัปปรีย์”ไอ้แคนว่าแล้วก็เตะตูดไอ้ปรีย์ดังป้าบ...
“แม่งแกล้งกูอยู่คนเดียว...เดี๋ยวกูน้อยใจนะมึง”ปรีย์หน้างอเดินหนีเพื่อนๆไปนั่งข้างธีร์ที่กำลังให้ปากคำกับตำรวจอยู่ ภาณีนั่นเองที่โทรไปหาผู้กำกับฯ

          สักพักหมอเรียกธีร์เข้าไปที่ห้องพักแพทย์แล้วอธิบายให้ฟังพร้อมดูฟิล์มเอกซเรย์ ว่าหนุ่ยกระดูกแขนช่วงระหว่างข้อศอกถึงข้อมือ ท่อนด้านนอกหัก ต้องผ่าตัดเพื่อดามเหล็ก คืนนี้ต้องนอนพักที่โรงพยาบาลก่อนพรุ่งนี้ถึงจะทำการผ่าตัดได้ ธีร์พยักหน้ารับทราบและเซ็นชื่อยินยอมให้ทำการผ่าตัด คืนนั้นหลังจากที่ภาณีมาดูอาการแล้วและฝูงลิงทั้งหลายกลับบ้านไป ธีร์มาเฝ้าหนุ่ยที่โรงพยาบาล ชายหนุ่มกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านเรียบร้อยแล้วก็มาทำหน้าที่พี่ชายที่ดี
“พี่ธีร์ครับ...ปวดครับ...”หนุ่ยร้องออกมากลางดึกเมื่อมันไม่ไหวจริงๆ ตอนนี้แขนเขาบวมมากและความเจ็บปวดจากกระดูกหักนี่มันแสนสาหัสจริงๆ
“พี่เรียกพยาบาลให้นะ...หนุ่ยอดทนหน่อยนะ”ธีร์กดปุ่มเรียกเจ้าหน้าที่
“ครับ...ผมทนครับ...”หนุ่ยตัวร้อนจัดจนธีร์รู้สึกได้จากการจับเนื้อตัว
พี่เช็ดตัวให้นะ...ตัวจะได้ไม่ร้อน”ธีร์เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามเนื้อตัวของหนุ่ย ทั้งหน้าท้อง แผ่นหลัง แขน ขา เด็กหนุ่มรู้สึกดีขึ้นแต่ความปวดยังไม่หาย
“พยาบาลมาฉีดยาให้แล้วนะหนุ่ย”ธีร์กระซิบบอกหนุ่ยเบาๆ พยาบาลเดินยาจากเข็มเข้าสู่ท่อน้ำเกลือช้าๆ

          สักพักหนุ่ยก็หลับลงไปท่ามกลางการเฝ้ามองของธีร์ ชายหนุ่มแทบจะไม่ได้หลับเลย เขานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง มือของพี่ชายคนนี้กุมอยู่ที่มือของน้องชายสุดที่รักตลอดเวลา หนุ่ยขยับตัวเขาก็ตื่นทันที
“เอาอะไรมั๊ย...เป็นไงบ้าง”ธีร์พูดพลางเอามือลูบไล้ไปตามตีนผมที่หน้าผากของหนุ่ยเบาๆ เม็ดเหงื่อชื้นที่ไรผมอ่อนๆ
“พี่ธีร์ครับ ผมปวดแขนจังเลยครับพี่...”หนุ่ยมองหน้าธีร์แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา มันย้อยจนเปียกหมอนเป็นดวงๆ
“เดี๋ยวพี่เรียกหมอให้นะ...ทนไหวมั้ย”ธีร์กดปุ่มเรียกพยาบาลอีกครั้ง

