ระโนด <by ต้นคุง>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ระโนด <by ต้นคุง>  (อ่าน 199091 ครั้ง)

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 12=
«ตอบ #150 เมื่อ22-08-2009 15:50:04 »

ธีร์นี่เปลี่ยนไปในทางดีมากๆเลยนะนี่ ผิดไปจากตอนแรกยังกะคนละคน

นายวัชก็เป็นเด็กมีปัญหา หวังว่าน่านคงจับนายวัชอบรมให้ดีขึ้นได้มั่งนะ

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 12=
«ตอบ #151 เมื่อ23-08-2009 06:36:29 »

13 ห้องปกครอง

          อาจารย์ฝ่ายปกครองเรียกผู้ปกครองของเด็กที่มีเรื่องกันไปพบที่ห้องประชุมเพื่อพูดคุยกันในเรื่องนี้ ธีร์และหนุ่ยนั่งอยู่ด้วยกัน คุณโสภาพรรณ เจ้ามือหวยรายใหญ่ เอ้ย...แม่ของปิงเมือง นั่งอยู่กับลูกชายสุดหล่อที่ตอนนี้ปากบวมเจ่อเป็นลูกครุฑ ส่วนศิวัชนั่งโหนกแก้มเขียวปั๊ดอยู่กับพลโทสง่า ชลวินิตย ผู้ที่เป็นคุณตา ทั้งสามฝ่ายต่างมารับทราบกฎระเบียบการลงโทษนักเรียนของโรงเรียน และหาทางแก้ปัญหาร่วมกันในแนวทางสันติวิธี หนุ่ยและปิงโดนทำทัณฑ์บนไว้ ห้ามไม่ให้มีเรื่องอีกเป็นครั้งที่สอง และโดนตีอีกคนละ 3 ที ส่วนค่าเสียหายธีร์ยอมชดใช้ค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญให้คุณโสภาพรรณ ที่หนุ่ยไปต่อยปิงจนสลบ คุณโสภาพรรณพอใจเรื่องจึงจบลงไป ส่วนศิวัชนั้นอาจารย์ให้กล่าวขอโทษหนุ่ย ที่ใช้วาจาก้าวล่วงและดูถูก

“นายศิวัช...ครูสั่งให้ขอโทษศิลปิน...เธอไม่ได้ยินเหรอ...”อาจารย์สมเกียรติเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกร้าว
“............”  เงียบ...ไม่มีปฏิกิริยาจากศิวัช
“............”
“เจ้าวัช...ไปขอโทษเพื่อนสิลูก”เสียงพลโทสง่าดังกังวานออกมา คุณตาที่นั่งนิ่งมานานเอ่ยขึ้นมา บ่อยครั้งเหลือเกินที่คุณตาต้องออกโรงเอง...ท่านไม่อยากให้หลานชายต้องเป็นแบบนี้เลย ทุกครั้งที่มาโรงเรียนด้วยเรื่องแบบนี้ท่านรู้สึกอายจริงๆ
“เราขอโทษ...ที่ล่วงเกินนายด้วยวาจา...เราจะไม่ทำอีก”  ศิวัชพูดเบาๆแต่ทุกคนในห้องได้ยิน
“ไม่เป็นไร...เราไม่โกรธนาย...ทุกอย่างจบลงไปแล้ว” หนุ่ยยื่นมือข้างที่ไม่หักออกมาให้จับแต่วัชไม่จับด้วย...

          หลังจากที่ทุกคนยกเว้นพลโทสง่าและศิวัชออกมาจากห้องประชุม หนุ่ยก็เข้าไปขอโทษคุณโสภาพรรณและปิง
“ผมขอโทษคุณน้าด้วยที่ระงับอารมณ์ไม่ได้...ผมเสียใจ...และจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก”หนุ่ยพยายามจะยกเฝือกขึ้นมาอีกข้างเพื่อไหว้ขอโทษคุณโสภาพรรณและปิง
“ไม่เป็นไรหรอก...ทีหลังจะทำอะไรก็ระวังหน่อยก็แล้วกัน...คิดก่อนทำนะ...จำไว้” คุณโสภาพรรณหันหลังเดินไปขึ้นรถ ส่วนปิงที่ยังยืนอยู่ตรงนั้น หนุ่ยก็ยื่นมือออกไปให้จับพร้อมกับพูดว่า
“ขอโทษนะ...เราไม่ได้ตั้งใจให้มันรุนแรงอย่างนี้...”
“ไม่เป็นไร...เราเองก็ต้องขอโทษนายเหมือนกัน...ที่พยายามทำร้ายนายก่อน” ปิงกับหนุ่ยจับมือกันแล้วยิ้มให้กับมิตรภาพที่เพิ่งเกิดขึ้น
“ว่าแต่นายทำไมหมัดหนักนักวะ” ปิงกระซิบถาม
“ไม่รู้เหมือนกัน...”
“เอาไว้สอนเราต่อยมวยหน่อยนะ” ปิงพูดแล้วยิ้มออกมาจนน้ำลายสอ เพราะปากหุบไม่ได้

          ปิงเดินไปส่งคุณโสภาพรรณขึ้นรถแล้วก็เดินไปเรียนก่อนจะจากไปยังหันมาโบกมือให้กับหนุ่ยอีก  ทำให้หนุ่ยใจชื้นขึ้นเป็นกอง เขายังห่วงก็แต่ศิวัชกับคุณตาที่ยังอยู่ในห้องประชุม...ไม่รู้จะโทษหนักขนาดไหน ขนาดเมื่อกี้นี้โดนฟาดไปสามทียังเจ็บตูดอยู่เลย สงสัยตูดจะแตกแน่ๆ
“ขอบคุณพี่ธีร์มากครับที่มาวันนี้...”หนุ่ยยกมือไหว้ธีร์
“พี่เป็นผู้ปกครองของหนุ่ย...ด้วยหน้าที่และความรับผิดชอบพี่ต้องมาอยู่แล้ว...แต่หนุ่ยเองก็ต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบเช่นเดียวกันคือ...ต้องตั้งใจเรียนและไม่ก่อเรื่องให้วุ่นวายอีก...พี่หวังว่าเรื่องเล็กๆแค่นี้หนุ่ยคงทำให้พี่ได้นะ”ธีร์ให้โอวาทยาวเหยียด หนุ่ยก้มหน้าสำนึกผิด

          หนุ่ยกลับไปนั่งเรียนอีกครั้ง น่านนั่งเหม่อมองออกไปข้างนอกตลอดเวลา จนอาจารย์ที่สอนต้องเรียกหลายครั้ง หนุ่ยเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมหัวหน้าห้องผู้นิ่งเฉยคนนี้ไม่พูดไม่คุยกับเขาเลย
“น่าน...”หนุ่ยเรียกน่านพร้อมเอาขากระแทกโต๊ะให้น่านตื่นจากภวังค์ซะที
“หืม...”
“อาจารย์ให้การบ้าน”หนุ่ยบอกพลางเลื่อนสมุดให้น่านลอกโจทย์
          ทั้งสองทำการบ้านด้วยกัน ครั้งนี้น่านเป็นคนลอกหนุ่ยทั้งหมดเพราะว่าน่านไม่ได้ตั้งใจฟัง เลยทำไม่ได้ หนุ่ยเต็มใจให้เพื่อนลอกไปก่อน
“เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังนะ”หนุ่ยบอกยิ้มๆ
“.......”น่านยิ้มให้หนุ่ยเหมือนกัน
....................................................

          บรรยากาศที่ห้องปกครองเต็มไปด้วยความตึงเครียด พลโทสง่าร้องขอทางโรงเรียนไม่ให้ไล่ศิวัชออก แต่อาจารย์สมเกียรติยังยืนยันในกฎระเบียบของโรงเรียน ศิวัชเป็นเด็กที่มีปัญหามาตลอด ไม่เคยอยู่ในกรอบระเบียบของโรงเรียนเลย ไม่พยายามทำตัวให้ดีขึ้น พลโทสง่ายังขอร้องอีกครั้งและรับปากว่าจะดูแลให้ดีไม่ให้มีปัญหาอีก ในที่สุดอาจารย์ก็ยอมเพื่อให้โอกาสกับลูกศิษย์อีกครั้ง แต่มีข้อแม้อยู่ว่าถ้าทำผิดอีก ทางโรงเรียนจะไล่ออกสถานเดียว
“ขอบคุณครับ” ศิวัชก้มลงกราบอาจารย์สมเกียรติ
“เธอต้องไปกราบขอโทษคุณตาเธอมากกว่านะ...ท่านต้องเหนื่อยกับเธอมาหลายครั้ง...ต้องรับผิดชอบกับเธอโดยที่เธอเองไม่เคยแม้แต่จะคิดสำนึก...” อาจารย์พูด
“คุณตาครับ...ผมขอโทษครับ”ศิวัชกราบพลโทสง่าที่ตัก
“วัชฟังตานะลูก วัชต้องทำตัวให้ดีอาจารย์ท่านให้โอกาสแล้ว วัชต้องใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์นะลูก...ทำตัวให้ดีให้สมกับเป็นหลานตา...อย่าวู่วามทำอะไรให้ยับยั้งชั่งใจ...ตั้งใจเรียนนะลูกนะ”พลโทสง่าลูบหัวหลานชายคนเดียวด้วยความรัก

          จากนั้นศิวัชก็กลับขึ้นห้องไปเรียน ท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมห้องที่กลัวว่าศิวัชจะมาหาเรื่องใครๆอีก แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ศิวัชนั่งเรียนเงียบๆจนเลิกเรียนโดยที่ไม่พูดหรือคุยกับใครสักคนเดียว หลังจากสัญญาณเลิกเรียนวิชาสุดท้ายดังขึ้น ศิวัชเดินออกจากห้องกลับบ้านทันที น่านมองตามด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ไม่สบายใจเอามากๆ ก่อนจะลุกกลับบ้านหนุ่ยก็ดึงตัวไว้อีก
“จะอธิบายที่อาจารย์สอนให้ฟัง...น่านจะฟังมั๊ย”หนุ่ยมองตาเหมือนจะสะกดให้น่านนั่งลงเพื่อคุยกับเขาก่อน
“ก็ได้...เร็วๆนะ”น่านบอกก่อนจะนั่งลงตรงหน้า หนุ่ยเริ่มอธิบาย แต่จนแล้วจนรอดน่านก็ยังไม่มีสมาธิจะฟัง เมื่อหนุ่ยพูดจบ น่านจึงไม่ได้อะไรจากที่หนุ่ยอธิบายเลย
“ขอบใจนะหนุ่ย”น่านลุกขึ้นยืนจะกลับบ้านแต่หนุ่ยกลับจับมือเอาไว้แล้วดึงให้นั่งลงก่อน
“น่าน...เราคุยอะไรด้วยหน่อยสิ”หนุ่ยมองหน้าเพื่อนก่อนจะพูดต่อ โดยไม่ปล่อยให้น่านปฏิเสธ
“น่านสนิทกับวัชมากใช่มั้ย...”หนุ่ยเปิดประเด็น
“น่านน่าจะเตือนวัชบ้างนะ...เราเป็นห่วง”หนุ่ยมองเข้าไปในดวงตาหวานๆของน่าน เขาอยากให้น่านรู้เหลือเกินว่าเขาเองก็ห่วงวัช เหมือนกัน เรื่องเมื่อวันนั้นน่ะ...ทำไปแล้วเขาก็เสียใจ
“แค่นี้เหรอหนุ่ย...”น่านถาม น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของหนุ่ยเลย น่านรู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้...แค่ได้อยู่ใกล้ๆ....แค่ได้รัก...หรือแค่วัชหันมามอง...น่านก็รู้สึกว่ามันมากเกินพอแล้ว เด็กหนุ่มไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้
“............”หนุ่ยพยักหน้าแทนคำตอบ แล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

          ทั้งสองคนเดินลงมาจากตึกเรียนพร้อมๆกันโดยไม่ได้พูดกันอีกเลย เมื่อถึงทางเดินชั้นล่างสุดแล้วต่างคนก็ต่างกลับบ้านไป น่านเองเมื่อเดินมาถึงบ้านแล้ว ด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงวัชอย่างที่สุดเขาจึงกดโทรศัพท์หาวัช เสียงเรียกอยู่หลายครั้ง...วัชไม่รับ...แต่น่านก็ยังไม่ละความพยายามกดซ้ำเรียกอีก วัชรับโทรศัพท์...น่านไม่ปล่อยให้วัชพูดแม้แต่คำว่า”ฮัลโหล” 
“วัช...เป็นยังไงมั่ง...น่านเป็นห่วงนะ”น่านพูดไปตามสาย
“.................”
“แต่น่านเป็นห่วงวัชมากนะ...”    น่านคิดไปถึง”เรื่องอย่างว่า”แล้วมันก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที...น่านกดมันลงไป
“.................”
“ให้น่านไปหานะวัช...ให้น่านไปนอนเป็นเพื่อนก็ได้”น่านตื้อต่อ
“..............”
“วัช...นะวัชนะ...น่านไปหานะ”น่านยังจะไปให้ได้
“...............”

          น่านคว้าเสื้อผ้าใส่เล่น2-3ชุดและเสื้อผ้านักเรียนอีกชุดใส่เป้ เขาคิดระหว่างที่เก็บเสื้อผ้าว่าพรุ่งนี้วันศุกร์...เขาอาจจะอยู่กับวัชตลอดเสาร์อาทิตย์เลยก็ได้...น่านนั่งแท็กซี่ออกจากบ้านไปหาวัชที่บ้านทันที อาณาบริเวณที่กว้างใหญ่ของคฤหาสน์ราคาหลายสิบล้าน เด็กหนุ่มเดินเข้าไปหาวัชถึงหน้าห้อง
“...ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...”น่านเคาะประตูและลองบิดลูกบิด ปรากฏว่าประตูไม่ได้ล๊อก น่านเดินเข้าไปในห้องที่ปิดไฟมืดมิดไปหมด แอร์เปิดอยู่เย็นเฉียบ เพลงเบาๆจากเครื่องเสียงยังเปิดอยู่ แต่ไม่เห็นแม้เงาของวัช เตียงนอนเรียบไม่มีร่องรอยของการนอนมาก่อน น่านเดินสำรวจไปทุกซอกมุมของห้อง ทั้งห้องน้ำ ห้องแต่งตัว น่านล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดเบอร์ของวัช เสียงโทรศัพท์ดังแว่วๆอยู่ น่านเดินหาจนเจอโทรศัพท์มือถือของวัชที่มันอยู่ในกระเป๋านักเรียน น่านกดดูเบอร์ที่เรียกเข้า มีเบอร์แปลกๆอยู่สองสามเบอร์ แต่น่านไม่ได้สนใจ เขาอยากรู้มากกว่าว่าวัชไปไหน จนไปถึงนอกชาน น่านต้องตกใจเพราะเสียงเพลงเบาๆเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นจังหวะเร่าร้อนขึ้น ไฟทั้งห้องสว่างจ้า พร้อมๆกับการปรากฏตัวของวัช วัชเข้ามากอดน่านจากด้านหลัง

“มาแล้วเหรอครับ...คิดถึงจังเลย...”วัชกดจมูกลงที่ต้นคอขาวๆของคนรัก
“ตกใจหมดเลย...วัชนี่เล่นบ้าๆ...” น่านหันมากอดวัชเอาไว้ในอ้อมกอดเช่นเดียวกัน
“แล้วดูสิ...เสื้อผ้าไม่ใส่...” น่านก้มลงมองวัชในสภาพที่ใส่กางเกงในสีขาวเพียงตัวเดียว ขอบกางเกงในสีแดงมีตัวหนังสือเขียนไว้รอบเอว Calvin Klein วัชบดเบียดท่อนล่างเข้ากับน่านเบาๆ
“น่าน...รักวัชมั๊ย...”วัชถามพลางดึงน่านเข้าไปในห้อง วัชไม่ต้องการคำตอบ ทั้งคู่ล้มลงบนเตียง อีกครั้งที่น่านโดนรุกล้ำ แต่ครั้งนี้มันผิดปกติจนน่านเองรู้สึกได้ วัชใช้พลังในการทำให้น่านมีความสุขอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ละครั้งก็นานอย่างเหลือเชื่อ ...

“วัชเป็นอะไรไปครับ...คึกจังเลย” น่านถามด้วยความสงสัยเพราะตั้งแต่หัวค่ำ...วัชยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย
“ดีมั้ยล่ะ...วัชมีความสุขจังเลย...น่านมาอยู่กับวัชที่นี่ได้มั้ย” วัชพูดออกมาพร้อมกับร่างกายที่โถมเข้ามากอด
“ได้ไง...ลูกเค้ามีพ่อมีแม่นะ” น่านยิ้มอายๆ
“บอกก่อนสิว่าจะมาอยู่ด้วยกันมั้ย....” วัชจับแขนน่านขึ้นไปกดไว้เหนือหัวก่อนจะก้มลงไปไซร้ที่ซอกคอ ทำเอาน่านดิ้นพราดๆเลยทีเดียว
“วัชอย่าสิ...ไม่ไหวแล้วอย่า...เจ็บไปหมดแล้ว...ไปกินอะไรมา...คึกจัง” น่านไม่รู้หรอกว่า...ที่พูดออกมานะเป็นความจริงทุกอย่าง แต่สิ่งที่น่านคิดว่าวัช”กิน”น่ะมันไม่ใช่ คนทั่วไปเค้าเรียกว่า”เสพ” ต่างหาก
.....................................................

          เมื่อตอนเย็นหลังจากสัญญาณเลิดเรียนดังขึ้นแล้ว วัชเดินออกมาจากห้องเรียนด้วยความเซ็งสุดขีด คุณตาบอกกับเขาเมื่อกลางวันว่าจะไปเมืองจีนกับคุณยายกลับวันพุธหน้า เขาต้องอยู่คนเดียวเกือบหนึ่งสัปดาห์ มันเป็นอะไรที่เหงาเอามากๆ
“พี่อุ้ย...เซ็งว่ะ...มี”กลาส”มั่งมะ”  วัชคุยกับเพื่อนรุ่นพี่หลังจากเดินลงจากแท็กซี่เข้าบ้าน
“..........”
“เดี๋ยวให้ใครเอามาให้ที่บ้านด้วยนะ...เท่าไหร่พี่”
“............”
“...ห้าพัน...”วัชร้องออกมาเขานึกในใจทำไมมันแพงจังวะ...พี่อุ้ยนี่มันขึ้นราคาทุกครั้งที่สั่งเลยเหรอ คราวก่อนยังไม่ใช่ราคานี้นี่ แต่ทำไงได้...ห้าพันก็ห้าพัน
“.............”
“เออ...เอาก็เอา...เร็วๆนะ...”วัชวางหูแล้วเปิดประตูเข้าห้อง
          ก่อนที่จะวางสายจากพี่อุ้ยมีโทรศัพท์แทรกเข้ามาสองครั้งเป็นโทรศัพท์ของน่าน เค้าไม่ค่อยอยากรับเท่าไหร่เลย แต่นึกๆไปเขาเองก็คิดถึงน่านเหมือนกัน ไม่ได้เจอกันแบบส่วนตัวหลายวัน เขาจึงกดรับโทรศัพท์”น่าน”
“...................”
“อืม...วัชอยากอยู่คนเดียวนะน่าน”ศิวัชเปิดปากพูดกับน่านเป็นครั้งแรก
“..................”
“ไม่เป็นไร...ไม่ต้องห่วงนะ”ศิวัชเริ่มคิดอะไรในสมอง
“....................”
“....................” ศิวัชไม่พูด เขากำลังใช้ความคิด
“....................”
“อืม...ตามใจ” ศิวัชพูดเบาแล้ววางสาย เขานึกในใจ ”ดีเหมือนกัน...เก็บกดมาหลายวัน...น่านมาก็ดีจะได้ระบายให้หายอยาก...”

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 12=
«ตอบ #152 เมื่อ23-08-2009 11:23:58 »

 :L2:   มาให้กำลังใจคับ

เรื่องราวต่อไปมันจะสับสนกว่านี้อะป่าว

อยากอ่าน  :oo1: แบบนี้บ้างจัง

หนุ่ยกับธีร์ จะเปนยังงัยต่อนะ

 :z2:   :z2:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 13=
«ตอบ #153 เมื่อ23-08-2009 12:03:34 »

ลุ้นหนุ่ยกะธีร์ด้วยอิๆๆ

ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 13=
«ตอบ #154 เมื่อ23-08-2009 12:31:21 »

เหมือนรีบนจ้า

ออฟไลน์ MonkeYMauS

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 13=
«ตอบ #155 เมื่อ23-08-2009 12:37:42 »

วัชเอ้ยยยยย


ไม่น่าเลยยยย

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 13=
«ตอบ #156 เมื่อ23-08-2009 13:25:36 »

ดูๆไปนายศิวัชก็น่าสงสารเหมือนกันนะ :z3:

ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 13=
«ตอบ #157 เมื่อ23-08-2009 14:48:45 »

 :o12: สงสารน่านกับวัชอ่ะครับ...เหอ เหนื่อยๆจัง

คู่ธีร์กับหนุ่ย ยังไม่คีบหน้า อิอิ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนครับ

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 13=
«ตอบ #158 เมื่อ23-08-2009 20:18:59 »

น่านรักวัช
แล้ววัชคิดยังไงกับน่านกันแน่
คนที่ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองได้รับความรัก รักตัวเองก็ไม่เป็น จะรักคนอื่นเป็นจริงหรือ
น่าสงสารทั้งวัชและน่าน
บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 13=
«ตอบ #159 เมื่อ23-08-2009 21:00:16 »

 :เฮ้อ: อ่านแล้วเครียดตามไปด้วยเลย สงสารน่านจังรักเค้าแล้วจะเป็นไงต่อน๊า
ในเมื่อเค้าไม่เคยมองเห็นอะไรเลยแล้วจะรู้หรือ...

นิว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 13=
« ตอบ #159 เมื่อ: 23-08-2009 21:00:16 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






nithiwz

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 13=
«ตอบ #160 เมื่อ24-08-2009 03:34:22 »

เนื้อเรื่องเริ่มโหด  เหมือนจะมี something wrong นายวัชน่ากลัวอ่ะ สงสารน่านจัง

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 13=
«ตอบ #161 เมื่อ24-08-2009 05:57:17 »

14 HUA-HIN

“น่าน...ไปหัวหินกันมั๊ย...” วัชเอ่ยชวนน่านหลังจากที่ทั้งคู่เดินออกมาจากห้องน้ำ
“ไปสิ...พรุ่งนี้เลิกเรียนไปกันเลยดีมั๊ย” น่านบอกยิ้มๆเขาเตรียมเสื้อผ้ามาแล้ว
“ไม่เอา...ไปเดี๋ยวนี้แหละ” วัชยิ้มแล้วเอาผ้าขนหนูผืนเล็กๆเช็ดผมให้น่าน
“หา...ไปเดี๋ยวนี้เหรอ...” น่านตาโต
“แล้วพรุ่งนี้ไม่เรียนเหรอ” น่านพูดพลางส่ายหน้าเดียะ
“ไปเหอะ...ขี้เกียจเรียน” วัชเป็นอย่างนี้เสมอ...หลังๆน่านเรียนไม่ค่อยทันเพื่อนเลย...โดดเรียนเป็นประจำ ดีที่น่านมีทุนเรื่องมันสมองอันดีเลิศ เขาเรียนทันอยู่แล้วละ แต่วัชสิน่าห่วงกว่า
“วัชเรียนไม่ทันเพื่อนอยู่นะ...” น่านพยายามชักจูงให้วัชเข้าเรียน
“จะไปรึเปล่า” ประโยคสั้นๆทำให้น่านพยักหน้ารับคำโดยง่าย
“ดี...คิดว่าไม่ไป...วัชจะได้ชวนคนอื่นไป”
“ไปก็ไป...วัชนี่เอาแต่ใจจริงๆ” น่านเข้าไปกอดร่างเปลือยที่ยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจกในห้องแต่งตัว
“มีแฟนเอาแต่ใจก็ต้องตามใจใช่มั๊ย...ที่รัก” วัชหันมาหาน่าน ร่างกายท่อนล่างตื่นตัวตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน มันคล้ายน้ำที่เดือดตลอดเวลา...”ฤทธิ์ของไอซ์นี่มันดีจริงๆ...เอาไปด้วยดีกว่า” วัชคิดในใจก่อนจะเดินไปหยิบเอากล่องใส่อุปกรณ์หาความสำราญของเขาไปด้วยโดยที่น่านไม่รู้เลย
“แต่งตัวก่อนเลย...” น่านบอกวัชให้ใส่เสื้อผ้าก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปกว่านี้
“แต่งตัวให้หน่อยสิ...” วัชยืนกางแขนกางขาออกเหมือนรูปวาด”วิทรูเวียนแมน”ของดาวินชี่
“ยังกับเด็กเลย...” น่านดึงลิ้นชักใส่กางเกงในออกมา น่านหยิบกางเกงในสีดำออกมาตัวนึง
“ไม่เอา...วัชจะเอาตัวนั้น” วัชชี้ไปที่กางเกงใน Calvin Klein สีขาวที่มีขอบสีฟ้า
“นี่เหรอ...” น่านหยิบออกมาแล้วยกขาวัชข้างนึงเพื่อใส่กางเกงให้
“กางขาอย่างนี้จะใส่ได้ยังไงเนี่ย” น่านใส่ได้ขาเดียวก็ต้องหยุดเพราะใส่อีกไม่ได้ วัชยืนกางขากว้างจนเห็นไอ้...
”น่าเกลียดจริงๆวัชนี่” น่านใส่กางเกงในให้จนเสร็จ วัชเดินไปหยิบเสื้อยืดออกมาใส่เองได้ ทั้งสองแต่งตัวครู่เดียวเท่านั้นก็พร้อมออกเดินทาง
“หิวจังเลย...” น่านยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เย็น มาถึงก็โดน....ไม่ได้หยุด จนนี่มันเกือบจะตีหนึ่งเข้าไปแล้ว
“วัช...พาน่านไปหาอะไรกินหน่อยนะ...” น่านกอดเอววัชขณะที่เดินลงมาจากห้อง

          วัชเดินลงมาพร้อมกับน่าน จนมาถึงโรงรถเขากำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเอารถคันไหนไปดี  “ถ้ารถเบนซ์คุณตามันเหมือนคนแก่เอามากๆ” วัชคิดในใจ เอาคันเล็กๆดีกว่าเพราะไปกันแค่สองคนเท่านั้น
“คุณหนูจะไปไหนครับ” เสียงดังขึ้นด้านหลังทำเอาวัชสะดุ้งเฮือก
“ไอ้บ้า...ตกใจหมด...เอากุญแจมินิมาให้ฉันหน่อย” วัชทำหน้ายุ่งๆ
“นี่ครับ...” คนขับรถคุณตาเอากุญแจมาให้วัช
“ชั้นจะไปหัวหิน...อย่าบอกคุณตานะ”วัชสั่งคนขับรถ

          สองหนุ่มแวะกินข้าวมันไก่ที่ถนนเพชรบุรีเรียบร้อยก็ออกเดินทาง วัชไม่ลืมที่จะเอากุญแจคอนโดที่หัวหินมาด้วย ความเร็วที่วัชขับนั้นเกือบทำให้น่านหัวใจวายตาย น่านต้องคอยเตือนอยู่เรื่อยๆเมื่อเร็วเกิน 160 วัชขับรวดเดียวถึงหัวหินโดยไม่ได้หยุดพักเลย ตีสามกว่าๆ ทั้งสองหนุ่มก็เดินทางถึงหัวหิน สองหนุ่มนอนหลับไปจนเกือบเที่ยงของอีกวัน
................................................

“หนุ่ย...ตำรวจเรียกไปพบที่โรงพักนะ...พรุ่งนี้เลิกเรียนพี่จะไปรับ”ธีร์บอกหนุ่ย
“ครับ...พี่ธีร์...ผมเอ่อ...ไม่อยากให้ตำรวจเอาเรื่องไอ้พวกนั้นเลย” หนุ่ยไม่อยากยุ่งยากอีกแล้ว เขากลัวว่าจะทำให้เรื่องมันบานปลายไปกันใหญ่ เพราะลึกๆแล้วหนุ่ยรู้ดีว่าใครเป็น”คนบงการ”เขาไม่อยากให้เพื่อนต้องหมดอนาคต
“คดีทำร้ายร่างกายเป็นอาญา...ตำรวจไม่ยอมหรอก” ธีร์บอกแล้วก็เข้าห้องไป หนุ่ยถอนหายใจแล้วก็เดินคอตกเข้าห้อง

          รุ่งขึ้นตอนเย็นหนุ่ยและเพื่อนๆที่อยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้นเข้ามาให้การกับตำรวจเพิ่มเติมอีกครั้ง ทำเอาทั้งโรงพักวุ่นวายไปด้วยเหล่าทโมนทั้งหลาย เสร็จเรียบร้อยก็มืดค่ำธีร์ต้องเลี้ยงข้าวอีก ก่อนจะส่งกลับบ้าน ความคืบหน้าตอนนี้คือตำรวจได้ตัวคนทำร้ายร่างกายหนุ่ยมาแล้วคนนึง และจะตามจับให้ได้ทั้งหมด ที่สำคัญต้องการตัวไอ้อุ้ย...หัวโจกแก๊งนี้มาให้ได้เพื่อจะได้ซัดทอดต่อไปยังผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งจากคำให้การแล้วตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นศิวัช เพราะหนุ่ยไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครมาก่อน แต่ยังไงก็ตาม  ตำรวจยังสงสัยว่าไอ้อุ้ยมีส่วนในการค้ายาเสพติดอีกกระทงนึงด้วย ไอ้อุ้ยมีชื่ออยู่ในแก๊งค้ายา งานนี้จึงไม่ธรรมดา ผู้กำกับฯสั่งลงมาให้ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด

“พี่ธีร์...เหนื่อยมั๊ยครับ” หนุ่ยถามเมื่อธีร์ขับรถมาส่งเขาที่บ้าน แล้วดูเหมือนว่าธีร์จะออกไปข้างนอกอีก
“พี่ไม่เหนื่อยหรอก...” ธีร์ยิ้มให้หนุ่ยแล้วลูบหัว
“พี่จะไปข้างนอกเหรอครับ” หนุ่ยถาม
“อืม...มีอะไรเหรอ...” ธีร์ถามเพราะเห็นหนุ่ยอึกอักๆ
“เอ่อ...เปล่าครับ...ขับรถดีๆนะครับ...อย่าดื่มมากล่ะ” หนุ่ยยิ้มให้ธีร์
“โหย...นอกจากแม่ก็มีหนุ่ยนี่ละ...เพิ่มมาอีกคน” ธีร์หัวเราะเบาๆ
“ก็ผมไม่อยากให้พี่ธีร์ออกไปดื่มข้างนอกนี่ครับ...” หนุ่ยบอก
“ทำไม...พี่ก็กินทุกวันศุกร์อยู่แล้ว...ไปละเดี๋ยวเพื่อนจะคอย...” ธีร์เดินกลับเข้ารถ
“ผมเป็นห่วงครับ” หนุ่ยพูดแล้วก็ยิ้มให้ธีร์ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป

          ชายหนุ่มอิ่มเอิบใจเป็นที่สุด นอกจากคุณแม่แล้ว หนุ่ยก็เป็นห่วงเขา คำพูดแบบนี้ การแสดงออกแบบนี้...มันไม่มีมานานแล้ว...คำพูดที่ฟังแล้วชุ่มชื่นหัวใจเหลือเกิน...ธีร์ขับรถกลับคอนโดฯเขาปิดโทรศัพท์...กลัวเพื่อนโทรมาตาม...ตั้งใจแล้วว่าจะไม่กินเหล้า...ธีร์ก็แคร์คนที่เป็นห่วงเหมือนกัน         

          รุ่งขึ้นธีร์ตั้งใจจะชวนหนุ่ยไปงานเปิดตัวคอนโดฯของเพื่อนที่หัวหิน จึงออกจากคอนโดมารับหนุ่ยที่บ้านแต่เช้า หนุ่ยเพิ่งจะกลับจากไปวิ่งออกกำลังกายพอดี ทั้งสองคนพี่น้องเลยนั่งทานอาหารเช้ากันที่ระเบียงหน้าบ้าน

“เป็นไงลูก...เมื่อวานนี้ตำรวจว่ายังไง” ภาณีถามหนุ่ยพลางยกกาแฟขึ้นมาจิบ
“ก็ไม่มีอะไรครับ...ให้ปากคำเพิ่มเติมนิดหน่อย”หนุ่ยเช็ดเหงื่อที่ออกมาตามต้นคอ
“แล้วนี่แกมาทำอะไรแต่เช้าหือ...เจ้าธีร์...จะมารับน้องไปเที่ยวไหน” ภาณีดักคอ
“เพื่อนผมมันจัดงานเปิดคอนโดใหม่ที่หัวหินน่ะแม่...เลยจะมาชวนเจ้าหนุ่ยไปเที่ยวด้วย” ธีร์บอกภาณี สีหน้าระบายไปด้วยรอยยิ้ม
“หือ...เที่ยวกันทุกอาทิตย์เลย” ภาณีทำตาดุใส่
“หรือคุณแม่จะไปด้วยล่ะ” ธีร์ชวน
“ไม่ล่ะ...แม่นัดเพื่อนไว้น่ะ”
“งั้นผมพาน้องไปนะครับ...” ธีร์บอกแม่
“ขับรถดีๆล่ะ...แกน่ะชอบขับรถเร็ว” ภาณีตีมาที่มือของธีร์
“แหมก็รถมันแรงก็ต้องเหยียบหน่อย”ธีร์พูดแล้วก็หัวเราะ
“นี่ว่างๆแกสอนน้องขับรถบ้างสิ...จะได้ผลัดกันขับ...เผื่อเจ้าหนุ่ยมันขับไม่เร็วจะได้ขับให้แกนั่ง” ภาณีสั่งงานอีกอย่างแล้ว
“ครับคุณภาณี” ธีร์ล้อเลียนแม่ตัวเอง
“หนุ่ยทานข้าวเสร็จก็ไปอาบน้ำไป...เอากางเกงว่ายน้ำไปด้วยนะ” ธีร์สั่ง
“ผมไม่มีกางเกงว่ายน้ำครับ” หนุ่ยพูดยิ้มๆ...”พี่ธีร์คงลืมไป”หนุ่ยคิดในใจ
“เออ...เดี๋ยวไปซื้อเอาข้างหน้า” ธีร์สั่งแล้วโบกมือให้หนุ่ยขึ้นไปอาบน้ำ ระหว่างนั้นธีร์ก็คุยเรื่องรายละเอียดของคดีให้ภาณีฟัง
“จัดการให้หมด...พวกทรยศชาติ...ค้ายาเสพติด” ภาณีไม่ชอบมาแต่ไหนแต่ไรแล้วเรื่องยาเสพติด

          เกือบสิบโมงสองพี่น้องก็ได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯธีร์ขับรถลงทางด่วนพระรามที่ 2 หนุ่ยขอเปิดวิทยุคลื่นที่ฟังประจำ ธีร์อนุญาตเพื่อว่าจะได้อัพเดทซะหน่อย เริ่มห่างชีวิตวัยรุ่นมานาน ปกติเขาฟังแต่คลื่น 105.5เพลงสากลหรือไม่ก็กรีนเวฟ 106.5

“พี่ธีร์...ง่วงมั๊ยพี่...กาแฟมั๊ยครับ”หนุ่ยบอกธีร์เพราะเป็นห่วง เขานึกว่าธีร์ออกไปดื่มมาเมื่อคืน
“ไม่ละ...เพิ่งกินมาเมื่อเช้าไง...”
“เมื่อคืนนี้พีธีร์กลับดึกรึเปล่าครับ”
“ไม่ดึก...พี่มาส่งหนุ่ยแล้วก็กลับไปนอนที่คอนโดเลย”
“อ้าว...ผมนึกว่าพี่จะไปดื่มเหล้ากับเพื่อน”
“ก็มีคนคอยเป็นห่วงอยู่...พี่เลยไม่กล้าไปน่ะสิ”
“โหยย...พี่ธีร์...ขนาดนั้นเลยเหรอ...”
“อืม...จริงๆพี่เห็นหนุ่ยไม่อยากให้พี่ออกไปดื่ม...พี่ก็เลยไม่ไป...” ธีร์หันมายิ้มให้หนุ่ย
“ถ้าคำพูดผมศักดิ์สิทธิ์ขนาดที่ทำให้พี่ธีร์ไม่ไปดื่มเหล้าได้นี่...ถ้างั้นผมขอให้พี่ธีร์ถูกหวยอีกอย่างนึงก็แล้วกัน” หนุ่ยพนมมือแล้วหลับตาแกล้งทำปากขมุบขมิบ
“ถ้าพี่ถูกหวยจะซื้อคอนโดฯของเพื่อนพี่ให้หนุ่ยห้องนึงเลยเอ้า...” ธีร์ยกมือขึ้นพนมบ้าง แล้วก็เอามือมาลูบหัวน้องชายด้วยความเอ็นดู
“ขอแว่นกันแดดกับกางเกงว่ายน้ำก่อนเถอะ...คอนโดฯใหม่ๆผมไม่เอา...ถ้าจะให้...ผมขอคอนโดฯที่พระรามสามก็พอ”

          หนุ่ยไม่รู้หรอกว่าคำพูดของเขากระทบหัวใจของธีร์อย่างแรง...ห้องชุดนี้...ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา...ราคาเกือบห้าล้าน...เขาดาวน์เอาไว้...ด้วยเงินเก็บเงินออม...รายได้ที่หาได้จากการตั้งใจทำงานนอกเวลาสมัยเรียนอยู่ที่นิวยอร์ค...เหนื่อยแทบขาดใจ...เพื่อจะซื้อไว้คอย...ใครสักคน...ที่บอกว่าจะกลับมาอยู่ด้วยกัน...


ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 14=
«ตอบ #162 เมื่อ24-08-2009 06:28:53 »

ตอนแรกว่าจะนอน แต่พอเข้ามาดูเรื่องนี้...เย้ๆ มาต่อแล้ว

คู่น่านน่าสงสารอ่ะ ไม่รู้ว่าวัชทำไมถึงทำอย่างนั้น

คู่ธีร์กับหนุ่ย เหมือนลงรอยกันเยอะมากๆๆๆ

เรื่องดำเนินไปเร็วดีครับ

ปล.นักเขียนสู้ๆๆ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 14=
«ตอบ #163 เมื่อ24-08-2009 09:15:27 »

ดูท่าทางจะวุ่นวายอีกยาวนานนนนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 14=
«ตอบ #164 เมื่อ24-08-2009 10:15:30 »

อ้าว

ไปที่เดียวกันซะงั้น

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 14=
«ตอบ #165 เมื่อ24-08-2009 15:49:25 »

 :เฮ้อ:   แล้วจะไปเจอกับอีกคู่หรือป่าว

น่าจะมีเรื่องวุ่น ๆ อีกแล้ว นะ หนุ่ย

 :z2:   :z2:

Donpopper

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 14=
«ตอบ #166 เมื่อ24-08-2009 18:26:10 »

ท่าทางเหมือนว่านายวัชกำลังมีลางร้ายมาเยือนแล้วล่ะสิเนี่ย

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 14=
«ตอบ #167 เมื่อ24-08-2009 19:29:00 »

มาอ่านน่ารักดี เอ๋ว่าแต่ หนุ่ย กะ ธีร์ ใครเป็น สามี ภรรยาน๊า อยากรู้จัง

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 14=
«ตอบ #168 เมื่อ24-08-2009 19:40:41 »

วัชน่าสงสารอ่ะ


เป็นเด็กขาดความอบอุ่นเลยทำให้นิสัยเสีย



ต้องโดนปรามซะแล้วงานนี้



เอาแต่ใจจิง




คงไปเจอกันแน่เลยที่หัวหินเนี่ย

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 14=
«ตอบ #169 เมื่อ24-08-2009 21:03:01 »

น่านกับวัชจะเป็นไงกันต่อไปนะ ส่อเค้าไม่ดีมาแล้ว

หนุ่ยกับธีร์ก็ความสัมพันธ์ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถูกกั้นด้วยคำว่าพี่น้อง

เรื่องนี้ท่าทางวุ่นวายอีกยาว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 14=
« ตอบ #169 เมื่อ: 24-08-2009 21:03:01 »





ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 14=
«ตอบ #170 เมื่อ24-08-2009 21:21:46 »

ไปหัวหินคราวนี้ ท่าจะเจอเรื่องไม่ค่อยดีแน่ๆเลย

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 14=
«ตอบ #171 เมื่อ24-08-2009 22:39:49 »

น่านหมดความเป็นตัวของตัวเองไปเลย
ต้องเดือดร้อนเพราะวัชแน่ๆ ทั้งหนีเรียน ทั้งเสพยา แล้วยังมีเรื่องไปทั่วอีก
ส่วนธีร์กับหนุ่ยกำลังไปได้สวยเลยทีเดียว
แคร์ซึ่งกันและกันขนาดนี้ ยังไงๆคงไม่ใช่แค่พี่น้องแล้ว
บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

องค์หญิงกำชัย

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 14=
«ตอบ #172 เมื่อ25-08-2009 04:27:24 »

15 อนันตรา

“พี่ธีร์...” หนุ่ยส่งเสียงเรียกเพราะเห็นว่าธีร์กำลังเหม่อ
“หา...อะไรหนุ่ย...เรียกซะตกใจหมดเลย...”
“พี่ธีร์เป็นอะไรไป...เหม่อขนาดนี้...”เสียงเด็กหนุ่มเรียกสติเขากลับมา
“ถึงหัวหินแล้วเหรอพี่...”
“ไม่ใช่...นี่มันแค่ชะอำ...” เด็กหนุ่มเห็นป้ายเลี้ยวซ้ายเพื่อจะแยกไปชะอำและหัวหิน
“ถึงชะอำก่อนแล้วค่อยถึงหัวหินเหรอพี่”หนุ่ยถาม
“ใช่...ถ้ามาจากกรุงเทพฯจะถึงชะอำก่อน”
“พี่พาผมไปดูทะเลที่ชะอำหน่อยได้มั๊ย...”
“ได้สิ...ขับเข้าไปนิดเดียวเอง” รถพุ่งลงสะพานข้ามทางรถไฟเล็กน้อย ธีร์ก็ชิดซ้ายเพื่อจะเลี้ยวเข้าหาดชะอำ เลี้ยวเข้าไปได้สักพัก
“พี่ธีร์...เค้าขายหมูหันกันทุกร้านเลยเนอะ...เจ้าไหนอร่อยที่สุด...พี่รู้มั๊ย...” หนุ่ยตั้งคำถามโลกแตก
“ใครจะไปรู้...ถ้าอยากรู้ต้องลองกินทุกเจ้า..เอามั๊ย...” ธีร์ทำท่าจะเลี้ยวเข้าจอด
“ไม่ต้องหรอกพี่...กินทุกเจ้า...ลงพุงพอดี...” หนุ่ยเปิดชายเสื้อยืดเอามือลูบหน้าท้องที่เป็นลอนสวย ธีร์มองตาม...เขาพยายามไม่คิด...
“ไม่กินจริงๆเหรอ...” ธีร์ขับรถไปจนสุดทางแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเลียบชายหาด
“ถ้าเลี้ยวซ้ายไปจนสุดทางนะมีอาหารทะเลขาย...อร่อยดีเหมือนกัน” ธีร์นึกถึงร้านป้าฮี๊ด ที่หมู่บ้านประมงสุดทาง เขาเคยมากินกับเพื่อนสมัยเรียน...ยังจำความสุขสมัยเรียนมหาลัยได้ดี
“พี่เค้าขายอะไรน่ะ...” หนุ่ยมองเพิงขายของข้างทางด้านที่ติดชายหาด กะละมังพลาสติกสารพัดขนาดวางเรียงราย สายออกซิเจนพันกันนุงนังไปหมด
“ชาวบ้านเค้าเอาปู กุ้งมาวางขาย...อยากกินมั๊ย” ธีร์ถามเมื่อเห็นเด็กหนุ่มสนใจ
“ดูก่อนได้มั๊ยพี่...” ธีร์เปิดไฟเลี้ยวแล้วจอดเข้าข้างทาง ทั้งสองลงไปดู ในกะละมังหลายใบ มีกุ้ง ปูม้า หอย และอีกสารพัด เด็กหนุ่มคิดถึงบ้านที่ระโนดขึ้นมาทันที
“ปูม้าเท่าไหร่ครับลุง” ธีร์ถามพ่อค้า
“ไซส์นั้นสามร้อยยี่สิบบาทครับคุณ” ลุงบอก
“กินมั๊ย...ให้เค้านึ่งให้ด้วย...” ธีร์หันมาถามหนุ่ยที่กำลังเอานิ้วเขี่ยหอยเล่นอยู่
“พี่ถามว่าจะกินมั๊ย” ธีร์ถามซ้ำ
“แพงจังพี่...บ้านผมไม่ถึงร้อยเลย...” หนุ่ยส่ายหน้า
“เอาโลนึงนะลุงเลือกให้หน่อย...เอาแน่นๆนะครับ”
“เอ้าพี่ธีร์...แพงเกินนะพี่...”หนุ่ยดึงแขนธีร์
“เอาเถอะ...อยากกินก็กิน...อย่าไปสนถูกหรือแพง...ไม่ได้กินทุกวัน”
“นึ่งให้ด้วยนะครับ...น้ำจิ้มไม่ต้อง” ธีร์สั่ง
“อ้าวทำไมล่ะพี่...ไม่มีน้ำจิ้มก็ไม่อร่อยสิ...” หนุ่ยบอกแล้วก็ทำหน้างงๆ
“ปูเป็นๆ...เนื้อก็หวานอยู่แล้ว...ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มให้เสียรสหรอก...” ธีร์บอก
“เหรอ...”หนุ่ยครางเบาๆ
“ปากก็ไม่เหม็นด้วย” ธีร์ต่อให้อีกหน่อยสำหรับเหตุผลของการไม่เอาน้ำจิ้มซีฟู้ด

          สองหนุ่มไปหาที่นั่งริมหาดเพื่อกินปูซะก่อน เพิ่งจะเที่ยงเอง...ไม่รีบร้อนอยู่แล้ว ธีร์นอนมองบรรยากาศชายทะเลชะอำ ซึ่งมันไม่ต่างไปสักเท่าไหร่เลยเมื่อเทียบกับสมัยที่เขามาเที่ยวกับเพื่อนๆ แต่นอกจากปูแล้วธีร์ยังสั่งกุ้งเผามาด้วย สองหนุ่มจัดการอาหารทะเลตรงหน้าจนเรียบ

“เรียบร้อยไปอีกมื้อ...” หนุ่ยยืนบิดขี้เกียจ ชายเสื้อลอยพ้นเอวมองเห็นเนินสะดือที่มีไรขนเล็กน้อย กล้ามท้องแกร่งเป็นลอน ซิคแพค
“น่าอิจฉาคนมีซิคแพค...” ธีร์พูดลอยๆออกมา หนุ่ยก้มลงมามองหน้าท้องตัวเองพลางเปิดเสื้อด้านหน้าขึ้นมาจนขอบกางเกงในสีขาวโผล่พ้นขอบกางเกงยีนส์ออกมา
“...ผมมีอยู่แค่เนี้ย...พี่ธีร์อย่าอิจฉาเลย...พี่ว่าถ้าผมเล่นเวทให้ไหล่มันใหญ่หน่อยจะดูดีมั๊ย” หนุ่ยเบ่งกล้ามที่ไหล่ให้ธีร์ดู
“อืมก็ดี...หนุ่ยต้องไปฟิตเนสสิ...มีเครื่องออกกำลังกายหลายอย่าง...” ธีร์บอก
“มันแพงน่ะสิพี่...ผมวิ่งอยู่แถวบ้านก็ได้นะ...เปลืองเงินเปล่าๆ”
“วิ่งมันก็ดี...มันก็ได้กำลังขาเท่านั้นเอง...อยากให้ไหล่กว้างหรือส่วนอื่นๆให้มันเฟิร์ม...หนุ่ยไปฟิตเนสดีกว่า...พี่ซื้อเมมเบอร์ให้เอามั๊ย...จะได้ไปเล่นกับพี่...” ธีร์อยากหาเพื่อนไปเล่นอยู่พอดี เพราะเขาเบื่อที่จะไปคนเดียว...เขาเบื่อที่จะตกเป็นเป้าสายตาของหลายๆคน
“ไม่เอาหรอกพี่...เป็นหมื่นเลยไม่ใช่เหรอ...ผมเล่นกีฬาที่โรงเรียนก็ได้” หนุ่ยส่ายหน้าเค้าไม่อยากจะให้ธีร์เปลืองเงินกับเรื่องไม่ใช่เรื่องแบบนี้
“อยากไปก็บอกพี่ก็แล้วกัน” ธีร์พูดแล้วเตรียมจะลุก
“ไปกันเถอะ...เดี๋ยวไปงานตอนเย็นอีก...เราเข้าโรงแรมก่อนดีกว่า...พี่อยากว่ายน้ำ” ธีร์บอกแล้วเดินกลับไปที่รถ
“ไปซื้อกางเกงว่ายน้ำกับผมก่อนนะ” หนุ่ยเดินตามขึ้นรถ
“อืม...ไปกันเลยหนุ่มน้อย” ธีร์กอดคอหนุ่ยแล้วเดินไปที่รถ

          ธีร์ขับรถเลยสี่แยกกลางเมืองหัวหินไปสองแยกก็พาหนุ่ยเลี้ยวเข้าไปที่มาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน เพื่อซื้อกางเกงว่ายน้ำให้หนุ่ย เมื่อเลือกซื้อกางเกงว่ายน้ำได้แล้ว ธีร์ขับรถย้อนกลับมาทางเดิม เพื่อเข้าพักที่อนันตรา หัวหิน ที่นี่ธีร์มาพักเป็นประจำ เพราะชอบในบรรยากาศที่เป็นไทยๆและของที่ใช้ตกแต่งห้องล้วนเป็นของแอนทีคที่ธีร์รู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ บริการที่น่าประทับใจ ธีร์เก็บของเรียบร้อยก็ชวนหนุ่ยไปว่ายน้ำกันที่สระว่ายน้ำ

“เปลี่ยนกางเกงว่ายน้ำยังไงล่ะพี่” หนุ่ยหันมาถามธีร์ เพราะเป็นครั้งแรกของหนุ่ยที่ใส่กางเกงว่ายน้ำ
“หนุ่ยก็เอากางเกงว่ายน้ำไปเปลี่ยนในห้องน้ำแล้วก็ใส่กางเกงขาสั้นทับเอาไว้สิ...”
“แล้วกางเกงในล่ะพี่...” หนุ่ยถาม
“โอย...ไม่ต้องใส่...ใครเค้าใส่กัน” ธีร์ว่าแล้วก็เข้าห้องน้ำไปก่อนเพื่อเปลี่ยนกางเกงว่ายน้ำ

          เด็กหนุ่มไม่คอยเวลาเพื่อเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ เขาปลดกางเกงยีนส์ลงแล้วสะบัดๆออกทางขา ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันตัวแล้วรูดกางเกงในสีขาวลงมา หนุ่ยหยิบกางเกงว่ายน้ำสีดำตัวจิ๋วมาสวมเข้าไป เขาถอดผ้าเช็ดตัวแล้วก็ก้มลงคุ้ยหากางเกงขาสั้นในเป้ ธีร์ออกมาจากห้องน้ำพอดี
“เอ้าเปลี่ยนเสร็จแล้วเหรอ...ไปกันเลย” ธีร์บอก แต่หนุ่ยยังไม่ได้กางเกงขาสั้น
“เดี๋ยวสิพี่...กางเกงขาสั้นผม” หนุ่ยคุ้ยจนเจอกางเกงขาสั้น จึงหยิบมาสวมทันที

          ที่สระว่ายน้ำอันกว้างใหญ่ สองหนุ่มเล่นน้ำกันสนุกสนาน หนุ่ยไปซื้อลูกบอลมาลูกหนึ่งแล้วเอามาเล่นกับธีร์ เด็กหนุ่มสดใสเหลือเกิน อ้อมแขนที่กอดรัดธีร์ ทำเอาธีร์ใจหวิวๆ ท่อนล่างที่มันอยู่ใต้น้ำเสียดสีกันไปมา กางเกงว่ายน้ำที่หนุ่ยใส่เป็นแบบบิกินี่ ตอนซื้อธีร์พยายามบอกว่าให้เอาแบบเต็มตัว แต่หนุ่ยรั้นจะเอาแบบนี้ แต่มันก็ดูดีจนธีร์แอบลอบมองอยู่บ่อยๆเวลาที่หนุ่ยต้องปีนขึ้นไปเก็บลูกบอล...เด็กหนุ่มไม่ได้ระมัดระวังตัวเอาซะเลย...ทุกอิริยาบถที่สัมผัสกันในน้ำ...ความใกล้ชิดกันจนลมหายใจรินรดใบหน้า...ต้นขาที่แข็งแกร่งไปด้วยมัดกล้าม มันเสียดสีไปมาใต้น้ำ ทำเอาธีร์ขนลุกทุกครั้ง...ทำให้ชายหนุ่มเกือบจะอดใจไม่ไหว...ได้แต่บอกกับตัวเองว่า...นี่มันน้องชายนะไอ้ธีร์

“ไม่ไหวแล้วหนุ่ย...พี่ตัวดำไปหมดแล้ว...ขึ้นเถอะ” ธีร์ชวน
“โหย...อะไรพี่...แป๊บเดียวเอง”
“แป๊บอะไรล่ะ...ดำหมดแล้ว” ธีร์ยกแขนให้หนุ่ยดู มันคล้ำลงไปจริงๆ
“ผมดำกว่าพี่อีก...” หนุ่ยยกแขนขึ้นมาเทียบกับธีร์ มันเทียบกันไม่ได้จริงๆ...ธีร์ดูขาวกว่าตั้งเยอะ...หนุ่ยนั้นแขนคล้ำเนียนเป็นมันเลื่อม กล้ามแกร่งแน่นไปทั้งแขน
“ว่ายน้ำแข่งกันมั๊ยพี่...” หนุ่ยท้า
“ไม่เอาหรอก...หนุ่ยชนะพี่อยู่ดี...พี่ว่ายไม่เร็ว” ธีร์ปฏิเสธ เขาอยากจะขึ้นจากน้ำแล้ว เหนื่อยมาก อยากจะพักสักหน่อย
“โห...พี่ธีร์อ่ะ...ขึ้นก็ขึ้น...” หนุ่ยว่ายน้ำไปที่เขาและธีร์ถอดกางเกงวางไว้ ธีร์มองตาม หนุ่ยปีนขึ้นจากสระก่อน รูปร่างได้สัดส่วนของหนุ่ยที่กำลังปีนบันไดขึ้นไป หยดน้ำที่ไหลมาตามท่อนขาแกร่ง ขนหน้าแข้งเปียกน้ำลู่ลงมาดูสวยงาม หนุ่ยหันมาจับขอบบันไดแล้วย่อเข่าลงนั่งขวางบันไดทางขึ้นไว้ เป้ากางเกงว่ายน้ำตุงเต่งอยู่ตรงหน้าธีร์ ชายหนุ่มเหลือบมองเล็กน้อย ใจมันสั่นอีกแล้ว
“ไม่ให้ขึ้น...” หนุ่ยยิ้มหัวอย่างร่าเริง
“เล่นอะไรอีกล่ะ...หลีกไปเลยพี่จะขึ้น” หนุ่ยขวางทางขึ้นไว้ไม่ให้ธีร์ขึ้นจากสระ
“ให้แช่อยู่อย่างนี้ให้ดำไปเลย...” หนุ่ยแกล้งธีร์ไม่ให้ขึ้น
“อย่าให้ขึ้นไปได้นะ...จะเขกกะโหลกให้” ธีร์พูดดุๆ สายตาเหลือบมองหยดน้ำที่มันหยดจากเป้ากางเกงเด็กหนุ่ม
“มาขึ้นมา...ผมช่วย” หนุ่ยเอื้อมมือมาจับข้อมือธีร์ไว้แล้วดึงขึ้นจากสระ ธีร์เหยียบบันไดแล้วโหนตัวขึ้นได้อย่างง่ายดายเพราะหนุ่ยดึงมืออยู่แล้ว เขาไม่คิดว่าหนุ่ยจะเล่นพิเรนทร์ๆด้วยการปล่อยมือ...”ตูม” ธีร์หล่นน้ำลงไปอีกครั้ง
“ฮาฮาฮา...” หนุ่ยหัวเราะเสียงดังเมื่อสามารถแกล้งธีร์ได้
“ไอ้หนุ่ย...แกล้งพี่เดี๋ยวเถอะ...” ธีร์ลูบหน้าลูบตาที่เปียกไปด้วยน้ำ ธีร์ชี้ไปที่หนุ่ยซึ่งกำลังยืนหัวเราะอยู่ขอบสระ รูปร่างสูงได้ส่วนของเด็กหนุ่ม กล้ามท้องเป็นลอนซิคแพคสวยงาม ผิวสีน้ำผึ้งเนียนเรียบ รูปหน้าหล่อคมของหนุ่ยยามที่ต้องแสงแดดตกกระทบ เม็ดน้ำที่พราวพร่างตามตัว ดั่งภาพสลักอันงดงามของเทพเจ้าก็ไม่ปาน
“มาเร็วพี่ธีร์...ผมไม่แกล้งแล้ว...” หนุ่ยยื่นมือมาที่ชายหนุ่ม เขากำลังพยายามปีนขึ้นบันได
“ไม่ต้องเลย...เดี๋ยวแกล้งพี่อีก...ไปไกลๆเลย” ธีร์ค้อนให้หนุ่ยสองวง...พองาม
“โอ๋ๆๆ...ขอโทษคร้าบ...พี่ชาย...” หนุ่ยเข้ามากอดรัดเมื่อชายหนุ่มขึ้นมาบนขอบสระเรียบร้อยแล้ว
“ไปเลย...ไปใส่กางเกงก่อนเลย” ธีร์โบกมือไล่หนุ่ยให้ไปใส่กางเกง
“ใส่ก็เปียกอ่ะดิ..ผมเอากางเกงขาสั้นมาตัวเดียว” หนุ่ยบอก
“แล้วจะเดินกลับแบบนี้เหรอ”ธีร์ถาม
“ใส่เสื้ออย่างเดียวก็แล้วกัน...” เด็กหนุ่มหยิบเสื้อมาสวมแล้วเดินกลับห้องพัก ธีร์เดินตามแล้วยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

          ห้องพักส่วนนี้เป็นแบบที่สามารถมองเห็นทะเลได้ หนุ่ยขอเข้าไปอาบน้ำก่อน ธีร์จึงเดินออกมาที่ระเบียงหลังห้อง ชายหนุ่มเอนหลังลงที่เก้าอี้ เขาเหยียดแขนจนสุด”...อ้า...”ความเมื่อยขบหายไป...รู้สึกสบาย...ทั้งกายและใจ...ลมทะเลพัดมาเบาๆชายหนุ่มหลับตาลง ภาพของหนุ่ยเมื่อครู่นี้ค่อยๆปรากฏขึ้น....รางๆ....ช้าๆ...มันชัดเจน....จนเขาคิดไปว่าหนุ่ยมายืนอยู่ตรงหน้า...

...หนุ่ย...
...น้องชาย...
...หนุ่ย...
...น้องชาย...
...น้องชายของพี่...
...จิตค่อยๆสงบลง...
...ดำดิ่งสู่ห้วงนิทรารมณ์...



namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 15=
«ตอบ #173 เมื่อ25-08-2009 04:34:57 »

หนุ่ยหยอกล้อไป คงไม่ได้คิดอะไร (มั้ง)
แต่พี่ธีร์น่ะคิดกับน้องชายไปเยอะแล้ว
แล้วมันจะอะไรยังไงต่อไปกันหละหนอ
ขอบคุณคนแต่งและคนโพสต์มากนะคะ

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 15=
«ตอบ #174 เมื่อ25-08-2009 05:26:45 »

ม่ายจะเศร้าไหมนะเรื่องนี้ :serius2: มาต่อไวๆๆนะจ๊ะ

ออฟไลน์ WEERACHOT

  • ฉันดีใจที่มีเธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +337/-5
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 15=
«ตอบ #175 เมื่อ25-08-2009 09:09:43 »

จบเศร้าจะ... :m31: กระทู้ อิอิ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนครับ

แล้วหนุ่ยไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอ..ฮื่อๆๆๆ

ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 15=
«ตอบ #176 เมื่อ25-08-2009 10:53:47 »

เหมือนรีบนคร้าบ

จบเศร้าละน่าดู

อิอิอิ

ล้อเล่น

สาวบ้านนอก

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 15=
«ตอบ #177 เมื่อ25-08-2009 11:11:12 »

สนุกดีค่ะแต่รู้สึกว่าคุณธีร์นี่หื่นชนะเลิศเลยนะคะ  :z1:

wichit14

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 15=
«ตอบ #178 เมื่อ25-08-2009 11:17:11 »

แล้วคืนนี้หนุ่ยจะรอดธีร์ไหมเนี่ย

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] ระโนด <by ต้นคุง> =ตอนที่ 15=
«ตอบ #179 เมื่อ25-08-2009 18:47:16 »

เมื่อไหร่ หนุ่ย จะชอบ พี่ธีร์ นะ

 :z2:   :z2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด