ตอนที่ 15 หลังจากได้ดินเนอร์สุดหรูหราหมาไซบีเรียนเห่าภายใต้บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ท่ามกลางเสียงคลื่นและลมทะเลบวกกับเศษทรายปลิวเข้าตาเล็กน้อย ก็ทำให้ผมมั่นใจในตัวเองที่สุดแล้วว่าแอบหลงรักท่านรองเข้าแล้ว! ถึงแม้ว่าท่านเขาจะดุยิ่งกว่าร๊อตไวเลอร์ที่หน้าเหมือนน้องไซ ? ถึงแม้ว่าท่านรองจะไม่มีใครคบจนแม้กระทั้งน้องสาวตัวเองยังกลัวหรือแม้กระทั่งเวลาลูกน้องของท่านเดินผ่านพวกเขายังต้องหลบแอบมุมเสา ผมก็มั่นใจแล้วว่าจะสารภาพรักท่านรองให้ได้ และถึงแม้ว่าท่านรองอาจจะไม่ได้ชอบผมก็ตาม แต่ผมมั่นใจมาก มั่นใจยิ่งกว่าอนาคตของตัวเองซะอีก อืม…พูดซะยาวเหยียดสรุปแล้ววันนี้ผมก็ป๊อดอีกตามเคย แต่วันศุกร์วันที่ผมฝึกงานวันสุดท้าย ผมจะต้องสารภาพกับท่านรองให้ได้! ผมสัญญา! กับใคร ? กับ…ตัวเองนี่แหละ
‘ก๊อกๆ’
แวะเสือกเรื่องไอ้บาสซักเล็กน้อยก่อนเข้านอน เพื่อสุขภาพจิตที่ดีและเพื่อให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น ?
“ไปไหนมาวะ กูไปเคาะห้องเรียกตอนเย็นไม่เห็นเจอมึง”
“ไปดินเนอร์สุดหรูหรากับว่าที่แฟนกูมา”
“ห๊ะ ! ใครวะ”
“เออ ช่างมันเหอะ! ว่าแต่เรื่องของมึงเถอะ เป็นยังไงมั่ง”
“ไม่ตอบกูแต่จะเสือกเรื่องของกูว่างั้นเถอะ?”
“เออๆ นานๆทีกูจะอยากเสือกเรื่องของมึง มึงควรจะดีใจนะ”
“สัด! ฟังแล้วเหมือนมันเป็นเรื่องที่ดีเนอะ”
“เออ ดีอ่ะดิ กูอุตสาห์มาเคาะห้องเรียกมึงเพื่อเสือกโดยเฉพาะเลยน้า มึงคิดดูว่ามึงมีบุญขนาดไหน”
“เออๆ พูดซะยาว มีแต่คำว่าเสือกกับเสือก แล้วเมื่อกี๊มึงถามว่าอะไรนะ”
“เชี่ย!…กูพูดเหนื่อยแล้วเนี่ย กูถามว่ามึงกับแฟนมึงเป็นยังไงแล้ว”
“อ่อ…ก็ไม่ยังไง ก็คบๆกันอยู่ ไปกินข้าวบ้างโทรหากันบ้างเรื่องปกติป่ะวะ”
คล้ายๆผมกับท่านรองเลยเนอะ แต่แค่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันก็เท่านั้นเอง อืมๆ ไม่น่าจะยาก
“อืม แล้วส้มจี๊ดเขาดูพออกพอใจมั้ย แบบเขาชอบมั้ย”
“ชอบอะไร?”
“ก็เวลามึงเลี้ยงข้าวหรือโทรหาอะไรงี้อ่ะ”
“กูไม่เคยโทร ไม่เคยเลี้ยงข้าว”
“อ้าว! ไอ้เชี่ย นี่มึงให้ผู้หญิงเลี้ยงเหรอ”
“เปล่า ก็เขาโทรมากูก็รับ เขาจ่ายตังกูก็กิน มันแปลกตรงไหน”
“โอ้ย! ไอ้เชี่ยบาส มึงเป็นผู้ชายทำไมมึงปล่อยให้สาวเป็นคนเปย์ มึงต้องเปย์ดิ”
“ห๊ะ! กูจะไปรู้เหรอ พอกูจะโทร เขาก็โทรมาก่อนแล้วให้กูตัดสายทิ้งแล้วโทรกลับเหรอะ”
“…”
จริงด้วยวุ้ย มันก็พูดถูกนะเนี่ย
“มึงลองคิดดู ใช่มั้ยล่ะ”
“เหรอ คงงั้นมั้ง แล้วถ้ากูเป็นคนเริ่มจีบ กูต้องทำงั้นมั้ยอ่ะ”
“อืม…ก็น่าจะใช่”
เขร้! กูต้องโทรหาท่านเขาก่อนเหรอ กูยังไม่เคยโทรก่อนเลยอ่ะ แล้วต้องเลี้ยงข้าว? เงินเดือนประจำก็ยังไม่มี แล้วต้องพาไปกินหรูๆที่โรงแรมแบบวันนี้เหรอวะ กูต้องให้กำนันขายที่ซัก 10 ไร่แล้วมั้งเนี่ย…แต่เอ…ผมยังมีเงินค่าฝึกงานที่ยังไม่ได้รับอีก 2,500 นี่หว่า ถุย! ยังไม่พอค่าอาหารโรงแรมเล้ยยย โอ้ยคิดหนัก อยากถูกหวย 30 ล้านเอาไปเปย์ผู้ชาย
“ทำหน้าอะไรของมึง อาหารเม็ดบูดเหรอ”
“…กูไม่ใช่กระต่าย!”
“หมาเหอะ น่ารักไปนะมึงอ่ะ”
“เอ่อไอ้บาสกูถามหน่อย”
“อะไรอีก?”
“สมมตินะสมมติ สมมติว่ากู…”
“ยังไม่เลิกเล่นนะ พูดเร็วๆมาม่ากูอืดแล้วเนี่ย”
“เออ สมมติว่ากูจะจีบใครซักคน ก็ต้องจ่ายเองตลอดเลยเหรอวะ”
“ไม่รู้ แต่ก็คงต้องงั้นแหละ เสือกไปชอบเขานิ ก็ต้องลงทุน”
“แล้วทีมึงอ่ะ”
“ก็เขามาชอบกูก่อน แต่กูก็ไม่ใช่ไม่จ่ายนะ อย่างวันนี้ ตอนกินข้าวกูยังจ่ายค่าน้ำให้เขา 5 บาทเลย”
“ถุย! 5 บาท ทำมาคุย”
แต่วันนี้ท่านรองจ่ายไปเกือบสี่พันเลยนะ ผมจะเลี้ยงท่านเขาไหวเรอะ
“มึงก็อย่าคิดมากอย่างท่านรองมึงคงไม่ต้องเลี้ยงเขาหรอกมั้ง เงินเดือนเขาออกจะเยอะ”
“ห๊ะ! มึงรู้ได้ไง”
“กูไม่ได้ปัญญาอ่อนเหมือนมึง เวลามึงมองเขานี่เหมือนหมามองเจ้าของแทบจะวิ่งตามเขากลับบ้านแล้วมั้ง แล้ววันนี้ท่านรองพาไปกินข้าวที่ไหนมาล่ะ”
“…โรงแรม”
“ห๊ะ นี่มีโจ๊ะๆกันแล้วเหรอะ”
‘ป๊าบ’
“สัด ตบหัวกูทำไม”
“จริงๆกูอยากจะเอาตีนโบกหัวมึงเลยด้วยซ้ำ โจ๊ะๆเชี่ยไร ยังไม่ได้บอกรักกันเลย คิดไปถึงดาวพฤหัสแล้วมึงเนี่ย”
“อ้าว เห็นพาเข้าโรงแรมกัน”
“ห่า!แค่กินข้าวอย่างเดียวเว้ย”
“เหรอ แล้วมึงจะทำยังไงต่อ”
“กูวางแผนไว้แล้ว”
“เฮ้ย! มึงจะฉุดท่านรองเหรอ”
“ไอ้บาส! มึงมีมีดมั้ยกูขอยืมมาจ้วงพุงมึงให้ใส้แตกซักทีเหอะ!”
“ไอ้บร้า!! กูล้อเล่น ตอนนี้หน้าตามึงเหมือนคนโรคจิตที่พร้อมบวกมากอ่ะ”
“เออ กูก็จะฆ่ามึงคนแรกเลย”
นอกจากไม่ได้เสือกเรื่องของมันซักเท่าไร ผมยังจะประสาทแดกกับไอ้บาสมันอีก ฮ่วย!มีเพื่อนปัญญาอ่อนแต่มันไม่รู้ตัว คิดว่าผมปัญญาอ่อน จริงๆแล้วผมไม่ได้ปัญญาอ่อน ไอ้บาสต่างหากที่ปัญญาอ่อน เฮ้อ พอเถ๊อะ!! ผมนี่แหละ พูดไปพูดมาจะปัญญาอ่อนจริงๆแล้ว
“เป็นอะไร ไอ้น้องหมอก ทำหน้าเหมือนปวดขี้”
Sup หน้าสวยๆอย่าพูดคำว่าปวดขี้ มันไม่น่ารัก ให้เรียกว่าปวดอึ๊…
“เอ่อ…เปล่าครับ”
“อย่าลืมนะพรุ่งนี้พาไปเลี้ยงส่งที่ร้าน xxx ชวนน้องบาสกับน้องส้มจี๊ดด้วย”
“ครับ”
“แล้วไปไง ไปกับพี่มั้ย? แต่พี่ไปรถพี่พลนะ”
“เดี๋ยวไปกับไอ้บาสกับส้มจี๊ดทีเดียวเลยครับ เจอกันที่ร้านเลยดีกว่าครับ”
“ได้ๆ พี่น้ำฝนกับพี่ต้นแล้วก็ทีมจะไปรถผู้จัดการ เจอกันที่ร้านเลยเนอะ”
“ครับๆได้ครับ”
หลังจากคุยกับ Sup ผมก็หันมาตั้งหน้าตั้งตาทำรายงานต่อ วันนี้ไม่ค่อยมีงานอะไรมาก Sup จึงให้เอารายงานมาทำได้ เลยเซฟงานมาทำที่นี่เพราะไม่ได้เอาโน๊ตบุ๊คมาด้วย
“น้องหมอกผู้จัดการเรียกพบที่ห้องค่ะ”
พี่น้ำฝนเดินมาบอก คงจะคุยเรื่องเอกสารผ่านการฝึกงานน่ะครับ
“ครับพี่”
แล้วผมก็เดินเข้าไปพบผู้จัดการตัวอ้วนใส่แว่นในห้อง พอเห็นหน้าพี่เขานึกก็อยากกินไก่ทอดขึ้นมาทันที
“นั่งสิน้องหมอก”
“ครับ”
“ที่ผมเชิญมาคุยก็เรื่องการฝึกงานนี่แหละ”
“ครับ”
“ผ่านอย่างไม่ต้องสงสัย”
ผมนี่ยืดอกยิ้มเลย ไอ้ที่เคยกลัวตอนมาใหม่ๆ ตอนนี้ไม่มีแล้วครับ ผมเป็นนักศึกษาฝึกงานที่เก่ง หล่อ คุณภาพคับแก้วมาก บอกตรงๆ ไม่ได้หลงตัวเองเลย…ถุย!
“ขอบคุณครับ ซองนี้เอกสารฝ่านการฝึกงาน…แล้วก็อันนี้ตำแหน่งงานว่าง ถ้าสนใจก็กรอกใบสมัครที่มายด์ไว้ก่อน”
“ครับ…ขอบคุณมากครับ ผมสนใจครับ ยินดีที่จะมาทำงานที่นี่มากเลยครับ”
“อืม…ผมให้เวลาคิดก่อนแต่อยากให้น้องหมอกมาร่วมงานกับเราที่นี่จริงๆนะ”
“ครับ ผมก็อยากมาครับและก็ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่สอนทั้งงานแล้วก็ประสบการณ์ดีๆให้เยอะแยะเลยครับ”
“พรุ่งนี้เรามีเลี้ยงส่งที่ร้านอาหาร มายด์บอกแล้วใช่มั้ยบอกเพื่อนๆด้วยนะ”
“ได้ครับ ขอบคุณมากครับ”
ขอบคุณจริงๆครับกับการให้โอกาสในการได้เรียนรู้งานสำหรับ 3 เดือนมานี้ ผมได้ทั้งประสบการณ์การทำงาน เรื่องการปรับตัว เรื่องวิธีคิดหรือแนวคิดแปลกใหม่อื่นๆ ได้อะไรหลายๆอย่าง และที่สำคัญได้เงินเดือนด้วยครับ แม้จะไม่มากแต่มันเป็นเงินเดือนก้อนแรกที่ได้จากการฝึกงาน ขอบคุณอีกครั้งครับ…ดูผมมีสาระนะครับวันนี้
หลังจากออกมาจากห้องผู้จัดการผมก็เห็นท่านรองเขามาป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆข้างห้องสมัครงาน ท่านมาทำอะไรครับ มาแอบส่องใครรึเปล่า?
“ท่านรองมาทำอะไรครับ มาหาผู้จัดการรึเปล่าครับ แกนั่งอยู่ในห้อง”
“…เปล่า คือพรุ่งนี้ผมมีประชุมตั้งแต่บ่ายโมง”
“ครับ?”
“แล้วผมอาจจะประชุมนาน…”
“แล้วยังไงครับ?”
เอ๊ะหัวคิ้วเริ่มขมวด หงุดหงิดอะไรครับ เดี๋ยวหล่อน้อยลงจะหาว่าผมไม่เตือน
“…ก็เรื่องที่คุณจะพูดไง”
เจ้าปั๊กน้อยนี่ ทำเป็นลืมเรื่องที่จะบอกผม แต่ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าน้องจะพูดเรื่องอะไร แต่อยากรู้มากๆ ซึ่งผมไม่เคยอยากรู้อะไรเท่านี้มาก่อนเลย
“อ๋อ…ค…ครับ”
“ดุเหมือนคุณหน้าเริ่มแดงๆ เป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายอีกแล้วเหรอ”
ท่านเขาเอามือมาแตะที่หน้าผาก หยุดเลยครับ ยิ่งแตะมันก็ยิ่งแดงสิครับท่าน ไม่รู้เรื่องเลยนะ
“เอ่อ…เปล่า ผมไม่เป็นอะไร”
“แน่ใจนะ ผมว่ามันแดงกว่าเดิมอีกไปห้องพยาบาลมั้ย?”
“ม…ไม่ต้องครับ แล้วพรุ่งนี้ท่านรองจะเลิกประชุมกี่โมงครับ”
“คงก่อนห้าโมงแหละ พอเลิกผมมาหาที่นี่นะ”
“ด…ได้ครับ”
รู้สึกว่าเจ้าปั๊กหน้าแดงๆ หรือว่าป่วยอีกแล้ว แต่ตัวก็ไม่ร้อน น่าจะเป็นที่อากาศร้อนมากกว่า
“เจ้าเมฆมาทำอะไรแถวนี้วะ?”
“อ้าวไอ้พล! มึงหล่ะ?”
“กูก็มาหาแฟนน่ะสิ หรือว่ามึงก็มาหาแฟนเหมือนกัน”
“…”
“ไม่ลงมือซักทีว้า เดี๋ยวใครก็คาบไปแดกยิ่งน่ารักๆอยู่”
“…เออน่า รู้จักกันแค่สามเดือน แล้วเจ้าเด็กนั่นจะคิดยังไงก็ยังไม่รู้เลย วันก่อนก็ยังเห็นกระดี๊กะด๊ากับสาวอยู่เลย”
“อ๋อ เด็กผู้หญิงที่ฝึกงาน เขาเป็นแฟนกับเจ้าบาสเพื่อนไอ้น้องหมอกไง”
“หืม! มึงรู้ได้ไง?”
“อ้าว นี่มึงไม่รู้เหรอ สองคนที่ฝึกงานแผนกมึงอ่ะ เป็นแฟนกัน มายด์บอกกู”
“แล้วไม่เห็นบอกกูมั่งวะ”
“มึงเคยทำหน้าสนใจอะไรใครบ้างมั้ยล่ะ?”
“…”
“เฮ้อ! มัวช้าเป็นเต่าเหมือนเคย นี่เคยคิดจะจริงจังอะไรนอกจากเรื่องงานมั้ยวะ ถามจริง”
“มันก็เรื่องของกู…”
“กูจะบอกให้นะ ถ้ามึงมัวชักช้า เด็กมันไม่รอนะเว้ย วัยรุ่นสมัยนี้เขาชอบความชัดเจน ไม่ใช่หัวโบราณรอศึกษาดูใจกันไปจนครบปีแล้วค่อยจีบ”
“…”
หลังจากเลิกงานผมก็แว้นน้องฟ้ากลับหออย่างเคย แต่พรุ่งนี้คงต้องอาศัยรถไอ้บาสไปเพราะคงกลับดึก
“น้องหมอกอยากกินอะไรเพิ่มมั้ยคะพี่จะโทรสั่งไว้ก่อนจะได้ไม่ต้องรอนาน พี่สั่งลาบ ส้มตำ ไก่ย่างไว้แล้วค่ะ”
“อ่อครับ ขอน้ำตกเพิ่มก็แล้วกันครับพี่น้ำฝน”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่สั่งเผื่อซักสองจานเนอะ”
“ได้ครับ ขอบคุณครับ”
ไอ้เรื่องแดก ไม่ต้องถามครับ กินได้หมดไม่มีเลือก แต่ตอนนี้ในใจผมกำลังตุ้มๆต่อมๆ ใจเต้นแรงเหมือนจังหวะเพลงร๊อคของพี่ตูน เร้าใจเหมือนเพลงของพี่ปั๊บแต่หนักแน่นเหมือนพี่แด๊ก อืม … นอกเรื่องตลอดกู
ยาดมหายใจนะวะ ว่าจะดมซักปื๊ดสองปื๊ดหาไม่เจออีก หรือจะล่อเอ็มร้อยดี ทำจิตใจให้สบาย หายใจเข้าลึกๆหายใจออกลึกๆได้หมอกเอ๊ยย เกือบห้าโมงแล้นนน
“ป่ะ! พี่ว่าเราออกได้แล้ว เดี๋ยวจะได้ไม่เลิกมืดมาก น้องจะได้กลับไปพักผ่อน”
เดี๊ยว Sup ยังไม่ห้าโมงเล้ยยย
“ดีค่ะ เมื่อกี๊พี่เช็คกับที่ร้านแล้ว เขาทำอาหารเกือบเสร็จแล้ว”
พี่น้ำฝนรอผมก๊อนนน
ไอ้บาสกับน้ำฝนคนสวยเดินมาโน่นแล้ว ฉิบหาย ท่านรองยังไม่มา
“ไอ้บาสๆมานี่ดิ”
“อะไรของมึงจะกระซิบเพื่อ?”
“ท่านรองอ่ะ อยู่ไหนมึงเห็นมั้ย”
“หืม? ถามทำไม”
“เออ! ตอบกูมาเร็วๆ”
สัด! ลีลาเยอะอีก เดี๋ยวกูก็โบกอีกรอบ
“ประชุมอยู่ ก่อนกูออกมาว่าจะไปลา แต่เห็นประชุมกันท่าทางเคร่งเครียดกูเลยรีบชิ่งออกมา พอดีพี่น้ำฝนโทรตามเลย”
“เหรอ…”
แล้วจะทันมั้ยอ่ะ
“ไปเร็วมึง พี่ต้นจะปิดประตูออฟฟิศแล้ว”
“เด็กๆเร็วๆพี่จะปิดประตู้แล้วน้า”
“ครับๆ เร็วดิมึง”
ในที่สุดก็ไม่ทัน ท่านรองยังไม่มาเลย หรือว่าผมจะไปที่แผนกผลิต แต่อาจจะไปรบกวนเวลาประชุม
“…แป๊บนึงดิ ก…กู…”
ท่านรองแกวิ่งกระหืดกระหอบมาแล้วครับ สีหน้ายังดูเคร่งเครียดอยู่เลย
“คุณจะไปแล้วเหรอ?”
ท่านรองมาหยุดยืนตรงหน้าผมพอดี ยังหอบอยู่เล็กน้อยแต่ก็ยังดี คนหล่อ…ขนาดจั๊กกูแร้เปียกก็ยังหล่อ
“ค…ครับ คือ…”
“อืม…แล้วเรื่องที่คุณจะบอกผมล่ะ?”
“คือผม…ผมเอ่อ…คือว่า”
“ว่าไงครับ”
ท่านเขายิ้มอบอุ่นจังครับหรือรังสีจากศาลพระภูมิที่อยู่ด้านหลังท่านเขากันแน่ที่ส่งความอบอุ่นนั้นมาให้ผม?
“คือผม…”
‘ฟืด’
หายใจเข้าก่อนหนึ่งครั้ง
“ผมชอบท่านรอง!”
“…”
หลับหูหลับตาตะโกนไปก่อนเลย อ๊ากกก!! พูดออกมาจนได้ ผมแอบหลี่ตามองท่านรอง โว้ะท่านเขาทำตาโตเหมือนเวลาน้องไซตกใจเลยอ่ะ ท่านเขาตกใจ? กลัวผม? รังเกลียดผม?
…ก่อนที่ท่านเขาจะระเบิดหัวเราะออกมา?
“ฮ่าๆๆๆๆ”
“…หัวเราะเยาะผมเหรอ”
ผมโกรธนะ เห็นเรื่องสารภาพรักของผมเป็นเรื่องล้อเล่นเหรอ เดี๋ยวแช่งให้ศาลพระภูมิลงโทษให้หัวล้านเลย
“เปล่าครับปั๊กน้อย…คุณนี่เจ๋งจริงๆ”
ชมผม? ตกลงท่านเขามาอารมณ์ไหนเนี่ย
“…ยังไงครับ”
“อืม…ขอบคุณครับที่ชอบผม”
มันเป็นคำปฏิเสธแน่ๆ ผมเคยได้ยินนางเอกละครบอกขอบคุณพระรองก่อนที่จะปฏิเสธ ‘ขอบคุณนะคะที่ชอบอิชั้นแต่อิชั้นมีคนที่ชอบอยู่แล้ว อะไรประมาณนี้อ่ะ’ อ๋อย! เสียใจอ่ะ
“ผ…ผมเข้า…ใจแล้วครับ แล้วก็ขอโทษที่ทำให้ท่านรองลำบากใจครับ”
“อืม…ขอโทษผมทำไม ผมไม่ได้ลำบากใจเลย”
“ห…หมายความว่ายังไงครับ?”
“อืม ยังไงดีล่ะ…เอาเป็นว่าผมก็รู้สึกเหมือนคุณก็แล้วกัน”
“…ท…ท่านรองก็ชอบผมเหรอครับ?”
ผมไม่ได้หูฝาดใช่มั้ย ท่านรองบอกว่ารู้สึกแบบเดียวกับผม ก็ต้องชอบผมอ่ะดิ
“ครับผมก็ชอบปั๊กน้อย”
ห๊ะ! ไม่ใช่ว่าชอบหมาเหรอนั่นน่ะ ชอบผมที่เป็นคนใช่มั้ย? หรือชอบผมที่เป็นหมา ? เฮ้ยยยๆงง
“ช…ชอบผม? ไม่ได้ชอบหมา?”
“ชอบหมา…”
“…”
“แล้วก็ชอบคุณด้วย”
ฮิ้วๆ ฟามรักสมหวัง ไอ้หมอกไม่ได้แดกแห้วแล้วเว้ยยย ฉลองสิรออะไร
“จ…จริงเหรอครับ”
“อืม…จริงสิ”
“แน่เหรอครับ”
“แน่สิครับ”
“ผมขอจีบนะครับ”
อร๊ายยยเขินอ่ะ แต่ผมนี่รีบพูดจนลิ้นจะพันกันอยู่แล้วอ่ะ รีบยิ่งกว่าเวลาตื่นสายแล้วกลัวเข้าห้องเรียนไม่ทันอีก
“…ได้ครับ ยินดีอย่างยิ่ง”
Rrrrrrrrr!
เสียงมือถือท่านเขาดัง ขัดจังหวะโรแมนติกกูจัง กำลังบอกรักกันโดยมีศาลพระภูมิเป็นสักขีพยานอยู่เชียว
“ที่ประชุมโทรตามแล้ว ผมโกหกว่าออกมาเข้าห้องน้ำ เอาเป็นว่าผมอนุญาตให้ปั๊กน้อยจีบผมได้ แล้วกินข้าวเสร็จโทรหาผมด้วยนะ”
“ค…ครับ?”
“ผมไปประชุมต่อ มันเป็นเรื่องสำคัญคงเลิกดึก กลับดีๆนะครับ”
“ค…ครับ”
‘โห่ฮิ้วววว เปาะแปะๆๆๆๆๆ’
เสียงโห่ขันหมากหรือลูกใครมาบวชแถวนี้วะ แล้วเสียงปรบมืออีกมีกั้นประตูเงินประตูทองกันเรอะ
“ผมขอจีบนะครับ…โคตรเท่ โคตรหล่ออ่ะไอ้น้องมีน”
“ไอ้น้องหมอกเท่มากค่า”
“หล่อสัดรัสเซียเลยครับคุณปฐพี ศรีสมบูรณ์ เพื่อนกูโคตรเจ๋งอ่ะ”
ทั้งแผนกเลยครับ โผล่มาจากซอกตึกห้องสมัครงาน นี่แอบดูผมกันอยู่ใช่มั้ย ผมนี่หน้าชา ปากชา ชาไปทั้งตัวเลยครับ
“ล้ออะไรกัน พวกคุณแอบฟังเหรอ”
“…”
เชร้ดด ตายแน่ทุกคน เสียงเข้มด้วย ท่านเขากริ้วแล้ว เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อยบอกเลยผมจะไม่ช่วยใครเลยนะ
“เอ่อ ขอโทษครับ”
“ขอโทษค่ะ”
“เฮ้ย!ไอ้เมฆน้องๆมันแค่ล้อเล่นป่ะวะ”
พี่พลแหละตัวดีหัวหน้าแก๊งค์ ต้องโดนก่อนเพื่อน
“…ฝากดูแฟนผมด้วยแล้วกันอย่าให้ดื่มมากนะ”
“ท…ท่านรอง!”
“ผมไปก่อน แล้วโทรหาผมด้วย ห้ามลืม!”
ท่านรองแกหันมาบอกผม หน้าตาท่านแป้นแล้นมาก ยิ้มจนเหงือกบาน แล้วท่านเขาก็หันหลังเดินฉับๆ ไปเลย ทิ้งผมให้ยืนงงในดงดอกชบา เดี๋ยวก๊อนนน ผมแค่ขอจีบ ยังไม่ได้ขอเป็นแฟนเล้ยยยย
‘โห่ฮิ้วววว เปาะแปะๆๆๆๆๆ’
เอาอีกละ ไม่เลิกเล่น เดี๋ยวชาวบ้านชาวช่องเขาก็คิดว่ามีงานบวชนาคจริงๆหรอกครับ
“ว้ายๆคนมีแฟน”
“วี๊ดวิ้ว ขอกันเป็นแฟนไม่อายศาลพระภูมิเลยนะ”
“ขอจีบเฉยๆหรอกพี่”
“ยินดีด้วยไอ้หมอก จะได้ไม่ต้องไปรอดักฉุดท่านรองเขาแล้ววว”
พอได้แล้วคร๊าบบบ หน้าผมจะไหม้แล้วเนี่ย ไอ้บาสช่วยแซะกูออกไปจากตรงนี้หน่อยกูเดินไม่ใหวแล้ว แบกกูไปก็ได้ แล้วนี่กูทำอะไรลงไป๊!
จบตอนที่ 15