“อดทนหน่อยนะคะ...คุณหมอสั่งยาไว้แค่นี้...คือยามันค่อนข้างแรงนะค่ะ...ให้ติดกันเกินคำสั่งหมอไม่ได้”พยาบาลอธิบายแต่มันก็ยังไม่ทำให้ธีร์พอใจ
“แล้วน้องผมปวดอย่างนี้...จะให้ทำยังไง...คุณไม่มีแพทย์เวรหรือไง...เรียกแพทย์เวรมาดูก็ได้นี่...หรือจะปล่อยให้คนป่วยนอนปวดอย่างนี้...หา...”ธีร์ตวาดพยาบาลด้วยเสียงที่ดังอย่างไม่พอใจ
“เดี๋ยวถามแพทย์เวรให้นะคะ”พยาบาลลนลานออกไป
“พี่ธีร์ครับ...ไม่เป็นไรครับ...ผมทนได้”หนุ่ยกุมมือธีร์แล้วดึงไว้
“ไม่ได้หรอก...หนุ่ยนอนปวดอยู่อย่างนี้...พี่ทนไม่ไหวหรอก...”ธีร์เอานิ้วปาดน้ำตาที่แก้มของน้องชาย ธีร์มองหน้าหนุ่ย แสงจากโคมไฟด้านนอกสาดเข้ามา ดวงหน้าใสๆผมยุ่งเหยิงชี้ไปทุกทิศทางที่มันจะชี้ไปได้ นัยตากลมโตสีสนิมเหล็กที่ดูไร้เดียงสา เด็กน้อยอ่อนต่อโลกนัก
“พี่ธีร์ผมฝันถึงย่า...พี่ธีร์ย่ามาหาผม...”หนุ่ยร้องไห้ออกมาอีก ปกติแล้วหนุ่ยเป็นเด็กที่เข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ แต่สิ่งที่มากระทบจิตใจบางเรื่องเท่านั้นที่สามารถเรียกน้ำตาของเด็กหนุ่มคนนี้ได้
“พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะครับ...ไม่ต้องกลัว...ไม่ต้องร้องไห้...”ธีร์ก้มลงไปกอดเด็กหนุ่มคนนี้ไว้ในอ้อมแขน...เด็กที่ขาดความอบอุ่นจากพ่อและแม่...ไม่เคยมีแม้แต่พี่ชาย...ตอนนี้หนุ่ยมีครบแล้วทุกอย่าง...แต่ว่า...ไม่เคยมีพร้อมหน้าพร้อมตากันสักครั้ง...


ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 11=
«ตอบ #137 เมื่อ21-08-2009 22:46:07 »

 :z2: :z2: :z2:
ภาษายังคงความสลวยไว้ได้เช่นเคย
เรื่องก็ยังคงเดินไปในทางที่มันควรจะเป็นจะอะไรก็แล้วแต่จะรออ่านต่อนะคราบ

ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 11=
«ตอบ #138 เมื่อ21-08-2009 22:48:18 »

มาจิ้มก่อนเข้านอนจ้า

ธีร์ใจดีจังเลย

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 11=
«ตอบ #139 เมื่อ21-08-2009 23:11:15 »

ต้องเอาคืนพวกมัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 11=
« ตอบ #139 เมื่อ: 21-08-2009 23:11:15 »





ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 11=
«ตอบ #140 เมื่อ21-08-2009 23:59:03 »

น่าสงสารจังเลย

wichit14

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 11=
«ตอบ #141 เมื่อ22-08-2009 00:43:04 »

คุณแม่จะเข้าไปจัดการยังงัยน้า..อยากรู้จัง สงสัยตอนนี้ธีร์รักหนุ่ยเข้าไปเต็มใจแล้วหล่ะ จะรอตอนที่ 12 น่ะครับ

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 11=
«ตอบ #142 เมื่อ22-08-2009 01:18:09 »

12 แอฟริกาใต้

“ไอ้น่าน...กูเจ็บ...เบาๆหน่อยสิ...”เสียงเกรี้ยวกราดของศิวัชดังลั่นห้อง
“เจ็บเหรอ...ขอโทษนะ...น่านจะทำเบาๆ” น่านเสียงอ่อยลง แล้วทำแผลแตกที่หางตาอย่างเบามือ
“น่านบอกวัชแล้ว...อย่าไปแกล้งเค้าก็ไม่เชื่อ”น่านพูดเบาๆพลางเก็บเครื่องมือปฐมพยาบาลลงกล่อง
“ทำไมกูต้องเชื่อมึง... มึงเข้าข้างมันเหรอ...ไอ้น่าน...”ศิวัชตวาดลั่นด้วยความโมโหน่าน...และลูกสมุนทั้งหลายที่ต่างโดนไอ้บ้านนอกเล่นซะอ่วม
“ไอ้เหี้ยจอน...อย่าให้กูเจอนะมึง...จะอัดแม่งให้น่วมเลย”ศิวัชคำรามในคอ
“มันคงกลัว...น่านเคยเตือนแล้วเรื่องไอ้จอน...มันก็มาคบกับวัชแค่กินเที่ยวไปวันๆเท่านั้นแหละ...”น่านพูดแบบไม่มั่นใจ
“ไอ้บ้านนอกนี่แม่งหมัดหนักฉิบหาย...ต่อยไอ้ปิงสลบเลย...มันเป็นไงมั่งน่านรู้มั๊ย”ศิวัชหันมาถามน่านที่กำลังทาแซมบัคลงบนโหนกแก้ม
“เดี๋ยวถามให้...”น่านหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์รุ่นน้องคนหนึ่งที่โรงเรียนเพื่อถามข่าวคราวของไอ้ปิง สมุนมือขวาของศิวัช
“นนท์...ปิงมันเป็นไงบ้างวะ...”เสียงน่านพูดเร็วๆผ่านโทรศัพท์มือถือ
“เหรอ...อืม...อืม...แม่มันไม่ยอม...ด่าวัช...อืมมม...ขอบใจว่ะ”น่านวางหู หันมาหาศิวัชที่กำลังมองหน้าอย่างอยากรู้ที่สุด
“แม่มันมารับตัวไปโรงบาล...แล้วแม่มันประกาศจะเอาเรื่องไอ้หนุ่ย...แล้วก็วัชด้วย...”น่านพูดเสียงอ่อยลง
“เอาเรื่องกู...เรื่องอะไรวะ...”ศิวัชเดือดดาลเป็นที่สุด
“ก็เรื่องที่เป็นหัวโจก...เค้าบอกลูกเค้าน่ะเป็นเด็กดีพอมาคบกับวัชเลยเป็นแบบนี้...ส่วนเรื่องหนุ่ยน่ะไม่เท่าไหร่เพราะมีคนบอกอาจารย์ว่าหนุ่ยป้องกันตัว ไอ้ปิงจะเอาขวดไปตีหัวหนุ่ยก่อน”น่านอธิบายยาวเหยียดและพูดเพื่อให้เพื่อนรักรู้สึกดี แต่
“อีเหี้ย...ลูกมันน่ะเหรอเด็กดี...เล่นทั้งเคเล่นทั้งไอซ์เนี่ยนะ...ลูกกูเป็นเด็กดี....เดี๋ยวกูจะแฉแม่งให้หมดเลย...ว่ามึงเป็นเจ้ามือหวยรายใหญ่...ไอ้หนุ่ยอีกตัว...กูไม่จบแค่นี้หรอก...มึงรู้จักกูน้อยไป...ไอ้สัตว์...”ศิวัชตาลุกวาว ประกาศกร้าวด้วยความเคืองแค้นเป็นที่สุด...เพราะสุดท้ายแล้วเค้าเองต้องรับผิดชอบเต็มๆกับเหตุการณ์นี้ ศิวัชหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ลงไป
“พี่อุ้ย...หาคนให้สักสี่ห้าคนได้มั๊ย...”ศิวัชพูด
“......”
“วันนี้เลย...เลิกเรียน...ในซอยบ้านมัน...พี่ก็ให้เด็กพี่สะกดรอยตามมันไปสิ...เออ...เดี๋ยวผมให้คนของผมไปชี้เป้าให้...เอาเบอร์ไปเลย”ศิวัชหันมาหาน่านขอเบอร์ไอ้นนท์เพื่อนรุ่นน้องที่อยู่แก๊งเดียวกันให้เป็นคนชี้ตัวหนุ่ย...
“........”
“เอาแค่เบาะๆก็พอ...ไม่ต้องถึงตาย...”ศิวัชบงการ
“...........”
“ผมให้พี่หมื่นนึง...”ศิวัชบอกไปก่อนวางหู
“อย่าให้เรื่องมาถึงผมนะ...เดี๋ยวโอนให้ก่อนห้าพัน...ที่เหลือดูตามผลงาน”ศิวัชพูดอย่างมีเชิง
“วัชจะทำอะไร...มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ...น่าจะจบได้แล้วนี่”น่านปรามศิวัช...เขาไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายจนจบไม่ลงอย่างนี้ เด็กหนุ่มเป็นห่วงศิวัชมากๆ เขาไม่อยากให้มีเรื่องกันเลยจริง...แต่เค้าไม่สามารถจะทำให้ศิวัชมองเห็นความหวังดีของเขาได้เลย ศิวัชเป็นคนเอาแต่ใจ...ถูกเลี้ยงด้วยเงินมาตั้งแต่เล็กๆ...

          ศิวัชเป็นเด็กที่มีปัญหา พ่อแม่แยกทางตั้งแต่เค้ายังเล็กๆ แม่แต่งงานใหม่กับเศรษฐีชาวแอฟริกาใต้ ซึ่งตอนนี้มีกิจการโรงแรมอยู่ที่นั่น ส่วนพ่อของเขาเป็นนักธุรกิจอยู่ที่อเมริกาทั้งเปิดบริษัทนำเข้าส่งออก บ้านศิวัชมีฐานะร่ำรวยมาก แต่ลูกคนเดียวไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่เลย ทั้งคู่อยากให้ศิวัชไปอยู่กับตนในต่างประเทศด้วย แต่ศิวัชไม่ไปเพราะเขาโตขึ้นมากับตาและยาย ตายายเลี้ยงดูเขาซึ่งเป็นหลานคนเดียวมาตลอด ทั้งสองท่านทำงานสาธารณกุศลจนแทบไม่มีเวลาเลี้ยงดูหลาน ปล่อยให้หลานอยู่กับคนรับใช้บ้าง เพื่อนบ้าง ให้เรียนโรงเรียนที่คิดว่าดีที่สุด ใกล้บ้านที่สุด ศิวัชน่าจะมีเพื่อนที่ดีแต่ก็กลับไปคบกับเด็กเกเรซึ่งเป็นลูกของคนรับใช้ในบ้าน ก่อเรื่องให้ปวดหัวอยู่เป็นประจำ ก็ไอ้พี่อุ้ยนั่นแหละที่เป็นนายหน้าจัดหาทุกอย่าง...ทั้งเหล้า ทั้งยาสารพัด แต่อีกมุมนึงของชีวิต ศิวัชรักตากับยายมาก ถ้าหลายๆคนมาเห็นอีกมุมที่ว่านี้ ทุกคนต้องหลงรักเด็กหนุ่มคนนี้    ศิวัชพูดเพราะ ออดอ้อนตากับยายเสมอ ถ้าว่างเด็กหนุ่มจะขับรถเอง เพื่อพาตากับยายไปเที่ยว ไปซื้อของหรือไปธุระ...เขาทำได้ทุกอย่างถ้าตากับยายสั่ง แต่ห้วงเวลาเหล่านั้นไม่ค่อยมีสักเท่าไหร่ เพราะเดี๋ยวนี้ตากับยายไม่มีเวลาเหมือนก่อน เด็กหนุ่มทั้งเหงาและว้าเหว่ จนมี”น่าน”เข้ามาในชีวิตอันเงียบเหงาของเขา

          ตอนเข้าเรียนม.สี่ใหม่ๆ ศิวัชย้ายโรงเรียนมาจากที่อื่น เขาไม่มีเพื่อนเลย จนได้มานั่งคู่กับ”น่าน” ทั้งสองสนิทกันอย่างรวดเร็ว น่านเป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก นิสัยดี ช่วยเหลือศิวัชทุกอย่าง ทั้งสองสนิทกันอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นคู่ปาท่องโก๋คู่หนึ่งเลยทีเดียว

          ย้อนกลับไปเมื่อก่อนสอบไล่เทอมที่ผ่านมานั้นเอง ทั้งสองต้องจับคู่ทำรายงานด้วยกัน ทำให้น่านต้องมาทำรายงานที่บ้านของศิวัช จนคืนสุดท้ายที่ทำรายงานเสร็จ
“เหนื่อยจังเลย...”น่านล้มตัวลงนอนข้างๆศิวัช น่านรู้สึกหวาบหวิวยังไงบอกไม่ถูก ตั้งแต่เขาพบกับศิวัชในวันแรกที่โรงเรียน เด็กผู้ชายผมรองทรง หน้าใสๆ จมูกโด่งคล้ายลูกครึ่ง ริมฝีปากที่หยักสวยแต่แดงคล้ำเล็กน้อยเหมือนคนที่สูบบุหรี่อยู่ประจำ นอกจากแผลเป็นที่ปลายคางแล้วใบหน้าเรียวๆรูปไข่นั้น ไม่ได้บ่งบอกเลยว่าเด็กหนุ่มจะเป็นคนที่เอาแต่ใจและมีเรื่องตีรันฟันแทงอยู่เป็นประจำ
“ขอบคุณมากนะน่าน...”เสียงแหบพร่าของศิวัชกระซิบอยู่ที่ข้างหู ทำเอาน่านขนลุกขึ้นมาทันที
“เรื่องอะไร...”น่านหันไปมองหน้าศิวัชที่อยู่ใกล้แค่คืบ ลมหายใจรินรดกัน ทำให้น่านรู้สึกว่าศิวัชตั้งใจมากกว่าเผลอทำลงไป
“ก็เรื่องที่น่านมาทำรายงานให้วัชไง...”ศิวัชพูดเพราะกับน่านมากๆเวลาที่อารมณ์ดีหรือถ้าน่านตามใจเขา
“ยังไงน่านก็ต้องทำอยู่แล้ว...วัชไม่ต้องคิดมากหรอก...”น่านพูดกับวัช มันใกล้กันจนเกือบจะเผลอใจไปกับลมหายใจอุ่นของศิวัช
“ถ้าวัชไม่ได้รู้จักน่าน...วัชคงไม่มีเพื่อนเลย...น่านรู้มั้ยวัชเหงามากเลยนะ...”ศิวัชซบลงบนหน้าอกของน่าน จังหวะการหายใจเปลี่ยนไป น่านใจเต้นระรัวเป็นกลองเพล ทำไมศิวัชต้องมานอนซบอย่างนี้ด้วย มันทำให้น่านรู้สึก...ใจสั่นไปหมด
“น่านอยู่นี่ไง...น่านไม่ไปไหนหรอก...น่านเป็นเพื่อนกับวัช...ไม่ว่าใครจะว่าอะไร...น่านจะยืนอยู่ข้างๆวัชนะ...”น่านลูบไล้ปลายนิ้วไปที่สันจมูกของศิวัชแผ่วเบา เขาสงสารและเห็นใจเพื่อนคนนี้เหลือเกิน ศิวัชใจร้อนและชอบก่อเรื่องไปทั่ว จนเพื่อนๆในห้องไม่มีชอบหน้า มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้น...คนเดียวจริงๆ
“ขออะไรอย่างได้มั๊ย...”น่านพูดเบาๆ
“หืม...ถ้าน่านขอ...วัชให้ได้ทั้งหมดแหละ...ยกเว้นเดือนกับดาวนะ...”วัชยิ้มตาหยี ฟันสีขาวเรียงกันเป็นระเบียบ
“วัชอย่าก่อเรื่องชกต่อยอีกเลยนะ...น่านไม่อยากให้วัชไปมีเรื่องกับใครเลย” น่านพูดจบ ความเงียบเข้ามาเยือน เหมือนกับมีเส้นบางๆขึ้นมากั้นระหว่างคนสองคน
“ถ้ามีใครมากวนตีนก็ต้องสั่งสอนมันบ้าง...เอาว่าเวลาที่มีเรื่องน่านก็ถอยออกไปห่างๆก็แล้วกัน...วัชกับลูกน้องจัดการได้อยู่แล้ว...”ศิวัชพูดแล้วยิ้ม ตั้งแต่เด็กสิ่งที่ศิวัชเห็นเป็นประจำคือการที่พ่อทำร้ายแม่ เขาเกลียดพ่อ เขารักแม่มาก ศิวัชไม่เคยเจอหน้าพ่อเลย ตลอดเวลาที่พ่อเดินออกจากชีวิตเขาไป ถ้าพ่อโทรมาหา เขาจะพูดด้วยน้อยมาก แทบจะนับคำได้ ขณะเดียวกันเขาจะคุยกับแม่ค่อนข้างบ่อย
“วัชทำให้น่านไม่ได้...ใช่มั๊ย...”น่านเสียงเครียดขึ้นมาจนศิวัชจับความรู้สึกได้
“ไม่เอาน่าน่าน...อย่าอารมณ์เสียสิ...เอาเป็นว่าวัชจะพยายามก็แล้วกันนะ”ศิวัชยิ้มให้น่าน มันเป็นรอยยิ้มที่อ่อนหวานที่สุดครั้งเดียวที่น่านได้เห็นจากเพื่อนรักคนนี้ เพราะหลังจากนั้น”น่าน”ก็ไม่ได้เป็นเพียง”เพื่อนรัก”ของวัชอีกต่อไป ฐานะของเพื่อนมันสิ้นสุดลงแล้วนับแต่...วินาทีนั้น
“น่าน...”เสียงวัชแหบพร่า
“หืม...”ดวงตาหวานๆของน่านมองลงมาที่ดวงตาของวัช ใบหน้าอันงดงามของเด็กหนุ่มทั้งสองห่างกันไม่ถึงนิ้ว ลมหายใจอุ่นๆรินรดกัน ศิวัชประกบปากของเขากับริมฝีปากบางๆของน่าน ลิ้นสอดประสานกันราวใบไม้ที่แตกยอดอ่อนล้อเล่นลม ความรู้สึกวาบหวิวเกิดขึ้น น่านใจสั่นหวิว...เหมือนกับมันจะขาดใจตายลงตรงนั้น มือไม้ป่ายเปะปะกอดรัดเพื่อนรักไว้ในอ้อมแขน ความคับแน่นในร่องรอยแห่งรักที่สอดประสาน บทรักที่เพื่อนรักมอบให้ มันเจ็บปวดและซ่านเสียวไปพร้อมๆกัน เขาอยากหยุดเวลานี้ไว้ให้นานๆ ไม่อยากให้มันหายไป อยากอยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไป เรือนกายของเด็กหนุ่มสอดประสานกันอย่างลงตัว ทั้งแผ่วเบา ทั้งรุนแรง กระแทกกระทั้น ตามพลังแห่งความรัก ความผูกพันที่มีให้กัน

“วัช...น่านรักวัชนะ”น่านนอนซบลงบนอกที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของคนรัก
“วัชก็รักน่าน...น่านอย่าทิ้งวัชไปไหนนะ...”วัชจับใบหน้าของน่านขึ้นมาแล้วระดมจูบไปทั่วใบหน้า
“พอแล้ววัช...เดี๋ยวช้ำหมด...หอมแรงจัง” น่านดิ้นหนี แต่ก็ไม่พ้นเงื้อมมือของวัชไปได้
“ขอวัชอีกครั้งนะ...ที่รัก...”เสียงของ”วัช”บ่งบอกถึงความต้องการอย่างที่สุด มันทำให้น่านไม่อาจหลีกเลี่ยงอารมณ์อ่อนไหวนั้นไปได้ จนแล้วจนรอดน่านก็ไม่หลุดพ้นอ้อมขาของวัชไปไหนได้ จวบจนแสงแห่งยามรุ่งอรุณมาเยือน

“วัช...ตื่นเถอะ...ไม่ไปโรงเรียนเหรอ...”น่านปลุกวัชให้ตื่น ร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งคู่กอดรัดกันอยู่ใต้ผ้าห่ม ใจน่านเองก็อยากจะอยู่กับวัชอย่างนี้นานๆ ไม่อยากไปเรียนเลย แต่ด้วยภาระหน้าที่ของหัวหน้าห้อง เขาต้องจำใจตื่น
“วัช...ใกล้สอบแล้วนะ...ต้องไปเรียนนะครับ”น่านเขย่าร่างกายเปลือยเปล่าของวัช มัดกล้ามแน่นหนันไปทุกส่วน ไรขนที่หน้าอกมันลามลงไปจนถึงเนินหน้าท้อง น่านนอนซบลงที่หน้าอกเด็กหนุ่มฟังเสียงหัวใจที่เต้นเบาๆ พลางเอามือลูบไล้ไรขนสีดำสนิท ที่มันเลื้อยลามลงไปเบื้องล่างที่อยู่ใต้ผ้านวมผืนหนา สัญลักษณ์แห่งความรักที่วัชมอบให้เขาเมื่อคืนนี้ มันอ่อนตัวนอนสงบนิ่งอยู่ มันไม่เหมือนกับเมื่อคืนเลย...ที่ดูโชนเขม็งและดุดัน...ตอนนี้มันดูไร้พิษสงและสงบเสงี่ยมจริงๆ น่านปิดผ้าห่มลง
“ทำอะไรอ่ะครับ...แอบดูเหรอ...”เสียงวัชแหบพร่า
“เปล่า...ทำไมมันไม่น่ากลัวเลยวัช”น่านเอื้อมมือลงไปจับเล่น...
“เดี๋ยวมันตื่นจะเจ็บตัวอีกนะ...”วัชยิ้มแล้วจับน่านให้มานอนหนุนแขน
“วัช...ตื่นเถอะ...ไปเรียนนะ...”น่านบอกเป็นครั้งที่สาม
“อืม...ไม่ไปไม่ได้เหรอ...วัชอยากนอนกอดกับน่านทั้งวันเลยรู้มั๊ย...ไม่ต้องไปหรอกนะ...”วัชลูบไล้เรือนร่างของน่าน เขาลากนิ้วผ่านหัวนมที่แข็งเป็นไตของน่าน และน่านต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายลิ้นลากผ่านซ้ำลงไปอีก เกมส์แห่งรักเริ่มอีกครั้ง
...............................................


“ป้อเหรอ...น่านเองนะ...ป้อช่วยรวบรวมรายงานส่งอาจารย์สมเกียรติที่สิ...น่านไม่สบายอ่ะ...ไปไม่ไหวจริงๆ...ส่วนรายงานของน่านกับ...เอ่อ...วัชน่ะ...เดี๋ยวจะให้คนเอาไปฝากไว้ที่ยามหน้าประตู...วานป้อออกมาเอาไปส่งให้หน่อยนะ...นะป้อนะ...”เสียงออดอ้อนเพื่อนได้ผลเสมอ...ป้อเป็นคนใจดี ทั้งสองเป็นหัวหน้าและรองฯที่เข้าขากันมาก ตอนที่ป้อเป็นอีสุกอีใสเมื่อเทอมที่แล้ว...น่านนี่แหละที่ทำการบ้านส่งให้ตลอด...จนศิวัชแอบเหน็บแนมตลอดเวลา เป็นอีกเหตุผลที่ศิวัชไม่ค่อยชอบหน้าป้อ...ศิวัชหึงเหรอ...ไม่ใช่หึงแต่รู้สึกว่าไม่ค่อยชอบใจที่น่านทำอะไรให้ใคร...

“มองอะไร...”น่านถามศิวัชที่มองตามตลอดเวลาที่น่านเดินคุยโทรศัพท์อยู่ปลายเตียง
“ก็ฟังอยู่ว่าน่านคุยอะไรมากกว่านี้มั๊ย...”ศิวัชหันหลังให้หลับตาลง น่านกระโดดขึ้นเตียงเข้าไปกอดกับเด็กหนุ่ม
“บ้ารึเปล่า...วัชเนี่ย...ไม่เข้าเรื่องเลย...น่านไม่ได้คิดอะไรกับป้อเลยนะ”น่านกอดวัชไว้แล้วก็หอมแก้ม
“วัชกลัวว่าน่านจะไม่รักวัชน่ะสิ”  วันนั้นทั้งวัน...เด็กหนุ่มทั้งสองต่างอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน...

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 11=
«ตอบ #143 เมื่อ22-08-2009 01:47:01 »

แล้วจะเปนยังงัยต่อนะ    อยากรู้จังเลย



วัช จะเข้ามารบกวน หนุ่ย แบบไหนนะ



ทั้ง ๆ ที่ วัช ก้อมี น่าน อยู่แล้ว



จะมีบทชิงรักหักสวาทกันหรือป่าวนะ




 :z2:    :z2:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 12=
«ตอบ #144 เมื่อ22-08-2009 01:53:36 »

ลุ้นคู่หนุ่ยกะธีร์ด้วย

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 12=
«ตอบ #145 เมื่อ22-08-2009 01:57:21 »

ศิวัชก็มีปมชีวิตมากมาย น่าสงสารเหมือนกัน
เด็กที่เติบโตมาโดยปราศจากผู้ชี้นำที่ดี แต่กลับได้คนใกล้ชิดที่เป็นไปในทางตรงข้ามโดยสิ้นเชิง
แล้วแบบนี้ความขัดแย้งระกว่างหนุ่ยกับศิวัชมันจะลุกลามขนาดไหนกันนะ
บวก 1 แต้ม รออ่านต่อไป ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 12=
«ตอบ #146 เมื่อ22-08-2009 05:31:36 »

 :L2:เป็นกำลังใจให้ครับบบ

ธีร์กับหนุ่ยสู้ๆ

ศิวัชก็เหมือนกัน ไม่น่ามาโกรธกับหนุ่ยเลย

wichit14

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 12=
«ตอบ #147 เมื่อ22-08-2009 11:06:00 »

แล้วมันจะลงเอยแบบไหนเนี่ย ดูแล้วรวย ๆ กันทั้งนั้น

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 12=
«ตอบ #148 เมื่อ22-08-2009 11:20:01 »

วัชเองก็มีมุมเศร้าๆเหมือนกันน่ะ

ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 12=
«ตอบ #149 เมื่อ22-08-2009 13:27:23 »

ว่าแล้ว

วัช กะ น่านอะ

เหลือแต่ ธีร์กะหนุ่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด